เมื่อลูกโดนนินทา ว่าร้าย

Alternative Textaccount_circle
event

การทำร้ายผู้อื่นด้วยคำพูดเป็นพฤติกรรมที่เรามักพบเห็นในกลุ่มเด็กก่อนวัยรุ่น โดยเฉพาะกลุ่มเด็กผู้หญิง หากลูกเราถูกล้อเลียนหรือนินทา เราพ่อแม่ควรทำอย่างไร?

เพื่อนๆ และจุดยืนในกลุ่มคือตัวผลักดันให้สาวน้อยหยิบการล้อเลียนและซุบซิบนินทามาเป็นอาวุธ เพื่อต่อต้านเพื่อนนอกกลุ่มที่ตนไม่ชอบหน้า หรือบางครั้งก็เพื่อแย่งความเด่นกันเองในกลุ่มเพื่อน

•  การล้อเลียน

เป็นปฏิกิริยาตอบสนองต่อคนที่เด็กหญิงวัยนี้รู้สึกว่าแปลกแยกหรือแตกต่างจากคนอื่นๆ เช่น เพื่อนที่โตเร็วหรือช้ากว่าคนอื่น เพื่อนที่ตัวสูง เตี้ย อ้วน หรือผอม การล้อเลียนอาจมีสาเหตุมาจากความกังวลกับการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่เขารู้ว่ากำลังจะเกิดขึ้นตามวัยเพราะเกิดขึ้นกับเพื่อนบางคนแล้ว เช่น มีหน้าอก มีกลิ่นตัวหรือเป็นสิว การพูดล้อเลียนทำได้ทั้งตอนฉายเดี่ยวและตอนที่อยู่กับพรรคพวก (อย่างหลังมักมีพลังและมีผลกระทบต่อ “เหยื่อ” มากกว่า)

•  ซุบซิบนินทา

ขณะที่การล้อเลียนมุ่งทำลายความมั่นใจของคนที่ถูกล้อแบบซึ่งหน้า เสียงซุบซิบนินทากลับเป็นการลดทอนความนิยมของเป้าหมายในสายตาของผู้ฟัง ที่เด็กหญิงมักชอบจับกลุ่มนินทามากกว่าเด็กชาย เพราะสาวๆ ใส่ใจกับความคิดเห็นของคนรอบข้างและกังวลกับภาพลักษณ์ของตัวเองมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นปัญหาด้านการเรียน การเป็นคนโปรดของคุณครู หรือแม้แต่เรื่องกุ๊กกิ๊กแบบเด็กๆ ล้วนถูกหยิบยกมาเป็นหัวข้อการนินทาได้ทั้งสิ้น

ถ้าลูกตกเป็น “เหยื่อ” ล่ะ?

การยื่นมือเข้าไปแทรกแซงปัญหาละเอียดอ่อนของสาวน้อยวัยทวีนเป็นเรื่องที่คุณพ่อคุณแม่ต้องระมัดระวังและคิดอย่างรอบคอบ (การฟ้องครูหรือผู้ใหญ่อาจยิ่งทำให้ความขัดแย้งรุนแรงขึ้น) ไม่มีวิธีรับมือที่ดีที่สุดสำหรับกรณีนี้ เด็กบางคนอาจลุกขึ้นตอบโต้ แต่บางคนสมัครใจวางเฉย และอดทนรอให้เพื่อนช่างเมาท์เบื่อแล้วเงียบไปเอง ควรคุยกับลูกก่อน และช่วยกันคิดหาวิธีที่น่าจะเป็นผลดีที่สุด

คุณพ่อคุณแม่ต้องให้กำลังใจ และเป็นที่ปรึกษาที่พร้อมจะรับฟังเสมอ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้เด็กๆ เขาจะได้เผชิญหน้ากับการล้อเลียนและซุบซิบนินทาอย่างเข้มแข็งและมีเหตุผล

 

บทความโดย: กองบรรณาธิการนิตยสารเรียลพาเรนติ้ง

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up