Page 108 – AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

ผู้ชายติดโควิด

แพทย์เผย! ผู้ชายติดโควิด เสี่ยงเซ็กส์เสื่อมกว่าเดิม 6 เท่า!

ผู้ชายติดโควิด – เหมือนว่าเมื่อเวลาผ่านไป จะมีข้อมูลเชิงลึกใหม่ๆ เกี่ยวกับโคโรนาไวรัสเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ นั่นเป็นเพราะว่าหลังจากการระบาดใหญ่ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ในหลายประเทศต่างทำการศึกษาเกี่ยวกับผลกระทบระยะยาวของไวรัส โดยการวิจัยมากมายแสดงความกระจ่างเกี่ยวกับผลกระทบของไวรัสต่อร่างกายของมนุษย์โดยรวม แต่ล่าสุดจากผลการวิจัยเผยว่าสุขภาพทางเพศ และอนามัยการเจริญพันธุ์ของผู้ชายอาจได้รับผลกระทบในระยะยาวจากไวรัสร้ายตัวนี้ด้วย

แพทย์เผย! ผู้ชายติดโควิด เสี่ยงเซ็กส์เสื่อมกว่าเดิม 6 เท่า!

เว็บไซต์ webmd.com มีการเปิดเผยผลวิจัย ของนักวิจัยในอิตาลี นำโดย ศาสตราจารย์เอ็มมานูเอลเล่ เอ. ยานนีนี ผู้เชี่ยวชาญด้านต่อมไร้ท่อและการแพทย์ด้านเพศวิทยา มหาวิทยาลัยโรม ทอร์เวอร์กาต้า กรุงโรม ประเทศอิตาลี โดยงานวิจัยได้ตีพิมพ์ในวารสารแอนโดรโลยี (Andrology) ระบุว่า ผู้ชายที่ติดเชื้อโควิด-19 มีความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาหย่อนสมรรถภาพทางเพศ หรือโรคอีดี (Erectile dysfunction) ซึ่งเป็นโรคที่ทำให้อวัยวะเพศชายไม่สามารถแข็งตัวพอที่จะมีสัมพันธ์ทางเพศได้

งานวิจัยดังกล่าวได้ทำการสำรวจผ่านทางระบบออนไลน์ Sex@COVID ในประเทศอิตาลี ระหว่างวันที่ 7 เมษายน ถึงวันที่ 4 พฤษภาคม 2563 โดยมีผู้เข้าร่วมทำแบบสอบถามจำนวน 6,821 คน อายุ 18 ปีขึ้นไป แบ่งเป็นชาย 2,644 คน หญิง 4,177 คน

โดยผลการวิจัยพบว่ามีชายที่เคยติดเชื้อโควิด-19 มีลักษณะแสดงอาการของโรคอีดี มากถึง 28 เปอร์เซ็นต์ โดยมากกว่า ผู้ที่ไม่เคยมีประวัติติดเชื้อโควิด-19 ที่มีอาการของโรคซึ่งพบอยู่เพียง 9.33 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการติดเชื้อโควิดทำให้เสี่ยงต่อการมีภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศเกือบ 6 เท่า โดยคำนวณตัวเลขออกมาได้ที่  5.66 เท่าด้วยกัน

ผู้ชายติดโควิด
ผู้ชายติดโควิด

สำหรับตัวเลขเบื้องต้นยังชี้ให้เห็นว่า ผู้ที่มีอาการของโรคอีดี อาจมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อโควิด-19 ได้มากกว่าคนทั่วไป โดยมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นถึงเกือบ 5 เท่า ทั้งนี้ นักวิจัยระบุว่าผู้ที่เคยมีอาการอีดีหรืออาการทรุดลง ควรทำการกักตัวและตรวจหาเชื้อโควิด-19 เพื่อความปลอดภัย โดยมีการตั้งสมมุติฐานว่า ไวรัสโควิด-19 อาจเป็นตัวการที่กระตุ้นให้เกิดการหย่อนสมรรถภาพทางเพศหรือทำให้อาการแย่ลง

นอกจากนี้ยังมีนักวิจัย ในสหรัฐอเมริกานำทีมโดย ดร.ไรอัน เบิร์กลุน แพทย์ผู้ชำนาญด้านระบบทางเดินปัสสาวะ กำลังร่วมมือทำการศึกษาว่าการรอดชีวิตจาก COVID-19 อาจเกี่ยวข้องกับภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ การวิจัยชี้ให้เห็นถึงปัจจัยสามประการที่สามารถนำไปสู่การเริ่มมีอาการ ED หรือสมรรถภาพทางเพศเสื่อมในผู้ชายที่ติดเชื้อไวรัส ได้มีดังต่อไปนี้

1. ผลกระทบของหลอดเลือด

สมรรถภาพทางเพศเป็นตัวทำนายของโรคหัวใจ ดังนั้นเราจึงรู้ว่าระบบหลอดเลือดและระบบสืบพันธุ์เชื่อมต่อกัน เราทราบด้วยว่าโควิด-19 ทำให้เกิดการอักเสบได้มากทั่วร่างกาย โดยเฉพาะในหัวใจและกล้ามเนื้อรอบข้าง ปริมาณเลือดที่ไปเลี้ยงองคชาตอาจอุดตันหรือแคบลงอันเป็นผลมาจากสภาพของหลอดเลือดใหม่หรือแย่ลงซึ่งเกิดจากไวรัส

2. ผลกระทบทางจิตใจ

กิจกรรมทางเพศสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับสุขภาพจิต ความเครียด ความวิตกกังวล และภาวะซึมเศร้าที่เกิดจากไวรัสและการระบาดใหญ่อาจเชื่อมโยงกับการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศและอารมณ์ไม่ดี

3. สุขภาพโดยรวมเสื่อมโทรม

อีดี มักเป็นอาการของปัญหาพื้นฐาน ผู้ชายที่มีสุขภาพไม่ดี มีความเสี่ยงมากขึ้นในการพัฒนาอาการของภาวะอีดีและมีปฏิกิริยารุนแรงต่อ COVID-19 เนื่องจากไวรัสสามารถก่อให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพได้มากมาย สุขภาพที่ไม่ดีโดยทั่วไป จึงเป็นสาเหตุสำคัญของความกังวลเกี่ยวกับอีดี และภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ

“การหย่อนสมรรถภาพทางเพศอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงสุขภาพโดยรวม” ดร.ไรอัน เบิร์กลุน อธิบาย

“โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่อายุน้อยและมีสุขภาพดี ซึ่งพัฒนาภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศอย่างกะทันหัน และโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากมี COVID-19 นี่อาจเป็นสัญญาณของบางสิ่งที่ร้ายแรงกว่านั้นเกิดขึ้น”

อีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการวิจัยคือความเสียหายของลูกอัณฑะที่อาจเกิดขึ้นหลังการติดเชื้อ COVID-19 ยังเร็วเกินไปที่จะบอกว่าความเสียหายนั้นเป็นแบบถาวร ชั่วคราว หรืออาจส่งผลต่อภาวะเจริญพันธุ์ ซึ่งอายุยังเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณา เนื่องจากเป็นปัจจัยเสี่ยงในการพัฒนาทั้งภาวะ ED และกรณีที่รุนแรงของ COVID-19

ผู้ชายติดโควิด

“มีการศึกษาที่แสดงให้เห็นว่าอาจมีผลต่อระบบหัวใจ และหลอดเลือดและผลทางการแพทย์อื่นๆ ที่เกิดจากโควิด-19 แต่คำตอบก็คือ ยังเร็วเกินไปที่จะบอกว่าผลกระทบระยะยาวทั้งหมดคืออะไร” ดร.เบิร์กลุนด์ กล่าว “เราทราบดีว่าไวรัสสามารถทำให้เกิดภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศได้หลายวิธี แต่จำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมอีกมาก ก่อนที่เราจะทราบผลได้อย่างแน่นอน”

เรายังคงเรียนรู้เกี่ยวกับความเสียหายระยะยาวที่ไวรัสสามารถก่อขึ้นได้ ดร.เบิร์กลันด์กล่าวว่า เราเพิ่งเริ่มเข้าใจถึงภาวะแทรกซ้อนในระยะยาวที่ไวรัสสามารถทำให้เกิดได้ ซึ่งรวมถึง ลิ่มเลือด ปัญหาเกี่ยวกับระบบประสาท ความเสียหายต่อหัวใจ ปอด ไต และตอนนี้ ผลเสียต่อสุขภาพทางเพศและการเจริญพันธุ์ของผู้ชาย ผู้ป่วยจำนวนมากยังต้องทนทุกข์ทรมานกับอาการเป็นเวลาหลายเดือน แม้ว่าจะมีสุขภาพที่แข็งแรงดีมาก่อนก็ตาม

“การศึกษาครั้งนี้เป็นอีกตัวอย่างที่สำคัญของการไม่รู้ถึงผลกระทบระยะยาวของไวรัสเพียงพอ” ดร. เบิร์กลุนด์กล่าว “ต้องใช้เวลาและการวิจัยมากขึ้นจนกว่าเราจะมีความเข้าใจที่ดีขึ้น” ด้วยเหตุนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญมากที่จะต้องปฏิบัติตามแนวทางด้านความปลอดภัย รับการฉีดวัคซีนเมื่อคุณมีคุณสมบัติเหมาะสมเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส และปกป้องคนรอบข้าง

ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก : webmd.com , health.clevelandclinic.org

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ผู้เชี่ยวชาญคาด อนาคตโควิดจะกลายเป็น โรคระบาดในเด็กเล็ก

งานวิจัยชี้! เด็กป่วยโควิด ส่วนใหญ่หายเป็นปกติได้ภายในหนึ่งสัปดาห์

แม่แชร์ เมื่อลูกติดโควิด! วิธีรักษา Home Isolation เด็ก

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

    ตรวจสุขภาพ

    เด็กแต่ละวัย แรกเกิด-6 ปี ควร “ตรวจสุขภาพ” อะไรบ้าง?

    นับตั้งแต่วินาทีแรกที่ลูกน้อยคลอดออกมา คุณหมอตรวจอะไรบ้าง และเด็กแต่ละวัยควรได้รับการ “ตรวจสุขภาพ” ด้านไหน ช่วงไหนบ้าง? คุณหมอแป๊กกี้ เจ้าของเพจ Dr.Pakky หม่ามี้หมอเด็ก ได้สรุปข้อมูลการตรวจสุขภาพที่จำเป็นของเด็กแต่ละวัย ตั้งแต่แรกเกิด-6 ปีไว้ดังนี้

    ตรวจสุขภาพ เด็กแรกเกิด ดูอะไรบ้าง?

    1. ตรวจความสมบูรณ์ทั่วไปของอวัยวะภายนอก

    น้ำหนัก ความยาว เส้นรอบศีรษะ เท้า ขา ข้อสะโพก เสียงปอด เสียงหัวใจ

    2. ตรวจการได้ยิน

    (ไม่ได้ตรวจทุกคนแต่ถ้าอยู่ในที่ที่สามารถตรวจการได้ยินได้ควรตรวจค่ะ) เนื่องจากในเด็กปกติจะพบมีความผิดปกติของการได้ยินได้ 1-2 คนต่อเด็ก 1000 คน

    ที่แนะนำควรตรวจในกลุ่มเสี่ยงคือ

    • ตอนตั้งครรภ์ คุณแม่มีประวัติติดเชื้อไวรัส เช่น หัด ซีเอ็มวี เริม
    • มีประวัติบกพร่องทางการได้ยินในครอบครัว
    • มีความผิดปกติของรูปศีรษะ รูปหู มีติ่งหรือรูหน้าหู
    • หลังคลอดเด็กอยู่ ICU แล้วมีการใส่เครื่องช่วยหายใจ
    • มีประวัติให้ยาบางตัวที่มีพิษต่อหู
    • เด็กตัวเหลืองมากจนถึงต้องถ่ายเลือด

    3. ตรวจเลือดคัดกรองภาวะพร่องฮอร์โมนไทรอยด์และโรค PKU

    2 โรคนี้ต้องตรวจทุกคนค่ะ ทุกรพ.จะตรวจเลือดให้ก่อนลูกกลับบ้านอยู่แล้วค่ะ

    4. ตรวจตา

    (ไม่ได้ทำทุกคน) แต่แนะนำตรวจในกลุ่มเสี่ยง เช่น คลอดก่อนกำหนด หรือมีโรคทางพันธุกรรมที่มีผลต่อตา

    ตรวจสุขภาพเด็ก อายุ 9-12 เดือน

    ตรวจสุขภาพทารก

    1. ตรวจความสมบูรณ์ทั่วไป

    น้ำหนัก ความยาว เส้นรอบศีรษะ เท้า ขา เสียงปอด เสียงหัวใจ

    2. ตรวจคัดกรองพัฒนาการ, ออทิสติก

    3. ตรวจเลือดคัดกรองภาวะซีดโลหิตจาง

    4. ตรวจเลือดหาภูมิคุ้มกันไวรัสตับอักเสบบี

    เฉพาะเคสกรณีแม่เป็นพาหะไวรัสตับอักเสบบี เนื่องจากมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อได้และถึงแม้จะได้รับวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบีครบแล้ว ก็มีโอกาส 4 % ที่ภูมิคุ้มกันไม่ขึ้นและต้องฉีดวัคซีนอีกรอบค่ะ

    5. ตรวจเลือดคัดกรองภาวะตะกั่วเกิน (ตรวจอายุ 9 เดือน-2 ปี)

    ตรวจเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง เช่น อาศัยอยู่ในเขตอุตสาหกรรม, ในครอบครัวมีการทำอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับตะกั่ว เช่น เครื่องประดับ ช่างประปา สี เครื่องยนต์ หลอมตะกั่ว กระสุน

    6. ตรวจฟันโดยหมอฟัน

    โดยทั่วไปแนะนำเมื่ออายุ 1 ปี ค่ะ

    ตรวจสุขภาพเด็ก อายุ 1-3 ปี

    การตรวจสุขภาพเด็กในช่วงวัยนี้จะเป็นการตรวจน้ำหนัก ส่วนสูง และพัฒนาการทั่วไป

    ตรวจสุขภาพเด็ก อายุ 3-6 ปี ดูอะไรบ้าง?

    ตรวจสุขภาพเด็ก

    1. ตรวจความสมบูรณ์ทั่วไป

    น้ำหนัก ความยาว เส้นรอบศีรษะ ขา เท้า เสียงปอด เสียงหัวใจ

    2. ตรวจคัดกรองพัฒนาการ

    เรื่องกล้ามเนื้อมัดใหญ่ กล้ามเนื้อมัดเล็ก การเรียนรู้ สมาธิ

    3. ตรวจวัดความดันโลหิต

    เนื่องจากเราสามารถพบภาวะความดันโลหิตสูงในเด็กได้ 1.4-6 % โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง เช่น คลอดก่อนกำหนด , โรคหัวใจแต่กำเนิด , มีติดเชื้อทางเดินปัสสาวะบ่อยๆ , มีประวัติโรคไตในครอบครัว

    4. ตรวจตา

    ถ้าเป็นไปได้ แนะนำตรวจกับคุณหมอตาเด็กเมื่ออายุ 4-6 ปี แม้ไม่มีอาการอะไร คุณหมอตาจะตรวจหาภาวะตาขี้เกียจ ซึ่งพบได้ 2-4% ของเด็ก ตรวจค่าสายตา ตรวจการเห็นสี กล้ามเนื้อตา แต่ถ้ามีอาการผิดปกติ เช่น กะพริบตาบ่อยๆ หยีตาเวลามอง เอียงหัวเวลามอง ควรไปตรวจเลยค่ะ

    5. ตรวจฟัน เป็นประจำทุกปี

     

    ด้วยรัก หมอแป๊กกี้ พญ.ฐิติมา คุรุพงศ์

    #ดีดีคิดส์คลินิก #คลินิกเด็กศรีราชา

    ที่มา : guideline in health supervision ราชวิทยาลัยกุมารแห่งประเทศไทย

     

    เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

     


    Heatlh Quotient ฉลาดดูแลสุขภาพ หนึ่งใน Power BQ 10 ความฉลาดที่เด็กยุคใหม่ควรมี เริ่มต้นที่คุณพ่อคุณแม่ เตรียมพร้อมในการดูแลรักษาสุขภาพลูกน้อย และทุกคนในครอบครัว รวมถึง สอนให้ลูกน้อยรู้จักดูแลรักษาสุขภาพตนเอง เพราะร่างกายที่แข็งแรงเป็นต้นทุนชีวิตที่ดี สู่การเรียนรู้สิ่งต่างๆอย่างมีประสิทธิภาพ


    ติดตามเรื่องราวน่ารู้ และมุมมองในการดูแลเด็ก กับคุณหมอแป๊กกี้

    ได้ที่เพจ Dr.pakky หม่ามี้หมอเด็ก

    หมอแป๊กกี้

     

    บทความที่น่าสนใจอื่นๆ

    สมุดบันทึกสุขภาพแม่และเด็ก มีความสำคัญอย่างไร?

    รวม 20 อาการต้องสงสัย ลูกไม่สบาย แบบนี้..! กำลังป่วยเป็นโรคอะไร?

    อาการหนาวสั่นหลังคลอดลูก เกิดจากอะไร?

      วัคซีนไข้หวัดใหญ่

      7 กลุ่มเสี่ยง ฉีด วัคซีนไข้หวัดใหญ่ ฟรี! ฉีดที่ไหน เช็คเลย!

      ในช่วงโรคโควิดระบาด การฉีด วัคซีนไข้หวัดใหญ่ จะช่วยลดความเสี่ยงให้มีอาการรุนแรง หรือมีภาวะแทรกซ้อนเพิ่มขึ้น เพราะผู้ป่วยอาจติดเชื้อทั้ง 2 ชนิดพร้อมกันได้ กรมควบคุมโรคจึงเชิญชวนประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง เข้ารับบริการฉีด วัคซีนไข้หวัดใหญ่ ฟรี ตามรายละเอียดดังต่อไปนี้

      7 กลุ่มเสี่ยง ฉีด วัคซีนไข้หวัดใหญ่ ฟรี! ฉีดที่ไหน เช็คเลย!

      โรคไข้หวัดใหญ่และโรคโควิด-19 เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส สามารถติดต่อระหว่างคนสู่คนผ่านทางการสัมผัสละอองฝอยของระบบทางเดินหายใจได้ โดยผู้ป่วยอาจไม่มีอาการ ไปจนถึงมีอาการติดเชื้อของระบบทางเดินหายใจส่วนบน หรือเกิดภาวะปอดอักเสบซึ่งนำไปสู่การเสียชีวิตได้

      ในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 มีความเสี่ยงที่ผู้ป่วยจะติดเชื้อโรคทั้ง 2 ชนิดร่วมกันได้ ซึ่งอาจส่งผลให้มีอาการรุนแรง หรือมีภาวะแทรกซ้อนเพิ่มขึ้นได้ ทีมแม่ ABK จึงขอนำข่าวจาก เพจไทยคู่ฟ้า ที่ได้เผยว่า

      กรมควบคุมโรค เชิญชวนประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง เข้ารับบริการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ฟรี ที่สถานบริการสาธารณสุขของรัฐใกล้บ้าน หรือ รพ.เอกชนที่เข้าร่วมโครงการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ตั้งแต่วันนี้ – 31 ส.ค.64
      โดยประชาชนที่ถือเป็น 7 กลุ่มเสี่ยง ได้แก่
      1. หญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป
      2. เด็กอายุ 6 เดือน – 2 ปี
      3. ผู้มีโรคเรื้อรัง ได้แก่ ปอดอุดกั้นเรื้อรัง หอบหืด หัวใจ หลอดเลือดสมอง ไตวาย ผู้ป่วยมะเร็งที่อยู่ระหว่างรับเคมีบำบัด และเบาหวาน
      4. ผู้มีอายุ 65 ปีขึ้นไป
      5. ผู้พิการทางสมองที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้
      6. ผู้มีโรคธาลัสซีเมีย ภูมิคุ้มกันบกพร่อง และผู้ติดเชื้อ HIV มีอาการ
      7. ผู้มีน้ำหนักมากกว่า 100 กก. หรือมีดัชนีมวลกายมากกว่า 35 กก./ตร.ม.
      การศึกษาในอเมริกา และจีน พบว่า ผู้ติดโรคโควิด-19 กว่า 60% เป็นไข้หวัดใหญ่ร่วมด้วย ซึ่งจะทำให้อาการรุนแรงและเพิ่มความเสี่ยงต่อการเสียชีวิต ดังนั้น การฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่จึงเป็นการลดโอกาสเกิดอาการรุนแรงเมื่อติดโรคโควิด-19
      ฉีดวัคซีน
      ฉีดวัคซีน
      การฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงจึงมีความจำเป็นในช่วงที่มีโรคโควิดระบาด แม่ท้อง เด็กเล็ก และทุกคนที่อยู่ใน 7 กลุ่มเสี่ยงนี้ สามารถไปฉีดวัคซีนได้ตามสถานที่ที่กล่าวไว้ข้างต้นกันได้ฟรีค่ะ และสำหรับประชาชนทั่วไปก็สามารถไปฉีดได้ตามโรงพยาบาลทั่วไปได้อีกด้วย นอกจากนี้ ทีมแม่ ABK ขอนำข้อมูลเกี่ยวกับไข้หวัดใหญ่และระยะห่างในการฉีด วัคซีนไข้หวัดใหญ่ และ วัคซีนโควิด มาฝากกันค่ะ

      อาการของโรคไข้หวัดใหญ่

      • ไอ เจ็บคอ คัดจมูกหรือมีน้ำมูก
      • ปวดศีรษะ
      • มีไข้สูง
      • อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
      • หายใจหอบเหนื่อย เมื่อมีภาวะปอดอักเสบ

      ข้อควรเฝ้าระวัง

      1. โรคไข้หวัดใหญ่มีอาการคล้ายกับโรคโควิด-19 มาก หากมีอาการควรพบแพทย์ทันที
      2. อาการเบื้องต้นไม่สามารถใช้ในการแยกโรคได้ จึงจำเป็นต้องใช้การตรวจหาเชื้อทางห้องปฏิบัติการเท่านั้น
      3. การแพร่กระจายของโรคสามารถติดต่อผ่านการสัมผัสน้ำมูก เสมหะ หรือการไอและจามได้เช่นเดียวกัน
      4. โรคไข้หวัดใหญ่สามารถเกิดแทรกซ้อนกับโรคโควิด-19 ส่งผลให้มีอาการรุนแรงและเสียชีวิต จึงควรฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่เพื่อป้องกัน

      การฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่

      1. วัคซีนไข้หวัดใหญ่มี 2 ชนิด ได้แก่ วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ชนิด 3 สายพันธุ์ และชนิด 4 สายพันธุ์
      2. ควรฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่เป็นประจำทุกปื ในช่วงเดือนพฤษภาคมและตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงที่เริ่มมีการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่
      3. ประชาชนทุกคนควรได้รับการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงที่จะเกิดอาการรุนแรง ได้แก่ ผู้สูงอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป เด็กเล็กอายุน้อยกว่า 2 ขวบ หญิงตั้งครรภ์ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน โรคหอบหืด โรคถุงลมโป่งพอง โรคหัวใจ โรคตับ โรคตวายเรื้อรัง เป็นต้น ผู้ป่วยมีความผิดปกติทางระบบประสาท ผู้ป่วยโรคเลือด ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง ผู้ป่วยโรคอ้วน และผู้ที่อยู่ใกล้ชิดกับผู้สูงอายุ

      วัคซีนไข้หวัดใหญ่ กับ วัคซีนโควิด ต้องฉีดห่างกันอย่างไร?

      ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่
      ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่

      หลายคนยังสงสัย ว่าหากต้องฉีดวัคซีนทั้งไข้หวัดใหญ่ และโควิด-19 ในช่วงเวลาใกล้ ๆ กัน จะต้องฉีดห่างกันแค่ไหน มาดูกันค่ะ

      • ผู้ที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 สามารถฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ก่อนฉีดวัคซีนโควิด-19 ได้ โดยให้เว้นระยะห่างอย่างน้อย 1 เดือน จึงค่อยฉีดวัคซีนโควิด-19
      • ผู้ที่ได้รับวัคซีนโควิด-19 ของแอสตราเซเนกา (AstraZeneca) เข็มที่ 1 และอยู่ระหว่างรอกำหนดฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 สามารถรับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ได้ โดยให้ห่างจากวัคซีนเข็มที่ 1 อย่างน้อย 1 เดือน และหลังจากนั้นให้ฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ตามกำหนดนัด โดยให้มีระยะห่างจากการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่อย่างน้อย 1 เดือน
      • สำหรับผู้ที่ได้รับวัคซีนโควิด-19 ของซิโนแวค (Sinovac) เข็มที่ 1 แล้ว ให้ฉีดจนครบทั้ง 2 เข็มก่อนโดยระยะการฉีดห่างกัน 2 – 4 สัปดาห์ จึงรับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลได้ โดยให้ห่างจากวัคซีนเข็มที่ 2 อย่างน้อย 1 เดือน
      • ผู้ที่ได้รับวัคซีนโควิด-19 แอสตราเซเนกา (AstraZeneca) ครบทั้ง 2 เข็มแล้ว โดยระยะการฉีดระหว่างเข็มที่ 1 และ 2 ห่างกันประมาณ 10 – 12 สัปดาห์ สามารถเข้ารับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ได้หลังจากฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 แล้วอย่างน้อย 1 เดือน
      • สำหรับผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 แล้ว ต้องการจะฉีดวัคซีน ให้เว้นระยะ 3 เดือน
      สรุปแล้ว คือ ควรฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ห่างจากการฉีดวัคซีนโควิด-19 ไม่ว่าจะเป็นเข็ม 1 หรือเข็ม 2 และไม่ว่าจะเป็นวัคซีนโควิดประเภทใดก็ตาม ควรฉีดห่างกัน 1 เดือน จะฉีดวัคซีนอย่างไหนก่อนหรือหลังก็ได้ค่ะ

      อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

      ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์A รุนแรงและอันตรายกว่าทุกสายพันธุ์

      หมอสูติตอบชัด! คนท้องฉีดวัคซีนโควิดได้ไหม ฉีดอย่างไรให้..ปลอดภัยทั้งแม่ลูก

      รู้ก่อนฉีด! ข้อควรรู้ก่อนฉีดวัคซีน ป้องกันโควิด -19 เช็คเลย!

      แยกให้ออก ภูมิแพ้ ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่กับโควิด -19 อาการ ต่างกันยังไง?

      เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

        เงินเยียวยานักเรียน

        วิธีเช็ค “เงินเยียวยานักเรียน” 2,000 บาท เข้าวันไหน?

        สพฐ.แจงวิธีและขั้นตอนในการลงทะเบียนรับ “เงินเยียวยานักเรียน” 2,000 บาท ทั้งรัฐและเอกชน ให้ผู้ปกครองได้ตรวจสอบว่าได้รับสิทธิ์หรือไม่ ผ่านแอพ สช. On Mobile และเว็บไซต์

        วิธีเช็ค “เงินเยียวยานักเรียน” 2,000 บาท เข้าวันไหน?

        ศึกษาธิการแจง!! ได้เต็ม 2,000 ไม่หัก!!

        ตามมาตรการให้ความช่วยเหลือภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาในช่วงการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ของ กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ซึ่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบในหลักการมาตรการให้ความช่วยเหลือบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาของครัวเรือนและประชาชน ในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานและระดับอุดมศึกษา ภาครัฐและเอกชน โดยนักเรียนที่เรียนอยู่ใน สถานศึกษาขั้นพื้นฐาน (อนุบาล-ม.6) ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนรัฐ หรือ โรงเรียนเอกชน ก็จะได้รับเงินเยียวยาจำนวน 2,000 บาท ต่อ นักเรียน 1 คน

        ทาง กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้อธิบายเพิ่มเติมถึงการจ่าย “เงินเยียวยานักเรียน” ว่า นักเรียนทุกคน ทุกสังกัด จะได้รับ เงินเยียวยานักเรียน คนละ 2,000 บาท โดยผู้ปกครองรับเงินเต็มจำนวน ต่อนักเรียน 1 คน โดยไม่หักค่าใช้จ่ายใด ๆ เพื่อบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษา ให้แก่นักเรียนนักศึกษาที่กำลังศึกษาอยู่ในสถานศึกษาสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงสถานศึกษานอกสังกัด ศธ. ในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน

        ตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล-ม.6 และอาชีวศึกษา ซึ่งมีอยู่ราว 11 ล้านคน

        • สถานศึกษาในสังกัด ศธ. ที่รับเงินอุดหนุนจากรัฐ รวม 9.8 ล้านคน
        • สถานศึกษานอกสังกัด ศธ. รวม 1.2 ล้านคน

        งบประมาณรวมทั้งสิ้น 22,000 ล้านบาท คาดว่าจะได้รับภายในวันที่ 31 สิงหาคมถึงต้นเดือนกันยายนนี้

        โดยปัจจุบันนี้ ทาง กระทรวงศึกษาธิการยังไม่ได้รับเงินจากกระทรวงการคลัง โดยทาง ศธ. ได้ตั้งเป้าหมายว่าทุกคนจะได้รับเงินภายใน 7 วัน หลังจากที่เงินถึง ศธ. รวมทั้งจะมีการตั้งศูนย์รับเรื่องร้องเรียน เพื่อช่วยเหลือผู้ปกครอง หากยังไม่ได้รับเงินดังกล่าวทันท่วงที โดยมีขั้นตอนในการโอนเงินให้ผู้ปกครอง ดังนี้

        ขั้นตอนการโอนจ่ายเงินเยียวยานักเรียน

        • หากผู้ปกครองมีบัญชีธนาคารก็สามารถโอนเงินเข้าบัญชีผู้ปกครองได้โดยตรง
        • หากใช้วิธีโอนเงินไม่ได้จะให้โรงเรียนบริหารจัดการผ่านครูประจำชั้นในการออกแบบการจ่ายเงินสดให้ผู้ปกครอง เช่น นัดหมายผู้ปกครองเข้ามารับเงินสดที่โรงเรียนให้ผู้ปกครองลงลายมือชื่อพร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนหรือสำเนาทะเบียนบ้าน เพื่อเป็นหลักฐานในการจ่ายเงิน

        สำหรับผู้ปกครองที่มีบุตรหลานที่กำลังศึกษาอยู่ชั้นอนุบาล-ม.6 ต้องการตรวจสอบว่านักเรียนได้รับสิทธิ์หรือไม่ สามารถเช็คได้ทั้ง 2 ช่องทาง คือทางเว็บไซด์ และ แอพพลิเคชั่น ดังนี้

        เช็ค เงินเยียวยานักเรียน ทางเว็บไซด์ และ ผ่าน สช. On Mobile

        สำหรับนักเรียนในสถานศึกษาสังกัด สพฐ.

        สามารถตรวจสอบสิทธิ์ได้ที่เว็บไซต์ https://student.edudev.in.th

        – กรอกเลขประจำตัวประชาชน

        – กรอกเลขประจำตัวนักเรียน

        เงินเยียวยา 2000
        เงินเยียวยา 2000
        เงินเยียวยา โรงเรียนรัฐ
        เงินเยียวยา โรงเรียนรัฐ

         

        โดยรายชื่อนักเรียนที่จะสามารถตรวจสอบได้นั้น ต้องเป็นนักเรีนที่ที่กำลังศึกษาอยู่ในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ที่สถานศึกษารายงานและยืนยัน/รับรอง จากระบบจัดเก็บข้อมูลนักเรียนรายบุคคล (Data Management Center: DMC) ณ วันที่ 25 มิถุนายน 2564 เท่านั้น

        หากนักเรียนศึกษาอยู่ในสถานศึกษาสังกัดอื่น ๆ กรุณาติดต่อต้นสังกัด หรือ สถานศึกษาของตัวนักเรียนเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม โดยจะไม่สามารถตรวจสอบข้อมูลได้จากระบบนี้

        นักเรียนโรงเรียนเอกชน

        ตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์ https://regis-test.opec.go.th/ 

        • นักเรียนไทยให้กรอกเลขประจำตัวประชาชน
        • นักเรียนต่างชาติ หรือนักเรียนที่ไม่มีหลักฐานทางทะเบียน ให้ใช้รหัส G-Code จากโรงเรียนที่ศึกษาอยู่

        นอกจากการตรวจสอบผ่านเว็บไซต์แล้ว สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ได้เปิดตัวแอปพลิเคชัน “สช. On Mobile” ซึ่งผู้ปกครองหรือนักเรียนสามารถ “ตรวจสอบสิทธิ์เยียวยานักเรียน”  รวมถึงเพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการสื่อสารและประชาสัมพันธ์ข้อมูลไปถึงโรงเรียนเอกชน ผู้ปฏิบัติหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาเอกชน รวมทั้งผู้ปกครองและประชาชนทั่วไปได้ โดยมีขั้นตอนการลงทะเบียน ดังนี้

        สช. On Mobile
        สช. On Mobile
        1. ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน “สช. On Mobile” ได้ที่ Play Store และ App Store
        เงินเยียวยานักเรียน
        เงินเยียวยานักเรียน
        เงินนักเรียน 2000
        เงินนักเรียน 2000

         

         

         

         

         

         

         

         

         

         

         

         

         

         

        2. เข้าสู่ระบบสำหรับบุคคลทั่วไป

          • สามารถเข้าสู่ระบบผ่านโซเชียลมีเดีย ได้แก่ เฟซบุ๊ก (FaceBook) อีเมล์ (Gmail) และไลน์ (Line)
          • สำหรับบุคคลทั่วไปที่ไม่สะดวกในการสมัครผ่านโซเชียลมีเดีย ให้เลือกสมัครสมาชิกและกรอกรายละเอียด

        3. ตรวจสอบสิทธิ์มาตรการให้ความช่วยเหลือบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาให้แก่ผู้ปกครองในอัตรา 2,000 บาท/นักเรียน 1 คน ภาคเรียนที่ 1/2564 คลิ๊กที่แบนเนอร์

        เงินเยียวยานักเรียน
        เงินเยียวยานักเรียน
        เช็คเงินเยียวยา 2000
        เช็คเงินเยียวยา 2000

         

         

         

         

         

         

         

         

         

         

         

         

         

          • กรอกข้อมูล สำหรับนักเรียนไทย ตรวจสอบโดยใช้เลขประจำตัวประชาชนนักเรียน และคลิกตรวจสอบ ระบบจะปรากฎข้อความ ดังนี้
            • ได้รับสิทธิ์
            • ไม่มีสิทธิ์
            • มีรายชื่อนักเรียนซ้ำซ้อน
          • สำหรับนักเรียนต่างชาติหรือนักเรียนที่ไม่มีหลักฐานทางทะเบียน ตรวจสอบโดยใช้รหัส G-code ที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนด และคลิกตรวจสอบ ระบบจะปรากฎข้อความ ดังนี้
            • ได้รับสิทธิ์
            • ไม่มีสิทธิ์
            • มีรายชื่อนักเรียนซ้ำซ้อน

        เมื่อผู้ปกครองได้ตรวจสอบสิทธิ์เรียบร้อยแล้ว หากมีขื่ออยู่ในผู้ที่ได้รับสิทธิ์ ก็เพียงรอให้ทางโรงเรียนที่นักเรียนเรียนอยู่แจ้งกำหนดการรับเงินต่อไปค่ะ ซึ่งทางกระทรวงศึกษาธิการคาดว่าจะได้รับภายในวันที่ 31 สิงหาคมถึงต้นเดือนกันยายนนี้ และจะดำเนินการจ่ายให้แก่ผู้ปกครองผ่านทางโรงเรียนภายใน 7 วัน

        อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

        เช็กสิทธิรับ เงินเยียวยาโควิด ม.33 ม.39-40 ต้องทำยังไง ได้เงินวันไหน?

        4 ผลกระทบของการให้เด็ก เรียนออนไลน์ (ใช้สื่อ online)

        ลูกเรียนออนไลน์ไม่เข้าใจ พ่อแม่รับมือยังไงดี?

        วิธีสอนลูกเรียนเก่ง เริ่มต้นได้ที่บ้าน

         

        ขอบคุณข้อมูลจาก : www.komchadluek.net, กรุงเทพธุรกิจ

         

        เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

          รักกันให้ลูกเห็น

          ประโยชน์ของการ รักกันให้ลูกเห็น พ่อแม่ยิ่งรักกัน ยิ่งดีต่อใจลูก

          รักกันให้ลูกเห็น – ความรักเป็นสิ่งที่สวยงามเสมอ ยิ่งเป็นความรักระหว่างสามีและภรรยาที่ต่างคนมีให้กัน และแสดงออกให้ลูกได้เห็น จะยิ่งทำให้บรรยากาศในครอบครัวมีแต่ความสุขสงบ การแสดงความรักและความเสน่หาของพ่อแม่ ด้วยสายตาที่ห่วงใยกัน การคอยคอยเอาใจใส่ การกอดจูบ จับมือ ส่งผลดีกับลูกได้อย่างที่เราอาจคาดไม่ถึง

          ประโยชน์ของการ รักกันให้ลูกเห็น พ่อแม่ยิ่งรักกัน ยิ่งดีต่อใจลูก

          เด็กๆ มีโอกาสที่จะได้เรียนรู้ ว่าความรักคืออะไรผ่านการเฝ้าดูวิธีที่พ่อแม่ปฏิบัติต่อกัน ตลอดจนความรักของพ่อแม่ที่มีให้พวกเขาและตระหนักได้ว่าพวกเขาเป็นที่รัก และการได้เห็นว่าพ่อแม่รักใคร่ปรองดองกันดียังเป็นสิ่งที่ช่วยให้เด็กๆ มีความมั่นใจในความรัก

          Inès Pélissié du Rausas ผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาอารมณ์ กล่าวในหนังสือ Talking to Children About Love  กล่าวว่า การที่เด็กๆ ได้เห็นพ่อแม่แสดงท่าทีที่อ่อนโยนต่อกัน เช่น ได้เห็นพ่อนำดอกไม้หรือของขวัญมอบให้แม่ เห็นแม่พูดคำอ่อนโยนอ่อนหวานกับพ่อ เห็นพ่อแม่ยิ้มให้กัน กอดจูบกัน หรือเห็นพ่อแม่ขอโทษและคืนดีหลังจากการโต้เถียง ด้วยความอ่อนโยนของพ่อแม่ที่แสดงต่อกันนี้เอง ที่จะช่วยให้เด็กได้เข้าใจว่าความรักคืออะไร “เด็กที่เห็นพ่อแม่แสดงความอ่อนโยนต่อกันถือว่าโชคดี พวกเขาจะได้ค้นพบว่าการรักใครสักคนหมายถึงการอยู่เคียงข้างกัน ช่วยเหลือกัน และคิดถึงคนอื่นก่อนที่จะคิดถึงตัวเอง”

          เด็ก ๆ จะได้รับประสบการณ์ทางอ้อมจากความสุขที่เกิดขึ้นในหัวใจของผู้ที่ได้รับการจูบ รอยยิ้ม หรือการจ้องมองที่อ่อนโยน “ความรักใคร่ปรองดองของพ่อแม่ที่แสดงออกอย่างเป็นธรรมชาติ จะช่วยให้เด็กๆ ได้รับรู้ว่าความรักเป็นเสมือนของขวัญที่พิเศษจากคนหนึ่งไปสู่อีกคนหนึ่ง เป็นของขวัญที่สัมผัสได้ผ่านทางร่างกาย”

          เหตุผลที่พ่อแม่ควรแสดงความรักกันต่อหน้าลูก

          และต่อไปนี้ คือ เหตุผลบางประการ ที่พ่อแม่ควรแสดงความรักกันให้ลูกเห็น

          1. ให้ความรู้สึกปลอดภัยแก่ลูก

          “ลูกรู้สึกเป็นที่รักเมื่อได้เห็นแม่และพ่อรักกัน” พ่อรักแม่และแม่รักพ่อ มีความสัมพันธ์ที่ชัดเจนระหว่างกันที่ลูกๆ สัมผัสได้ จะช่วยสร้างความรู้สึกอบอุ่นใจ และปลอดภัย เด็กๆ จะรู้สึกได้ว่าครอบครัวของเรามีความรักความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เป็นทีมเดียวกัน จะไม่แยกจากกันไปไหน ลูกจะรู้สึกปลอดภัยทางใจ เมื่อเห็นพ่อกับแม่รักกัน วิธีที่ยอดเยี่ยมที่สุดวิธีหนึ่งที่เด็กๆ จะได้เห็นความรักของพ่อแม่ คือการแสดงออกทางกายระหว่างพ่อและแม่

          รักกันให้ลูกเห็น
          รักกันให้ลูกเห็น

          2. ทำให้ลูกมีมุมมองที่ดีเกี่ยวกับความสัมพันธ์ในชีวิตสมรส

          บ้านคือสถานที่ที่ลูก ๆ ควรได้เห็นความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างพ่อแม่ ซึ่งเป็นพื้นฐานที่ดีงาม และมีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตของเด็กน้อย การแสดงออกให้ลูกได้เห็นว่า พ่อ แม่ รักกัน ในรูปแบบที่เหมาะสม การที่พ่อแม่สัมผัสกันอย่างเปิดเผยด้วยความรัก เช่น การกอดหรือหอม เด็ก ๆ จะเกิดมุมมอง และทัศนคติที่ดีเกี่ยวกับความสัมพันธ์ในครอบครัว เมื่อพวกเขาโตขึ้นก็มีแนวโน้มที่จะปฏิบัติแบบเดียวกันกับลูกๆ และคนรักของพวกเขา และลูก ๆ ของเราก็จะมีความสัมพันธ์อันดีมีความสงบสุขและความอบอุ่นในชีวิตครอบครัว

          3. สร้างเกราะป้องกันอันตรายที่เกิดจากการขาดความอบอุ่นทางใจ

          พ่อแม่ที่มีความรักทางกายต่อกัน มักจะมีแนวโน้มที่จะแสดงความรักต่อลูกของพวกเขามากขึ้นเช่นเดียวกัน เป็นเรื่องธรรมดาที่เด็กทุกคนต้องการความรักทางกายจากแม่และพ่อมาก โดยเฉพาะเมื่อพวกเขายังเป็นเด็กตัวเล็กๆ เมื่อพ่อแม่ตอบสนองความต้องการทางกายและใจของลูกได้ แน่นอนว่าจะเป็นการสร้างเกราะป้องกันอันตรายมากมายในอนาคตที่อาจเกิดขึ้นได้ ถ้าเด็กขาดความอบอุ่นและไม่มีที่ยึดเหนี่ยวทางกายและใจที่เหมาะสมอาจเดินออกนอกลู่นอกทางได้ง่าย และนำมาซึ่งปัญหาต่างๆ เช่น เรื่องเพศ และยาเสพติดได้

          4. ช่วยให้ลูกประสบความสำเร็จในชีวิต

          ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ แค่เพียงลูกได้เห็นการแสดงความรักที่งดงามระหว่างพ่อแม่ของพวกเขา จะช่วยให้พวกเขามีอนาคตที่ดีได้จริงๆ มีการศึกษาวิจัยในต่างประเทศที่ชี้ให้เห็นว่าความสัมพันธ์ที่เปี่ยมไปด้วยความรักและมั่นคงระหว่างพ่อและแม่ เป็นพื้นฐานสำคัญต่อพัฒนาการของลูก สิ่งนี้จะช่วยให้เด็กเรียนรู้วิธีการคิด สร้างความเข้าใจ การสื่อสาร ความประพฤติ การแสดงอารมณ์ และได้พัฒนาทักษะทางสังคมที่ดีให้กับเด็กซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่จะนำพาให้ชีวิตของพวกเขาไปสู่ความสำเร็จ

          ผลเสียจากการที่ลูกเห็นพ่อแม่ทะเลาะกันบ่อยๆ 

          การทะเลาะวิวาท และการโต้เถียง อาจเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตแต่งงานที่บางครั้งอาจไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้แม้จะเป็นคู่ที่รักและเข้าใจกันดี อาจมีบ้างที่ต้องมีปากมีเสียงกัน ยิ่งเวลาที่ต่างคนต่างเหนื่อยจากการเลี้ยงลูกหรือการทำงานก็อาจพาลให้อารมณ์เสียและมีเรื่องให้ปะทะอารมณ์กันได้ทุกเมื่อ การที่เด็กได้เห็นการทะเลาะเบาะแว้งระหว่างพ่อแม่ เปรียบได้กับการล่วงละเมิดเด็กทางอารมณ์ได้ เนื่องจากพฤติกรรมของพ่อแม่ที่สดงให้ลูกเห็นอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตและร่างกายของเด็กในทางลบ

          William Axinn นักวิจัยจากสถาบัน UM Institute for Social Research  ได้ทำการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของพ่อแม่ที่มีผลกระทบต่อเด็ก  โดยผลการศึกษาพบว่าการเชื่อมโยงทางอารมณ์ของพ่อแม่ที่มีต่อกัน ส่งผลต่อการเลี้ยงดูลูกได้มากจนอาจกำหนดอนาคตของเด็กๆ ได้

          ทุกคู่มีเรื่องไม่ลงรอยกัน ซึ่งเมื่อคลี่คลายอย่างสงบแล้วย่อมมีสุขภาพที่ดี อย่างไรก็ตาม หากการทะเลาะวิวาทเหล่านี้กลายเป็นการทะเลาะวิวาทครั้งใหญ่ ก็อาจส่งผลเสียต่อเด็กๆ ได้ การต่อสู้ของผู้ปกครองส่งผลต่อเด็กอย่างไร? ต่อไปนี้คือผลเสียบางประการที่สามารถเกิดขึ้นได้เมื่อลูกซึมซับภาพของการทะเลาะกันของพ่อและแม่

          รักกันให้ลูกเห็น

          1. ความก้าวร้าว

          ผลกระทบของพ่อแม่ที่ชอบทะเลาะเบาะแว้งลงไม้ลงมือ แสดงวาจาและท่าทีที่รุนแรงต่อหน้าลูกอาจกลายเป็นหายนะได้ เมื่อเด็กเล็ก ๆ เห็นการบาดหมางระหว่างพ่อแม่ของพวกเขา จะส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแก้ปัญหาในอนาคต เมื่อเด็กเห็นพ่อแม่ทะเลาะกัน จะเริ่มเชื่อว่าการทะเลาะเบาะแว้งพูดจาด่าทอน ใส่อารมณ์กันไปมา คือวิธีแก้ปัญหา ดังนั้นพวกเขาจึงพยายามแก้ไขปัญหาในลักษณะเดียวกันกับทุกคน ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดความสัมพันธ์ในอนาคตกับคนรอบข้างที่ไม่ราบรื่นและล้มเหลว

          2. ความทุกข์ทางอารมณ์

          ความรุนแรงในครอบครัวหรือพ่อแม่ที่ต่อสู้กันต่อหน้าเด็กอาจทำให้เกิดความทุกข์ทางอารมณ์ในเด็กได้อย่างมาก การเห็นการต่อสู้ระหว่างผู้ปกครองเป็นประจำอาจทำให้เกิดปัญหาความวิตกกังวลและปัญหาสุขภาพจิตอื่น ๆ ในเด็ก เด็กที่เห็นความรุนแรงในครอบครัวในช่วงเริ่มต้นชีวิตมีโอกาสสูงที่จะกลายเป็นผู้ใหญ่ที่มีปัญหา

          3. ความล้มเหลวในความสัมพันธ์

          แน่นอนว่าเด็กเลียนแบบในสิ่งที่พวกเขาเห็นพ่อแม่ทำ หากคุณและคู่สมรส ทะเลาะกันอย่างต่อเนื่อง ลูกของคุณก็มีแนวโน้มที่จะเติบโตขึ้นมาเรียนรู้และปฏิบัติในสิ่งเดียวกัน เป็นผลให้ความสัมพันธ์ของลูกของคุณกับคู่ของเขาอาจประสบปัญหาในวัยผู้ใหญ่ อาจทำให้ลูกของคุณรู้สึกว่าจำเป็นต้องหลีกเลี่ยงความสัมพันธ์จากความกลัวที่จะได้รับบาดเจ็บหรือการต้องปะทะอารมณ์

          รักกันให้ลูกเห็น

          4. ปัญหาสุขภาพกายและใจ

          การเห็นพ่อแม่ทะเลาะกันเป็นประจำอาจทำให้ลูกรู้สึกวิตกกังวล ชีวิตหดหู่ และหมดหนทาง ผลที่ตามมาคือ เด็กเหล่านี้มักมีการแสดงออกบางอย่างที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกาย พวกเขาอาจหยุดกิน หรือกินมากเกินไป พวกเขาสามารถทนทุกข์ทรมานจากอาการปวดหัวหรือปวดท้อง พวกเขาอาจมีปัญหาในการนอนหลับตอนกลางคืน การต่อสู้กันระหว่างพ่อแม่อาจก่อให้เกิดปัญหาด้านพฤติกรรมด้านลบ เช่น ความหวาดระแวงในเด็ก

          5. ความนับถือตนเองต่ำ

          ความรู้สึกอับอาย ความรู้สึกผิด ความไม่คู่ควร และความไร้อำนาจที่เกิดจากการเห็นเหตุการณ์ความรุนแรงในครอบครัว อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพจิตของเด็ก ที่สำคัญอาจส่งผลให้ความนับถือตนเองของเด็กลดลงเรื่อยๆ และส่งผลไปจนถึงวัยที่โตเป็นผู้ใหญ่ เขาอาจพบว่าการรักษาภาพลักษณ์ของตัวเองทั้งในด้านอาชีพ และส่วนตัวเป็นเรื่องยากที่จะทำได้

          6. ไม่สามารถจดจ่อกับการเรียนได้

          ภาพของการการต่อสู้ทะเลาะเบาะแว้งลงไม้ลงมือสาดวาจาที่เ็นพิษอย่างต่อเนื่องระหว่างพ่อแม่ผู้ปกครอง สามารถทำให้จิตใจของเด็กหมกมุ่นอยู่กับความกลัว และความสับสนอย่างต่อเนื่อง เด็กอาจจมอยู่กับกับความทุกข์ที่มีอย่างไม่มีที่สิ้นสุดจนไม่สามารถจดจ่อกับสิ่งอื่นในชีวิตได้ โดยเฉพาะกับสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญอย่างเช่น การเรียน

          โดยรวมแล้ว ความสุขและความสามัคคีในครอบครัวที่เกิดขึ้นด้วยภาพของพ่อแม่ที่รักใคร่ปรองดองกันดี ตลอดจนวิธีในการตอบสนองความต้องการทางกายและใจของเด็กๆ การแสดงความรักของพ่อแม่ที่มีให้กัน และการแสดงความรักที่พ่อแม่มีต่อลูกๆ อย่างเหมาะสม และสม่ำเสมอ นอกจากทำให้บรรยากาศของครอบครัวโอบล้อมไปด้วยความรักและความสงบสุขแล้ว ยังสามารถพัฒนาทักษะความฉลาดที่รอบด้าน ด้วย Power BQ ได้ในหลายด้านด้วยกัน อาทิ  ความฉลาดทางอารมณ์ EQ  , ความฉลาดทางคุณธรรม MQ , ความฉลาดต่อการเผชิญกับปัญหา AQ  และ ความฉลาดของการเข้าสังคม (SQ)

          ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก : parenting.firstcry.com , allprodad.com , aleteia.org , techexplorist.com

          บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

          ลูกขี้อิจฉา สาเหตุเกิดจากอะไร พ่อแม่จะแก้ไขได้หรือไม่?

          ระวัง! พ่อแม่ติดมือถือ สื่อสารกับลูกน้อยลง ส่งผลเสียกว่าที่คิด!

          เข้าใจธรรมชาติ เด็กวัยอยากรู้อยากเห็น อีกเรื่องจำเป็นของพ่อแม่คน

          เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

           

            ลูกต้องการจากพ่อแม่

            11 เรื่องที่ ลูกต้องการจากพ่อแม่ ขอแค่นี้ ให้หนูได้ไหม?

            ลูกต้องการจากพ่อแม่ – ในฐานะพ่อแม่ผู้ปกครอง แน่นอนว่าลูกเปรียบเสมือนแก้วตาดวงใจที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใด แต่อาจมีบางครั้งที่เราเผลอลืมหรือมองข้ามไปว่าสิ่งที่เด็กตัวน้อยต้องการจากเรา จริงๆ แล้ว คืออะไร ที่ไม่ใช่ของเล่นราคาแพง หรือเสื้อผ้ารองเท้าใหม่ๆ การเลี้ยงดูเด็กหนึ่งคนให้มีคุณภาพ ความสมดุลระหว่างการให้ความรักเวลาและการอบรมสั่งสอนเป็นสิ่งสำคัญ ตลอดจนการเปิดโอกาสให้เด็กๆ ได้ค้นหาความต้องการของตัวเอง เพราะเด็กแต่ละคนมีความต้องการพื้นฐานส่วนตัว เมื่อได้รับการตอบสนองจากพ่อแม่อย่างเหมาะสม ก็จะช่วยพัฒนาให้พวกเขามีสุขภาพจิตที่ดี มีภูมิต้านทานที่แข็งแรงต่อการใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างมีความสุข

            วันนี้เรามาไล่เรียงดูความต้องการพื้นฐานของเด็กๆ ที่บางครั้งพ่อแม่อย่างเราๆ อาจมองข้ามหรือลืมไปกันค่ะ ว่ามีอะไรบ้าง

            11 เรื่องที่ ลูกต้องการจากพ่อแม่ ขอแค่นี้ ให้หนูได้ไหม?

            หากเด็กๆ สื่อสารให้พ่อแม่รับรู้ถึงสิ่งที่พวกเขาต้องการจากพ่อแม่ได้ พวกเขาจะพูดว่า…

            1. “หนูเรียนรู้จากพ่อแม่ เป็นแบบอย่างที่ดีให้หนูหน่อย”

            การอบรมสั่งสอนลูก การแสดงออกให้เห็นย่อมดีกว่าการพร่ำบอกให้ฟัง  การ “เป็นแบบอย่างที่ดี” คือสิ่งสำคัญที่หลายคนอาจคาดไม่ถึงว่าจะมีอิทธิพลต่อเด็กได้มากมายเพียงใด หลายคนอาจพูดมากกว่าที่จะทำให้ลูกเห็น เพราะบางครั้งการพูดอาจง่ายกว่าการลงมือทำ หากเราไม่ต้องการให้ลูกของเราแสดงออกอย่างก้าวร้าวเวลาไม่ได้อย่างใจ เราต้องเป็นแบบอย่างในการควบคุมอารมณ์และจัดการกับสิ่งที่ทำให้เราโกรธอย่างสงบ แม้มันอาจฟังดูยาก แต่รู้มั้ยคะ ว่าลูก ๆ กำลังเฝ้าดูเราอยู่เสมอ เพราะฉะนั้นเราต้องเป็นคนในแบบที่เราต้องการให้ลูกของเราเป็น อยากให้เลูกเป็นแบบไหนเราก็ควรจะเป็นแบบอย่างที่ดีในแบบนั้น เท่านี้เอง

            2. “อุ้มหนู กอดหนู จูบหนูเถอะ มันไม่ใช่การสปอยล์ลูกหรือโอ๋หรอก”

            แน่นอนว่า เด็กๆ ต้องการความรักจากพ่อแม่ เราจำเป็นต้องแสดงให้พวกเขาเห็นและรู้สึก ความรักไม่สามารถทำให้ลูกเสียเด็กหรือเสียคนได้  การแสดงความรักต่อเด็กๆ ช่วยสร้างความผูกพัน และความรู้สึกที่ปลอดภัย ทั้งยังเป็นแบบอย่างให้ลูกสร้างความสัมพันธ์กับครอบครัว ตลอดจนคนรอบข้างด้วยความรัก ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อความสัมพันธ์ของพวกเขากับผู้อื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวัยผู้ใหญ่ มีหลายวิธีในการแสดงความรักที่ดี นี่คือตัวอย่างบางส่วนของการแสดงความรักที่ไม่มีอะไรเสียหาย

            • กอดและจูบพวกเขาบ่อยๆ
            • ใช้เวลาทำสิ่งที่คุณสามารถสนุกร่วมกันกับลูกๆ ได้
            • พูดคุยกับพวกเขาและฟังพวกเขาอย่างตั้งใจ
            • สนับสนุนและชื่นชมความสำเร็จของพวกเขา
            • เห็นอกเห็นใจพวกเขาในความพยายามที่จะทำในสิ่งต่างๆที่ท้าทาย

            3. “สมองของหนูยังพัฒนาอยู่ หนูอาจเรียนรู้ช้า แต่หนูต้องการเรียนรู้ ถ้าพ่อแม่อดทนที่จะสอน”

            สอนลูกโดยการใช้วินัยเชิงบวกที่เข้มแข็ง และมั่นคง เด็ก ๆ ไม่ได้เกิดมาเพื่อทำตามที่พ่อแม่บอกไปหมดทุกอย่าง เด็กส่วนใหญ่ต้องการเรียนรู้ แต่การเรียนรู้ของเด็กๆ จำเป็นต้องใช้เวลา จำได้ไหมว่าลูกของคุณล้มกี่ครั้ง? ก่อนที่จะหัดเดินโดยไม่โยกเยก การเรียนรู้ “กฎของมนุษย์” นั้นซับซ้อนกว่าการเรียนรู้ “กฎแรงโน้มถ่วง” ต้องใช้เวลาในการทำความเข้าใจ ซึมซับ รวบรวม และใช้ข้อมูลนั้น หากเด็กไม่เข้าใจในสิบครั้งแรกที่คุณพูด ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาดื้อรั้นหรือเอาแต่ใจ หมายความว่าพวกเขาต้องการเวลาและการฝึกฝนมากขึ้น พวกเขาต้องการคำแนะนำ ความกรุณาปราณี ไม่ใช่การลงโทษ

            ลูกต้องการจากพ่อแม่
            ลูกต้องการจากพ่อแม่

            4. “อยู่เคียงข้างหนูเสมอ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น”

            พ่อแม่ต้องเป็นฐานที่ปลอดภัยสำหรับลูกๆ เสมอ อยู่เคียงข้างลูกในทุกสถานการณ์ หมั่นพาเด็กๆ เปิดโลก ได้สำรวจและเรียนรู้ในสิ่งใหม่ๆ สร้างความผูกพันแน่นแฟ้นด้วยการเป็นพ่อแม่ที่ให้ความรักความอบอุ่น และสนองตอบต่อความต้องการของลูกอย่างเหมาะสม เด็กที่มีความรู้สึกผูกพันแน่นแฟ้นกับพ่อแม่จะมีความยืดหยุ่นในการใช้ชีวิตมากขึ้น แสดงออกในพฤติกรรมที่เป็นปัญหาน้อยลง เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ได้ดี นำมาซึ่งผลการเรียนดีและสุขภาพจิตที่ดี

            5. “พูดกับหนูและรับฟังหนูอย่างตั้งใจ”

            ให้ความสำคัญกับการสื่อสารกับลูก เมื่อลูกพูดหรือถามให้ตั้งใจฟัง แม้ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อยและไม่สำคัญ เรามักจะลืมไปว่าการสื่อสารเคือการโต้ตอบแบบสองทาง พูดคุยสอบถามถึงสิ่งที่อยู่ในความคิด และสิ่งที่สำคัญสำหรับลูกของคุณ สิ่งที่ไม่สำคัญสำหรับผู้ใหญ่อาจมีความสำคัญมากสำหรับเด็กๆ หากเราตั้งใจฟังสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ของลูกตั้งแต่ลูกยังเล็ก พวกเขาจะไว้ใจพ่อแม่ และกล้าเปิดใจที่จะปรึกษาปัญหาต่างๆ ในชีวิตเมื่อพวกเขาเติบโตขึ้น พวกเขาจะรู้สึกว่าพ่อแม่คือคนที่สามารถพึ่งพาทางใจได้เสมอยามมีปัญหา

            เข้าถึงใจลูกด้วยการ รับฟังลูก อย่างใส่ใจ ทักษะที่พ่อแม่ยุคใหม่ต้องไม่มองข้าม

            วิธี ทำให้ลูกไว้ใจ พ่อแม่ต้องทำอย่างไร ให้ลูกวางใจในเรา?

            ส่องเทคนิค เลี้ยงลูกแบบฝรั่ง ปล่อยลูกตามสบาย ฟรีสไตล์ แต่ได้ดี?

            6. “บางครั้งหนูแค่อยากระบายให้ฟังโดยไม่มีการตัดสิน”

            เช่นเดียวกับผู้ใหญ่ เด็กมักต้องการระบายบางสิ่งที่คับข้องใจ ไม่สบายใจ หรือไม่เข้าใจ พวกเขาต้องการได้ยิน และเข้าใจ และอยากให้พ่อแม่ฟังด้วยใจที่เปิดกว้างและเอาใจใส่  พ่อแม่ของเด็กวัยรุ่นอาจสงสัยว่าทำไมลูกๆ จึงไม่คุยกับพวกเขาอีกต่อไป เหตุผลหนึ่งอาจเป็นเพราะไม่มีใครชอบถูกสอนตลอดเวลา อีกทั้งไม่มีใครอยากอยู่ใกล้คนที่คอยบรรยายพูดพร่ำบ่นจู้จี้จุกจิกอยู่ตลอดเวลาหรือไม่เปิดใจรับฟังแต่ตัดสินไปก่อนที่จะรับรู้เรื่องราวทั้งหมดเสียก่อน

            7. “ยอมรับในความเป็นหนู อย่าเปรียบเทียบหนูกับเด็กคนอื่น”

            ผู้ปกครองทุกคนต้องการให้ลูกของพวกเขาดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ความปรารถนาตามธรรมชาตินี้บางครั้งอาจทำให้คุณเปรียบเทียบลูกของคุณกับคนอื่นการศึกษาของฮาร์วาร์ดแกรนท์พบว่า การมีความสัมพันธ์แบบพ่อแม่ และลูกซึ่งเด็กรู้สึกว่าได้รับการเลี้ยงดูและยอมรับ เป็นกุญแจสู่ความสำเร็จในชีวิต ดังนั้น การเปรียบเทียบของคุณจึงทำให้ลูกของคุณกับเด็กคนอื่นเป็นสิ่งที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อะไร

            ลูกต้องการจากพ่อแม่

            8. “ให้หนูได้ออกไปเล่นนอกบ้านบ่อยๆ”

            การเล่นมีประโยชน์มากมายต่อพัฒนาการของเด็ก การเล่นกลางแจ้งแบบไม่มีอะไรกีดขวางยิ่งดี สภาพแวดล้อมกลางแจ้งเต็มไปด้วยโอกาสในการพัฒนาและการเรียนรู้ การเล่นนอกบ้านมักจะทำให้เด็กๆ รู้สึกมีอิสระมากขึ้น เปิดโอกาสให้พวกเขาได้พัฒนาตนเองได้ เด็กยังสามารถเล่นโดยใช้ประสาทสัมผัส ซึ่งมักไม่มีในสิ่งอำนวยความสะดวกในร่ม

            9. “ให้หนูได้กินอาหารที่อร่อยและมีคุณค่าทางโภชนาการ ”

            เด็กเล็กๆ ไม่สามารถซื้อหรือทำอาหารเองได้ ดังนั้นพวกเขาจำเป็นต้องพึ่งพาพ่อแม่ในการจัดหาสิ่งที่ต้องการ หน้าที่พ่อแม่ไม่พ้นการสรรหาหาอาหารที่ลูกชอบ และต้องเป็นอาหารที่มีประโยชน์และมีคุณค่าทางโภชนาการ อาหารที่มีประโยชน์และอร่อย มีให้เลือกหลายประเภท ซึ่งอาจต้องใช้การทดลอง และความคิดสร้างสรรค์เพื่อค้นหาสิ่งที่ลูกชอบได้อย่างลงตัว

            10. “ได้โปรดเชื่อใจหนู”

            การทำผิดพลาดไม่ใช่เรื่องแย่เสมอไป หากเราต้องการให้บุตรหลานของเรามีวิจารณญาณที่ดีในชีวิต เราต้องให้พวกเขาได้ฝึกการตัดสินใจ นั่นหมายความว่าพวกเขาอาจทำผิดพลาดในบางเรื่องอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ถึงอย่างไรก็ตามควรฝึกให้พวกเขาได้ตัดสินใจในสิ่งที่จะไม่เป็นอันตรายหรือเสี่ยงต่อสุขภาพตนเองและผู้อื่น เด็กไม่สามารถเรียนรู้ที่จะเดินได้โดยไม่ล้มเลย

            11. “คำชมของพ่อแม่มีความหายกับหนูมากนะ”

            คำพูดที่ให้กำลังใจสามารถส่งผลดีต่อเด็กได้อย่างมาก จงชื่นชมลูกอย่างจริงใจและมุ่งเน้นไปที่ความพยายามของพวกเขา ไม่ใช่ความสามารถหรือผลลัพธ์ เมื่อพ่อแม่ชื่นชมลูกๆ อย่างถูกต้องเหมาะสม สิ่งเหล่านี้สามารถสร้างความแตกต่างอย่างมากในการสร้างความภาคภูมิใจในตนเอง และแรงจูงใจภายในของเด็กๆ ในการทำสิ่งต่างๆ ให้ประสบความสำเร็จ

            เมื่อพ่อแม่เข้าใจในการปฏิบัติต่อลูกและตอบสนองลูกอย่างเหมาะสมตั้งแต่เล็กจนโต มีความเข้าใจลูกๆ เสมอในความต้องการพื้นฐานที่สำคัญย่อมส่งผลให้ทำให้เด็กๆ สามารถเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในวันหน้าได้อย่างมั่นคงมีคุณภาพ มีภูมิคุ้มกันในชีวิตที่ดี และช่วยส่งเสริมให้เด็กๆ เกิดทักษะความฉลาดรอบด้านด้วย Power BQ ในด้านต่างๆ ได้มากมาย อาทิ ความฉลาดทางอารมณ์ (EQ)ความฉลาดของการเข้าสังคม (SQ) ความฉลาดต่อการมีสุขภาพที่ดี (HQ) ความฉลาดในการเล่น PQ และ ความฉลาดต่อการเผชิญกับปัญหา AQ เป็นต้นค่ะ

            ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก : parentingforbrain.com

            บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

            เปิดเทคนิค สอนลูกให้ใจแกร่ง ฟันฝ่าอุปสรรคชีวิตได้ราบรื่น

            ส่อง 10 เคล็ดลับ เลี้ยงลูกให้เป็นอัจฉริยะ แบบชาวยิว

            5 เทคนิค สอนลูกให้เรียนรู้ จากความล้มเหลว เพื่อลุกขึ้นสู้!

            เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

             

              ออยลาตุ้ม

              บอกลาปัญหาผิวของลูกน้อย “ออยลาตุ้ม” เวชสำอางเพื่อผิวแพ้ง่ายที่ได้รับการไว้วางใจในอังกฤษมากว่า 50 ปี

              ปังเวอร์ ๆ สำหรับงานดูแลผิวลูกน้อยให้นุ่ม ชุ่มชื้น ไม่แห้งกร้าน ผิวมีสุขภาพดีสุด ๆ ทีมแม่ABK ยกให้ “Oilatum ออยลาตุ้ม” ผลิตภัณฑ์เวชสำอางบำรุงผิวจากประเทศอังกฤษ ที่ครอบครัวคนอังกฤษไว้ใจมานานกว่า 50 ปี คือใช้กับผิวลูกแล้วดีมาก เลยอยากมาบอกต่อให้คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ได้หาซื้อมาใช้กับผิวลูก ขอบอกว่า ผิวแห้ง แพ้ง่าย เอาอยู่เลยค่ะ

              มีคำถามจากเพื่อน ๆ สงสัยว่า ผิวเด็กเล็ก ๆ เนี่ยนะจะแห้ง แพ้ง่าย ตอบให้ตรงนี้ว่า “ผิวเด็กแห้ง และขาดความชุ่มชื้นได้ง่ายกว่าผิวผู้ใหญ่ คือเรื่องจริง!!” เพราะอะไรรู้ไหมคะ ? ทีมแม่ABK ขออธิบายสั้น ๆ แล้วเราจะได้ไปดูแลบำรุงผิวลูกพร้อมกันค่ะ

              …ผิวทารกแรกเกิด ผิวเด็ก มีความบาง อ่อนโยนมากกว่าผิวผู้ใหญ่ โครงสร้างของเซลล์ผิวยังไม่มีการเรียงตัวที่สมบูรณ์แข็งแรง และยังไม่มีชั้นไขมันใต้ผิวหนัง จึงทำให้ผิวเด็กเล็ก ๆ แห้งง่าย ไวต่อสิ่งรบกวน จะเห็นว่าผิวลูกมักจะเกิดการระคายเคือง เกิดผื่น แดง คันได้ง่ายมาก…

               

              ปัจจัยที่ทำให้ผิวแห้ง มีสาเหตุจากอะไรได้บ้าง ?

              • อายุ

              เด็กทารก เด็กเล็ก ผิวแห้งจากชั้นโครงสร้างผิวหนังยังไม่แข็งแรงสมบูรณ์ จึงสูญเสียความชุ่มชื้นได้ง่าย ส่วนผู้ใหญ่อายุเยอะขึ้น ผิวแห้ง ส่วนหนึ่งมาจากคอลลาเจนใต้ชั้นผิวหนังมีน้อยลง

              • อากาศ

              สภาพอากาศไม่ว่าจะ ร้อนเกินไป หรือ หนาวเกินไป ก็มีส่วนที่ทำให้สูญเสียน้ำใต้ชั้นผิวหนังได้

              • อุณหภูมิน้ำ

              การอาบน้ำอุณหภูมิปกติจะดีกับผิวหนังของคนเรามากกว่า เพราะการอาบน้ำอุ่นจะทำให้ รูขุมขนขยายตัว และทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นได้ง่าย

              • พันธุกรรม

              พ่อแม่ที่มีปัญหาต่าง ๆ เกี่ยวกับผิว บางทีก็ถ่ายทอดมายังลูกได้ด้วยเหมือนกันค่ะ

              • ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว

              การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสมกับสภาพผิว หรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารเคมี เช่น พาราเบน น้ำหอม แอลกอฮอล์ ฯลฯ ก็ยิ่งส่งผลให้ผิวเกิดการแห้ง แพ้ ระคายเคือง

              และนี่จึงเป็นที่มาว่าทำไมลูกถึงมีปัญหาผิวแห้ง แพ้ง่าย หรือถ้าในเด็กที่มีปัญหาผิวเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ก็ยิ่งมีปัญหามากขึ้น แนะนำว่าคุณพ่อคุณแม่ควรดูแลบำรุงผิวลูกให้ชุ่มชื้นอยู่เสมอ เพื่อจะได้มีผิวสุขภาพดี แข็งแรงกันตั้งแต่เล็ก ๆ ค่ะ

               

              ออยลาตุ้ม

              Oilatum ออยลาตุ้ม …ผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กผิวแห้ง

              จริง ๆ แม่รู้จักและใช้ผลิตภัณฑ์ของออยลาตุ้ม มาก่อนลูกนะคะ เพราะหลังคลอดลูกอาจจะด้วยฮอร์โมน และวัยที่เพิ่มขึ้น ผิวแห้งง่ายมาก จนมีเพื่อนแนะนำเวชสำอางดูแลผิวของ ออยลาตุ้ม ให้ได้รู้จัก คือความพิเศษของออยลาตุ้ม เค้าจะมีสารให้ความชุ่มชื้นที่เรียกว่า อีมอยเลียนท์ ซึ่งเป็นสารให้ความชุ่มชื้นที่โดยจะทำหน้าที่สร้างฟิล์มเคลือบผิวของเราเพื่อล็อคความชุ่มชื่นให้กับผิวได้ยาวนานกว่า 8 ชั่วโมง ส่วนตัวนี้นะที่แม่ใช้อยู่ทุกวันนี้ เป็นสบู่ก้อนอาบน้ำ Oilatum Soap Bar ความพิเศษของออยลาตุ้ม โซพ บาร์ คือใช้ได้ทั้งผิวหน้า ผิวกายเลยค่ะ

              Oilatum

              โดยฟิล์มบาง ๆ เคลือบผิว ตัวนี้ช่วยป้องกันการสูญเสียน้ำของผิว บางวันอาบน้ำเสร็จก็ไม่ได้ทาผิวด้วยโลชั่นเพิ่มนะ เพราะรู้สึกผิวไม่แห้งตึงหลังอาบน้ำค่ะ ด้วยความที่ใช้ออยลาตุ้มแล้วดีกับผิวเราไง ก็เลยอยากให้ลูกได้ใช้ด้วย ซึ่งจริง ๆ เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องผลิตภัณฑ์ของเด็กทารกเลยนะ คือใช้ได้กับผิวลูกตั้งแต่แรกเกิดเลย แม่เลยจัดมา 2 ตัวนี้ค่ะ

              ออยลาตุ้ม

              • Oilatum Baby Bath Emollient ออยลาตุ้ม เบบี้ บาธ อีมอลเลียนท์ เป็นผลิตภัณฑ์ผสมน้ำอาบ คือใช้ผสมลงในน้ำแล้วใช้อาบให้ลูกแทนสบู่ได้เลย พอผสมกับน้ำแล้วเนื้อเขากลายเป็นสีขาวขุ่นมีลักษณะคล้ายน้ำนม ตัวนี้คือใช้อาบน้ำได้ทั้งความสะอาด และได้การดูแลปกป้องผิวไปด้วยเลยนะ ออยลาตุ้ม เบบี้ บาธ จะช่วยคงความชุ่มชื้นกับผิวแห้ง ผิวขาดน้ำทำให้ผิวกลับมาชุ่มชื้น ผิวเนียนนุ่มน่ากอด น่าสัมผัสมากขึ้น มีทริคพิเศษสำหรับตัวนี้นิดนึง นอกจากผสมน้ำอาบแล้ว ยังใช้แทนออยทาผิวลูกได้ด้วย ถ้าลูกมีปัญหาผิวแห้งอักเสบมาก ๆ โดยพออาบน้ำเสร็จแล้ว ชโลมให้ทั่วตัวลูกขณะตัวเปียกได้เลย แล้วค่อยใช้ผ้าเช็ดตัวซับตัวลูกให้แห้ง วิธีนี้จะช่วยทำให้ผิวลูกชุ่มชื่นยาวนานยิ่งขึ้น หรือคุณแม่จะใช้ก็ได้เช่นกันนะคะ

              ออยลาตุ้ม Oilatum

              • Oilatum Baby Cream Emollient หลังอาบน้ำเสร็จให้เช็ดตัวให้แห้ง แล้วทาบำรุงผิวด้วย ออยลาตุ้ม เบบี้ ครีม อีมอลเลียนท์ จากที่แม่สังเกตตอนทาผิวให้ เขาจะรู้สึกผ่อนคลาย สบายผิวมาก ๆ ผลิตภัณฑ์ทาผิวของออยลาตุ้ม ตัวนี้เนื้อครีมเข้มข้นมาก แต่มันไม่หนักอย่างที่คิดนะคะ เพราะเกลี่ยง่าย เนื้อครีมซึมลงผิวเร็ว ไม่ทำให้เหนียวเหนอะหนะเลยค่ะ เหมาะสำหรับเด็กที่มีผิวแห้งขาดน้ำ คุณสมบัติของเนื้อครีมจะไปสร้างชั้นฟิล์มปกป้องผิว ช่วยลดการสูญเสียน้ำ ผิวลูกจะนุ่มชุ่มชื้นตลอดวันค่ะ

              จำได้ว่าตอนที่ซื้อผลิตภัณฑ์ Oilatum มาใช้กับผิวลูก ก็สงสัยว่า “Emollient อีมอลเลียนท์” คือสารอะไร ? จนไปหาข้อมูลทำให้รู้ว่าสารตัวนี้ดีกับผิวมาก ๆ ไม่ใช่แค่เฉพาะกับผิวเด็ก แต่ดีกับผิวผู้ใหญ่ทุกวัยเช่นกัน ยิ่งโดยเฉพาะถ้ามีปัญหาผิวแห้ง ผิวแพ้ง่าย

              Emollient อีมอลเลียนท์ คือ สารบำรุงผิวที่ทาหน้าที่เป็นมอยซ์เจอร์ไรเซอร์ โดยวิธีสร้างชั้นฟิล์ม เพื่อป้องกันน้ำระเหยออกจากผิว ไม่ให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้น และยังทำหน้าที่หล่อลื่นผิว ลดความเสียดทาน ทำให้ผิวนุ่มนวล และลื่นมือเวลาสัมผัส โดยมีน้ำมันเป็นองค์ประกอบในการรักษาความชุ่มชื้นของผิว ช่วยทำให้ผิวไม่แห้ง ช่วยรักษาความชุ่มชื้นของผิว ไม่ว่าจะเด็ก หรือผู้ใหญ่ที่มีปัญาผิวแห้ง ผิวขาดน้ำ ที่สำคัญ อีมอยเลียนท์ เป็นสารที่ใกล้เคียงไขมันตามธรรมชาติของผิวมนุษย์มากที่สุด และมีการใช้มาอย่างยาวนานแล้ว โดยไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ การได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารอีมอลเลียนท์ ผิวจะค่อย ๆ กลับมาแข็งแรง มีสุขภาพผิวดี ไม่แห้ง และคืนความนุ่มฟูให้กับผิว

              Oilatum

              ผลิตภัณฑ์ Oilatum ออยลาตุ้ม เหมาะกับใคร ?

              • Oilatum Soap Bar เหมาะสำหรับที่มีผิวแห้ง ผิวแพ้ง่าย สามารถใช้ได้ทั้งครอบครัวตั้งแต่เด็กไปจนถึงผู้สูงอายุ

              วิธีใช้ : ใช้เป็นสบู่อาบน้ำได้ทั้งผิวหน้า และผิวกาย

              • Oilatum Baby Bath Emollient เหมาะสำหรับผิวทารก , เด็ก และทุกวัยใช้ได้ทั้งครอบครัว

               วิธีใช้ : ใช้ได้ทั่วร่างกาย ผสมน้ำอาบ หรือใช้ทาผิวหลังอาบน้ำเสร็จในขณะที่ผิวยังหมาด ๆ

              • Oilatum Baby Cream Emollient เหมาะสำหรับผิวทารก , เด็ก และทุกวัย ใช้ได้ทั้งครอบครัว

              วิธีใช้ : ทาผิวเพื่อบำรุงให้ความชุ่มชื้น หลังอาบน้ำ หรือทาบ่อยครั้งเท่าที่ต้องการ

              Oilatum เป็นผลิตภัณฑ์เวชสำอางดูแลผิว ที่ได้รับรางวัลการันตี ในเรื่องความเชี่ยวชาญทางด้านผิวแห้งโดยเฉพาะ และได้รับความไว้วางใจจากหลายครอบครัวมายาวนานกว่า 50 ปีในประเทศอังกฤษ

              เพราะ Oilatum เป็นผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อผิว ปราศจากน้ำหอม ปราศจากพาราเบน ปราศจากซัลเฟต และปราศจากซิลิโคน ซึ่งสารเหล่านี้ไม่ดีต่อสุขภาพผิวอย่างแน่นอน

              คุณพ่อคุณแม่สนใจข้อมูลผลิตภัณฑ์เพิ่มเติม คลิก https://www.facebook.com/oilatumThailand  สามารถหาซื้อได้แล้ววันนี้ที่ Lazada , Boots , Pharmahof , Save Drug , P&F และร้านขายยาชั้นนำทั่วไป

              Oilatum Baby Bath Emollient : https://bit.ly/3zLBOYk

              Oilatum Soap Bar : https://bit.ly/3vYjrfL

              Oilatum Baby Cream Emollient: https://bit.ly/3gCNsvI

              ออยลาตุ้ม

                ยาน้ำฟาวิพิราเวียร์

                ยาน้ำเชื่อมฟาวิพิราเวียร์ รับยาที่ไหน ลูกควรกินเท่าไหร่?

                มารู้จัก ยาน้ำเชื่อมฟาวิพิราเวียร์ ยาต้านไวรัส ที่ช่วยรักษาอาการป่วยรุนแรงของผู้ติดเชื้อโควิด19 ตำรับแรกของไทย พัฒนาเพื่อใช้สำหรับเด็ก และผู้ที่กลืนยายาก

                เช็กเลย.. ยาน้ำเชื่อมฟาวิพิราเวียร์ รับยาที่ไหน ลูกควรกินเท่าไหร่?

                โรคโควิด-19 เป็นโรคอุบัติใหม่ที่มีการแพร่ระบาดใหญ่เป็นวงกว้าง ปัจจุบัน ทั่วโลกมีผู้ป่วยโรคโควิด-19 แล้วกว่า 100 ล้านราย และเสียชีวิตกว่า 2 ล้านราย (ร้อยละ 2)  สำหรับประเทศไทย แม้จะมีการป้องกันและควบคุมโรคโควิด-19 อย่างเข้มแข็งก็ยังพบการติดเชื้อสูง และโดยเฉพาะในเชื้อโควิดกลายพันธุ์ ที่มีความรุนแรง ติดเชื้อง่าย และพบการติดเชื้อในเด็กเพิ่มมากขึ้น ทำให้โรคโควิด-19 จึงมิใช่เรื่องที่ไกลตัวอีกต่อไป

                เด็กกับปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
                เด็กกับปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

                โรคโควิด-19 แพร่กระจายเชื้อได้อย่างไร?

                ▪ ทางละอองฝอย ผ่านการไอจามรดกันในระยะ 1-2 เมตร
                ▪ ทางการสัมผัส ผ่านการสัมผัสสิ่งคัดหลั่งของผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 เช่น น้ำมูก น้ำลาย ทั้งโดยทางตรง หรือทางอ้อมผ่านพื้นผิวสัมผัสที่ปนเปื้อนเชื้อ เช่น โต๊ะ ลูกบิดประตู ราวจับ สำหรับสิ่งคัดหลั่งอื่น เช่น  อุจจาระ พบว่ามีโอกาสแพร่เชื้อได้น้อยมาก
                ▪ ทางอากาศ พบในบางกรณี เช่น ผู้ป่วยไอมาก  ใกล้ชิดผู้ป่วยในสถานที่ที่อากาศถ่ายเทไม่สะดวก  การทำหัตถการที่ก่อให้เกิดการฟุ้งกระจายของละอองฝอยขนาดเล็ก ได้แก่ การดูดเสมหะ การใส่ท่อช่วยหายใจ เป็นต้น

                โรคโควิด-19 ในเด็ก

                อาการของโรคโควิด-19 ในเด็กมีอะไรบ้าง?

                ▪ โรคโควิด-19 สามารถมีอาการได้หลากหลายตั้งแต่ ไม่มีอาการเลย จนถึงปอดอักเสบรุนแรง หรือเสียชีวิต
                ▪ ระยะฟักตัวประมาณ 14 วัน โดยผู้ป่วยส่วนใหญ่มักมีอาการของโรคประมาณ 4-5 วัน หลังสัมผัสโรค เด็กมักติดเชื้อจากการอยู่ใกล้ชิดกับผู้ใหญ่ในบ้านที่ติดเชื้อหรือมีประวัติสัมผัสผู้ป่วยยืนยันโรคโควิด-19
                ▪ อาการของโรคโควิด-19 ที่พบมากที่สุดคือ ไข้ ไอแห้งๆ และอ่อนเพลีย อาจพบอาการปวดเมื่อย คัดจมูก น้ำมูกไหล จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส เจ็บคอ ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ หรือผื่นตามผิวหนัง สำหรับอาการทางเดินอาหาร เช่น ท้องเสีย ปวดท้อง พบได้เล็กน้อย

                โรคโควิด-19 ในเด็กมีอาการรุนแรงไหม?

                ▪ ผู้ป่วยเด็กติดเชื้อส่วนใหญ่กว่าร้อยละ 90 มีอาการไม่รุนแรง มักพบอาการเพียงเล็กน้อย เช่น ไข้ ไอ ปวดกล้ามเนื้อ ผู้ป่วยเด็กเพียงร้อยละ 5  เท่านั้นที่มีอาการรุนแรงหรือวิกฤติ เช่น ปอดอักเสบรุนแรง ระบบหายใจหรือระบบไหลเวียนโลหิตล้มเหลว รวมถึงภาวะอักเสบหลายระบบในเด็ก
                ▪ ผู้ป่วยเด็กสามารถพบติดเชื้อแต่ไม่มีอาการได้ประมาณร้อยละ 4
                ▪ ภาวะแทรกซ้อนพบได้น้อย มักพบในผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงสูง เช่น  เด็กเล็กอายุน้อยกว่า  1 ปี  ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว  เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไต โรคปอดเรื้อรัง หรือภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง
                ▪ อัตราการเสียชีวิตประมาณร้อยละ 2้

                ข้อมูลอ้างอิงจาก บทความ นพ.ชัยศิริ ศรีเจริญวิจิตร กุมารแพทย์โรคติดเชื้อ รพ.ศิครินทร์

                อ่านต่อ⇒ แม่แชร์ เมื่อลูกติดโควิด! วิธีรักษา Home Islation เด็ก

                ล้างมือบ่อย ๆ ช่วยป้องกันโรคโควิด-19
                ล้างมือบ่อย ๆ ช่วยป้องกันโรคโควิด-19

                ทำความรู้จักกับ “ยาฟาวิพิราเวียร์”

                ยาฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir) เป็นยาต้านเชื้อไวรัสที่อยู่ในสูตรยารักษาผู้ป่วย COVID-19 ของไทย โดยใช้ควบคู่ไปกับยาอื่นและได้ผลดี ทั้งนี้ ยาฟาวิพิราเวียร์ เป็นยาต้านไวรัสที่ใช้กับไวรัสไข้หวัดใหญ่ที่มีฤทธิ์ต่อต้านอาร์เอ็นเอไวรัสหลายชนิด
                สำหรับในประเทศไทย ยาฟาวิพิราเวียร์ได้รับการอนุมัติให้ใช้ในผู้ป่วย COVID-19 เป็นกรณีพิเศษและจากการเก็บข้อมูลย้อนหลังพบว่า ยาฟาวิพิราเวียร์ มีความปลอดภัย สามารถลดความรุนแรงและการสูญเสียจาก COVID-19 ได้ โดยองค์การเภสัชกรรมได้ทำการวิจัยและพัฒนากระบวนการสังเคราะห์วัตถุดิบยาฟาวิฟิราเวียร์ ในระดับห้องปฏิบัติการได้เรียบร้อยแล้ว

                ยาฟาวิพิราเวียร์จะออกฤทธิ์ 2 แบบ คือ ยับยั้งการเพิ่มจำนวนของไวรัสและทำให้เชื้อไวรัสกลายพันธุ์ คือ เข้าไปยับยั้งเอนไซม์ RNA-dependent RNA polymerase,RdRP ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่มีในไวรัสเท่านั้น เมื่อยาเข้าสู่ร่างกายจะถูกเปลี่ยนเป็นสาร Active Form = favipiravir-ribofuranosyl-5′-triphosphate (RTP) ให้ไวรัสกลายพันธุ์จนภูมิต้านทานในร่างกายมนุษย์สามารถเข้าไปกำจัดไวรัสจนหมด หรือเหลือปริมาณน้อยจนไม่สามารถก่อโรคในร่างกายได้อีก

                ผู้ป่วยใดที่ควรได้รับยาฟาวิพิราเวียร์

                แพทย์จะพิจารณาเริ่มยาฟาวิพิราเวียร์ในผู้ป่วยที่มีภาวะปอดอักเสบ ที่มีอาการรุนแรง โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโรครุนแรง ได้แก่ อายุมากกว่า 60 ปี มีโรคประจำตัว ดังนี้ โรคปอดเรื้อรัง โรคตับ ไตเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง เบาหวาน รวมถึงในผู้ป่วยที่มีภาวะอ้วนหรือภูมิคุ้มกันบกพร่อง

                วิธีการรับประทานยาฟาวิพิราเวียร์ (รูปแบบยาเม็ด)

                ขนาดยาที่ใช้สำหรับผู้ใหญ่ รับประทานครั้งละ 9 เม็ดทุก 12 ชั่วโมงในวันแรก และลดเหลือครั้งละ 4 เม็ด ทุก 12 ชั่วโมงในวันที่เหลือ ผู้ที่น้ำหนักมากกว่า 90 กิโลกรัม ขนาดยาจะสูงขึ้น โดยในวันแรกจะรับประทานครั้งละ 12 เม็ดทุก 12 ชั่วโมง และลดเหลือครั้งละ 5 เม็ด ทุก 12 ชั่วโมงในวันที่เหลือ สำหรับผู้ป่วยเด็กจะต้องมีการคำนวณขนาดยาตามน้ำหนักตัว ผู้ป่วยควรรับประทานยาตามวันและเวลาที่กำหนดอย่างเคร่งครัด ระยะเวลาในการรักษาอยู่ที่ 5-10 วัน ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรคและการตอบสนองต่อการรักษาของผู้ป่วยแต่ละราย อาการข้างเคียงที่อาจพบได้ เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ตับอักเสบ เป็นต้น

                ข้อมูลอ้างอิงจาก เภสัชกรหญิงนันทพร เล็กพิทยา เภสัชกรภิฏฐา สุรพัฒน์ คณะแพทย์ศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล

                ยาน้ำเชื่อมฟาวิพิราเวียร์ช่วยบรรเทาอาการโควิด-19
                ยาน้ำเชื่อมฟาวิพิราเวียร์ช่วยบรรเทาอาการโควิด-19

                ยาน้ำเชื่อมฟาวิพิราเวียร์ ตำรับแรกในไทย

                ยาน้ำเชื่อมฟาวิพิราเวียร์ ยาต้านเชื้อไวรัส ถือเป็นตำรับแรกในประเทศไทย ที่ถูกพัฒนาและคิดค้นสูตรโดย งานเภสัชกรรมฯ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ร่วมกับคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และบริษัท เมดิกา อินโนวา จำกัด สำหรับผลิตในโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ (Hospital preparation) ยาชนิดน้ำเชื่อมนี้ทำไว้สำหรับกลุ่มผู้ป่วยเด็ก ผู้ป่วยสูงอายุ รวมถึงผู้ป่วยที่มีความลำบากในการกลืนยาเม็ด โดยมุ่งหวังเพื่อช่วยเหลือประเทศไทยให้สามารถผลิตยาให้มีปริมาณเพียงพอต่อความต้องการในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ปัจจุบันยังไม่สามารถควบคุมได้ และพบการติดเชื้อในเด็กเพิ่มมากขึ้น

                ศ.นพ.นิธิ มหานนท์ เลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เล่าว่า การระบาดของโรคโควิด-19 ช่วงนี้ พบผู้ติดเชื้อมากขึ้นอย่างชัดเจน และมีผู้ติดเชื้อเป็นเด็กจำนวนค่อนข้างสูง และใช้ยารักษาแบบเม็ดได้ค่อนข้างลำบาก ทางราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จึงได้หารือกับบริษัท เมดิกา อินโนวา จำกัด เพื่อผลิตยาในโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ในรูปแบบยาน้ำเชื่อมที่ใช้รักษาโควิด-19

                ยาน้ำเชื่อมฟาวิพิราเวียร์ ตำรับแรกของไทย
                ยาน้ำเชื่อมฟาวิพิราเวียร์ ตำรับแรกของไทย

                วิธีใช้ยาน้ำเชื่อมฟาวิพิราเวียร์

                ตำรับยาน้ำเชื่อมฟาวิพิราเวียร์ เป็นยาน้ำเชื่อมปราศจากน้ำตาล ลักษณะเป็นยาน้ำใส สีส้ม รสราสป์เบอรี่

                ขนาดรับประทานในเด็ก ช่วงอายุ ตั้งแต่แรกเกิด – 10 ปี
                ระยะเวลาการให้ยา 5 – 10 วัน (วันละ 2 ครั้ง ห่างกัน 12 ชม.)
                วันแรก รับประทานขนาด 60 มก./กก./วัน แบ่งให้วันละ 2 ครั้ง (ครั้งละ 30 มก.)
                วันต่อมา รับประทานขนาด 20 มก./กก./วัน แบ่งให้วันละ 2 ครั้ง (ครั้งละ 10 มก.)
                ขนาดรับประทานในผู้ใหญ่
                วันแรก รับประทานขนาด 1,800 มก. วันละ 2 ครั้ง
                วันต่อมา รับประทานขนาด 800 มก. วันละ 2 ครั้ง
                กรณีผู้ใหญ่น้ำหนักตัวมากกว่า 90 กิโลกรัม
                วันแรก รับประทานขนาด 2,400 มก. วันละ 2 ครั้ง
                วันต่อมา รับประทานขนาด 1,000 มก. วันละ 2 ครั้ง
                วิธีการเก็บรักษา
                ควรเก็บในที่ที่ไม่โดนแสงแดด ในอุณหภูมิไม่เกิน 30 องศาเซลเซียส

                ช่องทางติดต่อรับยาน้ำเชื่อมฟาวิพิราเวียร์

                ในกรณีที่แพทย์มีความประสงค์จะใช้ยาชนิดนี้ในผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในกลุ่มผู้ป่วยเด็กและผู้สูงอายุ 70 ปีขึ้นไป หรือผู้ที่ให้อาหารทางสายที่มีผลการตรวจ RT- PCR ยืนยันการติดเชื้อโควิด-19 ที่อยู่ในระบบการดูแลของโรงพยาบาล หรือเข้าสู่ระบบการดูแลที่บ้าน Home Isolation ที่มีแพทย์ติดตามหรือในผู้ที่แพทย์เห็นสมควรจากประวัติสัมผัสและผลตรวจ Rapid Antigen Test เป็นบวก

                สามารถติดต่อเพื่อขอรับยาน้ำเชื่อมฟาวิพิราเวียร์ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ โดยนำผลยืนยันการติดเชื้อโควิด-19 เข้ามาพบแพทย์และรับยาได้ที่ favipiravir.cra.ac.th หรือโทร.06-4586-2470 ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 6 สิงหาคมเป็นต้นไป โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ระหว่างเดือนสิงหาคมและกันยายน โดยในระยะแรกโรงพยาบาลจุฬาภรณ์สามารถผลิตได้จำกัดเพียงไม่เกิน 100 รายต่อสัปดาห์ และยานี้ต้องใช้ตามแพทย์สั่งเท่านั้น

                ข้อมูลอ้างอิงจาก www.prachachat.net /fb:nithi.mahanonda

                อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

                รีวิว ยาน้ำแก้ไอสำหรับเด็ก ตัวไหน? ช่วยบรรเทาอาการไอและปลอดภัยกับลูกน้อย

                ยาน้ำลดไข้ ของเด็ก แต่ละยี่ห้อแตกต่างกันอย่างไร พ่อแม่ควรรู้!

                หมอเฉลย สาเหตุ “เด็ก 3 เดือนติดโควิด-19″ พ่อแม่ต้องระวัง!!

                เด็กติดโควิด ระวังเชื้อจากพ่อแม่ แพร่ Covid-19 สู่ลูก

                เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                  โรคระบาดในเด็กเล็ก

                  ผู้เชี่ยวชาญคาด อนาคตโควิดจะกลายเป็น โรคระบาดในเด็กเล็ก

                  โรคระบาดในเด็กเล็ก – นักวิจัยคาดการณ์ว่าไวรัส SARS-CoV-2 ที่ทำให้เกิดโรค โควิด-19 อาจกลายเป็นโรคประจำถิ่นในอนาคต และผู้ที่เสี่ยงที่จะติดเชื้อส่วนใหญ่จะกลายเป็นเด็กเล็กที่อายุน้อยเกินกว่าที่จะได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรค

                  ผู้เชี่ยวชาญคาด อนาคตโควิดจะกลายเป็น โรคระบาดในเด็กเล็ก

                  ด้วยประสบการณ์ที่ผ่านมาที่โลกต้องเชิญกับโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ต่างๆ มีการรสร้างแบบจำลองที่คล้ายกันในหลายประเทศ และกลุ่มอายุ ทำให้นักวิจัยสามารถคาดการณ์แนวโน้มของโควิด-19 ได้ว่าจะมีลักษณะเป็นอย่างไรในอีก 1 ปี 10ปี หรือ 20 ปีนับจากนี้

                  ดร. ออตตา บียอร์นสตัด  นักนิเวศวิทยาเชิงทฤษฎี  กล่าวกับ Medscape Medical News ว่า “เราอยู่ท่ามกลาง การระบาดใหญ่ของไวรัส ซึ่งเป็นคำที่นักระบาดวิทยาใช้เมื่อไม่เคยพบไวรัสมาก่อน ความแปลกใหม่ของ COVID-19 ก็เหมือนกับในอดีตที่เรารู้จักโรคหัดหรือไข้ทรพิษครั้งแรก  แม้ว่าอาจไม่มีอะไรแน่นอน แต่นักวิจัยในสหรัฐอเมริกาและนอร์เวย์มีข้อมูลมากพอที่จะคาดการสถานการณ์ในอนาคตที่เป็นไปได้มากที่สุด คือ COVID-19 อาจไม่ถูกกำจัดให้หมดไปได้ แต่จะเปลี่ยนสถานะเป็นโรคประจำถิ่นเช่นเดียวกับโรคไข้หวัดใหญ่ กล่าวคือ มีอัตราป่วยคงที่และสามารถคาดการณ์ได้

                  แยกให้ออก ภูมิแพ้ ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่กับโควิด -19 อาการ ต่างกันยังไง?

                  งานวิจัยชี้! เด็กป่วยโควิด ส่วนใหญ่หายเป็นปกติได้ภายในหนึ่งสัปดาห์

                  แม่แชร์ เมื่อลูกติดโควิด! วิธีรักษา Home Isolation เด็ก

                  โรคระบาดในเด็กเล็ก
                  โรคระบาดในเด็กเล็ก

                  การศึกษาในครั้งนี้ ได้รับการเผยแพร่ออนไลน์ในวันที่ 11 สิงหาคมใน Science Advances โดย ดร.บียอร์นสตัด กล่าวว่าหากสถานการณ์ของโรคเป็นไปตามที่คาดการณ์  ผู้ใหญ่ส่วนใหญ่จะมีภูมิคุ้มกันโรคจากการได้รับวัคซีนหรือการสัมผัสกับโรคหลายครั้งเช่นเดียวกับที่ไวรัสที่ “ทำให้เกิดโรคหวัดในเด็ก”  “หากเราสัมผัสกับไวรัสหลายครั้งในช่วงชีวิตแบบซ้ำๆ ถึงแม้จะติดเชื้อแต่อาการก็จะไม่รุนแรง

                  “จำนวนผู้เสียชีวิตระหว่างการระบาดใหญ่เป็นตัวเลขที่น่ากลัว เช่นเดียวกับการระบาดครั้งใหญ่ครั้งก่อนๆ” บียอร์นสตัดกล่าว นอกจากเด็กแล้วยังเป็นไปได้ที่ไวรัส SARS-CoV-2 อาจเสี่ยงต่อผู้สูงอายุแต่โอกาสอาจเป็นไปได้น้อยกว่า

                  การสร้างแบบจำลอง

                  “ไวรัสไข้หวัดใหญ่ที่ก่อให้เกิดการระบาดใหญ่เมื่อหนึ่งศตวรรษก่อน ปัจจุบันกลายเป็นเพียงไวรัสที่เกิดตามฤดูกาล ดังนั้นมีความเป็นไปได้สูงที่ COVID-19 จะกลายเป็นโรคประจำถิ่นในอนาคตได้เช่นเดียวกันและไม่ส่งผลกระทบที่รุนแรงต่อประชากรที่เคยสัมผัสโรค หรือมีภูมิคุ้มกันต่อการติดเชื้อ” แพทย์หญิง โมฮันดาส ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อในเด็กที่โรงพยาบาลเด็กลอสแองเจลิส กล่าว

                  “สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่า เรามีวัคซีนป้องกัน โควิด-19 ที่มีประสิทธิภาพมากกว่าไข้หวัดใหญ่” ความพร้อมและประสิทธิภาพของวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในเด็กเล็กในอนาคตน่าจะส่งผลกระทบสำคัญต่อการวิวัฒนาการของโรค”

                  ดร.บียอร์นสตัด กล่าวว่า “มีการแพร่ระบาดเป็นจำนวนมากในเด็กและคนหนุ่มสาวซึ่งทำให้เกิดการระบาดใหญ่ในขณะนี้” นักวิจัยเชื่อว่า หากความรุนแรงของ COVID-19 ในเด็กโดยทั่วไปลดลง สถานการณ์ของโรคโดยรวมก็จะลดลงเช่นกัน เนื่องจาก SARS-CoV-2 จะกลายเป็นเพียงโรคประจำถิ่น ในขณะที่มีบางกรณีของโรคร้ายแรงในกลุ่มอายุนั้น แต่ก็พบได้ยากมาก

                  ดร. เทย์เลอร์ ฮีลด์ กล่าวว่า “มีแนวโน้มมากขึ้น ที่ SARS-CoV-2 จะไม่ถูกกำจัดให้สิ้นซากไป แต่กลายเป็นไวรัสประจำถิ่น อาจจะเป็นไวรัสตามฤดูกาล เมื่อตระหนักถึงเหตุการณ์นี้ บทความนี้จะให้แบบจำลองตามอายุของสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต”

                  “มันสมเหตุสมผลแล้วที่เด็ก ๆ จะกลายเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ  SARS-CoV-2 ได้มากที่สุด เนื่องจากผู้ใหญ่สามารถพัฒนาภูมิคุ้มกันโดยผ่านการติดเชื้อหรือการฉีดวัคซีน แต่เด็กคือกลุ่มประชากรที่เกิดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ”

                  บทเรียนจากประวัติศาสตร์

                  การระบาดของโรคทางเดินหายใจในอดีตแสดงให้เห็นว่ากลุ่มอายุที่มีความเสี่ยงสูงสุด สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ตัวอย่างเช่น การระบาดใหญ่ของไข้หวัดใหญ่ในปี พ.ศ. 2432 และ พ.ศ. 2433 หรือที่เรียกว่าการระบาดของไข้หวัดเอเชียหรือรัสเซีย ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปประมาณ 1 ล้านคน ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นผู้ใหญ่ที่มีอายุมากกว่า 70 ปี การระบาดครั้งนั้นเกิดจากโคโรน่าไวรัสในมนุษย์ชื่อว่า HCoV-OC43  แต่ในปัจจุบัน ดร.บียอร์นสตัด กล่าวว่า “เชื้อชนิดนี้ได้กลายเป็นเพียงเป็นไวรัสประจำถิ่นและไม่น่ากลัวเหมือนในอดีต โดยส่วนใหญ่จะส่งผลกระทบต่อเด็กที่อายุ 7-12 เดือน”

                  โรคระบาดในเด็กเล็ก

                  สถานการณ์การติดเชื้อโควิดในเด็กไทย

                  นางสุภัชชา สุทธิพล อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน กล่าวว่า มีเด็กไทยได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมจากการระบาดของโควิด-19 จำนวนมาก มียอดเด็กติดเชื้อสะสมระหว่าง 1 ม.ค.-4 ส.ค. 2564 มากกว่า 65,086 คน โดย แบ่งเป็น กทม. จำนวน 15,465 คน ส่วนภูมิภาค 49,621 คน โดยจำนวนเด็กติดเชื้อรายข้อมูล ณ วันที่ 4 สิงหาคม 2564 อยู่ที่ 2,194 คน แบ่งเป็น กทม. 408 คน และส่วนภูมิภาค 1,786 คน

                  เห็นได้ชัดว่าตั้งแต่มีโควิดสายพันธุ์เดลตาแพร่ระบาดเข้ามาในประเทศไทย  ส่งผลให้มีการติดเชื้อในเด็กมากขึ้นอย่างน่าตกใจ  แม้ว่าเด็กจะมีอาการไม่ค่อยมาก แต่จะมีกลุ่มอาการเหมือนโรคคาวาซากิ ซึ่งบางทีอาจจะรุนแรงได้ในเด็ก และไม่ได้เกิดขึ้นทันทีที่ติดเชื้อ ส่วนใหญ่เด็กจะมีอาการตามหลังการติดโควิด-19ไม่เกิน 1 เดือน ดังสถานการณ์ปัจจุบัน พ่อแม่ผู้ปกครองต่างต้องการให้ลูกได้ฉีดวัคซีนค่อนข้างมาก

                  แต่ปัญหาคือวัคซีนที่มีขณะนี้ มีเพียงยี่ห้อเดียว คือ ยี่ห้อไฟเซอร์ ซึ่งได้รับการรับรองในต่างประเทศที่ให้ใช้ในเด็กได้ตั้งแต่อายุ 12 ปีขึ้นไป อีกวัคซีนซึ่งมีการศึกษาแล้วว่าใช้ในเด็กแล้วมีความปลอดภัย คือ ซิโนแวค ที่ฉีดได้ตั้งแต่อายุ 3ขวบขึ้นไป โดยใช้ปริมาณครึ่งโดสของผู้ใหญ่ แต่ยังไม่ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการ เหมือนวัคซีนไฟเซอร์ที่องค์การอนามัยโลกมีการรับรองให้ฉีดในเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไปได้

                  ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก : webmd.com , bangkokbiznews.com , tcijthai.com

                  บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

                  จิตแพทย์แนะ 4 วิธีรับมือความเครียด ในช่วงการระบาดของโควิด-19

                  หมอสูติตอบชัด! คนท้องฉีดวัคซีนโควิดได้ไหม ฉีดอย่างไรให้..ปลอดภัยทั้งแม่ลูก

                  รวมคำถามพบบ่อย คนท้องกับโควิด โดยคุณหมอโอฬาริก

                  เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                   

                    ลูกชอบกัดเล็บ

                    ลูกชอบกัดเล็บ ควรกังวลไหม ควรทำอย่างไรให้ลูกเลิกกัดเล็บ

                    ลูกชอบกัดเล็บ – คุณพ่อคุณแม่หลายคนอาจจะเคยสงสัยว่าทำไมลูกน้อยที่บ้านถึงได้ชอบกัดเล็บตัวเอง ลูกเราผิดปกติหรือเปล่า? พ่อแม่ส่วนใหญ่อาจมีปฏิกิริยาตอบสนองที่ค่อนข้างจริงจังเมื่อเห็นลูกกัดเล็บ  เช่น สั่งให้ลูกดึงมือออก สั่งให้หยุด หรือขู่ว่าจะนิ้วกุด บางคนดุลูก ตีมือลูก ไปถึงขั้นตีปาก ทั้งนี้ทั้งนั้นเพราะเป็นกังวลว่าเชื้อโรคจะเข้าสู่ร่างกายลูกได้ พอลูกหยุดทำพ่อแม่ก็รู็สึกสบายใจ แต่สิ่งที่พ่อแม่มองไม่เห็น ทั้งยังเป็นสาเหตุที่แท้จริงกลับไม่ได้รับการช่วยเหลือ นั่นก็คือ “ความวิตกกังวล” ในใจลูก ซึ่งเป็นเรื่องที่พ่อแม่อาจไม่คิดไม่ถึง ความจริงแล้วการกัดเล็บเป็นหนึ่งในพัฒนาการของเด็กวัยหัดเดิน และเด็กส่วนใหญ่จะเลิกพฤติกรรมนี้ไปได้เองเมื่อเวลาผ่านไป

                    ลูกชอบกัดเล็บ ควรกังวลไหม ทำยังไงให้ลูกเลิกกัดเล็บ?

                    การดูดนิ้วหัวแม่มือ การกัดฟัน การบิดผม และการแคะจมูก ล้วนแล้วแต่เป็นพฤติกรรมที่เกิดจากสภาพทางจิตใจ การกัดเล็บก็เช่นกัน  งานวิจัยบางชิ้นแสดงให้เห็นว่าการกัดเล็บอาจมีปัจจัยทางพันธุกรรม ลูกของคุณอาจกัดเล็บเนื่องจากความสนใจที่พวกเขาได้รับ เมื่อคุณยืนกรานให้หยุด อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่มองว่าการกัดเล็บเป็นนิสัย ซึ่งเป็นพฤติกรรมซ้ำๆ ที่ลูกอาจทำโดยไม่รู้ตัว

                    สาเหตุของการกัดเล็บในเด็ก

                    เด็กกัดเล็บด้วยเหตุผลต่างๆ เช่น ความวิตกกังวล ความเครียด ความเบื่อหน่าย และความสบายใจ สาเหตุประการที่ทำให้เด็กกัดเล็บ คือ

                    1. เพื่อความสบาย

                    ทารกดูดนิ้วหัวแม่มือเพื่อเป็นการปลอบประโลมตัวเองซึ่งเป็นเรื่องธรรมชาติ เพราะเป็นการกระทำที่ให้เกิดความรู้สึกสบาย ผ่อนคลายเมื่อพวกเขากำลังเล่นหรืออยู่คนเดียว และการกัดเล็บตัวเองก็เป็นรูปแบบการผ่อนคลายที่พัฒนาขึ้นมาอีกขั้นจากการดูดนิ้วโป้งเมื่อเด็กโตขึ้น ดังนั้นเด็กวัยเตาะแตะอาจกัดเล็บตัวเองได้เมื่อรู้สึกสบาย

                    2. ความเบื่อหน่าย

                    เด็กมักจะกัดเล็บเมื่อรู้สึกเบื่อหรือรู้สึกว่าทำอะไรซ้ำซากจำเจ นอกจากนี้ยังสามารถเห็นการกัดเล็บได้เมื่อพวกเขาไม่ได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมและมือของพวกเขาเป็นอิสระ ระหว่างดูทีวี หรืออยู่ในชั้นเรียน

                    ลูกชอบกัดเล็บ
                    ลูกชอบกัดเล็บ

                    3. บรรเทาความวิตกกังวลและความเครียด

                    เด็ก ๆ อาจกัดเล็บเพื่อแสดงความตึงเครียดที่รู้สึกอยู่ลึกๆ เพียงชั่วคราวในวัยเด็ก เด็กทุกคนต่างมีความวิตกกังวลในแบบของตัวเอง การเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ในโรงเรียน หรือรู้สึกเขินอายในสนามเด็กเล่นเป็นสิ่งที่มักเกิดขึ้นได้ การกัดเล็บที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่ในช่วงเวลาเช่นนี้อาจเป็นวิธีที่บุตรหลานของคุณจัดการกับความเครียดหรือปลอบโยนตัวเอง หากเป็นกรณีนี้ ก็ไม่มีอะไรต้องกังวล

                    สถานการณ์ต่างๆ ที่บ้านหรือโรงเรียนที่อาจทำให้เกิดความเครียดหรือวิตกกังวลทำให้เกิดการกัดเล็บในเด็กมีสถานการณ์กดดันมากมายที่อาจทำให้พวกเขาวิตกกังวลได้ เช่น:

                    • การทะเลาะเบาะแว้งระหว่างสมาชิกในครอบครัวหรือพ่อแม่
                    • การสูญเสียสมาชิกในครอบครัวหรือญาติสนิท
                    • พ่อแม่หย่าร้างกัน
                    • ย้ายบ้านใหม่
                    • เข้าโรงเรียนใหม่
                    • โดนเด็กคนอื่นรังแก
                    • การโดนลงโทษ

                    4. เลียนแบบ

                    เด็กสามารถซึมซับและรับพฤติกรรมของผู้อื่นอย่างรวดเร็ว การกัดเล็บเป็นพฤติกรรมอย่างหนึ่งที่พบได้ทั่วไป และเมื่อเห็นพี่น้องหรือสมาชิกในครอบครัวทำแบบนั้น เด็กๆ ก็อาจเลียนแบบนิสัยนั้นได้โดยไม่รู้ตัว

                    5. เป็นกรรมพันธุ์

                    มีโอกาสที่นิสัยของคุณจะถูกส่งต่อไปยังลูก ๆ ผ่านทางยีนของพ่อแม่ หากคุณเคยกัดเล็บตอนคุณยังเด็ก ลูกของคุณก็มีแนวโน้มที่จะมีพฤติกรรมชอบกัดเล็บได้เช่นกัน

                    ลูกชอบกัดเล็บควรกังวลหรือไม่?

                    โดยปกติ การกัดเล็บไม่ใช่สาเหตุหลักที่น่ากังวล การกัดเล็บในเด็กเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ แต่สิ่งเหล่านี้สามารถแก้ไขได้ตั้งแต่เนิ่นๆ และบ่อยครั้งที่การกัดเล็บเป็นนิสัยประเภทหนึ่งที่เด็ก ๆ เรียนรู้ และจะหยุดเองได้

                    การใช้เวลากับลูกให้มากและสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นและไว้ใจได้ จะกระตุ้นให้พวกเขาแบ่งปันความรู้สึกกังวลกับคุณ หากลูกของคุณกัดเล็บเป็นประจำจนเลือดออก ลูกฉีกแผ่นเล็บ หรือปลายนิ้วมือเปื้อนเลือด รวมกับพฤติกรรมวิตกกังวลหรือตึงเครียดอื่นๆ ที่อาจถือเป็นการทำลายตนเอง และอาจกำลังทุกข์ทรมานจากความวิตกกังวลหรือความเครียดมากกว่าปกติสำหรับเด็กในวัยเดียวกัน ซึ่งเมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้ควรต้องปรึกษาแพทย์เพราะอาจเป็นสัญญาณว่าลูกของคุณกำลังทุกข์ทรมานจากสาเหตุบางอย่างที่ร้ายแรงกว่านั้น สิ่งสำคัญคือพ่อแม่ต้องรับรู้ถึงสิ่งเหล่านั้นให้ได้ตั้งแต่เนิ่นๆเพื่อที่จะได้ช่วยแก้ไขได้ทันเวลา

                    นอกจากนี้เราอาจเคยได้ยินว่าการกัดเล็บอาจเชื่อมโยงกับออทิสติก แต่ความจริงแล้วเด็กที่ชอบกัดเล็บไม่จำเป็นต้องเป็นออทิสติกเสมอไป เด็กและผู้ใหญ่หลายคนมีสิ่งที่พวกเขาทำเพื่อความสบายใจ  เช่น ม้วนผม เคาะพื้นผิว เล่นกับเสื้อผ้าหรือเครื่องประดับ แต่หากคุณรู้สึกว่าลูกของคุณแสดงพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับออทิสติก โปรดติดต่อกุมารแพทย์ของคุณ

                    วิธีรับมือเมื่อลูกชอบกัดเล็บ

                    มีหลายวิธีในการช่วยให้เด็กๆ เลิกกัดเล็บ แต่สิ่งสำคัญคืออย่าไปเร่งพวกเขา  เด็กๆ ไม่ควรรู้สึกเขินอายหรือละอายใจ

                    เมื่อพูดถึงการกัดเล็บในวัย 2 ขวบ บางครั้งทางเลือกที่ดีที่สุดคือการทำต่อไปตามปกติ และหวังว่านิสัยเล็กๆ น้อยๆ นี้จะหายไปเอง ถ้าไม่เช่นนั้น เรามีวิธีอื่นที่อาจใช้ได้ผล

                    ต่อไปนี้เป็นวิธีแก้ไขที่มีประสิทธิภาพสำหรับการกัดเล็บในเด็ก:

                    1. ช่วยบรรเทาความวิตกกังวลของลูก

                    อย่างที่ทราบกันว่าการกัดเล็บช่วยคลายความตึงเครียดและรับมือกับความรู้สึกที่ยากลำบากของเด็ก หากคุณสังเกตเห็นว่าลูกของคุณกัดเล็บบ่อยขึ้นจนผิดสังเกตเมื่อเขาเครียดหรือกังวลเกี่ยวกับปัญหาต่างๆ เช่น เปลี่ยนโรงเรียน ย้ายไปอยู่ที่อื่น หรือความขัดแย้งในครอบครัว ให้ใช้เวลาพูดคุยกับเขา หาช่วงเวลาที่ดีเมื่อเขาอยู่ในอารมณ์ที่เหมาะสม และเชื่อมต่อกับเขาเพื่อพูดคุยถึงสิ่งที่เขาอาจกำลังเป็นกังวลอยู่ ให้ลูกได้บอกให้รู้ และหาทางแก้ไขด้วยเหตุผลของคุณ

                    2. ตัดเล็บให้ลูกเป็นประจำ

                    การเล็มเล็บเป็นวิธีที่ดีในการป้องกันการกัดเล็บให้น้อยที่สุด ตัดและตะไบเล็บให้ลูกทุกสัปดาห์  เพื่อไม่ให้เล็บของลูกไม่มีขอบหยาบๆ ที่กระตุ้นให้เด็กๆ ต้องแทะ การดูแลเล็บที่ดีมีแนวโน้มที่จะทำให้เด็กๆ ลืมนิสัยการกัดเล็บ และไม่หันกลับมากัดเล็บของพวกเขาอีก

                    ลูกชอบกัดเล็บ

                    3. เสนอทางเลือกอื่น

                    เสนอทางเลือกอื่นเพื่อคลายความวิตกกังวลของลูก  การบีบและคลึงมือจะช่วยให้เด็กๆ ผ่อนคลายได้ดีขึ้น กิจกรรมที่ทำให้พวกเขายุ่งเป็นทางเลือกที่ดี อาทิ  การทำงานศิลปะ และงานฝีมือควบคู่ไปกับการกระตุ้นจินตนาการเพื่อคลายความเครียด กิจกรรมกลางแจ้งให้เด็กๆ ได้ออกกำลังกายให้ได้เหงื่อซึ่งเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการปลดปล่อยพลังงานหรือความเครียดที่ถูกเก็บเอาไว้

                    4. สอนให้ลูกตระหนักถึงพฤติกรรม

                    คุณอาจเริ่มต้นด้วยการบอกลูกเกี่ยวกับสุขอนามัยและผลเสียบางประการของการกัดเล็บ แต่ต้องเป็นเหตุผลที่ไม่น่ากลัวเกินไปสำหรับเด็กๆ  เล่าให้ลูกฟังว่าทำไมการเอานิ้วเข้าปากจึงไม่ใช่เรื่องดีเพราะเราทุกคนมีสิ่งสกปรกและแบคทีเรียอยู่ที่เล็บ การสอนลูกให้เลอกพฤติกรรมต้องค่อยเป็นค่อยไป เพราะส่วนใหญ่แล้วลูกของคุณจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพวกเขากำลังทำอยู่ ด้วยเหตุนี้เด็กๆ อาจตกใจได้เมื่อคุณตะโกนใส่พวกเขาให้หยุดการกระทำในทันที

                    5. ให้รางวัลกับพฤติกรรมเชิงบวก

                    เมื่อคุณเห็นว่าลูกพัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้นและเหมาะสมลูกเริ่มไม่มีพฤติกรรมกัดเล็บหรือกัดเล็บน้อยลง ควรชื่นชมและให้รางวัลพวกเขา พาพวกเขาไปกินไอศกรีม เพื่อเป็นรางวัล หรือซื้อของเล่นชิ้นใหม่ที่พวกเขาต้องการให้พวกเขา โดยธรรมชาติแล้ว เด็กมักจะชอบเอาใจพ่อแม่ และแสวงหาความสนใจจากพ่อแม่ดังนั้นการชมเชยการมีสติเกี่ยวกับนิสัยหรือการสร้างสุขภาพที่ดีจึงกระตุ้นให้พวกเขามีพฤติกรรมที่ดีได้

                    6. อย่าทำให้เป็นเรื่องใหญ่

                    พยายามอย่ากังวลมากนักหากเทคนิคและความพยายามต่างๆ ในการลดละเลิกพฤติกรรมการกัดเล็บของลูกใช้ไม่ได้ผลในทันที หรือต้องหยุดกลางคันการเริ่มต้นใหม่ถือเป็นเรื่องปกติ และไม่มีอะไรเสียหาย ควรให้เวลากับเด็กๆ และพยายามทำความเข้าใจว่าพวกเขาจำเป็นต้องใช้เวลาสักพักก่อนที่จะเลิกนิสัยกัดเล็บได้

                    สิ่งที่ไม่ควรทำเมื่อลูกกัดเล็บ

                    การขู่ลูกเกี่ยวกับการกัดเล็บ การพร่ำบ่น หรือการพูดซ้ำซากให้ลูกได้ยินบ่อยๆ อาจทำให้ลูกเกิดความเครียดสะสมซึ่งไม่เป็นประโยชน์ในการแก้ปัญหา เป็นการดีที่สุดที่จะทำตามคำแนะนำต่างๆ หรือปล่อยให้เด็กๆ ได้เข้าใจถึงผลกระทบตามธรรมชาติที่อาจเกิดขึ้น นอกจากนี้อาจมีพ่อแม่หลายคนคิดหาวิธีให้ลูกเลิกกัดเล็บด้วยวิธีที่ไม่เหมาะสม  ซึ่งวิธีที่ไม่แนะนำให้ใช้ คือ ยาทาเล็บที่มีรสขม เนื่องจากลูกน้อยของคุณมีแนวโน้มที่จะมองว่าการที่พ่อแม่ทำแบบนี้คือการลงโทษที่รุนแรงเกินไป เพราะการกัดเล็บของพวกเขาก็เป็นสิ่งที่ทำโดยสัญชาตญาณ  ดังนั้นการทำให้นิ้วของเด็กๆ มีรสชาติแย่ๆ ไม่ใช่ความคิดที่ดีในการแก้ปัญหา มีวิธีการอื่นๆ ที่ยอดเยี่ยมและเมตตากว่ามากมายในการช่วยลูกวัยเตาะแตะของคุณเรื่องพฤติกรรมการกัดเล็บ

                    ผลเสียของการกัดเล็บที่อาจเกิดขึ้นได้

                    ต่อไปนี้เป็นภาวะแทรกซ้อนที่เกี่ยวข้องกับการกัดเล็บในเด็ก:

                    • บางครั้งเด็กอาจแทะเล็บลึกมากจนเลือดออกเมื่อเกิดขึ้นบ่อยๆ บ่อยอาจทำให้นิ้วเจ็บหรือเหงือกอักเสบได้
                    • การกัดเล็บด้วยมือที่สกปรกอาจนำไปสู่การติดเชื้อโรคต่างๆ และทำให้เจ็บป่วยได้
                    • การกัดเล็บอย่างรุนแรงอาจเป็นสัญญาณของปัญหาด้านความวิตกกังวลที่ต้องได้รับการจัดการ

                    อย่างที่กล่าวไปแล้วว่าพฤติกรรมการกัดเล็บของเด็กๆ สามารถหายไปเองได้เมื่อเด็กๆ โตขึ้น ดังนั้นไม่จำเป็นต้องกังวลจนเกินไปหากพฤติกรรมไม่เข้าค่ายที่ต้องกังวล วิธีแก้ปัญหาเพื่อหยุดนิสัยชอบกัดเล็บด้วยการเสริมทางเลือกเสริมทางเลือกเชิงบวก ตลอดจนการให้คำแนะนำและการอธิบายให้เด็กๆ ได้ตระหนักถึงผลเสียของการกัดเล็บด้วยวิธีที่เหมาะสมกับวัยของลูกจะช่วยปรับพฤติกรรมของลูกได้ และยังช่วยเสริมสร้างทักษะความฉลาดรอบด้านด้วย Power BQ ให้กับเด็กๆ ในด้าน ความฉลาดต่อการมีสุขภาพที่ดี HQได้อีกทางหนึ่งด้วยค่ะ

                    ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก : parenting.firstcry.com , kidadl.com

                    บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

                    ทารกชอบขยี้ตา ลูกชอบถูหน้าตัวเอง เป็นเพราะอะไร?

                    ลูกชอบนอนละเมอ พ่อแม่ควรกังวลไหม จะแก้ไขได้อย่างไร?

                    เคล็ด(ไม่)ลับ ลูกเป็นหวัดคัดจมูก วิธีแก้แบบไม่ใช้ยา

                    เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                     

                      เครียดลูกป่วยบ่อย นมแม่ช่วยได้ไหม

                      เครียดลูกป่วยบ่อย ทำไมลูกกินนมแม่ยังป่วยบ่อยได้นะ??

                      เครียดลูกป่วยบ่อย อยู่ใช่ไหม เวลาลูกป่วยไม่เพียงแต่ทรมานลูก แต่พ่อแม่ก็พลอยทุกข์ใจไปด้วย เหตุใดลูกถึงป่วยบ่อย ทั้งที่เลี้ยงด้วยนมแม่ มาหาสาเหตุไปพร้อมกัน

                      เครียดลูกป่วยบ่อย ทำไมลูกกินนมแม่ยังป่วยบ่อยได้นะ??

                      ลูกป่วยบ่อย นับว่าเป็นปัญหาที่น่าหนักใจของพ่อแม่ทุกคน ไม่ว่าลูกของเราจะอยู่ในวัยใดก็ตาม พ่อแม่ก็ไม่อยากที่จะเห็นลูกต้องทรมานจากการป่วย นอกจากนั้นยังสร้างความกังวล ทำให้พ่อแม่เครียดลูกป่วยบ่อยว่า การที่ลูกป่วยบ่อยนั้นจะส่งผลต่อพัฒนาการของเขาหรือไม่

                      จากสถิติขององค์การยูนิเซฟ พบว่า เฉพาะปี 2558 มีเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบทั่วโลก จำนวนมากถึง 9 แสนราย เสียชีวิตจากโรคติดเชื้อ ซึ่งโรคติดเชื้อที่พบบ่อยในเด็ก ได้แก่ ไข้หวัดใหญ่ อุจจาระร่วง มือเท้าปาก คางทูม อีสุกอีใส หัด และไข้เลือดออก ซึ่งการเจ็บป่วยในวัยนี้อาจส่งผลต่อพัฒนาการ และสุขภาพโดยรวมของเด็ก และการรักษาที่ถูกต้องไม่เพียงช่วยลดอัตราการตายของเด็กที่ติดเชื้อ ยังสามารถลดภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลให้แก่ครอบครัว สังคม และภาครัฐด้วย

                      เครียดลูกป่วยบ่อย รับมืออย่างไรดี
                      เครียดลูกป่วยบ่อย รับมืออย่างไรดี

                      สำหรับโรคติดเชื้อในเด็กที่พบบ่อยในประเทศไทย ได้แก่

                      • โรคทางเดินหายใจ โดยปอดบวม ยังเป็นโรคอันดับหนึ่ง เป็นเพราะคนเราต้องหายใจตลอดเวลา เมื่อเดินทางไปตามสถานที่ต่างๆ โอกาสที่จะหายใจใส่กัน และแพร่โรคก็มีมาก
                      • โรคทางเดินอาหาร โดยเฉพาะเชื้อไวรัสโรตา
                      • โรคหัด ซึ่งโรคติดเชื้อหลายชนิดสามารถป้องกันได้ด้วยวัคซีน

                      สัญญาณทั่วไปที่อาจบ่งบอกว่าลูกไม่สบาย 

                      หากคุณพ่อคุณแม่สามารถทราบได้ถึงอาการผิดปกติก่อนลูกป่วย หรือป่วยในขั้นเริ่มต้นไม่รุนแรง ก็จะสามารถลดความเสี่ยงต่อการสูญเสียได้

                      1. ไข้สูง นับเป็นอาการเริ่มแรกของปัญหาสุขภาพต่าง ๆ อาการที่แสดงออก เช่น หน้าแดง เหงื่อออก เป็นต้น
                      2. กระหายน้ำมาก ในช่วงวัยเด็กหัดเดิน หากสังเกตเห็นว่าลูกดื่มน้ำมาก และปัสสาวะบ่อยเกิน อาจสงสัยในเรื่องเบาหวานในเด็กได้
                      3. หายใจลำบาก การหายใจมีเสียงหวีด หายใจถี่เร็ว เป็นปัญหาทั่วไปที่มีสาเหตุได้หลายประการ เช่น โรคหอบหืด โรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ ปอดบวม หลอดเลือดฝอยอักเสบ การหายใจลำบากกะทันหันอาจเกิดจากการสำลักหรืออุดตันในทางเดินหายใจ
                      4. ปวดท้อง อาการปวดท้องมักมาพร้อมกับอาการท้องผูก แม้ว่าจะพบได้ยากในทารก แต่ก็เป็นอาการทั่วไปในเด็กโต สาเหตุอื่นๆ ของอาการปวดท้อง ได้แก่ การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ (UTIs) ไส้ติ่งอักเสบ  อาการแพ้นม และโรคเครียด เป็นต้น
                      5. ปวดขณะปัสสาวะ ความรู้สึกเจ็บปวดระหว่างถ่ายปัสสาวะ ร่วมกับความถี่ในการปัสสาวะเพิ่มขึ้น เป็นอาการของ UTI ซึ่งเป็นการติดเชื้อแบคทีเรียที่พบได้บ่อยในเด็ก
                      6. เมื่อยล้ามาก กล้ามเนื้ออ่อนแรงกะทันหัน จำเป็นต้องพาไปพบแพทย์ ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้เนื่องจากปัญหาในไขสันหลังและเส้นประสาท
                      7. ใบหน้าบวม อาการแพ้ส่วนใหญ่ เช่น ลมพิษ การติดเชื้อที่ผิวหนัง หรือการก่อตัวของซีสต์ไขมัน อาจทำให้ใบหน้าบวมได้
                      8. ริมฝีปากสีฟ้า สีม่วงอมน้ำเงิน ตัวเขียว เป็นผลมาจากการขาดออกซิเจนในกระแสเลือด
                      9. ผื่นรุนแรง มีหลากหลายสาเหตุ เช่น ลมพิษ แมลงกัดต่อย ผื่นจากการแพ้ยา เป็นต้น
                      10. น้ำหนักขึ้นช้า อาจเกิดขึ้นเนื่องจากปัจจัยหลายประการที่ขัดขวางการดูดซึมอาหาร หรือขัดขวางการย่อยอาหาร ดังนั้น น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นช้า อาจเกิดจากความผิดปกติของระบบเผาผลาญ การเลี้ยงดู หรือมักเกิดจากปัจจัยต่างๆ ร่วมกัน
                      11. เหม่อลอย มีปัญหาด้านการรับรู้ ไม่สามารถจดจ่องานที่ทำได้

                        ภูมิคุ้มกัน กับ นมแม่
                        ภูมิคุ้มกัน กับ นมแม่

                       ภูมิคุ้มกัน เกราะป้องกันที่ดีให้ลูกน้อย

                      ความ เครียดลูกป่วยบ่อย นอกจากการที่พ่อแม่จะคอยเฝ้าระวังจากปัจจัยภายนอกแล้ว อีกวิธีหนึ่งที่ช่วยป้องกันการเจ็บป่วยของลูกคือ การเพิ่มภูมิคุ้มกันให้แก่ลูก เป็นเกราะป้องกันจากภายในที่มีประสิทธิภาพ กล่าวกันว่าระบบภูมิคุ้มกันของเด็กจะเติบโตเต็มที่ในช่วงวัยรุ่น และภูมิคุ้มกันของเด็กจะสร้างขึ้นเมื่อมีการเจ็บป่วยหรือการติดเชื้อที่ตามมาทุกครั้ง แต่มิได้หมายความว่าเด็กที่ป่วยบ่อยจะมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง ระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงที่สุดมักจะต่อสู้กับเชื้อโรคโดยไม่มีอาการใดๆ เกิดขึ้น ดังนั้น การเจ็บป่วยมักจะไม่ใช่สัญญาณที่ดี แต่เป็นการเตือนให้ดูแลสุขภาพอย่างจริงจังมากขึ้น

                      3 วิธีเพิ่มภูมิคุ้มกันแก่ลูกน้อย

                      1. ได้รับอาหารที่มีประโยชน์

                      ภาวะทุพโภชนาการเป็นสาเหตุสำคัญของการขาดภูมิคุ้มกันทั่วโลก ดังนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญมากที่ควรจะเลี้ยงลูกของคุณด้วยอาหารที่มีประโยชน์ ซึ่งประกอบด้วยสารอาหารที่จำเป็น แร่ธาตุ วิตามิน และกรดอะมิโนที่สำคัญ

                      นมแม่ : แหล่งสารภูมิคุ้มกันเดียวในทารกแรกเกิด

                      ทารกเกิดมาโดยไม่มีแอนติบอดี้ของตัวเอง และได้รับภูมิคุ้มกันจากนมแม่ในวันแรกหลังคลอด น้ำนมแม่มีแอนติบอดี้ที่เป็นประโยชน์ในระบบย่อยอาหารของทารกแรกเกิด องค์การอนามัยโลก WHO และ UNICEF แนะนำให้เลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว เป็นเวลาอย่างน้อย 6 เดือน จนถึง 1 ปี เพราะนมแม่มีประโยชน์มากมาย รวมถึงมีจุลินทรีย์ LGG ซึ่งเป็นจุลินทรีย์ที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย

                      “ทำไมลูกกินนมแม่ ถึงยังป่วยบ่อย?”

                      เด็กนมแม่ไม่ใช่ไม่ป่วย แต่ความรุนแรงของโรคมักจะน้อยกว่าเด็กที่ได้รับนมผสม เด็กนมแม่เมื่อโตขึ้น จนถึงวัยเข้าโรงเรียน เด็กคนอื่นๆ ก็แพร่เชื้อใส่ลูกเรา ตามธรรมชาติของเด็กที่อยู่รวมกัน นี่คือสิ่งที่ต้องทำใจว่าการเจ็บป่วยของเด็กวัยนี้ คือ เรื่องปกติที่ต้องพบเจอ แต่ขอให้มั่นใจว่า ถ้าไม่ได้กินนมแม่ ลูกคงเจ็บป่วยบ่อย และ หนักกว่านี้

                      ข้อมูลอ้างอิง:ข้อความบางส่วนจาก FB:สุธีรา เอื้อไพโรจน์กิจ กุมารแพทย์ทารกแรกเกิด

                      “นมแม่ กับ ภูมิคุ้มกันเกี่ยวข้องกันอย่างไร?”

                      อย่างที่ทราบกันดีว่า อาหารเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย ถ้าร่างกายได้รับสารอาหารครบถ้วน ก็จะทำให้เป็นเด็กที่แข็งแรง เจ็บป่วยยาก และแม้จะป่วยก็อาการไม่หนัก ซึ่งในเด็กทารกนั้นร่างกายยังไม่สามารถสร้างภูมิคุ้มกัน และอาหารที่เด็กทารกได้รับก็มีเพียงแค่นมเท่านั้น

                      ในน้ำนมแม่มีปัจจัยการเจริญเติบโตชนิดพิเศษ (special growth factors) ที่ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย สมอง ลำไส้ และอวัยวะอื่น ๆ ในร่างกายให้เจริญเติบโตเต็มที่ ดังจะเห็นได้ว่า เด็กที่ถูกเลี้ยงในสถานรับเลี้ยงเด็กที่ยังกินนมแม่อยู่จะมีการติดเชื้อที่น้อยกว่าและมีความรุนแรงน้อยกว่าเด็กที่กินนมผสม เพราะระบบภูมิคุ้มกันพัฒนาได้เร็วกว่า

                      ข้อมูลอ้างอิง:ข้อความบางส่วนจาก FB:สุธีรา เอื้อไพโรจน์กิจ กุมารแพทย์ทารกแรกเกิด
                      เครียดลูกป่วยบ่อย นมแม่ช่วยได้
                      เครียดลูกป่วยบ่อย นมแม่ช่วยได้

                      “เปิดอีกหนึ่งสาเหตุการป่วยบ่อยของเด็กกินนมแม่อาจมาจาก “แพ้อาหาร”

                      ลูกในวัยทารกจะแพ้อาหารได้อย่างไร คงต้องขอบอกว่า เด็กแพ้ผ่านน้ำนมแม่ จากอาหารที่แม่รับประทานเข้าไปนั่นเอง อาหาร 8 อย่างที่เด็กมักแพ้ง่าย ได้แก่
                      1. ไข่
                      2. นม และอาหารที่ทำจากนม ชีส, โยเกิร์ต ครีม ไอศครีมนมเนย
                      3. ปลา
                      4. อาหารทะเลที่มีเปลือก กุ้ง, หอย,ปู
                      5. ถั่วเหลือง และอาหารจากถั่วเหลือง เต้าหู้ น้ำเต้าหู้
                      6. ถั่วต่างๆ เม็ดมะม่วงหิมพานต์, อัลมอนด์, วอลนัท
                      7. แป้งสาลี ขนมปัง
                      8. ถั่วลิสง

                      โดยให้สังเกตว่าลูกน้อยมีอาการแพ้ต่ออาหารเหล่านั้นระหว่างที่ให้นมแม่หรือไม่ หากแพ้ให้งดทันที เพราะเมื่อลูกเกิดอาการแพ้มักจะมีอาการที่ทำให้ไม่สบายตัว บ่อย ๆ ครั้งเข้าก็เป็นสาเหตุให้เกิดอาการเจ็บป่วยในขั้นต่อไปได้เช่นกัน

                      อาการแพ้ที่เกิดขึ้นกับลูกตั้งแต่เป็นทารก เราคิดว่าปกติ แต่มันไม่ปกติเท่าไรนัก เช่น

                      ผื่น: หมอมักบอกว่าผดร้อนบ้าง ผดฮอร์โมนบ้าง แพ้เหงื่อบ้าง
                      – ครืดคราด มีน้ำมูกใสๆ เสมหะ ไอ บางคนก็บอกว่าเป็นหวัด (แต่เป็นหวัดต้องมีไข้ค่ะ ถ้ามีน้ำมูกเฉยๆ คือแพ้อะไรบางอย่าง)
                      ท้องอืด ถ่ายเป็นมูกๆ มูกเลือด ประกบผ้าอ้อมแล้วเห็นมูกยืด อึกลิ่นเปรี้ยวๆ

                      สำหรับอาการแพ้สะสม (กินมาตั้งนานแล้วไม่เห็นเป็นไร อยู่ๆ ค่อยมีอาการแพ้)

                      เมื่อภูมิคุ้มกันทำหน้าที่ดีขึ้นและมากขึ้น น้องจะแสดงอาการแพ้ได้เร็วขึ้นและมากขึ้น

                      นี่เป็นสาเหตุที่หลายคนไม่แพ้ต้ังแต่เล็กๆ มาแพ้นมวัวตอนอายุเป็นขวบๆ ค่ะ

                      เมื่อลูกแพ้ง่าย สารคัดหลั่งก็อาจไปทำให้คอแดง ระคายคอ โพรงไซนัสบวมเป็นไซนัสอักเสบ เป็นหวัดคออักเสบ หูอักเสบได้ง่ายกว่าคนอื่นๆ เพราะเจอสารก่อภูมิแพ้สะสมไปเรื่อยๆ เดี๋ยวๆ น้องก็จะป่วยค่ะ

                      ข้อมูลอ้างอิง:ข้อความบางส่วนจาก FB: นมแม่แฮปปี้

                      น่าอ่าน5 วิธีรับมือ ลูกแพ้อาหารที่แม่กิน ลูกแพ้อาหารผ่านนมแม่ทำไงดี

                      อาหารทะเล หนึ่งในแปดสิ่งที่เด็กชอบแพ้
                      อาหารทะเล หนึ่งในแปดสิ่งที่เด็กชอบแพ้

                      2. ให้ลูกได้รับวัคซีนพื้นฐานครบตามกำหนด

                      การฉีดวัคซีนให้แก่เด็ก จะช่วยลดอัตราการเจ็บป่วยที่เป็นอันตราย อีกทั้งยังจะช่วยเพิ่มการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันให้กับพวกเขา เพราะร่างกายได้สร้างแอนติบอดี้จากเชื้อในวัคซีนนั้น ๆ แล้ว ปกติแล้วเมื่อทารกคลอดออกมาจะได้รับการฉีดวัคซีนทันที และจะต้องมารับเรื่อยๆ ตามกำหนด ซึ่งตรงนี้เป็นหน้าที่สำคัญของพ่อแม่ที่ต้องพาลูกไปรับวัคซีนให้ตรงตามกำหนด

                      3. พักผ่อนให้เพียงพอ 

                      ร่างกายทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยตลอด 24 ชั่วโมง แต่จะซ่อมแซมและฟื้นฟูตัวเองระหว่างการนอนหลับ การไม่ให้ร่างกายได้พักผ่อนอย่างเพียงพอจะทำให้การทำงานของร่างกายอ่อนแอลง และทำให้มีโอกาสเกิดโรคได้ง่ายขึ้น ร่างกายที่พักผ่อนเต็มที่มักจะมีระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงขึ้น ดังนั้นคุณต้องแน่ใจว่าลูกของคุณนอนหลับเพียงพอทุกวัน นอนวันละ 6-8 ชั่วโมงเพื่อให้ร่างกายแข็งแรงและมีภูมิคุ้มกันที่ดี

                      ข้อมูลอ้างอิงจาก www.thaihealth.or.th/www.emedihealth.com

                      อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

                      แพ้นมวัว หมอชี้! แท้จริงเป็นเพราะพ่อแม่

                      นมแม่ ช่วยสร้างสมองลูก โต 20-30%

                      4 วิธีกระตุ้นนมแม่ อย่างได้ผลดี ไม่เหนื่อย ไม่เจ็บ

                      เช็กลิสต์ 5 ผื่นแพ้ในทารก พร้อมวิธีรับมือที่แม่ต้องรู้

                      เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                        การใช้ยาในคนท้องที่ติดโควิด

                        คนท้องติดโควิดกินยาอะไรได้บ้าง ยาที่กินได้ vs ยาต้องห้าม

                        “หนูเป็นโควิด แล้วลูกหนูจะเป็นอะไรไหมคะคุณหมอ” “คนท้องติดโควิดกินยาอะไรได้บ้าง”  คำถามที่คุณแม่ท้องกังวลที่สุดในเวลานี้เกี่ยวกับโควิด นพ.โอฬาริก มุสิกวงศ์ สูตินรีแพทย์ โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร, กรรมการแพทยสภา เจ้าของเพจ เค้าเรียกผมว่า หมอเมนส์ มาช่วยคลายสงสัยคุณแม่ท้อง ในเรื่องผลกระทบของโควิดต่อการตั้งครรภ์ รวมถึง การใช้ยาในคนท้องที่ติดโควิด ดังนี้

                        รายงานเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2564 มีจำนวนแม่ตั้งครรภ์ติดเชื้อโควิด-19 สะสมแล้ว 1993 คน ในปัจจุบันคงมีจำนวนผู้ติดเชื้อเยอะกว่านี้บางโรงพยาบาลมีคุณแม่ที่ติดเชื้อโควิดมาคลอดทุกวัน 

                        ณ เวลานี้ คงเรียกได้ว่า การติดเชื้อโควิดในคนท้องพบได้เป็นเรื่องปกติ

                        เวลาที่เกิดการเจ็บป่วยในคนท้อง มักมีชุดคำถามที่ต้องถาม ดังนี้

                        • การตั้งครรภ์จะส่งผลต่อตัวโรคอย่างไร
                        • ตัวโรคจะส่งผลต่อการตั้งครรภ์อย่างไร ทั้งต่อแม่และทารกในครรภ์
                        • การรักษาจะส่งผลต่อการตั้งครรภ์อย่างไร ทั้งต่อแม่และทารกในครรภ์
                        • ผลที่เกิดขึ้นนั้น จะเป็นผลระยะสั้น หรือระยะยาว

                        การตั้งครรภ์ส่งผลต่อโรคโควิตอย่างไร 

                        ในคนท้องจะมีการเปลี่ยนแปลงของร่างกายหลายระบบ เช่น ระบบทางเดินหายใจ ระบบหัวใจและหลอดเลือด ระบบภูมิคุ้มกัน ยกตัวอย่างของระบบหายใจ คนท้องจะมีมดลูกที่ใหญ่ขึ้น จะไปดันกระบังลม ทำให้ปริมาตรของช่องปอดเหลือน้อย หายใจได้ลำบาก หากมีการติดเชื้อโควิด 19 แล้วลงไปที่ปอดก็ยิ่งจะทำให้ระบบการหายใจแย่ลงไปอีก

                        ตัวโรคจะส่งผลต่อการตั้งครรภ์อย่างไร 

                        เมื่อคนท้องติดโควิดจะส่งผลทำให้อัตราการนอนโรงพยาบาลสูงขึ้น อัตราการใส่ท่อช่วยหายใจสูงขึ้น รวมถึงอัตราการเสียชีวิตที่สูงขึ้น นี่คือสิ่งที่กระทบกับแม่ ส่วนกับทารกในครรภ์นั้น จะเพิ่มอัตราการคลอดก่อนกำหนด การเกิดทารกน้ำหนักน้อย รวมถึงอัตราการผ่าตัดคลอดที่สูงขึ้น

                        คนท้องติดโควิดกินยาอะไรได้บ้าง
                        คนท้องติดโควิดกินยาอะไรได้บ้าง

                        การรักษาจะส่งผลต่อการตั้งครรภ์อย่างไร 

                        การรักษาโรค covid-19 นั้นส่วนใหญ่ รักษาแบบประคับประคอง เช่น ทานยาลดไข้ ทานยาลดอาการไอ อย่างไรก็ดี หากมีอาการมากต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลอาจจะจำเป็นต้องใช้ยา และการรักษาอื่นๆ มากขึ้น

                        คนท้องติดโควิดกินยาอะไรได้บ้าง 

                        • Favipiravir เป็นยาต้านไวรัสที่ใช้รักษาโควิด 19 อย่างไรก็ดี ยาตัวนี้มีผลทำให้เกิดความพิการของทารกในครรภ์ จึงหลีกเลี่ยงให้ยานี้ในช่วงไตรมาสแรก และสตรีที่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์ ก่อนที่จะเริ่มใช้ยาตัวนี้ ควรจะตรวจการตั้งครรภ์ก่อน 
                        • Remdisevir ยาตัวนี้ใช้รักษาโควิด 19 ในสตรีตั้งครรภ์ช่วงไตรมาสแรกได้ เนื่องจากมีข้อมูลความปลอดภัยในคนท้องอยู่จำนวนหนึ่ง และไม่มีรายงานผลกระทบต่อทารกในครรภ์
                        • ฟ้าทะลายโจร ห้ามให้ในสตรีตั้งครรภ์เนื่องจากมีรายงานในสัตว์ทดลองว่า เพิ่มการบีบตัวของมดลูก ส่งผลให้เกิดภาวะแท้ง
                        • ยาแก้ไอและยาขับเสมหะ มีหลายชนิดจำเป็นต้องปรึกษาเภสัชกร ว่าชนิดใดสามารถใช้ในคนท้องได้ ต้องระวังยาแก้ไอที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนผสม เนื่องจากแอลกอฮอล์ส่งผลให้เกิดความพิการในทารกได้ 
                        • เอกซเรย์ปอด สามารถทำได้ในสตรีตั้งครรภ์ เนื่องจากขนาดของรังสีที่ใช้ในการถ่ายภาพปอดปริมาณน้อยมาก ไม่ส่งผลกับทารกในครรภ์ 

                        ส่วนผลของ covid 19 จะส่งผลกับทารกที่เกิดมาหรือไม่ในอนาคต จำเป็นต้องทำการติดตามข้อมูลอย่างละเอียด กันต่อไป

                        ณ เวลานี้ covid 19 กำลังระบาดหนักในประเทศไทย คนท้อง คือกลุ่มเสี่ยงสูง หมออยากฝากให้ทุกคนป้องกันระมัดระวังตัวอย่างเต็มที่ 

                        ขอให้ทุกคนแข็งแรง

                         

                        เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                         


                        Heatlh Quotient ฉลาดดูแลสุขภาพ หนึ่งใน Power BQ 10 ความฉลาดที่เด็กยุคใหม่ควรมี เริ่มต้นได้ตั้งแต่ในท้องแม่ โดยคุณแม่ตั้งครรภ์ เตรียมพร้อมหาข้อมูลต่างๆ ในการดูแลสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อส่งต่อสุขภาพที่ดีสู่ลูกน้อยในครรภ์ เป็นต้นทุนชีวิตที่ดีตั้งแต่แรกเกิดให้กับลูกน้อย


                        ติดตามเรื่องน่ารู้สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ และสุขภาพสตรี กับคุณหมอโอฬาริก

                        ได้ที่เพจ เค้าเรียกผมว่า หมอเมนส์

                        เพจ หมอโอฬาริก

                         

                        บทความที่น่าสนใจอื่นๆ

                        แนวทางปฏิบัติตัวช่วงโควิด สำหรับ คนท้อง แม่หลังคลอด ทารกแรกเกิด

                        กรมอนามัยเผย คนท้องติดเชื้อโควิด เสี่ยงป่วยหนัก แนะฉีดวัคซีนป้องกัน! หลังอายุครรภ์ 12 สัปดาห์

                          สาเหตุมีลูกยาก

                          11 สาเหตุมีลูกยาก อยากมีลูก ทำไมไม่ท้องซักที?

                          ถ้าคุณกำลังพยายามมีลูกมาซักระยะหนึ่งแต่ยังไม่ประสบความสำเร็จ อาจกำลังสงสัยว่า ทำไมไม่ท้องซักที? สาเหตุที่ไม่ท้องมาจากอะไรได้บ้าง? วันนี้ คุณหมอหน่อย จากเพจ หมอหน่อย-Dr.Noi The Family จะมาบอกถึง สาเหตุมีลูกยาก และวิธีแก้ปัญหา สำหรับคนอยากมีลูก ไปติดตามในบทความกันได้เลยค่ะ

                          ในแต่ละเดือนเรามีโอกาสท้องมากแค่ไหน?

                          ในกรณีที่คุณมีสุขภาพแข็งแรง ประจำเดือนมาสม่ำเสมอทุกเดือน โอกาสที่จะประสบความสำเร็จในการตั้งครรภ์ในแต่ละเดือนจะอยู่ที่ 25% ถ้ามีเพศสัมพันธ์สม่ำเสมอไปเรื่อยๆ จะมีโอกาสท้องสำเร็จ 85% ใน 1 ปี และ 95% ใน 2 ปี หากคู่ไหนที่พยายามมีลูกมาซักระยะแล้ว ยังไม่ประสบความสำเร็จอาจต้องลองกลับมามอง สาเหตุมีลูกยาก ที่พบได้บ่อยๆ ดังตัวอย่างนี้นะคะ

                          11 สาเหตุมีลูกยาก อยากมีลูก ทำไมไม่ท้องซักที?

                          อสุจิไม่แข็งแรง

                          1. ปัญหาสุขภาพของฝ่ายหญิง

                          สาเหตุมีลูกยาก อาจเกิดจากปัญหาสุขภาพที่อาจเป็นอุปสรรค์ต่อการมีลูกในฝั่งฝ่ายหญิง มีหลายสาเหตุเช่น ภาวะไข่ไม่ตกเรื้อรัง เช่น

                          • ภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบหรือ PCOS
                          • เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ (Endometriosis)
                          • ท่อนำไข่ตัน ทำให้ตัวอ่อนไม่สามารถเดินทางไปฝังตัวที่ผนังมกลูกได้
                          • เนื้องอกกล้ามเนื้อมดลูก (Myoma uterine)
                          • การตกไข่ผิดปกติ ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ ทำให้หาวันไข่ตกลำบาก
                          • อายุที่มากขึ้น ส่งผลให้ไข่เริ่มเสื่อมคุณภาพ
                          • ภาวะขาดสารอาหาร เช่น ขาดวิตามินดี ภาวะซีดจากการขาดธาตุเหล็ก เป็นต้น
                          • ปัญหาสุขภาพอื่นๆ เช่นโรคประจำตัว โรคไทรอยด์ โรคภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติ เป็นต้น

                          คำแนะนำจากหมอหน่อย

                          ปัญหาสุขภาพหลายอย่างสามารถแก้ไข เพิ่มเพื่อโอกาสในการตั้งครรภ์ได้ ควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง เพื่อหาสาเหตุที่เกี่ยวข้องและทำการแก้ไขตามคำแนะนำของแพทย์ รวมถึงทางวิตามินบำรุงอย่างสม่ำเสมอ ทานอาหารที่มีประโยชน์

                          1. ปัญหาสุขภาพของฝ่ายชาย

                          • ปัญหาเกี่ยวกับคุณภาพของสเปิร์ม เช่น ปริมาณน้อย รูปร่างผิดปกติ การเคลื่อนที่ผิดปกติ
                          • ภาวะหลอดเลือดดำอัณฑะขอด หรือ Varicocele
                          • การติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์
                          • ปัญหาท่อนำอสุจิผิดปกติ
                          • อัณฑะไม่ลงถุง (Undescended testicles)
                          • ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรสต่ำ
                          • ปัญหานกเขาไม่ขัน (Erectile dysfunction)
                          • ปัญหาสุขภาพอื่นๆ เช่น โรคเบาหวาน โรคมะเร็ง

                          คำแนะนำจากหมอหน่อย

                          เช่นเดียวกันกับของฝ่ายหญิงคือ ควรตรวจร่างกาย ตรวจสเปิร์ม เพื่อดูว่ามีความผิดปกติที่เป็นสาเหตุทำให้มีบุตรยาก มีลูกยาก หรือไม่ แล้วทำการแก้ไขต่อไป

                          1. ภาวะเครียด (Over-stress)

                          ความเครียด เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้มีบุตรยากขึ้น ความเครียดส่งผลโดยรวมต่อร่างกายและจิตใจของทั้งหญิงและชาย เนื่องจากร่างกายของเราจะให้ความสำคัญต่อความเครียดเป็นอันดับหนึ่ง ทำให้ระบบอื่นๆ ที่ไม่จำเป็นเช่นระบบสืบพันธ์ทำงานลดลง ส่งผลให้ ในหญิงอาจมีไข่ตกช้า หรือไม่ตกเลย คุณภาพไข่ผิดปกติ หรือตัวอ่อนฝังตัวไม่สำเร็จ ส่วนในชาย อาจทำให้ความต้องการทางเพศลดลง สเปิร์มคุณภาพแย่ลง หรือมีปัญหานกเขาไม่ขันได้

                          คำแนะนำจากหมอหน่อย

                          หาทางวิธีลดความเครียด ในแบบที่เหมาะสมกับคุณเอง เช่น การออกกำลังกาย นั่งสมาธิ ท่องเที่ยวธรรมชาติ

                          โรคอ้วนภัยร้าย บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป

                          1. ผอมหรืออ้วนเกินไป (Under or overweight)

                          น้ำหนักตัวมีความสำคัญต่อระบบสืบพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นน้ำหนักตัวที่น้อยไป หรือ มากไป มักจะส่งผลต่อการทำงานของฮอร์โมนเพศ ทั้งหญิงและชาย อาจทำให้การทำงานของฮอร์โมนผิดปกติ เช่นไข่ไม่ตก การสร้างสเปิร์มผิดปกติ โดยน้ำหนักตัวที่เหมาะสมในช่วงวางแผนมีลูกคือ BMI 20-24

                          คำแนะนำจากหมอหน่อย

                          ควบคุมการกินอาหารให้ถูกวิธี ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ถ้าน้ำหนักเกินให้ลดน้ำหนักลงมาประมาณ 5-10% ของน้ำหนักตัวเดิม ถ้าน้ำหนักตัวน้อยเกินไปแนะนำให้เพิ่มน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม

                          1. การกินอาหารที่ไม่ดีต่อระบบสืบพันธุ์

                          อาหารบางอย่างส่งผลต่อระบบสืบพันธุ์ทั้งหญิงและชาย เช่น Trans Fat อาหารที่มี Glycemic index สูง เนื่องจากอาหารเหล่านี้อาจส่งผลต่อการทำงานของฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับระบบสืบพันธ์ุ ทำให้การทำงานผิดปกติได้

                          คำแนะนำจากหมอหน่อย

                          หลีกเลี่ยงอาหารที่อาจส่งผลต่อการทำงานของระบบสืบพันธ์ุ  ให้เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์และหลากหลาย

                          1. การใช้สารหล่อลื่น (Over-use of lubricants)

                          สารหล่อลื่นตามท้องตลาด เช่นกลุ่ม KY-gel มักส่งผลในทางลบต่อสเปิร์ม ทำให้สเปิร์มไม่สามารถเดินทางได้และอาจตายไป การใช้สารหล่อลื่นในช่วงที่กำลังพยายามจะมีลูก จึงอาจเป็นหนึ่ง สาเหตุมีลูกยาก ที่ทำให้ยังไม่ประสบความสำเร็จ

                          คำแนะนำจากหมอหน่อย

                          หากจำเป็นต้องใช้สารหล่อลื่น แนะนำกลุ่ม Sperm friendly เช่น Conceive Plus หรือ Pre-Seed เพื่อช่วยให้สเปิร์มเคลื่อนที่ได้ดีขึ้น

                          อยากมีลูกเร็ว

                          1. มีเพศสัมพันธ์ในช่วงที่ไม่เหมาะสม

                          มีคำกล่าวว่า “Timing is everything” เพราะโอกาสในการตั้งครรภ์ไม่ได้เท่ากันตลอดทั้งเดือน เนื่องจากไข่ของผู้หญิงไข่จะตกแค่เดือนละ 1 ครั้งและจะสลายไปใน 12-24 ชั่วโมง ดังนั้นช่วงเวลาจึงมีความสำคัญมาก หากไม่ได้มีเพศสัมพันธ์ในช่วงไข่ตกอาจทำให้โอกาสในการประสบความสำเร็จลดลง

                          คำแนะนำจากหมอหน่อย

                          มีเพศสัมพันธ์ในช่วงก่อนไข่ตก โดยช่วงเวลาที่มีโอกาสท้องสูงคือ 5 วันก่อนไข่ตก จนถึง 1 วันหลังไข่ โดยติดตามหาวันไข่ตก โดยใช้การคำนวณ การดูมูกไข่ตก การวัดอุณหภูมิกายขณะพัก หรือใช้แผ่นตรวจไข่ตก

                          1. การสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ หรือใช้สารเสพติด

                          ทั้งการสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ หรือการใช้สารเสพติด ส่งผลเสียต่อร่างกายด้านต่างๆ รวมถึงระบบสืบพันธุ์ของเราด้วย อาจส่งผลให้การสร้างสเปิร์มผิดปกติ การตกไข่ผิดปกติ

                          คำแนะนำจากหมอหน่อย

                          พยายามลดหรืองด พฤติกรรมเหล่านี้อย่างน้อย 2-3 เดือนก่อนเริ่มปล่อยมีลูก เพื่อให้ร่างกายกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ช่วยให้ไข่และสเปิร์มมีคุณภาพ

                          1. การนอนหลับไม่เพียงพอ

                          การนอนมีความสำคัญต่อระบบสืบพันธุ์ การนอนหลับอย่างเพียงพอช่วยให้การตกไข่เป็นปกติ ไข่มีคุณภาพ การสร้างสเปิร์มผิดปกติ นอกจากนี้ยังส่งผลดีโดยรวมต่อร่างกาย

                          คำแนะนำจากหมอหน่อย

                          ควรนอนหลับให้ได้อย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อวัน โดยเฉพาะควรเข้านอนในช่วง 22.00-02.00 เนื่องจากเป็นช่วงที่ฮอร์โมนเมลาโทนินหลั่งออกมามากที่สุด ซึ่งเป็นผลดีต่อทั้งไข่และสเปิร์ม

                          1. ขาดวิตามินบางชนิด

                          มีวิตามินหลายชนิด ที่มีผลต่อการเจริญพันธุ์ของทั้งหญิงและชาย โดยพบว่าการขาดวิตามินที่จำเป็นต่างๆ เหล่านี้อาจส่งผลทำให้เกิดภาวะมีบุตรยากได้ เช่น ภาวะขาดวิตามินดี ไอโอดีน ธาตุเหล็ก Zinc (สังกะสี) หรือ Folic acid ซึ่งวิตามินต่างๆ เหล่านี้มีความสำคัญต่อการสร้างสเปิร์ม การเจริญเติบโตของไข่ รวมถึงการทำงานของฮอร์โมนเพศต่างๆ ด้วย

                          คำแนะนำจากหมอหน่อย

                          ทานวิตามินบำรุงที่จำเป็นเสริมในขนาดที่เหมาะสมและเพียงพอ โดยในหญิงควรเริ่มทานวิตามินบำรุงก่อนและระหว่างตั้งครรภ์ (Prenatal vitamins) ตั้งแต่เริ่มวางแผนมีลูก ในชายสามารถทานวิตามินรวมสำหรับผู้ชาย เพิ่มบำรุงร่างกายและเพิ่มคุณภาพให้การสร้างสเปิร์ม

                          ที่ตรวจครรภ์

                          1. อาจต้องใช้เวลา

                          ในวัยเจริญพันธุ์ที่มีอายุน้อยกว่า 30 ปี โอกาสประสบความสำเร็จในแต่ละเดือน มีแค่ประมาณ 25% เท่านั้น และจะลดลงไปเรื่อยๆ เมื่ออายุมากขึ้น โดยพบว่า 85% จะสำเร็จได้ใน 1 ปี และ 90% จะสำเร็จได้ใน 2 ปี

                          คำแนะนำจากหมอหน่อย

                          ให้มีเพศสัมพันธ์อย่างสม่ำเสมอ อาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง โดยหากพยายามมากกว่า 1 ปีในคนที่อายุน้อยกว่า 35 ปีแล้วยังไม่ประสบความสำเร็จ ในปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุเพื่อแก้ไข แต่หากอายุมากกว่า 35 ปี หากไม่ประสบความสำเร็จใน 6 เดือนควรปรึกษาแพทย์ทันที

                          อย่างไรก็ตาม หากพยายามมาระยะหนึ่งแต่ยังไม่ประสบความสำเร็จ ควรหาเวลาเพื่อปรึกษาแพทย์และหาสาเหตุของภาวะมีบุตรยาก ซึ่งพบว่า หลังคู่ที่มีปัญหามีบุตรยากได้ปรึกษาแพทย์เพื่อแก้ไขสาเหตุ หลังจากแก้ไขสาเหตุแล้ว 65% สามารถประสบความสำเร็จด้วยวิธีธรรมชาติได้ ดังนั้น ไม่ต้องกังวลที่จะไปพบแพทย์นะคะ จริงๆ สามารถปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจร่างกายได้ตั้งแต่เริ่มต้นวางแผนตั้งครรภ์เลยค่ะ เพราะหลายสาเหตุเราสามารถแก้ไขได้ล่วงหน้าได้ ทั้งยังเพิ่มโอกาสให้เราประสบความสำเร็จได้เร็วขึ้นด้วยค่ะ

                           

                          เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                           


                          Heatlh Quotient ฉลาดสุขภาพดี หนึ่งใน Power BQ 10 ความฉลาดที่เด็กยุคใหม่ควรมี เริ่มต้นได้ตั้งแต่ในท้องแม่ โดยคุณแม่ เตรียมพร้อมหาข้อมูลต่างๆ ในการดูแลสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อตั้งครรภ์อย่างมีคุณภาพ และสุขภาพที่ดีสู่ลูกน้อยในครรภ์ เป็นต้นทุนชีวิตที่ดีตั้งแต่แรกเกิดให้กับลูกน้อย


                          ติดตามเรื่องน่ารู้การเตรียมตัวก่อนท้อง และข้อมูลที่ควรรู้ช่วงตั้งครรภ์ กับคุณหมอหน่อย

                          ได้ที่เพจ หมอหน่อย-Dr.Noi The Family

                          หมอหน่อย
                          บทความที่น่าสนใจอื่นๆ

                          อาหารทำให้ท้อง สำหรับคุณพ่อ คุณแม่ที่อยากมีลูก

                          5 ท่าบริหารสำหรับ “คนอยากมีลูก”

                            ชื่ออิสลามผู้หญิง

                            200+ ชื่ออิสลามผู้หญิง ชื่อมุสลิม ความหมายดี ปี 2021

                            รวม ชื่ออิสลามผู้หญิง ชื่อมุสลิม ชื่อมุสลิมผู้หญิง เพราะ ๆ ความหมายดี มีความบารอกัต (หรือแปลเป็นไทยให้เข้าใจง่าย ๆ ว่า สิริมงคล)

                            200+ ชื่ออิสลามผู้หญิง ชื่อมุสลิม ความหมายดี ปี 2021

                            “ชื่อ” คือสิ่งที่บ่งบอกตัวตนของบุคคล นอกจากชื่อจริงเพราะ ๆ เพื่อระบุตัวตนตามบัตรประชาชน ชื่อเล่นที่มีไว้เพื่อให้เรียกกันง่าย ๆ หรือฉายาที่เพื่อน ๆ ตั้งให้ตามบุคลิกของแต่ละคน ผู้ที่นับถือศาสนาอิสลามหรือ “มุสลิม” ยังมีชื่อเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งชื่อ! เราเรียกมักเรียกชื่อนี้ว่า “ชื่อมุสลิม” “ชื่ออาหรับ” หรือ “ชื่อแขก” เพราะชื่อส่วนใหญ่ที่ตั้งนี้มาจากภาษาอาหรับนั่นเอง สำหรับแม่ ๆ ที่กำลังมองหา ชื่ออิสลามผู้หญิง ให้ลูกน้อย ทีมแม่ ABK ก็ได้รวบรวม 200 กว่า ชื่ออิสลามผู้หญิง พร้อมความหมายของชื่อ มาให้ได้เลือกกันค่ะ

                            หลักในการตั้ง ชื่ออิสลาม ที่ดี

                            1. ต้องเป็นชื่อที่มีความหมายดี ใคร ๆ ฟังแล้วก็รื่นหู และชื่อนั้นจะได้ไม่เป็นปมด้อยกับตัวเด็กเองเมื่อเขาโตขึ้น ดังนั้นต้องไม่ตั้งชื่อที่มีความหมายในด้านลบ หรือเหมือนกับชื่อคนเลวที่เป็นที่รู้จักกันดี ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะ ซัลลัม ได้เคยเปลี่ยนชื่อหญิงคนหนึ่งจาก عاصية อาศียะฮฺ (ผู้ฝ่าฝืน) ให้มาเป็น جميلة ญะมีละฮฺ (สวยงาม)
                            2. ชื่อที่ตั้งตามชื่อของบรรดานบี และเหล่าคนดีทั้งชายและหญิงในหน้าประวัติศาสตร์ เพื่อหวังว่าจะมีผลต่อเด็กในแง่การยึดเป็นแบบฉบับ เช่นมุฮัมมัด อิบรอฮีม อิสมาอีล มูซา อุมัร อุษมาน มัรยัม เคาะดียะฮฺ อาอีชะฮฺ สุมัยยะฮฺ
                            3. ชื่อที่ให้ความหมายว่าเป็นบ่าวของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮุ วะ ตะอาลา‏‏ أَحَبُّ الْأَسْمَاءِ إِلَى اللَّهِ تَعَالَى ‏ ‏عَبْدُ اللَّهِ ‏ ‏وَعَبْدُ الرَّحْمَنِชื่ออันเป็นที่รักยิ่งของอัลลอฮฺ ตะอาลา คือ อับดุลลอฮฺ และอับดุรเราะหฺมาน (รายงานโดยมุสลิม อบูดาวูด อัตติรมีซียฺ และอิบนุมาญะฮฺ จากท่านอิบนุ อุมัร) และเมื่อกิยาส(เปรียบเทียบ)แล้ว ถ้านำคำว่า อับดุล ไปประกอบเข้ากับพระนามอื่นๆที่งดงามของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮุ วะ ตะอาลา ที่ไม่ได้กล่าวไว้ในหะดีษ ก็ถือว่าชื่อเหล่านั้นเป็นชื่อที่ดียิ่ง เช่น عبد العزيز อับดุลอะซีซ عبد العليمอับดุลอะลีม عبد الواحد อับดุลวาฮิด
                            4. แม้ว่าชื่อนั้นจะไม่ใช่ภาษาอาหรับแต่ถ้ามีความหมายที่ดี ก็ถือว่าเป็นชื่อที่ดี เช่น مارية มารียะฮฺ ซึ่งเป็นชื่อของมารดาของอิบรอฮีมบุตรชายท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะ ซัลลัม และนางเป็นชาวอียิปต์
                            ชื่อมุสลิมผู้หญิง
                            ชื่อมุสลิมผู้หญิง

                            ชื่ออิสลามผู้หญิง ความหมายดี ปี 2021

                            ชื่อความหมาย
                            A’idah บุคคลทั่วไป เป็นผู้หนึ่งที่ ได้ กลับมา
                            A’ishah ภรรยา ของท่านศาสดา ( SAW )
                            A’shadieeyah เจ้าหญิง น่ารัก ที่สมบูรณ์แบบ
                            Aa’idah ชื่อของผู้แต่งฮาดิส
                            Aabidah นักรบ
                            Aabish ลูกสาวของซะอัดผู้เป็น ราชินีแห่งอิหร่าน
                            Aadila เพียง ซื่อสัตย์ เสมอภาค ตรง
                            Aaeedah เยี่ยมชม กลับ , รางวัล
                            Aaeesha ชีวิต ความสนุกสนาน, ชีวิตรุ่งเรือง ภรรยาคนสุดท้องของศาสดามูฮัมหมัด
                            Aafreeda สร้าง ผลิต
                            Aafreen กล้าหาญ, โห่ร้อง
                            Aakifah อุทิศ ถวาย
                            Aala สร้างเสริม
                            Aaleyah ผู้ทรง ยืน ทางสังคม สูงสุด
                            Aalia โนเบิล
                            Aalimah นักวิชาการ ผู้มีอำนาจ
                            Aamaal ความหวัง แรงบันดาลใจ ปรารถนา
                            Aamanee ดี ต้องการ
                            Aamilah ผู้กระทำ ของ (ความดี) การกระทำ ที่ชอบธรรม
                            Aaminah ความปลอดภัย ที่ปลอดภัย
                            Aani Fatimah Khatoon เธอเป็นผู้หญิงที่อยู่ในวรรณกรรมและกวี ใน Qastaniniyah
                            Aanisah หญิงสาว สาว
                            Aaqilah ชาญฉลาด
                            Aara ที่ชื่นชม
                            Aarifah รู้ ผู้หญิงที่ ตระหนักถึง ศาสนาอิสลาม
                            Aasia ความหวัง
                            Bariah, Baraaa ยอดเยี่ยม
                            Barika บลูม จะประสบความสำเร็จ
                            Barirah ซื่อสัตย์ และ อุทิศ
                            Barzah เธอเป็น ผู้บรรยาย ของสุนัต
                            Basaaria สวยงาม ก่อน
                            Basbas เธอเป็นคน ที่สวยงาม
                            Bashair ข่าวดี ลางบอกเหตุ ที่ดี
                            Bashirah, Basheera มีความสุข
                            Basilah กล้าหาญ
                            Batool หญิง สาวก ที่แท้จริงของ อัลเลาะห์
                            Batrisyia ชาญฉลาด
                            Batul, Batool นักพรต บริสุทธิ์
                            Bayan ความชัดเจน , มีคารมคมคาย
                            Baysan ที่จะเดินไป ด้วยความภาคภูมิใจ
                            Beena เห็น สายตา ที่ชัดเจน
                            Bilqis, Bilqees สมเด็จพระราชินีแห่ง Sheeba
                            Binesh ฉลาด
                            Cala ปราสาท
                            Chanda แสงดวงจันทร์
                            Chandni แสง ของดวงจันทร์
                            Daania สวยงาม
                            Dafiyah ผู้บรรยาย ของ สุนัต
                            Dahab ทอง
                            Durriyah ส่องแสง สดใส
                            Eimaan ความศรัทธา
                            Eliza ที่ไม่ซ้ำกัน ที่มีค่า
                            Elma แอปเปิล
                            Eman ความศรัทธา
                            Erina ผู้หญิง ที่สวยงาม
                            Ermina เป็นมิตร
                            Erum สวรรค์
                            Eshal ชื่อของดอกไม้ ในสวรรค์
                            Ezzah คนที่ ให้เกียรติ เคารพ
                            Fadeelah ที่เหนือกว่า
                            Fadila ดูดี น่าสนใจ
                            Fadilah โดดเด่น ได้เรียนรู้
                            Fadilah, Fadheela คุณธรรม , ที่โดดเด่น ที่เหนือกว่า
                            Fadiyah ไถ่ การเสียสละ ตัวเอง
                            Fadwah ชื่อ ที่ได้มาจาก การเสียสละ
                            Faeezah ผู้นำ
                            Fahimah ชาญฉลาด
                            Fahmida ที่ชาญฉลาดและ ฉลาด
                            Faiqa ดีเด่น
                            Faiqah เหนือกว่า ที่ดีเยี่ยม
                            ชื่ออิสลาม
                            ชื่ออิสลาม

                            ชื่ออิสลามผู้หญิง ความหมายดี ปี 2021

                            ชื่อความหมาย
                            Fairuzah อัญมณี อันมีค่า
                            Faizah ที่ประสบความสำเร็จ
                            Ghania สวยงาม
                            Ghaniyah สาวสวย, ผู้หญิงที่สวย, ความงาม
                            Gharam ความรัก
                            Ghazalah สตรี, ผู้หญิง, เพศหญิง
                            Ghaziyah นักรบ หญิง
                            Ghitbah เธอเป็น ผู้บรรยาย ของหะดีษ
                            Ghufayrah ผู้ที่เคร่งในทางศาสนา, มีศรัทธาต่อศาสนาอย่างแรงกล้า
                            Ghufran การให้อภัย, การให้อภัยโทษ
                            Gul-e-Rana หวาน, กลิ่นกุหลาบ
                            Habibah ท่านที่รักทั้งหลาย, ที่รัก
                            Habibah, Habeeba ท่านที่รักทั้งหลาย, ที่รัก, ของท่านศาสดา
                            Haboos ชื่อของผู้หญิง ที่สูงส่ง และ มีเมตตา
                            Ibtihaj ความสุข
                            Ibtihaj, Ibtihaaj ความสุข ความสุข
                            Ibtihal วิงวอน อธิษฐาน
                            Iffah, Iffat ความบริสุทธิ์
                            Ifra ให้ ความสุข
                            Iftikar คิด ไตร่ตรอง
                            Iftikhar ความภาคภูมิใจของ ความรุ่งโรจน์
                            Ijaz คัมภีร์อัลกุรอาน
                            Ijlal เคารพ ให้เกียรติ
                            Ikhlas ความจริงใจ
                            Ikram, Ikraam เกียรติ ต้อนรับ ความเอื้ออาทร
                            Ilham ปรีชา แรงบันดาลใจ
                            Ilhan มีความเคารพ,สุภาพเรียบร้อย, ดี, มีค่า
                            Imani ศรัทธา ความเชื่อ
                            Imthithal เชื่อฟัง สุภาพ
                            Inam, Inaam ความเมตตา กุศล , บริจาค
                            Inas ความเป็นกันเอง
                            Jaseena หัวใจ ที่ดี
                            Jasmin ดอกไม้
                            Jasmina ดอกไม้
                            Jasrah เธอเป็น ผู้บรรยาย ของ สุนัต
                            Javairea ลึกลับ
                            Jawa ความรัก ความรัก
                            Jawharah อัญมณี
                            Jawna ดวงอาทิตย์
                            Jaza รางวัล ค่าตอบแทน
                            Jehaan คิดสร้างสรรค์
                            Jehan ดอกไม้ ที่สวยงาม
                            Jemimah สวยงาม
                            Jenna สวรรค์ พาราไดซ์
                            Jennah สวรรค์
                            Jessenia ดอกไม้
                            Jian ชีวิต
                            Jihan แม่น้ำ ในประเทศอิหร่าน
                            Jinan สวน สวรรค์
                            Johara อัญมณี
                            Judi ชื่อของ ภูเขา ที่กล่าวถึงใน คัมภีร์อัลกุรอาน
                            Juhainah, Juhaynah ชื่อของชนเผ่า อาหรับ
                            Juhanah สาวแรกรุ่น
                            Jumaana เงิน, ไข่มุก
                            Juman ไข่มุก
                            Jumanah, Jumaana มุก
                            Kashish เสน่ห์
                            Kaukab ดาว
                            Kausar แม่น้ำ janna ( สวรรค์ )
                            Khadeeja ภรรยาคนแรกของ ท่านศาสดา
                            Khalidah ถาวร ตลอดกาล
                            Khalidah, Khalida อมตะ นิรันดร์
                            Khalilah เพื่อนแท้
                            Khalisah จริงใจ บริสุทธิ์
                            Khayriyah การกุศล ที่ดี
                            Khayriyyah ใจบุญ
                            Khazanah สมบัติ
                            Lutfiyah ละเอียดอ่อน สง่างาม
                            Ma as-samaผู้หญิงใจกว้าง ลูกสาวของ อัล Muzaffar มีชื่อนี้เธอสร้างโรงเรียนศาสนา
                            Ma’isah เดินไปพร้อมกับความภาคภูมิใจ
                            ชื่ออิสลาม
                            ชื่ออิสลาม

                            ชื่ออิสลามผู้หญิง ความหมายดี ปี 2021

                            ชื่อความหมาย
                            Maahnoor การเรืองแสงของ ดวงจันทร์
                            Madihah น่าสรรเสริญ
                            Madihah, Madeeha สรรเสริญ , ยกย่อง
                            Mahbubah สุดที่รัก
                            Mahdiyah แนวทาง ที่ถูกต้อง
                            Mahek กลิ่นหอม
                            Mahfuzahได้รับการคุ้มครอง
                            Mahirah เก่ง ผู้เชี่ยวชาญ
                            Mahjabeen มีอำนาจ
                            Nafisah, Nafeesa สิ่งที่มีค่า อัญมณี
                            Nagheen ไข่มุก
                            Nagina เพชร
                            Najah ประสบความสำเร็จ ด้านความปลอดภัย
                            Najah, Najaah ความสำเร็จ
                            Najat ความปลอดภัย
                            Najdah ความกล้าหาญ , ความกล้าหาญ
                            Najibah, Najeeba โดดเด่น ของการเกิด คุณธรรม
                            Nyasiaที่สวยที่สุด
                            Omera คนที่มีแรงบันดาลใจและบุคลิกภาพที่ดี มีความสุข มีทัศนคติเชิงบวก
                            Pakeezah บริสุทธิ์
                            Rafa, Rafa ความสุขความ เจริญรุ่งเรือง
                            Rafah ที่น่าพอใจ ชีวิตที่หรูหรา
                            Rafah, Rafat ความเมตตา
                            Rafiah ประเสริฐ งดงาม
                            Rafif ที่จะ เปล่งประกาย ระยับ
                            Sadah ความสุข
                            Sadiah โชคดี
                            Sadiqah ความจริง มีความจริงใจ
                            Sadiyah โชคดี
                            Saeedah โชคดี มงคล
                            Safa บริสุทธิ์
                            Safaa ความคมชัดของความบริสุทธิ์ ความสงบ ; ชื่อของเนินเขาในนครเมกกะห์
                            Sahar รุ่งอรุณ
                            Takiyah ที่เคร่งศาสนา มีความชอบธรรม
                            Tanweer สดใส แสงสว่าง
                            Taqwa, Taqwaa กตัญญู ใจบุญ ความใส่ใจ ของ พระเจ้า
                            Tara ดาว
                            Tarub ร่าเริง
                            Tasneem น้ำพุของสวรรค์
                            Ujala แสง ของจักรวาล
                            Ula สุดยอด ที่สูงที่สุด
                            Ulfah ความสามัคคี ใกล้ชิด
                            Umaiza สดใส สวยงาม และอ่อนนุ่ม
                            Umnia ของขวัญ
                            Unaysah มิตร สุภาพ
                            Urshia ที่เป็น หนึ่ง ใน ท้องฟ้า
                            Waajidah คนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตของเธอ ที่รัก , ที่รัก
                            Wadha, Wadhaa สดใส
                            Wadiah สงบ สันติ
                            Wasimah พริตตี้ สวย
                            Widad ความรัก มิตรภาพ
                            Wifaq ความสามัคคี ความยินยอม
                            Wurud ดอกกุหลาบ
                            Yakootah มรกต
                            Yaminah ถูกต้องและ เหมาะสม มีความสุข
                            Yara ผีเสื้อตัวเล็ก
                            Yarah อบอุ่น
                            Yasmin, Yasmeen ดอกมะลิ
                            Yasmina ดอกไม้ที่สวยงาม
                            Zeenat งดงาม
                            Zehna สวยงาม
                            Zehra ดอกไม้
                            Zenia ดอกไม้
                            Zerina เจ้าหญิง, ฉลาด , อัจฉริยะ
                            Zia แสง, งามสง่า
                            Ziram เปล่งรัศมี
                            Ziyan ความงดงาม
                            Zoharin อรุณ แสงของวัน
                            Zohra วีนัส อัญมณี ของท้องฟ้า
                            Zohura สวยงาม บริสุทธิ์
                            Zorah รุ่งอรุณ
                            Zoufishan แสงจันทร์
                            Zoya ความรัก
                            Zubaidah ดี ; ชื่อของภรรยาของ กาหลิบ อัล ราชิด
                            Zuhayra ความกล้าหาญ

                            อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

                            ชื่อเล่นผู้หญิง น่ารักไว้ตั้งให้ลูกสาว..ดวงปังเพราะชื่อดี!!

                            300+ ชื่อมงคล ผู้หญิง ตามวันเกิดพร้อมความหมายดี ๆ

                            100 ชื่อดอกไม้ ตั้งชื่อลูก เท่ น่ารักแถมเสริมดวงให้รุ่ง!

                            333 ชื่ออิสลาม ลูกชาย-ลูกสาว ไอเดีย ตั้งชื่อลูกอิสลาม เพราะๆ พร้อมความหมายดี๊ดี

                             

                            ขอบคุณข้อมูลจาก : มุสลิมไทยโพสต์

                             

                            เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                              Jessie Mum สมุนไพรเพิ่มน้ำนม

                              ไอเทมคู่ใจแม่หลังคลอด “Jessie Mum สมุนไพรเพิ่มน้ำนม” ดีจนต้องบอกต่อ

                              ฮอตฮิต ฟีเวอร์มาก แม่หลังคลอดไม่มีใครไม่พูดถึง Jessie Mum สมุนไพรเพิ่มน้ำนม ทีมแม่ABK ขอเรียกว่าเป็นสมุนไพรหลังคลอดก็แล้วกัน เพราะเจสซี่มัมอัดแน่นไปด้วยส่วนผสมธรรมชาติ ช่วยในเรื่องการฟื้นฟูบำรุงร่างกาย บำรุงน้ำนมให้มาดี ได้ทั้งปริมาณและคุณภาพ

                              คุณแม่ท้องใกล้คลอด มีแพลนว่าจะเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ แต่กลัวไม่มีน้ำนม หรือคุณแม่ที่เพิ่งคลอดลูกมา แล้วกำลังเจอกับปัญหาไม่มีน้ำนม น้ำนมน้อย ลูกกินนมไม่อิ่ม ปั๊มนมได้ไม่ถึงออนซ์ ทำไปทำมาน้ำนมหดหายไปดื้อ ๆ เลยก็มี เอาเป็นว่าอย่าท้อ อย่าหมดหวัง อย่ายอมแพ้ที่จะเลี้ยงลูกด้วยน้ำนมแม่กันนะคะ

                              ทีมแม่ABK ไปตามหาสมุนไพรหลังคลอดมาแนะนำให้ค่ะ ขอบอกว่าถ้าเข้าโซเซียลจะเห็นว่าแม่ ๆ หลังคลอดเขาใช้กันบอกต่อสิ่งดี ๆ ปากต่อปาก และนี่ก็คือโฉมหน้าไอเทมเด็ดคู่ใจแม่หลังคลอด “Jessie Mum สมุนไพรเพิ่มน้ำนม” หรือจะเรียกสมุนไพรกู้น้ำนม ก็ไม่ผิดค่ะ เจสซี่มัมเด็ดจริง เพราะคุณแม่เขาแชร์กันมาว่าประทานเจสซี่มัมหลังคลอด ปั๊มนมได้ 5-6 ออนซ์  จากที่ทำสต็อกไม่ได้เพราะน้ำนมไม่พอ ก็สามารถทำได้  ปังมากแม่ !!

                               

                              ทำไมต้อง Jessie Mum สมุนไพรเพิ่มน้ำนม อยากรู้ว่าดียังไง ต้องลอง…

                              Jessie Mum เจสซี่มัม เขาบอกมาเลยว่าเป็นอาหารเสริมสมุนไพรสำหรับคุณแม่หลังคลอด ผลิตด้วยสมุนไพรจากธรรมชาติแท้ 100% คุณแม่สามารถทานกันได้อย่างสบายใจเลยค่ะ เพราะเจสซี่มัมได้ผ่านการรับรองมาตรฐาน อย. และผ่านการตรวจ GMP และก็ยังได้รับรองฮาลาลด้วยนะคะ

                              ความพิเศษของ Jessie Mum สมุนไพรหลังคลอดเพิ่มน้ำนม ที่ไม่เหมือนใคร ต้องบอกว่ากิน 1 แคปซูล แต่ดีต่อสุขภาพเป็น 2 เท่า เพราะเขารวมไว้ซึ่งสองส่วนผสมที่ช่วยเพิ่มปริมาณคุณภาพน้ำนมแม่ และอีกหนึ่งส่วนผสมช่วยในเรื่องการดูแล ฟื้นฟูบำรุงสุขภาพแม่หลังคลอดให้กลับมาแข็งแรงได้เร็วค่ะ

                              Jessie Mum

                              ในเจสซี่มัม 1 แคปซูล จะประกอบไปด้วยสมุนไพรที่ช่วยในเรื่องการผลิตน้ำนม การไหลเวียนน้ำนมแม่ให้มาดี ได้แก่ ขิง ฟีนูกรีก เมล็ดผักชีล้อม ขมิ้น และ ซิงค์อะมิโน แอซิดคีเลต

                              ส่วนวิตามินที่ช่วยบำรุงฟื้นฟูสุขภาพร่างกายหลังคลอดให้กลับมาแข็งแรง ฟิตแอนด์เฟิร์ม มีกำลังวังชา สดชื่น กระปรี้กระเปร่า ได้แก่ โฟลิค วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 12  และ ดี-ไบโอติน

                              เชื่อยังคะว่า Jessie Mum สมุนไพรหลังคลอด ดีจริงๆ ทีมแม่ABK ไปสืบข้อมูลรู้มาว่ามีคุณแม่หลังคลอดมากกว่า 10,000 คน ใช้เจสซี่มัมจริง เดี๋ยวจะหาว่าเราอวยเว่อร์วังเกินไป นี่คือรีวิวส่วนหนึ่งที่คุณแม่ ๆ ได้กินเจสซี่มัม ขอบอกว่า “กินจริง ได้ผลลัพธ์ดีจริง” ไม่จกตาค่ะ

                               

                              สมุนไพรเพิ่มน้ำนม

                              Jessie Mum

                              คุณแม่ปุ๋ย : จากที่น้องเคยงอแงไม่ยอมเข้าเต้าเพราะน้ำนมน้อย ทานไปแค่วันเดียว ภายในวันนั้นเองน้องยอมเข้าเต้าเลย ผลมาจากน้ำนมเพิ่มมากขึ้น หลังทาน Jessie Mum วันแรก”

                               

                              คุณแม่พลอย : ตอนคลอดน้ำนมน้อยมาก เครียด กังวล พยายามหาวิธีให้น้ำนมเยอะ ลองหาผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เป็นผลิตภัณฑ์ในรูปแบบชามาทาน แต่ไม่เห็นผล พอมาลอง Jessie Mum น้ำนมเพิ่มมาเยอะ ทำสต๊อกได้เลย”

                               

                              คุณแม่แยม : หลังจากทาน Jessie Mum + การได้เข้ากลุ่มสอนทำสต๊อก ได้ผลิตภัณฑ์ดี บวกกับเทคนิคดี ๆ ที่ไม่เคยรู้มาก่อน รวมถึงได้พูดคุยกับแม่ ๆ คนอื่น ๆ แลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ ให้กำลังใจกัน ทำให้สามารถทำสต๊อกได้ จากที่เคยกังวลใจ พอได้เข้ากลุ่มไม่กังวลเลย”

                               

                              คุณแม่ปีใหม่ : ลูกคนแรกไม่มีน้ำนมเลย พอลูกคนที่ 2 มาเจอ Jessie Mum เลยลองสั่งมาทาน แล้วได้น้ำนมเยอะมากๆ ทำสต๊อกได้กว่า 6,000 ออนซ์ ทาง Jessie Mum มีแคมเปญแจกโล่ให้กับคุณแม่ที่ทานแล้วเห็นผล ทำสต๊อกได้ เป็นความภาคภูมิใจของคุณแม่”

                               

                              คุณภาพอัดแน่นเต็มไปด้วยส่วนผสมที่มีประโยชน์ ธรรมชาติ 100% มีความปลอดภัยต่อสุขภาพ แล้วยังช่วยบำรุงให้มีน้ำนมแม่ที่ได้ทั้งคุณภาพ และปริมาณเพียงพอสามารถแบ่งเก็บทำสต็อกให้ลูกได้กินไปจนถึงวัยขวบ ทีมแม่ABK แนะนำ Jessie Mum สมุนไพรหลังคลอดเพิ่มน้ำนมกล่องนี้เลยค่ะ ดีจนต้องบอก แต่ถ้าอยากรู้ว่าดียังไง ต้องไปหาซื้อมาลองรับประทานกันนะคะ

                              คุณแม่สามารถสั่งซื้อได้ที่ตัวแทนจำหน่าย Jessie mum ทั่วประเทศ

                              Jessie Mum สมุนไพรเพิ่มน้ำนม

                                ลูกล้มหัวฟาด

                                ลูกล้มหัวฟาดพื้น อย่าชะล่าใจ พฤติกรรมเปลี่ยนไป อาจมีอะไรผิดปกติ!

                                ลูกล้มหัวฟาดพื้น – เป็นธรรมดาของเด็กวัยเตาะแตะ และวัยก่อนเรียน (1-5 ขวบ) ที่เริ่มจะเดิน เริ่มวิ่ง หรือรู้จักการปีนป่าย จึงมีโอกาสได้รับบาดเจ็บจากการพลัดตกหกล้ม การจัดบ้านให้ปลอดภัยจึงเป็นเรื่องที่สำคัญโดยเฉพาะห้องน้ำถือเป็นจุดอันตรายที่สำคัญภายในบ้าน เพราะเด็กเสี่ยงต่อการลื่นล้มศีรษะกระแทกพื้นได้ค่อนข้างสูง อย่างกรณีของคุณแม่รายหนึ่งที่ได้เปิดเผยเรื่องราวของลูกชายวัยเตาะแตะ ที่ลื่นล้มหงายหลังศีรษะกระแทกพื้นห้องน้ำและได้รู้ภายหลังว่ากะโหลกศีรษะลูกแตกร้าว

                                ลูกล้มหัวฟาดพื้น อย่าชะล่าใจ พฤติกรรมเปลี่ยนไป อาจมีอะไรผิดปกติ!

                                คุณแม่ทางบ้านเตือนใจ  กรณีลูกชายเกิดอุบัติเหตุลื่นล้มหงายหลังหัวฟาดพื้น  โดยเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นในขณะที่คุณแม่กำลังอาบน้ำให้ลูก​ พออาบน้ำเสร็จ​คุณแม่หันไปหยิบผ้าเช็ดตัวแค่เสี้ยววินาที พอหันกลับมาเห็นว่าลูกกำลังจะเดินออกจากห้องน้ำ​ คุณแม่จึงบอกว่าอย่าเพิ่งเดินไปเพราะกลัวว่าลูกจะลื่นล้ม​ แต่ลูกชายกลับคิดว่าคุณแม่​เล่นด้วย ทันใดนั้นลูกชายวิ่งแล้วพลาดลื่นล้มหงายหลังหัวฝาดพื้นแรงพอสมควร คุณแม่จึงรีบเข้าไปกอดเอาไว้ น้องจึงได้หยุดร้อง ซึ่งหลังจากเหตุการณ์นี้คุณแม่ไม่ได้เอะใจอะไร และคิดว่าลูกแค่ลื่นล้มธรรมดา

                                ผ่านไป 1 อาทิตย์ ลูกพฤติกรรมเปลี่ยน

                                แต่พอผ่านไปอาทิตย์​นึง คุณแม่เริ่มรู้สึกว่าน้องมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปจากไม่เคยนอนดึกเลย ก็ เริ่ม นอนดึก จากที่หลับได้ปกติก็ นอนไม่ค่อยหลับ​ แถมยังมีการสะดุ้งตื่นขึ้นมาร้องไห้กลางดึก เวลาง่วงนอนก็จะชอบทำท่าเหมือนทำร้ายตัวเอง​ด้วยการตบหัวตัวเอง  บางทีก็เดินเซๆ เหมือนคนเมา ซึ่งคุณแม่ก็ยังคิดว่าเป็นพฤติกรรมปกติของเด็กกำลังโต เพราะลูกชายก็ยังกินได้ เล่นได้ปกติ​

                                พบว่าลูกหัวบวมปูด กดแล้วนิ่ม

                                หลังจากผ่านไปไม่กี่วัน คุณแม่กำลังอาบน้ำให้ลูกชายอยู่แล้วคลำไปเจอก้อนบนหัวลูก จับแล้วบวมๆ ปูดๆ เหมือนลูกโป่ง พอกดเบาๆ แล้วรู้สึกนิ่ม  เห็นท่าไม่ดี จึงตัดสินใจพาลูกชายไปหาหมอ คุณหมอทำการเอ็กซเรย์ให้ ซึ่งจากผลการตรวจ พบว่าน้องมีรอยแตกร้าวที่กะโหลก ซึ่งคุณแม่ตกใจและคิดว่าน่าจะพาน้องมาหาหมอให้เร็วกว่านี้
                                หลังจากหาหมอกลับมา  น้องดูเล่นได้ตามปกติ แต่มีอยู่คืนหนึ่งที่น้องตื่นมากลางดึกแล้วเดินรอบห้อง ลงไปนอนกับพื้นพร้อมกับอาเจียน ซึ่งคุณแม่ยังไม่แน่ใจว่าเกิดจากอาเจียนเพราะกินนมเยอะไปหรือเกิดจากที่ศีรษะได้รับการกระทบกระเทือน ซึ่งต้องพาไปพบคุณหมอเพื่อติดตามดูอาการอย่างใกล้ชิดต่อไป  สุดท้ายคุณแม่ได้ฝากถึงแม่ๆ ที่มีลูกเล็กๆ อย่าชะล่าใจ หากลูกล้มหัวฟาดพื้น ต้องไม่ปล่อยผ่าน ต้องคอยสังเกตพฤติกรรมลูกอย่างใกล้ชิด พร้อมกับย้ำว่าบ้านที่มีลูกเล็กๆ ห้ามเผลอละสายตาจากลูกแม้แต่วินาทีเดียว ​เพราะหากพลาดเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นมาคงเป็นเราที่ต้องเสียใจไปตลอดชีวิต  ทางทีมแม่ ABK  ขออวยพรให้น้องกลับมาแข็งแรงเป็นปกติในเร็ววันนะคะ
                                ลูกล้มหัวฟาดพื้น
                                ลูกล้มหัวฟาดพื้น

                                อันตรายจากการล้มศีรษะกระแทกพื้นในเด็กเล็ก

                                อาการบาดเจ็บที่ศีรษะเป็นประสบการณ์ในวัยเด็กที่สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเพศทุกวัย แต่วัยที่ต้องระวังเป็นพิเศษคือเด็กวัยเตาะแตะ หากลูกเรามีสุขภาพแข็งแรงก่อนได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ หลังการลื่นล้ม ไม่หมดสติ ไม่มีบาดแผลที่ศีรษะหรือใบหน้าไม่มีพฤติกรรมผิดปกติหลังจากการล้ม อาจเป็นเพียงการกระแทกที่ศีรษะที่ไม่รุนแรง ซึ่งในสถานการณ์เช่นนี้ สิ่งสำคัญที่สุดที่พ่อแม่สามารถทำได้คือเฝ้าสังเกตลูกอย่างระมัดระวัง และหากมีข้อกังวล อย่าลังเลที่จะทำตามสัญชาตญาณและพาลูกไปพบแพทย์

                                สิ่งที่ต้องระวังหลังจากเด็กเล็กได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ

                                เป็นเรื่องปกติที่เด็กๆ จะร้องไห้หลังจากที่ล้มฟัวฟาดพื้น เพราะทั้งตกใจและเจ็บ แต่การร้องไห้ของเด็กๆ ไม่ควรนานเกิน 10 นาที หากลูกของคุณตื่นตัวและตอบสนองต่อคุณ อาการบาดเจ็บที่ศีรษะมักจะไม่รุนแรง เพื่อบรรเทาอาการเหล่านี้ คุณสามารถใช้วิธีประคบเย็น เป็นเวลา 20 นาที เพื่อช่วยให้อาการบวมลดลง นอกจากนี้สามารถให้ยาอะเซตามิโนเฟนกับลูกได้ แต่ควรปรึกษาแพทย์ของลูกก่อนให้ยาตัวอื่น ที่สำคัญคือต้องเฝ้าดูอาการและพฤติกรรมของลูกทุกๆ สองถึงสามชั่วโมงเพื่อให้แน่ใจว่าทุกอย่างเป็นปกติดี

                                อันตรายจาก ประทัดระเบิด สอนลูกให้ระวังไว้ วัยซนเสี่ยงเจ็บสูง!

                                หมอรามาแนะ วิธีสร้างทักษะความปลอดภัยให้ลูกจากกรณี เด็กตกตึก

                                6 อันตรายนอกบ้าน ที่ควรสอนลูกให้ระวัง!

                                หากลูกของคุณล้มและกระแทกศีรษะ แต่ตื่นตัวและตอบสนองปกติ ให้เฝ้าดูลูกอย่างระมัดระวังประมาณ 36 ถึง 48 ชั่วโมง เพื่อดูว่ามีอาการใดๆ ที่อาจบ่งบอกถึงการบาดเจ็บที่ศีรษะหรือไม่ โดยความผิดปกติที่ต้องคอยสังเกตเป็นพิเศษ ได้แก่ การร้องไห้ หรือหงุดหงิดผิดปกติ การอาเจียนมากกว่าหนึ่งครั้ง การทรงตัวเมื่อนั่งหรือเดินที่ผิดปกติ หรือมีอาการไม่ตอบสนอง เป็นต้น หากลูกของคุณมีอาการเหล่านี้ หรือมีอาการบวมอย่างมีนัยสำคัญบริเวณที่ได้รับบาดเจ็บเช่นการบวมที่มีลักษณะกดแล้วนิ่มจุดที่บวม ควรพาลูกไปพบแพทย์ทันที

                                ลูกล้มหัวฟาดพื้น

                                อาการบาดเจ็บที่ต้องรีบพาลูกไปโรงพยาบาล

                                แนะนำให้พาเด็กไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลทันทีหากมีอาการดังต่อไปนี้ :

                                • ซีดผิดปกติที่กินเวลานานกว่าหนึ่งชั่วโมง
                                • บวมปูด บริเวณที่ถูกกระแทก กดแล้วรู้สึกนิ่ม
                                • การรู้สึกเสียวซ่าที่ด้านใดด้านหนึ่งของร่างกาย
                                • อาการชาหรืออ่อนแรงของแขนหรือขา
                                • เสียการทรงตัว เดินสะดุด หรือเดินลำบาก
                                • อาการชัก
                                • เวียนหัวซ้ำๆ หรือเวียนหัวไม่หาย
                                • คลื่นไส้หรืออาเจียนมากกว่าสองหรือสามครั้ง
                                • หูอื้อถาวร หรือสูญเสียการได้ยิน
                                • พูดออกเสียงไม่ชัด
                                • ตาพร่ามัว มองเห็นภาพซ้อน หรือรูม่านตาที่มีขนาดไม่เท่ากัน
                                • จดจำใบหน้าที่คุ้นเคยไม่ได้
                                • ปวดหัวอย่างต่อเนื่อง อาการแย่ลง
                                • ง่วงนอนมากหรือตื่นยาก
                                • หงุดหงิด สับสน หรือพฤติกรรมผิดปกติอื่นๆ

                                การป้องกันอุบัติเหตุในห้องน้ำ

                                เด็กวัยเตาะแตะ และก่อนวัยเรียน มักได้รับบาดเจ็บภายในบ้านจากการลื่นล้มหรือพลัดตกหกล้มโดยเฉพาะภายในห้องน้ำ ซึ่งเป็นจุดอันตรายที่สำคัญ เนื่องจากมีความเสี่ยงที่เด็กจะลื่นล้มศีรษะกระแทกพื้นได้ การป้องกัน สามารถทำได้โดยวางผ้าหรือพรมเช็ดเท้าแบบหนาหรือหยาบ ไว้ในห้องน้ำเพื่อช่วยลดเสี่ยงต่อการเหยียบแล้วลื่นไถล โดยวางเอาไว้ 2 จุด ได้แก่ หน้าห้องน้ำ และหน้าอ่างน้ำ เพื่อช่วยซับน้ำไม่ให้พื้นเปียก นอกจากนี้อาจติดแถบกันลื่นที่ด้านล่างของอ่างอาบน้ำ หรือ วางเบาะหุ้มไว้เหนือก๊อกน้ำ เพื่อไม่ให้ลูกได้รับบาดเจ็บหากพลาดกระแทกศีรษะ บ้านที่มีเด็กเล็กๆ ฝาชักโครกควรปิดไว้เสมอหลังการใช้งาน เพราะเด็กวัยหัดเดินจะค่อนข้างขี้สงสัยบางครั้งอาจพยายามเล่นน้ำ และอาจเสียการทรงตัวตกลงไป ที่สำคัญ ทุกครั้งที่เข้าห้องน้ำควรตรวจตราดูว่า มีเศษสบู่หรือคราบผงซักฟอกจับอยู่บนพื้น ถ้ามีก็ควรขัดออกก่อนจะมีใครมาลื่นล้ม นอกจากนี้ อ่างอาบน้ำ ควรมียางกันลื่น เพื่อป้องกันการลื่นล้มหลังอาบน้ำเสร็จ ไม่ควรปล่อยให้เด็กอายุน้อยกว่า 3 ขวบ อยู่ในอ่างคนเดียว เพราะอันตรายอาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ
                                การตระหนักในอันตรายต่างๆ และเฝ้าระวังและป้องกันลูกน้อยจากการบาดเจ็บ จะช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดกับลูกๆ ของเราได้ ด้วยการคิดให้รอบด้านว่าอะไรจะเป็นเหตุให้เกิดการบาดเจ็บได้บ้างและหาทาง ป้องกันและแก้ไข นอกจากนี้ การปลูกฝังให้เด็ก ๆ ได้รู้จักเรื่องของความปลอดภัย จะช่วยเสริมสร้างทัก๋ษะความฉลาดรอบด้านด้วย Power BQ ในด้าน ความฉลาดต่อการมีสุขภาพที่ดี HQ เพื่อให้เด็กๆ มีความรู้ ตลอดจนภูมิมีคุ้มกันที่ดีต่อการเจ็บไข้ได้ป่วย สามารถรู้เท่าทันอันตรายต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อค่ะ
                                ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก : healthychildren.org , sutterhealth.org , ณัฐยานันท์ พันตรีแสง
                                บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

                                  ทำไม HOYO ถึงเป็น “คอกกั้นด็ก” อันดับ 1 ที่ครองใจคุณพ่อคุณแม่ ดารา เซเลบริตี้ ทุกคนต่างเทใจเลือกใช้มากที่สุด!!

                                  • มีลูกคนแรกของบ้าน ก็มานั่งคิดว่าจะซื้อของใช้ชิ้นใหญ่อะไรดี ที่สามารถใช้งานได้นานๆ จนนึกขึ้นได้ว่าเพื่อนๆ ที่สนิทกันส่วนใหญ่จะมีคอกกั้นเด็กที่บ้านเกือบทุกคน ก็ได้ไอเดียว่าซื้อคอกกั้นนี่แหละเหมาะสุด จนต้องไปหาข้อมูลดูรีวิวก่อนว่าคอกกั้นสำหรับทารก เด็กเล็ก มียี่ห้อไหนที่ป๊อบปูล่าบ้างช่วงนี้ ก็มาเจอเข้ากับ “คอกกั้น HOYO” ที่ใครๆ ก็ว่าคุณภาพดี คุ้มค่า คุ้มราคา วันนี้ทีมแม่ABK ก็เลยจะมารีวิวซะหน่อยค่ะ

                                  ที่ทีมแม่ABK รู้มานะคะ คอกกั้น HOYO มีความเป็น Original แบรนด์เจ้าแรกในไทย ซึ่งเจ้าของแบรนด์ HOYO เดิมทีเป็นคุณแม่ที่มีลูกค่ะ และด้วยความเป็นแม่ก็อยากจะให้ลูกน้อยได้รับการดูแลอย่างปลอดภัยที่สุดเวลาอยู่บ้าน ก็เลยได้มีการคิดค้น ออกแบบดีไซน์คอกกั้น รวมถึงคัดเลือกวัสดุที่เหมาะสำหรับเด็กที่ตอบโจทย์การใช้งาน  เข้าใจความต้องการของคนเป็นแม่ค่ะ

                                  สำหรับคอกกั้นของแบรนด์ HOYO มีการเลือกใช้วัสดุที่คงทนแข็งแรงแตกต่างจากท้องตลาดทั่วไป รวมถึงมีฟังก์ชั่นการใช้งาน ขอบอกว่าดีงามค่ะ เพราะไม่ว่าจะติดตั้งการใช้งาน หรือพับเก็บก็ง่าย สะดวกคนเป็นแม่อย่างเราสุดๆ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงได้ฮอตฮิตครองใจคุณพ่อคุณแม่ มีดารา เซเลบริตี้ผู้ใช้จริง ต่างก็เทใจให้กับคอกกั้น HOYO และรีวิวพูดถึงคุณภาพมากกว่า 3,000 คน นี่แม่ก็ว่าว้าว!! แล้วนะ แต่ไม่สุดแค่นี้ค่ะ เพราะเพื่อนที่นั่งทำงานอยู่ด้วยกันก็เป็นคุณแม่ที่ใช้คอกกั้น HOYO กันหลายคน บอกตามๆ กันมาอีกว่า วัสดุมีคุณภาพดีจริงๆ ใช้ได้คุ้มค่าในระยะยาว แถมกระซิบบอกว่า เธอๆ คอก HOYO เขาเป็นอันดับ 1 ด้วยนะ เพราะเมื่อปลายปีที่ผ่านมาได้รางวัล Mommy’s Choice สาขา Best Baby Playpen จากงาน Amarin Baby & Kids Awards 2020 เลือกให้เป็นแบรนด์สินค้าในดวงใจที่ได้รับการโหวตจากพ่อแม่ทั่วประเทศกว่า 10,000 คน !!! เอาเป็นว่าไม่ลังเลใจอะไรแล้ว ถ้าจะสร้างพื้นที่สนุก ปลอดภัยที่บ้านให้ลูกน้อยด้วย คอกกั้นเด็ก HOYO ค่ะ

                                  คอกกั้น HOYO

                                  ทีมแม่ABK ขอเล่าย้อนกลับไปก่อนหน้า ที่จะตัดสินใจซื้อคอกกั้นเด็กมาใช้ที่บ้าน ก็มีคำถามขึ้นว่า ซื้อมาแล้วใช้งานได้แป๊บเดียว พอลูกโตก็ไม่ใช้แล้วหรือเปล่า? ก็ไปเสิร์ชดูข้อมูลนั่นนี่ของคอกเด็ก อย่างที่เจอของคอก HOYO เขามีฟังก์ชั่นให้เราสามารถนำมาปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ตามความเหมาะสมเพิ่มความคุ้มค่าในระยะยาว อย่างตอนลูกเป็นทารก เบบี๋เล็กๆ ก็ทำเป็นคอกกั้นป้องกันลูกคลานไปในพื้นที่อันตราย บางทีเราอาจละสายตาจากลูกไปเข้าห้องน้ำ ไปเตรียมอาหาร แต่ลูกอยู่ในคอกกั้น ก็วางใจว่าปลอดภัยในระดับหนึ่ง  ทีนี้พอลูกโตมาหน่อย เดินได้คล่อง ก็สามารถถอดคอกกั้นออกมาทำเป็นฟูกปูเตียงนอนให้ลูกหรือทุกคนในครอบครัวนอนหรือนั่งสบายๆ ได้ด้วยค่ะ  แม่นี่ยิ้มชอบใจเลยค่ะ ลงทุนครั้งเดียว การใช้งานคุ้มค่า คุ้มราคาที่จ่ายไปสุดๆ

                                  อ่อ!! เกือบลืมค่ะ มีอีกรุ่นนึงของคอกกั้น HOYO ชื่อรุ่นว่า “Superme” คือดีงามมากบอกเลย เพราะ“ผนังทุกแผ่น”ในคอกกั้นรุ่น “Superme” คุณพ่อคุณแม่สามารถที่จะนำมาปูเป็น Playground ให้ลูกๆ สำหรับทำกิจกรรมสนุกต่างๆ โดยที่ผนังของคอกกั้นไม่หลุดออกจากกัน แล้วความพิเศษสุดๆ ในเรื่องนี้ ที่แม่บ้านนี้รู้มานะ คือเขาเป็นแบรนด์แรก และแบรนด์เดียวในโลกค่ะคุณ!!

                                  คอกกั้น HOYO

                                  ดีที่สุดของ คอกกั้นเด็ก HOYOอยากให้ได้ใช้กัน

                                  1. ผ้าหนัง

                                  คอกกั้น HOYO ใช้ผ้าหนังประเภท PU ที่สั่งผลิตพิเศษจากประเทศเกาหลี ให้ผิวสัมผัสเนียนนุ่มไม่เหมือนใคร  นอนเย็นสบายไม่เหนอะหนะมีการเคลือบ Hydrolysis Resistance เพื่อให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น และกันน้ำ ไร้กลิ่นตั้งแต่แกะกล่อง ทั้งชุดประกอบของคอกกั้นปลอดภัยจากสารอันตรายสำหรับเด็กกว่า 30 ชนิดตามมาตรฐานยุโรปและอเมริกา มี Certifications ยืนยันในทุกรายการ

                                  2. โฟม

                                  คอกกั้นเด็ก

                                   

                                  คอกกั้นเด็ก HOYO

                                  โฟมของ HOYO สั่งผลิตขึ้นมาโดยเฉพาะ เพื่อให้ feelings ที่ดีที่สุด เอกสิทธิ์เฉพาะของ HOYO หนึ่งเดียวในท้องตลาด มีความเฟิร์ม นุ่มแต่แน่น  ปกป้องการกระแทกศีรษะลูกน้อยอย่างสูงสุด  ทดสอบแล้วว่า “ไข่ไก่สดตกไม่แตก”  ทนทานมาก  ไม่ยุบตัว ทั้งยังปลอดสารเคมีและมี Certifications รับรองด้วยเช่นเดียวกัน

                                  3. ซิป

                                  ซิปเป็นหนึ่งในส่วนประกอบหลักของคอกกั้น ทาง HOYO เลือกเป็นซิป Nylon ถัก ของแบรนด์ YKK ที่มีผลการทดสอบยืนยันความแข็งแรงว่ารับน้ำหนักได้มากกว่า 900 นิวตันหรือ 90 กิโลกรัม/คู่  แข็งแรงกว่าซิป Vislon (พลาสติก) ทั่วไปถึง 3 เท่า ไม่มีความคม ปลอดภัยกับเด็กตั้งแต่แรกเกิดตามมาตรฐานระดับโลก Oeko Tex standard 100 class 1

                                  4. ตีนตุ๊กแก

                                  ตีนตุ๊กแกใช้แบรนด์ YKK  มีขนาดใหญ่พิเศษ มีมาตรฐานรองรับว่าปลอดภัยกับเด็กตั้งแต่แรกเกิด มีเทคนิคการเย็บแบบ “ซ่อนขอบตีนตุ๊กแก” ทำให้ไม่มีคมมาบาดลูกน้อยและยืดอายุการใช้งานของตีนตุ๊กแกให้ยาวนานขึ้น

                                  คอกกั้น HOYO

                                  คุณพ่อคุณแม่มือใหม่จะซื้อคอกกั้นมาใช้ที่บ้าน อยากให้ตรวจสอบจุดสำคัญของคอกกั้นกันด้วย คือปลอดภัยก็ต้องให้ปลอดภัยจริงๆ กับลูกน้อย โดยเฉพาะ 4 จุดสำคัญนี้ ที่แบรนด์ HOYO ให้ความใส่ใจเป็นพิเศษ แบบนี้แหละที่ทำให้แม่บ้านนี้ตัดสินใจเลือกใช้เป็นคอกกั้นเด็กของ HOYO ค่ะ #ของแท้ต้องHOYO

                                   

                                  WEBSITE: www.hoyosoftandsafe.com

                                  FB/IG: hoyosoftandsafe

                                  https://www.facebook.com/hoyosoftandsafe/

                                  https://www.instagram.com/hoyosoftandsafe/

                                  line@ : @hoyosoftandsafe (with@)

                                  https://lin.ee/1POJi5q

                                   

                                    ชื่อเล่นผู้หญิง

                                    ชื่อเล่นผู้หญิง น่ารักไว้ตั้งให้ลูกสาว..ดวงปังเพราะชื่อดี!!

                                    ชื่อเล่นผู้หญิง สุดCuteน่ารัก เหมาะกับลูกสาวตัวน้อย ใครว่าชื่อเล่นไม่สำคัญ เคล็ดลับตั้งชื่อเล่นลูกสาว ให้ปัง ให้ดังเว่อร์ เพราะมีชื่อเล่นเรียกง่าย มีเสน่ห์

                                    ชื่อเล่นผู้หญิง น่ารักไว้ตั้งให้ลูกสาว..ดวงปังเพราะชื่อดี!!

                                    ชื่อเล่น คือ ชื่อของบุคคลหรือสิ่งหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่ชื่อจริง ไม่ใช่ชื่ออย่างเป็นทางการ มักใช้แทนหรือใช้ควบคู่ไปกับชื่อที่เป็นทางการ มักใช้เรียกขานกันในหมู่เพื่อนฝูงหรือคนที่รู้จักกันเท่านั้น เพื่อให้สะดวกในการเรียก โดยมักเป็นคำพยางค์เดียวหรือสองพยางค์ แต่บางครั้งพบว่ามีคนที่มีชื่อเล่นถึง 3 พยางค์ก็มี และยังมีคนที่มีชื่อเล่นยาวกว่าชื่อจริงก็มีเช่นกัน

                                    ชื่อเล่นผู้หญิง สำหรับลูกสาว
                                    ชื่อเล่นผู้หญิง สำหรับลูกสาว

                                    การตั้งชื่อเล่นสำหรับคนไทยสมัยก่อนยังไม่มีชื่อเล่น เนื่องจากชื่อในสมัยนั้นมักเรียกกันง่าย ๆ พยางค์เดียว จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมีชื่อเล่น เมื่อประเทศไทยเริ่มรับเอาวัฒนธรรมต่างชาติเข้ามา ทำให้ค่านิยมในการตั้งชื่อเปลี่ยนไป มีความพิถีพิถันมากขึ้น มีการนำคำภาษาต่างประเทศที่มีความหมายดี มงคลมาใช้เป็นชื่อ ครั้นจะเรียกขานกันเต็มยศก็เกิดความไม่สะดวก จึงเริ่มมีการเรียกชื่อง่าย ๆ เพื่อความรวดเร็ว สะดวก ซึ่งค่านิยมดังกล่าวเกิดในแวดวงเจ้านายเบื้องสูงเป็นผู้นำมาใช้ก่อน ต่อมาจึงขยายไปสู่ประชาชนทั่วไป ซึ่งช่วงแรกนั้น ชื่อเล่น ยังเป็นเพียงชื่อเรียกง่ายๆ และเป็นพยางค์เดียวเป็นส่วนใหญ่ แต่ปัจจุบันนี้คนไทยเรานิยมตั้งชื่อเล่นควบคู่ไปกับชื่อจริง และชื่อเล่นที่ตั้งก็มักจะมีหลายพยางค์มากขึ้น มีความไพเราะ น่ารัก ทันสมัย

                                    ตั้งชื่อเล่นอย่างไรให้ดวงปัง!!

                                    หากพูดถึงความเชื่อกันแล้ว คงหนีไม่พ้นการดูดวงตามวันเกิด ศาสตร์แห่งการตั้งชื่อที่ยึดตามหลักอักษรที่ช่วยเสริมดวง หรืออักษรกาลกิณี จึงนับว่าเป็นกฎเกณฑ์อีกหลักการหนึ่งที่ผู้คนนิยมนำมายึดถือปฎิบัติในการเลือกชื่อ ดังนั้นหากคุณพ่อคุณแม่ต้องการเลือกชื่อที่ดีที่สุด ชื่อที่ตั้งแล้วดวงปัง ดวงเฮง แก่ลูกน้อยแล้วละก็ ลองมาศึกษาไว้คร่าว ๆ ก็เห็นจะดีไม่น้อย วันนี้ทาง ทีมแม่ ABK จึงขอนำหลักการและตัวอย่างชื่อเล่นผู้หญิง ชื่อเล่นลูกสาว มาให้ได้เลือกกันตามใจชอบ

                                    ชื่อเล่นลูกสาวที่เกิดวันจันทร์

                                    ลักษณะสาววันจันทร์ เป็นคนปากหวาน พูดเก่ง ช่างเอาอกเอาใจ ขี้งอน แต่หายไว มนุษย์สัมพันธ์ดี เฉลียวฉลาด เข้าอกเข้าใจผู้อื่นเสมอ

                                    ตัวอักษรที่เป็นกาลกิณีสำหรับคนที่เกิดวันจันทร์ ได้แก่ สระทั้งหมด การันต์ และไม้หันอากาศ จึงไม่ควรมีปรากฎในชื่อ

                                    ตัวอย่างชื่อเล่นผู้หญิงวันจันทร์

                                    กนกกมลกรรณกบ
                                    ขนมณมลนมสดพร
                                    นพนนนกชล
                                    ตงตงต้นอ้อตวงต้นหอม
                                    ฝนมดมลรวย
                                    รสวรรษสมรสวย
                                    หมวยหยกออมอองฟอง
                                    ชื่อเล่นผู้หญิง ตั้งตามวันเกิด
                                    ชื่อเล่นผู้หญิง ตั้งตามวันเกิด

                                    ชื่อเล่นลูกสาวที่เกิดวันอังคาร

                                    ลักษณะสาววันอังคาร เป็นคนรอบรู้ ช่างพูดช่างเจรจาเอาแต่ใจตัวเองไม่ค่อยยอมใคร ปากไว ใจร้อน

                                    ตัวอักษรที่เป็นกาลกิณีสำหรับสาววันอังคาร ได้แก่ ก ข ค ฆ ง

                                    ตัวอย่างชื่อเล่นผู้หญิงวันอังคาร

                                    จ๊ะจ๋าจอยซ์จอลลี่จ๊ะเอ๋
                                    จูนจุ๋ยจูเนียร์จูจุ๊บ
                                    ซินดี้ซาลีน่าซานิซีอิ้ว
                                    ซูซิซีลอนแซนแซลลี่
                                    เฌอแตมฌาโปเฌอเบซณดา
                                    ญี่ปุ่นดอลลี่เดลฟี่โดนัท
                                    ไดมอนท์โดเมนไดอาน่าแดนซ์
                                    ต้นปอต้นน้ำตันปัญญ์ต๋อมแต๋ม
                                    ตัวโน๊ตต่ายต๋าวเต็มฟ้า
                                    ถ้วยฟูทรายทอฝันท๊อฟฟี่
                                    ทอไหมทาโร่เทียนหอมแทมมี่
                                    ไทปันไทเปโทระธิดา
                                    ธารน้ำธิชาน้อยหน่านะโม
                                    นัทตี้น้ำนานานามิ
                                    โอลีฟโอลี่โอปอล์ไอซ์
                                    ไอร์ไออุ่นฮันนี่ฮันน่าห์

                                    ชื่อเล่นลูกสาวที่เกิดวันพุธ

                                    ลักษณะสาวเกิดวันพุธ คำพูดมีเสน่ห์ รู้จักเอาใจผู้อื่นด้วยคำพูดมีความสามารถพูดให้ดีให้เสียได้ มีอุดมการณ์เจ้าบทเจ้ากลอน โกรธง่ายหายเร็ว

                                    ตัวอักษรที่เป็นกาลกิณีสำหรับคนเกิดวันพุธ ได้แก่ จ ฉ ช ซ ฌ ญ

                                    ตัวอย่างชื่อเล่นน่ารัก ๆ สำหรับลูกสาว
                                    ตัวอย่างชื่อเล่นน่ารัก ๆ สำหรับลูกสาว

                                    ตัวอย่างชื่อเล่นผู้หญิงที่เกิดวันพุธ

                                    กตังค์กมลกระติปกระปุก
                                    กราฟกิ๊ฟกล้วยกลอย
                                    ข้าวแต๋นข้าวปุ้นข้าวฟ่างข้าวโพด
                                    เข็มเขียนฝันคนดีครีม
                                    ค็อกเทลเค้กหวานฐิตาดอกเข็ม
                                    ดอกบัวดาวเหนือแตงโมต้นปอ
                                    เตยหวานถุงข้าวไทเปธารน้ำ
                                    น้องหนูนาเดียร์น่านฟ้าบุ๊ง
                                    บุ๋มบิ๋มเบต้าเบนนี่โบอิ้ง
                                    ปายปิงปองแป้งหอมพลอยฝน
                                    พรีมมี่พอดีเพลงเพียร
                                    ฟางฟางฟ้ารุ่งฟูฟ่องมะนาว
                                    มันนี่เมเม่ยูกิใยฟ้า
                                    ระฟ้าไอโกะไอแอมฮานะ
                                    ฮานอยฮูย่าไฮไฟโฮย่า

                                    ชื่อเล่นลูกสาวที่เกิดวันพฤหัสบดี

                                    ลักษณะสาววันพฤหัสบดี ถือตัวกับคนที่ไม่รู้จัก แต่ถ้าสนิทแล้วชอบช่วยคนอื่นจนแทบไม่มีเวลาเป็นของตัวเอง ชอบความซื่อสัตย์

                                    ตัวอักษรกาลกิณีสำหรับสาววันพฤหัสบดี ได้แก่ ด ต ถ ท ธ น

                                    ตัวอย่างชื่อเล่นผู้หญิงเกิดวันพฤหัสบดี

                                    กรองกระจิบกระจิ๋วขวัญข้าว
                                    ของขวัญจิ๊กซอว์จิวจิวเฉาก๊วย
                                    ช่อชมพลอยบ๊ะจ่างบีเลิฟ
                                    ปังย่าปารีสปาล์มปีโป้
                                    ผมเปียผักโขมฝ้ายเฝอ
                                    พะยูงพิงกี้พิมพ์ใจแฟร์
                                    โฟร์ซองค์ภูพิงค์ม่วงงามมะม่วง
                                    มะยมมิวค์เชกเมกัสยาหยี
                                    ยาใจยิ้มแย้มเยลลี่ราลฟ์
                                    ร่าเริงเรียกขวัญโรสแมรี่ลูลู่
                                    เลอแปงวอฟเฟิลวาซาบิวอลล์
                                    ส้มซ่าสายรุ้งสายไหมสาหร่าย
                                    สีฟ้าโอโม่ไอบิสไอย่า
                                    ฮอลฮาเล่ย์แฮปปี้แฮม
                                    โฮลี่ไฮ้ไฮไฟโฮย่า
                                    ชื่อเล่นลูกสาว
                                    ชื่อเล่นลูกสาว

                                    ชื่อเล่นลูกสาวที่เกิดวันศุกร์

                                    ลักษณะสาวที่เกิดวันศุกร์ เป็นคนอ่อนหวาน รักสวยรักงาม ชอบช่วยคน พูดจาตรงไปตรงมา ชอบค้นคว้าค้นหา

                                    ตัวอักษรที่เป็นกาลกิณีสำหรับคนเกิดวันศุกร์ ได้แก่ ย ร ล ว ฤ

                                    ตัวอย่างชื่อเล่นผู้หญิงที่เกิดวันศุกร์

                                    ก๊อบแก๊บก๊อปปี้ก่อบุญกัสจัง
                                    เกมส์แก้มอุ่นโกโก้ขอบคุณ
                                    ข้ามฟ้าเข็มทิศแคมป์แคมเปญ
                                    โค้กงามจอมแก่นจอมใจ
                                    จูนเจด้าเจ้าหญิงแชมพู
                                    ไชน่าซันจิซิตี้ซิสเท็ม
                                    ดอกหญ้าดอกฟ้าดอทคอมดีดี
                                    เดือนเต็มตูนเต็มใจแต้ม
                                    แตมมี่นนนี่นะโมนับตังค์
                                    นับทองนุ่มนิ่มเนเน่เนปจูน
                                    ปอถักป้อมปันปันปาโก้
                                    สิงหาสุกใสสุขใจพาฝัน
                                    พิงค์พิมพ์สุขพิมใจมัดหมี่
                                    มามิมิคกี้แฮปปี้แฮม
                                    เอื้องเหนือเอื้องคำแองจี้แอนนา
                                    ฮิเมะฮือฮาแฮมแฮมชีส

                                    ชื่อเล่นลูกสาวที่เกิดวันเสาร์

                                    ลักษณะสาวที่เกิดวันเสาร์ อาจเอาแต่ใจตัวเองสักหน่อย แต่ใจกว้าง น่ารัก จะไม่ยุ่งกับใครก่อนเพียงแค่คนอื่นอย่ามายุ่งเท่านั้นเอง

                                    ตัวอักษรที่เป็นกาลกิณีสาวที่เกิดวันเสาร์ ได้แก่ ฎ ฏ ฐ ฑ ฒ ณ

                                    ตัวอย่างชื่อเล่นผู้หญิงสาวที่เกิดวันเสาร์

                                    กรองทองกรงทองกระต่ายกระท้อน
                                    กระถินกิ่งแก้วกิ่งดาวขนุน
                                    ข้าวกล้องข้าวกล้าแคปหมูโคโค่
                                    จริงใจจอมใจจงดีจักจั่น
                                    จั๊กจี้ฉลามฉู่ฉี่ฉุยฉาย
                                    ซ่าซาร่าซีด้าดับเบิ้ล
                                    ดรัมเบลดาวเด่นดีจังดีใจ
                                    ดุจดาวตุ๊กตาเทียน่าธัญย์
                                    นับเดือนน่านฟ้าน่านน้ำนิวส์
                                    นุกนิกนุ่มนิ่มโอนลี่โอเซียน
                                    โอปอล์ไอโกะไอติมไอแอม
                                    ฮันน่าฮานะฮานอนฮันนี่

                                    ชื่อเล่นลูกสาวที่เกิดวันอาทิตย์

                                    ลักษณะของสาวที่เกิดวันอาทิตย์ เป็นคนมีความคิดโลดแล่น รวดเร็ว โกรธง่าย หายง่าย คิดแล้วอยากทำเลย

                                    ตัวอักษรที่เป็นกาลกิณีของสาวที่เกิดวันอาทิตย์ ได้แก่ ศ ษ ส ห อ ฮ ฬ

                                    ตัวอย่างชื่อเล่นผู้หญิงที่เกิดวันอาทิตย์ 

                                    กบกรีซก๊องแก๊งกองเชียร์
                                    กุ้งเต้นขนมจีนขนุนข้าวแช่
                                    ข้าวกล้องข้าวกล้าคอลเทลครีมมี่
                                    คิกคักคิคุจินจินจักจั่น
                                    ชมจันทร์ชมดาวช่อแก้วช้องนาง
                                    เซบีย่าเซปเป้ดอกบัวดอกฝ้าย
                                    ดอกเข็มดาวเด่นดีจังดีใจ
                                    ดุจดาวตุ๊กตาเทียน่าธัญย์
                                    อังเปาอัญญาอันปันอั้ม
                                    แอมมี่แอมแปร์แอลฟ่าโอเซียน
                                    โอปอล์โอปองแอมแปร์โอบเอื้อ
                                    โอบบุญไอริไอวี่ไออุ่น
                                    ตั้งชื่อดีดวงปัง รุ่งไม่หยุด
                                    ตั้งชื่อดีดวงปัง รุ่งไม่หยุด

                                    หากยังไม่จุใจ เรามีตัวอย่างชื่อเล่นผู้หญิงน่ารัก ๆ ไม่ตกยุค มาฝากกันเพิ่มอีกด้วย

                                    ตัวอย่าง ชื่อเล่นผู้หญิง 2 พยางค์ น่ารักๆ

                                    ก้านอ้อยแกงหอมก้านอ้อแก้มอิ่ม
                                    ข้าวสวยข้าวหอมข้าวปั้นของขวัญ
                                    ไข่ตุ๋นขมิ้นข้าวทิพย์ขวัญข้าว
                                    ครองแครงคนโปรดคะน้าแคนา
                                    คำแพงคำแปงแคปซูลคิดตี้
                                    เจนนี่จินเจนจุ๊บจิบจ๋อมแจ๋ม
                                    ใจดีจีจ้าจอมขวัญจริงใจ
                                    ชะเอมชานมชาเย็นชมพู่
                                    ชมพูชีฟองเชอเอมชายน้ำ
                                    ม่านมุกม่อนไหมมาเรียมัฟฟิน
                                    มุกไหมมิลาโมจิมีมี่
                                    มะตูมมีล่าโมโม่ไม้ไทย
                                    ติซ่าแตงกวาต้นหอมต้นน้ำ
                                    ต้นหนาวตั้งใจต้นข้าวตังเม
                                    ข้อมูลอ้างอิงจาก www.myhora.com/ th.wikipedia.org/kapook.com/today.line.me

                                    อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

                                    ชื่อจีนผู้ชาย ตั้งให้ลูกตามราศีเกิดเสริมโชคลาภบารมี

                                    300+ ชื่อผู้ชาย ความหมายดี ปี 2021-2022 ตามวันเกิด

                                    300+ ชื่อมงคล ผู้หญิง ตามวันเกิดพร้อมความหมายดี ๆ

                                    8 วิธีฝึก “สมองส่วนหน้า” ที่ให้ลูกได้มากกว่าทักษะ EF

                                    เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่