ไข้เลือดออกระบาด

ระวัง! ไข้เลือดออกระบาด รุนแรง เด็ก 15 ปี เสียชีวิตแล้ว

ระวัง! ไข้เลือดออกระบาด รุนแรง เด็ก 15 ปี เสียชีวิตแล้ว

ช่วงนี้เข้าสู่หน้าฝนแล้ว ฝนตกหนักในหลายพื้นที่ เมื่อฝนตกก็เกิดน้ำขังตามแหล่งต่าง ๆ ส่งผลให้ในตอนนี้ ไข้เลือดออกระบาด ในหลายพื้นที่ของประเทศ ซึ่งล่าสุดระบาดรุนแรงจนทำให้เด็กวัย 15 เสียชีวิต!!! เราจะสังเกตจากอะไรว่าลูกติดไข้เลือดออก มาดูกันค่ะ

สถานการณ์ ไข้เลือดออกระบาด 2565

นพ.สุรเดชช ชวะเดช นายแพทย์เชี่ยวชาญด้านป้องกันเวชกรรม รองนายแพทย์สาธารณสุข จ.ศรีสะเกษ เปิดเผยว่า จ.ศรีสะเกษ ช่วงนี้เข้าสู่ฤดูฝน ทำให้มีการแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออก การติดตามข้อมูลในเดือนพ.ค. พบมีผู้ป่วย 66 คน ก็เป็นจำนวนที่ใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยคือค่ามาตรฐาน 5 ปี พอมาเดือน มิ.ย. ฝนตกเพิ่มมากขึ้นพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเป็น 237 คน ซึ่งเกินกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลังอยู่ที่ 147 คน และล่าสุดพบผู้เสียชีวิตแล้ว 1 คน เป็นเด็กอายุ 15 ปี รวมแล้วตั้งแต่เดือน ม.ค. 65 มีผู้ป่วยสะสมแล้ว 434 คน เสียชีวิต 1 คน

โรคไข้เลือดออก

ไข้เลือดออก เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเดงกี่ (Dengue) มี 4 สายพันธุ์ คือ DENV-1, DENV-2, DENV-3 และ DENV-4 แต่ละสายพันธุ์มีระดับความรุนแรงของโรคต่างกันไป หากเป็นไข้เลือดออกจากเชื้อสายพันธุ์ไหนแล้ว จะไม่เป็นสายพันธุ์นั้นอีก แต่สามารถกลับมาเป็นโรคไข้เลือดออกในสายพันธุ์อื่น ๆ แทน

การติดต่อนั้นจะมียุงลายเป็นพาหะนำโรค โดยยุงลายจะออกหากินกัดคนในเวลากลางวัน เมื่อยุงลายตัวเมียดูดเลือดจากผู้ป่วยที่มีเชื้อเดงกี่เข้าไป เชื้อไวรัสเดงกี่ในยุงจะเพิ่มจำนวน และกระจายเชื้อเข้าไปสู่ต่อมน้ำลายของยุง เตรียมพร้อมที่จะปล่อยเชื้อให้กับคนที่ถูกกัดครั้งต่อไปได้ตลอดอายุของยุง ซึ่งอยู่ได้นาน 1-2 เดือน

ไข้เลือดออกระบาด
ลูกน้อยติดไข้เลือดออก

ระยะอาการของไข้เลือดออก

สำหรับอาการของคนเป็นไข้เลือดออก มักจะแสดงออกหลังจากได้รับเชื้อแล้วประมาณ 5-8 วัน ถ้าเป็นการติดเชื้อไวรัสเดงกี่ครั้งแรก ผู้ป่วยส่วนใหญ่อาการจะไม่รุนแรง แต่ถ้าเป็นการติดเชื้อครั้งที่สอง อาจมีอาการรุนแรงเกิดเป็นภาวะไข้เลือดออกได้ โดยอาการของโรคแบ่งออกเป็น 3 ระยะ ดังนี้

1. ระยะไข้สูง เมื่อเริ่มเป็นจะมีไข้สูงถึง 38-40 องศาเซลเซียส แม้กินยาลดไข้ หรือเช็ดตัวแล้วไข้ก็ยังไม่ลด อยู่ 2-7 วัน ตาและใบหน้า มักจะแดงกว่าปกติ เบื่ออาหารและมีอาการซึม บางคนอาจมีผื่นขึ้น หรือพบว่ามีจุดเลือดออกขึ้นตามลำตัว แขน ขา

2. ระยะวิกฤติ จะเกิดประมาณวันที่ 3-6 หลังจากระยะไข้สูงระยะหนึ่งแล้ว ไข้จะลดลงอย่างรวดเร็ว แต่อาการทั่วไปจะดูเพลียมากขึ้น รวมถึงมีอาการปวดท้อง ท้องอืด เบื่ออาหาร คลื่นไส้อาเจียน อาจมีอาเจียนเป็นเลือด ถ่ายดำ ในกรณีที่รุนแรงมาก มือเท้าเย็น ปัสสาวะออกน้อย ผู้ป่วยอาจเกิดอาการช็อกได้ ให้รีบนำตัวส่งโรงพยาบาลทันที

3. ระยะฟื้นตัว เป็นระยะหลังไข้ลงโดยไม่มีอาการช็อก โดยเกล็ดเลือดจะเริ่มกลับสู่ภาวะปกติ ชีพจรและความดันโลหิตเริ่มคงที่ดีขึ้น อาการทั่วไปจะดีขึ้น เริ่มอยากอาหาร ปัสสาวะออกมากขึ้น มีผื่นแดงคันตามตัว

สัญญาณ ลูกติดไข้เลือดออก

หากมีอาการเหล่านี้ แม้ว่าไข้เริ่มจะลดลงแล้ว ก็ควรต้องไปพบแพทย์ทันที

  • ไข้ลง หรือไข้ลดลง แต่อาการแย่ลง ยังเบื่ออาหาร ไม่ค่อยเล่น และอ่อนเพลีย
  • คลื่นไส้ อาเจียน ตลอดเวลา
  • ปวดท้องมาก
  • มีเลือดออกมาก เช่น เลือดกำเดาไหล อาเจียน หรือถ่ายอุจจาระเป็นสีดำ
  • พฤติกรรมของเด็กเปลี่ยนไปจากปกติ
  • กระหายน้ำตลอดเวลา
  • ร้องกวนมากในเด็กเล็ก
  • ตัวเย็น สีผิวคล้ำลง หรือตัวลาย
  • ปัสสาวะน้อยลง หรือไม่ถ่ายปัสสาวะนานเกิน 4- 6 ชั่วโมง

ป้องกันไข้เลือดออกได้อย่างไร

  • ทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย ใกล้แหล่งที่อยู่อาศัยอย่างสม่ำเสมอ เช่น แหล่งน้ำขังในบ้าน
  • ป้องกันตัวเองและบุตรหลานไม่ให้ยุงกัด ด้วยการนอนในมุ้ง ทายากันยุง ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องทำอย่างสม่ำเสมอ
  • การฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้เลือดออกในเด็ก
  • ไปพบแพทย์เมื่อป่วยเป็นไข้ ควรติดตามอาการ และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์

 

ขอบคุณข้อมูลจาก
โรงพยาบาลนครธน, โรงพยาบาลพญาไท, ข่าวช่อง 7 HD ออนไลน์

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

เช็กเลย! อาการ โอมิครอน ไข้หวัดใหญ่ ไข้เลือดออก ต่างกันอย่างไร

ระวัง ไข้เลือดออกระบาด ติดเชื้อร่วมโควิด ดับแล้วหลายราย

    ผิวแพ้ง่าย

    เคล็ดลับดูแลผิวลูกน้อยสุขภาพดี บอกลาผิวบอบบางแพ้ง่าย

    เห็นผิวใส ๆ นุ๊มนุ่มของลูกน้อยแบบนี้ แต่รู้ไหมคะว่าผิวของลูกน้อยนั้นเป็น “ผิวที่บอบบางแพ้ง่าย” มาก ซึ่งการดูแลและบำรุงผิวตั้งแต่แรกเกิดสำคัญมากค่ะ กองบรรณาธิการ Amarin Baby & Kids ขอแนะนำวิธีดูแล ผิวแพ้ง่าย ของลูกน้อยให้มีผิวแข็งแรงสุขภาพดี มาฝากกันค่ะ

    “ลูกผิวแพ้ง่ายมาก!!” เรามักจะเห็นคุณแม่มือใหม่มาแชร์ปัญหาผิวลูกทารก ลูกเล็ก ๆ ลงโซเซียลกันอยู่บ่อย ๆ ที่ฮอตฮิตก็น่าจะเป็นปัญหาเรื่องผิวแห้งแพ้ง่าย หรือไม่ก็ผื่นผ้าอ้อม ผิวระคายเคืองมีรอยแดง เป็นต้น จริง ๆ ปัญหาผิวที่เกิดขึ้นกับลูกน้อยนั้นมีหลายสาเหตุ ขอยกตัวอย่างที่พบเจอกันบ่อย ๆ ดังนี้ค่ะ

    1. โครงสร้างผิวยังไม่แข็งแรงเมื่อเทียบกับผิวผู้ใหญ่ ลูกตั้งแต่แรกเกิดจะมีผิวชั้นหนังกำพร้าที่บอบบางและอ่อนแอมาก ทำให้ไวต่อการระคายเคือง
    2. ผิวทารกแรกเกิดนั้นไวต่ออุณหภูมิ เช่น ความร้อน ความเย็น ซึ่งส่งผลทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้น หากสังเกตดี ๆ จะเห็นว่าผิวลูกจะแห้งมาก ผิวที่แห้งมักก่อให้เกิดการแพ้ระคายเคือง ผิวลอกแตกเป็นขุยขาว ๆ คัน ทำให้ลูกรู้สึกไม่สบายตัว
    3. ผิวอาจสัมผัสกับสารเคมีที่ก่อให้การแพ้ เช่น สารเคมีที่ติดมากับเนื้อผ้า หรือของใช้ต่าง ๆ ซึ่งจะก่อให้เกิดการระคายเคือง มีผื่นแดงคันตามผิวหนัง
    4. ในเด็กบางคนจะมีการแพ้อาหารในช่วงหลัง 6 เดือนขึ้นไป เพราะเด็กวัยนี้จะเริ่มทานอาหารเสริมอื่น ๆ นอกจากน้ำนมแม่ ดังนั้นร่างกายอาจมีปฏิกิริยากับส่วนประกอบในเมนูอาหารใหม่ ๆ เช่น ไข่ ถั่ว อาหารทะเล ฯลฯ หรือเปลี่ยนจากนมแม่มาดื่มนมผง ซึ่งคุณแม่สามารถสังเกตอาการแพ้อาหารของลูกได้ เช่น อาการทางผิวหนัง จะมีผื่นผิวหนังอักเสบ ลมพิษ ตาบวม ปากบวม หรืออาการทางระบบทางเดินอาหาร ได้แก่ อาเจียน ถ่ายเหลว ถ่ายเป็นมูกเลือด

    ผิวแพ้ง่าย

    วิธีดูแล.. ผิวแพ้ง่าย ..เพื่อผิวลูกน้อยแข็งแรง ผิวมีสุขภาพดี

    อย่างที่บอกไปค่ะว่าทารก เด็กเล็ก ผิวเขาจะมีลักษณะบอบบางมาก ๆ ทำให้ไวต่อการแพ้ระคายเคือง อักเสบ แนะนำคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ว่าทุกอย่างที่จะมาใช้มาสัมผัสกับผิวลูกน้อย เช่น อุปกรณ์ของใช้ เสื้อผ้า ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเสื้อผ้า และร่างกาย จะต้อง “อ่อนโยน ไม่แพ้ง่าย” และเพื่อให้ผิวลูกมีสุขภาพดี เรามาดูแลถนอมผิวลูกน้อยให้แข็งแรงกันค่ะ

    1. การเลือกใช้เสื้อผ้า เพื่อให้เข้ากับอากาศเมืองไทย แนะนำเป็นเสื้อผ้าที่ตัดเย็บด้วยเส้นใยธรรมชาติอย่างผ้าฝ้าย (Cotton) ซึ่งจะมีความอ่อนนุ่มไม่ทำให้ระเคืองผิว และยังระบายอากาศได้ดีกว่าเส้นใยสังเคราะห์ ไม่ร้อน เหงื่อไม่ซึม หมดปัญหาเรื่องผดผื่นร้อน คันไม่สบายผิวได้ค่ะ
    2. การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กโดยเฉพาะ เช่น สบู่เหลวอาบน้ำ แชมพู โลชั่น แป้ง น้ำยาซักผ้า หรือ ปรับผ้านุ่ม ให้เลือกใช้ที่ผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กโดยเฉพาะ ซึ่งจะมีความปลอดภัยกับผิว เพราะส่วนมากล้วนจะผ่านการทดสอบมาแล้ว หรือปราศจากสารเคมีที่อาจก่อให้เกิดการแพ้ ระคายเคือง
    3. การอาบน้ำ ถือเป็นขั้นตอนแรกของการดูแลถนอมผิวของลูกน้อยตั้งแต่แรกเกิด คุณพ่อคุณแม่ต้องอาบน้ำให้ลูกทุกวัน สิ่งสำคัญ 2 อย่างคือ “น้ำที่อาบ” ไม่ควรอาบน้ำร้อนจัด หรือเย็นจัดให้ลูก เพราะจะยิ่งทำให้ผิวแห้ง ขาดความชุ่มชื้น อุณหภูมิน้ำที่เหมาะใช้อาบน้ำลูกอยู่ที่อุณหภูมิ 27 – 28 องศาเซลเซียส น้ำอาบจะอุ่นกำลังดี ต่อมาคือ “สบู่เหลวอาบน้ำสระผม” แนะนำให้เลือกใช้เป็นธรรมชาติ Organic 100% ที่ปราศจากสารเคมีต่าง ๆ เพราะจะอ่อนโยนกับผิว ผม ดวงตาของลูกน้อยที่สุดค่ะ

     ผิวแพ้ง่าย

    เคล็ดลับการอาบน้ำอย่างอ่อนโยนต่อ ผิวแพ้ง่าย ของลูกน้อย
    ด้วยสบู่เหลวอาบและสระ ดีนี่
    100%
    ออร์แกนิค 

    นาทีนี้ต้องยกให้ ดีนี่ สบู่เหลวอาบและสระ D-nee Organic Head & Body Baby Wash ต้องยอมรับเลยว่า ดีนี่ เป็นแบรนด์ยอดขายอันดับ 1 ในกลุ่มของสินค้าเด็ก และเป็นแบรนด์ที่แม่นับล้านวางใจเลือกใช้ เพราะเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กที่อ่อนโยนและปลอดภัยกับสุขภาพผิว สามารถใช้ได้กับเด็กตั้งแต่แรกเกิด สบู่เหลวอาบและสระออร์แกนิคของดีนี่ ยังได้รับรางวัลการันตีคุณภาพ จาก Amarin Baby & Kids Award ถึง 2 ปีซ้อน ในสาขาผลิตภัณฑ์เฮดทูโท NATURAL & ORGANIC: BEST HEAD-TO-TOE WASH

    ดีนี่ สบู่เหลวอาบและสระ สูตรใหม่ 100% Organic

    ดีนี่ สบู่เหลวอาบและสระ สูตรใหม่ 100% Organic จากสารสกัดอโลเวร่า ผสานคุณค่าสารสกัดจากธรรมชาติ 7 ชนิด อ่อนโยนพิเศษ ช่วยในการดูแลผิวที่บอบบางแพ้ง่าย ช่วยคงความชุ่มชื้นให้ผิว ลดการระคายเคือง คุณแม่สามารถใช้ผลิตภัณฑ์กับผิวลูกน้อยได้อย่างสบายใจ เพราะไม่ก่อให้เกิดการแพ้อย่างแน่นอนค่ะ ด้วยคุณสมบัติพิเศษที่ไม่เหมือนใครของ ดีนี่ ออร์แกนิค สบู่เหลวอาบและสระ

    • 100% Organic จากสารสกัดอโลเวร่า ช่วยคงความชุ่มชื้นให้ผิวยาวนานถึง 8 ชม.
    • สูตรอ่อนโยนพิเศษ เหมาะกับทุกสภาพผิว แม้ ผิวแพ้ง่าย ก็สามารถใช้ได้อย่างปลอดภัย
    • ผ่านการทดสอบ Hypoallergenic Tested ว่าไม่ทำให้เกิดการแพ้ระคายเคือง
    • สูตร PH Balance ช่วยรักษาสมดุลผิวและผมตามธรรมชาติ
    • ปราศจาก 6 สารเคมีอันตรายที่ทำร้ายผิวเด็ก ได้แก่ กลูเตน พราราเบน SLS ซิลิโคน แอลกอฮอล์ และสี
    • ผ่านการทดสอบไม่ระคายเคืองต่อดวงตา ทำความสะอาดล้างฟองออกง่าย ไม่ทำให้ผิวแห้งตึง สามารถใช้ทำความสะอาดผิวและผมของลูกน้อยได้อย่างอ่อนโยน พร้อมให้กลิ่นหอมอ่อน ๆ ติดผิวหลังอาบน้ำเสร็จ

    ดีนี่ สบู่เหลวอาบและสระ 100% ออร์แกนิค อ่อนโยน ไม่แพ้ง่าย กับคุณสมบัติดีงามขนาดนี้ คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ไม่ใช้ถือว่าพลาดของดีกันนะคะ สำหรับผลิตภัณฑ์ ดีนี่ สบู่เหลวอาบและสระ 100% ออร์แกนิค ขวดสีเขียวใสน่ารัก น่าใช้ขวดนี้ มีให้คุณแม่เลือกใช้หลายขนาด สามารถหาซื้อกันได้ที่ซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ ห้างสรรพสินค้า ร้านค้าสะดวกซื้อ ร้านค้าใกล้บ้าน หรือช่องทางออนไลน์ก็สะดวกมาก ๆ ค่ะ

    #DneeThailand #DneeOrganic #ดีนี่ที่แม่นับล้านวางใจ

     

      โรคมือเท้าปาก อาการ เริ่มต้น

      โรคมือเท้าปาก อาการ เริ่มต้น เฝ้าระวังเชื้อใหม่แรงกว่าเดิม

      โรคมือเท้าปาก อาการ เริ่มต้น เป็นอย่างไรต้องรู้ เริ่มระบาดอีกครั้ง หากสงสัยลูกติดรีบพบแพทย์ รักษาเร็วอาการน้อย หวั่นเชื้อใหม่รุนแรงถึงขั้นเด็กสมองอักเสบ!!

      โรคมือเท้าปาก อาการ เริ่มต้น เฝ้าระวังเชื้อใหม่แรงกว่าเดิม!!

      เปิดเทอม หน้าฝน เด็กเล็ก โรคระบาด คีย์เวิร์ดที่คุณพ่อคุณแม่หนักใจ เมื่อเข้าสู่หน้าฝน สารพันโรคระบาดก็ผุดขึ้นแข่งกันเป็นว่าเล่น อีกทั้งยังอยู่ในช่วงเปิดเทอมที่มีเด็ก ๆ รวมตัวกัน การป้องกันโรคระบาดในช่วงนี้จึงเป็นเรื่องที่ยาก และหากพูดถึงโรคระบาดยอดฮิตที่มาพร้อมกับคีย์เวิร์ดเหล่านี้แล้วละก็ คงหนีไม่พ้นต้องนึกถึง โรคมือเท้าปาก เป็นแน่

      หมอแล็บฯ เตือนโรคมือเท้าปากระบาด เริ่มพบเชื้อ EV71 ทำให้เด็กสมองอักเสบ

      12 กรกฎาคม : หมอแล็บแพนด้า โพสต์ข้อความโรคมือเท้าปากระบาดอีกแล้ว ช่วงนี้เด็กๆ ป่วยด้วยโรคมือเท้าปากกันเยอะเลยล่ะครับ หลายบ้านตอนนี้กำลังเป็นอยู่

      โรคนี้เกิดจากเชื้อไวรัสในกลุ่มเอ็นเทอโรไวรัส เด็กที่เป็นมักจะมีผื่น แผล หรือตุ่มใสตามฝ่ามือ นิ้วมือ ฝ่าเท้า ในปาก ดูภาพประกอบได้ 55555 ถ้าเด็กเริ่มมีอาการป่วยต้องไปพบแพทย์เสมอ อย่าเดาโรคเอาเอง ระยะหลังๆ มานี้ เริ่มพบเชื้อที่มีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นที่ชื่อว่า EV71 ทำให้เด็กเล็กสมองอักเสบได้

      ที่มา : Thairath on Instagram
      โรคมือเท้าปาก อาการ เริ่มต้น เป็นอย่างไร
      โรคมือเท้าปาก อาการ เริ่มต้น เป็นอย่างไร

      โรคมือเท้าปากติดต่อง๊าย…ง่าย!!

      เป็นโรคที่พบบ่อยในเด็ก ผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นเด็กอายุน้อยกว่า 5 ปี มักระบาดในช่วงหน้าฝน โรคนี้เกิดจากเชื้อไวรัสกลุ่มเอนเตอโรไวรัส ซึ่งมีหลายตัวที่ทำให้เกิดได้ โดยเชื้อที่รุนแรงที่สุด คือ เอนเตอโรไวรัส 71 หรือเรียกสั้นๆ ว่าเชื้อ อีวี71 (EV71)  นี่เอง นับเป็นโรคที่ระบาดในเด็กโรคหนึ่งที่พบทุกปี โดยเฉพาะในช่วงที่เริ่มเข้าหน้าฝนเป็นช่วงที่มีอัตราการระบาดของโรคนี้สูง ประเทศไทยเราก็พบเชื้ออีวี71 ร่วมกับเอนเตอโรไวรัสตัวอื่น ๆ ด้วย  แต่ส่วนใหญ่เป็นสายพันธุ์ที่ไม่ค่อยรุนแรง

      โรคนี้ติดต่อง่ายมาก เพียงแค่การสัมผัสสารคัดหลั่งจาก น้ำมูก น้ำลาย และน้ำจากตุ่มใส หรืออุจจาระของผู้ป่วยที่มีเชื้อโดยตรง หรือทางอ้อม เช่น สัมผัสผ่านของเล่น มือผู้เลี้ยงดู น้ำและอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อ โรคนี้จึงมักระบาดในโรงเรียนชั้นอนุบาลเด็กเล็ก หรือสถานรับเลี้ยงเด็กเล็ก การดูแลสุขอนามัยจึงเป็นสิ่งสำคัญ

      โรคมือเท้าปาก ระบาดในเด็ก
      โรคมือเท้าปาก ระบาดในเด็ก

      มือเท้าปาก ชนิดไม่รุนแรง และรุนแรงจากเชื้อ EV71 สังเกตอย่างไร?

      เด็กที่เป็นโรคมือ-เท้า-ปาก มักเริ่มด้วยอาการดังต่อไปนี้

      • มีไข้ เจ็บปาก กินอะไรไม่ค่อยได้
      • น้ำลายไหล เพราะมีแผลในปากเหมือนแผลร้อนใน
      • มีผื่นเป็นจุดแดง หรือเป็นตุ่มน้ำใสขึ้นบริเวณฝ่ามือ ฝ่าเท้า และอาจมีตามลำตัว แขน ขาได้
      • ผู้ป่วยมักมีอาการมากอยู่ 2-3 วัน จากนั้นจะค่อยๆ ดีขึ้นจนหายใน 1 สัปดาห์
      • ส่วนใหญ่มีอาการไม่มาก แต่บางรายมีอาการมากจนกินอาหารและน้ำไม่ได้

      โดยปกติโรคนี้ไม่น่ากลัว และหายเองโดยไม่มีปัญหา แต่อาจมีโอกาสเล็กน้อยที่จะเกิดอาการรุนแรงหรือพบปัญหาแทรกซ้อนได้ โดยเฉพาะถ้าเกิดจากเชื้อEV71 จะมีโอกาสเกิดโรครุนแรงได้มากขึ้น

      แผลตามมือเท้าปาก จากโรคมือเท้าปาก อาการ เริ่มต้น ที่ต้องเฝ้าระวัง
      แผลตามมือเท้าปาก จากโรคมือเท้าปาก อาการ เริ่มต้น ที่ต้องเฝ้าระวัง

      สัญญาณอันตราย อย่ารอช้า รีบพบแพทย์ด่วน!!

      หากคุณพ่อคุณแม่พบว่าลูกแสดงอาการตามสัญญาณอันตรายดังต่อไปนี้ อย่ามัวนิ่งนอนใจคิดว่าลูกเป็นแค่โรคมือเท้าปาก อาการ เริ่มต้น ไม่รุนแรง หายเองได้ ควรรีบพาไปพบแพทย์ทันที

      • เด็กมีอาการซึม อ่อนแรง
      • ชักกระตุก
      • มือสั่น เดินเซ
      • หอบ อาเจียน

      โดยหากเกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง อย่างก้านสมองอักเสบ จะทำให้ภาวะหายใจ และระบบไหลเวียนของโลหิตล้มเหลว ซึ่งทำให้ถึงแก่ชีวิตได้อย่างรวดเร็ว และบางครั้ง เชื้อ EV71 ที่ทำให้เกิดสมองอักเสบรุนแรงได้ โดยไม่ต้องมีผื่นแบบ มือเท้าปากได้เลยด้วยซ้ำไป

      ในประเทศไทยแม้ส่วนใหญ่จากสถิติที่พบมาจะเป็นชนิดอาการไม่รุนแรง แต่อย่างไรปัจจุบันเริ่มพบเชื้อ EV71 ในบางรายแล้ว ทางที่ดีต้องระวังอาการรุนแรงไว้ แม้จะมีโอกาสเกิดน้อยก็ตาม

      การรักษาโรคมือ-เท้า-ปาก

      โรคนี้ไม่มียารักษาจำเพาะ หลักการรักษาเป็นการรักษาตามอาการ เด็กที่มีภาวะแทรกซ้อนรุนแรงจำเป็นต้องได้รับการดูแลรักษาแบบผู้ป่วยวิกฤต และยังเป็นโรคที่ไม่มีวัคซีนป้องกัน ดังนั้นการป้องกันที่ดีที่สุด คือ การแยกผู้ป่วยที่เป็นโรคไม่ให้ไปสัมผัสกับเด็กคนอื่น และปฎิบัติตามขั้นตอนการป้องกันต่างๆ  ดังนี้

      เด็กเล็กชอบจับสิ่งของ เอามือเข้าปาก สาเหตุติดเชื้อง่าย
      เด็กเล็กชอบจับสิ่งของ เอามือเข้าปาก สาเหตุติดเชื้อง่าย
      • ล้างมือบ่อยๆ โดยเฉพาะพี่เลี้ยงเด็กต้องดูแลสุขอนามัย ล้างมือให้สะอาดทุกครั้งที่สัมผัสผ้าอ้อม
      • ไม่ใช้ช้อนป้อนอาหารเด็กร่วมกัน ควรสอนให้เด็ก ๆ ใช้ช้อนกลาง และล้างมือก่อนรับประทานอาหาร
      • หมั่นทำความสะอาดเครื่องใช้ ของเล่นเด็กด้วยน้ำยาที่สามารถฆ่าเชื้อได้ เช่น สบู่ หรือผงซักฟอก แล้วตากให้แห้ง
      • ระมัดระวังในความสะอาดของน้ำ อาหาร และสิ่งของทุกอย่างที่เด็กอาจเอาเข้าปาก
      • สภาวะแวดล้อมในห้องเด็กควรเป็นห้องโล่ง อากาศถ่ายเทได้ดี
      • หลีกเลี่ยงการพาเด็กไปที่มีคนแออัดในช่วงที่มีการระบาด เช่น สนามเด็กเล่น ห้างสรรพสินค้า เป็นต้น
      • เด็กที่ป่วยจะต้องแจ้งทางโรงเรียน และหยุดเรียนจนกว่าแผลจะหาย โดยปกติประมาณ 1 สัปดาห์ เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ

      ผู้ปกครองควรพาบุตรหลานที่ป่วยไปพบแพทย์ ไม่ควรพาไปโรงเรียน หากพบว่าเป็นโรคนี้ควรให้การรักษาตามคำแนะนำของแพทย์ และ เมื่อหายป่วยแล้ว เด็กที่เป็นโรคนี้ยังมีเชื้ออยู่ในอุจจาระได้ นานหลายสัปดาห์ ดังนั้นเมื่อเด็กหายป่วยแล้ว ยังต้องมีการระวังการปนเปื้อนของอุจจาระต่ออีกนาน ควรเน้นการล้างมือหลังเข้าห้องน้ำ หรือเปลี่ยนผ้าอ้อม และก่อนรับประทานอาหารแก่เด็กและผู้ใหญ่ทุกคน ควรล้างมือด้วยน้ำและสบู่ เพราะแอลกอฮอลล์เจลจะฆ่าเชื้อเอนเตอโรไวรัสไม่ได้

      แอลกอฮอล์ไม่สามารถฆ่าเชื้อได้
      แอลกอฮอล์ไม่สามารถฆ่าเชื้อได้

      วิธีการป้องกันการระบาดในสถานรับดูแลเด็กหรือโรงเรียนชั้นอนุบาล

      1. มีการตรวจคัดกรองเด็กป่วย ได้แก่ เด็กที่มีไข้ หรือเด็กที่มีผื่น หรือมีแผลในปาก ไม่ให้เข้าเรียน ทั้งนี้เพราะมีผู้ป่วยบางคนที่มีอาการน้อยมาก หรือมีบางคนที่มีอาการไข้แต่ไม่มีผื่น ควรต้องจัดหาเครื่องมือวัดอุณหภูมิ (ปรอท) ไว้ให้พร้อมเพื่อใช้ในกรณีที่สงสัยว่าเด็กจะมีไข้ และมีครูหรือพยาบาลตรวจรับเด็กก่อนเข้าเรียนทุกวัน
      2. ควรมีมาตรการในการทำความสะอาดของเล่น และสิ่งแวดล้อมทุกวัน หรือเมื่อมีการเปื้อนน้ำลาย น้ำมูกหรือสิ่งสกปรก
      3. มีมาตรการเคร่งครัดในการล้างมือ ให้แก่เจ้าหน้าที่ทุกระดับที่ดูแลสัมผัสเด็กเล็ก โดยเฉพาะในทุกครั้งที่อาจสัมผัสน้ำมูก น้ำลาย หรืออุจจาระ การใช้แอลกอฮอลล์เจลล้างมือ ไม่สามารถฆ่าเชื้อได้
      4. หากมีการระบาดเกิดขึ้นหลายราย ควรพิจารณาปิดชั้นเรียนนั้นเป็นเวลา 1 สัปดาห์ หรือหากมีการระบาดเกิดขึ้นในหลายชั้นเรียน ควรปิดโรงเรียนด้วย เพื่อหยุดการระบาด
      ขอขอบคุณรูปภาพ และข้อมูลอ้างอิงจาก ศ.พญ.กุลกัญญา โชคไพบูลย์กิจ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล

      อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

      โรคเด็ก ที่พบบ่อย โรคในเด็ก ยอดฮิต พ่อแม่ต้องระวัง

      คัน ไม่ใช่เรื่องเล็ก! เช็คอาการผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง

      โรคหลงตัวเอง บุคลิกภาพที่พ่อแม่สร้างสู่อาการทางจิต

      รวม 14 ยาสีฟันเด็ก ยี่ห้อไหนดี กลิ่นหอมน่าใช้ แปรงฟันสะอาด พร้อมวิธีเลือกซื้อยาสีฟัน

      เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

        คัน

        คัน ไม่ใช่เรื่องเล็ก! เช็คอาการผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง

        คัน ไม่ใช่เรื่องเล็ก! เช็คอาการผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง

         “คัน เป็นอาการที่ต้องเคยเกิดขึ้นกับทุกคนไม่ว่าเด็ก หรือผู้ใหญ่ หากอาการคันเกิดขึ้นบ่อย ๆ ต้องเกากันไม่หยุดจนน่ารำคาญ จนทำให้ผิวหนังถลอก “อาการคัน” จึงไม่ใช่เรื่องเล็ก โดยเฉพาะหากมีอาการคันบ่อย ๆ ติดต่อกันนาน ๆ แบบเป็นๆ หายๆ รวมทั้งมีผื่นขึ้นร่วมด้วย ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของ “โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง” ที่เกิดขึ้นได้กับทั้งเด็กและผู้ใหญ่ และในบางรายก็พัฒนาเป็นโรคตุ่มน้ำพองที่บั่นทอนความมั่นใจและคุณภาพชีวิต มาเช็กดูว่าอาการคันของเรานั้น เข้าข่ายผื่นภูมิแพ้ผิวหนังหรือไม่ค่ะ

        คัน หนึ่งในอาการของโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง

        สำหรับอาการของโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังที่สำคัญ คือ อาการคันที่เรื้อรัง เป็นติดต่อกันมานาน มีผื่นแดงขึ้นแบบเฉพาะเจาะจง โดยเด็กอายุขวบปีแรก ผื่นจะขึ้นบริเวณแขนขาและแก้ม

        แต่เมื่ออายุ 1 ปีขึ้นไปแล้ว จะพบผื่นที่เป็นลักษณะเฉพาะขึ้นบริเวณข้อพับ แขน ขา และคอ เป็นส่วนใหญ่ มีผิวแห้งโดยเฉพาะรอบ ๆ ดวงตา ลายนิ้วมือชัดขึ้น มีผื่นที่หู หัวนม หน้าแข้งมีผิวแห้งคล้ายเกล็ดปลา และโดยมาก ผู้ป่วยกลุ่มนี้อาจมีอาการทางการหายใจร่วมด้วย เช่น หอบหืด ภูมิแพ้จมูก แพ้อากาศ เป็นต้น

        อาการ

        ผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง อาการอันดับแรก คือ มีอาการคัน ผิวแห้ง สาก เป็นขุย มีผื่นแดงอักเสบชัดเจน ที่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า

        สำหรับเด็กจะสังเกตได้จากตำแหน่งของผื่นขึ้นใกล้เคียงกัน เช่น บริเวณแก้ม รอบริมฝีปาก บริเวณด้านนอกของแขน ขา ศอก เข่า มือ เท้า ข้อมือ ข้อเท้า ข้อพับทั้งหลาย

        สาเหตุของโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง

        โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังเกิดจาก 2 สาเหตุสำคัญ คือ พันธุกรรมที่ก่อให้เกิดการสร้างเซลล์ผิดปกติ ทำให้ปราการป้องกันไม่ให้น้ำระเหยจากร่างกายเสียไป ผิวหนังจึงแห้งง่าย สิ่งแปลกปลอมซึมเข้าผิวหนังได้ง่าย จนเกิดการอักเสบและการระคายเคือง

        ส่วนอีกสาเหตุ คือ ภูมิต้านทานของร่างกายทำงานมากกว่าปกติ ทำให้ร่างกายมีความไวต่อสิ่งแปลกปลอมภายนอก อย่างเช่น การสัมผัสกับสารเคมีในชีวิตประจำวัน เช่น ผงซักฟอก สบู่ น้ำหอม เครื่องสำอาง เมื่อสัมผัสกับสิ่งแปลกปลอมที่ก่อให้เกิดการแพ้ ก็จะเกิดการระคายเคือง มีอาการคัน และมีผื่นขึ้นได้ ซึ่งถ้าหลีกเลี่ยงปัจจัยภายนอกที่ทำให้การแพ้เหล่านี้ได้ อาการก็จะหายไป

        นอกจากนี้ ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมและพฤติกรรมในการดำเนินชีวิต ก็มีส่วนที่กระตุ้นให้เกิดโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังได้เช่นกัน อาทิ การอาบน้ำอุ่นและการอยู่ในห้องแอร์ต่อเนื่องและนานเกินไป ซึ่งเป็นเหตุที่ทำให้ผิวแห้ง และความเครียดที่ส่งผลต่อภูมิต้านทานในร่างกาย

        คัน
        คัน ไม่ใช่เรื่องเล็ก! เช็คอาการผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง

        วิธีเช็กว่าเป็นโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังหรือไม่

        แนวทางการวินิจฉัยโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง จะใช้ วิธีทางคลินิก โดยดูลักษณะการกระจายของผื่น ซึ่งโดยมากดูจากระยะเวลาที่เป็นผื่นนานเกิน 6 เดือนขึ้นไปและมีอาการคันร่วมด้วย นอกจากนั้นอาจมี การเจาะเลือด เพื่อดูการเพิ่มขึ้นของภูมิต้านทาน

        สำหรับการทดสอบ Skin Test จะเป็นประโยชน์กับคนที่เป็นโรคภูมิแพ้ทางลมหายใจเพื่อดูการแพ้ของไรฝุ่น หรือแมลงชนิดต่าง ๆ ผู้ที่สงสัยว่าอาการแพ้เกิดจากการสัมผัสสิ่งแวดล้อมภายนอก อาจทำการทดสอบได้โดยนำสารที่สงสัยแปะไว้บนหลังเป็นเวลา 8-10 ชั่วโมง แล้วดูว่ามีผื่นหรือคันหรือไม่ ส่วนผู้ที่สงสัยว่าแพ้อาหาร จะทำการซักประวัติว่าแพ้อาหารอะไร และให้งดอาหารนั้น ๆ จากนั้นก็ให้รับประทานอาหารนั้น ๆ เข้าไปแล้วดูว่าจะเกิดการแพ้หรือไม่

        การรักษาโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง

        ยาทากลุ่มสเตียรอยด์ เป็นยาตัวหลักในการรักษาผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง ซึ่งต้องเลือกใช้ในขนาดที่เหมาะสม และในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ตามความจำเป็น เพราะหากใช้มากเกินไป อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้

        แม้ปัจจุบันมียารักษาอาการแพ้และคันที่ไม่ใช่สเตียรอยด์แล้ว แต่ราคาค่อนข้างสูง จึงมักใช้เฉพาะที่เท่านั้น สำหรับยารับประทาน ประเภทยาแก้แพ้ ยังไม่มีข้อพิสูจน์ทางการแพทย์ที่แน่นอนว่า ช่วยรักษาได้ ยาที่ช่วยได้ คือ ยาแก้คันที่ออกฤทธิ์กดสมอง ทำให้เกิดอาการง่วงได้ สำหรับผู้ที่เป็นมาก และควบคุมอาการไม่ได้ ก็จะใช้ยากดภูมิเข้ามาช่วยด้วย

        ดูแลสุขภาพผิวเบื้องต้น เพื่อป้องกันไม่ให้ คัน จากโรค

        การป้องกันโรคผิวหนังที่ดีที่สุด คือ การดูแลสุขภาพผิวพรรณให้ชุ่มชื้นอยู่เสมอ  ดังนี้

        • รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และดื่มน้ำให้เพียงพอ
        • ไม่ควรอยู่ในห้องแอร์นานกินไป เพราะจะทำให้ผิวแห้ง
        • การอาบน้ำทำความสะอาดร่างกาย เพื่อลดการติดเชื้อต่าง ๆ ไม่ควรอาบน้ำอุ่น หรือฟอกสบู่มากจนเกินไป สบู่ที่ใช้ ควรมีส่วนผสมของสารเคลือบผิว เพื่อช่วยป้องกันไม่ให้ผิวแห้ง
        • หลังอาบน้ำควรใช้โลชันทาผิวภายใน 3 นาที เพื่อกักเก็บน้ำไว้ในผิวหนัง
        • แสงแดดเป็นตัวทำลายผิวหนัง ควรเลี่ยงแสงแดดช่วง 10.00-15.00 น. และใช้ครีมกันแดดเป็นประจำในปริมาณที่เหมาะสม จะมีส่วนช่วยป้องกันรักษาผิว ไม่แก่และกร้านเร็ว อีกทั้งป้องกันโรคผิวด่างดำต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี

        ขอบคุณข้อมูลจาก

        PPTV HD

         

        เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

         อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

        ผื่นคันระหว่างตั้งครรภ์ รอยแตกลายที่ท้อง ป้องกันได้

        ลูกมีตุ่มคล้ายยุงกัด แต่ไม่คันเฝ้าระวัง โรคฮีน็อค อันตราย!

        วิธีดูแลเด็กที่มีปัญหาผื่น แดง คัน ตามผิวหน้า

          ขายกัญชาในโรงเรียน

          เสื่อม! นักเรียนหญิงม.6 ขายกัญชาในโรงเรียน เพื่อนติดงอม

          เสื่อม! นักเรียนหญิงม.6 ขายกัญชาในโรงเรียน เพื่อนติดงอม

          กัญชาบุกเข้ามาในโรงเรียนแล้วค่ะคุณพ่อคุณแม่ หลังจากมีผู้ปกครองนักเรียน โรงเรียนแห่งหนึ่ง ใน จ.ลําปาง ร้องเรียนว่ามีนักเรียนติดกัญชาจํานวนมาก โดยมีนักเรียน ขายกัญชาในโรงเรียน ซึ่งทำให้เด็กนักเรียนหลายคนในช่วงเวลาเข้าห้องเรียน บางราย มีอาการอ่อนเพลีย นั่งหลับเกือบทั้งวัน จึงหวั่นว่าจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพ

          นักเรียนหญิง ม.6 ขายกัญชาในโรงเรียน

          จากรายงานข่าวพบว่า ผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าว ยอมรับว่า มีนักเรียนแอบลักลอบขายกัญชาให้จริง ซึ่งครูได้แจ้งตํารวจในพื้นที่แล้ว และผู้ปกครองของเด็กนักเรียนหญิงชั้น ม.6 ที่แอบขายกัญชาก็ได้มารับทราบแลัว โดยมีการบันทึกภาพของกลางไว้เป็นหลักฐานทั้งหมด
          ต่อมา ผอ. โรงเรียนได้ตรวจเข้มนักเรียนทั้งหมดจํานวน 500 กว่าคน โดยให้ครูเวร ครูประจําชั้น ตรวจกระเป๋ากางเกงและกระเป๋าหนังสือ ของนักเรียนทุกคนที่มาเข้าแถวเคารพเคารพธงชาติ ส่วนรถรับส่งนักเรียน ให้จอดส่งและรับด้านนอกทุกคัน แต่ก็ยอมรับว่า ยังมีการนํากัญชามาขาย โดยนักเรียนขายกัญชาแห้งให้นักเรียนด้วยกัน คนขายก็เป็นนักเรียนหญิง ม.6 คนเดิม
          จากนั้น ทางครู จึงได้ประชุมกับฝ่ายครูและผู้ปกครอง จนข่าวแพร่สะพัดออกไป จนทําให้ผู้ปกครองติติง ทางโรงเรียนว่าละเลยไม่เอาใจใส่

          ขายทั้งกัญชาแห้ง น้ำกัญชา และน้ำมันกัญชาสกัด

          นักเรียนหญิงม.6 นำกัญชามาลักลอบขายให้กับกลุ่มเพื่อน ๆ ประมาณ 3-4 คน ซึ่ง กลุ่มนักเรียนดังกล่าวก็ได้ทดลองกินกัญชา ดื่มน้ำกัญชากัน นอกจากนี้ นักเรียนหญิงชั้น ม.6 คนเดิมยังแอบลักลอบขายกัญชาอีก คราวนี้เป็น ‘กัญชาสกัด’ เป็นน้ำมันมาขาย จึงแจ้งให้ผู้ปกครองมารับทราบ
          ทางผู้เป็นพ่อ นร.ยอมรับว่า จะให้ลูกสาว เด็กชั้น ม.6 ย้ายไปเรียนที่ใหม่เอง ทางโรงเรียนไม่ได้ไล่ตามที่เป็นข่าว เพราะโรงเรียนยังให้โอกาสกลับใจ แต่ในที่สุดผู้ปกครองก็ยืนยันจะรับผิดชอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเอง เพื่อใหัครูผู้ปกครองนักเรียนสบายใจ
          ด้านผู้ปกครองนักเรียนที่ร้องเรียน เปิดเผยว่า ไม่สบายใจ และทางโรงเรียนจะต้องมีมาตราการที่เข็มเเข็งตรวจเข้ม ทั้งบุคคลที่เข้าออก เพราะเชื่อว่านักเรียนต้นเหตุอาจซ่อนกัญชามากับรถและแอบนำมาขายในห้องน้ำโรงเรียน
          ขายกัญชาในโรงเรียน
          เสื่อม! นักเรียนหญิงม.6 ขายกัญชาในโรงเรียน เพื่อนติดงอม

          ผลที่จะเกิดหากเด็กได้รับสารจากกัญชา

          หากมีการนำกัญชา หรือสารสกัดกัญชามาใช้เป็นส่วนผสมของอาหาร หรือการแปรรูปต่าง ๆ หรือให้มีการใช้กัญชาได้อย่างเสรีโดยไม่มีกฎหมายควบคุม ประชาชนก็จะมีโอกาสได้รับสารแคนนาบินอยด์เหล่านั้นเข้าไป จนอาจจะมีผลกระทบที่รุนแรง โดยเฉพาะผลกระทบต่อสมองของเด็กและวัยรุ่น ส่งผลเสียต่อสุขภาพกายทั้งในระยะสั้นและระยะยาวเช่น
          • ถ้ากินอาหารที่ผสมกัญชา แล้วมีอาการเคลิ้มสูง นอนไม่หลับ พูดเยอะกว่าปกติ คือเมาน้อย แสดงว่าได้รับผลทางจิตประสาทจากสารเมา
          • นอกจากนี้ เด็กยังได้รับผลกระทบจากกัญชาจากการรักษาทางการแพทย์ อาการส่วนใหญ่จะเนือยนิ่ง อ่อนแรง เดินเซ ใจสั่น ม่านตาขยาย
          • พัฒนาการล่าช้า
          • ปัญหาพฤติกรรม
          • เชาวน์ปัญญาลดลง
          • ส่งผลต่ออารมณ์ และจิตใจ เช่น มีความเสี่ยงต่อการป่วยเป็นโรคจิตเภท ภาวะฆ่าตัวตาย เสี่ยงต่อการติดสารเสพติดชนิดอื่น ๆ

          คำแนะนำเพื่อป้องกันผลที่จะเกิดกับเด็ก

          ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย สมาคมกุมารประสาทวิทยา (ประเทศไทย) ชมรมจิตแพทย์เด็ก และวัยรุ่นแห่งประเทศไทย และ ชมรมพัฒนาการ และพฤติกรรมเด็กแห่งประเทศไทย ได้ร่วมมือกัน และได้มีคำแนะนำ เพื่อป้องกันผลกระทบที่เกิดจากกัญชาต่อเด็กและวัยรุ่น ดังนี้ค่ะ
          1. เด็กที่อายุน้อยกว่า 20 ปีไม่ควรเข้าถึงและบริโภคกัญชา เนื่องจากสมองยังพัฒนาไม่เต็มที่ และกัญชามีสาร THC ที่มีผลต่อสมองเด็กในระยะยาว ดังนั้นเด็กจึงไม่ควรได้รับ THC ยกเว้นกรณีมีความจำเป็นทางการแพทย์เช่น ประกอบการรักษาประคับประคองผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย โรคลมชักรักษายาก ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลรักษาของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างใกล้ชิด
          2. ให้มีการประชาสัมพันธ์กับประชาชนเรื่องโทษของการใช้กัญชากับสมองเด็ก เพื่อให้เกิดความตระหนักต่อการเข้าถึงกัญชาในเด็กและวัยรุ่นเพื่อนันทนาการว่า กัญชาเป็นสารที่มีฤทธิ์เสพติด ส่งผลต่อสุขภาพกายและจิตในระยะเฉียบพลัน และอาจรุนแรงถึงกับชีวิตได้ รวมถึงมีผลกระทบในระยะยาวต่อสมอง ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างและการทำงานของสมองที่กำลังพัฒนา
          3. ให้มีมาตรการควบคุม การผลิต และขายอาหารหรือผลิตภัณฑ์ที่มีกัญชาผสม และให้มีเครื่องหมาย/ข้อความเตือนอย่างชัดเจนเพื่อป้องกันการใช้ในเด็กและวัยรุ่น โดยระบุ ‘ห้ามเด็กและเยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริโภค’
          4. ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรควบคุมการโฆษณาผลิตภัณฑ์ ควบคุมไม่ให้มีการจงใจออกแบบผลิตภัณฑ์ที่มีกัญชาเป็นส่วนผสม เช่น ภาพการ์ตูน หรือใช้คำพูดสื่อไปในทางให้เกิดความเข้าใจผิดว่าเป็นอาหารหรือขนมที่เด็กและวัยรุ่นบริโภคได้
          5. ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามผลกระทบของกัญชาต่อเด็กอย่างต่อเนื่อง และจริงจังหลังจากใช้กฎหมายกัญชาเสรี
          ขอบคุณข้อมูลจาก

           

          เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

           อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

          กัญชาในขนม ! ถ้าเด็กซื้อกินเองได้ จะเกิดอะไรขึ้น!

          ศูนย์พิษวิทยาเตือน!อาหารเครื่องดื่ม ใช้กัญชา มีอันตราย

          แม่ท้องใช้กัญชา ห้ามเด็ดขาดทำลูกในท้องตายหรือผิดปกติ

            วิจัยเผย! “แปรงสีฟัน” แหล่งสะสมเชื้อโรค เสี่ยงลูกเป็นโรคช่องปาก

            เชื่อหรือไม่? แปรงสีฟันเด็ก ที่คุณแม่ให้ลูกใช้แปรงฟัน แม้จะทำความสะอาดเป็นอย่างดี และวางไว้ในห้องน้ำอย่างเรียบร้อย ก็อาจเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคกว่า 10 ล้านตัว ซึ่งเป็นบ่อเกิดโรคทางช่องปากให้กับลูกน้อยได้

            Continue reading “วิจัยเผย! “แปรงสีฟัน” แหล่งสะสมเชื้อโรค เสี่ยงลูกเป็นโรคช่องปาก”

              โรคหลงตัวเอง บุคลิกภาพที่พ่อแม่สร้างสู่อาการทางจิต

              โรคหลงตัวเอง บุคลิภาพที่ส่งผลต่อความสุขในการดำเนินชีวิต จากแค่นิสัยอาจกลายมาเป็นปัญหาทางจิต ปรับเปลี่ยนการเลี้ยงดูก่อนสาย อย่าให้ความรักทำให้ลูกทุกข์ใจ

              โรคหลงตัวเอง บุคลิกภาพที่พ่อแม่สร้างสู่อาการทางจิต!!

              บุคลิกภาพ ของแต่ละคนจะเป็นสิ่งประจำตัวของคนคนนั้น ที่ทำให้แตกต่างจาก คนอื่น และมีหลายสิ่งหลายอย่าง ที่จะประกอบกัน ทำให้คนแต่ละคนมี บุคลิกภาพ เป็นของตัวเอง ซึ่งเป็นผลมาจาก การทำงานประสานกันของ สมอง ที่ขึ้นอยู่กับพันธุกรรม และประสบการณ์ ที่ได้รับจาก สิ่งแวดล้อม และการเลี้ยงดู

              ฟิลลิป จี.ซิมบาร์โด และฟลอยด์ แอล.รูช (Zimbardo and Ruch 1980:292) อธิบายว่า บุคลิกภาพ เป็นผลรวมของลักษณะ เชิงจิตวิทยาของบุคคล แต่ละคน มีผลต่อการแสดงออกซึ่งพฤติกรรมหลากหลายของบุคคลนั้น ทั้งส่วนที่เป็นลักษณะภายนอก ที่สังเกตได้ง่ายและพฤติกรรมภายในที่สังเกตได้ยาก ลักษณะที่หลากหลายดังกล่าว ส่งผลให้บุคคลแสดงออก ต่างกันใน แต่ละสถานการณ์ และช่วงเวลา

              ที่มา : www.digitalschool.club
              โรคหลงตัวเอง สามารถทำให้ลูกเข้าสู่ภาวะซึมเศร้าได้
              โรคหลงตัวเอง สามารถทำให้ลูกเข้าสู่ภาวะซึมเศร้าได้

              บุคลิกภาพที่ผิดปกติ!!

              โรคหลงตัวเอง (Narcissistic Personality Disorder)

              คือ โรคบุคลิกภาพผิดปกติชนิดหนึ่ง โดยผู้ป่วยโรคนี้จะมีลักษณะยึดตัวเองเป็นศูนย์กลาง ต้องการการยกยอชื่นชม และขาดความเห็นใจผู้อื่น มักหมกมุ่นอยู่กับการโอ้อวดตัวตนของตัวเอง เช่น ความสำเร็จ รูปร่างหน้าตา หรือฐานะทางการเงิน เชื่อว่าตัวเองนั้นเหนือกว่าผู้อื่น รวมทั้งมักคบค้าสมาคมกับบุคคลที่เห็นว่ามีความพิเศษหรือสำคัญมาก การกระทำดังกล่าวจะช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นและเคารพนับถือตัวเองให้มากขึ้น เนื่องจากผู้ป่วยโรคนี้มีความนับถือตัวเองต่ำ ไม่สามารถทนการวิพากษ์วิจารณ์ได้ และมักอับอายหรือรู้สึกอ้างว้างเมื่อถูกปฏิเสธหรือได้รับการวิจารณ์ข้อเสียของตัวเอง

              อาการของโรคหลงตัวเอง

              ผู้ที่ได้รับการวินิจฉัยว่าป่วยเป็นโรคหลงตัวเองจะปรากฏสัญญาณหรือพฤติกรรมของโรค 5 ลักษณะ หรือมากกว่านั้น ดังนี้

              • มักยึดตัวเองเป็นสำคัญมากเกินไป เช่น หวังว่าผู้อื่นจะเห็นว่าตัวเองพิเศษหรือเหนือกว่าในด้านต่าง ๆ
              • มักหมกหมุ่นกับการคิดถึงความสำเร็จ อำนาจ ความร่ำรวย ความงาม หรือความรักในอุดมคติของตัวเอง
              • เชื่อว่าตัวเองเป็นคนพิเศษ และบุคคลที่มีความพิเศษหรือสถานะทางสังคมที่สูงเทียบเท่ากันเท่านั้นถึงจะเข้าใจตน
              • ต้องการความสนใจ การยอมรับ และความชื่นชมจากผู้อื่น
              • คิดว่าสมควรได้รับอภิสิทธิ์ต่าง ๆ อย่างไม่มีเหตุผล
              • แสวงหาประโยชน์จากผู้อื่น เพื่อให้ตนเองบรรลุเป้าหมายที่ต้องการ
              • ขาดความเห็นใจและนึกถึงผู้อื่น
              • มักริษยาผู้อื่น หรือเชื่อว่าคนรอบข้างอิจฉาตนเอง
              • มีความคิดหรือพฤติกรรมที่เย่อหยิ่ง จองหอง
              ที่มา : www.pobpad.com

              ขอขอบคุณคลิปดี ๆ จาก Rama Square  ให้ความรู้โดย รศ. พญ.สุวรรณี พุทธิศรี ภาควิชาจิตเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล

              เลี้ยงลูกอย่างไร ทำให้ลูกเป็นเด็กที่หลงตัวเอง??

              พัฒนาการทางด้านจิตใจ หรือพัฒนาการทางบุคลิกภาพของแต่ละบุคคลนั้น จะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป จะเรียนรู้ เติบโต พัฒนาการไปตามแต่ละช่วงวัย  การสร้างบุคลิกภาพเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่จะทำให้คนเรามีคุณภาพชีวิตที่ดี มีจิตใจปกติ สามารถมีความสุข มีความรับผิดชอบ ปรับตัวได้ในสถานการณ์ต่าง ๆ พัฒนาการที่ดีต้องอาศัยปฏิสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยทางชีวภาพของเด็ก กับประสบการณ์จากสิ่งแวดล้อมที่เด็กเติบโตมา

              พ่อแม่ ผู้เลี้ยงดูเด็ก จึงมีความสำคัญ และมีความจำเป็นที่ต้องมีความรู้ความเข้าใจในบทบาทตนเองที่ส่งผลต่อการพัฒนาบุคลิกภาพของเด็ก เพราะจะช่วยป้องกันปัญหาทางจิตใจ อารมณ์ และพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ หรือหากว่าพ่อแม่สังเกตได้ว่าลูกมีความเบี่ยงเบน พบสัญญาณของปัญหาต่อบุคลิกภาพ ก็จะได้รีบแก้ไข หรือขอความช่วยเหลือจากจิตแพทย์เด็ก หรือผู้ที่มีความเชี่ยวชาญต่อไปได้

              สังเกตอาการลูกมีความเสี่ยงเป็น โรคหลงตัวเอง หรือไม่??

              • ต้องการความสนใจมากเป็นพิเศษ แต่เมื่อได้รับแล้วกลับไม่รู้สึกปลาบปลื้ม หรือขอบคุณกับความรักที่ได้รับมา รู้สึกความรักนั้นไม่เพียงพอ
              • มีความคาดหวังกับตัวเองสูง เมื่อทำอะไรผิดพลาดจะรู้สึกแย่ และรู้สึกไม่ดีต่อตนเอง ลดทอนคุณค่าของตัวเอง ไม่สามารถปรับตัวให้ยอมรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น แต่จะแสดงออกมาเป็นอาการโมโห เกรี้ยวกราด และหากต้องเผชิญกับความผิดหวังบ่อยครั้ง อาจนำไปสู่อาการของโรคซึมเศร้าได้ เพราะไม่สามารถยอมรับตัวเองได้
              • ไม่ชอบเล่นบทบาทสมมติ ตามปกติในวัยเด็กเล็กมักจะชื่นชอบต่อการเล่นบทบาทสมมติเป็นตัวฮีโร่ที่ตนเองชื่นชอบ แต่เด็กที่มีบุคลิกหลงตัวเองนั้น มักจะไม่เล่นบทบาทสมมติเป็นตัวละครอื่น แต่จะจินตนาการว่าตัวเองพิเศษ เหนือกว่าคนอื่น และจะรู้สึกอิจฉา จนอาจไปทำลายความสำเร็จของเพื่อนได้ เมื่อเห็นใครได้รับการยอมรับมากกว่า เช่น หากเห็นเพื่อนต่อบล็อกได้สูงกว่า หรือครูชมว่าของเพื่อนสวย แต่ไม่ได้รับคำชมบ้าง อาจไปทำลายบล็อกของเพื่อน เป็นต้น
              • มีเพื่อนน้อย เพราะมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีต่อคนรอบข้าง ไม่ฟังใคร ชอบออกคำสั่งมากกว่ารับฟังความเห็นผู้อื่น เพื่อนจึงไม่ค่อยเล่นด้วย
              ต้องพยายามเป็นที่หนึ่งตลอด อาการ โรคหลงตัวเอง
              ต้องพยายามเป็นที่หนึ่งตลอด อาการ โรคหลงตัวเอง

              ครอบครัวแบบไหนเสี่ยงต่อการเกิดบุคลิกภาพหลงตัวเอง

              ครอบครัวที่ชื่นชมแต่ผลสำเร็จ ชอบแข่งขัน

              พ่อแม่บางคนอาจทำไปโดยไม่ตั้งใจ หรือไม่ทันระวัง กับพฤติกรรมการชมเชย ชื่นชม สนใจ หรือแสดงความรักเมื่อลูกได้รับรางวัล หรือทำอะไรบางอย่างสำเร็จเท่านั้น โดยลืมไปว่าความเป็นจริงแล้ว พ่อแม่ควรชื่นชมในความตั้งใจ การกระทำของลูกมากกว่า และมักพบว่าครอบครัวแบบนี้มักมี พ่อหรือแม่คนใดคนหนึ่ง เป็น โรคหลงตัวเอง เช่นกัน จึงมักจะกระตุ้นให้ลูก แสดงศักยภาพที่สูงที่สุด ดีที่สุด เพราะพ่อแม่ที่เป็นโรคหลงตัวเองก็ต้องการความเป็นที่หนึ่งเช่นกัน

              เด็กเหล่านี้ จะได้รับความสนใจ หรือ ความรัก อย่างมีเงื่อนไข เช่น สอบได้ที่หนึ่ง ได้คะแนนดี ได้รางวัลต่าง ๆ จากโรงเรียน และเมื่อทำได้ พวกเขาก็จะได้รับคำชื่นชมยินดีอย่างมาก แต่เมื่อไรก็ตาม ที่เราไม่ได้รับรางวัลใด ๆ เด็กเหล่านั้นก็จะรู้สึกผิดหวัง และไม่ว่าเขาจะประสบความสำเร็จมากเพียงใด ก็ไม่เคยสิ้นสุด ความกดดัน ที่จะต้องทำให้ดีขึ้นยังคงอยู่

              สิ่งแวดล้อมทำให้เขารู้สึกว่า เขาจะไม่ได้รับความรัก และ ความสนใจ ถ้าไม่ประสบความสำเร็จ แทนที่พวกเขาจะมีความสุขในสิ่งที่ทำ พวกเขาวิ่งตามหาความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิมเรื่อยๆ พ่อกับแม่ของพวกเขา ไม่ได้สนับสนุนในสิ่งที่เขาชอบ โดยไม่มีเงื่อนไข พวกเขาจะได้รับการสนับสนุน หรือ ชื่นชม ก็ต่อเมื่อเป็นความสำเร็จที่ครอบครัวยอมรับ ทำให้ครอบครัวดูดี เพื่อที่พ่อกับแม่ จะได้ไปคุยกับคนอื่น ถึงความสำเร็จของลูกได้

              ครอบครัวที่ชอบเปรียบเทียบ
              พ่อแม่ที่นำลูกไปเปรียบเทียบ ไม่ว่าจะเปรียบเทียบกับคนอื่น ญาติสนิทมิตรสหาย หรือเปรียบเทียบกับพี่น้องกันเองก็ตาม โดยความมุ่งหวังว่าเด็กจะได้มีแรงผลักดัน และมีตัวอย่างที่จะดำเนินรอยตาม แต่รู้หรือไม่ว่า การเปรียบเทียบกับคนที่เก่งกว่า ดีกว่า จะทำให้เด็กรู้สึกว่าตัวเองไม่ดีพออยู่เสมอ เด็กมักมีอารมณ์โกรธ อับอาย และรู้สึกว่าตัวเองไม่ดีพออยู่เสมอ ๆ ทำให้แสดงออกมาเป็นพฤติกรรมที่ตอบสนองต่อสถานการณ์ต่าง ๆ แตกต่างกันไป โดยอาจแบ่งได้ดังนี้
              • แสดงออกเป็นเด็กขี้แพ้

              เมื่อลูกถูกเปรียบเทียบกับคนที่เก่งกว่าบ่อยครั้ง จะทำให้เขารู้สึกว่า ตัวเองไม่ดีพอ ไม่มีทางทำได้ ทำให้รู้สึกไม่ชอบตัวเอง มีอาการของโรคซึมเศร้า และวิธีการที่เด็กกลุ่มนี้จะใช้ในการหนีความเจ็บปวด ได้แก่ การเสพติดบางอย่าง ไม่ว่าจะเป็น ยาเสพติด เหล้า บุหรี เกมส์ เป็นต้น ชีวิตของเด็กที่มีบุคลิกภาพแบบนี้มักไม่ค่อยประสบความสำเร็จ ด้วยการคิดว่า พวกเขาไม่มีความสามารถมากพอ จึงยอมแพ้ตั้งแต่ต้น

              เมื่อไม่เป็นที่หนึ่ง จะผิดหวังรุนแรง ไม่สามารถปรับตัวได้
              เมื่อไม่เป็นที่หนึ่ง จะผิดหวังรุนแรง ไม่สามารถปรับตัวได้
              • เด็กต่อต้าน

              เด็กบางคนจะแสดงออกมาในรูปแบบต่อต้าน โกรธที่พ่อแม่มองไม่เห็นคุณค่า หากมีเหตุการณ์ใดก็ตามที่ทำให้พวกเขารู้สึกว่า ถูกกระทำคล้าย ๆ กับที่พ่อกับแม่ทำกับเขา พวกเขาก็จะระบายความโกรธอย่างรุนแรงกับคนเหล่านั้น พวกเขาชอบที่จะทำลาย ทำร้ายคน

              ครอบครัวที่ปกป้องมากเกินไป
              พ่อแม่ที่ปกป้องลูก ย่อมเป็นเรื่องปกติ แต่หากเป็นการปกป้องที่ทำให้ลูกหมดทุกอย่าง ตามใจ ลูกไม่เคยผิด การชื่นชมลูกมากจนเกินความเป็นจริง ผลที่ได้ในทางกลับกันจะเป็นการสร้างแรงกดดันให้กับลูก ทำให้เขารู้สึกว่า เขาจะไม่ได้ความรัก ถ้าพวกเขาไม่เป็นอย่างที่พ่อแม่ชื่นชม

              เด็กที่ต้องพยายามทำบางสิ่งบางอย่างเพื่อให้ได้รับความรัก และ ความสนใจ ทำให้พวกเขาไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง ไม่รู้ว่าตัวเอง ชอบ หรือ ไม่ชอบอะไร หรือ มีความสุขอย่างแท้จริงกับการทำอะไร เพราะพวกเขาพยายามทุกวิถีทางเพื่อจะได้รับการยอมรับจากพ่อกับแม่

              ผู้ที่มีบุคลิกภาพแบบหลงตัวเองอย่างแท้จริง (proper narcissist) มองภายนอกอาจดูเข้มแข็ง ไม่กลัวสิ่งใด ยึดถือภูมิใจในตนเอง แต่ความเป็นจริงกลับมีความรู้สึกผิดในเบื้องลึกของจิตใจ ทั้งยังนับถือตนเองต่ำ จึงแสดงการโอ้อวดตนเองเพื่อให้ได้มาซึ่งการยอมรับ และสถานะทางสังคม

              รักโดยไม่มีเงื่อนไข ช่วยได้
              รักโดยไม่มีเงื่อนไข ช่วยได้

              ดังนั้นผู้คนรอบข้างจึงควรทำความเข้าใจ โดยเฉพาะพ่อแม่สามารถปรับพฤติกรรม และความรู้สึกของลูกได้ด้วยการมอบความรักอย่างไม่มีเงื่อนไขให้กับลูก อย่านำความรักที่ให้ไปผูกติดกับความสำเร็จ หรือการเป็นที่หนึ่ง ทำให้ลูกรับรู้ได้ว่าเรารักเขาที่เป็นตัวเขาเอง ให้ลูกค่อย ๆ ปรับความคิด และจะได้ไม่ต้องไขว้คว้าแสวงหาแต่การเป็นที่หนึ่งอยู่ตลอดเวลา จะทำให้การดำเนินชีวิตของลูกตลอดชีวิตพบแต่ความเหนื่อยใจ ไม่เต็มเติมเสียที จนอาจนำพาไปสู่อาการทางจิตที่รุนแรงขึ้นได้

              ข้อมูลอ้างอิงจาก www.istrong.co /www.bbc.com

              อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

              อาการลองโควิด กระทบ 6 อวัยวะภายใน ดูแลยังไง

              แก้ปัญหาลูกติดมือถือ ง่ายๆ ด้วย คู่มือตารางเวลา จากกรมสุขภาพจิต

              120 ชื่ออังกฤษ สำหรับลูกสาว ลูกชาย เพราะๆ เก๋ๆ

              ควร กินอะไรเสริมภูมิ บรรเทาอาการลูกน้อยจากลองโควิด

              เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

               

                ยาสีฟันเด็ก Toothpaste

                รวม 14 ยาสีฟันเด็ก ยี่ห้อไหนดี กลิ่นหอมน่าใช้ แปรงฟันสะอาด พร้อมวิธีเลือกซื้อยาสีฟัน

                ลูกน้อยยิ้มสวยฟันขาวสะอาดไม่มีฟันผุ คุณแม่ ๆ ต้องเริ่มฝึกลูกให้รักการแปรงฟันกันมาตั้งแต่เล็ก ๆ ถึงจะมีสุขภาพช่องปากและฟันแข็งแรง ซึ่งไอเทมสำคัญตัวช่วยทำให้มีสุขภาพฟันดีทั้งฟันน้ำนม และฟันแท้ นั่นก็คือ “ยาสีฟันเด็ก” วันนี้ทีมแม่ABK รวบรวมยาสีฟันเด็กสุดฮอตใช้ดี มาแนะนำให้เลือกใช้กันแบบจุใจ 14 ยี่ห้อเลยค่ะ

                ยาสีฟันเด็ก ต้องมีปริมาณฟลูออไรด์เท่าไหร่ ?

                ฟลูออไรด์ที่ผสมอยู่ใน ยาสีฟันเด็ก และ ยาสีฟันทั่วไป นั่นมาจากเกลือของธาตุฟลูออรีนที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ (ดิน น้ำ อากาศ หินแร่ อาหารทะเล) ซึ่งสารฟลูออไรด์จะมีประโยชน์ในการช่วยเคลือบฟัน ทำให้ยับยั้งการผุของผิวเคลือบฟัน  แต่การใช้ฟลูออไรด์ก็ต้องอยู่ในปริมาณที่เหมาะสมด้วยเช่นกันค่ะ เพราะการใช้ในปริมาณมากเกินไป ก็เสี่ยงที่จะทำให้เป็นโรคฟันตกกระ(Fluorosis) ทำให้เนื้อฟันมีแถบหรือจุดสีขาว สีเหลืองเข้ม หรือสีน้ำตาลเข้มได้ค่ะ

                ปริมาณฟลูออไรด์ที่เหมาะสมในยาสีฟันคือ ประมาณ 1,000 – 1,500 ppm (ส่วนในล้านส่วน) เพื่อเป็นการป้องกันฟันผุ และช่วยให้สุขภาพฟันแข็งแรง ควรแปรงฟันด้วยยาสีฟันที่ผสมฟลูออไรด์วันละ 2 ครั้ง เช้า – ก่อนนอน

                จดโน้ตไว้เลยว่า ยาสีฟันเด็ก ไม่ควรมีส่วนผสมของน้ำตาล เพราะจะทำฟันผุ และการใช้ยาสีฟันที่ผสมฟลูออไรด์ ก็ต้องดูที่ปริมาณ ppm ด้วยนะคะ สำหรับในเด็กเล็กมาก ๆ (น้อยกว่า 3 ขวบ) อาจเลือกเป็นยาสีฟันที่ไม่มีฟลูออไรด์ก็ได้เช่นกันค่ะ 

                ต้องใช้ยาสีฟันเด็ก ป้ายที่แปรงสีฟันปริมาณแค่ไหน ?

                ได้ยินกันบ่อย ๆ ว่าเมล็ดถั่วเขียวใช่ไหมคะ ทีนี้ขนาดถั่วเขียวของแต่ละบ้านก็กะขนาดไม่เท่ากัน มาดูวิธีการใช้ปริมาณยาสีฟันง่ายกับช่องปากของลูก ให้ดูที่ “แปรงสีฟัน” เป็นหลักค่ะ

                • ตั้งแต่ฟันซี่แรกขึ้น – อายุต่ำกว่า 3 ปี ปริมาณยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ที่ใช้ คือ แตะขนแปรงพอเปียก โดยที่ต้องมีคุณพ่อคุณแม่แปรงให้และเช็ดฟองออก ลูกระหว่างวัยนี้ยังแปรงฟันเองได้ไม่ถนัด และยังแปรงฟันเองได้ไม่สะอาดค่ะ
                • เด็กอายุ 3 ปี – อายุต่ำกว่า 6 ปี ปริมาณยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ที่ใช้ คือ เท่ากับความกว้างของแปรง คุณพ่อคุณแม่ก็ยังต้องช่วยดูในเรื่องการบีบใช้ยาสีฟัน และการแปรงฟันให้ลูกอยู่นะคะ
                • เด็กอายุ 6 ปีขึ้นไป ปริมาณยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ที่ใช้ คือ เท่ากับความยาวของแปรง ลูก ๆ วัยระหว่างนี้ เริ่มให้เขาแปรงฟันกันได้เองแล้วค่ะ โดยคุณพ่อคุณแม่แปรงฟันไปพร้อมกับลูก สร้างบรรยากาศให้สนุก ซึ่งพอเมื่อลูกโตพอที่จะแปรงฟันได้เอง เราก็ไม่ต้องช่วยเขาแล้ว ลูกจะแปรงฟันเองได้อย่างมีวินัยค่ะ

                พอจะได้ข้อมูลการใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์กันไปคร่าว ๆ แล้วนะคะ จริง ๆ แล้วฟลูออไรด์มีประโยชน์มากนะคะเพียงแค่ต้องใช้ในปริมาณที่เหมาะสมก็จะช่วยให้เกิดประโยชน์ค่ะ ทีนี้มาดูกันว่ามียาสีฟันสำหรับเด็กยี่ห้อไหน คุณแม่ถูกใจ ลูกใช้แล้วชอบกันบ้าง ขอบอกแต่ละยี่ห้อใช้ดี ทำมาเพื่อการดูแลฟันเด็กโดยเฉพาะค่ะ

                15 ยาสีฟันเด็ก ยี่ห้อไหนดี กลิ่นหอม ฟันขาวสะอาด ป้องกันฟันผุ

                ยาสีฟันเด็ก Kodomo

                1. KODOMO ยาสีฟันเด็ก สูตรอัลตร้า ชิลด์

                ยาสีฟัน : เนื้อเจลสีสดใส ปราศจากน้ำตาล

                ขนาด :  40 กรัม

                กลิ่น / รส : กลิ่นผลไม้หอมหวาน ได้แก่ กลิ่นสตรอเบอร์รี่ กลิ่นส้ม และกลิ่นบับเบิ้ลฟรุ๊ต ช่วยให้เด็กๆ สนุกสนานและรักการแปรงฟันมากขึ้น

                เหมาะสำหรับเด็กอายุ : 0.5 – 12 ปี

                ปริมาณฟลูออไรด์ : 1000 ppm

                ราคา : 22 บาท/หลอด  SHOW NOW คลิก >> Lionshoponline

                 

                Dr.Wise ยาสีฟันเด็ก

                2. Dr.Wise ยาสีฟันเด็ก พรีเมี่ยมออร์แกนิค สูตรทันตแพทย์

                ยาสีฟัน : ดูแลสุขภาพทั้งช่องปาก ลิ้น ฟัน เหงือก กระพุ้งแก้ม – ป้องกันฟันผุ ลดการเกิดคราบขี้ฟันเหลือง เติมแคลเซียมให้ผิวฟันแข็งแรงขึ้น ช่วยให้เหงือกมีสุขภาพดี ลดกลิ่นปาก สร้างสมดุลแห่งความชุ่มชื้นให้กับช่องปาก เนื้อเจลใส กลืนได้ ปราศจากสารเคมีอันตราย สารก่อฟองและสารกันบูด

                ขนาด : 30 กรัม

                กลิ่น / รส : กลิ่นสตรอว์เบอร์รี่ หอมหวานจาก Japan อร่อยถูกใจเด็ก ๆ ช่วยให้แปรงฟันได้ง่ายขึ้น

                เหมาะสำหรับเด็กอายุ : 6 เดือน – 12 ปี

                ปริมาณฟลูออไรด์ : 1000 ppm

                ราคา : ปกติ 265 บาท ราคาโปรโมชั่น 225 บาท SHOP NOW คลิก >>  m.me/DrWiseOrganic

                 

                ฺBrush Me toothpaste

                3. บลัชมี ยาสีฟันกึ่งสมุนไพรสำหรับเด็ก

                ยาสีฟัน :ปราศจากน้ำตาล ไม่มีสารโซเดียม ลอริล ซัลเฟต(SLS) และ พาราเพน

                ขนาด : 40 กรัม

                กลิ่น / รส : กลิ่นแยมสตรอเบอร์รี่+ส้มมาร์มาเลด

                เหมาะสำหรับเด็กอายุ : 6 เดือนขึ้นไป

                ปริมาณฟลูออไรด์ : 500 ppm

                ราคา : 85 บาท/แพ็ค  SHOW NOW คลิก >> Amvata

                ยาสีฟันสำหรับเด็ก Lamoon

                4. LAMOON  ยาสีฟันเด็ก สูตรออร์แกนิค

                ยาสีฟัน : ปราศจากน้ำตาล และสารอันตราย

                ขนาด : 40 กรัม

                กลิ่น / รส : กลิ่นแอปเปิ้ล

                เหมาะสำหรับเด็กอายุ : 6 เดือน – 3 ปี

                ปริมาณฟลูออไรด์ :  ปราศจากฟลูออไรด์

                ราคา : 250 บาท/หลอด  SHOW NOW คลิก >> Amvata

                Oral-B ยาสีฟันเด็ก มิกกี้มินนี่

                5. Oral-B ยาสีฟันเด็ก มิกกี้มินนี่

                ยาสีฟัน : เนื้อเจล ปราศจากน้ำตาล

                ขนาด : 92 กรัม

                กลิ่น / รส : กลิ่นหอมเหมือนหมากฝรั่งรสเบอร์รี

                เหมาะสำหรับเด็กอายุ : 3 – 6 ปี

                ปริมาณฟลูออไรด์ :  500 ppm

                ราคา : 55 บาท/หลอด  SHOW NOW คลิก >> SHOPEE

                ยาสีฟันเด็ก Pigeon

                6. ยาสีฟันเด็ก Pigeon

                ยาสีฟัน : เนื้อเจล ส่วนผสมทั้งหมดเป็น Food grade ปราศจากน้ำตาล ไม่มีพาราเบน ไม่มีสาร SLS ฟองน้อย และไม่แต่งสี

                ขนาด :  45 กรัม

                กลิ่น / รส : รสธรรมชาติ และ รสองุ่น

                เหมาะสำหรับเด็กอายุ : 1 ปีขึ้นไป

                ปริมาณฟลูออไรด์ :  1000 ppm

                ราคา :  89 บาท/หลอด  SHOW NOW คลิก >> SHOPEE

                Kindee Organic Oral Gel

                7. Kindee Organic Oral Gel

                ยาสีฟัน : สูตรออร์แกนิค เกรดอาหาร ผลิตจากสารสกัดธรรมชาติออร์แกนิค เช่น ว่านหางจระเข้ ข้าวโพด

                 กลืนได้ ไม่เป็นอันตราย ยาสีฟันเนื้อเจล ปราศจากน้ำตาล

                ขนาด :  50 กรัม

                กลิ่น / รส : กลิ่นสตอเบอร์รี่

                เหมาะสำหรับเด็กอายุ : 6 เดือนขึ้นไป

                ปริมาณฟลูออไรด์ : ปราศจากฟลูออไรด์

                ราคา :  150 บาท/หลอด  SHOW NOW คลิก >> Kindeekids

                ยาสีฟันเบย์บี

                8. ยาสีฟันเด็ก Baybee

                ยาสีฟัน : ปราศจากน้ำตาล และสารเพิ่มฟอง SLS, SLES  มีมิลค์แคลเซียม ช่วยบำรุงฟันให้แข็งแรง ส่วนผสมมาจากสารสกัดออร์แกนิคจากว่านหางจระเข้ แอปเปิ้ล และชะเอมเทศ

                ขนาด : 40 กรัม   

                กลิ่น / รส : กลิ่นสตรอเบอร์รี่ และ ส้ม

                เหมาะสำหรับเด็กอายุ : 1 ปีขึ้นไป

                ปริมาณฟลูออไรด์ : ปราศจากฟลูออไรด์

                ราคา : 95 บาท/หลอด  SHOW NOW คลิก >>  Amvata

                Baby Moby ผ้าก๊อซสเตอไรส์เช็ดฟันเด็ก

                9. Baby Moby ผ้าก๊อซสเตอไรส์เช็ดฟันเด็ก

                ยาสีฟัน : เช็ดทำความสะอาดฟัน ลิ้น และกระพุ้งแก้ม สามารถใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิด ผ้าก๊อซเช็ดฟันผลิตจากผ้าฝ้ายธรรมชาติ 100% ผ่านการสเตอไรส์ฆ่าเชื้อ สะอาดยิ่งขึ้น ทำจากฝ้ายแท้ 100% ปราศจากสารเรืองแสง พับปลาย ใช้ง่าย ไม่รุ่ย สะดวก ใช้แล้วทิ้ง ปราศจากน้ำตาล สี และกลิ่น

                 ขนาด :  40 ซอง

                กลิ่น / รส : – 

                เหมาะสำหรับเด็กอายุ : แรกเกิด

                ปริมาณฟลูออไรด์ : ปราศจากฟลูออไรด์

                ราคา : 158 บาท/กล่อง  SHOW NOW คลิก >> babymoby

                ยาสีฟันเด็ก Chicco Oral Care

                10. ยาสีฟันเด็ก Chicco Oral Care

                ยาสีฟัน : เนื้อครีม ปราศจากน้ำตาล ปราศจากสารทำความสะอาดอย่าง SLS และสารกันเสีย จึงอ่อนโยนและไม่ทำให้ช่องปากของลูกน้อยระคายเคือง

                 ขนาด :

                กลิ่น / รส : กลิ่นผลไม้แอปเปิ้ล กล้วย

                เหมาะสำหรับเด็กอายุ : 6 เดือนขึ้นไป

                ปริมาณฟลูออไรด์ :  ปราศจากฟลูออไรด์

                ราคา : 173 บาท/หลอด  SHOP NOW คลิก >>SSHOPEE

                Pigeon พีเจ้น ผ้าเช็ดฟันเด็กทารก

                11. Pigeon พีเจ้น ผ้าเช็ดฟันเด็กทารก

                ยาสีฟัน : ผ้าเช็ดฟันสำหรับเด็กทารก ผ่านการสเตอริไรส์ บรรจุในซองแยกชิ้น จึงสะอาดและดวกในการพกพา ปราศจากแอลกอฮอล์และน้ำหอม ไม่มีสี ไม่มีสารปนเปื้อนที่เป็นอันตรายต่อเด็ก ส่วนประกอบต่าง ๆ ผลิตจากวัตถุดิบเกรดที่ใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร 100%

                ขนาด : 20 ชิ้น / 70 ชิ้น

                กลิ่น / รส : กลิ่นธรรมชาติ และ สตรอเบอร์รี่

                เหมาะสำหรับเด็กอายุ : ทารก

                ปริมาณฟลูออไรด์ : ปราศจากฟลูออไรด์

                ราคา : 135 บาท/กล่อง  SHOW NOW คลิก >>  SHOPEE

                Jordan ยาสีฟันเด็ก Step 1

                12. Jordan ยาสีฟันเด็ก Step 1

                ยาสีฟัน : ปราศจากน้ำตาล ไม่มีสาร SLS ที่ทำให้เกิดฟอง

                ขนาด : 75 กรัม

                กลิ่น / รส : กลิ่นสตรอเบอร์รี่

                เหมาะสำหรับเด็กอายุ : 1 – 5 ปี

                ปริมาณฟลูออไรด์ : 500 ppm

                ราคา : 89 บาท/หลอด  SHOW NOW คลิก >>  Lazada

                ยาสีฟันเด็ก Enfant Organic Plus Gentle First

                13. ยาสีฟันเด็ก Enfant Organic Plus Gentle First

                ยาสีฟัน : เนื้อเจล ปลอดภัยจากส่วนผสมของสารเคมี ที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองในช่องปาก ปราศจากสาร SLS หรือสารทำความสะอาดและเพิ่มฟอง

                ขนาด : 30 ml

                กลิ่น / รส : กลิ่นหอมผลไม้สตอเบอรี่ และกล้วยหอม

                เหมาะสำหรับเด็กอายุ : 6 เดือนขึ้นไป

                ปริมาณฟลูออไรด์ : ปราศจากฟลูออไรด์ 

                ราคา : 275 บาท/หลอด  SHOW NOW คลิก >>  iccshopping

                ยาสีฟันเด็ก คอลเกต

                14. คอลเกต มินเนี่ยน

                ยาสีฟัน : เนื้อเจลประกายสดใส ปราศจากน้ำตาล 

                ขนาด : 40 กรัม

                กลิ่น / รส : รสบับเบิ้ลฟรุต

                เหมาะสำหรับเด็กอายุ : 2 – 6 ปี

                ปริมาณฟลูออไรด์ : 1000 ppm

                ราคา : 21 บาท/หลอด  SHOP NOW คลิก >> SHOPEE

                วิธีเลือกซื้อยาสีฟันเด็ก สำหรับพ่อแม่มือใหม่

                เดี๋ยวนี้ตามชั้นแผนกสินค้าเด็ก หรือแม่แต่ในซูเปอร์มาร์เก็ต ก็มียาสีฟันสำหรับเด็กให้เลือกซื้อใช้หลากหลายยี่ห้อเลยค่ะ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วถ้าเป็นยาสีฟันสำหรับเด็ก มักจะมีส่วนประกอบที่ปลอดภัย คิดค้นมาเพื่อดูแลฟันเด็กโดยเฉพาะ ฉะนั้นถ้าจะเลือกยาสีฟันเด็กให้ลูก แนะนำคุณพ่อคุณแม่ดูที่ข้อมูลเหล่านี้เป็นหลัก สามารถดูได้จากด้านข้างกล่องของผลิตภัณฑ์ยี่ห้อนั่น ๆ ค่ะ

                • มีตรายี่ห้อที่น่าเชื่อถือ
                • ส่วนประกอบของยาสีฟันผ่านมาตรฐานองค์การอาหารและยา (มีเครื่องหมายอย.)
                • มีปริมาณฟลูออไรด์ตามปริมาณที่กำหนด / หรืออาจไม่มีก็ได้ หากเป็นยาสีฟันสำหรับเด็กเล็ก
                • มีการบอกช่วงอายุการใช้ยาสีฟัน ที่เหมาะกับเด็กแต่ละช่วงวัย
                • ไม่มีสารเคมีอันตราย
                • บอกวันเดือนปีที่ผลิต / วันหมดอายุอย่างชัดเจน

                รู้ไหมคะว่า ฟันน้ำนมที่เป็นฟันชุดแรกของเด็ก ๆ สามารถอยู่ได้จนถึงลูกอายุ 6 ขวบ ถ้าดูแลอย่างดีก็จะไม่ผุไปก่อนเวลาค่ะ ฝันน้ำนมที่แข็งแรง ยังจะมีผลดีต่อฟันแท้ ที่เป็นฟันชุดที่สองของลูกด้วยนะคะ

                 

                ขอบคุณข้อมูลจาก : สำนักงานองค์การอาหารและยา อย.

                อ่านบทความน่าสนใจเรื่องอื่น ๆ ต่อ คลิก >>

                รวม 15 สเปรย์กันยุง สูตรอ่อนโยนสำหรับเด็ก ฉีดกันไว้ก่อนยุงกัด ยี่ห้อไหนดี

                19 อันดับ ถุงเก็บนมแม่ ถุงเก็บน้ำนม ยี่ห้อไหนดี

                 

                  อาการลองโควิด

                  อาการลองโควิด กระทบ 6 อวัยวะภายใน ดูแลยังไง

                  อาการลองโควิด กระทบ 6 อวัยวะภายใน ดูแลยังไง

                  อาการลองโควิด เป็นผลข้างเคียงที่ผู้ที่เคยติดเชื้อโควิดมักจะประสบปัญหา หลังจากที่หายจากการติดเชื้อมาแล้ว ข้อมูลจาก กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า ผู้ที่หายจากการโควิด แล้วมักจะเจออาการลองโควิด ซึ่งสร้างความกังวลต่อผู้ที่มีอาการค่อนข้างมาก เนื่องจากระบบอวัยวะที่โดนโจมตี เป็นส่วนสำคัญของระบบร่างกายอย่างมาก แต่หากได้รับการดูแล และมีการฟื้นฟูอวัยวะส่วนไม่ว่าจะเป็น ระบบทางเดินหายใจ ระบบทางจิตใจ ระบบสุขภาพจิต ระบบประสาท ระบบทั่วไป ระบบหัวใจและหลอดเลือด ระบบผิวหนัง อย่างถูกวิธี ก็จะช่วยให้ร่างกายสามารถกลับมาทำงานได้อย่างปกติ

                  อาการลองโควิด กระทบ 6 อวัยวะภายใน

                  ลองโควิดส่งผกระทบต่อ 6 ระบบร่างกาย ได้แก่
                  1.ระบบทางเดินหายใจ 44.38% เช่น เหนื่อยง่าย หายใจไม่เต็มปอด ไอเรื้อรัง
                  2.ระบบสุขภาพ 32.1% เช่น นอนไม่หลับ วิตกกังวล ซึมเศร้า
                  3.ระบบประสาท  27.33% เช่น อ่อนแรงเฉพาะที่แบบเฉียบพลัน ปวดศีรษะ หลงลืม
                  4.ระบบทั่วไป  23.41% เช่น อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดตามข้อ
                  5.ระบบหัวใจและหลอดเลือด 22.86% เช่น เจ็บหน้าอก ใจสั่น
                  6.ระบบผิวหนัง  22.8% เช่น ผมร่วง ผื่นแพ้

                  อาการลองโควิดดูแลยังไง

                  สำหรับแนวทางการดูแลอาการลองโควิด กับระบบอวัยวะทั้ง 6 อย่าง ทำได้ดังนี้

                  1. ระบบทางเดินหายใจ

                  พบภาวะ ไอเรื้อรัง เนื่องจากการติดเชื้อโควิด ส่วนใหญ่มักจะมีอาการไอทั้งไอแห้ง ไอมีเสมหะ บางรายไอแบบมีเลือดปนมา อาการดังกล่าวเกิดจากการที่เชื้อไวรัสเข้าไปทำลายเนื้อเยื้อทางเดินหายใจ จึงทำให้ระบบทางเดินหายใจไวต่อสิ่งเร้าได้ง่ายขึ้น  โดยเฉพาะอาการไอ แต่โดยปกติแล้วอาการดังกล่าวจะสามารถหายไปเองได้ ขึ้นอยู่กับเวลาและความเสียหายของเนื้อเยื้อทางเดินหายใจ

                  วิธีดูแล “อาการไอเรื้อรัง” ทำได้ดังนี้

                  -ทานยาแก้ไอ เพื่อลดอาการระคายเคืองในลำคอ
                  -ดื่มน้ำในปริมาณมาก เพื่อบรรเทาอาการระคายเคืองคอ
                  -ดื่มน้ำอุ่นผสมน้ำผึ้งมะนาว เพิ่มความชุ่มชื้นในลำคอ และลดเสมหะ
                  -ใช้สเปรย์พ่น เพื่อลดการอักเสบและลดการระคายเคืองในลำคอ
                  -นอนหลับให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายฟื้นฟูได้อย่างเต็มที่
                  -ไม่อยู่ในสถานที่ ที่มีอากาศแห้งมากเกินไป เพราะอาจเกิดการระคายเคืองในลำคอได้
                  -หลีกเลียงบริเวณที่มีฝุ่นหรือควันเยอะ เพราะอาจทำให้อาการไอกำเริบ

                  อาการลองโควิด
                  อาการลองโควิด กระทบ 6 อวัยวะภายใน ดูแลยังไง

                  2.ระบบทางเดินหายใจ

                  เบื้องต้นคาดว่าเกิดจากการต่อสู้ของระบบภูมิคุ้มกัน อาการเบื้องต้นมักจะเจอภาวะ ใจสั่น เหนื่อยล้า อ่อนเพลีย  มีอาการเจ็บบริเวณหน้าอกแบบแปลก ๆ  หัวใจเต้นผิดจังหวะ  หากมีอาการอย่างใดอย่างหนึ่งควรพบแพทย์ทันที เนื่องจากภาวะลองโควิดที่กระทบระบบหัวใจไม่สามารถรักษาเองได้ ต้องให้แพทย์วินิจฉัย

                  3.ระบบทั่วไป

                  เนื่องจากเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จะเข้าไปทำลายระบบทางเดินหายใจและปอด ทำให้ร่างกายไม่สามารถรับอ๊อกซิเจน เข้าไปได้เต็มที่ส่งผลให้เกิดการอักเสบตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ทำให้เกิดภาวะอ่อนเพลีย ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ  ปวดตามข้อ วิธีการดูแลอย่างด่วนที่สุด ดังนี้

                  -ฝึกหายใจ เพื่อฟื้นฟูปอดให้ร่างกายได้รับอ็อกซิเจนเข้าไปเต็มปอด
                  -ออกกำลังกายในระดับที่เหมาะสมกับร่างกาย เพื่อให้ร่างกายรู้สึกกระฉับกระเฉง ไม่ง่วงซึม อ่อนล้า  อ่อนเพลีย
                  -พักผ่อนระหว่างวันไม่โหมทำกิจกรรมหนัก เช่น ไม่หักโหมเดินทางไกล ไม่ตากแดดนานเกินไป
                  -ทานอาหารที่เป็นประโยชน์ เน้นโปรตีน โพรไบโอติก อาหารที่มีกากใย เลี่ยงอาหาร Junk Food

                  4.ระบบประสาท

                  สาเหตุที่ทำให้โควิด มีผลกับระบบประสาทโดยตรง มาจากภูมิคุ้มกันในตัวผู้ป่วยทำงานต่อสู้กับไวรัส จนเกิดการอักเสบกับระบบประสาทและสมอง การตรวจเช็คเบื้องต้น ว่าอาการปวดหัว อ่อนเพลีย ว่าเป็นผลกระทบเรื้อรังจากการติดเชื้อหรือไม่ ทำได้ดังนี้

                  -ปวดศีรษะ
                  -มึนงงสับสน
                  -มีอาการสมาธิสั้น
                  -มีอาการซึม
                  -มีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง ชาตามร่างกาย หรือชาแขนขา
                  -หน้าเบี้ยว พูดไม่ได้หรือพูดไม่ชัด สมองไม่โปร่ง

                  5.อาการที่เกี่ยวข้องกับผิวหนัง

                  อาการทางผิวหนังที่เกิดขึ้นหลังจากติดโควิด เกิดจากภูมิต้านทานสร้างเม็ดเลือดขาวมาต่อสู้กับไวรัสภายในร่างกาย  มักจะทำให้เป็นผื่นคัน ผื่นนูนแดง ผื่นตุ่มใสๆ ผื่นแบบลมพิษ หรือบางรายอาจมีอาการผมร่วง
                  วิธีการแยกระหว่างอาการทางผิวหนังปกติกับอาการผิวหนังปกติ สังเกตุจากอาการผลข้างเคียงจาก Long covid อื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น เป็นไข้ ตัวร้อน ปวดหัว อ่อนเพลีย  หากพบ “อาการลองโควิด” ที่มีผลกระทบจากผิวหนังให้ดูตัวเองด้วยการทาโลชัน ไม่เกาบริเวณที่คัน แต่ให้ลูบเบา ๆ ในจุดที่คันแทน

                  6.อาการที่เกี่ยวข้องกับภาวะจิตใจ

                  จากข้อมูลพบว่า หลังจากที่หายจากโควิดพบว่าผู้ป่วยกว่า 32.1% มีภาวะซึมเศร้าเป็นเวลานาน โดยอาจมีผลกระทบต่อระบบประสาทโดยตรงที่ทำให้เกิดการทำงานที่ผิดปกติ และทางจิตใจที่เกิดจากสภาวะจิตใจของผู้ป่วย  อย่างไรก็ตามผู้ที่เคยป่วยโควิด และคนใกล้ชิดสามารถดูแลจิตใจหลังจากหายโควิดได้ ดังนี้

                  – หางานอดิเรกทำ
                  -ทำกิจกรรม พูดคุบกับครอบครัว
                  -หลีกเลี่ยงข่าว หรือสถานการณ์ที่จะทำให้เกิดภาวะเครียด
                  -หากยังไม่ดีขึ้นควรปรึกษาแพทย์ด้านสุขภาพจิตโดยเฉพาะ

                  ขอบคุณข้อมูลจาก

                  คมชัดลึก

                   

                  เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                   อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

                  ควร กินอะไรเสริมภูมิ บรรเทาอาการลูกน้อยจากลองโควิด

                  กทม.เปิดคลินิกดูแล ผู้ป่วยลองโควิด ในรพ. 9 แห่ง 

                  อาการ ลองโควิด กับมิสซีเทียบอาการให้ชัดป้องกันได้ไว

                    ของใช้เด็กที่ขาดไม่ได้ช่วง.. หน้าฝน

                    รวมไอเทมของใช้เด็กที่ขาดไม่ได้ช่วง.. หน้าฝน

                    หน้าฝน มาอีกแล้ว!! ละอองฝนบวกกับอากาศชื้นหนาวเย็นแบบนี้ รู้ไหมคะว่าทำลูกเล็ก เด็กวัยเรียน ป่วยกันได้ง่ายมาก ไม่ว่าจะเป็นโรคมือเท้าปาก มีไข้ ปวดหัว เป็นหวัดคัดจมูก น้ำมูกไหล

                    หน้าฝนมักมาพร้อมกับเชื้อโรค เชื้อไวรัส ฯลฯ แถมโควิดก็ยังอยู่ เหมือนหนีเสือปะจระเข้ใช่ไหมคะ แต่กังวลใจไปก็เท่านั้น เรามาเตรียมพร้อมรับมือปกป้องสุขภาพของเด็ก ๆ ไม่ให้เจ็บป่วยในช่วงฤดูฝนนี้กันดีกว่าค่ะ กองบรรณาธิการ Amarin Baby & Kids มีของใช้เด็ก ไอเทมเด็ด เพื่อให้คุณแม่ได้ใช้ดูแลสุขภาพลูกน้อย และทุกคนในครอบครัวให้แข็งแรงสุขภาพดี ที่ไม่ว่าจะฤดูไหนแม่ก็รับมือได้สบาย มาฝากกันค่ะ

                    4 ไอเทมหน้าฝน ที่ต้องมีติดบ้าน ติดกระเป๋าไว้ใช้

                    ไอเทมหน้าฝน Little Bear

                    เครดิตภาพ :  FB Little Bear

                    1. Little bear สเปรย์กันยุงสูตรออร์แกนิค

                    เมืองไทยมียุงชุมมาก ที่ไม่ใช่แค่เฉพาะหน้าฝน เพราะไม่ว่าจะฤดูไหนก็สามารถพบเจอยุงตัวร้ายได้ที่บ้านค่ะ ฉะนั้นแนะนำคุณพ่อคุณแม่ว่าควรมีตัวช่วยอย่าง “สเปรย์กันยุง” ใช้ที่บ้าน หรือพกติดใส่กระเป๋าใช้ได้ทุกที่ ทุกเวลา ป้องกันยุงไม่ให้มากัดลูก พอพูดถึงสเปรย์กันยุงที่ใช้ได้อย่างปลอดภัยกับผิว และสุขภาพของเด็ก ๆ เป็นสูตรออร์แกนิคที่มีสารสกัดจากธรรมชาติ ปราศจากสารเคมี มีประสิทธิภาพในการป้องกันยุงตัวร้ายได้อย่างดีเยี่ยม ก็ต้องยี่ห้อนี่เลยค่ะ “LITTLE BEAR สเปรย์กันยุงสูตรออร์แกนิค” ขอบอกว่าผลิตภัณฑ์แบรนด์นี้ดีจริง ๆ แล้วก็มีรางวัลการันตีเพิ่มความมั่นใจให้กับแม่ ๆ จากงานประกวด Amarin Baby & Kids Award 2021 ในสาขาผลิตภัณฑ์กันยุงสำหรับเด็ก รางวัล RISING STAR : BEST MOSQUITO REPELLENT FOR KIDS มาดูส่วนผสมและคุณสมบัติของสเปรย์กันยุง Little Bear กันค่ะ ภายในสเปรย์ดีไซน์น่ารักหยิบใช้ถนัดมือขวดนี้ คุณแม่สามารถใช้กับลูกได้อย่างปลอดภัยไร้กังวล ไม่มีส่วนผสมของสารเคมีอันตรายทุกชนิด เพราะมาจากธรรมชาติ 100% มีน้ำแร่บริสุทธิ์จากใบสนฮิโนกิ ประเทศญี่ปุ่น ส้มยูสุจากญี่ปุ่น ลาเวนเดอร์จากฮอกไกโด วิตามินข้าวญี่ปุ่น ดอกคาโมมายด์ น้ำมันมะพร้าวออแกนิค สารสกัดจากรากต้นโอ๊คออแกนิคส์ ว่านหางจระเข้ออแกนิค โรสแมรี่ เจอราเนี่ยม ตะไคร้หอม และมะกรูด แค่รู้ส่วนผสมก็ว้าวมากแม่!! ส่วนเรื่องคุณสมบัติก็ไม่เป็นสองรองใครเพราะนอกจากจะปกป้องผิวจากยุงและแมลง ยังช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น ลดการอักเสบ มีกลิ่นหอมสดชื่น คุณแม่สามารถฉีดลงบนผิวโดยตรง จะช่วยป้องกันยุงได้นานถึง 7 ชั่วโมง หรือฉีดลงบนเสื้อผ้ากับของใช้ลูกจะช่วยป้องกันยุงได้ถึง 8 ชั่วโมง Little Bear สเปรย์กันยุงสูตรออร์แกนิค ผ่านมาตรฐานรับรองสารสกัดที่เป็นออร์แกนิคจากสถาบัน USDA ประเทศสหรัฐอเมริกา และสถาบัน ECOCERT จากประเทศฝรั่งเศส

                    ของใช้เด็กหน้าฝน เดทตอล

                    เครดิตภาพ : dettolthailand

                    2. เดทตอล ผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อโรคอเนกประสงค์

                    หน้าฝน เสื้อผ้าซักตากอาจแห้งไม่สนิท ทำให้เนื้อผ้าชื้น มีกลิ่นเหม็นอับ อันนี้ไม่ดีนะคะไม่แนะนำให้เด็ก ๆ หรือคุณพ่อคุณแม่สวมใส่เสื้อผ้าที่ยังแห้งไม่สนิทและมีกลิ่นหม็นอับ เพราะอาจจะมีเชื้อรา เชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนัง เสี่ยงต่อการเกิดผื่นแพ้ผิวหนัง หรืออาการคันในร่มผ้าได้ค่ะ

                    การดูแลเสื้อผ้าของเด็ก ๆ และทุกคนในบ้านให้สะอาด ปราศจากกลิ่นเหม็นอับชื้นในช่วงหน้าฝน เป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก คุณแม่จำเป็นต้องมีตัวช่วยอย่าง “เดทตอล” เป็นผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อโรคอเนกประสงค์ ช่วยฆ่าเชื้อโรคได้ถึง 99.9 % การใช้เดทตอล ใช้กับอะไรได้บ้าง ข้อแนะนำ วิธีใช้

                    • สำหรับพื้นผิวทั่วไปและฆ่าเชื้ออุปกรณ์ต่างๆ

                    ผสมผลิตภัณฑ์ 4.5 ฝา* ต่อน้ำ 2 ลิตร ใช้ผ้าหรือฟองน้ำชุบ แล้วนำมาเช็ดให้ทั่วพื้นผิวที่ทำความสะอาดแล้ว ทิ้งไว้ให้เปียก นาน 10 นาที จึงเช็ดออกด้วยผ้าชุบน้ำสะอาด *สำหรับขนาด 1 ฝา = 21 มล.

                    • สำหรับห้องน้ำ อ่างล้างหน้า อ่างอาบน้ำ (ที่ไม่ใช่วัสดุอะคิลิค)

                    เทผลิตภัณฑ์ลงบนพื้นที่ทำความสะอาดแล้วโดยไม่ต้องผสมน้ำ ทิ้งไว้ให้เปียกนาน 10 นาทีแล้ว จึงล้างออกด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง

                    • สำหรับซักผ้า

                    ผสมผลิตภัณฑ์ 2 ฝา* ต่อน้ำ 2 ลิตร แช่ผ้าทิ้งไว้อย่างน้อย 10 นาที เพื่อการฆ่าเชื้อโรค จากนั้นซักผ้าตามปกติด้วยมือหรือเครื่องซักผ้า *สำหรับขนาด 1 ฝา = 21 มล.

                    สมกับที่เป็นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคอเนกประสงค์ที่อยู่คู่ครอบครัวไทยมาอย่างยาวนาน เรื่องประสิทธิภาพการใช้งานปรบมือให้เลยค่ะ คุณแม่ควรมีเดทตอลติดบ้านไว้ใช้กันนะคะ (หมายเหตุ เสื้อผ้าด็กทารกไม่แนะนำให้แช่ หรือซักด้วยผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อโรคเดทตอล)

                    Nubolic DHA Algae Oil ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเด็ก

                    3. Nubolic DHA Algae Oil ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเด็ก

                    คุณแม่กำลังมองหาวิตามินอาหารเสริมสำหรับลูกอยู่หรือเปล่าคะ หน้าฝน นี้เด็ก ๆ ต้องมีร่างกายแข็งแรง และสมองการเรียนรู้ต้องดีควบคู่ไปพร้อมกันนะคะ แนะนำนี่เลย Nubolic DHA Algae Oil วิตามินแบรนด์ดังจากประเทศออสเตรเลีย มีดีเอชเอจากสาหร่ายเข้มข้น ช่วยเสริมพัฒนาการให้กับเด็กที่อยู่ในวัยเรียนได้ดีมาก ๆ ค่ะ ที่สำคัญเขาไม่ได้มาเล่น ๆ นะคะ เพราะมีรางวัลการันตีคุณภาพจากงานประกวด Amarin Baby & Kids Award 2021 ในสาขาผลิตภัณฑ์เสริมโภชนาการสำหรับเด็ก RISING STAR : KIDS DIETARY SUPPLEMENT AWARD

                    Nubolic DHA Algae Oil (นูโบลิก ดีเอชเอ อัลก้า ออยล์) สกัดจากสาหร่าย บำรุงสมองและสายตา วัยเรียนรู้ ใช้สมองเยอะ ต้องจดจำ เสริมด้วย DHA รูปปลากลิ่นเลม่อน ซอฟเจลใส ๆ ทานง่าย ไม่คาว นำเข้มาตรฐานการผลิตออสเตรเลีย ปลอดภัยจากโลหะหนักมากกว่าปลาทะเล มี DHA มากถึง 188 มก. วิตามินบำรุงสมอง บำรุงสายตา ป้องกันสมาธิสั้น ช่วยเรื่อง เจริญอาหารบำรุงเซลล์ประสาท กระตุ้นการเรียนรู้ และยังช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงมากขึ้น เหมาะกับเด็กอายุ 1 ปีขึ้นไป ช่วยในเรื่องการเรียนรู้พัฒนาการจดจำ Nubolic DHA Algae Oil (นูโบลิก ดีเอชเอ อัลก้า ออยล์) เป็นเจ้าแรกที่ได้ CPP และมาตรฐานการผลิตจากออสเตรเลียได้รับการจดทะเบียน 3 หน่วยงาน ได้แก่ องค์การอนามัยโลก 21/0240 รัฐบาลออสเตรเลีย มีอย.ไทย

                    Vicks Vaporub

                    เครดิตภาพ : FB VicksThailand

                    4. Vicks Vaporub

                    ช่วง หน้าฝน เย็นชุ่มฉ่ำคลายร้อนได้ก็จริงค่ะ แต่อากาศเย็น ๆ แบบนี้ ทำเด็ก ๆ ป่วยเป็นหวัดได้ง่ายมาก ๆ ซึ่งวิธีดูแลสุขภาพบรรเทาอาการหวัด แนะนำนี่เลยค่ะ Vicks Vaporub ผลิตภัณฑ์เพื่อบรรเทาหวัด คัดจมูก ช่วยให้ลูกหายใจได้โล่งจมูก คุณสมบัติของ Vicks Vaporub นอกจากจะใช้ในการช่วยบรรเทาอาการหวัด คัดจมูกแล้ว ยังสามารถใช้ทาบรรเทาอาการปวดศีรษะ และอีก 1 เคล็ดลับพิเศษคือ คุณแม่สามารถผสม Vicks Vaporub ในน้ำร้อน 1 แก้วแล้วนำไปตั้งที่หัวเตียงหรือบริเวณรอบ ๆ จะช่วยทำให้อากาศภายในห้องโล่งขึ้นและทำให้ลูกน้อยที่มีอาการคัดจมูกก็จะหายใจได้สะดวกยิ่งขึ้นอีกด้วย

                    เพื่อลูกรักจะได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงตลอด 365 วัน สิ่งสำคัญต้องได้รับโภชนาการสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ต้องได้รับการนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ และต้องได้ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอด้วยนะคะ ท้ายที่สุดแล้วอย่าลืมนำเคล็ดลับการดูแลสุขภาพของลูก และทุกคนในครอบครัวในช่วง หน้าฝน นี้ กับไอเทมของใช้เด็กที่น่าใช้ทั้ง 4 ชิ้นนี้ ที่กองบรรณาธิการ Amarin Baby & Kids ใช้แล้วดีจึงอยากบอกต่อให้กับคุณพ่อคุณแม่ได้หาซื้อมาใช้กันค่ะ  

                     

                      ชื่อเล่น ลูกผู้หญิง

                      ชื่อเล่น ลูกผู้หญิง ตามวันเกิด น่ารักๆ เพราะๆ เรียกง่าย!!

                      ชื่อเล่น ลูกผู้หญิง ทันสมัย เก๋ๆ เพราะๆ ความหมายดี ตามวันเกิด ชื่อแบบหนึ่งพยางค์ และสองพยางค์ ทั้งชื่อไทย และชื่อภาษาอังกฤษ ไม่มีอักษรที่เป็นกาลกิณี

                      ชื่อเล่น ลูกผู้หญิง ตามวันเกิด น่ารักๆ เพราะๆ เรียกง่าย!!

                      คุณพ่อคุณแม่ที่กำลังจะมีลูกสาวเป็นสมาชิกใหม่ของครอบครัว คงกำลังมองหา ชื่อเล่น ลูกผู้หญิง ให้กับลูกน้อย บางครอบครัวอาจหาชื่อที่มีพยัญชนะเหมือนกับคุณพ่อหรือคุณแม่ บางครอบครัวอาจหาชื่อที่เกี่ยวกับสิ่งที่ตนเองชื่นชอบ วันนี้ ทีมกองบรรณาธิการ ABK ได้รวบรวมชื่อเพราะๆ ที่อาจตรงกับความต้องการของคุณพ่อคุณแม่ มาให้ได้เลือกกันแล้วค่ะ

                      ชื่อเล่น ลูกผู้หญิง
                      ชื่อเล่น ลูกผู้หญิง

                      ชื่อเล่น ลูกผู้หญิง ตามวันเกิด น่ารักๆ เพราะๆ เรียกง่าย!!

                      ชื่อเล่นลูกสาว เกิดวันอาทิตย์

                      ชื่อความหมาย
                      กอดอุ่นอ้อมกอดอบอุ่น
                      กอดใจอ้อมกอดที่โอบอุ้มหัวใจ
                      ขนมผิงขนมไทยชนิดหนึ่ง ทำมาจากแป้งผสมกับน้ำตาล
                      ของขวัญสิ่งของที่มอบให้กันเพื่อแสดงไมตรี
                      จ๊ะจ๋าเป็นคำรับ คำตอบรับ
                      จอลลี่สนุกสนาน ครึกครื้น
                      คนดีคนที่มีคุณธรรม, คนที่ประพฤติดี
                      แครอตพืชมีหัวชนิดหนึ่ง
                      ครัวซองต์ขนมของฝรั่งเศส
                      จัสมินดอกมะลิ (Jasmine) ภาษาอังกฤษ
                      จริงใจบริสุทธิ์ใจ, สุจริตใจ
                      เจ้าเอยคำลงท้ายเวลาเรียกชื่อ
                      ชูใจบำรุงใจให้มีกำลังขึ้น
                      ชาเย็นเครื่องดื่มชนิดหนึ่ง
                      ซ่อนกลิ่นดอกไม้ชนิดหนึ่ง

                       

                      ชื่อเล่นลูกสาว เกิดวันจันทร์

                      ชื่อความหมาย
                      กรรจับ
                      กมลบัว, หัวใจ
                      ขนมของหวานต่าง ๆ ที่เป็นอาหาร
                      ชลน้ำ
                      ณมลอยู่ในหัวใจ
                      ต้นกกชื่อหญ้าพันธุ์หนึ่งขึ้นในที่ชุ่มแฉะ
                      ตวงตักด้วยภาชนะต่าง ๆ ให้รู้ปริมาณ
                      นกสัตว์ชนิดหนึ่งมี 2 เท้า 2 ปีก
                      นทผู้บันลือ, ผู้ร้อง, แม่น้ำ
                      นมสดนมพาสเจอร์ไรส์เป็นนมสด 100%
                      ฝนน้ำใสที่ตกลงมาจากเมฆ
                      พลอยอัญมณีชนิดหนึ่ง มีหลายสี
                      มณชื่อเฉพาะ
                      มดสัตว์รวมหมู่ตัวเล็ก ๆ
                      ลมฝนลมที่พัดก่อนฝนจะตก

                       

                      ชื่อเล่นลูกสาว เกิดวันอังคาร

                      ชื่อความหมาย
                      จ๋อมแจ๋มเสียงของวัตถุกระทบกับผิวน้ำ
                      จอยซ์รื่นเริง, เบิกบาน, ปลื้มปีติ (Joice) – อังกฤษ
                      จันดาดวงจันทร์ที่กำลังส่องสว่าง
                      จันทร์เจ้าพระจันทร์
                      ชมพูสีสีหนึ่ง
                      ชิชาชื่อเฉพาะ
                      ซีรีส์เรื่องยาว (Series) ภาษาอังกฤษ
                      เซญ่าชื่อเฉพาะ
                      ญาญ่าชื่อเฉพาะ
                      ณาลัลน์สาวสวยที่มีความรู้
                      ดีไซน์ออกแบบ (Design) ภาษาอังกฤษ
                      ตามฝันทำตามความฝัน, ได้ตามที่ฝัน
                      ธาราแม่น้ำ, สายน้ำ
                      น้ำฟ้าฝน
                      นิทานเรื่องเล่า

                      ชื่อเล่นลูกสาว เกิดวันพุธกลางวัน

                      ชื่อความหมาย
                      กอเตยเตย พืชไม้พุ่มขึ้นเป็นกอ
                      กะทิน้ำสีขาวขุ่นจากการคั้นมะพร้าว
                      กันยาสาวน้อย, สาวรุ่น
                      ขนมหวานขนมที่มีรสหวาน
                      คัพเค้กขนมชนิดหนึ่ง เป็นเค้กที่มีขนาดเล็ก บรรจุในถ้วย
                      คุกกี้ขนมชนิดหนึ่ง
                      ดาต้าข้อมูล, ข้อเท็จจริง (Data) ภาษาอังกฤษ
                      ดิสนีย์ชื่อเฉพาะ (Disney)
                      ไดมอนด์เพชร (Diamond) ภาษาอังกฤษ
                      ต้นรักชื่อต้นไม้, ต้นกำเนิดของความรัก
                      เติมรักเพิ่มความรัก
                      เตยหอมพืชชนิดหนึ่ง มีกลิ่นหอม
                      แต๊งก์กิ้วขอบคุณ (Thank You) ภาษาอังกฤษ
                      ถุงแป้งถุงใส่แป้ง
                      เทียนหอมเทียนที่ถูกแต่งกลิ่นให้มีกลิ่นหอม

                       

                      ชื่อเล่น ลูกสาว เพราะๆ
                      ชื่อเล่น ลูกสาว เพราะๆ

                      ชื่อเล่นลูกสาว เกิดวันพุธกลางคืน

                      ชื่อความหมาย
                      กัสจังชื่อตัวการ์ตูน
                      ก้านอ้อก้านของต้นอ้อ
                      คิตตี้ลูกแมว
                      แคนดี้ลูกอม ลูกกวาด
                      จินจินชื่อเฉพาะ
                      ใจดีมีใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่, มีความเมตตากรุณา
                      จิ๊กซอว์ตัวต่อแบบภาพ
                      ชีสเค้กขนมเค้กชนิดหนึ่ง
                      ชาช่าชื่อเฉพาะ
                      โซดาเครื่องดื่มมีรสซ่า
                      ญานินนักปราชญ์, ผู้มีความรู้
                      โดนัทขนมหวานชนิดหนึ่ง
                      ตาหวานดวงตาสวยหยาดเยิ้ม
                      ถุงเงินถุงเงิน
                      ธารน้ำแม่น้ำ

                      ชื่อเล่นลูกสาว เกิดวันพฤหัสบดี

                      ชื่อความหมาย
                      กอหญ้ากลุ่มต้นหญ้า
                      กอบัวกลุ่มบัว
                      แก้มหอมแก้มที่มีกลิ่นหอม
                      กลาสแก้ว (Glass) ภาษาอังกฤษ
                      ข้าวหอมชื่อพันธุ์ข้าว
                      ข้าวใหม่ข้าวที่เพิ่งเก็บเกี่ยว
                      เค้กขนมชนิดหนึ่ง
                      จีจี้ชื่อเฉพาะ
                      ชมเชยยกย่อง, สรรเสริญ
                      ชาร์มมิ่งมีเสน่ห์ (Charming) ภาษาอังกฤษ
                      โซลเมืองในประเทศเกาหลี, จิตวิญญาณ (Soul) ภาษาอังกฤษ
                      ใบปอใบของต้นปอ
                      ใบฝ้ายใบของต้นฝ้าย
                      เบลเบลกระดิ่ง, ระฆัง (Bell) ภาษาอังกฤษ, สาวงาม, สวย (Belle) ภาษาฝรั่งเศส
                      บับเบิ้ลฟองสบู่ (Bubble) ภาษาอังกฤษ

                       

                      ชื่อเล่นลูกสาว เกิดวันศุกร์

                      ชื่อความหมาย
                      แก้มใสแก้มงามผุดผ่อง
                      ไข่มุกวัตถุมีค่า มักมีลักษณะกลม ๆ เกิดจากหอยบางชนิด
                      คะน้าผักใบเขียวชนิดหนึ่ง
                      จีน่าชื่อเฉพาะ
                      เจ้าหญิงชายาของเจ้าชาย, กษัตริย์ที่เป็นหญิง, หญิงที่มีชื่อเสียง
                      แชมเปญเครื่องดื่มชนิดหนึ่ง
                      เฌอแตมฉันรักคุณ (Je t’aime) ภาษาฝรั่งเศส
                      ณิชาสะอาด, บริสุทธิ์
                      ณัชชาเกิดเพื่อความรู้ ยังความรู้ให้เกิด
                      ดอกหญ้าส่วนดอกของต้นหญ้า
                      ต้นน้ำแหล่งกำเนิดของลำน้ำ
                      แตงหอมผลไม้ชนิดหนึ่ง
                      แต้มใจเติมสีที่หัวใจ
                      ทอฝันผู้สานสายใยแห่งความหวัง
                      นะโมความนอบน้อม

                       

                      ชื่อเล่นลูกสาว เกิดวันเสาร์

                      ชื่อความหมาย
                      กระตังเงิน
                      กระต่ายสัตว์สี่เท้าขนาดแมว หูยาว เลี้ยงลูกด้วยนม
                      ขวัญข้าวพิธีที่ชาวนาทำขึ้นเพื่อให้เป็นมงคลแก่ข้าว
                      ข้าวตังข้าวสุกที่ไหม้เกรียมติดอยู่ก้นหม้อหรือก้นกระทะ
                      เขียนฟ้าวาดนิ้วกลางอากาศเพื่อขีดเขียนบนท้องฟ้า
                      คิวตี้น่ารัก (Cutie) ภาษาอังกฤษ
                      จินนี่ชื่อยักษ์ในตะเกียงจากเรื่องอาละดิน
                      เจ้าขาเสียงขานรับ
                      เชอเอมชะเอม
                      ซัมเมอร์ฤดูร้อน (Summer) ภาษาอังกฤษ
                      ญารินความรู้ที่ไหลมาต่อเนื่องไม่ขาดสาย
                      ดาด้าชื่อเฉพาะ
                      ต้นข้าวพืชชนิดหนึ่ง
                      ตังเมขนมชนิดหนึ่ง เนื้อเหนียว
                      ตังค์ตังค์เงิน

                      ชื่อเล่น ลูกผู้หญิง ที่ ทีมกองบรรณาธิการ ABK นำมาฝากนี้ คงจะมีชื่อเพราะๆที่ถูกใจคุณพ่อคุณแม่ ได้เลือกชื่อที่โดนใจตามวันเกิด แล้วนำไปตั้งให้เกิดความเป็นสิริมงคลแก่ลูกสาวตัวน้อยๆกันนะคะ

                      อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

                      ตั้งชื่อลูก ตามหลักทักษาปกรณ์ เป็นอย่างไร?

                      ชื่อมงคล ตามวันเกิด ชีวิตรุ่งเรือง ทั้งลูกชาย ลูกสาว!!

                      ชื่อไทยแปลกๆ แต่เพราะ ความหมายดี เป็นสิริมงคล

                      100 ชื่อภาษาอังกฤษ ลูกสาว/ลูกชาย ความหมายดีๆ

                       

                      ขอบคุณข้อมูลจาก : https://baby.kapook.com

                       

                      เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                      Amarin Baby & Kids

                        time out vs time in

                        time in vs time out คือ การลงโทษอย่างไรให้เหมาะสมกับลูกคุณ!

                        time out คือ วิธีการลงโทษ หยุดพฤติกรรมเมื่อลูกดื้ออย่างได้ผล แต่หากคุณพ่อคุณแม่ใช้วิธีนี้แล้วลูกเกิดปัญหา มาลองวิธี time in เทคนิคที่ รร.มอนเตสซอรี่ใช้กันดูไหม

                        time in vs time out คือ การลงโทษอย่างไรให้เหมาะสมกับลูกคุณ!

                        เมื่อลูกน้อย กลายร่างเป็นวายร้ายจอมดื้อ คุณพ่อคุณแม่มีวิธีการจัดการอย่างไรกันนะ?

                        เป็นเรื่องปกติธรรมชาติที่เด็กต้องมีช่วงอารมณ์ดี และอารมณ์ร้าย เพราะเขากำลังเติบโตไปพร้อม ๆ กับการเรียนรู้การจัดการกับพฤติกรรมของตนเองให้เข้ากับสังคม และความต้องการของตัวเอง ดังนั้น หากคุณพ่อคุณแม่เห็นลูกแสดงอารมณ์ หรือพฤติกรรมในอีกด้านที่ไม่น่ารักเอาเสียเลย อย่าเพิ่งไปดุด่าว่ากล่าวลูก หรือลงโทษใด ๆ ไปเสียก่อน หากคุณยังไม่ได้รู้จักวิธีการปรับพฤติกรรมเด็กด้วยวิธีtime outและ time in เสียก่อน

                        เมื่อลูกดื้อ…คุณลงโทษลูกแบบไหน?

                        ต้องยอมรับว่า ลูกน้อยของคุณพ่อคุณแม่คงไม่ได้มีช่วงเวลาเป็นนางฟ้า หรือเทวดาตัวน้อยตลอดเวลา เมื่อไรก็ตามที่เขาซน ดื้อ ไม่ฟังคุณ จนคุณพ่อคุณแม่เริ่มหงุดหงิด ลองมาทบทวนตัวเองกันดูดีไหม ว่าเราเลือกทำแบบใด

                        1. ทนไม่ได้ ตวาดเสียงดังใส่ลูกทันที
                        2. พูดไม่เชื่อก็ต้องมีสักป๊าบเบา ๆ เพื่อให้จำ
                        3. เดินหนีไป ปล่อยลูกอยู่ตรงนั้นคนเดียว
                        4. ทำทุกข้อ

                          คุณลงโทษลูกแบบไหนกัน
                          คุณลงโทษลูกแบบไหนกัน

                        ถ้าคุณเป็นพ่อแม่ที่เข้าข่ายข้อใดข้อหนึ่ง หรือทุกข้อที่กล่าวมา คุณกำลังสอนให้ลูกมีภาพจำของพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมเสียเอง และอาจนำไปสู่การเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีปัญหาก้าวร้าวต่อไปได้

                        ผลการสำรวจพบว่า 3 ใน 4 ของพ่อแม่จะตะโกน กรีดร้องใส่ลูกหนึ่งครั้งต่อเดือน จิตแพทย์กล่าวว่า การขึ้นเสียง หรือส่งเสียงดังเพื่อดึงความสนใจให้ลูกฟังหรือเปลี่ยนพฤติกรรมนั้น ส่วนใหญ่ไม่ได้ผล เพราะการทำเช่นนั้น เป็นเหมือนการปิดประตูการสื่อสาร “ทันทีที่คุณเริ่มส่งเสียงดัง พวกเด็กๆ ก็จะเริ่มเข้าสู่โหมดชัดดาวน์”

                        นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยพบว่า เด็กที่มักโดนพ่อแม่ตะคอกอยู่เสมอมีแนวโน้มจะมีปัญหาด้านพฤติกรรม มีอาการซึมเศร้า และเมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ก็ไม่มีความพึงพอใจในความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง

                        ♥♥♥โปรดลงโทษลูกด้วยความรัก♥♥♥

                        นักจิตวิทยาแนะนำว่า เมื่อใดก็ตามที่ลูกเริ่มแผลงฤทธิ์ ทางที่ดีให้คุณกระซิบ เพราะวิธีการสื่อสารแบบนี้ต่างจากที่พวกเขาได้ยินตามปกติ พวกเขาจะหยุดพูดและสนใจฟังคุณ ก็เพราะเด็กๆ อยากรู้มากๆ น่ะสิว่าคุณพูดอะไร

                        สิ่งสำคัญประการก็คือ การเข้าใจธรรมชาติของเด็ก ที่พ่อแม่ควรรู้ว่าลูกของเราเป็นเด็กอย่างไร ยิ่งว่าเหมือนยิ่งยุหรือไม่ หรือพื้นฐานเอาแต่ใจตัวเองหรือไม่ ถ้าพ่อแม่เข้าใจธรรมชาติของเด็ก การจัดการก็ต้องคำนึงถึงธรรมชาติของเด็กด้วย เป็นเทคนิคของคนเป็นพ่อแม่ที่ต้องรู้ให้เท่าทันและมีไหวพริบให้เท่าทันลูกน้อยด้วย เพราะบางครั้งลูกของเราสองคน ทำผิดเรื่องเดียวกัน ก็ไม่ได้หมายความว่าจะใช้วิธีการลงโทษแบบเดียวกันแล้วจะได้ผลเหมือนกัน

                        การลงโทษทุกครั้ง ลูกจะรับรู้และสัมผัสได้ว่าการลงโทษของพ่อแม่ เป็นการลงโทษด้วยอารมณ์โกรธหรือความรัก เป็นการลงโทษด้วยอารมณ์ชั่ววูบหรือระงับโทสะไม่ได้ เพราะผลภายหลังของการลงโทษลูกจะกลายเป็นภาพฝังใจประทับตรึงใจเขาไปตลอดชีวิต โปรดลงโทษลูกด้วยความรักมิใช่ความโกรธ !!

                        วิธีการลงโทษแบบ Time in และTime out

                        วิธีการที่น่าสนใจ สำหรับพ่อแม่ที่ต้องการหลีกเลี่ยงการลงโทษแบบเดิม ๆ ที่รุ่นเราเติบโตขึ้นมา คือ การตี ดุด่าว่ากล่าว จึงเกิดแนวทางการปรับพฤติกรรมเด็กด้วยวิธีการให้เวลานอก

                        time out คือ อะไร

                        วิธีการนี้ เป็นการปรับพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของเด็ก เป็นการแยกเด็กออกจากสถานการณ์ที่ทำให้เกิดปัญหา เช่น เด็กกำลังไปแย่งของเล่นจากเพื่อน กำลังตี หรือขว้างปาสิ่งของ เป็นต้น ไปยังจุด ๆ หนึ่งในบ้านที่ได้กำหนดไว้เป็นระยะเวลาสั้น ๆ  ซึ่งการแยกเด็กออกมาจากสถานการณ์นั้นเป็นการช่วยให้เด็กได้มีเวลานอกในการสงบสติอารมณ์ของตัวเอง เมื่อเขาสงบสติลงได้ก็สามารถกลับไปยังสิ่งที่ทำอยู่ก่อนหน้า หรือกลับเข้ากลุ่มได้

                        แม้ว่าการใช้วิธีนี้ จะได้ผลชะงัด สามารถหยุดพฤติกรรมก้าวร้าวนั้นได้ในทันที แต่หากคุณพ่อคุณแม่ทำไม่ถูกวิธีแล้ว วิธีนี้อาจทำให้เกิดปัญหาได้เช่นกัน

                        การให้เวลานอก ช่วยหยุดพฤติกรรมรุนแรงได้จริงหรือ
                        การให้เวลานอก ช่วยหยุดพฤติกรรมรุนแรงได้จริงหรือ

                        time out ที่ผิดวิธี

                        • ใช้วิธีการนี้เป็นคำขู่เมื่อลูกไม่เชื่อฟัง ทำให้เด็กเข้าใจว่าการให้เวลาเขาไปนั่งสงบสติอารมณ์เป็นเรื่องน่าอับอาย ซึ่งผิดวัตถุประสงค์
                        • ใช้การบังคับด้วยกำลังในการให้เด็กเข้าพื้นที่ที่ใช้ให้เวลานอกที่ได้ตกลงกันไว้ อาจทำให้เขารู้สึกเสียหน้า และไม่พอใจโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งตามหลักการแล้วเด็กจะต้องเต็มใจ และยอมรับในกฎกติกาที่ได้คุยกันไว้ เหมือนเป็นข้อตกลงที่ทำร่วมกันในครอบครัว หากใครมีพฤติกรรมที่ก้าวร้าว ฉุนเฉียวจนเกิดปัญหาระหว่างกันต้องไปสงบสติอารมณ์ที่พื้นที่ที่จัดไว้ หรือตกลงกันไว้ ด้วยความเข้าใจ และยอมรับในกติกานั้น
                        • ใช้เวลามากเกินไป การให้เวลาลูกสงบสติใช้เพียงเวลาสั้น ๆ และไม่ใช่การปล่อยเขาไว้เพียงลำพัง และไม่สนใจอีกต่อไป เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณแยกเขาออกไปนั่งสำนึกผิดในมุมใดมุมหนึ่งของบ้าน เขาอาจจะสงบก็จริง แต่ลูกอาจไม่ได้เรียนรู้วิธีจัดเก็บอารมณ์ของตัวเองในเรื่องอื่น หรือในเหตุการณ์ครั้งต่อๆ ไป พ่อแม่ควรต้องกลับมาทำความเข้าใจกับลูกเมื่อเวลาผ่านไปสักระยะหนึ่ง ถึงแม้เขาจะยังไม่สามารถสงบอารมณ์ลงได้ หากเป็นเช่นนั้นค่อยเพิ่มเวลาหลังจากที่ได้พูดคุยกับลูกแล้ว
                        • พื้นที่ในการให้เวลานอกไม่เหมาะสม พื้นที่จะต้องเป็นส่วนที่พ่อแม่ยังคงมองเห็นลูก และลูกยังคงมองเห็นเราได้เช่นกัน หากเป็นพื้นที่หลบมุม จนมองไม่เห็นกัน เขาจะรู้สึกโดดเดี่ยวมากเกินไป ดร. แดน ซีเกน ศาสตราจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียลอสแอนเจลิส (University of California, Los Angeles: UCLA) ได้แสดงความเห็นว่า ความเจ็บปวดจากการถูกทอดทิ้งในเวลาไทม์เอาต์ สามารถบาดลึกไปถึงก้นบึ้งจิตใจของเด็กน้อย และเขาจะจดจำมันอย่างไม่มีวันลืม และประสบการณ์ในการถูกไทม์เอาต์ สามารถเปลี่ยนโครงสร้างทางกายภาพของสมองเด็กได้
                        • ทำไปด้วยอารมณ์โกรธ พ่อแม่ต้องระมัดระวัง ควบคุมอารมณ์ตัวเองให้ได้ ก่อนทำใช้วิธีนี้

                        Time in vs Time out

                        วิธี time out แม้ว่าจะเป็นวิธีที่ได้ผลในระดับหนึ่ง แต่ที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่า หากคุณพ่อคุณแม่ใช้ผิดวิธีก็อาจส่งผลทางด้านลบได้เช่นกัน ผู้เชี่ยวชาญเริ่มมีการถกเถียงกันถึงเรื่องดังกล่าวว่า การใช้วิธีให้เวลานอกนั้นอาจส่งผลต่อพัฒนาการควบคุมตนเอง และวินัยในตนเองสำหรับเด็กบางคน อีกทั้งยังพิสูจน์ได้ว่าไม่ได้ผลในระยะยาวอีกด้วย เนื่องจากเด็กเล็กยังแยกตัวตน และอารมณ์ออกจากกันไม่ได้ ไม่มีความสามารถในการคิดเชิงตรรกะที่สอดคล้องกัน เขาจึงมักสรุปเอาเองว่าตัวเองไม่เป็นที่รักของพ่อแม่อีกต่อไปแล้ว และคอยเก็บกดอารมณ์ร้ายเอาไว้เงียบ ๆ

                        Time in คืออะไร

                        ความจริงแล้ว time in ค่อนข้างคล้ายกับการให้เวลานอก โดยเราจะให้เด็กหยุดพักกิจกรรมเพื่อให้เด็กได้สงบสติอารมณ์เช่นกัน แต่มีความแตกต่างที่สำคัญอย่างหนึ่ง คือ แทนที่เราจะไล่เขาไปนั่งสงบสติ หรือสำนึกผิดอย่างเดียวดาย โดยที่เราไม่ให้ความสนใจใด ๆ แก่เขาเลย แต่เปลี่ยนมาเป็นคอยนั่งข้าง ๆ ลูก คอยให้คำแนะนำ ให้การปลอบโยน และชี้ให้เขาเห็นถึงความรู้สึกที่เกิดขึ้นว่าคืออะไร และควรจัดการอย่างไร หรือในบางกรณีเด็กอาจต้องการแค่ให้พ่อแม่นั่งอยู่ด้วยข้าง ๆ ไม่จำเป็นต้องทำอะไร เพื่อให้ลูกรู้ว่าพ่อแม่ยังอยู่ข้าง พร้อมจะช่วยเขาในเวลาที่เจอปัญหาเสมอนั่นเอง

                        time in ให้เวลาสงบสติอารมณ์ พร้อมพ่อแม่นั่งอยู่ข้าง ๆ
                        time in ให้เวลาสงบสติอารมณ์ พร้อมพ่อแม่นั่งอยู่ข้าง ๆ

                        วิธีการ time in

                        1. นำเด็กออกจากสถานการณ์ตึงเครียด
                        2. นำพวกเขาไปยังพื้นที่ที่เงียบกว่า หรือพื้นที่ที่กำหนดในบ้านของคุณ
                        3. ให้การปลอบโยนจนกว่าพวกเขาจะสงบพอที่จะสื่อสารกับคุณหรือให้คุณสื่อสารกับพวกเขาได้หากเด็กไม่พูด
                        4. บอก หรือชี้ให้เด็กรู้ถึงอารมณ์ของพวกเขาโดยอาจใช้คำเช่น “ ฉันเห็นคุณหงุดหงิดที่บล็อกของคุณล้มลง ” เพื่อเป็นการบอกให้เขาเข้าใจความรู้สึกที่เกิดขึ้นของตัวเอง
                        5. ทำให้เด็กรับรู้ได้ว่าเราเข้าใจ พร้อมยกตัวอย่างการจัดการอารมณ์ของพ่อแม่ว่าสามารถเกิดขึ้นได้กับเราเช่นกัน และพ่อแม่จัดการกับมันอย่างไร ตัวอย่างเช่น  “ บางครั้งพ่อแม่ก็รู้สึกหงุดหงิดเหมือนกัน แต่พ่อแม่ทำอย่างอื่นนอกจากการขว้างบล็อคเมื่อเราผิดหวัง? เรามาลองหายใจเข้าลึกๆ นับถึง 5 กันดูว่าจะช่วยได้หรือเปล่า
                        6. กระตุ้นให้ลูกได้พูดแสดงความรู้สึกออกมา และแนะนำวิธีการจัดการกับอารมณ์นั้น ๆ ให้แก่ลูก
                        7. เข้าร่วมกิจกรรมอีกครั้ง หากลูกต้องการและพร้อมที่จะเข้าร่วม

                        การใช้เวลาร่วมกับลูกในการ time in เป็นวิธีการที่เรียบง่าย และอ่อนโยนในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมซึ่งจะให้ผลในระยะยาว สามารถปรับปรุงความฉลาดทางอารมณ์ของลูกได้ ไม่เหมือนการลงโทษ เมื่อเป็นวิธีที่หวังผลระยะยาว ดังนั้นอย่าคาดหวังผลในทันทีว่าจะสามารถปรับพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ออกไปในทันที เหมือนกับการลงโทษที่มีความกลัวทำให้เด็กหยุดพฤติกรรมดังกล่าวในทันทีเพราะความกลัว

                        สรุป ข้อดีของการ Time in

                        1. ช่วยหยุดพฤติกรรมก้าวร้าว รุนแรง และไม่ปลูกฝังนิสัยเชิงลบดังกล่าวให้กับเด็ก
                        2. ไม่ทิ้งบาดแผลในใจ ไม่ทำให้เด็กรู้สึกถูกทอดทิ้ง หรืออยู่กับความรู้สึกว่าตัวเองเป็นเด็กไม่ดี ไม่น่าคบ แก้ไขไม่ได้
                        3. ฝึกให้เด็กรู้จักควบคุมตัวเอง ควบคุมอารมณ์ต่าง ๆ ทั้งด้านดี และไม่ดี เพราะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ในทุกคน
                        4. ลูกจะได้ระบายความรู้สึก ในขณะที่พ่อแม่ให้เวลากับลูก ร่วมนั่งอยู่ข้าง ๆ ขณะ time in
                        5. ลูกจะรู้จักวิธีจัดการอารมณ์ และปัญหาได้อย่างตรงจุด ไม่ต้องให้เขาไปค้นหาคำตอบด้วยตนเอง ซึ่งเราไม่สามารถควบคุมได้ บางครั้งอาจเป็นวิธีที่แย่กว่าเดิมด้วยซ้ำไป
                        ลูกรู้จักจัดการอารมณ์ ช่วยให้เขาเข้าสังคมได้ไม่ยาก
                        ลูกรู้จักจัดการอารมณ์ ช่วยให้เขาเข้าสังคมได้ไม่ยาก

                        ดังนั้น การลงโทษแม้จะฟังดูไม่น่าให้เกิดขึ้นกับลูก แต่เราก็ไม่อาจปฎิเสธได้ว่า การที่จะสอนให้เด็กมีพฤติกรรมที่เป็นที่ยอมรับได้ของสังคม เพื่อให้ลูกสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ การลงโทษเพื่อให้เขารู้ว่าสิ่งใดควรทำ หรือไม่ควรทำ จึงยังเป็นสิ่งที่จำเป็น แต่การลงโทษไม่จำเป็นที่เราพ่อแม่จะต้องทำให้เกิดบาดแผลในใจของลูกเสมอไป การใช้การลงโทษด้วยเวลา และความเข้าใจกับเด็ก นอกจากจะช่วยให้ลูกสามารถเรียนรู้ ควบคุมอารมณ์ จัดการปัญหาต่าง ๆ ได้ด้วยตนเองแล้ว การอยู่ด้วยข้าง ๆ เวลาที่เขาถูกลงโทษก็ยังช่วยปิดจุดอ่อน และทำให้ลูกรู้สึกอุ่นใจ และรู้สึกถึง safe zone ที่เขาได้รับจากพ่อแม่ตลอดเวลาที่เขาต้องการอีกด้วย

                         ข้อมูลอ้างอิงจาก สถาบันราชานุกูล /reachformontessori.com/

                        อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

                        safe zone คือ พื้นที่ปลอดภัยที่พ่อแม่เป็นให้ลูกได้!!

                        อุทาหรณ์ 13 สิ่งของต้องระวัง ทำลูกน้อยเสี่ยงเสียชีวิต

                        3 วิธีเลือก หนังสือนิทาน ตามวัยให้ลูกอยากฟังได้ประโยชน์

                        เด็กปฐมวัยเรียนรู้อะไรใน หลักสูตร Early Years ของไบรท์ตัน คอลเลจ กรุงเทพฯ

                        เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                          ยารักษาโควิด19

                          เกณฑ์ใช้ ยารักษาโควิด19 ระดับไหนจะให้ยาฟาวิพิราเวียร์

                          เกณฑ์ใช้ ยารักษาโควิด19 ระดับไหนจะให้ยาฟาวิพิราเวียร์

                          ปัจจุบันนอกจากการรับวัคซีนเพื่อป้องกันโรคโควิด 19 แล้ว ยังมี ยารักษาโควิด19 ออกมาหลายตัว สำหรับรักษาผู้ที่ติดเชื้อโควิด19 ยาที่เรารู้จักและใช้รักษากันมาตลอดช่วงระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมาก็คือ ยาฟาวิพิราเวียร์ ล่าสุดทางกรมการแพทย์ได้ออกเกณฑ์ในการใช้ยาฟาวิพิราเวียร์ และยารักษาโควิด19ตัวอื่น ๆ ขึ้นมา ลองไปดูกันค่ะว่า ป่วยระดับไหนเราถึงจะได้รับยาฟาวิพิราเวียร์ค่ะ

                          เกณฑ์ใช้ ยารักษาโควิด19 ของผู้ป่วยทั่วไปอายุมากกว่า 18 ปี

                          ผู้ติดเชื้อเข้าข่าย (Probable case) ผู้ที่มีผลตรวจ ATK ต่อ SARS-CoV-2 ให้ผลบวก และรวมผู้ติดเชื้อยืนยันทั้งผู้ที่มีอาการและไม่แสดงอาการ แบ่งเป็นกลุ่มตามความรุนแรงของโรคและปัจจัยเสี่ยงได้เป็น 4 กรณี ดังนี้

                          1. ผู้ป่วยที่ไม่มีอาการหรือสบายดี(Asymptomatic COVID-19)

                          o ให้การรักษาแบบผู้ป่วยนอก โดยแยกกักตัวที่บ้าน (Out-patient with self Isolation)
                          o ให้ดูแลรักษาตามอาการตามดุลยพินิจของแพทย์ ไม่ให้ยาต้านไวรัส เช่น favipiravir เนื่องจากส่วนมากหายได้เอง
                          o อาจพิจารณาให้ยาฟ้าทะลายโจรตามดุลยพินิจของแพทย์

                          2. ผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรง ไม่มีปอดอักเสบ ไม่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโรครุนแรง/โรคร่วมสำคัญและภาพถ่ายรังสีปอดปกติ(Symptomatic COVID-19 without pneumonia and no risk factors for severe disease)

                          o อาจพิจารณาให้ favipiravir ควรเริ่มยาโดยเร็วที่สุด ตามดุลยพินิจของแพทย์
                          o หากตรวจพบเชื้อเมื่อผู้ป่วยมีอาการมาแล้วเกิน 5 วัน และผู้ป่วยไม่มีอาการหรือมีอาการน้อยอาจไม่จำเป็นต้องให้ยาต้านไวรัส เพราะผู้ป่วยจะหายได้เองโดยไม่มีภาวะแทรกซ้อน

                          3. ผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรง แต่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโรครุนแรงหรือมีโรคร่วมสำคัญ หรือ ผู้ป่วยที่ไม่มีปัจจัยเสี่ยงแต่มีปอดอักเสบ (pneumonia) เล็กน้อยถึงปานกลางยังไม่ต้องให้ oxygen

                          ปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโรครุนแรง ได้แก่

                          1) อายุมากกว่า 60 ปี ขึ้นไป
                          2) โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) (GOLD grade 2 ขึ้นไป) รวมโรคปอดเรื้อรังอื่น ๆ
                          3) โรคไตเรื้อรัง (CKD) (stage 3 ขึ้นไป)
                          4) โรคหัวใจและหลอดเลือด (NYHA functional class 2 ขึ้นไป รวมโรคหัวใจแต่ก าเนิด
                          5) โรคหลอดเลือดสมอง
                          6) เบาหวานที่ควบคุมไม่ได้
                          7) ภาวะอ้วน (น้ าหนักมากกว่า 90 กก. หรือ BMI ≥30 กก./ตร.ม.)
                          8) ตับแข็ง (Child-Pugh class B ขึ้นไป)
                          9) ภาวะภูมิคุ้มกันต่ า (เป็นโรคที่อยู่ในระหว่างได้รับยาเคมีบ าบัดหรือยากดภูมิหรือ corticosteroid equivalent to
                          prednisolone 15 มก./วัน นาน 15 วัน ขึ้นไป)
                          10) ผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่มี CD4 cell count น้อยกว่า 200 เซลล์/ลบ.มม.

                          ยารักษาโควิด19
                          ระดับไหนจะให้ยาฟาวิพิราเวียร์

                          การให้ยาต้านไวรัสในผู้ป่วยกลุ่มที่ 3

                          แนะนำให้ยาต้านไวรัสเพียง 1 ชนิด โดยควรเริ่มภายใน 5 วัน ตั้งแต่เริ่มมีอาการจึงจะได้ผลดีให้ยาโดยพิจารณาจากปัจจัยต่อไปนี้ ได้แก่ ประวัติโรคประจำตัว ข้อห้ามการใช้ยา ปฏิกิริยาต่อกันของยาต้านไวรัสกับยาเดิมของผู้ป่วย (drug-drug interaction) และการบริหารเตียง ความสะดวกของการให้ยารวมถึงปริมาณยาสำรองที่มี

                          • ไม่มีปัจจัยเสี่ยง ให้ยา Favipiravir 
                          • มีปัจจัยเสี่ยง 1 ข้อ ให้ยา Molnupiravir หรือ Remdesivir หรือ Nirmatrelvir/ritonavir หรือ Favipiravir
                          • มีปัจจัยเสี่ยงมากกว่า 2 ข้อ ให้ยา  Remdesivir หรือ Nirmatrelvir/ritonavir หรือ Molnupiravir

                           

                          ยารักษาโควิด19 ในผู้ป่วยเด็กอายุน้อยกว่า 18 ปี

                          ผู้ติดเชื้อเข้าข่าย (Probable case) ผู้ที่มีผลตรวจ ATK ต่อ SARS-CoV-2 ให้ผลบวก และรวมผู้ติดเชื้อยืนยันทั้งผู้ที่มี
                          อาการและไม่แสดงอาการ ให้ใช้ยาในการรักษาจ าเพาะดังนี้ โดยมีระยะเวลาในการนอนโรงพยาบาลเหมือนผู้ใหญ่

                          1. ผู้ป่วยที่ไม่มีอาการ (Asymptomatic COVID-19)

                          • แนะนำให้ดูแลรักษาตามดุลยพินิจของแพทย์

                          2. ผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรง ไม่มีปอดอักเสบ ไม่มีปัจจัยเสี่ยง (Mild symptomatic COVID-19 without pneumonia
                          and no risk factors)

                          • แนะนำให้ดูแลรักษาตามอาการ พิจารณาให้ favipiravir เป็นเวลา 5 วัน

                          3. ผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรง แต่มีปัจจัยเสี่ยง หรือมีอาการปอดอักเสบ (pneumonia) เล็กน้อยไม่เข้าเกณฑ์ข้อ 4 (Mild symptomatic COVID-19 pneumonia but with risk factors) ทั้งนี้ ปัจจัยเสี่ยง/โรคร่วมสำคัญ ได้แก่ อายุน้อยกว่า 1 ปี และภาวะเสี่ยงอื่น ๆ ได้แก่ โรคอ้วน (น้ำหนักเทียบกับความสูง (weight for height) มากกว่า +3 SD) โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง รวมทั้งหอบหืดที่มีอาการปานกลางหรือรุนแรง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง โรคไตวายเรื้อรัง โรคมะเร็งและภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ โรคเบาหวาน กลุ่มโรคพันธรรม รวมทั้งกลุ่มอาการดาวน์
                          เด็กที่มีภาวะบกพร่องทางระบบประสาทอย่างรุนแรง เด็กที่มีพัฒนาการช้า

                          • แนะนำให้ favipiravir เป็นเวลา 5 วัน อาจให้นานกว่านี้ได้หากอาการยังมาก โดยแพทย์พิจารณาตามความ
                            เหมาะสม

                          ขอบคุณข้อมูลจาก
                          กรมการแพทย์

                           

                          เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                           อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

                          อัปเดทล่าสุด ATK ขึ้น 2 ขีด ลูกติดโควิดพ่อแม่ควรทำยังไง

                          อัปเดท คนท้องติดโควิด รักษาอย่างไร?

                          ควร กินอะไรเสริมภูมิ บรรเทาอาการลูกน้อยจากลองโควิด

                            ตรวจ ATK อ.เจษฎ์แนะ

                            อ.เจษฎาแนะวิธีเก็บเชื้อ ตรวจ ATK ด้วยตนเองลดผลลบปลอม

                            ตรวจ ATK เองที่บ้านไม่แม่นยำจริงหรือ ต้องเก็บตัวอย่างเชื้อวิธีไหนถึงจะได้ปริมาณเชื้อเยอะไม่ทำให้ผลตรวจเป็นผลลบปลอม อ.เจษฎาแนะสว็อปแบบนี้ให้ผลค่อนข้างแม่นยำ

                            อ.เจษฎาแนะวิธีเก็บเชื้อ ตรวจ ATK ด้วยตนเองลดผลลบปลอม

                            โอมิครอน ยังคงระบาดอยู่ในปัจจุบัน และยังคงอยู่ในวันที่สังคมต้องยอมรับกับความเป็นโรคประจำถิ่นของเจ้าเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่กลายพันธุ์มาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ดังนั้นเมื่อต้องเปิดประเทศควบคู่ไปกับการอยู่ร่วมกันกับเชื้อโควิด-19 สิ่งที่จำเป็นในการใช้ชีวิตต่อจากนี้ เห็นทีจะเป็นการตรวจหาเชื้อโควิด-19 การตรวจ ATK ที่สามารถตรวจได้ด้วยตนเอง เพื่อให้เรารู้ตัวได้เร็วว่าติดเชื้อ จะได้รีบทำการรักษา และหยุดการแพร่กระจายเชื้อต่อไป แต่เราจะมั่นใจได้อย่างไรว่า การตรวจ ATK ด้วยตนเองนั้น เราทำได้ถูกวิธีหรือยัง ผลที่ได้เชื่อถือได้มากแค่ไหน

                            ตรวจ ATK ด้วยตนเอง ให้ถูกวิธี
                            ตรวจ ATK ด้วยตนเอง ให้ถูกวิธี

                            อ.เจษฎา แนะวิธีตรวจATK ให้ได้ผลแม่นยำ!!

                            เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม  รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความพร้อมภาพประกอบในเพจ Jessada Denduangboripant ว่า

                            มีหลายท่านส่งการบ้านมาให้ดูนะครับ ว่าพอตรวจโควิดด้วยตัวเอง ด้วยการสว๊อบเก็บที่จมูก ได้ผลเป็นลบ แต่ถ้าเก็บที่คอด้วย กลับได้ผลเป็นบวก เกมส์เลยครับ
                            ลองอ่านวิธีที่ผมแนะนำไว้เดิมนะครับ เรื่อง “การเก็บตัวอย่างจากทั้งต่อมทอนซิลในคอและจมูก” จะทำให้ได้ผลที่แม่นยำขึ้นมากครับ

                            ตรวจ ATK โควิดสายพันธุ์โอมิครอน กับ การเก็บตัวอย่างจากต่อมทอนซิลในคอและจมูก

                             “ตรวจ ATK โควิดสายพันธุ์โอมิครอน ควรสว๊อบที่ต่อมทอนซิลในคอ ก่อนจะไปแยงที่จมูกนะครับ จะได้ผลที่แม่นยำขึ้นเยอะ “
                            อ.เจษฎา ได้แนะนำวิธีการเก็บตัวอย่างเชื้อ “ทั้งจากคอและจมูก” ในการตรวจ ATK ไว้ โดยให้คำแนะนำว่า การระบาดของเชื้อโควิด สายพันธุ์โอมิครอน ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่แพร่กระจายเชื้อในระบบทางเดินหายใจช่วงบน การตรวจด้วยวิธีการเก็บตัวอย่างเชื้อทั้งจากคอและจมูก จะทำให้ได้เชื้อปริมาณเยอะ และส่งผลให้ผลที่ออกมาค่อนข้างแม่นยำ ลดอาการเกิดผลลบปลอม ซึ่งจะได้ผลดีกว่าการเก็บแค่ในโพรงจมูกอย่างเดียวมาก
                            “วิธีเก็บตัวอย่างเชื้อ “ทั้งจากคอและจมูก” เพื่อตรวจโควิดแบบนี้ ผมเคยแนะนำมาตั้งแต่ที่ไทยเราเริ่มมีชุด ATK ตรวจแล้วครับ และก็ขอแนะนำอีกครั้ง โดยเฉพาะในสถานการณ์ระบาดของเชื้อโควิด สายพันธุ์โอมิครอน (ซึ่งแพร่กระจายเชื้อในระบบทางเดินหายใจช่วงบน ได้ดี)

                            อย่างกรณีในภาพนี้ ก็เป็นบ้านของแฟนเพจคนหนึ่ง ที่สงสัยว่าในบ้านจะติดโควิดกัน แต่สว๊อบจมูกตรวจไม่พบ พอลองทำตามวิธีที่ผมแนะนำ ก็พบว่าติดจริงๆครับ”

                            ขอขอบคุณภาพจาก เฟสบุ๊คเพจ อ๋อมันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์
                            ขอขอบคุณภาพจาก เฟสบุ๊คเพจ อ๋อมันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์
                            คำแนะนำวิธีการเก็บตัวอย่าง
                            1. งดน้ำ งดอาหารก่อนตรวจ 30 นาที ถึงจะเก็บตัวอย่างจากช่องปาก เพื่อเพิ่มความแม่นยำ
                            2. ให้ใช้ไม้สว็อบ มาป้ายเก็บตามต่อมทอนซิล (อยู่สองข้างของลิ้นไก่ ) ก่อน
                            3. นำไม้สว็อบอันเดิมมาแหย่เช็ด ๆ วน ๆ จมูกทั้ง 2 ข้าง โดยทำเบา ๆ พอลึกประมาณ 1 นิ้ว (ไม่ต้องแยงลึกถึงด้านหลังโพรงจมูก ลดการเจ็บแสบโพรงจมูกได้อีกด้วย)
                            4. เวลาเก็บตัวอย่างจากช่องปาก ป้ายเช็ดเบา ๆ พอ อย่าไปขูดโดนเนื้อเยื่ออ่อน ๆ ในปาก จะทำให้บาดเจ็บได้
                            5. สารคัดหลั่งที่เหนียวไป เช่น ขี้มูก เสลด ไม่ควรเอามาตรวจหาเชื้อ เพราะจะไปขัดขวางการเคลื่อนที่ของน้ำยาในตลับตรวจ
                            6. เมื่อได้ตัวอย่างเชื้อแล้วก็ทำตามขั้นตอนการตรวจที่ระบุไว้ข้างกล่องได้เลย

                            คำแนะนำการอ่านผล

                            • ถ้าผลออกมาเป็น บวก มีแนวโน้มสูงมากว่าคุณได้ติดเชื้อโควิดแล้ว ควรทำการทดสอบซ้ำอีกครั้ง หรือควรไปตรวจด้วยวิธี PCR ก่อนรับการรักษา โดยจะรักษาแยกอาการตามกลุ่มความรุนแรงของโรค แยกตามระดับสี ต่อไป
                            • ถ้าผลออกมาเป็น ลบ ก็ห้ามประมาทเด็ดขาด เพราะถ้าเราเป็นผู้ที่มีความเสี่ยงสูง อาจจะต้องตรวจซ้ำภายใน 3-4 วัน เนื่องจากชุดตรวจแม้จะมีความจำเพาะเจาะจงสูงมากในการตรวจเชื้อโควิด แต่ความไวต่ำกว่าวิธี PCR มาก
                            พร้อมกันนี้ อ.เจษฎ์ ได้มีคลิปแนะนำ การสาธิตการใช้ ATK ตรวจเด็กเล็กมาฝากกันด้วย

                            ปัจจัยที่ทำให้ผลการตรวจโควิด-19 ด้วย ชุดตรวจ ATK แล้วให้ผลลบปลอม(False Negative)

                            เมื่อใช้ชุดตรวจแอนติเจนแบบเร็ว (Antigen Test Kit) แล้วแสดงผลการทดสอบเป็นลบ (ไม่ติดเชื้อ) แต่พบว่าการตรวจยืนยันด้วยวิธี RT-PCR ผู้ตรวจติดเชื้อ

                            สาเหตุ

                            1. เพิ่งติดเชื้อในระยะแรก ร่างกายจึงมีปริมาณเชื้อไวรัสต่ำ
                            2. การเก็บสิ่งส่งตรวจไม่ถูกต้อง เช่น ทิศทางการแหย่จมูกไม่ถูกต้องตามวิธีทดสอบ
                            3. ช่วงเวลาตรวจไม่เหมาะสม เช่น อาจเป็นผู้ป่วยที่แสดงอาการอยู่ แต่ปริมาณไวรัสลดลงแล้ว
                            4. ปฏิบัติตามขั้นตอนวิธีทดสอบไม่ถูกต้อง เช่น ปริมาณตัวอย่างที่หยดมากหรือน้อยเกินไป ไม่อ่านผลในช่วงเวลาที่กำหนด
                            5. นำมาใช้ผิดประเภท เช่น การนำ ATK ชนิดตรวจหาเชื้อทางจมูกมาใช้ตรวจหาเชื้อในน้ำลาย

                            คำแนะนำจากแพทย์

                            ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ไม่ว่าผลตรวจ ATK จะเป็นบวก หรือลบ ให้แยกกักตัวทันที หากมีอาการเล็กน้อย แต่ผลตรวจไม่พบเชื้อ ให้ตรวจซ้ำ 3-5 วันถัดมา กรณีที่มีอาการรุนแรง ควรไปสถานพยาบาลเพื่อตรวจหาเชื้อด้วยวิธีมาตรฐานซ้ำอีกครั้ง

                            ปัจจัยที่ทำหใ้ผลการตรวจโควิด-19 ด้วยชุดตรวจ ATK แล้วให้ผลบวกปลอม (False Positive)

                            เมื่อตรวจยืนยันด้วยวิธี RT-PCR แล้วไม่ได้ติดเชื้อ แต่ชุดตรวจแอนติเจนแบบเร็ว (Antigen Test Kit) แสดงผลการทดสอบเป็นบวก

                            สาเหตุ

                            1. การปนเปื้อนจากพื้นที่ที่ทำการทดสอบลงบนอุปกรณ์ที่ใช้
                            2. การติดเชื้อไวรัสหรือจุลชีพอื่น ๆ
                            3. ปฏิบัติตามขั้นตอนวิธีทดสอบไม่ถูกต้อง เช่น อ่านผลเกินเวลาที่กำหนด
                            4. สภาพสิ่งส่งตรวจไม่เหมาะสม
                            5. ชุดตรวจไม่ได้มาตรฐาน
                            ข้อมูล ณ วันที่ 29 มกราคม 2565
                            ที่มา : อ. ดร. พญ. วรรษมน จันทรเบญจกุล
                            ศูนย์โรคอุบัติใหม่ด้านคลินิก chulalongkornhospital.go.th
                            วัคซีน กับการ ตรวจ ATK
                            วัคซีน กับการ ตรวจ ATK

                            วัคซีนโควิด-19 กับการตรวจ ATK  

                            หลายคนคงมีคำถามในใจกันว่า การฉีดวัคซีนโควิด-19 จะมีผลต่อการตรวจทำให้ผลไม่ตรงหรือไม่ เนื่องจากว่า วัคซีนเป็นการนำยาหรือสารชนิดหนึ่งที่ฉีดเข้าไปในร่างกาย เพื่อให้ร่างกายเกิดการสร้างภูมิคุ้มกันที่จะไปต่อสู้กับเชื้อโรคได้ เช่น วัคซีนชนิดเชื้อตาย (Inactivated vaccine) วัคซีนกลุ่มนี้ผลิตโดยนําไวรัสโรคโควิด19 มาเลี้ยงขยายจํานวนมาก และนํามาทำให้เเชื้อตาย  การฉีดวัคซีนจะกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันต่อไวรัสทุกส่วน เสมือนได้รับเชื้อไวรัสโดยตรงแต่ไม่ทำให้เกิดโรค เพราะเชื้อตายแล้ว

                            ดังนั้น การฉีดวัคซีนโควิด -19 มาก่อนการตรวจหาเชื้อ จะมีผลต่อการตรวจโรคโควิด-19 ด้วยวิธี real-time RT-PCR หรือวิธี Antigen test kit (ATK) หรือไม่

                            ตอบข้อกังวลใจในเรื่องดังกล่าว เราขอนำคำตอบของ ดร.ทนพ.เมธี ศรีประพันธ์ ภาควิชาจุลชีววิทยา คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดลที่ได้ไขข้อสงสัยไว้ ดังนี้ การรับวัคซีนโควิด-19 ไม่ได้ส่งผลทำให้เกิดผลบวกลวงหรือผลบวกปลอมเมื่อตรวจทางห้องปฏิบัติการด้วยเทคนิค real-time RT-PCR หรือ ATK แต่ผู้ที่ได้รับวัคซีนจะสามารถตรวจพบแอนติบอดีต่อโรค COVID-19 ได้ในกระแสเลือดเมื่อเวลาผ่านไปในระยะที่เหมาะสม อย่างไรก็ตามถ้าผู้ที่ได้รับวัคซีนให้ผล real-time RT-PCR เป็น detected หรือ ATK เป็นผลบวกแสดงว่ามีการติดเชื้อเกิดขึ้น

                            ดูแลตนเอง ใส่หน้ากาก หมั่นล้างมือ รักษาระยะห่าง
                            ดูแลตนเอง ใส่หน้ากาก หมั่นล้างมือ รักษาระยะห่าง
                            เมื่อเราต้องดำเนินชีวิตอยู่กับเชื้อไวรัสโควิด-19 เพราะมันไม่สามารถหายไปจากโลกนี้ได้ กลายมาเป็นโรคประจำถิ่น ดังนั้นการรู้วิธีรับมือ ป้องกัน และดูแลตนเองจึงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อให้การใช้ชีวิตประจำวันภายใต้การระบาดของเชื้อโควิด เป็นไปได้อย่างไม่ประมาททั้งต่อตนเอง และคนรอบข้าง อย่าลืมใส่หน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือ รักษาระยะห่าง ดูแลตนเองให้แข็งแรงกันด้วยนะทุกคน
                            อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

                            คนท้องติดโควิด คนท้องทำ Home isolation ได้ไหม?

                            เมื่อคุณและลูก ติดโควิด ทำยังไง ? เปิดขั้นตอนการรักษาที่นี่

                            ติดโควิด 5 วิธีกักตัวที่บ้าน ดูแลตัวเองและลูกๆ ระหว่างรอเตียง

                            เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                              กรุ๊ปเลือด

                              อาหารสร้างภูมิคุ้มกันตาม “กรุ๊ปเลือด” หลีกหนีภูมิแพ้ !!!

                              กรุ๊ปเลือด มนุษย์เรามีกลุ่มเลือดหลักอยู่ 4 กลุ่ม คือ A B O และ AB ซึ่งความแตกต่างนี้เอง ที่ส่งผลถึงอาหารที่ควรรับประทาน ให้เหมาะกับกรุ๊ปเลือดของตนเอง

                              อาหารสร้างภูมิคุ้มกันตาม “กรุ๊ปเลือด” หลีกหนีภูมิแพ้ !!!

                              เราจะรู้ได้อย่างไรว่า อาหารที่เรารับประทานเข้าไปทุกวันนั้น เหมาะกับร่างกายของเราหรือไม่ ทีมกองบรรณาธิการ ABK ได้รวบรวมข้อมูลอาหาร ที่จะเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายได้ หากรับประทานตามกรุ๊ปเลือดของเรา รายละเอียดเป็นอย่างไร ไปดูกันเลยค่ะ

                              อาหารเสริมภูมิคุ้มกันตาม กรุ๊ปเลือด หลีกหนีภูมิแพ้
                              อาหารเสริมภูมิคุ้มกันตาม กรุ๊ปเลือด หลีกหนีภูมิแพ้

                              อาหารสร้างภูมิคุ้มกันตาม “กรุ๊ปเลือด” หลีกหนีภูมิแพ้ !!!

                              การแบ่งกรุ๊ปเลือด และการรับเลือดใช้หลักเกณณ์อะไร ?

                              ในเลือดคนเรามีส่วนประกอบที่สำคัญอยู่ 2 ส่วนคือ แอนติเจน และ แอนติบอดี โดยแอนติเจนจะอยู่บนผิวของเซลล์เม็ดเลือด ส่วนแอนติบอดีอยู่บนน้ำเลือด

                              แอนติเจนแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ A และ B ซึ่งแต่ละคนจะมีไม่เหมือนกันและนักวิทยาศาสตร์ก็ได้ใช้หลักเกณฑ์นี้ในการแบ่งกรุ๊ปเลือดดังนี้

                              คนที่มีแต่แอนติเจน A อย่างเดียวคือกรุ๊ปเลือด A

                              คนที่มีแต่แอนติเจน B อย่างเดียวคือกรุ๊ปเลือด B

                              สำหรับคนที่มีทั้งแอนติเจน A และ B คือกรุ๊ปเลือด AB

                              ส่วนคนที่ไม่มีทั้งแอนติเจน A และ B คือกรุ๊ปเลือด O

                              นอกจากแอนติเจนจะมี A และ B แล้ว แอนดิบอดีก็มี A และ B ด้วย ซึ่งปกติ แอนดิบอดี A จะโจมตี แอนติเจน B และ แอนดิบอดี B จะโจมตี แอนติเจน A และด้วยสาเหตุดังกล่าวการรับเลือดบางกรุ๊ปเลือดอาจเกิดการโจมตีระหว่างแอนดิบอดีและแอนติเจน จึงต้องมีการกำหนดไว้ว่ารับเลือดกรุ๊ปใดรับกรุ๊ปใดได้บ้างดังนี้

                              เลือดกรุ๊ป A จะรับ B และ AB ไม่ได้ รับได้แต่ A และ O

                              เลือดกรุ๊ป B จะรับ A และ AB ไม่ได้ รับได้แต่ B และ O

                              สำหรับเลือดกรุ๊ป AB จะรับได้ทุกกรุ๊ป

                              เลือดกรุ๊ป O จะรับได้เฉพาะกรุ๊ป O

                              อาหารสร้างภูมิคุ้มกันตาม “กรุ๊ปเลือด” หลีกหนีภูมิแพ้ !!!

                              การรับประทานอาหารให้เหมาะกับกรุ๊ปเลือด ได้รับการยอมรับมาอย่างยาวนานว่า ช่วยรักษาโรคภูมิแพ้ต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี โดย ดร.ปีเตอร์ ดี อาดาโม ผู้ที่ได้รับรางวัลแพทย์ธรรมชาติบำบัดยอดเยี่ยมจากสหรัฐอเมริกา ปี ค.ศ.1990 ได้อธิบายไว้ในหนังสือ Eat Right for Your Type โดยเขาเชื่อว่า เลือดแต่ละกรุ๊ปมีสารเคมีในเลือดที่แตกต่างกัน โดยมีแอนติเจนกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ซึ่งอาหารทุกชนิดล้วนมีโปรตีนที่เป็นอนุมูลอิสระ มีคุณสมบัติในการเหนี่ยวนำและจับเกาะติดเลือดที่เรียกว่า “เลกติน” ถ้าเรากินอาหารที่มีเลกตินไม่เหมาะกับเลือด ก็จะทำให้เลกตินเข้าไปรบกวนการทำงานของระบบย่อยอาหาร การเผาผลาญ การสร้างอินซูลิน และความสมดุลของฮอร์โมน

                              อาหารตามกรุ๊ปเลือด
                              อาหารตามกรุ๊ปเลือด
                              อาหารที่เหมาะสมกับกรุ๊ปเลือดต่าง ๆ เพื่อให้ร่างกายย่อยได้ดี สร้างภูมิคุ้มกันที่ดีได้นั้น แบ่งได้ตามนี้
                              กรุ๊ปเลือด O
                              กระเพาะสามารถย่อยอาหารจำพวกเนื้อได้ดีที่สุด สามารถกินอาหารทะเลได้เป็นประจำ เนื้อที่ควรกินได้แก่ เนื้อปลา กุ้ง ปู และอาหารจำพวกแป้งสาลี ข้าวโอ๊ต และบรรดาถั่วต่างๆ

                              กรุ๊ปเลือด A

                              เลือดค่อนข้างเหนียวข้น จึงเหมาะกับการทานมังสวิรัติที่ย่อยง่าย เหมาะกับการทานผักผลไม้ทุกชนิด เช่น บร็อคโคลี่ แครอท ฟักทอง ผักโขม เลือกดื่มนมถั่วเหลือง นมแพะ หรือโยเกิร์ตไขมันต่ำ แทนนมวัว

                              กรุ๊ปเลือด B

                              สามารถทานได้ทั้งเนื้อสัตว์ และ ผลไม้ได้ดีทั้งสองอย่างเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นจะทานปลาแซลมอน ปลาหิมะ ปลาเนื้อขาว อย่างปลาจาระเม็ด ปลาตาเดียว หรือจะเนื้อแพะ แกะ ไก่งวงก็ยังได้ รวมถึงผักใบเขียวที่ทานได้ทุกชนิด หลีกเลี่ยงแต่มะเขือเทศ และข้าวโพดเท่านั้น

                              กรุ๊ปเลือด AB

                              สามารถทานได้ทั้งผัก ผลไม้ และเนื้อสัตว์เช่นกัน รวมถึงผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง และเต้าหู้ สามารถกิน นม เนย ไข่ และโยเกิร์ตไขมันต่ำได้ แต่ไม่ควรกินปลาเนื้อขาว และแซลมอนรมควัน เพราะย่อยยาก และควรทานผักบ่อย ๆ จะเป็นผักสดจิ้มน้ำพริก หรือผักสลัดก็ได้
                              อย่างไรก็ตามการทานอาหารที่ดี ครบ 5 หมู่ในแต่ละมื้ออาหาร ก็เป็นสิ่งที่เหมาะสม และก่อให้เกิดสุขภาพที่ดี ร่างกายจะสร้างภูมิคุ้มกันได้ดีเช่นกัน
                              แต่สำหรับคนที่มีอาการของโรคภูมิแพ้ จากการที่ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันได้ไม่มากเท่าที่ควรนั้น การเลือกทานอาหารที่ดีก็สามารถช่วยรักษาอาการภูมิแพ้ได้เช่นกัน โดย
                              1. ทานอาหารที่มีโปรไบโอติกส์สูง เช่น โยเกิร์ต
                              2. ทานผลไม้วิตามินซีสูง เพื่อต้านอนุมูลอิสระ บรรเทาอาการแพ้ ลดการอักเสบได้ เช่น ส้ม มะขามป้อม ฝรั่ง
                              3. อาหารที่อุดมด้วยแมกนีเซียม เช่น อัลมอนด์ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ รำข้าว
                              4. อาหารที่มี Omega-3 เช่น ปลาทูน่า มีฤทธิ์ที่สามารถบรรเทาอาการแพ้ได้

                              วิธีประเมินว่าอาหารที่รับประทานนั้นเหมาะกับร่างกายของเราหรือไม่

                              พยายามสังเกตแและจดบันทึกอาหารที่รับประทานในแต่ละวัน หรือมีปฏิกิริยาใดเกิดขึ้นบ้าง เช่น วันนี้รับประทานอะไรแล้วทำให้รู้สึกเหนื่อย หรือหมดแรง จากนั้นทำการจดบันทึก เพื่อทดสอบว่า เรารับประทานอาหารได้อย่างเหมาะสมแล้วหรือยัง ซึ่งเราอาจค้นพบว่า เรารับประทานอาหารไม่เหมาะสมมาโดยตลอดก็เป็นได้

                              ส่วนผู้ที่กำลังลดน้ำหนัก หลาย ๆ คนอาจคิดว่า อ้วนเพราะการรับประทานเยอะ จึงพยายามรับประทานน้อยลง จนร่างกายขาดสารอาหาร สมองจึงไม่สั่งให้หยุดกิน เป็นเหตุให้รับประทานแล้วไม่รู้สึกอิ่ม ร่ายกายจึงได้รับอาหารมากเกินไป แต่หากเรารับประทานอาหารตามกรุ๊ปเลือด อย่างเหมาะสม สมองก็จะรับรู้ และทำให้รู้สึกอิ่ม รับประทานอาหารน้อยลง ดังนั้น ไม่ว่าเราจะรับประทานอาหารที่ดีมากแค่ไหน แต่หากรับประทานไม่เหมาะกับกรุ๊ปเลือดของเรา มันก็จะไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย

                              อาหารเป็นปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญต่อการดำรงชีวิต แต่ร่างกายของเราจะดีหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับอาหารที่เรารับประทานเช่นกัน ดังเช่นประโยคที่ว่า You are what you eat. ทีมกองบรรณาธิการ ABK จึงได้นำบทความนี้มาฝาก เพื่อหวังให้ทุกท่านมีสุขภาพที่ดีกันทุกคนนะคะ

                              อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

                              ลูกตัวเหลือง เพราะกรุ๊ปเลือดไม่เข้ากับแม่ (เรื่องจริงจากแม่)

                              กรุ๊ปเลือด พ่อแม่ต่างกัน ลูกจะได้กรุ๊ปเลือดใคร?

                              กรุ๊ปเลือดบอกนิสัย ลองทายนิสัยลูกจากกรุ๊ปเลือด เด็กแต่ละคนมีนิสัยอย่างไรกันบ้าง?!

                              รู้จัก ฮีโมฟีเลีย “โรคเลือดออกง่ายแต่หยุดยาก” โรคทางพันธุกรรมที่รักษาไม่หาย!

                               

                              ขอบคุณข้อมูลจาก : https://redcross-ptl.or.th, https://www.synphaet.co.th, https://medthai.com

                               

                              เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                              Amarin Baby & Kids

                                ทราฟฟี่ฟองดูว์

                                สปสช.ใช้ ทราฟฟี่ฟองดูว์ รับแจ้งปัญหาใช้สิทธิบัตรทอง

                                สปสช.ใช้ ทราฟฟี่ฟองดูว์ รับแจ้งปัญหาใช้สิทธิบัตรทอง

                                นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า สปสช.จะเริ่มเปิดช่องทางแอป ทราฟฟี่ฟองดูว์ เพื่อรับเรื่องร้องเรียน รวมถึงปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ในการใช้บริการสิทธิบัตรทอง 30 บาทจากประชาชน โดย สปสช.ได้จัดเจ้าหน้าที่ในการติดตามและทันทีที่มีการแจ้งเรื่องเข้ามาในระบบจะเร่งแก้ไขปัญหาให้โดยเร็ว

                                ใครมีสิทธิบัตรทอง ?

                                • เด็กแรกเกิด ที่ไม่มีสิทธิสวัสดิการการรักษาพยาบาลข้าราชการจากบิดามารดา
                                • บุตรข้าราชการที่บรรลุนิติภาวะ (อายุ 20 ปีขึ้นไปหรือสมรส) และไม่มีสิทธิประกันสุขภาพจากหน่วยงานรัฐ
                                • บุตรข้าราชการคนที่ 4 ขึ้นไป และไม่มีสิทธิประกันสุขภาพจากหน่วยงานรัฐ เช่น สิทธิข้าราชการคุ้มครองบุตรเพียง 3 คน
                                • ผู้ประกันตนที่ขาดการส่งเงินสมทบกองทุนประกันสังคม (หมดสิทธิประกันสังคม)
                                • ข้าราชการที่เกษียณอายุหรือออกจากราชการโดยมิได้รับบำนาญ
                                • ผู้ประกอบอาชีพอิสระ และไม่ได้เป็นผู้ประกันตน
                                มีสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติตามกฎหมาย และลงทะเบียนเพื่อเลือกหน่วยบริการประจำได้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
                                ***คนไทยที่อาศัยอยู่ในต่างประเทศติดต่อกันมากกว่า 2 ปีขึ้นไป (ข้อมูลจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง) หรือผู้ที่ลงทะเบียนเลือกตั้งในต่างประเทศ (ข้อมูลจากสำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง) จะใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งขาติต่อเมื่อเดินทางกลับมาอาศัยอยู่ในประเทศไทยแล้ว โดยติดต่อแก้ไขสถานะบุคคล ณ หน่วยบริการในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติที่อยู่ใกล้บ้าน

                                13 สิทธิ บัตรทอง 30 บาท

                                แบ่งออกเป็น 13 รายการ ได้แก่

                                1. บริการสร้างเสริมสุขภาพ และป้องกันโรค

                                2. การตรวจวินิจฉัยโรค

                                3. การตรวจ และการรับฝากครรภ์

                                4. การบำบัด และการบริการทางการแพทย์

                                5. ยา เวชภัณฑ์ อวัยวะเทียม และอุปกรณ์ทางการแพทย์

                                6. การทำคลอด

                                7. การกินอยู่ในหน่วยบริการ

                                8. การบริบาลทารกแรกเกิด

                                9. บริการรถพยาบาล หรือบริการพาหนะรับส่งผู้ป่วย

                                10. บริการพาหนะรับส่งผู้ทุพพลภาพ

                                11. การฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกาย และจิตใจ

                                12. บริการสาธารณสุข ด้านการแพทย์แผนไทย และการแพทย์ทางเลือก ตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบโรคศิลปะ

                                13. บริการสาธารสุขอื่นที่จำเป็นต่อสุขภาพ และการดำรงชีวิต ที่คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติกำหนดเพิ่มเติม

                                ทราฟฟี่ฟองดูว์
                                สปสช.ใช้ ทราฟฟี่ฟองดูว์ รับแจ้งปัญหาใช้สิทธิบัตรทอง

                                นำแอปฯ ทราฟฟี่ฟองดูว์ มาใช้รับฟังปัญหา

                                จากข้อมูลปีงบประมาณ 2564 พบว่ามีประชาชนใช้สิทธิบัตรทอง 30 บาท เข้ารับบริการผู้ป่วยนอกถึง 161.71 ล้านครั้ง และผู้ป่วยในอีกจำนวน 5.682 ล้านครั้ง ด้วยจำนวนการใช้สิทธิบัตรทอง การเข้ารับบริการในบางครั้งย่อมเกิดความไม่สะดวก หรือมีปัญหา และอุปสรรคเกิดขึ้นได้ เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน และนำไปสู่การพัฒนาและปรับปรุงระบบ เพื่อเป็นการเพิ่มช่องทางการติดต่อสื่อสาร รับแจ้งปัญหาการใช้สิทธิบัตรทอง 30 บาท ระหว่าง สปสช. กับประชาชนที่สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น สปสช. จึงได้ประสานกับทางเนคเทค สวทช. เพื่อเข้าร่วมนำแอปพลิเคชันทราฟฟี่ฟองดูว์ โดย สวทช. ยินดีเปิดระบบเครือข่ายให้ สปสช. เข้าร่วมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

                                วิธีการแจ้งเรื่องผ่าน ทราฟฟี่ฟองดูว์ ผู้ใช้สิทธิบัตรทอง 30 บาท

                                1. เพิ่ม Traffy Fondue เป็นเพื่อนใน LINE ค้นหาไอดี @traffyfondue หรือคลิกที่ลิงค์  https://landing.traffy.in.th?key=zHdDaLxF

                                2. พิมพ์ปัญหาที่ต้องการแจ้งในช่องแชท แล้วกดส่ง

                                3. ถ่ายรูปและระบุประเภทปัญหา และแชร์ตำแหน่งที่เกิดปัญหา

                                4. หลังจากนั้น ระบบจะแจ้งเตือนเจ้าหน้าที่ สปสช. ให้เข้าไปติดตามข้อมูลเพื่อนำมาแก้ไขปัญหาต่อไป

                                5. ผู้แจ้งรอรับการแจ้งเตือนเมื่อมีความก้าวหน้า

                                สำหรับช่องทางบริการอื่นๆ ของ สปสช. เพื่อรับข้อมูล ข้อเสนอแนะ และข้อร้องเรียนต่างๆ ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ได้แก่ สายด่วน สปสช. 1330 หรือช่องทางระบบออนไลน์ทั้งไลน์ สปสช. ไลน์ไอดี @nhso หรือคลิก https://lin.ee/zzn3pU6 และ Facebook : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ https://www.facebook.com/NHSO.Thailand

                                 

                                ขอบคุณข้อมูลจาก

                                Workpoint Today, สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ

                                 

                                เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                                 อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

                                สปสช. มอบ สิทธิบัตรทอง คัดกรองดาวน์ซินโดรม

                                บัตรทองให้เข้าถึงยา โรคข้ออักเสบไม่ทราบสาเหตุในเด็ก  

                                แม่ๆเตรียมเฮ คัดกรองมะเร็งปากมดลูก สปสช.ดูแลทุกสิทธิ์

                                  ภาวะสมองพิการ

                                  เช็ค 6 อาการของเด็กที่มี ภาวะสมองพิการ !

                                  เช็ค 6 อาการของเด็กที่มี ภาวะสมองพิการ !

                                  คุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกน้อยอยู่ในวัยเตาะแตะ คงมีความสุขที่ได้เห็นพัฒนาการของลูกที่กำลังน่ารัก หัดคลาน หัดนั่ง หัดเดิน แต่หากบ้านใดที่คุณพ่อคุณแม่สังเกตว่า ลูกน้อยมีทักษะการเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อล่าช้า เช่น การเงยหน้าขึ้น การพลิกตัว การนั่ง คลาน และการเดิน ชอบใช้ร่างกายส่วนเดียว ฯลฯ ต้องระวังนะคะ เพราะลูกอาจมี ภาวะสมองพิการ ค่ะ วันนี้เรามี 6 อาการบ่งบอกมาให้คุณพ่อคุณแม่สังเกตดูค่ะ

                                  สมองพิการ คืออะไร

                                  พญ.ณิชา  ลิ้มตระกูล กุมารแพทย์ด้านพฤติกรรม และพัฒนาการ ศูนย์สุขภาพเด็ก โรงพยาบาลพญาไท 2 ได้เผยแพร่ความรู้ไว้ว่า สมองพิการ (cerebral palsy) หรือที่นิยมเรียกตามตัวย่อว่า CP เป็นกลุ่มอาการที่เกิดจากการบาดเจ็บอย่างถาวรในสมองที่ยังพัฒนาได้ไม่เต็มที่ ส่งผลให้เกิดความผิดปกติของการเคลื่อนไหวและท่าทาง โดยที่การบาดเจ็บในสมองนั้นจะต้องเป็นชนิดคงที่ไม่รุนแรงมากขึ้น

                                  ปัจจุบันพบว่าผู้ป่วยเด็กสมองพิการมีจำนวนเพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งอาจเป็นผลมาจากศักยภาพในการดูแลผู้ป่วยทารกแรกเกิดของแพทย์ที่มากขึ้น ทำให้ทารกแรกเกิดคลอดก่อนกำหนด น้ำหนักตัวน้อย ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงในการเกิดสมองพิการ มีอัตราการรอดชีวิตที่สูงขึ้น

                                  ปัญหาและความผิดปกติที่อาจเกิดร่วม

                                  • พิการด้านการเคลื่อนไหว และการเดิน
                                  • ปัญหาการสื่อสาร ภาษา และการพูด
                                  • ความบกพร่องทางสติปัญญา และการเรียนรู้
                                  • สูญเสียการได้ยิน หรือการมองเห็น หรืออาจมีอาการตาเหล่ร่วมด้วย
                                  • โรคลมชัก
                                  • อารมณ์ และพฤติกรรมผิดปกติ
                                  • กระดูกสันหลังมีความผิดปกติ
                                  • มีปัญหามากกว่า 1 อย่างร่วมกัน
                                  ภาวะสมองพิการ
                                  เช็ค 6 อาการของเด็กที่มี ภาวะสมองพิการ !

                                  สาเหตุของเด็กที่มี ภาวะสมองพิการ

                                  ในปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจนแต่ก็มีหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อพัฒนาการทางสมองของทารกได้

                                  ความเสี่ยงตั้งแต่อยู่ในครรภ์

                                  • ภาวะทารกตัวเล็กในครรภ์
                                  • น้ำหนักแรกคลอดน้อย
                                  • มีการติดเชื้อระหว่างตั้งครรภ์ เช่น โรคหัดเยอรมัน โรคอีสุกอีใส โรคเริม โรคซิฟิลิส การ
                                  • ติดเชื้อไวรัสซิกา การติดเชื้อไวรัสไซโตเมกะโลโวรัส โรคท็อกโซพลาสโมซิส เป็นต้น
                                  • แม่ได้รับยา สารพิษระหว่างตั้งครรภ์
                                  • เด็กในครรภ์มีปัญหาสมองขาดเลือด หรือผิดปกติ
                                  • สมองเด็กพัฒนาไม่ดีในครรภ์
                                  • แม่มีโรคประจำตัว เช่น ไทรอยด์ผิดปกติ ภาวะเลือดออกง่าย เป็นต้น
                                  • การกลายพันธุ์ หรือความผิดปกติของพันธุกรรม ที่ส่งผลต่อการพัฒนาสมอง
                                  • อุบัติเหตุที่ทำให้สมองของทารกได้รับการกระทบกระเทือนตั้งแต่อยู่ในครรภ์

                                  ความเสี่ยงระหว่างคลอด

                                  • เด็กคลอดก่อนกำหนด
                                  • มีปัญหาคลอดยาก
                                  • มีความเสียหายต่อศีรษะ หรือกะโหลกศีรษะในระหว่างการคลอด
                                  • มีภาวะเลือดออกในสมอง หรือสมองขาดออกซิเจนในช่วงแรกเกิด

                                  ปัจจัยเสี่ยงหลังคลอด

                                  • มีการบาดเจ็บ เลือดออกในสมอง
                                  • ติดเชื้อของสมองภายหลังคลอด
                                  • ภาวะตัวเหลือง
                                  • โรคทางพันธุกรรม

                                  ปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ

                                  • การตั้งครรภ์ทารกแฝด หรือมีทารกในครรภ์ตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป
                                  • มารดาตั้งครรภ์ขณะมีอายุตั้งแต่ 35 ปีขึ้นไป
                                  • หมู่เลือดอาร์เอชของมารดา และทารกไม่ตรงกัน

                                   

                                  6 อาการที่สังเกตได้

                                  พญ.ณิชา ได้ให้ข้อสังเกตของภาวะนี้ไว้ 6 อาการ ดังนี้

                                  1. มีพัฒนาการล่าช้า
                                  2. มีการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะกล้ามเนื้อแขนขา ทำให้ไม่สามารถหยิบจับสิ่งของได้สะดวก แขนขาเกร็ง เดินได้อย่างยากลำบาก เดินปลายเท้าเขย่ง บางคนเกร็งมากจนทำให้เกิดความเจ็บปวด มีกระดูก และข้อผิดรูป อาจเกิดภาวะข้อเคลื่อน หรือข้อหลุดตามมาได้
                                  3. ความตึงตัวของกล้ามเนื้อลดลง อาจมีตัวอ่อนปวกเปียก ส่งผลให้ไม่สามารถทรงตัวในท่านั่ง ยืน หรือเดินได้
                                  4. การดูดกลืน, ดูดนม ทำได้อย่างไม่มีประสิทธิภาพ เคี้ยวอาหารไม่ได้ และเสี่ยงต่อการสำลัก
                                  5. มีปัญหาด้านการพูด
                                  6. ความผิดปกติอื่น ๆ เช่น สติปัญญาบกพร่อง ความสามารถในการเรียนรู้ต่ำกว่าปกติ มีปัญหาการมองเห็น และการได้ยิน ปัญหาพฤติกรรม และอารมณ์ เช่น ซึมเศร้า หรือมีอาการชัก ร่วมด้วย

                                  แนวทางการบำบัดฟื้นฟู

                                  เด็กสมองพิการมักจะมีปัญหาร่างกายหลายระบบร่วมกัน การรักษาจึงต้องอาศัยทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญหลายสาขา เพื่อป้องกันและลดภาวะแทรกซ้อน และกระตุ้นพัฒนาการและศักยภาพของเด็กสมองพิการให้ได้สูงสุด ให้ดำรงชีวิตในสังคมได้ ซึ่งทำได้หลายวิธี ดังนี้

                                  • กายภาพบำบัด
                                  • กิจกรรมบำบัด
                                  • อรรถบำบัด
                                  • นันทนาการบำบัด
                                  • การปรับปรุงวิธีรับประทานอาหาร
                                  • การรักษาด้วยยา
                                  • การผ่าตัด
                                  • การใช้เครื่องมือและอุปกรณ์เสริมร่วมกับการรักษา

                                  ขอบคุณข้อมูลจาก
                                  โรงพยาบาลพญาไท, ศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู สภากาชาดไทย

                                   

                                  เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                                   อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

                                  MRIสมองเด็กชี้ชัดอันตรายเมื่อ ลูกติดโทรศัพท์ ก่อน 2ขวบ

                                  กุมารแพทย์ห่วง กัญชา ! กระทบสมองเด็กและวัยรุ่น

                                  หมอเตือน! เด็กติดโรคโควิด ทำลายสมอง เสี่ยงเสียชีวิต

                                    แอสเพอร์เกอร์ ซินโดรม

                                    แอสเพอร์เกอร์ ซินโดรม กับทนายสาวในซีรี่เกาหลี

                                    แอสเพอร์เกอร์ ซินโดรม กับทนายสาวในซีรี่เกาหลี

                                    ในช่วงนี้มีซีรีส์เกาหลีเรื่อง Extraordinary Attorney Woo กำลังมาแรงค่ะคุณพ่อคุณแม่ หากได้ดู คุณพ่อคุณแม่อาจจะชื่นชอบในบุคลิกของนางเอกในเรื่องซึ่งเป็นทนายสาว เพราะสิ่งที่น่าสนใจก็คือ เธอเป็นทนายสาวที่มีอาการ แอสเพอร์เกอร์ ซินโดรม ซึ่งเป็นโรคในกลุ่ม ‘Autism Spectrum Disorder’  แต่เธอก็มีไอคิวที่สูงมากด้วย ซีรีย์เรื่องนี้เผยให้เราได้เห็นอีกหนึ่งแง่มุมของความเป็นออทิสติกที่ “แตกต่าง” จากคนอื่น แต่ไม่ใช่ “ความผิดปกติ” สิ่งสำคัญของการดูแลคนกลุ่มนี้ คือความเข้าใจ เหมือนอย่างที่พ่อของอูยองอยู่ อุทิศตัวเองเลี้ยงดูลูกสาวของเขาให้เติบโตมาอย่างดี

                                    คุณพ่อคุณแม่อาจจะสงสัยว่าผู้ที่มีภาวะแอสเพอร์เกอร์ ซินโดรมจะประกอบอาชีพเป็นถึงทนายได้อย่างไร ต้องดูแลอย่างไรหากลูก หรือคนใกล้ชิดประสบภาวะนี้ ลองมาหาคำตอบจากบทความนี้กันค่ะ

                                    เรื่องราวในซีรี่

                                    อูยองอู เป็นทนายความหญิง วัย 27 ปี ที่มีภาวะแอสเพอร์เกอร์ ซึ่งเป็นโรคในกลุ่มสเปกตรัมเดียวกับออทิสติก แต่เธอเป็นอัจฉริยะที่มีไอคิวสูงถึง 164 มีความทรงจำที่ดีเลิศ และกระบวนการความคิดที่เยี่ยมกว่าคนปกติ เธอเรียนจบเป็นที่ 1 ในชั้นเรียน ทั้งสถาบันนิติศาสตร์ชื่อดัง และสาขาวิชากฎหมายมหาวิทยาลัยแห่งชาติของโซล อย่างไรก็ตาม เธอก็พบว่าตัวเองกำลังมีปัญหาอย่างหนักเกี่ยวกับการเข้าสังคม

                                    แอสเพอร์เกอร์ ซินโดรม
                                    แอสเพอร์เกอร์ ซินโดรม กับทนายสาวในซีรี่เกาหลี

                                    ขอบคุณภาพจาก asianwiki.com

                                    แอสเพอร์เกอร์ ซินโดรม คืออะไร

                                    นพ.ทวีศักดิ์ สิริรัตน์เรขา จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น ได้กล่าวไว้ในบทความเรื่อง เมื่อลูกเป็นแอสเพอร์เกอร์ซินโดรม ว่าแอสเพอร์เกอร์ซินโดรม เป็นความบกพร่องของพัฒนาการที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวรูปแบบหนึ่ง โดยบกพร่องในทักษะทางสังคม ร่วมกับมีพฤติกรรมหมกมุ่น ทำซ้ำ ๆ ไม่ค่อยยืดหยุ่น จนเกิดผลเสียต่อการดำรงชีวิต การเรียน การทำงาน และการเข้าสังคม ส่วนด้านการใช้ภาษา สามารถพูดคุยสื่อสารปกติ แต่ไม่เข้าใจลูกเล่น สำนวน มุกตลก มีระดับสติปัญญาปกติ ความจำดี แต่มีปัญหาในการประยุกต์ใช้

                                    เดิมจัดเป็นกลุ่มอาการที่คล้ายกับออทิสติก อยู่ในกลุ่มการวินิจฉัยที่เรียกว่า Pervasive Developmental Disorders (PDDs) เหมือนกัน แต่ไม่เหมือนกันเสียทีเดียว คือพัฒนาการด้านภาษาจะดีกว่าออทิสติก และมีระดับสติปัญญาที่ปกติหรือสูงกว่าปกติ หลังปรับเกณฑ์การวินิจฉัยออทิสติกใหม่ ไม่มีการแบ่งแยกกลุ่มย่อย จึงเรียกรวมกันอยู่ในชื่อ ออทิสติก (Autism Spectrum Disorder) เหมือนกัน แต่มีบางคนที่ไม่เข้าเกณฑ์การวินิจฉัยออทิสติกในปัจจุบัน ก็อาจจัดอยู่ในอีกกลุ่มการวินิจฉัยที่เรียกว่า Social (Pragmatic) Communication Disorder

                                    สาเหตุของการเกิดอาการแอสเพอร์เกอร์

                                    ในปัจจุบันไม่ทราบว่า อะไรคือสาเหตุที่ชัดเจน ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่ามีหลายปัจจัยร่วมกัน ทั้ง

                                    • การทำงานที่ผิดปกติทางสมอง
                                    • พันธุกรรม
                                    • สิ่งแวดล้อม

                                    แต่ยังไม่สามารถสรุปได้แน่ชัด และในปัจจุบันยังไม่มียาใดที่ใช้รักษาอาการเหล่านี้ให้หายเป็นปกติ

                                    แต่พบว่าเด็กเหล่านี้ส่วนใหญ่ เมื่อได้รับการวินิจฉัยที่ถูกต้องและให้ความรู้ความเข้าใจ และคำแนะนำแก่พ่อแม่ รวมทั้งทางโรงเรียน ในการปรับตัวและการปรับพฤติกรรมของเด็ก ก็ช่วยให้เด็กเหล่านี้อยู่ร่วมในสังคมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข และประสบความสำเร็จได้ดี

                                    พฤติกรรมที่สังเกตได้ของ แอสเพอร์เกอร์ ซินโดรม

                                    พฤติกรรมและลักษณะอาการของเด็กที่เป็นแอสเพอร์เกอร์สามารถแบ่งออกเป็น 3 ด้าน คือ

                                    1. ด้านภาษา 

                                    การพูดและทักษะการใช้ภาษาอยู่ในเกณฑ์ปกติ เด็กอาจพูดได้ถูกหลักไวยากรณ์ แต่ไม่สามารถเข้าใจเนื้อหาที่ลึกซึ้งหรือความหมายโดยนัยที่แฝงอยู่ เช่น มุกตลก คำเปรียบเปรย และคำประชดประชันต่างๆ เป็นต้น

                                    2. ด้านสังคม 

                                    เมื่อต้องมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นๆ อาจมีพฤติกรรมการแสดงออกที่ดูแปลกกว่าเด็กวัยเดียวกัน เช่น

                                    • ไม่ค่อยมองหน้าหรือสบตาเวลาพูดคุย
                                    • แยกตัวอยู่คนเดียว
                                    • ไม่ค่อยสนใจบุคคลรอบข้าง
                                    • เล่นกับเด็กคนอื่นไม่ค่อยเป็น
                                    • ไม่รู้จักการทักทาย
                                    • พอเจอปุ๊บอยากถามอะไร อยากรู้อะไรก็จะพูดโพล่งออกมา ไม่มีการเกริ่นนำ ถามเรื่องที่สนใจโดยไม่เสียเวลา และไม่ค่อยรู้จักกาลเทศะ
                                    • เรื่องที่พูดคุยมักเป็นเรื่องของตนเองมากกว่าเรื่องอื่นๆ
                                    • ไม่แสดงความใส่ใจหรือสนใจเรื่องราวของคนอื่น
                                    • ขาดความเข้าใจหรือเห็นใจผู้อื่น
                                    • มักชอบพูดซ้ำๆ เรื่องเดิมๆ ที่ตนเองสนใจ

                                    3. ด้านพฤติกรรม 

                                    มีความสนใจเฉพาะเรื่องและชอบทำอะไรซ้ำๆ เช่น

                                    • ถ้าสนใจอะไรก็สนใจมากจนถึงขั้นหมกมุ่น โดยเฉพาะกับเรื่องที่ค่อนข้างมีความซับซ้อน และอาจเป็นเรื่องที่คนอื่นไม่สนใจ เช่น แผนที่โลก วงจรไฟฟ้า ยี่ห้อรถยนต์ ดนตรีคลาสสิค ไดโนเสาร์ ระบบสุริยจักรวาล เป็นต้น โดยความสนใจเหล่านี้อาจเปลี่ยนแปลงได้ตามกาลเวลา
                                    • บางรายไวต่อสิ่งเร้าที่มาจากภายนอกค่อนข้างมากกว่าคนทั่วไป
                                    • โดยทั่วไปแล้ว เด็กเหล่านี้มักมีสติปัญญาดี
                                    • มีความสามารถในการช่วยเหลือตนเองในเรื่องต่างๆ ที่ต้องทำในชีวิตประจำวัน
                                    • บางคนอาจมีปัญหาเรื่องที่ไม่สามารถมีสมาธิกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งได้นานนัก หรือมีปัญหาในการจัดลำดับเรื่องต่างๆ
                                    • มีทักษะในบางเรื่องที่อาจจะดูดีกว่าเด็กอื่น

                                    แต่โดยรวมแล้วเด็กเหล่านี้จะมีระดับสติปัญญาที่เป็นปกติ หรืออาจจะดีกว่าปกติด้วยซ้ำ

                                    แอสเพอร์เกอร์ ซินโดรม
                                    ทนายสาวในซีรี่เกาหลี ที่มีภาวะแอสเพอร์เกอร์ ซินโดรม

                                    ขอบคุณภาพจาก The Korea Times

                                    จะช่วยเด็กแอสเพอร์เกอร์ได้อย่างไร

                                    ทุกคนในครอบครัวถือว่ามีบทบาทสำคัญที่ต้องช่วยกันดูแล ต้องทำความเข้าใจกับปัญหาและศึกษาวิธีแก้ไขปัญหา เรียนรู้ทักษะต่างๆ จากผู้เชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ซึ่งมีวิธีการต่างๆ ดังนี้

                                    1. เล่นกับเด็กโดยเอาความสนใจของเด็กเป็นที่ตั้ง แล้วค่อยๆ ขยายความสนใจเหล่านั้นไปในแง่มุมอื่นๆ โดยมีเป้าหมายที่จะแบ่งปันความสนใจ และอารมณ์ซึ่งกันและกัน

                                    2. สนทนากับเด็กด้วยคำง่ายๆ ชัดเจน และถ้าเป็นตัวอย่างก็ควรเป็นสิ่งของในสถานการณ์จริงหรือรูปภาพ จะทำให้เด็กเข้าใจง่ายและเกิดการเรียนรู้ได้เร็ว

                                    3. สร้างบรรยากาศในการทำกิจกรรมให้รู้สึกสบายๆ ไม่เครียด มีความอบอุ่นและเป็นกันเอง

                                    4. ในการเล่นหรือการเรียนของเด็ก ควรจัดเป็นกลุ่มเล็ก ๆ เพื่อให้เด็กได้คุ้นเคยกับกฎระเบียบของกลุ่มเล็กก่อน ก่อนให้เด็กเข้าในกลุ่มใหญ่

                                    5. การใช้คำสั่งกับเด็กต้องมีความสม่ำเสมอ คงเส้นคงวาไม่เปลี่ยนแปลงบ่อย

                                    6. สนับสนุนให้เด็กเข้าเรียนร่วม ทำให้สามารถปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ในชีวิตประจำวัน และใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับคนอื่นได้

                                    7. สนับสนุนกิจกรรมหลากหลายเพื่อให้เด็กได้มีประสบการณ์ใหม่ๆ อย่างสม่ำเสมอ ทั้งนี้เพื่อลดความสนใจและความเคยชินที่ซ้ำซาก

                                    หากเด็กได้รับการดูแลช่วยเหลืออย่างเหมาะสม ทั้งในการพัฒนาด้านสังคมและพฤติกรรม เด็กจะใช้ชีวิตอยู่ในสังคมและเติบโตได้อย่างดีและเป้นปกติ

                                    ขอบคุณข้อมูลจาก

                                    โรงพยาบาลมนารมย์, ศูนย์วิชาการแฮปปี้โฮม, The Standard

                                     

                                    เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                                    อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

                                    แม่เตือน ลูกไม่สบตา เรียกไม่หัน อาการออทิสติกเทียม เหตุเพราะมือถือ!

                                    แม่แชร์ วิธีสังเกต อาการเด็กออทิสติก รู้ก่อนรักษาได้เร็ว

                                    14 ข้อสำคัญ เพื่อรับมือกับลูกน้อยที่เป็น “เด็กออทิสติก”