Page 110 – AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

คนท้องกินทุเรียนได้ไหม

คนท้องกินทุเรียนได้ไหม คำถามที่ควรรู้และสิ่งที่ต้องระวัง!!

คำถามที่แม่ท้องหลาย ๆ คนเฝ้ารอคำตอบ คนท้องกินทุเรียนได้ไหม สิ้นสุดการรอคอยเพราะที่นี่มีคำตอบมาให้คลายสงสัย แถมท้ายด้วยข้อควรระวังในการกินทุเรียนมาฝากกัน

คนท้องกินทุเรียนได้ไหม คำถามที่ควรรู้และสิ่งที่ต้องระวัง!!

พูดถึงทุเรียน ผลไม้สีเหลืองนวล มีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ประจำตัว ที่ใครหลาย ๆ คนได้เห็น ได้กลิ่นคงอดใจกันไม่ไหว นับว่าเป็นราชาแห่งผลไม้ของไทยเลยทีเดียว นอกจากความหอมอร่อยแล้ว รู้ไหมว่าทุเรียนยังมีประโยชน์มากมายแก่ผู้ที่ได้รับประทานนอกจากความหอมอร่อยอีกด้วย

ประโยชน์ของทุเรียน

  • อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ ได้แก่ คาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน แร่ธาตุ เช่น โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส แคลเซียม เป็นต้น
  • มีสรรพคุณในตำรายาไทย ใช้ประโยชน์ได้แทบทุกส่วน
  • มีฤทธิ์ต้านสารอนุมูลอิสระ และมีผลทดลองที่ชี้ได้ว่าอาจจะมีฤทธิ์ลดไขมันในเลือดได้

    ทุเรียนราชาผลไม้
    ทุเรียนราชาผลไม้

ทุเรียน (Durio zibethinus Murray) หรือที่ฝรั่งเรียกว่า durian เป็นพืชในวงศ์ BOMBACACEAE พืชสกุลนี้เป็นไม้พื้นเมืองของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ปัจจุบันประเทศไทยมีการผลิตทุเรียนมากที่สุด รองลงมาคืออินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ เนื้อและเมล็ดของทุเรียนมีคุณค่าทางอาหารสูง และให้พลังงานสูงเช่นกัน (ประมาณ 124 กิโลแคลอรี/100 ก.) เพราะอุดมไปด้วยคาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน และมีแร่ธาตุหลายชนิด เช่น โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส แคลเซียม นอกจากนี้ในเนื้อของทุเรียนยังมีสารประกอบซัลเฟอร์หรือกำมะถัน เช่น thiols, thioethers, ester และ sulphides ซึ่งทำให้ทุเรียนมีกลิ่นเฉพาะตัวที่รุนแรง (ซึ่งหลายๆ คนอาจไม่ชอบ) และสารสำคัญที่พบในทุเรียนคือสารในกลุ่ม คาโรทีนอยด์ ฟลาโวนอยด์ และโพลีฟีนอล

สรรพคุณตาตำรายาไทยระบุว่า รากทุเรียน มีรสฝาดขมใช้แก้ไข้และแก้ท้องร่วง ใบทุเรียน มีรสขม เย็นเฝื่อน ใช้แก้ไข้ แก้ดีซ่าน ขับพยาธิ และทำให้หนองแห้ง เปลือกทุเรียน มีรสฝาดเฝื่อน ใช้รักษากลากเกลื้อน สมานแผล แก้น้ำเหลืองเสีย พุพอง แก้ฝี ตานซาง เนื้อทุเรียน มีรสหวาน ร้อน ใช้แก้จุกเสียดในท้อง ให้ความร้อนกับร่างกาย บำรุงกำลัง แก้โรคผิวหนัง ทำให้ฝีแห้ง และขับพยาธิไส้เดือน

การศึกษาฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาพบว่า เนื้อทุเรียนมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและฤทธิ์ลดไขมันในเลือด แต่ยังเป็นเพียงการศึกษาในหลอดทดลองและสัตว์ทดลอง นอกจากนี้ยังมีการศึกษาพบว่าสาร polysaccharide gel ที่ได้จากเปลือกทุเรียนมีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียหลายชนิด และเมื่อนำไปผสมในอาหารสัตว์ก็พบว่าสามารถช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตและภูมิคุ้มกันให้กับกุ้งได้ และมีการนำสารดังกล่าวไปพัฒนาเป็นแผ่นฟิล์มปิดแผล ซึ่งพบว่าช่วยสมานแผลและลดการอักเสบได้เป็นอย่างดี

ข้อมูลอ้างอิงจาก pharmacy.mahidol.ac.th
คนท้องกินทุเรียนได้ไหม
คนท้องกินทุเรียนได้ไหม

คำถามฮิต…คนท้องกินทุเรียนได้ไหม??

จากประโยชน์ของทุเรียนข้างต้น แม้ว่าเราจะทราบว่าทุเรียนมีประโยชน์ต่อร่างกายไม่น้อยเลยทีเดียว แต่ก็มักเกิดคำถามขึ้นสำหรับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์กันเสมอมาว่า คนท้องกินทุเรียนได้ไหม กินแล้วจะเป็นอย่างไรต่อลูกน้อยหรือไม่ วันนี้ ทีมแม่ ABK ได้รวบรวมคำตอบไว้ให้คุณแม่ได้หายคลางแคลงใจกัน ก่อนอื่นต้องขอทำความเข้าใจก่อนว่าในทุเรียนมีสารอาหารใดที่เป็นประโยชน์ต่อคนท้องบ้าง และสิ่งใดเป็นข้อห้าม หรือข้อจำกัดที่ควรยึดถือปฎิบัติเพื่อความปลอดภัยต่อตัวคุณแม่และลูกน้อยกันนะ

คุณค่าทางสารอาหารของทุเรียนสำหรับคนท้อง

นอกจากประโยชน์ที่มีมากมายในทุเรียนแล้ว ทุเรียนยังเป็นแหล่งที่มีโฟเลตมาก โดยทุเรียนเพียง 2 พู (เม็ด) ก็มีโฟเลต เท่ากับร้อยละ 50 ของปริมาณโฟเลตที่แนะนำต่อวัน “โฟเลต” จำเป็นต่อร่างกาย และสามารถที่จะช่วยป้องกันความพิการ หยุดภาวะอัลไซเมอร์ ได้ดี โฟเลตเป็นสารอาหารที่มีความสำคัญกับคนทุกกลุ่มอายุ ตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์ จนเป็นคุณแม่ท้องแล้วก็ยังต้องการโฟเลตมาก ประโยชน์ของโฟเลตนั้นมีความสำคัญที่จะช่วยพัฒนาตัวอ่อนในระหว่างการพัฒนาในครรภ์ให้มีการเติบโต และลดภาวะการเกิดปากแหว่งเพดานโหว่ได้  และกระดูกสันหลังไม่ปิดได้ซึ่งโฟเลตนั้นจะมีการหลั่งสารซีโรโทนิน ซึ่งจะควบคุมการนอน ความอยาก ความหิว และอาหารซึมเศร้าต่าง ๆ อีกด้วย

  • ในทุเรียน 1 ผลจะมีสารอาหารต่างๆ เช่น คาร์โบไฮเดรตที่ให้น้ำตาลซูโครสและฟรุกโทส วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินอี ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมงกานีส เหล็ก ทองแดง กำมะถันอินทรีย์ และแอนตี้ออกซิแดนท์
  • ทุเรียน 1 เม็ด​ (40 กรัม) ให้น้ำตาล 18 กรัม
  • ทุเรียน 1 เม็ด ให้พลังงาน 60 กิโลแคลอรี่ เทียบเท่าข้าวสวย 1 ทัพพี ชานมไข่มุก 1/4 แก้ว
  • ทุเรียน 4-6 เม็ด ให้พลังงานเทียบเท่าข้าวมันไก่ 2 จาน

    คนท้องกินทุเรียนได้ไหม ควรกินผลไม้ปริมาณเท่าไหร่
    คนท้องกินทุเรียนได้ไหม ควรกินผลไม้ปริมาณเท่าไหร่

จากข้างต้นจะเห็นได้ว่านอกจากทุเรียนจะมีโฟเลตมากแล้ว ยังเป็นผลไม้รสหวานจัด ที่ให้ปริมาณน้ำตาล และพลังงานสูงมาก ซึ่งเป็นสิ่งที่แม่ท้องต้องคอยระมัดระวัง อาจทำให้เกิดภาวะเบาหวานระหว่างตั้งครรภ์ น้ำหนักเกินมาตรฐาน และเกิดอาการร้อนในขณะตั้งครรภ์ได้ ดังนั้นปริมาณที่แนะนำให้แม่ตั้งครรภ์รับประทาน คือ ทุเรียน 1 พู ต่อวัน และไม่ควรกินบ่อย ๆ ติดต่อกัน โดยแนะนำให้รับประทานผลไม้หลากหลายชนิดร่วมกัน เช่น รับประทานผลไม้รสหวานจัด กับหวานน้อยผสมกันในหนึ่งมื้อ จะดีกว่า เพื่อให้คุณแม่ไม่ขาดสารอาหารที่จำเป็นที่จะได้รับจากผลไม้ และไม่ได้รับน้ำตาลมากเกินไปจากผลไม้รสหวาน ตัวอย่างเช่น หากแม่ท้องกินทุเรียน ควรกินผลไม้ให้ความเย็นร่วมด้วย เช่น มังคุด หรือฝรั่ง ซึ่งต้องไม่ลืมว่าในช่วงที่ตั้งครรภ์ไม่ว่าจะกินอะไรต้องนึกถึงความปลอดภัยของลูกในท้องมาเป็นอันดับหนึ่ง

ข้อควรระวังในการกินทุเรียน

  • คนทั่วไปไม่ควรกินทุเรียนเกินวันละ 2 เม็ด เนื่องจากปริมาณน้ำตาลและพลังงานที่สูง
  • ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง ผู้ป่วยโรคไตและโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ควรกินทุเรียนแค่ไม่เกินวันละ 1 เม็ดเล็ก เพราะอาจทำให้เกิดภาวะช็อค และทำให้โรคทวีความรุนแรงขึ้นมาได้
  • ไม่ควรกินทุเรียนคู่กับแอลกอฮอล์หรือคาเฟอีน เพราะจะทำให้เกิดอาการชา วิงเวียนศีรษะ หน้าแดง อาเจียน อาหารไม่ย่อย ท้องอืด ไม่สบายตัว และอาจเป็นอันตรายได้ถ้ามีอาการขาดน้ำหรือหมดสติ หากรับประทานคู่กับคาเฟอีนก็จะทำให้ปวดศีรษะได้
  • ไม่ควรกินทุเรียนคู่กับผลไม้และเครื่องดื่มหรืออาหารที่มีรสหวานจัดอย่างเช่น ลำไยและน้ำอัดลม เพราะจะเป็นการยิ่งเพิ่มน้ำตาลในร่างกาย รวมไปถึงอาหารมันจัดที่ให้พลังงานมากด้วย
  • ดื่มน้ำตามมาก ๆ หรือดื่มน้ำผสมเกลือแกงครึ่งช้อนชา เพื่อขับสารซัลเฟอร์ในทุเรียนและช่วยแก้อาการร้อนในได้ดี (อาจดีกว่าการกินทุเรียนคู่กับมังคุดด้วยซ้ำ) และยังทำให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานจากทุเรียนได้ดีขึ้น
  • กินทุเรียนคู่กับมังคุด เพราะมังคุดมีฤทธิ์เย็น มีเส้นใยอาหารสูง มีน้ำเยอะ และมีสารต้านการอักเสบช่วยแก้เรื่องร้อนในได้

    ดูแลอาหารการกินระหว่างตั้งครรภ์เพื่อลูกน้อย
    ดูแลอาหารการกินระหว่างตั้งครรภ์เพื่อลูกน้อย

แม่ท้องควรกินทุเรียนอย่างไรจึงปลอดภัย!!

  1. ควรรับประทานทุเรียนในปริมาณไม่มาก ไม่ควรเกิน 1 พู ต่อวัน และไม่ควรรับประทานติดต่อกันทุกวัน
  2. ให้รับประทานผลไม้ชนิดอื่น สลับกันไปบ้าง แม้ว่าทุเรียนจะมีโฟเลตสูง แต่โฟเลตก็มีอยู่ในผลไม้อื่น ๆ ด้วยเช่นกัน เช่น  ขนุน ลิ้นจี่  กล้วยไข่ มะละกอ อะโวคาโด ฝรั่ง กระเจี๊ยบเขียว ถั่วแดง เมล็ดทานตะวัน เป็นต้น
  3. การจัดมื้ออาหารให้มีความสมดุลและหลากหลาย จึงเป็นสิ่งสำคัญ ต้องเน้นให้มื้ออาหารมีความหลากหลาย สับเปลี่ยนหรือรับประทานอาหารหลายๆชนิด แต่ต้องพอดี ไม่ทานอย่างใดอย่างหนึ่งมากจนเกินความต้องการของร่างกาย ก็จะทำให้เกิดความสมดุล อาหารก็จะกลายเป็นยา ไม่ใช่ยาพิษ –รศ.ดร.รัชนี คงคาฉุยฉาย
  4. หากคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์มีโรคประจำตัวร่วมด้วย ควรปรึกษาคุณหมอก่อนเลือกรับประทาน
ข้อมูลอ้างอิงจาก www.sanook.com/รศ.ดร.รัชนี คงคาฉุยฉาย อาจารย์ประจำสถาบันโภชนาการ สถาบันโภชนาการ

อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

แม่ท้องกินทุเรียน ช่วยให้ลูกฉลาดได้จริงหรือ!?

เด็กกินทุเรียนได้ไหม ?

13 สารอาหารสำคัญ กินเพื่อลูกรักฉลาด ตั้งแต่อยู่ในครรภ์

2 เรื่องสำคัญ แม่ท้องต้องทำ เพื่อให้ลูกเกิดมาครบ 32 และมีสมองดี

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

    เบบี้เลิฟเมโลดี้

    เบบี้เลิฟเมโลดี้ จากเบบี้เลิฟ ชวนแม่มอบรักผ่านบทเพลงให้ลูกในครรภ์

    การแพร่ระบาดของ ‘โรคโควิด-19’ ตัวเลขผู้ติดเชื้อ และจำนวนผู้เสียชีวิตที่เพิ่มมากขึ้นทุกวัน ส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตของประชาชน รวมถึงสภาพเศรษฐกิจที่ซบเซา ธุรกิจบางส่วนหยุดชะงัก ทำให้เกิดความเครียดสะสม วิตกกังวล โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ลูกน้อยอยู่

     10 เพลงจาก เบบี้เลิฟเมโลดี้ สร้างพัฒนาการที่ดีให้ลูกรัก

    การฟังเพลงที่ช่วยผ่อนคลายความเครียดจะช่วยคุณแม่ตั้งท้องลดความกังวลลงได้ ตอนนี้ทางเบบี้เลิฟเป็นแบรนด์ผ้าอ้อมชั้นนำ ที่เข้าใจคุณแม่ในทุกๆสถานการณ์ รวมถึงแม้แต่สถานการณ์ของโควิด-19 ระลอกใหม่นี้ มีแคมเปญพิเศษสร้างสรรค์บทเพลงใหม่ สำหรับคุณแม่ตั้งท้องโดยเฉพาะ

    เบบี้เลิฟเมโลดี้

    โดยจากงานวิจัยพบว่า “การฟังเพลง” เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ทำให้คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์มีความสุข สามารถผ่อนคลาย ยิ่งท่ามกลางโรคระบาดที่อยู่รอบตัวเรา ถ้าคุณแม่เกิดความเครียด ก็จะส่งผลต่อพัฒนาการลูกน้อยในครรภ์ได้ เพราะทางแบรนด์เบบี้เลิฟเข้าใจความกังวลของคุณแม่ จึงร่วมมือกับ วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล สร้างสรรค์เพลงชุด จำนวน 10 เพลง

    โดยเป็นเพลงที่ประพันธ์ขึ้นมาใหม่ เพื่อช่วยเสริมพัฒนาการลูกน้อยในครรภ์ โดยทำนองเพลงอยู่ระดับเดียวกับอัตราการเต้นของหัวใจ (60-80 bpm) ทำให้คุณแม่รู้สึกผ่อนคลาย และระดับของเสียงดนตรีต้องไม่ต่ำหรือสูงจนเกินไป (อยู่ในช่วง c3 – c5) มีเนื้อร้องง่ายๆ ความหมายดี ซึ่งมีการจัดเรียงลำดับของเพลงทำให้รู้สึกถึงความผ่อนคลาย จึงแนะนำให้ฟังทั้งชุดเพลง (ความยาวประมาณ 30 นาที) และลูบท้องขณะฟังเพลงไปด้วย เพื่อการสื่อสารต่อลูกน้อยในครรภ์

    โดยบทเพลงนี้ได้มีการทดสอบกับกลุ่มคุณแม่ตั้งครรภ์ 6-9 เดือน พบว่า 98% ของคุณแม่ตั้งครรภ์รู้สึกว่าเพลงชุดนี้ช่วยให้รู้สึกสงบ และผ่อนคลายขึ้น / 97% ของคุณแม่ตั้งครรภ์รู้สึกว่าเพลงชุดนี้ดีต่อตัวคุณแม่เอง และดีต่อลูก นอกจากนี้คุณแม่ 96% รู้สึกว่า เพลงชุดนี้จะมีส่วนช่วยเรื่องพัฒนาการทางสมองของลูกน้อยได้

    เบบี้เลิฟเมโลดี้

    คุณแม่ทุกท่านสามารถฟังเพลง เบบี้เลิฟเมโลดี้ ชุดรักตั้งแต่ท้อง ฟรีได้ที่ ยูทูป เบบี้เลิฟไทยแลนด์ หรือคลิก https://bit.ly/3i0RCOY

     

    ท่ามกลางสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ทางแบรนด์ “เบบี้เลิฟ” ก็ยังสร้างแคมเปญดีๆเพื่อขอบคุณแม่ทุกๆท่าน ควบคู่กับการรักษาจุดแข็งด้านผลิตภัณฑ์ โดยเมื่อปีที่แล้วได้มีการปรับสูตร ผ้าอ้อมสำเร็จรูป “BabyLove Easy Tape เพื่อตอบโจทย์ในการช่วยคุณแม่แรกคลอดดูแลลูกน้อย   เหมาะสำหรับเด็กทารก 0 – 3 เดือน อ่อนโยนต่อผิว นุ่มสบายผิว ไม่กลัวเรื่องอับชื้น หมดกังวลเรื่องแพ้  เพราะผ่านการทดสอบไฮโปอัลเลอร์เจนิก แถมยังซึมซับดีเยี่ยมยาวนานถึง 10 ชั่วโมง ให้ลูกน้อยมีสุขอนามัยที่ดี คุณภาพพรีเมียมในราคาเอื้อมถึงได้ จนได้รับความไว้วางใจจากคุณแม่เป็นแบรนด์ผ้าอ้อมแบบเทปอันดับ 1 ในประเทศไทย เรียกว่าเป็นแบรนด์คุณภาพชั้นเยี่ยมที่พร้อมจะอยู่เคียงข้างคุณแม่และลูกน้อยทุกๆช่วงเวลา

    เบบี้เลิฟเมโลดี้

     

      ป่วยเพราะเรียนออนไลน์

      8 อาการ ป่วยเพราะเรียนออนไลน์ ที่เด็กไทยเสี่ยงเผชิญ!

      ป่วยเพราะเรียนออนไลน์ – สถานการณ์การระบาดของ โคโรนาไวรัส (โควิด-19) ยังคงน่าเป็นห่วง  ตั้งแต่ต้นปี 2563 ที่ผ่านมาจากการระบาดช่วงแรกพบผู้ติดเชื้อเพียงหลักสิบ จากนั้นไม่นานตัวเลขก็ค่อยๆ วิ่งสู่หลักร้อย จนถึงหลักหมื่นไปแล้วในปัจจุบัน  ด้วยสถานการณ์เช่นนี้ โรงเรียนทั่วประเทศจำเป็นต้องหยุดการเรียนการสอนในรูปแบบปกติ ทั้งยังต้องเลื่อนวันเปิดโรงเรียนออกไปอีกเรื่อยๆ จากกำหนดการเดิมเพราะสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคยังไม่นิ่ง ชั้นเรียนต่างๆ ต้องเปลี่ยนไปใช้การเรียนการสอนออนไลน์เต็มรูปแบบเพื่อเว้นระยะห่างทางสังคม และป้องกันการแพร่ระบาดของโรคเพื่อความปลอดภัยของนักเรียนและผู้ปกครอง

      การเปลี่ยนผ่านไปสู่การเรียนรการสอนออนไลน์ไม่เพียงส่งผลกระทบต่อครูที่ต้องแก้ไขหลักสูตรในการเรียนการสอนเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อนักเรียนที่ต้องปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมการเรียนรู้แบบใหม่ด้วย ซึ่งเด็กต้องเผชิญกับเวลาหน้าจอมากขึ้นแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน ผลกระทบสำคัญที่ตามมาประการหนึ่งของการเปลี่ยนผ่านสู่การเรียนออนไลน์ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ คือ ผลกระทบต่อสุขภาพโดยรวมของเด็กหากไม่มีวิธีรับมืออาการเจ็บป่วยต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้

      8 อาการ ป่วยเพราะเรียนออนไลน์ ที่เด็กไทยเสี่ยงเผชิญ!

      การเรียนออนไลน์ เปลี่ยนวิถีชีวิตของเด็กไทยไปค่อนข้างมาก จากการวิถีชีวิตที่ได้เคลื่อนไหวร่างกายมีเวลาพักสายตาและอริยาบท มีอิสระในการใช้ชีวิต มีสังคมได้พบปะเพื่อนๆ ครูอาจารย์แบบเห็นหน้าค่าตา แต่กับการเรียนออนไลน์ เด็กๆ จำเป็นต้องอยู่กับหน้าจอทุกวัน ที่สำคัญคือมีการเคลื่อนไวร่างกายที่น้อยลง ส่งผลให้เกิดความเหนื่อยล้า ความเครียด ซึ่งหากไม่มีการรับมือหรือป้องกันผลกระทบที่เกิดกับร่างกายและจิตใจ ก็อาจทำให้เสี่ยงต่อการ ป่วยเพราะเรียนออนไลน์ ด้วย 8 โรค ต่อไปนี้ได้ค่ะ

      1.โรคเกี่ยวกับสายตา (Eye strain)

      การเรียนออนไลน์ ที่ต้องใช้สายตาจ้องหน้าจอเป็นระยะเวลานาน แน่นอนว่าสามารถส่งผลกระทบต่อดวงตาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อาการต่างๆ ที่เกิดจากการใช้สายตามากเกินไป ได้แก่ ตาพร่ามัว ปวดตา เด็กบางคนอาจมีอาการตาแห้ง เคืองตา น้ำตาไหล หรือมีอาการปวดศรีษะร่วมด้วย นอกจากนี้เด็กที่มีสายตาสั้นอยู่เดิมก็อาจทำให้สายตาสั้นแย่ลงไปอีกได้

      การป้องกัน  ให้เด็กใช้สูตร 20 20 20 กล่าวคือ เด็กควรได้พักสายตาจากการใช้หน้าจอทุก ๆ 20 นาที และได้โฟกัสไปที่บางสิ่งที่อยู่ห่างออกไปราว 20 ฟุต (6 เมตร) จ้องมองนานประมาณ  20 วินาที วิธีนี้จะช่วยให้ดวงตาและสายตาได้ผ่อนคลาย หากมีอาการตาแห้งอาจจำเป็นต้องใช้น้ำตาเทียมหยอดตาบ่อยๆ หรือใช้ยาหยอดตาชนิดที่ยับยั้งการคั่งของเลือดบริเวณตา อย่างไรก็ตามควรปรึกษาเภสัชกรทุกครั้ง นอกจากนี้เด็กๆ ควรได้นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ 7-9 ชั่วโมงต่อวัน พื่อให้สายตาที่ต้องเปิดรับแสงและรังสีต่างๆ จากจอมาทั้งวันได้ฟื้นฟู ทั้งนี้ในกรณีที่ลูกมีน้ำตาไหล ตาบวม ควรพาไปพบจักษุแพทย์ที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน ที่สำคัญอย่าลืมเว้นระยะห่างทางสังคม และสวมใส่หน้ากากอนามัยให้มิดชิดเมื่ออยู่นอกบ้าน

      2.โรคออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome)

      อาการของโรคออฟฟิศซินโดรมอาจไม่ได้เป็นได้แค่ในผู้ใหญ่อีกต่อไป ไม่แน่ว่าในอนาคตอาจมีการบัญญัติ ชื่อโรคใหม่ว่า  E-Learning Syndrome  ก็เป็นไปได้ การเพ่งหรือจ้องคอมพิวเตอร์นานๆ เป็นเวลาหลายชั่วโมง นอกจากจะส่งผลเสียต่อสายตาของเด็กๆ แล้ว กล้ามเนื้อคอ และหลัง ยังเกิดอาการปวดเกร็งได้ เพราะร่างกายขาดการเคลื่อนไหวและไม่ได้เปลี่ยนอิริยาบถ ยิ่งต้องนั่งเรียนหน้าจอทุกวันอาการดังกล่าวเกิดขึ้นบ่อยๆ ก็สามารถพัฒนาจนกลายเป็นอาการปวดคอ หรือปวดหลังเรื้อรังเหมือนดั่งอาการของโรคออฟิศซินโดรมในผู้ใหญ่ได้

      การป้องกัน ไม่ควรปล่อยให้ลูกนั่งอยู่ในท่าเดิมนานเกินไป อาจจะต้องมีการกระตุ้นให้ขยับไปมาบ้างอย่างน้อยๆ ต้อง 30 นาทีต่อครั้ง คอยเช็คว่าลูกนั่งเรียนในท่าทางที่ถูกต้อง หลังไม่งอ ควรให้ลูกนั่งเก้าอี้ที่มีพนักพิงและนั่งหลังพิงเก้าอี้ให้หลังชิดขอบด้านในของเก้าอี้ ตำแหน่งหน้าจอคอมพิวเตอร์อยู่ในระดับสายตา ไม่สูงหรือต่ำจนเกินไป

      ป่วยเพราะเรียนออนไลน์
      ป่วยเพราะเรียนออนไลน์

      3. โรคอ้วน (Pediatric Obesity)

      การใช้เวลาอยู่หน้าจอมากเกินไป เสี่ยงทำให้เด็กๆ ป่วยเป็นโรคอ้วนได้ สาเหตุเกิดจากกิจวัตรประจำวันที่ขาดการเคลื่อนไหวของร่างกาย เพราะเวลาส่วนใหญ่ต้องเฝ้าคอยอยู่หน้าจอ พอถึงเวลาว่างก็อาจขว้าขนมเข้าปากจนเคยชิน เด็กบางคนกินขนมกินอาหารมากกว่าตอนที่ต้องไปเรียนที่โรงเรียนตามปกติด้วยซ้ำ นอกจากนี้ในมื้ออาหารระหว่างส่วนใหญ่ อาจมีความจำเป็นต้องทานอาหารจานด่วนที่พ่อแม่หรือคนเลี้ยงสั่งอาหารเดลิเวอรีให้ด้วยข้อจำกัดในการออกไปซื้อหาอาหาร อาหารจานด่วนทั้งหลายเมื่อทานบ่อยๆ เช่น พิซซ่า ไก่ทอด แฮมเบอร์เกอร์  จะทำให้การควบคุมอาหารทำได้ไม่ดีส่งผลให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นได้อย่างรวดเร็ว

      การป้องกัน หากเป็นไปได้ การคุมอาหารและการได้ออกกำลังกาย คือสิ่งสำคัญที่จะช่วยป้องกันโรคอ้วนในเด็กได้ เทคนิคที่ดีคือผู้ปกครองต้องปรับรูปแบบกินอาหารของลูกๆ ให้ใกล้เคียงกับเวลาที่เด็กๆ ต้องไปโรงเรียน อยู่โรงเรียนกินอย่างไรเวลาที่เรียนออนไลน์อยู่บ้านก็ควรกินแบบเดียวกัน ลดปริมาณขนมขบเคี้ยว ของว่างต่างๆ เพิ่มผักและผลไม้ให้มากขึ้นในปริมาณที่เหมาะสม เปลี่ยนเวลาพักว่างจากการกินขนมไปเป็นการได้ขยับเคลื่อนไหวร่างกายจะช่วยให้ลูกห่างไกลจากโรคอ้วนได้ค่ะ

      4. โรคเครียด วิตกกังวล หรือซึมเศร้า ( Stress, Anxiety or Depression )

      การเรียนออนไลน์ทำให้เด็กต้องอยู่แต่ในห้องสี่เหลี่ยมแคบๆ เป็นระยะเวลายาวนานติดต่อกัน ไม่ได้พบปะเพื่อนร่วมชั้น ไม่ได้เล่นสนุกตามประสาเด็ก ซึ่งส่งผลให้เกิดความเครียดที่มากกว่าปกติได้ นอกจากนี้การใช้เวลาหน้าจอที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกิจกรรมที่ไม่ใช่ด้านวิชาการ มีความเชื่อมโยงกับภาวะซึมเศร้า ความวิตกกังวล และปัญหาความสนใจที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในเด็กที่มีปัญหาของโรคเครียด หรือเครียดง่ายกว่าปกติอยู่เป็นทุนเดิม อาจเสี่ยงป่วยเป็นโรคซึมเศร้าได้ในสถานการณ์ที่ต้องอยู่แต่ในบ้านและเรียนออนไลน์ ยิ่งพ่อแม่ประสบกับปัญหาเรื่องรายได้ต่างๆ ด้วยสภาพเศรษฐกิจในยุคที่โควิดกำลังระบาด ความเครียดของพ่อแม่ก็มีโอกาสส่งถึงลูกได้โดยไม่รู้ตัว นอกจากนี้ ครอบครัวที่เด็กต้องเรียนออนไลน์อยู่กับบ้านเพียงลำพังโดยพ่อแม่ต้องไปทำงาน อาจทำให้เด็กๆ รู้สึกเหงาและโดดเดี่ยวมากกว่าปกติ ซึ่งปัจจัยแวดล้อมเหล่านี้อาจมีส่วนทำให้เด็กเกิดภาวะซึมเศร้าได้ไม่มากก็น้อย

      การป้องกัน การให้ความใส่ใจลูกเป็นเกราะป้องกันสำคัญที่จะช่วยหยุดยั้งโรคเครียดหรือซึมเศร้าได้ หากพ่อแม่ต้องไปทำงานอาจ วีดีโอคอล หรือโทรศัพท์มาพูดคุยกับลูกๆ บ้างเพื่อถามไถ่เรื่องการเรียนและความเป็นอยู่ เมื่ออยู่บ้านควรหาเวลาว่างใช้เวลาที่อยู่ด้วยกันเพื่อให้เกิดความสุขมากที่สุด พูดคุยสอบถามปัญหาต่างๆ ของลูก นอกจากนี้การสร้างความมั่นคงให้ลูกรู้สึกว่าพ่อแม่ไว้ใจพวกเขาเกี่ยวกับการเรียนออนไลน์ โดยการเป็นกำลังใจอยู่ห่างๆ ช่วยกระตุ้นความใส่ใจการเล่าเรียนมากขึ้นจะช่วยให้เด็กรู้สึกดีว่ายังมีพ่อแม่ที่คอยอยู่ข้างๆ ช่วยดูแลแก้ปัญหาต่างๆ ให้ ที่สำคัญพ่อแม่ต้องเข้าใจลูกว่าการเรียนออนไลน์เด็กๆ อาจทำได้ไม่เต็มร้อย เพราะเด็กอาจหลุดความสนใจไปจดจ่ออยู่กับสิ่งอื่นบ้างซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา พ่อแม่ไม่ควรปะทะอารมณ์กับลูก เพราะจะยิ่งทำให้เกิดความเครียดกันทั้งสองฝ่ายทำให้บรรยากาศและระดับของความสุขในครอบครัวยิ่งแย่ลง

      5. โรคพังผืดกดทับเส้นประสาทข้อมือ (Carpal tunnel syndrome)

      แม้โรคนี้มักเกิดขึ้นกับวัยกลางคนหรือคนวัยทำงาน แต่ก็สามารถเกิดกับเด็กได้เช่นเดียวกัน ในช่วงปีสองปีที่ผ่านมา เด็กไทยจำนวนมากต้องใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเรียนหน้าอยู่ที่หน้าจอ  พอมีเวลาว่างก็อาจนั่งเล่นเกมในคอมพิวเตอร์ เพลิดเพลินอยู่กับหน้าจอท่องโลกออนไลน์ อวัยวะที่ถูกใช้งานบ่อยคงหนีไม่พ้นมือ การใช้มือทำสิ่งเดิมๆ ซ้ำๆ ติดต่อกันเป็นเวลานาน ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการบางอย่าง เช่น ปวดข้อมือ ปวดแขน นิ้วชา รู้สึกเจ็บเสียวที่มือ และในที่สุดอาจป่วยเป็นโรคพังผืดกดทับเส้นประสาทข้อมือ (CTS) สำหรับอาการของโรคนี้ เมื่อเส้นประสาทถูกกดทับ จะทำให้มีอาการปวดและชาตามนิ้ว และถ้าเส้นประสาทถูกกดทับเป็นเวลานาน บ่อยๆ เข้า กล้ามเนื้อบริเวณฝ่ามือ ด้านนิ้วหัวแม่มือลีบ และเล็กลงได้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องดีต่อการใช้ชีวิตประจำวันของเด็กๆ

      การป้องกัน ควรให้ลูกได้ปรับท่าทางในการใช้งานมือให้ถูกต้องเหมาะสม กระตุ้นให้ลูกบริหารข้อมือเป็นพัก ๆ เช่น สะลัดมือ กำมือแล้วปล่อยเพื่อเป็นการผ่อนคลายความตึงเครียดของกล้ามเนื้อและข้อต่อต่างๆ เพื่อให้มือได้พักหลังใช้งานเป็นเวลานาน ควรระวังไม่ให้ลูกทำกิจกรรมที่อาจทำให้อาการต่างๆ ของมือแย่ลง เช่น งานที่ต้องเกร็งข้อมือเป็นเวลานาน หรือต้องกระดกมือขึ้นลงบ่อยๆ  ซึ่งจะทำให้ความดันในโพรงข้อมือสูงขึ้น นอกจากนี้การประคบเย็นเมื่อมือบวมจะช่วยชะลอ และป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดกับเส้นประสาทที่ข้อมือ ซึ่งจะช่วยถนอมมือของเด็กๆ ให้ห่างไกลจากโรคพังผืดกดทับเส้นประสาทที่ข้อมือได้ค่ะ

      6. โรคนอนไม่หลับ (Insomnia)

      สำหรับบางคนแทนที่จะมีเวลาได้พักผ่อนนอนหลับ เพราะมีเวลาอยู่บ้านมากขึ้นหลังจากต้องเปลี่ยนมาเรียนแบบออนไลน์ แต่ความเป็นจริงกลายเป็นว่าตารางการนอนหลับพักผ่อนกลับผิดเพี้ยนไป และแทนที่จะรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น กลับรู้สึกเหนื่อยล้ายิ่งกว่าเดิม เนื่องจากการใช้เวลาอยู่หน้าจอที่มากขึ้น ทำให้เด็กๆ นอนหลับยากขึ้นคุณภาพการนอนก็ถูกลดทอนลง ซึ่งสาเหตุสำคัญเกิดได้จากความเครียด ความวิตกกังวลในการเรียน ตลอดจนการพักดูคลิปวีดีโอ หรือเล่นเกม ระหว่างการทำการบ้านออนไลน์  ซึ่งผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ จอมือถือ จอคอมพิวเตอร์ มีการปล่อยแสงสีฟ้าเทียมที่ยับยั้งปริมาณเมลาโทนินซึ่งช่วยให้นอนหลับสบายที่ร่างกายปล่อยออกมาทำให้จังหวะชีวิตตามธรรมชาติถูกรบกวนด้วยเวลาที่ใช้กับคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ และโทรทัศน์  นอกจากนี้เมื่อเด็กๆ ไม่ต้องตื่นแต่เช้าไปโรงเรียนตามวิถีชีวิตเดิม ทำให้เด็กมีเวลาที่จะนอนดึกหรือตื่นสายมากยิ่งขึ้น เพราะรูปแบบตารางการเรียนที่ไม่แน่นอน ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อเวลาในการนอนหลับตามปกติของเด็กๆ และนำไปสู่การอดนอน ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพอื่นๆ ที่อาจตามมาได้

      การป้องกัน ตั้งกฏเกณฑ์ให้ชัดเจนในเรื่องของเวลาการเข้านอน หากเป็นไปได้ไม่ควรให้มีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อยู่ในห้องนอนลูก หมั่นตรวจตราสภาพแวดล้อมในห้องนอนไม่ให้ร้อนเกินไปหรือมีแสงสว่างมากเกินไป เด็กๆ ควรได้นอนหลับพักผ่อนตอนกลางคืนเฉลี่ย 8-10 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ซึ่งมีส่วนช่วยให้โกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) หลั่งเป็นปกติ ช่วยซ่อมแซมร่างกายส่วนที่สึกหรอ ช่วยเสริมภูมิต้านโรคที่ดีให้กับเด็กๆ

      ป่วยเพราะเรียนออนไลน์

      7. อาการปวดหัว (Headaches from Eye strain)

      การเว้นระยะห่างทางสังคม ด้วยการเรียนออนไลน์ เด็กๆ ต้องใช้เวลากับอุปกรณ์สื่อสารมากขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งอาจนำมาซึ่งอาการที่ไม่พึงประสงค์ต่างๆ เช่น ปวดหัว ปวดกระบอกตา  ตาบวม และอาจถึงขั้นอาเจียนได้ เป็นเพราะการใช้สายตามากกว่าปกติ นอกจากนี้ปริมาณแสงสว่างในห้องที่ใช้เรียนออนไลน์ไม่เพียงพอก็อาจส่งผลทำให้เด็กมีอาการปวดหัวได้ เช่นเดียวกับการนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ

      การป้องกัน ให้ลูกได้ใช้ แว่นกรองแสง หรือแผ่นกรองแสงหน้าจอที่ช่วยลดแสงสีฟ้าที่สามารถทำอันตรายตาดวงตาซึ่งนำไปสู่อาการปวดศรีษะและช่วยลดอาการแสบตา เคืองตาได้ในระดับหนึ่ง ที่สำคัญการให้เด็กๆ ได้ ปฏิบัติตามสูตร 20 20 20 จะช่วยลดความเมื่อยล้าของดวงตาที่นำไปสู่อาการปวดหัวได้

      8. โรคภูมิแพ้ (Allergy)

      เมื่อต้องใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในบ้าน เด็กๆ เสี่ยงต่อการสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ในบ้านได้มากกว่าปกติ สารก่อภูมิแพ้ภายในบ้านส่วนใหญ่ได้แก่ ไรฝุ่น เชื้อรา ซึ่งอาจแฝงอยู่ตาม ที่นอน หมอน ผ้าห่ม หรือตุ๊กตา เป็นต้น  ยิ่งเด็กที่มีปัญหาเรื่องโรคหอบหืด หรือภูมิแพ้อยู่เดิม ยิ่งต้องระมัดระวังให้มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้สารประกอบทางเคมีจากจอคอมพิวเตอร์สามารถก่อให้เกิดโรคภูมิแพ้ได้ โดยตัวการที่ทำให้เกิด อาการภูมิแพ้ ชื่อว่า Triphenyl Phosphate (TPHP) เป็นสารประกอบทางเคมีที่ทำให้ให้ร่างกายมนุษย์เกิดปฏิกิริยาภูมิแพ้ต่างๆ  เช่น คันตา คันตามผิวหนัง คัดจมูก และปวดศีรษะ หากสภาพภายในห้องทำงานมีเนื้อที่แคบหรือจำกัด เครื่องคอมพิวเตอร์อาจจะเป็นสาเหตุสำคัญ ที่ก่อให้เด็กๆ เกิดอาการของโรคภูมิแพ้ได้

      การป้องกัน แน่นอนว่าการรักษาความสะอาดภายในบ้าน ตลอดจนความสะอาดบริเวณที่นั่งเรียนออนไลน์ของลูกเป็นเรื่องสำคัญอันดับแรกที่จะช่วยป้องกันโรคภูมิแพ้ นอกจากนี้ควรจัดห้องให้มีอากาศถ่ายเทได้สะดวกสามารถหายใจได้สบาย ปลอดโปร่ง ที่สำคุญควรหาเวลาให้เด็กๆ หยุดพักห่างจากหน้าจอเป็นช่วงๆ ไม่ควรให้ลูกนั่งอยู่บริเวณหน้าจอคอมพิวเตอร์นานเกินไป เพราะสารประกอบทางเคมีจากคอมพิวเตอร์อาจก่อให้เกิดอาการของโรคภูมิแพ้ได้

      การต้องปรับตัวปรับวิถีชีวิตมาสู่การเรียนออนไลน์อย่างเต็มรูปแบบส่งผลกระทบต่อตัวผู้ปกครองและเด็กๆ ในด้านต่างๆ ได้มากบ้างน้อยบ้างอาจแตกต่างกันไปในแต่ละครอบครัว แต่ที่สำคัญ ประโยชน์ของการเรียนรูปแบบออนไลน์ คือ การได้เว้นระยะห่างทางสังคม เด็กๆ ไม่ต้องออกไปพบปะผู้คนจำนวนมาก

      แต่ทั้งนี้ เรื่องของสุขภาพร่างกายและจิตใจของเด็กๆ เมื่อต้องใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในบ้านเป็นสิ่งที่พ่อแม่ไม่ควรมองข้าม ความเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อหากไม่มีวิธีจัดการและรับมือที่เหมาะสม ดังนั้นการปฏิบัติตัวตามแนวทางที่ช่วยป้องกันปัญหาด้านสุขภาพกายและใจของเด็กจึงเป็นเรื่องสำคัญ นอกจากนี้เมื่อเราปลูกฝังลูกให้มีกิจวัตรประจำวันที่เหมาะสมเพื่อห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ในสถานการณ์บ้านเมืองที่ถูกล้อมรอบไปด้วยโรคระบาดเช่นนี้ จะช่วยให้เด็กๆ เกิดความฉลาดรอบด้านด้วย Power BQ ในด้าน ความฉลาดต่อการมีสุขภาพที่ดี HQ ใส่ใจและให้ความสำคัญเรื่องของสุขภาพร่างกาย สามารถพึงระวังและป้องกันอาการเจ็บป่วยต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นกับตัวเองได้ค่ะ

      ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก : narayanahealth.org , news.trueid.net , students.ubc.ca , thaipost.net , jhunewsletter.com  , th.yanhee.net

      บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

      ลูก เครียดเพราะเรียนออนไลน์ พ่อแม่ควรรับมืออย่างไร?

      อีกหนึ่งเสียง..จากใจแม่! 5 เหตุผลที่ไม่ควรให้ลูกเรียนออนไลน์

      เรียนออนไลน์ เตรียมตัวอย่างไรได้ผลดี ลูกแฮปปี้ ไม่เครียดเกินไป

      เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

       

        ชื่อจีนผู้ชาย ชื่อมงคล

        ชื่อจีนผู้ชาย ตั้งให้ลูกตามราศีเกิดเสริมโชคลาภบารมี

        ชื่อจีนผู้ชาย สำหรับผู้ที่มีเชื้อสายจีน หรืออยากมีชื่อจีนให้กับลูกชาย เพื่อความสะดวกในการเรียก แต่จะตั้งทั้งทีลองดูชื่อที่ช่วยเสริมดวงตามราศีเกิดของลูกดีไหม

        ชื่อจีนผู้ชาย ตั้งให้ลูกตามราศีเกิดเสริมโชคลาภบารมี

        ชื่อเป็นของขวัญล้ำค่าชิ้นแรกที่พ่อแม่มอบให้กับลูก ดังนั้นใคร ๆ ก็อยากหาชื่อที่ดี เป็นมงคล เสริมโชคลาภบารมีให้แก่เจ้าของ โดยเฉพาะเป็นเรื่องของลูกน้อยด้วยแล้ว พ่อแม่ย่อมต้องหาสิ่งที่คิดว่าดีที่สุดอย่างแน่นอน

        ลูกชาย มักมาพร้อมคำจำกัดความถึงความแข็งแกร่ง แข็งแรง เป็นผู้นำ เฉลียวฉลาด ซึ่งสิ่งเหล่านี้จึงมักปรากฎอยู่ในความหมายของชื่อของลูกชายของใครหลาย ๆ คน โดยเฉพาะชาวจีนที่ให้ความสำคัญกับเพศชายค่อนข้างมาก ดังนั้นการใช้หลักการตั้งชื่อตามแบบชาวจีนที่ใช้ในการตั้งชื่อลูกชาย ก็ย่อมนำมาซึ่งชื่ออันเป็นมงคล ช่วยเสริมบารมี โชคลาภ

        ชื่อจีนผู้ชาย ตั้งตามราศีที่เกิดเฮงแน่
        ชื่อจีนผู้ชาย ตั้งตามราศีที่เกิดเฮงแน่

        การตั้งชื่อนอกจากจะดูถึงความหมายที่ดีแล้ว หากต้องการให้ชื่อนั้น ๆ เหมาะสมกับเจ้าของชื่อแบบเฉพาะเจาะจง ก็คงต้องลงรายละเอียดเจาะลึกลงไปในข้อมูลเฉพาะตัว เช่น วันเกิด เดือนเกิด ปีนักษัตร เป็นต้น วันนี้ ทีมแม่ ABK จึงขอนำเกร็ดความรู้ในการตั้งชื่อให้แก่ลูกชายเป็นภาษาจีน ให้ชื่อช่วยเสริมโชคลาภบารมีแก่ลูกน้อยตามราศีเกิด จะเป็นอย่างไรนั้นลองพิจารณากันดู

        เด็กชายปีชวด(หนู)

        คำมงคลที่ควรมี : ข้าว白飯 ถั่วปลาทอง金子 ทุ่งนา 場地 หยก ไม้木頭 ดวงจันทร์月亮

        ข้อห้ามคำที่ไม่ควรใช้ : ภูเขา 山、ดาบ 劍、ดิน 土、หัวใจ心、หิน 石、ไฟ 火

        เด็กชายปีฉลู (วัว)

        คำมงคลที่ควรมี : น้ำ水、แมงป่อง 蝎子、ถั่ว豆 ข้าว白飯 ทอง金子、ไม้木頭

        ข้อห้ามคำที่ไม่ควรใช้ : ดวงจันทร์月、ไฟ 火、ภูเขา 山、หิน 石、เลือด

        เด็กชายปีขาล (เสือ)

        คำมงคลที่ควรมี : ภูเขา 山、หยก 玉、ทอง 金、ไม้ 木、น้ำ 水、ม้า 馬

        ข้อห้ามคำที่ไม่ควรใช้ : วัน日、ไฟ 火、ทุ่ง 田、ปาก 口、หิน 石、เลือด 血

        เด็กชายปีเถาะ (กระต่าย)

        คำมงคลที่ควรมี : ภูเขา 山、คน 人、ไม้ 木、ทอง 金、ขาว 白、หยก 玉

        ข้อห้ามคำที่ไม่ควรใช้ : ม้า 馬、เกวียน 車、หิน 石、ดาบ 劍、แม่น้ำ 河

        ราศีมังกร ชื่อจีนผู้ชาย คำไหนมงคล
        ราศีมังกร ชื่อจีนผู้ชาย คำไหนมงคล

        เด็กชายเกิดปีมะโรง (มังกร)

        คำมงคลที่ควรมี : น้ำ 水、ทอง 金、หยก 玉、ขาว 白、แดง 紅、ปลา 魚

        ข้อห้ามคำที่ไม่ควรใช้ : ดิน 土壤、ทุ่งนา 田野、ไม้ 木、หัวใจ 心臟、ดวงอาทิตย์太陽

        เด็กชายเกิดปีมะเส็ง (งู)

        คำมงคลที่ควรมี : หนอน蟲、ถั่ว 豆、ปลา 魚、ภูเขา 山、ขนนก 羽毛

        ข้อห้ามคำที่ไม่ควรใช้ : เล็ก 小、หิน 石、มีด 刀、เลือด 血、ธนู 弓

        เด็กชายที่เกิดปีมะเมีย (ม้า)

        คำมงคลที่ควรมี : ทอง金、หยก 玉、ไม้ 木、ข้าว 草、แมลง 蟲

        ข้อห้ามคำที่ไม่ควรใช้ : ดวงอาทิตย์ 太陽、ไฟ 火、น้ำ 水、เกวียน 馬車

        เด็กชายเกิดปีมะแม (แพะ)

        คำมงคลที่ควรมี : ข้าว 米、ม้า 馬、ไม้  木、คน 人、ปลา 魚

        ข้อห้ามคำที่ไม่ควรใช้ : รถ 車  คน 人、ภูเขา 山、น้ำ 水、ไฟ 火

        เด็กชายที่เกิดปีวอก (ลิง)

        คำมงคลที่ควรมี : ถั่ว 豆類、ข้าว 水稻、ภูเขา 山脈、น้ำ 水

        ข้อห้ามคำที่ไม่ควรใช้ : หิน 岩石 ไฟ火  มีด 刀

        เด็กชาวจีน กับการตั้งชื่อมงคลเสริมบารมี
        เด็กชาวจีน กับการตั้งชื่อมงคลเสริมบารมี

        เด็กชายเกิดปีระกา (ไก่)

        คำมงคลที่ควรมี : ข้าว 水稻、ถั่ว 豆類、แมลง 昆蟲、ภูเขา 山脈

        ข้อห้ามคำที่ไม่ควรใช้ : หิน 岩石 ดาบ 劍 พรสวรรค์ 禮物

        เด็กชายเกิดปีจอ (หมา)

        คำมงคลที่ควรมี : ปลา 魚 คน 人 ทอง 金 หยก 玉

        ข้อห้ามคำที่ไม่ควรใช้ : รถยนต์ 車、มีด 刀、พ่อ 父親、ไฟ 火

        เด็กชายที่เกิดปีกุน (หมู)

        คำมงคลที่ควรมี : ไม้ 木、คน 人、ภูเขา 山、ดิน 土

        ข้อห้ามคำที่ไม่ควรใช้ : แข็งแรง 強、ธนู 弓、หิน 石、มีด 刀

        ตัวอย่างการตั้งชื่อจีนผู้ชายที่เหมาะสม

        เจ้อหง 哲泓 Zhehong

        Zhe หมายถึง ฉลาด เฉลียวฉลาด และมีความสามารถ hong หมายถึง ความฉลาด ความรู้ และความสามารถที่โดดเด่น ชื่อ Zhehong หมายถึง เด็กชายผู้เฉลียวฉลาด มีความสามารถ และมั่งคั่งในการเรียนรู้

        หยูหมิง 宇明 

        หยู 宇: หน้าตา กิริยา หน้าตาหล่อเหลา หมิง 明: ปัญญา ใส สว่าง หยูหมิง หมายถึง ผู้รอบรู้ เฉลียวฉลาด มีสติสัมปชัญญะ

        ซื่อหยวน 思远

        ซื่อ思 หมายถึงการคิดและการไตร่ตรอง และ หยวน远 หมายถึงความห่างไกลและระยะยาว ชื่อนี้บอกเป็นนัยได้ว่า เด็กชายคิดดี มีวิสัยทัศน์ระยะยาว คิดได้ไกล มีความคิด สงบ และมีความเป็นตัวของตัวเอง

        เลือกชื่อลูกชายจากราศีเกิด
        เลือกชื่อลูกชายจากราศีเกิด

        ตารางชื่อมงคล ชื่อจีนผู้ชาย เสริมดวง บารมี

        ชื่อจีนผู้ชาย ออกเสียง A -K

        คำอ่านตัวเขียนความหมาย
        ห่าวเสวี่ย浩学ศีลบริสุทธิ์
        อ้ายเสิน爱神กามเทพ
        อ้ายเหริน爱人คนรัก
        อ้ายฉิง爱情ความรัก
        ฟางหรง芳荣เกียรติยศอันหอมหวาน
        เฟยเทียน飛天ทะยานฟ้า
        เฟยหลง飛龍มังกรทะยานบิน
        เฟยเจิน飛珍โบยบินสู่ทรัพย์สมบัติ
        ฮุ่ยเหอ惠河สายธาราแห่งความการุณย์
        ฮุ่ยหวง惠煌รัศมีแห่งความเมตตา
        ห่าวหราน浩然คนซื่อตรง ตรงไปตรงมา
        เจียวจิง娇晶คริสตัลที่อ่อนโยน
        เจียวเจี๋ย娇杰ฮีโร่ผู้อ่อนหวาน
        เจียวจ้าน娇赞การสรรเสริญที่อ่อนโยน
        เจียวจู娇居ที่อยู่หรือบ้านที่น่ารัก
        เจียวจิน娇金ทองคำที่อ่อนโยน
        เจียวซิ่ง娇兴ความกระตือรือร้นที่อ่อนโยน
        เจียวมิ่ง娇命ชีวิตที่อ่อนโยน
        เจียวซิ่น娇信ความศรัทธาที่อ่อนโยน

        ชื่อจีนมงคลที่ออกเสียง  L -N

        คำอ่านตัวเขียนความหมาย
        ลี่จิ่น丽紧ความหนักแน่นอันงดงาม
        ลี่มี่丽密ความหนาและความสวยงาม
        ลี่จิน丽金ทองคำที่สวยงาม
        ลี่จู丽诸สวยงามมาก
        ลี่หยาง丽洋มหาสมุทรอันงดงาม
        ลี่อิน丽音เสียงที่งดงาม ไพเราะ
        ลู่จื้อ璐智หยกแห่งความฉลาดเฉลียว
        ลู่ชิง璐星หยกแห่งดวงดาว
        ลู่ฟาง璐芳หยกที่หอมหวน
        ลู่ซือ璐師หยกแห่งความเชี่ยวชาญ
        ลู่หลิ่ง璐岭ทิวเขาหยก
        ลู่เสียน璐贤หยกบริสุทธิ์
        หนิงเอ๋อ宁娥ความงดงามแห่งสันติ
        หนิงอัน宁安ความสงบสุขแห่งสันติภาพ
        หนิงเฟิ่ง宁凤นกฟีนิกซ์ที่สงบเสงี่ยม
        หนิงเฉิง宁成ความสำเร็จที่สงบสุข
        หนิงเจี้ยน宁健สุขภาพดีและสงบสุข
        หนิงเหอ宁河สายน้ำที่สงบเงียบ
        หนิงหลง宁龙มังกรแห่งความสงบเสงี่ยม

        ชื่อจีนผู้ชายมงคล ออกเสียง M-Z

        คำอ่านตัวเขียนความหมาย
        ซูเซียว淑霄สรวงสวรรค์อันสวยงาม
        ซูเหวิน淑闻เรื่องเล่าที่งดงาม
        ซูเม่ย淑魅มนตราที่สวยงาม
        ซูลี่淑力พลังอำนาจอันงดงาม
        ซูฉี淑慈ความเมตตาที่สวยงาม
        ซูมี่淑蜜ความแท้จริงที่สวยงาม
        เยว่ซิน月欣ดวงจันทร์แห่งความสุข
        เยว่เล่อ月乐ดวงจันทร์แห่งความสุข
        เยว่ส่าง月赏รางวัลจากดวงจันทร์
        ผู่เยว่谱月ดวงจันทร์และดนตรี
        เยว่ชื่อ月赐ของขวัญจากดวงจันทร์
        เยว่จวน月钻เพชรจากดวงจันทร์
        ข้อมูลอ้างอิงจาก m.meimingteng.com/cottonbaby.co

        อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

        50 ชื่อจีนผู้หญิง ตั้งให้ลูกสาวตึ่งหนั่งเกี้ยใช้แล้วเฮงเฮงเฮง!

        300+ ชื่อผู้ชาย ความหมายดี ปี 2021-2022 ตามวันเกิด

        แม่บ้านญี่ปุ่นคัดมาให้!! 100 ชื่อภาษาญี่ปุ่น เพราะๆ ทั้งลูกชายลูกสาว

        300+ ชื่อเล่นลูกชาย อัพเดตล่าสุด 2021!! ไม่ซ้ำ ไม่เชย เท่ล้ำไม่เหมือนใคร

        เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

          แบบฝึกหัดอนุบาล

          แจกฟรี!! แบบฝึกหัดอนุบาล ใบงานอนุบาล โหลดเลย!!

          แจกฟรี แบบฝึกหัดอนุบาล ใบงานอนุบาล ให้ลูกได้ฝึกคัดลายมือ ฝึกอ่าน ฝึกเขียน เรียนรู้ตัวเลข ตัวอักษรทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ได้ง่าย ๆ จากที่บ้าน!!

          แจกฟรี!! แบบฝึกหัดอนุบาล ใบงานอนุบาล โหลดเลย!!

          การเขียน เป็นอีก 1 พัฒนาการที่เด็กในวัย 2-6 ขวบ ควรฝึกฝน การฝึกเขียนเป็นการพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็ก เพื่อเตรียมพร้อมต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกอยู่ในวัยนี้ จึงควรให้ความสำคัญ การฝึกเขียน ไม่จำเป็นต้องเริ่มต้นที่ ก ไก่ คุณพ่อคุณแม่สามารถให้ลูกเริ่มฝึกเขียนจากคำที่ลูกสนใจ ซึ่งคำ ๆ นั้น อาจจะเป็นสิ่งใกล้ตัว เช่น ของเล่นที่ลูกชอบ ต้นไม้ ท้องฟ้า หรือแม้แต่ชื่อเล่นของลูกเอง โดยคุณพ่อคุณแม่ควรสอนให้ลูกเขียนทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เมื่อลูกเขียนได้ ลูกจะเกิดความภูมิใจและกระตุ้นความสนใจในการเขียนได้ดีที่สุด

          แต่หากลูกยังจับดินสอได้ไม่ค่อยคล่อง ไม่สามารถออกแรงได้ดี อย่าเพิ่งกดดันลูกนะคะ คุณพ่อคุณแม่สามารถเตรียมความพร้อมก่อนให้ลูก โดยการพัฒนากล้ามเนื้อมือ โดยเน้นที่การทำกิจกรรมที่ใช้มือเป็นหลัก เช่น การให้เด็กขยำกระดาษ การปั้นต่างๆ การกรอกน้ำใส่ขวด การร้อยลูกปัด การใช้กรรไกรตัดกระดาษ เป็นต้น และเมื่อลูกเริ่มฝึกจับดินสอ อาจให้ลูกระบายสีตามจินตนาการไปก่อน เพื่อให้ลูกรู้จักการลงน้ำหนัก หนักและเบาของดินสอ

          และเมื่อลูกส่งสัญญาณว่าพร้อมที่จะจับดินสอเขียนหนังสือแล้ว ทีมแม่ ABK ก็ได้เตรียม แบบฝึกหัดอนุบาล ใบงานอนุบาล มาให้คุณพ่อคุณแม่ได้โหลด เพื่อนำไปให้ลูก ๆ ได้ฝึกทำกันเลยค่ะ

          แจกฟรี!! แบบฝึกหัดอนุบาล ใบงานอนุบาล โหลดเลย!!

          ฝึกเขียนเลข 1-10 ตามรอยประ

          เขียนตามรอยประ ตัวเลขอารบิก และตัวเลขไทย 1-10

          แบบฝึกหัดลากเส้นสำหรับน้องๆ อนุบาล

          ใบงานเขียนตามรอยเส้นประ a-z

          ใบงานแบบฝึกหัดคัดตัวอักษรภาษาอังกฤษ A-Z พร้อมเกมส์เขาวงกตตัวอักษรภาษาอังกฤษ

          ไฟล์โปสเตอร์สำหรับตัดเรียงต่อกัน หน้าต่างบานใหญ่ หน่วยกลางวัน กลางคืน

          ฝึกเขียนลากเส้นตามจุดพยัญชนะไทย

          เกมส์ฝึกทักษะวงภาพ 3 ตำแหน่งที่แตกต่าง

          บัตรภาพจับคู่รูปทรงเรขาคณิตกับวัตถุสิ่งของ

          ลากเส้นตามจุดให้เป็นภาพ ฝึกกล้ามเนื้อมือ

          ฝึกบวกเลขรูปตุ๊กตามนุษย์หิมะ Snowman

          ภาพใบงานระบายสี ติดปะ ตัด หน่วยผลไม้ ภาพลายเส้นผลไม้ระบายสี

          บัตรภาพเรียงลำดับขั้นตอนฝึกเรียงภาพ คําสั่งตรรกะสำหรับน้องอนุบาล

          สวมชุดให้กับตุ๊กตาเด็กชายเด็กหญิงน่ารักๆ ฝึกจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์

          ใบงานจับคู่ภาพที่มีความสัมพันธ์กันสำหรับน้องอนุบาล ปฐมวัยฝึกคิดวิเคราะห์ ตรรกะ

          ใบงานอนุบาล
          ใบงานอนุบาล

          แจกฟรี!! แบบฝึกหัดอนุบาล ใบงานอนุบาล โหลดเลย!!

          จำนวนนับ 1-10 พร้อมภาพประกอบตามจำนวน

          ใบงานหันหัวปลาตามลูกศร ฝึกคิดวิเคราะห์

          ใบงานเรียนรู้เรื่องสี ตัดกระดาษมาแปะติดให้ตรงกับภาพที่สอดคล้องกัน

          เรียนรู้การนับอย่างง่ายรูปหมูน่ารักๆ

          ใบงานลากเส้นตามตัวตัวเลขแต่ละจุดเพื่อสร้างภาพสัตว์น่ารักๆ

          ใบงานฝึกกล้ามเนื้อมือลากเส้นประภาพการ์ตูนสีสันสดใสน่ารักๆ

          โยงเส้นจับคู่ภาพที่เหมือนกัน

          ใบงานสร้างสรรค์ ฉีกปะ ผัก ผลไม้

          ใบงานฝึกลากเส้นตามภาพที่กำหนดให้สำหรับน้องๆ อนุบาล ปฐมวัย จำนวน 11 หน้า

          แจกฟรี!! แบบฝึกหัดอนุบาล ใบงานอนุบาล โหลดเลย!!

          เกมจับคู่ภาพกับพยัญชนะไทย

          การ์ดจับคู่ภาพกับเงารูปต่างๆ สำหรับฝึกทักษะภาษาและเพิ่มความสนใจ สามารถใช้เพื่อเรียนรู้การแยกแยะรูปแบบที่แตกต่าง

          แฟลชการ์ดเลข 0-10 รูปการ์ตูนปลาน่ารักๆ

          ภาพพยัญชนะไทยสวยงาม

          เกมการศึกษา จับคู่ภาพสัตว์น่ารักๆ กับเงา

          จิ๊กซอไม้บรรทัดภาพสัตว์สวยงาม

          ใบงานหน่วยวันเข้าพรรษา

          Lego ตัวเลข 1-9 สีสันสดใส พร้อมคำศัพท์ภาษาอังกฤษ

          แบบฝึกลากเส้นตามจุดสำหรับเด็กอนุบาล

          แบบฝึกหัดปริศนาอักษรไขว้ภาษาอังกฤษ อนุบาล 1

          ระบายสี 6 กิจกรรมสำหรับเด็กปฐมวัย

          แบบฝึกหัดปริศนาอักษรไขว้ภาษาอังกฤษ อนุบาล 2

          แบบฝึกหัดปริศนาอักษรไขว้ภาษาอังกฤษ อนุบาล 3

          ลากเส้นตามรอยภาพการ์ตูนน่ารัก ๆ พร้อมคำศัพท์ภาษาอังกฤษ

          บัตรภาพคำศัพท์ภาษาอังกฤษพร้อมคำแปล

          ใบงานฝึกเขียนตัวเลขตามรอยประพื้นหลังรูปการ์ตูนสำหรับระบายสีน่ารัก ๆ

          เขียนคำตามรอยประและวาดภาพระบายสีรูปสัตว์น่ารัก ๆ

          สังเกตภาพไม่เข้าพวก

          ฝึกลากเส้นพยัญชนะไทย ก-ฮ

          กิจกรรม Matching shadow ให้เด็กๆ จับคู่เงากับรูป

          แน่นอนว่าเมื่อเด็กอยู่บ้าน บ้านซึ่งเป็น Comfort Zone ของเค้า ลูกจะเลือกที่จะวิ่งเล่น เล่นของเล่น ดูการ์ตูน มากกว่าที่จะมานั่งทำแบบฝึกหัด ทีมแม่ ABK มีเคล็ด (ไม่) ลับ ฝึกให้ลูกทำแบบฝึกหัดมาฝากค่ะ

          แบบฝึกหัดเด็กอนุบาล
          แบบฝึกหัดเด็กอนุบาล

          เคล็ด (ไม่) ลับ ฝึกให้ลูกทำแบบฝึกหัด

          1. จัดมุมทำแบบฝึกหัดโดยเฉพาะ

          การจัดสภาพแวดล้อมให้เหมาะแก่การเรียนรู้ มีโต๊ะ มีเก้าอี้ มีอุปกรณ์การเรียนและเครื่องเขียนที่จำเป็น โดยไม่ควรมี ของเล่น โทรทัศน์ เกม หรือสิ่งอื่น ๆ ที่อาจจะเบี่ยงเบนความสนใจของลูกมาอยู่ใกล้ ๆ การจัดสภาพแวดล้อมแบบนี้ จะช่วยให้ลูกมีสมาธิต่อการทำแบบฝึกหัดได้ดีค่ะ

          2. ทำให้เป็นกิจวัตรประจำวัน

          คุณพ่อคุณแม่ควรมีกฎ กติกา ที่ชัดเจน ว่าในทุกวัน ควรใช้เวลาเท่าไหร่ในการทำแบบฝึกหัด แต่กฎ กติกา นั้น ๆ ควรจะจัดให้เหมาะสมกับช่วงวัยของเด็กด้วย เช่น เด็ก 3-5 ขวบ จะสามารถมีสมาธิกับสิ่งใด สิ่งหนึ่งได้เพียง 30 นาที – 1 ชั่วโมง ดังนั้น คุณแม่อาจจะกำหนดว่าหลังทานข้าวกลางวันเสร็จ จะเป็นเวลาในการทำแบบฝึกหัดกัน และจะทำแบบฝึกหัดให้ครบ 30 นาที เป็นต้น และกฎ กติกา เหล่านี้ คุณแม่จะต้องทำเป็นประจำทุกวัน ไม่ควรใจอ่อน หรือทำบ้างไม่ทำบ้าง เพราะจะทำให้เด็กรู้ว่าการทำแบบฝึกหัด ไม่จำเป็น ไปเล่นดีกว่า

          3. ทำแบบฝึกหัดไปพร้อมกับลูก

          การทำแบบฝึกหัด คุณพ่อคุณแม่ต้องทำด้วยค่ะ เพื่อแสดงให้ลูกเห็นว่าแบบฝึกหัดที่อยู่ตรงหน้านั้น น่าสนใจแค่ไหน ลูกจะรู้สึกสนุกกับการทำแบบฝึกหัดมากขึ้น หากคุณพ่อคุณแม่เพียงยื่นแบบฝึกหัดให้ลูกทำ โดยที่คุณพ่อคุณแม่ไม่สนใจ ลูกจะรู้สึกว่า พ่อแม่ยังไม่สนใจจะทำเลย แสดงว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้านั้นไม่น่าสนใจ

          ในช่วงที่ต้องอยู่บ้านกันนาน ๆ แบบนี้ เด็กต้องเสียโอกาสในการได้ไปเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ที่อยู่นอกบ้าน นอกห้องเรียน ไปมากมาย ดังนั้น เราในฐานะพ่อแม่ มาเปลี่ยนบ้านให้เป็นที่สำหรับเรียนรู้ของลูกกันดีกว่าค่ะ ลองแบ่งเวลาซักวันละ 1 ชั่วโมง ในการเล่นกับลูก ทำแบบฝึกหัดไปพร้อมกับลูก เพื่อให้ลูกได้ฝึกทักษะต่าง ๆ ได้จากในบ้านกันเถอะ

          อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

          11 เกมฝึกสมอง สอนลูกแก้ปัญหาไม่ละความพยายามง่ายๆ

          วิธีการ พัฒนาทักษะ “การแก้ปัญหา” อย่างเป็นขั้นตอน

          แจกฟรี!! 50 แบบฝึกหัดภาษาอังกฤษอนุบาล โหลดเลย!!

          แบบฝึกหัดภาษาไทย สำหรับอนุบาล-ป.1 ฝึกอ่าน-เขียน เตรียมความพร้อมด้านภาษา

           

          ขอบคุณข้อมูลจาก : สื่อสร้างสรรค์ byครูลิตา, ปันสื่อปฐมวัย, Learning abcd, Edukacija, สื่อสร้างสรรค์ปฐมวัยครูแขก, imageneseducativas.com, ห้องสื่อ KruFernly, ครู ไฉไล, Free Worksheets สื่อการสอน print ฟรี, สื่อตกแต่งห้องเรียนปฐมวัย By Kruning, Edutech_special needs, I Teach Little Kids, บ้านปฐมวัย By Teacher Cris, สื่อปฐมวัยทำมือ by Krugolf Krujoy, สื่อ เสริม เพื่อสร้าง, YoungCiety, Z”Noon Chitlada Singhol, สื่อการสอนคุณครูเบ็ญ, สื่อและใบงาน BBL #โรงเรียนบ้านขุนลาว (แม่นางบึ่ง), บ้านสื่อปฐมวัย by ครูนี, แนวข้อสอบสาธิต.com Group, สื่อการสอนเด็กประถม/ปฐมวัย/เด็กพิเศษKru.Phat, แนวข้อสอบสาธิต.com, www.ฟรีสื่อการเรียนการสอน.com

           

          เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

            สมองส่วนหน้า

            8 วิธีฝึก “สมองส่วนหน้า” ที่ให้ลูกได้มากกว่าทักษะ EF

            การพัฒนา สมองส่วนหน้า เป็นการฝึกทักษะสมองที่สำคัญ ที่พ่อแม่ควรฝึกลูกตั้งแต่ยังเล็ก เพื่อให้ลูกมีสมาธิ เรียนรู้ไว แก้ปัญหาได้ รวมถึงสามารถควบคุมพฤติกรรม อารมณ์ และการแสดงออกทางอารมณ์ของตัวเองได้ ซึ่งเด็กที่มีทักษะนี้จะเติบโตอย่างมีคุณภาพ และประสบความสำเร็จในชีวิต
            หากพ่อแม่ต้องการฝึกสมองส่วนหน้าให้ลูก สามารถทำได้อย่างไรบ้าง พญ. ศรินพร มานิตย์ศิริกุล ทิพย์อุดม เจ้าของเพจ “หมอสมองเลี้ยงลูกแฝด” มีคำแนะนำที่น่าสนใจมาฝากคุณพ่อคุณแม่ค่ะ
            ว่าด้วยเรื่อง สมองส่วนหน้า หลายๆ คนเคยได้ยินว่าสมองส่วนหน้ามีความสำคัญ และเวลาที่เราต้องการกระตุ้นพัฒนาการเด็ก อ่านนิทานต่างๆ ทุกคนมักชอบพูดถึงคำว่า สมองส่วนหน้า และ EF หรือ executive function

            สมองส่วนหน้า ทำหน้าที่อะไร

            จริงๆ แล้ว สมองส่วนหน้า ไม่ได้ทำหน้าที่แค่ EF อย่างเดียวเท่านั้นนะคะ สมองส่วนหน้า ยังแบ่งย่อยเป็นส่วนต่างๆ ควบคุมทั้ง
            1. สมาธิ Attention
            2. Executive function
            3. การควบคุมตัวเอง inhibition
            4. impulse control
            5. การคิดวิเคราะห์วางแผนต่างๆ
            6. แก้ไขปัญหา problem solving
            7. การเข้าสังคมและพฤติกรรมต่างๆ
            หลายๆ คนคงคิดว่าสมองส่วนหน้าพัฒนาสูงสุดอย่างรวดเร็วในช่วงวัยเด็ก แต่ความลับก็คือ สมองส่วนหน้ายังมีการพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ จนเสร็จสมบูรณ์ตอนอายุ 20 ปลายๆ เลยค่ะ
            เพราะฉะนั้น การพัฒนาการฝึกฝนสมองส่วนหน้าก็ยังคงต้องทำต่อเนื่อง โดยเฉพาะวัยรุ่นเป็นวัยที่อยากรู้อยากลอง ก็ต้องอาศัยสมองส่วนหน้าในการควบคุมตัวเอง คิดวิเคราะห์ ลองผิดลองถูก และยับยั้งชั่งใจ
            และที่สำคัญคือ บางโรค เช่น สมองส่วนหน้าฝ่อ มักจะเกิดได้ค่อนข้างไวกว่าคนไข้ที่เป็นโรคอัลไซเมอร์ สามารถเกิดได้ตั้งแต่อายุน้อยๆ บางทีอายุ 50 กว่าๆ ก็มีอาการแล้ว

            8 วิธีฝึก สมองส่วนหน้า ที่ให้ลูกได้มากกว่า EF

            การฝึกฝนการทำงานของ สมองส่วนหน้า ทำได้หลายวิธีมากๆ หมอขอยกตัวอย่างแค่บางส่วนที่ทำได้ง่ายๆ นะคะ

            1. อ่านนิทาน

            เรารู้อยู่แล้วว่านิทาน เป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาของสมองส่วนหน้า เราสามารถสอดแทรกการคิดวิเคราะห์ การเข้าสังคม ช่วยเพิ่มความสัมพันธ์ที่ดีภายในบ้าน ฝึกจินตนาการต่างๆ ให้ลูกได้ผ่านทางนิทานค่ะ

            ฝึกลูกรักการอ่าน

            2. เกมส์จับคู่

            การจับคู่ต้องอาศัยสมาธิ การสังเกต การหาจุดเชื่อมโยงในการจำ และยังต้องใช้ความจำระยะสั้นในการจดจำ ซึ่งความจำระยะสั้นจุดเริ่มต้นส่วนแรกก็คือสมองส่วนหน้าค่ะ

            เล่นเกมจับคู่

            3. ฝึกการคิดวิเคราะห์แก้ปัญหา

            ให้เล่นเกมต่างๆ ที่ต้องใช้การวิเคราะห์แก้ปัญหา หรือเราอาจจะฝึกให้ลูกรู้จักคิดตามและคิดหาวิธีแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน เช่น ลูกเอาของออกจากกระเป๋าไม่ได้ ให้ลูกคิดว่าเกิดจากอะไร ลูกเปิดซิปแคบไปไหม หรือว่าของเล่นมันกางอยู่ต้องพับก่อนแบบนี้เป็นต้น ดังนั้นแม่ต้องให้เวลาลูก ในการคิดและแก้ปัญหาเองก่อนที่จะเข้าช่วยเหลือเสมอ
            บางทีการพูดคุยกับลูกก็ช่วยได้ในส่วนนี้ เช่น อธิบายว่า แม่ทำแบบนี้เพราะอะไร รถจอดติดนานเพราะไฟแดง เดี๋ยวไฟเขียวรถก็ไป
            เราใช้ไฟแดงเพื่อป้องกันไม่ให้รถชนกัน ไม่งั้นรถมาทุกทางไม่รู้ว่าใครไปก่อน หรือจริงๆ มีวิธีอื่น เช่น ใช้สะพานข้ามแยก เรามาช่วยกันคิดว่าใช้วิธีไหนได้บ้าง ฝึกเล่าให้ลูกฟัง อธิบายให้ลูกฟัง ค่อยๆ คิดไปด้วยกันก็ช่วยได้ค่อนข้างเยอะค่ะ

            ฝึกคิดแก้ปัญหา

            4. ให้ลูกรู้จักควบคุมตัวเอง เคารพกฎของสังคม หัดยับยั้งชั่งใจ

            ช่วงนี้เด็กๆ ยังเล็กอยู่ ที่แม่ทำบ่อย คือ เวลาลูกเสียงดังที่ร้านอาหาร แม่จะพูดว่า “พี่ทานข้าวอยู่ เราทำเสียงเบาๆ กันนะคะ” ลูกจะได้รู้จักการเกรงใจผู้อื่น เคารพสิทธิของผู้อื่นและควบคุมตัวเอง ทุกวันนี้เวลาเด็กๆ เผลอทำเสียงดังแม่มองลูกก็จะยกนิ้วชี้ขึ้นมาปิดปากตัวเองทำเสียง ชู่ แล้วพูดว่าพี่ทานข้าวอยู่
            เลี้ยงลูกให้เป็นคนดี

            5. ฝึกการแบ่งปัน Sharing

            บ้านเราโชคดีมากที่มีลูก 2 คนวัยเท่ากัน ทำให้บางทีของเล่นต้องแบ่งปันกัน แบ่งอาหารกัน ตอนแรกเด็กอาจจะไม่เข้าใจเพราะคิดว่าอาหารคือของตัวเองทั้งหมด แม่จะใช้คำว่า Sharing อ่านนิทาน sharing โดยมีพื้นฐานว่าถ้าเป็นของลูก ลูกมีสิทธิ์เลือกว่าอยากจะให้หรืออยากจะเก็บไว้
            ตอนหลังเวลาเด็กแย่งของกัน เด็กก็จะยื่นของให้กันเองด้วยหันมายิ้มให้แม่แล้วพูดว่า Sharing แม่ก็จะชมลูกก็จะภาคภูมิใจ  บางทีนิวโรอยากไปขอของฟรอนโท ลูกก็จะพูดว่า “ฟรอนโท Sharing เจ้ ” ซึ่งต่างจากตอนเด็กๆ ที่ไปหยิบของในมือของคนอื่นมาโดยตรง ลูกรู้จักการขอก่อนและรู้จักการรอ
            นอกจากการ sharing ในบ้านแล้ว การแบ่งปันให้คนอื่นในสังคม ก็เป็นฝึกการพัฒนาสมองส่วนหน้าของลูกอีกทางนึงค่ะ

            แบ่งปันเพื่อน

            6. เล่นบทบาทสมมติ

            การเล่นบทบาทสมมุติขายของทำกับข้าวให้แม่ทาน การเล่นเป็นพี่เลี้ยงดูแลน้องฯ สิ่งต่างๆเหล่านี้ก็ช่วยฝึกพัฒนาให้ลูกมีจินตนาการฝึกการแก้ปัญหา ฝึกการควบคุมตัวเอง ได้เช่นกัน

            เล่นบทบาทสมมุติ

            7. การทำงานบ้าน รับผิดชอบตัวเอง

            เราสามารถฝึกสมองส่วนหน้าได้โดยการให้ลูกช่วยทำงานบ้านเล็กๆน้อยๆตามอายุเช่น เช็ดกระจก กวาดบ้าน ถูบ้าน ดูดฝุ่น ดูดเศษขนมที่ลูกทำตก เวลาลูกถอดกางเกงให้ลูกเก็บใส่ตะกร้าเอง ให้ลูกฝึกการช่วยเหลือตัวเอง ใส่กระดุม ใส่กางเกง ฝึกการเข้าห้องน้ำฝึกการนั่งกระโถนชักโครกด้วยตัวเอง โดยทำตามช่วงวัยและตามพัฒนาการของลูกเท่าที่ลูกทำได้ค่ะ
            ฝึกทำงานบ้าน
            ฝึกทำงานบ้าน

            8. การวาดรูประบายสี

            ฝึกสมาธิ ฝึกการเปลี่ยนสี การใช้สีแบบต่างๆ ลูกต้องควบคุมน้ำหนักมือในการใช้สีแต่ละประเภท ต้องควบคุมตัวเองไม่ให้ระบายสีออกนอกกรอบ หรือยับยั้งชั่งใจไม่ให้ไประบายโซฟาและโต๊ะของแม่ กระตุ้นพัฒนาการต่างๆ ให้ลูกได้ดี รวมถึงกล้ามเนื้อมัดเล็กด้วยค่ะ

            สอนลูกให้คิดบวก

            จริงๆ ยังมีวิธีการต่างๆ ในการฝึกสมองส่วนหน้าอีกเยอะมากๆ ในช่วงอายุต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นหมากรุก การต่อจิ๊กซอว์ การเล่น A match ฯลฯ ซึ่งกิจกรรมต่างๆ เหล่านี้สามารถทำได้ตั้งแต่อายุน้อยๆ จนถึงวัยเกษียณก็ยังควรจะพัฒนาอย่างต่อเนื่องไปเรื่อยๆ ค่ะ

             

            เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

             


            การฝึกการทำงานของสมองส่วนหน้า ครอบคลุม Power BQ 10 ความฉลาดที่เด็กยุคใหม่ควรมีหลายด้าน เด็กจะได้ฝึกทั้งความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) จากการฝึกควบคุมอารมณ์ และพฤติกรรมของตัวเองผ่านการทำงานบ้าน, ฉลาดคิดเป็น (TQ) และฉลาดเผชิญอุปสรรค (AQ) จากการคิดวิเคราะห์ เล่นเกมแก้ปัญหา, ฉลาดคิดสร้างสรรค์ (CQ) จากการเล่นบทบาทสมมติ อ่านนิทาน วาดรูประบายสี, ฉลาดเข้าสังคม (SQ) จากการฝึกแบ่งปัน และยับยั้งชั่งใจ ซึ่งเป็นทักษะที่สำคัญมากๆ ในการสร้างเด็กยุคใหม่ที่เติบโตอย่างมีคุณภาพ และประสบความสำเร็จในชีวิต


            ติดตามความรู้การพัฒนาสมอง และการเรียนรู้ของเด็ก กับคุณหมอศรินพร

            ได้ที่เพจ หมอสมองเลี้ยงลูกแฝด

            หมอสมองเลี้ยงลูกแฝด

            บทความที่น่าสนใจอื่นๆ

            11 เกมฝึกสมอง สอนลูกแก้ปัญหาไม่ละความพยายามง่ายๆ

            8 ของเล่น เด็ก 4 ขวบ ฝึกสมอง สร้างสมาธิ เสริมพัฒนาการให้ลูกน้อยวัยอนุบาลโดยเฉพาะ!

              คนท้องกินลำไยได้ไหม

              10 คำถามตอบตรงไม่ลำไย! คนท้องกินลำไยได้ไหม ??

              คนท้องกินลำไยได้ไหม คำถามที่แม่ท้องต้องการคำตอบชัด ๆ ก็แหมลำไยทั้งหวาน ทั้งกรอบอร่อยนี่นา มาฟังคำตอบกันแบบไม่ลำไย ไม่ปิดบัง กินได้ไหม กินแล้วดีกับลูกหรือไม่

              10 คำถามตอบตรงไม่ลำไย! คนท้องกินลำไยได้ไหม ??

              อาหารการกินกับมนุษย์ ดูเหมือนจะเป็นสิ่งคู่กัน จนถึงขนาดที่ว่าบางคนมีสโลแกน “อยู่เพื่อกิน มิใช่กินเพื่ออยู่” กันไปเสียแล้ว ไหนใครที่มีสโลแกนประจำตัวแบบนี้บ้าง เห็นทีเราจะเป็นคนจำพวกเดียวกันเสียแล้ว ไม่ว่าจะอาหารคาว อาหารหวาน หรือผลไม้ก็ใช่ย่อย ล้วนแล้วแต่เรียกน้ำลาย น้ำย่อย ไม่น้อยหน้ากันเลยทีเดียวเชียว

              ประเทศไทยนับว่าเป็นประเทศที่เป็นครัวโลกประเทศหนึ่ง ผลไม้ไทยก็เป็นอีกหนึ่งที่ขึ้นชื่อ เลื่องลือ ถึงความอร่อยซึ่งก็มีมากมายหลายชนิด หนึ่งในนั้นทุกคนก็คงลงความเห็นเหมือนกันเป็นแน่ว่า “ลำไย” ที่จัดว่าเป็นผลไม้ที่ใครหลาย ๆ คนชื่นชอบ ทั้งความหวานละมุน ความกรอบอร่อยของเนื้อลำไยที่ชวนให้ใคร ๆ หลงใหลที่จะลิ้มลอง แต่หากว่าตอนนี้เราเป็นคนท้องละ จะยังคงรับประทานลำไยได้ตามปกติหรือไม่กันนะ

              แม่ท้องกับคำถามสารพันในโซเซียลที่รอคำตอบ
              แม่ท้องกับคำถามสารพันในโซเซียลที่รอคำตอบ

              คุณแม่ตั้งครรภ์ กับการรับประทานนั้น มักมีปัญหาที่คล้าย ๆ กัน นั่นคือ คำถามเกี่ยวกับสิ่งของที่จะรับประทานว่า สามารถรับประทานได้ไหมในระหว่างที่ตั้งครรภ์ กินแล้วจะส่งผลอย่างไรต่อลูกในท้อง และอีกมากมายคำถามสารพัด สารพันกวนใจแม่ท้องกันใช่ไหม วันนี้ทาง ทีมแม่ ABK เข้าใจ และได้รวบรวม 20 คำถามคาใจเกี่ยวกับลำไยที่แม่ท้องอยากทราบก่อนที่จะรับประทานว่า คนท้องกินลำไยได้ไหม มาฝากกัน

              10 คำถามความเชื่อยอดฮิตกับ “ลำไย” 

              1.คนท้องกินลำไยมากทำให้ร้อนในจริงหรือ?? 

              คงไม่ใช่แค่คนท้องเท่านั้นที่รับประทานลำไยแล้วร้อนใน ความเชื่อที่ว่าหากกินลำไยในปริมาณมากเกินไปจะก่อให้เกิดอาการร้อนในตามมา บ้างก็ว่าเกิดจากยางของลำไย สำหรับข้อเท็จจริงของเรื่องนี้นั้น ขอให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องจาก ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันโภชนาการแห่งมหาวิทยาลัยมหิดลที่ได้ให้คำอธิบายไว้ว่า อาจเป็นเพราะลำไยเป็นผลไม้ที่มีน้ำตาลสูง ทำให้มีน้ำตาลตกค้างอยู่ภายในปากหลังกิน ซึ่งน้ำตาลเหล่านี้เป็นอาหารของแบคทีเรีย และเป็นสาเหตุให้มีแบคทีเรียสะสมมากขึ้น ทำให้เสี่ยงเกิดแผลร้อนในตามมาในที่สุด ดังนั้น อาหารที่มีน้ำตาลมากจึงล้วนส่งผลให้เป็นร้อนในได้ ไม่ใช่เพียงแต่ลำไยเท่านั้น

              คนท้องกินลำไยได้ไหม
              คนท้องกินลำไยได้ไหม

              สาเหตุที่แม่ท้องเกิดแผลร้อนในบ่อย ๆ ได้แก่

              • ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง ฮอร์โมนบางตัวจะส่งผลต่อการทำงานของระบบไหลเวียนเลือดในร่างกาย ยิ่งเข้าสู่ไตรมาสที่ 2 จะมีฮอร์โมนจากรกเพิ่มสูงขึ้น การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนต่าง ๆ นี้ทำให้เกิดปัญหาต่อร่างกายแม่ท้อง ได้แก่ แผลในช่องปาก มีผดผื่นผิวหนัง ผมร่วง และคันตามตัวได้ เป็นต้น
              • อาหาร หรือผลไม้ที่รับประทานเสี่ยงต่อการเกิดแผลช่องปากได้สูง อาหารบางอย่างสามารถกระตุ้นฮอร์โมนให้ทำงานไวมากขึ้น หรือแย่ลงได้ ทำให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายอ่อนแอลง หรือน้ำตาลจากอาหาร หรือผลไม้ที่ตกค้างอยู่ภายในปาก เป็นสาเหตุให้เกิดแบคทีเรียต้นเหตุให้เกิดแผลช่องปากได้เช่นกัน เช่น ขนุน ทุเรียน ลำไย อาหารทอด เป็นต้น
              • การดูแลความสะอาดช่องปาก หลังเข้าไตรมาสที่ 2 เหงือกคุณแม่ท้องมักจะบวมมาก เป็นสาเหตุให้แปรงฟันลำบาก โดยเฉพาะบริเวณโคนฟัน ซึ่งเป็นตำแหน่งที่มักมีแบคทีเรียติดเชื้ออยู่ ประกอบกับสภาวะที่ลิ้นเป็นกรดด่างที่เอื้อต่อการเกิดแผล หากเป็นก็จะหายยากอีกด้วย

              การหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่พอจะทำได้และบ้วนปากหรือดื่มน้ำตามหลังจากการกินอาหารที่มีกรดหรือน้ำตาลเพื่อล้างปาก จึงอาจช่วยป้องกันการระคายเคืองภายในช่องปากที่จะนำไปสู่การเกิดแผลร้อนในได้

              2.คนท้องกินลำไยได้ไหม??

              การกินผักผลไม้ให้หลากหลายจะช่วยให้ว่าที่คุณแม่ได้รับวิตามิน และแร่ธาตุที่ครบถ้วน เป็นประโยชน์ต่อพัฒนาการของลูกน้อย อีกทั้งมีเส้นใยอาหารสูง ช่วยป้องกันท้องผูกได้ดี ลำไยจึงไม่ใช่ของต้องห้ามที่ไม่ควรกินระหว่างตั้งครรภ์แต่อย่างใด สิ่งที่ควรระวังเมื่อคุณแม่ท้องกินลำไย ให้ระวังในเรื่องน้ำตาลที่มีสูงมากในลำไย รวมไปจนถึงผลไม้ชนิดอื่น ๆ ที่มีน้ำตาลสูง เช่น ทุเรียน กล้วย หรือสับปะรด ด้วยเช่นกัน ไม่ควรกินในปริมาณที่มาก เพราะอาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดขึ้นสูงเสี่ยงเกิดเบาหวานขณะตั้งครรภ์ได้

              คุณแม่ท้องสามารถกินลำไยได้ และเพื่อป้องกันการกินในปริมาณที่มากเกินไป เราแนะนำให้กินสลับกับผลไม้ที่มีรสหวานน้อย และหวานปานกลาง เช่น ฝรั่ง แอปเปิ้ล ชมพู่ แก้วมังกร ส้มโอ ส้ม กล้วยน้ำว้า ก็จะทำให้คุณแม่ได้รับประทานผลไม้หลากหลาย และเฉลี่ยปริมาณน้ำตาลไม่ให้สูงจนเกินไปเมื่ออิ่มพอดีได้อีกด้วย

              10 คำตอบ กับ คนท้องกินลำไยได้ไหม
              10 คำตอบ กับ คนท้องกินลำไยได้ไหม

              3.กินลำไยช่วยบำรุงสุขภาพอย่างไร??

              เนื้อลำไยอุดมไปด้วยวิตามินซีที่มีส่วนสำคัญในการสร้างคอลลาเจนอันพบมากในกระดูก หลอดเลือด และผิวหนัง เนื้อลำไย 9 ผล ให้วิตามินซีสูงถึง 63 มิลลิกรัม ซึ่งเกือบเทียบเท่ากับปริมาณวิตามินซีที่แนะนำต่อวัน โดยผู้หญิงควรได้รับวิตามินซีวันละ 75 มิลลิกรัม ส่วนผู้ชายควรได้รับวันละ 90 มิลลิกรัม นอกจากนั้น งานวิจัยหลายชิ้นชี้ให้เห็นว่าสารสกัดจากส่วนต่าง ๆ ของลำไย ไม่ว่าจะเป็นใบ ผล เมล็ด เปลือก ลำต้น กิ่ง ดอก ต่างประกอบไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ดังนี้

              • บรรเทาอาการปวดข้อ โรคเกี่ยวกับข้อต่อ และกระดูกหลายโรค เช่น ข้ออักเสบรูมาตอยด์ ข้อเสื่อม กระดูกพรุน และโรคเก๊าท์
              • สารต้านอนุมูลอิสระที่มีในลำไย ช่วยต่อสู้กับอนุมูลอิสระในร่างกายที่สร้างความเสียหายต่อเซลล์และเป็นสาเหตุของโรคร้ายแรงหลายชนิด เช่น โรคหัวใจ หลอดเลือดหัวใจ มะเร็ง ต้อกระจก จอประสาทตาเสื่อม เป็นต้น

              4.ท้องอยู่อยากกินลำไยมากควรทำอย่างไร??

              อย่างที่ได้กล่าวมาให้ข้างต้นแล้วว่า ลำไยเป็นผลไม้ที่มีปริมาณน้ำตาลค่อนข้างสูง ด้งนั้นคุณแม่ท้องที่ชื่นชอบการรับประทานลำไยจึงควรระมัดระวังในเรื่องปริมาณน้ำตาล ยิ่งช่วงเวลาตั้งครรภ์ ระดับน้ำตาลจะส่งผลต่อสุขภาพทั้งตัวคุณแม่ และลูกในท้องค่อนข้างมาก แต่ก็ไม่จำเป็นต้องงดการกินลำไยหรือผลไม้อื่น ๆ ที่มีคุณค่าทางสารอาหารแต่มีน้ำตาลสูงเสมอไป เพียงลดปริมาณ และความถี่ในการกินให้น้อยลง

              5.จำเป็นต้องล้างลำไยก่อนกินไหม??

              ผักผลไม้ก่อนรับประทานควรล้างให้สะอาด นอกจากล้างสิ่งปนเปื้อนที่ติดมาแล้ว ยังต้องให้มั่นใจว่าสามารถชะล้างยาฆ่าแมลงที่ติดอยู่บนผิวได้ เรามาดูวิธีล้างผักและผลไม้ให้สะอาดปลอดภัยกันตามภาพ

               

              วิธีการล้างผักผลไม้ให้ปลอดภัย
              วิธีการล้างผักผลไม้ให้ปลอดภัย

              การล้างผักผลไม้ช่วยขจัดยาฆ่าแมลง และเชื้อโรคที่อาจปนเปื้อนตามเปลือกผลจริง แต่อาจไม่ทั้งหมด หลายคนเสี่ยงได้รับยาฆ่าแมลงจากกินลำไยจากการใช้ปากกัดเปลือกลำไย ทางที่ดีจึงควรใช้มือ หรือมีดแกะผลลำไยแทน

              6.ลำไยช่วยลดความเครียด ความกังวล และภาวะซึมเศร้า ได้จริงไหม??

              นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบสารสองตัวที่มีอยู่ในลำไย คือ  กาบา และกรดแกลลิก ซึ่งสารทั้งสองตัวนี้มีสรรพคุณต้านภาวะซึมเศร้า และปรับอารมณ์ให้ดีขึ้นในมนุษย์ได้ ทั้งนี้ การศึกษาโดยใช้ลำไยหรือสารสกัดจากลำไยโดยตรงนั้นมีไม่มากนัก และยังไม่พบการศึกษาในคนที่น่าเชื่อถือ จึงยังคงเป็นข้อสันนิษฐาน และต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมต่อไป

              7.ทำไมสมุนไพรไทยหรือจีนมักมีส่วนประกอบของลำไยอบแห้ง??

              ลำไยมักถูกใช้ในยาสมุนไพร ไม่ว่าจะเป็นสมุนไพรตำหรับไทย หรือจีนเนื่องจากชาวจีนเชื่อว่าเป็นผลไม้มงคล นำมาทำเป็นส่วนผสมในตัวยาได้ เนื่องจากมีสรรพคุณทางหยาง บำรุงม้าม หัวใจ เลือด เพิ่มประสิทธิภาพในการไหลเวียนโลหิต แก้อาการนอนไม่หลับ ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย บำรุงสายตา ป้องกันเชื้อโรคบางชนิดได้ ซึ่งก็สอดคล้องกับสรรพคุณทางยาของสมุนไพรแผนโบราณของไทย ที่ได้กล่าวไว้ว่าลำไยสามารถนำมาใช้เป็นยาได้ทุกส่วน ดังนี้

              • เมล็ด แก้บาดแผลมีเลือดออก ห้ามเลือด แก้ปวด สมานแผล แก้แผลมีหนอง และกลากเกลื้อน
              • ใบ แก้ ไข้หวัด มาลาเรีย แก้ฝีหัวขาด แก้ริดสีดวงทวาร
              • ดอกแก้โรคเกี่ยวกับหนองทั้งหลาย
              • รากใช้แก้เสมหะ และลม ถ่ายโลหิตออกทางทวารหนัก แก้ระดูขาวมากผิดปกติ ขับพยาธิเส้นด้าย
              • เปลือกต้น แก้เสมหะ ขับลมในลำไส้ แก้จุกเสียด สมานแผล แก้น้ำลายเหนียว

                คุณแม่ท้อง กับการระวังการกินเพื่อลูกน้อย
                คุณแม่ท้อง กับการระวังการกินเพื่อลูกน้อย

              8.กินลำไยรักษาโรค ปลอดภัยหรือไม่??

              ลำไยมีฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาอื่นๆ ที่น่าสนใจ ได้แก่ ฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา และเชื้อยีสต์ ยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนส ฤทธิ์เพิ่มความจำ ต้านการเป็นพิษต่อตับ ลดความวิตกกังวล ปกป้องเซลล์ประสาท ปกป้องสมอง ต้านการก่อกลายพันธุ์ ต้านความเหนื่อยล้า ต้านเชื้อไวรัสตับอักเสบซี และปรับระบบภูมิคุ้มกัน

              จากประโยชน์ของลำไยที่มีมากมาย และเด่นในเรื่องที่เป็นแหล่งสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยในการต้านทานโรคที่ดีหากกินในปริมาณที่เหมาะสม จึงทำให้ในปัจจุบันมีการนำลำไยไปสกัดเป็นสารสกัดจากลำไย เพื่อให้ได้รับประโยชน์จากลำไย โดยไม่ต้องกังวลในเรื่องปริมาณน้ำตาลที่มีอยู่มากเมื่อรับประทานเป็นผลไม้สด แต่เพื่อความปลอดภัยจึงไม่ควรใช้สารสกัดจากลำไยเป็นเวลานาน และควรปรึกษาแพทย์ก่อนตัดสินใจใช้ทุกครั้ง โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือมีอาการเจ็บป่วยใด ๆ ก็ตาม

              9.ทำไมลำไยถึงเป็นผลไม้ต้องห้ามของคนท้อง??

              คุณแม่ท้องไม่ต้องกังวลไปเมื่ออ่านถึงคำถามในข้อนี้ เนื่องจากว่า ข้อห้าม ความเชื่อในเรื่องดังกล่าว หากเราได้อ่านลึกลงไปในรายละเอียดแล้วจะพบว่า การที่กล่าวว่าลำไยเป็นผลไม้ต้องห้ามของแม่ท้องนั้น เป็นเพียงการแสดงความห่วงใยในเรื่องของปริมาณน้ำตาลที่มีมากในลำไยสด หากคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ทานมากเกินไปก็จะส่งผลให้เกิดโรคอ้วน จนถึงขั้นร้ายแรงสุดคือเกิดภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์ได้ ดังนั้นลำไยจึงมิใช่ตัวร้าย แต่เป็นปริมาณน้ำตาลที่มีอยู่ลำไยมากกว่าที่ต้องระวัง อย่ารับประทานในปริมาณที่มากเกินพอดี

              10.ลำไยทำให้แม่ท้องเป็นเบาหวานจริงหรือ??

              เบาหวานคือโรคหนึ่งที่พบบ่อยในคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ มีสาเหตุมาจากหลายปัจจัยด้วยกัน ได้แก่

              • คุณแม่ตั้งครรภ์ในขณะที่อายุมาก
              • มีพันธุกรรมคนในครอบครัวเป็นเบาหวาน
              • พฤติกรรมการกินไม่ถูกสัดส่วนและกินอาหารที่มีน้ำตาลสูง เช่น เค้ก น้ำหวานชนิดต่างๆ หรือชอบกินผลไม้ที่มีน้ำตาล เช่น เงาะ ทุเรียน ลำไย หรือกินอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตเยอะ มากกว่าที่จะเน้นอาหารประเภทโปรตีน
              คนท้องกินลำไยได้ไหม กินปริมาณเท่าไหร่ วันนี้มีคำตอบ
              คนท้องกินลำไยได้ไหม กินปริมาณเท่าไหร่ วันนี้มีคำตอบ

              จะเห็นได้ว่าภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์นั้นไม่ได้เกิดขึ้นจากการกินลำไย หรือผลไม้ที่มีน้ำตาลมากเพียงอย่างเดียว หากมองถึงปัจจัยด้านการกิน จะพบว่าคุณแม่ควรใส่ใจอาหารการกินให้ถูกสัดส่วน ควรรับประทานอาหารที่มีน้ำตาล คาร์โบไฮเดรตให้น้อย เน้นอาหารโปรตีนมากกว่าจะช่วยให้อิ่มนาน การใส่ใจในสัดส่วนการกินจะช่วยให้ได้รับสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งตนเองและลูกน้อยได้ในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่ก่อให้เกิดโรคใด ๆ

              ข้อมูลอ้างอิงจาก www.pobpad.com/aby.kapook.com/www.gj.mahidol.ac.th/pharmacy.mahidol.ac.th/www.phyathai.com

              อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

              กินผลไม้ ตอนไหนดี กับร่างกายมากที่สุด

              ผักผลไม้ต้องห้าม สำหรับแม่ท้อง และให้นมลูก

              9 ผัก ผลไม้สีแดง สารต้านอนุมูลอิสระสูง ดีต่อสุขภาพคุณแม่

              5 เครื่องดื่มบำรุงครรภ์และเครื่องดื่มต้องห้ามสำหรับคนท้อง

              เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                ลูกไม่ยอมนอนกลางวัน

                วิธีรับมือ ลูกไม่ยอมนอนกลางวัน ลูกนอนไม่พอ แม่อย่ารอช้า!

                ลูกไม่ยอมนอนกลางวัน – การได้นอนกลางวันแม้เพียงไม่กี่ชั่วโมงสามารถส่งผลต่ออารมณ์ของเด็กได้ เนื่องจากการนอนกลางวันมีส่วนช่วยในการปรับอารมณ์ความรู้สึกของเด็กๆ ช่วยลดอาการไม่พึงประสงค์ต่างๆ  อาทิ ร้องไห้ ไม่ร่าเริง หงุดหงิด เป็นต้น มีการศึกษาที่แสดงให้เห็นว่าเด็กที่ได้นอนกลางวันทุกวันยังมีอาการเจ็บไข้ได้ป่วยน้อย ร่างกายเจริญเติบโตได้ดี นอกจากนี้ การนอนกลางวันยังช่วยเพิ่มสมาธิในการเรียนรู้ และพัฒนาสมองไปในทิศทางที่ดี

                ทำไมเด็กเล็กต้องนอนกลางวัน

                การที่เด็กๆ ได้นอนกลางวัน จะช่วยชดเชยการนอนหลับที่ขาดหายไปในตอนกลางคืนได้ เพราะแม้แต่เวลานอนโดยรวมที่ไม่เพียงพอเพียงหนึ่งชั่วโมงในแต่ละวัน ก็สามารถส่งผลเสียต่อสุขภาพของเด็กได้ ความตื่นตัวและการทำงานของสมองของเด็กจะลดลงและแทนที่ด้วยความเหนื่อยล้าและปัญหาของอารมณ์ด้านลบที่เพิ่มมากขึ้น

                นอกจากนี้การนอนกลางวันของเด็กปฐมวัยยังมีความสำคัญอย่างมากต่อพัฒนาการ การให้ลูกนอนกลางวันจำเป็นอย่างยิ่งต่อการเจริญเติบโตและฟื้นฟูร่างกาย ดังนั้น การนอนกลางวันจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้เจ้าตัวน้อยมีชั่วโมงการนอนหลับที่เหมาะสมตามวัย จากการศึกษาของ PsychCentral.com พบว่า การนอนหลับที่ไม่เพียงพอบ่อยๆ สามารถส่งผลต่อการแสดงออกทางอารมณ์ที่แตกต่างกันของเด็ก ซึ่งสามารถนำไปสู่ปัญหาด้านอารมณ์ไปจนตลอดชีวิตได้

                มีแนวคิดวิธีต่างๆ มากมายในการช่วยให้เด็กๆ นอนกลางวันได้อย่างราบรื่น แต่แนวคิดที่ดีที่สุดในโลก อาจไม่เหมาะกับลูกของเราก็เป็นไปได้ หากวิธีแก้ปัญหาเหล่านั้น ไม่ได้กล่าวถึงเหตุผลว่าทำไมลูกของคุณถึงหลับยาก หรือไม่ยอมนอนในตอนกลางวัน ไม่ใช่แค่เหตุผลเดียวที่ทารกและเด็กเล็กนอนกลางวันได้ยาก ยังมีหลายเหตุผลที่แตกต่างกัน ก่อนที่เราจะแก้ปัญหา ต้องเข้าใจถึงแรงจูงใจของลูกก่อน

                วิธีรับมือ ลูกไม่ยอมนอนกลางวัน ลูกนอนไม่พอ แม่อย่ารอช้า!

                เมื่อทราบสาเหตุที่ลูกไม่ยอมนอนกลางวัน หรือนอนหลับได้ยากแล้ว เราจะสามารถหาวิธีต่างๆ เพื่อแก้ปัญหาในแบบที่เหมาะสมกับลูกของเราได้ตรงจุด ต่อไปนี้คือเหตุผลทั่วไปบางประการที่เด็กๆ ไม่ยอมนอนกลางวัน และทางออกสำหรับปัญหาในแต่ละข้อ

                1. ลูกโตเกินกว่าที่จะนอนกลางวันตามเวลาเดิม

                การเปลี่ยนแปลงในชีวิต การเติบโต พัฒนาการของลูกที่เปลี่ยนไปตามวัย เช่น การเรียนรู้ที่จะคลาน เริ่มกินอาหารแข็ง เกาะยืน เริ่มเดินได้ จดจำสิ่งต่างๆ ได้มากขึ้น  การเปลี่ยนแปลงใดๆ ทางด้านพัฒนาการของเด็ก ล้วนส่งผลต่อคุณภาพในการนอนหลับของพวกเขาได้ ดังนั้นควรตรวจสอบคุณภาพในการนอนของลูกอยู่เสมอ และพยายามปรับตารางเวลาให้เหมาะสมและตรงกับวัยของลูก

                2. เวลานอนกลางวัน ไม่ตรงกับนาฬิกาชีวิต

                ไม่ว่าจะนอนกลางวัน นอนตอนกลางคืน เวลาอาหาร การเปิดรับแสงและความมืด ตลอดจนกิจกรรมต่างๆ ในแต่ละวันของเด็ก ล้วนส่งผลต่อนาฬิกาชีวิตของเด็กได้ ดังนั้นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการนอนกลางวันของลูกคุณ ควรจะเป็นเวลาเดียวกันในแต่ละวัน และค่อยๆ ปรับเปลี่ยนไปตามวัย  ที่สำคัญต้องกำจัดบางกิจกรรมที่อาจส่งผลกระทบกับคุณภาพในการนอนของลูก เช่น ให้ลูกดูหน้าจอเป็นเวลานานก่อนเข้านอน เป็นต้น

                ลูกไม่ยอมนอนกลางวัน
                ลูกไม่ยอมนอนกลางวัน

                3. เวลานอนกลางวันไม่สอดคล้องกันในแต่ละวัน

                ยกตัวอย่าง เมื่อลูกของคุณงีบหลับในช่วงเวลาหนึ่งที่สถานรับเลี้ยงเด็กแต่เป็นเวลาที่แตกต่างกันที่บ้าน หรือหากพวกเขางีบหลับยาวในวันที่คุณอยู่บ้าน แต่เวลาเดียวกันในวันถัดไปจำเป็นต้องนอนหลับในรถในขณะที่คุณกำลังเดินทาง เวลาและสถานที่ที่แตกต่างกันเหล่านี้ สามารถส่งผลกระทบต่อการนอนกลางวันของเด็กๆ ได้ ทางที่ดีควรกำหนดตารางเวลาการงีบหลับที่เป็นไปได้สำหรับบุตรหลานของคุณ และพยายามอย่างเต็มที่ ที่จะควบคุมเวลานอนให้อยู่ภายในช่วงเวลาที่คุณกำหนดเอาไว้

                4. พร้อมที่จะนอน แต่ไม่ได้นอน

                หากคุณพลาดสัญญาณของความอ่อนล้าของลูก เด็กๆ อาจต้องพลาดการนอนกลางวันไปอีกหนึ่งวัน การร้องไห้ เอะอะโวยวาย เสียงร้องไห้ และความโกรธเกรี้ยว คือสัญญาณความง่วงนอนของเด็กๆ เมื่อพ่อแม่หรือคนเลี้ยง พลาดสัญญาณที่อ่อนล้าเหล่านี้ของลูกไปลูกก็อาจต้องลากยาวไปหลับอีกทีในตอนกลางคืน

                หากต้องการทราบสัญญาณในการง่วงนอนของเด็กๆ  ให้เฝ้าดูลูกของคุณในชั่วโมงหลังจากที่ตื่นนอนตอนเช้าเป็นครั้งแรกจากการได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ เปรียบเทียบพฤติกรรมนี้กับพฤติกรรมของพวกเขาในช่วงอาหารเย็นจนถึงเวลาเข้านอน เมื่อเด็กส่วนใหญ่แสดงอาการอ่อนล้า เมื่อใกล้ถึงเวลานอนตามปกติ ให้สังเกตว่าพฤติกรรมและภาษากายของพวกเขาแตกต่างจากตอนที่เขาตื่นตัวและสดชื่นอย่างไร ทางที่ดีควรให้ลูกได้เข้าสู่โหมดเตรียมนอนทันทีที่มีอาการเหนื่อยล้า เด็กที่เหนื่อยล้าจะหลับได้ง่าย และหลับได้นานขึ้น

                5. ลูกติดวิธีใดวิธีหนึ่งในการกล่อมนอน

                เด็กที่คุ้นเคยกับการทำให้ง่วง หรือทำให้นอนหลับได้ด้วยวิธีใดวิธีหนึ่งโดยเฉพาะอยู่เป็นประจำ จะคุ้นเคยกับวิธีเหล่านั้นไปโดยปริยาย  หากพ่อแม่พยายามทำให้ลูกหลับด้วยวิธีอื่นๆ หรือพยายามให้นอนหลับในสภาพแวดล้อมที่ลูกไม่คุ้นเคย ท้ายที่สุดแล้วลูกของคุณอาจนอนไม่หลับ เรื่องนี้ก็ไม่ต่างจากที่เราอาจรู้สึกหลับสบายหลับง่ายบนเตียงและห้องของเราเอง แต่มีปัญหาในการนอนที่โรงแรมหรือบ้านของคนอื่น

                การให้นมขวดเพื่อการนอนหลับ การถูกอุ้มกล่อมด้วยแขน หรือนอนบนชิงช้า เปลหรือเบาะ เหล่านี้เป็นสิ่งที่ช่วยกล่อมให้เด็กๆ นอนหลับได้อย่างน่ามหัศจรรย์ เมื่อเด็กๆ ไม่ได้อยู่ในสภาวะที่คุ้นเคยในการนอน ก็มีแนวโน้มที่จะก่อให้เกิดปัญหาสำหรับผู้ปกครองที่ต้องการให้ลูกนอนหลับได้ดังใจ

                6. ลูกได้งีบหลับก่อนถึงเวลานอนกลางวัน

                เมื่อลูกรู้สึกง่วงนอนการงีบหลับสั้นๆ เพียงห้านาที อาจลดอาการง่วงนอนของเด็กๆ ได้ หากลูกของคุณรู้สึกง่วง และเผลอนอนหลับไปบนโซฟา หรือนั่งรถไป พวกเขาอาจสัปหงกห้าหรือสิบนาที ซึ่งการงีบช่วงสั้นแบบนี้จะยิ่งช่วยให้เด็กๆ กระปรี้กระเปร่า และอาจทำให้พวกเขานอนหลับได้ยาก หรือนอนไม่หลับเมื่อถึงเวลาที่ต้องนอนกลางวันจริงๆ เพื่อรับมือกับปัญหานี้ ควรหลีกเลี่ยงการวางลูกของคุณในสภาพแวดล้อมที่อาจทำให้พวกเขางีบหลับ เช่น พาลูกขึ้นรถ นั่งบนคาร์ซีทในช่วงเวลาเดียวกับเวลานอนกลางวันตามปกติ เป็นต้น

                ลูกไม่ยอมนอนกลางวัน

                7. ลูกอาจมีปัญหาด้านสุขภาพ

                หากเจ้าตัวน้อยของคุณมีปัญหาสุขภาพบางอย่าง จะส่งผลต่อการนอนของเด็กๆ ได้อย่างแน่นอน โรคภูมิแพ้และโรคหอบหืดเป็นโรคที่พบบ่อย ในเด็กเล็กๆ ที่ป่วยภูมิแพ้และหอบหืดอาจหายใจไม่สะดวกเมื่อนอนราบ นอกจากนี้อาการจุกเสียดในท้อง กรดไหลย้อน การติดเชื้อที่หู และการงอกของฟัน ก็เป็นปัญหาของสุขภาพที่จะส่งผลกระทบต่อการนอนของลูกได้โดยตรง หากลูกของคุณมีปัญหาสุขภาพบางอย่าง การได้นอนกลางวันอย่างเต็มที่และมีคุณภาพสำคัญอย่างยิ่งต่อสุขภาพโดยรวมของพวกเขา  ทางที่ดีไม่ควรปล่อยให้ปัญหาที่ไม่ได้รับการแก้ไข การได้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะช่วยให้คุณภาพในการนอนของลูกคุณดีขึ้นได้

                เคล็ดลับ ช่วยลูกนอนกลางวัน

                มีข้อมูลบางอย่างที่อาจเป็นประโยชน์ เมื่อคุณต้องการให้ลูกได้นอนกลางวันเป็นประจำ หลักการพื้นฐานบางอย่างเป็นสิ่งที่ควรคำนึงถึง ตลอดจน รักษาตารางเวลาประจำวันที่สม่ำเสมอ  สร้างรูปแบบของกิจวัตรประจำวันที่ดี ด้วยมื้ออาหารและช่วงเวลานอนกลางวันที่เหมาะสม

                • ปรับเปลี่ยนตารางเวลาของคุณตามสัญญาณความง่วงนอนของบุตรหลาน
                • สัญาณความง่วงของเด็กคือ หมดความสนใจในของเล่น หรือเวลาเล่น เอะอะ  ขยี้ตาหรือหู และหาว
                • มีกิจกรรมที่เป็นกิจวัตรก่อนเวลานอน ที่เป็นสิ่งที่ช่วยเตือนให้ลูกรู้ว่าใกล้เวลานอนกลางวันแล้ว เช่น การอ่านนิทานให้ลูกฟังก่อนนอน
                • จัดที่นอนที่อบอุ่นสบายสำหรับการนอน เสื้อผ้าที่ลูกสวมใส่ควรสบายเหมาะกับการนอนหลับพักผ่อน
                • สร้างช่วงเช้าตอนตื่นที่สดใส และกระฉับกระเฉงให้ลูก และสร้างบรรยากาศในครึ่งชั่วโมงก่อนการงีบหลับตอนกลางคืนแต่ละครั้งให้เงียบสงบให้ลูกรู้สึกผ่อนคลายก่อนเข้านอน

                แม้เราจะไม่สามารถบังคับเด็กให้หลับได้ดั่งใจ แต่เราสามารถปฏิบัติตามกฎพื้นฐานทั่วไปได้ เช่น การมองหาสัญญาณในการง่วงนอนของลูก และสร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อการนอนหลับและการผ่อนคลาย เมื่อเด็กๆ ได้นอนหลับอย่างเหมาะสมจะช่วยทำให้ร่างกายได้พักผ่อน สร้างภูมิต้านทานโรค เป็นเด็กอารมณ์ดี สดชื่นแจ่มใส จดจำสิ่งต่างๆ ที่เรียนรู้ได้อย่างแม่นยำ ดังนั้นควรสนับสนุนให้เด็กๆ นอนให้เพียงพอ และหมั่นปลูกฝังความสำคัญของการนอนหลับพักผ่อนให้ลูกตั้งแต่ยังเล็ก เพื่อเสริมสร้างให้เด็กๆ มีทักษะความฉลาดรอบด้าน ด้วย Power BQ ในด้าน ความฉลาดต่อการมีสุขภาพที่ดี HQ ซึ่งเป็นหนึ่งในทักษะความฉลาดที่สำคัญสำหรับเด็กในศตวรรษที่ 21 อีกด้วยค่ะ

                ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก : mother.ly

                บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

                พร้อมไหม ให้ลูกนอนคนเดียว ฝึกลูกให้นอนเองได้ ตอนไหนดี

                สัญญาณเตือน! ลูกนอนไม่พอ พ่อแม่ต้องรู้ ก่อนสายเกินแก้

                ลูกนอนกรน หายใจเสียงดัง เสี่ยงภาวะหยุดหายใจขณะหลับ

                เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                 

                  แพทย์แผนจีน

                  สภาการค้าไต้หวัน เตรียมเผยความรู้และเทคนิคข้อกฎหมายของการแพทย์แผนจีน ในการนำเข้ายาและเวชกรรมที่ช่วยรักษาโรค Covid 19

                  นายกู หมิงจิน ประธานสมาคมแพทย์แผนจีนในไต้หวัน กล่าวว่า ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด19 ที่ยังคงทวีความรุนแรงทั่วโลก สำนักงานอาหารและยาของไต้หวัน (TFDA) เพิ่มความเข้มงวดถึงมาตรฐานและสร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัยก่อนส่งออกผลิตภัณฑ์แพทย์แผนจีน (Traditional chinese medicine) มายังประเทศกลุ่มอาเซียน

                  ที่ผ่านมา ทางสำนักงานอาหารและยาของไต้หวัน (TFDA) ได้ออกประกาศหลายฉบับโดยปรับปรุงแก้ไขข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ยาและเวชกรรมของการแพทย์แผนจีน เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพและเพิ่มคุณภาพของสินค้า สร้างความมั่นคงทางสาธารณสุข โดยเฉพาะการมุ่งเน้นรักษาโรคระบาดโควิด19

                  ไต้หวันเล็งเห็นว่า ผลิตภัณฑ์ยาและเวชกรรมของแพทย์แผนจีนมีความต้องการสูงโดยเฉพาะกลุ่มประเทศอาเซียน ซึ่งประเทศไทยและประเทศมาเลเซีย มีจำนวนคนจีนที่พักอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก คุ้นเคยกับการใช้ยาและเวชกรรมของแพทย์แผนจีนในการรักษาโรค ย่อมเป็นต้นแบบที่ดีในการขยายฐานผู้ใช้ยาและเวชกรรม ที่สำคัญ คนไทยและคนมาเลเซียต่างมีกำลังการซื้อสินค้าและบริการด้านสุขภาพสูง

                  ดร.หวาง เป่ากั่ว ประธานสมาคมแพทย์แผนจีนแห่งมาเลเซีย กล่าวว่า ปัจจุบันพัฒนาการยาสมุนไพรของจีนมีความก้าวหน้าเป็นอย่างมาก เนื่องจากใช้งานง่าย สามารถใช้การแพทย์แผนจีนควบคู่กับการแพทย์แผนปัจจุบันได้ดี มีรูปแบบที่ทันสมัย และมีประสิทธิภาพการรักษา

                  นายแพทย์โห จวนเซิง รองประธานสมาคมแพทย์แผนจีนแห่งประเทศไทย กล่าวว่า แพทย์แผนจีนเป็นที่นิยมเพิ่มสูงขึ้นและเป็นตัวเลือกที่สำคัญในการช่วยรักษาโรค เป็นที่ยอมรับมาอย่างช้านานมากกว่า 5,000 ปี ซึ่งทางเราต้องสร้างความรู้ ความมั่นใจให้กับคนไทยและเปิดใจกับวิธีการรักษาใหม่ๆ ให้กับผู้บริโภค

                  ที่สำคัญความรู้ทางด้านกฎหมายและเทคนิคการนำเข้า ซึ่งมีความแตกต่างกันอยู่บางรายการ เช่น ข้อกำหนดระดับค่ามาตรฐานความปลอดภัยที่แตกต่างกัน (ตามแต่กฎหมายของแต่ละประเทศกำหนด) หรือ การกำหนดปริมาณสารตกค้างที่แตกต่างกัน ย่อมส่งผลต่อการนำเข้าและส่งออกยาและเวชกรรมแพทย์แผนจีน

                  ทางสภาการค้าและการส่งออกไต้หวัน ประจำประเทศไทย จึงขอเชิญชวนกลุ่มนักธุรกิจที่กำลังสนใจหรือมองหาสินค้าด้านการแพทย์แผนจีน เข้าร่วมงานสัมนาออนไลน์ตลาดยาแพทย์แผนจีนและกฎหมายข้อบังคับในไทยและมาเลเซีย ในวันศุกร์ที่ 30 กรกฎาคม 2564 เวลา 13.30 น. ผ่านช่องทางยูทูป โดยลงทะเบียนรับสิทธิ์เข้าร่วมงานที่ https://bit.ly/TAITRA2021 หรือติดต่อ คุณภาณิชา 083-065-7027 หรือ [email protected]

                   

                    จุลินทรีย์ LPR

                    อยากให้ลูกแข็งแรง ภูมิคุ้มกันดี เก่งได้อย่างใจฝัน “จุลินทรีย์” ช่วยได้

                    ทำไมลูกร้องไม่หยุดสักที ?

                    ทำไมลูกเธอกินอิ่มแล้วนอนหลับ เลี้ยงง่ายจัง ?

                    ทำไมลูกเรา 3 วันดี 4 วันไข้ ?

                    พ่อแม่มือใหม่จะมีคำถามบวกความกังวลกันเยอะมาก เพราะไม่เคยมีประสบการณ์เลี้ยงลูกกันมาก่อน นี่คือเรื่องจริงของหลาย ๆ ครอบครัว และก็รวมถึงทีมแม่ ABK ก็เจอมากับตัวเองด้วยเหมือนกันค่ะ ลูกเล็ก ๆ เราไม่รู้เลยว่าเขาต้องการอะไร เขาร้องไห้ เขาเจ็บ เขาปวดตรงไหนยังไง ลูกยังบอกเราไม่ได้

                    แต่รู้ไหมคะว่า ที่ลูกเล็ก ๆ ร้องไห้บ่อย ร้องไห้ไม่หยุด หรือบางทีก็มีอาการท้องอืด ตัวร้อน ไม่สบาย และอีกหลายสาเหตุเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เกิดขึ้นกับลูกเนี่ย จริง ๆ ส่วนหนึ่งสาเหตุอาจมาจากที่ลูกรู้สึกไม่สบายตัวก็ได้นะคะ วันนี้ทีมแม่ ABK จะมาเผยเคล็ดลับอย่างหนึ่ง ที่พบว่าเราสามารถดูแลลูกให้สตรองได้ตั้งแต่ช่วงแรกของชีวิต เพื่อให้เติบโตขึ้นอย่างแข็งแรง มีพัฒนาการที่ดีสมวัย ง่าย ๆ ด้วย “จุลินทรีย์ LPR”หนึ่งในจุลินทรีย์สุขภาพที่พบในนมแม่ นอกเหนือจากสารอาหารต่าง ๆ อีกกว่า 200 ชนิด เป็นจุลินทรีย์พื้นฐานตั้งต้นที่นำไปสู่ความแข็งแรงที่ยั่งยืนของลูกน้อยเลยก็ว่าได้ค่ะ

                     

                    เลี้ยงลูกให้โตอย่างสตรอง ด้วย จุลินทรีย์ LPR

                    สงสัยกันไหมคะว่า จุลินทรีย์ LPR คือจุลินทรีย์อะไร ถ้าทีมแม่ABK บอกแล้ว รับรองคุณพ่อคุณแม่ร้องอ๋อ กันแน่นอน มาทำความรู้จักจุลินทรีย์ชนิดนี้ไปพร้อมกันค่ะ

                    LPR คือ โพรไบโอติกส์ (Probiotic) เป็นจุลินทรีย์สุขภาพ ที่มีคุณลักษณะเฉพาะสามารถช่วยเพิ่มจุลินทรีย์ชนิดดีในร่างกาย และลดจุลินทรีย์ก่อโรค ช่วยปรับสมดุลให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย มีงานวิจัยทางการแพทย์นะคะพบว่า จุลินทรีย์ LPRมีผลดีต่อระบบภูมิคุ้มกัน มีส่วนช่วยให้ลำไส้แข็งแรง คอยสร้างเกราะป้องกันไม่ให้จุลินทรีย์ที่ก่อให้เกิดโรคเข้าสู่ร่างกาย และเกือบ 80% ของเซลล์ภูมิคุ้มกันของร่างกายอยู่ในทางเดินอาหาร ซึ่งโพรไบโอติกส์ จะคอยช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างคือ สมดุลที่ดีของโพรไบโอติกส์ในทางเดินอาหาร มีผลต่อระบบประสาทที่ควบคุมระบบทางเดินอาหาร ส่งผลต่อการย่อย การดูดซึม และการขับถ่ายที่เป็นปกติ

                     

                    เกิดคำถามต่อว่า ถ้า จุลินทรีย์สุขภาพ (โพรไบโอติกส์) ในร่างกายเสียสมดุล จะส่งผลอย่างไรกับร่างกายของเด็ก ๆ ?

                    อย่างที่บอกไปว่า เกือบ 80% ของเซลล์ภูมิคุ้มกันของร่างกายอยู่ในทางเดินอาหาร ฉะนั้นถ้าระบบทางเดินอาหารเสียสมดุล มีโพรไบโอติกส์ไม่เพียงพอ ก็จะส่งผลโดยตรงต่อความแข็งแรงของร่างกายเด็ก ๆ ทั้งระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ป่วยง่าย ระบบย่อย การดูดซึมอาหารไม่ดี  เกิดอาการท้องผูก ท้องเสีย ร้องไห้บ่อย หงุดหงิดง่าย รวมไปถึงภาวะอักเสบที่เป็นสาเหตุของโรคเรื้อรังที่เป็นอันตรายต่าง ๆ ได้ค่ะ

                    พอพูดมาถึงตรงนี้ เริ่มอยากให้ลูก ๆ ที่บ้านแข็งแรงสุขภาพดีกันอย่างต่อเนื่องไปจนโตกันแล้วใช่ไหมคะ ทีมแม่ ABK ก็เหมือนกันค่ะ เราไปตามหาต่อค่ะว่า จุลินทรีย์ LPR จุลินทรีย์สุขภาพที่มีประโยชน์กับร่างกายมีอยู่ที่ไหนบ้าง

                     

                    ชี้เป้า 4 แหล่งอาหารที่มี LPR จุลินทรีย์สุขภาพ

                    จุลินทรีย์ LPR

                    และนี่คือแหล่งอาหารที่มี LPR จุลินทรีย์สุขภาพ คุณแม่สามารถส่งเสริมให้ลูก ๆ ได้รับเพื่อความสตรองตั้งแต่ช่วงแรกของชีวิตค่ะ

                    • น้ำนมแม่ แนะนำให้เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ตั้งแต่แรกคลอด ไปจนถึง 6 เดือน แต่ถ้าคุณแม่มีน้ำนมมากพอให้ลูกกินไปจนถึงวัยขวบก็ดีมากเลยค่ะ
                    • โยเกิร์ต เด็กอายุ 1 ขวบขึ้นไป สามารถให้กินโยเกิร์ตได้ค่ะ แต่ให้เลือกรสธรรมชาติ สูตรสำหรับเด็ก
                    • นมเปรี้ยว ปกตินมเปรี้ยวจะมีน้ำตาลผสมอยู่ด้วย ให้ลูกดื่มได้บ้าง แต่ไม่ควรให้ดื่มทุกวัน
                    • นมบางชนิด เมื่อลูกอายุ 2 – 3 ขวบขึ้นไป คุณแม่สามารถเสริมด้วยนมที่มีการเติมจุลินทรีย์สุขภาพ LPR ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีต่อการมีภูมิคุ้มกันร่างกายที่สตรองของลูกอย่างต่อเนื่องค่ะ

                    คุณแม่ที่กำลังจะคลอดลูก เตรียมร่างกายให้พร้อมสำหรับการมีน้ำนมหยดแรกให้ลูกไว้เลยค่ะ ลูกตั้งแต่แรกคลอด อยากให้เขามีระบบภูมิคุ้มกันที่ดี เร็วและง่ายก็แค่ให้ลูกได้กินนมแม่อย่างเดียว ตั้งแต่แรกเกิดถึง 6 เดือน และควรกินต่อเนื่องไปจนลูกอายุ 2 ปี หรือนานกว่านั้น ควบคู่กับอาหารตามวัยที่เหมาะสม ซึ่ง LPR เป็นหนึ่งในจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ที่พบในนมแม่ อย่างนี้ต้องห้ามพลาดที่จะเลี้ยงลูกด้วยน้ำนมแม่กันนะคะ

                     

                    คุณสมบัติของ จุลินทรีย์ LPR

                    คุณพ่อคุณแม่รู้กันแล้วนะคะว่า เราจะส่งเสริมให้ลูก ๆ ได้รับจุลินทรีย์สุขภาพ LPR จากแหล่งอาหารไหน ทีนี้เรามาเช็กกันต่อว่าหน้าที่ของจุลินทรีย์ LPR มีประโยชน์ต่อร่างกายของเด็กอะไรบ้าง

                    จุลินทรีย์สุขภาพ LPR

                    • ลดการติดเชื้อของลำไส้
                    • ลดอาการปวดท้องในโรคลำไส้แปรปรวน
                    • ป้องกันอาการท้องเสียจากยาปฏิชีวนะ
                    • ร่างกายแข็งแรง ไม่ป่วยง่าย
                    • ลดจำนวนวันขาดเรียน ช่วยให้เด็ก ๆ เรียนรู้สมวัยอย่างต่อเนื่อง

                    จุลินทรีย์สุขภาพไม่เพียงแค่ทำให้เด็ก ๆ มีร่างกายแข็งแรง แต่ยังช่วยให้สมองได้รับสารอาหารอย่างเต็มที่ ร่างกายก็พร้อมเรียนรู้ให้สมองพัฒนาได้เต็มศักยภาพ โดยเฉพาะลูกวัย 1-2 ขวบ เป็นช่วงวัยที่สำคัญในการเสริมสร้างความเก่งและแกร่ง เด็ก ๆ ในช่วงวัยนี้จะมีพัฒนาการอย่างรวดเร็วในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นพัฒนาการด้านร่างกาย , การพูด การสื่อสาร , การแสดงออก และพัฒนาการด้านสติปัญญา การเรียนรู้ต่าง ๆ ฉะนั้นห้ามพลาดที่จะส่งต่อให้ลูกได้รับจุลินทรีย์สุขภาพกันตั้งแต่ 1,000 วันแรกของชีวิต และจำเป็นต้องได้รับอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ลูกเติบโตขึ้นมาแบบสายตรอง ที่มีทั้งความแกร่งและเก่งในแบบที่ลูกเป็น

                    เลี้ยงลูกให้สตรอง ดูข้อมูลเพิ่ม เกี่ยวกับจุลินทรีย์ LPR ได้ที่ Mommy Bear Club

                     

                    อย่ารอช้าที่จะให้จุลินทรีย์สุขภาพกับลูก เริ่มกันตอนนี้เลยค่ะ

                    #LPRจุลินทรีย์ในนมแม่ #LPRจุลินทรีย์สุขภาพในนมแม่ #เพราะแกร่งจึงเก่งได้อย่างใจฝัน

                      ลำไส้อักเสบเรื้อรัง

                      อุทาหรณ์! ลูก ลำไส้อักเสบเรื้อรัง เพียงเพราะแม่อยากให้ลูกอ้วน

                      ลำไส้อักเสบเรื้อรัง – แน่นอนว่าพ่อแม่ทุกคน ต่างหวังให้ลูกเป็นเด็กที่ร่างกายแข็งแรง สุขภาพดี ไม่เจ็บป่วยง่าย อยากให้ลูกกินได้เยอะๆ โตไวๆ และมีพัฒนาการที่ดี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การให้ลูกกินมากเกินไป บางครั้งก็อาจส่งผลเสียต่อลูกได้มากกว่าที่เราคิด อย่างเช่นกรณีของคุณแม่รายหนึ่ง ที่คิดว่าอยากให้ลูกตัวอ้วนๆ ให้ลูกทานนมในปริมาณมากเกินไปที่กระเพาะและลำไส้ของเด็กจะรับมือได้

                      อุทาหรณ์! ลูก ลำไส้อักเสบเรื้อรัง เพียงเพราะแม่อยากให้ลูกอ้วน

                      สืบเนื่องจาก มีคุณแม่ท่านหนึ่ง ที่ได้แชร์ประสบการณ์ในกรุ๊ปสื่อสังคมออนไลน์ ถึงเรื่องราวที่ลูกน้อยวัยเพียง 11 เดือน มีอาการป่วยด้วยโรคกระเพาะและลำไส้อักเสบเรื้อรัง โดยแพทย์วินิจฉัยเพราะสาเหตุอาจเกิดจากการที่ให้เด็กกินนมมากเกินไป  โดยคุณแม่ได้โพสต์เนื้อหาใจความว่า

                      ” มีประสบการณ์อยากมาเตือนแม่ๆ ค่ะ
                      ลูกเรากระเพาะพัง เพราะคำว่าอยากให้ลูกอ้วนๆ น้ำหนักขึ้นเยอะๆ จะได้แข็งแรง แม่คิดผิดมากค่ะ ลูกแม่เป็นเด็กกินง่าย ป้อนเท่าไหร่ก็หมด บวกนมเข้าไปอีก ครั้งละ 8 ออนซ์ วันนึงหมดหลายขวด น้องจ้ำม่ำดีมาก อยู่มาวันนึงน้องอ้วกไม่หยุด มากกว่า 20 รอบ จนเกือบช็อค แม่รีบพาตัวส่งโรงบาล หมอบอกว่า กระเพราะและลำไส้น้องอักเสบเพราะย่อยไม่ทัน กินมากเกินไป แม่มานั่งเสียใจ กระเพาะลูกเล็กนิดเดียว จะยัดอะไรเข้าไปนักหนา ผลสุดท้ายคือ น้องกระเพาะอักเสบเรื้อรัง ต้องรออีกนานกว่าจะเหมือนเดิม น้องกินได้แค่ข้าวต้ม จากที่เป็นเด็กร่าเริงก็ซึม บางวันก็อ้วก
                      ลูกตัวเล็ก กินข้าวน้อยอย่าไปเครียด อย่าไปยัดอะไรค่ะ ต่อไปนี้เค้าอยากกินก็ให้กิน แต่คงน้อยลงมากๆ “
                      ลำไส้อักเสบเรื้อรัง
                      ลำไส้อักเสบเรื้อรัง

                      อันตรายจากการให้ลูกกินมากเกินไป

                      การป้อนนมลูกไม่ว่าจะเป็นจากอกแม่โดยตรง หรือจากขวด สามารถทำให้เกิดปัญหาตามมาได้หากเด็กได้รับปริมาณของนมที่มากเกินไป อาจทำให้กระเพาะและลำไส้ทำการย่อยและดูดซึมนมไม่ทัน จนทำให้เกิดอาการปวดท้อง และอาเจียนออกมาได้ การอาเจียน หรือ อ้วก ในเด็กเล็ก เป็นปฏิกิริยาตอบสนองของร่างกาย โดยมีการสำรอกเอาสิ่งที่อยู่ในกระเพาะอาหารย้อนกลับออกมาทางปากอย่างรวดเร็ว มักเกิดคู่กับอาการคลื่นไส้ พะอืดพะอม อึดอัดมวนท้อง ไม่สบายตัว

                      การที่เด็กอาเจียน เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ทั้งเกิดจากพฤติกรรมการให้อย่าง “แหวะนม” เพราะ ลูกน้อยกินนมมากเกินไป (Overfeeding) หรือหลังกินนมไม่ได้จับเรอมากพอ หรือ ท่าดูดนมไม่ถูกต้อง เช่น ให้นอนดูดนมแทนการอุ้มทำให้มีลมในกระเพาะอาหารมาก จนลูกอ้วกออกมา

                      หากลูกอาเจียน 1- 2 ครั้งแล้วหยุด ไม่มีอาการแทรกซ้อนอื่น ๆ ไม่ถือว่าเป็นอันตราย แต่ถ้าอาเจียนต่อเนื่องติดต่อกันหลายครั้ง อาจทำให้กล้ามเนื้อหลอดอาหารฉีกขาด มีเลือดออกในช่องท้อง เกิดภาวะขาดน้ำจนภาวะในร่างกายเสียสมดุลหรือหากสำลักเศษอาหารเข้าไปในหลอดลมอาจทำให้ถึงเสียชีวิตได้

                      สำหรับเด็ก ที่อยู่ในวัยเริ่มอาหารเสริม อายุ 6 เดือนถึง 1 ขวบโดยประมาณ  ควรทานนมแม่เป็นอาหารมื้อหลัก แล้วตามด้วยการป้อนอาหารเสริมให้อย่างน้อย 1-2 มื้อต่อวัน หากคุณแม่ให้ลูกกินข้าว หรือ กินนมที่มากเกินความต้องการของร่างกาย กล่าวคือ เกินความจุของกระเพาะอาหารจะรับได้ ก็เป็นสาเหตุทำให้ลูกอาเจียนได้ กรณีที่ลูกอาเจียนและมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ปวดหัว ปวดท้อง ท้องเสีย มีไข้ อาจเป็นสัญญาณของโรคอันตรายหลายโรค การอาเจียนนั้นอาจเป็นเพียงอาการนำของโรคอื่นๆ ได้ เช่น โรคกระเพาะและลำไส้อักเสบเรื้อรัง

                      ลำไส้อักเสบเรื้อรัง

                      โรคกระเพาะและลำไส้อักเสบคืออะไร?

                      โรคกระเพาะและลำไส้อักเสบ คือ ภาวะอาการเจ็บป่วยเรื้อรัง จากการติดเชื้อในลำไส้ หรือ การย่อยอาหารที่ผิดปกติ ซึ่งทำให้เกิดอาการผิดปกติต่างๆ เช่นท้องร่วง หรือมีการอาเจียนร่วมด้วย โรคกระเพาะและลำไส้อักเสบ เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในเด็กวัยขวบปีแรก ซึ่งในเด็กบางรายอาจมีอาการรุนแรง ถ้าไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีอาจทำให้เด็กเกิดภาวะช็อก และเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้

                      สาเหตุของโรคกระเพาะและลำไส้อักเสบในเด็ก

                      กระเพาะและลำไส้อักเสบ คือ การอักเสบของกระเพาะและลำไส้ที่ทำให้เกิดอาการท้องร่วง คลื่นไส้ อาเจียน หรือ อาการอื่นๆ ที่เกิดจากการย่อยอาหารที่ผิดปกติ โดยสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุดของโรคกระเพาะและลำไส้อักเสบในเด็ก คือ ไวรัส แบคทีเรีย (อาหารเป็นพิษ) และพยาธิในลำไส้ อาหารไม่ย่อย อาหารเป็นพิษ มักก่อให้เกิดปัญหากับระบบทางเดินอาหาร ไวรัสที่ทำให้เกิดโรคกระเพาะและลำไส้อักเสบในเด็กทั่วไป คือ โรตาไวรัส และอะดีโนไวรัส แต่ก็มีไวรัสอื่นๆ อีกมากมายหลายชนิดที่ก่อให้เกิดโรคได้

                      ให้ลูกกินแค่ไหนถึงพอดี?

                      ปริมาณนมที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายในแต่ละช่วงวัย สามารถคำณวนได้โดย ใช้สูตรการคำนวณปริมาณน้ำนมลูกที่ควรได้รับในหนึ่งวัน

                      สูตรการคำนวณปริมาณน้ำนมลูกที่ควรได้รับ ตั้งแต่แรกเกิด – 1 เดือน  

                      ปริมาณน้ำนมที่ควรได้รับในหนึ่งวัน = น้ำหนักลูก(กิโลกรัม )× 150 (ซีซี) ÷ 30

                      ข้อแนะนำ : ควรแบ่งมื้อนมออกเป็น 6-8 มื้อต่อวัน

                      ตัวอย่างการคำนวณ : เด็กแรกเกิดหนัก 3 กก. เมื่อครบเดือนควรหนัก 3.6 กก. แต่คำนวณง่ายๆ โดยปัดเป็น 4 กก. คูณ 150 เท่ากับ 600 หาร 30 คือ 20 ออนซ์ (+/- ได้ไม่เกิน 4 ออนซ์) และควรเเบ่งมื้อนมเป็น 6-8 มื้อ/วัน

                      สูตรการคำนวณปริมาณน้ำนมลูกที่ควรได้รับ ตั้งแต่อายุ 1- 6 เดือน  

                      ปริมาณน้ำนมที่ควรได้รับในหนึ่งวัน = น้ำหนักลูก (กิโลกรัม )× 120(ซีซี) ÷ 30

                      ข้อแนะนำ : ควรแบ่งมื้อนมออกเป็น 6-8 มื้อต่อวัน

                      ตัวอย่างการคำนวณ : เด็กอายุ 2 เดือน หนัก 5 กก. คูณ 120 ได้ 600 หาร 30 เท่ากับ 20 ออนซ์ (+/- ได้ไม่เกิน 4 ออนซ์) โดยแบ่งมื้อนมออกเป็น 6-8 มื้อ / วัน

                      สูตรการคำนวณปริมาณน้ำนมลูกที่ควรได้รับ ตั้งแต่อายุ 6- 12 เดือน 

                      ปริมาณน้ำนมที่ควรได้รับในหนึ่งวัน = น้ำหนักลูก(กิโลกรัม )× 110(ซีซี) ÷ 30

                      ข้อแนะนำ : เด็ก9-11เดือน ควรแบ่งมื้อนมเป็น 4-5 มื้อต่อวันและอาหารเสริม 2 มื้อ

                      เด็ก 12 เดือน ควรแบ่งมื้อนมเป็น 4-5 มื้อต่อวันและอาหารเสริม 3 มื้อ

                      ตัวอย่างการคำนวณ : เด็กอายุ 6 เดือน หนัก 6.5 กก. คูณ 110 เท่ากับ 715 หาร 30 ปัดเป็นเท่ากับ 24 ออนซ์

                      (** 30 ซีซี เท่ากับ 1 ออนซ์)

                      เมื่อเรารู้ถึงปริมาณที่เหมาะสมของนม ที่ลูกควรได้รับในแต่ละวัน จะช่วยให้คุณแม่กำหนดปริมาณและความถี่ได้อย่างเหมาะสม ซึ่งช่วยป้องกันการได้รับอาหารที่มากเกินไป ซึ่งอาจทำให้ลูกเจ็บป่วยจากโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร ต่างๆ ได้ เมื่อลูกเติบโตเข้าสู่วัยเรียนรู้ คุณพ่อคุณแม่สามารถปลูกฝังพฤติกรรมการกินอาหารที่ดีให้แก่ลูก เพื่อให้เด็กๆ ได้รับปริมาณสารอาหารที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายในแต่ละวัน มีการเจริญเติบโตที่ดี พัฒนาการสมวัย เมื่อเด็กๆ เข้าใจและคุ้นเคยกับการปฏิบัติตัวด้านโภชนาการที่ดี เด็กๆ จะเกิดทักษะความฉลาดรอบด้านด้วย Power BQ ในด้าน ความฉลาดต่อการมีสุขภาพที่ดี HQ  ได้อีกด้วยค่ะ

                      ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก : Jiraporn Wisanumatpatient.info , health.harvard.edu , พญ.สุธีรา เอื้อไพโรจน์กิจ กุมารแพทย์ทารกแรกเกิด

                      บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

                      อุทาหรณ์! ลูกร้องไห้น้ำตาเป็นเลือด เพราะชอบปิดไฟเล่นโทรศัพท์!

                      ลูก เครียดเพราะเรียนออนไลน์ พ่อแม่ควรรับมืออย่างไร?

                      วิจัยชี้! ลูกสมองดี ถ้าได้กินนมแม่ เพราะนมแม่แน่ที่สุด!

                       เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                       

                        วิธีกักตัวที่บ้าน

                        ติดโควิด 5 วิธีกักตัวที่บ้าน ดูแลตัวเองและลูกๆ ระหว่างรอเตียง

                        #ติดโควิด จะมี วิธีกักตัวที่บ้าน ยังไงให้ปลอดภัยต่อตัวเองและลูกๆ ท่ามกลางสถานการณ์ที่ยอดผู้ติดเชื้อหลักหมื่นต่อวัน บุคลากรทางการแพทย์ไม่เพียงพอ หาเตียงไม่ได้ แผนกฉุกเฉิน  ICU เต็ม ผู้ป่วยกลุ่มอาการสีเขียว ต้องรักษาตัวเองที่บ้าน รวมถึง กลุ่มสีเหลือง ต้องเฝ้าดูอาการตัวเองที่บ้านระหว่างรอเตียง ควรปฏิบัติตัวอย่างไร คุณหมอแป๊กกี้ เจ้าของเพจ Dr.Pakky หม่ามี้หมอเด็ก ได้แนะแนวทาง 5 วิธีกักตัวที่บ้าน อย่างปลอดภัย ป้องกันไม่ให้เชื้อแพร่กระจายคนในครอบครัว ดังนี้

                        ในช่วงสถานการณ์ที่โควิดระบาดมากๆ นี้  มีคน 4 กลุ่มที่ต้องกักตัวอยู่ที่บ้าน คือ

                        4 กลุ่มที่ต้องกักตัวอยู่ที่บ้าน

                        1. คนที่ติดเชื้อโควิดและอาการไม่มากจะจัดอยู่ในกลุ่มคนอาการสีเขียว ซึ่งสามารถกินยาและดูแลอาการของตัวเองที่บ้านได้

                        2. คนที่ตรวจแล้วพบเชื้อโควิดแล้วมีอาการอยู่ในกลุ่มสีเหลืองที่อยู่ในช่วงรอเตียง

                        3. คนที่สัมผัสผู้ติดเชื้อโควิดแต่ตัวเองรอตรวจอยู่ (เพราะคิวนาน)

                        4. คนที่ตรวจโควิดครั้งแรกแล้วไม่พบเชื้อ ต้องรอตรวจครั้งที่สอง

                        คนเหล่านี้จำเป็นต้องกักตัวเองอยู่บ้าน แต่การอยู่ร่วมบ้านเดียวกันกับคนในครอบครัวต้องมีความระวังอย่างมากที่จะไม่แพร่กระจายเชื้อให้กับคนที่เรารักในครอบครัว เชื้อโควิดเป็นเชื้อที่มีการติดต่อกันผ่านทางเดินหายใจ และการสัมผัสเอาเข้าปาก และยังสามารถพบเชื้อในอุจจาระได้ด้วย ดังนั้น หมอสรุปการปฏิบัติตัวคร่าวๆ มาดังนี้ค่ะ

                        5 วิธีกักตัวที่บ้าน ให้ปลอดภัยต่อตัวเองและลูกๆ

                        1. แยกบริเวณให้ชัดเจน

                        ควรแยกห้องนอน ห้องน้ำ ถ้าในบ้านไม่สามารถแยกห้องน้ำได้ ให้ใช้เป็นคนสุดท้าย แล้วทำความสะอาดลูกบิด ที่รองนั่งทุกครั้งหลังใช้ และเนื่องจากมีการพบเชื้อในอุจจาระ จึงต้องปิดฝาชักโครกก่อนที่จะกดชักโครกทุกครั้งเพราะอาจจะทำให้เชื้อแพร่กระจายได้

                        2. แยกของกิน ของใช้ทุกอย่างจากคนในบ้าน

                        ไม่ทำอาหารให้คนอื่นทาน ไม่กินอาหารร่วมสำรับเดียวกัน  ไม่กินอาหารพร้อมกับคนอื่น ต้องแยกมากินคนเดียวในห้องแยกนะคะ อุปกรณ์การกินก็ต้องแยกจากคนอื่นด้วยค่ะ

                        3. ใส่หน้ากากตลอดเวลา

                        ใส่หน้ากากตลอดเวลา ถ้ามีคนอื่นอยู่ในบริเวณห้องด้วย แต่ถ้าอยู่คนเดียวในห้องปิดก็ไม่ใส่หน้ากากได้

                        4. สังเกตอาการตัวเอง

                        ว่าเหนื่อยขึ้นไหม มีแน่นหน้าอก กินอาหารได้ไหม มีอาการอย่างไร วัดไข้ วัดค่าออกซิเจนปลายนิ้ว กินยาตามแพทย์สั่ง ถ้ามีอาการเล็กน้อยทั่วไปสามารถกินยาตามอาการได้เลย เช่น มีไข้ก็กินยาลดไข้  แน่นจมูก มีน้ำมูกก็กินยาลดน้ำมูกแน่นจมูกได้ ไอกินยาแก้ไอได้ แต่ถ้ามีอาการเปลี่ยนแปลงมากขึ้น ให้ติดต่อแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที

                        สังเกตอาการ โควิด

                        5. มีการสื่อสารกับคนในครอบครัวหรือ เพื่อนๆ หรือเจ้าหน้าที่ทางโทรศัพท์ตลอด

                        ในบ้านที่มีลูกและต้องแยกจากลูก ต้องสื่อสารกับลูกเลยค่ะ (ทางวิดิโอคอล) บอกเค้าว่าคุณอยู่ในช่วงกักตัวโควิดซึ่งอาจจะติดต่อสู่ลูกได้ เมื่อครบกำหนดเวลาแล้วจะได้กลับมาอยู่ด้วยกันเหมือนเดิม หมั่นให้กำลังใจตัวเอง โรคนี้ในคนส่วนใหญ่อาการมักไม่มาก คล้ายกับหวัดนะคะ เมื่อเวลาผ่านไป 10-14 วันอาการมักจะดีขึ้นตามลำดับ แต่มีคนที่เป็นกลุ่มเสี่ยง เช่น อายุมาก มีโรคประจำตัวซึ่งจะมีอาการรุนแรงได้

                        ดังนั้น อยากให้ทุกคนมีกำลังใจต่อสู้กับสงครามเชื้อโรคนี้ แล้วเราจะผ่านไปด้วยกันนะคะ สู้ๆ นะคะ

                        ด้วยความห่วงใย จากหมอแป๊กกี้ เพจ Dr.pakky หม่ามี้หมอเด็ก

                         

                        เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                         


                        Heatlh Quotient ฉลาดดูแลสุขภาพ หนึ่งใน Power BQ 10 ความฉลาดที่เด็กยุคใหม่ควรมี เริ่มต้นที่คุณพ่อคุณแม่ เตรียมพร้อมในการดูแลรักษาสุขภาพลูกน้อย และทุกคนในครอบครัว รวมถึง สอนให้ลูกน้อยรู้จักดูแลรักษาสุขภาพตนเอง เพราะร่างกายที่แข็งแรงเป็นต้นทุนชีวิตที่ดี สู่การเรียนรู้สิ่งต่างๆอย่างมีประสิทธิภาพ


                        ติดตามเรื่องราวน่ารู้ และมุมมองในการดูแลเด็ก กับคุณหมอแป๊กกี้

                        ได้ที่เพจ Dr.pakky หม่ามี้หมอเด็ก

                        หมอแป๊กกี้

                         

                        บทความที่น่าสนใจอื่นๆ

                        เช็กสิทธิรับ เงินเยียวยาโควิด ม.33 ม.39-40 ต้องทำยังไง ได้เงินวันไหน?

                        ลูก เครียดเพราะเรียนออนไลน์ พ่อแม่ควรรับมืออย่างไร?

                         

                          ชื่อมงคล ผู้หญิง

                          300+ ชื่อมงคล ผู้หญิง ตามวันเกิดพร้อมความหมายดี ๆ

                          แม่ท้องที่กำลังมองหา ชื่อมงคล ผู้หญิง ให้ลูกสาวที่กำลังจะเกิดมาเร็ว ๆ นี้ ทีมแม่ ABK ขอเสนอชื่อเพราะ ๆ เหมาะสำหรับลูกสาว พร้อมความหมายดี ๆ มาให้ได้เลือกกันแบบจุก ๆ

                          300+ ชื่อมงคล ผู้หญิง ตามวันเกิดพร้อมความหมายดี ๆ

                          ตามคำโบราณที่ว่า “ชื่อดีเป็นศรีแก่ตัว” แม่ ๆ ทุกคนคงจะเคยได้ยินคำคำนี้กันมาก่อนใช่ไหมล่ะคะ และการเชื่อคำโบราณนี้ก็ไม่ได้เสียหายอะไร เพราะเชื่อว่าแม่ทุกคนก็อยากจะตั้งชื่อดี ๆ ให้กับลูกของตนอยู่แล้ว ศาสตร์การตั้งชื่อมงคลนั้นมีมานานแล้ว การใช้ชื่อที่ดีก็เหมือนการที่เราได้รับสิ่งที่เป็นมงคลติดตัวไปตลอดชีวิต โดยนำเอาพลังของดวงดาวที่ดีมาใช้ในการตั้งชื่อ ก็จะช่วยส่งเสริมความเป็นสิริมงคล ความเจริญก้าวหน้าในชีวิตได้ ดังนั้นคงจะเป็นการดีกว่า หากนำความเชื่อเรื่องการใช้ ชื่อมงคล มาใช้ปูทางและเตรียมการไปสู่สิ่งที่ดีกว่าในอนาคตกันตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของชีวิตค่ะ โดยหลักในการตั้งชื่อนั้น มีหลายหลักสำคัญ ๆ ด้วยกัน ในบทความนี้ จะขอใช้หลักในการตั้งชื่อให้สัมพันธ์กับวันเกิดของผู้เกิด ดังนี้

                          ชื่อมงคล ผู้หญิง ที่เกิดวันอาทิตย์

                          ชื่อคำอ่านคำแปล
                          อัยยรัตน์อัย-ยะ-รัดผู้เป็นดวงแก้วอันยิ่งใหญ่
                          ภัคพักผู้เจริญ
                          กฤชกุลชากริด-กุน-ชาผู้เกิดมาในสกุลที่หลักแหลม
                          นภชานบ-พะ-ชาผู้เกิดจากฟากฟ้า
                          อารียาพัชญ์อา-รี-ยา-พัดผู้อยู่ในกรอบที่มีความเอื้อเฟื้อ
                          กัณฑ์พัณณีกัน-พัน-นีผู้อธิบายได้เป็นวรรคเป็นตอน
                          กันต์พัณณีกัน-พัน-นีผู้อธิบายอันเป็นที่รัก
                          ปัณณ์ชนุตม์ปัน-ชะ-นุดผู้สูงสุดที่มีความรู้เต็มเปี่ยม
                          ธนัชญกรทะ-นัด-ยะ-กอนผู้สร้างทรัพย์, ผู้กำเนิดทรัพย์
                          กรพิชญากอน-พิด-ชะ-ยาผู้สร้างความรู้,ผู้เป็นนักปราชญ์
                          ไรวินทร์รัย-วินผู้ร่ำรวยเงินทอง
                          อัณณ์นิพิทอัน-นิ-พิดผู้รู้แจ้งด้านตัวหนังสือ
                          กัณญกันผู้รู้ด้วยหู
                          กชญาณากด-ชะ-ยา-นาผู้รู้ดังดอกบัว
                          กฤชชุดากริด-ชุ-ดาผู้รุ่งเรืองและเฉียบแหลม
                          เบญญภาเบ็น-ยะ-พาผู้รุ่งเรืองด้วยปัญญา
                          กฤชาญาณกริด-ชา-ยานผู้รอบรู้ด้วยความเฉียบแหลม
                          กนกรตากะ-หนก-ระ-ตาผู้ยินดีในทองคำ
                          พิชญนันท์พิด-ชะ-ยะ-นันผู้ยินดีในความรอบรู้
                          จินตภักตร์จิน-ตะ-พักผู้มีใบหน้าในจินตนาการณ์
                          กมลพัชรพรกะ-มน-พัด-ชะ-ระ-พอนผู้มีใจประเสริฐดังเพชร
                          ธันว์วดีทัน-วะ-ดีผู้มีโชค
                          กัญจน์ชุตากัน-จะ-ชุ-ตาผู้มีแสงสว่างดุจทอง
                          กชภกรกด-พะ-กอนผู้มีแสงรัศมีแห่งดอกบัว
                          กมลนันทวรรณกะ-มน-นัน-ทะ-วันผู้มีเชื้อสายที่น่ายินดีด้วยหัวใจ,ผู้มีใจยินดีในเชื้อสาย
                          ชญาวัลย์ชะ-ยา-วันผู้มีเชื้อสายจากผู้มีความรู้
                          ธัญกมลทัน-กะ-มนผู้มีหัวใจแห่งโชค
                          กมลจันทร์กะ-มน-จันผู้มีหัวใจงามดุจพระจันทร์
                          กณิกณิชภากะ-นิก-นิด-ชะ-พาผู้มีรัศมีแห่งความบริสุทธิ์อันละเอียดอ่อน
                          อรปภาอะ-หรบ-พาผู้มีรัศมีนางงาม
                          ปภากรปะ-พา-กอนผู้มีรัศมีการสร้าง
                          กมลพรรณ์กะ-มน-พันผู้มีผิวสวยดังดอกบัว
                          นิพพิชฌน์นิ-พะ-พิดผู้มีปัญญาเข้าใจทะลุปรุโปร่ง, ตรัสรู้
                          อัณณปิยภาอัน-นะ-ปิ-ยะ-พาผู้มีประกายความรักดังห้วงน้ำ
                          กชภภรกด-พะ-พอนผู้มีดอกบัวเป็นรัศมีค้ำจุน
                          ฤทียรัตน์รึ-ที-ยะ-รัดผู้มีจิตใจดี
                          พิมพ์กนกพิม-กะ-หนกผู้มีคุณค่าอันเป็นแบบอย่าง
                          ชวัลพัชรชะ-วัน-พัด-ชะ-ระผู้มีคุณค่าที่ทอแสงประกาย, เพชรที่ทอประกายแสง
                          พัชรินทร์พัด-ชะ-รินผู้มีความแข็งแกร่ง
                          ธัญพัฒน์ทัน-พัดผู้มีความเจริญรุ่งเรืองเป็นสิริมงคลอุดมโชค
                          มันธนันท์มัน-ทะ-นันผู้มีความสุขในทรัพย์
                          นัยรัตน์นัย-ยะ-รัดผู้มีความสำคัญกับดวงแก้ว
                          กัญจน์ธนัญญากัน-จะ-ทะ-นัน-ยาผู้มีความรู้เรื่องทรัพย์และทองคำ
                          วรัชญ์กริณญ์วะ-รัด-กะ-รินผู้มีความรู้เรื่องช้างที่รู้สิ่งประเสริฐ
                          กรันฑณัฏฐากะ-รัน-ทะ-นัด-ถาผู้มีความรู้ที่พึงกระทำ
                          นันท์ชญาน์นัน-ชะ-ยาผู้มีความรู้ที่น่ายินดี
                          อินทุชญาอิน-ทุด-ชะ-ยาผู้มีความรู้งามดังดวงจันทร์
                          ปิ่นปินันท์ปิ่น-ปิ-นันผู้มีความรื่นเริงในปิ่น
                          นันธนันท์นัน-ทะ-นันผู้มีความรื่นเริงในทรัพย์
                          ตั้งชื่อลูก
                          ตั้งชื่อลูก

                          ชื่อมงคล ผู้หญิง ที่เกิดวันจันทร์

                          ชื่อคำอ่านคำแปล
                          ธัณณ์ชนกศ์ทัน-ชะ-นกให้เกิดสิริมงคล หรือให้เกิดโชค
                          พชรมนพะ-ชะ-ระ-มนใจเพชร
                          พัชมนพัด-ชะ-มนใจที่ถูกทิ้ง ใจที่มีโทษ
                          จรัสฐนันท์จะ-หรัด-ถะ-นันแสงแห่งความรุ่งเรืองอันน่ายินดี
                          กัญญ์ภัฏฐ์กัน-ยะ-พัดแปดรัศมีของหญิงสาว ,แสงสว่างทั้งแปดของหญิงสาว
                          รตนพรระ-ตะ-นะ-พอนแก้วแสนประเสริฐ
                          นลรัตน์นน-รัดแก้วที่เปล่งแสง
                          พัชชลัยย์พัด-ชะ-ลัยเพชรใหญ่ในผืนน้ำ
                          วนัสวรรณวะ-นัด-สะ-วันเชื้อสายแห่งป่า
                          พรรธน์ธนัญพัด-ทะ-นันเจริญก้าวหน้าและมีทรัพย์
                          นวลพรรธน์นวน-พันเจริญก้าวหน้าและนุ่มนวล
                          ภรณ์ธมณพรรณพอน-ทะ-มน-พันเครื่องประดับของผู้ที่มีผิวพรรณสวยงาม
                          ภวมัยพะ-วะ-มัยเกิดแต่พระศิวะ
                          กรัสลันช์กะ-หรัด-ลันเกิดที่ดักปลาไหลของม้าที่เป็นผู้ทำ
                          ปัณณรัตน์ปัน-นะ-รัดหนังสือที่มีค่าดั่งดวงแก้ว
                          กัญญ์ณรัณกัน-นะ-รันหญิงสาวผู้เด่นดังทางความรู้ของตน
                          กัลยวัญญ์กัน-ยะ-วันหญิงสาวผู้รู้แจ้ง
                          กัญญวรัชญ์กัน-ยะ-วะ-รัดหญิงสาวผู้รู้สิ่งประเสริฐ
                          กันย์ชนัญกัน-ชะ-นันหญิงสาวผู้รู้จักคน
                          กันยพัชรกัน-ยะ-พัดหญิงสาวผู้มีคุณค่า
                          กัญญ์ลภัสสรกัน-ละ-พัด-สอนหญิงสาวดีงามและมีความรุ่งเรืองยิ่ง
                          กัญญรัศม์กัน-ยะ-รัดหญิงผู้มีรัศมี , ผู้มีรัศมีความงาม
                          นงกนกนง-กะ-หนกหญิงผู้มีทองคำ
                          กัลย์ฐนกัน-ทะ-นะหญิงผู้มีความงามรองรับ
                          กัญญ์ณภัฎฐ์กัน-นะ-พัดหญิงที่เป็นทหาร หญิงผู้เลี้ยงดู
                          กัลยพรมกัน-ยะ-พมหญิงที่มีแต่ความสุข
                          กัลยพรหมกัน-ยะ-พมหญิงที่ประเสริฐ
                          กัญญ์กรณัฏฐ์กัน-กอ-ระ-นัดสาวน้อยผู้มีแสงแห่งนักปราชญ์
                          กงศรกง-สอนสตรีผู้มีศร
                          นรัฐภรณ์นะ-รัด-พอนสตรีผู้มีความมั่นคงเป็นเครื่องค้ำจุน, สตรีผู้ให้การค้ำจุนแห่งรัฐ
                          รัตนลักษณ์รัด-ตะ-นะ-ลักลักษณะที่มีค่ายิ่ง
                          จันทลักษณ์จัน-ทะ-ลักลักษณะของแสงจันทร์
                          พรหมภัสสร์พรม-พัดรุ่งเรืองและประเสริฐสูงส่ง
                          รภัทรระ-พัดรุ่งเรืองดีงาม
                          กัญญ์ณรัศม์กัน-นะ-รัดรัศมีแห่งสาวน้อย
                          มัณฑวรรณมัน-ทะ-วันมีผิวที่มันแวววาว
                          วรัตม์ฐนันวะ-รัด-ถะ-นันมีฐานะมั่นคงประเสริฐยิ่ง
                          พัชรนันท์พัด-ชะ-ระ-นันมีความยินดีดุจเพชร
                          มนต์หทัยมน-หะ-ทัยมนตร์จากหัวใจ
                          กชฐนภรณ์กด-ชะ-ทะ-นะ-พอนพรอันมั่นคงและบริสุทธิ์
                          ณัทธมนต์นัด-ทะ-มนผู้ไร้มลทินที่ให้ความรู้
                          พลัชธมนต์พะ-ลัด-ทะ-มนผู้ไร้มลทินด้วยพลังอันศักดิ์สิทธิ์
                          กัลยนนต์กัน-ยะ-นนผู้ไม่สิ้นสุดในความเป็นหญิงงาม
                          รรรรรรระ-รัน-รอนผู้เป็นที่รักของคนทั้ง 6
                          ธนัตถ์ศรณ์ทะ-นัด-สอนผู้เป็นที่พึ่งที่มีความมั่งคั่ง
                          รัฐสรณ์รัด-ทะ-สอนผู้เป็นที่พึ่งของประเทศ

                          ชื่อมงคล ผู้หญิง ที่เกิดวันอังคาร

                          ชื่อคำอ่านคำแปล
                          นันธิญาน์นัน-ทิ-ยาผู้มีความผาสุขด้วยภูมิความรู้
                          ปฐมรัตน์ปะ-ถม-รัดผู้มีความประเสริฐเป็นที่หนึ่ง
                          สุจรรย์จิราสุ-จัน-จิ-ราผู้มีความประพฤติดีมานาน
                          อนันตาอะ-นัน-ตาผู้มากล้น
                          ณัฐนิยานัด-ถะ-นิ-ยาผู้พึ่งตนดุจนักปราชญ์
                          นิตดานิ-ตะ-ดาผู้ฝึกมาดีมากแล้ว
                          นัทธ์วนัญนัด-วะ-นันผู้ผูกพันด้วยความรู้แห่งป่า
                          พัทธ์จินตนีพัด-จิน-ตะ-นีผู้ผูกพันความคิด
                          ศศิรินทร์สะ-สิ-รินผู้ประเสริฐในยามกลางคืน
                          วารินทร์ธรวา-ริน-ทอนผู้ประเสริฐและเป็นใหญ่ในสายน้ำ
                          ปภาภัสสร์ปะ-พา-พัดผู้ประเสริฐและรุ่งเรือง
                          พิมพ์วรัตม์พิม-วะ-รัดผู้ประเสริฐสุดที่เป็นแบบอย่าง
                          รมณภัทรรม-นะ-พัดผู้ประเสริฐด้วยความสุข
                          รจนีย์นาฏรด-จะ-นี-นาดผู้ประพันธ์นางในละคร
                          พรรณ์จารีย์พัน-จา-รีผู้ประพฤติดีและงดงาม
                          พรรตนพัน-ตนผู้ประดุจดวงแก้วอันประเสริฐ
                          ณัฏฐภรณ์นัด-ถะ-พอนผู้ประดับความรอบรู้
                          จันทร์ณิชาจัน-นิ-ชาผู้บริสุทธิ์ที่เป็นยอด
                          พิมพ์พนิตพิม-พะ-นิดผู้น่ารักเป็นแบบอย่าง
                          ไอศ์สุนันท์ไอ-สุ-นันผู้น่ารักอันยิ่งใหญ่
                          เมวรินทร์เม-วะ-รินผู้นำที่ยิ่งใหญ่ระดับสูงสุด
                          ปริตาปะ-ริ-ตาผู้ที่ได้รับการคุ้มครอง ปกป้องรักษา
                          ชลญดาชน-ยะ-ดาผู้ที่เป็นนักปราชญ์
                          อาทิติญาอา-ทิ-ติ-ยาผู้ที่เกิดมาสูงส่งดั่งพระอาทิตย์
                          ปาณิดาปา-นิ-ดาผู้ที่ถูกคุ้มครองรักษา
                          ณธษานะ-ทะ-ษาผู้ทรงไว้ซึ่งความมั่นคงและดีงาม
                          ธนัทธรณ์ทะ-นัด-ทอนผู้ทรงไว้ซึ่งการให้ทรัพย์
                          พิชดารัตน์พิด-ชะ-ดา-รัดผู้ทรงภูมิความรู้อันประเสริฐ
                          ประวีร์วัณณ์ประ-วี-วันผู้กล้าหาญในวงศ์ตระกูล
                          วีรินทร์ทิราวี-ริน-ทิ-ราผู้กล้าหาญที่ยิ่งใหญ่รุ่งเรืองงดงาม
                          ธิมาทิ-มาปัญญา
                          ชนัตชญาน์นันท์ชะ-นัด-ชะ-ยา-นันประชาชนผู้ยินดีในความรู้
                          พัชรสินีพัด-ชะ-ระ-สิ-นีนางแก้ว, นางงามดั่งเพชร
                          พิสุทธิณีพิ-สุด-ทิ-นีนางผู้หมดจด
                          มณตามน-ตานางงามผู้น่ามอง
                          ณัฐชานันท์นัด-ถะ-ชา-นันนักปราชญ์ผู้เกิดมาเพื่อความยินดี
                          ธนันณัฏฐ์ทะ-นัน-นัดนักปราชญ์ผู้ร่ำรวยทรัพย์
                          ณัฐจิมนต์นัด-ถะ-จิ-มนนักปราชญ์ผู้รู้เรื่องเวทมนตร์
                          ณฐรัชนะ-ถะ-รัดนักปราชญ์ผู้มีสมบัติ
                          ณัฐณิญญานัด-ถะ-นิ-ยะ-ยานักปราชญ์ผู้มีปัญญา
                          ณัฎฐ์วรันธรนัด-วะ-รัน-ทอนนักปราชญ์ผู้ทรงไว้ซึ่งสิ่งประเสริฐ
                          หทัยรัตณัฏฐ์หะ-ทัย-รัด-ตะ-นัดนักปราชญ์ที่มีความสุข
                          ณัฎฐ์ฎาพรนัด-ดา-พอนนักปราชญ์, ผู้ประเสริฐ
                          ธีรรัตน์ที-ระ-รัดดวงแก้วแห่งนักปราชญ์
                          พิมพ์นลินพิม-นะ-ลินงามดุจบัวที่เป็นแบบอย่าง
                          มนต์จันทร์มน-จันงามดังจันทร์ที่น่าหลงใหล, หลงใหลความงามของดวงจันทร์
                          ณัฏฐ์พัณณีนัด-พัน-นีคำอธิบายของนักปราชญ์, คำพรรณาของนักปราชญ์
                          ณัฏฐพิชานัด-ถะ-พิ-ชาความรู้ของนักปราชญ์
                          มนสิชามน-สิ-ชาความรัก,ผู้เกิดความดีในหัวใจ
                          ฐิรญาดาถิ-ระ-ยา-ดาการดำรงอยู่ของปราชญ์
                          ตั้งชื่อลูกผู้หญิง
                          ตั้งชื่อลูกผู้หญิง

                          ชื่อมงคล ผู้หญิง ที่เกิดวันพุธ

                          ชื่อคำอ่านคำแปล
                          ฤทียรัตน์รึ-ที-ยะ-รัดผู้มีจิตใจดี
                          พิมพ์กนกพิม-กะ-หนกผู้มีคุณค่าอันเป็นแบบอย่าง
                          สกุลรัตน์สะ-กุน-รัดผู้มีคุณค่าของเชื้อสาย
                          มันธนันท์มัน-ทะ-นันผู้มีความสุขในทรัพย์
                          ศุขฤทัยสุก-รึ-ทัยผู้มีความสุขใจ
                          ภัสรนันทน์พัด-สะ-ระ-นันผู้มีความสุขและความผ่องใส
                          ศกุนต์นันท์สะ-กุน-นันผู้มีความสุขดังนก
                          นัยรัตน์นัย-ยะ-รัดผู้มีความสำคัญกับดวงแก้ว
                          กรันฑณัฏฐากะ-รัน-ทะ-นัด-ถาผู้มีความรู้ที่พึงกระทำ
                          พรหมภัสสรพรม-พัด-สอนผู้มีความรุ่งเรืองบริสุทธิ์ยิ่ง
                          ปิ่นปินันท์ปิ่น-ปิ-นันผู้มีความรื่นเริงในปิ่น
                          นันธนันท์นัน-ทะ-นันผู้มีความรื่นเริงในทรัพย์
                          ดาวรดาดาว-ระ-ดาผู้มีความยินดีในดวงดาว
                          กันตยนันท์กัน-ตะ-ยะ-นันผู้มีความยินดีและเป็นสุข
                          ปฐมรัตน์ปะ-ถม-รัดผู้มีความประเสริฐเป็นที่หนึ่ง
                          กฤตษมากริด-สะ-มาผู้มีการกระทำที่อ่อนน้อม
                          วิกาดาวิ-กา-ดาผู้มากับดวงดาว
                          อนันตาอะ-นัน-ตาผู้มากล้น
                          ณัฐนิยานัด-ถะ-นิ-ยาผู้พึ่งตนดุจนักปราชญ์
                          กษมดรัณกะ-สะ-มะ-ดะ-รันผู้พาข้ามผ่านพ้นที่มีความอดทน
                          นิตดานิ-ตะ-ดาผู้ฝึกมาดีมากแล้ว
                          ศศิรินทร์สะ-สิ-รินผู้ประเสริฐในยามกลางคืน
                          วารินทร์ธรวา-ริน-ทอนผู้ประเสริฐและเป็นใหญ่ในสายน้ำ
                          ปภาภัสสร์ปะ-พา-พัดผู้ประเสริฐและรุ่งเรือง
                          พิมพ์วรัตม์พิม-วะ-รัดผู้ประเสริฐสุดที่เป็นแบบอย่าง
                          อัครภาพรหมอัก-คะ-ระ-พา-พรมผู้ประเสริฐที่มีรัศมีเรืองรองเป็นเลิศ
                          รมณภัทรรม-นะ-พัดผู้ประเสริฐด้วยความสุข
                          กัลป์อิษฏาภรณ์กัน-อิด-สะ-ตา-พอนผู้ประดับด้วยความน่ารักชั่วอายุโลกประลัย
                          ณัฏฐภรณ์นัด-ถะ-พอนผู้ประดับความรอบรู้
                          กัลย์ฐปภัสกัน-ทะ-ปะ-พัดผู้บริสุทธิ์อันมั่นคงดุจหญิงงาม
                          กฤติฎากริด-ติ-ดาผู้น่ารักในการกระทำ
                          พิมพ์พนิตพิม-พะ-นิดผู้น่ารักเป็นแบบอย่าง
                          ไอศ์สุนันท์ไอ-สุ-นันผู้น่ารักอันยิ่งใหญ่
                          ปริตาปะ-ริ-ตาผู้ที่ได้รับการคุ้มครอง ปกป้องรักษา
                          ปาณิดาปา-นิ-ดาผู้ที่ถูกคุ้มครองรักษา
                          กฤษณ์มนต์ธรกริด-สะ-มน-ทอนผู้ทรงไว้ซึ่งมนต์แห่งพระกฤษณะ
                          ณธษานะ-ทะ-ษาผู้ทรงไว้ซึ่งความมั่นคงและดีงาม
                          ธนัทธรณ์ทะ-นัด-ทอนผู้ทรงไว้ซึ่งการให้ทรัพย์
                          กมลฑัยห์กะ-มน-ทัยผู้ชอบทำความดีจากใจ ,ผู้เผามความชั่วในใจ
                          กฤษฎิ์ณิฏฐกริด-สะ-นิดผู้คงแก่เรียนอันเป็นที่น่าปรารถนา
                          กฤษณ์ธมนต์กริด-สะ-ทะ-มนผู้กำจัดมลทินด้วยสีดำ
                          ประวีร์วัณณ์ประ-วี-วันผู้กล้าหาญในวงศ์ตระกูล
                          วีรินทร์ทิราวี-ริน-ทิ-ราผู้กล้าหาญที่ยิ่งใหญ่รุ่งเรืองงดงาม

                          ชื่อมงคล ผู้หญิง ที่เกิดวันพฤหัสบดี

                          ชื่อคำอ่านคำแปล
                          พรประภัสสรพอน-ประ-พัด-สอนแสงแพรวพราวของคำอวยพร
                          ปภาภรปะ-พา-พอนแสงสว่างแห่งเครื่องประดับ
                          ณัฏฐ์ชญาภานัด-ชะ-ยา-พาแสงสว่างแห่งปัญญาของนักปราชญ์
                          บัวภาบัว-พาแสงสว่างของดอกบัว
                          อำภาอัม-พาแสงสว่าง, รุ่งเรือง, ผ่องใส
                          พัชรชารัฎฐิ์พัด-ชะ-ระ-ชา-รัดแผ่นดินที่มีค่าดังเพชร
                          กัญญ์ภัฏฐ์กัน-ยะ-พัดแปดรัศมีของหญิงสาว ,แสงสว่างทั้งแปดของหญิงสาว
                          อุลาอุ-ลาแกะ
                          เพราพิลาสเพรา-พิ-ลาดเยื้องกรายน่ามอง
                          พัชชลัยย์พัด-ชะ-ลัยเพชรใหญ่ในผืนน้ำ
                          ศศิพัชร์สะ-สิ-พัดเพชรพระจันทร์, ผู้มีคุณค่าและงดงาม
                          พัชร์อัมพรพัด-อัม-พอนเพชรบนท้องฟ้า
                          สุรัญญ์ฑาห์สุ-รัน-ทาเทวดาผู้รู้จักการทำความดี
                          กุมารีกุ-มา-รีเด็กหญิง
                          อิศราภรณ์อิ-สะ-รา-พอนเครื่องประดับแห่งความยิ่งใหญ่
                          อิสรียาภรณ์อิ-สะ-รี-ยา-พอนเครื่องประดับที่แสดงถึงความเป็นใหญ่
                          ณัฏฐิยาภรณ์นัด-ถิ-ยา-พอนเครื่องประดับของนักปราชญ์
                          อลิชาอะ-ลิ-ชาเกิดจากผึ้ง, เกิดเป็นผึ้ง
                          วศิภาวะ-สิ-พาอำนาจแห่งแสงสว่าง
                          กัณสิกากัน-สิ-กาหูของผู้หญิง
                          กรรณกันหู, ย หรือ ยา
                          รัศยารัด-สะ-ยาหนุ่มสาว
                          อัจฉรียาอัด-ฉะ-รี-ยาหญิงอันมีความเลิศล้ำเหนือผู้อื่น
                          กัลยวัญญ์กัน-ยะ-วันหญิงสาวผู้รู้แจ้ง
                          กัญญวรัชญ์กัน-ยะ-วะ-รัดหญิงสาวผู้รู้สิ่งประเสริฐ
                          กัญญ์ณิสร์กัน-ยะ-นิดหญิงสาวผู้ยิ่งใหญ่ทางด้านความรู้
                          อัญญยุพาอัน-ยะ-ยุ-พาหญิงสาวผู้มีความรู้ยิ่ง
                          กัญญ์วราฑ์กัน-วะ-ราหญิงผู้ให้สิ่งประเสริฐ,หญิงผู้ให้พร
                          กัญญรัศม์กัน-ยะ-รัดหญิงผู้มีรัศมี , ผู้มีรัศมีความงาม
                          กัญญ์ณฎากุญช์กัน-นะ-ดา-กุนหญิงผู้มีความรู้เรื่องงาช้าง
                          กัญญ์อิฏฐากัน-ยะ-อิด-ถาหญิงผู้น่ารัก
                          อรศศิพัชร์ออน-สะ-สิ-พัดหญิงผู้คุณค่าดุจเพชรของพระจันทร์
                          กัญญ์ณภัฎฐ์กัน-นะ-พัดหญิงที่เป็นทหาร หญิงผู้เลี้ยงดู
                          กัลยพรมกัน-ยะ-พมหญิงที่มีแต่ความสุข
                          กัลยพรหมกัน-ยะ-พมหญิงที่ประเสริฐ
                          ณฐอรนะ-ถะ-ออนหญิงงามที่เป็นนักปราชญ์
                          ศิริโสภาวรรณสิ-หริ-โส-พา-วันหญิงงามที่มีผิวพรรณสวยงาม
                          สุวรรณ์หงษ์สุ-วัน-หงหงส์ทอง
                          กัญญ์กรณัฏฐ์กัน-กอ-ระ-นัดสาวน้อยผู้มีแสงแห่งนักปราชญ์
                          สร้อยสุวรรณ์ซ่อย-สุ-วันสร้อยทอง
                          ณัฏฐกัญญานัด-ถะ-กัน-ยาสตรีผู้เป็นนักปราชญ์
                          กงศรกง-สอนสตรีผู้มีศร
                          ปุญชรัศมิ์ปุ-ยด-รัดสตรีผู้มีรัศมีเปล่งปลั่ง
                          กัญสิร์ยากัน-ยะ-สิ-ยาสตรีผู้มีความเป็นเลิศ
                          พัฐสิยาพัด-สิ-ยาสตรีผู้มีความสามารถเป็นเลิศ
                          พิชญ์ชามาพิด-ชา-มาลูกสาวผู้เป็นนักปราชญ์
                          อัญญ์ชามาอัน-ชา-มาลูกสาวผู้มีความรู้ยิ่ง
                          ไอสุรีย์อัย-สุ-รีละอองน้ำของพระอาทิตย์
                          พรหมภัสสร์พรม-พัดรุ่งเรืองและประเสริฐสูงส่ง
                          ชื่อมงคล
                          ชื่อมงคล

                          ชื่อมงคล ผู้หญิง ที่เกิดวันศุกร์

                          ชื่อคำอ่านคำแปล
                          กัญญ์ณัฐณ์กัน-ยะ-นัดนักปราชญ์หญิง
                          กัญญ์ณัฐฐากัน-ยะ-นัด-ถานักปราชญ์หญิง
                          เกตุญาดาเกด-ยา-ดานักปราชญ์ผู้เป็นธงชัย
                          ณัทฐิกานต์นัด-ถิ-กานนักปราชญ์ผู้เป็นที่รักยิ่ง
                          ณัฐธิกานต์นัด-ทิ-กานนักปราชญ์ผู้เป็นที่รักยิ่ง
                          ณัฐชานันท์นัด-ถะ-ชา-นันนักปราชญ์ผู้เกิดมาเพื่อความยินดี
                          ธนันณัฏฐ์ทะ-นัน-นัดนักปราชญ์ผู้ร่ำรวยทรัพย์
                          ณัฐจิมนต์นัด-ถะ-จิ-มนนักปราชญ์ผู้รู้เรื่องเวทมนตร์
                          ณัฐณิญญานัด-ถะ-นิ-ยะ-ยานักปราชญ์ผู้มีปัญญา
                          ธนินณัฏฐ์ทะ-นิน-นัดนักปราชญ์ผู้มีทรัพย์
                          ปัณชญาณัฏฐ์ปัน-ชะ-ยา-นัดนักปราชญ์ผู้มีความรู้ทางค้าขาย(หรือทางทรัพย์)
                          พิชญ์นันท์พิด-ชะ-นันนักปราชญ์ผู้มีความรื่นเริง
                          จิณณ์ณัฏฐีจิน-นัด-ถีนักปราชญ์ผู้ประพฤติดี
                          กันตาณัฏฐ์กัน-ตา-นัดนักปราชญ์ผู้น่ารัก
                          ณัฐณิชชญานัด-นิด-ชะ-ยานักปราชญ์ที่ได้รับชัยชนะที่บริสุทธิ์
                          ปัญญ์ธิษาปัน-ทิ-สานักปราชญ์ที่มีปัญญาและความรู้รอบ
                          ณัฐติกาญจน์นัด-ติ-กานนักปราชญ์ที่มีค่าดุจทอง
                          ณัฏฐณิชชานัด-ถะ-นิด-ชานักปราชญ์ที่มีความเฉลียวฉลาด
                          จิณณพิฐจิน-นะ-พิดนักปราชญ์ที่ประพฤติดีแล้ว
                          ชมพูนุชคุณาชม-พู-นุด-คุ-นาทองเนื้อบริสุทธิ์อันประเสริฐ, ผู้ประเสริฐดุจดั่งทองเนื้อบริสุทธิ์
                          คำปุ่นคัม-ปุ่นทองคำเนื้อดีบริสุทธิ์
                          กาญจณีกาน-จะ-นีทอง
                          พิมพ์ธนัญพิม-ทะ-นันต้นแบบแห่งทรัพย์
                          ธัญญาพิมพ์ทัน-ยา-พิมต้นแบบของผู้มีโชค
                          พิมพ์สุภัคพิม-สุ-พักต้นแบบของความโชคดี
                          บุตษบงบุด-สะ-บงดอกไม้
                          กชกาญกด-ชะ-กานดอกบัวที่มีค่าดั่งทองคำ
                          กนกบงกชกะ-หนก-บง-กดดอกบัวทองคำ
                          พิมพ์นภัสพิม-นะ-พัดงดงามดั่งท้องฟ้า
                          ณัฏฐ์พัณณีนัด-พัน-นีคำอธิบายของนักปราชญ์, คำพรรณาของนักปราชญ์
                          ณัฏฐพิชานัด-ถะ-พิ-ชาความรู้ของนักปราชญ์
                          มนสิชามน-สิ-ชาความรัก,ผู้เกิดความดีในหัวใจ
                          ธัญญนันท์ทัน-ยะ-นันความยินดีที่นำมาซึ่งความเจริญ
                          ศุภแสงเดือนสุบ-พะ-แสง-เดือนความงามของแสงเดือน
                          อัญธิกาอัน-ทิ-กากลางคืน, เวลาค่ำ
                          เขมพิชาเขม-พิ-ชาผู้มีความรู้และมีความสุขกายสบายใจ
                          กัญจน์ธนัญญากัน-จะ-ทะ-นัน-ยาผู้มีความรู้เรื่องทรัพย์และทองคำ
                          ฐิติ์ณัฏฐิญาถิ-นัด-ถิ-ยาผู้มีความรู้อันมั่นคงดุจนักปราชญ์, ผู้มีความรู้ดังปราชญ์เป็นที่ตั้ง
                          นันท์ชญาน์นัน-ชะ-ยาผู้มีความรู้ที่น่ายินดี
                          ศิฏณัฐชญาสิด-นัด-ชะ-ยาผู้มีความรู้ดุจนักปราชญ์อันยอดเยี่ยม
                          อินทุชญาอิน-ทุด-ชะ-ยาผู้มีความรู้งามดังดวงจันทร์
                          ชุติญาภัคชุ-ติ-ยา-พักผู้มีความรุ่งเรืองเป็นอุดมโชคด้วยภูมิแห่งความรู้
                          ปิ่นปินันท์ปิ่น-ปิ-นันผู้มีความรื่นเริงในปิ่น
                          นันธนันท์นัน-ทะ-นันผู้มีความรื่นเริงในทรัพย์
                          พิชญ์สุกานต์พิด-สุ-กานผู้มีความรักดีดุจนักปราชญ์
                          ธนัชชานันท์ทะ-นัด-ชา-นันผู้มีความยินดีในการเกิดมามีทรัพย์
                          นันธิญาน์นัน-ทิ-ยาผู้มีความผาสุขด้วยภูมิความรู้
                          กัญจน์นิพิฐกัน-จะ-นิ-พิดผู้มีความตั้งใจมั่นในความมีคุณค่า
                          ณัฐฎานัด-ถะ-ดาผู้มีความฉลาด
                          พิชญาน์มญชุ์พิ-ชะ-ยา-มนผู้มีความงามในความรอบรู้
                          จิตธนากานต์จิด-ทะ-นา-กานผู้มีความคิดที่สนใจในทรัพย์

                          ชื่อมงคล ผู้หญิง ที่เกิดวันเสาร์

                          ชื่อคำอ่านคำแปล
                          กนต์ระพีกน-ระ-พีพระอาทิตย์ที่น่ารัก,อาทิตย์ที่งดงาม
                          กัลยนนต์กัน-ยะ-นนผู้ไม่สิ้นสุดในความเป็นหญิงงาม
                          กฤตตรีกริด-ตรีผู้ได้กระทำ 3 ประการ
                          ศุภธนิศร์สุบ-พะ-ทะ-นิดผู้เป็นใหญ่ดัวทรัพย์อันเป็นมงคล
                          ทิพย์ชรินทร์ทิบ-พะ-รินผู้เป็นใหญ่ของเทวดา
                          กันต์กานต์กัน-กานผู้เป็นที่รักและน่าพึงพอใจ
                          รวีกานต์ระ-วี-กานผู้เป็นที่รักดั่งตะวัน
                          ปริยาปะ-ริ-ยาผู้เป็นที่รัก
                          พิมพ์สุชาพิม-สุ-ชาผู้เป็นต้นแบบของการมีชาติกำเนิดที่ดี
                          อัยยรัตน์อัย-ยะ-รัดผู้เป็นดวงแก้วอันยิ่งใหญ่
                          กฤชศตากริด-สะ-ตาผู้เฉียบแหลมนาน
                          กนกพรรธน์กะ-หนก-พัดผู้เจริญดุจทองคำ
                          กนิษภรกะ-นิด-พอนผู้เกื้อหนุนน้อง
                          กฤชกุลชากริด-กุน-ชาผู้เกิดมาในสกุลที่หลักแหลม
                          นภชานบ-พะ-ชาผู้เกิดจากฟากฟ้า
                          อารียาพัชญ์อา-รี-ยา-พัดผู้อยู่ในกรอบที่มีความเอื้อเฟื้อ
                          กรภัสสกอ-ระ-พัดผู้สร้างแสงสว่าง
                          กฤตศิริกริด-สิ-ริผู้สร้างมิ่งขวัญ
                          ธนัชญกรทะ-นัด-ยะ-กอนผู้สร้างทรัพย์, ผู้กำเนิดทรัพย์
                          กฤตตินันท์กริด-ติ-นันผู้สร้างความเพลิดเพลิน
                          กรพิชญากอน-พิด-ชะ-ยาผู้สร้างความรู้,ผู้เป็นนักปราชญ์
                          ไรวินทร์รัย-วินผู้ร่ำรวยเงินทอง
                          ปทิตตาปะ-ทิด-ตาผู้รุ่งเรืองแล้ว, ผู้ส่องแสงแล้ว
                          กฤชชุดากริด-ชุ-ดาผู้รุ่งเรืองและเฉียบแหลม
                          เบญญภาเบ็น-ยะ-พาผู้รุ่งเรืองด้วยปัญญา
                          กนกรตากะ-หนก-ระ-ตาผู้ยินดีในทองคำ
                          พิชญนันท์พิด-ชะ-ยะ-นันผู้ยินดีในความรอบรู้
                          พิชชญานันท์พิด-ชะ-ยา-นันผู้ยินดีในความรอบรู้
                          จินตภักตร์จิน-ตะ-พักผู้มีใบหน้าในจินตนาการณ์
                          กมลพัชรพรกะ-มน-พัด-ชะ-ระ-พอนผู้มีใจประเสริฐดังเพชร
                          ธันว์วดีทัน-วะ-ดีผู้มีโชค
                          กมนภสรกะ-มน-พะ-สอนผู้มีแสงแห่งความงาม
                          กมลภัสกะ-มน-พัดผู้มีแสงสว่างในหัวใจ
                          ภาพรพา-พอนผู้มีแสงสว่างแห่งถ้อยคำอวยพร
                          ปัญจภัสร์ปัน-จะ-พัดผู้มีแสงสว่างทั้ง 5 ประการ
                          กัญจน์ชุตากัน-จะ-ชุ-ตาผู้มีแสงสว่างดุจทอง
                          กชภกรกด-พะ-กอนผู้มีแสงรัศมีแห่งดอกบัว
                          สุธิชาสุ-ทิ-ชาผู้มีเชื้อสายดี ผู้มีตระกูลดี
                          ชญาวัลย์ชะ-ยา-วันผู้มีเชื้อสายจากผู้มีความรู้
                          ธัญกมลทัน-กะ-มนผู้มีหัวใจแห่งโชค
                          กมลจันทร์กะ-มน-จันผู้มีหัวใจงามดุจพระจันทร์
                          กัญจน์วลัญชญ์กัน-จะ-วะ-ลันผู้มีลักษณะมีคุณค่าดังทองคำ
                          ชนันท์ภัสส์ชะ-นัน-พัดผู้มีรัศมีแห่งความสุข
                          วราภัสร์วะ-รา-พัดผู้มีรัศมีอันประเสริฐ

                          ศาสตร์ในการตั้งชื่อนั้น มีหลักในการตั้งชื่อหลากหลายศาสตร์ หากแม่ ๆ ต้องการตั้งชื่อลูก ชื่อมงคล ผู้หญิง ให้เหมาะกับวัน เวลา และดวงเข้ากับพ่อแม่ ควรจะให้ผู้ที่ชำนาญในการตั้งชื่อ หรือพระตั้งให้ค่ะ แต่ก็อย่าลืมนะคะว่า ชื่อที่พ่อแม่หรือผู้ใหญ่ที่เราเคารพนับถือตั้งให้ ก็ถือเป็นคำอวยพรและเป็นมงคลเช่นกันค่ะ ทีมแม่ ABK หวังว่าคุณแม่จะได้ชื่อพร้อมความหมายดี ๆ ที่ถูกใจไปตั้งชื่อให้ลูกนะคะ

                          อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

                          ทำบุญตามวันเกิด เสริมดวงให้ลูก ถูกวิธี ดีตลอดปี

                          ทรงผม สีผมตามวันเกิด เสริมดวง เสริมราศี หนุนนำทรัพย์!

                          212 ชื่อเพราะๆ ตั้งชื่อลูกสาวพร้อมความหมาย เป็นมงคล เน้นเสริมดวงอุปถัมภ์

                          300+ ชื่อผู้ชาย ความหมายดี ปี 2021-2022 ตามวันเกิด

                           

                          ขอบคุณข้อมูลจาก : www.79hora.com

                           

                          เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                            คนท้องกินกระชายได้ไหม

                            คนท้องกินกระชายได้ไหม? อันตรายต่อลูกในท้องหรือไม่?

                            ที่ผ่านมา กระชาย ได้รับการแชร์ข้อมูลกันอย่างมากว่าอาจมีสรรพคุณในการป้องกันโรคโควิด มาดูกันว่าจริงหรือไม่? และ คนท้องกินกระชายได้ไหม? อันตรายต่อลูกในท้องหรือเปล่า?

                            คนท้องกินกระชายได้ไหม? อันตรายต่อลูกในท้องหรือไม่?

                            กระชาย มีอยู่ด้วยกัน 3 ชนิด คือ กระชายดำ กระชายแดง และกระชายเหลือง โดยกระชายเป็นพืชสมุนไพรที่คนไทยต่างรู้จักกันเป็นอย่างดี สามารถนำมาปรุงเป็นอาหารได้หลากหลายเมนู โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการนำมาใช้เป็นส่วนผสมสำคัญในแกงป่า หรือผัดต่าง ๆ โดยส่วนที่นิยมนำมาใช้ประกอบอาหารกันมากที่สุดคือ รากสะสมอาหาร หรือที่เรียกว่า “นมกระชาย” ซึ่งรากกระชายนี้จะมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว สามารถใช้เป็นผักจิ้มได้โดยตรง แต่คนส่วนใหญ่มักจะนิยมนำมาใช้เป็นเครื่องแกงซะมากกว่า เพราะมีคุณสมบัติในการช่วยดับกลิ่นคาวของเนื้อสัตว์เนื้อปลาได้เป็นอย่างดี

                            สมุนไพรกระชาย มีสรรพคุณทางยานานับประการ จนได้ชื่อในวงการแพทย์แผนไทยว่าเป็น “โสมไทย” เนื่องจากกระชายกับโสมมีความคล้ายคลึงกันหลายอย่าง เช่น สรรพคุณในการบำรุงกำลังและเสริมสมรรถภาพทางเพศ ซึ่งเป็นลักษณะเด่นของสมุนไพรทั้งสองชนิด ทั้งกระชายและโสมต่างก็เป็นพืชที่มีส่วนสะสมอาหารที่ใช้เป็นยาอยู่ใต้ดินเหมือนกัน แถมยังสามารถเรืองแสงในที่มืดได้เหมือนกันด้วย

                            คนท้องกินน้ำกระชายได้ไหม
                            คนท้องกินน้ำกระชายได้ไหม

                            ประโยชน์ของกระชาย

                            • สามารถนำมาทำเป็นน้ำกระชายปั่น ดื่มเพื่อเพิ่มความสดชื่น บำรุงร่างกาย ทำให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่าได้เป็นอย่างดี
                            • น้ำกระชายช่วยทำให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่ายิ่งขึ้น
                            • ช่วยทำให้เส้นผมแข็งแรง เปลี่ยนผมขาวให้กลับเป็นดำ ช่วยทำให้ผมบางกลับมาหนาขึ้น และช่วยแก้ปัญหาผมหงอก ผมร่วงได้
                            • รากนำมาใช้เป็นเครื่องแกงในการประกอบอาหาร ช่วยดับกลิ่นคาวของเนื้อและปลาได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งปลาดุก ปลาไหล ปลากุลา เป็นต้น และยังทำให้อาหารมีกลิ่นและรสที่หอมแบบเป็นเอกลักษณ์อีกด้วย
                            • รากกระชายสามารถช่วยไล่แมลงได้ ด้วยการนำตะไคร้ ข่า หอมแดง ใบสะเดาแก่ นำมาตำผสมกันแล้วใช้ผสมกับน้ำฉีดในบริเวณที่มีแมลงรบกวน

                            สรรพคุณของกระชาย

                            • กระชายเหลืองมีสรรพคุณช่วยแก้ลมวิงเวียน แน่นหน้าอก
                            • ช่วยบำรุงกำลัง เสริมสมรรถภาพทางเพศ
                            • บำรุงหัวใจ
                            • ช่วยบำรุงกระดูก ช่วยทำให้กระดูกไม่เปราะบาง
                            • ปรับสมดุลของฮอร์โมนต่าง ๆ ในร่างกาย
                            • ช่วยบำรุงสมอง เพราะช่วยทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองส่วนกลางได้ดีมากขึ้น
                            • ช่วยปรับสมดุลของความดันโลหิตในร่างกาย ช่วยลดความดันโลหิตเมื่อความดันโลหิตสูง แต่เมื่อความดันโลหิตต่ำก็จะช่วยทำให้ความดันเพิ่มขึ้นจนเป็นปกติ
                            • เหง้าใต้ดินมีรสเผ็ดร้อนและขม มีสรรพคุณช่วยแก้อาการปวดท้อง มวนในท้อง อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ
                            • ช่วยบำรุงตับและไตให้แข็งแรง ช่วยรักษาโรคไต ช่วยทำให้ไตทำงานได้ดียิ่งขึ้น
                            • ช่วยขับน้ำคาวปลาของสตรีหลังคลอดบุตร
                            • ช่วยแก้อาการปวดเมื่อย ด้วยการใช้เหง้าหรือรากแก่ ๆ นำมาหั่นเป็นแว่นบาง ๆ แล้วนำไปตากแห้งและนำมาชงกับน้ำดื่ม (ราก, เหง้า)
                            • งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ร่วมกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ศึกษาพบว่าสารสกัดจากกระชายสามารถช่วยต้านการเสื่อมของกระดูกอ่อนในหลอดทดลองได้ และได้ผลเป็นที่น่าพอใจ
                            • งานวิจัยของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์พบว่าสารสกัดคลอโรฟอร์มและเมทานอลจากรากของกระชายมีฤทธิ์ในการต้านการเจริญเติบโตของเชื้อ Giardia intestinalis ซึ่งเป็นพยาธิเซลล์เดียวในลำไส้ที่ก่อให้เกิดภาวะท้องเสีย ซึ่งเป็นปัญหาที่สำคัญอย่างมากสำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง
                            • งานวิจัยของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยพบว่าสาร Pinostrobin, Pinocembrin, Panduratin A และ Alpinetin ของกระชายนั้นมีฤทธิ์ต้านแบคทีเรียได้หลายชนิด

                            และสารที่อยู่ในกระชายนี่เอง ทำให้กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกได้ร่วมมือกับรามาธิบดี ได้ทำการศึกษาว่า ‘กระชาย’ กับ ‘โควิด-19’ เชื่อมโยงกันในด้านใดบ้างหรือไม่? ทีมแม่ ABK จึงขอนำคำตอบจาก พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดี กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข ดังนี้

                            อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกเผย การศึกษาเกี่ยวกับกระชายและโควิด!

                            “เราพบว่าในกระชายมีสารสำคัญโดดเด่นมากๆ 2 ตัว คือ พิโนสโตรบิน (Pinostrobin) และ แพน​ดูราทิน เอ (Panduratin A)มีฤทธิ์ช่วยยับยั้งไวรัสให้แบ่งตัวไม่ได้ ถ้าไวรัสเข้าไปในร่างกายแล้วไปเจอสารสำคัญของกระชายในปริมาณที่เหมาะสม ก็มีแนวโน้มว่าเขาแบ่งตัวไม่ได้ ไปต่อไม่ได้ เขาก็จะฝ่อสลายไปก็เป็นสัญญาณว่าอาจใช้รักษาโควิด-19 ก็ได้นะ

                            เราพบว่ากระชายมีแนวโน้มแบบเดียวกับแอนโดรกราโฟไลด์ (Andrographolide)ในฟ้าทะลายโจร นั่นก็คือ ช่วยลดการอักเสบได้ จึงน่าจะมีฤทธิ์ในการพยุงให้ร่างกายกลับคืนสู่ความเป็นปกติได้เร็ว และกระชายยังมีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระซึ่งเป็นลักษณะการทำให้สุขภาพดีอีกด้วย นี่คือสัญญาณบวกต่อการสู้กับโควิด-19 โดยกระชาย”

                            ซึ่งในขณะนี้ ‘กระชาย’ กับ ‘โควิด’ อยู่ในการศึกษาทางคลินิก ระยะที่ 1 แปลว่านำปริมาณกระชายที่ศึกษาพบว่าช่วยกำจัดโรคได้ และไม่เกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายจากระดับสัตว์ทดลอง มาวิจัยในมนุษย์ต่อ

                            ก่อนหน้านี้เราทดลองในหนูเสร็จเรียบร้อย ตอนนี้จะย้ายจากหนูมาสู่คนแล้วค่ะ ซึ่งต้องใช้ในร่างกายคนปกติดี เมื่อเขารับกระชายเข้าไปในร่างกายแล้ว สารสำคัญในกระชายที่เราเฝ้ามองต้องกินเท่าไรแล้วจะย่อยได้เท่าไร จะดูดซึมเหลือเท่าไร ไปถึงเซลล์เท่าไร พอไหมที่ระดับเซลล์แค่นั้นจะกำจัดเชื้อโรคได้เหมือนกับที่เราพบในเซลล์ของหนู และที่ระดับขนาดนั้นนอกจากกำจัดเชื้อโรคจัดการเชื้อโรคสู้ได้แล้ว เซลล์อื่นพลอยตายไปด้วยหรือเปล่า หรือคนๆ นั้นจะท้องอืดท้องเฟ้อปวดท้องทรมานมาก..กินไม่ไหวหรือเปล่า เราต้องหาความพอดีตรงนี้และปลอดภัยให้ได้ก่อน

                            จากการประชุมหารือขับเคลื่อนงานวิจัยและนว้ตกรรมสมุนไพรกระชาย ครั้งที่สาม/2564 (1 เม.ย.2564) เราพบว่า เมื่อนำผลการศึกษาในสัตว์ทดลองมาวิเคราะห์และเทียบเป็น น้ำหนักมนุษย์แข็งแรงคนหนึ่ง 50-60 กิโลกรัม ต้องใช้สารสกัดกระชายวันหนึ่งประมาณ 1,250 มิลลิกรัม คือมาจากกระชายสด 1 กิโลกรัมกว่าๆ

                            ทีนี้เราจะต้องนำกระชายหนึ่งกิโลกรัมกว่าๆ ไปทำให้เป็นสารสกัดในขนาด 1,250 มิลลิกรัมต่อวันแบบไหน ถึงจะเข้าสู่ร่างกายได้เหมาะสม ซึ่งเป็นการรับประทานยาปริมาณยาสูงพอสมควร”

                            ซึ่งการศึกษาในครั้งนี้ยังอยู่ในขั้นเริ่มต้น โดยจะใช้เวลาอีกอย่างน้อย 6 เดือน 1 ปี

                            พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ ได้กล่าวสรุปไว้ว่า ส่วนที่เราใช้ ต้มน้ำดื่ม อันนั้นเป็นในรูปแบบการส่งเสริมสุขภาพ ฤทธิ์เขาช่วยในเรื่องแอนตี้ออกซิแดนท์ในระดับหนึ่ง ทำให้ลดอาการท้องอืดท้องเฟ้อ หรือแม้แต่มีฤทธิ์ในการต้านไวรัสได้ในระดับหนึ่ง แต่เราจะคาดหวังว่าดื่มแบบนี้แล้วไม่เป็นโควิด อันนี้คงไม่ไหว เชื้อนั้นดุร้าย ต้องการยาเยอะกว่าที่การต้มน้ำดื่มจะเพียงพอ และสำหรับหลายๆ ท่านที่สงสัยว่าจริงหรือไม่จริง ในแง่มุมของสมุนไพรหลายๆ ตัว รวมถึงกระชายด้วย เราสามารถคาดหวังได้ว่าเขาจะช่วยส่งเสริมให้เรามีสุขภาพที่ดี แต่การที่ใช้จัดการกับโรคนั้น ยังต้องเป็นประเด็นที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของแพทย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโควิด-19 คนติดเชื้อต้องอยู่ภายใต้การดูแลของคุณหมอ รักษาตัวเองไม่ได้ นั่นก็หมายความว่า เราดูแลสุขภาพตัวเองไป ถ้าติดเชื้อต้องปรึกษาแพทย์ และการดูแลสุขภาพตัวเองที่ว่านั้นยังคงต้องเชื่อฟังคุณหมอนะคะ ใส่หน้ากากอย่างรัดกุม ล้างมือ รักษาระยะห่าง ไม่ไปในที่ที่มีคนแออัด หลีกเลี่ยงการสร้างความเสี่ยงให้ตัวเองติดเชื้อค่ะ

                            ขอบคุณข่าวจาก : กรุงเทพธุรกิจ
                            คนท้องกินสมุนไพร
                            คนท้องกินสมุนไพร

                            คนท้องกินกระชายได้ไหม? อันตรายต่อลูกในท้องหรือไม่?

                            โดยสรุปแล้วกระชายที่เป็นที่นิยมกันและเชื่อกันว่ามีสรรพคุณป้องกันโรคโควิด-19 ได้นั้น ยังอยู่ในขั้นตอนการศึกษาอยู่ แต่การศึกษานี้ ได้ศึกษาถึงการสกัดสารจากกระชาย ซึ่งในการทาน 1 ครั้งจะต้องใช้ปริมาณกระชายเป็นจำนวนมาก การดื่มน้ำกระชาย จึงไม่สามารถป้องกันโรคโควิดได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าการดื่มน้ำกระชายแล้วจะไม่ดี เพราะในกระชายน้ำมีสรรพคุณที่ช่วยลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อได้เป็นอย่างดี และสำหรับแม่ท้อง ก็ไม่มีข้อห้ามในการทานน้ำกระชาย หรืออาหารที่มีส่วนผสมของกระชาย อีกทั้ง กระชาย ก็ไม่ได้เป็นสมุนไพรที่คนท้องห้ามทาน แม่ท้องจึงสามารถทานได้ในปริมาณที่เหมาะสม จะช่วยย่อยอาหารและขับลมได้ดี แต่ควรทราบไว้ว่าการทานน้ำกระชายนั้น ไม่ได้เพื่อป้องกันโควิด แต่เพื่อส่งเสริมให้เรามีสุขภาพที่ดีได้ต่างหาก

                            ได้คำตอบกันแล้วนะคะว่า คนท้องกินน้ำกระชายได้ไหม? คำตอบคือทานได้ในปริมาณที่เหมาะสมค่ะ แต่ก็มีคำเตือนจากกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกว่า ขอให้ประชาชนมีวิจารณญาณ พิจารณาความเหมาะสมของยาต่างๆ ในเรื่องคุณสมบัติของยา ความสะอาด มาตรฐานการผลิต การปนเปื้อน และผลที่อาจเกิดขึ้นแก่ร่างกาย โดยต้องระมัดระวังเป็นพิเศษในกลุ่มสตรีตั้งครรภ์ ทารก ผู้มีโรคประจำตัวโดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคตับและโรคไต รวมถึงผู้ที่รับประทานยาประจำตัวต่อเนื่องอยู่

                            อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

                            ฟ้าทะลายโจร คนท้อง กินได้ไหม? ต้านโควิดได้จริงหรือ?

                            9 สมุนไพรอันตรายที่แม่ท้องต้องระวัง !!

                            สมุนไพรไทย บำรุงครรภ์ และบำรุงน้ำนม ตัวไหนที่คุณแม่ทานได้!

                            11 Superfood อาหารบํารุงคนท้อง ให้ลูกพัฒนาการดีตั้งแต่ในครรภ์

                             

                            ขอบคุณข้อมูลจาก : medthai.com, กรมสุขภาพจิต

                             

                            เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                              ชื่อผู้ชาย

                              300+ ชื่อผู้ชาย ความหมายดี ปี 2021-2022 ตามวันเกิด

                              จัดเต็ม 300+ ชื่อผู้ชาย ที่มีความหมายดี ๆ ตั้งตามวันเกิดของลูก เพื่อเสริมดวง เสริมบารมี และความเป็นมงคลให้กับลูกของเรา มาดูกันว่ามีชื่ออะไรกันบ้างที่โดนใจแม่!!

                              300+ ชื่อผู้ชาย ความหมายดี ปี 2021-2022 ตามวันเกิด

                              ชื่อ จะเป็นสิ่งที่ติดตัวลูกไปตั้งแต่เกิด โดยเฉพาะชื่อที่พ่อแม่ตั้งให้ย่อมเป็นเหมือนคำอวยพรจากพ่อแม่ ดังนั้นพ่อแม่มักจะเลือกชื่อที่ดีที่สุด เหมาะกับลูกของเราที่สุด ให้กับลูก มาดูกันว่ามีชื่ออะไรกันบ้างที่โดนใจ แม่ ๆ สามารถนำไปตั้งให้ลูกได้เลยค่ะ!

                              ตั้งชื่อลูก ชื่อผู้ชาย ความหมายดี ๆ ตามวันเกิด

                              ชื่อผู้ชาย ที่เกิดวันอาทิตย์

                              ชื่อคำอ่านคำแปล
                              นธีทัพพ์นะ-ที-ทับแม่น้ำแห่งทรัพย์สมบัติ
                              กรองเกียรติ์กอง-เกียดเส้นทางเกียรติยศ
                              มณีจันทร์มะ-นี-จันเพชรแห่งจันทรา
                              ธิติพันธ์ทิ-ติ-พันเชื้อสายผู้มีปัญญา
                              ดนุพัฒน์ดะ-นุ-พัดเจริญรุ่งเรืองด้วยตนเอง
                              นิธิพัฒน์นิ-ทิ-พัดเจริญด้วยขุมทรัพย์
                              กฤชกำภูกริด-กัม-พูอาวุธของแผ่นดินที่อยู่ในมือ
                              กัญจนกฤชกัน-จะ-นะ-กริดหลักแหลมดังทองคำ,กริชทองคำ
                              วิธินันท์วิ-ทิ-นันหนทางของความยินดี
                              กันต์นภนต์กัน-นะ-พนสุดขอบฟ้าอันงดงาม
                              กตัญญ์ปัจน์กะ-ตัน-ปัดศัตรูที่กตัญญู
                              ธีร์ดนัยที-ดะ-นัยลูกชายที่เกิดมาเป็นนักปราชญ์
                              อาภากรอา-พา-กอนพระอาทิตย์
                              กัณฑ์ยชญ์กัน-นะ-ยดผู้ได้รับเกียรติตามขั้นตอน,ผู้ได้รับเกียรติและมีทรัพย์
                              กตนพัตกะ-ตะ-นะ-พัดผู้ได้กระทำสิ่งใหม่,ผู้ได้ริเริ่ม
                              ก้องปณัทฐ์ก้อง-ปะ-นัดผู้ให้ความรู้ยิ่งที่ดังไปไกล
                              ณัฐชานนท์นัด-ถะ-ชา-นนผู้เป็นที่ชื่นชอบที่เกิดมาเป็นปราชญ์
                              กฤตย์พัฒน์กริด-ตะ-พัดผู้เจริญรุ่งเรืองในการกระทำ
                              กัณฑ์พิพัฒน์กัน-พิ-พัดผู้เจริญยิ่งเป็นบทตอน
                              กรินพัฑฒ์กะ-ริน-พัดผู้เจริญดุจช้าง
                              กฤชญ์พชรด์กริด-พะ-ชะ-ระผู้เข้มแข็งหรือผู้ขยัน
                              กฤชญ์พชรฎ์กริด-พะ-ชะ-ระผู้เข้มแข็งที่รู้ในสิ่งที่พึงกระทำ
                              เกิดชูพันธ์เกิด-ชู-พันผู้เกิดมาเพื่อปกป้องพวกพ้องของตน
                              ณกรณ์นะ-กอนผู้อยู่ในการริเริ่ม
                              เอกอนันต์เอก-อะ-นันผู้หลากหลายความเป็นหนึ่ง
                              กรณัฏฐ์กอ-ระ-นัดผู้สร้างนักปราชญ์, นักปราชญ์ผู้มีความรุ่งเรือง
                              ฐนกรถน-กอนผู้สร้างความมั่นคง
                              กรณ์พิรัลกอน-พิ-รันผู้สร้างความงาม
                              กรัรณย์กรกะ-รัน-นะ-กอนผู้สร้างการงาน
                              กฤตธนัทกริด-ทะ-นัดผู้ร่ำรวยจากการกระทำ
                              กฤตย์วรัชญ์กริด-วะ-รัดผู้รู้สิ่งประเสริฐอันมีเกียรติ
                              กัณฑ์คุณัชญ์กัน-คุ-นัดผู้รู้บทตอนแห่งความดี
                              ปภัชปะ-พัดผู้รู้จักแยกแยะยิ่ง
                              อธิปพัฒน์อะ-ทิบ-ปะ-พัดผู้รุ่งเรืองอันยิ่งใหญ่
                              กฤชญาณกริด-ชะ-ยานผู้รอบรู้ด้วยความเฉียบแหลม
                              กัญจน์บุรินทร์กัน-จะ-บุ-รินผู้ยิ่งใหญ่แห่งเมืองทองคำ
                              เมธานันท์เม-ทา-นันผู้ยินดีในความรอบรู้
                              นิธินนทน์นิ-ทิ-นนผู้ยินดีในขุมทรัพย์
                              กัณฑ์ชัยนันท์กัน-ชัย-ยะ-นันผู้ยินดีในขั้นตอนแห่งชัยชนะ
                              กฤตย์ตานนท์กริด-ตา-นนผู้ยินดีหรือผู้มีความสุขในการกระทำ
                              นันทวัฒน์นัน-ทะ-วัดผู้ยินดีที่มีความเจริญแล้ว
                              พันเครือพัน-เครือผู้มีเผ่าพันธุ์ของตน
                              กชชนนกด-ชะ-นนผู้มีเชื้อสายแห่งบัว
                              กชลภนกด-ละ-พนผู้มีลาภดังดอกบัว
                              กานต์อนันต์กาน-อะ-นันผู้มีมากมายในความน่ารัก
                              เกียรติกำจรเกียด-กัม-จอนผู้มีชื่อเสียงเลื่องลือ
                              กันตชาครกัน-ตะ-ชา-คอนผู้มีความเพียรที่น่ารัก
                              ธิติวัฒน์ทิ-ติ-วัดผู้มีความเจริญมั่นคง, ผู้มีปัญญาเจริญ
                              อัครวิชช์อัก-คะ-ระ-วิดผู้มีความรู้เป็นเลิศ
                              นิธิวิทย์นิ-ทิ-วิดผู้มีความรู้เป็นขุมทรัพย์
                              อภิรพัชญ์อะ-พิ-ระ-พัดผู้มีความรู้ที่มีชื่อเสียงยิ่ง
                              รุ่งโรจน์รุ่ง-โรดผู้มีความรุ่งเรือง
                              กันต์ธีภพกัน-ที-พบผู้มีความยินดีในปัญญา
                              กรณ์กรวีร์กอน-กอ-ระ-วีผู้มีความกล้าหาญในการกระทำ
                              นิธิวัตต์นิ-ทิ-หวัดผู้มีขุมทรัพย์อันประเสริฐ
                              กัณฐพัชช์กัน-ถะ-พัดผู้พูดจาเป็นบทตอน
                              กฤตาพันธ์กริด-ตา-พันผู้ผูกพันการกระทำ
                              กฤชปณตกริด-ปะ-นดผู้น้อมไหว้อย่างเฉียบแหลม
                              กัญจนกันต์กัน-จะ-นะ-กันผู้น่ารักดุจทองคำ
                              กฤชปภพกริด-ปะ-พบผู้นำที่เฉียบแหลม
                              กชภณกด-ชะ-พนผู้ชอบพูดเป็นดอกบัว(อ่อนน้อม)
                              ภัทรวีร์พัด-ทะ-ระ-หวีผู้กล้าหาญและดีงาม
                              อัคราวิชญ์อัก-ขะ-รา-วิดปราชญ์ผู้เป็นเลิศ
                              กวินท์วิชญ์กะ-วิน-วิดนักปราชญ์จอมกวี
                              กัญจน์อเนกข์กัน-จะ-อะ-เนกทองที่ไม่ใช่ทองแท่ง
                              กลวชิรกน-วะ-ชิ-ระดูจเพชรที่งดงาม
                              เนตรเนดดวงตา
                              กรณ์กวินท์กอน-กะ-วินจอมกวีผู้กระทำ
                              กรชปกรกอน-ชะ-ปะ-กอนคัมภีร์หรือตำราที่สร้างจากมือ
                              อิทธิอิด-ทิความเจริญ, ความงอกงาม, ความสำเร็จ
                              จตุพันธ์จะ-ตุ-พันข้อผูกมัดทั้งสี่
                              ตั้งชื่อลูกชาย
                              ตั้งชื่อลูกชาย

                              ชื่อผู้ชาย ที่เกิดวันจันทร์

                              ชื่อคำอ่านคำแปล
                              กตนพัตกะ-ตะ-นะ-พัดผู้ได้กระทำสิ่งใหม่,ผู้ได้ริเริ่ม
                              กมนทรรศน์กะ-มน-ทัดผู้ดูมีเสน่ห์
                              กรณภพกอน-นะ-พบผู้ที่ทำเพื่อแผ่นดิน
                              กรณ์ศรัณย์กอน-สะ-รันผู้เป็นที่พึ่งอันพึงกระทำ
                              กรภณัฐกอน-พะ-นัดปราชญ์ผู้มีรัสมีแห่งแสงสว่าง
                              กรัญญ์กรณ์กรัน-กอนผู้ชำนาญที่มีความรู้ใหม่
                              กรัณย์กรกะ-รัน-กอนผู้ชำนาญที่มีความรู้ใหม่, ผู้ฉลาดที่มีความรอบรู้ใหม่
                              กรัณย์พลกะ-รัน-พนผู้มีพลังในหน้าที่การงาน
                              กฤชญ์พชรฎ์กริด-พะ-ชะ-ระผู้เข้มแข็งที่รู้ในสิ่งที่พึงกระทำ
                              กฤชญ์พชรด์กริด-พะ-ชะ-ระผู้เข้มแข็งหรือผู้ขยัน
                              กฤตธนัทกริด-ทะ-นัดผู้ร่ำรวยจากการกระทำ
                              กฤตธรรศกริด-ตะ-ทัดผู้กระทำด้วยความมั่นใจ
                              กฤตย์พัฒน์กริด-ตะ-พัดผู้เจริญรุ่งเรืองในการกระทำ
                              กฤตย์วรัชญ์กริด-วะ-รัดผู้รู้สิ่งประเสริฐอันมีเกียรติ
                              กฤตัชญ์พงศ์กริ-ตัด-พงตระกูลของผู้มีความกตัญญู
                              กฤศศรัณย์กริด-สะ-รันผู้เป็นที่พึ่งคนจน
                              กฤษณ์ปัณณ์กริด-สะ-ปันผู้มีความรู้พระกฤษณะ
                              กฤษณ์มนัสกริด-สะ-มะ-นัดได้ดังใจพระกฤษณะ
                              กฤษณศักย์กริด-สะ-นะ-สักมีความสามารถดังพระกฤษณเจ้า
                              กัญจนกฤชกัน-จะ-นะ-กริดหลักแหลมดังทองคำ,กริชทองคำ
                              กัญจน์นภัทรกัน-นะ-พัดผู้ประเสริฐด้วยความรู้และงดงามดุจทองคำ
                              กัณฑ์ยชญ์กัน-นะ-ยดผู้ได้รับเกียรติตามขั้นตอน,ผู้ได้รับเกียรติและมีทรัพย์
                              กันต์กฤษณ์กัน-กริดผู้งามดังพระกฤษณะ
                              กันต์นภนต์กัน-นะ-พนสุดขอบฟ้าอันงดงาม
                              กันตวรวัฒน์กัน-ตะ-วอ-ระ-วัดงดงามในความเจริญอันประเสริฐ
                              ขัมน์ปกรณ์ขำ-ปะ-กอนผู้มีคัมภีร์แห่งความอดทน
                              คณณัฐ์คะ-นะ-นัดเป็นผู้นำในหมู่นักปราชญ์
                              ชวศรัณย์ชะ-วะ-สะ-รันมีความว่องไวเป็นที่พึ่ง
                              ชัยณพงศ์ชัย-นะ-พงชัยชนะของวงศ์ตระกูลที่มีปัญญา
                              ฐนกรถน-กอนผู้สร้างความมั่นคง
                              ฑัสนัยก์ทัด-สะ-นัยความหมายทั้งสิบ
                              ณกรณ์นะ-กอนผู้อยู่ในการริเริ่ม
                              ณรัฐกรณ์นะ-รัด-ถะ-กอนนักปราชญ์ผู้สร้างประเทศ, ผู้มีการกระทำด้วยปัญญาแห่งรัฐ
                              ณัชชนลนัด-ชะ-นนผู้เปล่งแสงที่เกิดมาให้ความรู้
                              ณัฏฐ์ณรัณนัด-นะ-รันนักปราชญ์ผู้เด่นดังทางความรู้ของตน
                              ณัฏฐ์ธนชัยนัด-ทะ-นะ-ชัยนักปราชญ์ผู้ชนะด้วยทรัพย์
                              ณัฏฐ์พัชร์นัด-ตะ-พัดเพชรของนักปราชญ์, ผู้มีคุณค่าดั่งนักปราชญ์
                              ณัฐนพงษ์นัด-นะ-พงผู้อยู่ในตระกูลของนักปราชญ์
                              ณัฐพจน์นัด-ถะ-พดคำพูดของนักปราชญ์
                              ณัฐภัคพลนัด-ถะ-พัก-ขะ-พนพลังของโชคแห่งนักปราชญ์
                              ตรัยวรรธน์ตัย-วัดผู้มีความเจริญสามประการ
                              ทัศนพงษ์ทัด-สะ-นะ-พงเชื้อสายผู้มีความคิด
                              ธนพชทะ-นะ-พดผู้มีเพชรเป็นทรัพย์
                              ธนยศทะ-นะ-ยดผู้มีทรัพย์และชื่อเสียง
                              ธันย์ณภัทรทัน-นะ-พัดผู้มีเจริญงอกงามด้วยความรู้อันประเสริฐ
                              นันทณัฏฐ์นัน-ทะ-นัดผู้ตั้งอยู่ในความรู้ที่มีความยินดี
                              นันทวัฒน์นัน-ทะ-วัดผู้ยินดีที่มีความเจริญแล้ว
                              ปภัชปะ-พัดผู้รู้จักแยกแยะยิ่ง
                              พงษ์กรณ์พง-กอนตระกูลของผู้สร้าง
                              พงษ์นภัสพง-นะ-พัดตระกูลแห่งท้องฟ้า
                              พชรกรพะ-ชะ-ระ-กอนบ่อเกิดแห่งเพชร
                              พลสรรค์พะ-ละ-สันผู้สร้างกำลัง
                              พัชรณัฏฐ์พัด-ชะ-ระ-นัดเพชรของนักปราชญ์
                              ภพภกรพบ-พะ-กอนผู้ที่สร้างแผ่นดิน
                              ภฤศพะ-รึดมาก, กล้า, จัดเจน
                              ภวัตพะ-วัดผู้เจริญ
                              ภัทรชัยพัด-ทะ-ระ-ชัยชัยชนะแห่งความสุข ความสิริมงคล
                              ภัทรฐ์สกลพัด-ทะ-ระ-สะ-กนผู้มีความประเสริฐทั้งหมด
                              ภัทรพงศ์พัด-ทะ-ระ-พงเชื้อสายตระกูลที่ดีงาม
                              ยศวัฒน์ยด-วัดผู้เจริญด้วยยศศักดิ์
                              วรพงศ์ปพนวอ-ระ-พง-ปะ-พนวงศ์ตระกูลที่ประเสริฐและบริสุทธิ์
                              วรรณพงษ์วัน-นะ-พงผู้มีตระกูลร่ำรวย
                              วัฒนพงษ์วัด-ทะ-นะ-พงตระกูลหรือเชื้อสายที่มีความเจริญ
                              ศรัณย์ชัยสะ-รัน-ชัยชัยชนะอันเป็นที่พึ่ง
                              ศรัณย์ธนกรสะ-รัน-ทะ-กอนสร้างทรัพย์และเป็นที่พึ่ง
                              ศรันยพงศ์สะ-รัน-ยะ-พงผู้เป็นที่พึ่งของตระกูล
                              สรรค์ชัยสัน-ชัยการชนะ, การปราบปรามสำเร็จ
                              สฤษฏ์พงศ์สะ-หริด-พงตระกูลของผู้สร้าง
                              สัจนันท์สัด-จะ-นันพึงใจในความสัตย์, ผู้ยินดีในความจริง
                              สัณห์ชนนสัน-ชะ-นนผู้เกิดมาสุภาพ
                              สัณห์ปพนสัน-ปะ-พนผู้บริสุทธิ์และเรียบร้อย

                              ชื่อผู้ชาย ที่เกิดวันอังคาร

                              ชื่อคำอ่านคำแปล
                              นธีทัพพ์นะ-ที-ทับแม่น้ำแห่งทรัพย์สมบัติ
                              ธิติพันธ์ทิ-ติ-พันเชื้อสายผู้มีปัญญา
                              ศิษฏ์ชนนสิด-ชะ-นนเชื้อสายผู้มีความรู้
                              ดนุพัฒน์ดะ-นุ-พัดเจริญรุ่งเรืองด้วยตนเอง
                              นิธิพัฒน์นิ-ทิ-พัดเจริญด้วยขุมทรัพย์
                              วิธินันท์วิ-ทิ-นันหนทางของความยินดี
                              วิสุทวิ-สุดสะอาด, สดใส
                              ธีร์ดนัยที-ดะ-นัยลูกชายที่เกิดมาเป็นนักปราชญ์
                              ชัยณิวัฒน์ชัย-นิ-วัดผู้ได้รับชัยชนะจากความชั่วร้าย
                              สมภูมิสม-พูมผู้เหมาะกับแผ่นดิน
                              จันทริษฎ์จัน-ทะ-ริดผู้เป็นที่รักของจันทร์
                              ณัฐชานนท์นัด-ถะ-ชา-นนผู้เป็นที่ชื่นชอบที่เกิดมาเป็นปราชญ์
                              ยศวัฒน์ยด-วัดผู้เจริญด้วยยศศักดิ์
                              ไพทูตย์พัย-ทูดผู้เจรจาด้านเงินโบราณ
                              อธินชนุตต์อะ-ทิน-ชะ-นุดผู้อยู่สูงสุดที่คนเชื่อฟัง
                              ปรุฬห์เลิศปะ-รุด-เลิดผู้สุดยอดในความเจริญ
                              อิศรานุวัฒน์อิ-สะ-รา-นุ-วัดผู้สร้างความเจริญอันยิ่งใหญ่
                              วิบาลวิ-บานผู้รู้แจ้งเรื่องการปกครอง
                              ปภัชปะ-พัดผู้รู้จักแยกแยะยิ่ง
                              อธิปพัฒน์อะ-ทิบ-ปะ-พัดผู้รุ่งเรืองอันยิ่งใหญ่
                              นริศรนะ-ริ-สอนผู้ยิ่งใหญ่ในหมู่คน
                              นิธินนทน์นิ-ทิ-นนผู้ยินดีในขุมทรัพย์
                              นันทวัฒน์นัน-ทะ-วัดผู้ยินดีที่มีความเจริญแล้ว
                              จิตวิวัฒน์จิด-วิ-วัดผู้มีใจที่ก่อให้เกิดความเจริญรุ่งเรือง
                              ธันย์ณภัทรทัน-นะ-พัดผู้มีเจริญงอกงามด้วยความรู้อันประเสริฐ
                              อิทธิเดชอิด-ทิ-เดดผู้มีอำนาจแห่งความเจริญและความสำเร็จ
                              สุริยันต์สุ-ริ-ยันผู้มีรัศมีอันยิ่งใหญ่ดุจดวงอาทิตย์
                              ธนยศทะ-นะ-ยดผู้มีทรัพย์และชื่อเสียง
                              ปัจนาสย์ปัด-จะ-นาดผู้มีชื่อเหมือนพระศิวะ
                              ภัสดาพัด-สะ-ดาผู้มีความเป็นสามี
                              ธิติวัฒน์ทิ-ติ-วัดผู้มีความเจริญมั่นคง, ผู้มีปัญญาเจริญ
                              เจษฏาวิทย์เจด-ตา-วิดผู้มีความเจริญทางความรู้สูงสุด
                              สำริตสัม-ริดผู้มีความสำเร็จ
                              ชามินณพัฒน์ชา-มิน-นะ-พัดผู้มีความสมบูรณ์ งอกงามในความรู้
                              นิธิวิทย์นิ-ทิ-วิดผู้มีความรู้เป็นขุมทรัพย์
                              เศรษฐวิทย์เสด-ถะ-วิดผู้มีความรู้อันประเสริฐ
                              อภิรพัชญ์อะ-พิ-ระ-พัดผู้มีความรู้ที่มีชื่อเสียงยิ่ง
                              สุประวิทย์สุ-ประ-วิดผู้มีความบริสุทธิ์
                              นิธิวัตต์นิ-ทิ-หวัดผู้มีขุมทรัพย์อันประเสริฐ
                              ศตพลสะ-ตะ-พนผู้มีกำลังเป็นร้อย
                              สัณห์ปพนสัน-ปะ-พนผู้บริสุทธิ์และเรียบร้อย
                              ภัทรวีร์พัด-ทะ-ระ-หวีผู้กล้าหาญและดีงาม
                              ศรันย์ปวีร์สะ-รัน-ปะ-วีผู้กล้าหาญยิ่งอันเป็นที่พึ่ง
                              วสุอนันต์วะ-สุ-อะ-นันผุ้มีทรัพย์ล้นเหลือ
                              ปุณณ์ปวีณปุน-ปะ-วีนปราชญ์อันประเสริฐ, ผู้เต็มไปด้วยความฉลาดรอบรู้
                              ธิติณัฏฐ์ทิ-ติ-นัดนักปราชญ์ผู้มีความมั่นคง
                              ณัฏฐ์ธนชัยนัด-ทะ-นะ-ชัยนักปราชญ์ผู้ชนะด้วยทรัพย์
                              ศุภณพิชญ์สุ-พน-พิดนักปราชญที่ประเสริฐ
                              ณัฏฐ์พจน์นัด-ตะ-พดถ้อยคำของนักปราชญ์
                              ศรัณย์ชัยสะ-รัน-ชัยชัยชนะอันเป็นที่พึ่ง
                              สุรสิทธิ์สุ-ระ-สิดความสำเร็จอันกล้าหาญ
                              เผ่าภูมิเผ่า-พูมกลุ่มชนของผู้มีความรู้
                              ชื่อเด็กผู้ชาย
                              ชื่อเด็กผู้ชาย

                              ชื่อผู้ชาย ที่เกิดวันพุธ

                              ชื่อคำอ่านคำแปล
                              กฤษณ์มนัสกริด-สะ-มะ-นัดได้ดังใจพระกฤษณะ
                              นธีทัพพ์นะ-ที-ทับแม่น้ำแห่งทรัพย์สมบัติ
                              พงษ์พิษณุพง-พิด-นุเชื้อสายพระวิษณุ,เชื้อสายผู้คุ้มครอง
                              ธิติพันธ์ทิ-ติ-พันเชื้อสายผู้มีปัญญา
                              ภัทรพงศ์พัด-ทะ-ระ-พงเชื้อสายตระกูลที่ดีงาม
                              ดนุพัฒน์ดะ-นุ-พัดเจริญรุ่งเรืองด้วยตนเอง
                              นิธิพัฒน์นิ-ทิ-พัดเจริญด้วยขุมทรัพย์
                              วิธินันท์วิ-ทิ-นันหนทางของความยินดี
                              กันต์นภนต์กัน-นะ-พนสุดขอบฟ้าอันงดงาม
                              ธีร์ดนัยที-ดะ-นัยลูกชายที่เกิดมาเป็นนักปราชญ์
                              กัณฐพัสส์กัน-ถะ-พัดฤดูกาลแห่งฝน,ช่วงแห่งฤดูฝน
                              กฤษณารัศมิ์กริด-สะ-หนา-รัดรัศมีที่มีสีดำ,ประกายแสงสีดำ
                              กฤษณศักย์กริด-สะ-นะ-สักมีความสามารถดังพระกฤษณเจ้า
                              กตนพัตกะ-ตะ-นะ-พัดผู้ได้กระทำสิ่งใหม่,ผู้ได้ริเริ่ม
                              ก้องปณัทฐ์ก้อง-ปะ-นัดผู้ให้ความรู้ยิ่งที่ดังไปไกล
                              สิริพงศ์สิ-หริ-พงผู้เป็นสิริมงคลแห่งวงศ์ตระกูล
                              พงศ์สิริพง-สิ-หริผู้เป็นมงคลแห่งตระกูล
                              กรณ์ศรัณย์กอน-สะ-รันผู้เป็นที่พึ่งอันพึงกระทำ
                              กฤศศรัณย์กริด-สะ-รันผู้เป็นที่พึ่งคนจน
                              กฤตย์พัฒน์กริด-ตะ-พัดผู้เจริญรุ่งเรืองในการกระทำ
                              ยศวัฒน์ยด-วัดผู้เจริญด้วยยศศักดิ์
                              กรณ์ปรุฬห์กอน-ปะ-รุดผู้เจริญด้วยการสร้าง
                              ณัฐนพงษ์นัด-นะ-พงผู้อยู่ในตระกูลของนักปราชญ์
                              ณกรณ์นะ-กอนผู้อยู่ในการริเริ่ม
                              กรณัฏฐ์กอ-ระ-นัดผู้สร้างนักปราชญ์, นักปราชญ์ผู้มีความรุ่งเรือง
                              อิศรานุวัฒน์อิ-สะ-รา-นุ-วัดผู้สร้างความเจริญอันยิ่งใหญ่
                              ฐนกรถน-กอนผู้สร้างความมั่นคง
                              กรัรณย์กรกะ-รัน-นะ-กอนผู้สร้างการงาน
                              รังสฤษฏ์รัง-สะ-หริดผู้สร้าง, ผู้แต่งตั้ง
                              กมลหิรัณย์กะ-มน-หิ-รันผู้ร่ำรวยเงินทองด้วยหัวใจ
                              กฤตธนัทกริด-ทะ-นัดผู้ร่ำรวยจากการกระทำ
                              อธิปพัฒน์อะ-ทิบ-ปะ-พัดผู้รุ่งเรืองอันยิ่งใหญ่
                              เมธานันท์เม-ทา-นันผู้ยินดีในความรอบรู้
                              นิธินนทน์นิ-ทิ-นนผู้ยินดีในขุมทรัพย์
                              กฤศรดากริด-สอ-ระ-ดาผู้ยินดีเพียงแต่น้อย
                              กฤตย์ตานนท์กริด-ตา-นนผู้ยินดีหรือผู้มีความสุขในการกระทำ
                              นันทวัฒน์นัน-ทะ-วัดผู้ยินดีที่มีความเจริญแล้ว
                              สุทธิพงษ์สุด-ทิ-พงผู้มีเชื้อสายที่บริสุทธิ์
                              ธันย์ณภัทรทัน-นะ-พัดผู้มีเจริญงอกงามด้วยความรู้อันประเสริฐ
                              วรศักดิ์วอ-ระ-สักผู้มีอำนาจอันประเสริฐ
                              วิสิฐศักดิ์วิ-สิด-สักผู้มีอำนาจที่ดียิ่ง, ผู้มีอำนาจที่ประเสริฐ
                              วรรณพงษ์วัน-นะ-พงผู้มีตระกูลร่ำรวย
                              กฤติธัสกริด-ติ-ทัดผู้มีการกระทำในทางสร้างสรรค์อย่างกล้าหาญ
                              กฤตาพันธ์กริด-ตา-พันผู้ผูกพันการกระทำ
                              กฤษวัตกริด-สะ-วัดผู้ทำหน้าที่, ผู้กระทำเสร็จสิ้นแล้ว
                              กันต์กฤษณ์กัน-กริดผู้งามดังพระกฤษณะ
                              ภัทรวีร์พัด-ทะ-ระ-หวีผู้กล้าหาญและดีงาม
                              วสุอนันต์วะ-สุ-อะ-นันผุ้มีทรัพย์ล้นเหลือ
                              ธิติณัฏฐ์ทิ-ติ-นัดนักปราชญ์ผู้มีความมั่นคง

                              ชื่อผู้ชาย ที่เกิดวันพฤหัสบดี

                              ชื่อคำอ่านคำแปล
                              กฤษณ์วรงค์กริด-สะ-วะ-รงเศียรของพระกฤษณะ, ผู้ประเสริฐเหมือนพระกฤษณะ
                              คณณัฐ์คะ-นะ-นัดเป็นผู้นำในหมู่นักปราชญ์
                              กัณฐพัสส์กัน-ถะ-พัดฤดูกาลแห่งฝน,ช่วงแห่งฤดูฝน
                              กฤษณารัศมิ์กริด-สะ-หนา-รัดรัศมีที่มีสีดำ,ประกายแสงสีดำ
                              กฤษณศักย์กริด-สะ-นะ-สักมีความสามารถดังพระกฤษณเจ้า
                              วชิรวิชญ์วะ-ชิ-ระ-วิดมีความรู้เฉียบคมดุจเพชร
                              กัณฑ์ยชญ์กัน-นะ-ยดผู้ได้รับเกียรติตามขั้นตอน,ผู้ได้รับเกียรติและมีทรัพย์
                              กฤษฏิ์ยชญ์กริด-สะ-ยดผู้ให้เกียรติความฉลาด
                              กรัณย์กริชกะ-รัน-กริดผู้แหลมคมในการงาน, ผู้รู้ทั้งสองด้านทางการงาน
                              กรณ์ศรัณย์กอน-สะ-รันผู้เป็นที่พึ่งอันพึงกระทำ
                              กฤศศรัณย์กริด-สะ-รันผู้เป็นที่พึ่งคนจน
                              กรณ์ปรุฬห์กอน-ปะ-รุดผู้เจริญด้วยการสร้าง
                              กฤชญ์พชรฎ์กริด-พะ-ชะ-ระผู้เข้มแข็งที่รู้ในสิ่งที่พึงกระทำ
                              ณกรณ์นะ-กอนผู้อยู่ในการริเริ่ม
                              ปรุฬห์เลิศปะ-รุด-เลิดผู้สุดยอดในความเจริญ
                              กฤษชุกรกริด-ชุ-กอนผู้สร้างเกียรติยศให้เชิดชูด้วยตนเอง
                              กรณัฏฐ์กอ-ระ-นัดผู้สร้างนักปราชญ์, นักปราชญ์ผู้มีความรุ่งเรือง
                              กรศรัณย์ชัยกอน-สะ-รัน-ชัยผู้สร้างชัยชนะอันเป็นที่พึ่ง
                              กรณ์พิรัลกอน-พิ-รันผู้สร้างความงาม
                              กรัรณย์กรกะ-รัน-นะ-กอนผู้สร้างการงาน
                              กมลหิรัณย์กะ-มน-หิ-รันผู้ร่ำรวยเงินทองด้วยหัวใจ
                              กฤษณ์ประจักษ์กริด-ปะ-จักผู้รู้แจ้งจริงดังองค์กฤษณะ
                              พุฒิเศรษฐ์พุด-ทิ-เสดผู้รู้ยิ่งในสิ่งประเสริฐ
                              กัณฑ์คุณัชญ์กัน-คุ-นัดผู้รู้บทตอนแห่งความดี
                              อัครวิชช์อัก-คะ-ระ-วิดผู้มีความรู้เป็นเลิศ
                              กฤษณ์ปัณณ์กริด-สะ-ปันผู้มีความรู้พระกฤษณะ
                              อภิรพัชญ์อะ-พิ-ระ-พัดผู้มีความรู้ที่มีชื่อเสียงยิ่ง
                              กรณ์กรวีร์กอน-กอ-ระ-วีผู้มีความกล้าหาญในการกระทำ
                              พีระพงษ์พี-ระ-พงผู้มีความกล้าหาญแห่งวงศ์ตระกูล
                              กัณฐพัชช์กัน-ถะ-พัดผู้พูดจาเป็นบทตอน
                              เศรษฐสัณห์เสด-ถะ-สันผู้ประเสริฐสุดและเรียบร้อย
                              กฤชปภพกริด-ปะ-พบผู้นำที่เฉียบแหลม
                              พรไพบูลย์พอน-พัย-บูนผู้ที่ได้รับพรอย่างสมบูรณ์
                              กชภณกด-ชะ-พนผู้ชอบพูดเป็นดอกบัว(อ่อนน้อม)
                              กฤษลชากริด-สะ-ละ-ชาปล่อยทิ้งเกียรติยศที่เกิดขึ้น
                              ปุณณ์ปวีณปุน-ปะ-วีนปราชญ์อันประเสริฐ, ผู้เต็มไปด้วยความฉลาดรอบรู้
                              อัคราวิชญ์อัก-ขะ-รา-วิดปราชญ์ผู้เป็นเลิศ
                              พชรกรพะ-ชะ-ระ-กอนบ่อเกิดแห่งเพชร
                              ณัฏฐ์ณรัณนัด-นะ-รันนักปราชญ์ผู้เด่นดังทางความรู้ของตน
                              ศุภณพิชญ์สุ-พน-พิดนักปราชญที่ประเสริฐ
                              เปี่ยมพงศ์เปี่ยม-พงตระกูลแห่งความบริบูรณ์
                              จิรัสย์พงษ์จิ-หรัด-พงตระกูลที่ยืนยงตลอดกาล
                              จิรัสฎ์พงศ์จิ-หรัด-พงตระกูลที่ยืนยงตลอดกาล
                              สฤษฏ์พงศ์สะ-หริด-พงตระกูลของผู้สร้าง
                              กลวชิรกน-วะ-ชิ-ระดูจเพชรที่งดงาม
                              กัญจณ์วริษฐ์กัน-จะ-วะ-ริดชายผู้ประเสริฐยิ่งดั่งทอง
                              ศรัณย์ชัยสะ-รัน-ชัยชัยชนะอันเป็นที่พึ่ง
                              กรชปกรกอน-ชะ-ปะ-กอนคัมภีร์หรือตำราที่สร้างจากมือ

                              ชื่อผู้ชาย ที่เกิดวันศุกร์

                              ชื่อคำอ่านคำแปล
                              นธีทัพพ์นะ-ที-ทับแม่น้ำแห่งทรัพย์สมบัติ
                              คณณัฐ์คะ-นะ-นัดเป็นผู้นำในหมู่นักปราชญ์
                              ธิติพันธ์ทิ-ติ-พันเชื้อสายผู้มีปัญญา
                              ธนินพงษ์ทะ-นิน-พงเชื้อสายผู้มีทรัพย์
                              ศิษฏ์ชนนสิด-ชะ-นนเชื้อสายผู้มีความรู้
                              ทัศนพงษ์ทัด-สะ-นะ-พงเชื้อสายผู้มีความคิด
                              กันดิศพัฒน์กัน-ดิด-สะ-พัดเจ้าแห่งความรักและเจริญ
                              ดนุพัฒน์ดะ-นุ-พัดเจริญรุ่งเรืองด้วยตนเอง
                              นิธิพัฒน์นิ-ทิ-พัดเจริญด้วยขุมทรัพย์
                              อิทธิพัทธ์อิด-ทิ-พัดเกี่ยวเนื่องกับความสำเร็จ, มีความสำเร็จมั่นคง
                              อิทธิ์ศักดิ์อิด-ทะ-สักอำนาจแห่งความสำเร็จ, อำนาจแห่งความเจริญ
                              กันต์นภนต์กัน-นะ-พนสุดขอบฟ้าอันงดงาม
                              กตัญญ์ปัจน์กะ-ตัน-ปัดศัตรูที่กตัญญู
                              กัณฐพัสส์กัน-ถะ-พัดฤดูกาลแห่งฝน,ช่วงแห่งฤดูฝน
                              สิทธิภาคดิ์สิด-ทิ-พากมีความสำเร็จและโชคดี
                              พิมพ์ชนก์พิม-ชนพ่อผู้เป็นแบบอย่าง
                              คาเชนคา-เชนพญาช้าง
                              อคินธันญ์อะ-คิน-ทันผู้ได้รับโชคจากพระอาทิตย์
                              กตนพัตกะ-ตะ-นะ-พัดผู้ได้กระทำสิ่งใหม่,ผู้ได้ริเริ่ม
                              ก้องปณัทฐ์ก้อง-ปะ-นัดผู้ให้ความรู้ยิ่งที่ดังไปไกล
                              ธนศิษฐ์ทะ-นะ-สิดผู้เป็นเลิศในเรื่องทรัพย์
                              ณัฐชานนท์นัด-ถะ-ชา-นนผู้เป็นที่ชื่นชอบที่เกิดมาเป็นปราชญ์
                              กัณฑ์พิพัฒน์กัน-พิ-พัดผู้เจริญยิ่งเป็นบทตอน
                              เกิดชูพันธ์เกิด-ชู-พันผู้เกิดมาเพื่อปกป้องพวกพ้องของตน
                              สัณห์ชนนสัน-ชะ-นนผู้เกิดมาสุภาพ
                              ณัฐนพงษ์นัด-นะ-พงผู้อยู่ในตระกูลของนักปราชญ์
                              อธินชนุตต์อะ-ทิน-ชะ-นุดผู้อยู่สูงสุดที่คนเชื่อฟัง
                              เอกอนันต์เอก-อะ-นันผู้หลากหลายความเป็นหนึ่ง
                              กัณฑ์คุณัชญ์กัน-คุ-นัดผู้รู้บทตอนแห่งความดี
                              ปภัชปะ-พัดผู้รู้จักแยกแยะยิ่ง
                              อธิปพัฒน์อะ-ทิบ-ปะ-พัดผู้รุ่งเรืองอันยิ่งใหญ่
                              เมธานันท์เม-ทา-นันผู้ยินดีในความรอบรู้
                              นิธินนทน์นิ-ทิ-นนผู้ยินดีในขุมทรัพย์
                              พิสิษฐภัคพิ-สิด-ทะ-พักผู้มีโชคที่ดีที่สุด
                              กชชนนกด-ชะ-นนผู้มีเชื้อสายแห่งบัว
                              สุทธิพงษ์สุด-ทิ-พงผู้มีเชื้อสายที่บริสุทธิ์
                              อิทธิเดชอิด-ทิ-เดดผู้มีอำนาจแห่งความเจริญและความสำเร็จ
                              ภามพัฒน์พาม-พัดผู้มีอำนาจอันเจริญ
                              สุขภคินสุ-ขะ-พะ-คินผู้มีสุขสิริมงคล
                              กานต์อนันต์กาน-อะ-นันผู้มีมากมายในความน่ารัก
                              ฐานันทศักดิ์ถา-นัน-ทะ-สักผู้มีฐานะอำนาจที่น่ายินดี
                              ภัสดาพัด-สะ-ดาผู้มีความเป็นสามี
                              ปุณญเกษมปุน-ยะ-กะ-เสมผู้มีความสุขสบายในบุญ
                              ปัญญาศักดิ์ปัน-ยา-สักผู้มีความสามารถ มีอำนาจทางปัญญา
                              ชามินณพัฒน์ชา-มิน-นะ-พัดผู้มีความสมบูรณ์ งอกงามในความรู้
                              กันต์ธีภพกัน-ที-พบผู้มีความยินดีในปัญญา
                              ณัฐพิศุทธิ์นัด-ถะ-พิ-สุดผู้มีความงามดุจนักปราชญ์
                              ศตเนติสะ-ตะ-เน-ติผู้มากด้วยประเพณีอันดีงาม, ผู้มากด้วยกฏหมาย
                              กัณฐพัชช์กัน-ถะ-พัดผู้พูดจาเป็นบทตอน
                              ตั้งชื่อลูก
                              ตั้งชื่อลูก

                              ชื่อผู้ชาย ที่เกิดวันเสาร์

                              ชื่อคำอ่านคำแปล
                              กฤศนภัสส์กริด-สะ-นะ-พัดแสงน้อยๆบนสวรรค์
                              นธีทัพพ์นะ-ที-ทับแม่น้ำแห่งทรัพย์สมบัติ
                              กรองเกียรติ์กอง-เกียดเส้นทางเกียรติยศ
                              ธิติพันธ์ทิ-ติ-พันเชื้อสายผู้มีปัญญา
                              ภัทรพงศ์พัด-ทะ-ระ-พงเชื้อสายตระกูลที่ดีงาม
                              รัชศักดิ์รัด-ชะ-สักอำนาจแห่งพระราชา, พลังแห่งกษัตริย์
                              กฤชกำภูกริด-กัม-พูอาวุธของแผ่นดินที่อยู่ในมือ
                              กัญจนกฤชกัน-จะ-นะ-กริดหลักแหลมดังทองคำ,กริชทองคำ
                              วิธินันท์วิ-ทิ-นันหนทางของความยินดี
                              กันต์นภนต์กัน-นะ-พนสุดขอบฟ้าอันงดงาม
                              กตัญญ์ปัจน์กะ-ตัน-ปัดศัตรูที่กตัญญู
                              ธีร์ดนัยที-ดะ-นัยลูกชายที่เกิดมาเป็นนักปราชญ์
                              กตนพัตกะ-ตะ-นะ-พัดผู้ได้กระทำสิ่งใหม่,ผู้ได้ริเริ่ม
                              กฤชญ์พชรด์กริด-พะ-ชะ-ระผู้เข้มแข็งหรือผู้ขยัน
                              เกิดชูพันธ์เกิด-ชู-พันผู้เกิดมาเพื่อปกป้องพวกพ้องของตน
                              กฤษภพกริด-สะ-พบผู้สร้างแผ่นดิน
                              กฤษชุกรกริด-ชุ-กอนผู้สร้างเกียรติยศให้เชิดชูด้วยตนเอง
                              กฤตธนัทกริด-ทะ-นัดผู้ร่ำรวยจากการกระทำ
                              กฤตย์วรัชญ์กริด-วะ-รัดผู้รู้สิ่งประเสริฐอันมีเกียรติ
                              กสิรวิชญ์กะ-สิ-ระ-วิดผู้รอบรู้ทางเพราะปลูกอย่างยอดเยี่ยม
                              กัญจน์บุรินทร์กัน-จะ-บุ-รินผู้ยิ่งใหญ่แห่งเมืองทองคำ
                              นิธินนทน์นิ-ทิ-นนผู้ยินดีในขุมทรัพย์
                              กฤศรดากริด-สอ-ระ-ดาผู้ยินดีเพียงแต่น้อย
                              กฤตย์ตานนท์กริด-ตา-นนผู้ยินดีหรือผู้มีความสุขในการกระทำ
                              กชชนนกด-ชะ-นนผู้มีเชื้อสายแห่งบัว
                              สุทธิพงษ์สุด-ทิ-พงผู้มีเชื้อสายที่บริสุทธิ์
                              วรศักดิ์วอ-ระ-สักผู้มีอำนาจอันประเสริฐ
                              กชลภนกด-ละ-พนผู้มีลาภดังดอกบัว
                              สุริยันต์สุ-ริ-ยันผู้มีรัศมีอันยิ่งใหญ่ดุจดวงอาทิตย์
                              กานต์อนันต์กาน-อะ-นันผู้มีมากมายในความน่ารัก
                              ปัจนาสย์ปัด-จะ-นาดผู้มีชื่อเหมือนพระศิวะ
                              เกียรติกำจรเกียด-กัม-จอนผู้มีชื่อเสียงเลื่องลือ
                              กันตชาครกัน-ตะ-ชา-คอนผู้มีความเพียรที่น่ารัก
                              ภัสดาพัด-สะ-ดาผู้มีความเป็นสามี
                              กฤษดาวุธกริด-สะ-ดา-วุดผู้มีความสำเร็จเป็นอาวุธ, ผู้มีอภินิหารเป็นอาวุธ
                              กศิรวิชญ์กะ-สิ-ระ-วิดผู้มีความรู้เรื่องศรีษะ, ผู้มีความรู้เต็มหัว
                              อัครวิชช์อัก-คะ-ระ-วิดผู้มีความรู้เป็นเลิศ
                              นิธิวิทย์นิ-ทิ-วิดผู้มีความรู้เป็นขุมทรัพย์
                              อภิรพัชญ์อะ-พิ-ระ-พัดผู้มีความรู้ที่มีชื่อเสียงยิ่ง
                              กันต์ธีภพกัน-ที-พบผู้มีความยินดีในปัญญา
                              สุประวิทย์สุ-ประ-วิดผู้มีความบริสุทธิ์
                              นิธิวัตต์นิ-ทิ-หวัดผู้มีขุมทรัพย์อันประเสริฐ
                              ศตพลสะ-ตะ-พนผู้มีกำลังเป็นร้อย
                              กฤติธัสกริด-ติ-ทัดผู้มีการกระทำในทางสร้างสรรค์อย่างกล้าหาญ
                              กฤตาพันธ์กริด-ตา-พันผู้ผูกพันการกระทำ
                              กัญจนกันต์กัน-จะ-นะ-กันผู้น่ารักดุจทองคำ
                              กฤชปภพกริด-ปะ-พบผู้นำที่เฉียบแหลม
                              พรศิลป์พอน-สินผู้ที่ได้รับพรทางด้านศิลปะ
                              กฤษวัตกริด-สะ-วัดผู้ทำหน้าที่, ผู้กระทำเสร็จสิ้นแล้ว
                              กมนทรรศน์กะ-มน-ทัดผู้ดูมีเสน่ห์

                              อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

                              300+ ชื่อเล่นลูกชาย อัพเดตล่าสุด 2021!! ไม่ซ้ำ ไม่เชย เท่ล้ำไม่เหมือนใคร

                              212 ชื่อเพราะๆ ตั้งชื่อลูกสาวพร้อมความหมาย เป็นมงคล เน้นเสริมดวงอุปถัมภ์

                              272 ชื่อเท่ๆ ลูกชาย ชื่อเล่นแนวๆ ยอดฮิต 2 พยางค์

                              ชื่อเล่นยอดฮิต และเก๋ๆ แบบครบถ้วน ทั้งไทยและอังกฤษ กว่า 500 ชื่อ

                               

                              ขอบคุณข้อมูลจาก : www.79hora.com

                               

                              เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                                ชื่อจีนผู้หญิง

                                50 ชื่อจีนผู้หญิง ตั้งให้ลูกสาวตึ่งหนั่งเกี้ยใช้แล้วเฮงเฮงเฮง!

                                ชื่อจีนผู้หญิง ความหมายดี ๆ เพราะ ๆ สำหรับสาวน้อยตึ่งหนั่งเกี้ย ทั้งหมวยน้อย หมวยใหญ่ เพื่อความเป็นมงคลชีวิตของลูก แถมน่ารักดูเป็นหมวยอินเตอร์ มาลองเลือกกัน

                                50 ชื่อจีนผู้หญิง ตั้งให้ลูกสาวตึ่งหนั่งเกี้ยใช้แล้วเฮงเฮงเฮง!!

                                คุณพ่อคุณแม่ที่อยากจะตั้งชื่อลูกเป็นภาษาจีน เพื่อต้องการแสดงถึงความภูมิใจในความเป็นคนเชื้อสายจีน ต้องการให้ความสำคัญในการแสดงถึงวัฒนธรรมของจีนที่มีมาช้านาน และที่สำคัญเพื่อให้ลูกหลานไม่ลืมถึงความเป็นจีนที่นับว่าเป็นชนชาติที่เป็นเสมือนเมืองพี่เมืองน้องของไทยเรากับความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาอย่างยาวนานนั้น วันนี้ ทีมแม่ ABK ได้ขอเป็นตัวแทนรวบรวมชื่อภาษาจีน ที่ทั้งดี และไพเราะ เป็นมงคลมาฝากันให้คุณพ่อคุณแม่ได้ลองเลือก แม้ว่าจะเป็นภาษาจีน แต่ก็เป็นคำที่คนไทยคุ้นหูกันอยู่ไม่น้อยทีเดียว 

                                โดยส่วนใหญ่เวลาที่เราทราบว่าจะได้ลูกสาว เรามักจะนึกถึงความสวยงาม น่ารัก อ่อนโยน อ่อนหวาน ที่เป็นเหมือนคุณสมบัติของผู้หญิงทุกคน ในภาษาจีนก็มีคำที่มีความหมายเหล่านี้ ทั้งความหมายตรง และความหมายแฝงมากมาย หากชื่อที่จะติดตัวลูกไปมีความหมายที่ดี เหมาะสมกับตัวเอง ใครฟังก็รื่นหู สดชื่น นั่นย่อมทำให้ชีวิตของเขาจะได้ประสบพบเจอแต่สิ่งดี ๆ เฮง ๆ เข้ามาอย่างแน่นอน

                                ชื่อจีนผู้หญิง สำหรับตึ่งหนั่งเกี้ย
                                ชื่อจีนผู้หญิง สำหรับตึ่งหนั่งเกี้ย

                                ลี่ 丽 แปลว่า ความสวยงาม น่ารัก 

                                ความสวยงามเป็นของคู่กันกับผู้หญิงทุกคน อย่างที่รู้ ๆ กันดี ชนชาติจีนมีศาสตร์แห่งความงามที่เลื่องลือไปยังหลายดินแดนตั้งแต่ยุคโบราณมาจนถึงปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นการเขียนคิ้วที่มีเอกลักษณ์ การเดินแบบย่างก้าวด้วยการรัดเท้าให้เล็ก เป็นต้น แน่นอนว่าพวกเค้าย่อมให้ความสำคัญกับความงามของอิสตรีอย่างยิ่งยวด วิถีชีวิตของผู้คนในยุคโบราณเป็นส่วนสำคัญที่ผลักดันให้ผู้หญิงทุ่มเทให้กับการบำรุงรักษาความงามจากหัวจรดเท้า

                                ค่านิยมความงามเหล่านี้ยังสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน  แม้บางสิ่งจะเปลี่ยนแปลงไปบ้าง   ทั้งอารยธรรมที่ทรงอิทธิพลแผ่ขยายไปยังดินแดนต่างๆ   ทั้งความเชื่อ ศาสนา แนวคิดทางการเมือง  ศิลปะ ไปจนถึงค่านิยมความงามของผู้หญิง  ทุกวันนี้ บางประเทศก็ยังยึดมั่นใน beauty standard ที่เหมือนกับชนชาติจีนโบราณไม่มีผิด

                                ตัวอย่างชื่อสาวงามในประวัติศาสตร์จีน

                                ไซซี               มัจฉาจมวารี
                                หวังเจาจวิน   
                                ปักษีตกนภา
                                เตียวเสี้ยน
                                จันทร์หลบโฉมสุดา
                                หยางกุ้ยเฟย  
                                มวลผกาละอายนาง

                                ผศ.ถาวร สิกขโกศล   ผู้เชี่ยวชาญด้านจีนวิทยาชื่อดังผู้แต่งบทกลอน

                                ชื่อจีนผู้หญิงที่ขึ้นต้นว่า “ลี่”

                                คำที่ขึ้นต้นว่าลี่ ที่มีความหมายดี ๆ อยู่ในตัวเองอยู่แล้ว เมื่อนำมาเป็นคำขึ้นต้นชื่อจึงทำให้ได้คำไพเราะ เหมาะกับการตั้งชื่อให้ลูกสาว แถมยังมีความหมายดี ๆ หลากหลายคำ ที่เป็นสิริมงคลแก่ลูก ลองดูตัวอย่างชื่อที่ขึ้นต้นว่า “ลี่” จากตารางข้างล่างได้เลย

                                ชื่อจีนผู้หญิง ที่ขึ้นต้นด้วย "ลี่"
                                ชื่อจีนผู้หญิง ที่ขึ้นต้นด้วย “ลี่”

                                นอกจากคำว่า “ลี่” ที่ฟังดูไพเราะเมื่อเป็นคำไทยแล้ว คำจีนที่ฟังคุ้นหูคนไทยไม่น้อยเลยทีเดียวเห็นจะเป็น “เหลียง” ซึ่งก็เป็นคำที่มีความหมายดีไม่แตกต่างกัน

                                Liáng  –  เหลียง หมายถึง

                                • 良 =  ดี คนดี
                                • 俍 =  ดีงาม
                                • 涼 =  เย็นสบาย
                                • 粱 =  ข้าวพันธุ์ดี

                                  ดอกไม้สวยงาม ความหมายชื่อภาษาจีนที่นิยมตั้ง
                                  ดอกไม้สวยงาม ความหมายชื่อภาษาจีนที่นิยมตั้ง

                                ตัวอย่างชื่อชาวจีนแซ่ “เหลียง”

                                梁芊朦    Liáng qiān méng   เหลียงเชียนเหมิง

                                梁希颜    Liángxīyán   เหลียงซีเหยียน

                                梁欣源    Liángxīnyuán   เหลียงซินเหยียน

                                梁林花    Liánglínhuā   เหลียงหลินฮวา

                                梁思佳    Liángsījiā   เหลียงซือเจีย

                                梁源朔    Liángyuánshuò   เหลียงเหยียนซั่ว

                                梁瑞涵    Liángruìhán   เหลียงรุ่ยหาน

                                梁纡萱    Liáng yū xuān   เหลียง ยวีซวน

                                梁莹莹    Liángyíngyíng   เหลียงอิ๋งอิ๋ง

                                梁真妍    Liáng zhēn yán   เหลียงเจินเหยียน

                                 

                                เจียว 姣 แปลว่า อ่อนช้อย สวยงาม น่ารัก งามเพริศพริ้ง

                                ความงามในแบบจีนนั้น เป็นเช่นไรคงต้องย้อนไปดูประวัติศาสตร์จีน ถึงหญิงงามที่ถูกกล่าวขวัญ เลื่องลือกันหลายนางที่ล้วนแล้วแต่มีเอกลักษณ์ ความงามที่โดดเด่นในแบบของจีน แต่แม้จะมีรูปร่างหน้าตาสะสวยเพียงไร แต่สิ่งที่สำคัญและได้รับการยกย่องเสียยิ่งกว่าความงามภายนอกก็คือหญิงสาวผู้ทรงไว้ซึ่งความสามารถในแบบผู้หญิง และกิริยาที่ดูอ่อนช้อยงดงาม ที่เป็นมากกว่าความงามทั่ว ๆ ไป เช่น ดีดพิณ เขียนพู่กัน งานเย็บปัก เป็นต้น

                                ชื่อจีนผู้หญิงที่ขึ้นต้นว่า “เจียว”

                                ชื่อจีนผู้หญิง ที่ขึ้นต้นว่า “เจียว”

                                ฟาง  แปลว่า หอม กลิ่นหอม / เฟย , 飞 แปลว่า บิน  菲 แปลว่า กลิ่นหอมของต้นหญ้า

                                ความหอม เป็นอีกหนึ่งคุณสมบัติของสาวงาม สมัยก่อนมีคำกล่าวถึง “สาวชาววัง” ว่าไม่ว่าสาว ๆ เหล่านั้นไปที่ใดมักจะทิ้งกลิ่นหอมติดไว้ที่นั้นเสมอ ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นหอมจากเสื้อผ้า เนื้อตัว เส้นผม สาวชาวจีนก็ให้ความสำคัญกับความหอมไม่แพ้กัน โดยมีประวัติความเป็นมาเรื่องการทำ “เครื่องหอม” จากการใช้ดอกไม้ และหญ้าหอมในกวีของ ชวีหยวน กวีผู้ยิ่งใหญ่ในยุคชุนชิวจ้านกว้อ แต่ที่ล้ำสุดๆ ก็คือสมัยเว่ยจิ้น และราชวงศ์เหนือใต้ แม้แต่บรรดาขุนนางก็พรมเสื้อผ้าด้วยน้ำหอม สมัยราชวงศ์ถังเครื่องหอมชนิดต่างๆ ก็ก้าวหน้าถึงขีดสุด มีเครื่องหอมหลากหลายรูปแบบ ภาชนะบรรจุเครื่องหอมก็ประดิดประดอย

                                จากข้อมูลดังกล่าวข้างต้นจึงนับได้ว่า ความหอมเป็นคุณสมบัติความงาม คุณค่าของความเป็นหญิงอีกข้อหนึ่งที่สาว ๆ ต่างใฝ่หา จึงมิใช่เรื่องแปลกที่ชื่อของชาวจีนจะมีความหมายถึง กลิ่นหอม อยู่มากมายหลายคำ

                                ชื่อจีนผู้หญิงที่ขึ้นต้นว่า “ฟาง หรือ เฟย”

                                ชื่อภาษาจีนสำหรับลูกสาวที่ขึ้นต้นด้วย "ฟาง-เฟย"
                                ชื่อภาษาจีนสำหรับลูกสาวที่ขึ้นต้นด้วย “ฟาง-เฟย”

                                หยาง 阳 / 陽 แปลว่า  พระอาทิตย์  /洋 แปลว่า อุดมสมบูรณ์ /玚 / 瑒 แปลว่า เครื่องหยกชนิดหนึ่ง

                                หยาง ที่เป็นส่วนหนึ่งของสัญลักษณ์ลัทธิเต๋า ที่ประกอบไปด้วย หยิน และหยาง อันหมายถึง อำนาจที่มีบทบาทต่อกันของจักรวาลนักปราชญ์ชาวจีนเชื่อว่า หยิน-หยาง เป็นตัวแทนของพลังแห่งจักรวาล ๒ ด้าน เครื่องหมายหยิน และหยางนี้พัฒนามาจากปรากฎการณ์ทางธรรมชาติของจักรวาล

                                • สีดำคือ หยิน หมายถึง ดวงจันทร์ เป็นตัวแทนของการเต็มใจ รับหรือยอมเป็นฝ่ายถูกระทำ เป็นพลังแห่งสตรีเพศ ความเยือกเย็น การหยุดนิ่ง การเคลื่อนลงต่ำ การเก็บรักษา การยับยั้ง
                                • สีขาวคือ หยาง หมายถึง ดวงอาทิตย์ อันเป็นสัญลักษณ์ของพลังแห่งบุรุษเพศ การเคลื่อนไหว ความกระตือรือร้น การเคลื่อนขึ้นไปด้านบน การเจริญเติบโต เจริญรุ่งเรือง ความร้อนแรง

                                ดังนั้น สัญลักษณ์หยิน-หยาง จึงแทนความสมดุลของพลังในจักรวาล หยาง นั้นเปรียบได้กับ ผู้ชาย ส่วนหยินนั้นเป็น หญิง หยางไม่อาจเติบโตขึ้นได้หากปราศจากหยิน และหยินเองก็ไม่อาจให้กำเนิดชีวิตใหม่ได้หากปราศจากหยาง

                                แม้ว่าหยางจะเป็นตัวแทนของชาย แต่ใช่ว่าจะมีชื่อที่ขึ้นต้นด้วย “หยาง” เป็นของผู้ชายเสมอไป คำว่า “หยาง” ที่แฝงอยู่ในชื่อขึ้นต้นของผู้หญิงนั้น มักมีความหมายไปในเชิง เด็ดเดี่ยว แน่วแน่ ลงตัวกันได้กับความงาม

                                ชื่อจีนผู้หญิงที่ขึ้นต้นด้วยคำว่า “หยาง”

                                ชื่อขึ้นต้นด้วยคำว่า "หยาง" ชื่อจีนผู้หญิง
                                ชื่อขึ้นต้นด้วยคำว่า “หยาง” ชื่อจีนผู้หญิง

                                ชื่อ เป็นคำที่ใช้เรียกบุคคล จึงทำให้ผู้คนให้ความสำคัญในการตั้งชื่อ แม้ว่าเราเป็นคนไทย แต่การมีชื่อหลายภาษาก็มิใช่สิ่งที่เสียหายใด ๆ ในโลกแห่งยุคที่ผู้คนเข้าหากันได้ง่ายดายทั่วทุกมุมโลก คุณพ่อคุณแม่ที่ต้องการตั้งชื่อของลูกน้อยให้มีมากกว่าภาษาประจำเมืองเกิด จึงมิใช่เรื่องแปลกแต่อย่างไร ทางทีมแม่หวังว่าตัวอย่างชื่อจีนผู้หญิงที่เราได้หยิบยกมาในวันนี้จะมีส่วนช่วยเหลือให้ท่านได้พบตัวเลือกที่ต้องการ และเหมาะสมกับลูกสาวที่น่ารัก รวมถึงบุคคลที่ต้องการมีชื่อเป็นภาษาจีนให้ได้พบกับชื่อที่เหมาะสม

                                ข้อมูลอ้างอิงจาก www.jeen4u.com/www.silpa-mag.com/www.finearts.go.th/mahavirawongmuseum/www.canva.com

                                อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

                                ชื่อเล่นยอดฮิต และเก๋ๆ แบบครบถ้วน ทั้งไทยและอังกฤษ กว่า 500 ชื่อ

                                ตั้งชื่อเล่นลูก 100 ชื่อเล่นไทยๆ ลูกชาย ลูกสาว เพราะดี มีความหมาย

                                100 ชื่อเท่ๆ เก๋ๆ ไม่ซ้ำไม่เชย อ่านได้ทั้งภาษาอังกฤษและไทย

                                800 ชื่อเล่นลูก ทันสมัย ไม่หลุดเทรนด์ ทั้งลูกสาว-ลูกชาย

                                เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                                  ลูกร้องไห้น้ำตาเป็นเลือด

                                  อุทาหรณ์! ลูกร้องไห้น้ำตาเป็นเลือด เพราะชอบปิดไฟเล่นโทรศัพท์!

                                  ลูกร้องไห้น้ำตาเป็นเลือด – แม้ว่าเทคโนโลยีดิจิตอลจะมีประโยชน์มากมาย แต่ก็ยังมีโทษเสมือนดาบสองคมได้อย่างน่าวิตกหากเราใช้อย่างผิดวิธีและขาดความระมัดระวัง แต่ถ้าเรารู้เท่าทันและปฏิบัติตัวในการใช้เทคโนโลยีให้เหมาะสมก็ย่อมปลอดภัยจากอันตรายต่างๆ ได้

                                  ทุกวันนี้ เมื่อพูดถึงเด็กเล็กๆ กับโทรศัพท์มือถือ พ่อแม่หลายคนคงรู้สึกว่าเป็นสิ่งที่แยกออกจากกันได้ยากพอสมควร เพราะในแต่ละวันคงเป็นเรื่องยากไม่มากก็น้อยที่พ่อแม่จะไม่หยิบจับโทรศัพท์ให้ลูกเห็น หรือ ไม่เปิดดูคลิปต่างๆ ในมือถือให้ลูกเห็นหรือดู อย่างไรก็ตามแพทย์หลายท่านต่างลงความเห็นว่าไม่ควรให้เด็กได้เล่นมือถือจนกว่าจะอายุ 2 ขวบ และหากให้เล่นควรอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของผู้ปกครองอย่างใกล้ชิด ควรจำกัดเวลาให้เป็นกฏระเบียบที่ชัดเจน เนื่องจากการปล่อยเด็กไว้กับโทรศัพท์มือถือนานๆ ไม่ใช่เรื่องที่ดีต่อทั้งพัฒนาการและสุขภาพของเด็ก เพราะอาจทำให้เด็กมีปัญหาด้านพัฒนาการที่ล่าช้า หรือมีปัญหาด้านสายตาได้

                                  อุทาหรณ์! ลูกร้องไห้น้ำตาเป็นเลือด เพราะชอบปิดไฟเล่นโทรศัพท์!

                                  อย่างกรณีที่เราจะพูดถึงในวันนี้ เป็นเรื่องราวของคุณแม่รายหนึ่งที่ได้แชร์เรื่องราวให้เป็นอุทาหรณ์กับคุณแม่ท่านอื่นในกรุ๊ป  โดยคุณแม่ได้แชร์เรื่องที่ลูกชายวัย 4 ขวบ มีปัญหาเกี่ยวกับดวงตา คุณแม่ได้พาน้องไปคลินิคหมอตาเฉพาะทางเนื่องจากมีอาการตาขาวแดง คุณหมอแจ้งว่าอาจจะมีแมลงเข้าตาน้อง แต่แม่ก็ส่องไฟฉายดูทุกวัน ไม่มีอะไร โดยคุณแม่เล่าในโพสต์ว่า

                                  ” แม่ๆ คนไหนมีประสบการณ์น้องตาแดง แล้วร้องไห้น้ำตาเป็นเลือดมั้ยคะ เริ่มแรกเลยน้องตาขาวแดง แม่ก็ไปร้านยาซื้อยาแก้อักเสบให้น้องกินและหยอดตา 3 วันไม่หายแม่ก็พาน้องไปคลินิคหมอตาเฉพาะทาง หมอบอกแมลงอาจจะเข้าตาน้อง ได้ยาฆ่าเชื้อ ยาแก้อักเสบ ยาหยอดตา ยาทาเปลือกตา และหมอบอกประมาณ 2 อาทิตย์ถึงจะหาย ผ่านมาจะอาทิตย์แล้วค่ะ ตาขาวไม่แดงแล้ว แต่เปลือกตาข้างในน้องยังแดงอยู่ วันนี้น้องเล่นแล้วมือพี่เผอิญไปจิ้มตาน้อง น้องร้องไห้น้ำตาไหลเป็นอย่างในภาพเลยค่ะ”
                                  ต่อมาคุณแม่ได้ให้สัมภาษณ์กับทีมงานแม่ ABK ว่า คุณหมอสันนิษฐานว่าสาเหตุอาจเกิดจากการที่น้องชอบเล่นโทรศัพท์ตอนปิดไฟทุกคืน ตาถูกใช้งานหนักในสภาพที่แสงสว่างไม่หมาะสม  ทำให้อาการผิดปกติต่างๆ ของดวงตาได้ เช่น  ตาอักเสบ ตาแห้ง ตาแดง ตาติดเชื้อ เป็นต้น ซึ่งร้องไห้แล้วอาจมีเลือดปนออกมาพร้อมกับน้ำตาได้ ยิ่งถ้าหากดวงตาถูกกระทบกระเทือนเช่น ขยี้แรงๆ หรือมีอะไรจิ้มเข้าที่ตาก็จะยิ่งทำให้มีเลือดออกที่ตาได้ง่ายขึ้น
                                  ลูกร้องไห้น้ำตาเป็นเลือด
                                  ลูกร้องไห้น้ำตาเป็นเลือด
                                  จากกรณีนี้ นับว่าเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ทำให้ต้องกลับมาที่เรื่องการระมัดระวังป้องกันให้เด็กๆ ใช้สื่ออย่างเหมาะสม หากเราไม่สามารถควบคุมให้ลูกปฏิบัติตามก็อาจเกิดกรณีเช่นนี้ขึ้นได้ ทีนี้เรามาดูสาเหตุของการร้องไห้น้ำตาเป็นเลือดในเด็กกันค่ะ ว่าคืออะไร โอกาสเกิดได้มากน้อยแค่ไหน แล้วเราจะสามารถระวังไม่ให้เกิดขึ้นได้อย่างไร

                                  อาการร้องไห้เป็นเลือด (Haemolacria)

                                  ทางการแพทย์ อาการร้องไห้เป็นเลือด หรือ Haemolacria ถือว่าเป็นอาการที่พบได้ไม่บ่อย สามารถเกิดขึ้นได้กับดวงตาทั้ง 2 ข้างพร้อม ๆ กัน หรือเพียงด้านใดด้านหนึ่ง ตาข้างซ้ายหรือข้างขวามีโอกาสเกิดอาการนี้ได้เท่ากันขึ้นอยู่กับสาเหตุ เป็นอาการที่พบได้ในทุกเพศและทุกวัย ซึ่งสาเหตุทั่วไปของอาการนี้ ได้แก่

                                  การบาดเจ็บที่เยื่อบุตา : เยื่อบุตาเป็นเยื่อเนื้อเยื่อใสที่อยู่ด้านบนของตาขาว ซึ่งเป็นส่วนสีขาวของตา ภายในเยื่อบุลูกตาเป็นโครงข่ายของหลอดเลือด บางครั้งการติดเชื้อ การอักเสบ หรือการฉีกขาดอาจทำให้เยื่อบุตามีเลือดออกเนื่องจากหลอดเลือดมีความอุดมสมบูรณ์มาก เลือดเพียงแค่ไหลออกมาและผสมกับน้ำตาทำให้ดูเหมือนกับว่าคนๆ นั้นกำลังสร้างน้ำตาด้วยเลือด

                                  ความผิดปกติของระบบโลหิต : ความผิดปกติของเลือด รวมทั้งผู้ป่วยฮีโมฟีเลีย หรือ โรคเลือดออกง่ายหยุดยากทางพันธุกรรม อาจทำให้เลือดออกมากเกินไปเนื่องจากปัญหาการแข็งตัวของเลือด ผู้ที่เป็นโรคฮีโมฟีเลียอาจมีอาการฟกช้ำหรือมีเลือดออกได้ง่าย หรือมีน้ำตาปนกับเลือด การใช้ยาแอสไพรินหรือเฮปารินอาจเป็นตัวการ สำหรับผู้ป่วยที่มีรอยฟกช้ำหรือมีเลือดออกบ่อยควรได้รับการประเมินโดยแพทย์อายุรกรรม

                                  โรคเนื้องอกเส้นเลือด : หรือโรค ไพโอเจนนิค กรานูโลมา เป็นเนื้องอกที่เป็นพิษเป็นภัย อาจเติบโตบนเยื่อบุลูกตาหรือในถุงน้ำตา ถุงน้ำตาเป็นจุดเชื่อมต่อทั่วไปที่รูระบายน้ำน้ำตาทั้งสองรวมกันเพื่อระบายน้ำตา สามารถเกิดขึ้นได้จากการบาดเจ็บ แมลงกัดต่อย หรือการอักเสบเฉียบพลัน ทำให้มีเลือดออกในตาได้

                                  เลือดกำเดาไหล:  ระบบน้ำตาที่ผลิตและระบายน้ำตาของมนุษย์เชื่อมต่อกับโพรงจมูก เมื่อเรากะพริบตา เปลือกตาของเราจะดันแนวทแยงเล็กน้อยไปทางมุมของดวงตา ซึ่งเป็นตำแหน่งของรอยต่อที่เรียกว่า puncta เป็นรูเล็กๆ ที่น้ำตาจะไหลลงสู่ถุงน้ำตา จากนั้นจึงไหลลงสู่บ่อน้ำตาและเข้าไปในจมูก ซึ่งนี่คือสาเหตุว่าทำไมเราถึงแน่นจมูกเวลาร้องไห้ หากมีเลือดกำเดาไหล มีแรงดันในจมูก หรือบีบจมูก ในขณะที่มีเลือดกำเดาไหล สามารถเลือดไหลย้อนกลับกลับขึ้นไปทางโพรงจมูกได้ และทำให้เลือดไหลย้อนกลับเข้าไปในน้ำตา ทำให้ดูเหมือนว่าน้ำตามีเลือดปน

                                   

                                  ลูกร้องไห้น้ำตาเป็นเลือด

                                  ผลเสียเมื่อเด็กจ้องดูหน้าจอมากเกินไป

                                  ทุกวันนี้เด็กๆ ใช้เวลามากขึ้นกับการจ้องและจิ้มหน้าจอมือถือ อาจรวมถึง คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต ทีวี สมาร์ทโฟน และอุปกรณ์อื่นๆ ซึ่งเวลาอยู่หน้าจอทั้งหมดนั้นส่งผลต่อความเป็นอยู่ที่ดีของเด็ก ซึ่งรวมถึงสุภาพของดวงตาด้วย

                                  ​มีผลการวิจัยที่น่าตกใจ พบว่าในยุคดิจิตัล เด็กๆ เริ่มรู้จักอุปกรณ์สื่อดิจิทัล เช่น แท็บเล็ตหรือสมาร์ทโฟนของพ่อแม่เมื่ออายุน้อยกว่า 6 เดือน จากการศึกษาของวัยรุ่นพบว่า เด็กๆ ใช้เวลาเกือบ 7 ชั่วโมงต่อวันกับสื่อที่มีการฉายภาพยนตร์ ดูทีวี เล่นวิดีโอเกม และใช้โซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าพวกเขากำลังสนุก เด็ก ๆ อาจเล่นและดูจนตาลาย ซึ่งการจ้องหน้าจอเป็นเวลานานโดยไม่หยุดพักอาจทำให้เกิดอาการต่างๆ ได้ เช่น :

                                  ตาเมื่อยล้า : กล้ามเนื้อรอบดวงตาก็เหมือนกับคนอื่นๆ ที่เหนื่อยล้าจากการใช้อย่างต่อเนื่อง การจดจ่ออยู่กับหน้าจอเป็นเวลานานอาจทำให้เกิดปัญหาในการจดจ่อและปวดหัวอยู่ตรงกลางขมับและดวงตา เด็กอาจใช้อุปกรณ์หน้าจอที่มีแสงน้อยเกินในอุดมคติ ทำให้เกิดอาการเมื่อยล้าจากการหรี่ตา

                                  มองเห็นไม่ชัด : การเพ่งมองในระยะเดิมเป็นเวลานานอาจทำให้ระบบโฟกัสของดวงตา กระตุก หรือ “ล็อค” ชั่วคราว  ทำให้การมองเห็นของเด็กพร่ามัวเมื่อละสายตาจากหน้าจอ การศึกษาบางชิ้นยังแนะนำว่าการใช้คอมพิวเตอร์และกิจกรรมในร่มระยะใกล้อื่นๆ อาจกระตุ้นให้เด็กสายตาสั้นเพิ่มขึ้น  ซึ่งการมีเวลาได้ออกไปวิ่งเล่นนอกบ้านมากขึ้นจะช่วยให้เด็กๆ มีการมองเห็นที่ดีขึ้น

                                  ตาแห้ง : จากการศึกษาพบว่าเรากะพริบตาน้อยลงอย่างมากเมื่อเพ่งความสนใจไปที่หน้าจอดิจิตอล ซึ่งอาจทำให้ตาแห้งและระคายเคืองได้ การใช้คอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป และแล็ปท็อปอาจเป็นเรื่องยากสำหรับสายตาของเด็ก ๆ เป็นพิเศษ เนื่องจากโดยปกติแล้วจะอยู่ในตำแหน่งที่สูงกว่าในการมองเห็นหนังสือ เป็นต้น เป็นผลให้เปลือกตาบนมีแนวโน้มที่จะเปิดกว้างขึ้น เร่งการระเหยของน้ำตาของดวงตาและเป็นเหตุให้ตาแห้ง

                                  วิธีช่วยลูก พักสายตาจากหน้าจอ

                                  การจ้องอยู่กับหน้าจอของเด็กๆ เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในช่วงการระบาดของ COVID-19  ทั้งจากการต้องเรียนออนไลน์ หรือการพักเล่นโทรศัพท์มือถือ อย่างไรก็ตามผู้ปกครองควรพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อรักษาสมดุลระหว่างโลกดิจิทัลและโลกแห่งความเป็นจริงสำหรับเด็กๆ วิธีต่อไป

                                  เคลียร์อุปกรณ์ดิจิตอลออกจากห้องนอน : แนะนำให้เด็กไม่นอนกับอุปกรณ์ดิจิตอลในห้องนอน ทั้งทีวี คอมพิวเตอร์ และสมาร์ทโฟน หลีกเลี่ยงการสัมผัสหน้าจอเป็นเวลา 1 ชั่วโมงก่อนเข้านอน การใช้อุปกรณ์ก่อนนอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเล่นวิดีโอเกมหรือรายการที่มีความรุนแรง อาจรบกวนการนอนหลับได้ การศึกษายังชี้ว่าแสงสีฟ้าที่ปล่อยออกมาจากหน้าจออาจทำให้นอนหลับยาก

                                  สนันสนุนให้ลูกออกกำลังกาย : ถ้าเด็กๆ ละจากหน้าจอไปได้ จะช่วยหลีกเลี่ยงปัญหาสายต าและการมองเห็นจากการใช้เวลาอยู่หน้าจอมากเกินไป เด็กอายุ 6 ปีขึ้นไปควรออกกำลังกายอย่างน้อย 60 นาทีในแต่ละวัน การเล่นที่กระฉับกระเฉงถือเป็นการออกกำลังกายที่ดีที่สุดสำหรับเด็กเล็ก การเล่นนอกบ้านอาจเป็น “การออกกำลังกาย” ที่ยอดเยี่ยมสำหรับการมองเห็นของเด็ก โดยทำให้พวกเขามีโอกาสได้โฟกัสในระยะทางที่ต่างกัน และรับแสงแดดธรรมชาติ

                                  กำหนดเวลาพักสายตา :  การพักสายตาจากหน้าจอเป็นเรื่องสำคัญต่อสุขภาพดวงตา โดยเฉพาะช่วงนี้ที่เด็กๆ ต่างต้องเรียนออนไลน์อยู่กับหน้าจอทั้งวัน บางครั้งพ่อแม่อาจไม่ทันสังเกตเห็นอาการเมื่อยล้าของดวงตาของเด็กๆ  ทางที่ดีควรให้ลูกได้ละสายตาจากหน้าจอทุกๆ 20 นาที เพื่อโฟกัสไปที่วัตถุที่อยู่ห่างออกไปอย่างน้อย 20 ฟุต เป็นเวลาอย่างน้อย 20 วินาที เพื่อให้ดวงตาได้ผ่อนคลาย นอกจากนี้ เด็กควรเดินออกจากหน้าจออย่างน้อย 10 นาที ในทุกชั่วโมง

                                  เตือนลูกให้กระพริบตา : งานวิจัยที่ตีพิมพ์ใน The New England Journal of Medicine กล่าวว่าการจ้องคอมพิวเตอร์สามารถลดอัตราการกะพริบตาลงครึ่งหนึ่งและทำให้ตาแห้ง พ่อแม่ควรกระตุ้นให้บุตรหลานพยายามกะพริบตา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อหยุดพักจากหน้าจอ กุมารแพทย์หรือจักษุแพทย์อาจแนะนำให้ใช้ยาหยอดตาที่ให้ความชุ่มชื้นหรือเครื่องทำความชื้นในห้องหากลูกของคุณยังคงมีอาการตาแห้ง

                                  การวางตำแหน่งหน้าจอ :  ตรวจสอบให้แน่ใจว่าหน้าจออยู่ต่ำกว่าระดับสายตาของเด็กเล็กน้อย การที่จออยู่สูงกว่าระดับสายตาขึ้นไปจะทำให้ตาแห้งเร็วขึ้นนอกจากนี้ การปรับขนาดตัวอักษรโดยเฉพาะบนหน้าจอขนาดเล็ก ให้ใหญ่เป็นสองเท่าของที่เด็กอ่านได้อย่างสบายอาจช่วยลดอาการเมื่อยล้าของดวงตาได้

                                  คุมแสงสว่างให้เพียงพอ :  เพื่อลดแสงสะท้อนและความล้าของดวงตาควรดูความเหมาะสมของระดับแสงสว่างในห้องให้เพียงพอ แสงที่ดีไม่ควรสว่างมากไปหรือน้อยไป แสงไฟที่อยู่เหนือศีรษะไม่ควรส่องลงบนหน้าจอโดยตรงเพราะจะทำให้ตาทำงานหนักขึ้น นอกจากนี้ควรลดความสว่างของหน้าจอให้อยู่ในระดับที่ดูสบายตายิ่งขึ้น ในกรณีถ้าเด็กต้องใช้หน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นประจำ แว่นตาแบบพิเศษที่มีเลนส์เคลือบป้องกันแสงสะท้อนจะช่วยถนอมสายตาให้เด็กได้ นอกจากนี้ แผ่นกรองแสงหน้าจอก็เป็นตัวเลือกที่ดีในการปกป้องดวงตาจากรังสีและแสงสะท้อนจากหน้าจอได้ เช่นกัน

                                  สุขภาพดวงตาของเด็กๆ เป็นเรื่องที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรมองข้าม เพราะดวงตา คือ อวัยวะสำคัญที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก เมื่อเราให้เหตุผลกับลูกๆ ในจำกัดการใช้หน้าจอ หรือสอนแนวทางปฏิบัติต่างๆ ให้ลูกปลอดภัยจากการใช้สายตา และใช้งานหน้าจอได้อย่างเหมาะสมเพื่อไม่ให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพ จะช่วยเสริมสร้างให้เด็กๆ เกิดทักษะความฉลาดที่รอบด้าน ด้วย Power BQ ในด้าน ความฉลาดต่อการมีสุขภาพที่ดี  (HQ) ซึ่งเป็นทักษะที่สำคัญอย่างยิ่งในยุคนี้ค่ะ

                                  ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก : Natkamol Hanchampa , eyewiki.aao.org , verywellhealth.com , healthychildren.org

                                  บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

                                  10 ปัญหา โรคตาเด็ก ที่พบได้บ่อย พร้อมวิธีรักษา

                                  ทารกชอบขยี้ตา ลูกชอบถูหน้าตัวเอง เป็นเพราะอะไร?

                                  โรคตาแดง อาการเป็นอย่างไร?

                                  เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                                   

                                    เงินเยียวยาโควิด

                                    เช็กสิทธิรับ เงินเยียวยาโควิด ม.33 ม.39-40 ต้องทำยังไง ได้เงินวันไหน?

                                    เงินเยียวยาโควิด – อัพเดท มาตรการเยียวยาของรัฐบาล สำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่สีแดงเข้ม หรือพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 10 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี นครปฐ  ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร นราธิวาส ปัตตานี ยะลา สงขลา และ ล่าสุดประกาศเพิ่มอีก 3 จังหวัด ได้แก่ ชลบุรี ฉะเชิงเทรา และพระนครศรีอยุธยา รวมทั้งหมด 13 จังหวัด ที่ได้รับผลกระทบจากการล็อคดาวน์สถานการณ์โควิด-19  จาก 9 กลุ่มอาชีพ ได้แก่

                                    • ที่พักแรมและบริการด้านอาหาร
                                    • การขนส่งและสถานที่เก็บสินค้า
                                    • การขายส่งและการขายปลีก การซ่อมยานยนต์
                                    • กิจกรรมการบริหารและบริการสนับสนุน
                                    • กิจกรรมวิชาชีพ วิทยาศาสตร์และกิจกรรมทางวิชาการ
                                    • ข้อมูลข่าวสารและการสื่อสาร
                                    • การก่อสร้าง
                                    • กิจกรรมการบริการด้านอื่นๆ
                                    • ศิลปะ ความบันเทิงและนันทนาการ

                                    เช็กสิทธิรับ เงินเยียวยาโควิด ม.33 ม.39-40 ต้องทำยังไง ได้เงินวันไหน?

                                    โดย รัฐบาลกำหนดวันรับเงินเยียวยา 2,500 – 5,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท ซึ่งแบ่งเป็นรายละเอียดในการรับเงินดังนี้

                                    • กลุ่มลูกจ้าง ม.33 ได้รับเงินเยียวยา 2,500 บาท และลูกจ้างที่ตกงาน จ่ายชดเชยให้ 50 % ของค่าจ้างสูงสุดไม่เกิน 7,500 บาท เริ่มโอนเงิน 6 ส.ค. นี้ แต่สำหรับลูกจ้างใน 3 จังหวัดที่รัฐประกาศเพิ่ม ได้แก่ ชลบุรี ฉะเชิงเทรา และพระนครศรีอยุธยา จะได้รับโอนเงินหลังจากวันที่ 6 ส.ค. เป็นต้นไป
                                    • กลุ่มนายจ้าง ม.33 ได้รับเงินเยียวยา 3,000 บาท/ลูกจ้าง 1 คน สูงสุดไม่เกิน 200 คน เริ่มโอนเงิน 6 ส.ค. นี้
                                    • กลุ่ม ม.39 และ 40 ที่เป็นกลุ่มฟรีแลนซ์และอาชีพอิสระ ได้รับเงินเยียวยา 5,000 บาท  ต้องลงทะเบียนภายในเดือน ก.ค.นี้ เมื่อมีการลงทะเบียนครบแล้วคาดว่าจะเริ่มโอนเงินได้หลังจากวันที่ 6 ส.ค. เป็นต้นไป

                                    * สำหรับลูกจ้าง และนายจ้าง ม.33 ที่ไม่ได้อยู่ใน 9 กลุ่มอาชีพที่ได้รับผลกระทบที่รัฐบาลประกาศ จะไม่เข้าเกณฑ์ในการได้รับเงินเยียวยา

                                    เงินเยียวยาโควิด
                                    เงินเยียวยาโควิด

                                    รายละเอียด ลูกจ้าง แรงงาน ม.33 (ว่างงานด้วยเหตุสุดวิสัย จากการปิดกิจการชั่วคราว)

                                    สำหรับลูกจ้าง แรงงาน ที่อยู่ในระบบประกันสังคม มาตรา 33  ที่ว่างงานด้วยเหตุสุดวิสัยจากการปิดกิจการชั่วคราวจะได้รับเงินอัตโนมัติผ่านพร้อมเพย์ที่ผูกไว้กับบัตรประชาชน จะได้รับเงินชดเชยการว่างงานกรณีว่างงานจากเหตุสุดวิสัย 50 % ของรายได้ แต่ไม่เกิน 7,500 บาท แต่ในกรณีที่นายจ้างยินดีจ่ายค่าจ้างเต็มจำนวนจะรับเงินเยียวยาก้อนนี้ไม่ได้ แต่นายจ้างหรือเจ้าของกิจการต้องไปลงทะเบียนผ่านระบบ E- service ของกระทรวงแรงงาน แจ้งลงทะเบียนว่าต้องหยุดกิจการ โดยลูกจ้างต้องกรอกแบบฟอร์ม ชื่อ ข้อมูลส่วนตัวและบัญชีธนาคาร รวบรวมผ่านนายจ้างให้นายจ้างนำไปยื่นแก่สำนักงานประกันสังคมผ่าน e- service

                                    รายละเอียด ลูกจ้าง ม.33 (ที่ไม่โดนหยุดกิจการ แต่อยู่ใน 9 กลุ่มอาชีพที่ได้รับผลกระทบ)

                                    สำหรับลูกจ้างสัญชาตไทยทุกคน ที่อยู่ในระบบประกันสังคม มาตรา 33  ใน 9 กลุ่มอาชีพที่ได้รับผลกระทบ จะได้รับเงินเยียวยา คนละ 2,500 บาท (1เดือน) สำหรับ 10 จังหวัดแรก (กทม. ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร นครปฐม นนทบุรี ปัตตานี ยะลา นราธิวาส สงขลา ) จะได้รับเงินอัตโนมัติผ่านพร้อมเพย์ที่ผูกไว้กับบัตรประชาชน ตั้งแต่วันที่ 6 ส.ค. 64 เป็นต้นไป สำหรับอีก 3 จังหวัด (ชลบุรี ฉะเชิงเทรา พระนครศรีอยุธยา) ที่ครม.เพิ่งอนุมัติ จะได้รับเยียวยา 2,500 บาท ในวันที่ 15 ส.ค. 64 โดยประมาณ ผ่านพร้อมเพย์ที่ผูกไว้กับบัตรประชาชน

                                    เงินเยียวยาโควิด

                                    รายละเอียด นายจ้าง ม.33 (ใน 9 กลุ่มอาชีพที่ได้รับผลกระทบ)

                                    สำหรับนายจ้าง ในระบบประกันสังคม มาตรา 33 ใน 9 กลุ่มกิจการ ในพื้นที่ล็อกดาวน์ จะได้รับเงินเยียวยา 3,000 บาท ต่อลูกจ้าง 1 คน แต่ไม่เกิน 200 คน
                                    สำหรับนายจ้างมาตรา 33 ใน 10 จังหวัดแรก (กทม. ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร นครปฐม นนทบุรี ปัตตานี ยะลา นราธิวาส สงขลา )  ได้เยียวยาเข้าบัญชี วันที่ 6 ส.ค. 64  แต่สำหรับนายจ้างมาตรา 33 ใน 3 จังหวัด  (ชลบุรี ฉะเชิงเทรา พระนครศรีอยุธยา) ที่ครม.เพิ่งอนุมัติ จะได้รับเงินเยียวยาเข้าบัญชี วันที่ 15 ส.ค. 64 โดยประมาณ

                                    มาตรา 33 ทั้งลูกจ้าง นายจ้าง ตรวจสอบสิทธิออนไลน์ คลิก >> https://www.sso.go.th/eform_news/

                                    รายละเอียด อาชีพอิสระ ฟรีแลนซ์ ม. 39-40 

                                    กลุ่มผู้ประกันตนมาตรา 39 มาตรา 40 กลุ่มอาชีพอิสระ ฟรีแลนซ์ ที่อยู่ในกลุ่ม 9 กิจการอาชีพ และยังประกอบอาชีพ ในพื้นที่ 13 จังหวัด จะได้รับเงินเยียวยา คนละ 5,000 บาท (1เดือน) โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้

                                    • มาตรา 39  หรือ ผู้ที่เคยเป็นพนักงานเอกชนแล้วลาออก โดยมีเงื่อนไขว่าจะต้องเคยเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 ที่ส่งเงินสมทบไม่น้อยกว่า 12 เดือน ลาออกจากงานไม่เกิน 6 เดือน  นับตั้งแต่วันที่ลาออกจากงาน หากว่างงานเกิน 6 เดือน หรือไม่มีการยื่นเรื่องขอปลี่ยนมาตรา จาก ม.33 เป็น ม.39 ภายใน 6 เดือนหลังจากลาออก จะไม่สามารถเข้าสู่ระบบได้ โดยผู้ที่อยู่ในมาตรา 39 แล้ว จะได้รับเงินโอนอัตโนมัติผ่านพร้อมเพย์ที่ผูกไว้กับบัตรประชาชนหลังวันที่ 6 ส.ค. เป็นต้นไป
                                    • มาตรา 40 หรือ ผู้ประกอบอาชีพอิสระ  สำหรับผู้ที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนเข้าระบบประกันสังคม มาตรา 40 สามารถลงทะเบียนเป็นผู้ประกันได้ที่ https://www.sso.go.th/section40_regist/  ภายในเดือน ก.ค. 64 เท่านั้น และจะได้รับเงินอัตโนมัติผ่านพร้อมเพย์ที่ผูกไว้กับบัตรประชาชน หลังวันที่ 6 ส.ค. เป็นต้นไป

                                    * สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนสมัครมาตรา 40 ที่ถือบัตรทอง บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ บัตรคนจน หรือสวัสดิการแห่งรัฐต่าง ๆ เมื่อสมัครเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 แล้วจะไม่มีผลกระทบกับสิทธิเดิมต่างๆ  โดยสามารถใช้สิทธิการรักษาพยาบาลร่วมกับบัตรทอง และสวัสดิการแห่งรัฐต่างๆ ที่เคยได้รับได้เหมือนเดิม แต่สิทธิประโยชน์ที่ได้เพิ่ม คือ มีสิทธิได้รับเงินทดแทนจากการขาดรายได้เมื่อเจ็บป่วย หรือสิทธิประโยชน์กรณีเสียชีวิต ได้รับค่าทำศพ 50,000 บาท จากสำนักงานประกันสังคม เป็นต้น 

                                    ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก : mgronline.com , bangkokbiznews.com , prachachat.net , today.line.me

                                    บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

                                    รวมคำถามพบบ่อย คนท้องกับโควิด โดยคุณหมอโอฬาริก

                                    แนวทางปฏิบัติตัวช่วงโควิด สำหรับ คนท้อง แม่หลังคลอด ทารกแรกเกิด

                                    วิธีเช็กความ เสี่ยงติดโควิด-19 อาการแบบไหนต้องรีบไปตรวจหาเชื้อ

                                    เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่