Page 160 – AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

AP เปิดตัว MAKE LIVING GREAT AGAIN แคมเปญชวนคนไทยลุกขึ้น สร้างความหมายของชีวิตให้กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง

เอพี ไทยแลนด์ กรุ๊ป ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ภายใต้พันธกิจ ‘EMPOWER LIVING’ ที่มุ่งเติมเต็มทุกเป้าหมายของชีวิต ด้วยนวัตกรรมสินค้าและบริการที่มีคุณค่าและมีความหมาย เปิดตัวแคมเปญ ‘MAKE LIVING GREAT AGAIN อยู่…เพื่อทุกความหมายของคุณ’ เดินหน้า เอ็มพาวเวอร์คนไทยทุกคนให้ลุกขึ้น สร้างความหมายของชีวิตให้กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง ครั้งแรกกับงานทอล์กแห่งปี MIND SYMPOSIUM ที่ชวนทุกคนมาตั้งหลักจิตใจ ไม่หยุดที่จะก้าวต่อ พบ 8 บุคคลจากสาขาด้านจิตใจที่จะมาร่วมสร้างภูมิคุ้มกันทางใจ พร้อมจับมือกับ 40 คิวเรเตอร์จากหลากหลายวงการ สร้างเพลย์ลิสต์พิเศษผ่านแพลตฟอร์ม Spotify และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมายที่ www.apthai.com/makelivinggreatagain

นายสรรพสิทธิ์ ฟุ้งเฟื่องเชวง หัวหน้าผู้บริหารฝ่ายภาพลักษณ์องค์กร บมจ. เอพี ไทยแลนด์ กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลาของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นอกจากบริษัทฯ จะให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการองค์กรท่ามกลางความเสี่ยงที่เกิดขึ้น จนนำพาบริษัทก้าวผ่านวิกฤตในครึ่งปีแรกมาได้อย่างราบรื่น ในมิติเพื่อสังคม นอกจากการร่วมบริจาคสู้ภัยโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา วันนี้บริษัทฯ ยังเดินหน้าเป็นส่วนหนึ่งในการ EMPOWER (เอ็มพาวเวอร์) ทุกคนในสังคม ผ่านแคมเปญล่าสุด ที่ชื่อว่า ‘MAKE LIVING GREAT AGAIN อยู่…เพื่อทุกความหมายของคุณ’ เพื่อส่งมอบทัศนคติ เชิงบวกและสร้างภูมิคุ้มกันทางจิตใจให้กับทุกคนในสังคม”

ทั้งนี้ ที่มาของการสร้างสรรค์แคมเปญเพื่อสังคม ‘MAKE LIVING GREAT AGAIN’ นี้ เพื่อตอกย้ำจุดยืนของแบรนด์ที่ต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการ EMPOWER ทุกคนในสังคม ซึ่งไม่จำเป็นจะต้องเป็นลูกบ้าน AP เท่านั้น และเมื่อวิกฤตเกิดขึ้นนอกจากการช่วยเหลือดูแลคุณภาพชีวิตในเชิงกายภาพแล้วนั้น คุณภาพทางจิตใจถือเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เราให้ความสำคัญ เราจึงตั้งใจทำแคมเปญนี้ขึ้นมา เพื่อช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน ทางจิตใจให้กับคนไทยทุกคน ไม่ว่าที่ผ่านมาจะเจออุปสรรคใด เอพี ไทยแลนด์ พร้อมที่จะร่วมเดินไปกับคุณ เพื่อร่วมสร้างความหมายของชีวิตให้กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง ซึ่งปลายทางของแคมเปญนี้ เราคาดหวังให้คนไทยทุกคนสามารถใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่ มีกำลังใจที่เข้มแข็ง เพื่อดำรงความหวัง ความฝัน ไม่ลืมความหมายของชีวิต และรู้ว่าวันนี้เราอยู่…เพื่ออะไร

“GREAT ในประโยคนี้ไม่ได้หมายถึงความยิ่งใหญ่ แต่หมายถึง การเดินหน้าต่อไปด้วยจิตใจที่สมดุล ไม่ว่าจะเกิดสถานการณ์อะไรขึ้น ต้องลุกขึ้นมาตั้งหลัก และเดินตามเป้าหมาย ให้รู้ว่าวันนี้ เราอยู่เพื่ออะไร พรุ่งนี้เราจะตื่นมาเพื่ออะไร เพราะเอพีเชื่อว่า วิกฤตโควิด-19 นี้ไม่ใช่วิกฤตครั้งสุดท้ายที่เราต้องเจอ การจัดแคมเปญเพื่อสังคมในครั้งนี้จึงเหมือนเป็นบริบทใหม่ของเอพีที่ต้องการสร้างภูมิคุ้มกันทางจิตใจให้ผู้คนในสังคม ด้วยความเชื่อที่ว่า การส่งเสริมให้คนมีคุณภาพจิตใจที่ดี ก็มีคุณค่าเทียบเท่ากับการส่งมอบบ้านที่มีคุณภาพเช่นกัน”  นายสรรพสิทธิ์ กล่าว

สำหรับแคมเปญเพื่อสังคม ‘MAKE LIVING GREAT AGAIN’ นี้ ได้ออกแบบกิจกรรมไว้ 4 รูปแบบ เพื่อให้เข้าถึงคนหลากหลายไลฟ์สไตล์ ประกอบด้วย

1. ONLINE FILM ภาพยนตร์ออนไลน์ที่สร้างจากชีวิตจริงของคน 4 คน ที่ล้มแล้วกล้าที่จะลุกขึ้นไปต่อ เพื่อสร้างความหมายใหม่ให้กับชีวิตอีกครั้ง พร้อมการทำงานร่วมกับ Yellow Fang (เยลโลว์ แฟง) วงดนตรีอินดี้ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว กับการทำเพลงพิเศษที่ชื่อว่า ‘เคลียร์อยู่’ รับชมและรับฟังได้ที่โซเชียลมีเดีย APTHAI และยูทูป APTHAI หรือทาง Spotify, Apple Music และ Joox

2. MIND SYMPOSIUM ครั้งแรกกับงานทอล์กแห่งปีที่ชวนทุกคนมาตั้งหลักจิตใจ เพื่อไม่หยุดที่จะก้าวต่อ ในวันที่ 8 สิงหาคมนี้ พบกับ 8 บุคคลแนวหน้าด้านจิตใจ ที่จะมาร่วมสร้างภูมิคุ้มกันทางใจไปด้วยกัน ประกอบด้วย ครูเงาะ รสสุคนธ์ กองเกตุ, น้าเน็ก เกตุเสพย์สวัสดิ์ ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา, คุณรวิศ หาญอุตสาหะ, คุณต้อง กวีวุฒิ เต็มภูวภัทร, คุณสิงห์ วรรณสิงห์ ประเสริฐกุล, คุณนี ชาลิสา วีรวรรณ, คุณปอนด์ ภริษา ยาคอปเซ่น และคุณดุจดาว วัฒนปกรณ์ สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมงานได้ที่ www.apthai.om หรือดูผ่าน Facebook Live ที่เพจ APTHAI 

3. INSTAGRAM EXHIBITION นิทรรศการภาพถ่ายชีวิตไม่หยุดเดิน บนแพลตฟอร์มอินสตาแกรม ที่บอกเล่าเรื่องราวชีวิตที่เดินหน้าต่อกับหลากหลายอิริยาบถของชีวิตที่เกิดขึ้นจริงหลังผ่านช่วงล็อกดาวน์ รับชมได้ที่อินสตาแกรม MAKE LIVING GREAT AGAIN  หรือร่วมเป็นส่วนหนึ่งของนิทรรศการด้วยการโพสต์ ภาพถ่ายชีวิตไม่หยุดเดิน บนอินสตาแกรมของคุณแล้วติดแฮชแท็ก #makelivinggreatagain

4. AP MAKE LIVING GREAT AGAIN PLAYLIST on SPOTIFY ครั้งแรกกับการร่วมมือกับ 40 คิวเรเตอร์จากหลากหลายวงการ สร้างเพลย์ลิสต์พิเศษบนแพลตฟอร์ม Spotify เช่น วี วิโอเลต วอเทียร์, อพาร์ทเม้นท์คุณป้า, เวย์ ปริญญา อินทชัย, สิงโต นำโชค, แป้งโกะ, โอ่ง กงพัฒน์, คิด เบญจรงคกุล, ฟอร์ด กุลวิทย์ เลาสุขศรี, SRETSIS, มูลนิธิสติ และ TCDC เป็นต้น กับการคัดเลือกบทเพลงพิเศษกว่า 40 เพลย์ลิสต์ เพื่อเป็นแรงขับเคลื่อนให้ทุกคนลุกขึ้นในเช้าวันใหม่อีกครั้งด้วยพลังบวก และความเชื่อที่ว่าอยู่เพื่อสร้างความหมายใหม่ให้กับชีวิตอีกครั้ง ร่วมฟังเพลย์ลิสต์พิเศษนี้ผ่านทางแพลตฟอร์ม Spotify ได้เร็วๆ นี้

“ในวันที่ชีวิตของใครหลายคน ต้องเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่อีกครั้ง แม้จะต้องผ่านการลองผิด ลองถูกมาไม่รู้เท่าไหร่ แม้จะต้องฝืนใจยอมรับว่า แพ้ แม้อุปสรรคจะทำลายทุกความหวัง ความฝัน แต่ในวันข้างหน้าไม่ว่าฝันของคุณจะเปลี่ยนไปเป็นอะไร AP THAILAND พร้อมที่จะเดินไปกับคุณ เพื่อร่วมสร้างความหมายของชีวิตให้กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง” นายสรรพสิทธิ์ กล่าว

ร่วมสร้างความหมายของชีวิตให้กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งได้ที่ www.apthai.com/makelivinggreatagain

Tags

วัคซีนรวม 6 โรคในเข็มเดียว

วัคซีนพื้นฐานสำหรับลูกน้อยในขวบปีแรก เป็นสิ่งจำเป็นและไม่ควรเลื่อนฉีด

คุณแม่รู้ไหมคะว่า การสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายลูกน้อยอย่างง่ายและดีที่สุด เพื่อป้องกันโรคติดเชื้อต่างๆ  มาทำให้ลูก    เจ็บป่วย หรือเกิดโรคร้ายแรง ก็คือการพาลูกไปรับการ “ฉีดวัคซีน” ตรงตามกำหนด โดยเฉพาะตั้งแต่แรกเกิดถึง 2 ปี ครึ่ง

อย่างไรก็ตามคุณพ่อคุณแม่อาจมีความกังวลไม่มากก็น้อยที่จะพาลูกน้อยออกไปรับการฉีดวัคซีนที่โรงพยาบาลหรือคลินิก  ซึ่ง ณ ปัจจุบันสถานพยาบาลต่างๆ ก็มีการเตรียมความพร้อมสำหรับสถานที่ และจุดให้บริการรับวัคซีนเป็นอย่างดี ทั้งยังมีมาตรการป้องกัน และช่วยลดโอกาสการแพร่กระจายของไวรัสโควิด-19 ส่วนทางด้านแม่ๆ การเตรียมตัวเพื่อพาลูกออกไปรับวัคซีนก็มีความสำคัญ ควรโทรนัดหมายล่วงหน้าเพื่อไม่ต้องไปแออัดพร้อมกันหลายๆ ครอบครัว

วัคซีนรวม 6 โรคในเข็มเดียว

วัคซีนพื้นฐานสำคัญแค่ไหนสำหรับเด็ก ?    

การสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย เพื่อป้องกันการติดต่อของโรคติดเชื้อในเด็กที่ได้ผลดีที่สุดก็คือ “การฉีดวัคซีน” ค่ะ ยิ่งในเด็กตั้งแต่ แรกเกิดถึง 2 ปี ครึ่ง จำเป็นต้องได้รับการการฉีดวัคซีนให้ครบตามกำหนด เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันต่อโรคร้ายต่างๆ ซึ่งประโยชน์จากการฉีดวัคซีนนอกจากจะช่วยป้องกันโรคที่อาจจะเกิดขึ้นกับตัวของเด็กเองแล้ว ประโยชน์ทางอ้อมเมื่อเด็กที่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรค คือช่วยลดความเสี่ยงของโรคไม่ให้ติดต่อไปยังเด็กคนอื่นๆ รวมทั้งผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุในบ้าน ได้ค่ะ

จำเป็นไหมที่ต้องพาลูกไปฉีดวัคซีนให้ตรงตามเวลา

วัคซีนเด็กโดยเฉพาะวัคซีนพื้นฐาน ควรได้รับการฉีดให้ตรงตามกำหนดของช่วงวัยค่ะ ซึ่งหากไม่มีเหตุฉุกเฉินใดๆ ควรพาลูก ไปรับการฉีควัคซีนให้ตรงตามกำหนดเวลาที่ลูกควรจะได้รับวัคซีน นอกจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ยังมีโรคร้ายแรงอื่นๆ ที่เด็กมีความเสี่ยงจะป่วยและมีอาการรุนแรง ซึ่งการเลื่อนการรับวัคซีนจะส่งผลให้เด็กๆ  พลาดการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคที่จำเป็น เนื่องจากวัคซีนบางชนิดมีระยะเวลาจำกัดในการได้รับด้วยค่ะ ดังนั้นการได้รับ วัคซีนที่ตรงเวลาจะช่วยลดโอกาสเกิดโรคที่สามารถป้องกันได้ด้วยวัคซีน และนี่คือ 6 เหตุผลสำคัญที่ว่าทำไมต้องพาลูกไปรับการฉีดวัคซีนให้ตรงตามเวลาค่ะ

  1. ช่วงเวลาการรับวัคซีนที่ตรงตามวัย จะช่วยให้ร่างกายสามารถกระตุ้นภูมิต้านทานโรคได้อย่างเหมาะสม
  2. ป้องกัน และลดโอกาสการเกิดโรคร้ายแรงที่อาจเกิดขึ้นในเด็กเล็ก
  3. เพื่อให้ภูมิคุ้มกันขึ้นสูงพอที่จะป้องกันโรคได้ทัน
  4. วัคซีนบางชนิดต้องการการกระตุ้น หรือรับวัคซีนมากกว่าหนึ่งครั้ง เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันที่สูงพอที่จะปกป้องลูกน้อย และเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันที่ลดลงเมื่อเวลาผ่านไป
  5. การฉีดวัคซีนถือว่ามีประสิทธิภาพที่สุดในการป้องกันโรคต่างๆ ในระยะยาวจากโรคที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีน
  6. การแพร่กระจายของโรค เด็กที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีนตามกำหนดเวลา ไม่เพียงแต่จะมีความเสี่ยงที่จะป่วย แต่ยัง สามารถแพร่กระจายความเจ็บป่วยไปยังผู้อื่นได้ ดังนั้นลูกน้อยควรได้รับวัคซีนตรงเวลา เพื่อป้องกันไม่ให้โรคแพร่กระจายไปยังคนอื่นๆ รอบข้างได้

ทั้งนี้หากคุณพ่อคุณแม่มีความจำเป็นในการเลื่อนฉีดวัคซีนของลูก ให้แจ้งปรึกษากับคุณหมอที่ดูแลเรื่องวัคซีนให้ลูกน้อย  ก่อนทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพของลูกน้อยค่ะ

วัคซีนรวม 6 โรคในเข็มเดียวแบบพร้อมฉีด

วัคซีนพื้นฐานที่ลูกควรได้รับช่วงแรกเกิดถึง 2 ปีครึ่ง

สำหรับวัคซีนเด็กที่ลูกน้อยตั้งแต่แรกเกิดถึง 2 ปีครึ่ง ควรได้รับการฉีด เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรค แนะนำโดยสมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศ ปี 2563 ดังนี้

วัคซีนรวม 6 โรคในเข็มเดียว

  • เด็กแรกเกิด >> วัคซีนตับอักเสบบี และวัคซีนวัณโรค
  • เด็กอายุ 2, 4 เดือน >> วัคซีนคอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรน ตับอักเสบบี ฮิบ โปลิโอ หรือวัคซีนรวม 6 โรค วัคซีนโรต้า และวัคซีนนิวโมคอคคัส
  • เด็กอายุ 6 เดือน >> วัคซีนคอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรน ตับอักเสบบี ฮิบ โปลิโอ หรือวัคซีนรวม 6 โรค วัคซีนไข้หวัดใหญ่ วัคซีนโรต้า และวัคซีนไข้สมองอักเสบเจอี
  • เด็กอายุ 9 – 12 เดือน >> วัคซีนหัด-คางทูม-หัดเยอรมัน วัคซีนไข้สมองอักเสบเจอี วัคซีนตับอักเสบเอ วัคซีนนิวโมคอคคัส และวัคซีนอีสุกอีใส
  • เด็กอายุ 1 ปี 6 เดือน >> วัคซีนคอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรน โปลิโอ ฮิบ หรือวัคซีนรวม 5 โรค วัคซีนหัด-คางทูม-หัดเยอรมัน และวัคซีนไข้หวัดใหญ่
  • เด็กอายุ 2 – 2 ½ ปี >> วัคซีนไข้สมองอักเสบเจอี วัคซีนอีสุกอีใส และวัคซีนไข้หวัดใหญ่

หากดูจากตารางวัคซีนแล้ว จะเห็นว่ามีวัคซีนพื้นฐานจำเป็นหลายตัว ที่ลูกน้อยต้องได้รับในช่วงแรกเกิดถึง 2 ปีครึ่ง ซึ่งวัคซีนจะช่วยป้องกันโรคต่างๆ ซึ่งจะมี 6 โรคสำคัญด้วย นั่นก็คือ โรคคอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรน โปลิโอ ฮิบ และ ตับอักเสบบี ซึ่งในปัจจุบันนี้การฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันทั้ง 6 โรคนี้ คุณแม่สามารถเลือกเป็นแบบวัคซีนรวม 6 โรคได้ (คอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรน โปลิโอ ฮิบ ตับอักเสบบี) ซึ่งทำให้การมารับวัคซีนหนึ่งครั้ง ลูกน้อยจะได้รับวัคซีนครอบคลุมทั้ง 6 โรค และยังช่วยลดการเจ็บตัวจากการฉีดวัคซีนให้กับลูกน้อยได้ดีอีกทางเลือกหนึ่งค่ะ

วัคซีนรวม 6 โรคในเข็มเดียว

เตรียมตัวอย่างไรเมื่อต้องพาลูกไปฉีดวัคซีน  

การพาลูกน้อยไปรับการฉีดวัคซีนมีประโยชน์มากกว่าผลเสียค่ะ แต่เชื่อว่าการพาลูกไปรับวัคซีนที่โรงพยาบาล หรือคลินิก  อาจทำให้คุณพ่อคุณแม่มีความกังวลใจกันอยู่พอสมควร กลัวว่าจะไม่ปลอดภัยหากต้องพาลูกออกนอกบ้าน แต่ไม่ต้องกังวลใจไปค่ะ เพราะที่สถานพยาบาลหลายแห่งได้มีการจัดเตรียมพื้นที่ให้บริการวัคซีนแบบปลอดภัย คุณพ่อคุณแม่วางใจ  ได้เลยค่ะ นอกจานี้เรามาลองมาดูวิธีปฏิบัติง่ายๆ ใน การพาลูกไปรับวัคซีนกันค่ะ

การเตรียมตัวของพ่อแม่ :

– ควรโทรนัดหมายวัน เวลา ที่จะพาลูกเข้าไปรับวัคซีนกับคุณหมอที่โรงพยาบาล หรือคลินิกอย่างชัดเจน

– ก่อนออกจากบ้านควรวัดอุณหภูมิร่างกาย หากพบว่าคุณพ่อ หรือคุณแม่ คนใดคนหนึ่งมีอุณหภูมิสูงกว่า 37 องศาขึ้นไป ไม่ควรไปฉีดวัคซีนกับลูก

– ควรสวมหน้ากากอนามัย และป้องกันตนเองด้วยการระวังการติดเชื้อจากละออง (Droplet Transmission Precaution) โดยเว้นระยะห่างของผู้มารับบริการ

– หมั่นล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ระหว่างเดินทาง และขณะอยู่โรงพยาบาล

– หลังกลับจากโรงพยาบาลให้ทำความสะอาดร่างกาย และเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ทันที

การเตรียมตัวให้ลูกน้อย :

– วัดอุณหภูมิลูกก่อนออกจากบ้าน

– ให้ลูกสวมใส่หน้ากากอนามัยสำหรับเด็กที่อายุมากกว่า 2 ปี

– ดูแลเรื่องความสะอาดให้ลูกอย่างเคร่งครัดระหว่างเดินทาง และขณะที่อยู่โรงพยาบาล หรือคลินิก

– หลังจากฉีดวัคซีนเสร็จแล้วให้รีบพาลูกกลับบ้าน ทำความสะอาดร่างกาย และเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ให้ลูกทันที

เพื่อลดอัตราเสี่ยงต่อการเกิดอาการเจ็บป่วยด้วยโรคติดเชื้อร้ายแรงต่างๆ คุณพ่อคุณแม่สามารถปกป้องสุขภาพลูกน้อยให้มีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง ด้วยการพาลูกๆ ไปรับวัคซีนตรงตามช่วงเวลานะคะ สอบถามเพิ่มเติมเรื่องการรับวัคซีนและการป้องกันโรคเพิ่มเติมได้ที่สถานพยาบาล

#ลูกฉันต้องมีภูมิ   #VaccineSafeZone #วัคซีนรวม6โรค #วัคซีนรวมพร้อมฉีด

 

อ้างอิงข้อมูลจาก:

– ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย

– ตารางการให้วัคซีนในเด็กไทย แนะนำโดย สมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย 2563

– Centers for Disease Control and Prevention

MAT-TH-2000146 (07/2020)
โรคติดต่อทางพันธุกรรม

8 โรคติดต่อทางพันธุกรรม ที่ถ่ายทอดจากพ่อแม่ ควรตรวจให้รู้ก่อนตั้งครรภ์

โรคติดต่อทางพันธุกรรม เป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติในพันธุกรรมหรือเกิดขึ้นบนโครโมโซม หากหน่วยพันธุกรรมของพ่อและแม่มีความผิดปกติแฝงอยู่ก็จะเป็นพาหะที่สามารถถ่ายทอดสู่ลูกได้ ควรไปตรวจให้รู้ก่อนการตั้งครรภ์

โรคทางพันธุกรรมแบ่งออกได้เป็น โรคที่เกิดจากความผิดปกติของยีนเดี่ยว โรคที่เกิดจากความผิดปกติของโครโมโซม และโรคที่เกิดจากการกลายพันธุ์ของพันธุกรรม ซึ่งโดยส่วนใหญ่โรคทางพันธุกรรมไม่สามารถป้องกันได้ จึงก่อให้เกิดความผิดปกติตั้งแต่กำเนิด ในปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาให้หายได้ ทำได้เพียงวินิจฉัยและรักษาตามอาการ หากตรวจพบและหาทางรักษาได้เร็วก็จะช่วยให้ทารกมีโอกาสเติบโตได้อย่างปกติ แต่หากล่าช้าก็จะส่งผลเสียขึ้นตามมาและมีโอกาสพิการไปจนถึงการเสียชีวิตได้

8 โรคติดต่อทางพันธุกรรม ที่ถ่ายทอดจากพ่อแม่ ควรตรวจให้รู้ก่อนตั้งครรภ์

โรคติดต่อทางพันธุกรรม ธาลัสซีเมีย

1.โรคธาลัสซีเมีย (Thalassemia) 

โรคธาลัสซีเมีย เป็นโรคโลหิตจางชนิดหนึ่งที่เกิดจากพันธุกรรมที่พบมากในประเทศไทย เกิดจากการถ่ายทอดทางพันธุกรรมแบบยีนด้อย เนื่องมาจากความผิดปกติของยีนที่มีหน้าที่รสร้างฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดงลดน้อยลง ส่งผลให้เม็ดเลือดแดงมีลักษณะผิดปกติทั้งในแง่ปริมาณและลักษณะ แตกง่ายและมีอายุสั้น นำไปสู่ภาวะโลหิตจางหรือภาวะซีด และภาวะแทรกซ้อนอื่นตามมา ซึ่งทั้งพ่อและแม่ที่เป็นโรคธาลัสซีเมียหรือมียีนแฝงจะส่งต่อพันธุกรรมเหล่านี้มายังลูกและส่งผลให้ลูกมีโอกาสเป็นธาลัสซีเมียได้ ซึ่งในส่วนของผู้ที่มียีนธาลัสซีเมียแฝงอยู่จะไม่มีอาการของโรค มีสุขภาพร่างกายปกติ แต่กรรมพันธุ์ธาลัสซีเมียที่แฝงอยู่พร้อมถ่ายทอดความผิดปกติไปสู่ลูกได้ โดยพบว่าในประเทศไทยคนที่มีโอกาสมียีนแฝงหรือเป็นพาหะธาลัสซีเมียอยู่ถึงร้อยละ 30-40 หรือประมาณ 20-25 ล้านคน และผู้ป่วยโรคทาลัสซีเมียร้อยละ 1 คือประมาณ 6 แสนคน

โรคธาลัสซีเมียจะก่อให้เกิดความรุนแรงที่แตกต่างกัน ในทารกที่มีอาการของโรคขั้นรุนแรงมาก มักเสียชีวิตตั้งแต่ในครรภ์หรือหลังคลอดเพียง 1 – 2 ชั่วโมง แต่เป็นเพียงส่วนน้อย ในกรณีนี้ตัวคุณแม่ตั้งครรภ์ที่เป็นโรคนี้อาจมีภาวะแทรกซ้อนจากการตั้งครรภ์เพิ่มขึ้น เช่น มีโอกาสครรภ์เป็นพิษถึงร้อยละ 80 แต่โดยส่วนมากจะพบว่าผู้ป่วยธาลัสซีเมียมี 2 กลุ่มคือ กลุ่มที่ไม่มีอาการหรือมีอาการไม่มาก แต่จะซีดลงเมื่อมีไข้ ไม่สบาย กับกลุ่มที่มีอาการรุนแรงปานกลาง – รุนแรงมาก ที่สามารถสังเกตหรือตรวจพบอาการในช่วงอายุ 2 – 3 เดือน ซึ่งจะมีอาการซีด ถ้ารุนแรงมากจะตาเหลือง ตัวเหลืองคล้ายดีซ่าน เจริญเติบโตไม่สมอายุ ม้ามและตับโต มีลักษณะใบหน้าที่เปลี่ยนแปลงผิดปกติ ผู้ป่วยที่มีอาการของโรคนี้เรื้อรังมาตั้งแต่เด็ก ในระยะยาวจะมีกระดูกเปราะหักง่าย เจ็บป่วยไม่สบายบ่อย ๆ หรือมีภาวะติดเชื้อบ่อย ๆ ซึ่งจะต้องได้รับการรักษาแบบประคับประคองด้วยการถ่ายเลือดและขับเหล็ก หรือรักษาให้หายขาดโดยการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือด

ทั้งนี้วิธีเดียวที่จะทำให้ทราบแน่นอนว่าทั้งพ่อและแม่เป็นพาหะธาลัสซีเมียหรือไม่ คือการไปตรวจเลือดที่โรงพยาบาลก่อนวางแผนแต่งงานหรือวางแผนมีลูก ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นมากก่อนการตั้งครรภ์ เพราะจะทำให้ทราบว่าทั้งคู่มีความเสี่ยงที่จะเป็นพาหะสามารถถ่ายทอดยีนปกติหรือยีนที่เป็นธาลัสชีเมียไปให้แก่ลูก และลูกมีโอกาสเป็นโรคธาลัสซีเมียหรือไม่และรุนแรงแค่ไหน เพื่อจะได้ปรึกษาคุณหมอในการวินิจฉัยหรือป้องกัน และเป็นตัวเลือกในกรณีที่ตัดสินใจวางแผนมีลูกต่อไป

ในครอบครัวที่มีลูกเป็นโรคธาลัสซีเมีย คุณพ่อคุณแม่ควรมีส่วนร่วมกับแพทย์ในการดูแลลูกอย่างใกล้ชิดและถูกวิธีให้ดีที่สุด เพื่อให้ลูกน้อยสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุขเหมือนคนปกติ โดยทำความเข้าใจเกี่ยวกับโรค อาการ และแนวทางการรักษาโรคโดยปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ หากมีข้อสังเกตหรือมีข้อสงสัยใด ๆ ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที

(ข้อมูลจาก : www.pr.moph.go.th)

2.โรคผิวเผือก (Albinism)

โรคผิวเผือก เป็นโรคที่เกิดความผิดปกติขึ้นกับกระบวนการผลิตเม็ดสีในร่างกายที่ทำหน้าที่กำหนดสีผิว สีผม และสีม่านตา โดยได้รับยีนด้อยที่ถ่ายทอดมาจากทั้งพ่อและแม่ เมื่อเป็นโรคนี้ส่งผลให้เม็ดสีในร่างกายลดลงเป็นจำนวนมาก หรือร่างกายอาจไม่ผลิตเม็ดสีออกมาหรือผลิตออกมาน้อยกว่าปกติ ทำให้สังเกตลักษณะและอาการได้ชัดสำหรับคนที่เป็นโรคนี้ เช่น มีผิวเผือก ผิวซีด ผมขาว ขนขาว และม่านตาสีซีดหรือสีขาว มีปัญหาในการมองเห็น และทนแสงแดดจ้าไม่ค่อยได้ เป็นต้น

ปัจจุบันโรคผิวเผือกยังไม่มีวิธีที่สามารถรักษาให้หายขาดได้และวิธีป้องกันเนื่องจากเป็นโรคที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม สำหรับเด็กที่เป็นโรคผิวเผือก วิธีช่วยบรรเทาอาการของโรคนี้ได้โดยการปกป้องผิวหนังและดวงตาจากแสงแดด หลีกเลี่ยงการเผชิญกับแสงแดด หากออกจากบ้านหรืออยู่กลางแจ้งควรทาครีมกันแดด แต่งกายให้มิดชิด และใส่หมวก รวมทั้งอาจเข้ารับการตรวจผิวหนัง เพื่อตรวจหาสัญญาณของโรคมะเร็งผิวหนังหรือเนื้อเยื่อที่ผิดปกติที่อาจนำไปสู่โรคมะเร็งผิวหนัง และการตรวจตาประจำปี ใส่แว่นที่ช่วยทำให้ตำแหน่งของตาและการมองเห็นดีขึ้น สวมแว่นกันแดดเมื่ออยู่กลางแจ้ง หรือแว่นตาที่ช่วยลดความไวต่อแสงของตา ก็จะช่วยดูแลดวงตาปรับการมองเห็นให้ดีขึ้นได้ เป็นต้น

ทั้งนี้ในเด็กที่เป็นโรคผิวเผือกอาจต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษในขณะอยู่ที่โรงเรียน ซึ่งอาจถูกกลั้นแกล้งหรือถูกล้อเลียนที่จะส่งผลต่อสุขภาพจิตและการเรียนรู้ คุณพ่อคุณแม่อาจจะพูดคุยเกี่ยวกับภาวะของโรคนี้ ทั้งรูปร่างลักษณะที่เกิดขึ้นกับร่างกายลูก เพื่อให้ลูกเข้าใจและเกิดความเคยชิน พร้อมที่จะรับมือกับคำถาม และเพื่อที่จะให้เด็กดำเนินชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข

(ข้อมูลจาก : www.story.motherhood.co.th)

g6pd โรคทางพันธุกรรม

3.โรคพร่องเอนไซม์ G6PD

โรค G6PD หรือเรียกกันว่าโรคแพ้ถั่วปากอ้า เป็นโรคทางพันธุกรรมที่ทำให้เม็ดเลือดแดงแตกได้ง่ายเมื่อได้รับสิ่งกระตุ้น ซึ่งสาเหตุของภาวะพร่องเอนไซม์ G6PD นั้นเกิดจากความผิดปกติของโครโมโซม X ทำให้เอนไซม์ “G6PD” ซึ่งเป็นเอนไซม์ในเม็ดเลือดแดงที่มีหน้าที่ต่อต้านอนุมูลอิสระ ปกป้องไม่ให้เม็ดเลือแดงแตกง่าย ช่วยให้เซลล์เม็ดเลือดแดงทำงานได้เป็นปกติ เมื่อเกิดภาวะพร่องเอนไซม์เอนไซม์ G6PD ก็จะทำให้ได้เอนไซม์ที่มีประสิทธิภาพในการทำงานน้อยกว่าปกติ โดยเฉพาะเมื่อได้รับสิ่งที่กระตุ้น เช่น อาหารและยาบางชนิด หรือถั่วปากอ้า ส่งผลให้อนุมูลอิสระเข้าไปทำลายระบบต่าง ๆ ภายในเซลล์ของร่างกาย ทำให้เซลล์เม็ดเลือดแดงสลายตัวง่าย จนเกิดภาวะโลหิตจางตามมา และเนื่องจากโรค G6PD เกิดจากความผิดปกติทางพันธุกรรมที่มีการถ่ายทอดแบบยีนด้อยของโครโมโซมเพศ X ซึ่งมีการกลายพันธุ์ของยีนที่สร้างเอนไซม์ G6PD จากคนเป็นแม่ ส่งผลทำให้อัตราทารกเพศชายมีโอกาสที่จะเป็นโรคนี้สูงกว่าทารกเพศหญิง โดยมีสถิติการเกิดโรคและพาหะแฝงในเพศชายอยู่ที่ 11-13 เปอร์เซ็นต์ ส่วนเพศหญิงมีโอกาสเป็นโรคเพียง 1 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นและส่วนมากจะเป็นพาหนะของโรคนี้ไปสู่รุ่นลูกได้ จากสถิติรวมทั้งประเทศพบว่า โรค G6PD เป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบมากเป็นอันดับ 2 รองจากธาลัสซีเมีย

ในทารกแรกเกิดที่มีภาวะเม็ดเลือดแดงขาดเอ็มไซม์จีซิกพีดี จะเกิดภาวะตัวเหลือง มีอาการตาเหลือง ตัวเหลืองตั้งแต่แรกเกิด เนื่องจากมีบิลิรูบินในเลือดสูงกว่าปกติและโลหิตจางเนื่องจากเม็ดเลือดแดงแตกเฉียบพลัน มีสีอุจจาระซีดลง หรือปัสสาวะสีเหลืองเข้มมากหรือเป็นสีน้ำปลา มีไข้ ซึม ไม่ดูดนม ท้องอืด เกร็ง หรือชัก ทารกที่มีภาวะซีดเหลืองจากโรค G6PD ในระดับเบา แพทย์จะรักษาด้วยการส่องไฟ เพื่อช่วยลดปริมาณสารสีเหลืองในเลือดได้ และขับสารเหลืองออกจากร่างกายทางปัสสาวะและอุจจาระ แต่หากทารกมีอาการซีดเหลืองจากโรค G6PD ในระดับรุนแรง แพทย์จะรักษาด้วยการเปลี่ยนถ่ายเลือด เพื่อลดระดับบิลิรูบินในเลือดลงอย่างรวดเร็ว ป้องกันไม่ให้เกิดความผิดปกติทางสมองของทารก

ในส่วนของผู้ป่วยทั่วไปมักไม่แสดงอาการเจ็บป่วย แต่บางรายอาจมีอาการผิดปกติ เช่น อ่อนเพลีย ตัวเหลือง ตาเหลือง หายใจไม่อิ่ม เป็นต้น โดยอาการมักเกิดขึ้นหลังมีภาวะติดเชื้อ รวมทั้งเมื่อได้รับอาหารหรือยาบางชนิด นอกจากนี้การติดเชื้อต่าง ๆ เช่น ไข้หวัด หลอดลมอักเสบ ก็อาจทำให้เกิดภาวะเม็ดเลือดแดงแตกได้ ดังนั้นก่อนการรักษาควรแจ้งให้แพทย์ทราบว่าเป็นโรค G6PD หากผู้ป่วยมีอาการไม่รุนแรง อาการจะบรรเทาลงภายในไม่กี่สัปดาห์หลังได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม อย่างไรก็ตาม โรคนี้ไม่สามารถป้องกันการส่งผ่านจากพ่อแม่และไม่สามารถรักษาให้หายขาด เมื่อเป็นแล้วภาวะนี้จะติดตัวไปตลอดชีวิต ดังนั้นหากลูกมีสภาวะเสี่ยงหรือผู้ป่วยที่เป็นโรคพร่องเอนไซม์ G6PD คุณพ่อคุณแม่ควรดูแลเป็นพิเศษและระมัดระวังหลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นที่ก่อให้เกิดอาการของโรคแทนได้ อาทิเช่น

  • ดูแลสุขภาพลูกให้เหมือนเด็กปกติทั่วไป รักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ ป้องกันการติดเชื้อ
  • ให้ลูกหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่อาจกระตุ้นให้เกิดการสลายตัวของเซลล์เม็ดเลือดแดง เช่น ถั่วบางชนิด โดยเฉพาะถั่วปากอ้า บลูเบอรี่ รวมทั้งสารอาหารหรือสารปรุงแต่งอื่น ๆ ที่เติมลงไปในอาหาร เช่น ในขนมขบเคี้ยว อาหารหรือน้ำผลไม้บรรจุกระป๋อง ไส้กรอก เป็นต้น
  • เมื่อมีอาการเจ็บป่วย ไม่ควรซื้อยารับประทานกินเองไม่ว่ากรณีใด ๆ
  • รีบพาลูกไปพบแพทย์ทันทีหากสังเกตว่าลูกมีอาการผิดปกติ เช่น อาการซีด อ่อนเพลีย ตัวเหลือง ตาเหลือง หายใจไม่อิ่ม หรือปัสสาวะมีสีเข้ม เป็นต้น

ทั้งนี้ภาวะพร่องเอ็นไซม์ G6PD ในแต่ละคนอาจมีอาการแสดงของภาวะเม็ดเลือดแดงแตกรุนแรงมากน้อยแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับระดับของภาวะพร่องเอนไซน์และปัจจัยกระตุ้นที่ได้รับ และส่วนใหญ่จะไม่แสดงอาการผิดปกติเลยหากไม่ได้รับหรือสามารถหลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นให้เกิดอาการได้ หรือได้รับสารกระตุ้นในปริมาณมาก ๆ จึงจะแสดงอาการป่วย

4.โรคเด็กดักแด้ (Epidermolysis Bullosa)

โรคดักแด้ หรือเรียกว่า “เด็กผีเสื้อ” เป็นโรคทางพันธุกรรมที่เกิดจากการกลายพันธุ์ของยีนชื่อว่า ยีนเคราติน ที่ส่งผลทำให้ผิวหนังเกิดความผิดปกติอย่างรุนแรง คือ มีผิวหนังแห้งแตก ตกสะเก็ด ลักษณะคล้ายเกล็ดปลา และมีความเปราะบาง ทำให้เกิดแผลพุพองตามผิวหนังคล้ายกับแผลไฟไหม้ และสามารถลามไปอวัยวะภายในได้ เช่น ระบบทางเดินหายใจ หลอดอาหาร ลำไส้เล็ก กระเพาะอาหาร เป็นต้น โดยโรคนี้มักเกิดขึ้นกับทารกแรกเกิดหรือเด็กเล็ก เมื่อคลอดออกมาแล้วสัมผัสกับอากาศก็จะทำให้ผิวแห้งและหดตัว ดึงทุกส่วนที่เป็นช่องเปิดในร่างกาย เช่น ดวงตา ซึ่งจะทำให้หนังเยื่อบุตาปลิ้นออกมา ทำให้เกิดการระคายเคือง ดวงตาปิดไม่สนิท หรือบริเวณปากที่ส่งผลให้เยื่อบุที่อยู่บริเวณปากปลิ้นออกมา ทำให้ปากของเด็กไม่สามารถดูดนมได้ เป็นต้น อาการของโรคนี้จะแบ่งความรุนแรงได้หลายระดับ โดยเด็กที่เป็นโรคดักแด้จะมีไข้ ไม่สบายบ่อย บางคนผิวแห้งไม่มาก บางคนผิวลอกทั้งตัว และสูญเสียน้ำทางผิวหนังไปอย่างรวดเร็ว แต่ถ้าอาการไม่รุนแรงมักดีขึ้นได้เอง ส่วนในกรณีที่มีอาการรุนแรงมักมีปัญหาสุขภาพร้ายแรงอื่น ๆ หรืออาจความอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้

ในปัจจุบันโรคดักแด้ยังไม่พบวิธีการรักษาที่จะรักษาให้หายขาดรวมถึงวิธีป้องกันอย่างร้อยเปอร์เซนต์ เมื่อเป็นโรคนี้แพทย์จะรักษาตามอาการเพื่อบรรเทาและควบคุมอาการของโรคไม่ให้แย่ลง และป้องกันภาวะแทรกซ้อน เช่น การติดเชื้อในกระแสเลือด ดังนั้นเพื่อลดความเสี่ยงต่อการมีลูกเป็นโรคเด็กดักแด้ คู่แต่งงานควรมีการวางแผนก่อนการตั้งครรภ์ สอบถามประวัติคนในครอบครัวมีใครเป็นโรคนี้บ้าง หรือทำการตรวจเพื่อวินิจฉัยว่าเด็กมีความเสี่ยงของโรคนี้หรือไม่ แต่หากมีลูกเป็นโรคนี้แล้ว คุณพ่อคุณแม่จำเป็นต้องดูแลลูกอย่างใกล้ชิดเป็นพิเศษ เช่น การสัมผัสกับเด็กที่เป็นโรคนี้อย่างเบา คอยระมัดระวังและต้องรักษาความชุ่มชื่นในผิวหนังอยู่ตลอดเวลา เพราะเด็กที่เป็นโรคดักแด้จะมีความผิดปกติในการสร้างสมดุลความชุ่มชื่นของผิวหนังหรืออุณหภูมิในร่างกายที่จะส่งผลต่อผิว ให้ลูกรับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์และถูกต้องตามโภชนาการเพื่อได้สารอาหารและน้ำที่เพียงพอ ซึ่งน้ำจะช่วยในการสร้างสมดุลน้ำในร่างกายทำให้ผิวหนังมีความชุ่มชื้น รวมทั้งการใช้วาสลีนทาผิวลูกเพื่อให้ผิวหนังมีความชุ่มชื่นอยู่เสมอ ทั้งนี้แม้ว่าโรคดักแด้จะเป็นโรคทางพันธุกรรมกลุ่มโรคผิวหนังที่พบได้ยาก แต่เด็กที่เป็นโรคนี้ควรได้อยู่ในการดูแลของแพทย์ เพราะเป็นโรคที่อันตรายถึงชีวิตได้

(ข้อมูลจาก : www.thaichildcare.com)

โรคทางพันธุกรรม ดาวน์ซินโดรม

5.โรคดาวน์ซินโดรม

กลุ่มอาการดาวน์ซินโดรม เป็นโรคทางพันธุกรรมที่เกิดจากความผิดปกติของโครโมโซม โดยสาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากโครโมโซมคู่ที่ 21 เกินมา 1 แท่ง ส่งผลให้ทารกที่เกิดมามีลักษณะผิดปกติของพัฒนาการร่างกายทั้งรูปร่างหน้าตา อวัยวะต่าง ๆ โดยจะมีศีรษะค่อนข้างเล็ก หน้าแบน หัวแบน ดั้งจมูกแบน ปากเล็ก ตาเป็นวงรีเฉียงขึ้น ลิ้นมักยื่นออกมา คอสั้น ตัวเตี้ยกว่าวัยเดียวกัน มือสั้น เป็นต้น และส่งผลต่อการพัฒนาตั้งแต่เป็นทารกในครรภ์มารดาต่อเนื่องไปจนหลังคลอดและตลอดชีวิต เช่น มีปัญหาทางด้านเชาวน์ปัญญา พูดช้า การใช้กล้ามเนื้อ และภาวะปัญญาอ่อน ในบางรายอาจมีปัญหาต่างสุขภาพต่างๆ เช่น โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด โรคลำไส้อุดตันตั้งแต่แรกเกิด ภาวะต่อมไทรอยด์บกพร่อง เป็นต้น เป็นผลทำให้ผู้ป่วยโรคนี้มักมีอายุสั้นกว่าคนปกติ

อัตราความเสี่ยงของการมีลูกเป็นดาวน์ซินโดรมนั้นก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น คุณแม่ที่ตั้งครรภ์เมื่ออายุมาก หรืออายุ 35 ปีขึ้นไป ก็จะมีความเสี่ยงสูงที่ลูกจะเป็นดาวน์ซินโดรมเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่นอีก เช่น คุณแม่ที่มีประวัติเคยมีลูกที่เป็นดาวน์ซินโดรม หรือการมีความผิดปกติในโครโมโซมของพ่อแม่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือทั้งสองฝ่าย โอกาสที่ลูกจะเกิดมาเป็นดาวน์ซินโดรมจะสูงถึง 50% ซึ่งในปัจจุบันการตรวจวินิจฉัยดาวน์ซินโดรมนั้น สามารถทำได้ตั้งแต่ลูกอยู่ในครรภ์ เพื่อตรวจหาความผิดปกติของทารกว่าเป็นกลุ่มอาการดาวน์หรือไม่ โดยแบ่งเป็น การตรวจคัดกรองภาวะดาวน์ซินโดรมด้วยวิธีการตรวจอัลตร้าซาวนด์และตรวจเลือด และการตรวจวินิฉัยจากการ การเจาะน้ำคร่ำ การตรวจโครโมโซมจากรกเด็ก การเจาะเลือดจากสายสะดือทารก และการวินิจฉัยโรคทางพันธุกรรมระยะก่อนการฝังตัว 

สิ่งหนึ่งที่พ่อแม่ไม่ควรมองข้ามเมื่อลูกเป็นดาวน์ซินโดรมนอกจากสุขภาพร่างกายและพัฒนาการทางสมองที่ไม่ปกติแล้ว ในกลุ่มเด็กเป็นโรคนี้ก็มักจะมีปัญหาเกี่ยวกับพฤติกรรมที่คุณพ่อคุณแม่จำเป็นต้องดูแลและใส่ใจอย่างเป็นพิเศษมากกว่าเดิม อาทิเช่น การวิ่งหรือเดินไปเรื่อยเปื่อย ชอบทำเสียงประหลาด ชอบอมมือ การย้ำคิดย้ำทำ พูดซ้ำ ๆ  เป็นต้น ทั้งหมดนี้มีความสำคัญยิ่งต่อพัฒนาการของสมอง โดยเฉพาะในระยะ 3 ขวบปีแรก หากรักษาไม่ทันเวลา ภาวะปัญญาอ่อนจะยิ่งรุนแรงมากขึ้น และเมื่อโตขึ้นก็จะมีโอกาสเป็นโรคอัลไซเมอร์ได้เร็ว ดังนั้นการดูแลลูกที่มีภาวะดาวน์ซินโดรมจึงควรฝึกให้ลูกสามารถช่วยเหลือตัวเองในชีวิตประจำวันได้ สนับสนุนความสามารถพิเศษตามความชอบหรือความถนัดของลูก เด็กที่เป็นดาวน์ซินโดรมสามารถเรียนรู้และฝึกฝนซ้ำ ๆ จนเกิดความชำนาญได้ และคอยช่วยเหลือดูแลลูกด้วยความรัก ความเข้าใจ ที่จะทำให้พวกเขาสามารถปรับตัวอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้

6.โรคเท้าแสนปม (Neurofibromatosis)

โรคเท้าแสนปม เป็นกลุ่มอาการโรคผิวหนัง และเป็นโรคที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรมจากพ่อแม่ โดยพบว่าเด็กร้อยละ 50 ได้รับถ่ายทอดยีนจากพ่อแม่ที่ป่วยเป็นโรคนี้ และยังเกิดจากการกลายพันธุของยีนที่ถ่ายทอดโดยโครโมโซม ก่อให้เกิดเนื้องอกตามแนวเส้นประสาท ลักษณะที่พบคือจะมีตุ่มเต็มไปทั่วร่างกาย ขนาดเล็กไปจนใหญ่แตกต่างกัน โรคเท้าแสนปมแบ่งออกเป็น 3 ชนิด ซึ่โรคเท้าแสนปมชนิดที่ 1 หรือ “นิวโรไฟโบรมาโตซิส ชนิดที่ 1” ( NF 1 : Neurofibromatosis Type 1) เป็นชนิดที่พบในเด็กและอาจพบได้ตั้งแต่แรกคลอด จะส่งผลกระทบต่ออวัยวะต่าง ๆ ในร่างกาย ได้แก่ จุดสีน้ำตาลอ่อนบนผิวหนัง เกิดตุ่มบนม่านตา หรือเนื้องอกที่เส้นประสาทตา เกิดเนื้องอกที่ผิวหนังหรือใต้ผิวหนัง กระดูกเติบโตผิดรูปส่งผลให้กระดูกสันหลังคดหรือโค้งโก่ง  ร่างกายแคระแกร็น ส่วนสูงต่ำกว่ามาตรฐาน ขนาดศีรษะใหญ่กว่าปกติ และส่งผลกระทบต่อจิตใจของเด็กได้เนื่องจากการผิดปกติของร่างกายทำให้รู้สึกแตกต่างจากเพื่อน ๆ อย่างไรก็ตาม โรคเท้าแสนปนในเด็กส่วนใหญ่มักไม่มีภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรง ส่วนใหญ่เนื้องอกที่เกิดขึ้นนั้นมักเป็นเนื้องอกชนิดไม่ร้ายแรง แต่ในบางครั้งก็อาจกลายเป็นเนื้องอกชนิดร้ายแรงและกลายเป็นมะเร็งได้

เนื่องจากโรคเท้าแสนปมเป็นโรคที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรมและไม่มีวิธีการรักษาให้หายขาดได้ การรักษาจึงเป็นการรักษาเพื่อควบคุมอาการของโรคจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรค ได้แก่ การตรวจผิวและเนื้องอกการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นมาใหม่ ซึ่งในบางรายอาจต้องรับการผ่าตัดเนื้องอก ประเมินทักษะการเปลี่ยนแปลง หรือความผิดปกติของกระดูก และประเมินทักษะเรียนรู้ของเด็ก ดังนั้นการป้องกันที่ดีที่สุดคือคือ การปรึกษาแพทย์และวางแผนการมีบุตร โดยรับการตรวจยีนเพื่อหาความผิดปกติของพ่อและแม่ และวินิจฉัยว่าลูกมีโอกาสเป็นโรคเท้าแสนปมหรือไม่ เพื่อเป็นการตัดสินใจในวางแผนครอบครัวต่อไป

(ข้อมูลจาก : www.thaichildcare.com)

โรคทางพันธุกรรม ฮีโมฟีเลีย

7.โรคฮีโมฟีเลีย

โรคฮีโมฟีเลีย หรือโรคเลือดไหลง่ายแต่หยุดยาก เป็นโรคทางพันธุกรรมที่มักพบมากในเพศชาย เกิดจากยีนที่ผิดปกติบนโครโมโซม x จากแม่ซึ่งจะถ่ายทอดไปสู่ลูกชาย ส่งผลต่อปัจจัยการแข็งตัวของเลือด ส่วนผู้หญิงที่มียีนบกพร่องจะเป็นพาหะแทนและไม่มีอาการของโรค คนที่เป็นโรคนี้มีอาการเลือดออกง่ายและไหลเป็นเวลานานกว่าคนปกติและหยุดยากเมื่อได้รับบาดเจ็บหรืออาการเลือดออกอาจเกิดขึ้นเอง เนื่องจากเลือดไม่แข็งตัวอย่างที่ควรจะเป็น อาการที่สังเกตได้ เช่น เลือดออกมากผิดปกติ เลือดกำเดาไหลบ่อย ข้อบวม เกิดแผลฟกช้ำขึ้นเอง เป็นต้น และอันตรายมากหากมีเลือดออกในร่างกาย อาจร้ายแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้

ในปัจจุบันโรคนี้ยังไม่สามารถรักษาให้หายขาด หากมีประวัติคนในครอบครัวป่วยด้วยโรคนี้ควรตรวจสอบและปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับโรคทางพันธุกรรมก่อนวางแผนมีบุตร เพื่อคัดกรองและวินิจฉัยหาความผิดปกติของยีนบกพร่องทางพันธุกรรม หรือยีนที่กลายพันธุ์ก่อนตั้งครรภ์ และดูว่ามีความเสี่ยงที่จะมีลูกเป็นโรคฮีโมฟีเลียหรือไม่ เพื่อลดความเสี่ยงการถ่ายทอดยีนผิดปกติจากพ่อแม่สู่ลูกได้

อย่างไรก็ตามการดูแลลูกที่ป่วยเป็นโรคฮีโมฟีเลีย หากคุณพ่อคุณแม่สังเกตว่าลูกมีอาการเลือดออกง่ายแต่หยุดยาก ควรรีบมาพบแพทย์เพื่อทำการรักษาอย่างเหมาะสม นอกจากไปพบแพทย์เพื่อดูแลอาการและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดแล้ว วิธีที่คุณพ่อคุณแม่สามารถดูแลเพื่อควบคุมอาการของโรค เช่น การดูแลและเอาใจใส่ลูกเป็นพิเศษในการดำเนินชีวิตประจำวัน หลีกเลี่ยงหรือป้องกันต่อเหตุการณ์ที่เสี่ยงทำให้เลือดออก เป็นต้น การดูแลเป็นอย่างดีก็สามารถทำให้ลูกดำเนินชีวิตได้อย่างปกติและมีความสุขเหมือนเด็กทั่วไป

8.ตาบอดสี

ตาบอดสี เป็นภาวะผิดปกติในการมองเห็นสีบางสีไม่ชัดเจนหรือผิดเพี้ยนไปจากผู้ที่มีสายตาผิดปกติ  สาเหตุที่พบบ่อยคือเกิดจากการการถ่ายทอดทางพันธุกรรมแบบลักษณะยีนด้อยบนโครโมโซม โดยมากเป็นการตาบอดสีตั้งแต่กำเนิด มักพบทารกเพศชายมากกว่า และตาบอดสีในคนที่เพิ่งมาเป็นภายหลังที่เกิดจากโรคต่าง ๆ หรือสิ่งที่ส่งผลกระทบต่อจอประสาทตา สมอง หรือส่วนแปลผลรับภาพให้ผิดปกติไป ทำให้ไม่สามารถแยกแยะสีสันได้เหมือนกับคนทั่วไป ส่วนใหญ่จะไม่สามารถแยกความแตกต่างระหว่างสีเขียว สีแดง สีเหลือง สีส้ม หรืออาจเห็นแต่ภาพขาวดำ ส่วนภาวะตาบอดสีทุกสีจะพบได้น้อยมาก ซึ่งความผิดปกตินี้จะเกิดขึ้นกับตาทั้งสองข้าง

ภาวะตาบอดสีในเด็กแต่ละคนอาจมีอาการแตกต่างกันออกไปตามชนิดของตาบอดสีที่เป็น ปัญหาของอาการตาบอดสีมักส่งผลกระทบต่อเด็กเล็กวัยอนุบาล เนื่องจากสื่อการเรียนการสอนมักใช้สีสันสดใส ทำให้มีปัญหาในการเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ซึ่งความสำคัญของการมองเห็นสีต่าง ๆ ถือเป็นความสามารถที่จะช่วยให้แยกแยะและจัดหมวดหมู่สิ่งต่าง ๆ ได้ และส่งผลต่อพัฒนาการเรียนรู้ของลูก คุณพ่อคุณแม่สามารถสังเกตได้จากความผิดปกติในการจดจำและการแยกสีต่าง ๆ ของลูกตั้งแต่เล็กได้ และหากลูกมีอาการตาบอดสีควรให้ความสำคัญเกี่ยวกับการตรวจอาการตาบอดสีที่ควรได้รับการตรวจแต่เนิ่น ๆ เพื่อที่จะช่วยให้ลูกได้วางแผนการเรียนที่เหมาะสมกับตัวเด็ก ทั้งนี้ในส่วนของการรักษาตาบอดสีที่เกิดจากกรรมพันธุ์ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่สามารถสวมแว่นหรือคอนเทคเลนส์ที่ช่วยกรองแสงบางสีได้ สำหรับในส่วนคนที่มีอาการตาบอดสีภายหลังหรือไม่ได้เป็นมาแต่กำเนิด ควรได้รับการตรวจละเอียดเพื่อให้ทราบสาเหตุ เพราะอาจมีโรคร้ายบางอย่างแฝงอยู่

อย่างไรก็ตามภาวะตาบอดสี ไม่ถือเป็นความผิดปกติ และสามารถใช้ชีวิตได้เหมือนคนทั่วไป เพียงแต่ต้องระมัดระวังตัวในการมองวัตถุที่เกี่ยวกับสีมากขึ้น เช่น การใช้สัญญาณไฟจราจร หรือมีข้อจำกัดในเรื่องของการเลือกประกอบอาชีพ

(ข้อมูลจาก : www.rama.mahidol.ac.th)

ในปัจจุบันยังไม่มีวิธีใดทางการแพทย์ที่ช่วยป้องกันโรคทางพันธุกรรมได้ เป็นโรคที่เกิดขึ้นแล้วไม่สามารถรักษาให้หายขาด และจะเป็นมรดกทางพันธุกรรมที่ติดตัวลูกไปตลอดชีวิต แต่สามารถรับมือได้ โดยครอบครัวที่มีประวัติโรคทางพันธุกรรม หรือมีความเสี่ยงว่าความผิดปกตินี้จะถ่ายทอดไปยังรุ่นลูกรุ่นหลาน ควรเข้ารับการปรึกษาทางพันธุศาสตร์ก่อนตั้งครรภ์จากผู้เชี่ยวชาญที่จะให้แนะนำและข้อมูลเกี่ยวกับโอกาสและความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นในระหว่างการตั้งครรภ์ ซึ่งจะช่วยประกอบคำแนะนำและการตัดสินใจของครอบครัวในการวางแผนที่จะมีลูก หรือการฝากครรภ์ทันทีเมื่อรู้ว่าตั้งท้องเพื่อสามารถตรวจคัดกรองได้ตั้งแต่ลูกยังอยู่ในครรภ์ และหากพบทารกมีอาการผิดปกติตั้งแต่เนิ่น ๆ ก็จะได้วางแผนการดูแล เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่สามารถรับมือและแก้ไขปัญหาไปพร้อมกับการรักษาอย่างถูกต้องร่วมกับแพทย์ หากเรียนรู้และเข้าใจเกี่ยวกับโรคเป็นอย่างดี ก็จะช่วยให้คู่สามีภรรยาที่ต้องการมีลูกสามารถวางแผนครอบครัวได้อย่างรอบคอบมากขึ้น ลดความเสี่ยงต่อโอกาสเกิดโรคทางพันธุกรรมสู่ลูก.

ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก : www.thaichildcare.comwww.bccgroup-thailand.com,

อ่านต่อบทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ คลิก :

โรคพันธุกรรมเมตาบอลิก ป้องกันไม่ได้ รักษาไม่หายขาด

ตรวจโรคทางพันธุกรรม ก่อนตั้งครรภ์ จำเป็นไหม?

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

ทรงผมสั้นสุดฮิต

50 ทรงผมสั้นสุดฮิต ดูแลง่าย สวยได้หลายลุค

เพราะทรงผม สามารถเปลี่ยนลุคของสาว ๆ ทุกคนได้ การลองตัดผมสั้น อาจทำให้บุคลิกดูเด็กลง สวยขึ้นจนคนทักเลยก็ได้นะคะ นอกจากนี้ การไว้ผมสั้นสำหรับคุณแม่ที่กำลังเลี้ยงลูก ก็ทำให้สะดวกมากกว่าที่คิด เพราะมีเวลาดูแลลูกรักได้มากกว่าเดิม วันนี้ เรามาดู 50 ทรงผมสั้นสุดฮิต ไม่ว่าจะตัดเมื่อไหร่ก็สวย อินเทรนด์ แถมดูแลง่ายกว่าผมยาวอีกด้วย

 

รวม 50 ทรงผมสั้นสุดฮิต ดูแลง่าย สวยได้หลายลุค

 

ซอยสั้น ทรงผมสั้นสุดฮิต ทั้งสวย ทั้งเท่

ทรงผมแบบซอยสั้น เป็นอีกหนึ่งทรงผมยอดฮิต ที่ไม่ว่าจะเมื่อไหร่ก็ไม่เคยตกเทรนด์ ทรงนี้สามารถเปลี่ยนลุคของสาว ๆ ให้ดูสวยเฉี่ยว เปรี้ยว และเท่ในเวลาเดียวกัน หลายคนที่ไว้ผมยาวมาตลอด พอลองตัดทรงนี้แล้วติดใจ ไม่กลับไปไว้ผมยาวอีกเลยก็มี เพราะนอกจากจะสวยแล้ว ผมซอยสั้นยังดูแลง่ายมาก ๆ อีกด้วย

ทรงผมสั้นสุดฮิต
gqkorea.co.kr
ทรงผมสั้นสุดฮิต
hair.cm
ทรงผมสั้นสุดฮิต
IG @apinnya
ทรงผมสั้นสุดฮิต
hair.cm
ทรงผมสั้นสุดฮิต
IG @djtonhorm
ทรงผมสั้นสุดฮิต
IG @pattieung
ทรงผมสั้นสุดฮิต
daddy-cool.gr
ทรงผมสั้นสุดฮิต
daddy-cool.gr
ทรงผมสั้นสุดฮิต
hair.cm
ทรงผมสั้นสุดฮิต
maquia.hpplus.jp
ทรงผมสั้นสุดฮิต
IG @kyugmn

 

ผมสั้นประบ่า ดูดี เรียบง่าย ทำแล้วหน้าเด็กลง

ผมสั้นประบ่า ทรงผมง่าย ๆ ที่สาว ๆ หลายคนน่าจะเคยทำมาก่อน ทรงนี้นอกจากจะทำง่าย เข้ากับรูปหน้าแล้ว ยังดูแลง่าย แถมทำแล้วหน้าเด็กลงอีกด้วยนะคะ

ทรงผมสั้นสุดฮิต
IG @kimmy_kimberle
ทรงผมสั้นสุดฮิต
IG @gabegabegram
ทรงผมสั้นสุดฮิต
IG @kyugmn
ทรงผมสั้นสุดฮิต
IG @cherrykhemupsorn
ทรงผมสั้นสุดฮิต
nagelgalerie.info
ทรงผมสั้นสุดฮิต
milkcocoa.co.kr
ทรงผมสั้นสุดฮิต
nagelgalerie.info

 

อ่านเพิ่มเติม >> ผมสั้นก็ปังได้นะแม่! รวม 40 ไอเดีย ทรงผมสั้นประบ่า สวยได้ ไม่ตกเทรนด์

อ่านเพิ่มเติม >> คนท้องยืดผมได้ไหม ผมหยิก ชี้ฟู อยากให้ผมตรงจัดทรงง่าย ทำแล้วอันตรายมั้ย?

 

ผมสั้นดัดลอน สวยหวาน น่ารัก

ผมดัดลอน ไม่ว่าจะลอนเล็กหรือใหญ่ จะดัดทั้งศีรษะ หรือดัดแค่ปลาย ก็เปลี่ยนลุคสาว ๆ ให้กลายเป็นสาวหวาน แถมหน้าเด็กลงเป็นกองอีกด้วย

ทรงผมสั้นสุดฮิต
IG @gggubgib36
ทรงผมสั้นสุดฮิต
IG @mercieun
ทรงผมสั้นสุดฮิต
twitter @Minuschi
ทรงผมสั้นสุดฮิต
hair.cm
ทรงผมสั้นสุดฮิต
IG @tamxiu
ทรงผมสั้นสุดฮิต
IG @koraprim

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

ผมบ็อบ จะรูปหน้าแบบไหนก็เอาอยู่

ผมบ็อบ เป็นทรงผมที่เข้าได้กับทุกรูปหน้า ไม่ยาวเกินไปจนทำให้หน้าดูยาว และไม่สั้นเกินไปจนทำให้หน้าดูกลม จะเป็นบ็อบแบบแสกกลาง แสกข้าง หรือเพิ่มลูกเล่นด้วยการดัดปลายหน่อย ๆ เพียงเท่านี้ก็สวยแล้วค่ะ

ทรงผมสั้นสุดฮิต
IG @chuu__chloe
ทรงผมสั้นสุดฮิต
IG @suminzz
ทรงผมสั้นสุดฮิต
IG @suminzz
ทรงผมสั้นสุดฮิต
marymary.gr
ทรงผมสั้นสุดฮิต
IG @warattaya
ทรงผมสั้นสุดฮิต
dicasdemulher.com.br
ทรงผมสั้นสุดฮิต
twitter @evelyn_plum
ทรงผมสั้นสุดฮิต
kinarino.jp
ทรงผมสั้นสุดฮิต
kinarino.jp
ทรงผมสั้นสุดฮิต
IG @icepreechaya

 

ผมสั้นทำสี จะสีไหนก็ปัง

สีผม ทำให้ลุคของสาว ๆ เปลี่ยนไปได้ จะทำสีให้ดูเปรี้ยว แซ่บ หรือจะทำให้ดูหวาน ละมุน เป็นธรรมชาติ ก็ทำได้หมด จะย้อมสีผมให้เท่ากันทั้งศีรษะ หรือย้อมบางส่วนให้ดูเก๋ก็ได้ บวกกับผมสั้นแล้ว รับรองว่าเข้ากันแน่นอนค่ะ

ทรงผมสั้นสุดฮิต
nagelgalerie.info
ทรงผมสั้นสุดฮิต
IG @imlmelo
ทรงผมสั้นสุดฮิต
IG @jung.eunha
ทรงผมสั้นสุดฮิต
hair.cm
ทรงผมสั้นสุดฮิต
hair.cm
ทรงผมสั้นสุดฮิต
locari.jp
ทรงผมสั้นสุดฮิต
hair.cm

 

อ่านเพิ่มเติม >> คนท้องทำสีผมได้ไหม ดัด ย้อม ทำสีผม อันตรายต่อเบบี๋ในท้องหรือเปล่า?

 

ทรงผมสั้นสุดฮิต แบบมีหน้าม้า

ทรงผมสุดฮิตตลอดกาล กับทรงผมสั้นประบ่ามีหน้าม้าเพิ่มความน่ารัก ใครทำก็หน้าดูเด็กลงไปเป็นกอง อาจจะดัดลอนปลายเล็กน้อยเพิ่มความเก๋ แต่ทรงนี้ต้องเลือกหน้าม้าให้เข้ากับรูปหน้าของตัวเองด้วยนะคะ ถึงจะสวยเป๊ะ

ทรงผมสั้นสุดฮิต
IG @pattieung
ทรงผมสั้นสุดฮิต
hair.cm
ทรงผมสั้นสุดฮิต
archzine.fr
ทรงผมสั้นสุดฮิต
dicasdemulher.com.br
ทรงผมสั้นสุดฮิต
pinkage.co.kr
ทรงผมสั้นสุดฮิต
m.en.chuu.co.kr
ทรงผมสั้นสุดฮิต
kinarino.jp
ทรงผมสั้นสุดฮิต
kpopnews.vn

เคล็ด(ไม่)ลับลดผมร่วง 

การตัดผมสั้น เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยลดอาการผมร่วง ซึ่งเป็นปัญหาที่น่ากังวลใจสำหรับผู้หญิงทุกคน เพราะผมสั้นต้องการสารอาหารน้อยกว่า ลดปัญหาผมพันกันเวลาจัดทรง ก่อนจากกันไป เรามีเคล็ดลับง่าย ๆ ที่ช่วยลดอาการผมร่วงมาฝากค่ะ

  • หวีผมก่อนสระ จะช่วยจัดการกับเศษฝุ่นที่ติดบนเส้นผมได้ ช่วยให้สระผมได้สะอาดมากขึ้น
  • ลดการเป่าผมด้วยไดร์ร้อน เพราะความร้อนจะทำให้เส้นผมขาด ร่วง แห้ง และแตกปลาย การกระทำเหล่านี้ล้วนเป็นการลดคุณภาพของเส้นผมลง
  • สระผมด้วยน้ำเย็น แต่หากเป็นหวัดหรือป่วย อาจจะสระผมด้วยน้ำอุ่นก่อน แล้วราดด้วยน้ำเย็นอีกครั้ง เพื่อปิดเกล็ดผม วิธีนี้จะช่วยให้ผมนุ่มขึ้นและทำให้ผมมีสุขภาพดีขึ้นด้วยค่ะ
  • กินอาหารมากโปรตีน เพราะโปรตีนเป็นส่วนสำคัญของการเจริญเติบโตของเส้นผม แต่ก็ไม่ต้องถึงกับซื้อหาโปรตีนสำเร็จรูปมากินโดยเฉพาะ แค่อย่าละเลยอาหารกลุ่มโปรตีนก็พอ
  • ใช้ผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ หากต้องการดูแลเส้นผม เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากธรรมชาติ เช่น ก่อนสระผมหมักด้วยน้ำมันมะกอกประมาณ 15-20 นาที แทนการใช้ครีมนวดผม ที่อุดมไปด้วยน้ำมัน เพราะถึงผมจะนุ่มสลวยก็จริง ยิ่งกระตุ้นให้ผมมันง่ายกว่าปกติด้วย

 

หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ทรงผมสั้นสุดฮิต 40 ทรง ที่ทีมแม่ABK เราคัดมาให้ ทั้งลุคสวยหวาน ลุคน่ารัก ลุคสวยเท่ จะมีทรงที่ถูกใจสาว ๆ ที่กำลังมองหาไอเดียทรงผมสั้นกันนะคะ

 

 


ที่มา

daddy-cool.gr , kinarino.jp , maquia.hpplus.jpdicasdemulher , hair.cmlocari.jpm.en.chuu.co.kr ,

kpopnewsgqkoreamarymaryclosermagnagelgalerie

 

อ่านบทความน่าสนใจเพิ่มเติม

ผมสั้นก็ปังได้นะแม่! รวม 40 ไอเดีย ทรงผมสั้นประบ่า สวยได้ ไม่ตกเทรนด์

คนท้องทำสีผมได้ไหม ดัด ย้อม ทำสีผม อันตรายต่อเบบี๋ในท้องหรือเปล่า?

 

ซูชิ

เตือนภัย! ซูชิเรืองแสง เสี่ยงปนเปื้อนจุลินทรีย์ ก่อนซื้อต้องระวัง

ซูชิเรืองแสง เจอแบบนี้กินได้หรือ !!  นี่่ไม่ใช่เรื่องแปลก หรือสิ่งมหัศจรรย์ แต่เป็นภัยใกล้ตัวที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน แม้จะไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต แต่เมนูญี่ปุ่นขวัญใจเด็กๆ หากไม่ดูให้ดี ลูกเสี่ยงรับเชื้อจากจุลินทรีย์เข้าสู่ร่างกาย เพราะกระบวนการผลิตและเก็บรักษาที่ไม่สะอาดพอ 

อึ้งยกครัว  ซูชิเรืองแสง สีฟ้า กินได้หรือไม่ อันตรายแค่ไหนกัน

สำนักข่าวไทย  MCOTHD นำเสนอข่าวของครอบครัวยลไพบูลย์ที่ได้ซื้อซูชิมาจากฟู้ดคอร์ดของห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งทั้งหมด 3 กล่อง ช่วงกำลังหยิบของเข้าบ้านสังเกตว่า ซูชิเรืองแสง เป็นซูชิหน้ากุ้งจำนวน 2 กล่องมีแสงสีฟ้าเรืองออกมาอย่างชัดเจน จึงตัดสินใจไม่กินซูชิชิ้นดังกล่าว และรู้สึกประหลาดใจว่ากุ้งเรืองแสงได้อย่างไร ขณะที่ลูกชายลองนำกุ้งไปต้มในน้ำเดือนจนสุกแล้วนำมากิน ก็ไม่มีอาการข้างเคียงใดๆ แต่สังเกตว่าบนเมล็ดข้าวที่สัมผัสกับเนื้อกุ้งมีสารเรืองแสงติดอยู่ด้วย

ด้าน รองศาสตราจารย์ วีรชัย พุทธวงศ์ อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ให้ความเห็นว่า

ซูชิเรืองแสง ที่ปรากฎในข่าวเกิดจากแบคทีเรียที่มาจากสิ่งมีชีวิตในทะเล ทำปฏิกิริยากับอากาศ จึงเกิดการเรืองแสง มีฤทธิ์ต่ำ สูญสลายได้ด้วยความร้อน แต่ไม่แนะนำให้กิน”

ขณะที่ศาสตราจารย์ ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้โพสต์เฟสบุ๊กส่วนตัวถึงเรื่องดังกล่าว ความว่า

“เช้านี้มีหลายคนส่งรูปซูชิหน้ากุ้งดิบ ว่าไปเจอที่มันเรืองแสงได้เองในที่มืด (ไม่ได้ไปฉายแสงแบล็คไลท์ หรือแสงยูวี) อยากรู้ว่าเกิดจากอะไร ?

เรื่องอย่างนี้ ควรส่งไปให้หน่วยงานที่รับผิดชอบอย่าง เช่น กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ตรวจสอบก่อน จะชัดเจนที่สุดนะครับว่าเกิดจากอะไรแต่ถ้าจะสันนิษฐานว่าเกิดจากอะไรได้บ้าง ก็คงต้องเทียบเคียงกับที่เคยมีคนพบ “ลูกชิ้นปลาเรืองแสง” เมื่อก่อน ตอนปี 2553 ซึ่งกองควบคุมอาหาร สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ได้เคยอธิบายไว้ว่า มีสาเหตุที่เป็นไปได้ 3 อย่างคือ

ซูชิเรืองแสง

สารเรืองแสงเกิดจากการเจริญของเชื้อแบคทีเรียในทะเล กลุ่ม photobacterium phosphoreum ซึ่งสามารถผลิตสารเรืองแสงได้ ติดมากับปลาที่ใช้ทำลูกชิ้น แต่เชื้อกลุ่มนี้ถูกทำลายได้ด้วยความร้อน หากพบว่าลูกชิ้นเรืองแสงแสดงว่า อาจเกิดการปนเปื้อนหลังผ่านความร้อน หรือเก็บไว้ในอุณหภูมิไม่ต่ำ (น้อยกว่า 4 องศาเซลเซียส) เพียงพอ ทำให้เชื้อเพิ่มจำนวนได้

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

กรณีของลูกชิ้นปลา อาจเกิดเนื้อปลาที่ใช้เป็นวัตถุดิบ อาจเป็นปลาที่กินแพลงก์ตอนกลุ่ม ไดโนแฟลกเจลเลต หรือเชื้อแบคทีเรียวิบริโอ ซึ่งเรืองแสงได้เข้าไป

ผู้ผลิตอาจเติมสารเคมีบางชนิดที่มีฟอสฟอรัสเป็นส่วนประกอบ เช่น วัตถุเจือปนอาหารเพื่อรักษาความชุ่มชื้น หรือสารฟอกขาว

 

  1. ซูชิเรืองแสง

ถ้าให้ประเมินจากทั้งสามสาเหตุนี้ ซูชิเรืองแสงน่าจะเกิดจากการปนเปื้อนของเชื้อจุลินทรีย์มากกว่าสารเคมี แต่ทั้งนี้ควรนำไปตรวจในห้องปฏิบัติการด้วยว่า เป็นเชื้อชนิดไหน มีอันตรายหรือไม่ รวมถึงการสืบหาที่มาของกุ้ง เพื่อตรวจสอบสุขลักษณะในการผลิตและเก็บรักษา

สำหรับผู้บริโภค ถ้าพบอาหารที่มีความผิดปกติไม่ควรนำมารับประทาน เพราะนอกจากเชื้อจุลินทรีย์เรืองแสงแล้วอาจมีการปนเปื้อนของจุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดโรคต่างๆ เช่น ท้องเสีย อาหารเป็นพิษ ลำไส้อักเสบ เป็นต้น

เลือกซูชิอย่างไรลูกกินได้ปลอดภัย ไม่เสี่ยงเหมือน ซูชิเรืองแสง

เด็กๆหลายบ้านชื่นชอบซูชิเป็นพิเศษ นอกจากรูปทรงแปลกตา มีหน้าต่างๆให้เลือกมากมายทั้งหน้าไข่กุ้ง หน้ากุ้ง หน้าสาหร่าย หน้าๆไข่หวานแสนอร่อย ยังได้สนุกเพลิดเพลินกับการหยิบซูชิเข้าปากเป็นคำๆ ได้เปลี่ยนท็อปปิ้งตามใจชอบต่างจากการกินข้าวด้วยช้อนส้อมตักกินเป็นชามโต

อย่างไรก็ตามซูซิไม่ใช่อาหารจานร้อนที่ปรุงสุกใหม่ แต่เป็นการปั้นข้าวญี่ปุ่นหุงสุกมาปั้นเป็นคำๆ แล้วโปะหน้าด้วยท็อปปิ้งต่างๆ ซึ่งมีทั้งส่วนผสมสด อย่างเนื้อปลา ไข่กุ้ง หรือส่วนผสมปรุงรสแล้ว เช่น ไข่หวาน ปลาหมึกซีอิ๊ว เป็นต้น ส่วนใหญ่จะทำจากอาหารทะเลเป็นหลัก 

ซูชิเรืองแสง

คนญี่ปุ่นจะเลือกใช้ปลาทะเลสดที่สุดเพราะยังไม่มีแบคทีเรียเจริญเติบโตอยู่ หรือใช้เนื้อปลาที่ทำความสะอาดอย่างดี แช่ในอุณหภูมิต่ำกว่า -20 องศาเซลเซียส นาน 7 วัน หรืออุณหภูมิ -35 องศาเซลเซียส นาน 15 ชั่วโมง เพื่อฆ่าพยาธิและจุลินทรีย์ต่างๆ ก่อนนำมาปรุงอาหาร ส่วนข้าวซูชิจะผสมน้ำส้มสายชูที่มีค่าความเป็นกรดและด่างต่ำกว่าpH 4.1 ซึ่งมากพอจะฆ่าเชื้อสิ่งมีชีวิตที่ทำให้เกิดโรคได้ อีกทั้งซูชิของคนญี่ปุ่นจะปั้นให้กับคนกินแบบคำต่อคำ จึงลดโอกาสปนเปื้่อนได้มาก

ขณะที่การทำซูชิสไตล์ไทยที่มีราคาย่อมเยาในตลาดหรือร้านค้า ส่วนใหญ่ปั้นทีละมากๆ วางเรียงไว้บนถาดโดยไม่มีตู้แช่อากาศร้อนๆจึงทำให้เชื้อโรคเจริญเติบโตได้มากขึ้น หลายร้านดูแลเรื่องความสะอาด ทั้งมีดที่ใช้ทำอาหาร มือของแม่ค้าที่สัมผัสอาหารได้ไม่ดีพอ เชื้อโรคต่างๆก็พร้อมจะเติบโตในซูชิทันที พอลูกน้อยกินเข้าไปอาจทำให้เกิดอาหารเป็นพิษ อาเจียน ถ่ายท้องรุนแรง มีไข้สูง จนเข้าสู่ภาวะขาดน้ำ คุณแม่จึงต้องระมัดระวังอย่างมาก 

  1. ไม่ควรเลือกซื้อซูชิหน้าปลาดิบ หรือส่วนผสมไม่ปรุงสุก เพราะมีเชื้อโรคสะสม

  2. ควรเลือกซื้อซูชิจากร้านที่ไว้ใจได้ แม่ค้าและอุปกรณ์ต่างๆที่สัมผัสอาหารต้องสะอาด 

  3. ซูชิที่ทำสำเร็จควรวางพักในตู้แช่เพื่อป้องกันเชื้อโรค

  4. หากลูกชอบกิน ซูชิบ่อยๆ คุณแม่อาจใช้โอกาสนี้เปิดครัวชวนลูกมาทำซูชิด้วยกัน นอกจากมั่นใจว่าได้กินซูชิอร่อยปลอดภัยแล้ว ยังมีช่วงเวลาสนุกกับครอบครัวแล้ว 

ลูกเริ่มซูชิหน้าทะเลได้เมื่อไหร่ดี

เพราะซูชิส่วนใหญ่ใช้อาหารทะเลเป็นส่วนผสมหลัก ไม่ว่าจะเป็นเนื้อกุ้ง ปลา ปลาหมึก หรือไข่ปลา แพทย์หญิงสุธีรา เอื้อไพโรจน์กิจ (กุมารแพทย์ นักเขียนคอลัมน์และหนังสือเกี่ยวกับสุขภาพเด็ก และคณะกรรมการสมาพันธ์เครือข่ายนมแม่แห่งประเทศไทย) แนะนำว่า

ซูชิเรืองแสง

เด็กๆ ทั่วไปให้เริ่มทานปลาตอนอายุ 1 ปี ที่ต้องเริ่มทานปลาก่อน เพราะกินง่าย ย่อยง่าย และโอกาสการแพ้น้อย ส่วนอาหารทะเลอื่นๆ ควรเริ่มทานหลังจากอายุ 1 ปีไปแล้ว โดยแนะนำเป็นกุ้ง ปู หอย และปลาหมึก ตามลำดับ เพราะปลาหมึกเคี้ยวค่อนข้างยากค่ะ กรณีที่มีประวัติการแพ้ปลาและอาหารทะเลในครอบครัวอยู่แล้ว ควรให้ลูกเริ่มทานตอนอายุ 3 ปี โดยระหว่างนั้นก็ให้ทานอาหารอื่นที่มีโอเมก้า 3 ทดแทนไปก่อน เช่น ถั่วเหลือง ผักโขม เป็นต้นค่ะ

หากลูกมีอาการแพ้กุ้ง คุณหมอจะแนะนำให้งดอาหารทะเลกลุ่มปู ปลาหมึก หอยทั้งหมด เพราะมีการศึกษาว่าหากแพ้อาหารทะเลประเภทกุ้งจะมีโอกาสแพ้ปูร่วมด้วยสูงถึงประมาณ 70% และมีโอกาสแพ้ปลาหมึก และหอยร่วมด้วย 50% ด้วย ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยการงดอาหารทะเลกลุ่มนี้ทั้งหมดจะดีกว่า


แหล่งข้อมูล  MCOTHD  www.facebook.com/FoodandHealthforyou/

 

บทความน่าสนใจอื่นๆ 

เตือนภัย! กินผักสด หมูดิบ ต้องระวัง พยาธิตืดหมู ไชยั้วเยี้ยเต็มร่างกาย

 

อาหารเป็นพิษ โรคหน้าร้อน ที่ทุกครอบครัวต้องระวัง

 

ตั้งชื่อลูกชายเกิดวันอังคาร

ตั้งชื่อลูกชายเกิดวันอังคาร 200 ชื่อดี เสริมดวงลูกร่ำรวย มีแต่คนเอ็นดู

ไอเดีย ตั้งชื่อลูกชายเกิดวันอังคาร 200 ชื่อดี ชื่อมงคล ชื่อจริงลูกชายเกิดวันอังคาร หากอยากได้ชื่อเพราะๆ มีความหมายช่วยเสริมดวงให้ลูกร่ำรวย มีแต่คนเอ็นดู ต้องห้ามพลาด!

200 ชื่อมงคล สำหรับ ตั้งชื่อลูกชายเกิดวันอังคาร โดยเฉพาะ

พื้นดวง คนวันอังคาร เป็นคนมีน้ำใจและจริงใจสูง แต่ถ้าโกรธก็จะบอกว่าโกรธ ไม่ค่อยเก็บอาการนัก เรื่องความมุ่งมั่นอดทนมีอยู่สูงในตัวคนเกิดวันอังคาร ไม่เคยท้อถ้าจะต้องสู้ต้องลุย เพราะดาวอังคารนั้นเป็นดาวแห่งนักรบอยู่แล้ว

พื้นนิสัยใจคอเป็นคนเร่าร้อน ตัดสินใจเร็ว โมโหแรง แต่ไม่เคยอาฆาตพยาบาทใคร ค่อนข้างจะทะนงองอาจ และเด็ดเดี่ยวกล้าหาญ มักจะมีความรุ่งเรืองดีเพราะขยัน มุ่งมั่นสูง หัวก้าวหน้า ไม่ท้อง่าย ๆ มีพรสวรรค์พิเศษ เป็นคนเก่งและกล้า ดวงชะตาทั่วไปจัดว่าดี มีช่วงต้องสู้ต้องเหนื่อยบ้าง แต่จะบรรลุจุดหมายปลายฝันด้วยความสำเร็จงดงาม ชีวิตมีโชคมีชัยมีความเจริญดี

ทั้งนี้การตั้งชื่อลูกเกิดวันอังคาร ตามหลักทักษาปกรณ์ ลูกชายนิยมใช้อักขระ วรรคเดช (ด ต ถ ท ธ น) นำหน้าหรือตามหลัง ส่วนลูกสาวนิยมใช้ วรรคศรี (บ ป ผ ฝ พ ฟ ภ ม) นำหน้าหรือตามหลัง หรือใช้อักขระวรรคอื่น ๆ นำหน้าชื่อก็ได้ เพื่อเป็นการแก้ข้อบกพร่องหรือส่งเสริมในเรื่องต่าง ๆ ตามความหมายของวรรคนั้น ๆ … แต่หลัก ตั้งชื่อลูกชายเกิดวันอังคาร หรือลูกสาวที่เกิดวันอังคาร ต้อง ห้าม ใช้อักขระวรรคกาลกิณี คือ ก ข ค ฆ ง   โดยเด็ดขาด ส่วนตัวอักษรหรืออักขระที่เป็นมงคล นอกจากที่กล่าวมา มีดังนี้

  • บริวาร จ ฉ ช ซ ฌ ญ
  • อายุ ฎ ฏ ฐ ฑ ฒ ณ
  • มูละ   ย ร ล ว
  • อุตสาหะ ศ ส ษ ห ฬ ฮ
  • มนตรี   ะ อา อิ อี อุ อู เอ โอ

โดยคุณพ่อคุณแม่สามารถยึดหลักการตั้งชื่อมงคลนี้ เลือกดูตัวอักษรที่ชอบไปตั้งให้ลูกได้ แต่สำหรับบ้านไหนที่กำลังตั้งท้องลูกชายแล้วได้ฤกษ์คลอดเกิดวันอังคาร หากคุณพ่อคุณแม่กำลังมองหาไอเดีย ตั้งชื่อลูกชายเกิดวันอังคาร ที่เน้นเสริมดวงลูกร่ำรวย ให้ลูกมีหน้าที่การงานที่ดี และมีแต่คนรักใคร่เอ็นดู ทีมแม่ ABK ได้รวบรวม คัดสรรชื่อมงคล ชื่อดีคนเกิดวันอังคารผู้ชาย กว่า 200 ชื่อมาฝาก จะมี ชื่อจริงลูกชายเกิดวันอังคาร อะไรบ้าง ตามมาดูกันเลย

ตั้งชื่อลูกชายเกิดวันอังคาร หมวด จ

ตั้งชื่อลูกชาย คำอ่าน ความหมาย
1.       จตุรภัทร จะ-ตุ-ระ-พัด ความเจริญที่ชนปรารถนา 4 ประการ คือ อายุ วรรณะ สุขะ
2.       จารุวัฒน์ จา-รุ-วัด ผู้มีความเจริญรุ่งเรือง
3.       จิตติพัฒน์ จิด-ติ-พัด เจริญด้วยความคิด ความฉลาด
4.       จิรทีปต์ จิ – ระ – ทีบ รุ่งเรืองตลอดกาล
5.       จิรนนท์ จิ-ระ-นน ผู้เป็นที่รักและมีความผูกพัน
6.       จิรพนธ์ จิ-ระ-พน เป็นที่รักที่ผูกพันนาน
7.       จิรพัฒน์ จิ-ระ-พัด ความเจริญรุ่งเรือง
8.       จิรภัทร จิ – ระ – พัด ความเจริญตลอดกาล
9.       จิรสิน จิ-ระ-สิน มีทรัพย์ตลอดกาลนาน
10.   จิระภาส จิ – ระ – พาด รุ่งเรืองยาวนาน
11.   จิรัสย์ จิ-รัด ตลอดกาลนาน หรือนิรันดร

 

ตั้งชื่อลูกชายเกิดวันอังคาร หมวด ฉ

ตั้งชื่อลูกชาย คำอ่าน ความหมาย
12.   ฉัทปนัย ฉัด – ปะ – ไน เป็นที่สรรเสริญและยินดี
13.   ฉันท์ทัต ฉัน – ทัด ให้ความพอใจ
14.   ฉันทวัฒน์ ฉัน – ทะ – วัด มีความอิ่มเอิบทางใจ
15.   ฉันทวัต ฉัน – ทะ – วัด เป็นที่รักที่ปรารถนา
16.   ฉันทัช ฉัน – ทัด ผู้เกิดมาด้วยความพอใจ

 

ตั้งชื่อลูกชายเกิดวันอังคาร หมวด ช

ตั้งชื่อลูกชายเกิดวันอังคาร คำอ่าน ความหมาย
17.   ชญณิพัฑฒ์ ชน – นิ – พัด มีความรู้และความเจริญรุ่งเรือง
18.   ชนนิษฐ์ ชน – นะ – นิด เป็นที่รักของแม่
19.   ชนมวัต ชน – มะ – วัด เกิดดี
20.   ชนสรณ์ ชะ – นะ – สอน เป็นที่พึ่งของคนทั้งหลาย
21.   ชนสิษฎ์ ชะ – นะ – สิด เป็นที่รักของชาติตระกูล
22.   ชนัย ชะ – ไน ความสุข ความยินดี
23.   ชนาธิป ชะ-นา-ทิบ ผู้เป็นใหญ่กว่าคนทั้งหลาย
24.   ชนาภัทร ชะ-นา-พัด คนดี คนเจริญ
25.   ชนุดม ชะ – นุ – ดม คนผู้สูงสุด
26.   ชเนนทร์ ชะ – เนน เป็นใหญ่ในหมู่คน
27.   ชัญญ์ธนพัศ ชัน – ทะ – นะ – พัด มีความรู้ ร่ำรวยและมีอำนาจ
28.   ชัยรัตน์ ไช – รัด มีชัยชนะอันยอดเยี่ยม
29.   ชุติมันต์ ชุ-ติ-มัน ผู้มีความรุ่งเรือง ผู้มีความรุ่งโรจน์
30.   ไชยวัฒน์ ไช-ยะ-วัด มีความเจริญอันประเสริฐ
31.   โชดิวัต โช – ดิ – วัด มีความรุ่งโรจน์
32.   ไชยธรณ์ ไช – ทอน ทรงไว้ซึ่งสิ่งที่เจริญกว่า
33.   ไชยภพ ไช – ยะ – พบ ผู้มีภพอันประเสริฐ

 

ตั้งชื่อลูกชายเกิดวันอังคาร หมวด ญ

ตั้งชื่อลูกชายเกิดวันอังคาร คำอ่าน ความหมาย
34.   ญาณพัฒน์ ยา-นะ-พัด เจริญด้วยความรู้
35.   ญาณวรุตม์ ยา-นะ-วะ-รุด มีความรู้ประเสริฐสุด
36.   ญานภัทร ยา-นะ-พัด ดีงามด้วยความรู้

 

ตั้งชื่อลูกชายเกิดวันอังคาร หมวด ฐ

ชื่อ คำอ่าน ความหมาย
37.   ฐิติภัทร ถิ-ติ-พัด ความเจริญที่ถาวร
38.   ฐิติวัฒน์ ถิ-ติ-วัด เจริญและมีความมั่นคง
39.   ฐิติภัทร ถิ-ติ-พัด ความเจริญที่ถาวร

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

ตั้งชื่อลูกชายเกิดวันอังคาร หมวด ณ

ตั้งชื่อลูกชายเกิดวันอังคาร คำอ่าน ความหมาย
40.   ณพิศิษฏ์ นะ – พิ – สิด ที่ซึ่งมีความเป็นเลิศ
41.   ณัฏฐิวัชร นัด – ถิ – วัด ปราชญ์ผู้มั่นคงดั่งเพชร
42.   ณัฐภาส นัด-ถะ-พาด ความรุ่งเรืองของนักปราชญ์
43.   ณัฐเศรษฐ นัด-ถะ-เสด นักปราชญ์ผู้ร่ำรวย
44.   ณัฐสิทธิ์ นัด-ถะ-สิด ความสำเร็จของนักปราขญ์
45.   ณัฐวรรธน์ นัด-ถะ-วัด นักปราชญ์ผู้เจริญ
46.   ณัฐวิโรจน์ นัด-ถะ-วิ-โรด นักปราชญ์ผู้รุ่งเรือง
47.   ณัฐเศรษฐ นัด-ถะ-เสด นักปราชญ์ผู้ร่ำรวย

 

ตั้งชื่อลูกชายเกิดวันอังคาร หมวด ต

ตั้งชื่อลูกชายเกิดวันอังคาร คำอ่าน ความหมาย
48.   เตชสิทธิ์ เต-ชะ-สิด สำเร็จด้วยเดช
49.   เตชัส เต-ชัด เดชหรืออำนาจ
50.   เตชินท์ เต-ชิน เป็นใหญ่ด้วยเดช มีเดชยิ่งใหญ่
51.   เตโชดม เต-โช-ดม มีเดชสูงสุด

 

ตั้งชื่อลูกชายเกิดวันอังคาร หมวด ธ

ตั้งชื่อลูกชายเกิดวันอังคาร คำอ่าน ความหมาย
52.   ธนโชติ ทะ – นะ – โชด รุ่งเรืองด้วยทรัพย์, มีทรัพย์
53.   ธนดล ทะ – นะ – ดน บันดาลทรัพย์
54.   ธนวินท์ ทะ – นะ – วิน ได้ทรัพย์สิน, มีทรัพย์
55.   ธนัช ทะ – นัด เกิดจากทรัพย์, คนร่ำรวย
56.   ธนิน ทะ – นิน มีทรัพย์
57.   ธนิสร ทะ – นิ – สอน เจ้าแห่งทรัพย์
58.   ธเนษฐ ทะ – เนด ร่ำรวยสุด
59.   ธเนศ ทะ – เนด ร่ำรวย มีทรัพย์
60.   ธัญทัต ทัน – ยะ – ทัด ให้โชค
61.   ธัญพิสิษฐ์ ทัน-พิ-สิด โชคดีเป็นพิเศษ
62.   ธันยบูรณ์ ทัน-ยะ-บูน เต็มไปด้วยโชคลาภ
63.   ธีรสิทธิ์ ที-ระ-สิด ผู้มีความสำเร็จ
64.   ธีวสุ ที – วะ – สุ ทั้งฉลาดทั้งมีทรัพย์

 

ตั้งชื่อลูกชายเกิดวันอังคาร หมวด ธ

ตั้งชื่อลูกชายเกิดวันอังคาร คำอ่าน ความหมาย
65.   นิธิศ นิ – ทิด เจ้าแห่งขุมทรัพย์
66.   นันทิศ นัน-ทิด เจ้าแห่งความสุข
67.   นราธิป นะ-รา-ทิบ ผู้เป็นใหญ่ในหมู่คน
68.   นฤเบศร์ นะ-รึ-เบด ยอดชาย, เป็นใหญ่เหนือผู้ปกครอง

 

 

ตั้งชื่อลูกชายเกิดวันอังคาร หมวด ป

ตั้งชื่อลูกชายเกิดวันอังคาร คำอ่าน ความหมาย
69.   ปรเมศวร์ ปะ-ระ-เมด ผู้เป็นใหญ่, พระวิษณุ
70.   ปวริศ ปะ – วะ – ริด ผู้ประเสริฐและเป็นใหญ่
71.   ปิยดนัย ปิ – ยะ – ดะ – ไน ลูกชายผู้น่ารัก
72.   ปิยทัศน์ ปิ – ยะ – ทัด น่ารัก, มีเสน่ห์
73.   ปิยธาริน ปิ – ยะ – ทา – ริน มีความน่ารัก
74.   ปิยบุตร ปิ – ยะ – บุด บุตรผู้น่ารัก
75.   ปิยพนธ์ ปิ – ยะ – พน เป็นที่รักที่ผูกพัน
76.   ปิยพัทธ์ ปิ – ยะ – พัด เป็นที่รักที่ผูกพัน
77.   ปุลวัชร ปุ – ละ – วัด มีเพชรมาก
78.   เปรมธนัน เปรม – ทะ – นัน มีทรัพย์และความเจริญก้าวหน้าที่สูงส่ง

 

ตั้งชื่อลูกชายเกิดวันอังคาร

ตั้งชื่อลูกชายเกิดวันอังคาร หมวด พ

ตั้งชื่อลูกชายเกิดวันอังคาร คำอ่าน ความหมาย
79.   พลวรรธน์ พน-ละ-วัด ความเจริญด้วยอำนาจ
80.   พสิษฐ์ พะ-สิด ดีที่สุด ร่ำรวยที่สุด
81.   พสุชา พะ – สุ – ชา เกิดจากทรัพย์
82.   พสุธร พะ – สุ – ทอน ทรงไว้ซึ่งทรัพย์สมบัติ, มั่งมี
83.   พสุธันย์ พะ – สุ – ทัน มีทั้งทรัพย์และโชคลาภ
84.   พัทธดนย์ พัด – ทะ – ดน บุตรชายผู้เป็นที่รักที่ผูกพัน
85.   พิทยุตม์ พิด-ทะ-ยุด ผู้มีความรู้สูงสุด
86.   พิสิษฐ์ พิ-สิด ที่สุด ดีเลิศ มั่งมีที่สุด
87.   พีรภาส พี-ระ-พาด นักปราชญ์ผู้มีความรุ่งเรือง
88.   พีรวัส พี-ระ-วัด อำนาจของวีรบุรุษ
89.   พีรศุภ พี- ระ-สุบ ผู้กล้าหาญและดีงาม

 

ตั้งชื่อลูกชายเกิดวันอังคาร หมวด ภ

ตั้งชื่อลูกชายเกิดวันอังคาร คำอ่าน ความหมาย
90.   ภวินท์ พะ-วิน เจ้าแห่งภพ เป็นใหญ่ในโลก
91.   ภวิศ พะ-วิด ผู้เป็นใหญ่ในโลก
92.   ภัทรดนัย พัด-ทระ-ดะ-ไน ลูกชายผู้เจริญ
93.   ภัทรพล พัด-ทระ-พน บุคคลที่ประเสริฐ
94.   ภูดิศ พู – ดิด เจ้าแห่งความเจริญ
95.   ภูธนัญ พู – ทะ – นัน มีทรัพย์มากล้นสูงส่ง
96.   ภูริเดช พู – ริ – เดด มีอำนาจมาก
97.   ภูริวัฒน์ พู – ริ – วัด มากด้วยปัญญา
98.   ภูรีฐภพ พู – รี – ถะ – พบ เป็นใหญ่ในพื้นพิภพ
99.   ภูวิศ พู – วิด ผู้เป็นใหญ่ในแผ่นดิน
100. ภูสิทธิ์ พู – สิด มีความสำเร็จในแผ่นดิน

 

ตั้งชื่อลูกชายเกิดวันอังคาร หมวด ม

ตั้งชื่อลูกชายเกิดวันอังคาร คำอ่าน ความหมาย
101.  มนชิต มะ – นะ – ชิด ผู้ชนะใจ ผู้ที่ชนะใจตนเอง
102. มนภาส มะ – นะ – พาด มีความสว่างทางใจ
103. มนสิช มะ – นะ – สิด เกิดในใจ ความรัก
104. มนัญชัย มะ – นัน – ไช ผู้ชนะใจ
105. มนัสชัย มะ – นัด – ไช ชนะใจ

 

ตั้งชื่อลูกชายเกิดวันอังคาร หมวด ย

ตั้งชื่อลูกชายเกิดวันอังคาร คำอ่าน ความหมาย
106. ยศพล ยด – สะ – พน มียศและพลัง
107. ยศวริต ยด – วะ – ริด ผู้เลิศด้วยยศ
108. ยสินทร ยะ – สิน – ทอน เป็นใหญ่ด้วยยศ มียศ
109. โยธิน อ่านว่า โย-ทิน

 

ตั้งชื่อลูกชายเกิดวันอังคาร หมวด ล

ตั้งชื่อลูกชายเกิดวันอังคาร คำอ่าน ความหมาย
110. ลาภิน ลา-พิน ผู้มีลาภ
111. เลิศพิพัฒน์ เลิด-พิ-พัด ความเจริญอย่างยิ่ง
112. เลิศพิสิฐ เลิด-พิ-สิด ประเสริฐอย่างยิ่ง

 

ตั้งชื่อลูกชายเกิดวันอังคาร หมวด ว

ตั้งชื่อลูกชายเกิดวันอังคาร คำอ่าน ความหมาย
113. วรโชติ วอ-ระ-โชด ผู้มีความรุ่งเรืองอันประเสริฐ
114. วรดร วอ – ระ – ดอน ผู้ประเสริฐกว่าคนอื่น
115. วรทัต วอ – ระ – ทัด ผู้ให้สิ่งประเสริฐ, การให้พร
116. วรนิพิฐ วอ-ระ-นิ-พิด ผู้ประเสริฐและดำรงมั่น
117. วรภพ วอ – ระ – พบ มีภพประเสริฐ, เกิดมาดี
118. วรเมธ วอ-ระ-เมด ผู้มีปัญญาอันประเสริฐ
119. วรรณลภย์ วัน – ลบ ได้รับเกียรติ มีชื่อเสียง
120. วรวัฒน์ วอ-ระ-วัด ประเสริฐและเจริญ
121. วรวิบูล วอ-ระ-วิ-บูน เต็มไปด้วยความดีงาม
122. วรัญญู วะ – รัน – ยู ผู้รู้สิ่งที่ประเสริฐ
123. วรัตนถ์ วะ-รัด มีความมุ่งหมายประเสริฐ มีความเจริญยิ่ง
124. วริทธิ์ วะ – ริด ผู้มีความสำเร็จอันประเสริฐ
125. วรินทร วะ – ริน – ทอน ผู้ประเสริฐและเป็นใหญ่
126. วศิน วะ – สิน ผู้มีอำนาจ
127. วสวัตติ์ วะ – สะ – วัด ผู้ยังคนอื่นให้อยู่ในอำนาจ ผู้มีอำนาจ
128. วีรศรุต วี – ระ – สะ – รุด มีชื่อเสียงว่าเป็นผู้กล้าหาญ
129. ไววิทย์ ไว – วิด อำนาจ ความเจริญ

 

ตั้งชื่อลูกชายเกิดวันอังคาร หมวด ศ

ตั้งชื่อลูกชายเกิดวันอังคาร คำอ่าน ความหมาย
130. ศดิศ สะ – ดิด เป็นใหญ่กว่าคนทั้งหลาย
131.  ศรันยู สะ-รัน-ยู ผู้คุ้มครอง
132. ศิรสิทธิ์ สิ-ระ-สิด มีความสำเร็จอันยอดเยี่ยม
133. ศิริชัย สิ-หริ-ไช มีชัยชนะที่เป็นมงคล
134. ศิลป์ศรุต สิน – สะ – รุด มีชื่อเสียงด้านศิลปะ
135. ศิวัช สิ – วัด เกิดจากผู้ยิ่งใหญ่ ลูกพระศิวะ
136. ศุภชัย สุ-พะ-ไช ชัยชนะอันงดงาม
137. ศุภชีพ สุ-พะ-ชีบ มีชีวิตดีงาม
138. ศุภฤทธิ์ สุ – พะ – ริด มีความสำเร็จด้วยดี
139. ศุภวิชญ์ สุ-พะ-วิด นักปราชญ์ผู้ดีงาม
140. เศรษฐ์ เสด ประเสริฐสุด
141. เศรษฐนัย เสรด-ถะ-ไน การประหยัด
142. เศรษฐพิชญ์ เสรด-ถะ-พิด นักปราชญ์ที่ยิ่งใหญ่
143. เศรษฐา เสด-ถา เจริญที่สุด
144. เศรษฐิน เสด – ถิน ดีเลิศ,เป็นหนึ่ง

 

ตั้งชื่อลูกชายเกิดวันอังคาร หมวด ส

ตั้งชื่อลูกชายเกิดวันอังคาร คำอ่าน ความหมาย
145. สมัชญ์ สะ – มัด มีเกียรติยศ มีชื่อเสียง
146.  สมิทธ์ สะ-มิด ความสำเร็จ
147.  สรวิชญ์ สอ – ระ – วิด ผู้มีอำนาจเหนือคนทั้งปวง เป็นใหญ่กว่าคนทั้งปวง
148. สรวิศ สอ-ระ-วิด มีอำนาจเหนือคนทั้งปวง
149. สวิตต์ สะ-วิด มีทรัพย์สมบัติ มีเงินทอง
150.  สัภยา สับ-พะ-ยา ผู้มีตระกูลสูง ความเชื่อ ซื่อสัตย์
151.   สาธิน สา-ทิน ผู้ให้สำเร็จ ผู้ทำอะไรได้รับความสำเร็จ
152.  สิทธิเดช สิด-ทิ-เดด ผู้มีความสำเร็จและมีอำนาจ
153.  สิทธินนท์ สิด-ทิ -นน ยินดีในความสำเร็จ
154.  สิทธิพร สิด-ทิ-พอน มีความสำเร็จและเป็นผู้ประเสริฐ
155.  สิทธิพล สิด – ทิ – พน มีพลังแห่งความสำเร็จ
156.  สิทธิรัตน์ สิด-ทิ-รัด ความสำเร็จที่ล้ำค่า
157. สินมหัต สิน – มะ – หัด มีทรัพย์สินมาก
158. สิรวิชญ์ สิ – ระ – วิด นักปราชญ์ผู้เป็นยอด
159.  สุพศิน สุ – พะ – สิน มีความเชี่ยวชาญยิ่ง มีอำนาจยิ่ง
160.  สุภชีพ สุ-พะ-ชีบ มีชีวิตที่ดีงาม
161.  สุภทัต สุ-พะ-ทัด ผู้ให้สิ่งที่ดีงาม
162.  สุภนัย สุ-พะ-ไน นำไปสู่สิ่งที่ดีงาม
163.  สุรดิษ สุ – ระ – ดิด มีโชดดีเยี่ยม,มีโชคดีเหมื่อนเทพ
164. สุรพัศ สุ – ระ – พัด อำนาจของผู้กล้าหาญ มีอำนาจดังเทวดา
165.  สุรพิชญ์ สุ – ระ – พิด นักปราชญ์ผู้กล้าหาญ

 

ตั้งชื่อลูกชายเกิดวันอังคาร หมวด อ

ตั้งชื่อลูกชายเกิดวันอังคาร คำอ่าน ความหมาย
166. อชิตพล อะ – ชิด – พน มีพลังอันไม่มีใครเอาชนะได้
167. อดิศร อะ – ดิ – สอน เป็นใหญ่ยิ่ง
168. อดิศวร อะ – ดิ – สวน ผู้เป็นใหญ่ยิ่ง
169. อดิศา อะ – ดิ – สา ผู้ยิ่งใหญ่
170. อดุลวิทย์ อะ – ดุน – วิด มีความรู้นับไม่ได้ รู้มากมาย
171. อติชาติ อะ – ติ – ชาด ผู้เกิดมาดี
172. อติเทพ อะ – ติ – เทบ เทวดาผู้ยิ่งใหญ่
173. อติวัณณ์ อะ – ติ – วัน การสรรเสริญ ผู้มีตระกูลสูง
174. อธิป อะ – ทิบ ผู้เป็นใหญ่
175. อธิศ อะ – ทิด ผู้เป็นใหญ่
176. อนณ อะ – นน ผู้ไม่มีหนี้
177. อนุศิษฎ์ อะ-นุ-สิด ผู้ได้รับการสั่งสอน
178. อนันต์ยศ อะ – นัน – ยด มียศหรือชื่อเสียงหาที่สุดมิได้
179. อนันยช อะ – นัน – ยด เกิดมาเป็นที่หนึ่ง
180. อนุนาท อะ – นุ – นาด เสียงกึกก้อง,เสียงบันลือ
181. อนุวิท อะ – นุ – วิด รู้แจ้ง รู้ทะลุประโปร่ง
182. อนุศิษฎ์ อะ – นุ – สิด ผู้ได้รับการสั่งสอน
183. อภิชาติ อะ-พิ-ชาด เกิดดี, มีตระกูล
184. อภิชัจ อะ – พิ – ชัด มีชาติสูง
185. อภิบาล อะ – พิ – บาน ผู้คุ้มครอง,ผู้ปกป้อง
186. อภิสมย์ อะ – พิ – สม บรรลุ ประสบผลสำเร็จ
187. อภิสร อะ – พิ – สอน ผู้ก้าวไปข้างหน้า
188. อภิวรรธน์ อะ-พิ-วัด มีความเจริญยิ่ง
189. อภิวิชญ์ อะ-พิ-วิด ผู้รู้แจ้งอย่างยิ่ง ผู้ฉลาดอย่างยิ่ง
190. อรรถพันธ์ อัด-ถะ-พัน เกี่ยวเนื่องด้วยประโยชน์ มีประโยชน์อันมั่นคง
191. อรรถวิทย์ อัด-ถะ-วิด ผู้รู้หลักการ
192. อรรถสิทธิ์ อัด-ถะ-สิด ความสำเร็จในงานต่าง ๆ
193. อริญชย์ อะ – ริน ผู้ชนะศัตรู
194. อัยยา ไอ – ยา ผู้เป็นเจ้า ผู้ประเสริฐ
195. อิทธิพัทธ์ อิด – ทิ – พัด เกี่ยวเนื่องกับความสำเร็จ มีความสำเร็จมั่นคง
196. อิทธิมนต์ อิด – ทิ – มน มีความสำเร็จ
197. อินทัช อิน – ทัด เกิดจากผู้ยิ่งใหญ่ เกิดมาเพื่อยิ่งใหญ่
198. อุตรเดช อุด – ตะ – ระ – เดด มีเดชยิ่งใหญ่
199. ไอศูรย์ ไอ – สูน อำนาจ
200. โอบนิธิ โอบ – นิ – ทิ กอบเอาขุมทรัพย์ ร่ำรวย

 

ทั้งนี้หากคุณพ่อคุณแม่ได้ไอเดีย ตั้งชื่อลูกชาย เกิดวันอังคาร ซึ่งเป็นชื่อดี ความหมายเป็นมงคลตามต้องการแล้ว สิ่งสำคัญที่พึงรู้ไว้คือ ชื่อเป็นเพียงส่วนหนึ่งของชีวิตเท่านั้น หากแต่ควรเลี้ยงดูและอบรมสั่งสอนลูกให้หมั่นทำดี ทั้งกายและใจ ก็จะช่วยส่งผลให้มีชีวิตที่ดีได้

อ่านต่อบทความอื่นน่าสนใจ คลิกที่ภาพได้เลย ⇓

500 ชื่อเล่นลูกพยางค์เดียว เรียกง่าย ทั้งเก๋ทั้งเท่ แถมไม่ตกยุค!

การตั้งชื่อลูก คิดให้ดีก่อนส่งผลกระทบต่อจิตใจในอนาคต

ลูกสาว ลูกชาย แตกต่าง และมีข้อดีอะไรบ้าง?

วิธีทำลูกสาว ไม่ใช่เรื่องยาก ต้องลองสูตรนี้!!!

การ์ตูนดิสนีย์สนุกๆ

99 การ์ตูนดิสนีย์สนุกๆ พร้อมเรื่องย่อได้ข้อคิดเหมาะสมวัยลูก

การ์ตูนดิสนีย์สนุกๆ เรื่องไหนบ้างที่เหมาะกับวัยและความสนใจของลูก วันนี้เรามีเนื้อเรื่องย่อมาให้ได้เลือกกันก่อนที่ชวนลูกล้อมวงนั่งดูช่วงว่างๆที่ต้องอยู่บ้าน

99 การ์ตูนดิสนีย์สนุกๆ พร้อมเรื่องย่อได้ข้อคิดเหมาะสมกับวัยลูก

คงจะเถียงไม่ได้ว่า การ์ตูนดิสนีย์ เป็นการ์ตูนที่เหมาะสำหรับเด็ก ๆ คุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ คนก็เติบโตมากับการ์ตูนดิสนีย์หลาย ๆ เรื่อง นอกจากเนื้อเรื่องที่ดูสนุก ดูเพลินแล้ว เรายังได้ข้อคิดดี ๆ ในการใช้ชีวิตจาก การ์ตูนดิสนีย์สนุกๆ เหล่านี้อีกด้วย ทีมแม่ ABK ขอชวนคุณพ่อคุณแม่ชวนลูกดูการ์ตูนดิสนีย์กันในช่วงเวลาที่ต้องอยู่บ้านเพื่อความปลอดภัยของลูก ๆ และทุกคนกันดีกว่า

แต่เคยไหมที่ต้องประสบปัญหากับการค้างหน้าจออยู่ที่หน้าปกการ์ตูนที่มีให้เลือกมากมาย แต่ก็ตัดสินใจไม่ได้เสียทีว่าจะเลือกการ์ตูนเรื่องไหนดีนะ และที่สำคัญเด็กแต่ละวัยก็มีพัฒนาการการรับรู้ที่แตกต่างกัน เนื้อหาของการ์ตูนบางเรื่องอาจจะโตเกินไปสำหรับลูก ทำให้เด็กดูไม่เข้าใจ จนเขาเลิกสนใจดู หรือ การ์ตูนบางเรื่องอาจจะดูง่ายเกินไปสำหรับเด็กโต เราจึงขอคัด การ์ตูนดิสนีย์สนุกๆ พร้อมเนื้อเรื่องย่อสั้น ๆ มาให้คุณพ่อคุณแม่ได้คัดเลือกไว้ก่อนที่จะชวนลูกน้อยมานั่งล้อมวงกันดู จะได้ไม่เสียเวลา และอารมณ์กันไปเสียก่อน

การ์ตูนสนุก ๆ เข้าใจง่ายสำหรับเด็กอายุ 3 ขวบขึ้นไป

การ์ตูนดิสนีย์
การ์ตูนดิสนีย์
  • Fantasia – ภาพยนตร์การ์ตูนที่สุดแสนยิ่งใหญ่ ประกอบไปด้วย 7 ซีเควนซ์อนิเมตอันน่าตื่นตาตื่นใจจากสุดยอดวาทยากร ซึ่งใช้เวลาสร้างยาวนานกว่า 9 ปี และอาศัยความสามารถระดับแนวหน้าของวงการแอนิเมชั่นรุ่นใหม่จำนวนมากมาย ภาพยนตร์นำไปสู่การผจญภัยไปยังจินตนาการ โดยใช้ภาพแอนิเมชั่นอันเหลือเชื่อ ดนตรีคลาสสิกแสนอลังการ และเทคโนโลยีล้ำยุค ซึ่งนำเสนอเรื่องราวและภาพที่เน้นถึงความหวัง การมองโลกในแง่ดี และการเริ่มต้นใหม่
  • Mary Poppins – แมรี่ ป๊อปปิ้นส์ เรื่องราวของเด็ก ๆ จากครอบครัว แบงค์สที่ตอนนี้เติบโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวแล้ว แต่พวกเขากำลังทุกข์ทรมานกับการสูญเสียความเป็นตัวของตัวเอง “แมรี่ ป๊อปปินส์” จึงต้องกลับมาเพื่อช่วยเหลือพวกเขาและลูก ๆ ทั้ง 3 คนให้ได้พบกับความสุขอีกครั้ง
  • The Many Adventures of Winnie the Pooh – วินนี่ เดอะ พูห์ พาเหล่าคู่หูตะลุยป่า ชมการผจญภัยของหมีพูห์กับเหล่าผองเพื่อนที่ทั้งน่ารัก น่าตื่นเต้น สนุกไปพร้อมกัน
  • The Tigger Movie – เดอะ ทิกเกอร์ มูฟวี่ เมื่อเจ้าเสือทิกเกอร์เริ่มสงสัยถึงครอบครัวของตัวเองว่าอยู่ที่ไหน จึงได้เวลาออกตามหา แต่สุดท้ายกลับพบว่าครอบครัวของเขายืนอยู่เคียงข้างเขาเสมอมา นั่นก็คือ บรรดาเพื่อนๆ ที่รักและคอยห่วงใยเขามาตลอดนั่นเอง
  • Piglet’s Big Movie – พิกเล็ตส์ บิ๊ก มูฟวี่ เมื่อเจ้าตัวน้อยสีชมพูพิกเล็ตส์ รู้สึกน้อยใจที่ตัวเองตัวเล็กไม่สามารถช่วยเพื่อนเก็บน้ำผึ้งได้ แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ที่เหล่าเพื่อน ๆ ของเขาต้องมาขอความช่วยเหลือจากพิกเล็ตส์เพราะความตัวเล็กของเขาเท่านั้นที่ช่วยได้
  • Pooh’s Heffalump Movie – เฮฟฟาลัมพ์ เจ้าช้างน้อยเพื่อนใหม่ของพูห์ ที่ใคร ๆ ต่างร่ำลือกันว่าน่ากลัว แต่ตัวจริงจะมีนิสัยเช่นไร และจะสามารถมาเป็นเพื่อนร่วมแก็งค์ตัวใหม่ได้หรือไม่ ต้องติดตามกัน
  • Tinker Bell – ทิงเกอร์เบลล์ ภาพยนตร์ที่สร้างขึ้นมาเพื่อภูติน้อยที่เป็นที่รักของทุกคนกับการผจญภัยของเธอ ที่พร้อมมอบประสบการณ์บันเทิงสุดพิเศษสำหรับทุกคนในครอบครัว
  • Tinker Bell and the Great Fairy Rescue – ทิงเกอร์เบลล์กับสมบัติที่สูญหาย ชมการผจญภัยของนางฟ้าน้อยที่เข้ามาป่วนในโลกของมนุษย์ จนอาจนำอันตรายมาสู่เพื่อน ๆ ตัวจิ๋วของเธอ ทิงเกอร์เบลล์จะแก้ปัญหานี้อย่างไรกันนะ
  • Winnie the Pooh – วินนี่ เดอะ พูห์

หนังการ์ตูนกับการผจญภัยพร้อมผองเพื่อนสำหรับเด็กอายุ 4 ขวบขึ้นไป

หนังดิสนีย์
หนังดิสนีย์ (ภาพจาก : allabouttheatre.org)
  • Snow White and the Seven Dwarfs – สโนว์ไวท์กับคนแคระทั้งเจ็ด หนังจากนิทานยอดฮิตตลอดกาลที่แม้แต่คุณพ่อคุณแม่ก็ต้องรู้จักเป็นอย่างดี
  • Dumbo – ดัมโบ้ ลูกช้างของคณะละครสัตว์ที่มีใบหูขนาดโตผิดแปลกไปจากลูกช้างทั่วไป ชีวิตของเขาจะเป็นเช่นไรติดตามกันได้รับรองว่าสนุก ซึ้งครบรส
  • Alice in Wonderland – อลิซในแดนมหัศจรรย์ เรื่องราวของเด็กสาวที่มีชื่อว่า อลิซ เธอตกลงไปในหลุมกระต่ายและเข้าไปในโลกแฟนตาซีใต้ดิน ที่เต็มไปด้วยสิ่งแปลกประหลาด
  • Peter Pan – ปีเตอร์แพน เด็กชายผู้หนึ่งที่สามารถบินได้ และมีมนต์พิเศษในการปฏิเสธการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ แต่กลับเป็นเด็กตลอดกาล
  • Sleeping Beauty – เจ้าหญิงนิทรา มาร่วมให้กำลังใจกับเจ้าหญิงให้ฝ่าฟันอุปสรรค และพบรักแท้ดังหวังกัน
  • One Hundred and One Dalmatians – ทรามวัยกับไอ้ด่าง เป็นเรื่องราว ความน่ารัก และการผจญภัย ของลูกสุนัข 99 ตัว ที่​นางตัวร้าย ครูเอลลา เดอ วิล จับตัวไป เพื่อนำขนมาทำเป็นเสื้อคลุม
  • The Jungle Book – เมาคลีลูกหมาป่า การ์ตูนแนวผจญภัย ไปพร้อม ๆ กับมิตรภาพของผองเพื่อน
  • The Aristocats – แมวเหมียวพเนจร เศรษฐีนีนางหนึ่งได้ยกทรัพย์สินทั้งหมดให้แก่บรรดาแมวเหมียวสุดที่รักของเธอ เป็นเหตุให้พ่อบ้าน จอมละโมบคิดแผนการร้ายนำพวกเขาไปทิ้งจนเกิดการผจญภัยที่จะกลับสู่บ้านตนได้สำเร็จหรือไม่
  • Robin Hood – โรบินฮู้ด เจ้าชายจอมโจร
  • Toy Story – ทอย สตอรี่ เหล่าของเล่นที่มีชีวิตกับการผจญภัยของพวกเขา
  • A Bug’s Life – ตัวบั๊กส์ หัวใจไม่บั๊กส์ ชมเรื่องราวของตัวแมลงที่แม้จะตัวเล็ก แต่หัวใจไม่เล็กตาม
  • Toy Story 2 – ทอย สตอรี่ 2 การ์ตูนภาคต่อที่คงความสนุกของเหล่าผองเพื่อนของเล่นได้ไม่เสื่อมคลาย
  • Return to Never Land – ปีเตอร์ แพน ผจญภัยท่องแดนมหัศจรรย์ พบกับเจน ลูกสาวของเวนดี้ ผู้โตมากับนิทานโจรสลัดและภูติน้อย แต่เธอกลับไม่เชื่อเรื่องเหลวไหลเหล่านี้ จนกระทั่งกัปตันฮุกลักพาเจนไปยังเนเวอร์แลนด์
  • The Jungle Book 2 – เมาคลีลูกหมาป่า 2 เด็กชายลูกหมาป่าที่ต้องเผชิญกับการใช้ชีวิตในหมู่บ้านมนุษย์จะเป็นอย่างไร
  • Finding Nemo  – นีโม…ปลาเล็ก หัวใจโต๊…โต เรื่องราวสุดประทับใจกับความรักของพ่อที่มีต่อลูกชาย มาพร้อมกับภาพที่สีสันสวยงาม
  • WALL-E – วอลล์ – อี หุ่นจิ๋วหัวใจเกินร้อย พบกับโลกยุคอนาคตที่ล้ำสมัยด้วยนวัตกรรม แต่หุ่นวอลล์อีที่แม้จะตกรุ่นแต่หัวใจกลับยิ่งใหญ่
  • Tinker Bell and the Lost Treasure – ทิงเกอร์ เบลล์กับสมบัติที่สูญหาย เมื่อนางฟ้าตัวน้อยต้องไปตามหาความลับที่ทำให้เจ้าผงวิเศษหายไปกลับมาให้ได้

การ์ตูนดิสนีย์สนุกๆ แฝงข้อคิดชีวิตสำหรับเด็กอายุ 5 ขวบขึ้นไป

การ์ตูนดิสนีย์สนุกๆ
การ์ตูนดิสนีย์สนุกๆ (ภาพจาก : youtube.com)
  • Pinocchio – พินอคคิโอ เรื่องราวของเจ้าหุ่นไม้กับการโกหกของเขา
  • Fantasia – แฟนตาเซีย
  • Bambi – กวางน้อย…แบมบี้ กวางหางขาว ซึ่งมีพ่อเป็นเจ้าชายผู้ยิ่งใหญ่ในป่า กับแม่ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นใคร
  • The Adventures of Ichabod and Mr. Toad – นิทานนายโท้ดจอมซนกับอิกาบอตคนพิลึก
  • Cinderella – ซินเดอเรลล่า มาเอาใจช่วยตามหารักกับเจ้าหญิงผู้อาภัพ
  • Lady and the Tramp – ทรามวัยกับไอ้ตูบ
  • The Sword in the Stone – อภินิหารดาบกู้แผ่นดิน
  • The Fox and the Hound – เพื่อนแท้ในป่าใหญ่
  • The Brave Little Toaster เรื่องราวของกลุ่มข้าวของเครื่องใช้ที่ออกตามหาเจ้าของเดิม
  • Oliver & Company – เหมียวน้อยโอลิเวอร์กับเพื่อนเกลอ
  • The Little Mermaid – เงือกน้อยผจญภัย นางเงือกแสนสวยกับการผจญภัยใต้ทะเลลึก
  • Beauty and the Beast – โฉมงามกับเจ้าชายอสูร ความดีกับรูปโฉมแบบไหนจะชนะใจเจ้าหญิงกันนะ
  • The Lion King – เดอะไลอ้อนคิง เรื่องราวเส้นทางของการเป็นจ้าวป่าของสิงโตหนุ่ม
  • Mulan – มู่หลาน หญิงสาวกับหัวใจกตัญญู
  • Monsters, Inc. – บริษัท รับจ้างหลอน (ไม่) จำกัด เรื่องราวสุดประทับใจของสัตว์ประหลาดที่ต่างก็มีหัวใจกับความฮาไม่จำกัด
  • Lilo & Stitch – ลีโล แอนด์ สติทซ์ อะโลฮ่า..เพื่อนฮาข้ามจักรวาล
  • Brother Bear – มหัศจรรย์หมีผู้ยิ่งใหญ่ เด็กน้อยที่ถูกคำสาปให้กลายเป็นหมี กับมิตรภาพสัตว์และการผจญภัยเพื่อกลับคืนร่างที่มาพร้อมกับความประทับใจที่ให้คุณสัมผัสความหมายของคำว่าพี่น้อง
  • Teacher’s Pet
  • Bambi II – กวางน้อย…แบมบี้ 2
  • Cars – 4 ล้อซิ่ง…ซ่าท้าโลก เจ้ารถแข่งสุดทรนง กับการหลงทางไปเจอโลก slow life ที่ไม่คุ้นเคย
  • Enchanted เจ้าหญิงผู้เพรียบพร้อมที่ถูกกลั่นแกล้งให้มาอยู่ในโลกแห่งความจริงที่ไร้เวทมนตร์ จะใช้ชีวิตต่อไปอย่างไรมาเอาใจช่วยกัน
  • Bolt – ซุปเปอร์โฮ่ง หัวใจเต็มร้อย
  • The Princess and the Frog – มหัศจรรย์มนต์รักเจ้าชายกบ
  • Toy Story 3 – ทอย สตอรี่ 3
  • Tangled – ราพันเซล เจ้าหญิงผมยาวกับโจรซ่าจอมแสบ เรื่องราวของเจ้าหญิงในมุมมองที่แตกต่าง ทั้งฮาทั้งซึ้ง
  • Monsters University – มหา’ลัย มอนส์เตอร์
  • Planes – เหินซิ่งชิงเจ้าเวหา
  • Frozen – ผจญภัยแดนคำสาปราชินีหิมะ กับความรักของพี่น้อง จะนำพาไปสู่ความสงบสุขได้หรือไม่

ผจญภัยให้แง่คิด เพิ่มซีนอารมณ์ สำหรับเด็กอายุ 6 ขวบขึ้นไป

การ์ตูน disney
การ์ตูน disney (ภาพจาก : youtube.com)
  • The Rescuers – หนูหริ่งหนูหรั่งผจญเพชรตาปีศาจ
  • The Great Mouse Detective – เบซิล นักสืบหนูผู้พิทักษ์
  • The Rescuers Down Under – หนูหริ่งหนูหรั่งปฏิบัติการแดนจิงโจ้
  • Aladdin – อะลาดิน การผจญภัยของอะลาดิน กับยักษ์ในตะเกียงวิเศษที่แสนสนุกสำหรับเด็กทุกยุคทุกสมัย
  • A Goofy Movie – อะ กู๊ฟฟี่ มูฟวี่
  • Pocahontas – โพคาฮอนทัส หญิงชาวอินเดียแดงผู้ตกหลุมรักชายหนุ่มผู้มาเยือน ที่ทั้งคู่ต้องช่วยกันหยุดสงครามล่าอาณานิคม
  • The Hunchback of Notre Dame – คนค่อมแห่งนอเทรอดาม
  • Doug’s 1st Movie ดั๊กและสกีเตอร์ค้นพบสัตว์ประหลาดที่ทะเลสาบลัคกี้ดั๊ก ดั๊กหลีกเลี่ยงแผนการเต้นของเขาเพื่อความอยู่รอดของสัตว์ประหลาด ทำให้เขาต้องเสียแพตตี้ให้กับกาย คู่แข่งของเขาในเรื่องความรักของเธอ ดั๊กต้องทำให้ทุกอย่างถูกต้องก่อนคืนงานเต้นรำ
  • Tarzan – ทาร์ซาน เรื่องราวของจ้าวป่า กับการผจญภัยในป่าใหญ่
  • Fantasia 2000 – แฟนตาเซีย 2000
  • Dinosaur – ไดโนเสาร์ สำหรับเด็กที่ชื่นชอบในสายพันธุ์ไดโนเสาร์ ต้องชื่นชอบ
  • The Emperor’s New Groove – จักรพรรดิกลายพันธุ์ อัศจรรย์พันธุ์ต๊อง
  • Recess: School’s Out – ปิดเทอมนี้…มีลุย!
  • Home on the Range – โฮม ออน เดอะ เรนจ์
  • Valiant – กองทัพนกพิราบน้อย
  • The Wild – แก็งค์เขาดินซิ่งป่วนป่า
  •  Ratatouille – ระ-ทะ-ทู-อี่ พ่อครัวตัวจี๊ด หัวใจคับโลก หนูกับพ่อครัวจะไปด้วยกันได้ยังไง มาค้นพบในหนังสนุก ๆ เรื่องนี้ได้เลย
  • Up – ปู่ซ่าบ้าพลัง เรื่องราวของคุณปู่ผู้ทำตามคำสัญญาที่ให้ไว้กับคนรัก แต่ต้องมาค้นพบโลกความจริงไปกับลูกเสืออาสาตัวน้อย
  • G-Force เรื่องราวของเหล่าบรรดาหนูสายลับ นักผจญภัย
  • Cars 2 – สายลับสี่ล้อ ซิ่งสนั่นโลก เมื่อเพื่อนรักจอมเปิ่น ต้องกลายมาเป็นสายลับ แล้วจะช่วยเพื่อนได้อย่างไรมาร่วมลุ้นกัน
  • Planes: Fire & Rescue – ผจญเพลิงเหินเวหา
  • Inside Out – มหัศจรรย์อารมณ์อลเวง การ์ตูนที่อธิบายเรื่องราวจิตใจ อารมณ์ของมนุษย์ในรูปแบบที่เข้าใจได้ง่าย
  • Finding Dory – ผจญภัยดอรี่ขี้ลืม เรื่องราวภาคแยกของตัวละครจาก Finding Nemo ที่มาพร้อมความฮา ซึ้งไม่แพ้กัน
  • Moana – ผจญภัยตำนานหมู่เกาะทะเลใต้ ของหญิงสาววัยรุ่นที่ออกเดินเรือไปสู่ภารกิจท้าทายเพื่อปกป้องผู้คนของเธอ

หนังการ์ตูนสนุก เพิ่มเงื่อนไขการเผชิญปัญหา สำหรับเด็กอายุ 7 ขวบขึ้นไป

Big Hero 6
Big Hero 6
  • Bedknobs and Broomsticks ย้อนไปช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เด็กกำพร้า 3 คน ถูกส่งมาให้คุณไพรซ์ ผู้ร่าเริงคอยดูแลแต่แล้วพวกเด็กๆ ก็ค้นพบว่าคุณไพรซ์คนนี้เป็นแม่มดฝึกหัด แล้วนั่นก็คือจุดเริ่มต้นของเรื่องวุ่นๆ อีกทั้งการผจญภัยที่สุดล้ำจินตนาการ
  • Pete’s Dragon เรื่องราวการผจญภัยของ “พีท” เด็กชายวัย 6 ปี ที่สูญเสียพ่อแม่ตั้งแต่เล็ก และใช้ชีวิตอยู่ในป่าเพียงลำพังร่วมกับ “เอลเลียต” เพื่อนต่างสายพันธุ์ เจ้ามังกร ที่มนุษย์หลายคนไม่เชื่อว่ามีอยู่จริง
  • The Black Cauldron เรื่องราวของการผจญภัยของ “ทาราน” เป็นเด็กกำพร้าที่อยากเป็นนักรบแต่ต้องมาเลี้ยงหมู ที่ชื่อว่า “เฮนเวน” ให้กับผู้เฒ่า “ดอลเบน” โดยหมูสามารถสร้างภาพนิมิต และบอกที่ซ่อนของหม้อปีศาจ และเรื่องราวการผจญภัยก็เริ่มต้น
  • James and the Giant Peach – เจมส์กับลูกพีชยักษ์มหัศจรรย์
  • Hercules – เฮอร์คิวลิส
  • Treasure Planet – ผจญภัยล่าขุมทรัพย์ดาวมฤตยู
  • The Incredibles – รวมเหล่ายอดคนพิทักษ์โลก ที่มากันทั้งครอบครัวผู้พิทักษ์
  • Chicken Little – กุ๊กไก่หัวใจพิทักษ์โลก
  • The Nightmare Before Christmas 3D  Jack ซึ่งเป็นผี เป็นผู้นำแห่งเมืองฮาโลวีน ได้ไปเห็นความสวยงาม ความสุข ความสนุกสนาน ความอัศจรรย์ของวันคริสต์มาส ทำให้เขาอยากไปมีส่วนร่วมในวันนั้น
  • Meet the Robinsons – ผจญภัยครอบครัวจอมเพี้ยน ฝ่าโลกอนาคต
  • Mars Needs Moms – ภารกิจแอบจิ๊กตัวแม่บนดาวมฤตยู
  • Brave – นักรบสาวหัวใจมหากาฬ
  • Wreck-It Ralph – ราล์ฟ วายร้ายหัวใจฮีโร่ เรื่องราวตัวละครในเกมรุ่นเก่าที่กำลังจะตกรุ่น จากวายร้ายที่อยากเป็นพระเอกบ้างจะเป็นอย่างไร และลงเอยแบบไหนกันนะ
  • Big Hero 6 – บิ๊กฮีโร่ 6 หุ่นยนต์ผู้พิทักษ์ ที่มาช่วยเยียวยาหัวใจชายหนุ่มที่สูญเสียพี่ชาย
  • The Good Dinosaur – ผจญภัยไดโนเสาร์เพื่อนรัก ไดโนเสาร์ตัวน้อยที่มักทำ​อะไรผิดพลาดอยู่เสมอ จนรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองเป็นแกะดำในสังคม

การ์ตูนเพิ่มจินตนาการสำหรับเด็กอายุ 8 ขวบขึ้นไป

  • Atlantis: The Lost Empire – แอตแลนติส ผจญภัยอารยนครสุดขอบโลก
  • Frankenweenie – แฟรงเก้นวีนี่ คืนชีพเพื่อนซี้สี่ขา เรื่องราวของเด็กชายคนหนึ่งกับ “สปาร์คกี้” สุนัขตัวโปรดของเขา หลังจากการสูญเสียเพื่อนสุดที่รักอย่างไม่ทันตั้งตัว “วิคเตอร์” หนุ่มน้อยหัวใจสลาย จึงใช้พลังแห่งวิทยาศาสตร์ในชั้นเรียนของเขา เพื่อคืนชีพเพื่อนผู้ซื่อสัตย์ให้กลับมีชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง
  • Zootopia – นครสัตว์มหาสนุก เรื่องราวในเมือง ซูโทเปีย (Zootopia) มหานครแห่งสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ที่ไม่​ว่าจะเป็นนักล่าหรือผู้ถูกล่า ก็ต่างอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข

หนังแนวแฟนตาซี สำหรับเด็กอายุ 9 ขวบขึ้นไป

  • Disney’s A Christmas Carol – อาถรรพณ์วันคริสต์มาส  เป็นเรื่องราวของชายคนหนึ่งที่ชื่อว่า เอเบเนเซอร์ สครูจ (Ebenezer Scrooge) นายธนาคารผู้เลือดเย็น และโลภมาก ที่สำคัญคือเขาเกลียดเทศกาล Christmas เป็นอย่างยิ่ง จนกระทั่งเขาได้พบกับวิญญาณของเพื่อนเก่าและภูติแห่งคริสมาสต์ทั้ง 3 ตน ที่ทำให้เขาตัดสินใจเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ในชั่วข้ามคืน

หนังจุดประกายความคิดสร้างสรรค์สำหรับเด็กอายุ 10 ขวบขึ้นไป

  • Who Framed Roger Rabbit – โรเจอร์ แรบบิท ตูนพิลึกโลก เรื่องราวอันสุดป่วนของการ์ตูนกระต่ายโรเจอร์ผู้ซึ่งมีชีวิตเฉกเช่นกับมนุษย์ จนกระทั่งวันหนึ่ง มาวิน แอ๊คเม่ ผู้บริหารบริษัทแอ๊คเม่ แห่งตูนทาวน์ถูกฆ่าตาย หลักฐานรอยนิ้วมือต่าง ๆ ดันชี้มาที่โรเจอร์ มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะพิสูจน์ได้ว่า โรเจอร์นั้นบริสุทธิ์ เขาก็คือ เอ็ดดี้ แวเลี่ยน นักสืบขี้เมาที่เกลียดการ์ตูนเข้าเส้น
  • Alice in Wonderland การผจญภัยของ อลิซ ในวัย 19 ปี ที่ต้องเดินทางกลับสู่ดินแดนพิศวงอีกครั้ง หลังจากที่เธอเคยไปมาแล้วเมื่อครั้งยังเด็ก เธอยังได้พบกับเหล่าเพื่อนในวัยเด็กของเธอไม่ว่าจะเป็น คุณกระต่ายขาว, แฝดยักษ์อ้วนจอมป่วน ทวีดเดิลดีและทวีดเดิลดัม, หนูตัวจิ๋ว, หนอนผีเสื้อ, แมวเชสเชียร์ และที่ขาดไม่ได้ แมด แฮทเทอร์ การเดินทางสุดมหัศจรรย์ในครั้งนี้ อลิซ จะต้องยุติการครองบัลลังก์อันโหดร้ายของราชินีแดงลงให้ได้

เลือกไม่ถูกกันเลยใช่ไหม แต่ละเรื่องน่าดู ๆ ทั้งนั้นเลย วันหยุด วันว่าง วันที่ต้องอยู่บ้านยาว ๆ นี้อย่าลืมชวนลูก ๆ มาดู การ์ตูนดิสนีย์สนุกๆ กัน และสิ่งสำคัญที่สุด คือลองนั่งดูด้วยกันกับลูก ทั้งครอบครัวมาร่วมกันสร้างช่วงเวลาที่มีค่าในครอบครัวด้วยการดู การ์ตูนดิสนีย์สนุกๆ กันค่ะ

ขอบคุณข้อมูลจาก : rarestkindofbest.com/ th.wikipedia.org /www.nangdee.com/movie.kapook.com /www.commonsensemedia.org

อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

13 การ์ตูนดิสนีย์ เหมาะกับครอบครัว ดูได้ทั้งเด็กชาย/หญิง

5 หนังดิสนีย์ ที่ทำไมคุณแม่ควรให้ลูกดูก่อนโต?

รวม 8 นิทานเจ้าหญิง ยอดนิยม ไว้เล่าให้ลูกสาวฟังก่อนนอน

เลี้ยงลูกให้ “พี่น้องรักกัน” คุณเองก็ทำได้!

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

ชื่อเท่ๆ ภาษาไทย

212 ชื่อเท่ๆ ภาษาไทย สำหรับลูกชาย เก๋เท่..แต่ไม่ตกยุคแน่นอน

รวม ชื่อเท่ๆ ภาษาไทย ชื่อเล่นไทยๆ สำหรับลูกชาย กว่า 200 ชื่อ รับรองมีแต่ชื่อเท่ๆ ชื่อเล่นย้อนยุค แบบภาษาไทย สมกับเป็นเด็กชายไทยแท้แน่นอน จะมี ชื่อไทยเท่ๆ อะไรบ้าง ตามมาดูกัน

รวม 212 ชื่อเท่ๆ ภาษาไทย สำหรับลูกชาย

ชื่อไทย..ก็เท่ได้!! สมัยนี้มองไปทางไหนก็เห็นแต่เด็กที่มีชื่อแบบฝรั่ง บางชื่อก็เป็นคำทับศัพท์ ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นชื่อเท่ๆ ที่ฟังดูแล้วทันสมัยเหมาะกับยุคนี้ >> แต่หากคุณพ่อคุณแม่อยากได้ ชื่อเท่ๆ ภาษาไทย สำหรับลูกชาย ที่เป็นชื่อไทยๆ แต่ไม่ฟังดูไม่โบราณ ย้อนยุคจนเกินไป ใครเรียกแล้ว ฟังดูไพเราะเสนาะหู แถมทันสมัย ไม่เหมือนใคร … ทีมแม่ ABK ได้คิดและรวบรวมชื่อเล่นไทยๆ  แบบเท่ๆ มาฝาก จะมี ชื่อเท่ๆ ภาษาไทย อะไร แบบไหนบ้าง มาดูกันเลย

 

ชื่อไทยเท่ๆ ชื่อลูกชาย หมวด ก

ก้านธูป กองหนุน กองพัน กองทัพ กองปราบ
กรุงไทย กงสุล เกื้อกูล กะเพรา กตัญญ์ กำปั่น
กวี กรมขุน กลองเพล กอบบุญ ก้องภพ
กนก กระตั้ว การันต์ โกมินทร์ แกงส้ม

 

ชื่อเท่ๆ ภาษาไทย หมวด ข

ขุนหมื่น ขุนศึก ขุนเดช ขุนไกร เขตแดน ขลุ่ยผิว
ขันเงิน เข็มทิศ  ข้ามฟ้า ขวัญชัย เขื่อน ขันหมาก
ข้าวปั้น ข้าวหมาก ขุมทรัพย์ ขนมต้ม

 

ชื่อไทยเท่ๆ ชื่อลูกชาย หมวด ค ฆ

คทา คณา คณิต คาวี คิมหันต์ คัมภีร์ คลื่นสมุทร
คีริน คีตะ คันศร คลังแสง

ฆ้องเงิน ฆ้องมอญ

ชื่อเท่ๆ ภาษาไทย หมวด จ ฉ ช ซ ฌ

เจ้าคุณ เจ้าขุน เจ้านาย จอมทัพ จเด็จ จินตะ

ฉลาม ฉัตรเงิน  /  ชิงพลบ  ชอบธรรม ชัดเจน

ซอโซ่  /  ฌาณ

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

ชื่อไทยเท่ๆ ชื่อลูกชาย หมวด ฎ ด ต

ฎีกา /  ดาวเหนือ ดินแดน ดินสอ

ต้นแบบ ต้นโมกข์ ต้นหน ต้นพุทธ ต้นกล้า
ตฤณ เตมีย์ ตะวัน  ไตรภพ ไตรภูมิ เตชิต
ตั้งเต เตชินท์ ตรัย ไต้ฝุ่น ใต้หล้า ตุลย์ ต้นน้ำ

 

ชื่อลูกชายเท่ๆ ภาษาไทย หมวด ท ธ

เทียนไข ทวี ทำคุณ แทนไท ทะเล ทวีป ท้าทาย ทีฆายุ
ทองกร ทองเอก ทัดไท ทิวไผ่ ทิวเขา แทนคุณ ทัพพ์

ธงรบ ธรรมดี เธียร ธนา ธันวา ธารา ธูป

ชื่อเท่ๆ ภาษาไทย

ชื่อไทยเท่ๆ ชื่อลูกชาย หมวด น

น้ำพุ นามธรรม นิมมาน น่านฟ้า นายร้อย นาวี
นักรบ นที นาวา นาฬิกา นาบุญ นำทัพ นะโม แน่วแน่

 

ชื่อเท่ๆ หมวด บ ป

บรรทัด บทนำ ใบบุญ บทเพลง แบ่งปัน

ปกป้อง ปฐพี ปราชญ์ เป็นปลื้ม โปรดปราณ ปั้นจั่น
ปูนปั้น ปั้นสิบ เป็นต่อ เป็นไท เป็นเอก ปันผล ปราการ

 

ชื่อไทยเท่ๆ ชื่อลูกชาย หมวด ผ ฝ

ผไท เผด็จ แผ่นดิน แผ่นฟ้า แผ่นเสียง  /  ฝูงบิน

 

ชื่อไทยเท่ๆ ชื่อลูกชาย หมวด พ

พนา พระเอก พระนาย พระราม พะพาย
เพทาย เพชรกล้า พริกแกง เพลงขลุ่ย พายุ
พฤกษ์ พบรัก พบธรรม พดด้วง

 

ชื่อเท่ๆ หมวด ฟ ภ

ฟ้าคราม ฟ้าลั่น

ภูผา ภูเขา ภาคี ภาคภูมิ ภันเต ภาคิน

 

ชื่อเท่ๆ ภาษาไทย หมวด ม ร ว

มะเดี่ยว แม้นเมือง ไม้เอก ไม้โท ม่านฟ้า แม่ทัพ เมฆา

ร่มบุญ ราเชนทร์ ระฆัง /  วายุ เวลา วันชนะ

 

ชื่อไทยเท่ๆ ชื่อลูกชาย หมวด ศ ส

ศาสตรา ศีล ศิลป์ ศิลา

สิบหมื่น สยาม สิบทิศ สุดเขต สาธุ สีไม้
สิชล สมุทร สิงโต สิงห์เหนือ  สุดยอด สิงหา
สงกรานต์ สามภพ สายฟ้า สายน้ำ  สายลม

 

ชื่อไทยเท่ๆ ชื่อลูกชาย หมวด ห อ

เหนือฟ้า เหินฟ้า หมอกเมฆ เหรียญทอง หนึ่งเดียว
องศา อัศวิน อาทิตย์ อคิณ อิฐมอญ โอบเอื้อ

 

อ่านต่อบทความอื่นน่าสนใจ คลิกที่ภาพได้เลย 

ทำนายฝันแม่ ๆ ฝันแบบนี้ได้ลูกชายหรือลูกสาว?

อยากรู้ไหม? คนที่ มีลูกชาย เขารู้สึกกันอย่างไร?

ลูกสาว ลูกชาย แตกต่าง และมีข้อดีอะไรบ้าง?

“เลี้ยงลูกชาย” อย่างไรให้เป็นคนดี

ชื่อเท่ๆ ลูกชาย

272 ชื่อเท่ๆ ลูกชาย ชื่อเล่นแนวๆ ยอดฮิต 2 พยางค์

รวม 272 ชื่อเท่ๆ ลูกชาย หากคุณกำลังมองหาไอเดียตั้งชื่อเล่นลูกชาย ชื่อเท่ๆ เด็กผู้ชาย ชื่อเล่นสองพยางค์ ทีมแม่ ABK ได้ช่วยคิด ชื่อเท่ๆ ทันสมัยเหมาะกับเด็กยุค 5G มาให้แล้ว คลิกดูเลย

รวม 272 ชื่อเท่ๆ ลูกชาย แบบ 2 พยางค์
ทันสมัยเหมาะกับเด็กยุค 5G

สำหรับเด็กยุค 5G ชื่อ กอล์ฟ โบ๊ท อาร์ท คงเชยไปแล้ว ซึ่งถ้าคุณพ่อคุณแม่อยากตั้งชื่อลูก ชื่อเล่นลูกชายให้ทันสมัยไม่เชย แถมเท่ไม่เหมือนใคร ต้องเป็น ชื่อเท่ๆ ลูกชาย แบบ 2 พยางค์ ทีมแม่ ABK จึงได้รวบรวม ชื่อเท่ๆ ทันสมัยเหมาะกับลูกชายมาฝาก กว่า 200++ ชื่อ จะมีชื่ออะไรบ้าง ตามมาดูกันเลย

ชื่อลูกชายเท่ๆ หมวด ก

กาโต้ / กราฟฟิค / กันเนอร์ / กังฟู / กำปั่น
กันดั้ม / ก้อนดิน / กองปราป / กองพล / โกเบ
กาโตะ / กุนซือ / โกฮัง / กัปตัน / กูเกิ้ล / ก๊วยเจ๋ง

ชื่อเท่ๆ ลูกชาย หมวด ข

ขุนพล / เข็มทิศ / ขงเบ้ง / ข้าวปั้น / เขตแดน
ขุนเขา / เขียนฟ้า / ขันเงิน / ขุนศึก

ชื่อเท่ๆ ลูกชาย หมวด ค

คูเปอร์ / คอปเปอร์ / คิ่มม่อน / คอนโด
คาร์เตอร์ / เคนโด้ / เคนตะ / คอนเน็ค / คีตะ
คิมหันต์ / แคนนอล / คูปอง / เควิน / คิวเท

ชื่อเท่ๆ ลูกชาย

ชื่อเท่ๆ ลูกชาย หมวด จ

เจเลอร์ / จาวา / เจได / จูโน่ / เจ้าสัว  / จูเนียร์
จีเมล / จอมพล / เจแปน / จินตะ / จอมยุทธ์

ชื่อลูกชายเท่ๆ หมวด ช

ชัตเตอร์ / ชีวาส / โชกุน / ชูการ์ / ชิโน  / ชีโตส
ชินจัง / ไชน่า / ชินกิ / ชาม่อน / ชัดเจน / ชารีฟ

ชื่อเท่ๆ ลูกชาย หมวด ซ

ไซม่อน / โซนาร์ / ซอฟแวร์ / ซีอาร์ / ซีเกมส์ / ซอโซ่
เซิฟเวอร์ / ซันเดย์ / ไซอิ๋ว / เซนเตอร์ / เซอร์ไพรส์ / ซีวิค
ซีนายน์ / ซูกัส / ซีเนียร์ / ซีม่อน / ซันโว / โซนิค
เซี่ยงไฮ้ / ซานฟา / เซริว / เซอร์เวย์ / ซีม่อน

ชื่อเท่ๆ ลูกชาย หมวด ด

ดราก้อน / ดาต้า / ดัมเบลล์ / ดีเซล
ไดม่อน / ดีเทล / แดนไทย / ดีแลน / ดินสอ
ดินแดน / ดันเต้ / โดนัท / ดาวเหนือ

 

 

ชื่อเท่ๆ ลูกชาย หมวด ต

ไตตั้น / ติวเตอร์ / ใต้ฝุ่น / ใต้หล้า / ไตเติ้ล
เติมเต็ม / แต๊งค์กิ้ว / ตูมตาม / เตชินท์ / เตตัส / โตโน่
ต้นพุทธ / ตองเก้า / ตินติน / ต้นหน / โตเกียว

ชื่อเท่ๆ ลูกชาย หมวด ท ธ

ทิคเกอร์ / ทะเล / ท็อปเท็น / แทนไท / เทย์แลน

เธียเตอร์ / ธันวา / ธงรบ / ธันเดอร์

ชื่อลูกชายเท่ๆ หมวด น บ ป

นะโม / นิวยอร์ก / น้ำเหนือ / น้ำไนล์ / น้ำอุ่น / น้ำซุป
นิปปอน / โนอาห์ / นีโอ / ไนเจล / นาบุญ / นักรบ

ไบเบิ้ล / ใบไม้ / บิวกิ้น / บิ๊กไบค์ / เบ็นเท็น / บิ๊กเอ็ม
บอมเบย์ / บีนาย / บีเติร์ด / บัตเตอร์ / ไบเล่ย์ / บีฟอร์
บีกัน / บูริน / เบอร์ลิน / เบสิค / บีเวอร์ / บีลีฟ

โปรแกรม / ป๊อปอาย / โปรตอน / ปอเช่ / เปอร์เซ็นต์
เปปเปอร์ / ปีโป้ / โปเต้ / ปันผล / ปั้นจั่น / ปลาวาฬ

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

ชื่อเท่ๆ ลูกชาย หมวด ผ พ ฟ

แผ่นดิน / ผืนน้ำ / ผู้กอง

เพชรกล้า / พลัสม่า / พูก้า / พู่กัน / เพทาย / พัตโตะ
พอตเตอร์ / พิคเซล / พรีเมียร์ / พะนาย / พายุ
พุธโธ / พรอนโต้ / พัตเตอร์

ไฟท์เตอร์ / ฟีฟ่า / ฟอร์จูน / ฟูจิ

ชื่อลูกชายเท่ๆ หมวด หมวด ภ ม ย ร ล

ภูผา / ภูเขา / ภาคิน / ภาคภูมิ / ภูริช / ภันเต

มังกร / มันเดย์ / มีเดีย / มาเฟีย / มาร์เวล / แม็กนัม

ยูกิ / ยูฟ่า / ยารีส

ร็อคเกอร์ / รุกกี้ / เรดาร์ / แร๊พเตอร์ / ริวจิ
เรียวตะ / ระฆัง / เรือยอร์ช / รถดิ๊ฟ

ล๊อตโต้ / ลาเต้ / ลูก้า / เลโอ / โลตัส / ลูฟี่

ชื่อเท่ๆ ลูกชาย หมวด ว  ส

เวกเตอร์ / เว็บไซต์ / วินเซล / วินแอมป์ / วินโดว์ / วายุ / เวลา

สกาย / สเก็ตซ์ / สิบหมื่น / สิบทิศ / สาธุ
สตรอม / สายฟ้า / สายน้ำ / แสงเหนือ / สุดเขต

ชื่อเท่ๆ ลูกชาย หมวด อ ฮ

ออสการ์ / โอเชียน / อัลฟ่า / อชิ / อินทัช / ออนไลน์
อาธิ / อเกน / โอโซน / เอ็มเจ / เอก้อน / ออดี้
ออโต้ / อาร์เธอร์ / อาเซี่ยน / เอเธนส์ / โอบเอื้อ
อาร์มมี่ / อาฟเตอร์ / เอเดน / ออกัส / เอริค
ฮาจิ / ฮันเตอร์ / ฮ่องเต้ / ฮู่โต๋ / เฮงเจีย / ฮัซซาน / ฮาเปอร์ / ฮิวโก้

momketing 2021

วันสุดท้าย!! Amarin Baby & Kids ชวนคุณแม่ตั้งครรภ์และคุณแม่ที่มีลูกอายุ0-6 ปีร่วมทำแบบสำรวจความคิดเห็นคุณแม่ ลุ้นรับผลิตภัณฑ์สำหรับแม่ลูกฟรี 50 รางวัล รวมมูลค่ากว่า 10,000 บาทคลิกที่ลิงก์นี้เลย >> https://bit.ly/3z4Eqzp

 

 

อ่านต่อบทความอื่นน่าสนใจ คลิกที่ภาพได้เลย 

สัญญาณที่บ่งบอกว่าคุณแม่กำลังอุ้มท้องลูกชาย!…ระหว่างความเชื่อกับผลพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์

ตั้งชื่อลูก 70 ชื่อพยางค์เดียว เท่ๆ ง่ายๆ ความหมายดี

25 เรื่องสุดว้าว คนมีลูกชาย ต้องรู้

วิธีเลี้ยงลูกแบบ YDK

วิธีเลี้ยงลูกแบบ YDK ของพ่อแม่ญี่ปุ่น ฝึกลูกให้มีวินัยและความรับผิดชอบ

คุณพ่อคุณแม่เคยสงสัยกันบ้างไหมคะ ว่าทำไมเด็กญี่ปุ่นถึงสามารถรับผิดชอบตัวเองได้ ไม่ว่าจะเป็นการนั่งทานข้าวเองโดยไม่ต้องป้อน ใส่รองเท้า ใส่เสื้อผ้า หรือการเดินไปโรงเรียนเองตั้งแต่อนุบาล นั่นก็เพราะว่าคุณพ่อคุณแม่ชาวญี่ปุ่นมีความเชื่อใจ และกล้าที่จะให้ลูกๆ ได้คิด ได้ลงมือทำด้วยตัวเองค่ะ  แค่เชื่อมั่นให้ลูกได้ลอง เขาก็พร้อมโตเต็มศักยภาพ

คนญี่ปุ่นจะมีแนวคิดในการเลี้ยงลูกแบบ Yareba Dekiru หรือเรียกสั้นๆ ว่า “YDK” ซึ่งถ้าอธิบายให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ การบอกว่าหนูทำได้

วิธีเลี้ยงลูกแบบ YDK

วิธีเลี้ยงลูกแบบ YDK คืออะไร ?

การเลี้ยงลูกแบบญี่ปุ่น Yareba Dekiru (YDK) เป็นปรัชญาการเลี้ยงลูกแบบพ่อแม่ชาวญี่ปุ่น ที่เชื่อว่าลูกทำได้ แค่ให้ลองเรียนรู้ด้วยตัวเอง โดยเน้นส่งเสริมให้เด็กรู้จักการเรียนรู้ผ่านการทดลองทำ ซึ่งเป็นการฝึกวินัย ความรับผิดชอบและการช่วยเหลือตัวเองตามศักยภาพในวัยของเขา ให้เขาสามารถพึ่งพาตัวเองได้ในอนาคต

ซึ่งถ้าถามว่าแล้วครอบครัวคนไทยล่ะ แนวคิดแบบ YDK คุณพ่อคุณแม่สามารถฝึกให้ลูกได้ช่วยเหลือพึ่งพาตัวเองผ่านกิจวัตรประจำวันได้มั้ย ตอบเลยว่าไม่ยาก แค่ใจแข็งฝึกลูกทุกวัน ยิ่งฝึกเร็ว ยิ่งเป็นผลดีกับตัวของเขาเองในอนาคตค่ะ

การฝึกให้ลูกเล็กๆ มีความมั่นใจ กล้าที่จะทำในเรื่องต่างๆ ได้เองตามวัยของเขา พ่อแม่ต้องคอยชี้แนะ คอยให้กำลังใจ และดูลูกอยู่ข้างๆ หากลูกจะเดินแล้วสะดุดล้มบ้างก็ไม่เป็นไร ล้มแล้วก็ลุกขึ้นมาใหม่ได้ หรือหากลูกใส่ถุงเท้า รองเท้าเอง จะใช้เวลานานหน่อยก็ไม่เป็นไร เมื่อเขาทำบ่อยๆ ก็จะคล่องและเร็วขึ้น ฉะนั้นการสร้างความมั่นใจให้ลูกเป็นสิ่งสำคัญมากค่ะ

 

“YDK”  ฝึกลูกให้เรียนรู้ ลองทำอะไรด้วยตัวเอง ได้อย่างไร ?

การสร้างวินัย และความรับผิดชอบ ให้ติดตัวลูกน้อยไปจนโต หากทำได้ถือเป็นเรื่องที่ดีค่ะ เด็กคนนึงจะเติบโตมามีความพร้อม ความเก่งรอบด้านได้ ต้องเริ่มจากการฝึกฝน ที่คุณพ่อคุณแม่ส่งเสริมให้ลูกๆ ได้ลอง ได้ลงมือทำไปตามพัฒนาการช่วงวัยค่ะ ฉะนั้นเรามาฝึกลูกผ่านกิจวัตรประจำวัน ที่ลูกควรทำได้เองตามแต่ละช่วงวัยไปพร้อมๆ กันค่ะ

1. มือน้อยๆ ของหนู ตักข้าวกินเองได้แล้ว   

วิธีเลี้ยงลูกแบบ YDK

พ่อแม่ญี่ปุ่นจะฝึกให้ลูกใช้มือจับช้อน จับตะเกียบ ตักอาหารเข้าปากทานเองไปพร้อมกับพ่อแม่บนโต๊ะอาหาร เริ่มกันตั้งแต่ 1-3 ขวบขึ้นไปค่ะ ช่วงแรกๆ ที่กล้ามเนื้อมัดเล็กยังใช้งานได้ไม่ถนัด อาหารอาจหกเลอะเทอะบ้าง ก็ไม่เป็นไรค่ะ ปล่อยให้ลูกได้ลอง ไม่ดุไม่ว่า แค่คอยอยู่ข้างๆ เป็นกำลังใจให้ลูก

ข้อดี : นอกจากกล้ามมัดเล็ก(มือ) จะค่อยๆ แข็งแรงขึ้นแล้ว ก็ยังเป็นการฝึกให้ลูกได้รู้จักรับผิดชอบตัวเองบนโต๊ะอาหาร ซึ่งความรับผิดชอบนี้ยังจะถูกนำไปต่อยอดกับกิจกรรมอื่นๆ ของลูกได้ด้วย

2. ร่างกายหนู ดูแลเองได้

วิธีเลี้ยงลูกแบบ YDK

เด็กวัย 4-5 ขึ้นไป สามารถทำอะไรได้ด้วยตัวเองแล้วค่ะ คุณแม่อาจเริ่มจากกิจวัตรประจำวันของลูก เช่น การแปรงฟัน 2 ครั้งต่อวัน(เช้า-ก่อนนอน) , การอาบน้ำ , การเปลี่ยนใส่เสื้อผ้า เป็นต้น กระตุ้น และฝึกลูกให้เขาได้ลองทำเอง ในช่วงแรกๆ คุณแม่อาจต้องเช็กความเรียบร้อยอีกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าลูกทำได้อย่างถูกต้องค่ะ

ข้อดี : การฝึกให้ลูกค่อยๆ เรียนรู้รับผิดชอบเรื่องส่วนตัว เมื่อโตขึ้นก็จะสามารถดูแลตัวเองได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่องค่ะ

3. ฝึกให้ตรงต่อเวลา

การตรงต่อเวลา ต้องยกให้คนญี่ปุ่นค่ะ เด็กญี่ปุ่นจะถูกฝึกให้เคารพเรื่องของเวลากันมาตั้งแต่เล็กๆ ค่ะ เพราะทุกอย่างมีกำหนดเวลาอย่างชัดเจน เช่น รถโรงเรียนมาตรงเวลา , รถประจำทางมาตรงเวลา , ทานอาหารกลางวันที่โรงเรียนเมื่อหมดเวลา จะต้องนำเอาถาดอาหารไปเก็บให้เรียบร้อยด้วยตัวเอง หรือเมื่อถึงเวลาเข้านอน ตื่นนอนก็ต้องตามเวลา เป็นต้น

ฉะนั้นเรื่องของการเป็นคนตรงต่อเวลา หรือทำอะไรควรอยู่ในกรอบเวลาที่กำหนด เป็นเรื่องที่ครอบครัวไทยสามารถนำมาปรับใช้ฝึกกับลูกๆ ที่บ้านได้ค่ะ แนะนำว่าให้ดูตามความเหมาะสมว่าบางเรื่องจะไม่เป็นการกดดันลูกมากไปก็พอค่ะ

ข้อดี : ฝึกวินัยเรื่องของเวลา เมื่อให้ลูกทำเป็นประจำ ก็จะค่อยๆ ปรับตัวได้ และรู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันไปเองอย่างอัตโนมัติ การเป็นคนตรงต่อเวลายังเป็นผลดีเมื่อลูกโตขึ้นและเข้าสู่โลกของการทำงานค่ะ

หากลูกน้อยจะเติบโตขึ้นเป็นคนที่มีวินัย มีระเบียบ มีความรับผิดชอบ และช่วยเหลือดูแลจัดการตัวเองได้ ก็อยู่ที่วิธีเลี้ยงดู และฝึกฝนของคุณพ่อคุณแม่เป็นสำคัญค่ะ

ซึ่งหลักการสอนลูกใช้ชีวิตในรูปแบบ Yareba Dekiru “YDK” ของพ่อแม่ชาวญี่ปุ่น ที่สร้างวินัย และความรับผิดชอบได้ด้วยตัวของลูกเอง ก็เป็นหลักการสอนลูกที่สร้างสรรค์ และ Kodomo ผลิตภัณฑ์ที่เข้าใจลึกซึ้งทุกพัฒนาการเด็ก ก็สนับสนุนให้คุณพ่อคุณแม่ ครอบครัวไทย นำไปปรับใช้ในการเลี้ยงดูลูกน้อยที่บ้านกันค่ะ

แค่เชื่อมั่นให้ลูกได้ลอง เขาก็พร้อมโตเต็มศักยภาพ #YDKเชื่อสิหนูทำได้ #KodomoReadyChild

 

กิจกรรมเสริมพัฒนาการ 2 ขวบ

4 กิจกรรมสนุก ชวนลูกเล่นกลางแจ้ง กระตุ้นพัฒนาการ เสริมความคิดสร้างสรรค์

ลูกช่วงวัยตั้งแต่ 2 ขวบขึ้นไป เป็นช่วงเวลาที่เหมาะต่อการพาออกไปเรียนรู้สิ่งใหม่ สำรวจโลกกว้าง เล่นสนุกนอกบ้าน และพลังเหลือล้นของลูกวัยนี้ แนะนำให้คุณพ่อคุณแม่ลองหากิจกรรมที่ลูกได้ใช้ทั้งกล้ามเนื้อมัดเล็ก มัดใหญ่ ความคิด พร้อมความคิดสร้างสรรค์ และจินตนาการ

ไอเดียสำหรับคุณพ่อคุณแม่ ที่จะได้ชวนลูกออกมาเล่นนอกบ้าน หรือใกล้ๆ บริเวณบ้านกัน เล่นกิจกรรม Outdoor เรามี 4 กิจกรรมเล่นสนุกแบบสร้างสรรค์ ช่วยเสริมพัฒนาการเด็กๆ มาแนะนำให้ค่ะ

 

กิจกรรมเสริมพัฒนาการ 2 ขวบ เล่น Outdoor สนุกๆ กันที่บ้าน

กิจกรรมเสริมพัฒนาการ 2 ขวบ

1. เกมล่าหาสมบัติ

ช่วงเช้าๆ หรือช่วงบ่ายๆ แดดร่ม ลมพัด ลองพาลูกๆ ออกมาสูดอากาศ รับพลังงานดีๆ กับธรรมชาติรอบบ้าน ให้เท้า มือ ได้สัมผัสกับสนามหญ้าหน้าบ้าน พื้นดิน พุ่มไม้เล็กๆ ใบไม้แห้งที่ร่วงหล่นจากต้น แล้วเพิ่มความสนุกพลิกแพงเป็นกิจกรรมเล่นนอกบ้าน ด้วยการหาไข่พลาสติก หรือขวดน้ำดื่ม กล่องน้ำผลไม้ ฯลฯ ที่ดื่มหมดแล้ว ล้างทำความสะอาด คุณแม่สามารถนำมาประยุกต์เป็นของเล่นให้ลูกได้ค่ะ อุปกรณ์ที่หาได้ง่ายๆ จากที่บ้าน คุณแม่เอาไปซ่อนไว้ตามจุดต่างๆ นอกบ้าน จากนั้นให้ลูกลองตามหาเก็บกลับมาให้ครบจำนวน เช่น ไข่พลาสติก 5 ฟอง , กล่องน้ำผลไม้ 3 กล่อง และขวดน้ำ 5 ขวด อาจบอกใบ้ลูกสักนิดว่า สมบัติที่ต้องตามมาให้ครบนั้น คุณแม่ซ่อนไว้ตรงบริเวณใดบ้าง

เรียนรู้ทักษะ : กิจกรรมนี้เด็กๆ จะได้ฝึกการสำรวจ สังเกตสิ่งต่างๆ รอบข้าง รู้จักของเล่นจากอุปกรณ์ที่ใช้แล้วๆ นำมาประยุกต์เป็นของเล่นได้

กิจกรรมเสริมพัฒนาการ 2 ขวบ

2. ทำฟองอากาศมอนสเตอร์

ไหนๆ ช่วงวันหยุดคุณแม่ลองชวนเด็กๆ มาผสมสบู่อาบน้ำเด็ก กับผลิตภัณฑ์ซักผ้าเด็ก เพื่อให้เกิดเป็นฟองลูกโป่ง ให้เด็กเป่าเล่นกันค่ะ

เรียนรู้ทักษะ : กิจกรรมนี้เด็กๆ ได้เรียนรู้เรื่องของรูปทรงตามธรรมชาติ ผิวสัมเบาบาง สร้างจินตนาการ และเป็นการฝึกให้เด็กๆ มีส่วนร่วมช่วยคุณแม่ทำงานบ้านเล็กๆ น้อยๆ ด้วยค่ะ

กิจกรรมเสริมพัฒนาการ 2 ขวบ

3. เกมตักไข่หรรษา

ง่ายๆ เล่นจากหน้าบ้านเลยค่ะ คุณแม่แค่เตรียมกะละมัง หรือยางสระน้ำ(ถ้ามี) ใส่น้ำสะอาดลงไปสักครึ่งหนึ่ง จากนั้นก็หาไข่พลสดติกหลากสีสัน หรือจะเป็นฝาขวดน้ำดื่ม คุณแม่สามารถหาอุปกรณ์ดัดแปลงในการเล่นได้ค่ะ จากนั้นเทใส่ลงไปในน้ำ หาช้อนสำหรับตัก และแก้วกระดาษให้เท่ากับจำนวนสีไข่ เพียงเท่านี้ก็ได้อีกหนึ่งกิจกรรมสนุก ลูกจะเล่นแล้วเสื้อผ้าเปียกเปื้อนก็ไม่เป็นไรค่ะ

เรียนรู้ทักษะ : กิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมสนุกๆ ง่าย ที่ช่วยส่งเสริมให้เด็กๆ ได้ใช้ความคิด มีสมาธิ และรู้จักการนับจำนวน ได้เรียนรู้เรื่องสีสันต่างๆ

กิจกรรมเสริมพัฒนาการ 2 ขวบ

4. เกมจดจำสี

หากบ้านมีบริเวณพื้นที่ เช่น ลานจอดรถ ทางเท้าเดินเข้าบ้าน , แผ่นหินปูทางเดินในสวน เป็นต้น คุณแม่สามารถทำเป็นลานกิจกรรมเล่นสนุกให้ลูกได้ค่ะ อุปกรณ์มีแค่สีชอล์กหลากสี วาดเป็นวงกลม หรือซิกแซก แล้วให้ลูกเดิน กระโดดเล่นก็ได้ คุณแม่สามารถสอนเรื่องสีทั้งภาษา ภาษาอังกฤษให้ลูกเรียนรู้เพิ่มเติมได้ค่ะ

เรียนรู้ทักษะ : กิจกรรมนี้เด็กๆ ได้ใช้ร่างกายช่วงเท้าสั้งสองข้างในการกระโดด และเดิน จะช่วยกระตุ้นให้กล้ามเนื้อมัดใหญ่มีความแข็งแรงมากขึ้น และยังเป็นการฝึกความคิด การจดจำเรื่องสีให้เด็กๆ ด้วยค่ะ

กิจกรรมกลางแจ้ง

ประโยชน์ของการเล่นกลางแจ้ง (Outdoor Play) สำหรับเด็ก

กิจกรรมเสริมพัฒนาการ 2 ขวบ ที่แนะนำไปให้คุณพ่อคุณแม่ได้ลองนำไปเล่นกับลูก ถือเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์มากๆ และก็อยากจะส่งเสริมให้ทุกครอบครัวได้พาลูกออกมาเล่นข้างนอกบ้านกันค่ะ ซึ่งหากมีเวลาหลายวัน แนะนำให้พาลูกเที่ยวยังสถานที่เรียนรู้ต่างๆ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด การเปลี่ยนบรรยากาศ แวดล้อมที่ไม่ใช่เฉพาะที่บ้าน จะช่วยกระตุ้นให้เด็กๆ เกิดการเรียนรู้ตลอดเวลา และช่วยให้มีพัฒนาการรอบด้านตามวัยที่ดีขึ้นด้วยค่ะ ทีนี่มาดูกันต่อค่ะว่าเด็กๆ ได้ประโยชน์อะไรบ้าง

1. ด้านร่างกาย : กล้ามเนื้อมัดเล็ก กล้ามมัดใหญ่ ให้มีประสิทธิภาพในการทำงาน มีกระดูก และระบบภูมิคุ้มกันโรคที่แข็งแรง มีสุขภาพที่ดี กระดูกแข็งแรง

2. ด้านอารมณ์ : เด็กๆ ได้ออกข้างนอก ได้ทำกิจกรรมสนุกอย่างอิสระ จะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย ไม่เครียด มีอารมณ์ที่ดี สดใส ร่างเริงอยู่ตลอดเวลา

3. ด้านสติปัญญา : เด็กๆ ได้สำรวจ ได้เรียนรู้เรื่องแปลกใหม่อยู่ตลอดเวลา ช่วยให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ ช่วยให้มีสมาธิ และมีการเรียนรู้ที่ดีขึ้น

4. ด้านสังคม : เด็กๆ เล่นสนุกกับคุณพ่อคุณแม่ที่บ้าน จะได้ในเรื่องสายสัมพันธ์ ความรัก ความอบอุ่น แต่หากมีการพาออกไปเล่นสนุกกับเพื่อนวัยเดียวกัน จะช่วยให้ลูกมีทักษะการเข้าสังคม รู้จักการเล่นด้วยกัน รู้จักการแบ่งปัน เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กับคนรอบข้างด้วยค่ะ

การส่งเสริมให้ลูกเล่นสนุกกลางแจ้งนอกบ้านเป็นเรื่องที่ดีค่ะ แต่ด้วยสถานการณ์ตอนนี้การให้ลูกออกนอกบ้านอาจไม่ปลอดภัยต่อสุขภาพ ดังนั้นแนะนำว่าควรเตรียมตัวลูกให้พร้อม

  1. พาลูกไปฉีดวัคซีนตามช่วงวัย หรือวัคซีนตามฤดูกาล เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันโรค ลดอัตราเสี่ยงเกิดการเจ็บป่วย ไม่สบาย
  2. เตรียมหน้ากากอนามัยสำหรับเด็ก ให้ลูกสวมใส่ทุกครั้งที่พาเล่นนอกบ้าน แล้วต้องพบปะกับหลายๆ คน
  3. ฝึก สอนการใช้เจลแอลกอฮอล์ให้ลูกจนติดเป็นนิสัย และล้างมือบ่อยๆ ก่อนหยิบ จับ รับประทานอาหาร

และที่สำคัญสุดคือหลังจากกลับเข้าบ้าน ควรให้ลูกอาบน้ำสระผม ใส่เสื้อผ้าชุดใหม่ทันที เพื่อเป็นการกำจัดเชื้อโรค ลดการสะสมของเชื้อไวรัสและแบคทีเรียต่างๆ

ผลิตภัณฑ์ซักผ้าเด็กดีนี่ ไลฟ์ลี่

ส่วนเสื้อผ้าของลูก คุณแม่ควรซักทำความสะอาดด้วยผลิตภัณฑ์ซักผ้าสำหรับเด็ก ที่ช่วยลดการสะสมของแบคทีเรียค่ะ

เสื้อผ้าลูกที่เลอะเทอะ มีคราบสกปรกหนักๆ เต็มไปด้วยเหงื่อไคร่ ก็ยังไม่แนะนำให้คุณแม่ใช้ผลิตภัณฑ์ซักผ้าทั่วไปนะคะ เพราะอาจมีสารเคมีตกค้าง ที่ทำร้ายผิวลูกได้ค่ะ สำหรับเสื้อผ้าลูก 2 ขวบ ควรใช้เป็นผลิตภัณฑ์ซักผ้าเด็กค่ะ

ผลิตภัณฑ์ซักผ้าเด็กดีนี่ ไลฟ์ลี่ แอนตี้แบคทีเรีย เหมาะสำหรับซักเสื้อผ้าลูกตั้งแต่ 2 ขวบขึ้นไป คุณแม่สามารถใช้ซักทำความสะอาดเสื้อผ้าลูกทุกวัน ช่วยลดความ เสี่ยงจากเชื้อโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมขจัด 6 คราบหนัก เช่น คราบน้ำนม คราบอาหาร คราบเลือด คราบน้ำลาย คราบปัสสาวะ คราบอุจจาระ

ผลิตภัณฑ์ซักผ้าเด็กดีนี่ ไลฟ์ลี่ เป็นสูตรแอนตี้แบคทีเรีย ที่ช่วยยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย ได้มากถึง 99.9% สะอาด อ่อนโยน หอมสดชื้น ช่วยลดกลิ่นอับชื้น ที่สำคัญไม่ต้องกลัวว่าลูกจะแพ้ระคายเคือง เพราะได้รับการรับรองมาตรฐานสากล ทดสอบแล้วว่าไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวค่ะ

เมื่อเตรียมพร้อมทั้งสุขภาพร่างกาย และเสื้อผ้าที่สะอาด สวมใส่สบายตามที่แนะนำแล้ว คุณแม่ก็มั่นใจได้ 100% ค่ะว่า ลูกออกไปเล่นกลางแจ้งนอกบ้าน กลับมาบ้านจะไม่เจ็บป่วยแน่นอนค่ะ 

#ซักผ้าสะอาดช่วยลดความเสี่ยงจากเชื้อโรค

กิจกรรมเสริมพัฒนาการ 2 ขวบ

 

แสดงแบบ : คุณแม่ นุสรา สุขเทียบ และ น้องนิธิกร สุวรรณโชคอิสาน

เพลงกล่อมนอนเพราะๆ

20 เพลงกล่อมนอนเพราะๆ เปิดฟังยาวๆ ลูกหลับง่าย ตื่นแล้วไม่งอแง

เพลงกล่อมนอนเพราะๆ เด็กคนไหนก็ชอบ แค่เปิดให้ฟังเพลินระหว่างเข้านอน ในบรรยากาศเงียบสงบ อากาศเย็นๆ แสงสลัว กับไออุ่นจากแม่ ลูกน้อยหลับพริ้มในอ้อมกอด นอนเต็มอิ่ม ตื่นมาสดชื่น ไม่มีอาการงอแงหงุดหงิดให้เห็น 

 20 เพลงกล่อมนอนเพราะๆ เปิดกล่อมลูกนอนหลับฝันดีตลอดคืน 

เพราะการนอนเป็นเรื่องสำคัญของลูกน้อย โดยเฉพาะเด็กเล็กที่ต้องนอนรวมๆมากถึง 10 กว่าชั่วโมงต่อวัน ยิ่งได้นอนหลับลึกลูกก็จะมีพัฒนาการทางสมองและร่างกายที่ดี ถ้าอยากให้ลูกนอนหลับง่าย ไม่ต้องอุ้มกล่อม หรือไกวเปลจนเมื่อยแขน ลองเปิดเพลงกล่อมนอนเพราะๆ ทำนองละมุนต่อเนื่องสัก 10 – 20 นาที ช่วยให้ลูกรู้สึกผ่อนคลายและหลับง่ายขึ้น แถมการเห่กล่อมแบบโยกตัว หรือไกวเปลลูกน้อยเบาๆ นั้นยังใกล้เคียงกับการเคลื่อนของทารกเมื่อยังอยู่ในครรภ์ของคุณแม่ จึงช่วยให้ลูกอุ่นใจและรู้สึกปลอดภัยมากขึ้น 

ลูกฟัง เพลงกล่อมนอนเพราะๆดีอย่างไร

  • เพลงกล่อมเด็กมักใช้คำง่ายๆ ภาษาโดยรวมเข้าใจง่าย ท่วงทำนองไพเราะซ้ำไปมาทำให้เด็กๆ ได้เรียนรู้ภาษา
  • หากคุณแม่เป็นผู้ร้องเพลงกล่อมเอง ศูนย์กลางของสมองที่เกี่ยวกับการมองเห็น การฟัง และภาษาจะทำงานสัมพันธ์กันอย่างต่อเนื่อง
  • เนื้อหาในเพลงกล่อมเด็กมักบอกเล่าเรื่องสิ่งแวดล้อมรอบตัวและชีวิต ที่สอนให้เด็กๆ รู้จักเรื่องราวรอบตัว
  • เพลงกล่อมเด็กช่วยให้ลูกรู้สึกสงบ คลายความเครียดและกังวล ทั้งยังช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อสมองและทำให้เด็กหลับได้ง่าย
  • มีส่วนช่วยให้เด็กมีลักษณะนิสัยที่ใจเย็นขึ้น
  • เพลงกล่อมเด็กโบราณส่วนใหญ่มีเนื้อหาเกี่ยวกับคำอธิษฐาน ความรัก และความหวังดีต่อเด็กน้อย ถ้อยคำเหล่านั้นส่งผลต่อจิตสำนึกของเด็กในด้านบวก
  • เมื่อเด็กได้ฟังเพลงกล่อม จะรู้สึกว่ามีคนดูแล ซึ่งช่วยเสริมสร้างความรู้สึกเชื่อมั่นและไว้วางใจ
  • เมื่อเด็กได้ฟังเพลงกล่อมที่คุ้นเคยในระยะเวลาหนึ่ง จะเกิดความคุ้นชิน ซึ่งส่งผลต่อระบบประสาทในสมองโดยตรง และทำให้เด็กรู้สึกผ่อนคลายเมื่อได้ฟังเพลงที่ตัวเองรู้จักดี
  • เพลงกล่อมเด็กที่นุ่มนวลและอ่อนโยน รวมทั้งเสียงดนตรีและเสียงจากธรรมชาติจะช่วยผ่อนคลายความเครียดทั้งของเด็กและคุณพ่อคุณแม่เอง

นอกจากสารพัดประโยชน์ที่ลูกจะได้จาก เพลงกล่อมนอนเพราะๆ แล้วคุณพ่อคุณแม่ยังได้อยู่ในบรรยากาศแสนสงบ และสบาย ซึ่งช่วยให้ผ่อนคลายจากภาระหน้าที่ระหว่างวัน เรียกได้ว่า เพลงกล่อมนอนทำให้มีความสุขได้ทั้งครอบครัว แต่ถ้ายังไม่รู้จะเลือกเพลงไหนให้ลูกฟัง ทีมแม่ ABK ได้รวบรวมเพลงกล่อมทำนองไพเราะ ฟังเพลินหลายรูปแบบทั้งเพลงไทย เพลงภาษาอังกฤษ และเพลงจากนักดนตรีชื่อก้องโลกมากมาย จะมีเพลงไหนที่เปิดแล้วลูกเคลิ้มจนหลับมาบ้าง มาดูกันเลย

รวมเพลงบรรเลงน่าฟัง เพลงกล่อมนอนเพราะๆ 

การฟังเพลงกล่อมนอนสำหรับเด็กไม่ได้จำกัดเฉพาะเพลงที่มีเนื้อหา หรือคำร้องเกี่ยวกับเด็กเท่านั้น เพลงบรรเลงที่มีแค่ทำนองอ่อนโยน ฟังเพลินๆ ก็ช่วยทำให้ลูกฟังเพลิน และนอนหลับไปได้ง่ายๆเช่นกัน เพลงบรรเลงที่เหมาะสำหรับเพลงกล่อมนอน ควรเลือกเพลงที่มีทำนองไม่เร็วเกินไป ควรเป็นเสียงดนตรีเบาๆจากเปียโน กีต้าร์โปร่ง หรือเครื่องสาย เปิดคลอเบาๆช่วงเข้านอน แค่นี้ลูกก็หลับสบายแล้ว

ขอบคุณคลิปจาก Best Baby Lullabies

 

ขอบคุณคลิปจาก Are You Deep Sleep

 

ขอขอบคุณคลิปจาก 321 Relaxing – Meditation Relax Clips

ขอขอบคุณคลิปจาก Baby Relax Channel Español

 

ขอขอบคุณคลิปจาก Baby Relax Channel

รายชื่อเพลงกล่อมนอนภาษาอังกฤษ

สำหรับคุณแม่ที่อยากชอบเพลงกล่อมภาษาอังกฤษก็มีให้เลือกหลายเพลง มีทั้งเพลงกล่อมจากการ์ตูนดิสนีย์ชื่อดัง เพลงกล่อมที่ดัดแปลงจากเพลงนักดนตรีชื่อดัง อย่างโมสาร์ท และท่วงทำนองที่เป็นเพลงกล่อมนอนชื่อดังมาหลายยุคหลายสมัย เช่น Row Row Row Your Boat, You are my sunshine

ขอบคุณคลิปจากLuis Flores

 

คลิปจากWarner Music Indonesia

 

ขอบคุณคลิปจากSuper Simple Songs – Kids Songs

 

ขอบคุณคลิปจาก The Hound + The Fox

 

ขอบคุณคลิปจากHooplaKidz – Official Nursery Rhymes Channel
ขอบคุณคลิปจาก HooplaKidz TV – Funny Cartoons For Children

เพลงกล่อมลูก กล่อมนอนภาษาไทย

ไม่ว่าจะเป็นเพลงกล่อมทันสมัย หรือเพลงกล่อมจากการ์ตูนจะช่วยให้ลูกนอนหลับดีทั้งสิ้น  แต่คุณแม่รุ่นใหม่อาจเลือกใช้เพลงกล่อมนอนแบบไทยๆ ซึ่งสืบทอดมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย บางเพลงมีเนื้อหาและท่วงทำนองคล้ายเพลงไทยเดิม เล่าเรื่องราวของวิถีชีวิต วัฒนธรรมดั้งเดิมของไทย และสิ่งรอบตัวให้เด็กๆรู้จัก คุณแม่จะเลือกเปิดให้ลูกฟัง หรือหัดร้องไว้กล่อมลูกด้วยตัวเองก็ยิ่งช่วยให้ลูกหลับสบายมากขึ้น

ขอบคุณคลิปจาก Wadpleng KlomThai

ขอบคุณคลิปจาก Wadpleng KlomThai

 

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

ขอบคุณคลิปจาก KidsOnCloud

ขอบคุณคลิปจาก KidsMeSong [เพลงเด็ก วิดีโอเด็ก]

ขอบคุณคลิปจาก The Kids Song

ลิสต์เพลงกล่อมนอนเสียงธรรมชาติ

เสียงสายน้ำ ลำธาร สายลม เสียงนกร้อง หรือเสียงของแมลงตัวเล็กๆตามธรรมชาติที่เราคุ้นเคย สามารถนำมาใช้เป็นเพลงกล่อมนอนลูกได้เช่นกัน เพราะเสียงจากธรรมชาติเหล่านี้ฟังแล้วเคลิปเคลิ้ม ผ่อนคลาย  ไม่นานลูก้อยก็หลับปุ๋ยฝันดี นอกจา่กนี้การฟังเสียงจากธรรมชาติยังช่วยเสริมสร้างทักษะการฟัง ประสาทสัมผัส และเปิดโอกาสให้ลูกเรียนรู้ธรรมชาติรอบตัว ซึ่งเป็นพื้นฐานการเรียนรู้ที่ดีเมื่อโตขึ้น

ขอบคุณคลิปจาก SleepMusicRelaxZone – Relaxing Sleep Music

 

ขอบคุณคลิปจาก 24Relax

ขอบคุณคลิปจาก Dream Sounds

 

ขอบคุณคลิปจาก Best Baby Lullabies

นอกจากการเปิดเพลงกล่อมนอนเพราะๆ แล้ว คุณแม่สามารถสร้างบรรยากาศรอบตัวลูกให้เหมาะสมกับการนอน และฝึกวินัยการนอนตั้งแต่ยังเล็ก เพื่อให้ลูกรู้ว่าเวลาควรเข้านอน และทำตามจนกลายเป็นนิสัย สิ่งเหล่านี้สามารถเริ่มหัดได้ตั้งแต่เป็นทารก เริ่มต้นจากการเตรียมตัวก่อนนอน ทั้งการอาบน้ำแต่งตัวให้สบาย ให้นมก่อนนอนจนอิ่มท้อง พาลูกเข้าห้องนอนก่อนเวลานอนสักครึ่งชั่วโมง อาจเปิดเพลงกล่อม หรือเล่านิทานก่อนนอนให้ฟังเพลินๆ จากนั้นค่อยๆหรี่ไฟสลัว (หากเป็นช่วงกลางวันควรปิดม่านให้ห้องมืดลงสักหน่อย) คุณโอบกอด ลูบตัวเบาๆให้ลูกรู้สึกสบาย ไม่นานลูกพร้อมก็นอนหลับอย่างสบาย สิ่งสำคัญคือคุณแม่ควรวางตารางการนอนให้ชัดเจน  และปฏิบัติตามอย่างสม่ำเสมอ ลูกก็จะเป็นเด็กที่เข้านอนตรงเวลา ไม่นอนดึก นอนยาก และนอนหลับอย่างเพียงพอเพื่อสุขภาพที่ดีของลูกน้อยไปตลอดชีวิต

แหล่งข้อมูล :  www.health.howstuffworks.com  www.parentune.com

บทความน่าสนใจอื่นๆ 
https://www.amarinbabyandkids.com/parenting/baby-parenting-schedule/
https://www.amarinbabyandkids.com/parenting/insufficient-baby-sleep/
https://www.amarinbabyandkids.com/health/accident/baby-died-sleep-stomach/
มดกับตั๊กแตน

นิทานอีสป มดกับตั๊กแตน สอนลูกมีวินัย แบ่งเวลาเป็น ตอนไหนเล่น ตอนไหนเรียน

มดกับตั๊กแตน นิทานอีสป ชื่อดังที่คนทั่วโลกรู้จักดี เรื่องราวสนุกน่าติดตาม คล้ายดูละครโรงเล็ก และยังสอดแทรกข้อคิดดีๆให้คุณพ่อคุณแม่นำไปใช้สอนให้ลูกน้อยมีวินัย รับผิดชอบหน้าที่ รู้จักแบ่งเวลา ตอนไหนเล่น ตอนไหนเรียน เพื่อปูพื้นฐานความฉลาดแบบ TQ (รู้จักคิดไตร่ตรอง) ที่เด็กรุ่นใหม่ควรมี 

โลกของเด็กๆ ทุกวันนี้มีสิ่งกระตุ้นเร้ามากมายทั้งจากกิจกรรมรอบตัว และสื่อบนหน้าจอที่ทำให้สนุกเพลิดเพลินจนลืมหน้าที่ของตัวเอง หากปล่อยนานไปจะกลายเป็นการบ่มเพาะนิสัย “ขาดวินัย” และ “ขาดการยับยั้งชั่งใจ” ทำอะไรตามใจตัวเอง ซึ่งจะส่งผลต่อการเรียน และการใช้ชีวิต ลูกจำเป็นต้องมีความฉลาดคิดไตร่ตรอง (Thinking Quatient) ได้ว่าตอนนี้ควรทำอะไร สามารถอดทนทำสิ่งตรงหน้าได้สำเร็จ โดยไม่ล้มเลิกกลางคัน ขณะเดียวกันต้อง ยุดตัวเองขณะกำลังเล่นสนุกให้กลับมาทำหน้าที่ได้ สองเรื่องนี้เป็นคุณสมบัติสำคัญที่ช่วยให้ลูกประสบความสำเร็จ

สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่สามารถเริ่มฝึกฝนวินัยให้ลูกง่ายๆ เริ่มจากการทำตารางเวลาในแต่ละวัน ซึ่งช่วยสอนให้ลูกรู้จักการแบ่งเวลาว่าเวลาไหน ควรทำอะไร กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนตั้งแต่ตื่นนอนจนถึงเข้านอน มีทั้งสิ่งต้องทำ เช่น การบ้าน อ่านหนังสือ ทำงานบ้าน และสิ่งที่ลูกอยากทำ มีช่วงเวลาให้เป็นอิสระ ได้ดูการ์ตูน เล่นของเล่น หรือทำกิจกรรมตามวัย การจัดตารางเวลาสามารถทำได้ตั้งแต่วัยก่อนเข้าโรงเรียน โดยปรับให้เหมาะกับวัยของลูก ที่สำคัญคือพ่อแม่ต้องเป็นแบบอย่างที่ดี จัดสรรเวลาให้เหมาะสมเช่นกัน

นอกจากนี้ยังมีวิธีปลูกฝังความมีวินัยให้ลูกน้อยแบบอ่อนโยนผ่านการเล่านิทานแฝงคติสอนใจ อย่าง นิทานอีสปเรื่อง มดกับตั๊กแตน ซึ่งผุู้เขียนนำนิสัยของสัตว์ในธรรมชาติมาเปรียบกับนิสัยคน โดย “มด” มาเป็นตัวแทนของคนที่ขยันขันแข็ง มีวินัย ส่วน “ตั๊กแตน” เป็นตัวแทนของคนขี้เกียจรักสบาย เดินเรื่องสนุกสนานให้ลูกเห็นว่าสัตว์แต่ละชนิดมีพฤติกรรมแบบไหน และได้ผลลัพธ์กลับมาอย่างไร 

นิทานอีสป มดกับตั๊กแตน สอนใจให้ลูกมีวินัย ไม่เกียจคร้าน

ณ ท้องทุ่งหญ้าริมบึงใหญ่ ยังมีครอบครัวมดจอมขยันอาศัยอยู่ในโพรงใต้ดิน และมีตั๊กแตนเจ้าสำราญอาศัยอยู่ในขอนไม้เก่าริมบึง ในฤดูร้อนอันอุดมสมบูรณ์ ครอบครัวมดต่างช่วยกันออกหาอาหาร แบกขนอาหารเข้าไปกักตุนไว้ในรัง 

มดกับตั๊กแตน

ส่วนเจ้าตั๊กแตนอารมณ์ดี ออกมาเล่นดนตรีร้องเพลงรับลมโชยอย่างมีความสุข เมื่อเห็นพวกมดทำงานกันคร่ำเคร่ง มันก็เอ่ยถามว่านี่เจ้ามด จะเหน็ดเหนื่อยรีบขนอาหารไปทำไมกัน มานี่มา มานั่งฟังดนตรีเพราะๆ ของข้ากันก่อน” 

มดได้ยินดังนั้นก็ตอบกลับไปว่า “ไม่ละ พวกเราต้องเตรียมสะสมอาหารไว้กินในช่วงฤดูหนาว ช่วงนั้นแห้งแล้ง อากาศหนาวจัด จะออกมาหาอาหารก็ไม่ได้ ว่าแต่เจ้าเถิด มัวแต่ร้องรำทำเพลง ไม่ต้องรีบสะสมอาหารหรือยังไง” 

มดกับตั๊กแตน

เจ้าตั๊กแตนหัวเราะร่า “โอ๊ย ไม่ต้องรีบร้อนหรอกน่า ยังมีเวลาเหลือเฟือ ถ้าเจ้าไม่สนใจ ข้าขอเล่นดนตรีก่อนแล้วกันนะ” ว่าแล้วตั๊กแตนก็เล่นดนตรีและร้องเพลงต่ออย่างสบายใจ

เวลาผ่านไป อากาศเริ่มแห้งลง ลมหนาวเย็นยะเยือกพัดมาก่อนที่หิมะจะโปรยปราย สัตว์น้อยใหญ่ต่างหลบความหนาวอยู่ในรังของตน ขณะที่ครอบครัวมดกำลังพักผ่อนอยู่ในบ้าน และกินอาหารที่สะสมไว้ตั้งแต่ฤดูร้อนกันอย่างเอร็ดอร่อย ก็ได้ยินเสียงเคาะประตูบ้านโพรงใต้ดิน 

มดกับตั๊กแตน

“เอ๊ะ อากาศหนาวเหน็บอย่างนี้ มีใครอุตส่าห์เดินทางมาหาพวกเราถึงที่นะ” มดถามกัน เมื่อเปิดประตูก็เห็นว่าเป็นตั๊กแตนเจ้าสำราญนั่นเอง 

ตั๊กแตนที่เคยสดใสอารมณ์ดี ตอนนี้หน้าซีดเซียว ตัวสั่น ยืนคอตกอยู่หน้าประตู “สหายมดที่แสนดี พอจะมีอาหารแบ่งปันข้าบ้างไหม ข้าหิวเหลือเกิน” ตั๊กแตนวิงวอน 

มดกับตั๊กแตน

มดเอ่ยว่า “อ้าว แล้วเจ้าไม่มีอาหารเก็บสะสมไว้บ้างเลยรึ” 

เมื่อตั๊กแตนส่ายหน้า  มดจึงบอกว่า “เพราะเจ้าเอาแต่เล่นดนตรีร้องเพลงในช่วงฤดูร้อน ไม่ยอมหากินและเตรียมตัวให้พร้อม ข้าช่วยเจ้าไม่ได้หรอกนะ”  

มดกับตั๊กแตน

ว่าแล้วมดก็ปิดประตู เจ้าตั๊กแตนได้แต่ผิดหวังและกลับไปอย่างหิวโหย

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

นิทานเรื่องนี้ มดกับตั๊กแตน สอนให้รู้ว่า…

  คนเราควรรู้จักหน้าที่ของตัวเอง รู้จักแบ่งเวลา ว่าเวลาไหนควรทำอะไร จะได้ไม่ลำบากในภายหลัง เหมือนกับการแบ่งเวลา อย่างเช่น เวลาเรียน เวลาเล่น นอกจากนี้ยังสอนให้ไม่ประมาทและควรเตรียมการล่วงหน้าไว้อย่างรอบคอบเสมอ

คลิปนิทาน นิทานเพลง มดกับตั๊กแตนไทย-อังกฤษ เล่าสนุกสไตล์เด็กสองภาษา

สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่อยากให้ลูกเก่งทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ก็สามารถชวนลูกมาสนุกกับคลิปนิทานจากนิทานมดกับตั๊กแตนได้ แถมดูจบแล้วยังสามารถตั้งคำถามให้ลูกลองเปรียบเทียบนิทานที่แม่เล่า กับคลิปนิทานได้ด้วยว่าต่างกันอย่างไร ตอนจบเหมือนกันหรือเปล่า

คลิปนิทานสองภาษา ไทยและอังกฤษ

ขอบคุณคลิปจาก Thai Fairy Tales

 

 

ขอบคุณคลิปจาก ABCmouse.com Early Learning Academy

 

 

คลิปนิทานเพลงสองภาษา ไทยและอังกฤษ

ขอบคุณคลิปจาก Enfa Smart Club

 

ขอบคุณคลิปจากCocomelon – Nursery Rhymes

เกมจิ๊กซอว์มดกับตั๊กแตน

เสริมความสามารถด้านการอ่านสำหรับเด็กโตให้ดีขึ้นด้วยแบบฝึกหัด อ่านจับใจความและตอบคำถามภาษาอังกฤษ น่าสนใจแค่ไหนมาดูกันเลย

ขอบคุณภาพจาก www.dltk-teach.co

แบบฝึกหัดทักษะการอ่านจากนิทานมดกับตั๊กแตน

 

 

 

ขอบคุณภาพจาก www.education.com

ภาพระบายสีมดกับตั๊กแตน

ใครฟังนิทานมดกับตั๊กแตนแล้วยังไม่จุใจ ลองมาระบายสีเจ้าตั๊กแตนจอมขี้เกียจ กับมดงานแสนขยันกันดีกว่า ทำเสร็จแล้วนำไปติดบอร์ดเป็นแกลอรีงานศิลปะฝีมือลูกน้อยให้ภูมิใจได้อีกต่างหาก  

 

 

. ขอบคุณภาพจาก http://clipart-library.com/

การอ่านนิทานอีสป มดกับตั๊กแตน เป็นเพียงส่วนเสริมที่ช่วยให้ลูกเห็นถึงความสำคัญของการมีวินัยและแบ่งเวลาที่ดี ถ้าคุณพ่อคุณแม่อยากให้ลูกทำตามนั้นได้จริง ต้องฝึกฝนลูกจากกิจวัตรประจำวันด้วย เช่น หัดกินข้าวเอง เข้านอนเป็นเวลา ทำงานบ้าน เป็นต้น  อย่างไรก็ตาม การปูพื้นฐานจิตใจที่ดีจะช่วยให้ลูกทำสิ่งเหล่านี้ได้ไม่ยาก

บทความน่าสนใจอื่นๆ 

นิทานอีสป สิงโตกับหนู นิทานก่อนนอน สอนลูกมีน้ำใจ ไม่ดูถูกใคร

 

12 นิทานอีสป เน้นข้อคิด! “สอนลูกให้ฉลาดทันคน รู้จักเอาตัวรอด”

13 การ์ตูนดิสนีย์ เหมาะกับครอบครัว ดูได้ทั้งเด็กชาย/หญิง

เพลงกล่อมนอน 10 นาที

10 เพลงกล่อมนอน 10 นาที ช่วยให้ลูกหลับปุ๋ยฝันดีตลอดคืน

การนอนในวัยเด็กถือเป็นสำคัญไม่น้อย ยิ่งลูกนอนนานหลับสนิทก็จะเป็นประโยชน์ต่อร่างกายและสติปัญญา ช่วยให้ร่างกายได้พักผ่อน และสร้างโกรทฮอร์โมนที่ส่งผลถึงการเจริญเติบโต สร้างภูมิต้านทานโรค และช่วยให้ลูกน้อยตื่นขึ้นมาอย่างอารมณ์ดี แจ่มใส ไม่งอแง ซึ่งทารกส่วนใหญ่มักจะหลับได้นานขึ้นในช่วงตอนกลางคืนเมื่ออายุเกิน 4-6 เดือน โดยประมาณ 4 เดือน จะเริ่มหลับกลางคืนได้ยาวประมาณ 6 ชั่วโมง และเมื่ออายุ 6 เดือนจะสามารถหลับได้นานถึง 10 ชั่วโมง แต่สำหรับทารกที่มักมีภาวะหลับตื่นสลับกันไปตลอดทั้งวัน หรือบางคนงอแงไม่ยอมนอนง่าย ๆ พาเอาคุณแม่เหนื่อยก่อนนอน ลองเปิด เพลงกล่อมนอน 10 นาที ให้เจ้าตัวน้อยได้ฟังดู เพื่อช่วยกล่อมลูกน้อยให้นอนหลับปุ๋ยง่ายขึ้นภายใน 10 นาที หลับกลางคืนได้ยาวขึ้นช่วยให้เบบี๋ได้นอนอย่างเต็มอิ่ม ตื่นมาอารมณ์ดี กันค่ะ

เพลงกล่อมลูกนอน

10 เพลงกล่อมนอน 10 นาที ช่วยให้ลูกหลับปุ๋ยฝันดีตลอดคืน

ขอบคุณคลิปวิดีโอจาก : เพลงกล่อมเด็๋ก [Sleep Lullaby Music]

ขอบคุณคลิปวิดีโอจาก : เพลงกล่อมเด็๋ก [Sleep Lullaby Music]

ขอบคุณคลิปวิดีโอจาก : เพลงกล่อมเด็๋ก [Sleep Lullaby Music]

 

ขอบคุณคลิปวิดีโอจาก : เพลงกล่อมเด็๋ก [Lullaby BM]

ขอบคุณคลิปวิดีโอจาก : เพลงกล่อมเด็๋ก [Lullaby BM]

 

ขอบคุณคลิปวิดีโอจาก : Trường Lê Văn

ขอบคุณคลิปวิดีโอจาก : สุดยอดเพลงเด็กหลับ [Sleep Lullaby Music]

ขอบคุณคลิปวิดีโอจาก : เพลงกล่อมไทย [Sleep Lullaby Music]

ขอบคุณคลิปวิดีโอจาก : Wonderful Lullabies

ขอบคุณคลิปวิดีโอจาก : Wonderful Lullabies

ข้อดีของการให้ลูกได้ฟังดนตรีตั้งแต่เล็ก

  • เด็กวัยทารกมักมีความพึงพอใจในเสียงดนตรี ทันทีที่ได้ยินเสียงก็จะมีอาการตอบสนองต่อเสียงเพลง ทำให้อาการงอแงหยุดลง และจะทำให้ลูกรู้สึกสงบและผ่อนคลาย
  • ดนตรีช่วยพัฒนาสมอง การฟังเพลงจะมีส่วนช่วยให้สมองซีกซ้ายและซีกขวาทำงานเชื่อมโยงกันได้ดี เพราะเสียงเพลงและจังหวะที่เหมาะสมจะกระตุ้นให้เกิดคลื่นสมอง ที่จะช่วยให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ จินตนาการ และเรียบเรียงเป็นความคิด มีเหตุผล ทั้งยังช่วยพัฒนาระบบต่าง ๆ ภายในสมองของลูกให้มีประสิทธิภาพได้มากขึ้น มีผลต่อกระบวนการคิดทั้งระยะสั้นและระยะยาว ช่วยส่งเสริมให้ลูกมีความเฉลียวฉลาดได้ตั้งแต่เล็ก
  • ช่วยพัฒนาการด้านการฟังตั้งแต่เล็ก ซึ่งเป็นพัฒนาการลำดับแรก ๆ ที่เกิดขึ้นในตัวทารก จากการฟังเสียงเพลงตั้งแต่อยู่ในครรภ์ และจะมีพัฒนาการเพิ่มขึ้นตามแต่ละช่วงวัย
  • ช่วยพัฒนาความฉลาดอารมณ์ เสียงเพลงกล่อมลูกในท่วงทำนองที่เป็นจังหวะช้า ๆ จะช่วยกล่อมเกลาให้เด็กรู้สึกสงบ ลดอาการฉุนเฉียว ขี้โมโห และทำให้ลูกเป็นเด็กเข้าใจง่าย สอนง่าย ส่วนเสียงดนตรีที่มีจังหวะเร็วก็จะช่วยกระตุ้นอารมณ์ให้เด็กรู้สึกตื่นตัว ร่าเริง แจ่มใส เพลิดเพลิน สนุกสนาน อารมณ์ดีได้
  • เสียงดนตรีส่งผลต่อพัฒนาการด้านร่างกาย เช่น การเปลี่ยนแปลงของอัตราการหายใจ อัตราการเต้นของชีพจร ความดันโลหิต การตอบสนองของม่านตา ความตึงตัวของกล้ามเนื้อ การทำงานของปอด และการไหลเวียนของเลือด การได้ฟังดนตรี จึงเป็นเครื่องมือที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการรักษาโรคภัยไข้เจ็บทั้งร่างกายและจิตใจได้ ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นต่อการเจริญเติบโตอย่างมีคุณภาพในอนาคต
  • การฟังดนตรีบรรเลงเบา ๆ ช้า ๆ ไม่มีเสียงร้อง อย่างเพลงกล่อมนอน หรือเพลงคลาสสิค เสียงดนตรีช่วยกล่อมให้เบบี๋นอนหลับสบาย พัฒนาคุณภาพการนอนของลูกน้อย

เคล็ดลับการเลือกเพลงกล่อมลูกให้นอนหลับปุ๋ย

สำหรับการเลือกเพลงกล่อมนอนที่เหมาะกับลูกน้อย คุณพ่อคุณแม่สามารถเลือกเพลงหรือเสียงดนตรีที่มีจังหวะช้า ๆ เบา ๆ นุ่มนวล ฟังสบาย ทำให้ลูกรู้สึกเพลิดเพลินและผ่อนคลาย ซึ่งก็จะช่วยให้ลูกนอนหลับได้ง่ายขึ้น ไม่เพียงแต่เพลงกล่อมเด็กจะช่วยให้เด็กลูกหลับได้ดีขึ้น แต่การได้ฟังเพลงนั้นมีส่วนช่วยกระตุ้นพัฒนาการทางสมองที่ดีและทักษะในด้านต่าง ๆ เช่น ในด้านการฟัง การได้ยิน ช่วยให้ลูกเป็นเด็กอารมณ์ดี

เคล็ด(ไม่)ลับช่วยให้เจ้าตัวน้อยนอนหลับสบาย

การทำให้ลูกน้อยนอนหลับสนิทตลอดคืนเป็นสิ่งจำเป็นและมีประโยชน์ต่อตัวลูกเป็นอย่างมาก นอกจากการเปิดเพลงกล่อมให้ลูกฟังก่อนนอนจะช่วยให้เจ้าตัวน้อยนอนหลับได้ง่ายขึ้น ยังมีเคล็ดลับที่จะช่วยให้ลูกน้อยได้นอนหลับสบายและหลับสนิทยาวนานขึ้นในช่วงกลางคืนได้มากขึ้น ไม่ตื่นมากวนใจคุณแม่ระหว่างคืนได้อีก อาทิเช่น

  • อาบน้ำอุ่นลูกน้อยก่อนนอน การอาบด้วยน้ำอุ่นจะช่วยให้ลูกน้อยสบายตัว ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย และใส่เสื้อผ้าที่เนื้อนุ่ม โปร่งสบายตัว ไม่ระคายเคืองผิว ก็จะช่วยให้ลูกนอนหลับได้สบายขึ้น
  • ให้ลูกดูดนมจนอิ่มก่อนเข้านอน เมื่อกินนมอิ่มจะทำให้ลูกนอนหลับได้อย่างสบายและยาวนานยิ่งขึ้น ไม่ตื่นมางอแงเนื่องจากหิวนม

เพลงกล่อมนอนหลับฝันดี

พาลูกเข้านอนเป็นเวลาและสร้างบรรยากาศก่อนนอน ด้วยการเปิดไฟสลัว ๆ ปรับอุณหภูมิห้องให้พอเหมาะเพื่อให้ลูกน้อยได้เรียนรู้ว่านี่คือเวลานอน และพร้อมที่จะนอนหลับอย่างง่ายมากขึ้น

  • กลิ่นหอมช่วยได้ ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นจากตัวคุณแม่ กลิ่นหอมของน้ำมันหอมระเหย กลิ่นลาเวนเดอร์ หรือกลิ่นของน้ำยาปรับผ้านุ่มบนที่นอน ก็มีส่วนช่วยให้เจ้าตัวน้อยนอนหลับง่ายและสบายขึ้น
  • นวดตัวลูกเบา ๆ ก่อนเข้านอนประมาณ 15 นาที จะช่วยสร้างความผ่อนคลายและทำให้ลูกน้อยหลับได้ยาวถึงเช้า
  • นอกจากเปิดเพลงกล่อมนอนแล้ว คุณแม่ลองสลับมาเล่านิทานก่อนนอนให้ลูกฟัง เปลี่ยนมาฟังเสียงคุณแม่ที่ลูกคุ้นเคยตั้งแต่อยู่ในท้อง จะช่วยสร้างความรู้สึกปลอดภัยและไว้วางใจทำให้ลูกนอนหลับได้ง่ายและสบาย และยังเป็นการปลูกฝังนิสัยรักการอ่านให้ลูกตั้งแต่เล็ก ๆ ด้วย
  • เปิดเพลงกล่อมเบา ๆ ก่อนนอนพร้อมด้วยการสัมผัสเบา ๆ อย่างเช่น การลูบหลัง หน้าอก ตบก้นเบา ๆ สร้างความรู้สึกอบอุ่นที่มีพ่อแม่อยู่ใกล้ ๆ ช่วยให้ลูกน้อยนอนหลับได้ง่ายขึ้น

จะเห็นได้ว่าทั้งการเปิดเพลงกล่อมนอนหรือวิธีที่หลากหลายเพื่อช่วยให้เจ้าตัวน้อยได้นอนหลับง่ายและสบายขึ้น ได้มีชั่วโมงการนอนอย่างเพียงพอเหมาะสมตามวัย จะเป็นประโยชน์ต่อ “การนอน” ของลูกน้อย ที่จะส่งผลต่อพฤติกรรมการนอนที่ดี ส่งผลต่อพัฒนาการทั้งทางร่างกาย พัฒนาสมอง พัฒนาอารมณ์ เยี่ยมไปด้วยนะคะ.

ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก : www.thaikidssong.com

www.thepotential.org

อ่านต่อบทความที่น่าสนใจ คลิก :

20 เนื้อเพลงกล่อมเด็กพัฒนาสมอง ช่วยลูกเรียนรู้เร็ว และอารมณ์ดี

รวม 12 เพลงกล่อมเด็กพัฒนาสมอง เปิดฟังยาวๆ ลูกหลับลึก ความจำดี

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

ฮีโมฟีเลีย

รู้จัก ฮีโมฟีเลีย “โรคเลือดออกง่ายแต่หยุดยาก” โรคทางพันธุกรรมที่รักษาไม่หาย!

ฮีโมฟีเลีย เป็นความผิดปกติที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม ซึ่งส่งผ่านมาจากพ่อแม่สู่ลูก ถึงแม้จะจัดเป็นโรคหายากแต่พ่อแม่อย่านิ่งนอนใจ มาทำความรู้จักโรคนี้กันค่ะ

ฮีโมฟีเลีย  “โรคเลือดออกง่ายแต่หยุดยาก”
มรดกทางพันธุกรรมที่ถ่ายทอดจากพ่อแม่อันตรายสู่ลูก!

“ฮีโมฟีเลีย” (Hemophilia) หรือโรคเลือดไหลไม่หยุด เป็นโรคที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรมจากพ่อแม่ไปสู่ลูกได้ ซึ่งเป็นความผิดปกติเฉพาะในโครโมโซม X ส่งผลให้คนที่เป็นโรคนี้มีอาการเลือดออกง่ายและไหลเป็นเวลานานกว่าคนปกติและหยุดยากเมื่อได้รับบาดเจ็บหรืออาการเลือดออกอาจเกิดขึ้นเอง เนื่องจากเลือดไม่แข็งตัวอย่างที่ควรจะเป็น และจะเป็นอันตรายมากขึ้นหากมีเลือดออกในร่างกายโดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณข้อต่อ เช่น ตามข้อศอก ข้อเท้า หัวเข่า อันนำไปสู่ภาวะเลือดออกอย่างรุนแรง อาจมีภาวะแทรกซ้อน หรือหากควบคุมไม่ได้ก็อาจนำไปสู่ความพิการหรือเสียชีวิตได้ เช่น ภาวะเลือดออกในสมอง ซึ่งเป็นภาวะรุนแรง ที่เป็นสาเหตุทำให้เด็กซึ่งป่วยเป็นโรคฮีโมฟีเลียเสียชีวิตมากที่สุด เป็นโรคที่เกิดขึ้นตั้งแต่กำเนิดและเรื้อรังตลอดชีวิตไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ โดยสัดส่วนมากที่สุดของนี้จะพบในเด็กชาย ส่วนในเด็กผู้หญิงที่มียีนฮีโมฟีเลียแฝงอยู่จะเป็นพาหะของโรค

การถ่ายทอดโรคฮีโมฟีเลียทางพันธุกรรมสาเหตุของโรคเลือดไหลไม่หยุด

โรคฮีโมฟีเลีย เกิดขึ้นเมื่อร่างกายขาดโปรตีนซึ่งเป็นปัจจัยการแข็งตัวของเลือดชนิดใดชนิดหนึ่งไป ซึ่งปกติแล้วเมื่อมีเลือดออกร่างกายจะสร้างกลไกการห้ามเลือดขึ้น โดยอาศัยการทำงานร่วมกันระหว่างการหดตัวของหลอดเลือด การเกาะกลุ่มของเกร็ดเลือด และการเกิดลิ่มเลือด ที่เกิดจากการทำงานร่วมกันของโปรตีนหลายชนิด ในกรณีที่เป็นความผิดปกติที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม ส่งผลให้การถ่ายทอดโรคฮีโมฟีเลียไปสู่ลูกแตกต่างกัน แบ่งเป็น

  • ฮีโมฟีเลีย เอ หรือฮีโมฟีเลีย บี ยีนที่ทำให้เกิดโรคฮีโมฟีเลียอยู่บนโครโมโซม X ในลักษณะยีนด้อย ซึ่งหมายความว่ามักจะมีการส่งผ่านความผิดปกติจากแม่ซึ่งจะถ่ายทอดไปสู่ลูกชาย โดยผู้หญิงที่มียีนบกพร่องจะเป็นพาหะและไม่มีอาการของโรค ผู้ป่วยที่มีอาการจะเลือดไหลไม่หยุด โดยผู้ป่วยฮีโมฟีเลีย เอ จะพบมากที่สุดเกิดจากการขาดโปรตีนจับลิ่มเลือดที่เรียกว่าแฟกเตอร์ 8 รองลงมาคือ ฮีโมฟีเลีย บี ที่เกิดจากการขาดโปรตีนจับลิ่มเลือด ที่เรียกว่าแฟกเตอร์ 9 ซึ่งโรคฮีโมฟีเลียทั้งสองชนิดนี้พบบ่อยในประเทศไทย
  • ฮีโมฟีเลีย ซี เกิดจากการขาดโปรตีนจับลิ่มเลือด ที่เรียกว่าแฟกเตอร์ 11 อาการของฮีโมฟีเลียชนิดนี้สามารถแสดงออกได้ทั้งในเด็กชายและหญิง ในเด็กผู้ชายจะป่วยเป็นโรคฮีโมฟีเลียเมื่อรับยีน X ที่บกพร่องจากแม่ ส่วนเด็กผู้หญิงนั้นรับยีน X ที่บกพร่องมาจากพ่อหรือแม่ก็ได้

ถึงแม้ว่าฮีโมฟีเลียจะเป็นโรคทางพันธุกรรม โดยทั่วไปแล้วผู้ที่ป่วยเป็นโรคนี้ มักมีประวัติคนในครอบครัวป่วยเป็นโรคฮีโมฟีเลีย อย่างไรก็ตาม 1 ใน 3 ของผู้ป่วยที่ไม่เคยมีประวัติคนในครอบครัวป่วยด้วยโรคนี้มาก่อน ก็สามารถเป็นโรคนี้ได้ โดยส่วนใหญ่เกิดจากการกลายพันธุ์ที่เกิดขึ้นเองในยีนที่ผิดปกติ และอาจเกิดจากผู้หญิงที่เป็นพาหะส่งทอดยีนที่ผิดปกติจากรุ่นสู่รุ่นเป็นเวลานานจนแสดงออกในที่สุด

อาการฮีโมฟีเลีย

อาการและสัญญาณเตือนของฮีโมฟีเลีย

อาการของโรคฮีโมฟีเลีย หรือโรคเลือดไหลไม่หยุด ความรุนแรงจะขึ้นอยู่กับชนิดของโรคและปริมาณโปรตีนที่เป็นปัจจัยการแข็งตัวของเลือดที่ขาด โดยอาการทั่วไปคือ อาจมีภาวะเลือดออกและหยุดยากเมื่อได้รับอุบัติเหตุหรือหลังการผ่าตัด ส่วนในผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงมาก อาจมีภาวะเลือดออกตั้งแต่เด็ก โดยเฉพาะตามข้อในร่างกายและบริเวณที่ต้องรับน้ำหนัก หรืออาจรุนแรงจนถึงขั้นมีเลือดออกที่อวัยวะภายใน เช่น ระบบทางเดินอาหาร ทางเดินปัสสาวะ และสมอง เป็นต้น ผู้ป่วยเด็กฮีโมฟีเลียในประเทศไทยเริ่มมีอาการเลือดออกโดยพบร้อยละ 48 เมื่ออายุต่ำกว่า 6 เดือน และเริ่มมีเลือดออกเมื่ออายุ 6-12 เดือน พบร้อยละ 31 อาการที่บ่งชี้ว่ามีโอกาสเป็นฮีโมฟีเลียและอาจมีภาวะแทรกซ้อนอื่นร่วมด้วย อาทิเช่น

  • เกิดรอยช้ำจ้ำเขียวตามลำตัวหรือแขนขาได้ง่าย ซึ่งอาจแสดงอาการได้ในเด็กที่เพิ่งเริ่มคลานและหัดเดิน
  • มีเลือดออกในปริมาณมากผิดปกติเมื่อเกิดอุบัติเหตุ เช่น มีดบาด ทำฟัน ฟันหลุด หรือผ่าตัด
  • มีเลือดออกผิดปกติหลังฉีดวัคซีน
  • มีอาการเลือดออกในข้อกล้ามเนื้อเมื่อได้รับแรงกระทบกระแทกเพียงเล็กน้อย แม้การทำกิจกรรมที่ไม่รุนแรง และทำให้แขนหรือขาบวม เช่น ข้อเข่า รองลงมา คือข้อเท้า ข้อศอก ข้อนิ้วเท้า อาการบวมอาจไปกดทับเส้นประสาททำให้ปวดหรือชาได้
  • เลือดกำเดาไหลไม่มีสาเหตุ
  • ปัสสาวะหรืออุจจาระเป็นเลือด
  • ปวดหัวรุนแรง ปวดคอ อาเจียนบ่อย เหนื่อยล้า เห็นภาพซ้อน ปวดและบวมตามข้อแบบเฉียบพลัน
  • ในทารกแรกเกิดที่คลอดปกติมักจะไม่มีอาการเลือดออก แต่บางรายอาจมีจ้ำเขียวตามลำตัวหรือแขนขาได้ ในส่วนคลอดทารกที่คลอดโดยการทำหัตถการ เช่น ใช้เครื่องดูดหรือใช้คีม จะมีเลือดออกใต้ผิวหนังที่ศีรษะ ซึ่งอาการเลือดออกนี้อาจรุนแรงมากจนซีดได้

หากคุณพ่อคุณแม่สังเกตพบว่าลูกมีอาการเหล่านี้ หรือสงสัยว่าลูกป่วยเป็นโรคฮีโมฟิเลียหรือไม่ ควรรีบพาไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยโรค อาจมีการตรวจเลือดและเนื้อเยื่อเพื่อหายีนที่บกพร่องทางพันธุกรรมหรือยีนที่กลายพันธุ์ และในส่วนของคุณแม่ตั้งครรภ์ สามารถตรวจวินิจฉัยโรคด้วยวิธี 1) การตรวจชิ้นเนื้อรก เมื่ออายุครรภ์ 11-14 สัปดาห์ โดยแพทย์จะตรวจด้วยการดูดเอารกจากผนังมดลูกไปตรวจ 2) การเจาะน้ำคร่ำ เมื่ออายุครรภ์ 15-20 สัปดาห์เพื่อหาระดับความผิดปกติในยีน อย่างไรก็ตาม หากมีประวัติคนในครอบครัวป่วยด้วยโรคนี้ควรตรวจสอบและปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับโรคทางพันธุกรรมก่อนวางแผนมีบุตร เพื่อคัดกรองและวินิจฉัยหาความผิดปกติของยีนก่อนตั้งครรภ์ และดูว่ามีความเสี่ยงที่จะมีลูกเป็นโรคฮีโมฟีเลียหรือไม่ เพื่อลดความเสี่ยงการถ่ายทอดยีนผิดปกติจากพ่อแม่สู่ลูกได้

พ่อแม่ควรดูแลลูกที่เป็นโรคฮีโมฟีเลียอย่างไร?

แม้ว่าโรคฮีโมฟิเลียยังไม่มีการรักษาที่ช่วยให้หายขาดได้ แต่นวัตกรรมการรักษาโรคฮีโมฟีเลียได้ถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ที่ทำให้อุบัติการณ์ของการเกิดความพิการในผู้ป่วยกลุ่มนี้ลดน้อยลงอย่างมาก หากคุณพ่อคุณแม่พบว่าลูกเป็นโรคฮีโมฟีเลีย นอกจากไปพบแพทย์เพื่อดูแลอาการและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดแล้ว วิธีที่คุณพ่อคุณแม่สามารถดูแลเพื่อควบคุมอาการของโรค เช่น

  • การดูแลและเอาใจใส่ลูกเป็นพิเศษในการดำเนินชีวิตประจำวัน เช่น การดูแลรักษาสุขภาพช่องฟัน เพื่อลดโอกาสที่จะได้รับการรักษาด้วยการทำหัตถการในช่องปากซึ่งเสี่ยงต่อภาวะเลือดออก เช่น การถอนฟัน การรักษารากฟัน เป็นต้น
  • ในบางรายสามารถเล่นกิจกรรมและออกกำลังกายได้ปกติ เช่น เดินหรือว่ายน้ำ แต่ก็ยังต้องมีความระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยหลีกเลี่ยงการเล่นกีฬาที่ต้องปะทะกันอย่างฟุตบอล เป็นต้น เพื่อเลี่ยงต่ออุบัติเหตุหรือเหตุการณ์ที่อาจทำให้เลือดออกได้
  • จัดมุมบ้านที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ หรือเลือกเครื่องใช้ในบ้านที่ไม่มีมุมเหลี่ยม
  • ควรให้ลูกพกบัตรประจำตัวที่ระบุว่าเป็นโรคฮีโมฟีเลียพร้อมทั้งระบุกรุ๊ปเลือด กรณีหากเกิดอุบัติเหตุหรือมีเลือดออก เพื่อจะได้รับการช่วยเหลือได้อย่างถูกต้องและทันท่วงที

การที่พ่อแม่ดูแลลูกเป็นอย่างดี ก็จะมีส่วนช่วยให้ผู้ป่วยโรคนี้ดำเนินชีวิตได้อย่างปกติ นอกจากนี้การให้กำลังใจซึ่งกันและกันในครอบครัวมีส่วนสำคัญเป็นอย่างมากที่จะทำให้เด็กได้ความรักและดูแลตัวเองในการชีวิตได้อย่างมีความสุขเหมือนคนทั่วไป.

ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก : www.pobpad.comwww.thaichildcare.com

อ่านต่อบทความที่น่าสนใจ คลิก :

เอ็ดเวิร์ดซินโดรม โรคทางพันธุกรรมในเด็ก

โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง SMA โรคทางพันธุกรรม ที่ต้องรู้จัก! ก่อนคิดมีลูก

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

การ์ตูนดิสนีย์

9 การ์ตูนดิสนีย์ มาใหม่!! ที่เด็กควรดู ฉบับล่าสุดปี 2021

บริการสตรีมมิ่งใหม่ล่าสุดจาก Disney+ Hotstar ช่วยให้เด็ก ๆ ที่ต้องอยู่บ้านนาน ๆ ได้มีโอกาสได้ดู การ์ตูนดิสนีย์ ใหม่ ๆ หลายเรื่อง มาดูกันว่ามีเรื่องไหนที่ห้ามพลาด

9 การ์ตูนดิสนีย์ มาใหม่!! ที่เด็กควรดู ฉบับล่าสุดปี 2021

การ์ตูนดิสนีย์ การ์ตูนที่ไม่เคยล้าสมัยแม้จะเป็นการ์ตูนที่ออกฉายตั้งแต่ปี 1937 แต่เราก็ยังกลับมาดู และให้ลูกดูได้เสมอ โดยที่ไม่รู้สึกว่าเรื่อง ๆ นั้น ล้าสมัย หรือไม่สนุกเลย ปัจจุบัน วอลต์ดิสนีย์สตูดิโอ ได้ผลิตการ์ตูนมาให้เราได้ดูกันมาแล้วกว่า 60 เรื่องด้วยกัน ซึ่งนอกจากการ์ตูนเกี่ยวกับเจ้าหญิงดิสนีย์แล้ว ยังมี การ์ตูนดิสนีย์ ในด้านอื่น ๆ ที่ดูสนุกไม่แพ้กัน ทีมแม่ ABK ขอเลือกมา 20 เรื่อง ที่เหมาะที่จะดูด้วยกันทั้งครอบครัว ไม่ว่าจะมีลูกชายหรือลูกผู้หญิง ก็ดูด้วยกันได้ แถมดูแล้วยังมีข้อคิดดี ๆ มาสอนใจเด็ก ๆ ได้อีกด้วย

โดยในปีนี้ทางดิสนีย์ก็ได้เปิดบริการสตรีมมิ่ง Disney+ Hotstar ให้เราได้ดู หนังดิสนีย์ และให้เด็ก ๆ ได้ดู การ์ตูนดิสนีย์ กันได้แบบจุใจจากที่บ้าน และนอกจากจะมีโอกาสได้ดูการ์ตูนดิสนีย์เรื่องเก่า ๆ แล้ว ค่ายนี้ก็ยังเอาใจคนดูโดยการผลิต การ์ตูนดิสนีย์ ใหม่ ๆ มาให้เราได้สนุกกันอีกด้วย มาดูกันว่ามี การ์ตูนเรื่องไหนดูสนุก น่าดู กันบ้าง

1. Raya and the Last Dragon

การ์ตูนดิสนีย์สนุกๆ
การ์ตูนดิสนีย์สนุกๆ

มนุษย์และมังกรอยู่ร่วมกันอย่างสันติในคูมันตรา จนกระทั่งความชั่วร้ายเข้ามาปกคลุมเมือง เจ้าหญิงรายาจึงไล่ล่ามังกรตัวสุดท้ายเพื่อหยุดยั้งพลังชั่วร้ายและรวมดินแดนเป็นปึกแผ่น

ปีที่สร้าง 2021
แนว ครอบครัว
เรต PG
ความยาว 1 ชั่งโมง 47 นาที

2. Soul

การ์ตูนดิสนีย์
Soul

โจ ครูสอนดนตรีชั้นประถมซึ่งชีวิตไม่เป็นไปตามที่เขาคาดหวังแต่เมื่อเขาเดินทางไปยังดินแดนอื่นเพื่อช่วยให้บางคนค้นพบความหลงใหลของตัวเองในไม่ช้าเขาก็ได้เรียนรู้ความหมายที่แท้จริงของการมีจิตวิญญาณ

ปีที่สร้าง 2020
แนว Comedy
เรต PG
ความยาว 1 ชั่งโมง 40 นาที

3. Luca

Luca หนังดิสนีย์
Luca หนังดิสนีย์

เรื่องราวการก้าวผ่านช่วงวัยของสองหนุ่ม ลูก้าและอัลแบร์โต้ ในฤดูร้อน ที่จะตราตรึงในความทรงจำ ท่ามกลางบรรยากาศของเมืองริมทะเลในอิตาลี

ปีที่สร้าง 2021
แนว Family
เรต PG
ความยาว 1 ชั่งโมง 35 นาที

4. Toy Story 4

Toy Story4
Toy Story4

เมื่อของเล่นชิ้นใหม่ที่มีชื่อว่าฟอร์คกี้มาร่วมทีมกับวู้ดดี้และผองเพื่อน การออกเดินทางของเพื่อนเก่าและเพื่อนใหม่ทำให้เห็นว่าโลกใบนี้มีขนาดใหญ่เพียงใดสำหรับของเล่น

ปีที่สร้าง 2019
แนว Kids
เรต All
ความยาว 1 ชั่งโมง 40 นาที

5. Frozen II

FrozenII
FrozenII

ทำไมเอลซ่าถึงเกิดมาพร้อมพลังวิเศษ คำตอบของคำถามนี้กำลังส่งเสียงเรียกหา เอลซ่ากับอันนาและผองเพื่อนจึงต้องออกเดินทางสู่ดินแดนที่ไม่รู้เพื่อไขปริศนาและช่วยอาณาจักรอีกครั้ง

ใครว่า Frozen 2 เป็นหนังเจ้าหญิง เด็กผู้หญิงเท่านั้นที่จะดูได้ ขอบอกว่านี่เป็นหนังในดวงใจของเด็กผู้ชายหลายคนเลยด้วยซ้ำ นั่นเป็นเพราะเนื้อเรื่องของการ์ตูน Frozen 2 นั้นเป็นเรื่องราวของการผจญภัยสุดแสนอันตรายของราชินีหิมะ เอลซ่า และน้องสาว แอนนา ในป่าต้องมนตร์ สถานที่ที่เก็บซ่อนคำตอบของอดีตทั้งหมดไว้ หนังเจ้าหญิงดิสนีย์ ในยุคนี้ไม่ได้เน้นที่ความรักระหว่างเจ้าชายและเจ้าหญิง แต่เน้นที่ความรักระหว่างพี่น้อง และการต่อสู้ ความกล้าหาญ ที่ไม่แบ่งหญิงชาย เรื่องนี้จึงเป็น การ์ตูนดิสนีย์ อีก 1 เรื่องที่เหมาะที่จะดูกันทั้งครอบครัว

ปีที่สร้าง 2019
แนว Musical
เรต All
ความยาว 1 ชั่งโมง 44 นาที

6. Lady and the Tramp

การ์ตูนดิสนีย์
การ์ตูนดิสนีย์

เลดี้ สุนัขพันธุ์ค็อกเกอร์ สแปเนียล ที่ได้รับการดูแลอย่างดีด้วยความรัก มาพบกับไอ้ตูบแทรมพ์ สุนัขจรจัดจากอีกฟากของเมือง ผู้ทำให้เธอได้เรียนรู้ว่าการท่องไปมาโดยไร้สายจูงนั้นมีความหมายอย่างไร

ปีที่สร้าง 2019
แนว Romance
เรต All
ความยาว 1 ชั่งโมง 42 นาที

7. Dumbo

Dumbo
Dumbo

ดัมโบ้ ลูกช้างสุดที่รักของคุณนายจัมโบ้มีหูลู่ขนาดมหึมา ด้วยแรงสนับสนุนของเพื่อนอย่างทิโมธี ดัมโบ้จึงเรียนรู้ว่าหูอันแสนงดงามของเขาทำให้เขาพิเศษและไม่เหมือนใคร

ปีที่สร้าง 2019
แนว Kids
เรต PG
ความยาว 1 ชั่งโมง 52 นาที

8. Incredibles 2

การ์ตูนดิสนีย์
การ์ตูนดิสนีย์

ครอบครัวซูเปอร์ฮีโร่อันเป็นที่รักกลับมาผจญภัยอีกครั้ง มิสเตอร์อินเครดิเบิ้ลถูกทิ้งให้เลี้ยงลูกน้อย ส่วนภรรยาออกไปปกป้องโลก แต่ครอบครัวกลับต้องลำบากเมื่อวายรายที่ทรงพลังตัวใหม่มาถึง

ปีที่สร้าง 2018
แนว Kids
เรต PG
ความยาว 1 ชั่งโมง 59 นาที

9. Wreck-it Ralph: Ralph Breaks the Internet

การ์ตูนดิสนีย์น่าดู
การ์ตูนดิสนีย์น่าดู

ราล์ฟ วายร้ายในวิดีโอเกมกับวาเนโลปี้ วอน ชวีทซ์เดินทางเข้าสู่โลกอินเทอร์เน็ตที่กว้างใหญ่เพื่อตามหาชิ้นส่วนทดแทนมากอบกู้ชูการ์รัช อาณาจักรเกมของวาเนโลปี้

ปีที่สร้าง 2018
แนว Kids
เรต PG
ความยาว 1 ชั่งโมง 53 นาที

 

นอกจาก การ์ตูนดิสนีย์เรื่องใหม่ทั้ง 9 เรื่องที่ทาง ทีมแม่ ABK ได้แนะนำแล้ว ยังมี การ์ตูนดิสนีย์สนุก ๆ อีกหลายเรื่องที่เหมาะที่จะดูกันทั้งครอบครัวอีกมากมาย ใครว่าการอยู่หน้าจอเป็นเรื่องที่ไม่ควรทำสำหรับเด็ก? การดูทีวีกันทั้งครอบครัว การได้ใช้เวลาร่วมกัน เป็นอีก 1 วิธีที่จะสร้างความสัมพันธ์ดี ๆ ต่อกัน ดังนั้น มาดูการ์ตูนกับลูกเถอะค่ะ

อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

5 หนังดิสนีย์ ที่ทำไมคุณแม่ควรให้ลูกดูก่อนโต?

ไอเดีย! ตั้งชื่อลูก ตามหนัง และการ์ตูนดังกว่า 50 ชื่อ

มาแล้วจ้า! 25 การ์ตูนเสริมพัฒนาการ เสริมทักษะ สร้างความรู้ คู่ไปกับความสนุก

12 การ์ตูน Netflix สำหรับเจ้าตัวเล็ก ดูสนุกอยู่กับบ้านเพลินๆ ทั้งครอบครัว

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : Disney+ Hotstar

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

หนังดิสนีย์

5 หนังดิสนีย์ ที่ทำไมคุณแม่ควรให้ลูกดูก่อนโต?

หนังดิสนีย์ เชื่อว่าคุณแม่เคยมีประสบการณ์โตมากับหนังจากค่ายนี้ ตัวการ์ตูนที่เปรียบเสมือนคนในครอบครัว มาส่งต่อความประทับใจดี ๆ เหล่านั้นให้ลูกเรากันเถอะ

5 หนังดิสนีย์ ที่ทำไมคุณแม่ควรให้ลูกดูก่อนโต

เมื่อไม่นานมานี้ ทางฝากฝั่งอังกฤษ จากองค์กร อินทู ฟิล์ม (Into Film)ได้มีโครงการรณรงค์ชื่อ “The must see movie before you grow up” หรือ หนังที่คุณควรดูก่อนโต ได้เผยรายชื่อภาพยนตร์สำหรับเด็กจำนวน 50 เรื่อง ที่ผู้ปกครองควรให้บุตรหลายได้ชมก่อนอายุ 11 ปี โดยระบุว่า เนื้อหามีประโยชน์ต่อพัฒนาการและความคิดสร้างสรรค์ของเด็ก และช่วงอายุที่เหมาะสมจะชม คือ ในช่วงก่อนถึง 11 ปี และยังเป็นภาพยนตร์ที่เหมาะสำหรับรับชมพร้อมกันทั้งครอบครัว โดยในจำนวน 50 เรื่องดังกล่าวมีภาพยนตร์ดิสนีย์ หนังจากค่ายที่คนไทยรู้จักกันเป็นอย่างดีติดอันดับอยู่หลายเรื่อง เพราะเชื่อว่าคุณแม่ ๆ ทั้งหลายคงมีโอกาสเติบโตมาพร้อมกับหนังของทางค่ายดิสนีย์ พิกซ่าร์ สตูดิโอ (Disney Pixar Studio) หนังการ์ตูนภาพสวย ให้แง่คิดแก่เด็ก ๆ จนครั้งหนึ่งเราคงเคยคิดว่าตัวการ์ตูนคาแรกเตอร์เหล่านั้นมีตัวตนจริง ผ่านตัวตุ๊กตุ่น ตุ๊กตา และของเล่นทั้งหลายที่คุณแม่คุณพ่อสมัยเด็กเคยสะสมไว้

สนใจดูข้อมูลเพิ่มเติม 50 อันดับหนังควรดูได้ที่ Intofilm.org

ทาง Amarin Baby&Kids จึงได้คัดเลือก หนังดิสนีย์ หนังจากค่ายคุณภาพดังกล่าว ที่เป็นหนังที่มีคำสอนดี ๆ ไว้สอนลูกน้อยมา 5 เรื่อง หนังที่ได้เข้าฉายในประเทศไทย และมีเนื้อหาสนุก พร้อมแง่คิดที่สอดคล้องกับสังคมไทย มาให้คุณแม่ได้เป็นตัวเลือกที่จะหามารับชมไปพร้อม ๆ กับลูกน้อย หรือทางที่ดีควรเรียกมาร่วมชมกันทั้งครอบครัว ก็จะยิ่งเพิ่มคุณค่าของการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ สานสัมพันธ์ในครอบครัว ผ่านหนังดี ๆ สักเรื่องอีกด้วย

5 หนังจากค่ายดิสนีย์ ที่ควรให้ลูกดูก่อนโต

        1. UP ปู่ซ่าบ้าพลัง (2009)

หนังดิสนีย์ ปู่ซ่าบ้าพลัง
หนังดิสนีย์ ปู่ซ่าบ้าพลัง

คุณเคยเห็นภาพโปรโมตหนังรูปบ้านเก่า ๆ ที่ติดลูกโป่งสวรรค์ลอยไปพร้อมคุณปู่คนหนึ่งหรือเปล่า นั่นคือเรื่องราวความฝันของ คุณปู่คาร์ล เฟรดริคเซ่น กับภรรยาเอลลี่ ที่ชื่นชอบเรื่องราวการผจญภัยตามแบบคนดัง ชาร์ล มันท์ซ แต่ด้วยเหตุความจำเป็นของโลกแห่งความเป็นจริงทำให้พวกเขาไม่สามารถทำตามความฝันได้ จนแอลลี่จากไป คาร์ลในวัยรุ่นปู่จึงตัดสินใจทำตามความฝันของภรรยาให้เป็นจริงโดยมีบ้านเป็นตัวแทนเธอ ออกเดินทางโดยลูกโป่งสวรรค์ไปผจญภัยตามรอยคนดัง แต่การผจญภัยครั้งนี้กลับทำให้เขาได้เจอเรื่องราวไม่คาดฝันร่วมกับเจ้าหนูรัสเซล เจ้าหนูลูกเสือสำรองที่บังเอิญติดอยู่ในบ้านนั้น และได้ค้นพบสัจธรรมความเป็นจริงมากมายที่ทำให้เขาต้องกลับมานั่งทบทวนแนวคิดชีวิตใหม่ จะสนุกขนาดไหนนั้นคงต้องไปหามาชมกัน

ตัวอย่างข้อคิดสอนลูกจากหนัง UP

  • การผจญภัยไม่ใช่แค่จุดหมายปลายทาง แต่หากเป็นเรื่องระหว่างทาง และความสัมพันธ์กับผู้คนรอบข้างต่างหาก ผ่านแนวคิดระหว่างคาร์ลที่มองแต่จะไปให้ถึงจุดหมายโดยลืมมองความงามระหว่างทางแบบรัสเซล
  • การผจญภัยของชีวิตไม่มีวันจบ มันเริ่มขึ้นใหม่ได้ในทุกเวลา และทุกช่วงวัยของชีวิต เหมือนที่แอลลี่บอกคาร์ลไว้ในสมุดบันทึก “ถึงเวลาเริ่มผจญภัยเรื่องใหม่”

2. The Lion King (2019)

หนังดิสนีย์ The Lion King
หนังดิสนีย์ The Lion King

เรื่องราวของสิงโตแห่งผาทระนง เมื่อเจ้าป่ามูฟาซาถูกฆ่าตาย และสการ์ น้องชายผู้ริษยา โยนความผิดนี้ให้กับซิมบ้า ลูกชายของมูฟาซา ทำให้ซิมบ้าต้องหนีอดีตอันแสนเจ็บปวดและยึดถือคติการดำรงชีวิตใหม่คือ ฮากูนา มาทาทา กับเพื่อนรักต่างสายพันธุ์สองตัว แต่เขาต้องกลับมาช่วยบรรดาฝูงสิงโตที่อดอยากจากการปกครองของสการ์ ซิมบ้าจะสามารถทวงบัลลังก์คืนได้หรือไม่ มาร่วมลุ้นไปกับหนัง The Lion King ฉบับภาพ CG สมจริง โดยยังคงเนื้อเรื่องเดิมจากฉบับการ์ตูนอมตะสมัย ปีพ.ศ. 2537

ตัวอย่างข้อคิดสอนลูกจากหนัง The Lion King

  • ความอบอุ่น และความสัมพันธ์ที่ดีของครอบครัว เพื่อน และคนรอบข้าง สามารถเป็นพลังให้เราสามารถลุกขึ้นต่อสู้กับปัญหาใหญ่ ที่คอยกัดกินจิตใจเราได้ เมื่อเรารู้ว่าไม่ได้สู้อยู่คนเดียว เหมือนดั่งซิมบ้า และผองเพื่อน
  • คติ ฮากูนา มาทาทา ปรัชญาสอนใจเวลาต้องเผชิญกับเรื่องหนัก ๆ ในชีวิต การใช้ชีวิตแบบไร้กังวล วางปัญหาไว้ก่อน เมื่อมีพลังทั้งกาย และใจค่อยกลับมาเผชิญหน้าแก้ปัญหาต่อไป ไม่จมอยู่กับความทุกข์

3. Toy Story

Toy_Story
Toy_Story

ทอย สตอรี่ ภาพยนตร์มหากาพย์การ์ตูนแอนิเมชัน เรื่องยาวเรื่องแรกที่สร้างด้วยคอมพิวเตอร์ทั้งหมด และเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกของทางพิกซาร์อีกด้วย ปัจจุบันมีทั้งหมด 4 ภาค เป็นเรื่องราวของ นายอำเภอวู๊ดดี้ ของเล่นหนุ่มคาวบอย ในฐานะของเล่นตัวโปรดของ แอนดี้ เด็กชายวัย 6 ขวบ จึงทำให้เขากลายเป็นหัวหน้าบรรดาของเล่นทั้งหลายของบ้าน เรื่องราวการผจญภัยของวู๊ดดี้ ทำให้เขาเจอะเจอเรื่องราวมากมาย รวมทั้งได้เพื่อนใหม่อีกด้วย โดย

ภาคแรก เป็นการพบเจอกับของเล่นชิ้นใหม่น่าตื่นตาตื่นใจของ แอนดี้ นั่นคือ นักบินอวกาศ บัซ ไรซ์เยีย ทำให้วู๊ดดี้เกิดความกังวลว่าเขาจะไม่ได้เป็นของเล่นชิ้นโปรดอีกต่อไปหรือไม่ แต่เรื่องราวก็จบลงด้วยมิตรภาพที่สวยงามตามแบบฉบับของดิสนีย์

ภาคสอง เป็นการผจญภัยของวู๊ดดี้ที่ทำให้เขาต้องออกไปเผชิญกับเหตุการณ์นอกบ้านแอนดี้ แต่มันทำให้เขาทราบเรื่องราวความเป็นมาของตัวเอง ได้เจอเพื่อนใหม่อย่าง สาวน้อยคาวบอยเจสซี่ แล้ววู๊ดดี้จะได้กลับมาที่บ้านแอนดี้อีกครั้งไหม เรามาตามลุ้นกัน

ภาคสาม เป็นเรื่องราวเมื่อแอนดี้โตอายุ17 ปีที่ไม่ใช่วัยที่ต้องการเล่นของเล่นอีกต่อไป แล้วบรรดาเหล่าของเล่นอย่างวู๊ดดี้จะเผชิญชะตากรรมเช่นไร เขาจะแก้ปัญหานี้ได้อย่างไรต้องติดตามชมในภาคนี้

ภาคสี่ เมื่อวู๊ดดี้และผองเพื่อนได้กลับมามีชีวิตใหม่ในบ้านเด็กคนใหม่ บอนนี่ แต่การผจญภัยของนายอำเภอวู๊ดดี้ไม่มีที่สิ้นสุด และการกลับมาพบกับเพื่อนเก่าอีกครั้ง มาร่วมลุ้นไปกับการตัดสินใจครั้งสำคัญของวู๊ดดี้ และการลาจากที่จะเป็นใครนั้น คงต้องลองชมกันดู

ตัวอย่างข้อคิดสอนลูกจากหนัง Toy Story

  • ข้อคิดเรื่องเพื่อน ถือเป็นจุดเด่นของหนังเรื่องนี้ ความรัก ความเชื่อใจ ความไม่อิจฉากัน มีข้อคิดดี ๆ ที่คุณแม่จะหยิบยกมาสอนลูกได้ในหลาย ๆ ตอนเลยทีเดียว เพื่อนที่แท้จริงจะอยู่เคียงข้างเสมอ
  • สอนให้รู้จักรัก และถนอมของเล่น เพราะทุกคน ทุกสิ่งก็มีหัวใจ การที่ลูกสามารถจินตนาการได้ว่าของเล่นมีชีวิต จะทำให้เขารู้จักรัก และดูแลข้าวของของตัวเองได้ดียิ่งขึ้น
  • ทุกคนต่างมีคุณค่าในแบบของตัวเอง หลากหลายตอนที่จะเห็นได้ว่าวู๊ดดี้เริ่มกังวลว่าจะไม่ได้เป็นของเล่นชิ้นโปรด แต่สุดท้ายมันทำให้เขาเรียนรู้ได้ว่าทุกคนมีคุณค่าในแบบฉบับของตนเอง ของเล่นทุกชิ้นไม่ว่าจะเล็ก หรือใหญ่ ทำจากวัสดุอะไรก็สามารถเป็นของเล่นที่ทำให้เด็ก ๆ สนุกได้

4. Inside Out(2015)

มหัศจรรย์อารมณ์อลเวง
มหัศจรรย์อารมณ์อลเวง

หนังการ์ตูนแอนิเมชันของดิสนีย์เกี่ยวกับชีวิตของเด็กหญิง “ไรลีย์” วัย 11 ปี ที่นับว่าเป็นช่วงวัยหัวเลี้ยวหัวต่อ ก้าวแรกจากการพัฒนาจากวัยเด็กเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ เพียงแค่การก้าวผ่านช่วงวัยก็เป็นสิ่งที่หนักหนาสำหรับเด็กน้อยคนหนึ่งแล้ว แต่ไรลีย์ยังต้องเผชิญกับสภาพแวดล้อมในชีวิตที่เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ การย้ายบ้าน ย้ายที่เรียน การต้องเริ่มสร้างความสัมพันธ์กับเพื่อนใหม่ในวัยที่สังคมเพื่อนเป็นสิ่งสำคัญ ทำให้เกิดความยุ่งยากขึ้นมาในจิตใจของเด็กน้อยอย่างมาก โดยในหนังได้แสดงให้เราเห็นถึงอารมณ์ต่าง ๆ ของมนุษย์เวลาเจอกับเหตุการณ์ต่าง ๆ ผ่านตัวการ์ตูนเพื่อให้เด็ก ๆ เข้าใจได้ง่าย ๆ

อารมณ์โกรธ ในชื่อ Anger (ฉุนเฉียว)

อารมณ์กลัว ในชื่อ Fear (กลั๊วกลัว)

อารมณ์สุข ในชื่อ Joy (ลั้ลลา)

อารมณ์รังเกียจ ในชื่อ Disgust (หยะแหยง)

อารมณ์เศร้า ในชื่อ Sadness (เศร้าซึม)

มาร่วมกันเชียร์ว่าไรลีย์จะสามารถผ่านเหตุการณ์สำคัญในชีวิตไปได้อย่างไร ต้องใช้อารมณ์ไหนบ้าง

ตัวอย่างข้อคิดสอนลูกจากหนัง Inside Out

  • สอนลูกให้รู้จักอารมณ์ ในปัจจุบันคุณหมอมักจะแนะนำให้แม่คอยสอนให้ลูกเห็นถึงอารมณ์ของตัวเอง เพื่อให้รู้เท่าทันอารมณ์และจะได้จัดการกับพฤติกรรมที่จะเกิดขึ้นได้ เรื่อง Inside Out จึงเป็นตัวช่วยที่ดีที่จะทำให้การสอนเรื่องการรับรู้อารมณ์ของตัวเองกับเด็กเล็กง่ายขึ้น เช่น คุณแม่อาจจะถามลูกว่าตอนนี้อารมณ์ของหนูกำลังเป็นตัวละครไหน สีอะไร เพราะในเรื่องตัวละครทางอารมณ์แต่ละตัวจะถูกอธิบายผ่านทางสีที่แตกต่างกันด้วย ซึ่งเมื่อเด็กเห็นภาพสิ่งที่ยาก ๆ ผ่านตัวละครการ์ตูนที่มีคาแรกเตอร์ที่ชัดเจนแล้ว เขาก็จะสามารถเข้าใจเรื่องเหล่านั้นได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
  • สอนให้เข้ารับรู้ว่า ทุกอารมณ์มีคุณค่ามีหน้าที่ของมัน โดยปกติสังคมไทยมักจะชอบให้เด็กแสดงออกแต่อารมณ์แห่งความสุข สนุกสนาน มักจะให้เก็บกดอารมณ์เศร้า เวลาร้องไห้ คุณแม่ก็มักจะดุเสมอให้เงียบ ห้ามร้อง โดยที่เด็กยังไม่ได้จัดการกับอารมณ์ และระบายความรู้สึกเศร้าของตัวเองผ่านการแสดงออกมาเลย ทำให้ลูกอาจเกิดความคับข้องใจ และเก็บกด หนังเรื่องนี้ช่วยให้ทั้งลูกและคุณแม่ตระหนักถึงว่า ทุกอารมณ์ของมนุษย์มีประโยชน์ และหน้าที่ในตัวเอง เหมือนอย่างที่ตัวละคร Joy ลั้นลา พบความสำคัญของเศร้าซึม

5. Frozen

frozen
frozen

ภาพยนตร์การ์ตูนยอดนิยมที่เด็ก ๆ ในยุคนี้ต่างรัก และรู้จักกันดี หรือที่เด็ก ๆ เรียกติดปากว่า เจ้าหญิงเอลซ่า ที่ปัจจุบันมีอยู่ 2 ภาค เป็นเรื่องราวของเจ้าหญิง 2 สาวผู้ครองอาณาจักรเอเรนเดล คนโต หรือ เอลซ่า ที่มีพลังพิเศษ เธอมีพลังแห่งความเย็นอยู่กับตัว ที่แม้แต่ตัวเองก็ไม่เข้าใจ และไม่รู้วิธีควบคุมมัน และอันนา น้องสาวผู้ร่าเริง เมื่อพ่อแม่ของทั้งสองเสียไปจากอุบัติเหตุ ทำให้ทั้งคู่ต้องคอยดูแลอาณาจักร แต่ด้วยความที่เอลซ่าคิดว่าพลังวิเศษของเธออันตรายทำให้เธอหนีไป เป็นเหตุให้น้องสาว อันนาต้องไปตามพี่สาวกลับมา ความรัก ความสัมพันธ์ของพี่น้องจะสามารถทำให้เหตุการณ์คลี่คลายไปได้หรือไม่ คงต้องมาช่วยลุ้นกัน ส่วนในภาคที่ 2 นั้นเป็นเรื่องราวที่จะบอกกับคนดูว่าพลังวิเศษของเอลซ่ามาจากไหน และเธอต้องพบกับความจริงอันแสนเจ็บปวดของเรื่องราวในอดีตที่เป็นตำนานที่พ่อและแม่ต่างภาคภูมิใจในตระกูล แต่เมื่อเหตุการณ์ไม่ได้เป็นอย่างที่เธอรับรู้มา เอลซ่า และอันนาจะทำอย่างไรเพื่อช่วยอาณาจักรของพวกเธอให้รอดพ้นจากภัยร้ายครั้งนี้

ตัวอย่างข้อคิดสอนลูกจากหนัง Frozen

  • ความรักใคร่ปรองดองของพี่น้อง นับว่าเป็นตัวอย่างที่ดีของการที่จะให้ลูก ๆ ในครอบครัวที่มีพี่น้องได้เห็นถึงความสำคัญของการรักกันของพี่น้อง จากความรักของเอลซ่า และอันนาที่สามารถนำความรักของทั้งคู่มาใช้เป็นอาวุธเอาชนะสิ่งชั่วร้ายได้
  • จงเอาชนะความกลัว สักวันลูกคงต้องได้เผชิญกับปัญหาที่เขากลัว ให้เขานำความกล้าหาญของเจ้าหญิงเอลซ่ามาเป็นตัวอย่างในการสร้างพลังให้กับตัวเองเพื่อเอาชนะความกลัวนั้นให้ได้

อ่านจบได้แง่คิดดี ๆ สำหรับสอนลูกแล้ว คุณแม่อย่ามัวรอช้า รีบไปหา หนังดิสนีย์ ที่ยังมีอีกหลายเรื่องที่น่าสนใจ มารับชมพร้อมกันทั้งครอบครัวดีกว่า สานสายใยรักแห่งครอบครัวด้วยหนังสนุก ๆ สักเรื่องก็ช่วยให้บรรยากาศระหว่างพ่อแม่ และลูกสุขสันต์ไม่ใช่เล่น

ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก Walt Disney Picture / eraltd.org

อ่านบทความดี ๆ ต่อ คลิก

อยู่บ้านแต่ไม่หยุดเรียนรู้! รวมลิงค์องค์กรใจดีแจกฟรี แหล่งเรียนรู้ออนไลน์ สำหรับเด็ก

5 ไอเดีย…กิจกรรมเล่นกับลูกที่บ้าน สนุก ไม่น่าเบื่อ

แนะ!12 กิจกรรมให้ลูกทํา สุดเจ๋ง เมื่อต้องอยู่บ้านหนีโควิด19+ปิดเทอมยาว

8 บทเรียนพ่อแม่จากหนัง The Lion King

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

เพลงกล่อมนอนไทย

10 เพลงกล่อมนอนไทย เนื้อหากินใจ ฟังสบาย ได้คติสอนใจลูก

เพลงกล่อมนอนไทย ที่มีมาตั้งแต่สมัยปู่ย่าตายายเต็มไปด้วยเสน่ห์อันน่าหลงใหล ทั้งภาษาสวยงาม ทำนองฟังสบายสอดแทรกคำสอนดีๆ ช่วยคุณแม่หัดร้องตามให้ฟังเวลาเข้านอน ช่วยให้ลูกรู้สึกผ่อนคลาย หลับง่ายได้ทุกวัน

เพราะโลกใบใหม่ไม่ใช่สิ่งที่ทารกแรกเกิดคุ้นเคย เด็กหลายคนรู้สึกหวาดกลัว กังวล และร้องโยเยไม่ยอมนอนง่ายๆ การร้องเพลงกล่อมนอนแบบไทยๆ ด้วยเสียงอ่อนโยนของคุณแม่ช่วยให้สบายใจมากขึ้น และหลับสนิทมากกว่านอนเพียงลำพัง ยิ่งลูกนอนหลับสนิทเท่าไร สมองและร่างกายสามารถพัฒนาได้มากขึ้นเท่านั้น นอกจากนี้เนื้อเพลงที่บอกเล่าถึงสิ่งรอบตัว และความรู้สึกรักห่วงใยของแม่ที่มีต่อลูก ได้ฟังเมื่อไรก็รู้สึกอบอุ่นหัวใจทุกครั้ง

 เพลงกล่อมนอนไทย เนื้อหาดี ทำนองเพราะ กล่อมลูกหลับง่าย

ทุกวันนี้เพลงกล่อมนอนไทยมีให้เลือกทั้งแบบเพลงกล่อมลูกโบราณที่ร้องกันมาตั้งแต่รุ่นคุณทวด กับเพลงกล่อมลูกที่แต่งขึ้นใหม่ ซึ่งมีเนื้อหาแตกต่างกันตามยุคสมัย แต่ไม่ว่าจะเป็นเพลงกล่อมแบบไหนก็น่าฟัง แถมยังเก็บไว้เป็นเพลงประจำตัวสอนลูกให้ร้องตามตอนโตได้อีกด้วย ทีมแม่ABK ได้รวบรวม 10 เพลงกล่อมนอนไทยเนื้อหาดี ทำนองไพเราะ (มีคลิป) มาให้คุณแม่ฝึกร้องให้ลูกๆ ฟังกัน จะมีเพลงไหนที่เคยรู้จักบ้างไหม ตามมาดูกันเลย

10 เพลงกล่อมนอนไทย ๆ ฟังเพลิน ลูกหลับฝันดี

เพลงกล่อมนอนไทย

เพลงนกกาเหว่า

เพลงที่ถ่ายทอดภาพความรักของแม่อย่างลึกซึ่ง กินใจ แม้ว่าจะเป็นสัตว์และไม่ใช่แม่แท้ๆ แต่หากได้ชื่อว่าแม่แล้ว อย่างไรก็มีแต่ความรักและห่วงใยลูกเสมอ ดังเช่นแม่กาที่หลงคิดว่ากาเหว่าคือลูกของตัวเอง คอยป้อนข้าวป้อนน้ำ ทะนุถนอมเลี้ยงดูลูกเป็นอย่างดี

เนื้อเพลงนกกาเหว่า

“เจ้านกกาเหว่าเอ๋ย ไข่ให้ไว้แม่กาฟัก                    แม่กาก็หลงรัก คิดว่าลูกในอุทธรณ์

คาบเอาข้าวมาเผื่อ คาบเอาเหยื่อมาป้อน            ถนอมไว้ในรังนอน ซ่อนเหยื่อมาให้กิน

ปีกเจ้ายังอ่อน คลอแคล ท้อแท้จะสอนบิน            พาลูกไปหากินที่ปากน้ำพระคงคา

ตีนเจ้าเหยียบสาหร่าย ปากก็ไซร้หาปลา            กินกุ้ง กินกั้ง กินหอย กระพังแมงดา

กินแล้วก็โผมา จับที่ต้นหว้าโพธิ์ทอง                    ปีกเจ้ายังอ่อน คลอแคล ท้อแท้จะสอนบิน

พาลูกไปหากินที่ปากน้ำพระคงคา                      ตีนเจ้าเหยียบสาหร่าย ปากก็ไซร้หาปลา

กินกุ้ง กินกั้ง กินหอย กระพังแมงดา                    กินแล้วก็โผมา จับที่ต้นหว้าโพธิ์ทอง”

 

 

เพลงจันทร์เอ๋ยจันทร์เจ้า

เพลงกล่อมเด็กพื้นบ้านของ “พี่” ที่ร้องเพลงกล่อมน้องให้นอนหลับ พี่ที่น่ารักคนนี้อธิษฐานกับพระจันทร์ ขอสิ่งของล้ำค่าต่างๆ ให้น้องมากมาย ลงท้ายขอยายมาดูแลตัวเองด้วยคนหนึ่ง มีพี่น่าเอ็นดูกล่อมนอนแบบนี้ น้องน่าจะหลับสบายฝันดี

เนื้อเพลงจันทร์เอ๋ยจันทร์เจ้า

 

“จันทร์เอ๋ยจันทร์เจ้า ขอข้าวขอแกง

ขอแหวนทองแดง ผูกมือน้องข้า

ขอช้างขอม้า ให้น้องข้าขี่

ขอเก้าอี้ ให้น้องข้านั่ง

ขอเตียงตั่ง ให้น้องข้านอน

ขอละคร ให้น้องข้าดู

ขอยายชู เลี้ยงน้องข้าเถิด

ขอยายเกิด เลี้ยงตัวข้าเอง”

 

 

เพลง วัดเอ๋ยวัดโบสถ์

เนื้อหาของ เพลงกล่อมนอนไทย เพลงนี้ บอกเล่าถึงวัฒนธรรมไทยและวิถีชีวิตของผู้คน แม้จะเป็นเนื้อหาสั้นๆ แต่ท่วงทำนองที่อ่อนหวานก็กล่อมให้เด็กนอนหลับในเวลาไม่นอน  แถมคุณแม่สามารถฝึกร้องตามได้ง่ายๆด้วย

เนื้อเพลงวัดเอ๋ยวัดโบสถ์

“วัดเอ๋ย…วัดโบสถ์…ปลูกข้าวโพด สาลี…ลูกเขยตกยาก…

แม่ยายก็พรากลูกสาวหนี…ส่วนข้าวโพดสาลี …ป่านฉะนี้ก็โรยรา…”

 

 

รวมเพลงแปลงทำนองจากเพลง  “Twinkle star”

รวมเพลงเนื้อร้องภาษาไทยที่ดัดแปลงมาจากทำนองเพลงสากลอย่าง “Twinkle Twinkle Little Star”นั่นคือเพลง ดาวดวงน้อย และ 2 เพลงไทยยอดนิยมอย่าง “จันทร์เอ๋ยจันทร์เจ้า” และ “นกน้อยเอย” ที่สื่อความหมายถึงเด็กน้อยที่ได้ออกไปมีชีวิตงดงามของตัวเอง แต่ก็คิดถึงแม่นะ

เนื้อเพลงนกน้อยเอ๋ย

“นกเอยนกน้อยน้อย                เจ้าค่อยค่อยเคลื่อนคล้ายมา

พวกเราเฝ้าคอยหา              มาเถิดมาขอให้ข้าชม

นกเอยนกน้อยน้อย                เจ้าบินลอยตามสายลม

ปีกหางกางสวยสม              บินเล่นระเริงใจ

นกเอยนกน้อยน้อย                เจ้าบินลอยตามลมไป

บอกแม่ว่าดวงใจ                แม้อยู่ไกลคะนึงถึง”

 

เพลง ดั่งดอกไม้บาน

เพลงน่ารักๆ สำหรับฝึกสมาธิฝึกกำหนดลมหายใจได้อย่างง่ายๆ สามารถนำมาประยุกต์เป็นเพลงกล่อมเด็ก และเก็บไว้สอนลูกๆตอนโตเกี่ยวกับการทำสมาธิด้วย

เนื้อเพลงดอกไม้บาน

                “ลมหายใจเข้า ลมหายใจออก ดั่งดอกไม้บาน

                ภูผาใหญ่กว้าง ดั่งสายน้ำฉ่ำเย็น ดั่งนภาอากาศ อันบางเบา”   

 

 

 

เพลงเดือนหงาย

นอกจากเหล่าสัตว์ต่างๆ ดวงตาว และพระจันทร์ดูเหมือนจะเป็นเรื่องยอดนิยมที่พบใน เพลงกล่อมเด็กไทย บ่อยๆ  อย่างเพียงเดือนหงายที่เล่าเรื่องราวของคุณแม่พาลูกใส่รถออกมาชมดาว ชมเดือน แต่ไม่ว่าเดือนดาวที่ไหนก็ไม่งดงามเท่าดาวลูกเราหรอก จริงไหมคะ

เนื้อร้องเดือนหงาย

“เดือนเอ๋ยเดือนหงาย อุ้มเจ้าขึ้นใส่รถ

พิศแลดูดาวไป พิศแลดูเดือน

ดาวกระจายทรงกลดว่าจะพาไปชมเดือน

ดาวก็ไม่งามเหมือน เหมือนนวลอุแม่นา”  

 

 

 

เพลง ลาวดวงเดือน

เพลงไทยเดิมที่คนไทยทุกรุ่นรู้จักกันดี เนื้อหาอาจไม่ได้เกี่ยวข้องกับแม่และลูกโดยตรง แต่ท่วงทำนองและความงดงามของเนื้อเพลง ผสานกับเสียงดนตรีไทยแว่วหวาน ทำให้เพลงนี้เป็นเพลงที่หลายคนนำมาร้องกล่อมลูก เสียงเอื้อนและความเพลิดเพลินของเมโลดี้จะชวนลูกๆ เข้าสู่นิทราได้อย่างง่ายดาย

เนื้อเพลงลาวดวงเดือน

“โอ้ละหนอดวงเดือนเอย พี่มาเว้ารักเจ้าสาวคำดวง

โอ้ว่าดึกแล้วหนอพี่ขอลาล่วง อกพี่เป็นห่วงรักเจ้าดวงเดือนเอย

โอ้ละหนอดวงเดือนเอย พี่มาเว้ารักเจ้าสาวคำดวง

โอ้ว่าดึกแล้วหนอพี่ขอลาล่วง อกพี่เป็นห่วงรัก เจ้าดวงเดือนเอย

ขอลาแล้วเจ้าแก้วโกสุม เฮ้อเออเออเออเอยเฮ้อเออเออเออเอย

เฮ้อเออเออเออเอยเฮ้อเออเออเออเอย พี่นี้รักเจ้าหนาขวัญตาเรียม

จะหาไหนมาเทียม โอ้เจ้าดวงเดือนเอย จะหาไหนมาเทียมโอ้เจ้าดวงเดือนเอย

หอมกลิ่นเกษร เกษรดอก ไม้ หอมกลิ่นคล้ายคล้ายเจ้าสูเรียมเอย

หอมกลิ่นกรุ่นครันหอมนั้นยังบ่เลย เนื้อหอมทรามเชยเอ๋ยเราละหนอ

หอมกลิ่นเกษรเกษรดอกไม้ หอมกลิ่นคล้ายคล้ายเจ้าสู ของเรียมเอย

หอมกลิ่นกรุ่นครัน หอมนั้นยังบ่เลย เนื้อหอมทรามเชยเอ๋ยเราละหนอ”

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

เพลงอิ่มอุ่น

เพลงประจำวันแม่อีกหนึ่งเพลง ที่เนื้อร้องทุกถ้อยคำแทนความรู้สึกในใจของแม่หมดสิ้น ระหว่างให้นมลูกไป ร้องเพลงอิ่มอุ่นกล่อมลูก เชื่อว่าแม่ๆ หลายคนอาจมีน้ำตาคลอ

เนื้อเพลงอิ่มอุ่น

“อุ่นใดๆโลกนี้มิมีเทียบเทียม   อุ่นอกอ้อมแขนอ้อมกอดแม่ตระกอง

                รักเจ้าจึงปลูกรักลูกแม่ย่อมห่วงใย       ไม่อยากจากไปไกลแม้เพียงครึ่งวัน

ให้กายเราใกล้กันให้ดวงตาใกล้ตา      ให้ดวงใจเราสองเชื่อมโยงผูกพัน

                อิ่มใดๆโลกนี้มิมีเทียบเทียม                   อิ่มอกอิ่มใจอิ่มรักลูกหลับนอน

น้ำนมจากอกอาหารของความอาทร    แม่พร่ำเตือนพร่ำสอนสอนสั่ง

ให้เจ้าเป็นเด็กดีให้เจ้ามีพลัง                 ให้เจ้าเป็นความหวังของแม่ต่อไป

                ใช่เพียงอิ่มท้อง                                       ที่ลูกร่ำร้องเพราะต้องการไออุ่น

อุ่นไอรักอุ่นละมุน                                   ขอน้ำนมอุ่นจากอกให้ลูกดื่มกิน

                ให้กายเราใกล้กันให้ดวงตาใกล้ตา      ให้ดวงใจเราสองเชื่อมโยงผูกพัน

                ให้เจ้าเป็นเด็กดีให้เจ้ามีพลัง                 ให้เจ้าเป็นความหวังของแม่ต่อไป

                ใช่เพียงอิ่มท้อง                                       ที่ลูกร่ำร้องเพราะต้องการไออุ่น

อุ่นไอรักอุ่นละมุน                                   ขอน้ำนมอุ่นจากอกให้ลูกดื่มกิน”

 

เพลงนกขมิ้น

อีกหนึ่งเพลงกล่อมลูกคลาสสิกของไทย ที่ยกเอานกมาแทนตัวเด็กๆ ที่ตกค่ำแล้วลมโชยพัดมาเย็นสบาย เด็กน้อยก็ควรจะนอนหลับปุ๋ยได้แล้ว

เนื้อเพลงนกขมิ้น

“เจ้านกขมิ้นเหลืองอ่อนเอย

ค่ำแล้วจะนอนที่ตรงไหน

นอนที่ไหนก็นอนได้

สุมทุมพุ่มไม้ก็เคยนอน

ลมพระพายชายพัดมาอ่อน ๆ

เจ้าก็จรมานอนรังเอย”

 

 

เพลงกล่อมนอนไทย พื้นบ้านอีสาน

เพลงจากเสียงร้องของแม่เฒ่าชาวอิสาน ที่เนื้อร้องและทำนองฟังเพลิน กล่าวแทนตัวแม่ที่กล่อมให้ลูกนอนหลับเสีย ตื่นมาแล้วแม่จะหาอาหารอร่อยๆ มากมายให้กิน คำร้องของเพลงสะท้อนให้เห็นวัฒนธรรมของชาวอิสาน ชวนให้คิดถึงคุณย่าคุณยายที่อยู่ไกลกัน เพลงนี้คุณพ่อคุณแม่อาจหัดร้องตามยากหน่อย แต่เปิดให้ลูกฟังน่าจะได้ผลดี

เนื้อเพลงกล่อมพื้นบ้านอีสาน

“อื่อ…อื้อ…อื้อ…นอนสาเด้อหล่าหลับตาแม่สิกล่อม นอนตื่นแล้วเจ้าจั่งแอ่วกินนม แม่ไปไฮหมกไข่มาหา แม่ไปนาจี่ปลามาป้อน แม่เลี้ยงม่อนอยู่ในป่าสวน มอน นอนตะแคงกะอยู่กกไม้เนิ่ง ฟังเสียงเอิ้นกะอ้ายบ่าวสิลา เพิ่นไปนาจับอึ่งมาแล้ว จับอึ่งแล้วเลี้ยงวัวเลี้ยงควาย ควายกูเสียอีแม่กู่ด่า เต้นเข้าป่าเห็นนกแจ้นแว้น แจ้นแว้นเอ้ยเห็นความยกู่บ่อเห็นบ่อแท้จักว่าโต๋ได๋ อื่อ…อื้อ…อื้อ…

อื่อ…อื้อ…อื้อ…นอนสาเด้อหล่าหลับตาแม่สิกล่อม นอนแต่เซ่าเจ้าอย่าติงคิง นอนจริงจริงหลับตาจ้อยจ้อย ลูกอ่อนน้อนหลับแล้วแม่สิกวย เขาขายกล้วยแม่สิซื่อ ให้กิน อย่าสุติงนอนสาลูกแก้ว นอนอู่แก้วในอู่สายไหม แม่สิไกวไปมาไวไว นอนอู่ไทยกวยไปโตนเต้น กวยโอนเอ้นหลับแล้วอย่าติง อื่อ…อื้อ…อื้อ…

นอนสาหล่าหลับตาแม่กล่อม นอนตื่นแล้วจั่งหลุกกินนม กินนมไฝ่บ่ปานนมแม่ กินนมแม่มันแซบมันหวาน มันหวานลงหวานลงคือกล้วยหวานจ้วยๆใส่ ปากคำแพง เอ้อ ฮะ เอ้อ ฮะ เอ้อ ฮะ เอ้อ ๆ แม่ไปไฮ่เอาไข่มาหา แม่ไปนาเอาปลามาป้อน แม่เลี้ยงม้อนอยู่ในสวนมอน เอ้อ ฮะ เอ้อ ฮะ เอ้อ ฮะ เอ้อ นอนสาหล่าหลับตาแม่ชิกล่อม ขดอ้อมป้อมนอนแล้วอย่าตีง มิดอิ้งติ้งอย่ากวนอย่าแอ่ว นอนตื้อแล้วจังลุกกินนม เอ้อ ฮะ เอ้อ ฮะ เอ้อ ฮะ เอ้อ”

 

 

นอกจาก เพลงกล่อมเด็กไทย จะเป็นตัวช่วยให้เจ้าตัวน้อยรู้สึกผ่อนคลายและพร้อมนอนหลับพักผ่อน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาสำคัญของเด็กทุกวัยแล้ว เพลงกล่อมไม่ว่าจะเป็นของชนชาติใดยังทำให้แม่ลูกรู้สึกผูกกันมากขึ้น เพราะลูกน้อยได้อยู่ในอ้อมแขนอุ่นของแม่ กินนมจากอก สบตาแม่พร้อมกับฟังเสียงกล่อมแสนอ่อนโยน อีกทั้งยังช่วยให้คุณแม่ผ่อนคลายจากการเลี้ยงลูกที่หนักหนามาตลอดวัน ซึ่งกระตุ้นให้น้ำนมผลิตมากขึ้นอีกด้วย


ขอบคุณคลิปจาก Chollada Mantintra ยอดเอยยอดมิ่ง  NongNaai Kids TV 

 

บทความน่าสนใจอื่นๆ 

[Blogger พ่อเอก-02] แม้เจ้าอยู่ในท้อง พ่อก็จะร้องเพลงกล่อม

 

20 เนื้อเพลงกล่อมเด็กพัฒนาสมอง ช่วยลูกเรียนรู้เร็ว และอารมณ์ดี