RSV ไวรัส

RSV ไวรัส ในหน้าฝนทำร้ายสุขภาพลูก

RSV ไวรัส ที่ทำให้เกิดโรคติดเชื้อทางเดินหายใจได้ทั้งในเด็กเล็ก และผู้ใหญ่ แต่หากเกิดขึ้นกับลูกเล็ก เด็กน้อย อาจจะมีอาการป่วยที่หนักกว่าในผู้ใหญ่ ซึ่งเจ้าไวรัส RSV มักระบาดหนักสุดในช่วงหน้าฝนแบบนี้ ทีมแม่ABK จะพาไปรู้จักกับ RSV  เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่ได้รู้เท่าทัน และป้องกันดูแลรักษาสุขภาพลูกน้อยไม่ให้ป่วยกันค่ะ

 

RSV ไวรัส คือ ? 

ไวรัส RSV (Respiratory Syncytial Virus) คือ โรคที่ติดเชื้อทางเดินหายใจที่เกิดจากเชื้อไวรัส RSV มีอาการคล้ายหวัด แต่อาการรุนแรงถึงขั้นปอดอักเสบ เมื่อติดต่อจะทำให้เกิดการติดเชื้อระบบทางเดินหาย ไอ มีน้ำมูก และหากติดเชื้อรุนแรง ก็อาจถึงขั้นปอดอักเสบได้ ผู้ป่วยส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มเด็กต่ำกว่า 3 ปี อาการที่มักจะเกิดกับเด็กวัยนี้คือหลอดลมอักเสบ แต่หากเกิดกับผู้ใหญ่จะมีอาการคล้ายหวัดทั่วไป แต่หากเกิดในผู้ป่วยเรื้อรัง เช่น ผู้ป่วยโรคหัวใจ โรคปอด หรือ ผู้ที่กินยากดภูมิคุ้มกัน จะมีอาการรุนแรงมาก

 

จะรู้ได้อย่างไรว่าลูกน้อย เด็กเล็ก ติดเชื้อ RSV ไวรัส ?

อาการของโรค RSV เมื่อเริ่มแสดงอาการจะมีลักษณะคล้ายหวัด คือ มีน้ำมูก มีไข้ต่ำ ไอแห้ง เจ็บคอ ทำให้แยกได้ยากว่าลูกเป็นหวัดธรรมดา ไข้หวัดใหญ่ หรือ RSV กันแน่ แต่ในเด็กบางคน RSV จะมีอาการที่รุนแรงขึ้นในวันที่ 3-4 นับจากวันที่แสดงอาการคือ

  • เริ่มหายใจเหนื่อยหอบ หายใจไม่อิ่ม เดินแล้วต้องหยุดพัก
  • ไอมีเสมหะมาก
  • มีไข้สูง
  • ไอมีเสียงหวีดๆ
  • บริเวณปากหรือเล็บมีสีเขียวคล้ำจากการขาดออกซิเจน
  • เบื่ออาหาร เซื่องซืม
  • หายใจเร็วกว่าปกติ

และสำหรับเด็กเล็กหรือทารก หากมีอาการดังนี้ ควรรีบพบแพทย์โดยด่วน

  1. ประสบภาวะขาดน้ำ สังเกตได้จากตอนร้องไห้จะไม่มีน้ำตาไหลออกมา
  2. ไอและมีเสมหะเป็นสีเทา สีเขียว หรือสีเหลือง
  3. หายใจลำบาก หายใจเร็วกว่าปกติ หรือหอบเหนื่อย
  4. มีน้ำมูกเหนียวทำให้หายใจลำบาก
  5. ปลายนิ้วหรือปากเปลี่ยนเป็นสีเขียวคล้ำจากภาวะขาดออกซิเจน
  6. เด็กทารกที่มีไข้สูงกว่า 38 องศาเซลเซียส เซื่องซึม เบื่ออาหาร หรือมีผื่นขึ้น

ซึ่งในช่วงหน้าฝนแบบนี้ หากคุณแม่สังเกตเห็นว่าลูกมีหนึ่งในอาการดังกล่าว แนะนำให้พาลูกไปโรงพยาบาลทันทีค่ะ

 

ทำไมไวรัส RSV ถึงรุนแรงกว่า โรคหวัด ?

โรคหวัด คืออาการติดเชื้อทางเดินหายใจ ซึ่งไวรัส RSV ก็ทำให้เกิดการติดเชื้อทางเดินหายใจเช่นกัน แต่จะหนักกว่า เพราะมีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนได้มากกว่าไวรัสทั่วไป ดังนี้

  • อาจทำให้เกิดโรคปอดบวมหรือโรคหลอดลมฝอยอักเสบได้ ไวรัสจะเคลื่อนตัวจากระบบทางเดินหายใจช่วงบน ได้แก่ จมูก คอ ปาก ลงไปที่ระบบทางเดินหายใจช่วงล่าง จนทำให้เกิดการอักเสบที่ปอดหรือทางเดินหายใจ
  • อาจทำให้ติดเชื้อในหูชั้นกลาง เกิดจากเชื้อเข้าไปในพื้นที่บริเวณหลังแก้วหู ทำให้เกิดหูน้ำหนวก พบมากในผู้ป่วยที่เป็นทารกและเด็ก
  • โรคหอบหืด และหลอดลมไวหากเกิดภาวะนี้ จะส่งผลต่อสุขภาพร่างกายในระยะยาว คือ ทุกครั้งที่เป็นหวัดจะไอมากมีเสมหะมาก เพราะเป็นผลจากหลอดลมไว และหากไม่ได้รับการรักษาก็ทำให้ผู้ป่วยเป็นโรคหอบหืดได้ ซึ่งหลังจากหายป่วยจากไวรัส RSV แล้ว คุณหมออาจจะพิจารณาให้ทานยา Singulair (Montelukast) ซึ่งเป็นยาที่ใช้ในการป้องกันและรักษาโรคหอบหืด, รักษาโรคภูมิแพ้ (การจ่ายยาอยู่ในดุลยพินิจของแพทย์เท่านั้น)
  • เกิดการติดเชื้อซ้ำ เมื่อมีการติดเชื้อแล้วครั้งหนึ่ง จะกลับมาติดเชื้ออีกครั้งได้เสมอ แต่อาการอาจไม่รุนแรงเท่าการติดเชื้อในครั้งแรก มักพบในรูปแบบของอาการหวัด

 

จะป้องกันไม่ให้ลูกเล็ก เด็กอ่อน ติดเชื้อไวรัส RSV ได้อย่างไร ?

อย่างที่บอกไปค่ะว่าไวรัสตัวร้าย RSV หากเกิดขึ้นกับเด็กเล็ก ที่อายุต่ำกว่า 3 ปี หรืออาจโตกว่านี้ แต่ภูมิคุ้มกันในร่างกายไม่แข็งแรง ก็มีโอกาสที่จะเจ็บ ป่วย ไม่สบายจากไวรัส RSV ได้เช่นกันค่ะ ฉะนั้นสิ่งสำคัญที่สุดก็คือการดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรงอยู่ตลอดเวลา เพื่อลดความเสี่ยงจากการไวรัส RSV ซึ่งคุณแม่สามารถดูแลป้องกันตัวเอง และลูกน้อย ในเบื้องต้นได้ดังนี้

  1. ล้างมือบ่อยๆ ให้สะอาด ด้วยน้ำสบู่ หรือ แอลกอฮอลล์
  2. ผู้ป่วยควรใส่หน้ากาก เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อไปสู่คนอื่น
  3. หากลูกติดเชื้อไวรัส RSV ผู้ปกครองควรเอาใจใส่ คอยระวังการไอ จาม ไม่ให้เกิดการแพร่เชื้อไปสู่เด็กคนอื่น เพราะหากแพร่เชื้อต่อไปเรื่อยๆ ไวรัสตัวนี้ก็อาจกลับมาหาลูก จนกลับมาเป็นซ้ำได้อีก
  4. หลีกเลี่ยงให้เด็กที่คลอดก่อนกำหนดและทารกในช่วงอายุ 1-2 เดือนแรกสัมผัสผู้ที่ติดเชื้อ เช่น ผู้ที่เป็นไข้หรือเป็นหวัด
  5. ทำความสะอาดบ้านอยู่เสมอ เพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อ โดยเฉพาะทิชชูที่ใช้แล้ว ควรทิ้งลงถังขยะที่ปิดมิดชิด
  6. ไม่ควรใช้แก้วน้ำร่วมกับผู้อื่น ควรใช้แก้วน้ำของตัวเอง และหลีกเลี่ยงการใช้แก้วน้ำที่ผู้ป่วยใช้แล้ว
  7. หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ ทารกที่สูดดมควันบุหรี่เข้าไปมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อไวรัส RSV และพบอาการที่รุนแรงได้มากกว่า
  8. ทำความสะอาดของเล่นเด็กเป็นประจำ โดยเฉพาะหลังพบว่าเด็กที่ป่วยมาเล่นของเล่นนั้น

เด็กๆ ต้องไปโรงเรียนในช่วงหน้าฝนแบบนี้ คุณแม่ต้องดูแลสุขภาพของลูกๆ ให้มากเป็นพิเศษ เพื่อจะได้ห่างไกลจากการอาการไม่สบาย ที่เกิดจากไวรัส RSV และรวมถึงไวรัสต่างๆ ที่แฝงมากับหน้าฝนค่ะ …ด้วยความห่วงใย

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่


อ่านต่อบทความที่น่าสนใจ

5 พาหะนำโรค หน้าฝน ภัยร้ายต่อสุขภาพลูกน้อย

แม่โพสต์เตือน! สาเหตุที่ทำให้ ทารกท้องเสีย เป็นโรคลําไส้อักเสบ

การติดเชื้อ เอนเทอโรไวรัส 71 โรคระบาดสายพันธุ์รุนแรง

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : pobpad  ,  โรงพยาบาลกรุงเทพ , โรงพยาบาลเจ้าพระยา

    เถียงแม่

    10 ข้อเตือนใจ..คิดให้ดีก่อน เถียงแม่

    คนเป็นลูกต้องอ่าน!! นี่คือ 10 ข้อเตือนใจ คิดให้ดีก่อน เถียงแม่ บทความให้แง่คิดดีๆ จากเพจ นุสนธิ์บุคส์ และเมื่ออ่านเสร็จแล้วทบทวนตัวเองดูว่าคุณมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้ครบหรือไม่?

    10 ข้อเตือนใจ .. คิดให้ดีก่อน เถียงแม่

    รําคาญแม่ เถียงแม่ เชื่อว่าหลายคนคงเมื่อครั้งยังเด็ก เป้นลูกน้อยในสายตาพ่อแม่ ต้องมีหลายคนที่เกิดอารมณ์แบบนี้ขึ้นอยู่บ่อยครั้ง แต่ด้วยความรัก ความหวังดี และเป็นห่วงลูก สัญชาตญาณความเป็นแม่ ก็อดไม่ได้ที่จะพูดหรือบ่น เพื่อเตือน เพื่อสั่งสอนลูก แต่นั่นก็อาจทำให้คนเป็นลูก รู้สึกรำคาญ และเผลอขึ้นเสียงใส่ไปโดยไม่ได้ตั้งใจ (หรือตั้งใจ) จนทำให้เกิดความไม่เข้าใจหรือเข้าใจผิดกันได้

    ดังนั้น ทีมแม่ ABK จึงอยากให้ทุกคนได้อ่านเรื่องราวนี้ไว้เตือนใจตัวเองและสอนลูก ๆ ให้รู้ว่า “แม่” คือคนที่รักและหวังดีโดยเสียสละทุกสิ่งกับเราได้มากขนาดไหน ข้อคิดดีๆ จากเพจ นุสนธิ์บุคส์ คนเป็นลูกควรอ่าน…ก่อนที่จะเถียงแม่หรือขึ้นเสียงใส่แม่ และเมื่ออ่านเสร็จแล้วทบทวนตัวเองดูว่าคุณมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้ครบหรือไม่?

    โดยเรื่องราวมีอยู่ว่า…

    เย็นวันหนึ่ง ลูกชายวัยมัธยมปลายถูกคุณแม่บ่นว่าเรื่องไม่ยอมเก็บห้องนอน กินข้าวไม่เป็นเวลา ออกไปไหนไม่บอกก่อนล่วงหน้า ฯลฯ
    หนุ่มน้อยทนไม่ได้ เพราะคิดว่าแม่ชอบจู้จี้จุกจิกเรื่องส่วนตัวของเขา ก็เลยเถียงแม่ออกไปด้วยเสียงอันดัง ทำให้คุณแม่ยิ่งโมโหที่ลูกชายไม่เชื่อฟัง

    คุณพ่อเห็นท่าจะไม่ดี ก็เลยกันลูกชายออกมาและพาไปเดินเล่น

    เดินไปด้วยกันเป็นนานสองนาน คุณพ่อจึงพูดกับลูกชายว่า

    “การที่ลูกจะเถียงแม่ได้นั้น มีข้อแม้ว่า หากลูกทำได้ใน10ข้อนี้ ลูกจึงมีคุณสมบัติที่จะเถียงแม่ได้!”
    “อะไรเหรอครับ?” เด็กหนุ่มถามคุณพ่อ

    เถียงแม่

    “ตั้งใจฟังนะ”

    1 .อาเจียนหลังกินข้าวทุกมื้อเป็นเวลาสามเดือน (แพ้ท้อง)

    2. หัวนมถูกกัดแต่ต้องยอมอดทนไม่กล้าตี (ช่วงที่ฟันของลูกขึ้นใหม่ๆ)

    3. เอาลูกบอลใส่ท้องและเพิ่มขนาดให้ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ทุกเดือนเป็นเวลาสิบเดือน (ตั้งท้อง)

    4. เจ็บปวดเหมือนถูกแส้เฆี่ยนตีเป็นเวลายี่สิบสี่ชั่วโมง (ช่วงคลอดลูก)

    5. งดน้ำแข็ง ชา กาแฟและของชอบแต่ส่งผลร้ายต่อลูกในครรภ์เป็นเวลาสิบเดือน

    6. เวลานอนแต่พลิกตัวไม่ได้เป็นเวลาห้าเดือน

    7. งดเที่ยว งดกระโดดโลดเต้นเป็นเวลาสิบเดือน

    8. ห้ามป่วยเป็นอันขาดเป็นเวลาสิบเดือน ต่อให้ป่วยก็กินยาปฏิชีวนะไม่ได้

    9. เช็ดขี้เช็ดเยี่ยวเช็ดอ๊วก เปลี่ยนผ้าอ้อมซักผ้าอ้อม ล้างก้นเป็นปีๆ

    10. กลางคืนต้องตื่นทุกๆ สองชั่วโมง แต่ละช่วงใช้เวลาประมาณสามสิบนาทีประมาณสามเดือน

    พ่อลูกเดินคุยกันจนมาถึงหน้าบ้าน คุณพ่อตบบ่าลูกชายแล้วพูดว่า “เดี๋ยวเข้าบ้านไป ให้เกียรติกับผู้หญิงของฉันด้วยนะ”
    “ฮ่าๆ ครับๆ ต่อไปผมจะให้เกียรติผู้หญิงของพ่อให้มากกว่านี้ครับ”

    เมื่อลูกชายเข้าบ้านก็ตรงไปกอดและขอโทษคุณแม่ >> ดังนั้นก่อนที่จะเถียงแม่ คิดก่อนว่าคุณมีคุณสมบัติใน 10 ข้อนี้หรือเปล่า?

    ขอบคุณบทความดีๆ จาก : นุสนธิ์บุคส์

    ผลกรรมของการ “เถียงพ่อแม่”

    9 ทางแก้ วิธีดับทุกข์ เพราะ..ลูก ด้วยหลักธรรม ได้ผล 100%

     

    พ่อแม่ลูกผูกพัน ด้วยกฎแห่งกรรม…

     

      น้ำยาซักผ้าเด็ก

      10 น้ำยาซักผ้าเด็ก สูตรอ่อนโยน ถนอมเนื้อผ้า เหมาะสำหรับผิวบอบบาง

      รวม ผลิตภัณฑ์ซักผ้าเด็ก ในท้องตลาดที่แม่เลือกใช้! แม่มือใหม่จะเลือกซื้อ น้ำยาซักผ้าเด็ก ยี่ห้อไหนดี สำหรับซักเสื้อผ้าและผ้าอ้อมของลูกน้อย เน้นสูตรเฉพาะถนอมเนื้อผ้า อ่อนโยนต่อผิวลูก

      รีวิว น้ำยาซักผ้าเด็ก ที่แม่เลือกใช้ 10 ยี่ห้อ

      น้ำยาซักผ้าเด็ก ถือเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ของใช้ของลูกน้อย ที่คุณแม่ต้องเลือกอย่างพิถีพิถัน เพราะผิวเด็กเป็นผิวที่บอบบาง หากใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสม ก็จะมีโอกาสที่จะแพ้และระคายเคืองสูงกว่าผิวผู้ใหญ่  และถึงแม้ว่า น้ำยาซักผ้า บางยี่ห้อจะระบุว่าเป็นผลิตภัณฑ์ของเด็กโดยเฉพาะ แต่บางผลิตภัณฑ์อาจมีสารเติมแต่งน้อยกว่า 1% ทำให้ไม่ต้องระบุในฉลาก หรือใช้ส่วนผสมอื่น ๆ ที่มีความปลอดภัยต่ำ ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยคุณแม่มือใหม่ไม่ควรเลือกซื้อ น้ำยาซักผ้าเด็ก จากแพ็กเกจที่สวยงามเพียงอย่างเดียว ควรตรวจสอบส่วนผสมอย่างละเอียดด้วย

      หลักการเลือกน้ำยาซักผ้าเด็ก

      ในท้องตลาด มีผลิตภัณฑ์ซักผ้าเด็กมากมาย ซึ่งก่อนซื้อสิ่งที่คุณแม่ควรดู คือ หลีกเลี่ยง น้ำยาซักผ้าเด็ก ที่มีส่วนผสมของสารลดแรงตึงผิว เช่น Sodium Maury’s Sulfate (SLS) หรือส่วนผสมสังเคราะห์อย่างพวกปิโตรเลียม และไขมันต่าง ๆ เพราะสารเหล่านี้อาจจะเป็นตัวกระตุ้นให้ผิวที่บอบบาง เกิดอาการแพ้และระคายเคืองได้

      โดยควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ใช้สารตึงผิวที่อ่อนโยนต่อผิว หรือใช้สารสกัดจากธรรมชาติ รวมไปถึงหลีกเลี่ยงสารสังเคราะห์อย่าง สารฟอกสี , สารกันเสีย และสารเรืองแสง นอกจากนี้ น้ำหอม ยังเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยในผงซักฟอง เพราะช่วยให้ผ้าหอมสดชื่น ดับกลิ่นอับชื้นและกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ ได้ แต่ก็อาจทำให้ผิวระคายเคืองได้เช่นกัน จึงแนะนำให้เลือกน้ำยาซักผ้าเด็ก ที่ส่งกลิ่นหอมด้วยสารสกัดจากธรรมชาติแทนจะดีกว่า

      และหลังจากตรวจสอบส่วนผสมที่อาจทำให้ระคายเคืองแล้ว เพื่อความมั่นใจ แนะนำให้ตรวจสอบว่าผลิตภัณฑ์ที่เลือกได้รับการรับรองและทดสอบแล้วว่าปลอดภัยต่อผู้ที่มีผิวบอบบาง

      อย่างไรก็ตาม ผิวของเด็กแต่ละคนอาจมีสาเหตุการแพ้ที่ไม่เหมือนกัน หลังจากซื้อมาใช้งาน แนะนำให้สังเกตผิวรอบตัวเด็กควบคู่ด้วย ว่าเกิดปัญหา ผื่น, แดง, ลอก และตุ่มคันหรือไม่ หากพบสิ่งผิดปกติ ให้รีบไปพบแพทย์เพื่อรักษาและหาสาเหตุ

      และสำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ ที่ยังไม่รู้ว่าจะเลือก น้ำยาซักผ้าเด็ก ยี่ห้อไหนดี มาใช้ซักผ้าให้ลูก ทีมแม่ ABK ได้รวบรวมผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจ มาฝาก จะมีอะไรบ้างตามมาดูกันเลยค่ะ

       

      น้ำยาซักผ้าเด็ก ดีนี่

      น้ำยาซักผ้าเด็ก

      สำหรับ น้ำยาซักผ้าเด็กD-nee ในท้องตรลาด ก็มีอยู่หลายสี หลายสูตร แต่สูตรที่แนะนำคือ ดีนี่ สีชมพู กลิ่นฮันนี่ สตาร์ (Honey Star) กลิ่นหอมอ่อนละมุนด้วยสารสกัดจากลาเวนเดอร์และพืชธรรมชาติอื่น ๆ ช่วยกำจัดแบคทีเรีย, สิ่งสกปรก และลดกลิ่นอับชื้น ผ่านการทดสอบทางการแพทย์แล้วว่าปลอดภัยต่อผิวที่บอบบาง ไม่ทำให้เกิดการระคายเคือง อีกทั้งยังมีส่วนผสมของสารลดแรงตึงผิวของน้ำ ที่ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ  นอกจากนี้ยังเป็นสูตรที่ช่วยให้คุณแม่ประหยัดเวลาในการซักผ้า และไม่เปลืองแรงขัด เพราะมีน้ำยาสูตรเข้มข้นกว่าปกติถึง 3 เท่า ไม่ว่าคราบจะฝังแน่นแค่ไหน ก็กำจัดออกได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว น้ำยาชะล้างออกได้ง่าย ถนอมใยผ้า และไม่ทำให้ระคายเคืองต่อผิวมือแม่และผิวลูกน้อยอีกด้วย

      ขนาด 600 มิลลิลิตร ราคา 93 บาท (ราคานี้คือตัวเลขจากหน้าชั้นวางของในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ซึ่งสำหรับบางร้านอาจมีราคาที่แตกต่างหรือไม่เท่ากัน)

      Must read >> เสื้อผ้าเด็ก แบบไหนไม่ควรซื้อให้ลูก

      Must read >> สารก่อภูมิแพ้ในเสื้อผ้า กำจัดได้ง่ายๆ แค่ซักผ้าถูกวิธี ลูกน้อยสุขภาพดีไม่เสี่ยงป่วยภูมิแพ้

      น้ำยาซักผ้าเด็ก เบบี้มายด์

      น้ำยาซักผ้าเด็ก

      สำหรับผลิตภัณฑ์ซักผ้าเด็ก เบบี้มายด์ ก็มีหลายสูตรเช่นเดียวกันกับดีนี่ ซึ่งสูตรที่แนะนำคือ Babi Mild Baby Touch เป็นสูตรที่มาพร้อมคุณสมบัติเพื่อ ชุดเด็ก อย่างแท้จริง มีกลิ่นหอมละมุนจากพืชพรรณธรรมชาติ อ่อนโยนกับผ้าและผิวเด็ก ด้วยส่วนผสมที่เป็นธรรมชาติ ช่วยขจัดความอับชื้นไปได้อย่างหมดจด ปราศจากสารเคมีรุนแรง ย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ ล้างออกได้ง่าย หมดกังวลเรื่องสารที่ก่อให้เกิดมะเร็งและภูมิแพ้ และไม่ว่าจะเป็นคราบแหวะ, อึ, ฉี่ และอาหาร ก็สามารถจัดการได้อย่างอ่อนโยนด้วยสารสกัดจากผลปาล์มธรรมชาติ มาพร้อมกับคุณสมบัติที่ทำให้เสื้อผ้านุ่มลื่น ใส่สบาย ผสานกับ Tinopal CBS-X ที่ปกป้องเสื้อสี ให้ดูสดใส ไม่หมองคล้ำ

      ขนาด 600 มิลลิลิตร ราคา 88 บาท (ราคานี้คือตัวเลขจากหน้าชั้นวางของในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ซึ่งสำหรับบางร้านอาจมีราคาที่แตกต่างหรือไม่เท่ากัน)

       

      น้ำยาซักผ้าเด็กโคโดโม

      น้ำยาซักผ้าเด็ก

      Kodomo เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่โด่งดังเรื่องของใช้สำหรับเด็กอยู่แล้ว จึงมั่นใจได้ถึงความปลอดภัย และน้ำยาซักผ้าเด็ก โคโดโม สูตรนิวบอร์น นี้ที่ทีมแม่ ABK แนะนำ ก็เป็นสูตรที่เหมาะสำหรับเด็กแรกเกิดโดยเฉพาะ ผ่านการทดสอบแล้วว่าไม่ระคายเคืองต่อผิวเด็ก ด้วยสารสกัดจากพืชพรรณธรรมชาติ 5 ชนิด ตรงเข้าจัดการกับคราบสกปรกได้อย่างหมดจด โดยไม่ทำให้ระคายเคืองผิว พร้อมค่า pH เป็นกลาง ที่ช่วยถนอมใยผ้า มีกลิ่นหอมละมุน ไม่ฉุนจนเกินไป ช่วยให้ผ้านุ่มลื่น ให้เด็กน้อยผ่อนคลาย ไม่ว่าจะนั่ง เดิน หรือนอน ก็สบายตลอดทั้งวัน

      ขนาด 600 มิลลิลิตร ราคา 81 บาท (ราคานี้คือตัวเลขจากหน้าชั้นวางของในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ซึ่งสำหรับบางร้านอาจมีราคาที่แตกต่างหรือไม่เท่ากัน)

       

      น้ำยาซักผ้าเด็ก ดีเอ็มพี

      น้ำยาซักผ้าเด็ก

      น้ำยาซักผ้าเด็กDMP สีชมพู  สูตร 2 อิน 1 ซักสะอาดและปรับผ้านุ่ม ในคราว  กลิ่น Cotton love อ่อนโยนด้วย ออร์แกนิค คาโมมายล์ จากธรรมชาติ สัมผัสความนุ่มพิเศษด้วย Extra Soft Fabric Technology พร้อมค่า pH เป็นกลาง ผ่านการทดสอบว่าไม่ระคายเคืองต่อผิวของลูกน้อย ไม่มีส่วนผสมของ 7 สารเคมีระคายเคือง

      ขนาด 600 มิลลิลิตร ราคา 93 บาท (ราคานี้คือตัวเลขจากหน้าชั้นวางของในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ซึ่งสำหรับบางร้านอาจมีราคาที่แตกต่างหรือไม่เท่ากัน)

      Must read >> เมื่อลูกเป็นผื่นแพ้ผิวหนัง เพราะเครื่องซักผ้า

      Must read >> เทคนิค ซักเครื่องนอน ขจัดไรฝุ่น สารก่อภูมิแพ้

      น้ำยาซักผ้าเด็กเซ็นท์แอนด์ดรูว์

      น้ำยาซักผ้าเด็ก

      น้ำยาซักผ้าเด็ก St.Andrewa สูตรแองเจิลทัช สูตรนี้เหมาะสำหรับขจัดสิ่งสกปรกของผ้าอ้อม เสื้อผ้าเด็ก และเสื้อผ้าที่ต้องการทะนุถนอม รวมทั้งของใช้อื่นๆที่มีเส้นใยละเอียด ช่วยลดกลิ่นอับบนเนื้อผ้าและมีส่วนผสมของสารให้ความสดใส ช่วยให้ผ่าไม่หมองคล้ำ พร้อมกลิ่นหอมที่อ่อนละมุนสามารถใช้ได้ตั้งแต่เด็กแรกเกิด ไม่มีสาร SLS Free ค่า PH Balance ช่วยขจัดสิ่งสกปรกที่ซุกซ่อนในผ้าอ้อม คงความสดใสไม่หมองคล้ำ ทั้งผ้าขาว และผ้าสี ช่วยลดกลิ่นอับบนเนื้อผ้าแม้ตากในที่ร่ม

      ขนาด 800 มิลลิลิตร ราคา 79 บาท (ราคานี้คือตัวเลขจากหน้าชั้นวางของในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ซึ่งสำหรับบางร้านอาจมีราคาที่แตกต่างหรือไม่เท่ากัน)

      น้ำยาซักผ้าเด็ก อองฟองต์

      น้ำยาซักผ้าเด็ก

      น้ำยาซักผ้าเด็กอองฟองต์ สูตรผสม Gold Silk Protein (โปรตีนที่สกัดจากใยไหม) และ น้ำมันเมล็ดฝ้าย ช่วยถนอมผ้าให้นุ่ม ให้ผ้านุ่มลื่นไม่แข็งกระด้าง มอบสัมผัสที่สบายตลอดทั้งวัน  พร้อม Silky Touch Aroma ให้ผ้ามีกลิ่นหอมละมุน กำจัดสิ่งสกปรกด้วยสารทำความสะอาดที่สกัดจากข้าวโพด ผ่านการทดสอบการระคายเคือง จากสถาบันผิวหนังสหรัฐอเมริกา ว่าไม่ระคายเคืองต่อผิวบอบบาง ผสมสารลดแรงตึงผิวของน้ำที่ย่อยสบายได้ตามธรรมชาติ ปราศจากสารเคมีรุนแรงทั้งสารเรืองแสงและสารฟอกขาว

      ขนาด 700 มิลลิลิตร ราคา 100 บาท (ราคานี้คือตัวเลขจากหน้าชั้นวางของในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ซึ่งสำหรับบางร้านอาจมีราคาที่แตกต่างหรือไม่เท่ากัน)

      Must read >> สัญลักษณ์บนเสื้อผ้า (ซักอบรีด) ที่คุณแม่บ้านควรรู้!

      Must read >> แฟชั่นชุดคู่แม่ลูกสุดน่ารัก พร้อมเทคนิคเลือกเสื้อผ้าตามวันเสริมราศี

      น้ำยาซักผ้าเด็กพิพเพอร์ สแตนดาร์ด

      น้ำยาซักผ้าเด็ก

      น้ำยาซักผ้า ยี่ห้อ PiPPER กลิ่นเลมอนกราส และกลิ่นยูคาลิปตัส เป็นกลิ่นหอมระเหยจากธรรมชาติ จุดเด่นที่ผลิตจากธรรมชาติผสานกับไบโอเทคโนโลยี ทำให้มีประสิทธิภาพในการทำความสะอาดสูง ด้วยผลไม้หมักชีวภาพที่มีเอนไซม์และไบโอเซอร์แฟคแตนท์ (Biosurfactant) หลายชนิด ไม่มีสารเคมี, ปิโตรเคมี และน้ำหอมสังเคราะห์ เหมาะกับเด็กและผู้ใหญ่ที่มีผิวบอบบาง ปราศจากสารก่อภูมิแพ้ตามมาตรฐาน US.FDA มีส่วนผสมที่ช่วยสลายคราบสกปรก ฟองน้อย ล้างออกง่าย ถนอมใยผ้า ไม่ทิ้งสารตกค้างที่ก่อให้เกิดมะเร็งและภูมิแพ้ ช่วยให้ผ้านุ่ม แถมประหยัดเวลาในการรีด ไม่ว่าจะตากในที่ร่มหรือกลางคืน ก็ไม่ทำให้เกิดกลิ่นอับ

      ขนาด 750 มิลลิลิตร ราคา 185 บาท (ราคานี้คือตัวเลขจากหน้าชั้นวางของในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ซึ่งสำหรับบางร้านอาจมีราคาที่แตกต่างหรือไม่เท่ากัน)

       

      น้ำยาซักผ้าเด็กโฮมเบบี้

      น้ำยาซักผ้าเด็ก

      น้ำยาซักผ้าเด็กHOME baby สูตร Gentle clean ให้กลิ่นหอมแบบสูตรเฉพาะของโฮมเบบี้ อ่อนละมุนต่อผิวผ้าและอ่อนโยนต่อผิวลูก ช่วยขจัดถนอมสิ่งสกปรกอย่างอ่อนโยน ถนอมสีและเส้นใยผ้า พร้อมป้องกันมือแห้งกร้านในสำหรับการซักมือ เพราะผ่านการทดสอบแล้วว่าไม่ระคายเคืองผิว นอกจากนี้ยังลดการเกิดกลิ่นอับ เมื่อตากในที่ร่มหรือช่วงกลางคืน

      ขนาด 600 มิลลิลิตร ราคา 76 บาท (ราคานี้คือตัวเลขจากหน้าชั้นวางของในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ซึ่งสำหรับบางร้านอาจมีราคาที่แตกต่างหรือไม่เท่ากัน)

       

      น้ำยาซักผ้าเด็ก ยี่ห้อ ละมุน

      น้ำยาซักผ้าเด็ก

      ถ้าคุณกำลังมองหา น้ำยาซักผ้า organic ที่จะเอามาใช้เพื่อดูแล เสื้อผ้าเด็ก ชุดเด็ก เสื้อผ้าเด็กอ่อน เสื้อผ้าเด็กแรกเกิด หรือ ผ้าอ้อม ของเจ้าตัวเล็กอยู่แล้วล่ะก็ น้ำยาซักผ้าเด็ก LAMOON ก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งยี่ห้อที่ไว้ใจได้ เพราะสูตรนี้ ที่เป็นออร์แกนิค 100% ปราศจากสารเคมีและสารสังเคราะห์ที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง กำจัดคราบแหวะ และสิ่งสกปรกได้ด้วยเอนไซม์ผลไม้รสเปรี้ยว เช่น ส้ม, สับปะรด และมะนาว ไม่มีสารทำฟอง จึงชะล้างออกได้ง่ายไม่เปลืองแรง ทั้งคุณสมบัติในการซักและการปรับผ้านุ่มอยู่ภายในตัวเดียว ฟองน้อย ล้างออกง่าย ไม่ตกค้าง ถนอมใยผ้า ให้เสื้อผ้ามีความนุ่มละมุน ไม่ทำให้เนื้อผ้าแข็งบาดผิวลูกน้อยอย่างแน่นอน มาพร้อมกับกลิ่นหอมจากน้ำมันหอมระเหยวานิลลาและดอกลาเวนเดอร์

      ขนาด 750 มิลลิลิตร ราคา 295 บาท (ราคานี้คือตัวเลขจากหน้าชั้นวางของในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ซึ่งสำหรับบางร้านอาจมีราคาที่แตกต่างหรือไม่เท่ากัน)

       

      น้ำยาซักผ้าเด็กไอแอมบั๊บเบิ้ล

      น้ำยาซักผ้าเด็ก

      สุดท้ายน้ำยาซักผ้าเด็ก I am Bubble เป็นน้ำยาซักผ้าออร์แกนิคจากเกาหลี ที่ผลิตจากสารสกัดธรรมชาติ ไม่มีสารฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และสารกันบูด สามารถใช้ได้ทั้งครอบครัว อ่อนโยนต่อผิวเด็กและผู้ที่เป็นภูมิแพ้ กำจัดสิ่งสกปรกและล้างออกได้ง่าย เพราะเป็นสูตรนาโนเทคโนโลยี เข้าซอกซอนลึกถึงเส้นใยผ้า หมดกังวลไม่ว่าคราบจะฝังลึกแค่ไหน แถมยังช่วยลดกลิ่นอับชื้นติดเสื้อแม้จะตากในที่ร่ม

      ขนาด 1800 มิลลิลิตร ราคา 630 บาท (ราคานี้คือตัวเลขจากหน้าชั้นวางของในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ซึ่งสำหรับบางร้านอาจมีราคาที่แตกต่างหรือไม่เท่ากัน)

       

      อย่างไรก็ตามการซักเสื้อของลูกน้อยรวมกับเสื้อผ้าของคุรพ่อคุณแม่ โดยใช้ผลิตภัณฑ์ซักผ้าธรรมดาทั่วไป ซึ่งมีสารในการทำความสะอาดสูง อาจทำให้ผิวลูกที่บอบบางเกิดอาการระคายเคืองได้ และถึงแม้จะชะล้างน้ำยาซักผ้าออกหมดแล้ว แต่เมื่อโดนเหงื่อ ก็อาจทำให้สารตกค้างในเสื้อผ้าปนเปื้อนออกมา ทำให้เกิดปัญหาผิวได้เช่นกัน

      ทั้งนี้คุณแม่สามารถใช้น้ำยาซักผ้าเด็กจนลูกน้อยมีอายุประมาณ 1-2 ปี หลังจากนั้น ลองใช้น้ำยาซักผ้าทั่วไป แล้วสังเกตดูว่ามีปัญหาผิวเกิดขึ้นหรือไม่ หากใช้อย่างต่อเนื่องแล้วไม่มีปัญหาระคายเคือง ก็สามารถเปลี่ยนมาใช้ผลิตภัณฑ์ซักผ้าแบบทั่วไปแทนได้ค่ะ

       


      ขอบคุณข้อมุลจาก : my-best.in.thhome.kapook.com

       

      เช็คลิสต์ 60 ของใช้เด็กแรกเกิด อย่างไหนควรซื้อเลย อย่างไหนไม่ต้องรีบ!

      เช็กลิสต์ ของใช้เด็กแรกเกิด ที่คุณแม่ต้องเตรียม!

      รวม 10 สถานที่รับ “บริจาคเสื้อผ้าเก่า ของเล่น ของใช้เด็ก”

      ของใช้เด็ก (ผลิตภัณฑ์สุขภาพ) ต้องรู้จักใช้ให้เหมาะกับอายุลูก

      ของใช้เด็ก (ผลิตภัณฑ์สุขภาพ) ต้องรู้จักใช้ให้เหมาะกับอายุลูก

      รางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019 สุดยอดแบรนด์สินค้าแม่และเด็กในดวงใจ

       

      เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

        รักษาโรคไข้เลือดออก

        หมอเตือน อย่าใช้ยาลดไข้สูง รักษาโรคไข้เลือดออก

        รักษาโรคไข้เลือดออก ต้องระวัง อาการเริ่มต้นอาจคล้ายโรคไข้หวัด มีไข้สูงแต่ไม่มีจุดแดงบนร่างกายให้เห็น แพทย์เตือนพ่อแม่ต้องระวัง ลูกมีไข้ อย่าให้กินยาลดไข้สูง เสี่ยงเลือดออกที่อวัยวะภายใน เป็นอันตรายถึงชีวิต

        แพทย์เตือน ยาลดไข้สูงไม่ควรใช้ รักษาโรคไข้เลือดออก

        สถานการณ์โรคไข้เลือดออกในบ้านเราปีนี้ต้องเฝ้าระวังไม่แพ้โรคโควิด-19 จากเดือนมกราคม –พฤษภาคม 2563 พบผู้ป่วยสะสมทั่วประเทศแล้ว 13,006 คนเสียชีวิตแล้ว 10 คน มีผู้ป่วยในทุกภาคของประเทศโดยพบมากในกลุ่ม 3 ช่วงอายุได้แก่ อายุ 10 -14 ปี ถึง 69.81 % (ต่อประชากร 1 แสนคน) รองลงมาคือกลุ่มเด็กเล็กอายุ 5-9 ปี 54.20  % และวัยรุ่นอายุ 15-19 ปี อีก 50.84 % ทางกรมโรคติดต่อพยากรณ์ไว้ว่า จะมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเทียบเคียงกับปี 2562 ที่พบผู้ป่วยจำนวนมากถึง 147,361 ราย

        MUST READ: “ลูกเป็นไข้เลือดออก ครั้งที่ 2” อันตรายมาก เตือนอย่าให้ป่วยซ้ำ!

        MUST READ : 10 ความแตกต่าง อาการไข้เลือดออก vs อาการโควิด 19

         

        รักษาโรคไข้เลือดออก

        ปัจจุบันยังไม่มียา รักษาโรคไข้เลือดออก โดยเฉพาะ แต่ใช้รักษาตามอาการเป็นหลัก อาการในช่วงแรกที่มีไข้สูงต่อเนื่องหลายวัน แต่ไม่มีจุดแดงบนผิวหนังให้เห็น อาจทำให้เข้าใจผิดว่า “เป็นโรคไข้หวัด ” และซื้อยาลดไข้สูงมากินเอง ซึ่งอันตรายมาก งเฟซบุ๊ก Infectious ง่ายนิดเดียว ซึ่งเป็นเพจที่มีชื่อเสียงด้านการให้ข้อมูลทางการแพทย์ ได้โพสต์เตือนประชาชนให้ระวังการใช้ยาลดไข้สำหรับผู้ป่วยไข้เลือด

        เตือนภัย___ อันตรายอาจถึงชีวิต ทั้งเด็กและผู้ใหญ่

        ช่วงนี้โรคไข้เลือดออกเริ่มระบาด เจ้าถิ่นมาทวงแชมป์จากโควิด ทั้งประเทศป่วยแล้ว เป็นหมื่น ตายเกือบ 10 ราย

        ผู้ป่วยจะมีไข้สูง (ตามตัวโรคไข้เลือดออก ส่วนใหญ่ไข้ 2-7วัน) ยาลดไข้ที่ควรกินคือ พาราเซตามอล เท่านั้น

        ส่วน ยาลดไข้สูง__คือ ยากลุ่ม NSIADs ห้ามกิน ทั้งชนิดน้ำในเด็ก/เม็ดในผู้ใหญ่
        ควรหลีกเลี่ยง_กรณีมีไข้อย่างเดียวและสงสัยไข้เลือดออก….

        เพราะทำให้เลือดออก ตายได้ เพราะ ยาไข้สูง ส่วนใหญ่คือกลุ่ม NSIADs อาจทำให้ระคายเคืองกระเพาะอาหาร เป็นแผลที่กระเพาะอาหารและเลือดออกในระบบทางเดินอาหารได้ ไตวาย และเสียชีวิตได้

        พ่อแม่ผู้ปกครอง บางท่านเข้าใจผิด เวลามีไข้ จะเลือกใช้ยาลดไข้สูง_เป็นตัวแรก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นยากลุ่ม NSIADs ซึ่งระคายเคืองกระเพาะอาหาร มีผลข้างเคียงได้ ปวดท้อง เลือดออกในทางเดินอาหาร ไตวาย ได้

        ยาไข้สูง ส่วนใหญ่ ในเด็ก_น้ำสีส้ม ในผู้ใหญ่_เม็ดสีชมพูเข้ม

        เวลามีไข้ สำคัญสุด คือ เช็ดตัวระบายความร้อน อาบน้ำอุ่น/ก็อกก็ได้ ไม่ก็จับแช่ในอ่างอาบน้ำ กะละมัง

        รักษาโรคไข้เลือดออก

        ความเข้าใจที่ว่า มีไข้ ห้ามจับอาบน้ำหรือเช็ดตัว เป็นเรื่องผิด

        จริงๆสามารถอาบน้ำได้ ไข้จะลงและต้องกินยาพาราเซตามอลร่วมด้วย

        มีคนถามเยอะเรื่องแผ่นแปะหน้าผากช่วยได้ไหม

        แอดตอบ_ได้ แต่ไม่ดี 100% คิดง่ายๆ เวลากองไฟลุกท่วมหัว_แล้วใช้น้ำพรมแล้วไฟจะดับหมดไม่ได้

        ดังนั้น ถ้ามีไข้ดีสุดคือ จับเด็กแก้ผ้า ปิดแอร์ เช็ดตัวด้วยผ้าอย่างน้อย 3-4ผื่น เช็ดผิวหนังเข้าหาหัวใจ อย่างน้อย 10-20 นาที

        ผ้าที่ไม่ได้เช็ดก็วางไว้ตามซอกคอ ซอกรักแร้ ซอกขาหนีบ บริเวณที่มีเส้นเลือดขนาดใหญ่ จะได้ระบายความร้อน

        ส่วนยาไข้สูง อาจใช้ในบางกรณี แต่ควรสั่งจ่ายโดยแพทย์ เช่น เด็กมีคนไข้สูงทั้งเช็ดตัว กินยาพาราเซตามอล ก็ไม่ลง และไข้ขึ้นมาใหม่ไม่ถึง4ชม. หรือมีประวัติเคยชักจากไข้สูง ส่วนใหญ่จะจ่ายกรณีที่ไม่สงสัยไข้เลือดออกซึ่งยังกินยาพาราเซตามอลไม่ได้ และเด็กมีประวัติไข้แล้วชัก อาจจะให้กินได้ แต่ต้องกินหลังอาหารและทานน้ำมากๆ ควรอยู่ในคำแนะนำของแพทย์ ส่วนใหญ่จะไม่แนะนำถ้ายังสงสัยไข้เลือดออก หมอจะไม่สั่งจ่ายเด็ดขาด จำไว้

        ไข้เลือดออกไม่ถูกกับยาลดไข้สูง  ไข้อย่างเดียว และไข้สูงเกิน 2 วันไม่ดีขึ้น ควรพบแพทย์

        อาการที่สงสัยไข้เลือดออกคือ ไข้ ไม่ไอไม่มีน้ำมูก ปวด 4 ที่ (ศีรษะ กระบอกตา กล้ามเนื้อ กระดูก) อาจมีอาเจียน กินอาการไม่ได้ เบื่อ คลื่นไส้ อาจมีจุดเลือดออก หรือ อาการเลือดออก และผื่นแดง

        สรุป มีไข้ อาบน้ำ เช็ดตัว กินพาราเซตามอล ก็พอ

        ทำไมโรคไข้เลือดออกรุนแรงกว่าเดิม

        ข้อมูลทางวิชาการพบว่า ภาวะโลกร้อนทำให้คาร์บอนไดออนไซด์ในน้ำสูงขึ้น ส่งผลให้ลูกน้ำยุงลาย ซึ่งเป็นพาหะของโรคพัฒนาเป็นยุงเต็มวัยได้ในเวลาสั้นขึ้นกว่าในอดีต จากเดิมที่ไข่จะกลายเป็นตัวยุงต้องใช้เวลาอย่างน้อย 7- 10 วัน ปัจจุบันเวลา 5 วันเท่านั้น สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ ไวรัสในยุงแพร่เร็วขึ้นด้วย

        จากรายงานการตรวจหาเชื้อไวรัสแดงกิของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์และกองโรคติดต่อนำโดยแมลง พบว่า ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เชื้อไวรัสสายพันธุ์ DENV-1 และ DENV-2 ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสแดงกิในยุงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และทำให้อาการของโรคไข้เลือดออกรุนแรงขึ้น เท่ากับว่าผู้ป่วยจะเสี่ยงเสียชีวิตเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยเฉพาะกลุ่มทารก เด็กเล็ก อายุ 0-4 ปี ผู้ใหญ่อายุ 25 ปีขึ้นไป และผู้สูงอายุ 35 ปีขึ้นไปที่มีโรคประจำตัว

        รักษาโรคไข้เลือดออก

        อาการไข้เลือดออกไม่เหมือนเดิม

        เวลาพูดถึงโรคไข้เลือดออก คนส่วนใหญ่มักนึกถึงจุดแดงตามตัวและอาการไข้สูง แต่ปัจจุบันอาการของโรคไม่เหมือนเดิมและรุนแรงขึ้นกว่าเดิม โดยมีอาการดังต่อไปนี้

        1.ผู้ป่วยจะมีไข้สูง แต่อาจไม่มีจุดแดงปรากฎให้เห็น ระยะแรกดูผิวเผินคล้ายโรคไข้หวัดทั่วไป อาจอาเจียน หรือเบื่ออาหารได้

        2.ไข้ลดลง มีอาการเพลียซีม ซึ่งไม่แปลว่าผู้ป่วยดีขึ้น แต่เชื้อไวรัสกำลังเข้าจู่โจมอวัยวะภายใน ทำให้เกิดไตวายเฉียบพลัน หรือตับวายจนเสียชีวิตได้

        3.ระยะไข้สูง 40-40 องศาเซลเซียส โดยไม่มีอาการไอ จาม น้ำมูกไหล จะมีไข้สูงลอยเช่นนี้อยู่ 2-7 วัน

        4.จุดแดงบนผิวหนัง มักตรวจพบพร้อมกับภาวะเลือดออกในอวัยวะอื่นๆ เช่น เลือดกำเดาไหล เลือดออกตามไรฟัน ทางเดินอาหาร อาเจียนเป็นเลือด หรือปะปนมาในอุจจาระ

        5.ระยะวิกฤต ไข้จะลดลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งมักเกิดผู้ป่วยที่เป็นไข้เลือดออกเดงกิ มีภาวะการไหลเวียนเลือดล้มเหลว มือเท้าเย็น ชีพจรเต้นอ่อน ความดันโลหิตผันผวน แต่ยังมีสติ พูดคุยปกติ หากปล่อยให้อาการหนักขึ้นอาจเสียชีวิตได้ภายใน 1 – 2 วัน

        หน้าฝนนี้ คุณพ่อคุณแม่ควรให้ความสำคัญกับวิธีป้องกันและควบคุมการเกิดยุงลายมากขึ้น เพื่อให้ลูกปลอดภัยจากโรคไข้เลือดออก  2 อย่าง ดังต่อไปนี้

        • ป้องกันยุงลายกัด ยุงลายมักจะกัดคนในเวลากลางวัน ควรนอนในมุ้งหรือติดมุ้งลวดเพื่อป้องกันยุงเข้ามาในบ้าน หลีกเลี่ยงการอยู่บริเวณมุมอับชื้น ทายากันยุงที่สกัดจากพืชธรรมชาติ
        • กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายให้หมดไป ยุงลายจะเพาะพันธุ์ในน้ำใส ในภาชนะที่เก็บน้ำใช้ในบ้าน เช่น โอ่งน้ำ ถ้วยรองขาตู้กันมด แจกันดอกไม้ ภาชนะนอกบ้านที่มีน้ำขัง เช่น ยางรถยนต์ การทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย

        แหล่งข้อมูล :  news.thaipbs.or.th/ www.bangkokbiznews.com /www.thaihealth.or.th/ bangkokhospitalphitsanulok.com

        บทความน่าสนใจอื่นๆ 

        พ่อแม่ต้องรู้! “9 ข้อห้ามทำ” เมื่อลูกเจ็บป่วย

        5 พาหะนำโรค หน้าฝน ภัยร้ายต่อสุขภาพลูกน้อย

         

        เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

         

          ฝันเห็นคนท้อง ฝันว่าท้อง ทำนายฝัน

          ฝันเห็นคนท้อง ฝันว่าตัวเองท้อง ฝันแบบนี้ ดีหรือร้าย?

          ฝันเห็นคนท้อง ฝันว่าตัวเองท้องใกล้คลอด หมายความว่าอย่างไรกันนะ ทำนายฝันกันแล้ว อย่าลืม!! เช็ควัน เวลาที่ฝันกันด้วยว่าฝันช่วงเวลาไหนแม่นที่สุด??

          ฝันเห็นคนท้อง ฝันว่าตัวเองท้อง ฝันแบบนี้ ดีหรือร้าย?

          ฝันกลางวัน ฝันเป็นตุเป็นตะ ฝันลม ๆ แล้ง ๆ จะกี่ฝันยังไง เมื่อความฝันเกิดขึ้นมา คนที่ฝันก็อยากรู้ความหมายกันใช่ไหมล่ะ อย่างน้อย ๆ ก็นับว่าเป็นสิ่งคอยเตือนให้ระวังในการใช้ชีวิต หรือจะได้เตรียมตัวรับโชคก้อนใหญ่ได้ทัน (ชีวิตต้องมีหวัง… อะไรทำนองนั้น) งั้นอย่ามัวช้าเราไปดูกันดีกว่าว่า ผันเห็นคนท้อง ฝันว่าตัวเองท้อง หรือ ฝันเห็นคนท้อง 2 คน ความหมายดี หรือร้ายต่างกันอย่างไรนะ

          ทำนายฝัน ฝันเห็นคนท้อง

          ทำนายว่า ต้องระวังเป็นพิเศษกับเรื่องสุขภาพของผู้ใหญ่ที่จะไม่ค่อยปกติและเป็นเหตุ ให้ท่านกังวลใจ ระวังเรื่องอารมณ์ของคุณให้ดี เพราะมันจะนำมาซึ่งความเลวร้าย ระวังเรื่องเดือดร้อนอันเกิดจากเพศตรงข้าม

          ความรัก คนที่คุณแอบชอบมักมีคนมารุมชอบมากมาย คราวนี้ถึงเวลาที่คุณต้องแข่งขันช่วงชิงคะแนนได้แล้ว คนที่มีคู่แล้วต้องใจเย็น อย่าหมางเมินกัน หมั่นเติมความรักด้วยคำหวาน ๆ วันละนิด ต้องหลีกเลี่ยงอย่าให้เกิดชนวนแห่งความขัดแย้ง

          ดวงการเงิน การงาน การทำงานร่วมกับพรรคพวกต้องใช้สติกับมิตรภาพมากเป็นพิเศษ และงานจะลุล่วงผ่านพ้นไปด้วยดี ระวังจะเกิดความผิดพลาดจากน้ำมือของคุณเพราะว่าไปหลงเชื่อคนผิด ภาระรับผิดชอบในหน้าที่การงานทำให้จำต้องสละแผนการพักผ่อนกระทันหัน

          เลขมงคล เด่นนำโชค 0 2 3 4

          เลขมงคล เด่นรอง 63 255 599

          ฝันเห็นคนท้อง ฝันว่าตัวเองท้อง ความหมายคือ
          ฝันเห็นคนท้อง ฝันว่าตัวเองท้อง ความหมายคือ

          ฝันว่าตัวเองท้องใกล้คลอด

          ทำนายว่า คุณจะมีโชคเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และจะเพลิดเพลินกับความรุ่งเรืองอย่างไม่ขาดสาย เร็ว ๆ นี้ คุณมีดวงที่จะต้องเดินทางไกล มีแต่คนคอยสร้างปัญหาให้คุณอยู่เสมอ

          ความรัก คนโสดมีเกณฑ์ได้พบกับการเริ่มต้นใหม่ในเรื่องความสัมพันธ์กับมิตรต่างเพศ คนที่มีคนรู้ใจจะมีเรื่องของบุคคลที่สามเข้ามาเกี่ยวข้อง ช่วงนี้หากคุณคิดจะมีกิ๊กระวังจะโดนจับได้

          ดวงการเงิน การงาน การตัดสินใจของคุณจะเป็นที่ยอมรับจากคนรอบข้างเป็นอย่างดี แต่ต้องใช้สติให้ดี มีการขัดแย้งกันในทีมงานถึงขั้นแตกแยกท่านจะร้อนใจเพราะลูกน้องลูกจ้างหรือบริวาร ช่วงนี้เงินทองหามาด้วยความยากลำบากจึงไม่ควรใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายในสิ่งที่ไม่จำเป็น

          เลขมงคล เด่นนำโชค 1 4 6

          เลขมงคล เด่นรอง 01 58 60 52 375

          ฝันเห็นคนท้องใกล้คลอด

          ทำนายว่า จะมีโชคอยู่ทางทิศตะวันออก มาจากคนผิวสองสี ให้ระวังเรื่องสุขภาพและอาการเจ็บป่วยอย่างไม่คาดคิดมาก่อน คุณระวังควรควบคุมวาจาอย่าพลั้งปากพูดอะไรแบบไม่คิด

          ความรัก คนโสดอาจจะมีเรื่องรักซ้อนเข้ามาสอดแทรกให้ยุ่งยากใจได้ คุณจะได้รับการแนะนำให้รู้จักกับคนนิสัยดี จิตใจดี ชอบทำบุญ ชอบช่วยเหลือผู้อื่น มีดวงว่าคนรักของคุณจะมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับคนที่คุณสงสัยนั่นแหละ

          ดวงการเงิน การงาน หากมีโอกาสลงทุนทำธุรกิจของตนเองจะประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ใครที่รอผลการสัมภาษณ์งานจะมีเกณฑ์ดีได้เซ็นต์สัญญา การจ้างงานเกิดขึ้น สำหรับคนที่ทำอาชีพค้าขาย หรือทำธุรกิจส่วนตัวในเดือนนี้เป็นเดือนที่กำไรงาม มีเกณฑ์ได้ขยับ ขยายกิจการ

          เลขมงคล เด่นนำโชค 0

          เลขมงคล เด่นรอง 09 98 96 944 325 561

          ฝันเห็นคนท้อง 2 คน ทำนายฝัน
          ฝันเห็นคนท้อง 2 คน ทำนายฝัน

          ฝันเห็นคนรู้จักตั้งท้อง

          ทำนายว่า คุณต้องระวังเคราะห์ร้ายที่จะเกิดแก่คนที่อายุน้อยที่สุดภายในบ้าน จะมีเรื่องร้อนใจหรือไม่สบายใจที่มาจากพี่น้องของคุณเอง มีเหตุวิกฤตเกิดขึ้เล็กน้อย ทำให้กิจวัตรประจำวันไม่ราบรื่น

          ความรัก คนที่คุณรักดูเหมือนจะเป็นที่ต้องตาต้องใจของคนอื่น ๆ ด้วย ความรักหากมีปัญหากันก็ต้องค่อย ๆ พูด ค่อย ๆ จา อย่าด่วนตัดสินใจพูดอะไรโดยไม่คิด เพราะจะทำให้คุณมานั่งเสียใจภายหลัง ความรักของคุณค่อนข้างคลุมเครือ ไม่รู้ว่าคุณจะถูกจัดให้อยู่ในตำแหน่งแฟนหรือกิ๊กกันแน่

          ดวงการเงิน การงาน ช่วงนี้งานที่ทำหรือได้รับมอบหมายจะสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ไม่ติดขัดอะไร มีเกณฑ์ว่าคุณจะได้ทำงานที่ไม่จำเจ หรือได้รับผิดชอบงานที่ใหญ่ ขึ้นใช้ความสามารถมากขึ้น ช่วงนี้จะลงทุนก็ขอให้หาคนที่ สนิทจริง ๆ มาปรึกษาหารือ ไม่ควรนำ ความในไปเล่าให้คนนอกกลุ่มฟังจะเกิดเรื่องหมางใจกัน

          เลขมงคล เด่นนำโชค 0 6

          เลขมงคล เด่นรอง 02 19 63 89 57 748

          ฝันเห็นคนท้องคลอดลูก

          ทำนายว่า จะมีเหตุให้ต้องเดินทางไปธุระหลายแห่งจนแทบไม่มีโอกาสหยุดพัก จะมีคนมาเล่าเรื่องราวความทุกข์คุณให้เห็นใจและให้คุณช่วยแก้ปัญหา ช่วงนี้ระวังศัตรูคู่แข่งของคุณจ้องจะทำร้ายคุณอยู่

          ความรัก ถ้าคุณมีความเชื่อมั่นในกันและกันทั้งสองฝ่าย ความสุขจะบังเกิดกับคุณทันที ผู้ที่มีคนรักแล้วจะได้ของขวัญที่ถูกใจจากคนรัก คนรักก็เอาใจเก่ง พูดจาหวานหู ดูแล้วน่าอิจฉาจัง ความรักของคุณค่อนข้างคลุมเครือ ไม่รู้ว่าคุณจะถูกจัดให้อยู่ในตำแหน่งแฟนหรือกิ๊กกันแน่

          ดวงการเงิน การงาน เงินพิเศษจะมีเข้ามาเรื่อยๆ จากงานเดิมๆ เพราะด้วยความสามารถและผลงานของคุณที่ได้รับการยอมรับ ใครที่เรียกร้องความยุติธรรมด้านการเงินให้ตัวเองอยู่จะมีผู้ใหญ่ช่วยเจรจาให้ และได้รับความเห็นใจ ธุรกิจต้องอาศัยผู้ใหญ่คอยเป็นที่ปรึกษาหรือดูแลผลประโยชน์ให้ งานจึงจะไปได้ดี

          เลขมงคล เด่นนำโชค 0 1 2 7 9

          เลขมงคล เด่นรอง 67 77 434

          ความฝันบ่งบอกอะไรเรา ฝันเห็นคนท้อง
          ความฝันบ่งบอกอะไรเรา ฝันเห็นคนท้อง

          ฝันเห็นคนท้อง 2 คน 

          ใครที่คิดจะซื้อของ หรือขยับขยายทำธุรกิจก็ให้รีบทำเพราะโอกาสกำลังดี จะมีงานสังสรรค์กับญาติมิตร อยู่ในช่วงเวลาของความลุ่มหลง รักสนุก พบปะเฮฮา สังสรรค์

          ความรัก คนโสดยังลงหลักปักฐานกับใครไม่ได้ เพราะคนที่เข้ามามักจะมีข้อเสียที่คุณรับไม่ได้ งั้นต้องอดทนรอต่อไป จะมีญาติผู้ใหญ่เป็นแม่สื่อช่วยผลักดันให้คุณลงเอยกับคนที่คุณชอบ คนมีคู่ความรักของคุณค่อนข้างจะห่างเหิน ไม่ค่อยเข้าใจกันเท่าไหร่นัก

          ดวงการเงิน การงาน มีความเสี่ยงที่จะเปลี่ยนงาน ออกจากงาน บางทีถึงขั้นเปลี่ยนอาชีพไปเลยก็ได้ เรื่องการงานอาจมีเรื่องต้องคอยแก้ปัญหาอยู่บ่อย ๆ  ไม่จบสิ้น จะมีเกณฑ์การเดินทางด้วยเรื่องของงาน และจะประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี

          ว่าด้วยเรื่องฤกษ์ยาม

          ไหนจะมาสายมูกันแล้ว จะไม่ดูฤกษ์ ดูยามกันได้อย่างไร คำทำนายความฝันนั้น นอกจากจะตีความจากเรื่องที่ฝันแล้ว การจะลงลึกลงไปเพื่อความแม่นยำกันไปอีกนั้น คงต้องมองถึงเรื่องที่ว่า ความฝันนั้นเกิดขึ้นในวันใด เวลาเท่าไหร่ ก็สามารถบ่งบอกได้ถึงความแม่นยำเพิ่มขึ้นไปได้อีกนะ

          ฝันช่วงเวลาไหน วันใด ก็มีผลต่อคำทำนายนะ
          ฝันช่วงเวลาไหน วันใด ก็มีผลต่อคำทำนายนะ

          ฝันในวันไหน จะมีอิทธิพลกับใครบ้าง?

          วันและช่วงเวลาที่ฝันล้วนแต่ส่งผลกับคำทำนายฝันนั้น ๆ ดังนั้นก่อนที่จะไปดูคำทำนายฝัน ให้นับวันและเวลาที่ฝันก่อนว่าฝันในช่วงเวลาใด ความฝันนั้นมีอิทธิพลกับใครบ้าง และแม่นยำแค่ไหน ดังนี้

          • ฝันวันอาทิตย์ ดีร้ายในความฝัน จะได้แก่ญาติผู้ใหญ่ หรือเพื่อนฝูงทั่วไป
          • ฝันวันจันทร์ ดีร้ายในความฝัน จะได้แก่ญาติสนิท และเพื่อนที่สนิทสนม
          • ฝันวันอังคาร ดีร้ายในความฝัน จะได้แก่บิดามารดา หรือญาติผู้ใหญ่ในบ้าน
          • ฝันวันพุธ ดีร้ายในความฝัน จะได้แก่สามีภรรยา หรือบุตรหลานในบ้าน
          • ฝันวันพฤหัสบดี ดีร้ายในความฝัน จะได้แก่ครูบาอาจารย์ หรือผู้บังคับบัญชา
          • ฝันวันศุกร์ ดีร้ายในความฝัน จะได้แก่คนในบ้าน หรือสัตว์เลี้ยง
          • ฝันวันเสาร์ ดีร้ายในความฝัน จะได้แก่ตัวผู้ฝัน

          ฝันเวลาไหน จะแม่นที่สุด

          ฝันตอนกลางวัน

          ฝันในขณะที่หลับกลางวัน นอกจากเป็นการบอกเหตุจากพระภูมิเจ้าที่ ผีบ้านผีเรือน หรือครูบาอาจารย์แล้ว อาจเป็นแค่ควารู้สึกนึกคิดของผู้ฝันเอง อาจบอกเหตุล่วงหน้าได้หรือไม่ ไม่เป็นที่แน่ชัด หรือแน่นอน

          ฝันตอนหัวค่ำ เวลา 18.00 – 22.00 น.

          ความฝันนี้หากเป็นล่างบอกเหตุล่วงหน้า ถ้าเหตุการณ์เกิดขึ้นจริงจะเป็นช่วงราว ๆ ครึ่งปีนับจากวันที่ฝัน

          ฝันตอนดึก เวลา 22.00- 02.00 น.

          ความฝันนี้หากเป็นล่างบอกเหตุล่วงหน้า ถ้าเหตุการณ์เกิดขึ้นจริงจะเป็นช่วงราว ๆ 1-3 เดือนนับจากวันที่ฝัน

          ฝันตอนรุ่งสาง เวลา 02.00 ไปแล้วถึงสว่าง

          ความฝันนี้หากเป็นล่างบอกเหตุล่วงหน้า ถ้าเหตุการณ์เกิดขึ้นจริงจะเกิดภายใน 3-15 นับจากวันที่ฝัน

          ฝันว่าตัวเองท้องใกล้คลอด
          ฝันว่าตัวเองท้องใกล้คลอด

          เป็นอย่างไรกันบ้าง คงเพิ่มความสบายใจ มั่นใจกันไปบ้างแล้ว สำหรับคำทำนายฝันที่ ฝันเห็นคนท้อง ฝันเกี่ยวกับคนท้อง แต่ถึงอย่างไรก็อย่าลืมกันนะว่า คำทำนายก็คือคำทำนายนะจ๊ะ คงไม่ใช่ลายแทงที่จะทำให้ชีวิตเราต้องดำเนินตามนั้น 100% เพราะชีวิตเราก็ต้องขึ้นอยู่กับตัวเรา ไม่มีใครรู้ดีถึงชีวิตเราได้ดีเท่าตัวเราเองนะ

          ขอบคุณข้อมูลจาก : www.thailandhoro.comhoroscope.mthai.com ,today.line.me 

          อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

          ฝันว่าได้อุ้มทารกแรกเกิด ใครฝันแบบนี้รู้ไว้กำลังมีโชค!

          ทำนายฝันแม่ ๆ ฝันแบบนี้ได้ลูกชายหรือลูกสาว?

          แม่ท้อง ฝันว่าคลอดลูก เป็นลางดีหรือร้ายแล้วคนไม่ท้องล่ะ

          ทรงผม สีผมตามวันเกิด เสริมดวง เสริมราศี หนุนนำทรัพย์!

          เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

            10 เมนูปลา

            10 เมนูปลา สูตรอร่อยเน้นบำรุงสมองสำหรับลูกน้อยโดยเฉพาะ (เริ่ม 6 เดือน+)

            แจก 10 สูตรอร่อยทำง่าย เมนูปลา อาหารจากเนื้อปลา สำหรับลูกน้อยตั้งแต่วัย 6 เดือนขึ้นไป เน้นบำรุงสมอง เสริมความจำดีเยี่ยม ให้ลูกน้อยโดยเฉพาะ!

            10 เมนูปลา สูตรอร่อย เน้นบำรุงสมองลูกน้อยโดยเฉพาะ!

            ลูกกิน เมนูปลา ได้ตอนกี่เดือน

            เมื่อลูกน้อยอายุได้ 6 เดือน ก็จะสามารถเริ่มหัดกินอาหารเสริมอื่นๆ ที่ไม่ใช่นมแม่ได้แล้ว จึงทำให้คุณพ่อคุณแม่มือใหม่หลายคนอาจสงสัยว่าควรให้ลูกกินอะไรก่อนดี ระหว่าง >> หมู ไก่ หรือ ปลา !!?

            ซึ่งการทำเมนูอาหารมื้อแรก ๆ ที่ลูกจะได้ลองชิมก่อน ควรเริ่มจากข้าวผสมนมแม่ ตามด้วยผัก และเนื้อสัตว์ โดยการให้อาหารแต่ละชนิด ควรเริ่มจากทีละน้อย เช่น 1 ช้อนก่อน และค่อย ๆ เพิ่มวัตถุอื่นๆ เข้าไปเพื่อสังเกตและป้องกันการแพ้อาหารของลูกน้อย โดยคุณแม่ควรให้ลูกกินเนื้อสัตว์ที่ย่อยง่ายและบดง่ายอย่างเนื้อปลา เมนูอาหารจากปลา ก่อน ถัดไปค่อยเป็น เนื้อไก่ และหมู

            สิ่งสำคัญคือ ก่อนลูก 1 ขวบ ควรเลือกปลาน้ำจืดให้ลูกกินก่อนปลาทะเล เพื่อป้องกันลูกแพ้อาหารทะเลนั่นเอง ซึ่งจากการศึกษาในเด็กอายุ 6 เดือนถึง 1 ขวบ จำนวน 7,000 คน พบว่า เด็กที่กินปลาเป็นประจำช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหอบหืดได้ถึง 36% เพราะ “ปลา” มีสารอาหารสำคัญอย่างกรดไขมันโอเมก้า-3 และวิตามินดี และมีส่วนสำคัญในกระบวนการการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของลูกน้อยในวัยนี้ด้วย นอกจากนี้เนื้อปลายังนุ่มและเคี้ยวง่าย จึงเหมาะกับการเป็นอาหารเสริมมื้อแรกของลุกน้อยได้อย่างดี

            Must read >> รวม 15 ปลาไทย โอเมก้า 3 สูง กินแล้วฉลาด ความจำดี

            10 เมนูปลา

            ทั้งนี้ เมนูปลา หรือ อาหารจาก ปลาสําหรับทารก 6 เดือน คุณแม่เลือกปลาที่มีก้างน้อยและหนังบาง มานึ่งให้สุก แล้วบดหรือยีเนื้อปลาให้ละเอียด จากนั้นนำมาโรยลงบนข้าว โจ๊ก หรืออาหารที่ลูกกินประจำ แค่นี้ลูกน้อยก็ได้รับสารอาหารดีๆ จากปลาแล้ว … ซึ่งสิ่งหนึ่งที่คุณแม่ต้องให้ความสำคัญไม่น้อยกว่าเทคนิคการปรุงอาหาร เมนูปลา ก็คือ การเลือกซื้อปลาที่สด สะอาด ถ้าเป็นปลาทะเลต้องใส่ใจเรื่องสารเคมีที่แช่มาขณะขนส่งด้วย ท่องให้ขึ้นใจว่าปลายิ่งสดเท่าไหร่ยิ่งดีค่ะ

            และสำหรับคุณแม่มือใหม่ที่อยากทำเมนูอาหารจากเนื้อปลาให้ลูกน้อยได้กิน แต่ไม่รู้ว่าจะทำเมนูอะไรดี!? ทีมแม่ ABK จึงมี 10 เมนูปลา พร้อมวิธีทำแสนง่าย มาฝาก ขอบอกเลยว่าเป็นสูตรอร่อย ทำง่าย แถมเน้นบำรุงสมองสำหรับลูกน้อย ตั้งแต่วัย 6 เดือนขึ้นไป จะมีเมนูใดบ้าง ตามมาดูกันเลย

            เมนูปลาสําหรับทารก 6 เดือน ซุปข้าวกล้องบดตำลึงปลาช่อนนา

            10 เมนูปลา

            “ซุปข้าวกล้องบดตำลึงปลาช่อนนา ครบครับคุณประโยชน์ และความเป็นออร์แกนิก”

            ใช้เวลาเตรียมและทำ 20 นาที ส่วนผสมสำหรับ 1 ที่

            • ข้าวกล้องออร์แกนิกบดละเอียด 5 ช้อนโต๊ะ
            • ใบตำลึงออร์แกนิก 15 ใบ
            • ปลาช่อนนา 3 ขีด
            • เกลือทะเลเล็กน้อย
            • ซีอิ้วขาวออร์แกนิกเล็กน้อย
            • *น้ำสต๊อกผักออร์แกนิก 2 ถ้วย
              *ต้มไก่บ้านและผักออร์แกนิกหลากหลายชนิด เพิ่มความหวานตามธรรมชาติด้วยการใส่ข้าวโพดลงไปต้ม จนผักทุกชนิดนิ่มจึงกรองเอาแต่น้ำซุปมาปรุงอาหาร

             วิธีทำ

            • เด็ดใบตำลึง ล้างให้สะอาดทีละใบ พักไว้
            • ล้างปลาช่อนนาให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ พักไว้
            • นำปลาช่อนนา และตำลึงลงไปต้มในน้ำสต๊อกผักออร์แกนิกจนสุก
            • เติมข้าวกล้องบดลงไปต้มด้วย เคี่ยวจนสุก จากนั้นนำส่วนผสมทั้งหมดลงไปปั่นละเอียด
            • นำมาตั้งไฟอีกครั้งจนเดือด ปรุงรสด้วยซีอิ้วขาวออร์แกนิกและเกลือทะเลเล็กน้อย

             

            มันบดปลาซอสผักโขม เมนูจากเนื้อปลา สำหรับ ลูกวัย 8 เดือน++

            10 เมนูปลา

            มัดบด ปลา และ ผักโขม ส่วนผสมที่ลงตัวทั้งรสชาติและคุณประโยชน์ที่มากมาย

            ใช้เวลาปรุง 15 นาที ส่วนผสมสำหรับ 2 ที่

            • มันฝรั่ง (นึ่งสุกหั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า) 4 ช้อนโต๊ะ
            • ปลาแซลมอน (นึ่งสุก) 3 ช้อนโต๊ะ
            • นมที่ลูกดื่ม 100 มิลลิลิตร

            วิธีทำ : นำมันฝรั่ง ปลา และนมมาปั่นรวมกันให้ละเอียด ตักใส่ชาม พักไว้

            ส่วนผสมซอส

            • ใบผักโขมม่วง (ลวกสุก) 1  ช้อนโต๊ะ
            • แป้งข้าวโพด (ผสมกับน้ำเล็กน้อย) 2 ช้อนชา
            • น้ำซุป200 มิลลิลิตร

            วิธีทำ

            • นำน้ำซุปปั่นกับผักโขมให้ละเอียด แล้วนำมาตั้งไฟ เมื่อเดือดใส่น้ำแป้งข้าวโพด คนให้เข้ากันจนกระทั่งข้นเล็กน้อย
            • นำน้ำซอสราดหน้าบนส่วนผสมที่ 1 ที่เตรียมไว้แล้ว พร้อมเสิร์ฟ

             

            ซูชิโรลไส้ปลาสุก เมนูปลา สำหรับเด็กวัย 1 ขวบขึ้นไป

            10 เมนูปลา

            เมนูน่าสนุกที่เด็กๆ หยิบเข้าปากเองได้ ซูชิชิ้นเล็กพอกำลังดี แถมตกแต่งน่ากิน รับรองหมดจาน ใช้เตรียม 10 นาที ปรุง 20 นาที ส่วนผสม สำหรับ 3 – 4 ที่

            • ข้าวญี่ปุ่น 1  ถ้วย
            • น้ำเปล่า2  ถ้วย
            • น้ำส้มสายชูหมักจากข้าว1  ช้อนโต๊ะ
            • น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
            • เกลือป่น½ ช้อนชา
            • น้ำเปล่า 1 ช้อนโต๊ะ
            • เนื้อปลาแซลมอนหั่นเต๋าเล็ก1 ถ้วย
            • โชยุ1 ช้อนโต๊ะ
            • น้ำมันพืช1 ช้อนโต๊ะ
            • แครอทลวกหั่นเต๋าเล็ก ¼  ถ้วย
            • แตงกวาญี่ปุ่นหั่นเต๋าเล็ก ¼  ถ้วย
            • มายองเนส ¼  ถ้วย
            • สาหร่ายสำหรับทำซูชิ 4  แผ่น
            • ซอสทงคัตซึและงาขาว

            วิธีทำ

            • หุงข้าวญี่ปุ่นกับน้ำให้สุก ผสมน้ำส้มสายชู น้ำตาล เกลือและน้ำเปล่า เทลงคนผสมกับข้าวขณะยังร้อนๆอยู่ พักไว้ให้เย็นสนิท
            • หมักปลาแซลมอนกับโชยุและน้ำมันพืช ประมาณ 15 นาที นำไปผัดให้สุกเหลือง ตักขึ้นพักไว้ให้เย็นสนิท แล้วผสมกับ แครอทลวก แตงกวาญี่ปุ่นและมายองเนส
            • ห่อเสื่อสำหรับม้วนซูชิด้วยพลาสติกแร็ปให้ทั่ว วางแผ่นสาหร่ายหงายด้านที่ขรุขระขึ้น ตักข้าวเกลี่ยบางๆให้ทั่ว ตักส่วนผสมปลาแซลมอนวางบนข้าวที่ขอบด้านยาวฝั่งใกล้ตัว ม้วนซูชิออกจากตัวให้แน่น(ควรดูคลิปการม้วนซูชิประกอบจะเข้าใจมากขึ้น)
            • ตัดแบ่งด้วยมีดคมๆเป็นชิ้นพอคำ จัดใส่จาน ราดซอสทงคัตซึ โรยงาขาว

            ♥ Cooking Tip ♥ น้ำส้มสายชูหมักจากข้าวจะมีกลิ่นค่อนข้างอ่อน ไม่ฉุน เมื่อผสมลงในข้าวจะช่วยยืดอายุให้บูดช้าลง และยังช่วยเพิ่มรสชาติให้ข้าวด้วย

             

            แฮมเบอร์เกอร์ปลาก้อน เมนูปลา สำหรับเด็กวัย 2 ขวบ++

            10 เมนูปลา

            ใช้เวลาในการปรุง 20 นาที ส่วนผสมสำหรับ 2 ที่

            • เนื้อปลาทูน่า ลอกหนังออก150 กรัม
            • หอมใหญ่สับละเอียด3 ช้อนโต๊ะ
            • ข้าวโอ๊ต 2 ช้อนโต๊ะ
            • ไธม์อบแห้ง ¼  ช้อนชา
            • เกลือป่น เล็กน้อย
            • เนยสดชนิดเค็ม 1-2  ช้อนโต๊ะ
            • ขนมปังแฮมเบอร์เกอร์โฮลวีตขนาดเล็ก 6  ชิ้น
            • เชดด้าชีสแผ่น2 แผ่น
            • มายองเนส2 ช้อนโต๊ะ
            • ผักกาดแก้วหั่นหยาบ หรือผักกาดหอม ⅓ ถ้วย
            • ซอสมะเขือเทศ สำหรับเสิร์ฟคู่กัน

            วิธีทำ

            • ลวกเนื้อปลาให้สุก นำไปบดรวมกับหอมใหญ่ ข้าวโอ๊ต ไธม์ และเกลือ เสร็จแล้วปั้นเป็นก้อน พักไว้
            • ตั้งกระทะเทฟลอนไฟกลาง ใส่เนยลงไปรอให้ร้อน วางเนื้อปลาที่ปั้นไว้ลงทอดให้หอมเกรียมทั้งสองด้าน ตักขึ้นใส่จาน วางชีสลงด้านบน พักไว้
            • ผ่าครึ่งขนมปังตามขวาง แล้ววางด้านที่ผ่าลงบนกระทะใบเดิม ย่างให้หอม แล้วตักขึ้นใส่จาน ทามายองเนสให้ทั่วขนมปังชิ้นล่าง วางผักกาดแก้วลงไป ตามด้วยเบอร์เกอร์ปลา และปิดท้ายด้วยขนมปังชิ้นบนสุด
            • จัดเสิร์ฟพร้อมซอสมะเขือเทศ หรือซอสชนิดอื่นตามชอบ

             

            แซนวิชปลาย่าง กับน้ำสลัดฟักทอง เมนูปลา สำหรับเด็กวัย 2 ขวบ++

            10 เมนูปลา

            “แซนวิชสอดไส้ปลาย่าง กินกับน้ำสลัดฟักทอง กลิ่นหอมๆ มากับรสชาติอร่อยๆ” ใช้เวลาเตรียมและทำ 20 นาที
            ส่วนผสมสำหรับ 1-2 ที่

            • ขนมปังโฮลวีตออร์แกนิก 2 แผ่น (เลือกชนิดตัดขอบ)
            • ปลาทู1 ตัว
            • ฟักทอง½ กิโลกรัม
            • น้ำตาลทรายแดงออร์แกนิก 200 กรัม
            • น้ำแอปเปิ้ลไซเดอร์ออร์แกนิก2 ช้อนโต๊ะ
            • น้ำมันมะกอก 2 ช้อนโต๊ะ
            • เกลือทะเลเล็กน้อย
            • ผักสลัดออร์แกนิก ½ ถ้วย

            วิธีทำ

            1. ละลายน้ำตาลทรายแดงกับแอปเปิ้ลไซเดอร์ พักไว้
            2. ต้มฟักทองให้เปื่อย แล้วบดฟักทองให้ละเอียด
            3. นำฟักทองที่บดละเอียด ใส่ลงในน้ำตาลทรายแดงที่ละลายแล้ว
            4. ค่อยๆเทน้ำมันมะกอกลงไป คนให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยเกลือทะเลเล็กน้อย พักไว้
            5. นำปลาทูไปย่าง แล้วยีเนื้อปลาให้ละเอียด
            6. ผสมเนื้อปลาทูกับน้ำสลัดฟักทองเข้าด้วยกัน แล้วนำไปทาบนขนมปัง (จะปิ้งหรือไม่ปิ้งก็ได้) ตกแต่งด้วยผักสลัดหรือผักอื่นๆ ตามที่ลูกชอบ

            ดูต่ออีก 5 เมนูปลา เมนูอาหารเด็ก วัย 2 ขวบขึ้นไป
            พร้อมคลิปวิดีโอ วิธีทำ คลิกที่ภาพได้เลยค่า

            “ซุปใสปลา” สุดยอดเมนูปลา อาหารอ่อนเพิ่มพลังหลังลูกป่วย

            แจกสูตร “ปลาอบวุ้นเส้น” เมนูบำรุงสมอง ลูกรัก โดยเฉพาะ!

            คลิปเมนูข้าวต้มปลาทู อาหารบำรุงสมองลูก เสริมความจำดีเยี่ยม!

            เผยสูตรดี “ข้าวผัดปลาทู โอเมก้า 3 สู๊ง..สูง” อาหารบำรุงสมองให้ลูกฉลาด (มีคลิป)

            คลิปอาหารอร่อย “ข้าวผัดปลาแซลมอน” สูตรดีเมนูบำรุงสมอง เพื่อลูกน้อยโดยเฉพาะ!

              เอพี ไทยแลนด์ ส่งแคมเปญใหญ่ “ลดเพื่อชาติ” 11 คอนโดพร้อมอยู่ติดรถไฟฟ้า คัดสรรยูนิตที่ดีที่สุด จัดเต็มสิทธิพิเศษ เริ่มเพียง 1.49 ล้านบาท

              บมจ. เอพี (ไทยแลนด์) จัดแคมเปญใหญ่ “ลดเพื่อชาติ” กระตุ้นดีมานด์ไตรมาสสอง หลังโมเมนตัมตลาดเริ่มส่งสัญญาณบวก พร้อมเดินหน้าต่อเนื่องแบ่งเบาภาระและสนับสนุนให้ลูกค้าทุกคนสามารถเป็นเจ้าของคอนโดเครือเอพีได้ง่ายขึ้น โดยคัดสรรยูนิตสวยจากคอนโดพร้อมอยู่ติดรถไฟฟ้าแบรนด์ LIFE และ ASPIRE กว่า 11 โครงการทั่วกรุงเทพฯ เพียงจอง 4,999 บาทเข้าอยู่ได้เลย ส่วนลดสูงสุด 2 ล้านบาท พร้อมสิทธิพิเศษอีกมากมายแบบไม่ต้องลุ้น ฟรีทุกค่าใช้จ่าย ราคาเริ่มต้นเพียง 1.49 – 10.7 ล้านบาท คุ้มค่าทั้งการอยู่อาศัยและต่อยอดการลงทุนในอนาคต เพียงจองและโอนกรรมสิทธิ์ภายในวันนี้ – 30 มิ.ย. นี้เท่านั้น 

              นายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์องค์กรและการสร้างสรรค์ บมจ. เอพี (ไทยแลนด์) กล่าวว่า “เอพีพร้อมเดินหน้าต่อเนื่องนำเสนอแคมเปญใหญ่ภายใต้ชื่อ “ลดเพื่อชาติ” มุ่งสนับสนุนให้ลูกค้าทุกคนสามารถเป็นเจ้าของคอนโดเครือเอพีได้ง่ายขึ้น ด้วยการมอบประโยชน์ สูงสุดคืนกำไรให้แก่ลูกค้าหรือนักลงทุนที่มองหาที่อยู่อาศัยทำเลติดรถไฟฟ้าใจกลางเมือง ในแพ็คเกจราคาที่คุ้มค่าสามารถต่อยอดได้ ทั้งการอยู่อาศัยในวันนี้หรือการลงทุนในอนาคต โดยเอพีได้คัดสรรยูนิตที่ดีที่สุด ห้องมุม วิวสวย ชั้นสูง จากคอนโดพร้อมอยู่แบรนด์ LIFE และ  ASPIRE กว่า 11 ทำเลติดรถไฟฟ้าใจกลางเมือง ในหลากหลายขนาดตั้งแต่สตูดิโอ ห้องชุด 1 ห้องนอน และ 1 ห้องนอน (ขนาดพิเศษ) ไปจนถึงห้องชุด 2 ห้องนอน โดยทุกเลย์เอ้าท์ชูจุดเด่นสเปซฟังก์ชั่นภายใน ที่สามารถปรับเปลี่ยน และยืดหยุ่น พร้อมที่จะเติบโตไปตามผู้อยู่อาศัยได้จริง ในราคาเริ่มต้นที่คุ้มค่า พร้อมมอบส่วนลดและสิทธิพิเศษอีกมากมาย เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระและส่งเสริมให้ทุกคนสามารถมีคอนโดฯ เป็นของตนเองได้ในช่วงเวลานี้”

              “ท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 ที่เริ่มคลี่คลาย และหากไม่เกิดการแพร่ระบาดอีกครั้ง เอพีคาดการณ์ว่าภาพรวมตลาดอสังหาฯ และความเชื่อมั่นของลูกค้าจะค่อยๆ ฟื้นตัวได้ในไตรมาสสอง สังเกตได้จากโมเมนตัมจำนวนลูกค้าเยี่ยมชมโครงการและยอดขายคอนโดเครือเอพีตั้งแต่ช่วงกลางเดือนเมษายน เริ่มปรับตัวดีขึ้นตามลำดับ เพิ่มขึ้นกว่า 75% หากเทียบกับยอดขายคอนโดเดือนมีนาคม โดยเฉพาะการตอบรับที่ดีจากคอนโดพร้อมอยู่ติดรถไฟฟ้าแบรนด์ LIFE และ ASPIRE จากปัจจัยความสมบูรณ์พร้อมเข้าอยู่ของโครงการ และแพ็คเกจราคาขายที่ลูกค้าสามารถจับต้องและต่อยอดการลงทุนในอนาคตได้จริง” นายวิทการ กล่าวเสริม

              ทั้งนี้ เอพีฯ ได้ยกระดับการทำงานสู่การสร้างมิติใหม่ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้า พร้อมทั้งนำเสนอประสบการณ์ใหม่ในการซื้อขายคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ติดรถไฟฟ้า ภายใต้แบรนด์ LIFE และ ASPIRE ทั้ง 11 โครงการในแคมเปญ “ลดเพื่อชาติ” ผ่านทุกช่องทางการติดต่อ ทั้ง Experiential Technology ช่องทางพิเศษที่จะเข้ามาดูแลแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ให้คำแนะนำโครงการ รับสิทธิพิเศษต่างๆ อาทิ  AP vTOUR – แพลตฟอร์มการเยี่ยมชมทุกพื้นที่ในโครงการแบบเสมือนจริงพร้อมการดูแลและการให้คำแนะนำในการอยู่อาศัยแบบเอ็กซ์คลูซีฟด้วยการนัดหมายล่วงหน้าผ่านเว็บไซต์ APTHAI.COM และ Line Official Account @APThai – ช่องทางออนไลน์ให้ลูกค้าสามารถติดต่อและสนทนาเพื่อรับสิทธิพิเศษต่างๆ โดยยังเพิ่มช่องทางเข้าถึงได้ง่ายขึ้นผ่าน  AP Facebook LIVE – ไลฟ์สดเผยโฉมยูนิตไฮไลท์พิเศษ พร้อมกับมุมมองการซื้อที่อยู่อาศัยจาก Influencer ชื่อดังผู้เชี่ยวชาญด้านการเลือกซื้อคอนโด พร้อมมอบส่วนลดเพิ่มพิเศษสูงสุดถึง 30,000 บาท ให้กับผู้ร่วมติดตาม หรือผ่านระบบ Call Center 1623 เป็นต้น  

              แคมเปญ “ลดเพื่อชาติ” โดย เอพี ไทยแลนด์ คัดสรรยูนิตคุณภาพที่ดีที่สุด จากคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ติดรถไฟฟ้า ภายใต้แบรนด์ LIFE และ ASPIRE รวมทั้งสิ้น 11 โครงการใจกลางเมือง ในราคาเริ่มต้นเพียง 1.49 – 10.7 ล้านบาท จองเพียง 4,999 บาท พร้อมส่วนลดสูงสุด 2 ล้านบาท และข้อเสนอพิเศษรายโครงการอีกมากมาย ที่จะช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้กับลูกค้าแบบพร้อมอำนวยความสะดวกในการเป็นเจ้าของคอนโดมิเนียมเครือเอพีได้อย่างสะดวกสบาย อาทิ ฟรีค่าจดจำนอง ฟรีค่าธรรมเนียมโอนกรรมสิทธิ์ ฟรีชุดเฟอร์นิเจอร์พร้อมเข้าอยู่ ฟรีเครื่องใช้ไฟฟ้าครบชุด เป็นต้น ความพิเศษนี้เฉพาะลูกค้าที่จองและโอนกรรมสิทธิ์ภายในวันนี้ – 30 มิ.ย. นี้เท่านั้น สอบถามข้อมูล เพิ่มเติม apthai.com/condo หรือ โทร 1623

              เอพี ไทยแลนด์ ภายใต้พันธกิจ ‘EMPOWER LIVING’  ที่เติมเต็มทุกเป้าหมายของชีวิต
              ด้วยนวัตกรรมสินค้าและบริการที่มีคุณค่าและมีความหมาย

                Tags

                พาหะนำโรค หน้าฝน

                5 พาหะนำโรค หน้าฝน ภัยร้ายต่อสุขภาพลูกน้อย

                พาหะนำโรค หน้าฝน อีกหนึ่งเรื่องสุขภาพของลูกน้อยที่คุณพ่อคุณแม่ต้องเฝ้าระวังกันให้มากเป็นพิเศษ เพราะบ้านเราช่วงนี้ เชื้อโรค เชื้อไวรัสอันตรายรอบด้าน แต่ถ้าเรารู้เท่าทันก็สามารถที่จะรับมือ และป้องกันได้ค่ะ ทีมแม่ABK มี 5 พาหะนำโรคที่ซ่อนไว้ด้วยโรคภัยไข้เจ็บที่อาจเกิดขึ้นกับลูกรักของทุกครอบครัว มาให้ได้รู้พร้อมกันค่ะ

                 

                พาหะนำโรค หน้าฝน ที่อยู่ใกล้ตัว !?

                เพื่อให้คุณแม่ได้ดูแลลูกน้อยได้อย่างปลอดภัยในช่วงหน้าฝนนี้ เรามาทำความรู้จักกับ 5 พาหะนำโรค หน้าฝน ยอดฮิตที่ควรต้องอยู่กันให้ห่างที่สุด เพื่อจะได้ไม่เจ็บป่วย ไม่สบายจาก พาหะนำโรค เหล่านี้ค่ะ

                แมลงก้นกระดก

                1. แมลงก้นกระดก

                เห็นสีสวยๆ ของแมลงก้นกระดก คุณแม่และเด็กๆ อย่างเผลอไปสัมผัสเข้านะคะ เพราะเจ้าแมลงชนิดนี้แฝงไปด้วยพิษสงร้ายแรงมากค่ะ  ลักษณะของเจ้าแมลงก้นกระดกนี้ จะมีลักษณะลำตัวเป็นปล้อง ๆ สีดำสลับกับสีแดงหรือสีแดงอมส้ม เมื่อสัมผัสกับตัวแมลง มันจะปล่อยของเหลวออกมาทำให้ปวดแสบปวดร้อน  มีอาการคัน ผิวไหม้ ผื่นแดง และเป็นตุ่มน้ำ

                วิธีป้องกันอันตรายจากแมลงก้นกระดก

                • ห้ามตีหรือขยี้ด้วยมือเปล่า ให้ใช้ผ้าหรือกระดาษเขี่ยแมลงออกไป
                • ควรติดมุ้งลวด และกางมุงนอน
                • หากกำจัดแมลงก้นกระดกด้วยการใช้ยาฆ่าแมลง แนะนำให้กวาดซากแมลงใส่ถุง มัดปากถุงให้สนิท เพราะถึงจะเสียชีวิตแล้ว แต่ยังจะปล่อยพิษออกมาได้ค่ะ อืม…ร้ายจริงๆ แมลงก้นกระดก

                วิธีการปฐมพยาบาล ในกรณีที่สัมผัสแมลงและมีอาการ ให้จุ่มหรือแช่บริเวณนั้นในน้ำเย็น 5-10 นาที สลับกับการเป่าให้แห้งหากมีอาการอักเสบร้ายแรง รีบพบแพทย์ทันที

                กิ้งกือ

                2. กิ้งกือ

                พูดเลยว่าทีมแม่ABK ขยาดมากๆ กับกิ้งกือ ช่วงหน้าฝนจะออกมาเยอะเลยค่ะ คุณแม่กับเด็กๆ เดินต้องมองระวังที่พื้นกันด้วยนะคะ อย่าเผลอไปเหยียบ หรือสัมผัสโดนนะคะ เพราะพิษที่กิ้งกือปล่อยออกมา ทำให้ผิวหนังบริเวณนั้นปวดแสบ ปวดร้อน ผิวหนังไหม้ เป็นแผลพุพองขึ้นได้ค่ะ ยิ่งกับคนที่แพ้พิษ อาจอันตรายถึงชีวิตได้ค่ะ

                วิธีการป้องกันไม่ให้กิ้งกือเข้าบ้าน

                ให้ปรับสภาพแวดล้อมบริเวณบ้าน ด้วยการกำจัดกองใบไม้ เล็มหญ้าให้สั้น ให้แดดส่องถึงพื้น และอุดรอยร้าว เพื่อป้องกันไม่ให้กิ้งกือคลานเข้าบ้าน

                วิธีรักษาพิษจากกิ้งกือเบื้องต้น

                • ให้ล้างผิวด้วยน้ำมาก ๆ และทายาฆ่าเชื้อโรค
                • หากสารพิษเข้าตา จะทำให้ตาอักเสบ น้ำตาไหลมาก ให้ล้างด้วยน้ำอุ่นและหยอดยาเพื่อบรรเทาอาการเจ็บปวด

                แมลงสาป

                3. แมลงวันและแมลงสาบ

                ไม่ว่าจะแมลงวัน หรือแมลงสาบ ต่างก็เป็น พาหะนำโรคที่ทีมแม่ABK อยากจะให้คุณแม่และเด็กๆ อยู่ให้ห่าง อย่าได้ไปสัมผัสโดนกันนะคะ  ความร้ายกาจของ “แมลงวัน” คือเป็นพาหะนำโรคที่ติดต่อผ่านอาหารได้ เช่น บิดมีเชื้อ ไข้รากสาด อาหารเป็นพิษอหิวาตกโรค รวมถึงโรคผิวหนัง และผลเรื้อรัง เช่น คุดทะราด และโรคเรื้อน  ส่วน “แมลงสาบ”  นี่ก็เป็นพาหะนำโรค เช่น โปรโตซัว แบคทีเรีย และไวรัสถึง 40 ชนิด รวมถึงเชื้อรามีพิษ และไข่พยาธิอีกมากมาย

                วิธีป้องกันแมลงวัน และแมลงสาบ

                • ทำความสะอาดบ้าน ปิดอาหารมิดชิด เก็บกวาดเศษอาหารและขยะให้เรียบร้อย
                • หากใช้สารเคมีและเหยื่อพิษ ต้องใช้ด้วยความระมัดระวังตามเอกสารคำแนะนำอย่างเคร่งครัด

                ยุงลาย

                4. ยุงลาย

                อย่างที่รู้กันค่ะว่า ยุงลาย เป็นหนึ่งใน พาหะนำโรค หน้าฝน ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพอย่างมาก เพราะเมื่อเด็กๆ ถูกยุงลายกัด  ก็เสียงต่อการป่วยด้วยโรไข้เลือดออก ที่เริ่มจะทวีความรุนแรงจนถึงขั้นเสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้ค่ะ

                วิธีป้องกันยุงลาย

                • เก็บขยะและคว่ำภาชนะที่มีน้ำขัง ปิดโอ่งน้ำ ถังน้ำ ให้มิดชิด
                • เปลี่ยนถ่ายน้ำในแจกัน กระถาง ทุกสัปดาห์
                • หลีกเลี่ยงการโดนยุงกัด ด้วยการติดตาข่ายหรือมุ้งลวด กางมุ้งนอน หรือทายากันยุง เป็นต้น

                หนู

                5. หนู

                หน้าฝนหนูบ้านที่อยู่ตามโพลง ตามกองขยะ มักออกมาวิ่งกันพล่านเลยค่ะ หนูจะมี พาหะนำโรค เช่น โรคฉี่หนู ซึ่งหากป่วยแล้วก็อันตรายถึงชีวิตได้เลยค่ะ

                วิธีการป้องกัน

                • ไม่เดินย่ำ หรือในที่ที่มีน้ำท่วมขัง ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ให้ใส่รองเท้าบูทยาง ถุงมือยาง เป็นต้น
                • ฉีดวัคซีนให้สัตว์เลี้ยง เพื่อป้องกันโรค และไม่สัมผัสสัตว์ที่ไม่น่าไว้วางใจ หรืออาจเป็นพาหะ
                • กำจัดหนู และปรับปรุงสิ่งแวดล้อมให้ถูกสุขลักษณะ เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของหนู
                • เมื่อสัมผัสโดนสิ่งสกปรก รีบอาบน้ำ ทำความสะอาดร่างกายโดยเร็ว เพื่อป้องกันโรค

                หน้าฝนนี้ลูกๆ คุณแม่ และทุกคนในครอบครัวจะไม่เจ็บป่วย ไม่สบายกันอย่างแน่นอน หากรู้เท่าทันพาหะนำโรค ที่แฝงมากับฤดูฝน รวมถึงการดูแลระมัดระวังรักษาสุขภาพอย่างใกล้ชิด รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่ พักผ่อนให้เพียงพอ และฉีดวัคซีนอย่าง วัคซีนไข้หวัดใหญ่ และวัคซีนสำหรับเด็กที่กำหนดให้ตามช่วงวัยค่ะ …ด้วยความห่วงใย

                 

                เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่


                อ่านบทความอื่นที่น่าสนใจ

                7 สัญญาณ “ทารกพัฒนาการช้า” พ่อแม่สังเกตได้ตั้งแต่แรกเกิด

                รู้เท่าทัน ! 5 โรคที่เด็กๆ ป่วยกันมากในหน้าฝน

                ไข้เลือดออก และไวรัสซิการะบาดช่วงหน้าฝน

                  อาการคนท้อง เริ่มเมื่อไหร่

                  อาการคนท้อง เริ่มเมื่อไหร่? อาการไหนแปลว่า ท้องชัวร์!!

                  คลื่นไส้ อาเจียน เต้านมคัด อาการก่อนรู้ว่าท้อง ที่แม่ ๆ มักจะเจอ แล้ว อาการคนท้อง เริ่มเมื่อไหร่? อาการเตือน คนเริ่มท้อง เป็นแบบไหน อ่านได้ที่นี่

                  อาการคนท้อง เริ่มเมื่อไหร่? อาการไหนแปลว่า ท้องชัวร์!!

                  ก่อนประจำเดือนจะขาด หรือก่อนที่จะสามารถตรวจว่าท้องหรือไม่จากชุดตรวจการตั้งครรภ์ ผู้หญิงบางคนก็มักจะมีอาการแปลก ๆ ให้ชวนสงสัยว่าท้องหรือไม่? อาการเหล่านี้ จะเริ่มขึ้นได้เมื่อไหร่? และอาการเหล่านี้แปลว่าท้องหรือแค่คิดไปเอง มาหาคำตอบกันค่ะ

                  อาการคนท้อง เริ่มเมื่อไหร่?

                  สำหรับผู้หญิงบางคน ก็มีอาการของคนท้องได้ตั้งแต่ 1-2 อาทิตย์ ก่อนประจำเดือนจะขาด หรือจะเรียกได้ว่าหลังจากมีเพศสัมพันธ์ 1-2 อาทิตย์เลยก็ว่าได้ ซึ่งโดยปกติแล้ว เมื่อตั้งครรภ์ ร่างกายจะมีการเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างมากอยู่แล้ว ทำให้ผู้หญิงหลาย ๆ คนรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ จนเกิดความสงสัย และนำไปสู่การตรวจครรภ์หลังจากประจำเดือนขาดนั่นเอง

                  แต่ในหลาย ๆ ครั้ง อาการที่ดูเหมือนว่าจะท้อง กลับคล้ายกับอาการทั่วไปของผู้หญิงในช่วงก่อนมีประจำเดือน ทำให้สาว ๆ หลายคนไม่แน่ใจว่าท้องหรือไม่ท้องกันแน่ ดังนั้น ทีมแม่ ABK ขอรวบรวมอาการที่บ่งบอกว่าท้อง ที่เกิดขึ้นก่อนประจำเดือนจะขาด ดังนี้

                  9 อาการคนท้อง ที่มักจะเกิดขึ้นก่อนประจำเดือนขาด

                  1. เต้านมนุ่มและหนัก

                  เต้านมเป็นส่วนแรกของร่างกายที่เปลี่ยนแปลงเมื่อเกิดการปฏิสนธิ ทำให้อาจเกิดความรู้สึกเสียว ๆ บริเวณเต้านม และรู้สึกเจ็บหรือไวต่อการสัมผัส นั่นเป็นเพราะฮอร์โมนเอสโตรเจนที่เริ่มเพิ่มสูงขึ้นนั่นเอง สัญญาณที่พบนี้อาจมีลักษณะคล้ายกับช่วงก่อนมีประจำเดือน

                  2. ลานนมมีสีดำคล้ำ

                  ลานนม (บริเวณรอบ ๆ หัวนม) จะมีสีดำและคล้ำขึ้น อีกทั้งมีขนาดที่ขยายใหญ่ขึ้น การเปลี่ยนแปลงนี้ มักจะไม่เกิดกับอาการช่วงก่อนมีประจำเดือนของผู้หญิงทั่วไป และคุณอาจจะพบว่ามีตุ่มเล็ก ๆ คล้าย ๆ ตอนขนลุก ขึ้นมาบริเวณลานนม (ซึ่งตุ่มเหล่านี้มีหน้าที่หล่อลื่นหัวนมไม่ให้แห้งจนเกินไป)

                  3. อ่อนเพลีย

                  หากเกิดอาการอ่อนเพลียโดยไม่มีสาเหตุ นั่นอาจเป็นสัญญาณของการตั้งครรภ์ได้ นั่นเป็นเพราะการเปลี่ยนแปลงของร่างกายที่เตรียมพร้อมสำหรับการตั้งครรภ์ บวกกับฮอร์โมนสำหรับการตั้งครรภ์ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงทำให้คุณรู้สึกเหนื่อยและง่วงนอนตลอดเวลา แต่อย่าลืมว่าอาการอ่อนเพลียและง่วงนอนนี้ อาจจะเป็นอาการก่อนมีประจำเดือนทั่วไป หรืออาจเป็นเพราะคุณเครียด นอนน้อย หรือเหนื่อยจนเกินไปได้ ดังนั้น จึงควรดูอาการก่อนรู้ว่าท้องอื่น ๆ ร่วมด้วย

                  4. คลื่นไส้ วิงเวียน

                  ไม่กี่วันหลังการปฏิสนธิ คุณอาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน วิงเวียนศีรษะ (อาการเหล่านี้เรียกได้ว่าอาการแพ้ท้องเลยแหล่ะค่ะ) อาการแพ้ท้องนี้ เป็นอาการที่มักจะเกิดขึ้นกับคนท้อง จึงเป็นสัญญาณเตือนของการตั้งครรภ์ในระยะแรก โดยจะเกิดขึ้นในช่วงปลายของการขาดประจำเดือนครั้งแรก แต่อาการเหล่านี้ ก็อาจเป็นอาการทั่วไปของผู้หญิงก่อนมีประจำเดือน หรืออาหารเป็นพิษได้เช่นกัน

                  5. ไวต่อกลิ่น

                  คุณอาจจะรู้สึกไม่อยากรับประทานอาหารที่ชอบ และกลิ่นของอาหารอาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ หญิงตั้งครรภ์ที่เพิ่งตั้งครรภ์ใหม่ ๆ บางคนมีความสามารถในการดมกลิ่นสูงขึ้นในช่วงต้นเนื่องจากระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนเพิ่มขึ้นนั่นเอง

                  6. ท้องอืด

                  บริเวณท้องน้อยอาจจะขยายใหญ่ขึ้นเล็กน้อย คุณจะรู้สึกหนัก ๆ ท้อง แขม่วท้องได้ยาก และมีอาการท้องอืด อาการเหล่านี้เกิดจากฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน (Progesterone Hormone) ที่ชะลอระบบการย่อยในกระเพาะอาหาร

                  7. ปัสสาวะบ่อย

                  คุณจะเริ่มรู้สึกปวดปัสสาวะตลอดเวลา และจะปวดปัสสาวะบ่อยขึ้นในช่วงเวลากลางคืน ซึ่งหลังจากที่มีการตั้งครรภ์ ฮอร์โมนหลายอย่างในร่างกายจะมีการเปลี่ยนแปลงทำให้ร่างกายมีการผลิตเลือดเพิ่มขึ้น เป็นสาเหตุของการปัสสาวะบ่อยขึ้นเมื่อมีการตั้งครรภ์ เพราะเมื่อไตมีการกรองเลือดมากขึ้น ก็จะทำให้ปริมาณของปัสสาวะเพิ่มมากขึ้นด้วย

                  8. อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้น

                  หากคุณคอยตรวจวัดอุณหภูมิของร่างกายตนเองเป็นประจำอยู่แล้ว คุณจะรู้ได้ว่า โดยทั่วไป อุณหภูมิร่างกายจะเพิ่มสูงขึ้นในช่วงเวลาของการตกไข่ และอุณหภูมิร่างกายจะลดลงเมื่อมีประจำเดือน แต่หากคุณตั้งครรภ์ อุณหภูมิจะสูงขึ้นหลังจากการตกไข่ ไปจนตลอดการตั้งครรภ์ ดังนั้น หลังวันที่ตกไข่ ให้วัดอุณหภูมิร่างกายติดต่อกัน 18 วันหรือมากกว่านั้น หากอุณหภูมิร่างกายยังคงสูงขึ้นติดต่อกัน จะถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีในการตั้งครรภ์

                  9. มูกบริเวณปากมดลูก

                  ให้ลองสังเกตมูกที่ออกมาจากช่องคลอด ว่าหากมีลักษณะเหนียวข้น คล้ายมูกในวันที่ไข่ตก นั่นคือสัญญาณที่ดีในการตั้งครรภ์เช่นกัน

                  อาการก่อนรู้ว่าท้อง
                  อาการก่อนรู้ว่าท้อง

                  อาการที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ อาจเกิดขึ้นได้จากสาเหตุทางการแพทย์อื่น ๆ ไม่ใช่เพียงแค่อาการคนท้องเท่านั้น ควรตรวจผลที่แน่ชัด จากการตรวจด้วยชุดทดสอบการตั้งครรภ์หรือการตรวจสอบโดยแพทย์ ดังนั้น หากคุณมีสัญญาณเตือนเหล่านี้ สิ่งที่ควรจะทำต่อไปคือ

                  สิ่งที่ควรทำหลังจากมีอาการคนท้อง

                  ถ้าคุณพบกับสัญญาณเตือนเหล่านี้ก่อนที่จะขาดประจำเดือน ก็อาจจะสันนิฐานได้ว่ากำลังมีการตั้งครรภ์ แต่บางครั้งก็อาจเป็นเพียงอาการก่อนประจำเดือนมา หรืออาการที่เกี่ยวกับสุขภาพเรื่องอื่น ๆ ดังนั้นให้คุณรอประมาณ 1-2 สัปดาห์หลังขาดประจำเดือน แล้วทำการตรวจสอบด้วยชุดทดสอบการตั้งครรภ์

                  การทดสอบครรภ์ที่เร็วเกินไปอาจทำให้ผลที่ได้ออกมาเป็นลบ เนื่องจากฮอร์โมน HCG (Human Chorionic Gonadotropin Hormone) ยังคงมีระดับต่ำอยู่ จึงต้องรอให้ฮอร์โมน HCG มีระดับที่เพิ่มสูงขึ้นก่อนแล้วค่อยทำการทดสอบ แต่ถ้าผลยังคงออกมาเป็นลบ การตรวจเลือดก็เป็นอีกการตรวจหนึ่งที่จะช่วยบอกผลได้

                  การตรวจเลือดจะให้ผลการตรวจที่แม่นยำ แต่อาจจะไม่ใช่ในระยะแรกของการตั้งครรภ์ ซึ่งต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์หลังจากที่มีการขาดประจำเดือนจึงจะสามารถตรวจเพื่อยืนยันผลการตั้งครรภ์ได้ โดยในระหว่างนี้คุณอาจจะเริ่มต้นที่จะดูแลตัวเองก่อน ดังนี้

                  • นอนหลับให้เพียงพอ รับประทานอาหารให้มาก และดื่มน้ำให้บ่อยขึ้น
                  • บริโภคอาหารที่มีวิตามิน และเกลือแร่ที่ประกอบไปด้วยกรดโฟลิค และธาตุเหล็กให้เพียงพอ
                  • งดการสูบบุหรี่ และการดื่มแอลกอฮอล์ หลีกเลี่ยงอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ ไม่ใช้ยานอกเหนือจากที่แพทย์สั่ง

                  แต่ต้องอย่าลืมว่าผู้หญิงบางคน อาจจะไม่มีอาการแสดงให้เห็นเลยว่าตั้งครรภ์หรือกำลังจะตั้งครรภ์ ซึ่งการที่ไม่มีอาการคนท้อง ไม่ได้หมายความว่าคุณจะไม่ได้ท้องนะคะ อาจจะกำลังตั้งครรภ์อยู่ เพียงแต่ไม่มีอาการเท่านั้นเอง ดังนั้น สิ่งเดียวที่จะให้ผลอย่างแน่นอนคือการขาดของประจำเดือน และการตรวจจากหมอหรือที่ตรวจครรภ์เท่านั้น ดังนั้น สำหรับผู้หญิงที่ไม่มีอาการอะไรเลย ก็อย่ากังวลนะคะว่าจะไม่ท้อง คุณอาจไม่มีอาการแต่กำลังตั้งครรภ์อยู่ก็เป็นได้

                  อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

                  อาการของคนท้อง ตั้งแต่สัปดาห์แรกจนคลอด มีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้าง

                  เช็กเลย! 15 อาการคนท้องระยะแรก 1-2 สัปดาห์ มีอาการแบบนี้เตรียมเฮเป็นคุณแม่!

                  เรื่องที่แม่ท้องสงสัย ? ไขข้อข้องใจของคุณแม่ตั้งครรภ์

                  คนท้องห้ามกินอะไร 9 อาหาร ที่แม่ท้องควรห้ามใจ เลี่ยงได้เลี่ยงก่อนนะแม่!

                   

                  ขอบคุณข้อมูลจาก : whattoexpect.com, somanao.com

                   

                  เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                    เสียงเล็กๆ จากผลกระทบมหันตภัยโควิด-19 ทำให้เด็กยากจนกว่า 750,000 ชีวิต ต้องอยู่ในภาวะขาดแคลนอาหาร

                    วิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่คุกคามสภาพความเป็นอยู่ของคนทั่วโลก และส่งผลกระทบต่อสภาพความเป็นอยู่ของเราอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ขณะที่ทั้งภาครัฐและเอกชนได้ออกมาตรการต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส  โควิด-19 แต่ความช่วยเหลือส่วนใหญ่ได้มุ่งเน้นไปยังการจัดการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค การกระตุ้นเศรษฐกิจ และมาตรการในการใช้ชีวิตร่วมกันของคนในสังคมที่จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

                    “ท่ามกลางกระแสการปรับตัวและเปลี่ยนแปลงการดำเนินชีวิตในวิกฤตการโควิด-19 ยังมีเสียงเล็ก ๆ จากเด็กยากจนอีกกว่า 750,000 คน ทั่วประเทศที่ต้องการความช่วยเหลือจากสังคมให้พ้นจากสภาวะขาดแคลนอาหารในช่วงปิดเทอม”

                    การปิดเทอมที่ยาวนานกับมื้ออาหารที่หายไป?

                    การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้รัฐบาลต้องประกาศสั่งเลื่อนการเปิดภาคการศึกษาใหม่ไปเป็น วันที่ 1 ก.ค. ทำให้เด็กๆ มีระยะเวลาในการปิดเทอมที่ยาวนานออกไปถึง 45 วัน สำหรับเด็กที่มาจากครอบครัวที่ไม่ขัดสนก็คงจะไม่มีผลกระทบใดๆ แต่เมื่อหันไปมองเด็กๆ ที่มาจากครอบครัวที่ยากจนเราจะพบวิกฤตที่แฝงอยู่ในวิกฤตที่กำลังเผชิญอยู่

                    ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล ประธานกรรมการบริหาร กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) เปิดเผยว่า “ที่ผ่านมาเครือข่ายครูสังกัด สพฐ. ตชด. และ อปท. กว่า 400,000 คนทั่วประเทศได้มีการลงพื้นที่เยี่ยมสำรวจความต้องการของนักเรียนยากจน เพื่อนำมาประเมินสถานการณ์ ความเสี่ยง และผลกระทบที่นักเรียนจะได้รับเนื่องมาจากการปิดเทอมที่ยาวนานขึ้น เราพบว่าปัญหาอันดับหนึ่งที่เกิดขึ้นคือความกังวลจากการเพิ่มภาระรายจ่ายค่าอาหารของครอบครัว และยิ่งไปกว่านั้นพบว่าเด็กๆ กำลังประสบปัญหาการขาดแคลนอาหาร เนื่องมาจากเด็กส่วนใหญ่พึ่งพาอาหารกลางวันที่ครบห้าหมู่จากโรงเรียนเป็นหลัก เมื่อการเปิดเทอมถูกเลื่อนออกไปจึงทำให้เด็กเหล่านี้ประสบสภาวะทุพโภชนาการและต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน”

                    กสศ.ในฐานะที่เป็นองค์กรทำงานเพื่อสร้างความเสมอภาคทางการศึกษาด้วยการยื่นมือเข้าไปให้ความช่วยเหลือผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษามาโดยตลอด ซึ่งเป็นเวลากว่า   2 ปีมาแล้วที่ กสศ. ได้เข้าไปช่วยเหลือ สนับสนุน และส่งเสริมพัฒนา เด็ก เยาวชน ทั้งที่อยู่ในระบบและนอกระบบการศึกษา ตลอดจนการให้ความช่วยเหลือแก่ครู ผู้พิการ และประชาชนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์และด้อยโอกาสกว่า 1,147,754 คน ครอบคลุม 27,731 โรงเรียนทั่วประเทศไทย 

                    เมื่อเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 กสศ. จึงเร่งดำเนินการเข้าไปช่วยเหลือกลุ่มเด็กยากจนพิเศษที่กำลังประสบปัญหาอย่างเร่งด่วน ในเบื้องต้น กสศ. ได้ใช้งบประมาณที่ได้คืนมาจากรัฐบาลรวมกับงบประมาณฉุกเฉิน รวมเป็นเงิน 500 ล้านบาท และได้เร่งนำไปแจกจ่ายช่วยเหลือให้กับนักเรียนยากจนจำนวนคนละ 600 บาท เป็นค่าอาหารเบื้องต้น 30 วัน ซึ่งเฉลี่ยแล้วจะได้คนละเพียง 20 บาทต่อวันเท่านั้นเอง ซึ่งเงินจำนวนนี้นับเป็นเงินฉุกเฉินเบื้องต้นที่ กสศ. ได้ดำเนินการเยียวยาเด็กๆ ที่กำลังประสบปัญหาอย่างเร่งด่วน

                    อย่างไรก็ตามยังมีช่องว่างอีก 15 วันก่อนที่จะถึงวันเปิดเทอมที่ กสศ. จำเป็นต้องออกมาระดมทุนผ่านโครงการ “สู้วิกฤตให้น้องอิ่ม คนละมือ เพื่อมื้อน้อง” ซึ่งต้องการความช่วยเหลือจากภาคเอกชนและประชาชนทั่วไปให้มีส่วนร่วมในการช่วยเหลือสนับสนุน และร่วมสมทบทุนเพื่อเติมเต็มมื้ออาหารให้กับเด็กๆ

                    จากการลงพื้นที่ของเครือข่ายครูเพื่อรายงานสภาพความเป็นอยู่ของเด็กนักเรียนยากจนและจากพื้นที่ทุรกันดาร พบว่าเด็ก ๆ ที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลและถิ่นทุรกันดารมักจะไม่ได้รับสารอาหารครบ 5 หมู่ โดยบางบ้านเด็ก ๆ ต้องกินข้าวต้มกับเกลือเสียด้วยซ้ำ นอกจากนั้นยังพบว่าบางครัวเรือนที่ผู้ปกครองมีอาชีพหาเช้ากินค่ำ จะประสบปัญหาไม่มีเงินซื้ออาหารเนื่องมาจากโดยปกติเด็กจะพึ่งพาอาหารเช้าและอาหารกลางวันจากโรงเรียน เมื่อมีการปิดเทอมที่ยาวนานขึ้นจึงทำให้เด็กต้องอดมื้อกินมื้อ การปิดเทอมที่ยาวนานนี้ หากมองจากมุมของผู้มีอันจะกินคงมิใช่ปัญหา แต่หากมองในมุมของเด็กๆ เหล่านี้มันคือสภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงหรือแก้ไขได้ในระยะเวลาอันสั้น แต่ก็คือเรื่องจริงที่กำลังเกิดขึ้นในสังคมและต้องการความช่วยเหลือและร่วมมือกันแก้ไขอย่างจริงจัง

                    อาจารย์สง่า ดามาพงษ์ นักวิชาการด้านโภชนาการ ที่ปรึกษาโครงการ สู้วิกฤตให้น้องอิ่ม คนละมือ เพื่อมื้อน้อง กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) กล่าวเพิ่มเติมว่า “ปัญหาที่พบบ่อยในการติดตามพัฒนาการของเด็กยากจนคือ สภาวะทุพโภชนาการ หรือการที่เด็กไม่ได้รับสารอาหารครบถ้วน โดยเด็กๆ เหล่านี้ต้องการอาหารที่ครบ 5 หมู่ ซึ่งจำเป็นต่อพัฒนาการทั้งด้านร่างกาย สติปัญญา สมอง ซึ่งหากเด็กๆ ไม่ได้รับสารอาหารที่เพียงพอจะส่งผลกระทบให้มีอาการสมองฝ่อ ร่างกายเตี้ย ผอมแคระแกร็น ซึ่งจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อการเรียนและพัฒนาการทางสติปัญญา ที่ผ่านมาพบว่าเด็กที่มีปัญหาจะอยู่ในถิ่นทุรกันดารหรือมาจากครอบครัวที่ยากจน โดยเด็กมักจะไม่ได้รับสารอาหารที่เพียงพอในระหว่างปิดภาคเรียนเนื่องมาจากความยากจน ซึ่งเด็กเหล่านี้จะพึ่งพาอาหารที่ถูกหลักโภชนาการจากโรงเรียน ดังนั้นเมื่อกำหนดเปิดภาคการศึกษาถูกเลื่อนออกไปจึงส่งผลกระทบโดยตรงต่อเด็กกลุ่มดังกล่าวโดยตรง เพราะโรงเรียนไม่ใช่แค่สถานที่เรียนรู้ แต่คือโรงครัวของเด็กๆ ที่ยากจน”

                    ปัญหาปากท้องของเด็กยากจนในช่วงปิดเทอมที่ยาวนานอาจจะเป็นปัญหาระยะสั้นที่ต้องเร่งมือกันช่วยแก้ไข แต่ปัญหาระยะยาวนั้นมีผลกระทบเป็นทอดๆ และต่อเนื่องในหลากหลายมิติ ซึ่งสภาวะขาดแคลนของครอบครัวที่ขาดรายได้นอกจากจะส่งผลกระทบต่อตัวเด็กแล้ว ยังเชื่อมโยงเป็นลูกโซ่จนสามารถส่งผลกระทบให้เด็กเหล่านั้นจำต้องออกจากระบบการศึกษาในที่สุด และแน่นอนว่าการที่เด็กคนหนึ่งจำต้องออกจากระบบการศึกษาจะส่งผลโดยตรงต่อโอกาสในชีวิตของเด็กและสามารถกลายมาเป็นปัญหาอื่นๆ ให้กับสังคมได้อีกมากมาย

                    ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการบริจาคเพื่อช่วยเหลือเด็กที่ยากจนพิเศษจำนวนกว่า 750,000 คนทั่วประเทศ ในโครงการ #สู้วิกฤตให้น้องอิ่ม กับกสศ. ผ่านบัญชีธนาคารกรุงไทย ชื่อบัญชี : กสศ.มาตรา 6(6) เลขบัญชี : 172-0-30021-6 หรือ www.eef.or.th/donate-covid/ หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 02-079-5475

                      Tags

                      ลูกโดนรังแก

                      ลูกโดนรังแก บ่อยควรสอนให้สู้ไม่ถอย หรือหนีเอาตัวรอดเป็น

                      ลูกโดนรังแก โดนเพื่อนแกล้งดูเหมือนเป็นเรื่องธรรมดาที่เด็กทุกวัยต้องเจอ แต่จริงๆแล้วมันคือปัญหาใหญ่ที่สร้างแผลในใจให้กับลูกน้อยไม่มากก็น้อย ยิ่งถ้าการกลั่นแกล้งนั้นกระทบต่อการใช้ชีวิต การเรียนของลูกด้วยแล้ว เท่ากับสร้างความเจ็บปวดให้กับพ่อแม่ไม่ต่างกัน

                       ลูกโดนรังแก แบบนี้พ่อแม่ควรทำอย่างไรดี

                      แต่พ่อแม่อย่างเราควรสอนให้ลูกแก้เกมอย่างไรถึงจะเหมาะสม? ถ้าสอนให้ลูกเดินหนี กลายเป็นคนอ่อนแอและขี้กลัวหรือเปล่า? แต่ถ้าให้ลูกสวนกลับจะกลายเป็นว่าสอนให้ลูกใช้ความรุนแรงหรือไม่ สถานการณ์แบบนี้ควรตัดสินใจอย่างไรดี Amarin Baby & Kids รวมรวมคำตอบมาคลายข้อสงสัย เข้าใจง่าย ตามสไตล์ นพ.ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ จิตแพทย์และนักเขียน ผู้เชี่ยวชาญเรื่องพฤติกรรมเด็กมาแนะนำกันค่ะ

                      ลูกโดนรังแก

                      เช็กก่อนลูกโตพอรับมือเองหรือยัง

                      สำหรับเด็กเล็กอายุไม่ถึง 5 ขวบ จะปล่อยให้ตัดสินใจเองว่าจะสู้หรือถอยคงไม่ได้ เพราะลูกน้อยยังปกป้องตัวเองไม่ได้ ต้องการคนดูแล ฉะนั้นพ่อแม่ควรยื่นมาเข้าไปช่วยอย่างเต็มในทุกกรณี ถึงจะเป็นเด็กผู้ชาย ซึ่งดูเหมือนว่าจะอดทนได้มากกว่าผู้หญิง แต่จิตใจของเด็กนั้นบอบบางเท่ากัน จึงไม่ใช่เวลามาฝึกฝนความเข้มแข็ง หากลูกโดนเพื่อนรังแก ไม่ว่าจะเป็นทางร่างกาย หรือคำล้อเลียนให้เสียใจ พ่อแม่ควรจับสัญญาณนั้นให้ไวและเข้าไปช่วยลูกทันที กรณีที่เกิดเหตุในโรงเรียน ควรขอความช่วยเหลือจากคุณครูประจำชั้นให้เป็นหูเป็นตาให้

                      MUST READ:  5 วิธีสังเกต ลูกโดนแกล้งที่โรงเรียน หรือไม่

                      MUST READ:  ลูกโดนแกล้ง พ่อแม่ช่วยได้ ป้องกันก่อนสายใช้กำลัง- ฆ่าตัวตาย

                      จะเลือกเดินหนี หรือสู้กลับดี

                      เวลา ลูกโดนรังแก ที่โรงเรียน คุณครูอาจปกป้องเด็กๆ ทุกคนได้ไม่ทัน ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรสอนลูก วัย 2-5 ขวบรู้จักวิธีบอกคุณครูเมื่อถูกเพื่อนแกล้งไม่ว่าจะหนักหรือเบา ให้ลูกคิดไว้เสมอว่า “ไม่ว่าใครก็ไม่มีสิทธิ์รังแกคนอื่น” และ “ลูกต้องปกป้องตัวเองจากเรื่องนี้” เมื่อไหร่ก็ตามที่โดนเพื่อนแกล้ง ต้องบอกให้คนช่วยทันที ไม่จำเป็นต้องนิ่งเฉย สอนให้ลูกกล้าเดินไปบอกครูว่า “เพื่อนคนไหนแกล้ง โดนแกล้งอย่างไร” ขณะเดียวกันคุณพ่อคุณแม่ควรแจ้งครูไว้ด้วยว่าได้สอนลูกเรื่องนี้ไว้ และอยากฝากให้คุณครูช่วยดูแลต่อด้วย

                      ลูกโดนรังแก

                      กรณีที่เกิดเหตุการณ์เฉพาะหน้า เช่น โดนท้าต่อย หรือแกล้งจนเจ็บตัวแล้ว พ่อแม่ควรเปิดไฟเขียวให้ลูกโต้กลับ เพื่อป้องกันตัวเอง เพราะเด็กที่แกล้งคนอื่นมักชอบรังแกคนอ่อนแอกว่า ตัวเล็กน้อย หรือเป็นรุ่นน้อง แต่ถ้าลูกแสดงท่าทีว่า ไม่กลัว และพร้อมจะตอบโต้เหมือนกัน เด็กเหล่านี้ก็จะเลิกแกล้งไปเอง พ่อแม่ควรเปิดโอกาสให้ลูกเลือกว่า สถานการณ์เฉพาะหน้าจะ “เดินหนี” หรือ “สู้กลับ” ด้วยตัวเอง เพราะไม่ว่าแบบไหนก็ไม่มีถูก ไม่มีผิด แต่ถ้าลูกทำไปแล้วควรตั้งเงื่อนไขว่าต้องกลับมาเล่าให้พ่อแม่ฟังทุกครั้ง เพื่อจะช่วยคิดต่อไป

                      คุณแม่สามารถยกหน้าที่นี้ให้คุณพ่อเป็นคนดูแล สอนศิลปะการป้องกันง่ายๆไว้เป็นวิชาติดตัว ที่สำคัญต้องย้ำว่าห้ามทำไปทำร้ายคนอื่นเด็กขาด หากลูกไม่รังแกใคร พ่อแม่จะอยู่ข้างลูกเสมอ แต่ถ้าทำกลับกัน ถ้าครูลงโทษพ่อแม่จะไม่ช่วยเด็ดขาด

                      ลูกโดนรังแก

                      ตั้งใจฟังทุกปัญหาของลูก

                      นี่คือสิ่งที่พ่อแม่ไม่ควรมองข้าม การตั้งใจฟังเรื่องราวและสิ่งที่ลูกตัดสินใจทำไป ช่วยให้ลูกรู้สึกว่าพ่อแม่อยู่เคียงข้างเสมอ ไม่ว่าตัวจะไม่อยู่ด้วยก็ตาม เมื่อรับฟังแล้วให้ถามลูกกลับว่า “สิ่งที่ทำลงไปลูกชอบ หรือไม่ชอบ” ถ้าไม่ชอบจะแก้ไขอย่างไร ถ้าเพื่อนยังแกล้งไม่หยุด ลูกต้องเปลี่ยนวิธีรับมือใหม่หรือเปล่า  ควรใช้คำถามว่า “ชอบหรือไม่ชอบ” เด็กเล็กจะเข้าใจได้ง่ายกว่า “ดีหรือไม่ดี”

                      จากนั้นค่อยๆพัฒนาทักษะชีวิตเกี่ยวกับการเอาตัวรอดในสถานการณ์คับขันให้กับลูก ไม่ว่าจะเลือกสู้ต่อหรือถอยหนี ก็ไม่ต้องห่วงว่าการตัดสินใจนั้นจะทำให้ลูกกลายเป็นเด็กขี้ขลาด หรือก้าวร้าวเมื่อโตขึ้น  เพราะสุดท้ายแล้ว ลูกแค่ไม่ชอบที่ตัวเองโดนรังแกเท่านั้นเอง

                      ลูกชอบรังแกเพื่อนต้องรีบแก้

                      ถ้าลูกชอบแกล้งเพื่อน คนที่สามารถปรับพฤติกรรมได้ดีที่สุดคือ พ่อกับแม่ โดยสอนเพียงสั้นๆและชัดเจนว่า “พ่อแม่ไม่ชอบที่ลูกทำคนอื่นเจ็บ ทำคนอื่นร้องไห้” ไม่จำเป็นต้องยกตัวอย่างเหตุการณ์ หรือให้เหตุผลยืดยาว หากลูกไม่ยอมเชื่อฟัง นั่นหมายความว่า คุณพ่อคุณแม่ต้องกลับมาพิจารณาตัวเองว่ามีเวลาเอาใจใส่ดูแลลูกมากพอหรือยัง ถ้ายังต้องรีบเติมเต็มส่วนนี้ทันที เพื่อให้ลูกรู้สึกว่าพ่อแม่มีตัวตนอยู่จริงและเกิดสายสัมพันธ์แน่นแฟ้น ท้ายที่สุดลูกจะยอมทำตามด้วยความเต็มใจ

                      รู้ได้อย่างไรว่า ลูกโดนรังแก

                      *ลูกมีท่าทีเปลี่ยนไป เช่น กลับมาจากโรงเรียนแล้ว เก็บตัวเงียบซีม ไม่พูดไม่จา เงียบ  นี่เป็นสัญญาณที่บอกให้คุณพ่อคุณแม่ทราบแล้วละว่า ลูกของเรามีปัญหาที่โรงเรียน

                      *มีรอยแผลตามเนื้อตัว ลองสังเกตดูว่าบาดแผลบนร่างกายลูกหรือ อย่าเพิ่งดุ หรือซักไซ้ด้วยความโมโหนะคะ แต่ให้ถามลูกดี ๆ ว่า “เจ็บไหม ไปโดนอะไรมาลูก ไหนเล่าให้คุณพ่อคุณแม่ฟังสิจ้ะ”

                      *ลูกไม่มีเพื่อนด้วย ปกติเด็กจะมีเพื่อนที่โรงเรียน ถึงจะไม่มีเพื่อนเยอะแต่ก็น่าจะมีเพื่อนสนิทสัก 1-2 คน แต่ถ้าถามดูแล้วลูกไม่มีเพื่อน ให้ลองหาคำตอบว่าทำไมลูกถึงไม่มีเพื่อน เพราะอาจมีความลับซุกซ่อนอยู่

                      *ลูกไม่อยากไปโรงเรียน เป็นพฤติกรรมที่แสดงชัดเจนว่าลูกกำลังมีปัญหาที่โรงเรียน ไม่ว่ากับคุณครู เพื่อน หรือรุ่นพี่ คุณพ่อคุณแม่ต้องพยายามค้นหาคำตอบที่แท้จริงให้เจอ

                      *ครูหรือเพื่อนของมาเล่าให้ฟัง เวลาอยู่โรงเรียนครูกับเพื่อนเป็นคนที่ใกล้ชิด และเห็นพฤติกรรมของลูกได้ดีที่สุด ฉะนั้นคุณพ่อคุณแม่อาจฝากฝังให้พวกเขาช่วยคอยดูแลลูก ถ้ามีอะไรให้มาบอกทันที

                       


                      ที่มาข้อมูล   เพจนายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์

                      บทความน่าสนใจอื่นๆ

                      6 วิธีคุยกับลูก ขี้หงุดหงิด อารมณ์แปรปรวน (เริ่ม 6 ขวบ+)

                      5 วิธีสังเกต ลูกโดนแกล้งที่โรงเรียน หรือไม่

                       

                      7 วิธีสร้างเกราะป้องกัน ลูกถูกบูลลี่ และไม่ให้ลูกบูลลี่คนอื่น

                      เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                       

                       

                        Tags

                        โรงแรมที่มี Kid club

                        รวม โรงแรมที่มี Kid club ทั่วไทย ตอบโจทย์โดนใจครอบครัวที่มีเด็กๆ

                        จะดีแค่ไหนที่โรงแรมที่ไปพักผ่อน มีสโมสรสำหรับเจ้าตัวเล็ก มีสระว่ายน้ำ ที่มีเครื่องเล่นเหมาะกับเด็ก ๆโดยเฉพาะ ให้ได้ฟิน ได้สนุกกับตลอดทั้งวัน ทีมแม่ ABK ได้รวบรวม โรงแรมที่มี Kid club ทั่วไทย มาให้คุณพ่อคุณแม่ได้เลือกพาเจ้าตัวเล็กไปพักผ่อนอย่างสนุกสนานในวันหยุดสุดหรรษานี่กัน มีที่ไหนบ้างมาดูกันเลย

                        รวม โรงแรมที่มี Kid club ทั่วไทย ตอบโจทย์โดนใจครอบครัวที่มีเด็ก ๆ

                        1.โรงแรมอมารี หัวหิน : Amari Hua Hin

                        Amari Hua Hin
                        credit photo : www.amari.com/huahin

                        อมารี หัวหิน โรงแรมที่ออกแบบตกแต่งสวยงามสไตล์รีสอร์ทร่วมสมัย มีบรรยากาศที่เงียบสงบและผ่อนคลายท่ามกลางธรรมชาติ มีห้องพักในหลากหลายรปแบบรวมถึงห้องแฟมิลี่ สวีท (Family Suites) ที่จะพาครอบครัวมาใช้เวลาร่วมกันและพักผ่อนในวันหยุดสบาย ๆ สะดวกสบายด้วยเครื่องอำนวยความสะดวกที่ครบครันทุกห้องพัก รวมถึงกิจกรรมต่างๆ มากมาย เช่น สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ที่มีความยาว 40 เมตร และคิดส์คลับสำหรับคุณหนู ๆ ที่มีทั้งกิจกรรมศิลปะ, งานฝีมือ ที่จะช่วยเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ และเกมส์หลากหลายแบบว้บริการ ถ้าคุณพ่อคุณแม่กำลังมองหาที่พักที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนกับครอบครัว ที่นี่เป็นอีกที่ที่ตอบโจทย์เลยค่ะ

                        Amari Hua Hin
                        โทร. 032 616 600
                        ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.amari.com/huahin

                        2.โรแรมอมารี พัทยา : Amari PATTAYA

                        Amari PATTAYA
                        Credit Photo : www.th.amari.com/pattaya/

                        โรงแรมอมารี พัทยา โรงแรมสุดหรูที่ติดชายหาด นอกจากได้พักชมวิวบรรยากาศที่สวยงามแล้ว ยังเป็นโรงแรมแฟมิลี่ ที่มี Kids Club “ทรีเฮ้าส์ คิดส์ คลับ” ที่ออกแบบมาเพื่อสร้างความประทับใจที่น่าจดจำสำหรับนักเดินทางตัวน้อยที่เข้าพัก โดยอัดแน่นไปด้วยกิจกรรมสำหรับคุณหนูมากมาย อาทิเช่น วาดรูป ระบายสี กิจกรรมล่าสมบัติ เล่านิทานร้องเพลง เต้นรำ ดูหนัง หรือเล่นเกมส์ พร้อมทั้งมุมหนังสือเด็กและเครื่องเล่น ของเล่นมากมาย ทั้งเก้าอี้โยกของเล่นตุ๊กตานุ่มๆ เต็นท์ ชุดรถไฟ ฯลฯ โดยใน Kids Club จะมีพี่เลี้ยงค่อยดูแลน้อง ๆ อย่างใกล้ชิด ให้เด็ก ๆ สนุกสนานได้เต็มที่ คุณพ่อคุณแม่สบายใจไม่ต้องห่วง พักผ่อนชาร์ตแบตกันได้อย่างเต็มที่เลยละคะ

                        Amari PATTAYA
                        โทร. 038 418 418
                        ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.th.amari.com/pattaya

                        3.อนันตรา หัวหิน รีสอร์ท :  Anantara Resort Hua Hin

                        Anantara Resort Hua Hin
                        Credit Photo : www.anantara.com

                        อนันตรา หัวหิน รีสอร์ท ที่พักติดทะเลการมาพักแบบครอบครัวแบบสุด ๆ เพราะนอกจากจะได้นอนพักชิลกับวิวทะเลสวย ๆ แล้ว ภายในรีสอร์ทยังมุมถ่ายรูปสวย ๆ มากมาย รวมทั้งยังมีสระว่ายน้ำและ Kids club บ้านปลาน้อย ให้เจ้าตัวเล็กเล่นเพลินไปกับกิจกรรมสนุก ๆ และของเล่นมากมาย มีตั้งแต่งานศิลปะ งานฝีมือ ไปจนถึงกีฬา การสอนทำอาหาร ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีสระว่ายน้ำท่ามกลางสวนสวยเขียวขจีให้ได้เวลาร่วมกันกับครอบครัวได้ฟินในวันหยุดที่มาพักผ่อนกันเลยค่า

                        Anantara Resort Hua Hin
                        โทร. 032 520 250
                        ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.anantara.com

                        4.โรงแรมอวานี พลัส ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ : Avani+ riverside Bangkok Hotel

                        Avani+ riverside Bangkok Hotel
                        Credit photo : www.facebook.com/avanibangkok

                        พาตัวเองและครอบครัวไปพักผ่อนดื่มด่ำกับวิวพาโนรามายามค่ำคืนของตัวเมืองกรุงเทพฯ และริมแม่น้ำที่ โรงแรมอวานี พลัส ริเวอร์ไซด์ ตื่นขึ้นมาในห้องพักท่ามกลางวิวสวยงามน่าประทับใจ โดยห้องพักแต่ละห้องสามารถมองทอดออกไปยังแม่น้ำและเส้นขอบฟ้าของตัวเมือง และถูกออกแบบสไตล์สดใส ทันสมัย ในบรรยากาศสบาย ๆ ชวนผ่อนคลายและสดชื่น

                        และแน่นอนเมื่อมีเจ้าตัวเล็กมาด้วย การทำให้เด็ก ๆ รู้สึกสนุกอยู่ตลอดเวลาไม่ใช่เรื่องง่าย “อวานีคิดส์” จึงเป็นตัวช่วยที่เด็ก ๆ จะต้องชอบมาก ๆ ในการมาพักครั้งนี้ คุณหนู ๆ ทั้งหลายจะได้รับความเพลิดเพลินสูงสุด ตั้งแต่เช้าไปจนถึงเข้านอน ทั้งของเล่น อาหารสำหรับเด็ก และเซอร์ไพรส์ภายในห้องพักที่รอมอบให้แก่เด็ก ๆ ตลอดช่วงเวลาการพักที่มีเฉพาะที่อวานี และทำให้การเข้าพักของครอบครัวเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำได้แน่นอนค่ะ

                        Avani+ riverside Bangkok Hotel
                        โทร. 02431 9100
                        ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.avanihotels.com

                        5.โรงแรม เซ็นทาราแกรนด์มิราจบีชรีสอร์ท พัทยา : Centara Grand Mirage Beach Resort

                        โรงแรม เซ็นทาราแกรนด์มิราจบีชรีสอร์ท พัทยา
                        Credit Photo : www.centarahotelsresorts.com

                        โรงแรม เซ็นทาราแกรนด์มิราจบีชรีสอร์ท พัทยา เป็นรีสอร์ทระดับห้าดาว ที่มีคอนเซ็ปต์ความสนุกสนานทั้งครอบครัว คู่รัก และคู่ฮันนีมูน ที่จะทำให้ทุกคนได้รับความประทับใจในการมาพักผ่อนครั้งนี้ นอกจากห้องพักหลายรูปแบบทั้งห้องสวีทและแฟมิลี่เรสซิเดนซ์ที่หันหน้าสู่ทะเล ยังมีกิจกรรมที่รองรับสำหรับการมาพักผ่อนครั้งนี้อีกมากมายทั้งกีฬาทางน้ำและสวนน้ำ ที่กว้างใหญ่ซึ่งเป็นไฮไลท์ของที่นี่หรือจะเรียกว่าเป็นสวนน้ำย่อม ๆ เลยก็ได้ค่ะ เพราะมีมีเครื่องเล่นสีสันสดใส Colorful อุโมงค์น้ำหลากสี น้ำพุ เห็ดพ่นน้ำ สไลด์เดอร์ใหญ่ สไลด์เดอร์เด็ก สระน้ำวนที่นั่งลอยไปกับโดนัทขนาดใหญ่ หาดทรายจำลอง ฯลฯ และที่ขาดไม่ได้คือ Kids Club สำหรับเจ้าตัวน้อยที่มีบ้านบอลขนาดยักษ์ เครื่องเล่นเด็กเล็ก สไลเดอร์ เครื่องเล่นเกมส์ ของเล่น การ์ตูน ให้คุณหนูเล่นกันแบบเพลิน ๆ เรียกว่าเป็นที่พักและแหล่งรวมความสนุกไว้ที่เดียวครบสมคอนเซ็นต์เลยค่ะ

                        โรงแรม เซ็นทาราแกรนด์มิราจบีชรีสอร์ท พัทยา
                        โทร. 038 301 234
                        ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.centarahotelsresorts.com

                        6.โรงแรมโฟร์พอยท์ส บาย เชอราตัน กรุงเทพฯ สุขุมวิท 15 : Four Points by Sheraton Bangkok Sukhumvit 15

                        Four Points by Sheraton Bangkok Sukhumvit 15
                        Credit Photo : Four Points by Sheraton Bangkok Sukhumvit 15

                        โฟร์พอยท์สบายเชอราตันกรุงเทพฯสุขุมวิท 15 โรงแรมใจกลางเมือง ที่การเดินทางสะดวก ใกล้กับร้านค้าและสถานบันเทิงมากมาย ตอบโจทย์ได้สุด ๆ เอาใจคนที่ต้องการพักผ่อนและท่องเที่ยวในกรุงเทพฯสำหรับครอบครัวโดยเฉพาะ กับห้อง Family Room ซึ่งถูกตกแต่งแบบเรียบง่ายแต่มีสไตล์ และมีจุดเด่นที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ Four comfort bed เตียง Signature ของโรงแรมโฟรพอยท์ส ที่ไม่ว่าจะนอนมุมไหน ก็ทำให้ทุกคนได้นอนหลับสบาย และความพิเศษของห้อง Family Room ที่เตรียมมาเพื่อเอาใจครอบครัวที่ต้องการจะผ่อนคลายในวันหยุดก็คือ วิดีโอเกมส์ Nintendo Switch และ Play Area สำหรับเด็ก ๆ ที่สามารถเลือกได้ว่าต้องการเป็นเต็นท์ของเล่น หรือที่นั่ง Bean bag หลากสี เพื่อการพักผ่อนที่อบอุ่น และให้คุณพ่อคุณแม่ได้ใช้เวลาร่วมกับคุณหนู ๆ ได้อย่างเต็มที่ นอกจากนั้นห้องของเรายังสามารถเชื่อมต่อเป็น Connecting Room กับห้อง Deluxe ได้อีกด้วย สำหรับครอบครัวที่มากันหลายคน และต้องการความเป็นส่วนตัว เรียกว่าเป็นห้องพักที่คิดส์คลับส่วนตัวให้สำหรับคุณหนู ๆ ได้อย่างดีที่เดียวเลยละค่ะ

                        Four Points by Sheraton Bangkok Sukhumvit 15
                        Tel. 02 309 3000
                        ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.marriott.com

                        7.โรงแรมฟูราม่า เอ็กคลูซีฟ แซนดารา หัวหิน : FuramaXclusive Sandara Hua Hin

                        FuramaXclusive Sandara Hua Hin
                        Credit Photo : www.furama.com

                        โรงแรมฟูรามา เอ็กคลูชีฟ แชนดารา เป็นรีสอร์ทตกแต่งสไตล์โมเดิร์น ตั้งอยู่บนชายหาดที่สวยงามของชะอำ อยู่ห่างจากกรุงเทพฯเพียง 300 กิโลเมตร เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเลือกมาเป็นที่พัก ใช้เวลาร่วมกับครอบครัวในวันหยุดที่ต้องการมาเที่ยวทะเลอีกที่หนึ่งเลยค่ะ นอกจากที่พักหลากหลายรูปแบบแล้ว ยังมีสระว่ายน้ำแสนสนุก มีเครื่องเล่นสไลเดอร์สำหรับเด็ก ๆ หาดทรายจำลอง และห้อง Kid Room ที่ภายในมีของเล่นเด็กมากมาย มีบ่อบอล รับรองว่าถูกใจคุณหนู ๆ แน่นอนค่ะ

                        FuramaXclusive Sandara Hua Hin
                        โทร. 032470777
                        ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.furama.com

                        เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                         

                        8.โรงแรม เลอ เมอริเดียน สุวรรณภูมิ : Le Méridien Suvarnabhumi, Bangkok Golf Resort & Spa

                        Le Méridien Suvarnabhumi
                        Credit Photo : Le Méridien Suvarnabhumi

                        โรงแรม เลอ เมอริเดียน สุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ กอล์ฟ รีสอร์ท แอนด์ สปา เป็นโรงแรมที่พร้อมต้อนรับการท่องเที่ยวแบบครอบครัว ในสไตล์รีสอร์ตร่วมสมัยระดับห้าดาว  ตั้งอยู่ในสนามกอล์ฟ ซัมมิท วินด์มิลล์ (ถ.บางนาตราด ก.ม.10.5) ล้อมรอบด้วยสวนอันรื่นรมย์และสนามกอล์ฟ 18 หลุม รับวิวสนามกอล์ฟสีเขียวขจีสุดสายตา พร้อมด้วยกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมายที่จะทำให้ทั้งครอบครัวได้รับความสุขไปเต็ม ๆ ตลอดการเข้าพัก ไม่ว่าจะเป็นออกกำลังกายที่ฟิตเนสเซ็นเตอร์ที่ให้บริการทั้งวัน สระว่ายน้ำแบบอินฟินิตี้ พูล รับวิวสนามกอล์ฟ และเลอ เมอริเดียนแฟมิลี่ คิดส์ คลับ สำหรับคุณหนูและครอบครัว โดยจะมีพนักงานที่คอยดูแลเด็ก ๆ อย่างใกช้ชิด ทาง เลอ เมอริเดียน ได้ทำการสร้างสนามเด็กเล่น ‘อิมเมจิเนชั่น เพลย์กราวด์’ ขึ้นมา ภายในมีกิจกรรมและเครื่องเล่น เกมสนุก ๆ เสริมปัญญา สร้างสรรค์งานศิลปะ เล่นดนตรี ฯลฯ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจ และไว้เป็นพื้นที่สร้างสรรค์จินตนาการให้กับเด็ก ๆ ได้เป็นอย่างดีทีเดียว

                        Le Méridien Suvarnabhumi, Bangkok Golf Resort & Spa
                        โทร. 02 232 8888
                        ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.marriott.com

                        9.มาราเกซหัวหิน รีสอร์ท แอนด์ สปา : Marrakesh Hua Hin Resort&Spa

                        Marrakesh Hua Hin Resort&Spa
                        Credit Photo : www.marrakeshresortandspa.com

                        มาราเกช หัวหิน รีสอร์ท แอนด์ สปา รีสอร์ทสุดชิคสไตล์โมร็อกโกแห่งเดียวในหัวหิน อยู่ติดชายหาดยาวกว่า 90 เมตร ได้บรรยากาศสวนตัวและเงียบสงบเหมาะกับวันพักผ่อนของครอบครัว พร้อมวิวสวย ๆ ภายในรีสอร์ท อาทิ ทะเลสาบขนาดใหญ่ที่มีความยาวถึง 240 เมตร พร้อมด้วยสวนน้ำและสวนสไตล์โมร็อกโกที่สวยงามและอลังการ และแน่นอนที่นี่มี Kid Club รวมทั้งส่วนของสนามเด็กเล่นให้คุณหนู ๆ ได้มาเล่นอย่างแฮปปี้ เพลิดเพลินไปกับการ์ตูน เกม ของเล่น หนังสือ และกิจกรรม DIY ต่าง ๆ ที่ร่วมกันทำได้ทั้งครอบครัว เช่น การทำผ้าบาติก การทำเทียนเจล การวาดรูปตุ๊กตา และการทำหน้ากาก รับรองว่าที่นี่ต้องเป็นที่พักที่ถูกใจทั้งคุณพ่อคุณแม่และคุณลูก ๆ แน่นอนค่ะ

                        Marrakesh Hua Hin Resort&Spa
                        โทร. 032 616 777
                        ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.marrakeshresortandspa.com

                        10.โรงแรมโนโวเทล หัวหิน : Novotel Hua Hin

                        Novotel Hua Hin
                        Credit Photo : www.novotelhuahin.com

                        โรงแรมโนโวเทล หัวหิน จัดเป็นอีกหนึ่งที่พักสวย ๆ ติดทะเลสำหรับครอบครัวที่จะพาเจ้าตัวเล็กมาเที่ยว เล่น พักผ่อนได้แบบจบในทีเดียวจริง ๆ การันตีจากรางวัลชนะเลิศรีสอร์ทสำหรับครอบครัว พร้อมด้วยห้องพักแบบทันสมัย ทุกห้องพักมีระเบียงส่วนตัวมองเห็นวิวทะเล แถมในห้องพักแบบครอบครัวยังมียังมีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับเด็ก ของเล่น และของทานเล่นไว้รอบริการคุณหนู ๆ อีก ส่วนภายในโรงแรมยังมีห้องคิดส์เวิลด์ ที่ให้เด็ก ๆ ได้เพลิดเพลินและสนุกสนานในขณะเข้าพักที่โรงแรม เครื่องเล่นมากมาย อาทิเช่น ปราสาทลม แทรมโพลีน สไลด์เดอร์ บ้านบอลหลากสี โรงภาพยนตร์ขนาดย่อม คอนโซลเกม เครื่องเล่นของเล่นนานาชนิดที่มีไว้บริการเอาใจเด็ก ๆ เพียบ รวมทั้งกิจกรรม work shop ที่ให้หนู ๆ ได้สนุกเพียบ อาทิเช่น วาดรูประบายสี ระบายสีผ้าบาติก เพ้นหมอน ทำเทียนเจล เพ้นท์เล็บ ฯลฯ นอกจากนี้ยังสนุกไปกับกิจกรรมสำหรับครอบครัวกับการเล่นน้ำที่สระว่ายน้ำขนาดใหญ่พร้อมสไลเดอร์ บาร์ริมสระว่ายน้ำ ปาร์ตี้โฟม อควาบอล เดินบนน้ำ วอลเล่บอลน้ำ ปั่นจักรยาน และอีกมากมายที่ชวนให้พ่อแม่ลูกสนุกไปด้วยกัน โดยมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคอยดูแล สมกับเป็นที่พักให้ฟินกันทั้งครอบครัวจริง ๆ ค่า

                        Novotel Hua Hin
                        โทร. 0 3270 8300
                        ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.novotelhuahin.com

                        11.โรงแรมภูเก็ต แมริออท รีสอร์ท แอนด์ สปา, ในยางบีช | Phuket Marriott Resort and Spa Nai Yang Beach

                        Phuket Marriott Resort and Spa Nai Yang Beach
                        Credit Photo : Phuket Marriott Resort and Spa Nai Yang Beach

                        โรงแรม ภูเก็ต แมริออท รีสอร์ท แอนด์ สปา, ในยางบีช ตั้งอยู่หาดในยาง จังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นสถานที่พักผ่อนที่เหมาะสำหรับคู่รักและครอบครัว พร้อมทิวทัศน์อันงดงามของทะเลอันดามัน เพลิดเพลินไปกับการพักผ่อนในพื้นที่ที่จะทำให้ทุกคนได้รู้สึกผ่อนคลายท่ามกลางธรรมชาติ และสนุกไปกับกิจกรรมต่าง ๆ ภายในรีสอร์ท  อาทิเช่น โยคะ, ปั่นจักรยาน, คลาสต่อยมวย หรือกิจกรรมทางน้ำ เป็นต้น รวมถึง คิดส์คลับ ที่เชิญชวนให้ครอบครัวมาร่วมทำกิจกรรมที่หลากหลายด้วยกันกันพร้อมหน้า อาทิเช่น เกมการล่าหาสมบัติที่ท้าทาย ระบายสีกระเป๋า, ระบายสีผ้าบาติก หรือการทำหน้ากาก รำไทย ฯลฯ ซึ่งไม่เพียงแค่สนุกสนาน แต่ยังสามารถกระตุ้นพัฒนาการในเชิงบวกทั้งทางร่างกาย สติปัญญา และอารมณ์ของเด็ก ๆ ได้อีกด้วย โดยความสนุกแบบพิเศษของคิดส์ คลับที่นี่คือการได้รับ สมุดเล่มเล็ก M Passport เมื่อเด็ก ๆ ได้ทำกิจกรรมสนุก ๆ และความท้าทายต่าง ๆ เสร็จสิ้นก็จะได้รับตราประทับความสำเร็จแต่ละดวง และเมื่อสะสมครบตามที่กำหนดสามารถมารับรางวัลจากโรงแรมได้ เรียกว่าได้รับความสุขกับกิจกรรมและการพักผ่อนสำหรับครอบครัวที่ทางโรงแรมได้จัดเตรียมไว้บริการอย่างเต็มอิ่มกันเลยทีเดียว

                        Phuket Marriott Resort and Spa Nai Yang Beach
                        โทร. 076 625 555
                        ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.marriott.com

                        12.โรงแรมภูเล เบย์ อะริชคาร์ลตัน รีเซิร์ฟ : Phulay Bay, a Ritz-Carlton Reserve

                        Phulay Bay, a Ritz-Carlton Reserve
                        Credit Photo : Phulay Bay, a Ritz-Carlton Reserve

                        สัมผัสกับบรรยากาศวิวทะเลที่ผ่อนคลายที่ Phulay Bay, a Ritz-Carlton Reserve รีสอร์ทที่สวยงามในจังหวัดกระบี่ ทั้งห้องพักพร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัว สิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย และห้องคิดส์ คลับ ที่มาพร้อมกับกิจกรรมให้กับเจ้าตัวเล็กมากมาย อาทิ ระบายสีกระเป๋าผ้า ระบายสีปูนปลาสเตอร์ ระบายสีร่ม ระบายสีผ้าบาติก กิจกรรมสานใบมะพร้าว โยคะ มวยไทยสำหรับเด็ก และกิจกรรมเชฟตัวจิ๋ว เป็นต้น ในบรรยากาศรอบด้านที่เต็มไปด้วยสภาพแวดล้อมที่สวยงาม เพื่อมาเติมเต็มวันพักผ่อนและได้รับความประทับใจดี ๆ กลับบ้าน

                        Phulay Bay, a Ritz-Carlton Reserve
                        โทร. 075 628 111
                        ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.ritzcarlton.com

                        13.เชอราตัน สมุย รีสอร์ท : Sheraton Samui Resort

                        Sheraton Samui Resort
                        Credit Photo : Sheraton Samui Resort

                        Sheraton Samui Resort ที่พักทันสมัยพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับครอบครัวบนหาดเฉวง ชายหาดที่สวยงามแห่งหนึ่งของประเทศไทย นอกจากมาพาครอบครัวมาพักผ่อนใกล้ชิดกับธรรมชาติแล้ว ที่นี่ยังมีคิดส์คลับที่มีของเล่น สนามเล่นสำหรับน้อง ๆ หนู ๆ และกิจกรรมมากมายสำหรับเด็ก ๆ รวมถึงกิจกรรมที่สามารถเล่นร่วมกันได้ทั้งครอบครัว อาทิ สนามเทนนิส สระว่ายน้ำ พร้อมทั้งฟิตเนสแบบเต็มรูปแบบ รวมทั้งสปาสำหรับการผ่อนคลายของคุณพ่อคุณแม่

                        Sheraton Samui Resort
                        โทร. 077 422 020
                        ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.marriott.com

                        14.โรงแรมโซ โซฟิเทล หัวหิน : SO Sofitel Hua Hin

                        SO Sofitel Hua Hin
                        Credit Photo : www.so-sofitel-huahin.com

                        โรงแรมโซ โซฟิเทล หัวหิน  รีสอร์ทระดับ 5 ดาวในสไตล์ Modern Loft ที่ผสมผสานความหรูหราและการพักผ่อนให้เข้ากันอย่างลงตัว ที่พักติดทะเลที่มีห้องพักให้เลือกหลากหลายรูปแบบโดดเด่นด้วย 2 สไตล์ ทั้งแนวธรรมชาติเรียบง่าย และผสมผสานศิลปะในอดีตกับศิลปะสมัยใหม่อย่างลงตัว เหมาะกับการมาพักผ่อนแบบชิล ๆ และตอบโจทย์ให้กับครอบครัวที่มีเด็ก ๆ เพราะที่นี่มีกิจกรรมหลากหลาย อาทิเช่น ห้อง Kid Tent ที่ออกแบบตกแต่งสไตล์ซาฟารี ให้เด็ก ๆ ได้เพลิดเพลินไปกับของเล่นนานาชนิดพร้อมทั้งกิจกรรมที่มาให้ได้ร่วมสนุกตลอดทั้งวัน เช่น บ่อลูกบอลหลากสี ตุ๊กตา หนังสือนิทาน เครื่องเกมส์เพลย์สเตชั่น กิจกรรม DIY อย่าง วาดภาพ ระบายสี เพ็นท์กระเป๋าผ้า ฯลฯ โดยมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลตลอดทั้งวัน โซน SO Wonderland Adventure Golf ที่ให้เด็ก ๆ ได้ทดลองและสนุกสนามกับการเล่นกอล์ฟในสนามที่ออกแบบและตกแต่งในคอนเซ็ปต์ป่าเวทมนตร์ มีของตกแต่งน่ารัก ๆ มากมายเหมือนในเทพนิยาย จัดเต็มมาซะขนาดนี้ เรียกว่าเป็นรีสอร์ทที่มีลูกเล่นซ่อนอยู่ทุกมุม เพื่อสร้างความรู้สึกสนุกสนานให้กับทุกคนที่เข้าพัก ถูกใจทั้งคุณพ่อคุณแม่และเจ้าตัวเล็กอย่างแท้ทรูเลยค่ะ

                        SO Sofitel Hua Hin
                        โทร. 032 709 555
                        ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.so-sofitel-huahin.com

                        บางครั้งสำหรับครอบครัวที่มีเจ้าตัวเล็กการเข้าพักใรงแรมหรือรีสอร์ตที่มีห้องคิดส์คลับสำหรับเด็ก ๆ ก็อาจจะเป็นช่วงเวลาอันแสนสุขของทุก ๆ คน ที่ได้มีกิจกรรมพักผ่อนเต็มที่กันในวันหยุด เอาใจลูกและครอบครัวให้สนุกครบได้ทั้งที่พัก ที่เล่น ที่ชาร์ตแบตจบในทีเดียวเลย ว่ามั้ยละคะแม่ ๆ

                        อ่านต่อบทความที่น่าสนใจอื่นๆ

                        8 โรงแรมที่มี kid club พัทยา เอาใจลูก ถูกใจแม่ เหมาะสำหรับแฟมิลี่ที่แท้ทรู

                        เอาใจคนมีลูก 5 โรงแรมที่มี kids club ใน 5 จังหวัดท่องเที่ยว

                        เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                          ลานกิจกรรมในบ้าน

                          “ลานกิจกรรมในบ้าน” กับชีวิต New Normal ที่ทุกครอบครัวก็สามารถทำได้

                          Milo

                          ในช่วงปิดเทอมนี้ เด็กๆ ได้มีเวลาอยู่บ้านกันมากขึ้น เป็นโอกาสที่ดีที่ลูกๆ จะได้ทำกิจกรรมใหม่ๆ ได้ใช้เวลาที่ดีกับครอบครัว ซึ่งคุณแม่ก็อาจจะต้องหาภารกิจที่จะได้ใช้พัฒนาการทั้งสมองและร่างกาย
                          มาให้ลูกๆ ได้ร่วมสนุกในสถานการณ์ปัจจุบันนี้

                          New ใหม่ + Normal ความปกติ ธรรมดา = New Normal ชีวิตปกติแบบใหม่ หรือ ชีวิตวิถีใหม่ ที่กำลังเป็นกระแสให้ทุกคนได้ตื่นตัวในการดำเนินชีวิตกันอยู่ตอนนี้ ถามว่าแล้วอะไรคือ New Normal ของวิถีชีวิตครอบครัว ?

                          1. ทุกคนใช้เวลาที่บ้านกันมากขึ้น มีความระมัดระวังในการออกไปในที่สาธารณะต่างๆ
                          2. คุณแม่ใช้เวลาในซุปเปอร์มาร์เก็ตน้อยลง และมีการใช้บริการออนไลน์บ่อยขึ้น
                          3. ทุกคนต้องมี Social distancing ให้กันและกัน (การเว้นระยะทางกายภาพกับบุคคลอื่นๆ ในสังคม) โรงเรียนปิดเทอมนานขึ้น ช่วงนี้เด็กๆ บางบ้านอาจต้องมีการเรียนออนไลน์กันที่บ้าน

                          จะเห็นได้ว่า New Normal ที่เกิดขึ้นกับครอบครัวคือ การใช้เวลาที่บ้านมากขึ้น ซึ่งเด็กถือเป็นกลุ่มวัยที่ได้ใช้เวลาที่บ้านมากกว่าปกติ เพราะด้วยอยู่ในช่วงปิดเทอม และบวกกับมีการยืดขยายช่วงเวลาการเปิดภาคเรียนใหม่ให้นานออกไปอีก 1-2 เดือน นั่นจึงทำให้เด็กๆ ต้องอยู่กับที่บ้านนานและมากขึ้น ซึ่งทุกๆ กิจกรรมจะเกิดขึ้นที่บ้านทั้งหมดค่ะ

                           

                          แล้วคุณพ่อ คุณแม่ ผู้ปกครอง จะมีส่วนช่วยให้ลูกใช้เวลาที่บ้านให้เกิดประโยชน์ได้อย่างไร ?   

                          ภารกิจสำคัญอย่างแรกที่คุณแม่ต้องเตรียมพร้อมไปกับลูกก็คือ การเรียนการสอนแบบออนไลน์ ที่คุณแม่อาจจะต้องนั่งเรียนไปกับลูกด้วย เพื่อให้การเรียนในรูปแบบใหม่นี้เกิดประโยชน์ต่อตัวลูกมากที่สุด และสามารถนำไปต่อยอดกับการเรียนในห้องเรียนตอนเปิดเทอมใหม่

                          ต่อมาคือการหากิจกรรมสนุกๆ ให้ลูกทำ อย่าลืมว่าเด็กที่อยู่ในช่วงวัยเรียน เป็นช่วงวัยที่มีพลังงานเหลือล้น คุณแม่ควรต้องมีกิจกรรมเล่นกับลูกที่ช่วยให้พวกเขาได้ใช้ทั้งร่างกาย และสมองในการคิดไปด้วยพร้อมกัน แนะนำว่าควรเป็นกิจกรรมการเล่นที่ส่งเสริมให้เด็กๆ ได้ออกกำลังกายไปในตัวค่ะ

                          ลานกิจกรรมในบ้าน ช่วยให้เด็กๆ Stay Active ได้อย่างไร ?

                          โจทย์ของคุณแม่คือการหากิจกรรมให้ลูกเล่น และเล่นกับลูกที่บ้าน และต้องเป็นกิจกรรมที่เหมาะกับลูกวัยเรียนที่อยู่ในช่วงวัย 7-12 ปี ฉะนั้นควรต้องเป็นการเล่นกิจกรรมที่ต้องใช้การเคลื่อนไหวทั้งหมดของร่างกาย (Stay Active) ลูกได้ใช้พลังงานอย่างสร้างสรรค์ ฉะนั้นคุณแม่ควรหามุม หรือบริเวณหนึ่งของบ้าน เพื่อทำ “ลานกิจกรรมในบ้าน” ให้ลูกเล่น ซึ่งการให้เล่นกีฬา หรือทำกิจกรรมที่ต้องใช้การเคลื่อนไหวทั้งหมดของร่างกาย จะช่วยให้ลูก Stay Active ที่บ้านได้เกิดประโยชน์ที่สุดค่ะ การ Stay Active จะส่งผลดีต่อ

                          • ร่างกาย : การได้ออกกำลัง การได้เล่นที่ต้องเคลื่อนไหวร่างกายทุกส่วน จะช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันร่างกายให้แข็งแรงอยู่ตลอดเวลา ไม่เจ็บป่วยได้ง่าย เมื่อลูกแข็งแรงจะช่วยให้มีพัฒนาการการเรียนรู้ดีสมวัย
                          • จิตใจ และ อารมณ์ : การได้เล่น ได้ทำกิจกรรมสนุกๆ ตลอดเวลาที่บ้าน จะช่วยทำให้เด็กๆ เพลิดเพลิน ลดความตึงเครียด ช่วยให้ใจสบาย ผ่อนคลาย ไม่หงุดหงิดง่าย อารมณ์ก็จะดีอยู่ตลอดเวลา

                          ลานกิจกรรมในบ้าน

                          แอคทีฟที่บ้านกับไมโล (MILO Home Ground)

                          ไมโล ชวนคุณแม่ ผู้ปกครอง มาทำพื้นที่ภายในบ้านให้เป็น ลานกิจกรรมในบ้าน (Home Ground) พื้นที่บ้านสุดแอคทีฟ เพื่อให้ลูกได้ทำกิจกรรมดีๆ เล่นสนุกที่บ้านแบบง่ายๆ แต่ได้ประโยชน์ ช่วยให้เกิดการเรียนรู้  และมีพัฒนาการทางร่างกาย พร้อมทำกิจกรรมต่างๆ ในแต่ละวันได้อย่างเต็มที่ กิจกรรมแอคทีฟที่บ้านกับ ไมโล (MILO Home Ground) เหมาะกับทุกครอบครัวที่มีลูกอยู่ในช่วงวัย 7-12 ปี

                           

                          ลานกิจกรรมในบ้าน (Home Ground) ทำได้ง่ายนิดเดียว

                          การจะมี ลานกิจกรรมในบ้าน ไว้เล่นกับลูกที่บ้าน คุณแม่ไม่ต้องกังวลว่าจะต้องเตรียมอุปกรณ์ หรือมีพื้นที่ อะไรใหญ่โต เพราะเราจะใช้อุปกรณ์ที่มีอยู่รอบตัวที่บ้าน คุณแม่ก็สามารถนำมาดัดแปลงทำเป็นของเล่นไว้เล่นกับลูกได้ง่ายๆ แล้วค่ะ

                          อย่างคุณแม่แอร์ จากเพจ TheLovelyAir.com ก็ได้ใช้เวลาที่บ้านในช่วงปิดเทอมนี้ ในการหากิจกรรมเล่นสนุกกับลูก ที่ไม่ใช่แค่สนุกเท่านั้น แต่ยังเกิดประโยชน์ต่อร่างกายของลูกด้วย เพราะได้ขยับเคลื่อนไหวร่างกายทุกส่วน เป็นการออกกำลังไปด้วยในตัวค่ะ  กิจกรรมที่คุณแม่แอร์เล่นกับลูกสาว คือ “ชู๊ตให้แม่นแม้ไม่มีแป้น” จากแคมเปญ “แอคทีฟที่บ้านกับไมโล”

                          แอคทีฟที่บ้านกับไมโล (MILO Home Ground)

                          อุปกรณ์ที่คุณแม่แอร์หาได้จากในบ้าน ก็มีแค่ ตะกร้าผ้า(แทนแป้นบาส) และเสื้อผ้านำมาพับเป็นกลมๆ  (แทนลูกบาส) กิจกรรมนี้จะเล่นในบ้าน หรือนอกบ้านก็ได้ แล้วแต่พื้นที่บริเวณบ้านที่มีค่ะ

                          เห็นคุณแม่แอร์กับน้องดีดี้ เปิดตัวเล่นภารกิจชิงรางวัลดูแล้วน่าสนุกแบบนี้ ครอบครัวไหนที่อยากจะ หาไอเดียทำกับลูกที่บ้าน สามารถเข้าไปดูไอเดียกิจกรรมต่างๆ เพื่อที่คุณแม่จะได้นำไปใช้ Stay Active พร้อมได้ทำภารกิจชิงรางวัลกับไมโล ในทุกๆ 2 สัปดาห์ ตลอดเดือนพฤษภาคม – มิถุนายนนี้  โดยสามารถเข้าไปติดตาม “กิจกรรมแอคทีฟที่บ้าน กับไมโล” ได้ที่หน้าเพจ FB MILO Thailand ค่ะ

                          ลานกิจกรรมในบ้าน ช่วยให้เด็กๆ Stay Active ได้อย่างไร ?

                           

                            ฝันว่ามีลูก

                            ฝันว่ามีลูก ฝันว่ามีลูกผู้ชาย จริงหรือเปล่าที่จะได้ลูก?

                            ฝันว่ามีลูก ฝันว่ามีลูกผู้ชาย ฝันว่าได้ลูกชาย ฝันว่าได้ลูกสาว แปลว่าจะได้ลูกจริงหรือไม่? ฝันจะเป็นจริงหรือไม่? มาเปิดตำราการ ทำนายฝันกัน

                            ฝันว่ามีลูก ฝันว่ามีลูกผู้ชาย จริงหรือเปล่าที่จะได้ลูก?

                            การเกิดขึ้นของความฝันนั้นอาจเป็นไปได้หลายสาเหตุ ไม่ระบุช่วงเวลาอาจเป็นได้ทั้งกลางวันหรือกลางคืน แน่นอนว่าทุกคนต้องเคยฝัน และมักจะอยากรู้ว่าที่ตนเองฝันนั้นส่งในทางที่ดีหรือทางร้ายกับชีวิตในอนาคต แต่สำหรับคนที่อยากมีลูก การฝันแบบนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่มีความสุขไม่ใช่น้อย แต่ตามความเชื่อโบราณ ฝันว่ามีลูก ไม่ว่าจะเป็นลูกชายหรือลูกสาวก็ตาม กลับไม่ได้ทำนายว่าจะได้ลูกอย่างในฝัน แต่กลับทำนายว่าผู้ฝันจะมีทั้งโชคดีและเรื่องร้าย ตามคำทำนายต่อไปนี้

                            ฝันว่ามีลูก

                            ทำนายว่า .. จะมีคนมาขอความช่วยเหลือคุณในเร็ว ๆ นี้อาจจะมีทั้งโชคดี และไม่ดีในการช่วยเหลือคน ๆ นี้ให้ลองไตร่ตรองใช้สติคิดว่าสมควรที่จะช่วยหรือไม่ อย่างไร ช่วงนี้อาจจะโดนคนแปลกหน้านินทาหรือใส่ร้ายอีกด้วยแต่ขอให้ใจเย็น ๆ ไม่ต้องไปใส่ใจให้มากนักจะเป็นผลดีกับตัวคุณเอง

                            เรื่องความรัก ใครที่มีคู่แล้วระวังเรื่องการพูดจากับคู่รักของคุณให้ดี ๆ อาจจะทะเลาะกันได้ง่ายแล้วจะจบไม่สวยนักให้ใจเย็น ๆ เข้าไว้

                            เรื่องการงาน-การเงิน จะมีปัญหาเรื่องเงิน เนื่องจากจะมีคนมาหยิบยืมเงินทองของคุณได้ คนที่ทำธุรกิจอาจจะต้องลงทุนเยอะในช่วงนี้ แต่จะมีกำไรก้อนโตในภายภาคหน้า

                            ทำนายฝันเลขเด็ด 6 , 9

                            ฝันว่ามีลูกผู้ชาย

                            ทำนายว่า .. คุณจะถูกคนชั้นสูงรังแก จงระวังอุบัติเหตุ ทำอะไรก็อย่าประมาท ไม่ว่าคุณจะทำอะไรดูเหมือนว่าจะมีอุปสรรคไปหมด

                            เรื่องความรัก ท่านที่ยังโสดยังม่ายจะตกอยู่ในความสนใจของเพศตรงข้ามอย่างน้อยก็ 2 คน ขอให้วางตัวให้ดี ๆ ความรักของคุณสดใสเป็นสีชมพูเลยนะ แต่ก็อย่าให้เกิดปัญหารถไฟหลาย ๆ ขบวนมาชนกันล่ะ เดี๋ยวจะงานเข้าไม่รู้ตัว คุณมีโอกาสที่จะได้คู่รักเป็นคนต่างชาติ คน ๆ นี้ดูดีเลยทีเดียว

                            เรื่องการงาน-การเงิน เงินพิเศษจะมีเข้ามาเรื่อย ๆ จากงานเดิม ๆ เพราะด้วยความสามารถและผลงานของคุณที่ได้รับการยอมรับ คนทำงานเป็นลูกจ้างเขาจะถูกสั่งหยุดกะทันหัน หรือเลวร้ายจนกระทั่งเลิกจ้างคุณ งานจะมีภาระเร่งด่วน กดดัน และต้องใช้ความรับผิดชอบสูงมาก

                            ทำนายฝันเลขเด็ด 0 , 1 , 3 , 5

                            ฝันว่าได้ลูกสาว

                            ทำนายว่า .. จะได้พบกับมิตรหน้าใหม่มากหน้าหลายตาเพิ่มขึ้น ชีวิตราบเรียบ จะมีแต่ความสุขอย่างต่อเนื่อง ความใจร้อนใจเร็วของคุณจะพาคุณตกเหวได้ทุกเมื่อ ถ้าคุณคิดช้าอีกนิดทบทวนอีกหน่อยจะทำให้ถึงที่หมายสำเร็จได้

                            เรื่องความรัก คนโสดได้แต่รอแล้วรอเล่า ยังไม่เจอคนที่โดนใจ คงต้องใจเย็นอย่างที่โบราณท่านว่าไว้ “ช้า ๆ ได้พร้าเล่มงาม” คุณจะได้รับการแนะนำให้รู้จักกับคนนิสัยดี จิตใจดี ชอบทำบุญ ชอบช่วยเหลือผู้อื่น คุณจะมีโชคจากคนรัก อาจจะเป็นของฝากหรือของขวัญ

                            เรื่องการงาน-การเงิน จะต้องระวังเรื่องคำพูดเป็นพิเศษ มีโอกาสที่จะเกิดเรื่องขัดแย้งจนถึงเป็นปากเสียงกันได้ คนทำงานประจำจะมีปัญหากับ เพื่อนร่วมงานใหม่ ๆ โดยเฉพาะอายุน้อยกว่า การงานตกที่นั่งลำบาก ต้องคอยรับผิดชอบเรื่องที่ไม่ได้เป็นคนก่อ

                            ทำนายฝันเลขเด็ด 0 , 2 , 4 , 5 , 7

                            ฝันว่ามีลูกผู้ชาย
                            ฝันว่ามีลูกผู้ชาย

                            ฝันเห็นลูกคนอื่น

                            ทำนายว่า ..จะมีโชคอยู่ทางทิศใต้ มาจากคนผิวสองสี จะมีเรื่องร้อนใจหรือไม่สบายใจที่มาจากพี่น้องของคุณเอง มีโอกาสพบผู้ช่วยเหลือแบบฟลุค ๆ

                            เรื่องความรัก คุณเป็นคนที่โชคดีมาก เพราะได้รับการเอาใจใส่ดูแลจากคนรักเป็นอย่างดี รู้สึกอบอุ่นใจ คุณอาจจะพบคนที่ถูกใจแล้ว แต่มันยังไม่ใช่จังหวะที่จะเจอเนื้อคู่ ถ้าไม่ระวังตัว ระวังใจของตัวคุณเองให้ดี ๆ จิตใจของคุณเองนั่นแหละที่จะทำให้คุณคิดเลยเถิดไปไกล

                            เรื่องการเงิน-การงาน จะมีโอกาสเดินทางไปทำงานในต่างถิ่นหรือไปต่างประเทศและจะประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี มีแต่เรื่องเสียเงิน แต่เป็นการเสียเงินให้คนอื่น แต่คุณก็จะได้ความสุขใจกลับมาในความช่วยเหลือ ภาระรับผิดชอบในหน้าที่การงานทำให้จำต้องสละแผนการพักผ่อนกระทันหัน

                            ทำนายฝันเลขเด็ด 0 , 2 , 9

                            ฝันว่ามีลูกในท้อง

                            ทำนายว่า .. สิ่งที่ตั้งใจไว้มากอาจจะยังไม่สำเร็จทันทีทันใดแต่สิ่งที่ไม่ได้คาดฝันอาจจะได้มาแบบฟลุค ๆ เพศตรงข้ามจะนำพาโชคทางการเงินมาให้คุณ ช่วงนี้โชคของคุณยังไม่ดีเท่าไรนัก

                            เรื่องความรัก คนโสดหน้าบาน ช่วงนี้เสน่ห์แรงเกินห้ามใจ มีคนมารุมล้อมเอาใจอย่างไม่ขาดสาย คนที่มีคู่แล้วให้ระวังเรื่องความสัมพันธ์ที่จะเกิดขึ้นระหว่างคู่ของคุณกับเพื่อนสนิทของคุณ จับตาดูไว้ให้ดี ๆ ความรักจะมีอุปสรรคทำให้คุณต้องคิดมากเอาแต่ร้องไห้เสียใจ

                            เรื่องการเงิน-การงาน หากมีโอกาสลงทุนทำธุรกิจของตนเองจะประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ระวังจะใช้เงินเกินตัวหรือต้องเสียเงินเพราะคนรอบข้าง ช่วงนี้เงินทองหามาด้วยความยากลำบากจึงไม่ควรใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายในสิ่งที่ไม่จำเป็น

                            ทำนายฝันเลขเด็ด 0 , 1 , 3

                            อ่านต่อ ฝันว่าคลอดลูก ฝันเห็นคนคลอดลูก เป็นลางดีหรือลางร้าย?

                            ฝันว่าได้อุ้มลูก

                            ทำนายว่า .. การพบปะคนจำนวนมากมักเจอเหตุการณ์หรือคำพูดที่ไม่ค่อยน่าพอใจนัก ระวังเรื่องอารมณ์ของคุณให้ดี เพราะมันจะนำมาซึ่งความเลวร้าย คุณจะเจอเรื่องเครียด และแรงกดดัน ต้องรับภาระหลายอย่าง

                            เรื่องความรัก คนไม่โสดอย่าคิดแม้แต่จะมีกิ๊ก เพราะจะมีแต่ความยุ่งยาก วุ่นวายตามาอย่างไม่คาดฝัน คนที่มีคู่รักแล้วระวังจะมีคนต่างเพศเข้ามาทำท่าทีเป็นมิตร แล้วเข้ามาแทรกกลางระหว่างความรักของคุณ ความรักของคุณค่อนข้างคลุมเครือ ไม่รู้ว่าคุณจะถูกจัดให้อยู่ในตำแหน่งแฟนหรือกิ๊กกันแน่

                            เรื่องการเงิน-การงาน การเงินเข้ามือขวาออกมือซ้าย เก็บเงินไม่ได้ เริ่มเป็นหนี้เป็นสิน กระทบกับชีวิตประจำวัน ระวังให้ดี จะมีคนเอ่ยปากอยากชวนทำธุรกิจ หรือลงทุนร่วมกัน เป็นเพศหญิง รูปร่างสูง ผอม ซึ่งร่วมธุรกิจกันแล้วจะเจริญก้าวหน้าดี อย่าเพิ่งลงทุนร่วมหุ้นกับใครหากยังไม่รู้ใจกันดีพอ ต้องศึกษาประวัติกันให้ดีก่อน ป้องกันปัญหาที่จะตามมา

                            ทำนายฝันเลขเด็ด 8

                            อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

                            จริงหรือ? ฝันเห็นงู แปลว่าจะมีลูก! แท้จริงหมายถึงอะไร

                            6 เรื่องจริงของความฝัน ฝันว่าตั้งท้อง หมายความว่าอย่างไร?

                            เปิดชะตา! ดวงแม่ 12 ราศี พร้อมวิธีเลี้ยงลูกให้เหมาะกับราศีแม่

                            สีเสื้อมงคล 2563 เสริมดวง 12 ราศี ใส่แล้วงานดี เงินเริ่ดตลอดปี

                             

                            ขอบคุณข้อมูลจาก : horoscope.mthai.com

                             

                            เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                              นมยาน

                              7 ท่าโยคะ “กู้เต้าเหี่ยว นมยาน” หลังลูกหย่านม ให้กลับมาเต่งตึง!

                              หลังลูกหย่านม แม่หลายคนอาจเกิดปัญหา ทั้งหน้าอกหย่อน นมยาน เต้าเหี่ยว เรื่องนี้สามารถแก้ไขได้! ด้วย 7 ท่าโยคะขั้นเทพ กู้เต้านมแม่ให้กลับมาเต่งตึงอีกครั้ง

                              โยคะ ช่วยกู้เต้าเหี่ยว นมยาน ได้จริงหรือ?

                              สำหรับคุณผู้หญิงเรา ตั้งแต่รู้ตัวว่าจะเป็นแม่คน จากที่รักสวยรักงามกลัวหุ่นเสีย ผิวแตกลาย ก็กลายเป็นคนที่ยอมเสียสละเพื่อลูก ส่วนเรื่องสวย หยุดไว้ก่อนรอได้ .. ขอแค่ลูกแข็งแรงสมบูรณ์ก็พอใจแล้ว และยิ่งเมื่อลูกคลอดออกมา ก็มีหลายเสียงบอกว่าถ้าให้ลูกดูดนมจากเต้าแม่นานๆ ระวังเต้าเหี่ยว นมยาน !!

                              ซึ่งหลังจากที่ลูกกินนมแม่มาได้ 6 เดือน – 1 ขวบ (หรือมากกว่านี้ยิ่งดี) ก็เริ่มมีคุณแม่หลายคนที่เข้าสู่ช่วงเวลาให้ลูกหย่านมแม่ เพื่อเตรียมลูกให้พร้อมในทักษะด้านอื่นๆ ที่สำคัญกับช่วงวัยของลูกต่อไป และในระหว่างที่ลูกเริ่มถอยห่างจะเต้านมแม่ได้แล้ว ก็เป็นช่วงเวลาที่คุณแม่จะสามารถกลับมาฟิตสร้างสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงมากยิ่งขึ้น เพื่อที่จะได้มีแรงพลังในการดูแลลูกในทุกๆ วัน

                              Must Read >> หย่านมแม่ เมื่อไหร่? ยังไงดี?

                              Must Read >> เผยเทคนิคดี! “กินตามกรุ๊ปเลือด” ช่วยลดน้ำหนักได้ชัวร์

                              7 ท่าโยคะกู้เต้าเหี่ยว นมยาน หลังลูกหย่านม ให้กลับมาเต่งตึงอีกครั้ง

                              จากหุ่นที่ยังอวบอั๋น พุงที่หน้าท้องก็ยังไม่กระชับ ส่วนหน้าอกเต้านมทั้งสองข้างก็ยังเหี่ยว หย่อนๆ ยานๆ ไม่กระชับเต่งตึง ใส่เสื้อผ้าก็ดูไม่สวยเหมือนคนอื่น >> เอาล่ะค่ะ ได้เวลาที่หลังหย่านมลูก คุณแม่จะเรียกคืนหุ่นสวยฟิตแอนด์เฟิร์มอีกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งตรงหน้าอกหน้าใจ กับ เต้าเหี่ยว นมยาน ที่ต้องเรียกความมั่นใจ ให้สามีได้ตะลึง อย่ารอช้า เพราะโยคะเฉพาะท่าเหล่านี้สามารถช่วยคุณแม่ได้

                              ประโยชน์ของโยคะ คือ ช่วยให้เลือดลมภายในร่างกายไหลเวียนไปเลี้ยงอวัยวะส่วนต่างๆ ของร่างกายได้ดีมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับข้อพับ ข้อต่อ ข้อเอ็นของร่างกายให้แข็งแรงมากขึ้น ทำให้ผิวหนัง รูปร่าง อวัยวะภายนอกอย่างสะโพก ต้นขา และเต้านมกระชับเข้ารูปมากขึ้น ที่สำคัญโยคะช่วยให้มีสมาธิ ผ่อนคลายจากความเครียดด้วยค่ะ

                              ดังนั้นถ้าลูกหย่านมแม่แล้ว ก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไรที่คุณแม่จะกลับมาดูแล นมยานๆ หน้าอกเหี่ยว ๆ ให้กลับมาเด้งเต่งตึง ได้อกสวยกระชับเข้ารูป ไม่เหี่ยว ไม่หย่อนยาน … ทีมแม่ ABK จึงมีท่าโยคะกู้เต้าเหี่ยว นมยาน หลังลูกหย่านม มาฝากค่ะ เพื่อช่วยให้ต้านมของคุณแม่กลับมาเต่งตึง ใส่ชุดสวยได้อีกครั้ง

                              ทั้งนี้ขอบอกก่อนว่าอกเหี่ยว จะกลับมาสวยได้ คุณแม่ต้องหมั่นฟิต เล่นโยคะทุกวัน ห้ามขี้เกียจ หรือหมดกำลังใจกันไปเสียก่อนนะคะ และถ้าพร้อมแล้วไปเปลี่ยนชุดให้เหมาะกับการเล่นท่าโยคะกันได้เลยค่ะ

                              นมยาน

                              1. โยคะกู้เต้าเหี่ยว นมยาน >> ท่านักรบ (Warrior Pose)

                              • ให้คุณแม่ยืนขาทั้งสองข้างเเยกจากกัน ให้ระนาบหรือขนานกัน
                              • จากนั้นคุณแม่บิดเท้าซ้ายมาข้างหน้า โดยให้ได้มุม 90 องศา เเล้วบิดเท้าขวาเข้ามาข้างใน หายใจออกพร้อมกับงอเข่า
                              • ต่อเนื่องด้วยการให้ขาขวาเหยียดตรง แล้วกางเเขนออกจนขนานกับขาเเนวเดียวกับหัวไหล่ คุณแม่หันศีรษะไป ด้านซ้าย เเละมองไปที่ข้อมือของตัวเอง
                              • ให้ทำท่านักรบซ้ำข้างเดียวกันอีกประมาณ 7-10 ครั้ง แล้วค่อยเปลี่ยนสลับข้างทำอีกประมาณ 7-10 ครั้งเช่นกัน

                              นมยาน

                              2. โยคะกู้เต้าเหี่ยว นมยาน >> ท่าตรีโกณหมุนกลับ (Triangle Pose)

                              • ให้คุณแม่ยืนกางขาให้ถนัดในการทรงตัวให้มั่นคง แล้วหมุนขาข้างหนึ่งออกให้ได้ 90 องศา ส่วนขาอีกข้างให้ทำมุม 15 องศา
                              • จากนั้นใช้มือซ้ายแตะข้อเท้าซ้าย แล้วกางเเขนขวาขึ้นข้างบน ซึ่งเเขนทั้งสองข้างต้องให้เป็นเเนวเส้นตรง
                              • ต้องให้ขาทั้งสองข้างเหยียดตรง
                              • คุณแม่หันหน้ามองขึ้นไปด้านบน โดยจุดโฟกัสคือนิ้วมือของตัวเอง
                              • ทำด้านซ้ายเสร็จแล้ว ก็ให้เปลี่ยนสลับมาทำด้านขวา

                              นมยาน

                              3. โยคะกู้เต้าเหี่ยว นมหย่อนยาน >> ท่างู (Cobra Pose)

                              • ให้คุณแม่นอนคว่ำลงบนเสื่อโยคะ จากนั้นให้หายใจเข้าลึก
                              • คุณแม่ค่อยๆ เลื่อนตัวลงไปนอนนาบตัวติดกับพื้นเสื่อโยคะ
                              • ให้คุณแม่รักษาสมดุลน้ำหนักระหว่างเเขนกับขา
                              • จากค่อยๆ เลื่อนศีรษะขึ้นมา เเล้วมองขึ้นไปข้างบน หายใจ-ออกช้าๆ แล้วค่อยๆ กลับมายังท่าเเรก (นอนนาบตัวกับพื้น)
                              • คุณแม่ลองเพิ่มเวลาการทำท่างูให้นานมากขึ้น

                              นมยาน

                              4. โยคะกู้เต้าเหี่ยว นมหย่อนยาน >> ท่าคันธนู (Bow Pose)

                              • ให้คุณแม่นอนคว่ำ หายใจออกช้า ค่อยๆ งอขาทั้งสองข้างขึ้น ใช้มือจับข้อเท้าขาทั้งสองข้าง
                              • จากนั้นคุณแม่หายใจออกช้าๆ เเล้วดึงขาให้ยืดเหยียดขึ้นให้มากเท่าที่ทำได้ (หากไม่ได้อย่าฝืน ให้ยืดได้เท่าที่ร่างกายไหว)
                              • การทำโยคะท่าคันธนู สะโพก หน้าอกคุณแม่จะต้องไม่เเตะพื้น โดยที่ต้องรักษาสมดุลของร่างกายให้ได้
                              • ลองพยายามทำท่าคันธนูค้างไว้ให้ได้ 30 วินาที

                              นมยาน

                              5. โยคะกู้เต้าเหี่ยว นมหย่อนยาน >> ท่าวงล้อ (Wheel Pose)

                              • ให้คุณแม่นอนหงาย กางขาสองข้างออกให้กว้าง แล้ววางฝ่ามือทั้งสองไว้บนพื้นเหนือศีรษะ
                              • คุณแม่หายใจออกช้าๆ แล้วค่อยๆ ยกหน้าอกกับสะโพกให้สูง ยกได้แค่ไหนแค่นั้นอย่าฝืน (เมื่อชำนาญท่าโยคะนี้แล้วค่อยเพิ่มความสูงทีหลัง)
                              • คุณแม่ต้องยืดเเขนสองข้างให้ตึง แล้วค้างท่าวงล้อนี้ให้ได้ 30 วินาที

                              นมยาน

                              6. โยคะกู้เต้าเหี่ยว นมหย่อนยาน >>ท่ากลับศีรษะ (Supported Headstand)

                              • ท่านี้ค่อนข้างยาก คุณแม่อาจต้องให้ครูฝึกช่วยด้วย และต้องอาศัยความชำนาญของคุณแม่ เพื่อให้มีความปลอดภัยมากขึ้น
                              • ให้คุณแม่คุกเข่า วางข้อศอกลงบนพื้น แล้วมือสองข้างประสานกันไว้ที่ท้ายทอย ก่อนยกขาขึ้นคุณแม่ต้องแน่ใจว่ามือและศีรษะอยู่ในท่าเตรียมพร้อมที่มั่นคงแล้ว
                              • จากนั้นต้องงอเข่า หายใจออกช้าๆ เเล้วค่อยๆ ยกตัวขึ้นช้าๆ โดยที่ต้องรักษาสมดุลของปลายเท้าเพื่อให้ชี้ขึ้นข้างบน
                              • ทำโยคะท่ากลับศีรษะค้างไว้ 30 วินาที ถึง 2 นาที ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับความสามารถบวกความชำนาญของแต่ละคนด้วยนะคะ

                              นมยาน

                              7. โยคะกู้เต้าเหี่ยว นมหย่อนยาน >> ท่าอูฐ (Camel Pose)

                              • ให้คุณแม่คุกเข่า เเล้วค่อยๆ ยกตัวขึ้น
                              • จากนั้นก็เอื้อมมือทั้งสองข้างไปจับส้นเท้าข้างหลัง ซึ่งจะทำให้ตัวเเอ่นไปข้างหน้า
                              • คุณแม่ลองค่อยๆ เเอ่นตัวไปข้างหลังให้ได้มากที่สุด เพื่อช่วยยืดกระดูกซี่โครง
                              • ให้ทำท่าอูฐค้างไว้ประมาณ 30 วินาที

                              ครบแล้วสำหรับ ท่าโยคะช่วยบริหารเฉพาะหน้าอกหน้าใจของคุณแม่ให้กระชับมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ทีมแม่ ABK ก็ให้คุณแม่ทำท่าโยคะทั้ง 7 ท่านี้ทุกวัน รับรองว่าจะสามารถช่วยให้เต้านมที่เหี่ยว หย่อนยาน ค่อยๆ กลับมากระชับเด่งเต่งตึงเป็นหน้าอกสาวๆ ได้อีกครั้งค่ะ

                              ขอขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก : brightside.me 

                               

                              เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                               

                              11 งานบ้านทำเพลินแถม เบิร์นไขมัน เผาผลาญแบบไม่ต้องไปฟิตเนส

                              5 วิธีกำจัด อ้วนลงพุง ด้วยตัวเอง

                              รวม 10 ท่า ออกกำลังกายลดพุง สำหรับคุณแม่หลังคลอด

                              6 ท่า ออกกำลังกายลดต้นขา กับ 4 เคล็ดลับเพิ่มความสวย

                               

                                คําสอนของแม่

                                รวม 20 คําสอนของแม่ ที่ควรสอนลูกสาว!

                                บ้านไหนมีลูกสาวต้องอ่าน! นี่คือ 20 คําสอนของแม่ ที่ควรสอนลูกสาว เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันชีวิต ให้ลูกคิดเป็น แม้เป็นผู้หญิงก็สามารถได้ดี มีความรู้ และเอาตัวรอดได้

                                20 เรื่อง ที่แม่ควรสอนลูกสาว

                                สำหรับคุณพ่อคุณแม่บ้านไหนที่มี “ลูกสาว” อาจมีความกังวลเนื่องจากปัจจุบันมักมีข่าวที่ผู้หญิงตกเป็นเหยื่อ ซึ่งการจะเลี้ยงลูกสาว ให้เติบโตขึ้นในสังคมแบบนี้ ที่แม้จะมีสิ่งดีอยู่บ้าง แต่ก็ยังมีสิ่งที่เลวร้ายมากมาย หากไม่มีการเตรียมพร้อม สอนลูกสาว เอาไว้บ้าง … ก็อาจจะทำให้ลูกสาวของคุณดำเนินชีวิตอย่างยากลำบากได้ในอนาคต

                                ซึ่งสิ่งที่จะช่วยเตรียมพร้อมสำหรับการเลี้ยงดูลูกสาวได้อย่างดีที่สุดก็คือ คําสอนของแม่ รวมไปถึง แนวทาง ทัศนคติ และการปฏิบัติตนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันชีวิต ให้ลูกคิดเป็น แม้เป็นผู้หญิงก็สามารถได้ดี มีความรู้ และเอาตัวรอดได้ ดังนั้น ทีมแม่ ABK จึงมี 20 เรื่องที่ควรสอนลูกสาว จากป้าหมอ สุธีรา เอื้อไพโรจน์กิจ มาฝาก … ตามไปดูกันค่ะว่า สิ่งที่ควรสอนลูกสาว ตั้งแต่เล็กๆ เพื่อเตรียมพร้อมให้ลูกในการออกไปเผชิญกับโลกภายนอกนั้น จะมีอะไรบ้าง

                                คําสอนของแม่ ที่ควรสอนลูกสาว ข้อที่ 1
                                ครอบครัวจะเป็นครอบครัวตลอดไป แม่จะรักพ่อเสมอ เราจะอยู่เป็นครอบครัวเพื่อให้ลูกมีที่พึ่งพิง เพื่อเป็นตัวอย่างครอบครัวที่ดีให้ลูกเห็น เพราะเราปรารถนาให้ลูกได้มีครอบครัวที่สมบูรณ์เช่นกัน

                                คําสอนของแม่ที่ควรสอนลูกสาว ข้อที่ 2
                                ลูกดูดีเสมอในสายตาของแม่ ความงามเกิดขึ้นได้จากภายใน ไม่ใช่แค่รูปลักษณ์ภายนอก และแม่รักลูกในสิ่งที่ลูกเป็น

                                คําสอนของแม่ที่ควรสอนลูกสาว ข้อที่ 3
                                ลูกมีศักยภาพเพียงพอในการทำสิ่งที่ลูกอยากทำ ขอเพียงอย่ากลัวที่จะล้มเหลว

                                คําสอนของแม่ที่ควรสอนลูกสาว ข้อที่ 4
                                สอนลูกให้ปฏิเสธเป็น หากถูกชักจูงให้ทำสิ่งที่ไม่ดีหรือลูกไม่อยากทำ

                                คําสอนของแม่ที่ควรสอนลูกสาว ข้อที่ 5
                                ลูกควรมีระเบียบวินัยและเรียนรู้ถูกผิดตั้งแต่ในบ้าน เป็นคนที่รู้จักเห็นอกเห็นใจผู้อื่น เมื่อออกนอกบ้านจะได้ไม่เป็นที่ระอาต่อผู้อื่น

                                คําสอนของแม่ที่ควรสอนลูกสาว ข้อที่ 6
                                จงทะนงในศักดิ์ศรี พึ่งพาตัวเองได้ และเป็นคนมีอารมณ์ขัน พร้อมปฏิบัติตนต่อทุกคนที่พบด้วยความสุภาพ ไม่ว่าจะเป็นคุณครู ภารโรง หรือ พนักงานขาย เพราะทุกคนมีเกียรติและศักดิ์ศรีเช่นเดียวกัน

                                เรื่องที่แม่ควรสอนลูกสาว ข้อที่ 7
                                สอนลูกให้กินเป็น เลือกอาหารที่ดีต่อสุขภาพ แต่ไม่หมกมุ่นกับการกินให้ผอม และอย่าลืมที่จะออกกำลังกายรักษาสุขภาพที่ดีให้แข็งแรงอย่างถูกวิธี

                                คําสอนของแม่ ที่ควรสอนลูกสาว ข้อที่ 8
                                อย่าเลือกใครก็ได้มาเป็นคนรัก  สุภาพบุรุษพึงปฏิบัติต่อลูกอย่างสุภาพและให้เกียรติ เลือกคนที่ดีต่อลูกและทำให้ลูกมีความสุข อย่ายอมรับสิ่งที่น้อยกว่านั้น เพื่อที่ลูกจะได้ไม่เสียใจภายหลัง

                                คําสอนของแม่ ที่ควรสอนลูกสาว ข้อที่ 9
                                จงแต่งกายให้เหมาะสม ถูกต้องตามกาลเทศะ อย่าดึงดูดสายตาผู้คนด้วยการแต่งกาย (ล่อแหล่มหรือไม่สุภาพ) เพราะมันไม่ใช่ของจริงแท้สำหรับคนที่จะมาสนใจลูก

                                เรื่องที่แม่ควรสอนลูกสาว ข้อที่ 10
                                จงสร้างสัมพันธภาพที่ดีกับผู้คนที่ดี เพราะเขาเหล่านั้นจะช่วยเติมเต็มและทำให้ชีวิตลูกมีความสุข

                                เรื่องที่แม่ควรสอนลูกสาวข้อที่ 11
                                อย่ายุ่งกับสารเสพติด และ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือของมึนเมาต่างๆ มากเกินไป เพราะสิ่งเหล่านั้นจะทำให้เกิดอันตราย ยิ่งถ้าเป็นเด็กหรือวัยรุ่นยิ่งอันตราย

                                เรื่องที่แม่ควรสอนลูกสาว ข้อที่ 12
                                ขอให้ลูกจำไว้ว่า พ่อจะเป็นฮีโร่และคอยปกป้องลูกเสมอ หากมีใครมาทำร้ายลูก

                                เรื่องที่แม่ควรสอนลูกสาว ข้อที่ 13
                                ต้องเรียนรู้วิธีใช้จ่ายเงินอย่างชาญฉลาด ประหยัดและอดออม มีอาชีพที่สามารถหาเลี้ยงตัวเองได้โดยไม่ต้องพึ่งพาใคร

                                เรื่องที่แม่ควรสอนลูกสาว ข้อที่ 14
                                จงมีความซื่อสัตย์ต่อตนเองและผู้อื่นเสมอ และสอนให้รู้ว่าผู้หญิงมีสิทธิเท่าเทียมกับผู้ชาย สามารถเลือกทำงานที่ชอบได้ แต่ในขณะเดียวกัน ก็ต้องให้เกียรติผู้ชายด้วย

                                คําสอนของแม่

                                คําสอนของแม่ ที่ควรสอนลูกสาว ข้อที่ 15
                                อดทน อดกลั้น รอคอย อย่ามีเพศสัมพันธ์ก่อนเวลาอันควร จนกว่าจะพบคนที่เหมาะสม ในเวลาที่เหมาะสม

                                เรื่องที่แม่ควรสอนลูกสาว ข้อที่ 16
                                อย่าทำชีวิตให้ซับซ้อน ความเรียบง่าย คือ สิ่งที่ลึกซึ้งและคงทน และช่วยให้ลูกไม่เหนื่อยเกินความจำเป็น

                                เรื่องที่แม่ควรสอนลูกสาว ข้อที่ 17
                                ยึดมั่นในความดี เชื่อมั่นในศาสนา

                                เรื่องที่แม่ควรสอนลูกสาว ข้อที่ 18
                                ให้ลูกรู้สึกขอบคุณทุกสิ่งที่ทำให้ลูกเป็นลูก จะทำให้ลูกเป็นคนอ่อนน้อม และกตัญญูกับทุกคนที่มีบุญคุณกับลูก

                                เรื่องที่แม่ควรสอนลูกสาว ข้อที่ 19
                                จงเป็นคนมุ่งมั่น ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคง่ายๆ และหมั่นหาความรู้ใส่ตัวเสมอ

                                คําสอนของแม่ ที่ควรสอนลูกสาว ข้อที่ 20
                                และข้อสุดท้าย ขอให้ลูกจงจำไว้ว่า พ่อและแม่รักลูกเสมอ และ รักตลอดไป ลูกสามารถปรึกษา และขอความช่วยเหลือจากคุณพ่อคุณแม่ได้เสมอ

                                ทั้งนี้การเลี้ยงดูอบรบสั่งสอนลูกสาว ให้เติบโตขึ้นมาอย่างสง่างาม แข็งแกร่ง และพึ่งพาตนเองได้ อาจไม่ใช่เรื่องง่ายนัก สิ่งสำคัญก็คือ คุณพ่อคุณแม่ต้องคอยสอน และเป็นแบบอย่างให้แก่ลูกตั้งแต่ยังเล็กๆ เพื่อที่ลูกสาวของคุณจะได้เติบโตขึ้นมาอย่างงดงามทั้งจิตใจและความคิด มีความเชื่อมั่นในตัวเอง อ่อนโยนแต่ไม่อ่อนแอ และสามารถดูแลตัวเองให้คุณพ่อคุณแม่สบายใจได้

                                ขอบคุณข้อมูลจาก : www.breastfeedingthai.com

                                 

                                เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                                 

                                ลูกสาว ลูกชาย แตกต่าง และมีข้อดีอะไรบ้าง?

                                ผิดไหม? ลูกชายชอบเล่นตุ๊กตา ลูกสาวเล่นรถ พ่อแม่ควรทำไงดี!

                                สูตร (ไม่) ลับ ทำอย่างไร แบบไหน ถึงจะได้ลูกชาย หรือลูกสาว

                                จริงหรือการ มีลูกสาว ทำให้คนเป็นพ่อเปลี่ยนไป

                                 

                                  ท้องก่อนวัย

                                  แม้ “ท้องก่อนวัย” แต่แม่ก็รักลูกหมดใจ! เรื่องจริงของแม่วัยใส..ที่หมอสูติอยากแบ่งปัน

                                  เรื่องเล่าจากหมอสูติ ปัญหา “ท้องก่อนวัยอันควร” เรื่องจริงของแม่…ที่หมออยากแบ่งปัน ถึงจะเป็น “แม่วัยใส” ท้องก่อนวัย แค่อายุ “15” แต่แม่ก็รักลูกหมดใจ!

                                  “แม้ ท้องก่อนวัย แต่แม่ก็รักลูกหมดใจ”
                                  เรื่องจริงของแม่ที่หมออยากแบ่งปัน!

                                  ปัญหา ท้องก่อนวัย อันควร!! ในสังคมไทย เป็นประเด็นที่ถูกนำเสนออย่างแพร่หลายผ่านสื่อโทรทัศน์และสังคมออนไลน์ ซึ่งกระแสคุณแม่วัยใส ท้องก่อนวัย นั้น เป็นเหมือนดาบ 2 คม … เพราะแม้จะช่วยกระตุ้นให้คนในสังคมตื่นตัวและหันมาให้ความสนใจกับปัญหานี้!! แต่วัยรุ่นที่ไม่มีวุฒิภาวะเพียงพออาจเข้าใจผิด คิดว่าการตั้งครรภ์ในช่วงอายุนี้เป็นเรื่องปกติ

                                  ทั้งที่จริงแล้วการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร หรือ ท้องก่อนวัย อาจส่งผลเสียทั้งทางด้านสุขภาพกายใจ และอาจตามมาด้วยผลกระทบในระยะยาว >> ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่วัยรุ่นวัยเรียนทั้งหลายควรเรียนรู้แนวทางการป้องกันปัญหานี้ หรือในกรณีที่พลาดพลั้งตั้งครรภ์ไปแล้วควรตั้งสติและเรียนรู้วิธีรับมือที่ถูกต้อง

                                  ดังนั้นการพลาดพลั้งซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ ตั้งครรภ์ในวัยรุ่น หรือ ท้องไม่พร้อม สิ่งสำคัญคือ การรับมือกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นไปแล้ว พร้อมความเข้าใจของคนเป็นแม่ … ทีมแม่ ABK จึงมีเรื่องราวของคุณแม่วัยใส ท้องก่อนวัย จากคุณหมอชัญวลี มาฝาก ให้อ่านเป็นข้อคิดเตือนใจ ซึ่งแม้จะเป็นแม่แค่อายุ 15 แต่ก็รักลูกหมดใจ เรื่องราวจะเป็นเช่นไร ทำไมคุณหมอถึงอยากแบ่งปัน ตามมาอ่านกันเลยค่า…

                                  เรื่องเล่าจากหมอสูติ ตอน ถึงเป็น “แม่” ท้องก่อนวัย แค่อายุ 15 แต่หนูก็รักลูกหมดใจ

                                  เสียงคนพลุกพล่านตั้งแต่ตี 3 ตี 4 เสียงยกเปิดประตูเหล็กหน้าบ้านดังกร่างเกร่ง เสียงหัวเราะหยอกล้อคุยกัน เสียงผู้คนเดินผ่านน้ำเฉอะแฉะ เสียงรถเข็นเข็นของอย่างรีบเร่ง นี่เป็นบรรยากาศทุกวันของหน้าบ้านฉันซึ่งอยู่ในตลาดสดเทศบาล

                                  ฉันชื่อดาวเรือง (ชื่อสมมุติ) ลูกแม่ค้าขายผลไม้อยู่ในตลาด แม่ชื่อแม่ผลเป็นคนใจดี แม่มีลูกสองคนคือฉันอายุ 15 ปี กับน้องสาวอายุ 12 ปี ใครๆก็บอกว่าฉันเป็นคนหน้าตาน่ารัก เสียแต่ที่อ้วนไปหน่อย ฉันสูง 160 เซนติเมตร แต่น้ำหนักถึง 80 กิโลกรัม ฉันเรียนหนังสือถึง ม.3 ก็เลิกเรียนเพราะสมองไม่ดีนัก เรียนคาบลูกคาบดอก แต่เรื่องที่สำคัญก็คือฉันได้เสียกับรุ่นพี่จนท้อง ตอนบอกแม่นั้นฉันท้องได้ 3 เดือนเศษแล้ว แม่ไม่ว่าอะไรฉันสักคำ แม้รุ่นพี่ที่เป็นพ่อเด็กจะไม่รับแม่ก็บอกว่า “ช่างมันลูก…และหนูอย่า…อย่าแม้แต่จะคิดที่จะทำแท้ง เราเป็นชาวพุทธ แม่เชื่อเรื่องบาปกรรม ช่างมันเหอะหลานคนเดียวแม่เลี้ยงได้” แล้วแม่ก็พาฉันไปฝากท้องกับหมอที่เคยทำคลอดฉันกับน้องให้แม่ทั้งสองท้อง

                                  วันแรกที่ฝากท้อง หมอทำอัลตร้าซาวนด์ ตรวจเลือด ตรวจน้ำปัสสาวะ และบอกว่า “ท้องได้ 16 สัปดาห์ เด็กดูแข็งแรงดี แต่สงสัยแม่จะเป็นเบาหวาน”

                                  แม่ผลอุทานอย่างตกใจว่า “เป็นเบาหวานหรือหมอ ดาวเรืองอายุแค่ 15 ปีนะ”

                                  หมอตรวจเลือดของฉันอย่างละเอียดสรุปว่าเป็นเบาหวาน โดยหมอคาดว่า ฉันเป็นเบาหวานมาตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์ หมอเลยให้นอนโรงพยาบาล 2 วัน เพื่อตรวจร่างกายโดยละเอียด ตรวจเลือด และคำนวณจำนวนยาฉีดรักษาเบาหวาน สรุปว่าฉันต้องฉีดยาฮอร์โมนเก็บน้ำตาลวันละ 2 ครั้ง หมอถามแม่ผลว่า “แล้วแม่จะให้ใครฉีดยาให้ดาวเรือง ปกติคนท้องคนอื่นๆเขาก็ฉีดตัวเอง แต่ดาวเรืองอายุยังน้อยจะฉีดได้หรือเปล่า” ฉันรู้สึกลูกดิ้นตอนที่ฉันบอกหมอว่า “คุณหมอ หนูฉีดตัวเองได้ค่ะ” “ฉีดได้แน่หรือ” หมอถามอย่างไม่แน่ใจ เมื่อฉันยืนยันว่าฉีดได้ หมอก็ให้พยาบาลสอนวิธีฉีดยาเก็บน้ำตาลที่หน้าขาของฉัน ฉีดเช้าเย็นก่อนอาหาร

                                  อันที่จริงฉันเป็นคนกลัวเข็ม แต่หมอบอกฉันกับแม่ว่า ลูกในท้องของฉันจะปลอดภัยหากฉันคุมน้ำตาลในเลือดไม่ให้สูงเกินไป การฉีดยาเข็มแรกด้วยตัวเอง ฉันกลัวเข็มจนน้ำตาไหล ฉันจดเข็มเข้าเนื้อตัวเองด้วยมือสั่นเทา แต่ในที่สุดฉันก็ทำได้

                                  เมื่อท้องได้ 6 เดือน ฉันมีไข้หนาวสั่น เมื่อไปหาหมอ หมอบอกว่าฉันเป็นกรวยไตอักเสบ เหตุผลเพราะฉันติดเชื้อทางเดินปัสสาวะซึ่งพบมากในคนเป็นเบาหวาน หมอรับฉันไว้ในโรงพยาบาล ฉีดยาฆ่าเชื้อนาน 5 วัน อาการก็เริ่มทุเลาลง ตั้งแต่วันนั้นแม่บอกฉันว่า ไม่ต้องมาช่วยขายผลไม้แล้ว ให้กินกับนอนจนกว่าจะคลอดลูก แม่กลัวหลานในท้องฉันจะเป็นอะไรไป แม้แต่งานบ้านแม่ก็ไม่ให้ทำ แม่ทำเอง แม่เตรียมข้าวเตรียมน้ำให้ฉันก่อนไปขายผลไม้ เมื่อท้องได้ 7 เดือนฉันมีอาการครรภ์เป็นพิษ มีอาการบวมที่แขนขา ความดันโลหิตสูง หมอรับฉันไว้ในโรงพยาบาล ให้ยาเร่งปอดเด็กในท้อง

                                  เมื่อเข้า 8 เดือน (34 สัปดาห์) หมอผ่าคลอดให้ฉันเพราะความดันโลหิตสูงมากจนอาจเกิดอาการชัก ตอนแรกหมอบอกว่าลูกอาจจะไม่รอด ลูกน้อยที่คลอดออกมาเป็นเพศหญิงหนักแค่ 1,600 กรัม ปอดไม่แข็งแรง น้ำตาลในเลือดต่ำ ต้องอยู่ในตู้อบ ให้น้ำเกลือ และให้ยาแก้เรื่องน้ำตาลต่ำตลอดเวลา

                                  เพราะพี่พยาบาลบอกฉันว่า… ลูกเกิดก่อนกำหนดหากได้นมแม่ลูกจะแข็งแรงเร็ว ฉันจึงดื่มน้ำมากๆ แม่เอาไพลมาประคบเต้านม แกงเลียงหัวปลีให้ฉันกินวันละหม้อ น้ำนมของฉันจึงไหลออกมาก ฉันบีบนมตามที่พี่พยาบาลสอน ไปให้ลูกน้อยที่อยู่ในตู้อบทุกวัน เมื่อลูกแข็งแรงพอจะดูดนมได้ ฉันก็ไปให้นมลูก หลายคนแปลกใจว่าเด็กอายุ 15 ปีอย่างฉัน ทำไมให้นมลูกเก่งจัง ครบเดือนลูกก็มีน้ำหนัก 2 กิโลกรัม ได้ออกจากตู้อบและกลับบ้าน

                                   

                                  เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                                   

                                  แม้ฉันเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว เลี้ยงลูกคนเดียวไม่มีพ่อช่วยเลี้ยง แต่แม่ผลบอกฉันว่า “เราเลี้ยงเขาให้ดีๆ เขาก็จะเป็นคนดี เพราะมันไม่ได้อยู่ที่ว่ามีพ่อแม่ครบถ้วนลูกถึงจะเป็นคนดี” ฉันลืมบอกไปว่า แม่ผลของฉันก็เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว เพราะพ่อฉันได้รับอุบัติเหตุเสียชีวิตตั้งแต่น้องสาวของฉันอยู่ในท้องแม่ อย่างไรก็ตาม ฉันตั้งใจว่าจะเลี้ยงลูกให้ดี ยังไม่มีแฟนใหม่ ในอนาคตหากมีแฟนใหม่ฉันก็คงไม่มีลูกแล้ว เพราะเบาหวานที่เป็นจะทำอันตรายต่อลูก

                                  บันทึกจากหมอ

                                  ตอนนี้ลูกสาวของดาวเรืองอายุ 5 ขวบแล้ว แม้ตัวเล็กกว่าเด็กทั่วไป แต่ก็เป็นเด็กฉลาดหน้าตาน่ารัก ลูกสาวของดาวเรืองไม่ได้เป็นที่รักของแม่และยายผลเท่านั้น แต่เป็นที่รักของคนทั้งตลาด ดาวเรืองเป็นตัวอย่างของเด็กวัยรุ่นที่ตั้งครรภ์และเป็นเบาหวาน เกิดภาวะแทรกซ้อนหลายอย่างจนทำให้ลูกในท้องเกือบเสียชีวิต แต่ในที่สุดลูกก็รอดชีวิต เคสของดาวเรืองนั้น ไม่อาจจะสรุปอะไรได้ดีไปกว่าถ้อยคำที่ว่า “คุณแม่คนดีที่หนึ่งเลย” ซึ่งคุณแม่นั้นไม่ได้หมายถึงเฉพาะดาวเรืองที่ดูแลตนเองเป็นอย่างดีในขณะตั้งครรภ์ กล้าที่จะฉีดยาตนเองทุกวันวันละ 2 เข็ม ตั้งแต่ตั้งท้องจนคลอด แต่ยังหมายถึงแม่ผล แม่ค้าขายผลไม้ ซึ่งมักจะพูดกับหมอเสมอว่า “อะไรดีต่อดาวเรือง หมอก็แนะนำเถอะ ฉันจะทำตามหมอทุกอย่าง เพราะฉันมีความรู้น้อย” นั่นเอง

                                  ขอบคุณบทความจาก พญ.ชัญวลี ศรีสุโข สูตินรีแพทย์ ระดับนายแพทย์เชี่ยวชาญ
                                  หัวหน้าแผนกสูตินรีเวช โรงพยาบาลพิจิตร

                                  รีวิวการ คุมกำเนิดแบบฝังเข็ม กระทู้ดีจากพันทิป!

                                   

                                  เป็นเบาหวานแล้วตั้งครรภ์ อันตรายแค่ไหน?

                                  ตั้งครรภ์ หลัง 30 ปี เสี่ยงมะเร็งทั้งแม่-ลูกจริงหรือ?

                                  โอกาสท้องของผู้หญิง ในแต่ละวัย มีลูกอายุเท่าไหร่ดีที่สุด?

                                    โอเมก้า 3

                                    รวม 15 ปลาไทย โอเมก้า 3 สูง กินแล้วฉลาด ความจำดี

                                    โอเมก้า 3 เป็นกรดไขมันจำเป็นที่ช่วยในเรื่องการทำงานของระบบประสาท ช่วยเพิ่มความจำ ทำให้ฉลาด และไอคิวดี พบมากในปลาทะเลน้ำลึก อย่างปลาแซลมอน ปลาทูน่าปลาซาร์ดีน ปลาซาบะ ปลาแมคคาเรล ซึ่งต้องมีการนำเข้าจากต่างประเทศทำให้มีราคาค่อนข้างสูง แต่คุณแม่ทราบไหมว่า ปลาไทยในบ้านเรา ไม่ว่าจะเป็นปลาทะเลไทย หรือปลาน้ำจืด ก็มีโอเมก้า 3 สูงไม่แพ้ปลาชื่อดังจากต่างประเทศเลย ที่สำคัญ เรายังสามารถซื้อหามารับประทานได้ง่ายๆ ในราคาสบายกระเป๋าอีกด้วยค่ะ

                                    ประโยชน์ของ โอเมก้า 3

                                    มาดูกันก่อนว่า โอเมก้า 3 มีประโยชน์ยังไง? โอเมก้า 3 เป็นกรดไขมันจำเป็นต่อระบบต่างๆ ในร่างกาย เช่น ระบบหลอดเลือดหัวใจ (ช่วยลดความดันโลหิต ช่วยลดไขมันคอเลสเตอรอล ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจขาดเลือดฉับพลัน และ โรคอัมพาต) ระบบประสาท (ช่วยเพิ่มความจำ) สายตา(ช่วยในการมองเห็น) ระบบภูมิคุ้มกัน(ลดอาการภูมิแพ้) ระบบไหลเวียนโลหิต ระบบสืบพันธุ์ ระบบข้อกระดูก

                                    โอเมก้า 3 ช่วยให้ระบบเหล่านี้ทำงานเป็นปกติ แต่ทว่าร่างกายของเราไม่สามารถสร้างโอเมก้า 3 ขึ้นมาเองได้ เราจึงจำเป็นต้องรับกรดไขมันโอเมก้า 3 ผ่านทางอาหารเท่านั้น

                                    ประโยชน์ของโอเมก้า 3 สำหรับคุณแม่ท้อง

                                    กรดไขมันโอเมก้า-3 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง DHA มีความสำคัญในการพัฒนาและการทำหน้าที่ของระบบประสาท ระบบสายตา และระบบสมองของทารกโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 3 เดือนสุดท้ายก่อนคลอด และในช่วง 6 เดือนแรกหลังจากคลอดแล้ว ดังนั้น การได้รับกรดไขมันโอเมก้า 3 ระหว่างตั้งครรภ์เป็นทางเดียวที่จะทำให้ ทารกในครรภ์ได้รับกรดไขมันจำเป็นไปด้วย

                                    ทั้งนี้คุณแม่ตั้งครรภ์ควรกินเนื้อปลาวันละ 2 ช้อนกินข้าวทุกวัน หรือกินเนื้อปลาวันละ 4 ช้อนกินข้าววันเว้นวัน กินร่วมเนื้อหมู เนื้อไก่ ตับ ไข่ ปลาเล็กปลาน้อย ถั่วเมล็ดแห้ง เต้าหู้ ให้ได้เนื้อสัตว์รวมวันละ 12 ช้อนกินข้าวต่อวันอย่างสม่ำเสมอ

                                    ประโยชน์ของโอเมก้า 3 สำหรับเด็ก

                                    โอเมก้า 3 มีประโยชน์อย่างมากต่อการเจริญเติบโตของเด็ก เช่น ช่วยพัฒนาการทำงานของสมองและจิตใจ เพิ่มสมาธิ ความจำระยะสั้น และทักษะในการอ่าน นอกจากนี้ โอเมก้า 3 ยังมีคุณสมบัติต้านการอักเสบ ช่วยปกป้องกระดูก ข้อ และกล้ามเนื้อ ดังนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่เด็กๆ ควรจะได้รับปริมาณโอเมก้า 3 อย่างสมดุล

                                    จริงไหมที่ว่า กินปลาแล้วจะฉลาด?

                                    มีงานวิจัยจากคณะพยาบาลศาสตร์และสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยเพนซิลวาเนีย สหรัฐอเมริกา ตีพิมพ์ในวารสาร Scientific Reports กลางเดือนธันวาคม 2017 โดยตรวจสอบการกินปลาของเด็กวัย 9-11 ปีในประเทศจีนจำนวน 541 คน พบข้อสรุปที่น่าสนใจว่า

                                    • เด็กที่กินปลาเป็นประจำทุกสัปดาห์มีระดับไอคิวสูงกว่าเด็กที่ไม่กินปลาหรือแทบไม่กินปลาในระดับ 4.8 จุด
                                    • เด็กที่กินปลาบ้างมีคะแนนไอคิวสูงกว่าเด็กที่ไม่กินปลา 3.3 จุด
                                    • เด็กยิ่งกินปลามาก การนอนหลับยิ่งมีคุณภาพดี หลับสนิท ตื่นกลางดึกน้อยกว่าเด็กที่ไม่กินปลาหรือกินปลาน้อย

                                    ดังนั้นคำถามที่ว่ากินปลาแล้วฉลาดขึ้นหรือไม่ คำตอบคือ กรดไขมันโอเมก้า 3 เข้าไปสะสมในสมองช่วยให้เด็กมีสภาพการนอนหลับที่สมบูรณ์ขึ้น ผลที่ตามมาคือพฤติกรรมด้านการเรียนรู้ดีขึ้น ก้าวร้าวน้อยลง ใช้เวลากับการเรียนได้มากขึ้น ความฉลาดจึงเป็นผลพวงที่ตามมาจากสภาพการนอนหลับที่ดีขึ้นนั่นเอง

                                    ขอบคุณข้อมูลจาก ดร.วินัย ดะห์ลัน

                                    ประโยชน์ของโอเมก้า 3 สำหรับทุกคน

                                    นอกจากนี้แล้วกรดไขมัน โอเมก้า 3 ยังมีคุณสมบัติ ในเรื่องของความสวยความงาม ผิวสวยหน้าใส สมองสดใส หัวใจแข็งแรง และสุขภาพดีขึ้น โดยเป็นส่วนหนึ่งในการใช้สร้างเยื่อหุ้มเซลล์ช่วยคงความชุ่มชื้นและแข็งแรง ช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและเส้นใยอีลาสติน จึงส่งผลให้ผิวดูอ่อนเยาว์และสดใสรวมไปถึงเส้นผมที่แห้งแตกปลาย

                                    โอเมก้า 3 มีประโยชน์มากมายขนาดนี้  เรามาดูรายชื่อปลาไทยโอเมก้า 3 สูง กันเลยค่ะ ว่าจะมีปลาอะไรบ้าง จะได้รีบซื้อหามารับประทานกัน

                                    รวม 15 ปลาไทย โอเมก้า 3 สูง กินแล้วฉลาด ความจำดี

                                    หมวดปลาทะเล

                                    1. ปลาจะละเม็ดขาว

                                    ปลาจะละเม็ดขาว
                                    ปลาจะละเม็ดขาว

                                    ปลาจะละเม็ดขาวมีไขมันทั้งหมด 6.8 กรัม มีปริมาณโอเมก้า 6 ที่ 0.03 กรัม และ โอเมก้า 3 ที่ 0.84 กรัม นิยมนำไปทำเมนูนึ่ง เช่น นึ่งบ๊วย นึ่งซีอิ๊ว หรือทอด เช่น ทอดน้ำปลา ทอดขมิ้น ทอดเกลือ หรือผัดเม็ดมะม่วง เป็นต้น

                                    1. ปลาสำลี

                                    ปลาสำลี
                                    ปลาสำลี

                                    ปลาสำลีมีไขมันทั้งหมด 9.2 กรัม ไม่มีโอเมก้า 6 มีโอเมก้า 3 อยู่ที่ 0.47 กรัม นิยมนำไปทอด ทำปลาสามรส นึ่งสำลี หรือเผาแล้วทานกับน้ำจิ้มซีฟู้ด

                                    1. ปลากะพงขาว

                                    ปลากะพงขาว
                                    ปลากะพงขาว

                                    ปลากะพงขาวมีไขมัน 3.2 กรัม ไม่มีโอเมก้า 6 มีโอเมก้า 3 อยู่ที่ 0.40 นิยมนำไปทำอาหารได้หลากหลาย ต้ม ผัด แกง ทอด นึ่ง

                                    1. ปลาอินทรี

                                    ปลาอินทรี
                                    ปลาอินทรี

                                    ปลาอินทรีมีไขมันทั้งหมด 3.2 กรัม ไม่มีโอเมก้า 6 มีโอเมก้า 3 ที่ 0.33 กรัม นิยมนำไปทำอาหารหลากหลาย เช่น ทอด ผัด แกงส้ม นึ่งซีอิ๊ว ทำทอดมัน ยำปลาอินทรีเค็ม เป็นต้น

                                    1. ปลาทู

                                    ปลาทู
                                    ปลาทู

                                    ปลาทูมีไขมันทั้งหมด 3.8 กรัม มีโอเมก้า 6 อยู่ที่ 0.06 กรัม มีโอเมก้า 3 อยู่ที่ 0.22 กรัม แต่ถ้าปลาทูนึ่งมีไขมันทั้งหมด 3.0 กรัม มีโอเมก้า 6 อยู่ที่ 0.03 กรัม มีโอเมก้า 3 อยู่ที่ 0.18 กรัม ทำอาหารได้ทั้งนึ่ง ทอด ต้มยำ หรือทำน้ำพริกปลาทู โดยใช้เนื้อปลาทูโขลกผสมรวมกับกะปิ และบ้านเรามีขายทั้งปลาทูนึ่งใส่เข่ง และปลาทูสด

                                    1. ปลาจาละเม็ดดำ

                                    ปลาจะละเม็ดดำ
                                    ปลาจะละเม็ดดำ

                                    ปลาจาระเม็ดดำมีไขมันทั้งหมด 3.6 กรัม มีแต่โอเมก้า 6 อยู่ที่ 0.16 กรัม นิยมนำมาทำเมนูทอด เช่น ทอดน้ำปลา ทอดกระเทียม ราดพริก และเมนูนึ่ง เช่น นึ่งมะนาว นึ่งซีอิ๊ว นึ่งบ๊วย

                                    1. ปลากะพงแดง

                                    ปลากะพงแดง
                                    ปลากะพงแดง

                                    ปลากะพงแดงมีไขมัน 0.5 กรัม มีโอเมก้า 3 อยู่ที่ 0.10 กรัม สามารถนำไปทำเมนู ข้าวต้ม เมนูนึ่ง ต้มยำ และทอด

                                    1. ปลาเก๋า

                                    ปลาเก๋า
                                    ปลาเก๋า

                                    ปลาเก๋ามีไขมันทั้งหมด 0.6 กรัม มีโอเมก้า 3 อยู่ที่ 0.08 กรัม สามารถนำมาทำเมนูได้หลากหลาย ทั้งสามรส นึ่งซีอิ๊ว ผัดฉ่า ราดพริก และลวกจิ้ม

                                    หมวดปลาน้ำจืด

                                    1. ปลาดุก

                                    ปลาดุก
                                    ปลาดุก

                                    ปลาดุกมีกรดไขมันทั้งหมด 14.7 กรัม เป็นปริมาณกรดไขมันไม่อิ่มตัว ชนิดโอเมก้า 6 อยู่ที่ 1.94 กรัม และโอเมก้า 3 อยู่ที่ 0.46 กรัม นิยมนำไปทอดกรอบ ผัดฉ่า เมนูที่มีรสชาติร้อนแรงเพื่อกลบความคาว ที่นิยมกันมากก็น่าจะเป็น ยำปลาดุกฟู นั่นเอง

                                    1. ปลาสวาย

                                    ปลาสวาย
                                    ปลาสวาย

                                    ปลาสวายมีไขมันทั้งหมด 8.9 กรัม เป็นโอเมก้า 6 อยู่ที่ 0.60 กรัม เป็นโอเมก้า 3 ที่ 0.45 กรัม ปลาสวายอาจจะคาวได้ ดังนั้นวิธีที่นิยมนำมาปรุงอาหารจึงเป็นการทอดกระเทียม หรือนำไปทอดแล้วค่อยราดน้ำยำมะม่วงสับ

                                    1. ปลาช่อน

                                    ปลาช่อน
                                    ปลาช่อน

                                    ปลาช่อนมีไขมันทั้งหมด 8.5 กรัม มีโอเมก้า 3 ที่ 0.44 กรัม และเป็นโอเมก้า 6 อยู่ที่ 0.77 กรัม นิยมนำไปใส่ในแกงส้ม ปลาช่อนลุยสวน หรือต้มยำ

                                    1. ปลานิล

                                    ปลานิล
                                    ปลานิล

                                    ปลานิลมีไขมันทั้งหมด 1.8 กรัม มีโอเมก้า 6 อยู่ที่ 0.10 กรัม และโอเมก้า 3 อยู่ที่ 0.12 กรัม ทำอาหารได้หลายอย่างทั้งทอด สามรส ราดพริก นึ่งซีอิ๊ว หรือนึ่งมะนาว

                                    1. ปลาสลิด

                                    ปลาสลิด
                                    ปลาสลิด

                                    ปลาสลิด ไขมันทั้งหมด 5.9 กรัม เป็นโอเมก้า 6 ที่ 0.19 กรัม มีโอเมก้า 3 อยู่ที่ 0.36 กรัม นิยมนำไปแปรรูปเป็นปลาแห้งหรีอปลาเค็ม

                                    1. ปลาตะเพียน

                                    ปลาตะเพียน
                                    ปลาตะเพียน

                                    ปลาตะเพียนมีไขมันทั้งหมด 7.4 กรัม เป็นโอเมก้า 6 อยู่ที่ 1.11 กรัม และโอเมก้า 3 อยู่ที่ 0.24 กรัม สามารถนำไปทำเมนู ปลาส้ม ต้มส้ม ต้มเค็ม หรือจะทอดกรอบ ทอดกระเทียม ทอดน้ำปลาก็อร่อย

                                    1. ปลากราย

                                    ปลากราย
                                    ปลากราย

                                    ปลากรายมีไขมันทั้งหมด 1.2 กรัม เป็นโอเมก้า 6 อยู่ที่ 0.04 กรัม และโอเมก้า 3 ที่ 0.14 กรัม เมนูปลากรายที่เราได้ยินบ่อยๆ คงจะเป็นลูกชิ้นปลากราย ทอดมันปลากราย หรือผัดเผ็ดปลากราย

                                    ตารางสรุปปริมาณกรดไขมันโอเมก้า 3 ในปลาไทย

                                    ปลาไทยโอเมก้า 3 สูง
                                    ปลาไทยโอเมก้า 3 สูง

                                    อย่างไรก็ดี หากต้องการรับประโยชน์จากโอเมก้า 3 ให้มากที่สุด ต้อง “เลือกวิธีปรุงที่ถูกต้อง”ด้วยเพราะโอเมก้า 3 จะสลายไปได้ง่ายเมื่อโดนความร้อนสูง ดังนั้น ควรเลือกนำไปปรุงอาหารด้วยวิธี ต้ม แกง นึ่ง จะได้คุณค่ามากกว่า การนำไปผัด หรือทอด

                                    และที่สำคัญ ควรรับประทานให้ถูกหลักโภชนาการ คือกินอาหารให้หลากหลาย ครบห้าหมู่ สำหรับคนที่ไม่ชอบรับประทานปลา สามารถเปลี่ยนไปรับประทานอย่างอื่นทดแทนที่ได้โอเมก้า 3  อย่าง ไข่แดง และถั่ว ในปริมาณที่พอเหมาะเช่นกัน

                                    อ่านต่อบทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

                                    5 เทคนิคฝึก ลูกกินข้าวเอง ก่อน 2 ขวบ ไม่ต้องตามป้่อนไปจนโต

                                    เคล็ดลับ! บำรุงสมอง ลูกน้อย ด้วยการกินที่ถูกต้อง ตั้งแต่แรกเกิด-3 ขวบ

                                    ขอบคุณข้อมูลจาก กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข, www.matichon.co.th , www.happycare2015.com , health.sanook.com