battery car

10 แบบ รถไฟฟ้าเด็ก (รถแบตเตอรี่) ที่เหมาะแก่การเรียนรู้

Alternative Textaccount_circle
event
battery car
battery car

10 แบบ รถไฟฟ้าเด็ก (รถแบตเตอรี่) ที่เหมาะแก่การเรียนรู้

สำหรับของเล่นใกล้ตัวอย่าง รถไฟฟ้าเด็ก ถือเป็นของเล่นที่เด็กๆ หลายคนใฝ่ฝันอยากจะมีสักครั้ง และเป็นหนึ่งในของเล่นที่ควรมีติดบ้าน เพราะเด็กๆ มักมีพฤติกรรมชอบลอกเลียนแบบผู้ใหญ่ การมีรถที่สามารถขับเคลื่อนได้จริงเป็นของตัวเองสักคัน สามารถช่วยสร้างเสริมประสบการณ์การเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องยานพาหนะให้เด็กๆได้ดีเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังสร้างช่วงเวลาแสนสนุกให้กับเด็กๆ ครอบครัว และเพื่อนๆของตัวเองได้อีกด้วย ดังนั้นการเลือกรถที่มีดีไซน์และคุณสมบัติโดดเด่นในแบบต่างๆ สามารถสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ในแบบที่ต่างกันออกไป แต่จะมีวิธีการเลือกยังไงให้รู้สึกว่าเป็นคันที่ใช่สำหรับเด็กมากที่สุด วันนี้ทีมแม่ ABK มีวิธีการเลือกมาฝากกันค่ะ

เนื่องจากปัจจุบันรถไฟฟ้าเด็กส่วนใหญ่มีดีไซน์ที่พัฒนาคล้ายกับรถจริงมากมายหลากหลายรุ่น และยังเพิ่มฟังก์ชั่นต่างๆ มากมายมาให้เลือกซื้อ อาจทำให้คุณแม่ๆ และใครหลายคนยังลังเลว่าควรซื้อแบบไหนและรุ่นไหนดี เพราะหากซื้อคันที่มีราคาค่อนข้างสูงมา แต่ลูกกลับไม่ชอบเล่น ก็คงจะเป็นการลงทุนที่สูญเปล่าไม่น้อย 

เช็คลิสต์สิ่งที่ต้องดูก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ

1.ความเร็วของรถแต่ละรุ่น – ควรเลือกรถคันที่มีความเร็วเหมาะสมเพื่อความปลอดภัยของเด็กๆ ดูว่ารถไฟฟ้าคันนั้นขับเคลื่อนกี่มอเตอร์และวิ่งได้กี่กม./ชม. ไม่ควรเร็วหรือช้าเกินไป

2.ช่วงอายุของเด็กที่เหมาะสมกับรถ – เนื่องจากพัฒนาการของเด็กๆในแต่ละช่วงต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการทรงตัว กล้ามเนื้อที่ต้องใช้ในการบังคับ ถือเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการเล่นรถไฟฟ้า ดังนั้นควรเลือกให้เหมาะสมเพื่อเด็กๆจะได้รับพัฒนาการอย่างเต็มที่จากการเล่นรถคันนั้น เช่น เด็กที่อยู่ในช่วงอายุ 2 ปี คือช่วงเวลาที่เขาได้เปลี่ยนจากวัยทารกเข้าสู่วัยเตาะแตะ นั่นแปลว่าเด็กๆจะเริ่มมีการทรงตัว คุณพ่อคุณแม่อาจต้องเลือกซื้อรถที่ช่วยประคองตัวหรือสร้างเสริมการทรงตัวให้เด็กๆ

3.ฟังค์ชั่นเสริมเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ – ยิ่งรถไฟฟ้าที่เลือกมีฟังค์ชั่นเยอะเท่าไหร่ จะยิ่งเสริมสร้างการเรียนรู้มากเท่านั้น เช่น ปุ่มเปิดปิดสวิทช์ไฟเพื่อฝึกความจำ เสียงเพลงหรือนิทานภาษาอังกฤษเพื่อพัฒนาการเรียนรู้

4.วัสดุที่ใช้และน้ำหนักที่รถสามารถรองรับได้ – หากเลือกรถที่ใช้วัสดุที่แข็งแรงและสามารถรองรับน้ำหนักเด็กได้จะช่วยทำให้อายุการใช้งานของรถคันนั้นเพิ่มมากยิ่งขึ้น

5.ระบบการบังคับรถ – หากอยากให้เด็กๆได้เรียนรู้วิธีการบังคับทิศทาง พ่อแม่ควรเลือกรถคันที่เด็กๆสามารถบังคับเองได้ ถ้าหากกังวลว่าเด็กจะไม่สามารถบังคับทิศทางได้หรือออกนอกทิศทาง ควรเลือกซื้อรถไฟฟ้าที่มีรีโมทบังคับหรือบังคับผ่านมือถือ พ่อแม่จะได้ช่วยบังคับได้ด้วย

6.ขนาดของรถ – ควรเลือกซื้อรถที่ขนาดพอดีกับตัวเด็ก หากเลือกเล็กเกินไปอาจจะทำให้ของเล่นชิ้นนั้นแตกหักได้ง่ายกว่าปกติ หรือหากใหญ่เกินไปจนขาของเด็กไม่สามารถเหยียบคันเร่งรถได้ อาจทำให้การเล่นน่าสนุกน้อยลงสำหรับเด็กๆ

7.ความชอบของเด็ก – สุดท้ายแล้วการตัดสินใจเลือกซื้ออาจต้องถามความชอบของเด็กๆด้วย เพราะถ้ายิ่งชอบมากเท่าไหร่อาจทำให้เด็กๆรักและดูแลของเล่นชิ้นนั้นเป็นพิเศษ

 

วันนี้ทีมแม่ ABK คัดรถไฟฟ้าเด็ก 10 ดีไซน์สวยและมีคุณสมบัติโดดเด่นมาเป็นตัวเลือกเพื่อช่วยให้คุณพ่อคุณแม่ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นกันค่ะ

 

1.Lamborghini 

Lamborghini 
ขอบคุณภาพจากร้าน toykidsshop

 

รถรุ่นนี้จะมีความโดดเด่นอยู่ที่ประตู เนื่องจากประตูสามารถเปิดปิดขึ้นลงได้แบบปีกนก เหมาะกับเด็กๆที่ชอบความเท่สุดๆ สำหรับคันนี้เด็กสามารถบังคับรถเองได้ หรือผู้ปกครองสามารถบังคับรถจากรีโมทหรือบังคับผ่านมือถือได้ นอกจากนี้ยังมีระบบโยกและเคลื่อนตัวอยู่กับที่เหมือนรถหยอดเหรียญ มีเสียงสตาร์ทเครื่องยนต์ มีไฟหน้าไฟหลังเหมือนรถจริง มีเสียงเพลง หากอยากเปลี่ยนเพลงสามารถเปลี่ยนผ่าน MP3 หรือช่องเสียบ USB ได้ มีเข็มขัดนิรภัยเพื่อความปลอดภัยของเด็กๆ ขณะนั่งรถ

คุณสมบัติเพิ่มเติม

  • รับน้ำหนักได้ 35 กก.
  • แบตเตอร์รี่ 6v 4.5AH 2 ก้อน
  • ขนาดสินค้าประมาณ กว้าง 61 ยาว 103 สูง 55
  • มีสี แดง เหลืองขาว

สั่งซื้อคลิกเลย>> toykidsshop

 

2.รถไฟฟ้าทรงตัว หรือ Scooter

รถไฟฟ้าทรงตัว หรือ Scooter
ขอบคุณภาพจากร้าน lookmeebabyproducts

 

รถคันนี้เหมาะสำหรับเด็กอายุ 2-10 ปี หรือเด็กที่ต้องการจะฝึกการทรงตัว วัสดุผลิตจากพลาสติก ABS และ PP 2 ล้อหน้าเป็นล้อใหญ่ 2 ล้อหลังเป็นล้อธรรมดาหมุนได้ 360 องศา ความเร็วในการขับขี่ 3-8 กิโลเมตร/ชม. มีเสียงเพลงและเสียงเอฟเฟคให้เล่น ตัวเครื่องเป็นแบบชาร์ตไฟ

คุณสมบัติเพิ่มเติม

  • แข็งแรงทนทาน รับน้ำหนักได้ 50 กก.
  • แบตเตอร์รี่ 4.5 AH ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ 380 W
  • ขนาดสินค้าประมาณ กว้าง 42 ยาว 55 สูง 56 (ที่นั่งกว้าง 9 ยาว 19 สูง 17) ความห่างพื้นกับฐาน 12
  • มีสี แดง ขาว

สั่งซื้อคลิกเลย>> lookmeebabyproducts

 

3.Vespa PX-150

Vespa PX-150
ขอบคุณภาพจากร้าน phatrahh

 

สำหรับเด็กที่ชอบรถจักรยานยนต์มากกว่ารถยนต์ การเลือกดีไซน์ของรถ Vespa ถือว่าสวยมีสไตล์แน่นอน สามารถเปิดเพลงผ่าน MP3 หรือช่องเสียบ USB ได้ นอกจากนี้ยังมีมีนิทาน เพลงสอนภาษาอังกฤษเพื่อเสริมทักษะการเรียนรู้อีกด้วย เด็กๆ สามารถสตาร์ทรถด้วยกุญแจ และเก็บของเล่นส่วนตัวได้ในกล่องด้านหลังท้ายรถ

คุณสมบัติเพิ่มเติม

  • นั่งได้ 2 คน และรับน้ำหนักได้ 50 กก.
  • แบตเตอร์รี่ 12V 4.5 AH ขับเคลื่อน 2 มอเตอร์
  • ขนาดสินค้าประมาณ กว้าง 51 ยาว 106 สูง 59
  • มีสี แดง ฟ้า ชมพู ขาว ดำ

สั่งซื้อคลิกเลย>> monnipasang

 

4.KUBOTA

10 แบบ รถไฟฟ้าเด็ก (รถแบตเตอรี่) ที่เหมาะแก่การเรียนรู้
ขอบคุณภาพจากร้าน sompra

รถคันนี้เหมาะสำหรับเด็กอายุ 2-8 ปี วัสดุผลิตจากพลาสติกเกรดพรีเมี่ยม โครงเหล็กทั้งคันแข็งแรง มีกล่องเก็บของด้านหน้าของรถและมีกระบะขนาดใหญ่ด้านหลัง สามารถขนของเล่นหรือเพื่อนตัวจิ๋วไปด้วยได้ เด็กๆ สามารถบังคับรถได้ด้วยคันเร่งที่มือ มีเสียงเอฟเฟคคล้ายรถอีแต๋น มี MP3 ช่องเสียบ USB และ SD Card ความเร็วในการขับขี่ 3-7 กม. / ชม.

คุณสมบัติเพิ่มเติม

  • รับน้ำหนักได้ 80 kg
  • แบตเตอร์รี่ขนาด 12V 4.5 AH ขับเคลื่อนด้วย 2 มอเตอร์
  • ขนาดสินค้าประมาณ กว้าง 66 ยาว 171 สูง 56
  • มีสี ฟ้าแดง

สั่งซื้อคลิกเลย>> sompra

 

5.รถทรงคลาสสิค

10 แบบ รถไฟฟ้าเด็ก (รถแบตเตอรี่) ที่เหมาะแก่การเรียนรู้
ขอบคุณภาพจากร้าน itimtoys

ด้วยดีไซน์ที่สวยหรู ลุคคุณหนู ทำให้รถคันนี้เหมาะกับเด็กๆที่ชอบความน่ารักเป็นอย่างมาก และเหมาะสำหรับเด็กอายุ 1-2.5 ขวบ สำหรับคันนี้เด็กสามารถบังคับรถเองได้ หรือผู้ปกครองสามารถบังคับรถจากรีโมทหรือบังคับผ่านมือถือได้ วัสดุทำมาจากพลาสติกอย่างดี ทำให้แข็งแรงทนทาน (รุ่นนี้เปิดประตูไม่ได้) มีเสียงเพลง หากอยากเปลี่ยนเพลงสามารถเปลี่ยนผ่าน MP3 หรือช่องเสียบ USB ได้

คุณสมบัติเพิ่มเติม

  • รับน้ำหนักได้ 30 กก.
  • แบตเตอร์รี่ขนาด 6v 4.5AH 2 ก้อน
  • ขนาดสินค้าประมาณ กว้าง 51 ยาว 67 สูง 49
  • มีสี ขาว ชมพู น้ำเงิน แดง

สั่งซื้อคลิกเลย>> itimtoys

 

6.UTV  ใหญ่สุดในรุ่น ‼

10 แบบ รถไฟฟ้าเด็ก (รถแบตเตอรี่) ที่เหมาะแก่การเรียนรู้
ขอบคุณภาพจากร้าน sanooktoys2

รถคันนี้เด็กสามารถบังคับเองได้ หรือผู้ปกครองสามารถบังคับรถจากรีโมทหรือบังคับผ่านมือถือได้ เบาะสามารถนั่งได้ 2 ที่นั่งมีช่องใส่ของ ความพิเศษของรถคันนี้คือเปิดหลังคาได้ เล่นต่อเนื่องได้ 60-90 นาที มีระบบแสดงระดับแบตเตอร์รี่ สามารถเปิดปิดประตูได้ ปรับความเร็วได้ 3 ระดับ มีเพลงและ MP3 ถึงตัวรถจะใหญ่แต่มีสปริงโช๊คหลังทำให้รถออกตัวได้นิ่มกว่าปกติ

คุณสมบัติเพิ่มเติม

  • รับนำหนักได้ 70 กก.
  • ขับเคลื่อน 4 มอเตอร์
  • ขนาดสินค้าประมาณ กว้าง 88 ยาว 135 สูง 112
  • มีสี แดง น้ำเงิน ส้ม เขียว

สั่งซื้อคลิกเลย>> sanooktoys2

 

7.ATV

รถไฟฟ้าเด็ก ATV
ขอบคุณภาพจากร้าน smilefood49

 

ATV รุ่นนี้เอาใจเด็กๆที่ชอบซิ่งแบบลุยๆ ตัวรถมีลวดลายไม่ซ้ำใคร เด็กสามารถบังคับรถไปซ้ายขวาเดินหน้าถอยหลังเองได้ มีช่องเสียบ USB ให้เปิดเพลงได้ ขนาดของรถเหมาะสำหรับเด็กอายุ 2-10 ปี

คุณสมบัติเพิ่มเติม

  • รับน้ำหนักได้ 25 กก.
  • ขนาดสินค้าประมาณ กว้าง 40 ยาว 73 สูง 51
  • มีสี แดง เหลือง ขาว

สั่งซื้อคลิกเลย>> smilefood49

 

8.Jeep Wrangler Rubicon 4 x 4

รถไฟฟ้า Jeep Wrangler Rubicon 4 x 4
ขอบคุณภาพจากร้าน wiizwitz

คันนี้โดดเด่นด้วยหน้าจอแสดงผลดิจิทัล มีเอฟเฟคไฟกระพริบตามจังหวะการขับ มี MP3 ช่องเสียบ USB สำหรับเพลงและมีนิทานเสียงภาษาอังกฤษ พร้อมเสียงเพลงเพื่อเสริมการเรียนรู้ สามารถสตาร์ทรถได้ด้วยกุญแจมือ และบังคับผ่านพวงมาลัยพร้อมมีรีโมตควบคุมทิศทาง

คุณสมบัติเพิ่มเติม

  • แบตเตอร์รี่ 12V 7 AH ขับเคลื่อน 4 มอเตอร์
  • รองรับน้ำหนัก 60 กก. (น้องๆนั่งได้ 2 คน)
  • ขนาดสินค้าประมาณ กว้าง 73 ยาว 128 สูง 82
  • มีสี ดำ ขาว แดง เหลือง

สั่งซื้อคลิกเลย>> wiizwitz

 

9.รถแมคโคร

รถแมคโคร
ขอบคุณภาพจากร้าน dtoys

สำหรับเด็กๆที่ชอบการ์ตูนหรือลวดลายต่างๆ รถคันนี้เป็นตัวเลือกที่น่ารักและดีเลยทีเดียว เพราะนอกจากลวดลายจะน่ารักโดดเด่นแล้ว เด็กๆยังสามารถสนุกไปกับการบังคับที่ตักจากคันโยกของพวงมาลัยได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังสามารถต่อพ่วงกระบะขนของและถอดออกได้

คุณสมบัติเพิ่มเติม

  • รับน้ำหนักได้ 35 กก.
  • ขับเคลื่อนด้วย 1 มอเตอร์
  • มีสี เขียว เหลือง

สั่งซื้อคลิกเลย>> dtoys

 

10.Mercedes Benze Actor

รถไฟฟ้าเด็ก Mercedes Benze Actor
ขอบคุณภาพจากร้าน ababy_official

วัสดุผลิตจากพลาสติก ABS แข็งแรงทนทานใช้งานได้นาน เด็กสามารถบังคับเองได้ หรือผู้ปกครองสามารถบังคับรถจากรีโมท มีเสียงเพลง หากอยากเปลี่ยนเพลงสามารถเปลี่ยนผ่าน MP3 หรือช่องเสียบ USB ได้ มีปุ่มแตรมีปุ่มกดเสียงเพลง เปิดประตูเข้าออกได้เหมือนรถจริง

คุณสมบัติเพิ่มเติม

  • รับน้ำหนักได้ 40 กก.
  • ความเร็วที่วิ่งได้ 3-5 กม./ชม.
  • มีสี แดง ขาว น้ำเงิน ดำ

สั่งซื้อคลิกเลย>> ababy_official

 

ถึงการเลือกซื้อรถไฟฟ้าเด็กจะช่วยเสริมสร้างความคิดความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องของยานพาหนะในแต่ละชนิดให้กับเด็กๆได้มากยิ่งขึ้น แต่ประโยชน์ที่จะได้จริงๆคือ คุณพ่อคุณแม่จะสามารถปลูกฝังให้เด็กได้ฝึกดูแลรักษาของเล่นของตัวเอง เพื่อให้มีรถคันโปรดของตัวเองขับได้นานหลายปี ทีมแม่ ABK หวังว่ารถที่เราหยิบมาแนะนำในวันนี้จะช่วยเป็นตัวเลือกให้คุณแม่หรือหลายๆ คนตัดสินใจได้ง่ายมากยิ่งขึ้นนะคะ

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

อ่านต่อบทความอื่นที่น่าสนใจ

วิธีทำความสะอาดของเล่น ให้สะอาด ปลอดภัย ห่างไกลโรค

ไขข้อข้องใจ ทำไม ลูกไม่เล่นของเล่น ที่ซื้อให้ เล่นแต่อะไรก็ไม่รู้!?

ลูกเก็บของเล่นพัฒนาทักษะ EF ทักษะทางสมองที่จำเป็นสำหรับลูก

ฉีดวัคซีนเด็กไฟเซอร์ ฟรี

เช็คที่นี่ วอล์คอิน-ลงทะเบียนจองคิว ฉีดวัคซีนเด็กไฟเซอร์ ฟรี

Alternative Textaccount_circle
event
ฉีดวัคซีนเด็กไฟเซอร์ ฟรี
ฉีดวัคซีนเด็กไฟเซอร์ ฟรี

รวมพิกัด ฉีดวัคซีนเด็กไฟเซอร์ ฟรี อายุ 5-11 ปี เข็ม 1  เปิดลงทะเบียนจองคิวที่ไหน บริการวอล์คอินฉีดวัคซีนได้ที่จุดใดบ้าง เช็คได้ที่นี่ ทีมแม่ ABK เตรียมไว้ให้แล้ว

เช็คที่นี่ วอล์คอิน-ลงทะเบียนจองคิว ฉีดวัคซีนเด็กไฟเซอร์ ฟรี 

วัคซีนเด็กไฟเซอร์ล็อตแรกได้เข้ามาถึงประเทศไทยแล้ว โรงพยาบาลหลายแห่งทั้งในพื้นที่ กทม. และต่างจังหวัด ก็เตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 สำหรับเด็กที่มีอายุ 5-11 ปี  ทั้งแบบลงทะเบียนจองคิวและวอล์คอิน โดยทยอยให้บริการกับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นเด็กใน 7 กลุ่มโรคเรื้อรังก่อน แล้วตามด้วยเด็กปกติทั่วไป

พิกัด ฉีดวัคซีนเด็กไฟเซอร์ ฟรี เขตกรุงเทพและปริมณฑล

โรงพยาบาลศิริราช

โรงพยาบาลศิริราช ขอแจ้งกำหนดการฉีดวัคซีน  Pfizer เข็ม 1 สำหรับเด็กอายุ 5 – 11 ปี เฉพาะเด็กที่มีโรคใน 7 โรคกลุ่มเสี่ยงที่มีรายชื่อจากภาควิชากุมารเวชศาสตร์ เท่านั้น

โดยมีรายละเอียด ดังนี้

วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2565 สถานที่ฉีดวัคซีน   คณะพยาบาลศาสตร์

วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2565 สถานที่ฉีดวัคซีน   หอประชุมราชแพทยาลัย

วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2565 สถานที่ฉีดวัคซีน   คณะพยาบาลศาสตร์

วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2565 สถานที่ฉีดวัคซีน   คณะพยาบาลศาสตร์

หากมีการเปลี่ยนแปลงจะประกาศแจ้งผ่านเพจ Sirirajpr

ฉีดวัคซีนเด็กไฟเซอร์ ฟรี
ประกาศโรงพยาบาลศิริราช

โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย

เปิดให้ลงทะเบียนรับบริการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด ไฟเซอร์ สำหรับเด็ก โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย สามารถสแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อลงทะเบียนเลือกวัน-เวลา ในการเข้ารับบริการได้ตามภาพที่ปรากฏ

ให้บริการฉีดวัคซีนในวันที่ 7-11 กุมภาพันธ์ 2565 ตั้งแต่เวลา 09.00-15.30 น. ณ คลินิกบริการวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ชั้น 13 อาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์

กลุ่มเป้าหมาย

  • อายุ 5 ปีขึ้นไป แต่ไม่เกิน 12 ปี (เกิดระหว่างมกราคม 2553 ถึง กุมภาพันธ์ 2560)
  • เป็นผู้ป่วยของโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ใน 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง
  • ยังไม่เคยได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19
ฉีดวัคซีนเด็กไฟเซอร์ ฟรี
ประกาศจากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์

และสำหรับเด็กที่อายุ 5 – 11 ปีที่เป็นผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง แต่ไม่ได้เป็นคนไข้ของโรงพยาบาล สามารถลงทะเบียนได้แล้วเช่นกันตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์เป็นต้นไป ตาม QR code จากภาพด้านล่างนี้

ฉีดวัคซีนไฟเซอร์เด็ก ฟรี
ประกาศจากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์

โรงพยาบาลราชวิถี

เปิดให้บริการลงทะเบียนผ่าน QR Code ตั้งแต่วันที่ 7 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ไปจนกว่าวัคซีนจะหมด สำหรับเด็กอายุ 5 – 11 ปี ที่มีโรประจำตัว 7 กลุ่มโรค โดยฉีดที่ ชั้น 1 อาคารเฉลิมพระเกียรติ ฝั่งลิฟท์ใหม่

ฉีดวัคซีนไฟเซอร์เด็ก ฟรี
ประกาศจากโรงพยาบาลราชวิถี

ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ

แจ้งเปิดลงทะเบียนจองคิววัคซีนป้องกัน COVID-19 เข็มที่ 1 ชนิดวัคซีนไฟเซอร์ (ฝาสีส้ม) สำหรับเด็กเล็ก อายุช่วง 9-11 ปี ( เกิดตั้งแต่ 1 มี.ค. 2553 – 31 ธ.ค. 2556 ) โดยเป็นเด็กที่ศึกษานอกระบบโรงเรียน หรือนักเรียนที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีนจากจุดฉีดใด ๆ มาก่อน ซึ่งต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองในวันที่รับวัคซีน

เริ่มลงทะเบียนวันอังคาร ที่ 8 ก.พ.2565 เวลา 09.00 น. เริ่มฉีดตั้งแต่วันที่ 14-28 ก.พ.2565 เข้ารับบริการได้ที่ประตู 1 ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ทุกวัน เวลา 9.00-16.00 น. ส่วนเด็กที่เกิดในปี 2557 เป็นต้นไป ยังไม่เปิดรับจองคิวในครั้งนี้ แต่จะมีการทยอยเปิดรับจองคิวอีกครั้งตามกำหนดของกระทรวงสาธารณสุข

จองคิวฉีดผ่านเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ

AIS ลงทะเบียนได้ที่ เว็บไซต์ https://www.ais.th/vaccinesforthais/

TRUE ลงทะเบียนได้ที่ ระบบ USSD กด *707# โทรออก หรือ เว็บไซต์ https://vaccine.trueid.net/

DTAC ลงทะเบียนได้ที่ ดีแทค แอปฯ และ เว็บไซต์ https://app.dtac.co.th/vaccine/index.html

NT ลงทะเบียนได้ที่ บมจ.โทรคมนาคมแห่งชาติ https://covid19vaccine.ntplc.co.th/CVC/home

 โรงพยาบาลพีเอ็มจี 

เปิดให้บริการลงทะเบียนเพื่อจองคิวเข้ารับวัคซีนไฟเซอร์ สำหรับเด็กอายุ 5 – 11 ปี สุขภาพปกติ โดยสามารถสแกน QR Code เพื่อลงทะเบียนได้ และให้บริการฉีดวัคซีนในรอบแรกวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 65 นี้

ฉีดวัคซีนไฟเซอร์เด็ก ฟรี

ประกาศจากโรงพยาบาลพีเอ็มจีโรงพยาบาลราชพิพัฒน์ เขตบางแค กทม.

เปิด Walk-in ฉีดวัคซีน ไฟเซอร์ สำหรับเด็กอายุ 5 – 11 ปี, เด็กที่มีโรคประจำตัว, เด็กที่มีการศึกษานอกระบบโรงเรียนตั้งแต่วันที่ 2 – 28 กุมภาพันธ์ 2565 ตั้งแต่เวลา 8.30-15.00 น. รับบัตรคิวได้ที่หน่วยฉีดวัคซีน ชั้น 3 อาคารภูมิพิพัฒน์

เอกสารหลักฐานที่ใช้ :

  • บัตรประชาชนเด็ก หรือสูติบัตร
  • ปากกาส่วนตัว
ฉีดวัคซีนเด็กไฟเซอร์ ฟรี
ประกาศจากโรงพยาบาลราชพิพัฒน์

สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี (สสจ.นนทบุรี)

เปิดลงทะเบียนฉีดวัคซีน ไฟเซอร์ รอบที่ 1 สำหรับเด็กอายุ 5 ปีบริบูรณ์ ถึง อายุ 11 ปี 11 เดือน 29 วัน นับถึงวันที่ 31 มีนาคม 2565 ผ่านระบบ นนท์ kids เฉพาะผู้ที่ศึกษาอยู่ในจังหวัดนนทบุรี หรือ ทะเบียนบ้านอยู่ในจังหวัดนนทบุรี เท่านั้น

สามารถลงทะเบียนผ่านทางลิงค์นี้  https://xn--o3cdavpl4ezlya.com/nontprompt/nontkids/  ตั้งแต่วันนี้ – 20 ก.พ.65

สำหรับวันเวลานัดหมาย และสถานที่ฉีดวัคซีนจะเเจ้งให้ทราบภายหลังเพื่อตรวจสอบรายชื่อ ยืนยัน และรับเอกสารการเข้ารับการฉีดวัคซีนต่อไป เบื้องต้นจะสามารถเริ่มฉีดในเดือน เมษายน 2565 เนื่องจาก วัคซีน Pfizer ที่ใช้ต้องเป็นวัคซีนสูตรสำหรับเด็ก (Pediatric formulation) เท่านั้น

สถานที่ฉีดวัคซีนจะจัดฉีดแยกเป็นรายอำเภอขึ้นอยู่กับจำนวนของผู้ลงทะเบียนโดยวันฉีดผู้ปกครองสามารถเข้าไปในศูนย์ฉีดได้ 1 คน การฉีดวัคซีนจะต้องได้รับการยินยอมและอนุญาตจากผู้ปกครอง

 

โรงพยาบาลยุวประสาทไวทโยปถัมภ์

เปิดให้บริการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ เข็มแรก ในวันที่ 18 และ 21 กุมภาพันธ์ 2565 สำหรับเด็กที่มีอายุ 5 -11 ปี ร่างกายปกติ โดยสามารถลงทะเบียนผ่าน QR Code ในภาพ

ฉีดวัคซีนไฟเซอร์เด็ก ฟรี
ประกาศจากโรงพยาบาลยุวประสาทไวทโยปถัมภ์

โรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง

เปิดลงทะเบียนฉีดวัคซีนไฟเซอร์ เข็มที่ 1 สำหรับเด็กอายุ 5 – 11 ปี ร่างกายปกติ ผ่าน QR Code และสามารถเข้ารับบริการฉีดวัคซีนได้ตั้งแต่ 14 – 28 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ ศูนย์กุมารเวชกรรม ชั้น B1 โรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง

ฉีดวัคซีนไฟเซอร์เด็ก ฟรี
ประกาศจากโรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง

พิกัด ฉีดวัคซีนเด็กไฟเซอร์ ฟรีต่างจังหวัด

โรงพยาบาลพนัสนิคม ชลบุรี

เปิด วอล์คอิน ฉีดวัคซีน ไฟเซอร์ (ฝาสีส้ม) สำหรับเด็กอายุ 5-11 ปีที่ป่วยด้วยโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค ในวันพฤหัสบดีที่ 10 ก.พ.65 ตั้งแต่เวลา 12.30-15.00 น. ที่โรงพยาบาลพนัสนิคม ตึกพุทธประทานพร ชั้น G

ฉีดวัคซีนเด็กไฟเซอร์ ฟรี
ประกาศจากโรงพยาบาลพนัสนิคม

โรงพยาบาลขอนแก่น จ.ขอนแก่น

ประกาศฉีดวัคซีน ไฟเซอร์ สำหรับเด็กอายุ 5-11 ปี ร่างกายปกติ ในวันที่ 10 -11 กุมภาพันธ์ 2565 ตั้งแต่เวลา 08.00-15.00 น. ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติขอนแก่น สำหรับโรงเรียนในเขตอำเภอเมืองขอนแก่น จำนวน 7 แห่ง ได้แก่

  • รร.มหาไถ่ศึกษาขอนแก่น
  • รร.มหาไถ่ศึกษาบ้านน้อยสามเหลี่ยม
  • รร.เมทนีดล
  • รร.พิมพ์ใจวิทย์
  • รร.พัฒนาเด็ก
  • รร.พัฒนาเด็กประชาสโมสร
  • รร.การศึกษาคนตาบอดขอนแก่น

ส่วนโรงเรียนอื่น ๆ จะประกาศให้ทราบในภายหลัง

 

โรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) จ.นครปฐม

เปิด Walk In ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เป็นวัคซีน ไฟเซอร์ สำหรับเด็กอายุ 5-11 ปีที่มีโรคร่วม 7 กลุ่มโรค ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2565 ทุกวันพฤหัสบดี เวลา 12.00-15.00 น. วันละ 100 คน โดยต้องมีผู้ปกครองเซ็นยินยอม พร้อมนำหลักฐานการรักษาโรค/สมุดประจำตัว/ซองยาชื่อตนเอง และหลักฐานใบเกิดหรือบัตรประชาชน มาแสดงตน ณ จุดคัดกรอง

สถานที่ฉีดวัคซีน : ชั้น 1 อาคารเลิศประชารักษ์ โรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง)

 

โรงพยาบาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช จ.ตาก

วันที่ 7-11 กุมภาพันธ์ 2565 เตรียมฉีดวัคซีนโควิดเข็มแรก ไฟเซอร์ (ฝาสีส้ม) สำหรับเด็กในพื้นที่อำเภอเมืองตาก จังหวัดตาก ซึ่งแจ้งความประสงค์ฉีดวัคซีนกับทางโรงเรียน/โรงพยาบาล และได้รับการนัดหมายแล้ว ดังนี้

  • เด็กนักเรียนอายุ 5-11 ปี ในวันที่ 8 ก.พ.65 ตั้งแต่เวลา 13.00-15.00 น. ณ บริเวณโดมหน้าเสาธง โรงเรียนอนุบาลตาก ฉีดวัคซีน ไฟเซอร์ ฝาสีส้ม จำนวน 240 โดส
  • เด็กอายุ 5-11 ปี กลุ่ม 7 โรคเรื้อรัง ในวันที่ 10 ก.พ.65 ตั้งแต่เวลา 13.00-15.00 น. ณ ห้องตรวจกุมารเวชกรรม ชั้น 3 อาคารผู้ป่วยนอก รพ.ตสม. จำนวน 24 โดส

สิ่งที่ต้องเตรียมมาด้วย

  • เอกสารแสดงความประสงค์ผู้ปกครองให้เด็กได้รับการฉีดวัคซีน
  • แบบคัดกรองก่อนรับบริการฉีดวัคซีน

ส่วนนักเรียนอายุ 5-11 ปี ในพื้นที่อำเภอเมืองตาก ที่ประสงค์ฉีดวัคซีนสามารถแจ้งประสงค์ได้ที่โรงเรียนที่เรียนอยู่ และรอการนัดหมายฉีดจากโรงพยาบาลฯ ที่จะประกาศแผนฉีดวัคซีนรอบต่อไป ให้ทราบล่วงหน้าหากได้รับการจัดสรรวัคซีนเพิ่มเติมแล้ว


สำหรับสูตรการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ 2 เข็ม ในกลุ่มเด็กอายุ 5-11 ปี ใช้ฝาสีส้ม (ขนาด 10 ไมโครกรัม/0.2 ml) นั้น ระยะห่างระหว่างเข็ม 8 สัปดาห์ (ระหว่างเข็มที่ 1 และเข็มที่ 2) ในเด็กที่แข็งแรงดี ส่วนเด็กที่มีโรคประจำตัวขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของกุมารแพทย์ ระยะห่าง 3-12 สัปดาห์ (ระหว่างเข็มที่ 1 และเข็มที่ 2) ซึ่งขณะนี้ได้ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ฝาสีส้มให้กับกลุ่มเด็กที่มีโรคประจำตัวแล้ว 44,000 คน และเริ่มฉีดให้กับเด็กสุขภาพดีแล้ว

 

การเลือกรับวัคซีนป้องกันโควิด 19 สำหรับเด็กนั้นเป็นไปโดยความสมัครใจของคุณแม่คุณพ่อ ขอให้คุณแม่คุณพ่อพิจารณาตามความเหมาะสมจากข้อมูล ทั้งเรื่องอาการข้างเคียง และช่วงอายุของเด็กนะคะ

ขอบคุณข้อมูลจาก

ThaiPBSฐานเศรษฐกิจ

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

หมอเตือน!! พ่อแม่เช็กก่อน..นี่คือ 6 อาการต้องเลื่อนฉีดวัคซีนโควิด-19

14 เรื่อง คุณแม่ต้องรู้ ก่อนฉีด วัคซีนเด็กไฟเซอร์

หมอขอตอบ!รวมคำถามคาใจ วัคซีนโควิด19เด็ก ฉีดดีไหม

 

ชื่อภาษาอังกฤษ ผู้ชาย

120 ชื่อภาษาอังกฤษ ผู้ชาย เพราะๆ เท่ๆ

Alternative Textaccount_circle
event
ชื่อภาษาอังกฤษ ผู้ชาย
ชื่อภาษาอังกฤษ ผู้ชาย

ครอบครัวที่กำลังจะมีลูกชาย และกำลังคิดจะตั้งชื่อให้ลูก แต่ยังไม่รู้จะตั้งชื่อภาษาอะไรดี มาลองดู ชื่อภาษาอังกฤษ ผู้ชาย เพื่อเป็นตัวเลือกในการตัดสินใจกันค่ะ

120 ชื่อภาษาอังกฤษ ผู้ชาย เพราะๆ เท่ๆ

การตั้งชื่อภาษาอังกฤษให้ลูกในประเทศไทยมีกันมานานแล้ว ยิ่งยุคสมัยนี้ดูจะเป็นเรื่องธรรมดา เพราะโลกเราแคบลงทุกวัน การสื่อสารภาษาอังกฤษมีความจำเป็นมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้น ทีมแม่ ABK จึงขอช่วยคุณพ่อคุณแม่เริ่มต้นชีวิตของลูกน้อยด้วยการรวบรวม ชื่อภาษาอังกฤษ ผู้ชาย เพราะๆ เท่ๆ มาให้ได้เลือกกันค่ะ

120 ชื่อภาษาอังกฤษ ผู้ชาย เพราะๆ เท่ๆ

ชื่อ อ่านว่า
Alexander อเล็กซานเดอร์
Anthony แอนโทนี่
Andrew แอนดรูว์
Adrian เอเดรียน
Adam อดัม
Ashton แอชตัน
Austin ออสติน
Axel แอคเซล
Ayden เอเดน
Benjamin เบนจามิน
Bennett เบนเนท
Bentley เบนท์ลีย์
Brandon แบรนดอน
Braxton แบร็กซ์ตัน
Brayden เบรย์เดน
Bryson ไบรซัน
Carter คาร์เตอร์
Christopher คริสโตเฟอร์
Caleb คาเล็บ
Charles ชาร์ล
Christian คริสเตียน
Connor คอนเนอร์
Colton โคลตัน
Cameron คาเมรอน
Carson คาร์สัน
Cole โคล
Cooper คูเปอร์
Chase เชส
David เดวิด
Dylan ดีแลน
Dominic โดมินิค
Declan เดคลัน
Damian เดเมียน
Elijah เอไลจาห์
Ethan อีธาน
Eli อีไล
Ezra เอซรา
Easton อิสตัน
Elias อีไลแอส
Emmett เอมเมทท์
ลูกชาย
ลูกชาย

120 ชื่อภาษาอังกฤษ ผู้ชาย เพราะๆ เท่ๆ

ชื่อ อ่านว่า
Evan เอเวน, อีวาน
Ezekiel อิซีเคียล
Everett เอเวอร์เร็ตต์
Gabriel กาเบรียล
Gavin แกวิน
George จอร์จ
Greyson เกรย์สัน
Harrison แฮร์ริสัน
Henry เฮนรี่
Hudson ฮัดสัน
Hunter ฮันเตอร์
Isaac ไอแซค
Isaiah ไอเซยาห์
Ian เอียน
James เจมส์
Jacob เจคอบ
Jackson แจ็คสัน
Joseph โจเซฟ
John จอห์น
Jack แจ็ค
Jayden เจเดน
Jaxon แจ็คสัน
Josiah โจไซอาห์
Jonathan โจนาธาน
Jeremiah เจรามายห์
Jaxson แจ็คสัน
Jordan จอร์แดน
Jose โฮเซ่, เจเซ่
Jace เจส
Jameson เจมสัน
Jason เจสัน
Kayden เคย์เดน
Kai ไค
Kevin เควิน
Kingston คิงส์ตัน
Landon แลนดอน
Leonardo ลีโอนาร์โด
Levi ลีวาย
Liam เลียม
Lincoln ลินคอล์น
ชื่อลูก
ชื่อลูก

120 ชื่อภาษาอังกฤษ ผู้ชาย เพราะๆ เท่ๆ

ชื่อ อ่านว่า
Logan โลแกน
Luca ลูก้า
Luis ลูอิส
Luke ลุค
Mason เมสัน
Michael ไมเคิล
Matthew แมทธิว
Mateo มาเทโอ
Maverick มาเวอริค
Miles ไมเอิลส์
Micah ไมก้า
Nathan นาธาน
Nathaniel แนแธเนียล
Noah โนอาห์
Nolan โนแลน
Nicholas นิโคลัส
Oliver โอลิเวอร์
Owen โอเว่น
Paker ปาร์คเกอร์
Ryan ไรอัน
Ryker ไรเคอร์
Robert โรเบิร์ต
Roman โรมัน
Rowan โรวัน
Sebastian เซบาสเตียน
Samuel ซามูเอล
Santiago ซานติอาโก
Sawyer ซอว์เยอร์
Silas ไซรัส
Theodore ธีโอดอร์
Thomas โทมัส
Tristan ทริสตัน
Tyler ไทเลอร์
Vincent วินเซนต์
William วิลเลียม
Wyatt ไวแอตต์
Weston เวสตัน
Wesley เวสลีย์
Xavier เซเวียร์
Zachary แซคการี่

ราย ชื่อภาษาอังกฤษ ผู้ชาย ที่ ทีมแม่ ABK นำมาฝากนี้ คงทำให้คุณพ่อคุณแม่ที่กำลังมองหาชื่อที่จะตั้งให้ลูกชาย ตัดสินใจได้นะคะ ว่าจะตั้งชื่อลูกชายภาษาอะไรดี

อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

150 ชื่อเท่ๆในเกม พ่อแม่คอเกมห้ามพลาด

ชื่อภาษาอังกฤษเท่ๆ สำหรับลูกสาวและลูกชาย

108 ชื่อเล่นลูกชาย ไทยๆ เท่ เก๋ ไม่ตกยุค

300+ ชื่อผู้ชาย ความหมายดี ปี 2021-2022 ตามวันเกิด

ขอบคุณข้อมูลจาก : https://meowdemy.com

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

ยื่นภาษีออนไลน์ 2565

เช็คขั้นตอน ยื่นภาษีออนไลน์ 2565 จากภาษีเงินได้ปี 2564

Alternative Textaccount_circle
event
ยื่นภาษีออนไลน์ 2565
ยื่นภาษีออนไลน์ 2565

ฤดูกาล ยื่นภาษีออนไลน์ 2565 เริ่มแล้ว ยื่นที่เว็บไซต์ไหน ยื่นอย่างไร มีขั้นตอนและเอกสารอะไรที่ต้องเตรียมสำหรับการยื่นภาษี ทีมแม่ ABK รวบรวมข้อมูลมาให้แล้วค่ะ

เช็คขั้นตอน ยื่นภาษีออนไลน์ 2565 จากภาษีเงินได้ปี 2564

การยื่นภาษีเป็นหน้าที่ของประชาชนที่มีรายได้ การยื่นภาษีในปี 2565 นี้ เริ่มวันที่ 1 มกราคม ถึง 8 เมษายน 2565 วิธีการยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดานั้น ทำได้ด้วยตัวเองง่าย ๆ ผ่านเว็บไซต์กรมสรรพากรค่ะ

ข้อมูลที่ต้องใช้ในการ ยื่นภาษีออนไลน์ 2565

การยื่นภาษีในปี 2565 เป็นการใช้ข้อมูลเงินได้ของปีก่อน คือตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 31 ธันวาคม 2564 ข้อมูลที่ต้องใช้ มีดังนี้

  • ชื่อ สกุล ของผู้ยื่นภาษี และคู่สมรส
  • เลขประจำตัวผู้เสียภาษีของบริษัทที่ทำงานอยู่ หรือนายจ้างที่จ่ายค่าจ้างอื่น ๆ
  • ยอดเงินที่เป็นรายได้
  • ยอดที่จ่ายให้กับกองทุนต่าง ๆ เช่น กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ, SSF, RMF, กองทุนประกันสังคม, กองทุนการออมแห่งชาติ เป็นต้น
  • หนังสือรับรองการหักเสียภาษี ณ ที่จ่าย (ใบ 50 ทวิ)
  • เลขบัตรประจำตัวประชาชนของคู่สมรส, บุตร, บิดามารดา ที่นำมากรอกยื่นเพื่อลดหย่อนภาษี
  • หนังสือรับรองการจ่ายเบี้ยประกันชีวิตของผู้ยื่นภาษี และประกันสุขภาพของบิดาหรือมารดาที่นำมายื่นลดหย่อนภาษี
  • ข้อมูลการยื่นลดหย่อนภาษีอื่น ๆ เช่น ใบเสร็จ หรือหนังสือรับรองการบริจาคให้แก่มูลนิธิที่กำหนด หรือสถานพยาบาล

    ยื่นภาษีออนไลน์ 2565
    เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภ.ง.ด. 90/91

การยื่น ภ.ง.ด.90/91

การยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา มี 2 แบบ คือ แบบ ภ.ง.ด.90 และ ภ.ง.ด.91 โดยผู้ที่มีเงินเดือน โบนัส ค่าครองชีพก็ยื่นแบบ ภ.ง.ด.91 ส่วนผู้ที่มีรายได้อื่น ๆ หรือมีทั้งเงินเดือนและรายได้อื่น ๆ ให้ยื่นแบบ ภ.ง.ด.90

การยื่น ภ.ง.ด.90/91 มีทั้งหมด 5 ขั้นตอน ได้แก่ กรอกข้อมูลผู้เสียภาษีเงินได้ กรอกเงินได้ กรอกค่าลดหย่อน ตรวจสอบข้อมูล และยืนยันข้อมูล

ควรเตรียมเอกสารต่าง ๆ ให้พร้อมก่อนกรอกข้อมูล เพื่อการขอคืนภาษีได้ครบถ้วน ถูกต้อง หากกรอกตัวเลขไม่ถูกต้อง ก็ต้องยื่นคำร้องขอแก้ไขและอาจเสียค่าธรรมเนียมและค่าปรับภายหลัง

 

ยื่นภาษีขั้นตอนที่ 1 กรอกข้อมูลผู้เสียภาษีเงินได้

ยื่นภาษีออนไลน์ 2565
log – in ลงทะเบียน

สิ่งที่ใช้ Log In ลงทะเบียน เข้าเว็บไซต์กรมสรรพากร www.rd.go.th

  • เลขบัตรประจำตัวประชาชน
  • รหัสผ่าน
  • หมายเลขโทรศัพท์มือถือเพื่อรับ OTP
ยื่นภาษีออนไลน์ 2565
เมื่อ log – in เข้ามาแล้ว

ตรวจสอบข้อมูลส่วนบุคคล ได้แก่ คำนำหน้าชื่อ ชื่อสกุล ที่อยู่ปัจจุบัน และข้อมูลการยื่นภาษีร่วมหรือแยกกับคู่สมรส เมื่อกรอกข้อมูลเสร็จแล้ว กด “ถัดไป” หรือ “บันทึกร่าง”

 

ยื่นภาษีขั้นตอนที่ 2 กรอกข้อมูลเงินได้

ยื่นภาษีออนไลน์ 2565
กรอกข้อมูลเงินได้

เตรียมเอกสาร 50 ทวิ ที่ได้จากการจ้างงานทั้งหมด ทั้งงานประจำจากนายจ้าง หรือฟรีแลนซ์ใช้หนังสือรับรองการหักภาษี มากรอกในรายได้ต่าง ๆ ดังนี้

  1. รายได้จากเงินเดือน เป็นเงินเดือนหรือเงินได้ตามสัญญาจ้างแรงงาน มาตรา 40(1) หรือเงินได้ที่นายจ้างจ่ายให้ครั้งเดียวเพราะเหตุออกจากงาน
  2. รายได้จากฟรีแลนซ์ รับจ้างทั่วไป วิชาชีพอิสระ เบี้ยประชุม หรือค่านายหน้า มาตรา 40(2) หรือ ค่าตอบแทนจากการประกอบวิชาชีพอิสระ วิชากฎหมาย การประกอบโรคศิลปะ วิศวกรรม สถาปัตยกรรม การบัญชี ประณีตศิลปกรรม มาตรา 40(6)
  3. รายได้จากทรัพย์สิน และการทำธุรกิจ ได้แก่
  • ค่าลิขสิทธิ์ ค่าสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญา และ ค่ากู๊ดวิลล์ (Goodwill) หรือ เงินได้รายปีที่ได้มาจากนิติกรรม และคำพิพากษาของศาล มาตรา 40(3)
  • ค่าเช่า ค่าผิดสัญญาเช่าซื้อหรือซื้อขายเงินผ่อน มาตรา 40(5)
  • เงินได้จากการรับเหมาที่ผู้รับเหมาทั้งค่าแรงและค่าของ ที่ต้องลงทุนด้วยการจัดหาสัมภาระ ในส่วนสำคัญ นอกจากเครื่องมือ มาตรา 40(7)
  • เงินได้จากธุรกิจ การพาณิชย์ การเกษตร การอุตสาหกรรม การขนส่ง และเงินได้อื่นๆ มาตรา 40(8)
  • เงินได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ฯ มาตรา 40(8)
  1. รายได้จากการลงทุน ได้แก่
  • ดอกเบี้ย เงินปันผลจากบริษัทต่างประเทศ ประโยชน์ใดๆ จากคริปโตเคอร์เรนซีหรือโทเคนดิจิทัล เงินเพิ่มทุน เงินลดทุน มาตรา 40(4)
  • เงินปันผล ส่วนแบ่งกำไรจากหุ้น/กองทุน มาตรา 40(4)(ข)
  • เงินได้พึงประเมินที่ได้ใช้สิทธิเลือกเสียภาษีโดยไม่ต้องนำมารวมคำนวณภาษีกับเงินได้อื่น
  • กำไรจากการขายกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF)
  • กำไรจากการขายกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF)
  • กำไรจากการขายกองทุนเพื่อการออม (SSF)
  1. รายได้จากมรดกหรือได้รับมา เงินได้จากการให้หรือการรับ มาตรา 40(8)

ยื่นภาษีขั้นตอนที่ 3 กรอกค่าลดหย่อน

ยื่นภาษีออนไลน์ 2565
กรอกค่าลดหย่อน
  1. ค่าลดหย่อนส่วนตัว

ค่าลดหย่อนส่วนตัวและครอบครัว บุตร, บิดามารดา, เบี้ยประกันสุขภาพบิดามารดา, อุปการะเลี้ยงดูคนพิการหรือคนทุพพลภาพ

  1. ค่าลดหย่อนยกเว้นด้านการออมและการลงทุน ได้แก่

– กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ

– เงินสะสมกองทุนบำเหน็จบำนาญ (กบข.)

– เงินสะสมกองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน

– เงินค่าชดเชยที่ได้รับตามกฎหมายแรงงาน (กรณีนำมารวมคำนวณภาษี)

– เงินสะสมกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.)

– เงินสมทบกองทุนประกันสังคม

– ประกันชีวิต

– ประกันสุขภาพ

– ประกันชีวิตแบบบำนาญ

– ค่าซื้อหน่วยลงทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF)

– ค่าซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการออม SSF

– เงินลงทุนในหุ้น หรือการเป็นหุ้นส่วนเพื่อจัดตั้ง หรือเพิ่มทุนบริษัท หรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ได้รับจดทะเบียนวิสาหกิจเพื่อสังคม และได้จดแจ้งการเป็นวิสาหกิจเพื่อสังคม

  1. ค่าลดหย่อน/ยกเว้น จากสินทรัพย์และมาตรการนโยบายภาครัฐ

– ดอกเบี้ยเงินกู้ยืมเพื่อซื้อ เช่าซื้อ หรือสร้างอาคารที่อยู่อาศัย

– เงินบริจาคพรรคการเมือง

– ค่าฝากครรภ์และค่าคลอดบุตร

  1. เงินบริจาค

– เงินบริจาคสนับสนุนการศึกษา/สถานพยาบาล/สภากาชาดไทย/อื่น ๆ

ยื่นภาษีขั้นตอนที่ 4 ตรวจสอบข้อมูล

ตรวจสอบข้อมูลเงินได้และรายการลดหย่อนทั้งหมด ระบบจะคำนวณการเสียภาษีมาให้ หากชำระภาษีไปแล้ว ก็จะปรากฏยอดที่ชำระไว้เกิน หากต้องการขอคืนภาษี กด ต้องการขอคืน หรือ ไม่ต้องการ และสามารถเลือกอุดหนุนเงินภาษีให้พรรคการเมืองได้ด้วย

ยื่นภาษีขั้นตอนที่ 5 ยืนยันข้อมูล

เมื่อกรอกข้อมูลออนไลน์เรียบร้อยแล้ว ให้เลือกพิมพ์แบบ บันทึกร่าง หรือกดยืนยันเพื่อส่งแบบยื่นภาษี 2564 ได้ทันที หากต้องการขอคืนภาษี ให้เลือกช่องทางโอนเข้าพร้อมเพย์ หรือตามวิธีที่ประกาศในแต่ละปีของกรมสรรพากร

 

ยื่นภาษี 2565 หมดเขตเมื่อไหร่

โดยปกติแล้ว ในแต่ละปีจะเปิดให้ยื่นช่วง 1 มกราคม – 31 มีนาคม แต่สำหรับปี 2565 นี้ ยื่นได้ถึงวันที่ 8 เมษายน 2565 ยกเว้นจะมีสถานการณ์พิเศษอื่น ๆ ที่ทำให้ต้องประกาศเลื่อนการยื่นภาษีออกไป ซึ่งสามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์กรมสรรพากรค่ะ

 

ง่ายสุด ๆ ไปเลยนะคุณแม่สำหรับการยื่นภาษีออนไลน์ 2565  คุณแม่ที่ยังไม่ได้ยื่นภาษีปีนี้ก็อย่าลืมกันด้วยนะคะ แต่หากคุณแม่ไม่สะดวกยื่นภาษีออนไลน์ ก็สามารถไปยื่นภาษีได้ที่สำนักงานสรรพากรพื้นที่ทุกแห่งได้เลยค่ะ

 

ขอบคุณข้อมูลจาก

กรมสรรพากร, Amarin TVHD, ไทยรัฐออนไลน์

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

วางแผน ลดหย่อนภาษี 2565 ให้ดีช่วยเซฟงบ ประหยัดเงิน

รวม 5 สิทธิประโยชน์ ลดหย่อนภาษี คู่สมรส

แม่ต้องรู้! ลดหย่อนภาษี ฝากครรภ์-คลอดบุตร ได้เท่าไหร่?

ค่าเทอมโรงเรียนนานาชาติ

Update 12 ค่าเทอมโรงเรียนนานาชาติ ปีการศึกษา 2565

Alternative Textaccount_circle
event
ค่าเทอมโรงเรียนนานาชาติ
ค่าเทอมโรงเรียนนานาชาติ

รวม 12 ค่าเทอมโรงเรียนนานาชาติ  ว่ามีราคาเท่าไหร่กันบ้าง พร้อมขั้นตอนการรับสมัครในปีการศึกษา 2564 – 2565 มาให้แม่ ๆ ได้เลือกและตัดสินใจก่อนพาลูกไปสมัครเรียน

12 ค่าเทอมโรงเรียนนานาชาติ ปีการศึกษา 2564 – 2565

ในการตัดสินใจเลือกโรงเรียนให้ลูกนั้น ต้องดูหลาย ๆ ปัจจัยประกอบกันไป ไม่ว่าจะเป็น ความปลอดภัย หลักสูตรการเรียนการสอน สถานที่ การเดินทาง ความสะอาด เป็นต้น (อ่าน หมอชี้! หลักการ เลือกโรงเรียนให้ลูก โรงเรียนที่ดีต้องมี 3 ข้อนี้) แต่ค่าเทอม ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งในการตัดสินใจด้วยเช่นกัน ทีมงาน Amarin Baby & Kids จึงได้รวบรวม 12 ค่าเทอมโรงเรียนนานาชาติ มาให้แม่ ๆ ได้ตัดสินใจกันก่อนพาลูกไปสมัครเรียน ดังนี้

12 ค่าเทอมโรงเรียนนานาชาติ ปีการศึกษา 2021-2022

  1. โรงเรียนนานาชาติร่วมฤดี (Ruamrudee International School : RIS) : เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร

เตรียมอนุบาล (PreK 2,3,4) : 515,000 บาท ต่อปี
ระดับชั้นอนุบาล (Kindergarten) : 521,000 บาท ต่อปี
ระดับ Grade 1 : 687,000 บาท ต่อปี
ระดับ Grade 2 – ระดับ Grade 5 : 656,000 บาท ต่อปี
ระดับ Grade 6 – ระดับ Grade 8 : 685,000 บาท ต่อปี
ระดับ Grade 9 – ระดับ Grade 12 : 754,000 บาท ต่อปี
ค่าธรรมเนียมการสมัคร = 5,000 บาท ค่าลงทะเบียน = 200,000 บาท

ข้อมูลอ้างอิงค่าเทอมจาก >> 2021–2022 RIS Minburi Tuition & Fees

 

2. โรงเรียนนานาชาติบางกอกพัฒนา (Bangkok Patana School : BPS) : เขตบางนา กรุงเทพมหานคร

ค่าเทอมโรงเรียนนานาชาติ รวมค่าอาหารสำหรับระดับชั้น Nursery – Grade 6
Nursery 432,000 บาท ต่อปี
Foundation Stage 1 485,700 บาท ต่อปี
Foundation Stage 2 539,700 บาท ต่อปี
Year 1 – Year 2 628,300 บาท ต่อปี
Year 3 658,300 บาท ต่อปี
Year 4 662,600 บาท ต่อปี
Year 5 663,100 บาท ต่อปี
Year 6 677,500 บาท ต่อปี
Year 7 – Year 9 696,600 บาท ต่อปี
Year 10 793,100 บาท ต่อปี
Year 11 585,700 บาท ต่อปี
Year 12 841,000 บาท ต่อปี
Year 13 622,700 บาท ต่อปี
Capital Assessment Fee 30,000 บาท ต่อปี
EAL Fee: Year 1 – Year 9 105,000 บาท ต่อปี

ข้อมูลอ้างอิงค่าเทอมจาก >> Fee-announcement-2021-22

 

3. โรงเรียนนานาชาติฮาร์โรว์ (Harrow International School : HIS) : เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร

โรงเรียนนานาชาติฮาร์โรว์
โรงเรียนนานาชาติฮาร์โรว์
Year Group ค่าเทอมโรงเรียนนานาชาติ (บาท/ปี)
Pre Nursery – Half day 439,000
Pre Nursery – Full day 499,000
Nursery – Half day 529,000
Nursery – Full day 609,000
Reception 624,500
Year 1 – Year 5 729,900
Year 6 – Year 8 813,500
Year 9 – Year 11 905,500
Year 12 – Year 13 949,800

ข้อมูลอ้างอิงค่าเทอมจาก >> www.harrowschool.ac.th/admissions/tuition-fees

4. โรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี่ (Shrewsbury International School, Bangkok) : เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร

ค่าเทอมโรงเรียนนานาชาติ (บาท/ปี)
Early Years EY1 582,600
EY2 633,600
Pre-Prep Years 1 – 2 712,200
Prep Years 3 – 4 764,100
Years 5 – 6 790,200
Senior Years 7 – 9 819,000
Year 10 1,050,600
Year 11* 700,400*
Sixth Form Year 12 1,054,800
Year 13* 703,200*

*2 terms only

ข้อมูลอ้างอิงค่าเทอมจาก >> 2021/22 BASIC FEE STRUCTURE

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

อ่านต่อ 12 ค่าเทอมโรงเรียนนานาชาติ ปีการศึกษา 2564 – 2565

เพิ่มน้ำนม

รีวิว Jessie Mum สมุนไพรเพิ่มน้ำนม ไอเท็มคู่ใจแม่หลังคลอด มีดีการันตีด้วยรางวัล

Alternative Textaccount_circle
event
เพิ่มน้ำนม
เพิ่มน้ำนม

รีวิวไอเทมเด็ดสำหรับแม่หลังคลอด Jessie Mum สมุนไพรเพิ่มน้ำนม ตัวช่วยดีดี๊ การันตีด้วยรางวัล ผลิตจากธรรมชาติแท้ 100% ปลอดภัย เห็นผลทันใจ น้ำนมไหลดี

เพราะ นมแม่ คืออาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารก ซึ่งอุดมไปด้วยคุณประโยชน์มากมาย ช่วยสร้างภูมิต้านทานที่ดีให้กับลูกน้อยได้ไปจนโต แต่สำหรับคุณแม่หลังคลอดที่อยากจะเลี้ยงลูกด้วยนมแม่แล้ว ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้กับทุกคน คือ “น้ำนมน้อย น้ำนมไม่ค่อยไหล” ทำให้ลูกไม่พอกิน ดังนั้นตัวช่วยแรกที่คุณแม่มักจะนึกถึง คงหนีไม่พ้นอาหารจำพวกผักและผลไม้สดต่างๆ ที่มีส่วนช่วยในการบำรุง กระตุ้น และเพิ่มปริมาณน้ำนมให้มีมากขึ้น เช่น ขิง, หัวปลี, อินทผลัม เป็นต้น

แต่สำหรับใครที่ไม่สะดวกในการซื้อผักผลไม้สดๆ ทำกินได้บ่อยๆ อาจจะต้องใช้ตัวช่วยจำพวกอาหารเสริมที่มีสรรพคุณในการกระตุ้นให้ร่างกายผลิตน้ำนมเพิ่มขึ้นมารับประทานแทน

สมุนไพรเพิ่มน้ำนม ถือเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยของดีจากธรรมชาติที่มีสรรพคุณ ในการกระตุ้นการผลิตน้ำนมแม่ให้ไหลดี ให้ลูกน้อยกินอิ่ม และยังมีไว้สำหรับปั๊มเก็บเป็นสต๊อกได้สบายๆ  แถมยังดีต่อสุขภาพของคุณแม่ ช่วยให้ร่างกายกลับมาเหมือนเดิมได้โดยไวอีกด้วย

ทั้งนี้การกินสมุนไพรยังไม่ส่งผลข้างเคียงต่อสุขภาพ แต่คุณแม่อาจต้องระมัดระวังในเรื่องของตัวพืชสมุนไพรว่าตัวเองเคยมีประวัติการแพ้หรือไม่ ซึ่งผลิตภัณฑ์เพิ่มน้ำนมที่ใช้สมุนไพรสกัดต้องระบุส่วนผสมที่ชัดเจน และก่อนจะซื้อต้องดูด้วยว่ามีตรารับรองจากอย. หรือมีเลขทะเบียนอาหารและยาหรือไม่ รวมถึงต้องมีข้อมูลระบุขนาดที่ควรบริโภคอย่างชัดเจน พร้อมมีคำเตือนบนฉลากผลิตภัณฑ์แบบละเอียด นอกจากนี้ สมุนไพรเพิ่มน้ำนมที่สารสกัดจากธรรมชาติ ควรผ่านการตรวจ GMP ว่าปลอดภัยต่อคุณแม่และลูก … ด้วยคุณสมบัตินี้เองทำให้ สมุนไพรเพิ่มน้ำนม Jessie Mum เป็นผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์คุณแม่ยุคใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพของลูกน้อยและตัวเองเป็นอย่างดี

Amarin Baby & Kids ยกให้ Jessie Mum สมุนไพรเพิ่มน้ำนม เป็นผลิตภัณฑ์เพิ่มน้ำนม
ที่ได้รับรางวัล EDITOR’s CHOICE
สาขา BEST BREASTFEEDING SUPPLEMENT
จาก Amarin Baby & Kids Awards 2021

เพิ่มน้ำนม

Jessie Mum สมุนไพรกู้น้ำนม ดีต่อใจแม่อย่างไร

ความดีงามของ Jessie Mum เจสซี่มัม สมุนไพรเพิ่มน้ำนมแม่ ที่มียอดขายอันดับ 1 พร้อมมีรีวิวจากคุณแม่ที่กินจริงและเห็นผลแล้วกว่า 10,000 คน เรียกได้ว่าเป็นอาหารเสริมสมุนไพรสำหรับคุณแม่หลังคลอดตัวช่วยดีดี๊ที่ห้ามพลาดเลย!!! ซึ่ง Jessie Mum ผลิตด้วยสมุนไพรจากธรรมชาติแท้ 100% คุณแม่สามารถกินได้อย่างสบายใจ เพราะ Jessie Mum ผ่านการรับรองมาตรฐาน อย. และผ่านการตรวจ GMP และยังได้รับรองฮาลาลอีกด้วย

ซึ่งการผลิตสมุนไพรเพิ่มน้ำนม Jessie Mum จะผ่านกระบวนการสกัดด้วยน้ำบริสุทธิ์ ต่างจากแบรนด์ทั่วไปในท้องตลาดที่ใช้วิธีการนำสมุนไพรมาอบแห้งและบดละเอียด แล้วจึงค่อยนำไปบรรจุในแคปซูล หรือทำในรูปแบบชาชงดื่ม โดยคุณแม่จะได้รับสารสำคัญไม่ถึง 100% และความเข้มข้นต่ำกว่า 90% เพราะไม่ได้ผ่านกระบวนการสกัดสารสำคัญออกมา

และในส่วนของความพิเศษของ Jessie Mum ที่ไม่เหมือนใคร คือ การกินเพียงแค่ 1 แคปซูล แต่ดีต่อสุขภาพเป็น 2 เท่า เพราะเขารวมไว้ซึ่งสองส่วนผสมที่ช่วยเพิ่มปริมาณคุณภาพน้ำนมแม่ และอีกหนึ่งส่วนผสมช่วยในเรื่องการดูแล ฟื้นฟูบำรุงสุขภาพแม่หลังคลอดให้กลับมาแข็งแรงได้เร็วค่ะ

ซึ่งส่วนประกอบสำคัญ ที่มีส่วนช่วยในการเพิ่มปริมาณคุณภาพน้ำนม  ช่วยในเรื่องการผลิตน้ำนม การไหลเวียนน้ำนมแม่ให้มาดี ได้แก่ ขิง ฟีนูกรีก ลูกซัด เมล็ดผักชีล้อม ขมิ้น   ซิ้งค์ อะมิโน และแอซิดคีเลต

และในส่วนของวิตามิน ส่วนประกอบสำคัญ ที่มีช่วยในเรื่องการดูแลสุขภาพของคุณแม่ ช่วยบำรุงฟื้นฟูสุขภาพร่างกายหลังคลอดให้กลับมาแข็งแรง ฟิตแอนด์เฟิร์ม มีกำลังวังชา สดชื่น กระปรี้กระเปร่า ได้แก่ โฟลิค วิตามิน B1 วิตามิน B2 วิตามิน B12 และ D-Biotin

เพิ่มน้ำนม

เรียกได้ว่าคุณภาพอัดแน่นเต็มไปด้วยส่วนผสมที่มีประโยชน์ ธรรมชาติ 100% มีความปลอดภัยต่อสุขภาพ แล้วยังช่วยบำรุงให้มีน้ำนมแม่ที่ได้ทั้งคุณภาพ และปริมาณเพียงพอสามารถแบ่งเก็บทำสต๊อกให้ลูกได้กินไปจนถึงวัยขวบ

ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ Amarin Baby & Kids “เครือข่ายแม่ลูกใหญ่ที่สุด” ผู้นำด้านคอนเทนต์คุณภาพ เข้าใจครอบครัวไทย และตอบสนองความต้องการของคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ จึงคัดเลือกให้ Jessie Mum สมุนไพรเพิ่มน้ำนม ได้รับรางวัล EDITOR’s CHOICE สาขา BEST BREASTFEEDING SUPPLEMENT จาก Amarin Baby & Kids Awards 2021 ซึ่งมอบให้กับสินค้าแม่ลูก “สินค้าใช้ดี และมีประโยชน์จริง”

หากคุณแม่สนใจ สมุนไพรเพิ่มน้ำนม Jessie Mum สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติม หรือเพื่อชมสินค้า ติดต่อผ่านทางตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ

 

 

วิธีลดต้นขา

4 ท่า 5 วิธีลดต้นขา บอกลาขาเบียดหลังคลอดอย่างได้ผล!!

Alternative Textaccount_circle
event
วิธีลดต้นขา
วิธีลดต้นขา

ต้นขาใหญ่ พุงไม่ลด ทำไงดี? บอกลาขาเบียดหลังคลอด เปลี่ยนเป็นขาเรียวเล็กอย่างได้ผลและดีต่อสุขภาพ มาดู 4 ท่า 5 วิธีลดต้นขา กันเถอะ

4 ท่า 5 วิธีลดต้นขา บอกลาขาเบียดหลังคลอดอย่างได้ผล!!

น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นระหว่างท้อง เมื่อคลอดลูกแล้ว น้ำหนักหลายต่อหลายกิโลก็ไม่ได้ออกไปพร้อมลูก แถมพุง ต้นขา ก็ไม่ได้ลดลง…มองกระจกแล้วก็ได้แต่เศร้าใจ แต่อย่าเพิ่งท้อใจไปค่ะ ทีมแม่ ABK มี วิธีลดต้นขา มาฝากแม่ ๆ มาเปลี่ยนขาเบียด ให้เป็นขาเรียวสวย ด้วยวิธีที่ได้ผลและดีต่อสุขภาพกันดีกว่า

5 วิธีลดต้นขา ไม่ยาก!! ลดได้จริง!! แถมทำแล้วสุขภาพดี!!

  1. เซลลูไลต์ คืออะไร?

ก่อนการเริ่มลดต้นขา ควรสำรวจที่ขาของคุณก่อนว่า ขาของคุณนั้นใหญ่จากสาเหตุอะไร โดยมีสาเหตุอยู่ 2 อย่าง คือขาใหญ่จากการสะสมไขมัน หรือขาใหญ่จากกล้ามเนื้อ ซึ่งสามารถสำรวจได้ด้วยการนั่งเหยียดขาและใช้มือบีบบริเวณต้นขาและดึงยืดออก ถ้ายืดออกได้มากแสดงว่าต้นขาของคุณใหญ่ขึ้นด้วยสาเหตุของการสะสมไขมันและเซลลูไลต์

เซลลูไลต์ คือการเรียงตัวที่อ่อนแอของเนื้อเยื่อในบริเวณต้นขาและบริเวณอื่นๆ ในร่างกาย ทำให้ต้นขามีผิวที่ขรุขระหรือที่เรียกกันว่าผิวเปลือกส้ม เมื่อมีก้อนไขมันมาสะสมที่ต้นขาเป็นจำนวนมากขึ้นก็ยิ่งทำให้ต้นขามีความหย่อนคล้อยและมีผิวที่ขรุขระ โดยส่วนมากจะเกิดขึ้นกับเพศหญิงเนื่องจากฮอร์โมนเอสโตรเจนที่ทำให้ไขมันไปสะสมอยู่ตามต้นขาและสะโพก

2. ทำความเข้าใจ ทำไม? ต้นขาถึงใหญ่

ก่อนที่จะลดต้นขา ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจว่าทำไมต้นขาถึงใหญ่กันก่อนค่ะ โดยสาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้ต้นขาใหญ่ก็มีอยู่ 5 สาเหตุด้วยกัน ดังนี้

  • ขาดการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพราะเมื่อมีการขยับหรือเคลื่อนไหวร่างกายน้อยลง จะทำให้เซลลูไลท์ที่สะสมอยู่ใต้ผิวหนัง ไม่ได้รับการสลายออกไปจนกลายเป็นเซลลูไลท์ก้อนโตที่กำจัดได้ยากในที่สุด
  • ชอบทานของทอด ของมัน อาหารจำพวกของทอด ๆ ของมัน ๆ  ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดเซลลูไลท์สะสมที่ต้นขาได้เช่นกัน
  • ชอบทานอาหารที่มีรสชาติเค็มจัด  การทานรสเค็มไม่ผิด แต่หากทานมากเกินไปก็จะทำให้ต้นขาขยายใหญ่ขึ้น! เพราะการรับประทานอาหารที่มีรสเค็มมากๆ จะทำให้ตัวบวมหน้าบวมแขนบวม โดยเฉพาะขาที่อาจจะมีเซลลูไลท์ไปสะสมอยู่เป็นจำนวนมากได้
  • ละเลยการนวดต้นขา หลายคนอาจจะงงว่าการไม่นวดต้นขาเกี่ยวกับอะไรกับการทำให้ต้นขาเกิดเซลลูไลท์สะสมด้วย ซึ่งก็ต้องบอกเลยว่าเกี่ยวอย่างแน่นอน เพราะในหนึ่งวันเราจะต้องเดินกันหลายร้อยก้าว ทำให้น้ำหนักส่วนมากถ่ายเทไปยังต้นขาจนทำให้ต้นขาใหญ่ขึ้นในที่สุด
  • ดื่มน้ำเปล่าน้อย การดื่มน้ำน้อยเกินไปก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ขาใหญ่เกิดเซลลูไลท์สะสมได้เหมือนกัน
อาหารลดต้นขา
อาหารลดต้นขา

3.การเลือกกินอาหารช่วยได้

เมื่อรู้ถึงสาเหตุกันแล้ว และ 3 สาเหตุหลักก็คือการกินอาหารที่ผิดวิธีนั่นเอง ดังนั้น การเปลี่ยนพฤติกรรมการกินเป็นสิ่งแรกที่จะช่วยให้ต้นขาของคุณนั้นกระชับและลดการสะสมของไขมันลดลงได้ ดังนี้

  • อาหารรสจัดทำให้ไขมันสะสมได้ เนื่องจากการปรุงอาหารให้มีรสจัดนั้นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือความเค็มจากน้ำปลาหรือเกลือ ที่จะส่งผลต่อการมีโซเดียมในร่างกายมากขึ้น ทำให้ร่างกายของเรากักเก็บไขมันส่วนเกินมากขึ้น ดังนั้นการเลือกกินอาหารที่ไม่ต้องปรุงรสจัดมาก จึงจะเป็นผลดีต่อร่างกายมากกว่า
  • อาหารที่มีโพแทสเซียมสูงช่วยปรับสมดุลร่างกายได้ดี เช่น โยเกิร์ต ผลไม้รสเปรี้ยว กล้วย มันฝรั่ง แคนตาลูป มะเขือเทศ ผักใบเขียวทุกชนิด จะช่วยปรับสมดุลน้ำในร่างกายและไม่มีไขมันด้วย
  • หลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสหวาน เช่น เค้ก น้ำอัดลม ช็อกโกแลต แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องเลิกกินของพวกนี้เด็ดขาด แต่ควรกินให้น้อยลงและในปริมาณที่เหมาะสมจะเป็นผลดีต่อร่างกายของคุณ
  • การดื่มน้ำอย่างเพียงพอในแต่ละวัน จะช่วยให้เซลล์ต่างๆ ในร่างกายทำงานได้อย่างเป็นปกติ และยังช่วยให้ร่างกายขับของเสียได้ดีขึ้น

4. การออกกำลังกายแบบแอโรบิคเพื่อลดต้นขา

การออกกำลังกายชนิดนี้เป็นอีก 1 วิธีลดต้นขา และยังจะช่วยให้หัวใจแข็งแรง เสริมสร้างกล้ามเนื้อสะโพกและกล้ามเนื้อขา และมีสุขภาพที่ดีขึ้น โดยสามารถทำได้ ดังนี้

  • การเดิน หากใครชอบเดินก็ช่วยได้เช่นกัน เนื่องจากขณะที่เราเดินกล้ามเนื้อขาจะได้ทำงาน ทำให้ต้นขาของเรากระชับขึ้น ไม่เชื่อก็ลองทำดูสัก 1-2 เดือน แต่การเดินไม่ควรจะน้อยกว่า 30 นาที (เน้นเดินนะคะไม่ใช่วิ่ง)
  • ขึ้นลงบันได สำหรับผู้ที่ไม่มีเวลาออกกำลังกาย ก็อาจลองใช้วิธีนี้ดูก็ได้ เพราะเป็นท่าที่สามารถทำได้ทุกที่และทุกเวลา โดยมีรายงานว่าการเดินขึ้นลงบันไดเฉลี่ยวันละ 2 ชั้น สามารถช่วยลดน้ำหนักได้ 2.7 กิโลกรัมใน 1 ปี โดยการเดินขึ้นบันไดจะสามารถช่วยเผาผลาญพลังงานได้ถึง 8-11 กิโลแคลอรีต่อนาที ซึ่งมากกว่าการออกกำลังกายทั่วไป ส่วนการเดินลงบันไดจะใช้พลังงานประมาณ 1 ใน 3 ของการเดินขึ้นบันได
  • กระโดดเชือก เป็นอีกวิธีออกกำลังกายที่สามารถช่วยลดไขมันบริเวณต้นขาได้ โดยกระโดดเพียงต่ำ ๆ สูงจากพื้นไม่เกิน 1-2 นิ้ว โดยที่จะใช้ข้อเท้า กล้ามเนื้อน่อง รวมถึงการงอเข่าเล็กน้อยเพื่อช่วยดูดซับแรงกระแทกลงได้อีกส่วนหนึ่ง การกระโดดแบบผิด ๆ ด้วยการกระโดดสูงเกินไปจะทำให้มีโอกาสทำให้เข่าพังจากแรงกระแทกที่สูงเกินไปได้
  • ปั่นจักรยานลดต้นขา อีกหนึ่งวิธีลดเซลลูไลท์ต้นขา เพียงแค่คุณปั่นจักรยานหรือจักรยานไฟฟ้าแบบเร็ว ๆ โดยใช้เกียร์เบา ๆ ก็สามารถช่วยเผาผลาญไขมันและเซลลูไลท์บริเวณต้นขาได้ แต่มีข้อควรระวังคือห้ามใช้เกียร์หนักและปั่นช้า เพราะจะทำให้เกิดกล้ามเนื้อเป็นมัด ๆ และจะยิ่งทำให้ขาใหญ่เพิ่มขึ้นไปอีก

ทั้งนี้ ควรออกกำลังกายแบบแอโรบิกให้ได้อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ครั้งละ 20 นาทีหรือมากกว่านั้น โดยทำกิจกรรมดังกล่าวต่อเนื่องกันอย่างน้อยวันละ 30 นาที หรือประมาณสัปดาห์ละ 150 นาที รวมทั้งหาโอกาสเคลื่อนไหวร่างกายอย่างสม่ำเสมอค่ะ

ออกกำลังกายลดต้นขา
ออกกำลังกายลดต้นขา

5. 4 ท่าออกกำลังกายลดต้นขา

การออกกำลังแบบเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ (Strenght Training) เป็นอีก 1 วิธีที่จะช่วยลดต้นขา ให้ต้นขาที่ย้วย ๆ กลับมากระชับด้วยกล้ามเนื้อแทน  การออกกำลังแบบฝึกกล้ามเนื้อเน้นออกกำลังด้วยจำนวนครั้งที่มากแต่ใช้น้ำหนักของอุปกรณ์ในการฝึกน้อย ซึ่งต่างจากการยกน้ำหนักที่ต้องการสร้างกล้ามเนื้อให้มีขนาดใหญ่ โดยท่าฝึกกล้ามเนื้อต้นขา มีดังนี้

  • สควอท (Squat) ยืนตรง แยกขากว้างเท่าช่วงไหล่ ปล่อยแขนไว้ข้างลำตัวหรือยื่นแขนออกไปข้างหน้าเพื่อช่วยทรงตัว จากนั้นย่อเข่าพร้อมกับดันสะโพกไปด้านหลัง โดยให้ต้นขาทำมุมขนานกับพื้น ไม่งอหลังและไม่ย่อเข่าจนหัวเข่าเลยปลายเท้า ทำเช่นนี้เซตละ 15-24 ครั้ง จำนวน 2 เซต
  • ท่าบริหารกล้ามเนื้อต้นขา (Lunges) เตรียมพร้อมในท่ายืนก้าวขาขวาไปข้างหน้าห่างจากขาซ้ายพอประมาณ จากนั้นงอเข่าลงจนขาทั้ง 2 ข้างทำมุมตั้งฉากกับพื้น ทิ้งน้ำหนักลงที่ส้นเท้า หลังตรง แล้วกลับมาอยู่ในท่าเริ่มต้น ทำเช่นนี้เซตละ 15-24 ครั้ง จำนวน 1 เซต แล้วสลับทำอีกข้างในจำนวนครั้งที่เท่ากัน
  • ท่าสะพาน (Bridges) นอนหงายราบไปบนพื้น ชันเข่าขึ้นมาให้ส้นเท้าชิดกับก้น โดยแยกเท้าให้ห่างเท่ากับความกว้างของช่วงไหล่ จากนั้นยกสะโพกขึ้นมาจนลำตัวเป็นเส้นตรงตลอดแนว พร้อมกับเกร็งท้องและก้นไว้ ไม่ควรให้หัวเข่าหันออกด้านข้าง ทำเช่นนี้เซตละ 15-20 ครั้ง จำนวน 2 เซต
  • ท่าบริหารต้นขาด้านใน (Lying Abduction) นอนตะแคงข้าง ตั้งศอกและใช้มือรองศีรษะ ขยับขาที่อยู่ข้างล่างไปข้างหน้าแล้วงอประมาณ 45 องศา เพื่อช่วยทรงตัว จากนั้นยกขาข้างที่อยู่ด้านบนขึ้นมาให้ห่างจากขาอีกข้างประมาณ 1 นิ้ว โดยเหยียดขาขนานกับพื้นและชี้ปลายเท้าเป็นแนวตรง ไม่หันปลายเท้าขึ้นข้างบน แล้วค่อย ๆ ลดขาลงโดยไม่ให้แตะขาที่อยู่ด้านล่าง ทำซ้ำประมาณ 10-15 ครั้ง และสลับทำเช่นนี้อีกข้าง

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับ 4 ท่า 5 วิธีลดต้นขา ที่ทีมแม่ ABK เอามาฝาก สรุปแล้ว การลดต้นขาสามารถเริ่มต้นทำได้ด้วยตัวคุณเองและต้องใช้ความอดทนอย่างมากในการควบคุมอาหารและการออกกำลังกายอย่างถูกวิธี การมีวินัยในการใช้ชีวิตจะช่วยให้คุณมีสุขภาพร่างกายที่ดียิ่งขึ้น สำหรับเรื่องไขมันที่ต้นขาควรหลีกเลี่ยงการทำศัลยกรรม เช่น การดูดไขมันหรือฉีดสารต่างๆ เข้าสู่ร่างกายเพราะจะได้ผลเพียงระยะสั้นๆ เท่านั้น การออกกำลังกายและควบคุมอาหารจะเป็นผลดีในระยะยาวมากกว่า

อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

เมนู อาหารลดน้ำหนัก แม่หลังคลอดผอมไว..ได้คุณค่า

เทคนิคลดน้ำหนักหลังคลอด ฉบับญี่ปุ่น สุดง่าย เห็นผลใน 5 วัน

แนะนำเมนูสำหรับคุณแม่หลังคลอด ลดอาการเจ็บปวด+ฟื้นฟูร่างกาย+กระตุ้นน้ำนม

หลังคลอด ต้อง “อยู่ไฟ” ไหม?

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : กรมอนามัย, www.sanook.com, www.pobpad.com, medthai.com

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

กรมควบคุมโรคเปิดสถิติ 4 โรคมาแรง มาแน่ โรคปี 65 นอกจากโควิด

Alternative Textaccount_circle
event

คุณแม่ต้องระวัง!! กรมควบคุมโรคเปิดเผยว่าในปี 2565 นี้ มี 4 โรคที่แนวโน้มผู้ป่วยมีจำนวนมากขึ้น แล้ว 4 โรคปี 65 นี้ มีอะไรบ้าง ทีมแม่ ABK สรุปมาให้แล้วค่ะ

กรมควบคุมโรคเปิดสถิติ 4 โรคมาแรง มาแน่โรคปี 65 นอกจากโควิด

จากการแถลงของกรมควบคุมโรค เกี่ยวกับการพยากรณ์โรคภัยไข้เจ็บ ภัยสุขภาพ ภัยจากโรคติดต่อประจำปี 2565 ว่าในปี 2565 นี้ ภัยคุกคามจากการระบาดของโรคโควิด – 19 ยังมีอยู่ แต่คาดว่าจำนวนผู้ติดเชื้อจะลดลง หากไม่มีสายพันธุ์อื่นเพิ่มเติม สาเหตุจากคนไทยฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นตามเป้าหมาย ขณะนี้ฉีดไปได้ประมาณ ร้อยละ 20 หากทำได้จะสามารถควบคุมสถานการณ์การติดเชื้อรายใหม่ได้ แต่ต้องไม่มีการกลายพันธุ์เพิ่มเติม หากมีการกลายพันธุ์หรือเหตุการณ์ใหม่ ๆ เกิดขึ้น ก็จะมีการพยากรณ์โรคขึ้น

โรคปี 65
กรมควบคุมโรคเปิดเผยว่าในปี 2565 นี้ มี 4 โรคที่แนวโน้มผู้ป่วยมีจำนวนมากขึ้น

 

4 โรคมาแรง โรคปี 65 ที่คุณแม่ต้องระวัง

นอกจากโควิด -19 แล้วยังมีภัยจากโรคภัยไข้เจ็บ และภัยสุขภาพอื่น ๆ ที่คุกคามคนไทย ที่ควรระมัดระวัง 4 โรคในปี 65 ได้แก่ โรคไข้หวัดใหญ่ โรคไข้เลือดออก อุบัติเหตุทางถนน และ ตกน้ำจมน้ำ ดังนี้

1. โรคไข้หวัดใหญ่

ปี 2565 นี้ คาดว่าจะมีผู้ป่วยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า รวมเป็น 22,817 ราย ในช่วงฤดูฝน หรือ ช่วงปลายฝนต้นหนาว แต่การสวมหน้ากากอนามัย นอกจากป้องกันโควิดแล้ว ยังป้องกันไข้หวัดธรรมดา และไข้หวัดใหญ่ได้ด้วย ซึ่งช่วงต้นปีนี้ การสวมหน้ากากอนามัยยังเข้มงวดดีอยู่ แต่ในช่วงปลายปี หากการสวมหน้ากากอนามัยลดลง การระบาดของไข้หวัดใหญ่ก็อาจเพิ่มขึ้นได้

2. โรคไข้เลือดออก

ในปี 2565 นี้ โรคไข้เลือดออกจะระบาดเพิ่มขึ้น และจะมีผู้ป่วยประมาณ 85,000 ราย โดยปกติแล้ว ไข้เลือดออกจะระบาดปีเว้นปี หรือปีเว้น 2 ปี ซึ่งตอนนี้ถึงวงจรต้องระบาดรอบใหม่ เนื่องจากภูมิคุ้มกันของคนไทย 2 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีผู้ติดเชื้อน้อย ภูมิคุ้มกันจึงน้อย บวกกับกิจกรรมทางสังคมจะเพิ่มขึ้นด้วย โดยจำนวนผู้ป่วยจะเพิ่มสูงในเดือนมิถุนายน-สิงหาคม 2565 และจะพบผู้ป่วยมากที่สุด ในเดือนกรกฎาคม จำนวน 13,769 ราย

ตอนนี้เริ่มมีการรณรงค์ป้องกันไข้เลือดออกขึ้นแล้ว เพราะมีรายงานผู้เสียชีวิตจากไข้เลือดออกรายแรกของไทยในปี 2565 แล้ว ซึ่งเป็นผู้ใหญ่

 

 

 

โรคปี 65
ไข้เลือดออก เป็นอีก 1 โรคที่มาแรงแน่ในปี 65
 
3. อุบัติเหตุทางถนน
ในปี 2564 มีจำนวนผู้เสียชีวิต จากอุบัติเหตุทางถนนค่อนข้างน้อย เนื่องจากการที่เราต้องอยู่ที่บ้านมากขึ้น ไม่ค่อยได้ออกไปไหน แต่ปี 2565 คาดว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจะมากขึ้น โดยอยู่ที่ 1.7 หมื่น –  2 หมื่นราย หรือมากกว่านั้น ดังนั้น มาตรการการรณรงค์ การบังคับใช้กฎหมาย การร่วมมือกันปฏิบัติตามวินัยจราจรจะช่วยได้ ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าผู้เสียชีวิตสูงสุดจะอยู่เดือนมีนาคม และเดือนธันวาคม
 
4. เด็กจมน้ำ
ในปี 2564 พบรายงานเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี เสียชีวิตจากการจมน้ำ น้อยลง จากเดิมปีละ 1 พันกว่าราย แต่ปีที่ผ่านมา มีจำนวนเพียง 500 กว่าราย เหตุผลเพราะเมื่อมีโควิด-19 ทำให้เด็กอยู่บ้านมากขึ้น ไม่มีการชวนไปเล่นน้ำ ทำให้ตัวเลขการตกน้ำ จมน้ำลดลง แต่ใน ปี 2565 นี้ โรงเรียนจะเปิดการเรียนการสอนที่โรงเรียนมากขึ้น มีกิจกรรมต่าง ๆ มากขึ้น จึงคาดการณ์ว่าเดือนมีนาคม-เมษายน อาจจะมีเด็กตกน้ำ จมน้ำมากขึ้น

ภัยอันตรายที่จะเกิดกับคุณแม่และลูก ๆ มีอยู่รอบตัวจริง ๆ นะคะ อย่าลืมว่านอกจากโรคโควิด -19 แล้ว ยังมีภัยทางสุขภาพอื่น ๆ ที่ต้องระวังอีกมาก ขอให้คุณแม่ดูแลลูก ๆ อย่างไม่ประมาทค่ะ

 

ขอบคุณข้อมูลจาก

มติชน ออนไลน์, MGR Online

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

พ่อแม่ต้องรู้! 10 ความแตกต่าง อาการไข้เลือดออก vs อาการโควิด 19

อุทาหรณ์ เด็กจมน้ำ อุบัติเหตุอันดับต้น ๆ ที่เกิดกับลูกหลาน

ระวัง ไข้หวัดใหญ่ในเด็ก หวั่นระบาดซ้อนโควิด

 

 

คนท้องท้องผูก

ไขข้อข้องใจ คนท้องท้องผูก เกิดจากอะไร รับมืออย่างไรให้ปลอดภัยทั้งแม่และลูก

event
คนท้องท้องผูก
คนท้องท้องผูก

คนท้องท้องผูก ทำไงดี? “ปัญหาท้องผูก” ขณะตั้งครรภ์” สาเหตุเกิดจากอะไร กินยาระบายได้ไหม วิธีการแก้อาการท้องผูกในหญิงตั้งครรภ์ ต้องทำอย่างไร เพื่อให้ปลอดภัยทั้งแม่และลูก ทีมแม่ ABK มีคำตอบจากคุณหมอนิวัฒน์ มาฝากค่ะ

Q1. คนท้องท้องผูก ท้องผูกขณะตั้งครรภ์มีสาเหตุมาจากอะไร?

ท้องผูก คือ อาการที่ขับถ่ายอุจจาระ น้อยกว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์และมีอุจจาระที่มีลักษณะแข็ง (เป็นก้อนกลมๆเล็กๆ คล้ายลูกกระสุนดิน) หรือถ่ายยาก (ต้องเบ่งถ่าย) อาจมีอาการท้องอืดท้องเฟ้อร่วมด้วย ในหญิงตั้งครรภ์ในประเทศไทยพบอาการท้องผูกได้ถึงร้อยละ 40 ในช่วงตั้งครรภ์ และ สูงถึงร้อยละ 50 ในช่วงหลังคลอด

สาเหตุทั่วไปของอาการท้องผูกในขณะตั้งครรภ์  ได้แก่

  1. การรับประทานอาหารประเภทกากเส้นใย หรือไฟเบอร์ไม่เพียงพอ
  2. การดื่มน้ำในปริมาณที่ไม่เพียงพอ หญิงตั้งครรภ์หลายคนไม่ค่อยดื่มน้ำ หรือดื่มน้ำน้อยกว่าปกติเพราะกลัวว่าจะปัสสาวะบ่อย
  3. การใช้ยาบางชนิด โดยเฉพาะยาที่ใช้ในขณะตั้งครรภ์ เช่น ยาบำรุงเลือดซึ่งมีธาตุเหล็กเป็นส่วนประกอบ และยาแคลเซี่ยม ยาแก้ปวด รวมถึงยาที่ใช้รักษาภาวะกรดไหลย้อน (Heartburn) กลุ่มแอนตาซิด (Antacid) ทำให้เกิดอาการท้องผูกได้มากขึ้น
  4. การเปลี่ยนแปลงกิจวัตรประจำวัน เช่น การเดินทาง หรือความรีบเร่งต่างๆ ทำให้ไม่มีเวลาในการเข้าห้องน้ำให้เป็นเวลา จะเข้าห้องน้ำในลักษณะปวดแล้วค่อยเข้า และกลั้นเมื่อไม่อยากเข้า เช่น เมื่อเห็นห้องน้ำไม่สะอาด การกลั้นทำให้อุจจาระค้างอยู่ในทางเดินอาหารนานกว่าปกติ  ซึ่งจะถูกถูกดูดน้ำออกจากตัวอุจจาระกลับเข้าสู่ร่างกาย อุจจาระจึงมีลักษณะแห้งและแข็งขึ้นเรื่อยๆ
  5. ระดับฮอร์โมนที่เพิ่มขึ้นในระหว่างตั้งครรภ์ เช่น ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน (Progesterone) ทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานช้าลง (Reduce gastric motility) อาหารอยู่ในทางเดินอาหารเป็นเวลานานกว่าคนปกติ
  6. การที่มดลูกมีขนาดใหญ่ขึ้นในช่วงท้ายของการตั้งครรภ์ หรือบางรายอาจมีเนื้องอกมดลูกขณะตั้งครรภ์ เป็นสาเหตุที่ทำให้ลำไส้อาจถูกกดเบียดจนเคลื่อนไหวไม่สะดวก

Q2. ภาวะท้องผูกส่งผลเสียกับตัวแม่ท้อง และทารกในครรภ์อย่างไรบ้าง?

อาการท้องผูกระหว่างตั้งครรภ์ไม่ค่อยเป็นอันตราย แม้ว่ามันจะทำให้คุณแม่ตั้งครรภ์รู้สึกไม่สุขสบาย แต่ก็ไม่ทำให้เกิดอันตรายแต่ทารกในครรภ์  ยกเว้นในรายที่มีอาการท้องผูกอย่างรุนแรงจนเกิดเป็นริดสีดวงทวารหนัก (hemorrhoids: เส้นเลือดดำทวารหนัก เกิดอาการบวมพองหรือยืดตัว มีอาการยื่นนูนเป็นติ่งออกมาจากทวารหนัก) ทำให้มีการขับถ่ายออกมาเป็นเลือดได้ ซึ่งถ้าเลือดออกมาก คนไข้เสียเลือดมากจะเกิดภาวะซีด อาจส่งผลต่อการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ได้ นอกจากนี้  อาการท้องผูกถ้าเกิดร่วมกับอาการอื่น เช่น  มีอาการปวดท้องร่วมด้วยอย่างรุนแรง การ มีเลือด หรือมูกเลือดออกมากับอุจจาระด้วย หรืออาการท้องเสียสลับกับท้องผูก อาจเป็นสัญญาณของปัญหาอื่น เช่น โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ ดังนั้นถ้ามีอาการท้องผูกนานมากกว่า 2 สัปดาห์ ร่วมกับอาการปวดท้อง หรือคลื่นไส้ อาเจียน หรือมีเลือดออกขณะถ่าย หรืออาการไม่ดีขึ้นหลังการรักษาด้วยยาแล้ว  ควรรีบมาปรึกษาแพทย์ เพราะบางรายก้อนอุจจาระแข็งอัดแน่นจนเกิดภาวะอุดกั้นของลำไส้ (fecal impaction)ไม่สามารถถ่ายออกมาได้เอง แพทย์หรือพยาบาลอาจต้องช่วยในการล้วงเอาก้อนอุจจาระออกให้กับคนไข้ (Digital removal of faeces)

Q3. ท้องผูกถ่ายไม่ออกทำให้ต้องเบ่งเวลานั่งถ่าย จะเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์หรือไม่?

ไม่เป็นอันตรายต่อทารก สามารถเบ่งได้ แต่ต้องระมัดระวังในคุณแม่ท้องบางราย ที่มีความผิดปกติของปากมดลูก เช่น รายที่มีปากมดลูกสั้น หรือปากมดลูกปิดไม่สนิท โดยเฉพาะอายุครรภ์เข้าสู่ไตรมาสที่ 2-3 หรือท้องเริ่มใหญ่แล้ว อาจมีภาวะมดลูกบีบตัว ทำให้ศีรษะทารกลงไปในอุ้งเชิงกราน เมื่อศีรษะทารกอยู่ในระดับต่ำ อาจทำให้คุณแม่ตั้งครรภ์ รู้สึกปวดหน่วงที่ก้น เหมือนอาการปวดถ่าย เมื่อเข้าไปเบ่งถ่าย อาจทำให้เกิดภาวะทารกหลุดออกมาได้ แต่เหตุการณ์ดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย และมักต้องมีการบีบตัวของมดลูก หรืออาการท้องแข็งเป็นปั้น ในจังหวะที่สม่ำเสมอร่วมด้วย แต่สิ่งที่มักจะตามมาจากการที่คุณแม่ตั้งครรภ์นั่งในห้องส้วมเป็นเวลานาน คือ อาการของโรคริดสีดวงทวาร

คนท้องท้องผูก

Q4. คนท้องที่มีอาการท้องผูก กินยาระบายได้หรือไม่?

คนท้องสามารถใช้ยาระบายได้ โดยยาที่ใช้แนะนำในกลุ่มดังต่อไปนี้

  1. กลุ่มยาระบายออกฤทธิ์เพิ่มปริมาณอุจจาระ (Bulk-forming agents)  เป็นยาระบายที่ไม่ดูดซึมเข้าร่างกาย แต่ทำงานโดยการดูดซับน้ำเข้ามาเพิ่มในลำไส้ได้มากขึ้น ซึ่งจะทำให้อุจจาระมีขนาดใหญ่ขึ้น เป็นก้อน และ นุ่มขึ้น  และกระตุ้นให้ลำไส้ใหญ่เกิดการบีบตัว และถ่ายอุจจาระได้ง่ายขึ้น ดังนั้น ยาระบายประเภทนี้อาจทำให้มีอาการปวดท้องได้ ดังนั้นควรเริ่มด้วยขนาดยาที่ต่ำที่สุดและดื่มน้ำมาก ๆ  ยาระบายในกลุ่มนี้ เช่น Metamucil, Mucillin และ Agiolax  เหมาะสำหรับใช้ในผู้ป่วยที่มีอาการท้องผูกไม่รุนแรง
  2. ยาที่ทำให้อุจจาระนุ่ม (Stool softeners)  เป็นยาที่จะช่วยในการเติมน้ำลงในอุจจาระ เพื่อช่วยให้อุจจาระนุ่มและถ่ายได้สะดวก อาจใช้เวลาหนึ่งถึงสามวันกว่าที่อุจจาระจะอ่อนตัวลง ดังนั้นยากลุ่มนี้ มักจะไม่ช่วยบรรเทาอาการท้องผูกได้อย่างรวดเร็ว ตัวอย่างยาในกลุ่มนี้  เช่น  ด็อกคูเสทโซเดียม (Docusate Sodiam) และด็อกคูเสทแคลเซียม (Docusate Calcium) หรือชื่อทางการค้า เช่น Colace, Dialose, Surfak
  3. ยาที่ช่วยหล่อลื่นอุจจาระ (Lubricant laxatives) เป็นยาที่กระตุ้นให้ลำไส้เคลื่อนไหว โดยการเพิ่มสารเคลือบลื่นไปที่อุจจาระหรือด้านในของลำไส้ เพื่อช่วยขับอุจจาระได้สะดวกขึ้น ยากลุ่มนี้ ได้แก่ mineral oil และ glycerin suppository (การเหน็บกลีเซอรีน) ยากลุ่มนี้ ไม่ควรใช้เป็นระยะเวลานาน เพราะตัวยาจะไปรบกวนการดูดซึมวิตามิน A, D, E, K ของร่างกาย
  4. ยาที่ดูดน้ำกลับเข้ามาในลำไส้ (Osmotic laxatives) ยาในกลุ่มนี้ออกฤทธิ์โดยการดึงน้ำเข้าไปในลำไส้มากขึ้น  ช่วยให้อุจจาระนิ่ม ขับถ่ายได้สะดวกขึ้น  ช่วยให้ลำไส้หดตัวมากขึ้นเพื่อเคลื่อนอุจจาระไปพร้อมกัน ยาระบายประเภทนี้อาจทำให้เกิดอาการปวดท้องและท้องอืดได้  ตัวอย่างยาในกลุ่มนี้ เช่น  lactulose, milk of magnesia (MOM), Polyethylene glycol (PGE)
  5. ยากระตุ้นการบีบตัวของลำไส้ (Stimulant laxative) ยากลุ่มนี้กระตุ้นการเคลื่อนไหวของลำไส้โดยตรง โดยออกฤทธิ์ กระตุ้นการบีบตัวของกล้ามเนื้อที่ผนังลำไส้ ยาในกลุ่มนี้ ควรพิจารณาใช้เมื่อจำเป็นจริงๆ เนื่องจากเมื่อใช้ไปนานๆอาจทำให้เกิดความเคยชินของลำไส้ เมื่อไม่ใช้ยา อาจทำอาการท้องผูกเป็นมากขึ้นได้ และยาอาจกระตุ้นการบีบตัวของกล้ามเนื้อมดลูกได้ (ทำให้เกิดภาวะมดลูกบีบตัวก่อนกำหนดคลอด) ยาในกลุ่มนี้ได้แก่ senokot และ dulcolax (bisacodyl)

จากยาในกลุ่มดังกล่าว  ยาที่ทำให้อุจจาระนุ่ม  (Stool softeners: กลุ่มที่ 2) เป็นกลุ่มที่ค่อนข้างปลอดภัย แต่ต้องอาศัยเวลาในการออกฤทธิ์  กลุ่มยาที่ดูดน้ำกลับเข้ามาในลำไส้  (Osmotic laxatives: กลุ่มที่ 4)และ กลุ่มยาระบายออกฤทธิ์เพิ่มปริมาณอุจจาระ (Bulk-forming  agents: กลุ่มที่ 1) จึงนิยมใช้กว้างขวางกว่า และพยายามหลีกเลี่ยงการใช้ในกลุ่ม ยากระตุ้นการบีบตัวของลำไส้ (Stimulant laxative: กลุ่มที่ 5) เนื่องจากมีผลข้างเคียงสูง

Q5. วิธีแก้อาการท้องผูกขณะตั้งครรภ์ แบบปลอดภัย ไม่เป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์

คุณสามารถช่วยป้องกันอาการท้องผูกได้โดย :

  1. ดื่มน้ำเยอะๆ อย่างน้อย 8 – 12 แก้วต่อวัน  น้ำผักหรือน้ำผลไม้และน้ำซุปโซเดียมต่ำช่วยให้อุจจาระนิ่มและถ่ายได้ง่ายขึ้น น้ำลูกพรุน เป็นยาระบายอ่อนๆ ทำให้ขับถ่ายได้ง่ายขึ้น
  2. กินอาหารไฟเบอร์อย่างน้อย 25-30 กรัมต่อวัน เช่น ผัก ผลไม้ ถั่ว และธัญพืชไม่ขัดสี ขนมปังโฮลเกรน หลีกเลี่ยงธัญพืชขัดสี เช่น ขนมปังขาว ข้าวขาว ธัญพืชขัดสี และพาสต้าที่มีเส้นใยอาหารต่ำและอาจทำให้ท้องผูกได้ ปรับพฤติกรรมการทานอาหารเป็นมื้อเล็กๆ หลายๆ  จะทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น
  3. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ การออกกำลังกายปานกลาง เช่น การเดิน ว่ายน้ำ และช่วยกระตุ้นการขับถ่าย อย่างน้อย 20 ถึง 30 นาที สามครั้งต่อสัปดาห์
  4. อย่ากลั้นอุจจาระ เข้าห้องน้ำเมื่อรู้สึกอยากถ่าย หรือฝึกการขับถ่ายให้เป็นเวลา
  5. เพิ่มอาหารที่มีโพรไบโอติกส์ (Probiotics) โพรไบโอติกส์ คือ จุลินทรีย์มีประโยชน์ที่อาศัยอยู่ภายในร่างกายมนุษย์ Acidophilus หรือ โปรไบโอติกที่พบใน นมเปรี้ยว หรือ โยเกิร์ต จะ ช่วยกระตุ้นแบคทีเรียในลำไส้ให้ย่อยอาหารได้ดีขึ้น

การรักษาอาการท้องผูกในหญิงตั้งครรภ์ ควรมุ่งเน้นที่การปรับพฤติกรรมเรื่องการทานน้ำและอาหารเป็นหลัก โดยพยายามใช้ยาต่างๆให้น้อยที่สุดเท่าที่จำเป็น เพราะยาบางชนิดอาจมีผลข้างเคียงเมื่อใช้ในปริมาณที่มากเกินไป หรือนานเกินไปได้ และควรเน้นที่การป้องกันไม่ให้มีอาการท้องผูกเกิดขึ้น โดยการปฏิบัติตัวที่ถูกต้อง ดีกว่าการปล่อยให้มีอาการหรือเกิดโรคแล้วค่อยให้การรักษา

“It is better to prevent constipation early on rather than wait to treat it later”

 

บทความโดย : นายแพทย์นิวัฒน์ อรัญญาเกษมสุข (สูตินรีแพทย์)
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์มารดาและทารกในครรภ์ พันธุศาสตร์การแพทย์
มหาวิทยาลัย จอห์น ฮอบกิ้น สหรัฐอเมริกา

สำหรับเรื่อง ปัญหา คนท้องท้องผูก ถือเป็นหนึ่งในเรื่องของ HQ  หนึ่งใน 10 ของ Power BQ (Power Baby & Kids Quotients) อาวุธที่ช่วยให้ลูกฉลาดรอบด้าน เพราะเด็กยุคนี้มีแค่ IQ และ EQ นั้นไม่เพียงพออีกต่อไป แต่ยังมี Quotient ต่างๆ ถึง 10Q นั่นคือ “10 ความฉลาด” ที่คุณพ่อคุณแม่ควรส่งเสริมให้ลูกได้ครบไปพร้อมกันนั่นเอง ทั้งนี้ HQ หรือ Health Quotient  คือ ความฉลาดในการดูแลรักษาสุขภาพ
ซึ่งคนที่มี HQ ดี จะรู้จักดูแลสุขภาพของตัวเองให้ดีเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง เช่น กินอาหารที่ดี ครบ 5 หมู่ ขับถ่ายดี ได้ออกกำลังกายสม่ำเสมอ นอนพักผ่อนให้เพียงพอ ดูแลรักษาความสะอาดร่างกายของตัวเอง ฯลฯ สำหรับเด็กเล็กเราอาจจะยังไม่เห็นพัฒนาการด้านนี้ชัดเจน แต่คุณพ่อคุณแม่สามารถเริ่มปลูกฝังและใส่ใจเรื่องสุขภาพ การดูแลร่างกายในการทำกิจวัตรประจำวันได้ทุกวัน เพื่อให้ลูกซึมซับและดูแลใส่ใจสุขภาพตัวเอง ซึ่งก็จะเป็นการสร้าง HQ ที่ดีในตัวลูกได้ ยิ่งในปัจจุบันโรคภัยไข้เจ็บมีเยอะขึ้น โรคใหม่ๆ แปลกๆ เชื้อโรคที่พัฒนาขึ้นจาก สภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง และมลภาวะต่างๆ เราจึงต้องสอนให้ลูกของเราฉลาดใส่ใจดูแลสุขภาพให้แข็งแรง และมีภูมิคุ้มกันต่อโรคภัยต่างๆ รอบตัว เพราะการไม่มีโรค คือลาภอันประเสริฐนั่นเองค่ะ

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

อ่านต่อบทความอื่นน่าสนใจ

คนท้องกินยาพาราได้ไหม คนท้องกินยาอะไรได้บ้าง ยาที่คนท้องห้ามกิน มีอะไรบ้างเช็กเลย!

หมอตอบชัดทุกข้อ! 10 ปัญหาสุขภาพที่แม่ต้องเจอ? ทั้ง ปัญหาคนท้อง และหลังคลอดลูก

แม่ท้องต้องรู้!! “ลูกดิ้น” บอกอะไรได้มากกว่าที่คุณคิด?

checklist เตรียมของก่อนคลอด ยังไงไม่บานปลายได้ของครบ

รักษาผู้มีบุตรยาก ฟรี

แม่เตรียมเฮ! ผลักดันสิทธิ์ รักษาผู้มีบุตรยาก ฟรี

Alternative Textaccount_circle
event
รักษาผู้มีบุตรยาก ฟรี
รักษาผู้มีบุตรยาก ฟรี

คุณแม่ที่มีลูกยาก อยากมีลูกมานานแต่ไม่สมหวังสักที เตรียมเฮได้เลยค่ะ เพราะภาครัฐกำลังผลักดันการ รักษาผู้มีบุตรยาก ฟรี นับเป็นข่าวดีสำหรับหลายคนที่มีบุตรยากนะคะ

แม่เตรียมเฮ! ผลักดันสิทธิ์ รักษาผู้มีบุตรยาก ฟรี

เนื่องจากปัจจุบันประเทศไทยมีเด็กเกิดใหม่ลดลงต่อเนื่องมาหลายปี จนเมื่อปี 2564 จากผลสำรวจพบว่ามีเด็กเกิดใหม่อยู่ที่ 544,000 คน ซึ่งต่ำที่สุดในรอบ 10 ปี  ซึ่งจะส่งผลเสียต่อประเทศในหลายด้าน หลายหน่วยงานจึงมีแนวทางเพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหา นั่นคือ ขับเคลื่อนเพื่อให้ ภาวะมีบุตรยาก เป็นสิทธิประโยชน์ในหลักประกันสุขภาพภาครัฐ โดยให้ราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทยจัดทำแนวทางในครั้งนี้ นอกจากนี้  และอาจจะพิจารณาใช้พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ พ.ศ.2558  หรือพ.ร.บ.อุ้มบุญ ในการสนับสนุนครอบครัวกลุ่มหลากหลายทางเพศในการมีบุตรหากมีความพร้อม

รักษาผู้มีบุตรยาก ฟรี
แม่เตรียมเฮ! ผลักดันสิทธิ์ รักษาผู้มีบุตรยาก ฟรี

รักษาผู้มีบุตรยาก ฟรี เพื่อลดปัญหาระดับชาติ

ศ.นพ.กำธร พฤกษนานนท์ ประธานคณะอนุกรรมการเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ ราชวิทยาสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย  กล่าวว่า  การที่อัตราเกิดประชากรไทยลดต่ำ และต่ำลงอย่างรวดเร็วเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน ก็จะเกิดปัญหาระดับชาติขึ้น ได้แก่ ปัญหาเรื่องประชากรติดลบ ทำให้เกิดปัญหากรเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างรวดเร็ว  ปัญหาการหลั่งไหลเข้าของแรงงานข้ามชาติ เพราะไม่มีคนในประเทศทำงานต้องมีคนเข้ามาทำงานแทน ก็จะมีปัญหาเรื่องเศรษฐกิจและสังคมตามมา และปัญหาเรื่องไม่มีใครดูแลคนแก่แล้ว ซึ่งประเทศไทยก็กำลังเข้าสู่จุดนั้นเช่นกัน

WHO ระบุว่าภาวะมีบุตรยาก เป็นโรคชนิดหนึ่ง

ในปัจจุบัน 3 กองทุนประกันสุขภาพภาครัฐทั้งหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) ประกันสังคม และสวัสดิการข้าราชการ ยังไม่ครอบคลุมถึงสิทธิประโยชน์ในการรักษาผู้มีบุตรยากตามสิทธิหลักประกันสุขภาพภาครัฐ เพราะว่าที่ผ่านมามีความเข้าใจผิดว่าภาวะมีบุตรยาไม่ใช่โรค จึงไม่สามารถเบิกค่ารักษาได้ โรงพยาบาลรัฐจึงไม่สามารถเปิดแผนกรักษาผู้มีบุตรยากได้ ทำให้คนไข้ต้องไปเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเอกชนแทน แต่ปัจจุบันองค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุไว้ชัดเจนแล้วว่า ภาวะมีบุตรยาก เป็นโรค ดังนั้น คนไข้ก็จะมีโอกาสเข้ารับการรักษาโรคได้ เป็นการเปิดโอกาสให้คนเข้าถึงบริการ ถ้าหากโรงพยาบาลรัฐบาลสามารถที่จะให้บริการตรงนี้ได้ ค่าใช้จ่ายโดยรวมของคนไข้ก็จะถูกลง

ค่าใช้จ่ายในการรักษาภาวะมีบุตรยาก

ค่าใช้จ่ายในการรักษาภาวะมีบุตรยากนั้นขึ้นอยู่กับสาเหตุ เช่น เรื่องของการติดตามการตกไข่ธรรมดา อยู่ที่ไม่กี่ร้อยบาท เรื่องการแก้ไขฮอร์โมนผิดปกติ หรือเนื้องอกหรือซีสต์ก็มีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น ถ้าจำเป็นต้องมีการผสมเทียม ไอยูไอ อยู่ระดับหลายพัน แต่หากจำเป็นต้องทำเด็กหลอดแก้ว อาจจะอยู่ที่หลักแสนบาท ซึ่งค่าใช้จ่ายส่วนนี้เป็นอัตราในโรงเรียนแพทย์ ไม่ใช่อัตราในโรงพยาบาลเอกชน นอกจากนี้ เนื่องจากปัจจุบันในประเทศไทยยังไม่มีการยอมรับว่าภาวะมีบุตรยากเป็นโรค การเบิกค่ารักษาพยาบาลจึงยังเป็นปัญหา หากมีการเขียนไว้ในบัตรคนไข้นอก หรือเวชระเบียนว่าเป็นผู้มีบุตรยาก ก็ไม่สามารถเบิกค่ารักษาได้เลยค่ะ

การดำเนินการต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 1 ปี

เรื่องแผนการแก้ไขเรื่องสิทธิในการรักษาผู้มีบุตรยากให้ฟรีนั้น ขณะนี้ราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์ฯ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และกรมอนามัยได้ร่างแนวคิดต่าง ๆ แล้ว แต่เนื่องจากมีผู้เกี่ยวข้องมากทั้งในแง่ของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) สำนักงานหลักประกันสังคม (สปส.) และกรมบัญชีกลาง  จึงต้องใช้เวลาและอาจจะต้องดำเนินการเป็นช่วงระยะ ต้องวางเป็นระบบ คาดว่าต้องใช้เวลาในแก้ปัญหามากกว่า 1 ปี แผนงานนี้จึงจะสำเร็จ

เริ่มต้นสิทธิในการรักษาภาวะผู้มีบัตรยากฟรี ที่ สปสช.  

การดำเนินการในระยะแรกอาจจะเริ่มต้นที่ สปสช. สำหรับผู้ป่วยที่อยู่ในสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติหรือบัตรทองก่อน โดยจะระบุให้ชัดเจนว่า ภาวะมีบุตรยากเป็นโรคที่ต้องรับการรักษา และคนไข้คนนี้มีสิทธิที่จะเข้ารับการรักษาเหมือนกับการป่วยโรคอื่น ๆ และเมื่อมีการกำหนดในสิทธิแล้วว่าเป็นโรค โรงพยาบาลรัฐบาลจะได้เปิดหน่วย แนวทาง กระบวนการรักษาผู้มีบุตรยาก คนไข้ผู้มีบุตรยากก็จะมีค่าใช้จ่ายที่ถูกลงไม่ต้องไปรพ.เอกชนก็ เมื่อนำร่องในสิทธิบัตรทองแล้ว ก็จะขยายต่อไปยังสิทธิประกันสังคมและสวัสดิการข้าราชการต่อไปค่ะ

การรักษาผู้มีบุตรยากได้ฟรี ช่วยแก้ปัญหาเด็กไทยเกิดน้อยได้อย่างไร

จากตัวอย่างในต่างประเทศ เช่น กลุ่มประเทศสแกนดิเนเวีย  พบว่าแก้ปัญหาได้จริงเพราะ

1.เป็นการสร้างความตระหนักรู้ว่ามีการให้ความสนใจและความสำคัญกับการเติบเต็มชีวิตคู่หรือครอบครัว

2.อายุเฉลี่ยของคนที่เข้าสู่กระบวนการรักษาลดลงประมาณ 5 ปี โดยอายุเฉลี่ยตอนนี้อยู่ที่ 32 ปี

ขณะที่ปัจจุบันคนไทยกว่าที่จะไปพบแพทย์เพื่อรักษาการมีบุตรยาก จะมีอายุเฉลี่ยที่ 38 ปี ซึ่งช้าไปแล้ว

ปัญหาที่ตามมาจากการพบแพทย์เพื่อรักษาภาวะมีบุตรยากช้า

ปัญหาที่ตามมาของการรักษาตอนอายุมาก คือ เด็กอาจจะเป็นโรคดาวน์ซินโดรม หรือผู้มีบุตรยากอาจมีภาวะแทรกซ้อนระหว่างการตั้งครรภ์ เช่น ตกเลือด ความดันโลหิตสูง เบาหวาน และท้องยาก  ซึ่งทำให้มีค่าใช้จ่ายมาก แต่หากคนไข้รู้ว่ามีสิทธิที่จะรับการรักษาได้ ก็จะทำให้เข้ารับการรักษาเร็วขึ้น อายุเฉลี่ยที่จะเข้ารับการรักษาก็จะน้อยลง ปัญหาเรื่องเด็กผิดปกติ หรือพิการก็น้อยลง ภาวะแทรกซ้อนของการตั้งครรภ์ก็น้อยลง ท้องได้ง่ายขึ้นด้วยค่ะ

รักษาผู้มีบุตรยาก ฟรี
ภาวะการมีบุตรยาก

อุ้มบุญช่วยเพศหลากหลายมีลูก ต้องรอ กม. สมรสเท่าเทียม

กรณีการรักษาผู้มีบุตรยากนี้ ยังครอบคลุมแค่กับคนไข้ที่สามารถตั้งครรภ์เองได้อย่างมีคุณภาพ ในสถานพยาบาลที่ผ่านการตรวจสอบรับรองแล้ว และกรณีที่ไม่สามารถตั้งครรภ์เองได้ตามข้อบ่งชี้ที่ชัดเจนทางการแพทย์ สามารถเข้าสู่ระบบเพื่อให้มีการตั้งครรภ์แทนได้

ส่วนกรณีครอบครัวหลากหลายทางเพศ ในพ.ร.บ.กำหนดไว้ว่า จะต้องดำเนินการในคู่สมรสที่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่ขณะนี้เรื่องการสมรสของเพศเดียวกันในประเทศไทยยังไม่ถูกต้องตามกฎหมาย จึงยังไม่เข้าตามข้อกำหนด แต่หากในอนาคตมีการปรับปรุงกฎหมายคู่สมรสว่าไม่จำเป็นต้องเป็นหญิงชายแล้ว คู่สมรสหลากหลายทางเพศก็สามารถใช้ พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กฯ ฉบับนี้ในการช่วยการมีบุตรได้

สิทธิในการรักษาผู้มีบุตรยาก ฟรี นี้ นับว่าเป็นเรื่องที่สมควรให้มีการผลักดัน เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนประชากร ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อประเทศในหลาย ๆ ด้านนะคะ ท่านใดที่มีบุตรยาก อยากให้ติดตามเรื่องนี้ ทางทีมแม่ ABK จะนำข่าวคราวมาบอกหากมีความคืบหน้าค่ะ

ขอบคุณข้อมูลจาก

กรุงเทพธุรกิจ, MGR Online

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

การรักษาภาวะมีบุตรยากด้วยวิธี ICSI

11 สาเหตุมีลูกยาก อยากมีลูก ทำไมไม่ท้องซักที?

มีบุตรยาก ชี้เป้า 15 ศูนย์รักษาผู้มีบุตรยาก ช่วยสานฝันโอกาสให้ได้เป็นพ่อแม่สมปรารถนา

 

 

ชื่อเท่ๆในเกม

150 ชื่อเท่ๆในเกม พ่อแม่คอเกมห้ามพลาด

Alternative Textaccount_circle
event
ชื่อเท่ๆในเกม
ชื่อเท่ๆในเกม

เราอาจคุ้นเคยกับการตั้งชื่อลูกตามดารา นักร้อง นักแสดง แต่วันนี้กระแสเกม โลกMetaverse กำลังมาแรงจริงๆค่ะ ลองเปลี่ยนมาดู ชื่อเท่ๆในเกม กันดีกว่าค่ะ

150 ชื่อเท่ๆในเกม พ่อแม่คอเกมห้ามพลาด

คุณพ่อคุณแม่ที่เป็นสาวกเกม คงมีตัวละครในเกมที่ตัวเองชื่นชอบอยู่ไม่มากก็น้อย หรืออาจถูกใจชื่อที่ฟังดูแปลก แต่เท่ๆ เก๋ๆ ในเกมอยู่หลายชื่อ อาจจำได้บ้างไม่ได้บ้าง มาดูที่บทความนี้เลยค่ะ ทีมแม่ ABK ได้รวบรวบ ชื่อเท่ๆในเกม จากตัวละครดังๆในเกมต่างๆมาให้ได้เลือกไปตั้งชื่อลูกกันแล้วค่ะ

150 ชื่อเท่ๆในเกม พ่อแม่คอเกมห้ามพลาด

ชื่อลูกชาย

ชื่อ ชื่อเกม
Adonis Ensemble Stars
Aiden Beyond Two Souls
Aleister ROV
Alistair Dragon Age
Ash Pokemon franchise
Blaze Blaze
Booker Bioshock Infinite
Cecil Final Fantasy IV
Claude Grand Theft Auto III
Cloud Final Fantasy VII
Cortez Timesplitters
Corvo Dishonored
Cresht ROV
Cullen Dragon Age
Cyrax Mortal Kombat
Dante Devil May Cry 4
Daxter Jak and Daxter
Devlin Saboteur
Ezio Assassin’s Creed
Fennik ROV
Garrett Thief
Geralt The Witcher III
Gildur ROV
Goku Dragon Ball
Gordon Half-Life
Grakk ROV
Guile Street Fighter
Jacob Halo
Jace Magic the Gathering
Jago Killer Instinct
Jedah Darkstalkers 3
Josh Until Dawn
Kane Kane
Kirby Kirby
Kratos God of War
Layton Professor Layton
Leon Resident Evil 2
Leoric Diablo
ลูกชาย
ลูกชาย

150 ชื่อเท่ๆในเกม พ่อแม่คอเกมห้ามพลาด

ชื่อลูกชาย

ชื่อ ชื่อเกม
Lincoln Mafia 3
Link The Legend of Zelda:Majora’s Mask
Lu Bu ROV
Luigi Mario franchise
Lumburr ROV
Miles Sonic the Hedgehog
Majora The Legend of Zelda:Majora’s Mask
Marcus Gears of Wars
Mario Mario
Maximo Maximo Ghosts of Glory
Nakroth ROV
Neo The Matrix
Nero Devil May Cry
Niko Rockstar North
Noctis Final Fantasy XV
Ormarr ROV
Oro Street Fighter
Pagan Far Cry 4
Rad Bionic Commando
Raiden Mortal Kombat
Rico Just Cause 3
Rufus Street Fighter
Rygar Rygar
Ryu Street Fighter
Samus Metroid
Shepard Mass Effect
Soma Castlevania
Sonic Sonic the Hedgehog
Sora Disney and Square Enix’s Kingdom Hearts
Tidus Final Fantasy X
Trevor Grand Theft Auto V
Tyrion Game of Thrones
Thane Mass Effect
Yoshi Super Mario World
Zanis ROV
Zephys ROV
Zidane Final Fantasy
ลูกสาว
ลูกสาว

150 ชื่อเท่ๆในเกม พ่อแม่คอเกมห้ามพลาด

ชื่อลูกสาว

ชื่อ ชื่อเกม
Ada Resident Evil II
Aeris Final Fantasy VII
Alisa Tekken 6
Alyx Half-Life 2
Anya Call of Duty
Aoi Virtua Fighter 3
Athena platform arcade game
Auriel Diablo
Aveline Assassin Creed 3
Bayonetta Bayonetta
Bonnie Red Dead Redemption
Cass Fallout
Cassie Mortal Kombat X
Chloe Life Is Strange
Clementine The Walking Dead
Daisy Super Mario Land
Daphne Dragon’s Lair
Elena Uncharted Series
Ellie The Last of Us
Epona The Legend of Zelda
Eva Devil May Cry
Felicia Darkstalkers
Helena Dead or Alive 2
Ivy Soulcalibur
Jade Beyond Good and Evil
Jane The Walking Dead
Jill Resident Evil
Junko Danganronpa
Kairi Kingdom of Hearts
Kassandra Assassin’s Creed
Kasumi Dead or Alive
Kat Gravity Rush
Kirsten The Secret World
Kitana Mortal Kombat
Krixi ROV
Lara Tomb Raider
Liara Mass Effect
Lucina Fire Emblem Awakening
ชื่อเท่ๆ
ชื่อเท่ๆ
ชื่อ ชื่อเกม
Madeline Celeste
Mei-Lung Overwatch
Mercy Overwatch
Midna The Legend of Zelda
Mileena Mortal Kombat II
Monika Doki Doki Literature Club
Morrigan Darkstalkers
Nana Together BnB
Natalya ROV
Navi The Legend of Zelda:Ocarina of Time
Payna ROV
Peach Mario franchise
Phoenix Ace Attorney
Rayne BloodRayne
Red Transistor
Regina Dino Crisis
Reiko Namco’s Ridge Racer
Ridley The Cunning God of Death
Rikku Final Fantasy X
Rosalina Super Mario Galaxy
Sakura Street Fighter IV
Samantha Gone Home
Saria The Legend of Zelda:Ocarina of Time
Scarlett Blackwood Crossing
Senua Hellblade Senua’s Sacrifice
Shodan System Shock
Taara ROV
Taki Soulcalibur
Tifa Final Fantasy VII
Tira SoulCaliber
Tetra The Legend of Zelda:The Wind Waker
Tifa Final Fantasy VII
Vella Broken Age
Wynne Dragon Age
Xayah League of Legends
Yuna Final Fantasy X
Zelda Legend of Zelda

คงถูกใจคุณพ่อคุณแม่สายเกมกันนะคะ กับการรวบรวม ชื่อเท่ๆในเกม จากเกมดังต่างๆ ที่ทาง ทีมแม่ ABK นำมาฝากในบทความนี้

อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

ชื่อเล่นเท่ๆ เก๋ๆ ลูกชาย ลูกสาว ความหมายดีๆ อินเทรนด์!!!

ชื่อภาษาอังกฤษเท่ๆ สำหรับลูกสาวและลูกชาย

50 ประโยคภาษาอังกฤษสั้นๆ ใช้สอนลูก ให้พูดได้แต่เด็ก!

เข้าใจ “เดอะวันเดอร์วีค” รับมือลูกงอแงแบบไม่มีสาเหตุ!

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

น้ำตาไม่ใช่ผู้ร้าย ข้อดีของการร้องไห้

เมื่อ น้ำตา ไม่ใช่ผู้ร้าย!!พ่อแม่ควรอนุญาตให้ลูกร้องไห้

Alternative Textaccount_circle
event
น้ำตาไม่ใช่ผู้ร้าย ข้อดีของการร้องไห้
น้ำตาไม่ใช่ผู้ร้าย ข้อดีของการร้องไห้

น้ำตา ร้องไห้ ความเศร้าใช่ว่าอ่อนแอ ยิ้มเริงร่าใช่ว่าไม่เป็นไร เหตุใดพ่อแม่ควรอนุญาตให้ลูกร้องไห้ แสดงอารมณ์ไม่ว่าทางบวกหรือลบ เพราะน้ำตาก็มีประโยชน์นะ

เมื่อ น้ำตา ไม่ใช่ผู้ร้าย!!พ่อแม่ควรอนุญาตให้ลูกร้องไห้

“ผู้ใหญ่ควรอนุญาตให้เด็กมีอารมณ์โกรธและเสียใจได้
แต่สิ่งที่เราไม่อนุญาตคือการทำพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม”

Quote จากเพจตามใจนักจิตวิทยา

การร้องไห้ เป็นพฤติกรรมปกติ พฤติกรรมหนึ่งของมนุษย์ การหลั่งน้ำตาสามารถกระตุ้นออกมาได้ด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย เช่น เสียใจ ดีใจ โกรธ เป็นต้น นักวิจัยค้นพบว่า การร้องไห้ให้ประโยชน์ทั้งต่อร่างกาย และจิตใจของมนุษย์ เริ่มตั้งแต่เราเป็นทารกกันเลยทีเดียว

มนุษย์ร้องไห้…ทำไม?

  • เพื่อขับของเสีย และอารมณ์ขุ่นมัวออกจากร่างกาย ดวงตาทำหน้าที่ผลิตน้ำตา ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ประเภทด้วยกัน ดังนี้
    • น้ำหล่อเลี้ยงตา เป็นน้ำที่อยู่ในดวงตาตลอดเวลา คอยสร้างความหล่อลื่น บำรุงและปกป้องกระจกตา ทั้งยังเป็นเกราะป้องกันดวงตาจากฝุ่นผงต่าง ๆ
    • น้ำตาจากสิ่งเร้าภายนอก จะถูกสร้างขึ้นก็ต่อเมื่อดวงตาต้องการขจัดสารก่อความระคายเคืองที่เป็นอันตราย เช่น วัตถุแปลกปลอม ควัน หรือสารบางชนิดจากหัวหอม น้ำตาชนิดนี้ผลิตออกมาในปริมาณที่มากกว่าน้ำหล่อเลี้ยงตาปกติ และอาจประกอบด้วยสารภูมิต้านทานเพื่อใช้ช่วยต่อสู้กับแบคทีเรีย
    • น้ำตาจากอารมณ์ น้ำตาที่ตอบสนองต่ออารมณ์ความรู้สึกต่าง ๆ เช่น เสียใจ ดีใจ หวาดกลัว เป็นต้น นักวิทยาศาสตร์บางคนคาดว่าน้ำตาจากอารมณ์อาจประกอบด้วยฮอร์โมนและโปรตีนชนิดอื่น ๆ ที่ไม่พบในน้ำหล่อเลี้ยงตาหรือน้ำตาจากสิ่งเร้าภายนอก

      ประโยชน์ของ น้ำตา
      ประโยชน์ของ น้ำตา
  • เพื่อปลดปล่อยหรือผ่อนคลายอารมณ์อย่างหนึ่ง ไม่ว่าจะร้องไห้เพราะความเศร้า ความเครียด หรือความสะเทือนอารมณ์จากการดูภาพยนตร์ ซึ่งถือเป็นการเปิดตัวเอง และส่งผลดีต่อสุขภาพจิต
  • การร้องไห้ช่วยให้ทารกหายใจครั้งแรกได้ การร้องไห้ครั้งแรกของเด็กแรกเกิด คือเสียงร้องที่สำคัญมาก ตอนอยู่ในท้องทารกได้รับออกซิเจนภายในมดลูกผ่านสายสะดือจากแม่ เมื่อคลอดออกมาแล้วต้องหายใจเอง เสียงร้องแรกของเด็กแรกเกิดเป็นการกระตุ้นการทำงานของปอด
  • การร้องไห้ช่วยให้เด็กหลับดีขึ้นในเวลากลางคืน มีงานวิจัยที่ทดลองให้ปล่อยเด็กทารกร้องไห้บนเตียงไปสักระยะเวลาหนึ่ง ถึงค่อยให้พ่อแม่เข้ามาปลอบ และพาเข้านอน พบว่าเด็กกลุ่มนี้สามารถนอนหลับได้ยาวขึ้น และลดจำนวนการตื่นระหว่างคืนได้อีกด้วย และยังศึกษาต่อไปพบว่าไม่ก่อให้เกิดความเครียด หรือส่งผลเสียต่อสายสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่ลูกด้วย

    น้ำตา ช่วยปลอบประโลมจิตใจลูก
    น้ำตา ช่วยปลอบประโลมจิตใจลูก

ทำไมจึงควรอนุญาตให้เด็กร้องไห้?

วัยอนุบาล เป็นวัยที่มีความกังวลต่อความพลัดพรากจากพ่อแม่สูง “เป็นธรรมดา”
เด็กหลายคนเจอคนแปลกหน้า ถูกแยกจากพ่อแม่ อาจจะมีความกังวล จนร้องไห้
เด็กหลายคนร้องไห้ อาจจะเพราะ ง่วง หิว หนาว กลัว เสียใจ นอนไม่พอ ฯลฯ
การร้องไห้ เป็นการระบายความรู้สึกที่ท่วมท้น ไม่ใช่เรื่องผิด ไม่ใช่ความผิดปกติ
การร้องไห้ เป็นส่วนหนึ่งของการปรับให้สมองเข้าสู่ภาวะปกติ
การร้องไห้ไม่ได้แปลว่าเป็นเด็กสุขภาพจิตเสีย
การร้องไห้ไม่ควรถูกนำมาตัดสิน ว่าไม่เก่ง ไม่ฉลาด ไม่มีศักยภาพ อ่อนแอ ไม่เข้มแข็ง
การร้องไห้เป็นรูปแบบของการสื่อสาร ที่ทำให้เราสามารถเข้าไปช่วยเหลือเด็กๆ ได้
เด็ก (และเราทุกคน) ควรได้รับอนุญาตให้ร้องไห้ได้
การร้องไห้ เป็นการตอบสนองของร่างกายตามธรรมชาติ
การร้องไห้ไม่ได้ทำร้ายใคร ทั้งตัวเองและผู้อื่น
อย่าทำให้ใครรู้สึกผิด
ตั้งแต่ยังเล็กที่เขาร้องไห้
เพราะการเป็นผู้ใหญ่ที่ร้องไห้ออกมาไม่ได้
… มันช่างเป็นเรื่องที่โหดร้ายและน่าเศร้า
#หมอโอ๋เพจเลี้ยงลูกนอกบ้าน
ผู้อยากให้ทุกคนเข้าใจว่าการร้องไห้เป็นกลไกทำให้สมองเข้าสู่ภาวะสมดุล
ขอขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก ข้อความบางส่วนจากเพจ เลี้ยงลูกนอกบ้าน

น้ำตาจึงไม่ใช่ผู้ร้าย แต่เป็นสิ่งที่ช่วยให้เรารับมือกับอารมณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะในเด็กที่ยังอยู่ในวัยเรียนรู้ การที่เขายังมีพัฒนาการในด้านต่าง ๆ ไม่สมบูรณ์ จึงจำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือ ทั้งทางด้านร่างกาย และอารมณ์ เด็กในวัย 2-6 ปี วัยอนุบาลนั้นยังไม่ใช่วัยที่สามารถแยกจากพ่อแม่ได้อย่างสมบูรณ์ การวิตกกังวล การกลัวการแยกจาก การที่ไม่เห็นหน้าพ่อแม่แล้วร้องไห้จึงเป็นเรื่องปกติ การที่เด็กไม่สามารถเรียนรู้การจัดการอารมณ์ของเขาได้ต่างหาก ที่เป็นสิ่งที่พ่อแม่ควรใส่ใจ มิใช่การห้ามไม่ให้ลูกแสดงออกมา เก็บกดไว้ เพราะคิดว่าเป็นสิ่งที่แสดงถึงความอ่อนแอ แต่ควรสอนให้เขารับรู้อารมณ์ เข้าใจ ตอบสนอง และแสดงอารมณ์เหล่านั้นออกมาได้อย่างเหมาะสมต่างหาก

พ่อแม่ควรอนุญาตให้ลูกมี น้ำตา
พ่อแม่ควรอนุญาตให้ลูกมี น้ำตา

น้ำตาไม่ใช่ผู้ร้าย!!

มีรายงานว่าคนเรามักรู้สึกดีขึ้นหลังจากที่ได้ร้องไห้ นั่นอาจเป็นเพราะการร้องไห้ทำให้เราได้สำรวจตรวจดูสิ่งที่กระตุ้นอารมณ์ของเราและหาทางก้าวผ่านอารมณ์ และความคิดเหล่านั้นไปได้ ในเด็กก็เช่นกัน การให้เขาได้รับรู้ว่าตอนนี้เขากำลังรู้สึกอย่างไร เพื่อให้เด็กได้ยอมรับกับอารมณ์ตัวเองเสียก่อน จากนั้นเมื่อยอมรับเขาก็จะสามารถพิจารณาได้ว่าสิ่งใดที่ไปกระตุ้นให้เกิดอารมณ์ด้านลบ เช่น เสียใจ โกรธ เป็นต้น และเมื่อทราบที่มาที่ไปของอารมณ์แล้ว การจะจัดการกับอารมณ์ตนเองในครั้งถัด ๆ ไปก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

Lauren Bylsma ผู้ช่วยศาสตราจารย์ภาควิชาจิตเวชศาสตร์และจิตวิทยาที่มหาวิทยาลัยพิตส์เบิร์กในรัฐเพนซิลวาเนียกล่าวว่าการร้องไห้อาจช่วยให้เข้าใจว่าอะไรคือสิ่งที่สำคัญสำหรับเรา โดยเฉพาะหากร้องไห้กับสิ่งที่ทำให้เสียใจโดยที่ไม่คาดคิด และว่าคนบางคนอาจรู้สึกดีกว่าเวลาที่ร้องไห้คนเดียวหรือในสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวย มากกว่าในที่ที่อาจทำให้รู้สึกอาย

ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าการสะกดกลั้นน้ำตาอาจส่งผลเสียต่อตัวเอง และความรู้สึกที่ยังไม่ได้ผ่านกระบวนการจัดการนั้น และยังเป็นเส้นทางสำคัญที่นำไปสู่ภาวะซึมเศร้าอีกด้วย

ร้องไห้ใช่อ่อนแอ ยิ้มให้ใช่มีความสุข!!

พ่อแม่ทุกคนย่อมอยากเห็นลูกมีความสุข จึงทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกพอใจ ยิ้มแย้ม แต่ในโลกความเป็นจริงเราไม่สามารถกำหนดให้ลูกพบเจอแต่ความสมหวัง หรือมีความสุขตลอดเวลาได้ เมื่อลูกพบเจอเรื่องเศร้า เรื่องโกรธจนร้องไห้ หรืออาละวาด พ่อแม่จึงมักสั่งให้ลูกหยุด และเก็บกดอารมณ์ทางลบนั้นไว้ โดยที่เด็กยังไม่สามารถจัดการกับอารมณ์นั้นได้ แต่ในความเป็นจริงเด็กที่มีความสุข คือ เด็กที่สามารถจัดการกับอารมณ์ต่าง ๆ ทั้งดี และไม่ดีได้อย่างเหมาะสม พ่อแม่มีหน้าที่สอนให้เขารับรู้ รับมือ และจัดการอารมณ์ที่เกิดขึ้น จะทำให้ลูกมีความสุขอย่างแท้จริง

ช่วยลูกให้หยุดร้องไห้!!

ถึงแม้ว่าน้ำตาจะมีประโยชน์ช่วยเราในหลาย ๆ เรื่อง แต่ก็ต้องยอมรับว่า สังคมภายนอกยังมีค่านิยมในเรื่องนี้ เช่น น้ำตาเท่ากับอ่อนแอ เด็กผู้ชายไม่ควรร้องไห้ให้ใครเห็น เป็นต้น ดังนั้นแทนที่เราจะแก้ปัญหาให้ลูกด้วยการสั่งให้เขาหยุดร้อง เราสามารถช่วยลูกให้จัดการกับอารมณ์ทางด้านลบของเขาด้วยวิธีทำให้ลูกรู้สึกดีขึ้น โดยเราขอยกคำแนะนำดี ๆ ของ ผู้ช่วยศาสตราจารย์แพทย์หญิงจิราภรณ์ อรุณากูร หรือ หมอโอ๋ กุมารแพทย์เวชศาสตร์วัยรุ่น รพ.รามาธิบดีฯ เจ้าของเพจเลี้ยงลูกนอกบ้าน กับวิธีช่วยลูกเมื่อร้องไห้ ดังนี้

ช่วยลูกหยุดร้องไห้ เพจเลี้ยงลูกนอกบ้าน
ช่วยลูกหยุดร้องไห้ เพจเลี้ยงลูกนอกบ้าน
อยากให้ลูกหยุดร้องไห้ ไม่ได้ทำได้ด้วยการ “สั่ง”
แต่ทำได้ด้วยการทำให้ลูก “รู้สึกดีขึ้น”
ช่วยลูกเมื่อร้องไห้…
1. อย่าห้ามลูกเวลาร้องไห้ แต่ควรแสดงความเข้าใจในอารมณ์ที่เกิดขึ้น
2. ประโยค “แม่เข้าใจเลยที่หนูจะเสียใจ” “มันน่าเสียใจจริงๆนะ” “หนูร้องไห้ได้นะ ถ้ารู้สึกแย่” เป็นประโยคที่พ่อแม่พูดได้ ถ้ารู้สึกเข้าใจสิ่งนั้นจริงๆ
3.หลีกเลี่ยง “ร้องทำไมเรื่องแค่นี้เอง” ความเจ็บปวดของใคร ก็เป็นเรื่องของใจ คนๆนั้น
4. ขณะลูกร้องไห้ การกอดลูกแล้วบอกว่า “แม่อยู่ตรงนี้นะ” “มีอะไรให้แม่ช่วยให้หนูดีขึ้นมั้ย” คือของขวัญทางจิตใจที่มอบให้ลูก
5. อย่าบอกลูก “ไม่ร้องไห้” แต่บอกลูกได้ “ดีขึ้นแล้ว หายเจ็บแล้ว เราหยุดร้องไห้กันได้นะ”
6. มันคือเรื่องน่าเศร้าที่ใครสักคนต้องเติบโตมา กับการต้องคอยบอกกับตัวเอง ว่า “ฉันไม่เป็นไร”
ทั้งๆที่ความเป็นจริงการยอมรับกับความรู้สึกตัวเอง คือการเริ่มต้นที่กล้าหาญ ของการเยียวยาจิตใจ #ผู้ใหญ่ก็เช่นกัน
7. การกล้าเผชิญและยอมรับกับความเศร้า เป็นสัญญาณว่าเราคือคนที่เข้าใจ รู้จัก และรักตัวเองดี
8. การที่รู้สึกว่าเราก็แพ้ได้ ร้องไห้เป็น จะทำให้เราเข้าใจได้ว่า เราต่างก็เป็นมนุษย์ธรรมดาดีๆนี่เอง #ผู้ใหญ่ก็เช่นกัน
9. การยอมรับและทำความเข้าใจกับความรู้สึก จะทำให้เราอยู่กับความรู้สึกได้ดี…ไปชั่วชีวิต
รักลูก… เรามาช่วยเด็กๆ ให้เข้มแข็งในวิธีที่เป็นผลดีกับจิตใจกันนะคะ
คนที่เข้มแข็งไม่ใช่คนที่ไม่ร้องไห้
แต่เป็นคนที่ “กล้าร้องไห้…เพื่อให้ตัวเองดีขึ้น”
ขอขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก ข้อความบางส่วนจากเพจ เลี้ยงลูกนอกบ้าน

เมื่อวันที่เรารู้สึกแย่ เราอาจต้องการเพียงใครสักคนที่อยู่เคียงข้าง มอบพื้นที่ปลอดภัยให้แก่เราให้ได้รู้สึกดีขึ้น พ่อแม่สามารถเป็นพื้นที่ปลอดภัยของลูกได้เช่นกัน เมื่อเขาร้องไห้ รู้สึกไม่ดี เพียงแค่อ้อมกอดจากพ่อแม่ก็สามารถปลอบประโลมให้จิตใจ อารมณ์ของลูกให้สงบลงได้อย่างแท้จริง ไม่ต้องเก็บกดความรู้สึกนั้นไว้ เพื่อรอวันระเบิด หรือทำให้เกิดปัญหาพฤติกรรมของลูกในอนาคตได้

ข้อมูลอ้างอิงจาก www.pobpad.com/www.healthline.com/เพจตามใจนักจิตวิทยา

อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

ลูกร้องไห้งอแง ทารกร้องแบบไหนเรียกว่าผิดปกติ?

รับฟังลูก อย่างไรให้เขาอยากเล่า และพูดอย่างไรให้ลูกฟัง

หมอขอตอบ!รวมคำถามคาใจ วัคซีนโควิด19เด็ก ฉีดดีไหม

ประโยชน์ของการ รักกันให้ลูกเห็น พ่อแม่ยิ่งรักกัน ยิ่งดีต่อใจลูก

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

คนท้องกินน้ำกระท่อมได้ไหม

ไขข้อข้องใจ!! คนท้องกินน้ำกระท่อมได้ไหม ?

Alternative Textaccount_circle
event
คนท้องกินน้ำกระท่อมได้ไหม
คนท้องกินน้ำกระท่อมได้ไหม

คุณแม่มือใหม่โพสต์ถามคำถาม จนกลายเป็นประเด็นในโซเชียลมีเดียว่า คนท้องกินน้ำกระท่อมได้ไหม วันนี้ทีมแม่ ABK จะพามารู้จักพืชกระท่อมและหาคำตอบเรื่องนี้กันค่ะคุณแม่

ไขข้อข้องใจ!! คนท้องกินน้ำกระท่อมได้ไหม

ภายหลังจากที่ได้มีการปลดล็อกให้ “พืชกระท่อม” ไม่เป็นยาเสพติดให้โทษอีกต่อไป โดยประชาชนสามารถปลูกพืชกระท่อมได้อย่างเสรี หรือจะบริโภคก็สามารถทำได้นั้น ทำให้คนทั่วไป หันมาบริโภคพืชกระท่อมกันอย่างกว้างขวาง จนเกิดประเด็นปัญหาเรื่อง คนท้องกินน้ำกระท่อม ขึ้นมา กรณีนี้เฟซบุ๊ก Anti-Fake News Center Thailand wfh โพสต์เตือนข่าวปลอม โดยระบุข้อความว่า ตามที่ได้มีการส่งต่อข้อความในสื่อออนไลน์ เกี่ยวกับประเด็นเรื่อง คนท้องสามารถดื่มน้ำกระท่อมได้ โดยไม่ส่งผลต่อสุขภาพแม่ หรือทารกในครรภ์ นั้น ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ซึ่งกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข พบว่าเป็นข้อมูลเท็จ

คนท้องกินน้ำกระท่อมได้ไหม
ไขข้อข้องใจ!! คนท้องกินน้ำกระท่อมได้ไหม

รู้จักพืชกระท่อมก่อนตอบคำถาม – คนท้องกินน้ำกระท่อมได้ไหม

กระท่อมเป็นไม้ยืนต้นที่พบมากในแถบภาคใต้ และภาคกลางของประเทศไทย อยู่คู่กับวิถีชาวบ้านของคนไทยมาช้านาน มีการใช้ใบกระท่อมมีหลายรูปแบบ เช่น บดเป็นผง ละลายน้ำดื่ม หรือเคี้ยวใบสด นิยมบริโภคแบบเคี้ยวใบสด เคี้ยวเหลือแต่กาก แล้วคายออก หรือเอาใบมาย่างให้เกรียม และตำให้ละเอียด ผสมกับน้ำพริก รับประทานเป็นอาหาร โดยชาวบ้านในสมัยก่อนที่ทำไร่ ทำสอน นิยมนำใบกระท่อมมาเคี้ยว เพื่อให้มีแรงทำงาน ทำงานได้นานขึ้น ทนแดดมากขึ้น กลางแจ้งได้เป็นเวลานาน โดยไม่รู้สึกเหนื่อย ซึ่งเป็นการใช้แบบวิถีชุมชน

กระท่อมกับสรรพคุณทางยา

นอกจากนี้ตามภูมิปัญญาของหมอพื้นบ้าน ตัวใบกระท่อมเองนั้น ยังมีสรรพคุณทางยา นำส่วนของเปลือกและใบกระท่อมมาใช้เป็นยารักษาแก้ท้องร่วง ใช้เป็นยาแก้ปวดท้อง แก้บิด ช่วยรักษาอาการท้องเสีย ถ่ายเป็นเลือด ใช้รักษาโรคกระเพาะอาหาร โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคผิวหนัง บรรเทาอาการปวดเมื่อย ช่วยคลายเครียด คลายกังวล ทำให้นอนหลับ และระงับประสาท โดยเคี้ยวใบกระท่อมที่แกะก้านใบออก อาจกลืนหรือคายกาก แล้วดื่มน้ำตาม

สารอันตรายในใบกระท่อม

ใบกระท่อมนั้นไม่ได้มีประโยชน์เพียงด้านเดียว โทษของใบกระท่อม ก็มีมากมายเช่นเดียวกัน สำหรับสารเสพติดที่พบในใบกระท่อม คือ ไมทราไจนีน (Mitragynine) เป็นสารจำพวกอัลคาลอยด์ ออกฤทธิ์กดประสาทส่วนกลาง (CNS depressant) เช่นเดียวกับยาเสพติดกลุ่มเดียวกัน เช่น psilocybin LSD โดยใบกระท่อมนั้นมีฤทธิ์กระตุ้นประสาท ออกฤทธิ์คล้ายแอมเฟตามีน หรือยาบ้า

ผลข้างเคียงจากใบกระท่อม

หากใช้มากเกินไป หรือใช้อย่างต่อเนื่อง อาจทำให้เกิดอาการผิดปกติได้หลายรูปแบบ เช่น

  • เบื่ออาหาร
  • ปากแห้ง
  • หนาวสั่น
  • ปัสสาวะบ่อย
  • ท้องผูก
  • คลื่นไส้ อาเจียน
  • นอนไม่หลับ
  • หวาดระแวง
  • เห็นภาพหลอน

คนท้องห้ามกินน้ำกระท่อม  มีผลต่อลูกในท้อง

พบข้อมูลรายงานการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับที่เกิดกับหญิงตั้งท้องและลูกในท้องที่ได้รับกระท่อมก่อนการคลอด โดยกลุ่มคุณแม่ท้องที่ใช้กระท่อมระหว่างตั้งครรภ์ 6 ราย ช่วงอายุ 37-39 ปี มีเหตุผลการใช้ที่ต่างกันออกไปตามวิจารณญาณของแพทย์ เช่น ใช้เพื่อการลดอาการปวด, ลดความวิตกกังวล, บรรเทาอาการถอนยากลุ่ม Opioid และใช้เพื่อมีผลคล้ายกลุ่ม Opioid โดยใช้ในรูปแบบที่แตกต่างกัน เช่น บางรายดื่มชากระท่อมเป็นเวลา 3-4 ครั้งต่อวัน บางรายดื่มชากระท่อมเป็นประจำทุกวัน บางรายใช้กระท่อมเป็นประจำทุกวัน ขนาด 18 – 20 กรัม ฯลฯ พบว่าทั้งแม่และเด็ก มีอาการถอนยากระท่อม โดยอาการของคุณแม่ท้องที่มีอาการถอนยาจากกระท่อม จะแสดงอาการวิตกกังวล ขนลุกกระสับกระส่าย เหงื่อออกมากผิดปกติ

คนท้องกินน้ำกระท่อมได้ไหม
คนท้องห้ามกินน้ำกระท่อม มีผลต่อลูกในท้อง

อาการของทารกที่คลอดออกมา

นอกจากนี้พบอาการขาดยาในทารก (Neonatal Abstinence Syndrome : NAS) ที่คุณแม่ท้องใช้สารเสพติดประเภท เฮโรอีน และกลุ่มบรรเทาอาการปวดหรือยาแก้ปวด ทารกจะมีอาการหายใจหอบ เร็ว ถ่ายเหลว อาเจียน ตัวสั่น เกร็ง เป็นต้น ดังนั้น หากคุณแม่ท้องมีความประสงค์ใช้กระท่อม ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ เพื่อความปลอดภัยของตนเองและลูกน้อย

กระท่อมนับเป็นพืชที่มีประโยชน์และมีโทษ การจะบริโภคควรพิจารณาอย่างละเอียดถี่ถ้วน คำตอบของคำถามที่ว่า คนท้องกินน้ำกระท่อมได้ไหมนั้น ตอบได้ด้วยผลการทดลองที่กล่าวมาแล้วข้างต้นว่า ส่งผลเสียต่อคุณแม่และคุณลูกค่ะ ทั้งนี้ข้อมูลการศึกษายังไม่แน่ชัด และมีหลายปัจจัย หากมีความจำเป็นไม่ว่าจะด้วยกรณีใด ๆ ก็ตาม ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้นะคะ

 

ขอบคุณข้อมูลจาก

ไทยรัฐออนไลน์, Fascino

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

แจกสูตร เมนูอาหารคนท้อง 1-3 เดือน กินอย่างไรให้ลงลูก

 

ท่องเอาไว้! อาหารที่คนท้องไม่ควรกิน ห้ามกินเด็ดขาด

10 อาหารที่คนท้องควรกิน พร้อมเมนูอร่อยสำหรับแม่และลูก

 

ซิโนแวค ซิโนฟาร์ม ในเด็ก

อนุมัติแล้ว! ซิโนแวค ซิโนฟาร์ม ในเด็ก 6 ขวบขึ้นไป

Alternative Textaccount_circle
event
ซิโนแวค ซิโนฟาร์ม ในเด็ก
ซิโนแวค ซิโนฟาร์ม ในเด็ก

สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. ไฟเขียวแล้ว ให้เด็กอายุ 6 ขวบ ขึ้นไป ฉีดวัดซีนป้องกัน โควิด – 19 ซิโนแวค ซิโนฟาร์มในเด็ก โดยไม่ต้องปรับขนาดยา

อนุมัติแล้ว! ซิโนแวค ซิโนฟาร์ม ในเด็ก 6 ขวบขึ้นไป ฉีดได้เลย

ซิโนแวค ซิโนฟาร์ม ในเด็ก
อย. ไฟเขียวแล้ว ให้เด็กอายุ 6 ขวบขึ้นไปฉีดวัดซีนป้องกันโควิด – 19 ซิโนแวค-ซิโนฟาร์ม ในเด็ก

ปัจจุบัน วัคซีนซิโนแวคและซิโนฟาร์ม ได้รับอนุญาตให้ใช้ในผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ต่อมา ได้มีการขอขยายอายุในช่วง 3-17 ปี เพิ่มขึ้น ซึ่งกรรมการผู้เชี่ยวชาญ ได้พิจารณาถึงคุณภาพ ประสิทธิภาพ และความปลอดภัยแล้ว ได้อนุมัติให้ขยายอายุกลุ่มผู้ใช้ ตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไป ส่วนในกรณีที่ต้องการให้ขยายช่วงอายุให้ครอบคลุมในกลุ่ม 3 – 5 ปี นั้น ทาง อย. ได้แจ้งให้ผู้รับอนุญาตทั้ง 2 ราย ส่งข้อมูลเพิ่มเติมโดยเร็วเพื่อพิจารณาต่อไป

ซิโนแวค ซิโนฟาร์ม ในเด็ก อายุ 6 ปีขึ้นไป ใช้ 0.5 มล.

จากการประเมินความปลอดภัย และประสิทธิภาพของวัคซีน พบว่าทั้งซิโนแวค – ซิโนฟาร์มที่เริ่มฉีดในต่างประเทศนั้น ได้เริ่มฉีดในผู้อายุ 12-17 ปี และอายุ 5-11 ปี ไล่ตามลำดับ ในไทยจึงมีข้อมูลชัดเจนในผู้ที่มีอายุ 6-17 ปี ทางผู้เชี่ยวชาญจึงมีความเห็นว่าควรใช้วัคซีนเริ่มต้นในเด็กอายุ 6 ปีขึ้นไปก่อน โดยขนาดการใช้วัคซีนอยู่ที่ 0.5 มล. เท่ากันหมดทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ส่วนระยะการฉีดเข็ม 1 ห่างจากเข็ม 2 ประมาณ 21-28 วัน เท่ากับวัคซีนผู้ใหญ่เช่นกัน ที่เป็นเช่นนี้เนื่องจาก เมื่อศึกษาการใช้วัคซีนเชื้อตายในปริมาณเท่ากันตามระยะของอายุแล้ว พบว่า ใช้วัคซีนเท่ากันในเด็กและผู้ใหญ่ภูมิต้านทานไม่สูงมากกว่ากันเท่าไหร่

ความแตกต่างระหว่างอาการข้างเคียงในเด็กและผู้ใหญ่

สำหรับข้อกังวลที่ว่า หากใช้วัคซีนเด็กโดสเท่ากับผู้ใหญ่จะทำให้เด็กพบอาการข้างเคียงมากกว่าหรือไม่นั้น พบว่าจากข้อมูลในประเทศจีนซึ่งฉีดเด็กไปแล้วกว่า 235 ล้านโดส พบว่า มีความปลอดภัย ไม่มีปัญหามากกว่าผู้ใหญ่ อาการไม่พึงประสงค์หลังฉีดก็ใกล้เคียงกัน คือ ปวดแขน เป็นไข้ ปวดเมื่อย ส่วนผลข้างเคียงรุนแรง นั้น ไม่ต่างกับวัคซีนอื่น ๆ แต่พบได้น้อยมาก

ความกังวลของผู้ปกครองเรื่องการฉีดวัคซีนโควิด – 19 ในเด็ก

ทาง อย. ยืนยันว่าหลังจากที่พิจารณาผลการศึกษาที่เกิดจากการฉีดในเด็กที่อายุ 6 ขวบขึ้นไปแล้ว พบว่าปลอดภัย มีผลข้างเคียงน้อย คล้ายคลึงกับผลข้างเคียงที่เกิดกับผู้ใหญ่ การฉีดวัคซีนเชื้อตายนั้น ก็เหมือนกับเอาเชื้อที่อ่อนฤทธิ์มาสร้างภูมิต้านทาน ในร่างกาย ดังนั้น การจะรับวัคซีนเข้าไปมากหรือน้อยก็ไม่มีผลในเรื่องของการกระตุ้นภูมิต้านทาน ส่วนสารที่เป็นองค์ประกอบก็มีปริมาณเท่ากับที่ใส่ในวัคซีนไข้หวัดใหญ่ จึงไม่เป็นอันตราย

ซิโนแวค-ซินโนฟาร์ม ในเด็ก
เด็ก 6 ขวบขึ้นไป สามารถฉีดวัคซีนซิโนแวค ซิโนฟาร์ม ได้แล้ว

เด็ก 5-11 ปีติดเชื้อเพิ่ม 6% ในการระบาดระลอกใหม่

สำหรับข้อมูลการติดเชื้อโควิด – 19 ของเด็กในแต่ละช่วงอายุที่รวบรวมมานั้น มีดังนี้ค่ะ

ข้อมูลเด็กติดโควิดช่วงอายุ 5-11 ปี

  • ช่วงเม.ย.-31 ธ.ค.64 จำนวน 123,403 คน
  • ช่วง ม.ค.-2 ก.พ.65 ติดเชื้อสะสม 13,600 คน

ข้อมูลเด็กติดโควิดช่วงอายุ 12-17 ปี

  • ช่วงปี 64 ติดเชื้อสะสม 111,952 คน
  • ช่วงม.ค.-2 ก.พ.65 ติดเชื้อสะสม 10,226 คน

จากข้อมูลพบว่ากลุ่มเด็กที่ติดโควิดมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยกลุ่มอายุ 5-11 ปีเพิ่มขึ้น 6 % ส่วนกลุ่มอายุ 12-17 ปีติดเชื้อ 5.6 % ถ้าเทียบช่วงเม.ย.64 ที่ติดเชื้อแค่ 1 %

ในสถานการณ์ที่เด็ก ๆ ติดเชื้อโควิด – 19 มากขึ้นและติดได้ง่ายขึ้น การมีวัคซีนที่ปลอดภัยและผ่านการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแล้วก็จะเป็นทางเลือกมาฉีดให้เด็ก ๆ ได้มากขึ้นค่ะ

 

ขอบคุณข้อมูลจาก
ThaiPBS ,PPTV HD

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

หมอขอตอบ!รวมคำถามคาใจ วัคซีนโควิด19เด็ก ฉีดดีไหม

14 เรื่อง คุณแม่ต้องรู้ ก่อนฉีด วัคซีนเด็กไฟเซอร์

รู้ไว้ก่อนฉีด!อาการข้างเคียงวัคซีน ไฟเซอร์เด็ก ฝาส้ม

วัคซีนโควิด19เด็ก

หมอขอตอบ!รวมคำถามคาใจ วัคซีนโควิด19เด็ก ฉีดดีไหม

Alternative Textaccount_circle
event
วัคซีนโควิด19เด็ก
วัคซีนโควิด19เด็ก

วัคซีนโควิด19เด็ก กับคำถามสารพันจากพ่อแม่ คุณหมอรวบรวมไว้ตอบชัดทุกข้อสงสัย เคลียร์ข้อกังวล ให้พ่อแม่ตัดสินใจว่าควรฉีดวัคซีนให้กับลูกดีหรือไม่

หมอขอตอบ!รวมคำถามคาใจกับ วัคซีนโควิด19เด็ก ฉีดดีไหม?

ถึงแม้ในปัจจุบัน มนุษย์เราจะอยู่ร่วมกับไวรัสโคโรน่า โควิด-19 มาร่วม 2 ปีแล้ว แต่เจ้าเชื้อไวรัสยังคงไม่ได้หายไป การป้องกันไม่ให้ตัวเองต้องป่วยด้วยไวรัสโควิด-19 นั้น ยังคงเป็นแนวทางหลักในการดูแลตนเอง การใส่หน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือ เว้นระยะห่างระหว่างกัน และที่สำคัญ คือ การได้รับวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ยังคงจำเป็นในการใช้ชีวิตในปัจจุบันนี้
วัคซีนโควิด19เด็ก เป็นวัคซีนที่เพิ่งได้รับการอนุมัติให้เด็กอายุ 5-11 ปีได้รับเพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน เนื่องจากพบว่าเชื้อไวรัสโควิด19 นั้นมีการกลายพันธุ์จากเดิมที่ไม่ทำอันตรายต่อเด็กมากนัก หรือหากมีการติดเชื้อก็จะไม่ป่วยรุนแรงในเด็ก การกลายพันธุ์นี้ส่งผลให้มีเด็กติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น และมีสถิติเด็กป่วยที่มีอาการรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตเพิ่มมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
วัคซีนโควิด19เด็ก จำเป็นไหม
วัคซีนโควิด19เด็ก จำเป็นไหม

วัคซีน Covid สำหรับเด็กอายุ 5 -11 ปี จำเป็นหรือไม่??

ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2020 มีเด็กประมาณ 1.5 ล้านคนในสหรัฐอเมริกาติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งจำนวนเด็กที่ติดเชื้อมีมากกว่า 20% ของผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ แสดงให้เห็นถึงการแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนที่เริ่มไม่ปลอดภัยสำหรับเด็ก การฉีดวัคซีนจะช่วยให้เด็กปลอดภัยขึ้น ในขณะที่อยู่ในโรงเรียน หรือไปเที่ยวเล่นกับเพื่อนและครอบครัว วัคซีนจะช่วยให้เด็กมีแนวโน้มป่วยหนัก เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล หรือเสียชีวิตน้อยลงมาก การทดลองทางคลินิกได้พิสูจน์แล้วว่าวัคซีนมีประสิทธิภาพในการป้องกันในเด็กเล็ก

สำหรับประเทศไทยได้อนุมัติให้มีการฉีดวัคซีนโควิด19เด็กเช่นกัน โดยทางกระทรวงสาธารณสุขได้วางไทม์ไลน์การฉีดวัคซีนให้แก่เด็ก โดยให้เด็กได้รับวัคซีนไฟเซอร์สำหรับเด็ก 5-11 ปี (วัคซีนไฟเซอร์ฝาส้ม) วางแผนเริ่มฉีดวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565นี้ เริ่มจากเด็กในกลุ่มโรคเรื้อรังก่อน จากนั้นจัดสรรให้เด็กนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ในทุกจังหวัดเป็นอันดับแรก และจัดสรรให้นักเรียนชั้นปีอื่นถัดไปตามลำดับ

แม้ว่าจะได้รับการยืนยันรับรองจากทั้งทางกระทรวงสาธารณสุข หรือทาง อย.(สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา) มาแล้วก็ตาม แต่ความกังวลใจของพ่อแม่ ผู้ปกครองต่อวัคซีนโควิด19สำหรับเด็กนี้ ก็ยังคงมีอย่างมากมาย ล้นหลาม วันนี้ทาง ทีมแม่ ABK จึงได้ทำการขออนุญาตนำคำตอบบางส่วนของคุณหมอวัฒนพงศ์ สุภมงคลชัยกุล นายแพทย์ชำนาญการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ที่ได้ทำการรวบรวมคำถามคาใจคุณพ่อคุณแม่มาตอบให้คลายกังวล เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจให้บุตรหลาน ดังนี้

  • ก่อนเริ่มคำถาม มาทำความรู้จักกับวัคซีนไฟเซอร์ (Pfizer) สำหรับเด็ก 5-11 ปี กันก่อน 

วัคซีน Pfizer สำหรับเด็ก(วัคซีนไฟเซอร์ฝาสีส้ม) ก็คือ ตัวเดียวกับของผู้ใหญ่เพียงแต่ว่าลดขนาดลงจาก 30 ไมโครกรัม เหลือเพียง 10 ไมโครกรัม เนื่องจาก วิจัยแล้วพบว่า ขนาด 10 ไมโครกรัม เพียงพอต่อการสร้างภูมิต้านทานต่อเชื้อโควิคในเด็กแล้ว เมื่อใช้ขนาดยาลดลง ก็จะทำให้มีผลข้างเคียงลดลงอีกด้วย แต่เนื่องจากขนาด 10 ไมโครกรัมมีปริมาณน้อยมากทำให้มีปัญหาเรื่องการดูดยาให้ตรงตามปริมาณที่เหมาะสม ทางบริษัท Pfizer ก็เลยเปลี่ยนตัวBuffer ที่อยู่ในตัววัคซีนเพื่อทำให้ดูดได้ง่ายขึ้น และเก็บในตู้เย็นได้นานขึ้นจาก 4สัปดาห์ เป็น 10 สัปดาห์และ เพื่อป้องกันความสับสนกับของผู้ใหญ่จึงเปลี่ยนสีฝาขวดเป็น สีส้ม ดังนั้น วัคซีน Pfizer ของเด็ก อายุ5-11 ปี ฝาจะเป็นสีส้ม

Question 1. ไม่ฉีด Vaccine ได้ไหม ให้เด็กระวังตัวเอา ไม่ติดเชื้อหรอก
  • อย่างที่ทุกคนทราบมาตรการป้องกันส่วนบุคคล ทั้งเรื่องของการใส่หน้ากาก เว้นระยะห่าง ล้างมือ สำหรับเด็กเล็กแล้วตามธรรมชาติของเขามีแนวโน้มที่ ที่จะให้ความร่วมมือและปฏิบัติตามได้น้อยกว่าผู้ใหญ่ ทำให้เด็กมีความเสี่ยงติดเชื้อมากกว่าผู้ใหญ่ โชคดีที่ก่อนหน้านี้เราพบว่าการติดเชื้อในเด็กมักจะไม่รุนแรง ยกเว้นในเด็กที่มีโรคประจำตัว แต่จากเชื้อ omicron ที่มีความสามารถในการแพร่กระจาย และติดเชื้อได้สูงขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มที่ยังไม่ได้รับวัคซีน เมื่อติดเชื้อเยอะก็ย่อมมี จำนวนเด็กป่วยหนักหรือเสียชีวิตเยอะขึ้น

    มาตราการป้องกันโควิด19 ล้างมือ ใส่หน้ากากอนามัยเพียงพอหรือไม่
    มาตราการป้องกันโควิด19 ล้างมือ ใส่หน้ากากอนามัยเพียงพอหรือไม่

Question 2. ติดก็ไม่เป็นอะไร covid รักเด็ก เอ็นดูเด็กอยู่แล้ว /อัตราการป่วยหนัก เสียชีวิตในเด็กที่ติดเชื้อโควิด19 มีน้อยไม่น่าอันตราย

  • จากข้อมูลการระบาดระลอกใหม่ของสหรัฐอเมริกาพบว่า มีจำนวนผู้เสียชีวิตที่เป็นเด็กสูงขึ้น ณ ปัจจุบัน การระบาดของไวรัสโอมิครอนได้คร่าชีวิตเด็กชาวอเมริกันไปมากกว่า 1,000 ราย โดยโอกาสเสียชีวิตจากโควิด อยู่ที่ประมาณ 1 ใน 2-4 หมื่นคน ซึ่งสูงกว่าโอกาสเสียชีวิต จากการฉีด Vaccine จากข้อมูล จะพบว่าโอกาสเสียชีวิตจากติดเชื้อโควิด = 1 ใน 2-40000 คน เทียบกับโอกาสเสียชีวิตจาก วัคซีน Pfizer = 1 ใน 1.8 ล้านคน

Question 3. อยากทราบผลแทรกซ้อน และความผิดปกติในระยะยาวหลังเด็กติด covid-19

  • Covid ทำให้เกิดอันตรายแก่เด็กที่ติดเชื้อได้ใน  3 ระยะ คือ
  1. ระยะที่ยังมีเชื้อในร่างกายลงปอด และทำลายอวัยวะต่าง ๆ อันนี้ตรงตัว แม้ว่าเด็กมีโอกาสเกิดโรครุนแรง และเสียชีวิต น้อยกว่าผู้ใหญ่ แต่การฉีดวัคซีนก็ช่วยลดโอกาสในการป่วยหนักได้มากกว่าไม่ฉีดวัคซีนอย่างชัดเจน นอกจากนั้นยังพบว่าในเด็กที่ติดโควิด-19 มีโอกาสในการเป็นเบาหวานมากขึ้น 2.66 เท่าเมื่อเทียบกับเด็กที่ไม่ติดโควิด
  2. Long covid syndrome แม้ว่าเชื้อจะตาย แต่ก็อาจจะยังฝากรอยแผลไว้ในร่างกาย ทำให้ยังคงมีอาการผิดปกติ หลงเหลืออยู่ซึ่งพบบ่อยกว่าในผู้ป่วยที่อาการหนัก แต่ผู้ป่วยที่อาการป่วยน้อยก็พบได้ อาการ Long covid syndrome ที่พบในเด็ก ได้แก่ การรับรู้ การดมกลิ่นผิดปกติจนมีผลต่อการรับประทานอาหารของเด็ก  อ่อนเพลีย ปวดข้อ ไม่มีแรง มึนงง สมองตื้อ อาจส่งผลต่อทั้งพัฒนการการเจริญเติบโต และการเรียนรู้ได้
  3. MIS-C คือ ภาวะการอักเสบทั่วร่างกายหลังหายป่วยจากโควิด-19 พบว่า มีเด็กกลุ่มหนึ่งหลังจากที่ติดโควิดจนหายไม่เหลือเชื้อในร่างกายแล้ว แต่ยังมีอาการแทรกซ้อนตามหลังการติดเชื้อ ประมาณ 2-6 สัปดาห์ อาการแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นเป็นผลจากการอักเสบในอวัยวะต่าง ๆ ทั่วร่างกาย เนื่องจาก ระบบภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติ ไปทำลายร่างกาย และอาจมีภาวะแทรกซ้อนรุนแรงถึงแก่ชีวิตได้ โดยมีอัตราเข้ารักษาใน ICU (61%) และอัตราตายที่สูงประมาณ 2%

ดังนั้น ไม่ว่าจะเด็กแข็งแรง หรือไม่แข็งแรง จะป่วยหนัก หรือป่วยน้อย ก็มีโอกาสเจอภาวะแทรกซ้อนกันถ้วนหน้า

หลากหลายคำถามจากพ่อแม่เกี่ยวกับวัคซีนเด็ก
หลากหลายคำถามจากพ่อแม่เกี่ยวกับวัคซีนเด็ก

Question 4. การฉีดวัคซีนจะช่วยลดอะไรได้บ้าง และมีประสิทธิภาพขนาดไหน

  • คุณหมอได้อธิบายโดยอ้างอิงงานวิจัยที่มีแหล่งที่มาของข้อมูลไว้ โดยขออธิบายวัคซีนที่ผ่านการอนุมัติให้ใช้ในเด็ก 5-17 ปีในประเทศไทย คือ Pfizer ผลการศึกษาสรุปได้ว่า
  1. ขนาดยาที่เหมาะสมกับเด็ก 5-11 ปี คือ 10 ug
  2. จากการศึกษาเด็กจำนวน 2285 คน ไม่พบผลข้างเคียงที่รุนแรงจากการฉีดวัคซีน มีเพียงอาการปวดบวมแดงร้อนเฉพาะที่ ปวดเมื่อยตัว ปวดหัว มีไข้ ซึ่งมักจะหายเองภายใน 1-2 วัน
  3. เมื่อวิเคราะห์ถึงประสิทธิภาพของวัคซีน เทียบกับกลุ่มที่ได้วัคซีนหลอก พบว่าวัคซีน Pfizer 10 ug มีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อ(เดลต้า) ได้สูงถึง 90.7 เปอร์เซ็นต์ และสามารถกระตุ้นภูมิได้สูงโดยมีระดับ Neutralizing Ab ใกล้เคียงกับผู้ใหญ่ที่ฉีด 30ug ครบ 2 dose
  4. ผลการฉีด vaccine ต่อ โอกาสการเกิด long covid syndromeไม่มีข้อมูลในเด็ก แต่ข้อมูลในผู้ใหญ่ พบว่า คนที่ได้รับ vaccine ครบ 2 เข็มลดโอกาสการเกิด long covid syndrome ได้ถึง 50%
  5. ผลการฉีด vaccine ต่อ โอกาสการเกิด MIS-C พบว่า การฉีดวัคซีน Pfizer 2 เข็มในเด็กวัยรุ่น (12-18ปี) สามารถป้องกันได้สูงถึง 91% แถมยังช่วยให้ไม่เกิดอาการป่วยหนักจาก MIS-C อีกด้วย

Question 5. กังวลใจกับ Vaccine m-RNA ที่เป็นเทคโนโลยีใหม่ไม่เหมาะกับเด็กเล็กหรือไม่ ในระยะยาว อาจจะเกิดเป็นมะเร็งเพราะ DNA เปลี่ยนอย่างที่เขาลือกันหรือไม่

วัคซีนโควิด19เด็ก ช่วยให้ไม่ป่วยอาการรุนแรง
วัคซีนโควิด19เด็ก ช่วยให้ไม่ป่วยอาการรุนแรง
  • สำหรับผลข้างเคียงของวัคซีน mRNA  มีข้อมูลของกรมควบคุมโรคของ USA พบว่าฉีดวัคซีนPfizer ให้เด็กอายุ 5-11 ปี ไปแล้ว 7.1 ล้านโดส ประมาณคร่าวๆ ก็ 3.6 ล้านคน มีเด็กเอเชีย อยู่ 7 % (2.5 แสนคน) พบว่าผลข้างเคียง มักจะเกิดในช่วง 3 วันแรก อาการรุนแรง 81 คน ไม่รุนแรง 3150 คน เสียชีวิต 2 คน (โดยเป็นเด็กที่มีภาวะสมองพิการ ชัก สุขภาพที่ไม่ค่อยดีอยู่แล้วก่อนจะฉีดวัคซีน) โดยอาการรุนแรงที่เจอ เป็นพวก ไข้ อาเจียน ปวดเมื่อยตามตัว กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ (และทุกรายรักษาหายทุกคน) โดยสถิติการเจอกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบจากการฉีดวัคซีนแค่ 1.25 คน/ล้านโดส เมื่อเทียบกับติดเชื้อโควิดมีโอกาสเกิดกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ 1500 : 1 ล้านคน และ ไม่มีเด็กที่แข็งแรงดี เสียชีวิตหลังจากฉีดวัคซีน แม้แต่คนเดียว
  • สำหรับ m-RNA ไปเปลี่ยน DNA นั้น ณ ขณะนี้ เราฉีด m-RNA ไปแล้วทั่วโลก มากกว่า 2 พันล้านโดส มีการติดตามผลข้างเคียง จากประเทศทาง Europe และ US มาประมาณ 18 เดือน ยังไม่พบข้อมูลที่ทำให้ DNA เปลี่ยนแปลงไป และถ้าดูจากกลไกการออกฤทธิ์ของ vaccine m-RNA จะพบว่า เมื่อ m-RNA เข้า cell แล้ววิ่งไปที่ โรงงานผลิตหนาม โดยที่ไม่เข้า Nucleus ที่มี DNA ดังนั้นจึงไม่มีโอกาสเปลี่ยน DNA ได้ครับ และ mRNA ที่เข้าไปจะถูกสลายตามกระบวนการปกติของร่างกายอยู่แล้ว เพราะ ร่างกายเรา เวลาจะผลิตโปรตีนอะไร ก็ต้องผ่านการสร้าง mRNA อยู่แล้ว สำหรับผลข้างเคียงระยะยาว 3-10 ปี เป็นประเด็นเดียวที่ไม่สามารถตอบได้ ณ ขณะนี้เนื่องจากมีข้อมูลไม่เพียงพอ เพราะต้องอาศัยเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ แต่ถ้าจะรอให้มีข้อมูลที่ชัดเจนก่อน เด็กอาจจะติดโควิดจนเกิดผลเสียตามที่ได้กล่าวมาข้างต้น

ข้อแนะนำจากคุณหมอ : สำหรับคนที่กังวลเกี่ยวกับเรื่องของผลข้างเคียงระยะยาวก็อาจจะเลือกฉีดวัคซีนเชื้อตาย เช่น ชิโนฟาร์มที่มีรายงาน Phase 1-2 และอนุมัติใช้แล้วในหลายประเทศ ทั้งจีน บาห์เรน ชิลี กัมพูชา แต่ไม่มีข้อมูล Phase 3 และข้อมูลการใช้งานจริงว่าได้ผลหรือไม่ในเด็ก และไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องของการลดโอกาสในการเกิด Long covid และ MIS-C ได้หรือไม่

Question 6. ปิดแต่โรงเรียน แล้วเด็กจะได้เรียนเมื่อไร การเรียนรู้ของเด็ก ก็สำคัญนะ

  • โดยเฉพาะในเด็กเล็ก เป็นช่วงเวลาวัยทองในการศึกษาเรียนรู้ทักษะในด้านต่าง ๆ ทั้งกีฬา ดนตรี มนุษยสัมพันธ์กับเพื่อนในวัยเดียวกัน ซึ่งการเรียนทางออนไลน์ไม่สามารถตอบสนองให้ได้ ดังนั้นการให้เด็กฉีดวัคซีน จะทำให้เด็กสามารถกลับมาเรียนได้อย่างต่อเนื่อง เมื่อฉีดวัคซีนได้ครอบคลุมมากพอ โอกาสเกิดการระบาดในวงกว้างก็จะลดลง เด็กก็จะได้กลับมาใช้ชีวิตในโรงเรียนได้เหมือนเดิม

    ขอขอบคุณข้อมูลดี ๆ จากเพจคุณหมอ
    ขอขอบคุณข้อมูลดี ๆ จากเพจคุณหมอ

ความจำเป็นที่เด็กอายุ 5-11 ปีต้องได้รับวัคซีนนั้น ประโยชน์หลัก ๆ อาจจะไม่ใช่เรื่องของการลดความรุนแรงของโรค แต่เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนจากการติดเชื้อโควิด19 และทำให้เด็กสามารถกลับมาเรียนได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ขาดโอกาสในการเรียนรู้ทักษะที่จำเป็นสำหรับวัยของเขา และหากว่าเมื่อโควิด19 เป็นโรคประจำถิ่น วัคซีนก็จะช่วยป้องกันร่างกายของลูกไปได้ตลอดทั้งชีวิตอีกด้วย

ขอขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก คุณหมอวัฒนพงศ์ สุภมงคลชัยกุล นายแพทย์ชำนาญการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์
บทความเป็นเพียงบางส่วนของข้อมูลที่คุณหมอเขียนให้ความรู้ไว้ สามารถอ่านฉบับเต็มได้ที่
www.facebook.com/watthanapong.suphamongkholchaikul

อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

ติดโควิด 5 วิธีกักตัวที่บ้าน ดูแลตัวเองและลูกๆ ระหว่างรอเตียง

ใครจะได้ฉีด วัคซีนไฟเซอร์เด็ก ล็อตแรก?

9 คำพูดที่ไม่ควรพูดกับลูก บั่นทอนจิตใจลูกถึงโต!

รับฟังลูก อย่างไรให้เขาอยากเล่า และพูดอย่างไรให้ลูกฟัง

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

พยาธิปอดหนู

เตือนภัย พยาธิปอดหนู ขึ้นตา ทำตาบอด

Alternative Textaccount_circle
event
พยาธิปอดหนู
พยาธิปอดหนู

อุทาหรณ์ เตือนภัยสำหรับคุณแม่ที่ชอบของดิบ หรือของสุก ๆ ดิบ ๆ เพราะอันตรายถึงขั้นตาบอดได้ จากเหตุ พยาธิปอดหนู ขึ้นตาค่ะ

เตือนภัยพยาธิปอดหนู ขึ้นตา ทำตาบอด

แพทย์โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร ได้พบผู้ป่วยโรคพยาธิปอดหนู ขึ้นตา จากการรับประทานอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ เป็นประจำ โดยเฉพาะ ‘กุ้งแช่น้ำปลา’ ทำให้ข้าราชการสาววัย 40 ปี ถึงกับตาบอด โดยเป็นผู้ป่วยรายแรกของ จ.พิษณุโลก ส่วนทั่วโลกพบผู้ป่วยจากพยาธิปอดหนูไม่เกิน 50 ราย และพบมากที่สุดในภาคอีสานของประเทศไทยค่ะ

พยาธิปอดหนู ขึ้นตา เริ่มจากตาพร่ามัว

จักษุแพทย์เจ้าของไข้ เล่าในการแถลงข่าวว่า คนไข้เป็นหญิงอายุ 40 ปี อาชีพข้าราชการ เข้าพบหมอด้วยอาการตาพร่ามัวข้างเดียวมาประมาณ 1 สัปดาห์ ก็ยังไม่พบสาเหตุ จึงได้นัดทำการตรวจตาอย่างละเอียดในอีก 3 สัปดาห์ต่อมา ด้วยวิธีการขยายม่านตา ในที่สุดก็พบว่าตามีการอักเสบ และพบพยาธิในวุ้นตา จึงรักษาด้วยการให้ยาฆ่าพยาธิ และยาลดอักเสบ จากนั้นได้ทำการผ่าตัดโดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จึงสามารถนำพยาธิออกมาจากตาได้ ก่อนจะส่งตรวจจนพบว่าพยาธิที่พบ เป็น ‘พยาธิปอดหนู’ ความยาวประมาณ 0.5 ซม.

พยาธิปอดหนู
อุทาหรณ์ เตือนภัยพยาธิปอดหนู ขึ้นตา

ขอบคุณภาพจาก โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร

หลังผ่าตัดตาบอดสนิท

หลังผ่าตัดนำพยาธิออกจากตาเรียบร้อยแล้ว ก็พบว่าตาข้างขวาของผู้ป่วยไม่สามารถมองเห็นได้อีก เนื่องจากตัวพยาธิได้ชอนไชไปยังจอประสาทตา ทำให้จอประสาทตาอักเสบเป็นหนอง ได้รับความเสียหาย จึงทำให้ตาบอดสนิท ซึ่งหลังจากนี้แพทย์ยังได้ทำการนัดรักษาต่อเนื่อง เพื่อเช็คร่างกายอย่างละเอียดว่า มีพยาธิในตำแหน่งอื่นของร่างกายอีกหรือไม่

พยาธิปอดหนูขึ้นตาครั้งแรกของโลกก็ที่ไทย

จากสถิติเกี่ยวกับพยาธิปอดหนูขึ้นตา มีรายงานว่า เคยพบผู้ป่วย ‘พยาธิปอดหนู’ ขึ้นตาครั้งแรกของโลก ในประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ.2505 และทั่วโลกมีการรายงานพบผู้ป่วยด้วยโรนี้ไม่เกิน 50 ราย และพบมากที่สุดในไทย เป็นผู้ป่วยจากภาคอีสาน ซึ่งรายงานโดยมหาวิทยาลัยขอนแก่นจำนวน 18 ราย

ทำไมจึงเรียกว่าพยาธิปอดหนู

พยาธิปอดหนูเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “พยาธิหอยโข่ง” พยาธิชนิดนี้เป็นพยาธิตัวกลมที่มีชื่อว่า “แองจิโอสตรองจิลัส แคนโทเนนซิส” (Angiostrongylus cantonensis) สาเหตุที่เรียกว่า ‘พยาธิปอดหนู’ เพราะ พยาธิตัวเต็มวัยทั้งสองเพศ จะอาศัยอยู่ในหลอดเลือดแดงของปอดหนู พยาธิตัวเมียจะออกไข่ในหลอดเลือดแดง และฟักตัวเป็นตัวอ่อน ระยะที่ 1 ปนออกมากับมูลหนู เมื่อตัวอ่อนไชเข้าหอยทาก หรือหอยน้ำจืด เช่น หอยโข่ง หอยขม หอยเชอรี่ กุ้งน้ำจืด ปลาน้ำจืด แล้วจะเจริญเป็นตัวอ่อนระยะติดต่อ ในระยะนี้หากคนรับประทานอาหารปรุงสุก ๆ ดิบ ๆ พยาธิจะเข้าสู่ระบบประสาท เช่น สมอง ไขสันหลัง หรือตา ฯลฯ

พยาธิปอดหนู
พยาธิปอดหนู

ขอบคุณภาพจาก โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร

อาการที่เกิดจากพยาธิปอดหนูเข้าร่างกาย

อาการเจ็บป่วย จะขึ้นอยู่กับตำแหน่งของอวัยวะที่พยาธิอยู่ เช่น เคสของคนไข้รายนี้ที่ตัวพยาธิขึ้นตาจึงทำให้เกิดอาการที่พบบ่อยคือตามัวลงแบบเฉียบพลัน ไม่มีอาการปวด หรือเคืองตาแต่อย่างใด ซึ่งจากการซักประวัติของผู้ป่วยพบว่ามีประวัติชอบทานอาหารสุกๆ ดิบๆ บ่อยครั้ง โดยเฉพาะกุ้งน้ำจืด ที่ทานเมนู ‘กุ้งแช่น้ำปลา’ เป็นประจำ

นอกจากนี้ ยังทําให้เกิดโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบได้อีกด้วย โดยระยะฟักตัวของการแสดงอาการกินเวลาประมาณ 7-30 วัน หลังจากที่ได้รับระยะติดต่อ อาการเริ่มแรกจะมีไข้ ปวดท้อง คลื่นไส้อาเจียน ปวดศีรษะ คอแข็ง บางรายมีอาการตาพร่ามัวเนื่องจากพยาธิมีการเดินทางเข้าตา นอกจากนี้ยังมีอาการเกร็งตามกล้ามเนื้อ สูญเสียการทรงตัว บางรายรุนแรงถึงเป็นอัมพาตและเสียชีวิตได้ ส่วนความรุนแรงของโรคพยาธิปอดหนูจะมากน้อยขึ้นอยู่กับจํานวนพยาธิที่ได้รับเข้าไป และการตอบสนองของร่างกายต่อพยาธิ

ป้องกันตัวเองจากพยาธิปอดหนู

วิธีการป้องกันไม่ให้เป็น โรคพยาธิปอดหนู คือควรล้างมือให้สะอาดก่อนรับประทานอาหาร หยุดรับประทานอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ ให้รับประทานเฉพาะอาหารที่ปรุงสุกและสด สะอาดเท่านั้น เพราะพยาธิที่อาศัยอยู่ตามสัตว์น้ำจืด เมื่อเข้าสู่ร่างกายอาจเป็นอันตรายเหมือนผู้ป่วยเคสนี้ที่ต้องสูญเสียการมองเห็นจากดวงตาข้างขวาไป 1 ข้าง เพียงเพราะชอบอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ และหากพยาธิเข้าไปอยู่ตามจุดสำคัญในร่างกาย เช่น ระบบประสาท สมอง ไขสันหลัง อาจจะถึงขั้นรุนแรงถึงเสียชีวิตได้นะคะ

ทีมแม่ ABK อยากให้คุณแม่ทุกท่านระมัดระวังตัวเองจากอาหารการกิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ เลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยงนะคะ เพราะผลที่เกิดจากพยาธิปอดหนูนั้นอันตรายมากจริง ๆ ค่ะ

ขอบคุณข้อมูลจาก

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์, MGR Online

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

อุทาหรณ์ เด็กจมน้ำ อุบัติเหตุอันดับต้น ๆ ที่เกิดกับลูกหลาน

อุทาหรณ์ เด็กติดในรถ! แนะวิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้น ช่วยลูกรอดในนาทีฉุกเฉิน

เตือนภัยแม่! ระวัง แกงค์มิจฉาชีพ แฝงมากับโทรศัพท์

ถูกยายหยิก

ลูก 3 ขวบบอกว่า ถูกยายหยิก เชื่อใครดีคะ…คุณหมอ?

Alternative Textaccount_circle
event
ถูกยายหยิก
ถูกยายหยิก

ลูก 3 ขวบเศษ โทรมาร้องไห้บอกว่า “ถูกยายหยิก” แต่พอโทรกลับไปหาคุณยาย คุณยายบอกว่า “ไม่ได้หยิก เพียงทำท่าจะตี” คุณแม่ตกใจโอ๊ย…. อกคุณแม่จะแตก ถามว่า “จะเชื่อใครดีระหว่างแม่ตัวเองกับลูกของตน”

รศ.นพ.พงษ์ศักดิ์ น้อยพยัคฆ์ กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการและพฤติกรรม รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช ได้ให้คำแนะนำ ไว้ดังนี้

โดยคุณหมอพงษ์ศักดิ์ เล่าว่า…

คงเป็นเรื่องตัดสินใจยากนะครับ สำหรับคนที่อยู่ตรงกลาง แต่ในความเป็นจริงไม่ว่าคุณแม่เลือกที่จะเชื่อใคร ก็คงต้องมีคนใดคนหนึ่ง ระหว่างลูกและคุณยายที่พูดไม่ตรงกับความเป็นจริง ที่เราเรียกกันว่า “พูดไม่จริง พูดปด หรือ โกหก” แล้วแต่ใครจะเรียกให้ฟังดูรุนแรงกว่ากัน คนที่ถูกตัดสินว่า พูดไม่จริงคงเสียใจ ขณะที่คนซึ่งถูกตัดสินว่าพูดจริง คงกระหยิ่มยิ้มย่องในใจว่า “เห็นไหมในที่สุด ฉันก็ชนะ” โดยที่คุณแม่เองไม่มีทางทราบได้เลยว่า เรื่องจริง คือ อะไร เว้นแต่ทั้งสองคนจะพูดไปในทิศทางเดียวกัน เพราะ คุณแม่ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ไม่จำเป็นต้องตัดสินว่า ใครถูก? ใครผิด?

มาถึงตรงนี้ คุณแม่ลองทบทวนดูนะครับว่า ถ้าเราต้องการคำตอบว่า ใครถูก ใครผิด จะได้ประโยชน์อะไรมากน้อยเพียงไร หรือเราไม่จำเป็นต้องเชื่อใคร โดยไม่ต้องตัดสินว่า ใครพูดจริง ใครพูดไม่จริง แต่นำข้อมูลที่เราได้รับมาใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาลูกของเรา ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาเพื่อส่งเสริมทักษะแต่ละด้านหรือพัฒนา Power BQ ความสามารถที่เพิ่มพลังให้กับลูกในยุคนี้ ที่ผมเคยเล่าให้ฟังมาก่อนหน้านี้แล้ว  รวมทั้งเพื่อส่งเสริมการใช้ชีวิตร่วมกันในครอบครัวที่เรียกว่า การส่งเสริมทักษะทางสังคมที่ดีซึ่งเป็นหนึ่งใน Power BQ นั่นเองครับ

หาทางส่งเสริมพัฒนาทักษะด้านต่างๆ ของลูกแทนดีกว่า

นี่คงเป็นหนึ่งในตัวอย่างการใช้ชีวิตรอบตัวที่เราสามารถนำมาพัฒนาต่อยอดให้กับลูกได้มากมายโดยไม่ต้องตัดสินว่า ใครพูดจริง ใครพูดไม่จริง

เช่น เมื่อลูกมาเล่าว่า ถูกยายหยิก คุณแม่ลองพูดคุยกับลูกดีไหมครับว่า

  • “คุณยายหยิกหนูตรงไหน”
  • “หนูเจ็บไหม”
  • “หนูรู้สึกอย่างไร”
  • “ทำไมคุณยายถึงหยิกหนู”
  • “หนูทำอะไรให้คุณยายไม่พอใจ”
  • “ถ้าหนูไม่อยากให้คุณยายหยิก หนูควรทำอย่างไรดี”

จากคำถามสั้นๆ ง่ายๆ ที่เหมาะสมกับวัย สามารถส่งเสริมให้ลูกได้พัฒนาทั้งทักษะทางภาษา อีคิว ทักษะทางปัญญา เรียกว่าส่งเสริมลูกได้อย่างรอบด้านของ Power BQ เลยนะครับ

เป็นแบบอย่างที่ดีในการตอบสนองต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

นอกจากคำถามเพื่อฝึกให้ลูกได้ทบทวนเหตุการณ์ ฝึกทักษะการสื่อสารโต้ตอบ ทักษะการคิดวิเคราะห์ หรือทักษะสำคัญอื่นแล้ว คุณแม่ยังสามารถส่งเสริมให้ลูกเรียนรู้ผ่าน การเป็นแบบอย่างที่ดีในการตอบสนองต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยนะครับ เช่น แสดงอาการตอบสนองความไม่พอใจที่มีต่อคุณยายของลูกด้วยท่าทีที่สงบ ไม่แสดงออกเหมือนกระต่ายตื่นตูม หรือตัดสินถูกผิด ซึ่งจะเป็นแบบอย่างของการควบคุมอารมณ์ความรู้สึกที่ดีหรืออีคิว

การฝึกฝนทักษะเหล่านี้ ไม่ได้แตกต่างจากการส่งเสริมพฤติกรรมพึงประสงค์และการตอบสนองต่อพฤติกรรมไม่พึงประสงค์อื่นเลยนะครับ เมื่อลูกบอกเรา จะเชื่อหรือไม่เชื่อ คงไม่ใช่ประเด็นสำคัญมากไปกว่า การนำเรื่องราวมาฝึกฝนพัฒนาทักษะของลูก คุณแม่จะเห็นได้ว่า การซักถามลูก เมื่อลูกเล่าได้รู้เรื่อง เรียบเรียงเรื่องราวได้ดี ก็ชื่นชมสิ่งที่เขาทำ

  • “หนูเก่งมากเลยที่เล่าเรื่องราวให้แม่เข้าใจได้”
  • “หนูเก่งมากเลยที่บอกความรู้สึกของหนูให้แม่ฟังได้”
  • “หนูเก่งมากเลยที่หนูควบคุมตัวเองได้ ไม่หยิกคุณยายคืน”

ลูกจะเรียนรู้ว่า พฤติกรรมที่เขาทำนั้นเป็นสิ่งที่ดีและพึงประสงค์สำหรับคุณแม่ เขามีโอกาสรักษาทักษะด้านนั้นไว้ได้มาก และพัฒนาตัวเองให้เก่งในทักษะด้านนั้นให้มากขึ้น

วิธีพูดให้ลูกทำตาม

ถ้าลูกทำได้ไม่ดีคุณแม่ก็สังเกตให้ได้ว่า ลูกทำได้ไม่ดีตรงไหน ทำไมยังทำได้ไม่ดี มีอะไรที่จะพัฒนาต่อยอดต่อไปได้ด้วยวิธีอย่างไร เช่น เขายังอธิบายเรื่องราวได้ไม่ปะติดปะต่อ

  • ถ้าเหมาะสมกับวัยที่ยังทำได้ไม่ดีนัก ก็ให้โอกาสเขาทำซ้ำให้บ่อยครั้ง อีกไม่นานเขาก็มีโอกาสพัฒนาต่อยอดได้ไม่ยาก
  • หากทักษะที่เขามีดูล่าช้ากว่าวัย ก็อาจหาวิธีช่วยที่มากขึ้นเข้มข้นขึ้น เพื่อให้เขาพัฒนาได้ใกล้เคียงเด็กคนอื่นในรุ่นราวคราวเดียวกัน เช่น ทำให้ดูเป็นแบบอย่าง ชี้ชวนให้ดูเวลาเห็นผู้อื่นปฏิบัติอย่างเหมาะสม สร้างสถานการณ์จำลองให้ลูกฝึกปฏิบัติจากง่ายไปยาก  หรือแม้แต่ผ่านการเล่นด้วยกันไม่ว่าจะมีของเล่นหรือไม่ เมื่อทำได้ก็เสริมแรงด้วยคำชม หรือรางวัลเล็กน้อยที่ไม่มากเกินไป

สิ่งสำคัญนอกจากการวางแผนและใช้วิธีที่ดีในการส่งเสริมแล้ว คุณแม่ยังต้องพัฒนาทักษะของตนเองในการติดตามและประเมินผลความก้าวหน้าของพัฒนาการที่เราต้องการให้ลูกพัฒนาด้วยนะครับว่า สิ่งที่เราลงทุนลงแรงให้กับลูก เขามีพัฒนาการดีขึ้นมากน้อยเพียงไร หากยังล่าช้าอยู่ หรือล่าช้ามากขึ้น น่าจะต้องพาไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญครับ เริ่มจากกุมารแพทย์ที่ดูแลน้องอยู่ก่อนก็ได้ครับ หากคุณหมอได้ประเมินความสามารถและพัฒนาการของน้องแล้ว คุณแม่ก็จะได้รับคำแนะนำที่เหมาะสมสำหรับน้องแต่ละคนที่อาจมีความแตกต่างกัน ทั้งตัวเขาเอง สิ่งแวดล้อม หรือบริบทครอบครัวและสังคมครับ

มาถึงตรงนี้ พูดจริงหรือพูดไม่จริง คงไม่ใช่ประเด็นแล้วใช่ไหมครับ สิ่งที่จะเป็นประโยชน์ต่อการเรียนรู้ของลูกอย่างแน่นอน คือ คุณแม่จะนำสิ่งที่อยู่ในชีวิตประจำวันที่เราได้ประสบพบเห็นจากการใช้ชีวิตร่วมกับลูก มาพัฒนาให้เขามี Power BQ ที่ดีได้อย่างไร ซึ่งน่าจะตอบโจทย์ของการส่งเสริมพัฒนาการให้กับลูกได้อย่างรายวันเลยครับ เป็นกำลังใจให้กับคุณแม่ทุกท่านเลยนะครับ

ขอบคุณบทความโดย : รศ.นพ.พงษ์ศักดิ์ น้อยพยัคฆ์ กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการและพฤติกรรม
รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช


Power BQ (Power Baby and Kids Quotients) เป็นอีกหนึ่งรูปแบบของการนำทักษะ หรือความสามารถ หรือความฉลาดในด้านที่จำเป็นต่อการเรียนรู้ของเด็กตั้งแต่วัยแบเบาะ ไปจนถึงช่วงที่พัฒนาการของเด็กเริ่มมีความสมบูรณ์มากขึ้น มาเป็นแนวทางให้คุณพ่อคุณแม่สามารถนำไปส่งเสริมเพิ่มพูนให้กับลูกเพิ่มขึ้นเพื่ออนาคตที่ดีของเขา มีทั้งหมด 10 ทักษะ

1. ความฉลาดทางสติปัญญา IQ 
2. ความฉลาดทางอารมณ์ EQ 
3. ความฉลาดทางคุณธรรม MQ
4. ความฉลาดของการเข้าสังคม SQ
5. ความฉลาดในการคิดสร้างสรรรค์ CQ 
6. ความฉลาดในการเล่น PQ
7. ความฉลาดต่อการเผชิญกับปัญหา AQ 
8. ความฉลาดต่อการมีสุขภาพที่ดี HQ
9. ความฉลาดในการคิดบวก OQ
10. ความฉลาดในการคิดเป็น TQ

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

บทความที่น่าสนใจอื่นๆ

เรียนออนไลน์ก็ “สอนลูกซื่อสัตย์ ไม่โกง” ได้

ลูกไม่กินข้าว ทําไงดี? หมอแนะ 10 วิธีรับมือเมื่อลูกไม่ยอมกินข้าว

เล่นอะไรให้ลูกฉลาด หมอแนะ! วิธีเล่นกับลูกตั้งแต่แรกเกิด – 5 ปี

ลูกเลียนแบบพ่อแม่ พฤติกรรมเลียนแบบของเด็กสั่งจากสมอง! หนูรู้ หนูจำได้

 

Warng Warng : Taiwan Mala & Herbal Shabu

ยกไต้หวันมาไว้ที่เมืองไทย ต้นตำรับชาบูไต้หวัน 3 ซุปในหม้อเดียวแห่งแรก “นึกอยากทานหม่าล่าเมื่อไหร่ให้ไป Warng Warng”

Alternative Textaccount_circle
event
Warng Warng : Taiwan Mala & Herbal Shabu
Warng Warng : Taiwan Mala & Herbal Shabu

หลังเพิ่งเปิดให้บริการได้เพียงไม่นาน ‘Warng Warng : Taiwan Mala & Herbal Shabu’ ก็ประสบความสำเร็จได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากลูกค้า ด้วยซิกเนเจอร์ซุปต้นตำรับอันเป็นเอกลักษณ์ทั้ง 3 รสชาติ ที่ถูกปากบรรดานักชิมชาวไทย พร้อมบรรยากาศอบอุ่นในสไตล์ไต้หวันแท้ๆ รวมถึงหม้อชาบูไฮเทค 3 ซุปในหม้อเดียว แถมยังปรับเลื่อนอัตโนมัติเพิ่มความสะดวกได้อย่างใจ เลื่องลือไปปากต่อปาก พร้อมรุกตลาดชาบูเมืองไทย!!

Warng Warng : Taiwan Mala & Herbal Shabu

ภายในร้านโดดเด่นด้วยไฮไลท์ภาพวาดงิ้วอุปรากรจีน และโคมไฟประดับ ตกแต่งร้านในสไตล์ Modern Chinese บรรยากาศเรียบง่าย อบอุ่นเป็นกันเอง ‘Warng Warng : Taiwan Mala & Herbal Shabu’ ก่อตั้งโดย Mr. Al Pien (อัล เปียงเจ้าของกิจการชาวไต้หวัน นักลงทุนผู้มีใจรักในอาหาร ผู้เคยประสบความสำเร็จกับกิจการร้านอาหารมาแล้ว หลังปิดดีลขายกิจการร้านอาหารทั้งหมดให้กับ Huana Group เมื่อปี 2016 ด้วยแพสชั่นในอาหารที่ยังคงอยู่ ประกอบกับเทรนด์วัฒนธรรมการรับประทานชาบูที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เขาปรารถนาจะนำเอารสชาติของชาบูหม้อไฟไต้หวัน 3 สูตรเด็ด ซึ่งเขาเป็นเจ้าตำรับคิดค้นขึ้นมาให้คนไทยได้ชิม สำหรับในภาษาจีนนั้นคำว่า ‘ว่างว่าง’ (旺旺) มีความหมายมงคลถึงเปลวไฟแห่งความรุ่งเรืองทั้งในแง่ธุรกิจและชีวิต ดังนั้นนี่จึงเป็นชื่อที่สื่อถึงแบรนด์ชาบูได้เป็นอย่างดี!

Warng Warng : Taiwan Mala & Herbal Shabu

ต้นตำรับชาบูไต้หวัน 3 ซุปในหม้อเดียวแห่งแรก : พร้อมหม้อชาบูสุดไฮเทคปรับเลื่อนได้อย่างใจ

จุดเด่นของการรับประทานชาบูหม้อไฟที่ว่างว่าง ซึ่งคุณจะไม่เคยพบเห็นที่ไหนมาก่อนทั้งในเมืองไทยหรือแม้กระทั่งที่อื่นๆ คือเราเป็นชาบูไต้หวันแห่งแรกซึ่งให้คุณลิ้มลองความอร่อยได้ทั้ง 3 ซุป 3 รสชาติพร้อมกันในหม้อเดียว แถมหม้อชาบูของว่างว่างยังได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษให้เลื่อนระดับมอบความสะดวกในการกิน ด้านรสชาติของซุปอันเป็นหัวใจหลักและจิตวิญญานของร้านชาบูนั้น ก็พิเศษด้วยน้ำซุปซึ่ง มิสเตอร์ อัล เปียง ผู้เป็นเจ้าของแบรนด์ ได้ร่วมมือกับเชฟมืออาชีพคิดค้นสูตร 3 น้ำซุปซิกเนเจอร์อันเป็นเอกลักษณ์ที่เราแสนจะภาคภูมิใจ ได้แก่

ซุปหม่าล่าต้นตำรับ ซุปหม่าล่าแบบจีนโบราณนั้นค่อนข้างมัน ชาและเผ็ด ไม่เหมาะสำหรับดื่ม ไต้หวันดัดแปลงวิธีปรุงโดยใช้น้ำมันและพริกให้น้อยลง ทำให้อร่อย ดีต่อสุขภาพ ทว่ายังคงรสชาติจัดจ้านอันเป็นเอกลักษณ์ของหม่าล่า ทั้งยังดื่มเป็นซุปก็ได้ เราปรุงซุปนี้ด้วยเครื่องเทศและวัตถุดิบนำเข้าจากจีนแผ่นดินใหญ่มากถึง 21 ชนิด  เคี่ยวนานถึง 6-8 ชั่วโมงเต็ม ต่อด้วย ซุป 8 สมุนไพรอมตะ สูตรเฉพาะของว่างว่าง ซุปสมุนไพร ‘ปาเจิน’  ทำจากสมุนไพรล้ำค่า 8 ชนิด ได้แก่ โสม ถั่งเช่า พุทราจีน เก๋ากี้ ตังกุย โบตั๋นขาว ชางจู๋ และแยม ทั้งอร่อยและอุดมประโยชน์ต่อสุขภาพ ชาวจีนเชื่อกันว่าเป็นซุปอายุวัฒนะ และ ซุปมะเขือเทศไต้หวัน พลิกแพลงปรุงสตูว์มะเขือเทศแบบฝรั่งเศสด้วยเครื่องเทศและสมุนไพรจีน เพื่อให้ได้รสชาติที่เหมาะกับการรับประทานในแบบชาบูมากขึ้น คนรักชาบูส่วนใหญ่เมื่อได้ลิ้มลองแล้วต่างตกหลุมรักรสชาติของซุปสตูว์ซึ่งปรุงอย่างพิถีพิถันนี้ เปี่ยมไปด้วยคุณประโยชน์ ช่วยป้องกันมะเร็ง ชะลอวัย อุดมไปด้วยวิตามิน A

เมนูไฮไลท์อาหารจานพิเศษ ของร้านประกอบด้วย เนื้อพิเศษคัดสรร เราเน้นมากในเรื่องคุณภาพของเนื้อซึ่งคัดสรรมาเป็นอย่างดี ลูกค้าสามารถเลือกอร่อยกับวัตถุดิบ อาทิ เนื้อวากิวญี่ปุ่น เนื้อนำเข้าจากออสเตรเลีย เนื้อไทย-เฟรนช์ รวมถึงหมูคูโรบูตะ ไปจนถึงอาหารทะเลสด รสชาติเยี่ยม รับประทานคู่กับซอสชาบูไต้หวัน มีให้เลือกอร่อย ถึง 3 รสชาติ ได้แก่ ซอสงากระเทียม ซอสซาฉาเจี้ยง และซอสพอนสึ

อาหารโฮมเมดสูตรพิเศษ 3 จานหลักที่ปรุงอย่างพิถีพิถัน ได้แก่ ‘เต้าหู้โฮมเมดสูตรไต้หวัน’ ทั้ง 3 แบบของเราไม่นิ่มหรือแข็งจนเกินไปน้ำซุปชาบูซึมซับได้ดี ‘ลูกชิ้นทำมือ ไต้หวันขึ้นชื่อในเรื่องลูกชิ้นชั้นดี เราบรรจงผลิตลูกชิ้นทำเองนานาชนิดทั้งนุ่มอร่อยชวนลิ้มลอง ‘บะหมี่มันฝรั่ง’ เส้นบะหมี่ที่บรรจงนวดผสมมันฝรั่ง ไม่เพียงแต่รสสัมผัสหนุบหนับ ยังให้แคลอรีต่ำ ดีต่อสุขภาพ

Warng Warng : Taiwan Mala & Herbal Shabu

ไก่กรอบหม่าล่า เมนูเด่น ขายดีอันดับ 1 รสจัดจ้านหอมกลิ่นหม่าล่าสุดๆ เคล็ดลับความอร่อยคือนำไปทอดถึง 3 ครั้ง ข้าวอบฮ่องกง หรือ ‘La-wei Pot’ อันเป็นที่นิยมของชาวฮ่องกง ที่ว่างว่างเรานำเข้าวัตถุดิบจากผู้ผลิตที่มีชื่อในประเทศจีน มาเพื่อปรุงอาหารจานนี้โดยเฉพาะ มีให้เลือกอร่อยได้ ถึง 3 เมนู ได้แก่  ข้าวอบกุนเชียงหมูแฮมฮ่องกง  ข้าวอบกุนเชียงตับเป็ดและเป็ดย่าง และ  ข้าวอบกุนตับเป็ดและแฮมจินฮัวรมควัน 4 ชนิด

ปิดท้ายด้วยของหวานเลิศรส สไตล์จีนที่รู้จักกันดี อย่าง ‘กุ้ยหลิงเกา วุ้นเต่าและสมุนไพรโป่งรากสน สรรพคุณล้างพิษ แก้ร้อนใน  ‘อัลมอนด์พุดดิ้ง’ ช่วยต้านริ้วรอย เสริมภูมิต้านทาน แก้ร้อนใน และ บัวลอยงาดำ แสนอร่อย

Warng Warng : Taiwan Mala & Herbal Shabu

ด้วยรสชาติอาหารที่ถูกปาก คุณภาพที่สัมผัสได้จากความตั้งใจนำเสนอ Mala & Herbal Shabu สไตล์ไต้หวันให้เป็นที่รู้จัก ในราคาที่จับต้องได้ รวมถึงบรรยากาศอบอุ่นล้อมวงกันรับประทานหม้อไฟในหมู่ครอบครัวเพื่อนฝูง หลังจากเพิ่งเปิดตัว 2 สาขาในกรุงเทพฯ เมื่อปี 2021 ‘Warng Warng : Taiwan Mala & Herbal Shabu’ จึงได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากบรรดานักชิมในปี 2022 นี้เรามีแผนที่จะขยายเพิ่มอีก 2 สาขาในกรุงเทพฯ และอีก 10 สาขาในต่างจังหวัดภายใน 3 ปีถัดจากนี้ โดยยังตั้งเป้าหมายอันท้าทายเอาไว้ว่าจะรุกขึ้นเป็นผู้นำตลาดหม่าล่าชาบูของเมืองไทยในอนาคต อยากกินหม่าล่า ไป Warng Warng!”

Warng Warng : Taiwan Mala & Herbal Shabu สาขาหลัก สุขุมวิท 33 โทร. 096-301-9699 , https://web.facebook.com/warngwarngshabu , สาขาย่อย : รัชโยธิน โทร. 098-245-2424, https://web.facebook.com/wws.ratchayothin Delivery Application : Grab, Food Panda และ Hungry Hub

keyboard_arrow_up