10 ครีมทาผิวเด็ก ผิวนุ่มชุ่มชื่น อ่อนโยน ปลอดภัยต่อลูกน้อย

Alternative Textaccount_circle
event

10 ครีมทาผิวเด็ก ผิวนุ่มชุ่มชื่น อ่อนโยน ปลอดภัยต่อลูกน้อย

คุณพ่อคุณแม่รู้ดีว่าผิวของลูกน้อยบอบบางและยังอ่อนแอ โดนอะไรนิดหน่อย แม้แต่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลง ผิวก็อาจเกิดการระคายเคืองได้แล้ว หรือบางทีก็มีเจ้ารอยปริศนาบนผิวลูกที่หาสาเหตุไม่ได้ จนทำให้คุณพ่อคุณแม่รู้สึกกังวลใจ ลูกน้อยของเราจึงต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ ด้วยตัวช่วยดี ๆ อย่าง ครีมทาผิวเด็ก ที่มีมากมายหลายสูตรในท้องตลาด สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังลังเลว่าจะเลือกใช้ครีมแบบไหนสำหรับลูกของเราดี วันนี้ทีมแม่ขอรับหน้าที่แนะนำเทคนิคการเลือกครีมทาผิวเด็กให้เหมาะกับลูกของเรา พร้อมแนะนำ 10 แบรนด์คุณภาพให้ลองนำไปเปรียบเทียบตัดสินใจกันค่ะ

10 ครีมทาผิวเด็ก ผิวนุ่มชุ่มชื่น อ่อนโยน ปลอดภัยต่อลูกน้อย

ครีมทาผิวเด็ก เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตมาเพื่อดูแลผิวบอบบางของลูกน้อย มีทั้งรูปแบบเนื้อครีม เนื้อเจล ไปจนถึงออยล์ โดยทำหน้าที่ทั้งบำรุงและรักษาผิว นอกจากนี้ หลายแบรนด์ยังมีส่วนผสมของสารสกัดจากธรรมชาติ ปราศจากสารเคมี หรือบางแบรนด์ก็มีตัวยาที่ใช้รักษาปัญหาผิวหนังต่าง ๆ คุณพ่อคุณแม่จึงควรเลือกอย่างพิถีพิถันให้เหมาะสมกับผิวของลูกน้อย และตรงตามวัตถุประสงค์ที่ต้องการใช้งาน

 

เลือกครีมทาผิวเด็กแบบไหนดี

  • ผิวเด็กบอบบาง เกิดความแห้ง และถูกทำลายง่าย รวมทั้งสภาพอากาศประเทศไทยเป็นเมืองร้อน แดดจัด ครีมที่ดีจึงควรมีส่วนผสมของมอยส์เจอร์ไรเซอร์เป็นหลัก
  • ควรหลีกเลี่ยงครีมที่มีส่วนผสมของน้ำหอมหรือแอลกอฮอล์ ซึ่งทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นหรือเกิดอาการแพ้
  • ควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่เป็นอันตรายต่อผิวเด็ก เช่น พาราเบน (สารกันบูด) สารลดแรงตึงผิว สีสังเคราะห์ เป็นต้น
  • หากความอับชื้นหรือเหงื่อทำให้เกิดผดผื่น ควรเลือกผลิตภัณฑ์แบบเวชสำอาง ที่ช่วยบรรเทาอาการแพ้และลดผื่นคันได้ดีกว่า
  • ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการทดสอบหรือได้รับการรับรองมาตรฐานโดยสถาบันที่เชี่ยวชาญ โดยมองหาสัญลักษณ์ เช่น Dermatologically Tested, Hypoallergenic Tested, ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิค เป็นต้น

 

แนะนำ 10 แบรนด์ครีมทาผิวเด็ก

คุณพ่อคุณแม่ที่กำลังมองหาครีมทาผิวเด็กที่เหมาะสำหรับลูกของเรา วันนี้ทีมแม่มีตัวอย่าง 10 แบรนด์คุณภาพ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยโดยสถาบันที่เชี่ยวชาญมาฝาก เผื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการเลือกซื้อครีมคุณภาพให้กับลูกรักของเรา

 

  1. Pigeon Baby Milky Lotion

ครีมทาผิวสำหรับเด็ก แบรนด์ดังจากประเทศญี่ปุ่น เป็นสูตรที่คิดค้นโดยทีมนักวิจัยจากต่างประเทศ ที่มาพร้อมสารสกัดจากดอกซากุระ เนื้อเป็นโลชั่นน้ำนม มีความบางเบา ทาแล้วจึงซึมซาบเร็ว ไม่ทิ้งความเหนอะหนะไว้บนผิวลูก ช่วยบำรุงให้ผิวนุ่ม ชุ่มชื้น สุขภาพดี ปราศจากสีสังเคราะห์ และไม่มีส่วนผสมของพาราเบน จึงผ่านการทดสอบว่าไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้และระคายเคือง

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://web.facebook.com/mypigeonlittlemomentsclub/

ครีมทาผิวเด็ก
ขอขอบคุณภาพจาก https://www.facebook.com/mypigeonlittlemomentsclub/

 

  1. Eucerin Omega Balm For Problematic Baby Skin

เวชสำอางสำหรับเด็กที่ช่วยลดผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง ผดผื่นแดง แก้ปัญหาผิวแห้ง คัน ระคายเคือง ครีมเป็นเนื้อบาล์ม ซึมเร็ว ไม่มัน ไม่ทิ้งความเหนอะหนะ มีส่วนผสมของ Licochalcone A ที่ช่วยลดการอักเสบใต้ผิวได้ถึง 96% รวมทั้ง Ceramides, Omega 6 Fatty Acids และ NMFs ที่ช่วยให้ผิวแข็งแรง และคืนความชุ่มชื้นให้ผิวได้ทันที

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.eucerin.co.th/

ครีมทาผิวเด็ก
ขอขอบคุณภาพจาก https://www.eucerin.co.th/

 

  1. Cetaphil Baby Daily Lotion

เป็นโลชั่นที่สามารถใช้ได้ทุกวันกับผิวลูกน้อย มีส่วนผสมของ Glycerin โปรวิตามิน B5 สารสกัดจากธรรมชาติ 3 ชนิด คือ Shea Butter น้ำมันเมล็ดดอกทานตะวัน และน้ำมันเมล็ดถั่วเหลือง รวมทั้งวิตามิน E ที่สามารถช่วยล็อกความชุ่มชื้นกับผิว เนื้อโลชั่นมีความบางเบา ซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ง่าย ไม่มีสารที่ก่อให้เกิดการแพ้ จึงใช้ได้ทั้งผิวหน้าและผิวกาย

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.cetaphil.co.th/

ครีมทาผิวเด็ก
ขอขอบคุณภาพจาก https://www.cetaphil.co.th/

 

  1. Babi Mild Ultra Mild Bioganik Baby Lotion

ผ่านการทดสอบไฮโปอัลเลอร์เจนิกจึงเหมาะกับผิวเด็กและผิวแพ้ง่าย เนื้อโลชั่นบางเบา ซึมซาบเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ ผสานคุณค่าความอ่อนโยนของเอสเซนส์ออร์แกนิค คือ อาร์แกนออยล์ และน้ำมันมะกอก อุดมไปด้วยวิตามินอี และกรดไขมันจำเป็น ช่วยบำรุงผิวให้แข็งแรง กักเก็บความชุ่มชื้นในผิว ทำให้ผิวเนียนนุ่ม ชุ่มชื่น ดูสุขภาพดี

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.babimild.com/

ครีมทาผิวเด็ก
ขอขอบคุณภาพจาก https://www.babimild.com/

 

  1. Johnson’s Baby Lotion Fragrance Free

เนื้อโลชั่นปราศจากสีและน้ำหอม จึงไม่มีกลิ่นฉุนและไม่ทำให้เกิดผดผื่นหรือก่อให้เกิดอาการแพ้ จึงวางใจได้ว่าปลอดภัยกับลูกน้อย เนื้อโลชั่นบางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ ซึมซาบเร็ว ผ่านการทดสอบแล้วว่าช่วยคงความชุ่มชื่นให้ผิวตลอดวัน สร้างเกราะกักเก็บและชะลอการสูญเสียความชุ่มชื้นของผิวลูกน้อย จึงช่วยปกป้องผิวลูกน้อยให้นุ่มเนียน และดูมีสุขภาพดี

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.johnsonsbaby.co.th/

ครีมทาผิวเด็ก
ขอขอบคุณภาพจาก https://www.johnsonsbaby.co.th/

 

  1. Sebamed Baby Lotion

ผลิตภัณฑ์จากประเทศเยอรมนี มีส่วนผสมของออยล์คุณภาพสูงจากธรรมชาติ ให้ความเนียนนุ่มชุ่มชื้น ใช้หลังอาบน้ำได้ทุกวัน มาพร้อมสารสกัดจากคาโมไมล์ ช่วยป้องกันการอักเสบ อัลลันโตอิน ช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว เนื้อโลชั่นซึมเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ นอกจากนี้ยังมีค่า pH 5.5 จึงอ่อนโยนต่อผิว และยังช่วยพัฒนาแผ่นฟิล์มคุ้มกันผิวตามธรรมชาติอีกด้วย

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://web.facebook.com/SebamedThailand

ครีมทาผิวเด็ก
ขอขอบคุณภาพจาก https://www.facebook.com/SebamedThailand/

 

  1. Aveeno Baby Daily Moisture Lotion

โลชั่นสูตรอ่อนโยนจากข้าวโอ๊ต ซึ่งมีส่วนผสมจากพรีไบโอติกโอ๊ตธรรมชาติ ช่วยให้ผิวสุขภาพดี เนียนนุ่มชุ่มชื้น ไม่แห้งแตก และยังช่วยปลอบประโลมผิวจากอาการคันเพราะผิวแห้ง เนื้อครีมก็ไม่เหนียวเหนอะหนะ ไม่มีน้ำหอม พาราเบน และสารที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ จึงอ่อนโยนต่อผิวบอบบาง ใช้ได้ทุกวัน คงความชุ่มชื้นได้ยาวนานถึง 24 ชั่วโมง

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.aveeno.co.th/

ครีมทาผิวเด็ก
ขอขอบคุณภาพจาก https://www.aveeno.co.th/

 

  1. DMP Double Milk & Vitamin E Organic pH 5.5 Baby Lotion

โลชั่นน้ำนมสูตรออร์แกนิค สำหรับดูแลปกป้องผิวบอบบางของลูกน้อย ส่วนผสมมีทั้ง โอ้ตมิลค์ เชียบัตเตอร์ และซอยมิลค์ ที่อุดมไปด้วยโปรตีน กรดอะมิโน วิตามินเอ, บี1, บี2, ดี และอี ช่วยฟื้นบำรุงผิว เก็บกักความชุ่มชื้นตามธรรมชาติได้ยาวนาน พร้อมด้วยค่า pH 5.5 ช่วยรักษาสมดุล และปกป้องน้ำหล่อเลี้ยงผิวตามธรรมชาติ

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://web.facebook.com/dmpbabyclub/

ครีมทาผิวเด็ก
ขอขอบคุณภาพจาก https://www.facebook.com/dmpbabyclub/

 

  1. Endota Gentle Baby Lotion

โลชั่นออร์แกนิคสำหรับเด็กจากออสเตรเลีย ที่ผ่านการรับรองจาก COSMOS ว่าปลอดภัยและได้มาตรฐาน ปราศจากสารที่เป็นอันตรายต่อผิวเด็ก รวมทั้งผ่านการทดสอบ pH Balance อุดมด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ อย่างข้าวโอ๊ตออร์แกนิค ดอกคาเลนดูล่า ว่านหางจระเข้ และน้ำมันดอกทานตะวัน จึงให้ทั้งความเนียนนุ่ม ชุ่มชื้น ลดปัญหาผิวแห้งลอก อ่อนโยนกับผิวบอบบาง

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://web.facebook.com/endotaThailand/

ครีมทาผิวเด็ก
ขอขอบคุณภาพจาก https://www.facebook.com/endotaThailand/

 

  1. ENFANT Organic Plus Extra Mild Moisture Lotion

โลชั่นเด็กสูตรจากธรรมชาติ เนื้อโลชั่นบางเบาซึมซาบสู่ผิวรวดเร็ว บำรุงผิวอ่อนบาง มีส่วนประกอบของ Ceramide 3 คือ น้ำมันมะกอก น้ำมันสกัดจากรำข้าว และน้ำมันอาแกน จึงช่วยให้ผิวนุ่มนวล มีสุขภาพดี คงความชุ่มชื้นยาวนาน อ่อนโยนเพราะผ่านการทดสอบการระคายเคืองผิวจากประเทศเยอรมนี จึงสามารถทาได้ทั้งใบหน้าและทั่วร่างกาย โดยเฉพาะหลังอาบน้ำเช้าเย็น

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.enfantfamily.com/

ครีมทาผิวเด็ก
ขอขอบคุณภาพจาก http://www.enfantfamily.com/

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

Checklist 7 วิธีเลือกสบู่เหลวเด็ก ครีมอาบน้ำเด็ก โดยคุณหมอนิอร

ครีมทาผื่นผ้าอ้อม เลือกแบบไหน ปกป้องผิวบอบบางลูกน้อยได้อยู่หมัด

16 วิธีดูเเลลูกน้อยให้ไม่เป็น ผื่นแดง ผื่นผ้าอ้อม

ตารางวัคซีน 2565

เซฟเก็บไว้ดูเลยแม่! ตารางวัคซีน 2565 อัปเดตจากสมาคมโรคติดเชื้อฯ

event
ตารางวัคซีน 2565
ตารางวัคซีน 2565

Up date! ตารางวัคซีน 2565  จาก สมาคมโรคติดเชื้อแห่งประเทศไทย การให้วัคซีนในเด็กไทย ในปี 2022 ตั้งแต่แรกเกิด ถึง 12 ปี ลูกต้องได้รับวัคซีนอะไร ตอนอายุเท่าไหร่บ้าง พ่อแม่เช็กเลย!

ตารางวัคซีน ปี 2565 ที่เด็กไทยควรได้รับ
จากสมาคมโรคติดเชื้อแห่งประเทศไทย

การฉีดวัคซีน เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันโรค เพราะก่อนที่จะมีวัคซีนใช้ คนส่วนใหญ่จะเสียชีวิตจากโรคติดเชื้อ และโรคระบาดไปมากมาย แต่ปัจจุบันโรคติดเชื้อร้ายแรงที่เคยคร่าชีวิตเด็กๆ ไม่ได้เป็นปัญหาแล้ว เพราะมีวัคซีนป้องกันที่มีประสิทธิภาพสูง และมีวัคซีนป้องกันเชื้อใหม่ๆ พัฒนาขึ้นใหม่ทุกวัน

แล้วลูกของเราต้องได้รับวัคซีนอะไรบ้าง? อายุเท่านี้ ต้องฉีดตัวไหน! แต่ละตัวต้องฉีดห่างจากเข็มแรกนานเท่าไหร่ กับคำถามที่เกิดขึ้นร้อยแปดพันข้อที่เกี่ยวกับเรื่อง การฉีดวัคซีนของทารก

เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่มือใหม่หายข้องใจ  ทีมกองบรรณาธิการ ABK จึงมีตารางวัคซีน 2565 จาก สมาคมโรคติดเชื้อแห่งประเทศไทย มาแนะนำ ซึ่งได้ข้อมูลมาจาก เพจ Infectious ง่ายนิดเดียว เพื่อเป็นแนวทางให้กับคุณพ่อคุณแม่ได้ใช้ดูและเช็ก ก่อนพาลูกน้อยวัยแรกเกิด – 12 ปี ไปรับวัคซีน

หลักๆที่ปรับจากเดิม ปีที่แล้ว

1) ป้องกันพิษสุนัขบ้าแบบก่อนโดนกัด

  • ฉีด 2 เข็ม0,7 IM หรือ
  • 2 เข็ม ที่ 0,7 วัน หรือ 0,21 วัน (1 ml 2 จุด)

2) วัคซีนไข้เลือดออก

  • ลดอายุเดิม 9-45 ปี
  • แบบใหม่อายุ 6-45 ปี ในคนที่เคยเป็นโรคมาก่อน

3) TdaP ใช้แทน Tdap DTP ได้ตั้งแต่อายุ 4-6 ปี หญิงตั้งครรภ์ทุกการตั้งครรภ์อายุครรภ์ 27-36 สัปดาห์

4) วัคซีนโรต้ามี 4 ชนิด เดิมมี 2 ยี่ห้อ

  • Human monovalent (Rotarix หยอด 2 ครั้ง)
  • Human-bovine monovalent (Rotavac หยอด 3 ครั้ง)
  • Human-bovine pentavalrpent (Rotateq Rotasil หยอด 3 ครั้ง

ตารางวัคซีน 2565

ตารางวัคซีน 2565

เตรียมตัวพาลูกไปรับวัคซีนเด็กอย่างไร

ก่อนพาลูกไปเข้ารับวัคซีนหลักหรือวัคซีนเสริมตามกำหนด พ่อแม่ควรปฏิบัติดังนี้

  • พ่อแม่ควรนำสมุดบันทึกการรับวัคซีนติดตัวมาด้วยทุกครั้ง
  • หากลูกมีอาการแพ้ยา หรือแพ้อาหาร ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนเสมอ
  • ในกรณีที่เด็กมีไข้ขึ้นสูง ไม่สบาย ควรเลื่อนการรับวัคซีนออกไปก่อนจนกว่าจะหายดี
  • ในกรณีที่ไม่สามารถมาตามนัดได้ ควรแจ้งต่อแพทย์ และสามารถพาลูกมารับวัคซีนเพื่อกระตุ้นให้ครบโดยไม่ต้องเริ่มต้นใหม่
  • หลังรับวัคซีน ควรรอสังเกตอาการอย่างน้อย 30 นาที แล้วจึงกลับบ้าน

ดาวน์โหลดไฟล์ขนาดใหญ่ชัดเจน >> ตารางวัคซีน ในเด็กไทย ปี 2565
แนะนำโดย สมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย คลิก!!

ตารางวัคซีน 2565

สำหรับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในเด็กที่มีอายุมากกว่า 5 ปีขึ้นไป โดยแนะนำวัคซีนชนิด mRNA ซึ่งจะมีการกำหนดจำนวนโดสที่ควรได้รับตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ดังนี้

  • เด็กอายุ 5 – 11 ปี ฉีด 2 เข็ม (2 ml./โดส) โดยให้เว้นระยะห่างกัน 8 สัปดาห์ (ฝาสีส้ม)
  • เด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป ฉีด 2 เข็ม (3 ml./โดส) โดยให้เว้นระยะห่างกัน 3-4 สัปดาห์ (ฝาสีม่วง)

และสถานการณ์โควิด-19 ยังคงมีการแพร่ระบาดอยู่ คุณพ่อคุณแม่หลายท่านอาจมีความกังวลว่า ลูกจะมีความเสี่ยงได้รับเชื้อเมื่อต้องออกมารับวัคซีน แต่อย่างไรก็ตาม ควรพาลูกน้อยมารับวัคซีนตามปกติ เพราะการเลื่อนรับวัคซีนในช่วงอายุที่เหมาะสม อาจเพิ่มโอกาสการติดเชื้อในโรคที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีน ซึ่งอาจจะทำให้มีอาการรุนแรงและเสียชีวิตได้!

ซึ่งหากคุณพ่อคุณแม่มีความจำเป็นที่จะต้องเลื่อนรับวัคซีน คุณพ่อคุณแม่สามารถดูคำแนะนำเพิ่มเติมหากมีความจำเป็นที่จะต้องเลื่อนนัดการรับวัคซีน สามารถพิจารณาตามแนวทางของสมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย คลิกดูรายละเอียดได้ที่นี่ >> https://www.pidst.or.th/index.php

ขอบคุณคลิปจาก SIKARIN HOSPITAL

ทั้งนี้การพาลูกน้อยไปรับวัคซีน จำเป็นที่เด็กไทยทุกคนต้องได้รับ เพราะเป็นกำหนดออกมาจากกระทรวงสาธารณสุข เป็นวัคซีนพื้นฐานที่ได้จัดหาให้ฟรี คุณพ่อคุณแม่สามารถพาลูกน้อยไปรับวัคซีนเหล่านี้ได้จากสถานพยาบาลของรัฐ หรือสถานีอนามัยทุกแห่ง โดยอย่าลืมนำสมุดฉีดวัคซีนเล่มสีชมพูติดไปด้วยทุกครั้ง

อย่างไรก็ตาม จากตารางวัคซีน 2565 วัคซีนทุกชนิดสามารถทำให้เกิดผลข้างเคียงได้ เช่น ไข้ งองแง ซึ่งมักไม่รุนแรง คุณพ่อคุณแม่ควรสังเกตอาการของลูกน้อยหลังฉีดวัคซีนอย่างใกล้ชิดช่วง 2-3 วัน อาจให้ยาลดไข้แก้ปวดได้ ถ้ามีอาการไข้หรือเจ็บปวดที่ไม่รุนแรง แต่หากมีอาการผิดปกติใดๆ ที่รุนแรงควรรีบไปหาหมอโดยด่วน


ขอบคุณ ภาพและข้อมูล ตารางวัคซีน 2565 จาก https://pidst.or.th/A1150.html

 

อ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติม คลิก ⇓

วัคซีนไข้เลือดออกสำหรับทารก

พัฒนาการทารก แรกเกิด – 1 ขวบ หนูทำอะไรได้บ้างนะ?

ตาราง น้ำหนักส่วนสูงทารก ตามเกณฑ์ ตั้งแต่แรกเกิด – 5 ปี

พาลูกเที่ยวกรุงเทพฯ

19 พิกัด พาลูกเที่ยวกรุงเทพฯ เด็กๆ สนุกแน่นอน โดย พ่อเอก

Alternative Textaccount_circle
event
พาลูกเที่ยวกรุงเทพฯ
พาลูกเที่ยวกรุงเทพฯ

ในช่วงเวลาที่โควิด-19 ยังไม่จบลง เราพาลูกเที่ยวใกล้ๆ กันก่อน ใครคิดว่ากรุงเทพฯมีเพียงห้างสรรพสินค้า ลองมาหาเส้นทางสนุกๆ  พาลูกเที่ยวกรุงเทพฯ กัน โดยเอามาเฉพาะที่ครอบครัวเรามีประสบการณ์ตรง เพื่อให้เล่าได้เต็มปากว่า เด็กๆ สนุกแน่นอน

19 พิกัด พาลูกเที่ยวกรุงเทพฯ เด็กๆ สนุกแน่นอน

พาลูกเที่ยวกรุงเทพฯ 5 เส้นทางตามรอยพระเจ้าตาก

สำหรับครอบครัวที่มีลูกสนใจประวัติศาสตร์ ทริปเส้นทางนี้สนุกสนานได้ความรู้ ความอร่อย และสถานที่ทั้งหมดอยู่ใกล้ๆ กันเที่ยวเก็บครบในวันเดียว

  • วัดหงส์รัตนาราม ที่นี่มี “ศาลพระเจ้าตากแห่งแรกในไทย” และ สระน้ำมนต์ที่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช จะเสด็จมาสรงน้ำที่เมื่อมีพิธีสำคัญของแผ่นดิน (จากวัดหงส์เดินไม่ไกลจะถึงชุมชนเก่าแก่ของชาวไทยเชื้อสายโปรตุเกสตั้งริมน้ำเจ้าพระยาชื่อชุมชนกุฎีจีน มีขนมกุฎีจีนสุดอร่อย และมีร้านชิคๆ มีศิลปะบนกำแพงสวยๆให้แวะถ่ายรูป นอกจากนั้นยังมีทั้งโบสถ์, วัดจีน และวัดไทย อยู่เรียงติดกัน เป็นแถวหน้ากระดานริมเจ้าพระยา เป็นภาพที่หาดูไม่ง่าย)
  • วัดระฆังโฆษิตาราม ไหว้สักการะตำหนักแดงที่สมเด็จพระเจ้าตากสินเคยเสด็จมาประทับนั่งวิปัสสนากรรมฐาน (เส้นทางระหว่างวัดระฆังไปท่าพรานนก จะเต็มไปด้วยแหล่งของกินและของช้อปปิ้งของชาวฝั่งธน เพลิดเพลินทั้งเด็กและผู้ใหญ่)
  • วัดอินทาราม เราจะได้ชมพระแท่นบรรทมที่ยังเก็บรักษาไว้ภายในวัด และวัดอินทารามยังเป็นสถานที่ประดิษฐานพระบรมศพของสมเด็จพระเจ้าตากสินฯและพระสรีรังคารซึ่งบรรจุไว้ในพระพุทธรูปประจำรัชสมัยประดิษฐานอยู่ในพระวิหารใหญ่
  • พระราชวังเดิม ที่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช สถาปนาขึ้นและประทับจนถึงวาระสุดท้าย ปัจจุบันอยู่ในบริเวณกองทัพเรือ
  • อนุสาวรีย์พระเจ้าตากสิน ตั้งอยู่ที่วงเวียนใหญ่ถือเป็นสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งของฝั่งธนบุรี
สระน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ วัดหงส์รัตนาราม
สระน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ วัดหงส์รัตนาราม
ศาลพระเจ้าตาก
ศาลพระเจ้าตาก

วัดระฆัง

โบสถ์

พาลูกเที่ยวกรุงเทพฯ 4 เส้นทางนั่งเรือข้ามฟากเจ้าพระยา

เป็นทริปที่เด็กๆ สนุกสนาน ค่าเรือก็แสนถูก และเลือกท่าแวะเที่ยวได้ตามที่สนใจ มีทั้งเส้นทางใกล้ไกล สามารถนั่งไปเที่ยวเกาะเกร็ดก็ได้ แต่เราจะเล่าแค่ท่าน้ำเรือข้ามฟากเชื่อม 2 ฝั่งธนบุรีกับพระนครที่คุ้นเคย

  • ท่าเตียน และท่าวัดอรุณวราราม ตามรอย ตำนาน ยักษ์วัดโพธิ์ ยักษ์วัดแจ้ง โดยนอกจากเด็กๆได้ตื่นตาตื่นใจกับยักษ์ทั้ง 2 วัด ก็ยังจะได้เห็นความยิ่งใหญ่ของพระปรางค์วัดอรุณ ขาไม่สั่นให้รู้ไป
  • ท่ามหาราช เดินเล่นหาของทานอร่อยๆ มีร้านกาแฟชิคๆเยอะ และมี community mall เก๋ไก๋ ชื่อเดียวกับท่าเรือ หรือเด็กๆที่ชอบพุทธศิลป์ก็จะได้เจอกับแหล่งพระเครื่องเก่าแก่ของกรุงเทพฯ
  • ท่าวัดระฆัง แวะสักการะหลวงพ่อโต และหาของกินอร่อยๆระหว่างทางเดินไปจนถึงท่าพรานนก
  • ท่าช้าง ขึ้นจากเรือออกเดินไม่ไกลก็ถึงวัดพระแก้วและสนามหลวง หรือถ้าเป็นนักเดินทน ก็สามารถไปถึงพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติและโรงละครแห่งชาติได้เลย

ล่องเรือข้ามฟาก

หลวงพ่อโต วัดระฆัง
หลวงพ่อโต วัดระฆัง

ร้านคาเฟ่ ท่ามหาราช
ร้านคาเฟ่ ท่ามหาราช

พาลูกเที่ยวกรุงเทพฯ 7 เส้นทางรถไฟฟ้า

เป็นอีกเส้นทางที่ใช้พาเด็กเที่ยวได้สนุกสนาน ทั้งใต้ดินบนดินบางแห่งสามารถไปได้ทั้ง 2 เส้นทาง แต่สามารถเชื่อมต่อกันได้หมด

  • มิวเซียมสยาม เป็นพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้เกี่ยวกับประเทศไทยที่ทำได้น่าสนใจ เหมาะกับเด็กๆและมักมีการจัดกิจกรรมดีๆการแสดงดีๆอยู่เสมอ เราเองเคยไปชมโขนฟรีที่นี่
  • หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ตึกโค้งสีขาวตั้งอยู่ใจกลางกรุง ที่มีนิทรรศการดีๆเสมอ ซึ่งจากประสบการณ์ที่ครอบครัวเราได้ไปสัมผัสมา 2-3 หน เป็นหอศิลปสมัยใหม่ที่จัดได้เหมาะสำหรับทุกวัย เด็กไปก็มีความสนุกสนาน
  • สวนลุมพินี ความสนุกของเด็กๆ นอกจากการเดินเล่นออกกำลังกายแล้วคือ การถีบเรือเป็ด ส่วนที่พลาดไม่ได้สำหรับเด็กๆในการมาสวนลุมคือ การตามหาตัวเงินตัวทอง และอีกจุดที่หลายๆคนไม่รู้ ในสวนลุมมีห้องสมุดที่มีหนังสือดีๆสำหรับเด็กด้วยนะเออ (อีกจุดที่น่าสุกคือเส้นทางที่เรียกว่า green mile ที่เชื่อมต่อระหว่างสวนลุมและสวนเบญจกิตติ สามารถเดินชิลๆชมวิว 2 ข้างทางในมุมมองที่แปลกไป)
  • สวนเบญจกิติ ในส่วนเดิมมีกิจกรรมปั่นจักรยาน ถีบเรือเป็ดที่เด็กๆชอบ แต่ในส่วนที่เปิดใหม่เป็นสวนป่า สวยงามมากๆยกให้เป็นสวนสาธารณะที่สวยที่สุดในกรุงเทพฯ มีทางเดินชมธรรมชาติทั้งเส้นทางลอยฟ้าและบนดิน และมีจุดถ่ายรูปงามๆเยอะไปหมด เป็นโอเอซิสในเมืองอย่างแท้จริง
  • สวนรถไฟ, สวนจตุจักร, พิพิธภัณฑ์เด็ก สามจุดที่อยู่ใกล้ๆกัน กิจกรรมของเด็กๆในสวนรถไฟคือปั่นจักรยาน เล่นว่าว นอกจากนั้นที่นี่มักมีการจัดงานที่น่าสนุกสำหรับเด็กๆเสมอ ส่วนสวนจตุจักรก็คือแหล่งช้อปปิ้งและของกินสำหรับทุกวัย และหากชอบต้นไม้หละก็ที่นี่มีให้ครบทุกประเภทโดยเฉพาะในวันพุธที่เป็นตลาดต้นไม้ สำหรับพิพิธภัณฑ์เด็กนั้น อยากให้ลองไปสักครั้งเพราะมีอะไรให้เด็กๆได้เรียนรู้และสนุกมากกว่าที่คิดไว้
  • สถานีรถไฟหัวลำโพง นอกจากจะเป็นจุดถ่ายรูปสวยๆ ก็มีพิพิธภัณฑ์รถไฟที่เก๋ไก๋ และแน่นอนมีเด็กคนไหนไม่ชอบรถไฟบ้างเอ่ย
  • ท้องฟ้าจำลอง อาจจะรู้สึกว่าเป็นที่ท่องเที่ยวที่เก่าแก่ แต่จริงๆมีการปรับปรุงให้ดูใหม่ ครอบครัวเราไปทีไรก็สนุกทุกครั้ง เพราะท้องฟ้าจำลองไม่ได้มีทีเด็ดแค่โดมที่จำลองท้องฟ้าให้ตื่นตาตื่นใจ แต่มีพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ที่ทำได้ดี เด็กๆได้เรียนรู้วิทยาศาสตร์อย่างสนุกสนานและหลายแขนงแบบได้ลงไม้ลงมือทดลองจริง และที่บางครอบครัวอาจจะไม่ทราบที่ท้องฟ้าจะลองมีอควาเรี่ยมให้เด็กๆได้สนุกสนานด้วย

10 พิพิธภัณฑ์ในกรุงเทพ และใกล้กรุงเทพ เที่ยวสนุก ความรู้จัดเต็ม เด็กเข้าชมฟรี!!

รวมที่เที่ยว พิพิธภัณฑ์ กลางคืนแปลกตาโดนใจ ได้ความรู้!!

สวนเบญจกิติ
สวนเบญจกิติ
หัวลำโพง
หัวลำโพง

แหล่งเล่นกีฬาทางน้ำ ในกรุงเทพฯ

เด็กๆ กับน้ำเป็นของคู่กัน เมื่อก่อนกรุงเทพฯอาจจะมีแค่สวนสาธารณะให้เด็กเล่นถีบเรือเป็ด แต่เดี๋ยวนี้ กรุงเทพฯมีกีฬาทางน้ำทั้ง พาย Sup, Wakeboard และพายคยัคครบถ้วน สามารถเลือกที่ไปสะดวกทั้ง บึงหนองบอน บึงบางบอน บึงตะโก้ หรือชอบทานอาหารทะเลและพายคยัคเล่นไปด้วยก็มีร้านอาหารบริเวณบางขุนเทียนชายทะเลให้เลือกหลายร้านเลย

wakeboard
wakeboard
พาย sup
พาย sup

หวังว่าเส้นทางท่องเที่ยวในกรุงเทพฯจะมีที่ถูกใจเจ้าตัวเล็กทุกครอบครัว และตอนต่อไปลองไปห่างกรุงเทพฯ กันบ้าง รับรองว่าจะมาครบทุกภาคแน่นอน

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 


กิจกรรมยามว่างกับลูก นอกจากได้ความสนุกสนาน ใช้เวลาร่วมกับครอบครัวแล้ว ยังช่วยให้เกิด Power BQ หลายด้านทั้งความฉลาดจากการเล่น Play Quotient (PQ)  ฉลาดสุขภาพดี Health Quotient (HQ) จากการออกกำลังกาย ฉลาดคิดเป็น Thinking Quotient (TQ)  ผ่านการวางแผนการเล่น ฉลาดเผชิญปัญหา Adversity Quotient (AQ) รวมถึงต่อยอดชวนลูกไปทำกิจกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อการเรียนรู้ที่ไม่สิ้นสุดอีกด้วย


>>แวะไปดู รอยยิ้มหวานฉ่ำ ที่มีแจกฟรีทุกวันได้ที่เฟซบุ๊ค

หมุนรอบลูก – พี่ปูนปั้น กับ น้องปั้นแป้ง นะครับ<<

ติดตามเพจหมุนรอบลูก
ปูนปั้น ปั้นแป้ง พ่อเอก เพจหมุนรอบลูก

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

4 ไอเดีย กิจกรรมยามว่างกับลูก ช่วงโควิด โดยพ่อเอก

4 กีฬาน่าเรียนรู้ ชวนพ่อแม่ลูกสนุกไปพร้อมกัน โดย พ่อเอก

เด็กเล็กติดโควิด

เด็กเล็กติดโควิด ดับรายวัน! มีโรคร่วม แนะรีบหาหมอ

Alternative Textaccount_circle
event
เด็กเล็กติดโควิด
เด็กเล็กติดโควิด

เด็กเล็กติดโควิด ดับรายวัน! มีโรคร่วม แนะรีบหาหมอ

สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด19 สายพันธุ์โอมิครอนยังคงรุนแรง คนไทยติดง่าย ติดเร็ว ทั้งผู้ใหญ่และเด็ก บางคนถึงขั้นติดเชื้อซ้ำ 2 ครั้ง แถมเด็ก ๆ ยังติดเชื้อจำนวนมากขึ้นและล่าสุดกรมควบคุมโรคแจ้งว่า เด็กเล็กติดโควิด อายุต่ำกว่า 5 ขวบ เสียชีวิตจากโควิดเกือบทุกวันค่ะ อาการเมื่อลูกติดโควิด จะเป็นอย่างไรบ้าง หากคุณพ่อคุณแม่ติดพร้อมกับลูก ต้องทำอย่างไร ดูแลกันอย่างไร ทีมแม่ ABK รวบรวมข้อมูลมาให้แล้วค่ะ

สถานการณ์เด็กติดเชื้อโควิดที่ผ่านมา

นพ.อดิศัย ภัตตาตั้ง ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กล่าวว่า ในภาพรวมเด็กติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน เพิ่มขึ้น อยู่ที่ร้อยละ 30 จากจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมด ส่วนใหญ่ที่อาการจะรุนแรงจะเป็นผู้ป่วยในกลุ่มที่มีโรคประจำตัวร่วม เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคสมอง อัตรานอนโรงพยาบาล อยู่ที่ร้อยละ 15-17 ส่วนเด็กอีกร้อยละ 50 เด็กไม่มีอาการ

สถานการณ์ล่าสุดของเด็กติดเชื้อ

ในช่วงปลายเดือนมีนาคม 2565 มีรายงานว่า เด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ซึ่งเป็นวัยที่ยังไม่สามารถรับวัคซีนโควิด-19 เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 เกือบทุกวัน โดยวันที่ 19 มี.ค. เป็นเด็กอายุ 2 ขวบ วันที่ 20 มี.ค. อายุ 1 ขวบ วันที่ 22 มี.ค.อายุ 3 ขวบ วันที่ 23 มี.ค. อายุ 2 เดือน วันที่ 24 มี.ค. อายุ 1 เดือน วันที่ 25 มี.ค. อายุ 11 เดือน วันที่ 28 มี.ค. อายุ 9 เดือน โดยติดเชื้อจากการสัมผัสผู้ป่วยยืนยัน ทั้งจากในครอบครัวและชุมชน เมื่อผู้ใหญ่ติดเชื้อเยอะจึงมีโอกาสมาติดเชื้อในเด็กได้ ซึ่งเด็กที่เสียชีวิตเป็นกลุ่มที่มีร่างกายไม่แข็งแรงหรือมีภูมิต้านทานที่ไม่ค่อยดี เช่น เด็กที่มีความพิการแต่กำเนิด มีโรคประจำตัว หรือมีภูมิคุ้มกันต่ำ ปัจจัยสำคัญคือเมื่อเข้าถึงการรักษาล่าช้าก็อาจทำให้เกิดการเสียชีวิตได้

การป้องกันเด็กเล็กจากโควิด

เนื่องจากขณะนี้การฉีดวัคซีนป้องกันโควิด 19 ก็ยังไม่มีวัคซีนสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีลงไป ดังนั้น สิ่งสำคัญคือการป้องกันไม่ให้เด็กเล็กเหล่านี้ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งความเสี่ยงในการติดเชื้อของเด็กเล็กยังมาจากผู้ใหญ่ในครอบครัวเป็นหลักที่นำเชื้อมาสู่เด็ก เพราะบางครั้งผู้ใหญ่ก็ติดเชื้อไม่มีอาการ ทำให้ไม่รู้ตัวว่าติดและนำเชื้อมาสู่เด็ก ทำให้เด็กไม่ได้รับการตรวจคัดกรอง

การจะลดการเสียชีวิตในเด็กเล็ก ขอให้พ่อแม่ผู้ปกครองประเมินดูว่า ลูกมีภาวะเสี่ยงหรือไม่ หากลูกมีภาวะโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน โรคหัวใจ โรคมะเร็ง ถือว่ามีความเสี่ยงมาก ให้สังเกตว่ามีอาการไข้สูง ไอ เหนื่อยหอบ อาเจียนหรือไม่ หากมีอาการระบบทางเดินหายใจให้รับพาไปพบแพทย์เพื่อรักษา เพราะมีความเสี่ยงที่อาจเกิดอาการรุนแรงได้
เด็กเล็กติดโควิด
เด็กเล็กติดโควิด แนะรีบหาหมอ

อาการของผู้ป่วยโควิดเด็กที่พ่อแม่ต้องรู้!!

กลุ่มเด็กเล็กได้รับเชื้อโควิด-19 มาจากคนในครอบครัว อาการที่พบมีตั้งแต่ไม่มีอาการ จนถึงมีอาการรุนแรง เช่น ปอดอักเสบซึ่งจะพบในเด็กทารก และเด็กเล็กอายุน้อยกว่า 5 ปี เป็นส่วนมาก จึงแนะนำให้ พ่อแม่ ผู้ปกครอง ต้องคอยสังเกตอาการโดยรวมของเด็กอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ซึ่งระดับอาการของเด็กแบ่งเป็น 2 แบบ คือ

แบบที่ 1 อาการในระดับที่สามารถเฝ้าสังเกตที่บ้านต่อไปได้ ซึ่งเด็กจะมีอาการป่วย ดังนี้

  • มีไข้ต่ำ
  • มีน้ำมูก
  • อาการไอเล็กน้อย
  • ไม่มีอาการหอบเหนื่อย
  • ถ่ายเหลว
  • ไม่ซึม ยังคงรับประทานนม หรืออาหารได้

โดยกลุ่มนี้ยังสามารถรับการรักษาแบบ Home Isolation (HI) ได้ แต่ต้องมีพ่อแม่ หรือผู้ปกครองที่สามารถดูและประเมินอาการให้เด็กได้ตลอดเวลา โดยใช้อุปกรณ์เพื่อติดตามอาการ ได้แก่ ปรอทวัดไข้ เครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว อุปกรณ์ที่สามารถถ่ายภาพหรือคลิปวิดีโออาการของเด็กได้ โทรศัพท์เพื่อติดต่อกับสถานพยาบาลหากมีเหตุจำเป็น และยาสามัญประจำบ้านเพื่อบรรเทาอาการ ได้แก่ยาลดไข้ เช่นพาราเซตามอล ยาแก้ไอ ยาลดน้ำมูก และเกลือแร่

แบบที่ 2 อาการที่ผู้ปกครองควรติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อนำเด็กส่งโรงพยาบาลโดยเร็ว ซึ่งเด็กจะมีอาการป่วย ดังนี้

  • มีไข้สูงกว่า 39 องศาเซลเซียสขึ้นไป
  • หายใจหอบเร็วกว่าปกติ ใช้แรงในการหายใจ สังเกตว่าเด็กเวลาหายใจหน้าอกบุ๋ม ชายโครงบุ๋ม หรือปีกจมูกบาน
  • ริมฝีปาก เล็บ ปลายมือปลายเท้าเขียวคล้ำ ระดับออกซิเจนปลายนิ้วน้อยกว่า 94%
  • ซึมลง ไม่รับประทานนม หรืออาหาร เพลีย ไม่มีแรง

เด็กเล็กติดโควิด พร้อมพ่อและแม่ ทำยังไง

ถ้ามีผลตรวจยืนยันแล้วว่าลูกหรือเด็กในบ้านติดเชื้อโควิด19 แบ่งได้เป็นหลายกรณี

กรณีที่ 1 ลูกติดเชื้อและคุณพ่อคุณแม่ติดเชื้อ สามารถเข้ารับการรักษาโดยเน้นจัดอยู่เป็นครอบครัว ไม่ควรแยกลูกออกจากคุณแม่

กรณีที่ 2 ลูกติดเชื้อ แต่คุณพ่อคุณแม่ไม่ติดเชื้อ ให้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลหรือ Hospitel โดยลูกจะต้องถูกส่งตัวไปรักษาและกักตัวที่โรงพยาบาลหรือ Hospitel อย่างน้อย 14 วัน ซึ่งการกักตัวสำหรับเด็กมีความซับซ้อนกว่าเคสของผู้ใหญ่ในเรื่องของจิตใจ โดยเฉพาะเด็กเล็กที่ต้องแยกห่างจากคุณพ่อคุณแม่ หรือผู้ปกครอง คุณหมอแนะนำว่า เมื่อลูกต้องเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลควรมีคนเฝ้า เพื่อให้ไม่รู้สึกเคว้งคว้าง โดยผู้เฝ้าต้องมีร่างกายแข็งแรง ไม่ใช่กลุ่มเสี่ยง อายุไม่เกิน 60 ปี และไม่มีโรคประจำตัว

กรณีที่ 3 ลูกไม่ติดเชื้อ แต่คุณพ่อคุณแม่ติดเชื้อ ควรให้ญาติที่ไม่ติดเชื้อเป็นผู้ดูแลลูก หากไม่มีผู้ดูแลควรส่งลูกไปยังสถานสงเคราะห์ หรือบ้านพักในสังกัดกระทรวงเป็นการชั่วคราว

กรณีที่ 4 เกิดการระบาดเป็นกลุ่มในโรงเรียน หรือในเนิร์สเซอรี่ พิจารณาใช้พื้นที่เนิร์สเซอรี่เป็นโรงพยาบาลสนามเฉพาะกิจ โดยดูจากความพร้อมของสถานที่และบุคลากรตามความเหมาะสม

แม้โดยทั่วไปแล้วเด็กจะมีอาการไม่หนักมาก แต่ก็มีเด็กเล็กกลุ่มเสี่ยงที่หากติดโควิดแล้วอาจมีอันตรายถึงชีวิตได้ ขอให้คุณพ่อคุณแม่ระมัดระวังตัวเองให้ดี รวมทั้งระวังลูกน้อยด้วยนะคะ

 

ขอบคุณข้อมูลจาก

ข่าวสด , โรงพยาบาลวิชัยเวช ,ไทยรัฐ ออนไลน์

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

เมื่อคุณและลูก ติดโควิด ทำยังไง ? เปิดขั้นตอนการรักษาที่นี่

เตือนพ่อแม่!!สังเกต อาการโควิดในเด็ก ย้ำดูแลใกล้ชิด

ระวัง ไข้หวัดใหญ่ในเด็ก หวั่นระบาดซ้อนโควิด

ตรวจ Sleep Test ก่อน! ป้องกันเสี่ยงโรคใหลตาย

Alternative Textaccount_circle
event

ตรวจ Sleep Test ก่อน! ป้องกันเสี่ยงโรคใหลตาย

จากข่าวการเสียชีวิตอย่างกะทันหัน ของนักแสดงหนุ่ม ที่จากไปในวัยเพียง 25 ปี เนื่องจากนอนหลับแล้วไม่ตื่น หรือเรียกกันว่า “ภาวะใหลตาย” ทำให้หลายคน เริ่มตระหนักถึงปัญหาสุขภาพ โดยเฉพาะภัยเงียบ ที่เกิดจากการนอนที่มีสภาวะผิดปกติ เช่น หยุดหายใจขณะหลับ นอนกรนเสียงดังผิดปกติ ฯลฯ ซึ่งในทางการแพทย์ มีการตรวจการนอนหลับ ที่เรียกว่า ตรวจ Sleep Test ถือเป็นอีกหนึ่งวิธี ที่ใช้เพื่อตรวจสุขภาพการนอน ก่อนที่จะเกิดอันตรายขึ้นกับชีวิตค่ะคุณพ่อคุณแม่

Sleep Testคืออะไร?

Sleep Test คือ การตรวจสุขภาพการนอน เพื่อสังเกตความผิดปกติของร่างกายขณะที่นอนหลับ เช่น ระบบหายใจ ระบบกล้ามเนื้อ ฯลฯ โดยจะนำผลการ ตรวจSleep Test ไปให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ วิเคราะห์เพื่อประเมินสุขภาพ และความรุนแรงของโรค รวมถึงวินิจฉัยโรคต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากภาวะการนอนหลับที่ผิดปกติ

วิธี ตรวจSleep Test 

ผู้ที่ต้องการตรวจวัดสุขภาพการนอนหลับ จะต้องมาพักค้างคืนที่โรงพยาบาล และคลินิกที่ทำการตรวจSleep Test เนื่องจากจำเป็นต้องติดตั้งอุปกรณ์ตรวจระหว่างนอนหลับ โดยมีคอมพิวเตอร์ช่วยจับสัญญาณอัตราการหายใจ คลื่นสมอง ค่าออกซิเจนในเลือด รวมถึงตรวจจับพฤติกรรมการเคลื่อนไหวร่างกายขณะนอนหลับ เช่น การหยุดหายใจ เสียงกรน การขยับของหน้าท้อง การกระตุกของกล้ามเนื้อ เป็นต้น

การตรวจ Sleep test มีแบบใดบ้าง และควรเลือกตรวจอย่างไร

การตรวจสุขภาพการนอนหลับ หรือ sleep test  สามารถแบ่งออกได้ เป็น 4 ระดับ ตามความละเอียดของข้อมูลที่ตรวจ โดยใช้ตามนิยามของสมาคมเวชศาสตร์การนอนหลับของสหรัฐอเมริกา (American Academy of Sleep Medicine หรือ AASM) ซึ่งเป็นที่ยอมรับในระดับสากลดังนี้ 

ระดับที่ การตรวจสุขภาพการนอนแบบสมบูรณ์โดยมีเจ้าหน้าที่เฝ้าตลอดคืน  การตรวจแบบนี้จะประกอบด้วย การวัดคลื่นไฟฟ้าสมอง  คลื่นไฟฟ้ากล้ามเนื้อ ลูกตา ใต้คาง และขา คลื่นไฟฟ้า หัวใจ การตรวจวัดระดับออกซิเจนในเลือด การตรวจวัดลมหายใจ เป็นอย่างน้อย โดยอาจทำภายในห้องตรวจเฉพาะของสถานพยาบาล หรือนอกสถานที่ แต่มีเจ้าหน้าที่เฝ้าสังเกตอาการตลอดทั้งคืนที่ตรวจ  

ระดับที่ การตรวจสุขภาพการนอนหลับแบบสมบูรณ์ โดยไม่มีเจ้าหน้าที่เผ้าตลอดทั้งคืน วิธีนี้อาจตรวจตามบ้าน ในห้องนอนของผู้รับการตรวจเองซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมที่คุ้นเคย หรือ ตามสถานที่พักต่าง ๆ ทำให้คล้ายกับการนอนในชีวิตประจำวันมากกว่า โดยจะมีเจ้าหน้าที่เข้าไปติดตั้งอุปกรณ์ให้แต่ไม่ได้เฝ้าระหว่างเวลาที่ตรวจ  มีความน่าเชื่อถือได้ใกล้เคียงกับ การตรวจระดับ 1  มีข้อดี เช่น ค่าใช้จ่ายถูกกว่า เนื่องจากไม่มีค่าห้องของโรงพยาบาล  นอกจากนี้ยังใช้เวลาในการรอคิวตรวจน้อยกว่า ผู้ที่เหมาะสำหรับการตรวจวิธีนี้ ได้แก่ ผู้ที่เคลื่อนไหวและเดินทางไม่สะดวก หรือผู้ที่มีอาการมากและต้องการรักษาอย่างรวดเร็ว แต่ต้องรอคิวตรวจในโรงพยาบาลนานมาก เป็นต้น    

ระดับที่ การตรวจสุขภาพการนอนหลับแบบจำกัดข้อมูล  จะมีเพียงการตรวจ ลมหายใจ การเคลื่อนไหวของหน้าอกและท้อง การวัดระดับออกซิเจนในเลือด การวัดระดับเสียงกรน บางครั้งรวมคลื่นหัวใจร่วมด้วย หรือการตรวจการนอนหลับจากระบบหลอดเลือดและประสาทอัตโนมัติ เป็นต้น มีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าระดับ 1 และ 2 แต่ผลการตรวจมักได้ค่าความรุนแรงต่ำกว่าความเป็นจริง  เนื่องจากไม่ได้วัดคลื่นสมอง จึงไม่สามารถประเมิน ประสิทธิภาพในการนอน รวมระยะความลึกของการนอน ทำให้ผลตรวจมีความแม่นยำน้อยกว่า

ระดับที่ การตรวจระดับออกซิเจนในเลือด และหรือ วัดลมหายใจขณะหลับ เป็นการตรวจเพียงบางส่วน และได้ข้อมูลไม่เกิน 3 อย่างเท่านั้น  จึงเลือกใช้เฉพาะกรณีที่ไม่สามารถตรวจในแบบต่าง ๆ ที่กล้าวมาแล้ว เนื่องจากข้อมูลที่ตรวจได้มักจะไม่มีความน่าเชื่อถือมากพอที่จะนำมาใช้ยืนยันการวินิจฉัยภาวะอุดกั้นทางเดินหายใจขณะหลับได้

ตรวจ Sleep Test
นอนหลับไม่ปกติ ควรตรวจ Sleep Test

อาการแบบไหนที่ควรไปตรวจSleep Test

  • นอนกรนเสียงดังผิดปกติ
  • นอนละเมอ ฝันร้ายบ่อย กัดฟัน แขนขากระตุกระหว่างนอนหลับ
  • สะดุ้งตื่นเพื่อหายใจในเวลากลางคืนอยู่บ่อยๆ
  • มีอาการหายใจลำบาก และสงสัยว่าอาจหยุดหายใจขณะนอนหลับ
  • รู้สึกง่วงนอนมากๆ ในตอนกลางวัน ทั้งที่พักผ่อนอย่างเพียงพอ
  • มีปัญหาเกี่ยวกับการนอนเรื้อรัง ที่ยังหาสาเหตุไม่ได้

ผู้ที่มีอาการข้างต้น และพบว่าส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน ควรไปพบแพทย์อายุรกรรมผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่เกี่ยวข้องกับ หู คอ จมูก หรือพบแพทย์ด้านโรคนอนไม่หลับโดยตรง

กลุ่มเสี่ยงที่ควรได้รับการตรวจsleep test

  • ผู้ที่เสี่ยงจะเป็นภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น
  • ผู้ที่เป็นโรคอ้วน หรือมีน้ำหนักตัวเกิน
  • ผู้ที่แพทย์สงสัยว่าอาจมีภาวะชักขณะนอนหลับหรือเป็นโรคลมหลับ (narcolepsy)
  • ผู้ที่ป่วยเป็นโรคต่าง ๆ เช่น หัวใจวาย ไตวาย ความดันโลหิตสูง เบาหวาน
  • ผู้ที่มีความผิดปกติเกี่ยวกับการนอนหลับที่ยังรักษาไม่ได้

การเตรียมตัวก่อนตรวจSleep Test

  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ชา กาแฟ และเครื่องดื่มกาแฟอีน ประมาณ 24 ชั่วโมงก่อนมาตรวจ
  • คืนที่จะมาตรวจ ไม่ควรนอนหลับในตอนกลางวัน
  • ก่อนมาตรวจ แนะนำให้ดื่มน้ำน้อย ๆ เพื่อป้องกันการลุกขึ้นไปปัสสาวะระหว่างตรวจสุขภาพการนอนหลับ
  • อาบน้ำ สระผม (งดใส่สเปรย์ผม) และรับประทานอาหารเย็นมาให้เรียบร้อย
  • หากกินยาประจำ เช่น ยานอนหลับ ยาลดความดันโลหิต และยารักษาเบาหวาน ควรปรึกษาแพทย์ก่อน

ค่าใช้จ่ายในการตรวจSleep Test ราคาเท่าไร?

Sleep Testที่ไหนดี? ปัจจุบันโรงพยาบาลรัฐ เอกชน และคลินิกด้านสุขภาพการนอนอีกหลายแห่ง มีบริการตรวจ Sleep Test(ควรสอบถามบริการก่อนทุกครั้ง) ซึ่งแบ่งการตรวจออกเป็นหลายระดับ แต่ละระดับก็จะมีราคาแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับรูปแบบและสถานพยาบาล ส่วนใหญ่ราคาSleep Test จะอยู่ที่ประมาณ 7,000-13,000 บาท

Sleep Testเบิกได้ไหม?

ผู้ที่ต้องการตรวจสุขภาพการนอนแบบSleep Test สามารถเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลตามสิทธิที่มีอยู่ได้ เช่น เบิกตรงข้าราชการ สิทธิประกันสังคม สิทธิประกันสุขภาพ เป็นต้น แต่ก็ควรสอบถามอย่างละเอียดกับโรงพยาบาลแต่ละแห่ง ทั้งเรื่องรูปแบบระดับการรักษา การจองคิว รวมถึงศึกษาเอกสารการเบิกค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต้องใช้ ก่อนเข้ารับการตรวจทุกครั้ง

ขอบคุณข้อมูลจาก
ไทยรัฐ ออนไลน์, คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

ระวัง! คนท้องนอนกรน หยุดหายใจขณะหลับ ทารกเสี่ยงขาดออกซิเจน!

สามีนอนกรน เสียงดัง แก้ได้ด้วยวิธีนี้!

หมอเตือน! ลูกนอนกรน! เสี่ยงพัฒนาการถดถอย

ฤกษ์ออกรถ

ฤกษ์ออกรถ ปี 2565 เสริมสิริมงคล แคล้วคลาด ปลอดภัย

Alternative Textaccount_circle
event
ฤกษ์ออกรถ
ฤกษ์ออกรถ

ฤกษ์ออกรถ เป็นความเชื่อของคนไทยมายาวนาน เชื่อกันว่าการออกรถใหม่ในวันฤกษ์งามยามดี จะช่วยส่งเสริมดวงชะตาในด้านต่างๆของเจ้าของรถ

ฤกษ์ออกรถ ปี 2565 เสริมสิริมงคล แคล้วคลาด ปลอดภัย

ผู้ที่วางแผนจะออกรถใหม่ และกำลังมองหา ฤกษ์ออกรถ เพื่อเสริมความเป็นสิริมงคล ช่วยให้ชีวิตเฮงๆ ปังๆ โดยเฉพาะคุณแม่ลูกอ่อนที่มีลูกเล็กๆ จะได้เสริมความมั่นใจ ขับขี่ปลอดภัย แคล้วคลาดอันตราย ทีมแม่ ABK ได้นำฤกษ์ดีๆ มาฝากแล้วค่ะ

ฤกษ์ออกรถตามวันเกิด

คนเกิดวันจันทร์ ห้ามออกรถวันอาทิตย์ ฤกษ์ออกรถมงคล คือ วันจันทร์ วันศุกร์ และวันเสาร์
คนเกิดวันอังคาร ห้ามออกรถวันจันทร์ ฤกษ์ออกรถมงคล คือ วันศุกร์ วันอังคาร วันพฤหสบดี และวันเสาร์
คนเกิดวันพุธ (กลางวัน)  ห้ามออกรถวันอังคาร ฤกษ์ออกรถมงคล คือ วันจันทร์ และวันศุกร์
คนเกิดวันพุธ (กลางคืน) ห้ามออกรถวันพฤหัสบดี ฤกษ์ออกรถมงคล คือ วันจันทร์ และวันศุกร์
คนเกิดวันพฤหัสบดี ห้ามออกรถวันเสาร์ ฤกษ์ออกรถมงคล คือ วันจันทร์ และวันศุกร์
คนเกิดวันศุกร์ ห้ามออกรถวันพุธ (กลางคืน) ฤกษ์ออกรถมงคล คือ วันจันทร์ วันศุกร์ วันอาทิตย์ และวันอังคาร
คนเกิดวันเสาร์ ห้ามออกรถวันพุธ (กลางวัน) ฤกษ์ออกรถมงคล คือ วันจันทร์
คนเกิดวันอาทิตย์ ห้ามออกรถวันศุกร์ ฤกษ์ออกรถมงคล คือ วันจันทร์ วันพฤหัสบดี วันเสาร์ และวันอาทิตย์

 

ฤกษ์ออกรถ
ฤกษ์ออกรถ

ฤกษ์ออกรถประจำเดือน

ฤกษ์ออกรถประจำเดือนมกราคม

วันอาทิตย์ที่ 2 มกราคม 2565 มหาสิทธิโชค
วันพฤหัสบดีที่ 6 มกราคม 2565 ชัยโชค, อำมฤตโชค
วันอังคารที่ 11 มกราคม 2565 ราชาโชค, อำมฤตโชค
วันพุธที่ 12 มกราคม 2565 ชัยโชค, สิทธิโชค
วันอาทิตย์ที่ 16 มกราคม 2565 มหาสิทธิโชค
วันพุธที่ 19 มกราคม 2565 อำมฤตโชค
วันเสาร์ที่ 22 มกราคม 2565 ราชาโชค, อำมฤตโชค
วันอาทิตย์ที่ 23 มกราคม 2565 ราชาโชค
วันพฤหัสบดีที่ 27 มกราคม 2565 ราชาโชค
วันศุกร์ที่ 28 มกราคม 2565 สิทธิโชค

ฤกษ์ออกรถประจำเดือนกุมภาพันธ์

วันเสาร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ 2565 สิทธิโชค
วันพฤหัสบดีที่ 10 กุมภาพันธ์ 2565 สิทธิโชค
วันศุกร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2565 มหาสิทธิโชค
วันเสาร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2565 ชัยโชค
วันอังคารที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565 สิทธิโชค
วันจันทร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2565 สิทธิโชค
วันอาทิตย์ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2565 สิทธิโชค
วันจันทร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 มหาสิทธิโชค

ฤกษ์ออกรถประจำเดือนมีนาคม

วันอังคารที่ 1 มีนาคม 2565 มหาสิทธิโชค
วันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 สิทธิโชค
วันอาทิตย์ที่ 13 มีนาคม 2565 สิทธิโชค
วันจันทร์ที่ 14 มีนาคม 2565 มหาสิทธิโชค
วันอังคารที่ 15 มีนาคม 2565 มหาสิทธิโชค
วันศุกร์ที่ 18 มีนาคม 2565 ราชาโชค, ชัยโชค, อำมฤตโชค
วันพุธที่ 23 มีนาคม 2565 ราชาโชค
วันพฤหัสบดีที่ 24 มีนาคม 2565 มหาสิทธิโชค

ฤกษ์ออกรถประจำเดือนเมษายน

วันจันทร์ที่ 4 เมษายน 2565 ราคาโชค, ชัยโชค, อำมฤตโชค
วันอังคารที่ 12 เมษายน 2565 ชัยโชค
วันเสาร์ที่ 16 เมษายน 2565 มหาสิทธิโชค
วันพุธที่ 20 เมษายน 2565 มหาสิทธิโชค
วันอาทิตย์ที่ 24 เมษายน 2565 ชัยโชค, อำมฤตโชค

ฤกษ์ออกรถประจำเดือนพฤษภาคม

วันพุธที่ 4 พฤษภาคม 2565 มหาสิทธิโชค
วันอาทิตย์ที่ 8 พฤษภาคม 2565 ชัยโชค, อำมฤตโชค
วันพฤหัสบดีที่ 19 พฤษภาคม 2565 ชัยโชค, อำมฤตโชค
วันอังคารที่ 24 พฤษภาคม 2565 ราชาโชค, สิทธิโชค
วันพุธที่ 25 พฤษภาคม 2565 ชัยโชค, อำมฤตโชค
วันอาทิตย์ที่ 29 พฤษภาคม 2565 มหาสิทธิโชค

ฤกษ์ออกรถประจำเดือนมิถุนายน

วันพุธที่ 1 มิถุนายน 2565 อำมฤตโชค
วันเสาร์ที่ 4 มิถุนายน 2565 ราชาโชค, อำมฤตโชค
วันอาทิตย์ที่ 5 มิถุนายน 2565 ราชาโชค
วันพฤหัสบดีที่ 9 มิถุนายน 2565 ราชาโชค
วันศุกร์ที่ 10 มิถุนายน 2565 สิทธิโชค
วันเสาร์ที่ 18 มิถุนายน 2565 สิทธิโชค
วันพฤหัสบดีที่ 23 มิถุนายน 2565 สิทธิโชค
วันศุกร์ที่ 24 มิถุนายน 2565 มหาสิทธิโชค
วันเสาร์ที่ 25 มิถุนายน 2565 ชัยโชค
วันอังคารที่ 28 มิถุนายน 2565 สิทธิโชค

 

ฤกษ์มงคล
ฤกษ์มงคล

ฤกษ์ออกรถประจำเดือนกรกฎาคม

วันเสาร์ที่ 2 กรกฏาคม 2565 มหาสิทธิโชค
วันศุกร์ที่ 8 กรกฎาคม 2565 สิทธิโชค
วันเสาร์ที่ 9 กรกฏาคม 2565 ชัยโชค
วันจันทร์ที่ 11 กรกฏาคม 2565 สิทธิโชค
วันเสาร์ที่ 16 กรกฏาคม 2565 มงคลทั่วไป
วันจันทร์ที่ 18 กรกฎาคม 2565 สิทธิโชค
วันจันทร์ที่ 25 กรกฏาคม 2565 สิทธิโชค
วันศุกร์ที่ 29 กรกฎาคม 2565 อมฤตโชค

ฤกษ์ออกรถประจำเดือนสิงหาคม

วันพุธที่ 3 สิงหาคม 2565 ราชาโชค
วันศุกร์ที่ 5 สิงหาคม 2565 มงคลทั่วไป
วันพุธที่ 10 สิงหาคม 2565 ธงชัย
วันศุกร์ที่ 12 สิงหาคม 2565 มงคลทั่วไป
วันอาทิตย์ที่ 14 สิงหาคม 2565 มงคลทั่วไป
วันจันทร์ที่ 15 สิงหาคม 2565 อมฤตโชค
วันศุกร์ที่ 19 สิงหาคม 2565 มงคลทั่วไป
วันพุธที่ 24 สิงหาคม 2565 ธงชัย
วันศุกร์ที่ 26 สิงหาคม 2565 มงคลทั่วไป

ฤกษ์ออกรถประจำเดือนกันยายน

วันพฤหัสบดีที่ 1 กันยายน 2565  มงคลทั่วไป
วันอังคารที่ 6 กันยายน 2565 ชัยโชค
วันพฤหัสบดีที่ 8 กันยายน 2565 ธงชัย
วันเสาร์ที่ 10 กันยายน 2565 มหาสิทธิโชค
วันอาทิตย์ที่ 18 กันยายน 2565 อมฤตโชค
วันจันทร์ที่ 19 กันยายน 2565 มงคลทั่วไป
วันเสาร์ที่ 24 กันยายน 2565 มงคลทั่วไป

ฤกษ์ออกรถประจำเดือนตุลาคม

วันอาทิตย์ที่ 2 ตุลาคม 2565  มงคลทั่วไป
วันอังคารที่ 4 ตุลาคม 2565 อมฤตโชค
วันพุธที่ 5 ตุลาคม 2565 มหาสิทธิโชค
วันพุธที่ 12 ตุลาคม 2565 อมฤตโชค
วันศุกร์ที่ 14 ตุลาคม 2565 มงคลทั่วไป
วันอาทิตย์ที่ 16 ตุลาคม 2565 ราชาโชค
วันอาทิตย์ที่ 23 ตุลาคม 2565 มงคลทั่วไป
วันเสาร์ที่ 29 ตุลาคม 2565 อมฤตโชค

ฤกษ์ออกรถประจำเดือนพฤศจิกายน

วันศุกร์ที่ 4 พฤศจิกายน 2565 มหาสิทธิโชค
วันอาทิตย์ที่ 6 พฤศจิกายน 2565 มงคลทั่วไป
วันเสาร์ที่ 12 พฤศจิกายน 2565 มหาสิทธิโชค
วันเสาร์ที่ 19 พฤศจิกายน 2565 ชัยโชค
วันอังคารที่ 22 พฤศจิกายน 2565 มหาสิทธิโชค
วันเสาร์ที่ 26 พฤศจิกายน 2565 มงคลทั่วไป

ฤกษ์ออกรถประจำเดือนธันวาคม

วันอาทิตย์ที่ 4 ธันวาคม 2565 มหาสิทธิโชค
วันจันทร์ที่ 5 ธันวาคม 2565 สิทธิโชค
วันศุกร์ที่ 9 ธันวาคม 2565 อมฤตโชค
วันพุธที่ 21 ธันวาคม 2565 มงคลทั่วไป
วันศุกร์ที่ 23 ธันวาคม 2565 อมฤตโชค
วันอาทิตย์ที่ 25 ธันวาคม 2565 มงคลทั่วไป

ฤกษ์ออกรถ ที่ ทีมแม่ ABK นำมาฝากนี้ คงเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่กำลังวางแผนจะออกรถใหม่นะคะ ครอบครัวที่มีลูกเล็กก็คงอุ่นใจยิ่งขึ้นในการขับขี่รถ แต่ถึงกระนั้นสิ่งนี้ก็เป็นเพียงที่พึ่งทางใจ ยังไงก็ต้องขับขี่ด้วยความไม่ประมาท และไม่ดื่มเครื่องดื่มมึนเมานะคะ

อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

รวมวันดี วันมงคล ฤกษ์คลอดลูก ฤกษ์คลอดปี 2565 / 2022 ฤกษ์ผ่าคลอด ปูทางสำเร็จให้ลูกตั้งแต่แรกเกิด

ตัดเล็บวันไหนดี 2565 / 2022 ให้โชคดี มีลาภใหญ่ เป็นมงคลแก่ตัวเอง

เช็คดวงลูกเกิดปีเสือ 2565 เกิดราศีไหน นิสัยยังไง?

เปลี่ยน สีกระเป๋าสตางค์ ตามวันเกิดให้เฮงๆ ตลอดปี2565

ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.carsome.co.th

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
Amarin Baby & Kids

โรคผมผลัด

ห่วง! อาการ Long COVID-19 เสี่ยงเกิด โรคผมผลัด

Alternative Textaccount_circle
event
โรคผมผลัด
โรคผมผลัด

ห่วง! อาการ Long COVID-19 เสี่ยงเกิด โรคผมผลัด

เมื่อติดเชื้อโควิด-19 ความรุนแรงของโรคตอนแสดงอาการย่อมแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับแต่ละคน และเมื่อหายจากการติดเชื้อ แต่ละคนก็จะมีการฟื้นฟูร่างกายที่ต่างกัน บางคนก็กลับมาเป็นปกติเลย แต่บางคนแม้เวลาจะผ่านไปหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนแล้ว แต่ก็ยังไม่รู้สึกแข็งแรง รู้สึกว่าร่างกายมีความผิดปกติซึ่งอาจเป็นหนึ่งในอาการของ ‘ลองโควิด’ (LONG COVID) และอาจนำไปสู่อาการผมร่วงจาก โรคผมผลัด ได้ค่ะคุณพ่อคุณแม่

รู้จักภาวะ ลองโควิด (LONG COVID)

ลองโควิด หรือ POST-COVID SYNDROME อาจมีอาการคล้าย ๆ เดิมที่เคยเป็นตอนที่ติดเชื้อโควิด-19 อยู่ หรืออาจจะเป็นอาการใหม่ที่ไม่เคยเป็นตอนที่ติดเชื้อเลยก็ได้ ผู้ติดเชื้อที่มีอาการหนัก อาจมีผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาวมากกว่า แต่อาการลองโควิด นี้ก็ยังสามารถเกิดได้ในผู้ติดเชื้อที่มีอาการน้อย หรือแทบไม่มีอาการเลยก็ได้ โดยอาการที่เกิดขึ้นนั้นอาจยาวนานได้ถึง 3 เดือนขึ้นไป

อาการลองโควิดที่พบมากที่สุด 10 อันดับแรก

ดร.โซเนีย วิลลาพอล ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านศัลยกรรมประสาทที่โรงพยาบาลฮูสตัน สหรับอเมริกาและทีมวิจัย ได้ทำการศึกษาผู้ป่วยโควิด-19 เกือบ 48,000 ราย พบผลกระทบระยะยาวหลังหายป่วยโควิด-19 จำนวนมากโดยอาการที่พบบ่อยที่สุดเหล่านี้มีตั้งแต่ไม่รุนแรงจนถึงทำให้ร่างกายทรุดโทรม และมีผลยาวตั้งแต่หลักหลายสัปดาห์จนถึงหลักหลายเดือนหลังหายจากโควิด-19 โดยอาการที่พบมากที่สุด 10 อันดับแรกคือ

  • เหนื่อยล้าอ่อนเพลีย (58%)
  • ปวดศีรษะ (44%)
  • สมาธิสั้น (27%)
  • ผมร่วง (25%)
  • หายใจลำบาก (24%)
  • สูญเสียการรับรสชาติ (23%)
  • สูญเสียการรับกลิ่น (21%)
  • หายใจถี่ (21%)
  • ปวดตามข้อ (19%)
  • ไอ (19%)

นอกจากนี้ยังอาการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับโรคปอด เช่น รู้สึกไม่สบายหน้าอก ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ และการเกิดพังผืดในปอด และพบปัญหาหัวใจและหลอดเลือด เช่น ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ และกล้ามเนื้อหัวใจตาย และปัญหาอื่น ๆ เช่น หูอื้อและเหงื่อออกตอนกลางคืน นักวิจัยรู้สึกประหลาดใจที่พบอาการทางระบบประสาทหลายอาการด้วย เช่น ภาวะสมองเสื่อม ซึมเศร้า วิตกกังวล และโรคย้ำคิดย้ำทำ

โรคผมผลัด (Telogen effluvium) หนึ่งในอาการ Long COVID-19

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญสมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย โดย พญ.ชินมนัส เลขวัต, รศ.นพ.รัฐพล ตวงทอง, รศ.นพ. พูลเกียรติ สุชนวณิช และ รศ.ดร.พญ. รัชต์ธร ปัญจประทีป ร่วมเผยข้อมูลโรคผมผลัดหลังจากการติดเชื้อโควิด-19 หรือ ภาวะผมร่วงหลังการติดเชื้อ พร้อมแนวทางการรักษาว่า ภาวะผมร่วงภายหลังการติดเชื้อ โควิด-19 นานเกิน 12 สัปดาห์ขึ้นไป ส่วนใหญ่เกิดจากโรคผมผลัด ซึ่งเป็นอาการ ผมร่วงมากผิดปกติ คือมากกว่า 100 เส้นต่อวัน แต่ไม่มากเกิน 50% ของผมทั้งศีรษะ

โรคผมผลัด
โรคผมผลัด ผมร่วง หนึ่งในอาการ Long COVID-19

สาเหตุของ โรคผมผลัด

เนื่องจากการเจ็บป่วยจากการติดเชื้อโควิด-19 ทำให้ร่างกายเกิดความเครียด และมีการกระตุ้นให้เกิดการอักเสบที่รากผม ซึ่งส่งผลต่อวงจรชีวิตของผม ทำให้มีการเปลี่ยนเร็วกว่าปกติ ทำให้เกิดการหลุดร่วงของเส้นผมได้มากกว่าปกติ นอกจากโรคผมผลัดแล้ว ยังมีรายงานผู้ป่วยโรคผมร่วงเป็นหย่อม (Alopecia areata) ที่เกิดขึ้นใหม่ หรือในผู้ป่วยโรคผมร่วงเป็นหย่อมที่เป็นมากอยู่แล้วมีอาการมากขึ้นภายหลังจากมีการติดเชื้อโควิด-19 เนื่องจากภาวะเครียดจากการเจ็บป่วยด้วยค่ะ

ประเภทของโรคผมผลัด

ภาวะโรคผมผลัดโดยปกติแล้วสามารถแบ่งได้เป็น 2 ชนิดได้แก่

  • โรคผมผลัดที่เป็นเฉียบพลัน (Acute telogen effluvium)
  • โรคผมผลัดที่เป็นเรื้อรัง (Chronic telogen effluvium)

จากการศึกษาในต่างประเทศ พบผู้ป่วยที่มีการติดเชื้อโควิด-19 เกิดโรคผมผลัดหลังจากการติดเชื้อประมาณร้อยละ 25 ซึ่งใกล้เคียงกับข้อมูลของผู้ป่วยในประเทศไทยที่พบร้อยละ 23 นอกจากโรคผมผลัดหลังจากการติดเชื้อโควิด-19 โรคผมผลัดอาจเกิดได้จากสาเหตุอื่น เช่น เกิดภายหลังจากเกิดภาวะการเจ็บป่วยที่เป็นมาก มีภาวะเครียดมาก หรือการขาดสารอาหาร หรือเป็นโรคไทรอยด์หรือการรับประทานยาบางอย่าง โดยอาการอาจเป็นชั่วคราวหรือเป็นต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน

การดูแลรักษาโรคผมผลัด

การดูแลรักษาโรคผมผลัดที่สำคัญที่สุดคือ การหาสาเหตุและแก้ไขสาเหตุ ถ้ามีปัจจัยกระตุ้นอื่นนอกเหนือจากภาวะเจ็บป่วยจากการติดเชื้อโควิด-19 ก็ควรจะรักษาร่วมด้วย

  1. ถ้าผู้ป่วยเกิดภาวะผมร่วงภายหลังจากมีการติดเชื้อโควิด-19 โดยไม่มีปัจจัยอื่น โดยทั่วไป ผู้ป่วยที่มีโรคผมผลัดมักหายได้เองหลังจากสาเหตุหมดไปแล้วประมาณ 3-6 เดือน ในกรณีผู้ป่วยที่เป็นโรคผมผลัดหลังจากการติดเชื้อภายหลังการติดเชื้อโควิด-19 อาจจะหายได้เร็วกว่าที่ระยะเวลาประมาณ 2 เดือน
  2. การพรางผมบาง ช่วยทำให้ภาพลักษณ์ของผู้ป่วยดีขึ้นได้ เช่น ทรงผม, การทำสีผมหรือการใส่วิก
  3. การรักษาด้วยยาทาไมน็อกซิดิล อาจแนะนำให้ผู้ป่วยใช้ยาทา ร้อยละ 5 minoxidil solution วันละ 1-2 ครั้ง หรือร้อยละ 2 minoxidil solution วันละ 2 ครั้ง เพื่อกระตุ้นผมให้ขึ้นใหม่ โดยอาจเริ่มใช้ ตอนที่ผมเริ่มจะหยุดร่วง การทายานี้อาจทำให้เกิดผมร่วงในช่วงแรกๆ ที่ใช้ยาได้ และยังไม่จำเป็นต้องทายานี้เสมอไปในโรคผมผลัด เนื่องจาก ในภาวะนี้ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้นได้เองหลังสาเหตุกระตุ้นหมดไป
  4. ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานยาที่อาจมีส่วนทำให้ผมร่วง เช่น ยารักษาความดันโลหิตสูงชนิด Beta blockers ยารับประทานวิตามินเอและยากันเลือดแข็งตัว ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานยา ในผู้ป่วยที่รับประทานยานี้อยู่แล้วไม่ควรหยุดยาเองควรปรึกษาแพทย์ก่อน

นอกจากนี้ ควรดูแลสุขภาพให้ดีด้วย เช่น

  • รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่
  • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
  • หลีกเลี่ยงความเครียด

ในกรณีผมไม่หยุดร่วงใน 6 เดือน หลังจากที่หายจากโรคติดเชื้อโควิด-19 แล้วหรือถ้าผมร่วงมากเกินร้อยละ 50 ของผมบนศีรษะหรือมีอาการผมร่วงจนหมดศีรษะอาจเป็นโรคอื่น เช่น โรคผมร่วงเป็นหย่อมที่มีอาการรุนแรง แพทย์ควรส่งต่อผู้ป่วยเพื่อการวินิจฉัยและรักษากับแพทย์เฉพาะทางเพื่อติดตามการรักษา

ขอบคุณข้อมูลจาก

แนวหน้า, โรงพยาบาลไทยนครินทร์, PPTV HD, สสส.

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

เช็กวิธีรักษา ผู้ป่วยโควิด แบ่งตามสี-สิทธิ UCEP Plus ฟรี

ติดโควิด ใช้สิทธิประกันสังคม ต้องทำยังไง?

ทำความสะอาดบ้าน อย่างไรเมื่อกลับถึงบ้านให้ปลอดโควิด19

10 แหล่งเรียนรู้ พาลูกเที่ยว 2022 Play & Learn เพลินทั้งครอบครัว 

Alternative Textaccount_circle
event

10 แหล่งเรียนรู้ พาลูกเที่ยว 2022 Play & Learn เพลินทั้งครอบครัว 

ได้เวลาพาลูกเที่ยวแล้ว เรามาออกไปท่องเที่ยว สัมผัสประสบการณ์นอกบ้านกันดีกว่า พาลูกน้อยไปเล่นสนุกปลุกเซลล์สมอง  ไปเจอเพื่อน ๆ วัยเดียวกัน เสริมสร้างพัฒนาการ เกิดการเรียนรู้ด้วยตัวเอง และยังมีคุณพ่อคุณแม่คอยสอนอยู่ไม่ห่างด้วย มาค่ะ ทีมแม่ขอแนะนำ 10 แหล่งเรียนรู้ หลากหลายแนว ที่ลูก ๆ จะได้ทั้ง Play+Learn แถมยังสนุกเพลินกันทั้งบ้านด้วย มี แหล่งเรียนรู้ ไหนน่าสนใจบ้างไปดูกันเลย

แหล่งเรียนรู้

  1. Get Growing Community Farm 

พื้นที่เรียนรู้สำหรับเด็ก ๆ บนฝั่งบางกะเจ้า ตรงข้ามท่าเรือคลองเตย ที่เด็ก ๆ จะได้สนุกกับกิจกรรมที่อยู่กับดินกับธรรมชาติอย่างแท้จริง เพราะจะพาเด็ก ๆ ไปคลุกไปลุยโคลน ปีนป่ายบนเครื่องเล่นที่สร้างจากไม้และเชือกอย่างสนุกสนาน มาแล้วคุณพ่อคุณแม่ต้องเตรียมตัวเลอะกับลูก ๆ ด้วยนะคะ แต่ก็สนุกแน่นอน เครื่องเล่นหน้าตาท้าทาย ทั้งมังกร ม้าไม้ขนาดใหญ่ ที่เด็ก ๆ จะมุดเล่นไปมาได้ นอกจากสนุก ได้จินตนาการ เครื่องเล่นแบบนี้ยังทำให้เด็กๆประเมินการเล่นของตัวเองอย่างระมัดระวังด้วย นอกจากเครื่องเล่นยังมีฟาร์มสัตว์ขนาดเล็ก ที่เด็ก ๆ สามารถมาเลี้ยงไก่ และเก็บไข่เองกับมือ รวมทั้งแปลงผักออแกนิกที่มาเก็บเองได้เช่นกัน  

  • ที่ตั้ง : ต.บางกะเจ้า อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ
  • เวลาเปิด-ปิด : 09:00-17:30 น. ปิดวันจันทร์และอังคาร
  • โทร. 083 136 5004
  • https://web.facebook.com/getgrowingcommunityfarm/
แหล่งเรียนรู้
ขอขอบคุณภาพจาก https://web.facebook.com/getgrowingcommunityfarm/

  1. มินิมูร่าห์ฟาร์ม

ฟาร์มนี้มีจุดเด่นอยู่ที่ควายสายพันธุ์มูร่าห์ ซึ่งเป็นควายสายพันธุ์ต่างประเทศที่นิยมเลี้ยงในแถบยุโรป น้ำนมของควายชนิดนี้มีแคลเซียมสูง เหมาะกับคนที่แพ้นมวัว แถมยังนำมาทำผลิตภัณฑ์ได้อีกมากมาย เช่น มอสซาเรลล่าชีส นมพาสเจอร์ไรซ์ สบู่ โลชั่น ฯลฯ ส่วนกิจกรรมก็มีเพียบ ทั้งให้นมลูกควายมูร่าห์ ให้อาหารกระต่าย เป็ด หมู และยังมีเวิร์คช็อปทำพิซซ่า ตั้งแต่คลึงแป้งเอง ใส่เครื่องเอง แถมมีชีสจากนมควายให้โรยด้วย รวมไปถึง เพ้นท์กระถาง ทำไข่เค็ม ทำไอศครีมจากนมควาย นอกจากนี้ยังมีห้องอาหารบรรยากาศโรงนาให้มานั่งกินเมนูอร่อย เรียกว่ามาที่เดียวก็สนุกเต็มอิ่มกันได้ทั้งบ้าน

แหล่งเรียนรู้
ขอขอบคุณภาพจาก https://www.facebook.com/MiniMurrahFarm/

 

  1. Space Inspirium

พาเด็ก ๆ มาเปิดประสบการณ์ให้ไกลไปถึงนอกโลกกันดีกว่า ต้องเรียกว่าเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านอวกาศแห่งใหม่ที่รวบรวมองค์ความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีอวกาศได้ไม่ตกยุค และเข้าใจง่าย มีโซนเรียนรู้เยอะ ตั้งแต่กำเนิดเอกภพ ระบบดวงดาว เทคโนโลยีอวกาศยุคต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ยูริ กาการิน ยานอะพอลโล การสำรวจดวงจันทร์ อวกาศยุคปัจจุบัน การนำเทคโนโลยีอวกาศมาใช้กับโลก พร้อมกิจกรรมให้เล่นสนุกอีกเพียบ มีเครื่องเล่นให้เข้าสู่โลกเสมือนจริงท่องโลกอนาคต เครื่องเล่นจำลองการเดินในภาวะไร้น้ำหนัก จำลองการฝึกนักบินอวกาศ โรงภาพยนตร์สามมิติ ห้องจะลองภายในสถานีอวกาศ ส่วนลานด้านนอกยังมีโมเดลยานอวกาศขนาดใหญ่ให้ถ่ายรูปด้วย

  • ที่ตั้ง : ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี
  • เวลาเปิด-ปิด : 09:00-16:00 น. (อ.-ศ.) 09:00-17:00 น. (ส.-อา.) ปิดวันจันทร์
  • โทร. 033 005 835, 033 005 836
  • https://web.facebook.com/spaceinspirium/
แหล่งเรียนรู้
ขอขอบคุณภาพจาก https://www.facebook.com/spaceinspirium/

 

  1. พัทยา ดอลฟินนาเรียม

ชวนเด็ก ๆ มารู้จักสัตว์โลกน่ารักแบบใกล้ชิด กับเหล่าโลมาแสนรู้ที่ผ่านการฝึกและสนิทกับคนฝึกเป็นอย่างดี ที่นี่มีกิจกรรมหลัก ๆ คือ โชว์ความสามารถของโลมาและแมวน้ำแสนรู้ ที่จะเรียกเสียงหัวเราะและรอยยิ้ม โดยเฉพาะเหล่าโลมาอิรวดี หรือโลมาหัวบาตร ซึ่งเป็นโลมาสายพันธุ์ท้องถิ่นของเอเชีย นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมสนุกยิ่งขึ้นอย่าง ว่ายน้ำกับโลมา พร้อมมีผู้ดูแลอย่างใกล้ชิด ส่วนใครเล่นสนุกในน้ำแล้วยังไม่พอก็มีกิจกรรมบนบกให้เล่นอีก ไม่ว่าจะเป็นขับรถเอทีวี ขี่ม้าหรือนั่งรถม้า ปีนหน้าผาจำลอง โซนทินทอย ของเล่นหาดูยากในยุค 1930-1960 และโซนคาวบอย มาที่เดียวสนุกได้ทั้งบ้านเลยค่ะ

  • ที่ตั้ง : ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
  • เวลาเปิด-ปิด :10:00-19:00 น. ปิดวันพุธ
  • โทร. 064 778 8999
  • https://pattayadolphinarium.com/
แหล่งเรียนรู้
ขอขอบคุณภาพจาก https://pattayadolphinarium.com/

 

  1. บ้านอนุรักษ์ควายไทย

ชวนลูก ๆ มาชมน้องควายแสนรู้ เพื่อนคู่วิถีชีวิตชาวนาไทยกันค่ะ ไฮไลต์อยู่ที่การแสดงความสามารถของควาย วิถีชีวิตชาวนาไทย ขับเกวียน ขี่ควาย กระโดดข้ามหลังควาย รวมทั้งได้ให้อาหารกับมือ และสามารถขึ้นขี่เจ้าทุยถ่ายรูปเก๋ๆ ได้ด้วย แล้วจะรู้ว่าควายเป็นสัตว์ที่มีเสน่ห์และฉลาดขนาดไหน นอกจากนี้ยังห้ามพลาด ควายยิ้มคาเฟ่ ที่นี่มีกิจกรรม จิบแฟดูฟาย เป็นคาเฟ่ล้อมรอบบ่อน้ำ ให้เราไปนั่งดื่มอะไรเย็นๆ ดูน้องควายว่ายน้ำเล่น และมาเกยคางอ้อนให้เราป้อนหญ้า ซึ่งทางร้านก็มีหญ้าจำหน่ายให้ด้วยนะ น้อง ๆ เชื่องมาก

แหล่งเรียนรู้
ขอขอบคุณภาพจาก https://www.facebook.com/buffalovillages

 

  1. ศูนย์เรียนรู้ กฟผ. ลำตะคอง

นอกจากโรงไฟฟ้าเขื่อนลำตะคองที่ผลิตไฟฟ้าด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยสุด ๆ ในไทยตอนนี้ เขายังเปิดให้เที่ยวชมเรียนรู้ได้ทุกวันด้วยนะ สามารถพาเด็ก ๆ มาเที่ยวชมบริเวณกังหันลมขนาดใหญ่ และอ่างเก็บน้ำบนเขายายเที่ยง รอบ ๆ มีถนนให้ปั่นจักรยานชมวิวได้สบาย ๆ มีบริการจักรยานให้เช่าด้วย บรรยากาศและวิวดีมาก ๆ ส่วนถัดลงมาจะเป็น ศูนย์การเรียนรู้ กฟผ.ลำตะคอง เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงข้อมูลเกี่ยวกับพลังงานสะอาด เด็ก ๆ สามารถเล่นสนุกโต้ตอบกับอุปกรณ์ได้ทุกโซน แถมยังมีแอนิเมชั่นอธิบายเรื่องหลักการผลิตไฟฟ้าโดยใช้พลังงานจากไฮโดรเจนที่แยกออกมาจากน้ำในเขื่อนลำตะคองได้อย่างสนุกและเข้าใจง่ายอีกด้วย

  • ที่ตั้ง : ถ.มิตรภาพ ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
  • เวลาเปิด-ปิด : 09:00-16:00 น. ปิดวันจันทร์
  • โทร. : 044 984 007
  • https://www.egat.co.th/learningcenter/lamtakong/
แหล่งเรียนรู้
ขอขอบคุณภาพจาก https://www.egat.co.th/learningcenter/

 

  1. เขาใหญ่ ฟาร์มวิลเลจ

เป็นแหล่งท่องเที่ยวเรียนรู้เชิงเกษตรที่มีกิจกรรมให้เล่นสนุกและเที่ยวชมมากมายเลย ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมเวิร์คช็อปอย่าง ปั้นดิน เพ้นท์กระถาง เทียนหอม ทำสลัดโรล พิซซ่า ต่อด้วยฐานเรียนรู้ด้านเกษตรอย่าง พิพิธภัณฑ์กล้วยเขาใหญ่ ที่รวบรวมกล้วยสายพันธุ์ไทยและต่างประเทศเอาไว้ให้ชมนับร้อย โรงเพาะพันธุ์แคคตัสและเห็ด ที่สอนเทคนิคให้เอาไปต่อยอดได้ ไปจนถึงหิ้วตะกร้าไปเก็บผักสลัดปลอดสารกันสด ๆ จากแปลงปลูก นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมแอดเวนเจอร์ต่าง ๆ และฟาร์มสัตว์น่ารัก ๆ ให้เข้าไปให้อาหารได้อย่างใกล้ชิด มีทั้งแกะ หมู ไก่ กระต่าย แถมด้วยมุมถ่ายรูปสวย ๆ แบบ 360 องศา

แหล่งเรียนรู้
ขอขอบคุณภาพจาก https://www.facebook.com/khaoyai.farmvillage.fanpage/

 

  1. Little Zoo Cafe 

คาเฟ่สำหรับคนรักสัตว์โดยเฉพาะ สาขานี้อยู่ในโครงการ PEOPLE PARK COMMUNITY อ่อนนุช ต่างจากคาเฟ่น้องหมาน้องแมวตรงที่มีสารพัดสัตว์โลกให้เราได้ใกล้ชิด บางชนิดจับได้เล่นได้อย่างใกล้ชิดด้วยนะ เข้ามาก็จะมีเหล่าลูกหมาพันธุ์คอร์กี้วัยกำลังซนมาวิ่งล้อมหน้าล้อมหลังแล้ว และยังมีน้องหมาชิวาว่า แมวหลายสายพันธุ์ เข้าไปยังจะได้เจอกับสัตว์แปลก อย่างนกฮูกไวท์เฟส ลิงกระรอก เมียร์แคต เฟนเน็คฟ็อกซ์ วัลลาบี้ โดยเฉพาะเจ้าแคร็กเกอร์ แรคคูนตัวบิ๊กเบิ้ม ถ้าเค้ากำลังสบายใจก็จะเข้ามานั่งซุก หรือทิ้งตัวให้เกาพุงเลยก็มี และเพื่อความปลอดภัยของทั้งตัวเราและน้อง ๆ พนักงานจะคอยบอกเทคนิคการเล่นกับน้องอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ยังมีอาหารและเครื่องดื่มให้บริการด้วย 

  • ที่ตั้ง : ถ.อ่อนนุช แขวงสวนหลวง แขวงสวนหลวง กรุงเทพมหานคร
  • เวลาเปิด-ปิด : 11:00-20:00 น. เปิดทุกวัน
  • โทร. 02 121 4245
  • www.facebook.com/littlezoocafe
แหล่งเรียนรู้
ขอขอบคุณภาพจาก https://www.facebook.com/littlezoocafe/photos/3185606244873756

  1. Children Cafe & Playground ประชาชื่น

อยู่แถวบองมาเช่ ย่านประชาชื่น เป็นสนามเด็กเล่นกลางแจ้งสำหรับเด็กเล็กที่คุณพ่อคุณแม่ก็มาชิลได้ ส่วนไฮไลต์คือเครื่องเล่นให้ปีนป่ายสำหรับเด็กตรงกลางร้านบนสนามหญ้าเทียม พร้อมลานเล่นทรายที่เด็ก ๆ จะได้มาสนุกสนานด้วยกัน เหมาะกับเด็กวัยอนุบาล กำลังอยากเล่นกับเพื่อนวัยเดียวกัน ส่วนเด็กเล็กกว่านั้นก็มีมุมเด็กเล่นในร่ม มีตัวต่อเลโก้ ตุ๊กตาต่าง ๆ คุณพ่อคุณแม่ก็นั่งชิลได้ในโซนร้านอาหาร ที่มีเมนูแนะนำอย่าง พิซซ่า สปาเก็ตตี้ เบอร์เกอร์ สเต๊ก อาหารจานเดียว ของกินเล่นต่าง ๆ เครื่องดื่ม เบเกอรี่ เป็นพื้นที่สำหรับครอบครัว เหมาะมาใช้เวลาได้สบาย ๆ ในวันหยุดกัน

  • ที่ตั้ง : แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร
  • เวลาเปิด-ปิด : 10:00-21:00 น. ปิดวันจันทร์
  • โทร. 089 744 0446
  • https://web.facebook.com/childrencafeandplayground/
แหล่งเรียนรู้
ขอขอบคุณภาพจาก https://www.facebook.com/childrencafeandplayground

 

  1. Pumpkin Art Town 

เมืองศิลปะพื้นที่ให้เด็กๆได้บริหารจินตนาการ เพียงก้าวเข้ามาก็จะเจอกับ Play Space กว้างๆ ใต้ต้นไม้ใหญ่ที่มีเครื่องเล่นหลากหลาย เด็ก ๆ ต้องวิ่งเข้าใส่แน่นอน ส่วนมุมศิลปะ มีตั้งแต่ห้องเรียนรู้ศิลปะสำหรับเด็ก ร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์แฮนด์เมดน่ารักๆ ไปจนถึงบ้านหลังเล็กๆ เปิดเป็นเวิร์คช็อปสอนประดิษฐ์งานศิลปะ เช่น ทำผ้ามัดย้อม โมบาย เสื้อยืดพิมพ์ลาย ผ้าพิมพ์ดอกไม้ ฯลฯ สามารถดูตารางเรียนได้จากเฟซบุ๊กของทางร้าน ด้านในยังมีทั้งร้านอาหาร Pumpkin Spice และ Pumpkin Brown Cafe มีทั้งเครื่องดื่มหลากหลาย และเบเกอรี่โฮมเมดให้สั่งมาละเลียดไปกับวิวแม่น้ำเจ้าพระยาด้วย

  • ที่ตั้ง : ซอยกะแชง ต.กระแชง อ.สามโคก จ.ปทุมธานี
  • เวลาเปิด-ปิด : 10:00-18:00 น. ปิดวันจันทร์-อังคาร
  • โทร. : 065 536 6691
  • https://web.facebook.com/pumpkin.art.town/
แหล่งเรียนรู้
ขอขอบคุณภาพจาก https://www.facebook.com/pumpkin.art.town/

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

10 ที่เที่ยวสำหรับเด็ก ในกรุงเทพและต่างจังหวัด เช้าไปเย็นกลับ

10 พิพิธภัณฑ์ในกรุงเทพ และใกล้กรุงเทพ เที่ยวสนุก ความรู้จัดเต็ม เด็กเข้าชมฟรี!!

รวมที่เที่ยว พิพิธภัณฑ์ กลางคืนแปลกตาโดนใจ ได้ความรู้!!

วิตามินเด็ก

10 วิตามินเด็ก อร่อย กินง่าย ได้ประโยชน์

Alternative Textaccount_circle
event
วิตามินเด็ก
วิตามินเด็ก

10 วิตามินเด็ก อร่อย กินง่าย ได้ประโยชน์

การที่ลูกรักของเราสามารถรับประทานอาหารได้อย่างมีความสุข เอร็ดอร่อย ครบถ้วนทุกมื้อในแต่ละวัน เป็นหนึ่งในสิ่งที่คุณแม่เห็นแล้วก็รู้สึกชื่นใจ และมีความสุขตามไปด้วย แต่บางครั้ง ลูกของเราก็ไม่ยอมกินข้าว เลือกกิน งอแง รวมไปถึงเด็กบางคนอาจแพ้อาหารบางชนิดจนทำให้คุณแม่รู้สึกกังวลว่าลูกของเราจะขาดสารอาหารที่จำเป็นสำหรับร่างกายหรือเปล่า หรือจะได้รับสารอาหารเพียงพอต่อการเจริญเติบโต และเสริมสร้างพัฒนาการของลูกหรือไม่ วันนี้ทีมแม่ ABK จึงมี วิตามินเด็ก ที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหาร เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำหรับลูกรักของเรามาฝากคุณแม่ยุคใหม่กันค่ะ

วิตามินเด็ก

ลูกของเราจำเป็นต้องกินวิตามินเสริมหรือไม่?

คุณพ่อคุณแม่หลายท่านอาจกำลังลังเลสงสัย ว่าลูกน้อยของเราควรกิน วิตามินเด็ก เสริมหรือไม่ คุณพ่อคุณแม่สามารถพิจารณาการกินอาหารของลูกในเบื้องต้น ก่อนปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ โดยดูจากการกินอาหารของลูก ว่าลูกกินอาหารครบทุกมื้อหรือไม่ อาหารที่กินมีคุณค่าทางอาหารครบถ้วน ถูกหลักโภชนาการแล้วหรือยัง เพราะบางครั้ง ลูกอาจกินอาหารไม่เป็นมื้อ กินอาหารไม่ครบทุกมื้อ ห่วงเล่นจนไม่ยอมกินอาหาร กินอาหารได้น้อยเกินไป หรืออาจไม่ยอมกินอาหารบางชนิด เช่น ไม่ยอมกินผัก ไม่ยอมดื่มนม หรืออาจมีอาการแพ้อาหารบางชนิด

หากคุณพ่อคุณแม่พบว่า ลูกของเรากำลังมีพฤติกรรมการกินแบบนี้ สามารถสังเกตว่าลูกของเราชอบกนอะไร ไม่ชอบกินอะไร มากน้อยแค่ไหน มีอาหารกลุ่มไหนที่ลูกกินเยอะ อาหารกลุ่มไหนที่ลูกกินน้อย มีความเสี่ยงที่จะขาดสารอาหารอะไรไปบ้าง จดบันทึกการกินอาหารของลูก แล้วนำไปปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้คุณหมอแนะนำ วิตามินเสริมสำหรับเด็กเพื่อชดเชยสารอาหารที่อาจยังไม่เพียงพอ

 

วิตามินสำหรับเด็ก แตกต่างจากวิตามินสำหรับผู้ใหญ่อย่างไร?

เนื่องจากเด็ก ๆ อาจจะยังไม่เข้าใจถึงความสำคัญของการกินวิตามิน หากวิตามินกลิ่นไม่หอม สีไม่สวย ไม่ดึงดูดใจ รสชาติไม่อร่อย ขนาดเม็ดใหญ่เกินไปจนติดคอ กินลำบาก อาจทำให้ลูกยิ่งต่อต้านไม่ยอมกินวิตามิน ดังนั้นวิตามินสำหรับเด็กจึงถูกออกแบบมาสำหรับเด็กโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นหน้าตาบรรจุภัณฑ์ที่ดูน่ารัก น่ากิน สีสันที่ดูสวยงาม ดึงดูดใจ กลิ่นหอม รสชาติอร่อยน่ากิน ให้สัมผัสในการกินที่กำลังดี ไม่แข็งจนกลืนลำบาก เสี่ยงที่จะติดคอ ไม่เหนียวหนึบจนเด็กเคี้ยวลำบาก มีปริมาณสารอาหารเหมาะสมกับปริมาณที่ร่างกายของเด็กต้องการในแต่ละวัน โดยวิตามินเสริมหลายแบรนด์มีการออกแบบให้อยู่ในรูปแบบคล้ายขนมหวาน จึงช่วยให้ลูกรู้สึกอยากกิน กินง่ายมากขึ้น คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องหว่านล้อมหรือบังคับให้กิน

 

10 แบรนด์ วิตามินเด็ก กินง่าย รสอร่อย มีประโยชน์

วันนี้ทีมแม่ ABK จึงมีวิตามินเด็ก 10 แบรนด์ ที่คัดเลือกมาแล้วว่าอร่อย กินง่าย และมีประโยชน์ เป้นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องการเสริมอาหารให้ลูกรักของเรา

 

Bain Syrup

เริ่มต้นกันที่ น้ำมันปลาเบนไซรัป ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากนูทรีมาสเตอร์ น้ำมันปลาทูน่าที่มีโอเมก้า 3 พร้อมสัดส่วนของ DHA ความเข้มข้นสูงถึง 70% เป็น DHA คุณภาพดี และมีค่าทางชีวภาพสูง (High bio – availability) จึงทำให้สามารถดูดซึมและคงตัวอยู่ในกระแสเลือดได้นาน ออกฤทธิ์ได้นาน มีประสิทธิภาพที่สูงกว่าน้ำมันปลาทั่วไป สำหรับคุณแม่ที่กังวลเรื่องกลิ่นคาว รับประทานยาก Bain Syrup ออกแบบมาให้น้ำมันปลาไม่มีกลิ่นคาว อร่อย รับประทานง่าย แถมยังมาพร้อมกับกลิ่นผลไม้รวม หอมหวานน่ารับประทานอีกด้วย ช่วยให้การรับประทานอาหารเสริมกลายเป็นเรื่องง่าย และสนุกมากยิ่งขึ้น โดยรับประทานหลังอาหาร วันละ 1 ช้อนโต๊ะ หรือ 15 มิลลิลิตร เป็นประจำทุกวัน ก็ช่วยเติมเต็มสารอาหารหลักประจำวันของเด็ก ๆ ได้แล้ว

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.bainsyrup.com/

วิตามินเด็ก
ขอขอบคุณภาพจาก https://www.bainsyrup.com

 

Scott’s เม็ดอม ผสมวิตามินซี

วิตามินซีแบบเม็ดอม หอมอร่อย เคี้ยวสนุก รับประทานง่าย เหมาะสำหรับเด็ก มีส่วนช่วยในกระบวนการต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเสริมภูมิต้านทาน ทำให้ไม่ป่วยง่าย มีส่วนช่วยในการสร้างเนื้อเยื่อคอลลาเจน และเนื้อเยื่อของเอ็นกระดูกอ่อน ช่วยให้แผลหายได้เร็วขึ้น เนื่องจากวิตามินซีช่วยให้ร่างกายซ่อมแซม และรักษาตัวเองโดยการไปเสริมสร้างผนังเซลล์ ทำให้เส้นเลือดฝอยแข็งแรง และต่อต้านอาการอักเสบ ช่วยรักษาสภาพของเซลล์ประสาท จึงมีส่วนช่วยในการบำรุงความจำ รับประทานได้ง่ายเพียงแค่เคี้ยวและกลืนวันละ 2 เม็ด

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.tops.co.th/th/scotts-vitamin-c-pastilles-mixed-berries-flavour-100g-8851007192616

วิตามินเด็ก
ขอขอบคุณภาพจาก https://www.tops.co.th/

 

Seven Sea

อาหารเสริมชนิดน้ำเชื่อมสำหรับเด็ก ที่มาพร้อมหลากหลายสูตร หลากหลายรสชาติ ให้เลือกรับประทานกันได้สะดวก เพื่อตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็น “วิตามินรวมผสมไลซีน ชนิดน้ำเชื่อม รสผลไม้” ที่มีส่วนช่วยให้ลูกเจริญอาหาร “วิตามินรวม ชนิดน้ำเชื่อม รสส้ม” ที่ช่วยบำรุงร่างกายให้ลูกน้อยของเราแข็งแรง สดใสอยู่เสมอ และ “โอเชี่ยนโกลด์ น้ำมันตับปลาผสมวิตามินรวม รสส้ม” ที่มีส่วนผสมของโอเมก้า 3 และ DHA

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/sevenseasthailand/

วิตามินเด็ก
ขอขอบคุณภาพจาก https://www.facebook.com/sevenseasthailand

 

Nat C Yummy Gummyz

วิตามินชนิดเม็ดเคี้ยวและกลืน เคี้ยวง่าย นุ่มหนึบกำลังดี รสอร่อย ทำให้การรับประทานวิตามินกลายเป็นเรื่องที่สะดวก มีวิตามินสูง เพื่อเสริมการขาดวิตามินซี  ประกอบด้วยวิตามินซีปริมาณเพียงพอกับที่ร่างกายต้องการ น้ำตาลกลูโคส กลูโคสไซรัป เจลาติน กรดซิตริก กรดมาลิก และมีการปรุงแต่งรสส้มเพื่อเพิ่มความอร่อย น่ารับประทาน

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.megawecare.co.th/

วิตามินเด็ก
ขอขอบคุณภาพจาก https://www.megawecare.co.th/

 

Nutroplex Oligo Plus

นิวโทรเพล็กซ์ โอลิโก พลัส ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร มัลติวิตามินผสมไบโอติน เหล็ก แอล-ไลซีน เคซีน ไฮโดรเซท และโอลิโกฟลุคโตส รสส้ม มีส่วนผสมของธาตุเหล็กสูง ป้องกันภาวะซีดจากโรคโลหิตจาง ช่วยเรื่องการบำรุงสมอง และวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกายถึง 27 ชนิด เช่น วิตามิน B1 ช่วยกระตุ้นการทำงานของประสาท วิตามิน B2 ช่วยสร้างพลังงานภายในเซลล์ วิตามิน B12 ช่วยบำรุงประสาทและสมอง ทำให้ความจำดี เพื่อพัฒนาการที่ดี และมีสุขภาพที่แข็งแรงสมวัย ช่วยปรับสมดุลลำไส้ทำให้ระบบขับถ่ายดี และไลซีนที่ช่วยในการเจริญเติบโต

ควรรับประทานก่อนอาหารเช้า 30 นาที เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมของธาตุเหล็ก เพราะช่วงเช้าร่างกายเราจะดูดซึมสารอาหารและวิตามินได้ดีโดยเด็กอายุ 1-3 ปี ควรรับประทานวันละครึ่งช้อนชา เด็กอายุ 3-6 ปี ควรรับประทานวันละ 1 ช้อนชา และเด็กอายุ 6 ปีขึ้นไป ควร รับประทานวันละ 2 ช้อนชา

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/nutroplexclub/

วิตามินเด็ก
ขอขอบคุณภาพจาก https://www.facebook.com/nutroplexclub/

 

Mamarine Omega-3 plus L-Lysine

มามารีน คิดส์ โอเมก้า ทรีพลัส ผสมไลซีนและวิตามิน มีส่วนช่วยเรื่องการเจริญอาหาร บำรุงสมอง พัฒนาความจำ โดยมีส่วนผสมสำคัญ ได้แก่ ไลซีน ที่ช่วยให้เจริญอาหาร โอเมก้า 3 ที่ช่วยบำรุงสมอง และพัฒนาความจำ แอลคอนิทีนที่ช่วยเสริมการเจริญเติบโต เหมาะสำหรับเด็กที่มีอายุ 1 ขวบขึ้นไป ขึ้นอยู่กับน้ำหนักตัว ได้แก่

  • น้ำหนัก 7-9 กิโลกรัม รับประทานครั้งละ 1 ช้อนชา (5 CC.) วันละ 1 ครั้ง เวลาใดก็ได้
  • น้ำหนัก 10-14 กิโลกรัม รับประทานครั้งละ 2 ช้อนชา (10 CC.) วันละ 1 ครั้ง เวลาใดก็ได้
  • น้ำหนัก 15 กิโลกรัมขึ้นไป รับประทานครั้งละ 3 ช้อนชา (15 CC.) หรือ 1 ช้อนโต๊ะ วันละ 1 ครั้ง เวลาใดก็ได้

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://mamarinethailand.com/

วิตามินเด็ก
ขอขอบคุณภาพจาก https://mamarinethailand.com/

 

Blackmores Koala Multivitamin + Mineral

แบลคมอร์ส โคอาล่า มัลติวิตามิน และมิเนอรัล มีวิตามินและแร่ธาตุรวมที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น วิตามินซี และวิตามินบี 6 มีส่วนช่วยในการทำหน้าที่ตามปกติของระบบภูมิคุ้มกัน วิตามินเอ มีส่วนช่วยในการเจริญเติบโตของร่างกาย วิตามินบี 12 สูง วิตามินบี 12 มีส่วนช่วยในการทำงานตามปกติของระบบประสาทและสมอง มีส่วนผสมของ ไอโอดีน มาในรูปแบบเม็ดเคี้ยว กลิ่นหอม สตรอว์เบอร์รีและวานิลลา ปราศจากน้ำตาล ใช้สารสกัดจากใบหญ้าหวาน และไซลิทอล ให้ความหวานแทนน้ำตาล วันละ 1 เม็ด พร้อมอาหาร

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.blackmores.co.th/

วิตามินเด็ก
ขอขอบคุณภาพจาก https://www.blackmores.co.th/

 

Centrum kiddi

เม็ดอม ชนิดเคี้ยว ประกอบด้วยวิตามินและเกลือแร่ 16 ชนิดพร้อมเบต้าแคโรทีน โดยมีจุดเด่นคือ มีปริมาณแคลเซียมสูงถึง 144 มก. ต่อ 1 เม็ด มีสังกะสี ช่วยในการเจริญเติบโตของร่างกาย และมีส่วนช่วยในการทำหน้าที่ตามปกติของระบบภูมิคุ้มกัน และไม่มีน้ำตาล คุณพ่อคุณแม่จึงไม่ต้องกังวลเรื่องการกินน้ำตาลในปริมาณที่มากเกินไป ควรรับประทานวันละ 2 เม็ด เป็นประจำทุกวัน

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.centrum.co.th/

วิตามินเด็ก
ขอขอบคุณภาพจาก https://www.centrum.co.th/

 

Nubolic DHA Algae oil

ดีเอชเอจากสาหร่าย ที่มาในรูปแบบของซอฟต์เจลใส เม็ดเล็กรูปปลา กินง่าย ไม่คาว มีกลิ่นเลมอนหอม ๆ ด้วยมาตรฐานการผลิตจากประเทศออสเตรเลีย และได้รับการจดทะเบียน 3 หน่วยงาน ได้แก่ องค์การอนามัยโลก รัฐบาลออสเตรเลีย และองค์การอาหารและยา ประเทศไทย

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่  https://www.facebook.com/nubolic/

วิตามินเด็ก
ขอขอบคุณภาพจาก https://www.facebook.com/nubolic/

ขอขอบคุณภาพจาก https://www.facebook.com/nubolic/photos/3170240643297210

 

Penguin Gummy

เสริมคุณประโยชน์ โดยไม่ต้องกังวลกับน้ำตาล GMO และกลูเตน ปราศจากสารกันเสียและสีสังเคราะห์ ด้วย “เพนกวิน กัมมี่” กัมมี่เคี้ยวสนุก ผสมวิตามิน นวัตกรรมจากประเทศเกาหลี ที่มาพร้อมรถผลไม้ 3 รส ได้แก่ รสองุ่น ที่มีแคลเซียม และวิตามินดี 3 มีส่วนช่วยเสริมสร้างกระดูก ฟัน และกล้ามเนื้อ รสสตรอว์เบอร์รี ที่มีวิตามินบีคอมเพล็กซ์ วิตามินเอ มีส่วนช่วยในการบำรุงสมองและสายตา รสส้ม อุดมไปด้วยวิตามินซี ซึ่งมีส่วนช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานของร่างกาย 😍 เพนกวิน กัมมี่เป็นสินค้าได้รับมาตรฐานระดับโลกเช่น GMP, HACCP, ISO และ FDA

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/PenguinGummy/

วิตามินเด็ก
ขอขอบคุณภาพจาก https://www.facebook.com/PenguinGummy/

 

การกินวิตามินเสริมนั้นควรอยู่ภายใต้การดูของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ คุณพ่อคุณแม่ที่ไม่แน่ใจว่าลูกของเราควรต้องกินอาหารเสริมหรือไม่ ควรปรึกษาแพทย์ทุกครั้ง เพื่อสุขภาพที่ดีของลูกรัก ให้ลูกของเราได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์อย่างครบถ้วน เติบโตแข็งแรง มีพัฒนาการดีค่ะ

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

หมอชี้!!ลูกขาด วิตามินซี อันตรายกว่าที่คิด เสี่ยงเดินไม่ได้

รีวิว “4 วิตามินซีเด็ก วิตามินรวม” อีกหนึ่งตัวช่วยที่แม่ควรรู้จัก!

อาหารที่มีวิตามิน แร่ธาตุ และสารอาหารที่จำเป็นสำหรับเด็กและทารก

 

คนท้องฟันผุ เสี่ยง! ส่งต่อเชื้อทางช่องปากจากแม่สู่ลูก

Alternative Textaccount_circle
event

คนท้องฟันผุ เสี่ยง! ส่งต่อเชื้อทางช่องปากจากแม่สู่ลูก

ปัญหาฟันผุ เกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศ ทุกวัย หากขาดการใส่ใจ เรื่องการรักษาความสะอาด ภายในช่องปาก อย่างเพียงพอ แต่ใน คนท้องฟันผุ นั้น นอกจากจะทำให้เกิดปัญหา กับตัวคุณแม่เองแล้ว ยังส่งผลไปถึงลูกในท้อง ที่อาจได้รับเชื้อแบคทีเรีย จากปัญหาฟันผุของแม่ และลูกมีเหงือก และฟันผิดปกติ เมื่อคลอดออกมาได้ บทความนี้ ช่วยคุณแม่แก้ปัญหานี้ได้ค่ะ

สถานการณ์สุขภาพช่องปากของแม่ท้อง

รายงานการศึกษา สภาวะสุขภาพช่องปาก และพฤติกรรม ที่เกี่ยวกับสุขภาพช่องปาก ของแม่ท้อง ที่มารับบริการในโรงพยาบาล สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ปี 2563 พบว่า แม่ท้องฟันผุ ร้อยละ 50.5 แม่ที่มีฟันผุหลายซี่ จะมีปริมาณเชื้อแบคทีเรียในช่องปากจำนวนมาก มีโอกาสสูง ที่จะถ่ายทอดเชื้อ จากแม่สู่ลูกมากขึ้น ทำให้ลูกมีความเสี่ยงสูง ในการเกิดโรคฟันผุ

คนท้องฟันผุ เกิดจากเหตุใดบ้าง

  1. ฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงในร่างกาย โดยการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ในช่วงที่คุณแม่ตั้งครรภ์ ส่งผลให้ผนังเส้นเลือดฝอยในเหงือก และเนื้อเยื่อในช่องปากเปลี่ยนแปลง ทำให้เหงือก และเนื้อเยื่อภายในช่องปากอ่อนแอ เปราะบาง ไม่แข็งแรงเหมือนก่อน ทำให้เกิดอาการปวด เหงือกอักเสบ หรือเลือดออกในช่องปากง่าย
  2. เมื่อภายในช่องปากมีความอ่อนแอ ทำให้การดูแล รักษาฟันทำได้ยากมากขึ้น เพราะการแปรงฟันแบบเดิมก็อาจทำให้มีเลือดออกในช่องปากได้ง่าย ทำให้คุณแม่ดูแลรักษาความสะอาดภายในช่องปากได้ไม่ทั่วถึงและมากพอค่ะ
  3. ความอยากอาหารที่มีมากขึ้นของคุณแม่ในช่วงตั้งครรภ์ ทำให้กินจุกจิก หิวบ่อย แต่ไม่ได้ทำความสะอาดช่องปากทุกครั้งหลังมื้ออาหาร ทำให้เกิดการสะสมของแบคทีเรียในช่องปาก เกิดปัญหาฟันผุและปวดฟันตามมา
  4. อาการแพ้ท้องที่คุณแม่อาเจียน ซึ่งทำให้เศษอาหารและกรดในกระเพาะ ขึ้นมาติดค้างบริเวณช่องปากและฟัน
  5. สภาวะทางช่องปากของคุณแม่ เช่น คุณแม่ที่อาจจะมีฟันที่กำลังเริ่มผุ หรือมีอาการอยู่แล้ว หรือภายในช่องปากมีหินปูนเกาะอยู่เยอะ เป็นต้น
คนท้องฟันผุ
แปรงฟัน และทำความสะอาดช่องปากเสมอ หลังมื้ออาหาร โดยทันตแพทย์ได้แนะนำให้แม่ท้องรักษาฟัน ด้วยการแปรงฟันตามสูตร 222

แม่ท้องป้องกันฟันผุได้อย่างไรบ้าง

อย่างที่บอกไว้แล้วว่า แม่ท้องควรดูแลฟันของตนเองเป็นพิเศษ เพราะหากมีปัญหาฟันผุและเหงือกอักเสบ จะส่งผลให้เกิดความผิดปกติกับเหงือก และฟันของลูกได้ เนื่องจากฟันน้ำนมของลูก เริ่มสร้างตั้งแต่ทารกอยู่ในครรภ์มารดาเพียง 6 สัปดาห์เท่านั้น หากแม่ได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วน จะส่งผลให้ลูกมีการสร้างหน่อฟันที่ผิดปกติ มีผลทำให้มีการสร้างต่อมน้ำลายที่ไม่สมบูรณ์ ผลิตน้ำลายได้น้อย ลูกจะเกิดฟันผุง่าย วิธีที่จะช่วยป้องกัน ได้แก่

  • เมื่อทราบว่าตั้งท้อง หรือวางแผนจะตั้งท้อง คุณแม่อาจเข้าพบทันตแพทย์ เพื่อตรวจสภาพช่องปาก และดูแลช่องปากให้เรียบร้อย เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดฟันผุ หรืออาการเหงือกอักเสบตั้งแต่เริ่มต้นค่ะ
  • ไม่ลืมที่จะแปรงฟัน และทำความสะอาดช่องปากเสมอ หลังมื้ออาหาร โดยทันตแพทย์ได้แนะนำให้แม่ท้องรักษาฟัน ด้วยการแปรงฟันตามสูตร 222 หมายถึง การแปรงฟันนานครั้งละ 2 นาที ซึ่งเป็นเวลาที่ฟลูออไรด์กระจายตัวได้อย่างทั่วถึง และมีประสิทธิภาพในการดูแลสูงที่สุด วันละ 2 ครั้ง และ หลังแปรงฟันควรงดขนมหวาน น้ำอัดลม 2 ชั่วโมง
  • รับประทานอาหารที่ช่วยเสริมสร้างแคลเซียม ทำให้กระดูกแข็งแรง
  • หากพบว่ามีอาการปวดฟันตอนท้อง แม้เพียงเล็กน้อย ก็ควรรีบเข้ารับการตรวจฟันเลยค่ะ เพราะสำหรับคนท้องจะมีระยะเวลาที่เหมาะสมในการทำฟัน คือ ในช่วงเดือนที่ 4-6 ของการตั้งครรภ์ ก่อนที่การเข้าดูแลรักษาฟันจะทำได้ลำบากขึ้นในช่วงที่คุณแม่ท้องแก่กว่านี้
  • ใช้ไหมขัดฟัน ช่วยในการทำความสะอาดฟัน เพราะสามารถช่วยทำความสะอาดได้ลึก และมากกว่าแปรงสีฟันค่ะ ช่วยลดการสะสมของเศษอาหาร และแบคทีเรียได้

การแปรงฟันให้สะอาดและถูกวิธี

การแปรงฟันให้สะอาดและถูกวิธีประกอบไปด้วย

    • การเลือกแปรงสีฟัน แปรงสีฟันที่ดีควรจะมีหน้าตัดที่ตรง ไม่ใหญ่จนเกินไปสามารถครอบคลุมฟันได้ 2 – 3 ซี่ ด้ามแปรงสีฟันควรจับได้ถนัดมือ ขนแปรงสีฟันนุ่มเพื่อช่วยให้ซอกซอนไปในระหว่างซอกฟันได้ดี การเลือกขนแปรงที่แข็งมากจนเกินไปจะทำให้ฟันสึก และเป็นต้นเหตุให้เสียวฟันได้
    • บริเวณที่แปรงควรแปรงทุกๆ ด้านให้ทั่วถึงของฟันทุกซี่อย่างน้อย 4 – 5 ครั้ง โดยเฉพาะด้านลิ้นของฟันล่าง และด้านท้ายของฟันซี่ในสุด รวมทั้งกระพุ้งแก้ม และลิ้น ซึ่งสามารถเป็นแหล่งสะสมของคราบจุลินทรีย์ได้
    • การเลือกยาสีฟันยาสีฟันเป็นตัวช่วยให้การแปรงฟัน ทำได้ง่าย และสะอาดขึ้นยาสีฟันที่ดีควรมีส่วนผสมของฟลูออไรด์เพื่อสงเสริมการป้องกันฟันผุ

ปัญหาฟันผุในแม่ตั้งครรภ์ ไม่ใช่เรื่องที่แม่ควรนิ่งนอนใจ หากเพิ่งตั้งครรภ์หรืออายุครรภ์อยู่ในช่วง 4 – 6 เดือน คุณแม่ควรรีบพบทันตแพทย์ เพื่อตรวจเช็ก และรักษาอย่างถูกวิธี เพื่อความปลอดภัยของช่องปากของลูกน้อยค่ะ

ขอบคุณข้อมูลจาก

TNN, สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยีไทย – ญี่ปุ่น, ไทยรัฐออนไลน์

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

กรมอนามัยเตือน! ปล่อยลูก ฟันผุ เสี่ยงเด็กแคระแกร็น!!

8 ข้อผิดพลาดของพ่อแม่ สาเหตุลูกฟันผุ ก่อนวัยอันควร

จัดฟันเด็ก พาลูกไป จัดฟัน อายุเท่าไหร่ ดีที่สุด?

10 ผ้ากันเปื้อนเด็ก สวมง่าย นุ่มสบาย ไม่เลอะเทอะ

Alternative Textaccount_circle
event

10 ผ้ากันเปื้อนเด็ก สวมง่าย นุ่มสบาย ไม่เลอะเทอะ

ลูกน้อยในวัยทารกยังเป็นวัยที่ควบคุมน้ำลายตัวเองไม่เก่ง เวลากินข้าวอาจจะเผลอทำหก หยด กระเด็น ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ก็ต้องคอยสังเกตและเช็ดให้อยู่ตลอดทั้งวัน บางทีก็เผลอทำน้ำลายยืดย้อยลงเสื้อเป็นภาพที่เห็นแล้วน่าเอ็นดู แต่ก็แอบเพลียที่จะต้องคอยถอดไปซักตลอดทั้งวัน ปัญหานี้จะหมดไปถ้ามี ผ้ากันเปื้อนเด็ก หรือผ้าซับน้ำลาย ไอเท็มจำเป็นที่ควรมีติดคอลูกน้อยไว้ จะได้ช่วยป้องกันความเปรอะเปื้อนให้ลูกน้อยได้ ใครที่กำลังมองหาผ้ากันเปื้อนคุณภาพดี ทีมแม่ขอจูงมือไปเลือกดูด้วยกันเลยค่ะ

ผ้ากันเปื้อน

ผ้ากันเปื้อนเด็ก ถือเป็นของใช้เด็กทารกที่คุณพ่อคุณแม่ต้องเตรียมไว้แต่แรกเกิดเลย ใช้ได้สารพัดประโยชน์ ทั้งเช็ดคราบนม คราบน้ำลาย คราบอาหาร ฯลฯ โดยทั่วไป ผ้ากันเปื้อนเด็กจะเหมาะกับเด็กช่วงวัย 4 เดือนขึ้นไป เพราะสามารถออกนอกบ้านได้แล้ว ดังนั้นผ้ากันเปื้อนจึงไม่เพียงเป็นตัวช่วยซับคราบต่าง ๆ แต่ยังเป็นหนึ่งในแฟชั่นที่ช่วยเสริมภาพลักษณ์น่ารักน่าเอ็นดูให้กับลูกน้อยอีกด้วย

 

ผ้ากันเปื้อนเด็ก แบบไหนดี

  • ควรเลือกให้เหมาะกับการใช้งาน หลัก ๆ ตามท้องตลาด คือ U Type แบบพาดด้านหน้าแล้วอ้อมไปติดที่คอด้านหลัง ป้องกันเฉพาะด้านหน้า ใช้งานได้ทั่วไป ส่วนแบบ Round Type เป็นผ้ากันเปื้อนรอบคอ 360 องศา เหมาะกับลูกน้อยที่ชอบหันไปมา ไม่ค่อยอยู่นิ่ง และแบบ Drool/Dribbler Bibs สามารถกันเปื้อนได้รอบด้าน และเพิ่มการซับน้ำลายได้ดียิ่งขึ้น
  • วัสดุที่ใช้เหมาะกับจุดประสงค์ใช้งาน หากต้องการซึมซับ ควรเลือกเนื้อผ้าที่ซึมซับดี หากต้องการป้องกันความสกปรก ควรเลือกวัสดุที่ไม่ซึมซับ สามารถทำความสะอาดได้ง่าย
  • เลือกให้เหมาะกับช่วงวัย ถ้าเป็นวัยแรกเกิดถึง 3 เดือน ควรเป็นผ้านุ่ม อ่อนโยนต่อผิวลูก อย่างเส้นใยฝ้ายออร์แกนิค 4-5 เดือน ควรเลือกผ้าฝ้ายที่นุ่มและซึมซับได้ดี และ 6 เดือนขึ้นไป ควรป้องกันคราบอาหารได้ดี ทำความสะอาดง่าย ทนทาน กันซึมเปื้อน
  • อ่อนโยนต่อผิวเด็ก ผ้าฝ้ายหรือเส้นใยธรรมชาติจึงเป็นตัวเลือกหลัก ควรปลอดภัย ปราศจากสารเคมี หรือหากเป็นผ้าโพลีเอสเตอร์ ผ้าไนลอน หรือซิลิโคน ซึ่งมีคุณสมบัติกันซึม ก็จะเหมาะใช้เวลาป้อนอาหาร
  • วัสดุที่ใช้ผูกหรือติด เป็นอีกสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน หากเป็นเชือกผูกหรือเมจิกเทป จะสามารถให้ปรับตามขนาดคอได้ หรือถ้าเลือกแบบกระดุมควรเป็นพลาสติกที่ไม่ระคายเคืองผิวเด็ก

 

  1. Iflin Baby รุ่น My Style Bamboo Burp & Bib (2in1)

ผ้ากันเปื้อนเนื้อนุ่มแบบ Round Type ผลิตจากเส้นใยไผ่ธรรมชาติ จึงเหมาะกับลูกน้อยวัยตั้งแต่แรกเกิดถึง 12 เดือน นอกจากเป็นผ้ากันเปื้อนคุณภาพดีแล้ว ด้านในยังเสริมให้หนานุ่ม จึงสามารถปรับเป็นผ้าคลุมไหล่และหมอนหนุนได้ด้วย เรียกว่าซื้อ 1 ชิ้นแต่ได้หลายอย่างเลย ทำความสะอาดก็ง่าย แห้งเร็ว มีกระดุมเป็นตัวติด ใช้ง่ายสะดวก

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://iflinbaby.com/

ผ้ากันเปื้อนเด็ก
ขอขอบคุณภาพจาก https://iflinbaby.com/

 

  1. Bumkins รุ่น Junior Bib

รุ่นนี้ผลิตจากโพลีเอสเตอร์ที่ปราศจาก BPA จึงปลอดภัยกับลูกน้อย มาในรูปแบบเสื้อแขนสั้น สวมใส่ง่าย มีแถบปรับขนาดบริเวณคอ น้ำหนักเบา และพกพาสะดวก ด้านหน้ามีช่องรองเศษอาหาร เหมาะสำหรับใส่กันเปื้อนช่วงกินอาหาร ป้องกันน้ำและคราบเศษอาหารได้ ที่สำคัญคือทำความสะอาดง่าย จะเช็ด จะล้าง หรือซักเครื่องได้หมด ช่วยลดภาระทำความสะอาดของคุณพ่อคุณแม่ได้สบาย

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.bumkins.com/

ผ้ากันเปื้อนเด็ก
ขอขอบคุณภาพจาก https://www.bumkins.com

 

  1. Enfant รุ่น Disposable Bibs

เป็นผ้ากันเปื้อนที่สามารถใช้แล้วทิ้งได้ เพื่อสุขอนามัยที่ดี เหมาะสำหรับเวลาพาลูกน้อยออกนอกบ้านแล้วกินเลอะเทอะ วัสดุเป็นผ้า Cotton ผสมกับเยื่อกระดาษ 3 ชั้น มีเคลือบกันซึมด้านหลังด้วย เนื้อสัมผัสก็อ่อนโยนกับผิวลูกน้อย และยังสามารถพลิกกลับด้านขึ้นมาใช้เป็นที่รองเศษอาหารได้อีกด้วย บรรจุภัณฑ์มาเป็นแบบกล่อง พกพาสะดวก สามารถดึงหยิบใช้ได้ง่าย ๆ คุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ควรมีติดไว้

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.enfantfamily.com/

https://www.facebook.com/Enfant.MomClub

ผ้ากันเปื้อนเด็ก
ขอขอบคุณภาพจาก https://www.facebook.com/Enfant.MomClub/

 

  1. Dodo Love

ผ้ากันเปื้อนแบบ Round Type ดีไซน์ลวดลายน่ารักสุด ๆ เนื้อผ้าผลิตจากผ้าฝ้ายธรรมชาติ หนานุ่ม ไม่ระคายเคืองผิวลูกน้อย และซับน้ำลายได้ดี สามารถใช้ได้รอบด้าน 360 องศา มาพร้อมกระดุมแป๊กพลาสติก ไม่ระคายเคืองผิว ซักง่าย เนื้อผ้าระบายอากาศได้ดี แห้งไว ยิ่งซักยิ่งนุ่ม รุ่นนี้มาเป็นเซ็ต 5 ชิ้น ราคาน่าคบ จ่ายครั้งเดียวคุ้มเลย

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.dodolove.com/

ผ้ากันเปื้อนเด็ก
ขอขอบคุณภาพจาก http://www.dodolove.com/

 

  1. Absorba

แบรนด์เสื้อผ้าเด็กจากฝรั่งเศสที่คุณพ่อคุณแม่มั่นใจมานาน เพราะใช้มาตั้งแต่รุ่นคุณพ่อคุณแม่เลยทีเดียว แม้แต่ผ้ากันเปื้อนก็ยังผ่านการคัดสรรวัสดุและวิจัยมาอย่างดี โดยเลือกใช้ Pima Cotton มาถักทอเป็นผืน ได้เนื้อสัมผัสที่เนียนนุ่ม ซึมซับดี ปราศจากสารเคมี จึงไม่ระคายเคืองผิวลูกน้อย รุ่นนี้มาแบบ U Type ติดกระดุุมด้านหลัง ใช้ง่าย ลายก็น่ารักน่าเอ็นดู เหมาะกับลูกน้อยวัยตั้งแต่แรกเกิดขึ้นไป

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://web.facebook.com/AbsorbaclubThailand/

ผ้ากันเปื้อนเด็ก
ขอขอบคุณภาพจาก https://www.facebook.com/AbsorbaclubThailand

 

  1. PAPA BABY

หากเวลากินข้าวของลูกน้อยเลอะเปรอะเปื้อนจนเหนื่อยจะทำความสะอาด ผ้ากันเปื้อนแบบซิลิโคนต้องเข้าแล้วค่ะ แบรนด์นี้ดีไซน์มาเป็นลวดลายสัตว์ต่างๆ น่ารักมาก เป็นทรง U Type ที่สวมใส่ง่าย ปรับได้ 6 ระดับ มีช่องรองอาหาร เนื้อซิลิโคนมีความนิ่ม ยืดหยุ่น ปราศจากสาร BPA จึงปลอดภัย ล้างเช็ดง่าย ไม่ซึมซับ แถมยังทนความร้อนสูงได้ จึงสามารถนำไปต้มหรือนึ่งได้อย่างปลอดภัย

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://web.facebook.com/Papafarlinbaby/

ผ้ากันเปื้อนเด็ก
ขอขอบคุณภาพจาก https://www.facebook.com/Papafarlinbaby/

 

  1. Pognae

แบรนด์คุณภาพจากเกาหลี เป็นแบบ U Type ที่ทำจากผ้าฝ้ายออร์แกนิค 100% ถึง 3 ชั้น จึงป้องกันน้ำลายซึมได้ดี เนื้อผ้านุ่ม ปราศจากสารเคมี จึงปลอดภัยและอ่อนโยนต่อผิวลูกน้อย นอกจากนี้ยังออกแบบให้ใช้ร่วมกับ Hip Seat ได้ด้วย เหมาะกับลูกน้อยเวลาออกเดินทางไปนอกบ้านกับคุณพ่อคุณแม่

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://web.facebook.com/POGNAE.Thailand/

ผ้ากันเปื้อนเด็ก
ขอขอบคุณภาพจาก https://web.facebook.com/POGNAE.Thailand/

 

  1. Baby & Co.

เป็นผ้าสารพัดประโยชน์ จะใช้กันเปื้อนก็ได้ ซับน้ำลายก็ดี จะผูกเป็นแฟชั่นก็ดูน่ารักไปอีกแบบ วัสดุผลิตจากใยฝ้ายธรรมชาติ 100% ผ่านการรับรองจาก COTTON USA™ จึงให้สัมผัสที่นุ่มสบาย ไม่ระคายผิวลูกน้อย แถมมีเทคโนโลยี Dri-Tex จึงระบายอากาศได้ดี แห้งเร็ว สามารถปรับขนาดรอบคอได้ถึง 3 ระดับ เซ็ตหนึ่งมีถึง 3 ชิ้น ซื้อครั้งเดียวคุ้ม ใช้กันไปยาว ๆ ได้เลยค่ะ

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.bclink.co/shop/babyandco/

ผ้ากันเปื้อนเด็ก
ขอขอบคุณภาพจาก https://www.bclink.co

 

  1. Hudson Baby

ผ้ากันเปื้อนทรง U Type ดีไซน์น่ารักทั้งลวดลายและรูปแบบ ดูคล้ายเสื้อตัวน้อยมีแถบติดอยู่ด้านหลัง สวมใส่ง่าย ถอดง่าย ลายก็ดูเก๋น่ารัก มาเป็นเซ็ตเสื้อผ้าเข้ากัน ถูกใจคุณพ่อคุณแม่ วัสดุผลิตจากผ้า Cotton 100% จึงอ่อนโยนต่อผิว ซึมซับได้ดี ทำความสะอาดก็ง่าย เหมาะสำหรับลูกน้อยตั้งแต่วัยแรกเกิด ถึง 9 เดือน

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://hudsonchildrenswear.com/

ผ้ากันเปื้อนเด็ก
ขอขอบคุณภาพจาก https://hudsonchildrenswear.com/

 

  1. Bibado

แบรนด์ชุดคลุมกันเปื้อนจากอังกฤษ สามารถสวมทับเสื้อผ้าได้เลย ไม่ต้องกังวลอีกต่อไปว่า เวลาลูกน้อยกินข้าวจะทำอาหารหกเลอะเทอะจนเหนื่อยทำความสะอาด เพราะชุดนี้ออกแบบมาให้ตอบโจทย์การใช้งานแล้ว ผลิตจากโพลียูรีเทน Food Grade ปราศจากสาร BPA กันน้ำ กันคราบ ทำความสะอาดง่าย พับเก็บง่าย พกพาสะดวก ตัวชุดยังสามารถปรับขนาดตรงคอและแขนได้อีก เผื่อลูกโต ซื้อครั้งเดียวใช้ได้นาน

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://web.facebook.com/Bibado.thailand/

ผ้ากันเปื้อน เด็ก
ขอขอบคุณภาพจาก https://www.facebook.com/Bibado.thailand/

ขอขอบคุณภาพจาก https://www.facebook.com/Bibado.thailand/photos/489887669167983

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

ผ้าคลุมให้นม 10 แบรนด์ ใส่สบาย คล่องตัว ไม่กลัวโป๊

เปิดกระเป๋าแม่ลูกอ่อน ส่องไอเท็ม (ไม่) ลับ ที่คุณแม่ต้องมีติดกระเป๋า ติดบ้าน ห้ามขาด!!

checklist เตรียมของก่อนคลอด ยังไงไม่บานปลายได้ของครบ

ใครเก็บ ยาน้ำ ในตู้เย็นบ้าง?เลิกด่วน!ยาบางชนิดงดแช่เย็น

Alternative Textaccount_circle
event

ยาน้ำ ยาน้ำเชื่อม ยาน้ำแขวนตะกอน ชอบเก็บในตู้เย็นกันใช่ไหม เภสัชกรมาไขความจริง ทำไมถึงไม่ควรเก็บยาบางชนิดในตู้เย็น ไม่แค่มีผลต่อคุณภาพยายังอันตรายอีกด้วย

ใครเก็บ ยาน้ำ ในตู้เย็นบ้าง?เลิกด่วน!ยาบางชนิดงดแช่เย็น

ยา เป็นสิ่งจำเป็น และสำคัญเมื่อยามเราเจ็บป่วย เป็นตัวช่วยให้บรรเทาอาการเจ็บป่วย และช่วยรักษา ต่อสู้กับเชื้อโรค หรือปรับสมดุลให้แก่ร่างกายให้กลับมาทำงานตามปกติ ดังนั้น การคงสภาพให้ยาที่ได้รับมาจากคุณหมอให้มีคุณภาพเต็มที่ เต็มประสิทธิภาพ เพื่อให้ยานั้นทำงานได้อย่างเต็มที่เป็นเรื่องที่เราควรเรียนรู้ไว้ การจะให้ยาคงประสิทธิภาพให้ได้ดี ก็ขึ้นอยู่กับการเก็บรักษาอย่างไร เพราะยาแต่ละชนิดก็มีวิธีการเก็บรักษายาแตกต่างกันไป

การเก็บรักษา ยาน้ำ ยาน้ำเชื่อม ที่ถูกต้อง
การเก็บรักษา ยาน้ำ ยาน้ำเชื่อม ที่ถูกต้อง

เก็บยา อย่างไรให้ถูกต้อง?

1. เก็บให้พ้นแสงแดด ไม่เก็บไว้ในรถ

อย่าเก็บยาไว้ในที่ร้อน หรือโดนแสงแดด จะทำยาเสื่อมคุณภาพเร็ว ทำให้ไม่ได้ผลในการรักษา และอาจเป็นอันตรายต่อผู้ใช้ เมื่อได้รับยาจากคุณหมอมาแล้ว ไม่ควรเก็บ หรือวางยาไว้ในรถ เพราะอุณหภูมิในรถสูงกว่าอุณหภูมิห้องปกติ (15-30 องศาเซลเซียส) อาจสูงมากกว่า 40 องศาเซลเซียส ทำให้ยาเสื่อมสภาพ เสื่อมประสิทธิภาพในการรักษา คุณภาพลดลงหรือเสียไป ยาบางชนิดจะหลอมละลายเมื่อถูกความร้อน เช่น ยาเหน็บทวารหนัก เป็นต้น

ตัวอย่างยาที่อ่อนไหวต่อแสงแดด สังเกตได้จากยาจะถูกบรรจุในถุง หรือในขวดสีชา ยาเหล่านี้ ได้แก่ วิตามินบี 6, วิตามินเอ, ยาพวกฮอร์โมน, ยาคุมกำเนิด, ยาน้ำเชื่อมของเด็กหลายชนิด, ยาปฏิชีวนะ เป็นต้น ยาที่ถูกเก็บไว้ในขวดสีชา แม้จะกันแสงแดดได้บ้าง แต่ถ้าวางไว้รับแสงโดยตรง แสงแดดก็จะมีผลต่อการเปลี่ยนสภาพของยา และทำให้ยาหมดอายุได้เร็วขึ้น

2. การเก็บยาในตู้เย็น

ยาบางชนิดอาจระบุให้เก็บในตู้เย็น โดยให้เก็บในตู้เย็นช่องธรรมดา ไม่เก็บไว้ในช่องแช่แข็ง และไม่ควรเก็บไว้ที่ฝาตู้เย็น เพราะเมื่อเราเปิดปิดตู้เย็น อาจทำให้อุณหภูมิเปลี่ยนแปลงบ่อยจนกระทบกับคุณภาพของของยาได้

3. ปิดฝาให้สนิทเมื่อไม่ได้ใช้ยา

ปกติแล้ว ในอากาศจะมีก๊าซต่าง ๆ ซึ่งก๊าซบางชนิด สามารถเร่งให้ยาเสื่อมสภาพได้เร็วขึ้น ดังนั้น จึงควรเก็บยาในภาชนะที่สามารถปิดได้สนิทมิดชิด รวมถึงไม่แกะยาออกจากภาชนะบรรจุเดิม โดยที่ยังไม่ต้องการใช้ เช่น การแกะเม็ดยาออกจากแผงยา เพื่อความสะดวกในการกินยา

4. ตรวจสอบวันหมดอายุของยาอยู่เสมอ

ให้สังเกตที่ฉลากซึ่งจะระบุวันหมดอายุ (EXP. DATE) เอาไว้ (ถ้าไม่ทราบให้ถามเภสัชกร) ยาที่หมดอายุแล้วจะมีลักษณะทางกายภาพของเม็ดยาที่เปลี่ยนแปลงไปจากปกติ เช่น สีเปลี่ยนไปจากเดิม มีจุดด่างบนเม็ดยา มีกลิ่นที่ผิดปกติ มีการตกตะกอน หรือจับกันของผงยาน้ำ การแยกชั้นของเนื้อครีม หากพบว่ายาหมดอายุแล้ว ควรทิ้งทันที และไม่ใช้ยาที่มีลักษณะผิดปกติ เพื่อป้องกันอันตรายจากยาที่เสื่อมสภาพ

ยาตัวช่วยเมื่อลูกไม่สบาย
ยาตัวช่วยเมื่อลูกไม่สบาย

5. อย่าเก็บยาใช้ภายนอกรวมกับยากิน

ควรมีตู้ยา สำหรับเก็บยาโดยเฉพาะ โดยเก็บยาสำหรับกิน และยาใช้ภายนอก แยกออกจากกันให้เป็นสัดส่วน เพื่อป้องกันการหยิบยาผิด

6. อย่าเก็บยาในที่ชื้น

ยาหลายชนิด เมื่อเจอความชื้นจะเกิดการแปรสภาพ หรือเสื่อมสภาพ และยาเม็ดส่วนใหญ่เมื่อโดนความชื้นจะมีผลต่อชั้นเคลือบเม็ดยา ทำให้บวม หรือเกาะเป็นก้อนได้ จึงไม่ควรเก็บยาในบริเวณที่มีความชื้นสูง ควรเก็บยาในภาชนะบรรจุตั้งต้นจากบริษัทยา หลีกเลี่ยงการเก็บยาในบริเวณที่มีความชี้นสูง เช่น ห้องน้ำ หรือห้องครัว เเละปิดฝาขวดยาให้สนิททุกครั้งหลังเปิดใช้

7. เก็บยาให้พ้นมือเด็ก

ตู้ยาควรติดไว้ในระดับที่สูงเกินกว่าที่เด็กจะหยิบถึง เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์

เก็บยาในตู้เย็นดีกว่าจริงหรือ??

หลาย ๆ คนมีความเชื่อในแบบเดียวกันอยู่อย่างหนึ่ง คือ เมื่อได้ยามาแล้วมักเก็บยัดไว้ในตู้เย็น เนื่องด้วยคิดว่าป้องกันไม่ให้ยาเสีย หรือคิดว่าตู้เย็นป้องกันการเสื่อมสภาพของยาได้ แล้วความจริง การเก็บยาในตู้เย็นดีกว่าจริงหรือ?

หลายคนมีความเชื่อว่า การเก็บยาไว้ในที่ที่มีอุณหภูมิต่ำ ๆ จะทำให้รักษาความคงตัวของยาได้นานขึ้น หรืออาจเข้าใจว่าจะสามารถยืดวันหมดอายุของยาให้นานขึ้นได้ จึงมักพบว่าบางคนจะเก็บยาทุกชนิดไว้ในตู้เย็น ซึ่งแท้จริงแล้วการเก็บยาไว้ในตู้เย็นอาจทำให้ยาหมดความคงตัวได้เช่นกัน เนื่องจากอุณหภูมิ และความชื้นอาจไม่เหมาะสมกับยาบางชนิด เช่น หากนำยาแขวนตะกอน หรือ ยาน้ำ เชื่อมบางประเภทมาแช่เย็น จะทำให้เกิดการตกตะกอนได้ หรือยาแคปซูลบางชนิดที่มีการเก็บไว้ในตู้เย็นที่มีความชื้นสูง มักทำให้แคปซูลเยิ้มหรือติดกันได้

การแช่ยาบางชนิดในตู้เย็น นอกจากจะทำให้เกิดการเสื่อมสลายของตัวยาสำคัญแล้ว ยังทำให้เกิดสารพิษขึ้นได้ เช่น การแช่ยาเม็ดแอสไพรินในตู้เย็นที่มีความชื้นสูงจะทำให้เกิดการสลายตัวเป็นกรดซาลิไซลิกและกรดอะซิติก ซึ่งไม่มีผลในการต้านการแข็งตัวของเกล็ดเลือด รวมทั้งยังทำให้เกิดพิษ ทำให้ร่างกายเกิดการขาดออกซิเจน ชัก และหมดสติได้เมื่อรับในประมาณปริมาณสูง

ดังนั้น การเก็บยาไว้ในตู้เย็น จึงไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุดสำหรับยาทุกประเภท ควรอ่านฉลากยาหรือรายละเอียดบนกล่องยาเพื่อศึกษาถึงอุณหภูมิที่เหมาะสมในการเก็บรักษาอย่างถูกต้อง

ผู้เขียน : ภก.อนุชิต ตุงธนบดี งานเภสัชกรรมคลินิก ฝ่ายเภสัชกรรม
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
ยาน้ำ เมื่อลูกกินยายาก
ยาน้ำ เมื่อลูกกินยายาก

เภสัชกรแนะ! ยาน้ำ ยาน้ำเชื่อม  อย่าแช่ตู้เย็น

ยาน้ำ ยาน้ำเชื่อม หรือ syrups ไม่แนะนำให้แช่ตู้เย็น เพราะว่าตู้เย็นจะดูดความชื้น ทำให้น้ำในตำรับลดลง ความเข้มข้นของยาก็เปลี่ยนไป ความหนืดจะเพิ่มมากขึ้น เวลานำไปใช้ ก็จะทำให้ได้ปริมาณที่ไม่แน่นอน และต้องระวังยาจำพวกที่มี ส่วนผสมของน้ำตาลเยอะมาก เช่น ยาน้ำเชื่อม เพราะนอกจากจะทำให้ความหนืดของยามากขึ้น ทำให้น้ำในตำรับลดลง ยังทำให้เพิ่มโอกาสการเกิดผลึกน้ำตาลเกาะที่ปากขวด จนเสื่อมสภาพได้ ยาน้ำ และยาหลาย ๆ ชนิดสามารถอยู่นอกตู้เย็นได้ เราสามารถวางไว้ในอุณหภูมิห้องปกติได้ เพียงแค่ระวังไม่ให้โดนแสงแดด ดังนั้น หลังจากได้รับยามาจากโรงพยาบาล ร้านยา คลินิก ต้องตรวจสอบให้ดีนะคะ ว่าเป็นยาประเภทไหน เพราะยาแต่ละชนิดมีวิธีการ​เก็บ​ต่างกัน

วิธีเก็บยา ไว้ในตู้เย็นอย่างถูกวิธี

ภญ.พวงเพ็ญ ฤทธีวีรกูล ได้กล่าวไว้ว่า ยาหลายชนิดจะเสื่อมสภาพได้ หากจัดเก็บในอุณหภูมิที่ไม่เหมาะสม และได้แนะนำวิธีเก็บยาในตู้เย็นไว้ดังนี้

ตำแหน่งจัดเก็บยาในตู้เย็นที่เหมาะสม คือ ชั้นกลางที่อยู่ใกล้ตำแหน่งที่มีช่องความเย็น เนื่องจากจะมีอุณหภูมิคงที่มากกว่าบริเวณอื่น ๆ

ข้อควรระวัง และข้อห้ามในการเก็บยาในตู้เย็น มีดังนี้

  • ไม่ควรเก็บยาที่ฝาประตูตู้เย็น เพราะอุณหภูมิไม่คงที่ เปลี่ยนแปลงง่ายขณะเปิด-ปิด ใช้งาน
  • ไม่ควรเก็บยาในช่องแช่แข็ง หรือชั้นบนสุดใต้ช่่องแช่แข็ง เพราะ อุณหภูมิอาจเย็นจัดเกินไปจนยาแข็งตัว ทำให้เสื่อมสภาพได้
  • ไม่ควรเก็บยาในช่องแช่ผักผลไม้ เพราะอาจปนเปื้อนได้ง่าย
  • ห้ามนำอาหารแช่เย็นปนกับยา ควรมีภาชนะจัดเก็บยาแยกจากอาหารในตู้เย็นอย่างชัดเจน เพื่อให้สะดวกต่อการหยิบใช้ และ ลดการปนเปื้อนจากกลิ่นไอของอาหาร
เภสัชกรแนะ ไม่ควรเก็บ ยาน้ำ ในตู้เย็น
เภสัชกรแนะ ไม่ควรเก็บ ยาน้ำ ในตู้เย็น

วิธีสังเกตการเสื่อมสภาพและไม่คงตัวของยาน้ำแต่ละรูปแบบ

  1. ยาผงแห้ง ผงยาจะจับตัวกันเป็นก้อนแข็งที่ไม่ปกติ ไม่สามารถละลายได้ และถ้าผนังภาชนะบรรจุมีไอน้ำหรือหยดน้ำแสดงว่ายาเตรียมนั้นไม่เหมาะที่จะนำไปใช้
  2. ยาน้ำแขวนตะกอน เช่น ยาคาลาไมน์ทาแก้คัน หากเสื่อมสภาพ ตะกอนจะจับกันเป็นก้อน เกาะติดกันแน่น เขย่าแล้วไม่กระจายตัวดังเดิม มีความเข้มข้น กลิ่น สีหรือรสเปลี่ยนไป
  3. ยาน้ำเชื่อม หากหมดอายุ ยาจะมีลักษณะขุ่นมีตะกอน ผงตัวยาละลายไม่หมด สีเปลี่ยน มีกลิ่นบูดเปรี้ยวหรือรสเปรี้ยว
  4. ยาน้ำใส หากสี กลิ่นเปลี่ยนไป หรือมีตะกอน ลักษณะยาน้ำนั้นขุ่น ไม่ใส เหมือนตอนเริ่มผลิต ควรทิ้งยาน้ำนั้น

ในบางครั้ง พ่อแม่อาจรู้สึกว่า ทำไมลูกกินยาแล้วไม่หายซักที แนะนำว่าให้ลองกลับไปสังเกตที่ผลิตภัณฑ์ยาน้ำที่ได้มานั้นดูว่า ยาน้ำที่เก็บในตู้ยาหรือตู้เย็นของคุณหมดอายุหรือยัง? และเก็บรักษาถูกวิธีหรือไม่? การเก็บรักษายาให้ถูกต้องจึงเป็นเรื่องที่สำคัญพอ ๆ กับการรู้จักวิธีใช้ยาเลยทีเดียว

ขอขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก  www.gedgoodlife.com / FB : เภสัชกรแม่ลูกอ่อน / livewithdrug.com/

อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

ยาน้ำเชื่อมฟาวิพิราเวียร์ รับยาที่ไหน ลูกควรกินเท่าไหร่?

การเลือกใช้ยาระหว่างตั้งครรภ์ A,B,C,D,X คืออะไร?

ปล่อยลูกลุยน้ำย่ำโคลน ระวัง! เด็กป่วย โรคเมลิออยโดสิส

ให้ลูกช่วยงานบ้าน ฝึกทักษะ EF ติดตัวลูกไปตลอดชีวิต โดยพ่อเอก

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

แคปชั่นภาษาอังกฤษ

40 แคปชั่นภาษาอังกฤษ ครอบครัวอบอุ่น ความหมายดีๆ

Alternative Textaccount_circle
event
แคปชั่นภาษาอังกฤษ
แคปชั่นภาษาอังกฤษ

แคปชั่นภาษาอังกฤษ ความหมายโดนใจ เพิ่มสีสันให้โซเชี่ยล ไม่ต้องคิดเองให้เหนื่อย แคปชั่นไหนเหมาะกับรูปครอบครัวสวยๆ เลือกเอาไปโพสต์ลงโซเชี่ยลกันได้เลยค่ะ

รวม แคปชั่นภาษาอังกฤษ ครอบครัวอบอุ่น ความหมายดีๆ

เดี๋ยวนี้จะโพสต์ลงโซเชี่ยลแค่รูปสวยๆคงไม่พอ ต้องมีแคปชั่นเด็ดๆ โดนๆ ยิ่ง แคปชั่นภาษาอังกฤษ ก็ยิ่งเริ่ด ทีมแม่ ABK นำมาฝากแล้วค่ะ เอาไปโพสต์ร่วมกับรูปครอบครัวที่ดูอบอุ่น สนุกสนาน มีความสุข ดูแล ห่วงใยกัน เก็บไว้ให้ลูกๆดูเมื่อโตขึ้น

แคปชั่นภาษาอังกฤษ
แคปชั่นภาษาอังกฤษ

รวม 40 แคปชั่นภาษาอังกฤษ ครอบครัวอบอุ่น ความหมายดีๆ

ภาษาอังกฤษ คำแปล
The family is one of the nature’s masterpieces ครอบครัวเป็นหนึ่งในผลงานชิ้นเอกที่ธรรมชาติสร้างขึ้น
Your family is the best team you could ever have. ครอบครัวคือทีมที่ดีที่สุดที่คุณได้พบเจอ
A family doesn’t need to be perfect, it just needs to be united. คำว่า ครอบครัวไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบแต่จะต้องเป็นหนึ่งเดียวกัน
A family gives you the roots to stand tall and strong. ครอบครัวเปรียบเสมือนรากที่จะทำให้คุณเติบโตและแข็งแกร่ง
Love is the glue that holds a family together. ความรักคือกาวที่จะยึดเหนี่ยวให้ครอบครัวเป็นหนึ่งเดียวกัน
Family love knows no boundaries. ความรักในครอบครัวไร้ขอบเขต
I always have my family’s support no matter where I go or what I do. ไม่ว่าฉันจะอยากไปไหนหรือทำอะไรครอบครัวจะคอยสนับสนุนฉันเสมอ
Family means you’re never alone. ครอบครัวหมายถึงเธอจะไม่ต้องอยู่คนเดียว
All we have is one another. เรามีกันและกัน
Food tastes better when you eat it with family. อาหารจะอร่อยขึ้นเมื่อทานกับครอบครัว
Here, love knows no end. ที่นี่ทำให้รู้ว่าความรักจะไม่มีที่สิ้นสุด
You don’t choose your family. They are God’s gift to you, as you are to them. เราเลือกครอบครัวไม่ได้ นั่นคือของขวัญที่พระเจ้ามอบให้คุณ เหมือนกับที่มอบให้พวกเขา
Families are like branches on a tree, we grow in different directions Yet our roots remain as ONE. ครอบครัวเปรียบเสมือนกิ่งก้านของต้นไม้ เราอาจจะเติบโตไปในทิศทางที่แตกต่างแต่เราก็มาจากรากฐานเดียวกัน
Family means no one gets left behind or forgotten. ครอบครัวหมายความว่าจะไม่มีใครถูกลืมหรือถูกทิ้งไว้ข้างหลัง
Blood is thicker than water. เลือดข้นกว่าน้ำ
Collect beautiful moments. เก็บเกี่ยวช่วงเวลาที่สวยงาม
Honor one another. ให้เกียรติซึ่งกันและกัน
Family time is quality time. ช่วงเวลาที่มีคุณภาพคือเวลาที่ใช้ร่วมกับครอบครัว
Just a simple, happy family. เราเป็นครอบครัวธรรมดา ๆ ที่มีความสุข
Little moments, big memories. ช่วงเวลาเล็ก ๆ แต่เป็นความทรงจำที่ยิ่งใหญ่

 

แคปชั่นครอบครัว
แคปชั่นครอบครัว

40 แคปชั่นภาษาอังกฤษ ครอบครัวอบอุ่น ความหมายดีๆ

คำคมภาษาอังกฤษ คำแปล
There’s no comfort like family. ไม่มีอะไรจะทำให้เราสุขสบายได้มากกว่าครอบครัวอีกแล้ว
These are the only people who love me whenever I’m not so lovable. นี่คือคนที่รักฉันเสมอถึงแม้ว่าฉันจะไม่น่ารักก็ตาม
Family is a gift that lasts forever. ครอบครัวคือของขวัญที่จะอยู่ไปชั่วนิจนิรันดร์
Money can buy anything except family. เงินสามารถซื้อทุกอย่างได้ยกเว้นครอบครัว
The first privilege I have in this world is this family. สิทธิพิเศษแรกที่ฉันได้รับจากโลกใบนี้คือครอบครัว
Home is not a place. It’s a feeling. บ้านไม่ใช่สถานที่แต่เป็นความรู้สึก
I have a hero and his name is Daddy and Mommy. ฮีโร่ของฉันชื่อว่าปะป๊าและหม่ามี้
When life knocks you down, family is the one that always stands by your side. เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณล้มครอบครัวจะอยู่ข้าง ๆ คุณเสมอ
Laughter brings a family closer. เสียงหัวเราะจะช่วยให้ครอบครัวสนิทกันมากขึ้น
You call it chaos. We call it family. คุณอาจจะเรียกมันว่าความวุ่ยวาย แต่เราเรียกมันว่าครอบครัว
Made with love. สร้างขึ้นมาด้วยความรัก
Happiness is seeing your family happy. ความสุขคือการเห็นครอบครัวมีความสุข
Be happy for no reason like a child. แค่มีความสุขโดยที่ไม่ต้องมีเหตุผลเหมือนกับเด็กน้อย
The best family in town is mine. ตำแหน่งครอบครัวที่ดีที่สุดในเมืองนี้ตกเป็นของพวกเรา
If we can’t help our family then to whom we are going to help?? ถ้าเราไม่ช่วยกันแล้วใครจะมาช่วยล่ะ?
Little things mean a lot. เป็นสิ่งเล็ก ๆ ทีมีความหมายมาก ๆ
My life. My love. My family. ชีวิตของฉัน ความรักของฉัน ครอบครัวของฉัน
This home is built on love and shenanigans. บ้านหลังนี้สร้างขึ้นมาจากความรักและความเชื่อมั่น
We’re stuck like glue. เราตัวติดกันเหมือนกาว
Always better together. อยู่ด้วยกันดีที่สุดแล้ว

หวังว่า แคปชั่นภาษาอังกฤษ ที่ ทีมแม่ ABK นำมาฝากนี้ คงเติมเต็มรูปภาพครอบครัวให้ดูสมบูรณ์แบบ เรียกรอยยิ้มและยอดไลค์ ให้ผู้ที่ผ่านมาเห็นได้ไม่มากก็น้อยนะคะ

อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

30 คำคมภาษาอังกฤษ แคปชั่นภาษาอังกฤษ สำหรับคุณแม่

แคปชั่นคนท้อง 2021 รวมคำคมคนเห่อลูก ก็แค่อยากให้โลกรู้ว่าจะมีลูกแล้วจ้า

รวม คำคมครอบครัว คำคมชีวิตครอบครัว อ่านแล้วโดนใจ

23 คำพูดให้กำลังใจ ที่เพิ่มศักยภาพลูก..สู่ความสำเร็จ

ขอบคุณข้อมูลจาก : https://bestreview.asia

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

เมลิออยโดสิส

ปล่อยลูกลุยน้ำย่ำโคลน ระวัง! เด็กป่วย โรคเมลิออยโดสิส

Alternative Textaccount_circle
event
เมลิออยโดสิส
เมลิออยโดสิส

ปล่อยลูกลุยน้ำย่ำโคลน ระวัง! เด็กป่วย โรคเมลิออยโดสิส

เข้าสู่ช่วงปิดเทอมแล้ว แน่นอนว่าเด็ก ๆ หลายคนย่อมอยากออกไปวิ่งเล่นนอกบ้าน บางคนอาจชอบเล่นดิน เล่นทราย วิ่งเท้าเปล่าลุยน้ำ ลุยโคลน ผจญภัยด้วยความสนุกสนานตามประสาเด็ก ๆ แต่คุณพ่อคุณแม่คะ หากปล่อยลูก ลุยน้ำย่ำโคลนโดยไม่ระวัง ลูกอาจติดเชื้อแบคทีเรียและเป็น โรคเมลิออยโดสิส ได้ค่ะ โรคนี้มีสาเหตุจากอะไร ป้องกันและรักษาอย่างไร มาดูกันค่ะ

โรคเมลิออยโดสิส คืออะไรมีสาเหตุจากอะไร

เมลิออยโดสิส (Melioidosis) หรือโรคเมลิออยด์ เป็นโรคติดเชื้อจากแบคทีเรีย Burkholderia Pseudomallei ที่ปนเปื้อนได้ในน้ำและดิน แพร่กระจายสู่คนผ่านการสัมผัสเชื้อโดยตรง หรือโดยการติดต่อจากสัตว์ที่ติดเชื้อ เช่น สุนัข แมว หมู ม้า วัว ควาย แกะ แพะ เป็นต้น โดยเฉพาะการสัมผัสกับเชื้อบริเวณผิวหนังที่มีแผลเปิดนั้นเสี่ยงต่อการได้รับเชื้อสูง

นอกจากนี้ ทั้งคนและสัตว์ต่างเสี่ยงที่จะได้รับเชื้อจากการสูดหายใจเอาฝุ่นผงเข้าไป ทั้งการได้รับละอองน้ำเล็ก ๆ หรือการดื่มน้ำที่มีเชื้อแบคทีเรียนี้เจือปนอยู่ ส่วนการแพร่กระจายระหว่างมนุษย์กับมนุษย์นั้นพบได้น้อย

เมลิออยโดสิส สถิติผู้ป่วย

เมลิออยโดสิสเป็นโรคติดเชื้อที่เป็นปัญหาของหลายประเทศ รายงานว่าประเทศทางแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และทางเหนือของทวีปออสเตรเลีย เป็นบริเวณที่มีโรคประจำถิ่น และสามารถตรวจพบโรคนี้ได้บ้างในฮ่องกง ไต้หวัน อินเดีย นิวซีแลนด์ และประเทศอื่นๆ ทั่วโลก

ส่วนในไทย ศูนย์วิจัยโรคเมลิออยโดสิส มหาวิทยาลัยขอนแก่น รายงานว่า ระหว่างปี 2553 – 2558 ประเทศไทย มีผู้ป่วยโรคเมลิออยด์ ที่มีผลเพาะเชื้อยืนยัน อย่างน้อยปีละ 1,700 ราย เสียชีวิตอย่างน้อยปีละ 700 ราย และระหว่างปี พ.ศ. 2563 – 2564 มีผู้ป่วยติดเชื้อโรคเมลิออยโดสิส มากกว่า 2,000 รายต่อปี พบมากในแถบภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

สถานการณ์ล่าสุดของเมลิออยโดสิส

จากการเฝ้าระวังของกรมควบคุมโรค สถานการณ์โรคเมลิออยโดสิส ในปี 2565 นี้ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 6 มี.ค. 65 พบผู้ป่วย 339 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต กลุ่มอายุที่ผู้ป่วยสูงสุด คือ อายุ 55 – 64 ปี รองลงมาคือ อายุ 45 – 54 ปี และอายุมากกว่า 65 ปี ตามลำดับ จังหวัดที่พบผู้ป่วยมากที่สุด ได้แก่ มุกดาหาร, อำนาจเจริญ, ยโสธร, ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี  เมื่อเกิดการติดเชื้อในกระแสเลือดแล้ว ไม่ได้รับการรักษาอย่างรวดเร็วและถูกต้อง อาจเสียชีวิตได้ภายใน 2 – 3 วัน โดยอัตราการเสียชีวิตสูงถึง ร้อยละ 40 ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกัน

ติดเชื้อเมลิออยโดสิสผ่านทางใดได้บ้าง

โรคเมลิออยโดสิสสามารถติดเชื้อได้ ทั้งผ่านทางผิวหนัง, การกิน และการหายใจ เอาเชื้อแบคทีเรียเข้าไปในร่างกาย อาจเป็นหนองบริเวณที่ติดเชื้อ, หากติดเชื้อที่ปอด อาจทำให้ปอดอักเสบ และทำให้มีฝีหนองในปอดได้ และจากกรณีศึกษาผู้ป่วย โรคเมลิออยโดสิส พบว่า เชื้อโรคนี้สามารถซ่อนตัวอยู่ในร่างกายคน ได้นานนับ 10 ปี

โรคเมลิออยโดสิส
ปล่อยลูก ลุยน้ำย่ำโคลนเสี่ยง เมลิออยโดสิส!!

อาการของโรคเมลิออยด์

โรคเมลิออยด์เกิดขึ้นได้ในหลายลักษณะและมักแสดงอาการที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับอวัยวะที่มีการติดเชื้อ ดังนี้

การติดเชื้อที่ปอด เกิดจากการสูดดมเชื้อเข้าไป อาจจะทำให้เกิดการอักเสบและทำให้มีฝีหนองในปอด อาการมีได้ตั้งแต่หลอดลมอักเสบชนิดไม่รุนแรง ไปจนถึงอาการของโรคปอดบวมชนิดรุนแรง ส่งผลให้ผู้ป่วยมีไข้ ปวดศีรษะ ไอ ไม่อยากอาหาร หายใจหอบเหนื่อย เจ็บหน้าอก มีอาการเจ็บกล้ามเนื้อโดยทั่วไป รวมถึงอาจไอเป็นเลือด

การติดเชื้อเฉพาะที่เฉียบพลัน เป็นการติดเชื้อเฉพาะตำแหน่งที่สัมผัสเชื้อโรค หากเป็นที่ผิวหนังจะทำให้ผิวหนังบริเวณที่ติดเชื้อมีอาการเจ็บ บวม มีแผลเปื่อยสีออกขาวเทา และอาจเกิดเป็นหนอง รวมถึงส่งผลให้มีอาการไข้และเจ็บกล้ามเนื้อตามมา แต่หากติดเชื้อที่ต่อมน้ำลาย ต่อมน้ำลายจะอักเสบบวม โต เจ็บ อาจเกิดหนอง หรือหากเชื้อเข้าตาจะส่งผลให้เยื่อตาอักเสบ การอักเสบเฉพาะอวัยวะเหล่านี้จะส่งผลให้เกิดการอักเสบของต่อมน้ำเหลืองใกล้เคียงอวัยวะนั้น ๆ ร่วมด้วย จนทำให้ต่อมน้ำเหลืองโต คลำแล้วเจ็บ และอาจเกิดเป็นหนอง ทั้งนี้ การติดเชื้ออาจจำกัดอยู่ที่บริเวณดังกล่าวหรือแพร่ผ่านกระแสเลือดต่อไปก็ได้

การติดเชื้อในกระแสเลือด ผู้ป่วยด้วยโรคที่มีความเสี่ยงต่อเชื้อเมลิออยด์ เช่น โรคเบาหวาน ภาวะไตวาย หรือผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ มีแนวโน้มจะติดเชื้อลักษณะนี้มากที่สุด มักทำให้เกิดอาการช็อก และเสี่ยงต่อการเสียชีวิตสูง  หากเชื้อเมลิออยด์เข้าสู่กระแสเลือด อาจส่งผลให้มีอาการปวดศีรษะ มีไข้ หายใจลำบาก รู้สึกไม่สบายท้อง ปวดข้อต่อ การติดเชื้อในลักษณะนี้จะแสดงอาการอย่างรวดเร็ว และอาจพบฝีทั่วร่างกาย โดยเฉพาะในตับ ม้าม หรือต่อมลูกหมาก

เชื้อกระจายทั่วร่างกาย เชื้อสามารถแพร่กระจายจากผิวหนังผ่านเลือดไปสู่อวัยวะอื่น ๆ จนกลายเป็นการติดเชื้อเรื้อรังที่อาจส่งผลต่อหัวใจ สมอง ตับ ไต ม้าม ต่อมลูกหมาก ข้อต่อ ต่อมน้ำเหลือง กระดูก และดวงตา ซึ่งการติดเชื้อเหล่านี้อาจเกิดขึ้นอย่างฉับพลันหรือเรื้อรังก็ได้

ช่วงเวลาแสดงอาการอาจใช้เวลาตั้งแต่ 1 วัน ไปจนถึงหลายปี โดยทั่วไปอาการมักปรากฏขึ้นใน 2-4 สัปดาห์หลังได้รับเชื้อ หรือโดยเฉลี่ย 9 วันหลังจากการติดเชื้อ

การรักษาโรค

โรคเมลิออยโดสิสสามารถรักษาให้หายขาดได้ หากวินิจฉัยถูกต้องตั้งแต่ระยะแรก โดยแพทย์จะให้ยาปฏิชีวนะใน 2 สัปดาห์แรกด้วยวิธีฉีด หลังจากนั้นจะให้ยาชนิดกินต่อไปเป็นเวลา 5 เดือน หากมีภาวะแทรกซ้อนอาจให้ยาเพิ่มขึ้นตามความเหมาะสม

การป้องกัน

  1. อย่าปล่อยให้ลูกเดินลุยน้ำ ย่ำโคลน หรือสัมผัสดินและน้ำโดยตรง หากจำเป็นต้องสวมรองเท้าบูท ถุงมือยาง กางเกงขายาว หรือชุดลุยน้ำ
  2. หากลูกมีบาดแผลที่ผิวหนัง ควรรีบทำความสะอาดบาดแผล และหลีกเลี่ยงการสัมผัสดินและน้ำจนกว่าแผลนั้นจะแห้งสนิท
  3. รับประทานอาหารปรุงสุก ดื่มน้ำสะอาด
  4. หลีกเลี่ยงการอยู่ที่โล่งแจ้ง ในขณะที่มีพายุฝนหรือสภาพอากาศแปรปรวน

 

ขอบคุณข้อมูลจาก

MCOT Digital, pobpad, สมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย, RAMA Channel

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

สังเกตสัญญาณเตือนจากเคสจริงโรค คาวาซากิ อันตราย!!

เช็คที่นี่!! 6 โรคผิวหนังในหน้าร้อน ที่ต้องระวัง

เช็ก! อาการช็อก เบื้องต้นของลูกนิ้วมือนิ้วเท้าฝ่าเท้าช่วยได้

โรคผมร่วงเป็นหย่อม เกิดจากอะไร รักษาได้อย่างไร

Alternative Textaccount_circle
event

โรคผมร่วงเป็นหย่อม เกิดจากอะไร รักษาได้อย่างไร

จากกรณีดังระดับโลกที่เกิดขึ้นในการประกาศผลรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 94 เมื่อช่วงเช้าวันนี้ 28 มีนาคม คุณพ่อคุณแม่คงจะได้เห็นภาพที่ “วิล สมิธ” นักแสดงชื่อ ดังตบหน้า คริส ร็อค พิธีกรของงาน เล่นมุกตลกล้อเลียน “เจดา พิงเก็ตต์ สมิธ” ภรรยาของวิล เกี่ยวกับการโกนผมทั้งหัว ซึ่งที่เธอต้องโกนผมก็เพราะกำลังป่วยด้วย โรคผมร่วงเป็นหย่อม (Alopecia) ค่ะ จากเหตุการณ์นี้บรรดาคุณแม่และคุณพ่อที่อาจมีอาการผมร่วงอยู่แล้วเป็นทุนเดิม เกิดความกังวลว่า จะเป็นโรคเดียวกันไหม โรคนี้มีสาเหตุ อาการ และรักษาได้อย่างไร ทีมแม่ ABK หาคำตอบมาให้แล้วค่ะ

โรคผมร่วงเป็นหย่อม หรือ Alopecia Areata มีอาการอย่างไร

โรคนี้จะมีอาการผมร่วงเป็นหย่อม ๆ โดยทั่วไปบริเวณที่ผมร่วง จะมีลักษณะเป็นวงกลมเท่าเหรียญขนาดใหญ่ อาจมีอาการคัน หรือมีผื่นแดงขึ้นบริเวณที่ผมร่วงด้วย แต่ก็พบได้น้อย นอกจากนี้ยังอาจเกิดขึ้นได้ทุกส่วนของร่างกาย เช่น คิ้ว ขนตา หนวดเครา หรือขนรักแร้ เป็นต้น โรคนี้เกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัย

ขนและผมที่ร่วงนั้น จะงอกขึ้นใหม่ได้เองภายใน 3-4 เดือน แต่บางรายอาจไม่งอกอีกเลย  ส่วนปริมาณผม หรือขนที่ร่วงและที่งอกขึ้นมาใหม่ของแต่ละคนก็จะแตกต่างกันออกไป ทั้งนี้ อาการผมร่วงเป็นหย่อมอาจหายไปและกลับมาเป็นได้อีก ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล

ปัจจุบันยังไม่สามารถรักษาโรคนี้ให้หายขาดได้ แต่สามารถช่วยให้ผมงอกขึ้นมาใหม่ได้เร็ว และป้องกันการหลุดร่วงในอนาคต

สาเหตุของโรคผมร่วงเป็นหย่อม

โรคนี้ อาจเกิดจากความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน โดยความผิดปกตินี้อาจสร้างความเสียหายต่อรูขุมขน จนทำให้รูขุมขนมีขนาดเล็กลง และไม่สามารถผลิตเส้นผมขึ้นมาได้ จึงเกิดเป็นอาการผมร่วง ซึ่งโรคนี้เกิดขึ้นได้กับทุกเพศและทุกช่วงวัย

นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยบางอย่างที่อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคนี้ได้ เช่น

  • ความผิดปกติทางพันธุกรรม เช่น กลุ่มอาการดาวน์ซินโดรม
  • คนในครอบครัวเคยป่วยเป็นโรคนี้ หรือเป็นโรคเกี่ยวกับภูมิคุ้มกัน เช่น โรคเบาหวานประเภทที่ 1 โรคเกี่ยวกับไทรอยด์ โรคด่างขาว โรคแพ้ภูมิตัวเอง โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ หรือภาวะลำไส้เป็นแผล (Ulcerative Colitis) เป็นต้น
  • การเจ็บป่วยอื่น ๆ เช่น การติดเชื้อไวรัส
  • การได้รับยาบางชนิด
  • ความเครียด
โรคผมร่วงเป็นหย่อม
โรคผมร่วงเป็นหย่อม เกิดจากอะไร รักษาได้อย่างไร

การรักษาโรคผมร่วงเป็นหย่อม

ปัจจุบันในทางการแพทย์ยังไม่สามารถรักษาโรคนี้ได้ แต่เบื้องต้นแพทย์อาจแนะนำให้รอผมงอกขึ้นมาใหม่เอง ซึ่งอาจใช้เวลาประมาณ 3-6 เดือน เพราะปกติแล้วผมจะงอกกลับขึ้นมาใหม่ได้เองโดยไม่จำเป็นต้องรักษา อีกทั้งโรคนี้ไม่มีอันตรายต่อร่างกายของผู้ป่วย แต่ก็มีวิธีที่ช่วยให้ผมที่ร่วงไปงอกกลับขึ้นมาใหม่เร็วกว่าวิธีตามธรรมชาติ ดังนี้

  • การใช้สเตียรอยด์
    สเตียรอยด์จะยับยั้งการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันที่สร้างความเสียหายแก่รูขุมขน และทำให้เส้นผมสามารถงอกขึ้นมาใหม่ได้อีกครั้ง ซึ่งมีทั้งแบบฉีดซึ่งได้ผลดีในกรณีที่ผมร่วงเป็นบริเวณไม่กว้างนัก และแบบทาซึ่งเห็นผลช้า และอาจต้องใช้เวลา 3-6 เดือน โดยการใช้ยาชนิดนี้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์
  • การใช้ยาปลูกผม
    การรักษาด้วยวิธีการนี้มีโอกาสสำเร็จน้อย โดยปกติแล้วจะใช้เวลาประมาณ 2-3 เดือนจึงจะเริ่มเห็นผล แต่หากใช้ยาปลูกผมมาเป็นเวลากว่า 1 ปีแล้วยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง ควรหยุดใช้ยาและใช้วิธีอื่นรักษาแทน
  • การทำภูมิคุ้มกันบำบัด
    เป็นการให้สารที่ก่อให้เกิดอาการภูมิแพ้ที่ผิวหนังลงบนบริเวณที่ผมร่วง เพื่อทำให้เกิดการอักเสบที่จะนำไปสู่การกระตุ้นให้ผมกลับมางอกขึ้นใหม่ได้อีกครั้ง แต่มีผลข้างเคียงที่อาจทำให้เกิดโรคผิวหนังชนิดอื่นตามมาได้
  • วิธีการอื่น 
    อาจใช้การรับประทานอาหารเสริมจำพวกวิตามิน หรือสมุนไพร รักษาโดยใช้น้ำมันหอมระเหยจากพืช หรือรับการฝังเข็ม ซึ่งอาจช่วยให้ผมงอกขึ้นมาใหม่ได้ แต่การรักษาทางเลือกเหล่านี้ยังไม่ได้รับการยืนยันทางการแพทย์ว่าจะช่วยรักษาอาการผมร่วงหรือทำให้อาการดีขึ้นได้ ดังนั้น หากต้องการใช้การรักษาทางเลือกใด ๆ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ

ภาวะแทรกซ้อนของโรคผมร่วงเป็นหย่อม

โรคผมร่วงเป็นหย่อมอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนตามมาได้ ดังนี้

  • ทางกาย อาจเสี่ยงเป็นโรคทางภูมิคุ้มกัน เช่น โรคเกี่ยวกับไทรอยด์ โรคด่างขาว หรือโรคโลหิตจาง เป็นต้น
  • ทางจิตใจ ผู้ป่วยอาจเกิดความเครียด รู้สึกแปลกแยก หรืออาจเป็นโรคซึมเศร้าได้

การป้องกันโรคผมร่วงเป็นหย่อม

สามารถรักษาตามอาการที่เกิดขึ้น และทำให้ผมงอกกลับมาใหม่ให้เร็วที่สุด ควรดูแลตนเอง และป้องกันปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นตามมา รวมทั้งอาจหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เป็นโรคนี้ เช่น

  • ระวังเรื่องความเครียด เพราะเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดโรค
  • รับประทานอาหารที่มีสารบำรุงเส้นผม เช่น วิตามินเอ วิตามินบี วิตามินซี และธาตุสังกะสี เป็นต้น
  • ใส่วิก สวมหมวก หรือทาครีมกันแดดบริเวณหนังศีรษะที่เกิดอาการ เพื่อป้องกันแสงแดดทำอันตรายต่อหนังศีรษะ
  • สวมแว่นกันแดด ในกรณีที่โรคนี้ส่งผลให้ขนตาร่วง เพราะอาจมีสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่ดวงตาได้ เนื่องจากไม่มีขนตาคอยป้องกัน

ไม่ว่าผมจะร่วงเป็นหย่อม หรือร่วงแบบไหน ก็ล้วนสร้างความกลุ้มใจให้คุณพ่อคุณแม่ได้ ในเบื้องต้นขอให้ทำจิตใจให้ผ่อนคลาย ไม่เครียด รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ บำรุงรักษาเส้นผมให้ดี ก็สามารถช่วยให้ไกลจากโรคนี้ได้นะคะ

ขอบคุณข้อมูลจาก

pobpad, กรุงเทพธุรกิจ

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

ปัญหาผมร่วงหลังคลอด เรื่องไม่เล็ก ของคุณแม่ลูกอ่อน

3 สาเหตุ ทารกผมร่วง ลูกผมน้อย ผมบาง โดยคุณหมอแป๊กกี้

โควิดอาการ หลังหายแล้วยังน่าห่วงทั้งระบบหายใจ-ผมร่วง!

ตาแฉะ

ตาแฉะ ทารกตาแฉะ ขี้ตาเป็นหนอง ปล่อยไว้อาจเป็นโรคนี้!!

Alternative Textaccount_circle
event
ตาแฉะ
ตาแฉะ

ทารกจะเริ่มมีการสร้างน้ำตาในช่วง 2 สัปดาห์แรกของชีวิต หากเกิดภาวะอุดตันของระบบท่อระบายน้ำตา จะพบว่าลูก  ตาแฉะ อาจมีการติดเชื้อซ้ำซ้อนได้!!

ตาแฉะ ทารกตาแฉะ ขี้ตาเป็นหนอง ปล่อยไว้อาจเป็นโรคนี้!!

สำหรับทารกแรกเกิด ดวงตาเป็นสิ่งสำคัญที่เชื่อมโยงทารกกับโลกรอบ ๆ ตัว ความสามารถในการมองเห็นที่ดีคือจุดเริ่มต้นนำไปสู่พัฒนาการที่ดีในด้านต่าง ๆ เช่น ทำให้การประสานงานของมือและตามีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดความอยากรู้อยากเห็น เกิดการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นตัวกระตุ้นพัฒนาการทางสมองของลูก และนำไปสู่การพัฒนาทางด้านกายภาพอื่น ๆ ทั้งการ นั่ง คว่ำ คลาน หรือ การเดิน

การเรียนรู้ทางการมองเห็นเป็นสัดส่วนสูงถึง 80% เมื่อเทียบกับการเรียนรู้จากทางอื่น เช่น จากการได้ยิน การได้กลิ่น การรับรู้รส และการสัมผัส ดังนั้น เด็กที่มีปัญหาในการมองเห็น จะส่งผลให้การเรียนรู้ถูกจำกัด พัฒนาการไม่ดีเท่าที่ควร และจะเป็นสาเหตุของปัญหาต่าง ๆ ในอนาคต เช่น ขาดความมั่นใจ เป็นเด็กที่มีปมด้อย และมีปัญหาได้

อ่านต่อ : การมองเห็นของทารก พัฒนาการที่พ่อเเม่ควรรู้

พัฒนาการของระบบการมองเห็นจะเป็นไปอย่างสมบูรณ์ได้นั้น ส่วนประกอบของดวงตาจะต้องสมบูรณ์ทั้งรูปร่างและการทำงาน และจอตาของทารกต้องถูกกระตุ้นด้วยภาพที่คมชัด แต่หากเกิด ภาวะอุดตันของระบบท่อระบายน้ำตา พ่อแม่จะพบว่าลูกมีอาการตาแฉะในตาข้างที่อุดตัน และในบางรายอาจมีการติดเชื้อซ้ำซ้อน ทำให้มีขี้ตาเป็นมูกปนหนองได้ ดังนั้น พ่อแม่ไม่ควรชะล่าใจ หากสังเกตเห็นความผิดปกติเหล่านี้ ควรรีบพาลูกไปพบจักษุแพทย์ทันที

อ่านต่อ : น้องลีออง ลูกเสก โลโซ ป่วย “ท่อน้ำตาอุดตันในทารก”

ภาวะท่อน้ำตาอุดตัน คืออะไร?

โดยทั่วไปน้ำตาของคนเราจะถูกสร้างจากต่อมน้ำตาอย่างต่อเนื่องและกระจายตัวปกคลุมผิวดวงตาชั้นนอก จากนั้นจะระบายออกที่รูระบายน้ำตาที่บริเวณหัวตา ซึ่งมีทั้งด้านบนและด้านล่าง จากนั้นจะไหลไปตามท่อระบายน้ำตาไปที่จมูก และไหลลงคอตามลำดับ แต่หากมีการอุดตันของระบบท่อระบายน้ำตาก็จะส่งผลให้มีน้ำตาเอ่อล้นที่บริเวณดวงตาได้

ทารกตาแฉะ
ทารกตาแฉะ

ท่อน้ำตาอุดตันในเด็ก เกิดจากสาเหตุอะไร?

ในเด็กทารกที่ท่อน้ำตาอุดตัน ส่วนใหญ่มักเกิดจากลิ้นเปิดปิดในท่อน้ำตาไม่เปิด โดยมีพังผืดบาง ๆ มาขวางอยู่ จึงทำให้น้ำตาเอ่อเข้าไปในลูกตาและเอ่อออกมาบริเวณดวงตาของเด็กในที่สุด (ปกติแล้วพังผืดนี้จะทะลุออกเองได้ในช่วงครบกำหนดคลอดหรือหลังจากนั้นไม่กี่เดือน) โดยธรรมชาติแล้ว ภาวะนี้ในเด็กส่วนใหญ่มักจะมีอาการดีขึ้นเอง แต่ในกรณีที่เป็นแล้วไม่ได้รับการดูแลอย่างถูกต้อง อาการที่เป็นอยู่ก็ไม่สามารถหายได้เอง เมื่อน้ำตาที่ขังอยู่ในตานาน ๆ มีเชื้อโรคเข้ามาเจริญเติบโตก็จะเกิดการติดเชื้อ ซึ่งอาจลุกลามต่อไปและเข้าไปในเยื่อบุตาและกระจกตา ทำให้เกิดเยื่อบุตาอักเสบและกระจกตาอักเสบได้ นอกจากนี้ ยังอาจเกิดจากการมีเยื่อเมือกและเซลล์ที่อยู่ในน้ำคร่ำขณะอยู่ในครรภ์มารดา เข้าไปอุดตันอยู่ภายในท่อน้ำตา หรือเกิดจากเยื่อตาขาวอักเสบเนื่องจากการติดเชื้อแบคทีเรียในขณะคลอดทำให้มีขี้ตาลงไปอุดได้ด้วย

ทำความรู้จักกับทางเดินท่อน้ำตา

น้ำตาของคนเราจะมีการหลั่งออกมาจากต่อมน้ำตาอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้ความชุ่มชื้นแก่ดวงตา ส่วนบริเวณหัวตาจะมีรูเปิดท่อระบายน้ำตาอยู่ 2 รู ที่ขอบของเปลือกตาบนและล่าง ซึ่งท่อระบายน้ำตานี้จะทำหน้าที่เป็นรูระบายน้ำ ท่อน้ำตาเล็ก ๆ ทั้ง 2 รูนี้จะรวมกันเป็นท่อเดียวและเชื่อมต่อกับถุงน้ำตา ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นถังพักน้ำ และจากถุงน้ำตาจะมีท่อระบายน้ำตา ซึ่งเป็นท่อยาวที่ผ่านลงมาทางกระดูกโหนกแก้มและมาเปิดที่ภายในจมูก และไหลผ่านลงคอตามลำดับ (ใช้อธิบายว่าทำไมหลังจากหยอดยาหยอดตาบางชนิดไปสักพักหนึ่ง จะรู้สึกขมในลำคอ) ซึ่งท่อตรงส่วนนี้เองเป็นตำแหน่งที่พบการอุดตันได้บ่อยที่สุด และรักษาให้กลับคืนสภาพได้ยากที่สุด

ท่อน้ำตาอุดตันในทารก..สังเกตได้อย่างไร?

โดยทั่วไป ทารกจะเริ่มมีการสร้างน้ำตาในช่วง 2 สัปดาห์แรกของชีวิตขึ้นไป หากพบว่ามีการอุดตันของระบบท่อระบายน้ำตา พ่อแม่จะสังเกตได้ว่า ลูกมีอาการ ตาแฉะ ในตาข้างที่อุดตัน และในบางรายอาจมีการติดเชื้อซ้ำซ้อน ทำให้มีขี้ตาเป็นมูกปนหนองได้

หากปล่อยทิ้งไว้ การอุดตันจะส่งผลอันตรายอย่างไรบ้าง?

ส่วนมากไม่เป็นอันตราย การอุดตันทำให้น้ำตา เมือก และเชื้อโรคขังอยู่ในท่อน้ำตา เมื่อเกิดอาการน้ำตาไหลจนรำคาญ บางรายอาจเกิดการอักเสบเป็นหนองได้

ลูกมีขี้ตา
ลูกมีขี้ตา

การรักษาท่อน้ำตาอุดตันในทารก

เด็กแรกเกิดสามารถหายได้เองถึงร้อยละ 90 โดยไม่จำเป็นต้องรักษา ส่วนรายที่ไม่หายเอง การรักษาให้ได้ผลโดยการนวดบนท่อน้ำตาเพื่อให้เยื่อที่ปิดอยู่ที่ปลายท่อทะลุออกไป

ขั้นตอนการนวดบริเวณหัวตา

  1. ล้างมือให้สะอาดก่อนนวด
  2. การนวดนั้นใช้นิ้วที่ถนัดกดลงที่บริเวณหัวตา ทิศทางเข้าหาสันจมูกและลงมาด้านล่าง
  3. นวดรอบละ 10 ถึง 20 ครั้ง วันละ 2 ถึง 3 รอบ
  4. ต้องนวดด้วยแรงที่พอเหมาะ
  5. ช่วงเวลาที่นวดได้ผลดี คือเวลาที่เด็กทานนม ซึ่งแรงดันที่นวดจะไปดันให้แผ่นเนื้อเยื่อที่ปิดอยู่ทะลุออก
  6. กว่า 90% มักตอบสนองดีต่อการนวดและการใช้ยาหยอดปฏิชีวนะควบคู่กัน

การนวดบนท่อน้ำตาจะได้ผลดีมากในขวบปีแรกหากนวดได้ถูกวิธี หลังขวบปีแรกได้ผลน้อยลง และมักต้องรักษาด้วยการแยงท่อน้ำตา ซึ่งต้องดมยาสลบ จึงควรรอให้เด็กโตพอจนปลอดภัยก่อนจึงจะเริ่มดมยาได้ ซึ่งวิธีนี้ต้องให้วิสัญญีแพทย์เป็นผู้พิจารณาอีกครั้ง ถ้าแยงท่อน้ำตาแล้วไม่หาย วิธีต่อไปคือ การผ่าตัดทำทางระบายน้ำตาใหม่

สำหรับการผ่าตัดท่อน้ำตานั้นมีหลายวิธี เช่น การผ่าตัดผ่านจากผิวหนังบริเวณหัวตาตามแนวฐานของจมูก โดยจะมีรอยแผลโดยประมาณ 1 เซนติเมตร อีกวิธีที่นิยมกันในปัจจุบันคือ การผ่าตัดผ่านทางรูจมูก ส่วนวิธีล่าสุดที่ทำกันคือ การใช้เลเซอร์ผ่าตัดผ่านทางท่อน้ำตา ซึ่งก็ให้ผลดี

การดูแลลูกน้อยหลังการแยงเปิดท่อน้ำตา

  1. หยอดยาให้ครบตามที่แพทย์สั่ง
  2. บางรายอาจต้องมีการนวดหัวตาต่อสักระยะเพื่อป้องกันมิให้อุดตันซ้ำ

ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการแยงเปิดท่อน้ำตา

  1. อาจมีเลือดออก
  2. กรณีที่แทงไม่สำเร็จ ต้องรักษาโดยพยายามใส่ท่อระบายช่วย

ข้อดีของการเปิดท่อน้ำตา

  1. เด็กหายจากอาการตาแฉะ
  2. ป้องกันขอบตาอักเสบเรื้อรัง

แม้ท่อน้ำตาอุดตันในเด็กจะไม่สามารถป้องกันได้ แต่ก็สามารถรักษาให้หายขาดได้ และโรคนี้ก็ไม่ได้เป็นโรคที่รุนแรงอะไร คุณพ่อคุณแม่จึงอย่าเป็นกังวลมากนัก  ซึ่งเบื้องต้นคุณพ่อคุณแม่สามารถดูแลด้วยตัวเองได้ เพียงแต่สิ่งสำคัญคือ ถ้าพบว่าเจ้าตัวเล็กมีน้ำตาเอ่อคลอในดวงตาก็ควรรีบพาไปพบจักษุแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรับคำแนะนำในการปฏิบัติที่ถูกต้อง โดยเฉพาะวิธีการนวดบริเวณหัวตา ควรได้รับคำแนะนำจากจักษุแพทย์ก่อนทุกครั้ง ไม่ควรนวดบริเวณหัวตาเอง เพราะอาจทำได้ไม่ถูกวิธีได้ โดยเฉพาะในกรณีที่ลูกมีขี้ตามาก จักษุแพทย์อาจพิจารณาให้ใช้ยาปฏิชีวนะร่วมด้วย เพื่อป้องกันการติดเชื้อ

แต่นอกจากท่อน้ำตาอุดตันแล้ว ก็ยังมีโรคอื่น ๆ ที่ทำให้เด็กมีอาการน้ำตาเอ่อล้นได้ เช่น เยื่อบุตาขาวอักเสบ สิ่งแปลกปลอมตาค้างในตา และต้อหินในวัยเด็ก  ดังนั้น หากลูกมีอาการข้างต้น ควรได้รับการตรวจอย่างละเอียด และรักษาโดยจักษุแพทย์อย่างต่อเนื่องนะคะ ด้วยความเป็นห่วงจาก ทีมแม่ ABK

อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

แม่เตือนแม่! ระวัง ลูกเป็นหวัด มีน้ำมูก ตาบวม เสี่ยงเป็นไซนัสอักเสบลงตา

โรคตาขี้เกียจในเด็ก (Lazy eye) คืออะไร?

สุดยอด!แม่สังเกตจนรู้ ลูกไม่ได้เป็น ตากุ้งยิง แท้จริงคือชีสต์

เบบี๋ขี้ร้อน ใส่ชุดบาง เปิดพัดลมให้ตลอด เสี่ยง “ปอดบวม “ไหม?

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลพญาไท, medthai.com, รศ. นพ. ทวีกิจ นิ่มวรพันธุ์ ภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

แบบฝึกหัดภาษาอังกฤษ

โหลดฟรี!! แบบฝึกหัดภาษาอังกฤษ สำหรับอนุบาล-ประถม

Alternative Textaccount_circle
event
แบบฝึกหัดภาษาอังกฤษ
แบบฝึกหัดภาษาอังกฤษ

รวม แบบฝึกหัดภาษาอังกฤษ มาให้โหลดกันฟรี ๆ ที่นี่!! มาฝึกลูกพูด-ฟัง-อ่าน-เขียน ภาษาอังกฤษ แบบเข้าใจง่ายด้วย แบบฝึกหัดภาษาอังกฤษ สำหรับเด็กวัยอนุบาล-ประถม กันเถอะ!!

โหลดฟรี!! แบบฝึกหัดภาษาอังกฤษ สำหรับอนุบาล-ประถม

ช่วงปิดเทอมที่ลูกต้องอยู่บ้านกันยาว ๆ สำหรับแม่ ๆ ที่กำลังหากิจกรรมฝึกสมองให้ลูกทำ มาโหลด แบบฝึกหัดภาษาอังกฤษ กันได้ฟรี ที่นี่เลยค่ะ แบบฝึกนี้จะมีทั้งสอน Grammar ฝึกลูกพูด ฟัง อ่าน เขียน ภาษาอังกฤษ เหมาะสำหรับเด็กวัยอนุบาลและประถม เพื่อเตรียมตัวให้พร้อมก่อนเปิดเทอม

ฝึกลูกทำ แบบฝึกหัดภาษาอังกฤษ อย่างไรให้ได้ผลดี?

เลือกทำแบบฝึกหัดที่ตรงกับวัยของลูก

การทำแบบฝึกหัดตรงกับวัยเป็นสิ่งสำคัญ เพราะถ้าให้ลูกทำแบบฝึกหัดที่เกินวัยของเค้า ลูกจะรู้สึกว่าภาษาอังกฤษเป็นเรื่องยาก และรู้สึกเบื่อหน่าย อาจจะทำให้พาลไม่ชอบภาษาอังกฤษไปเลยก็ได้

ทำน้อยๆ แต่ทำให้บ่อย

การทำแบบฝึกหัดสั้นๆ บ่อยๆ นั้นดีกว่าการใช้เวลาหลายๆ ชั่วโมงและทำหลายๆ อันในวันเดียว ในวัยเด็กเล็กนั้น การเล่นเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดสำหรับลูก ดังนั้น อย่าให้ลูกรู้สึกว่าการทำแบบฝึกหัดทำให้ลูกต้องอดเล่นสนุก จนทำให้ไม่อยากทำไปซะอย่างนั้น

ทำให้เป็นเรื่องสนุก!

การทำแบบฝึกหัดไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องซ้ำซากและน่าเบื่อ พยายามให้ลูกทำแบบฝึกหัดหลากหลายรูปแบบ หาเรื่องที่ลูกสนใจแทนการท่องจำ จะทำให้ลูกรู้สึกสนุกไปกับการทำแบบฝึกหัด

ฝึกฝนทักษะให้ครบ

การฝึกภาษาอังกฤษ ไม่จำเป็นต้องท่องแกรมม่าอย่างเดียว แต่ควรฝึกหลักการพูด ฟัง อ่าน เขียน ไปด้วย ควรเน้นสิ่งที่ใกล้ตัว ลูกสามารถนำไปใช้ได้จริง เช่น เรื่องเกี่ยวกับรูปทรง สี เป็นต้น

รู้เคล็ดลับการฝึกภาษาอังกฤษให้ลูกกันไปแล้ว มาโหลด แบบฝึกหัดภาษาอังกฤษ เพื่อนำไปให้ลูกทำกันได้เลยค่ะ

โหลดฟรี!! แบบฝึกหัดภาษาอังกฤษ สำหรับอนุบาล-ประถม

วงคำศัพท์ที่พบบ่อย

แบบฝึกหัดนี้จะให้เด็ก ๆ วงกลมคำศัพท์ที่เจอบ่อย เช่น am, look, in เป็นต้น เด็กหลาย ๆ คนรู้ว่าคำนี้คืออะไร แต่ไม่รู้ว่าสะกดอย่างไร ดังนั้น การฝึกให้ลูกได้เห็นคำศัพท์บ่อย ๆ จะช่วยให้ลูกเขียนคำศัพท์ได้เร็วขึ้นตอนเรียนอนุบาล

>>Sight Word Assessment Worksheet Free Download<<

เติมคำที่พบบ่อย

แบบฝึกหัดอนุบาล
แบบฝึกหัดอนุบาล

แบบฝึกนี้จะฝึกให้ลูกอ่านให้เป็นประโยค พร้อมทำเติมคำศัพท์ที่ใช้กันบ่อย ๆ เช่น know, made, did เป็นต้น แบบฝึกนี้เหมาะสำหรับเด็กวัยประถมต้น ใช้สำหรับเรียนรู้โครงสร้างประโยค

>>Complete the Sentence: Common Sight Words Free Download<<

Consonant Blends

ฝึกการอ่านผสมเสียง “R” “L” ให้ถูกต้อง การอ่านออกเสียง R และ L ผิด อาจทำให้เข้าใจความหมายกันผิด ๆ ได้ แบบฝึกนี้จะช่วยให้เด็กฝึกออกเสียงให้ถูกต้อง พร้อมทั้งเรียนรู้คำศัพท์ไปด้วย

>>Beginning Consonant Blends Free Download<<

ฝึกอ่านออกเสียงสระเสียงสั้น

a e i o u อ่านออกเสียงได้ทั้งเสียงสั้นและเสียงยาว แบบฝึกนี้จะฝึกให้ลูกรู้ว่าสระเสียงสั้นอ่านออกเสียงอย่างไร แบบไหนเรียกว่าสระเสียงสั้น

>>Spell Out Short Vowel Words Free Download<<

เขียนประโยคในหัวข้อ สัตว์ที่ลูกชอบ

ให้ลูกเติมคำในช่องว่างให้เป็นประโยคแบบง่าย ๆ ในหัวข้อที่ลูกสนใจ เรื่องเกี่ยวกับสัตว์ เด็กทุกคนมักจะชอบ แบบฝึกนี้จะทำให้ลูกไม่กลัวที่จะเขียนภาษาอังกฤษให้เป็นประโยค

>>Sentence Writing: Animals Free Download<<

รู้จักคำนามและคำกริยา

แบบฝึกหัด
แบบฝึกหัด

แบบฝึกนี้จะให้ลูกได้อ่านประโยคและเติมคำนามหรือคำกิริยาลงไป จะทำให้ลูกรู้หน้าที่และการใช้งานของคำนามและคำกริยาในประโยค

>>Beginning Grammar: Nouns and Verbs Free Download<<

หาคำที่อ่านออกเสียงต่างออกไป

คุณสามารถหาคำในแต่ละแถวที่ขึ้นต้นด้วยเสียงเริ่มต้นที่แตกต่างจากที่เหลือได้หรือไม่? ในใบงานการออกเสียงนี้ ผู้เรียนจะพูดคำในแต่ละแถวออกมาดังๆ แล้ววนรอบรายการที่มีเสียงเริ่มต้นต่างกัน แบบฝึกนี้ออกแบบมาสำหรับเด็กก่อนวัยเรียนและเด็กอนุบาล แผ่นงานนี้นำเสนอแนวปฏิบัติก่อนการรู้หนังสือที่มีความหมายสำหรับนักเรียนในขณะที่พวกเขาเริ่มสร้างความเชื่อมโยงระหว่างเสียงและการสะกดคำ

>>Sound Out Letters Free Download<<

ลูกหมูสามตัว

อ่านนิทานเรื่อง “The Three Little Pigs” โดยในใบงานนี้จะใช้ภาพเพื่อบอกความหมายของคำศัพท์ง่าย ๆ เพื่อให้ลูกเข้าใจความหมายของคำศัพท์นั้น ๆ โดยไม่ต้องแปลเป็นภาษาไทย คุณแม่สามารถเพิ่มความสนุกโดยการใช้หุ่นนิ้วเพื่อเล่านิทานอีกครั้ง!

>>The Three Little Pigs Free Download<<

เรียงประโยคใหม่

มาเรียงประโยคแมว ๆ ที่ยุ่งเหยิงไม่เป็นระเบียบ ให้ถูกต้องด้วยการใช้อักษรตัวพิมพ์ใหญ่และเครื่องหมายวรรคตอนให้ถูกต้อง เมื่อเด็กๆ แก้ปัญหา พวกเขากำลังได้รับการฝึกฝนด้วยการเขียนโครงสร้างประโยค การใช้อักษรตัวพิมพ์ใหญ่ และเครื่องหมายวรรคตอนให้ถูกต้อง

>>Fix the Sentences: Kitty Cat Free Download<<

L Blends

ทำความรู้จักกับ “L” ตัวอักษร “L” ผสมกับพยัญชนะอื่น ๆ ได้มากมาย มาดูกันว่ามีกี่ส่วนผสมที่นักสะกดคำตัวน้อยของคุณสามารถคิดออก

>>L Blends Free Download<<

ฝึกตัวสะกด

ฝึกฝนการเลือกตัวสะกดให้ถูกต้อง ในใบงานการสะกดคำที่มีภาพประกอบนี้ เด็กๆ จะออกเสียงคำต่างๆ เช่น “sink” “tent” และ “hand” เพื่อฟังการผสมตัวสะกดที่ถูกต้อง จากนั้นให้กากบาทตัวสะกดที่ถูกต้องในแต่ละคำ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 และชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 สามารถใช้กิจกรรมการอ่านนี้เพื่อช่วยสร้างการรับรู้เกี่ยวกับเสียงและเรียนรู้ที่จะจดจำรูปแบบการสะกดคำต่างๆ

>>End Blends Free Download<<

การอ่านออกเสียงพยัญชนะ : S Blends

แบบฝึกหัดภาษาอังกฤษอนุบาล
แบบฝึกหัดภาษาอังกฤษอนุบาล

เด็ก ๆ จะได้ฝึกการอ่านและการสะกดคำที่เน้นพยัญชนะ S เด็ก ๆ จะได้ฝึกฟังการผสมตัวอักษรหรือการผสมเสียงที่ต้นคำ S เช่น “slide” “snail” และ “stairs” การได้ยินเสียงพยัญชนะที่ประกอบกันเป็นทักษะที่จำเป็นสำหรับการอ่านสำเนียงให้ถูกต้อง

>>Consonant Sounds: S Blends Free Download<<

หาคำศัพท์ในฤดูใบไม้ผลิ

มาเล่นเกมกับลูก ๆ ด้วยการมองหาคำศัพท์อย่างเช่น “bee” “bud” และ “butterfly” ในเกมไขปริศนาค้นหาคำศัพท์ในฤดูใบไม้ผลิที่มีสีสันนี้ แผ่นงานขี้เล่นนี้เป็นวิธีที่สนุกในการแนะนำเด็ก ๆ ให้รู้จักคำศัพท์ที่ใช้บ่อยตามฤดูกาลและฝึกทักษะการอ่านและการเขียน ออกแบบมาสำหรับเด็กอนุบาล

>>Spring Word Search Free Download<<

ทีมแม่ ABK ยังมีกิจกรรมดี ๆ แบบฝึกหัดหลากหลายวิชา มาให้คุณแม่ได้ดาวน์โหลดไปใช้กับลูก ๆ ในช่วงปิดเทอมอีกมากมาย หากแม่ ๆ ต้องการโหลดแบบฝึกหักเพิ่มเติม คลิกที่ลิ้งค์ด้านล่างได้เลยค่ะ

อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

แจกฟรี!! 50 แบบฝึกหัดภาษาอังกฤษอนุบาล โหลดเลย!!

รวม แบบฝึกหัด ป.1 ดาวน์โหลดฟรี! กว่า 90 ชุด (ไทย วิทย์ คณิต อังกฤษ)

แบบฝึกหัดภาษาไทย สำหรับอนุบาล-ป.1 ฝึกอ่าน-เขียน เตรียมความพร้อมด้านภาษา

รวมแบบฝึกหัดอนุบาล กว่า 60 แบบฝึก

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : www.education.com

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Superior A.R.T.

คุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่วางแผนได้ มีลูกเมื่อพร้อม เทคโนโลยีตอบโจทย์ เพิ่มโอกาสการมีลูกให้สำเร็จได้ ครอบคลุมทุกขั้นตอนการรักษา พร้อมออกแบบแผนการรักษาเฉพาะแต่ละครอบครัว ที่ “Superior A.R.T.”

Alternative Textaccount_circle
event
Superior A.R.T.
Superior A.R.T.

มีคุณแม่หลังไมค์สอบถามกันมาบ่อย ๆ ว่าให้ช่วยแนะนำคุณหมอ โรงพยาบาล หรือคลินิกในการเช็กความพร้อมการตั้งครรภ์ ตรวจและรักษาภาวะมีบุตรยากให้หน่อย อยากมีลูก ปล่อยธรรมชาติแล้วไม่ท้องซักที !

คุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่วางแผนที่จะมีลูกเมื่อสถานะทางครอบครัวพร้อม แล้วความพร้อมนั้นก็ตามมาด้วยเรื่องของอายุที่มากขึ้น ซึ่งปัจจัยหลักก็มาจากฝ่ายหญิงที่อายุมาก ที่จะส่งผลให้มีบุตรยาก และก็เรื่องภาวะสุขภาพต่าง ๆ ของทั้งคู่ร่วมด้วย แต่ต่อไปนี้ทุกความหวัง ความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะมีลูกของคุณพ่อคุณแม่จะไม่ใช่เรื่องยาก หรือเป็นไปไม่ได้อีกแล้วค่ะ

ทีมแม่ ABK แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญการด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ ที่ช่วยวางแผน ดูแลทุกขั้นตอน ตั้งแต่แพลนยังไม่อยากมีลูกในตอนนี้ แต่ต้องการมีในอนาคต หรือกำลังประสบกับปัญหามีลูกยากอยู่ แล้วต้องการมีลูกให้สำเร็จ ที่“Superior A.R.T.” คลินิกรักษาผู้มีบุตรยาก และวินิจฉัยพันธุกรรมตัวอ่อน อยากรู้ไหมคะว่าทำไมที่นี่ถึงตอบโจทย์

ขอเล่าเท้าความสั้น ๆ ว่ามีเพื่อนของทีมแม่ ABK เธออยากมีลูกมาก หลังแต่งงานปล่อยมา 2-3 ปี ลูกก็ไม่มาสักที แล้วด้วยความที่เพื่อนติดตามความน่ารัก สดใสของน้องไทก้า ลูกชายคุณเพชรจ้า-คุณนิวเคลียร์ ก็ค้นหาจนรู้ว่าครอบครัวคุณเพชรจ้ามารักษามีบุตรยากที่ “Superior A.R.T.” เนื่องจากติดตามอยู่ว่าคุณนิวเคลียร์มีปัญหาเรื่องท่อนำไข่และภาวะ PCOS พอฟังแล้วทีมแม่ ABK ก็สนใจมาก ๆ เพราะก็เกรงว่าตัวเองจะมีปัญหาอะไรร่วมอยู่รึป่าว ลูกถึงไม่มาสักที ตัวเองก็อยากมีลูกแล้วด้วยเหมือนกัน จากนั้นก็เข้าไปค้นหาข้อมูลต่อ ของคลินิก ใน Facebook : Superior A.R.T. Thailand  เลื่อนอ่านไปเรื่อย ๆ ไม่ใช่แค่ครอบครัวคุณเพชรจ้า-คุณนิวเคลียร์เท่านั้นที่มาปรึกษาเรื่องการมีลูก แต่มีเซเลปคนดังอีกเยอะเลยค่ะ รวมถึงครอบครัวคุณจ๊ะ จิตตาภา-คุณเอิน ณิธิภัทร์ ก็มาปรึกษาเรื่องการมีลูกกับคุณหมอนิศารัตน์ สุนทราภา ที่ Superior A.R.T. จนประสบผลสำเร็จ ได้ลูกแฝดน่ารักน้องโอบและน้องอารี  นั่งดูคลิปที่คุณจ๊ะเล่าถึงการได้รับการดูแลอย่างดี ในแต่ละขั้นตอน แต่ละกระบวนการ รวมถึงการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาใช้ ทำให้ทีมแม่ ABK เชื่อมั่นว่าหากคุณพ่อคุณแม่ ที่มีปัญหาภาวะมีบุตรยาก หรือกำลังวางแผนมีบุตร หากได้มาปรึกษากับทางคลินิก ต้องได้รับข่าวดีกันทุกครอบครัวค่ะ

Supertor A.R.T.

 

รับชม : ประสบการณ์ภาวะมีบุตรยาก คุณจ๊ะ จิตตาภา – คุณเอิน ณิธิภัทร์  คลิก ⇓

 

https://www.youtube.com/watch?v=8EmHuK-4Zp8&t=378s

นอกจากจะเป็นที่ไว้วางใจของเหล่าเซเลปคนดังแล้ว ครอบครัวชาวต่างชาติกว่า 10,000 เคส จาก 37 ประเทศ ทั่วโลกยังเดินทางข้ามประเทศมาปรึกษาและรักษากับที่คลินิกนี้ เพราะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะทำการออกแบบแผนการรักษาเฉพาะแต่ละคู่สมรส นอกจากนี้ทางคลินิกยังให้บริการให้คำปรึกษาและรับตรวจผลทางพันธุกรรม ให้กับคลินิกและโรงพยาบาลเฉพาะด้านรักษามีบุตรยากหลายแห่งในประเทศไทย โดยมีห้องปฏิบัติการที่ได้มาตรฐาน ISO เทียบเท่าห้องผ่าตัดหัวใจ และบริการระดับ 5 ดาว อีกทั้งวิสัยทัศน์และผลงานทางวิชาการของ คุณเจมส์ มาร์แชล เป็นที่ยอมรับในระดับภูมิภาคเอเชีย

Superior A.R.T.

ปัจจุบัน คุณเจมส์ มาร์แชล เป็นกรรมการผู้จัดการ และผู้อำนวยการด้านวิทยาศาสตร์ที่คลินิก Superior A.R.T  คุณเจมส์ได้เขียนและร่วมเขียนวารสารและบทความด้านวิทยาศาสตร์มากกว่า 70 ชิ้น เป็นผู้บรรยายรับเชิญในงานประชุมนานาชาติมากมาย และเป็นที่ปรึกษาให้กับคลินิกในต่างประเทศ อาทิ มาเลเซีย สาธารณรัฐเช็ก จีน และสวีเดน

Superior A.R.T.เปิดให้บริการมาแล้วกว่า 15 ปี (เริ่มก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. 2550) โดยความร่วมมือของแพทย์ผู้ชำนาญการด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์และเด็กหลอดแก้วในประเทศไทย และผู้ให้บริการด้านภาวะเจริญพันธุ์จากประเทศออสเตรเลีย ด้วยทีมแพทย์ นักวิทยาศาสตร์ และผู้เชี่ยวชาญจากทั้ง 2 ทีม ทำให้ที่นี่เป็นหนึ่งในคลินิกดูแลผู้มีบุตรยากชั้นนำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

การที่ประสบปัญหามีลูกยาก และ/หรือ ต้องการให้ลูกน้อยเกิดมาปลอดจากโรคทางพันธุกรรม และมีโครโมโซมที่ปกติ จำเป็นต้องมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาช่วยค่ะ ที่ Superior A.R.T มีเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ Assisted Reproductive Technology (A.R.T.) หรือที่เรียกว่า IVF, ICSI หรือเด็กหลอดแก้วนั่นเอง เป็นกระบวนการรักษาคู่สมรสที่ประสบปัญหามีบุตรยาก ให้สามารถตั้งครรภ์ได้ ด้วยการนำไข่ออกจากรังไข่ของฝ่ายหญิงและอสุจิจากฝ่ายชาย มาผสมในห้องปฏิบัติการเพื่อให้เกิดการปฏิสนธิเป็นตัวอ่อน แล้วย้ายกลับสู่โพรงมดลูกและเติบโตเป็นทารกน้อยในท้องคุณแม่ โดยสามารถทำร่วมกับการตรวจคัดกรองโครโมโซมตัวอ่อน Pre-implantation Genetic Testing (PGT) เพื่อตรวจหาความผิดปกติทางพันธุกรรม และ/หรือความผิดปกติทางโครโมโซมเพื่อคัดเลือกตัวอ่อนที่แข็งแรง ป้องกันการถ่ายทอดโรคทางพันธุกรรมสู่รุ่นลูก และช่วยให้ลูกมีสุขภาพดี สมบูรณ์แข็งแรง ซึ่งจะช่วยเพิ่มอัตราการสำเร็จของการมีบุตร ได้สูงถึง 72%

ลำดับขั้นตอนกระบวนการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF/ICSI)

1. ปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนการรักษา และตรวจร่างกายเบื้องต้นทั้งฝ่ายหญิงและฝ่ายชาย

2. การกระตุ้นการเจริญเติบโตของไข่ (COH) การฉีดยากระตุ้นเพื่อกระตุ้นให้ไข่ในรังไข่โตขึ้น (follicle) โดยใช้ระยะเวลา 9-12 วัน

3. การเก็บไข่ (OPU) หลังจากที่ไข่เจริญเต็มที่ แพทย์จะใช้เข็มขนาดเล็กสอดผ่านผนังช่องคลอด เข้าไปในฟองไข่และดูดเก็บไข่ออกมา

4. การเก็บอสุจิ (Semen Collection) นำน้ำเชื้อที่เก็บได้มาปั่นล้างเพื่อคัดเฉพาะอสุจิที่แข็งแรง

5. การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF / ICSI) นำไข่และอสุจิมาทำการปฏิสนธิเพื่อเป็นตัวอ่อนที่สมบูรณ์

6. การเพาะเลี้ยงตัวอ่อน (Blastocyst Culture) เป็นการเพาะเลี้ยงตัวอ่อนในห้องปฏิบัติการด้วยเครื่อง Geri® Time-Lapse Incubator ตู้เลี้ยงตัวอ่อนระบบแยกเลี้ยง สามารถติดตามพัฒนาการของตัวอ่อนโดยปราศจากการรบกวน ทำให้ได้ตัวอ่อนคุณภาพดี จนพัฒนาและเติบโตถึงระยะบลาสโตซิสต์ ก่อนจะนำไปตรวจวินิจฉัยพันธุกรรมตัวอ่อน หรือย้ายกลับเข้าสู่โพรงมดลูกเพื่อการตั้งครรภ์

7. การตรวจวินิจฉัยพันธุกรรมตัวอ่อนก่อนใส่กลับเข้าโพรงมดลูก (Biopsy & PGT) เป็นการตรวจวิเคราะห์เพิ่มเติม เพื่อหาความผิดปกติทางพันธุกรรม และหรือความผิดปกติระดับโครโมโซมหรือยีน (Genes) และคัดเลือกตัวอ่อนที่ปกติ แข็งแรง ที่ปราศจากโรคทางพันธุกรรม และมีโครโมโซมที่ปกติ

8. การย้ายตัวอ่อนเข้าสู่โพรงมดลูก (Embryo Transfer) ตัวอ่อนที่ปกติแข็งแรงสมบูรณ์จะถูกนำไปฝังตัวที่ผนังมดลูกเพื่อให้เริ่มเจริญเติบโต

9. การทดสอบการตั้งครรภ์ หลังจากย้ายตัวอ่อนเข้ากลับเข้าโพรงมดลูกคุณแม่แล้ว ประมาณ 7-10 วัน ก็สามารถทดสอบการตั้งครรภ์ได้ และประมาณ 2 สัปดาห์หลังจากนั้น ก็สามารถมาตรวจอัลตราซาวด์ เพื่อยืนยันการตั้งครรภ์

10. การแช่แข็งตัวอ่อน (Embryo Freezing) สำหรับตัวอ่อนที่แข็งแรงสมบูรณ์ที่ยังไม่ได้ทำการย้ายตัวอ่อน สามารถแช่แข็ง เก็บไว้ใช้ในอนาคต ด้วยวิธีการแช่แข็งตัวอ่อนแบบผลึกแก้ว (Vitrification) ซึ่งเป็นเทคนิคที่ลดอุณหภูมิขณะแช่แข็งตัวอ่อนอย่างรวดเร็ว เพื่อป้องกันการเกิดผลึกน้ำแข็งในเซลล์ตัวอ่อน ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายของตัวอ่อน และยังช่วยให้อัตราการรอดของตัวอ่อนหลังละลายสูงขึ้นถึงเกือบ 100%

จากที่ทราบข้อมูลมานะคะ Superior A.R.T. ยังเป็นคลินิกรักษาผู้มีบุตรยาก และวินิจฉัยพันธุกรรมตัวอ่อน ที่แรกในเอเชีย ที่ประสบความสำเร็จในการคัดกรองตัวอ่อนปลอดโรคและทำให้ผู้ป่วยโรคธาลัสซีเมียหายขาด (Thalassemia) ด้วยการมีบุตรที่ปลอดโรคโลหิตจางธาลัสซีเมีย และมีเนื้อเยื่อที่เข้ากันได้กับบุตรที่ป่วย (HLA-Matching) เพื่อช่วยรักษาด้วยการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์ (Cord blood stem cell transplantation) จนหายเป็นปกติ

สำหรับคุณพ่อคุณแม่อยากมีลูกคนที่สอง สาม หรือคู่รักที่แต่งงานแล้วยังไม่มีลูก ทีมแม่ ABK แนะนำให้มาปรึกษา และตรวจร่างกายอย่างละเอียดกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่นี่ ตั้งแต่ระยะเบื้องต้น เพื่อให้ทราบว่าสุขภาพร่างกายทั้งสามี ภรรยา มีความสมบูรณ์แข็งแรงพร้อมสำหรับการมีลูกหรือไม่ และหากมีการตรวจพบปัญหาบางอย่างที่อาจมาจากฝ่ายชาย หรือฝ่ายหญิง ก็จะได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที เพื่อให้ร่างกายมีความพร้อมแข็งแรงสมบูรณ์ที่สุดกับการตั้งครรภ์ค่ะ  อ่อ !! สาว ๆ ที่อยากฝากแช่แข็งไข่ ที่ Superior A.R.T. ก็มีให้บริการนะคะ

ทีมแม่ ABK ขอสรุปความต่างของคลินิกที่นี่กับที่อื่นๆ คือ การออกแบบแผนการรักษาคนไข้เฉพาะในแต่ละคู่ โดยแพทย์และทีมผู้ชำนาญการที่ใส่ใจและเข้าใจคนไข้ เทคโนโลยีที่ใช้มีประสิทธิภาพสูง แม่นยำ ได้มาตรฐาน เพื่อช่วยเพิ่มอัตราการตั้งครรภ์ พร้อมความใส่ใจให้บริการดูแลคนไข้อย่างใกล้ชิด มีพยาบาลคอยให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม. ตลอดกระบวนการรักษา อีกทั้งโรงพยาบาลหลาย ๆ แห่งยังให้ความมั่นใจมาใช้บริการเรื่องของแล็บของที่นี่อีกด้วย

สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่สนใจ หรือมีปัญหามีบุตรยากสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม แพ็กเกจ โปรโมชั่น หรือโทรนัดหมายแพทย์เพื่อเข้าไปขอคำปรึกษาได้ที่

Superior A.R.T. คลินิกรักษาผู้บุตรยาก และวินิจฉัยพันธุกรรมตัวอ่อน

Website : tinyurl.com/56fyj4u5   

Facebook : https://www.facebook.com/thaisuperiorart  

LineID : https://bit.ly/37NqGkb  

Tel : 02 035 1400 / Hotline: 063 904 8899

keyboard_arrow_up