Page 180 – AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

CQ

6 เคล็ดลับเสริมลูกให้ “ฉลาดคิดสร้างสรรค์” มี CQ ดี อนาคตดี

ทำไมความคิดสร้างสรรค์ถึงมีความสำคัญ?

CQ หรือ Creativity Quotient คือความฉลาดในการคิดริเริ่ม สร้างสรรค์ มีจินตนาการ และความคิดยึดหยุ่น คุณพ่อคุณแม่สามารถส่งเสริมให้ลูกมีทักษะทาง “CQ” ที่ดี พัฒนาความคิดสร้างสรรค์เพื่อกระตุ้นให้ลูกได้คิดนอกกรอบ และส่งผลต่อความสามารถในการเป็นผู้นำที่ดีในอนาคตได้

ซึ่งความฉลาดในการริเริ่มสร้างสรรค์ คือหนึ่งในศักยภาพความฉลาดที่มีติดตัวมาแต่กำเนิด ความฉลาดของ Q ตัวนี้คุณพ่อคุณแม่สามารถเพิ่มให้ลูกได้ด้วยการสนับสนุนให้ลูกได้เล่น ได้คิดนอกกรอบ ทำกิจกรรมต่าง ๆ เช่น งานศิลปะ การประดิษฐ์สิ่งของ ดนตรี การเล่านิทาน ฯลฯ เนื่องจากการได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ จะเป็นการช่วยกระตุ้นให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังช่วยให้ลูกมีความฉลาดในการแก้ปัญหา (AQ) ที่เชื่อมโยงความคิดสร้างสรรค์กับการคิดนอกกรอบ ค้นหาวิธีแก้ไขปัญหาใหม่ เพื่อสร้างคำตอบใหม่ ๆ ขึ้นมาได้

ด็กที่มีความฉลาดในการคิดริเริ่มสร้างสรรค์จะมีโอกาสประสบความสำเร็จใจด้านการเรียนและในการทำงาน เพราะทุกวันนี้ไม่เพียงแต่ศิลปิน นักออกแบบ หรือนักเขียนเท่านั้นที่จะต้องมีความคิดสร้างสรรค์ แต่เป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถพัฒนาให้เกิดขึ้นเพื่อประสบความสำเร็จและส่งผลต่อความสามารถในการเป็นผู้นำที่ดีในอนาคตได้ คุณพ่อคุณแม่สามารถส่งเสริมพัฒนาการความฉลาดในด้านนี้ให้เจ้าตัวเล็กด้วยวิธีง่าย ๆ มาดูกัน

6 เคล็ดลับเสริมลูกให้ “ฉลาดคิดสร้างสรรค์” มี CQ ดี อนาคตดี

CQ (Creativity Quotient)

1.ให้ลูกได้มีส่วนร่วมกับกิจกรรมที่หลากหลาย

การได้ลองทำกิจกรรมที่หลากหลายจะทำให้ลูกได้เรียนรู้ และเกิดกระบวนการคิดสร้างสรรค์ในการทำหลากหลาย รวมถึงได้มองเห็นสิ่งที่ตัวเองสนใจและรู้ว่าตัวเองชอบหรือถนัดสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากขึ้น

creativity quotient

2.ให้โอกาสลูกได้ลองทำสิ่งที่ตัวเองชอบ

เปิดโอกาสให้ลูกได้ตัดสินใจเลือกทำในสิ่งที่ตัวเองถนัด เพื่อเสริมสร้างจินตนาการ เช่น การวาดรูป เล่นดนตรี เล่นกีฬา การเต้น การแสดงบนเวทีต่างๆ หรือแม้กระทั่งเรื่องวิชาการ เป็นต้น พร้อมกับให้การสนับสนุน ชมเชยกับความพยายามหรือความสำเร็จ ให้กำลังใจในยามท้อแท้ โดยไม่วิจารณ์หรือเปรียบเทียบผลงานลูกกับคนอื่น เพื่อไม่เป็นการปิดกั้นความคิดสร้างสรรค์ของลูกอีกทางหนึ่งได้

ความฉลาดในการริเริ่มสร้างสรรค์

3.ส่งเสริมให้ลูกเขียนบันทึกประจำวัน

ข้อดีของการให้ลูกได้เขียนบันทึกหรือไดอารี่ประจำวัน จะทำให้ลูกได้รู้จักรวบรวมความคิด การลำดับเรื่องราวอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ได้แสดงความคิดสร้างสรรค์และสื่อความรู้สึกออกมาด้วยการเขียนที่ไร้ขีดจำกัด เป็นวิธีที่ง่ายและมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้การเขียนยังมีส่วนช่วยในเรื่องของภาษา ได้ฝึกทักษะการเขียน ได้รู้จักคำศัพท์ใหม่ ๆ มีคลังคำในสมองเพิ่มเติม ทำให้รู้จักใช้คำพูดในการสื่อสาร และส่งเสริมให้เป็นเด็กรักการอ่านอีกด้วย

ความคิดสร้างสรรค์

4.ชวนลูกให้อ่านหนังสือ

การอ่านหนังสือหรือนิทานเป็นกิจกรรมที่สร้างทั้งความรู้ ความคิดสร้างสรรค์ และทักษะการอ่านของเด็ก ๆ ได้อย่างดีและมีประสิทธิภาพ แม้จะเป็นการอ่านหนังสือในช่วงเวลาสั้น ๆ 15-20 นาที แต่ก็เปิดโลกจินตนาการอีกใบให้ลูกได้ ผลลัพธ์จากการได้อ่านหนังสือ จะช่วยให้สมองของลูกมีวงจรประสาทนับล้านที่เชื่อมโยงกันอย่างทั่วถึง เกิดการกระตุ้นวงจรประสาทในสมองให้ทำงาน กระบวนการนี้สมองของเด็กจะพัฒนาความสามารถในการคิดริเริ่มสร้างสรรค มีจินตนาการที่มากมายไร้ขีดจำกัด มีผลต่อทักษะการเรียนรู้ด้านอื่น ๆ และทำให้มีความรู้ในเรื่องต่าง ๆ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการรับมือในสถานการณ์หลากหลาย นอกจากการการอ่านหนังสือตามสิ่งที่ลูกสนใจ หลังอ่านเสร็จแล้วกระตุ้นให้ลูกได้คิดโดยการเปิดโอกาสให้ถามหรือคุณพ่อคุณแม่ลองตั้งคำถาม เพื่อให้ลูกค้นหาข้อสงสัย และแสดงความคิดเห็น ก็เป็นปัจจัยที่ช่วยให้ลูกได้มี CQ เพิ่มขึ้นด้วยนะคะ

บทความแนะนำ นี่แหละ! 8 งานอดิเรกที่มีประโยชน์ และดีต่อลูก ช่วยให้สมองไบรท์ ทำให้มีความสุข

ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์

5.พาลูกเปิดโลกกว้างตามแหล่งเรียนรู้ต่างๆ

ปัจจุบันนี้มีแหล่งท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ เสริมพัฒนาการ ได้ความรู้ และสร้างจินตนาการให้เด็ก ๆ ออกไปเปิดโลกกว้างและได้เรียนรู้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นพิพิธภัณฑ์ แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ ฟาร์ม แหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ โครงการพระราชดำริ ฯลฯ ที่ถูกเติมเต็มด้วยความคิดสร้างสรรค์ของเหล่านักคิดและนักสร้างสรรค์รวมถึงชาวบ้านในชุมชน ซึ่งการพาลูกเที่ยวนอกบ้าน ถือเป็นประสบการณ์ที่ให้ลูกได้ค้นหาสิ่งใหม่ ๆ จากความเคยชินเดิม ๆ และนำสิ่งที่ได้เรียนรู้ไปต่อยอด สร้างสรรค์สิ่งใหม่ต่อไป ยิ่งมีวัตถุดิบหลากหลายมากเท่าไรก็ยิ่งคิดสร้างสรรค์ต่อยอดได้มากขึ้นไปเท่านั้น

คิดสร้างสรรค์

6.ให้ลูกได้เล่น

การมี CQ นั้นจะสัมพันธ์กับเรื่องการเล่น ถ้าให้ลูกได้เล่นอย่างอิสระตามความชอบและทำกิจกรรมที่ส่งเสริมจินตนาการให้เหมาะกับวัย เช่น การทำงานศิลปะ เล่นของเล่นธรรมชาติ ของเล่นเสริมพัมนาการ การประดิษฐ์ กิจกรรม กีฬาต่าง ๆ ทั้งนี้ไม่ว่าจะเล่นคนเดียว เล่นกับเพื่อน เล่นกับพ่อแม่ การเปิดโอกาสให้ลูกได้ทำโดยไม่เอากรอบความคิดพ่อแม่ไปปิดกั้น ก็จะช่วยกระตุ้นให้ลูกก็มีความคิดสร้างสรรค์เป็นความฉลาดที่จะต่อยอดสู่พัฒนาการด้านอื่น ๆ ของลูกได้

ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก : www.brainten10.comwww.becomeawritertoday.com

อ่านต่อบทความที่น่าสนใจอื่นๆ :

“ยิ่งเล่น ยิ่งฉลาด “ พัฒนา PQ (Play Quotient) สร้างลูกให้ฉลาดแข็งแรงจากการเล่นแสนสนุก

8 วิธีเลี้ยงลูก ให้มี OQ (Optimist Quotient) ฉลาดมองโลกในแง่ดี ส่งผลดีต่อชีวิต

สร้างลูกให้มี SQ (Social Quotient) ไม่ก้าวร้าว ไม่เอาเปรียบ ส่งผลต่อความสำเร็จในชีวิตอย่างมีความสุข

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

ชื่อเกาหลี

250 ชื่อเกาหลี ความหมายดีพร้อมคำอ่าน มีครบทั้งลูกสาว-ลูกชาย

รวมชื่อภาษาเกาหลี ชื่อเกาหลี ความหมายดีๆ 250 ชื่อ พร้อมคำอ่าน สำหรับตั้งให้ทั้งลูกสาว และ ลูกชาย คุณพ่อคุณแม่บ้านไหนอยากตั้งชื่อลูกเป็น ภาษาเกาหลี ทีมแม่ ABK รวบรวมมาให้แล้ว

ไอเดียตั้งชื่อลูก ชื่อเกาหลี พร้อมคำอ่าน และความหมายดีๆ

อันยอง!! ~ ซารางเฮ!! ~ เรียกได้ว่าสังคมไทยปัจจุบันนี้กระแสแฟชั่นความนิยมของ “เกาหลี” ในบ้านเรา ก็ยังคงฮอตฮิตและอินเทรนด์อยู่ไม่จาง โดยเฉพาะเพลงและซีรีย์เกาหลีปังๆ สุดฮิต ที่มีอปป้า หน้าตาดีอยู่มากมาย ก็กำลังมาแรง หลายเรื่อง ซึ่งก็อาจทำให้คุณแม่ท้องที่เป็นคอซีรีย์อดใจไม่ไหว อยากตั้งชื่อลูก เป็น ชื่อเกาหลี

และสำหรับบ้านไหนที่เป็นลูกครึ่งเกาหลี แล้วกำลังมองหาไอเดียตั้งชื่อลูกภาษาเกาหลี ที่มีความหมายดีๆ น่ารักๆ แถมยังเข้ากับยุคสมัยตอนนี้ ต้องห้ามพลาดบทความนี้เลยค่ะ … ทีมแม่ ABK ได้รวบรวม ชื่อเกาหลี พร้อมคำแปล ความหมายดีๆและคำอ่าน ทั้งผู้หญิงผู้ชายมาให้ หากบ้านไหนสนใจ ชื่อเกาหลี อยากตั้งให้กับเจ้าตัวเล็ก ก็สามารถดูเป็นไอเดีย แล้วนำไปใช้ตั้งชื่อลูกสาว ลูกชาย ของตัวเองกันได้เลยนะคะ ว่าแต่จะมี ชื่อเกาหลี อะไรบ้าง ตามมาดูกันเลย

ทั้งนี้ทั้งนั้น สำหรับ ชื่อเกาหลี ที่ทีมแม่ ABK รวบรวมมาให้นั้น จะเป็นคำอ่านที่ให้เป็นการออกเสียงเมื่อมีการออกเสียงชื่อนามสกุลข้างหน้าด้วย โดยนามสกุลของชาวเกาหลี  เช่น 이(อี),김(คิม), 강(คัง), 박(พัค), 최(ชเว), 조(โช), 한(ฮัน),임(อิม), 문(มุน), 유(ยู), 은(อึน), 소(โซ), 고(โค), 장(ชัง), 송(ซง), 윤(ยูน), 신(ชิน), 류(รยู), 서(ซอ), 남(นัม), 배(แพ) , 안(อัน), 심(ชิม), 하(ฮา), ชี(지), 오(โอ), 백 (แพค), 손 (ซน) ฯลฯ

ซึ่งชาวเกาหลีส่วนใหญ่จะมีชื่อ สกุลจำกัดอยู่ในไม่กี่กลุ่มชื่อ เพราะนามสกุลของเกาหลีนั้นในปัจจุบันมีใช้แค่ประมาณ 250 คำเท่านั้น และแม้จะมีนามสกุลเดียวกันแต่ก็ใช่ว่าจะเป็นญาติกันเสมอไป โดยชื่อเต็มของชาวเกาหลีจะประกอบด้วย ชื่อสกุล 1 พยางค์และชื่อหน้า 2 พยางค์ ชื่อสกุลจะเขียนก่อน ซึ่งความหมายของชื่อสกุลต่างๆ ทุกสกุลก็มีความหมายด้วย เพราะเป็นคำภาษาเกาหลีที่มีที่มาจากภาษาจีน จึงสามารถเขียนด้วยตัวอักษร “ฮันจา” จึงช่วยทำให้รู้ถึงความหมายของชื่อได้ โดยนามสกุลที่มีชาวเกาหลีนิยมใช้กันมาก เช่น

김 金 Kim (คิม) แปลว่า ทองคำ , 이 李 Lee (อี) แปลว่า ต้นพลัม/สิ่งที่วิเศษ , 박 朴 Park (พัค) แปลว่า เรียบง่าย , 최 崔 Choi (ชเว),  แปลว่า สูง เหนือ และ 정 鄭 Jeong (จอง หรือ ชอง) แปลว่า ชื่อที่ได้รับพระราชทานจากจักรพรรดิสมัยก่อนของจังหวัดเฮนาน โดยนอกจากห้าชื่อสกุลดังที่มีพยางค์เดียวซึ่งมีผู้ใช้ร่วม 20 ล้านคนแล้ว นามสกุลเกาหลีก็ยังมีแบบที่เป็นสองพยางค์อีกด้วย แต่มีแค่ไม่ค่อยเป็นที่นิยมมากนัก

ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก www.facebook.com/edupaclemonde

โดย ชื่อเกาหลี ต่อไปนี้ จะใช้ พยัญชนะ (자음) ภาษาเกาหลี (한국어) ที่อ่านออกเสียง ดังต่อไปนี้

  • ㄱ (คียอก) เสียง ค, ก
  • ㄴ (นีอึน) เสียง น
  • ㄷ (ทีกึด) เสียง ท, ด
  • ㅁ (มีอึม) เสียง ม
  • ㅂ (พีอึบ) เสียง พ, บ
  • ㅅ (ชีอด) เสียง ซ
  • ㅇ (อีอึง) เสียง ไม่มีเสียง
  • ㅈ (ชีอึด) เสียง ช, จ
  • ㅊ (ชีอึด) เสียง ช’
  • ㅌ (ทีอึด) เสียง ท’
  • ㅍ (พีอึบ) เสียง พ’
  • ㅎ (ฮีอึด) เสียง ฮ’

รวม ชื่อเกาหลี ชื่อลูกชาย
ชื่อภาษาเกาหลี
พร้อมคำอ่าน และความหมายดีๆ

ในวงเล็บคือตัวอักษรฮันจา (*ฮันจา = ตัวอักษรที่ยืมมาจากภาษาจีน แต่ออกเสียงเป็นภาษาเกาหลี คล้ายคันจิของญี่ปุ่น)

ชื่อเกาหลี ผู้ชาย คำอ่าน ความหมาย
강유 (剛柔) กัง-ยู ความแข็งแกร่งและความอ่อนโยน
강자 (强者) กัง-จา คนแข็งแกร่ง มีพลัง
고요 โก-โย ความสงบนิ่ง ความเงียบ ความราบรื่น
고조

 

โก-โจ เวลาน้ำขึ้นสูง สุดยอด จุดสำคัญ ตอนที่น่าทึ่งที่สุด ความตื่นเต้น ไคลแม็กซ์
거성 (巨星) กอ-ซอง ดาวดวงใหญ่ บุคคลผู้ยิ่งใหญ่ บุคคลผู้มีชื่อเสียง
구름 กู-รึม เมฆ
궁수 (弓手) กุง-ซู นักธนู
구원 (久遠) กู-วอน นิรันดร กัลปาวสาน กาลนาน
기재 (奇才) กี-แจ อัจฉริยบุคคล ผู้มีความสามารถพิเศษเหนือมนุษย์
기연 กี-ยอน โชคชะตาแปลกประหลาด ความสัมพันธ์ที่คาดไม่ถึง
기예 (氣銳) กี-เย หนุ่มแน่นและมีพลัง แข็งขัน ห้าวหาญ
기운

 

กี-อุน เรี่ยวแรง พละกำลัง มีชีวิตชีวา แข็งแรง กระปรี้กระเปร่า โชค วาสนา โอกาส
기율

 

กี-ยุล วินัย ระเบียบ
대성(大成) แด-ซอง ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่, นักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่
대운 (大運) แด-อุน เคราะห์ดี, โชคดี
대은 (大恩) แด-อึน เป็นบุญคุณใหญ่หลวง
만자 (卍字) มัน-จา เครื่องหมายแห่งความโชคดี
만종 (晩鍾) มัน-จง ระฆังบอกเวลาเย็น
명문 (名聞) มยอง-มุน ชื่อเสียง, กิตติศัพท์, เกียรติยศ
무궁 (無窮) มู-กุง อมตะ, ตลอดกาล, ไม่มีสิ้นสุด
문운 (文運) มุน-อุน ความสว่างความสำเร็จ, ชะตาของครอบครัว
민주 มิน-จู ประชาธิปไตย
번성 (蕃盛, 繁盛)

 

บอน-ซอง เจริญรุ่งเรือง, ร่ำรวยมั่งคั่ง, อุดมสมบูรณ์
분수 (噴水) บุน-ซู น้ำพุ
비옥 (肥沃) บี-อก ความอุดมสมบูรณ์
비조 (飛鳥) บี-โจ นกบิน, ผู้ก่อตั้ง ผู้สถาปนา
비호 (庇護) บี-โฮ การคุ้มครอง การพิทักษ์ การปกป้อง การอารักขา อุปการคุณ
상미 (賞美) ซัง-มี ความพอใจ, ชมเชย, เลื่อมใส, สรรเสริญ
상수 (常數) ซัง-ซู โชคชะตา พรหมลิขิต
상아 (象牙) ซัง-อา งาช้าง
상훈 (賞勳) ซัง-ฮุน รางวัลและอิสริยาภรณ์
새해 แซ-แฮ ปีใหม่
선비 ซอน-บี ชายผู้มีการศึกษา เต็มไปด้วยคุณงามความดี นักวิชาการ
선열 ซอน-ยอล ผู้สละชีวิตเพื่อความยุติธรรม
선인 (善人) ซอน-อิน ผู้มีบุญ ผู้มีคุณความดี ผู้บริสุทธิ์ คนดี เทพเจ้า เทพธิดา ผู้นำทางความคิด
선재 (船材) ซอน-แจ ท่อนไม้ ขอนไม้ ซุง
선진 (先進)

 

ซอน-จิน มีความก้าวหน้า ผู้ริเริ่ม ผู้บุกเบิก ผู้อาวุโส
선행 (善行) ซอน-แฮง การทำบุญ การทำความดี
선민 (選民)

 

ซอน-มิน บุคคลที่พระเจ้าทรงเลือก ผู้ดี ผู้มีอภิสิทธิ์
소장 (少壯) โซ-จัง ความกระปรี้กระเปร่า แข็งแรง กระฉับกระเฉง เยาว์วัย
슬기 ซึล-กี สุขุม, รอบรู้, ฉลาดหลักแหลม
신기 ชิน-กี เทวดาแห่งสวรรค์และโลกมนุษย์, แข็งแกร่ง, โอกาสทอง
신성 (神性) ชิน-ซอง เทพเจ้า, เชื้อสายเทพเจ้า, ประเสริฐราวเทพธิดา
신조 (神助) ชิน-โจ ความช่วยเหลือจากสวรรค์, ศรัทธา
영주 (英主) ยอง-จู ผู้ปกครองที่เรืองนาม รอบรู้
예지 (叡智) เย-จี ฉลาดอย่างยิ่งยวด, รู้ล่วงหน้า, ตาทิพย์
예찬 (禮讚) เย-ชัน เลื่อมใส ศรัทธา ชมเชย สรรเสริญ
오성 (悟性) โอ-ซอง ความรอบคอบ, ความรอบรู้
운명 (運命) อุน-มยอง โชคชะตา
운세 (運勢) อุน-เซ โชคชะตา โชคลาภ วาสนา
원기 (元氣) วอน-กี พละกำลัง, แข็งแรง
왕성 (旺盛) วัง-ซอง เจริญรุ่งเรือง, ฐานะดี
유명 (有名) ยู-มยอง ชื่อเสียง
인사(人士) อิน-ซา รอบคอบ, บุคคลสำคัญ, สุภาพบุรุษ
인재 (人材) อิน-แจ ผู้มีความสามารถพิเศษ
인정 (人情) อิน-จอง น้ำใจ
인화 (人和) อิน-ฮวา ความสามัคคี, ความสงบสุข
재산 (財産) แจ-ซัน สมบัติ, ความมั่งคั่ง
전성 (全盛) จอน-ซอง เจริญ ร่ำรวย รุ่งเรือง มั่งคั่ง ถึงจุดสูงสุด
주은 (主恩) จู-อึน ความกรุณาจากพระเจ้า
준걸 (俊傑) จุน-กอล ผู้ปรีชาสามารถ วีรบุรุษ บุคคลผู้ยิ่งใหญ่
준사 (俊士) จุน-ซา ชายผู้มีความสามารถที่โดดเด่น, บุรุษผู้ยิ่งใหญ่
준수 (俊秀) จุน-ซู สง่างาม ภูมิฐาน ยอดเยี่ยม
준재 (俊才)

 

จุน-แจ ความปรีชาสามารถ อัจฉริยลักษณ์ อัจฉริยบุคคล
지망 (志望) จี-มัง ความปรารถนา ความใฝ่ฝัน ความมุ่งหวัง
지상 (至上) จี-ซัง ความประเสริฐสุด ความล้ำเลิศ ความยิ่งใหญ่ ความสำคัญยิ่งยวด
지성 (至誠)

 

จี-ซอง ความจริงใจที่แท้จริง, การอุทิศเสียสละ, จงรักภักดี
지수(止水) จี-ซู น้ำที่นิ่งสงบ
지순 (至順) จี-ซุน ความสุภาพอ่อนโยนอย่างที่สุด
지용 (智勇) จี-ยง ฉลาดและกล้าหาญ
지원 (支援) จี-วอน การสนับสนุน ช่วยเหลือ ส่งเสริม อนุเคราะห์ ความสมัครใจ
지은 (知恩) จี-อึน มีจิตสำนึกที่ดี, กตัญญู
태양 (太陽) แท-ยัง พระอาทิตย์, ตะวัน, สัญลักษณ์แห่งความหวัง
태연 (泰然) แท-ยอน นิ่ง ใจเย็น เงียบเฉย เยือกเย็น
평화 (平和) พยอง-ฮวา สันติภาพ
풍차 (風車) พุง-ชา กังหัน
해류 (海流) แฮ-รยู กระแสน้ำในมหาสมุทร
해변 (海邊) แฮ-บยอน ชายหาด, ชายทะเล, ชายฝั่ง
해수 (海水) แฮ-ซู น้ำทะเล, น้ำเค็ม
해안 (海岸) แฮ-อัน ชายหาด, ชายทะเล, ชายฝั่ง, ริมฝั่งน้ำ
해연 (海淵) แฮ-ยอน ก้นมหาสมุทร, ลึกสุดของมหาสมุทร
해원 (海員) แฮ-วอน ชาวทะเล, ลูกเรือ, กะลาสี
해풍 (海風) แฮ-พุง ลมทะเล
행운 (幸運) แฮง-อุน ความโชคดี, วาสนา
현인 (賢人) ฮยอน-อิน คนฉลาด, ปราชญ์
현자 (賢者) ฮยอน-จา นักปราชญ์, ผู้รอบรู้
호수 (湖水) โฮ-ซู ทะเลสาบ
희열 (喜悅) ฮี-ยอล ความปีติยินดี, ความพอใจ
희원 (希願) ฮี-วอน ความหวัง, ความปรารถนา, ความประสงค์
희우 (喜雨) ฮี-อู น้ำฝนที่เป็นคุณ ให้ความชุ่มฉ่ำหลังความแห้งแล้ง
희유 (嬉遊) ฮี-ยู สนุกสนาน, รื่นเริง, มีช่วงเวลาที่ดี
태랑 (太郞) แทรัง ลูกชายผู้เป็นใหญ่ (ลูกชายคนโต)
황의 (煌義) ฮวางเอ แสงแห่งคุณธรรม
의리 (義理)

 

อึย-รี ความมีธรรมะ ความยุติธรรม ศีลธรรม ความซื่อสัตย์ จงรักภักดี ความมั่นคง
찬송 (讚頌) ชัน-ซง ถ้อยคำสรรเสริญ การยกย่องว่าประเสริฐ การถวายพระเกียรติ
찬미 (讚美) ชัน-มี คำชมเชย ชื่นชม บูชา สรรเสริญ คำสรรเสริญเยินยอ
주몽 (主夢) จูมง หัวหน้าในฝัน
지문 (知文) จีมุน ปราชญ์ผู้รอบรู้

 

momketing 2021

วันสุดท้าย!! Amarin Baby & Kids ชวนคุณแม่ตั้งครรภ์และคุณแม่ที่มีลูกอายุ0-6 ปีร่วมทำแบบสำรวจความคิดเห็นคุณแม่ ลุ้นรับผลิตภัณฑ์สำหรับแม่ลูกฟรี 50 รางวัล รวมมูลค่ากว่า 10,000 บาทคลิกที่ลิงก์นี้เลย >> https://bit.ly/3z4Eqzp

 

อ่านต่อ >> “รวมชื่อลูกสาว ภาษาเกาหลีพร้อมคำอ่าน
และความหมายดีๆ” คลิกหน้า
2

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

โปร 4.4 มาแล้วจ้าาาคุณแม่ ด่วน ‼️ 4 วันเท่านั้น! เมื่อซื้อ ลิลแมรี่ 2 กล่องขึ้นไป ลดจุใจ เหลือกล่องละ 990.- เท่านั้น! (จากปกติ 1,290.-)

🎉โปรเดือนเมษายน มาแล้วจ้าาาคุณแม่ ❤️
ด่วน ‼️ ขยายเวลาการสั่งซื้อ ถึงสิ้นเดือนนี้เท่านั้น! เมื่อซื้อ ลิลแมรี่ 2 กล่องขึ้นไป
ลดจุใจ เหลือกล่องละ 990.- เท่านั้น! (จากปกติ 1,290.-)
.
รีบเลยจ้าาา โปรดีแบบนี้ไม่ได้มาบ่อยๆน๊าาา
.
* ราคานี้เฉพาะคุณแม่ที่ชำระค่าสินค้า
ภายในวันนี้-30เม.ย. 63 ก่อนเวลา 23.59 น. เท่านั้น! *
ช่องทางการติดต่อ
Facebook : @lilmombaby
Line@ : @lilmombaby

Tags

หมอพัฒนาการเด็ก

รวมรายชื่อ หมอพัฒนาการเด็ก โรงพยาบาลชื่อดัง ที่แม่ควรเซฟเก็บไว้

หมอพัฒนาการเด็ก คือใคร?

หมอพัฒนาการเด็ก ที่แม่ ๆ ได้ยินกันคุ้นหู หรือเรียกอย่างเป็นทางการว่า กุมารแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในสาขากุมารเวชศาสตร์พัฒนาการและพฤติกรรม พื้นฐานของหมอพัฒนาการเด็ก ซึ่งเป็นหมอที่ตรวจรักษาเด็กทั่วไป แต่ศึกษาเพิ่มเติมและมีความชำนาญด้านพัฒนาการและพฤติกรรมของเด็กทุกช่วงวัยที่เกี่ยวข้องกับทั้งเด็กปกติและเด็กที่เบี่ยงเบนไปจากปกติ ตลอดจนถึงกลุ่มที่เป็นโรคต่าง ๆ นอกจากนี้ยังมีความชำนาญด้านการเจริญเติบโต ซึ่งเน้นเฉพาะขบวนการการเจริญเติบโตปกติและเบี่ยงเบนไม่มากนัก โดยกลุ่มที่มีความผิดปกติด้านการเจริญเติบโตอย่างชัดเจนมักต้องร่วมในการตรวจวินิจฉัยและดูแลรักษาร่วมกับกุมารแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญสาขาอื่น

สุขภาพของลูกน้อยบางคน อาจไม่ได้มีแค่อาการเจ็บป่วย โรคภูมิแพ้ แต่ยังรวมไปถึงปัญหาพัฒนาการด้านต่าง ๆ หมอพัฒนาการเด็ก จึงมีความสำคัญที่จะช่วยในการตรวจวินิจฉัย ดูแลรักษา รวมถึงให้คำปรึกษาด้านพัฒนาการของลูกน้อยกับคุณแม่ได้ นี่คือรายชื่อโรงพยาบาลในกรุงเทพที่มีคลินิกและคุณหมอด้านพัฒนาการเด็กที่ทีมแม่ ABK นำมาบอกกันค่ะ

รวมรายชื่อหมอพัฒนาการเด็กโรงพยาบาลชื่อดัง

สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี
ขอบคุณภาพจาก www.childrenhospital.go.th

1.สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี

  • ผศ.พญ.อดิศร์สุดา เฟื่องฟู
  • พญ.ธันยพร เมฆรุ่งจรัส

แพทย์ที่ปรึกษาช่วยออกตรวจ

  • พญ.รัตโนทัย พลับรู้การ
  • พญ.นัยนา ณิศะนันท์
  • พญ.ภาวิณี ธีรการุณวงศ์
  • พญ.พนิตษา ยุกตะนันท์

คลินิกพัฒนาการ
วันและเวลาเปิดให้บริการ
วันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 09.00 – 12.00 น.

โทรศัพท์ Call Center 1415 ต่อ 61450

คลินิกกระตุ้นพัฒนาการ
วันและเวลาเปิดให้บริการ
วันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 08.00 – 16.00 น.

โทรศัพท์  Call Center ต่อ 61411

เว็บไซต์ www.childrenhospital.go.th

คลินิกพัฒนาการเด็ก โรงพยาบาลธนบุรี 2
ขอบคุณภาพจาก www.thonburi2hospital.com

2.คลินิกพัฒนาการเด็ก โรงพยาบาลธนบุรี 2

เวลาออกตรวจ : ส-อา. 9.00-17.00 น. *กรุณาโทรนัดล่วงหน้า

เวลาออกตรวจ : ส. 8.00-16.00 น. *กรุณาโทรนัดล่วงหน้า

คลินิกพัฒนาการเด็ก อาคาร 2 ชั้น 2
วันและเวลาเปิดให้บริการ
วันจันทร์,อังคาร,วันศุกร์ ให้บริการ เวลา 16.00-20.00 น.

วันพุธ ให้บริการ เวลา 13.00-20.00น.วันเสาร์-วันอาทิตย์ ให้บริการ เวลา 07.00-20.00 น.
โทรศัพท์ 02 487 2100 ต่อ 5239

เว็บไซต์ www.thonburi2hospital.com

3.แผนกพัฒนาศักยภาพเด็ก โรงพยาบาลวิภาวดี

  • พญ.พนิตษา ยุกตะนันทน์

เวลาออกตรวจ : วันอังคาร 08.00 – 16.00 น./ วันพุธ 10.00 – 17.00 น./ วันพฤหัส 10.00 – 20.00 น./ วันศุกร์ 08.00 – 16.00 น./ วันเสาร์ 09.00 – 15.00 น. (สัปดาห์ที่ 2, 4 ของเดือน เฉพาะพัฒนาการเด็ก)/ วันอาทิตย์ 09.00 – 13.00 น. (สัปดาห์สุดท้ายของเดือน เฉพาะพัฒนาการเด็ก)

  • พญ.วินิทรา แก้วพิลา

เวลาออกตรวจ : วันจันทร์ 16.00 – 20.00 น. / วันเสาร์ 08.00 – 12.00 น. *กรุณาโทรนัดล่วงหน้า

  • พญ.สุธิรา ริ้วเหลือง

เวลาออกตรวจ : วันอังคาร 16.00 – 20.00 น./ วันพฤหัส 17.00 – 20.00 น./ วันเสาร์ 13.00 – 18.00 น. (สัปดาห์ที่ 2, 4)

สอบถามรายละเอียดและนัดหมายล่วงหน้าที่ 0-2941-2800 , 0-2561-1111 กด 1 ทุกวัน 8.00-19.00น.

เว็บไซต์ www.vibhavadi.com

4.ศูนย์พัฒนาการเด็ก โรงพยาบาลพญาไท 1

  • นพ.โสภณ พรกุลวิไล

ตารางออกตรวจและนัดหมายคุณหมอ คลิก

  • นพ. คณิตสร ตรีรัตนกุลวงศ์

ตารางออกตรวจและนัดหมายคุณหมอ คลิก

  • พญ. สุรีย์ อนันต์โกศล

ตารางออกตรวจและนัดหมายคุณหมอ คลิก

  • พญ. สวนีย์ อิสระประศาสน์ 

ตารางออกตรวจและนัดหมายคุณหมอ คลิก

  • พญ.สิริพิมพ์ เพ็ญชาติ 

ตารางออกตรวจและนัดหมายคุณหมอ คลิก

  • พญ. ภัสรา นิลายน

ตารางออกตรวจและนัดหมายคุณหมอ คลิก

ศูนย์สุขภาพเด็กและวัยรุ่น โรงพยาบาลพญาไท 1 อาคาร 2 ชั้น 3
วันและเวลาทำการ
เปิดบริการทุกวัน เวลา 06.00 น. – 20.00 น.

โทรศัพท์ 02-201-4600 ต่อ 3111, 3112

เว็บไซต์ www.phyathai.com

 

อ่านต่อ 40 รายชื่อหมอด้านพัฒนาการเด็ก คลิกหน้า 2

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

สงกรานต์ในบ้าน

สงกรานต์ในบ้าน เด็กๆ งดเล่นน้ำป้องกันโควิด 19

วันปีใหม่ไทยในปีนี้ แตกต่างไปจากทุกปี เนื่องจากสถานการณ์ของโรคติดต่อโควิด 19 ที่ทำให้ทุกครอบครัว ต้องงดเล่นน้ำสงกรานต์ หรืองดทำกิจกรรมต่างๆ ที่ต้องอยู่รวมหรือใกล้ชิดกัน การทำกิจกรรม สงกรานต์ในบ้าน จึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เพื่อไม่ให้เด็กเบื่อหน่ายเพราะไม่ได้เล่นน้ำ

Continue reading “สงกรานต์ในบ้าน เด็กๆ งดเล่นน้ำป้องกันโควิด 19”

นมถั่วเหลือง

รู้หรือไม่? นมถั่วเหลือง ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อยแข็งแรงไม่ป่วยบ่อย

ช่วงปิดเทอมคือช่วงเวลาที่เด็กๆ วัยเรียนได้หยุดพักผ่อนอยู่บ้านกันแบบยาวๆ และส่วนใหญ่คุณพ่อคุณแม่ก็จะหากิจกรรมให้ลูกได้ทำกันเพื่อเพิ่มทักษะการเรียนรู้ใหม่ๆ ในช่วงปิดเทอม แต่ด้วยสถานการณ์จากไวรัส COVID-19 ที่กำลังระบาดอยู่ตอนนี้ก็อาจทำให้หลายครอบครัวไม่กล้าให้ลูกออกมาทำกิจกรรม เล่นสนุก เที่ยวเปิดหูเปิดตานอกบ้านกันมากนัก เนื่องด้วยกลัวว่าลูกจะป่วยไม่สบายขึ้นมาได้ค่ะ

ดังนั้นเพื่อเป็นการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้เด็กๆ มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงตลอดช่วงปิดเทอมนี้ ที่ไม่ว่าจะไวรัส COVID-19 หรือไวรัสที่ก่อโรคต่างๆ ที่มาตามฤดูกาล ก็ไม่สามารถทำให้ป่วยได้ง่ายนั้น คุณแม่ควรต้องดูแลโภชนาการของลูกอย่างไร ถึงจะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันร่างกายให้แข็งแรงอยู่ตลอดเวลา ไม่ทำให้พัฒนาการลูกสะดุด และยัง Happy กันได้ในช่วงตลอดปิดเทอมนี้

นมถั่วเหลือง

โภชนาการแบบไหนที่เหมาะกับเด็กวัยเรียน ?

การเตรียมความพร้อมให้เด็กๆ มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงอยู่ตลอดเวลา จะช่วยให้พวกเขาพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้ในห้องเรียน หรือการเรียนรู้นอกห้องเรียนในช่วงปิดเทอม ซึ่งสิ่งสำคัญอันดับหนึ่งที่จะทำให้เด็กๆ มี สมองพร้อม ร่างกายพร้อมในทุกวัน นั่นก็คือการได้รับโภชนาการสารอาหารต่างๆ ครบทั้ง 5 หมู่ในปริมาณที่เพียงพอในทุก วัน

เพราะอะไรรู้ไหมคะ ? เพราะลูกที่อยู่ในวัยเรียน จะเป็นวัยที่มีการเคลื่อนไหวใช้ร่างกายมากในการทำกิจกรรมสนุกต่างๆ   และสมองยังจะต้องมีการคิด การเรียนรู้ จดจำเรื่องใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา ฉะนั้นพลังงานที่ได้จากอาหารที่ถูกใช้ไป จะต้อง เติมเข้ามาใหม่อย่างเหมาะสม และเพียงพอในทุกๆ วันนั่นเองค่ะ

ซึ่งสารอาหารที่เป็นประโยชน์กับร่างกายของลูกๆ ก็มาจากอาหารหลัก 5 หมู่ ที่คุณแม่ควรดูแลให้ลูกได้รับอย่างเหมาะสม  ตามวัย และเพียงพอในทุกมื้ออาหารแล้วนั้น คุณแม่ยังสามารถเสริมเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ระหว่างวันให้กับลูกได้นะคะ อย่างการให้ “ดื่มนม” ไม่ว่าจะเป็นนมวัว หรือ นมถั่วเหลือง ต่างก็ให้คุณค่าสารอาหารที่ดีต่อพัฒนาการ และภูมิคุ้มกันร่างกายค่ะ

 

นมถั่วเหลือง VS นมวัว นมชนิดไหนที่เลือกให้ลูกวัยเรียน

ถ้าจะให้พูดถึงนมถั่ว เหลืองที่เป็นที่ชื่นชอบของเด็กๆ วัยเรียน ที่คุณแม่มักจะเตรียมให้ลูกๆ ได้กินพร้อมอาหารเช้า หรือใส่กระเป๋าให้ลูกไปกินที่โรงเรียนระหว่างวัน ก็ต้องนมถั่วเหลืองสำหรับเด็ก “ไวตามิ้ลค์แชมป์” ฉะนั้นครอบครัวไหนที่ยังลังเลใจว่าจะให้ลูกกินนมถั่วเหลืองดีไหม ลองมาดูสารอาหารที่อยู่ในนมถั่วเหลืองไวตามิ้ลค์แชมป์ กับ นมวัวทั่วไป กันค่ะว่าให้สารอาหารที่มีประโยชน์จะแตกต่าง หรือมีอะไรเหมือนกันบ้าง?

นมถั่วเหลือง

พอเปรียบเทียบสารอาหารในนมทั้งสองชนิด คุณพ่อคุณแม่ได้เห็นสารอาหารแล้ว จะเห็นได้ว่า นมถั่วเหลืองมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายของลูกดีเทียบเท่ากับนมวัวเลยค่ะ แถมยังมีความโดดเด่นในเรื่องของโปรตีนที่เป็นโปรตีนจากพืช ย่อยง่ายกว่าโปรตีนในนมวัว มีใยอาหารธรรมชาติ(PDX)สูง และไม่มีน้ำตาลแลคโตส เหมาะสำหรับเสริมสร้างภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงให้กับลูกน้อยของเราได้

ฉะนั้นแนะนำว่าถ้าจะให้ลูกที่อยู่ในวัยเรียน ดื่มนมถั่วเหลืองสำหรับเด็ก สำคัญสุดคือต้องเป็นนมถั่วเหลืองแท้ เสริมแคลเซียม ค่ะ อย่างนมถั่วเหลืองสำหรับเด็ก ไวตามิ้ลค์แชมป์ เป็นนมที่ทำมาจากถั่วเหลืองแท้ 100% ไม่มีส่วนผสมจากแป้ง และนมวัว เด็กๆ ที่ดื่มนมวัวแล้วท้องอืด ท้องเสีย ก็ไม่ต้องกังวลกับการดื่มไวตามิ้ลค์แชมป์เลยค่ะ เพราะเป็นนมถั่วเหลืองสูตร Lactose Free (น้ำตาลแลคโตสมีอยู่ในนมวัว ที่ก่อให้เกิดอาการ ไม่สบายท้อง) ที่สำคัญยังมีโปรตีนธรรมชาติ ที่ร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้งานได้ทันที ไม่หลงเหลือตกค้างในร่างกาย จึงไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้นมค่ะ

นมถั่วเหลือง

ให้ลูกดื่มนมถั่วเหลืองสำหรับเด็ก ได้สารอาหารที่มีประโยชน์อะไรบ้าง ?

  1. มีโปรตีนสูง (นมถั่วเหลือง 1 แก้ว 180 มิลลิลิตร มีโปรตีน ประมาณ 7 กรัม นมวัว 1 แก้ว180 มิลลิลิตร มีโปรตีนประมาณ 7 กรัมเท่ากัน) และมีกรด Amino acid ครบถ้วน 9 ตัวเช่นเดียวกับโปรตีนในเนื้อสัตว์ ที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโต
  2. มีสารอาหารบำรุงสมองอย่างโคลีนในฟอสฟาติดิลโคลีน ซึ่งเป็นโคลีนจากธรรมชาติที่ได้จากถั่วเหลือง ซึ่งเป็นสารตั้งต้นในการสร้างสารสื่อประสาท ทีเป็นส่วนของการเรียนรู้ ความจำ และสมาธิของลูกน้อย อีกทั้งโอเมก้า 3 6 9 และวิตามินบี 12 สูงที่มีส่วนช่วยในการทำงานของระบบประสาทและสมอง
  3. มีแคลเซียมสูงในสัดส่วนที่เหมาะสมต่อร่างกายลูก และมีวิตามินดีที่ช่วยในการดูดซึมแคลเซียมได้ดี จึงคงคุณค่าสารอาหารซึ่งช่วยในการเจริญเติบโตด้านร่างกาย กระดูกและฟันที่แข็งแรง
  4. เป็นโปรตีนธรรมชาติจากพืช จึงย่อยได้ง่ายกว่าโปรตีนจากเนื้อสัตว์
  5. มีใยอาหารโพลีเด็กซ์โตรส (Polydextrose) ที่จะช่วยกระตุ้นและส่งเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายโดยจะมีผลต่อการทำหน้าที่ของเซลล์ภูมิต้านทานในลำไส้ ช่วยปรับสมดุลระบบนิเวศน์ในลำไส้ ส่งผลให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดี หมดปัญหาเรื่องการขับถ่ายยาก ไม่มีอาการท้องผูก

ไม่ยากเลยใช่ไหมคะ ที่คุณพ่อคุณแม่จะดูแลส่งเสริมให้ลูกๆ มีภูมิคุ้มกันร่างกายที่แข็งแรงอยู่ตลอดเวลา ด้วยการดื่มนมถั่วเหลืองสำหรับเด็กที่เต็มไปด้วยคุณภาพ และคุณค่าสารอาหารที่มีประโยชน์ทุกวัน เท่านี้ก็ทำให้พัฒนาการการเรียนรู้ของลูกวัยเรียนไม่สะดุด แถมยังพร้อมสำหรับการเปิดเทอมใหม่ด้วยนะคะ

และสำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ไม่อยากเดินทางไปซื้อที่ห้างสรรสินค้าหรือ supermarket ในช่วงนี้ก็สามารถสั่งซื้อออนไลน์ “ไวตามิ้ลค์แชมป์” ให้ลูกๆ ได้ดื่มบำรุงร่างกายกันได้ในช่วงตลอดปิดเทอมนี้ ผ่านทาง Home Delivery หรือเข้าไปที่ https://www.facebook.com/VitamilkChampThailand/

นมถั่วเหลืองไวตามิ้ลค์แชมป์ มี 2 รสชาติความอร่อยสำหรับเด็กๆ ค่ะ

นมถั่วเหลือง


เครดิต :

https://bit.ly/2xym4MJ 

https://bit.ly/2Q9SJyp 

https://bit.ly/2vkeGDW 

https://bit.ly/3cWdYgS 

https://bit.ly/2IFShE5 

https://bit.ly/2U0C15R  

https://bit.ly/33hOVAz  

อาการเสี่ยงโควิด

อาการเสี่ยงโควิด จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรู้รส?

ราชวิทยาลัยโสต ศอ นาสิกแพทย์ แห่งประเทศไทย ประกาศแนะนำเรื่อง อาการเสี่ยงโควิด เกิดการสูญเสียการได้กลิ่น ในผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด 19 เนื่องจากมีงานวิจัยและรายงานผู้ป่วยจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของอาการสูญเสียการรับรู้รสด้วย

Continue reading “อาการเสี่ยงโควิด จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรู้รส?”

ดูNetflix

Parental Control ฟีเจอร์ใหม่เอาใจแม่ คุมเวลา-เนื้อหาลูก ดูNetflix ให้เหมาะกับวัย

“ดูNetflix เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมบันเทิงที่หลายบ้านให้ลูกทำฆ่าเวลาในช่วงที่ออกไปเล่นนอกบ้านไมได้ หรือระหว่างรอคุณพ่อคุณแม่จัดการงานให้เสร็จจากแผน work from home แต่จะแน่ใจได้อย่างไรว่า หนัง หรือ การ์ตูนที่ลูกดูจะไม่เป็นภัย  และลูกไม่ดูมากเกินไปจนติดจอ

เครื่องมือใหม่สำหรับพ่อแม่ ช่วยควบคุมให้ลูก ดูNetflix อย่างปลอดภัย

คงปฏิเสธไม่ได้ว่า เทคโนโลยีเปิดทางให้ลูกเข้าถึงสื่อบันเทิงได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องรอคอยเวลาที่การ์ตูนมาฉาย หรือไปโรงหนังสือเพื่อดูการ์ตูนสักเรื่อง แค่มีอินเตอร์เน็ตกับอุปกรณ์หน้าจออย่าง สมาร์ททีวี แท๊ปเล็ตสักเครื่อง ก็สามารถดูการ์ตูน สารคดีเรื่องโปรดได้ตลอดเวลา

Netflix คือหนึ่งในผู้ให้บริการสตรีมมิ่งความบันเทิงรูปแบบต่างๆที่สามารถแบ่งกันดูได้ทั้งครอบครัว ซึ่งจัดแบ่งเนื้อหาให้กับคนทุกวัย แต่ละคนสามารถเข้าถึงเนื้อหาของตัวเองได้จากอุปกรณ์หลายเครื่องพร้อมๆ กัน จึงให้ลูก ดูNetflix ผ่านแท๊ปเล็ต ขณะที่คุณแม่ดูซีรีย์เกาหลีได้ แถมจะเลือกดูที่ไหน เวลาใดก็ได้ ดูไม่จบดูต่อได้ไม่ต้องเริ่มใหม่ เพียงแต่มี “อินเตอร์เน็ต”

Must Read : 12 การ์ตูน Netflix สำหรับเจ้าตัวเล็ก

Must Read :รวมหนังดี สารคดีน่าดู ซีรีส์ netflix คัดเฉพาะสำหรับคุณแม่

เมื่อลูกเข้าถึงเนื้อหาและเลือกดูเองได้อย่างอิสระ ทำให้พ่อแม่หลายบ้านกังวลว่า สิ่งที่ลูกกำลังดูเหมาะสมกับวัยหรือไม่ กลัวว่าลูกดูเนื้อหารุนแรง ดูต่อเนื่องมากเกินไป หรือแอบเข้าไปดูหนังของคุณพ่อคุณแม่โดยไม่ตั้งใจ แล้วแบบนี้จะป้องกันอย่างไรดี

Parental Control  เครื่องมือดูแลลูก ดูNetflix อย่างปลอดภัย

การตั้งเงื่อนไขก่อนที่จะให้ลูก ดูNetflix  เป็นสิ่งที่ควรทำตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อให้ลูกเรียนรู้ข้อตกลงและป้องกันปัญหาจากการชมสื่อไม่เหมาะสมซึ่งดีกว่าการ “ห้าม” “ต่อว่า” ที่ทำได้ยากกว่ามาก Parental Controlเป็นฟีเจอร์ที่ Netflix ออกแบบให้เป็นเครื่องมือสำหรับคุณพ่อคุณแม่ ใช้วางกฎเกณฑ์และควบคุมเนื้อหาให้เหมาะสมกับลูกแต่ละวัยผ่าน Browser www.netflix.com/browse จากทั้งคอมพิวเตอร์ และแท็ปเล็ต  (ไม่สามารถแก้ไขผ่านapplication) Amarin baby & Kids ได้รวบรวมวิธีใช้ Parental Control ทำตามกันง่ายๆ ดังต่อไปนี้

 

ดูNetflix

  1. ตั้งโปรไฟล์สำหรับเด็กโดยเฉพาะ

หลังจากคุณแม่สมัครสมาชิก Netflix แล้ว สามารถตั้งโปรไฟล์ให้ลูกโดยเฉพาะ ด้วยการกรอกอายุของลูก หากอายุไม่เกิน 7 ขวบ จะถูกจัดอยู่ในโหมด “มุมเด็ก”  ซึ่งในหมวดนี้จะมีเฉพาะเนื้อหาที่เหมาะกับวัยนี้เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นรายการทีวี และภาพยนตร์ ขณะเดียวกันลูกยังสามารถเลือกเองได้ว่าจะดูเนื้อหาจาก “หมวด” ใด (กรณีมีลูกหลายคน สามารถแยกตั้งโปรไฟล์ของเด็กแต่ละคนได้)

ดูNetflix

 

  1. ตั้งค่าการจำกัดการรับชม

Netflix จะแบ่งเรตติ้งเป็น 5 ระดับ ได้แก่ “ดูได้ทุกวัย” “ผู้ชมอายุ 7 ปีขึ้นไป” “ผู้ชมอายุ 13 ปีขึ้นไป”  “ผู้ชายอายุ 16 ปีขึ้นไป” และผู้ชมอายุ 18 ปีขึ้นไป” แต่อาจมีเนื้อหาบางส่วนที่พ่อแม่เห็นว่าไม่เหมาะกับลูก และอยากปิดกั้นออกไป ก็สามารถเข้ามาตั้งค่าการจำกัดการรับชม เพิ่มได้ด้วยตัวเอง

โดยเข้าไปที่ฟังก์ชั่น “บัญชี” เลือก “โปรไฟล์ของลูก” จากนั้นเลือก “การจำกัดการรับชม” คุณแม่สามารถคลิ๊กเลือกเรตติ้งเนื้อหาที่เหมาะกับลูกได้เจาะลึกมากขึ้น ถึงแม้ว่าจะตั้งโปรไฟล์ลูกเป็นเด็ก 7 ขวบ แต่คุณแม่เลือกให้ลูกดูเฉพาะเนื้อหาในเรตติ้ง “ดูได้ทุกวัย” ก็ทำได้ ไม่จำเป็นต้องดูตามวัยที่ระบุเท่านั้น

 

อ่านวิธีควบคุมเนื้อหาของ Netflix ให้เหมาะกับลูกแต่ละวัย หน้า 2

 

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

วิถีพุทธ

โรงเรียน วิถีพุทธ แตกต่างจากโรงเรียนทางเลือกอื่นยังไง?

หลักสูตรการศึกษาในยุคปัจจุบัน มีแนวทางการศึกษาหลายรูปแบบเพิ่มเติมจากโรงเรียนกระแสหลักมาเป็นตัวเลือกให้คุณพ่อคุณแม่ได้เลือกสรรการศึกษาที่ดีที่สุดและเหมาะที่สุดสำหรับลูก สำหรับโรงเรียน วิถีพุทธ ก็ถือเป็นโรงเรียนทางเลือกที่มีการเรียนการสอนที่แตกต่างไปจากแนวทางอื่น ๆ จุดเด่นของโรงเรียนหลักสูตรนี้เป็นอย่างไร มาหาคำตอบกันค่ะ

โรงเรียน วิถีพุทธ แตกต่างจากโรงเรียนทางเลือกอื่นยังไง?

โรงเรียนวิถีพุทธ หมายถึง โรงเรียนที่มีแนวการเรียนการสอนระบบปกติทั่วไปภายใต้การกำกับของกระทรวงศึกษาธิการ แต่เน้นการสอนที่นำหลักธรรมพระพุทธธรรม หรือองค์ความรู้ที่เป็นคำสอนในพระพุทธศาสนา มาประยุกต์ใช้ในการจัดการศึกษา โดยมีจุดเน้นที่สำคัญคือ การนำหลักธรรมมาใช้ในระบบเพื่อพัฒนาเด็กโดยเน้นกรอบการพัฒนาตามหลักไตรสิกขา คือ

  • ศีล – การมีวินัยในการดำเนินชีวิตที่ดีงามต่อตัวเองและผู้อื่น
  • สมาธิ – มุ่งพัฒนาจิตใจให้เข้มแข็งอย่างมีคุณภาพ
  • ปัญญา – การมีความรู้ที่ถูกต้อง มีศักยภาพในการคิดและแก้ปัญหาที่เหมาะสม

เน้นการพัฒนาให้ผู้เรียนสามารถ “กิน อยู่ ดู ฟังเป็น” คือใช้ปัญญา และเกิดประโยชน์แท้จริงต่อชีวิต เป็นการฝึกหัดอบรม เพื่อพัฒนากาย ความประพฤติ จิตใจ และปัญญาอย่างบูรณาการ เป็นอีกหนึ่งแนวการเรียนการสอนที่จะช่วยผลักดันให้เด็กสามารถพัฒนาตามศักยภาพ เป็นคนดี คนเก่งของสังคม และสามารถดำรงชีวิตได้อย่างมีความสุข ผ่านการเรียนการสอนและกิจกรรมภายในโรงเรียนที่จัดสภาพแวดล้อมและบรรยากาศที่เป็นกัลยาณมิตร โดยมีครูที่ใช้วัฒนธรรมและบรรยากาศการเรียนรู้ มีความรัก ความเมตตา และปรารถนาดี เอื้ออาทร ไม่เอาเปรียบ เสียสละ มีความกตัญญูทั้งต่อธรรมชาติและบุคคล ที่จะพัฒนาผู้เรียนอย่างดีที่สุดด้วยความเพียรพยายาม เอื้อในการพัฒนาผู้เรียนอย่างรอบด้านด้วยวิถีวัฒนธรรมแสวงปัญญา

โรงเรียนสยามสามไตร
ขอบคุณภาพจาก โรงเรียนสยามสามไตร

จุดเด่นของโรงเรียนวิถีพุทธ

โรงเรียนวิถีพุทธมีการจัดสภาพในทุก ๆ ด้าน เพื่อสนับสนุนให้ผู้เรียนพัฒนาตามหลักพุทธธรรมอย่างบูรณาการ มีกระบวนการจัดการเรียนรู้ลักษณะ “สอนให้รู้ ทำให้ดู อยู่ให้เห็น” ทั้งนี้การจัดสภาพจะส่งเสริมให้เกิดลักษณะของปัญญาวุฒิธรรม ๔ ประการ คือ

  1. สัปปุริสสังเสวะ หมายถึง การอยู่ใกล้คนดี ใกล้ผู้รู้ อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี ครู อาจารย์ดี มีข้อมูล มีสื่อที่ดี
  2. สัทธัมมัสสวนะ หมายถึง เอาใจใส่ศึกษาโดยมีหลักสูตรการเรียนการสอนที่ดี
  3. โยนิโสมนสิการ หมายถึง มีกระบวนการคิดวิเคราะห์พิจารณาหาเหตุผลที่ดีและถูกวิธี
  4. ธัมมานุธัมมปฏิปัตติ หมายถึง ความสามารถที่จะนำความรู้ไปใช้ในชีวิตได้ และดำเนินชีวิตได้ถูกต้องตามธรรม
โรงเรียนรุ่งอรุณ
ขอบคุณภาพกจาก โรงเรียนรุ่งอรุณ

โดยสภาพแวดล้อมในโรงเรียน จะจัดให้เอื้อต่อการเรียนรู้ตามหลักพุทธศาสนา มีบรรยากาศสงบเงียบ เรียบง่าย ร่มรื่น สะอาด มีระเบียบ ปลอดภัย มีสื่อและอุปกรณ์การเรียนการสอนที่มีการปรับปรุงพัฒนาอยู่เสมอ ส่งเสริมบรรยากาศของการใฝ่เรียนรู้ และพัฒนาไตรสิกขา มีบรรยากาศของการเคารพอ่อนน้อม ยิ้มแย้มแจ่มใส การมีความเมตตา กรุณาต่อกัน ทั้งครูต่อนักเรียน นักเรียนต่อครู นักเรียนต่อนักเรียน และครูต่อครูด้วยกันและโรงเรียนส่งเสริมให้บุคลากร และนักเรียนปฏิบัติตน เป็นตัวอย่างที่ดีแก่ผู้อื่น เช่น การลด ละ เลิกอบายมุข การเสียสละ เป็นต้น

สภาพแวดล้อมระหว่างโรงเรียนวิถีพุทธกับชุมชน ซึ่งประกอบด้วยบ้าน วัด และสถาบันอื่น ๆ ในชุมชน ซึ่งโรงเรียนวิถีพุทธมีลักษณะเปิดกว้างสู่ชุมชนและสังคม พร้อมที่จะรับฟังความคิดเห็นเพื่อการปรับปรุงพัฒนาอยู่เสมอ และพร้อมให้ความร่วมมือในการพัฒนาชุมชนสังคมด้วยความเกื้อกูลกันและกันอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเปิดโอกาสให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการพัฒนาโรงเรียน ร่วมมือร่วมใจในการพัฒนานักเรียนและพัฒนาชุมชนสังคมตามหลักธรรมในพุทธศาสนา สอดคล้องกับหลักไตรสิกขา มีความเป็นกัลยาณมิตรต่อกัน และเรียนรู้ที่จะดำรงชีวิตอย่างเหมาะสม รู้เท่าทันโลกที่เปลี่ยนแปลง สร้างสังคมที่ดีมี คุณภาพ เพื่อประโยชน์สุขร่วมกัน

กิจกรรมในโรงเรียนวิถีพุทธ

โรงเรียนวิถีพุทธจะมีการจัดกิจกรรมหลากหลายและต่อเนื่องเป็นวิถีชีวิต เพื่อให้เด็กๆ รู้จักคิดและได้ฝึกปฏิบัติเสมอ ๆ โดยผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับโรงเรียน บ้าน วัด ชุมชน ด้วยการดำเนินกิจกรรมร่วมกันโดยใช้หลักเกื้อกูลสัมพันธ์ อาทิเช่น

โรงเรียนทอสี
ขอบคุณภาพจาก โรงเรียนทอสี
  • มีการจัดกิจกรรมในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา และวันตามประเพณี เช่น กิจกรรมหล่อเทียนพรรษา การทอดกฐินทอดผ้าป่า กิจกรรมวันพ่อวันแม่ ฯลฯ
  • เปิดโรงเรียนต้อนรับผู้ปกครอง และชุมชนตลอดเวลา เพื่อให้ผู้ปกครองได้มีโอกาสเสนอข้อคิดเห็น และมีส่วนร่วมในภารกิจต่าง ๆ เช่น ดูแลความสะอาดของโรงอาหาร ดำเนินการเชิญภูมิปัญญาทางพระพุทธศาสนา ภูมิปัญญาท้องถิ่น มาช่วยโรงเรียนในการจัดการเรียนรู้ เป็นต้น
  • เป็นศูนย์กลางของชุมชนในด้านวิชาการ วิชาชีพ เช่น จัดอบรมให้ความรู้แก่ผู้ปกครองในเรื่องอาชีพพิเศษต่างๆ จัดร้านค้าของโรงเรียนเพื่อให้ผู้ปกครองนำผลิตผลทางการเกษตร ผลิตภัณฑ์ต่างๆ มาขาย โดยนักเรียนเป็นผู้ดูแลกิจการ
  • จัดกิจกรรมเชื่อมความสัมพันธ์ ระหว่าง โรงเรียน บ้าน วัด ชุมชน เช่น จัดการแข่งขันกีฬา จัดกิจกรรมปัจฉิมนิเทศโดยเชิญผู้ปกครองมาร่วมนำอาหารมารับประทานร่วมกัน จัดค่ายครอบครัว เป็นต้น
  • กิจกรรมที่ทำภายในโรงเรียนเป็นกิจวัตรประจำวัน เช่น สวดมนต์ก่อนและหลังเลิกเรียน นั่งสมาธิ เข้าค่ายธรรมมะ ฯลฯ

ซึ่งจะเห็นได้ว่าโรงเรียนแนววิถีพุทธ มีจุดมุ่งหมายสำคัญคือ มุ่งพัฒนาผู้เรียนด้วยความรู้ให้คู่กับคุณธรรม กิจกรรมและการเรียนรู้ในโรงเรียนจึงมีกระบวนการเรียนรู้ด้วยตนเองแบบองค์รวม ให้เข้าใจความจริงของชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกิน อยู่ ดู ฟัง ในชีวิตประจำวันที่มีสติสัมปชัญญะคอยกำกับ และดำเนินชีวิตได้อย่างเหมาะสม ทำให้เด็กเกิดการพัฒนาทั้งด้านความประพฤติ จิตใจ และปัญญาไปพร้อมๆ กัน มีเป้าหมายในเรื่องของชีวิต รู้จักวิธีปฏิบติเพื่อพัฒนาจิตใจของตนเอง สามารถช่วยเหลือและดูแลตัวเองได้ รวมถึงการปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น ธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมได้อย่างเป็นกัลยาณมิตรตามหลักทางสายกลาง

ตัวอย่างโรงเรียนวิถีพุทธ

โรงเรียนทอสี

โรงเรียนทอสี
ขอบคุณภาพจาก โรงเรียนทอสี

เป็นโรงเรียนวิถีพุทธปัญญาเป็นต้นแบบ ในการบ่มเพาะชีวิตเด็ก ครู และผู้ปกครอง เพื่อให้เด็กๆ เดิบโตไปเป็นคนที่สามารถพึ่งตัวเองได้และมีเพื่อนที่ดี เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน เพื่อสร้างประโยชน์สุขต่อส่วนรวม พร้อมจะอยู่ร่วมกับสังคมโลกที่เปลี่ยนแปลง โดยพัฒนาการใช้กระบวนการเรียนการสอนควบคู่ไปกับการปฏิบัติธรรม เปิดสอนตั้งแต่ระดับเตรียมอนุบาล-ประถมศึกษาตอนปลายการ ทำงานของโรงเรียนทอสี เน้นการสร้างเครือข่ายของกัลยาณมิตรเพื่อช่วยเหลือ เกื้อกูล แบ่งปัน สนับสนุน ทั้งกำลังกาย กำลังใจซึ่งกันและกัน การร่วมมือกับชุมชน ร่วมมือกับสถาบันต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อแสดงให้เห็นว่าการศึกษาแบบวิถีพุทธสะท้อนภาพให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของวิถีชีวิตได้ทั้งครู เด็ก ผู้ปกครอง มุ่งสู่เป้าหมายของการพัฒนาสังคมที่มี “ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน”

ที่อยู่โรงเรียน : 023/46 ซอยปรีดีพนมยงค์41 ถนนสุขุมวิท71 แขวงคลองตัน เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110
โทรศัพท์ : 0-27130260-1
Website : www.thawsischool.com
Facebook : https://www.facebook.com/thawsi

โรงเรียนรุ่งอรุณ

โรงเรียนรุ่งอรุณ
ขอบคุณภาพจาก โรงเรียนรุ่งอรุณ

มีแนวทางการจัดการศึกษาแนวพุทธที่พัฒนาเด็กตามหลักไตรสิกขา คือ  ศีล  สมาธิ  ปัญญา เปิดสอนตั้งแต่ระดับอนุบาล ประถม และมัธยม ได้มีการนำหลักไตรสิกขาเข้าสู่กระบวนการเรียนการสอนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล วิถีชีวิตและกิจกรรมการเรียนรู้ต่าง ๆ จึงมีเป้าหมายให้เด็ก กิน อยู่ ดู ฟังเป็น สามารถดูแลช่วยเหลือตนเองได้ ปรับตัวอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้ และกตัญญูกตเวทีต่อผู้มีพระคุณ อันเป็นคุณธรรมสำคัญที่เกื้อหนุนการเรียนรู้ของวัยเด็ก โดยบูรณาการ 4 สาระที่สำคัญสำหรับปฐมวัย ได้แก่ ตัวเรา ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สังคม (พ่อแม่ ญาติพี่น้อง เพื่อน ครู ลุงคนสวน ป้าแม่ครัว ฯลฯ) และภาษา คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ลงในทุกกิจกรรมการเรียนรู้ของเด็ก อาทิ กิจวัตรประจำวัน การเล่น การออกกำลังกาย นิทาน ศิลปะ ดนตรี การทำอาหาร การเดินชมธรรมชาติ กิจกรรมจิตอาสา และโครงงานตามความสนใจ ซึ่งสอดคล้องไปกับฤดูกาลของแต่ละภาคเรียน

ที่อยู่โรงเรียน : 391 ซอยอนามัยงามเจริญ 25(ถ.พระราม 2 ซอย 33) แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กรุงเทพ ฯ 10150
โทรศัพท์ 02-8707512-4 โทรสาร 02 8707514
Website : www.roong-aroon.ac.th

โรงเรียนสยามสามไตร

โรงเรียนสยามสามไตร
ขอบคุณภาพจาก โรงเรียนสยามสามไตร

มีระบบการศึกษาแนวพุทธ และหลักสูตรพื้นฐานตรงตามกระทรวงศึกษาธิการ เปิดสอนระดับเด็กเล็ก – อนุบาล – ประถม – มัธยม อายุตั้งแต่ 1.6 – 15 ปี ในการจัดการศึกษาวิถีพุทธ โรงเรียนสยามสามไตรได้ใช้หลักจากธรรมนิพนธ์ใน สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ หลายฉบับด้วยกัน โดยตั้งแต่ พ.ศ. 2546 เริ่มขยายการศึกษาสู่ระดับประถมศึกษาในชื่อ “บ้านพุทธประถม” และวางหลักสูตรเน้นวางรากฐาน 3 วิถี ไว้ชัดเจน คือ วิถีไทย วิถีธรรมชาติ และวิถีพุทธ อันเป็นแนวทางและรูปแบบที่ทรงคุณค่า สร้างเด็กไทยให้ดำรงความเป็นไทย รักษาโลกธรรมชาติ สืบต่อพระพุทธศาสนาต่อไปสู่รุ่นลูกหลาน

และในปี พุทธศักราช 2550 ”โรงเรียนสยามสามไตร” พัฒนาหลักสูตรให้เกิดผลต่อเด็กเป็นรูปธรรมชัดเจน ในแนววิถีชีวิต “คงแก่เล่น คงแก่เรียน คงแก่การทำงาน การเข้าสังคม ” ให้เกิดผลสมจริงในทุกระดับชั้น สมบูรณ์ด้วยความหมาย “โรงเรียนสยามสามไตร ” จาก ท่านสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป. อ. ปยุตฺโต)

ที่อยู่โรงเรียน : 87 ซ.สุขุมวิท 89/1 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพฯ 10260
โทรศัพท์ 02-3110134, 02-33-6258-60 โทรสาร 02-311-2575
Website : โรงเรียนสยามสามไตร.com
Facebook : https://www.facebook.com/siamsaamtri.school

สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่มองหาโรงเรียนวิถีพุทธ ซึ่งเป็นโรงเรียนทางเลือกอีกแนวทางการศึกษา เพื่อต้องการปลูกฝังคุณธรรมควบคู่ไปกับการเรียนรู้ให้กับเจ้าตัวเล็ก หากมีโอกาสก็ลองเข้าไปสัมผัสบรรยากาศ ขอเยี่ยมชม และศึกษาข้อมูลของโรงเรียนดู ว่าเข้าถึงรูปแบบกับโรงเรียนวิถีพุทธและเหมาะสมกับลูกกันก่อนหรือไม่ เพราะการเลือกโรงเรียนให้ลูกสิ่งสำคัญก็คือความพร้อมของเด็กนะคะ.

ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก : th.wikipedia.org, www.vitheebuddha.com

อ่านต่อบทความอื่นน่าสนใจ :

โรงเรียนทางเลือก เลือกแบบไหนให้เหมาะกับเจ้าตัวน้อย

โรงเรียนคาทอลิก แตกต่างจากโรงเรียนทั่วไปอย่างไร ทำไมพ่อแม่ถึงอยากให้ลูกเข้า!

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

อัณฑะไม่ลงถุง

อัณฑะไม่ลงถุง ความผิดปกติที่อาจเกิดกับทารกคลอดก่อนกำหนด

อวัยะเพศของเด็กผู้ชายรวมไปถึงลูกอัณฑะของทารกนั้นควรมีองค์ประกอบครบถ้วนสมบูรณ์มาตั้งแต่เกิด ซึ่งกุมารแพทย์จะแจ้งให้คุณพ่อคุณแม่ได้ตั้งแต่ช่วงแรกเกิด สำหรับภาวะ อัณฑะไม่ลงถุง ในเด็กนั้น ความผิดปกตินี้พบไม่บ่อยนัก แต่อาจเกิดขึ้นได้กับทารกเพศชายที่คลอดครบกำหนดประมาณร้อยละ 3 และทารกที่คลอดก่อนกำหนดประมาณร้อยละ 30 และอาจสูงถึงร้อยละ 33 ในรายที่ไม่ได้รับการรักษาอาจส่งผลเสียต่อทารก อาจมีภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงต่ออัณฑะเมื่ออายุมากขึ้น

อัณฑะไม่ลงถุงลูก

อัณฑะไม่ลงถุง ความผิดปกติที่มักเกิดกับทารกคลอดก่อนกำหนด

ภาวะลูกอัณฑะไม่ลงถุง คือการที่ลูกอัณฑะไม่ได้อยู่ในถุงอัณฑะ และไม่สามารถดึงลงมาในถุงอัณฑะได้ อัณฑะที่ไม่ลงถุงอาจคลำไม่ได้เนื่องจากอยู่ในช่องท้อง หรือคลำได้บริเวณขาหนีบ หรือเหนือถุงอัณฑะเพียงเล็กน้อย อาจคลำไม่พบตั้งแต่แรกเกิด หรือลงมาในถุงอัณฑะตอนแรกเกิดแล้วเคลื่อนกลับขึ้นไปภายหลัง ซึ่งอาจเกิดขึ้นกับข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้างก็ได้

แพทย์หญิงศนิ มลกุล ผู้เชี่ยวชาญสาขากุมารศัลยศาสตร์ ได้ให้ข้อมูลว่า ปกติอัณฑะของเด็กชายนั้นประกอบด้วยเซลล์ 2 กลุ่ม คือเซลล์ที่ทำหน้าที่ในการสร้างฮอร์โมนเพศชาย และเซลล์ที่ทำหน้าที่ในการสร้างตัวอสุจิ  โดยลูกอัณฑะของเด็กนั้นถูกสร้างขึ้นตั้งแต่เด็กยังเป็นตัวอ่อนในครรภ์มารดาในสัปดาห์ที่ 6 ของการตั้งครรภ์ อยู่ที่ด้านหลังของช่องท้อง ระดับใกล้เคียงกับไตของเด็ก ต่อมาเมื่อตัวอ่อนเจริญเติบโตมาจนถึงสัปดาห์ที่ 24-26 อัณฑะจึงค่อยๆ เลื่อนตัวจากตำแหน่งเดิม ผ่านขาหนีบลงมาอยู่ที่ถุงอัณฑะ โดยปัจจัยที่ช่วยส่งเสริมให้อัณฑะเลื่อนตัวลงมาได้นั้นมีหลายอย่าง เช่น  การมีโครโมโซมเพศชายที่ปกติ การมีความดันในช่องท้องเป็นปกติ การมีเนื้อเยื่อที่เรียกว่า gubernaculum ยึดโยงระหว่างตัวอัณฑะมาที่ถุงอัณฑะ ซึ่งอิทธิพลของฮอร์โมนส์หลาย ๆ อย่างจะทำให้เนื้อเยื่อนี้หดสั้นลง ดึงเอาอัณฑะมาอยู่ในถุงได้ เป็นต้น

สาเหตุของอัณฑะไม่ลงถุง

สาเหตุของการเกิดภาวะลูกอัณฑะไม่ลงถุงนั้นยังไม่มีการยืนยันใด ๆ แต่สิ่งที่สังเกตได้คือความผิดปกตินี้มักจะพบในทารกที่คลอดก่อนกำหนด ทางการแพทย์ได้ลงความเห็นถึงปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้ทารกตกอยู่ในภาวะลูกอัณฑะไม่ลงถุง ได้แก่

อัณฑะไม่ลงถุง มีผลอย่างไร

  1. ทารกมีน้ำหนักแรกเกิดน้อย
  2. ความไม่สมบูรณ์เต็มที่ของเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายเมื่อทารกคลอดก่อนกำหนด
  3. ภาวะแทรกซ้อนที่ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์ เช่นภาวะดาวน์ซินโดรม (Down Syndrome) และความผิดพลาดของผนังหน้าท้องด้านใน
  4. บุคคลในครอบครัวมีประวัติเคยตกอยู่ในภาวะนี้
  5. ได้รับสารเอสโตรเจน ยา หรือสารบางประเภทที่พบในสภาพแวดล้อม ซึ่งออกฤทธิ์ขัดขวางฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนตัวของอัณฑะ
  6. ความผิดปกติทางกายวิภาคของผนังหน้าท้อง มีส่วนของอวัยวะขัดขวางการเคลื่อนตัวลงของอัณฑะ
  7. ผู้ปกครองมีการสัมผัสสารกำจัดศัตรูพืช
  8. แม่ท้องดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในขณะตั้งครรภ์
  9. สูบบุหรี่หรือดมกลิ่นบุหรี่มากในขณะตั้งครรภ์
  10. แม่เป็นโรคอ้วนหรือมีน้ำหนักตัวมากเกินกว่าปกติ
  11. แม่เป็นโรคเบาหวาน

อ่านต่อ ภาวะแทรกซ้อนที่พบจากอัณฑะไม่ลงถุงในเด็ก คลิกหน้า 2

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

กิจกรรมเล่นกับลูก

7 กิจกรรมเล่นกับลูก ได้จินตนาการ เสริมพัฒนาการลูกดีทุกด้าน

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า “การเล่น” ของเด็ก ๆ นั้นไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ ที่คนเป็นพ่อเป็นแม่จะมองข้ามไม่ได้ มี กิจกรรมเล่นกับลูก มากมายที่จะช่วยกระตุ้นสมองให้เกิดวงจรการเรียนรู้และพัฒนาด้านร่างกาย จิตใจ สังคม ภาษา และสติปัญญาผ่านความรู้สึกสนุกสนานได้เป็นอย่างดี การให้ลูกได้เล่นตั้งแต่ยังเล็ก ๆ ถือเป็นการเตรียมลูกน้อยให้มีพัฒนาการดี ๆ ความสามารถในการวางแผน การบริหารจัดการ จินตนาการ การทำงานเป็นที่ม สื่อสารเป็น มีความยืดหยุ่น และแก้ปัญหาได้ ล้วนเป็นพัฒนาที่ผ่านกระบวนการ “เล่น” ตั้งแต่ยังเป็นเด็กเล็ก ๆ โดยการเล่นนั้นมีหลายรูปแบบ แม้แต่การเล่นแบบธรรมดา ๆ ด้วยของเล่นจากธรรมชาติรอบบ้านหรือรอบตัว ก็สามารถสร้างพัฒนาการดี ๆ ให้กับเจ้าตัวน้อยได้ ถ้าหากได้ทุกกิจกรรมเหล่านี้บ่อย ๆ ทุกวัน

7 กิจกรรมเล่นกับลูก ได้จินตนาการ เสริมพัฒนาการลูกดีทุกด้าน

 

เล่นอะไรกับลูกดี

 

เล่นทราย ดิน หิน น้ำ เล่นธรรมชาติรอบตัว

การให้ลูกได้เล่นกับธรรมชาติอย่างทราย ดิน หิน น้ำ ที่ดูธรรมดาที่สุด แต่กลับเป็นผลดีต่อพัฒนาการของลูกที่สุดเช่นกัน เพราะการเล่นกับธรรมชาติเหล่านี้เป็นการเล่นที่ไม่มีรูปแบบขั้นตอนและวิธีการใด ๆ เป็นการเล่นแบบอิสระ หรือ free play ที่ไม่มีขอบเขตจำกัด ทำให้เด็ก ๆ ได้ใช้จินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ ในการเล่นด้วยตัวเอง สามารถที่จะก่อกองทรายเป็นรูปอะไรก็ได้ เอาหินมาสร้างเป็นเขื่อน เอาดินมาปั้นนู้นปั้นนี่ หรือการเล่นน้ำ ตักน้ำ ตวงน้ำ ฯลฯ การเล่นเหล่านี้ที่นอกจากจะสร้างจินตนาการไม่รู้จบแล้ว ยังเป็นการเล่นที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงกล้ามเนื้อ ที่ต้องใช้นิ้วมือทั้งสิบนิ้ว ใช้มือทั้งสองข้าง เท้าสองข้าง หรือใช้ทั้งตัวลงไปเล่น เป็นการปล่อยพลังและปลดปล่อยอารมณ์ที่จะช่วยคลายเครียด ส่งผลให้ลูกอารมณ์ดี สดใส รวมถึงช่วยกระตุ้นกลไกระบบประสาทและสมองเพื่อรับรู้สัมผัสที่แตกต่าง และสั่งการการเคลื่อนไหวร่างกายให้ทำงานประสานสอดคล้องกัน

นอกจากเด็กจะได้สนุกสนานกับการเล่นไร้กรอบแล้ว คุณพ่อคุณแม่สามารถใช้ของเล่นธรรมชาติเหล่านี้สอดแทรกวิชาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์เข้าไปได้อย่างแนบเนียนอีกด้วย เช่น ทรายเม็ดเล็ก ๆ พอกำแล้วหล่นลงมาเป็นสาย ดินที่มีความหนืดมากกว่าสามารถปั้นเป็นรูปได้มากกว่า หินมีน้ำหนัก มีความแข็ง มีขนาดที่หลากหลาย น้ำเป็นของเหลวที่แทรกซึมไปได้ทุกที่และอยู่ในภาชนะได้ทุกขนาด ส่วนการนำทราย ดิน หิน น้ำ มาใส่ในภาชนะขนาดต่าง ๆ กัน ก็สามารถสอนเรื่องการชั่ง ตวง วัด ในวิชาคณิตศาสตร์ให้กับลูกได้ สำหรับบ้านไหนที่ไม่มีพื้นที่ก็สามารถประยุกต์พื้นที่เล็ก ๆ เล่นได้ อย่างการนำทราย หรือถุงเล็ก ๆ มาใส่ในกระบะ กะละมัง ใช้แป้งโดว์ปั้นแทนดินจริง หรือจะพาลูกออกไปเล่นกับธรรมชาตินอกบ้าน เปิดประสบการณ์เรียนรู้ในสิ่งใหม่ ๆ ก็ช่วยเพิ่มเติมทักษะอื่น ๆ สำหรับเจ้าตัวเล็กขึ้นได้อีก

กิจกรรมเล่นกับลูกในบ้าน

 

เล่นในห้องหรือในบ้านก็สนุกได้

วันไหนฝนตก อากาศร้อน หรือวันหยุดอยากอยู่กับบ้าน คุณพ่อคุณแม่ก็สามารถเนรมิตพื้นที่ในบ้านให้เป็นสนามเด็กเล่น ด้วยกิจกรรมง่าย ๆ เช่น

  • เล่นซ่อนแอบ เกมการเล่นที่คลาสสิคที่สุดแต่ก็ทำให้เจ้าตัวเล็กสนุกได้เช่นกัน แค่ลูกได้หาที่ซ่อน ไปแอบหลังผ้าม่าน ใต้โต๊ะ หลบเข้าห้องนอน สนามหญ้าหน้าบ้าน หรือการได้เป็นคนหาคุณพ่อคุณแม่เท่านี้ก็เรียกเสียงหัวเราะ สร้างความสุขให้ลูกได้เป็นอย่างดี
  • เกมหาสมบัติ นำของเล่น ตุ๊กตาตัวโปรดไปซ่อนเพื่อให้ลูกหา ทำปริศนาเพื่อเพิ่มความสนุกและตื่นเต้นเข้าไป
  • ฝ่าด่านอุปสรรค ด้วยการนำเก้าอี้ โซฟา มาต่อกันให้ลูกได้เดินทรงตัว หรือถ้ามีเจ้าตัวเล็กในวัยหัดคลานก็ให้ลูกมุด ๆ คลาน ๆ ลอดใต้เก้าอี้ ปีนโซฟาขึ้น ๆ ลง ๆ เท่านี้ก็เป็นการช่วยเสริมพัฒนาการด้านร่างกาย ฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อแขน ขา ฝึกการทรงตัว

โดยหน้าที่ของคุณพ่อคุณแม่ที่นอกจากจะเล่นไปพร้อม ๆ กับลูกแล้ว คือการดูแลความปลอดภัย ส่งเสียงเชียร์อยู่ใกล้ ๆ ในขณะลองปล่อยให้ลูกได้เล่นด้วยตัวเอง แค่พื้นที่ในบ้านก็สร้างความสนุกไปอีกแบบให้ลูกได้

 

กิจกรรมเล่นกับลูกอยู่บ้าน
กิจกรรมเล่นกับลูกอยู่บ้าน

 

เล่นสร้างเมือง สร้างประสาทจากกล่องลัง โต๊ะ เก้าอี้ สารพัดของใช้ในบ้าน

การเล่นสร้างบ้าน สร้างเมืองจำลอง ด้วยกล่องกระดาษลัง กระดาษแข็ง กล่องนม เก้าอี้ โต๊ะ ผ้าห่ม บล็อกไม้ ฯลฯ การนำอุปกรณ์ของใช้ ของเล่นภายในบ้านที่ใช้แทนของเล่นสำเร็จรูป และสามารถให้ลูกมาวางต่อกันหรือวางซ้อนกัน ออกแบบ สร้างเป็นบ้าน เป็นห้องนอน หรือจะสร้างปราสาทให้กับตุ๊กตาตัวโปรดของลูกสาว เมืองสัตว์ประหลาดพร้อมกองกำลังทหารของลูกชาย ฯลฯ การเล่นประเภทนี้เป็นการพัฒนาความฉลาดให้ลูกได้แบบปลายเปิด เพราะลูกจะหยิบสิ่งของมาสร้างต่อเติมเป็นอะไรก็ เป็นการเล่นที่เสริมจินตนาการแบบไม่รู้จบ ให้อิสระทางความคิดสร้างสรรค์ ช่วยกระตุ้นให้ลูกเกิดการวางแผนและวิเคราะห์ว่าจะทำให้ออกเป็นรูปร่างอย่างไร ได้เรียนรู้มิติพัฒนาเรื่องการจัดวางและเปลี่ยนตำแหน่ง และช่วยเสริมพัฒนาการประสานระหว่างมือและสายตาได้ดีอีกด้วย ทั้งนี้ในระหว่างคุณพ่อคุณแม่ควรปล่อยให้ลูกได้ตัดสินใจในการสร้างสิ่งต่าง ๆ ตามจินตนาการของตัวลูกเอง และอาจมีการชวนคุย สอดแทรกบทเรียนต่าง ๆ ทั้งวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ตั้งคำถามเป็นระยะว่าลูกกำลังสร้างอะไร อันนี้อะไร เพื่อให้ลูกได้อธิบายระหว่างเล่น ซึ่งก็จะเป็นการช่วยฝึกทักษะด้านภาษา ให้ลูกได้สื่อสารจากการพูดคุย และทำให้คุณพ่อคุณแม่เข้าใจความคิดลูกมากขึ้นด้วย

 

กิจกรรมให้ลูกทํา

 

วาด ระบาย ละเลงสี ปะ ฉีก ประดิษฐ์

การเล่นอีกประเภทที่ส่งเสริมให้ลูกได้ CQ มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ จินตนาการกว้างไกล คือการชวนลูก ๆ มาเล่นศิลปะ ไม่ว่าจะเป็นงานประดิษฐ์ วาดภาพ ระบายสีเทียน สีน้ำ สีโปสเตอร์ ฉีก ปะ ติด พับกระดาษ ฯลฯ โดยไม่ต้องกังวลว่าผลงานจะออกมาหน้าตาเป็นยังไง เพราะสิ่งที่ลูกได้จากการเล่นประเภทนี้คือการได้ใช้นิ้วมือทั้งห้า ใช้ร่างกาย ใช้ประสาทสัมผัสในการทดลองวาด ระบาย หรือละเลง ใช้ความคิดในการออกแบบ จินตนาการให้ออกมาเป็นสีสัน เป็นรูปร่าง ในขณะที่เจ้าตัวเล็กกำลังวาด คุณพ่อคุณแม่อาจลองถามว่า “ลูกกำลังวาดรูปอะไรอยู่จ๊ะ” และเสริมความภาคภูมิใจให้ลูกด้วยคำชมเชย

การเล่นแบบนี้อาจจะมาพร้อมกับการเลอะ แต่ก็จะทำให้ลูกได้ประสบการณ์ที่เยอะขึ้น ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรจัดสถานที่ สภาพแวดล้อม และอุปกรณ์ที่เตรียมเลอะให้กับเจ้าตัวน้อยได้เป็นศิลปินอย่างเต็มที่ เช่น เตรียมกระดาษหนังสือพิมพ์ ปูพลาสติก ใส่ผ้ากันเปื้อนให้เรียบร้อย แล้วปล่อยให้ลูกได้เล่นเพลิน ๆ ไป

 

หากิจกรรมให้ลูกทํา

 

พาลูกเข้าครัว

เด็ก ๆ มักสนใจอยากมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่คุณพ่อคุณแม่ทำอยู่แล้ว การพาลูกเข้าครัวให้เป็นลูกมือคุณแม่ก็ดูเหมือนเป็นเรื่องเล่นที่น่าสนุกไม่น้อยของเจ้าตัวเล็ก ลองให้ลูกได้ช่วยงานบ้านในชีวิตประจำวัน ได้ทดลองจับใช้อุปกรณ์ที่ผู้ใหญ่ใช้ ซึ่งคุณพ่อคุณแม่บางคนอาจจะกลัวว่าลูกยิ่งทำยิ่งเลอะกลายเป็นงานหนักเข้าไปอีก หรือบางคนกลัวลูกเลอะเทอะเป็นเรื่องวุ่นวาย แต่กิจกรรมบางอย่างคุณพ่อคุณแม่ก็สามารถออกแบบและดูแลลูกอย่างใกล้ชิดได้ เช่น ชวนลูกเข้าครัวช่วยแม่ทำกับข้าว ทำขนม อาจจะให้เจ้าตัวเล็กช่วยหยิบส่งอุปกรณ์ ตะหลิว กระบวย ช่วยล้างผัก หยิบจับคู่ช้อนส้อมช่วยจัดโต๊ะกินข้าว รองน้ำ หุงข้าว สอนให้ลูกถึงการใช้อุปกรณ์ ข้อควรระวัง การทำงานบ้านก็จัดเป็นงานเล่นอีกประเภทหนึ่งที่ลูกจะได้เรียนรู้ผ่านประสบการณ์การลงมือปฏิบัติจริง และส่งผลดีต่อพัฒนาการด้านอื่น ๆ เข้าไปด้วย เช่น รู้จักกะระยะ รู้จักการกะ วัด ชั่งตวง ส่วนผสมอาหาร รวมถึงการช่วยกระตุ้นให้ลูกได้ใช้กล้ามเนื้อมัดเล็ก เมื่อลูกช่วยงานบ้านได้สำเร็จ คุณพ่อคุณแม่ก็สามารถให้คำชมเชยเพื่อทำให้ลูกเกิดความภาคภูมิใจและมั่นใจในตัวเองตามมาด้วย

 

หากิจกรรมให้ลูกทําที่บ้าน

 

ให้เพลงพาไป

กิจกรรมร้องเพลง เต้นตามจังหวะ เป็นการเล่นที่คู่กับเด็ก ๆ มาตั้งแต่อยู่ในท้องของคุณแม่เลยก็ว่าได้ การเปิดเพลงให้ลูกฟังตั้งแต่ยังเป็นทารก ทั้งดนตรีคลาสสิค เพลงกล่อมนอน เพลงเด็กภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษ ที่มีเสียงเมโลดี้ที่แตกต่างกัน ล้วนช่วยทำให้เจ้าตัวน้อยมีพัฒนาการด้านการรับรู้ ได้ฝึกทักษะด้านการฟัง มีพัฒนาการทางภาษาได้เรียนรู้คำศัพท์จากการฟังเพลง เนื่องจากเพลงเด็กส่วนใหญ่จะเป็นคำคล้องจอง และมีคำศัพท์หลากหลายนอกเหนือไปจากที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ถ้าได้ฟังบ่อย ๆ ซ้ำ ๆ ก็จะทำให้ลูกร้องตามได้ยิ่งคุณพ่อคุณแม่ร้องให้ลูกฟังเองจะทำให้เจ้าตัวน้อยคุ้นชินกับเสียงพ่อแม่ ทำให้ลูกเกิดความอุ่นใจและความผูกพันที่แน่นแฟ้นขึ้น และเมื่อลูกโตขึ้น เสียงเพลงของลูกจะเน้นเพลงที่มีจังหวะ ประกอบท่าทางตามเนื้อหาเพลง เพื่อให้ลูกได้ร้องเล่นเต้นตามที่เพลงที่เขาชอบ ประกอบกับคุณพ่อคุณแม่อาจจะหาอุปกรณ์เครื่องใช้ในบ้านมาให้ลูกได้ลองเคาะ ตี ดีดเป่า ก็จะช่วยให้ลูกได้เรียนรู้ความแตกต่างของเสียง และเสริมพัฒนาการด้านร่างกาย ได้ความสนุกสนาน ทำให้ลูกไม่เครียด เป็นเด็กอารมณ์ดีแจ่มใส

นพ.อุดม เพชรสังหาร จิตแพทย์เด็กและเยาวชน ได้กล่าวไว้ว่าการ “ฟังเพลงอย่างตั้งใจ” การเล่นดนตรี การร้องเพลง การเต้นรำ ต้องใช้สมาธิเพื่อติดตาม “จังหวะ” ของเพลง เพื่อที่จะได้สามารถควบคุมและปรับจังหวะในการเล่น การร้อง และการเต้นรำให้เข้ากับจังหวะของเพลง จึงจำเป็นต้องใช้สมาธิเพื่อจดจ่ออยู่กับทำนองเพลงและเนื้อร้อง ทั้งหมดนี้ต้องใช้สมองส่วนที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับ Brain Executive Functions ทั้งสิ้น” ดังนั้นการให้ลูกได้ร้องเพลงจึงมีส่วนช่วยทำให้เกิดพัฒนาการดี ๆ และกระตุ้นให้เกิดพัฒนาการของ EF ได้ด้วย

 

กิจกรรมที่บ้านกับลูก
กิจกรรมที่บ้านกับลูก

 

เล่นเป็นผู้ช่วยคุณแม่ฝึกทักษะชีวิต

การให้เจ้าตัวเล็กได้ลองช่วยเหลืองานบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เหมาะสมตามวัย เช่น กวาดบ้าน เช็ดถูโต๊ะ เก้าอื้ พับเสื้อผ้า ตากผ้า นำผ้าไปใส่ในตะกร้า รดน้ำตันไม้ การเก็บของเล่นให้เข้าที่ ฯลฯ ถือเป็นงานเล่นของเด็กที่จะทำให้ลูกรู้สึกตื่นเต้นและภูมิใจที่รู้สึกว่าตัวเองนั้นสามารถที่จะช่วยเหลือผู้อื่นได้ อีกทั้งยังเป็นการช่วยฝึกให้ลุกมีวินัยและปลูกฝังคุณธรรมความมีน้ำใจ คอยช่วยเหลือผู้อื่น ที่จะติดตัวไปอนาคตได้

นอกจากงานบ้านแล้วการสอนให้ลูกรู้จักรับผิดชอบตัวเองในชีวิตประจำวัน เช่น การกินข้าว อาบน้ำ แปรงฟัน แต่งตัว ถอดรองเท้า ถุงเท้า ติดกระดุม ฯลฯ ก็จัดเป็นกิจกรรมที่สร้างสรรค์ให้ลูกเล่นได้ นอกจากเป็นการฝึกทักษะชีวิตแล้วยังช่วยในการฝึกฝนทักษะการใช้นิ้ว กล้ามเนื้อมัดเล็ก การทำงานประสานของอวัยวะส่วนต่าง ๆ ที่สัมพันธ์กัน ซึ่งการเล่นในข้อนี้นอกจากจะทำให้ลูกหัดช่วยเหลือตัวเองได้แล้ว ยังเป็นการฝึกความรับผิดชอบให้ลูกรู้จักหน้าที่ของตัวเอง ทำให้รู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่าและเกิดความภาคภูมิใจในตัวเองอีกด้วย

จะเห็นได้ว่ากิจกรรมทั้งหมดนี้เป็นการเล่นกับลูกแบบธรรมดา ๆ ที่คุณพ่อคุณแม่สามารถออกแบบได้เองง่าย ๆ เล่นกับลูกที่บ้าน ตามความชอบ ความถนัดของลูก โดยสังเกตว่าอะไรที่ลองให้ทำแล้วลูกไม่ถนัด หรือไม่ชอบทำกิจกรรมแบบนี้ เพราะเด็กแต่ละคนมีศักยภาพ ความถนัด และความสนใจ แตกต่างกัน บางคนชอบวิ่งเล่น ชอบปืนป่าย ห้อยโหน เด็กบางคนขี้กลัว บางคนชอบเล่นลุย ๆ บางคนชอบศิลปะ บางคนชอบดูธรรรมชาติ ดูสัตว์ตัวเล็กๆ เงียบๆ ไม่ชอบเสียงดัง ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ก็สามารถปรับเปลี่ยนกิจกรรมให้ลูกเล่นได้ตามวัยและความเหมาะสมนะคะ

ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก : www.unicef.org

โรคตุ่มน้ำพอง

สังเกตให้ดี! ลูกขึ้นผื่นเล็กๆ มีตุ่มใสๆ ไม่ใช่ผดร้อน แต่อาจเป็น โรคตุ่มน้ำพอง

สุดสงสาร ลูกเป็น โรคตุ่มน้ำพอง … แม่โพสต์เตือน! สังเกตให้ดี ลูกมีตุ่มใสขึ้นตามตัว เป็นผื่นเล็กๆ อย่าชะล่าใจคิดว่าเป็นแค่ ผดร้อน พาไปหาหมอช้า อาการอาจหนักกว่าเดิม

แม่โพสต์เตือน! ลูกขึ้นผื่นเล็กๆ มีตุ่มใสๆ
เสี่ยงเป็น “โรคตุ่มน้ำพอง”

เข้าสู่หน้าร้อน..อากาศที่ร้อนอบอ้าว อาจทำให้เกิดผดผื่นร้อนขึ้นได้ง่าย โดยเฉพาะเด็กเล็ก เนื่องจากผิวของลูกยังระบายเหงื่อได้ไม่ดี จึงเกิดเป็น ผื่นผดตุ่มแดง ผดตุ่มใส หรือผดตุ่มหนอง ขึ้นมา พบบ่อยที่ใบหน้า หนังศีรษะ ข้อพับ และแม้ว่าผดร้อนจะเป็นภาวะทางผิวหนังที่ไม่อันตราย สามารถอาจหายได้เองเมื่ออากาศเย็นลง

Must read >> ผดร้อนในทารก อาการทางผิวหนังจากอากาศร้อน

Must read >> 7 ปัญหาผดผื่นในเด็กแรกเกิด ที่พ่อแม่ควรรู้!

แต่คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรชะล่าใจ หากผดผื่นหรือตุ่มใสที่เกิดขึ้นบนตัวลูกน้อยมีลักษณะผิดปกติ ควรรีบพาไปพบคุณหมอ เพราะลูกอาจเสี่ยงเป็นหนึ่งในโรคผิวหนัง อย่าง โรคตุ่มน้ำพอง หรือ โรคเพมฟิกอยด์ เช่นเดียวกับหนูน้อยคนนี้!!..ซึ่งคุณแม่ได้ใช้ชื่อเฟซบุ๊ก Ammko Ko โพสต์ภาพพร้อมข้อความเตือนถึงอาการของ โรคตุ่มน้ำพอง ที่เกิดขึ้นกับลูกชายวัย 2.4 ขวบ ของตนเอง จากผดผื่นร้อน ที่ขึ้นบนตัวลูก กลายเป็นโรคตุ่มน้ำพอง โดยคุณแม่เล่าว่า..

โรคนี้ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น มันคือ โรคตุ่มน้ำพอง แบบที่ดาราเป็น 1 ใน 400,000 คน ที่จะได้เป็นดันมาเป็นที่ลูกเรา สภาพตอนแรกก็เป็นผื่นร้อนธรรมดา แล้วประมาณ 3-4 วันอาการก็แย่ลงตุ่มเริ่มขึ้นเรื่อยไป เป็นตุ่มน้ำหนอง ไปหาหมอตอนแรกก็มีแค่หน้าผากกับแขนนิดเดียว ใช้เวลาแค่ไม่กี่วัน ไปหาหมอวันเสาร์หมอบอกเป็นผื่นร้อน ให้ยามากินและยาทา

แล้วพอมาวันอังคารตกกลางคืน อาการเริ่มหนักขึ้น ตุ่มเริ่มขึ้นเยอะกว่าเดิม และมีหนอง วันพุธก็เลยพาลูกไปหาหมออีกรอบ หมอถึงกับตกใจ ว่าไม่กี่วันทำไมขึ้นเยอะขนาดนี้ หมอเลยทำเรื่องส่งตัวไป รพ.ในเครือของคลีนิคบัตรทอง

โรคตุ่มน้ำพอง

ไปถึง รพ.หมอตรวจมาสรุปผลที่ได้คือ เป็นโรคตุ่มน้ำพุพอง หรือ โรคของดารา วินัย ไกรบุตร หมอทำการ เจาะเอาน้ำเหลืองออกจากตุ่ม เจาะได้บางจุดเท่านั้นเพราะน้องอยู่ไม่เฉย เช่น หน้าท้อง หน้าอก เพราะน้องร้อง หน้าอกกับหน้าท้องเลยกระเพื่อมเจาะไม่ได้ เจาะเสร็จ หมอทำการเอาน้ำเกลือล้างและเอายาทาให้ สภาพที่เห็นลูกคือ ลูกตัวสั่นมาก เพราะลูกมีไข้ด้วย หมอเลยจัดยามาให้ พอดีกับหมอนัดอังคารนี้

ระวังด้วยนะคะ นำมาบอกต่อ เป็นอุทาหรณ์ให้กับทุกคน แถมมาเป็นในช่วงโควิดระบาด ฝากเตือนแม่ๆ ทุกคนนะคะ เห็นผื่นเล็กๆ ตุ่มใสๆ ตามตัวอย่าได้ชะล่าใจไปนะคะ อย่าคิดว่าเป็นแค่ ผดผื่นร้อน แล้วไม่พาไปหาหมอ อาการจะหนักกว่าเดิม

โรคตุ่มน้ำพอง

โดยคุณแม่ยังบอกกับทีมแม่ ABK อีกว่า เบื้องต้นคุณหมอทำการรักษาโรคให้ลูกชายตัวน้อยของตน โดยให้ยาฆ่าเชื้อ ส่วนเรื่องที่ลูกจะหายได้เมื่อไหร่นั้น หมอบอกว่าต้องใช้เวลานานพอสมควร เพราะจะเป็นแผลเป็น

อาการโรคตุ่มน้ำพอง

อย่างไรก็ตาม โรคผิวหนังมีหลายพันโรค เช่น โรคตุ่มน้ำพองใส หรือ โรคเพมฟิกอยด์ bullous pemphigoid ที่คุณเมฆ วินัย เป็นอยู่และมีมานานแล้ว ซึ่งโรคกลุ่มนี้บางชนิดพบในวัยเด็ก บางชนิดพบในผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ พบได้ทั้งเพศหญิงและชาย อาการคือ มีตุ่มน้ำพองขนาดต่าง ๆ เกิดขึ้นที่ผิวหนัง บางรายอาจเกิดที่เยื่อบุต่าง ๆ ร่วมด้วย เมื่อตุ่มน้ำแตกจะเกิดแผล หรือรอยถลอก ทำให้มีอาการเจ็บ ถ้าเกิดตุ่มน้ำพองหรือแผลในปากจะทำให้เจ็บแสบ กลืนอาหารไม่สะดวก บางรายผิวหนังที่ถลอกหรือเป็นแผล อาจเกิดการติดเชื้อแบคทีเรียเป็นหนอง ถ้าเป็นรุนแรง เชื้อโรคอาจเข้าสู่กระแสเลือดทำให้มีไข้ หรืออาการอื่น ๆ ได้

 

อ่านต่อ >> “สาเหตุของการเป็นโรคตุ่มน้ำพอง
พร้อมวิธีดูแลรักษา” คลิกหน้า 2

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

Face shield

หมอเตือน! อย่าใส่ Face shield ให้ทารกแรกเกิด เสี่ยงกระทบต่อระบบประสาท

หมอเตือน! อย่าใส่ Face shield ให้ทารกแรกเกิด เสี่ยงต่อการหายใจ กระทบถึงระบบประสาท .. Face Shield คือ อะไร ช่วยป้องกันเชื้อไวรัสโควิด19 ได้จริงหรือ?

หมอเตือน! อย่าใส่ Face shield ให้ทารกแรกเกิด

เฟซ ชิลด์ หรือ (Face Shield) คือ หน้ากากชนิดปกป้องทั้งใบหน้า เพื่อป้องกันละอองฝอยและสารคัดหลั่ง ทั้งน้ำมูก น้ำลาย เสมหะ และเลือด ที่จะกระเด็นเข้า เข้าสู่ตา จมูก ปาก ทำมาจากแผ่นใส ฟองน้ำ กระดาษกาว ถือเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์สำคัญที่ทีมแพทย์และพยาบาลใช้สำหรับใส่ป้องกันในการทำหน้าที่ต่อสู้กับโควิด-19 ตอนนี้

ซึ่งหลังจากที่ หน้ากากชนิดปกป้องทั้งใบหน้า ถูกนำมาใช้ในโรงพยาบาล บางโรงพยาบาลก็ได้มีการประยุกต์เพื่อสวมใส่ให้กับเด็กแรกเกิดทั้งขณะอยู่ที่ รพ. และ กลับบ้าน เพื่อป้องกันละอองฝอยและสารคัดหลั่งต่างของเชื้อไวรัสโควิด-19

Face shield

แต่ล่าสุดทาง ชมรมเวชศาสตร์ทารกแรกเกิดแห่งประเทศไทย ได้ออกมาประกาศเตือน โดยระบุว่า จากการหารือในคณะกรรมการของชมรมมีข้อแนะนำ อ้างอิงจากมาตรฐานสากลทั้งองค์การอนามัยโลก และ Centers for Drisease Control and Prevention ช่องทางการแพร่กระจายเชื้อโควิด-19 ไปสู่ทารกแรกเกิดที่สำคัญที่สุด คือการกระจายจากผู้เลี้ยงดูทารถ ซึ่งได้แก่ บิดามารดา ญาติ หรือพี่เลี้ยง ผ่านทางละอองฝอยจากการจาม หรือไอ หรือทางสัมผัสจากมือผู้เลี้ยง หรืออุปกรณ์ สิ่งของที่สัมผัสทารก ดังนั้นการป้องกันที่ดีที่สุดไม่ให้แพร่เชื้อสู่ทารกคือ

  • ล้างมือให้สะอาดก่อนสัมผัสทารก และผู้เลี้ยงควรสวมหน้ากากอนามัย หากไม่แน่ใจในอาการของตัวเอง
  • หากไม่สบาย โดยเฉพาะมีอาการทางระบบหายใจ งดเข้าใกล้ทารก
  • งดการนำทารกออกนอกบ้าน ยกเว้นพาไปฉีดวัคซีนตามกำหนด หรือพบแพทย์เมื่อไม่สบาย
  • หากจำเป็นต้องพาทารกไปที่ชุมชน ควรให้ห่างจากผู้อื่นประมาณ 2 เมตร
  • งดการเยี่ยมทารกจากบุคคลภายนอก ทั้งที่โรงพยาบาล บ้าน ควรแสดงความยินดีแก่ครอบครัวผ่านโซเชียลมีเดียแทน

Must read >> 8 วิธีรับมือไวรัสโคโรน่า COVID-19 ฉบับพ่อแม่ที่มีลูกเล็กโดยเฉพาะ!

ทั้งนี้ทางชมรมฯ ไม่แนะนำให้ใส่ Face Shields รวมไปถึงหน้ากากอนามัย ให้กับเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 2 ขวบ เพราะอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ โดยภาวะแทรกซ้อนที่อาจจะเกิดกับทารกในการใส่ Face Shield หรือ Face mask คือ

  1. เนื่องจากทารกหายใจทางจมูกเป็นหลัก ยังไม่มีความสามารถหายใจชดเชยด้วยการอ้าปากหายใจได้เมื่อขาดอากาศ หรือออกซิเจน
  2. อีกทั้งวัสดุต่างๆ ที่นำมาผลิตเป็นหน้ากาก หากมีคุณสมบัติต่อต้านการไหลของอากาศเข้าออกสูงเกินไป ก็อาจทำให้ทารกหายใจไม่เพียงพอ และมีโอกาสเกิดการสะสมของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ เกิดอันตรายต่อระบบประสาทของทารก
  3. รวมถึงวัสดุพลาสติกบังหน้าอาจมีความคม บาดใบหน้า ดวงตาทารกได้

Face shieldขอบคุณภาพและข้อมูลจาก : Facebook เพจ ชมรมเวชศาสตร์ทารกแรกเกิดแห่งประเทศไทย

 

โดยเรื่องนี้คุณหมออร เจ้าของเพจ เลี้ยงลูกโตไปด้วยกันกับหมออร Hormone for Kids กุมารแพทย์ต่อมไร้ท่อ ยังได้ให้คำแนะนำเสริมด้วยว่า .. เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 2 ปี ไม่ควรสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า เพราะมีความเสี่ยงที่จะหายใจไม่ออก เนื่องจากขนาดของทางเดินหายใจเด็กมีขนาดเล็ก ซึ่งในภาวะปกติที่ไม่สวมหน้ากาก ก็หายใจลำบากมากกว่าผู้ใหญ่อยู่แล้ว พอใส่หน้ากาก ยิ่งหายใจลำบากขึ้นไปอีก จึงเสี่ยงต่อการขาดอากาศหายใจ แถมเด็กเองก็ยังบอกไม่ได้ว่าหายใจไม่ออก และไม่สามารถถอดหน้ากากได้ด้วยตนเอง … จึงไม่แนะนำให้เด็กทารกและเด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี สวมหน้ากาก ยกเว้นว่าอยู่ในที่คนแออัด เลี่ยงไม่ได้จริงๆ ก็ใส่ได้

#ถ้าไม่ให้ใส่หน้ากากแล้วจะป้องกันยังไง!
📌พ่อแม่ต้องเข้าใจก่อนว่า ถ้าเด็กจะติด ก็คือ ติดมาจากคนเลี้ยงดู ผ่านทางการไอ จาม หรือมือที่มีเชื้อโควิดมาสัมผัสตัวเด็ก เพราะฉะนั้น คนที่ต้องใส่หน้ากาก คือ ผู้ใหญ่ !! ไม่ใช่เด็ก 
📌ผู้เลี้ยงควรล้างมือให้สะอาดทุกครั้งก่อนอุ้มลูก
📌งดพาเด็กออกนอกบ้าน ยกเว้นการพาไปฉีดวัคซีน หรือไปพบแพทย์เมื่อไม่สบาย

Must read >> ข้อควรปฏิบัติ! เมื่อต้อง พาลูกไปโรงพยาบาล ช่วงโควิด-19 ระบาด

#ถ้าต้องพาไปฉีดวัคซีนหรือพาไปรพ. จะป้องกันยังไง?
✔️ให้ลูกอยู่ห่างจากคนอื่นอย่างน้อย 2 เมตร 
✔️ล้างมือด้วยสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจลอย่างน้อย 20 วินาทีทุกครั้งก่อนอุ้มลูก 
เทคนิคเพิ่มเติม 
✔️เอาลูกใส่รถเข็น แล้วคลุมด้วยผ้าคลุมด้านหน้ารถเข็น หรือพลาสติกกันฝน ไม่ต้องกังวลว่าลูกจะวิ่งไปจับโน่น จับนี่ หรือถ้าใช้เป้อุ้ม แนะนำให้หันหน้าเข้า

 

อย่างไรก็ตาม สำหรับเรื่องการใส่หน้ากากอนามัยของเด็ก รศ.พญ.วารุณี พรรณพานิช วานเดอพิทท์ กุมารเวชศาสตร์ โรคติดเชื้อ จาก มูลนิธิโรงพยาบาลเด็ก ได้ให้คำแนะนำไว้ ดังนี้

การใส่หน้ากากอนามัยของเด็กเล็ก 😷🏥คำแนะนำของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของอเมริกา (US CDC) แนะนำใส่หน้ากากอนามัยป้องกันการติดเชื้อในเด็กอายุตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไป เมื่ออยู่ในที่ชุมชน โดยวัตถุประสงค์หลักไม่ใช่เพื่อปกป้องการติดเชื้อให้กับผู้สวมใส่ แต่เป็นการป้องกันการแพร่กระจายของไวรัสจากคนที่ใส่ในกรณีที่ผู้ใส่เริ่มมีการเจ็บป่วยชนิดที่ยังไม่มีอาการ ไม่ให้แพร่กระจายไปในชุมชน

Must read >> หมอเผย 4 เหตุผลสำคัญ ทำไมต้อง เลื่อนเปิดเทอม เป็น 1 ก.ค.63

ส่วนเด็กก่อนวัยเรียนมักจะไม่สามารถที่จะใส่หน้ากากได้ตลอดเวลา อาจจะมีการใส่ๆถอดๆหรือขยับหน้ากากบ่อยๆ จึงเพิ่มโอกาสที่จะใช้มือมาสัมผัสใบหน้ามากขึ้น ถ้าไม่ได้ล้างมือบ่อยๆก็อาจจะเสี่ยงต่อการติดเชื้อมากขึ้น ปัจจุบันก็ยังไม่มีหน้ากาก n95 ที่ได้รับการรับรองให้ใช้สำหรับเด็กเล็ก

ดังนั้นเด็กที่มีปัญหาเรื่องระบบทางเดินหายใจหรือป่วยเฉียบพลันด้วยภาวะหายใจลำบากอยู่เดิม รวมถึงเด็กที่สูญเสียการควบคุมของกล้ามเนื้อเช่นเด็กที่เป็นโรคสมอง หรือเด็กที่ไม่สามารถควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อได้ตามปกติไม่สามารถที่จะถอดหน้ากากได้เอง ไม่ควรจะใส่หน้ากาก

Face shield

 

อ่านต่อบทความอื่นน่าสนใจ คลิก :

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

ดรีมเวิลด์ ชวนคนไทย สู้ COVID-19 ผ่านคลิป “สู้โควิด ด้วยกัน”

สวนสนุกดรีมเวิลด์ เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่หยุดการให้บริการล่วงหน้าก่อนการประกาศปิดสถานที่ของราชการ ด้วยเหตุผล เพื่อความปลอดภัยสูงสุดแก่ลูกค้า และพนักงาน จนวันนี้ ประกาศปิดบริการชั่วคราว จนถึงวันที่ 30 เมษายน  2563 หรือจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น 

แม้ว่าจะปิดบริการชั่วคราว ทางสวนสนุกฯ ยังคงสร้างประโยชน์ให้แก่ส่วนรวมอย่างต่อเนื่อง เริ่มจากการผลิตหน้ากากFece shield  จำนวน 10,000 ชิ้น  มอบให้บุคลากรการแพทย์ทั่วประเทศ โดยพนักงานดรีมเวิลด์ สลับเปลี่ยนหมุนเวียนเข้าร่วมกันผลิตขึ้น โดยยังคงรักษา  Physical  Distance ระหว่างกัน และเริ่มทยอยส่งผ่านไปรษณีย์แล้ว

นอกจากนี้ ยังผลิตคลิปพิเศษ “สู้โควดด้วยกัน” โดยงานนี้ พัณณิน  กิติพราภรณ์  ลงมือ เขียนสคลิป กำกับ และตัดต่อด้วยตัวเอง เพื่อส่งกำลังใจให้คนไทยทุกคนสู้โควิด-19 ผ่านคลิป “สู้โควิด ด้วยกัน”  สามารถติดตามชมได้ทางwww.facebook.com/dreamworldpark และทาง Youtube ช่อง Dream world park

Tags

“โฟร์โมสต์” เดินหน้าภารกิจ “ปันนมปันน้ำใจร่วมต้านภัย COVID-19” มอบผลิตภัณฑ์นม แก่โรงพยาบาลรัฐ และศูนย์การแพทย์ 19 แห่งทั่วประเทศ

กรุงเทพ – บริษัท ฟรีสแลนด์คัมพิน่า (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมโฟร์โมสต์ เพื่อคนไทยมานานกว่า 60 ปี เดินหน้าปฏิบัติภารกิจ “โฟร์โมสต์ ปันนมปันน้ำใจ ร่วมต้านภัย COVID-19” ร่วมใจมอบผลิตภัณฑ์นมยูเอชทีตราโฟร์โมสต์ ซึ่งผลิตด้วยน้ำนมโคสดจากเกษตรกรโคนมไทยมูลค่า 1,382,000 ล้านบาท ให้กับศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์และโรงพยาบาลรัฐ 19 แห่งทั่วประเทศ เพื่อเป็นกำลังใจให้ บุคลากรทางการแพทย์ พยาบาล ตลอดจนเจ้าหน้าที่ดูแลคัดกรองผู้ป่วย ที่ได้เสียสละทุ่มเททั้งกายและใจเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสนี้ โฟร์โมสต์ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในภารกิจต้านภัยโควิด-19 ด้วยการมอบโภชนาการที่ดีจากน้ำนมโคธรรมชาติ 100% เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงให้บุคลากรทางการแพทย์ ในการช่วยเหลือประเทศไทยให้ผ่านพ้นวิกฤติโควิด-19 นี้ไปด้วยกัน

Tags

ดูแลฟันน้ำนม

หมอเตือน? 4 ผลร้าย หากพ่อแม่ดูแลฟันน้ำนมของลูกไม่ดี!

อุทาหรณ์ปล่อยลูกให้ตายายเลี้ยง ดูแลฟันน้ำนม ของลูกไม่ดี ทำฟันผุ ต้องเสียฟันน้ำนมไปก่อนวัยอันควร ส่งผลต่อช่องปาก การงอกของฟันแท้ การเคี้ยว และการพูดของลูกไปจนโต

แม่โพสต์เตือน! “ควร ดูแลฟันน้ำนม ให้ดี”
อย่าปล่อยให้เสียฟันน้ำนมไปก่อนวัยอันควร

ไม่ใช่แค่ ฟันแท้ ที่สำคัญ แต่การ ดูแลฟันน้ำนม ของลูกให้ดีตั้งแต่ซี่แรก ไม่ให้เสียไปก่อนวัยอันควร ก็เป็นเรื่องที่จำเป็นที่พ่อแม่ต้องใส่ใจด้วย เพราะหาก ดูแลฟันน้ำนม ไม่ดีก็อาจทำให้ลูกฟันผุ และต้องถอนฟันตั้งแต่ยังเล็ก … เช่นเดียวกับคุณแม่ท่านนี้ ที่ลูกสาววัยเพียง 2 ขวบ มีฟันน้ำนมผุ จนถูกถอนถึง 4 ซี่ โดยคุณแม่ใช้เฟซบุ๊กชื่อ พรนชา บรรหาร โพสต์เตือนในกลุ่ม HerKid รวมพลคนเห่อลูก ว่า…

ฝากไว้เป็นอุทาหรณ์… สำหรับพ่อแม่ที่ไม่ค่อยมีเวลาดูแลลูกน้อย… ปล่อยให้อยู่กับผู้เฒ่าผู้แก่… ออกจากบ้านไปทำงานตั้งแต่ลูกยังไม่ตื่น… กลับบ้านอีกทีลูกก็หลับไปแล้ว… พอรู้ตัวอีกที…ก็สายเกินแก้… อุด 6 ซี่ ถอน 4 ซี่… ทั้งดิ้นทั้งร้อง…จนต้องจับมัด… สุขภาพของลูกน้อยคือสิ่งสำคัญ… อย่าลืมดูแลสุขภาพฟันของลูกน้อยให้ดีๆนะคะ… ด้วยความปรารถนาดี… #นชา (2 ขวบ)

ดูแลฟันน้ำนม

จะเห็นได้ว่าจากที่คุณแม่ได้โพสต์เตือนนั้น หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ลูกฟันน้ำนมผุ มาจากการเลี้ยงดู ดูแลฟันน้ำนม ไม่ดี ซึ่งคุณตาคุณยายที่มีอายุมากแล้วไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้เป็นพิเศษเท่าไหร่และตัวคุณแม่เองก็ไม่มีเวลา

อย่างไรก็ตามสาเหตุส่วนใหญ่ที่เด็กๆ ฟันน้ำนมผุ สามารถเกิดได้ตั้งแต่เด็กอายุยังไม่ถึง 1 ขวบ เนื่องจากชั้นเคลือบฟันน้ำนมบางประมาณครึ่งหนึ่งของฟันแท้เท่านั้น ทำให้ฟันน้ำนมผุได้ง่ายกว่าฟันแท้ ซึ่งมาจากพฤติกรรมเสี่ยงคือการหลับคาขวด เนื่องจากการดูดขวดนมแล้วปล่อยให้เด็กนอนหลับคาขวด ส่งผลให้แบคทีเรียในช่องปากย่อยน้ำตาลในนมเกิดกรดทำลายเคลือบฟันของเด็กได้นั่นเอง

Must read >> ฟันน้ำนมผุ ไม่รักษา ลูกเสี่ยงเป็นหนอง ตาบอดตั้งแต่เล็ก

Must read >> ลำดับการขึ้นของฟัน และวิธีดูแลฟันลูกอย่างถูกวิธีตั้งแต่ซี่แรก

ดูแลฟันน้ำนม

ปัญหาฟันน้ำนมผุของเด็กเกิดจากอะไร ?

นอกจากเรื่องขวดนมแล้ว ปัญหาฟันน้ำนมผุ ยังอาจเกิดได้จากโครงสร้างของฟันเด็กที่ไม่สมบูรณ์ อาจเป็นเพราะคลอดก่อนกำหนด มีน้ำหนักตัวแรกเกิดน้อย แม่ติดเชื้อขณะตั้งครรภ์ รวมทั้งสาเหตุสำคัญที่ทำให้เด็กยุคนี้ฟันผุง่าย ก็คือ การกินขนมตามใจชอบ แล้วไม่ยอมแปรงฟันนั่นเอง อีกทั้งผู้ปกครองหลายคนมักมีความเชื่อผิดๆ ว่า เดี๋ยวฟันน้ำนมก็ต้องหลุดไป มีฟันแท้มาแทนที่ จึงไม่ได้ใส่ใจการกินขนมและการแปรงฟันของลูกมากนัก และลูกก็ยังไม่สามารถทำความสะอาดฟันอย่างมีประสิทธิภาพได้ด้วยตัวเอง จึงทำให้ฟันผุได้ง่ายนั่นเอง

 

และเมื่อ ดูแลฟันน้ำนม ไม่ดี ลูกฟันผุ ผลกระทบที่ตามมา คือ อาการปวดฟัน ฟันผุเป็นหนอง มีเชื้อโรคในช่องปาก โดยเฉพาะฟันกราม หากผุแล้วลุกลามมาก อาจส่งผลให้ต้องถูกถอนไปก่อนเวลาอันสมควร ทั้งนี้เมื่อพบว่าลูกมีฟันน้ำนมผุ คุณพ่อคุณแม่ก็ควรรีบพาไปพบทันตแพทย์เพื่อรักษาและรับคำแนะนำ วิธีดูแลทันตสุขภาพที่ถูกต้องเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดฟันผุซ้ำต่อไป

อ่านต่อ >> “ผลร้ายหากพ่อแม่ดูแลฟันน้ำนมของลูกไม่ดี” คลิกหน้า 2

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

ให้ลูกเลี้ยงสัตว์

10 ข้อดีของการ ให้ลูกเลี้ยงสัตว์ ส่งผลทั้งร่างกายและจิตใจ

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ การเลี้ยงสัตว์ในบ้าน หรือ ให้ลูกเลี้ยงสัตว์ ส่งผลดีต่อเด็กมากมาย ทั้งร่างกายและจิตใจ ว่าแต่จะมีข้อดีอะไรบ้างของการให้ลูกมีสัตว์เลี้ยง ตามมาดูกัน!

ข้อดีของการ ให้ลูกเลี้ยงสัตว์

หากคุณพ่อคุณแม่กำลังชั่งใจว่า จะสามารถเลี้ยงน้องหมาน้องแมว พร้อมกับเลี้ยงลูกได้ไหม หรือ หากลูกอยากขอมีสัตว์เลี้ยงเป็นของตัวเองจะดีหรือไม่ ลองมาอ่านข้อคิดดีๆ อบอุ่นหัวใจ ของการ ให้ลูกเลี้ยงสัตว์ จากคุณพ่อกอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่ กันค่ะ

โดยคุณพ่อกอล์ฟ ได้โพสต์เรื่องราวนี้ผ่านอิสตาแกรม ถึงวิกฤตที่เกิดขึ้นเมื่อแมวในบ้านซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงตัวโปรดขอองน้องชูใจ มีนิสัยไม่ดี และพ่อกอล์ฟก็ถึงขั้นบอกอยากจะเอาไปปล่อยที่อื่น แต่เมื่อน้องชูใจ ได้ยินเข้า กลับพูดบางอย่างกับพ่อกอล์ฟทั้งน้ำตา ซึ่งทำเอาพ่อกอล์ฟถึงกับอึ้ง และได้รู้ซึ้งว่า การให้ลูกรู้จักรักสัตว์ ให้ลูกเลี้ยงสัตว์ อยู่ด้วยกันในบ้านนั้น มีข้อดีที่คาดไม่ถึงเลยทีเดียว

ใจความของโพสต์มีอยู่ว่า…

View this post on Instagram

บ้านเราเกิดวิกฤตมาซักพัก เป็นวิกฤตแมวตัวหนึ่งชื่อนูนู่รุกรานกินอาหารคน กล่าวคือไม่ว่าจะวางขนม กับข้าว ใส่หีบห่ออย่างดีแค่ไหนวางไว้บนโต๊ะอาหาร นูนู่จะใช้แรงและความสามารถกัดถุง ตะปบกล่อง แกะของออกมากิน กินไปเรื่อยตั้งแต่โดนัท ปลาทู จนถึงแกงเทโพ ใช้วิธีซ่อนก็ดี มัดปากถุงแน่นหนาก็ดี ล้วนหยุดนูนู่ไม่ได้ บ้านเราต่างก็กลุ้มใจในวิกฤตการณ์นี้ เพราะนอกจากเราจะห่วงว่าเราจะไม่มีอะไรกินแล้ว เรายังเป็นห่วงแมวว่ากินมั่วๆแบบนี้อาจจะเจ็บป่วยถึงชีวิต โดยเฉพาะเบลจะกลุ้มแบบออกนอกหน้าเรื่องนี้เป็นที่สุด เพราะนูนู่เป็นแมวตัวโปรด แก้ปัญหาขายผ้าเอาหน้ารอดเรื่อยมา ซ่อนอาหารบ้าง แช่ตู้เย็นหนีแมวบ้าง จนเมื่อวานนี้เผลอเอายำปลาแซลม่อนมาวางไว้บนโต๊ะ สัญญาณจานอาหารตกบนพื้นดังโครมทำให้ทุกคนลุกไปดู แล้วก็พบนูนู่ตัวการเขี่ยจานยำหกหมด สันนิษฐานว่าคงจะมาแอบกิน เบลหมดความอดทน จับนูนู่ห่อผ้าห่มแล้วเริ่มนั่งเทศนาแมว เธอใช้วิธีดุแมวแบบจริงจังเหมือนดุลูก ผมเห็นว่าเปล่าประโยชน์ เลยแกล้งถ่ายรูปนูนู่แล้วใช้วิธีขู่ว่าจะเอารูปไปประกาศหาบ้านใหม่ถ้านูนู่ยังไม่กลับตัว บรรยากาศดูมาคุ นูนู่ดูตาเศร้าๆ ผมแกล้งแสดงละครขู่แมวต่อว่าอุ้ย โพสท์แป้บเดียวมีคนอยากได้เยอะแยะเลยเนี่ย มีโรงงานลูกชิ้นแมวที่อยุธยาบอกว่าอยากได้ไปทำลูกชิ้นด้วยนะ นี่ไง ร้านข้าวหน้าแมวนครปฐมก็อยากได้ บอกอ้วนๆแบบนี้ทำข้าวได้หลายจาน เบลรับมุข เล่นต่อด้วย ทันใดนั้นเอง เสียงร้องไห้กระซิกๆก็ดังขึ้นจากอีกฝั่งบ้าน ชูใจที่แอบยืนฟังอยู่ก็วิ่งร้องไห้โผมาแย่งแมวออกจากตักแม่ "ม่ายยยยยย อย่าเอานูนู่ไปทำลูกชิ้น เราเป็นครอบครัว เราไม่ทิ้งกัน" "แต่นูนู่กินข้าวคน นูนู่ทำผิดนะลูก โรงงานลูกชิ้นเค้าอยากได้มากเลย" ผมนึกสนุก เลยแสร้งพูดเย้าต่อ "ก็ให้เค้าเอาป๊ะป๋าไปทำลูกชิ้นเลย หนูจะสอนนูนู่เอง ถ้านูนู่ทำผิดหนูจะดุเอง" ลูกตอกกลับทั้งน้ำตาแล้วก้มกอดแมวร้องไห้ ดราม่าซีนใหญ่สะท้อนใจเราสองผัวเมียยิ่งนัก โดยเฉพาะการส่งพ่อไปทำลูกชิ้นแทนแมว ฟังแล้วน่าสะอึกพิกล คืนนั้นทั้งคืนชูใจเลยเฝ้าระวังนูนู่ กลัวยิ่งนักว่าจะถูกสองผัวเมียใจร้ายส่งไปทำลูกชิ้น ผมชอบความอ่อนโยนที่ลูกรักสัตว์ด้วยใจบริสุทธิ์ เห็นแมวเป็นครอบครัว เป็นพี่เป็นเป็นน้อง แต่อีกใจก็กลุ้มกับพฤติกรรมแมว ระหว่างนี้ก็คิดว่าจะเซิร์ชหาโรงเรียนฝึกแมว หวังว่าจะส่งนูนู่ไปปรับทัศนคติเร็วๆนี้ ซึ่งแม้มันจะเป็นเรื่องวิกฤตการณ์ระดับบ้านที่เราต้องเร่งแก้ไข แต่ในเรื่องแย่ก็มีเรื่องดีเกิดขึ้น อย่างน้อยลูกสาวผมก็เริ่มเข้าใจขึ้นบ้างแล้ว ว่าหัวใจของคำว่าครอบครัว .. คือเราต้องไม่ทิ้งกันตอนใครซักคนเผชิญปัญหา

A post shared by Fucking Hero (@ftodah) on

 

♥ จะเห็นได้การว่าหนึ่งในข้อดีที่น้องชูใจมีน้องแมวเป็นเพื่อน ได้เลี้ยงน้องแมวเป็นของตัวเอง คือ ความอ่อนโยน การรักสัตว์ด้วยจิตใจที่บริสุทธิ์ และเห็นแมวเป็นครอบครัว เป็นพี่เป็นน้อง ซึ่งนั่นคือหนึ่งในข้อดีของการ ให้ลูกเลี้ยงสัตว์ เลยก็ว่าได้

ดังนั้นสำหรับบ้านไหนที่กำลังมีปัญหาต่างๆในการเลี้ยงสัตว์ในบ้านจนคิดที่อยากจะนำไปปล่อย ด้วยเหตุผลบางประการ แต่ถ้ามองในมุมกลับกันเหมือนที่น้องชูใจคิด คือ แม้ว่าคน(หรือสัตว์)ในครอบครัวจะมีปัญหาแต่เราก็ไม่ควรทิ้งกันในตอนที่ใครซักคนเผชิญปัญหา หากเป็นครอบครัวเดียวกันก็ควรสู้ไปด้วยกัน และนี่จึงเป็นเรื่องสำคัญที่สอนให้ทุกคนรู้จักคำว่า หัวใจของ “ครอบครัว” อย่างแท้จริง ตามที่พ่อกอลืฟบอกไว้นั่นเอง

 

อ่านต่อบทความอื่นน่าสนใจ คลิก : 

อ่านต่อ >> “10 ข้อดีของการให้ลูกเลี้ยงสัตว์
และสัตว์เลี้ยงอะไรบ้างเหมาะกับลูก” คลิกหน้า
2

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

เลื่อนเปิดเทอม

หมอเผย 4 เหตุผลสำคัญ ทำไมต้อง เลื่อนเปิดเทอม เป็น 1 ก.ค.63

เพจหมอออกมาโพสต์ ไขข้อสงสัยทำไมต้อง เลื่อนเปิดเทอม เป็นวันที่ 1 ก.ค. และไม่มีปิดเทอมช่วง ต.ค. 63 และ เม.ย. 64 เหตุผลในเชิงหลักวิชาการแพทย์ เป็นเพราะ!?

ครม.ไฟเขียว เลื่อนเปิดเทอม เป็นวันที่ 1 ก.ค. 63

จากการที่คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบให้สถานศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ เลื่อนการเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 จากวันที่ 16 พฤษภาคม 2563 เป็นวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 นั้น

การเลื่อนเปิดเทอม ในครั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัย ช่วยป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อกลุ่มเด็กนักเรียน นักศึกษา รวมไปถึงครู ผู้สอน และบุคลากรทางการศึกษา

ทั้งนี้การจัดการเรียนการสอนในปีการศึกษา 2563 ก็จะไม่มีการปิดภาคเรียนที่ 1 ในเดือนตุลาคม 2563 และเดือนเมษายน 2564 เนื่องจากมีการเลื่อนเปิดภาคเรียนที่ล่าช้าไปกว่า 2 เดือนแล้ว ดังนั้นทางสถานศึกษาจะต้องมีการจัดการเรียนการสอนให้ครบตามหลักสูตร

โดยกำหนดกรอบเวลาการดำเนินงานออกเป็น

  • การรับสมัครสอบนักเรียนชั้น ป.1, ม.1, และ ม.4 ทั่วประเทศ ในเดือนพฤษภาคม

  • หลังจากนั้นเดือนมิถุนายนจึงดำเนินการเรื่องสถานที่สอบ

  • ก่อนที่จะไปเปิดภาคเรียนจริงในวันที่ 1 กรกฎาคม

ซึ่งในช่วงเวลาที่ขยับ เลื่อนเปิดเทอม ไปนั้น จะมีการนำช่วงปิดเทอมในเดือนตุลาคม และปลายปีมาชดเชย ก็ทำให้จำนวนชั่วโมงเรียนในหลักสูตรยังเท่าเดิม เพียงแค่ขยับชั่วโมงการสอนเท่านั้น นั่นหมายถึงการจัดการเรียนการสอนในปีการศึกษา 2563 จะไม่มีการปิดภาคเรียนที่ 1 ในเดือนตุลาคม 2563 และเดือนเมษายน 2564 เนื่องจากมีการเลื่อนเปิดภาคเรียนที่ล่าช้าไปกว่า 2 เดือนแล้วนั่นเอง

ทั้งนี้เรื่องการรับสมัครนักเรียนชั้น ม.1 และ ม.4 จะเริ่มดำเนินการรับสมัครผ่านระบบออนไลน์ ในเดือนพฤษภาคม 2563 โดย ศธ.จะมีการตรวจสอบรายชื่อเพื่อป้องกันการซ้ำซ้อน เมื่อมีความพร้อมก็จะเปิดสอบพร้อมกันทั่วประเทศ แต่หากช่วงนั้นไวรัสโควิด-19 ยังระบาดอยู่ ก็จะหาวิธีจัดสอบแบบออนไลน์

เลื่อนเปิดเทอม

ซึ่งทาง กระทรวงศึกษาธิการ เองยังได้เตรียมความพร้อมในการจัดการเรียนการสอนออนไลน์ทั้งครู และนักเรียน โดยแบ่งนักเรียนออกเป็น 2 กลุ่ม คือ ระดับประถมศึกษา และมัธยมศึกษา

รวมถึงเตรียมความพร้อมด้านอุปกรณ์การเรียนการสอนที่จะใช้รองรับการเรียนการสอนผ่านระบบดังกล่าว ซึ่งในเดือนพฤษภาคมจะเริ่มออนแอร์การเรียนการสอนออนไลน์ผ่านระบบทีวีดิจิทัล เพื่อให้เด็กปรับตัวกับการเรียน และทดลองสัญญาณในการออกอากาศ

อีกทั้งกระทรวงศึกษาธิการเตรียมดำเนินการที่จะจัดซื้ออุปกรณ์สำหรับการเรียนการสอนออนไลน์ที่มีความเหมาะสมแจกนักเรียนอีกด้วย โดยอาจจะเป็น Tablet หรือ Laptop ที่มีความแตกต่างจากที่เคยแจกในครั้งที่แล้ว ให้สามารถใช้เรียนออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีความเหมาะสมกับเทคโนโลยีในปัจจุบัน และคุ้มค่ากับงบประมาณที่ใช้ไป

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้รัฐได้ออกมาตรการให้ทุกคนกักตัวอยู่บ้าน เพื่อป้องกันโรคโควิด-19 ซึ่งนั้นก็ส่งผลกระทบทุกภาคส่วน ตั้งแต่เศรษฐกิจระดับประเทศ จนถึงประชาชนตัวเล็กๆ ตั้งแต่การปรับเปลี่ยนสถานที่ทำงาน โดยหลายๆ ออฟฟิศก็เริ่มให้ทำงานที่บ้าน หรือ Work from home และล่าสุดยังมีคำสั่ง เลื่อนเปิดเทอม อีก สำหรับเรื่องนี้ก็ยิ่งอาจทำให้พ่อแม่ผู้ปกครองหลายบ้านเครียดจนต้องยกมือกุมขมับว่า จะรับมือกับเด็กๆ ไม่ว่าจะเด็กเล็ก วัยเรียน หรือวัยรุ่นอย่างไรดี และทำให้เกิดความสงสัยขึ้นมาได้ว่า ทำไมต้องเลื่อนเปิดเทอม

Must read >> แนะตารางกิจกรรมเช้า-ค่ำ พร้อม 12 กิจกรรมให้ลูกทําสุดเจ๋ง
เมื่อต้องอยู่บ้านหนีโควิด19+
ปิดเทอมยาว

Must read >> งานก็ต้องทำ ลูกก็ต้องเลี้ยง work from home ยังไงให้ดี ถ้ามีลูกต้องดูแล

 

สำหรับเหตุผลที่ ทำไมต้องเลื่อนเปิดเทอม เพจเฟซบุ๊ก Infectious ง่ายนิดเดียว ซึ่งมีแอดมินผู้ดูแลเพจเป็นคุณหมอโรคติดเชื้อ ID (Infectious disease) ได้โพสต์ข้อความระบุว่าถึงเหตุผลที่ต้องเลื่อนเปิดเทอม และไม่มีปิดเทอมช่วงตุลาคม 63 และเมษายน 2564 นั้น มีเหตุผลในเชิงหลักวิชาการแพทย์ ดังนี้…

อ่านต่อ >> “คุณหมอไขข้อสงสัย
ทำไมต้องเลื่อนเปิดเทอม” คลิกหน้า 2


ขอบคุณข้อมูลจาก : www.bangkokbiznews.com , www.prachachat.net

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่