Page 93 – AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

เคารพสิทธิเด็ก

ชาวเน็ตแห่ปลื้ม! ปุ้มปุ้ย เคารพสิทธิเด็ก ไม่เผยหน้าลูกในโซเชียล

ปัจจุบันพ่อแม่ คนใกล้ตัว ผู้ปกครอง ญาติ ถ่ายภาพและคลิปของลูกหลาน แล้วนำไปเผยแพร่ผ่านสื่อออนไลน์เป็นจำนวนมาก หลายคนอาจโพสต์หรือแชร์คลิปลูกหลานเพราะความน่ารัก ขำขัน ตลก แต่การกระทำเหล่านี้กลับเป็นการละเมิด ไม่ เคารพสิทธิเด็ก เป็นการกระทำที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย และจะกลายเป็นดาบสองคม ส่งผลร้ายต่อเด็ก ในภายหลังได้

ชาวเน็ตแห่ปลื้ม! ปุ้มปุ้ย เคารพสิทธิเด็ก ไม่เผยหน้าลูกในโซเชียล

ปัจจุบันนี้การ เคารพสิทธิเด็ก เป็นเรื่องที่ถูกพูดถึงมากขึ้น สังคมให้ความสนใจ คุณพ่อคุณแม่หลายรายต่างเริ่มตระหนักถึงสิทธิและความเป็นส่วนตัวของลูกน้อย ซึ่งทางฟากฝั่งคนดังในวงการบันเทิงไทยก็มีหลายคนที่เคารพสิทธิลูก หนึ่งในนั้นมี “ปุ้มปุ้ย พรรณทิพา” ที่เพิ่งกำเนิดลูกชายคนแรก “น้องไซอัลบลู สกาย ดูวาล”

เคารพสิทธิเด็ก
เคารพสิทธิเด็กไม่เผยหน้าลูก

แม้จะมีเสียงเรียกร้องว่าอยากชมโฉมหน้าของเด็กน้อยจากบรรดาแฟนคลับ แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าคุณแม่มือใหม่จะปล่อยภาพให้แฟนคลับได้ชมโฉมน้อง โดยปุ้มปุ้ยได้เคยพูดไว้เมื่อช่วงเดือนตุลาคม ปี 2564 ก่อนที่จะคลอดลูกชาย เพื่อตอบแฟนคลับรายหนึ่งที่ส่งข้อความมาถามว่า “คิดยังไงกับเรื่องความเป็นส่วนตัวของเบบี๋ คนที่ติดตามจะได้เห็นน้องไหม?”

“ปุ้มปุ้ย” ได้พูดคุยถึงแนวคิดส่วนตัวเกี่ยวกับเรื่องการเคารพสิทธิลูกชายไว้อย่างชัดเจน ว่า

“เป็นเรื่องที่คิดหนัก และทำการบ้านหนักมากเรื่องนี้ค่ะ ปุ้ยให้ความสำคัญกับสิทธิขั้นพื้นฐานที่เด็กจะได้รับจากผู้เลี้ยงดู 70 เปอร์เซ็นต์ คิดว่าจะไม่มีใครได้เห็นค่ะ จนกว่าลูกจะเริ่มมีพัฒนาการด้านตัวตน สามารถบอกความรู้สึกได้ จำเป็นต้องขออนุญาตจากลูกก่อนค่ะ…..”

ความคิดของปุ้มปุ้ย สะท้อนให้เห็นว่าเด็กทุกคนมีสิทธิที่ควรได้รับมาตั้งแต่เกิด ซึ่งเป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่ทุกคน ควรตระหนักและให้ความสำคัญ ซึ่งสิทธิเด็กที่ติดตัวมาแต่เกิดมี 4 ประเภท

สิทธิเด็ก 4 ประเภท

จากการที่ปุ้มปุ้ยกล่าวถึงสิทธิขั้นพื้นฐานที่เด็กจะได้รับนั้น สิทธินี้เป็นสิทธิของเด็กที่อายุ 0-18 ปีทุกคนควรได้รับเมื่อเกิดมาแล้ว ประกอบด้วย

  1. สิทธิที่จะมีชีวิตรอด (Right of Survival) คือสิทธิในการอยู่รอดปลอดภัยตั้งแต่เมื่อคลอด ไม่ว่าเด็กคนนั้นจะเกิดมาปกติ หรือเกิดมาพร้อมกับความบกพร่องทางร่างกายหรือจิตใจก็ตาม
  2. สิทธิที่จะได้รับการพัฒนา (Right of Development) คือสิทธิที่จะได้รับการสนับสนุนด้านการศึกษาตามมาตรฐาน ความเป็นอยู่และโภชนาการที่เหมาะสมตามวัย รวมถึงการส่งเสริมเสริมพัฒนาการทั้งด้านร่างกายและจิตใจ
  3. สิทธิที่จะได้รับการปกป้องคุ้มครอง (Right of Protection) คือสิทธิที่จะได้รับการปกป้องคุ้มครองจากการล่วงละเมิด และการทารุณกรรมทุกรูปแบบ ทั้งด้านร่างกายและจิตใจ รวมถึงการใช้แรงงานเด็กเพื่อแสวงหาผลประโยชน์
  4. สิทธิที่จะมีส่วนร่วม (Right of Participation) คือสิทธิที่จะมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น การแสดงออกทั้งในด้านความคิดและการกระทำ รวมถึงการตัดสินใจที่มีผลกระทบต่ออนาคตของตนเอง

ดาบสองคมโซเชียลมีเดีย

จากประเด็นการเคารพสิทธิของเด็ก ด้วยการไม่โพสต์ภาพและคลิปของเด็ก เนื่องจากอาจจะส่งผลร้ายต่อเด็กนั้น เรื่องนี้ มีผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาเด็ก ผู้เชี่ยวชาญด้านการใช้สื่อ รวมทั้งคนดังในโลกออนไลน์ได้ออกมาสะท้อนให้สังคมได้คิดกันเป็นจำนวนมาก เช่น จ่าพิชิต ขจัดพาลชน เจ้าของเพจดัง Drama-addict ระบุว่า

“การโพสต์ภาพและคลิปของเด็กลงสื่อสังคมออนไลน์ เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่เรียกให้อาชญากรเข้ามาหาตัวเด็กได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการโพสต์เรื่องราวในชีวิตประจำวัน รวมถึงการ “เช็กอิน” ตามสถานที่ต่าง ๆ ขณะที่ปัจจุบันมีคลิปเด็กจำนวนมากที่ถูกเผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งผู้เผยแพร่กลับเป็นคนที่ทำงานอยู่กับเด็กและเป็นผู้ใกล้ชิดเด็กโดยตรง…”

นอกจากนี้ พญ.จิราภรณ์ อรุณากูร กุมารแพทย์เวชศาสตร์วัยรุ่น โรงพยาบาลรามาธิบดี ยังกล่าวเสริมว่าการละเมิดสิทธิเด็กจะส่งผลให้เด็กนับถือตัวเองลดลง

“การนำภาพหรือคลิปการกระทำในทางไม่ดีไปเปิดเผยจะส่งผลทำให้เกิดความเครียด อับอาย รู้สึกไม่ดีกับตัวเองความนับถือในตัวเองลดลง ส่งผลต่อสภาพจิตใจเกิดความรู้สึกแย่ ถูกล้อเลียนจากกลุ่มเพื่อน ถูกมองเป็นเรื่องตลกขำขัน ต้องกลายเป็นคนที่รู้จักของสังคม ไม่มีความเป็นส่วนตัว นอกจากนี้ คลิปที่โพสต์ประจานการกระทำของลูกหลานจะส่งผลลบต่อความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว ซึ่งสถานการณ์ทุกกลุ่มอายุถือว่าน่าเป็นห่วง ดังนั้น ผู้ใหญ่ต้องมีความคิดที่รอบคอบ หากรักลูกก็อย่าละเมิดสิทธิ มองถึงผลเสียที่จะเกิดขึ้นให้มาก”

ผศ.มรรยาท อัครจันทโชติ คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้กล่าวไว้เช่นกันว่าการนำภาพของเด็กไปเผยแพร่โดยไม่ได้รับการยินยอมนั้น หลายกรณีส่งผลให้เด็กถึงกับเป็นโรคซึมเศร้า

“การที่ภาพ/คลิปของเด็กถูกนำไปตัดต่อ ดัดแปลง เป็นที่สนุกสนานบนอินเทอร์เน็ต บางครั้งถูกนำไปแชร์ต่อและปรับเปลี่ยนเจตนาที่ดีให้กลายเป็นเรื่องไม่ดีเพื่อเรียกยอดไลค์ของแฟนเพจ ซึ่งมีเด็กหลายกรณีที่เด็กกลายเป็นโรคซึมเศร้าจากการโดนล้อเลียนบนอินเทอร์เน็ต กลายเป็นแผลในใจที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน เช่น ต้องย้ายโรงเรียน เพราะโดนล้อ อึดอัดเพราะกลายเป็นคนดังและมีแต่คนมาพูดคุยหรือล้อเลียน หวาดระแวง เกิดภาวะความเครียด หรือแม้แต่คิดฆ่าตัวตายก็มี

เคารพสิทธิเด็ก
พร้อมหน้า พ่อ แม่ ลูก

เผยแพร่ภาพและคลิปเด็ก จัดการทางกฎหมายได้

ในขณะที่พ่อแม่ผู้ปกครองหลายท่านอาจคิดว่า ก็เด็กคนนี้เป็นลูกเป็นหลานเราเราจะทำอะไรก็ได้ แค่โพสต์รูปหรือคลิปไม่น่าจะรุนแรงนั้น กรณีนี้ ณัฐวุฒิ บัวประทุม หัวหน้างานกฎหมาย มูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก กล่าวว่ามีข้อกฎหมายระบุไว้ชัดเจนว่ามีโทษทางอาญา

“สำหรับประเทศไทย มีกฎหมายตาม พ.ร.บ.ที่เกี่ยวข้องกับเด็กมากกว่า 200 ฉบับ แต่ที่สำคัญที่สุด คือ พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 ที่ใช้มามากกว่า 10 ปี และนำหลักตามอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กมาบัญญัติไว้ในกฎหมาย เช่น มาตรา 27 ที่มีโทษทางอาญา หากเปิดเผยหรือเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับเด็กจนส่งผลกระทบต่อเด็ก นอกจากนี้ ยังเป็นความผิดตามกฎหมายเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์อีกด้วย ดังนั้น กฎหมายถือว่าบัญญัติไว้ครอบคลุม สามารถฟ้องร้องเอาผิดได้ แต่ยังขาดการบังคับใช้ที่เป็นรูปธรรมหรือกระบวนการต่าง ๆ ยังมีความล่าช้า”

 

โพสต์อย่างไรไม่ให้ละเมิดสิทธิเด็ก

สำหรับพ่อแม่ผู้ปกครองที่ต้องการโพสต์ภาพและคลิป ก็มีแนวทางในการแชร์ภาพหรือคลิปของลูกหลานลงในโซเชียลมีเดีย ไม่ให้ละเมิดสิทธิเด็ก ดังนี้

  1. เอาใจเขามาใส่ใจเราก่อนที่จะโพสต์ภาพหรือคลิป เพราะเด็กอาจไม่รู้สึกตลกหรืออับอาย ไม่ควรนำไปเผยแพร่ ส่งต่อ หรือโพสต์ลงโซเชียลมีเดีย
  2. อย่าโพสต์คลิปและภาพเด็กลงโซเชียลมีเดียอยู่ตลอดเวลา เพราะมิจฉาชีพสามารถเข้าถึงตัวได้
  3. พ่อแม่ควรทำหน้าที่พ่อแม่ ไม่ใช่เป็นสื่อถ่ายคลิป
  4. หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการกำกับดูแล เช่น กสทช. หน่วยงานภาครัฐที่กำกับดูแลวิชาชีพอันเกี่ยวข้องกับสิทธิเด็ก เช่น ครู หรือเจ้าหน้าที่สถานสงเคราะห์ ควรมีมาตรการในการดูแลที่จริงจัง
  5. สื่อและประชาชน ควรร่วมกันให้ความรู้ในเรื่องการเผยแพร่ภาพหรือคลิปที่ไม่ละเมิดสิทธิเด็ก เพื่อเปลี่ยนแปลงความคิดและพฤติกรรมของคนในสังคม ให้คำนึงถึงผลกระทบที่ตามมามากขึ้น โดยเฉพาะสื่อก็ไม่ควรเป็นตัวอย่างในการสร้างความคุ้นชินในการเผยแพร่ภาพหรือคลิปเด็กในรูปแบบที่เป็นการละเมิดเด็กด้วยเช่นเดียวกัน

เมื่อได้ทราบแล้วว่าเรื่องที่ดูเล็กน้อยอย่างการโพสต์ภาพหรือคลิปให้เห็นหน้าเด็กโดยที่ไม่ได้รับการยินยอมจากเด็กนั้น ถือเป็นการละเมิดสิทธิ ดังนั้นพ่อแม่ผู้ปกครองก็ควรระมัดระวังและเตือนตนเองอยู่เสมอว่า การโพสต์นั้นจะส่งผลต่อเด็กอย่างไรบ้างในอนาคต เพราะสิ่งที่โพสต์ลงไปแล้วนั้น เป็น digital footprint ซึ่งจะอยู่บนอินเทอร์เน็ตไปอีกนาน

 

ขอบคุณข้อมูลจาก

Posttoday ,springnews , มูลนิธิเด็กโสสะแห่งประเทศไทย , IG pantipa.a

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

4 พฤติกรรมที่พ่อแม่..ทำร้ายลูกโดยไม่รู้ตัว

สอนลูกให้รู้จัก “พื้นที่ส่วนตัว” ป้องกันถูกละเมิดทางเพศ

ชวนผู้ปกครองเข้าใจ Safety Zone ของเด็กทุกช่วงวัย

วันพระ 2565

ปฏิทิน วันพระ 2565 ครบ 12 เดือน จะมีวันพระ ตรงกับวันไหนบ้าง สายบุญเช็กเลย

รวม วันพระ 2565 ตลอดปีฉลู – ปีขาล ครบ 12 เดือน ปี 2565 ปฏิทินวันพระ ตรงกับวันไหนบ้าง ครอบครัวพุทธศาสนิกชน สายบุญ สายธรรมะ เช็กเลย

สำหรับครอบครัวคนไทยแล้ว นอกจากวันสำคัญและวันหยุด  วันพระ ก็ถือเป็นอีกหนึ่งวันที่เราขาดไม่ได้ ซึ่งวันพระ หรือ วันอุโบสถ หมายถึง วันประชุมของพุทธศาสนิกชน เพื่อปฏิบัติกิจกรรมทางศาสนาในพระพุทธศาสนาประจำสัปดาห์ หรือที่เรียกอีกคำหนึ่งว่า “วันธรรมสวนะ” คือ วันถือศีลฟังธรรม นั่นเอง โดยวันพระเป็นวันที่มีกำหนดตามปฏิทินจันทรคติ ใน 1 เดือนจะมีเดือนละ 4 วัน ได้แก่ วันขึ้น 8 ค่ำ, วันขึ้น 15 ค่ำ, วันแรม 8 ค่ำ และวันแรม 15 ค่ำ

ทั้งนี้การทราบปฏิทิน วันพระ 2565 / 2022 จะช่วยให้พุทธศาสนิกชน ได้วางแผนพาครอบครัวทำบุญ ชวนลูกเข้าวัด ไหว้พระทำบุญ ทำความดี หรือเลือกวันมงคลสำหรับการจัดงานต่างๆ ได้ โดยใน 1 สัปดาห์จะมีวันพระ 1 วัน … ซึ่งตลอดทั้งปีนี้ จะมี วันพระ 2565 วันไหนบ้าง ตามมาเช็กกันเลย

วันพระ 2565 เดือนมกราคม

  • วันอาทิตย์ที่ 2 มกราคม 2565 แรม 14 ค่ำ เดือนอ้าย(1) ปีฉลู
  • วันจันทร์ที่ 10 มกราคม 2565 ขึ้น 8 ค่ำ เดือนยี่(2) ปีฉลู
  • วันจันทร์ที่ 17 มกราคม 2565 ขึ้น 15 ค่ำ เดือนยี่(2) ปีฉลู
  • วันอังคารที่ 25 มกราคม 2565 แรม 8 ค่ำ เดือนยี่(2) ปีฉลู

วันพระ 2565 เดือนกุมภาพันธ์

  • วันอังคารที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 แรม 15 ค่ำ เดือนยี่(2) ปีฉลู
  • วันพุธที่ 9 กุมภาพันธ์ 2565 ขึ้น 8 ค่ำ เดือนสาม(3) ปีฉลู
  • วันพุธที่ 16 กุมภาพันธ์ 2565 ขึ้น 15 ค่ำ เดือนสาม(3) ปีฉลู (วันมาฆบูชา)
  • วันพฤหัสบดีที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 แรม 8 ค่ำ เดือนสาม(3) ปีฉลู

วันพระ 2565 เดือนมีนาคม

  • วันพุธที่ 2 มีนาคม 2565 แรม 14 ค่ำ เดือนสาม(3) ปีฉลู
  • วันพฤหัสบดีที่ 10 มีนาคม 2565 ขึ้น 8 ค่ำ เดือนสี่(4) ปีฉลู
  • วันพฤหัสบดีที่ 17 มีนาคม 2565 ขึ้น 15 ค่ำ เดือนสี่(4) ปีฉลู
  • วันศุกร์ที่ 25 มีนาคม 2565 แรม 8 ค่ำ เดือนสี่(4) ปีฉลู

 วันพระ 2565 เดือนเมษายน

  • วันศุกร์ที่ 1 เมษายน 2565 แรม 15 ค่ำ เดือนสี่(4) ปีฉลู
  • วันเสาร์ที่ 9 เมษายน 2565 ขึ้น 8 ค่ำ เดือนห้า(5) ปีขาล
  • วันเสาร์ที่ 16 เมษายน 2565 ขึ้น 15 ค่ำ เดือนห้า(5) ปีขาล
  • วันอาทิตย์ที่ 24 เมษายน 2565 แรม 8 ค่ำ เดือนห้า(5) ปีขาล
  • วันเสาร์ที่ 30 เมษายน 2565 แรม 14 ค่ำ เดือนห้า(5) ปีขาล

วันพระ 2565

วันพระ 2565 เดือนพฤษภาคม

  • วันอาทิตย์ที่ 8 พฤษภาคม 2565 ขึ้น 8 ค่ำ เดือนหก(6) ปีขาล
  • วันอาทิตย์ที่ 15 พฤษภาคม 2565 ขึ้น 15 ค่ำ เดือนหก(6) ปีขาล (วันวิสาขบูชา)
  • วันจันทร์ที่ 23 พฤษภาคม 2565 แรม 8 ค่ำ เดือนหก(6) ปีขาล (วันอัฏฐมีบูชา)
  • วันจันทร์ที่ 30 พฤษภาคม 2565 แรม 15 ค่ำ เดือนหก(6) ปีขาล

วันพระ 2565 เดือนมิถุนายน

  • วันอังคารที่ 7 มิถุนายน 2565 ขึ้น 8 ค่ำ เดือนเจ็ด(7) ปีขาล
  • วันอังคารที่ 14 มิถุนายน 2565 ขึ้น 15 ค่ำ เดือนเจ็ด(7) ปีขาล
  • วันพุธที่ 22 มิถุนายน 2565 แรม 8 ค่ำ เดือนเจ็ด(7) ปีขาล
  • วันอังคารที่ 28 มิถุนายน 2565 แรม 14 ค่ำ เดือนเจ็ด(7) ปีขาล

ปฏิทินวันพระ เดือนกรกฎาคม 2565

  • วันพุธที่ 6 กรกฎาคม 2565 ขึ้น 8 ค่ำ เดือนแปด(8) ปีขาล
  • วันพุธที่ 13 กรกฎาคม 2565 ขึ้น 15 ค่ำ เดือนแปด(8) ปีขาล (วันอาสาฬหบูชา)
  • วันพฤหัสบดีที่ 14 กรกฎาคม 2565 แรม 1 ค่ำ เดือนแปด(8) ปีขาล (วันเข้าพรรษา)
  • วันพฤหัสบดีที่ 21 กรกฎาคม 2565 แรม 8 ค่ำ เดือนแปด(8) ปีขาล
  • วันพฤหัสบดีที่ 28 กรกฎาคม 2565 แรม 15 ค่ำ เดือนแปด(8) ปีขาล (วันเฉลิมฯ ร.10)

ปฏิทินวันพระ เดือนสิงหาคม 2565

  • วันศุกร์ที่ 5 สิงหาคม 2565 ขึ้น 8 ค่ำ เดือนเก้า(9) ปีขาล
  • วันศุกร์ที่ 12 สิงหาคม 2565 ขึ้น 15 ค่ำ เดือนเก้า(9) ปีขาล (วันเฉลิมฯ วันแม่)
  • วันเสาร์ที่ 20 สิงหาคม 2565 แรม 8 ค่ำ เดือนเก้า(9) ปีขาล
  • วันศุกร์ที่ 26 สิงหาคม 2565 แรม 14 ค่ำ เดือนเก้า(9) ปีขาล

ปฏิทินวันพระ เดือนกันยายน 2565

  • วันเสาร์ที่ 3 กันยายน 2565 ขึ้น 8 ค่ำ เดือนสิบ(10) ปีขาล
  • วันเสาร์ที่ 10 กันยายน 2565 ขึ้น 15 ค่ำ เดือนสิบ(10) ปีขาล
  • วันอาทิตย์ที่ 18 กันยายน 2565 แรม 8 ค่ำ เดือนสิบ(10) ปีขาล
  • วันอาทิตย์ที่ 25 กันยายน 2565 แรม 15 ค่ำ เดือนสิบ(10) ปีขาล

วันพระ 2565

ปฏิทินวันพระ เดือนตุลาคม 2565

  • วันจันทร์ที่ 3 ตุลาคม 2565 ขึ้น 8 ค่ำ เดือนสิบเอ็ด(11) ปีขาล
  • วันจันทร์ที่ 10 ตุลาคม 2565 ขึ้น 15 ค่ำ เดือนสิบเอ็ด(11) ปีขาล (วันออกพรรษา)
  • วันอังคารที่ 18 ตุลาคม 2565 แรม 8 ค่ำ เดือนสิบเอ็ด(11) ปีขาล
  • วันจันทร์ที่ 24 ตุลาคม 2565 แรม 14 ค่ำ เดือนสิบเอ็ด(11) ปีขาล

ปฏิทินวันพระ เดือนพฤศจิกายน 2565

  • วันอังคารที่ 1 พฤศจิกายน 2565 ขึ้น 8 ค่ำ เดือนสิบสอง(12) ปีขาล
  • วันอังคารที่ 8 พฤศจิกายน 2565 ขึ้น 15 ค่ำ เดือนสิบสอง(12) ปีขาล (วันลอยกระทง)
  • วันพุธที่ 16 พฤศจิกายน 2565 แรม8 ค่ำ เดือนสิบสอง(12) ปีขาล
  • วันพุธที่ 23 พฤศจิกายน 2565 แรม 15 ค่ำ เดือนสิบสอง(12) ปีขาล

ปฏิทินวันพระ เดือนธันวาคม 2565

  • วันพฤหัสบดีที่ 1 ธันวาคม 2565 ขึ้น 8 ค่ำ เดือนอ้าย(1) ปีขาล
  • วันพฤหัสบดีที่ 8 ธันวาคม 2565 ขึ้น 15 ค่ำ เดือนอ้าย(1) ปีขาล
  • วันศุกร์ที่ 16 ธันวาคม 2565 แรม 8 ค่ำ เดือนอ้าย(1) ปีขาล
  • วันพฤหัสบดีที่ 22 ธันวาคม 2565 แรม 14 ค่ำ เดือนอ้าย(1) ปีขาล
  • วันศุกร์ที่ 30 ธันวาคม 2565 ขึ้น 8 ค่ำ เดือนยี่(2) ปีขาล

 

และทั้งหมดนี้คือ ปฏิทิน วันพระ 2565 หากครอบครัวที่นับถือศาสนาพุทธ เป็นพุทธศาสนิกชน ก็อย่าลืม ทำความดี ฟังเทศน์ ฟังธรรม สวดมนต์ ทำบุญไหว้พระในบ้าน และพระที่วัด เพื่อเสริมความเป็นสิริมงคลให้กับตัวคุณเองนะคะ


ขอบคุณข้อมูลจาก : artsandculture.google.com , www.sanook.com

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

ป้อนข้าวลูกท่านอน อันตราย

อันตรายถึงชีวิต!! ป้อนข้าวลูกท่านอน ทารกสำลักถึงตาย

ป้อนข้าวลูกท่านอน อันตรายไหม คำถามดราม่าสนั่นโซเซียลจนคุณหมอเด็กรีบออกมาเตือน อย่าหาทำ ลูกสำลักลงหลอดลม ช่วยไม่ทันอันตรายถึงชีวิต แนะวิธีดูแล และช่วยเหลือ

อันตรายถึงชีวิต!! ป้อนข้าวลูกท่านอน ทารกสำลักถึงตาย

การป้อนอาหารเด็ก เป็นหัวข้อคำถามยอดฮิตอีกหัวข้อหนึ่งในกลุ่มแม่เลี้ยงลูก นานาคำถาม นานาปัญหาสารพัน ไม่ว่าจะเป็น ป้อนข้าวน้องได้ตอนอายุเท่าไหร่ ป้อนอาหารได้ตอนกี่เดือน ป้อนข้าวลูกท่านอน ได้ไหม เป็นต้น ล่าสุดก็เกิดดราม่าในกลุ่มแม่เลี้ยงลูกเล็ก ๆ ที่มีคนสนใจกันมาก ทั้งแชร์ต่อเกือบหมื่น ทั้งมีคอมเมนต์กันอย่างดุเดือด ถึงเรื่องการ ป้อนข้าวลูกท่านอน มาถามว่าป้อนท่าแบบนี้อันตรายหรือไม่?

ไขข้อข้องใจ คำตอบนี้เพื่อแม่!!

ป้อนอาหารลูก ตอนอายุเท่าไหร่ดี??

ตั้งแต่แรกเกิดจนอายุ 6 เดือน ลูกน้อยได้รับสารอาหารทั้งหมดที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโต และพัฒนาการจากนมแม่ ทารกไม่ต้องการอะไรนอกจากนมแม่ ไม่จำเป็นต้องป้อนน้ำ ชา น้ำผลไม้ ข้าวต้ม หรืออาหารหรือของเหลวอื่น ๆ ในช่วงนี้

อีกเคสอุทาหรณ์สำหรับการรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของการป้อนอาหารเด็กทารกสำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่มีความเชื่อ หรือความเข้าใจผิด ๆ นั้น โดย คุณหมอ สุธีรา เอื้อไพโรจน์กิจ กุมารแพทย์ทารกแรกเกิด ได้หยิบยกนำมาเป็นเคสตัวอย่างเพื่อบอกต่อให้พ่อแม่คนอื่น ๆ ได้เข้าใจ และระมัดระวังจะได้ไม่เกิดเรื่องน่าเศร้าขึ้นอีกต่อไป

เคสตัวอย่าง จากเพจ สุธีรา เอื้อไพโรจน์กิจ (ป้าหมอ)
เคสตัวอย่าง จากเพจ สุธีรา เอื้อไพโรจน์กิจ (ป้าหมอ)

การที่คุณพ่อคุณแม่ในเรื่องเข้าใจผิดเห็นลูกทำท่าอยากกินเวลาที่คุณแม่กำลังกินอาหาร เลยเคี้ยวแล้วป้อนให้ลูกกิน หรือความเชื่อแต่ดั้งเดิมที่ทำต่อ ๆ กันมาในบางครอบครัวที่เห็นว่า ป้อนข้าวลูกอายุต่ำกว่า 6 เดือนมาแล้วหลายคนไม่เห็นเป็นอะไร นับว่าเป็นอันตรายมาก เพราะบางครั้งคุณอาจโชคดีที่ลูกไม่เป็นไร แต่หากผิดพลาดไปอันตรายถึงชีวิตเด็กได้

#ป้อนอาหารอื่นก่อน 6 เดือนเสี่ยงอันตรายถึงชีวิต
.
หนูน้อยอายุ 7 วันพ่อแม่ป้อนอาหารแล้วมีการโพสต์ภาพลงเฟสบุ๊ค
.
อายุ 8 วันน้องตัวเหลือง ไปรพ. คุณพ่อเข้าใจผิดว่า หมอเจ้าของไข้จะเลี้ยงไข้ พ่อไม่ยอม จึงพากลับบ้าน อีก 2 วันต่อมา น้องตัวเหลืองเพิ่มขึ้น พากลับไปรพ.อีกครั้ง รพ.บอกว่าอาการหนักแล้วต้องส่งต่อไปรักษาที่รพ.อีกแห่ง สุดท้ายรพ.ที่สองแจ้งว่า น้องอาการหนัก ตัวเหลืองมาก ติดเชื้อในกระแสเลือด ไตวาย น้ำเหลืองไม่ดี ในที่สุดน้องเสียชีวิต
.
สันนิษฐานว่ากรณีนี้อาจเป็นอีกรายหนึ่งที่ต้องสูญเสียชีวิตจากการเริ่มป้อนอาหารเร็วเกินไป กระเพาะอาหารและลำไส้ของทารกยังไม่แข็งแรงพอที่จะย่อยหรือดูดซึมอาหารอื่นที่ไม่ใช่นม เมื่อลำไส้อักเสบก็เกิดการติดเชื้อแทรกซ้อนเข้ากระแสเลือด จนเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต
.
อย่าเชื่อคำพูดว่า โบราณก็ทำกันมา ไม่เห็นเป็นอะไร หรือ เธอก็ถูกเลี้ยงมาแบบนี้ ยังไม่เห็นเป็นไรเลย เพราะลูกเราอาจโชคร้ายเป็นแบบเคสตัวอย่างหรืออีกหลายๆเคสที่เป็นข่าวมาเป็นระยะๆ
ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก เพจ สุธีรา เอื้อไพโรจน์กิจ
ไม่ควรป้อนอาหารลูกก่อน 6 เดือน ไม่ ป้อนข้าวลูกท่านอน
ไม่ควรป้อนอาหารลูกก่อน 6 เดือน ไม่ ป้อนข้าวลูกท่านอน

เหตุใดไม่ควรป้อนอาหารเด็กก่อนอายุ 6 เดือน??

ทารกที่รับประทานอาหารหรือของเหลวอื่น ๆ ที่ไม่ใช่นมแม่ก่อนอายุ 6 เดือนจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยต่าง ๆ อาทิ ท้องเสีย ซึ่งอาจทำให้เด็กผอม อ่อนแอและอาจถึงแก่ชีวิตได้ และทำให้ลูกได้รับนมแม่น้อยลง ดังนั้นปริมาณน้ำนมแม่ที่น้อยลงก็จะทำให้สารอาหารที่จำเป็นสำหรับทารกที่อยู่ในนมแม่ก็จะน้อยลงด้วยเช่นกัน

หากคุณพ่อคุณแม่เห็นลูกที่อายุน้อยกว่า 6 เดือน ยกมือขึ้นมาจ่อที่ปาก คุณอาจเข้าใจผิดว่าลูกยังหิวอยู่ และนมแม่อาจไม่อยู่ท้อง แต่จริง ๆ แล้ว ลูกน้อยเพียงแค่แสดงอาการสนใจสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ทำ แต่ไม่ได้หมายความว่าลูกของคุณต้องการอาหาร หรือหิว เด็กจะพร้อมรับประทานอาหารแข็งเมื่ออายุครบ 6 เดือนเท่านั้น เพราะนอกจากการได้รับสารอาหารที่จำเป็นไม่เพียงพอแล้ว ยังเสี่ยงต่อการสำลักอาหารของเด็กอีกด้วย

ดราม่าสนั่น ป้อนข้าวลูกท่านอน ได้ไหม??

การป้อนข้าวลูกท่านอน เกิดเป็นประเด็นขึ้นมาได้ เนื่องจากเราพบว่าในหลายครอบครัวมีวิธีปฎิบัติสืบทอดกันมากับการป้อนอาหารลูก โดยจัดให้ลูกอยู่ในท่านอน ลักษณะที่ผู้ป้อนข้าวนั่งเหยียดขา จากนั้นให้เด็กนอนบนร่องขาทั้งสองข้าง และหันหัวมาทางลำตัวเรา เป็นท่าที่ใช้ป้อนข้าวเด็กทารกที่มีความเชื่อกันว่าทำให้การป้อนข้าวไม่เลอะเทอะ และถ้าเมื่อมีอาการปวดเมื่อยลำตัวของผู้ป้อน แสดงว่า ลูกน่าจะกินอิ่มพอดี

เมื่อประเด็นดังกล่าวได้เข้ามาสู่วงโซเซียลจึงเกิดการโต้เถึยงถึงความถูกต้องเหมาะสมกันอย่างกว้างขวาง วันนี้ ทีมแม่ ABK มีคำแนะนำจากคุณหมอสุธีราเกี่ยวกับการป้อนอาหารเด็กที่ถูกต้องตามสุขลักษณะมาฝากกันว่า ควรจะป้อนท่านอนดีหรือไม่

 

ป้อนข้าวลูกท่านอน อันตราย
ป้อนข้าวลูกท่านอน อันตราย
ขอขอบคุณภาพและข้อมูลจาก เพจ Drama-addict

ป้อนข้าวลูกท่านอน เสี่ยง!!

ก่อนอื่นต้องขอทำความเข้าใจเกี่ยวกับการป้อนอาหารเด็กก่อนว่าในที่นี้เราจะขอพูดถึงการป้อนอาหารเด็กเมื่อเด็กอยู่ในวัยมากกว่า 6 เดือนขึ้นไปเสียก่อน ดั่งเหตุผลจากข้อข้องใจข้างต้น การให้ลูกนอนรับประทานอาหารนั้น ลูกจะกลืนอาหารได้ยากกว่าการนั่ง หากนึกไม่ออก อยากให้คุณพ่อคุณแม่ลองนึกถึงความรู้สึกของตัวเองเวลาต้องนอนกินข้าว แน่นอนว่ามีความยากลำบากในการกลืนอันดับแรก และไม่ส่งผลดีต่อระบบย่อยอาหารของมนุษย์ที่มีแนวลำตัวในทางตั้งตรงอย่างแน่นอน

นอกจากนั้น คุณหมอสุธีราได้ให้ข้อคิดเตือนใจในการป้อนข้าวลูกท่านอน ว่า

“อายุเท่าไหร่ ก็ไม่ควรอยู่ในท่านอนรับประทาน เพราะว่ามันจะทำให้เวลาที่รับประทาน มีโอกาสที่อาหารที่จะลงไปในท่อหลอดลมได้ เพราะฉะนั้นตรงนี้เศษอาหารมันจะลงไปในหลอดลม และจะลงไปที่ปอดได้ ทำให้มีการติดเชื้อ ทำให้มีการอักเสบที่ปอด หรือที่เรียกว่าโรคปอดบวม ถ้าสมมติว่าเราไปป้อนในเด็กที่ต่ำกว่า 6 เดือน บางคนอาจจะพอได้ ใช้คำว่าพอได้ มันยังมีโอกาสที่จะสำลักอาหารลงไปในท่อหลอดลมได้”

ถอดคำคุณหมอสุธีรา จากการให้สัมภาษณ์ในรายการ สติข่าว ช่อง one31 

สรุปได้ว่าการป้อนข้าวลูกท่านอน นอกจากจะเสี่ยงทำให้เกิดโอกาสสำลักแล้ว หากอาหารเข้าหลอดลม จะทำให้เกิดอาการปอดบวมตามมาอีกด้วย ซึ่งเป็นอันตรายมาก หากเป็นหนัก ๆ อาจถึงขั้นปอดติดเชื้อ ระบบหายใจล้มเหลวได้เลย

ป้อนข้าวลูกท่านอน อาจสำลักอาหารถึงตายได้
ป้อนข้าวลูกท่านอน อาจสำลักอาหารถึงตายได้

สำลักอาหาร อันตรายถึงชีวิต 

การสำลักอาหารไม่ว่าเกิดกับบุคคลวัยใดก็ย่อมเกิดความเสี่ยงอันตรายอยู่แล้ว หากเกิดกับเด็กทารก ตัวเล็ก ๆ จึงเป็นเรื่องที่น่าตกใจไม่น้อย ดังนั้นเรามาทำความเข้าใจอาการ วิธีป้องกัน และวิธีช่วยเหลือเมื่อเจ้าหนูน้อยสำลักกัน เพื่อความปลอดภัยหากเกิดเหตุการณ์

สำลัก อาการเล็กๆ แต่ใหญ่สำหรับเจ้าหนู
อาการสำลักอาหาร ส่วนใหญ่แล้วมักจะเกิดขึ้นได้ในเด็กเล็ก ส่วนน้อยที่เกิดขึ้นในเด็กที่ อายุต่ำกว่า 1 ขวบ แต่ไม่ใช่ว่าเด็กเล็กที่อายุไม่ถึงขวบจะไม่สำลักอาหารหรือนม ในทารก ก็สามารถเกิดได้เช่นกัน เราจึงเสนอวิธีการช่วยเหลือลูกเบื้องต้นเพื่อที่จะช่วยลูกให้หาย สำลักได้ทันท่วงที

ป้องกันไม่ให้สำลัก

  • เริ่มจากการจัดท่าทางในการป้อนอาหาร คือ ควรให้อาหารลูกในท่านั่งประคองศีรษะให้ ตั้งตรง พยายามให้อาหารในท่าที่ถนัด และจัดท่าทางให้ลูกในท่าที่สามารถรับอาหารได้ไม่ลำบาก
  • พยายามอย่าให้ลูกเล่นของที่มีลักษณะกลม ๆ เช่น ลูกปัด ลูกอม หรือของเล่นที่มีสีหลุด ลอกง่าย เพราะของเล่นเหล่านี้เป็นสาเหตุสำคัญที่ก่อให้เกิดอาการสำลักได้
  • อาหารบางชนิดที่เป็นอาหารชนิดใหม่เด็กอาจไม่ชอบ ทำให้ไม่ยอมกลืนอาหาร และมักคายออกมาจนสำลักได้ ดังนั้นคุณแม่ควรพิจารณาอาหารเสริมที่จะนำมาป้อนให้ลูกน้อยด้วย

วิธีช่วยเหลือเมื่อทารกสำลัก

  1. เมื่อลูกสำลักให้จับลูกคว่ำหน้าลงโดยให้ศีรษะอยู่ต่ำกว่าหน้าอก และใช้ฝ่ามือข้างที่ถนัดพยุงศรีษะของเด็กเอาไว้ โดยระวังอย่าให้มือไปปิดจมูก หรือปากของเด็ก
  2. วางแขนข้างที่พยุงเด็กไว้บนต้นขา จากนั้นใช้มือตบลงบนสันหลังตรงกระดูกสะบัก 4 ครั้งติด ๆ กัน
  3. หากอาหาร หรือสิ่งแปลกปลอมไม่ออกมา ให้คุณแม่จับเด็กหงายขึ้น และวางบนแขนที่อยู่บนหน้าตัก ให้ศีรษะลูกชี้ลงไปที่พื้น
  4. ใช้นิ้ว 3 นิ้วของแม่กดบริเวณใต้ตอลิ้นปี่เบาๆ กดประมาณ 4-5 ครั้ง
  5. ตรวจดูสิ่งแปลกปลอมในช่องปากของเด็ก หากพบให้เอาออก และทำการช่วยหายใจ

    ระวังลูกสำลัก ไม่วางสิ่งของใกล้มือเด็ก
    ระวังลูกสำลัก ไม่วางสิ่งของใกล้มือเด็ก

วิธีทำการช่วยหายใจเด็กทารก

  • จับหน้าผากลูก และเชยคางขึ้น เพื่อให้ทางเดินหายใจเปิด
  • ใช้ปากประกบไปที่ ปากและจมูกของเด็ก เป่าลมและสังเกตการเคลื่อนไหวของหน้าอก ซึ่งหากเป่าได้ถูกต้องหน้าอกจะยกขึ้น จากนั้นยกปากออก สังเกตการยุบตัวลงของหน้าอก ทำซ้ำแบบนี้ 2 ครั้งการปฐมพยาบาลที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ เหมาะสำหรับการช่วยเหลือเด็กทารก และเด็กเล็ก แต่หากเป็นเด็กโตจะใช้วิธีอื่นที่ยากกว่านี้หน่อย ซึ่งหากคุณแม่ปฎิบัติเบื้องต้นตามที่กล่าวมาแล้วไม่พบอาหาร หรือสิ่งแปลกปลอมในช่องปากให้เรียกรถพยาบาลเพื่อการช่วยเหลือที่ ทันท่วงที
ขอขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก www.phyathai-sriracha.com
เรื่องดราม่าข้อถกเถียง แม้บางครั้งอาจดูเกินเลยจากประเด็นไปบ้าง แต่ข้อดีของการหยิบยกเรื่องราวมาถกเถียงกัน คือ การที่เราสามารถให้ความรู้ที่ถูกต้องแก่ผู้ที่ยังไม่เข้าใจ จะได้ปฎิบัติตัวได้อย่างถูกต้อง และลดเหตุการณ์น่าเศร้า อันไม่ควรเกิดขึ้นจากความไม่รู้ลงได้
อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก
ประโยคภาษาอังกฤษสั้นๆ

50 ประโยคภาษาอังกฤษสั้นๆ ใช้สอนลูก ให้พูดได้แต่เด็ก!

การพูดภาษาอังกฤษกับลูกตั้งแต่เด็ก จะทำให้ลูกคุ้นเคยกับภาษา เสริมสร้างให้ลูกอยากพูด อยากเรียนรู้ภาษาอังกฤษ ทีมแม่ ABK จึงขอรวบรวม ประโยคภาษาอังกฤษสั้นๆ ไว้ใช้สอนลูกกันค่ะ

50 ประโยคภาษาอังกฤษสั้นๆ ใช้สอนลูก ให้พูดได้แต่เด็ก!

ทำไมลูกต้องฝึกภาษาอังกฤษตั้งแต่เด็ก? ในสมัยนี้ เราต้องยอมรับว่าภาษาอังกฤษ เป็นภาษาที่เด็กทุกคนควรพูดได้ ฟังเข้าใจ อ่านเขียนคล่อง เพราะทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวเราล้วนแล้วแต่ใช้ภาษาอังกฤษทั้งนั้น การจะให้ลูกฝึกภาษาอังกฤษเมื่อเข้าเรียน ก็ดูจะช้าเกินไป อีกทั้งการปลูกฝังให้ลูกคุ้นเคยกับภาษาอังกฤษ จะช่วยเสริมสร้างให้ลูกอยากพูด อยากเรียนรู้ และคุ้นเคยกับภาษาได้ดีขึ้น เมื่อถึงเวลาที่ลูกเริ่มพูด ลูกก็จะกล้าพูดโดยไม่ต้องกลัวว่าจะพูดผิดถูก

แต่การสอนเด็กเล็กนั้น แตกต่างจากการสอนเด็กในวัยประถม เพราะลูกไม่ยอมนั่งโต๊ะอยู่เฉย ๆ ให้คุณพ่อคุณแม่สอนแกรมม่าหรือสอนตัวหนังสือแน่นอนค่ะ ดังนั้น เรามีเคล็ดลับดี ๆ ในการสอนลูกให้พูดภาษาอังกฤษได้ตั้งแต่เล็ก ๆ มาฝากกันค่ะ

7 เคล็ดลับดี๊ดี สอนลูกให้พูดภาษาอังกฤษได้ตั้งแต่เล็ก ๆ

  1. กำหนดเวลา English Time

สำหรับเด็กที่เริ่มตอบโต้เป็นภาษาอังกฤษได้บ้างแล้ว คุณพ่อคุณแม่อาจจะทำข้อตกลงกันว่าใน 1 วัน ขอตั้งช่วงเวลา อาจจะประมาณ 15-20 นาที ในการพูดภาษาอังกฤษกัน ในช่วงเวลานี้จะไม่มีการพูดภาษาไทยเลย โดยใช้ชีวิตประจำวันตามปกติเหมือนเดิม เพียงแต่เวลาพูด จะใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารเท่านั้น

2. เรียนรู้ภาษาอังกฤษ ผ่านเกมสนุ๊ก..สนุก

หากเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับเกมแล้ว เด็กย่อมสนใจอย่างแน่นอน มาทำให้การพูดภาษาอังกฤษไม่น่าเบื่อ ไม่เป็นเรื่องเคอะเขิน ด้วยการเล่นเกมต่าง ๆ เด็กจะเกิดความสนุกสนาน มีความรู้สึกด้านบวกต่อภาษา และกล้าพูดมากขึ้น เพราะเป็นเรื่องที่ตัวเองชอบ สนใจ และสนุก เช่น เกม Flash Card ทายคำศัพท์ภาษาอังกฤษ สนุก ๆ เป็นต้น

3. เล่นบทบาทสมมติ

หากลูกชอบเจ้าหญิง ให้สมมติว่าลูกเป็นเจ้าหญิงที่กำลังคุยกับเจ้าชาย กันไปเล้ย หรือหากลูกชอบฮีโร่ ลองสมมติให้ลูกเป็นฮีโร่มาช่วยกอบกู้โลกกัน! แล้วใช้การพูดคุยผ่านภาษาอังกฤษเข้าไปเพื่อให้น้องพูดคุยโต้ตอบกลับมา ก็จะช่วยฝึกเรื่อง Speaking ได้ดีมาก

สอนลูกพูดภาษาอังกฤษ
สอนลูกพูดภาษาอังกฤษ

4. ใช้สมุดภาพสอนภาษา

การเรียนรู้ว่าสิ่ง ๆ นั้นคืออะไร หากคุณพ่อคุณแม่ใช้ภาษาอังกฤษแทนของสิ่งนั้นเป็นครั้งแรก เด็กจะจำได้ว่าสิ่งนั้นคืออะไรเป็นภาษาอังกฤษได้ง่าย ๆ เลยค่ะ ลองซื้อสมุดภาพคำศัพท์ที่มีสีสันน่าดึงดูด มาเปิดสอนลูกทีละคำว่ารูป ๆ นั้นมีภาษาอังกฤษว่าอะไร ลูกจะจำคำศัพท์ได้เป็นอย่างดี

5. ใช้เพลงประกอบ หรือดนตรีเพื่อสร้างความสนุก

สื่อการสอนอย่างวิดีโอ และเสียงเพลงยังคงใช้ได้ผลในทุกยุคทุกสมัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสมัยนี้ที่คลิปเพลงสอนภาษาอังกฤษสำหรับเด็กมีอยู่เต็มยูทูปไปหมด คุณพ่อคุณแม่สามารถเลือกมาเปิดได้ตามความชอบ เพราะเสียงเพลง และจังหวะสนุกๆ จะกระตุ้นให้เด็กเกิดความสนใจ และมีสมาธิกับสิ่งนั้น แล้วถ้าเด็กจำเนื้อร้อง (ที่ส่วนใหญ่สอดแทรกการสอนคำศัพท์เข้าไปด้วย) ได้ ก็จะยิ่งทำให้เด็กจำได้ง่ายมากขึ้น

6. เล่านิทานก็ฝึกได้

เด็กๆ หลายคนชอบฟังนิทานก่อนนอน ถ้าพ่อแม่อยากใช้เวลาสั้นๆ ก่อนนอนตรงนี้ฝึกภาษาด้วยก็สามารถทำได้โดยการหานิทานสั้นๆ มาเล่าเป็นภาษาอังกฤษ หรือจะให้น้องอ่านนิทานสั้นที่มีคำศัพท์ง่ายๆ ในเบื้องต้นก่อนก็เป็นการฝึกพูด และฟังได้ดีทีเดียว

อ่านต่อ บอกต่อจ้าแม่!! 50 นิทานสำหรับเด็ก 0-3 ปี ที่ควรอ่านให้ลูกฟังก่อนนอน

7. พยายามใช้ภาษาให้ได้ทุกวัน

ความสม่ำเสมอเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด หากต้องการให้ลูกคุ้นชินกับภาษา คุณพ่อคุณแม่ก็ควรพูดภาษานั้น ๆ กับลูกทุก ๆ วัน เพราะการใช้ภาษาในชีวิตประจำวันตลอดจะช่วยฝึกให้น้องจดจำ และคุ้นชินกับภาษา จนทำให้เด็กพูดได้อย่างเป็นปกติ

รู้เคล็ดลับในการสอนให้ลูกพูดภาษาอังกฤษได้ตั้งแต่เล็ก ๆ กันไปแล้ว มาดูตัวอย่าง ประโยคภาษาอังกฤษสั้นๆ ง่าย ๆ ไว้ใช้พูดกับลูกกันค่ะ

50 ประโยคภาษาอังกฤษสั้นๆ ใช้สอนลูก ให้พูดได้แต่เด็ก!

ประโยคภาษาอังกฤษสั้นๆ คำแปล
1. Good morning.  สวัสดีตอนเช้า
2. Did you sleep well?  หลับสบายไหมจ๊ะ
3. Brush your teeth.  แปรงฟันกันเถอะ
4. Wash your face.  ล้างหน้าล้างตา
5. Put on your cloths.  ใส่เสื้อผ้าจ้ะลูก
6. Do you need help?  ให้ช่วยไหมจ๊ะ
7. Yes, please.  ค่ะ (ครับ) ได้โปรด
8. No, thank you.  ไม่ต้องค่ะ (ครับ) ขอบคุณ
9. Eat your food.  กินข้าวนะลูก
10. Is it yummy?  อร่อยไหมลูก
11. Are you hungry?  หิวไหม
12. Do you want more?  เอาเพิ่มไหมจ๊ะ
13. What do you want?  อยากได้อะไรคะ
14. Let’s play  มาเล่นกันเถอะ
15. What is this?  นี่คืออะไร
16. This is a rainbow.  นี่คือสายรุ้ง
17. It’s your turn.  ถึงตาลูกแล้ว
18. Tidy up, please.  เก็บของด้วยค่ะ ลูก
19. I’m done. ทำเสร็จแล้ว
20. Where is the bird?  นกอยู่ที่ไหน
21. Please come over here.  มาตรงนี้หน่อยค่ะ
22. Is it fun? Be careful!  สนุกไหมคะ? ระวังด้วยนะ
23. Please don’t cry.  ไม่ร้องไห้นะ
24. Be nice.  ทำตัวดีๆ นะคะ
25. I’m sorry.  ขอโทษค่ะ

26. share with your friend.

 แบ่งกับเพื่อนๆ ด้วยนะ

27. We are going home.  เรากำลังกลับบ้านกันนะ
28. Let’s take a bath.  อาบน้ำกันเถอะ
29. Turn on/off the light.  เปิด (ปิด) ไฟ
30. Good night and sweet dreams.  ราตรีสวัสดิ์และฝันดีนะคะ
31. Did you sleep well? หลับสบายไหมคะ
32. You are the best. ลูกเก่งที่สุดเลยจ๊ะ
33. Do you need help? ต้องการให้ช่วยไหมจ๊ะ
34. Wait a minute. รอสักครู่นะจ๊ะ
35. What are you doing? กำลังทำอะไรอยู่คะ
36. Turn Left. หันซ้าย
37. Turn Right. หันขวา
38. Good Afternoon. สวัสดีตอนกลางวัน
39. Good Evening. สวัสดีตอนเย็น
40. How are you today? วันนี้เป็นอย่างไรบ้างจ๊ะ
41. I’m fine, thank you. พ่อ/แม่ สบายดีจ๊ะ ขอบคุณ
42. Don’t do that! อย่าทำอย่างนี้
43. Take a shower. ไปอาบน้ำกัน
44. Comb your hair. หวีผม
45. Put the food scraps in the trash can. เอาเศษอาหารไปทิ้งด้วยจ๊ะ
46. Get in a car. ขึ้นรถกันเถอะ
47. Where do you want to go? เราจะไปไหนกันดี ลูกอยากไปไหนจ๊ะ
48. Sit properly. นั่งให้เรียบร้อย
49. It’s dangerous! อันตราย!
50. Time to go home. ได้เวลากลับบ้านแล้วจ๊ะ
สอนภาษาอังกฤษลูก
สอนภาษาอังกฤษลูก

การฝึกให้ลูกๆ คุ้นชินกับภาษาตั้งแต่เด็กจะลดความเขินอาย หรือลังเลที่จะพูดไปเกือบหมด แล้วจะทำให้น้องกล้าพูดอย่างเป็นธรรมชาติ เพราะคนไทยส่วนใหญ่ต่างอยากพูดภาษาอังกฤษเป็นแม้กระทั่งในตอนที่โตแล้ว แต่เกิดความลังเล และเขินอาย ไม่กล้าพูดออกมา เพราะว่ากลัวพูดผิด พูดไม่ถูกรูปประโยค แล้วจะดูไม่ดีในสายตาคนอื่น ซึ่งการฝึกภาษาตั้งแต่เด็กจะช่วยทำลายกรอบตรงนี้ไปได้อย่างสิ้นเชิงเลยทีเดียว ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่คนไหนที่อยากพัฒนาทักษะด้านภาษาอังกฤษให้ลูกๆ ไว้ตั้งแต่เด็กก็ลองนำไปปรับใช้กันได้ แต่ต้องย้ำนิดนึงว่าเด็กแต่ละคนใช้เวลาในการเรียนรู้แตกต่างกันออกไป เพราะฉะนั้น อย่าบีบบังคับ หรือเร่งให้ทำได้อย่างใจพ่อแม่ แต่ขอให้ใช้ความอดทน และทำต่อไปเรื่อยๆ รับรองว่าน้องจะเก่งขึ้นแน่นอนค่ะ

อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

วิธีสอนลูกเรียนเก่ง เริ่มต้นได้ที่บ้าน

ให้ลูกเรียนภาษาจีนที่ไหนดี 6 สถาบันสอนภาษาจีนสำหรับเด็ก ปูทางให้ลูกเก่ง 3 ภาษา

เผยเคล็ดลับ! วิธีสอนภาษาอังกฤษลูก ให้เก่ง โดยไม่ต้องเรียนพิเศษ

10 เทคนิค สอนการบ้านลูก ให้สำเร็จ แบบไม่เสียน้ำตา

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : ihbangkok.com, www.edufirstschool.com

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

ชื่อไทยโบราณ

214 ชื่อไทยโบราณ +ความหมายมงคล สำหรับลูกสาว-ชาย

อยากตั้งชื่อลูกให้ดูไทยแท้ ๆ แต่ใช้ได้กับยุคสมัยนี้ มาดู 200 ไอเดีย ชื่อไทยโบราณ พร้อมความหมายมงคล มีทั้งชื่อสำหรับลูกสาว และลูกชาย ได้ที่นี่

214 ชื่อไทยโบราณ +ความหมายมงคล สำหรับลูกสาว-ชาย

แม้ในยุคสมัยนี้ พ่อแม่หลายคนเลือกที่จะ ตั้งชื่อลูก เป็นภาษาต่างประเทศ เช่น ตั้งชื่อลูกภาษาอังกฤษ ชื่อภาษาจีน ชื่อภาษาญี่ปุ่น ชื่อภาษาเกาหลี แต่หลาย ๆ บ้านก็เลือกที่จะตั้งชื่อลูกเป็นภาษาไทย ชื่อไทยโบราณ แม้ชื่อเหล่านี้เป็นชื่อโบราณ แต่ก็เป็นชื่อที่สามารถใช้ได้กับทุกยุคทุกสมัยเลยค่ะ มาดูกันเลย

214 ชื่อไทยโบราณ +ความหมายมงคล สำหรับลูกสาว-ชาย

ชื่อ

ความหมาย

กชกร กระพุ่มไหว้ ทำอัญชลี
กชอินทร์ ดอกบัวใหญ่
กนกพร ทองประเสริฐ
กนกอร ผู้หญิงที่ดี
กมลเนตร ตางามดุจดอกบัว
กมลภู เกิดจากดอกบัว พระพรหม
กรกฤต เปล่งรัศมี
กรภุม กระพุ่ม
กรวรรณ มีผิวพรรณงดงาม
กรินทร์ จอมช้าง พญาช้าง
กฤตชัย กระทำชนะแล้ว
กฤติเดช ผู้มีอำนาจและมีความสร้างสรรค์
กลทีบ์ เปรียบเสมือนแสงสว่าง เปรียบเสมือนเกาะหรือที่พึ่ง
กวินนาถ ผู้ม่ที่พึ่งอันดีงาม
กษิรา น้ำนม
กัญจนพร ทองประเสริฐ
กัญญา สาวรุ่น
กัณญิกา สร้อยคอ
กันต์ น่ารัก น่าพอใจ
กันตพิชญ์ ปราชญ์ผู้เป็นที่รัก
กันติศา เจ้าแห่งความรัก
กันยาภรณ์ เครื่องประดับของหญิง
กาณฑ์ ลูกศร ลำต้นของต้นไม้ ตอนหนึ่งของหนังสือ
กานติศา เจ้าแห่งความรัก ยอดแห่งความรัก
กิตตน์ การแสดง การรายงาน
กิตติพัทธ์ เกี่ยวข้องกับเกียรติ
กิรณา รัศมีเรืองรอง
กุลโรจน์ ตระกูลรุ่งโรจน์
ขจรเกียรติ ผู้มีเกียรติฟุ้งไป
คฑาวุธ กระบอง
คมกริช คมของกริช อาวุธชนิดหนึ่ง
คันธทรัพย์ เครื่องหอม
ฆนนาท เสียงฟ้าร้อง
จรรย์อมล ผู้มีความประพฤติดีไม่มีที่ติ
จักรดุลย์ คุณธรรมที่นำไปสู่ความเจริญ อย่างเสมอภาค
จันทกร แสงจันทร์
จันทร์จรี ความนิ่มนวลที่มีความเฉียบคม
จารีย์ ผู้มีความประพฤติที่ดี
จารุภา รัศมีงาม ผู้มีความงามผุดผ่อง
จิณห์วรา มีเครื่องหมายหรือสัญญลักษณ์อันประเสริฐ
จิตรสินี สาวงาม
จิรฐา ฐานะที่มั่นคง
จิระเดช มีอำนาจตลอดกาล
จิรายุ มีอายุยืน
ฉัตรชนก ร่มของพ่อ
ฉันท์ชนิต ก่อให้เกิดความพอใจ
ฉันทิสา มีความพอใจเป็นใหญ่ ยิ่งใหญ่ด้วยความใฝ่ดี
ชญาภา ผู้มีราศีแห่งชัยชนะ
ชนนน การสืบเชื้อสาย
ชนัดดา ความเป็นผู้ให้กำเนิด
ชื่อไทยเท่ๆ
ชื่อไทยเท่ๆ

214 ชื่อไทยโบราณ +ความหมายมงคล สำหรับลูกสาว-ชาย

ชื่อ

ความหมาย

ชนาภา คนผู้มีความรุ่งเรือง
ชนิตา ให้เกิด มารดา
ชนุตร์ คนที่ดีกว่า ดีกว่าคนอื่น
ชยานันท์ ยินดีในชัยชนะ
ชรัมพร น้ำและฟ้า
ชลลดา ลูกคลื่น
ชวิศา เจ้าแห่งเชาวน์ปัญญา
ชัญชกร รัศมีระยิบระยับ
ชัยรพ เสียงโห่ร้องแสดงความมีชัย
ชินภัทร ได้รับชัยชนะและสิริมงคล
ฌายิน ประกอบด้วยการเพ่ง
ญาณวุฒิ เจริญด้วยความรู้
ญาณิน ผู้มีความรู้
ญานุจจัย สะสมความรู้ มีความรู้มาก
ฐานิฏฐ์ เป็นที่น่าพอใจ
ฐิตอัตต์ ผู้สำรวม
ฐิติกานต์ ผู้ที่มีความรักมั่นคง
ฐิติมา มีความคงอยู่
ณฐินี ดำรงอยู่ด้วยความรู้
ณัฎฐ์ ผู้ตั้งอยู่ในความรู้ นักปราชญ์
ณัฏฐพร นักปราชญ์ผู้ประเสริฐ
ณัฐชา ผู้เกิดจากนักปราชญ์
ณัฐธีรา นักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่
ณัฐรณ การรบของนักปราชญ์
ณัฐวัฒน์ ความเจริญของนักปราชญ์
ณิชาภัทร บริสุทธิ์และดีงาม
ดรัณ การข้าม เรือหรือแพ
ดาลป เกิดดี
ตรรกวิท นักปราชญ์
ตั้งปณิธาน ตั้งใจทำสิ่งที่ดี
ตุลยากร มีใจเที่ยงธรรม
ถิร มั่นคง
ถิรยุทธ์ มีการสู้รบอันมั่นคง
ทวีเดช ผู้มีอำนาจมากขึ้น
ทานโยคย์ สมควรแก่การให้
ทิทยุ ท้องฟ้า สวรรค์
ทินาคม เช้าตรู่ เช้าพระอาทิตย์ขึ้น
ทีปรกร รัศมีที่ส่องแสงรุ่งโรจน์
ธนบดี เจ้าของทรัพย์สมบัติ
ธนวัน รุ้งกินน้ำ
ธนัท ผู้ให้ทรัพย์ ผู้ร่ำรวย
ธนารีย์ มีทรัพย์อันประเสริฐ
ธนีพร มีพรเป็นทรัพย์
ธรณินทร์ ผู้เป็นใหญ่ในแผ่นดิน พระเจ้าแผ่นดิน
ธรรมนิตย์ มีธรรมมั่นคง มีธรรมแน่แท้
ธราทร ชื่อพระวิษณุ
ธวัลรัตน์ รัตนะอันบริสุทธิ์
ธัญชนิต ผู้ให้เกิดโชคดี, ให้เกิดสิริมงคล
ธัญพร มีโชคอันประเสริฐ
ธัญสมร หญิงสาวผู้โชคดี
ชื่อไทยลูกสาว
ชื่อไทยลูกสาว

214 ชื่อไทยโบราณ +ความหมายมงคล สำหรับลูกสาว-ชาย

ชื่อ

ความหมาย

ธันยารัตน์ แก้วที่นำมาซึ่งโชคลาภ
ธาราคม ฤดูฝน
ธำรง ทรงไว้
ธินิดา หญิงผู้มั่นคง
ธีรดา ยินดีในความรู้ ความเป็นนักปราชญ์
ธีรพัฒน์ นักปราชญ์ผู้เชี่ยวชาญรอบรู้
ธีราภรณ์ เครื่องประดับของนักปราชญ์
นทีบดี เจ้าแห่งแม่น้ำ
นพิน ใหม่ สด สาวเสมอ
นภัสวรรณ สีฟ้า
นรเทพ เจ้าชาย
นราธิป ผู้เป็นใหญ่ในหมู่คน
นรีรัตน์ นางแก้ว, นางผู้ประเสริฐ
นลินญา ดอกบัว
นวีน ใหม่ สด
นันทน์เทพ ลูกเทวดา
นันท์ลินี หญิงงามผู้มีความบันเทิง หรือความสุข
นันทิมา ผู้มีความเพลิดเพลินหรือผู้มีความสุข
นิกข์นิภา เสมือนแห่งทอง
นิชกานต์ เป็นของตนเป็นที่รัก
นิฏฐา สำเร็จ
นิธูร กำไลมือ
นิมมิต สร้างสรรค์ค์แล้ว
นิรมันย์ ไม่วู่วาม
นิรินธนา หมดกิเลศ
นิศาชล น้ำค้าง
นีรชา ดอกบัว
นุชวรา หญิงสาวผู้ประเสริฐ
บริพันธ์ ร้อยกรอง
บวรรัตน์ รัตนะอันประเสริฐ
บุญทิวา กลางวันที่มีแต่คุณงามความดี
บุณยนุช สาวผู้มีวาสนา
ปกิตตา ผู้ได้รับคำชมเชย
ปณิดา ได้รับการสรรเสริญ
ปนัสยา ชมเชย ชมชอบ สรรเสริญ
ปภาพัน มีใบหน้าสวยงาม
ปยุต ผู้ขยันขันแข็ง
ประไณย ผู้ว่านอนสอนง่าย
ประดิพัทธ์ เสน่หา
ประพุธ ตื่น มีสติ
ประมณฑ์ ผ่องใส
ปรัตถกร ผู้สร้างประโยชน์แก่ส่วนรวม
ปริญญา ความกำหนดรู้ เอกสารรับรองวุฒิ
ปริยากร บ่อเกิดแห่งสิ่งที่รัก มีเสน่ห์
ปรีดิวัฒน์ สิ่งเสริมความยินดี
ปวริศา ผู้ประเสริฐและเป็นใหญ่
ปวีณ ฉลาด เชี่ยวชาญ ปราชญ์ผู้ฉลาด
ปองเดช มุ่งหมายอำนาจ
ปัญญาพร มีพรคือความรู้, มีความรู้ประเสริฐ
ปัณณทัต ให้ความรู้
ตั้งชื่อลูก
ตั้งชื่อลูก

214 ชื่อไทยโบราณ +ความหมายมงคล สำหรับลูกสาว-ชาย

ชื่อ

ความหมาย

ปัถยา ผู้เหมาะสม
ปานตา ประดุจดังดวงตา
ปาริชาต ต้นดอกแคฝอย ต้นทองกวาว ต้นไม้สวรรค์
ปาลินี ผู้รักษา ผู้คุ้มครอง
ปิยดา ความเป็นที่รัก
ปิยมน เป็นที่รักแห่งใจ มีใจเป็นที่รัก
ปิยวัฒน์ เจริญด้วยสิ่งอันเป็นที่รัก
ปุญชรัสมิ์ รัศมีเป็นกลุ่ม รัศมีพวยพุ่ง
ปุณยภา แสงแห่งความดี แสงแห่งคุณธรรม
ปุลพร มีพรมาก มากไปด้วยความประเสริฐ
ผดล อุดหนุน ให้ถึงที่สุด
ผลิน มีผลงาน
พชร เพชร
พนิตพิชา มีความรู้เป็นที่รัก
พรญาณี มีความรู้อันประเสริฐ มีความรู้เป็นพร
พรนัชชา สายน้ำที่ประเสริฐ
พรรณิดา ทองคำ, ตกแต่งแล้ว
พศิกา ผู้อยู่ในอำนาจ ว่านอนสอนง่าย
พัชรางค์ ผู้มีร่างกายกำยำแข็งแรง
พิชญาวี นักปราชญ์
พิมพิศา เจ้าแห่งความงาม ผู้มีรูปร่างงาม
พีรชยา ชัยชนะของผู้กล้าหาญ
ภณิตา ผู้บอก, ผู้พูด
ภัททิยา มีความเจริญ
ภัทรภา มีรัศมีงาม
ภัทราพร ทั้งดีและประเสริฐ
ภาวินี มีความเจริญ
มณฑมาฑ ศาลา, พลับพลา
มณีรัตน์ แก้วมณี
มนตกานต์ มีมนต์เป็นที่รัก, เป็นที่รักดั่งมีมนต์
มนสิริ หัวใจที่อิ่มเอิบ
มนัสสินี ผู้มีใจ
มัทนพร มีพรคือความรัก
มุนินทร์ จอมนักปราชญ์
รมัณยา น่ารื่นรมย์ยิ่ง
รัญชน์ ความยินดี
รุจิษยา รุ่งเรือง อ่อนหวานน่ารัก
วรรณวิภา แสงสว่างอันงดงาม
วรัญชลี การกระพุ่มมือ การนอบน้อมอย่างยิ่ง
วรินทร์ ดีและยิ่งใหญ่
วรุณพร พรจากสวรรค์
วสุนันท์ ยินดีในทรัพย์
วัชราภรณ์ เครื่องประดับเพชร
วัทน์สิริ มีใบหน้างาม พูดเป็นเสน่ห์
วาสินี อยู่ประจำ สถิตอยู่ มั่นคง
วิชชุดา สายฟ้า, ประดุจสายฟ้า, แสงไฟ
วิมลศรี มีความสะอาดบริสุทธิ์เป็นมิ่งขวัญ
วิรัญชนา เป็นที่ยินดียิ่ง เป็นที่ชอบใจยิ่ง
วิสาข์ เดือนวิสาขะ
ศลิษา การกอดรัด
ศศิวิมล จันทร์กระจ่าง สวยเหมือนพระจันทร์
ศิวิกา เสลี่ยง คานหาม
ศุกลภัทร ขาวงาม, ขาวนวล
ศุทธินี ผู้มีความหมดจด, ผู้มีความบริสุทธิ์
สิณิสา ลูกสะใภ้
สิรินาถ มีที่พึ่งอันเป็นสิริมงคล
สุธางศุ์ รัศมีขาว พระจันทร์ การบูร
อกนิษฐ์ พรหมชั้นที่หก
อนัญญา เป็นหนึ่ง ไม่มีสอง
อรณัญช์ ไม่ก่อข้าศึก ไม่มีโทษ
อรนิช งามชั่วนิรันดร
อรพินท์ ดอกบัว
อังควิภา รัศมีแห่งสรรพางค์ งามทั่วสรรพางค์

อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

200 ชื่อไทย ความหมายดี เพราะๆ เหมาะกับเด็กชาย-หญิง

ชื่อจริงลูกชาย 300 ชื่อมงคล ตั้งให้ลูก โตไปมีอำนาจ ได้เป็นเจ้าคนนายคน

ตั้งชื่อจริงลูก 250 ชื่อจริง ความหมายดี ชื่อมงคล ปี 2021

200 ชื่อเล่นลูกชาย ความหมายดีๆ พ่อแม่ยุคใหม่ เช็กเลย!!

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : www.myhora.com, astro.meemodel.com

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

ไข้หวัดใหญ่ในเด็ก

ระวัง ไข้หวัดใหญ่ในเด็ก หวั่นระบาดซ้อนโควิด

โรคไข้หวัดใหญ่พบได้บ่อย ทั้ง ไข้หวัดใหญ่ในเด็ก และผู้ใหญ่ และจะมีการระบาด จนทำให้ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเป็นจำนวนมากในช่วงฤดูหนาว เนื่องจากโรคไข้หวัดใหญ่ เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ  เมื่ออากาศเปลี่ยนแปลง โรคก็จะแพร่กระจายได้ง่ายมากขึ้น โดยเฉพาะในเด็กที่จะติดต่อกันได้ง่าย

ระวัง ไข้หวัดใหญ่ในเด็ก หวั่นระบาดซ้อนโควิด

วันที่ 17 ม.ค. 2022 สำนักข่าวรอยเตอร์ส (Reuters) รายงานว่า ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหภาพยุโรป (ECDC) พบจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ (Influenza) สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ ทำให้เกิดความกังวลว่า ยุโรปอาจเผชิญกับภาวะโรคระบาดซ้อน ทั้งจากโรคไข้หวัดใหญ่ และโรคโควิด-19

น่าห่วง! ผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ รวมทั้ง ไข้หวัดใหญ่ในเด็ก เข้าไอซียูเยอะขึ้น

เนื่องจากในตอนนี้ หลายประเทศผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ทำให้เริ่มเห็นจำนวนผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่เพิ่มขึ้น โดยในสัปดาห์สุดท้าย ของปี 2021 ทาง ECDC และองค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยว่า มีผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ที่ต้องเข้ารับการรักษาในห้องไอซียู 43 ราย เมื่อนำไปเทียบกับ ปี 2020 ที่มีผู้ป่วยเข้าไอซียูเพียง 1 ราย ตลอดเดือน ธ.ค. เท่ากับว่า จำนวนผู้ป่วยในตอนนี้ เพิ่มสูงขึ้นเป็นอย่างมาก

กรณีที่แย่ที่สุด คือการที่มีผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ ต้องใช้ห้องไอซียูเพิ่มขึ้น และเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน ยังคงแพร่ระบาด ด้วยเหตุนี้ อาจส่งผลทำให้ระบบสาธารณสุข ไม่สามารถรับมือกับการช่วยเหลือผู้ป่วยอาการหนัก จากทั้ง 2 โรค พร้อมกันได้

ไข้หวัดใหญ่ในเด็ก
คุณแม่วัดอุณหภูมิให้ลูก ที่เป็นไข้หวัดใหญ่

ข้อมูลไม่เพียงพอที่จะเตรียมวัคซีน

อีกปัญหาหนึ่งคือ ปกติแล้ว ผู้ผลิตวัคซีนจะประเมินข้อมูลแบบปีต่อปี เพื่อวิเคราะห์ว่า จะต้องใช้วัคซีนชนิดใด ในการรับมือกับสายพันธุ์ ที่คาดว่าจะระบาดในปีถัดไป แต่เมื่อปีก่อนไม่มีการระบาดของไข้หวัดใหญ่ ทำให้ผู้ผลิต มีข้อมูลไม่เพียงพอในการเตรียมวัคซีน ไว้รองรับกับสายพันธุ์ที่กำลังระบาดในช่วงนี้

แม้ว่า สถานการณ์ในประเทศไทย จะยังไม่ได้มีการระบาดของไข้หวัดใหญ่เช่นเดียวกับในยุโรป แต่คุณแม่ก็ควรเตรียมพร้อม เตรียมตัวรับมือ ดูแลลูกน้อยให้ห่างไกลจากไข้หวัดใหญ่ไว้เป็นดีที่สุดค่ะ

รู้จัก “ไข้หวัดใหญ่”

ไข้หวัดใหญ่ เป็นการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจเฉียบพลัน ซึ่งมีสาเหตุมาจาก การติดเชื้อไวรัสที่อยู่ในอากาศ หรือสารคัดหลั่ง ทั้งน้ำมูก น้ำลาย หรือ การไอ จาม ใส่กัน ก็เป็นสาเหตุให้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ได้ เพราะเชื้อไวรัส แพร่กระจายทางอากาศได้ เชื้อจะอยู่ตามละอองฝอย ที่อยู่บนอากาศ เมื่อเด็กสูดเข้าไป ก็จะทำให้ติดเชื้อ “อินฟลูเอนซา” ซึ่งมีอยู่ด้วยกันหลายชนิด ทั้ง เอ บี และ ซี ที่ได้ยินบ่อย ๆ และมีความรุนแรง เช่น สายพันธุ์ H1N1 H5N1 เป็นต้น

อาการของไข้หวัดใหญ่ในเด็ก

สำหรับไข้หวัดธรรมดานั้น อาการไข้จะน้อยกว่าไข้หวัดใหญ่ โดยจะมี น้ำมูกไหล และมีการไอ ร่วมด้วยเท่านั้น ส่วนอาการไข้หวัดใหญ่ในเด็กนั้นมีดังนี้

  • ไข้สูง น้ำมูกใส คัดจมูก ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ เบื่ออาหาร ไข้นานประมาณ 3-7 วัน
  • อาจมีอาเจียน ท้องเสีย ร่วมด้วย
  • ไอและมีน้ำมูก นาน 1-2 สัปดาห์
  • อาการอาจรุนแรงถึงขั้นต้องนอนโรงพยาบาล มีภาวะแทรกซ้อน เช่น ปอดอักเสบ ไซนัสอักเสบ หลอดลมอักเสบ

การดูแลเด็กที่ป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่

อาการไข้หวัดใหญ่ในเด็ก จะมีไข้สูง น้ำมูกใส ไข้นานประมาณ 3-7 วัน
อาการไข้หวัดใหญ่ในเด็กนั้นจะมีไข้สูง น้ำมูกใส คัดจมูก ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ เบื่ออาหาร ไข้นานประมาณ 3-7 วัน
  • เช็ดตัว ให้ยาลดไข้ สวมเสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี ปรับอุณหภูมิห้องให้เหมาะสม
  • ให้เด็กนอนพักผ่อนให้มาก
  • ดื่มน้ำบ่อยๆ เพื่อป้องกันการขาดน้ำ
  • รับประทานอาหารอ่อนๆ
  • กินยาลดไข้ อย่างน้อยทุก ๆ 6 ชั่วโมง เพื่อบรรเทาอาการ
  • สวมผ้าปิดปาก ล้างมือบ่อยๆ แยกสิ่งของเครื่องใช้กับผู้อื่น
  • แนะนำให้หยุดเรียน เป็นระยะเวลา 5-7 วัน แล้วแต่อาการ

เนื่องจากโรคไข้หวัดใหญ่ เกิดจากการติดเชื้อไวรัส การให้ยาปฏิชีวนะจึงไม่มีผล นอกจากว่าจะมีอาการติดเชื้อแทรกซ้อนอื่น หากลูกมีอาการหนัก เช่น มีไข้สูง กินอาหารไม่ได้ ไอมาก มีเสมหะข้นสีเหลืองหรือสีเขียว ควรรีบพบแพทย์เพื่อให้วินิจฉัยอาการเพิ่มเติม แต่ถ้าหากเด็กมีอายุน้อยกว่า 2 ปี เมื่อเริ่มมีอาการอ่อนเพลีย มีไข้สูง ไอจนเหนื่อย ควรรีบพาไปพบแพทย์เช่นกัน เพราะเด็กอายุน้อยอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ง่าย โดยเฉพาะเด็กที่มีภูมิคุ้มกันไม่ดี หรือมีโรคประจำตัว

ไข้หวัดใหญ่… กันไว้ดีกว่าแก้

ไข้หวัดใหญ่เป็นโรคติดต่อที่เกิดจากการสัมผัส หรือการสูดดมละอองหรืออากาศที่มีเชื้อไวรัสกระจายอยู่ ดังนั้นการป้องกันไม่ให้ลูกน้อยติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ที่ดีที่สุดคือ

  • ไม่ควรให้เด็กเข้าใกล้หรือคลุกคลีกับคนป่วยและหลีกเลี่ยงสถานที่แออัด หากจำเป็นควรใส่ผ้าปิดปาก เพื่อป้องกันเชื้อเข้าสู่ร่างกาย
  • ล้างมือให้สะอาดด้วยน้ำและสบู่อย่างสม่ำเสมอ
  • รับวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ซึ่งฉีดได้ตั้งแต่ อายุ 6 เดือน กรณีเริ่มให้วัคซีนเป็นปีแรก จะฉีด 2 ครั้ง ครั้งละ 1 เข็มห่างกัน 1 เดือน จากนั้นฉีดปีละ 1 ครั้ง
  • เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ เปลี่ยนแปลงสายพันธุ์ที่ระบาดเกือบทุกปี วัคซีนจึงต้องเปลี่ยนตลอด จึงต้องฉีดทุกปี แนะนำให้ฉีดในช่วงก่อนที่มีการระบาด เช่น ก่อนฤดูฝน
  • ครอบครัวที่มีเด็กอายุน้อยกว่า 6 เดือน ซึ่งเด็กเองยังรับวัคซีนไม่ได้ สมาชิกในครอบครัวควรรับวัคซีนทุกคน
  • แยกของเล่น ของใช้ให้เป็นส่วนตัว
  • รักษาสุขภาพทั่วไปให้แข็งแรง

ไข้หวัดใหญ่แม้ระบาดก็ป้องกันได้ด้วยหลายวิธี ที่สำคัญที่สุดพ่อแม่ผู้ปกครองต้องคอยสังเกตอาการของบุตรหลาน ให้ฉีดวัคซีนเป็นประจำทุกปี ก็สามารถป้องกันการเกิดไข้หวัดใหญ่ในเด็ก รวมทั้งสามารถบรรเทาอาการของเด็กที่ป่วยได้

ขอบคุณข้อมูลจาก workpointTODAY, โรงพยาบาลสมิติเวช , โรงพยาบาลเปาโล

 

คนท้องมีตกขาว

คนท้องมีตกขาว แบบไหนเรียกปกติ? แบบไหนผิดปกติ?

ปัญหาตกขาวในช่วงตั้งครรภ์ เป็นปัญหาที่พบได้บ่อย และกวนใจคุณแม่มือใหม่กันมาก คนท้องมีตกขาว แบบไหนเรียกปกติ? แบบไหนผิดปกติ? ทีมแม่ ABK มีคำตอบจากพ.ต.ต.พ.ญ.จิตสุภา คุณาเศรษฐ (หมอขิม) สูตินรีแพทย์ และผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษามีบุตรยาก เพจ หมอสูติประตูถัดไป By Dr.Praew Dr.Kim มาฝากค่ะ

จากประสบการณ์ดูแลคุณแม่ตั้งครรภ์ของหมอที่ผ่านมา ต้องบอกว่าคุณแม่ส่วนใหญ่จะพบว่า ตัวเองมีตกขาวหรือมูกช่องคลอดออกมากขึ้นแบบไม่เคยเป็นมาก่อน แม้ว่าส่วนใหญ่จะโชคดีที่มูกช่องคลอดเหล่านั้นเป็นภาวะปกติในช่วงตั้งครรภ์ แต่ส่วนหนึ่งก็พบว่าตกขาวเหล่านั้นคือ สัญญาณผิดปกติของการตั้งครรภ์หรือการติดเชื้อ วันนี้หมอจะมาไขข้อข้องใจให้ฟังว่า ตกขาวแบบไหนที่ “ไหวค่ะแม่” แบบไหนที่ “แย่แล้วหมอ” กันค่ะ

คนท้องมีตกขาว แบบไหนเรียกปกติ? แบบไหนผิดปกติ?

ตกขาวปกติช่วงตั้งครรภ์

มูกช่องคลอดที่มากขึ้นเรียกได้ว่าเป็นสัญญาณแรกๆ ที่บอกว่าเราตั้งครรภ์เลยก็ว่าได้ การที่ช่องคลอดผลิตมูกมากขึ้นเป็นผลมาจากฮอร์โมนที่สูงขึ้นในช่วงตั้งครรภ์ ตกขาวปกติในช่วงตั้งครรภ์อันที่จริงไม่มีผลเสียต่อสุขภาพค่ะ แถมยังช่วยให้ปากมดลูกซึ่งเป็นปราการสำคัญป้องกันเชื้อโรคและสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่มดลูก ให้เกิดความชุ่มชื้นและปิดสนิทในช่วงเวลาที่เหมาะสม ดังนั้นเมื่อมีตกขาวในช่วงตั้งครรภ์ และตรวจพบว่าเป็นมูกปกติไม่ต้องกังวลจนเกินไปค่ะ

แต่อย่างไรก็ดีบางครั้งตกขาวบางประเภทก็เป็นสัญญาณของโรคได้ โดยสามารถสังเกตได้ด้วยตัวเองจากสีของตกขาวดังนี้

1. ตกขาวสีขาวใส-ขาวมูก

ส่วนมากไม่มีกลิ่น หรือมีกลิ่นช่องคลอดแค่จางๆ ร่วมด้วย ไม่มีอาการระคายเคืองช่องคลอด หรือปวดท้องใดๆ ตกขาวแบบแรกนี้เป็นตกขาวที่เกิดได้ปกติในช่วงท้องค่ะ

อย่างไรก็ตาม หากตกขาวเป็นน้ำใสๆ ปริมาณออกมาก กลั้นไม่ได้ โดยเฉพาะเกิดในช่วงครึ่งหลังของการตั้งครรภ์ นั่นอาจเป็นสัญญาณของถุงน้ำคร่ำแตกก่อนกำหนดได้ ควรไปหาหมอเพื่อรับการตรวจค่ะ

2. ตกขาวสีขาวขุ่น แห้งจับเป็นก้อน

อาการร่วมกันที่พบบ่อยคือคันช่องคลอดหรือระคายเคืองช่องคลอด ตกขาวแบบนี้อาจเกิดจากการติดเชื้อรา ซึ่งพบได้บ่อยในช่วงตั้งครรภ์ คุณแม่ควรเข้าไปตรวจกับคุณหมอที่ฝากครรภ์ด้วยเพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม รวมทั้งควรรักษาความสะอาดของจุดซ่อนเร้นสม่ำเสมอ เวลาทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นควรเช็ดให้แห้ง ไม่ปล่อยให้อับชื้นก่อนสวมใส่เสื้อผ้า เลือกชุดชั้นในที่มีเนื้อผ้าโปร่งสบายระบายอากาศได้ดีและไม่รัดแน่น

3. ตกขาวสีเทาอ่อน-เหลืองเข้ม-เหลืองเขียว 

เกิดจากช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งมูกเหล่านั้นมักมีกลิ่นเหม็นคาวร่วมด้วย รวมทั้งพบอาการระคายเคืองในช่องคลอดร่วมด้วยได้ (ในกรณีตกขาวสีเหลืองคุณแม่ต้องลองแยกจากภาวะปัสสาวะเล็ดติดกางเกงชั้นในที่เจอได้บ่อยเช่นกันในคนท้องด้วยนะ)

ปัจจัยส่งเสริมที่ทำให้ช่องคลอดติดเชื้อแบคทีเรีย คือ การที่กลุ่มแบคทีเรียดีในช่องคลอดขาดสมดุล  ซึ่งมักเกิดจากการสวนล้างช่องคลอด ตกขาวสีแบบนี้แน่นอนค่ะ เข้าไปให้คุณหมอตรวจเถอะค่ะ เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม นอกจากนี้การดูแลตนเองที่เหมาะสมคือ รักษาความสะอาดจุดซ่อนเร้นเฉพาะภายนอกค่ะ ไม่ต้องสวนล้างช่องคลอด เวลาปัสสาวะหรือถ่ายให้ล้างทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นจากด้านหน้าไปด้านหลังไม่ย้อนศรนะคะ

4. ตกขาวสีน้ำตาล-สีชมพู

ตกขาวสีน้ำตาลเกิดจากมีเลือดในช่องคลอดแล้วโดนกรดในช่องคลอดเปลี่ยนสภาพให้เป็นสีน้ำตาล ส่วนตกขาวสีชมพูเกิดจากเลือดในช่องคลอดที่เพิ่งออกมาใหม่ๆ มาเจือจางโดยมูกทำให้เห็นเป็นสีชมพูนั่นเอง ดังนั้น ทั้งสองสีจึงเกิดจากการมีเลือดออกในปริมาณไม่มากซึ่งอาจเป็นเลือดที่ออกมาจากช่องคลอด ปากมดลูก หรือมดลูกก็ได้เช่นกัน

  • หากเกิดไตรมาสแรก มักพบได้บ่อยโดยไม่มีอันตราย มักเห็นเป็นมูกสีน้ำตาลหรือชมพูออกมาในปริมาณเล็กน้อยโดยไม่มีอาการปวดท้อง และมักจะตั้งครรภ์ต่อได้โดยไม่ส่งผลเสียต่อการตั้งครรภ์ แต่อย่างไรก็ตาม อาจมีสาเหตุมาจากการอักเสบติดเชื้อ หรือภาวะแท้งคุกคามได้ คุณแม่ควรไปให้คุณหมอตรวจดูเพื่อหาสาเหตุก่อนอย่าเพิ่งชะล่าใจ โดยเฉพาะหากมูกลักษณะนี้เริ่มเป็นสีแดงหรือมีอาการปวดท้องร่วมด้วยควรไปหาหมอทันที เพื่อหาความผิดปกติของการตั้งครรภ์ เช่น แท้งบุตร หรือท้องนอกมดลูกค่ะ
  • เกิดหลังไตรมาสแรก มูกสีน้ำตาลหรือมูกสีชมพูแบบนี้พบได้ไม่บ่อย ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของการตั้งครรภ์ที่ผิดปกติหรืออาการเริ่มต้นของการเจ็บครรภ์คลอด ควรไปหาคุณหมอเพื่อรับการตรวจค่ะ

จะเห็นได้ว่า คนท้องมีตกขาว ไม่อันตรายเสมอไป หากคุณแม่หมั่นสังเกตอาการตัวเองเป็นประจำ ก็จะช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดการตั้งครรภ์ผิดปกติได้ และหากคุณแม่สังเกตพบอาการ ตกขาวผิดปกติ ก็จะได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีค่ะ


Heatlh Quotient ฉลาดดูแลสุขภาพ หนึ่งใน Power BQ 10 ความฉลาดที่เด็กยุคใหม่ควรมี เริ่มต้นได้ตั้งแต่ในท้องแม่ โดยคุณแม่ตั้งครรภ์ เตรียมพร้อมหาข้อมูลต่างๆ ในการดูแลสุขภาพให้แข็งแรงและปลอดภัยกับลูกในท้อง เพื่อส่งต่อสุขภาพที่ดีสู่ลูกน้อยในครรภ์ เป็นต้นทุนชีวิตที่ดีตั้งแต่แรกเกิดให้กับลูกน้อย


เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 


ติดตามสารพันความรู้สำหรับ คุณแม่ตั้งครรภ์ และคุณแม่ที่กำลังเตรียมตัวตรรภ์

กับคุณหมอจิตสุภา ได้ที่ เพจ หมอสูติประตูถัดไป By Dr.Praew Dr.Kim

เพจหมอสูติประตูถัดไป

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
เด็กติดในรถ

อุทาหรณ์ เด็กติดในรถ! แนะวิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้น ช่วยลูกรอดในนาทีฉุกเฉิน

เหตุการณ์ เด็กติดในรถ นั้น เรามักได้ยินข่าวว่าเกิดขึ้นได้ทั้งภายในรถนักเรียน และรถยนต์ส่วนบุคคลอยู่บ่อยครั้ง โดยมักเกิดขึ้นกับเด็กอายุ 3-6 ปี เด็กส่วนใหญ่ที่ติดอยู่ในรถ ไม่ได้เสียชีวิตเพราะขาดอากาศหายใจ แต่เป็นเพราะความร้อนภายในรถที่สูงขึ้น ล่าสุดกรณีเช่นนี้ได้เกิดเป็นอุทาหรณ์ ลืมลูกขึ้นอีกครั้ง แต่สามารถช่วยเด็กออกมาได้ เรามาดูกันว่าเกิดอะไรขึ้น และจะมีวิธีการช่วยเหลือเด็ก และป้องกันเหตุการณ์นี้ไม่ให้เกิดซ้ำได้อย่างไร

อุทาหรณ์ เด็กติดในรถ !
แนะวิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้น ช่วยลูกรอดในนาทีฉุกเฉิน

นาทีชีวิต! งัดกระจกรถ ช่วยเหลือ เด็กติดในรถ วัย 3 ขวบ

เมื่อช่วงสายของวันที่ 17 มกราคม ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่อาสาสมัครหน่วยบรรเทาสาธารณภัยได้รับแจ้งเหตุ เด็กติดในรถ เป็นเด็กชาย 3 ขวบ ติดอยู่ในรถยนต์ที่จอดอยู่ในบ้านพักแห่งหนึ่ง ซอยสรณคมณ์16 เขตดอนเมือง จึงเข้าไปตรวจสอบ พบว่า บ้านหลังดังกล่าว เป็นบ้านที่เด็กชายอาศัยอยู่กับครอบครัว โดยสภาพของเด็กชายมีเหงื่อออกท่วมตัว จากการสอบถามพ่อของเด็กเล่าว่า เด็กติดในรถนานกว่าครึ่งชั่วโมง เจ้าหน้าเร่งให้การช่วยเหลือ และสามารถช่วยออกมาได้ในที่สุด

นายวันชัย แพขันทอง อาสาสมัครหน่วยบรรเทาสาธารณภัย และทีมงาน ใช้เวลานานหลายนาที เพื่อใช้เหล็กงัดกระจก อีกทั้งพยายามใช้เครื่องมือสะเดาะกุญแจ ช่วยในการปลดล็อก เพื่อนำเด็กออกมาจากภายในรถ แต่เนื่องจากระบบไฟฟ้าไม่ทำงาน ทำให้ประตูไม่สามารถใช้การได้ตามปกติ นายวันชัย จึงได้ง้างขอบประตูเพื่อให้อากาศเข้าไปด้านใน จากนั้นจึงใช้วิธีงัดกระจกให้แตก ที่ไม่ใช้วิธีทุบกระจก ก็เนื่องจากเกรงว่ากระจกจะกระเด็นไปถูกเด็ก จนได้รับบาดเจ็บ และอาจจะทำให้เด็กตกใจกลัว เจ้าหน้าที่ได้ให้ความช่วยเหลือโดยใช้เวลาประมาณ 15 นาที จึงสามารถนำตัวเด็กชายออกมาจากรถได้อย่างปลอดภัย

เด็กติดในรถ
เด็กติดในรถ

ด้านพ่อเด็กเล่าว่า รถยนต์คันนี้เป็นของเจ้าของบ้านเช่า ซึ่งไม่ได้ใช้งาน ปกติลูกชายก็จะเข้าไปเล่นเป็นประจำทุกวัน แต่วันนี้ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงเปิดประตูไม่ได้ และหลังจากนี้ก็คงไม่ให้เข้าไปเล่นอีก

การช่วยเหลือเด็กที่ติดอยู่ในรถยนต์

  1. ตั้งสติให้ดีแล้วรีบดูว่าเด็กอยู่ในสภาพไหน พร้อมกับโทรศัพท์แจ้งสายด่วน หมายเลข 1669
  2. รีบทุบกระจกรถให้แตก นำตัวเด็กออกมาจากรถโดยด่วน (ถ้าไม่มีกุญแจรถ หรือหาเจ้าของรถไม่พบ)
  3. หาวิธีป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก

แนะวิธีสอนเด็กติดในรถขอความช่วยเหลือ

ผู้ปกครองควรสอนให้เด็กรู้จักการช่วยเหลือตนเอง เมื่อติดอยู่ในรถ เช่น

  • สอนให้รู้จักบีบแตร เพื่อขอความช่วยเหลือ
  • สอนให้รู้จักวิธีปลดล็อคประตู – หน้าต่าง แล้วออกมาจากรถ แต่ไม่ให้เดินไปไกลจากรถ
ช่วยเด็กติดในรถ
ช่วยเด็กติดในรถ

วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นเด็กติดในรถ ควรทำอย่างไร

ในกรณีที่เด็กหมดสติ หลังจากปลุกเรียกแล้วเด็กไม่ตอบสนอง สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติแนะนำว่า ให้รีบนำเด็กลงมาวางบนพื้นราบแข็ง และช่วยฟื้นคืนชีพทันที โดยวางส้นมือข้างหนึ่งไว้ตรงกึ่งกลางหน้าอกบริเวณแนวราวนม แล้วใช้มืออีกข้างหนึ่งวางบนหน้าผากของเด็ก พยายามให้เด็กหงายหน้าขึ้นเพื่อเปิดทางเดินหายใจ

จากนั้นให้กดหน้าอก 30 ครั้ง การกดแต่ละครั้งต้องต่อเนื่อง อัตราเร็วประมาณ 100-120 ครั้งต่อนาที โดยกดให้ลึกลงไปประมาณ 1/3 ของความหนาของหน้าอก ทำสลับกับการช่วยหายใจ โดยการกดหน้าผาก เชยคาง บีบจมูก ประกบปากให้สนิทแล้วเป่าลมเข้าไป  2 ครั้ง ให้ทำสลับกันเช่นนี้ต่อไปจนครบ 5 รอบ หรือนานประมาณ 2 นาที แล้วประเมินซ้ำทุก ๆ 5 รอบหรือ 2 นาที ว่าเด็กกลับมาหายใจได้เองหรือไม่ ถ้ายังไม่หายให้ทำต่อไปเรื่อย ๆ อย่าหยุด จนกว่าทีมกู้ชีพจะมาถึงและเข้ามาให้ความช่วยเหลือและนำเด็กส่งต่อไปยังโรงพยาบาล

3 ข้อควรจำ เพื่อป้องกันการลืมเด็กในรถ

  • นับจำนวนเด็กก่อนขึ้นลงจากรถทุกครั้ง
  • ตรวจตราก่อนล็อกประตูรถ อย่ามองข้ามเด็กที่นอนหลับ ตรวจดูเด็กให้ทั่ว
  • อย่าทิ้งเด็กไว้เพียงลำพังแม้ช่วงเวลาสั้น ๆ

การทิ้งเด็กไว้ในรถตามลำพังเป็นเรื่องที่ไม่ควรทำ เพราะเด็กไม่สามารถที่จะแก้ปัญหาได้เมื่อเกิดภาวะฉุกเฉิน พ่อแม่ -ผู้ปกครอง ไม่ควรประมาทไม่ว่าจะเป็น การให้ลูกรอในรถเพราะต้องไปทำธุระ เนื่องจากอาจเกิดเหตุไม่คาดฝัน ปล่อยให้ลูกเข้าไปนั่งเล่นในรถ ที่แม้จะเปิดประตูไว้ เพราะเด็กอาจปิดประตู และประตูล็อกเองโดยอัตโนมัติ หรือในกรณีใด ๆ ก็ตาม ควรคอยเตือนสติตนเองไว้ เพื่อจะได้ไม่เกิดเหตุร้ายกับลูกของเรา เพราะมีปรากฏหลายครั้งว่า เด็กหลายคนเสียชีวิตในรถ

อย่างไรก็ตาม หากพบเห็นเด็กถูกลืมไว้ในรถ ให้รีบเรียกเจ้าของรถ หรือคนรอบข้างเข้าช่วยเหลือ และโทรแจ้งทีมแพทย์กู้ชีพ 1669

 

ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่อง 7 HD , ไทยรัฐออนไลน์, sansanook, สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

โจรแจ้งตำรวจจับแม่!! โทษฐาน “ทิ้งลูกไว้ในรถ”

อย่ามัวแต่ก้มมองมือถือ จนลืมลูกน้อยข้างตัว

พ่อลืมลูกในรถนาน 4 ชม.ท่ามกลางอากาศร้อน รู้ตัวรีบเอาลูกแช่ตู้เย็นแต่ไม่ฟื้น

ตั้งชื่อลูกตามตัวอักษร

200+ ไอเดีย ตั้งชื่อลูกตามตัวอักษร พร้อมความหมาย

อยากให้ลูกมีชื่อขึ้นต้นด้วยตัวอักษรเดียวกับพ่อแม่ ต้องดู!! ทีมแม่ ABK ขอเสนอ 200 ไอเดีย ตั้งชื่อลูกตามตัวอักษร พร้อมคำอ่านและความหมายดี ๆ

200+ ไอเดีย ตั้งชื่อลูกตามตัวอักษร พร้อมความหมาย

ชื่อพ่อขึ้นต้นด้วยตัวอักษรนี้ ชื่อแม่ขึ้นต้นด้วยตัวอักษรนี้ อยากให้ชื่อลูกมีชื่อขึ้นต้นด้วยตัวอักษรเดียวกัน หรือมีอักษรในใจ ไม่ว่าจะลูกสาว หรือลูกชาย มาดูไอเดีย ตั้งชื่อลูกตามตัวอักษร พร้อมความหมายได้ที่นี่เลยค่ะ

ตั้งชื่อลูกตามตัวอักษร ชื่อที่ขึ้นต้นด้วย ก – ฉ

ชื่อ

ความหมาย

กช ดอกบัว
กชอินทร์ ดอกบัวใหญ่
กนกนุช หญิงผู้มีค่าดั่งทองคำ
กนกวลัย กำไลทอง
กมลเทพ เทพแห่งทรัพย์ เทพผู้มีจิตใจสูง
กมลภู เกิดจากดอกบัว พระพรหม
กรกฏ ปู
กรพินธุ์ ทับทิม
กรฤทธ์ เจริญรุ่งเรืองด้วยมือ
กรัสวัน เสียงตบมือ
กฤตชยา กระทำชนะแล้ว
กฤตัชญ์ ผู้รู้คุณคนอื่น มีความกตัญญู
กฤติยา หน้าที่ที่พึงกระทำ กิจธุระ
กวินนาฎ หญิงสาวผู้ดีงาม
กษมา อดทน อดโทษ แผ่นดิน
กัญจน์ ทอง
กัญญ์วรา หญิงสาวผู้ประเสริฐ
กัญวรา หญิงสาวผู้ประเสริฐ
กัทลี กล้วย
กันตพล มีพลังน่าชอบใจ
กันติยา ความรัก
กันยาพร สาวผู้ประเสริญ
กาจพล มีพลังกล้าแข็ง
กานติมา งามน่ารัก
กำธร สนั่น หวั่นไหว สะเทือน
กิตติพร มีชื่อเสียงอันประเสริฐ
กิติมา ผู้มีชื่อเสียง
กุมุท บัว บัวขาว
ขจร ฟุ้งไป
คคนางค์ ท้องฟ้า
คมแก้ว ความเฉียบแหลมอันสูงค่า
คริษฐา ผู้ที่น่าบูชาที่สุด
คุณิตา ผู้มีคุณงามความดี
จรณะ ความประพฤติ กริยาที่ควรประพฤติ
จักรกฤช อาวุธของแว่นแคว้น
จันจิมา งามเหมือนดวงจันทร์
จันทมณี แก้วมณีสีรุ้งดังพระจันทร์
จาริณี ผู้ประพฤติ
จารุพิชญา นักปราชญ์ผู้งดงาม
จิณห์นิภา รัศมีแห่งเครื่องหมาย หรือเครื่องหมายอันงดงาม
จิตรภณ ดูดดี พูดไพเราะ
จิรชยา มีชัยนาน
จิรภา ผู้มีแสงสว่างนาน, รุ่งเรืองนาน
จิรัสยา ตลอดกาลนาน นิรันดร
จุลินทร์ ผู้เป็นใหญ่ในสิ่งที่เล็ก
ฉันท์ชนก ผู้ให้เกิดความพอใจ
ฉันทิศา มีความพอใจเป็นใหญ่ ยิ่งใหญ่ด้วยความใฝ่ดี
ตั้งชื่อลูก
ตั้งชื่อลูก

ตั้งชื่อลูกตามตัวอักษร ชื่อที่ขึ้นต้นด้วย ช – ธ

ชื่อ

ความหมาย

ชญานี ผู้มีความรู้
ชนจันทร์ ดุจพระจันทร์ในหมู่ชน(เด่นกว่าคนอื่น)
ชนัฐกานต์ บุคคลทั้ง 8 อันเป็นที่รัก
ชนาภัทร คนดี คนเจริญ
ชนิตสิรี ให้เกิดสิริมงคล
ชนุตต์ คนที่สูงสุด
ชยานันต์ มีชัยชนะหาที่สุดมิได้
ชรัณ การต่อสู้ที่มีชัย
ชลพินทุ์ หยาดน้ำ
ชวินบุตร ลูกชายผู้มีเชาวน์ปัญญา
ชัชฤทธิ์ ฤทธิ์ของนักรบ หรือความสำเร็จของนักรบ
ชัยมลล์ ผู้ต่อสู้ที่มีชัยชนะ
ชินบุตร บุตรแห่งพระพุทธเจ้า
ชุติวัต ผู้มีความรุ่งเรือง
ญาณวร ผู้รู้ประเสริฐ
ญาณิดา มีความรู้
ญานิศา เป็นใหญ่ด้วยความรู้
ฐานิกา ผู้ดำรงมั่น
ฐายินี ผู้ตั้งมั่น
ฐิติกาญจน์ ผู้มีทองเป็นความมั่นคง
ฐิติมน มีใจประกอบด้วยความมั่นคง
ณฐิตา ดำรงอยู่ด้วยความรู้
ณัชวดี หญิงผู้มีความรู้
ณัฏฐนิช ฉลาดและเป็นตัวของตัวเอง
ณัฐชนน เกิดมาเป็นนักปราชญ์
ณัฐธิดา ธิดาของนักปราชญ์ ธิดาผู้ฉลาด
ณัฐยมล คู่แห่งนักปราชญ์, คู่ผู้ฉลาด
ณัฐวศา หญิงสาวผู้เป็นนักปราชญ์
ณิชพน มีใจบริสุทธิ์
ดรณ์ การข้ามพ้นทุกข์
ดารินทร์ ดวงดาวอันยิ่งใหญ่ ยอดดารา
ตรรกย ความนึกคิด
ตวิษา รุ่งเรืองหรือฉายแสงสว่างไสว
ตุรียะ บรรลุญาณที่สี่
ถาวิระ มั่นคง
ถิรมัน มีใจมั่นคง
ทรงรัฐ ครองเมือง
ทาตฤ ยกให้
ทิฐิพล ทหารที่มีความทนง
ทินภัทร วันที่เป็นสิริมงคล
ทีปกร ผู้สร้างประทีป ผู้ให้แสงสว่าง
ธนชาติ ตระกูลเศรษฐี
ธนวัตน์ เจริญด้วยทรัพย์
ธนัตพร มีทรัพย์อันประเสริฐ
ธนาปัติ การได้สมบัติ
ธนิสร เจ้าแห่งทรัพย์
ธยานี ผู้มีปัญญาแห่งพินิจ
ธรรมนิตย์ มีธรรมมั่นคง มีธรรมแน่แท้
ธราเทพ ผู้เป็นประดุจเทพในแผ่นดิน
ธวัลยา บริสุทธิ์
ธัญชนก ให้เกิดสิริมงคล หรือให้เกิดโชค
ธัญธรณ์ ทรงไว้ซึ่งความโชคดี
ธัญวลัย กำไลดีเลิซ
ธันยวีร์ มีโชคและมีความกล้า
ธารทิพย์ สายน้ำวิเศษ
ธาวินี วิ่ง ว่วงไว คล่องแคล่ว บริสุทธิ์
ธิติสุดา หญิงผู้มีปัญญา
ธีรกุล ตระกูลนักปราชญ์
ธีรนุช นางผู้ฉลาด
ธีราพร นักปราชญ์ผู้ประเสริ
ชื่อลูก
ชื่อลูก

ตั้งชื่อลูกตามตัวอักษร ชื่อที่ขึ้นต้นด้วย น – ป

ชื่อ

ความหมาย

นทีนท แม่น้ำ
นพวิทย์ มีความรู้ใหม่เสมอ
นภัสรพี พระอาทิตย์บนท้องฟ้า
นภิสา จอมฟ้า หมายถึงนกหรือเทวดา
นรวุฒิ ผู้เจริญ
นรียา สตรี
นลิน ดอกบัว
นวิยา สาวเสมอ สดชื่อนเสมอ
นันท์ธร ทรงไว้ซึ่งความบันเทิงหรือความสุข
นันทรัตน์ รัตนะน่ายินดี
นันทิภาคย์ ยินดีในโชคลาภ
นิเวทน์ การกล่าวประกาศ
นิจิต สั่งสมไว้
นิชาภา มีรัศมีเฉพาะตน รุ่งเรืองนาน
นิธิอรรถ แสวงขุมทรัพย์
นิมมาน นฤมิต
นิรมัท ไม่มัวเมา
นิรินธน์ ไม่มีกิเลศ
นิศมา สงบสุข
นีร น้ำ
นุชรดี ความยินดีของหญิงสาว หญิงสาวผู้มีความดี
บริบูรณ์ เต็ม
บวรรัช สมบัติอันประเสริฐ
บุญถึง ได้มีคุณงามความดี
บุณยกร สร้งคุณความดี สร้างบุญกุศล
ปกิต ประกาศ แสดง
ปณิฏฐา นักปราชญ์
ปนัดดา หลาน
ปภานัน มีใบหน้าสวยงาม
ปยุดา ขวนขวาย ขยันขันแข็ง
ประโมท พอใจ ยินดี
ประดิบาล อารักขา ดูแล
ประพล แข็งแรง มีอำนาจ
ประมณฑ์ ผ่องใส
ปรัตถ์ ประโยชน์เพื่อผู้อื่น ทำประโยชน์แก่ส่วนรวม
ปริชาดา ผลสีแดง
ปริยฉัตร ฉัตรเป็นที่รัก
ปรีดิพัทธ์ เนื่องด้วยความยินดี ผูกพันด้วยความยินดี
ปวรา ผู้ประเสริฐ ผู้ล้ำเลิศ
ปวิมล บริสุทธิ์อย่างยิ่ง
ป้องเกียรติ รักษาเกียรติ
ปัญญากร บ่อเกิดแห่งปัญญา ผู้สร้างปัญญา
ปัณณ์ หนังสือ
ปัถย์ ผู้เหมาะสม
ปานชีวา รักปานชีวิต
ปาริฉัตร ต้นดอกแคฝอย ต้นทองกวาว ต้นไม้สวรรค์
ปาลิน ผู้รักษา ผู้คุ้มครอง
ปิยดนัย ลูกรัก บุตรอันเป็นที่รัก
ปิยภา ผู้มีประกายความเป็นที่รัก
ปิยวลี ถ้อยคำอันแสดงความรัก
ปีวรา อ้วน สมบูรณ์ น้ำดื่ม
ปุณยนุช สาวผู้มีโชควาสนา
ปุรุเมธ มีปัญญามาก
ชื่อลูกสาว
ชื่อลูกสาว

ตั้งชื่อลูกตามตัวอักษร ชื่อที่ขึ้นต้นด้วย ผ – อ

ชื่อ

ความหมาย

ผณินทร นาคราช
ผลิตา เมล็ดผล
พจีรจิต เรียงถ้อยร้อยคำ
พนิตพร เป็นที่รักยิ่ง น่ารักและประเสริฐ
พรชนิตว์ เป็นพรของผู้บังเกิดเกล้า
พรนภา พรจากฟ้า
พรรณพัชร สีน้ำหรือประกายเพชร
พลิน แข็งแรง มีพลัง
พัชรวลัย กำไลเพชร
พิชญาภา แสงสว่างของนักปราชญ์
พิมพิดา สะท้อนแสง
พีรกานต์ เป็นที่รักของผู้กล้าหาญ
ภณิดา ผู้บอกเล่า
ภัตติมา ผู้มีอาหารบริบูรณ์
ภัทรพรรณ ผิวพรรณงาม
ภัทรานุช น้องนางผู้เจริญ
ภาวิดา อบรมแล้ว ฝึกฝนมาดีแล้ว
มณฑกาญจน์ ทองคำที่น่าลุ่มหลง
มณีมาลา มณีประดับคอ สร้อยคอ
มนชิดา ชนะใจ
มนสิชา เกิดในใจ ความรัก
มนัสวีร์ มีความตั้งใจ, มีความคิดสูง, นักปราชญ์
มัณยาภา แสงแห่งแก้วมณี ประกายแก้ว
มุกตาภา แสงแห่งไข่มุก
รติมา มีความรัก มีความสุข
รักษิณา คุ้มครอง
รุจิราพร รุ่งเรืองด้วยความประเสริฐ
วรรณวลี หนังสือหรือตำรา
วรัชยา มีชัยชนะอันประเสริฐ
วรินทร ผู้ประเสริฐและเป็นใหญ่
วรีวรรณ ผิดพรรณเปรียบดั่งแก้ว
วสุธา แผ่นดิน
วัชรากร ขุมทรัพย์
วัทนวิภา ใบหน้าสวย พูดเก่ง
วาสิตา กลิ่นหอม หอมหวาน อบอวล
วิชชุกร แสงสายฟ้า
วิมลรัตน์ บริสุทธิ์ยิ่ง
วิรยา ความเพียร
วิสสุตา ปรากฏชื่อ มีชื่อเสียง
ศลาฆนันท์ ยินดีการสรรเสริญ
ศศิภา แสงจันทร์
ศิวาพร พรของพระอิศวร
ศุกลกานต์ สุ-กน-ละ-กาน ผู้บริสุทธิ์และเป็นที่รัก
ศุทธานต์ ห้องมเหสี ชายาพระราชา
สิโรธร คอ
สิรินันท์ ผู้ยินดีในความรุ่งเรือง
สุธนี มีเสียงดี
อโรชา ไร้โรค
อธิติยา สูงส่ง
อรชา นางผู้บริสุทธิ์
อรนาถ ผู้มีที่พึ่งอันดี
อรพิชญ์ หญิงผู้เป็นปราชญ์
อังควรา มีสรรพางค์งดงาม งามทั้งสรรพางค์

อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

200 ชื่อภาษาญี่ปุ่น+ความหมาย ลูกสาว-ลูกชาย คาวาอี้!!!

ชื่อจริงไทยๆ ผู้หญิง ชื่อเพราะ เหมาะกับลูกสาว ปี 2022

150 ชื่อมงคลผู้หญิง ความหมายดี ตามหลักทักษาปกรณ์

200 ชื่อไทย ความหมายดี เพราะๆ เหมาะกับเด็กชาย-หญิง

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : www.myhora.com, astro.meemodel.com

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

อาการโอไมครอนในเด็ก

พ่อแม่ต้องรู้!! อาการโอไมครอนในเด็ก เจอสัญญาณต่อไปนี้ พบแพทย์ทันที

โควิด 19 สายพันธุ์ใหม่ โอไมครอน ระบาดเป็นวงกว้างมากขึ้นในประเทศไทย สายพันธุ์นี้ก่อให้เกิดอาการอย่างไรในเด็ก อาการโอไมครอนในเด็ก รุนแรงแค่ไหน เจอสัญญาณอย่างไรต่อไปนี้ ที่ควรพบแพทย์ทันที

พ่อแม่ต้องรู้!! อาการโอไมครอนในเด็ก

เจอสัญญาณต่อไปนี้ พบแพทย์ทันที

นับตั้งแต่เกิดการระบาดของ Coronavirus COVID-19 ในปี คศ.2019 เป็นต้นมา ประเทศไทยพบผู้ติดเชื้อในวัยผู้ใหญ่แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว พบอาการแทรกซ้อนที่รุนแรง และมีอัตราการเสียชีวิตสูง แต่กลับพบว่าวัยเด็ก มีอาการป่วยเล็กน้อยถึงปานกลาง ทั้งยังไม่มีสัญญาณอันตราย หรือภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง อย่างไรก็ตาม หากผู้ป่วยเด็กมีภาวะอ้วน เป็นโรคเบาหวาน โรคหอบหืด โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด หรือภาวะผิดปกติทางระบบประสาทก็มีแนวโน้มที่จะเกิดอาการรุนแรงหรือมีภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้เช่นกัน และล่าสุดกับสายพันธุ์โอไมครอน อาการจะเป็นอย่างไรมาดูกัน

โอไมครอนโควิดสายพันธุ์ใหม่ แพร่กระจายได้ง่ายและรวดเร็ว

ปัจจุบันได้มีการค้นพบโควิดสายพันธุ์โอไมครอน ระบาดไปทั่วทุกมุมโลกรวมทั้งในประเทศไทย ตัวเลขผู้ติดเชื้อพุ่งขึ้นสูงแบบก้าวกระโดด เป็นผลให้กระทรวงสาธารณสุข ได้ยกระดับสถานการณ์ โควิด-19 ให้เป็นระดับ 4

โอไมครอน
โควิด 19 สายพันธุ์โอไมครอน

โควิดสายพันธุ์โอไมครอนนี้ มีการกลายพันธุ์ของยีนมากกว่า 50 ตำแหน่ง โดย 32 ตำแหน่งเกิดขึ้นบนโปรตีนหนามแหลม ที่เรียกว่า Spike Protein ซึ่งเป็นโปรตีนที่ไวรัสใช้ในการเข้าสู่เซลล์ร่างกายมนุษย์ ซึ่งพบมากกว่าทุกสายพันธุ์ และมากกว่าสายพันธุ์เดลตา ถึง 2 เท่า นอกจากนี้ยังพบการกลายพันธุ์ที่ส่วนตัวรับ ซึ่งไวรัสใช้จับยึดกับเซลล์ของคนเราถึง 10 ตำแหน่ง ทำให้เชื่อกันว่า โอไมครอนจะแพร่กระจายได้เร็วกว่าสายพันธุ์เดลตา เข้าสู่ระบบร่างกายมนุษย์ได้ง่ายขึ้น หลบภูมิคุ้มกันได้มากขึ้นและมีแนวโน้มต้านประสิทธิภาพวัคซีน

โควิด-19 โอไมครอน ติดมากแสดงอาการน้อย หากไม่แสดงอาการ ไม่ต้องเข้าโรงพยาบาล

นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยพบโควิด-19 โอไมครอน มากขึ้น จากการสำรวจผู้ติดเชื้อโอมิครอน 100 รายแรกของไทย พบว่าอาการที่เข้าข่ายว่าเป็นการติดเชื้อโควิด-19 โอไมครอนประกอบด้วย ไอ 54% เจ็บคอ 37% มีไข้ 29% ปวดกล้ามเนื้อ 15% มีน้ำมูก 12% ปวดศีรษะ 10% หายใจลำบาก 5% และได้กลิ่นลดลง 2%  โดยที่ผู้ป่วยครึ่งหนึ่งไม่มีอาการ ซึ่งควรรักษาด้วยการ Home Isolation หรือ Community Isolation ก่อน ส่วนที่มีอาการนั้น หากตรวจ ATK แล้วผลเป็นบวก ก็จะดำเนินการส่งตรวจ PCR และส่งตัวเข้ารักษาหากอาการหนักต่อไป

ผู้ติดเชื้อโอไมครอน
ผู้ติดเชื้อโอไมครอน อาการไม่รุนแรง แต่แพร่เชื้อได้ง่าย

ส่วนนายแพทย์มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ ผู้ป่วยหนัก และโรคผู้สูงอายุ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ กล่าวถึงอาการและวิธีการดูแลตัวเองหากติดเชื้อโอไมครอนว่า หากอาการไม่มากให้รักษาตามอาการ เช่น กินยาแก้ไข้ กินยาลดน้ำมูก กินยาแก้ไอ กินยาละลายเสมหะ ดื่มน้ำมาก ๆ พักผ่อน นอนหลับให้พอเพียง ทำใจให้สบาย หมั่นสังเกตอาการ ส่วนใหญ่ใช้เวลาประมาณ 5 วันจะดีขึ้นเอง โดยมีตัวอย่างจากในสหรัฐอเมริกามีคนติดเชื้อวันละ 1 ล้านคน ส่วนใหญ่อยู่บ้าน ไม่ได้รักษาในโรงพยาบาล ซื้อยาจากร้านขายยาโดยไม่ต้องพบแพทย์

เช็คอาการโควิดในเด็ก แตกต่างจากผู้ใหญ่อย่างไร

เด็กป่วย
เด็กป่วยโควิด มีอาการต่างจากผู้ใหญ่อย่างไร

ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 โอไมครอนว่า ในประเทศอังกฤษนั้น การติดเชื้อโอไมครอนของเด็กและผู้ใหญ่ติดง่ายพอ ๆ กัน ส่วนอาการป่วยของเด็กโดยทั่วไปแล้วไม่ต่างจากผู้ใหญ่มากนัก

นอกจากนี้ ข้อมูลของสาธารณสุขในประเทศอังกฤษ หรือ National Health Service: NHS ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับอาการเมื่อเด็กมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนไว้ว่า อาการส่วนมากคล้ายกับสายพันธุ์หลัก เช่น อุณหภูมิสูงกว่า 37.5 องศาเซลเซียส มีไข้ คัดจมูก น้ำมูกไหล ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามส่วนต่าง ๆ ร่างกาย เจ็บ หรือระคายเคืองคอ การรับกลิ่น หรือการรับรสไม่เหมือนเดิม มีอาการไออย่างหนัก มักไอบ่อยใน 1 ชั่วโมง แต่ในเด็กจะมีความแตกต่างจากผู้ใหญ่ตรงที่มีผื่นขึ้นตามผิวหนัง รู้สึกเบื่ออาหาร และเหนื่อยหอบ

อาการใหม่ “โอไมครอน” ในเด็ก ผื่นขึ้น 3 แบบ ส่งสัญญาณติดแน่

ขณะเดียวกัน มีรายงานล่าสุดจากผู้เชี่ยวชาญที่ ZOE รวบรวม อาการโอไมครอนในเด็ก ผลปรากฏว่าอาการผื่น ได้แก่ ลมพิษ ผดร้อน และชิลเบลนส์ มักพบในเด็ก โดยแยกอาการดังนี้

  • ลมพิษ มีลักษณะเป็นผื่น ตุ่มบวม และรอยนูนแดงตามร่างกาย ทำให้เกิดอาการคันและเจ็บ มักเกิดขึ้นบริเวณฝ่ามือ หรือฝ่าเท้า ตามข้อมูล การติดเชื้อโควิด อาจทำให้เกิดลมพิษซึ่งส่วนใหญ่มักพบในเด็ก
  • ผดร้อน มีลักษณะเป็นตุ่มน้ำ รอยแดง และมีอาการคันทั่วร่างกาย พบได้บ่อยบริเวณข้อศอก, เข่า, หลังมือ และเท้า ซึ่งแพทย์ในลอนดอน เตือนว่า เด็กที่ติดเชื้อ “โอมิครอน” มีอาการผื่นเกิดขึ้น โดยพบเด็กประมาณ 15 เปอร์เซ็นต์ ที่ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อ อาการดังกล่าว ควบคู่ไปกับความเหนื่อยล้า ปวดหัว และเบื่ออาหาร
  • ชิลเบลนส์ มีลักษณะผื่นสีแดง หรือสีม่วงอยู่เหนือผิวหนังบริเวณมือและเท้าเป็นหย่อม ๆ บางครั้งอาจมีลักษณะคล้ายแผลพุพองและอาการบวม ทำให้เกิดความเจ็บปวดและแสบร้อน โดยส่วนใหญ่พบในเด็กและวัยรุ่น

หากพบผื่นที่มีอาการเหล่านี้ในเด็ก ประกอบกับอาการที่คล้ายไข้หวัด ให้ระวังไว้เลยว่านี่คือสัญญาณเตือนว่า ลูกอาจติดโควิด ให้พบแพทย์ทันที

ป้องกันโอไมครอนในเด็กได้อย่างไร

เนื่องจากจำนวนเด็กติดโควิดมีปริมาณเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง กรมการแพทย์และสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี ได้ให้คำแนะนำ เพื่อป้องกันการติดเชื้อโควิดในเด็กและครอบครัว ดังนี้

การป้องกันเชื้อโอไมครอนในเด็ก
การป้องกันเชื้อโอไมครอนในเด็ก
  • สอนให้เด็กล้างมือให้สะอาด สวมหน้ากากให้ถูกวิธี
  • ให้เด็กกินอาหารปรุงสุก นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
  • ให้เด็กเล่นในบ้าน เว้นระยะห่าง ใกล้ชิดคนอื่นให้น้อยที่สุด
  • งดพาเด็กออกไปที่สาธารณะโดยไม่จำเป็น โดยเฉพาะเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปี ควรดูแลอย่างใกล้ชิด
  • หากมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในบ้าน ให้แยกของใช้ส่วนตัว แยกพื้นที่จากคนในครอบครัว แยกรับประทานอาหาร
  • พ่อแม่ผู้ปกครองที่กลับมาจากการทำงาน ควรอาบน้ำ สระผม และเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที
  • ผู้ใหญ่ที่ดูแลเด็กไม่ควรออกไปนอกบ้าน ถ้าจำเป็น เมื่อกลับมาถึงบ้านต้องอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า ทันที

 

ท่ามกลางการระบาดของโควิด19 -โอไมครอน หากพ่อแม่ผู้ปกครอง ป้องกันตนเองและลูกหลานอย่างระมัดระวัง และหากติดแล้วก็ให้ตระหนักแต่ไม่ตระหนก คอยสังเกตอาการ หากไม่รุนแรงมากให้ดูแลตามอาการ และควรเข้าระบบสาธารณสุข เพื่อรับการแนะนำที่ถูกต้อง แต่หากอาการหนัก ให้รีบนำส่งโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว เพียงเท่านี้ก็สามารถลดระดับความรุนแรงของอาการป่วยจากโควิด 19 – โอไมครอนได้

ข้อมูลอ้างอิงจาก คมชัดลึก, อมรินทร์ทีวี

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

โอมิครอน เดลตา เดลตาครอน รู้จัก เข้าใจ ไม่ตื่นกลัว!!

มั่นใจได้ สธ.เตรียมตัวรับมือผู้ป่วยเด็ก โอไมครอน เอาอยู่

โควิดไทยระลอกใหญ่สุด รอบ 2 ปี “ติดเชื้อเพิ่มขึ้น” แต่ “รุนแรงน้อยลง”

โรคกอร์แฮม ดิซีส ภาวะกระดูกทำลายตัวเอง

ช่วยด้วย!แม่ร้องลูกเป็น โรคกอร์แฮม คนรู้จักน้อยวอนรักษา

โรคกอร์แฮม ภาวะกระดูกทำลายตัวเอง โรคที่คนรู้จักน้อย แต่อันตรายถึงชีวิต อาการแบบไหน สังเกตอย่างไร เรื่องที่พ่อแม่ทุกคนควรรู้พร้อมส่งใจช่วยแม่เจ้าของเรื่องกัน

ช่วยด้วย!แม่ร้องลูกเป็น โรคกอร์แฮม คนรู้จักน้อยวอนรักษา

“เมื่อลูกสู้ คนเป็นพ่อแม่อย่างเราก็ต้องสู้ไปพร้อมกับลูกใช่มั้ยคะ”
เสียงจากคุณแม่ที่ฟังดูแล้วคงคิดว่า เป็นแม่ที่ช่างเข้มแข็งดีจัง แต่หากคุณได้รับรู้เรื่องราวจากคุณแม่เจ้าของเรื่องท่านนี้ คุณจะรู้สึกได้ว่า คุณแม่เข้มแข็งเพิ่มยิ่งขึ้นไปอีก กับเรื่องราวอุทธาหรณ์เกี่ยวกับ โรคกอร์แฮม โรคที่มีคนรู้จักน้อย แต่อันตรายมากอาจถึงชีวิตได้
โรคกอร์แฮม ดิซีส ขอขอบคุณรูปภาพจากคุณแม่เจ้าของเรื่อง
โรคกอร์แฮม ดิซีส ขอขอบคุณรูปภาพจากคุณแม่เจ้าของเรื่อง
เมื่อลูกสู้ คนเป็นพ่อแม่อย่างเราก็ต้องสู้ไปพร้อมกับลูกใช่มั้ยคะ โรคที่ลูกเป็นคือโรค กอร์แฮม หรือที่เค้าเรียกว่าภาวะกระดูกทำลายตัวเอง โรคนี้ไม่มีสาเหตุของการป่วย การรักษาและตัวยาก็ไม่มีเฉพาะโรค ใจของลูกสู้มาก อดทนมาก เด็ก4ขวบ จากที่เป็นเด็กร่าเริง น่ารัก เป็นเด็กดีของทุกคนในครอบครัว ทำไมต้องมาเป็นแบบนี้
เข้าใจเลยค่ะว่าเด็กๆหนูๆบางคนที่เจ็บป่วยหนัก พ่อกับแม่จะทุกข์ทรมานใจขนาดใหน อยากให้เมตตาน้องช่วยแชร์อาการป่วยของน้องให้ไปสู่สังคมภายนอก อยากให้ลูกได้รับการรักษาอย่างที่สุด อยากให้ทีมแพทย์ที่เคยรักษาผู้ป่วยที่เคยเป็นโรคนี้ได้เข้ามาช่วยรักษาน้องร่วมกับคุณหมอของสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี ขอบคุณคุณหมอทุกๆท่านที่ได้ทำการดูแลรักษาลูก พี่ๆพยาบาล ที่โรงพยาบาล ทุกๆท่านใจดีและเอ็นดูลูกมากร่วมกันช่วยกันรักษาลูกอย่างเต็มที่และดีที่สุด ลูกอดทนมาก หัวใจลูกของแม่แข็งแกร่งมาก ภาพที่เพิ่งเกิดขึ้นล่าสุดก่อนที่น้องจะถูกนำตัวเข้าไปอยู่ในpicuอีกครั้งมันทำให้แม่ใจจะขาด หัวใจของแม่มันแทบจะหลุดออกมา รักลูกสุดหัวใจ บอกกับตัวเองและคนในครอบครัวว่า จะขอดูแลรักษาลูกให้ดีที่สุด หากวันใดเกิดอะไรขึ้น ขอให้ทุกคนอย่าเสียใจในสิ่งที่แม่ทำลงไป เพราะแม่คนนี้จะไม่ยอมให้ลูกต้องโดดเดี่ยว ได้โปรดเมตตาลูกชายของแม่ด้วยการช่วยแชร์อาการป่วยของลูกให้ออกสังคมภายนอก แม่ต้องการความช่วยเหลือเรื่องการรักษา
ขอบพระคุณสำหรับพื้นที่ที่ให้แม่ได้แจ้งเรื่องของลูกนะคะ
แม่แชร์ ลูกเป็น โรคกอร์แฮม คนรู้น้อยวอนรักษา
แม่แชร์ ลูกเป็น โรคกอร์แฮม คนรู้น้อยวอนรักษา
ขอขอบคุณคุณแม่เจ้าของเรื่องที่แบ่งปันเรื่องราวจาก ช่างอิท การช่าง ศรีราชา

ผู้ป่วยโรคกอร์แฮมทั่วโลก 300 คน ในไทย 3 คนเท่านั้น!!

นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า โรคกอร์แฮม ดิซีส หรือภาวะกระดูกทำลายตัวเอง เป็นโรคที่ประชาชนอาจไม่รู้จักและไม่เคยได้ยินชื่อ เนื่องจากเกิดขึ้นได้น้อย โดยทั่วโลกมีรายงานพบผู้ป่วยเพียง 300 คนเท่านั้น สำหรับประเทศไทยพบผู้ป่วยโรคนี้ประมาณ 3 ราย

การที่พบผู้ป่วยน้อยจึงทำให้การรับรู้ของข้อมูลของโรคจึงเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก ไม่สามารถสรุปวินิจฉัยทั้งอาการ สาเหตุ และการรักษาที่แน่นอนแบบสัมพันธ์กันอย่างมีนัยสำคัญได้

โรคกอร์แฮม คืออะไร??

กอร์แฮมดิซีส หรือที่ชื่อภาษาอังกฤษเรียกว่า Gorham-Stout Disease (GSD) เป็นภาวะที่กระดูกเกิดการละลาย หรือเสื่อมสลายแบบเฉียบพลัน สามารถเกิดขึ้นได้กับทั่วทุกส่วนของร่างกายที่มีกระดูก เช่น กระดูกสันหลัง กระดูกซี่โครง กะโหลกศีรษะ และขากรรไกร เป็นต้น และแพทย์ยังพบภาวะการเติบโตที่ผิดปกติของผนังท่อน้ำเหลือง พบน้ำเหลืองที่มากผิดปกติเมื่อนำชิ้นเนื้อบริเวณที่กระดูกละลายไปศึกษา แต่ก็ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเป็นผลเนื่องจากอะไร เกี่ยวข้องกับภาวะของโรคหรือไม่ เพราะกลุ่มตัวอย่างที่พบยังคงมีปริมาณไม่มาก ซึ่งภาวะที่กระดูกละลายนี้ยังส่งผลต่อกล้ามเนื้อโครงสร้างของร่างกาย อาจทำให้เกิดการบาดเจ็บที่อวัยวะภายในได้ เช่น หากเกิดการละลายของกระดูกซี่โครง ก็จะทำให้ปอดได้รับการกระทบกระเทือน เสียหาย และเกิดโรค เช่น น้ำท่วมปอด เยื่อหุ้มปอดอักเสบ เป็นต้น

กลุ่มเสี่ยงที่จะเกิดโรค คือ ??

เป็นข่าวร้ายที่จะกล่าวว่า โรคกอร์แฮม สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกช่วงอายุ ตั้งแต่แรกเกิด ถึงผู้ใหญ่ เพราะมีรายงานการเกิดโรคตั้งแต่เด็กอายุน้อยกว่า 1 เดือน และอายุมากกว่า 70 ปี แต่อาจกล่าวได้ว่ามักจะพบได้มากในผู้ที่มีอายุน้อยกว่า 40 ปี และพบในเพศชายมากกว่าเพศหญิง

การตรวจวินิจฉัยเฉพาะโรคยังไม่มีชัดเจน
การตรวจวินิจฉัยเฉพาะโรคยังไม่มีชัดเจน

สังเกตอาการโรคกอร์แฮมอย่างไร??

อาการของโรคในช่วงแรกจะไม่ปรากฎแน่ชัด เพราะกระดูกในส่วนที่ละลายยังละลายน้อย จะสังเกตพบต่อเมื่อกระดูกในส่วนนั้น ๆ  ละลายมากขึ้นจนทำให้เปลี่ยนรูปไปจากปกติ โรคดังกล่าวแม้จะฟังดูเหมือนเป็นเรื่องไกลตัว แต่คุณพ่อคุณแม่ควรหมั่นสังเกตสุขภาพของลูก และยังรวมไปถึงตนเองอีกด้วย หากพบความผิดปกติในร่างกาย ควรรีบไปพบแพทย์ เพราะยิ่งรู้เร็ว ยิ่งรักษาได้เร็ว โอกาสหายจากโรคย่อมสูงขึ้น

นพ.สมพงษ์ ตันจริยภรณ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเลิดสิน กรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า โรคกอร์แฮมดิซีส เป็นโรคที่ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดของการเกิดโรค ผู้ป่วยจะไม่แสดงอาการให้เห็นในทันที แต่จะมีอาการอย่างเฉียบพลันเมื่อโรคเริ่มรุนแรงขึ้น และอาจเสียชีวิต โดยอาการของโรคจะขึ้นอยู่กับบริเวณที่เป็น เช่น บริเวณใบหน้า จะมีความผิดปกติของใบหน้า รู้สึกปวดฟัน หรือฟันหัก บางรายอาจมีอาการอักเสบของเยื่อหุ้มสมอง หากเกิดที่กระดูกสันหลัง และกะโหลกศีรษะ จะมีอาการผิดปกติของระบบประสาท หรือมีอาการปวดหลัง ปวดเอว แบบเรื้อรัง บางรายอาจเป็นอัมพาตอย่างเฉียบพลัน หากเป็นบริเวณทรวงอก หรือกระดูกทรวงอก อาจทำให้หายใจลำบาก แน่นหน้าอก และอาจพบภาวะน้ำเหลืองท้นในช่องเยื่อหุ้มหัวใจ และช่องปอด นอกจากนี้หากเกิดการแทรกซ้อนทางระบบทางเดินหายใจอาจถึงแก่ชีวิตได้

เหมือนดังกรณีของคุณแม่เจ้าของเรื่องที่ได้พาน้องไปพบแพทย์ด้วยเรื่องต่อมทอนซิลอักเสบ และกลายเป็นแผลติดเชื้อจนเป็นรู มีการสำลักออกมามีเลือดปน และก็เริ่มมีอาการต่อเนื่องมาตลอดจนในท้ายที่สุด คุณหมอวินิจฉัยว่าเป็น โรคกอร์แฮมดิซีส

โรคกอร์แฮมดิซีส ขอขอบคุณรูปภาพจากคุณแม่เจ้าของเรื่อง
โรคกอร์แฮมดิซีส ขอขอบคุณรูปภาพจากคุณแม่เจ้าของเรื่อง

การตรวจวินิจฉัย??

การตรวจวินิจฉัยโรคกอร์แฮมดิซีส ยังไม่มีวิธีการตรวจหาภาวะกระดูกละลายที่ชัดเจนได้ แพทย์จึงต้องทำการตรวจจากจุดที่เกิดโรคโดยตรง และวินิจฉัยร่วมกับประวัติการรักษาของผู้ป่วยเท่านั้น

การรักษา??

การรักษาโรคกอร์แฮมนั้น จะเป็นการรักษาตามอาการ รักษาแบบประคับประคอง  โดยการรักษาจะขึ้นอยู่กับอาการ และตำแหน่งของการเกิดการละลายของกระดูกของผู้ป่วย ซึ่งอาจใช้วิธีการผ่าตัด ฉายแสง เคมีบำบัด หรือใช้หลาย ๆ วิธีควบคู่กัน หรืออาจจะมีการใช้ยาที่ทำให้กระดูกละลายช้า แต่ก็ขึ้นกับการวินิจฉัยของแพทย์ และการรักษาจำเป็นต้องใช้ระยะเวลา ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของผู้ป่วยเป็นอีกหนึ่งปัจจัยอีกด้วย จึงเป็นสาเหตุให้การที่เรารับรู้ว่าเป็นโรคดังกล่าวได้เร็วเท่าไหร่ ก็จะช่วยให้ผู้ป่วยได้รับการดูแล และมีโอกาสหายจากโรคนี้ย่อมสูงขึ้น อย่างที่กล่าวข้างต้น

อ่านต่อ แม่แชร์เตือน! โรคโตเกินวัย ภัยเงียบคุกคามเด็กยุคใหม่

สำหรับโรคกอร์แฮมดิซีส ไม่ใช่โรคใหม่ เป็นที่รู้จักครั้งแรกจากการตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์ปี ค.ศ.1838 โดยพบการเกิดโรคในหลายส่วนของร่างกาย เช่น บริเวณใบหน้า ที่หากเป็นที่บริเวณใบหน้ามักพบความผิดปกติของใบหน้าโดยผู้ป่วยจะเริ่มจากการรู้สึกปวดฟัน หรือฟันหัก บางรายอาจมีอาการอักเสบของเยื่อหุ้มสมองร่วมด้วย อีกบริเวณที่พบบ่อย คือ กระดูกสันหลังและกะโหลกศีรษะ ทำให้มีอาการผิดปกติของระบบประสาทแสดงออกมาให้เห็น มีอาการปวดหลัง ปวดเอวเรื้อรัง บางรายอาจแสดงออกมาให้เห็นผ่านอาการอัมพาตอย่างเฉียบพลัน บริเวณทรวงอก หรือกระดูกทรวงอก ภาวะกระดูกละลายที่บริเวณทรวงอกมักนำไปสู่ภาวะน้ำในช่องเยื่อหุ้มปอด ทำให้หายใจลำบาก แน่นหน้าอก นอกจากนี้ยังอาจพบน้ำในช่องเยื่อหุ้มหัวใจ ที่ถ้าอาการรุนแรง การเกิดภาวะกระดูกละลายที่ทรวงอกทำให้เสียชีวิตเฉียบพลันได้

ขอขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก  www.rama.mahidol.ac.th/ramachannel / www.thaihealth.or.th/www.hfocus.org

ทีมแม่ ABK ขออนุญาตเป็นอีกหนึ่งกำลังใจ และช่วยส่งแรงในการแชร์บทความนี้ไป ขอให้บุญกุศลในการบอกต่อเรื่องราวของน้องไว้เป็นอุทาหรณ์ให้ครอบครัวอื่นได้ระมัดระวัง และสังเกตอาการของลูกในครั้งนี้ ส่งผลให้น้องหายวันหายคืน กลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ ไม่เจ็บไม่ปวด และขอเป็นกำลังใจให้กับคุณพ่อคุณแม่ของน้องที่เข้มแข็งสู้เพื่อน้องมาอย่างไม่ย่อท้อ แม้ช่วงเวลานี้จะต้องพบกับความลำบากมากยิ่งขึ้นกับสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ในปัจจุบันก็ตาม

อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

โรคแปลก “โมยาโมยา” ที่พ่อแม่ต้องรู้จัก!

โรคไทรอยด์อักเสบเรื้อรังฮาชิโมโตะ ภัยเงียบเพิ่มความเสี่ยงแท้งลูก

เมื่อฉัน “แพ้ น้ำอสุจิ จากสามี”

212 ชื่อเล่นลูกสาว สุดปัง สุดเก๋ ปี 2021 น่ารัก ทันสมัย ไม่มีเอ๊าท์

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

คอกกั้นเด็ก

คอกกั้นเด็ก HOYO สร้างดินแดนของลูกรัก สนุกได้ ปลอดภัยด้วย

คอกกั้นเด็กที่ใครๆ ก็ตามหา  HOYO สุดยอดคอกกั้นเด็กคุณภาพ การันตีด้วยรางวัล BEST BABY SOFT PLAYPEN ไอเท็มเริ่ดๆ พร้อมสร้างพื้นที่ปลอดภัย เสริมพัฒนาการรอบด้านให้ลูกน้อยทุกวัย

เชื่อว่าก่อนตัดสินใจซื้อคอกกั้นเด็ก คุณแม่ต้องคิดเยอะมาก ทั้งขนาดพื้นที่ในบ้าน ความแข็งแรงปลอดภัย วัสดุมีมาตรฐานสากลรองรับ ที่สำคัญต้องความคุ้มค่า คุ้มราคา ใช้ได้จนลูกโต จริงไหมคะ ทั้งหมดนี้คุณแม่สามารถพบได้จากแบรนด์นี้เลย HOYO คอกกั้นเด็ก แบรนด์คุณภาพที่ได้รับความไว้วางใจจากคุณพ่อคุณแม่มือใหม่หลายวงการ อีกทั้งเป็นแบรนด์ที่คุณหมอหลากหลายท่านเลือกใช้ และยังได้รับรางวัล EDITOR’S CHOICE BEST BABY PLAYPEN สองปีซ้อน จาก Amarin Baby & Kids Awards 2020 และ 2021 ของเขามีดีตรงไหน ไปหาคำตอบพร้อมๆ กันค่ะ

คอกกั้นเด็ก

Amarin Baby & Kids ยกให้ “HOYO” เป็น คอกกั้นเด็ก ที่ได้รับรางวัล EDITOR’S CHOICE สาขา BEST BABY PLAYPEN จาก Amarin Baby & Kids Awards 2021

คอกกั้นเด็กจาก HOYO เป็นคอกกั้นที่ออกแบบและคิดค้นโดยคุณแม่  ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน คุณภาพแน่นแบบที่คุณแม่รู้สึกได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่สัมผัส เพราะเลือกวัสดุที่ดีที่สุดทุกชิ้นด้วยตัวคุณแม่เอง  ทั้งวัสดุภายในที่ผลิตจากโฟมที่ดีที่สุด ได้รับการรับรองด้วย Japan Technology  Best Level of Protection Guarantee จึงสัมผัสได้ถึงความอ่อนนุ่มเป็นพิเศษ สามารถกันกระแทกได้ดีที่สุด เพิ่มความสบายให้กับลูกน้อย เหมือนที่ทางแบรนด์เน้นย้ำว่า “เป็นคอกกั้นเด็กที่สุดของความปลอดภัย ไข่ไก่ตกไม่แตก”

หุ้มหนังด้วยหนังหุ้มเบาะ PU เกรดพิเศษสั่งผลิตพิเศษจากประเทศเกาหลี  เนียนนุ่ม ไร้กลิ่น ปราศจากสารเคมีที่มีอันตรายต่อลูกน้อยกว่า 30 จากประเทศเกาหลี  เนียนนุ่ม ไร้กลิ่น ปราศจากสารเคมีที่มีอันตรายต่อลูกน้อยกว่า 30 ชนิด เช่น VOCs, BPA, PHTHALATE, DMF, FORMALDEHYDE, FORMAMIDE และเป็นแบรนด์แรกและแบรนด์เดียวที่ผ้าหนังปลอดสาร VOCs (สารระเหยอันตราย) ซึ่งได้รับมาตรฐาน EN 71/3 และ ASTM ของยุโรปและสหรัฐอเมริกา ตัวผ้าหนังสามารถระบายอากาศได้ดี นอนแล้วเย็นสบายแม้ไม่เปิดแอร์ และทนทานกว่าผ้าหนัง PU ทั่วไปด้วยการเคลือบ Hydrolysis resistance

คอกกั้นเด็ก

สำหรับคุณแม่ที่กำลังลังเลว่าควรซื้อคอกกั้นเด็กให้ลูกดีไหม ซื้อมาแล้วจะใช้ไม่คุ้มเพราะลูกใช้ได้แค่ไม่นานหรือเปล่า ขอบอกว่า HOYO เข้าใจถึงความกังวลของคุณแม่ จึงออกแบบคอกกั้นเด็ก

ให้สามารถใช้งานได้หลากหลาย ใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิดจนลูกโต ปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นการใช้งานได้หลากหลาย ทั้งเป็นเตียงเด็กอ่อน เป็นคอกสำหรับเล่นหรือนอนกลางวัน หรือสำหรับเด็กก่อนวัยเรียนก็ปรับเป็นโซฟานุ่ม ๆ สำหรับพักผ่อนร่วมกันทั้งครอบครัวได้อีกด้วย เรียกได้ว่าคุ้มค่า คุ้มราคา ซื้อครั้งเดียว ลูกใช้ได้คุ้มค่าตั้งแต่เล็กจนโต ใช้งานได้นานนับ 10 ปี แถมยังลดปัญหาขยะให้กับโลกของเราอีกด้วย

ส่วนเรื่องอายุการใช้งาน และความทนทานหมดห่วงไปได้เลย เพราะ ผนังทุกแผ่นสามารถปูเป็นเบาะรองคลานได้โดยไม่หลุดจากกัน เนื่องด้วยการออกแบบที่พิถีพิถัน เลือกใช้วัสดุเชื่อมต่อของ HOYO มีมาตรฐานสูง ใช้ซิป Nylon แบรนด์ YKK ที่แข็งแรงที่สุด รองรับแรงได้ถึง 1000 นิวตัน (100 กิโลกรัม) ไม่คม ปลอดภัยต่อลูกน้อย นอกจากนี้ยังใช้ตีนตุ๊กแก แบรนด์ YKK แข็งแรง ทนทาน ซึ่งมีผลทดสอบว่าสามารถแกะและประกบเข้าหากันได้มากกว่า 5,000 ครั้ง ความเหนียวลดลงเพียง 10% เท่านั้น

อ่านมาถึงตรงนี้ คุณแม่บางท่านอาจจะสงสัยว่า แข็งแรง ทนทานขนาดนี้ น่าจะหนัก ยกไม่ไหว เคลื่อนย้ายลำบากหรือเปล่านะ บ.ก. ลองถอดประกอบเองดูแล้ว แปลกใจเลยค่ะ เพราะคอกกั้นเด็กรุ่นนี้มีน้ำหนักเบา สามารถต่อได้ด้วยตัวคนเดียว จะเคลื่อนย้ายถอดประกอบกี่ครั้งก็ทำได้ง่าย

นอกจากที่ทีมบ.ก.ทดลองด้วยตัวเองแล้ว เหล่าดารา เซเลบริตี และคุณหมอเด็กชื่อดังหลายท่านที่เลือกใช้คอกกั้นเด็ก HOYO เช่นกัน อาทิ คุณอั๋น คุณหมอสุธีรา คุณหมอวิน เพจเลี้ยงลูกตามใจหมอ เป็นต้น รวมไปถึงรีวิวจากคุณพ่อคุณแม่ผู้ใช้จริงมากกว่า 3,000 รีวิว ที่ยืนยันถึงคุณภาพและประสิทธิภาพในการใช้งาน และการันตีด้วยรางวัล Best baby playpen ถึง 2 ปีซ้อน

คอกกั้นเด็ก

คอกกั้นเด็ก

คอกกั้นเด็ก

คอกกั้นเด็ก

จากเหตุผลทั้งหมดนี้ ทาง Amarin Baby & Kids “เครือข่ายแม่ลูกใหญ่ที่สุด” ผู้นำด้านคอนเทนต์คุณภาพ เข้าใจครอบครัวไทย และตอบสนองความต้องการของคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ จึงคัดเลือกให้ คอกกั้นเด็ก HOYO ได้รับ รางวัล BEST BABY PLAYPEN จาก “Amarin Baby & Kids Awards 2021” ซึ่งมอบให้กับสินค้าแม่ลูก “สินค้าใช้ดี และมีประโยชน์จริง”

สำหรับคุณแม่ที่สนใจผลิตภัณฑ์ สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม และโปรโมชันดี ๆ ของคอกกั้นเด็ก HOYO สามารถติดตามได้ที่ https://hoyosoftandsafe.com/

 

 

คิดนอกกรอบ S26 Gold Progress

เทคนิคเตรียมสมองลูกให้พร้อมคิดนอกกรอบ แม่ต้องเริ่มก่อน 2 ขวบ

เลี้ยงลูกสมัยใหม่นี้ ต้องส่งเสริมให้เป็นเด็กที่กล้าลอง กล้าลงมือทำ ลูกจะเติบโตขึ้นเป็นเด็กเก่ง มีความฉลาดรอบด้าน สามารถคิดนอกกรอบได้อย่างเป็นประโยชน์ต่อตัวเอง และผู้คนในสังคม เราที่เป็นพ่อแม่ต้องลองเลี้ยงลูกให้ต่างจากกฎเดิม ๆ ที่ยึดปฏิบัติกันมาค่ะ

“ไม่, อย่า, หยุด” คำพูดห้ามสั้น ๆ ที่เราจะได้ยินมาจากพ่อแม่ยุคก่อน ๆ เป็นเหมือนคำพูดที่ใช้ในการเลี้ยงลูก เลี้ยงหลาน ที่ยึดปฏิบัติกันมารุ่นต่อรุ่น ซึ่งถ้าใช้คำพูดเหล่านี้ส่งสัญญาณเพื่อบอกเตือนเด็ก ๆ ว่ากำลังจะเกิดอันตราย, เป็นการสอนมารยาทสังคม หรือหากเด็ก ๆ กำลังทำอะไรที่ดูไม่เหมาะสม พ่อแม่ก็สามารถพูดกับลูกได้ เช่น หยุดอย่าวิ่งตัดหน้ารถ, ไม่พูดตอนกำลังเคี้ยวข้าว เป็นต้น นั่นก็ยังพอจะเข้าใจเหตุผลได้ค่ะ ว่าเพราะอะไร ทำไมพ่อแม่ถึงพูดห้ามไปกับลูก

แต่ถ้าพ่อแม่ใช้คำพูดที่สื่อความหมายเป็นการห้ามลูกบ่อย ๆ กับในทุกสถานการณ์ ไม่เว้นแม้กระทั่งกับความชื่นชอบที่อยากจะเรียนรู้ หรือความชอบที่เขาอยากจะเป็นอยากจะทำ ก็อาจส่งผลต่อตัวเด็กจนขาดความมั่นใจไม่กล้าที่จะคิด ไม่กล้าทำในแนวทางสิ่งใหม่ ๆ เพราะกลัวว่าจะผิด กลัวว่าจะไม่ถูกใจพ่อกับแม่ ซึ่งนั่นก็จะทำให้ลูกเสียโอกาสที่จะเรียนรู้ว่าตัวเองมีความสามารถด้านไหน ชอบหรือไม่ชอบทำอะไร และทำอะไรได้ดี

สมัยก่อนเราจะได้ยินว่าเลี้ยงลูกโตไปให้ทำงานเป็นหมอ ให้ลูกรับราชการเป็นครู เป็นตำรวจ เป็นทหารซิ ชีวิตจะได้มั่นคง มีเงิน มีสวัสดิการ จะได้ไม่ลำบาก เด็กก็จะถูกปลูกฝังในความคิดว่าโตขึ้นอยากจะทำวนเวียนอยู่กับไม่กี่อาชีพที่อยากจะเป็น อยากจะทำ เป็นการเลือกตามใจพ่อแม่ เพราะคิดว่านั่นคือทางเลือกที่ดีที่สุด

สฟิงโกไมอีลิน

ในวิถีการเลี้ยงลูกของสังคมสมัยนี้ พ่อแม่จะต้องไม่ยึดตัวเองเป็นจุดศูนย์กลางที่คอยบอกให้ลูกทำแบบนี้ซิ เดินไปทางซ้าย ห้ามเลี้ยวขวา วิ่งไปได้แต่ทางตรงข้างหน้านี้นะ !!! แต่เราในฐานะพ่อแม่ต้องให้ลูกมีจุดศูนย์กลางเป็นตัวเขาเอง พ่อแม่ต้องเปิดใจ และสังเกตดูลูกว่าเขามีความสุข มีความชอบ มีความถนัด หรืออยากที่จะเรียนรู้ อยากทำอะไร เพื่อที่จะได้สนับสนุน ส่งเสริมให้ลูกได้เดินในทางที่เขาเลือกที่จะเรียนรู้ ในเรื่องที่อยากทำกับสิ่งที่เขาชอบเพื่อให้ประสบผลสำเร็จได้ตั้งแต่ตอนนี้ และสามารถนำไปต่อยอดในอนาคตข้างหน้าได้อย่างสมบูรณ์แบบ

สร้างสมองลูกเรียนรู้นอกกรอบได้ตั้งแต่ 2 ปีแรก คลิก https://www.s-momclub.com/

#สิ่งที่ยิ่งใหญ่สร้างได้จากการเรียนรู้นอกกรอบ #S26GoldProgress 

 

 

 

น.พ.สุพจน์ สัมฤทธิวณิชชา

ด่วน!!! รพ.ยันฮี แจกฟรี “ฟ้าทะลายโจร” สารแอนโดรกราโฟไลด์ (Andrographolide) เข้มข้น 20 มก. สำหรับผู้ป่วยโควิด-19 ทั่วประเทศ รวม5 แสนเม็ด

ยันฮี ฟ้าทะลายโจร

โรงพยาบาลยันฮี แจกฟรี “ยันฮี ฟ้าทะลายโจร” สำหรับผู้ที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน (Omicron) และสายพันธุ์อื่นๆ ทั่วประเทศ รวม 5 แสนเม็ด ด้วยสรรพคุณโดดเด่นสกัดแบบเข้มข้น  มีปริมาณสารแอนโดรกราโฟไลด์ (Andrographolide) สูงถึง 20 มก.ต่อเม็ด หลังผลการวิจัยชี้สามารถป้องกันและรักษาไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์อื่นๆ โดยเฉพาะสายพันธุ์โอมิครอน (Omicron) ได้ ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน

ยันฮี ฟ้าทะลายโจร

จากที่ทางโรงพยาบาลยันฮี ได้มีการนำยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจร ที่มีฤทธิ์ต้านเชื้อไวรัส มาใช้ในการป้องกันและรักษาเชื้อไวรัสโควิด-19 ออกวางตลาด ภายใต้ชื่อ “ยันฮีฟ้าทะลายโจร” และได้รับผลการตอบรับอย่างดีเยี่ยมมาแล้วนั้น แต่จากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโอมิครอน (Omicron) ในปัจจุบัน ทางโรงพยาบาลได้เล็งเห็นความสำคัญและอยากให้การช่วยเหลือ โดยสามารถแจ้งความประสงค์มาที่โรงพยาบาล เพื่อรับ “ยันฮีฟ้าทะลายโจร” ฟรี รวมทั้งสิ้น 5 แสนเม็ด  เพื่อช่วยให้ประชาชนผู้ที่ติดเชื้อฯ ได้มีโอกาสเข้าถึงการรักษาเบื้องต้นได้มากขึ้น และเพื่อลดจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อขั้นรุนแรง

ยันฮี ฟ้าทะลายโจร

ทั้งนี้“ยันฮีฟ้าทะลายโจร” มีปริมาณสารแอนโดรกราโฟไลด์ (Andrographolide) สูงถึง
20 มก. ต่อเม็ด เหมาะกับการใช้รักษาผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน (Omicron)

ยันฮี ฟ้าทะลายโจร

สำหรับผู้ที่ติดเชื้อ ไวรัสโควิด- 19 ทุกสายพันธุ์ทั่วประเทศ สามารถขอรับ “ยันฮีฟ้าทะลายโจร” ด้วยการติดต่อผ่านทาง Line รพ.ยันฮี  หรือเบอร์โทรศัพท์ 1723 ด้วยการแสดงหลักฐานผลตรวจพบเชื้อโควิด-19 แบบ RT-PCR หรือแบบ ATK เพื่อยืนยันพร้อมแจ้งรายละเอียดแก่เจ้าหน้าที่ เพื่อให้ทางโรงพยาบาลดำเนินการจัดส่ง “ยันฮีฟ้าทะลายโจร” ให้  โดยบริการจัดส่งทางไปรษณีย์เอกชน(ภายในประเทศ) ซึ่งผู้ป่วยจะชำระเพียงค่าจัดส่งเท่านั้น (จำกัดจำนวนท่านละ 1 กระปุก)

ยันฮี ฟ้าทะลายโจร

ท่านที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมที่โรงพยาบาลยันฮี โทร.1723  หรือที่ Website : https://th.yanhee.net/ หรือ Line : @yanheeshopping หรือ ทาง Facebook : ยันฮีโรงพยาบาลเพื่อสุขภาพและความงาม และลงทะเบียนผ่านลิงค์ https://bit.ly/3JZ8SkS  ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปหรือจนกว่ายาฟ้าทะลายโจรจะหมด

โอมิครอน กับอาการที่ควรสังเกต

เช็ก 5 อาการ โอมิครอน ที่แตกต่างจากเดิมจากผู้ป่วยจริง

โอมิครอน หรือเป็นหวัด คำถามเกี่ยวกับอาการผู้เป็นโอมิครอนที่เรากำลังตั้งข้อสังเกตว่ามีอาการใหม่ใดบ้าง วันนี้แพทย์เผย 5 อาการสำคัญที่ตรวจพบในกลุ่มผู้ป่วยจริง

เช็ก 5 อาการ โอมิครอน ที่แตกต่างจากเดิมจากผู้ป่วยจริง!!

ไวรัสโควิด 19 ที่กำลังระบาดทั่วโลกในขณะนี้ นอกจากการค้นคว้าหาวิธีการรักษา หาวิธีการป้องกันที่มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นอยู่เสมอแล้ว นักวิจัย ทีมแพทย์ และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหลายก็กำลังทำการเก็บข้อมูลในทุก ๆ ด้านของเจ้าไวรัสตัวนี้ ทั้งตัวดั้งเดิม และไวรัสกลายพันธุ์สายพันธุ์ต่าง ๆ เช่น อัลฟ่า เดลตา โอมิครอน เป็นต้น

ย้อนกลับไปในปี 2020 เราได้ทำการเก็บข้อมูลจนรู้แน่ชัดแล้วว่า Coronavirus รุ่นดั้งเดิม และเวอร์ชั่นอัลฟ่าทำให้เกิดอาการแก่ผู้ป่วยที่เด่นชัด 3 อาการ ได้แก่ อาการไอ มีไข้สูง และสูญเสียการได้กลิ่น และยังมีอาการอื่น ๆ อีกอย่างน้อย 20 รายการ เช่น เหนื่อยล้า ปวดหัว หายใจลำบาก ปวดกล้ามเนื้อ ท้องเสีย และมีผื่นที่ผิวหนัง เป็นต้น

เมื่อโลกต้องเผชิญกับ โควิด-19
เมื่อโลกต้องเผชิญกับ โควิด-19

เมื่อเดลตาปรากฎตัว!!

การกลายพันธุ์ของไวรัสโคโรน่าต่อจากอัลฟ่า ก็ถึงคราวของไวรัสสายพันธุ์เดลตา ซึ่งเราสามารถสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงจากเดิม ดังนี้

จากการศึกษาจากสหราชอาณาจักรพบว่าคนที่ติดเชื้อสายพันธุ์เดลตา ไม่ค่อยมีอาการไอ หรือจมูกไม่รับกลิ่น แต่จะมีไข้ น้ำมูกไหล ปวดศีรษะ และเจ็บคอมากกว่า  มีการศึกษาจากสก๊อตแลนด์ พบว่าคนที่ติดเชื้อสายพันธุ์เดลตาต้องนอนโรงพยาบาลมากกว่าแอลฟาถึงสองเท่าในกลุ่มที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน

คนที่ไม่ฉีดวัคซีนเสี่ยงติดเดลตามากกว่า

ในสหรัฐอเมริกามีข้อมูลว่า รัฐที่คนฉีดวัคซีนน้อย เช่นในทางใต้ของประเทศ มีการระบาดใหม่ของสายพันธุ์เดลตามากกว่า แม้ว่าบางรายได้รับวัคซีนแล้ว เด็กและคนอายุน้อยก็มีความเสี่ยงมาก เช่นข้อมูลในอังกฤษพบว่าเด็ก และคนอายุน้อยกว่า  50  ปีมีความเสี่ยงต่อเดลตาสูงกว่า เพราะวัคซีนในช่วงต้นไม่ได้รับการอนุมัติในเด็กด้วย แม้ในขณะนี้ยังไม่มีวัคซีนใดป้องกันเด็ก 5-12 ปีในสหรัฐอเมริกา ก็อาจจะเกิดปรากฏการณ์ติดสายพันธุ์เดลตาได้ เพราะวัคซีนไม่ได้ป้องกันได้ร้อยละ 100 โดยงานวิจัยที่ตีพิมพ์เบื้องต้น พบว่าในการศึกษาของกระทรวงสาธารณสุขอังกฤษ ได้ติดตามคนที่วัคซีนครอบ 2 เข็มแล้ว พบว่าวัคซีนไฟเซอร์ ไบโอเอ็นเทค (Pfizer-BioNTech) สามารถป้องกันไม่ให้มีอาการได้ ร้อยละ 88 และป้องกันการนอนโรงพยาบาลได้ร้อยละ 96 ในขณะออกซฟอร์ดแอสตราเซนาก้า ป้องกันไม่ให้มีอาการได้ ร้อยละ 60 และป้องกันการนอนโรงพยาบาลได้ร้อยละ 93 สำหรับข้อมูลของโมเดอร์น่า (Moderna) พบว่าสามารถป้องกันสายพันธุ์เดลตาได้ แต่เขียนบันทึกว่า มีการลดการสร้างแอนติบอดี้ที่กำจัดไวรัส (neutralizing titers)

ข้อมูลอ้างอิงจาก  www.rama.mahidol.ac.th
โอมิครอน ติดเชื้อในผู้ป่วยเด็กมากขึ้น
โอมิครอน ติดเชื้อในผู้ป่วยเด็กมากขึ้น

โอมิครอน ทักทายปลายปี!!

เมื่อเจ้าไวรัสโคโรน่าปล่อยให้มนุษย์เรารู้จักกับไวรัสกลายพันธุ์ชนิดเดลตา และเดลตาพลัสอยู่สักพัก ก็ปล่อย โอมิครอนตัวใหม่มาทำความรู้จักกับเราช่วงปลายปี  และดูเหมือนโอมิครอนจะดำเนินลักษณะต่าง ๆ ทั้งอาการ และการแพร่ระบาดต่อไปคล้ายเดลตา  มันทำให้เกิดอาการที่คล้ายกับการเป็นหวัดปกติ โดยเฉพาะผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว และมีอาการทางระบบทั่ว ๆ ไปน้อยลง เช่น คลื่นไส้ ปวดกล้ามเนื้อ ท้องร่วง และผื่นที่ผิวหนัง

ข้อมูลอาการดังกล่าวได้จากการเก็บข้อมูลผู้ป่วยโควิด-19 ในเดือนธันวาคม ซึ่งผลการตรวจ PCR ในเชิงบวกนั้นต้องสงสัย หรือยืนยันการติดเชื้อ Omicron จากสหราชอาณาจักร เปรียบเทียบกับข้อมูลตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม ช่วงเดลตาระบาด ไม่พบความแตกต่างของอาการอย่างมีนัยสำคัญ แต่เมื่อพูดถึงความชุกโดยรวมของอาการ มีความแตกต่างที่ชัดเจนบางประการ ตัวอย่างเช่น ภาวะไม่ปกติ (สูญเสียกลิ่นหรือรส) อยู่ใน 10 อันดับแรกในเดือนตุลาคม แต่ตกลงมาอยู่ที่ 17 สิ่งที่เคยเป็นตัวบ่งชี้สำคัญของโควิด คือ ตอนนี้มีผู้ป่วยประมาณ 1 ใน 5 คนที่มีผลตรวจเป็นบวก และจากข้อมูลของเรา น้อยกว่าหนึ่งในสามของคน (29%) เคยเป็นไข้ ซึ่งพบได้น้อยกว่าที่เราเคยเห็นในอดีตมาก

สรุปความเบื้องต้นได้ว่า เราพบว่าผู้ป่วยโควิดเพียงครึ่งเดียวเท่านั้นที่มีอาการไข้ ไอ หรือสูญเสียการดมกลิ่น

5 อาการสำคัญที่ตรวจพบในกลุ่มผู้ป่วยติดเชื้อโควิด สายพันธุ์โอมิครอน

แม้ว่าอาการที่แตกต่างของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน จะมีอาการแตกต่างไม่มากจากสายพันธุ์ก่อนหน้า แต่เราพอจะกล่าวได้ว่าความแตกต่างของอาการของโอมิครอนนั้น ไปเด่นที่อาการอื่น ๆ ที่เป็นอาการที่สายพันธุ์อื่นก็มีอยู่เพี่ยงแต่ความชุกของจำนวนคนเกิดอาการนั้นเด่นชัดมากขึ้นกว่าแต่ก่อน จึงสามารถนำมาเป็นจุดสังเกตได้ ดังนี้

แพทย์เผย 5 อาการสำคัญที่ตรวจพบในกลุ่มผู้ป่วยติดเชื้อโควิด สายพันธุ์โอมิคอน ซึ่งแตกต่างไปจากอาการเดิมเล็กน้อย

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับไวรัสกลายพันธุ์

  • ไวรัสกลายพันธุ์ได้อย่างไร 

เมื่อไวรัสได้แพร่กระจายเข้าในตัวคนหนึ่ง ๆ จะมีการแบ่งตัวเพิ่มมากขึ้น อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการคงอยู่ของตัวมันเอง แต่เมื่อไวรัสมีการแพร่กระจายประชากรกลุ่มใหญ่มากขึ้น โอกาสการเปลี่ยนแปลงสารทางพันธุกรรมก็จะเพิ่มมากขึ้นไปด้วย พอติดเชื้อมากในระยะเวลาหนึ่ง สารพันธุกรรมจะเปลี่ยนแปลงจากดั้งเดิมอย่างชัดเจนจนกลายเป็นไวรัสกลายพันธุ์ เช่น เพิ่มความสามารถที่จะจับได้แน่นขึ้น โดยภูมิคุ้มกันกำจัดยากขึ้น หรือแพร่เชื้อได้มากขึ้น

  • การเรียกชื่อไวรัสกลายพันธุ์

สำหรับการเรียกไวรัสกลายพันธุ์นั้น เคยใช้เป็นอักษรตามด้วยตัวเลขทางพันธุศาสตร์ เช่น B.1.617.2 variant แต่ต่อมาคนนิยมเรียกเป็นชื่อประเทศที่ค้นพบครั้งแรก เช่น สายพันธุ์อังกฤษ หรือสายพันธุ์อินเดีย ดังนั้นทางองค์การอนามัยโลกจึงกำหนดให้มีการเปลี่ยนชื่อสายพันธุ์เป็นตัวอักษรกรีกเพื่อลดการตีตรา

ข้อมูลอ้างอิงจาก www1.racgp.org.au/ www.rama.mahidol.ac.th

อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

โอมิครอน เดลตา เดลตาครอน รู้จัก เข้าใจ ไม่ตื่นกลัว!!

โควิดไทยระลอกใหญ่สุด รอบ 2 ปี “ติดเชื้อเพิ่มขึ้น” แต่ “รุนแรงน้อยลง”

โอไมครอน (Omicron)ในเด็กมีสิทธิ์ติดเชื้อรุนแรงแค่ไหน?

หมอเฉลย สาเหตุ “เด็ก 3 เดือนติดโควิด-19″ พ่อแม่ต้องระวัง!!

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

นวัตกรรม เบาะนอนเด็ก OXY Baby นอนท่าไหนก็หายใจผ่านได้ ไอเท็มเด็ดที่แม่ตามหา

เพราะคนเป็นห่วงลูกเสมอแม้ยามนอนหลับ เพราะลูกวัยแบเบาะยังช่วยเหลือตัวเองไม่เป็นหากเผลอนอนคว่ำ เสี่ยงขาดอากาศหายใจได้ คุณแม่ไม่กล้าหลับสนิท จะดีกว่าไหม ถ้ามี เบาะนอนเด็ก ช่วยลูกหายใจได้ ระบายอากาศดี ช่วยให้นอนหลับสบายตลอดคืน

เบาะนอนเด็ก

หลายคนจะคิดว่า “เบาะนุ่มๆ ทั่วไปก็ใช้ทดแทนได้” แต่จริงๆ เบาะนอนเด็กมีความพิเศษที่คุณแม่อาจนึกไม่ถึง  เช่น ต้องรองรับสรีระของเด็กเล็กได้ดี ทำจากวัสดุที่อ่อนโยน ไม่ระคายเคือง เพราะเกือบตลอด 24 ชั่วโมงของลูกแบเบาะอยู่กับ “การนอน” ที่สำคัญที่สุด ต้องไม่เป็นเบาะทึบ หากลูกพลิกตัวคว่ำหน้าเสี่ยงต่อภาวะขาดอากาศหายใจ ต้นเหตุของอาการ “ไหลตายในทารก” ซึ่งอันตรายมาก

 

 Amarin Baby & Kids ยกให้ที่นอน OXY Baby เป็นเบาะนอนเด็กที่ได้รับรางวัล สาขา BEST BABY BEDDING PRODUCTS จาก Amarin Baby & Kids Awards 2021

สำหรับคุณแม่ที่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกซื้อเบาะนอนเด็กแบบไหนให้ลูกน้อยดีทีมบ.ก. ขอแนะนำ เบาะรองนอน OXY Baby Mattress ที่เป็นมากกว่าที่นอนธรรมดา เพราะทุกจุดถูกออกแบบและผลิตเป็นพิเศษ เริ่มตั้งแต่วัสดุ Tencel x 3D Air Mesh ที่ OXY Baby เลือกใช้ อีกทั้งกระบวนการผลิตและตัดเย็บ ไม่ใช้สารเคมีใดๆทั้งสิ้น จึงมั่นใจได้อย่างจะปลอดภัย ไม่มีสารตกค้าง หรือก่อให้เกิดอาการแพ้ต่อผิวบอบบางของลูก

เบาะนอนเด็ก

เบาะรองนอนสีขาวสะอาด เนียนเรียบ ลองกดดูจะสัมผัสนุ่มยืดหยุ่นกำลังดี ไม่นุ่มยวบจนนอนแล้วจม ไม่แข็งกระด้างจนนอนหลับไม่สบาย จึงเหมาะสมกับสรีระของเด็กทารก คงไม่แปลกถ้าลูกจะนอนหลับสบายตลอดคืน

ที่สำคัญคือไม่ต้องกังวลเวลาที่ลูกนอนคว่ำหน้าลงกับที่นอน เพราะวัสดุที่ใช้สามารถระบายอากาศได้เป็นอย่างดี ทำให้ลูกสามารถหายใจผ่านได้อย่างสะดวกแม้จะนอนคว่ำ สังเกตได้จากรูเล็กๆที่ช่วยระบายอากาศได้ดี หมดปัญหาเรื่องเหงื่อซึมหลังหรือหัวของลูกนอนเวลานอน

เบาะนอนเด็ก

สำหรับคุณแม่ที่ห่วงเรื่องการทำความสะอาด ขอบอกว่าทำได้ง่ายมาก เพียงแต่ถอดปลอกเบาะนอนออกแล้วซักมือในน้ำผสมน้ำยาซักผ้าสำหรับเด็ก หรือซักเครื่องโดยใส่ถุงถนอมผ้าและปั่นเบา บริเวณที่สกปรก หลังจากลูกน้อยแหวะนม รอยอึฉี่ ก็ถูกทำความสะอาดได้อย่างหมดจด จากนั้นเพียงแค่นำไปผึ่งแห้งในที่แดดจัดหรือในที่ร่มอากาศถ่ายเทสะดวก ไม่นานก็แห้ง ดูสะอาดเหมือนใหม่

เบาะนอนเด็ก OXY Baby มีให้เลือก 4 ขนาดเหมาะกับไซส์เตียงนอนและอายุของลูกน้อย โดยทั้งขนาด 50*80 cm,  60*100 cm , 60*120 cm และ 70*130 cm และยังมี OXY Baby Snuggle Nest เบาะนอนรูปหมีน้อยน่ารัก ขนาด 60*100 มีขอบกั้นเหมาะสำหรับนอนเตียงเดียวกับคุณแม่อีกทั้งยังพกพาสะดวกอีกด้วย

เบาะนอนเด็ก

จากเหตุผลทั้งหมดนี้ ทาง Amarin Baby & Kids “เครือข่ายแม่ลูกใหญ่ที่สุด” ผู้นำด้านคอนเทนต์คุณภาพ เข้าใจครอบครัวไทย และตอบสนองความต้องการของคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ จึงคัดเลือกให้ OXY Baby Mattress ได้รับ รางวัล BEST BABY BEDDING PRODUCTS จาก “Amarin Baby & Kids Awards 2021” ซึ่งมอบให้กับสินค้าแม่ลูก “สินค้าใช้ดี และมีประโยชน์จริง”

สำหรับคุณแม่ที่สนใจสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม และโปรโมชันดี ๆ ของ OXY Baby

สามารถติดตามได้ที่ https://oxybabythailand.com/      https://www.facebook.com/oxybabyth/

วิธีลดไขมันในเลือด

หมอชี้ 8 สาเหตุคอเลสเตอรอลสูง แนะ วิธีลดไขมันในเลือด ด้วยตัวเอง

ปัจจุบันแพทย์จะกังวลเกี่ยวกับระดับคอเลสเตอรอล หรือไขมันในเลือดของคนไข้ เพราะว่า คนที่ระดับคอเลสเตอรอลสูงโดยเฉพาะคอเลสเตอรอลที่ขนส่งใน LDL (ไขมันเลว) มีโอกาสเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือดมากขึ้น ทั้งหลอดเลือดหัวใจและสมอง จึงทำให้คุณหมอหลายท่านสั่งยาลดไขมันกลุ่ม statin ให้เป็นยาสามัญประจำตัวในหลายคน ตัวคุณพ่อคุณแม่เองก็อาจรับประทานยาอยู่เช่นกัน วันนี้คุณหมอต้น นพ.พุฒิพงษ์ เจริญศรี เพจสุขภาพดี ชะลอวัย ไปกับหมอต้น จะพาไปเจาะลึกถึงสาเหตุและ วิธีลดไขมันในเลือด หรือคอเลสเตอรอลด้วยเอง แบบไม่ต้องพึ่งยา

ลดคอเลสเตอรอลด้วยตัวเอง เพราะเราคือหมอที่ดีที่สุดของเราเอง

8 สาเหตุคอเลสเตอรอลสูง แนะ วิธีลดไขมันในเลือด ด้วยตัวเอง

  1. การกินอาหารมื้อเย็นเยอะ โดยเฉพาะแป้งและน้ำตาลเพราะกินแล้วเราก็นอนไม่ค่อยได้ใช้พลังงาน โดยร่างกายจะย่อยอาหารจนเหลือสารที่เรียกว่า Acetyl CoA จากนั้นร่างกายจะเปลี่ยนตัว Acetyl CoA ที่มีปริมาณมากนี้ไปเป็นไขมันไตรกลีเซอไรด์เอาไปเก็บไว้ที่พุง ช่องท้อง ต้นแขน ต้นขาที่ทำให้เราอ้วน และเนื่องจากมีเยอะมากจริงๆ ตับก็จะเปลี่ยนมาเป็นคอเลสเตอรอลทำให้คอเลสเตอรอลสูง
    วิธีลดไขมันในเลือด เราต้องลดปริมาณอาหารมื้อเย็นลงโดยเฉพาะกลุ่มแป้งและน้ำตาล รวมถึงผลไม้รสหวานด้วย
  2. ความเครียด การทำงานหนัก นอนดึก หรือออกกำลังกายที่มากเกินไป จะกระตุ้นการสร้างฮอร์โมนคอร์ติซอลเพิ่มอย่างมาก ฮอร์โมนนี้ร่างกายขาดไม่ได้แต่มีมากเกินไปจะทำให้แก่เร็ว ซึ่งสารตั้งต้นในการสร้างคือคอเลสเตอรอล เมื่อร่างกายต้องการฮอร์โมนคอร์ติซอลจะส่งสัญญาณไปบอกตับให้สร้างคอเลสเตอรอลเพิ่ม
    วิธีลดไขมันในเลือดด้วยตัวเอง เราต้องลดความเครียด หากิจกรรมที่เราชอบเพื่อผ่อนคลาย ปรับลดการทำงานลงบ้าง นอนพักผ่อนให้พอ อย่านอนดึก (ช่วงที่แม่ต้องตื่นมาให้นมลูกตอนกลางคืนบ่อยๆ จึงทำให้คอเลสเตอรอลสูงชั่วคราวได้) เปลี่ยนเวลาออกกำลังกายชนิด Cardio เช่น เดิน วิ่ง ปั่นจักรยาน มาทำช่วงเช้า และอย่าหักโหมเกินไป วิ่งหนักๆ แก่เร็วคอเลสเตอรอลสูงได้นะครับ

    แม่ลูกอ่อน นอนน้อย
    แม่ลูกอ่อน ที่ตื่นมาให้นมกลางดึกบ่อยๆ เสี่ยงคอเลสเตอรอลสูง

     

  3. ช่วงที่เด็กกำลังจะก้าวเข้าสู่วัยรุ่นเด็กจะสร้างฮอร์โมนเพศมาก เพื่อพัฒนาการเปลี่ยนแปลงรูปร่างเข้าสู่ผู้ใหญ่ ซึ่งฮอร์โมนเพศนี้สารตั้งต้นการสร้างคือคอเลสเตอรอลเช่นกัน หากเจาะเลือดของลูกแล้วคอเลสเตอรอลสูงอย่าเพิ่งตกใจไป อย่าให้กินยาลดไขมันเด็ดขาด เพราะคือธรรมชาติของเค้า
  4. เมื่อเข้าสู่วัยทองทั้งคุณพ่อและคุณแม่ อัณฑะและรังไข่จะสร้างฮอร์โมนเพศลดลงอย่างมาก หรือแทบไม่สร้างเลย แต่ร่างกายยังต้องการฮอร์โมนเพศอยู่จึงส่งสัญญาณไปบอกตับให้สร้างคอเลสเตอรอลให้มากขึ้น
    วิธีลดคอเลสเตอรอลในเลือด คุณแม่เมื่อเข้าสู่วัยทองควรเน้นกินอาหารกลุ่มที่มี phytoestrogen เพิ่ม เช่น ถั่วเหลือง ถั่วเขียว ถั่วลันเตา น้ำมันเมล็ดแฟล็กซ์ คู่กับบร็อคโคลี่เพื่อเพิ่มฮอร์โมนเอสโตรเจน ส่วนคุณพ่อควรเพิ่มอาหารที่มีแร่ธาตุสังกะสีสูงเช่น หอยนางรม ไข่แดง ท้ายที่สุดอาจต้องใช้ฮอร์โมนทดแทนและต้องปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
  5. คนที่มีภาวะฮอร์โมนไทรอยด์ต่ำแฝง มักจะมีอาการขี้ร้อน ขี้หนาว ผมแห้ง ผมร่วง ผิวแห้ง ปวดตามข้อตามกระดูกแบบหาสาเหตุไม่ได้ ลดน้ำหนักยาก อ้วนง่าย มองดูอ้วนฉุ บวมน้ำ ซึ่งมักตรวจระดับฮอร์โมนไทรอยด์ปกติแต่ค่อนต่ำ ซึ่งภาวะนี้จะทำให้ระบบเผาผลาญไขมันไม่ดี ไขมันในเลือดสูงได้ โดยมักเกิดจากความเครียด อายุที่มากขึ้น พิษโลหะหนักในร่างกาย การขาดแร่ธาตุที่จำเป็นกลุ่ม ไอโอดีน ทองแดง ซิลิเนียม ขาดกรดอะมิโนไทโรซีน
    วิธีลดคอเลสเตอรอลด้วยตัวเอง ในคนที่มีภาวะไทรอยด์ต่ำแฝง ควรรับประทานอาหารทะเล โปรตีนจากพืช วิตามินเสริมให้มากขึ้น ล้างพิษโลหะหนักหรือปรึกษาแพทย์เพื่อรับฮอร์โมนไทรอยด์
  6. รับประทานอาหารที่มีคอเลสเตอรอลสูงเป็นประจำ อาหารที่มีคอเลสเตอรอลสูงมากคือ ไข่นกกระทา ตับ ปลาหมึก ไม่แนะนำให้ทานทุกวัน ส่วนไข่ไก่รับประทานได้วันละ 2 ฟองโดยไม่ทำให้คอเลสเตอรอลในเลือดเพิ่มขึ้น
    วิธีลดไขมันในเลือด เราต้องยับยั้งการดูดซึมคอเลสเตอรอลที่ลำไส้ โดยการกินอาหารที่มีกากใยจำพวกผักต่างๆ ก่อนอาหารชนิดอื่น ตัวกากใยจะไปขวางการดูดซึมคอเลสเตอรอลและน้ำดีกลับคืนสู่ตับ หรือรับประทานไฟโตสเตอรอลจากพืช เช่น plant starnol ที่สกัดจากข้าวโพดซึ่งจะไปแย่งคอเลสเตอรอลในการดูดซึมเข้าสู่ร่างกายทำให้ดูดซึมคอเลสเตอรอลได้น้อยลง
  7. การรับประทานไขมันผิดประเภท คือการกินไขมันดัดแปลงเป็นประจำ เช่น ครีมเทียม นมข้นหวาน เบเกอรี่ ขนมหวานคล้ายช็อกโกแลตบางชนิด ไม่แน่ใจลองอ่านที่ฉลากดูหากพบคำว่า “ไขมันดัดแปลง” “ไขมันแปลงรูป” คือใช่ทั้งนั้น เพราะไขมันชนิดนี้เซลล์ในร่างกายไม่ต้องการ ขนส่งไปเซลล์ไหนก็ไม่รับจึงอยู่ในตัวขนส่งไขมันนานกว่าจะถูกตับกำจัดออก เจาะเลือดจะพบตัวขนส่งไขมัน LDL สูง
    วิธีลดคอเลสเตอรอล ต้องไม่กินไขมันดัดแปลงเหล่านั้น และต้องเพิ่มกรดไขมันกลุ่ม โอเมก้า 3, 9 เช่น น้ำมันปลา น้ำมันเมล็ดแฟล็กซ์ น้ำมันงาขี้ม้อน น้ำมันรำข้าว น้ำมันมะกอก น้ำมันอโวคาโด ขนไปเซลล์ไหนก็รีบแย่งกันรับทำให้ตัวขนส่งไขมัน LDL น้อยลง HDL เพิ่มขึ้น
  8. การกินอาหารคีโตเจนิค คือการกินอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตต่ำ เน้นกินอาหารประเภทไขมันและโปรตีนมากขึ้น เช่น เนื้อสัตว์ ขาหมู ไข่เจียว สเต็ก จะทำให้ร่างกายมีการขนส่งไขมันในร่างกายมาก ระดับคอเลสเตอรอลจึงสูงมาก มักเกิน 300mg/dL แถมเลือกชนิดน้ำมันไม่ถูก กินไขมันจากเนื้อแดงเป็นหลักด้วยแล้ว แม้น้ำหนักจะลงแต่แลกมาด้วยการอักเสบที่มากขึ้นในร่างกาย ระยะยาวเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด ผิวไม่สวย ผื่นคีโต สมองไม่แล่น โทรม หากกินเพื่อลดน้ำหนักระยะสั้นพอทำได้และไม่ควรเกิน 6 สัปดาห์ อีกทั้งยังต้องเลือกน้ำมันและไขมันสัตว์ที่ดีด้วย

เมื่อรู้สาเหตุที่ทำให้คอเลสเตอรอลสูงแล้ว คุณพ่อคุณแม่ก็สามารถปรับพฤติกรรมและชนิดอาหารที่กินเพื่อลดคอเลสเตอรอลด้วยตัวเองได้ ไม่ต้องพึ่งยาลดไขมัน Statin  

แพทย์เพียงให้คำแนะนำ แต่หมอที่ดีที่สุดคือตัวเราเอง อย่าคิดแต่ว่า “ฉันกินยาแล้วฉันจะกินอะไรก็ได้”


Heatlh Quotient ฉลาดดูแลสุขภาพ หนึ่งใน Power BQ 10 ความฉลาดที่เด็กยุคใหม่ควรมี เริ่มต้นได้ที่คุณพ่อคุณแม่ให้ความสำคัญในการดูแลสุขภาพ ทั้งสุขภาพพ่อแม่และสุขภาพลูกน้อย โดยเตรียมพร้อมหาข้อมูลต่างๆ ในการดูแลสุขภาพให้แข็งแรง และสอนให้ลูกใส่ใจดูแลสุขภาพตนเอง เพราะร่างกายที่แข็งแรงจะเป็นต้นทุนชีวิตที่ดีให้ลูกน้อย พร้อมเรียนรู้สิ่งต่างๆ ต่อไปได้อย่างไม่สะดุด


เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 


ติดตามสารพันความรู้สุขภาพพ่อแม่

กับคุณหมอพุฒิพงษ์ ได้ที่ เพจสุขภาพดี ชะลอวัย ไปกับหมอต้น

สุขภาพดี ชะลอวัย ไปกับหมอต้น
สุขภาพดี ชะลอวัย ไปกับหมอต้น
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ไขมันในเลือด 4 ชนิดที่ต้องรู้จัก เมื่อตรวจสุขภาพประจำปี

สังเกตให้ดี เนื้องอกรังไข่ อาการเป็นยังไง? ผู้หญิงทุกวัยเสี่ยงเป็นได้!

ผู้หญิงมีหนวดเสี่ยงถุงน้ำรังไข่หลายใบ เพิ่มโอกาสมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก

พุงยุบหุ่นปัง!งานวิจัยเผยแม่ให้นมเผาผลาญ500 แคลอรี่ /วัน

รวมสถานที่แก้ ปีชง 2565

แก้ ปีชง 2565 วัดไหนจ่ายกี่บาทเสริมยังไง รวมครบจบที่นี่

ปีชง เชื่อกันว่าจะทำให้ดวงไม่ดี ติดขัด หากอยากแก้ชงต้องทำอย่างไร วัดไหนมีจัดแก้ปีชง ราคาเครื่องไหว้แรงไหม จ่ายกี่บาท เรารวมไว้ที่นี่ ทำครบจบพร้อมรับความเฮง

แก้ ปีชง 2565 วัดไหน จ่ายกี่บาท เสริมยังไง รวมครบจบที่นี่!!

เคยเป็นไหม?? บางช่วงเวลาทำไมทำอะไรก็ดูติดขัดไปหมด แต่กับบางครั้งเรื่องยาก ๆ ที่ว่าไม่น่าจะสำเร็จได้ แต่กลับผ่านฉลุย หากคุณมีความเชื่อตามตำราโหราศาสตร์จีนแล้ว คุณคงได้คำตอบจากคำถามข้างต้นแล้วว่า ดวงชะตาของคุณกำลังตกอยู่ในปีชงหรือไม่

ปีชง หมายถึง ปีแห่งการปะทะ เพราะคำว่า “ชง” ในภาษาจีนหมายถึง การปะทะ ดังนั้น คนที่มีปีเกิดตรงกับปีชงในปีใด ๆ นั่นก็แปลว่า ในปีนั้นคุณอาจต้องมีการปะทะ มีการเปลี่ยนแปลงเข้ามามากขึ้น แต่การที่ดวงชะตาของเราตกอยู่ในปีชง ก็ไม่ใช่ว่าจะน่ากลัวแต่อย่างใด เพราะเป็นการเตือนสติแก่เราว่า ควรใช้ชีวิตอย่างมีสติ และเตรียมรับมือ เพิ่มความระมัดระวัง ก็จะทำให้ช่วงชีวิตเราผ่านพ้นปัญหาไปได้ จากร้ายก็กลายเป็นดี

การแก้ปีชง ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งในการผ่อนหนักเป็นเบา ผ่อนเรื่องร้าย ๆ ให้กลับกลายเป็นเรื่องดี ได้เช่นกัน

ความเชื่อตามโหราศาสตร์จีน กับ ปีชง
ความเชื่อตามโหราศาสตร์จีน กับ ปีชง

แก้ปีชง 2565

ตรุษจีน เป็นปีใหม่ของชาวจีน ตามความเชื่อทางโหราศาสตร์ของจีน จะนับปีนักษัตรไล่เรียงไปตามปีต่าง ๆ ปีนี้ก็ถึงคิวของ ปีนักษัตรปีขาล หรือปีเสือทอง การจะดูว่าบุคคลใดเป็นปีชงหรือไม่นั้น เราดูจากปีนักษัตรตามปีเกิดของคนนั้น ๆ ว่าไปตรงกับปีนักษัตรที่ไม่ถูกกับเสือหรือไม่ หรือเรียกว่าเป็นปีนักษัตรที่มีลักษณะการปะทะกันนั่นเอง โดยปีชงนั้นจะมีทั้งแบบดี และไม่ดี เรียกว่าชงตรง ชงร่วม ความหนักเบาก็มากน้อยต่างกันไป และยังต้องดูส่วนประกอบแวดล้อมต่าง ๆ อีกหลายอย่างนำมาประกอบการดูความแรงของการชง เช่น อายุ เวลาตกฟาก เป็นต้น

ใครบ้างเกิดปีชง 2565 ??

ปี 2565 ปีนี้ตรงกับปีนักษัตร ปีขาล จะมีคนเกิดปีนักษัตรต่อไปนี้เป็นปีชง ได้แก่

ปีวอก ชงตรง 100%

ดวงชะตาในปีขาลที่จะถึงนี้ ของคนปีวอกจะมีเกณฑ์เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ฉับพลัน การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวสามารถเป็นไปได้ทั้งแง่ดี และร้าย แต่จะเป็นแบบสุดทางไปเลย คือหากดีก็จะดีสุด ๆ เช่น ประสบความสำเร็จในสายงานแบบกระทันหัน  รวยแบบเกินคาด เป็นต้น แต่หากเป็นไปในทางร้ายก็จะวุ่นวาย โกลาหล อุปสรรคในการดำเนินชีวิตจะมีมาไม่ขาด มีความขัดข้องขัดสน และหมายรวมไปถึงพลังกายพลังใจของตัวท่านเองก็จะหมดไป เรียกได้ว่าไฟในชีวิตริบหรี่ก็ว่าได้ ท้อแท้เบื่อหน่ายได้ง่าย แถมมีโอกาสถูกเบียดเบียนจากคนอื่นอีกด้วย อีกทั้งยังต้องระวังอุบัติเหตุต่าง ๆ

ปีขาล ชงร่วม

คนปีขาล ในปีของตัวเองปีนี้นั้น ถือว่าเป็นการชงตัวเอง ส่งผลให้มีปัญหาในเรื่องร้อนใจ หน้าที่การงาน และอุปสรรคที่ผ่านเข้ามาในช่วงนี้ ต้องใช้ความพยายามจึงจะผ่านไปได้ด้วยดี เรียกได้ว่าเป็น ดวงชะตาชีวิตในช่วงที่ติดขัด ทำให้หงุดหงิดใจ

หมั่นทำบุญ ตั้งสติ มีสมาธิ ไม่ประมาท ช่วยเรื่อง ปีชง ให้ผ่านพ้นได้
หมั่นทำบุญ ตั้งสติ มีสมาธิ ไม่ประมาท ช่วยเรื่อง ปีชง ให้ผ่านพ้นได้

ปีมะเส็ง ชงร่วม

คนปีมะเส็ง ดวงในปีใหม่ปีขาลที่จะถึงนี้ ดวงชะตาจะส่งผลให้มีปัญหาถูกนินทา ถูกใส่ร้ายใส่ความ ถูกกดดัน อารมณ์ของคุณจะมีความรู้สึกรุ่มร้อน อยู่ไม่สุข และมักถูกโยนเผือกร้อนมาให้ ทำให้คนปีมะเส็งได้รับความเสียหาย

ปีกุน ชงร่วม

คนปีกุนจะเป็นการชงเกี่ยวข้องกับสุขภาพ ทำให้ในปีใหม่นี้ ดวงชะตามักจะส่งผลให้มีปัญหาเกิดข้อขัดแย้ง พลัดพรากจากลา ห่างบ้านจากถิ่นที่อยู่อาศัย ไม่ได้รับความสำคัญ ถูกหมางเมิน ถูกบอกเลิก ไม่ได้รับการดูแลเอาใจใส่ ทำให้ตัวเองไม่ดูแลเอาใจตนเองเท่าที่ควร ควรตั้งสติ อยู่กับตนเองให้มาก รักตัวเองให้มาก

ไท้ส่วนเอี๊ยะ เทพเจ้าผู้คุ้มครองดวงชะตา

เป็นเทพผู้ทรงอิทธิฤทธิ์ และมีอิทธิพลต่อการดำเนินชีวิตของผู้คนในแต่ละปี ซึ่งในรอบ 60 ปี จะมีองค์ไท้ส่วยประจำอยู่ในแต่ละปี รวมทั้งสิ้น 60 องค์ ซึ่งทำหน้าที่รักษา และคุ้มครองดวงปี (เฝ้าปี) ซึ่งแต่ละองค์จะมีอำนาจให้คุณ ดลบันดาลความสุข โชคลาภ ทุกข์ภัย หรือให้โทษแก่ผู้ใด ก็ขึ้นกับพระเมตตาของท่าน โดยเฉพาะบุคคลใดที่มีเคราะห์ หรือพื้นดวงชะตาตก ทำอะไรติดขัดไม่ราบรื่น ท่านก็จะช่วยปัดเป่าเคราะห์ภัยบังเกิดแต่ความเป็นศิริมงคลมาให้

การไหว้ปีชงจึงนิยมไปไหว้ที่วัดที่มีองค์ไท้ส่วย เทพเจ้าผู้คุ้มครองดวงชะตา ซึ่งเป็นการไหว้ขอพรให้เทพเจ้าช่วยปัดเป่าความทุกข์ และบรรเทาเคราะห์กรรม ทีมแม่ ABK ขอรวบรวมวัดที่เหมาะแก่การไปไหว้แก้ชง พร้อมกันราคาเครื่องบูชาเพื่อให้เกิดความสบายใจมากยิ่งขึ้นกับผู้ที่ต้องการไปทำบุญ จะได้เตรียมตัวรับดวงเฮง ๆ รวย ๆ แบบไม่ติดขัดกันไปเลย

ไหว้พระแก้ ปีชง เสริมดวงดีทั้งครอบครัว
ไหว้พระแก้ ปีชง เสริมดวงดีทั้งครอบครัว

15 วัดแก้ชง-เสริมดวง

  1. วัดมังกรกมลาวาส หรือ วัดเล่งเน่ยยี่ ย่านเยาวราช คุ้มครองให้เจอแต่สิ่งดี ๆ แคล้วคลาด ปลอดภัย
  2. วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร บริเวณปากคลองบางกอกใหญ่ฝั่งใต้ เสริมสิริมงคล คุ้มครองดวงชะตา
  3. วัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์ หรือ วัดเล่งเน่ยยี่ 2 จังหวัดนนทบุรี ขอพรเสริมความเป็นสิริมงคล
  4. วิหารเทพสถิตพระกิติเฉลิม หรือ ศาลเจ้าหน่าจาไซไท้จื้อ จังหวัดชลบุรี ขอพรเรื่องหน้าที่การงาน ค้าขาย สุขภาพ สะเดาะเคราะห์แก้ปีชง ปัดเป่าความชั่วร้าย
  5. วัดโพธิ์แมนคุณาราม ย่านสาธุประดิษฐ์ ทำบุญสะเดาะเคราะห์เสริมดวงชะตา
  6. วัดทิพยวารีวิหาร หรือ วัดก้มโล่วยี่ ขอพรและทำบุญแก้ชง
  7. ศาลเจ้าพ่อเสือ (พระนคร) โดดเด่นเรื่องการเงิน และโชคลาภ
  8. ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี ขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคล ความร่ำรวย โชคลาภ

    ชุดใบปัดสะเดาะเคราะห์แก้ปีชง
    ชุดใบปัดสะเดาะเคราะห์แก้ปีชง
  9. วัดมังกรบุปผาราม (วัดเล่งฮัวยี่) จังหวัดจันทบุรี สถานที่ปฏิบัติธรรมเพื่อความผ่อนคลายทางจิตใจ
  10. วัดท่าไม้ จังหวัดสมุทรสาคร เสริมดวงชะตาและสะเดาะเคราะห์
  11. วัดพนัญเชิงวรวิหาร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เสริมสร้างพลังให้ก้าวข้ามอุปสรรคเรื่องหน้าที่การงาน
  12. วัดไตรมิตรวิทยารามวิหาร ย่านเยาวราช เสริมดวงชะตา และปกปักรักษาให้เจอแต่สิ่งดีงาม ขอพรความรักก็ได้
  13. ศาลเจ้าพ่อกวนอู ย่านคลองสาน ส่งเสริมการค้าขาย โดยเฉพาะการขายที่ดิน
  14. ศาลเจ้าไต้ฮงกง มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ย่านเยาวราช ขอพรเรื่องสุขภาพ โชคลาภ และความสำเร็จต่าง ๆ
  15. ศาลเจ้าแม่กวนอิม มูลนิธิเทียนฟ้า ย่านเยาวราช เสริมสิริมงคลและเสริมสร้างดวงชะตา

เจาะลึกวัดดังที่คนนิยมไหว้แก้ชง แบบละเอียด

วัดเล่งเน่ยยี่
วัดเล่งเน่ยยี่

วัดเล่งเน่ยยี่ หรือวัดมังกรกมลาวาส

เป็นวัดในสังกัดคณะสงฆ์จีนนิกายแห่งประเทศไทย ตั้งอยู่บนถนนเจริญกรุง ระหว่าง ซอยเจริญกรุง 19 และ 21 ในเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร เป็นที่คุ้นเคยในหมู่ชาวไทยเชื้อสายจีน และชาวจีนจากต่างประเทศ ชื่อวัดอย่างเป็นทางการคือ “วัดมังกรกมลาวาส” พระราชทานจาก พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ก่อตั้ง เมื่อปี พ.ศ. 2414 ใช้เวลาก่อสร้าง 8 ปีกว่าจะแล้วเสร็จ
มีลักษณะสถาปัตยกรรมเป็นแบบทางจีนตอนใต้ของสกุลช่างแต้จิ๋ว โดยวางแปลนตามแบบวัดหลวง คือ มีวิหารท้าวจตุโลกบาลเป็นวิหารแรก ตรงกลางเป็นพระอุโบสถ ข้างหลังพระอุโบสถเป็นวิหารเทพเจ้า การสร้างใช้ไม้และอิฐเป็นวัสดุสำคัญ
  • จากประตูทางเข้า เข้าไปจะถึงวิหารท้าวโลกบาลทั้ง 4 มีเทวรูปเทพเจ้า 4 องค์ (ข้างละ 2 องค์) ในชุดนักรบจีนและถืออาวุธและสิ่งของต่างๆ กัน เช่น พิณ ดาบ ร่ม เจดีย์ ชาวจีนเรียกว่า “ซี้ไต๋เทียงอ้วง” หมายถึงเทพเจ้าที่ปกปักษ์รักษา คุ้มครอง ทิศต่างๆ ทั้ง 4 ทิศ ถัดจากวิหารท้าวจตุโลกบาล คือ อุโบสถ เป็นที่ประดิษฐานของพระประธานของวัด คือ พระโคตมพุทธเจ้า พระอมิตาภพุทธะ พระไภษัชยคุรุพุทธะ ทั้งหมด 3 องค์ หรือ “ซำป้อหุกโจ้ว” พร้อมพระอรหันต์อีก 18 องค์ หรือที่เรียกว่า “จับโป๊ยหล่อหั่ง”
  • ทางด้านขวา มีเทพเจ้าต่าง ๆ หลายองค์ เช่น เทพเจ้าคุ้มครองดวงชะตา หรือ “ไท้ส่วย เอี๊ยะ” เทพเจ้าแห่งยาหรือหมอเทวดา “หั่วท้อเซียงซือกง” และที่นิยมไหว้ขอพรมากคือ เทพเจ้าแห่งโชคลาภ “ไฉ่ซิ้งเอี๊ยะ” เทพเจ้าเฮ่งเจีย หรือ “ไต่เสี่ยหุกโจ้ว” พระเมตไตรยโพธิสัตว์หรือ “ปู๊กุ่ยหุกโจ้ว”ซึ่งคล้ายกับพระมหากัจจายนะ “กวนอิมผู่สัก” หรือ พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ “แป๊ะกง” และ “แป๊ะม่า” รวมเทพเจ้าในวัด จะมีทั้งหมด 58 องค์

เครื่องบูชาแก้ปีชง กระดาษฝากดวง ใบละ 100 บาท

ข้อมูลอ้างอิงจาก www.facebook.com/Wat.Mangkonkamalawat.Temple

ศาลเจ้าพ่อเสือ
ศาลเจ้าพ่อเสือ

ศาลเจ้าพ่อเสือ

เลขที่ 468 ถนนตะนาว เขตพระนคร กรุงเทพฯ เป็นศาลเจ้าจีนแต้จิ๋วที่ถือว่าเก่าแก่และมีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่ง คนจีนเรียกว่า “ตั่วเล่าเอี้ย” เป็นศาลเจ้าที่ประดิษฐาน เฮี้ยงเทียนเซียงตี่ รูปเจ้าพ่อเสือ เจ้าพ่อกวนอู และ เจ้าแม่ทับทิม ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของทั้งคนไทยและจีนเป็นอย่างมาก

การไหว้เพื่อ “เสริมอำนาจบารมี” ใช้ ธูป 18 ดอก และเทียนแดงคู่ เป็นเครื่องสักการะ วิธีสักการะ คือไหว้ด้วยธูป 18 ดอก ปัก 6 กระถาง เทียนแดง 1 คู่ และพวงมาลัย 1 พวง ส่วนการสักการะเจ้าพ่อเสือ จะต้องซื้อเครื่องเซ่น ประกอบด้วย หมูสามชั้น ไข่สด และข้าวเหนียวหวาน เชื่อกันว่า การสักการะเจ้าพ่อเสือ เป็นการเสริมสิริมงคลแก่ชีวิต ผ่อนหนักให้เป็นเบา รวมถึงเป็นการเสริมอำนาจบารมีให้การงานราบรื่น โชคดีตลอดปี

เครื่องบูชาแก้ปีชง ชุดปัดตัวสะเดาะเคราะห์ ชุดละ 100 บาท

ข้อมูลอ้างอิงจาก www.facebook.com/bkktigershrine/thai.tourismthailand.org 
ปีใหม่ ตรุษจีน ไหว้พระ ขอพร แก้ ปีชง
ปีใหม่ ตรุษจีน ไหว้พระ ขอพร แก้ ปีชง

วัดกัมโล่วยี่ หรือวัดทิพยวารีวิหาร

มีประวัติการสร้างวัดราวปี พ.ศ. ๒๓๑๙ สมัยกรุงธนบุรีในแผ่นดินสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช มีอายุการสร้างวัดนับมาถึงปัจจุบันประมาณ ๒๓๘ ปี เมื่อแรกสร้างวัดชาวบ้านในชุมชนเรียกว่า “วัดกัมโล่วยี่” คำว่า “กัมโล่ว” แปลว่า“น้ำทิพย์” ศาลเจ้าที่วัดแห่งนี้เป็นศาลเจ้าเทพมังกรเขียว ที่คนจีนแต้จิ๋วนับถือกันมากที่สุดแห่งหนึ่ง อีกทั้งยังเป็นที่เคารพสักการะในหมู่ชาวจีนมาช้านาน เพราะความศักดิ์สิทธิ์ของท่านมักอวยพรให้ผู้ศรัทธา ได้ผลสมความปรารถนา ด้านการคุ้มครอง เสริมดวงชะตา เสริมพลังบารมี และโชคลาภ

เครื่องบูชาแก้ปีชง ชุดไหว้ ชุดละ 80 บาท ใบแก้ชง ใบละ 100 บาท