Page 133 – AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

อันตรายนอกบ้าน

6 อันตรายนอกบ้าน ที่ควรสอนลูกให้ระวัง!

อุบัติเหตุ อันตรายนอกบ้าน เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่พ่อแม่ต้องระวัง โดยเฉพาะบ้านไหนที่มีลูกวัยซน วัยกำลังเรียนรู้ เพราะหากปล่อยให้คลาดสายตา อาจเกิดเรื่องไม่คาดคิดถึงแก่ชีวิตขึ้นได้

อันตรายนอกบ้าน … บทเรียนจากข่าว! เด็ก 2 ขวบ รอรับ “พ่อ” ได้อภัยโทษ
“ถูกรถทับเสียชีวิต” หน้าเรือนจำ!!

อุบัติเหตุในเด็ก มักเป็นสาเหตุใหญ่ที่ทำให้เด็กเสียชีวิตหรือพิการ และยังทำให้เกิดผลร้ายต่อจิตใจพ่อแม่และทุกคนที่เกี่ยวข้องด้วย คนส่วนใหญ่เข้าใจว่าอุบัติเหตุป้องกันไม่ได้ แต่ความจริงแล้วไม่ว่าจะเป็น อันตรายในบ้าน หรือ อันตรายนอกบ้าน พ่อแม่ ผู้ปกครองก็สามารถป้องกันลูกน้อยจากอุบัติเหตุได้ สิ่งสำคัญคือไม่ควรปล่อยให้เด็กเล็กคาดสายตานั่นเอง ไม่เช่นนั้นอาจเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันเช่นข่าวนี้

เมื่อเด็กชายอายุ 2 ขวบ ถูกรถกระบะถอยทับเสียชีวิต ขณะเดินทางไปพร้อมกับเครือญาติ เพื่อรับผู้เป็นพ่อออกจากเรือนจำ เรียกได้ว่าเป็นวินาทีความรู้สึกของผู้เป็นพ่อที่หัวใจแหลกสลาย เมื่อก้าวขาออกจากเรือนจำแล้วต้องมาเจอกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด เมื่อรู้ว่าลูกชายอายุ 2 ขวบ ที่มารับตนกลับบ้านในวันที่พ้นโทษ แต่กลับเคราะห์ร้ายถูกรถกระบะถอยทับจนเสียชีวิต

โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดจาก คนขับรถกระบะซึ่งมาเยี่ยมญาติที่เรือนจำเช่นกัน ได้กำลังจะถอยรถเพื่อตั้งลำรถให้ตรง  จากนั้นก็จะตีวงรถเลี้ยวซ้ายเพื่อจะออกไปตามทาง ระหว่างที่ถอยได้ยินเสียงเหมือนเหยียบอะไรบางอย่างทางด้านล้อหน้าซ้าย แต่ก็นึกว่ารถตกหลุมท่อระบายน้ำ จึงเร่งเครื่องต่อจนกระทั่งมีคนตะโกนบอกว่า ขับรถทับเด็ก

ด้าน ลุงของเด็กชายที่เสียชีวิต กล่าวว่า ตนและครอบครัวได้พาหลานชายมารับผู้เป็นพ่อออกจากเรือนจำ เพราะตั้งแต่เด็กเกิดมาไม่เคยได้เห็นหน้าพ่อเลยสักครั้ง ตอนเกิดเหตุหลานนั่งเล่นอยู่ตามลำพัง ส่วนตนเดินไปหยิบอาหารเพื่อนำมาให้หลานกิน ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่รถกระบะคันก่อเหตุถอยหลัง

ขอบคุณข้อมูลข่าวและภาพ จาก : www.amarintv.com / คลิปจาก AMARIN TVHD

 

จากเหตุการณ์ข้างต้นนั้น ทาง Amarin Baby & Kids ก็ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของหนูน้อยผู้เสียชีวิตด้วยค่ะ

อย่างไรก็ตาม สำหรับอุบัติเหตุ สามารถเกิดขึ้นได้เสมอ แต่การป้องกันระวังก็สามารถทำได้เช่นกัน โดยการให้ความรู้แก่เด็กเรื่อง อันตรายนอกบ้าน  ก็มีความสำคัญอย่างยิ่ง!! เพราะเมื่อโตขึ้นเด็กจะได้เรียนรู้วิธีการที่จะอยู่รอดปลอดภัยด้วยตนเอง เด็กเล็กๆอายุ 1-2 ปี ที่สามารถเข้าใจคำห้ามได้ ก็ควรให้เขาเรียนรู้ว่าไม่ควรเปิด-ปิดสวิตช์ไฟเมื่อตัวเปียก ไม่เอานิ้วแหย่ปลั๊กไฟ ไม่เล่นมีดหรือของมีคม หรือไม่ควรวิ่งเล่นซนบนถนน

ปัจจุบันเป็นยุคสมัยของข้อมูลข่าวสาร เด็กๆและผู้ใหญ่จะใช้เวลาอยู่หน้าจอโทรทัศน์วันละหลายชั่วโมง ดังนั้นการที่โทรทัศน์ หรือสื่ออื่นๆ ให้ความรู้ผิดๆ เช่น ให้เด็กวิ่งเล่นกับหมี การให้เด็กเล่นกีฬาโลดโผน เช่น สเก็ตบอร์ด หรือภาพยนตร์พระเอกเก่งขนาดบินได้ และชอบกระโดดจากที่สูง ภาพต่างๆ เหล่านี้อาจจะทำให้เด็กเอาอย่าง ดังนั้นพ่อแม่ผู้ปกครองจำเป็นต้องให้ความรู้แก่เด็กด้วย

อันตรายนอกบ้าน

6 อันตรายนอกบ้าน ที่ควรสอนลูกให้ระวัง!!

ทั้งนี้เพื่อป้องกัน อันตรายนอกบ้าน  คุณพ่อคุณแม่จึงไม่ควรละเลยการสอนลูกเรื่อง “ความปลอดภัย” ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ อย่าปล่อยให้เด็กเรียนรู้จากประสบการณ์ที่เจอจริง เพราะมันน่ากลัว เป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้ ว่าแต่จะมีเรื่องอันตรายนอกบ้าน อะไรที่ควรสอนลูกให้ระวังบ้าง มาดูกันค่ะ

1. ไม่พูดกับคนแปลกหน้า

สมัยนี้มิจฉาชีพมีรูปแบบการทำงานที่แปลกและแนบเนียนมากขึ้นทุกที ควรสอนลูกว่าใครคือคนแปลกหน้าสำหรับเค้าบ้าง สอนไม่ให้พูดกับคนแปลกหน้า และหัดสังเกต จดจำลักษณะคน

Must read >> เล่ห์เหลี่ยมโจร! ลักพาตัวลูก ต่อหน้าพ่อ โดยไม่รู้ตัว (มีคลิป)

2. ถ้าหลง หรือ คลาดกันควรทำอย่างไร

เมื่อพ่อแม่พาลูกออกไปข้างนอก เช่นเดินชอปปิ้งที่ห้างสรรพสินค้า ควรสอนลูกให้หัดสังเกตสิ่งต่างๆ รอบตัว เช่น จุดที่เดินเข้าห้าง, ที่จอดรถพ่อแม่, จุดประชาสัมพันธ์, พนักงานรักษาความปลอดภัย สอนลูกว่า ถ้าหลงทางกัน จะให้มาเจอกันตรงไหน หรือให้อยู่ที่เดิม หรือให้ไปบอกประชาสัมพันธ์

Must read >> ทำตามนี้ลูกไม่หาย! 5 วิธีป้องกัน ลูกพลัดหลง ระหว่างเที่ยว

เด็กจมน้ำ

3. อย่าเล่นใกล้สระน้ำ ที่ไม่มีผู้ใหญ่อยู่ด้วย

ไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำ หรือ คลอง บ่อน้ำ ต่างๆ ก็ควรต้องระวังให้มาก ห้ามไปเล่นคนเดียว ต้องมีผู้ใหญ่ไปด้วย โดยผู้ใหญ่ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะว่าเด็กอาจจะพลัดตกน้ำ หรือเป็นตะคริวโดยที่เราไม่ทันรู้ตัว สอนว่าอย่าประมาท อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้เสมอ

Must read >> หมอเตือนอันตรายจาก หางนางเงือก-ครีบฉลาม เสี่ยงจมน้ำตาย!

4. ไม่ข้ามถนนคนเดียว

เวลาพาลูกออกไปเดินเล่น พ่อแม่สามารถสอนลูกเรื่องเกี่ยวกับ กฎจราจร การข้ามถนน การรอสัญญาณไฟ ไฟเขียว ไฟแดง สอนให้เค้ารู้จักยืนรอ และที่สำคัญบอกเค้าว่า รถวิ่งมาทุกทาง อย่าข้ามถนนคนเดียวโดยไม่มีพ่อแม่อยู่เป็นอันขาด เพราะอาจเกิดอันตรายถึงชีวิตได้

5. ไม่เล่นบันไดเลื่อน

ข่าวเด็กเสียชีวิตจากการเล่นบันไดเลื่อนในห้างสรรพสินค้า แล้วถูกดึงลงมาชั้นล่าง จนตกลงมาเสียชีวิต พบได้ทุกปี เป็นอุบัติเหตุที่ไม่มีใครอยากให้เกิด พ่อแม่ควรดูแลลูกอย่างใกล้ชิด ไม่ให้คลาดสายตา และสอนเค้าไม่ให้เล่น และอยู่ใกล้บันไดเลื่อน

6. ไม่เล่นกับสัตว์ข้างทาง

เด็กส่วนมากมีแนวโน้มที่จะรักสัตว์ เห็นสัตว์อะไรก็ชอบเข้าไปลูบ เข้าไปอุ้มกอด เราควรสอนเด็กไว้เสมอว่า ไม่ควรเล่นกับสัตว์ข้างทาง เพราะอาจจะถูกกัดได้ แม้ว่าจะเป็นสัตว์ที่เลี้ยงไว้เองก็ตาม ก็ไม่ควรประมาท ไม่ควรเข้าไปใกล้เมื่อสัตว์กำลังกินอาหารอยู่ อย่าลืมสอนลูกเรื่อง โรคพิษสุนัขบ้า ให้ลูกทราบด้ว

 

อย่างไรก็ตามเรื่อง ไม่ว่าจะ อันตรายในบ้าน หรือ อันตรายนอกบ้าน ก็ล้วนแล้วมีอยู่รอบ ๆ ตัวเรา และเด็ก ๆ เสมอ เรื่องความปลอดภัยดูเหมือนเป็นเรื่องใกล้ตัว จนบางทีพ่อแม่หลงลืมที่จะสอนลูกไป ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่จึงลองอ่านดู แล้วค่อย ๆ นึกตามถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้น เพราะผู้ใหญ่ที่ผ่านประสบการณ์มาแล้วอย่างเราจะรู้ดีว่าสิ่งไหนอันตรายหรือไม่อันตราย และควรมีหน้าที่ดูแล อบรมสั่งสอนลูก ไม่ควรประมาทแม้วินาทีเดียว เพราะนั้นหมายถึงชีวิตที่อาจต้องเสียไปโดยไม่ทันตั้งตัว


ขอบคุณข้อมูลจาก  @farmfunbook cities.trueid.net/@7679www.doctor.or.th

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

อ่านต่อบทความน่าสนใจ คลิกที่ภาพด้านล่าง ⇓

รวม ของที่ลูกไม่ควรเล่น 7 อย่าง เสี่ยงอันตรายถึงชีวิต!

ความปลอดภัย เรื่องสำคัญที่พ่อแม่ควรระวัง

2 ภัยใกล้ตัว เกิดในบ้าน แค่แม่เผลอ ทำลูกถึงตาย

ระวัง! 5 ของเล่นเด็กอันตราย เด็กทุกวัยควรหลีกเลี่ยง

หมอรามาแนะ วิธีสร้างทักษะความปลอดภัยให้ลูกจากกรณี เด็กตกตึก

    อาการที่ต้องพาลูกไปหาหมอ

    อาการที่ต้องพาลูกไปหาหมอ วิธีสังเกตว่าลูกป่วย ต้องรีบไปโรงพยาบาล

    พ่อจ๋าแม่จ๋าสังเกตให้ดี อาการที่ต้องพาลูกไปหาหมอ ลูกเจ็บป่วยแบบไหนควรรีบไปโรงพยาบาล

    อาการที่ต้องพาลูกไปหาหมอ ช่วงโควิด

    สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่มีตัวเลขพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้คุณพ่อคุณแม่ต้องดูแลตัวเองและคนในครอบครัวมากเป็นพิเศษ แต่ด้วยอากาศที่เปลี่ยนแปลง ความหนาวเย็นในบางวัน แดดจ้าในบางวัน ทำให้ลูกเจ็บป่วยได้ง่าย แต่จะพาลูกไปโรงพยาบาล ในสถานการณ์โควิด-19 ที่ระบาดอย่างรุนแรงเช่นนี้ ก็เป็นสิ่งที่พ่อแม่กังวลใจอยู่ไม่น้อย

    พญ.ปุษยบรรพ์ สุวรรณคีรี กุมารแพทย์โรคระบบทางเดินหายใจ และเวชบำบัดวิกฤติ หรือคุณหมอแพมจากเพจหมอแพมชวนอ่าน จึงได้สรุปอาการที่ต้องพาลูกมาโรงพยาบาล เพื่อให้พ่อแม่ใช้เป็นเกณฑ์ในการสังเกตอาการของลูกรัก โดยโพสต์ตอนหนึ่งว่า โรงพยาบาลคือ สถานที่เสี่ยงกับการติด COVID-19 (มีข้อมูลจากจีน เคสปอดอักเสบ 138 ราย พบว่า 41% ผู้ป่วยได้รับเชื้อจากโรงพยาบาล)

    ความน่ากลัวของคนไข้เด็กอยู่ที่การเป็นตัวกลางแพร่เชื้อให้คนอื่นในครอบครัว เพราะเด็กแสดงอาการน้อยมาก และเด็กอยู่ไม่ได้โดยไม่มีปฏิสัมพันธ์กับผู้ใหญ่ ถ้าเชื้อจากเด็กไปติดผู้สูงอายุ จะทำให้เกิดเคสอาการรุนแรงเพิ่มขึ้นมา เพราะฉะนั้น ให้ลูกอยู่บ้าน ดีที่สุด ถ้าจำเป็นต้องออกจากบ้านจริง ๆ ตกลงกับลูกให้เข้าใจว่า ต้องใส่หน้ากากอนามัยตลอด และต้องล้างมือ อย่าเอามือไปจับสิ่งต่าง ๆ และห้ามจับใบหน้า

    อาการที่ต้องพาลูกไปหาหมอ
    อาการที่ต้องพาลูกไปหาหมอ

    เมื่อไหร่ที่เราต้องพาลูกที่ป่วยไปหาหมอ แยกตามอาการสำคัญ

    1.โรคทางเดินหายใจ

    โรคทางเดินหายใจ ร้อยละ 90 ของเด็กเล็กเกิดจากไวรัส มักมีอาการหวัดก่อน ซึ่งไข้จะไม่สูงมาก มีน้ำมูก ไอเล็กน้อยเพราะน้ำมูกกับเสมหะหยดลงคอ กลางวันเล่นได้ กินได้ ไข้ต่ำ พอกลางคืน เริ่มซม ไข้สูงขึ้น ซึ่งอาการจะหนักในช่วงวันที่ 2-4 หลังจากนั้นอาการจะดีขึ้นแต่ ถ้ามีอาการดังนี้ก็ควรพามาหาหมอ

    • ไข้สูงตลอดเวลา กลางวันจากที่เคยเล่นได้กินได้ ก็ซมพอๆกับกลางคืน
    • กินนม กินอาหาร กินน้ำได้ลดลง (กินได้น้อยกว่า 50%ของ baseline)
    • หายใจแรง ตอนหลับหายใจอกกระเพื่อมแรง อกบุ๋ม แบบนี้ระวังว่าการติดเชื้อลามไปทางเดินหายใจส่วนล่าง
    • เป็นหวัด โดยที่อาการไม่ดีขึ้นเลย นานเกิน 7 วัน (ย้ำว่า ไม่มีอะไรดีขึ้นเลยมีแต่ทรงกับทรุดเกิน 7 วัน) มีภาวะแทรกซ้อนของหวัด เช่น หูอักเสบ ไซนัสอักเสบ หรือติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำเติมในร่างกาย
    • หายใจลำบาก

    2.ไข้สูงอย่างเดียว ไม่มีอาการอื่นร่วม

    นิยามของไข้ในเด็ก คืออุณหภูมิมากกว่า 37.5 C ถ้าไข้อยู่ในช่วง 37.6-38 C แต่ยังเล่นได้ ยังกินอาหารได้ปกติ ให้เช็ดตัวลดไข้ กินยาลดไข้ไป และดูอาการไปก่อน แต่ถ้าเป็นดังต่อไปนี้ควรมาพบแพทย์

    • เด็กอายุน้อยกว่า 1 เดือน ที่แม่วัดว่ามีไข้ > 37.5C ติดต่อกัน 2 ครั้ง โดยที่ไม่ได้เกิดจากการห่อตัวที่หนาเกินไป หรือห้องอุณหภูมิร้อนเกินไป (ทารกยังปรับอุณภูมิกายไม่เก่ง สิ่งแวดล้อมสำคัญ) ต้องพามาพบกุมารแพทย์
    • เด็กอายุน้อยกว่า 3 ปี ที่ไข้สูงลอย แม้จะกินยาลดไข้ หรือเช็ดตัว (อย่างเต็มที่) ก็ไม่สามารถทำให้อุณภูมิกาย < 38 C ได้เลย
    • เด็กมีไข้ ร่วมกับ ซึมมาก จากที่เคยเล่นไม่เล่น เคยกิน ไม่กิน
    • เด็กทุกอายุ เป็นไข้สูงอย่างเดียว นานเกิน 72 ชั่วโมง สงสัยว่าเป็นไข้เลือดออก (ด้วยเหตุใด ๆ ก็ตาม)

    3.ระบบทางเดินอาหาร

    • เด็กที่ถ่ายเหลว หรืออาเจียน โดยที่ผู้ดูแล ไม่สามารถป้อนน้ำเกลือแร่ ได้ทันกับที่เด็กถ่ายเหลวหรืออาเจียน ทำให้มีภาวะขาดน้ำปานกลาง ถึงรุนแรง คือ ซึม ตาโหล ฉี่เข้มมาก ปากแห้ง น้ำลายเหนียว ต้องมาให้น้ำเกลือแร่ทดแทนเข้าทางเส้นเลือด
    • เด็กที่ปวดท้องด้านขวาล่าง ปวดมากขึ้นเรื่อยๆ ร่วมกับมีไข้ อาเจียน ท้องอืดขึ้น กินอาหารได้น้อยลง พามาตรวจเพื่อยืนยันว่ามีภาวะฉุกเฉินที่ต้องได้รับการผ่าตัดหรือไม่ เช่น ไส้ติ่งอักเสบ เป็นต้น
    • เด็กที่ปวดท้อง อาเจียน (กินอะไรก็อาเจียน บางครั้งอาเจียนออกมาเป็นน้ำดี คือ น้ำสีเหลือง ๆ) ท้องอืดมากขึ้นเรื่อย ๆ พามาตรวจประเมินภาวะลำไส้อุดตัน

    4.ระบบประสาท

    • เด็กที่มีภาวะชัก ครั้งแรก ไม่ว่าจะมีไข้หรือไม่มีไข้ (เด็กชักจากไข้สูง ที่พ่อแม่ “เก่งเรื่องการดูแล”แล้ว ไม่ต้องพามา ให้กินยาลดไข้ รักษาตามอาการ ยกเว้นมีอาการที่เข้าได้กับคำแนะนำที่หมอบอกว่าให้มาตรวจ)
    • เด็กที่มีการชักนานเกิน 15 นาที หรือ ชักไม่นาน แต่ชักซ้ำๆหลายรอบใน 1 วัน
    • มีการเปลี่ยนแปลงของระดับสติสัมปชัญญะ ที่เรารู้สึกว่า ไม่ได้มาจากแค่ไข้อย่างเดียว

    5.อื่น ๆ

    เด็กที่มีโรคประจำตัว กลุ่มนี้คุณพ่อคุณแม่มักมีความชำนาญ และสังเกตการเปลี่ยนแปลงของลูกได้ ถ้ารู้สึกว่าอาการลูกแย่ลง

    • อาการแย่มาก ไปพบแพทย์ที่ห้องฉุกเฉินได้ตลอดเวลา
    • อาการรอได้ ลองโทรหาคลินิกที่รักษาประจำก่อนเบื้องต้น พยาบาลจะปรึกษาหมอให้ว่าควรทำอะไร

    แต่โดยส่วนใหญ่เด็กกลุ่มนี้ติดตามการรักษาที่คลินิกเฉพาะทาง เพราะฉะนั้น ต้องถามข้อมูลว่าคุณหมอประจำออกตรวจมั้ย หรือ จะพบคุณหมอ ได้วันไหนบ้าง

    อาการที่ต้องพาลูกไปหาหมอ
    อาการที่ต้องพาลูกไปหาหมอ

    วิธีดูแลลูกให้ห่างไกลโควิด

    นอกจากต้องคอยสังเกตอาการของลูก เพื่อหลีกเลี่ยงการพาลูกไปโรงพยาบาลโดยไม่จำเป็นแล้ว การดูแลลูกให้ห่างไกลโควิด-19 ก็เป็นสิ่งที่พ่อแม่ต้องใส่ใจ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ได้แนะนำแนวทางดูแลลูกรัก ห่างไกลโควิด ดังนี้

    1. จัดหาอาหารที่ปรุงสุกใหม่ หลากหลายชนิดให้ลูก
    2. ดูแลความสะอาดร่างกาย อุปกรณ์ของใช้ในบ้าน
    3. ชวนลูกเล่น / ดูแลการพักผ่อนนอนหลับ
    4. สอนลูกไม่ให้ใช้ของส่วนตัวร่วมกับคนอื่น
    5. สอนลูกล้างมือด้วยสบู่และน้ำ
    6. ลูกอายุ 2 ปีขึ้นไป ฝึกให้ลูกใส่หน้ากากผ้า
    7. หลีกเลี่ยงการพาลูกไปสถานที่แออัดหรือมีคนจำนวนมาก ถ้าไปเว้นระยะห่างจากคนอื่น 1-2 เมตร
    8. หากลูกมีอาการเจ็บป่วย เช่น ไข้ ไอ จามมีน้ำมูก หายใจหอบเหนื่อย ให้พบแพทย์ทันที
    9. ถ้าคนในครอบครัวป่วยด้วยโรคโควิด หรือกลับจากพื้นที่เสี่ยง ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอย่างเคร่งครัด

    ถึงแม้ว่าโรงพยาบาลจะเป็นพื้นที่เสี่ยง แต่ถ้าลูกมีอาการเจ็บป่วยไม่สบาย เข้าข่ายอาการที่ต้องกังวล ควรรีบพาลูกไปโรงพยาบาล โดยสวมใส่หน้ากากอนามัย ซึ่งเด็กอายุ 1-2 ปี บางคนสามารถถอดหน้ากากเองได้เมื่อรู้สึกอึดอัด จึงต้องคอยสังเกตและให้ใส่เพียงเวลาไม่นาน ส่วนเด็กทารกแรกเกิดถึง 1 ปี พ่อแม่ไม่ควรสวมหน้ากากให้ เพราะเด็กเล็ก ระบบการหายใจยังไม่แข็งแรงพอ เสี่ยงภาวะคาร์บอนไดออกไซด์คั่งได้ เนื่องจากทารกแรกเกิดหายใจทางจมูกเป็นหลัก ยังไม่มีความสามารถในการหายใจชดเชยด้วยการอ้าปากหายใจได้ เมื่อมีการขาดอากาศหรือออกซิเจนจะมีโอกาสเกิดการสะสมของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เกิดอันตรายต่อระบบประสาทของทารกได้ และในกรณีการใช้วัสดุพลาสติก บังหน้าทารก ความคมของพลาสติกอาจทำให้บาดใบหน้า และดวงตาของทารกได้

    นอกจากนี้ ต้องหมั่นล้างมือบ่อย ๆ ทั้งพ่อแม่ลูก ให้ดีที่สุดควรใช้สบู่ถูนานกว่า 20 วินาที แต่ถ้าไม่มีให้ใช้เจลแอลกอฮอล์ พร้อมกับต้องระวังคอยทำความสะอาดบ้านอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดโอกาสการติดเชื้อโควิด-19

     

    อ้างอิงข้อมูล : เพจหมอแพมชวนอ่าน, facebook.com/amarinnews และ anamai.moph.go.th

     

    เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

     

    อ่านบทความอื่นเพิ่มเติม

    สาวไทยรีวิวฉีด วัคซีนโควิด-19 ฟรีที่แคนาดา ผลข้างเคียงเป็นยังไง

    เล่นอะไรให้ลูกฉลาด หมอแนะ! วิธีเล่นกับลูกตั้งแต่แรกเกิด – 5 ปี

    ตรวจคัดกรองการได้ยินทารกแรกเกิด สิทธิบัตรทอง ใครได้บ้างเช็คเลย!

     

      ฤกษ์คลอดลูก กุมภาพันธ์ 2564

      ฤกษ์คลอดลูก กุมภาพันธ์ 2564 วันไหนฤกษ์ดี ผ่าคลอดลูกได้ เช็กเลย

      ฤกษ์คลอดลูก กุมภาพันธ์ 2564 ฤกษ์มงคลคลอดบุตร ฤกษ์ผ่าคลอด  สำหรับแม่ท้องที่กำลังจะคลอดลูก ในเดือนกุมภาพันธ์ จะมีฤกษ์ดี สำหรับคลอดลูก ปี 2564 วันไหนบ้าง มาดูกัน

      ฤกษ์คลอด เดือนกุมภาพันธ์ 2564
      วันไหนฤกษ์ดี ผ่าคลอดลูกได้ เช็กเลย

      ทีมแม่ ABK มี ฤกษ์คลอดบุตร 2564 พร้อมคำทำนาย เพื่อเป็นสิริมงคลให้กับลูกน้อย จาก อ.ชัญ thelucky  ผู้เชี่ยวชาญในการตั้งชื่อลูก ตั้งชื่อมงคล ให้ฤกษ์คลอด 2564 ฤกษ์มงคลต่างๆ ดูดวง ที่ถูกต้องตามหลักโหราศาสตร์ไทยขั้นสูง เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต มาฝากค่ะ ไปดูกันเลย

      ฤกษ์ผ่าคลอด ฤกษ์คลอดบุตร ฤกษ์คลอดเดือนกุมภาพันธ์ 2564
      อาทิตย์จันทร์อังคารพุธพฤหัสบดีศุกร์เสาร์
      1234
      เทวีแห่งฤกษ์

      5

      6
      ราชา
      แห่งฤกษ์

      78910

      11
      ภูมิปาโล
      แห่งฤกษ์

      12

      13
      เทวีแห่งฤกษ์

      14

      15
      ราชา
      แห่งฤกษ์

      16171819

      20
      ภูมิปาโล
      แห่งฤกษ์

      212223242526

      27
      มหัทธโน
      แห่งฤกษ์

      28

       

      เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

       

      ฤกษ์คลอดลูก กุมภาพันธ์ 2564

      • ฤกษ์คลอดวันพฤหัสบดี ที่ 4 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 45 น. – 21.06 น.
        • ตรงกับ เทวีแห่งฤกษ์ เด็กที่ได้เกิดวันนี้จะเป็นคนที่มีจิตใจมั่นคงในความรัก ให้ความสำคัญกับความรักเป็นหลัก มุ่งมั่นทำในสิ่งที่รักและจะทำได้ดี
      • ฤกษ์คลอดวันเสาร์ ที่ 6 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 45 น. – 17.30 น.
        • ตรงกับ ราชาแห่งฤกษ์ เด็กที่ได้เกิดวันนี้จะเป็นคนที่มีความเป็นผู้นำอยู่เต็มตัวชอบออกคำสั่ง ชอบทำอะไรใหญ่ๆโตๆ  ไม่ว่าจะทำงานด้านใดก็จะได้เป็นหัวหน้าหรือนายงาน
      • ฤกษ์คลอดวันพฤหัสบดี ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 15 น. – 13.06 น.
        • ตรงกับ ภูมิปาโลแห่งฤกษ์ เด็กที่ได้เกิดวันนี้จะเป็นคนมีความสามารถสูง มีทรัพย์สินเงินทองดี เป็นใหญ่เป็นโต งานที่เหมาะสมเกี่ยวของกับที่ดิน ได้เป็นนักปราชญ์หรือรับราชการ
      • ฤกษ์คลอดวันเสาร์ ที่ 13 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 25 น. – 14.18 น.
        • ตรงกับ เทวีแห่งฤกษ์ เด็กที่ได้เกิดวันนี้จะเป็นคนที่มีจิตใจมั่นคงในความรัก ให้ความสำคัญกับความรักเป็นหลัก มุ่งมั่นทำในสิ่งที่รักและจะทำได้ดี
      • ฤกษ์คลอดวันจันทร์ ที่ 15 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 15 น. – 17.06 น.
        • ตรงกับ ราชาแห่งฤกษ์ เด็กที่ได้เกิดวันนี้จะเป็นคนที่มีความเป็นผู้นำอยู่เต็มตัวชอบออกคำสั่ง ชอบทำอะไรใหญ่ๆโตๆ  ไม่ว่าจะทำงานด้านใดก็จะได้เป็นหัวหน้าหรือนายงาน
      • ฤกษ์คลอดวันเสาร์ ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 45 น. – 20.25 น.
        • ตรงกับ ภูมิปาโลแห่งฤกษ์ เด็กที่ได้เกิดวันนี้จะเป็นคนมีความสามารถสูง มีทรัพย์สินเงินทองดี เป็นใหญ่เป็นโต งานที่เหมาะสมเกี่ยวของกับที่ดิน ได้เป็นนักปราชญ์หรือรับราชการ
      • ฤกษ์คลอดวันเสาร์ ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 18 น. – 20.45 น.
        • ตรงกับ มหัทธโนแห่งฤกษ์ เด็กที่ได้เกิดวันนี้ จะเป็นคนที่มีทรัพย์สิน เงินทองสมบูรณ์ตลอดชีวิตจะไม่ขาดเงิน ไม่เดือดร้อน เด่นด้านการเงิน เป็นดวงเศรษฐี

       

      ดู >> ฤกษ์คลอดเดือนมีนาคม 2564
      คลอดวันไหนดี เพื่อให้เป็นมงคลต่อลูกน้อย คลิก!!

      ดู >> ฤกษ์คลอดเดือนมกราคม 2564
      วันไหนวันดี ลูกคลอดแล้วพาแม่ร่ำรวย คลิก!!

      ♦ ดูฤกษ์คลอดบุตร 2564 ครบทั้ง 12 เดือน คลิกที่นี่!! ♦

       

      ***หมายเหตุ*** หลักสำคัญในการหาฤกษ์ผ่าคลอด ฤกษ์คลอดบุตร 2564 จำเป็นที่จะต้องเอาดวงของคุณแม่และคุณพ่อและลูกมาวิเคราะห์ประกอบกัน เพื่อใช้ในการหาลัคนาสมพงษ์ และหาเวลาตกฝากแบบละเอียด เพื่อให้เด็กที่คลอดออกมานั้นต้อง มีดวงชะตาที่ดีที่สุด แอดไลน์ อ.ชัญ thelucky เพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกที่นี่ >> https://line.me/R/ti/p/%40aiu2029f

       

      ฤกษ์ผ่าคลอด 2564

      ขอบคุณข้อมูลเรื่อง ฤกษ์คลอดบุตร 2564 อ้างอิงจาก อาจารย์ชัญ เว็ปไซต์ theluckyname.com เว็ปไซต์อันดับ 1 ผู้เชี่ยวชาญด้านการตั้งชื่อลูก-ให้ฤกษ์มงคล >> https://www.theluckyname.com/home.php

       

      อ่านต่อบทความน่าสนใจ คลิก :

        ปอดอักเสบ

        โควิดรอบใหม่ ไร้อาการ ปอดอักเสบ หมอย้ำ “ติดง่ายเป็นหนัก” วัยทำงานต้องระวัง

        Walking Spreader (ตัวแพร่เชื้อเคลื่อนที่) อันตรายกว่า Super Spreader!! แพทย์เผยฟิล์มเอ็กซเรย์ผู้ป่วยโควิด ไม่พบร่องรอย ปอดอักเสบ ไร้อาการป่วย พร้อมแพร่เชื้อแบบไม่รู้ตัว

        การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ระลอกใหม่ มากกว่า 50 จังหวัดทั่วประเทศ พบว่าเป็นเชื้อที่กลายพันธุ์ที่ระบาดง่ายและมักไม่แสดงอาการเบื้องต้นอย่าง มีไข้สูง จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส เหมือนกับเชื้อโควิดที่ระบาดเมื่อปีก่อน โดยทางองค์การอนามัยโลกระบุว่ากว่าร้อยละ 50 ของผู้ติดเชื้อเป็นผู้ที่ไม่แสดงอาการ และจำนวนผู้ติดเชื้อที่ได้รับรายงาน มีความเป็นไปได้ว่าอาจน้อยกว่าจำนวนผู้ติดเชื้อจริงอยู่มาก เพราะบางรายไม่มีอาการและไม่ได้ไปรักษา

        ปอดอักเสบ

        นายแพทย์ โอภาส พุทธเจริญ หัวหน้าศูนย์โรคอุบัติใหม่ทางคลินิก โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก พร้อมภาพฟิล์มเอ็กซเรย์เปรียบเทียบปอดของผู้ป่วยโควิดระลอกใหม่ กับผู้ป่วยที่มีอาการ ปอดอักเสบ พร้อมระบุว่า

        Walking spreader รอบนี้คนไข้ไม่เหมือนเดิม เชื้อแบ่งตัวได้ดีในจมูกและทางเดินหายใจ คนไม่มีอาการจะมีเชื้อในจมูกเยอะมากพร้อมที่จะแพร่กระจายเป็นวงกว้างเวลาไอ จามหรือพูด  (รูปซ้าย) ภาพถ่ายปอดผู้ที่ติดเชื้อที่ไม่มีอาการเลย เดินไปเดินมา ใช้ชีวิตเหมือนคนปกติ แต่เชื้อในจมูกค่า CT (cycle threshold) จากเครื่อง PCR บอกว่ามีปริมาณเชื้อในจมูกสูง มากเมื่อเทียบกับคนไข้ที่เคยเห็นในระลอกแรก ดังนั้นถ้าไม่ได้มาตรวจก็แพร่กระจายเชื้อคนอื่นได้อีกมาก

        (รูปขวา) เราเริ่มเห็นคนมีอาการไข้หวัดหรือ ปอดอักเสบ มาที่โรงพยาบาล แต่ไม่ยอมบอกประวัติความเสี่ยงเพื่อปกปิดการเดินทาง แพทย์อาจไม่ได้ส่งตรวจหาโควิด เพราะคิดว่าเป็นปอดอักเสบจากเชื้ออื่นที่พบได้บ่อยกว่า ดังนั้นถ้ามีประวัติไปที่เสี่ยงตัองแจ้งแพทย์เสมอเพื่อแยกออกไปจากคนไข้คนอื่นที่มีโอกาสติดแล้วมีอาการรุนแรงหรืออาจติดต่อไปยังหมอและพยาบาล

         

        ปอดอักเสบ

        โควิดระลอกใหม่ เป็นสายพันธุ์ไหนกันแน่

        “อาการไม่หนักแต่ระบาดเร็ว” นี่อาจเป็นคำจำกัดความสั้นๆของการระบาดของเชื้อโควิดระลอกใหม่ในไทย ซึ่งแตกต่างจากการระบาดเมื่อช่วงต้นปี 2563 ที่ผ่านมา ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยววชาญด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ให้ความรู้เกี่ยวกับวิวัฒนาการของโควิด-19 ไว้ว่า

        “เชื้อโควิดที่แพร่ระบาดอยู่ทั่วโลกคือ สายพันธุ์ G (Glycine) พัฒนาตัวเองให้สามารถแพร่กระจายไวรัสออกมาได้มากขึ้น โดยที่ผู้ติดเชื้อสายพันธุ์นี้จะไม่มีอาการรุนแรงเท่ากับสายพันธุ์ตั้งต้น

        และล่าสุดประเทศไทยพบโควิด-19 สายพันธุ์อังกฤษกลายพันธุ์ที่ทั่วโลกเฝ้าระวังจากชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศ และได้เข้าสู่ขั้นตอนการกักตัวและควบคุมเชื้ออย่างดีเพื่อไม่ให้กระจายสู่คนในประเทศ โดยโควิดสายพันธุ์ใหม่นี้ทำให้การแพร่ระบาดได้ง่ายกระจายอย่างรวดเร็วขึ้น และไม่เกี่ยวข้องกับประสิทธิภาพของวัคซีน ขอให้สบายใจได้”

        แพทย์เตือนอย่าชะล่าใจ ไร้อาการ-ไม่ป้องกัน เสี่ยง ปอดอักเสบ ถึงชีวิต

        แม้ว่าติดเชื้อโควิดจะไม่แสดงอาการรุนแรง แต่ไม่ได้หมายความว่าจะหายได้เอง หากรักษาไม่ทันก็เสี่ยงต่อภาวะ ปอดอักเสบรุนแรง และทำให้เสียชีวิตได้ ศ.ดร.นพ. ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณะบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม. มหิดล ได้ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการแพร่กระจายเชื้อโควิดในรายการโหนกระแส (ออกอากาศเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2564 ) ไว้ตอนหนึ่งว่า

         “พอไม่ค่อยมีอาการ คนก็เริ่มไม่กังวลกัน เราจะเห็นปรากฎการณ์ชัดเจนว่า คนอายุน้อยๆเป็นกันเยอะ อายุ 40 กว่าปีต้องใส่ท่อช่วยหายใจแล้วกู่ไม่กลับ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะมารับการรักษาช้า คิดว่าคงไม่เป็นไร โดยธรรมชาติของโควิด-19ทันทีที่เริ่มติดเชื้อ ถ้าเริ่มมีอาการปอดอักเสบต้องรีบให้ยาทันที การให้ยาหลังจากอาการปอดอักเสบมากแล้วไม่ทัน เพราะไวรัสเยอะแล้ว มันทำลายเนื้อปอดไปแล้วจึงกู้กลับมาไม่ทัน

        ผมขอฝากเลย โควิดรอบนี้ไม่ได้อันตรายเฉพาะคนสูงอายุ หรือคนที่มีโรคปอดอย่างเดียว รอบนี้หนุ่มสาว วัยทำงานก็เป็นหนักได้ อย่าชะล่าใจ หนทางดีที่สุดคือทุกคนต้องร่วมมือกันควบคุมไม่ได้ติดเชื้อ ที่สำคัญกว่านั้นคือ กลุ่มคนเหล่านี้เอาเชื้อไปแพร่คนรอบข้าง เพื่อนฝูง หรือครอบครัวที่อายุไม่เยอะ ซึ่งทำให้คนเหล่านี้อาจมีอาการหนักไม่ต่างกัน”

        มารู้จักโรคปอดอักเสบ

        ปอดอักเสบ เป็นหนึ่งในโรคระบบทางเดินหายใจที่พบในทุกวัย แตกต่างกันตามไปลักษณะของเชื้อโรค สามารถติดต่อกันได้โดยพบมากที่สุดคือ ปอดอักเสบจากการติดเชื้อ หรือปอดบวม เมื่อเชื้อโรคเข้าสู่ปอดแล้วทำให้เกิดการอักเสบของถุงลมและเนื้อเยื่อโดยรอบ

        ผู้ป่วยโรคปอดอักเสบมักมีอาการไอ จามเล็กน้อยนำมาก่อน หลังจากนั้นจะเริ่มหายใจลำบาก หายใจหอบและเร็วขึ้นจนรู้สึกเจ็บหน้าอก มีไข้ คลื่นไส้อาเจียน อ่อนเพลีย สำหรับลูกน้อยหากเป็นปอดอักเสบส่วนใหญ่มักเกิดจากเชื้อ RSV หรือไข้หวัดใหญ่ ซึ่งทำให้อาการของโรคหนักขึ้น ดูดนมลำบาก กินน้อยลง อกบุ๋ม ซี่โครงบาน วิธีป้องกันที่ดีที่สุดคือการหลีกเลี่ยงแหล่งชุมชนในช่วงมีโรคระบาด กินอาหารครบห้าหมู่ และพักผ่อนให้เพียงพอ

        ที่สำคัญคุณพ่อคุณแม่ที่ยังต้องทำงาน หรือทำภารกิจนอกบ้านต้องไม่ลืม 4 กฎเหล็กห่างไกลโควิด-19 ทั้งใส่หน้ากาก ล้างมือบ่อยๆ เว้นระยะห่าง เลี่ยงพื้นที่เสี่ยงอย่างเคร่งครัด และหมั่นสังเกตอาการผิกปกติของตัวเอง เพราะถึงแม้จะไม่ใช่ผู้สูงอายุ หรือกลุ่มเสี่ยง แต่โควิดสายระลอกนี้ก็ร้ายกาจไม่เบาทีเดียว

        แหล่งข้อมูล  news.thaipbs.or.th  www.hfocus.org  www.siphhospital.com รายการโหนกระแส

        บทความน่าสนใจอื่นๆ 

        คนท้องตรวจโควิดได้ไหม จำเป็นต้องตรวจไหม อาการแบบไหนไม่ควรปล่อยไว้

        ป้องกันโควิด-19 ตอนไปตลาด สิ่งไหนเสี่ยง อะไรต้องระวัง

        เด็กติดโควิด ระวังเชื้อจากพ่อแม่ แพร่ Covid-19 สู่ลูก

         

        เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

         

          หมอสูติตอบเอง ฝากท้องแบบไหนดี? “ ฝากครรภ์พิเศษ VS ฝากครรภ์ธรรมดา ”

          ฝากครรภ์พิเศษ VS ฝากครรภ์ธรรมดา แม่ท้องควร ฝากครรภ์แบบไหนดี แล้วการฝากครรภ์ แต่ละแบบแตกต่างกันอย่างไร ตามมาดูคำตอบจากปากหมอสูติฯ แบบชัดๆ กันเลยค่ะ

          ฝากท้องแบบไหนดี?
          ฝากธรรมดา VS ฝากครรภ์พิเศษ

          “ขอพิเศษนะ” เป็นคำที่ได้ยินบ่อยเวลาสั่งอาหารประเภทก๋วยเตี๋ยวต่างๆ เช่น เส้นใหญ่เย็นตาโฟพิเศษ ข้าวขาหมูพิเศษ หมายถึงเราจะได้ เส้น ข้าว หมู หรือ เนื้อ มากกว่าจานปกติ ซึ่งแน่นอนว่า ก็ต้องจ่ายค่าเสียหายแพงกว่าจานธรรมดา การฝากท้อง หรือ ฝากครรภ์พิเศษ ก็เช่นกัน เมื่อเรามีความต้องการการดูแลครรภ์ที่มากกว่า ดีกว่า สะดวกกว่าปกติ เราก็ต้องมีการฝากพิเศษกับแพทย์ที่เราคัดสรรแล้วว่าดี หรือเก่ง ในการดูแลหญิงตั้งครรภ์ การตรวจครรภ์ ไปจนถึงการทำคลอดบุตร ไม่ว่าจะคลอดเองธรรมชาติ หรือการผ่าตัดคลอดก็ตาม

          ในปัจจุบัน  หญิงตั้งครรภ์ส่วนใหญ่ ได้มีการค้นหาข้อมูลแพทย์ที่จะฝากครรภ์ไว้แต่เนิ่นๆอยู่แล้ว บางคนจองโรงเรียนให้ลูกแล้วตั้งแต่ลูกยังอยู่ในท้องก็มี ยุคปัจจุบันเป็นยุคไอที ซึ่งสามารถหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตได้ง่ายมาก หลายๆท่าน จึงใช้วิธีเข้าไปตั้งกระทู้ถาม ในอินเตอร์เน็ต หรือดูข้อมูลที่มีคนโพสต์ หรือรีวิวไว้ก่อนหน้านี้ เอาเป็นว่าการเลือกหมอแล้วแต่ความชอบของแต่ละคน บางคนชอบหมอใจดี บางคนชอบหมออธิบายละเอียดดี บางคนชอบหมอตรวจอัลตร้าซาวด์เก่ง

          ฝากธรรมดา VS ฝากครรภ์พิเศษ ต่างกันอย่างไร?

          สำหรับเรื่องของการฝากครรภ์ คุณหมอนิวัฒน์ อรัญญาเกษมสุข (สูตินรีแพทย์) แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์มารดาและทารกในครรภ์ พันธุศาสตร์การแพทย์มหาวิทยาลัย จอห์น ฮอบกิ้น สหรัฐอเมริกา ได้ให้ข้อมูลว่า .. อให้ข้อมูลเกี่ยวกับสูตินรีแพทย์ก่อนที่จะตัดสินใจเลือก!!

          • หมอสูตินรีแพทย์” คือ แพทย์ที่เรียนจบหลักสูตรแพทย์ทั่วไป (General Practitioner: เรียน 6 ปี ) หลังจากออกไปใช้ทุนในต่างจังหวัดแล้ว 2-3 ปี จึงกลับมาเรียนต่อหลักสูตรเฉพาะทาง (specialist) สาขาสูติศาสตร์นรีเวชวิทยา ( เรียน 3 ปี ) หมอสูตินรีแพทย์เป็นหมอที่จบมาแล้วสามารถให้การดูแลครรภ์และทำคลอดได้หมดทุกคน แต่ปัจจุบันได้มีหลักสูตรต่อยอด (Fellowship) ของสูตินรีแพทย์ เพื่อให้เป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ทั้งหมด 3 สาขาดังนี้ ( เรียนต่อ 2 ปี )
            1. สูตินรีแพทย์ อนุสาขามะเร็งนรีเวชวิทยา มีความเชี่ยวชาญและให้การรักษาเกี่ยวกับ การป้องกัน การตรวจคัดกรองรอยโรคก่อนมะเร็ง และมะเร็งระยะเริ่มแรก การวินิจฉัยโรคมะเร็งนรีเวช การผ่าตัดและรักษาภาวะแทรกซ้อน การรักษาโดยยาเคมีบำบัดและรักษาภาวะแทรกซ้อน การดูแลรักษาผู้ป่วยมะเร็งที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษา และการดูแลผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย
            2. สูตินรีแพทย์ อนุสาขาเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ มีความเชี่ยวชาญและให้การรักษาเกี่ยวกับการดูแลรักษาภาวะมีบุตรยาก ความผิดปกติทางต่อมไร้ท่อที่เกี่ยวข้องกับการเจริญพันธุ์ การวางแผนครอบครัว การดูแลสตรีวัยหมดระดู และการผ่าตัดผ่านกล้องทางนรีเวช
            3. สูตินรีแพทย์ อนุสาขาเวชศาสตร์มารดาและทารกในครรภ์ มีความเชี่ยวชาญและให้การรักษาเกี่ยวกับการให้คำปรึกษาทางพันธุศาสตร์ การตรวจคัดกรองก่อนคลอด การตรวจคลื่นเสียงความถี่สูงหรืออัลตร้าซาวด์เพื่อประเมินและวินิจฉัยทารกในครรภ์ การเจาะตรวจน้ำคร่ำ การรักษาทารกในครรภ์ การประเมินสุขภาพทารกในครรภ์ รวมถึงการดูแลหญิงตั้งครรภ์ที่มีภาวะแทรกซ้อนทางอายุรกรรมร่วมด้วย เช่น ความดัน เบาหวาน หรือไทรอยด์ขณะตั้งครรภ์

          ในช่วงไม่กี่ปีมานี้มีการเปิดหลักสูตรอบรมต่อยอดเพิ่มเติมอีก 2 สาขา เป็นสาขาที่ 4 และ 5 คือ

            1. อนุสาขาเวชศาสตร์เชิงกรานสตรีและศัลยกรรมซ่อมเสริม มีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับการดูแลรักษาผู้ป่วยที่มีความผิดปกติของระบบทางเดินปัสสาวะส่วนล่าง ความผิดปกติของอวยัวะอุ้งเชิงกราน และการผ่าตัดเพื่อแก้ไขภาวะกลั้นปัสสาวะไม่ได้ การผ่าตัดรักษาภาวะอวัยวะอุ้งเชิงกรานหย่อน
            2. อนุสาขาการผ่าตัดผ่านกล้องทางนรีเวช (หลักสูตร 1ปี) มีความเชี่ยวชาญและให้การรักษาเกี่ยวกับการผ่าตัดทางนรีเวช(มดลูก รังไข่)โดยใช้กล้อง

          จะเห็นว่าปัจจุบันสูตินรีแพทย์ มีการเปิดหลักสูตรของการศึกษาที่เจาะลึกเฉพาะด้านในแต่ละโรค ดังนั้นถ้าต้องการรักษาในโรคใดที่ต้องการให้ผลออกมาดีที่สุดก็ควรไปตรวจรักษากับแพทย์ในสาขาเฉพาะทางนั้นๆ

          ฝากครรภ์

          >> กลับมาที่หัวข้อ ฝากครรภ์พิเศษ ของเรา แน่นอนว่า สิ่งที่หญิงตั้งครรภ์ทุกคนปรารถนา คือ ต้องการให้ผลการคลอดออกมาดีที่สุด (ลูกเกิดรอด) มีภาวะแทรกซ้อนน้อยที่สุด (แม่ปลอดภัย) และ ได้รับความสะดวกสบายมากที่สุดในช่วงระหว่างมาฝากครรภ์และการคลอด ไม่ว่าจะเป็นการนัดหมาย การเดินทาง การได้พบแพทย์เมื่อเกิดปัญหา ระบบฝากครรภ์ในประเทศไทยจะมี 2 ระบบ คือ ฝากโรงพยาบาลเอกชน กับ ฝากโรงพยาบาลของรัฐ

           

          การฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลเอกชน ซึ่งปัจจุบันมีหลายร้อยแห่งทั่วประเทศ รวมถึงคลินิกต่างๆของเอกชนด้วย การฝากในโรงพยาบาลเอกชน ส่วนใหญ่จะเป็นการฝากพิเศษไปในตัวอยู่แล้ว เพราะจะได้รับการดูแล ฝากครรภ์พิเศษ โดยแพทย์ท่านเดิมตลอดระยะเวลาของการฝากครรภ์ ซึ่งแพทย์ที่ได้ดูแลท่านตั้งแต่ครั้งแรกมักจะเป็นผู้ดูแลฝากครรภ์ไปจนถึงคลอด รวมถึงการทำคลอดให้หญิงตั้งครรภ์ด้วย ทั้งการคลอดเองธรรมชาติ (Normal Labor) หรือการผ่าตัดคลอด (Cesarean Section) ซึ่งคุณแม่สามารถเดินเข้าไปในโรงพยาบาลที่ต้องการฝากครรภ์และต้องการที่จะคลอดที่โรงพยาบาลแห่งนั้น แจ้งความจำนงค์กับเจ้าหน้าที่ ว่าต้องการฝากครรภ์และคลอดกับหมอท่านนั้นท่านนี้ที่ท่านได้ดูมา หรือเคยตรวจกันมาก่อน โดยแจ้งชื่อแพทย์ที่ต้องการพบได้เลย เจ้าหน้าที่ หรือ พยาบาลก็จะจัดให้ท่านได้พบกับแพทย์ท่านนั้นโดยตรง แต่กรณีที่ท่านไม่รู้จักแพทย์ท่านใดเลย ก็อาจขอข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ หรือพยาบาล ให้ช่วยแนะนำแพทย์ให้ได้ หรือถ้าท่านไม่ระบุใดๆ เลยพยาบาลจะนำเข้าสู่ระบบคิวของแพทย์ที่ออกตรวจในวันนั้น

          จากนั้นเมื่อท่านพบแพทย์แล้วและได้ตรวจแล้ว แพทย์ท่านเดิมก็จะนัดท่านมาตรวจครรภ์ในครั้งต่อๆไปตามวันที่แพทย์ท่านนั้นออกตรวจ จึงถือว่าเป็นการฝากครรภ์แบบพิเศษไปในตัว เพราะท่านจะได้พบกับแพทย์ท่านเดิมตลอด หรือในการฝากครรภ์ที่คลินิก มักเป็นสูติแพทย์ที่มาเปิดคลินิกเอง คุณแม่ท้องสามารถเข้าไปพบแพทย์ได้ที่คลินิกโดยตรง ส่วนการคลอดลูก ขึ้นอยู่กับแพทย์ท่านนั้นทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลไหน ท่านสามารถเลือกไปคลอดโรงพยาบาลที่แพทย์ทำงานอยู่ได้ ทั้งในส่วนโรงพยาบาลรัฐหรือเอกชน ในกรณีที่แพทย์ท่านนั้นทำงานมากกว่า 1 โรงพยาบาล

          ส่วนการฝากครรภ์ในโรงพยาบาลหรือสถานบริการของรัฐ อาจจะแตกต่างจากโรงพยาบาลเอกชน เนื่องจากจำนวนหญิงตั้งครรภ์ที่มารับบริการฝากครรภ์ในแต่ละวันค่อนข้างมาก และแพทย์แต่ละท่าน ต้องหมุนเวียนการปฏิบัติงานไปในที่ต่างๆแต่ละวันแทบไม่ซ้ำกัน เช่น วันนี้ตรวจฝากครรภ์ อีกวันตรวจนรีเวช อีกวันเข้าห้องตรวจอัลตร้าซาวด์ อีกวันเข้าห้องผ่าตัด หมุนเวียนกันไปในแผนก ดังนั้นการที่จะได้ตรวจกับแพทย์ท่านเดิมทุกครั้งจึงเป็นไปได้ยาก และเมื่อเจ็บครรภ์มาคลอดก็จะอาจได้รับการทำคลอดโดยพยาบาลผดุงครรภ์ หรือแพทย์เวรในวันนั้นๆ ไม่สามารถเลือกคนทำคลอดให้ตัวเองได้ เพื่อหลีกเลี่ยงกับภาวะดังกล่าว จึงมีคนไปขอฝากพิเศษกับแพทย์ เพื่อให้แพทย์ท่านนั้นรับดูแลฝากครรภ์ให้กับตนเองทุกครั้ง และรวมถึงการทำคลอดให้ ไม่ว่าคนไข้จะเจ็บครรภ์มาเอง หรือนัดผ่าตัดคลอดก็ตาม

          ทั้งนี้คุณแม่ท้องควรสอบถามข้อมูลกับทางแผนกของแต่ละโรงพยาบาลที่ไปฝากครรภ์ว่าแพทย์ท่านใดที่รับ ฝากครรภ์พิเศษ บ้าง เนื่องจากสูตินรีแพทย์ในโรงพยาบาลรัฐไม่ได้รับ ฝากครรภ์พิเศษ ทุกคน และถึงแม้คนไข้จะฝากพิเศษ แต่การดูแลครรภ์ยังคงต้องเป็นไปตามข้อบ่งชี้ในการดูแลและรักษาตามมาตรฐานวิชาชีพทุกประการ แพทย์จะไม่ทำการรักษาตามคำร้องขอโดยไม่มีข้อบ่งชี้ หรือไม่ปลอดภัย

          สรุปว่าการฝากครรภ์ ในเอกชน  ไม่จำเป็นต้องระบุว่าต้องการฝากครรภ์พิเศษ เนื่องจากแพทย์ที่ดูแลการฝากครรภ์ให้ในแต่ละครั้ง จะเป็นผู้ดูแลฝากครรภ์ต่อเนื่อง ตลอดจนถึงการทำคลอดให้กับคุณแม่ และค่าใช้จ่ายสำหรับแพทย์ทำคลอด ทางโรงพยาบาลเอกชนมักเรียกเก็บอยู่ในแพ็คเก็จคลอดอยู่แล้ว

          แต่ในโรงพยาบาลรัฐ แพทย์ที่มาทำคลอดให้ ถือว่าท่านมาทำหน้าที่พิเศษไม่ใช่หน้าที่ปกติ จึงอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากค่าคลอดปกติของโรงพยาบาล ซึ่งคนไข้สามารถสอบถามข้อมูลต่างๆจากสถานที่ที่เราไปฝากครรภ์ได้

          แต่เหนือสิ่งอื่นใด ไม่ว่าจะฝากครรภ์แบบธรรมดาก็ดี หรือ ฝากครรภ์พิเศษ ก็ดี ถ้าได้มารับการฝากครรภ์ ถือว่าได้มีบุคคลากรทางการแพทย์ดูแลครรภ์ให้กับหญิงตั้งครรภ์แล้ว ความปลอดภัยก็จะเกิดขึ้นกับแม่และเด็ก แต่ยังมีคนไข้ส่วนหนึ่งที่ตั้งครรภ์แล้วไม่ยอมไปรับการตรวจฝากครรภ์ โดยเฉพาะการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น ที่มีอายุน้อย ซึ่งโดยมากไม่อยากให้ใครรู้ว่าตั้งครรภ์ ทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่อแม่ตั้งครรภ์และทารกแรกคลอด เกิดเป็นปัญหาในการดูแลสุขภาพในระบบสาธารณะสุขของประเทศไทย ที่ยังพบได้บ่อยๆ ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นการฝากครรภ์แบบธรรมดา หรือ การฝากครรภ์พิเศษ ความหมายของการฝากครรภ์ที่ดีคือ การฝากครรภ์ให้เร็วที่สุดเมื่อทราบว่าตั้งครรภ์ และการฝากครรภ์อย่างสม่ำเสมอทุกครั้งตามที่แพทย์นัด อย่าลืมว่าทุกโรงพยาบาลมีมาตราฐานวิชาชีพในการดูแลความปลอดภัยของหญิงตั้งครรภ์เป็นหลักที่คล้ายคลีงกัน อาจจะแตกต่างกันในเรื่องสถานที่ บุคคลากร และความสะดวกสบายที่ได้รับ ซึ่งความสะดวกสบายอาจหมายถึงค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นตามมาด้วยนะครับ

          บทความโดย : นายแพทย์นิวัฒน์ อรัญญาเกษมสุข (สูตินรีแพทย์)
          แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์มารดาและทารกในครรภ์ พันธุศาสตร์การแพทย์
          มหาวิทยาลัย จอห์น ฮอบกิ้น สหรัฐอเมริกา

           

          เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

          อ่านต่อบทความอื่นน่าสนใจ คลิกที่ภาพด้านล่างได้เลย

          ฝังเข็มคุมกำเนิด คืออะไร? ข้อดี ข้อเสีย ที่ต้องรู้ก่อนทำ!

          แม่ท้องไม่สบาย กินยาได้ไหม? หมอแนะ “ยาที่คนท้องกินได้” และ “ยาต้องห้าม”

          ท้องไม่พร้อม ไม่สนุก!! รู้ยังวัยรุ่น ฝังยาคุม ฟรี

          ครรภ์เป็นพิษเกิดจากอะไร ประสบการณ์ครรภ์เป็นพิษ ต้องยุติการตั้งครรภ์

            ฤกษ์คลอดลูก มกราคม 2564

            ฤกษ์คลอดลูก มกราคม 2564 ต้นปีฉลู คลอดลูกวันไหนดี พาแม่ร่ำรวย

            ฤกษ์คลอดลูก มกราคม 2564  ฤกษ์มงคลคลอดบุตร ฤกษ์ผ่าคลอด  สำหรับแม่ท้องที่กำลังจะคลอดลูก ในเดือนมกราคม จะมีฤกษ์ดี สำหรับคลอดลูก ปี 2564 วันไหนบ้าง มาดูกัน

            ฤกษ์คลอดลูก มกราคม 2564 ต้นปีฉลู
            คลอดลูกวันไหนดี พาแม่ร่ำรวย

            ทีมแม่ ABK มี ฤกษ์คลอดบุตร 2564 พร้อมคำทำนาย เพื่อเป็นสิริมงคลให้กับลูกน้อย จาก อ.ชัญ thelucky  ผู้เชี่ยวชาญในการตั้งชื่อลูก ตั้งชื่อมงคล ให้ฤกษ์คลอด 2564 ฤกษ์มงคลต่างๆ ดูดวง ที่ถูกต้องตามหลักโหราศาสตร์ไทยขั้นสูง เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต มาฝากค่ะ ไปดูกันเลย

            ฤกษ์ผ่าคลอด ฤกษ์คลอดบุตร ฤกษ์คลอดลูก มกราคม 2564
            อาทิตย์จันทร์อังคารพุธพฤหัสบดีศุกร์เสาร์

            1
            ราชาแห่งฤกษ์

            2
            3

            4
            มหัทธโนแห่งฤกษ์ 

            56

            7
            เทวีแห่งฤกษ์ 

            8
            เทวีแห่งฤกษ์

            9
            ราชาแห่งฤกษ์

            10111213

            14
            ภูมิปาโลแห่งฤกษ์ 

            15

            16
            เทวีแห่งฤกษ์

            17

            18
            ราชาแห่งฤกษ์

            1920

            21
            มหัทธโนแห่งฤกษ์

            22
            มหัทธโนแห่งฤกษ์

            23
            24252627

            28
            ราชาแห่งฤกษ์

            2930

            31
            มหัทธโนแห่งฤกษ์

             

            เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

             

            ฤกษ์คลอดลูก มกราคม 2564

            • ฤกษ์คลอดวันศุกร์ ที่ 1 มกราคม 2564 เวลา 13 น. – 19.06 น.
              • ตรงกับ ราชาแห่งฤกษ์เด็กที่ได้เกิดวันนี้จะเป็นคนที่มีความเป็นผู้นำอยู่เต็มตัว ชอบออกคำสั่ง ชอบทำอะไรใหญ่ๆโตๆ ไม่ว่าจะทำงานด้านใดก็จะได้เป็นหัวหน้าหรือนายงาน
            • ฤกษ์คลอดวันจันทร์ ที่ 4 มกราคม 2564 เวลา 16 น. – 17.54 น.
              • ตรงกับ มหัทธโนแห่งฤกษ์ เด็กที่ได้เกิดวันนี้ จะเป็นคนที่มีทรัพย์สิน เงินทองสมบูรณ์ตลอดชีวิตจะไม่ขาดเงิน ไม่เดือดร้อน เด่นด้านการเงิน เป็นดวงเศรษฐี
            • ฤกษ์คลอดวันพฤหัสบดี ที่ 7 มกราคม 2564 เวลา 54 น. – 17.00 น.
              • ตรงกับ เทวีแห่งฤกษ์ เด็กที่ได้เกิดวันนี้จะเป็นคนที่มีจิตใจมั่นคงในความรัก ให้ความสำคัญกับ ความรักเป็นหลัก มุ่งมั่นทำในสิ่งที่รักและจะทำได้ดี
            • ฤกษ์คลอดวันศุกร์ ที่ 8 มกราคม 2564 เวลา 00 น. – 12.18 น.
              • ตรงกับ เทวีแห่งฤกษ์ เด็กที่ได้เกิดวันนี้จะเป็นคนที่มีจิตใจมั่นคงในความรัก ให้ความสำคัญกับความรักเป็นหลัก มุ่งมั่นทำในสิ่งที่รักและจะทำได้ดี
            • ฤกษ์คลอดวันเสาร์ ที่ 9 มกราคม 2564 เวลา 42 น. – 20.45 น.
              • ตรงกับ ราชาแห่งฤกษ์ เด็กที่ได้เกิดวันนี้จะเป็นคนที่มีความเป็นผู้นำอยู่เต็มตัว ชอบออกคำสั่ง ชอบทำอะไรใหญ่ๆโตๆ  ไม่ว่าจะทำงานด้านใดก็จะได้เป็นหัวหน้าหรือนายงาน
            • ฤกษ์คลอดวันพฤหัสบดีที่ 14 มกราคม 2564 เวลา 00 น. – 17.00 น.
              • ตรงกับ ภูมิปาโลแห่งฤกษ์ เด็กที่ได้เกิดวันนี้จะเป็นคนมีความสามารถสูง มีทรัพย์สินเงินทองดี เป็นใหญ่เป็นโต งานที่เหมาะสมเกี่ยวของกับที่ดิน ได้เป็นนักปราชญ์หรือรับราชการ
            • ฤกษ์คลอดวันเสาร์ ที่ 16 มกราคม 2564 เวลา 35 น. – 17.45 น.
              • ตรงกับ เทวีแห่งฤกษ์ เด็กที่ได้เกิดวันนี้จะเป็นคนที่มีจิตใจมั่นคงในความรัก ให้ความสำคัญกับความรักเป็นหลัก มุ่งมั่นทำในสิ่งที่รักและจะทำได้ดี
            • ฤกษ์คลอดวันจันทร์ ที่ 18 มกราคม 2564 เวลา 18 น. – 17.35 น.
              • ตรงกับ ราชาแห่งฤกษ์ เด็กที่ได้เกิดวันนี้จะเป็นคนที่มีความเป็นผู้นำอยู่เต็มตัว
            • ฤกษ์คลอดวันพฤหัสบดี ที่ 21 มกราคม 2564 เวลา 18 น. – 18.00 น.
              • ตรงกับ มหัทธโนแห่งฤกษ์ เด็กที่ได้เกิดวันนี้ จะเป็นคนที่มีทรัพย์สิน เงินทองสมบูรณ์ตลอดชีวิตจะไม่ขาดเงิน ไม่เดือดร้อน เด่นด้านการเงิน เป็นดวงเศรษฐี
            • ฤกษ์คลอดวันศุกร์ ที่ 22 มกราคม 2564 เวลา 00 น. – 16.42 น.
              • ตรงกับ มหัทธโนแห่งฤกษ์ เด็กที่ได้เกิดวันนี้ จะเป็นคนที่มีทรัพย์สิน เงินทองสมบูรณ์ตลอดชีวิตจะไม่ขาดเงิน ไม่เดือดร้อน เด่นด้านการเงิน เป็นดวงเศรษฐี
            • ฤกษ์คลอดวันพฤหัสบดี ที่ 28 มกราคม 2564 เวลา 00 น. – 17.45 น.
              • ตรงกับ ราชาแห่งฤกษ์ เด็กที่ได้เกิดวันนี้จะเป็นคนที่มีความเป็นผู้นำอยู่เต็มตัวชอบออกคำสั่ง ชอบทำอะไรใหญ่ๆโตๆ  ไม่ว่าจะทำงานด้านใดก็จะได้เป็นหัวหน้าหรือนายงาน
            • ฤกษ์คลอดวันอาทิตย์ ที่ 31 มกราคม 2564 เวลา 45 น. – 18.00 น.
              • ตรงกับ มหัทธโนแห่งฤกษ์ เด็กที่ได้เกิดวันนี้ จะเป็นคนที่มีทรัพย์สิน เงินทองสมบูรณ์ตลอดชีวิตจะไม่ขาดเงิน ไม่เดือดร้อน เด่นด้านการเงิน เป็นดวงเศรษฐี

            ดู >> ฤกษ์คลอด เดือนกุมภาพันธ์ 2564
            วันไหนฤกษ์ดีผ่าคลอดได้ เช็กเลย คลิก!!

            ♦ ดูฤกษ์คลอดบุตร 2564 ครบทั้ง 12 เดือน คลิกที่นี่!! ♦

             

            ***หมายเหตุ*** หลักสำคัญในการหาฤกษ์ผ่าคลอด ฤกษ์คลอดบุตร 2564 จำเป็นที่จะต้องเอาดวงของคุณแม่และคุณพ่อและลูกมาวิเคราะห์ประกอบกัน เพื่อใช้ในการหาลัคนาสมพงษ์ และหาเวลาตกฝากแบบละเอียด เพื่อให้เด็กที่คลอดออกมานั้นต้อง มีดวงชะตาที่ดีที่สุด แอดไลน์ อ.ชัญ thelucky เพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกที่นี่ >> https://line.me/R/ti/p/%40aiu2029f

             

            ฤกษ์ผ่าคลอด 2564ขอบคุณข้อมูลเรื่อง ฤกษ์คลอดบุตร 2564 อ้างอิงจาก อาจารย์ชัญ เว็ปไซต์ theluckyname.com เว็ปไซต์อันดับ 1 ผู้เชี่ยวชาญด้านการตั้งชื่อลูก-ให้ฤกษ์มงคล >> https://www.theluckyname.com/home.php

             

            อ่านต่อบทความน่าสนใจ คลิก :

              ชื่ออิสลาม

              333 ชื่ออิสลาม ลูกชาย-ลูกสาว ไอเดีย ตั้งชื่อลูกอิสลาม เพราะๆ พร้อมความหมายดี๊ดี

              รวม ชื่ออิสลาม ชื่ออาหรับ ชื่อมุสลิม เพราะๆ พร้อมความหมายดี๊ดี สำหรับลูกชาย-ลูกสาว กว่า 300 ชื่อ จะมี ชื่ออิสลาม อะไรบ้าง ตามมาดูกันเลย

              333 ชื่ออิสลาม ลูกชาย-ลูกสาว เพราะๆ
              พร้อมความหมายดี๊ดี

              หลักการตั้งชื่อลูก ชื่ออิสลาม หรือ ชื่อมุสลิม การตั้งชื่อที่ดีนั้น ต้องเป็นชื่อที่มีความหมายดี ใครๆ ฟังแล้วก็รื่นหู และชื่อนั้นจะได้ไม่เป็นปมด้อยกับตัวเด็กเองเมื่อเขาโตขึ้น ดังนั้นต้องไม่ตั้งชื่อที่มีความหมายในด้านลบ หรือเหมือนกับชื่อคนเลว ทั้งนี้ชื่อที่ตั้งตามชื่อของบรรดา นบี และเหล่าคนดี ทั้งชายและหญิงในหน้าประวัติศาสตร์ ก็เพื่อหวังว่าจะมีผลต่อเด็กในแง่การยึดเป็นแบบฉบับ เช่น  มุฮัมมัด ,อิบรอฮีม, อิสมาอีล, มูซา เป็นต้น

              ซึ่งหากคุณพ่อคุณแม่บ้านไหนกำลังมองหาไอเดีย ชื่ออิสลาม หรือ ชื่อมุสลิม ทีมแม่ ABK ได้รวบรวม ชื่ออิสลาม ทั้งลูกสาว ลูกชาย แบบเพราะๆ พร้อมความหมายดีดี มาฝากค่ะ จะมีชื่ออะไรบ้าง ตามมาดูกันเลย

              ชื่อมุสลิม ชื่ออิสลาม สำหรับผู้หญิง ขึ้นต้นด้วย อะลีฟ أ เทียบกับ “อ”

              1. อะบาบะฮฺ = อันเป็นที่รัก, สุดปรารถนา
              2. อะบะดียะฮฺ = ที่มีชีวิตมันคง-สถาพร, ยาวนาน
              3. อาบิดะฮฺ = ที่มีอายุยืนยาว
              4. อับยาน = ที่ผ่องใส, ที่แจ่มจำรัส, ผ่องศรี
              5. อาตูน = ผู้ให้การศึกษา, นักการศึกษา, พิชญา
              6. อะดะบียะฮฺ = ที่มีมารยาทงาม, วางตัวดี, จรรยา
              7. อะดีบะฮฺ = ที่มีมารยาทสูง, สงบเสงี่ยม, นักวรรณกรรม
              8. อารอ = การตกแต่ง, การประดับ (อลังการ)
              9. อะฟีเกาะฮฺ = ที่มีภูมิปัญญาสูง, มีความกรุณา
              10. อัฟรูซ = ทอแสง, ประกายแสง, เฉิดฉาย
              11. อะหฺลาม = ช่างคิด, มีความประณีต, ช่างคิดช่างฝัน
              12. อัฟซา = เพิ่มพูน
              13. อัยมาน = มีสิริมงคล, มีชีวิตที่เป็นสุข
              14. อัยมุนี = ที่เป็นสิริมงคลของฉัน
              15. อาฟรีดะห์ = ได้รับการสร้างสรรค์
              16. อะกาลิลี = มงกุฎของฉัน
              17. อะกีดะฮฺ = ที่แข็งแรง มั่นคง, แน่นอน
              18. อาลาอฺ = นิอฺมัตอันหลากหลาย
              19. อะลีฟะฮฺ = คุ้นเคย, สนิทสนม, อ่อนโยน
              20. อัลมาส = เพชร, เพชรา, เพชรี
              21. อัลวานี = สีสันที่สวยงามยิ่ง, ประภัสสร
              22. อามาล = อันเป็นที่หวัง, อันเป็นที่ปรารถนา
              23. อามาลีนา = มีอายุยืน, ได้รับนิอฺมัตมาก
              24. อะมานะฮฺ = เชื่อถือได้, ไว้วางใจได้
              25. อะมานี = ผู้ให้ความสงบใจ สบายใจแก่ฉัน,ความหวัง
              26. อะมานีนา = ผู้เป็นที่หวังของเรา
              27. อะมาเราะฮฺ = สัญลักษณ์, ที่ระลึก
              28. อามินะฮฺ = ชื่อมารดาท่านนบีมูฮัมมัด ศ็อลฯ
              29. อะมีนะฮฺ = ที่ชื่อตรง, ที่วางใจได้
              30. อะมีเราะฮฺ = ผู้นำ, หัวหน้า
              31. อัมนะฮฺ = ที่มีความปลอดภัย, สงบ สันติ
              32. อัมนี = ความดี-ความปลอดภัยของฉัน
              33. อัมนานี = ความสุขสงบของฉัน
              34. อะนาเกาะฮฺ = ที่ประณีต, ละเอียดอ่อน
              35. อะนาตี = ความสุภาพ-อ่อนน้อมของฉัน
              36. อะนียะฮฺ = ที่สุภาพและอดทน
              37. อะนีเกาะฮฺ = สวยงาม, ประณีต
              38. อะนีสะฮฺ = ดรุณี, สาวรุ่น
              39. อะรีนะฮฺ = ที่ปราดเปรียว, ว่องไว
              40. อาซิยะฮฺ = ชื่อภริยากษัตริย์ฟาโรห์, ยาบํารุงหัวใจ,ยาใจ
              41. อะซียะฮฺ = ผู้รักษาจิตใจ, ผู้ปลอบใจ, ยาใจ
              42. อะศีละฮฺ = มีสกุลสูง, เชื้อสายที่ดี
              43. อัสมาอฺ = นาม, ชื่อ
              44. อะษีเราะฮฺ – ผู้ที่มีความสำคัญ, มีเกียรติ
              45. เอาดาดี = ที่รักของฉัน, ที่ห่วงใยของห่วงใยของฉัน, กานดา
              46. เอาญี = สุดปรารถนาของฉัน
              47. เอานี = ที่ฉันรักและปรานี
              48. อัชรี = พลังของฉัน, ผู้ปกป้องฉัน
              49. อัซยาน = เครื่องประดับ, อัญมณี
              50. อุลฟะฮฺ = ที่คุ้นเคย, ที่วางใจได้
              51. อุรฺมะฮฺ = ธง, เครื่องหมาย
              52. อุมมุ กุลษูม = ชื่อบุตรหญิงของท่านนบี ศ็อลฯ
              53. อิบติซาม = ยิ้ม
              54. อิบติฮาจญ์ = ความปิติยินดี
              55. อิร็อม = ชื่อเมือง, ชื่อเผ่า
              56. อิลฮาม = การดลใจ, แรงบันดาลใจ

              เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

               

              ชื่ออิสลาม ชื่อมุสลิม สำหรับผู้ชาย อะลีฟ أ เทียบกับ “อ”  

              1. อะอฺลาม = ธง (ธวัช)
              2. อะบะดี = คงทน-ยืนยง (ถาวร)
              3. อาบิด = ยังคงอยู่ , อยู่อย่างแน่นอน (ดำรง)
              4. อับฮัรฺ = สดใส-แวววาว (ผุดผ่อง)
              5. อบุซะมะห์ =ผู้ให้อภัย
              6. อะดะบี = นามธรรม, มีมารยาท (จรรยา)
              7. อาดัม = ชื่อของท่านนบีอาดัม , มนุษย์
              8. อัดฮัม = ดำขำ, สวยประทับใจ (นิลกาฬ)
              9. อัดวาอฺ = สว่าง – เจิดจ้า , มีรัศมี (จำรัส)
              10. อาดีบ =มีมารยาทสูง, สุภาพ
              11. อัฟดอล= การทำให้ดีขึ้นกว่าเดิม, ความสวยงาม (วิจิตร)
              12. อัฟฎ็อล = ประเสริฐ, ดีเยี่ยม
              13. อัฟฮัม = ปัญยาดี, เข้าใจ
              14. อาฟตาบ = ดวงอาทิตย์ (ทินกร,ระวี,สุริยัน)
              15. อะอฺซ็อม = ยิ่งใหญ่
              16. อะอฺวาน= ผู้ช่วยเหลือ (เกื้อกูล)
              17. อะฟันดี้ = มีบรรดาศักดิ์สูง-ตำแหน่งที่มีเกียรติ เกรียงศักดิ์
              18. อะฟีก = มีใจกรุณา-เผื่อแผ่
              19. อัฟนาน = วิจิตร, งดงาม, ประณีตศิลป์, กิ่งไม้ที่ตรง
              20. อัฟสัร =สิ่งที่ดีกว่า,ภาวะที่ดีขึ้น, อธิบาย,พนักงาน
              21. อัฆลับ = ผู้ชนะ-ผู้พิชิต (มีชัย)
              22. อิหฺติชาม = ความผึ่งผาย, ความสง่างาม, ความเด็ดขาด
              23. อะหฺลาม = สุภาพ, อดทน, ความฝัน
              24. อาฆอ = เจ้านาย
              25. อะหฺลามี = ความสุภาพของฉัน, ขันติของฉัน
              26. อะหฺมัด = ผู้น่ายกย่อง, ผู้น่าสรรเสริญ
              27. อะหฺมัส = มีชีวิตจิตใจกล้าหาญ, ผู้เคร่งครัด (ชาญชัย)
              28. อะหฺนัฟ= สำรวม,-ซื่อสัตย์, มั่นคงยิ่ง
              29. อัคตัรฺ = ดวงดาว, โชคดี (ดารา)
              30. อัยมาน= ผู้โชคดี , ด้านขวามือ
              31. อัยสัรฺ = สะดวก-ง่ายดาย , ด้านซ้ายมือ
              32. อัจญมัล = สวยงาม, สมบูรณ์ยิ่ง
              33. อัจญวัด = ดีมาก, ใจบุญยิ่ง
              34. อะกาลีล = มงกุฎ, สายสร้อย
              35. อะกีด = แข็งแรง-มั่นคง –แน่นอน
              36. อักบัร = ยิ่งใหญ่
              37. อักมัล = สมบูรณ์ยิ่ง
              38. อักร็อม = มีเกียรติยิ่ง , กรุณายิ่ง
              39. อากอฺ = นาย, ผู้เป็นเจ้านาย
              40. อักฮะรี = แข็งแรง-มั่นคงยิ่ง
              41. อักเราะบีน = ญาติสนิท , มิตรคู่ใจ
              42. อักวา = แข็งแรงกว่า, มั่นคงกว่า
              43. อาลาอฺ = นิอฺมัต – ความโปรดปรานจากอัลลอฮฺ
              44. อะลีฟ = คนสนิท, คุ้นเคย
              45. อัลตะมิช = กองหน้า, แนวหน้า, ผู้บังคับบัญชา
              46. อัล-มะอฺ = แวววาว, ทอแสงเป็นประกาย
              47. อัลวาน = มีสีหลากหลาย
              48. อะมานัต = ความปลอดภัย
              49. อะมัด = ยุค-สมัย, เป้าหมาย,-ความหวัง
              50. อะมะดี = เป้าหมายของฉัน, ความหวังของฉัน
              51. อะมาล = ความหวัง , จุดประสงค์
              52. อะมะลุดดีน = เป้าหมายแห่งศาสนา
              53. อะมาลี = เป้าหมาย-จุดประสงค์ของฉัน
              54. อะมาน = สงบ-ร่มเย็น, ปลอดภัย,สันติ
              55. อะมัรฺ = คำสั่ง-ประกาศิต
              56. อะมีน = ผู้ที่เชื่อถือได้, ที่ซื่อสัตย์
              57. อะมีนุดดีน = ผู้ซื่อสัตย์ในศาสนา
              58. อะมีรฺ = ผู้นำ, หัวหน้า
              59. อัมญาด = ผู้สูงศักดิ์, ผู้มีอำนาจ
              60. อัมนาน = ผู้ปลอดภัย-ผู้เป็นสุข
              61. อะมะนี = ความสงบสุขของฉัน
              62. อัมชัรฺ = ผู้คล่องแคล่ว-ปราดเปรียว
              63. อัมซัรฺ = บุคคลสำคัญ-มีเกียรติ
              64. อะนัส = ผู้คุ้นเคย-สนิทสนม, เพื่อนสนิท
              65. อะนาต = สุภาพ-อ่อนโยน
              66. อะนากี = คนโปรดของฉัน
              67. อันญุม = หมู่ดาว
              68. อันฎ็อรฺ = ผู้สดใส, ผู้เบิกบาน
              69. อะนี = ผู้อดทน, สุภาพเรียบร้อย
              70. อะนีก = ผู้มีความละเอียดลออ, โอ่อ่า , วิจิตร
              71. อะนีส = มิตรสหาย, เพื่อนสนิท
              72. อันศอรฺ = ผู้ให้การอนุเคราะห์ – ช่วยเหลือ
              73. อันศอรี = แห่งชาวอันศอรุ (ชาวเมืองมะดีนะฮฺ)
              74. อันวัรุ = ทอรัศมี, ส่งแสงจ้า, ประกายแสง
              75. อันวารี = รัศมีของฉัน
              76. อะรอมี = สัญลักษณ์
              77. อัรฺฮัม = ผู้เมตตายิ่ง-สงสารยิ่ง
              78. อะรีบ = ผู้ชํานาญ, เก่งกาจ
              79. อะรีนา = ผู้มีพลัง-แข็งแรง
              80. อัรฺก็อม = ปากกา, ชื่อเศาะฮาบะฮฺคนหนึ่ง
              81. อะรูม = เชื้อสาย, เผ่าพันธุ์
              82. อะรูมี = เชื้อสายของฉัน
              83. อัรฺซัด = ผู้ชี้นํา, ผู้ชาญฉลาด
              84. อัสอัด = ผู้มีความสุขยิ่ง, โชคดียิ่ง
              85. อะสัด = สิงโต, ราชสีห์, เกสรี
              86. อาศ็อฟฺ = ชัดเจน, เรียงเป็นแถว
              87. อัศฆ็อร = เล็กกว่า, เด็กกว่า
              88. อะศีล = รากฐาน, ของแท้, ความมีเกียรติ
              89. อัศละหฺ = ฟื้นฟู, พัฒนา
              90. อัสลัม = ผู้นอบน้อม, ผู้ได้รับความปลอดภัย
              91. อัศมะอี = ใจที่บริสุทธิ์, ใจมั่น
              92. อัศมะอาน = ใจที่บริสุทธิ์ – หลักการมั่นคง
              93. อัสสลาม = ผู้ได้รับความปลอดภัย, ผู้ที่เป็นอิสระ
              94. อัสมัรฺภ = เพื่อนคุยยามค่ำคืน, ผิวคล้ำ
              95. อัฏฮัร = มีศรัทธามาก, บริสุทธิ์, ขาวสะอาด
              96. อัสนา = ที่สูงส่ง
              97. อัสนะวี = ที่สนุกสนาน-รื่นเริง, ที่สูงส่ง
              98. อัสอัด = ความสุข, โชคดี
              99. อัชอะรี = ที่มีผมยาวดกดำ, มีผมสวยงาม
              100. อัชรอฟ = ที่มีเกียรติยิ่ง, ทรงเกียรติ
              101. อัฏฮะรี = สะอาด, บริสุทธิ์
              102. อัซฟิรฺ = ได้รับชัยชนะอันยิ่งใหญ่
              103. อะษีรฺ = มีความสำคัญ, เป็นที่รักใคร่
              104. อะวัด = ที่รัก, ที่ห่วงใย
              105. เอาฟา = ที่สมบูรณ์, ที่ซื่อสัตย์
              106. เอาวาบ = ที่สำนึกผิด, กลับเนื้อกลับตัว
              107. เอาญี = เกียรติของฉัน, ศักดิ์ศรีของฉัน
              108. เอานี = จุดหมายของฉัน, ความสุภาพของฉัน
              109. อะยาดี = นิอฺมัต ความโปรดปรานจากอัลลอฮฺ
              110. เอาสฺ = ชื่อตระกูลอาหรับเผ่าหนึ่ง, คมกริบ
              111. อะวัยสฺ = สุนัขป่าตัวน้อย ๆ
              112. อะยา = รัศมีแห่งดวงอาทิตย์
              1. อัยยูบ = ชื่อของนบีท่านหนึ่ง อะลัยฮิสลาม
              2. อัซฟัรฺ = ได้รับความสำเร็จ-ได้รับชัยชนะ
              3. อัซฮัรฺ = สดใส-เรืองรอง-เบิกบาน
              4. อัซฮะรี = ที่สดใส, ที่เบิกบาน
              5. อัชรี = พลังของฉัน, ความสามารถของฉัน
              6. อิบรอฮีม = ชื่อนบีท่านหนึ่ง อะลัยฮิสลาม
              7. อิบติซาม = ความยิ้มแย้ม
              8. อิดรอกี = ความเข้าใจของฉัน, การรู้ของฉัน
              9. อิดรีส = ชื่อนบีท่านหนึ่ง อะลัยฮิสลาม
              10. อิหฺซาน = ความดีงาม
              11. อิหฺติชาม = ความผึ่งผาย, ความสง่างาม
              12. อิจญลาล = ความยิ่งใหญ่, ทรงพลัง, ผู้ให้
              13. อิควาน = มิตรสหาย
              14. อิคลาส = ความเปิดเผย, ความบริสุทธิ์ใจ
              15. อิคติยารุดดีน = การเลือกเฟ้นศาสนามาอย่างดีที่สุด
              16. อิลมาม = วิทยาการ, การตักตวงความรู้
              17. อิลยาส = ชื่อของนบีท่านหนึ่ง อะลัยฮิสลาม
              18. อิลยะซะอฺ = ชื่อของนบีท่านหนึ่ง อะลัยฮิสลาม
              19. อิมติยาซ = สิทธิพิเศษ, เอกสิทธิ์, ลักษณะพิเศษ,อภิสิทธิ์
              20. อิคติยารี = การเลือกเฟ้นของฉัน, ความสมัครใจ
              21. อิอฺติมาด = ความเชื่อ, การพึ่งพิง, ความไว้วางใจ
              22. อิอฺญาซ = ความอัศจรรย์
              23. อิกบาล = การต้อนรับ, ผู้ให้ความรัก
              24. อิรฺชาด = การชี้นำ
              25. อิกติดารฺ = พลังความสามารถ
              26. อิกรอม = ความเคารพนับถือ, การให้เกียรติ
              27. อิรฺชาดุดดีน = ศาสนาแห่งการชี้นำ, การชี้นำในศาสนา
              28. อิสฮาก = ชื่อของท่านนบีท่านหนึ่ง อะลัยฮิสลาม
              29. อิสรอรฺ = ความลับ, เรื่องส่วนตัว
              30. อิสกันดะรี = ชื่อกษัตริย์สมัยโบราณ, แห่งเมืองอะเล็กซานเดรีย
              31. อิสลาม = สันติสุข, ความสุขสงบ
              32. อิสมาอีล – ชื่อของท่านนบีท่านหนึ่ง อะลัยฮิสลาม
              33. อิชาติยาก = ความปรารถนา
              34. อิยาด = ผู้ช่วยเหลือ-ให้การสนับสนุน
              35. อิชฟาค = ความเห็นอกเห็นใจ, ความเมตตา
              36. อิยาส = ผู้ให้อุปการะ
              37. อินชิรอหฺ = ให้มีความสบายใจ, ให้คลายความคับใจ
              38. อินอาม = นิอฺมัต, ความโปรดปรานจากอัลลอฮฺ
              39. อินอามุลลอฮฺ = นิอฺมัตแห่งพระองค์อัลลอฮฺ
              40. อิซดิยารฺ = ความเพิ่มพูน
              41. อิซดิฮารฺ = ความรุ่งโรจน์, ความก้าวหน้า
              42. อิซอาน = ความซื่อสัตย์, การยอมรับ
              43. อุวัยสฺ = ผู้ให้, ผู้มอบ
              44. อุซามะฮฺ = ผู้กล้าหาญ, สิงโต
              45. อุสัยดฺ = ผู้กล้าหาญ, สิงโตน้อย
              46. อุมัยยะฮฺ = ชื่อเศาะฮาบะฮฺ คนหนึ่ง
              47. อิลฮาม = สื่อดลใจจากองค์อัลลอฮฺ
              48. อิจญาลาลี = ความสูงส่งของฉัน
              49. อิกลีล = บัรฺกัต-ความเป็นสิริมงคล, สร้อยคอ,มงกุฎ
              50. อีมาน = ความศรัทธา-เชื่อมั่น
              51. อิมบิซาฏ = สนุกสนาน-ยิ้มแย้ม
              52. อินศอฟ = การให้ความยุติธรรม, การสำนึก
              53. อิสติกอมะฮฺ = ความเที่ยงธรรม
              54. อิฏมิอฺนาน = ความสงบสุขในหัวใจ
              55. อิซฮารฺ = กระจ่างชัด, ความชัดแจ้ง
              56. อิตกอน = ความประณีต, ละเอียดถี่ถ้วน
              57. อิซยาน = สวยงาม, ที่ตกแต่งสวยงาม, มัณฑนา
              58. อัลวานี = สีสันที่สวยงามยิ่ง, ประภัสสร
              59. อามาล = อันเป็นที่หวัง, อันเป็นที่ปรารถนา
              60. อามาลีนา = มีอายุยืน, ได้รับนิอฺมัตมาก
              61. อะมานะฮฺ = เชื่อถือได้, ไว้วางใจได้
              62. อะมานี = ผู้ให้ความสงบใจ สบายใจแก่ฉัน,ความหวัง
              63. อะมานีนา = ผู้เป็นที่หวังของเรา
              64. อะมาเราะฮฺ = สัญลักษณ์, ที่ระลึก
              65. อามินะฮฺ = ชื่อมารดาท่านนบีมูฮัมมัด ศ็อลฯ
              66. อะมีนะฮฺ = ที่ชื่อตรง, ที่วางใจได้
              67. อะมีเราะฮฺ = ผู้นำ, หัวหน้า
              68. อัมนะฮฺ = ที่มีความปลอดภัย, สงบ สันติ
              69. อัมนี = ความดี-ความปลอดภัยของฉัน
              70. อัมนานี = ความสุขสงบของฉัน
              71. อะนาเกาะฮฺ = ที่ประณีต, ละเอียดอ่อน
              72. อะนาตี = ความสุภาพ-อ่อนน้อมของฉัน
              73. อะนียะฮฺ = ที่สุภาพและอดทน
              74. อะนีเกาะฮฺ = สวยงาม, ประณีต
              75. อะนีสะฮฺ = ดรุณี, สาวรุ่น
              76. อะรีนะฮฺ = ที่ปราดเปรียว, ว่องไว
              77. อาซิยะฮฺ = ชื่อภริยากษัตริย์ฟาโรห์, ยาบํารุงหัวใจ,ยาใจ
              78. อะซียะฮฺ = ผู้รักษาจิตใจ, ผู้ปลอบใจ, ยาใจ
              79. อะศีละฮฺ = มีสกุลสูง, เชื้อสายที่ดี
              80. อะษีเราะฮฺ – ผู้ที่มีความสำคัญ, มีเกียรติ
              81. เอาดาดี = ที่รักของฉัน, ที่ห่วงใยของห่วงใยของฉัน, กานดา
              82. เอาญี = สุดปรารถนาของฉัน
              83. เอานี = ที่ฉันรักและปรานี
              84. อัชรี = พลังของฉัน, ผู้ปกป้องฉัน
              85. อัซยาน = เครื่องประดับ, อัญมณี
              86. อุลฟะฮฺ = ที่คุ้นเคย, ที่วางใจได้
              87. อุรฺมะฮฺ = ธง, เครื่องหมาย
              88. อุมมุ กุลษูม = ชื่อบุตรหญิงของท่านนบี ศ็อลฯ
              89. อิบติซาม = ยิ้ม
              90. อิบติฮาจญ์ = ความปิติยินดี
              91. อิร็อม = ชื่อเมือง, ชื่อเผ่า
              92. อิลฮาม = การดลใจ, แรงบันดาลใจ

              ชื่ออิสลาม

              ชื่อมุสลิม ชื่ออิสลาม ชื่ออาหรับ สำหรับผู้ชาย ขึ้นต้นด้วย บาอฺ ﺏ เทียบกับ “บ”

              1. บาบัรฺ = สิงโต,เจ้าป่า
              2. บากิรฺ = เรียนรู้อย่างลึกซึ้ง
              3. บะดีล = สิ่งชดเชย, สิ่งทดแทน, ค่าทำขวัญ
              4. บะดีอุซซะมาน = เวลาอันมีค่ายิ่ง, ยุคแห่งการประดิษฐ์
              5. บัดรอน = จันทร์เพ็ญ, จันทร์เต็มดวง, ศศิธร
              6. บัดรุดดีน = จันทร์เพ็ญแห่งศาสนา
              7. บะชาดุรฺ = กล้าหาญ
              8. บะฮารฺ = ความสวยงาม, ต้นไม้ชนิดหนึ่งมีกลิ่นหอม
              9. บัฮฺรอม = ดาวอังคาร
              10. บะฮาอุดดีน = รัศมีแห่งศาสนา
              11. บะฮีจญฺ = ผู้มีเสน่ห์, มีความดีงาม
              12. บะฮีรฺ = ที่สดใส, มีสง่า, เรืองรอง
              13. บะฮียุดดีน = ศาสนาที่สดใสเรืองรอง
              14. บะฮฺญาน = สนุกสนาน, รื่นเริง, สดใส, ดีงาม
              15. บะฮฺญะฮฺ = รวดเร็ว , เรืองรอง, มีคุณค่ายิ่ง
              16. บะฮฺรอนี = ความก้าวหน้าของฉัน, ความประเสริฐ
              17. บะฮฺรุดดีน = ความรุ่งเรืองแห่งศาสนา
              18. บะฮฺซี = ขันติธรรมของฉัน
              19. บะฮฺลูล = ผู้นำเผ่า, ผู้นำทางความดี
              20. บัยฎอวี = ชื่อตระกูล, ความขาวสะอาด
              21. บักรฺ = อูฐหนุ่ม, อูฐรุ่นกระทง
              22. บักรี = ความหนุ่มของฉัน, เยาวชนของฉัน
              23. บัคตาวัรฺ = โชคดี
              24. บะคีต = โชคดี
              25. บัคติยารฺ = โชคดี
              26. บะลีฆ = ที่พูดคล่องแคล่ว , หลักแหลม
              27. บัลลาน = ริซกี, คุณความดี
              28. บะนีน = ลูกหลาน-เชื้อสาย,มั่นคง, เปรืองปราด
              29. บะรีก = มีรัศมี, ทอแสงจ้า, ฟ้าแลบ
              30. บัรฺรออฺ = ผู้สำรวมตน, ชื่อเศาะฮาบะฮฺท่านหนึ่ง
              31. บัรฺซะฮฺ = แปลงกาย, ชื่อเศาะฮาบะฮฺท่านหนึ่ง
              32. บัรฺซูน = ผู้กล้าหาญ , คนสำคัญ, อาจหาญ
              33. บัรกฺ = ทำให้สว่าง
              34. บาซิล = ผู้กล้าหาญ ,องอาจ
              35. บะศีรฺ = ผู้คงแก่เรียน-มีโลกทรรศน์กว้างขวาง
              36. บะเราะกัต = ความจำเริญ
              37. บาริอฺ = มีวัยวุฒิสูง, คงแก่เรียน
              38. บัศรี = การพิจารณาของฉัน, ความเห็นของฉันแห่งบัศเราะฮฺ
              39. บัซฏี = การเผื่อแผ่-เบิกบานใจของฉัน
              40. บัซซามี = ชื่อตระกูล, ผู้ยิ้มแย้ม
              41. บัชชารฺ = ผู้นำข่าวดี, ผู้แจ้งข่าวดี
              42. บะชาร็อต = ลางดี, นิมิตที่ดี
              43. บะชีรฺ = ผู้บอกข่าวดี,ประกาศ
              44. เบานาน = ความพิเศษสุด
              45. เบานี = ความประเสริฐของฉัน
              46. บาซิล = ผู้ชำนาญ , ผู้เก่งกล้า, เด็ดขาด
              47. บัซลี = ความชำนาญของฉัน
              48. บาซิลีน = ผู้ให้ความช่วยเหลือขจัดความเดือดร้อน
              49. บิลาล = ความชุ่มชื่น, ชื่อมุอัซซินคนแรกในอิสลาม
              50. บะลีฆ = พูดคล่อง, มีคารมคมคาย, ซึ่งโน้มน้าวจิตใจ
              51. บิชรูน = ข่าวดี
              52. บิชาเราะฮฺ = ข่าวดี
              53. บุรฺฮานี = พยานของฉัน
              54. บุรฺฮานุดดีน = หลักฐานแห่งศาสนา
              55. บุสร็อยนฺ = สุขภาพดี,อนามัยดี
              56. บุสตานี = สวนของฉัน, ชาวสวน, อุทยาน
              57. บะญิล = รื่นเริง, สุขใจ, นอบน้อม, มีเกียรติ
              58. บะญีล = ที่มีเกียรติ, น่าสรรเสริญ

              ชื่ออิสลาม

              ชื่อมุสลิม ชื่ออิสลาม ชื่ออาหรับ สำหรับผู้ชาย ขึ้นต้นด้วย ตาอฺ ت เทียบกับ “ต”

              1. ตาบิส = ความอบอุ่น, ความโชติช่วง
              2. ตะบะนี = ความเปรื่องปราด-เชาวน์ไวของฉัน
              3. ตะบิน = ความฉลาดเฉลียว, เชาวน์ไว
              4. ตัยมียะฮฺ = ชื่อตระกูลของอุละมาอฺ ผู้มีชื่อเสียงคนหนึ่ง
              5. ตะบาร็อก = ได้รับความจำเริญ
              6. ตะบัสสุม ยิ้ม, ความสุข
              7. ตาญุดดีน = มงกุฎแห่งศาสนา
              8. ตาญุซซะมาน = มงกุฎแห่งเวลา
              9. ตาจญ์วัรฺ = ราชา
              10. ตะมาม = ความสมบูรณ์, ความเพียบพร้อม
              11. ตะญัมมุล = ความสวยงาม
              12. ตะมีม = ความเป็นมาที่สมบูรณ์, ชื่อตระกูล
              13. ตะมีมี = ความเป็นมาที่สมบูรณ์ของฉัน
              14. ตะมามุลเกาะมัรฺ = จันทร์เต็มดวง, จันทร์เพ็ญ,ศศิธร
              15. ตัมรัน = การฝึกฝน-ฝึกหัด
              16. ตะกียุดดีน = ผู้ปกครองศาสนา, ผู้มีความยำเกรงในศาสนา
              17. ตัสนีม = สายน้ำทิพย์ในสวนสวรรค์ ซึ่งไหลไม่ขาดสาย, น้ำพุสวรรค์
              18. ตะศ็อดดุก = การบริจาค
              19. ตะเศาวุร = จินตนาการ,ความรู้สึกนึกคิด
              20. เตาฟีก = การชี้นำสู่ความถูกต้อง,ความสำเร็จ
              21. เตากีรฺ = เกียรติศักดิ์, ความเคารพนับถือ
              22. ตะวาฎุอฺ = ความนอบน้อมถ่อมตน
              23. ติรฺมิซี = ชื่อนักรายงานหะดีษคนหนึ่ง, ชื่อเชื้อสาย
              24. ติฟตาซานี = ชื่อเชื้อสาย-ตระกูล
              25. ตะฟัฎฎ็อล = การสงเคราะห์, ความนิยมชมชอบ,ความประเสริฐ
              26. ติฮามี = ชื่อเชื้อสาย-ตระกูล
              27. ตักกีย์ = ความตักวา, ความยำเกรงต่ออัลลอฮฺ
              28. ติบยาน = ให้คำอธิบาย, ให้ความเข้าใจ
              29. ติลิมซานี = ชื่อเชื้อสาย-ตระกูล

              ชื่ออิสลาม

              ชื่อมุสลิม ชื่ออิสลาม ผู้หญิง ภาษาอังกฤษ

              1. Adab เป็นเด็กผู้หญิงที่สุภาพสุภาพ
              2. Aliya – ประเสริฐ;
              3. Amal – ความหวัง;
              4. Amani – ต้องการ;
              5. Amatulla – คนรับใช้ของพระเจ้า
              6. Amina – เชื่อถือได้;
              7. Anbar – มีกลิ่นหอม
              8. Asalah – ความบริสุทธิ์ความนับถือ;
              9. Assiya – ช่วยคนอ่อนแอและดูแลพวกเขา
              10. Azhar – กำลังเบ่งบาน;
              11. Aziza ที่รักล้ำค่า
              12. Azza นั้นงดงามมาก
              13. Badriya เป็นเหมือนดวงจันทร์
              14. Basma – ยิ้ม;
              15. Batul – บริสุทธิ์บริสุทธิ์บริสุทธิ์
              16. Busayna – คนที่มีร่างกายที่สวยงาม
              17. Fadua – เสียสละตัวเอง;
              18. Faiza – ชัยชนะที่มีชัยชนะ;
              19. Fauziya – โชคดีชนะ;
              20. Galia – ที่รัก;
              21. Haadiah – แสดงเส้นทางที่ชอบธรรม;
              22. Hanan – เมตตา;
              23. Hayriya ใจดีใจดี
              24. Ibtihaj – ความสุข;
              25. Ikram มีอัธยาศัยดี;
              26. Inam – ให้ศีลให้พร;
              27. Inaya – การดูแล;
              28. Intisar – ชัยชนะ;
              29. Izdihar – กำลังเบ่งบาน;
              30. Karima เป็นคนใจกว้าง
              31. Khayyam – นักรัก
              32. Lyamis – อ่อนนุ่ม
              33. Munira – เปล่งแสง;
              34. Nauval เป็นของขวัญ
              35. Nibaal – ผู้สูงศักดิ์;
              36. Rabia – ฤดูใบไม้ผลิ;
              37. Radua – ชื่อของภูเขาในเมืองเมดินา;
              38. Raida – ผู้นำ, ผู้นำ;
              39. Saalima แข็งแรง
              40. Samiya – ประเสริฐ;
              41. Zahira – ส่องสว่างเจิดจรัส;
              42. Zahra สดใส

               

              จาก ชื่ออิสลาม 333 ชื่อเพราะๆ พร้อมความหมายดีๆ ใครชอบชื่อไหนก็สามารถนำไปใช้เป็นไอเดียสำหรับ ตั้งชื่อลูกอิสลาม ชื่อมุสลิม กันได้นะคะ

               


              ขอบคุณข้อมูลจาก www.halalthailand.com  , จาหนังสือ คู่มือตั้งชื่อมุสลิม islamhouse.muslimthaipost.com

              th.public-welfare.com

               

              เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

               

              อ่านต่อบทความอื่นน่าสนใจ ⇓

              ไอเดียตั้งชื่อจริงลูกสาว 50 ชื่อที่แปลว่าเจ้าหญิง ครบทุกภาษา!!

              1,000+ ชื่อมงคลตามวันเกิด โปรแกรมตั้งชื่อมงคล รวมชื่อดีเสริมชีวิต

              ตั้งชื่อลูกแฝด ไอเดีย ตั้งชื่อลูกแฝดชายหญิง คล้องจองทั้งพี่น้อง

              ไอเดีย! ตั้งชื่อลูก ตามหนัง และการ์ตูนดังกว่า 50 ชื่อ

                ลูกหัวเล็ก หรือภาวะศีรษะเล็ก

                ลูกหัวเล็ก หรือภาวะศีรษะเล็ก ไม่ได้เกิดจากไวรัสซิก้าเพียงอย่างเดียว

                แม่สุดเศร้า! ลูกหัวเล็ก คลอดออกมามีภาวะศีรษะเล็ก ไม่ใช่แค่ไวรัสซิก้า ยังมีอีก 9 สาเหตุภาวะศีรษะเล็ก

                ลูกหัวเล็ก หรือภาวะศีรษะเล็ก

                คุณแม่ท่านหนึ่งได้บอกเล่าประสบการณ์มีภาวะศีรษะเล็ก ว่า ในปี 2561 แม่ตั้งครรภ์เป็นท้องแรก โดยฝากท้องที่โรงพยาบาลและฝากพิเศษ​ อัลตราซาวด์ลูกในท้องก็ปกติดี แต่พอคลอดออกมา ลูกศีรษะเล็กเพียง 29 เซนติเมตร น้ำหนัก 2,900 กรัม ตอนแรกหมอกระตุ้นให้ลูกร้อง แต่ลูกไม่ค่อยร้อง ลูกต้องอยู่ห้อง NICU ให้อาหารทางสายยางและให้ออกซิเจนตลอด​ แม่ต้องปั๊มนมไปส่งลูกทุกวัน จนลูกได้กลับมาบ้าน แต่ลูกกลับบ้านแค่ไม่นานก็ต้องกลับเข้าไปที่โรงพยาบาลอีกครั้ง

                ลูกคนแรก ตรวจพบเชื้อไวรัสซิก้า

                ที่กลับเข้าไปใหม่ เพราะลูกมีออกชิเจนในเลือดต่ำ ตัวเขียว​ ต่อมาหมอให้ย้ายไปตึกฉุกเฉิน เด็กกินไม่ได้ นอนไม่หลับ​ ทุกนาทีมีค่า​ ต้องเฝ้าลูกตลอดเวลา​ เพราะถ้าสายออกซิเจนหลุด​ ลูกจะเหนื่อย​ ตัวเขียว​ พร้อมที่จะไป​ ขณะที่อยู่โรงพยาบาล ก็มีเจ้าหน้าที่​มาสอบถามการติดเชื้อไวรัสซิก้าว่าเราติดได้อย่างไร​ ติดตอนไหน​ เพื่อเก็บข้อมูล​ แต่ก็ไม่รู้ว่าติดซิก้าได้อย่างไร​แทบจะไม่ได้ไปไหนเลย

                “เรายื้อชีวิตลูกไว้ 2 ครั้ง​ ทำใจไม่ได้ที่ลูกจะจากไป​ แต่ทรมานยิ่งกว่าคือต้องเห็นหมอปั๊มหัวใจลูก​แล้วตัวลูกกระเด้ง​ แทบขาดใจ​ ขอยอมแพ้​ ลูกคือความหวังของเราทั้งสอง ครั้งสุดท้ายลูกดูเหนื่อย​ ตัวเริ่มเขียว ​เพิ่มออกซิเจนก็ไม่ดีขึ้นเท่าไร​ เรากอดลูก​ ทำใจไม่ได้ ​คุยกับหมอแล้ว​ไม่อยากให้ลูกเจ็บ​ทรมาน​ ต้องปล่อยลูกไป​ แต่แฟนมาไม่​ทัน ​ใจมันสลายอยู่ตรงนั้น​”

                ลูกคนต่อมาศีรษะเล็ก ไม่ทราบสาเหตุ

                จนมาตั้งครรภ์ครั้งที่ 2 แม่ไปปรึกษา​โรงพยาบาลเพื่อวางแผนครอบครัว เว้นไป 1 ปี พร้อมกับดูแลตัวเอง กินโฟเลต จนพร้อมและมาฝากพิเศษ พร้อมนำประวัติและผลตรวจของลูกคนแรกให้คุณหมอ จากนั้นก็อัลตราซาวด์ตามนัด มีตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะ ตรวจโครโมโซม ตรวจทุกอย่างที่คุณหมอบอก แต่พอคลอดออกมา ลูกศีรษะ 32 เซนติเมตร น้ำหนัก 3,690 กรัม คุณหมอกระตุ้นให้ลูกร้อง แต่ลูกก็ไม่ค่อยร้อง จึงทำเรื่องส่งตัวไปอีกโรงพยาบาล

                ลูกหัวเล็ก หรือภาวะศีรษะเล็ก
                ลูกหัวเล็ก หรือภาวะศีรษะเล็ก

                เมื่อไปถึงอีกโรงพยาบาลก็ตรวจปัสสาวะ ตรวจเลือดของลูกเพื่อหาโรคต่าง ๆ ก็ปกติมี ทำ CT Scan ทำ MRT สมอง ก็ยังหาสาเหตุไม่ได้ ผลตรวจซิก้าก็ไม่พบเชื้อ หมอบอกว่าลูกอาจสมองฝ่อ​หรือสมองพิการ (กระโหลกส่วนหน้าเล็ก) ​แต่หมอสูติไม่พูดอะไร

                “ครอบครัวเรา บ้านอยู่ต่างจังหวัด​ ต้องพาลูกมาหาหมอที่อีกจังหวัดหนึ่งเดือนละ 2 ครั้ง บางครั้งก็นอน​โรงพยาบาล​หลายวัน​ แต่ละครั้งต้องพบหมอหลายคน​ อยากรู้สาเหตุต้องส่งเลือดไปตรวจที่​ กทม.​ ตอนนี้ลูก 6 เดือน​ ไม่มีพัฒนาการใด ๆ​ กระตุกบ่อย​ ตัวเกร็งตลอด​ ไม่ร้อง​ กินนมยาก ​สำลักง่ายมาก​ ๆ ป้อน​ 3 ออนซ์​ เกือบ 2 ชม. หมอบอกอาจต้องให้ทางสายยางหรือเจาะหน้าท้องตั้งแต่ตอน 2 เดือน​ แต่วิธีนี้มีโอกาสติดเชื้อสูง อาจจะอยู่ได้ไม่นาน แม่​​ทำใจไม่ได้ จึงพยายามประคับประคองป้อนนมขวดมาตลอด​ แต่ไม่รู้จะป้อนข้าวยังไง​ กลัวทุกอย่าง​ อยากพาลูกไป​โรงพยาบาลเด็กตั้งแต่เดือนตุลาคม​ แต่ RSV ระบาด​ ตอนนี้ก็มีโควิด-19​ แม่เหนื่อยและท้อมาก ๆ เห็นลูกเป็นแบบนี้​ แต่ต้องสู้” คุณแม่ทิ้งท้าย

                ทีมแม่ABK ขอส่งกำลังใจให้คุณแม่หาสาเหตุพบและสามารถรักษาน้องได้นะคะ

                ลูกหัวเล็ก หรือภาวะศีรษะเล็ก
                ภาวะศีรษะเล็ก

                สาเหตุลูกหัวเล็กเกิดจากอะไร

                ศ.เกียรติคุณ นพ.ประเสริฐ ทองเจริญ อธิบายว่า Microcephaly ไมโครเซฟาลี (ศีรษะเล็ก) คือ ความผิดปกติตั้งแต่แรกเกิด ของทารก ที่หมายถึงการที่ทารกมีศีรษะเล็กกว่าปกติ เมื่อเปรียบเทียบกับทารกคนอื่น ร่วมกับมีการเจริญเติบโตของสมองที่ช้า อาจเจริญเติบโตต่อไปเป็นเด็กที่มีความพิการ มีความผิดปกติต่าง ๆ โดยนักวิจัยได้ทำการศึกษาค้นคว้าวิจัยเพื่อหาศักยภาพของความเชื่อมโยงของผู้ป่วยที่มีภาวะไมโครเซฟาลี กับภาวะติดเชื้อไวรัสซิก้า และสาเหตุของไมโครเซฟาลียังมีเหตุอีกมากมาย ได้แก่

                1. ภาวะติดเชื้อของทารกในมดลูก ท็อกโซพลาสโมสิส (โรคขี้แมว อาจพบเชื้อปาราสิตก่อโรคขี้แมวในเนื้อสัตว์ที่ปรุงสุก ๆ ดิบ ๆ)
                2. โรคหัดเยอรมัน หรือรูเบลล่า
                3. ไวรัสเริม (ไวรัสเฮอร์ปีส)
                4. เชื้อซิฟิลิส
                5. ซัยโตเมกะโลไวรัส
                6. เอชไอวี
                7. การที่ได้สัมผัสกับสารพิษสารเคมี มารดาสัมผัสกับสารโลหะหนัก เช่น สารหนู และสารปรอท (อาร์เซนิค และเมอร์คิวรี)
                8. มารดาดื่มแอลกอฮอล์ระหว่างตั้งครรภ์ สูบบุหรี่ หรือใกล้กับรังสีต่าง ๆ
                9. ภาวะทางด้านพันธุกรรม การขาดสารอาหารอย่างรุนแรงขณะมีครรภ์อายุครรภ์น้อย

                อาการของเด็กหัวเล็ก

                ทารกที่เกิดมามีไมโครเซฟาลี อาจไม่แสดงอาการผิดปกติอะไรเลยในตอนแรกเกิด แต่จะมีอาการชักกระตุกเป็นการต่อเนื่อง มีอาการอัมพาตจากสมองผิดปกติ พบความผิดปกติในการเรียนรู้ หูหนวก และมีปัญหาเกี่ยวกับการมองเห็น บางรายเด็กที่มีภาวะไมโครเซฟาลี อาจจะเติบโตต่อไปได้ตามปกติ

                การรักษาเด็กที่มีภาวะศีรษะเล็ก

                ขณะนี้ยังไม่มีวิธีการรักษาโดยเฉพาะสำหรับทารกและเด็กที่หัวเล็ก จำเป็นต้องมีการประเมินและรักษาเด็กไมโครเซฟาลี ด้วยคณะแพทย์หลายสาขาวิชามาร่วมมือกันดูแลบริบาลตั้งแต่ระยะแรก

                ลูกหัวเล็ก หรือภาวะศีรษะเล็ก

                ไวรัสซิก้า ไวรัสอันตรายสำหรับแม่ท้อง

                อ.นพ.ดร.นพพร อภิวัฒนากุล ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ระบุว่า ไวรัสซิก้า มีพาหะนำโรคคล้ายไข้เลือดออกคือยุงลาย การติดเชื้อไวรัสซิก้าในหญิงตั้งครรภ์ อาจจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะผิดปกติอย่างรุนแรงของสมองและขนาดศีรษะของทารกในครรภ์ และยังมีรายงานว่าติดต่อจากแม่สู่ลูกได้ สมมติว่าแม่ติดเชื้อช่วงใกล้คลอด ลูกออกมาก็อาจติดเชื้อได้ ส่วนใหญ่จะมีอันตรายก็ต่อเมื่อแม่ติดเชื้อในช่วงสามเดือนแรกของการตั้งครรภ์ เพราะเด็กจะมีการพัฒนาของอวัยวะต่าง ๆ ดังนั้น ถ้ามีการติดเชื้อในช่วงนั้นก็จะทำให้เด็กที่คลอดออกมาเกิดอาการผิดปกติ

                อย่างไรก็ตาม กรณีพบเด็กที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสซิก้าซึ่งมีขนาดศีรษะเล็กผิดปกติ ในทางการแพทย์ การรักษาคงเป็นแบบประคับประคองหรือรักษาตามอาการ

                 

                วิธีป้องกันที่ดีที่สุด เมื่อคุณแม่ทราบว่าตั้งครรภ์ควรรีบไปฝากครรภ์ หมั่นกินยาและวิตามินที่คุณหมอสั่ง ตรวจครรภ์ทุกครั้งอย่าให้ขาด ฉีดวัคซีนสำคัญ ๆ ลดพฤติกรรมเสี่ยงทุกอย่าง และดูแลตัวเองให้ดีที่สุด พร้อมช่วยกันดูแลแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย โดยการทำความสะอาด การเทน้ำทิ้ง หรือครอบฝาภาชนะที่สามารถบรรจุ คนท้องควรใช้ยากันยุงที่ปลอดภัย สวมเสื้อแขนยาวและกางเกงขายาว ใส่เสื้อผ้าสีสว่าง ในบ้านควรติดมุ้งลวดที่ประตู หน้าต่าง เพื่อป้องกันอันตรายจากยุง ลดความเสี่ยงภาวะศีรษะเล็กที่อาจเกิดได้กับทารกในครรภ์

                อ้างอิงข้อมูล : rama.mahidol.ac.th, mgronline.com, และ sanook

                 

                เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                 

                อ่านบทความอื่นเพิ่มเติม

                คนท้องตรวจโควิดได้ไหม จำเป็นต้องตรวจไหม อาการแบบไหนไม่ควรปล่อยไว้

                ข้ามสามีให้แพ้ท้องแทน ความเชื่อโบราณให้คนท้องกลั้นหายใจข้ามตัวสามี

                ท้องไม่พร้อม ไม่สนุก!! รู้ยังวัยรุ่น ฝังยาคุม ฟรี

                  ทำใบขับขี่รถยนต์

                  ประกาศงด!!อบรม ทำใบขับขี่รถยนต์ ต่อ-ใหม่ทำไงเช็กดู

                  ใครต้องการ ทำใบขับขี่รถยนต์ ช่วงการแพร่ระบาดโควิด19 นี้เช็กให้ดี กรมขนส่งออกประกาศงดอบรมและทดสอบเริ่มต้นเดือนนี้ แนะวิธีต่อ-ทำใบอนุญาตใหม่ให้ทำตามขั้นตอนนี้

                  ประกาศงด!! อบรม ทำใบขับขี่รถยนต์ ต่อ-ใหม่ต้องทำไงเช็กดู

                  จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทำให้ต้องมีมาตราการป้องกัน และควบคุมการแพร่ระบาด งดเว้นกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มกัน ดังนั้นกรมการขนส่งทางบกจึงได้ออกประกาศ งดการอบรม และทดสอบเพื่อขอรับใบอนุญาตขับรถและผู้ประจำรถรายใหม่ ณ สำนักงานขนส่งทุกแห่ง 

                  นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า จากการพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในประเทศไทยระลอกใหม่ ซึ่งมีการแพร่ระบาดเป็นวงกว้างเกิดขึ้นในหลายจังหวัดของประเทศไทย เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) กรมการขนส่งทางบก จึงงดการให้บริการด้านใบอนุญาตขับรถเฉพาะบางกิจกรรมที่ต้องเข้ารับการอบรมและทดสอบ ณ สำนักงานขนส่ง ตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม 2564 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง ดังนี้

                  • งดการอบรมและทดสอบสำหรับการขอรับใบอนุญาตขับรถ บัตรประจำตัวคนขับรถ และใบอนุญาตเป็นผู้ประจำรถใหม่ทุกชนิด
                  • งดการอบรมสำหรับการขอต่ออายุใบอนุญาตขับรถ บัตรประจำตัวคนขับรถ และใบอนุญาตเป็นผู้ประจำรถทุกชนิด
                  • งดการออกหน่วยเคลื่อนที่ด้านทะเบียนและภาษีรถ และด้านใบอนุญาตขับรถ ณ หน่วยบริการเคลื่อนที่รับชำระภาษีรถประจำปีที่ห้างสรรพสินค้าหรือแหล่งชุมชน (Shop Thru for Tax) และศูนย์บริการร่วม
                  • งดการดำเนินการของโรงเรียนสอนขับรถที่ได้รับการรับรองจากกรมการขนส่งทางบก ในเขตกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม 2564 ถึงวันที่ 17 มกราคม 2564 สำหรับโรงเรียนสอนขับรถที่ได้รับการรับรองจากกรมการขนส่งทางบกในเขตจังหวัดอื่นให้เป็นไปตามประกาศจังหวัดหรือประกาศคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด

                    งดอบรม ทำใบขับขีรถยนต์ ช่วงโควิด19
                    งดอบรม ทำใบขับขีรถยนต์ ช่วงโควิด19

                  ซึ่งการงดการอบรม และทดสอบเพื่อขอใบอนุญาตขับรถนั้น ทำให้ผู้ที่ต้องการขอรับใบขับขี่รถยนต์ใหม่ และผู้ที่ต้องต่อใบอนุญาตเมื่อครบกำหนด ไม่สามารถขอรับบริการได้ที่สำนักงานขนส่งในช่วงเวลานี้ เพราะการอบรมนั้นเป็นส่วนหนึ่งของขั้นตอนการ ทำใบขับขี่รถยนต์

                  ขั้นตอนการทำใบขับขี่รถยนต์ และรถจักรยานยนต์

                  1.จองคิวอบรม โดยกรอกข้อมูลส่วนตัวให้ครบ ซึ่งสามารถจองได้ 3 ทาง ได้แก่ จองออนไลน์ จองคิวทางโทรศัพท์ อบรมกับทางเอกชน

                  2.เตรียมเอกสารให้พร้อมเมื่อถึงคิววันที่จอง ซึ่งเอกสารที่จะต้องเตรียมมี ดังนี้

                  • ใบปรินท์เอกสารการจองอบรม
                  • บัตรประชาชนตัวจริง (ผู้ขอใบขับขี่ใหม่)
                  • ใบรับรองแพทย์ มีอายุไม่เกิน 1 เดือน (ผู้ขอใบขับขี่ใหม่)
                  • ทะเบียนบ้าน (ผู้ขอใบขับขี่ใหม่)
                  • ใบขับขี่ใบเดิมที่หมดอายุ 

                  3.เดินทาง ควรไปก่อน 7:30 น. เนื่องจากจะต้องยื่นเอกสารช่วง 8:00 น.
                  4. ทดสอบสมรรถภาพร่างกายในช่วงเช้า จะมีทั้งหมด 4 แบบทดสอบ

                  • ทดสอบสายตาบอดสี
                  • ทดสอบสายตาทางลึก
                  • ทดสอบสายตาทางกว้าง
                  • ทดสอบปฏิกิริยาทางเท้า

                    ทดสอบป้ายจราจร ขั้นตอนในการ ทำใบขับขี่รถยนต์
                    ทดสอบป้ายจราจร ขั้นตอนในการ ทำใบขับขี่รถยนต์

                  5. อบรมกับทางกรมขนส่งทางบกอย่างน้อย 5 ชั่วโมง ซึ่งการอบรมจะแบ่งออกเป็น 2 ภาคคือ ภาคเช้า เริ่ม 9.30 – 12.00 น. และภาคบ่ายคือ 13.00 – 15.30 น.
                  6. สอบภาคทฤษฎี (ผู้ขอใบขับขี่ใหม่) จะต้องทำข้อสอบทั้งหมด 50 ข้อ โดยจะต้องทำถูก 45 ข้อขึ้นไป
                  7. สอบภาคปฏิบัติจะมีทั้งรถมอเตอร์ไซค์และรถยนต์ (ผู้ขอใบขับขี่ใหม่)
                  รถมอเตอร์ไซค์จะต้องสอบทั้งหมด 3 ท่า
                  – ขี่ทรงตัวบนทางแคบ
                  – ขี่ซิกแซก
                  – ปฏิบัติตามป้ายสัญญาณจราจร
                  รถยนต์จะต้องสอบทั้งหมด 3 ท่า
                  – การขับรถเดินหน้าและหยุดเทียบบนทางเท้า
                  – การขับรถเดินหน้าถอยหลังในทางตรง
                  – การขับรถถอยหลังเข้าจอดในช่องว่างด้านซ้าย
                  8. ออกใบขับขี่ชั่วคราว เมื่อผ่านครบทุกขั้นตอน โดยใบอนุญาตขับขี่ชั่วคราวจะมีอายุการใช้งานได้ 2 ปี และสามารถเอามาเปลี่ยนเป็นแบบ 5 ปีได้ หลังจากครบ 1 ปีแล้ว ส่วนผู้ขอต่อใบขับขี่เดิมจะได้รับใบอนุญาตขับขี่ใบใหม่เลยในวันเดียวกัน

                  ต่อ-ใหม่ ใบขับขี่ ช่วงนี้ต้องทำอย่างไร?

                  จากการประกาศงดการอบรม และทดสอบเพื่อขอใบอนุญาตขับรถ ซึ่งเป็นขั้นตอนในลำดับที่ 4 และ 5 นั้น ทำให้ช่วงเวลาของการป้องกัน และควบคุมการแพร่เชื้อดังกล่าวนี้ จะไม่สามารถไปขอรับบริการทำใบขับขี่รถยนต์ที่กรมการขนส่งทางบกทุกแห่งได้ แต่จะมีวิธีการอื่นที่สามารถทำให้ผู้ที่จำเป็น และต้องการขอ หรือต่อใบอนุญาตขับขี่สามารถเข้ารับบริการได้โดยทำตามขั้นตอน ดังนี้

                  สำหรับผู้ที่ต้องการขอใบอนุญาตขับขี่ใหม่ สามารถเข้ารับการอบรม และทดสอบของทางโรงเรียนสอนขับรถที่ได้รับการรับรองจากกรมการขนส่งทางบกแทนได้ และนำหนังสือรับรองผ่านการอบรม และทดสอบจากสถาบันการศึกษา และโรงเรียนสอนขับรถที่ได้รับการรับรองนั้น ๆ มาทำการออกใบอนุญาตขับขี่ใหม่ที่กรมการขนส่งทางบกได้ไม่เกิน 6 เดือน นับแต่วันที่ออกหนังสือรับรอง

                  สำหรับผู้ที่ต้องการต่อใบอนุญาตขับขี่เดิม โดยผู้ที่ใบอนุญาตขับรถสิ้นอายุไม่เกิน 1 ปี หรือการต่ออายุล่วงหน้าไม่เกิน 90 วัน ให้อบรมผ่านระบบ e-Learning ทางเว็บไซต์ www.dlt-elearning.com หรืออบรมกับโรงเรียนสอนขับรถที่ได้รับการรับรองจากกรมการขนส่งทางบกแทนหลังการอบรมแล้วเสร็จ สามารถนำผลการอบรมติดต่อสำนักงานขนส่งทุกแห่งทั่วประเทศ เพื่อเข้ารับการทดสอบสมรรถภาพของร่างกายและออกใบอนุญาตขับรถ โดยผลการอบรมออนไลน์มีระยะเวลา 90 วัน นับแต่วันที่ผ่านการอบรม

                  การ ทำใบขับขี่รถยนต์ รถจักรยานยนต์
                  การ ทำใบขับขี่รถยนต์ รถจักรยานยนต์

                  การออกใบแทน กรณีใบอนุญาตขับรถชำรุดหรือสูญหาย  สามารถขอเข้ารับบริการที่กรมการขนส่งทางบกได้ตามปกติในวันและเวลาราชการ

                  การเปลี่ยนชนิดใบอนุญาตขับรถชั่วคราว 2 ปี เป็นส่วนบุคคล 5 ปี  สามารถขอเข้ารับบริการที่กรมการขนส่งทางบกได้ตามปกติในวันและเวลาราชการ

                  อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ที่ยังไม่มีความจำเป็นไม่ว่าจะเป็นการดำเนินการในด้านใบอนุญาตขับรถ หรือด้านทะเบียนและภาษี ควรงดเว้นการติดต่อที่สำนักงานขนส่ง หรือใช้บริการระบบออนไลน์ที่กรมการขนส่งทางบกมีไว้รองรับ เช่น ชำระภาษีรถออนไลน์ การอบรมออนไลน์ เป็นต้น ในกรณีจำเป็นที่ต้องมาดำเนินการที่สำนักงานขนส่ง ขอความร่วมมือประชาชนสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าในการติดต่อราชการ ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด เพื่อลดความเสี่ยงในการติดต่อแพร่กระจายของโรค

                  การชำระภาษีรถออนไลน์

                  จากคำขอความร่วมมือของอธิบดีกรมการขนส่งทางบกให้ในช่วงเวลาที่ต้องช่วยกันป้องกันการแพร่เชื้อโรคระบาดโควิด19 นั้น จึงขอนำขั้นตอนในการชำระภาษีรถออนไลน์ที่จะช่วยลดจำนวนผู้คนที่จะเข้ามาติดต่อกับทางกรมขนส่งลงไปได้บ้างมาให้ได้พิจารณากัน ซึ่งวิธีดังกล่าวก็มีขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยาก สะดวก ดังนี้

                  ประเภทรถยนต์ที่ทำได้

                  • รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน (รย.1) อายุไม่เกิน 7 ปี
                  • รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน (รย.2) อายุไม่เกิน 7 ปี
                  • รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล (รย.3) อายุไม่เกิน 7 ปี
                  • รถจักรยานยนต์ (รย.12) อายุไม่เกิน 5 ปี
                  • เป็นรถที่จดทะเบียนจังหวัดใดก็ได้
                  • รถที่ค้างชำระภาษีไม่เกิน 1 ปี และชำระภาษีล่วงหน้าได้ไม่เกิน 3 เดือน

                  ขั้นตอนการใช้งาน

                  1. เข้าเว็บไซต์ กรมการขนส่งทางบก แล้วเลือกบริการ “เลือกลงทะเบียนสมาชิกใหม่”

                  ชำระภาษีรถออนไลน์
                  ชำระภาษีรถออนไลน์

                  2. กรอกข้อมูลตามขั้นตอนโดยระบุให้ครบถ้วน ตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้อง เสร็จสิ้นขั้นตอนการลงทะเบียนสมาชิก

                  3. เมื่อลงทะเบียนสมาชิกแล้ว ให้ Login เพื่อเข้าใช้บริการ จากนั้นเลือก “ชำระภาษีรถประจำปี” ในเมนูย่อยเลือก “ชำระภาษีรถประจำปีผ่านอินเตอร์เน็ต” และทำตามขั้นตอนที่ปรากฎทีละขั้นตอน เมื่อจบขั้นตอนท้ายสุดกดปุ่มยืนยัน ก็เป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการชำระภาษีออนไลน์

                  การตรวจสอบสถานะ

                  สามารถตรวจสอบสถานะการดำเนินการยื่นชำระภาษี สถานะการจัดส่งเอกสาร หมายเลข EMS เลขกรมธรรม์ หรือปัญหาจากการยื่นชำระ ได้ที่เมนู “ตรวจสอบผลการชำระภาษี/เปลี่ยนช่องทางชำระเงิน” โดยขนส่งแจ้งไว้ว่ารวมระยะเวลาตั้งแต่ชำระเงินค่าภาษีสำเร็จถึงวันที่ได้รับเอกสารจากไปรษณีย์ ประมาณ 5 วันทำการ ทั้งนี้ สามารถตรวจสอบขั้นตอนการดำเนินการ หมายเลข EMS หรือกรณีพบข้อผิดพลาด ได้ที่เว็บไซต์ ที่เมนู “ตรวจสอบผลการชำระภาษี/เปลี่ยนช่องทางชำระเงิน” เช่นกัน

                  ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นเมื่อใช้ระบบออนไลน์

                  • ค่าจัดส่งเอกสาร รายการละ 32 บาท
                  • ค่าธรรมเนียมธนาคาร รายการละ 20 บาท
                  • ค่าธรรมเนียมการใช้บัตร (กรณีชำระด้วยบัตรเครดิต) ร้อยละ 2 รวม VAT 7% ของค่าธรรมเนียม

                  ดังนั้นก่อนออกจากบ้านไปขอรับบริการกับกรมการขนส่งทางบก ไม่ว่าจะเป็นการขอทำใบขับขี่รถยนต์ หรือการชำระภาษีรถนั้น ลองเช็กดูให้ดีว่ามีวิธีการอื่นที่สามารถช่วยให้ทำรายการอยู่ที่บ้าน ที่ส่วนตัว โดยไม่ต้องออกไปข้างนอก ติดต่อพบปะผู้คนมากมายหรือไม่ อย่างเช่นวิธีการขอรับบริการกับกรมการขนส่งทางบกออนไลน์ที่ทาง ทีมแม่ ABK ได้นำมาให้ดูกัน ก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการช่วยป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ได้เป็นอย่างดี อย่าลืม ก่อนออกจากบ้าน เช็กให้ชัวร์ หยุดอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ กันนะทุกคน

                  ข้อมูลอ้างอิงจาก matichon.co.th/silkspan.com/oohoo.io/th

                  อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

                  สาวไทยรีวิวฉีด วัคซีนโควิด-19 ฟรีที่แคนาดา ผลข้างเคียงเป็นยังไง

                  แม่เตรียมตัวให้พร้อม! ประกาศเลื่อนเวลา ปิดห้าง เริ่ม 4 มคนี้พร้อมกันทั่วประเทศ

                  ท้องไม่พร้อม ไม่สนุก!! รู้ยังวัยรุ่น ฝังยาคุม ฟรี

                  ศธ. ประกาศสถานศึกษา 28 จังหวัด ปิดเรียนถึง 31 ม.ค. 64

                  เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                    ฤกษ์คลอดบุตร 2564

                    ฤกษ์คลอด 2564 เช็กเลยแม่! รวมฤกษ์มงคล ฤกษ์คลอดบุตร ฤกษ์ผ่าคลอด คลอดวันไหนถึงจะดี?

                    รวม ฤกษ์คลอดบุตร 2564 กว่า 90 วัน คลอดลูก ปีฉลู จะมีฤกษ์มงคล ฤกษ์คลอด ฤกษ์ผ่าคลอด วันไหนเป็น ราชาแห่งฤกษ์ เทวีแห่งฤกษ์ คลอดแล้วลูกจะมีโชคลาภ ผู้คนเอ็นดู เช็กเลย!

                    ครบ 12 เดือน รวม ฤกษ์คลอดบุตร 2564
                    วันไหนฤกษ์ดี ผ่าคลอดได้

                    ฤกษ์คลอดบุตร 2564 ในการเลือกฤกษ์ดี ฤกษ์มงคล ฤกษ์ผ่าคลอด ฤกษ์คลอดบุตร ก็เพื่อให้เกิดความสบายใจแก่ตัวผู้ที่เลือกฤกษ์เองว่าการกระทำนั้น ๆ จะเป็นนิมิตหมายอันดี เมื่อเกิดความมั่นใจแล้ว สิ่งที่จะทำออกมาก็จะง่ายดาย สะดวก และราบรื่นนั่นเอง ซึ่งเรื่องของวันดี วันมงคล ก็ถือเป็นสิ่งสำคัญเพราะจะติดตัวลูกของเราตลอดชีวิต

                    ทีมแม่ ABK จึงมี ฤกษ์ผ่าคลอด ฤกษ์คลอดบุตร 2564 ครบทั้ง 12 เดือน มาฝาก ซึ่งเป็นเป็นฤกษ์มงคล >> จาก อ.ชัญ thelucky  ผู้เชี่ยวชาญทางด้านโหราศาสตร์ ตั้งชื่อลูก ตั้งชื่อมงคล ตั้งชื่อบริษัท ตั้งชื่อร้าน ตั้งชื่อแบรนด์ ออกแบบโลโก้ฮวงจุ้ย นามบัตรฮวงจุ้ย ให้ฤกษ์คลอด ฤกษ์แต่งงาน ฤกษ์มงคลต่างๆ พร้อมดูดวงที่ถูกต้องตามหลักโหราศาสตร์ไทยขั้นสูง เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต

                    คุณแม่ท้องที่มีแผนหรือกำหนดจะคลอดลูกในปี 2021 มาเช็กกันค่ะว่า จะผ่าคลอด หรือเบ่งคลอดลูกวันไหนดี และเด็กที่เกิดในแต่ละวันนั้นจะมีลักษณะนิสัยอย่างไร

                    ความหมายของฤกษ์

                    ราชาฤกษ์ แปลว่า ผู้ยิ่งใหญ่ ผู้มีอำนาจวาสนา = เด็กที่เกิดในฤกษ์นี้ จะเป็นคนมีอำนาจวาสนาบารมีสูง ปรารถนาสิ่งใดก็มักได้มาอย่างง่าย ๆ ไม่ต้องเหนื่อยอะไรมากมาย เป็นเจ้าของกิจการที่ใหญ่โต มีบริวารดี ลูกน้องเชื่อฟัง มีคนคอยช่วยเหลือมิได้ขาด
                    ภูมิปาโลฤกษ์ แปลว่า ผู้รักษาแผ่นดิน = เด็กที่เกิดในฤกษ์นี้ จะเป็นคนที่มีอำนาจ มียศศักดิ์ และฐานะดี มีธุรกิจเป็นของตนเอง จิตใจเมตตากรุณา ชอบช่วยเหลือผู้อื่น อาชีพเด่นในทางนักปกครอง นักการเมือง นักแสดง หรือทำธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ก็จะดี
                    มหัทธโนฤกษ์ แปลว่า คนมั่งมี ผู้รุ่งเรือง เศรษฐี = เด็กที่เกิดในฤกษ์นี้ จะมีรูปร่างหน้าตาดี มีวาทศิลป์ เด่นในเรื่องงานทางด้านศิลปะ การออกแบบ ตกแต่ง ดนตรี มีชีวิตที่สมบูรณ์พูนสุข ไม่ค่อยมีทุกข์ร้อน มีทรัพย์สินเงินทองมากมาย
                    เทวีฤกษ์ แปลว่า นางพญา ความงามหรูหรา ความมีเสน่ห์ โชคลาภ และสมความปรารถนา = เด็กที่เกิดในฤกษ์นี้ จะเป็นคนมีอำนาจวาสนาดี ทำอะไรมักมีคนคอยช่วยเหลือ มีชีวิตที่สงบสุขและสุขสบาย ไม่เดือดร้อน แต่มักชอบลุ่มหลงอะไรง่าย ๆ มีชื่อเสียง

                    ฤกษ์คลอดบุตร 2564

                    หลักสำคัญในการหาฤกษ์ผ่าคลอด ฤกษ์คลอดบุตร 2564

                    อ.ชัญ thelucky กล่าว่า การหาฤกษ์ผ่าคลอด ฤกษ์คลอดบุตร 2564 จำเป็นที่จะต้องเอาดวงของคุณแม่และคุณพ่อมาประกอบในการพิจารณา เพื่อที่ว่าลูกที่คลอดออกมานั้นจะเลี้ยงง่าย พ่อแม่และเด็กต้องมีดวงอุปถัมภ์ซึ่งกันและกัน ไม่ใช่วางฤกษ์ผ่าโดยไม่ได้ดูดวงพ่อและแม่เลย ทำให้เด็กอาจจะเสียชีวิต หรือมีเกณฑ์ที่จะพลัดพรากจากพ่อแม่ไปก่อนวัยอันควรได้ หรืออาจจะทำให้เด็กคนนั้นเป็นเด็กที่เลี้ยงยาก >> ว่าแต่ฤกษ์ผ่าคลอด ฤกษ์คลอดบุตร 2564 ซึ่งจะเป็นวันที่มีสิริมงคลแก่ชีวิตของลูกน้อยอีกทางหนึ่งได้นั้น จะมีเดือนไหน วันอะไรบ้าง แม่ท้องรีบเช็กกันเลย

                     

                    ดู “ฤกษ์ผ่าคลอด 2564 ครบทั้ง 12 เดือน” คลิกหน้า 2

                     

                    ดู >> ฤกษ์ผ่าคลอด ฤกษ์ดี
                    1 ฤกษ์คลอดบุตร เดือนมกราคม 2564 คลิก!
                    ดู >> ฤกษ์ผ่าคลอด ฤกษ์ดี
                    7 ฤกษ์คลอดบุตร เดือนกรกฎาคม 2564 คลิก!
                    ดู >> ฤกษ์ผ่าคลอด ฤกษ์ดี
                    ฤกษ์คลอดบุตร เดือนกุมภาพันธ์ 2564 คลิก!
                    ดู >> ฤกษ์ผ่าคลอด ฤกษ์ดี
                    8 ฤกษ์คลอดบุตร เดือนสิงหาคม 2564 คลิก!
                    ดู >> ฤกษ์ผ่าคลอด ฤกษ์ดี
                    3 ฤกษ์คลอดบุตร เดือนมีนาคม 2564 คลิก!
                    ดู >> ฤกษ์ผ่าคลอด ฤกษ์ดี
                    9 ฤกษ์คลอดบุตร เดือนกันยายน 2564 คลิก!
                    ดู >> ฤกษ์ผ่าคลอด ฤกษ์ดี
                    4 ฤกษ์คลอดบุตร เดือนเมษายน 2564 คลิก!
                    ดู >> ฤกษ์ผ่าคลอด ฤกษ์ดี
                    10 ฤกษ์คลอดบุตร เดือนตุลาคม 2564 คลิก!
                    ดู >> ฤกษ์ผ่าคลอด ฤกษ์ดี
                    5 ฤกษ์คลอดบุตร เดือนพฤษภาคม 2564 คลิก!
                    ดู >> ฤกษ์ผ่าคลอด ฤกษ์ดี
                    11 ฤกษ์คลอดบุตร เดือนพฤศจิกายน 2564 คลิก!
                    ดู >> ฤกษ์ผ่าคลอด ฤกษ์ดี
                    6 ฤกษ์คลอดบุตร เดือนมิถุนายน 2564 คลิก!
                    ดู >> ฤกษ์ผ่าคลอด ฤกษ์ดี
                    12 ฤกษ์คลอดบุตร เดือนธันวาคม 2564 คลิก!

                     

                    ฤกษ์ผ่าคลอด 2564

                    ขอบคุณข้อมูลเรื่อง ฤกษ์คลอดบุตร 2564 อ้างอิงจาก อาจารย์ชัญ เว็ปไซต์ theluckyname.com เว็ปไซต์อันดับ 1 ผู้เชี่ยวชาญด้านการตั้งชื่อลูก-ให้ฤกษ์มงคล >> https://www.theluckyname.com/home.php

                     

                      วันเด็กแห่งชาติ 2564

                      วันเด็กแห่งชาติ 2564 วิถีใหม่ ชวนเด็กๆ ร่วมกิจกรรมออนไลน์

                      คุณแม่คงทราบกันดีว่า สถานการณ์การระบาดของโควิด 19 ยังเป็นเรื่องที่น่ากังวล เนื่องจากยังมียอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก จึงทำให้มีมาตรการ งดจัดกิจกรรม เพื่อหลีกเลี่ยงการรวมตัวกัน และหลีกเลี่ยงการสัมผัส จึงทำให้ปีนี้ไม่มีการจัดกิจกรรม วันเด็กแห่งชาติ 2564 แต่ถึงจะไม่มีกิจกรรมงานวันเด็ก ทางทีมแม่ ABK ก็มีกิจกรรมดี ๆ จากกองบัญชาการกองทัพไทย วันเด็กแบบออนไลน์มาฝากให้คุณแม่และลูก ๆ ได้ร่วมเล่นกิจกรรมตอบคำถามชิงรางวัลกันค่ะ

                      วันเด็กแห่งชาติ 2564 ชวนเด็กๆ ร่วมกิจกรรมออนไลน์ ลุ้นรางวัลมากมาย

                      กองบัญชาการกองทัพไทย ได้จัดทำงาน วันเด็กแห่งชาติวิถีใหม่ประจำปี 2564 ผ่านระบบออนไลน์ โดยจัดกิจกรรมตอบปัญหาชิงรางวัลเพื่อให้เด็กไทยทั่วประเทศได้ร่วมสนุก ลุ้นรับของรางวัลมากมาย “เล่นจริง รับของรางวัลจริง ส่งตรงถึงหน้าบ้าน” เติมความสุขให้เด็กไทยแบบไร้พรมแดน สามารถลงทะเบียนร่วมกิจกรรมได้ตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม 2564 เป็นต้นไป

                      เงื่อนไขการร่วมกิจกรรม

                      1. เด็กและเยาวชน ไม่จำกัดเพศ มีอายุระหว่างแรกเกิด –18 ปี โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่
                        กลุ่มที่ 1 อายุระหว่างแรกเกิด – 5 ปี บริบูรณ์ (ผู้ที่เกิดระหว่างปี พ.ศ.2558 –2564)
                        กลุ่มที่ 2 อายุระหว่าง 6 – 12 ปี บริบูรณ์ (ผู้ที่เกิดระหว่างปี พ.ศ.2552 –2558)
                        กลุ่มที่ 3 อายุระหว่าง 13 – 18 ปี บริบูรณ์ (ผู้ที่เกิดระหว่างปี พ.ศ.2546 –2551)
                      2. คุณแม่และลูก ๆ สามารถลงทะเบียนได้ที่ https://childrensdayrtarf.mi.th
                        โดยให้ระบุชื่อ-นามสกุล/วันเดือนปีเกิด/เพศ และภูมิลำเนาที่พักอาศัย
                        โดยผู้ร่วมกิจกรรมฯ สามารถลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์ได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น เว้นแต่มีภูมิลำเนาที่พักอาศัยเดียวกัน แต่ต้องมิใช่บุคคลเดียวกันกับผู้ที่ได้ลงทะเบียนแล้ว
                      3.  สำหรับการตอบปัญหาสามารถตอบได้เพียง 1 ครั้ง โดยมีปัญหาจำนวน 20 ข้อ คำถามที่ใช้ในการทดสอบจะพิจารณาตามความเหมาะสมและสอดคล้องกับตามเกณฑ์อายุของผู้ลงทะเบียน
                      4.  ประกาศรายชื่อผู้ได้รับรางวัล จำนวน 2,000 คน/2,000ชิ้น ในวันพุธที่ 6 มกราคม 2564 เวลา 16.00 นาฬิกา เป็นต้นไปที่เว็บไซต์ https://childrensdayrtarf.mi.th
                      5.  การจัดส่งของรางวัล จะดำเนินการจัดส่งตามภูมิลำเนาที่พักอาศัยที่ลงทะเบียน ผ่านระบบขนส่ง บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ภายในวันเสาร์ที่ 9 มกราคม 2564 หรือวันอาทิตย์ที่ 10 มกราคม 2564 เป็นอย่างช้า

                      วันเด็กแห่งชาติ” เป็นวันสำคัญในประเทศไทย ตรงกับวันเสาร์ที่ 2 ของเดือนมกราคมของทุกปี และมีการให้คำขวัญวันเด็กทุกปี โดยนายกรัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่งในขณะนั้น สำหรับปี 2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ให้ คำขวัญ วันเด็กแห่งชาติ 2564 ไว้ว่า

                      เด็กไทยวิถีใหม่ รวมไทยสร้างชาติ ด้วยภักดีมีคุณธรรม”

                      งานวันเด็กแห่งชาติ จัดขึ้นเพื่อสวัสดิภาพเด็กระหว่างประเทศแห่งสหประชาชาติ เพื่อให้ประชาชนเห็นความสำคัญและความต้องการของเด็ก และเพื่อกระตุ้นให้เด็กตระหนักถึงบทบาทอันสำคัญของตนในประเทศ โดยปลูกฝังให้เด็กมีส่วนร่วมในสังคม เตรียมพร้อมให้ตนเองเป็นกำลังของชาติ

                      การจัดงานวันเด็กแห่งชาติ มีจุดประสงค์เพื่อให้เด็กทั่วประเทศทั้งในระบบโรงเรียนและนอกระบบโรงเรียน ได้รู้ถึงความสำคัญของตน เกี่ยวกับสิทธิ หน้าที่ ความรับผิดชอบ ระเบียบวินัย ที่มีต่อตนเองและสังคม มีความยึดมั่นในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข

                      วันเด็กปีนี้คุณแม่อย่าพลาดชวนลูก ๆ มาร่วมเล่นกิจกรรมตอบคำถามลุ้นรับของรางวัลกันนะคะ ที่สำคัญหากจำเป็นต้องออกไปข้างนอกอย่าลืมสวมใส่หน้ากากอนามัยด้วยนะคะ

                      อ้างอิงจาก โรงเรียนช่างฝีมือทหาร

                       

                      เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                       

                      บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

                      เรียนออนไลน์ เตรียมตัวอย่างไรได้ผลดี ลูกแฮปปี้ ไม่เครียดเกินไป

                      8 กิจกรรมยามว่างพัฒนา สมองซีกซ้าย vs ซีกขวา ฝึกลูกใช้เหตุผลและมีความคิดสร้างสรรค์

                      40 กิจกรรมพัฒนากล้ามเนื้อมัดใหญ่ ขยับแขน ขา ปล่อยพลัง อยู่บ้านก็สนุกได้

                      แนะ!12 กิจกรรมให้ลูกทํา สุดเจ๋ง เมื่อต้องอยู่บ้านหนีโควิด19+ปิดเทอมยาว

                        เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต ส่งความสุขผ่านเสียงเพลง ‘Joy of Living’ ดึง ‘ว่าน ธนกฤต’ ร่วมร้องและแต่ง

                        เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต ส่งความสุขผ่านเสียงเพลง ‘Joy of Living’ ดึง ‘ว่าน ธนกฤต’ ร่วมร้องและแต่ง

                        FWD

                        เมื่อช่วงเวลาแห่งความสุขอย่างเทศกาลปีใหม่วนกลับมาอีกครั้ง แน่นอนว่าทุกคนต่างตั้งตารอวันหยุดพักผ่อนและการใช้เวลาร่วมกับคนรัก ซึ่งปีนี้ บริษัท เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ตั้งใจมอบของขวัญส่งท้ายปีเก่าและเริ่มต้นปีใหม่ ด้วยการนำเสนอประสบการณ์ที่ดีที่สุดในรูปแบบที่แตกต่างอย่างต่อเนื่อง ผุดไอเดียสร้างสรรค์ชวนทุกคนมา “Celebrate Living” ผ่านบทเพลงสุดพิเศษ ‘Joy of Living’ ที่ได้จับมือร่วมกับ ว่าน ธนกฤต ศิลปินเจ้าของเสียงอันอบอุ่น มาร่วมถ่ายทอดความสุขและเป็นกำลังใจให้กับทุกคนในช่วงเทศกาลเฉลิมฉลองนี้

                        FWD

                        คุณปวริศา ชุมวิกรานต์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานภาพลักษณ์และสื่อสารองค์กร บริษัท           เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “จุดเริ่มต้นการสร้างสรรค์เพลง ‘Joy of Living’ คือปีนี้เป็นปีที่มีการเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิดและหนักสำหรับทุกคนที่ต้องฝ่าฟันอุปสรรคมามากมายทั้งด้านการงาน การเงิน สุขภาพ แต่เราก็ได้พยายามต่อสู้กันมาจนถึงสิ้นปี ทางเอฟดับบลิวดีจึงอยากมอบกำลังใจให้กับทุกคนได้เฉลิมฉลองช่วงเวลาแห่งความสุขส่งท้ายปีได้อย่างเต็มที่ด้วยการสื่อสารผ่านเสียงเพลง Joy of Living ที่เนื้อหาเพลงได้สร้างแรงบันดาลใจและเป็นกำลังใจให้กับทุกคน สอดคล้องกับความตั้งใจของแบรนด์เอฟดับบลิวดีที่สนับสนุนให้ทุกคนใช้ชีวิตแบบไม่ต้องกังวล เพราะเอฟดับบลิวดีพร้อมที่จะเคียงข้างและดูแลคุณอย่างเต็มที่ในทุกช่วงของชีวิต”

                         

                        ในส่วนของเนื้อหาของเพลง ‘Joy of Living’ จะสื่อความหมายที่ช่วยเติมเต็มวันของทุกคนให้สดใส เป็นการมอบความห่วงใย ส่งกำลังใจให้กับตัวเองรวมถึงคนที่คุณรัก ซึ่งได้ดึง ‘ว่าน ธนกฤต’ มาช่วยเรียบเรียงทั้งเนื้อร้องและทำนองขึ้นมาใหม่ แรงบันดาลใจในการแต่งเพลงนี้ของคุณว่านคือเพื่อเป็นกำลังใจให้กับผู้ป่วยโรคมะเร็งและทุกคน ส่งท้ายปีเก่าและเริ่มต้นปีใหม่ ซี่ง เอฟดับบลิวดี ตั้งใจมอบบทเพลงนี้เป็นของขวัญ เพื่อให้ทุกคนได้ Celebrate Living ในแบบของตัวเองได้ทุกวันในปีใหม่นี้

                         

                        ร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปีกับเพลง ‘Joy of Living’ ผ่านวิทยุคลื่น Cool Fahrenheit และ Greenwave รวมถึงศูนย์การค้าเซ็นทรัลทุกสาขา ได้แล้ววันนี้ตลอดจนถึงเดือนมกราคม 2564

                         

                        สามารถฟังเพลง Joy of Living ได้ทาง https://www.youtube.com/watch?v=RHwExI-Ve-c&feature=youtu.be

                         

                          วัคซีนโควิด-19

                          สาวไทยรีวิวฉีด วัคซีนโควิด-19 ฟรีที่แคนาดา ผลข้างเคียงเป็นยังไง

                          รีวิวการฉีด วัคซีนโควิด-19 จากคนไทยในแคนาดา ส่วนตัวไม่มีผลข้างเคียง ฝากเตือนคนมีโรคประจำตัวไม่ควรรีบฉีด หลังพบหัวใจเต้นเร็วถึงขึ้น CPR

                          จากกรณีที่ผู้ใช้เฟสบุ๊คในชื่อ Tiya Nattiya นักเรียนไทยในประเทศแคนาดาได้เผยแพร่ภาพพร้อมโพสต์การเข้ารับ วัคซีนโควิด-19 เมื่อวันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมาโดยมีใจความว่า

                          ฉีด วัคซีนโควิด-19 ที่แคนาดา แค่ปวดเมื่อย แต่ต้องฉีดซ้ำ

                          รีวิวการฉีดวัคซีนโควิด Pfizer-BioNTech  (กลุ่มนี้มีความก้าวหน้าและขึ้นทะเบียนภาวะฉุกเฉินแล้ว)หลังฉีดรู้สึกเมื่อยนิดหน่อย ไม่รู้ว่าเป็นเพราะวัคซีนที่ทำให้ง่วงนอน หรือเป็นเพราะรู้สึกง่วงนอนเป็นประจำอยู่แล้ว หลังจากกินข้าวก็นอนงีบ ตื่นขึ้นมาก็รู้สึกปวดกล้ามเนื้อเล็กน้อยตรงแขนข้างที่ฉีด ซึ่งมันเป็นปกติเวลาฉีดยาอยู่แล้ว นอกจากนั้นก็ไม่มีอะไรอีก

                          ผลข้างเคียงอย่างอื่นก็มีเช่น ปวดหัว เป็นไข้ เหนื่อยล้า หนาว แต่ไม่นานก็จะหายไปเอง หลังจากนั้น 3-4 สัปดาห์ ก็ต้องไปฉีดเข็มที่ 2 อีก ค่าใช้จ่ายในการฉีดวัคซีนครั้งนี้คือ 7 ดอลลาร์ถ้วน เป็นค่านั่งรถบัสไป-กลับ ส่วนวัคซีนเค้าฉีดให้ฟรีจ้า

                          พร้อมฝากคำแนะนำเพิ่มเติมมาว่า “สำหรับคนที่มีโรคประจำตัวและเป็นภูมิแพ้ควรรอก่อนเพราะว่าที่นี่มีเคสคนที่มีภูมิแพ้ฉีดวัคซีน แล้วเกิดการตอบสนองที่ไม่ดี ทำให้หัวใจเต็นเร็ว ต้องทำ cpr และนำส่งโรงพยาบาลค่ะ

                          วัคซีนโควิด-19

                          วัคซีนโควิด-19 มีแบบไหนบ้าง

                          จากสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ที่ยังรุนแรงอย่างต่อเนื่อง โดยมีผู้ติดเชื้อทั่วโลกถึง 84.5 ล้านคน เสียชีวิต1.87 ล้านคน (อัพเดทวันที่ 3 มกราคม 2564) ทำให้หลายประเทศยักษ์ใหญ่ทั่วโลกเริ่มฉีด วัคซีนโควิด-19 ให้กับประชาชนในประเทศของตน ไม่ว่าจะเป็น สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป แคนาดา รัสเซีย สวิตเซอร์แลนด์ เซอร์เบีย ไอซ์แลนด์ เม็กซิโก อาร์เจนติน่า จีน อินเดีย และสิงคโปร์แล้ว ซึ่งเป็นวัคซีนจากแหล่งที่มาแตกต่างกัน แล้ววัคซีนชนิดไหนแตกต่างกันอย่างไร คืบหน้าขนาดไหน

                          ทางศาสตราจารย์ นายแพทย์ ยง ภู่วรวรรณ ได้เขียนอธิบายไว้หลายโพสต์ในเพจส่วนตัว จึงขอสรุปรวมตามรายละเอียดดังนี้ “ขณะนี้ทั่วโลก วัคซีนโควิด-19 ที่ได้ขึ้นทะเบียนให้ฉีดในภาวะฉุกเฉินมีแล้วถึง 6 ชนิด ได้แก่ วัคซีนของจีน 3 ชนิด,วัคซีนของรัสเซีย 1 ชนิด วัคซีนของอเมริกา 1 ชนิด และวัคซีนร่วมพัฒนาระหว่างอเมริกาและเยอรมันอีก 1 ชนิด และมีมากกว่า 30 ประเทศได้ขึ้นทะเบียนหรือทะเบียนในภาวะฉุกเฉินไว้แล้ว ซึ่งประเมินได้ว่าจะมีการฉีดวัคซีนจำนวนมากในเดือนมกราคมนี้”

                          วัคซีนโควิด -19 ในปัจจุบันสามารถแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ คือ

                          1. mRNA วัคซีน เป็นกลุ่มวัคซีนที่มีการศึกษากันมาก มีความก้าวหน้าสูง โดยทำการศึกษาในมนุษย์ถึงระยะที่ 2-3แล้วถึง 3 ชนิด และผ่านการขึ้นทะเบียนภาวะฉุกเฉินแล้ว 2 ชนิด คือ Pfizer BioNTech และ Moderna สามารถป้องกันโรคได้ถึงร้อยละ 95 วัคซีนทั้ง 3 ชนิดนี้มีการขึ้นทะเบียนรับรองในประเทศต่างๆแล้วถึง 28 ประเทศทั่วโลก
                          2. วัคซีนใช้ไวรัสเป็นตัวนำ กำลังศึกษาในมนุษย์ระยะสุดท้ายในมนุษย์อยู่ 4 ชนิด และได้ขึ้นทะเบียนภาวะฉุกเฉินแล้ว 3 ชนิด ได้แก่ Ad 5-nCov ของ CanSino ประเทศจีน, Sputnik V ของรัสเซีย และ AstraZeneca ประเทศอังกฤษประสิทธิภาพรวม 70%
                          3. วัคซีนเชื้อตาย มีการศึกษาในมนุษย์ระยะท้าย 5 ชนิด และได้ขึ้นทะเบียนภาวะฉุกเฉินแล้ว 2 ชนิด ได้แก่ วัคซีนของ Sinovac และ Sinopharm ประเทศจีน, วัคซีน Sinovac ขึ้นทะเบียนฉุกเฉินในประเทศจีน, ส่วนของ Sinopharm ขึ้นทะเบียนใช้ในภาวะปกติในจีนสาธารณรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และบาห์เรน

                          สำหรับประเทศไทยอยู่ระหว่างดำเนินการจัดซื้อ วัคซีนโควิด-19 จากต่างประเทศ ตามรายงานข่าวจากเว็บไซต์  thaipost.net ระบุว่ากระทรวงสาธารณสุขได้มีความพยายามจัดหาวัคซีนโควิด 19 จากทุกแหล่งให้ได้มากที่สุด และล่าสุดได้เจรจาขอซื้อวัคซีนจำนวน 2 ล้านโดส จากผู้ผลิต ในราคา 17 ดอลลาร์ต่อโดส เตรียมเสนอของบกลาง 1,170 ล้านบาทในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พร้อมทั้งเจรจากับบริษัทแอสตร้าเซนเนก้าขอซื้อวัคซีนเพิ่มอีก 26 ล้านโดส รวมเป็น 52 ล้านโดส ในเบื้องต้นจะได้รับวัคซีนโควิด 19 ล็อตพิเศษ 2 ล้านโดสช่วงเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน 2564 เพื่อฉีดให้กับบุคลากรทางการแพทย์ อสม. ซึ่งเป็นด่านหน้าต่อสู้กับโควิด 19  ทั้งนี้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เร่งดำเนินการด้านระเบียบและกฎหมายรองรับต่อไป

                          วัคซีนโควิด-19

                          ใครควรได้ฉีดวัคซีนโควิด-19 ก่อน?

                          การนำเข้าวัคซีนโควิด-19จากต่างประเทศจะไม่ได้มาพร้อมกันทั้งหมดแต่จะแบ่งเป็นล็อตๆซึ่งในระยะแรกจะยังไม่เพียงพอฉีดให้กับคนจำนวนมาก และไม่สามารถฉีดให้กับทุกคนพร้อมๆ กัน จึงจำเป็นต้องจัดสรรตามความเสี่ยงก่อน โดยอาจารย์ยงอธิบายเพิ่มเติมว่า ความเสี่ยงที่ว่านี้หมายความว่าเมื่อติดโรคแล้วจะมีอาการรุนแรง หรือมีโอกาสติดโรคสูง สามารถแบ่งเป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆ คือ

                          1. กลุ่มผู้สูงอายุ โดยทั่วไปจะถือเอาอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป
                          2. กลุ่มบุคลากรที่ทำงานดูแลรักษาผู้ป่วย สอบสวน และทุกคนที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับสถานที่ ที่มีผู้ป่วยผู้ติดเชื้อ
                          3. ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่นเบาหวาน โรคปอด โรคหัวใจ

                          จนเมื่อวัคซีนมีจำนวนมากขึ้นจึงเพิ่มการฉีดให้กับกลุ่มเสี่ยงอื่นๆ ต่อไป สำหรับคนอายุน้อยกว่า 40 ปี และเด็กที่มีร่างกายแข็งแรง หากติดเชื้อจะมีอาการน้อยหรือไม่มีอาการเลย จึงยังไม่มีการให้วัคซีนกันในขณะนี้ หรือจนกว่าจะมีผลทดสอบการให้ วัคซีนโควิด-19 ในเด็กหรือมีข้อมูลมากพอ

                          ฉะนั้นคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังคิดว่าจะให้ลูกฉีดวัคซีนอาจไม่ต้องกังวลใจ เพราะเชื้อโควิด-19ไม่ได้เป็นอันตรายกับเด็กเท่าผู้ใหญ่ ขอเพียงดูแลสุขอนามัยให้ดีและปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคที่ภาครัฐแนะนำกันก็มั่นใจได้ว่าทุกคนในครอบครัวจะผ่านสถานการณ์นี้ไปได้ในที่สุดค่ะ

                          แหล่งข้อมูล:  www.facebook.com/yong.poovorawan  www.bangkokbiznews.com

                          บทความน่าสนใจอื่นๆ 

                          แม่เตรียมตัวให้พร้อม! ประกาศเลื่อนเวลา ปิดห้าง เริ่ม 4 มคนี้พร้อมกันทั่วประเทศ

                           

                          ศธ. ประกาศสถานศึกษา 28 จังหวัด ปิดเรียนถึง 31 ม.ค. 64

                           

                          ปฏิทินวันหยุด 2564 วันหยุดยาว วันสําคัญ ประจำปี 2021 พาลูกเที่ยวช่วงไหนดี?

                           

                          เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                           

                            แม่ท้องตรวจโควิดได้ไหม

                            คนท้องตรวจโควิดได้ไหม จำเป็นต้องตรวจไหม อาการแบบไหนไม่ควรปล่อยไว้

                            คนท้องตรวจโควิดได้ไหม จำเป็นหรือเปล่าที่ต้องตรวจหาเชื้อไวรัส Covid-19

                            ไขข้อสงสัย คนท้องตรวจโควิดได้ไหม

                            สถานการณ์โรคระบาดจากโคโรนาไวรัส ทำให้ทุกคนต่างต้องระมัดระวังการใช้ชีวิตมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะผู้สูงอายุ เด็กเล็ก ผู้มีโรคประจำตัว และหญิงตั้งครรภ์

                            คุณแม่บางท่านอาจจะเริ่มกังวลใจ คิดว่าคนท้องจะตรวจโควิดได้ไหม หากมีไข้ไม่สบายในช่วงนี้ ควรตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 หรือเปล่า นพ.อดิศร อักษรภูษิตพงศ์ สูติแพทย์ – เวชศาสตร์มารดาและทารกในครรภ์ รพ.พญาไท 3 ระบุถึงความจำของแม่ท้องต้องตรวจหาเชื้อ COVID-19 หรือไม่ โดยแยกเป็น 3 กรณี ว่า

                            1. มีอาการเจ็บป่วย ไข้ ไอ หายใจติดขัด เจ็บคอ มีน้ำมูก ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจและรับการรักษา ในรายที่ต้องสงสัยการติดเชื้อ COVID-19 แพทย์จะส่งตรวจหาเชื้อไวรัสทันที
                            2. กรณีที่ไม่มีอาการเจ็บป่วย แพทย์จะประเมินว่าเป็นผู้สัมผัสความเสี่ยงสูงหรือไม่ ถ้าใช่จะได้รับการตรวจหาเชื้อไวรัส ซึ่งผู้สัมผัสความเสี่ยงสูง หมายถึง ผู้สัมผัสที่มีโอกาสสูงในการรับหรือแพร่เชื้อกับผู้ป่วย ประกอบด้วย ผู้สัมผัสใกล้ชิดหรือมีการพูดคุยกับผู้ป่วยในระยะ 1 เมตร นานกว่า 5 นาที หรือถูกไอจามรดจากผู้ป่วยโดยไม่มีการป้องกัน เช่น ไม่สวมหน้ากากอนามัย และผู้ที่อยู่ในบริเวณที่ปิด ไม่มีการถ่ายเทอากาศ เช่น ในรถปรับอากาศ ห้องปรับอากาศ ร่วมกับผู้ป่วยและอยู่ห่างจากผู้ป่วยไม่เกิน 1 เมตร นานกว่า 15 นาที โดยไม่มีการป้องกัน
                            3. เป็นผู้มีความเสี่ยง โดยการมีประวัติในช่วงเวลา 14 วันก่อนวันเริ่มป่วย อย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้
                            • มีประวัติเดินทางไปยัง หรือมาจาก หรืออยู่อาศัยในพื้นที่ที่มีรายงานการระบาดของโรค COVID-19
                            • มีผู้ที่อยู่อาศัยร่วมบ้านเดินทางกลับมาจากพื้นที่ที่มีรายงานการระบาดของโรค COVID-19
                            • เป็นผู้ที่ประกอบอาชีพที่สัมผัสใกล้ชิดกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ
                            • มีประวัติใกล้ชิดหรือสัมผัสกับผู้ป่วยเข่าข่ายหรือยืนยันโรค COVID-19
                            คนท้องตรวจโควิดได้ไหม
                            คนท้องตรวจโควิดได้ไหม

                            การตรวจหาเชื้อ COVID-19 ตรวจได้ที่โรงพยาบาลของรัฐบาลและโรงพยาบาลเอกชนขนาดใหญ่ ทั่วประเทศไทย โดยการตรวจจะเป็นการใช้ไม้สอดเข้าไปภายในโพรงจมูกและลำคอ ป้ายเอาสารคัดหลั่งมาตรวจหาเชื้อ

                            หากแม่ตั้งครรภ์ติดเชื้อจะทำอย่างไร

                            สูติแพทย์จะให้การดูแลรักษาระหว่างการตั้งครรภ์และการคลอดตามมาตรฐานเหมือนปกติ หากมีการติดเชื้อ COVID-19 จะเพิ่มความระมัดระวังการสัมผัสหรือแพร่เชื้อ COVID-19 ระหว่างการตรวจครรภ์และการทำคลอด ตามนโยบายการดูแลรักษาในปัจจุบัน ส่วนการคลอดให้เป็นไปตามข้องบ่งชี้ทางการแพทย์ ไม่มีความจำเป็นต้องผ่าท้องคลอด

                            แม่ท้องติดโควิดอันตรายแค่ไหน

                            แม้ว่าข้อมูลของหญิงตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อโควิด-19 จะยังไม่สูงมาก แต่แม่ท้องก็ต้องระวังตัวมากเป็นพิเศษ โดยพญ.อรวิน วัลลิภากร อาจารย์ประจำสาขาเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ ภาควิชาสูตินรีเวชวิทยา คณะแพทย์ศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ให้ข้อมูลว่า ความเสี่ยงของคุณแม่ที่อายุครรภ์ยังน้อยจะไม่ค่อยมีผล แต่แม่ที่ตั้งครรภ์ 7 เดือนขึ้นไปหรือเข้าสู่ไตรมาสที่ 3 ทารกในครรภ์จะโตขึ้นจนดันกระบังลม ส่งผลให้ปอดทำงานได้ไม่เต็มที่ ไม่ใช่แค่โควิด-19 แต่หากติดเชื้อเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ เช่น ไข้หวัดใหญ่ ก็จะมีอาการรุนแรงได้มากกว่าคนทั่วไป เพราะภูมิคุ้มกันต่ำกว่าปกติ

                            อย่างไรก็ตาม พบรายการของวารสารทางการแพทย์ของสหรัฐอเมริกาว่า ทารกในครรภ์สามารถติดเชื้อผ่านสายรกจากแม่ได้ แต่พบในคุณแม่ที่มีอาการรุนแรง มีโรคอื่นร่วมด้วย เช่น โรคเบาหวาน และระบบการหายใจล้มเหลว จึงต้องผ่าตัดคลอดทารกทันทีเพื่อลดการเบียดปอด กรณีนี้ทารกต้องใส่เครื่องช่วยหายใจหลังคลอด ทั้งยังตรวจพบเชื้อโควิด-19 แต่อาการของทั้งคู่ก็ค่อย ๆ ดีขึ้น

                            แม่ท้องตรวจโควิดได้ไหม

                            ความเสี่ยงของคนท้อง

                            ด้านพญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ย้ำว่า อาการของคนท้องที่ติดเชื้อโควิด-19 ยังไม่พบความเสี่ยงสูงที่โรคจะรุนแรง ยกเว้นในรายที่อ้วนหรือมีโรคประจำตัวที่ควบคุมไม่ดีอยู่เดิม ผลของโรคต่อการตั้งครรภ์ แต่มีความเสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนด ทารกเจริญเติบโตช้าในครรภ์ เพิ่มความรุนแรงต่อภาวะครรภ์เป็นพิษและเบาหวานขณะตั้งครรภ์ โดยการรักษาขึ้นอยู่กับอาการและความรุนแรงของโรค เป็นการรักษาตามอาการ และการใช้ยาต้านไวรัสมีหลายชนิด ซึ่งการพิจารณาใช้ยาต้านไวรัสจึงต้องคำนึงถึงความเสี่ยงและประโยชน์ที่จะได้รับ สำหรับยาต้านไวรัสฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir) มีการศึกษาในสัตว์ทดลองพบว่า ยาสามารถผ่านรกและถูกขับออกทางน้ำนมได้ ทำให้เกิดความพิการแก่ตัวอ่อน ในสัตว์ทดลอง ส่วนยาต้านไวรัสดารุนาเวียร์ (Darunavir) สามารถผ่านทางน้ำนมได้เช่นเดียวกัน จึงต้องระมัดระวัง โดยพิจารณาความเสี่ยงและประโยชน์ที่จะได้รับ

                            แม่ท้องตรวจโควิดได้ไหม

                            หญิงตั้งครรภ์ตรวจโควิด-19 ฟรี หากเข้าเกณฑ์ 3 ข้อ

                            สำหรับผู้ที่เข้าข่ายมีสิทธิ์ตรวจหาเชื้อโควิด-19 ฟรี กรมควบคุมโรคแจ้งว่าต้องมีประวัติเสี่ยงอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนี้

                            1.ในช่วง 14 วันก่อนมีอาการ
                            – จะต้องเดินทางมาจากเขตติดโรค/พื้นที่ที่มีการระบาดต่อเนื่อง
                            – ประกอบอาชีพที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ที่เดินทางมาจากเขตติดโรค/พื้นที่ที่มีการระบาดต่อเนื่อง
                            – สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยต้องสงสัย/ผู้ป่วยยืนยัน
                            – เป็นบุคลากรทารการแพทย์ที่สัมผัสกับผู้ป่วยยืนยัน (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของแพทย์)

                            2.สำหรับอาการโควิดนั้น ต้องมีอาการอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น ไอ, น้ำมูก, เจ็บคอ, หายใจเหนื่อยหอบ จมูกไม่ได้กลิ่น และลิ้นไม่รับรส

                            3.ผู้ป่วยปอดอักเสบ ที่มีประวัติอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้
                            – ใกล้ชิดกับผู้ป่วยสงสัยโควิด-19
                            – เป็นบุคลากรทางการแพทย์
                            – เป็นผู้ป่วยปอดอักเสบที่รักษาแล้วอาการดีขึ้น
                            – เป็นผู้ป่วยปอดอักเสบที่หาสาเหตุไม่ได้

                            หากแม่ท้องเข้าเกณฑ์เหล่านี้ ก็มีสิทธิ์ตรวจโควิดได้ฟรี! แต่ระหว่างนี้ แม่ท้องต้องดูแลตัวเองให้มากเป็นพิเศษ โดยสวมหน้ากากอนามัยเป็นประจำ ล้างมือให้บ่อยครั้งโดยเฉพาะก่อนรับประทานอาหารและหลังเข้าห้องน้ำ เว้นระยะห่างจากผู้อื่นประมาณ 2 เมตร ไม่เดินทางไปพื้นที่เสี่ยงหรือสถานที่ที่แออัด คอยดูแลสุขภาพตัวเอง ทั้งการเลือกรับประทานอาหารที่ดีมีประโยชน์ ดื่มน้ำมาก ๆ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ควรฉีดวัคซีนที่จำเป็นสำหรับคนท้อง และกินยาหรือวิตามินบำรุงครรภ์ตามแพทย์สั่งสม่ำเสมอ ถ้าพบว่าตัวเองมีอาการผิดปกติ รู้สึกไม่สบาย อย่านิ่งนอนใจ ควรรีบไปพบกับคุณหมอให้เร็วที่สุด

                            อ้างอิงข้อมูล : pptvhd36, phyathai , pr.moph.go.th และ moph

                             

                            เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                             

                            อ่านบทความอื่นเพิ่มเติม

                            ข้ามสามีให้แพ้ท้องแทน ความเชื่อโบราณให้คนท้องกลั้นหายใจข้ามตัวสามี

                            คนท้องทํางานเข้ากะได้ไหม อันตรายแค่ไหนถ้าแม่ท้องทำงานดึก ทำงานหนัก

                            ครรภ์เป็นพิษเกิดจากอะไร ประสบการณ์ครรภ์เป็นพิษ ต้องยุติการตั้งครรภ์

                              ปิดห้าง 3 ทุ่ม

                              แม่เตรียมตัวให้พร้อม! ประกาศเลื่อนเวลา ปิดห้าง เริ่ม 4 มคนี้พร้อมกันทั่วประเทศ

                              สมาคมศูนย์การค้าไทยประกาศให้ขยับเวลาปิดห้างเร็วขึ้น เริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 4 มค. นี้เป็นต้นไป

                              สมาคมผู้ค้าปลีกและสมาคมศูนย์การค้าไทย มีข้อสรุปให้ทุกศูนย์การค้า รวมถึงร้านค้าในศูนย์กลางค้า และร้านภาคีเครือข่าย ยกระดับมาตรการการคัดกรองและเข้มงวดด้านความปลอดภัยสุขอนามัย พร้อมทั้งให้ทุกศูนย์การค้ากำหนดปิดทำการเวลา 21.00 น. นับตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม 2564 เป็นต้นไป

                              ทั้งนี้เพื่อให้ความร่วมมือกับภาครัฐอย่างเคร่งครัดในการควบคุมการแพร่ระบาดไวรัสโควิดระลอกใหม่ตามมาตรการที่เข้มข้นตามลำดับ รวมทั้งเพื่อความปลอดภัยลสุขอนามัยของประชาชนและการให้บริการที่ดีในสถานการณ์เช่นนี้

                              ปิดห้าง 3 ทุ่ม

                              โดยก่อนหน้านี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพมหานครลงนามประกาศสั่งปิด 25 สถานที่เป็นการชั่วคราว และกำหนดให้ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร ศูนย์อาหาร ต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดอย่างเคร่งครัด รวมทั้งอาจมีการพิจารณาถึงมาตรการ “ห้ามนั่งรับประทานอาหารในร้านอาหาร และอนุญาตให้ซื้อกลับ” ต่อไป

                              สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 วันนี้ (2 มค. 64) ตามการรายงานจากศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)  พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อในประเทศ 214 ราย ยอดผู้ป่วยสะสม 7,379 ราย พบเสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย รวมยอดผู้เสียชีวิตสะสม 64 ราย และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากหลายกลุ่มคลัสเตอร์ ประกอบกับการเดินทางในช่วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่ ทำให้เชื้อมีโอกาสแพร่กระจายได้ง่าย

                              สำหรับผู้เดินทางกลับเข้ากรุงเทพจะต้องผ่านด่านคัดกรองที่เดินทางเข้า-ออกพื้นที่กทม. จำนวน 14 จุด ดังนี้

                              1. บริเวณหน้าห้างบิ๊กซี ถนนแจ้งวัฒนะฝั่งขาเข้า

                              2.บริเวณคลังสินคประตู 7 ถนนวิภาวตีรังสิตฝั่งขาเข้า

                              3.บริเวณทางยกระดับโทลล์เวย์ ด่านดอนเมือง

                              4.บริเวณแยกใต้ด่วนมหานคร ถนนสุวินทวงค์ฝั่งขาเข้า

                              5.บริเวณหน้าปั๊มเอสโซ่ ใกล้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสแบริ่ง ถนนสุขุมวิท

                              6.บริเวณหนาอาคารเนชั่น ถนนบางนา-ตราดฝั่งขาเข้าสำนักงานเขตพระโขนง

                              7.บริเวณทางยกระดับบูรพาวิถี ด่านบางจากฝั่งขาเข้า

                              8.บริเวณหน้าศูนย์โตโยต้า ถนนราชพฤกษ์

                              9.บริเวณใต้สะพานต่างระดับข้มแยกถนนพุทธมณฑลสาย 3 ถนนบรมราชชนนีฝั่งขาเข้า

                              คุณแม่สามารถตรวจสอบสถานการณ์การระบาดของแต่ละพื้นที่ มาตรการเข้าออก และประกาศต่างๆของแต่ละจังหวัดในพื้นที่ และช่องทางติดต่อๆอย่างทันท่วงทีได้ที่ www.moicovid.com

                              แหล่งที่มา:  www.matichon.co.th      www.bangkokbiznews.com   

                               

                              บทความน่าสนใจอื่นๆ

                              ศธ. ประกาศสถานศึกษา 28 จังหวัด ปิดเรียนถึง 31 ม.ค. 64

                              แม่เช็คด่วน! กทม. สั่งปิดสถานที่ 24 ประเภท มีผล “เที่ยงคืน” นี้

                               

                              เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                               

                                ปิดเรียนถึง 31 ม.ค.64

                                ศธ. ประกาศสถานศึกษา 28 จังหวัด ปิดเรียนถึง 31 ม.ค. 64

                                ด่วน! กระทรวงศึกษาฯ ประกาศสถานศึกษาในสังกัด 28 จังหวัด ปิดเรียนถึง 31 ม.ค.64 หนีโควิด 19

                                ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง ให้สถานศึกษาในสังกัดและในกำกับของกระทรวงศึกษาธิการปิดเรียนด้วยเหตุพิเศษ ระบุว่า

                                เนื่องด้วยการแพร่ระบาดรุนแรงของ(โควิด-19) มีการแพร่ระบาดรุนแรงหลายพื้นที่ในประเทศไทย กระทรวงศึกษาธิการตระหนักถึงความปลอดภัยในชีวิตของนักเรียน นักศึกษา ที่จะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดดังกล่าว อีกทั้งเพื่อลดปัจจัยเสี่ยงและลดโอกาสการแพร่ระบาดใหม่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)

                                กรณี ศบค.ประกาศพื้นที่ควบคุมสูงสุดเพิ่มเติม ให้ปลัดกระทรวงศึกษาธิการมีอำนาจสั่งการให้สถานศึกษาในสังกัด และในกำกับของกระทรวงศึกษาธิการปิดเรียนด้วยเหตุพิเศษเพิ่มเติม

                                ทั้งนี้ ในระหว่างที่สถานศึกษาต้องปิดเรียนด้วยเหตุพิเศษดังกล่าว ให้ส่วนราชการต้นสังกัด กำหนดแนวทางจัดการเรียนการสอนตามแนวทางที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนดไว้ เช่น การสื่อสารแบบทางไกล หรือด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ หากไม่สามารถจัดการเรียนการสอนโดยผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ได้ สถานศึกษาอาจจัดการเรียนการสอนโดยใบสั่งงาน หรือมอบงานตามความเหมาะสม โดยไม่ต้องเข้าชั้นเรียน

                                ประกาศปิดเรียนถึง 31 มค

                                 

                                เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                                 

                                 บทความอื่นๆที่น่าสนใจ

                                เรียนออนไลน์ เตรียมตัวอย่างไรได้ผลดี ลูกแฮปปี้ ไม่เครียดเกินไป

                                ป้องกันโควิด-19 ตอนไปตลาด สิ่งไหนเสี่ยง อะไรต้องระวัง

                                  กทม. สั่งปิดสถานที่

                                  แม่เช็คด่วน! กทม. สั่งปิดสถานที่ 24 ประเภท มีผล “เที่ยงคืน” นี้

                                  จากสถานการณ์โควิด-19 ที่นับวันยิ่งรุนแรงขึ้น กทม. สั่งปิดสถานที่ มีผลเที่ยงคืนวันนี้ (2 ม.ค.64) เตรียมหารือ ศบค.เพื่อดำเนินมาตรการให้สั่งอาหารกลับไปรับประทานที่บ้าน และจะเริ่มมาตรการในวันที่ 4 ม.ค.64

                                  กทม. สั่งปิดสถานที่ 24 ประเภท มีผล “เที่ยงคืน” วันนี้

                                  วันนี้ (1 ม.ค.64) ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพฯ แถลงผลการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร มาตรการเพิ่มเติมควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (Covid-19) ดังนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร ประกาศปิดสถานที่เพิ่มเติม ดังนี้

                                  1. สถานบริการ
                                  2. สวนน้ำ
                                  3. สวนสนุก
                                  4. สนามเด็กเล่น
                                  5. ตู้เกม
                                  6. เครื่องเล่นสำหรับเด็ก
                                  7. โต๊ะสนุ๊ก
                                  8. โต๊ะบิลเลียด
                                  9. สนามชนไก่
                                  10. ชนโค
                                  11. กัดปลา
                                  12. ศูนย์พระเครื่อง
                                  13. ศูนย์เด็กเล็ก
                                  14. สถานเจาะผิวหนัง
                                  15. ร้านสัก
                                  16. โรงเรียน
                                  17. สถานกวดวิชา
                                  18. ร้านอินเทอร์เน็ต
                                  19. สถานดูแลผู้สูงอายุ (ยกเว้นที่พักค้าง)
                                  20. โรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้
                                  21. สนามมวย
                                  22. อาบอบนวด
                                  23. สนามแข่งทุกประเภท
                                  24. สถานที่ให้บริการห้องจัดเลี้ยงและที่มีลักษณะคล้ายกัน

                                  ส่วนห้างสรรพสินค้ายังไม่ปิด แต่จะมีมาตรการเพิ่มเติม โดยให้มีผลเวลา 24.00 น.วันนี้ คือตั้งแต่วันที่ 2 ม.ค.64 เป็นต้นไป

                                  นอกจากนี้ ยังกำหนดพื้นที่ควบคุมสูงสุด 3 เขต คือ เขตหนองแขม เขตบางพลัด และ เขตบางขุนเทียน ให้ผู้อำนวยการสำนักงานมีอำนาจสั่งการ เพื่อหยุดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงแพร่เชื้อได้มากขึ้น

                                  ร.ต.อ.พงศกร ยังกล่าวว่า จะมีการหารือกับ ศบค.เกี่ยวกับมาตรการขายอาหารแบบนำกลับไปรับประทาน (เทคอะเวย์) เนื่องจาก กทม.มีพื้นที่ติดต่อกับจังหวัดอื่น ซึ่งประชาชนในพื้นที่อื่นจะเดินทางเข้า-ออกจำนวนมาก จึงต้องออกมาตรการนี้ให้สอดรับกับพื้นที่อื่น ๆ ด้วย และหากมีความชัดเจนคาดว่าจะเริ่มบังคับใช้ได้ 4 ม.ค.นี้

                                  ขอบคุณข้อมูลจาก Thaipbs.or.th

                                  ทางด้านสำนักการศึกษา กรุงเทพมหานครออกประกาศปิดโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่วันที่ 4 – 17 มกราคม 2564

                                   

                                  สำนักการศึกษา ออกประกาศ ปิดสถานศึกษาชั่วคราว เนื่องจากเหตุพิเศษ (ฉบับที่ 3)

                                  ตามประกาศสำนักการศึกษา ลงวันที่ 23 ธันวาคม 263 ให้ปิดโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพ ตั้งแต่ 24 ธันวาคม 2563  ถึง 3 มกราคม นั้น

                                  ดังนั้นเพื่อลดโอกาสการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19  ในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร อาศัยอำนาจตามระเบียบกรุงเทพมหานคร ว่าด้วยการสั่งปิดสถานศึกษาชั่วคราวเนื่องจากเหตุพิเศษ พ.ศ. 2541 ข้อ 5 (3)

                                  จึงให้ปิดโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่วันที่ 4 – 17 มกราคม 2564 จนกว่าจะมีการประกาศเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ ให้โรงเรียนจัดเตรียมแผนการเรียนการสอนชดเชยในภายหลัง 

                                  เลื่อนเปิดเรียน โรงเรียนสังกัดกทม

                                   บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

                                  ป้องกันโควิด-19 ตอนไปตลาด สิ่งไหนเสี่ยง อะไรต้องระวัง

                                  เรียนออนไลน์ เตรียมตัวอย่างไรได้ผลดี ลูกแฮปปี้ ไม่เครียดเกินไป

                                  ประกันสังคม เพิ่มเงินคลอดบุตร-ฝากครรภ์ ให้แม่รับปีใหม่!!

                                  เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                                   

                                    ป้องกันโควิด-19 ตอนไปตลาด

                                    ป้องกันโควิด-19 ตอนไปตลาด สิ่งไหนเสี่ยง อะไรต้องระวัง

                                    จากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้หลายคนเกิดความกังวลเมื่อต้องไปจับจ่ายซื้อของที่ตลาด โดยเฉพาะคุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกตัวน้อยรอคอยอยู่ในบ้าน มาดูวิธี ป้องกันโควิด-19 ตอนไปตลาด โดยสสส.

                                    สสส.แนะวิธี ป้องกันโควิด-19 ตอนไปตลาด

                                    จริง ๆ แล้ว ตลาดนั้นไปได้ เพียงแต่มีข้อระวังเล็กน้อย โดย Social Marketing Thaihealth by สสส. ได้โพสต์ว่า ตลาดไปได้ ! แต่ไปให้ปลอดภัย ต้องมีสติในการดูแลป้องกันตนเอง ระมัดระวังอยู่เสมอเมื่อต้องสัมผัสกับจุดเสี่ยงเหล่านี้ ที่สำคัญต้องอย่าลืม ! เช็คข้อมูลข่าวสารอยู่เสมอ เพื่อให้รู้ว่าตรงไหนเป็นจุดเสี่ยงที่ควรหลีกเลี่ยงบ้าง ปลอดภัยไม่พลาด : สวมหน้ากาก – ล้างมือ – เว้นระยะห่าง

                                    5 สิ่งที่ต้องระวัง “ในตลาด คุณพลาดรับเชื้อ (โควิด) จากอะไรได้บ้าง?”

                                    1. ธนบัตรและเศษเหรียญ ล้างมือทุกครั้งหลังสัมผัส เพราะธนบัตรและเศษเหรียญเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค การโอนเงินผ่านโทรศัพท์ จึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่า ลดโอกาสเสี่ยงในการสัมผัสกับเชื้อโรคต่าง ๆ
                                    2. ระวังการสัมผัสเนื้อสัตว์โดยตรง ล้างมือทั้งก่อนและหลังสัมผัส รวมทั้งนำเนื้อสัตว์ที่ซื้อกลับมาล้างให้สะอาดก่อนนำไปจัดเก็บหรือทำอาหาร รวมทั้งปรุงให้สุกทุกครั้งก่อนรับประทาน
                                    3. ระวังการสัมผัสผักและผลไม้โดยตรง ล้างมือทั้งก่อนและหลังสัมผัส รวมทั้งนำผักและผลไม้ที่ซื้อกลับมาล้างให้สะอาดก่อนนำไปจัดเก็บหรือทำอาหาร รวมทั้งปรุงให้สุกทุกครั้งก่อนรับประทาน
                                    4. ถุงพลาสติกอาจจะมีเชื้อโรคปะปนอยู่ บางครั้งเราก็แกะถุงพลาสติก และใช้มือหยิบอาหารเข้าปากทันที ทำให้เสี่ยงรับเชื้อโรคที่ปะปนอยู่บนถุงเข้าสู่ร่างกาย ล้างมือให้สะอาดทุกครั้งหลังสัมผัสถุงหูหิ้ว
                                    5. ระวังการเข้าไปในที่แออัด สวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง และกลับถึงบ้าน ควรล้างมือให้สะอาดทันทีทุกครั้ง

                                    ข้อสุดท้ายสำคัญมาก ๆ ล้างมือให้บ่อย ให้สะอาดทุกครั้งหลังสัมผัสสิ่งของหรือทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกับ สวมหน้ากาก และ เว้นระยะห่างทางสังคม ช่วยลดโอกาสรับและส่งต่อเชื้อโรคไปสู่คนรอบข้างได้

                                    ป้องกันโควิด-19 ตอนไปตลาด
                                    ป้องกันโควิด-19 ตอนไปตลาด

                                    อาหารทะเลกินได้ Covid-19 ไม่ติดและไม่แพร่

                                    สำหรับคนที่ยังกังวลเรื่องการกินกุ้งหรืออาหารทะเลนั้น ขณะนี้ยังไม่พบว่ามีคนติดเชื้อ Covid-19 จากการบริโภคสัตว์น้ำและผลิตภัณฑ์จากสัตว์น้ำ แต่เพื่อการบริโภคที่ถูกสุขอนามัยควรปรุงสัตว์น้ำให้สุกก่อนบริโภค

                                    ป้องกันโควิด-19 ตอนไปตลาด
                                    ป้องกัน Covid-19 ตอนไปตลาด

                                    คำแนะนำในการปรุงอาหารทะเลสดหรือแช่แข็ง

                                    • ล้างมือหลังสัมผัสสัตว์น้ำก่อนและหลังปรุงอาหาร
                                    • ไม่สัมผัสอาหารอื่นขณะเตรียมอาหารแช่แข็ง
                                    • ไม่จับใบหน้าขณะซื้ออาหารแช่แข็ง
                                    • ปรุงสุกก่อนบริโภค

                                    ย้ำกันอีกครั้งเรื่องการล้างมือให้สะอาดอย่างน้อย 20 วินาที ด้วยน้ำกับสบู่จะดีที่สุด แต่ถ้าไม่สะดวกให้ใช้เจลล้างมือที่มีแอลกอฮอล์เข้มข้น 70% ขึ้นไปถูให้ทั่ว แล้วปล่อยให้แห้ง การล้างมือบ่อย ๆ จะช่วยลดโอกาสรับเชื้อจากการสัมผัส โดยเฉพาะก่อนรับประทานอาหารและหลังมื้ออาหาร หรือจับสิ่งของสาธารณะจะช่วยป้องกันเชื้อที่อาจติดมาได้ และที่สำคัญที่สุด เมื่อกลับถึงบ้าน พ่อแม่จะได้ไม่พาเชื้อโรคมาติดคนในบ้าน ลดความเสี่ยงลูกน้อยติดโควิด-19

                                    การดูแลลูกในช่วงโควิด-19

                                    กรมการแพทย์ โดยสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี แนะนำพ่อแม่ให้ดูแลเด็กเป็นพิเศษในช่วงฤดูหนาว ว่า ความเย็นเป็นตัวเพาะเชื้ออย่างดีในการกระจายไวรัส ในส่วนของเด็กเล็กอาจต้องดูแลใกล้ชิด เพราะไม่สามารถปกป้องตัวเองได้ จึงเป็นหน้าที่ของผู้ปกครองต้องเฝ้าระวัง

                                    นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า ฤดูหนาวที่อุณหภูมิลดลง เป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้ติดเชื้อโรคระบบทางเดินหายใจระบาดได้ง่าย โดยเฉพาะโควิด-19 ที่ยังพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยไข้หวัดและโรคโควิด19 มีอาการคล้ายคลึงกัน แม้การติดเชื้อโควิด-19 ในเด็กมีไม่มากนัก แต่การเฝ้าระวังโรคทั้งตัวผู้ปกครองและตัวเด็ก ต้องมีมาตรการเพื่อป้องกันให้ห่างไกลจากไวรัสโควิด-19

                                    วิธีดูแลรักษาสุขภาพเด็กให้แข็งแรง และสิ่งที่พ่อแม่ควรทำ มีดังนี้

                                    1. สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า ล้างมือบ่อย ๆ โดยเฉพาะหน้าหนาวนี้เชื้อโรคแพร่กระจายได้มาก เวลาที่ออกไปนอกบ้าน อาจไปสัมผัสกับเชื้อโรคและอาจนำมาติดลูกได้ การล้างมือบ่อย ๆ จึงเป็นวิธีลดโอกาสรับเชื้อและแพร่กระจายของเชื้อโรค ซึ่งสามารถป้องกันได้ทั้งโรคไข้หวัดและโรคโควิด-19
                                    2. หลีกเลี่ยงการนำเด็กเล็กหรือทารกไปสถานที่แออัด ไม่ว่าจะเป็นสวนสาธารณะ ห้างสรรพสินค้า โดยเฉพาะเด็กทารกเนื่องจากภูมิคุ้มกันโรคของเด็กยังมีน้อยจึงอาจติดเชื้อโรคได้ง่าย
                                    3. การรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่และปรุงสุกร้อนใช้ช้อนกลางส่วนตัว
                                    4. ทำให้ร่างกายของลูกน้อยอบอุ่นอยู่เสมอ สวมใส่เสื้อผ้าที่อุ่นแต่นุ่มสบายไม่ทำให้อึดอัดหรือระคายเคืองผิว เวลานอนก็ควรห่มผ้าเพื่อเพิ่มความอบอุ่น เพราะผิวพรรณของเด็กก็มีส่วนสำคัญที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ ในช่วงหน้าหนาวผิวของเด็กแห้งก็จะทำให้เกิดการระคายเคือง คัน และผิวจะแตกลูกจะรู้สึกเจ็บ หลังอาบน้ำควรทาครีมบำรุงเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวของเด็ก

                                    นอกจากดูแลสุขภาพของลูกแล้ว พ่อแม่ต้องดูแลสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอด้วย เพื่อป้องกันเชื้อโรคต่าง ๆ ไม่ให้ติดต่อไปยังคนในบ้าน

                                    อ้างอิงข้อมูล : Social Marketing Thaihealth by สสส. และ สสส. 

                                     

                                    เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                                     

                                    อ่านบทความอื่นเพิ่มเติม

                                    เด็กติดโควิด ระวังเชื้อจากพ่อแม่ แพร่ Covid-19 สู่ลูก

                                    โควิด อาการ ที่ต้องสังเกต! สัญญาณอันตรายที่ต้องไปโรงพยาบาล

                                    เชื้อโควิดบนสิ่งของ เกาะลูกบิดประตู อยู่ได้นานแค่ไหน

                                    เตือนแม่ สังเกตอาการ RSV รีบพาไปตรวจหากเข้าข่ายนี้!