ทำไมต้องผ่าคลอด ข้อบ่งชี้ที่แม่เลือกคลอดเองตามธรรมชาติไม่ได้!


ในปัจจุบันวิธีการผ่าคลอดก็ถือเป็นทางเลือกสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ ที่ต้องการความสะดวกสบายเพิ่มขึ้น ต้องการฤกษ์วันคลอดแน่นอน และต้องการคลอดแบบชนิดที่ไม่ต้องมีอาการเจ็บปวดมาก จึงเป็นเหตุให้สถานการณ์การผ่าตัดคลอดเพิ่มสูงขึ้นทุกปี ซึ่งโดยปกติการผ่าคลอดแพทย์มักจะกำหนดวันล่วงหน้า แต่ก็มีอีกหลายกรณีที่เป็นสัญญานเตือนว่า ทำไมต้องผ่าคลอด ข้อบ่งชี้ที่คุณแม่ไม่สามารถเลือกได้เองว่าจะขอคลอดลูกแบบธรรมชาติ

ทำไมต้องผ่าคลอด ข้อบ่งชี้ที่แม่เลือกคลอดเองตามธรรมชาติไม่ได้!

ตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ส่งเสริมให้เกิดการคลอดเองตามธรรมชาติก่อน และโดยปกติแพทย์จะแนะนำคุณแม่ตั้งครรภ์ให้คลอดปกติเองก่อน แต่ก็มีข้อบ่งชี้ที่จำเป็นต้องผ่าคลอดเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจคาดไม่ถึง ถ้าแพทย์มีความเห็นว่าการคลอดด้วยวิธีปกติจะทำให้คุณแม่หรือทารกในครรภ์มีความเสี่ยงมากเกินไป ก็จะแนะนำให้ใช้วิธีการผ่าตัดคลอด

ผ่าตัดคลอดบุตร

กรณีเกิดความผิดปกติของทารกในครรภ์แม่

  • ลูกไม่กลับหัว หรือทารกอยู่ในท่าผิดปกติ เช่น ท่าขวาง, ท่าก้นออก ซึ่งถือเป็นท่าที่ผิดปกติในการคลอด เพราะการคลอดโดยธรรมชาติทารกจะต้องเอาศีรษะลง ดังนั้นการผ่าคลอดจึงเป็นวิธีเหมาะสมที่สุด
  • มีความผิดปกติของรก เช่น ภาวะรกเกาะต่ำขวางทางออกของทารก อาจจำเป็นต้องนอนพักบนเตียงเพื่อดูอาการ และเมื่อถึงกำหนดคลอดก็อาจต้องใช้การผ่าคลอด ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ภาวะรกลอกตัวก่อนกำหนด อาการนี้มักจะเกิดขึ้นในช่วงการตั้งครรภ์ไตรมาสที่ 3 ทั้งนี้ภาวะดังกล่าวอาจทำให้เกิดเลือดออกและปวดที่บริเวณมดลูก อีกทั้งยังทำให้ทารกไม่ได้รับออกซิเจนจึงทำให้ต้องทำการผ่าคลอดแบบฉุกเฉินเพื่อรักษาชีวิตทารกในครรภ์
  • มีภาวะแทรกซ้อนที่ต้องทำให้คลอดโดยเร็ว เช่น สายสะดือย้อย, สายสะดือพันคอ
  • มีภาวะผิดสัดส่วนระหว่างศีรษะทารกและอุ้งเชิงกราน ทารกในครรภ์มีขนาดศีรษะที่ใหญ่กว่ากระดูกเชิงกรานของแม่ ทำให้เด็กไม่สามารถลอดผ่านเชิงกรานแม่ออกมาได้ จึงต้องใช้การผ่าคลอด
  • ครรภ์เป็นพิษอย่างรุนแรง ทารกอยู่ในภาวะวิกฤติ เสียงหัวใจลูกเต้นช้าผิดปกติ ภาวะความดันโลหิตสูง หรือมีการแตกของมดลูก
  • ทารกสำลักน้ำคร่ำ
  • มดลูกแตก คือแม่และทารกในครรภ์ขาดออกซิเจน จำเป็นต้องได้รับการผ่าคลอดโดยด่วน
  • ภาวะความเครียดของทารกในครรภ์ ซึ่งมักจะเกิดจากการที่ทารกขาดออกซิเจนไปเลี้ยงอย่างเพียงพอ จำเป็นต้องผ่าคลอดเพื่อความปลอดภัย
  • ตั้งท้องแฝดหรือท้องแฝด 3 คนขึ้นไป ในบางกรณีที่มีลักษณะการกลับตัวของทารกไม่พร้อมสำหรับการคลอด หรือร่างกายคุณแม่ไม่พร้อมสำหรับการคลอดแบบธรรมชาติ ก็อาจต้องใช้การผ่าคลอดแทน

กรณีที่เกิดจากร่างกายของแม่ตั้งครรภ์

  • คุณแม่เคยผ่าคลอดมาก่อนหรือเคยผ่าตัดมดลูก โดยส่วนใหญ่แล้วเมื่อคุณแม่เคยผ่านการผ่าคลอดมาแล้ว การคลอดครั้งต่อไปก็อาจต้องใช้การผ่าคลอดเช่นกัน
  • มีการวินิจฉัยพบปัญหาสุขภาพที่อาจเป็นอันตรายต่อแม่ตั้งครรภ์หากทำวิธีคลอดแบบธรรมชาติเช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคมะเร็งปากมดลูก ครรภ์เป็นพิษ มีความดันโลหิตสูงชนิดรุนแรงหรือมีความเจ็บป่วยอื่น เป็นต้น ซึ่งหากมีภาวะแทรกซ้อนก็จำเป็นต้องใช้วิธีผ่าคลอด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายกับทารกในครรภ์
  • ปากมดลูกไม่เปิด มีการคลอดที่เป็นไปได้ช้า มีแนวโน้มการคลอดลูกเองตามธรรมชาติไม่สำเร็จ
  • การติดเชื้อของแม่ เช่น ติดเชื้อไวรัส HIV โรคตับอักเสบ หรือมีการกำเริบของเริมที่อวัยวะเพศที่สามารถติดต่อสู่ลูกผ่านการคลอดทางช่องคลอด ก็จำเป็นต้องทำการผ่าคลอดเพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อจากแม่สู่ลูกที่อาจเป็นอันตรายต่อทารก
  • อุ้งเชิงกรานแคบผิดปกติหรือไม่ขยาย โดยปกติเมื่อครบกำหนดคลอดอุ้งเชิงกรานจะขยายออกเพื่อให้เด็กได้คลอดออกจากท้องแม่ แต่หากคุณแม่มีอุ้งเชิงกรานที่ผิดปกติหรืออุ้งเชิงกรานไม่ขยาย ก็จำเป็นต้องคลอดด้วยการผ่าตัดคลอดเท่านั้น

ทั้งนี้ข้อบ่งชี้บางข้อในแต่ละโรงพยาบาลอาจตั้งไว้ไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับการวินิจัยของคุณหมอ ความพร้อมของบุคลากรและเครื่องมือของแต่ละโรงพยาบาล โดยการผ่าคลอดนั้นแบ่งได้เป็น 2 กรณีคือ แบบวางแผนล่วงหน้าและแบบฉุกเฉิน และมักเป็นตัวเลือกหลัง ๆ หากคุณแม่มีร่างกายที่แข็งแรงและสามารถคลอดด้วยวิธีธรรมชาติได้

อ่านต่อ เตรียมตัวอย่างไรเมื่อแม่ต้องผ่าคลอด คลิกหน้า 2

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

    ภรรยาที่ดี

    นี่คือ 10 ลักษณะ “ภรรยาที่ดี” ที่สามีต้องการ!

    ฝากให้คุณสามีทั้งหลายอ่าน! ผลวิจัยเผย ภรรยาที่ดี ต้องเป็นคนที่ชอบอารณ์เสีย ภรรยาขี้บ่น จะช่วยให้สามีสุขภาพดีขึ้น และอายุยืน ที่เป็นเช่นนี้เพราะอะไร ตามมาดูกัน!

    วิจัยเผย! ภรรยาที่ดี ต้องเป็นคนที่ชอบอารณ์เสีย

    มีผลการวิจัยเกี่ยวกับการปลดปล่อยอารมณ์โมโห เผยว่าการกระทำเช่นนี้จะช่วยให้คนคนนั้นมีสุขภาพดีขึ้นได้ โดยอธิบายว่า… เมื่อคนๆ หนึ่งโกรธ เขาจะสามารถตัดสินใจได้ดีขึ้น น่าจะเป็นเพราะกลไกทางอารมณ์ ที่ทำให้สมองเพิกเฉยต่อสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นั้น ๆ ออกไป จึงทำให้การตัดสินใจมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    ซึ่งก็สอดคล้องกับงานวิจัยของมหาวิทยาลัยมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่บอกว่าการเป็นภรรยาขี้บ่น ขี้โมโห จู้จี้จุกจิก และชอบออกคำสั่งกับคุณสามี จะช่วยให้เขามีชีวิตยืนยาวกว่าปกติ และมีสุขภาพดีกว่าคนทั่วๆ ไป

    โดยงานวิจัยนี้ ได้ทำการเก็บข้อมูลจากคู่รัก จำนวน 1,228 คู่ ที่มีอายุ 57 – 85 ปี ติดต่อกันเป็นระยะเวลา 5 ปี เพื่อศึกษาว่า “ชีวิตคู่ที่ไม่มีความสุขนั้นมีผลต่อสุขภาพและช่วงอายุที่สั้นลงหรือไม่?”

    ผลปรากฎว่าผลการวิจัยที่ออกมานั้น ตรงกันข้ามกับสิ่งที่หลายๆ คนคิดเป็นอย่างมาก โดยจากการเก็บข้อมูล พบว่า… สามีที่มีภรรยาที่เจ้ากี้เจ้าการ จู้จี้จุกจิก จะกลายเป็นคนที่มีความเสี่ยงด้านสุขภาพน้อยกว่าหรือ หากมีอาการป่วย ก็จะมีโอกาสที่จะสามารถรักษาให้หายขาดได้มากกว่าอีกด้วย

    Hui Liu หัวหน้าทีมวิจัยกล่าวว่า… “เป็นเรื่องจริงที่ภรรยาเหล่านี้ มักจะคอยจับตาดูสามีของตัวเองอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะเรื่องของสุขภาพและหากสามีมีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวานที่ต้องตรวจสอบบ่อยครั้ง การมีภรรยาที่คอยห้ามหรือคอยบังคับให้ทำโน่นทำนี่ อารมณ์เสียใสเมื่อสามีทำตัวไม่ดี พวกเขาก็มักจะมีสุขภาพที่ดีอย่างไม่น่าเชื่อ และมีช่วงชีวิตที่ยืนยาวมากกว่าคนธรรมดาทั่วไปอีกด้วย”

    Must read >> 10 ข้อเช็คเลยเรื่องอะไรที่ สามีภรรยาทะเลาะกัน มากที่สุด

    ภรรยาขี้บ่น ชอบโมโห ดีอย่างไร? ที่ดี

    อาจเรียกได้ว่าการมีภรรยาที่ชอบอารมณ์เสีย เป็นเรื่องที่ดี ซึ่งก็มีคำกล่าวที่คล้ายกันว่า .. การมองหาภรรยาต้องหาผู้หญิงที่ชอบ “อารมณ์เสีย วีนใส่” เพราะว่าผู้หญิงที่ไม่เคยอารมณ์เสีย หรือ วีนใส่ ก็เหมือน “น้ำเปล่า” แก้วหนึ่ง สามารถดับกระหายได้ แต่ไร้รสชาติ จืดชืด

    ดังนั้นผู้หญิงที่มี “อารมณ์ฉุนเฉียว” ก็เปรียบเหมือนสุรา ทั้งน่าตื่นเต้นและน่าจดจำ แต่ในความเป็นจริงนั้นแล้ว การที่เธออารมณ์เสียก็เพื่อตัวคุณสามีเอง เช่น เมื่อคุณมาสาย เธอจะโกรธคุณมาก นั่นเป็นเพราะเธอกังวลและเป็นห่วง กลัวว่าจะเกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดขึ้นกับคุณอะไร

    เมื่อคุณสามีไม่ดูแลตัวเอง ภรรยที่ดี ก็จะวีนใส่ นั่นเป็นเพราะเธอเป็นห่วงสุขภาพของคุณ หรือเมื่อคุณดื่มเธอจะอารมณ์เสีย เป็นเพราะเธอกังวลว่าจะไม่มีใครดูแลคุณ และกลัวว่าจะเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นกับคุณ นั่นก็คือการเป็นห่วงนั่นเอง

    ซึ่งก็มีคุณผู้ชายหลายคนที่ฟังเสียงของภรรยาเป็นเพียงแค่ลมพัดผ่านไป ภรรยาที่ดี จึงต้องอารมณ์เสีย และวีนใส่ นั่นก็เพื่อหวังว่าคุณสามีจะจดจำเรื่องเหล่านั้นไว้ในใจและตั้งใจทำมันอย่างจริงจัง ตลอดๆ

    เชื่อได้เลยว่าจากที่กล่าวมาข้างต้น คุณสามีมักประพฤติตัวให้ภรรยาต้องบ่นกันเป็นส่วนใหญ่แน่นอน ซึ่งถ้าคุณสามีคนไหน ที่โดนภรรยาดุบ่อยๆ อย่าเพิ่งน้อยใจ เพราะหากเขาจุกจิกจู้จี้ เอาใจใส่ทุกเรื่องเป็นแม่ที่ดี ดูแลลูกและตัวคุณเป็นอย่างดี ก็ถือว่าคุณก็เป็นสามีที่โชคดีมากๆ

    แต่อย่างไรก็ตามขอฝากไว้กับเหล่าภรรยาที่ดีทั้งหลายว่า การบังคับ หรือจู้จี้จุกจิกมากเกินไป ก็อาจจะส่งผลร้ายมากกว่าดี และทำให้อีกฝ่ายเกิดความเครียดสะสม จนอาจนำไปสู่การเลิกรากันได้ในที่สุด … ล้วถ้าเป็นเช่นนั้น ภรรยาที่ดี ต้องทำตัวแบบไหน มีลักษณะอย่างไร เพื่อมัดใจให้สามีอยู่ในโอวาท หรือ รักกันไปตลอด ตามมาดู 10 คุณสมบัติทของ ภรรยาที่ดี ที่ควรมีเพื่อความสัมพันธ์ที่ยืนยาวและมีความสุข กันค่ะ

    อ่านต่อ >> “10 ลักษณะภรรยาที่ดี ที่สามีต้องการ” คลิกหน้า 2

     

    เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

     

      ให้ลูกดูมือถือ

      ให้ลูกดูมือถือ แท็บเล็ต โทรทัศน์ ตอนกินข้าวช่วยให้กินง่ายจริงหรือ?

      เตือนพ่อแม่!! ให้ลูกดูมือถือ แท็บเล็ต และโทรทัศน์ แม้จะช่วยดึงความสนใจของลูกน้อยให้อยู่บนหน้าจอตอนกินข้าว เพื่อไม่ไปวิ่งเล่นที่ไหน .. แต่การกระทำแบบนี้อาจส่งผลเสียมากกว่าที่คิด!

      ไม่ควร ให้ลูกดูมือถือ
      หรือ แท็บเล็ต-ทีวี ระหว่างกินข้าว เพราะอะไร?

      คุณพ่อคุณแม่บ้านไหนที่กำลังเลี้ยงลูกแบบนี้อ่านด่วน … หากคุณชอบ ให้ลูกดูมือถือ หรือ ทีวี ตอนกินข้าว เพื่อหวังให้ลูกอยู่นิ่่งและกินข้าวง่ายขึ้น คุณกำลังคิดผิด!! โดยเรื่องนี้ นพ. พงษ์ศักดิ์ น้อยพยัคฆ์ กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการและพฤติกรรม หัวหน้าภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช … ได้ให้คำแนะนำว่า

      1. โฆษณาอาหารและเกม

      หากตอนที่ลูกกำลังกินข้าว แล้ว เจอโฆษณาอาหาร หรือเกม ก็อาจเบี่ยงเบนความสนใจ ทำให้เด็กไม่อยากกินหรือไม่สนใจอาหารที่กินอยู่ แต่กลับอยากกินขนมอย่างอื่นที่เห็นในโทรทัศน์หรืออยากเล่นเกมแทนนั่นเอง

      2. ทำให้เด็กกินข้าวช้า

      เพราะมัวแต่สนใจโทรทัศน์ หรือติดรายการในยูทูป ทำให้ไม่สามารถบริหารจัดการเวลาให้ลูกได้ ขณะที่กำลังกินข้าว

      3. ทำให้เด็กไม่รู้จักทำอะไรทีละอย่าง

      เมื่อลูกกำลังกินข้าว พร้อมดูมือถือ หรือ โทรทัศน์ไปด้วย ก็จะทำให้ลูกไม่มีสมาธิกับสิ่งที่ตัวเองทำในขณะนั้น หรืออาจทำให้ลูกน้อยรู้สึกเพลินจนไม่ยอมกินเอง

       

      Must read >> แก้ปัญหาโลกแตก ลูกกินข้าวยาก ลูกกินข้าวน้อย กันดีกว่า!

      Must read >> 11 เทคนิคแก้ปัญหา ลูกกินยาก อมข้าว

       

      ให้ลูกดูมือถือ กินข้าว ลูกติดแท็บเล็ต

      “วิธีแก้ปัญหาลูกติดมือถือ ติดโทรทัศน์ ระหว่างกินข้าว”

      ทั้งนี้คุณหมอยังฝากบอกกับ ทีมแม่ ABK อีกว่า “ปัญหาลูกติดสมาร์ทโฟนและโทรทัศน์ระหว่างรับประทานอาหาร สามารถแก้ไขได้จริง” โดยทำตามที่หมอแนะนำง่ายๆ ดังนี้…

      1. แก้ไขได้ เริ่มที่ใจพ่อแม่

      การแก้ไขพฤติกรรมของลูกต้องเริ่มต้นที่คุณพ่อคุณแม่ค่ะ คุณหมอพงษ์ศักดิ์แนะนำให้คุณพ่อคุณแม่ตั้งใจมั่นว่า ‘ฉันอยากจะเปลี่ยน’ “ทุกเรื่องที่พ่อแม่เห็นความสำคัญและมีความตั้งใจจริง พ่อแม่ทำได้แน่นอนครับ”

      ให้ลูกดูมือถือ กินข้าว ลูกติดแท็บเล็ต

      อ่านต่อ >> “วิธีแก้ปัญหาลูกติดมือถือ
      ติดโทรทัศน์ ระหว่างกินข้าว” คลิกหน้า 2

       

      เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

       

        โรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี ซิตี้ แคมปัส

        “ครูคิดบวก เด็กก็คิดดี” ที่ โรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี ซิตี้ แคมปัส

        การลงทุนเรื่องการศึกษาให้กับบุตรหลาน เป็นสิ่งที่ทุกครอบครัวปรารถนาอย่างมากที่จะให้ลูกๆ ได้เรียนในโรงเรียนชั้นนำที่มีคุณภาพ และสภาพแวดล้อมที่ดี โดยเฉพาะกับโรงเรียนนานาชาติ และนี่คือเสียงสะท้อนจากผู้ปกครองที่โรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี ซิตี้ แคมปัส โรงเรียนนานาชาติที่เขาว่ามีคุณครูคิดบวก และเด็กนักเรียนก็คิดดีกันทุกคนค่ะ

         

        โรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี ซิตี้ แคมปัส ทำไมต้องที่นี่

        ความสุขของคนเป็นแม่คือ การเห็นลูกๆ มีพัฒนาการการเรียนรู้ที่ดีที่โรงเรียน ความภูมิใจของคุณพฤษพร บวรอุดมวงศ์ คุณแม่ของน้องแอ๊ม และน้องฌอน นักเรียนโรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพ – ซิตี้ แคมปัส หลังจากได้เห็นถึงพัฒนาการด้านการเรียนของลูกๆ หลังจากที่เข้าเรียนในแคมปัสใหม่ของโรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรีที่ประสบความสำเร็จอย่างดีเยี่ยมเป็นปีที่ 2

        “โรงเรียนมีสภาพแวดล้อมเพื่อการเรียนรู้ที่ดีมากค่ะ เด็กๆ ชอบเทคโนโลยีดิจิทัลและกีฬามาก แม้ว่าตอนนี้น้องฌอนจะอายุเพียง 5 ขวบ แต่ก็สามารถใช้โปรแกรมการนำเสนองาน (PowerPoint) เป็นแล้ว ส่วนน้องแอ๊มลูกชายคนโตมาสนใจเรื่องกีฬาฟุตบอล ว่ายน้ำ และเรียนไวโอลิน เพราะทางโรงเรียนได้เปิดโอกาสให้ลูกๆ ได้เข้าร่วมแข่งขันและแสดงความสามารถทางดนตรี โดยมีครูคอยให้กำลังใจและส่งเสริมอยู่เสมอ สำหรับคุณแม่แล้วเป็นการแสดงให้เห็นว่าการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ มีความสำคัญไม่ต่างจากผลสัมฤทธิ์ที่ได้ practice makes perfect ตราบใดที่เราใฝ่รู้ ความสามารถนั้นก็ติดตัวเรา”

        โรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี ซิตี้ แคมปัส

        บทบาทของครูผู้สอนส่งผลต่อการเรียนรู้และพัฒนาของเด็กๆ อย่างไรบ้างคะ

        คุณภาพของครูผู้สอนจากอังกฤษก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้คุณแม่ตัดสินใจให้น้องๆ มาเรียนที่โชรส์เบอรี ซิตี้ แคมปัส “คุณแม่ชอบบุคลากรของโรงเรียนที่คัดสรรอย่างมีคุณภาพจริงๆ พอได้ครูที่คิดบวก มีทักษะและเทคนิคการเรียนการสอน และสามารถถ่ายทอดวิชาความรู้ที่เก่ง พลังบวกมันส่งไปถึงเด็กๆ กระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้ ไม่รู้สึกต่อต้านหรือโดนบังคับ ก่อให้เกิดการพยายามในตัวเด็ก อยากทำ อยากเรียนออกมาให้ดีที่สุด”

        ความมุ่งมั่น ทุ่มเท ของคุณครูนำไปสู่ความเป็นเลิศทางด้านวิชาการ ซึ่งคุณครูใหญ่ยังเป็นผู้คัดสรรครูผู้สอนที่เก่งและมี คุณธรรมในหัวใจอีกด้วย “เด็กชอบคุณครูมาก คุณครูใจดี ฟังความคิดเห็นเด็กๆ เวลาเด็กๆ มีปัญหา ครูก็มีแนะทางแก้ไขให้  เช่น สอบถามความเห็นเด็กทีละคน แล้วค่อยเรียกมาคุยด้วยกันอีกที เพื่อสร้างและประสานความเข้าใจให้แก่เด็ก”

         

        คุณแม่บอกว่าชอบกิจกรรม Come Dine with Me เล่าให้ฟังได้ไหมคะ คืออะไร ?

        การมีส่วนร่วมอย่างใกล้ชิดระหว่างผู้ปกครองกับคุณครู ถือเป็นหัวใจสำคัญในการเรียนการสอนของโรงเรียน โดยคุณครู และคณะผู้บริหารได้กำหนดนัดประชุมกับผู้ปกครองเพื่อแจ้งความคืบหน้าของการเรียนการสอนเป็นระยะๆ “มันเป็นอะไรที่ สร้างภาพไม่ได้”  คุณแม่พฤษพรเผย “ครูสามารถอธิบายจุดแข็งจุดอ่อนเกี่ยวกับลูกเราชัดเจน แสดงถึงความใส่ใจของครูต่อเด็กๆ ในแต่ละห้องเรียน”

        โรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี ซิตี้ แคมปัส

        หลังจากโรงเรียนเปิดได้ราว 2 ปี ครอบครัวโชรส์เบอรี ซิตี้ แคมปัสก็อบอุ่นขึ้นเรื่อยๆ “ความไว้วางใจก่อเกิดสิ่งดีๆ ตามมา” คุณแม่พฤษพรเสริม “ความเข้าอกเข้าใจคนเป็นพ่อแม่ของคุณครูใหญ่และบุคลากรที่นี่ ทำให้ครอบครัวโชรส์เบอรี ซิตี้ แคมปัส เป็นสังคมที่เรียบง่าย สบายๆ ผู้ปกครองที่นี่ก็น่ารักกันทุกคน มีการร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่โรงเรียนจัดอยู่กันแบบเพื่อน พี่น้องนานาชาติ”

        “ในฐานะผู้ปกครอง ชอบที่โรงเรียนมีกิจกรรมมากมายที่ให้ผู้ปกครองได้ใกล้ชิดกับชีวิตความเป็นอยู่ของลูกที่โรงเรียน เช่น กิจกรรม Come Dine with Me ที่ให้ไปทานข้าวกับลูก 1 วัน ในโรงอาหาร คือชอบมาก”

        โรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี ซิตี้ แคมปัส

        คุณแม่พฤษพรภูมิใจมากกับพัฒนาการทางด้านภาษาของน้องๆ “ลูกคนเล็ก พูดภาษาอังกฤษได้ดีมาก สำเนียงดี ได้สำเนียงเจ้าของภาษาชัดเจนทีเดียว ใช้ศัพท์ที่ยากเกินกว่าวัยของน้องและพูดอย่างเป็นธรรมชาติ ส่วนภาษาไทยและภาษาจีน ก็พัฒนาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด”

        โรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี ซิตี้ แคมปัส

        เมื่อเห็นลูกๆ มีความสุขที่ได้มาโรงเรียน คนเป็นพ่อเป็นแม่ก็ชื่นใจ “น้องๆ สนุกไปกับการเรียน ไม่เครียด” คุณแม่พฤษพร สรุปให้ฟังว่า “การเรียนการสอนที่นี่ไม่ได้เน้นท่องจำ แบบนกแก้วนกขุนทอง โชรส์เบอรี ซิตี้ แคมปัส ให้เด็กๆ ได้เรียนรู้ ผ่านกิจกรรม เข้าใจในหลักการ เหตุและผล พอโตขึ้น โรงเรียนก็วางแนวทางปูความพร้อมให้เด็กเพื่อเข้าเรียนโรงเรียนมัธยมดีๆ อย่างโชรส์เบอรี ริเวอร์ไซด์ หรือใช้สอบเข้าโรงเรียนและมหาวิทยาลัยดีๆ ในต่างประเทศ”

        เห็นรอยยิ้มของคุณแม่ และเด็กๆ แล้ว ก็มั่นใจเลยว่า “โชรส์เบอรี ซิตี้ แคมปัส” แห่งนี้เป็นโรงเรียนที่เต็มไปด้วยศักยภาพของบุคลากร และสภาพแวดล้อมที่ดี พร้อมจะพาเด็กๆ ทุกคนเติบโตขึ้นไป สามารถต่อยอดทางการศึกษา มีอนาคตที่สดใสอย่างแน่นอนค่ะ

        สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่สนใจแนวการเรียนการสอนที่เน้นส่งเสริมพัฒนาการและศักยภาพอย่างรอบด้านอันเป็นเอกลักษณ์ของโรงเรียนโชรส์เบอรี สามารถลงทะเบียนเพื่อเยี่ยมชมโรงเรียนออนไลน์ได้ที่นี่

        อย่าลืมกดติดตามเพจโชรส์เบอรี ซิตี้ แคมปัส @SHBcitycampus บน Facebook  Instagram  และ Twitter  เพื่อไม่ให้พลาดข้อมูลข่าวสารดีๆ นะคะ

        ​​

        โรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี ซิตี้ แคมปัส

         

          เด็ก 1 เดือนติดโควิด-19

          เด็ก 1 เดือนติดโควิด-19 เพราะพ่อแม่เปิดบ้านสังสรรค์กับเพื่อน

          อัพเดทข่าว เด็ก 1 เดือนติดโควิด-19 จากแม่ เมื่อวันที่ 3 เม.ย. ซึ่งเป็นรายที่ 6 ของระยอง และนับเป็นเคสเด็กติดเชื้อที่อายุน้อยที่สุดในประเทศไทย ขณะนี้อาการน้องดีขึ้นแล้ว แต่ผลตรวจโควิด-19 ยังคงพบเชื้ออยู่

          โดยในเบื้องต้นมีรายงานว่า หนูน้อยรายนี้ ติดเชื้อโควิด-19 มาจากพ่อและแม่ที่ทำงานอยู่กรุงเทพฯ ซึ่งพ่อและแม่เด็กมีไข้จึงไปตรวจจนพบเชื้อไวรัสโคโรน่า ทำให้พ่อแม่ของเด็กต้องเข้ารักษาตัวที่สถาบันบำราศนราดูร และได้แจ้งให้ตากับยายของเด็กที่อยู่จังหวัดระยองมารับเด็กไปดูแลที่ระยอง ต่อมาพบว่าเด็กมีไข้ ตัวร้อน ตาและยายจึงพาไปตรวจที่โรงพยาบาลบ้านฉาง ผลตรวจยืนยัน พบว่าหนูน้อยเชื้อโควิด-19 เช่นเดียวกับพ่อแม่ และได้ส่งตัวเด็กไปรักษาที่สถาบันบำราศนราดูร

          พร้อมกันนี้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดระยองได้ส่งทีมสอบสวนโรคลงพื้นที่ไปเฝ้าระวังผู้ที่สัมผัสกับเด็ก มีจำนวน 3 ราย คือ ตา ยาย และน้าของเด็ก ได้สั่งกักตัว 14 วัน และตรวจวัดไข้ทุกวัน

          เผยสาเหตุ เด็ก 1 เดือนติดโควิด-19 ได้อย่างไร

          เด็ก 1 เดือน ระยอง
          ภาพจาก เฟซบุ๊ค  สาธิต ปิตุเตชะ

          ไม่นานนี้ นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ได้เดินทางเข้าเยี่ยมหนูน้อย เด็ก 1 เดือนติดโควิด-19 ที่ยังรักษาตัวอยู่ พร้อมเผยสาเหตุที่ทำให้หนูน้อยติดเชื้อไวรัสดังกล่าว ว่าติดจากการที่พ่อแม่ของหนูน้อยได้สังสรรค์กินเลี้ยงกันที่บ้านกับเพื่อนๆ

          พร้อมระบุว่า “ร.พ.ระยอง แจ้งว่าผู้ป่วยที่ติดเชื้อ 6 คน 5 คนหายกลับบ้านหมดแล้ว เหลือ เด็กน้อย วัยเพียง 1 เดือน อีก 1 คน แต่มารักษาที่ ร.พ. บำราศนราดูร ผมเลย แวะไปเยี่ยม เด็กน้อย อายุ 1 เดือน 17 วัน ที่เพิ่งติดโควิด-19

          ทาง รพ. รับ Refer จากรพ.บ้านฉางจังหวัด ระยอง ตรวจคุณพ่อคุณแม่ พบป่วย covid-19 (จากการสังสรรค์กินเลี้ยงกันที่บ้านกับเพื่อนๆ) อาการของน้อง ค่อนข้างดี หายใจไม่เหนื่อยหอบ ไม่มีไข้

          รับประทานนมได้ดี ปัจจุบัน ผลตรวจ covid-19 ยังคงพบเชื้ออยู่ คุณพ่อตอนนี้กลับบ้านได้แล้ว แต่คุณแม่ยัง Admit อยู่ ครับ

          น้องน่ารัก มากกกก มากก ครับ อาการไม่มีปัญหาครับ สบายใจได้ อีกไม่นาน คงกลับบ้านได้เหมือนพ่อครับระยองเรา สุดยอด รักษา ตัวเองต่อไปครับ อย่าประมาท รักษาระยะห่าง ใส่หน้ากากเมื่อไปที่เสี่ยงครับ”

          ทำไมการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) จึงเป็นสิ่งสำคัญ

          จากโรคระบาดที่เกิดขึ้น เพิ่มความรุนเเรงขึ้นทุกวัน ซึ่งทางรัฐบาลได้ออกมาตรการให้ประชาชน เว้นระยะห่าง Social Distancing ห่าง 2 เมตร เนื่องจากละอองฝอยกระจายได้ไกล 1-2 เมตร โดยขอให้ทุกคนอยู่บ้าน งดการรวมตัวกัน เพราะหากติดเชื้อแต่ไม่แสดงอาการ อาจแพร่เชื้อให้กันโดยไม่รู้ตัว และนั่นจะยิ่งทำให้ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 สูงขึ้นเรื่อยๆ

          เว้นระยะห่างทางสังคม

          สิ่งที่ทุกคนควรปฎิบัติ เพื่อป้องกันการติดเชื้อคือ

          • การทำงานอยู่บ้าน หรือ Work From Home ลดโอกาสติดเเละเเพร่เชื้อ โดยใช้การสื่อสารผ่านอินเตอร์เน็ตเเทน เช่น การส่งงานทางเมล หรือส่งทางไลน์เเทน
          • สำหรับคู่รัก ส่งเป็นสติ๊กเกอร์เเทน ก็สามารถเเสดงถึงความรักได้ เว้นระยะห่างไม่ใช่เเค่ป้องกันติดเชื้อ เเต่ถ้าคิดไปทางที่ดีเรายังได้เว้น ระยะเพื่อมีความคิดถึงกันได้เช่นกัน
          • สำหรับคนที่มีความจำเป็นที่ต้องไปทำงาน ที่ทำงานหรือองค์กรต้องมีการปรับการทำงานหรือการนั่งหรือวิธีการทำโดย มีการจัดเเบ่งพื้นให้ชัดเจน
          • มารยาททางสังคม การใส่เเมสสทุกครั้งที่ต้องออกไปข้างนอกหรือ เดินทาง หรือทำงาน เเละต้องเว้นระยะห่าง 2 เมตร เราต้องช่วยกันเพื่อเชื้อไวรัสนี้มันหายไป
          รักษาระยะห่าง
          รักษาระยะห่าง

          ส่วนคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ให้คำแนะนำ 7 วิธีเว้นระยะห่างทางสังคม ดังนี้

          1. ยืน-นั่ง ห่างกัน 1.5-2 เมตร
          2. งดการรวมตัวกันในถานที่ทำงาน สถานศึกษา ส สถานบันเทิง
          3. รับประทานอาหารที่เป็นชุดสำหรับคนเดียว หลีกเลี่ยงการร่วมสำรับกับผู้อื่น
          4. เปลี่ยนระบบการทำธุรกิจ โดยใช้ทางออนไลน์ และโทรศัพท์เป็นหลัก หรือปรับเวลาการมาทำงานให้ยืดหยุ่น
          5. หลีกเลี่ยงการจัดประชุมใหญ่ที่มีการรวมคนจำนวนมาก
          6. อ่านหนังสือแบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือแบบออนไลน์แทน การยืมหนังสือห้องสมุด
          7. เน้นการเดินขึ้น-ลงบันได แทนการใช้ลิฟต์
          social distance
          social distancing

           

          ที่มา mcot.net, nationtv.tv

          ภาพจาก เฟซบุ๊ค  สาธิต ปิตุเตชะ

           

          เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

          8 วิธีรับมือไวรัสโคโรน่า COVID-19 ฉบับพ่อแม่ที่มีลูกเล็กโดยเฉพาะ!

          ข้อควรปฏิบัติ! เมื่อต้อง พาลูกไปโรงพยาบาล ช่วงโควิด-19 ระบาด

          หมอเผย 4 เหตุผลสำคัญ ทำไมต้อง เลื่อนเปิดเทอม เป็น 1 ก.ค.63

          เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

           

            บทเรียนออนไลน์

            รวมสื่อ บทเรียนออนไลน์ ป.1-ป.6 เสริมความรู้ให้ลูกในช่วงปิดเทอมยาวๆ

            ในช่วงที่ลูกต้องรอเปิดเทอมไปอีกหลายเดือน นอกจากกิจกรรมต่าง ๆ ที่ให้ลูกได้ทำได้เล่นเพื่อเสริมพัฒนาการแล้ว บทเรียนออนไลน์ ก็เป็นอีกตัวช่วยที่จะช่วยเสริมความรู้ให้ลูกได้เช่นกันนะคะ

            รวมสื่อ บทเรียนออนไลน์ ป.1-ป.6 เสริมความรู้ให้ลูกในช่วงปิดเทอมยาวๆ

            บทเรียนออนไลน์หรือที่เรียกกว่า E-Learning คือสื่อที่จัดทำขึ้นเพื่อใช้สอนผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต  ที่จะมีทั้งหลักสูตร คำอธิบายรายวิชา หน่วยการเรียนรู้ การวางแผนการจัดการเรียนรู้ เนื้อหา แบบทดสอบ แบบฝึกทักษะ เพื่อให้เด็ก ๆ ตามแต่ละช่วงวัยได้ศึกษาหาความรู้ได้ด้วยตัวเอง ในเมื่อต้องหยุดอยู่บ้านเรามาเติมความรู้ให้กับลูกไม่ให้หยุดนิ่งกันค่ะ

            สื่อบทเรียนออนไลน์ ป.1

            >> คณิตศาสตร์ ป.1 <<

            • ทบทวน 0-9

            • จำนวนนับ 10

            • จำนวน 3 และจำนวน 4

            • ค่าของเลขโดดในหลักสิบและหลักหน่วย

            • การเปรียบเทียบจำนวน

            • จำนวนนับ 11 ถึง 20

            • จำนวนนับ 10,20,30,…….100

            • การบวกจำนวนสองหลักกับจำนวนสองหลัก (ไม่มีการทด)

            • การบวกจำนวนสองหลักกับจำนวนหนึ่งหลัก

            • โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ ตอนที่ 1

            • โจทย์ปัญหาการบวก

            • การลบ

            • โจทย์ปัญหาการลบ

            • การลบจำนวนสองจำนวนที่ตัวตั้งไม่เกิน 9 ตอนที่ 1

            • การลบจำนวนที่มีสองหลัก กับจำนวนที่มีหนึ่งหลัก

            • การลบจำนวนสองจำนวนที่ตัวตั้งไม่เกิน 9 ตอนที่ 3

            • การแสดงวิธีทำโจทย์ปัญหาการลบ ตอนที่ 1

            • ความสัมพันธ์ของการบวกและการลบ

            >> ภาษาไทย ป.1 <<

            • พยัญชนะอักษรต่ำ สระ และวรรณยุกต์

            • พยัญชนะและสระ

            • การอ่านแจกลูก สะกดคำ สระอะ สระอิ

            • ทักษะการเขียนสระ

            • การแจกลูก สะกดคำ สระอา

            • การสะกดคำ 2 พยางค์

            • ทบกวนการสะกดคำ

            • คำที่มีตัวสะกดใน มาตราแม่กม มาตราแม่เกย และมาตราแม่เกอว

            • การสะกดคำที่มากกว่า 1 พยางค์

            • การสะกดคำมาตราแม่กบ

            • การผันวรรณยุกต์อักษรกลาง

            • ทักษะภาษาด้านการฟัง การพูด และการอ่านวรรณยุกต์ไทย

            • เพื่อนรัก เพื่อนเล่น (รู้จักคำ นำเรื่อง)

            • ช้างน้อยน่ารัก

            • ใบโบก ใบบัว

            >> ภาษาอังกฤษ ป.1 <<

            • ABC Song

            • The English Alphabet

            • Hello

            • How are you?

            • Good morning

            • รู้จักสัตว์

            อ่านต่อ สื่อบทเรียนออนไลน์ ป.2 คลิกหน้า 2

            เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

              CQ

              6 เคล็ดลับเสริมลูกให้ “ฉลาดคิดสร้างสรรค์” มี CQ ดี อนาคตดี

              ทำไมความคิดสร้างสรรค์ถึงมีความสำคัญ?

              CQ หรือ Creativity Quotient คือความฉลาดในการคิดริเริ่ม สร้างสรรค์ มีจินตนาการ และความคิดยึดหยุ่น คุณพ่อคุณแม่สามารถส่งเสริมให้ลูกมีทักษะทาง “CQ” ที่ดี พัฒนาความคิดสร้างสรรค์เพื่อกระตุ้นให้ลูกได้คิดนอกกรอบ และส่งผลต่อความสามารถในการเป็นผู้นำที่ดีในอนาคตได้

              ซึ่งความฉลาดในการริเริ่มสร้างสรรค์ คือหนึ่งในศักยภาพความฉลาดที่มีติดตัวมาแต่กำเนิด ความฉลาดของ Q ตัวนี้คุณพ่อคุณแม่สามารถเพิ่มให้ลูกได้ด้วยการสนับสนุนให้ลูกได้เล่น ได้คิดนอกกรอบ ทำกิจกรรมต่าง ๆ เช่น งานศิลปะ การประดิษฐ์สิ่งของ ดนตรี การเล่านิทาน ฯลฯ เนื่องจากการได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ จะเป็นการช่วยกระตุ้นให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังช่วยให้ลูกมีความฉลาดในการแก้ปัญหา (AQ) ที่เชื่อมโยงความคิดสร้างสรรค์กับการคิดนอกกรอบ ค้นหาวิธีแก้ไขปัญหาใหม่ เพื่อสร้างคำตอบใหม่ ๆ ขึ้นมาได้

              ด็กที่มีความฉลาดในการคิดริเริ่มสร้างสรรค์จะมีโอกาสประสบความสำเร็จใจด้านการเรียนและในการทำงาน เพราะทุกวันนี้ไม่เพียงแต่ศิลปิน นักออกแบบ หรือนักเขียนเท่านั้นที่จะต้องมีความคิดสร้างสรรค์ แต่เป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถพัฒนาให้เกิดขึ้นเพื่อประสบความสำเร็จและส่งผลต่อความสามารถในการเป็นผู้นำที่ดีในอนาคตได้ คุณพ่อคุณแม่สามารถส่งเสริมพัฒนาการความฉลาดในด้านนี้ให้เจ้าตัวเล็กด้วยวิธีง่าย ๆ มาดูกัน

              6 เคล็ดลับเสริมลูกให้ “ฉลาดคิดสร้างสรรค์” มี CQ ดี อนาคตดี

              CQ (Creativity Quotient)

              1.ให้ลูกได้มีส่วนร่วมกับกิจกรรมที่หลากหลาย

              การได้ลองทำกิจกรรมที่หลากหลายจะทำให้ลูกได้เรียนรู้ และเกิดกระบวนการคิดสร้างสรรค์ในการทำหลากหลาย รวมถึงได้มองเห็นสิ่งที่ตัวเองสนใจและรู้ว่าตัวเองชอบหรือถนัดสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากขึ้น

              creativity quotient

              2.ให้โอกาสลูกได้ลองทำสิ่งที่ตัวเองชอบ

              เปิดโอกาสให้ลูกได้ตัดสินใจเลือกทำในสิ่งที่ตัวเองถนัด เพื่อเสริมสร้างจินตนาการ เช่น การวาดรูป เล่นดนตรี เล่นกีฬา การเต้น การแสดงบนเวทีต่างๆ หรือแม้กระทั่งเรื่องวิชาการ เป็นต้น พร้อมกับให้การสนับสนุน ชมเชยกับความพยายามหรือความสำเร็จ ให้กำลังใจในยามท้อแท้ โดยไม่วิจารณ์หรือเปรียบเทียบผลงานลูกกับคนอื่น เพื่อไม่เป็นการปิดกั้นความคิดสร้างสรรค์ของลูกอีกทางหนึ่งได้

              ความฉลาดในการริเริ่มสร้างสรรค์

              3.ส่งเสริมให้ลูกเขียนบันทึกประจำวัน

              ข้อดีของการให้ลูกได้เขียนบันทึกหรือไดอารี่ประจำวัน จะทำให้ลูกได้รู้จักรวบรวมความคิด การลำดับเรื่องราวอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ได้แสดงความคิดสร้างสรรค์และสื่อความรู้สึกออกมาด้วยการเขียนที่ไร้ขีดจำกัด เป็นวิธีที่ง่ายและมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้การเขียนยังมีส่วนช่วยในเรื่องของภาษา ได้ฝึกทักษะการเขียน ได้รู้จักคำศัพท์ใหม่ ๆ มีคลังคำในสมองเพิ่มเติม ทำให้รู้จักใช้คำพูดในการสื่อสาร และส่งเสริมให้เป็นเด็กรักการอ่านอีกด้วย

              ความคิดสร้างสรรค์

              4.ชวนลูกให้อ่านหนังสือ

              การอ่านหนังสือหรือนิทานเป็นกิจกรรมที่สร้างทั้งความรู้ ความคิดสร้างสรรค์ และทักษะการอ่านของเด็ก ๆ ได้อย่างดีและมีประสิทธิภาพ แม้จะเป็นการอ่านหนังสือในช่วงเวลาสั้น ๆ 15-20 นาที แต่ก็เปิดโลกจินตนาการอีกใบให้ลูกได้ ผลลัพธ์จากการได้อ่านหนังสือ จะช่วยให้สมองของลูกมีวงจรประสาทนับล้านที่เชื่อมโยงกันอย่างทั่วถึง เกิดการกระตุ้นวงจรประสาทในสมองให้ทำงาน กระบวนการนี้สมองของเด็กจะพัฒนาความสามารถในการคิดริเริ่มสร้างสรรค มีจินตนาการที่มากมายไร้ขีดจำกัด มีผลต่อทักษะการเรียนรู้ด้านอื่น ๆ และทำให้มีความรู้ในเรื่องต่าง ๆ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการรับมือในสถานการณ์หลากหลาย นอกจากการการอ่านหนังสือตามสิ่งที่ลูกสนใจ หลังอ่านเสร็จแล้วกระตุ้นให้ลูกได้คิดโดยการเปิดโอกาสให้ถามหรือคุณพ่อคุณแม่ลองตั้งคำถาม เพื่อให้ลูกค้นหาข้อสงสัย และแสดงความคิดเห็น ก็เป็นปัจจัยที่ช่วยให้ลูกได้มี CQ เพิ่มขึ้นด้วยนะคะ

              บทความแนะนำ นี่แหละ! 8 งานอดิเรกที่มีประโยชน์ และดีต่อลูก ช่วยให้สมองไบรท์ ทำให้มีความสุข

              ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์

              5.พาลูกเปิดโลกกว้างตามแหล่งเรียนรู้ต่างๆ

              ปัจจุบันนี้มีแหล่งท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ เสริมพัฒนาการ ได้ความรู้ และสร้างจินตนาการให้เด็ก ๆ ออกไปเปิดโลกกว้างและได้เรียนรู้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นพิพิธภัณฑ์ แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ ฟาร์ม แหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ โครงการพระราชดำริ ฯลฯ ที่ถูกเติมเต็มด้วยความคิดสร้างสรรค์ของเหล่านักคิดและนักสร้างสรรค์รวมถึงชาวบ้านในชุมชน ซึ่งการพาลูกเที่ยวนอกบ้าน ถือเป็นประสบการณ์ที่ให้ลูกได้ค้นหาสิ่งใหม่ ๆ จากความเคยชินเดิม ๆ และนำสิ่งที่ได้เรียนรู้ไปต่อยอด สร้างสรรค์สิ่งใหม่ต่อไป ยิ่งมีวัตถุดิบหลากหลายมากเท่าไรก็ยิ่งคิดสร้างสรรค์ต่อยอดได้มากขึ้นไปเท่านั้น

              คิดสร้างสรรค์

              6.ให้ลูกได้เล่น

              การมี CQ นั้นจะสัมพันธ์กับเรื่องการเล่น ถ้าให้ลูกได้เล่นอย่างอิสระตามความชอบและทำกิจกรรมที่ส่งเสริมจินตนาการให้เหมาะกับวัย เช่น การทำงานศิลปะ เล่นของเล่นธรรมชาติ ของเล่นเสริมพัมนาการ การประดิษฐ์ กิจกรรม กีฬาต่าง ๆ ทั้งนี้ไม่ว่าจะเล่นคนเดียว เล่นกับเพื่อน เล่นกับพ่อแม่ การเปิดโอกาสให้ลูกได้ทำโดยไม่เอากรอบความคิดพ่อแม่ไปปิดกั้น ก็จะช่วยกระตุ้นให้ลูกก็มีความคิดสร้างสรรค์เป็นความฉลาดที่จะต่อยอดสู่พัฒนาการด้านอื่น ๆ ของลูกได้

              ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก : www.brainten10.comwww.becomeawritertoday.com

              อ่านต่อบทความที่น่าสนใจอื่นๆ :

              “ยิ่งเล่น ยิ่งฉลาด “ พัฒนา PQ (Play Quotient) สร้างลูกให้ฉลาดแข็งแรงจากการเล่นแสนสนุก

              8 วิธีเลี้ยงลูก ให้มี OQ (Optimist Quotient) ฉลาดมองโลกในแง่ดี ส่งผลดีต่อชีวิต

              สร้างลูกให้มี SQ (Social Quotient) ไม่ก้าวร้าว ไม่เอาเปรียบ ส่งผลต่อความสำเร็จในชีวิตอย่างมีความสุข

              เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                ชื่อเกาหลี

                250 ชื่อเกาหลี ความหมายดีพร้อมคำอ่าน มีครบทั้งลูกสาว-ลูกชาย

                รวมชื่อภาษาเกาหลี ชื่อเกาหลี ความหมายดีๆ 250 ชื่อ พร้อมคำอ่าน สำหรับตั้งให้ทั้งลูกสาว และ ลูกชาย คุณพ่อคุณแม่บ้านไหนอยากตั้งชื่อลูกเป็น ภาษาเกาหลี ทีมแม่ ABK รวบรวมมาให้แล้ว

                ไอเดียตั้งชื่อลูก ชื่อเกาหลี พร้อมคำอ่าน และความหมายดีๆ

                อันยอง!! ~ ซารางเฮ!! ~ เรียกได้ว่าสังคมไทยปัจจุบันนี้กระแสแฟชั่นความนิยมของ “เกาหลี” ในบ้านเรา ก็ยังคงฮอตฮิตและอินเทรนด์อยู่ไม่จาง โดยเฉพาะเพลงและซีรีย์เกาหลีปังๆ สุดฮิต ที่มีอปป้า หน้าตาดีอยู่มากมาย ก็กำลังมาแรง หลายเรื่อง ซึ่งก็อาจทำให้คุณแม่ท้องที่เป็นคอซีรีย์อดใจไม่ไหว อยากตั้งชื่อลูก เป็น ชื่อเกาหลี

                และสำหรับบ้านไหนที่เป็นลูกครึ่งเกาหลี แล้วกำลังมองหาไอเดียตั้งชื่อลูกภาษาเกาหลี ที่มีความหมายดีๆ น่ารักๆ แถมยังเข้ากับยุคสมัยตอนนี้ ต้องห้ามพลาดบทความนี้เลยค่ะ … ทีมแม่ ABK ได้รวบรวม ชื่อเกาหลี พร้อมคำแปล ความหมายดีๆและคำอ่าน ทั้งผู้หญิงผู้ชายมาให้ หากบ้านไหนสนใจ ชื่อเกาหลี อยากตั้งให้กับเจ้าตัวเล็ก ก็สามารถดูเป็นไอเดีย แล้วนำไปใช้ตั้งชื่อลูกสาว ลูกชาย ของตัวเองกันได้เลยนะคะ ว่าแต่จะมี ชื่อเกาหลี อะไรบ้าง ตามมาดูกันเลย

                ทั้งนี้ทั้งนั้น สำหรับ ชื่อเกาหลี ที่ทีมแม่ ABK รวบรวมมาให้นั้น จะเป็นคำอ่านที่ให้เป็นการออกเสียงเมื่อมีการออกเสียงชื่อนามสกุลข้างหน้าด้วย โดยนามสกุลของชาวเกาหลี  เช่น 이(อี),김(คิม), 강(คัง), 박(พัค), 최(ชเว), 조(โช), 한(ฮัน),임(อิม), 문(มุน), 유(ยู), 은(อึน), 소(โซ), 고(โค), 장(ชัง), 송(ซง), 윤(ยูน), 신(ชิน), 류(รยู), 서(ซอ), 남(นัม), 배(แพ) , 안(อัน), 심(ชิม), 하(ฮา), ชี(지), 오(โอ), 백 (แพค), 손 (ซน) ฯลฯ

                ซึ่งชาวเกาหลีส่วนใหญ่จะมีชื่อ สกุลจำกัดอยู่ในไม่กี่กลุ่มชื่อ เพราะนามสกุลของเกาหลีนั้นในปัจจุบันมีใช้แค่ประมาณ 250 คำเท่านั้น และแม้จะมีนามสกุลเดียวกันแต่ก็ใช่ว่าจะเป็นญาติกันเสมอไป โดยชื่อเต็มของชาวเกาหลีจะประกอบด้วย ชื่อสกุล 1 พยางค์และชื่อหน้า 2 พยางค์ ชื่อสกุลจะเขียนก่อน ซึ่งความหมายของชื่อสกุลต่างๆ ทุกสกุลก็มีความหมายด้วย เพราะเป็นคำภาษาเกาหลีที่มีที่มาจากภาษาจีน จึงสามารถเขียนด้วยตัวอักษร “ฮันจา” จึงช่วยทำให้รู้ถึงความหมายของชื่อได้ โดยนามสกุลที่มีชาวเกาหลีนิยมใช้กันมาก เช่น

                김 金 Kim (คิม) แปลว่า ทองคำ , 이 李 Lee (อี) แปลว่า ต้นพลัม/สิ่งที่วิเศษ , 박 朴 Park (พัค) แปลว่า เรียบง่าย , 최 崔 Choi (ชเว),  แปลว่า สูง เหนือ และ 정 鄭 Jeong (จอง หรือ ชอง) แปลว่า ชื่อที่ได้รับพระราชทานจากจักรพรรดิสมัยก่อนของจังหวัดเฮนาน โดยนอกจากห้าชื่อสกุลดังที่มีพยางค์เดียวซึ่งมีผู้ใช้ร่วม 20 ล้านคนแล้ว นามสกุลเกาหลีก็ยังมีแบบที่เป็นสองพยางค์อีกด้วย แต่มีแค่ไม่ค่อยเป็นที่นิยมมากนัก

                ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก www.facebook.com/edupaclemonde

                โดย ชื่อเกาหลี ต่อไปนี้ จะใช้ พยัญชนะ (자음) ภาษาเกาหลี (한국어) ที่อ่านออกเสียง ดังต่อไปนี้

                • ㄱ (คียอก) เสียง ค, ก
                • ㄴ (นีอึน) เสียง น
                • ㄷ (ทีกึด) เสียง ท, ด
                • ㅁ (มีอึม) เสียง ม
                • ㅂ (พีอึบ) เสียง พ, บ
                • ㅅ (ชีอด) เสียง ซ
                • ㅇ (อีอึง) เสียง ไม่มีเสียง
                • ㅈ (ชีอึด) เสียง ช, จ
                • ㅊ (ชีอึด) เสียง ช’
                • ㅌ (ทีอึด) เสียง ท’
                • ㅍ (พีอึบ) เสียง พ’
                • ㅎ (ฮีอึด) เสียง ฮ’

                รวม ชื่อเกาหลี ชื่อลูกชาย
                ชื่อภาษาเกาหลี
                พร้อมคำอ่าน และความหมายดีๆ

                ในวงเล็บคือตัวอักษรฮันจา (*ฮันจา = ตัวอักษรที่ยืมมาจากภาษาจีน แต่ออกเสียงเป็นภาษาเกาหลี คล้ายคันจิของญี่ปุ่น)

                ชื่อเกาหลี ผู้ชายคำอ่านความหมาย
                강유 (剛柔)กัง-ยูความแข็งแกร่งและความอ่อนโยน
                강자 (强者)กัง-จาคนแข็งแกร่ง มีพลัง
                고요โก-โยความสงบนิ่ง ความเงียบ ความราบรื่น
                고조

                 

                โก-โจเวลาน้ำขึ้นสูง สุดยอด จุดสำคัญ ตอนที่น่าทึ่งที่สุด ความตื่นเต้น ไคลแม็กซ์
                거성 (巨星)กอ-ซองดาวดวงใหญ่ บุคคลผู้ยิ่งใหญ่ บุคคลผู้มีชื่อเสียง
                구름กู-รึมเมฆ
                궁수 (弓手)กุง-ซูนักธนู
                구원 (久遠)กู-วอนนิรันดร กัลปาวสาน กาลนาน
                기재 (奇才)กี-แจอัจฉริยบุคคล ผู้มีความสามารถพิเศษเหนือมนุษย์
                기연กี-ยอนโชคชะตาแปลกประหลาด ความสัมพันธ์ที่คาดไม่ถึง
                기예 (氣銳)กี-เยหนุ่มแน่นและมีพลัง แข็งขัน ห้าวหาญ
                기운

                 

                กี-อุนเรี่ยวแรง พละกำลัง มีชีวิตชีวา แข็งแรง กระปรี้กระเปร่า โชค วาสนา โอกาส
                기율

                 

                กี-ยุลวินัย ระเบียบ
                대성(大成)แด-ซองความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่, นักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่
                대운 (大運)แด-อุนเคราะห์ดี, โชคดี
                대은 (大恩)แด-อึนเป็นบุญคุณใหญ่หลวง
                만자 (卍字)มัน-จาเครื่องหมายแห่งความโชคดี
                만종 (晩鍾)มัน-จงระฆังบอกเวลาเย็น
                명문 (名聞)มยอง-มุนชื่อเสียง, กิตติศัพท์, เกียรติยศ
                무궁 (無窮)มู-กุงอมตะ, ตลอดกาล, ไม่มีสิ้นสุด
                문운 (文運)มุน-อุนความสว่างความสำเร็จ, ชะตาของครอบครัว
                민주มิน-จูประชาธิปไตย
                번성 (蕃盛, 繁盛)

                 

                บอน-ซองเจริญรุ่งเรือง, ร่ำรวยมั่งคั่ง, อุดมสมบูรณ์
                분수 (噴水)บุน-ซูน้ำพุ
                비옥 (肥沃)บี-อกความอุดมสมบูรณ์
                비조 (飛鳥)บี-โจนกบิน, ผู้ก่อตั้ง ผู้สถาปนา
                비호 (庇護)บี-โฮการคุ้มครอง การพิทักษ์ การปกป้อง การอารักขา อุปการคุณ
                상미 (賞美)ซัง-มีความพอใจ, ชมเชย, เลื่อมใส, สรรเสริญ
                상수 (常數)ซัง-ซูโชคชะตา พรหมลิขิต
                상아 (象牙)ซัง-อางาช้าง
                상훈 (賞勳)ซัง-ฮุนรางวัลและอิสริยาภรณ์
                새해แซ-แฮปีใหม่
                선비ซอน-บีชายผู้มีการศึกษา เต็มไปด้วยคุณงามความดี นักวิชาการ
                선열ซอน-ยอลผู้สละชีวิตเพื่อความยุติธรรม
                선인 (善人)ซอน-อินผู้มีบุญ ผู้มีคุณความดี ผู้บริสุทธิ์ คนดี เทพเจ้า เทพธิดา ผู้นำทางความคิด
                선재 (船材)ซอน-แจท่อนไม้ ขอนไม้ ซุง
                선진 (先進)

                 

                ซอน-จินมีความก้าวหน้า ผู้ริเริ่ม ผู้บุกเบิก ผู้อาวุโส
                선행 (善行)ซอน-แฮงการทำบุญ การทำความดี
                선민 (選民)

                 

                ซอน-มินบุคคลที่พระเจ้าทรงเลือก ผู้ดี ผู้มีอภิสิทธิ์
                소장 (少壯)โซ-จังความกระปรี้กระเปร่า แข็งแรง กระฉับกระเฉง เยาว์วัย
                슬기ซึล-กีสุขุม, รอบรู้, ฉลาดหลักแหลม
                신기ชิน-กีเทวดาแห่งสวรรค์และโลกมนุษย์, แข็งแกร่ง, โอกาสทอง
                신성 (神性)ชิน-ซองเทพเจ้า, เชื้อสายเทพเจ้า, ประเสริฐราวเทพธิดา
                신조 (神助)ชิน-โจความช่วยเหลือจากสวรรค์, ศรัทธา
                영주 (英主)ยอง-จูผู้ปกครองที่เรืองนาม รอบรู้
                예지 (叡智)เย-จีฉลาดอย่างยิ่งยวด, รู้ล่วงหน้า, ตาทิพย์
                예찬 (禮讚)เย-ชันเลื่อมใส ศรัทธา ชมเชย สรรเสริญ
                오성 (悟性)โอ-ซองความรอบคอบ, ความรอบรู้
                운명 (運命)อุน-มยองโชคชะตา
                운세 (運勢)อุน-เซโชคชะตา โชคลาภ วาสนา
                원기 (元氣)วอน-กีพละกำลัง, แข็งแรง
                왕성 (旺盛)วัง-ซองเจริญรุ่งเรือง, ฐานะดี
                유명 (有名)ยู-มยองชื่อเสียง
                인사(人士)อิน-ซารอบคอบ, บุคคลสำคัญ, สุภาพบุรุษ
                인재 (人材)อิน-แจผู้มีความสามารถพิเศษ
                인정 (人情)อิน-จองน้ำใจ
                인화 (人和)อิน-ฮวาความสามัคคี, ความสงบสุข
                재산 (財産)แจ-ซันสมบัติ, ความมั่งคั่ง
                전성 (全盛)จอน-ซองเจริญ ร่ำรวย รุ่งเรือง มั่งคั่ง ถึงจุดสูงสุด
                주은 (主恩)จู-อึนความกรุณาจากพระเจ้า
                준걸 (俊傑)จุน-กอลผู้ปรีชาสามารถ วีรบุรุษ บุคคลผู้ยิ่งใหญ่
                준사 (俊士)จุน-ซาชายผู้มีความสามารถที่โดดเด่น, บุรุษผู้ยิ่งใหญ่
                준수 (俊秀)จุน-ซูสง่างาม ภูมิฐาน ยอดเยี่ยม
                준재 (俊才)

                 

                จุน-แจความปรีชาสามารถ อัจฉริยลักษณ์ อัจฉริยบุคคล
                지망 (志望)จี-มังความปรารถนา ความใฝ่ฝัน ความมุ่งหวัง
                지상 (至上)จี-ซังความประเสริฐสุด ความล้ำเลิศ ความยิ่งใหญ่ ความสำคัญยิ่งยวด
                지성 (至誠)

                 

                จี-ซองความจริงใจที่แท้จริง, การอุทิศเสียสละ, จงรักภักดี
                지수(止水)จี-ซูน้ำที่นิ่งสงบ
                지순 (至順)จี-ซุนความสุภาพอ่อนโยนอย่างที่สุด
                지용 (智勇)จี-ยงฉลาดและกล้าหาญ
                지원 (支援)จี-วอนการสนับสนุน ช่วยเหลือ ส่งเสริม อนุเคราะห์ ความสมัครใจ
                지은 (知恩)จี-อึนมีจิตสำนึกที่ดี, กตัญญู
                태양 (太陽)แท-ยังพระอาทิตย์, ตะวัน, สัญลักษณ์แห่งความหวัง
                태연 (泰然)แท-ยอนนิ่ง ใจเย็น เงียบเฉย เยือกเย็น
                평화 (平和)พยอง-ฮวาสันติภาพ
                풍차 (風車)พุง-ชากังหัน
                해류 (海流)แฮ-รยูกระแสน้ำในมหาสมุทร
                해변 (海邊)แฮ-บยอนชายหาด, ชายทะเล, ชายฝั่ง
                해수 (海水)แฮ-ซูน้ำทะเล, น้ำเค็ม
                해안 (海岸)แฮ-อันชายหาด, ชายทะเล, ชายฝั่ง, ริมฝั่งน้ำ
                해연 (海淵)แฮ-ยอนก้นมหาสมุทร, ลึกสุดของมหาสมุทร
                해원 (海員)แฮ-วอนชาวทะเล, ลูกเรือ, กะลาสี
                해풍 (海風)แฮ-พุงลมทะเล
                행운 (幸運)แฮง-อุนความโชคดี, วาสนา
                현인 (賢人)ฮยอน-อินคนฉลาด, ปราชญ์
                현자 (賢者)ฮยอน-จานักปราชญ์, ผู้รอบรู้
                호수 (湖水)โฮ-ซูทะเลสาบ
                희열 (喜悅)ฮี-ยอลความปีติยินดี, ความพอใจ
                희원 (希願)ฮี-วอนความหวัง, ความปรารถนา, ความประสงค์
                희우 (喜雨)ฮี-อูน้ำฝนที่เป็นคุณ ให้ความชุ่มฉ่ำหลังความแห้งแล้ง
                희유 (嬉遊)ฮี-ยูสนุกสนาน, รื่นเริง, มีช่วงเวลาที่ดี
                태랑 (太郞)แทรังลูกชายผู้เป็นใหญ่ (ลูกชายคนโต)
                황의 (煌義)ฮวางเอแสงแห่งคุณธรรม
                의리 (義理)

                 

                อึย-รีความมีธรรมะ ความยุติธรรม ศีลธรรม ความซื่อสัตย์ จงรักภักดี ความมั่นคง
                찬송 (讚頌)ชัน-ซงถ้อยคำสรรเสริญ การยกย่องว่าประเสริฐ การถวายพระเกียรติ
                찬미 (讚美)ชัน-มีคำชมเชย ชื่นชม บูชา สรรเสริญ คำสรรเสริญเยินยอ
                주몽 (主夢)จูมงหัวหน้าในฝัน
                지문 (知文)จีมุนปราชญ์ผู้รอบรู้

                 

                momketing 2021

                วันสุดท้าย!! Amarin Baby & Kids ชวนคุณแม่ตั้งครรภ์และคุณแม่ที่มีลูกอายุ0-6 ปีร่วมทำแบบสำรวจความคิดเห็นคุณแม่ ลุ้นรับผลิตภัณฑ์สำหรับแม่ลูกฟรี 50 รางวัล รวมมูลค่ากว่า 10,000 บาทคลิกที่ลิงก์นี้เลย >> https://bit.ly/3z4Eqzp

                 

                อ่านต่อ >> “รวมชื่อลูกสาว ภาษาเกาหลีพร้อมคำอ่าน
                และความหมายดีๆ” คลิกหน้า
                2

                 

                เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                 

                  โปร 4.4 มาแล้วจ้าาาคุณแม่ ด่วน ‼️ 4 วันเท่านั้น! เมื่อซื้อ ลิลแมรี่ 2 กล่องขึ้นไป ลดจุใจ เหลือกล่องละ 990.- เท่านั้น! (จากปกติ 1,290.-)

                  🎉โปรเดือนเมษายน มาแล้วจ้าาาคุณแม่ ❤️
                  ด่วน ‼️ ขยายเวลาการสั่งซื้อ ถึงสิ้นเดือนนี้เท่านั้น! เมื่อซื้อ ลิลแมรี่ 2 กล่องขึ้นไป
                  ลดจุใจ เหลือกล่องละ 990.- เท่านั้น! (จากปกติ 1,290.-)
                  .
                  รีบเลยจ้าาา โปรดีแบบนี้ไม่ได้มาบ่อยๆน๊าาา
                  .
                  * ราคานี้เฉพาะคุณแม่ที่ชำระค่าสินค้า
                  ภายในวันนี้-30เม.ย. 63 ก่อนเวลา 23.59 น. เท่านั้น! *
                  ช่องทางการติดต่อ
                  Facebook : @lilmombaby
                  Line@ : @lilmombaby

                    Tags

                    หมอพัฒนาการเด็ก

                    รวมรายชื่อ หมอพัฒนาการเด็ก โรงพยาบาลชื่อดัง ที่แม่ควรเซฟเก็บไว้

                    หมอพัฒนาการเด็ก คือใคร?

                    หมอพัฒนาการเด็ก ที่แม่ ๆ ได้ยินกันคุ้นหู หรือเรียกอย่างเป็นทางการว่า กุมารแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในสาขากุมารเวชศาสตร์พัฒนาการและพฤติกรรม พื้นฐานของหมอพัฒนาการเด็ก ซึ่งเป็นหมอที่ตรวจรักษาเด็กทั่วไป แต่ศึกษาเพิ่มเติมและมีความชำนาญด้านพัฒนาการและพฤติกรรมของเด็กทุกช่วงวัยที่เกี่ยวข้องกับทั้งเด็กปกติและเด็กที่เบี่ยงเบนไปจากปกติ ตลอดจนถึงกลุ่มที่เป็นโรคต่าง ๆ นอกจากนี้ยังมีความชำนาญด้านการเจริญเติบโต ซึ่งเน้นเฉพาะขบวนการการเจริญเติบโตปกติและเบี่ยงเบนไม่มากนัก โดยกลุ่มที่มีความผิดปกติด้านการเจริญเติบโตอย่างชัดเจนมักต้องร่วมในการตรวจวินิจฉัยและดูแลรักษาร่วมกับกุมารแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญสาขาอื่น

                    สุขภาพของลูกน้อยบางคน อาจไม่ได้มีแค่อาการเจ็บป่วย โรคภูมิแพ้ แต่ยังรวมไปถึงปัญหาพัฒนาการด้านต่าง ๆ หมอพัฒนาการเด็ก จึงมีความสำคัญที่จะช่วยในการตรวจวินิจฉัย ดูแลรักษา รวมถึงให้คำปรึกษาด้านพัฒนาการของลูกน้อยกับคุณแม่ได้ นี่คือรายชื่อโรงพยาบาลในกรุงเทพที่มีคลินิกและคุณหมอด้านพัฒนาการเด็กที่ทีมแม่ ABK นำมาบอกกันค่ะ

                    รวมรายชื่อหมอพัฒนาการเด็กโรงพยาบาลชื่อดัง

                    สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี
                    ขอบคุณภาพจาก www.childrenhospital.go.th

                    1.สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี

                    • ผศ.พญ.อดิศร์สุดา เฟื่องฟู
                    • พญ.ธันยพร เมฆรุ่งจรัส

                    แพทย์ที่ปรึกษาช่วยออกตรวจ

                    • พญ.รัตโนทัย พลับรู้การ
                    • พญ.นัยนา ณิศะนันท์
                    • พญ.ภาวิณี ธีรการุณวงศ์
                    • พญ.พนิตษา ยุกตะนันท์

                    คลินิกพัฒนาการ
                    วันและเวลาเปิดให้บริการ
                    วันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 09.00 – 12.00 น.

                    โทรศัพท์ Call Center 1415 ต่อ 61450

                    คลินิกกระตุ้นพัฒนาการ
                    วันและเวลาเปิดให้บริการ
                    วันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 08.00 – 16.00 น.

                    โทรศัพท์  Call Center ต่อ 61411

                    เว็บไซต์ www.childrenhospital.go.th

                    คลินิกพัฒนาการเด็ก โรงพยาบาลธนบุรี 2
                    ขอบคุณภาพจาก www.thonburi2hospital.com

                    2.คลินิกพัฒนาการเด็ก โรงพยาบาลธนบุรี 2

                    เวลาออกตรวจ : ส-อา. 9.00-17.00 น. *กรุณาโทรนัดล่วงหน้า

                    เวลาออกตรวจ : ส. 8.00-16.00 น. *กรุณาโทรนัดล่วงหน้า

                    คลินิกพัฒนาการเด็ก อาคาร 2 ชั้น 2
                    วันและเวลาเปิดให้บริการ
                    วันจันทร์,อังคาร,วันศุกร์ ให้บริการ เวลา 16.00-20.00 น.

                    วันพุธ ให้บริการ เวลา 13.00-20.00น.วันเสาร์-วันอาทิตย์ ให้บริการ เวลา 07.00-20.00 น.
                    โทรศัพท์ 02 487 2100 ต่อ 5239

                    เว็บไซต์ www.thonburi2hospital.com

                    3.แผนกพัฒนาศักยภาพเด็ก โรงพยาบาลวิภาวดี

                    • พญ.พนิตษา ยุกตะนันทน์

                    เวลาออกตรวจ : วันอังคาร 08.00 – 16.00 น./ วันพุธ 10.00 – 17.00 น./ วันพฤหัส 10.00 – 20.00 น./ วันศุกร์ 08.00 – 16.00 น./ วันเสาร์ 09.00 – 15.00 น. (สัปดาห์ที่ 2, 4 ของเดือน เฉพาะพัฒนาการเด็ก)/ วันอาทิตย์ 09.00 – 13.00 น. (สัปดาห์สุดท้ายของเดือน เฉพาะพัฒนาการเด็ก)

                    • พญ.วินิทรา แก้วพิลา

                    เวลาออกตรวจ : วันจันทร์ 16.00 – 20.00 น. / วันเสาร์ 08.00 – 12.00 น. *กรุณาโทรนัดล่วงหน้า

                    • พญ.สุธิรา ริ้วเหลือง

                    เวลาออกตรวจ : วันอังคาร 16.00 – 20.00 น./ วันพฤหัส 17.00 – 20.00 น./ วันเสาร์ 13.00 – 18.00 น. (สัปดาห์ที่ 2, 4)

                    สอบถามรายละเอียดและนัดหมายล่วงหน้าที่ 0-2941-2800 , 0-2561-1111 กด 1 ทุกวัน 8.00-19.00น.

                    เว็บไซต์ www.vibhavadi.com

                    4.ศูนย์พัฒนาการเด็ก โรงพยาบาลพญาไท 1

                    • นพ.โสภณ พรกุลวิไล

                    ตารางออกตรวจและนัดหมายคุณหมอ คลิก

                    • นพ. คณิตสร ตรีรัตนกุลวงศ์

                    ตารางออกตรวจและนัดหมายคุณหมอ คลิก

                    • พญ. สุรีย์ อนันต์โกศล

                    ตารางออกตรวจและนัดหมายคุณหมอ คลิก

                    • พญ. สวนีย์ อิสระประศาสน์ 

                    ตารางออกตรวจและนัดหมายคุณหมอ คลิก

                    • พญ.สิริพิมพ์ เพ็ญชาติ 

                    ตารางออกตรวจและนัดหมายคุณหมอ คลิก

                    • พญ. ภัสรา นิลายน

                    ตารางออกตรวจและนัดหมายคุณหมอ คลิก

                    ศูนย์สุขภาพเด็กและวัยรุ่น โรงพยาบาลพญาไท 1 อาคาร 2 ชั้น 3
                    วันและเวลาทำการ
                    เปิดบริการทุกวัน เวลา 06.00 น. – 20.00 น.

                    โทรศัพท์ 02-201-4600 ต่อ 3111, 3112

                    เว็บไซต์ www.phyathai.com

                     

                    อ่านต่อ 40 รายชื่อหมอด้านพัฒนาการเด็ก คลิกหน้า 2

                    เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                      สงกรานต์ในบ้าน

                      สงกรานต์ในบ้าน เด็กๆ งดเล่นน้ำป้องกันโควิด 19

                      วันปีใหม่ไทยในปีนี้ แตกต่างไปจากทุกปี เนื่องจากสถานการณ์ของโรคติดต่อโควิด 19 ที่ทำให้ทุกครอบครัว ต้องงดเล่นน้ำสงกรานต์ หรืองดทำกิจกรรมต่างๆ ที่ต้องอยู่รวมหรือใกล้ชิดกัน การทำกิจกรรม สงกรานต์ในบ้าน จึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เพื่อไม่ให้เด็กเบื่อหน่ายเพราะไม่ได้เล่นน้ำ

                      Continue reading “สงกรานต์ในบ้าน เด็กๆ งดเล่นน้ำป้องกันโควิด 19”

                        นมถั่วเหลือง

                        รู้หรือไม่? นมถั่วเหลือง ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อยแข็งแรงไม่ป่วยบ่อย

                        ช่วงปิดเทอมคือช่วงเวลาที่เด็กๆ วัยเรียนได้หยุดพักผ่อนอยู่บ้านกันแบบยาวๆ และส่วนใหญ่คุณพ่อคุณแม่ก็จะหากิจกรรมให้ลูกได้ทำกันเพื่อเพิ่มทักษะการเรียนรู้ใหม่ๆ ในช่วงปิดเทอม แต่ด้วยสถานการณ์จากไวรัส COVID-19 ที่กำลังระบาดอยู่ตอนนี้ก็อาจทำให้หลายครอบครัวไม่กล้าให้ลูกออกมาทำกิจกรรม เล่นสนุก เที่ยวเปิดหูเปิดตานอกบ้านกันมากนัก เนื่องด้วยกลัวว่าลูกจะป่วยไม่สบายขึ้นมาได้ค่ะ

                        ดังนั้นเพื่อเป็นการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้เด็กๆ มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงตลอดช่วงปิดเทอมนี้ ที่ไม่ว่าจะไวรัส COVID-19 หรือไวรัสที่ก่อโรคต่างๆ ที่มาตามฤดูกาล ก็ไม่สามารถทำให้ป่วยได้ง่ายนั้น คุณแม่ควรต้องดูแลโภชนาการของลูกอย่างไร ถึงจะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันร่างกายให้แข็งแรงอยู่ตลอดเวลา ไม่ทำให้พัฒนาการลูกสะดุด และยัง Happy กันได้ในช่วงตลอดปิดเทอมนี้

                        นมถั่วเหลือง

                        โภชนาการแบบไหนที่เหมาะกับเด็กวัยเรียน ?

                        การเตรียมความพร้อมให้เด็กๆ มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงอยู่ตลอดเวลา จะช่วยให้พวกเขาพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้ในห้องเรียน หรือการเรียนรู้นอกห้องเรียนในช่วงปิดเทอม ซึ่งสิ่งสำคัญอันดับหนึ่งที่จะทำให้เด็กๆ มี สมองพร้อม ร่างกายพร้อมในทุกวัน นั่นก็คือการได้รับโภชนาการสารอาหารต่างๆ ครบทั้ง 5 หมู่ในปริมาณที่เพียงพอในทุก วัน

                        เพราะอะไรรู้ไหมคะ ? เพราะลูกที่อยู่ในวัยเรียน จะเป็นวัยที่มีการเคลื่อนไหวใช้ร่างกายมากในการทำกิจกรรมสนุกต่างๆ   และสมองยังจะต้องมีการคิด การเรียนรู้ จดจำเรื่องใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา ฉะนั้นพลังงานที่ได้จากอาหารที่ถูกใช้ไป จะต้อง เติมเข้ามาใหม่อย่างเหมาะสม และเพียงพอในทุกๆ วันนั่นเองค่ะ

                        ซึ่งสารอาหารที่เป็นประโยชน์กับร่างกายของลูกๆ ก็มาจากอาหารหลัก 5 หมู่ ที่คุณแม่ควรดูแลให้ลูกได้รับอย่างเหมาะสม  ตามวัย และเพียงพอในทุกมื้ออาหารแล้วนั้น คุณแม่ยังสามารถเสริมเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ระหว่างวันให้กับลูกได้นะคะ อย่างการให้ “ดื่มนม” ไม่ว่าจะเป็นนมวัว หรือ นมถั่วเหลือง ต่างก็ให้คุณค่าสารอาหารที่ดีต่อพัฒนาการ และภูมิคุ้มกันร่างกายค่ะ

                         

                        นมถั่วเหลือง VS นมวัว นมชนิดไหนที่เลือกให้ลูกวัยเรียน

                        ถ้าจะให้พูดถึงนมถั่ว เหลืองที่เป็นที่ชื่นชอบของเด็กๆ วัยเรียน ที่คุณแม่มักจะเตรียมให้ลูกๆ ได้กินพร้อมอาหารเช้า หรือใส่กระเป๋าให้ลูกไปกินที่โรงเรียนระหว่างวัน ก็ต้องนมถั่วเหลืองสำหรับเด็ก “ไวตามิ้ลค์แชมป์” ฉะนั้นครอบครัวไหนที่ยังลังเลใจว่าจะให้ลูกกินนมถั่วเหลืองดีไหม ลองมาดูสารอาหารที่อยู่ในนมถั่วเหลืองไวตามิ้ลค์แชมป์ กับ นมวัวทั่วไป กันค่ะว่าให้สารอาหารที่มีประโยชน์จะแตกต่าง หรือมีอะไรเหมือนกันบ้าง?

                        นมถั่วเหลือง

                        พอเปรียบเทียบสารอาหารในนมทั้งสองชนิด คุณพ่อคุณแม่ได้เห็นสารอาหารแล้ว จะเห็นได้ว่า นมถั่วเหลืองมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายของลูกดีเทียบเท่ากับนมวัวเลยค่ะ แถมยังมีความโดดเด่นในเรื่องของโปรตีนที่เป็นโปรตีนจากพืช ย่อยง่ายกว่าโปรตีนในนมวัว มีใยอาหารธรรมชาติ(PDX)สูง และไม่มีน้ำตาลแลคโตส เหมาะสำหรับเสริมสร้างภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงให้กับลูกน้อยของเราได้

                        ฉะนั้นแนะนำว่าถ้าจะให้ลูกที่อยู่ในวัยเรียน ดื่มนมถั่วเหลืองสำหรับเด็ก สำคัญสุดคือต้องเป็นนมถั่วเหลืองแท้ เสริมแคลเซียม ค่ะ อย่างนมถั่วเหลืองสำหรับเด็ก ไวตามิ้ลค์แชมป์ เป็นนมที่ทำมาจากถั่วเหลืองแท้ 100% ไม่มีส่วนผสมจากแป้ง และนมวัว เด็กๆ ที่ดื่มนมวัวแล้วท้องอืด ท้องเสีย ก็ไม่ต้องกังวลกับการดื่มไวตามิ้ลค์แชมป์เลยค่ะ เพราะเป็นนมถั่วเหลืองสูตร Lactose Free (น้ำตาลแลคโตสมีอยู่ในนมวัว ที่ก่อให้เกิดอาการ ไม่สบายท้อง) ที่สำคัญยังมีโปรตีนธรรมชาติ ที่ร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้งานได้ทันที ไม่หลงเหลือตกค้างในร่างกาย จึงไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้นมค่ะ

                        นมถั่วเหลือง

                        ให้ลูกดื่มนมถั่วเหลืองสำหรับเด็ก ได้สารอาหารที่มีประโยชน์อะไรบ้าง ?

                        1. มีโปรตีนสูง (นมถั่วเหลือง 1 แก้ว 180 มิลลิลิตร มีโปรตีน ประมาณ 7 กรัม นมวัว 1 แก้ว180 มิลลิลิตร มีโปรตีนประมาณ 7 กรัมเท่ากัน) และมีกรด Amino acid ครบถ้วน 9 ตัวเช่นเดียวกับโปรตีนในเนื้อสัตว์ ที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโต
                        2. มีสารอาหารบำรุงสมองอย่างโคลีนในฟอสฟาติดิลโคลีน ซึ่งเป็นโคลีนจากธรรมชาติที่ได้จากถั่วเหลือง ซึ่งเป็นสารตั้งต้นในการสร้างสารสื่อประสาท ทีเป็นส่วนของการเรียนรู้ ความจำ และสมาธิของลูกน้อย อีกทั้งโอเมก้า 3 6 9 และวิตามินบี 12 สูงที่มีส่วนช่วยในการทำงานของระบบประสาทและสมอง
                        3. มีแคลเซียมสูงในสัดส่วนที่เหมาะสมต่อร่างกายลูก และมีวิตามินดีที่ช่วยในการดูดซึมแคลเซียมได้ดี จึงคงคุณค่าสารอาหารซึ่งช่วยในการเจริญเติบโตด้านร่างกาย กระดูกและฟันที่แข็งแรง
                        4. เป็นโปรตีนธรรมชาติจากพืช จึงย่อยได้ง่ายกว่าโปรตีนจากเนื้อสัตว์
                        5. มีใยอาหารโพลีเด็กซ์โตรส (Polydextrose) ที่จะช่วยกระตุ้นและส่งเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายโดยจะมีผลต่อการทำหน้าที่ของเซลล์ภูมิต้านทานในลำไส้ ช่วยปรับสมดุลระบบนิเวศน์ในลำไส้ ส่งผลให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดี หมดปัญหาเรื่องการขับถ่ายยาก ไม่มีอาการท้องผูก

                        ไม่ยากเลยใช่ไหมคะ ที่คุณพ่อคุณแม่จะดูแลส่งเสริมให้ลูกๆ มีภูมิคุ้มกันร่างกายที่แข็งแรงอยู่ตลอดเวลา ด้วยการดื่มนมถั่วเหลืองสำหรับเด็กที่เต็มไปด้วยคุณภาพ และคุณค่าสารอาหารที่มีประโยชน์ทุกวัน เท่านี้ก็ทำให้พัฒนาการการเรียนรู้ของลูกวัยเรียนไม่สะดุด แถมยังพร้อมสำหรับการเปิดเทอมใหม่ด้วยนะคะ

                        และสำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ไม่อยากเดินทางไปซื้อที่ห้างสรรสินค้าหรือ supermarket ในช่วงนี้ก็สามารถสั่งซื้อออนไลน์ “ไวตามิ้ลค์แชมป์” ให้ลูกๆ ได้ดื่มบำรุงร่างกายกันได้ในช่วงตลอดปิดเทอมนี้ ผ่านทาง Home Delivery หรือเข้าไปที่ https://www.facebook.com/VitamilkChampThailand/

                        นมถั่วเหลืองไวตามิ้ลค์แชมป์ มี 2 รสชาติความอร่อยสำหรับเด็กๆ ค่ะ

                        นมถั่วเหลือง


                        เครดิต :

                        https://bit.ly/2xym4MJ 

                        https://bit.ly/2Q9SJyp 

                        https://bit.ly/2vkeGDW 

                        https://bit.ly/3cWdYgS 

                        https://bit.ly/2IFShE5 

                        https://bit.ly/2U0C15R  

                        https://bit.ly/33hOVAz  

                          อาการเสี่ยงโควิด

                          อาการเสี่ยงโควิด จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรู้รส?

                          ราชวิทยาลัยโสต ศอ นาสิกแพทย์ แห่งประเทศไทย ประกาศแนะนำเรื่อง อาการเสี่ยงโควิด เกิดการสูญเสียการได้กลิ่น ในผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด 19 เนื่องจากมีงานวิจัยและรายงานผู้ป่วยจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของอาการสูญเสียการรับรู้รสด้วย

                          Continue reading “อาการเสี่ยงโควิด จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรู้รส?”

                            ดูNetflix

                            Parental Control ฟีเจอร์ใหม่เอาใจแม่ คุมเวลา-เนื้อหาลูก ดูNetflix ให้เหมาะกับวัย

                            “ดูNetflix เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมบันเทิงที่หลายบ้านให้ลูกทำฆ่าเวลาในช่วงที่ออกไปเล่นนอกบ้านไมได้ หรือระหว่างรอคุณพ่อคุณแม่จัดการงานให้เสร็จจากแผน work from home แต่จะแน่ใจได้อย่างไรว่า หนัง หรือ การ์ตูนที่ลูกดูจะไม่เป็นภัย  และลูกไม่ดูมากเกินไปจนติดจอ

                            เครื่องมือใหม่สำหรับพ่อแม่ ช่วยควบคุมให้ลูก ดูNetflix อย่างปลอดภัย

                            คงปฏิเสธไม่ได้ว่า เทคโนโลยีเปิดทางให้ลูกเข้าถึงสื่อบันเทิงได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องรอคอยเวลาที่การ์ตูนมาฉาย หรือไปโรงหนังสือเพื่อดูการ์ตูนสักเรื่อง แค่มีอินเตอร์เน็ตกับอุปกรณ์หน้าจออย่าง สมาร์ททีวี แท๊ปเล็ตสักเครื่อง ก็สามารถดูการ์ตูน สารคดีเรื่องโปรดได้ตลอดเวลา

                            Netflix คือหนึ่งในผู้ให้บริการสตรีมมิ่งความบันเทิงรูปแบบต่างๆที่สามารถแบ่งกันดูได้ทั้งครอบครัว ซึ่งจัดแบ่งเนื้อหาให้กับคนทุกวัย แต่ละคนสามารถเข้าถึงเนื้อหาของตัวเองได้จากอุปกรณ์หลายเครื่องพร้อมๆ กัน จึงให้ลูก ดูNetflix ผ่านแท๊ปเล็ต ขณะที่คุณแม่ดูซีรีย์เกาหลีได้ แถมจะเลือกดูที่ไหน เวลาใดก็ได้ ดูไม่จบดูต่อได้ไม่ต้องเริ่มใหม่ เพียงแต่มี “อินเตอร์เน็ต”

                            Must Read : 12 การ์ตูน Netflix สำหรับเจ้าตัวเล็ก

                            Must Read :รวมหนังดี สารคดีน่าดู ซีรีส์ netflix คัดเฉพาะสำหรับคุณแม่

                            เมื่อลูกเข้าถึงเนื้อหาและเลือกดูเองได้อย่างอิสระ ทำให้พ่อแม่หลายบ้านกังวลว่า สิ่งที่ลูกกำลังดูเหมาะสมกับวัยหรือไม่ กลัวว่าลูกดูเนื้อหารุนแรง ดูต่อเนื่องมากเกินไป หรือแอบเข้าไปดูหนังของคุณพ่อคุณแม่โดยไม่ตั้งใจ แล้วแบบนี้จะป้องกันอย่างไรดี

                            Parental Control  เครื่องมือดูแลลูก ดูNetflix อย่างปลอดภัย

                            การตั้งเงื่อนไขก่อนที่จะให้ลูก ดูNetflix  เป็นสิ่งที่ควรทำตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อให้ลูกเรียนรู้ข้อตกลงและป้องกันปัญหาจากการชมสื่อไม่เหมาะสมซึ่งดีกว่าการ “ห้าม” “ต่อว่า” ที่ทำได้ยากกว่ามาก Parental Controlเป็นฟีเจอร์ที่ Netflix ออกแบบให้เป็นเครื่องมือสำหรับคุณพ่อคุณแม่ ใช้วางกฎเกณฑ์และควบคุมเนื้อหาให้เหมาะสมกับลูกแต่ละวัยผ่าน Browser www.netflix.com/browse จากทั้งคอมพิวเตอร์ และแท็ปเล็ต  (ไม่สามารถแก้ไขผ่านapplication) Amarin baby & Kids ได้รวบรวมวิธีใช้ Parental Control ทำตามกันง่ายๆ ดังต่อไปนี้

                             

                            ดูNetflix

                            1. ตั้งโปรไฟล์สำหรับเด็กโดยเฉพาะ

                            หลังจากคุณแม่สมัครสมาชิก Netflix แล้ว สามารถตั้งโปรไฟล์ให้ลูกโดยเฉพาะ ด้วยการกรอกอายุของลูก หากอายุไม่เกิน 7 ขวบ จะถูกจัดอยู่ในโหมด “มุมเด็ก”  ซึ่งในหมวดนี้จะมีเฉพาะเนื้อหาที่เหมาะกับวัยนี้เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นรายการทีวี และภาพยนตร์ ขณะเดียวกันลูกยังสามารถเลือกเองได้ว่าจะดูเนื้อหาจาก “หมวด” ใด (กรณีมีลูกหลายคน สามารถแยกตั้งโปรไฟล์ของเด็กแต่ละคนได้)

                            ดูNetflix

                             

                            1. ตั้งค่าการจำกัดการรับชม

                            Netflix จะแบ่งเรตติ้งเป็น 5 ระดับ ได้แก่ “ดูได้ทุกวัย” “ผู้ชมอายุ 7 ปีขึ้นไป” “ผู้ชมอายุ 13 ปีขึ้นไป”  “ผู้ชายอายุ 16 ปีขึ้นไป” และผู้ชมอายุ 18 ปีขึ้นไป” แต่อาจมีเนื้อหาบางส่วนที่พ่อแม่เห็นว่าไม่เหมาะกับลูก และอยากปิดกั้นออกไป ก็สามารถเข้ามาตั้งค่าการจำกัดการรับชม เพิ่มได้ด้วยตัวเอง

                            โดยเข้าไปที่ฟังก์ชั่น “บัญชี” เลือก “โปรไฟล์ของลูก” จากนั้นเลือก “การจำกัดการรับชม” คุณแม่สามารถคลิ๊กเลือกเรตติ้งเนื้อหาที่เหมาะกับลูกได้เจาะลึกมากขึ้น ถึงแม้ว่าจะตั้งโปรไฟล์ลูกเป็นเด็ก 7 ขวบ แต่คุณแม่เลือกให้ลูกดูเฉพาะเนื้อหาในเรตติ้ง “ดูได้ทุกวัย” ก็ทำได้ ไม่จำเป็นต้องดูตามวัยที่ระบุเท่านั้น

                             

                            อ่านวิธีควบคุมเนื้อหาของ Netflix ให้เหมาะกับลูกแต่ละวัย หน้า 2

                             

                             

                            เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                              วิถีพุทธ

                              โรงเรียน วิถีพุทธ แตกต่างจากโรงเรียนทางเลือกอื่นยังไง?

                              หลักสูตรการศึกษาในยุคปัจจุบัน มีแนวทางการศึกษาหลายรูปแบบเพิ่มเติมจากโรงเรียนกระแสหลักมาเป็นตัวเลือกให้คุณพ่อคุณแม่ได้เลือกสรรการศึกษาที่ดีที่สุดและเหมาะที่สุดสำหรับลูก สำหรับโรงเรียน วิถีพุทธ ก็ถือเป็นโรงเรียนทางเลือกที่มีการเรียนการสอนที่แตกต่างไปจากแนวทางอื่น ๆ จุดเด่นของโรงเรียนหลักสูตรนี้เป็นอย่างไร มาหาคำตอบกันค่ะ

                              โรงเรียน วิถีพุทธ แตกต่างจากโรงเรียนทางเลือกอื่นยังไง?

                              โรงเรียนวิถีพุทธ หมายถึง โรงเรียนที่มีแนวการเรียนการสอนระบบปกติทั่วไปภายใต้การกำกับของกระทรวงศึกษาธิการ แต่เน้นการสอนที่นำหลักธรรมพระพุทธธรรม หรือองค์ความรู้ที่เป็นคำสอนในพระพุทธศาสนา มาประยุกต์ใช้ในการจัดการศึกษา โดยมีจุดเน้นที่สำคัญคือ การนำหลักธรรมมาใช้ในระบบเพื่อพัฒนาเด็กโดยเน้นกรอบการพัฒนาตามหลักไตรสิกขา คือ

                              • ศีล – การมีวินัยในการดำเนินชีวิตที่ดีงามต่อตัวเองและผู้อื่น
                              • สมาธิ – มุ่งพัฒนาจิตใจให้เข้มแข็งอย่างมีคุณภาพ
                              • ปัญญา – การมีความรู้ที่ถูกต้อง มีศักยภาพในการคิดและแก้ปัญหาที่เหมาะสม

                              เน้นการพัฒนาให้ผู้เรียนสามารถ “กิน อยู่ ดู ฟังเป็น” คือใช้ปัญญา และเกิดประโยชน์แท้จริงต่อชีวิต เป็นการฝึกหัดอบรม เพื่อพัฒนากาย ความประพฤติ จิตใจ และปัญญาอย่างบูรณาการ เป็นอีกหนึ่งแนวการเรียนการสอนที่จะช่วยผลักดันให้เด็กสามารถพัฒนาตามศักยภาพ เป็นคนดี คนเก่งของสังคม และสามารถดำรงชีวิตได้อย่างมีความสุข ผ่านการเรียนการสอนและกิจกรรมภายในโรงเรียนที่จัดสภาพแวดล้อมและบรรยากาศที่เป็นกัลยาณมิตร โดยมีครูที่ใช้วัฒนธรรมและบรรยากาศการเรียนรู้ มีความรัก ความเมตตา และปรารถนาดี เอื้ออาทร ไม่เอาเปรียบ เสียสละ มีความกตัญญูทั้งต่อธรรมชาติและบุคคล ที่จะพัฒนาผู้เรียนอย่างดีที่สุดด้วยความเพียรพยายาม เอื้อในการพัฒนาผู้เรียนอย่างรอบด้านด้วยวิถีวัฒนธรรมแสวงปัญญา

                              โรงเรียนสยามสามไตร
                              ขอบคุณภาพจาก โรงเรียนสยามสามไตร

                              จุดเด่นของโรงเรียนวิถีพุทธ

                              โรงเรียนวิถีพุทธมีการจัดสภาพในทุก ๆ ด้าน เพื่อสนับสนุนให้ผู้เรียนพัฒนาตามหลักพุทธธรรมอย่างบูรณาการ มีกระบวนการจัดการเรียนรู้ลักษณะ “สอนให้รู้ ทำให้ดู อยู่ให้เห็น” ทั้งนี้การจัดสภาพจะส่งเสริมให้เกิดลักษณะของปัญญาวุฒิธรรม ๔ ประการ คือ

                              1. สัปปุริสสังเสวะ หมายถึง การอยู่ใกล้คนดี ใกล้ผู้รู้ อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี ครู อาจารย์ดี มีข้อมูล มีสื่อที่ดี
                              2. สัทธัมมัสสวนะ หมายถึง เอาใจใส่ศึกษาโดยมีหลักสูตรการเรียนการสอนที่ดี
                              3. โยนิโสมนสิการ หมายถึง มีกระบวนการคิดวิเคราะห์พิจารณาหาเหตุผลที่ดีและถูกวิธี
                              4. ธัมมานุธัมมปฏิปัตติ หมายถึง ความสามารถที่จะนำความรู้ไปใช้ในชีวิตได้ และดำเนินชีวิตได้ถูกต้องตามธรรม
                              โรงเรียนรุ่งอรุณ
                              ขอบคุณภาพกจาก โรงเรียนรุ่งอรุณ

                              โดยสภาพแวดล้อมในโรงเรียน จะจัดให้เอื้อต่อการเรียนรู้ตามหลักพุทธศาสนา มีบรรยากาศสงบเงียบ เรียบง่าย ร่มรื่น สะอาด มีระเบียบ ปลอดภัย มีสื่อและอุปกรณ์การเรียนการสอนที่มีการปรับปรุงพัฒนาอยู่เสมอ ส่งเสริมบรรยากาศของการใฝ่เรียนรู้ และพัฒนาไตรสิกขา มีบรรยากาศของการเคารพอ่อนน้อม ยิ้มแย้มแจ่มใส การมีความเมตตา กรุณาต่อกัน ทั้งครูต่อนักเรียน นักเรียนต่อครู นักเรียนต่อนักเรียน และครูต่อครูด้วยกันและโรงเรียนส่งเสริมให้บุคลากร และนักเรียนปฏิบัติตน เป็นตัวอย่างที่ดีแก่ผู้อื่น เช่น การลด ละ เลิกอบายมุข การเสียสละ เป็นต้น

                              สภาพแวดล้อมระหว่างโรงเรียนวิถีพุทธกับชุมชน ซึ่งประกอบด้วยบ้าน วัด และสถาบันอื่น ๆ ในชุมชน ซึ่งโรงเรียนวิถีพุทธมีลักษณะเปิดกว้างสู่ชุมชนและสังคม พร้อมที่จะรับฟังความคิดเห็นเพื่อการปรับปรุงพัฒนาอยู่เสมอ และพร้อมให้ความร่วมมือในการพัฒนาชุมชนสังคมด้วยความเกื้อกูลกันและกันอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเปิดโอกาสให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการพัฒนาโรงเรียน ร่วมมือร่วมใจในการพัฒนานักเรียนและพัฒนาชุมชนสังคมตามหลักธรรมในพุทธศาสนา สอดคล้องกับหลักไตรสิกขา มีความเป็นกัลยาณมิตรต่อกัน และเรียนรู้ที่จะดำรงชีวิตอย่างเหมาะสม รู้เท่าทันโลกที่เปลี่ยนแปลง สร้างสังคมที่ดีมี คุณภาพ เพื่อประโยชน์สุขร่วมกัน

                              กิจกรรมในโรงเรียนวิถีพุทธ

                              โรงเรียนวิถีพุทธจะมีการจัดกิจกรรมหลากหลายและต่อเนื่องเป็นวิถีชีวิต เพื่อให้เด็กๆ รู้จักคิดและได้ฝึกปฏิบัติเสมอ ๆ โดยผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับโรงเรียน บ้าน วัด ชุมชน ด้วยการดำเนินกิจกรรมร่วมกันโดยใช้หลักเกื้อกูลสัมพันธ์ อาทิเช่น

                              โรงเรียนทอสี
                              ขอบคุณภาพจาก โรงเรียนทอสี
                              • มีการจัดกิจกรรมในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา และวันตามประเพณี เช่น กิจกรรมหล่อเทียนพรรษา การทอดกฐินทอดผ้าป่า กิจกรรมวันพ่อวันแม่ ฯลฯ
                              • เปิดโรงเรียนต้อนรับผู้ปกครอง และชุมชนตลอดเวลา เพื่อให้ผู้ปกครองได้มีโอกาสเสนอข้อคิดเห็น และมีส่วนร่วมในภารกิจต่าง ๆ เช่น ดูแลความสะอาดของโรงอาหาร ดำเนินการเชิญภูมิปัญญาทางพระพุทธศาสนา ภูมิปัญญาท้องถิ่น มาช่วยโรงเรียนในการจัดการเรียนรู้ เป็นต้น
                              • เป็นศูนย์กลางของชุมชนในด้านวิชาการ วิชาชีพ เช่น จัดอบรมให้ความรู้แก่ผู้ปกครองในเรื่องอาชีพพิเศษต่างๆ จัดร้านค้าของโรงเรียนเพื่อให้ผู้ปกครองนำผลิตผลทางการเกษตร ผลิตภัณฑ์ต่างๆ มาขาย โดยนักเรียนเป็นผู้ดูแลกิจการ
                              • จัดกิจกรรมเชื่อมความสัมพันธ์ ระหว่าง โรงเรียน บ้าน วัด ชุมชน เช่น จัดการแข่งขันกีฬา จัดกิจกรรมปัจฉิมนิเทศโดยเชิญผู้ปกครองมาร่วมนำอาหารมารับประทานร่วมกัน จัดค่ายครอบครัว เป็นต้น
                              • กิจกรรมที่ทำภายในโรงเรียนเป็นกิจวัตรประจำวัน เช่น สวดมนต์ก่อนและหลังเลิกเรียน นั่งสมาธิ เข้าค่ายธรรมมะ ฯลฯ

                              ซึ่งจะเห็นได้ว่าโรงเรียนแนววิถีพุทธ มีจุดมุ่งหมายสำคัญคือ มุ่งพัฒนาผู้เรียนด้วยความรู้ให้คู่กับคุณธรรม กิจกรรมและการเรียนรู้ในโรงเรียนจึงมีกระบวนการเรียนรู้ด้วยตนเองแบบองค์รวม ให้เข้าใจความจริงของชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกิน อยู่ ดู ฟัง ในชีวิตประจำวันที่มีสติสัมปชัญญะคอยกำกับ และดำเนินชีวิตได้อย่างเหมาะสม ทำให้เด็กเกิดการพัฒนาทั้งด้านความประพฤติ จิตใจ และปัญญาไปพร้อมๆ กัน มีเป้าหมายในเรื่องของชีวิต รู้จักวิธีปฏิบติเพื่อพัฒนาจิตใจของตนเอง สามารถช่วยเหลือและดูแลตัวเองได้ รวมถึงการปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น ธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมได้อย่างเป็นกัลยาณมิตรตามหลักทางสายกลาง

                              ตัวอย่างโรงเรียนวิถีพุทธ

                              โรงเรียนทอสี

                              โรงเรียนทอสี
                              ขอบคุณภาพจาก โรงเรียนทอสี

                              เป็นโรงเรียนวิถีพุทธปัญญาเป็นต้นแบบ ในการบ่มเพาะชีวิตเด็ก ครู และผู้ปกครอง เพื่อให้เด็กๆ เดิบโตไปเป็นคนที่สามารถพึ่งตัวเองได้และมีเพื่อนที่ดี เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน เพื่อสร้างประโยชน์สุขต่อส่วนรวม พร้อมจะอยู่ร่วมกับสังคมโลกที่เปลี่ยนแปลง โดยพัฒนาการใช้กระบวนการเรียนการสอนควบคู่ไปกับการปฏิบัติธรรม เปิดสอนตั้งแต่ระดับเตรียมอนุบาล-ประถมศึกษาตอนปลายการ ทำงานของโรงเรียนทอสี เน้นการสร้างเครือข่ายของกัลยาณมิตรเพื่อช่วยเหลือ เกื้อกูล แบ่งปัน สนับสนุน ทั้งกำลังกาย กำลังใจซึ่งกันและกัน การร่วมมือกับชุมชน ร่วมมือกับสถาบันต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อแสดงให้เห็นว่าการศึกษาแบบวิถีพุทธสะท้อนภาพให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของวิถีชีวิตได้ทั้งครู เด็ก ผู้ปกครอง มุ่งสู่เป้าหมายของการพัฒนาสังคมที่มี “ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน”

                              ที่อยู่โรงเรียน : 023/46 ซอยปรีดีพนมยงค์41 ถนนสุขุมวิท71 แขวงคลองตัน เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110
                              โทรศัพท์ : 0-27130260-1
                              Website : www.thawsischool.com
                              Facebook : https://www.facebook.com/thawsi

                              โรงเรียนรุ่งอรุณ

                              โรงเรียนรุ่งอรุณ
                              ขอบคุณภาพจาก โรงเรียนรุ่งอรุณ

                              มีแนวทางการจัดการศึกษาแนวพุทธที่พัฒนาเด็กตามหลักไตรสิกขา คือ  ศีล  สมาธิ  ปัญญา เปิดสอนตั้งแต่ระดับอนุบาล ประถม และมัธยม ได้มีการนำหลักไตรสิกขาเข้าสู่กระบวนการเรียนการสอนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล วิถีชีวิตและกิจกรรมการเรียนรู้ต่าง ๆ จึงมีเป้าหมายให้เด็ก กิน อยู่ ดู ฟังเป็น สามารถดูแลช่วยเหลือตนเองได้ ปรับตัวอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้ และกตัญญูกตเวทีต่อผู้มีพระคุณ อันเป็นคุณธรรมสำคัญที่เกื้อหนุนการเรียนรู้ของวัยเด็ก โดยบูรณาการ 4 สาระที่สำคัญสำหรับปฐมวัย ได้แก่ ตัวเรา ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สังคม (พ่อแม่ ญาติพี่น้อง เพื่อน ครู ลุงคนสวน ป้าแม่ครัว ฯลฯ) และภาษา คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ลงในทุกกิจกรรมการเรียนรู้ของเด็ก อาทิ กิจวัตรประจำวัน การเล่น การออกกำลังกาย นิทาน ศิลปะ ดนตรี การทำอาหาร การเดินชมธรรมชาติ กิจกรรมจิตอาสา และโครงงานตามความสนใจ ซึ่งสอดคล้องไปกับฤดูกาลของแต่ละภาคเรียน

                              ที่อยู่โรงเรียน : 391 ซอยอนามัยงามเจริญ 25(ถ.พระราม 2 ซอย 33) แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กรุงเทพ ฯ 10150
                              โทรศัพท์ 02-8707512-4 โทรสาร 02 8707514
                              Website : www.roong-aroon.ac.th

                              โรงเรียนสยามสามไตร

                              โรงเรียนสยามสามไตร
                              ขอบคุณภาพจาก โรงเรียนสยามสามไตร

                              มีระบบการศึกษาแนวพุทธ และหลักสูตรพื้นฐานตรงตามกระทรวงศึกษาธิการ เปิดสอนระดับเด็กเล็ก – อนุบาล – ประถม – มัธยม อายุตั้งแต่ 1.6 – 15 ปี ในการจัดการศึกษาวิถีพุทธ โรงเรียนสยามสามไตรได้ใช้หลักจากธรรมนิพนธ์ใน สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ หลายฉบับด้วยกัน โดยตั้งแต่ พ.ศ. 2546 เริ่มขยายการศึกษาสู่ระดับประถมศึกษาในชื่อ “บ้านพุทธประถม” และวางหลักสูตรเน้นวางรากฐาน 3 วิถี ไว้ชัดเจน คือ วิถีไทย วิถีธรรมชาติ และวิถีพุทธ อันเป็นแนวทางและรูปแบบที่ทรงคุณค่า สร้างเด็กไทยให้ดำรงความเป็นไทย รักษาโลกธรรมชาติ สืบต่อพระพุทธศาสนาต่อไปสู่รุ่นลูกหลาน

                              และในปี พุทธศักราช 2550 ”โรงเรียนสยามสามไตร” พัฒนาหลักสูตรให้เกิดผลต่อเด็กเป็นรูปธรรมชัดเจน ในแนววิถีชีวิต “คงแก่เล่น คงแก่เรียน คงแก่การทำงาน การเข้าสังคม ” ให้เกิดผลสมจริงในทุกระดับชั้น สมบูรณ์ด้วยความหมาย “โรงเรียนสยามสามไตร ” จาก ท่านสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป. อ. ปยุตฺโต)

                              ที่อยู่โรงเรียน : 87 ซ.สุขุมวิท 89/1 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพฯ 10260
                              โทรศัพท์ 02-3110134, 02-33-6258-60 โทรสาร 02-311-2575
                              Website : โรงเรียนสยามสามไตร.com
                              Facebook : https://www.facebook.com/siamsaamtri.school

                              สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่มองหาโรงเรียนวิถีพุทธ ซึ่งเป็นโรงเรียนทางเลือกอีกแนวทางการศึกษา เพื่อต้องการปลูกฝังคุณธรรมควบคู่ไปกับการเรียนรู้ให้กับเจ้าตัวเล็ก หากมีโอกาสก็ลองเข้าไปสัมผัสบรรยากาศ ขอเยี่ยมชม และศึกษาข้อมูลของโรงเรียนดู ว่าเข้าถึงรูปแบบกับโรงเรียนวิถีพุทธและเหมาะสมกับลูกกันก่อนหรือไม่ เพราะการเลือกโรงเรียนให้ลูกสิ่งสำคัญก็คือความพร้อมของเด็กนะคะ.

                              ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก : th.wikipedia.org, www.vitheebuddha.com

                              อ่านต่อบทความอื่นน่าสนใจ :

                              โรงเรียนทางเลือก เลือกแบบไหนให้เหมาะกับเจ้าตัวน้อย

                              โรงเรียนคาทอลิก แตกต่างจากโรงเรียนทั่วไปอย่างไร ทำไมพ่อแม่ถึงอยากให้ลูกเข้า!

                              เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                                อัณฑะไม่ลงถุง

                                อัณฑะไม่ลงถุง ความผิดปกติที่อาจเกิดกับทารกคลอดก่อนกำหนด

                                อวัยะเพศของเด็กผู้ชายรวมไปถึงลูกอัณฑะของทารกนั้นควรมีองค์ประกอบครบถ้วนสมบูรณ์มาตั้งแต่เกิด ซึ่งกุมารแพทย์จะแจ้งให้คุณพ่อคุณแม่ได้ตั้งแต่ช่วงแรกเกิด สำหรับภาวะ อัณฑะไม่ลงถุง ในเด็กนั้น ความผิดปกตินี้พบไม่บ่อยนัก แต่อาจเกิดขึ้นได้กับทารกเพศชายที่คลอดครบกำหนดประมาณร้อยละ 3 และทารกที่คลอดก่อนกำหนดประมาณร้อยละ 30 และอาจสูงถึงร้อยละ 33 ในรายที่ไม่ได้รับการรักษาอาจส่งผลเสียต่อทารก อาจมีภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงต่ออัณฑะเมื่ออายุมากขึ้น

                                อัณฑะไม่ลงถุงลูก

                                อัณฑะไม่ลงถุง ความผิดปกติที่มักเกิดกับทารกคลอดก่อนกำหนด

                                ภาวะลูกอัณฑะไม่ลงถุง คือการที่ลูกอัณฑะไม่ได้อยู่ในถุงอัณฑะ และไม่สามารถดึงลงมาในถุงอัณฑะได้ อัณฑะที่ไม่ลงถุงอาจคลำไม่ได้เนื่องจากอยู่ในช่องท้อง หรือคลำได้บริเวณขาหนีบ หรือเหนือถุงอัณฑะเพียงเล็กน้อย อาจคลำไม่พบตั้งแต่แรกเกิด หรือลงมาในถุงอัณฑะตอนแรกเกิดแล้วเคลื่อนกลับขึ้นไปภายหลัง ซึ่งอาจเกิดขึ้นกับข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้างก็ได้

                                แพทย์หญิงศนิ มลกุล ผู้เชี่ยวชาญสาขากุมารศัลยศาสตร์ ได้ให้ข้อมูลว่า ปกติอัณฑะของเด็กชายนั้นประกอบด้วยเซลล์ 2 กลุ่ม คือเซลล์ที่ทำหน้าที่ในการสร้างฮอร์โมนเพศชาย และเซลล์ที่ทำหน้าที่ในการสร้างตัวอสุจิ  โดยลูกอัณฑะของเด็กนั้นถูกสร้างขึ้นตั้งแต่เด็กยังเป็นตัวอ่อนในครรภ์มารดาในสัปดาห์ที่ 6 ของการตั้งครรภ์ อยู่ที่ด้านหลังของช่องท้อง ระดับใกล้เคียงกับไตของเด็ก ต่อมาเมื่อตัวอ่อนเจริญเติบโตมาจนถึงสัปดาห์ที่ 24-26 อัณฑะจึงค่อยๆ เลื่อนตัวจากตำแหน่งเดิม ผ่านขาหนีบลงมาอยู่ที่ถุงอัณฑะ โดยปัจจัยที่ช่วยส่งเสริมให้อัณฑะเลื่อนตัวลงมาได้นั้นมีหลายอย่าง เช่น  การมีโครโมโซมเพศชายที่ปกติ การมีความดันในช่องท้องเป็นปกติ การมีเนื้อเยื่อที่เรียกว่า gubernaculum ยึดโยงระหว่างตัวอัณฑะมาที่ถุงอัณฑะ ซึ่งอิทธิพลของฮอร์โมนส์หลาย ๆ อย่างจะทำให้เนื้อเยื่อนี้หดสั้นลง ดึงเอาอัณฑะมาอยู่ในถุงได้ เป็นต้น

                                สาเหตุของอัณฑะไม่ลงถุง

                                สาเหตุของการเกิดภาวะลูกอัณฑะไม่ลงถุงนั้นยังไม่มีการยืนยันใด ๆ แต่สิ่งที่สังเกตได้คือความผิดปกตินี้มักจะพบในทารกที่คลอดก่อนกำหนด ทางการแพทย์ได้ลงความเห็นถึงปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้ทารกตกอยู่ในภาวะลูกอัณฑะไม่ลงถุง ได้แก่

                                อัณฑะไม่ลงถุง มีผลอย่างไร

                                1. ทารกมีน้ำหนักแรกเกิดน้อย
                                2. ความไม่สมบูรณ์เต็มที่ของเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายเมื่อทารกคลอดก่อนกำหนด
                                3. ภาวะแทรกซ้อนที่ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์ เช่นภาวะดาวน์ซินโดรม (Down Syndrome) และความผิดพลาดของผนังหน้าท้องด้านใน
                                4. บุคคลในครอบครัวมีประวัติเคยตกอยู่ในภาวะนี้
                                5. ได้รับสารเอสโตรเจน ยา หรือสารบางประเภทที่พบในสภาพแวดล้อม ซึ่งออกฤทธิ์ขัดขวางฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนตัวของอัณฑะ
                                6. ความผิดปกติทางกายวิภาคของผนังหน้าท้อง มีส่วนของอวัยวะขัดขวางการเคลื่อนตัวลงของอัณฑะ
                                7. ผู้ปกครองมีการสัมผัสสารกำจัดศัตรูพืช
                                8. แม่ท้องดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในขณะตั้งครรภ์
                                9. สูบบุหรี่หรือดมกลิ่นบุหรี่มากในขณะตั้งครรภ์
                                10. แม่เป็นโรคอ้วนหรือมีน้ำหนักตัวมากเกินกว่าปกติ
                                11. แม่เป็นโรคเบาหวาน

                                อ่านต่อ ภาวะแทรกซ้อนที่พบจากอัณฑะไม่ลงถุงในเด็ก คลิกหน้า 2

                                เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                                  กิจกรรมเล่นกับลูก

                                  7 กิจกรรมเล่นกับลูก ได้จินตนาการ เสริมพัฒนาการลูกดีทุกด้าน

                                  ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า “การเล่น” ของเด็ก ๆ นั้นไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ ที่คนเป็นพ่อเป็นแม่จะมองข้ามไม่ได้ มี กิจกรรมเล่นกับลูก มากมายที่จะช่วยกระตุ้นสมองให้เกิดวงจรการเรียนรู้และพัฒนาด้านร่างกาย จิตใจ สังคม ภาษา และสติปัญญาผ่านความรู้สึกสนุกสนานได้เป็นอย่างดี การให้ลูกได้เล่นตั้งแต่ยังเล็ก ๆ ถือเป็นการเตรียมลูกน้อยให้มีพัฒนาการดี ๆ ความสามารถในการวางแผน การบริหารจัดการ จินตนาการ การทำงานเป็นที่ม สื่อสารเป็น มีความยืดหยุ่น และแก้ปัญหาได้ ล้วนเป็นพัฒนาที่ผ่านกระบวนการ “เล่น” ตั้งแต่ยังเป็นเด็กเล็ก ๆ โดยการเล่นนั้นมีหลายรูปแบบ แม้แต่การเล่นแบบธรรมดา ๆ ด้วยของเล่นจากธรรมชาติรอบบ้านหรือรอบตัว ก็สามารถสร้างพัฒนาการดี ๆ ให้กับเจ้าตัวน้อยได้ ถ้าหากได้ทุกกิจกรรมเหล่านี้บ่อย ๆ ทุกวัน

                                  7 กิจกรรมเล่นกับลูก ได้จินตนาการ เสริมพัฒนาการลูกดีทุกด้าน

                                   

                                  เล่นอะไรกับลูกดี

                                   

                                  เล่นทราย ดิน หิน น้ำ เล่นธรรมชาติรอบตัว

                                  การให้ลูกได้เล่นกับธรรมชาติอย่างทราย ดิน หิน น้ำ ที่ดูธรรมดาที่สุด แต่กลับเป็นผลดีต่อพัฒนาการของลูกที่สุดเช่นกัน เพราะการเล่นกับธรรมชาติเหล่านี้เป็นการเล่นที่ไม่มีรูปแบบขั้นตอนและวิธีการใด ๆ เป็นการเล่นแบบอิสระ หรือ free play ที่ไม่มีขอบเขตจำกัด ทำให้เด็ก ๆ ได้ใช้จินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ ในการเล่นด้วยตัวเอง สามารถที่จะก่อกองทรายเป็นรูปอะไรก็ได้ เอาหินมาสร้างเป็นเขื่อน เอาดินมาปั้นนู้นปั้นนี่ หรือการเล่นน้ำ ตักน้ำ ตวงน้ำ ฯลฯ การเล่นเหล่านี้ที่นอกจากจะสร้างจินตนาการไม่รู้จบแล้ว ยังเป็นการเล่นที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงกล้ามเนื้อ ที่ต้องใช้นิ้วมือทั้งสิบนิ้ว ใช้มือทั้งสองข้าง เท้าสองข้าง หรือใช้ทั้งตัวลงไปเล่น เป็นการปล่อยพลังและปลดปล่อยอารมณ์ที่จะช่วยคลายเครียด ส่งผลให้ลูกอารมณ์ดี สดใส รวมถึงช่วยกระตุ้นกลไกระบบประสาทและสมองเพื่อรับรู้สัมผัสที่แตกต่าง และสั่งการการเคลื่อนไหวร่างกายให้ทำงานประสานสอดคล้องกัน

                                  นอกจากเด็กจะได้สนุกสนานกับการเล่นไร้กรอบแล้ว คุณพ่อคุณแม่สามารถใช้ของเล่นธรรมชาติเหล่านี้สอดแทรกวิชาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์เข้าไปได้อย่างแนบเนียนอีกด้วย เช่น ทรายเม็ดเล็ก ๆ พอกำแล้วหล่นลงมาเป็นสาย ดินที่มีความหนืดมากกว่าสามารถปั้นเป็นรูปได้มากกว่า หินมีน้ำหนัก มีความแข็ง มีขนาดที่หลากหลาย น้ำเป็นของเหลวที่แทรกซึมไปได้ทุกที่และอยู่ในภาชนะได้ทุกขนาด ส่วนการนำทราย ดิน หิน น้ำ มาใส่ในภาชนะขนาดต่าง ๆ กัน ก็สามารถสอนเรื่องการชั่ง ตวง วัด ในวิชาคณิตศาสตร์ให้กับลูกได้ สำหรับบ้านไหนที่ไม่มีพื้นที่ก็สามารถประยุกต์พื้นที่เล็ก ๆ เล่นได้ อย่างการนำทราย หรือถุงเล็ก ๆ มาใส่ในกระบะ กะละมัง ใช้แป้งโดว์ปั้นแทนดินจริง หรือจะพาลูกออกไปเล่นกับธรรมชาตินอกบ้าน เปิดประสบการณ์เรียนรู้ในสิ่งใหม่ ๆ ก็ช่วยเพิ่มเติมทักษะอื่น ๆ สำหรับเจ้าตัวเล็กขึ้นได้อีก

                                  กิจกรรมเล่นกับลูกในบ้าน

                                   

                                  เล่นในห้องหรือในบ้านก็สนุกได้

                                  วันไหนฝนตก อากาศร้อน หรือวันหยุดอยากอยู่กับบ้าน คุณพ่อคุณแม่ก็สามารถเนรมิตพื้นที่ในบ้านให้เป็นสนามเด็กเล่น ด้วยกิจกรรมง่าย ๆ เช่น

                                  • เล่นซ่อนแอบ เกมการเล่นที่คลาสสิคที่สุดแต่ก็ทำให้เจ้าตัวเล็กสนุกได้เช่นกัน แค่ลูกได้หาที่ซ่อน ไปแอบหลังผ้าม่าน ใต้โต๊ะ หลบเข้าห้องนอน สนามหญ้าหน้าบ้าน หรือการได้เป็นคนหาคุณพ่อคุณแม่เท่านี้ก็เรียกเสียงหัวเราะ สร้างความสุขให้ลูกได้เป็นอย่างดี
                                  • เกมหาสมบัติ นำของเล่น ตุ๊กตาตัวโปรดไปซ่อนเพื่อให้ลูกหา ทำปริศนาเพื่อเพิ่มความสนุกและตื่นเต้นเข้าไป
                                  • ฝ่าด่านอุปสรรค ด้วยการนำเก้าอี้ โซฟา มาต่อกันให้ลูกได้เดินทรงตัว หรือถ้ามีเจ้าตัวเล็กในวัยหัดคลานก็ให้ลูกมุด ๆ คลาน ๆ ลอดใต้เก้าอี้ ปีนโซฟาขึ้น ๆ ลง ๆ เท่านี้ก็เป็นการช่วยเสริมพัฒนาการด้านร่างกาย ฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อแขน ขา ฝึกการทรงตัว

                                  โดยหน้าที่ของคุณพ่อคุณแม่ที่นอกจากจะเล่นไปพร้อม ๆ กับลูกแล้ว คือการดูแลความปลอดภัย ส่งเสียงเชียร์อยู่ใกล้ ๆ ในขณะลองปล่อยให้ลูกได้เล่นด้วยตัวเอง แค่พื้นที่ในบ้านก็สร้างความสนุกไปอีกแบบให้ลูกได้

                                   

                                  กิจกรรมเล่นกับลูกอยู่บ้าน
                                  กิจกรรมเล่นกับลูกอยู่บ้าน

                                   

                                  เล่นสร้างเมือง สร้างประสาทจากกล่องลัง โต๊ะ เก้าอี้ สารพัดของใช้ในบ้าน

                                  การเล่นสร้างบ้าน สร้างเมืองจำลอง ด้วยกล่องกระดาษลัง กระดาษแข็ง กล่องนม เก้าอี้ โต๊ะ ผ้าห่ม บล็อกไม้ ฯลฯ การนำอุปกรณ์ของใช้ ของเล่นภายในบ้านที่ใช้แทนของเล่นสำเร็จรูป และสามารถให้ลูกมาวางต่อกันหรือวางซ้อนกัน ออกแบบ สร้างเป็นบ้าน เป็นห้องนอน หรือจะสร้างปราสาทให้กับตุ๊กตาตัวโปรดของลูกสาว เมืองสัตว์ประหลาดพร้อมกองกำลังทหารของลูกชาย ฯลฯ การเล่นประเภทนี้เป็นการพัฒนาความฉลาดให้ลูกได้แบบปลายเปิด เพราะลูกจะหยิบสิ่งของมาสร้างต่อเติมเป็นอะไรก็ เป็นการเล่นที่เสริมจินตนาการแบบไม่รู้จบ ให้อิสระทางความคิดสร้างสรรค์ ช่วยกระตุ้นให้ลูกเกิดการวางแผนและวิเคราะห์ว่าจะทำให้ออกเป็นรูปร่างอย่างไร ได้เรียนรู้มิติพัฒนาเรื่องการจัดวางและเปลี่ยนตำแหน่ง และช่วยเสริมพัฒนาการประสานระหว่างมือและสายตาได้ดีอีกด้วย ทั้งนี้ในระหว่างคุณพ่อคุณแม่ควรปล่อยให้ลูกได้ตัดสินใจในการสร้างสิ่งต่าง ๆ ตามจินตนาการของตัวลูกเอง และอาจมีการชวนคุย สอดแทรกบทเรียนต่าง ๆ ทั้งวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ตั้งคำถามเป็นระยะว่าลูกกำลังสร้างอะไร อันนี้อะไร เพื่อให้ลูกได้อธิบายระหว่างเล่น ซึ่งก็จะเป็นการช่วยฝึกทักษะด้านภาษา ให้ลูกได้สื่อสารจากการพูดคุย และทำให้คุณพ่อคุณแม่เข้าใจความคิดลูกมากขึ้นด้วย

                                   

                                  กิจกรรมให้ลูกทํา

                                   

                                  วาด ระบาย ละเลงสี ปะ ฉีก ประดิษฐ์

                                  การเล่นอีกประเภทที่ส่งเสริมให้ลูกได้ CQ มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ จินตนาการกว้างไกล คือการชวนลูก ๆ มาเล่นศิลปะ ไม่ว่าจะเป็นงานประดิษฐ์ วาดภาพ ระบายสีเทียน สีน้ำ สีโปสเตอร์ ฉีก ปะ ติด พับกระดาษ ฯลฯ โดยไม่ต้องกังวลว่าผลงานจะออกมาหน้าตาเป็นยังไง เพราะสิ่งที่ลูกได้จากการเล่นประเภทนี้คือการได้ใช้นิ้วมือทั้งห้า ใช้ร่างกาย ใช้ประสาทสัมผัสในการทดลองวาด ระบาย หรือละเลง ใช้ความคิดในการออกแบบ จินตนาการให้ออกมาเป็นสีสัน เป็นรูปร่าง ในขณะที่เจ้าตัวเล็กกำลังวาด คุณพ่อคุณแม่อาจลองถามว่า “ลูกกำลังวาดรูปอะไรอยู่จ๊ะ” และเสริมความภาคภูมิใจให้ลูกด้วยคำชมเชย

                                  การเล่นแบบนี้อาจจะมาพร้อมกับการเลอะ แต่ก็จะทำให้ลูกได้ประสบการณ์ที่เยอะขึ้น ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรจัดสถานที่ สภาพแวดล้อม และอุปกรณ์ที่เตรียมเลอะให้กับเจ้าตัวน้อยได้เป็นศิลปินอย่างเต็มที่ เช่น เตรียมกระดาษหนังสือพิมพ์ ปูพลาสติก ใส่ผ้ากันเปื้อนให้เรียบร้อย แล้วปล่อยให้ลูกได้เล่นเพลิน ๆ ไป

                                   

                                  หากิจกรรมให้ลูกทํา

                                   

                                  พาลูกเข้าครัว

                                  เด็ก ๆ มักสนใจอยากมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่คุณพ่อคุณแม่ทำอยู่แล้ว การพาลูกเข้าครัวให้เป็นลูกมือคุณแม่ก็ดูเหมือนเป็นเรื่องเล่นที่น่าสนุกไม่น้อยของเจ้าตัวเล็ก ลองให้ลูกได้ช่วยงานบ้านในชีวิตประจำวัน ได้ทดลองจับใช้อุปกรณ์ที่ผู้ใหญ่ใช้ ซึ่งคุณพ่อคุณแม่บางคนอาจจะกลัวว่าลูกยิ่งทำยิ่งเลอะกลายเป็นงานหนักเข้าไปอีก หรือบางคนกลัวลูกเลอะเทอะเป็นเรื่องวุ่นวาย แต่กิจกรรมบางอย่างคุณพ่อคุณแม่ก็สามารถออกแบบและดูแลลูกอย่างใกล้ชิดได้ เช่น ชวนลูกเข้าครัวช่วยแม่ทำกับข้าว ทำขนม อาจจะให้เจ้าตัวเล็กช่วยหยิบส่งอุปกรณ์ ตะหลิว กระบวย ช่วยล้างผัก หยิบจับคู่ช้อนส้อมช่วยจัดโต๊ะกินข้าว รองน้ำ หุงข้าว สอนให้ลูกถึงการใช้อุปกรณ์ ข้อควรระวัง การทำงานบ้านก็จัดเป็นงานเล่นอีกประเภทหนึ่งที่ลูกจะได้เรียนรู้ผ่านประสบการณ์การลงมือปฏิบัติจริง และส่งผลดีต่อพัฒนาการด้านอื่น ๆ เข้าไปด้วย เช่น รู้จักกะระยะ รู้จักการกะ วัด ชั่งตวง ส่วนผสมอาหาร รวมถึงการช่วยกระตุ้นให้ลูกได้ใช้กล้ามเนื้อมัดเล็ก เมื่อลูกช่วยงานบ้านได้สำเร็จ คุณพ่อคุณแม่ก็สามารถให้คำชมเชยเพื่อทำให้ลูกเกิดความภาคภูมิใจและมั่นใจในตัวเองตามมาด้วย

                                   

                                  หากิจกรรมให้ลูกทําที่บ้าน

                                   

                                  ให้เพลงพาไป

                                  กิจกรรมร้องเพลง เต้นตามจังหวะ เป็นการเล่นที่คู่กับเด็ก ๆ มาตั้งแต่อยู่ในท้องของคุณแม่เลยก็ว่าได้ การเปิดเพลงให้ลูกฟังตั้งแต่ยังเป็นทารก ทั้งดนตรีคลาสสิค เพลงกล่อมนอน เพลงเด็กภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษ ที่มีเสียงเมโลดี้ที่แตกต่างกัน ล้วนช่วยทำให้เจ้าตัวน้อยมีพัฒนาการด้านการรับรู้ ได้ฝึกทักษะด้านการฟัง มีพัฒนาการทางภาษาได้เรียนรู้คำศัพท์จากการฟังเพลง เนื่องจากเพลงเด็กส่วนใหญ่จะเป็นคำคล้องจอง และมีคำศัพท์หลากหลายนอกเหนือไปจากที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ถ้าได้ฟังบ่อย ๆ ซ้ำ ๆ ก็จะทำให้ลูกร้องตามได้ยิ่งคุณพ่อคุณแม่ร้องให้ลูกฟังเองจะทำให้เจ้าตัวน้อยคุ้นชินกับเสียงพ่อแม่ ทำให้ลูกเกิดความอุ่นใจและความผูกพันที่แน่นแฟ้นขึ้น และเมื่อลูกโตขึ้น เสียงเพลงของลูกจะเน้นเพลงที่มีจังหวะ ประกอบท่าทางตามเนื้อหาเพลง เพื่อให้ลูกได้ร้องเล่นเต้นตามที่เพลงที่เขาชอบ ประกอบกับคุณพ่อคุณแม่อาจจะหาอุปกรณ์เครื่องใช้ในบ้านมาให้ลูกได้ลองเคาะ ตี ดีดเป่า ก็จะช่วยให้ลูกได้เรียนรู้ความแตกต่างของเสียง และเสริมพัฒนาการด้านร่างกาย ได้ความสนุกสนาน ทำให้ลูกไม่เครียด เป็นเด็กอารมณ์ดีแจ่มใส

                                  นพ.อุดม เพชรสังหาร จิตแพทย์เด็กและเยาวชน ได้กล่าวไว้ว่าการ “ฟังเพลงอย่างตั้งใจ” การเล่นดนตรี การร้องเพลง การเต้นรำ ต้องใช้สมาธิเพื่อติดตาม “จังหวะ” ของเพลง เพื่อที่จะได้สามารถควบคุมและปรับจังหวะในการเล่น การร้อง และการเต้นรำให้เข้ากับจังหวะของเพลง จึงจำเป็นต้องใช้สมาธิเพื่อจดจ่ออยู่กับทำนองเพลงและเนื้อร้อง ทั้งหมดนี้ต้องใช้สมองส่วนที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับ Brain Executive Functions ทั้งสิ้น” ดังนั้นการให้ลูกได้ร้องเพลงจึงมีส่วนช่วยทำให้เกิดพัฒนาการดี ๆ และกระตุ้นให้เกิดพัฒนาการของ EF ได้ด้วย

                                   

                                  กิจกรรมที่บ้านกับลูก
                                  กิจกรรมที่บ้านกับลูก

                                   

                                  เล่นเป็นผู้ช่วยคุณแม่ฝึกทักษะชีวิต

                                  การให้เจ้าตัวเล็กได้ลองช่วยเหลืองานบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เหมาะสมตามวัย เช่น กวาดบ้าน เช็ดถูโต๊ะ เก้าอื้ พับเสื้อผ้า ตากผ้า นำผ้าไปใส่ในตะกร้า รดน้ำตันไม้ การเก็บของเล่นให้เข้าที่ ฯลฯ ถือเป็นงานเล่นของเด็กที่จะทำให้ลูกรู้สึกตื่นเต้นและภูมิใจที่รู้สึกว่าตัวเองนั้นสามารถที่จะช่วยเหลือผู้อื่นได้ อีกทั้งยังเป็นการช่วยฝึกให้ลุกมีวินัยและปลูกฝังคุณธรรมความมีน้ำใจ คอยช่วยเหลือผู้อื่น ที่จะติดตัวไปอนาคตได้

                                  นอกจากงานบ้านแล้วการสอนให้ลูกรู้จักรับผิดชอบตัวเองในชีวิตประจำวัน เช่น การกินข้าว อาบน้ำ แปรงฟัน แต่งตัว ถอดรองเท้า ถุงเท้า ติดกระดุม ฯลฯ ก็จัดเป็นกิจกรรมที่สร้างสรรค์ให้ลูกเล่นได้ นอกจากเป็นการฝึกทักษะชีวิตแล้วยังช่วยในการฝึกฝนทักษะการใช้นิ้ว กล้ามเนื้อมัดเล็ก การทำงานประสานของอวัยวะส่วนต่าง ๆ ที่สัมพันธ์กัน ซึ่งการเล่นในข้อนี้นอกจากจะทำให้ลูกหัดช่วยเหลือตัวเองได้แล้ว ยังเป็นการฝึกความรับผิดชอบให้ลูกรู้จักหน้าที่ของตัวเอง ทำให้รู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่าและเกิดความภาคภูมิใจในตัวเองอีกด้วย

                                  จะเห็นได้ว่ากิจกรรมทั้งหมดนี้เป็นการเล่นกับลูกแบบธรรมดา ๆ ที่คุณพ่อคุณแม่สามารถออกแบบได้เองง่าย ๆ เล่นกับลูกที่บ้าน ตามความชอบ ความถนัดของลูก โดยสังเกตว่าอะไรที่ลองให้ทำแล้วลูกไม่ถนัด หรือไม่ชอบทำกิจกรรมแบบนี้ เพราะเด็กแต่ละคนมีศักยภาพ ความถนัด และความสนใจ แตกต่างกัน บางคนชอบวิ่งเล่น ชอบปืนป่าย ห้อยโหน เด็กบางคนขี้กลัว บางคนชอบเล่นลุย ๆ บางคนชอบศิลปะ บางคนชอบดูธรรรมชาติ ดูสัตว์ตัวเล็กๆ เงียบๆ ไม่ชอบเสียงดัง ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ก็สามารถปรับเปลี่ยนกิจกรรมให้ลูกเล่นได้ตามวัยและความเหมาะสมนะคะ

                                  ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก : www.unicef.org

                                    โรคตุ่มน้ำพอง

                                    สังเกตให้ดี! ลูกขึ้นผื่นเล็กๆ มีตุ่มใสๆ ไม่ใช่ผดร้อน แต่อาจเป็น โรคตุ่มน้ำพอง

                                    สุดสงสาร ลูกเป็น โรคตุ่มน้ำพอง … แม่โพสต์เตือน! สังเกตให้ดี ลูกมีตุ่มใสขึ้นตามตัว เป็นผื่นเล็กๆ อย่าชะล่าใจคิดว่าเป็นแค่ ผดร้อน พาไปหาหมอช้า อาการอาจหนักกว่าเดิม

                                    แม่โพสต์เตือน! ลูกขึ้นผื่นเล็กๆ มีตุ่มใสๆ
                                    เสี่ยงเป็น “โรคตุ่มน้ำพอง”

                                    เข้าสู่หน้าร้อน..อากาศที่ร้อนอบอ้าว อาจทำให้เกิดผดผื่นร้อนขึ้นได้ง่าย โดยเฉพาะเด็กเล็ก เนื่องจากผิวของลูกยังระบายเหงื่อได้ไม่ดี จึงเกิดเป็น ผื่นผดตุ่มแดง ผดตุ่มใส หรือผดตุ่มหนอง ขึ้นมา พบบ่อยที่ใบหน้า หนังศีรษะ ข้อพับ และแม้ว่าผดร้อนจะเป็นภาวะทางผิวหนังที่ไม่อันตราย สามารถอาจหายได้เองเมื่ออากาศเย็นลง

                                    Must read >> ผดร้อนในทารก อาการทางผิวหนังจากอากาศร้อน

                                    Must read >> 7 ปัญหาผดผื่นในเด็กแรกเกิด ที่พ่อแม่ควรรู้!

                                    แต่คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรชะล่าใจ หากผดผื่นหรือตุ่มใสที่เกิดขึ้นบนตัวลูกน้อยมีลักษณะผิดปกติ ควรรีบพาไปพบคุณหมอ เพราะลูกอาจเสี่ยงเป็นหนึ่งในโรคผิวหนัง อย่าง โรคตุ่มน้ำพอง หรือ โรคเพมฟิกอยด์ เช่นเดียวกับหนูน้อยคนนี้!!..ซึ่งคุณแม่ได้ใช้ชื่อเฟซบุ๊ก Ammko Ko โพสต์ภาพพร้อมข้อความเตือนถึงอาการของ โรคตุ่มน้ำพอง ที่เกิดขึ้นกับลูกชายวัย 2.4 ขวบ ของตนเอง จากผดผื่นร้อน ที่ขึ้นบนตัวลูก กลายเป็นโรคตุ่มน้ำพอง โดยคุณแม่เล่าว่า..

                                    โรคนี้ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น มันคือ โรคตุ่มน้ำพอง แบบที่ดาราเป็น 1 ใน 400,000 คน ที่จะได้เป็นดันมาเป็นที่ลูกเรา สภาพตอนแรกก็เป็นผื่นร้อนธรรมดา แล้วประมาณ 3-4 วันอาการก็แย่ลงตุ่มเริ่มขึ้นเรื่อยไป เป็นตุ่มน้ำหนอง ไปหาหมอตอนแรกก็มีแค่หน้าผากกับแขนนิดเดียว ใช้เวลาแค่ไม่กี่วัน ไปหาหมอวันเสาร์หมอบอกเป็นผื่นร้อน ให้ยามากินและยาทา

                                    แล้วพอมาวันอังคารตกกลางคืน อาการเริ่มหนักขึ้น ตุ่มเริ่มขึ้นเยอะกว่าเดิม และมีหนอง วันพุธก็เลยพาลูกไปหาหมออีกรอบ หมอถึงกับตกใจ ว่าไม่กี่วันทำไมขึ้นเยอะขนาดนี้ หมอเลยทำเรื่องส่งตัวไป รพ.ในเครือของคลีนิคบัตรทอง

                                    โรคตุ่มน้ำพอง

                                    ไปถึง รพ.หมอตรวจมาสรุปผลที่ได้คือ เป็นโรคตุ่มน้ำพุพอง หรือ โรคของดารา วินัย ไกรบุตร หมอทำการ เจาะเอาน้ำเหลืองออกจากตุ่ม เจาะได้บางจุดเท่านั้นเพราะน้องอยู่ไม่เฉย เช่น หน้าท้อง หน้าอก เพราะน้องร้อง หน้าอกกับหน้าท้องเลยกระเพื่อมเจาะไม่ได้ เจาะเสร็จ หมอทำการเอาน้ำเกลือล้างและเอายาทาให้ สภาพที่เห็นลูกคือ ลูกตัวสั่นมาก เพราะลูกมีไข้ด้วย หมอเลยจัดยามาให้ พอดีกับหมอนัดอังคารนี้

                                    ระวังด้วยนะคะ นำมาบอกต่อ เป็นอุทาหรณ์ให้กับทุกคน แถมมาเป็นในช่วงโควิดระบาด ฝากเตือนแม่ๆ ทุกคนนะคะ เห็นผื่นเล็กๆ ตุ่มใสๆ ตามตัวอย่าได้ชะล่าใจไปนะคะ อย่าคิดว่าเป็นแค่ ผดผื่นร้อน แล้วไม่พาไปหาหมอ อาการจะหนักกว่าเดิม

                                    โรคตุ่มน้ำพอง

                                    โดยคุณแม่ยังบอกกับทีมแม่ ABK อีกว่า เบื้องต้นคุณหมอทำการรักษาโรคให้ลูกชายตัวน้อยของตน โดยให้ยาฆ่าเชื้อ ส่วนเรื่องที่ลูกจะหายได้เมื่อไหร่นั้น หมอบอกว่าต้องใช้เวลานานพอสมควร เพราะจะเป็นแผลเป็น

                                    อาการโรคตุ่มน้ำพอง

                                    อย่างไรก็ตาม โรคผิวหนังมีหลายพันโรค เช่น โรคตุ่มน้ำพองใส หรือ โรคเพมฟิกอยด์ bullous pemphigoid ที่คุณเมฆ วินัย เป็นอยู่และมีมานานแล้ว ซึ่งโรคกลุ่มนี้บางชนิดพบในวัยเด็ก บางชนิดพบในผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ พบได้ทั้งเพศหญิงและชาย อาการคือ มีตุ่มน้ำพองขนาดต่าง ๆ เกิดขึ้นที่ผิวหนัง บางรายอาจเกิดที่เยื่อบุต่าง ๆ ร่วมด้วย เมื่อตุ่มน้ำแตกจะเกิดแผล หรือรอยถลอก ทำให้มีอาการเจ็บ ถ้าเกิดตุ่มน้ำพองหรือแผลในปากจะทำให้เจ็บแสบ กลืนอาหารไม่สะดวก บางรายผิวหนังที่ถลอกหรือเป็นแผล อาจเกิดการติดเชื้อแบคทีเรียเป็นหนอง ถ้าเป็นรุนแรง เชื้อโรคอาจเข้าสู่กระแสเลือดทำให้มีไข้ หรืออาการอื่น ๆ ได้

                                     

                                    อ่านต่อ >> “สาเหตุของการเป็นโรคตุ่มน้ำพอง
                                    พร้อมวิธีดูแลรักษา” คลิกหน้า 2

                                     

                                    เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่