เนื้องอกในมดลูก

เนื้องอกในมดลูก โรคยอดฮิตของหญิงทุกวัย ไม่ใช่มะเร็ง แต่ไม่ควรมองข้าม!

event
เนื้องอกในมดลูก
เนื้องอกในมดลูก

เนื้องอกในมดลูก โรคยอดฮิตของผู้หญิงทุกวัย ไม่ใช่มะเร็ง แต่ไม่ควรมองข้าม สาเหตุเกิดจากอะไร ถ้าเป็นแล้วจะมีอาการอย่างไร และมีวิธีการรักษาต้องทำยังไง ทีมแม่ ABK มีคำตอบจากคุณหมอนิวัฒน์ มาฝากค่ะ

เนื้องอกในมดลูก สาเหตุ อาการ และการรักษา

เนื้องอกมดลูก หรือที่ทางการแพทย์ เรียกว่า Myoma Uteri, Leiomyoma หรือ Fibroid เป็นเนื้องอกของมดลูกชนิดไม่ร้ายแรงที่พบได้บ่อยที่สุด  อุบัติการณ์การเกิดเนื้องอกชนิดนี้ มีมากถึงร้อยละ 20-50 ของสตรีในวัยเจริญพันธุ์ และพบได้บ่อยที่สุดช่วงอายุ 40-50 ปี นอกจากนี้ยังพบเนื้องอกมดลูก ถึงร้อยละ  5-10 ในสตรีที่มีภาวะมีบุตรยาก โดยสตรีที่ไม่ได้แต่งงาน หรือแต่งงานแล้วแต่ไม่มีบุตร มีแนวโน้มพบได้บ่อยขึ้น

เนื้องอกในมดลูก เกิดจากอะไร อันตรายหรือไม่

เนื้องอกมดลูกเกิดจากการแบ่งเซลล์ผิดปกติ หรือมิวเตชั่น ของเซลล์กล้ามเนื้อมดลูก และมีฮอร์โมนเพศหญิง ( เอสโตรเจน) มามีส่วนในการกระตุ้นการเจริญเติบโตของเนื้องอก เห็นได้จากการที่ไม่พบเนื้องอกในวัยก่อนมีระดู(ช่วงที่ยังไม่ได้สร้างฮอร์โมนเอสโตรเจน)  และเนื้องอกส่วนใหญ่มีขนาดเล็กลง หลังเข้าสู่วัยหมดระดูแล้ว(ช่วงหมดฮอร์โมนเอสโตรเจนแล้ว) ส่วนอันตรายที่หลายๆคนกลัวคือ การกลายเป็นมะเร็งของเนื้องอก พบว่าเนื้องอกชนิดนี้โอกาสในการพัฒนาไปเป็นเนื้อร้าย หรือมะเร็งน้อยมาก (น้อยว่าร้อยละ 0.5) จึงเป็นเนื้องอกที่สามารถติดตามขนาดได้ ถ้ายังไม่ได้มีข้อบ่งชี้สำหรับการผ่าตัด

เนื้องอกในมดลูก กับ เนื้องอกนอกมดลูก ต่างกันอย่างไร

เนื้องอกมดลูกพบได้ตั้งแต่ขนาดเล็ก 1-2 เซนติเมตร จนถึงขนาดใหญ่ 20-30 เซนติเมตร แบ่งเป็นชนิดต่างๆดังนี้

  1. Intramural myoma เป็นชนิดที่แทรกตัวอยู่ในผนังมดลูก เป็นแบบที่พบได้บ่อยที่สุด บางครั้งพบได้หลายๆก้อนพร้อมกัน เนื้องอกชนิดนี้มักสัมพันธ์กับอาการปวดท้องประจำเดือน
  2. Subserous myoma เป็นชนิดที่ตัวก้อนยื่นออกมาในช่องท้อง ซึ่งถ้าก้อนยื่นไปทางด้านหน้าซึ่งเป็นตำแหน่งของกระเพาะปัสสาวะ คนไข้อาจมีอาการปัสสาวะบ่อย หรืออถ้าก้อนยื่นไปทางด้านหลังซึ่งเป็นตำแหน่งของลำไส้ คนไข้อาจมีอาการท้องผูกเรื้อรัง บางครั้งพบลักษณะเป็นก้านติดกับมดลูก ส่วนตัวก้อนเนื้องอกห้อยลงมาในช่องท้อง คล้ายขั้วผลไม้ เรียกว่า Pedunculated  myoma ซึ่งเป็นชนิดที่คนไข้ไม่ค่อยมีอาการแสดงใดๆให้เห็น บางคนเรียกเนื้องอกชนิดนี้ว่า เนื้องอกนอกมดลูก
  3. Submucous myoma เป็นชนิดที่ตัวก้อนยื่นเข้าไปในเยื่อบุโพรงมดลูก เป็นชนิดที่พบได้น้อยที่สุด ประมาณร้อยละ 5-10 ของเนื้องอกมดลูก มักจะทำให้เกิดอาการผิดปกติของประจำเดือน เช่นประจำเดือนออกมากและนานผิดปกติ บางครั้งเลือดประจำเดือนมีลักษณะเป็นลิ่มหรือก้อน เนื้องอกชนิดนี้ทำให้โพรงมดลูกบิดเบี้ยวผิดปกติ ซึ่งอาจรบกวนการฝังตัวของตัวอ่อน เป็นปัจจัยนำไปสู่การแท้งบุตร และการมีบุตรยาก

เนื้องอกในมดลูก

อาการเตือนของเนื้องอกในมดลูก

มากกว่าร้อยละ 50 ของคนไข้ที่มีเนื้องอกมดลูกแทบจะไม่มีอาการใดๆเลย มาตรวจพบโดยบังเอิญจากการตรวจเช็คภายในประจำปีเท่านั้น  ส่วนที่พบว่ามีอาการ ส่วนใหญ่จะมาด้วยอาการปวดท้องน้อย โดยเฉพาะช่วงที่เป็นประจำเดือน โดยเฉพาะลักษณะที่ปวดเพิ่มมากขึ้นทุกๆเดือน และมักจะสัมพันธ์กับความผิดปกติของประจำเดือน ในลักษณะประจำเดือนที่ออกมากและนาน หรือออกเป็นลิ่มหรือก้อนเลือดให้เห็น บางรายเลือดออกมากจนมีอาการอ่อนเพลีย หน้ามืดเป็นลม หรือจนเกิดภาวะซีด (Anemia) นอกจากนี้อาการที่เกิดจากเนื้องอกไปกดเบียดอวัยวะข้างเคียง ซึ่งมักเกิดจากเนื้องอกชนิด Subserous เช่นอาการปัสสาวะบ่อย หรือท้องผูกเรื้อรัง ก็ให้สงสัยโรคนี้ไว้ด้วย บางรายที่ก้อนเนื้องอกมดลูกโตมากๆ คนไข้อาจมาด้วยอาการคลำได้ก้อนแข็งๆที่บริเวณท้องน้อย โดยเฉพาะช่วงเช้าที่เพิ่งตื่นนอนในขณะที่กระเพาะปัสสาวะโป่ง อาจทำให้เห็นก้อนเนื้องอกเด่นชัดขึ้น

การมีบุตรยาก สาเหตุเพราะ เนื้องอกในมดลูก ใช่หรือไม่

โดยความเป็นจริง เนื้องอกมดลูก ไม่ได้เป็น สาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้เกิดภาวะมีบุตรยาก  ยกเว้นในบางกรณี เช่น ก้อนเนื้องอกมดลูก ขนาดใหญ่ มากกว่า 5  เซนติเมตร หรือในกรณีที่ เนื้องอกมดลูกอยู่ในตำแหน่งที่มีความสำคัญในการเกิดการตั้งครรภ์ เช่น บริเวณใกล้ท่อนำไข่ (fallopian tubes) เนื้องอกมดลูก ที่อยู่ติดกับโพรงมดลูก (Endometrial cavity) และมีการเบียด โพรงมดลูก ทำให้เกิด การบิดเบี้ยวของโพรงมดลูกซึ่งตัวอ่อนใช้เป็นที่สำหรับการฝังตัว พบว่า เนื้องอกมดลูกชนิดดังกล่าว  เป็นสาเหตุของการมีบุตรยาก เพียงร้อยละ 1-2 ของสตรีที่มีปัญหามีบุตรยากเท่านั้น

เนื้องอกในมดลูก

สามารถรักษาเนื้องอกในมดลูก ได้ด้วยวิธีใดบ้าง

การรักษาเนื้องอกมดลูกมีหลายวิธี ตั้งแต่การติดตามอาการ การใช้ยา หรือการผ่าตัด โดยการรักษาพิจารณาจาก อายุของคนไข้ ความต้องการมีบุตรในอนาคต สุขภาพทั่วไปของคนไข้ และ ขนาดและตำแหน่งของเนื้องอก โดยสามารถแบ่งการรักษาออกเป็น 3 วิธีหลักดังนี้

  1. การรักษาแบบการเฝ้าติดตาม (Expectant treatment) เหมาะกับผู้ป่วยที่
    • ไม่มีอาการผิดปกติ
    • โดยเฉพาะอย่างยิ่งขนาดเนื้องอกไม่โต
    • อายุเข้าใกล้วัยหมดประจำเดือน โดยคาดว่าก้อนจะมีขนาดเล็กลง
    • ควรเฝ้าดูอาการและตรวจติดตามอัตราการโตของเนื้องอกอย่างใกล้ชิดทุก 6-12 เดือน (หรือบ่อยขึ้นทุก 3-6 เดือน ถ้าพิจารณาแล้วว่าเนื้องอกอาจโตเร็ว) โดยการตรวจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง
    • ในรายที่ต้องการบุตร แนะนำให้รีบตั้งครรภ์ ถ้าเนื้องอกมดลูกมีขนาดเล็กและไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่สำคัญ
  1. การรักษาด้วยยา
  • การรักษาตามอาการ เช่น การใช้ยาแก้ปวดเพื่อรักษาอาการปวดท้องประจำเดือน ยาที่ใช้กันบ่อย เช่น พาราเซตามอล ไอบูโพรเฟน พอนสแตน  เป็นต้น
  • ยาเม็ดคุมกำเนิด (Contraceptive pills) มักใช้รักษาภาวะประจำเดือนมามากที่สัมพันธ์กับเนื้องอกมดลูก ช่วยลดอาการปวดประจำเดือน แต่ไม่ได้ลดขนาดก้อนเนื้องอกมดลูก บางรายอาจทำให้ก้อนเนื้องอกมดลูกมีขนาดโตขึ้นได้ หากใช้ยา 3-6 เดือนแล้วอาการไม่ดีขึ้น หรือมีอาการจากการที่ก้อนเนื้องอกมีขนาดโตขึ้น ควรเปลี่ยนวิธีการรักษา ยาเม็ดคุมกำเนิดห้ามใช้ในโรคหลอดเลือดหัวใจ ภาวะลิ่มเลือดอุดตันหลอดเลือดดำ ไมเกรนที่มีออร่า โรคตับ โรคมะเร็งเต้านม
  • โปรเจสติน (Progestins และ) ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนมีผลต่อการเจริญเติบโตของเนื้องอกมดลูก ทั้งเพิ่มและลดขนาดเนื้องอก นอกจากนั้นยังลดประจำเดือนโดยการทำให้เกิดเยื่อบุโพรงมดลูกฝ่อด้วย การใช้โปรเจสตินแบบกิน (Visanne) หรือฉีด (DMPA) หรือชนิดที่เป็นห่วงอนามัย( LNG-IUS : Levonorgestrel-releasing intrauterine system) พบว่าลดประจำเดือนมามากที่เกิดจากเนื้องอกมดลูกได้ ผลข้างเคียงของโปรเจสติน คือ น้ำหนักขึ้น สิว เลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด  โปรเจสตินห้ามใช้ ในสตรีตั้งครรภ์ หรือมี เลือดออกทางช่องคลอดไม่ทราบสาเหตุ มะเร็งเต้านม โรคตับ โรคติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน
  • GnRH agonist เป็นยาที่มีประสิทธิภาพในการรักษา สามารถลดขนาดของเนื้องอกมดลูกได้ แต่มีผลข้างเคียงสูง โดยเฉพาะอาการเข้าสู่วัยทองหรือวัยหมดประจำเดือนชั่วคราว (Pseudomenopause) ยาชนิดนี้มีราคาแพง และมักใช้รักษาในระยะเวลาสั้นๆ (2- 6 เดือน) มักใช้ในกรณีเพื่อลดขนาดของเนื้องอกก่อนการผ่าตัด เพื่อให้ผ่าตัดทำได้ง่ายขึ้น
  1. การผ่าตัด พิจารณาในรายที่มีอาการดังต่อไปนี้
  • เลือดประจำเดือนออกมากผิดปกติจนเกิดภาวะเลือดจาง
  • มีอาการเนื้องอกกดเบียดอวัยวะข้างเคียง เช่น มีอาการปัสสาวะบ่อย หรือ ปัสสาวะไม่ออก หรืออาการท้องผูกเรื้อรัง
  • มีอาการปวดท้องหรือปวดประจำเดือนมากอย่างเรื้อรัง หรือรุนแรงขึ้น
  • ก้อนโตเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสตรีวัยหลังหมดประจำเดือน เพราะมีโอกาสเป็นมะเร็งได้
  • ประวัติมีบุตรยาก หรือประวัติแท้งบุตรเป็นอาจิณ ที่ตรวจไม่พบสาเหตุอื่น ๆ

ซึ่งการรักษาโดยวิธีการผ่าตัด มีวิธี2 วิธี คือ การผ่าตัดโดยการส่องกล้อง (Laparoscopy) และวิธีเปิดหน้าท้อง (Laparotomy) ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดและตำแหน่งของเนื้องอก และความชำนาญของแพทย์ผ่าตัด ในรายที่ต้องการมีบุตรในอนาคต แพทย์มักจะแนะนำให้ตัดเฉพาะตัวเนื้องอกมดลูกออก (Conservative surgery) เพื่อเก็บรักษามดลูก ไว้สำหรับใช้ในการตั้งครรภ์ในอนาคต สำหรับรายที่ไม่ต้องการมีบุตร หรือมีบุตรพอแล้ว จะแนะนำให้ผ่าตัดเอามดลูกออก (Radical surgery) เพื่อป้องกันการกลับมาเป็นโรคนี้ซ้ำอีก

เนื้องอกในมดลูก
เนื้องอกในมดลูก ขณะตั้งครรภ์

ถ้าตรวจพบว่ามีเนื้องอกมดลูกขณะตั้งครรภ์ ต้องทำอย่างไร

เนื้องอกมดลูกไม่ทำให้เกิดความพิการแต่กำเนิดใด ๆ ต่อทารกในขณะปฏิสนธิ  เนื้องอกมดลูก อาจมีผล หรือไม่มีผลต่อการตั้งครรภ์ก็ได้ ขึ้นกับขนาด ชนิด และตำแหน่งของเนื้องอก เช่น เนื้องอกขนาดเล็กอยู่ในตำแหน่งไม่สำคัญอาจไม่ส่งผล หรือไม่มีอาการใดๆเลยระหว่างตั้งครรภ์ แต่ถ้าเนื้องอกที่มีขนาดใหญ่ หรือเบียดเข้าไปในโพรงมดลูกอาจมีภาวะแทรกซ้อนเกิดขึ้นได้ เช่น อาการปวดท้อง ซึ่งเป็นอาการที่พบได้บ่อยที่สุด โดยเฉพาะเนื้องอกที่มีขนาดมากกว่า 5 เซนติเมตร นอกจากนี้เนื้องอกมดลูกที่มีขนาดใหญ่อาจเบียดที่อยู่ของทารกในครรภ์ ทำให้ทารกอยู่ในท่าที่ผิดปกติได้  หรือตัวเนื้องอกอาจอยู่ในตำแหน่งที่ขัดขวางการคลอด ซึ่งอาจเป็นสาเหตุต้องให้การผ่าตัดคลอด นอกจากนี้บางงานวิจัยพบว่าเนื้องอกมดลูกเกี่ยวข้องกับภาวะ การแท้งบุตร การคลอดก่อนกำหนด การแตกของถุงน้ำคร่ำก่อนครบกำหนดคลอด และภาวะตกเลือดหลังคลอด รวมถึงภาวะรกลอกตัวก่อนกำหนด โดยเฉพาะในรายที่รกเกาะตรงตำแหน่งของเนื้องอก

การตั้งครรภ์ทำให้เนื้องอกมีการเปลี่ยนแปลงขนาด เนื่องจากฮอร์โมนของการตั้งครรภ์กระตุ้นให้เนื้องอกโตขึ้นได้  โดยการเจริญเติบโตของเนื้องอกจะโตเร็วในช่วงไตรมาสแรก และไตรมาสที่ 2  และจะโตช้าลงในไตรมาสที่ 3  โดยทั่วไปก้อนที่ขนาดใหญ่มากกว่า 5 เซนติเมตร จะโตได้ค่อนข้างไว ขณะที่ก้อนขนาดเล็กขนาดจะค่อนข้างคงที่มากกว่า

การรักษาระหว่างตั้งครรภ์ ส่วนใหญ่เป็นการเฝ้าติดตามดูขนาดของเนื้องอก และ รักษาตามอาการเมื่อมีภาวะแทรกซ้อนเกิดขึ้น เช่น เมื่อมีอาการปวด ก็ให้ยาแก้ปวด (ส่วนใหญ่มักจะมีอาการปวดในรายที่มีก้อนขนาดใหญ่ และอายุครรภ์ช่วง ไตรมาสที่ 1 ต่อไตรมาสที่ 2  เพราะเป็นช่วงที่มีการเจริญเติบโตเร็วของเด็กทารกและเนื้องอก ทำให้บางส่วนโดยเฉพาะแกนกลางของเนื้องอกขาดเลือดมาเลี้ยง(Ischemia) และเกิดการตายของเนื้อเยื่อภายใน (necrosis) เรียกว่า Red degeneration myoma  ซึ่งจะมีการหลั่งสารพรอสตาแกลนดินส์ (Prostaglandins) ทำให้เกิดอาการปวดบริเวณก้อนเนื้องอกตามมา

การผ่าตัดเนื้องอกขณะตั้งครรภ์ ไม่ค่อยแนะนำให้ทำ เนื่องจากอาจมีปัญหาแทรกซ้อนตามมาได้มาก เช่นการเสียเลือด การแท้งหรือคลอดก่อนกำหนด (ถ้าจำเป็นต้องผ่าตัดควรทำการผ่าตัดในช่วงไตรมาสที่ 2 เป็นช่วงที่ปลอดภัยต่อการผ่าตัดมากที่สุด) คนไข้ส่วนหนึ่งที่เตรียมตัวสำหรับการผ่าตัดคลอดบุตรอยู่แล้ว จะขอทำผ่าตัดเอาเนื้องอกมดลูกออกเลยในขณะผ่าคลอดได้หรือไม่ คำตอบคือ ไม่ควร เพราะเสี่ยงต่อการเสียเลือด และตกเลือดอย่างมากจนถึงขั้นถูกตัดมดลูก อาจจะพิจารณาผ่าตัดเนื้องอกมดลูกพร้อมกับการผ่าตัดคลอดในรายที่เป็นเนื้องอกชนิดที่เป็นติ่งหรือขั้วเท่านั้น (subserous or pedunculated fibroids)

เนื่องจากเนื้องอกส่วนใหญ่ที่พบตั้งแต่ช่วงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์ ร้อยละ 90 จะพบว่าขนาดของเนื้องอกค่อยๆลดขนาดลงหลังคลอด  เมื่อฮอร์โมนการตั้งครรภ์กลับสู่ภาวะปกติ มีเพียงร้อยละ 10 เท่านั้นที่อาจจะโตขึ้นหลังคลอด ดังนั้นจึงควรนัดตรวจติดตามช่วง 3-6 เดือนหลังคลอด เพื่อประเมินขนาดที่แท้จริงของตัวเนื้องอกอีกครั้ง ถ้าเนื้องอกมดลูกยังมีขนาดใหญ่อยู่มาก จึงค่อยพิจารณาวางแผนผ่าตัดในช่วงหลังคลอด

บทความโดย : นายแพทย์นิวัฒน์ อรัญญาเกษมสุข (สูตินรีแพทย์)
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์มารดาและทารกในครรภ์ พันธุศาสตร์การแพทย์
มหาวิทยาลัย จอห์น ฮอบกิ้น สหรัฐอเมริกา

สำหรับเรื่อง เนื้องอกในมดลูก ถือเป็นหนึ่งในเรื่องของ HQ  หนึ่งใน 10 ของ Power BQ (Power Baby & Kids Quotients) อาวุธที่ช่วยให้ลูกฉลาดรอบด้าน เพราะเด็กยุคนี้มีแค่ IQ และ EQ นั้นไม่เพียงพออีกต่อไป แต่ยังมี Quotient ต่างๆ ถึง 10Q นั่นคือ “10 ความฉลาด” ที่คุณพ่อคุณแม่ควรส่งเสริมให้ลูกได้ครบไปพร้อมกันนั่นเอง ทั้งนี้ HQ หรือ Health Quotient  คือ ความฉลาดในการดูแลรักษาสุขภาพ
ซึ่งคนที่มี HQ ดี จะรู้จักดูแลสุขภาพของตัวเองให้ดีเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง เช่น กินอาหารที่ดี ครบ 5 หมู่ ขับถ่ายดี ได้ออกกำลังกายสม่ำเสมอ นอนพักผ่อนให้เพียงพอ ดูแลรักษาความสะอาดร่างกายของตัวเอง ฯลฯ สำหรับเด็กเล็กเราอาจจะยังไม่เห็นพัฒนาการด้านนี้ชัดเจน แต่คุณพ่อคุณแม่สามารถเริ่มปลูกฝังและใส่ใจเรื่องสุขภาพ การดูแลร่างกายในการทำกิจวัตรประจำวันได้ทุกวัน เพื่อให้ลูกซึมซับและดูแลใส่ใจสุขภาพตัวเอง ซึ่งก็จะเป็นการสร้าง HQ ที่ดีในตัวลูกได้ ยิ่งในปัจจุบันโรคภัยไข้เจ็บมีเยอะขึ้น โรคใหม่ๆ แปลกๆ เชื้อโรคที่พัฒนาขึ้นจาก สภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง และมลภาวะต่างๆ เราจึงต้องสอนให้ลูกของเราฉลาดใส่ใจดูแลสุขภาพให้แข็งแรง และมีภูมิคุ้มกันต่อโรคภัยต่างๆ รอบตัว เพราะการไม่มีโรค คือลาภอันประเสริฐนั่นเองค่ะ
ครีมทาหน้าคุณแม่

ยืนหนึ่ง ครีมทาหน้าคุณแม่ Trylagina ฟื้นฟูพร้อมบำรุง จบทุกปัญหาผิวในกระปุกเดียว

Alternative Textaccount_circle
event
ครีมทาหน้าคุณแม่
ครีมทาหน้าคุณแม่

ทำไมคนเป็นแม่จะสวยปิ๊งไม่ได้ จบความกังวลที่แม่ทุกคนต้องเผชิญเมื่อมีลูก ไม่ว่าจะปัญหาผิวหมองคล้ำ รอยเหี่ยวย่น ขาดความชุ่มชื้น ด้วย ครีมทาหน้าคุณแม่ กระปุกนี้ การันตีรางวัล Editor’s Choice 3 ปีซ้อน

เพราะปัญหาผิวหน้าเป็นเรื่องที่ผู้หญิงคนไหนก็ไม่อยากเจอ แต่เลี่ยงไม่ได้เลยสำหรับคุณแม่ เนื่องจากฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ ทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำ ผิวแห้งง่าย เป็นขุยจนเกิดอาการคัน แล้วยิ่งถ้าคุณแม่ดื่มน้ำน้อย ยิ่งทำให้ผิวแห้งมาก และหลายๆ คนสิวขึ้นเต็มหน้าทั้งที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

ฉะนั้นคุณแม่ต้องไม่ลืมดูแลผิวหน้าตัวเองไปพร้อมๆ กับการดูแลสุขภาพให้ดีเพื่อลูกในท้อง ครีมทาหน้าคุณแม่ จึงเป็นไอเท็มที่ขาดไม่ได้ แต่การเลือกครีมที่คุณแม่สามารถทาได้อย่างปลอดภัย ปราศจากสารเคมีอันตราย และไม่ส่งผลร้ายต่อลูกในท้อง ที่สำคัญสามารถบำรุงผิวได้ดีจริงตั้งแต่เริ่มท้องจนถึงหลังคลอดก็เป็นสิ่งที่ Amarin Baby & Kids คำนึงถึงเป็นอันดับต้นๆ

ครีมทาหน้าคุณแม่

Amarin Baby & Kids จึงยกให้ Trylagina เป็น ครีมทาหน้าคุณแม่ ที่ได้รับรางวัล EDITOR’S CHOICE สาขา BEST FACIAL SKINCARE FOR MOM จาก Amarin Baby & Kids Awards 2021

ใครที่ตามหาครีมทาหน้าที่ดูแลครบทุกปัญหาในกระปุกเดียว ทีมบ.ก.ขอแนะนำครีมบำรุงผิว Trylagina (ไตรลาจีน่า) ครีมกระปุกสีแดงที่หลายคนรู้จัก ความพิเศษอยู่ที่เนื้อครีมเบาบางแต่อุดมไปด้วยคุณค่าจากคอลลาเจนใต้ท้องทะเลน้ำลึก พร้อมด้วยสารสกัดธรรมชาติชั้นเลิศจากยุโรป เช่น EPS Seafill P สารสกัดจากแพลงก์ตอนน้ำลึกจากทะเลในประเทศฝรั่งเศส ที่เข้าไปช่วยฟื้นฟูริ้วรอยให้แลดูเนียนเรียบขึ้น ขอบอกว่าคุณแม่สามารถสัมผัสความรู้สึกนี้ได้ทันทีหลังใช้ และ Sand Lily Extract สารสกัดจากดอกไม้สีขาวที่มีคุณสมบัติทนต่อแดดจ้า จึงทำหน้าที่เป็นองครักษ์พิทักษ์ผิวหน้าให้ดูกระจ่างใส และลดเลือนจุดด่างดำอย่างเห็นผล

ครีมทาหน้าคุณแม่

ครีมที่ดีจะต้องสามารถซึมลึกเข้าไปบำรุงได้ถึงชั้นผิว จึงจะเรียกว่าดูแลผิวได้จริงๆ ทาง Trylagina จึงได้นำเอานวัตกรรมแคปซูล AGE DEFENCE INTELLEGENT ที่บรรจุสารเปปไทด์ช่วยลดเลือนริ้วรอยและร่องลึกไปพร้อมๆ กับทำให้ผิวหน้าดูอ่อนกว่าวัยด้วย คุณสมบัติแบบนี้เหมาะอย่างยิ่งกับคุณแม่หลังคลอดที่ต้องดูแลลูกน้อยอย่างใกล้ชิด พักผ่อนน้อย ไม่มีเวลาดูแลตัวเอง

วิธีดูแลก็แสนง่าย ใช้เวลาไม่นาน เพียงแค่ทาครีม Trylagina หลังล้างหน้าทุกเช้าและก่อนนอนให้ทั่วใบหน้าและลำคอเป็นประจำ เนื้อครีมจะค่อยๆ ซึมเข้าบำรุงผิวจนเริ่มรู้สึกว่าใบหน้ากระจ่างใสและริ้วรอยแลดูเลือนลงอย่างเป็นธรรมชาติโดยไม่ต้องทาครีมหรือเซรั่มเพิ่ม คุณแม่จึงดูแลผิวหน้าได้ทุกวันโดยไม่เสียเวลา

ครีมทาหน้าคุณแม่

ด้วยคุณสมบัติทั้งหมดนี้ ทาง Amarin Baby & Kids “เครือข่ายแม่ลูกใหญ่ที่สุด” ผู้นำด้านคอนเทนต์คุณภาพ เข้าใจครอบครัวไทย และตอบสนองความต้องการของคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ จึงคัดเลือกให้ครีมบำรุงผิว Trylagina  ได้รับรางวัล EDITOR’S CHOICE สาขา BEST FACIAL SKINCARE FOR MOM จาก “Amarin Baby & Kids Awards 2021” ซึ่งมอบให้กับสินค้าแม่ลูก “สินค้าใช้ดีและมีประโยชน์จริง”

หากคุณพ่อคุณแม่สนใจครีมทาหน้า Trylagina สามารถสอบถามและดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.trylagina.com

ติดตามอ่านบทความอื่น

เซรั่มบำรุงผิวหน้า ยี่ห้อไหนดี? ตอบชัดทุกปัญหาผิวคุณแม่ลูกอ่อน

ประกาศรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2021 หมวดผลิตภัณฑ์สำหรับคุณแม่

 

itp คือ โรคเกล็ดเลือดต่ำในเด็ก

เคสจริง!อันตราย เมื่อลูกเป็น itp คือ โรคเกล็ดเลือดต่ำในเด็ก

Alternative Textaccount_circle
event
itp คือ โรคเกล็ดเลือดต่ำในเด็ก
itp คือ โรคเกล็ดเลือดต่ำในเด็ก

itp คือ โรคเกล็ดเลือดต่ำในเด็ก อันตรายที่พ่อแม่ไม่ควรมองข้าม กับเคสจริงที่แม่อยากเล่า เมื่อลูกป่วยหนักแม่จ๋าต้องทำอย่างไร วิธีสังเกต รักษา และดูแลลูก

เคสจริง!!อันตราย เมื่อลูกเป็น itp คือ โรคเกล็ดเลือดต่ำในเด็ก

เมื่อใดที่สังเกตเห็นร่างกายลูกมีจุดจ้ำ ช้ำ จุดเล็ก ๆ สีม่วงกระจายทั่วไปเหมือนผื่น จงระวัง โรค itp คือ โรคเกล็ดเลือดต่ำ โรคนี้อันตราย แต่รักษาได้ คุณแม่ใจดีท่านหนึ่งได้กรุณาเขียนเล่าเรื่องย้อนหลังถึงประสบการณ์การเจ็บป่วยหนักของลูก เพื่อเป็นการเตือนให้พ่อแม่คอยสังเกตอาการลูก และไม่ควรชะล่าใจ เพราะหากคุณแม่ไม่เชื่อสัญชาตญาณของความเป็นแม่ในตัวเองแล้วละก็ อาจเกิดเหตุการณ์เสี่ยงต่อชีวิตของลูกก็เป็นได้

 

เคสจริง!!เมื่อลูกเป็น itp
เคสจริง!!เมื่อลูกเป็น itp
ครั้งแรกที่…ลูกป่วยหนัก…และแม่ก็เช่นกัน (ตอนที่ 1)
เรื่องนี้เกิดเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ตอนที่ลูกยังอายุไม่ถึงขวบเลย บันทึกนี้เอาไว้เตือนความจำว่าจงเชื่อสัญชาตญาณของความเป็นแม่ ตอนที่ป่วยไม่ได้มีอาการอะไรเลยจนกระทั่งไปหาคุณหมอตรวจเลือด โรคนี้อันตราย แต่รักษาได้
ปล ขอบคุณแดดดี้ที่ทำประกันสุขภาพให้ลูกตั้งแต่เกิด
.
.
.
ITP – Immune Thrombocytopenic Purpura
โรคเกร็ดเลือดต่ำ
วันที่ 1 – วันที่ 7 พ.ย. 60 ตอนเช้าตื่นมาหม่ามี้เห็นที่เสื้อนอนหนูมีคราบเลือดจางๆ สงสัยว่าฟันจะขึ้น หนูเลยเอาเสื้อมากัด แต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไร พอช่วงเย็นๆ ตอนที่ลูกกำลังกลิ้ง คลาน เล่นอยู่บนเสื่อ ก ข ค อันใหม่ สีสันสดใส ที่คุณน้า เพื่อนรักของหม่ามี้ให้ลูกมา หม่ามี้สังเกตเห็นขาสองข้างของลูก เป็นรอยแดง มีเม็ดๆ สีแดงใต้ผิวหนัง เอ หรือว่าลูกจะแพ้พวกสารเคมี หรือว่าสีที่อยู่บนเสื่อ หรือว่าเช็ดไม่สะอาด รึเปล่าน้อ หม่ามี้เลยเก็บเสื่อขึ้น ให้หนูเล่นบนพื้นไปก่อน
วันที่ 2 – วันรุ่งขึ้น 8 พ.ย. 60 ตื่นเช้ามา สังเกตเห็นว่าลูกมีเม็ดผื่นที่ขาเพิ่มขึ้นเยอะเลย แล้วก็เริ่มลามมาที่แขนช่วงล่าง หนูไม่มีอาการอย่างอื่น ไม่มีไข้ ไม่งอแง กินข้าวปกติ แถมวันนี้ลูกเริ่มหยิบส้มมาลองกินเองด้วย พอบ่าย 2 ก็พาหนูไปเรียนว่ายน้ำตามปกติ พอเสร็จจากว่ายน้ำ เพื่อความสบายใจ อ่ะแวะไปหาหมอซักหน่อย ไปถึงโรงพยาบาล พบคุณหมอตอน 4 โมง พอคุณหมอเห็นจุดบนขา บนแขนหนูเท่านั้น ก็สั่งให้เจาะเลือดทันที หม่ามี้ใจหล่นตุบเลย
หม่ามี้พาหนูไปห้องเจาะเลือด พี่พยาบาล 2 คนกำลังเตรียมเข็ม ส่วนลูกนั้นไม่รู้เรื่องอะไรเลยนะ เข้าไปในห้อง มองดูสติกเกอร์ที่ผนัง มีสัตว์อะไรบ้างน้า พยาบาลบอกหม่ามี้ให้กอดหนูไว้แน่นๆ พอเข็มเจาะโดนมือเท่านั้นแหละ ร้องไห้จ้ากเลย ทั้งร้อง ทั้งดิ้น หม่ามี้สงสารหนูเหลือเกิน
จำได้เลยว่าตอนรอผลอยู่ก็ออกไปซื้ออาหารเย็นกลับบ้านกับตาตา ยายยาย ได้ข้าวกล่องมาคนละกล่อง เสร็จแล้วก็กลับมานั่งรอต่อ หลังจากนั่งรออยู่ชั่วโมงนึง ผลเลือดก็ออก พอเข้าไปพบคุณหมอ สรุปว่าหนูเกร็ดเลือดต่ำมากแค่ 11,000 (ปกติ 150,000 ถึง 450,000) คุณหมอสันนิษฐานว่าน่าจะเป็น ITP – Immune Thrombocytopenic Purpura ประมาณว่าภูมิร่างกายไปทำลายเกร็ดเลือดตัวเอง
เรื่องเล่า “เมื่อลูกฉันป่วยเป็น ITP” เนื้อหาบางส่วนจากทั้งหมด 4 ตอน สามารถติดตามอ่านเรื่องราวทั้งหมดได้ที่ MommyY แม่บ้านติดเกาะ 
รอยจ้ำช้ำบนตัวลูก เป็นจุดแดงเล็ก ๆ คล้ายผื่น
รอยจ้ำช้ำบนตัวลูก เป็นจุดแดงเล็ก ๆ คล้ายผื่น ขอขอบคุณภาพจากคุณแม่เจ้าของเรื่อง

itp คือ โรคอะไร? มาทำความรู้จักกัน

ITP Immune Thrombocytopenic Purpura เป็นโรคภูมิคุ้มกันทำลายเนื้อเยื่อตัวเอง (Autoimmune Disease) เกิดจากภาวะในร่างกายไปกระตุ้นภูมิต้านทานจนส่งผลกระทบเป็นการทำลายเกล็ดเลือด ทำให้เกิดรอยช้ำบนผิวหนัง หรือบริเวณเยื่อบุผิวในช่องปาก เลือดแข็งตัวช้า และมีเลือดออกง่าย ซึ่ง ITP เป็นโรคที่พบได้ทุกวัย แต่ในเด็กมักพบหลังการติดเชื้อไวรัสบางชนิดในร่างกาย เช่น อีสุกอีใส คางทูม หรือโรคหัด เป็นต้น หรือแม้แต่การได้รับวัคซีนก็เป็นการกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกัน เช่น วัคซีนหัด หัดเยอรมัน คางทูม โดยภูมิคุ้มกันนี้มักเกิดขึ้นภายหลัง 2-4 สัปดาห์ ซึ่งอาจมีผลทำให้มีเกล็ดเลือดต่ำได้ โดยมักพบในเด็กอายุ 1-5 ปี

โรค ITP อาจแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่

ITP ชนิดเฉียบพลัน
เป็นประเภทที่พบได้บ่อย มักพบในเด็กเล็ก อายุระหว่าง 2–6 ปี เกิดจากการติดเชื้อไวรัสในร่างกาย อาการจะเกิดขึ้นทันที มักหายดีภายใน 6 เดือน และไม่มีอาการซ้ำอีกในภายหลัง ผู้ป่วยจึงอาจไม่จำเป็นต้องเข้ารับการรักษา

ITP ชนิดเรื้อรัง
ใช้เรียกเมื่อผู้ป่วยมีอาการของโรคต่อเนื่องนานกว่า 6 เดือน พบได้มากในทุกวัย แต่จะพบบ่อยในวัยผู้ใหญ่และวัยรุ่น และพบในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย บางกรณีผู้ป่วยอาจกลับมามีอาการซ้ำอีกจึงจำเป็นต้องติดตามอาการเป็นระยะอย่างสม่ำเสมอ

เจาะเลือดตรวจหาค่าเกล็ดเลือด
เจาะเลือดตรวจหาค่าเกล็ดเลือด

เกล็ดเลือดสำคัญอย่างไร?? 

เกล็ดเลือดเป็นกลไกหนึ่งที่มีหน้าที่ในการห้ามเลือด โดยจะทำการเกาะบริเวณหลอดเลือดที่มีรอยฉีกขาด และหลั่งสารเคมีจนมีการรวมตัวกันของกระจุกเกล็ดเลือด ทำให้เลือดหยุดไหล และเสริมสร้างความแข็งแรงของเยื่อบุหลอดเลือด

จุดจ้ำเลือดตามตัวลูก : สัญชาตญาณของแม่บอกว่าอย่านิ่งนอนใจ

จ้ำเลือดตามตัวลูก ที่แม้ว่าจะสังเกตได้ง่าย แต่ก็ยากต่อการฟันธงว่าลูกมีภาวะเกล็ดเลือดต่ำหรือไม่ ยิ่งโดยเฉพาะหากลูกเป็นเด็กที่ซน อยู่ไม่นิ่ง การมีรอยช้ำบนตัวจึงเป็นเรื่องชินตาสำหรับพ่อแม่ไปเสีย แต่หากสัญชาตญาณของคุณแม่คอยบอกเราว่าแบบนี้ดูไม่น่าปกติแล้ว เราก็สามารถสังเกตอาการเพิ่มขึ้นได้ว่า อาการโรคเกล็ดเลือดต่ำ (ITP) สังเกตได้จากสัญญาณต่อไปนี้

  • เมื่อเด็กได้รับการกระทบกระแทก เด็กจะมีจ้ำเลือดขนาดใหญ่ หรือกระจายตามร่างกาย
  • เลือดกำเดาไหลบ่อย
  • เลือดออกตามไรฟัน
  • ในเด็กที่มีเกล็ดเลือดต่ำมาก จะมีจุดจ้ำเลือดสีแดงขนาดเล็กเท่าปลายเข็มกระจาย เป็นจุดสีแดงอมม่วงตามร่างกายทั้งที่ไม่ได้รับการกระทบกระเทือน ซึ่งมีลักษณะเป็นผื่น มักเป็นที่ขาส่วนล่าง
  • จุดเลือดออกตามกระพุ้งแก้ม ในช่องปาก อาเจียนเป็นเลือด
  • ถ่ายอุจจาระเป็นสีดำ

หากเด็กมีภาวะเกล็ดเลือดต่ำ (ITP) จะทำให้เด็กมีภาวะเลือดออกง่าย มีจุดจ้ำเลือดตามตัว เด็กบางคนที่มีอาการเลือดออกมากจะทำให้มีเลือดออกในทางเดินอาหาร เลือดออกในสมอง ซึ่งรุนแรงและอันตรายถึงชีวิตได้ โดยในภาวะปกติปริมาณเกล็ดเลือดในคนทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 150,000-400,000 ตัวต่อลูกบาศก์มิลลิเมตร

ในเด็กที่มีเกล็ดเลือดน้อยกว่า 20,000 ตัวต่อลูกบาศก์มิลลิเมตร จะมีโอกาสเลือดออกมาเองโดยไม่ได้เกิดจากอุบัติเหตุ หรือการกระทบกระเทือน ซึ่งเป็นอันตราย หากลูกของคุณพ่อคุณแม่มีภาวะเช่นนี้ ควรพาลูกเข้ารับการตรวจวินิฉัยเพื่อการรักษาที่ถูกต้องต่อไป

หนึ่งในอาการโรค itp คือ เลือดออกในช่องปาก
หนึ่งในอาการโรค itp คือ เลือดออกในช่องปาก

การรักษาโรคเกล็ดเลือดต่ำ

  • แพทย์จะซักประวัติ เช่น เด็กมีอาการเฉียบพลัน ก่อนหน้านี้มีการติดเชื้อ หรือมีการฉีดวัคซีนมาก่อน 2-4 สัปดาห์หรือไม่ ทำการตรวจความสมบูรณ์ของเลือด ถ้าผลเลือดไม่มีภาวะซีดหรือเม็ดเลือดขาวที่ผิดปกติ โดยมีเกล็ดเลือดต่ำเพียงอย่างเดียว แพทย์จะทำการรักษาโดยใช้ยา IVIG เป็นการจับแอนตี้บอดี้ที่ถูกสร้างขึ้นในร่างกายหรือยาสเตียรอยด์ ซึ่งการตอบสนองต่อยาของคนไข้ในแต่ละรายจะแตกต่างกันไป
  • ในเด็กที่อายุมากกว่า 5 ปี มีเม็ดเลือดขาวผิดปกติ ภาวะซีดโดยไม่ทราบสาเหตุ แพทย์จะทำการตรวจเพิ่มเติมก่อนการรักษา เช่น ตรวจเจาะไขกระดูก เป็นต้น

การดูแลเด็กที่ป่วยโรคเกล็ดเลือดต่ำ (ITP)

  • หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่อาจทำให้เกิดอาการฟกช้ำ กระทบกระแทก หรือเลือดออกได้ง่าย เช่น กิจกรรมโลดโผน เล่นกีฬา ในเด็กช่วงอายุหัดเดิน ควรมีการป้องกันการกระทบกระเทือน เช่น การบุนวมที่คอกกั้นเด็ก ระวังเรื่องการพลัดตก หกล้ม
  • หลีกเลี่ยงการไปสถานที่ที่มีการติดเชื้อ เพราะอาจจะกระตุ้นภูมิคุ้มกันทำให้เกล็ดเลือดต่ำลงอีกได้
  • การทานยาแก้ปวดลดไข้ควรใช้พาราเซตามอล ไม่ใช้ยาลดไข้สูงประเภทแอสไพริน และไอบูโพรเฟน และการทานยาประเภทอื่นๆ ต้องอยู่ภายใต้แพทย์สั่งเท่านั้น

โรคเกล็ดเลือดต่ำไอทีพีในเด็กสามารถรักษาได้ หากคุณพ่อคุณแม่สงสัยว่าลูกมีภาวะเกล็ดเลือดต่ำ ควรพาเด็กเข้ารับการตรวจวินิฉัยเพื่อรับการรักษาที่ถูกต้องต่อไป

ข้อมูลอ้างอิงจาก www.phyathai.com/www.pobpad.com/www.mayoclinic.org

อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

ทำอย่างไรเมื่อลูกเป็น “โรคภูมิแพ้” ?

ตรวจ atk แบบน้ำลาย วิธีง่าย ๆ ที่พ่อแม่ต้องรู้

ระวัง ไข้หวัดใหญ่ในเด็ก หวั่นระบาดซ้อนโควิด

อุทาหรณ์ เด็กติดในรถ! แนะวิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้น ช่วยลูกรอดในนาทีฉุกเฉิน

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

ชื่อภาษาเกาหลี

150 ชื่อภาษาเกาหลี ลูกสาว ลูกชาย พร้อมความหมายดีๆ

Alternative Textaccount_circle
event
ชื่อภาษาเกาหลี
ชื่อภาษาเกาหลี

อันยองค่ะ กระแสเกาหลีในบ้านเรายังแรงดีไม่มีตก คุณแม่ที่กำลังอินกับซีรีย์เกาหลีคงอยากตั้ง ชื่อภาษาเกาหลี ให้ลูกสาว ลูกชาย ไว้สักชื่อ มาเริ่มเลยค่ะ

150 ชื่อภาษาเกาหลี ลูกสาว ลูกชาย พร้อมความหมายดีๆ

ชื่อภาษาเกาหลี จะมีหลักการตั้งเหมือนกับภาษาจีน เนื่องจากในอดีตเกาหลีใช้ภาษาจีน หรือ ฮันจา มาก่อนจะมีภาษาเกาหลี ดังนั้น ชื่อภาษาเกาหลีจะมีด้วยกัน 3 พยางค์ พยางค์แรกคือนามสกุล ส่วน 2 พยางค์หลังคือชื่อ ชื่อเกาหลีที่ทาง ทีมแม่ ABK นำมาฝากในวันนี้จะมีชื่ออะไรบ้าง ไปเลือกกันเลยค่ะ

150 ชื่อภาษาเกาหลี ลูกสาว ลูกชาย พร้อมความหมายดีๆ

ชื่อลูกสาว

ชื่อ อ่านว่า ความหมาย
가인 กาอิน ผู้หญิงงาม
고은 โกอึน เป็นบุญคุณ
공주 คงจู เจ้าหญิง
구슬 คูซึล ลูกแก้ว, อัญมณี
정화 จองฮวา สำคัญ,งดงาม,ยินดี,ดอกไม้
지순 จีซุน ความสุภาพอ่อนโยน
지수 จีซู น้ำที่สงบนิ่ง
지애 จีแอ ดิน, รัก
지은 จีอึน ความกตัญญู
지혜 จีฮเย สติปัญญา
주은 จูอึน ความกรุณาจากพระเจ้า
장미 จังมี ดอกกุหลาบ
천사 ชอนซา นางฟ้า
천명 ชอนมยอง ฟ้าสว่าง
천아 ชอนอา ท้องฟ้า
천애 ชอนแอ ฟ้ารัก
천혜 ชอนฮเย ทำคุณแก่ฟ้า
진주 ชินจู ไข่มุก
재원 แชวอน หญิงผู้มีพรสวรรค์
성은 ซองอึน พรจากสวรรค์
성황 ซองฮวาง ดวงดาวที่สว่างไสว
선화 ซอนฮวา ดอกไม้ที่ดีงาม
사사 ซาซา คิดถึง
사슴 ซาชึม กวาง
슬기 ซึลกิ ความรอบรู้
수진 ซูจิน ไข่มุกวิเศษ
수란 ซูราน กล้วยไม้
소야 โซยา กลางคืน
소란 โซราน กล้วยไม้น้อย
상아 ซังอา ความคิดคำนึง
소원 โซวอน ความปรารถนา
다정 ดาจอง อ่อนโยน
다안 ดาอัน มากไปด้วยความสงบสุข
던비 ทันบี น้ำฝน
나비 นาบี ผีเสื้อ
보미 โบมี เพชรอันงดงาม
보아 โบอา เพชร
평화 พยองฮวา สันติภาพ
부용 พูยง ดอกฟูหยง
ชื่อลูกสาว
ชื่อลูกสาว

150 ชื่อภาษาเกาหลี ลูกสาว ลูกชาย พร้อมความหมายดีๆ

ชื่อลูกสาว

ชื่อ อ่านว่า ความหมาย
면화 มยอนฮวา ฝ้าย
미소 มีโซ รอยยิ้ม
미미 มีมี สวย
미리 มีรี สวย
미옥 มีอ๊ก หยกที่งดงาม
문아 มุนอา ผู้ดี
만월 มันวอล เดือนเพ็ญ
여주 ยอจู ผู้ปกครองที่รอบรู้
영애 ยองแอ บุตรสาวผู้เป็นที่รัก
연화 ยอนฮวา ดอกบัว
여봉 ยอบง เหมือนหงษ์
여화 ยอฮวา เหมือนดอกไม้
유정 ยูจอง มีความจริงใจ
유성 ยูซอง ดาวตก
유명 ยูมยอน ชื่อเสียง
유리 ยูริ แก้ว
유화 ยูฮวา ดอกหลิว
예지 เยจี ฉลาดเฉลียว
인정 อินจอง น้ำใจไมตรี
인재 อินแจ ผู้มีความสามารถพิเศษ
인형 อินฮยอง ตุ๊กตา
인화 อินฮวา ความสงบสุข
이슬 อีซึล น้ำค้าง
은총 อึนชง ความกรุณา
은비 อึนบี ฝนสีเงิน
은파 อึนพา คลื่นแสงสีเงินจากดวงจันทร์
은혜 อึนฮเย ความกรุณา
현녀 ฮยอนนยอ หญิงผู้รอบรู้
향비 ฮยางบี กลิ่มหอม
혜성 ฮเยซอง ดาวหาง
혜미 ฮเยมี ผู้ทำคุณ
효미 ฮโยมี รุ่งอรุณ
하천 ฮาชอน ฤดูร้อน
하나 ฮานา หนึ่ง
하별 ฮาพยอล ดาวดวงใหญ่
하얀 ฮายัน ขาว,บริสุทธิ์
해수 แฮซู น้ำทะเล
호연 โฮยอน ขาวดุจหิมะ

ชื่อลูกชาย

ชื่อลูกชาย

150 ชื่อภาษาเกาหลี ลูกสาว ลูกชาย พร้อมความหมายดีๆ

ชื่อลูกชาย

ชื่อ อ่านว่า ความหมาย
궁수 คงซู นักธนู
강유 คังยู ความแข็งแกร่งและความอ่อนโยน
정국 จองกุก ตัวแทน หรือเสาหลัก
정민 จองมิน ละเอียดลออ
정은 จองอึน แร่เงินบริสุทธิ์
지성 จีซอง ความจริงใจ
지상 จีซัง ความประเสริฐ
지문 จีมุน ปราชญ์ผู้รอบรู้
지룡 จีรยง มังกรผู้มีปัญญา
지용 จียง ฉลาดและกล้าหาญ
지환 จีฮวัน แหวน
준사 จุนซา บุรุษผู้ยิ่งใหญ่
주몽 จูมง หัวหน้าในฝัน
재룡 แจรยง มังกรผู้มีปัญญา
재원 แจวอน ผู้ที่ประสบความสำเร็จ
재인 แจอิน ผู้มีปัญญา
준수 จุนซู ความสง่างาม มีภูมิฐาน
준재 จุนแจ ความสามารถ
춘효 ชุนฮโย รุ่งอรุณฤดูใบไม้ผลิ
ชิน เทพเจ้า
신기 ชินกิ แข็งแกร่ง,โอกาส
채홍 แชฮง รุ้ง
서준 ซอจุน มีความสามารถ, มีพรสวรรค์
석진 ซอกจิน กว้าง, ใหญ่, สมบัติมีค่า
성실 ซองชิล ซื่อสัตย์
성수 ซองซู หมู่ดาว
상훈 ซองฮุน รางวัล
선원 ซอนวอน ลูกสมุทร
선비 ซอนบี ชายประเสริฐผู้มีการศึกษา
사랑 ซารัง ความรัก
소구 โซคู เขาลูกเล็ก
소산 โซซัน เขาลูกเล็ก
소문 โซมุน ปราชญ์น้อย
다소 ดาโซ มากด้วยรอยยิ้ม
대성 แดซอง ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่
태구 แทคู เขาลูกใหญ่
대성 แทซอง นักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่
ชื่อเกาหลี
ชื่อเกาหลี

150 ชื่อภาษาเกาหลี ลูกสาว ลูกชาย พร้อมความหมายดีๆ

ชื่อลูกชาย

ชื่อ อ่านว่า ความหมาย
태산 แทซัน เขาลูกใหญ่
태양 แทยัง พระอาทิตย์ หรือตะวัน
태랑 แทรัง ลูกชายผู้เป็นใหญ่ (ลูกชายคนโต)
태형 แทฮยอง ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่
남준 นัมจุน ผู้มีความสามารถ ยอดเยี่ยมในประเทศทางใต้
난초 นัมโช กล้วยไม้
분수 บุนซู น้ำพุ
보석 โบซอก พลอย
부정 พูจอง ผู้มีผิวพรรณบริสุทธิ์
명문 มยองมุน ชื่อเสียงเกียรติยศ
무기 มูกี ปราศจากความริษยา
용진 ยงจิน ดอกบัวมุก
영광 ยองกวัง บารมี,ประเสริฐ
영창 ยองชาง สว่างไสวยาวนาน
영원 ยองวอน นิรันดร์
영황 ยองฮวาง สว่างไสวยาวนาน
여운 ยออุน เหมือนเมฆ
월국 วอลกุก วงศ์พระจันทร์
우영 วูยอง ดีเลิศตลอดไป
왕성 วังซอง เจริญรุ่งเรือง
인사 อินซา สุภาพบุรุษ
일국 อิลกุก วงศ์พระอาทิตย์
이명 อีมยอง เหมือนแสงสว่าง
은징 อึนชิง ความเมตตา
운수 อุนซู วาสนา
운세 อุนเซ วาสนา
현자 ฮยอนจา ผู้รอบรู้
현인 ฮยอนอิน ปราชญ์
황의 ฮวางเอ แสงแห่งคุณธรรม
하늘 ฮานึล ท้องฟ้า
한풍 ฮันพุง ลมหนาว
한중 ฮันจุง ฤดูหนาว
한월 ฮันวอล ดวงจันทร์ฤดูหนาว
희열 ฮียอล ความปีติยินดี
희원 ฮีวอน ความหวัง
호수 โฮซู ทะเลสาบ

หวังว่า ชื่อภาษาเกาหลี ที่ทาง ทีมแม่ ABK รวบรวมมาให้นี้ คงจะถูกใจคุณแม่สาวกเกาหลีที่กำลังหาชื่อเพื่อไปตั้งให้กับลูกสาว ลูกชายกันนะคะ

อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

150 ไอเดีย ตั้งชื่อเล่นลูกสาว 2 พยางค์ ภาษาไทย-เทศ

ตั้งชื่อลูกพร้อมความหมาย 200 ชื่อมงคล ความหมายดี ถูกต้องตามหลักโหราศาสตร์

ตั้งชื่อลูกตามวันเกิด ชื่อมงคล ครบทุกวัน จ.- อา.

102 ชื่อภาษาอังกฤษ สุดอินเตอร์ ทันสมัย ความหมายดี๊ดี

ขอบคุณข้อมูลจาก : koreawithalice

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

ย้ายสิทธิบัตรทอง

ย้ายสิทธิบัตรทอง ด้วยตนเอง ผ่าน 2 ช่องทาง สะดวก ง่าย

Alternative Textaccount_circle
event
ย้ายสิทธิบัตรทอง
ย้ายสิทธิบัตรทอง

30 บาทรักษาทุกโรค หรือ โครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า เป็นนโยบายที่ทำเพื่อให้ประชาชนมีหลักประกันสุขภาพ คนไทยทุกคนจ่ายเพียงสามสิบบาทก็รับบริการรักษาโรคได้ โดยรัฐจัดสรรงบประมาณไปยังโรงพยาบาลตามจำนวนคน และแจกบัตรประจำตัวให้แก่ผู้รับบริการที่เรียกกันว่า “บัตรทอง” ซึ่งปัจจุบันนี้สามารถ ย้ายสิทธิบัตรทอง ด้วยตนเองได้แล้วนะคะ

ย้ายสิทธิบัตรทอง ด้วยตนเอง ผ่าน 2 ช่องทาง สะดวก ง่าย

สำนักงานประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ให้ผู้ถือบัตร “บัตรทอง” ที่ต้องการเปลี่ยนโรงพยาบาล สามารถดำเนินการได้ผ่านช่องทางออนไลน์ โดยทีมแม่ ABK ได้รวบรวมขั้นตอนย้ายสถานพยาบาลสิทธิบัตรทอง ผ่านช่องทางไลน์ และแอปพลิเคชั่น ของ สปสช. มาไว้ให้คุณแม่แล้วค่ะ

เงื่อนไข ย้ายสิทธิบัตรทอง เปลี่ยนโรงพยาบาลบัตรทอง

ก่อนที่จะเปลี่ยนแปลงข้อมูลสถานพยาบาลบัตรทอง มีเงื่อนไขที่ต้องตรวจสอบก่อนดังนี้ค่ะ

  • ผู้ใช้งานต้องมีสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ สิทธิว่าง
  • อายุ 15 ปี บริบูรณ์ขึ้นไป
  • ลงทะเบียนด้วยตนเองเท่านั้น ลงทะเบียนแทนบุคคลในครอบครัวไม่ได้ (ณ ปัจจุบัน)
  • เปลี่ยนหน่วยบริการได้มากกว่า 1 ครั้ง แต่ไม่เกิน 4 ครั้งต่อปี
ย้ายสิทธิบัตรทอง
บัตรทองดูแลสุขภาพคนไทย

วิธีเปลี่ยนโรงพยาบาลบัตรทองผ่านไลน์ สปสช.

ขั้นตอนง่าย ๆ เพื่อเปลี่ยนโรงพยาบาลผ่านทาง Line@ มีดังนี้

  1. พิมพ์ @nhso ที่ช่องค้นหา หรือ สแกนคิวอาร์โค้ด เพื่อเพิ่มเพื่อน
  2. ระบบจะแสดงรายละเอียดข้อตกลง จากนั้นกด “ยอมรับ”
  3. กรอกเลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก และกดถัดไป
  4. ระบุข้อมูลส่วนบุคคลเพิ่มเติม ได้แก่ ชื่อ สกุล วันเดือนปีเกิด เลขหลังบัตรประจำตัวประชาชน (กรณีบัตรประชาชนไม่มีรหัสหลังบัตรจะต้องลงทะเบียนที่หน่วยรับบริการลงทะเบียน)
  5. ตั้งรหัสผ่าน 6 หลัก จากนั้นกดถัดไป
  6. กรอกหมายเลขโทรศัพท์เพื่อขอรับ OTP และกดขอรับรหัส OTP
  7. กรอกรหัส OTP จากนั้นกดยืนยัน
  8. กดเลือกเมนู “ตรง” หากที่พักอาศัยตรงกับบัตรประชาชน
  9. ถ่ายรูปบัตรประชาชน โดยใช้กล้องหลัง
  10. จากนั้นถ่ายรูปเซลฟี่ ตนเองกับบัตรประชาชน โดยใช้กล้องหน้า จากนั้นกดอัพโหลด
  11. กรณีที่พักอาศัยไม่ตรงกับบัตรประชาชน ให้กดเลือกเมนู “ไม่ตรง”
  12. แนบหลักฐานการพักอาศัยปัจจุบัน เช่น บิลค่าน้ำ ค่าไฟ หรือ หนังสือรับรองเจ้าของบ้าน หรือ สแกนคิวอาร์โค้ด เพื่อดาวน์โหลดแบบคำร้อง จากนั้นกดอัพโหลด
  13. ระบบจะแสดงเครือข่ายบริการที่สามารถเลือกได้ จากนั้นให้กดเลือกเครือข่ายหน่วยบริการที่ต้องการ
  14. ระบบจะแสดงผลว่า ได้รับข้อมูลเรียบร้อยแล้ว จากนั้นให้กดถัดไป
  15. สิทธิเกิดใหม่ทันที ที่เครือข่ายหน่วยบริการที่เลือกไว้
  16. เข้าเมนูตรวจสอบสิทธิ เพื่อดูรายละเอียดสิทธิที่เกิดใหม่
ย้ายสิทธิบัตรทอง
ย้ายสิทธิบัตรทองผ่านแอปฯ สปสช.

วิธีเปลี่ยนโรงพยาบาลบัตรทองผ่านแอปฯ สปสช.

หลังจากโหลดแอปฯ แล้ว ให้ดำเนินการดังนี้

  1. กดเมนูลงทะเบียนเปลี่ยนหน่วยบริการ ระบบจะแสดงผลที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน

ถ้าที่อยู่ปัจจุบันตรงกับบัตรประจำตัวประชาชน เลือกเมนู “ตรง” ถ่ายรูปบัตรประชาชนโดยใช้กล้องหลัง ถ่ายรูปเซลฟีคู่กับบัตรประชาชนโดยใช้กล้องหน้า

ถ้าที่พักอาศัยไม่ตรงกับบัตรประชาชนเลือกเมนู “ไม่ตรง” และแนบหลักฐานการพักอาศัยปัจจุบัน เช่น บิลค่าน้ำ ค่าไฟ หรือหนังสือรับรองเจ้าของบ้าน หรือสแกนคิวอาร์โค้ด เพื่อดาวน์โหลดแบบคำร้อง ระบุที่อยู่ปัจจุบัน

  1. ระบบจะแสดงเครือข่ายหน่วยบริการที่สามารถเลือกได้
  2. กดเลือกเครือข่ายหน่วยบริการที่ต้องการ และกดยืนยัน ระบบจะแสดงผลว่าได้รับข้อมูลเรียบร้อยแล้ว จากนั้นกดถัดไป
  3. สิทธิใหม่เกิดทันทีที่เครือข่ายหน่วยบริการที่เลือกไว้ หรือตรวจสอบสิทธิ เพื่อดูรายละเอียดสิทธิที่เกิดใหม่ได้

สิทธิประโยชน์บัตรทอง ที่เพิ่มขึ้นในปี 2565

วันที่ 1 มกราคม 2565 นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ในปีใหม่ 2565 สปสช. ขอมอบ 10 สิทธิประโยชน์บริการใหม่ และการขยายบริการให้ครอบคลุมดังนี้

1.รับบริการหมอครอบครัว หน่วยบริการปฐมภูมิที่ไหนก็ได้ ประชาชนยังคงเข้ารับบริการที่หน่วยบริการประจำที่ลงทะเบียนและหน่วยบริการปฐมภูมิในเครือข่าย แต่กรณีมีความจำเป็น สามารถเข้ารับบริการปฐมภูมิที่หน่วยบริการปฐมภูมินอกเครือข่ายได้

2.ผู้ป่วยในไม่ต้องใช้ใบส่งตัวทั่วประเทศ

3.บริการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีหลังการสัมผัสเชื้อ (HIV PEP) โดยให้ประชาชนทุกคนได้รับยาต้านไวรัสเอชไอวีหลังสัมผัสเชื้อ (PEP) เพื่อป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี

4.การตรวจยีน BRCA1 BRCA2 ในผู้ป่วยมะเร็งเต้านม

5.บริการตรวจคัดกรองผู้ป่วยโรคพันธุกรรมเมตาบอลิก ด้วยเครื่อง Tandem mass spectrometry ขยายการตรวจคัดกรองทารกแรกเกิดโรคทางพันธุกรรมเมตาบอลิก เพื่อเข้าสู่การรักษาโรคหายากได้อย่างรวดเร็วและช่วยชีวิตเด็ก

6.การผ่าตัดใส่รากฟันเทียมสำหรับผู้ที่ไม่มีฟันทั้งปาก ด้วยบริการผ่าตัดใส่รากฟันเทียมและการบำรุงรักษา รวมเป็นค่าใช้จ่ายจำนวน 24,200 บาทต่อราย

7.บริการคัดกรองรอยโรคเสี่ยงมะเร็งและมะเร็งช่องปาก สำหรับประชาชนไทย อายุ 40 ปีขึ้นไป ทุกสิทธิการรักษา

8.บริการแว่นตาสำหรับเด็กที่มีภาวะสายตาผิดปกติ เป้าหมายคัดกรองตรวจสายตาเด็กอนุบาล 1 ถึงนักเรียนชั้น ป.6 ที่ครูสงสัยว่าเด็กมีปัญหาสายตา และนำเด็กที่เข้ารับการตรวจโดยจักษุแพทย์พร้อมตัดแว่นสายตา

9.เพิ่ม 2 บริการตรวจคัดกรองคู่หญิงตั้งครรภ์ ได้แก่ การตรวจคัดกรองธาลัสซีเมียและเชื้อซิฟิลิส

10.ขยายบริการล้างไตผ่านช่องท้องด้วยเครื่องอัตโนมัติ เพื่อให้ประชาชนได้รับความสะดวกและมีคุณภาพดีมากขึ้น สปสช.เพิ่มเครื่องล้างไตอัตโนมัติ APD เกือบ 1,300 เครื่อง กระจายทั่วประเทศ

บัตรทองไม่ครอบคลุม เบิกอะไรไม่ได้บ้าง

  • เพื่อความสวยงาม โดยไม่มีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์
  • การตรวจวินิจฉัยและการรักษาที่เกินความจำเป็นจากข้อบ่งชี้ทางการแพทย์
  • การรักษาที่อยู่ระหว่างค้นคว้าทดลอง
  • การปลูกถ่ายอวัยวะ ที่ไม่ปรากฏตามบัญชีแนบท้าย
  • การบริการทางการแพทย์อื่น ตามที่บอร์ด สปสช. กำหนด

คุณแม่อย่าลืมตรวจสอบสิทธิต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์กับตนเอง โดยเฉพาะกับสิทธิบัตรทอง ถ้าคุณแม่ท่านไหนใช้สิทธิบัตรทองอยู่แล้วต้องการเปลี่ยนสถานพยาบาลก็สามารถเข้าไปเปลี่ยนได้ตามช่องทางและขั้นตอนที่ได้แนะนำไว้ รับรองว่าง่ายและสะดวก ไม่เสียเวลาค่ะ

 

ขอบคุณข้อมูลจาก msn ข่าว , ประชาชาติธุรกิจ , ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก 

ตรวจรักษาโควิด ด้วยสิทธิบัตรทองและประกันสังคม

ตรวจคัดกรองการได้ยินทารกแรกเกิด สิทธิบัตรทอง ใครได้บ้างเช็คเลย!

บัตรทองดูแลครรภ์ฟรี คลอดลูกน้อยปลอดภัย

ตรวจ atk แบบน้ำลาย

ตรวจ atk แบบน้ำลาย วิธีง่าย ๆ ที่พ่อแม่ต้องรู้

Alternative Textaccount_circle
event
ตรวจ atk แบบน้ำลาย
ตรวจ atk แบบน้ำลาย

หลังจากที่พ่อแม่ผู้ปกครอง รวมทั้งลูก ๆ หลาน ๆ ต้องอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์เนื่องจากการระบาดของโควิด -19 นั้น  เมื่อรัฐบาลผ่อนคลายมาตรการ ทำให้หลายโรงเรียนกลับมาเปิดเรียน On – site และจัดให้มีการตรวจ ATK ซึ่งคุณแม่สามารถใช้วิธี ตรวจ atk แบบน้ำลาย เพื่อบรรเทาปัญหาความเจ็บจากการแยงจมูกได้ค่ะ

ตรวจ atk แบบน้ำลาย วิธีง่าย ๆ ที่พ่อแม่ต้องรู้

การตรวจATKในเด็กที่หลายโรงเรียนจัดให้มีขึ้นเป็นประจำนั้น ก่อเกิดปัญหาที่ดูเหมือนเป็นเรื่องเล็ก แต่กลับส่งผลต่อเด็กและผู้ปกครอง คือ เด็กรู้สึกเจ็บที่ต้องถูกแยงจมูก จนไม่อยากไปโรงเรียนเพราะรู้ว่าต้องตรวจ ATK ส่วนพ่อแม่ผู้ปกครองเองนั้น เมื่อเห็นลูกหลานเจ็บ ก็รู้สึกไม่สบายใจตามไปด้วย

 

ตรวจATKในเด็ก เพื่อความปลอดภัยไม่ใช่ภาระ

เมื่อวันที่ 18 ม.ค.2565 ที่โรงพยาบาลราชวิถี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า การตรวจ ATK อยู่ที่ผู้บริหารโรงเรียนแต่ละแห่งว่าจะมีมาตรการอย่างไร แต่การตรวจ ATK ไม่ใช่เป็นภาระแต่ก็เพื่อความปลอดภัย เมื่อมีคนมารวมตัวกันจำนวนมาก จะได้เป็นการคัดกรองไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดในหมู่นักเรียน ซึ่งการติดเชื้อในเด็กถึงแม้ว่าอาการจะไม่รุนแรง แต่หากติดแล้วกลับไปบ้านก็เสี่ยงแพร่เชื้อต่อให้ผู้ใหญ่ในบ้านได้ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะมีอาการรุนแรงหากติดเชื้อ

ตรวจ atk แบบน้ำลาย
การตรวจ atk แบบน้ำลาย

รูปแบบของชุดทดสอบ ATK

ชุดทดสอบ ATK ที่มีขายในท้องตลาดมี 3 แบบด้วยกัน ประกอบด้วย

  • ชุดทดสอบน้ำลาย
  • ชุดทดสอบแบบ swab จมูก
  • ชุดทดสอบแบบหลังโพรงจมูก

 

หมอศิริราชแนะตรวจ ATK ให้เด็ก เลือกใช้แบบน้ำลายและ swab จมูก

รศ.พญ.วนัทปรียา พงษ์สามารถ หัวหน้าสาขาวิชาโรคติดเชื้อ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ โรงพยาบาลศิริราช ให้คำแนะนำในการใช้ชุดทดสอบ ATK ให้กับเด็ก ๆ ผ่านเพจเฟซบุ๊ก Siriraj Channel ว่า ให้ผู้ปกครองใช้ชุดทดสอบ ATK ที่ได้รับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) โดยเลือกสิ่งส่งตรวจได้ 3 ชนิด ได้แก่ น้ำลาย การป้ายจมูก (การ swab จมูก) และการ swab ด้านหลังโพรงจมูก

สำหรับการตรวจ ATK ให้เด็ก แนะนำให้เลือกแบบน้ำลาย และการป้ายจมูก (การ swab จมูก) เพราะการ swab ด้านหลังโพรงจมูก จะต้องทำโดยผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี ก่อนทำการตรวจ ต้องอ่านขั้นตอนอย่างละเอียดและเข้าใจ เพื่อจะได้ตรวจได้อย่างถูกต้อง

 

ตรวจ ATK ด้วยการเก็บน้ำลาย

การตรวจด้วยการเก็บน้ำลายนั้น จะต้องเป็นน้ำลายที่มาจากด้านหลังของคอ ขอให้คุณแม่แนะนำให้เด็ก ๆ ทำเสียงขากน้ำลายในลำคอ ก่อนจะบ้วนออกมาค่ะ

เบื้องต้นการใช้งานชุดตรวจ ATK แบบน้ำลายมีขั้นตอนดังนี้

  • บ้วนน้ำลายกระแอมจากลำคอขึ้นมาลงกรวยและเก็บไว้ในหลอดเก็บตัวอย่างตามกำหนด
  • ปิดฝาหลอดให้สนิทจากนั้นให้สลับหลอดขึ้น-ลงประมาณ 10 รอบ
  • หยดตัวอย่างจำนวน 3 หยดในหลุมทดสอบทำการรอและอ่านผล
  • ถ้าไม่พบเชื้อจะขึ้นขีดที่ตัว C ถ้าพบเชื้อขีดจะขึ้นตัว C และ T หากไม่ปรากฏขีดใด ๆ ต้องทดสอบใหม่

อย่างไรก็ดี การใช้งานชุดตรวจ ATK แบบน้ำลายอาจมีความแตกต่างกันเล็กน้อยขึ้นอยู่กับยี่ห้อ ดังนั้นควรศึกษาคู่มือการใช้งานให้ละเอียดด้วยนะคะ

ตรวจ atkแบบน้ำลาย
การ swap จมูก

ตรวจ ATK ด้วยการ swab จมูก

ส่วนวิธีการ swab จมูก มีขั้นตอนดังนี้ค่ะ

  1. พ่อแม่ควรแนะนำให้เด็กเข้าใจ
  2. ให้เด็กเงยศีรษะเล็กน้อย เอียงประมาณ 70 องศา
  3. จากนั้นใช้ไม้ swab เข้าจมูกเด็กโดยทิศทางการใส่ให้ตั้งฉากกับใบหน้า และให้ไม้แนบไปกับพื้นด้านล่างจมูก ลึกประมาณ 1.5 – 2 ซม. จนชนเยื่อบุจมูก ต้องระวังและห้ามใส่ไม้ swab ขึ้นไปในทิศทางแนวขนานกับสันจมูกเพราะอาจทำให้เกิดอันตรายกับเด็กได้
  4. ค่อยๆ หมุนไม้ swab ช้า ๆ อย่างน้อย 4 รอบ หรือประมาณ 15 วินาที และใช้ไม้เดียวกัน swab ไปที่จมูกอีกข้างหนึ่ง ด้วยวิธีการเดียวกันแล้วก็สามารถตรวจสอบผลได้

 

การตรวจ ATK ในเด็กนั้น เป็นไปเพื่อความปลอดภัยทั้งต่อตัวเด็กเอง คุณพ่อคุณแม่ และบุคคลใกล้ชิดที่อาจเป็นผู้มีความเสี่ยงสูง เช่น ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่เป็นโรคประจำตัวที่มีความเสี่ยง ดังนั้นหากเด็ก ๆ รู้สึกเจ็บ หรือไม่ยินดีกับการตรวจแบบแยงโพรงจมูก ก็มีตัวเลือกที่เป็นมิตรกับเด็ก เช่น การ swab จมูกที่เข้าไปไม่ลึก และ ชุดตรวจแบบน้ำลาย ซึ่งถือว่าง่ายและสะดวกที่สุดสำหรับเด็ก ๆ และพ่อแม่ผู้ปกครองนั่นเองค่ะ

 

ขอบคุณข้อมูลจาก ThaiPBS , PPTV HD36,  โรงพยาบาลเพชรเวท

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

ชุดตรวจ ATK จำเป็นแค่ไหน? ใช้ยังไง ควรระวังอะไรบ้าง?

เปิดจองสิทธิ์ประกันสังคมพื้นที่กทม ลงทะเบียนตรวจโควิดฟรี ต้องทำอย่างไร

คนท้องตรวจโควิดได้ไหม จำเป็นต้องตรวจไหม อาการแบบไหนไม่ควรปล่อยไว้

ชื่อภาษาจีน

ชื่อภาษาจีน ความหมายดี พร้อมวิธีตั้งชื่อ

Alternative Textaccount_circle
event
ชื่อภาษาจีน
ชื่อภาษาจีน

คงปฏิเสธไม่ได้ว่าภาษาจีนมีความสำคัญในโลกยุคปัจจุบัน การตั้ง ชื่อภาษาจีน ไว้ให้ลูกดูจะเป็นไอเดียที่ทันยุคทันสมัยไม่ใช่น้อยทีเดียว

ชื่อภาษาจีน ความหมายดี พร้อมวิธีตั้งชื่อ

การตั้ง ชื่อภาษาจีน นั้นจะเป็นการนำคำสองคำที่ความหมายดีมารวมกัน อาจเป็นคำที่ความหมายแตกต่างกันก็ได้ เพราะคนจีนจะแปลความหมายแยกแต่ละคำ ขอให้ความหมายดี รวมกันแล้วไพเราะ หรือเข้ากันกับแซ่ก็ได้ แต่ชื่อควรมี 2 พยางค์ เพราะถ้าเป็น 3 พยางค์ พยางค์แรกจะกลายเป็นแซ่ไปโดยปริยาย

ทั้งนี้ คำในภาษาจีนส่วนใหญ่จะใช้ตั้งชื่อได้ทั้งชายและหญิง แต่อาจมีบางคำที่ใช้เฉพาะเพศ ในที่นี้จะแทนเพศชายด้วยตัวหนังสือสีฟ้า และเพศหญิงด้วยตัวหนังสือสีชมพู

ชื่อภาษาจีน ความหมายดี พร้อมวิธิีตั้งชื่อ

  • Ai – อ้าย
    • 爱 / 愛  = รัก
    • 艾  = ชื่อสมุนไพรที่มีกลิ่นหอมชนิดหนึ่ง
  • An – อัน
    • 安  = จิตใจสงบ
  • Bai – ไป่
    • 白 = ขาว
  • Bao – เป่า
    • 保  = ปกป้อง พิทักษ์
    • 堡  =  ป้อมปราการ
    • 宝 / 寶  = ของล้ำค่า เพชรพลอย
  • Běi  –  เป่ย
    • 北  = ทิศเหนือ
  • Bèi – เป้ย
    • 贝 / 貝  =  เปลือก,หอย
  • Bin – ปิน
    • 玢  = ชื่อหยกชนิดหนึ่ง
    • 彬  = สุภาพ เรียบร้อย
  • Bing – ปิง
    • 冰  = น้ำแข็ง
  • Bo – ป๋อ
    • 柏  = (มาจาก 柏林 ป๋อหลิน = นครเบอร์ลิน)
    • 博  = อุดมสมบูรณ์
    • 铂 / 鉑  = แพลตตินัม
  • Cái  – ไฉ
    • 财 / 財  = ทรัพย์สินเงินทอง
  • Cǎi  – ไฉ่
    • 采  =  สภาพจิตใจ , สีสัน
    • 彩  = สีสัน
  • Can – ช่าน
    • 灿 / 燦  = เจิดจ้า สว่างไสว
    • 璨  = หยกที่งดงาม
    • 粲  = แวววาว สดใส
  • Cen – เฉิน
    • 岑  = ภูเขาลูกเล็กแต่สูง
  • Ceng – เฉิง
    • 嶒  = ภูเขาสูงละลิ่ว
  • Chan – ฉาน
    • 婵  = ท่าทางที่งดงาม
  • Chen  –  เฉิน
    • 辰  =  ดวงดาว
    • 晨  =  รุ่งเช้า
    • 宸  = อาคารพระราชวัง
  • Cheng  – เฉิง
    • 成  = ความสำเร็จ
    • 城  = เมือง กำแพงเมือง
    • 诚 / 誠  = น้ำใสใจจริง ความจริงใจ
    • 丞  = ตำแหน่งขุนนางสมัยโบราณ
    • 承  = รับเอาไว้ สืบทอด
ชื่อจีน
ชื่อจีน

ชื่อภาษาจีน ความหมายดี พร้อมวิธิีตั้งชื่อ

  • Chun  –  ชุน
    • 春 = ฤดูใบไม้ผลิ
    • 椿  = ต้นสวรรค์จีน
  • Ci – ฉือ
    • 慈 – เมตตา การุณย์
  • Da – ต๋า
    • 达 / 達  = รู้ซึ้ง รู้เหตุรู้ผล
  • Dan – ตัน
    • 丹 = สีแดง
  • Die – เตี๋ย
    • 蝶 = ผีเสื้อ
  • Dong – ตง
    • 东  = ทิศตะวันออก
    • 冬  = ฤดูหนาว
  • En – เอิน
    • 恩  = บุญคุณ
  • Fan – ฟาน
    • 帆  = ใบของเรือ
  • Fang – ฟาง
    • 芳  = หอม กลิ่นหอม
  • Fei  –  เฟย
    • 飞 = บิน
    • 菲 = กลิ่นหอมของต้นหญ้า
  • Fen  –  เฟิน
    • 芬  =  กลิ่นหอมของดอกไม้
    • 雰  = หิมะที่โปรยปรายลงมา
  • Fēng  –  เฟิง (คนไต้หวันและฮ่องกงจะออกเสียงว่า ฟง)
    • 丰 / 豐  =  อุดมสมบูรณ์
    • 风 / 風  =  ลม
    • 枫 / 楓  = ใบเมเบิ้ล
    • 峰   =  ยอดเขา
  • Fèng  – เฟิ่ง (ฟ่ง)
    • 凤 / 鳳  =  หงส์
    • 奉  = เคารพ
  • Fu – ฝู
    • 福  =  ความสุข
  • Ge  –  เกอ
    • 歌  =  เพลง
  • Guang  –  กวาง
    • 光  = แสงสว่าง
  • Gui  –  กุ้ย
    • 贵 / 貴 = ราคาสูง
    • 桂  = ชื่อต้นไม้และสมุทรไพรของจีน
  • Hai  –  ไห่
    • 海  =  ทะเล
  • Han  –  หาน
    • 涵  =  เยือกเย็นสุขุม
ชื่อลูก
ชื่อลูก

ชื่อภาษาจีน ความหมายดี พร้อมวิธิีตั้งชื่อ

  • Hong  –  หง
    • 红 / 紅  =  สีแดง
    • 洪  =  ใหญ่โต
    • 虹  =  รุ้ง
    • 宏  =  ยิ่งใหญ่ โอ่อ่า
    • 鸿 / 鴻  = ห่านหงส์
  • Huā  –  ฮวา
    • 花  =  ดอกไม้
  • Huá  –  ฮว๋า
    • 华 / 華  =  สว่างไสว รุ่งโรจน์ , เชื้อสายจีน
  • Huan  –  ฮวน
    • 欢 / 歡  =  ปิติยินดี
  • Hui  –  ฮุ้ย
    • 惠  =  ความกรุณา ความเมตตา
    • 慧  = ปราดเปรื่อง เฉียบแหลม
  • Jia –  เจีย
    • 家  = บ้าน ครอบครัว
    • 佳  = ดีงาม งดงาม
    • 嘉  = ดีงาม ยกย่อง สรรเสริญ
  • Jie  –  เจี๋ย
    • 杰 / 傑  =  อัจฉริยะ
    • 洁 / 潔  = สะอาดบริสุทธิ์
    • 婕   = ชื่อตำแหน่งขุนนางหญิงในสมัยโบราญ
  • Jiang  –  เจียง
    • 江  = แม่น้ำ
  • Jiao  –  เจียว
    • 娇 / 嬌  =  อ่อนช้อย สวยงาม น่ารัก
    • 姣  =  งามเพริศพริ้ง
  • Jin  –  จิน
    • 金  =  ทองคำ , เงินทอง
    • 今  =  ปัจจุบัน
    • 瑾  =  หยกที่สวยงาม
  • Jīng  –  จิง
    • 晶  =  แวววาว
    • 京  =  เมืองหลวง
  • Jǐng  –  จิ่ง
    • 景  =  วิวทิวทัศน์
    • 璟  =  แสงแวววาวของหยก
  • Jìng  –  จิ้ง
    • 敬  =   เคารพ นับถือ
    • 靖  =  สงบเรียบร้อย
    • 婧  =  สตรีผู้มีความรู้ความสามารถ
  • Juan  –  จวน
    • 娟  =  งดงาม หญิงสาวที่สวยงาม
    • 涓  =  น้ำที่ไหลริน
  • Jūn  –  จวิน
    • 君  =  กษัตร์ ราชา
    • 军  =  ทหาร

 

บทความที่ทาง ทีมแม่ ABK หาข้อมูลมานี้คงช่วยให้คุณพ่อคุณแม่สามารถตั้ง ชื่อภาษาจีน ให้ลูกได้ทั้งชายและหญิงกันนะคะ

อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

ชื่อเล่นภาษาอังกฤษ ลูกชาย ลูกสาว เก๋ๆ ความหมายดี

200+ ไอเดีย ตั้งชื่อลูกตามตัวอักษร พร้อมความหมาย

คัดมาให้แล้ว!! 150 “ชื่อจริงลูกชาย” เท่ห์-เก๋-กู้ด-จึ้ง-ต๊าซ!!

150 ชื่อลูกสาว เพราะ ๆ เรียกแล้วโดนใจ ความหมายดี๊ดี

ขอบคุณข้อมูลจาก : http://thebest523.blogspot.com

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

safe zone คือ พื้นที่ปลอดภัยทางใจ

safe zone คือ พื้นที่ปลอดภัยที่พ่อแม่เป็นให้ลูกได้!!

Alternative Textaccount_circle
event
safe zone คือ พื้นที่ปลอดภัยทางใจ
safe zone คือ พื้นที่ปลอดภัยทางใจ

safe zone คือ พื้นที่ปลอดภัย บุคคลที่เราสามารถคุยได้ทุกเรื่องอย่างสบายใจ ในวัยเด็กพ่อแม่มักเป็น safe zone ของลูก แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะเป็นได้!!

safe zone คือ พื้นที่ปลอดภัยที่พ่อแม่เป็นให้ลูกได้!!

พื้นที่ปลอดภัย ที่ไม่ใช่สถานที่ แต่คือความรู้สึกทางใจ พื้นที่ที่เราไม่ต้องสนใจใคร รู้สึกสบายใจ ที่ที่เราไม่ถูกตัดสิน กล้าที่จะพูดกับใครสักคน นั่นแหละ คือ safe zone

วัยเด็ก วัยที่ใคร ๆ ต่างมองว่าเป็นวัยแห่งความสุข ไม่มีเรื่องทุกข์ร้อนใด ๆ นั่นอาจเป็นเพราะว่า ในวัยเด็ก เป็นวัยที่เขามี safe zone เป็นพ่อแม่ คนที่ใกล้ตัวเขาแทบตลอดเวลา ดังนั้นเวลาเกิดปัญหาใด ๆ เด็กจึงสามารถระบาย ปรึกษาปัญหานั้น ๆ ได้อย่างทันท่วงที ไม่สะสมคั่งค้างไว้ภายในใจ แต่ใช่ว่าพ่อแม่ทุกคนจะเป็น safe zone ของลูกได้เสมอ

safe zone คือ พื้นที่ปลอดภัยทางใจ
safe zone คือ พื้นที่ปลอดภัยทางใจ

ทำไมพ่อแม่ถึงต้องเป็น safe zone ให้ลูก??

การทำให้ลูกรู้สึกว่าคุณพ่อคุณแม่ คือ พื้นที่ปลอดภัยสำหรับเขา นับว่าเป็นพื้นฐานชีวิตที่ดี เพราะลูกไม่ต้องไปหาความสบายใจนอกบ้าน ยิ่งโดยเฉพาะเมื่อเขาโตขึ้นเรื่อย ๆ เราไม่สามารถกำหนดสังคมภายนอกของลูกได้ 100% การที่พ่อแม่เป็นที่พึ่งทั้งทางร่างกาย และจิตใจให้แก่ลูก ให้เขารู้สึกอบอุ่น ปลอดภัย และไว้วางใจพ่อแม่มากกว่าคนอื่นก็ย่อมดีกว่าอย่างแน่นอน

เทคนิคที่ทำให้ safe zone ของลูก คือ พ่อแม่ !!

พ่อแม่นักฟัง

การเป็นผู้ฟังที่ดี เป็นคำที่ฟังดูเหมือนง่าย แต่ความเป็นจริงแล้วทำได้ยาก เหตุเพราะ การรับฟังนั้น ต้องเป็นการรับฟังแบบนักฟังที่ดี ฟังตั้งแต่ต้นจนจบแบบตั้งใจ ไม่ตัดสินในสิ่งที่เขาพูด และนำเสนอความคิดของเราแทรกระหว่างการฟัง ต้องระวังให้มากในเรื่องการใช้อารมณ์ แม้ว่าสิ่งที่รับฟังนั้นจะเป็นสิ่งที่เราเห็นไม่ตรงกันก็ตาม หากเราขัดขึ้นเสียก่อนที่ลูกจะเล่าจนจบ คุณพ่อคุณแม่อาจพลาดใจความสำคัญ และความรู้สึกที่แท้จริงต่อปัญหานั้น ๆ ของลูกก็เป็นได้

พ่อแม่เป็นพื้นที่ปลอดภัยทางกาย และใจแก่ลูก
พ่อแม่เป็นพื้นที่ปลอดภัยทางกาย และใจแก่ลูก

เคล็ดลับนักฟังที่ดี

  • พ่อแม่หลาย ๆ คนอาจเกิดคำถามขึ้นในใจได้ว่า แล้วเราจะทำอย่างไรให้ลูกยอมเล่าเรื่องปัญหาของตนเองให้กับพ่อแม่ฟัง เพราะเด็กทุกคนไม่ได้เป็นเด็กช่างพูดเสมอไป เคล็ดลับในการพูดคุยกับลูก คือ คุณพ่อคุณแม่อาจเริ่มจากการหาเวลาให้สมาชิกในครอบครัวได้อยู่ร่วมกัน เช่น เวลารับประทานอาหารเย็น ควรตั้งกฎในการหยุดกิจกรรมทุกสิ่ง ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน โทรทัศน์ หนังสือการ์ตูน แล้วให้ทุกคนนั่งรับประทานข้าวพร้อมหน้า เพื่อเพิ่มโอกาสในการพูดคุย แบ่งปันเรื่องราวที่พบเจอในแต่ละวันของแต่ละคน โดยไม่ต้องรอให้เป็นเรื่องใหญ่ หรือเรื่องสำคัญถึงจะมาพูดคุยกันเสมอไปก็ได้ การทำเช่นนี้ก็จะช่วยให้ลูกรู้สึกว่าสามารถพูดคุยกับพ่อแม่ได้ทุกเรื่อง เขาก็จะสบายใจเวลาเล่า
  • คุณพ่อคุณแม่อาจเริ่มต้นด้วยการเล่าเรื่องของตัวเอง เช่น เรื่องที่ทำงาน เพื่อนร่วมงาน เป็นต้น แล้วค่อยเปลี่ยนเป็นถามว่าลูกได้ทำอะไรบ้างระหว่างอยู่ที่โรงเรียน บรรยากาศในการพูดคุยก็จะผ่อนคลาย เพราะไม่ได้ชี้เป้าเจาะจงไปเพียงแต่เรื่องของลูกเท่านั้น เมื่อทำเป็นกิจวัตร ลูกก็จะคุ้นเคย และสบายใจที่จะเล่าเรื่องของตัวเองออกมาด้วยตัวเองไม่ต้องคาดคั้น
  • เห็นต่าง แต่สามารถอยู่ร่วมกันได้ หากหัวข้อการพูดคุยเป็นเรื่องที่มีความคิดเห็นไม่ตรงกันระหว่างพ่อแม่ กับลูก และเป็นประเด็นที่อ่อนไหว เช่น ความเชื่อ ศาสนา การเมือง หรือหัวข้ออื่น ๆ เราก็ไม่ควรยัดเยียดความคิดของเราใส่หัวลูก และเมื่อลูกไม่เข้าใจในความคิดเห็นของพ่อแม่ เราก็สามารถกล่าวได้ว่า พ่อแม่ยังเคารพในความคิดของลูก ดังนั้นเขาก็ไม่ควรต้องให้พ่อแม่คล้อยตามความคิดของเขาเช่นกัน พ่อแม่เพียงแค่เสนอคำแนะนำในแบบตัวเอง จากนั้นรับฟัง และรอดูการตัดสินใจของลูก หากคำแนะนำนั้นไม่ได้ตั้งอยู่บนพื้นฐานแห่งอารมณ์แล้ว เมื่อลูกเกิดปัญหาติดขัดขึ้นมารับรองว่าคำพูดเหล่านั้นจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินใจของเขาอย่างแน่นอน
ให้เวลากับครอบครัว เปิดโอกาสพูดคุยกับลูก
ให้เวลากับครอบครัว เปิดโอกาสพูดคุยกับลูก

open minded 

สังคมไทย มักมีกฏเกณฑ์ทางวัฒนธรรมที่อาจขัดแย้งต่อการเปิดโอกาสในการแสดงความรู้สึกของตัวเองออกมา เช่น เราไม่สามารถพูดว่าเรารู้สึกอย่างไร เพื่อรักษามารยาท เพื่อรักษาบรรยากาศ เพื่อรักษาความสัมพันธ์ เพื่อความเคารพในผู้ใหญ่ เป็นต้น และการที่ไม่ได้แสดงความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเองออกมา โดยเฉพาะความรู้สึกทางลบ รู้หรือไม่ว่าเป็นการกดดัน การเก็บกดความเศร้า  ความเครียด นับว่าเป็นการทำร้ายตัวเอง ส่งผลให้ป่วยทางใจโดยไม่รู้ตัว

การสอนให้ลูกกล้าเปิดเผยความรู้สึกนั้น พ่อแม่ก็ต้องเริ่มจากตัวเอง ไม่อายที่จะแสดงความรู้สึกเช่นกัน เราสามารถอธิบายความรู้สึกตัวเองให้ลูกฟังด้วยคำพูดง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน ไม่ใส่อารมณ์ เช่น เมื่อเรากลับจากที่ทำงานที่วันนี้งานยุ่งทั้งวันทำให้คุณพ่อคุณแม่อาจมีสีหน้าเครียด ก็อาจจะบอกลูกได้ว่า วันนี้เหนื่อยจังเลย แทนที่จะบอกว่าไม่เป็นไร ไม่ใช่เรื่องที่ลูกต้องรู้ เป็นต้น

การแสดงความรู้สึกในด้านบวกก็เป็นสิ่งที่มีค่าเช่นกัน พ่อแม่บางคนอาจคิดว่าการพูดชมลูกบ่อย ๆ จะทำให้เขาเหลิง ไม่เป็นผลดีกับลูก ทำให้พ่อแม่ปิดกั้นไม่ให้ลูกรู้ว่าเราภูมิใจในตัวเขา หรือเวลาลูกทำดีมักไม่กล้าชม การชื่นชมเขาบ้างในเวลาที่เหมาะสม ก็เป็นการทำให้ลูกมั่นใจทั้งต่อตนเอง และต่อความรักของคุณพ่อคุณแม่ด้วยเช่นกัน

ภาษากาย ตัวแทนหมื่นล้านคำพูด

การกอด หอมแก้ม จูงมือ บีบมือให้กำลังใจ หรือเพียงแค่การส่งสายตาห่วงใย ภาษากายต่าง ๆ เหล่านี้ นอกจากจะเป็นการแสดงออกทางความรักที่สื่อสารออกมาได้ดีกว่าแค่คำพูด หรือการพร่ำบอกว่าห่วงลูกมากแค่ไหนแล้ว ยังเป็นการทำให้ลูกรู้สึกอบอุ่น และปลอดภัยเมื่อมีคุณพ่อคุณแม่อยู่ด้วย เป็นสายสัมพันธ์ที่ฝังอยู่ในความเป็นครอบครัว ทำให้ลูกรู้สึกว่าบ้านเป็นที่ ๆ สามารถกลับมาพักผ่อน พึ่งพิงได้อย่างสบายใจ ซึ่งบ้านในที่นี้ไม่ได้หมายถึง สิ่งปลูกสร้างบ้านเรือนที่ใหญ่โต แต่หมายถึงท่าทีของคุณพ่อคุณแม่ที่ทำให้เขาสบายใจต่างหาก

ลูกไม่ใช่สิ่งของ ยอมรับ และให้เกียรติในสิ่งที่เด็กเป็น

พ่อแม่บางคนมักมองเห็นลูกเป็นเด็กอยู่เสมอ จึงทำให้เกิดความสัมพันธ์ระหว่างกันในรูปแบบ ออกคำสั่ง ตัดสินใจแทน ลูกมีหน้าที่เพียงแค่ทำตาม เพราะพ่อแม่หวังดีต่อลูกย่อมเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูกเสมอ แต่ในความเป็นจริงแล้ว เด็กทุกคนเกิดมามีความรู้สึกนึกคิด ยิ่งโตเขายิ่งมีความเป็นตัวของตัวเอง ในฐานะพ่อแม่ และผู้ใหญ่เราควรภูมิใจที่เห็นเขาเติบโต สามารถคิดเองได้ และแสดงออกซึ่งความคิดของเขาได้ พ่อแม่มีหน้าที่เตรียมความพร้อมให้กับเขา ให้คำปรึกษา และแนะนำให้ลูกแสดงความคิดเห็นของตัวเองออกมาได้อย่างเหมาะสม สอนเขาในสิ่งต่าง ๆ ตามวัยที่เหมาะสม หากเขาเชื่อใจ ไว้ใจ และเห็นพ่อแม่ คือ safe zone ของเขาแล้ว เขาจะเข้ามาปรึกษา บอกกล่าว และยึดหลักการดำเนินชีวิตของเราเป็นแบบอย่างเอง
เด็กเป็นตัวของตัวเอง เคารพในความเป็นเขา
เด็กเป็นตัวของตัวเอง เคารพในความเป็นเขา
เคล็ดลับเคารพสิทธิ์ของลูก
  • เราสามารถปลูกฝังให้ลูกคุ้นเคยกับการเคารพซึ่งกันและกัน และรู้สึกปลอดภัยที่จะแสดงความรู้สึกออกมาให้พ่อแม่รับรู้ เพราะลูกรู้ว่าพ่อแม่เคารพในความคิดเห็นของเขาเสมอ ด้วยการปลูกฝังตั้งแต่เล็ก ๆ ในเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น เมื่อครอบครัวจะออกไปเที่ยวพร้อมหน้ากัน เราสามารถสอบถามทุกคนถึงความเห็นว่าอยากไปที่ไหน และลงความเห็นร่วมกัน นอกจากจะได้แสดงถึงการเคารพความคิดเห็นของกันและกันแล้ว ยังทำให้เขารู้จักการอยู่ร่วมกันในสังคมอีกด้วย

ให้กำลังใจในวันที่เขาผิดพลาด 

ไม่เอาความคาดหวังของพ่อแม่มาใส่ในตัวลูก เมื่อเราคาดหวังมากเกินไป จะเป็นการกดดันลูกโดยไม่รู้ตัว และเมื่อคาดหวังก็จะต้องมีคำว่าผิดหวัง ซึ่งเป็นสิ่งที่ลูกกลัว ไม่อยากทำให้พ่อแม่ผิดหวัง หรือไม่พอใจ จึงพบว่าลูกมักจะไม่ยอมเล่าอะไรให้พ่อแม่ฟัง โดยเฉพาะข้อผิดพลาด ดังนั้นพ่อแม่จึงควรระวังในเรื่องนี้ และทำให้ลูกรู้สึกว่าพ่อแม่พร้อมจะรับฟัง ให้กำลังใจ และไม่รู้สึกผิดหวัง เพราะคนเราพลาดกันได้ และเราพร้อมให้อภัย ช่วยหาทางแก้ไขก้าวเดินไปข้างหน้าด้วยกัน

การสร้างสายสัมพันธ์พ่อแม่ และลูกที่ดีมาตั้งแต่เด็กนั้น จะเป็นเกราะป้องกันลูกได้เป็นอย่างดี เหมือนดั่งคำกล่าวของคุณหมอประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ หัวข้อเรื่อง สายสัมพันธ์เป็นหางเสือ หัวเรือเป็น EF

“ในความเป็นจริง เมื่อเด็กเล็กเป็นเด็กโตเป็นวัยรุ่นเป็นผู้ใหญ่ตอนต้นเรียนจบออกไปทำงาน เขาหันมาดูแม่เป็นระยะๆเสมอเพราะสายสัมพันธ์ที่ดี เพียงแต่เขาไม่จำเป็นต้องเหลียวคอจริงๆ เขาคิดจะทำอะไรที่เสี่ยงอันตรายเขาจะคิดถึงแม่ที่บ้าน นั่นก็เพราะสายสัมพันธ์
สายสัมพันธ์จึงเป็นหางเสือ คอยคัดท้ายและคอยระวังหลัง คอยฉุดรั้งและคอยตักเตือน โดยทั้งหมดนี้แม่ทำได้จากที่บ้านด้วยรีโมทคอนโทรลทางจิตใจ
เรือจะออกนอกเส้นทางเป็นครั้งๆนั้นแน่นอน ชีวิตเป็นเช่นนั้นเอง แต่หางเสือที่ดีจะคอยคัดท้ายและหัวเรือที่ดีจะไปต่อไปให้ถึงเป้าหมาย”
ขอขอบคุณข้อมูลดี ๆ จาก เพจ นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์
สายสัมพันธ์พ่อแม่ช่วยดึงลูกไว้เวลาเจอปัญหา
สายสัมพันธ์พ่อแม่ช่วยดึงลูกไว้เวลาเจอปัญหา

หากพ่อแม่ สร้างสายสัมพันธ์ที่ดีกับลูกมาตั้งแต่เด็ก ก็เปรียบเสมือนเป็นเกราะป้องกันให้แก่ลูกได้เสมอ  safe zoneคือพ่อ และแม่ จึงไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ยากเลย หากคุณพ่อคุณแม่ลองทำตามเคล็ดลับดี ๆ ข้างต้น ก็สามารถทำให้หัวใจที่บอบช้ำของลูกค่อย ๆ ได้รับการเยียวยาได้ทีละน้อย และพร้อมเผชิญโลกกว้างต่อไป

ข้อมูลอ้างอิงจาก เพจตามใจนักจิตวิทยา /www.alljitblog.com

อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

เด็กยุคใหม่ ทำไมต้องมี Power BQ ติดอาวุธให้ลูกฉลาดรอบด้าน

ฝึกลูก ทำงานบ้าน ให้อะไรมากกว่าที่คิด งานบ้านสร้างลูก!!

ประโยชน์ของการ รักกันให้ลูกเห็น พ่อแม่ยิ่งรักกัน ยิ่งดีต่อใจลูก

ลูกชายติดแม่ ลูกสาวติดพ่อ เหตุเพราะ “ปมเอดิปัส” “ปมอิเลคตร้า” ?

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

วัคซีนไฟเซอร์เด็ก

ใครจะได้ฉีด วัคซีนไฟเซอร์เด็ก ล็อตแรก?

Alternative Textaccount_circle
event
วัคซีนไฟเซอร์เด็ก
วัคซีนไฟเซอร์เด็ก

วัคซีนไฟเซอร์เด็ก มาแล้ว !! ในขณะที่โควิด-19 ยังระบาดกระจายไปเป็นวงกว้างและมีสายพันธุ์ใหม่ ๆ เกิดขึ้นเป็นระยะนั้น เพื่อป้องกันการเจ็บป่วยรุนแรง และเสียชีวิต ประเทศไทยได้เริ่มฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนกันมาตั้งแต่เมื่อปีกลาย และตอนนี้เริ่มมีการฉีดวัคซีนบูสเตอร์เป็นเข็มที่ 3 แล้วนั้น ล่าสุดมีข่าวดีว่าเด็กวัย 5 – 11 ปี ก็จะได้ฉีดวัคซีนแล้ว ในสิ้นเดือนมกราคม 65 นี้ค่ะ

ใครจะได้ฉีด วัคซีนไฟเซอร์เด็ก ล็อตแรก?

เมื่อวันที่ 19 ม.ค.2565 ที่ผ่านมา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข เปิดเผยถึงความคืบหน้า วัคซีนไฟเซอร์เด็กอายุ 5-11 ปี ว่า วัคซีนเด็กล็อตแรก จะเข้ามาถึงประเทศไทยวันที่ 26 ม.ค.นี้ จำนวน 3 ล้านโดส จาก 10 ล้านโดส ที่สั่งจองไว้ในเบื้องต้น เมื่อมาถึง จะสุ่มตัวอย่างให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ทดสอบประมาณ 2-3 วัน และเริ่มฉีดให้เด็กตั้งแต่วันที่ 31 ม.ค. นี้ค่ะ

วัคซีนไฟเซอร์เด็ก
เด็กกำลังฉีดวัคซีน

โรงพยาบาลเด็กแห่งแรก ได้รับ วัคซีนไฟเซอร์เด็ก

หลังจากทดสอบแล้วจะมีการกระจายวัคซีนไปยัง สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินีก่อนเป็นแห่งแรก เพื่อฉีดให้กับเด็กที่มีโรคประจำตัว ที่เป็นเด็กกลุ่มเสี่ยงก่อน และจะกระจายไปยังโรงพยาบาล และโรงเรียนต่าง ๆ รวมทั้งอาจประสานศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ด้วย

 

วัคซีนไฟเซอร์ 1 ขวด ฉีดเด็กได้ 10 คน

วัคซีนไฟเซอร์ในเด็ก ขนาด 1 ขวด บรรจุ 1.3 มิลลิลิตร เมื่อผสมกับน้ำเกลือ จะมีขนาด 2.6 มิลลิลิตร ทำให้วัคซีน 1 ขวด สามารถฉีดให้กับเด็กได้ถึง 10 คน แบ่งเป็นคนละ 0.2 มิลลิลิตร ซึ่งทางไฟเซอร์ได้พัฒนาให้วัคซีนสามารถเก็บรักษาได้นานหลังผสมน้ำเกลือ ในอุณหภูมิ 2-8 องศาเซลเซียส เป็นระยะเวลา 10 สัปดาห์ จากเดิม 4 สัปดาห์

 

สังเกตที่ฝา! ไฟเซอร์เด็ก กับผู้ใหญ่ ใช้คนละชนิดกัน

วัคซีนไฟเซอร์สำหรับเด็กนั้น จะใช้คนละชนิดกับที่ฉีดในผู้ใหญ่ โดยให้สังเกตสีของฝา โดยวัคซีนของเด็กจะเป็นฝาสีส้ม มีปริมาณ 10 ไมโครกรัม/โดส แต่วัคซีนไฟเซอร์ของผู้ใหญ่ จะเป็นฝาสีม่วง มีปริมาณ 30 ไมโครกรัม/โดส ซึ่งไม่สามารถนำวัคซีนฝาสีม่วงมาแบ่งใช้ 3 คน ได้ เนื่องจากต้องใช้ให้ตรงตามกลุ่มอายุเพื่อความปลอดภัยค่ะ

 

เริ่มจากเด็กอายุ 11 ปี แล้วไล่ลงตามอายุ

สำหรับ วัคซีนไฟเซอร์ของเด็ก อายุ 5-11 ปี จะเริ่มทยอยเข้ามาในช่วงปลายเดือนมกราคม หรือภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 นี้ โดยจะเริ่มฉีดในกลุ่มเด็กอายุ 11 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มที่ต้องไปโรงเรียน ก่อน แล้วค่อย ๆ ไล่ลำดับอายุลงมา

วัคซีนไฟเซอร์เด็ก
ผู้ปกครองพาเด็ก 5 – 11 ปี ไปฉีดวัคซัน

อาการข้างเคียงของวัคซีนไฟเซอร์ในเด็ก 5-11ปี

สำหรับอาการข้างเคียงหลังรับวัคซีนในเด็ก 5-11 ปี จะน้อยมาก เพราะเด็กใช้ปริมาณวัคซีนเพียง 1 ใน 3 ของผู้ใหญ่ โดยในสหรัฐอเมริกาใช้ไปแล้ว 7 ล้านคน มีผลข้างเคียงน้อย ไม่มีอาการรุนแรง อย.จึงอนุมัติการใช้ เพราะประโยชน์จากการฉีดให้เด็กมีมากกว่าความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น

ผลการทดสอบวัคซีนไฟเซอร์ในเด็ก 5-11 ปี

ผู้บริหารของไฟเซอร์กล่าวถึงผลการศึกษาการฉีดวัคซีนให้กับเด็กอายุ 5-11 ปี ว่ามีความปลอดภัยดี มีผลข้างเคียงเล็กน้อย คล้ายกับผู้ใหญ่ และหายไปได้ในเวลาไม่กี่วัน ส่วนระดับภูมิคุ้มกัน ก็พบว่าขึ้นได้ดีไม่แตกต่างกับเด็กโตหรือผู้ใหญ่ โดยอาการที่พบ ได้แก่

  1. เจ็บตำแหน่งที่ฉีด
  2. มีอาการอ่อนเพลีย
  3. ปวดกล้ามเนื้อ
  4. ปวดศีรษะ
  5. มีไข้

เป็นอย่างไรกันบ้างคะคุณแม่ อ่านถึงผลข้างเคียงที่มีไม่มากแล้วรู้สึกสบายใจขึ้นไหมคะ? ทีมแม่ ABK อยากขอเชิญชวนคุณแม่ทุกคนที่มีลูกอยู่ในวัย 5 -11 ปี พาลูกไปฉีดวัคซีนไฟเซอร์สำหรับเด็ก เพื่อให้ลูกมีภูมิคุ้มกันและปลอดภัยจากโควิดนะคะ

 

ขอบคุณข้อมูลจาก  ThaiPBS, กรุงเทพธุรกิจ , PPTV HD , PPTV ONLINE ,TNNONLINE

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

อ่านเลย! ก่อน พาลูกไปฉีดวัคซีนโควิด พ่อแม่ควรรู้อะไรบ้าง?

ทำความรู้จัก!! วัคซีน Pfizer ป้องกันโรคโควิด-19 ในเด็ก

หมอสูติตอบชัด! คนท้องฉีดวัคซีนโควิดได้ไหม ฉีดอย่างไรให้..ปลอดภัยทั้งแม่ลูก

ตั้งชื่อเล่นลูกสาว 2 พยางค์

150 ไอเดีย ตั้งชื่อเล่นลูกสาว 2 พยางค์ ภาษาไทย-เทศ

Alternative Textaccount_circle
event
ตั้งชื่อเล่นลูกสาว 2 พยางค์
ตั้งชื่อเล่นลูกสาว 2 พยางค์

คุณพ่อคุณแม่หลายท่านคงอยาก ตั้งชื่อเล่นลูกสาว 2 พยางค์ ฟังแล้วไม่ดูห้วนเกินไป และเป็นชื่อที่มีความหมาย เพื่อเพิ่มความเป็นสิริมงคลให้กับชีวิตลูกสาวตัวน้อย

150 ไอเดีย ตั้งชื่อเล่นลูกสาว 2 พยางค์ ภาษาไทย-เทศ

นอกจากชื่อจริงของลูกสาวแล้ว ชื่อเล่นก็สำคัญไม่แพ้กัน การ ตั้งชื่อเล่นลูกสาว 2 พยางค์ นอกจากชื่อจะเพราะแล้ว ยังมีความหมายดีๆ ทั้งยังสามารถหาชื่อที่มีความหมายสอดคล้องกับชื่อจริงได้อีกด้วย มาดูชื่อเล่น 2 พยางค์ที่ ทีมแม่ ABK นำมาฝากวันนี้เลยค่ะ

150 ไอเดีย ตั้งชื่อเล่นลูกสาว 2 พยางค์ ภาษาไทย-เทศ

ชื่อเล่นลูกสาว

ชื่อ ความหมาย
โกโก้ ชื่อเครื่องดื่มที่ทำมาจากเมล็ดผลโกโก้
กั๊ตจัง ชื่อเฉพาะ
ขนม ของหวานต่างๆ ที่เป็นอาหาร
ข้าวเจ้า ข้าวพันธุ์หนึ่ง
ข้าวตู ข้าวตากคั่วแล้วตำเป็นผงเคล้ากับน้ำตาลและมะพร้าว
ข้าวปุ้น ขนมจีน
ข้าวฟ้าง ชื่อไม้ล้มลุก คล้ายข้าวโพด
ข้าวสวย ข้าวหุงแล้วเช็ดน้ำให้แห้งอย่างเดียวกับข้าวสุก
ข้าวหวาน ข้าวที่มีรสชาติหวาน
ข้าวหอม เป็นชื่อสายพันธุ์ที่มีไว้เรียกชื่อข้าว
ข้าวใหม่ ข้าวที่เก็บเกี่ยวใหม่ในปีนั้นๆ
เข็มหอม ต้นไม้ดอกออกเป็นช่อๆ คล้ายๆรูปกรวย
คาร่า ที่รัก
คำขวัญ ถ้อยคำที่แต่งขึ้นเพื่อเตือนใจหรือเพื่อให้เป็นสิริมงคล
คิโดะ ความสว่าง
คิมมี่ ชื่อเฉพาะ
คิวรี่ การแสดงข้อมูลตามความสัมพันธ์ในแนวคอลัมน์กับแถว
คุกกี้ ชื่อขนมอบของฝรั่งชนิดหนึ่ง
แคบหมู หนังหมูหรือหนังหมูติดมันทอดให้พองและกรอบ
จ๋าจ้า คำขานรับ คำใช้ประกอบคำร้องเรียก
จาวตาล พืชที่เกิดงอกอยู่ภายในลูกตาล
จาวา ภาษาโปรแกรมภาษาหนึ่งพัฒนาโดยบริษัทซันไมโครซิสเต็มส์
จินจิน ชื่อเฉพาะ
จินนี่ ระลอกคลื่นสีขาว, หญิงผิวขาว
จินไนท์ ปีนี้
จิ้มลิ้ม น่ารักน่าเอ็นดู
จิลจิล ความมั่นคง
จิวจิว ชื่อเฉพาะ
จิวเวล มาจากคำว่า จิวเวลรี
จี๋จ๋า ชื่อเฉพาะ
ชอเฌอ พยัญชนะไทย
ชอนย่า ชื่อเฉพาะ
ชอบใจ พอใจ, ถูกใจ, รักใคร่
ชอบบุญ พอใจในการทำบุญ
ช่อฟ้า ชื่อตัวไม้ที่ติดอยู่บริเวณหน้าบัน รูปเหมือนหัวนาคชูขึ้นเบื่องบน
ชะพลู ต้นไม้ชนิดหนึ่งมักรับประทานคู่กับเมี่ยง
ชะอ้อน รูปเล็กบาง, ฉะอ้อ
ชะเอม สมุนไพรชนิดหนึ่ง, รสชุมคอ
ชาเขียว น้ำชาเป็นสีเหลือง สีเขียว รสฝาด ไม่มีกลิ่น
ชานม น้ำชาเย็นใส่นมจะออกสีส้มนวลๆ
ชาแนล ชื่อแบรนด์เครื่องสำอาง แฟชั่น เครื่องประดับ น้ำหอม ระดับโลก (Chanel) – อังกฤษ
ชามอน ชื่อผลิตภัณฑ์, บลัชออน
ชามา ลูกสาว
ชาร์ลอท ผู้เป็นอิสระ
ชิชา การสูบบารากุ
ชิตา ผู้ชนะ
ชิลลี่ หนาวยะเยือก
ชิลี่ พริก
ชีต้า เสือ
ซัมเมอร์ ฤดูร้อน
ชื่อเล่น
ชื่อเล่น

150 ไอเดีย ตั้งชื่อเล่นลูกสาว 2 พยางค์ ภาษาไทย-เทศ

ชื่อเล่นลูกสาว

ชื่อ ความหมาย
ซาจิ เด็กผู้หญิงผู้มีความสุข
ซาซ่า ชื่อวงดนตรีวงหนึ่ง
ซานา ชื่อเมืองในประเทศเยเมน
ซาเพียร์ โลก
ซารัง ฉันรักคุณ, คำย่อซารังเฮ
ซาร่า เจ้าหญิง
ซาเวียร์ สว่างไสว, ชอบธรรม
ซิกแซก ไปทางลัด
ซิดนีย์ ชื่อเมืองหลวงของรัฐนิวเซาธ์เวลส์ ออสเตรเลีย
ซินเดีย ดวงจันทร์
ดาวพราว สวยงามเหมือนดาวบนท้องฟ้า
ดิ๊งด่อง เสียงระฆังดังกระทบกัน
ดิสนีย์ ชื่อผู้ผลิตการ์ตูนแอนนิเมชั่นยักษ์ใหญ่
ดิววี่ ชุ่มด้วยน้ำค้าง
ดิออร์ ชื่อแบรนด์เนมระดับโลก
ดีใจ ยินดี, เบิกบาน, ชอบใจ
ตาหวาน นัยน์ตาฉ่ำเยิ้มชวนมอง
เตยหอม เตยชนิดหนึ่งมีกลิ่นหอม
ตันหยง ดอกพิกุล
ต้นน้ำ แหล่งกำเนิดของลำน้ำ
ต้องตา ถูกตา, ชวนมอง, เห็นแล้วพอใจ
ตังเม นํ้าตาลหรือนํ้าอ้อยที่เคี่ยวจนเหนียว
ทอรุ้ง สร้างสายรุ้ง
ทอฟ้า สร้างท้องฟ้า
ทรัมโบน เครื่องดนตรีประเภทท่อทรงกระบอก
ทะเล เป็นแหล่งน้ำเค็มขนาดใหญ่ที่ล้อมรอบด้วยพื้นดินทั้งหมดหรือบางส่วน
ทุเรียน ผลไม้ชนิดหนึ่ง มีหนามแข็งทั่วทั้งเปลือก
ทองม้วน เป็นขนมไทยชนิดหนึ่งมีลักษณะเป็นแผ่นม้วนกลมเป็นวง
นับดาว นับจำนวนดาว
นกยูง เป็นสัตว์ปีกจำพวกไก่ฟ้าขนาดใหญ่ที่สุดในวงศ์เดียวกันนี้
น้ำหนาว ชื่ออำเภอในจังหวัดเพชรบูรณ์
น้ำมนตร์ นํ้าที่เสกเพื่ออาบ กิน หรือ ประพรม
น้ำหอม ส่วนผสมของน้ำมันหอมระเหยหรือสารประกอบให้กลิ่น
น้ำขิง เครื่องดื่มที่ได้จากการต้มขิงสดหรือแห้ง
น้ำปั้น เครื่องดื่มที่ใส่ผลไม้หรือน้ำอย่างหนึ่งผสมกับน้ำแข็งและน้ำเชื่อม นำไปปั่นรวมกัน
นาวา เรือ
เนโร่ จักรพรรดิองค์ที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมัน
ปลายน้ำ สุดลำน้ำ
ปลายฝัน สุดความฝัน
ปลายฟ้า ไกลสุดขอบฟ้า
ปลื้มใจ ปิติ, เบิกบานใจ
ป๊อปปี้ ดอกไม้สีแดง
ป๊อบแป๊บ เสียงดังเหมือนฝนตก
ป๋องแป้ง กระป๋องแป้ง
ปองรัก หลงรัก
ปอถัก การนำปอมาถักเพื่อเป็นรูป
ปอร์ปี้ ชื่อเฉพาะ
ปังปอนด์ ชื่อการ์ตูน
ปั้นชา กาน้ำชา
ปันปัน ชื่อเฉพาะ
ลูกสาว
ลูกสาว

150 ไอเดีย ตั้งชื่อเล่นลูกสาว 2 พยางค์ ภาษาไทย-เทศ

ชื่อเล่นลูกสาว

ชื่อ ความหมาย
ปานดาว ผู้มีรอยสีแดงหรือสีดำเป็นรูปดาว
ป่านทอ การนำเส้นใยของป่านมาทอขึ้นรูป
ปานวาด เหมือนกับภาพวาด
พอดี กำลังดี, พอเหมาะพอเจาะ
พิซซ่า เป็นอาหารอิตาลีและอาหารจานด่วนประเภทหนึ่ง
พุดดิ้ง ขนมฝรั่งชนิดหนึ่ง
รักนุ่น รักต้นนุ่น
รักเอย ความรัก, ความรู้สึกที่ดี
รับขวัญ กอดจูบ, ปลอบใจ, ปลอบโยนให้หายตกใจ
ราเชล ชื่อเฉพาะ
ราเมน บะหมี่น้ำของญี่ปุ่น
เรณู ละอองเกสร
เรดาร์ วิธีการค้นหาตำแหน่งหรือนำทิศทางโดยใช้ไมโครเวฟ
เรดิง ชื่อเมืองในประเทศอังกฤษ
เรนนิ่ง ฝนตก
เรนนี่ ฤดูฝน
เรนโบว์ สายรุ้ง
เรนะ พระราชินี
เรน่า นักร้องและนักแต่งเพลงชาวอเมริกัน
เรเน่ มาจากชื่อแจกันดอกไม้
เรไร ชื่อแมลงชนิดหนึ่ง ตัวเขียว อยู่ในจำพวกจักจั่น
เรียกขวัญ เชิญขวัญให้มาอยู่กับเนื้อกับตัวโดยมีหมอขวัญทำพิธี
เรียวไผ่ แขนงไม้ไผ่ที่แตกออกจากบริเวณโคน
ลอยฟ้า ปลิวอยู่บนฟ้า
ลอร่า พวงมาลัยสวมศีรษะที่ทำจากใบ
ลอเรนซ์ พวงมาลา
ละมุน อ่อนนุ่ม, นุ่มนวล
ลักกี้ โชคดี
ลักยิ้ม รอยเล็กๆ ที่บุ๋มลงไปที่แก้ม
ลังลอง สุกใส, งาม
ลาติน ภาษา
ลานนา ดินแดนที่มีจำนวนที่นานับล้าน
ลาปาซ ชื่อเฉพาะ
ลายทัย มาจากคำว่าลายไทยคือลายที่ประดิษฐ์ขึ้นโดยมีธรรมชาติมาเป็นแรงดลบันดาลใจ
ลาร์วา ตัวอ่อน
ลาล่า ชื่อเฉพาะ
ลิซซี่ คำสาบานของพระเจ้า
ลิซ่า คำสาบานของพระเจ้า
ลิเดียร์ ชื่อเฉพาะ
ลิตา ผู้ยิ่งใหญ่
ลิต้า ชื่อเฉพาะ
ลิเติ้ล ชื่อเฉพาะ
ลิ้นจี่ ต้นไม้ชนิดหนึ่งผลกลม สีแดง
ลินดา ดี, หล่อ, สวย, น่ารัก, เรียบร้อย, เลิศ – สเปน
เวอร์เบียร์ ชื่อเมือง – สวิตเซอร์แลน
เวียนนา เมืองหลวงของประเทศออสเตรีย
แวนด้า ชื่อกล้วยไม้สกุลหนึ่ง
แวร์ซาย ชื่อเมืองในประเทศฝรั่งเศส
แวววาว ระยิบ, ระยับเรืองรอง
ไวมาร์ ชื่อมืองในประเทศเยอรมัน

หวังว่าชื่อที่ทาง ทีมแม่ ABK นำมาฝากวันนี้ จะช่วยคุณพ่อคุณแม่ให้ได้ไอเดียในการ ตั้งชื่อเล่นลูกสาว 2 พยางค์ หรือเลือกชื่อเล่นได้สัก 2-3 ชื่อ เพื่อนำไปคัดเลือกก่อนตัดสินใจตั้งชื่อเล่นให้กับลูกสาวกันแล้วนะคะ

อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

200 ชื่อภาษาญี่ปุ่น+ความหมาย ลูกสาว-ลูกชาย คาวาอี้!!!

214 ชื่อไทยโบราณ +ความหมายมงคล สำหรับลูกสาว-ชาย

ตั้งชื่อลูกตามวันเกิด 200 ชื่อดี เน้นเสริมเดช ศรี บารมี ครบทั้ง 7 วัน!

ตั้งชื่อลูกพร้อมความหมาย 200 ชื่อมงคล ความหมายดี ถูกต้องตามหลักโหราศาสตร์

ขอบคุณข้อมูลจาก : https://wongnai.com, https://www.thaigoodname.com

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

เคารพสิทธิเด็ก

ชาวเน็ตแห่ปลื้ม! ปุ้มปุ้ย เคารพสิทธิเด็ก ไม่เผยหน้าลูกในโซเชียล

Alternative Textaccount_circle
event
เคารพสิทธิเด็ก
เคารพสิทธิเด็ก

ปัจจุบันพ่อแม่ คนใกล้ตัว ผู้ปกครอง ญาติ ถ่ายภาพและคลิปของลูกหลาน แล้วนำไปเผยแพร่ผ่านสื่อออนไลน์เป็นจำนวนมาก หลายคนอาจโพสต์หรือแชร์คลิปลูกหลานเพราะความน่ารัก ขำขัน ตลก แต่การกระทำเหล่านี้กลับเป็นการละเมิด ไม่ เคารพสิทธิเด็ก เป็นการกระทำที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย และจะกลายเป็นดาบสองคม ส่งผลร้ายต่อเด็ก ในภายหลังได้

ชาวเน็ตแห่ปลื้ม! ปุ้มปุ้ย เคารพสิทธิเด็ก ไม่เผยหน้าลูกในโซเชียล

ปัจจุบันนี้การ เคารพสิทธิเด็ก เป็นเรื่องที่ถูกพูดถึงมากขึ้น สังคมให้ความสนใจ คุณพ่อคุณแม่หลายรายต่างเริ่มตระหนักถึงสิทธิและความเป็นส่วนตัวของลูกน้อย ซึ่งทางฟากฝั่งคนดังในวงการบันเทิงไทยก็มีหลายคนที่เคารพสิทธิลูก หนึ่งในนั้นมี “ปุ้มปุ้ย พรรณทิพา” ที่เพิ่งกำเนิดลูกชายคนแรก “น้องไซอัลบลู สกาย ดูวาล”

เคารพสิทธิเด็ก
เคารพสิทธิเด็กไม่เผยหน้าลูก

แม้จะมีเสียงเรียกร้องว่าอยากชมโฉมหน้าของเด็กน้อยจากบรรดาแฟนคลับ แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าคุณแม่มือใหม่จะปล่อยภาพให้แฟนคลับได้ชมโฉมน้อง โดยปุ้มปุ้ยได้เคยพูดไว้เมื่อช่วงเดือนตุลาคม ปี 2564 ก่อนที่จะคลอดลูกชาย เพื่อตอบแฟนคลับรายหนึ่งที่ส่งข้อความมาถามว่า “คิดยังไงกับเรื่องความเป็นส่วนตัวของเบบี๋ คนที่ติดตามจะได้เห็นน้องไหม?”

“ปุ้มปุ้ย” ได้พูดคุยถึงแนวคิดส่วนตัวเกี่ยวกับเรื่องการเคารพสิทธิลูกชายไว้อย่างชัดเจน ว่า

“เป็นเรื่องที่คิดหนัก และทำการบ้านหนักมากเรื่องนี้ค่ะ ปุ้ยให้ความสำคัญกับสิทธิขั้นพื้นฐานที่เด็กจะได้รับจากผู้เลี้ยงดู 70 เปอร์เซ็นต์ คิดว่าจะไม่มีใครได้เห็นค่ะ จนกว่าลูกจะเริ่มมีพัฒนาการด้านตัวตน สามารถบอกความรู้สึกได้ จำเป็นต้องขออนุญาตจากลูกก่อนค่ะ…..”

ความคิดของปุ้มปุ้ย สะท้อนให้เห็นว่าเด็กทุกคนมีสิทธิที่ควรได้รับมาตั้งแต่เกิด ซึ่งเป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่ทุกคน ควรตระหนักและให้ความสำคัญ ซึ่งสิทธิเด็กที่ติดตัวมาแต่เกิดมี 4 ประเภท

สิทธิเด็ก 4 ประเภท

จากการที่ปุ้มปุ้ยกล่าวถึงสิทธิขั้นพื้นฐานที่เด็กจะได้รับนั้น สิทธินี้เป็นสิทธิของเด็กที่อายุ 0-18 ปีทุกคนควรได้รับเมื่อเกิดมาแล้ว ประกอบด้วย

  1. สิทธิที่จะมีชีวิตรอด (Right of Survival) คือสิทธิในการอยู่รอดปลอดภัยตั้งแต่เมื่อคลอด ไม่ว่าเด็กคนนั้นจะเกิดมาปกติ หรือเกิดมาพร้อมกับความบกพร่องทางร่างกายหรือจิตใจก็ตาม
  2. สิทธิที่จะได้รับการพัฒนา (Right of Development) คือสิทธิที่จะได้รับการสนับสนุนด้านการศึกษาตามมาตรฐาน ความเป็นอยู่และโภชนาการที่เหมาะสมตามวัย รวมถึงการส่งเสริมเสริมพัฒนาการทั้งด้านร่างกายและจิตใจ
  3. สิทธิที่จะได้รับการปกป้องคุ้มครอง (Right of Protection) คือสิทธิที่จะได้รับการปกป้องคุ้มครองจากการล่วงละเมิด และการทารุณกรรมทุกรูปแบบ ทั้งด้านร่างกายและจิตใจ รวมถึงการใช้แรงงานเด็กเพื่อแสวงหาผลประโยชน์
  4. สิทธิที่จะมีส่วนร่วม (Right of Participation) คือสิทธิที่จะมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น การแสดงออกทั้งในด้านความคิดและการกระทำ รวมถึงการตัดสินใจที่มีผลกระทบต่ออนาคตของตนเอง

ดาบสองคมโซเชียลมีเดีย

จากประเด็นการเคารพสิทธิของเด็ก ด้วยการไม่โพสต์ภาพและคลิปของเด็ก เนื่องจากอาจจะส่งผลร้ายต่อเด็กนั้น เรื่องนี้ มีผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาเด็ก ผู้เชี่ยวชาญด้านการใช้สื่อ รวมทั้งคนดังในโลกออนไลน์ได้ออกมาสะท้อนให้สังคมได้คิดกันเป็นจำนวนมาก เช่น จ่าพิชิต ขจัดพาลชน เจ้าของเพจดัง Drama-addict ระบุว่า

“การโพสต์ภาพและคลิปของเด็กลงสื่อสังคมออนไลน์ เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่เรียกให้อาชญากรเข้ามาหาตัวเด็กได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการโพสต์เรื่องราวในชีวิตประจำวัน รวมถึงการ “เช็กอิน” ตามสถานที่ต่าง ๆ ขณะที่ปัจจุบันมีคลิปเด็กจำนวนมากที่ถูกเผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งผู้เผยแพร่กลับเป็นคนที่ทำงานอยู่กับเด็กและเป็นผู้ใกล้ชิดเด็กโดยตรง…”

นอกจากนี้ พญ.จิราภรณ์ อรุณากูร กุมารแพทย์เวชศาสตร์วัยรุ่น โรงพยาบาลรามาธิบดี ยังกล่าวเสริมว่าการละเมิดสิทธิเด็กจะส่งผลให้เด็กนับถือตัวเองลดลง

“การนำภาพหรือคลิปการกระทำในทางไม่ดีไปเปิดเผยจะส่งผลทำให้เกิดความเครียด อับอาย รู้สึกไม่ดีกับตัวเองความนับถือในตัวเองลดลง ส่งผลต่อสภาพจิตใจเกิดความรู้สึกแย่ ถูกล้อเลียนจากกลุ่มเพื่อน ถูกมองเป็นเรื่องตลกขำขัน ต้องกลายเป็นคนที่รู้จักของสังคม ไม่มีความเป็นส่วนตัว นอกจากนี้ คลิปที่โพสต์ประจานการกระทำของลูกหลานจะส่งผลลบต่อความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว ซึ่งสถานการณ์ทุกกลุ่มอายุถือว่าน่าเป็นห่วง ดังนั้น ผู้ใหญ่ต้องมีความคิดที่รอบคอบ หากรักลูกก็อย่าละเมิดสิทธิ มองถึงผลเสียที่จะเกิดขึ้นให้มาก”

ผศ.มรรยาท อัครจันทโชติ คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้กล่าวไว้เช่นกันว่าการนำภาพของเด็กไปเผยแพร่โดยไม่ได้รับการยินยอมนั้น หลายกรณีส่งผลให้เด็กถึงกับเป็นโรคซึมเศร้า

“การที่ภาพ/คลิปของเด็กถูกนำไปตัดต่อ ดัดแปลง เป็นที่สนุกสนานบนอินเทอร์เน็ต บางครั้งถูกนำไปแชร์ต่อและปรับเปลี่ยนเจตนาที่ดีให้กลายเป็นเรื่องไม่ดีเพื่อเรียกยอดไลค์ของแฟนเพจ ซึ่งมีเด็กหลายกรณีที่เด็กกลายเป็นโรคซึมเศร้าจากการโดนล้อเลียนบนอินเทอร์เน็ต กลายเป็นแผลในใจที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน เช่น ต้องย้ายโรงเรียน เพราะโดนล้อ อึดอัดเพราะกลายเป็นคนดังและมีแต่คนมาพูดคุยหรือล้อเลียน หวาดระแวง เกิดภาวะความเครียด หรือแม้แต่คิดฆ่าตัวตายก็มี

เคารพสิทธิเด็ก
พร้อมหน้า พ่อ แม่ ลูก

เผยแพร่ภาพและคลิปเด็ก จัดการทางกฎหมายได้

ในขณะที่พ่อแม่ผู้ปกครองหลายท่านอาจคิดว่า ก็เด็กคนนี้เป็นลูกเป็นหลานเราเราจะทำอะไรก็ได้ แค่โพสต์รูปหรือคลิปไม่น่าจะรุนแรงนั้น กรณีนี้ ณัฐวุฒิ บัวประทุม หัวหน้างานกฎหมาย มูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก กล่าวว่ามีข้อกฎหมายระบุไว้ชัดเจนว่ามีโทษทางอาญา

“สำหรับประเทศไทย มีกฎหมายตาม พ.ร.บ.ที่เกี่ยวข้องกับเด็กมากกว่า 200 ฉบับ แต่ที่สำคัญที่สุด คือ พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 ที่ใช้มามากกว่า 10 ปี และนำหลักตามอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กมาบัญญัติไว้ในกฎหมาย เช่น มาตรา 27 ที่มีโทษทางอาญา หากเปิดเผยหรือเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับเด็กจนส่งผลกระทบต่อเด็ก นอกจากนี้ ยังเป็นความผิดตามกฎหมายเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์อีกด้วย ดังนั้น กฎหมายถือว่าบัญญัติไว้ครอบคลุม สามารถฟ้องร้องเอาผิดได้ แต่ยังขาดการบังคับใช้ที่เป็นรูปธรรมหรือกระบวนการต่าง ๆ ยังมีความล่าช้า”

 

โพสต์อย่างไรไม่ให้ละเมิดสิทธิเด็ก

สำหรับพ่อแม่ผู้ปกครองที่ต้องการโพสต์ภาพและคลิป ก็มีแนวทางในการแชร์ภาพหรือคลิปของลูกหลานลงในโซเชียลมีเดีย ไม่ให้ละเมิดสิทธิเด็ก ดังนี้

  1. เอาใจเขามาใส่ใจเราก่อนที่จะโพสต์ภาพหรือคลิป เพราะเด็กอาจไม่รู้สึกตลกหรืออับอาย ไม่ควรนำไปเผยแพร่ ส่งต่อ หรือโพสต์ลงโซเชียลมีเดีย
  2. อย่าโพสต์คลิปและภาพเด็กลงโซเชียลมีเดียอยู่ตลอดเวลา เพราะมิจฉาชีพสามารถเข้าถึงตัวได้
  3. พ่อแม่ควรทำหน้าที่พ่อแม่ ไม่ใช่เป็นสื่อถ่ายคลิป
  4. หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการกำกับดูแล เช่น กสทช. หน่วยงานภาครัฐที่กำกับดูแลวิชาชีพอันเกี่ยวข้องกับสิทธิเด็ก เช่น ครู หรือเจ้าหน้าที่สถานสงเคราะห์ ควรมีมาตรการในการดูแลที่จริงจัง
  5. สื่อและประชาชน ควรร่วมกันให้ความรู้ในเรื่องการเผยแพร่ภาพหรือคลิปที่ไม่ละเมิดสิทธิเด็ก เพื่อเปลี่ยนแปลงความคิดและพฤติกรรมของคนในสังคม ให้คำนึงถึงผลกระทบที่ตามมามากขึ้น โดยเฉพาะสื่อก็ไม่ควรเป็นตัวอย่างในการสร้างความคุ้นชินในการเผยแพร่ภาพหรือคลิปเด็กในรูปแบบที่เป็นการละเมิดเด็กด้วยเช่นเดียวกัน

เมื่อได้ทราบแล้วว่าเรื่องที่ดูเล็กน้อยอย่างการโพสต์ภาพหรือคลิปให้เห็นหน้าเด็กโดยที่ไม่ได้รับการยินยอมจากเด็กนั้น ถือเป็นการละเมิดสิทธิ ดังนั้นพ่อแม่ผู้ปกครองก็ควรระมัดระวังและเตือนตนเองอยู่เสมอว่า การโพสต์นั้นจะส่งผลต่อเด็กอย่างไรบ้างในอนาคต เพราะสิ่งที่โพสต์ลงไปแล้วนั้น เป็น digital footprint ซึ่งจะอยู่บนอินเทอร์เน็ตไปอีกนาน

 

ขอบคุณข้อมูลจาก

Posttoday ,springnews , มูลนิธิเด็กโสสะแห่งประเทศไทย , IG pantipa.a

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

4 พฤติกรรมที่พ่อแม่..ทำร้ายลูกโดยไม่รู้ตัว

สอนลูกให้รู้จัก “พื้นที่ส่วนตัว” ป้องกันถูกละเมิดทางเพศ

ชวนผู้ปกครองเข้าใจ Safety Zone ของเด็กทุกช่วงวัย

วันพระ 2565

ปฏิทิน วันพระ 2565 ครบ 12 เดือน จะมีวันพระ ตรงกับวันไหนบ้าง สายบุญเช็กเลย

event
วันพระ 2565
วันพระ 2565

รวม วันพระ 2565 ตลอดปีฉลู – ปีขาล ครบ 12 เดือน ปี 2565 ปฏิทินวันพระ ตรงกับวันไหนบ้าง ครอบครัวพุทธศาสนิกชน สายบุญ สายธรรมะ เช็กเลย

สำหรับครอบครัวคนไทยแล้ว นอกจากวันสำคัญและวันหยุด  วันพระ ก็ถือเป็นอีกหนึ่งวันที่เราขาดไม่ได้ ซึ่งวันพระ หรือ วันอุโบสถ หมายถึง วันประชุมของพุทธศาสนิกชน เพื่อปฏิบัติกิจกรรมทางศาสนาในพระพุทธศาสนาประจำสัปดาห์ หรือที่เรียกอีกคำหนึ่งว่า “วันธรรมสวนะ” คือ วันถือศีลฟังธรรม นั่นเอง โดยวันพระเป็นวันที่มีกำหนดตามปฏิทินจันทรคติ ใน 1 เดือนจะมีเดือนละ 4 วัน ได้แก่ วันขึ้น 8 ค่ำ, วันขึ้น 15 ค่ำ, วันแรม 8 ค่ำ และวันแรม 15 ค่ำ

ทั้งนี้การทราบปฏิทิน วันพระ 2565 / 2022 จะช่วยให้พุทธศาสนิกชน ได้วางแผนพาครอบครัวทำบุญ ชวนลูกเข้าวัด ไหว้พระทำบุญ ทำความดี หรือเลือกวันมงคลสำหรับการจัดงานต่างๆ ได้ โดยใน 1 สัปดาห์จะมีวันพระ 1 วัน … ซึ่งตลอดทั้งปีนี้ จะมี วันพระ 2565 วันไหนบ้าง ตามมาเช็กกันเลย

วันพระ 2565 เดือนมกราคม

  • วันอาทิตย์ที่ 2 มกราคม 2565 แรม 14 ค่ำ เดือนอ้าย(1) ปีฉลู
  • วันจันทร์ที่ 10 มกราคม 2565 ขึ้น 8 ค่ำ เดือนยี่(2) ปีฉลู
  • วันจันทร์ที่ 17 มกราคม 2565 ขึ้น 15 ค่ำ เดือนยี่(2) ปีฉลู
  • วันอังคารที่ 25 มกราคม 2565 แรม 8 ค่ำ เดือนยี่(2) ปีฉลู

วันพระ 2565 เดือนกุมภาพันธ์

  • วันอังคารที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 แรม 15 ค่ำ เดือนยี่(2) ปีฉลู
  • วันพุธที่ 9 กุมภาพันธ์ 2565 ขึ้น 8 ค่ำ เดือนสาม(3) ปีฉลู
  • วันพุธที่ 16 กุมภาพันธ์ 2565 ขึ้น 15 ค่ำ เดือนสาม(3) ปีฉลู (วันมาฆบูชา)
  • วันพฤหัสบดีที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 แรม 8 ค่ำ เดือนสาม(3) ปีฉลู

วันพระ 2565 เดือนมีนาคม

  • วันพุธที่ 2 มีนาคม 2565 แรม 14 ค่ำ เดือนสาม(3) ปีฉลู
  • วันพฤหัสบดีที่ 10 มีนาคม 2565 ขึ้น 8 ค่ำ เดือนสี่(4) ปีฉลู
  • วันพฤหัสบดีที่ 17 มีนาคม 2565 ขึ้น 15 ค่ำ เดือนสี่(4) ปีฉลู
  • วันศุกร์ที่ 25 มีนาคม 2565 แรม 8 ค่ำ เดือนสี่(4) ปีฉลู

 วันพระ 2565 เดือนเมษายน

  • วันศุกร์ที่ 1 เมษายน 2565 แรม 15 ค่ำ เดือนสี่(4) ปีฉลู
  • วันเสาร์ที่ 9 เมษายน 2565 ขึ้น 8 ค่ำ เดือนห้า(5) ปีขาล
  • วันเสาร์ที่ 16 เมษายน 2565 ขึ้น 15 ค่ำ เดือนห้า(5) ปีขาล
  • วันอาทิตย์ที่ 24 เมษายน 2565 แรม 8 ค่ำ เดือนห้า(5) ปีขาล
  • วันเสาร์ที่ 30 เมษายน 2565 แรม 14 ค่ำ เดือนห้า(5) ปีขาล

วันพระ 2565

วันพระ 2565 เดือนพฤษภาคม

  • วันอาทิตย์ที่ 8 พฤษภาคม 2565 ขึ้น 8 ค่ำ เดือนหก(6) ปีขาล
  • วันอาทิตย์ที่ 15 พฤษภาคม 2565 ขึ้น 15 ค่ำ เดือนหก(6) ปีขาล (วันวิสาขบูชา)
  • วันจันทร์ที่ 23 พฤษภาคม 2565 แรม 8 ค่ำ เดือนหก(6) ปีขาล (วันอัฏฐมีบูชา)
  • วันจันทร์ที่ 30 พฤษภาคม 2565 แรม 15 ค่ำ เดือนหก(6) ปีขาล

วันพระ 2565 เดือนมิถุนายน

  • วันอังคารที่ 7 มิถุนายน 2565 ขึ้น 8 ค่ำ เดือนเจ็ด(7) ปีขาล
  • วันอังคารที่ 14 มิถุนายน 2565 ขึ้น 15 ค่ำ เดือนเจ็ด(7) ปีขาล
  • วันพุธที่ 22 มิถุนายน 2565 แรม 8 ค่ำ เดือนเจ็ด(7) ปีขาล
  • วันอังคารที่ 28 มิถุนายน 2565 แรม 14 ค่ำ เดือนเจ็ด(7) ปีขาล

ปฏิทินวันพระ เดือนกรกฎาคม 2565

  • วันพุธที่ 6 กรกฎาคม 2565 ขึ้น 8 ค่ำ เดือนแปด(8) ปีขาล
  • วันพุธที่ 13 กรกฎาคม 2565 ขึ้น 15 ค่ำ เดือนแปด(8) ปีขาล (วันอาสาฬหบูชา)
  • วันพฤหัสบดีที่ 14 กรกฎาคม 2565 แรม 1 ค่ำ เดือนแปด(8) ปีขาล (วันเข้าพรรษา)
  • วันพฤหัสบดีที่ 21 กรกฎาคม 2565 แรม 8 ค่ำ เดือนแปด(8) ปีขาล
  • วันพฤหัสบดีที่ 28 กรกฎาคม 2565 แรม 15 ค่ำ เดือนแปด(8) ปีขาล (วันเฉลิมฯ ร.10)

ปฏิทินวันพระ เดือนสิงหาคม 2565

  • วันศุกร์ที่ 5 สิงหาคม 2565 ขึ้น 8 ค่ำ เดือนเก้า(9) ปีขาล
  • วันศุกร์ที่ 12 สิงหาคม 2565 ขึ้น 15 ค่ำ เดือนเก้า(9) ปีขาล (วันเฉลิมฯ วันแม่)
  • วันเสาร์ที่ 20 สิงหาคม 2565 แรม 8 ค่ำ เดือนเก้า(9) ปีขาล
  • วันศุกร์ที่ 26 สิงหาคม 2565 แรม 14 ค่ำ เดือนเก้า(9) ปีขาล

ปฏิทินวันพระ เดือนกันยายน 2565

  • วันเสาร์ที่ 3 กันยายน 2565 ขึ้น 8 ค่ำ เดือนสิบ(10) ปีขาล
  • วันเสาร์ที่ 10 กันยายน 2565 ขึ้น 15 ค่ำ เดือนสิบ(10) ปีขาล
  • วันอาทิตย์ที่ 18 กันยายน 2565 แรม 8 ค่ำ เดือนสิบ(10) ปีขาล
  • วันอาทิตย์ที่ 25 กันยายน 2565 แรม 15 ค่ำ เดือนสิบ(10) ปีขาล

วันพระ 2565

ปฏิทินวันพระ เดือนตุลาคม 2565

  • วันจันทร์ที่ 3 ตุลาคม 2565 ขึ้น 8 ค่ำ เดือนสิบเอ็ด(11) ปีขาล
  • วันจันทร์ที่ 10 ตุลาคม 2565 ขึ้น 15 ค่ำ เดือนสิบเอ็ด(11) ปีขาล (วันออกพรรษา)
  • วันอังคารที่ 18 ตุลาคม 2565 แรม 8 ค่ำ เดือนสิบเอ็ด(11) ปีขาล
  • วันจันทร์ที่ 24 ตุลาคม 2565 แรม 14 ค่ำ เดือนสิบเอ็ด(11) ปีขาล

ปฏิทินวันพระ เดือนพฤศจิกายน 2565

  • วันอังคารที่ 1 พฤศจิกายน 2565 ขึ้น 8 ค่ำ เดือนสิบสอง(12) ปีขาล
  • วันอังคารที่ 8 พฤศจิกายน 2565 ขึ้น 15 ค่ำ เดือนสิบสอง(12) ปีขาล (วันลอยกระทง)
  • วันพุธที่ 16 พฤศจิกายน 2565 แรม8 ค่ำ เดือนสิบสอง(12) ปีขาล
  • วันพุธที่ 23 พฤศจิกายน 2565 แรม 15 ค่ำ เดือนสิบสอง(12) ปีขาล

ปฏิทินวันพระ เดือนธันวาคม 2565

  • วันพฤหัสบดีที่ 1 ธันวาคม 2565 ขึ้น 8 ค่ำ เดือนอ้าย(1) ปีขาล
  • วันพฤหัสบดีที่ 8 ธันวาคม 2565 ขึ้น 15 ค่ำ เดือนอ้าย(1) ปีขาล
  • วันศุกร์ที่ 16 ธันวาคม 2565 แรม 8 ค่ำ เดือนอ้าย(1) ปีขาล
  • วันพฤหัสบดีที่ 22 ธันวาคม 2565 แรม 14 ค่ำ เดือนอ้าย(1) ปีขาล
  • วันศุกร์ที่ 30 ธันวาคม 2565 ขึ้น 8 ค่ำ เดือนยี่(2) ปีขาล

 

และทั้งหมดนี้คือ ปฏิทิน วันพระ 2565 หากครอบครัวที่นับถือศาสนาพุทธ เป็นพุทธศาสนิกชน ก็อย่าลืม ทำความดี ฟังเทศน์ ฟังธรรม สวดมนต์ ทำบุญไหว้พระในบ้าน และพระที่วัด เพื่อเสริมความเป็นสิริมงคลให้กับตัวคุณเองนะคะ


ขอบคุณข้อมูลจาก : artsandculture.google.com , www.sanook.com

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

ป้อนข้าวลูกท่านอน อันตราย

อันตรายถึงชีวิต!! ป้อนข้าวลูกท่านอน ทารกสำลักถึงตาย

Alternative Textaccount_circle
event
ป้อนข้าวลูกท่านอน อันตราย
ป้อนข้าวลูกท่านอน อันตราย

ป้อนข้าวลูกท่านอน อันตรายไหม คำถามดราม่าสนั่นโซเซียลจนคุณหมอเด็กรีบออกมาเตือน อย่าหาทำ ลูกสำลักลงหลอดลม ช่วยไม่ทันอันตรายถึงชีวิต แนะวิธีดูแล และช่วยเหลือ

อันตรายถึงชีวิต!! ป้อนข้าวลูกท่านอน ทารกสำลักถึงตาย

การป้อนอาหารเด็ก เป็นหัวข้อคำถามยอดฮิตอีกหัวข้อหนึ่งในกลุ่มแม่เลี้ยงลูก นานาคำถาม นานาปัญหาสารพัน ไม่ว่าจะเป็น ป้อนข้าวน้องได้ตอนอายุเท่าไหร่ ป้อนอาหารได้ตอนกี่เดือน ป้อนข้าวลูกท่านอน ได้ไหม เป็นต้น ล่าสุดก็เกิดดราม่าในกลุ่มแม่เลี้ยงลูกเล็ก ๆ ที่มีคนสนใจกันมาก ทั้งแชร์ต่อเกือบหมื่น ทั้งมีคอมเมนต์กันอย่างดุเดือด ถึงเรื่องการ ป้อนข้าวลูกท่านอน มาถามว่าป้อนท่าแบบนี้อันตรายหรือไม่?

ไขข้อข้องใจ คำตอบนี้เพื่อแม่!!

ป้อนอาหารลูก ตอนอายุเท่าไหร่ดี??

ตั้งแต่แรกเกิดจนอายุ 6 เดือน ลูกน้อยได้รับสารอาหารทั้งหมดที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโต และพัฒนาการจากนมแม่ ทารกไม่ต้องการอะไรนอกจากนมแม่ ไม่จำเป็นต้องป้อนน้ำ ชา น้ำผลไม้ ข้าวต้ม หรืออาหารหรือของเหลวอื่น ๆ ในช่วงนี้

อีกเคสอุทาหรณ์สำหรับการรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของการป้อนอาหารเด็กทารกสำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่มีความเชื่อ หรือความเข้าใจผิด ๆ นั้น โดย คุณหมอ สุธีรา เอื้อไพโรจน์กิจ กุมารแพทย์ทารกแรกเกิด ได้หยิบยกนำมาเป็นเคสตัวอย่างเพื่อบอกต่อให้พ่อแม่คนอื่น ๆ ได้เข้าใจ และระมัดระวังจะได้ไม่เกิดเรื่องน่าเศร้าขึ้นอีกต่อไป

เคสตัวอย่าง จากเพจ สุธีรา เอื้อไพโรจน์กิจ (ป้าหมอ)
เคสตัวอย่าง จากเพจ สุธีรา เอื้อไพโรจน์กิจ (ป้าหมอ)

การที่คุณพ่อคุณแม่ในเรื่องเข้าใจผิดเห็นลูกทำท่าอยากกินเวลาที่คุณแม่กำลังกินอาหาร เลยเคี้ยวแล้วป้อนให้ลูกกิน หรือความเชื่อแต่ดั้งเดิมที่ทำต่อ ๆ กันมาในบางครอบครัวที่เห็นว่า ป้อนข้าวลูกอายุต่ำกว่า 6 เดือนมาแล้วหลายคนไม่เห็นเป็นอะไร นับว่าเป็นอันตรายมาก เพราะบางครั้งคุณอาจโชคดีที่ลูกไม่เป็นไร แต่หากผิดพลาดไปอันตรายถึงชีวิตเด็กได้

#ป้อนอาหารอื่นก่อน 6 เดือนเสี่ยงอันตรายถึงชีวิต
.
หนูน้อยอายุ 7 วันพ่อแม่ป้อนอาหารแล้วมีการโพสต์ภาพลงเฟสบุ๊ค
.
อายุ 8 วันน้องตัวเหลือง ไปรพ. คุณพ่อเข้าใจผิดว่า หมอเจ้าของไข้จะเลี้ยงไข้ พ่อไม่ยอม จึงพากลับบ้าน อีก 2 วันต่อมา น้องตัวเหลืองเพิ่มขึ้น พากลับไปรพ.อีกครั้ง รพ.บอกว่าอาการหนักแล้วต้องส่งต่อไปรักษาที่รพ.อีกแห่ง สุดท้ายรพ.ที่สองแจ้งว่า น้องอาการหนัก ตัวเหลืองมาก ติดเชื้อในกระแสเลือด ไตวาย น้ำเหลืองไม่ดี ในที่สุดน้องเสียชีวิต
.
สันนิษฐานว่ากรณีนี้อาจเป็นอีกรายหนึ่งที่ต้องสูญเสียชีวิตจากการเริ่มป้อนอาหารเร็วเกินไป กระเพาะอาหารและลำไส้ของทารกยังไม่แข็งแรงพอที่จะย่อยหรือดูดซึมอาหารอื่นที่ไม่ใช่นม เมื่อลำไส้อักเสบก็เกิดการติดเชื้อแทรกซ้อนเข้ากระแสเลือด จนเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต
.
อย่าเชื่อคำพูดว่า โบราณก็ทำกันมา ไม่เห็นเป็นอะไร หรือ เธอก็ถูกเลี้ยงมาแบบนี้ ยังไม่เห็นเป็นไรเลย เพราะลูกเราอาจโชคร้ายเป็นแบบเคสตัวอย่างหรืออีกหลายๆเคสที่เป็นข่าวมาเป็นระยะๆ
ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก เพจ สุธีรา เอื้อไพโรจน์กิจ
ไม่ควรป้อนอาหารลูกก่อน 6 เดือน ไม่ ป้อนข้าวลูกท่านอน
ไม่ควรป้อนอาหารลูกก่อน 6 เดือน ไม่ ป้อนข้าวลูกท่านอน

เหตุใดไม่ควรป้อนอาหารเด็กก่อนอายุ 6 เดือน??

ทารกที่รับประทานอาหารหรือของเหลวอื่น ๆ ที่ไม่ใช่นมแม่ก่อนอายุ 6 เดือนจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยต่าง ๆ อาทิ ท้องเสีย ซึ่งอาจทำให้เด็กผอม อ่อนแอและอาจถึงแก่ชีวิตได้ และทำให้ลูกได้รับนมแม่น้อยลง ดังนั้นปริมาณน้ำนมแม่ที่น้อยลงก็จะทำให้สารอาหารที่จำเป็นสำหรับทารกที่อยู่ในนมแม่ก็จะน้อยลงด้วยเช่นกัน

หากคุณพ่อคุณแม่เห็นลูกที่อายุน้อยกว่า 6 เดือน ยกมือขึ้นมาจ่อที่ปาก คุณอาจเข้าใจผิดว่าลูกยังหิวอยู่ และนมแม่อาจไม่อยู่ท้อง แต่จริง ๆ แล้ว ลูกน้อยเพียงแค่แสดงอาการสนใจสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ทำ แต่ไม่ได้หมายความว่าลูกของคุณต้องการอาหาร หรือหิว เด็กจะพร้อมรับประทานอาหารแข็งเมื่ออายุครบ 6 เดือนเท่านั้น เพราะนอกจากการได้รับสารอาหารที่จำเป็นไม่เพียงพอแล้ว ยังเสี่ยงต่อการสำลักอาหารของเด็กอีกด้วย

ดราม่าสนั่น ป้อนข้าวลูกท่านอน ได้ไหม??

การป้อนข้าวลูกท่านอน เกิดเป็นประเด็นขึ้นมาได้ เนื่องจากเราพบว่าในหลายครอบครัวมีวิธีปฎิบัติสืบทอดกันมากับการป้อนอาหารลูก โดยจัดให้ลูกอยู่ในท่านอน ลักษณะที่ผู้ป้อนข้าวนั่งเหยียดขา จากนั้นให้เด็กนอนบนร่องขาทั้งสองข้าง และหันหัวมาทางลำตัวเรา เป็นท่าที่ใช้ป้อนข้าวเด็กทารกที่มีความเชื่อกันว่าทำให้การป้อนข้าวไม่เลอะเทอะ และถ้าเมื่อมีอาการปวดเมื่อยลำตัวของผู้ป้อน แสดงว่า ลูกน่าจะกินอิ่มพอดี

เมื่อประเด็นดังกล่าวได้เข้ามาสู่วงโซเซียลจึงเกิดการโต้เถึยงถึงความถูกต้องเหมาะสมกันอย่างกว้างขวาง วันนี้ ทีมแม่ ABK มีคำแนะนำจากคุณหมอสุธีราเกี่ยวกับการป้อนอาหารเด็กที่ถูกต้องตามสุขลักษณะมาฝากกันว่า ควรจะป้อนท่านอนดีหรือไม่

 

ป้อนข้าวลูกท่านอน อันตราย
ป้อนข้าวลูกท่านอน อันตราย
ขอขอบคุณภาพและข้อมูลจาก เพจ Drama-addict

ป้อนข้าวลูกท่านอน เสี่ยง!!

ก่อนอื่นต้องขอทำความเข้าใจเกี่ยวกับการป้อนอาหารเด็กก่อนว่าในที่นี้เราจะขอพูดถึงการป้อนอาหารเด็กเมื่อเด็กอยู่ในวัยมากกว่า 6 เดือนขึ้นไปเสียก่อน ดั่งเหตุผลจากข้อข้องใจข้างต้น การให้ลูกนอนรับประทานอาหารนั้น ลูกจะกลืนอาหารได้ยากกว่าการนั่ง หากนึกไม่ออก อยากให้คุณพ่อคุณแม่ลองนึกถึงความรู้สึกของตัวเองเวลาต้องนอนกินข้าว แน่นอนว่ามีความยากลำบากในการกลืนอันดับแรก และไม่ส่งผลดีต่อระบบย่อยอาหารของมนุษย์ที่มีแนวลำตัวในทางตั้งตรงอย่างแน่นอน

นอกจากนั้น คุณหมอสุธีราได้ให้ข้อคิดเตือนใจในการป้อนข้าวลูกท่านอน ว่า

“อายุเท่าไหร่ ก็ไม่ควรอยู่ในท่านอนรับประทาน เพราะว่ามันจะทำให้เวลาที่รับประทาน มีโอกาสที่อาหารที่จะลงไปในท่อหลอดลมได้ เพราะฉะนั้นตรงนี้เศษอาหารมันจะลงไปในหลอดลม และจะลงไปที่ปอดได้ ทำให้มีการติดเชื้อ ทำให้มีการอักเสบที่ปอด หรือที่เรียกว่าโรคปอดบวม ถ้าสมมติว่าเราไปป้อนในเด็กที่ต่ำกว่า 6 เดือน บางคนอาจจะพอได้ ใช้คำว่าพอได้ มันยังมีโอกาสที่จะสำลักอาหารลงไปในท่อหลอดลมได้”

ถอดคำคุณหมอสุธีรา จากการให้สัมภาษณ์ในรายการ สติข่าว ช่อง one31 

สรุปได้ว่าการป้อนข้าวลูกท่านอน นอกจากจะเสี่ยงทำให้เกิดโอกาสสำลักแล้ว หากอาหารเข้าหลอดลม จะทำให้เกิดอาการปอดบวมตามมาอีกด้วย ซึ่งเป็นอันตรายมาก หากเป็นหนัก ๆ อาจถึงขั้นปอดติดเชื้อ ระบบหายใจล้มเหลวได้เลย

ป้อนข้าวลูกท่านอน อาจสำลักอาหารถึงตายได้
ป้อนข้าวลูกท่านอน อาจสำลักอาหารถึงตายได้

สำลักอาหาร อันตรายถึงชีวิต 

การสำลักอาหารไม่ว่าเกิดกับบุคคลวัยใดก็ย่อมเกิดความเสี่ยงอันตรายอยู่แล้ว หากเกิดกับเด็กทารก ตัวเล็ก ๆ จึงเป็นเรื่องที่น่าตกใจไม่น้อย ดังนั้นเรามาทำความเข้าใจอาการ วิธีป้องกัน และวิธีช่วยเหลือเมื่อเจ้าหนูน้อยสำลักกัน เพื่อความปลอดภัยหากเกิดเหตุการณ์

สำลัก อาการเล็กๆ แต่ใหญ่สำหรับเจ้าหนู
อาการสำลักอาหาร ส่วนใหญ่แล้วมักจะเกิดขึ้นได้ในเด็กเล็ก ส่วนน้อยที่เกิดขึ้นในเด็กที่ อายุต่ำกว่า 1 ขวบ แต่ไม่ใช่ว่าเด็กเล็กที่อายุไม่ถึงขวบจะไม่สำลักอาหารหรือนม ในทารก ก็สามารถเกิดได้เช่นกัน เราจึงเสนอวิธีการช่วยเหลือลูกเบื้องต้นเพื่อที่จะช่วยลูกให้หาย สำลักได้ทันท่วงที

ป้องกันไม่ให้สำลัก

  • เริ่มจากการจัดท่าทางในการป้อนอาหาร คือ ควรให้อาหารลูกในท่านั่งประคองศีรษะให้ ตั้งตรง พยายามให้อาหารในท่าที่ถนัด และจัดท่าทางให้ลูกในท่าที่สามารถรับอาหารได้ไม่ลำบาก
  • พยายามอย่าให้ลูกเล่นของที่มีลักษณะกลม ๆ เช่น ลูกปัด ลูกอม หรือของเล่นที่มีสีหลุด ลอกง่าย เพราะของเล่นเหล่านี้เป็นสาเหตุสำคัญที่ก่อให้เกิดอาการสำลักได้
  • อาหารบางชนิดที่เป็นอาหารชนิดใหม่เด็กอาจไม่ชอบ ทำให้ไม่ยอมกลืนอาหาร และมักคายออกมาจนสำลักได้ ดังนั้นคุณแม่ควรพิจารณาอาหารเสริมที่จะนำมาป้อนให้ลูกน้อยด้วย

วิธีช่วยเหลือเมื่อทารกสำลัก

  1. เมื่อลูกสำลักให้จับลูกคว่ำหน้าลงโดยให้ศีรษะอยู่ต่ำกว่าหน้าอก และใช้ฝ่ามือข้างที่ถนัดพยุงศรีษะของเด็กเอาไว้ โดยระวังอย่าให้มือไปปิดจมูก หรือปากของเด็ก
  2. วางแขนข้างที่พยุงเด็กไว้บนต้นขา จากนั้นใช้มือตบลงบนสันหลังตรงกระดูกสะบัก 4 ครั้งติด ๆ กัน
  3. หากอาหาร หรือสิ่งแปลกปลอมไม่ออกมา ให้คุณแม่จับเด็กหงายขึ้น และวางบนแขนที่อยู่บนหน้าตัก ให้ศีรษะลูกชี้ลงไปที่พื้น
  4. ใช้นิ้ว 3 นิ้วของแม่กดบริเวณใต้ตอลิ้นปี่เบาๆ กดประมาณ 4-5 ครั้ง
  5. ตรวจดูสิ่งแปลกปลอมในช่องปากของเด็ก หากพบให้เอาออก และทำการช่วยหายใจ

    ระวังลูกสำลัก ไม่วางสิ่งของใกล้มือเด็ก
    ระวังลูกสำลัก ไม่วางสิ่งของใกล้มือเด็ก

วิธีทำการช่วยหายใจเด็กทารก

  • จับหน้าผากลูก และเชยคางขึ้น เพื่อให้ทางเดินหายใจเปิด
  • ใช้ปากประกบไปที่ ปากและจมูกของเด็ก เป่าลมและสังเกตการเคลื่อนไหวของหน้าอก ซึ่งหากเป่าได้ถูกต้องหน้าอกจะยกขึ้น จากนั้นยกปากออก สังเกตการยุบตัวลงของหน้าอก ทำซ้ำแบบนี้ 2 ครั้งการปฐมพยาบาลที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ เหมาะสำหรับการช่วยเหลือเด็กทารก และเด็กเล็ก แต่หากเป็นเด็กโตจะใช้วิธีอื่นที่ยากกว่านี้หน่อย ซึ่งหากคุณแม่ปฎิบัติเบื้องต้นตามที่กล่าวมาแล้วไม่พบอาหาร หรือสิ่งแปลกปลอมในช่องปากให้เรียกรถพยาบาลเพื่อการช่วยเหลือที่ ทันท่วงที
ขอขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก www.phyathai-sriracha.com
เรื่องดราม่าข้อถกเถียง แม้บางครั้งอาจดูเกินเลยจากประเด็นไปบ้าง แต่ข้อดีของการหยิบยกเรื่องราวมาถกเถียงกัน คือ การที่เราสามารถให้ความรู้ที่ถูกต้องแก่ผู้ที่ยังไม่เข้าใจ จะได้ปฎิบัติตัวได้อย่างถูกต้อง และลดเหตุการณ์น่าเศร้า อันไม่ควรเกิดขึ้นจากความไม่รู้ลงได้
อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก
ประโยคภาษาอังกฤษสั้นๆ

50 ประโยคภาษาอังกฤษสั้นๆ ใช้สอนลูก ให้พูดได้แต่เด็ก!

Alternative Textaccount_circle
event
ประโยคภาษาอังกฤษสั้นๆ
ประโยคภาษาอังกฤษสั้นๆ

การพูดภาษาอังกฤษกับลูกตั้งแต่เด็ก จะทำให้ลูกคุ้นเคยกับภาษา เสริมสร้างให้ลูกอยากพูด อยากเรียนรู้ภาษาอังกฤษ ทีมแม่ ABK จึงขอรวบรวม ประโยคภาษาอังกฤษสั้นๆ ไว้ใช้สอนลูกกันค่ะ

50 ประโยคภาษาอังกฤษสั้นๆ ใช้สอนลูก ให้พูดได้แต่เด็ก!

ทำไมลูกต้องฝึกภาษาอังกฤษตั้งแต่เด็ก? ในสมัยนี้ เราต้องยอมรับว่าภาษาอังกฤษ เป็นภาษาที่เด็กทุกคนควรพูดได้ ฟังเข้าใจ อ่านเขียนคล่อง เพราะทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวเราล้วนแล้วแต่ใช้ภาษาอังกฤษทั้งนั้น การจะให้ลูกฝึกภาษาอังกฤษเมื่อเข้าเรียน ก็ดูจะช้าเกินไป อีกทั้งการปลูกฝังให้ลูกคุ้นเคยกับภาษาอังกฤษ จะช่วยเสริมสร้างให้ลูกอยากพูด อยากเรียนรู้ และคุ้นเคยกับภาษาได้ดีขึ้น เมื่อถึงเวลาที่ลูกเริ่มพูด ลูกก็จะกล้าพูดโดยไม่ต้องกลัวว่าจะพูดผิดถูก

แต่การสอนเด็กเล็กนั้น แตกต่างจากการสอนเด็กในวัยประถม เพราะลูกไม่ยอมนั่งโต๊ะอยู่เฉย ๆ ให้คุณพ่อคุณแม่สอนแกรมม่าหรือสอนตัวหนังสือแน่นอนค่ะ ดังนั้น เรามีเคล็ดลับดี ๆ ในการสอนลูกให้พูดภาษาอังกฤษได้ตั้งแต่เล็ก ๆ มาฝากกันค่ะ

7 เคล็ดลับดี๊ดี สอนลูกให้พูดภาษาอังกฤษได้ตั้งแต่เล็ก ๆ

  1. กำหนดเวลา English Time

สำหรับเด็กที่เริ่มตอบโต้เป็นภาษาอังกฤษได้บ้างแล้ว คุณพ่อคุณแม่อาจจะทำข้อตกลงกันว่าใน 1 วัน ขอตั้งช่วงเวลา อาจจะประมาณ 15-20 นาที ในการพูดภาษาอังกฤษกัน ในช่วงเวลานี้จะไม่มีการพูดภาษาไทยเลย โดยใช้ชีวิตประจำวันตามปกติเหมือนเดิม เพียงแต่เวลาพูด จะใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารเท่านั้น

2. เรียนรู้ภาษาอังกฤษ ผ่านเกมสนุ๊ก..สนุก

หากเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับเกมแล้ว เด็กย่อมสนใจอย่างแน่นอน มาทำให้การพูดภาษาอังกฤษไม่น่าเบื่อ ไม่เป็นเรื่องเคอะเขิน ด้วยการเล่นเกมต่าง ๆ เด็กจะเกิดความสนุกสนาน มีความรู้สึกด้านบวกต่อภาษา และกล้าพูดมากขึ้น เพราะเป็นเรื่องที่ตัวเองชอบ สนใจ และสนุก เช่น เกม Flash Card ทายคำศัพท์ภาษาอังกฤษ สนุก ๆ เป็นต้น

3. เล่นบทบาทสมมติ

หากลูกชอบเจ้าหญิง ให้สมมติว่าลูกเป็นเจ้าหญิงที่กำลังคุยกับเจ้าชาย กันไปเล้ย หรือหากลูกชอบฮีโร่ ลองสมมติให้ลูกเป็นฮีโร่มาช่วยกอบกู้โลกกัน! แล้วใช้การพูดคุยผ่านภาษาอังกฤษเข้าไปเพื่อให้น้องพูดคุยโต้ตอบกลับมา ก็จะช่วยฝึกเรื่อง Speaking ได้ดีมาก

สอนลูกพูดภาษาอังกฤษ
สอนลูกพูดภาษาอังกฤษ

4. ใช้สมุดภาพสอนภาษา

การเรียนรู้ว่าสิ่ง ๆ นั้นคืออะไร หากคุณพ่อคุณแม่ใช้ภาษาอังกฤษแทนของสิ่งนั้นเป็นครั้งแรก เด็กจะจำได้ว่าสิ่งนั้นคืออะไรเป็นภาษาอังกฤษได้ง่าย ๆ เลยค่ะ ลองซื้อสมุดภาพคำศัพท์ที่มีสีสันน่าดึงดูด มาเปิดสอนลูกทีละคำว่ารูป ๆ นั้นมีภาษาอังกฤษว่าอะไร ลูกจะจำคำศัพท์ได้เป็นอย่างดี

5. ใช้เพลงประกอบ หรือดนตรีเพื่อสร้างความสนุก

สื่อการสอนอย่างวิดีโอ และเสียงเพลงยังคงใช้ได้ผลในทุกยุคทุกสมัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสมัยนี้ที่คลิปเพลงสอนภาษาอังกฤษสำหรับเด็กมีอยู่เต็มยูทูปไปหมด คุณพ่อคุณแม่สามารถเลือกมาเปิดได้ตามความชอบ เพราะเสียงเพลง และจังหวะสนุกๆ จะกระตุ้นให้เด็กเกิดความสนใจ และมีสมาธิกับสิ่งนั้น แล้วถ้าเด็กจำเนื้อร้อง (ที่ส่วนใหญ่สอดแทรกการสอนคำศัพท์เข้าไปด้วย) ได้ ก็จะยิ่งทำให้เด็กจำได้ง่ายมากขึ้น

6. เล่านิทานก็ฝึกได้

เด็กๆ หลายคนชอบฟังนิทานก่อนนอน ถ้าพ่อแม่อยากใช้เวลาสั้นๆ ก่อนนอนตรงนี้ฝึกภาษาด้วยก็สามารถทำได้โดยการหานิทานสั้นๆ มาเล่าเป็นภาษาอังกฤษ หรือจะให้น้องอ่านนิทานสั้นที่มีคำศัพท์ง่ายๆ ในเบื้องต้นก่อนก็เป็นการฝึกพูด และฟังได้ดีทีเดียว

อ่านต่อ บอกต่อจ้าแม่!! 50 นิทานสำหรับเด็ก 0-3 ปี ที่ควรอ่านให้ลูกฟังก่อนนอน

7. พยายามใช้ภาษาให้ได้ทุกวัน

ความสม่ำเสมอเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด หากต้องการให้ลูกคุ้นชินกับภาษา คุณพ่อคุณแม่ก็ควรพูดภาษานั้น ๆ กับลูกทุก ๆ วัน เพราะการใช้ภาษาในชีวิตประจำวันตลอดจะช่วยฝึกให้น้องจดจำ และคุ้นชินกับภาษา จนทำให้เด็กพูดได้อย่างเป็นปกติ

รู้เคล็ดลับในการสอนให้ลูกพูดภาษาอังกฤษได้ตั้งแต่เล็ก ๆ กันไปแล้ว มาดูตัวอย่าง ประโยคภาษาอังกฤษสั้นๆ ง่าย ๆ ไว้ใช้พูดกับลูกกันค่ะ

50 ประโยคภาษาอังกฤษสั้นๆ ใช้สอนลูก ให้พูดได้แต่เด็ก!

ประโยคภาษาอังกฤษสั้นๆ คำแปล
1. Good morning.  สวัสดีตอนเช้า
2. Did you sleep well?  หลับสบายไหมจ๊ะ
3. Brush your teeth.  แปรงฟันกันเถอะ
4. Wash your face.  ล้างหน้าล้างตา
5. Put on your cloths.  ใส่เสื้อผ้าจ้ะลูก
6. Do you need help?  ให้ช่วยไหมจ๊ะ
7. Yes, please.  ค่ะ (ครับ) ได้โปรด
8. No, thank you.  ไม่ต้องค่ะ (ครับ) ขอบคุณ
9. Eat your food.  กินข้าวนะลูก
10. Is it yummy?  อร่อยไหมลูก
11. Are you hungry?  หิวไหม
12. Do you want more?  เอาเพิ่มไหมจ๊ะ
13. What do you want?  อยากได้อะไรคะ
14. Let’s play  มาเล่นกันเถอะ
15. What is this?  นี่คืออะไร
16. This is a rainbow.  นี่คือสายรุ้ง
17. It’s your turn.  ถึงตาลูกแล้ว
18. Tidy up, please.  เก็บของด้วยค่ะ ลูก
19. I’m done. ทำเสร็จแล้ว
20. Where is the bird?  นกอยู่ที่ไหน
21. Please come over here.  มาตรงนี้หน่อยค่ะ
22. Is it fun? Be careful!  สนุกไหมคะ? ระวังด้วยนะ
23. Please don’t cry.  ไม่ร้องไห้นะ
24. Be nice.  ทำตัวดีๆ นะคะ
25. I’m sorry.  ขอโทษค่ะ

26. share with your friend.

 แบ่งกับเพื่อนๆ ด้วยนะ

27. We are going home.  เรากำลังกลับบ้านกันนะ
28. Let’s take a bath.  อาบน้ำกันเถอะ
29. Turn on/off the light.  เปิด (ปิด) ไฟ
30. Good night and sweet dreams.  ราตรีสวัสดิ์และฝันดีนะคะ
31. Did you sleep well? หลับสบายไหมคะ
32. You are the best. ลูกเก่งที่สุดเลยจ๊ะ
33. Do you need help? ต้องการให้ช่วยไหมจ๊ะ
34. Wait a minute. รอสักครู่นะจ๊ะ
35. What are you doing? กำลังทำอะไรอยู่คะ
36. Turn Left. หันซ้าย
37. Turn Right. หันขวา
38. Good Afternoon. สวัสดีตอนกลางวัน
39. Good Evening. สวัสดีตอนเย็น
40. How are you today? วันนี้เป็นอย่างไรบ้างจ๊ะ
41. I’m fine, thank you. พ่อ/แม่ สบายดีจ๊ะ ขอบคุณ
42. Don’t do that! อย่าทำอย่างนี้
43. Take a shower. ไปอาบน้ำกัน
44. Comb your hair. หวีผม
45. Put the food scraps in the trash can. เอาเศษอาหารไปทิ้งด้วยจ๊ะ
46. Get in a car. ขึ้นรถกันเถอะ
47. Where do you want to go? เราจะไปไหนกันดี ลูกอยากไปไหนจ๊ะ
48. Sit properly. นั่งให้เรียบร้อย
49. It’s dangerous! อันตราย!
50. Time to go home. ได้เวลากลับบ้านแล้วจ๊ะ
สอนภาษาอังกฤษลูก
สอนภาษาอังกฤษลูก

การฝึกให้ลูกๆ คุ้นชินกับภาษาตั้งแต่เด็กจะลดความเขินอาย หรือลังเลที่จะพูดไปเกือบหมด แล้วจะทำให้น้องกล้าพูดอย่างเป็นธรรมชาติ เพราะคนไทยส่วนใหญ่ต่างอยากพูดภาษาอังกฤษเป็นแม้กระทั่งในตอนที่โตแล้ว แต่เกิดความลังเล และเขินอาย ไม่กล้าพูดออกมา เพราะว่ากลัวพูดผิด พูดไม่ถูกรูปประโยค แล้วจะดูไม่ดีในสายตาคนอื่น ซึ่งการฝึกภาษาตั้งแต่เด็กจะช่วยทำลายกรอบตรงนี้ไปได้อย่างสิ้นเชิงเลยทีเดียว ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่คนไหนที่อยากพัฒนาทักษะด้านภาษาอังกฤษให้ลูกๆ ไว้ตั้งแต่เด็กก็ลองนำไปปรับใช้กันได้ แต่ต้องย้ำนิดนึงว่าเด็กแต่ละคนใช้เวลาในการเรียนรู้แตกต่างกันออกไป เพราะฉะนั้น อย่าบีบบังคับ หรือเร่งให้ทำได้อย่างใจพ่อแม่ แต่ขอให้ใช้ความอดทน และทำต่อไปเรื่อยๆ รับรองว่าน้องจะเก่งขึ้นแน่นอนค่ะ

อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

วิธีสอนลูกเรียนเก่ง เริ่มต้นได้ที่บ้าน

ให้ลูกเรียนภาษาจีนที่ไหนดี 6 สถาบันสอนภาษาจีนสำหรับเด็ก ปูทางให้ลูกเก่ง 3 ภาษา

เผยเคล็ดลับ! วิธีสอนภาษาอังกฤษลูก ให้เก่ง โดยไม่ต้องเรียนพิเศษ

10 เทคนิค สอนการบ้านลูก ให้สำเร็จ แบบไม่เสียน้ำตา

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : ihbangkok.com, www.edufirstschool.com

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

ชื่อไทยโบราณ

214 ชื่อไทยโบราณ +ความหมายมงคล สำหรับลูกสาว-ชาย

Alternative Textaccount_circle
event
ชื่อไทยโบราณ
ชื่อไทยโบราณ

อยากตั้งชื่อลูกให้ดูไทยแท้ ๆ แต่ใช้ได้กับยุคสมัยนี้ มาดู 200 ไอเดีย ชื่อไทยโบราณ พร้อมความหมายมงคล มีทั้งชื่อสำหรับลูกสาว และลูกชาย ได้ที่นี่

214 ชื่อไทยโบราณ +ความหมายมงคล สำหรับลูกสาว-ชาย

แม้ในยุคสมัยนี้ พ่อแม่หลายคนเลือกที่จะ ตั้งชื่อลูก เป็นภาษาต่างประเทศ เช่น ตั้งชื่อลูกภาษาอังกฤษ ชื่อภาษาจีน ชื่อภาษาญี่ปุ่น ชื่อภาษาเกาหลี แต่หลาย ๆ บ้านก็เลือกที่จะตั้งชื่อลูกเป็นภาษาไทย ชื่อไทยโบราณ แม้ชื่อเหล่านี้เป็นชื่อโบราณ แต่ก็เป็นชื่อที่สามารถใช้ได้กับทุกยุคทุกสมัยเลยค่ะ มาดูกันเลย

214 ชื่อไทยโบราณ +ความหมายมงคล สำหรับลูกสาว-ชาย

ชื่อ

ความหมาย

กชกร กระพุ่มไหว้ ทำอัญชลี
กชอินทร์ ดอกบัวใหญ่
กนกพร ทองประเสริฐ
กนกอร ผู้หญิงที่ดี
กมลเนตร ตางามดุจดอกบัว
กมลภู เกิดจากดอกบัว พระพรหม
กรกฤต เปล่งรัศมี
กรภุม กระพุ่ม
กรวรรณ มีผิวพรรณงดงาม
กรินทร์ จอมช้าง พญาช้าง
กฤตชัย กระทำชนะแล้ว
กฤติเดช ผู้มีอำนาจและมีความสร้างสรรค์
กลทีบ์ เปรียบเสมือนแสงสว่าง เปรียบเสมือนเกาะหรือที่พึ่ง
กวินนาถ ผู้ม่ที่พึ่งอันดีงาม
กษิรา น้ำนม
กัญจนพร ทองประเสริฐ
กัญญา สาวรุ่น
กัณญิกา สร้อยคอ
กันต์ น่ารัก น่าพอใจ
กันตพิชญ์ ปราชญ์ผู้เป็นที่รัก
กันติศา เจ้าแห่งความรัก
กันยาภรณ์ เครื่องประดับของหญิง
กาณฑ์ ลูกศร ลำต้นของต้นไม้ ตอนหนึ่งของหนังสือ
กานติศา เจ้าแห่งความรัก ยอดแห่งความรัก
กิตตน์ การแสดง การรายงาน
กิตติพัทธ์ เกี่ยวข้องกับเกียรติ
กิรณา รัศมีเรืองรอง
กุลโรจน์ ตระกูลรุ่งโรจน์
ขจรเกียรติ ผู้มีเกียรติฟุ้งไป
คฑาวุธ กระบอง
คมกริช คมของกริช อาวุธชนิดหนึ่ง
คันธทรัพย์ เครื่องหอม
ฆนนาท เสียงฟ้าร้อง
จรรย์อมล ผู้มีความประพฤติดีไม่มีที่ติ
จักรดุลย์ คุณธรรมที่นำไปสู่ความเจริญ อย่างเสมอภาค
จันทกร แสงจันทร์
จันทร์จรี ความนิ่มนวลที่มีความเฉียบคม
จารีย์ ผู้มีความประพฤติที่ดี
จารุภา รัศมีงาม ผู้มีความงามผุดผ่อง
จิณห์วรา มีเครื่องหมายหรือสัญญลักษณ์อันประเสริฐ
จิตรสินี สาวงาม
จิรฐา ฐานะที่มั่นคง
จิระเดช มีอำนาจตลอดกาล
จิรายุ มีอายุยืน
ฉัตรชนก ร่มของพ่อ
ฉันท์ชนิต ก่อให้เกิดความพอใจ
ฉันทิสา มีความพอใจเป็นใหญ่ ยิ่งใหญ่ด้วยความใฝ่ดี
ชญาภา ผู้มีราศีแห่งชัยชนะ
ชนนน การสืบเชื้อสาย
ชนัดดา ความเป็นผู้ให้กำเนิด
ชื่อไทยเท่ๆ
ชื่อไทยเท่ๆ

214 ชื่อไทยโบราณ +ความหมายมงคล สำหรับลูกสาว-ชาย

ชื่อ

ความหมาย

ชนาภา คนผู้มีความรุ่งเรือง
ชนิตา ให้เกิด มารดา
ชนุตร์ คนที่ดีกว่า ดีกว่าคนอื่น
ชยานันท์ ยินดีในชัยชนะ
ชรัมพร น้ำและฟ้า
ชลลดา ลูกคลื่น
ชวิศา เจ้าแห่งเชาวน์ปัญญา
ชัญชกร รัศมีระยิบระยับ
ชัยรพ เสียงโห่ร้องแสดงความมีชัย
ชินภัทร ได้รับชัยชนะและสิริมงคล
ฌายิน ประกอบด้วยการเพ่ง
ญาณวุฒิ เจริญด้วยความรู้
ญาณิน ผู้มีความรู้
ญานุจจัย สะสมความรู้ มีความรู้มาก
ฐานิฏฐ์ เป็นที่น่าพอใจ
ฐิตอัตต์ ผู้สำรวม
ฐิติกานต์ ผู้ที่มีความรักมั่นคง
ฐิติมา มีความคงอยู่
ณฐินี ดำรงอยู่ด้วยความรู้
ณัฎฐ์ ผู้ตั้งอยู่ในความรู้ นักปราชญ์
ณัฏฐพร นักปราชญ์ผู้ประเสริฐ
ณัฐชา ผู้เกิดจากนักปราชญ์
ณัฐธีรา นักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่
ณัฐรณ การรบของนักปราชญ์
ณัฐวัฒน์ ความเจริญของนักปราชญ์
ณิชาภัทร บริสุทธิ์และดีงาม
ดรัณ การข้าม เรือหรือแพ
ดาลป เกิดดี
ตรรกวิท นักปราชญ์
ตั้งปณิธาน ตั้งใจทำสิ่งที่ดี
ตุลยากร มีใจเที่ยงธรรม
ถิร มั่นคง
ถิรยุทธ์ มีการสู้รบอันมั่นคง
ทวีเดช ผู้มีอำนาจมากขึ้น
ทานโยคย์ สมควรแก่การให้
ทิทยุ ท้องฟ้า สวรรค์
ทินาคม เช้าตรู่ เช้าพระอาทิตย์ขึ้น
ทีปรกร รัศมีที่ส่องแสงรุ่งโรจน์
ธนบดี เจ้าของทรัพย์สมบัติ
ธนวัน รุ้งกินน้ำ
ธนัท ผู้ให้ทรัพย์ ผู้ร่ำรวย
ธนารีย์ มีทรัพย์อันประเสริฐ
ธนีพร มีพรเป็นทรัพย์
ธรณินทร์ ผู้เป็นใหญ่ในแผ่นดิน พระเจ้าแผ่นดิน
ธรรมนิตย์ มีธรรมมั่นคง มีธรรมแน่แท้
ธราทร ชื่อพระวิษณุ
ธวัลรัตน์ รัตนะอันบริสุทธิ์
ธัญชนิต ผู้ให้เกิดโชคดี, ให้เกิดสิริมงคล
ธัญพร มีโชคอันประเสริฐ
ธัญสมร หญิงสาวผู้โชคดี
ชื่อไทยลูกสาว
ชื่อไทยลูกสาว

214 ชื่อไทยโบราณ +ความหมายมงคล สำหรับลูกสาว-ชาย

ชื่อ

ความหมาย

ธันยารัตน์ แก้วที่นำมาซึ่งโชคลาภ
ธาราคม ฤดูฝน
ธำรง ทรงไว้
ธินิดา หญิงผู้มั่นคง
ธีรดา ยินดีในความรู้ ความเป็นนักปราชญ์
ธีรพัฒน์ นักปราชญ์ผู้เชี่ยวชาญรอบรู้
ธีราภรณ์ เครื่องประดับของนักปราชญ์
นทีบดี เจ้าแห่งแม่น้ำ
นพิน ใหม่ สด สาวเสมอ
นภัสวรรณ สีฟ้า
นรเทพ เจ้าชาย
นราธิป ผู้เป็นใหญ่ในหมู่คน
นรีรัตน์ นางแก้ว, นางผู้ประเสริฐ
นลินญา ดอกบัว
นวีน ใหม่ สด
นันทน์เทพ ลูกเทวดา
นันท์ลินี หญิงงามผู้มีความบันเทิง หรือความสุข
นันทิมา ผู้มีความเพลิดเพลินหรือผู้มีความสุข
นิกข์นิภา เสมือนแห่งทอง
นิชกานต์ เป็นของตนเป็นที่รัก
นิฏฐา สำเร็จ
นิธูร กำไลมือ
นิมมิต สร้างสรรค์ค์แล้ว
นิรมันย์ ไม่วู่วาม
นิรินธนา หมดกิเลศ
นิศาชล น้ำค้าง
นีรชา ดอกบัว
นุชวรา หญิงสาวผู้ประเสริฐ
บริพันธ์ ร้อยกรอง
บวรรัตน์ รัตนะอันประเสริฐ
บุญทิวา กลางวันที่มีแต่คุณงามความดี
บุณยนุช สาวผู้มีวาสนา
ปกิตตา ผู้ได้รับคำชมเชย
ปณิดา ได้รับการสรรเสริญ
ปนัสยา ชมเชย ชมชอบ สรรเสริญ
ปภาพัน มีใบหน้าสวยงาม
ปยุต ผู้ขยันขันแข็ง
ประไณย ผู้ว่านอนสอนง่าย
ประดิพัทธ์ เสน่หา
ประพุธ ตื่น มีสติ
ประมณฑ์ ผ่องใส
ปรัตถกร ผู้สร้างประโยชน์แก่ส่วนรวม
ปริญญา ความกำหนดรู้ เอกสารรับรองวุฒิ
ปริยากร บ่อเกิดแห่งสิ่งที่รัก มีเสน่ห์
ปรีดิวัฒน์ สิ่งเสริมความยินดี
ปวริศา ผู้ประเสริฐและเป็นใหญ่
ปวีณ ฉลาด เชี่ยวชาญ ปราชญ์ผู้ฉลาด
ปองเดช มุ่งหมายอำนาจ
ปัญญาพร มีพรคือความรู้, มีความรู้ประเสริฐ
ปัณณทัต ให้ความรู้
ตั้งชื่อลูก
ตั้งชื่อลูก

214 ชื่อไทยโบราณ +ความหมายมงคล สำหรับลูกสาว-ชาย

ชื่อ

ความหมาย

ปัถยา ผู้เหมาะสม
ปานตา ประดุจดังดวงตา
ปาริชาต ต้นดอกแคฝอย ต้นทองกวาว ต้นไม้สวรรค์
ปาลินี ผู้รักษา ผู้คุ้มครอง
ปิยดา ความเป็นที่รัก
ปิยมน เป็นที่รักแห่งใจ มีใจเป็นที่รัก
ปิยวัฒน์ เจริญด้วยสิ่งอันเป็นที่รัก
ปุญชรัสมิ์ รัศมีเป็นกลุ่ม รัศมีพวยพุ่ง
ปุณยภา แสงแห่งความดี แสงแห่งคุณธรรม
ปุลพร มีพรมาก มากไปด้วยความประเสริฐ
ผดล อุดหนุน ให้ถึงที่สุด
ผลิน มีผลงาน
พชร เพชร
พนิตพิชา มีความรู้เป็นที่รัก
พรญาณี มีความรู้อันประเสริฐ มีความรู้เป็นพร
พรนัชชา สายน้ำที่ประเสริฐ
พรรณิดา ทองคำ, ตกแต่งแล้ว
พศิกา ผู้อยู่ในอำนาจ ว่านอนสอนง่าย
พัชรางค์ ผู้มีร่างกายกำยำแข็งแรง
พิชญาวี นักปราชญ์
พิมพิศา เจ้าแห่งความงาม ผู้มีรูปร่างงาม
พีรชยา ชัยชนะของผู้กล้าหาญ
ภณิตา ผู้บอก, ผู้พูด
ภัททิยา มีความเจริญ
ภัทรภา มีรัศมีงาม
ภัทราพร ทั้งดีและประเสริฐ
ภาวินี มีความเจริญ
มณฑมาฑ ศาลา, พลับพลา
มณีรัตน์ แก้วมณี
มนตกานต์ มีมนต์เป็นที่รัก, เป็นที่รักดั่งมีมนต์
มนสิริ หัวใจที่อิ่มเอิบ
มนัสสินี ผู้มีใจ
มัทนพร มีพรคือความรัก
มุนินทร์ จอมนักปราชญ์
รมัณยา น่ารื่นรมย์ยิ่ง
รัญชน์ ความยินดี
รุจิษยา รุ่งเรือง อ่อนหวานน่ารัก
วรรณวิภา แสงสว่างอันงดงาม
วรัญชลี การกระพุ่มมือ การนอบน้อมอย่างยิ่ง
วรินทร์ ดีและยิ่งใหญ่
วรุณพร พรจากสวรรค์
วสุนันท์ ยินดีในทรัพย์
วัชราภรณ์ เครื่องประดับเพชร
วัทน์สิริ มีใบหน้างาม พูดเป็นเสน่ห์
วาสินี อยู่ประจำ สถิตอยู่ มั่นคง
วิชชุดา สายฟ้า, ประดุจสายฟ้า, แสงไฟ
วิมลศรี มีความสะอาดบริสุทธิ์เป็นมิ่งขวัญ
วิรัญชนา เป็นที่ยินดียิ่ง เป็นที่ชอบใจยิ่ง
วิสาข์ เดือนวิสาขะ
ศลิษา การกอดรัด
ศศิวิมล จันทร์กระจ่าง สวยเหมือนพระจันทร์
ศิวิกา เสลี่ยง คานหาม
ศุกลภัทร ขาวงาม, ขาวนวล
ศุทธินี ผู้มีความหมดจด, ผู้มีความบริสุทธิ์
สิณิสา ลูกสะใภ้
สิรินาถ มีที่พึ่งอันเป็นสิริมงคล
สุธางศุ์ รัศมีขาว พระจันทร์ การบูร
อกนิษฐ์ พรหมชั้นที่หก
อนัญญา เป็นหนึ่ง ไม่มีสอง
อรณัญช์ ไม่ก่อข้าศึก ไม่มีโทษ
อรนิช งามชั่วนิรันดร
อรพินท์ ดอกบัว
อังควิภา รัศมีแห่งสรรพางค์ งามทั่วสรรพางค์

อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

200 ชื่อไทย ความหมายดี เพราะๆ เหมาะกับเด็กชาย-หญิง

ชื่อจริงลูกชาย 300 ชื่อมงคล ตั้งให้ลูก โตไปมีอำนาจ ได้เป็นเจ้าคนนายคน

ตั้งชื่อจริงลูก 250 ชื่อจริง ความหมายดี ชื่อมงคล ปี 2021

200 ชื่อเล่นลูกชาย ความหมายดีๆ พ่อแม่ยุคใหม่ เช็กเลย!!

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : www.myhora.com, astro.meemodel.com

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

ไข้หวัดใหญ่ในเด็ก

ระวัง ไข้หวัดใหญ่ในเด็ก หวั่นระบาดซ้อนโควิด

Alternative Textaccount_circle
event
ไข้หวัดใหญ่ในเด็ก
ไข้หวัดใหญ่ในเด็ก

โรคไข้หวัดใหญ่พบได้บ่อย ทั้ง ไข้หวัดใหญ่ในเด็ก และผู้ใหญ่ และจะมีการระบาด จนทำให้ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเป็นจำนวนมากในช่วงฤดูหนาว เนื่องจากโรคไข้หวัดใหญ่ เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ  เมื่ออากาศเปลี่ยนแปลง โรคก็จะแพร่กระจายได้ง่ายมากขึ้น โดยเฉพาะในเด็กที่จะติดต่อกันได้ง่าย

ระวัง ไข้หวัดใหญ่ในเด็ก หวั่นระบาดซ้อนโควิด

วันที่ 17 ม.ค. 2022 สำนักข่าวรอยเตอร์ส (Reuters) รายงานว่า ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหภาพยุโรป (ECDC) พบจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ (Influenza) สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ ทำให้เกิดความกังวลว่า ยุโรปอาจเผชิญกับภาวะโรคระบาดซ้อน ทั้งจากโรคไข้หวัดใหญ่ และโรคโควิด-19

น่าห่วง! ผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ รวมทั้ง ไข้หวัดใหญ่ในเด็ก เข้าไอซียูเยอะขึ้น

เนื่องจากในตอนนี้ หลายประเทศผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ทำให้เริ่มเห็นจำนวนผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่เพิ่มขึ้น โดยในสัปดาห์สุดท้าย ของปี 2021 ทาง ECDC และองค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยว่า มีผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ที่ต้องเข้ารับการรักษาในห้องไอซียู 43 ราย เมื่อนำไปเทียบกับ ปี 2020 ที่มีผู้ป่วยเข้าไอซียูเพียง 1 ราย ตลอดเดือน ธ.ค. เท่ากับว่า จำนวนผู้ป่วยในตอนนี้ เพิ่มสูงขึ้นเป็นอย่างมาก

กรณีที่แย่ที่สุด คือการที่มีผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ ต้องใช้ห้องไอซียูเพิ่มขึ้น และเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน ยังคงแพร่ระบาด ด้วยเหตุนี้ อาจส่งผลทำให้ระบบสาธารณสุข ไม่สามารถรับมือกับการช่วยเหลือผู้ป่วยอาการหนัก จากทั้ง 2 โรค พร้อมกันได้

ไข้หวัดใหญ่ในเด็ก
คุณแม่วัดอุณหภูมิให้ลูก ที่เป็นไข้หวัดใหญ่

ข้อมูลไม่เพียงพอที่จะเตรียมวัคซีน

อีกปัญหาหนึ่งคือ ปกติแล้ว ผู้ผลิตวัคซีนจะประเมินข้อมูลแบบปีต่อปี เพื่อวิเคราะห์ว่า จะต้องใช้วัคซีนชนิดใด ในการรับมือกับสายพันธุ์ ที่คาดว่าจะระบาดในปีถัดไป แต่เมื่อปีก่อนไม่มีการระบาดของไข้หวัดใหญ่ ทำให้ผู้ผลิต มีข้อมูลไม่เพียงพอในการเตรียมวัคซีน ไว้รองรับกับสายพันธุ์ที่กำลังระบาดในช่วงนี้

แม้ว่า สถานการณ์ในประเทศไทย จะยังไม่ได้มีการระบาดของไข้หวัดใหญ่เช่นเดียวกับในยุโรป แต่คุณแม่ก็ควรเตรียมพร้อม เตรียมตัวรับมือ ดูแลลูกน้อยให้ห่างไกลจากไข้หวัดใหญ่ไว้เป็นดีที่สุดค่ะ

รู้จัก “ไข้หวัดใหญ่”

ไข้หวัดใหญ่ เป็นการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจเฉียบพลัน ซึ่งมีสาเหตุมาจาก การติดเชื้อไวรัสที่อยู่ในอากาศ หรือสารคัดหลั่ง ทั้งน้ำมูก น้ำลาย หรือ การไอ จาม ใส่กัน ก็เป็นสาเหตุให้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ได้ เพราะเชื้อไวรัส แพร่กระจายทางอากาศได้ เชื้อจะอยู่ตามละอองฝอย ที่อยู่บนอากาศ เมื่อเด็กสูดเข้าไป ก็จะทำให้ติดเชื้อ “อินฟลูเอนซา” ซึ่งมีอยู่ด้วยกันหลายชนิด ทั้ง เอ บี และ ซี ที่ได้ยินบ่อย ๆ และมีความรุนแรง เช่น สายพันธุ์ H1N1 H5N1 เป็นต้น

อาการของไข้หวัดใหญ่ในเด็ก

สำหรับไข้หวัดธรรมดานั้น อาการไข้จะน้อยกว่าไข้หวัดใหญ่ โดยจะมี น้ำมูกไหล และมีการไอ ร่วมด้วยเท่านั้น ส่วนอาการไข้หวัดใหญ่ในเด็กนั้นมีดังนี้

  • ไข้สูง น้ำมูกใส คัดจมูก ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ เบื่ออาหาร ไข้นานประมาณ 3-7 วัน
  • อาจมีอาเจียน ท้องเสีย ร่วมด้วย
  • ไอและมีน้ำมูก นาน 1-2 สัปดาห์
  • อาการอาจรุนแรงถึงขั้นต้องนอนโรงพยาบาล มีภาวะแทรกซ้อน เช่น ปอดอักเสบ ไซนัสอักเสบ หลอดลมอักเสบ

การดูแลเด็กที่ป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่

อาการไข้หวัดใหญ่ในเด็ก จะมีไข้สูง น้ำมูกใส ไข้นานประมาณ 3-7 วัน
อาการไข้หวัดใหญ่ในเด็กนั้นจะมีไข้สูง น้ำมูกใส คัดจมูก ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ เบื่ออาหาร ไข้นานประมาณ 3-7 วัน
  • เช็ดตัว ให้ยาลดไข้ สวมเสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี ปรับอุณหภูมิห้องให้เหมาะสม
  • ให้เด็กนอนพักผ่อนให้มาก
  • ดื่มน้ำบ่อยๆ เพื่อป้องกันการขาดน้ำ
  • รับประทานอาหารอ่อนๆ
  • กินยาลดไข้ อย่างน้อยทุก ๆ 6 ชั่วโมง เพื่อบรรเทาอาการ
  • สวมผ้าปิดปาก ล้างมือบ่อยๆ แยกสิ่งของเครื่องใช้กับผู้อื่น
  • แนะนำให้หยุดเรียน เป็นระยะเวลา 5-7 วัน แล้วแต่อาการ

เนื่องจากโรคไข้หวัดใหญ่ เกิดจากการติดเชื้อไวรัส การให้ยาปฏิชีวนะจึงไม่มีผล นอกจากว่าจะมีอาการติดเชื้อแทรกซ้อนอื่น หากลูกมีอาการหนัก เช่น มีไข้สูง กินอาหารไม่ได้ ไอมาก มีเสมหะข้นสีเหลืองหรือสีเขียว ควรรีบพบแพทย์เพื่อให้วินิจฉัยอาการเพิ่มเติม แต่ถ้าหากเด็กมีอายุน้อยกว่า 2 ปี เมื่อเริ่มมีอาการอ่อนเพลีย มีไข้สูง ไอจนเหนื่อย ควรรีบพาไปพบแพทย์เช่นกัน เพราะเด็กอายุน้อยอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ง่าย โดยเฉพาะเด็กที่มีภูมิคุ้มกันไม่ดี หรือมีโรคประจำตัว

ไข้หวัดใหญ่… กันไว้ดีกว่าแก้

ไข้หวัดใหญ่เป็นโรคติดต่อที่เกิดจากการสัมผัส หรือการสูดดมละอองหรืออากาศที่มีเชื้อไวรัสกระจายอยู่ ดังนั้นการป้องกันไม่ให้ลูกน้อยติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ที่ดีที่สุดคือ

  • ไม่ควรให้เด็กเข้าใกล้หรือคลุกคลีกับคนป่วยและหลีกเลี่ยงสถานที่แออัด หากจำเป็นควรใส่ผ้าปิดปาก เพื่อป้องกันเชื้อเข้าสู่ร่างกาย
  • ล้างมือให้สะอาดด้วยน้ำและสบู่อย่างสม่ำเสมอ
  • รับวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ซึ่งฉีดได้ตั้งแต่ อายุ 6 เดือน กรณีเริ่มให้วัคซีนเป็นปีแรก จะฉีด 2 ครั้ง ครั้งละ 1 เข็มห่างกัน 1 เดือน จากนั้นฉีดปีละ 1 ครั้ง
  • เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ เปลี่ยนแปลงสายพันธุ์ที่ระบาดเกือบทุกปี วัคซีนจึงต้องเปลี่ยนตลอด จึงต้องฉีดทุกปี แนะนำให้ฉีดในช่วงก่อนที่มีการระบาด เช่น ก่อนฤดูฝน
  • ครอบครัวที่มีเด็กอายุน้อยกว่า 6 เดือน ซึ่งเด็กเองยังรับวัคซีนไม่ได้ สมาชิกในครอบครัวควรรับวัคซีนทุกคน
  • แยกของเล่น ของใช้ให้เป็นส่วนตัว
  • รักษาสุขภาพทั่วไปให้แข็งแรง

ไข้หวัดใหญ่แม้ระบาดก็ป้องกันได้ด้วยหลายวิธี ที่สำคัญที่สุดพ่อแม่ผู้ปกครองต้องคอยสังเกตอาการของบุตรหลาน ให้ฉีดวัคซีนเป็นประจำทุกปี ก็สามารถป้องกันการเกิดไข้หวัดใหญ่ในเด็ก รวมทั้งสามารถบรรเทาอาการของเด็กที่ป่วยได้

ขอบคุณข้อมูลจาก workpointTODAY, โรงพยาบาลสมิติเวช , โรงพยาบาลเปาโล

 

คนท้องมีตกขาว

คนท้องมีตกขาว แบบไหนเรียกปกติ? แบบไหนผิดปกติ?

Alternative Textaccount_circle
event
คนท้องมีตกขาว
คนท้องมีตกขาว

ปัญหาตกขาวในช่วงตั้งครรภ์ เป็นปัญหาที่พบได้บ่อย และกวนใจคุณแม่มือใหม่กันมาก คนท้องมีตกขาว แบบไหนเรียกปกติ? แบบไหนผิดปกติ? ทีมแม่ ABK มีคำตอบจากพ.ต.ต.พ.ญ.จิตสุภา คุณาเศรษฐ (หมอขิม) สูตินรีแพทย์ และผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษามีบุตรยาก เพจ หมอสูติประตูถัดไป By Dr.Praew Dr.Kim มาฝากค่ะ

จากประสบการณ์ดูแลคุณแม่ตั้งครรภ์ของหมอที่ผ่านมา ต้องบอกว่าคุณแม่ส่วนใหญ่จะพบว่า ตัวเองมีตกขาวหรือมูกช่องคลอดออกมากขึ้นแบบไม่เคยเป็นมาก่อน แม้ว่าส่วนใหญ่จะโชคดีที่มูกช่องคลอดเหล่านั้นเป็นภาวะปกติในช่วงตั้งครรภ์ แต่ส่วนหนึ่งก็พบว่าตกขาวเหล่านั้นคือ สัญญาณผิดปกติของการตั้งครรภ์หรือการติดเชื้อ วันนี้หมอจะมาไขข้อข้องใจให้ฟังว่า ตกขาวแบบไหนที่ “ไหวค่ะแม่” แบบไหนที่ “แย่แล้วหมอ” กันค่ะ

คนท้องมีตกขาว แบบไหนเรียกปกติ? แบบไหนผิดปกติ?

ตกขาวปกติช่วงตั้งครรภ์

มูกช่องคลอดที่มากขึ้นเรียกได้ว่าเป็นสัญญาณแรกๆ ที่บอกว่าเราตั้งครรภ์เลยก็ว่าได้ การที่ช่องคลอดผลิตมูกมากขึ้นเป็นผลมาจากฮอร์โมนที่สูงขึ้นในช่วงตั้งครรภ์ ตกขาวปกติในช่วงตั้งครรภ์อันที่จริงไม่มีผลเสียต่อสุขภาพค่ะ แถมยังช่วยให้ปากมดลูกซึ่งเป็นปราการสำคัญป้องกันเชื้อโรคและสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่มดลูก ให้เกิดความชุ่มชื้นและปิดสนิทในช่วงเวลาที่เหมาะสม ดังนั้นเมื่อมีตกขาวในช่วงตั้งครรภ์ และตรวจพบว่าเป็นมูกปกติไม่ต้องกังวลจนเกินไปค่ะ

แต่อย่างไรก็ดีบางครั้งตกขาวบางประเภทก็เป็นสัญญาณของโรคได้ โดยสามารถสังเกตได้ด้วยตัวเองจากสีของตกขาวดังนี้

1. ตกขาวสีขาวใส-ขาวมูก

ส่วนมากไม่มีกลิ่น หรือมีกลิ่นช่องคลอดแค่จางๆ ร่วมด้วย ไม่มีอาการระคายเคืองช่องคลอด หรือปวดท้องใดๆ ตกขาวแบบแรกนี้เป็นตกขาวที่เกิดได้ปกติในช่วงท้องค่ะ

อย่างไรก็ตาม หากตกขาวเป็นน้ำใสๆ ปริมาณออกมาก กลั้นไม่ได้ โดยเฉพาะเกิดในช่วงครึ่งหลังของการตั้งครรภ์ นั่นอาจเป็นสัญญาณของถุงน้ำคร่ำแตกก่อนกำหนดได้ ควรไปหาหมอเพื่อรับการตรวจค่ะ

2. ตกขาวสีขาวขุ่น แห้งจับเป็นก้อน

อาการร่วมกันที่พบบ่อยคือคันช่องคลอดหรือระคายเคืองช่องคลอด ตกขาวแบบนี้อาจเกิดจากการติดเชื้อรา ซึ่งพบได้บ่อยในช่วงตั้งครรภ์ คุณแม่ควรเข้าไปตรวจกับคุณหมอที่ฝากครรภ์ด้วยเพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม รวมทั้งควรรักษาความสะอาดของจุดซ่อนเร้นสม่ำเสมอ เวลาทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นควรเช็ดให้แห้ง ไม่ปล่อยให้อับชื้นก่อนสวมใส่เสื้อผ้า เลือกชุดชั้นในที่มีเนื้อผ้าโปร่งสบายระบายอากาศได้ดีและไม่รัดแน่น

3. ตกขาวสีเทาอ่อน-เหลืองเข้ม-เหลืองเขียว 

เกิดจากช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งมูกเหล่านั้นมักมีกลิ่นเหม็นคาวร่วมด้วย รวมทั้งพบอาการระคายเคืองในช่องคลอดร่วมด้วยได้ (ในกรณีตกขาวสีเหลืองคุณแม่ต้องลองแยกจากภาวะปัสสาวะเล็ดติดกางเกงชั้นในที่เจอได้บ่อยเช่นกันในคนท้องด้วยนะ)

ปัจจัยส่งเสริมที่ทำให้ช่องคลอดติดเชื้อแบคทีเรีย คือ การที่กลุ่มแบคทีเรียดีในช่องคลอดขาดสมดุล  ซึ่งมักเกิดจากการสวนล้างช่องคลอด ตกขาวสีแบบนี้แน่นอนค่ะ เข้าไปให้คุณหมอตรวจเถอะค่ะ เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม นอกจากนี้การดูแลตนเองที่เหมาะสมคือ รักษาความสะอาดจุดซ่อนเร้นเฉพาะภายนอกค่ะ ไม่ต้องสวนล้างช่องคลอด เวลาปัสสาวะหรือถ่ายให้ล้างทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นจากด้านหน้าไปด้านหลังไม่ย้อนศรนะคะ

4. ตกขาวสีน้ำตาล-สีชมพู

ตกขาวสีน้ำตาลเกิดจากมีเลือดในช่องคลอดแล้วโดนกรดในช่องคลอดเปลี่ยนสภาพให้เป็นสีน้ำตาล ส่วนตกขาวสีชมพูเกิดจากเลือดในช่องคลอดที่เพิ่งออกมาใหม่ๆ มาเจือจางโดยมูกทำให้เห็นเป็นสีชมพูนั่นเอง ดังนั้น ทั้งสองสีจึงเกิดจากการมีเลือดออกในปริมาณไม่มากซึ่งอาจเป็นเลือดที่ออกมาจากช่องคลอด ปากมดลูก หรือมดลูกก็ได้เช่นกัน

  • หากเกิดไตรมาสแรก มักพบได้บ่อยโดยไม่มีอันตราย มักเห็นเป็นมูกสีน้ำตาลหรือชมพูออกมาในปริมาณเล็กน้อยโดยไม่มีอาการปวดท้อง และมักจะตั้งครรภ์ต่อได้โดยไม่ส่งผลเสียต่อการตั้งครรภ์ แต่อย่างไรก็ตาม อาจมีสาเหตุมาจากการอักเสบติดเชื้อ หรือภาวะแท้งคุกคามได้ คุณแม่ควรไปให้คุณหมอตรวจดูเพื่อหาสาเหตุก่อนอย่าเพิ่งชะล่าใจ โดยเฉพาะหากมูกลักษณะนี้เริ่มเป็นสีแดงหรือมีอาการปวดท้องร่วมด้วยควรไปหาหมอทันที เพื่อหาความผิดปกติของการตั้งครรภ์ เช่น แท้งบุตร หรือท้องนอกมดลูกค่ะ
  • เกิดหลังไตรมาสแรก มูกสีน้ำตาลหรือมูกสีชมพูแบบนี้พบได้ไม่บ่อย ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของการตั้งครรภ์ที่ผิดปกติหรืออาการเริ่มต้นของการเจ็บครรภ์คลอด ควรไปหาคุณหมอเพื่อรับการตรวจค่ะ

จะเห็นได้ว่า คนท้องมีตกขาว ไม่อันตรายเสมอไป หากคุณแม่หมั่นสังเกตอาการตัวเองเป็นประจำ ก็จะช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดการตั้งครรภ์ผิดปกติได้ และหากคุณแม่สังเกตพบอาการ ตกขาวผิดปกติ ก็จะได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีค่ะ


Heatlh Quotient ฉลาดดูแลสุขภาพ หนึ่งใน Power BQ 10 ความฉลาดที่เด็กยุคใหม่ควรมี เริ่มต้นได้ตั้งแต่ในท้องแม่ โดยคุณแม่ตั้งครรภ์ เตรียมพร้อมหาข้อมูลต่างๆ ในการดูแลสุขภาพให้แข็งแรงและปลอดภัยกับลูกในท้อง เพื่อส่งต่อสุขภาพที่ดีสู่ลูกน้อยในครรภ์ เป็นต้นทุนชีวิตที่ดีตั้งแต่แรกเกิดให้กับลูกน้อย


เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 


ติดตามสารพันความรู้สำหรับ คุณแม่ตั้งครรภ์ และคุณแม่ที่กำลังเตรียมตัวตรรภ์

กับคุณหมอจิตสุภา ได้ที่ เพจ หมอสูติประตูถัดไป By Dr.Praew Dr.Kim

เพจหมอสูติประตูถัดไป

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
เด็กติดในรถ

อุทาหรณ์ เด็กติดในรถ! แนะวิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้น ช่วยลูกรอดในนาทีฉุกเฉิน

Alternative Textaccount_circle
event
เด็กติดในรถ
เด็กติดในรถ

เหตุการณ์ เด็กติดในรถ นั้น เรามักได้ยินข่าวว่าเกิดขึ้นได้ทั้งภายในรถนักเรียน และรถยนต์ส่วนบุคคลอยู่บ่อยครั้ง โดยมักเกิดขึ้นกับเด็กอายุ 3-6 ปี เด็กส่วนใหญ่ที่ติดอยู่ในรถ ไม่ได้เสียชีวิตเพราะขาดอากาศหายใจ แต่เป็นเพราะความร้อนภายในรถที่สูงขึ้น ล่าสุดกรณีเช่นนี้ได้เกิดเป็นอุทาหรณ์ ลืมลูกขึ้นอีกครั้ง แต่สามารถช่วยเด็กออกมาได้ เรามาดูกันว่าเกิดอะไรขึ้น และจะมีวิธีการช่วยเหลือเด็ก และป้องกันเหตุการณ์นี้ไม่ให้เกิดซ้ำได้อย่างไร

อุทาหรณ์ เด็กติดในรถ !
แนะวิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้น ช่วยลูกรอดในนาทีฉุกเฉิน

นาทีชีวิต! งัดกระจกรถ ช่วยเหลือ เด็กติดในรถ วัย 3 ขวบ

เมื่อช่วงสายของวันที่ 17 มกราคม ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่อาสาสมัครหน่วยบรรเทาสาธารณภัยได้รับแจ้งเหตุ เด็กติดในรถ เป็นเด็กชาย 3 ขวบ ติดอยู่ในรถยนต์ที่จอดอยู่ในบ้านพักแห่งหนึ่ง ซอยสรณคมณ์16 เขตดอนเมือง จึงเข้าไปตรวจสอบ พบว่า บ้านหลังดังกล่าว เป็นบ้านที่เด็กชายอาศัยอยู่กับครอบครัว โดยสภาพของเด็กชายมีเหงื่อออกท่วมตัว จากการสอบถามพ่อของเด็กเล่าว่า เด็กติดในรถนานกว่าครึ่งชั่วโมง เจ้าหน้าเร่งให้การช่วยเหลือ และสามารถช่วยออกมาได้ในที่สุด

นายวันชัย แพขันทอง อาสาสมัครหน่วยบรรเทาสาธารณภัย และทีมงาน ใช้เวลานานหลายนาที เพื่อใช้เหล็กงัดกระจก อีกทั้งพยายามใช้เครื่องมือสะเดาะกุญแจ ช่วยในการปลดล็อก เพื่อนำเด็กออกมาจากภายในรถ แต่เนื่องจากระบบไฟฟ้าไม่ทำงาน ทำให้ประตูไม่สามารถใช้การได้ตามปกติ นายวันชัย จึงได้ง้างขอบประตูเพื่อให้อากาศเข้าไปด้านใน จากนั้นจึงใช้วิธีงัดกระจกให้แตก ที่ไม่ใช้วิธีทุบกระจก ก็เนื่องจากเกรงว่ากระจกจะกระเด็นไปถูกเด็ก จนได้รับบาดเจ็บ และอาจจะทำให้เด็กตกใจกลัว เจ้าหน้าที่ได้ให้ความช่วยเหลือโดยใช้เวลาประมาณ 15 นาที จึงสามารถนำตัวเด็กชายออกมาจากรถได้อย่างปลอดภัย

เด็กติดในรถ
เด็กติดในรถ

ด้านพ่อเด็กเล่าว่า รถยนต์คันนี้เป็นของเจ้าของบ้านเช่า ซึ่งไม่ได้ใช้งาน ปกติลูกชายก็จะเข้าไปเล่นเป็นประจำทุกวัน แต่วันนี้ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงเปิดประตูไม่ได้ และหลังจากนี้ก็คงไม่ให้เข้าไปเล่นอีก

การช่วยเหลือเด็กที่ติดอยู่ในรถยนต์

  1. ตั้งสติให้ดีแล้วรีบดูว่าเด็กอยู่ในสภาพไหน พร้อมกับโทรศัพท์แจ้งสายด่วน หมายเลข 1669
  2. รีบทุบกระจกรถให้แตก นำตัวเด็กออกมาจากรถโดยด่วน (ถ้าไม่มีกุญแจรถ หรือหาเจ้าของรถไม่พบ)
  3. หาวิธีป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก

แนะวิธีสอนเด็กติดในรถขอความช่วยเหลือ

ผู้ปกครองควรสอนให้เด็กรู้จักการช่วยเหลือตนเอง เมื่อติดอยู่ในรถ เช่น

  • สอนให้รู้จักบีบแตร เพื่อขอความช่วยเหลือ
  • สอนให้รู้จักวิธีปลดล็อคประตู – หน้าต่าง แล้วออกมาจากรถ แต่ไม่ให้เดินไปไกลจากรถ
ช่วยเด็กติดในรถ
ช่วยเด็กติดในรถ

วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นเด็กติดในรถ ควรทำอย่างไร

ในกรณีที่เด็กหมดสติ หลังจากปลุกเรียกแล้วเด็กไม่ตอบสนอง สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติแนะนำว่า ให้รีบนำเด็กลงมาวางบนพื้นราบแข็ง และช่วยฟื้นคืนชีพทันที โดยวางส้นมือข้างหนึ่งไว้ตรงกึ่งกลางหน้าอกบริเวณแนวราวนม แล้วใช้มืออีกข้างหนึ่งวางบนหน้าผากของเด็ก พยายามให้เด็กหงายหน้าขึ้นเพื่อเปิดทางเดินหายใจ

จากนั้นให้กดหน้าอก 30 ครั้ง การกดแต่ละครั้งต้องต่อเนื่อง อัตราเร็วประมาณ 100-120 ครั้งต่อนาที โดยกดให้ลึกลงไปประมาณ 1/3 ของความหนาของหน้าอก ทำสลับกับการช่วยหายใจ โดยการกดหน้าผาก เชยคาง บีบจมูก ประกบปากให้สนิทแล้วเป่าลมเข้าไป  2 ครั้ง ให้ทำสลับกันเช่นนี้ต่อไปจนครบ 5 รอบ หรือนานประมาณ 2 นาที แล้วประเมินซ้ำทุก ๆ 5 รอบหรือ 2 นาที ว่าเด็กกลับมาหายใจได้เองหรือไม่ ถ้ายังไม่หายให้ทำต่อไปเรื่อย ๆ อย่าหยุด จนกว่าทีมกู้ชีพจะมาถึงและเข้ามาให้ความช่วยเหลือและนำเด็กส่งต่อไปยังโรงพยาบาล

3 ข้อควรจำ เพื่อป้องกันการลืมเด็กในรถ

  • นับจำนวนเด็กก่อนขึ้นลงจากรถทุกครั้ง
  • ตรวจตราก่อนล็อกประตูรถ อย่ามองข้ามเด็กที่นอนหลับ ตรวจดูเด็กให้ทั่ว
  • อย่าทิ้งเด็กไว้เพียงลำพังแม้ช่วงเวลาสั้น ๆ

การทิ้งเด็กไว้ในรถตามลำพังเป็นเรื่องที่ไม่ควรทำ เพราะเด็กไม่สามารถที่จะแก้ปัญหาได้เมื่อเกิดภาวะฉุกเฉิน พ่อแม่ -ผู้ปกครอง ไม่ควรประมาทไม่ว่าจะเป็น การให้ลูกรอในรถเพราะต้องไปทำธุระ เนื่องจากอาจเกิดเหตุไม่คาดฝัน ปล่อยให้ลูกเข้าไปนั่งเล่นในรถ ที่แม้จะเปิดประตูไว้ เพราะเด็กอาจปิดประตู และประตูล็อกเองโดยอัตโนมัติ หรือในกรณีใด ๆ ก็ตาม ควรคอยเตือนสติตนเองไว้ เพื่อจะได้ไม่เกิดเหตุร้ายกับลูกของเรา เพราะมีปรากฏหลายครั้งว่า เด็กหลายคนเสียชีวิตในรถ

อย่างไรก็ตาม หากพบเห็นเด็กถูกลืมไว้ในรถ ให้รีบเรียกเจ้าของรถ หรือคนรอบข้างเข้าช่วยเหลือ และโทรแจ้งทีมแพทย์กู้ชีพ 1669

 

ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่อง 7 HD , ไทยรัฐออนไลน์, sansanook, สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

โจรแจ้งตำรวจจับแม่!! โทษฐาน “ทิ้งลูกไว้ในรถ”

อย่ามัวแต่ก้มมองมือถือ จนลืมลูกน้อยข้างตัว

พ่อลืมลูกในรถนาน 4 ชม.ท่ามกลางอากาศร้อน รู้ตัวรีบเอาลูกแช่ตู้เย็นแต่ไม่ฟื้น

keyboard_arrow_up