เรื่องสั้น

เรื่องสั้น ตำนานไทย เรื่องเล่าแต่โบราณ

Alternative Textaccount_circle
event
เรื่องสั้น
เรื่องสั้น

เรื่องสั้น นิทาน ตำนาน นิทานก่อนนอน ตำนานไทย พร้อมคติสอนใจ เสริมสร้างความคิด จินตนาการ พัฒนาสมอง และอารมณ์ของเด็ก

เรื่องสั้น ตำนานไทย เรื่องเล่าแต่โบราณ

ตำนานไทย เรื่องที่เล่าต่อ ๆ กันมาแต่โบราณ ถ่ายทอดเรื่องราวของวิถีชีวิต ความคิด ความเชื่อ วัฒนธรรม และประเพณี อาจเป็นเรื่องจริงหรือไม่จริงก็ได้ อาจมีหลักฐานหรือไม่มีก็ได้ ในวันนี้ ทีมกองบรรณาธิการ ABK ได้นำมาฝากเป็น เรื่องสั้น ให้คุณพ่อคุณแม่ได้อ่านให้ลูกฟังก่อนนอนค่ะ

เรื่องก่องข้าวน้อยฆ่าแม่
เรื่องก่องข้าวน้อยฆ่าแม่

เรื่องสั้น ตำนานไทย เรื่องเล่าแต่โบราณ

เรื่องก่องข้าวน้อยฆ่าแม่

ครั้งหนึ่งนานมาแล้วในฤดูฝน มีการเตรียมปักดำกล้าข้าว ทุกครอบครัวจะออกไปไถนาเตรียมการเพาะปลูก มีครอบครัวของชายหนุ่มคนหนึ่งที่กำพร้าพ่อ ก็จะออกไปปฏิบัติภารกิจเช่นเดียวกัน วันหนึ่งเขาไถนาอยู่นานจนสายตะวันขึ้นสูงแล้ว เขารู้สึกเหน็ดเหนื่อยอ่อนเพลียมากกว่าปกติและหิวข้าวมากกว่าทุกวัน ปกติแล้วแม่ผู้ชราจะมาส่งข้าวให้ทุกวัน แต่วันนี้กลับมาช้าผิดปกติเขาจึงหยุดไถนา เข้ามาพักผ่อนอยู่ใต้ต้นไม้ปล่อยเจ้าทุยไปกินหญ้า สายตาเหมือนมองไปทางบ้านรอคอยแม่ที่จะมาส่งข้าวด้วยความรู้สึกกระวนกระวายใจ  ยิ่งสายตะวันขึ้นสูงแดดยิ่งร้อนความหิวกระหายยิ่งทวีคูณขึ้น

ทันใดนั้นเขามองเห็นแม่เดินเลียบมาตามคันนา พร้อมกับก่องข้าวน้อย เขารู้สึกไม่พอใจที่แม่เอาก่องข้าวน้อยนั้นมาช้ามาก ด้วยความหิวกระหายจนตาลายอารมณ์พลุ่งพล่าน เขาคิดว่าในก่องข้าวน้อยนั้นคงกินไม่อิ่มเป็นแน่ จึงเอ่ยต่อว่าแม่ของตนว่า

“แม่ไปทำอะไรอยู่ถึงมาส่งข้าวให้กินช้านัก ก่องข้าวก็เอามาแต่ก่องน้อยๆ แล้วจะกินอิ่มหรือ”

ผู้เป็นแม่เอ่ยปากตอบลูกว่า

“ถึงก่องข้าวจะน้อยแต่ก็ น้อยต้อนแต้นแน่นใน ดอกลูกเอ๋ย ลองกินดูก่อน”

ด้วยความหิว ความเหน็ดเหนื่อย ความโมโหหูอื้อตาลาย ไม่ยอมฟังเสียงใดๆเกิดบันดาลโทสะอย่างแรง จึงคว้าไม้เข้าตีแม่ที่แก่ชราล้มลง แล้วเดินไปกินข้าวจนอิ่ม แต่ข้าวยังไม่หมดก่อง จึงรู้สึกผิดชอบชั่วดี รีบไปดูอาการของแม่ และเข้ามาสวมกอดแม่ ชายหนุ่มร้องไห้โฮ สำนึกผิดที่ฆ่าแม่ของตนด้วยอารมณ์เพียงชั่ววูบ เมื่อชายหนุ่มปลงศพแม่แล้ว ขอร้องชักชวนญาติมิตรชาวบ้าน ช่วยกันปั้นอิฐก่อเป็นธาตุเจดีย์บรรจุอัฐิแม่ไว้จึงให้ชื่อว่า “ธาตุก่องข้าวน้อยฆ่าแม่” จนตราบทุกวันนี้

คติสอนใจ

ทำดีกับพ่อแม่เมื่อยามท่านยังมีชีวิตอยู่ดีกว่าไปสำนึกได้เมื่อยามจากไป

 

เรื่องเซียงเมี่ยง ตอนหลอกเจ้าเมืองลงน้ำ

เซียงเมี่ยงเป็นคนที่เกลียดคร้านและก็โกหกเก่ง เจ้าเมืองได้ยินชื่อเสียงของเซียงเมี่ยง ก็เลยอยากลองเชาวน์เซียงเหมี่ยงดูว่าเซียงเมี่ยงจะโกหกท่านเจ้าเมืองได้หรือไม่  เจ้าเมืองก็เลยเดินทางไปที่หมู่บ้านที่เซียงเมี่ยงอยู่ เจ้าเมืองก็นั่งครุ่นคิดหาวิธีจะทดลองปัญญาของเซียงเหมี่ยง เจ้าเมืองเหลือบไปเห็นหนองน้ำก็เลยคิดออก

ท่านเจ้าเมืองพูดว่า “อ้าวเซียงเมี่ยง ข้าได้ยินชื่อเสียงเจ้ามามาก เจ้าลองมาโกหกข้าลงน้ำดูสิว่าเจ้าจะโกหกข้าได้มั้ย” เจ้าเมืองพูดไปหัวเราะไป

เซียงเมี่ยงก็เลยพูด “โอ้ยตัวข้านี้จะโกหกท่านเจ้าเมืองลงน้ำไม่ได้หรอก เว้นจากโกหกท่านเจ้าเมืองขึ้นจากน้ำ”

เจ้าเมืองได้ยินเช่นนั้นก็เลยลงไปในน้ำเจ้าเมืองก็เลยพูดว่า “ข้าลงน้ำแล้วเอ้าเจ้าลองโกหกข้าขึ้นจากน้ำดูสิ”

เซียงเมี่ยงก็เลยหัวเราะชอบใจ “ข้าน้อยก็โกหกท่านเจ้าเมืองลงน้ำได้แล้ว”

ท่านเจ้าเมืองได้แต่เจ็บใจที่เสียรู้เซียงเมี่ยง

คติสอนใจ

อย่าดูถูกใครโดยที่ยังไม่รู้จักเขาจริงๆ ความประมาทมักเป็นบ่อเกิดแห่งความไม่ดี

 

เรื่องหลวงพ่อกับเณรน้อย

วันหนึ่ง ตอนเช้าก่อนหลวงพ่อจะออกไปบินฑบาตร ก็ได้สั่งเณรน้อยว่า “น้อยน้อย หลวงพ่อจะไปบิณฑบาตรนะ อยู่กุฏิก็ให้ดูดีๆ อย่าให้ไก่มาขี้ใส่เด้อ ถ้าไก่มาขี้ใส่ได้ จะลงโทษอย่างหนัก” แล้วก็เข้าไปบิณฑบาต

เณรน้อยก็เลยวางแผนอุบายแกล้งหลวงพ่อ ก็คือเอาน้ำอ้อยไปหยอดไว้ตรงนั้นตรงนี้ เริ่มตั้งแต่ที่บันได ขึ้นมาหยอดให้เหมือนกองขี้ไก่ หยอดแล้วก็คอยเฝ้าไล่ไก่ไม่ให้ขึ้นกุฏิ พอประมาณเวลาหลวงพ่อจะกลับมา เณรน้อยก็ทำท่าว่าไม่ได้อยู่เฝ้ากุฏิ ไปเดินเล่นที่อื่น

หลวงพ่อกลับมาเห็นกองน้ำอ้อย นึกว่าเป็นกองขี้ไก่ หลวงพ่อเลยโกรธมากร้องเรียกหาเณรน้อยว่า “น้อยเอ้ยน้อย ไปทำอะไรอยู่ไหนมา ทำไมไม่มาเฝ้ากุฏิ ปล่อยให้ไก่มาขี้ใส่เต็มเลยเนี่ย”

พอเณรน้อยมาแล้วหลวงพ่อก็ลงโทษให้กินขี้ไก่ เณรน้อยก็ทำเป็นอิดออดไม่อยากกิน แต่ในที่สุดก็เอามือลงไปปาดกองขี้ไก่กองนั้นกองนี้ ฮู้อร่อยๆ ฮู้หวานดีอร่อย พอหลวงพ่อเห็นเณรน้อยกินน่าอร่อยก็เลยถามว่า มันอร่อยจริงๆเหรอน้อยมันไม่เหม็นหรอ อร่อยจริงๆหลวงพ่อลองชิมดู หลวงพ่อก็เลยเอามือปาดลงมาชิม โฮ้หวานหอมอร่อยดี ขี้ไก่มันอร่อยอย่างนี้ ปล่อยให้ไก่มาขี้ใส่กุฏินานแล้ว พรุ่งนี้ไม่ต้องไล่มันนะน้อย

เณรน้อยก็หัวเราะอยู่ในใจ วันต่อมาก็สั่งเณรน้อยว่า น้อยๆ วันนี้ปล่อยให้ไก่มันมาขี้ใส่เยอะๆนะ เณรน้อยเลยหนีไปเล่นที่อื่น พอหลวงพ่อกลับมาเห็นไก่อยู่กุฏิกะดีใจ หลวงพ่อติดใจรสชาติขี้ไก่ หลวงพ่อจึงเอามือเอาขี้ไก่มาเลียกิน เอ๊ะ กองนี่มันทำไมไม่อร่อยว่ะ เป็นเหม็นๆด้วย สงสัยก็เลยไปหาชิมกองอื่น

เณรน้อยร้องถามหลวงพ่อว่า เป็นยังไงหลวงพ่ออร่อยไหมหลวงพ่อ เป็นเหม็นๆเปรี้ยวๆหลวงพ่อเผยอปากตอบ เณรน้อยก็หัวเราะ ใครว่าขี้ไก่มันอร่อยขี้ไก่มันไม่อร่อยหรอก ฮ่าๆๆ หลวงพ่อเสียรู้เณรน้อย

คติสอนใจ

อย่าหลงเชื่อกลอุบายของผู้อื่นโดยง่ายต้องได้จากการรู้จริงๆไม่ใช่เพียงการบอกเล่า

 

อ่านต่อ…เรื่องสั้น ตำนานไทย เรื่องเล่าแต่โบราณ คลิกหน้า 2

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

พยาธิตัวตืด

ระวัง! พยาธิตัวตืด ขึ้นสมองเพราะกิน ผักดิบ ผักสด ปนเปื้อนไข่พยาธิ!

Alternative Textaccount_circle
event
พยาธิตัวตืด
พยาธิตัวตืด

พยาธิตัวตืด – แม้ว่าพืชผักผลไม้จะเป็นแหล่งของสารอาหารที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ แต่หากก่อนรับประทานเราล้างไม่สะอาดทำความสะอาดไม่ดี ก็อาจทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อปรสิตหรือมีพยาธิได้ โดยเฉพาะพยาธิตืดหมู ที่มนุษย์สามารถรับไข่พยาธิตัวตืดได้โดยตรงจากผักสด หรือน้ำสกปรก ที่มีไข่พยาธิตัวตืดปนเปื้อนอยู่ ซึ่งไข่พยาธินี้จะพัฒนากลายเป็นตัวอ่อนซีสต์หรือที่เรียกว่าตัวอ่อนเม็ดสาคู ไปอยู่ตามตำแหน่งต่าง ๆ ในร่างกายที่ค่อนข้างอันตราย ได้แก่ ตา ปอด หัวใจ กล้ามเนื้อ และที่อันตรายที่สุด คือ สมองค่ะ

ระวัง! พยาธิตัวตืด ขึ้นสมองเพราะกิน ผักดิบ ผักสด ปนเปื้อนไข่พยาธิ

โรคจากไข่ของ พยาธิตัวตืด ( Cysticercosis, Neurocysticercosis)

เป็นโรคติดเชื้อปรสิตหรือพยาธิชนิดหนึ่ง เป็นสาเหตุของโรคติดเชื้อปรสิตในระบบประสาทส่วนกลางที่พบมากที่สุดทั่วโลก ผู้ป่วยเป็นโรคนี้ได้จากการกินไข่ของพยาธิตืดหมู Taenia solium  หรือ  ไข่ของพยาธิตืดวัว Taenia saginata ที่อาจปนเปื้อนกับน้ำหรืออาหารเข้าไป โดยทั่วไปสามารถแบ่งการติดเชื้อได้เป็นสองแบบ ได้แก่

  • ติดเชื้อในระบบประสาทส่วนกลาง (Neurocysticercosis)
  • การติดเชื้อนอกระบบประสาท (Extraneural Cysticercosis)  

การติดเชื้อปรสิตหรือพยาธิ สามารถบุกรุกส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายได้ ปรสิตที่ติดเชื้อในระบบประสาทส่วนกลาง รวมถึงสมอง อาจเป็นอันตรายต่อมนุษย์ได้ไม่เพียงแต่อาจถึงแก่ชีวิตในบางครั้งเท่านั้น แต่ยังส่งผลให้ทุพพลภาพตลอดชีวิตอีกด้วย การรู้เท่าทันอาการผิดปกติ และการรักษาอย่างทันท่วงทีมีความสำคัญในการลดทั้งอัตราการเสียชีวิตและผลที่ตามมาของการติดเชื้อ ซึ่งการติดเชื้อที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาทส่วนกลางอาจเกิดขึ้นกับทุกคนแม้ในผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรง โดยการติดเชื้ออาจใช้เวลาระหว่าง 8 ถึง 14 สัปดาห์ในการพัฒนาโรค

สาเหตุของการติดเชื้อ

ปรสิตสามารถพบได้ในอาหาร ทั้งผักดิบ ผักสด และเนื้อสัตว์ และ น้ำที่ปนเปื้อน หากเรากินอาหาร หรือเครื่องดื่มที่ปนเปื้อนพยาธิ พวกมันจะเข้าสู่ร่างกายและสามารถมีชีวิตบางครั้งก็เติบโตและสืบพันธุ์ภายในร่างกายมนุษย์ได้เป็นเวลานาน การศึกษาทางระบาดวิทยาได้ชี้ให้เห็นว่าในพื้นที่ของโลกที่โรคหนอนพยาธิมีเฉพาะถิ่น และมีการใช้น้ำเสียดิบที่ไม่ผ่านการบำบัดเพื่อรดน้ำผักโดยทั่วไป ซึ่งการบริโภคผักที่มีการชลประทานของเสียดังกล่าวอาจนำไปสู่การเกิดโรคจากปรสิตหรือพยาธิ การปฏิบัติที่ไม่ถูกสุขลักษณะระหว่างการขนส่ง การแปรรูปและการเตรียมโดยผู้ดูแลรวมทั้งผู้บริโภคก็มีส่วนทำให้เกิดการปนเปื้อนในผักได้ อีกสาเหตุหนึ่งของการติดเชื้อคือการล้างมืออย่างไม่เหมาะสมหลังจากสัมผัสกับพยาธิตัวตืดหรือไข่พยาธิตัวตืด

นอกจากนี้ การรับประทานเนื้อสัตว์ที่ปรุงไม่สุกหรือสุกๆ ดิบๆ เป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุดที่ทำให้ผู้คนติดเชื้อพยาธิตัวตืด หากสัตว์นั้นมีพยาธิตัวตืด ผู้ที่กินเนื้อสัตว์ก็อาจติดเชื้อได้เช่นกัน วงจรชีวิตของพยาธิตัวตืดเริ่มต้นด้วยไข่ ไข่พยาธิตัวตืดสามารถอาศัยอยู่ภายนอกในสิ่งแวดล้อม (เช่น ในน้ำหรือบนพืช) เป็นเวลาหลายวันหรือหลายเดือน สัตว์อาจติดเชื้อหลังจากกินพืช หรือให้อาหารหรือดื่มน้ำที่มีไข่พยาธิตัวตืด เมื่อเข้าไปในตัวสัตว์ ไข่จะฟักตัวและโตเป็นพยาธิตัวตืด เคลื่อนที่ได้และสามารถอพยพออกจากลำไส้และเข้าสู่เนื้อเยื่อของกล้ามเนื้อของสัตว์ได้

อาการของโรคติดเชื้อพยาธิตัวตืด 

ผู้ป่วยมักมีความผิดปกติเกี่ยวกับระบบประสาทส่วนกลาง ซึ่งโดยทั่วไปอาจไม่แสดงอาการ เมื่อไข่เข้าสู่ร่างกาย และพัฒนากลายเป็นตัวอ่อนเม็ดสาคู จะสามารถตรวจพบได้จากการค้นพบทางรังสีโดยบังเอิญเท่านั้น อย่างไรก็ตาม หากตัวอ่อนเม็ดสาคูไปอยู่ในสมองและไขสันหลัง อาจสัมพันธ์กับผลกระทบบางอย่าง เช่น ความผิดปกติของประสาทสัมผัสหรือความบกพร่องทางสติปัญญา อาการชัก ภาวะน้ำคั่งในไขสันหลังโพรงสมอง เยื่อหุ้มสมองอักเสบเรื้อรัง  นอกจากนี้ อาจทำให้เกิดความทุพพลภาพร้ายแรง หรือเสียชีวิตได้แม้พบได้ไม่มาก  

ในกรณีส่วนใหญ่ การติดเชื้อพยาธิตัวตืดทำให้เกิดอาการเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลย ผู้ป่วยจำนวนมากอาจไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองมีพยาธิตัวตืดอยู่ในร่างกาย

อย่างไรก็ตาม หากมีอาการและอาการแสดง จะสังเกตุได้จากความผิดปกติต่อไปนี้

  • มีอาการปวดท้อง
  • ท้องเสีย
  • ความเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย
  • เบื่ออาหาร
  • คลื่นไส้
  • น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ
ติดเชื้อพยาธิตัวตืด
ติดเชื้อพยาธิตัวตืด จากผักดิบ

 

การติดเชื้อที่ไม่ได้รับการรักษาอาจนำไปสู่การขาดวิตามินบี 12 ซึ่งในทางกลับกันอาจทำให้เกิดภาวะโลหิตจางได้ ภาวะนี้อาจเกิดขึ้นได้เมื่อร่างกายของคุณขาดเซลล์เม็ดเลือดแดงที่แข็งแรงเพียงพอที่จะนำออกซิเจนไปยังเนื้อเยื่อในร่างกายได้เพียงพอ

สัญญาณและอาการของโรคโลหิตจางอาจรวมถึง

  • ภาวะซึมเศร้า
  • เวียนหัวบ่อย
  • อ่อนเพลีย
  • ปวดหัวบ่อย
  • รู้สึกไม่ค่อยมีแรง
  • หัวใจเต้นเร็ว
  • มีเสียงในหู

นอกจากนี้ ผู้ป่วยอาจมีอาการระคายเคืองบริเวณรอบทวารหนัก (Perianal Area)  เนื่องจากหนอนหรือไข่ที่ถูกขับออกจากอุจจาระทำให้เกิดอาการระคายเคือง ซึ่งจะรู้ได้ว่าเรามีมีพยาธิตัวตืดเมื่อเห็นส่วนของตัวพยาธิหรือไข่ในอุจจาระ

โรคพยาธิตัวตืด มีแนวโน้มที่จะพัฒนาในผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอและไม่สามารถต่อสู้กับการติดเชื้อได้ อาทิผู้ที่กำลังป่วยหรือรักษาตัวต่อไปนี้

  • ติดเชื้อเอชไอวี
  • โรคเอดส์
  • ผู้ที่มีการปลูกถ่ายอวัยวะ
  • โรคเบาหวาน
  • ผู้ที่ต้องให้เคมีบำบัด

อ่านต่อ…ระวัง! พยาธิตัวตืด ขึ้นสมองเพราะกิน ผักดิบ ผักสด ปนเปื้อนไข่พยาธิ คลิกที่หน้า 2

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

แบบฝึกหัดภาษาไทย ป.2

แจกฟรี!! แบบฝึกหัดภาษาไทย ป.2 ยิ่งฝึก ยิ่งเก่ง

Alternative Textaccount_circle
event
แบบฝึกหัดภาษาไทย ป.2
แบบฝึกหัดภาษาไทย ป.2

แบบฝึกหัดภาษาไทย ป.2 ใบงานภาษาไทย ป.2 ช่วยเสริมสร้างทักษะการใช้ภาษาไทย พัฒนาการใช้ภาษา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2

แจกฟรี!! แบบฝึกหัดภาษาไทย ป.2 ยิ่งฝึก ยิ่งเก่ง

นอกจากการเรียนในโรงเรียนแล้ว การทำ แบบฝึกหัด หรือ ใบงาน เพื่อทบทวนบทเรียน จะช่วยให้เด็กได้ฝึกฝน เข้าใจ จดจำ และพัฒนาทักษะในวิชานั้น ๆ ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังช่วยให้เด็กได้เตรียมความพร้อมในการเรียนบทเรียนต่อไป ทีมกองบรรณาธิการ ABK จึงได้รวบรวม แบบฝึกหัดภาษาไทย ป.2 เพื่อให้เด็ก ๆ ได้ฝึกฝน ยิ่งฝึก ยิ่งเก่งนะคะ

วิธีฝึกให้ลูกทำแบบฝึกหัด

1. จัดมุมทำแบบฝึกหัดโดยเฉพาะ

การจัดสภาพแวดล้อมให้เหมาะแก่การเรียนรู้ มีโต๊ะ มีเก้าอี้ มีอุปกรณ์การเรียนและเครื่องเขียนที่จำเป็น โดยไม่ควรมี ของเล่น โทรทัศน์ เกม หรือสิ่งอื่น ๆ ที่อาจจะเบี่ยงเบนความสนใจของลูกมาอยู่ใกล้ ๆ การจัดสภาพแวดล้อมแบบนี้ จะช่วยให้ลูกมีสมาธิต่อการทำแบบฝึกหัดได้ดีค่ะ

2. ทำให้เป็นกิจวัตรประจำวัน

คุณพ่อคุณแม่ควรมีกฎ กติกา ที่ชัดเจน ว่าในทุกวัน ควรใช้เวลาเท่าไหร่ในการทำแบบฝึกหัด แต่กฎ กติกา นั้น ๆ ควรจะจัดให้เหมาะสมกับช่วงวัยของเด็กด้วย เช่น เด็ก 3-5 ขวบ จะสามารถมีสมาธิกับสิ่งใด สิ่งหนึ่งได้เพียง 30 นาที – 1 ชั่วโมง ดังนั้น คุณแม่อาจจะกำหนดว่าหลังทานข้าวกลางวันเสร็จ จะเป็นเวลาในการทำแบบฝึกหัดกัน และจะทำแบบฝึกหัดให้ครบ 30 นาที เป็นต้น และกฎ กติกา เหล่านี้ คุณแม่จะต้องทำเป็นประจำทุกวัน ไม่ควรใจอ่อน หรือทำบ้างไม่ทำบ้าง เพราะจะทำให้เด็กรู้ว่าการทำแบบฝึกหัด ไม่จำเป็น ไปเล่นดีกว่า

3. ทำแบบฝึกหัดไปพร้อมกับลูก

การทำแบบฝึกหัด คุณพ่อคุณแม่ต้องทำด้วยค่ะ เพื่อแสดงให้ลูกเห็นว่าแบบฝึกหัดที่อยู่ตรงหน้านั้น น่าสนใจแค่ไหน ลูกจะรู้สึกสนุกกับการทำแบบฝึกหัดมากขึ้น หากคุณพ่อคุณแม่เพียงยื่นแบบฝึกหัดให้ลูกทำ โดยที่คุณพ่อคุณแม่ไม่สนใจ ลูกจะรู้สึกว่า พ่อแม่ยังไม่สนใจจะทำเลย แสดงว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้านั้นไม่น่าสนใจ

ในช่วงที่ต้องอยู่บ้านกันนาน ๆ แบบนี้ เด็กต้องเสียโอกาสในการได้ไปเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ที่อยู่นอกบ้าน นอกห้องเรียน ไปมากมาย ดังนั้น เราในฐานะพ่อแม่ มาเปลี่ยนบ้านให้เป็นที่สำหรับเรียนรู้ของลูกกันดีกว่าค่ะ ลองแบ่งเวลาซักวันละ 1 ชั่วโมง ในการเล่นกับลูก ทำแบบฝึกหัดไปพร้อมกับลูก เพื่อให้ลูกได้ฝึกทักษะต่าง ๆ ได้จากในบ้านกันเถอะ

แบบฝึกหัดเสริมที่1 คำและความหมาย
แบบฝึกหัดเสริมที่1 คำและความหมาย
แบบฝึกหัดเสริมที่ 2 เส้นสาย ลายมือสวย
แบบฝึกหัดเสริมที่ 2 เส้นสาย ลายมือสวย
แบบฝึกหัดเสริมที่ 3 สระเสียงสั้น สระเสียงยาว
แบบฝึกหัดเสริมที่ 3 สระเสียงสั้น สระเสียงยาว
แบบฝึกหัดเสริมที่ 4 ตัวสะกด สดใส
แบบฝึกหัดเสริมที่ 4 ตัวสะกด สดใส
แบบฝึกหัดเสริมที่ 5 สระเอียะ สระเอีย พาเพลิน
แบบฝึกหัดเสริมที่ 5 สระเอียะ สระเอีย พาเพลิน

 

อ่านต่อ…แจกฟรี!! แบบฝึกหัดภาษาไทย ป.2 ยิ่งฝึก ยิ่งเก่ง คลิกหน้า 2

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

เสริมภูมิคุ้มกัน

เทคนิค..บำรุงสมองไบรท์ เสริมภูมิคุ้มกัน ให้ลูกฟิตทุกวัน

Alternative Textaccount_circle
event
เสริมภูมิคุ้มกัน
เสริมภูมิคุ้มกัน

ถ้าโลกยังไม่หยุดหมุน ก็ไม่มีอะไรมาหยุดเด็ก ๆ ออกไปสนุกเรียน สนุกเล่นนอกบ้านกันได้ค่ะ แต่ด้วยยุคนี้แวดล้อมไปด้วยเชื้อโรค ก็อาจเป็นอุปสรรคเล็ก ๆ น้อย ๆ ทำให้พัฒนาการการเรียนรู้ที่ได้จากนอกบ้านของลูกสะดุดไปบ้าง คุณพ่อคุณแม่อย่าให้ปัญหานี้มาขวางกั้นการเรียนรู้ของลูกได้ค่ะ เรามีไอเทมเพื่อเด็กยุค New Normal ช่วยให้สมองเรียนรู้ดี  เสริมภูมิคุ้มกัน ให้ร่างกายแข็งแรงพร้อมออกไปสนุกเล่น สนุกเรียนรู้ค้นหาประสบการณ์ใหม่ ๆ ตลอด 365 วัน

นี่เลย สก๊อต คิตซ์ เบต้ากลูแคน กลิ่นมอลต์ สูตรใหม่ล่าสุด เป็นสูตรที่เสริมภูมิคุ้มกันที่ดีที่สุด*เมื่อเทียบกับสก๊อต คิตซ์ ซุปไก่สกัดทุกสูตร ให้เด็ก ๆ เรียนรู้ทั้งในและนอกห้องเรียนได้แบบไร้กังวล  และสก๊อต คิตซ์ ซุปไก่สกัดผสมนม รสช็อกโกแลต ได้คุณประโยชน์มากกว่านมธรรมดา จากการผสานคุณค่าของซุปไก่สกัดเข้ากับนม บำรุงทั้งสมองและร่างกาย ให้เด็ก ๆ เตรียมพร้อมทุกเช้าก่อนไปโรงเรียน และสก๊อต คิตซ์ ช็อกโก ซุปไก่สกัดสูตรเข้มข้น บำรุงสมองล้ำลึกก่อนเข้านอนให้เด็ก ๆ พร้อมรับวันใหม่อย่างสดใส สก๊อต คิตซ์ ทุกสูตรนั้นมีไทโรซีน  ตัวช่วยเด็ด ๆ บำรุงสมอง และเสริมภูมิคุ้มกันให้เด็กแข็งแรง ที่กองบรรณาธิการ Amarin Baby & Kids มาแนะนำกัน แต่ก่อนอื่นสังสัยกันมั้ยว่า ทำไมต้องพาลูกออกไปเปิดหู เปิดตา เล่นสนุกนอกบ้าน ?

การอุดอู้อยู่แต่ในบ้าน จะส่งผลเสียต่อพัฒนาการ การเรียนรู้ และขาดทักษะการใช้ชีวิตได้ค่ะ การให้ลูกอยู่บ้านโดยไม่มีกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ให้ทำ ดูแต่ทีวี เล่นมือถือ เล่นเกมคอมพิวเตอร์ เป็นต้น ซึ่งการไม่ได้ขยับร่างกาย นั่ง ๆ นอน ๆ กินตลอดเวลา ก็เสี่ยงที่จะเป็นโรคอ้วนได้ด้วยนะคะ  ฉะนั้นเพื่อส่งเสริมให้เด็ก ๆ มีสุขภาพกาย ใจที่ดี ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ควรหากิจกรรมที่มีประโยชน์ให้ลูกทำ เช่น พาไปตั้งแคมป์ ไปเที่ยวสวนสัตว์ หรือพาไปแหล่งการเรียนรู้สำหรับเด็ก ฯลฯ หรือหากคุณพ่อคุณแม่มีเวลาให้ลูกทุกวันได้ เช่น ช่วงเช้า หรือ ช่วงเย็น ควรพาลูกออกไปเดินเล่นนอกบ้าน พาไปสวนสาธารณะใกล้บ้าน ให้เด็ก ๆ เดินเล่น วิ่งเล่น ออกกำลังกาย เป็นต้น

องค์การอนามัยโลก (World Health Organization) ให้คำนิยามเกี่ยวกับ กิจกรรมทางกาย (Physical Activity) สำหรับเด็กอายุ 1 – 17 ปี คือการได้เคลื่อนไหวร่างกายในอิริยาบถต่าง ๆ เพื่อเกิดการใช้พลังงานจากกล้ามเนื้อ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญของการใช้และเผาผลาญพลังงานของร่างกายนับตั้งแต่กิจกรรมทางกายที่เกี่ยวกับการทำงาน การเดินทางในชีวิตประจำวัน เด็กควรมีกิจกรรมทางกายที่เพียงพอ หรือมีเวลาในการทำกิจกรรมเคลื่อนไหวออกแรงในระดับปานกลางถึงระดับหนักสะสมให้ได้อย่างน้อย 60 นาทีทุกวัน  ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรส่งเสริมให้ลูกได้ใช้เวลาอยู่นอกบ้าน มีกิจกรรมทางกายอย่างน้อย 60 นาที เช่น เล่นกีฬา หรือทำกิจกรรมกลางแจ้งที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย และพัฒนาการตามวัยของลูกกันค่ะ

ประโยชน์ที่เด็กได้จากการเล่นนอกบ้าน

1. ช่วยเพิ่มพัฒนาการทางอารมณ์ (EQ) การเล่นสนุก ช่วยให้เกิดการผ่อนคลาย การได้ออกไปวิ่งเล่นนอกบ้าน หรือทำกิจกรรมกลางแจ้งที่สวนสาธารณะ มีพื้นที่กว้าง โล่ง เต็มไปด้วยสีเขียวของต้นไม้ จะทำให้เด็ก ๆ รู้สึกถึงการมีอิสระ สามารถลดความเครียดสะสมที่อาจมาจากการเรียนในห้องเรียน หรือในช่วงที่ต้องกักตัวอยู่แต่บ้าน ต้องเรียนออนไลน์ ตื่นมาก็เจอแต่บรรยากาศในบ้านซ้ำ ๆ ทุกวัน จนเกิดความเบื่อหน่าย เป็นต้น การที่ลูกได้ออกมาทำกิจกรรมนอกบ้าน ต่อมใต้สมองจะหลั่งฮอร์โมนความสุข (Endorphin) ช่วยทำให้เกิดการผ่อนคลาย มีความสุข มีอารมณ์ที่ดี เพิ่มพลังความรู้สึกในแง่บวก

2. ช่วยให้มีทักษะการเข้าสังคม การพาลูกออกไปเล่นนอกบ้าน เป็นการฝึกทักษะการเข้าสังคมที่ดีมาก ลูกจะเรียนรู้การเป็นผู้ให้และผู้รับที่ดี รู้จักที่จะสื่อสารกับคนรอบข้าง สามารถทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อนวัยเดียวกัน หรือเพื่อนต่างวัยได้ ซึ่งจะส่งผลดีในอนาคตเมื่อเด็ก ๆ เติบโตขึ้น

3. ช่วยต่อยอดความคิดสร้างสรรค์ การพาลูกออกไปทำกิจกรรมนอกบ้าน เช่น ปลูกผัก ทำแปลงนาข้าว หรือค่ายศิลปะ วิทยาศาสตร์ ฯลฯ เมื่อเด็ก ๆ เกิดความสงสัย สมองจะเกิดการเรียนรู้ที่จะตั้งคำถาม เพื่อหาคำตอบ กระบวนการทางความคิดมีส่วนสำคัญในการสร้างเสริมประสบการณ์รอบตัวให้กับลูก ทำให้ได้ความรู้ใหม่ ๆ นอกเหนือจากที่บ้าน และในห้องเรียน

4. ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง การพาลูกออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้งตอนเช้า ๆ ในช่วงเวลา 00 – 8.00 น. ร่างกายจะได้รับวิตามินดีธรรมชาติจากแสงแดด ช่วยเสริมสร้างให้กระดูกมีความแข็งแรง และช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย วิตามินดีจากแสงแดด จะไปช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเม็ดเลือดขาว ส่งผลให้ภูมิคุ้มในร่างกายดีขึ้น เมื่อภูมิคุ้มกันแข็งแรง การเจ็บป่วยไม่สบายก็จะลดน้อยลง

อยากให้ลูกออกไปเล่น ไปทำกิจกรรมนอกบ้านได้อย่างสนุก เกิดการเรียนรู้ มีความคิดสร้างสรรค์อย่างไม่รู้จบ คุณแม่ต้องเตรียมความพร้อมให้ลูกทั้งสมองและร่างกายให้แข็งแรงมีภูมิคุ้มกัน ไม่ป่วยง่าย ขอแนะนำไอเทมของเด็กยุคใหม่ New Normal ที่คุณแม่สามารถเตรียมพร้อมให้ลูกในทุกวัน ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ให้ร่างกายมีความแข็งแรงพร้อมลุยเล่นสนุก เรียนรู้ไปกับทุกกิจกรรมใหม่ ๆ กองบรรณาธิการ Amarin Baby & Kids ขอแนะนำ…

เสริมภูมิคุ้มกัน

สก๊อต คิตซ์ ซุปไก่สกัดทั้ง 3 สูตร ไอเทมสำหรับเด็กยุคใหม่

  • เริ่มต้นทุกเช้าด้วยความสดใส เด็ก ๆ ต้องได้รับประทานอาหารเช้าที่มีประโยชน์นะคะ สารอาหารที่ได้จากมื้อเช้าจะเป็นการเติมพลังงานให้ร่างกาย และสมอง ทำให้มีสมาธิในการเรียน ทำกิจกรรมได้ตลอดทั้งวัน

เสริมภูมิคุ้มกัน

ทิปส์ : สำหรับเด็กวัย 4-12 ปี แนะนำให้เสริมด้วยเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ สก๊อต คิตซ์ ซุปไก่สกัดผสมนมรสช็อกโกแลต อร่อย ได้ประโยชน์มากกว่านมธรรมดาถึง 2 เท่า จากการผสานคุณค่าของซุปไก่สกัดเข้ากับนม พร้อม DHA , OMEGA3 และวิตามินบีคอมเพล็กซ์ถึง 8 ชนิด มีไทโรซีนบำรุงสมอง  และบำรุงร่างกาย ดื่มตอนเช้าเตรียมพร้อมสำหรับทุกการเรียนรู้ทั้งในและนอกห้องเรียนแบบ new normal

  • เริ่มต้นวันใหม่สมองต้องพร้อม เด็ก ๆ ที่อยู่ในวัยกำลังเรียน คุณแม่ต้องบำรุงสมองลูกด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ สมองจะได้เรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่รู้สึกสมองตื้อระหว่างวัน

เสริมภูมิคุ้มกัน

ทิปส์ : สำหรับเด็กวัย 4-12 ปี ต้องบำรุงสมองให้พร้อมอยู่เสมอ เพื่อการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แนะนำให้เสริมด้วยเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ สก๊อต คิตซ์ ช็อกโก ซุปไก่สกัด ซุปไก่สกัดเข้มข้นบำรุงสมองสำหรับเด็ก ได้คุณค่าจากซุปไก่สกัดเข้มข้น พร้อม DHA , OMEGA3 และวิตามินบี 12  พร้อมมีไทโรซีน  บำรุงสมองเข้มข้น  แนะนำให้ดื่มก่อนนอน เพื่อให้สมองได้รับการบำรุงอย่างล้ำลึก ตื่นมาพร้อมรับเช้าวันใหม่อย่างสดใส

  • ภูมิคุ้มกันดี ไม่มีป่วย จะเล่น จะเรียน ร่างกายต้องพร้อม คุณแม่สามารถ เสริมภูมิคุ้มกัน ให้ลูกฟิตได้ตลอด 365 วัน ด้วยการให้ได้รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

เสริมภูมิคุ้มกัน

ทิปส์ : สำหรับเด็กวัย 4-12 ปี ร่างกายที่แข็งแรงช่วยลดอัตราการเจ็บป่วยได้  คุณแม่ไม่อยากให้พัฒนาการการเรียนรู้ลูกสะดุด แนะนำให้ เสริมภูมิคุ้มกัน ลูกทุกวันด้วย  สก๊อต คิตซ์ เบต้ากลูแคน กลิ่นมอลต์ ซุปไก่สกัดสินค้าใหม่ล่าสุดจาก สก๊อต คิตซ์!! เป็นสูตรที่เสริมภูมิคุ้มกันที่ดีที่สุด *เมื่อเทียบกับสก๊อต คิตซ์ ซุปไก่สกัดทุกสูตร ซุปไก่สกัดเข้มข้นบำรุงทั้งสมองและช่วยเสริมภูมิคุ้มกันสำหรับเด็ก จากเบต้ากลูแคนและวิตามินซี มีส่วนช่วยในการทำหน้าที่ตามปกติของระบบภูมิคุ้มกัน พร้อมได้คุณค่าจากซุปไก่สกัดเข้มข้น มี DHA , OMEGA3 และมีไทโรซีน  บำรุงสมองเข้มข้น พร้อมมีวิตามินซี และเบต้ากลูแคน เสริมภูมิคุ้มกัน ให้เด็กแข็งแรง ไม่ป่วยง่าย เสริมภูมิ และ บำรุงสมอง อร่อยง่าย ๆ ได้ประโยชน์ทุกวัน สก๊อต คิตซ์ เบต้ากลูแคน กลิ่นมอลต์ ซุปไก่สกัด จำหน่ายก่อนใครที่ 7-11 เท่านั้น ให้แม่ ๆ ได้ลองซื้อให้ลูกดื่มกัน

เด็กยุคใหม่ไลฟ์สไตล์แบบ New Normal ก็พร้อมออกสตาร์ตเรียนรู้ตลอด 365 วัน เพราะมีเครื่องดื่มบำรุงทั้งสมองและร่างกายแข็งแรง สำหรับเด็กที่ดื่มง่ายได้ทุกวัน ทั้งเช้าและก่อนนอน อย่างสก๊อต คิตซ์ ซุปไก่สกัดที่มีไทโรซีน สมองสดชื่น ร่างกายแข็งแรงมีภูมิคุ้มกันไม่ป่วยง่าย สามารถสั่งซื้อเครื่องดื่มสก๊อตคิตซ์ซุปไก่สกัด มีประโยชน์จากไทโรซีนเต็ม ๆ ขวด กับ 3 สูตร ที่อร่อยไม่แพ้กัน รสชาติคุ้นเคย ที่เด็กทุกคนชื่นชอบ ได้ตามรายละเอียดของช่องทางดังนี้เลย สำหรับสก๊อต คิตซ์ เบต้ากลูแคนกลิ่นมอลต์  สินค้าใหม่ล่าสุด มีจำหน่ายก่อนใครที่ 7-11 เท่านั้น ไปลองกันได้เลยที่ 7-11 ทุกสาขา หรือ กดสั่งผ่าน 7-Delivery ได้ที่

สก๊อต คิตซ์ เบต้ากลูแคน https ://7eleventh.page.link/ixzb

และสำหรับสก๊อต คิตซ์ สูตรอื่น ๆ ช้อปง่าย ๆ ได้ที่นี่เลย

Shopee : https://bit.ly/3dXG8O7

Lazada : https://bit.ly/3SFWcDr

JD Central: https://bit.ly/3M3EOoK

#วัยสตาร์ตต้องสก๊อตคิตซ์ซุปไก่

#สก๊อตคิตซ์ซุปไก่มีไทโรซีน

#บำรุงสมองและร่างกาย

#อร่อยดื่มง่ายไม่คาว

#ดื่มสก๊อตคิตซ์แล้วไบร์ท

 

 

 

 

 

เครดิตข้อมูล : whothaipost  , thairath  ,  thairath , VichaiyutHospital

ตกขาวเกิดจากอะไร

ตกขาวเกิดจากอะไร สีบอกโรคได้ คุณมีสีไหนปกติไหมนะ

Alternative Textaccount_circle
event
ตกขาวเกิดจากอะไร
ตกขาวเกิดจากอะไร

ตกขาวเกิดจากอะไร มีตกขาวผิดปกติไหมนะ คุณหมอขอแจงเรื่องของ ตกขาว แบบละเอียดยิบ สีของตกขาวแบบไหนผิดปกติ น้ำยาทำความสะอาดช่องคลอดจำเป็นไหม รู้กัน

ตกขาวเกิดจากอะไร สีบอกโรคได้ คุณมีสีไหนปกติไหมนะ??

เรื่องของตกขาว กับคุณสาว ๆ เห็นจะเป็นเรื่องปกติคู่กัน เชื่อว่าสาว ๆ ทุกคนคงคุ้นเคยกับตกขาวเป็นอย่างดี แต่จะมีสักกี่คนที่ได้ทำความรู้จักกับ ตกขาว กันอย่างละเอียด อ. พญ.สิริลักษณ์ ตันธนาวิภาส สาขาวิชาเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ ภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ได้กล่าวไว้ในรายการ RAMA Channel ว่า “ปกติแล้วผู้หญิงจะมีตกขาวกันเกือบทุกวันแหละ แต่จะมากจะน้อยจะลักษณะยังไง ก็ขึ้นอยู่กับช่วงเวลา” ซึ่งรู้หรือไม่ ตกขาวสามารถบอกสุขภาพภายในของคุณผู้หญิงได้ด้วยนะ

ตกขาวเกิดจากอะไร คุณมีตกขาวแบบไหน
ตกขาวเกิดจากอะไร คุณมีตกขาวแบบไหน

ตกขาวเกิดจากอะไร ??

ตกขาว (Vaginal Discharge) อาการที่มีเมือกเหลว ไหลออกมาจากช่องคลอดของผู้หญิงโดยไม่ใช่เลือดประจำเดือน ถูกขับออกจากปากมดลูกมายังช่องคลอด เพื่อสร้างความชุ่มชื้นให้บริเวณช่องคลอด และช่วยป้องกันการติดเชื้อภายในช่องคลอด

สีของตกขาว หรือ ระดูขาว อาจมีสีอะไรก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นสีขาว เดิมเรียกว่า leukorrhea โดยมีรากศัพท์มาจากภาษากรีก (leuko แปลว่า white, rheo แปลว่า flow) แปลตามตัวว่า ของเหลวสีขาวที่ไหลออกมา ปัจจุบันมักใช้คำว่า vaginal discharge แทน

อาการตกขาวเป็นอาการที่นำผู้ป่วยมาตรวจทางนรีเวชได้บ่อยที่สุด  อย่างไรก็ตามตกขาวเป็นเพียงอาการไม่ใช่โรค ซึ่งอาจมีอาการอื่น ๆ ที่พบร่วมด้วย เช่น อาการคัน ช่องคลอดมีกลิ่น หรือเจ็บเมื่อมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งจะแบ่งอธิบายออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ๆ คืด

  1. ตกขาวปกติ (Physiologic vaginal discharge)
  2. ตกขาวผิดปกติ (Pathologicvaginal discharge)

ลักษณะตกขาว แบบนี้ไม่ต้องกังวลนะสาว ๆ !!

ตกขาวปกติ

เกิดจากส่วนผสมของสารคัดหลั่งจากอวัยวะสืบพันธุ์และอื่นๆ ได้แก่

  1. สารคัดหลั่งจากอวัยวะสืบพันธุ์ส่วนนอก ได้แก่ ต่อมไขมัน sebaceous ต่อมเหงื่อ ต่อมเมือก Bartholin และต่อม skene glands
  2. สารคัดหลั่งผนังช่องคลอด
  3. เซลล์ล์ที่หลุดลอกลอก (exfoliated) จากช่องคลอดและปากมดลูก
  4. มูกของปากมดลูก (cervical mucous)
  5. น้ำจากโพรงมดลูก (Endometrial fluid)
  6. น้ำจากท่อนำไข่ (Oviductal fluid)
  7. จุลชีพและ metabolite product ของจุลชีพ

ช่องคลอดปกติมีเชื้อแบคทีเรียอาศัยอยู่  เชื้อที่พบมากที่สุด คือ  Lactobacillus  acidophilus มีบทบาทสำคัญเกี่ยวกับระบบนิเวศวิทยาภายในช่องคลอด ฮอร์โมนเอสโตรเจนเป็นตัวกระตุ้นให้เซลล์ล์เยื่อบุช่องคลอดสะสมไกลโคเจนเพิ่มขึ้น   แล้วย่อยสลายเป็น monosaccharides ซึ่งภายหลังถูกเปลี่ยนเป็นกรดแลคติก (lactic acid) โดย lactobacilli เป็นตัวการสำคัญทำให้สภาพแวดล้อมภายในช่องคลอดเป็นกรด และมีค่า pH ปกติน้อยกว่า 4.5 (3.8-4.2) มีผลทำให้แบคทีเรียก่อโรค และปาราสิตอื่นถูกยับยั้งไม่สามารถเจริญเติบโตได้

สีของตกขาว บอกโรค
สีของตกขาว บอกโรค

ลักษณะของตกขาวปกติ

ตกขาวปกติมีลักษณะสีขาว เนื้อหยาบ (floccular) ไม่มีกลิ่น มักอยู่บริเวณที่ dependent portion ของช่องคลอดคือ posterior fornix ต่างจากตกขาวผิดปกติที่มักอยู่ที่บริเวณผนังช่องคลอดด้านหน้าหรือด้านข้าง โดยสามารถสรุปไว้ได้ ดังนี้

  • มีสีขาวหรือใส และไม่มีกลิ่นเหม็น
  • ตกขาวจะใสและมีปริมาณมากในช่วงวันที่มีการตกไข่ ส่วนในช่วงที่เป็นประจำเดือน ตกขาวจะหนาและเหนียวข้น
  • ในระหว่างการตั้งครรภ์ ผู้หญิงจะมีตกขาวมากกว่าปกติ
  • หลังวัยหมดประจำเดือน ผู้หญิงจะมีตกขาวน้อยลง

ตกขาวผิดปกติ

ตกขาวผิดปกติ (Pathologic vaginal discharge) มีสาเหตุจากอาการอักเสบ การติดเชื้อ เนื้องอก การแพ้สารเคมีและยา การบาดเจ็บของอวัยวะสืบพันธุ์  และอาการป่วยต่าง ๆ ทำให้เกิดภาวะช่องคลอดอักเสบ การแพร่กระจายของเชื้อรา การติดเชื้อไวรัสทำให้เกิดเริมที่อวัยวะเพศ เป็นต้น

ลักษณะของตกขาวผิดปกติ

  • มีสีที่ต่างไปจากเดิม เช่น สีเทา สีเขียว สีเหลือง สีชมพู สีน้ำตาลหรือตกขาวมีเลือดปน และมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ คล้ายกลิ่นเนื้อหรือปลาเน่า
  • ตกขาวเป็นก้อนหนา หรือมีตกขาวมากผิดปกติ
  • มีอาการอื่นปรากฏร่วมกับตกขาว เช่น มีอาการคันหรือเจ็บปวดบริเวณปากช่องคลอด เจ็บปวดตอนปัสสาวะ มีเลือดที่ไม่ใช่ประจำเดือนไหลออกจากช่องคลอด

อ่านต่อ>> คุณกำลังมีตกขาวแบบไหน สีอะไร เช็กด่วน คลิกหน้า 2

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

โรคทางจิตเวช เหตุกราดยิง

เมื่อผู้เสพคือผู้ป่วย แนะ 7สัญญาณเตือนเฝ้าระวังผู้ป่วย โรคทางจิตเวช

Alternative Textaccount_circle
event
โรคทางจิตเวช เหตุกราดยิง
โรคทางจิตเวช เหตุกราดยิง

โรคทางจิตเวช จากยาเสพติด นอกจากจะให้โทษแก่ผู้เสพแล้ว ยังส่งผลต่อผู้อื่นได้ในเหตุกราดยิงจากอาการหลอนยา สัญญาณเตือนระวังผู้ป่วยอันตรายจึงต้องมา

เมื่อผู้เสพคือผู้ป่วย !! แนะ 7 สัญญาณเตือนเฝ้าระวังผู้ป่วย โรคทางจิตเวช

“ผู้เสพคือผู้ป่วย” เป็นแนวนโยบายใหม่ที่พยายามไม่จับผู้เสพยาเสพติดเข้าคุก แต่เปิดช่องให้เข้าสู่ระบบบำบัด การแก้พรบ. ยาเสพติด  เปิดช่องให้ผู้พิพากษาใช้ดุลพินิจแยกแยะ “ผู้เสพ” กับ “ผู้ขาย” จากเดิมที่ใช้วิธีการนับเม็ดและปริมาณสาร เช่น ในอดีตหากผู้ต้องหาครอบครองยาบ้าเกิน 15 เม็ด ศาลจะตัดสินโดยอัตโนมัติว่ามีไว้ครอบครองเพื่อจำหน่ายซึ่งโทษหนักกว่าการมีไว้เพื่อเสพมาก ประมวลกฎหมายยาเสพติดใหม่ ได้ปรับปรุงบทบัญญัติจากเดิมที่มีการใช้บทสันนิษฐานในทางที่เป็นโทษกับผู้กระทำความผิด เปลี่ยนเป็นการพิจารณาตาม “พฤติการณ์” และความร้ายแรงที่ผู้กระทำผิดได้กระทำ กล่าวคือ หากเป็นผู้ลักลอบค้าแม้จะมีปริมาณยาเสพติดน้อยในขณะจับกุมแต่ก็ต้องดำเนินคดีในลักษณะที่เป็นความผิดร้ายแรงร่วมกับการดำเนินการริบทรัพย์สิน แต่หากพฤติการณ์เป็นเพียงผู้เสพก็จะยึดหลัก “ผู้เสพ คือ ผู้ป่วย” ที่จะช่วยเหลือให้ได้เข้ารับการบำบัดรักษา โดยมีการเพิ่มบทสันนิษฐานการมีไว้ครอบครองเพื่อเสพ ซึ่งเป็นบทสันนิษฐานในทางที่เป็นคุณ เพื่อให้เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. และพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจใช้เป็นแนวทางในเบื้องต้นในการพิจารณาช่วยเหลือผู้เสพยาเสพติดที่ครอบครองยาเสพติดในปริมาณเล็กน้อยให้เข้าสู่การบำบัดรักษาโดยไม่ต้องส่งตัวไปดำเนินคดี เปิดโอกาสให้ผู้เสพได้รับการบำบัดเพื่อให้มีโอกาสกลับคืนสู่สังคม

อันตรายจาก ผู้ป่วย โรคทางจิตเวช จากยาเสพติด
อันตรายจาก ผู้ป่วย โรคทางจิตเวช จากยาเสพติด

ส่งผู้ป่วยไปให้ใครดูแล?

ระบบบำบัดฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด

เมื่อผู้เสพยาเสพติดถูกจับกุม และได้รับการประเมินตามขั้นตอนจากอนุกรรมการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาแล้วว่าเข้าข่ายเป็น ผู้ป่วย ก็จะจำแนกผู้ป่วยออกเป็น 2 ประเภท คือ

  1. แบบควบคุมตัว ผู้รับการบำบัดจะถูกควบคุมตัวอยู่ในศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด ซึ่งกระจายตัวอยู่ทั่วประเทศ รวม 90 แห่ง และเข้าโปรแกรมบำบัดเป็นระยะเวลา 4-6 เดือน เป้าหมายของการควบคุมตัวก็เพื่อกันผู้ป่วยออกจากยาเสพติดให้ได้มากที่สุด
  2. ระบบไม่ควบคุมตัว ผู้รับการบำบัดจะต้องเข้าโปรแกรมเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมตามศูนย์ฟื้นฟูฯ เป็นเวลา 12 วัน หลังจากเสร็จโปรแกรมแล้วต้องเข้ารายงานตัวทุกเดือน และรับการสุ่มตรวจปัสสาวะเป็นเวลา 1 ปี หากหลบหนี หรือพบสารเสพติดระหว่างกระบวนการดังกล่าว ผู้ป่วยจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

ศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด 90 แห่ง 

  • ค่ายทหารตำรวจ 57 แห่ง
  • ศูนย์ของสาธารณสุข 20 แห่ง
  • ศูนย์ของมหาดไทย 11 แห่ง
  • ศูนย์ยุติธรรม 2 แห่ง

ปัญหาใหญ่ของระบบบังคับบำบัดก็คือ ผู้ป่วยส่วนใหญ่ไม่ได้รับการดูแลโดยแพทย์ หรือเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุข หากแต่เป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง แม้กระทรวงสาธารณสุขจะเข้าไปมีส่วนร่วมในการวางโปรแกรมบำบัดฯ และอบรมวิทยากร ท้ายที่สุดแล้ว แต่ละค่ายก็จะมีวิธีปฏิบัติตามศักยภาพและความถนัดของหน่วยงานนั้นๆ ซึ่งค่ายทหารก็จะเน้นการฝึกวินัยเสียเป็นส่วนใหญ่

เฝ้าระวังผู้ป่วยจิตเวชรุนแรงจากยาเสพติด เพื่อลดการก่อเหตุความรุนแรงในสังคม

จากนโยบาย “ผู้เสพคือผู้ป่วย” ที่ได้แสดงข้อมูลมาข้างต้น และมีผลบังคับใช้มาระยะหนึ่ง ได้เกิดผลตอบรับดังที่เราเห็นกันในสังคม จนมีคำวิพากษ์วิจารณ์ต่อนโยบาย และแนวทางการปฎิบัติกันไปต่าง ๆ นานา แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์กราดยิงเด็กเล็ก ในศูนย์เด็กเล็ก จังหวัดหนองบัวลำพู จากผู้ก่อเหตุที่มีประวัติการติดยาเสพติด ทำให้เราต้องกลับมาทบทวนแนวทางการปฎิบัติของนโยบายดังกล่าวว่า กำลังมีปัญหาหรือไม่ โดยเพจดัง Drama-addict ก็ได้โพสแสดงความคิดเห็นไว้ ดังนี้

ขอขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจากเพจ Drama-addict
ขอขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจากเพจ Drama-addict
โดยคอนเซ็ปท์แล้ว การใช้นโยบายที่ยึดถือว่า ผู้เสพยาเสพติดเป็นผู้ป่วย ลดโทษทางอาญา เพิ่มโทษทางปกครอง เน้นการเอาไปบำบัดให้หาย แล้วเน้นจัดการคนขายหนักๆ เป็นคอนเซ็ปท์ที่ดี ซึ่งก่อนหน้านี้ก็หวังว่ามันน่าจะช่วยแก้ไขปัญหายาเสพติดและคนล้นคุกได้
ปรากฏว่าพอปฎิบัติจริง มันไม่ได้สวยหรูขนาดนั้น
เริ่มจาก คนที่เสพยาจนสติสตังค์พังไปหมดแล้ว มีพฤติกรรมรุนแรงก้าวร้าว จะทำร้ายคนใกล้ตัวและคนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่
หลายๆเคส คนในครอบครัวพยายามติดต่อตำรวจให้พาไปบำบัดหน่อย
ตำรวจก็มักไม่ทำอะไรถ้ายังไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้น ทั้งๆที่จริงๆแล้วตาม พรบ สุขภาพจิต แค่มีพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรงที่มีความเสี่ยงต่อทั้งตัวเองและคนอื่นๆ ก็ใช้กฏหมายบังคับพาไปบำบัดได้
หรือต่อให้ตำรวจพาไปบำบัด บุคลากรในระบบสาธารณสุข ก็รับไม่หวาดไม่ไหว เพราะคนติดยาเยอะมาก งานปรกติก็ล้นมืออยู่แล้ว ต้องมาบำบัดเคสติดยาเพิ่ม แถมพวกนี้ก็มักไม่ต่อเนื่อง ไม่มีระบบติดตามการบำบัดยา ติดตามเฝ้าระวังพฤติกรรม เหมือนมาบำบัดพอเป็นพิธี แล้วก็กลับบ้าน ไม่มีความผิดกฏหมายใดๆ
แล้วพอไม่มีระบบการติดตามตัว เฝ้าระวังพฤติกรรม ที่มีประสิทธิภาพ ก็กลับไปเสพยาต่อ วนไปวนมาอยู่แบบนี้ วันดีคืนดี ก็ไล่ฆ่าคน กราดยิง ไล่แทงคน ปาดคอคน
เมื่อคอนเซ็ปท์ดูดี สวยหรู แต่องค์ประกอบอื่นๆที่จะทำให้คอนเซ็ปท์นั้นเป็นความจริง มันไม่ทำงาน หรือไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ
ผลก็จะออกมาเป็นบ้านเมืองเราอย่างทุกวันนี้ นัน่คือความล้มเหลว
เอาไงกันต่อดีครับ กับแนวคิดว่า ผู้เสพยา = ผู้ป่วย เมื่อผลลัพธ์มันออกมาเป็นแบบนี้
ปกป้องลูกน้อยจากอันตรายรอบด้าน
ปกป้องลูกน้อยจากอันตรายรอบด้าน

ดังนั้นในระหว่างรอการพัฒนาปรับปรุงแนวทางการปฎิบัติของนโยบายที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด และการพบสถิติการระบาดของยาเสพติดที่มีในปัจจุบัน เราบรรดาพ่อแม่ที่ต้องทำทุกวิถีทางในการปกป้องลูกน้อยของเราให้ห่างไกลภยันตรายร้ายต่าง ๆ จึงควรมีวิธีป้องกัน สังเกต และช่วยเหลือลูกของเราให้ห่างไกลอันตรายให้ได้มากที่สุด

อ่านต่อ>> 7 สัญญาณเตือนเฝ้าระวังผู้ป่วยทางจิตรุนแรงจากยาเสพติด คลิกหน้า 2

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

ชื่อจีน

ชื่อจีน ลูกชาย ลูกสาว พร้อมความหมายดีๆ

Alternative Textaccount_circle
event
ชื่อจีน
ชื่อจีน

ตั้งชื่อลูก ชื่อลูกสาว ชื่อลูกชาย ชื่อจีน ชื่อ 1 พยางค์ ชื่อ 2 พยางค์ เพราะๆ ความหมายดี ถูกใจคุณพ่อคุณแม่ นำไปตั้งให้ลูกน้อยได้เลย

ชื่อจีน ลูกชาย ลูกสาว พร้อมความหมายดีๆ

ตอนนี้ภาษาจีนเริ่มมีความสำคัญมากขึ้นในสังคมไทย เนื่องจากคนไทยมีการติดต่อค้าขายกับประเทศจีนมากขึ้น อีกทั้งคนจีนในประเทศไทยก็มีอยู่มาก การ ตั้งชื่อ ลูกเป็นภาษาจีนจึงนิยมมากขึ้น วันนี้ทีมกองบรรณาธิการ ABK จึงได้รวบรวม ชื่อจีน มาฝากคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังมองหาชื่อมาตั้งให้กับลูกน้อยที่กำลังจะคลอดกันค่ะ

ชื่อจีน
ชื่อจีน

ชื่อจีน ลูกชาย ลูกสาว พร้อมความหมายดีๆ

1. ต้าเหนิง
ภาษาจีน : 大能
ความหมาย : ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่

2. อัน
ภาษาจีน : 安
ความหมาย : ความสงบสุข

3. เป่าเป้ย
ภาษาจีน : 宝贝
ความหมาย : ของมีค่า, ลูกรัก, สุดที่รัก

4. ไฉ่หง
ภาษาจีน : 彩红
ความหมาย : สายรุ้ง

5. ชุน
ภาษาจีน : 春
ความหมาย : ฤดูใบไม้ผลิ

6. เยี่ยนฟาง
ภาษาจีน : 艳芳
ความหมาย : สวยงาม, หรูหรา, มีกลิ่นหอม

7. เหลียน
ภาษาจีน : 莲
ความหมาย : ดอกบัว

8. ป๋อเหวิน
ภาษาจีน : 博文
ความหมาย : มีความรู้

9. หมิง
ภาษาจีน : 明
ความหมาย : แสงสว่าง

10. ซินอี๋
ภาษาจีน : 欣怡
ความหมาย : มีความสุข, ความเบิกบาน

11. ซินหยาน
ภาษาจีน : 欣妍
ความหมาย : งดงาม มีชีวิตชีวา

12. ตงหยาง
ภาษาจีน : 东阳
ความหมาย : พระอาทิตย์ตะวันออก

13. ซิน
ภาษาจีน : 新
ความหมาย : ใหม่

14. ฮุ่ยเฟิน
ภาษาจีน : 慧芬
ความหมาย : ฉลาดหลักแหลม

15. เจียลี่
ภาษาจีน : 佳丽
ความหมาย : ความดีงาม, ความสวยงาม

16. กั๋ว, เจี้ยนกั๋ว
ภาษาจีน : 国, 建国
ความหมาย : ประเทศชาติ, สร้างประเทศชาติ

17. เฉิง
ภาษาจีน : 成
ความหมาย : ความสำเร็จ

18. เต๋อ
ภาษาจีน : 德
ความหมาย : กตัญญู

19. ถิงถิง
ภาษาจีน : 婷婷
ความหมาย : สง่างาม

20. เหมยลี่
ภาษาจีน : 梅丽
ความหมาย : สวยงาม, ดอกไม้ที่งดงาม

21. ฟู่
ภาษาจีน : 富
ความหมาย : ร่ำรวย

22. อี้เฉิน
ภาษาจีน : 奕辰
ความหมาย : พระจันทร์

23. เหวิน
ภาษาจีน : 文
ความหมาย : วัฒนธรรม

24. หย่งเล่อ
ภาษาจีน : 永乐
ความหมาย : สุขนิรันดร์

25. มู่หยาง
ภาษาจีน : 沐阳
ความหมาย : อาบแสงพระอาทิตย์

26. จิน
ภาษาจีน : 金
ความหมาย : ทองคำ

27. อีนั่ว
ภาษาจีน : 一诺
ความหมาย : คำสัญญา

28. หนิงอัน
ภาษาจีน : 宁安
ความหมาย : สันติภาพที่สงบสุข

29. อ้าย, อ้ายฉิง
ภาษาจีน : 爱, 爱情
ความหมาย : รัก, ความรัก

30. เจียฮุ่ย
ภาษาจีน : 佳慧
ความหมาย : มีสติปัญญา

 

อ่านต่อ…ชื่อจีน ลูกชาย ลูกสาว พร้อมความหมายดีๆ คลิกหน้า 2

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

ฝันเห็นช้าง

ฝันเห็นช้าง หมายความว่า พร้อมเลขเด็ด

Alternative Textaccount_circle
event
ฝันเห็นช้าง
ฝันเห็นช้าง

ความฝัน ฝันเห็นช้าง ฝันเห็นช้างเดิน ฝันเห็นช้างวิ่ง ฝันเห็นช้างเผือก ฝันเห็นช้างหลายตัว ฝันเห็นช้างขี้ ฝันเห็นลูกช้าง ทำนายฝัน เลขเด็ด

ฝันเห็นช้าง หมายความว่า พร้อมเลขเด็ด

ช้างมีความผูกพันธ์กับสังคมไทยมาตั้งแต่โบราณ ทั้งสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชนทั่วไป สัตว์คู่บุญบารมีของกษัตริย์ก็คือ ช้างเผือก คนไทยมีความเชื่อว่า ช้างเป็นสัตว์มงคล แล้วหาก ฝันเห็นช้าง จะหมายความว่า เราจะได้พบเจอสิ่งดี ๆ หรือไม่ ทีมกองบรรณาธิการ ABK ได้รวบรวมการ ทำนายฝัน มาฝากแล้วค่ะ

ฝันเห็นช้าง
ฝันเห็นช้าง

ฝันเห็นช้าง หมายความว่า พร้อมเลขเด็ด

ฝันเห็นช้าง

ทำนายว่า คุณมีเกณฑ์ได้เจอเรื่องหนักใจ มีเกณฑ์เจอคนมาเบียดเบียนเวลาของคุณ มีคนมาสร้างภาระและความรำคาญใจให้ในช่วงนี้ ต้องคอยเอาอกเอาใจคนรอบข้างอยู่เสมอ จนไม่มีเวลาให้กับตัวเองเท่าใดนัก เวลาส่วนใหญ่จะต้องอุทิศให้กับการงาน ธุระของคนอื่น ถือเป็นช่วงที่เหน็ดเหนื่อยกว่าปกติ

  • เลขเด็ดฝันเห็นช้าง : ควรมีเลข 1 6 และ 7
  • เลขเด็ด 2 ตัว : 11 16 67 71
  • เลขเด็ด 3 ตัว : 117 216 676 671

 

ฝันเห็นช้าง 1 ตัว

ทำนายว่า ญาติผู้ใหญ่ที่คุณเคารพนับถือ หรือผู้ใหญ่ในบ้าน อาจมีเหตุให้ต้องล้มหมอนนอนเสื่อ มีแนวโน้มเป็นอาการเจ็บป่วยเล็กน้อย เช่น ภูมิแพ้ขึ้น สะดุดล้ม แต่ก็ต้องพักผ่อนสักระยะเลย ดังนั้นถ้าช่วงนี้คุณมีเวลาว่างก็ควรประกบพวกท่านไว้ให้ดี

  • เลขเด็ดฝันเห็นช้าง 1 ตัว : ควรมีเลข 2 4 และ 6
  • เลขเด็ด 2 ตัว : 14 52 62 64
  • เลขเด็ด 3 ตัว : 245 652 156 412

 

ฝันเห็นช้างตัวใหญ่

ทำนายว่า ขอให้คุณระมัดระวังในเรื่องของการเสียทรัพย์ ทรัพย์สินเสียหาย มีเกณฑ์ที่จะพบกับเรื่องของความทุกข์ ความเศร้า หรือผิดสมหวัง เพื่อนหรือผู้ที่คุณคุ้นเคยจะทำตัวห่างเหิน ควรระวังเรื่องการมีปากเสียงกับคนรอบข้าง การเงินหลังจากนี้ 1 เดือนจะมีโชคมีลาภจะได้รับเงินหรือส่วนแบ่งจากการงานในช่วงนี้

  • เลขเด็ดฝันเห็นช้างตัวใหญ่ : ควรมีเลข 3 9 และ 4
  • เลขเด็ด 2 ตัว : 43 49 35 95
  • เลขเด็ด 3 ตัว : 249 352 435 694

 

ฝันเห็นช้างหลายตัว หรือหลุดเข้าไปอยู่กลางโขลงช้าง

ทำนายว่า ให้ระวังเคราะห์ร้ายที่จะเกิดแก่คนที่อายุน้อยที่สุดภายในบ้าน ผลของการกระทำทั้งทางดี และทางไม่ดี จะย้อนกลับมาหาคุณอย่างรวดเร็ว มีเกณฑ์จะได้รับโชคจากคนรัก คนโสดจะได้พบรักกับคนที่อยู่ทางไกล การงาน ช่วงนี้มีคนคอยยุแยงให้เจ้านายเข้าใจผิดในตัวคุณ แต่คน ๆ นั้นจะแพ้ภัยตัวเอง

  • เลขเด็ดฝันเห็นช้างหลายตัว : ควรมีเลข 2 3 และ 7
  • เลขเด็ด 2 ตัว : 23 27 37 72
  • เลขเด็ด 3 ตัว : 572 397 823 107

 

ฝันเห็นช้างวิ่งไล่

ทำนายว่า ฝันนี้กำลังบอกคุณว่าคุณจะต้องเจอเรื่องบางอย่างที่ไม่ดีกับใจเอาเสียเลย แถมยังมีแนวโน้มว่าจะเกิดขึ้นอย่างกะทันหันอีกด้วย แม้จะไม่ได้เตรียมใจแต่เมื่อต้องเจอ สิ่งที่คุณควรทำก็คือตั้งสติ อยู่กับปัจจุบัน และมองหาทางออกของปัญหานี้ อย่ามัวแต่จมอยู่กับความคิดเพราะไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น

  • เลขเด็ดฝันเห็นช้างวิ่งไล่ : ควรมีเลข 5 9 และ 0
  • เลขเด็ด 2 ตัว : 05 09 59 90
  • เลขเด็ด 3 ตัว : 254 908 506 693

 

ฝันเห็นช้างเผือก

ทำนายว่า คุณมีเกณฑ์ได้รับทรัพย์ แต่จะเป็นเงินร้อน เงินที่อยู่กับคุณได้ไม่นาน เช่น มีคนโอนเงินมาผิดบัญชี เงินที่มีที่มาอย่างผิดกฎหมาย ขอแนะนำให้คุณไม่ละโมบคิดอยากได้ของที่ไม่ใช่ของเรา มิเช่นนั้นชีวิตคุณอาจจะเดือดร้อนได้

  • เลขเด็ดฝันเห็นช้างเผือก : ควรมีเลข 3 5 และ 8
  • เลขเด็ด 2 ตัว : 35 55 58 83
  • เลขเด็ด 3 ตัว : 135 568 743 805

 

ฝันเห็นช้างเข้าบ้าน

ทำนายว่า ฝันนี้กำลังบอกว่าช่วงนี้ให้ระวังคนในบ้านจะเจ็บป่วย เริ่มมีอาการที่สังเกตได้ หรือหากไปตรวจสุขภาพช่วงนี้ก็จะเจอกับอาการเจ็บป่วยที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แนะนำให้ไปทำบุญปล่อยปลา แผ่เมตตาให้เจ้ากรรมนายเวร จะช่วยให้เรื่องร้ายนั้นดีขึ้น

  • เลขเด็ดฝันเห็นช้างเข้าบ้าน : ควรมีเลข 5 7 และ 2
  • เลขเด็ด 2 ตัว : 25 27 52 57
  • เลขเด็ด 3 ตัว : 462 965 782 775

 

ฝันเห็นช้างเอราวัณ

ทำนายฝัน – ถ้าคุณฝันเห็นช้างเอราวัณ ฝันนี้ทำนายได้ว่าผู้ที่มีอำนาจ บารมี หรือมีอาวุโสกว่ากำลังเพ่งเล็ง จับตาความประพฤติของคุณอยู่ คุณอาจรู้สึกว่าช่วงนี้ไม่เป็นที่พอใจ ทำอะไรก็ผิด ขอแนะนำให้คุณพยายามหลีกเลี่ยงการปะทะ ไม่ต้องโต้ตอบอะไร การไม่ต่อความยาวสาวความยืดเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับเรื่องนี้

  • เลขเด็ดฝันเห็นช้างเอราวัณ : ควรมีเลข 6 9 และ 1
  • เลขเด็ด 2 ตัว : 16 61 66 91
  • เลขเด็ด 3 ตัว : 168 914 610 591

 

ฝันเห็นช้างขี้

ทำนายว่า คุณต้องระวังเคราะห์ร้ายที่จะเกิดขึ้นกับคนที่อายุน้อยที่สุดในบ้าน เป็นช่วงเวลาที่ต้องใช้ความพยายามจึงจะสมหวังในสิ่งที่ต้องการ กำลังอยู่ในช่วงจังหวะชีวิตเปลี่ยนแปลง แต่เมื่อผ่านมันมาได้คุณได้รับสิ่งใหม่ ๆ เข้ามาในชีวิต ให้ระวัง เพราะมีคนจ้องทำร้าย หรือขโมยข้าวของ ต้องระมัดระวังให้ดี

  • เลขเด็ดฝันเห็นช้างขี้ : ควรมีเลข 4 0 และ 7
  • เลขเด็ด 2 ตัว : 40 70 74 77
  • เลขเด็ด 3 ตัว : 304 047 731 653

 

อ่านต่อ…ฝันเห็นช้าง หมายความว่า พร้อมเลขเด็ด คลิกหน้า 2

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

ที่เที่ยวสำหรับเด็ก ปิดเทอม

ที่เที่ยวสำหรับเด็ก ปิดเทอมนี้ ทั้งสนุก ได้เรียนรู้ ใกล้กรุง!

Alternative Textaccount_circle
event
ที่เที่ยวสำหรับเด็ก ปิดเทอม
ที่เที่ยวสำหรับเด็ก ปิดเทอม

ที่เที่ยวสำหรับเด็ก กับปิดเทอมนี้ มีดีมากกว่าที่คิด เมื่อสถานที่เที่ยวที่มอบทั้งความสุข สนุก อีกทั้งยังมากด้วยแหล่งเรียนรู้ ไม่ไปไม่ได้แล้ว

ที่เที่ยวสำหรับเด็ก ปิดเทอมนี้ ทั้งสนุก ได้เรียนรู้ ใกล้กรุง!!

ปิดเทอม ช่วงเวลาแห่งการเรียนรู้นอกห้องเรียนของเด็ก ๆ ช่วงเวลาแห่งความสนุก แถมได้ประโยชน์ เพราะการเรียนรู้นั้นไม่ได้มีแต่ในตำราเรียน การเรียนรู้ที่ดีจากประสบการณ์ การได้ลงมือทำ การได้สัมผัสของจริง เป็นการเรียนรู้ที่จะทำให้เด็ก ๆ ได้จดจำ และเพิ่มพูนทักษะที่จำเป็นในชีวิตได้อย่างไม่น่าเบื่อ วันนี้หากคุณพ่อคุณแม่กำลังหา ที่เที่ยวสำหรับเด็ก ที่ไม่ได้มีดีแค่เที่ยวสนุกแล้วละก็ เราขอแนะนำสถานที่เที่ยวเหล่านี้ ที่รับรองว่าทั้งสนุก ทั้งได้เรียนรู้อย่างแน่นอน

พิพิธภัณฑ์สถานธรรมชาติวิทยาแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

พิพิธภัณฑ์สถานธรรมชาติวิทยาแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่เที่ยวสำหรับเด็ก
พิพิธภัณฑ์สถานธรรมชาติวิทยาแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่เที่ยวสำหรับเด็ก

มีวัตถุประสงค์เพื่อรวบรวมและรื้อฟื้นตัวอย่างสิ่งมีชีวิต และทรัพยากรธรรมชาติที่ได้สะสมไว้ตั้งแต่ดั้งเดิม และที่ได้วิจัยและค้นพบใหม่ เพื่อเป็นแหล่งค้นคว้าอ้างอิงทางวิชาการด้านอนุกรมวิธาน และร่วมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในโอกาสทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ ในปี พ.ศ. 2530 และฉลองการครบรอบ 70 ปีแห่งการสถาปนาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

จัดแสดงตัวอย่างสัตว์ชนิดต่างๆ จำนวนมาก ทั้งสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม นก ปลา สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก สัตว์เลื้อยคลาน ซึ่งได้รับการจัดเก็บรักษาในรูปแบบที่เหมาะสมกับลักษณะของสัตว์ประเภทนั้นๆ อย่างน่าสนใจ รวมทั้งจัดแสดงหินและสินแร่ต่างๆ ที่สำคัญ และตัวอย่างทางมานุษยวิทยาอีกด้วย

พิพิธภัณฑ์แห่งนี้อยู่ภายใต้การดูแลของภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ ตั้งอยู่ ณ ตึก ชีววิทยา ๑ ชั้น ๒ มีวัตถุประสงค์เพื่อรวบรวมตัวอย่างสิ่งมีชีวิตและทรัพยากรธรรมชาติที่สะสมมาแต่เดิมรวมทั้งที่มีการวิจัยและค้นพบใหม่เพื่อเป็นแหล่งค้นคว้าอ้างอิงทางวิชาการและการอนุรักษ์ ภายในพิพิธภัณฑ์จัดแสดงตัวอย่าง สิ่งมีชีวิตและทรัพยากรธรรมชาติ อาทิ โครงกระดูกของสิ่งมีชีวิต ตัวอย่างเปลือกหอยต่างๆ ของไทย ซากดึกดำบรรพ์ที่พบในประเทศไทย ชีววิทยาของผึ้ง ตัวอย่างปลาในวรรณคดี ตัวอย่างตะพาบ ม่านลาย ซึ่งพบในประเทศไทยแห่งเดียวในโลกเป็นต้น นับว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ทางธรรมชาติแห่งแรกของประเทศไทย

ที่ตั้ง :

ตึกชีววิทยา 1 ห้อง 230 ชั้น 2 ภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

254 ถนนพญาไท แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330

โทรศัพท์
0 2218 5266

พาลูกเที่ยว ได้เรียนรู้
พาลูกเที่ยว ได้เรียนรู้

เวลาทำการ

  • วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 9.00-16.00 น.
  • ปิดวันหยุดนักขัตฤกษ์

ค่าเข้าชม
ไม่เสียค่าเข้าชม

website : พิพิธภัณฑ์สถานธรรมชาติวิทยาแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ซีไลฟ์ แบงคอก : Sea Life Bangkok Ocean World

ซีไลฟ์ แบงคอก ที่เที่ยวสำหรับเด็ก
ซีไลฟ์ แบงคอก ที่เที่ยวสำหรับเด็ก

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ซี ไลฟ์ โอเชียน เวิลด์ กรุงเทพ หรือ บางกอก ซี ไลฟ์ โอเชียนเวิลด์ เป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำใต้ดิน พื้นที่รวม 10,000 ตารางเมตร ตั้งอยู่ที่ชั้น B1 และ B2 ศูนย์การค้าสยามพารากอน

“ด้วยการแบ่งปันความมหัศจรรย์และความงามของมหาสมุทรของเราเราหวังว่าคุณจะได้เรียนรู้ที่จะรักพวกเขามากเท่าที่เราทำ ซีไลฟ์ แบงคอก ให้ผู้เยี่ยมชมได้สัมผัสกับความมหัศจรรย์ที่ซ่อนอยู่ในมหาสมุทรและเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญของเราทุ่มเทและกระตือรือร้นเกี่ยวกับการอนุรักษ์” นี่คือ คำอธิบายตัวเองของพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ที่น่าสนใจ และห้ามพลาดแห่งหนึ่ง ที่คุณพ่อคุณแม่ที่กำลังหา ที่เที่ยวสำหรับเด็ก ควรพาลูกจูงหลานไปสัมผัสสักครั้ง เพราะนอกจากจะมีปลาสวยงาม สัตว์น้ำแปลกตาแล้ว ยังมีโชว์แสดงให้หาอาหารสัตว์น้ำ ที่จะแตกต่างกันไปแต่ละวันอีกด้วย (สามารถหารายละเอียดของการแสดงได้ที่เว็บไซต์) การแสดงที่เด็ก ๆ ชื่นชอบ ตื่นตาตื่นใจ อีกทั้งยังได้รับความรู้เกี่ยวกับสัตว์น้ำใต้ทะเลกลับบ้านไปอีกด้วย

ที่ตั้ง:
สยามพารากอน B2 Floor, Siam Paragon Building, B1, 991 ถ. พระรามที่ ๑ แขวง ปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
โทรศัพท์:

 02 687 2000

โชว์หลากหลายใน ซีไลฟ์ แบงคอก
โชว์หลากหลายใน ซีไลฟ์ แบงคอก
เวลาทำการ:
เปิดให้บริการทุกวัน 10.00-20.00 น.
ค่าเข้าชม
บัตรสามารถซื้อได้ที่หน้างาน หรือจองออนไลน์ได้ที่เว็บไซด์ เริ่มต้นที่ 650 บาท

ศูนย์เรียนรู้ป่าในกรุง

ศูนย์เรียนรู้ป่าในกรุง
ศูนย์เรียนรู้ป่าในกรุง

เป็นแหล่งที่เด็กจะได้ศึกษา เรียนรู้ และซึมซับเรื่องราวดีๆ เกี่ยวกับคุณค่าของระบบนิเวศป่าไม้ได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ สร้างความตระหนักรู้และกระตุ้นเตือนให้คนในเมืองหลวงเกิดความสำนึกรักและหวงแหนในทรัพยากรป่าไม้ที่หลงเหลืออยู่ไม่มากนัก และหันมาปลูกต้นไม้กันมากขึ้น

เรียนรู้การปลูกป่านิเวศ ซึ่งหมายถึง “ป่าที่มนุษย์สร้างขึ้นเพื่อให้มีสภาพใกล้เคียงสภาพป่าธรรมชาติ” โดยประยุกต์การสร้างป่านิเวศตามแนวคิดของ ศาสตราจารย์ ดร.อาคิระ มิยิวากิ (Miyawaki’s Method) มีหลักการ คือ การสร้างป่าธรรมชาติดั้งเดิมด้วยพันธุ์ไม้ธรรมชาติดั้งเดิม (Building Native forest of Native trees) และจัดการโดยใช้แนวคิด “ การจัดการที่ดีที่สุดคือการปล่อยให้ป่าจัดการตัวเอง (No management is The best management)” ร่วมกับองค์ความรู้การปลูกป่าของ ปตท. ในการวิเคราะห์และปรับปรุงคุณภาพดิน ศึกษาพันธุ์ไม้ดั้งเดิมของกรุงเทพฯ รวมถึงการเลือกใช้พันธุ์ไม้ที่เหมาะสมกับสภาพของดิน
กิจกรรมการเรียนรู้ ศูนย์เรียนรู้ป่าในกรุง มีกิจกรรมการเรียนรู้เกี่ยวกับป่าไม้ ระบบนิเวศ และสิ่งแวดล้อมประจำทุก ๆ เดือน รวมถึงสามารถเข้ามาติดต่อทำกิจกรรมธรรมชาติอื่น ๆ ตามที่สนใจ เช่น เกมเรียนรู้เกี่ยวกับสัตว์ป่าและสิ่งมีชีวิต, กิจกรรม Workshop ประดิษฐ์สิ่งของธรรมชาติ, หรือกิจกรรมอาสาสมัครต่างๆ เพื่อให้เกิดความเข้าใจและเรียนรู้ถึงการใช้ทรัพยากรเหล่านั้นอย่างรู้คุณค่า และร่วมตระหนักในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน

โดยจุดเด่นของที่นี่ ต้องอย่าลืมไปแวะ หอชมป่า หอคอยที่จะได้เห็นวิว 360 องศา เห็นต้นไม้สีเขียวเต็มตา และยังมีกิจกรรม workshop ให้ได้ร่วมสนุกกันอีกด้วย

ที่ตั้ง : 

เลขที่ 8 ถนนสุขาภิบาล 2 แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กรุงเทพฯ 10250

โทรศัพท์ : 02 136 6380

เส้นทางเดินชมเรือนยอด ที่เที่ยวสำหรับเด็ก
เส้นทางเดินชมเรือนยอด ที่เที่ยวสำหรับเด็ก

เวลาทำการ :

เปิดทุกวัน ยกเว้นวันจันทร์ ให้บริการเยี่ยมชม 2 รอบ/วัน
รอบเช้า : 9.00 – 12.00 น.
รอบบ่าย : 13.00 – 16.00 น.
ค่าเข้าชม
เข้าชมฟรี

อ่านต่อ >>ที่เที่ยวสำหรับเด็ก ได้สนุกได้เรียนรู้ แถมใกล้กรุง คลิกหน้า 2

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

ชื่อลูกแฝด

ชื่อลูกแฝด ภาษาอังกฤษ ชื่อเพราะๆ คล้องจองกัน

Alternative Textaccount_circle
event
ชื่อลูกแฝด
ชื่อลูกแฝด

ชื่อลูกแฝด ชื่อลูกแฝดภาษาอังกฤษ ชื่อลูกแฝดผู้หญิง ชื่อลูกแฝดผู้ชาย ชื่อลูกแฝดคล้องจองกัน ชื่อลูกแฝดพยัญชนะขึ้นต้นเหมือนกัน

ชื่อลูกแฝด ภาษาอังกฤษ ชื่อเพราะๆ คล้องจองกัน

ตอนนี้คนไทยเริ่มตั้งท้องลูกแฝดกันมากขึ้น เพราะท้องครั้งเดียวมีลูก 2 คนเลย บ้านไหนที่กำลังจะมีสมาชิกใหม่เป็นลูกแฝด และกำลังมองหา ชื่อลูกแฝด ภาษาอังกฤษ เพราะ ๆ เตรียมไว้ให้ลูก ๆ ไม่ว่าจะชื่อลูกแฝดผู้ชายหรือผู้หญิง ชื่อคล้องจองกัน หรือชื่อที่พยัญชนะขึ้นต้นเหมือนกัน วันนี้ทีมกองบรรณาธิการ ABK นำชื่อเพราะ ๆ มาให้ได้เลือกกันแล้วค่ะ

ชื่อลูกแฝด ผู้หญิง
ชื่อลูกแฝด ผู้หญิง

ชื่อลูกแฝด ภาษาอังกฤษ ชื่อเพราะๆ คล้องจองกัน

ชื่อแฝดผู้หญิง คล้องจองกัน

  1. Aida (ไอด้า) และ Ava (เอว้า)
  2. Gabriella (กาเบรียล่า) และ Isabella (อิซซาเบลล่า)
  3. Chloe (โคลอี้) และ Zoe (โซอี้)
  4. Abbie (แอบบี้) และ Gaby (เกบี้)
  5. Lily (ลิลี่) และ Millie (มิลลี่)
  6. Leah (ลีอา) และ Mia (มีญ่า)
  7. Molly (มอลลี่) และ Polly (พอลลี่)
  8. Sara (ซาร่า) และ Cara (คาร่า)
  9. Jess (เจส) และ Tess (เทส)
  10. Emma (เอ็มม่า) และ Gemma (เจ็มม่า)
  11. Belle (เบล) และ Elle (แอล)
  12. Stacey (สเตซี่) และ Gracie (เกรซี่)

 

ชื่อแฝดผู้หญิง พยัญชนะขึ้นต้นเหมือนกัน

  1. Abigail (อบิเกล) และ Amy (เอมี่)
  2. Amelia (อมีเลีย) และ Ava (เอว่า)
  3. Bailey (เบลี่) และ Bella (เบลล่า)
  4. Beatrice (เบียทริซ) และ Bethany (เบธธานี)
  5. Callie (คาลี่) และ Camilla (คามิลล่า)
  6. Charlotte (ชาล็อตต์) และ Clara (คลาร่า)
  7. Dakota (ดาโคต้า) และ Daniella (แดเนียลล่า)
  8. Deborah (เดโบร่าห์) และ Delilah (เดไลลาห์)
  9. Emilia (เอมิเลีย) และ Erin (เอริน)
  10. Emma (เอ็มม่า) และ Ella (เอลล่า)
  11. Fiona (ฟิโอน่า) และ Freya (เฟรยา)
  12. Francesca (ฟรานเชสก้า) และ Frida (ฟรีดา)
  13. Gabriella (กาเบรียล่า) และ Grace (เกรซ)
  14. Gemma (เจ็มม่า) และ Georgia (จอร์เจีย)
  15. Hailey (เฮลีย์) และ Hannah (ฮันนาห์)
  16. Hazel (เฮเซล) และ Heidi (ไฮดี้)
  17. Iris (ไอริส) and Ivy (ไอวี่)
  18. Isla and Isabelle (อิซาเบลล่า)
  19.  Jessica (เจสซิก้า) and Jemma (เจมม่า)
  20.  Josie (โจซี่) and Jacqueline (แจ็คเกอลีน)
  21. Katie (เคธี่) and Kayla (เคย์ล่า)
  22. Kitty (คิตตี้) and Kendra (เคนดร้า)
  23. Laura (ลอร่า) and Lana (ลาน่า)
  24. Lauren (ลอเรน) and Leslie ((เลสลี่)
  25. Maya (มาญ่า) and Mia (มีญ่า)
  26. Megan (เมแกน) and Millie (มิลลี่)
  27. Nadia (นาเดีย) and Natalia (นาทาเลีย)
  28. Nora (นอร่า) and Natasha (นาทาชา)
  29. Olivia (โอลิเวีย) and Odette (โอเด็ต)
  30. Olive (โอลีฟ) and Ophelia (โอฟีเลีย)
  31. Paige (เพจ) and Payton (เพย์ตัน)
  32. Piper (ไพเพอร์) and Paris (แพรีส)
  33. Quinn (ควิน) and Quella (เควลล่าร์)
  34. Rachael (ราเชล) and Rebecca (รีเบคก้า)
  35. Rachel (ราเชล) and Rosie (โรซี่)
  36. Sadie (เซดี้) and Sasha (ซาช่า)
  37. Samantha (ซาแมนธา) and Stella (สเตลล่า)
  38. Tamara (ทามาร่า) and Tess (เทส)
  39. Tracey (เทรซี่) and Theresa (เทเรซ่า)
  40. Uma (อูม่า) and Ursula (เออร์ซูลา)
  41. Una (อูน่า) and Ula (อูล่า)
  42. Vera (เวร่า) and Vivian (วิเวียน)
  43. Victoria (วิกตอเรีย) and Vanessa (วาเนสซ่า)
  44. Willow (วิลโล่) and Winona (วิโนน่า)
  45. Whitney (วิทนีย์) and Wren (เร็น)
  46. Xabrina (ซาบริน่า) and Xandra (แซนดร้า)
  47. Yana (ญาน่า) and Yvonne (อีวอน)
  48. Yasmine (ยัสมิน) and Yvette (อีแวตท์)
  49. Zainab (ไซนับ) and Zuri (ซูริ)
  50. Zoe (โซอี้) and Zoelle (โซเอล)

 

อ่านต่อ…ชื่อลูกแฝด ภาษาอังกฤษ ชื่อเพราะๆ คล้องจองกัน คลิกหน้า 2

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

ไส้ติ่งอักเสบ

ไส้ติ่งอักเสบ ตอนท้อง อันตรายที่ไม่ควรมองข้าม!

Alternative Textaccount_circle
event
ไส้ติ่งอักเสบ
ไส้ติ่งอักเสบ

ไส้ติ่งอักเสบ – ไส้ติ่งอักเสบหรือการติดเชื้อของไส้ติ่งในระหว่างตั้งครรภ์เป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดที่ต้องทำการผ่าตัดฉุกเฉินระหว่างตั้งครรภ์ หนึ่งในปัญหาที่ใหญ่ที่สุดของไส้ติ่งอักเสบในระหว่างตั้งครรภ์คือการวินิจฉัยที่ล่าช้า เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพในร่างกายระหว่างตั้งครรภ์ การวินิจฉัยไส้ติ่งอักเสบจึงค่อนข้างลำบาก ซึ่งการตรวจพบและรักษาในไตรมาสที่หนึ่งและสองอาจทำได้ง่ายกว่า เหตุผลสำคัญที่ต้องวินิจฉัยแต่เนิ่นๆ คือ ยิ่งรอช้านานเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีโอกาสเกิดโรคแทรกซ้อนที่เป็นอันตรายต่อการตั้งครรภ์มากขึ้น โดยเฉพาะหากไส้ติ่งแตกอัตราการสูญเสียของทารกในครรภ์อาจเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสที่สามของการตั้งครรภ์

ไส้ติ่งอักเสบ ตอนท้อง อันตรายที่ไม่ควรมองข้าม!

สาเหตุของไส้ติ่งอักเสบ ระหว่างตั้งครรภ์

สาเหตุของการเกิดไส้ติ่งอักเสบในหญิงตั้งครรภ์นั้นไม่ต่างจากคนทั่วไป ซึ่งการอุดตันในไส้ติ่งสามารถนำไปสู่โรคการอักเสบและการติดเชื้อที่ไส้ติ่งได้ การอุดตันอาจเป็นผลมาจากการสะสมของเชื้อแบคทีเรีย จากเศษอาหารหรือเมล็ดผักผลไม้ที่ไม่ย่อย ปรสิต หรืออุจจาระ เป็นต้น เมื่อเกิดการอุดตัน เชื้อแบคทีเรียจะสามารถเพิ่มจำนวนทวีคูณได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ไส้ติ่งเกิดการระคายเคืองและบวมในที่สุดและนำไปสู่ไส้ติ่งอักเสบ

ไส้ติ่งอักเสบเป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยของการผ่าตัดฉุกเฉินที่ไม่ใช้การผ่าตัดทางนรีเวชและไม่ใช่ทางสูติกรรม บางครั้งอาจเป็นเรื่องยากที่จะยืนยันโรคในผู้ป่วยที่ตั้งครรภ์โดยเฉพาะเมื่ออายุครรภ์มากขึ้น เนื่องจากลักษณะทางกายภาพของผู้ป่วยที่อาจทำให้แพทย์วินิจฉัยโรคได้ลำบาก เช่น ยิ่งอายุครรภ์มากไส้ติ่งอาจถูกเบียดจนลอยสูงไปอยู่บริเวณใต้ชายโครงก็เป็นได้ อย่างไรกก็ตามอาการที่สำคัญที่พบได้ในหญิงตั้งครรภ์ที่มีอาการไส้ติ่งอักเสบ ได้แก่ อาเจียน อาการเบื่ออาหาร คลื่นไส้ มีไข้ และปวดที่ด้านขวาล่าง ไส้ติ่งอาจเลื่อนขึ้นในระหว่างตั้งครรภ์และผู้ป่วยอาจมีอาการปวดในด้านขวาบนหรือด้านขวาของช่องท้อง

อาการปวดท้องเป็นเรื่องปกติในการตั้งครรภ์ มักเกิดจากการขยายของมดลูกและการยืดเส้นเอ็น อย่างไรก็ตาม อาการที่ไม่เฉพาะเจาะจงที่เกี่ยวข้องกับการตั้งครรภ์ตามปกติ เช่น ปวดท้อง คลื่นไส้ และอาเจียน ทำให้ไส้ติ่งอักเสบนั้นวินิจฉัยได้ยาก เมื่อมดลูกโตขึ้นในระหว่างตั้งครรภ์ ลำไส้จะเคลื่อนตัวและไส้ติ่งจะเคลื่อนตัว  อาการปวดอาจแผ่ไปที่ด้านขวาบนของช่องท้อง และตำแหน่งของไส้ติ่งอาจเปลี่ยนไป เมื่อเทียบกับผู้ป่วยทั่วไปที่มีอาการปวดบริเวณช่องท้องด้านขวาล่าง การได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นไส้ติ่งอักเสบในสตรีมีครรภ์อย่างถูกต้อง จำเป็นต้องมีแพทย์ที่มีประสบการณ์สูงและเชี่ยวชาญเป็นพิเศษ นอกจากปวดท้องแล้ว อาการอื่นๆ อาจรวมถึงคลื่นไส้ เบื่ออาหาร ท้องอืด และปวดท้อง ต้องทำการวินิจฉัยแยกโรคเพื่อระบุเงื่อนไขที่เป็นไปได้อื่นๆ หากไส้ติ่งติดเชื้อผู้ป่วยอาจมีไข้และหนาวสั่น หากไม่ได้รับการรักษา ไส้ติ่งอักเสบจะแตกในที่สุดจนเชื้อกระจายในช่องท้องทำให้เกิดอาการปวดท้องอย่างรุนแรง ซึ่งถ้าไม่ผ่าตัดรักษา จนไส้ติ่งแตกก็อาจจะมีภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง เป็นเหตุให้เสียชีวิตทั้งแม่และทารกในครรภ์ได้  ดังนั้นหากสงสัยว่าตัวเองมีอาการของไส้ติ่งอักเสบในระหว่างตั้งครรภ์ต้องรีบไปพบแพทย์ทันที

อาการที่พบได้บ่อยของ ไส้ติ่งอักเสบ ขณะตั้งครรภ์

  • เริ่มจากปวดท้องบริเวณสะดือแล้วย้ายมาปวดท้องน้อยด้านขวา
  • ปวดท้องตื้อๆ เป็นๆหายๆ แต่ปวดตลอดเวลาและปวดมากขึ้นเรื่อยๆ
  • ปวดท้องมากขึ้นเมื่อไอ หรือขยับตัว
  • มีไข้ต่ำๆ
  • คลื่นไส้ อาเจียน
  • เบื่ออาหาร
  • ท้องผูก
  • มวนท้องและถ่ายกะปริดกะปรอย
  • ท้องเสีย ถ่ายเป็นเลือด
ไส้ติ่งอักเสบตอนตั้งครรภ์
ไส้ติ่งอักเสบตอนตั้งครรภ์

การวินิฉัย ไส้ติ่งอักเสบ ขณะตั้งครรภ์

อาการปวดท้องน้อยด้านขวาเป็นอาการที่พบบ่อยที่สุดของไส้ติ่งอักเสบทั้งสำหรับผู้ที่กำลังตั้งครรภ์และผู้ที่ไม่ได้ตั้งครรภ์ อย่างไรก็ตาม ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของการตั้งครรภ์ หากไส้ติ่งอักเสบ อาจทำให้คนท้องมีอาการปวดรุนแรงขึ้นในช่องท้องหรือบริเวณท้องด้านขวาบน  นอกจากการซักประวัติและตรวจร่างกายแบบละเอียดเพื่อแยกอาการปวดท้องภาวะตั้งครรภ์อื่น ๆ และตรวจปัสสาวะหาเม็ดเลือดแดงและเม็ดเลือดขาวเพื่อแยกการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ หรือดูตามอาการและผลการตรวจร่างกาย และคลำดูบริเวณท้องว่ามีการตอบสนองต่อภาวะอักเสบเฉพาะที่หรือไม่แล้ว แพทย์มักแนะนำให้ทำอัลตราซาวนด์ช่องท้องด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง (Ultrasound Upper Abdomen) หากสงสัยว่าไส้ติ่งอักเสบคือสาเหตุของอาการปวด

การรักษาด้วยการ ผ่าตัดในไตรมาสที่หนึ่งและสองมักไม่ส่งผลกระทบต่อทารกในครรภ์และได้ผลในการรักษาที่ดีเท่ากับในผู้ที่ไม่ได้ตั้งครรภ์ อย่างไรก็ตามไส้ติ่งอักเสบในหญิงตั้งครรภ์ที่ไม่ได้รับการวินิจฉัยอย่างทันท่วงที อาจส่งผลให้อาการรุนแรงถึงขั้นไส้ติ่งแตกและอาจทำให้มีโอกาสคลอดก่อนกำหนดหรือแท้งลูกได้

เมื่อผู้ป่วยตั้งครรภ์ถึงมือแพทย์ และมีอาการบ่งชี้ถึงไส้ติ่งอักเสบ แพทย์จะใช้อัลตราซาวนด์เพื่อวินิจฉัย อย่างไรก็ตาม เนื่องจากความยากลำบากในการดูไส้ติ่งในผู้ป่วยที่ตั้งครรภ์ การอัลตราซาวนด์ด้วยการ MRI จึงเป็นเครื่องมือที่ดีที่สุดในการวินิจฉัย  ด้วย วิธี MRI ไม่มีความเสี่ยงต่อการแผ่รังสีต่อทารกในครรภ์ เช่นเดียวกับ CT Scan และให้ความแม่นยำในการวินิจฉัยที่เทียบเท่ากัน

สิ่งสำคัญคือต้องตรวจสอบการวินิจฉัยที่ถูกต้องอย่างรวดเร็ว เนื่องจากการตัดไส้ติ่งที่ล่าช้าอาจนำไปสู่การแตกของไส้ติ่งและอัตราการเสียชีวิตของทารกในครรภ์ที่สูงขึ้น มาตรฐานการดูแลหลังการวินิจฉัยไส้ติ่งอักเสบเฉียบพลันในผู้ป่วยที่ตั้งครรภ์ คือ การให้คำปรึกษาการผ่าตัดไส้ติ่งฉุกเฉิน เนื่องจากประสิทธิภาพและความปลอดด้วยการให้ยาปฏิชีวนะควบคู่กับการผ่าตัดในผู้ป่วยที่ตั้งครรภ์ยังคงต้องมีการศึกษาถึงผลกระทบที่รุนแรงในยิ่งตั้งครรภ์ต่อไป

อ่านต่อ…ไส้ติ่งอักเสบตอนท้อง อันตรายที่ไม่ควรมองข้าม คลิกหน้า 2

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

แบบฝึกหัดภาษาอังกฤษ ป.1

แจกฟรี!! แบบฝึกหัดภาษาอังกฤษ ป.1 พัฒนาด้านภาษา

Alternative Textaccount_circle
event
แบบฝึกหัดภาษาอังกฤษ ป.1
แบบฝึกหัดภาษาอังกฤษ ป.1

แบบฝึกหัด แบบฝึกหัด ป.1 ใบงาน แบบฝึกหัดภาษาอังกฤษ ป.1 ใบงานภาษาอังกฤษ ป.1 ทบทวนบทเรียน ฝึกทำแบบฝึกหัดซ้ำๆ ฝึกฝนทักษะทางด้านภาษาอังกฤษ

แจกฟรี!! แบบฝึกหัดภาษาอังกฤษ ป.1 พัฒนาด้านภาษา

นอกจากภาษาไทยแล้ว ภาษาอังกฤษ เป็นภาษาที่ 2 ที่มีความจำเป็นในยุคปัจจุบัน การติดต่อค้าขายกับต่างชาติยังคงใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก คุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ ท่านจึงส่งเสริมการเรียนภาษาอังกฤษของลูก โดยการให้เริ่มเรียนตั้งแต่ยังเล็ก ซึ่งจะทำให้เด็กพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว ทีมกองบรรณาธิการ ABK จึงได้นำ แบบฝึกหัดภาษาอังกฤษ ป.1 มาฝากคุณพ่อคุณแม่ในวันนี้ค่ะ

แบบฝึกหัดภาษาอังกฤษ ป.1
                        แบบฝึกหัดภาษาอังกฤษ ป.1

แจกฟรี!! แบบฝึกหัดภาษาอังกฤษ ป.1 พัฒนาด้านภาษา

แบบทดสอบท้ายบทเรียน – วิชาภาษาอังกฤษ ป.1

Lesson 1 Alphabet                        เรื่องพยัญชนะ

Lesson 2 Number                         เรื่องตัวเลข

Lesson 3 Day of the week            เรื่องวัน

Lesson 4 Months of the Year      เรื่องเดือน

Lesson 5 Colors                              เรื่องสี

Lesson 6 Greeting                          เรื่องการทักทาย

Lesson 7 Family                              เรื่องครอบครัว

Lesson 8 Friends                             เรื่องเพื่อน

Lesson 9 Body                                  เรื่องร่างกาย

Lesson 10 animals                           เรื่องสัตว์

Lesson 11 Food and Drink             เรื่องอาหารและเครื่องดื่ม

Lesson 12 School                             เรื่องโรงเรียน

Lesson 13 Classroom                      เรื่องห้องเรียน

Lesson 14 Expression                     เรื่องลักษณะท่าทาง

 

แบบฝึกหัดท้ายบทเรียน – วิชาภาษาอังกฤษ ป.1

Lesson 1 Alphabet                                       เรื่องพยัญชนะ

Lesson 2 a/an                                               เรื่อง a/an

Lesson 3 Singular Noun/Plural noun      เรื่องคำนามเอกพจน์ คำนามพหูพจน์

Lesson 4 This/That                                      เรื่อง นี่ โน่น

Lesson 5 These/Those                                 เรื่อง เหล่านี้ เหล่าโน้น

Lesson 6 Greeting                                         เรื่องการทักทาย

Lesson 7 Number                                          เรื่องตัวเลข

Lesson 8 a e i o u                                           เรื่องสระ

Lesson 9 Pronoun                                         เรื่องคำสรรพนาม

Lesson 10 Food and Drink                          เรื่องอาหารและเครื่องดื่ม

Lesson 11 in/on/under                                 เรื่อง ใน บน ใต้

Lesson 12 Careers                                          เรื่องอาชีพ

Lesson 13 Place                                               เรื่องสถานที่

 

อ่านต่อ…แจกฟรี!! แบบฝึกหัดภาษาอังกฤษ ป.1 พัฒนาด้านภาษา คลิกหน้า 2

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

รีวิวกางเกงคนท้อง

รีวิวกางเกงคนท้อง สวยเก๋ เดินสะดวก สวมสบาย

Alternative Textaccount_circle
event
รีวิวกางเกงคนท้อง
รีวิวกางเกงคนท้อง

สำหรับคนท้องการเลือกเสื้อผ้าให้เข้ากับสรีระที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาสำคัญมาก ทุกครั้งต้องใส่แล้วสบาย เคลื่อนไหวสะดวก และยังเสริมความมั่นใจให้คุณแม่ได้ด้วย นอกจากชุดคลุมท้องที่คุ้นเคยแล้ว กางเกงคนท้องที่ออกแบบมาเพื่อสรีระคุณแม่ตั้งครรภ์โดยเฉพาะ จึงใส่แล้วเคลื่อนไหวสะดวก กระฉับกระเฉงกว่า โดยเฉพาะคุณแม่ที่ยังต้องออกไปทำงานหรือทำกิจกรรมประจำวันต่าง ๆ ทีมแม่จึงขอพาไป รีวิวกางเกงคนท้อง 7 แบรนด์ ที่คัดเลือกมาแล้วว่าใช้ดี แต่ละแบรนด์มีคุณสมบัติอะไรที่น่าสนใจบ้าง เลือกอ่านเพื่อเก็บไว้ตัดสินใจกันนะคะ  

รีวิวกางเกงคนท้อง สวยเก๋ เดินสะดวก สวมสบาย

รีวิวกางเกงคนท้อง

กางเกงคนท้อง คือกางเกงที่ออกแบบเป็นพิเศษเพื่อรองรับสรีระคุณแม่ตั้งครรภ์ ดังนั้นเส้นใยหรือเนื้อผ้าที่ใช้จึง้ป็นชนิดที่มีความยืดหยุ่นสูงทำให้สวมใส่ได้อย่างสบาย และบางแบรนด์ยังออกแบบกางเกงให้สามารถช่วยพยุงครรภ์ จึงช่วยลดปัญหาการปวดหลังได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังช่วยให้การเคลื่อนไหวสะดวกและมั่นใจกว่าใส่ชุดคลุมแบบเดเรส

 

เลือกกางเกงคนท้องแบบไหนดี 

  • ควรเลือกกางเกงที่ออกแบบมาเพื่อคนท้องโดยเฉพาะ เพื่อการขยายตัวตามสรีระเมื่ออายุครรภ์มากขึ้น
  • เมื่อหน้าท้องเริ่มขยายใหญ่ ควรเลือกแบบที่ช่วยพยุงครรภ์ได้ด้วย เพราะจะช่วยลดอาการปวดหลัง
  • ควรเลือกเนื้อผ้ายืดหยุ่น ไม่รัดแน่นจนเกินไป ใส่สบาย ระบายอากาศได้ดี ไม่ระคายผิว อย่างเช่น ผ้าฝ้าย และผ้าป่าน
  • เลือกแบบที่เหมาะกับกิจกรรม ใส่แล้วคล่องตัว ซึ่งกางเกงคนท้องมีให้เลือกทั้งแบบกางเกงคนท้องขาสั้น กางเกงคนท้องขายาว และกางเกงคนท้องแบบเลกกิ้ง 

 

  1. Uniqlo ยีนส์ Ultra Stretch

ถึงจะท้องก็เท่ได้นะ อย่างแบรนด์นี้ก็ขึ้นชื่อในเรื่องสไตล์ที่ดูดี ใช้เนื้อผ้าคุณภาพเยี่ยมอยู่แล้ว รุ่นนี้ตัวกางเกงเป็นผ้ายีนส์ยืดหยุ่นได้ดี ขอบกางเกงเป็นผ้าเจอร์ซีย์ ยืดหยุ่นรับขนาดครรภ์ได้พอดี และนุ่มนวล เนื้อผ้าดีไม่ระคายผิว และยังช่วยซัพพอร์ตครรภ์ ลดแรงกระแทกด้วย ใส่แล้วดูดี มั่นใจ เหมาะกับคุณแม่ที่ต้องออกไปทำกิจกรรมนอกบ้าน ใส่ไปเที่ยว หรือทำงานในวันสบายๆ

รีวิวกางเกงคนท้อง

ข้อมูลเพิ่มเติม https://www.uniqlo.com/

 

  1. Mother Care รุ่น Black Over-the-bump Maternity Leggings

หนึ่งในกางเกงที่คุณแม่นิยมสวมช่วงตั้งครรภ์ก็คือเลกกิ้ง เพราะใส่สบาย ยืดหยุ่นรับสรีระดี โดยเฉพาะรุ่นนี้เป็นเลกกิ้งแบบเต็มตัว ทำจากผ้าฝ้ายเนื้อนุ่มผสม Elastane จึงยืดหยุ่นดี มีขอบเอวยางยืดที่สามารถสวมใส่ได้พอดีกับทุกรูปร่าง จะใส่กับเดรส หรือกับเสื้อก็เข้ากัน ใส่สบายได้ทุกโอกาส มีสีโทนเข้มให้เลือกหลายสี ซักเครื่องก็ได้ แถมใน 1 แพ็คมีให้ถึง 2 ตัว

รีวิวกางเกงคนท้อง

ข้อมูลเพิ่มเติม https://www.mothercarethailand.com/

 

  1. H&M รุ่น MAMA กางเกงยีนส์ขาสั้น

แบรนด์ที่คุณแม่หลายคนคงมีประดับตู้กัน ถึงจะกำลังท้องแฟชั่นก็ยังต้องมา H&M เขามีไลน์เสื้อผ้าคุณแม่โดยเฉพาะ อย่างรุ่นนี้เป็นกางเกงคนท้องแบบขาสั้น เอาไว้ใส่ในวันสบายๆ ตัดเย็บด้วยผ้ายีนส์คอตตอนฟอกยืดได้ คอตตอน 99%, อีลาสเทน 1% เย็บแบบพับขึ้นที่ขากางเกง มีกระเป๋าาด้านหลัง ส่วนช่วงท้องเป็นผ้าร่องเจอร์ซีย์แบบกว้าง เพื่อให้พอดีกับหน้าท้องมากที่สุด รับรองคุณแม่ใส่สบายแน่นอน  

กางเกงคนท้อง กางเกงคนท้อง

ข้อมูลเพิ่มเติม https://th.hm.com/th_th/mama-denim-shorts-0810744003009.html

 

  1. Nitan รุ่น กางเกงพยุงครรภ์ BONNIE

สำหรับคุณแม่ที่กำลังหากางเกงเท่ๆทรงสวยๆใส่ รุ่นนี้เป็นกางเกงพยุงครรภ์ขายาวพริ้ว ออกแบบมาอย่างดีเพื่อโค้งรับช่วงท้องของคุณแม่ ให้คุณแม่สวมใส่ได้สบายตลอดทั้งวัน บริเวณช่วงเอวสามารถยืดได้ตามสัดส่วนของหน้าท้องที่ขยายใหญ่ขึ้น จึงใส่ได้นานตามสรีระ และไม่ระคายเคืองผิว ดีไซน์ขาบานสวยเก๋ สาวออฟฟิศจะใส่ไปทำงาน หรือออกงานก็ดูดี  

กางเกงคนท้อง

ข้อมูลเพิ่มเติม Nitan รุ่น กางเกงพยุงครรภ์ BONNIE

 

อ่านต่อ.. รีวิวกางเกงคนท้อง สวยเก๋ เดินสะดวก สวมสบาย ..ได้ที่หน้า 2

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

นิทานเด็ก

นิทานเด็ก นิทานก่อนนอน เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมอง

Alternative Textaccount_circle
event
นิทานเด็ก
นิทานเด็ก

นิทานเด็ก นิทานอีสป นิทานสอนใจ นิทานก่อนนอน ลูกน้อยฟังสนุก มีความสุข ได้รับความอบอุ่นจากคุณพ่อคุณแม่ พร้อมช่วยพัฒนาทางด้านสมอง และอารมณ์

นิทานเด็ก นิทานก่อนนอน เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมอง

การอ่าน นิทานก่อนนอน ให้ลูกฟังของคุณพ่อคุณแม่ มีประโยชน์กับลูกในหลาย ๆ ด้าน นิทานจะช่วยเสริมพัฒนาการด้านสมอง เสริมสร้างจินตนาการ การสร้างบุคลิกภาพของเด็ก และยังสอนเด็กผ่านนิทานในด้านต่างๆ เช่น เรียนรู้ในการแบ่งปัน การประนีประนอม ความอยากรู้ ความใฝ่รู้ ดังนั้นทีมกองบรรณาธิการ ABK จึงได้นำ นิทานอีสป ซึ่งมีคติสอนใจ มาฝากคุณพ่อคุณแม่ในวันนี้ค่ะ

นิทานเรื่องผูกกระดิ่งแมว

นิทานเรื่องผูกกระดิ่งแมว

นิทานเด็ก นิทานก่อนนอน เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมอง

นิทานอีสป เรื่องผูกกระดิ่งแมว

ณ บ้านหลังหนึ่งที่ดูเหมือนจะสงบสุข หัวหน้าของพวกหนูได้ลั่นระฆังเรียกพวกพ้องมาประชุมหารือ เกี่ยวกับการป้องกันตัวจากเจ้าแมวตัวแสบที่เจ้าของบ้านเลี้ยงไว้ ซึ่งถือเป็นศัตรูตัวร้ายที่ชอบระราน ไม่มีทีท่าว่าจะเลิกลา

วันนี้เราจะมาหารือกันเรื่องวิธีรับมือกับเจ้าแมวตัวแสบ ที่คอยกลั่นแกล้งพวกเรากัน หัวหน้าของพวกหนูกล่าว

ข้าว่าเราจะต้องมีมาตรการป้องกันที่เด็ดขาดกันแล้วล่ะท่าน ไม่อย่างนั้นพวกลูก ๆ ของข้าจะต้องอยู่อย่างหวาดกลัวแบบนี้ไปตลอดแน่ ๆพ่อหนูตัวหนึ่งกล่าว

หลังจากนั้นเหล่าผู้นำของพวกหนูก็ประชุมหารือกันอย่างจริงจัง พร้อมช่วยกันเสนอวิธีจัดการกับเจ้าแมว จนเวลาผ่านไปเกือบครึ่งวันก็ยังไม่ได้ข้อสรุป ทำให้หัวหน้าของพวกหนูต้องขอความคิดเห็นจากบรรดาสมาชิกหนูตัวอื่น ๆ

พวกเราประชุมกันมาครึ่งวันแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน ข้าจึงอยากถามความคิดเห็นของสมาชิกคนอื่น ๆ ว่าพวกเราควรจะจัดการกับเจ้าแมวตัวนี้อย่างไรดี หากใครมีความคิดดี ๆ ก็สามารถเสนอมาได้เลย หัวหน้าของพวกหนูกล่าว

เมื่อได้ยินดังนั้น บรรดาสมาชิกหนูทุกตัวก็ช่วยกันออกความคิดเห็นอย่างเต็มที่ แต่ก็ยังไม่ได้ข้อสรุปเสียที ทันใดนั้นเองก็มีเจ้าหนูตัวหนึ่งลุกขึ้นและพูดว่า

ข้าคิดว่าที่พวกเราโดนกลั่นแกล้งแบบนี้เป็นเพราะว่าเราเป็นแค่หนูตัวเล็ก ๆ ส่วนเจ้าแมวตัวใหญ่ก็ชอบหลบอยู่ตามมุมต่าง ๆ เพื่อเฝ้ารอพวกเราเดินออกมาหาอาหาร แล้วจากนั้นก็วิ่งไล่เหมือนพวกเราเป็นของเล่น โดยไม่มีสัญญาณเตือน เจ้าหนูตัวนั้นกล่าว

ก็จริงอย่างที่เจ้าพูด แล้วแบบนี้เราควรจะมีวิธีป้องกันเจ้าแมวตัวนี้อย่างไรล่ะ ? หัวหน้าของพวกหนูกล่าวถาม

ข้ามีความคิดว่าเราต้องมีเครื่องส่งสัญญาณ เพื่อที่จะได้รู้ว่าเจ้าแมวตัวนั้นอยู่ตรงบริเวณไหนของบ้าน โดยนำริบบิ้นคล้องกระดิ่งไปผูกไว้ที่คอของเจ้าแมวตัวแสบ เจ้าหนูกล่าว

เหล่าสมาชิกหนูทุกตัวที่อยู่ในที่ประชุมต่างลุกขึ้นปรบมือ และเห็นต้วยกับความคิดของเจ้าหนูตัวนั้น แต่ทุกอย่างกลับเงียบลงอีกครั้ง เมื่อได้ยินเสียงของหนูชราตัวหนึ่ง

ความคิดของเจ้านั้นเฉียบแหลม แต่ทว่าใครจะเป็นคนเอากระดิ่งไปผูกคอเจ้าแมวตัวนั้นกันล่ะ ? หนูชรากล่าวถาม

เมื่อหนูชราพูดจบ บรรดาหนูทุกตัวต่างเงียบและมองหน้ากัน เนื่องจาก ไม่มีใครกล้าที่จะเอากระดิ่งไปผูกคอแมวตัวนั้น รวมถึงเจ้าหนูที่ออกความคิดเห็นด้วย การประชุมจึงจบลงโดยไม่ได้ข้อสรุป และไม่ได้วิธีรับมือกับเจ้าแมวตัวแสบ พวกหนูจึงต้องใช้ชีวิตด้วยความหวาดระแวงเหมือนเช่นเคยต่อไป

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า :

การที่เจ้าหนูตัวหนึ่งออกความคิดให้นำกระดิ่งไปผูกไว้ที่คอของแมว แต่กลับไม่มีใครกล้าที่จะนำกระดิ่งไปผูก รวมถึงเจ้าหนูที่ออกความคิดเห็นนั้นด้วย เรียกว่า ดีแต่พูด แต่ทำไม่ได้ ซึ่งตรงกับสุภาษิตที่ว่า “ละเลงขนมเบื้องด้วยปาก” หมายถึง คนที่มักพูดจาเหมือนกับว่าอะไรต่าง ๆ สามารถทำได้ง่าย หรือดูง่ายไปเสียหมด แต่ในความจริงแล้วเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก แถมตัวเองก็ทำไม่ได้อีกด้วย ดังนั้นเรื่องใด ๆ ก็ตาม หากคิดว่าตัวเองก็ยังทำไม่ได้ ไม่ควรพูดจะดีกว่า เพราะผู้อื่นจะมองว่าเราเป็นคนชอบโอ้อวดนั่นเอง

 

นิทานอีสป เรื่องลมกับพระอาทิตย์

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว วันที่อากาศแจ่มใสท้องฟ้าปลอดโปร่ง พระอาทิตย์ออกมาส่องแสงเจิดจ้าอย่างที่เคยเป็น เจ้าลมเพื่อนเก่าได้ผ่านมาเห็นเลยหยุดแวะทักทาย เป็นอย่างไรบ้างพระอาทิตย์มิตรแห่งเรา ไม่เจอกันเสียนานสบายดีหรือไม่ เจ้าลมตะโกนทักทายสหายเก่าสุดเสียง พระอาทิตย์ก็ตอบรับอย่างดีใจด้วยไม่เจอลมตนนี้มาเนิ่นนานเหลือเกิน

ขณะนั้นเองก็มีชายหนุ่มนักเดินทางสวมเสื้อคลุมกำลังเดินเล่นเตร็ดเตร่อยู่ เจ้าลมเห็นอย่างนั้นก็นึกสนุก พูดท้าทายบางสิ่งออกมา พระอาทิตย์สหายรัก เรามาแข่งขันวัดความแข็งแกร่งกันสักหน่อยไหม ลมกล่าวชักชวน ได้สิ ๆ แข่งอะไรดีเล่า พระอาทิตย์ตอบกลับแบบไม่คิดอะไร ด้านเจ้าลมก็ชี้ลงไปยังหนุ่มนักเดินทางคนนั้นพร้อมกล่าว ง่ายมากเลย ทำยังไงก็ได้ให้เสื้อคลุมของพ่อหนุ่มคนนั้นหลุดออกมาจากตัว ใครทำสำเร็จถือเป็นผู้ชนะและแข็งแกร่งที่สุดพระอาทิตย์พยักหน้าตอบรับ ลมเห็นว่าสหายรักรับคำท้าจึงโผไปหาหนุ่มนักเดินทาง พลางตะโกนไล่หลัง ฉันขอเริ่มก่อนเลยนะ

เจ้าลมใช้กำลังทั้งหมดรวบรวมมาเป็นพายุขนาดย่อม หวังทำให้เสื้อคลุมตัวนั้นปลิดปลิว แต่หนุ่มนักเดินทางก็ไม่หวั่นไหวแถมยังจับเสื้อเอามาคลุมไว้แน่น ลมเห็นอย่างนั้นก็ยิ่งใช้แรงบีบบังคับมากขึ้นไปอีก จนหนุ่มคนนั้นแทบไม่มีแรงก้าวเดิน ทำไมลมในวันนี้ถึงได้มีความโหดร้ายกับฉันนักนะ หนุ่มนักเดินทางบ่นอย่างท้อใจแล้วดึงเสื้อคลุมตัวแน่นกว่าเดิม เจ้าลมจึงรวบรวมพลังอีกครั้งพร้อมกับเป่าไปยังหนุ่มคนนั้น ถึงขั้นเดินเซเกือบล้ม

พอเถิดหนาลมเอ๋ย เราขอลองแข่งบ้างเถิด พระอาทิตย์กล่าวกับลม ด้วยแรงที่ใกล้จะหมดไป ลมจึงยอมให้พระอาทิตย์มาแข่งต่อ คราวนี้อากาศแจ่มใสไร้พายุใด ๆ มาก่อกวน หนุ่มนักเดินทางเลยเดินต่อจนใกล้ถึงแนวป่า ด้านพระอาทิตย์เองก็เริ่มแผนการอย่างแยบยล เขาค่อย ๆ เปล่งแสงให้ร้อนทีละนิด ทีละนิด จนหนุ่มคนนั้นเริ่มรู้สึกอุ่นขึ้น อุ่นขึ้น จากความอบอุ่นกลายเป็นความร้อน พอเจอแนวต้นไม้เงียบสงบ หนุ่มนักเดินทางเลยเลือกที่จะเข้าไปนั่งพัก พร้อมถอดเสื้อคลุมตัวที่ลมท้าพระอาทิตย์วางไว้ข้างกายอย่างสบายใจ

ความอ่อนโยนของเธอเหนือกว่าพละกำลังที่ฉันมีจริง ๆ ลมชื่นชมในสิ่งที่พระอาทิตย์ทำลงไป ไว้มีโอกาสคราใด เราจะแวะมาหาใหม่นะพระอาทิตย์เพื่อนรัก ทั้งคู่จึงยิ้มร่ำลากันอย่างมีความสุข

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า :

การใช้กำลังและความรุนแรงแข่งขันกันไม่ทำให้เราได้ในสิ่งที่ต้องการเสมอไป บางครั้งอาจจะต้องสูญเสียสิ่งเหล่านั้นเพราะการกระทำอันก้าวร้าวของเราก็เป็นได้ แต่ถ้าเปลี่ยนความรุนแรงมาเป็นความอ่อนโยนและมีเมตตา ไม่ว่าจะทำอะไรย่อมได้ผลสำเร็จตอบแทนอย่างที่หวังแน่นอน

 

อ่านต่อ…นิทานเด็ก นิทานก่อนนอน เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมอง คลิกหน้า 2

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

รีวิวชุดคลุมท้อง

รีวิวชุดคลุมท้อง ดีไซน์สวย นุ่มสบาย ใส่ได้ทุกวัน

Alternative Textaccount_circle
event
รีวิวชุดคลุมท้อง
รีวิวชุดคลุมท้อง

สำหรับคุณแม่เวลาปกติเรื่องแต่งตัวนี่จัดว่าไม่ยอมออกจากบ้านถ้าไม่เป๊ะ อย่างนี้ช่วงตั้งครรภ์ ก็คงต้องยิ่งใส่ใจเป็นพิเศษใช่มั้ยล่ะคะ พอสรีระเริ่มเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะหน้าอกที่ขยาย ขนาดท้องที่โตขึ้น ก็ต้องถึงเวลาเปลี่ยนคอลเล็คชั่นในตู้เสื้อผ้า ให้เหมาะกับช่วงเวลาพิเศษนี้ ทีมแม่เลยยก รีวิวชุดคลุมท้อง มา 10 แบรนด์ ให้ว่าที่คุณแม่ได้ลองเลือกสไตล์ที่เหมาะกับตัวเอง และการต้อนรับสมาชิกใหม่ในครอบครัว กับชุดคลุมท้องที่ใส่สบาย คล่องตัว และยังได้สวยฉ่ำ คุณแม่จะได้แฮปปี้ ลูกน้อยก็จะได้มีความสุขไปด้วยค่ะ 

รีวิวชุดคลุมท้อง ดีไซน์สวย นุ่มสบาย ใส่ได้ทุกวัน

รีวิวชุดคลุมท้อง

ชุดคลุมท้อง คือชุดสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ที่ออกแบบมาเพื่อให้รับกับสรีระที่เปลี่ยนแปลงของคุณแม่ และเพื่อให้คุณแม่สบายตัว ไม่อึดอัด เวลาทำกิจกรรมประจำวันต่างๆ รวมทั้งช่วยหลีกเลี่ยงการใส่ชุดที่บีบรัดหน้าท้องเกิน ซึ่งอาจส่งผลกระทบกับลูกน้อยในครรภ์ได้

 

ควรเลือกชุดคลุมท้องแบบไหน

  • เลือกแบบชุดคลุมท้องที่เหมาะกับช่วงอายุครรภ์ โดยช่วง 1-3 เดือนแรกอาจจะยังแต่งตัวปกติได้ เพียงแค่เน้นความสบาย เดือนที่ 4-6 รูปร่างเริ่มขยาย ควรเลือกกางเกงเลกกิ้งหรือแบบมียางยืด เดือนที่ 7-9 ท้องจะขยายอย่างชัดเจน ควรเลือกใส่เป็นเดรสแบบปล่อย ไม่รัดช่วงตัว 
  • เลือกชุดที่ปรับขนาดได้ตามอายุครรภ์ และยังใส่ได้ไปจนถึงหลังคลอด เพราะสัดส่วนคุณแม่ยังไม่เข้าที่ดี รวมทั้งปรับใช้งานได้ เช่น ชุดที่สามารถเปิดให้นมลูกได้สะดวก 
  • เนื้อผ้าควรเบาสบาย ใส่แล้วไม่รัดช่วงตัวมาก ระบายอากาศดี หรือเข้ากับสภาพอากาศ รวมทั้งไม่ระคายเคืองผิวคุณแม่ 
  • เลือกชุดที่ใส่แล้วรู้สึกดี รู้สึกสวย ใส่สบาย เข้ากับสไตล์ตัวเอง จะได้เก็บไว้ใส่ต่อได้แม้จะผ่านช่วงตั้งครรภ์ไปแล้ว

 

  1. H&M

แบรนด์แฟชั่นชั้นนำที่มีคอลเล็คชั่น MAMA หรือชุดคุณแม่ให้เลือกหลากหลายแบบ อย่างเดรสที่มีสายผูกตัวนี้ ออกแบบมาให้ใส่ได้สบายในทุกช่วงอายุครรภ์ สามารถปรับโบว์ใต้อกได้ตามขนาดร่างกาย ตัดเย็บด้วยผ้าไลโอเซลล์ สีเดนิมฟ้าอ่อน ดูนุ่มนวล สวยหวาน ดีไซน์เป็นคอวี เอวยางยืด แขนสั้นมีดีเทลน่ารักๆ เหมาะใส่ไปเที่ยว หรือใส่ออกงานสบาย ๆ     

รีวิวชุดคลุมท้อง

ข้อมูลเพิ่มเติม https://th.hm.com/th_th/mama-tie-belt-dress-1084143001009.html

 

  1. Muko 

แบรนด์ชุดคลุมท้องคุณแม่โดยเฉพาะ มีให้เลือกหลากหลายดีไซน์ให้เข้ากับความชอบและสถานการณ์ คุณแม่นอกจากจะได้ลุคสวยหวานแล้ว ชุดยังมีฟังก์ชั่นเสริมที่มากกว่าชุดคลุมท้องด้วย อย่างตัวนี้เป็นรุ่น MACY หรือเดรส 2 in 1 ที่ใส่คลุมท้องก็ได้ เมื่อถึงช่วงให้นมลูกน้อยก็ยังสามารถเปิดให้นมหรือปั๊มนมได้สบายๆด้วย ดีไซน์เป็นชุดป้าย มีระบายน่ารัก สีกรมท่า มาพร้อมเชือกไว้ปรับความกระชับตามรูปร่าง ตัดเย็บด้วยผ้าไหมอิตาลีพรีเมี่ยม เนื้อนุ่ม ใส่สบาย   

รีวิวชุดคลุมท้อง

ข้อมูลเพิ่มเติม Muko MACY เดรส 2 in 1 

 

  1. Minirin

ตัวเลือกชุดคลุมท้องแสนเก๋ที่คุณแม่ติดใจเพราะไม่ต้องรีดค่ะ แบรนด์นี้เค้าเคลมว่ายืนหนึ่งเรื่องผ้าพลีท ซึ่งผ้าชนิดนี้คุณแม่คงรู้ว่ามีความนิ่ม ลื่น เบา สบาย ทิ้งตัวตามสรีระ โดยเฉพาะ M10 Pleat dress รุ่นนี้เป็นพลีทเดรส ตัดเย็บจากผ้านิ่มอัดพลีทอย่างดี ใส่ซับในทั้งชุด ช่วงอกที่ป้ายกันสามารถแหวกให้นมหรือปั๊มนมได้อย่างง่ายดาย สไตล์ชุดก็ดูเรียบหรู จะใส่ชิวๆไปเที่ยวหรือออกงานก็ได้หมด 

ชุดคลุมท้อง

ข้อมูลเพิ่มเติม https://minirinbrand.com/product/m10-pleat-dress/

 

  1. Cara

รุ่นนี้มาจากเซ็ท Radiant เป็นชุดคลุมที่ดีไซน์ได้น่ารักมาก เป็นเดรสคอกลมแขนบอลลูนถึงศอก ลายผ้าเป็นดอกไม้เล็กๆ มีให้เลือกทั้งสีขาวและสีชมพูอ่อน ตัดเย็บด้วยผ้า 100% Cotton เนื้อบางและเย็นสบาย ไม่ระคายผิวเมื่อสวมใส่ พิเศษคือสามารถเปิดให้นมลูกหรือปั๊มนมได้สะดวก คุณแม่จะใส่ลำลองออกไปเดินเล่นนอกบ้าน หรือใส่เป็นชุดนอนก็ได้หมด  

ชุดคลุมท้อง

ข้อมูลเพิ่มเติม https://www.cherilondansmate.com/th/product/802929/product-802929?category_id=124909

 

อ่านต่อ.. รีวิวชุดคลุมท้อง ดีไซน์สวย นุ่มสบาย ใส่ได้ทุกวัน ..ได้ที่หน้า 2

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

รีวิวรองเท้าคนท้อง

รีวิวรองเท้าคนท้อง ยึดเกาะพื้นดี เดินสบายหายห่วง

Alternative Textaccount_circle
event
รีวิวรองเท้าคนท้อง
รีวิวรองเท้าคนท้อง

สำหรับผู้หญิงเรา รองเท้าก็เป็นอีกไอเทมที่ชอบซื้อชอบสะสมกันอยู่แล้วใช่ไหมคะ แต่พอเริ่มเป็นคุณแม่ตั้งครรภ์รองเท้าแฟชั่นอาจไม่เหมาะกับสรีระที่เปลี่ยนไปของคุณแม่ การเลือกรองเท้าที่เหมาะและช่วยซับพอร์ตการเดินจะช่วยให้คุณแม่ตั้งครรภ์สบายตัวสบายเท้าขึ้นเยอะมาก เพราะสรีระตอนนี้ต้องรองรับน้ำหนักลูกในท้อง การเดินเหินจึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ รวมทั้งรองเท้าที่ดีจะช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยได้ดีด้วย มาค่ะ ทีมแม่จะพาไปดู รีวิวรองเท้าคนท้อง เพื่อสุขภาพกัน ใส่แล้วนุ่มสบาย แถมบางรุ่นใส่แล้วยังดูดีมีสไตล์ด้วย  

รีวิวรองเท้าคนท้อง ยึดเกาะพื้นดี เดินสบายหายห่วง

รีวิวรองเท้าคนท้อง

รองเท้าสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ คือรองเท้าที่เหมาะสำหรับสรีระของคนที่กำลังตั้งครรภ์ ช่วยให้รู้สึกสบายเท้าเวลาเดิน และกระจายแรงให้การลงน้ำหนักแต่ละก้าวไม่ก่อให้เกิดความปวดเมื่อยหรือการบาดเจ็บของร่างกาย รวมทั้งโอบอุ้มสรีระเท้าได้ดี เพื่อการเดินที่สะดวก ไม่เกิดการสะดุด หรือข้อเท้าพลิก ซึ่งอาจเป็นนอันตรายต่อคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์ได้   

 

ควรเลือกรองเท้าสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์แบบไหน

  • พื้นรองเท้าไม่ควรหนาเกิน 1 นิ้ว เพราะพื้นรองเท้าที่หนาเกินไปจะรองรับสรีระเท้าได้ไม่ดี และอาจมีโอกาสให้ข้อเท้าพลิกได้ง่าย
  • ส้นรองเท้าควรมีความยืดหยุ่นและสามารถกระจายแรงกดได้ดี ซึ่งจะช่วยลดปัญหาอาการปวดขา ปวดหลัง และปวดเข่าได้
  • ควรสวมใส่และถอดง่าย แต่ไม่หลุดง่าย มีสายคล้องส้นจะยิ่งดี เพราะเมื่ออายุครรภ์มากขึ้น การใส่และถอดรองเท้าจะเป็นเรื่องที่ยากขึ้น
  • ระบายอากาศได้ดี ยืดหยุ่นรับการขยายตัวของเท้าได้ ช่วยให้ใส่สบาย ไม่อับชื้น
  • หากเป็นแบบหุ้มปลายเท้า ควรมีหัวรองเท้าใหญ่ ไม่บีบรัด เพื่อรองรับการขยายหรืออาการบวมของเท้า ซึ่งเกิดกับผู้หญิงตั้งครรภ์ส่วนใหญ่

 

  1. CROCS รุ่น LiteRide Stretch 

จากแบรนด์ยอดนิยมที่ขึ้นชื่อเรื่องสวมใส่สบาย รุ่นนี้ดีไซน์ดูดีน่าใช้มาก เรียบง่ายสไตล์มินิมอล มีสีสันพาสเทลให้เลือก สายคาดหรืออัปเปอร์มีความยืดหยุ่น ขยายตามเท้า ไม่ต้องปรับสายให้วุ่นวาย ผลิตจากวัสดุที่เน้นน้ำหนักเบาและนุ่ม ผลิตด้วยวัสดุโฟม LiteRide ที่พื้นรองเท้าส่วนบน ทำให้มีน้ำหนักเบาและนุ่มเป็นพิเศษ ส่วนที่พื้นรองเท้าเป็นโฟม Croslite ด้านนอกซัพพอร์ตความสบายเท้า นอกจากนี้พื้นรองเท้ายังมีปุ่มนวดเล็กๆ และยังออกแบบให้โค้งโอบอุ้มเท้า จึงรองรับทุกก้าวอย่างเต็มประสิทธิภาพ เหมาะกับ Everyday Look ใส่ไปทำงานก็ได้ ใส่ลำลองก็สบาย

รีวิวรองเท้าคนท้อง

ข้อมูลเพิ่มเติม CROCS LiteRide Stretch 

 

  1. Dortmüend รุ่น JF120 

แบรนด์คุณภาพจากเยอรมนี ตัวนี้เป็นโมเดลหนึ่งในซีรี่ส์ Smart Mom Series รองเท้าสำหรับคุณแม่ที่ทางแบรนด์ผลิตขึ้นโดยเฉพาะ โดดเด่นด้วยดีไซน์เก๋ เป็นรองเท้ารัดส้นที่ใส่ได้ทุกวัน แต่สำคัญกว่านั้นคือวัสดุที่ใช้เป็นวัสดุพรีเมี่ยม ไม่ว่าสายรัดทำจากหนัง พื้นรองเท้าเป็นไมโครไฟเบอร์ รองรับสรีระคนท้องได้ดี ช่วยไม่ให้เกิดอาการปวดเมื่อยล้า ส่วนพื้นรองเท้าก็ไม่หนาเกินไป ด้านนอกหุ้มด้วยยางอย่างดี มีน้ำหนักเบาและยังเกาะพื้นผิวได้ดี เหมาะมากสำหรับคุณแม่ที่อยากได้รองเท้าเพื่อสุขภาพที่ใช้ได้นานๆซักคู่ 

รีวิวรองเท้าคนท้อง

ข้อมูลเพิ่มเติม https://www.dortmuend.com/p/6171/JF120-haze.html

 

  1. Scholl รุ่น Mela

ได้ยินชื่อก็รู้เลยว่าเป็นรองเท้าเพื่อสุขภาพ ซึ่งรุ่นนี้จะออกแบบให้มีความเรียบเก๋แบบใส่ได้ทุกสถานการณ์ มาพร้อมเทคโนโลยีไบโอปรินท์ (Bioprint) ซึ่งนวัตกรรมที่ออกแบบให้รองรับรูปเท้าได้ทุกส่วน ทั้งนิ้วเท้า อุ้งเท้า และส้นเท้า จึงให้ความรู้สึกกระชับ นุ่ม ใส่สบาย สายคาดและรัดส้นทำจากหนังสังเคราะห์คุณภาพดี ปรับความกระชับได้ง่าย ส่วนพื้นรองเท้าด้านบนทำจากไฟลอน (Phylon) ขึ้นรูป ให้ความนุ่มและแน่น กระจายแรงกด น้ำหนักเบา ส่วนพื้นล่างเป็นพื้นยางชนิดพิเศษ มีความทนทานสูง และทำความสะอาดง่าย 

รีวิวรองเท้าคนท้อง

ข้อมูลเพิ่มเติม https://schollshoesthailand.com/products/mela-ivory?variant=42523128103065

 

  1. Skechers รุ่น Breathe-Easy Active Shoes

สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ที่ชอบใส่สไคล์คัตชูส์ แนะนำรุ่นนี้ของ Skechers จัดเป็นอีกรุ่นที่ใส่สบายด้วยดีไซน์ Stretch Fit วัสดุหุ้มเท้าเป็นเส้นใยยืดหยุ่นสานต่อกันให้ความรู้สึกนุ่มสบาย เข้ารูปเท้า เบาเหมือนใส่ถุงเท้า และยังช่วยระบายอากาศได้ดี พื้นรองเท้าเป็นคูชั่นผลิตจาก Air-Cooled Memory Foam จึงรองรับและกระจายแรงกดของเท้าได้ดี หัวรองเท้ามีพื้นที่ให้นิ้วเท้าวางสบาย ไม่บีบรัด ส่วนพื้นรองเท้าด้านนอกก็ทำจากวัสดุยืดหยุ่นดี โอบอุ้มเท้าได้มั่นคง จะสวมใส่ไปไหนก็ดูดี เข้ากับทุกลุค

 

ข้อมูลเพิ่มเติม Skechers Breathe-Easy Active Shoes

 

อ่านต่อ.. รีวิวรองเท้าคนท้อง ยึดเกาะพื้นดี เดินสบายหายห่วง ..ได้ที่หน้า 2

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

ที่ตรวจครรภ์ ยี่ห้อไหนดี

ที่ตรวจครรภ์ ยี่ห้อไหนดี? ตรวจแม่นยำ เชื่อถือได้ ไม่ต้องลุ้น

Alternative Textaccount_circle
event
ที่ตรวจครรภ์ ยี่ห้อไหนดี
ที่ตรวจครรภ์ ยี่ห้อไหนดี

สำหรับคนที่กำลังวางแผนจะมีลูก หรืออยากตรวจเช็คเบื้องต้นเพื่อความมั่นใจก่อนไปพบแพทย์ อุปกรณ์ตรวจการตั้งครรภ์จึงเป็นไอเทมที่ต้องซื้อไว้เลยนะคะ เพราะเมื่อถึงเวลาที่ต้องการทราบผลก็จะได้มีไว้ใช้ได้ทันที ซึ่งลักษณะการใช้งานแต่ละแบรนด์ก็แตกต่างกันไปให้เลือกได้ตามถนัด ทีมแม่รู้ว่าคนที่อยากมีลูก ลุ้นผลอยู่ทุกเดือนคงอยากได้อุปกรณ์ตรวจตั้งครรภ์ที่มีคุณภาพ ความแม่นยำสูง ใช้งานง่าย ไม่ต้องรอผลนาน เราจึงรวบรวมมาให้ 10 แบรนด์แนะนำ พร้อมข้อมูลผลิตภัณฑ์ไปประกอบการตัดสินใจค่ะ 

ที่ตรวจครรภ์ ยี่ห้อไหนดี? ตรวจแม่นยำ เชื่อถือได้ ไม่ต้องลุ้น

ที่ตรวจครรภ์ ยี่ห้อไหนดี

อุปกรณ์ตรวจการตั้งครรภ์ คืออุปกรณ์ทดสอบภาวะตั้งครรภ์ที่ใช้ตรวจหาผลได้ด้วยตัวเอง หลักการคือการตรวจหาฮอร์โมน hCG (Human Chorionic Gonadotropin) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ร่างกายจะเริ่มสร้างขึ้นจากรกหลังเกิดการปฏิสนธิได้ 6 วัน และจะสูงมากในช่วง 8-12 สัปดาห์แรกของการตั้งครรภ์ โดยลักษณะอุปกรณ์จะมีทั้งแบบหยด แบบจุ่ม และแบบปากกา (ดิจิตัล) และการแสดงผลก็มีทั้งขึ้นขีด และข้อความดิจิตัล 

 

เลือกอุปกรณ์ตรวจการตั้งครรภ์แบบไหนดี

  • ควรเลือกชุดตรวจที่ดูการแสดงผลได้ง่าย อย่างเช่นแบบดิจิตัล เพราะจะขึ้นเครื่องหมายบนหน้าปัดเป็น + หรือ – ไม่ก็ข้อความ ซึ่งชัดเจนกว่าแบบขีด แต่ข้อเสียคือมีราคาสูงกว่าแบบแสดงผลเป็นขีด
  • เลือกใช้ชุดตรวจตั้งครรภ์แบบหยด จุ่ม หรือปากกาตามถนัด ซึ่งแบบจุ่มจะต้องคอยดูระดับปัสสาวะไม่ให้เกินขีดที่กำหนด ขณะที่แบบหยดจะใช้เพียงหลอดดูดหยดปัสสาวะลงในตลับตรวจ ส่วนแบบปากกานั้นเพียงปัสสาวะผ่านแผ่นตรวจก็ใช้ได้เลย จึงสะดวกกว่าแบบอื่น
  • หากต้องตรวจการตั้งครรภ์บ่อยๆ แนะนำให้ซื้อแบบหลายชิ้นในแพ็คเดียวจะคุ้มกว่า
  • ตรวจสอบการเก็บรักษา รอยฉีกขาด หรือวันหมดอายุ ให้ดีก่อนซื้อ และเมื่อแกะจากห่อแล้วควรใช้งานเลย

 

  1. Nano Preg Test 

ชุดตรวจตั้งครรภ์จาก NanoMed คุณสมบัติเด่นคือ มีความไวสูงในการตรวจหาระดับฮอร์โมน hCG แม้ร่างกายจะสร้างเพียง 20 mIU/ml. จึงสามารถใช้ทดสอบการตั้งครรภ์ได้ 3 วันก่อนวันครบรอบประจำเดือนปกติ และยังแสดงผลเร็ว สามารถอ่านผลทดสอบว่ามีการตั้งครรภ์ ได้ในเวลา 40 วินาที หรือเพื่อความแน่ใจ หากครบ 40 วินาทีแล้วแสดงผลว่าไม่ตั้งครรภ์ ควรรออ่านผลในระยะ 5 นาที เพื่อให้แน่ใจว่าชุดทดสอบแสดงผลว่าไม่ตั้งครรภ์ สามารถเลือกชุดอุปกรณ์แบบที่ถนัดได้ เพราะผลิตมาทั้งแบบจุ่ม หยด และแแบปัสสาวะผ่านให้เลือก  

ที่ตรวจครรภ์ ยี่ห้อไหนดี

ข้อมูลเพิ่มเติม Nano Preg Test 

 

  1. Clearblue Pregnancy Digital Test 

เป็นเครื่องตรวจตั้งครรภ์แบบดิจิตัลที่รู้ผลไวและมีความแม่นยำสูงอีกแบรนด์นึงเลย โดยมีความแม่นยำในการตรวจสอบมากกว่า 99% และที่โดดเด่นคือสามารถบอกอายุครรภ์เบื้องต้นได้ด้วยตั้งแต่ 1 ถึง 3 สัปดาห์ขึ้นไป แถมผลตรวจยังจะคงอยู่บนหน้าจอได้นานถึง 6 เดือนด้วย ทำให้สะดวกในการนำไปอ้างอิงกับแพทย์ ขั้นตอนการใช้ก็ง่าย เพียงปัสสาวะผ่าน 5 วินาที หรือจุ่มในถ้วยรองปัสสาวะ 20 วินาที ภายใน 3 นาที หน้าจอดิจิตอลก็จะแสดงผลออกมา เช่น Not Pregnant : ไม่ตั้งครรภ์, Pregnant 1-2 : ตั้งครรภ์มาแล้วเป็นระยะเวลา 1-2 อาทิตย์ เป็นต้น 

ที่ตรวจครรภ์ ยี่ห้อไหนดี

ข้อมูลเพิ่มเติม https://www.clearblue.com/pregnancy-tests/digital

 

  1. Recare hCG Pregnancy Test

ชุดตรวจแบบตลับหรือแบบหยดที่ใช้ง่ายและมีความแม่นยำสูง รู้ผลเร็วเพียง 1 สัปดาห์หลังตั้งครรภ์ ตัวอุปกรณ์สามารถแสดงผลตั้งแต่ 30 วินาทีแรก ถึง 2 นาที ด้วยปัสสาวะเพียง 4 หยด หรือค่า hCG ในปริมาณเพียง 25 mlU/ml โดยในชุดมีอุปกรณ์ทั้งตลับทดสอบ ถ้วยรองปัสสาวะ หลอดหยด และคู่มือแนะนำการใช้ นอกจากนี้ชุดอุปกรณ์ยังเก็บได้นานถึง 3 ปี และยังคงแม่นยำถึง 99% หลังวันหมดอายุด้วย   

ที่ตรวจครรภ์ ยี่ห้อไหนดี

ข้อมูลเพิ่มเติม http://www.recaretest.com/en/product/product-78-102.html

 

  1. Exact Pregnancy Test 

อีกรูปแบบของอุปกรณ์ตรวจตั้งครรภ์แบบปากกา หรือแบบปัสสาวะผ่าน เหมาะกับคนที่ไม่ต้องการขั้นตอนยุ่งยาก ซึ่งแบรนด์ Exact นี้ก็เป็นแบรนด์ที่หลายคนนิยม เพราะมีความไวต่อฮอร์โมน hCG สูง คือสามารถใช้ทดสอบได้เลยตั้งแต่ 1 วันหลังจากที่รอบประจำเดือนขาดหาย โดยอุปกรณ์จะบรรจุสารที่มีความจำเพาะต่อฮอร์โมน hCG เท่านั้น ทำให้มั่นใจในผลที่ได้ 100% ส่วนขนาดแท่งปากกาก็ใหญ่กระชับมือ จับสะดวก และยังแสดงผลเร็วในเวลาเพียง 3 นาที

ตรวจครรภ์

ข้อมูลเพิ่มเติม Exact Pregnancy Test

อ่านต่อ.. ที่ตรวจครรภ์ ยี่ห้อไหนดี? ตรวจแม่นยำ เชื่อถือได้ ไม่ต้องลุ้น ..ได้ที่หน้า 2

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

ฝันว่าจับปลา

ฝันว่าจับปลา หมายความว่าอย่างไร เลขเด็ดนำโชค

Alternative Textaccount_circle
event
ฝันว่าจับปลา
ฝันว่าจับปลา

ฝันว่าจับปลา ฝันว่าจับปลาตัวใหญ่ ฝันว่าตกปลา ฝันว่าจับปลาได้หลายตัว ฝันว่าจับปลาดุก ฝันว่าจับปลาช่อน หมายความว่าอย่างไร พร้อมเลขเด็ด

ฝันว่าจับปลา หมายความว่าอย่างไร เลขเด็ดนำโชค

คนไทยมีความเชื่อเรื่อง ความฝัน มาแต่โบราณ มักเชื่อว่าเป็นการบ่งบอกถึงเหตุการณ์บางอย่างที่จะเกิดขึ้น แล้วหาก ฝันว่าจับปลา ทำนายฝัน ว่าอย่างไร เชื่อกันว่า ปลา หมายถึงความอุดมสมบูรณ์ ฝันนี้เป็นลางบอกเหตุดีๆ ใช่หรือไม่ ทีมกองบรรณาธิการ ABK นำ คำทำนาย มาฝากแล้วค่ะ

ฝันว่าจับปลา
ฝันว่าจับปลา

ฝันว่าจับปลา หมายความว่าอย่างไร เลขเด็ดนำโชค

ฝันว่าจับปลา

ทำนายว่า หากใครฝันในลักษณะนี้ ถือได้ว่าเป็นฝันที่ดี เพราะอาจจะได้รับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ไปในทางที่ดีขึ้น เป็นไปได้ทั้งด้านเงินทอง ที่อาจจะมาจากการค้าขายกำไรดีหรือลาภลอย ตลอดจนการได้เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง ทำให้ชีวิตมีความสุข และมีความอุดมสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น

เลขเด็ด : ควรมีเลข 7 และ 8

เลขเด็ด 2 ตัว : 87 25 63

เลขเด็ด 3 ตัว : 335 817 852

 

ฝันว่าจับปลาไหล

ทำนายว่า หากใครฝันแบบนี้ จะได้ลาภหรือได้ข้าวของ ทั้งหน้าที่การงานจะดีขึ้น แต่ต้องใช้ความพยายามพอสมควรจึงจะได้มา ให้ระมัดระวังเรื่องความรักใคร่สามัคคีกับคนใกล้ตัว ระวังจะแตกคอกันจากเรื่องไม่เป็นเรื่อง จนกลายเป็นแผลใจกันได้ หากชีวิตดีอยู่แล้ว อย่าเสี่ยงกับเรื่องที่ไม่มั่นใจ เพราะอาจนำความวุ่นวายมาให้ครอบครัว

เลขเด็ด : ควรมีเลข 0 และ 8

เลขเด็ด 2 ตัว : 00 38 62

เลขเด็ด 3 ตัว : 512 368 914

 

ฝันเห็นปลาไหลหลายตัว

ข้าวหน้าปลาไหลจัดเป็นอาหารญี่ปุ่นยอดนิยม หลายครั้งที่ความประทับใจในรสชาติถูกเก็บไปเป็นนิมิตฝันว่าเห็นปลาไหลหลายตัว เยอะมากจับไม่ถูกลื่นมือไปหมด ทำนายทายทักว่าความตั้งใจทั้งหมดอาจยังไม่สำเร็จผล แต่จะได้รับโชคลาภบางอย่างที่ส่งเสริมให้ประสบความสำเร็จในวันข้างหน้า

เลขเด็ด : ควรมีเลข 4 5 และ 8

เลขเด็ด 2 ตัว : 15 16 61 85 88

เลขเด็ด 3 ตัว : 815 418 115

 

ฝันว่าจับปลา 2 มือ

ทำนายว่า ถ้าใครฝันว่าจับปลา 2 มือ หากฝันแบบนี้ไม่ต้องตกใจไป เพราะคุณอาจจะได้เจอมิตรภาพใหม่ หรือคนที่ห่างหายกันไปนานจะวนกลับมา ทั้งยังอาจจะได้รับโชคดีจากคน ๆ นั้น ซึ่งเป็นไปได้ทั้งหน้าที่การงาน การเสี่ยงโชค และเงินทอง มีโอกาสที่จะสุขสมหวังกับเรื่องที่ปรารถนา แต่เรื่องของความรักอาจต้องระวังปัญหานอกใจกันให้ดี

เลขเด็ด : ควรมีเลข 2 และ 9

เลขเด็ด 2 ตัว : 29 72 54

เลขเด็ด 3 ตัว : 913 650 275

 

ฝันว่าจับปลาได้หลายตัว

ทำนายว่า หากใครฝันแบบนี้ ในช่วงนี้มีเกณฑ์ได้รับลาภก้อนใหญ่จากการเสี่ยงโชค  จะประสบความสำเร็จในสิ่งที่หวัง การงานแม้จะเหนื่อยและมีอุปสรรคเข้ามาบ้าง แต่สุดท้ายผลลัพธ์จะออกมาน่าพึงพอใจ

เลขเด็ด 2 ตัว : 78 88

เลขเด็ด 3 ตัว : 287 808 878

 

ฝันว่าจับปลาช่อน

ทำนายว่า หากใครฝันว่าจับปลาช่อน จะได้โชคลาภในเร็ววัน หรือได้เงินทองเข้ามา ธุรกิจการงานต่าง ๆ ก็จะมีความเจริญก้าวหน้ามากขึ้น มีคนอุปถัมภ์ หรือให้ความช่วยเหลือ

เลขเด็ด : เลข 8 เด่น เลข 7 รอง

เลขเด็ด 2 ตัว : 88 78

เลขเด็ด 3 ตัว : 287 878 808

 

ฝันว่าจับปลาตะเพียน

ทำนายว่า หากใครฝันว่าจับปลาตะเพียน จะได้รับของกำนัลที่มีค่า เช่น เงินทอง ข้าวของเครื่องใช้ หรือได้ลาภเป็นของมีชีวิต เช่น สัตว์เลี้ยง หากเป็นผู้ที่แต่งงานแล้วก็จะได้บุตรสมปรารถนา

เลขเด็ด : เลข 8 เด่น เลข 4 รอง

เลขเด็ด 2 ตัว : 47 48

เลขเด็ด 3 ตัว : 748 708 418

 

ฝันเห็นปลาช่อนตัวใหญ่

นอกจากปลาช่อนจะมีความเชื่อคู่คนไทยมาอย่างยาวนาน ยังมีพิธีแห่ปลาช่อนขอฝนอีกด้วย ดังนัั้นปลาช่อนจึงเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ ผู้ที่ฝันเห็นปลาช่อนตัวใหญ่ ดวงความรักมีเกณฑ์ได้สานสัมพันธ์กับคนที่ถูกตาต้องใจ แนะนำให้รีบรุกแสดงความชัดเจนของความสัมพันธ์

เลขเด็ดฝันเห็นปลาช่อนตัวใหญ่ : ควรมีเลข 4 8 และ 9

เลขเด็ด 2 ตัว : 48 84 86 64

เลขเด็ด 3 ตัว : 948 884 478 849

 

อ่านต่อ…ฝันว่าจับปลา หมายความว่าอย่างไร เลขเด็ดนำโชค คลิกหน้า 2

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

keyboard_arrow_up