v

300 ชื่อเท่ๆ ภาษาอังกฤษ ชื่อลูกชายแบบอินเตอร์ พร้อมความหมายดีดี ไม่เหมือนใครแน่นอน!!

event
v
v

เยอะมากแม่ แถมเท่ไม่เหมือใคร รวม ชื่อเท่ๆ ภาษาอังกฤษ 300 ชื่อ พร้อมความหมายดีดี สำหรับตั้งให้ลูกชาย สไตล์อินเตอร์ จะลูกครึ่งหรือไทยแท้ ก็ตั้งได้ จะมี ชื่อภาษาอังกฤษเท่ๆ อะไรบ้างมาดูกัน

300 ชื่อเท่ๆ ภาษาอังกฤษ สำหรับลูกชาย
พร้อมความหมายดีดี สไตล์อินเตอร์!!

แม้ว่าในปัจจุบันจะนิยมการตั้งชื่อเล่นเด็กด้วยภาษาไทย แต่ก็น่าจะยังมีอีกหลายครอบครัวที่อยากจะตั้งชื่อลูกให้เป็นภาษาอังกฤษ แบบอินเตอร์ เท่ๆ เพื่อให้เข้ากับยุค 5G ซึ่งการตั้งชื่อลูกชาย ชื่อเท่ๆ ภาษาอังกฤษ ก็สามารถเรียกได้ง่ายและเพราะ ฟังแล้วดูเท่กว่าชื่อภาษาไทยในบางชื่อ และบางชื่อของภาษาไทยก็อาจจะเป็นคำไม่ดีในภาษาอังกฤษเหมือนกัน ทั้งนี้เมื่อลูกโตขึ้น ก็จะได้มี ชื่อภาษาอังกฤษเท่ ๆ ไว้ให้ลูกน้อย เวลาคุยกับเพื่อนต่างประเทศก็ได้

ทั้งนี้นอกจากนี้ชื่อเล่น ชื่อเท่ๆ ภาษาอังกฤษ ที่พ่อแม่ตั้งให้ลูกชาย ก็สามารถบ่งบอกถึงความเท่ห์ ความหล่อ ของลูกได้ไม่เบา หากใครที่กำลังมองหา ชื่อเก๋ๆ มาไว้ตั้งให้ลูกชาย แต่เบื่อชื่อแบบไทยๆ ทีมแม่ ABK มี ชื่อเท่ๆ ภาษาอังกฤษ แบบอินเตอร์ พร้อมคำอ่าน และความหมาย มาฝากกว่า 300 ชื่อ หรือสำหรับใครที่กำลังมองหา ชื่อเท่ๆ ภาษาอังกฤษ เพื่อไว้ใช้ตั้งชื่อในเกม ก็สามารถเลือกดูชื่อดังต่อไปนี้ที่ ทีมแม่ ABK นำมาฝากได้ ว่าแต่จะมี ชื่อเท่ๆ ภาษาอังกฤษ อะไรบ้างตามมาดูกันเลย

 

ชื่อเท่ๆ ภาษาอังกฤษ A (คำอ่านพร้อมคำแปล)

Aaron = แอรอน = ผู้สูงศักดิ์

Adair = เอแดร์ = ผู้เจริญรุ่งเรือง

Adin = อดิน = ผู้มีความอ่อนโยน

Aidan = เอเดน = ผู้มีชีวิตชีวา

Alan = อลัน = ผุู้รักความสามัคคี

Albert = อัลเบิร์ต = ผู้ฉลาดและมีชาติตระกูล

Alden = อัลเดน = ผู้พิทักษ์ความสุข

Aldrich = อัลดริช = นักปกครองที่มีสติปัญญา

Alexander = อเลกซานเดอร์ = นักรบผู้กล้าหาญและเชี่ยวชาญ

Alfred = อัลเฟรด = ผู้ให้คำแนะนำปรึกษาที่ดี

Alger = อัลเจอร์ = บุรุษผู้มีเกียรติ

Allen = อัลเลน = บุรุษรูปงาม

Alvis = เอลวิส = ผู้รอบรู้

Amin = อามิน = ผู้ซื่อสัตย์และเชื่อถือได้

Amon = เอมอน = ผู้ซื่อสัตย์

Andre = อังเดร = บุรุษผู้กล้าหาญ

Andrew = แอนดรูว์ = ผู้มีความเป็นลูกผู้ชาย

Andy = แอนดี้ = บุรุษผู้กล้าหาญ

Ansel = อันเซล = ผู้ที่พระเจ้าคุ้มครอง

Archer = อาร์เชอร์ = นายธนู

Aries = เอรีส, แอเรียส = กลุ่มดาวแกะ

Arno = อาร์โน = นกอินทรี

Arthur = อาร์เธอร์ = ผู้มีความแข็งแกร่งอดทน

Arvin = อาร์วิน = ผู้เป็นมิตรกับทุกคน

Arwel = อาร์เวล = เก่งเกินคำบรรยาย

Asher = แอชเชอร์ = ผู้แสวงหาความสุข

Aubrey = ออเบรย์ = ผู้ปกครองด้วยสติปัญญาแห่งเทพ

August = ออกัสต์ = ผู้ยิ่งใหญ่

Austin = ออสติน = ผู้ยิ่งใหญ่

Azel = อาเซล = ผู้มีตระกูล

 

ชื่อเท่ๆ ภาษาอังกฤษ B (คำอ่านพร้อมคำแปล)

Baird = บาร์ด = นักกวี

Barnett = บาร์เนทท์ = ผู้นำ

Barry = แบร์รี่ = ทหารผู้มีทวนเป็นอาวุธ

Barton = บาร์ตัน = เจ้าของไร่ข้าวบาร์เลย์

Basil = เบซิล = ผู้มีความเป็นกษัตริย์

Beau = บิว = บุรุษรูปงาม

Beck = เบค = ลำธาร

Benedict = เบเนดิกต์ = ผู้มีความสุข

Benjamin = เบนจามิน = ลูกชายหัวแก้วหัวแหวน

Bernard = เบอร์นาด = ผู้มีพลัง, ความกล้าหาญและความแข็งแกร่ง

Bert = เบิร์ท = ผู้มีชื่อเสียง

Bertram = เบอร์แทรม = ผู้ฉลาดหลักแหลม

Bevis = บีวิส = บุรุษรูปงาม

Bladen = บลาเด็น = ผู้ประสบความสำเร็จ

Brandon = แบรนดอน = ทุ่งเฟิร์น

Brice = ไบรซ์ = ผู้มีความทะเยอะทยาน

 

ชื่อเท่ๆ ภาษาอังกฤษ C (คำอ่านพร้อมคำแปล)

Carden = คาเดน = ผู้มีจิตวิญญารแห่งการต่อสู้

Caesar = เคซาร์ = ความไม่แน่นอน

Cameron = คาเมรอน = ผู้มีจมูกโค้ง

Campbell = แคมป์เบลล์ = ผู้มีริมฝีปากโค้งได้รูปสวย

Calos = คาลอส = ผู้ชาย

Carwyn = คาร์วิน = ผู้มีความรักที่เป็นสุข

Casper = แคสเปอร์ = ผู้ถวายของขวัญแด่พระบุตร

Christopher = คริสโตเฟอร์ = ผุ้รับสารจากพระเจ้า

Clark = คลาร์ก = ผู้คงแก่เรียน

Clayton = เคลย์ตัน = ผู้ตั้งรกราก

Conan = โคนัน = ผู้มีสติปัญญา

Connor = คอนเนอร์ = ผู้มีความปรารถนาสูงสุด

Conrad = คอนราด = ผู้ให้คำแนะนำปรึกษที่ดี

Corey = โคเรย์ = ผู้รักสันติภาพและความสงบสุข

 

ชื่อเท่ๆ ภาษาอังกฤษ D (คำอ่านพร้อมคำแปล)

Dafydd = ดาฟิดด์ = ผู้สนับสนุน

Damian = ดาเมียน = ผู้อ่อนน้อม

Daniel = แดเนียล = ผุ้ที่พระเจ้าได้ตัดสินแล้ว

Dante = ดันเต้ = ผู้มีความอดทน

Darian = ดาเรียน = ผู้ประสบความสำเร็จ

Darius = ดาเรียส = ผู้ปกครองที่ดี

Darrel = ดาร์เรล = ผู้เป็นที่รักยิ่ง

Dave = เดรฟ = ผู้เป็นที่รักยิ่ง

David = เดวิด = ผู้เป็นที่รักยิ่ง

Deinol = เดนอล = ผู้มีเสน่ห์ดึงดูด

Dempsey = เดมป์เซย์ = ความภาคภูมิใจ

Derrick = เดอร์ริค = นักปกครองผู้มีพรสวรรค์

Devin = เดวิน = บทกวี

Dominic = โดมินิค = ผู้ที่เกิดวันแรก (วันอาทิตย์) หรือวันที่ 7 ของสัปดาห์

Donald = โดนัลด์ = เจ้าแห่งอำนาจ

Drake = เดรค = มังกร

ชื่อเท่ๆ ภาษาอังกฤษ

ชื่อเท่ๆ ภาษาอังกฤษ E (คำอ่านพร้อมคำแปล)

Eamonn = เอมอนน์ = ผู้พิทักษ์ที่ร่ำรวย

Earl = เอิร์ล = ผู้ที่มีชาติตระกูล

Edmund = เอ็ดมันด์ = ผู้มีความสุขที่ได้ปกป้อง

Edryd = เอ็ดริด = ผู้ดูแลรักษา

Edward = เอ็ดเวิร์ด = ผู้ดูแลทรัพย์สมบัติมหาศาล

Edwin = เอ็ดวิน = เพื่อนผู้ร่ำรวย

Elfed = เอลเฟด = ฤดูใบไม้ร่วง

Elmer = เอลเมอร์ = ผู้มีเกียรติ

Elvis = เอลวิส = เพื่อนของเทพ

Emrys = เอมริส = ผู้เป็นอมตะ

Eric = อีริค, เอริค = ผู้มีอำนาจเด็ดขาด

Eryl = อีริล = ผู้เฝ้าดู

Eurig = ยูริก = ทอง

Evan = อีวาน = พระเจ้าคือผู้เมตตา

 

ชื่อเท่ๆ ภาษาอังกฤษ F (คำอ่านพร้อมคำแปล)

Faisal = ไฟซาล = ผู้มีความแข็งแกร่ง

Faiz = ฟาอิซ = ชัยชนะ

Farhan = ฟาร์ฮาน = มีความสุข

Fariq = ฟาริค = หายาก

Faris = ฟาริส = อัศวิน

Felicio = เฟลิซิโอ้ = โชคดี

Felix = เฟลิกซ์ = ผู้มีแต่ความสุข

Fenno = เฟนโน่ = ความกล้าหาญ

Ferdinand = เฟอร์ดินานด์ = ผู้กล้าหาญ

Fergal = เฟอร์กัล = บุรุษผู้กล้าหาญ

Fergus = เฟอร์กัส = ผู้เลือกสิ่งที่ดีที่สุด

Finlay = ฟินเลย์ = ผู้อบอุ่นดังแสงอาทิตย์

Finn = ฟินน์ = ผู้รักความยุติธรรม

Fintan = ฟินตัน = ผู้รักความยุติธรรม

Franklin = แฟรงคลิน = บุรุษผู้มีอิสระ

Frederic = เฟรดริค = ผู้ปกครองอย่างสันติ

 

ชื่อเท่ๆ ภาษาอังกฤษ G (คำอ่านพร้อมคำแปล)

Gabriel = แกเบรียล = ตัวแทนของพระเจ้า

Gaelen = กาเลน = ผู้รักความสงบ

Gareth = กาเร็ธ = คนที่มีความสุภาพ

Garrett = การ์เรทท์ = ฉลาดและมั่นคง

Gary = แกรี่ = ผู้มีสติปัญญาเฉียบแหลม

Gavin = กาวิน, กวิน = รักการต่อสู้

Gene = ยีน = ผู้มีชาติกำเนิดดี

Geoff = เจฟฟ์ = ความสงบสุข

Geoffrey = เจฟฟรีย์ = ดินแดนแห่งสันติ

George = จอร์จ = ชาวนา

Gerard = เจอราร์ด = คนฉลาด

Gerardo = เจราร์โด = แข็งแรง

Gilbert = กิลเบิร์ต = ผู้รักษาสัญญา

Gwyn = กวิน = มีสุข ยุติธรรม

 

ชื่อเท่ๆ ภาษาอังกฤษ H (คำอ่านพร้อมคำแปล)

Haefen = แฮเฟน = ความปลอดภัย

Haley = ฮาเลย์ = ช่างประดิษฐ์

Hanif = ฮานิฟ = ผู้เชื่อมั่นในความถูกต้อง

Hardy = ฮาร์ดี้ = ผู้เป็นที่รัก

Haris = ฮาริส = แข็งแรง ปลอดภัย

Harrison = แฮร์ริสัน = นักรบ

Harvey = ฮาร์วีย์ = ผู้มีความสามารถในการรบ

Hasan = ฮาซาน = บุรุษรูปงาม

Hassan = ฮาสซาน = สะอาด

Hayden = เฮย์เดน = คนนอกศาสนา

Hector = เฮคเตอร์ = ผู้ยึดเหนี่ยว

Hefin = เฮฟิน = ฤดูร้อน

Helfried = เฮลเฟรียด = สันติภาพ

Heino = ไฮโน = กษัตริย์

Hemlet = เฮมเลท = เจ้าของที่ดิน

Hendrik = เฮนดริค = กษัตริย์ผู้ปกครอง

Henry = เฮนรี่ = ผู้ปกครอง

Herbert = เฮอร์เบิร์ต = กองทัพที่เก่งกล้า

Hezron = เฮซรอน = กำแพงเมือง

Hillard = ฮิลลาร์ด = สนุกสนาน

Hobart = โฮบาร์ท = สูง สว่าง สดใส

Horace = ฮอเรซ = ผู้เฝ้าดู

Horatio = โฮราติโอ = ผู้เฝ้าดู

Howard = โฮวาร์ด = ผู้ปกป้อง

Howel = โฮเวล = มีชื่อเสียง

Hudsun = ฮัดสัน = ถูกปกคลุมไว้

Hugh = ฮักฮ์ = ผู้มีจิตใจดี

Hugo = ฮิวโก = นักคิด

Humphrey = ฮัมเฟรย์ = ผู้ปกป้องสันติ

Hunter = ฮันเตอร์ = นักล่า

 

 

ชื่อเท่ๆ ภาษาอังกฤษ I (คำอ่านพร้อมคำแปล)

Ian = เอียน = ผู้ที่พระเจ้าเมตตา

Iden = ไอเดน = อุดมสมบูรณ์

Ides = ไอเดส = มรดกสูงส่ง

Idris = ไอดริส = กล้าหาญ

Ifan = อิฟาน = พระเจ้าให้อภัย

Ilio = อิลิโอ = ดวงอาทิตย์

Incendio = อินเซนดิโอ = ไฟ

Ireneo = ไอรีนีโอ = ความสงบสุข

Irfan = เออร์ฟาน = ความเข้าใจ, ความรู้

Irvin = เออร์วิน = ผู้ยุติธรรม

Ishan = อิชาน, อสฮาน = ดวงอาทิตย์

Ivan = อีวาน = ของขวัญจากพระเจ้า

Iven =ไอเวาน = นักยิงธนู

Ives = ไอเวส = นักธนู

Ivor = ไอวอร์ = ผู้กล้าหาญมาก

Izzet = อิซเซต = รุ่งโรจน์

 

ชื่อเท่ๆ ภาษาอังกฤษ J (คำอ่านพร้อมคำแปล)

Jack = แจ็ค = ความสง่างามแห่งพระเจ้า

Jacob = เจคอบ = ผู้มาแทนที่

Jamel = จาเมล = หล่อ

Jared = จาเร็ด = ผู้สืบทอดตระกูล

Jaser = เจเซอร์ = กล้าหาญ

Jason = เจสัน = ผู้เยียวยารักษา

Jasper = แจสเปอร์ = ผู้มีสมบัติล้ำค่า

Jay = เจย์ = ผู้มาแทนที่

Jayden = เจย์เดน = ได้ยินมาจากพระเจ้า

Jeffrey = เจฟฟรีย์ = ของขวัญแห่งสันติสุข

Jeremy = เจเรมี่ = ผู้สูงส่ง

Jeric = เจริค = ผู้ปกครองที่มีความสามาาถ

Jerry = เจอร์รี่ = ผู้สูงส่ง

Jesse = เจสส์ = ความสง่างามแห่งพระเจ้า

Jesus = เจซุส = ผู้ช่วยให้รอด

Jim = จิม = ผู้มาแทนที่

Jivin = ไจวิน = ผู้มีพลัง

John = จอห์น = ของขวัญจากพระเจ้า

Jonas = โจนาส = ของขวัญจากพระเจ้า

Jonathan = โจนาธาน = ของขวัญจากพระเจ้า

Jordan = จอร์แดน = ผู้สืบทอดตระกูล

Joshua = โจชัว = พระเจ้าทรงช่วย

Justin = จัสติน = ความยุติธรรม

 

ชื่อเท่ๆ ภาษาอังกฤษ K (คำอ่านพร้อมคำแปล)

Kaarlo = คาร์โล = แข็งแกร่ง

Kalil = คาลิล = เพื่อน

Kai = ไค = บุรุษแห่งท้องทะเล

Kamal = คามัล = ดีเลิศ, สมบูรณ์แบบ

Kamil = คามิล = สมบูรณ์แบบ

Kasper = แคสเปอร์ = ผู้มีทรัพย์สมบัติมากมาย

Keegan = คีแกน = ลูกไฟดวงเล็กๆ

Kelvin = เคลวิน = เรือแห่งมิตรภาพ

Kenneth = เคนเนธ = บุรุษรูปงาม

Kentt = เคนท์ = ขาวบริสุทธิ์

Kevin = เควิน = ผู้เป็นที่รักยิ่ง

Kim = คิม = กล้าหาญดั่งกษัตริย์

Kirill = คิริลล์ = เจ้านาย

Kish = คิสช์ = ผู้เป็นของขวัญ

Konstantin = คอนสแตนติน = มั่นคง ไม่เปลี่ยนแปลง

Kores = โคเรส = ดวงอาทิตย์

Kosey = โคเซย์ = สิงโต

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

ชื่อเท่ๆ ภาษาอังกฤษ L (คำอ่านพร้อมคำแปล)

Laco = ลาโค่, ลาโก้ = ผู้ปกครองที่มีชื่อเสียง

Laetus = เลอีทัส = ด้วยความสุข

Lambert = แลมเบิร์ต = แสงสว่างแห่งดินแดน

Lamont = ลามอนต์ = กฎหมาย

Lanzo = แลนโซ = ผู้พิทักษ์

Larry = แลร์รี่, ลาร์รี่ = ผู้ได้รับชัยชนะอย่างมีเกียรติ

Lasz = ลาร์ซ = เกียรติยศ

Lawson = ลอว์สัน = ความเป็นชาย

Layton = เลย์ตัน = แน่นอน

Lazaro = ลาซาโร = พระเจ้าทรงอยู่กับเรา

Leewan = ลีวาน = สายลม

Lennon = เลนนอน = เสื้อคลุมตัวเล็ก

Lennor = เลนเนอร์ = ฤดูร้อน

Leo = ลีโอ = แข็งแกร่งดังสิงโต

Leocadio = ลีโอคาดิโอ = สดใสเป็นประกาย

Leonard = ลีโอนาร์ด = แข็งแกร่งดังสิงโต

Leroy = ลีรอย = กษัตริย์

Lestyn = เลสติน = ผู้มีความยุติธรรม

Lezane = เลแซน = ความสุข

Liam = เลียม = ผู้พิทักษ์

Lisandro = ลิซานโดร = อิสระเสรี

Louis = ลูอิส = นักรบชื่อดัง

Lucus = ลูคัส = แสง

Luther = ลูเธอร์ = นักรบชื่อดัง

 

ชื่อเท่ๆ ภาษาอังกฤษ M (คำอ่านพร้อมคำแปล)

Magnus = แม็กนัส = ยิ่งใหญ่

Malak = มาลัค = เทวดา

Mandel = แมนเดล = ช่างตัดเสื้อผ้า

Mannix = แมนนิกซ์ = นักบวช

Marc = มาร์ก = ผู้รักสงคราม

Mark = มาร์ก = ผู้รักสงคราม

Marcus = มาร์คัส = ผู้รักสงคราม

Mario = มาริโอ = ผู้รักสงคราม

Marius = มาเรียส, มาริอัส = นักเดินเรือ

Martin = มาร์ติน = ผู้รักสงคราม

Marvin = มาร์วิน = อาศัยทะเล

Mason = เมสัน = ผู้ทำงานเกี่ยวกับหิน

Mathias, Matthias = มาเธียส, มาธีอัส / แมธเธียส, แมธธีอัส = ของขวัญจากพระเจ้า

Matt = แมตต์ = ของขวัญจากพระเจ้า

Matthew = แมทธิว = ของขวัญจากพระเจ้า

Max = แมกซ์ = ยิ่งใหญ่

Maximous = แมกซิมัส = ผู้ช่วยชีวิต

Maxwell = แมกซ์เวลล์ = ผู้มีความสามารถ

Mazzin = แมซซิน = เมฆฝน

Melvin = เมลวิน = ผู้นำ

Merlin = เมอร์ลิน = เหยี่ยว

Michael = มิคาเอล = ผู้เป็นเจ้านาย

Mile = ไมล์ = ผู้ไม่เห็นแก่ตัว

Milo = ไมโล = เมตตาปรานี

Moray = โมเรย์ = ทะเล

Morgan = มอร์แกน = ผู้ยิ่งใหญ่และฉลาด

Moses = โมเสส = ผู้ถูกดึงขึ้นจากน้ำ

 

ชื่อเท่ๆ ภาษาอังกฤษ N (คำอ่านพร้อมคำแปล)

Nadim = นาดิม = เพื่อน

Nahum = นาฮัม = ผู้เป็นของขวัญจากพระเจ้า

Napoleon = นโปเลียน = คนที่มีพลังรุนแรง น่าเกรงกลัว

Nasim = นาซิม = ใหม่สด

Nasser = แนซเซอร์ = ชัยชนะ

Nathan = นาธาน = ผู้เป็นของขวัญจากพระเจ้า

Nealon = นีลอน = ชัยชนะ

Nefin = เนฟิน = หลานชาย

Neil = เนียล = ผู้มีชัยชนะ

Nektarios = เนคทาริออส = น้ำทิพย์

Neleus = เนเลอัส = บุตรชายคนโตของโพไซดอน

Neo = นีโอ = ใหม่

Nero = นีโร = มีพลังอำนาจ (ลาติน), จริงจัง (สเปน)

Nestor = เนสเตอร์ = นักท่องเที่ยว

Nevan = เนวาน = นักบุญตัวน้อย

Nick = นิก = ผู้ได้รับชัยชนะจากประชาชน

Nicholas = นิโคลัส = ผู้ได้รับชัยชนะจากประชาชน

Nigel = ไนเจล = ผู้มีชัยชนะ

Nilos = ไนลอส = ชัยชนะของประชาชน

Nitis = ไนติส = เพื่อน

Noah = โนอาห์ = ผู้พักผ่อน

Noel = โนเอล = วันเกิดพระเยซู

Nolan = โนลัน = นักรบ

Norbert = นอร์เบิร์ต = ส่องแสงมาจากทางเหนือ

Norberto = นอร์เบอร์โต้ = กล้าหาญ เป็นวีรบุรุษ

Norman = นอร์แมน = บุรุษแห่งดินแดนทางเหนือ

 

ชื่อเท่ๆ ภาษาอังกฤษ O (คำอ่านพร้อมคำแปล)

Obelix = ดอเบลิกซ์ = เสาหลักแห่งความแข็งแรง

Oceanus = โอเซียนัส = ชื่อของแม่น้ำขนาดใหญ่ที่ล้อมรอบโลก

Ocelfa = โอเซลฟา = จากที่ราบสูง

Ociel = โอซิเอล = ท้องฟ้า

Odale = โอเดล = แห่งหุบเขา

Ofer = โอเฟอร์ = กวาง

Ohel = โอเฮล = แสงสว่าง

Olav = โอลาฟ = บรรพบุรุษ

Olen = โอเลน = ผู้มีความสุข ความรัก ความห่วงใย

Olin = โอลิน = สิ่งที่หลงเหลืออยู่ของบรรพบุรุษ

Olis = โอลิส = มีประสิทธิภาพ, แข็งแกร่ง

Oliver = โอลิเวอร์ = ต้นมะกอก สัญลักษณ์แห่งสันติภาพ

Omar = โอมาร์ = ผู้มีคารมดี

Omer = โอเมอร์ = ลูกชายคนแรก

Omet = โอเม็ต = แสงสว่างของฉัน

Oren = โอเรน = ผู้ได้รับเกียรติยศ

Orlando = ออร์ลันโด = แผ่นดินของพระเจ้า

Oro = โอโร่ = ทอง

Orson = ออร์สัน = ดาวที่อยู่ทางทิศเหนือ

Orville = ออร์วิลล์ = เมืองทอง

Orwel = ออร์เวล = ขอบฟ้า

Osama = โอซาม่า = ดุจดั่งสิงโต

Oscar = ออสการ์ = นักทำนายที่แม่นยำ

Osmin = ออสมิน = พระเจ้าทรงคุ้มครอง

Osmond = ออสมอนด์ = พระเจ้าทรงคุ้มครอง

Oswin = ออสวิน = เพื่อนพ้องแห่งพระเจ้า

Owen = โอเว่น = ผู้มีชาติกำเนิดดี

 


ขอบคุณข้อมูลจาก : writer.dek-d.com

 

อ่านต่อบทความอื่นน่าสนใจนอกจากเรื่อง ชื่อเท่ๆ ภาษาอังกฤษ คลิกที่ภาพได้เลย 

ตั้งชื่อลูกตามวันเกิด ชื่อมงคล ครบทุกวัน จ.- อา.

ชื่อลูกสาว 102 ชื่อ แบบน่ารักๆ เพราะๆ 2 พยางค์

108 ชื่อลูกชาย 2 พยางค์ เท่ๆ มีครบตั้งแต่ ก-ฮ

พยาธิในผักสด

พยาธิในผักสด ฝันร้ายของคุณแม่สายคลีน!!

Alternative Textaccount_circle
event
พยาธิในผักสด
พยาธิในผักสด

ผักสด กรอบ หวาน มีประโยชน์มากมาย แต่ควรระวัง พยาธิในผักสด วายร้ายตัวเล็กที่พิษภัยไม่เล็กแฝงมาโดยไม่รู้ตัว เป็นฝันร้ายของคุณแม่สายคลีนทั้งหลาย

พยาธิในผักสด ฝันร้ายของคุณแม่สายคลีน!!

กระแสอาหารคลีน Clean Eating & Clean Food เป็นกระแสที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในสังคมปัจจุบัน แต่จะมีสักกี่คนที่เข้าใจถึงความหมายของอาหารคลีนที่แท้จริง อย่างไหนถึงจะเรียกได้ว่าเป็นการกินคลีน เรามารู้จักคำว่า Clean Food กันให้ชัด ๆ กันสักหน่อยดีกว่า

คุณแม่สายคลีน
คุณแม่สายคลีน

ทำความรู้จักอาหารคลีน (Clean Food)

Clean Eating  หรือ  การกินคลีน มีหลักการที่ริเริ่มมาจากการที่คนรุ่นใหม่ที่มีวิถีชีวิตที่เร่งรีบ จึงมักจะพึ่งพา ฝากท้องไว้กับอาหารสำเร็จรูป อาหารฟาสฟู้ด ซึ่งล้วนเป็นอาหารที่ผ่านกระบวนการปรุงสุกด้วยความร้อนสูง ผ่านการแช่แข็ง และอีกหลาย ๆ กระบวนการจนแทบไม่เหลือสารอาหารดี ๆ ให้แก่ร่างกาย  เมื่อกินเข้าไปมาก ๆ ก็ทำให้เกิดการเจ็บป่วย เพราะนอกจากร่างกายจะได้รับสารอาหารไม่เพียงพอแล้วอาหารเหล่านี้ยังแถมสิ่งที่ไม่มีประโยชน์ เช่น ไขมันทรานส์ (Trans Fats ) สารซึ่งจะกลับกลายเป็นสารเคมีทำร้ายร่างกายอีกด้วย จึงทำให้เกิดแนวความคิดที่จะเลือกรับประทานอาหารที่ให้ประโยชน์ได้ในสภาพธรรมชาติของมัน ไม่ต้องผ่านกระบวนการดัดแปลง แต่งสี แต่งกลิ่น ปรุงรส จึงทำให้มีสารอาหารครบ และนี่คืออาหารคลีน หรือ Clean Food นั่นเอง

สรุปได้ว่า อาหารคลีน เป็นอาหารจำพวกของสดทั้งหลายที่ผลิตหรือเติบโตขึ้นมาด้วยธรรมชาติ และไม่ผ่านกระบวนการซับซ้อนต่างๆ เช่น ผักผลไม้สดจากฟาร์มออร์แกนิก เนื้อสัตว์ที่ไม่ใส่สารและไม่ผ่านการปรุงแต่ง อาหารประเภทธัญพืช และอาหารที่รสไม่จัด เป็นต้น

พยาธิในผักสด
พยาธิในผักสด

คุณแม่สายคลีนรู้เท่าทันภัยจากเจ้าพยาธิตัวจิ๋ว

จากแนวความคิดดังกล่าว ที่สายคลีนต้องการอาหารที่ผ่านการปรุงแต่งให้น้อยที่สุด จึงทำให้หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่กลุ่มอาหารสายคลีน มักจะมีเมนูอาหารที่ใช้วัตถุดิบเป็นผักสด ผลไม้สด โดยไม่ผ่านกรรมวิธีปรุงสุก จึงเป็นจุดเสี่ยงสำคัญที่คนกินอาหารคลีนทั้งหลายต้องเฝ้าระมัดระวัง นั่นคือ เจ้าตัวพยาธิต่าง ๆ ที่ติดอยู่ตามผักสด ผลไม้สดทั้งหลาย

เพจ “PDRC ศูนย์วิจัยโรคปรสิต สำนักวิชาแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี” ได้เผยผลสำรวจผักที่วางขายตามตลาดตรวจพบการปนเปื้อนพยาธิ โดยเก็บผักตัวอย่างจากตลาดทั้งหมด 265 ตัวอย่าง พบการปนเปื้อนพยาธิในผักจำนวน 93 ตัวอย่าง ผักที่พบการปนเปื้อนพยาธิมากที่สุด 10 อันดับ คือ

  1. ผักขึ้นฉ่ายฝรั่ง 3%
  2. สะระแหน่ 60%
  3. ใบบัวบก 1%
  4. ผักชีไทย 8%
  5. หอม 3%
  6. ผักชีฝรั่ง 7%
  7. ผักกาดขาวจีน 3%
  8. ผักสลัด 0%
  9. โหระพา 0%
  10. ผักบุ้งจีน 7%

และชนิดของพยาธิที่พบมากในการสำรวจครั้งนี้พบว่ามีพยาธิปากขอสูงสุด 42.9% รองลงมาคือ พยาธิเส้นด้าย 10.6% พยาธิแส้ม้า 2.6% พยาธิไส้เดือน 2.6% และพยาธิไส้เดือนสุนัข 2.6%

จากผลการสำรวจเพียงแค่ตัวอย่างเดียวก็ชี้ให้เราเห็นได้แล้วว่าภัยร้ายที่แฝงมาในอาหารของเรานั้นไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป พยาธิในผักสด เป็นสิ่งที่เราต้องพึงตระหนักและระวัง เพราะมันจะส่งผลเสียต่อร่างกายของคุณแม่ และลูกน้อยอย่างมากมาย

พยาธิที่พบบ่อยในเด็ก

พยาธิเข็มหมุด หรือพยาธิเส้นด้าย เป็นพยาธิตัวกลมชนิดหนึ่งที่มีสีขาว ลักษณะคล้ายเส้นด้าย มีขนาดตั้งแต่ 2-13 มิลลิเมตร อาศัยอยู่ในลำไส้ใหญ่ของมนุษย์และวางไข่บริเวณรูทวารหนัก เข้าสู่ร่างกายได้ทางปากและการหายใจ โดยไข่ของพยาธิชนิดนี้มีขนาดเล็กมากจนมองไม่เห็นด้วยตาเปล่าและอาศัยอยู่ในฝุ่นละอองได้นานถึง 2 สัปดาห์ ซึ่งอาจปนเปื้อนอยู่ตามเสื้อผ้า ผ้าเช็ดตัว ผ้าปูที่นอน หรือผ้าห่ม ทำให้เกิดการฟุ้งกระจายในอากาศและหายใจเข้าไปได้โดยไม่รู้ตัว รวมถึงการกินอาหาร ผักสดที่ล้างไม่สะอาดพอ หรือนำมือที่ปนเปื้อนเชื้อเข้าปาก พยาธิชนิดนี้พบได้ในคนทุกวัย แต่พบมากที่สุดในเด็ก เพราะเด็กยังดูแลสุขอนามัยด้วยตนเองได้ไม่ดีเท่าที่ควร เช่น ลืมล้างมือ หรือมีพฤติกรรมดูดนิ้ว และเสี่ยงสัมผัสสิ่งของหรืออาหารที่ปนเปื้อนไข่พยาธิจากเด็กคนอื่นที่ติดเชื้อ นอกจากนี้ ผู้อยู่ใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อพยาธิก็มีความเสี่ยงติดเชื้อได้สูงเช่นเดียวกัน รวมไปถึงการอยู่ในสถานที่ที่พบการติดเชื้อพยาธิได้บ่อยอย่างโรงเรียน สถานรับเลี้ยงเด็ก และชุมชนแออัด ทั้งนี้ พยาธิเข็มหมุดไม่สามารถติดต่อจากสัตว์เลี้ยงสู่คนได้ เนื่องจากพยาธิชนิดนี้ไม่อาศัยอยู่ในร่างกายสัตว์

พยาธิปากขอ เป็นพยาธิตัวกลม ที่สามารถติดต่อเข้าสู่ร่างกายมนุษย์ได้ 2 ทาง คือ การไชเท้า และทางปาก โดยการกินพยาธิตัวอ่อนที่อยู่ในดินปนไปกับอาหาร เช่น พืช ผัก ผลไม้ ที่ล้างไม่สะอาด มีการปนเปื้อนของดินที่มีตัวอ่อนของพยาธิ หรือไข่พยาธิเข้าไปกับอาหาร

พยาธิในผักสด เข้าร่างกาย
พยาธิในผักสด เข้าร่างกาย

รู้ได้อย่างไรว่าลูกรักติดเชื้อพยาธิ

  1. อาการคันก้น โดยจะคันในรูทวารหนัก ในระยะที่พยาธิออกมาวางไข่ ซึ่งมักเกิดขึ้นในเวลากลางคืน จนบางครั้งถึงขนาดงอแง นอนไม่หลับ หรือบริเวณนั้นเด็กอาจจะเกาจนเกิดการอักเสบติดเชื้อแบคทีเรียได้
  2. ตัวเล็ก น้ำหนักลด หรือการเจริญเติบโตตกเกณฑ์ปกติ เพราะถูกแย่งสารอาหารจากพยาธิ
  3. ตัวซีดจากการขาดธาตุเหล็ก เกิดภาวะโลหิตจาง เกิดจากการที่พยาธิปากขอตัวโตเต็มวัย ดูดเลือดจากผนังลำไส้เป็นอาหาร ทำให้เสียเลือดครั้งละนิดไปเรื่อย ๆ เป็นเวลานาน จนเกิดภาวะโลหิตจาง ภาวะซีด
  4. ร่างกายมีรอยไชของตัวพยาธิตามผิวหนัง ถ้าพยาธิเข้ามาจากการไชเท้า หรือผิวหนังมา ซึ่งเป็นจุดที่สังเกตได้ง่ายที่สุด

อย่า!! ซื้อยาถ่ายพยาธิมาทานเอง

ข้อควรระวังหลังจากรู้ว่ามีพยาธิอยู่ในร่างกายแล้ว นั่นคือ การซื้อยาถ่ายพยาธิมารับประทานเอง เนื่องจากว่าพยาธิแต่ละชนิดต้องใช้ตัวยาถ่ายพยาธิที่แตกต่างกัน เราไม่สามารถรู้ได้ว่า เราได้รับพยาธิชนิดใด ทางที่ดีที่สุดควรไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัย และจะได้จ่ายยาได้ตรงตามปัญหาแต่ละบุคคล และแก้ไขได้ตรงจุด นอกจากนี้ ยาถ่ายพยาธิมีผลข้างเคียงไม่พึงประสงค์ หากรับประทานไม่ถูกปริมาณ และถูกวิธี เช่น ปวดท้อง อาเจียน ปวดหัว เวียนศีรษะ หรือ มีผื่นคันจากการแพ้ยาได้

พยาธิในผักสด ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด เพียงแค่ ล้าง!!

ถึงแม้ว่าพยาธิจะตายในอาหารที่ถูกปรุงสุกแล้ว แต่คุณแม่สายคลีนที่นิยมทานผักสด ไม่ต้องกังวลไป วันนี้ ทีมแม่ABK ได้นำ 3 วิธีในการล้างผักลดการปนเปื้อนพยาธิและไข่พยาธิมาฝากกัน

วิธีล้างให้ปลอด พยาธิในผักสด
วิธีล้างให้ปลอด พยาธิในผักสด

เพียงแค่ใส่ใจกับการล้างผักกันเสียหน่อย คุณแม่สายคลีนก็สามารถวางใจกับการทานเมนูอาหารที่ทำจากผักสดได้แล้ว ของดีมีประโยชน์กับร่างกายของลูกน้อย และครอบครัว ก็ควรมาคู่กับความปลอดภัยด้วยเช่นกัน

ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก goodlifeupdate.com / pobpad.com

อ่านบทความดี ๆ ต่อ คลิก

เตือนภัย! กินผักสด หมูดิบ ต้องระวัง พยาธิตืดหมู ไชยั้วเยี้ยเต็มร่างกาย

วิธีทำความสะอาดของเล่น ให้สะอาด ปลอดภัย ห่างไกลโรค

รู้ทัน ภาวะซีดในทารก ก่อนลูกขาดธาตุเหล็กรุนแรง

ลูกชอบดูดนิ้ว จนเป็นพยาธิ คันก้นไม่ใช่เรื่องเล็กๆ

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

เมื่อนักกีฬาตัวน้อยกลับสู่โรงเรียนอีกครั้ง 5 ข้อปฏิบัติสำหรับผู้ปกครองเพื่อให้เด็กๆสนุกกับเล่นกีฬาโปรดอย่างถูกหลักอนามัย

Alternative Textaccount_circle
event

หลังจากเรียนที่บ้านกันมาหลายเดือน ในที่สุดโรงเรียนก็พร้อมต้อนรับนักเรียนอีกครั้ง สำหรับทั้งการเรียนรู้ภายในและภายนอกห้องเรียน แน่นอนว่าเด็กๆนั้นมีพลังงานเหลือล้นที่สามารถเล่นและแสดงออกผ่านการเล่นกีฬาที่พวกเขาชื่นชอบได้อีกด้วย

กีฬามีประโยชน์มากมายต่อเยาวชน ทั้งช่วยให้พัฒนาสมรรถภาพทางร่างกายและจิตใจ การเรียนรู้ทักษะชีวิต เช่น ระเบียบวินัย ความเป็นผู้นำ ความมั่นใจในตนเองและการทำงานเป็นทีม อย่างไรก็ตาม เมื่อเริ่มการเรียนการสอนแล้ว คุณครูและผู้ปกครองควรหาวิธีสร้างความสมดุลที่สร้างสรรคเพื่อให้เด็กๆได้เล่นกีฬาที่ชื่นชอบอย่างถูกหลักอนามัย

ในเดือนพฤษภาคม 2563 สหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศ หรือ IFRC ร่วมกับ องค์การยูนิเซฟ (UNICEF) และองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ออกแนวทางปฏิบัติใหม่สำหรับผู้ปกครองในการพัฒนาและสนับสนุนพัฒนาการของเด็ก ในขณะที่โลกกำลังก้าวสู่ความปรกติใหม่

5 ข้อแนะนำสำหรับผู้ปกครองสามารถเพื่อดูแลให้เด็กๆได้สนุกกับเล่นกีฬาโปรดอย่างถูกหลักอนามัย

 

  • หมั่นตรวจดูสุขภาพของเด็กๆ อยู่เสมอ ตรวจเช็คอุณหภูมิเป็นประจำ และหากเด็กรู้สึกไม่สบายหรือมีปัจจัยเสี่ยง ควรให้พักอยู่ที่บ้าน
  • ปลูกฝังการรักษาความสะอาด หมั่นล้างมือด้วยสบู่ด้วยน้ำสะอาดอยู่เสมอ หรือถ้าหากไม่มี ให้ใช้เจลแอกอฮอล์ที่มีความเข้มข้นอย่างน้อย 60 เปอร์เซ็นแทน หากมีอาการจามหรือไอให้ใช้ทิชชู่และหลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้าเพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายของเชื้อไวรั
  • ใช้อุปกรณ์กีฬาร่วมกันให้น้อยที่สุด ผู้ปกครองควรเตรียมอุปกรณ์กีฬาให้เด็ก เช่น ลูกบอล หรือ ผ้าเช็ดตัว หากไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ควรบอกเด็กๆให้ทำความสะอาดสิ่งของที่จะต้องใช้ร่วมกับผู้อื่นอยู่เสมอ
  • ส่งเสริมให้ลูกกล้าที่แสดงความคิดเห็น ส่งเสริมให้มีการพูดคุยอย่างอิสระและสนับสนุนให้เด็กกล้าแสดงความรู้สึกต่อครูและผู้ปกครองท่านอื่นหากพวกเขารู้สึกไม่ดี
  • ให้ความร่วมมือด้านมาตรการความปลอดภัยของโรงเรียน ผู้ปกครองควรเข้าร่วมการประชุมโรงเรียนและกิจกรรมอื่นๆเพื่อสนับสนุนมาตรการความปลอดภัยสำหรับเด็กๆ

สำหรับเยาวชนที่ชื่นชอบกีฬาบาสเก็ตบอล หากรู้สึกส่าการฝึกซ้อมที่โรงเรียนน้อยเกินไป สามารถเข้าไปเรียนทักษะและเทคนิคจาก เว็บไซต์ทางการของโครงการจูเนียร์ เอ็นบีเอ ที่ jrnbaasia.com แหล่งรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับบาสเก็ตบอลที่ดีที่สุดสำหรับเยาวชน โดยมีเนื้อหาภาษาไทยทั้งหมด จะช่วยให้พวกเขาได้ศึกษาข้อมูลกีฬาโปรดได้ครบถ้วนที่สุด ทั้งบทความทางการศึกษา ศิลปะและงานฝีมือที่เกี่ยวกับบาสเก็ตบอล วิดีโอแนะนำการเล่นบาสจากซุปเปอร์สตาร์ NBA และ WNBA ทั้งในลีกปัจจุบันและนักกีฬาตำนาน นอกจากนี้ ยังมีคอนเทนท์สำหรับโค้ชและผู้ปกครองเพื่อให้ข้อแนะนำในการสนับสนุนเยาวชนในเส้นทางกีฬาที่พวกเขาชื่นชอบ ทั้งการดูแลเด็กๆในแต่ละช่วงอายุ ความเข้าใจในพื้นฐานกีฬาบาสเก็ตบอล

นอกจากนี้ เด็กๆ สามารถเข้าไปที่ “Jr. NBA at home” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญ NBA Together เพือดูชุดเนื้อหาแบบอินเทอร์แอพทีพและเรียนรู้วิธีการคงความแอคทีฟและฝึกฝนพัฒนาเกมของตนเองเพิ่มเติมได้ที่บ้านอย่างปลอดภัย สำหรับโค้ชและครูพละ ก็สามารถเข้าชมวีดีโอที่รวบรวมคำถามและคำตอบจากโค้ชจูเนียร์เอ็นบีเอ การออกกำลังกายและวีดีโอการสอนแบบอื่นได้อีกด้วย

โปรแกรม จูเนียร์ เอ็นบีเอ ในประเทศไทย มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมสุขภาพของเยาวชนและแก้ปัญหาการมีกิจกรรมทางกายไม่เพียงพอในหมู่เยาวชนที่เพิ่มขึ้นด้วยการเพิ่มหลักสูตรบาสเก็ตบอลในการเรียนวิชาพละศึกษาในหมู่นักเรียนไทย จูเนียร์ เอ็นบีเอ ไทยแลนด์ ได้เริ่มโครงการในปี 2557 และเข้าถึงเยาวชนมากกว่า 600,000 คนทั่วประเทศ เพื่อสอนทักษะของกีฬาบาสเก็ตบอลและค่านิยมหลักของจูเนียร์ เอ็นบีเอ ทั้งเรื่องความมีน้ำใจนักกีฬา (sportsmanship) การทำงานเป็นทีม (teamwork) ทัศนคติที่เป็นบวก (positive attitude) และการเคารพซึ่งกันและกัน (respect)

สามารถเข้าชมเฟสบุ๊ค (@JrNBAThailand) และอินสตาแกรม  (@jrnbaasia) เพื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการส่งเสริมให้เยาวชนเล่น NBA และบาสเกตบอล

อาการไข่ตก

เตรียมท้องได้เลยจ้า! 5 สัญญาณบ่งบอก อาการไข่ตก ที่สำคัญต่อการตั้งครรภ์

Alternative Textaccount_circle
event
อาการไข่ตก
อาการไข่ตก

สำหรับคุณผู้หญิงที่เตรียมตัวเป็นคุณแม่ นอกจากการเตรียมสุขภาพร่างกายให้พร้อมต่อการตั้งครรภ์ การวางแผนมีลูกด้วยการนับวันไข่ตกจากรอบประจำเดือนและสังเกตร่างกายตัวเองว่ามี อาการไข่ตก เพื่อให้ได้วันเหมาะเจาะในการชวนสามีมากุ๊กกิ๊กกันก็สำคัญไม่น้อย

เตรียมท้องได้เลยจ้า! “ภาวะไข่ตก” สำคัญต่อการตั้งครรภ์อย่างไร?

นับวันไข่ตก

“ไข่ตก” คือ ภาวะสุขภาพที่เกิดขึ้นกับผู้หญิงเป็นประจำทุกเดือน การนับวันไข่ตกจะนับในช่วงประมาณ 2 สัปดาห์ก่อนที่ประจำเดือนรอบใหม่จะมา เช่น รอบเดือนจะมาทุก ๆ 28 วันเสมอ วันไข่ตกก็อยู่ในช่วงวันที่ 14 ของรอบเดือน (นับวันที่ประจำเดือนมาวันแรกเป็นวันที่ 1 ของรอบเดือน) เมื่อนับวันได้แล้วก็สามารถมีเพศสัมพันธ์ในช่วงก่อนวันตกไข่ประมาณ  2  วัน คือ ตั้งแต่วันที่ 12 ของรอบเดือน เพราะอสุจิจะมีชีวิตรอผสมไข่อยู่ได้ประมาณ 2 วันก่อนการตกไข่

ในช่วงภาวะไข่ตก ร่างกายจะมีระดับฮอร์โมนลูทิไนซิงสูงขึ้น ร่างกายพร้อมต่อการเจริญพันธุ์อย่างเต็มที่ ส่งผลให้รังไข่ปล่อยไข่ที่สุกรอการปฏิสนธิอยู่ที่ปลายท่อนำไข่ภายใน 12-24 ชั่วโมง ระหว่างนี้ร่างกายจะมีมูกช่องคลอดลื่นและใสขึ้น เพื่อช่วยให้อสุจิเข้ามาผสมกับไข่ได้ง่าย ดังนั้นช่วงนี้ว่าที่คุณแม่สะกิดสามีได้เลย เพราะเป็นช่วงเหมาะเจาะสำหรับการกุ๊กกิ๊กเพื่อให้สเปิร์มของพ่อวิ่งไปปฏิสนธิกับไข่ของแม่ เมื่อสำเร็จก็จะกลายเป็นตัวอ่อนในท้องคุณแม่ และร่างกายจะผลิตโปรเจสเตอโรนออกมาเรื่อย ๆ เพื่อสร้างเยื่อบุมดลูกให้หนาขึ้น เพื่อรองรับการเติบโตของตัวอ่อนในครรภ์จนกระทั่งเกิดรก แต่หากไข่ไม่ได้ปฏิสนธิกับอสุจิ ระดับฮอร์โมนดังกล่าวก็จะลดลง และไข่จะสลายตัวเมื่อผ่านไป 24 ชั่วโมง เยื่อบุมดลูกก็จะสลายหลังจากผ่านช่วงไข่ตกไปประมาณ 12-16 วัน ก็จะกลายเป็นเลือดประจำเดือนแล้วกลับไปเริ่มต้นนับรอบเดือนใหม่

การนับวันไข่ตกจึงเป็นปัจจัยสำคัญต่อการวางแผนมีลูกสำหรับว่าที่คุณแม่ไม่น้อยเพราะโอกาสจากการ “ไข่ตก” เกิดขึ้นแค่เดือนละครั้งเท่านั้น ถ้าพลาดในเดือนนี้ก็จะต้องรอการตกไข่รอบใหม่ในอีก 1 เดือน ดังนั้นการนับวันไข่ตกที่แน่นอน ก็จะช่วยกำหนดวันมีเพศสัมพันธ์ที่เพิ่มโอกาสมีลูกมากขึ้น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 100% เสมอไปด้วย เนื่องจากภาวะการตกไข่ในแต่ละเดือนมีความแตกต่างกันของจำนวนวัน ทั้งยังปัจจัยต่าง ๆ เช่น ความเครียด อาหาร สภาวะแวดล้อม การพักผ่อน และการทำกิจกรรมต่าง ๆ ซึ่งอาจส่งผลให้การตกไข่ในแต่ละเดือนไม่ตรงเสมอไป รวมถึงการคำนวณวันตกไข่ที่แม่นยำนั้นใช้ได้กับผู้หญิงที่มีรอบเดือนสม่ำเสมอเท่านั้น

5 สัญญาณบ่งบอก อาการไข่ตก เป็นอย่างไร

นอกจากอาศัยการนับวันไข่ตกจากรอบประจำเดือนแล้ว ยังสามารถสังเกตสัญญาณที่บ่งบอกว่าร่างกายของผู้หญิงอยู่ในช่วงไข่ตก เพื่อที่จะได้กะวันตกไข่ได้ใกล้เคียงมากยิ่งขึ้น ได้แก่

อาการไข่ตกเป็นอย่างไร

1.การเปลี่ยนแปลงของมูกช่องคลอด

เมื่อใกล้ตกไข่ ร่างกายจะหลั่งของฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนมากขึ้น ส่งผลให้มูกที่ช่องคลอดมีลักษณะเปลี่ยนไปคล้ายไข่ขาวดิบหรือคล้ายวุ้น มีความข้นเหนียวและลื่นหลั่งออกมา ทำให้อสุจิผ่านเข้าไปปฏิสนธิกับไข่ได้ง่าย หรือบางครั้งมีเลือดออกจากช่องคลอดนิดหน่อยเป็นเวลา 1-2 วัน

2.รู้สึกตัวร้อนขึ้นเล็กน้อย

โดยส่วนมากแล้วอุณหภูมิของร่างกายในช่วงก่อนวันตกไข่จะค่อนข้างคงที่ แต่ในระหว่างการตกไข่ ร่างกายจะมีฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้นเล็กน้อยประมาณ 0.5 องศาเซลเซียส ทำให้รู้สึกเหมือนตัวอุ่นขึ้นเล็กน้อย ในช่วงนี้ถ้าหากเราได้ทำการนับวันไข่ตกแล้ว การวัดอุณหภูมิตัวเองด้วยปรอทวัดไข้หลังตื่นนอนตอนเช้าก่อนลุกทำกิจกรรมอื่น ๆ และมีการจดบันทึกอุณหภูมิร่างกายติดต่อกัน 2-3 เดือนเพื่อดูแนวโน้มที่ชัดเจนของวันตกไข่ในแต่ละเดือน ถ้าอุณหภูมิร่างกายสูงขึ้นในช่วงนี้แสดงว่าอยู่ในระยะไข่ตกก็ช่วยให้ว่าที่คุณพ่อคุณแม่วางแผนปฏิบัติภารกิจมีลูกได้ใน 1-2 วันนั้น

3.ปากมดลูกมีการเปลี่ยนแปลง

ในช่วงของการตกไข่ช่องคลอดมีความอ่อนนุ่มเป็นพิเศษ เต่งอูมขึ้น มีความเปียกชื้น และตำแหน่งของปากมดลูกจะเลื่อนสูงขึ้น และเปิดออกมากกว่าเดิม โดยส่วนใหญ่อาจจะต้องใช้เวลาสังเกตกับการเปลี่ยนแปลงในจุดนี้เพื่อแยกความแตกต่างในช่วงเวลาที่ปกติกับในช่วงที่มีการตกไข่

4.รู้สึกมีความต้องการทางเพศเพิ่มขึ้น

ในช่วงเวลาไข่ตกของผู้หญิงจะส่งผลให้มีอารมณ์ทางเพศเพิ่มขึ้น และมีเลือดมาหล่อเลี้ยงบริเวณช่องคลอด รวมถึงมีการสร้างของเหลวหล่อลื่นมากเป็นพิเศษเพื่อช่วยให้มีเพศสัมพันธ์ได้ง่ายขึ้น

5.ปวดท้องน้อย

ในขณะที่มีการตกไข่อาจทำให้รู้สึกปวดในส่วนล่างของช่องท้องหรือปวดท้องน้อยอ่อน ๆ ข้างใดข้างหนึ่งขึ้นมาได้ จะเป็นด้านซ้ายหรือขวาขึ้นอยู่กับเดือนที่มีไข่ตก ซึ่งจะตกสลับข้างกันในแต่ละเดือน ไม่ปวดซ้ำข้างเดิมในแต่ละครั้ง อาการดังกล่าวมักไม่รุนแรงอาจเกิดขึ้นระยะสั้น ๆ หรือนานเป็นชั่วโมง และอาจมีเลือดออกทางช่องคลอด มีตกขาว หรือคลื่นไส้ร่วมด้วย แต่หากมีอาการผิดปกติรุนแรงขึ้นควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจอาการ เพราะอาจเป็นสัญญาณของอาการอื่น ๆ ได้ เช่น ภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ ซีสต์ในรังไข่ เป็นต้น

นอกจากสัญญาณหลัก ๆ ที่เกิดขึ้นแล้ว ระหว่างที่ไข่ตกฮอร์โมนจะมีการเปลี่ยนแปลง ส่งผลต่อร่างกายและอารมณ์ของผู้หญิงในหลาย ๆ ด้าน เช่น รู้สึกปวดหัว เจ็บหน้าอก ขาไม่มีแรง ท้องอืดแน่นท้อง อารมณ์ไม่คงที่ หงุดหงิดง่าย ไวต่อการรับกลิ่น รับรส เป็นต้น อาการเหล่านี้อาจเกิดขึ้นเป็นครั้งคราวเท่านั้น ผู้หญิงแต่ละคนจะพบสัญญาณอาการทางร่างกายแตกต่างกันไป บางคนมีวงจรการไข่ตกที่เกิดขึ้นระยะเดียวกันของทุกรอบเดือน ๆ ในทุกเดือน บางคนก็อาจจะมีคลาดเคลื่อนไปบ้าง ในขณะที่บางคนอาจไม่รู้สึกว่ามีอาการเหล่านี้เกิดขึ้นเลยก็ได้

อย่างไรก็ตามการเรียนรู้สัญญาณที่บ่งบอกว่าร่างกายอยู่ในภาวะตกไข่ในช่วงแรก ๆ อาจจะอยากซักหน่อย แต่เมื่อถึงเวลาและตั้งใจวางแผนมีลูกแล้ว เชื่อว่าการมีความเข้าใจในเรื่องนี้จะช่วยให้ว่าที่คุณแม่หลายคนเริ่มเข้าใจร่างกายตัวเองได้มากขึ้นและรู้ได้ทันทีถึงสัญญาณเหล่านี้ เพื่อเตรียมกากบาทลงในปฏิทินสำหรับวันที่จะชวนว่าที่คุณพ่อมาฟีเจอริ่งเพื่อให้มีเจ้าตัวน้อยให้เข้ากับจังหวะในแต่ละรอบเดือน เพราะว่าจะประสบผลสำเร็จในการตั้งครรภ์ได้เร็วและง่าย ขึ้นอยู่กับภาวะ “ไข่ตก” นี่แหละค่ะ ทั้งนี้หากลองวิธีการนี้แล้วไม่ได้ผล อาจปรึกษาคุณหมอในเรื่องของการมีบุตรยากเพื่อวิเคราะห์ปัญหาของสภาพร่างกายทั้งสามีและภรรยาต่อไป.

ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก : www.pobpad.comwww.multimedia.anamai.moph.go.thwww.maveta.com www.phyathai.com

อ่านต่อบทความอื่นน่าสนใจ คลิก :

แนะ 5 แอพนับวันไข่ตก ช่วยมีลูกได้!

อยากมีลูกต้องทำไง ? ลอง 9 วิธีแบบธรรมชาติและวิทยาศาสตร์ ลูกมาแน่

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

ผื่นแดง

16 วิธีดูเเลลูกน้อยให้ไม่เป็น ผื่นแดง ผื่นผ้าอ้อม

Alternative Textaccount_circle
event
ผื่นแดง
ผื่นแดง

อาการ ผื่นเแดง ผื่นผ้าอ้อม เป็นอาการที่เกิดขึ้นค่อนข้างบ่อยในเด็กทารก ด้วยเพราะ เด็กทุกคนต้องใส่ผ้าอ้อมเป็นประจำ บางครั้งจึงทำให้เกิดอาการแพ้ เกิดเป็น ผื่นแดง เนื่องจากผิวหนังอับชื้น อาจเกิดจากการที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ค่อยเปลี่ยนผ้าอ้อมให้ลูกน้อย หรือคุณภาพของผ้าอ้อมนั้นไม่ดี ไม่ค่อยซึมซับน้ำ หรือไม่ เด็กเล็กๆ อาจแพ้ผลิตภัณฑ์ซักผ้า และ น้ำยาปรับผ้านุ่ม เมื่อลูกเล็กเคลื่อนไหวร่างกาย พอผิวถูกับผ้าอ้อมไปมาจึงทำให้เกิดผื่นขึ้น จนเป็นผื่นเเดงให้คุณพ่อคุณเเม่กังวลใจ

ทีมเเม่ ABK จึงได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผื่นผ้าอ้อมมาให้คุณพ่อคุณเเม่ได้อ่านเพื่อเตรียมพร้อมรับมือกันค่ะ

อาการ ผื่นแดง ผื่นผ้าอ้อม

อาการจะเริ่มจากการมีผิวแห้ง และ มีผื่นขึ้นตามร่างกาย บริเวณที่ผิวสัมผัสกับผ้าอ้อม เช่น ต้นขา สะโพก ก้น และท้องน้อยช่วงล่าง หากบริเวณผิวของลูกถูกับผ้าอ้อมมาก ๆ อาจเกิดเป็นลักษณะของผื่นถลอก และ อักเสบ มีส่วนทำให้บาดแผลเกิดการติดเชื้อ ต่าง ๆ ร่วมด้วย เช่น เชื้อแบคทีเรีย เชื้อราแคนดิดา เกิดเป็นตุ่มน้ำใสๆ หรือ ตุ่มหนอง ซึ่งหากไม่รีบรักษา อาจลุกลามมากขึ้นเรื่อย ๆ

ทารกนอนหลับ

ปัจจัยที่ทำให้เกิดอาการ ผื่นแดง ผื่นผ้าอ้อม 

  • ปัสสาวะ

ปัสสาวะคือของเสียที่ร่างกายขับออกมาผ่านไตในรูปแบบของเหลว มีส่วนประกอบของสารที่ทำให้ระคายเคืองผิว ของเสียที่ขับออกมาจะเกิดการสลายตัวของของเสีย ซึ่งมีผลต่อการทำร้ายผิวหนัง

  • อุจจาระ

ในอุจจาระ มีสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิว เช่น พวกเอนไซม์ และ แบคทีเรียจากลำไส้ หากอุจจาระถูกห่อไว้ในผ้าอ้อมนาน ๆ จะทำให้เกิดผื่นผ้าอ้อมได้ง่ายขึ่น

  • เหงื่อและความอับชื้น

ผิวหนังมีความรู้สึกไวต่อการอับชื้น ทำให้เกิดการระคายเคืองได้ง่าย ยิ่งเมื่อลูกเคลื่อนไหวร่างกายเยอะ เหงื่อจะออกมามาก หากมีปัสสาวะหรืออุจจาระ ร่วมด้วยแล้ว ความอับชื้นภายในผ้าอ้อมจะเพิ่มสูงมาก ของเสียที่ร่างกายขับออกมา จึงเป็นตัวกระตุ้นให้ทำร้ายผิวได้ง่าย

  • ถูกกระตุ้นด้วยการเสียดสี

การทำความสะอาดผิวหนังของลูกน้อย คุณแม่ต้องระวังไม่ให้เกิดการเสียดสีที่รุนแรง เนื่องจาก ผิวของลูกน้อยอาจช้ำ โดยรอยช้ำดังกล่าวอาจมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า และ การมองไม่เห็นนี่เองจึงเป็นจุดเริ่มต้นของกาการอักเสบได้

  • เชื้อรา

ความอับชื้นภายในผ้าอ้อม เป็นแหล่งเพาะเชื้อราได้อย่างดี มีผลทำให้ผิวหนังอักเสบ จนเกิดเป็นผื่นผ้าอ้อม

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

16 วิธีดูเเลลูกน้อยให้ไม่เป็นผื่นผ้าอ้อม

1. เลือกผ้าอ้อมที่หมาะกับลูก

การเลือกซื้อผ้าอ้อมควรเลือกแบบที่ลูกจะไม่มีอาการแพ้ หากคุณแม่ไม่มั่นใจว่าลูกจะมีอาการแพ้หรือไม่ เบื้องต้นให้ลูกน้อยลองใส่ผ้าอ้อมเพื่อดูความระคายเคือง หากไม่สบายตัวลูกน้อยอาจร้อง หรือ ถ้ามีอาการแพ้จะมีผดผื่นขึ้น นอกจากนี้ควรเลือกผ้าอ้อมให้เหมาะกับลูกน้อย ทั้งแบบสำเร็จรูป และแบบผ้า

2. สวมผ้าอ้อมพอกระชับ

ไม่ควรใส่แน่นเกินไป เลือกผ้าอ้อมที่หลวมกว่าเอวลูกเล็กน้อย ให้มีพื้นที่ระบายอากาศ และทำให้ไม่อึดอัด สังเกตได้เมื่อปลดออกไม่มีรอยแดงที่ผิวหนัง เมื่อลูกถ่ายจะต้องซึมซับได้ง่าย

3. เปลี่ยนผ้าอ้อมให้เป็นเวลา

ควรเปลี่ยนผ้าอ้อมให้ลูกทุก 2-3 ชั่วโมงหรือทุกครั้งหลังจากอุจจาระ โดยลูกวัย 1 – 6 เดือน ควรตรวจทุกชั่วโมง เพราะวัยนี้ถ่ายบ่อย ไม่ควรปล่อยให้ก้นลูกเปียกชื้น หมกอยู่กับผ้าอ้อมนานเกินไป และทุกครั้งที่เปลี่ยนผ้าอ้อม ควรล้างทำความสะอาดก้นของลูกด้วย

4. ให้ก้นลูกสัมผัสอากาศบ้าง

ไม่จำเป็นต้องให้ลูกน้อยสวมผ้าอ้อมตลอดเวลา หลังเวลาอาบน้ำ หรือ หลังทำความสะอาดก้น ควรปล่อยให้ก้นลูกน้อยโล่งสบายสักพัก ลดอาการแสบระคายเคือง ทั้งนี้ทั้งนั้นควรอยู่ในอุณหภูมิที่เหมาะสม

5. ล้างมือทุกครั้งหลังเปลี่ยนผ้าอ้อม

หลังจากที่เปลี่ยนผ้าอ้อมให้ลูกเเล้ว ควรล้างมือทุกครั้งเพื่อป้องกัน การเเพร่กระจายของเชื้อโรคไปยังร่างกายส่วนอื่นของลูก

6. ทำความสะอาดอวัยวะเพศของลูกทุกครั้งที่เปลี่ยนผ้าอ้อม

โดยใช้ผ้าหรือเบบี้ไวพ์แตะซับผิวของน้องเบา ๆ ระวังอย่าใช้ผ้าถู เพราะจะทำให้เกิดการระคายเคืองได้

Must readทำความสะอาดอวัยวะเพศของ “ลูกสาว”

Must readทำความสะอาดอวัยวะเพศของ “ลูกชาย”

7. ให้ลูกหัดกินอาหารทีละอย่าง

เมื่อลูกเริ่มกินอาหารแข็ง ๆ แนะนำให้คุณแม่ให้ลูกหัดกินไปทีละอย่าง รอสักสองสามวันค่อยให้น้องกินอาหารชนิดใหม่ เพื่อตรวจสอบว่าอาหารที่ลูกกินนั้น เป็นที่มาของอาการผื่นแพ้ผ้าอ้อมหรือไม่

12 เมนู อาหารเด็ก 6 เดือน กับสูตรอร่อยเพื่อลูกวัยเริ่มกิน! 

รวม 60 สูตร+วิธีทำ เมนูอาหารเด็ก ตั้งแต่ 6 เดือน – 1 ขวบ

8. ไม่ควรซักผ้าอ้อมด้วยผลิตภัณฑ์ซักผ้าที่ผสมน้ำหอมรวมถึงไม่ควรใช้น้ำยาปรับผ้านุ่ม

ทั้งสองอย่างนี้อาจทำให้ผิวของลูกน้อยระคายเคืองเนื่องจากสารเคมี ควรใช้น้ำร้อนซักทำความสะอาดผ้าอ้อมแล้วล้างด้วยน้ำเปล่าสองครั้ง หรือเติมน้ำส้มสายชูสักครึ่งถ้วยลงในน้ำล้างน้ำแรก เพื่อช่วยขจัดสารที่มีฤทธิ์เป็นด่างซึ่งก่อให้การระคายเคือง

9. พยายามหยุดการใช้ผ้าอ้อมหรือใส่ผ้าอ้อมให้น้อยที่สุด

ผิวหนังของลูกควรได้สัมผัสอากาศมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะหากผิวเปียกชื้นตลอดเวลา อาจทำให้ลูกเป็นผื่นผ้าอ้อม จึงควรลดเวลาการใส่ผ้าอ้อมลง หรือ ใช้ผ้าอ้อมให้น้อยที่สุด

10. ให้ลูกกินนมเเม่

นมแม่มีช่วยลดค่า ph ในอุจจาระได้ ทำให้มีความเป็นกรดเพิ่มขึ้น นอกจากนี้โดยทั่วไปแล้ว การให้ลูก กินนมแม่ยังช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันต้านทานการติดเชื้อ ทำให้ทารกมีโอกาสใช้ยาปฏิชีวนะน้อยลง ซึ่งยาปฏิชีวนะเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้น้องเป็นผื่นผ้าอ้อมได้ด้วย

บีบดั้ง

11. ควรใช้ผ้าอ้อมที่มีเจลช่วยดูดซึมความเปียกชื้น

ผ้าอ้อมสำเร็จรูปช่วยดูดซึมความเปียกชื้นจากผิวหนัง ทำให้ผิวหนังแห้งและลดโอกาสเป็นผื่นผ้าอ้อม เมื่อลูกปัสสาวะหรืออุจจาระควรถอดเปลี่ยนผ้าอ้อม แล้วทำความสะอาดผิวหนังส่วนที่อยู่ในผ้าอ้อมเบาๆ ด้วยน้ำเปล่า หรือสบู่ไร้ด่าง

12. เลือกผลิตภัณฑ์อาบน้ำสูตรอ่อนโยนต่อผิวทารก

ในระหว่างการอาบน้ำ ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อผิวลูก ผสมน้ำอุ่นเล็กน้อยเพื่อความสะอาดเเละอ่อนโยนต่อผิว

13. หลังทำความสะอาดควรทาครีมเพื่อช่วยให้ผิวลูกไม่ระคายเคือง

เมื่อทำความสะอาดก้นลูกเสร็จ ควรเช็ดให้แห้ง ปล่อยให้ผิวหนังลูกสัมผัสกับอากาศก่อนแล้วจึงทาด้วยครีมหรือ Ointment ที่มี Zinc Oxide หรือ Petrolatum (วาสลีน) หรือ dimethiconeเพื่อเคลือบปกป้องผิวไม่ให้เกิดการระคายเคือง

14.ไม่ควรทาแป้ง บริเวณขาหนีบและอวัยวะเพศของลูก

เพราะแป้งจะจับกับเหงื่อที่ออกในบริเวณนั้นกลายเป็นคราบหรือก้อนแป้งชื้นๆ แฉะๆ ทำให้ผิวชื้นแฉะตลอดเวลา และสามารถเกิดอาการระคายเคืองและเป็นผื่นผ้าอ้อมง่ายขึ้น

15. คุณแม่ควรรับประทานอาหารที่สุกสะอาดเสมอ

หากคุณแม่รับประทานอาหารที่ไม่สะอาด หรือรับประทานยาปฏิชีวนะบ่อยครั้งเพราะสุขภาพไม่ค่อยดีในระหว่างช่วงให้น้ำนมลูก ก็อาจส่งผลให้ลูกน้อยมีอาการท้องเสียได้ง่ายและต้องขับถ่ายบ่อยเป็นพิเศษ จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคผื่นผ้าอ้อม

16.ควรพาลูกไปพบแพทย์ หากดูแลรักษาตามวิธีข้างต้นแล้วอาการไม่ดีขึ้น

เมื่อสงสัยว่าลูกอาจมีการติดเชื้อแบคทีเรีย เป็นตุ่มหนอง หรือ เป็นผื่นเนื่องจากเชื้อรา หากอาการไม่ดีขึ้นภายใน 2-3 วัน

ผื่นผ้าอ้อมถือเป็นเรื่องปกติของเด็กเล็ก ในช่วงอายุ 3 – 18 เดือน ด้วยเพราะปัจจัยที่ก่อให้เกิดนั้นบางครั้งคุณพ่อคุณเม่อาจควบคุมไม่ได้ เช่นอาการเเพ้ของลูกน้อย ขอเพียงเราทำความเข้าใจถึงสาเหตุ วิธีป้องกันและรักษาที่ถูกต้อง ก็จะสามารถดูแลลูกน้อยให้ห่างไกลจากผื่นผ้าอ้อมได้ค่ะ


อ้างอิง : โรงพยาบาลพญาไท พบแพทย์ Merries

บทความที่น่าสนใจอื่นๆ

ผื่นผ้าอ้อม ผดผื่นตามซอกจุดอับ ตามซอกข้อพับดูแลผิวลูกน้อยให้สบายง่ายนิดเดียว

เช็กลิสต์ 5 ผื่นแพ้ในทารก พร้อมวิธีรับมือที่แม่ต้องรู้

ดูแลผิวลูกหน้าฝน รับมือเชื้อราและแบคทีเรีย

นิทานอีสปสั้นๆ

20 นิทานอีสปสั้นๆ เน้นคติเตือนใจ เหมาะกับทุกวัย จบแบบยิ้มได้ไม่รุนแรง

account_circle
event
นิทานอีสปสั้นๆ
นิทานอีสปสั้นๆ

นิทานอีสปสั้นๆ เล่มบางจิ๋วที่คุณพ่อคุณแม่เคยอ่าน ยังคงเป็นนิทานยอดนิยมของลูกๆ เช่นกัน แม้ทุกวันนี้เด็กจะได้รู้จัก นิทานอีสปในหลายรูปแบบ ทั้งเพลง นิทานเพลง นิทานสองภาษา คลิปการ์ตูน หรือภาพวาดระบายสี แต่ความสนุกและคติสอนใจที่ถ่ายทอดผ่านตัวละครสัตว์ที่มีคาแรคเตอร์ต่างกันทั้งตัวร้าย ตัวดี ยังเหมือนเดิม

 

20 นิทานอีสปสั้นๆ ชวนอ่านก่อนนอนสอนใจลูก

เพราะการสอนเด็กๆให้เข้าใจเรื่องคุณธรรม ความดี ความชั่วแบบตรงไปตรงมาไม่ใช่เรื่องง่าย การอ่านนิทานสอนจึงเป็นกุศโลบายที่ชวนให้ลูกน้อยรู้สึกเพลิดเพลิน คล้อยตาม และซึมซับคำสอนเหล่านั้นไปโดยไม่ต้องบังคับ ที่สำคัญคติสอนใจจาก นิทานที่ฝังใจลูกไปจนโต สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่อยากหา นิทานอีสปสั้นๆ มาอ่านให้ลูกฟัง แต่ยังไม่รู้จะเริ่มจากเล่มไหนดี ทีมแม่abk คัดมาให้แล้ว 20 นิทานอีสปเรื่องเด็ด เนื้อเรื่องสนุก จบแบบอ่อนโยน ไม่ทำร้ายจิตใจลูก อ่านให้ฟังเพลินๆก่อนนอน กล่อมให้ลูกหลับฝันดีตลอดคืน จะมีเรื่องไหนบ้างตามมาดูกันเลย

นิทานอีสปสั้นๆ มาจากไหนกันนะ

นิทานอีสป เป็นนิทานระดับโลกที่เล่าขานกันมาเกือบ 3,000 ปี โดย “อีสป” นักเล่านิทานชาวกรีก ผู้ปราดเปรื่องแต่กลับมาเป็นคนพิการ มีรูปร่างอัปลักษณ์  อีสปเป็นเพียงข้าทาสของนายจ้างหลายคน ที่อาศัยอยู่บนเกาะซาโมส หลังเสร็จการงานในแต่ละวัน เขาจะใช้เวลาว่างออกไปเล่านิทานเรื่องสั้น ๆ ให้ชาวเมืองฟัง ใครได้ฟังต่างชื่นชอบและมีคนเข้ามาฟังนิทานจากอีสปเพิ่มขึ้นทุกวัน เพราะมีเนื้อหาสนุกสนาน สอดแทรกคติสอนใจให้ได้ขบคิดเหมาะกับคนทุกเพศทุกวัย

หลังจากได้รับอิสรภาพ อีสปมุ่งมั่นกับการแต่งนิทานเรื่อยมาจนเป็นมีชื่อเสียงโด่งดัง และได้เข้าไปทำงานในราชสำนักของกษัตริย์เครซุส และเป็นที่ทรงพอพระทัยอย่างมาก อย่างไรก็ตาม การชี้นำทางความคิดยังถือเป็นเรื่องต้องห้ามในยุคนั้น หากมีใครตั้งตนเป็นผู้นำทางความคิด ซึ่งเป็นงานเฉพาะของนักปราชญ์หรือผู้นำศาสนาจะถูกกล่าวหาว่าเป็น “พ่อมดหมอผี” ทันที

อีสปจึงหลบเลี่ยงภัยอันตรายดังกล่าวด้วยการให้เหล่าสัตว์มาเป็นตัวเดินเรื่องและแฝงคำสอนเกี่ยวกับความดี คุณธรรมไว้เนื้อหาแทน จึงดูเหมือนเป็นการเล่าเรื่องเพื่อความสนุกสนานมากกว่าสอนบทเรียนใดๆ เช่น สิงโตเป็นตัวแทนของผู้มีอำนาจ หนูแทนผู้ต่ำต้อย ลาแทนคนด้อยปัญญา หมาจิ้งจอกแทนคนเจ้าเล่ห์ เป็นต้น และนี่กลายเป็นจุดเด่นที่ทำให้นิทานอีสปยังถูกเล่าขานต่อกันมาจนทุกวันนี้

ช่วงท้ายของชีวิตอีสปไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าเขาจากโลกนี้ไปด้วยการฆาตกรรม แม้ไม่มีใครรู้ชัดว่าจากสาเหตุอะไร แต่ที่แน่ๆ อีสปคือนักเล่านิทานในตำนาน และนิทานของเขาไม่เคยล้าสมัย ภายหลังได้ถูกบันทึก เรียบเรียง และเผยแพร่ไปทั่วโลก ส่วนคนไทยรู้จักกับนิทานอีสปเป็นครั้งแรกตั้งแต่รัชกาลที่ 3 เลยทีเดียว

 

 

นิทานอีสปสั้นๆ สอนเด็กๆให้รู้ไว้ “อย่ามัวหลงคำชมจนเสียเปรียบแบบไม่รู้ตัว”

 

นิทานอีสปสั้นๆ

ลิงกับเต่า 

เป็นเรื่องราวของเจ้าลิงตัวหนึ่ง อาศัยอยู่ริมลำธาร มันเก็บลูกไม้แถบนั้นกินเป็นอาหารอยู่เป็นประจำ จนวันหนึ่งลูกไม้ที่มีใกล้หมวดลง จึงวางแผนจะจะข้ามแม่น้ำไปหากินฝั่งตรงข้ามดูบ้าง แต่ลิงว่ายน้ำไม่เป็นจึงนั่งคิดหาวิธีข้ามแม่น้ำอยู่นาน จนพบกับเต่าตัวหนึ่งว่ายน้ำผ่านมา ลิงจึงออกอุบายด้วยการออกปากชมเจ้าเต่าตัวโตว่า

“ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเห็นใครว่ายน้ำเร็วเท่าเจ้ามาก่อนเลย”  เจ้าเต่าจึงชวนลิงไปเที่ยวและให้ขี่หลัง ลิงก็ชี้ทางให้เต่าว่ายไปฝั่งตรงข้าม เมื่อถึงจุดหมายสมใจก็กระโดดลงทันที แล้วหันมาเยาะเย้ยเต่าว่า

“จริงๆ เจ้าหน่ะว่ายน้ำไม่เร็วสักนิด แถมช้าเหมือนคลาย ที่ข้าชมไปนั่นเพราะหวังจะให้เจ้าพาข้ามฝั่งมาต่างหาก” พร้อมกับหัวเราะเสียงดัง เจ้าเต่าได้ฟังก็ช้ำใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้

 

สอนเด็กๆ ให้รู้ไว้ “อย่าดูถูกคนด้อยกว่า ควรหมั่นมีน้ำใจและกตัญญูรู้คุณอยู่เสมอ”

 

นิทานอีสปสั้นๆ

ราชสีห์กับหนู 

เรื่องราวของสิงโตกับหนู ที่ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกันได้ แต่แล้ววันหนึ่งขณะที่ราชสีห์เจ้าป่ากำลังหลับเพลิน หนูตัวกะเปี๊ยกดันวิ่งซนไต่บนร่างของราชสีห์จนตกใจตื่น ราชสีห์โมโหจัดจึงจับหนูเอาไว้ หนูน้อยร้องขอชีวิตโดยบอกว่า “วันหน้าข้าอาจได้มีโอกาสช่วยเหลือท่านราชสีห์ผู้ยิ่งใหญ่สักครั้ง”

ราชสีห์ปรามาสเจ้าหนูตัวจ้อยว่า “จะมาช่วยอะไรเจ้าป่าอย่างตนได้ เจ้าเป็นแค่หนูตัวนิดเดียว” พร้อมหัวเราะเยาะหยันและปล่อยหนูไป

วันหนึ่งราชสีห์พลาดท่าไปติดบ่วงของนายพราน เจ้าหนูได้ยินเสียงร้องจึงมาช่วยกัดบ่วงจนขาด ราชสีห์จึงรอดชีวิตมาได้

 

สอนเด็กๆ ให้รู้ไว้ “ทำอะไรควรมุ่งมั่นสำเร็จ อย่ายอมแพ้ง่ายๆ” 

 

นิทานอีสปสั้นๆ

 

หมาจิ้งจอกกับพวงองุ่น 

หมาจิ้งจอกหิวโซตัวหนึ่งเดินผ่านไร่องุ่น และเห็นองุ่นพวงหนึ่งลูกโตน่ากิน มันพยายามกระโดดงับพวงองุ่นอยู่หลายครั้งแต่ก็ไม่สำเร็จสักที จึงเดินเชิดออกมา พร้อมบอกกับตัวเองว่า “องุ่นพวงนี้เปรี้ยวแน่ๆ ไม่เห็นจะอยากกินเลย” ซึ่งนี่ เป็นที่มาของภาษิต “องุ่นเปรี้ยว” ใช้เปรียบเทียบ คนที่ทำสิ่งใดไม่สำเร็จ มักหาเรื่องตำหนิว่าสิ่งนั้นด้อยค่า

 

สอนเด็กๆ ให้รู้ไว้ “อย่าโลภมาก ลาภจะหาย”

นิทานอีสปสั้นๆ

หมากับเงา 

หมาตัวหนึ่งคาบก้อนเนื้อวิ่งข้ามสะพานมา เมื่อถึงกลางสะพาน มันก้มหน้ามองลงไปในน้ำ เห็นหมาอีกตัวกำลังคาบเนื้อชิ้นใหญ่กว่า เจ้าหมาละโมบอยากได้เนื้อชิ้นใหญ่จึงอ้าปากเห่ากรรโชกหมายเเย่งเนื้อชิ้นนั้นมา แต่กลับกลายเป็นว่าเนื้อในปากตัวเองหล่นจ๋อมลงน้ำไป เจ้าหมาจึงได้เข้าใจว่า แท้จริงแล้วหมาที่คาบเนื้อชิ้นใหญ่นั้นก็คือเงาของตนนั่นเอง

 

สอนเด็กๆ ให้รู้ไว้ “คนฉลาดย่อมไม่หลงเชื่อใครง่ายๆ”

 

นิทานอีสปสั้นๆ

ราชสีห์ป่วยกับหมาจิ้งจอก 

หรือที่หนังสืออีกหลายเล่มอาจตั้งชื่อว่า “หมาจิ้งจอกกับราชสีห์จอมเจ้าเล่ห์” เป็นเรื่องราวของราชสีห์เจ้าเล่ห์ตัวหนึ่งขี้เกียจออกล่าเหยื่อ จึงออกอุบายแกล้งป่วยนอนซมอยู่ในถ้ำ แล้วอ้อนวอนให้สัตว์ต่างๆ มาเยี่ยม เมื่อมาถึงแล้วก็จะจับกินเป็นอาหารได้ง่ายๆแบบไม่ต้องออกแรง สัตว์ทั้งหลายเมื่อรู้ข่าวจึงผลัดเปลี่ยนกันไปเยี่ยมราชสีห์และถูกกินเป็นอาหารจนหมด ยกเว้นแต่หมาจิ้งจอก

วันหนึ่งเมื่อราชสีห์เห็นหมาจิ้งจอกเดินผ่านมาหน้าถ้ำก็เลยถามว่า “ทำไมไม่มาเยี่ยมข้าบ้างเลย ข้ากำลังป่วยหนัก”หมาจิ้งจอกรู้ทันเลยตะโกนตอบว่า “เพราะข้าสังเกตเห็นแต่รอยเท้าเดินเข้าไปในถ้ำ ไม่เห็นรอยเท้าเดินออกมาเลยไงล่ะ” ว่าแล้วเจ้าหมาจิ้งจอกก็เดินจากไปอย่างปลอดภัย

 

สอนเด็กๆ ให้รู้ไว้ “สิ่งของจะมีค่าเมื่ออยู่กับคนที่คู่ควร”

 

 

นิทานสั้นๆ
เครดิตภาพ: 108topic.com

ไก่ได้พลอย 

เรื่องราวของ นิทานอีสปสั้นๆ เรื่องนี้ เกี่ยวกับพ่อไก่ตัวหนึ่งที่คุ้ยเขี่ยอาหารและบังเอิญจอพลอยเม็ดงาม มันคิดว่าถ้าช่างทองได้พลอยเม็ดนี้ไปคงดีใจน่าดู แต่สำหรับมันแล้วขอข้าวแค่เมล็ดเดียวยังจะดีกว่า ว่าแล้วก็คุ้ยเขี่ยหาหนอนของตัวเองต่อไป

 

สอนเด็กๆ ให้รู้ไว้ “บางเรื่องพูดง่าย แต่ทำยาก”

 

นิทานอีสปสั้นๆ
เครดิตภาพ: http://funtales4u.blogspot.com

ลูกกระพรวนกับหนู 

ในบ้านหลังหนึ่งมีหนูกลุ่มหนึ่งอาศัยอยู่ วันหนึ่งพวกหนูมาประชุมกันเพื่อหาวิธีเอาตัวรอดจากเจ้าแมวตัวร้ายที่ชอบไล่จับหนู พวกมันหารือกันอยู่นานแต่ยังหาวิธีไม่ได้ จนหนูหนุ่มตัวหนึ่งเสนอให้นำลูกกระพรวนไปผูกคอแมว เวลาแมววิ่งก็จะมีเสียงดังเตือน หนูทั้งหมดจะได้หนีทัน หนูทุกตัวเห็นด้วย แต่เมื่อต้องหาอาสาสมัครนำกระพรวนไปผูกคอแมว กลับไม่มีหนูตัวไหนกล้าทำสักตัว สุดท้ายแผนที่คิดมาตั้งนานก็ล้มเหลวแบบไม่เป็นท่า

 

สอนเด็กๆ ให้รู้ไว้ “ความประมาทเป็นต้นเหตุของความพ่ายแพ้”

 

กระต่ายกับเต่า 

สุดยอด นิทานอีสปสั้นๆ ที่เด็กทุกวัยชื่นชอบ คงหนีไม่พ้นเรื่องราวของกระต่ายตัวหนึ่งซึ่งมีนิสัยหลงตัวเอง ชอบโอ้อวดว่ามันวิ่งเร็วกว่าใคร เมื่อพบเต่าเดินต้วมเตี้ยมก็หัวเราะเยาะอยู่บ่อยๆ จนเจ้าเต่าทนไม่ไหวและขอท้าวิ่งแข่ง เพื่อพิสูจน์ว่าใครจะวิ่งเร็วกว่ากัน  แต่เจ้ากระต่ายกลับขำกลิ้งเพราะคิดว่าเต่าไม่มีทางชนะได้ และตนต้องเป็นฝ่ายชนะแน่นอน

ถึงเวลาแข่งขัน เจ้ากระต่ายวิ่งนำโด่งไปไกล และนึกประมาทจนขอนอนรอสักงีบเพราะคิดว่าเจ้าเต่าไม่มีทางตามทัน  เมื่อตื่นมาอีกทีก็พบว่าเต่าที่เดินต้วมเตี้ยมช้าๆ แต่สม่ำเสมอนั้นเข้าเส้นชัยชนะตนเองไปเสียแล้ว กระต่างรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก

 

สอนเด็กๆ ให้รู้ไว้ “ความขยันมั่นเพียรและอดออมช่วยให้ชีวิตไม่ลำบาก”

 

 

มดกับตั๊กแตน 

ในฤดูร้อน ตั๊กแตนตัวหนึ่งร้องเพลงสบายใจ ในขณะที่ฝูงมดกุลีกุจอขนอาหารกักตุนไว้สำหรับฤดูหนาว ตั๊กแตนชักชวนให้มดมาร้องเพลงกันก่อน แต่มดก็ไม่สนใจ เมื่อฤดูหนาวที่แร้นแค้นมาถึง มดจึงมีอาหารที่กักตุนไว้กิน ส่วนตั๊กแตนนั้นอดอยากโซเซไปขออาหารจากมดมาประทังชีวิต จึงถูกมดต่อว่าไปชุดใหญ่ว่ามัวแต่ขี้เกียจถึงต้องลำบากเช่นนี้  จำไว้เป็นบทเรียนนะเจ้าตั๊กแตน

 

สอนเด็กๆ ให้รู้ไว้ “จงพอใจในสิ่งที่ตนมี”

 

 

กากับนกยูง 

กาตัวหนึ่งรู้สึกไม่พอใจขนสีดำของตัวเอง คิดแปลงโฉมตัวเองให้สวยน่ามอง จึงไปเก็บหางนกยูงมาแซมขน แล้วทิ้งฝูงกาไปอาศัยอยู่กับฝูงนกยูง นกยูงเห็นว่ากาไม่ใช่พวกตนก็จิกตีขับไล่ออกไป จนกาต้องซมซานกลับมาหาฝูงกาของตน แต่ฝูงกาไม่พอใจจึงไม่ยอมให้กลับเข้าฝูงอีก สุดท้ายกาตัวนั้นต้องอยู่ตามลำพังตั้งแต่นั้น

 

สอนเด็กๆ ให้รู้ไว้อย่าถามหาสัจจะกับคนพาล

 

 

นกกระสากับหมาจิ้งจอก  

นิทานเรื่องนี้เล่าเรื่องของหมาจิ้งจอกจอมตะกละกินปลาแล้วก้างติดคอ จึงขอให้นกกระสาดึงก้างออกให้แล้วจะมีรางวัลตอบแทน เมื่อนกกระสาใช้จะงอยปากคีบก้างออกเจ้าหมาจิ้งจอกขี้โกงกลับย้อนกลับว่า

“แค่เจ้ายื่นหัวเข้าปากแล้วฉันไม่งับเจ้าซะ ก็ถือเป็นรางวัลแล้ว ยังจะเอาอะไรอีก” นกกระสาอึ้งในคำตอบแต่ก็สายเสียแล้ว

 

สอนเด็กๆ ให้รู้ไว้สติปัญญาคือหนทางแห่งความสำเร็จ

 

กากับเหยือกน้ำ 

กาตัวหนึ่งกระหายน้ำมาก เมื่อมาเจอเหยือกน้ำจึงพยายามแหย่ปากลงไปดื่มน้ำ แต่น้ำในเหยือกเหลือน้อย ปากสั้นๆ ของมันดื่มน้ำไม่ถึง เจ้ากาขบคิดหาคำตอบอยู่สักพัก จึงหย่อนก้อนกรวดลงในเหยือกให้น้ำสูงขึ้นถึงปากเหยือก แล้วจิบน้ำกินได้อย่างสบาย

 

สอนเด็กๆ ให้รู้ไว้อย่าริสอนผู้อื่นในสิ่งที่ตนทำไม่เป็น

 

 

แม่ปูกับลูกปู 

แม่ปูนำขบวนลูกปูออกหาอาหารริมชายหาด เมื่อเห็นลูกๆ เดินเฉไปเฉมาก็สั่งให้ลูกเดินตรงๆ ลูกปูจึงย้อนว่า “แม่ช่วยเดินตรงๆ ให้เป็นตัวอย่างได้ไหมจ๊ะ” แต่แม่ปูก็เดินเฉเหมือนลูกๆตามธรรมชาติของปู สุดท้ายทั้งแม่ปูและลูกปูก็ไม่มีใครเดินตรงได้สักตัว

 

สอนเด็กๆ ให้รู้ไว้อย่าละโมบจนเกินพอ

 

ห่านทองคำ 

เล่าถึงเรื่องราวของชายผู้หนึ่ง ที่มีห่านวิเศษออกไข่เป็นทองคำทุกวันๆละ 1 ฟอง เขาจะเก็บวันไปขายที่ตลาดทุกวันสม่ำเสมอจนร่ำรวย แต่มาวันหนึ่งเขาเกิดความโลภ อยากเป็นมหาเศรษฐีในชั่วข้ามคืน จึงใช้มีดผ่าท้องห่านเพราะหวังจะได้ไข่ทีเดียวมากๆ ปรากฏว่าในท้องห่านมีแต่ความว่างเปล่า เมื่อเจ้าห่านก็ตายไปชายผู้นี้ก็ไม่มีไข่ทองคำอีกเลย

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

สอนเด็กๆ ให้รู้ไว้คนพูดโกหกย่อมไม่มีใครเชื่อถือ

 

 

เด็กเลี้ยงแกะ 

เด็กเลี้ยงแกะคนหนึ่งชอบปั้นเรื่องโกหก ระหว่างเลี้ยงแกะอยู่เบื่อๆ นึกสนุกคะนอง จึงตะโกนว่ามีหมาป่าจะมากินแกะ ชาวบ้านที่ได้ยินจึงหยิบอาวุธมาช่วยกันขับไล่ แต่เมื่อมาถึง เด็กเลี้ยงแกะกลับหัวเราะชอบใจที่หลอกคนอื่นได้สำเร็จ ชาวบ้านโกรธมาก

หลังจากนั้นเด็กเลี้ยงแกะแกล้งตะโกนหลอกชาวบ้านเรื่อยมา กระทั่งวันหนึ่งมีหมาป่ามาไล่กัดฝูงแกะจริงๆ แต่เสียงตะโกนจากเด็กเลี้ยงแกะครั้งนี้ ไม่มีชาวบ้านคนไหนมาช่วยอีก สุดท้ายหมาป่าก็กินฝูงแกะจนหมด

 

 

สอนเด็กๆ ให้รู้ไว้คนซื่อสัตย์ย่อมพบเจอแต่สิ่งดีงาม

 

เทพารักษ์กับชายตัดไม้ 

ชายตัดไม้คนหนึ่งทำขวานหลุดมือตกลงไปในบึง เทพารักษ์ที่สถิตในบึงแห่งนั้นรู้สึกสงสารจึงช่วยงมขวานคืนให้เทพารักษ์งมขึ้นมาครั้งแรกเป็นขวานทอง ชายตัดฟืนปฏิเสธว่าไม่ใช่ของตน เทพารักษ์งมขวานมาให้อีกครั้งเป็นขวานเงิน ชายตัดฟืนก็ยังปฏิเสธ สุดท้ายเทพารักษ์งมเอาขวานเหล็กเก่าๆ อันเดิมมาให้ ชายตัดฟืนบอกว่านั่นแหละคือขวานของตน

เทพารักษ์ชื่นชมความซื่อสัตย์ของชาวผู้นี้ จึงมอบขวานทองและขวานเงินให้ด้วย เพื่อนของชายตัดฟืนรู้เรื่องนี้เข้า จึงแกล้งทำขวานหล่นน้ำบ้าง เมื่อเทพารักษ์งมขวานทองขึ้นมาให้ เขารีบบอกว่าขวานทองเป็นของตัวเองทันที เทพารักษ์เห็นว่าเขาเป็นคนโกหกจึงหายตัวไป เขาจึงไม่ได้ขวานมีค่าแถมยังต้องเสียขวานอันเดียที่มีไปด้วย

 

สอนเด็กๆ ให้รู้ไว้การใช้กำลังบังคับไม่ได้ให้ผลดีเสมอไป

ลมกับพระอาทิตย์ 

ลมกับพระอาทิตย์ถกเถียงกันว่าใครมีอำนาจเหนือกว่ากัน แต่ยังไม่มีข้อสรุปจึงตัดสินใจแข่งขันกันว่า “ถ้าใครทำให้ชายคนที่เดินผ่านมาถอดเสื้อคลุมออกได้ก่อน คนนั้นเป็นฝ่ายชนะ” ลมจึงรวมกำลังพัดโหมกระหน่ำ หวังให้เสื้อปลิวหลุดไปอย่างรวดเร็ว แต่ชายคนนั้นกลับยิ่งจับเสื้อไว้แน่น ส่วนพระอาทิตย์เลือกที่จะส่องแสงแดดอ่อนๆ แล้วค่อยแผดจ้าจนชายผู้นั้นรู้สึกร้อนและถอดเสื้อคลุมในที่สุด พระอาทิตย์จึงกลายเป็นผู้ชนะโดยที่ใช้พละกำลังน้อยกว่า

 

สอนเด็กๆ ให้รู้ไว้ความอ่อนโยนแก้ไขเรื่องคับขันได้ดีกว่าความแข็งกร้าว

 

 

ต้นโอ๊กกับต้นอ้อ 

ณ บึงน้ำแห่งหนึ่ง มีต้นโอ๊กสูงใหญ่แข็งแรงริมฝั่ง กับต้นอ้อบอบบางเอนลู่ไปตามลมขึ้นอยู่ใกล้กัน ต้นโอ๊กเยาะต้นอ้อว่า “เจ้าช่างไม่มีความแข็งแรงเอาเสียเลย แค่ลมพัดมาเบาๆ ก็โอนเอนตามเสียแล้ว ไม่เหมือนต้นโอ๊กที่มั่นคงไม่หวาดหวั่น”

พอตกค่ำวันนั้น เกิดมีลมพายุพัดแรง ต้นโอ๊กพยายามยืนต้านพายุ แต่ก็ต้านไม่ไหวจนหักโค่นไปในที่สุด ส่วนต้นอ้อนั้นไหวเอนไปตามแรงลม และเมื่อพายุสงบลง ใบของต้นอ้อก็กลับมาปลิวไสวดังเดิม

 

สอนเด็กๆ ให้รู้ไว้ความสงบทำให้ชีวิตมีความสุขกว่าการผจญภัย

หนูนากับหนูเมือง 

วันหนึ่งหนูนาชวนหนูเมืองเพื่อนรักมาเที่ยวบ้านของตน หนูนาเตรียมอาหารท้องทุ่งไว้ต้อนรับหนูเมือง แต่หนูเมืองเชิดใส่ แถมยังบอกว่า “เจ้าทนกินอาหารแบบนี้ได้ยังไง ย้ายไปอยู่ในเมืองกันดีกว่า มีของอร่อยเพียบ

เมื่อหนูนาตามหนูเมืองไปกินอาหารหรูเลิศตามบ้านต่างๆอย่างเอร็ดอร่อย ระหว่างนั้นมีหมาตัวใหญ่น่ากลัวไล่ตะครุบหนูทั้งสองตัว จนเผ่นหนีแทบไม่ทัน หนูนาจึงบอกว่าถ้าอยู่ในเมืองได้กินอาหารดีๆ แต่ชีวิตอันตรายแบบนี้ ขอกลับไปใช้ชีวิตสโลไลฟ์ในท้องทุ่งดีกว่า

 

สอนเด็กๆ ให้รู้ไว้คนพาลย่อมหาแต่เรื่องทะเลาะเบาะแว้งอยู่เสมอ

เครดิตภาพ: http://xn--42cg2ebu1gf9iye.blogspot.com/

นกกระทากับไก่ชน 

ชายคนหนึ่งจับนกกระทามาได้ แล้วนำไปเลี้ยงรวมไว้ในเล้าไก่ชน เมื่อถึงเวลาอาหาร ฝูงไก่ก็จิกตีไม่ให้นกกระทาเข้ามากินอาหารด้วย นกกระทาคิดว่าที่ถูกรังแกเพราะตนไม่ใช่ไก่ชน จึงตีตัวออกห่าง แต่หลายวันผ่านไป ไก่ชนเหล่านี้ยังคงจิกตีกันแม้จะเป็นพวกเดียวกันเองโดยไม่ต้องไปกว่าที่ทำกับตัวเองเลย

นิทานอีสปสั้นๆ มีให้เลือกอ่านเป็นร้อยเรื่อง ที่มีคติสอนใจแตกต่างกันไป บางเรื่องอาจมีบทลงโทษสำหรับการทำไม่ได้ในตอนจบ หรือบางเรื่องอาจมีเหตุการณ์ที่ค่อนข้างรุนแรงสักหน่อย ซึ่งไม่เหมาะกับเด็กเล็กๆ เพราะอาจทำให้ลูกรู้สึกกลัว และฝังใจได้ ดังนั้นก่อนจะเลือกนิทานอีสปให้ลูกอ่าน อาจต้องพิจารณาเนื้อหาให้เหมาะกับวัยของลูกด้วย เพื่อให้เพลิดเพลินกับการฟังนิทานผ่านเสียงคุณแม่ และเรียนรู้เรื่องดีไปพร้อมกันอย่างสนุกสนาน ยิ้มได้ตลอดเรื่อง


แหล่งข้อมูล online.fliphtml5.com/mofx/zyqh/#p=1

 

บทความน่าสนใจอื่นๆ 

โหลดฟรี! 12 นิทานคุณธรรมสำหรับเด็ก บ่มเพาะ “ความดี” ในใจลูก

 

รวม 8 นิทานเจ้าหญิง ยอดนิยม ไว้เล่าให้ลูกสาวฟังก่อนนอน

 

รวม นิทานหมอประเสริฐแนะนำ พ่อแม่อ่านให้ฟัง เสริมพัฒนาการลูกทุกวัย

ธาลัสซีเมีย

โรคทางพันธุกรรม ธาลัสซีเมีย vs พาหะธาลัสซีเมีย ลูกในท้องมีโอกาสเป็นแค่ไหน?

Alternative Textaccount_circle
event
ธาลัสซีเมีย
ธาลัสซีเมีย

ธาลัสซีเมีย เป็นโรคทางพันธุกรรมที่สามารถถ่ายทอดจากพ่อแม่ไปยังลูกได้ เรื่องที่ควรวางแผนก่อนมีลูก หากพ่อแม่เป็น “พาหะธาลัสซีเมีย” ลูกในท้องมีโอกาสเป็นแค่ไหน?

ธาลัสซีเมีย โรคทางพันธุกรรมนี้คืออะไร?

โรคธาลัสซีเมีย หรือโรคโลหิตจางที่มีเม็ดเลือดแดงผิดปกติ เป็นโรคทางพันธุกรรมที่เกิดจากความผิดปกติของหน่วยพันธุกรรมแบบยีนด้อย ทำให้ร่างกายสร้างจำนวนฮีโมโกลบินซึ่งเป็นสารสีแดงในเม็ดเลือดแดงลดลง มีผลให้เม็ดเลือดแดงผิดปกติแตกง่าย นำไปสู่ภาวะโลหิตจางเรื้อรังหรือภาวะซีด และสภาวะแทรกช้อนอื่น ๆ ตามมาได้ เช่น นิ่วในถุงน้ำดี มีการเจริญเติบโตช้า มีภาวะเหล็กเกิน การทำงานของหัวใจ และตับผิดปกติ เบาหวาน เป็นต้น โรคนี้สามารถเป็นได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ซึ่งทารกจะได้รับยีนผิดปกติที่พ่อและแม่เป็นผู้ถ่ายทอดไปยังลูก ดังนั้นคู่แต่งงานที่กำลังวางแผนจะมีลูก หรือคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ควรให้ความใส่ใจกับโรคนี้เป็นพิเศษ

โรคธาลัสซีเมีย เป็นโรคที่ส่งผลกระทบต่อคุณแม่ขณะตั้งครรภ์โดยตรง เพราะเป็นโรคทางพันธุกรรมที่สามารถถ่ายทอดจากพ่อแม่ไปสู่ลูกน้อยได้ จากสถิติพบว่าคนทั่วไปมีโอกาสที่จะเป็นพาหะของธาลัสซีมียได้สูงถึงร้อยละ 30 – 40 จึงเป็นโรคที่เป็นอันตรายสำหรับคนท้องได้เช่นกัน โดยโรคนี้มีอาการต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 กลุ่ม ได้แก่

  • กลุ่มที่มีอาการรุนแรงมากที่สุด ทารกในครรภ์จะมีภาวะบวมน้ำ ซีด ตับและม้ามโต มีน้ำในช่องท้อง รกมีขนาดใหญ่ คลอดลำบาก มักเสียชีวิตในครรภ์หรือหลังคลอดไม่นาน และตัวคุณแม่ตั้งครรภ์ที่เป็นโรคนี้อาจมีภาวะแทรกซ้อนจากการตั้งครรภ์เพิ่มขึ้น เช่น มีโอกาสครรภ์เป็นพิษถึงร้อยละ 80 มีอาการบวม ความดันโลหิตสูง และอาจทำให้เกิดการเสียชีวิตในระหว่างการตั้งครรภ์ได้

อาการธาลัสซีเมีย

  • กลุ่มที่มีอาการรุนแรงมาก ในช่วงแรกเกิดอาจจะยังไม่แสดงอาการ แต่จะเริ่มแสดงในช่วงอายุ 3-6 เดือน เด็กทารกจะเริ่มมีอาการตัวซีด ตาเหลือง ตัวเหลืองคล้ายดีซ่าน มีโครงร่างใบหน้าเปลี่ยนแปลงผิดปกติ เช่น หน้าผากตั้งชัน ดั้งจมูกแบน โหนกแก้มสูง คางและขากรรไกรกว้าง ฟันยื่น มีการเจริญเติบโตช้า ตัวเตี้ย แคระแกร็น และมีภาวะเหล็กเกิน เป็นต้น และอาการจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จำเป็นต้องให้เลือดเป็นประจำ แต่หากได้รับเลือดตั้งแต่ตอนที่แม่กำลังตั้งท้อง ทารกจะมีหน้าตาเหมือนเด็กปกติทั่วไป แต่ไม่ว่าอย่างไรทารกที่ป่วยโรคนี้ก็จำเป็นต้องได้การดูแลรักษาในระยะยาวต่อไป
  • กลุ่มที่มีอาการรุนแรงน้อยถึงปานกลาง กลุ่มนี้โดยส่วนใหญ่จะมีอาการซีดเหลืองเล็กน้อยอาจต้องได้รับการให้เลือดเป็นครั้งคราว ถ้ามีอาการรุนแรงปานกลางต้องได้รับการให้เลือดทุกครั้งที่เจ็บป่วย

ผู้ป่วยที่มีอาการของโรคนี้เรื้อรังมาตั้งแต่เด็ก จะมีสุขภาพอ่อนแอ เจ็บป่วยบ่อย ซึ่งจะต้องได้รับเลือดเป็นประจำทุกเดือน และการรักษาให้หายขาดทำได้ด้วยการปลูกถ่ายไขกระดูก หรือเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดจากผู้อื่นซึ่งมีลักษณะของเม็ดเลือดขาวเหมือนกับผู้ป่วย ซึ่งมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก และอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการรักษาและเสี่ยงเสียชีวิตได้

พาหะธาลัสซีเมีย ลูกในท้องมีโอกาสเป็นแค่ไหน?

ผู้ที่เป็นโรคธาลัสซีเมียจะถูกแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่เป็นโรค ในกลุ่มนี้จะมีอาการที่แสดงออกมาอย่างชัดเจน เช่น ซีด ตาเหลือง อ่อนเพลีย ท้องป่อง ตับและม้ามโต กับกลุ่มที่เป็นพาหะ ผู้ที่เป็นพาหะของโรคธาลัสชีเมียไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง คือ ผู้ที่มียีนของโรคธาลัสชีเมียเพียงยีนเดียวอยู่คู่กับยีนปกติ ซึ่งยีนปกตินั้นเป็นลักษณะเด่นกว่า จึงทำให้คู่สมรสที่เป็นพาหะของโรคนี้ไม่แสดงอาการผิดปกติใด ๆ ทั้งสิ้น มีร่างกายที่แข็งแรง มีสุขภาพดีตามปกติ มองจากภายนอกจะไม่รู้เลยว่าบุคคลนั้นมียีนแฝงหรือไม่ แต่กรรมพันธุ์ธาลัสซีเมียที่แฝงอยู่สามารถถ่ายทอดไปสู่ลูกสู่หลานได้

พาหะธาลัสซีเมีย

โอกาสที่จะมีลูกเป็นโรคธาลัสซีเมีย

  • ในกรณีที่พ่อและแม่มียีนแฝงหรือเป็นพาหะทั้งคู่ โอกาสที่ลูกจะป่วยเป็นโรคธารัสซีเมียเท่ากับ 25% โอกาสลูกจะมียีนแฝงหรือเป็นพาหะเท่ากับ 50% และโอกาสลูกจะปกติเท่ากับ 25%
  • ในกรณีที่พ่อหรือแม่มียีนแฝงหรือเป็นพาหะเพียงคนเดียว ในการตั้งครรภ์ไม่มีโอกาสที่ลูกจะเป็นโรค แต่โอกาสลูกจะมียีนแฝงหรือเป็นพาหะเท่ากับ 50% โอกาสที่จะมีลูกปกติเท่ากับ 50%
  • ในกรณีที่พ่อและแม่ฝ่ายหนึ่งเป็นโรคและอีกฝ่ายหนึ่งมียีนแฝง โอกาสที่ลูกจะเป็นโรคเท่ากับ 50% โอกาสที่ลูกจะมียีนแฝงหรือเป็นพาหะเท่ากับ 50%
  • ในกรณีที่พ่อหรือแม่คนใดคนเป็นโรค อีกคนปกติ โอกาสที่ลูกจะเป็นพาหะ 100%
  • ในกรณีที่พ่อและแม่เป็นโรคธาลัสซีเมียทั้งคู่ ลูกจะป่วยเป็นโรคธาลัสซีเมีย 100%

วิธีเดียวที่จะทำให้ทราบแน่นอนว่าทั้งพ่อและแม่เป็นพาหะธาลัสซีเมียหรือไม่ คือการไปตรวจเลือดที่โรงพยาบาล ก่อนวางแผนแต่งงานหรือวางแผนมีลูก ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นมากก่อนการตั้งครรภ์ เพราะจะทำให้ทราบว่าทั้งคู่มีความเสี่ยงที่จะเป็นพาหะสามารถถ่ายทอดยีนปกติหรือยีนที่เป็นธาลัสชีเมียไปให้แก่ลูก และลูกมีโอกาสเป็นโรคธาลัสซีเมียหรือไม่ เพื่อจะได้ปรึกษาคุณหมอในการวางแผนวินิจฉัยหรือป้องกันและเป็นตัวเลือกในการตัดสินใจในกรณีที่วางแผนจะมีลูกต่อไป

ตรวจพาหะธาลัสซีเมียแบบไหนและอย่างไรบ้าง?

การตรวจเลือดดูว่าเป็นพ่อและแม่เป็นพาหะของโรคธาลัสซีเมียหรือไม่ ทำได้โดยเจาะเลือดไปตรวจตามวิธีการต่าง ๆ ดังนี้

  • การตรวจคัดกรอง (Screening Test) วิธีนี้นิยมใช้ในโรงพยาบาลทั่วไป ข้อดีของการตรวจแบบนี้คือ เสียค่าใช้จ่ายไม่มาก มีความไวสูงในการตรวจภาวะที่เป็นพาหะของธาลัสซีเมีย แปลผลตรวจง่าย แต่จะไม่สามารถแยกได้ว่าเป็นพาหะของธาลัสซีเมียชนิดใด
  • การตรวจชนิดของฮีโมโกลบิน (Hemoglobin Typing) วิธีนี้มีค่าใช้จ่ายสูงกว่าการตรวจคัดกรอง เป็นการตรวจเพื่อหาชนิดต่าง ๆ ของฮีโมโกลบิน สามารถทำได้ในโรงพยาบาลขนาดใหญ่และโรงเรียนแพทย์ การตรวจแบบนี้สามารถแยกได้ว่าเป็นพาหะของธาลัสซีเมียชนิดใด ซึ่งยังต้องอาศัยผู้เชี่ยวชายในการแปลผล และมีข้อจำกัดในผู้รับการตรวจบางรายที่มียีนธาลัสซีเมียแฝงอยู่ 2 ชนิด
  • การตรวจดีเอ็นเอ (DNA Analysis) เป็นวิธีตรวจเลือดอย่างละเอียดที่มีความแม่นยำมากที่สุดและมีค่าใช้จ่ายสูงที่สุดด้วยเช่นกัน การตรวจวิธีนี้จะต้องใช้เวลามากพอสมควร แต่จะทำให้มีเวลาตรวจหาอย่างละเอียดจึงสามารถบอกได้ชัดเจนว่าเป็นธาลัสซีเมียชนิดใด มีโอกาสความเสี่ยงมากน้อยแค่ไหน บางครั้งสามารถทำนายความรุนแรงของโรคธาลัสซีเมียที่จะเกิดขึ้นได้อีกด้วย

หากมีการตรวจพบว่าเป็นพาหะโรคโลหิตจางธาลัสซีเมีย สามารถใช้ชีวิตและดูแลสุขภาพเหมือนคนปกติ ไม่จำเป็นต้องรับประทานยาใด ๆ แตกต่างจากผู้ป่วยที่เป็นโรคโลหิตจางธาลัสซีเมีย ทั้งนี้หากคู่แต่งงานที่เป็นพาหะของธาลัสซีเมียหรือคุณแม่ตั้งครรภ์ที่ตรวจพบว่ามียีนโรคธาลัสซีเมียแฝงที่สำคัญ ได้แก่ แอลฟาธาลัสซีเมียแฝง เบต้าธาลัสซีเมียแฝง ฮีโมโกลบินอีแฝง และโฮโมซัยกัสฮีโมโกลบินอี

หลังวินิจฉัยแล้วพบว่าคุณแม่ตั้งครรภ์และสามีเป็นคู่เสี่ยงต่อการมีลูกเป็นโรคธาลัสซีเมียชนิดรุนแรง ควรได้รับคำปรึกษาแนะนำจากคุณหมอที่มีความรู้ความเข้าใจโรคเป็นอย่างดี เพื่อให้ทราบข้อมูลของโรคธารัสซีเมียว่าเป็นชนิดใด โอกาสเสี่ยงที่จะมีลูกเป็นโรคเท่าใด มีความรุนแรงและมีการรักษาได้อย่างไรบ้าง มีทางเลือกเมื่อทราบว่าทารกเป็นโรคและทางเลือกในการตรวจวินิจฉัยทารกในครรภ์ได้อย่างไรบ้าง และคู่สามีภรรยาควรได้รับการตรวจเลือดวิเคราะห์สารพันธุกรรมโรคธาลัสซีเมียหรือฮีโมโกลบินผิดปกติ เพื่อใช้สำหรับวินิจฉัยโรคแก่ทารกในครรภ์ต่อไป โดยการตัดสินใจเลือกวิธีใดนั้น ขึ้นอยู่กับพ่อแม่หลังจากได้รับคำอธิบายจากแพทย์อย่างละเอียด รวมไปถึงอายุครรภ์ในขณะนั้นด้วย

จะเห็นได้ว่าการวางแผนครอบครัว ตรวจเลือดก่อนมีลูกนับว่าเป็นสิ่งจำเป็นมากต่อการตั้งครรภ์หรือในระหว่างการตั้งครรภ์ เพื่อที่จะได้วางแผนป้องกันการมีลูกที่เป็นโรคธารัสซีเมียหรือรับมืออย่างไรในการมีลูกที่ปลอดโรคและปลอดภัยได้ดีที่สุด

ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก : www.sanook.comwww.siphhospital.com, www.thaihealth.or.thwww.thaihealth.or.th

อ่านต่อบทความที่น่าสนใจ :

โรคธาลัสซีเมีย หายขาดได้ด้วยการบำบัดยีน

“ธาลัสซีเมีย” ตรวจได้ ตั้งแต่ลูกอยู่ในครรภ์

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

Shopee Mom'Club

แท็กทีม 3 คุณเเม่ดาราดัง เปิดตัว Shopee Mom’s Club

Alternative Textaccount_circle
event
Shopee Mom'Club
Shopee Mom'Club

ช้อปปี้ แอพลิเคชันชอปปิ้งออนไลน์ชื่อดัง ได้เปิดตัว ‘Shopee Mom’s Club’  แท็กทีม 3 คุณแม่ดาราชื่อดังอย่าง แอฟทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ วิกกี้สุนิสา เจทท์ และนิหน่า สุฐิตา ปัญญายงค์ มาเป็นตัวแทนเชิญชวนคุณแม่ยุคใหม่เปิดประสบการณ์ ในแบบฉบับคุณแม่ยุคนิวนอร์มัล  สุดคุ้มไปกับสิทธิพิเศษ ทั้งโค้ดส่วนลด โค้ดส่งฟรี ดีลและโปรโมชั่นจากแบรนด์ชั้นนำ รวมไปถึงไลฟ์สตรีมมิ่งแบ่งปันความรู้ความบันเทิงเกี่ยวกับแม่และเด็ก ใน Shopee Mom’s Live

พิเศษ! ในระหว่างวันที่ 13-16 กรกฎาคม 2563 สมาชิกทุกคนสามารถเก็บโค้ดลดเพิ่ม 500 บาท และรับฟรี 150 Shopee Coins สำหรับสมาชิกใหม่ (เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด)

Shopee Mom’s Club

สานต่อ Shop From Home สู่ “Shopee Mom’s Club”

การบุกตลาดแม่และเด็กพร้อมกับงัดโปรโมชั่นดีดีเอาใจคุณลูกค้า ถือเป็นการตีตลาดใหม่ของ Shopee ที่เปิดตัวได้อย่างถูกอกถูกใจเหล่าบรรดาคุณแม่  สุชญา ปาลีวงศ์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด ช้อปปี้ ประเทศไทย ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการเปิดตัวครั้งนี้ว่า

“สำหรับกลุ่มสินค้าแม่และเด็ก นับเป็นอีกหนึ่งหมวดหมู่สินค้าที่มีอัตราการเติบโตที่น่าจับตามอง เนื่องจากกลุ่มคุณแม่ยุคใหม่มีกำลังในการจับจ่ายสินค้าและบริการสูงเพื่อสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูก แม้แต่ในช่วงที่มีการล็อคดาวน์ก็ตาม โดยปัจจัยที่มีอิทธิพลสำคัญต่อการตัดสินใจซื้อของคุณแม่ยุคใหม่ คือ ความหลากหลายของสินค้าและบริการ ข้อมูลและความรู้ที่เชื่อถือได้ รวมถึงราคาและความคุ้มค่า ฉะนั้นด้วยความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง ‘ช้อปปี้’ จึงนำอินไซต์ที่ได้มาพัฒนาแพลทฟอร์มเพื่อยกระดับประสบการณ์การช้อปปิ้ง จนกลายเป็นช่องทางออนไลน์ที่ได้รับความไว้วางใจสูงสุดอันดับหนึ่งจากคุณแม่ชาวไทย เพื่อตอบสนองความต้องการของคุณแม่นักช้อปโดยเฉพาะ และเปิดโอกาสให้สมาชิกสามารถเชื่อมต่อซึ่งกันและกัน เชื่อมั่นว่าการเปิดตัวในครั้งนี้จะเป็นประโยชน์เสมือนเป็นเพื่อนที่รู้ใจและอยู่เคียงข้างคุณแม่ชาวไทยทุกคน โดยจะไม่หยุดยั้งที่จะเดินหน้ายกระดับประสบการณ์ที่ดีที่สุดเพื่อคุณแม่ชาวไทยต่อไป”

แลกเปลี่ยนสาระความรู้ความบันเทิง ผ่านกิจกรรม Shopee Mom’s Live

ไฮไลท์พิเศษของการเปิดตัว Shopee Mom’s Club ในครั้งนี้อยู่ที่การแท็กทีม 3 คุณแม่เซลิบริตี้ชื่อดังจาก  Shopee Celebrity Club อย่าง แอฟทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ วิกกี้สุนิสา เจทท์ และนิหน่า สุฐิตา ปัญญายงค์  มาร่วมเปิดและแชร์ประสบการณ์ผ่าน กิจกรรม Shopee Mom’s Live การไลฟ์สตรีมมิ่งแบ่งปันความรู้ความบันเทิงกันแบบสดๆ ในระหว่างวันที่ 13-16 กรกฎาคม 2563  สำหรับ Shopee Mom’s Live คือการนำเสนอสาระความบันเทิงในแง่มุมที่น่าสนใจเกี่ยวการเลี้ยงดูลูก ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากฐานผู้ใช้งานของกลุ่มคุณแม่เป็นอย่างมาก โดยคุณแม่สามารถติดตาม Shopee Mom’s Live ในทุกวันจันทร์ เวลา 14.00 น.

โปรโมชั่นสุดพิเศษ เฉพาะสมาชิก

สำหรับคุณแม่นักช้อปสมาชิกรับสิทธิพิเศษสุดพรีเมียม โดยสามารถคลิกรับสิทธิดังกล่าวผ่านไอคอน Mom’s Club  ในหน้าโฮมเพจ ของแอพพลิเคชั่นช็อปปี้ ระหว่างวันที่ 13 – 16 กรกฏาคม 2563 ซึ่งสิทธิพิเศษดังกล่าวประกอบด้วย

แจกโค้ดส่วนลด 500 บาททุกวัน

‘ช้อปปี้’ มอบโค้ดส่วนลดสุดพิเศษ 500 บาท สำหรับซื้อสินค้าที่ร่วมรายการตั้งแต่ 2,000 บาทขึ้นไป

ลดกระหน่ำทุก 3 ทุ่มกับ Late Night Sale

ลดราคาสุดฤทธิ์ กับส่วนลดถึง 50% พร้อมสินค้าแม่และเด็กมากมาย เช่น ผ้าอ้อม นมผง นม UHT และของเล่น นอกจากนี้ยังมีสิทธิ์ได้รับเงินคืนในรูปแบบของ Shopee Coins สูงสุด 50 %

โปรโมชั่นสุดปังร่วมมือกับแบรนด์พันธมิตร

พิเศษเมื่อซื้อสินค้าจาก Disney Baby สินค้าสำหรับเด็กลิขสิทธิ์แท้ จาก Disney รับโค้ดเงินคืน 50% สูงสุด 500 Shopee Coins และของแถมชุดแปรงสีฟันเด็กฟลูโอคารีล 69 บาท นอกจากนี้ยังช็อปเพลิดเพลินกับแบรนด์ดังต่าง ๆ มากมายเช่น Mamypoko, Foremost, Lego, Hasbro, Milk Plus & More, Philips Avent

ส่วนลดพิเศษจากธนาคารชั้นนำ

พบกับโปรโมชันพิเศษจากธนาคารและสถาบันการเงินพันธมิตร เช่น เมื่อช้อปสินค้าที่ร่วมรายการครบ 850 บาทขึ้นไปต่อยอดซื้อ และชำระด้วยบัตรเครดิตเคทีซี-มาสเตอร์การ์ดทุกประเภท รับโค้ดลดมูลค่า 120 บาท และ UOB Lady Credit Card รับคะแนนสะสมจากยอดซื้อด้วยเรทพิเศษเพียง 10 บาท เท่ากับ 1 คะแนน

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

สิทธิพิเศษเพิ่มเติมสุดคุ้ม จากแบรนด์พันธมิตร

ความพิเศษจากโปรโมชั่นและส่วนลดที่จุใจคุณแม่สายนักช้อปยังไม่หมดเท่านี้ ‘ช้อปปี้’ ยังได้ร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำ ในธุรกิจต่าง ๆ เช่น โรงพยาบาลบีเอ็นเอช โรงพยาบาลสมิติเวช โรงพยาบาลพญาไท โรงพยาบาลเปาโล โรงพยาบาลกรุงเทพ และศูนย์พัฒนาศักยภาพสมองเด็ก Babies Genius โรงเรียนดนตรียามาฮ่า ฯลฯ มาพร้อมกับสิทธิเศษเพิ่มเติมให้คุณแม่ทุกท่าน อาทิเช่น

สิทธิพิเศษจากกลุ่มโรงพยาบาล

เช่น ส่วนลดโปรแกรมตรวจสุขภาพสำหรับเด็กมูลค่า 900 บาทจากโรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ และโรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท ส่วนลดสำหรับการฝากครรภ์ 10% จากโรงพยาบาลสมิติเวช ธนบุรี ส่วนลด 20% สำหรับแพคเกจคุณแม่หลังคลอดระยะเวลา 1 เดือน จากโรงพยาบาลบีเอ็นเอช

สิทธิพิเศษจากสถาบันเพื่อเสริมสร้างพัฒนาการเด็ก

เช่น รับฟรีสื่ออุปกรณ์เสริมพัฒนาการ และคลาสเรียนเพิ่มที่สถาบัน Babies Genius 2 ชั่วโมง เมื่อซื้อคอร์สตั้งแต่ 5,000 บาท ขึ้นไป กับศูนย์พัฒนาศักยภาพสมองเด็ก Babies Genius รับการยกเว้นค่าลงทะเบียนแรกเข้าสูงสุด 500 บาท และทดลองเรียนฟรี 1 ครั้ง จากโรงเรียนดนตรียามาฮ่ากว่า 80 สาขาทั่วประเทศ

พิเศษ! สำหรับคุณแม่ที่สมัครสมาชิกในระหว่างวันที่ 13-16 กรกฎาคม 2563 รับฟรี 150 Shopee Coins โดยที่สมาชิกยังสามารถรับสิทธิพิเศษอื่นๆ อาทิ โค้ดส่งฟรีเพิ่มในทุกสัปดาห์ โค้ดลดเพิ่มอีกสูงสุด 500 บาท รวมไปถึงส่วนลด และ Welcome Gift ของเเบรนด์สินค้าพันธมิตรชั้นนำ

สามารถสมัครได้แล้วที่ https://shopee.co.th/m/shopee-moms-club

สามารถติดตาม Shopee Mom’s Club ผ่านทาง https://shopee.co.th/shopeemomsth หรือ www.facebook.com/ShopeeMomsTH หรือ https://www.instagram.com/shopeemoms_th/

 

ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นช้อปปี้ได้ฟรีจาก App Store หรือ Google Play Store

AP เดินหน้าเข้มแข็ง โชว์แบ็คล็อกกว่า 56,100 ล้าน พร้อมรุก 5 หัวเมืองใหญ่ด้วยแบรนด์ ‘อภิทาวน์’

Alternative Textaccount_circle
event
  • ยกสินค้าแนวราบซูเปอร์สตาร์ของปี ครึ่งปีหลังเตรียมเปิด 26 โครงการใหม่ มูลค่า 26,000 ล้านบาท 
  • ส่งแบรนด์ใหม่ ‘อภิทาวน์’ ลุยตลาดต่างจังหวัด ชูจุดเด่นเรื่องการออกแบบพื้นที่ใช้สอยและนวัตกรรมความปลอดภัย นำร่อง 5 จังหวัด นครศรีธรรมราช ระยอง ขอนแก่น อยุธยา และเชียงราย เริ่ม 1.5-9 ล้านบาท
  • ครึ่งปีแรกกวาดยอดขาย 15,085 ล้านบาท หลังเซนติเมนต์ลูกค้าเป็นบวก ดีมานด์คอนโดยังไม่หาย ด้วยความคุ้มค่าของสินทรัพย์ที่มากกว่าการลงทุนรูปแบบอื่น

เอพี ไทยแลนด์ เดินหน้าไปต่อ หลังตลาดเริ่มฟื้นเซนติเมนต์เป็นบวก เชื่อดีมานด์ คอนโดฯ ยังไม่หาย ด้วยความคุ้มค่าของสินทรัพย์ที่มากกว่าการลงทุนรูปแบบอื่น ยกให้สินค้าแนวราบเป็นซูเปอร์สตาร์ของปี เตรียมพร้อมมูฟออนตามโรดแมพ MASTERPLAN FOR TOMORROW ขยายขอบเขตในการสร้างพิมพ์เขียวแห่งการอยู่อาศัยที่มีคุณภาพ ด้วยการเปิด 26 โครงการใหม่ มูลค่า 26,000 ล้านบาท พร้อมปั้น ‘อภิทาวน์’ แบรนด์ใหม่บุกตลาดต่างจังหวัด นำร่อง 5 จังหวัด พร้อมเตรียมโอนฯ 2 คอนโดใหม่ LIFE อโศก-พระราม 9 และ ASPIRE อโศก-รัชดา เติบโตอย่างมั่นคงด้วยแบ็คล็อกในมือมากกว่า 56,149 ล้านบาท รับรู้รายได้จนถึงปี 2566

นายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์องค์กรและการสร้างสรรค์ บมจ. เอพี ไทยแลนด์ กล่าวว่า “วิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เปรียบเหมือนเป็นซูเปอร์โนวาที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์โลก สร้างผลกระทบที่ใหญ่และรุนแรงกว่าวิกฤตครั้งไหนในอดีต ซึ่งตลอด 6 เดือนที่ผ่านมาบริษัทฯ ดำเนินงานด้วยความระมัดระวังควบคู่ไปกับการปรับแผนงานให้สอดรับกับสถานการณ์ในแต่ละช่วงเวลา โดยมี EMPOWER LIVING เป็นจุดมุ่งหมายสำคัญขององค์กร ส่งผลให้ในครึ่งปีแรกบริษัทฯ สามารถสร้างยอดขายรวมได้ทั้งสิ้น 15,085 ล้านบาท จากการเปิดตัวโครงการแนวราบใหม่ 14 โครงการ มูลค่า 15,500 ล้านบาท และจากโครงการอื่นๆ ที่อยู่ระหว่างการขายอีกกว่า 100 โครงการ มูลค่าคงเหลือขาย 70,000 ล้านบาท พร้อมประสบความสำเร็จในการโอนกรรมสิทธิ์ LIFE ลาดพร้าว คอนโดมิเนียมร่วมทุนที่ก่อสร้างแล้วเสร็จและเริ่มทยอยส่งมอบเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เชื่อว่าดีมานด์คอนโดยังไม่หาย ด้วยความคุ้มค่าของสินทรัพย์ที่มากกว่าการลงทุนรูปแบบอื่น

ทั้งนี้ ในครึ่งปีหลังของปี 2563 บริษัทฯ ยังคงดำเนินงานตามโรดแมพ MASTERPLAN FOR TOMORROW  ที่วางไว้ตั้งแต่ต้นปี ด้วยการเดินหน้าขยายขอบเขตในการสร้างพิมพ์เขียวแห่งการอยู่อาศัยคุณภาพให้ครอบคลุมความต้องการของคนไทยที่มากขึ้น ผ่านแผนการเปิดตัวโครงการแนวราบใน 5 จังหวัด ด้วยแบรนด์ ‘อภิทาวน์’ มูลค่ารวม 4,700 ล้านบาท ได้แก่ นครศรีธรรมราช ระยอง อยุธยา ขอนแก่น และเชียงราย ในรูปแบบโครงการแบบมิกซ์ โปรดักส์ (Mix Products) ตอบโจทย์ความต้องการที่อยู่อาศัยทั้งในแบบบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม ราคาเริ่มต้น 1.5 – 9 ล้านบาท พร้อมแผนการเปิดตัวโครงการใหม่ในกรุงเทพฯ อีกจำนวน 21 โครงการ โดยเป็นบ้านเดี่ยว 8 โครงการ มูลค่า 7,970 ล้านบาท และทาวน์โฮม 13 โครงการ มูลค่า 13,330 ล้านบาท รวมครึ่งปีหลังบริษัทฯ เตรียมเปิดตัวโครงการใหม่รวมทั้งสิ้น 26 โครงการ มูลค่ารวม 26,000 ล้านบาท

“อภิทาวน์ จะเป็นชื่อแบรนด์สินค้าในกลุ่มต่างจังหวัดที่เพิ่มเข้ามาในพอร์ตเอพี ซึ่งสื่อถึงความตั้งใจของเอพีที่จะสร้างและส่งมอบมาสเตอร์แพลนแห่งการอยู่อาศัยที่มีคุณภาพให้กับคนไทยทุกคน ด้วยการผสาน 2 จุดแข็งหลัก ได้แก่ 1. การเป็นผู้นำในเรื่องของสเปซดีไซน์ (Leading in SPACE Design) โดยรูปแบบบ้านในแต่ละโครงการจะได้รับการออกแบบเพื่อให้สอดรับกับความต้องการและพฤติกรรมของคนในแต่ละจังหวัดตามคอนเซ็ปต์ Dynamic Personalized Model และ 2. Tech-Life Management การนำเทคโนโลยีเข้ามาประยุกต์ในการอยู่อาศัย ด้วยการติดตั้งนวัตกรรมคัดสรรภายในโครงการ ซึ่งเป็นนวัตกรรมการบริหารจัดการความปลอดภัยภายในหมู่บ้านตลอด 24 ชั่วโมง ทำหน้าที่คัดสรร ดูแลความปลอดภัยในทุกมิติของการอยู่อาศัยภายในหมู่บ้านจัดสรร ผ่านระบบแพลตฟอร์มอัจฉริยะ โดยพร้อมเปิดตัวโครงการแรกที่ อภิทาวน์ นครศรีธรรมราช พรีเซลในช่วงวันที่ 26-27 กันยายน และโครงการอื่นๆ ในช่วงเดือนตุลาคม” นายวิทการ กล่าวเสริม

สำหรับสินค้าคอนโดมิเนียมในครึ่งปีหลังนี้บริษัทฯ มีคอนโดมิเนียมใหม่ที่ก่อสร้างแล้วเสร็จอยู่ในแผน การส่งมอบอีกจำนวน 2 โครงการ ได้แก่ LIFE อโศก-พระราม 9 มูลค่าโครงการ 9,800 ล้านบาท สถานะยอดขาย 94% พร้อมส่งมอบเดือนสิงหาคมนี้ และ ASPIRE อโศก-รัชดา มูลค่าโครงการ 2,900 ล้านบาท ยอดขาย 95% พร้อมส่งมอบเดือนสิงหาคมนี้ พร้อมกันนี้บริษัทฯ ยังมีแบ็คล็อกคอนโดมิเนียมที่รอรับรู้ไปในอีก 3 ปีข้างหน้า (จนถึงปี 2566) มูลค่ามากถึง 42,915 ล้านบาท ด้านโครงการที่อยู่ระหว่างการขาย บริษัทฯ มีคอนโดมิเนียมที่อยู่ระหว่างการขายจำนวน 18 โครงการ มูลค่าคงเหลือขาย 21,000 ล้านบาท จึงมั่นใจว่าจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นถึงแม้จะส่งผลให้ผู้ซื้อคอนโดมิเนียมเพื่อลงทุนระยะสั้นชะลอการตัดสินใจลงทุน แต่ลูกค้ากลุ่มที่ซื้อเพื่อลงทุนระยะยาวก็ยังคงเห็นถึงความคุ้มค่าของการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ มากกว่าการลงทุนในรูปแบบอื่น และถึงแม้บริษัทฯ จะขยับแผนการเปิดตัวคอนโดมิเนียมใหม่ออกไป แต่ทีมงานทุกคนยังคงทำงานตามแผนเดิม เพื่อให้โครงการพร้อมเปิดตัวทันทีหากสถานการณ์ในไตรมาส 4 มีทิศทางที่ดีขึ้นหรือมีแรงหนุนจากมาตรการภาครัฐ

“ผลกระทบครั้งนี้ไม่เหมือนในอดีต เรายังคงอยู่กับสภาวะความผันผวนเช่นนี้ต่อไป แน่นอนว่าทุกอย่างย่อมไม่เหมือนเดิม Challenge ที่น่าสนใจคือ วันนี้คำว่า New Normal ที่เราพูดถึงกันนั้น ยังเกิดขึ้นอย่างไม่สมบูรณ์แบบ  วิกฤตยังเดินไปไม่ถึงตอนจบ ยังไม่รู้ว่าอีก 6 เดือนข้างหน้าจะมีเซอร์ไพรส์อะไรอีก ดังนั้น เพื่อให้ธุรกิจเดินหน้าไปต่อท่ามกลางสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้ นอกจากความพร้อมของคนในองค์กร การบริหารกระแสเงินสดแล้ว แผนธุรกิจที่ยืดหยุ่นคือหนทางที่จะผ่านวิกฤตในครั้งนี้ ซึ่งที่ผ่านมาโครงการภายใต้แบรนด์ AP มีพื้นฐานที่แข็งแรงอยู่แล้ว สะท้อนได้จากกราฟการเข้าเยี่ยมชมโครงการและยอดขายที่มีสัญญาณเป็นบวก โครงการแนวราบก็มีสัดส่วนการเติบโตที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนยอดการโอนกรรมสิทธิ์โครงการ LIFE ลาดพร้าวที่เริ่มทยอยโอนในเดือนมีนาคม จึงเชื่อว่าภาพตลาดอสังหาริมทรัพย์ในครึ่งปีหลังจะมีการปรับตัวที่ดีขึ้นเรื่อยๆ และเข้าสู่ภาวะสมดุลในเร็ววัน” นายวิทการ กล่าวเสริม

สรุปแผนการดำเนินงานธุรกิจอสังหาฯ ในปี 2563 ณ วันที่ 14 กรกฎาคม 2563 ทั้งปี 2563 บริษัทฯ เปิดตัวโครงการใหม่มูลค่ารวม 41,500 ล้านบาท จำนวน 40 โครงการ โดยแบ่งเป็นสินค้าบ้านเดี่ยวจำนวน 18 โครงการ มูลค่ารวม 20,470 ล้านบาท ทาวน์โฮม 17 โครงการ มูลค่า 16,330 ล้านบาท และโครงการในต่างจังหวัด 5 โครงการ มูลค่า 4,700 ล้านบาท และมีสินค้าคอนโดมิเนียมอยู่ระหว่างการขายจำนวน 18 โครงการ มูลค่าคงเหลือขาย 21,000 ล้านบาท ตั้งเป้ายอดขายที่ 33,500 ล้านบาท  ตั้งเป้ารายได้รวม 100% โครงการร่วมทุน 40,550 ล้านบาท เปิดตัวไปแล้วในครึ่งปีแรกจำนวน 14 โครงการ มูลค่าประมาณ 15,500 ล้านบาท สร้างยอดขายครึ่งปีแรกเท่ากับ 15,085 ล้านบาท

ในปีนี้บริษัทฯ มีโครงการคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จเตรียมส่งมอบจำนวน 4 โครงการ เริ่มส่งมอบไปแล้วในครึ่งปีแรก ได้แก่ LIFE ลาดพร้าว มูลค่า 8,000 ล้านบาท และ ASPIRE สุขุมวิท-อ่อนนุช มูลค่า 1,600 ล้านบาท และเตรียมส่งมอบในครึ่งปีหลังอีก 2 โครงการ ได้แก่ LIFE อโศก-พระราม 9 มูลค่า 9,800 ล้านบาท และ ASPIRE อโศก-รัชดา มูลค่า 2,900 ล้านบาท

ณ วันที่ 31 มิถุนายน 2563 บริษัทฯ มีสินค้ารอรับรู้รายได้รวมโครงการร่วมทุน (Backlog) มูลค่ามากถึง 56,149 ล้านบาท เป็นโครงการแนวราบมูลค่าราว 13,234 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะรับรู้ทั้งหมดภายในปีนี้ และคอนโดมิเนียม มูลค่า 42,915 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้ในปีนี้ประมาณ 15,602 ล้านบาท และที่เหลือจะทยอยรับรู้ไปจนถึงปี 2566

ตั้งชื่อลูกชายเกิดวันศุกร์

ไอเดีย ตั้งชื่อลูกชายเกิดวันศุกร์ 200 ชื่อมงคลวันศุกร์ เสริมโชคลาภบารมีให้พ่อแม่

event
ตั้งชื่อลูกชายเกิดวันศุกร์
ตั้งชื่อลูกชายเกิดวันศุกร์

รวมชื่อดี 200 ชื่อ สำหรับ ตั้งชื่อลูกชายเกิดวันศุกร์ โดยเฉพาะ หากจะตั้งชื่อลูกตามวันเกิด ชื่อมงคลวันศุกร์ จะมีชื่ออะไรบ้างที่ตั้งแล้วเป็นมงคลกับชีวิตลูกและช่วยเสริมโชคลาภบารมีให้พ่อแม่ ตามมาดูกันเลย

ไอเดีย ชื่อมงคลวันศุกร์ 200 สำหรับ ตั้งชื่อลูกชายเกิดวันศุกร์

สำหรับชื่อคนเกิดวันศุกร์ เป็นหนึ่งในวันที่คุณพ่อคุณแม่หาข้อมูลกันเยอะมาก ซึ่งการตั้งชื่อลูกชายเกิดวันศุกร์ ตามหลักทักษาปกรณ์ ซึ่งเป็นหลักการที่คนไทยทั่วไปนิยมยึดถือปฏิบัติกันมากที่สุด โดยการตั้งชื่อคนเกิดวันศุกร์ ตั้งชื่อลูกชายเกิดวันศุกร์ จะนิยมใช้อักขระ วรรคเดช ได้แก่ ตัวอักษร ก ข ค ฆ ง ส่วนการตั้งชื่อลูกสาวที่เกิดวันศุกร์ นิยมใช้ วรรคศรี ได้แก่ ตัว จ ฉ ช ซ ฌ ญ นำหน้าหรือตามหลัง หรือใช้อักขระวรรคอื่น ๆ นำหน้าชื่อก็ได้ แต่สำหรับคนเกิดวันศุกร์ ตั้งชื่อลูกชายเกิดวันศุกร์ ห้ามใช้อักษรที่เป็นกาลกิณีโดยเด็ดขาด คือ ย ร ล ว นั่นเอง

ทั้งนี้หากคุณพ่อคุณแม่กำลังมองหาไอเดียตั้งชื่อให้ลูกชาย ตั้งชื่อลูกชายเกิดวันศุกร์ ที่เป็นชื่อจริง ความหมายดี เป็นมงคล ทีมแม่ ABK ได้คัดชื่อดี สำหรับ ตั้งชื่อลูกชายเกิดวันศุกร์ มาแนะนำ จะมีชื่อเพราะๆ อะไรบ้างตามมาดูกันเลย

ชื่อเท่ๆ

ตั้งชื่อลูกชายเกิดวันศุกร์ ชื่อจริง ชื่อคนเกิดวันศุกร์ ก – ช

ตั้งชื่อลูกชายเกิดวันศุกร์ คำอ่าน ความหมาย
กฤชณัท กริด – ชะ – นัด มีความรู้เฉียบคม
กชเมธ กด – ชะ – เมด ความรู้ประเสริฐ
กฤติน กริด – ติน ผู้คงแก่เรียน
กันต์พัทธ์ กัน – พัด เป็นที่รักที่ผูกพัน
กันตพิชญ์ กัน – ตะ – พิด ปราชญ์ผู้เป็นที่รัก
กันติทัต กัน – ติ – ทัด ผู้ให้ความรัก, ผู้ให้ความพอใจ
กาญจน์ธนัศ กาน – ทะ – นัด เป็นเจ้าแห่งทรัพย์และมีค่าดั่งทองคำ
กิตติ์ธนัญนภ กิด – ทะ – นัน – นบ มีเกียรติร่ำรวยดั่งฟ้ากว้าง
กิตติ์ธนา กิด – ทะ – นา มีทรัพย์และชื่อเสียง
กิตติพิชญ์ กิด – ติ – พิด นักปราชญ์ผู้มีชื่อเสียง
กิตติพิเชษฐ์ กิด – ติ – พิ – เชด มีชื่อเสียงประเสริฐสุด
กิตติภู กิด – ติ – พู มีชื่อเสียงในแผ่นดิน
กฤตัชญ์ กริ – ตัด ผู้รู้คุณคนอื่น มีความกตัญญู
กฤติธี กริด – ติ – ที นักปราชญ์
กฤษฎิ์ กริด ฉลาด
กฤตัชญ์ กริ – ตัด ผู้รู้คุณคนอื่น มีความกตัญญู
กฤติธี กริด – ติ – ที นักปราชญ์
กฤษฎิ์ กริด ฉลาด
กัญจน์ กัน ทอง
กิตติพศ กิด – ติ – พด มีชื่อเสียงและอำนาจ
กิตติภพ กิด – ติ – พบ ความมีเกียรติ
ขมนัต ขะ – มะ – นัด มีความอดทน
ขันธ์ธิปก ขัน – ทิ – ปก ผู้เป็นใหญ่เหนือกรมกอง
คณนาถ คะ – นะ – นาด ผู้เป็นที่พึ่งของคนทั้งหลาย
คเณศ คะ – เนด เป็นใหญ่ในหมู่,โอรสพระศิวะและพระนางปารวตี
คมชาญ คม – ชาน ฉลาดเฉียบแหลม
คุณานนต์ คุ – นา – นน มีคุณธรรมดีมากมาย
คณิน คะ – นิน เป็นใหญ่ในคณะ เป็นใหญ่กว่าคนทั้งหลาย
คณุตม์ คะ – นุด ประเสริฐกว่าคนทั้งหลาย
คุณัชญ์ คุ – นัด ผู้รู้คุณธรรม ผู้รู้ความดี
จิณณ์ จิน ประพฤติดีแล้ว
เจตนิพิฐ เจด – นิ – พิด มีความคิดมั่นคง
เจตนิพิฐ เจด – นิ – พิด มีความคิดมั่นคง
ฉันทพัฒน์ ฉัน – ทะ – พัด เจริญด้วยฉันทะ เจริญด้วยความพอใจ
ฉันทัช ฉัน – ทัด ผู้เกิดมาด้วยความพอใจ
ชญานนท์ ชะ – ยา – นน ยินดีในความรู้
ชญานิน ชะ – ยา – นิน นักปราชญ์
ชนกันต์ ชะ – นะ – กัน เป็นที่รักของคนทั้งหลาย
ชนาธิป ชะ – นา – ทิบ ผู้เป็นใหญ่กว่าคนทั้งหลาย
ชนุตม์ ชะ – นุด คนที่สูงสุด

ตั้งชื่อลูกชายเกิดวันศุกร์ ชื่อจริง ชื่อคนเกิดวันศุกร์ ฐ – ท

ตั้งชื่อลูกชายเกิดวันศุกร์ คำอ่าน ความหมาย
ฐิติชาญ ถิ – ติ – ชาน เชี่ยวชาญและตั้งมั่น
ฐิติสุทธิ์ ถิ – ติ – สุด ผู้ตั้งมั่นอยู่ในความบริสุทธิ์
ญาณพัตน์ ยา – นะ – พัด เจริญด้วยความรู้
ญาณาธิป ยา – นา – ทิบ เป็นใหญ่ด้วยความรู้
ญาณพัฒน์ ยา – นะ – พัด เจริญด้วยความรู้
ญาณัช ยา – นัด เกิดมาเพื่อความรู้
ญาณัท ยา – นัด ผู้ให้ความรู้
ณัช นัด เกิดมาเพื่อความรู้ ผู้ให้เกิดความรู้
ณัฎฐ์ นัด ผู้ตั้งอยู่ในความรู้ นักปราชญ์
ณัฐชนน นัด – ชะ – นน เกิดมาเป็นนักปราชญ์
ณัฐธัญ นัด – ทัน ปราชญ์ผู้โชคดี
ณัฐนันท์ นัด – ถะ – นัน เป็นที่ชื่นชมยินดีของนักปราชญ์
ณัฐสม นัด – ถะ – สม เสมอด้วยนักปราชญ์ สมกับนักปราชญ์
ณัฐสุต นัด – ถะ – สุด ลูกนักปราชญ์
ณัท นัด ตั้งชื่อลูกชายเกิดวันศุกร์ ณัท แปลว่า ให้ซึ่งความรู้
ณกานต์พิทักษ์ นะ – กาน – พิ – ทัก ที่ซึ่งเป็นที่รักและความรักษาไว้
ณัฏฐ์ นัด นักปราชญ์
ณัฐกิตติ์ นัด – ถะ – กิด ผู้รุ่งเรืองเพราะความรู้
ณัฐภัค นัด – ถะ – พัก ปราชญ์ผู้มีโชค
ณัฐภาส นัด – ถะ – พาด ความรุ่งเรืองของนักปราชญ์
ณัฐสิทธิ์ นัด – ถะ – สิด ความสำเร็จของนักปราชญ์
เดชทัต เด – ชะ – ทัด ผู้ให้เดชหรือมีเดชมาก
ติณณ์ ติน ผู้ข้ามพ้นความทุกข์แล้ว
เตชสิทธิ์ เต – ชะ – สิด สำเร็จด้วยเดช
เตชทัต เต – ชะ – ทัด ให้เดช,มีเดชมาก
เตชิต เต – ชิด คมกล้า หรือฉลาดเฉียบแหลม
เตชินท์ เต – ชิน เป็นใหญ่ด้วยเดช มีเดชยิ่งใหญ่
เตโชดม เต – โช – ดม มีเดชสูงสุด
เทพฤทธา เทบ – ริด – ทา มีฤทธ์ดั่งเทพ
ทัดธน ทัด – ทน ผู้ให้ทรัพย์ ผู้มีทรัพย์ที่คนอื่นให้
ทัพพ์ ทับ ทรัพย์สมบัติ
ทักษ์ ทัก ขยัน ฉลาด มีทักษะ
เทพทัต เทพ – พะ – ทัด ผู้ที่เทวดาประทานมา
ทิษณุ ทิด – สะ – นุ การให้,การบริจาค
ทีปต์ ทีบ รุ่งเรือง

ตั้งชื่อลูกชายเกิดวันศุกร์

ตั้งชื่อลูกชายเกิดวันศุกร์ ชื่อจริง ชื่อคนเกิดวันศุกร์ ธ – บ

ตั้งชื่อลูกชายเกิดวันศุกร์ คำอ่าน ความหมาย
ธนโชติ ทะ – นะ – โชด รุ่งเรืองด้วยทรัพย์
ธนัญสิชณ์ ทะ – นัน – สิด ความสำเร็จในการสร้างทรัพย์
ธมเชษฐ์ ทม – เชด ผู้เป็นใหญ่
ธมธเนศ ทม – มะ – เนด ยิ่งใหญ่และเป็นเจ้าแห่งทรัพย์
ธมนณัฐ ทะ – มน – นัด นักปราชญ์ผู้มีจิตใจดีงาม
ธัญพิสิฏฐา ทัน – พิ – สิด – ถา โชคดีและเจริญเป็นเยี่ยม
ธามนิธิศ ทาม – นิ – ทิด ขุมทรัพย์แห่งยศศักดิ์
ธามเมธี ทาม – เม – ที ปราชญ์ผู้มียศศักดิ์
ธัญกฤษฏิ์ ทัน – ยะ – กิด ฉลาดเป็นเสิศ
ธนกฤติ ทะ – นะ – กริด สร้างทรัพย์ ทำเงิน
ธนชิต ทะ – นะ – ชิด ชนะด้วยทรัพย์
ธนทัต ทะ – นะ – ทัด มีทรัพย์
ธนพนธ์ ทะ – นะ – พน รวบรวมทรัพย์สิน
ธนภูมิ ทะ – นะ – พูม พื้นที่แห่งทรัพย์
ธนะดี ทะ – นะ – ดี ทรัพย์ดี
ธนัช ทะ – นัด เกิดจากทรัพย์ คนร่ำรวย
ธนัตถ์ ทะ – นัด มีความสำเร็จด้วยทรัพย์ มีกำไรคือทรัพย์
ธนัท ทะ – นัด ผู้ให้ทรัพย์ ผู้ร่ำรวย
ธนิก ทะ – นิก มีทรัพย์ หรือผู้ร่ำรวย
ธนิน ทะ – นิน มีทรัพย์
ธิติ ทิ – ติ ความเพียร ความรู้ ความอดทน
ธิปก ทิ – ปก ผู้เป็นใหญ่ ผู้เป็นหัวหน้า
ธิษณ์ ทิด ฉลาด
ธีทัต ที – ทัด ให้ปัญญา
ธีภพ ที – พบ มีปัญญา
ธีมา ที – มา ผู้มีปัญญา
นนทพัทธ์ นน – ทะ – พัด ผูกพันด้วยความสุข
นันท์ทัต นัน – ทัด ให้ความบันเทิง ให้ความสุข
นันทิช นัน – ทิด ผู้เกิดมาเพื่อความสุข เกิดมาเพื่อความเพลิดเพลิน
นันทิพัฒน์ นัน – ทิ – พัด เจริญด้วยความสุข
นันทิศ นัน – ทิด เจ้าแห่งความสุข
นิชฌาน นิด – ชาน การเพ่งพินิจ ปัญญา
นิทธันต์ นิด – ทัน ผู้ขจัดมลทิน ขจัดความชั่ว
นิธิศ นิ – ทิด เจ้าแห่งขุมทรัพย์
นิปุณ นิ – ปุน มีฝีมือ ฉลาด ละเอียด
นิพพิชฌน์ นิบ – พิด ปัญญา เข้าใจทะลุปรุโปร่ง ตรัสรู้
บัญญพนต์ บัน – ยะ – พน ผู้มีปัญญา
บัณฑัต บัน – นะ – ทัด ผู้ให้ทรัพย์สิน
บัณฑิต บัน – ดิด ผู้ทรงความรู้
บุญสิทธิ์ บุน – ยะ – สิด มีความดีและอำนาจ

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

ตั้งชื่อลูกชายเกิดวันศุกร์ ชื่อจริง ชื่อคนเกิดวันศุกร์ ป – ภ

ตั้งชื่อลูกเกิดวันศุกร์ คำอ่าน ความหมาย
ปสุต ปะ – สุด ผู้ขยันขันแข็ง
ปองคุณ ปอง – คุน มุ่งหวังสิ่งที่ดีงาม
ปฏิพน ปะ – ติ – พน ผู้มีความสามารถ
ปธานิน ปะ – ทา – นิน ผู้มีความเพียรอันยิ่งใหญ่
ปัญญ์คคนานต์ ปัน – คะ – คะ – นาน ปัญญาดั่งท้องฟ้า
ปัญญพนต์ ปัน – ยะ – พน ผู้มีปัญญา
ปัณณทัต ปัน – นะ – ทัด ให้ความรู้
ปาณัท ปา – นัด ให้ชีวิต, มีจิตเมตตา
ปุญญพัตน์ ปุน – ยะ – พัด เจริญด้วยบุญ
ปุณณัตถ์ ปุน – นัด ผู้สมปรารถนา, สมประสงค์
ปุณมนัส ปุน – มะ – นัด มีใจสะอาด
เปมทัต เป – มะ – ทัด ผู้ให้ความรัก
พงศ์เทพ พง – เทบ ผู้มีสกุลสูง, พวกเทวดา
พศุตม์ พะ – สุด มีอำนาจสูงสุด
พสิษฐ์ พะ – สิด ดีที่สุด, ร่ำรวยที่สุด
พิเชฐชญณ์ พิ – เชด – ชน ความรู้ประเสริฐสุด
พิเชฐธนัท พิ – เชด – ทะ – นัด ร่ำรวยอย่างประเสริฐสุด
พิภู พิ – พู ตั้งชื่อลูกชายเกิดวันศุกร์ พิภู แปลว่า มีอำนาจ
พิสิษฐ์ พิ – สิด ดีเลิศ, มั่งมีดีเลิศ
พุทธนิพิชญ์ พุด – ทะ – นิ – พิด มีปัญญาดั่งผู้ตรัสรู้
พิจักษณ์ พิ – จัก มีปัญญาเห็นประจักษ์ ผู้ฉลาดยิ่ง
พิชญ์ พิด นักปราชญ์
พิชญะ พิด – ชะ – ยะ นักปราชญ์
พิชญุตม์ พิด – ชะ – ยุด ฉลาดและยิ่งใหญ่
พิชเญศ พิด – ชะ – เยด จอมปราชญ์
พิพิธธน พิ – พิด – ทน มีทรัพย์มากมาย มีทรัพย์ต่าง ๆ
พิมุกต์ พิ – มุก ผู้หลุดพ้น
พุฒิเมธ พุด – ทิ – เมด เจริญด้วยปัญญา
ภาม พาม ตั้งชื่อลูกชายเกิดวันศุกร์ ภาม แปลว่า เดช
ภาณุเมศธนัน พา – นุ – เมด – ทะ – นัน ร่ำรวยยิ่งใหญ่ดุจพระอาทิตย์
ภีมพศ พี – มะ – พด มีอำนาจน่าเกรงขาม
ภูชิต พู – ชิด ผู้ชนะแผ่นดิน
ภูดิศ พู – ดิด เจ้าแห่งความเจริญ
ภูสิทธ์ พู – สิด ผู้สำเร็จแผ่นดิน
โภคิน โพ – คิน ผู้มีทรัพย์สมบัติ

ตั้งชื่อลูกชายเกิดวันศุกร์ ชื่อจริง ชื่อคนเกิดวันศุกร์ ม – อ

ตั้งชื่อลูกเกิดวันศุกร์ คำอ่าน ความหมาย
เมธาสิทธิ เม – ทา – สิด สำเร็จด้วยปัญญา
โมกข์ โมก ผู้เป็นหัวหน้า ความหลุดพ้น
มหัทธนะกิตติ์ มะ – หัด – ทะ – นะ – กิด มีชื่อเสียงและร่ำรวยยิ่ง
เมธัส เม – ทัด ผู้มีปัญญา, นักปราชญ์
ศดิศ สะ – ดิด เป็นใหญ่กว่าคนทั้งหลาย
ศตคุณ สะ – ตะ – คุณ ผู้มีความดีตั้งร้อย, ผู้มีความรู้ดีมาก
ศักดิธัช สัก – ดิ – ทัด มีความเข้มแข็งเป็นเลิศ
ศักดินนท์ สัก – ดิ – นน ยินดีในอำนาจ
ศุภ์กฤศธเนส สุ – กริด – ทะ – เนด มีการกระทำที่ดีและร่ำรวย
ศุภเสกข์ สุ – พะ – เสก นักศึกษาผู้ดีงาม
โศธิน โส – ทิน มีความผ่องแผ้ว
ศุภกฤต สุ – พะ – กริด สร้างสิริมงคล สร้างความสุข
ศุภณัฐ สุ – พะ – นัด นักปราชญ์ผู้ดีงาม
ศุภสัณห์ สุ – พะ – สัน ผู้ดีงามและละเอียดสุขุม
ศุภสิน สุ – พะ – สิน สินทรัพย์ที่ดีงาม
สมัชญ์ สะ – มัด มีเกียรติยศ มีชื่อเสียง
สมัตถ์ สะ – มัด ผู้สามารถ องอาจ
สัณห์พิชญ์ สัน – พิด นักปราชญ์ผู้ละเอียดอ่อน
สหัส สะ – หัด ตั้งชื่อลูกชายเกิดวันศุกร์ สหัส แปลว่า เข้มแข็ง, มีชัย
สังสิต สัง – สิด อันเขาสรรเสริญแล้ว, ได้รับการสรรเสริญ
สัญชิต สัน – ชิด ผู้ชนะ
สัณหณัฐ สัน – หะ – นัด นักปราชญ์ผู้ละเอียดอ่อน
สัทคุณ สัด – ทะ – คุณ ลักษณะดี
สัทชน สัด – ทะ – ชน คนดี มีคุณธรรม
สาธน สา – ทน นำไปสู่ความสำเร็จ
สาธิก สา – ทิก ผู้ให้สำเร็จประโยชน์ สำเร็จสมประสงค์
สาธิน สา – ทิน ผู้ให้สำเร็จ ผู้ทำอะไรได้รับความสำเร็จ
สาธิษฐ์ สา – ทิด ช่ำชองที่สุด ได้รับความสำเร็จ
สิทธินันท์ สิด – ทิ – นัน ยินดีในความสำเร็จ
สุกนต์ธี สุ – กน – ที มีปัญญาเป็นที่น่าปรารถนายิ่ง
สุกฤษฎิ์ สุ – กริด นักปราชญ์ที่ดี
สุชญาน สุด – ชะ – ยาน ความรู้ดี
สุชัจจ์ สุ – ชัด ผู้มีเชื้อชาติดี, เกิดมาดี
สุตนันท์ สุ – ตะ – นัน ผู้ยินดีในความรุ้ที่ได้เรียนมา
สุทธญาณ สุด – ทะ – ยาน มีความรู้อันบริสุทธิ์
สุทธิฉันท์ สุด – ทิ – ฉัน มีความพอใจ หรือมีความมุ่งหมายบริสุทธิ์
สุทักษ์ สุ – ทัก เชี่ยวชาญ สามารถ ฉลาด เข้มแข็ง
สุธิต สุ – ทิด มีคุณประโยชน์
สุธินันท์ สุ – ทิ – นัน ความยินดีของนักปราชญ์
สุธี สุ – ที คนมีปัญญา, นักปราชญ์
สุนิติ สุ – นิ – ติ มีระเบียบกฏเกณฑ์ที่ดี
สุศันส์ สุ – สัน มีชื่อเสียงดี
สุศาสิต สุ – สา – สิด อยู่ในระเบียบดี
สุศิษฏิ์ สุ – สิด ผู้ช่วยอย่างประเสริฐ
สุสถิต สุ – สะ – ถิด ที่มีสุขภาพดี อยู่ดี
โสนนท์ โส – นน ยินดีในความดี
อธิคม อะ – ทิ – คม ความสำเร็จ
อธิช อะ – ทิด เกิดมายิ่งใหญ่
อเนกศักดิ์ อะ – เหนก – สัก มีความสามารถ
อภิทัต อะ – พิ – ทัด ให้ความยิ่งใหญ่

อย่างไรก็ดีการเลือกชื่อ หรือ ตั้งชื่อลูกชายเกิดวันศุกร์ ที่มีความหมายมงคล อาจช่วยส่งเสริมให้ชีวิตของคุณไปในทิศทางที่ดีขึ้นได้ หากคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังหาชื่อมงคลวันศุกร์ ชื่อคนเกิดวันศุกร์ ก็สามารถนำชื่อดังกล่าวไปใช้ในการตัดสินใจได้เลยนะคะ

อ่านต่อบทความอื่นน่าสนใจนอกเหนือจากเรื่อง ตั้งชื่อลูกชายเกิดวันศุกร์ คลิกที่ภาพได้เลย 

โปรแกรมตั้งชื่อลูก ตั้งชื่อลูกตามวันเกิด ชื่อมงคล ความหมายดี เยอะที่สุด

ตั้งชื่อลูกมงคล 300 ชื่อที่แปลว่าทรัพย์สมบัติ ตั้งแล้วลูกร่ำรวยเงินทอง เรียกโชคให้พ่อแม่

ตั้งชื่อลูกพร้อมความหมาย 200 ชื่อมงคล ความหมายดี ถูกต้องตามหลักโหรศาสตร์

วิธีทำลูกสาว ไม่ใช่เรื่องยาก ต้องลองสูตรนี้!!!

นวดกระตุ้นน้ำนม

นวดกระตุ้นน้ำนม กระตุ้นให้คลอดง่าย ทำได้ตั้งแต่ตั้งครรภ์!!

Alternative Textaccount_circle
event
นวดกระตุ้นน้ำนม
นวดกระตุ้นน้ำนม

อยากคลอดง่าย คลอดแล้วมีน้ำนมให้ลูกทาน มา นวดกระตุ้นน้ำนม นวดเตรียมคลอด กันเถอะ!! นวดได้ง่าย ๆ คุณพ่อก็นวดได้ ช่วยทำให้คลอดง่าย ผ่อนคลาย และเพิ่มความผูกพัน

นวดกระตุ้นน้ำนม กระตุ้นให้คลอดง่าย ทำได้ตั้งแต่ตั้งครรภ์!!

ทำความรู้จักฮอร์โมน Oxytocin ฮอร์โมนแห่งความรัก

ทำไมแม่ถึงรักลูกตั้งแต่ยังไม่เห็นหน้า? และยิ่งเมื่อลูกดูดน้ำนมจากเต้าแม่ แม่ยิ่งรู้สึกตกหลุมรักลูกอย่างถอนตัวไม่ขึ้น ความผูกพันอย่างลึกซึ้งระหว่างแม่กับลูก เป็นสิ่งที่ค่อย ๆ ก่อร่างสร้างตัวขึ้นทีละน้อย ตั้งแต่ช่วงหลังคลอดที่แม่ลูกได้พบกัน ลูกเริ่มไซ้หาเต้านม ทำความคุ้นเคยกับแหล่งอาหารใหม่ ที่มีน้ำนมอุ่น เสริมด้วยความรักอันอ่อนโยน แม่ลูกค่อย ๆ ค้นพบตัวตนของกันและกันผ่านผิวสัมผัสบนหน้าอกของแม่นี้ นมแม่ไม่ใช่เป็นเพียงแหล่งอาหารสำหรับลูก แต่นมแม่นำความอบอุ่น ผ่อนคลายมาให้คู่แม่ลูก ผ่านทางขบวนการธรรมชาติ

การที่แม่ลูกคู่หนึ่งถูกดึงดูดเข้าหากัน ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่ร่างกายของเราได้สร้างขบวนการรองรับการผูกสัมพันธ์นี้ผ่านฮอร์โมน 1 ตัว ที่เรียกกันว่า ฮอร์โมน Oxytocin

ฮอร์โมน Oxytocin คืออะไร?

Oxytocin เป็นฮอร์โมนที่ถูกผลิตขึ้นจากต่อมใต้สมอง ซึ่งเป็นส่วนที่ทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของร่างกาย โดยฮอร์โมนตัวนี้จะหลั่งออกมาสู่กระแสเลือดของแม่ เพื่อส่งตรงไปสู่มดลูก ในตอนท่แม่เริ่มเจ็บท้องเข้าสู่ระยะคลอด ทำให้มีแรงเบ่ง ทำให้กล้ามเนื้อมดลูกมีการหดตัวบีบเป็นระยะ ๆ เพื่อผลักดันลูกออกสู่โลกภายนอก นอกจากนี้ฮอร์โมนยังช่วยสร้างความผูกพันให้กับแม่และลูก โดยหลังจากคลอดบุตรแล้วฮอร์โมน Oxytocin จะมีผลต่อการให้นมบุตร เพราะมันจะช่วยกระตุ้นการหลั่งของน้ำนมให้เพียงพอต่อลูกน้อยอีกด้วย

หน้าที่ของฮอร์โมน Oxytocin

  1. กระตุ้นการหดรัดตัวของกล้ามเนื้อเรียบของมดลูกของหญิงมีครรภ์ ในการคลอดบุตร ในระยะใกล้คลอด จะพบว่ามีออกซิโทซิน รีเซฟเตอร์เพิ่มมากขึ้นอย่างมาก ซึ่งจะทำให้มีการหดรัดตัว ของมดลูกถี่ขึ้นในระยะใกล้คลอด และในระยะคลอด ในขณะคลอดถ้ามีการกระตุ้นการถ่ายขยายของ ปากมดลูกจะทำให้มีการหลั่งของออกซิโทซินเพิ่มมากขึ้น
  2. กระตุ้นการหลั่งน้ำนม (milk ejection) ทำให้กล้ามเนื้อของต่อมน้ำนม บีบตัวให้หลั่งน้ำนมออกมา เมื่อน้ำนมถูกสร้างขึ้นจะไปเก็บไว้ในถุงน้ำนม ซึ่งเรียกว่า อะวีโอไล (alveoli) เพื่อเตรียมไว้ให ้ทารก อะวีโอไลจะล้อมรอบด้วยกล้ามเนื้อเรียบที่เรียกว่า เซลล์ไมโออิปิทีเลียม (myoepithelial cell) ซึ่งเป็นเซลล์เป้าหมาย (target cell) ของออกซิโทซิน ออกซิโทซินจะกระตุ้นให้มีการหดรัดตัว ของกล้ามเนื้อเรียบนี้ ทำให้น้ำนมที่สร้างไว้แล้วไหลเข้าไปสู่ท่อน้ำนมเมื่อทารกดูด เมื่อทารกดูดนม จะส่งกระแสประสาทผ่านไขสันหลัง ไปยังเซลล์ประสาท ที่สร้างฮอร์โมน ในไฮโพทาลามัสทำให้มีการสร้างออกซิโทซิน และมาเก็บไว้ที่ต่อมใต้สมองส่วนหลัง และแพร่เข้าไปในกระแสเลือด ไปทำงานโดยกระตุ้นกล้ามเนื้อเรียบที่ต่อมน้ำนม ให้บีบตัวให้น้ำนมที่สร้างไว้แล้วให้ไหลออกมาตามท่อน้ำนมไปที่หัวนมแล้วเข้าปากทารก
  3. ฮอร์โมนออกซิโทซินจะกระตุ้นให้มารดามีพฤติกรรมในการเลี้ยงบุตร บทบาทนี้ทำให้ มนุษย์และสัตว์ดำรงเผ่าพันธุ์สืบต่อมาได้ หลังคลอดจะพบว่ามีออกซิโทซินที่ในสมองและที่ไขสันหลัง เพิ่มมากขึ้น(cerebrospinal fluid ) ซึ่งเชื่อว่าฮอร์โมนนี้เป็นตัวกระตุ้นให้มารดามีความต้องการ ในการเลี้ยงดูทารก นอกจากนี้จะพบว่า ในมารดาที่ให้บุตรดูดนมของตนเอง จะมีความรักใคร่ผูกพัน ทารกมากกว่ามารดาที่ไม่ได้เลี้ยงบุตรด้วยนมตนเอง
ฮอร์โมน Oxytocin
ฮอร์โมน Oxytocin

ฮอร์โมนนี้ นอกจากจะมีความสำคัญต่อมารดาและบุตรแล้ว ฮอร์โมนตัวนี้ยังมีอิทธิพลต่อร่างกายของเราในด้านอื่น ๆ ได้แก่

  • อาจช่วยลดอาการสมาธิสั้น และพฤติกรรมการทำแบบเดิมซ้ำ ๆ ในผู้ป่วยออทิสติก
  • เป็นส่วนหนึ่งของการควบคุมการย่อยอาหาร ช่วยให้ระบบการดูดซึมสารอาหารดีขึ้น
  • ช่วยให้แผลสมานได้เร็ว
  • ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย
  • ช่วยลดความเครียด ช่วยควบคุมความดันโลหิต และช่วยป้องกันภาวะซึมเศร้า

ทำอย่างไรให้ร่างกายสร้างฮอร์โมน Oxytocin?

เราสามารถกระตุ้นให้ร่างกายหลังฮอร์โมน Oxytocin ได้ง่ายมากเลยค่ะ เพียงแค่นึกถึงคนที่เรารัก คิดถึงประสบการณ์ดี ๆ ที่ผ่านมา การกอด การสัมผัส การเล่น การหัวเราะ การฟังเพลงดี ๆ หรือแม้แต่การให้ การทำบุญทำทาน การเป็นจิตอาสา ก็ช่วยให้ฮอร์โมนตัวนี้หลั่งได้ และการนวด ก็ยังเป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้ ฮอร์โมน Oxytocin หลั่งได้อีกด้วย

แค่นวดก็ช่วยกระตุ้นน้ำนมได้ นวดกระตุ้นน้ำนม ทำให้คลอดง่าย จริงหรือ?

วิจัยจาก University of Miami ได้แสดงให้เห็นว่าการนวดช่วยเพิ่มการหลั่งของฮอร์โมนระบบประสาท (รวมถึงฮอร์โมน Oxytocin) ได้ นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยอื่น ๆ ที่สรุปได้ว่าการนวดช่วยลดฮอร์โมนที่ทำให้เกิดความเครียด และเพิ่มฮอร์โมน Oxytocin ได้อีกด้วย เช่น งานวิจัยจาก Cedars-Sinai Medical Center in Los Angeles ที่ได้ทดลองกับผู้ใหญ่ 53 คน และงานวิจัยจากวารสาร Alternative Therapies in Health and Medicine ได้ทดลองกับผู้ร่วมทดลองจำนวน 95 คน พบว่าผู้ที่ได้รับการนวดเป็นเวลา 15 นาที มีฮอร์โมน Oxytocin ในร่างกายเพิ่มขึ้นเป็นต้น

นวดเตรียมคลอด
นวดเตรียมคลอด

แล้วคนท้องนวดได้หรือไม่? นวดอย่างไรให้ปลอดภัย?

ตอบ คนท้องนวดได้ นวดกระตุ้นน้ำนม ก็ได้เช่นกัน

รศ.นพ.สมชาย ธนวัฒนาเจริญ หน่วยเวชศาสตร์มารดาและทารกในครรภ์ ภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ได้กล่าวไว้ว่า การนวดในสตรีตั้งครรภ์ ว่า สตรีตั้งครรภ์ส่วนใหญ่มักจะมีอาการปวดหลัง ปวดขา ปวดน่อง หรือปวดเมื่อยตามตัว เนื่องจากจากกายวิภาคของร่างกายที่เปลี่ยนแปลงไประหว่างที่มีตั้งครรภ์ มดลูกที่มีขนาดใหญ่ขึ้นทำให้ท้องของสตรีตั้งครรภ์โตขึ้น และเพื่อให้ทรงตัวอยู่ได้ สตรีตั้งครรภ์จึงต้องยืนแอ่นหลังเอาไว้ จึงทำให้เกิดอาการปวดกล้ามเนื้อบริเวณหลัง นอกจากนี้ น้ำหนักตัวที่เพิ่มมากขึ้นก็ทำให้ขา ข้อเข่า และข้อเท้าต้องรับน้ำหนักมากขึ้น จึงมักมีอาการปวดขา ปวดน่อง โดยเฉพาะสตรีตั้งครรภ์ที่ต้องยืนนาน ๆ ในแต่ละวัน

จึงมักจะมีคำถามจากแม่ท้องว่า นวดตัว นวดเท้า นวดกดจุด หรือเข้าสปาได้หรือไม่ มีผลดี/ผลเสียอย่างไร รศ.นพ.สมชาย จึงมีคำแนะนำว่า

“การนวดตัวในสตรีตั้งครรภ์ควรได้รับการปรับเปลี่ยนจากการนวดทั่วไปเป็นแบบเฉพาะเจาะจงสำหรับสตรีตั้งครรภ์ เริ่มตั้งแต่เตียง/หมอนที่ใช้ การลงน้ำหนัก รวมไปถึงเทคนิคต่าง ๆ ในการนวด เป็นต้นว่าคนนวดต้องมีความชำนาญและได้รับการฝึกฝนเฉพาะ ควรให้สตรีตั้งครรภ์นอนอยู่ในท่านอนตะแคงข้าง หลีกเลี่ยงการนวดบริเวณท้อง หรือต้องนวดอย่างเบามือที่สุด” สตรีตั้งครรภ์หลายคนอาจมีปัญหาเส้นเลือดขอดที่น่อง จึงไม่แนะนำให้ใช้การนวดลงน้ำหนักมากบริเวณน่องและขา เพราะอาจทำให้ลิ่มเลือดที่แข็งตัวหลุดออกไปอุดตันเส้นเลือดในร่างกายได้ โดยทั่วไปคนนวดมักจะหลีกเลี่ยงการนวดกดจุดที่บริเวณเท้า ข้อเท้า หรือข้อมือ เพราะเชื่อว่าอาจไปกระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูกและกล้ามเนื้อในอุ้งเชิงกราน ดังนั้น จึงแนะนำให้สตรีตั้งครรภ์ที่มีอาการแพ้ท้องมาก มีความเสี่ยงต่อการแท้งบุตร การเจ็บครรภ์ คลอดก่อนกำหนด มีภาวะความดันโลหิตสูง หลีกเลี่ยงจากการนวด

จะเห็นได้ว่าคนท้องสามารถนวดได้ และสามารถ นวดกระตุ้นน้ำนม ได้ เพียงแต่การนวดควรจะทำโดยผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น แต่หากต้องการนวดแบบบีบจับทั่วไป นวดเพื่อผ่อนคลายนั้น ก็สามารถทำได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญ ให้คุณพ่อช่วยนวดทุกวันก็ได้ เพราะผลพลอยได้จากการนวดเพื่อผ่อนคลายนี้ จะช่วยกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมน Oxytocin ซึ่งจะช่วยให้คลอดง่าย ช่วยสานความรักและความผูกพันในครอบครัว และยังจะช่วยให้มีน้ำนมหลังคลอดอีกด้วย

เห็นไหมล่ะคะ การนวดมีประโยชน์กว่าที่คิด คุณพ่อที่ได้อ่านบทความนี้ อย่าลืมคอยนวดแม่ท้องกันนะคะ

อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

5 ขั้นตอน นวดมดลูก ด้วยตัวเอง ลดปวดประจำเดือน

เต้านมคัด ปวดมาก แก้ไขอย่างไรดี ?

6 อาหาร ช่วยแม่ท้อง เร่งคลอดแบบธรรมชาติ

4 วิธี กระตุ้นปากมดลูก โดยหมอ ที่แม่ท้องควรรู้ก่อนคลอด

 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : มูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย, สถาบันนวัตกรรมการเรียนรู้ มหาวิทยาลัยมหิดล, www.somaticservices.com, mgronline.com

คำพูดที่พ่อแม่ไม่ควรพูดกับลูก ข้อคิดสะกิดใจจากคุณหมอ!!

Alternative Textaccount_circle
event

คำพูดที่พ่อแม่ไม่ควรพูดกับลูก ! สั่งสอน หรือซ้ำเติม จนเกิดบาดแผลในใจลูก จากคำเพียงแค่ไม่กี่คำจากคุณแม่คุณพ่อ…ถึงเวลาต้องเปลี่ยน

คำพูดที่พ่อแม่ไม่ควรพูดกับลูก ข้อคิดสะกิดใจจากคุณหมอ!!

ได้มีโอกาสอ่านบทความดี ๆ จากเพจ ชมรมจิตแพทย์เด็กและวัยรุ่นแห่งประเทศไทย ในหัวข้อ คำพูดที่พ่อแม่ไม่ควรพูดกับลูก เป็นหัวข้อที่น่าสนใจ เป็นข้อคิดสะกิดเตือนใจจากคุณหมอ ให้เราได้กลับมาคิดทบทวนถึงท่าทีของตัวเองต่อบทบาทความเป็นแม่ที่เราอาจจะรู้สึกว่าได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ที่สุดแล้ว แต่แค่เพียงคำพูดง่าย ๆ เพียงไม่กี่คำของคนเป็นแม่อาจก่อให้เกิดรอยร้าว บาดแผลในใจแก่ลูกของเราได้โดยที่ตัวคุณแม่เองอาจจะไม่ได้ตั้งใจ และรู้ไหมว่ามันอาจส่งผลต่อความสัมพันธ์ของคุณกับลูก ความมั่นคงในจิตใจของลูกได้ในระยะยาว ซึ่งอาจส่งผลร้ายจนถึงเขาโตเลยทีเดียว

เห็นไหมแม่บอกแล้ว คำพูดที่พ่อแม่ไม่ควรพูดกับลูก
เห็นไหมแม่บอกแล้ว คำพูดที่พ่อแม่ไม่ควรพูดกับลูก

#เห็นไหมแม่บอกแล้ว

“ถือดี ๆ นะลูก อย่าวิ่ง ชามจะหล่นแตกเอา”

“เดินระวังหน่อยนะ ตรงนั้นพื้นมันลื่น”

“ทำการบ้านก่อนไหมลูก วันนี้การบ้านเยอะ มัวแต่เล่น จะทำไม่ทันนะ”

เวลาที่เราสั่งห้าม เตือนอะไรไว้ แล้วลูกละเมิด ฝ่าฝืน

จนเกิดผลลัพธ์ทางลบตามมา อย่างที่เราบอก

มันอดไม่ได้เลยใช่ไหมครับ ที่จะพูดว่า

“เห็นไหม แม่บอกแล้ว!!”

แล้วจะตามมาด้วยชุดประโยคเชิงตำหนิ อีกกระบวนใหญ่

“ทำไมถึงไม่เชื่อกันบ้าง”

“ทำไมถึงดื้อแบบนี้”

“อย่างนี้มันน่าตีซ้ำ”

“น่าเบื่อจริง ๆ ที่ต้องพูดซ้ำพูดซาก” ฯลฯ

บางรายพ่อแม่เครื่องติดแล้ว ก็จะตามด้วยการตีเป็นการปิดท้าย

แล้วบอกลูกด้วยประโยคคลาสสิคว่า

พ่อแม่ต้องสอน ลูกจะได้หลาบจำ ไม่ทำอีก

:::::::::::::::::::::::::::::::::::

หลังเหตุการณ์ผ่านไป อารมณ์สงบ ๆ

เรามาทบทวนกันดูครับ ว่าเหตุการณ์เหล่านี้

มันคือการสอนจริง ๆ หรือ

มันเป็นการ “ระบายอารมณ์” หรือ

มันเป็นการ “ซ้ำเติม” ความผิดพลาด มากกว่าการสอนหรือไม่

การซ้ำเติมที่เกิดขึ้นบ่อยๆ อาจมีผลต่อความเชื่อมั่นในตัวเองของเด็ก

และที่แย่กว่านั้น เขาอาจรู้สึกไม่มั่นคงกับความรักของพ่อแม่

เพราะคิดว่าพ่อแม่เป็นห่วงความเสียหายมากกว่าความรู้สึกของเขาหรือ?

หมอคิดว่า เด็กๆส่วนใหญ่ เรียนรู้จากเรื่องนี้ ว่ามันเกิดขึ้นจากอะไร

ตั้งแต่ได้ยินเสียงชามแตก

ตั้งแต่ลื่นก้นกระแทกพื้น

หรือพบว่าตัวเองอาจจะปั่นการบ้านไม่ทันแล้ว

เวลานั้น เป็นช่วงที่เขา รู้สึกผิด รู้สึกกลัว รู้สึกเจ็บตัว รู้สึกลนลาน

แม้ว่าเราจะยังไม่ทันได้พูดอะไรเลยด้วยซ้ำ

หมอคิดว่าจึงไม่มีเหตุผลใดที่เราจะต้องไปซ้ำเติมลูกให้รู้สึกแย่กว่าเดิม

#หมอไปป์_แฮปปี้คิดส์

ซ้ำเติม หรือ สอนสั่ง

คุณแม่เชื่อไหมว่า คำพูดสามารถทำร้ายจิตใจของลูกน้อยเราได้ เป็นการอ้างอิงจากแบบสำรวจความคิดเห็น 10 คำร้ายที่ไม่อยากได้ยินจากคนในครอบครัว ของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) โดยกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว พบว่าคำที่คนในครอบครัวไม่อยากได้ยิน คือ

อันดับ 1 ไปตายซะ/จะไปตายที่ไหนก็ไป ร้อยละ 20.4

อันดับ 2 คำด่า (เลว/ชั่ว) ร้อยละ 19

อันดับ 3 แกไม่น่าเกิดเป็นลูกฉันเลย ร้อยละ 16.5

และคำอื่น ๆ อีกที่เด็กไม่ต้องการได้ยินจากคนในครอบครัว เช่น ตัวปัญหา ดูลูกบ้านอื่นสิ น่ารำคาญ ตัวซวย น่าเบื่อ ไม่ต้องมายุ่ง และเชื้อพ่อเชื้อแม่มันแรง คำเหล่านี้ล้วนเป็นคำที่ผู้ฟังจะได้รับความรู้สึกในทางลบ ถึงแม้ว่าบริบทในคำพูดอาจแตกต่างกัน แต่ถ้าความหมายที่สื่อออกมานั้นเป็นความหมายในเชิงเดียวกันก็เป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรระวัง ถ้าเราจะสื่อคำเหล่านั้นไปถึงลูกน้อยของเราด้วยความหวังดี แต่จะดีกว่าไหมถ้าเราเลือกใช้คำสักนิด เพื่อให้ความหวังดีของเราไม่กลับกลายเป็นบั่นทอนจิตใจไปเสีย

คำพูดที่พ่อแม่ไม่ควรพูดกับลูก
คำพูดที่พ่อแม่ไม่ควรพูดกับลูก

แต่คุณแม่อย่าพึ่งกังวลจนทำอะไรไม่ถูกจนเกินไปนะคะ  วันนี้ ทีมแม่ABK ได้รวบรวม คำพูดที่พ่อแม่ไม่ควรพูดกับลูก คำพูดที่เราอาจพลั้งเผลอไม่ทันยั้งคิดมาฝากกัน เพื่อเวลาต้องเผชิญกับเหตุการณ์จะได้เลือกใช้คำได้ถูก เหมาะสมกันมากกว่าเดิมอีกสักนิด

แม่จ๋า..หนูไม่อยากฟังคำนี้  “เห็นไหมแม่บอกแล้วว่า…”

ถ้าเกิดขึ้นบ่อยๆ อาจมีผลต่อความเชื่อมั่นในตัวเองของลูก และที่แย่กว่านั้น เขาอาจรู้สึกไม่มั่นคงกับความรักของพ่อแม่ที่มีต่อเขา เพราะคิดว่าพ่อแม่เป็นห่วงความเสียหายมากกว่าความรู้สึกของเขาหรือเปล่า? ลองเปลี่ยน เป็นหยุดอารมณ์ของคุณแม่ แล้วปลอบใจลูกกับเหตุการณ์ที่เขาทำพลาดเสียก่อน จากนั้นค่อยให้เขาได้รับผิดชอบจากผลของการกระทำของเขาเอง โดยมีคุณแม่คอยช่วยชี้แนะหาทางออกแก้ปัญหาด้วยตัวเขาเอง และคุณแม่อาจคอยกระตุ้นให้ลูกพัฒนาหาแนวทางที่จะแก้ไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นได้อีกในอนาคต

แม่จ๋า..หนูไม่อยากฟังคำนี้ หนูต้องทำตาม เพราะแม่สั่งไง”

เมื่อลูกโตขึ้น ความคิดอ่านเริ่มเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น เขาก็จะมีเหตุผลเป็นของตนเอง เมื่อคุณแม่มีคำสั่งให้เขากระทำในสิ่งที่เขาไม่เห็นด้วย พอเขาจะอธิบายถึงเหตุผลของตนเอง แต่เรามักจะไม่ให้ความสำคัญกับเหตุผลของเขาเพียงเพราะว่าเขายังเด็กในสายตาคุณแม่ จึงมักตัดบทด้วยคำพูดที่ว่า เพราะนี่เป็นคำสั่งของแม่ไง นานวันเข้า เขาจะเรียนรู้ได้ว่าความคิดเห็นของเขาไม่มีความหมาย ไม่มีประโยชน์ อาจทำให้ลูกกลายเป็นเด็กที่คอยแต่จะทำตามคำสั่งเท่านั้น หรือไม่กล้าบอกความต้องการของตัวเองให้แก่คุณแม่ฟัง ความสัมพันธ์ระหว่างแม่ลูกก็จะห่างออกไปโดยเฉพาะเมื่อเขาเข้าสู่วัยรุ่น ลองเปลี่ยน เป็นใจเย็นรับฟังความเห็นของลูกบ้าง แล้วคุยกับลูกด้วยเหตุและผล เพื่อให้เขารู้สึกอยากทำตาม เพราะมันดีจริง ๆ ไม่ใช่เพราะตามใจ ตามคำสั่งคุณแม่เท่านั้น

แม่จ๋า..หนูไม่อยากฟังคำนี้ ออกไปไกล ๆ แม่กำลังยุ่ง”

ยิ่งลูกได้ยินประโยคนี้มากเท่าไหร่ เท่ากับเขากำลังรู้สึกว่าถูกผลักไสไปจากคุณมากเท่านั้น เพราะเขาจะคิดว่าแม่ไม่อยากคุยด้วย เมื่อไม่ได้คุยกันบ่อย ๆ เรื่องที่จะคุยก็น้อยลงยิ่งโตขึ้นจะยิ่งห่างกันออกไป ทีนี้เวลามีเรื่องอะไรเขาก็จะไม่คิดจะปรึกษาหรือขอความเห็นจากคุณแม่อีกแน่ ลองเปลี่ยน มาเป็นการกำหนดเวลาให้เขารอ เช่น บอกลูกว่ากำลังทำงานใกล้เสร็จแล้ว ให้ลูกวาดรูปรอแม่สักครู่นะจ๊ะ  เพื่อที่คุณแม่จะได้จัดการกับงานของตัวเองให้เรียบร้อยก่อน แล้วจะได้มีเวลามาเล่นกับเขาได้อย่างเต็มที่ ลูกจะเข้าใจกว่าการที่ต้องรอโดยที่ไม่รู้แน่นอนว่าแม่จะมาเมื่อไหร่

อย่าร้องนะ คำพูดที่พ่อแม่ไม่ควรพูดกับลูก
อย่าร้องนะ คำพูดที่พ่อแม่ไม่ควรพูดกับลูก

แม่จ๋า..หนูไม่อยากฟังคำนี้อย่าร้องนะ!!”

คุณแม่มักจะตีความหมายของการร้องไห้ของลูกว่าเป็นการแสดงความอ่อนแอ เรียกร้องความสนใจ แต่แท้จริงแล้วลูกคิดเช่นนั้นหรือไม่ ความเป็นจริงแล้วการร้องไห้ของเด็กเป็นการปลดปล่อยความรู้สึกความคับข้องใจ ความกังวลภายในใจของลูก การที่คุณแม่ไปห้าม หรือสั่งในหยุดการกระทำนั้น ยิ่งเป็นผลเสียต่อลูกอย่างมาก ลองเปลี่ยน เป็นโอบกอดลูกวลาร้องไห้ แล้วค่อย ๆ ให้เขาบอกความรู้สึกในขณะนั้นออกมา แล้วคุณแม่ก็ช่วยชี้แนะแก้ปัญหาการจัดการกับความรู้สึกของลูก จะช่วยทำให้เขาผ่อนคลาย แล้วต่อไปจะได้รู้วิธีที่จะรับมือกับความรู้สึกของตัวเองในครั้งต่อไป

แม่จ๋า..หนูไม่อยากฟังคำนี้ “ดูอย่างพี่ (ลูกบ้านอื่น) สิ”

การถูกเปรียบเทียบเป็นใครก็คงไม่ชอบกันทั้งนั้น เจ้าตัวเล็กของคุณพ่อคุณแม่ก็เช่นกัน ไม่ว่าคุณจะเปรียบเทียบกับพี่น้องในครอบครัวกันเอง หรือเอาไป เปรียบเทียบกับคนอื่น บ้านอื่น ก็ล้วนแล้วแต่ส่งผลเสียต่อลูกรักเหมือนกัน คุณพ่อคุณแม่อาจจะเปรียบเทียบลูกเพื่อหวังให้เขามีตัวอย่างที่ดีในการนำไปพัฒนาตนเอง แต่ผลที่ได้กลับกลายเป็นว่าคุณจะทำให้ลูก รู้สึกว่าตัวเองแย่ ไม่เก่งถ้าเราไปเปรียบกับคนที่เก่งมากเกินระดับอายุของลูก อาจกลายเป็นว่าไปทำลายความพยายามของลูกไปเสีย หรือในบางครั้งอาจไปทำให้เกิดความอิจฉากันระหว่างพี่น้อง เพียงเพราะคำพูดเปรียบเทียบของคุณพ่อคุณแม่ ลองเปลี่ยน ความเข้าใจของเราซะใหม่ว่า คนเราแตกต่างกัน เด็กแต่ละคนก็ไม่เหมือนกันแม้ว่าจะเป็นพี่น้องคลานตามกันมาก็ตามที แล้วปรับคำพูดของคุณแม่เป็นการชื่นชมในสิ่งที่ลูกแต่ละคนทำดี ให้เขามีกำลังใจ และอยากแข่งขันกันให้คุณแม่ชื่นชมจะดีกว่าไหม

กฎ 3 ข้อ ที่พ่อแม่ควรยึดเป็นแนวทางก่อนพูด

คำพูดที่ดีสร้างความสัมพันธ์แน่นแฟ้น
คำพูดที่ดีสร้างความสัมพันธ์แน่นแฟ้น
แล้วถ้าคิดในทางกลับกัน
ถ้าเราเป็นลูก เราอยากให้พ่อแม่พูดหรือปฏิบัติต่อเราอย่างไรในสถานการณ์นี้
“ว้าย ลูกกกก” (อันนี้ มาจากสัญชาตญาณ เข้าใจได้ครับ)
✅ตั้งสติ สูดลมหายใจลึกๆ แล้วประคองความรู้สึกลูกก่อน
“ระวังนะลูก อยู่เฉย ๆ ก่อนเดี๋ยวแก้วบาด”
“เจ็บตรงไหนรึเปล่าลูก”
“โอ้โห การบ้านอีกเพียบเลย ลูกคงกลัวที่จะไม่ทันนะเนี่ย”
✅สอนให้ลูกรับผิดชอบจากผลของการกระทำตนเอง
“ลูกจะทำยังไงต่อไปดีจ๊ะ”
“มาช่วยกันเก็บเศษชามแตกกัน”
“ลูกเอาผ้าเช็ดพื้นที่เปียกด้วยนะคะ”
“ยังไงลูกก็ทำการบ้านเท่าที่ทำไหว แค่ไหนแค่นั้น
บอกครูไปตามตรงนะลูกว่าไม่ทันจริงๆ”
✅สอนถึงแนวทางการพัฒนาในอนาคต
“ลูกคิดยังไงกับเรื่องที่เกิดขึ้น”
“ต่อไประวังให้มากขึ้นนะลูก”
“ต่อไปลูกจะวางแผนการทำการบ้านยังไง”
ขั้นสุดท้ายคือ
✅ติดตามผล และชมความพยายามของเขา
เพื่อให้พฤติกรรมบวกเกิดขึ้นต่อไปอย่างยั่งยืน
“ช่วงหลังลูกมีความระมัดระวังดีมากเลยนะ”
“ลูกแบ่งเวลาเล่น กับทำการบ้านได้ดีขึ้นมาก เก่งมากเลยลูก”
นอกจากคุณหมอจะมาให้ข้อคิดสะกิดใจกับคุณพ่อคุณแม่ในเรื่อง คำพูดที่พ่อแม่ไม่ควรพูดกับลูก แล้ว คุณหมอยังได้เสนอแนวทางดี ๆ เป็นกฎหลักไว้ 3 ข้อ ให้เราได้ยึดเป็นหลักปฎิบัติในการเลือกใช้คำพูดเพื่อจะสอนลูก ให้ได้ผลลัพธ์ออกมาตรงตามวัตถุประสงค์ ความตั้งใจดีของคุณพ่อคุณแม่อย่างแท้จริง

กฎหลักข้อที่ 1 สอนหลักแห่งความรับผิดชอบ

ลูกจะทำยังไงต่อไปดีจ๊ะ…เรามาช่วยกันเก็บเศษชามแตกกัน

เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ลูกทำพลาดเกิดขึ้น คุณพ่อคุณแม่ควรหยุดตำหนิ แล้วเริ่มจากการหาคำพูดที่ให้ลูกรับรู้ถึง ความรับผิดชอบที่เขาจะต้องรับจากผลของการกระทำของตนเองเสียก่อน โดยอาจจะกล่าวเป็นคำถามให้เขาได้คิด หรืออาจช่วยบอกว่าเขาต้องทำยังไงต่อไปเพื่อแก้ปัญหานั้นถ้าลูกยังไม่สามารถคิดต่อไปเองได้ แต่เขาต้องเป็นคนที่ลงมือทำ แก้ปัญหาด้วยตัวเองโดยมีคุณพ่อคุณแม่คอยช่วยอยู่ห่าง ๆ

กฎหลักข้อที่ 2 สอนถึงแนวทางการป้องกันในอนาคต

ต่อไปลูกจะวางแผนทำการบ้านยังไงให้ทันดี

เมื่อลูกสามารถผ่านพ้นปัญหาที่เกิดขึ้นตรงหน้าได้แล้ว เพื่อเป็นการสอนให้เขาพัฒนาตนเองจากเหตุการณ์ผิดพลาดที่เกิดขึ้น เราควรชี้ให้ลูกได้คิดต่อไปว่า จะวางแนวทางปฎิบัติตัวอย่างไรไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำขึ้นมาอีกได้ โดยมีคุณพ่อคุณแม่รับฟังและช่วยคิด ไม่ได้ว่ากล่าวซ้ำเตฺิม ซึ่งก็เป็นการช่วยให้ลูกรู้จักคิดได้อย่างเป็นระบบอีกด้วย

กฎหลักข้อที่ 3 ให้รางวัลกับความพยายามของลูก

ลูกแบ่งเวลาเล่นกับทำการบ้านได้ดีขึ้นมาก เก่งมากเลย

รางวัลเป็นสิ่งที่มีประสิทธิภาพในการปรับพฤติกรรมของมนุษย์มากกว่าการลงโทษ แต่รางวัลมิจำเป็นต้องเป็นสิ่งของมีค่าเสมอไป เพียงแค่คุณพ่อคุณแม่เอ่ยปากชมลูก เวลาเห็นเขาได้พยายามไม่ทำในสิ่งที่เขาเคยทำพลาด โดยไม่ต้องคำนึงถึงผลลัพธ์ ขอเพียงแค่เขาได้พยายามกว่าเดิมที่เคยเป็นมา ก็คุ้มค่ามากพอที่เราคนเป็นพ่อเป็นแม่ควรเอ่ยปากชมให้เป็นรางวัลแก่ลูก

เห็นไหมละว่า…คำพูดของพ่อแม่ แม้จะดูเป็นเรื่องเล็กน้อย ไม่น่ามีปัญหาใด ๆ แต่ก็ก่อให้เกิดแผลในใจแก่ลูกน้อยของเราได้โดยไม่รู้ตัว คุณพ่อคุณแม่ลองมาสังเกตพฤติกรรมของตนเองกันดูสักนิดว่าได้เผลอพูดโดยไม่ทันได้ยั้งคิดไปบ้างหรือไม่ ยังไม่สายที่จะหันกลับมาเปลี่ยนเพื่อความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่และลูกของเราจะได้ดียิ่งขึ้น และยังเป็นตัวช่วยยึดเหนี่ยวให้แก่ลูกเวลาที่เขาเกิดปัญหาได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

อ่านบทความอื่นน่าสนใจ คลิก

รวม 20 คําสอนของแม่ ที่ควรสอนลูกสาว!

How to สอนลูกให้มีระเบียบวินัย ต้องไม่ตี ไม่ขู่ ไม่เกิดผลเสียในระยะยาว

[สร้างวินัยเชิงบวก] ชวนพ่อแม่สำรวจ เรา “สั่ง” หรือ “สอน” ลูกอยู่นะ

นี่คือ 12 สิ่งที่พ่อแม่ไม่ควรทำกับลูก!

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

G6PD

เรื่องที่แม่ต้องรู้! G6PD โรคผิดปกติทางพันธุกรรม ถ่ายทอดจากแม่สู่ลูกได้

Alternative Textaccount_circle
event
G6PD
G6PD

โรค G6PD หรือ “โรคพร่องเอนไซม์G6PD” เป็นโรคที่เด็กจะมีโอกาสเป็นจากสาเหตุทางพันธุกรรมที่มีการถ่ายทอดความผิดปกตินี้จากแม่ไปสู่รุ่นลูกได้ มาทำความรู้จักกับโรคนี้ว่าคืออะไรกันค่ะ

เรื่องที่แม่ต้องรู้! G6PD โรคผิดปกติทางพันธุกรรม ส่งต่อจากแม่สู่ลูกได้

โรค G6PD หรือโรคพร่องเอนไซม์จีซิกพีดี คือ โรคที่เกิดจากภาวะการขาดเอนไซม์ “G6PD” ซึ่งเป็นเอนไซม์ในเม็ดเลือดแดงที่มีหน้าที่ต่อต้านอนุมูลอิสระ มีบทบาทในการช่วยปกป้องเม็ดเลือดแดงไม่ให้แตกง่าย ช่วยให้เซลล์เม็ดเลือดแดงทำงานได้เป็นปกติ และมีความสำคัญในกระบวนการเผาผลาญอาหารให้เป็นพลังงาน เมื่อเกิดภาวะพร่องเอนไซม์เอนไซม์จีซิกพีดี ก็จะทำให้ได้เอนไซม์ที่มีประสิทธิภาพในการทำงานน้อยกว่าปกติ  โดยเฉพาะเมื่อได้รับสิ่งที่กระตุ้น เช่น อาหารและยาบางชนิด หรือถั่วปากอ้า ส่งผลให้อนุมูลอิสระเข้าไปทำลายระบบต่าง ๆ ภายในเซลล์ของร่างกาย อาจส่งผลให้เซลล์เม็ดเลือดแดงสลายตัวจนเกิดภาวะโลหิตจางตามมาได้ ซึ่งเป็นที่มาของชื่อโรคที่หลายๆ คนเรียกว่า “โรคแพ้ถั่วปากอ้า”

สาเหตุของภาวะบกพร่องทางเอนไซม์G6PD

G6PD เป็นโรคติดต่อทางพันธุกรรม ชนิดหนึ่ง เป็นความผิดปกติทางพันธุกรรมที่มีการถ่ายทอดแบบยีนด้อยของโครโมโซมเพศชนิด X ซึ่งมีการกลายพันธุ์ของยีนที่สร้างเอนไซม์G6PD จากคนเป็นแม่ โดยโอกาสที่ลูกชายจะมีภาวะพร่องจีซิกพีดีอัตราร้อยละ 50 และลูกสาวจะเป็นพาหะร้อยละ 50 ส่งผลทำให้อัตราทารกเด็กเพศชายจะเป็นโรคนี้สูงกว่าทารกเพศหญิง โดยผู้หญิงมักจะไม่แสดงอาการเจ็บป่วยออกมาให้เห็น และส่วนมากจะเป็นพาหนะของโรคนี้ไปสู่รุ่นลูกได้ อย่างไรก็ตาม โรคนี้ยังอาจพบในเพศหญิงที่ได้รับพันธุกรรมที่ผิดปกติมาจากพ่อและแม่ หรือได้รับพันธุกรรมที่ผิดปกติจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเพียงคนเดียวก็ได้เช่นกัน

ภาวะพร่องเอนไซม์ g6pd

รู้ได้อย่างไรว่าลูกเป็นภาวะพร่องเอนไซน์ G-6-PD?

ในทารกแรกเกิดที่มีภาวะเม็ดเลือดแดงขาดเอ็มไซม์จีซิกพีดี จะเกิด “ภาวะตัวเหลือง” มีอาการตาเหลือง ตัวเหลืองตั้งแต่แรกเกิด เนื่องจากมีบิลิรูบินในเลือดสูงกว่าปกติ และโลหิตจางเนื่องจากเม็ดเลือดแดงแตกเฉียบพลัน มีสีอุจจาระซีดลง หรือปัสสาวะสีเหลืองเข้มมากหรือเป็นสีน้ำปลา มีไข้ ซึม ไม่ดูดนม ท้องอืด เกร็ง หรือชัก ทารกที่มีภาวะซีดเหลืองจากโรคจีซิกพีดีในระดับเบา แพทย์จะรักษาด้วยการส่องไฟ เพื่อช่วยลดปริมาณสารสีเหลืองในเลือด และขับสารเหลืองออกจาากร่างกายทางปัสสาวะ และอุจจาระ  แต่หากทารกมีอาการซีดเหลืองจากโรคจีซิกพีดี ในระดับรุนแรง แพทย์จะรักษาด้วยการเปลี่ยนถ่ายเลือด เพื่อลดระดับบิลิรูบินในเลือดลงอย่างรวดเร็ว ป้องกันไม่ให้เกิดความผิดปกติทางสมองของทารก

ข้อมูลจาก : www.si.mahidol.ac.th8

สำหรับเด็กโตและผู้ใหญ่ จะไม่มีอาการผิดปกติใด ๆ เลย จนกว่าร่างกายจะได้รับยาหรืออาหารบางชนิดที่ไปกระตุ้นโรค ซึ่งอาจมีอาการของภาวะโลหิตจางจากการสลายตัวของเซลล์เม็ดเลือดแดง และอาการอาจเกิดขึ้นใน 24-48 ชั่วโมง ดังนี้

  • รู้สึกอ่อนเพลียมาก มีไข้ หนาวสั่น
  • ตัวเหลือง ตาเหลืองมากกว่าปกติ หรือมีภาวะซีดร่วมด้วย
  • ปวดหัว หายใจไม่อิ่ม หัวใจเต้นเร้ว ตับหรือม้ามโต
  • ปัสสาวะมีสีเข้ม สีคล้ายน้ำปลาหรือน้ำโคล่า
  • ไม่สามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ตามปกติ

โดยอาการเหล่านี้หากอาการไม่รุนแรงนักหลังได้รับการรักษามักกลับมาหายเป็นปกติ แต่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ และจะเป็นได้อีกหากได้รับปัจจัยกระตุ้นที่ทำให้เกิดโรค ทั้งนี้อาการป่วยของภาวะพร่องเอนไซน์จีซิกพีดีไม่ได้พบเฉพาะในเม็ดเลือดแดง ซึ่งยังพบในเซลล์ชนิดอื่น ๆ ทั่วร่างกาย แต่เม็ดเลือดแดงจะไวต่อภาวะพร่องเอนไซม์นี้มากกว่าเซลล์ชนิดอื่น ด้วยเหตุนี้โรคจีซิกพีดีจึงอาจเกี่ยวข้องกับความผิดปกติอื่นได้หลายอย่างเพียงแต่ไม่แสดงอาการที่ชัดเจน หากมีอาการและไม่ได้เข้ารับการรักษา ก็อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อน เช่น ภาวะไตวายเฉียบพลันและเสียชีวิตได้

ปัจจัยที่เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดภาวะพร่องเอนไซม์G6PD

  • โรคติดเชื้อ ที่เกิดจากแบคทีเรีย ไวรัส หรือรา เช่น โรคไวรัสตับอักเสบเอ โรคไวรัสตับอักเสบบี โรคปอดอักเสบ โรคไข้ไทฟอยด์ เป็นต้น นอกจากนี้การติดเชื้อบางอย่าง เช่น ไข้หวัด หรือหลอดลมอักเสบ ก็อาจเป็นปัจจัยกระตุ้นให้เกิดภาวะเม็ดเลือดแดงแตกได้
  • การรับประทานอาหารบางชนิด เช่น ถั่วบางชนิด โดยเฉพาะถั่วปากอ้า บลูเบอร์รี่ รวมทั้งสารอาหารหรือสารปรุงแต่งอื่น ๆ ที่เติมลงไปในอาหาร เช่น ในขนมขบเคี้ยว อาหารหรือน้ำผลไม้บรรจุกระป๋อง ไส้กรอก เป็นต้น
  • ยาบางชนิดที่กระตุ้นให้เกิดภาวะเครียดจากออกซิเดชัน
  • สารเคมีบางชนิด เช่น เมนทอลที่พบได้ในขนมประเภทลูกอมและในยาสีฟัน การบูร ลูกเหม็น เป็นต้น
โรคพร่องเอนไซม์ g-6-pd
โรคพร่องเอนไซม์ g-6-pd

เมื่อลูกเป็นโรค G-6-PD ควรดูแลอย่างไร

“G6PD” หรือที่เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “โรคแพ้ถั่วปากอ้า” เป็นความผิดปกติทางพันธุกรรม แม้การป้องกันไม่ให้เกิดโรคนี้ในเด็กทำได้ค่อนข้างยาก แต่ก็สามารถดูแลตัวเองอย่างถูกวิธีและหลีกเลี่ยงปัจจัยเพื่อไม่ให้เกิดอาการของโรคแทนได้

  • ควรดูแลสุขภาพลูกให้เหมือนเด็กปกติทั่วไป รักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ ป้องกันการติดเชื้อ ทำจิตใจให้ผ่อนคลาย และไม่เครียด
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์และครบถ้วนทั้ง 5 หมู่ สอนลูกไม่เลือกกินเฉพาะอาหารที่ชอบ เพราะจะขาดความสมดุลของสารอาหาร ซึ่งสารอาหารบางอย่างช่วยต้านการเกิดภาวะเครียดจากออกซิเดชัน
  • ออกกำลังกายอย่างเหมาะสมและพอดี ไม่ควรออกกำลังกายอย่างหักโหม เพราะจะเพิ่มการใช้ออกซิเจนอย่างมากและกล้ามเนื้อทำงานหนัก จนอาจชักนำให้เกิดภาวะเครียดจากออกซิเดชัน
  • เมื่อมีไข้ สังเกตเห็นอาการซีด ตัวเหลือง ตาเหลือง ปัสสาวะสีเข้ม หรือการติดเชื้อให้ไปพบแพทย์ทันทีเพื่อรักษาสาเหตุของไข้
  • เมื่อมีอาการเจ็บป่วย ไม่ควรซื้อยารับประทานกินเองไม่ว่ากรณีใด ๆ และควรแจ้งให้คุณหมอหรือพยาบาลทราบทุกครั้งว่ามีอาการป่วยเป็นโรคจีซิกพีดี
  • สอนให้ลูกหลีกการรับประทานอาหารบางอย่างเช่น ถั่วปากอ้า พืชตระกูลถั่วหรือสิ่งกระตุ้นที่มีผลทำให้เกิดภาวะซีดจากเม็ดเลือดแดงแตกเฉียบพลัน รวมทั้งสอนให้สังเกตอาการผิดปกติของร่างกายที่อาจเกิดขึ้นได้เมื่อได้รับสารกระตุ้น เช่น สีของปัสสาวะ สีผิวที่อาจซีดเหลือง เป็นต้น
  • ควรแจ้งทางโรงเรียนและครูประจำชั้นให้ทราบว่าลูกเป็นโรคจีซิกพีดีหรือโรคแพ้ถั่วปากอ้า และเขียนรายชื่ออาหารและยาที่ไม่ควรให้ลูกรับประทาน
  • เมื่อได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นภาวะจีซิกพีดี ในหลายสถานพยาบาลมักให้บัตรประจำตัวแก่ผู้ที่เป็นโรคพร่องเอนไซม์G6PDควรพกบัตรติดตัวไว้

อย่างไรก็ตาม อาการของภาวะโรคจีซิกพีดีจะมีความรุนแรงไม่เท่ากันในแต่ละคน และส่วนใหญ่จะไม่แสดงอาการผิดปกติเลยหากไม่ได้รับหรือสามารถหลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นให้เกิดอาการได้ หรือได้รับสารกระตุ้นในปริมาณมาก ๆ จึงจะแสดงอาการป่วย และเนื่องจากโรคทางพันธุกรรมไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ดังนั้นหากลูกมีสภาวะเสี่ยงหรือผู้ป่วยที่เป็นโรคพร่องเอนไซม์G6PD คุณพ่อคุณแม่ควรดูแลเป็นพิเศษและให้ความสำคัญในเรื่องอาหารและยาที่มีผลทำให้เกิดภาวะเม็ดเลือดแดงแตกเฉียบพลันได้ คอยสังเกตอาการหากบังเอิญได้รับสารกระตุ้น เมื่อมีอาการรุนแรงหรือผิดปกติควรรีบพามาพบแพทย์เพื่อรักษาอาการโดยทันทีนะคะ

ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก : www.pharmacy.mahidol.ac.thwww.thaichildcare.com, www.organicloveskin.comwww.pobpad.com

อ่านต่อบทความที่น่าสนใจคลิก

5 โรคที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม ที่พบได้บ่อยในครอบครัวไทย

ตรวจโรคทางพันธุกรรม ก่อนตั้งครรภ์ จำเป็นไหม?

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

ทรงผมสั้นผู้หญิง

45 ทรงผมสั้นผู้หญิง ตัดเเล้วปัง เก๋ไม่ตกเทรนด์

Alternative Textaccount_circle
event
ทรงผมสั้นผู้หญิง
ทรงผมสั้นผู้หญิง

สำหรับคุณเเม่พอมีลูกน้อยเเล้ว อาจไม่ได้เข้าร้านทำผมเหมือนเเต่ก่อน หรือ มีเวลาดูเเลผมน้อยลง การตัดผมสั้น ก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ ทรงผมสั้นผู้หญิง มีหลากหลายรูปเเบบจะตัดเป็นทรงบ๊อบ เเสกข้าง หรือว่าเพิ่มความพิเศษโดยการดัดลอน ก็มีให้เลือกมากมาย เเน่นอนว่าเเต่ละทรงต่างให้ลุคที่ต่างกัน ซึ่งถ้าใครยังคิดภาพไม่ออกว่าเเต่ละทรงหน้าตาเป็นอย่างไร ทีมเเม่ ABK ก็ได้รวบรวมทรงผมสั้นผู้หญิง 45 ทรงมาฝากให้คุณเเม่ได้เลือกตัดกันเเบบจุใจกันเลยค่ะ

45 ทรงผมสั้นผู้หญิง ตัดตามได้ไม่ตกเทรนด์

ทรงผมสั้นตรง ลุคธรรมชาติ

สำหรับ ทรงผมสั้นที่ให้ลุคดูธรรมชาติ น่ารัก เเละดูเด็ก คงต้องยกให้กับทรงผมสั้นตรงเลยค่ะ ลักษณะของทรงคือการตัดให้ผมสั้นประมาณติ่งหู หรือ ความยาวเลยกว่านั้น อาจเพิ่มความน่ารัก โดยการตัดหน้าม้าซีทรู (หน้าม้าเเบบบาง) เข้าไป เพื่อเพิ่มความเรียวให้กับกรอบหน้า

ทรงผมสั้นผู้หญิง
IG : fahsarika
ทรงผมสั้นผู้หญิง
IG : aokbab
ทรงผมสั้นผู้หญิง
IG : pattieung
ทรงผมสั้นผู้หญิง
IG : sara_legge
ทรงผมสั้นผู้หญิง
kknews.cc

ทรงผมสั้นเเสกข้าง

เพิ่มความเรียบหรู เเละดูเป็นทางการ ด้วยการปรับดีเทลของผมจากการเเสกข้าง สำหรับทรงนี้จะให้ลุคที่ดูเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นกว่าทรงก่อนหน้า ให้ความรู้สึกเรียบร้อย สุขุม เเต่หากต้องการเพิ่มความหวานให้กับทรงผมมากขึ้น อาจดัดลอนปลายผมด้านหน้าให้เข้ากับรูปหน้าของตนเอง จะช่วยเพิ่มความละมุนได้อีกหนึ่งระดับ  หรือถ้าอยากให้ทรงผมมีความเซ็กซี่ อาจใช้เทคนิคของ Messy Hair คือการทำผมให้ดูยุ่งเเบบไม่ตั้งใจ ก็จะช่วยเพิ่มให้ทรงผมสั้นของเราดูพิเศษมากขึ้นค่ะ

ทรงผมสั้นผู้หญิง
IG : chroom_hy
ทรงผมสั้นผู้หญิง
IG : djtonhorm
ทรงผมสั้นผู้หญิง
IG : gggubgib36
ทรงผมสั้นผู้หญิง
IG: ja_jittapa
ทรงผมสั้นผู้หญิง
IG : jeab_pijittra

ทรงผมสั้น ดัดปลายเพิ่มวอลลุ่ม

การดัดปลายผมเป็นอีกหนึ่งการออกเเบบทรงผม ที่ทำให้ทรงผมสั้นธรรมดาดูมีอะไรมากขึ้น มีทั้งดัดให้ม้วนเข้า เพิ่มวอลุ่มให้ผมดูงุ้มเข้าหาใบหน้า เเละ ดัดให้ม้วนออกเป็นลอน ซึ่งการดัดปลายผมนั้นสามารถทำได้ โดยใช้โรลม้วนผม หรือ เครื่องม้วน หรือ หากรู้สีกขี้เกียจที่ต้องคอยดัดผมทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน ก็สามารถเข้าร้านตัดผมเพื่อให้ทางร้านดัดถาวรให้ได้

ทรงผมสั้นผู้หญิง
www.whowhatwear.com
ทรงผมสั้นผู้หญิง
beauty.hotpepper
ทรงผมสั้นผู้หญิง
beauty.hotpepper
ทรงผมสั้นผู้หญิง
IG : chroom_hy
ทรงผมสั้นผู้หญิง
IG : chroom_hy
ทรงผมสั้นผู้หญิง
IG : chroom_hy
ทรงผมสั้นผู้หญิง
IG : chuu_chloe
ทรงผมสั้นผู้หญิง
IG : sara_legge
ทรงผมสั้นผู้หญิง
blog.daum.net

ทรงผมสั้นผู้หญิง ดัดหยิกสไตล์เกาหลี

ทรงผมเทรนด์สาวเกาหลี ผมทรงสั้นดูหยิก ๆ สไตล์ลอนเมอร์เมด หรือ ลอนมาม่า เป็นอีกหนึ่งทรงที่เพิ่มความน่ารัก ความละมุนให้กับสาวผมสั้น สามรถออกเเบบดีไซน์ความมุ้งมิ่งเพิ่มโดยการเติมกิ๊บ หรือ โบว์เข้าไปช่วยเพิ่มความเก๋ เเละ ไม่ว่าใครก็ตามที่ทำผมทรงนี้รับประกันได้ว่า จะช่วยปรับลุคให้ดูเด็กลง เป็นสาวหวาน สายอบอุ่น ละมุนมากขึ้นค่ะ

ทรงผมสั้นผู้หญิง
kknews.cc
ทรงผมสั้นผู้หญิง
IG : now_tisanart
ทรงผมสั้นผู้หญิง
kknews.cc
ทรงผมสั้นผู้หญิง
lalahair.co.jp

ทรงสั้นบ๊อบ

เพิ่มลุคสาวมั่นด้วย ทรงผมสั้นบ๊อบ ควายาวของทรงผมบ๊อบก็มีให้เลือกหลายระดับเช่น ยาวประบ่า กลางคอ ระดับกราม หรือว่าบ๊อบเท บ๊อบยาว เเต่ถ้าใครอยากเพิ่มลุคเปรี้ยวเฉี่ยวเเนะนำทรงบ๊อบเทสั้นเลยค่ะ เพราะทรงนี้จะช่วยเพิ่มความเท่ เปรี้ยว เสริมความมั่นใจให้กับสาว ๆ ไม่ว่าจะเเต่งตัวอย่างไรก็ช่วยเสริมให้ลุคนั้นดูเก๋ เเละ ปังมากค่ะ

ทรงผมสั้นผู้หญิง
IG : apinnya
ทรงผมสั้นผู้หญิง
IG : supanareee

ทรงผมสั้นผู้หญิง ตัดเปลี่ยนลุค ออกเเบบทรงผมได้ไม่มีเบื่อ

ผมสั้นซอย

สำหรับทรงผมสั้นซอย เป็นอีกทรงที่ปรับลุคให้ดูมั่นใจ เท่ เก๋ เปรี้ยว ในขณะอีกมุม ก็มีความคูล สไตล์บอย ๆ หากอยากให้หน้าดูเรียวสามารถเพิ่มหน้าม้าเข้าไป หรือ อาจตัดเป็นซอยสไลด์ให้เข้ากับรูปหน้าก็ช่วยให้หน้าดูซอฟต์สวย เพิ่มดีเทลทัดผมไว้ที่หู ก็ช่วยให้ลุคหวานซ่อนเปรี้ยวเเบบพอดี ๆ

ทรงผมสั้นผู้หญิง
lalahair.co.jp
ทรงผมสั้นผู้หญิง
hair.cm
ทรงผมสั้นผู้หญิง
hair.cm
ทรงผมสั้นผู้หญิง
hair.cm
ทรงผมสั้นผู้หญิง
hair.cm
ทรงผมสั้นผู้หญิง
hair.cm
ทรงผมสั้นผู้หญิง
hair.cm
ทรงผมสั้นผู้หญิง
hair.cm
ทรงผมสั้นผู้หญิง
www.allthingshair.com
ทรงผมสั้นผู้หญิง
www.whowhatwear.com
ทรงผมสั้นผู้หญิง
FB :เจี๊ยบ โสภิตนภา
ทรงผมสั้นผู้หญิง
IG: jeabsopidnapa
ทรงผมสั้นผู้หญิง
IG : apinnya
ทรงผมสั้นผู้หญิง
IG : tanya_liyah
ทรงผมสั้นผู้หญิง
IG : warattaya
ทรงผมสั้นผู้หญิง
IG : caradelevingne
ทรงผมสั้นผู้หญิง
IG : caradelevingne

ทรงผมสั้น ซอยไถข้าง

การใช้ปัตตาเลี่ยนไถผมเปิดข้างเป็นอีกหนึ่งกิมมิคที่ช่วยเพิ่มความเท่ คูล เมื่อเอาผมทัดหูเปิดให้เห็นรอยไถก็จะช่วยความพิเศษให้กับผมซอยมากขึี้นหลายเท่า เป็นอีกทรงที่ไม่ควรพลาด

ทรงผมสั้นผู้หญิง
IG : opalpanisara
ทรงผมสั้นผู้หญิง
www.allthingshair.com
ทรงผมสั้นผู้หญิง
IG : apinnya

จัดไป 45 ทรงผมสั้นผู้หญิง เเบบพอหอมปากหอมคอเผื่อคุณเเม่อยากจะตัดตามทรงไหนจะได้มีเเบบไว้บอกกับช่างทำผม หรือว่า เผื่อใครจะ DIY เซ็ทผม ม้วนผมด้วยตัวเอง เปลี่ยนผมสั้นเเบบธรรมดาให้ดูมีอะไรมากขึ้น ปรับลุค เปลี่ยนสไตล์ตามเเบบที่เราชอบค่ะ


ที่มา : blog.daumkknews.cc lalahair hair.cm whowhatwear allthingshair 

อ่านต่อ

100 ทรงผมลูกสาว ถักเปีย ไปโรงเรียนสุดน่ารักรับเปิดเทอม

เฮได้! เด็กนักเรียนชาย-หญิง “ไว้ผมยาว” ได้ ไม่ผิดกฎ!

ตัดผมวันไหนดี? ตัดอย่างไรให้มีโชคลาภ งาน-เงินปัง!

เบตาดีน

เบตาดีน วิจัยพบสามารถฆ่าเชื้อโควิด-19

Alternative Textaccount_circle
event
เบตาดีน
เบตาดีน

เมื่อถูกมีดบาด  ทำความสะอาดแผล แล้วทาแผลด้วยยาฆ่าเชื้อโรคเบตาดีน   นอกจากจะช่วยให้แผลสดปราศจากเชื้อโรคแล้ว ก็ยังทำให้บาดแผลหายเร็วด้วย

แต่ประโยชน์ของยาเบตาดีน ที่ทั่วโลกกำลังให้ความสนใจคือ สามารถ “ฆ่าเชื้อโควิด-19” ได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างน่าทึ่งอีกด้วยค่ะ   ซึ่งมีผลการวิจัยยืนยันจากห้องปฏิบัติการของ Duke-NUS Medical School เทศสิงคโปร์ ทีมแม่ABK ขออนุญาตอ้างอิงจากแหล่งข่าวตามนี้ค่ะ

 

เบตาดีน ฆ่าเชื้อโควิด (coronavirus) ได้ผล 99.99%

มุนดิฟาร์มา ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เบตาดีน ประกาศในวานนี้ (10 ก.ค.) ว่า ผลการทดสอบจากห้องปฏิบัติการประเทศสิงคโปร์ได้ยืนยันประสิทธิภาพของ เบตาดีน ผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อโรค ในการฆ่าเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ (โค วิด-19)

ผลการทดสอบจากห้องปฏิบัติการที่ Duke-NUS Medical School ในสิงคโปร์ ได้เผยให้เห็นฤทธิ์ในการทำลายเชื้อไวรัสอัน แข็งแกร่งของเบตาดีนในหลอดทดลอง (in vitro) โดยฆ่าเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ ได้มากถึง 99.99% ในเวลา 30 วินาที

รามาน ซิงห์ ซีอีโอของมุนดิฟาร์มา เปิดเผยว่า เมื่อใช้เบตาดีนอย่างเหมาะสมและควบคู่กับอุปกรณ์ป้องกันอื่น ๆ เช่น ชุด  PPE แล้ว สิ่งนี้จะมีบทบาทในการจำกัดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงโรคโควิด-19

ในการทดสอบ นักวิจัยได้ใช้ผลิตภัณฑ์หลายประเภทได้แก่ ยาฆ่าเชื้อเบตาดีน (Betadine Solution) น้ำยาล้างทำความสะอาด ผิวหนัง (Skin Cleanser) น้ำยาบ้วนปาก (Gargle and Mouthwash) และสเปรย์พ่นปากและคอ (Throat Spray)

นอกเหนือจากผลการวิจัยที่สิงคโปร์แล้ว ยังมีผลการทดสอบจากห้องปฏิบัติการที่ศูนย์ Tropical Infectious Diseases  Research and Education Center (TIDREC) ในสังกัดมหาวิทยาลัย University of Malaya ประเทศมาเลเซียด้วย

ส่วนผลการวิจัยของมาเลเซียเผยให้เห็นฤทธิ์ในการทำลายเชื้อไวรัสของน้ำยาบ้วนปากเบตาดีนในหลอดทดลอง โดยฆ่าเชื้อ ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ได้ 99.99% ในเวลา 15 วินาที โดยผลการวิจัยดังกล่าวได้เผยแพร่เมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา

เครดิตข่าว : bangkokbiznews

 

เบตาดีน

ถือว่าเป็นข่าวดีมากๆ สำหรับการรักษาเนื่องด้วยอาการป่วยจากเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธ์ใหม่ ซึ่งในอนาคตอันใกล้นี้อาจมียาอีกหนึ่งประเภทที่สามารถป้องกัน และรักษาเชื้อไวรัสโควิ-19 ได้ค่ะ ทีมแม่ABK ขอเป็นกำลังใจให้หน่วยงานสาธาณสุขบุคลากรทางการแพทย์ ทีมนักวิจัยของทุกประเทศ เพราะหากมีผลสำเร็จที่ดี ก็น่าจะเป็นประโยชน์แก่ผู้คนทั่วโลกค่ะ

สำหรับยาเบตาดีน Betadine ที่ใช้ประโยชน์กันในปัจจุบันนี้ จะมีคุณสมบัติใช้ทาป้องกัน และรักษาบาดแผลบนผิวหนัง ตัวยามีฤทธิ์ในฆ่าเชื้อแบคทีเรียต่างๆ และยับยั้งการเจริญเติบโตของยีสต์ ไวรัส เชื้อรา และ โปรโตซัว ทั้งนี้วิธีการใช้ยาเบตาดีน คือ หลังจากทำความสะอาดบาดแผลแล้ว จะใช้เบตาดีนทาลงบาดแผล ซึ่งช่วยให้บาดแผลสมานแห้งหายเป็นปกติได้เร็วค่ะ

ทีมแม่ABK…ด้วยความห่วงใย

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่


บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

แม่ต้องระวัง! โรคแทรกซ้อนโควิด-19 ในเด็ก ทำลูกป่วยหนัก

หมอเตือน! อาการไข้หวัดใหญ่ คล้ายกับโควิด-19 ติดร่วมกันได้ทำให้ป่วยหนัก

วิจัยเผย “ยาฟ้าทะลายโจร” ฆ่าเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้จริง!

 

การ์ตูนน่ารัก

แนะนำ 5 การ์ตูนน่ารัก สนุก ๆ เสริมพัฒนาการลูกน้อยวัยเรียนรู้

Alternative Textaccount_circle
event
การ์ตูนน่ารัก
การ์ตูนน่ารัก
เพราะเด็กกับการ์ตูนเป็นของคู่กัน หากลูกได้ดู การ์ตูนน่ารัก ที่มีเนื้อหาเหมาะกับวัย ในระยะเวลาที่เหมาะสม ก็จะทำให้ลูกสนุกและได้เรียนรู้ไปพร้อม ๆ กัน วันนี้ ทีมแม่ ABK มีทางเลือกดี ๆ มาแนะนำ กับแอปพลิเคชัน POPS App Thailand ที่จะทำให้ลูกรักสามารถสนุกกับการชมการ์ตูนโดยที่คุณพ่อคุณแม่มั่นใจได้ว่า ลูกจะได้ชมการ์ตูนที่มีเนื้อหาเหมาะสมกับวัย สนุก และได้ความรู้อีกด้วยนะคะ

แนะนำ 5 คอนเทนต์สนุก ๆ การ์ตูนน่ารัก ได้สาระต้อนรับเปิดเทอม 

ประโยชน์จากการดูการ์ตูน

ฟีดดิ้งไทม์

การให้ลูกได้ใช้เวลากับการดู การ์ตูนน่ารัก ๆ  มีความรู้สอดแทรก และมีเนื้อหาเหมาะสมกับวัย ก็จะเป็นประโยชน์กับลูก อาทิ ถ้าลูกได้ดูการ์ตูนสารคดี ลูกก็จะได้รับความรู้ไปพร้อม ๆ กับความสนุก ถ้าลูกได้ดูการ์ตูนเพลงภาษาอังกฤษ ลูกก็จะได้มีโอกาสซึมซับสำเนียงและได้รู้จักคำศัพท์ต่าง ๆ โดยที่เราไม่ต้องบังคับให้ลูกท่องจำ
ดังนั้น การดูการ์ตูนก็เป็นอีกทางในการเสริมพัฒนาการให้ลูกได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น คุณพ่อคุณแม่ก็ต้องคอยดูแล เป็นผู้เลือกการ์ตูนให้ลูกดู เพื่อให้ลูกได้รับเนื้อหาที่เหมาะสมกับวัย และที่สำคัญ ต้องเอาใจใส่ ให้ลูกใช้เวลากับการดูการ์ตูนให้พอดี ไม่มากเกินไปด้วยนะคะ

ระยะเวลาที่เหมาะสมกับการดูการ์ตูนในแต่ละช่วงวัย

สมาคมกุมารแพทย์และสมาคมจิตเวชเด็ก แนะนำว่าเด็กแต่ละช่วงวัย ควรใช้เวลาในการดูทีวี ซึ่งรวมถึงการ์ตูน ดีวีดี ยูทูป หรือใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น ไอแพด หรือโทรศัพท์มือถือ ตามระยะเวลาดังนี้ค่ะ
  • แรกเกิด – 2 ปี ไม่ควรดูเลย ถึงแม้จะเป็นรายการสำหรับเด็กโดยเฉพาะก็ตาม
  • เด็ก 2 – 4 ปี แนะนำว่า ควรดูวันละไม่เกิน 30 นาที
  • เด็ก 4 ปีขึ้นไป แนะนำว่า ควรดูวันละไม่เกิน 60 นาที

POPS App Thailand รวมคอนเทนต์สนุกๆ สำหรับเด็กๆ

แอปพลิเคชันสำหรับลูกรักที่ทีมแม่ ABK จะมาแนะนำวันนี้ คือแอปพลิเคชัน POPS App Thailand ที่จะมาเป็นผู้ช่วยให้คุณพ่อคุณแม่สามารถคัดกรองเนื้อหาต่าง ๆ ให้ลูกได้ ทำให้คุณพ่อคุณแม่สามารถมั่นใจได้ว่าลูกจะได้ดู การ์ตูนน่ารัก ๆ ที่มีเนื้อหาเหมาะสม แถมยังได้ทั้งสาระความรู้อีกด้วยนะคะ 
pops app thailand

การ์ตูนน่ารัก สำหรับเด็ก 2-6 ปี ดูอะไรดี?

POPS App Thailand เป็นแอปพลิเคชันที่เต็มไปด้วยรายการต่าง ๆ สำหรับผู้ชมทุกวัยในครอบครัว และในวันนี้ ขอแนะนำ 5 คอนเทนต์สนุก ๆ สำหรับเด็กอายุ 2-6 ปี ที่พร้อมมอบทั้งทักษะความรู้และความสนุกเพลิดเพลินที่คุณพ่อคุณแม่สามารถเปิดชมไปพร้อม ๆ กันกับลูกได้ ด้วยเสียงพากย์ภาษาไทยที่สนุกสนานของทีมพากย์มืออาชีพ จะมี การ์ตูนน่ารัก ๆ เรื่องอะไรบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ
1. ฮาโรลด์และดินสอสีม่วง (Harold and the purple crayon)
harold and the purple crayon
Harold and the purple crayon
เรื่องราวของเด็กน้อยนามว่า ฮาโรลด์ ที่ในทุกๆ ค่ำคืนจะนำเราไปสำรวจโลกในจินตนาการที่สร้างขึ้นมาจาก “ดินสอสีม่วง” แท่งโปรดของเขา ซึ่งนอกเหนือจากความสนุกสนานที่ ฮาโรลด์ ได้บอกเล่าผ่านการผจญภัยยามค่ำคืนในจินตนาการของเขาแล้วนั้น เรายังพบกับความฉลาดของ ฮาโรลด์ ที่มักตั้งคำถามใหม่ ๆ เพื่อให้เกิดการขบคิด รวมทั้งยังสนใจสิ่งต่าง ๆ รอบตัว รวมทั้งความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ ที่เขามักจะเนรมิตขึ้นมาจากดินสอสีม่วงของเขานั่นเอง  มาร่วมกันเปิดโลกแห่งจินตนาการและการสร้างสรรค์กับ ฮาโรลด์ และดินสอสีม่วงกันนะ
 
2. ฟีดดิ้ง ไทม์ (Feeding Time)
feeding time
Feeding Time
สนุกสนานไปกับเรื่องราวในชีวิตประจำวันของ “ลาทิส” พี่สิงโตสุดใจดี ผ่านบทสนทนาที่จะชวนเราไปทำความรู้จักกับเพื่อน ๆ สรรพสัตว์จากทั่วทุกมุมโลกว่าพวกเขาอยู่ที่ไหน และกินอะไรเป็นอาหารกันบ้าง ซึ่งนอกจากความสนุกสนานและความน่ารักของพี่ลาทิสกับเพื่อน ๆ ที่มักจะแวะมาเยี่ยมเยียนเขาแล้วนั้น เรายังได้เกร็ดความรู้เกี่ยวกับการกินอาหารของสัตว์แต่ละชนิดอีกด้วย
 
3. ภาษาอังกฤษกับสัตว์โลก (Animal Alphabet)
Animal Alphabet
Animal Alphabet
ร่วมผจญภัยไปกับภารกิจการตามหาตัวอักษรภาษาอังกฤษของ “พี่ขนปุย” น้องหมาสี่ขาที่จะพาเราไปตะลุยดินแดนต่าง ๆ ทั้งในน้ำ บนบก และในอากาศ เพื่อตามหาตัวอักษรภาษาอังกฤษทั้ง 26 ตัว ที่ซุกซ่อนอยู่  ซึ่งนอกจากความตื่นเต้นจากภารกิจการตามหาตัวอักษรแล้วนั้น เรายังได้รู้จักเพื่อนๆ สัตว์จากทั่วทุกมุมโลกอีกด้วย
 
4. รู้ไหมเสียงอะไร (Download this)
Download this
Download this
“ลองมาทายกันดูสิว่า เสียงที่ได้ยินนี้คือเสียงอะไร”  เรื่องราวของสองคู่หู “แฟลช” สุนัขนักผจญภัย ผู้ชื่นชอบการเดินทางท่องเที่ยวไปทุกมุมโลกเพื่อบันทึกภาพและเสียงของสิ่งมีชีวิตนานาชนิด และส่งข้อมูลมาให้กับ “ฮูก นกฮูกเจ้าปัญญาผู้ชื่นชอบการเก็บบันทึกข้อมูลเสียงจาก แฟลชเด็ก ๆ จะได้เรียนรู้เสียงของสัตว์ต่าง ๆ ผ่านการเปิดเสียงและภาพถ่ายที่แฟลชส่งมาให้ฮูก พร้อมร่วมสนุกไปกับการทายเสียงของสัตว์แต่ละชนิด
 
5. แดนซ์ ฟีเวอร์ (Dance Fever)
Dance fever
ผ่อนคลายอิริยาบถ พร้อมชวนเด็ก ๆ ลุกขึ้นมาขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวร่างกาย ด้วยการเต้นตามจังหวะสนุก ๆ ที่พี่ดีเจคนเก่งจัดให้ซึ่งนอกจากจะได้ร่วมออกสเต็ปแดนซ์ด้วยกันแล้ว ยังได้เรียนรู้ท่าเต้นที่เลียนแบบการเคลื่อนไหวของสัตว์ชนิดต่างๆ จากทั่วทุกมุมโลกอีกด้วย

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

คุณพ่อคุณแม่มั่นใจได้ ด้วยระบบคัดกรองการเข้าถึงเนื้อหาสำหรับเด็ก ๆ

ดูการ์ตูนกับลูก

POPS App Thailand มีการจัดหมวดหมู่คอนเทนต์ให้สามารถเลือกรับชมได้อย่างสะดวกและง่ายดาย รวมถึงไฮไลท์สำคัญก็คือ การมีระบบเข้ารหัสบัญชีผู้ใช้ ที่ผู้ใช้บริการทุกคนจะต้องตั้งค่าโปรไฟล์ตามกลุ่มอายุจริง ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญของพ็อพส์ฯ ในการนำเสนอสื่อที่เหมาะสมในแต่ละช่วงวัย โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและเยาวชน ที่จะมีการคัดกรองข้อมูลและเนื้อหาก่อนนำเสนอทุกครั้ง

ผู้ปกครองสามารถตั้งเวลาในการเข้าชมแอปพลิเคชั่น รวมถึงสามารถตั้งรหัสผ่านผู้ใช้งานเพื่อแยกการเข้าถึงเนื้อหาสำหรับผู้ใช้งานได้ตั้งแต่ กลุ่มเด็กเล็ก (อายุไม่เกิน 6 ปี) เด็กโต (7-15) กลุ่มวัยรุ่น และกลุ่มคนวัยทำงานได้ เพื่อให้เป็นแพลตฟอร์มที่ปลอดภัยสำหรับทุกคนในครอบครัวอย่างแท้จริง

สามารถเข้ารับชมได้ฟรี! เพียงดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน POPS จาก App Store สำหรับระบบปฏิบัติการ IOS และจาก Google Play Store สำหรับระบบปฏิบัติการ Android หรือเลือกเข้าชมผ่านทาง www.pops.tv และสามารถกดติดตามข่าวสารการอัพเดทคอนเทนต์ใหม่ๆ ได้ทาง Facebook/Twitter/Instagram: pops app Thailand

 


ขอบคุณข้อมูลจาก เด็กเล็กควรดูทีวีหรือไม่ โดย คุณหมอสุธีรา เอื้อไพโรจน์กิจ

อ่านบทความน่าสนใจเพิ่มเติม 

20 นิทานอีสปสั้นๆ เน้นคติเตือนใจ เหมาะกับทุกวัย จบแบบยิ้มได้ไม่รุนแรง

ชวนแม่โหลดฟรี นิทานพี่ข้าวสวย-น้องข้าวต้ม รับมือ โรคติดต่อ หลังเปิดเทอม

คุณทองแดง ฉบับการ์ตูน หนังสือทรงคุณค่าของในหลวง รัชกาลที่ 9 จาก โครงการส่งความรู้ สร้างความสุข ปีที่ 2

โรคมือเท้าปาก

กรมควบคุมโรคเตือน!! โรคมือเท้าปาก ระบาดช่วงเปิดเทอม

Alternative Textaccount_circle
event
โรคมือเท้าปาก
โรคมือเท้าปาก

สธ.เตือน!! โรคมือเท้าปาก ระบาดช่วงเปิดเทอม โดยในปี 2563 นี้ พบผู้ป่วย 6,202 รายแล้ว โดยพบมากสุดในเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ผู้ปกครองควรสังเกตอย่างใกล้ชิด

กรมควบคุมโรคเตือน!! โรคมือเท้าปาก ระบาดช่วงเปิดเทอม

นอกจากการระมัดระวังและป้องโรคติดเชื้อโควิด 19 แล้ว สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรระมัดระวังควบคู่ไปด้วยคือ โรคหน้าฝน โรคที่มักจะมีการระบาดในหน้าฝนทุก ๆ ปี ซึ่งตรงกับช่วงเปิดเทอมของลูก ๆ นั่นเอง และในปีนี้ โรคที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษคือ โรคมือเท้าปาก โดยทางกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้แนะผู้ปกครองและสถานศึกษา ให้เฝ้าระวัง และป้องกันโรคมือเท้าปาก ดังนี้

วันนี้ (26 มิถุนายน 2563) นายแพทย์อัษฎางค์ รวยอาจิณ รองอธิบดีและโฆษกกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ในสัปดาห์หน้าจะมีการเปิดภาคเรียน ซึ่งสถานศึกษาอาจมีกิจกรรมรวมกันเป็นกลุ่มที่มีโอกาสใกล้ชิดกันมาก ประกอบกับในช่วงนี้เป็นฤดูฝน สภาพอากาศที่เย็นและชื้น ทำให้มีความเสี่ยงต่อการแพร่กระจายของเชื้อโรคได้ง่าย โดยสิ่งที่ผู้ปกครองและครูควรระมัดระวังไม่ให้เด็กป่วย นอกจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด 19) แล้ว ยังมี โรคมือเท้าปาก ที่ผู้ปกครองและครูควรต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กเล็ก ซึ่งมีแนวโน้มพบอัตราป่วยมากที่สุด นั้น กรมควบคุมโรค จึงขอให้ผู้ปกครองและครูดูแลเด็กอย่างใกล้ชิด คัดกรองและสังเกตอาการของเด็กก่อนเข้าเรียน เพื่อเฝ้าระวังการป่วยด้วยโรคมือ เท้า ปาก และโรคโควิด 19 ด้วย

สถานการณ์โรคมือ เท้า ปาก ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 23 มิถุนายน 2563 พบผู้ป่วย 6,202 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต โดยพบมากที่สุดในช่วงอายุเด็กแรกเกิด – 4 ปี รองลงมาคืออายุ 5 ปี และอายุ 7-9 ปี ตามลำดับ โดยโรคมือ เท้า ปากจะพบมากในกลุ่มเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ซึ่งมีภูมิคุ้มกันต่ำ

มือเท้าปาก
มือเท้าปาก

รู้จักโรคมือเท้าปาก

โรคมือเท้าปากเป็นโรคติดต่อที่พบบ่อยในเด็กโดยเฉพาะเด็กอายุน้อยกว่า 5 ปี มักมีการระบาดช่วงฤดูฝน สาเหตุเกิดจากเชื้อไวรัสกลุ่มเอนเตอโรไวรัส มีหลายสายพันธุ์ ส่วนใหญ่มีอาการไม่รุนแรง กรณีที่มีสมองอักเสบร่วมด้วย มักเกิดจากเชื้อเอนเตอโรไวรัส 71 หรือ อีวี 71 มีอาการรุนแรงและเสียชีวิตได้

โรคมือเท้าปากติดต่อได้อย่างไร

เชื้อไวรัสชนิดนี้ แพร่ผ่านทางระบบทางเดินอาหารและการหายใจ สามารถติดต่อโดยตรงจากการสัมผัสน้ำมูก น้ำลาย และอุจจาระของผู้ป่วย สามารถติดต่อโดยอ้อมจากการสัมผัสผ่านของเล่น มือผู้เลี้ยงดู น้ำและอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อ โรคมือเท้าปากมักระบาดในโรงเรียน ชั้นอนุบาลเด็กเล็ก หรือสถานรับเลี้ยงเด็ก โรคมีระยะฟักตัวประมาณ 1 สัปดาห์ จึงสามารถติดต่อกันได้โดยที่ยังไม่แสดงอาการ

อาการของโรคมือเท้าปาก

เด็กที่เป็นโรคมือเท้าปาก มีอาการไข้ เจ็บปาก น้ำลายไหล กินอาหารได้น้อย เนื่องจากมีแผลที่กระพุ้งแก้มและเพดานปาก มีผื่นเป็นจุดแดงหรือตุ่มน้ำใสที่บริเวณฝ่ามือ ฝ่าเท้า รอบก้นและอวัยวะเพศ อาจมีผื่นตามลำตัว แขนและขาได้ มักมีอาการประมาณ 2-3 วันและดีขึ้นจนหายใน 1 สัปดาห์ ส่วนใหญ่มีอาการไม่รุนแรง บางรายอาจมีภาวะขาดน้ำจากกินอาหารและน้ำน้อยลง

โรคมือเท้าปากโดยทั่วไปไม่น่ากลัว สามารถหายป่วยได้เอง ส่วนน้อยที่มีอาการรุนแรง มักเกิดจากเชื้ออีวี 71 มีอาการสมองอักเสบร่วมกับระบบหายใจและระบบไหลเวียนเลือดล้มเหลว เสียชีวิตได้อย่างรวดเร็ว เด็กที่มีอาการรุนแรงมักมีไข้สูง ซึม อ่อนแรง มือสั่น เดินเซ อาเจียนมาก หายใจหอบ และชัก หากพบอาการเหล่านี้ ควรรีบพาพบแพทย์โดยด่วน

การรักษาและป้องกัน โรคมือเท้าปาก

เนื่องจากโรคนี้จะมีอาการดีขึ้นและหายได้เองใน 1 สัปดาห์ การรักษาจะยึดตามหลักการรักษาตามอาการ คือ ให้ยาลดไข้ ยาแก้ปวด ยาชาเฉพาะที่สำหรับแผลในปาก ดื่มน้ำเกลือแร่เพื่อชดเชยภาวะขาดน้ำ ยกเว้นเด็กที่มีอาการรุนแรงหรือภาวะแทรกซ้อนจำเป็นต้องได้รับการดูแลรักษาอย่างใกล้ชิด

และเนื่องจากโรคนี้ติดต่อกันได้ง่ายในเด็กเล็ก ผู้ปกครองและสถานศึกษาจึงควรป้องกันไม่ให้โรคนี้แพร่ระบาด ดังนั้น นายแพทย์อัษฎางค์ รวยอาจิณ รองอธิบดีและโฆษกกรมควบคุมโรค จึงได้แนะนำแนวทางการป้องกันโรคมือเท้าปาก ดังนี้

ผู้ปกครองและครูควรช่วยกันดูแลและสังเกตอาการของเด็กอย่างใกล้ชิดและสม่ำเสมอ หากพบว่ามีอาการคล้ายโรคมือเท้าปาก ให้พิจารณาหยุดเรียนและรักษาจนหาย และผู้ปกครอง ควรแจ้งให้ทางโรงเรียนและศูนย์เด็กเล็กทราบ เพื่อทำการค้นหาเด็กที่อาจป่วยเพิ่มเติม และขอแนะนำวิธีป้องกัน โรคมือเท้าปาก และโรคโควิด 19 ดังนี้

  1. ให้ผู้ปกครองคัดกรองอาการของเด็ก ก่อนมาสถานศึกษา หากเด็กไม่สบายหรือมีไข้ ควรพาไปพบแพทย์และให้พักอยู่ที่บ้าน

  2. ให้เด็กสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย ซึ่งเชื้อโรคมือ เท้า ปาก จะอยู่ในน้ำมูก น้ำลาย น้ำจากแผลตุ่มพองหรืออุจจาระของผู้ป่วย หรือเมื่อผู้ป่วยไปจับของเล่น ของใช้จะทำให้เชื้อกระจายสู่ผู้อื่นได้ หากลดการสัมผัส จะสามารถป้องกันการรับเชื้อได้

  3. หมั่นทำความสะอาดพื้นที่ที่เด็กใช้ร่วมกัน ของใช้ ของเล่นเด็กเป็นประจำ เพื่อลดเชื้อโรคที่อยู่ในสิ่งแวดล้อม

  4. หมั่นให้เด็กล้างมือบ่อย ๆ ด้วยน้ำและสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจล ทั้งก่อนและหลังรับประทานอาหารหรือเข้าห้องน้ำ เพื่อลดเชื้อสะสมบนมือและลดการแพร่สู่ผู้อื่น

  5. จัดให้มีพื้นที่ในการเข้าแถวทำกิจกรรม หรือเล่นกลุ่มย่อย แบบเว้นระยะห่างระหว่างกันอย่างน้อย 1-2 เมตร

  6. หากพบเด็กป่วยขอให้แยกออกจากเด็กปกติและแจ้งให้ผู้ปกครองรับกลับบ้าน ควรให้หยุดเรียนและพาไปพบแพทย์โดยเร็ว แยกของใช้ส่วนตัวเด็กป่วยออกจากเด็กปกติ และไม่ควรคลุกคลีกับคนอื่นๆ ในครอบครัวหรือชุมชน เพื่อชะลอการแพร่กระจายของเชื้อโรค

จะเห็นได้ว่าแนวทางการป้องกัน โรคมือเท้าปาก และโรคโควิด 19 ที่ทางกรมควบคุมโรคได้แนะนำมานั้น สามารถป้องกันโรคติดเชื้อทางเดินอาหารและการหายใจอื่น ๆ ได้อีกด้วย ดังนั้น การปลูกฝังนิสัยให้เด็ก ๆ หมั่นล้างมือบ่อย ๆ จะช่วยลดโอกาสในการติดเชื้อต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี

อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

วิธีสังเกต อาการมือเท้าปาก และ วิธีดูแลรักษาลูกโดยไม่ต้องแอดมิด

8 โรคฮิตเปิดเทอม พ่อแม่เตรียมไว้เลย เปิดเทอมนี้ เจอแน่!!

ชิคุนกุนยา โรคไข้ปวดข้อยุงลาย โรคร้ายที่มากับยุง

หมอเตือน!! ส่าไข้ ระบาดหนักในเด็กเล็ก ระวังชักจากไข้สูง

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : hfocus.org, สมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

เมกา ฮาร์เบอร์แลนด์ เวสต์เกต

เปิดแล้ว! ฮาร์เบอร์แลนด์ เซ็นทรัลเวสต์เกต ใหญ่ที่สุดในโลก พร้อมโปรโมชั่นสุดพิเศษ

Alternative Textaccount_circle
event
เมกา ฮาร์เบอร์แลนด์ เวสต์เกต
เมกา ฮาร์เบอร์แลนด์ เวสต์เกต

สิ้นสุดการรอคอย! ฮาร์เบอร์แลนด์ เซ็นทรัลเวสต์เกต สนามเด็กเล่นในร่มใหญ่ที่สุดในโลก บนพื้นที่กว่า 10,000 ตารางเมตร เปิดแล้วที่ชั้น 4 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต เอาใจครอบครัวโซนกรุงเทพฯ ตะวันตก

ฮาร์เบอร์แลนด์ เป็นสนามเด็กเล่นในร่มที่เด็กๆ ได้เข้าไปแล้วต้องติดอกติดใจ สนุกเพลินจนไม่อยากกลับบ้าน และอยากให้ฮาร์เบอร์แลนด์มาเปิดสาขาใกล้บ้านสักที วันนี้ความฝันเป็นจริงแล้ว สำหรับเด็กๆ ที่อยู่ในโซนกรุงเทพฯ ตะวันตก เพราะศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต ได้เปิดตัว Mega HarborLand Westgate ฮาร์เบอร์แลนด์สาขาใหม่ล่าสุด ที่มาในธีมสดใส “Monster Festival” กับ ไฮไลท์ 5 ที่สุดที่ไม่ควรพลาด

เครื่องเล่นในฮาร์เบอร์แลนด์
เครื่องเล่นสนุกๆ ในฮาร์เบอร์แลนด์

เปิดตัวยิ่งใหญ่ Mega HarborLand Westgate กับ 5 ที่สุดที่ไม่ควรพลาด

1. ใหญ่ที่สุด – เมกา ฮาร์เบอร์แลนด์ เวสต์เกตเป็นสนามเด็กเล่นในร่ม (Indoor Playground) ที่ใหญ่ที่สุดในโลก บนพื้นที่กว่า 10,000 ตารางเมตร ที่มีถึง 7 โซนความสนุก อัดแน่นมากกว่า 100 กิจกรรม

ฮาร์เบอร์แลนด์ เวสต์เกต ใหญ่ที่สุดในโลก
Credit : https://www.facebook.com/harborlandplayground

2. มากที่สุด – มีสไลเดอร์แบบต่างๆ ให้เล่นจนจุใจ มากกว่า 20 รูปแบบ มากที่สุดเท่าที่เคยมาใน HarborLand

ฮาร์เบอร์แลนด์ เวสต์เกต เครื่องเล่นเยอะที่สุด
Credit : https://www.facebook.com/harborlandplayground

3. โซนใหม่ล่าสุด – Harbor Inflatable บ้านลมสุดอลังการ ที่ผลิตและนำเข้าจากยุโรป แห่งแรกในประเทศไทย และ WonderLand เครื่องเล่นมินิไรด์สุดสนุกสำหรับเด็กเล็ก

ฮาร์เบอร์แลนด์ เวสต์เกต โซนใหม่ล่าสุด
Credit : https://www.facebook.com/harborlandplayground

4. เครื่องเล่นใหม่ล่าสุด – Ball Attack เกม Interactive Basketball ให้เด็กๆ แข่งกันชู้ตลูกบาสให้เข้าเป้าในเวลาที่กำหนด และยังมี Interactive Wall, Interactive Trampoline, Valo Jump, และ Arena สนามกีฬาแบบ 2 ชั้น

ฮาร์เบอร์แลนด์ เวสต์เกต เครื่องเล่นใหม่
Credit : https://www.facebook.com/harborlandplayground

5. สดใสสวยที่สุด – ฮาร์เบอร์แลนด์ เซ็นทรัลเวสต์เกต มาพร้อมคอนเซ็ปต์ใหม่ Monster Festival ธีมสดใสที่จะชวนเด็กๆ มาเล่นสนุก ปลุกจินตนาการในสวนสนุกสำหรับเด็กที่มันส์ที่สุด

ฮาร์เบอร์แลนด์ เวสต์เกต ธีม Monster festival
Credit : https://www.facebook.com/harborlandplayground

7 โซนความสนุกใน ฮาร์เบอร์แลนด์ เซ็นทรัลเวสต์เกต

  • โซน HarborLand เป็นโซนไฮไลท์ ที่มีสไลเดอร์มากกว่า 20 แบบให้เด็กๆ ได้เล่นจนจุใจ
  • โซน Roller Land ลานโรลเลอร์สเก็ตสำหรับเด็กๆ ที่มีอุปกรณ์เซฟตี้ให้อย่างครบครัน
  • โซน Harbor Inflatable บ้านลมยักษ์ส่งตรงจากยุโรป โซนใหม่แกะกล่อง ที่นี่ที่แรก
  • โซน Laser Battle เกมเลเซอร์แท็ก สำหรับเด็กๆ ที่มาเป็นก๊วน เข้าไปประลองฝีมือกันหน่อย (พบกันเร็วๆนี้)
  • โซน WonderLand เครื่องเล่นมินิไรด์ สุดสนุกตื่นเต้นสำหรับเด็กเล็ก (พบกันเร็วๆนี้)
  • โซน AdventureLand ฐานไต่เชือกผจญภัย สำหรับเด็กๆ ที่ชื่นชอบปีนป่าย แนวแอดเวนเจอร์ (พบกันเร็วๆนี้)
  • โซน JumpZ Trampoline Park สนามแทรมโพลีนสุดมันส์ โดดได้โดดดี ทั้งเด็กและผู้ใหญ่

โซน Little Ville สำหรับเด็กเล็ก

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

ห้ามพลาด! โปรโมชั่นเปิดตัว สุดพิเศษ

พิเศษสุดกับ Grand Opening Promotion Member สมัครสมาชิกในราคาสุดคุ้มถึง 31 ก.ค.63 นี้เท่านั้น! โดยสามารถสมัครบัตร Member ออนไลน์ได้ทาง www.thaitripticket.com หรือลิงค์ตรงที่ https://bit.ly/3ghm7NX

  • สมัครสมาชิกราย 3 เดือน 5,900 บ. (ปกติ 7,900 บ.) เล่นได้ที่โซน HarborLand ฟรีผู้ปกครอง 1 ท่าน
  • สมัครสมาชิกราย 1 ปี 12,900 บ. (ปกติ 15,900 บ.) เล่นได้ที่โซน HarborLand ฟรีผู้ปกครอง 1 ท่าน และโซน RollerLand โดยสมัครบัตร Member 1 ปี จะได้รับ Voucher ห้องพัก Balcony Seaside Family Studio 1 คืนด้วย
สมัครสมาชิก ฮาร์เบอร์แลนด์ เวสต์เกต 3 เดือน
Credit : https://www.facebook.com/harborlandplayground

 

สมัครสมาชิก ฮาร์เบอร์แลนด์ เวสต์เกต รายปี
Credit : https://www.facebook.com/harborlandplayground

นโยบายเรื่องความสะอาดและความปลอดภัย

เมื่อพาเด็กๆ มาสนุกที่ฮาร์เบอร์แลนด์ เด็กๆ และผู้ปกครองจะต้องผ่านการตรวจวัดอุณหภูมิทุกคนก่อนเข้าพื้นที่, มีเจ้าหน้าที่เดินบริการเจลล้างมือตามจุดต่างๆ ทุกชั่วโมง, เปิดเครื่องฉาย UV-C ฆ่าเชื้อทุก 3 ชั่วโมง และมีการปรับลดจำนวนผู้ใช้บริการ โดยกำหนดจำนวนผู้เล่นเครื่องเล่นในแต่ละโซน 1 คนต่อ 8 ตร.ม. เพื่อลดความหนาแน่น ทั้งนี้เพื่อให้มั่นใจว่าทุกตารางนิ้วใน เมกา ฮาร์เบอร์แลนด์ เวสต์เกต ได้มาตรฐาน ทั้งเรื่องความสะอาดและความปลอดภัย

ราคาค่าเข้า ฮาร์เบอร์แลนด์ เซ็นทรัลเวสต์เกต

สำหรับในช่วงโควิด-19 นี้ ทางฮาร์เบอร์แลนด์ปรับเวลาให้เด็กๆ สามารถเข้าเล่นได้โซน 2 ชั่วโมง ตามมาตรการรัฐ โดยคิดค่าใช้บริการ ดังนี้

  • เด็กที่มีความสูงน้อยกว่า 80 ซม. เข้าฟรี
  • เด็กที่มีความสูงตั้งแต่ 81 ซม.ขึ้นไป และผู้ใหญ่ ราคา 390 บาท
  • ผู้ปกครองที่มาพร้อมเด็ก ราคา 140 บาท ผู้สูงอายุที่มาพร้อมเด็ก เข้าฟรี
ค่าเข้า ฮาร์เบอร์แลนด์ เวสต์เกต ราคา
Credit : https://www.facebook.com/harborlandplayground

เมกา ฮาร์เบอร์แลนด์ เวสต์เกตเปิดให้บริการ ที่ชั้น 4 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต ตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น. ทุกวัน โดยสามารถติดตามรายละเอียดและโปรโมชั่นต่างๆ ได้ที่ FB: CentralPlaza Westgate (เซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต)

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

8 กิจกรรมยามว่างพัฒนา สมองซีกซ้าย vs ซีกขวา ฝึกลูกใช้เหตุผลและมีความคิดสร้างสรรค์

9 กิจกรรมเล่นกับลูกวัยอนุบาล เพิ่มทักษะ เสริมพัฒนาการรอบด้าน

7 กิจกรรมเล่นกับลูก ได้จินตนาการ เสริมพัฒนาการลูกดีทุกด้าน

keyboard_arrow_up