Page 144 – AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

วัคซีน ป้องกัน IPD บรรเทาอาการ RSV

คุ้ม2ต่อ!! วัคซีน ป้องกันไอพีดี แถมลดโอกาสติดเชื้อ RSV

Respiratory Syncytial virus(RSV)โรคติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจโรคอันตรายในเด็กเล็ก รู้หรือไม่ว่าไม่มีวัคซีนรักษาแต่การฉีดวัคซีน IPD ช่วยลดโอกาสติดเชื้อ RSV ได้

คุ้ม2ต่อ!! วัคซีน ป้องกันไอพีดี แถมลดโอกาสติดเชื้อ RSV

เมื่อเข้าสู่หน้าฝนโรคที่เกี่ยวข้องกับทางเดินหายใจก็ถามหา หนึ่งในโรคติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจที่พบบ่อย และเป็นอันตรายอย่างมากในเด็กเล็ก และลูก ๆ ของเรานั้น คือ โรคติดเชื้อ RSV

นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวในโซเชียลมีเดียว่า ในช่วงฤดูหนาวนี้มีโอกาสพบเด็กป่วยด้วยโรคติดเชื้อทางเดินหายใจจากเชื้อไวรัสอาร์เอสวี (RSV) ได้นั้น กรมควบคุมโรค ขอให้ข้อมูลว่า โรคติดเชื้อทางเดินหายใจจากเชื้อไวรัสอาร์เอสวี (Respiratory Syncytial Virus: RSV) เป็นโรคที่มักพบได้บ่อยในช่วงฤดูฝนและฤดูหนาว ซึ่งในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี อาจมีอาการรุนแรงได้มากกว่ากลุ่มอายุอื่นๆ จากข้อมูลศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยา คลินิกภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พบว่า อุบัติการณ์ของโรค RSV ในเด็กของปี 2563 มีอัตราป่วยเท่ากับปี 2562 ในเดือนเดียวกัน และโรคทางเดินหายใจที่ตรวจหาเชื้อจะพบเป็น RSV มากกว่าร้อยละ 30 ของผู้ป่วย โดยเฉพาะในเด็กเล็กแรกเกิด-5 ปี แสดงถึงมาตรการการป้องกันโรคทางเดินหายใจในเด็กขณะนี้ไม่ได้แตกต่างกับปีที่แล้วมากนัก อย่างไรก็ตาม การดูแลบุตรหลาน  ให้ปลอดภัยจากเชื้อไวรัสอาร์เอสวี (RSV) ก็ยังมีความสำคัญมาก

กล่าววันที่ 27 ตุลาคม 2563 ข้อมูลอ้างอิงจาก กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข

วันนี้ทาง ทีมแม่ ABK จึงขอนำความรู้เกี่ยวกับโรคติดเชื้อ RSV กับพญ.พัชรินทร์ มีศักดิ์ กุมารแพทย์ รพ.จุฬารัตน์9แอร์พอร์ต มาฝากแม่ ๆ เพื่อจะได้รู้ถึงโรคร้ายนี้ ที่ถึงแม้ดูอาการผิวเผินเหมือนไข้หวัดธรรมดา แต่หากลูกเราเกิดอาการรุนแรงก็อาจอันตรายถึงชีวิตได้เช่นกัน

ความแตกต่างระหว่างไข้หวัดและการติดเชื้อ RSV

เชื้อ RSV หรือชื่อเต็มว่า Respiratory Syncytial Virus หรืออีกชื่อหนึ่งว่า Human orthopneumovirus เป็นเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดโรคติดต่อในระบบทางเดินหายใจหลายโรค เช่น ไข้หวัด หลอดลมอักเสบ โดยเฉพาะโรคหลอดลมฝอยอักเสบในเด็กเล็ก ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการติดเชื้อในปอด หรือปอดอักเสบได้ หากเป็นการติดเชื้อในทารกที่คลอดก่อนกำหนด ทารกอายุต่ำกว่า 1 ปี เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ ผู้ใหญ่ที่เป็นโรคหัวใจและโรคปอด หรือผู้ป่วยที่มีระบบภูมิคุ้มกันผิดปกติ (ภูมิต้านทานโรคต่ำ) อาจมีอาการเจ็บป่วยรุนแรงได้และอาจมีอันตรายถึงชีวิต

ไข้หวัดและการติดเชื้อ RSV มีความคล้ายคลึงกัน แต่ในผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว เช่น มีภาวะหอบหืด หรือเป็นโรคหัวใจ อาจเกิดภาวะติดเชื้ออย่างรุนแรง และเกิดภาวะระบบหายใจล้มเหลวได้

สัญญาณและอาการติดเชื้อรุนแรงที่มักพบในทารกและเด็กเล็ก ได้แก่

  • มีไข้สูงขึ้นๆ ลงๆ (ประมาณ 38 องศา สำหรับเด็กอ่อนที่อายุไม่เกิน 3 เดือน)
มีไข้สูง อาการที่ควรเฝ้าระวังติดเชื้อ rsv
มีไข้สูง อาการที่ควรเฝ้าระวังติดเชื้อ rsv
  • จามบ่อย มีน้ำมูกไหลมีน้ำมูกเหนียว สีเหลือง เขียว หรือเทา
  • แน่นจมูก
  • ไออย่างรุนแรงจนเหนื่อย
  • ไอคล้ายเสียงหมาเห่า
  • หายใจมีเสียงวี๊ด (เสียงดังที่มักจะได้ยินเวลาหายใจออก)
  • หายใจเร็ว หอบ หรือหายใจลำบาก (เด็กที่มีอาการมักเลือกที่จะลุกขึ้นนั่งมากกว่านอนราบ)
  • อกบุ๋ม เนื่องจากกล้ามเนื้อบริเวณหน้าอกและผิวหนังของทารกจะบุ๋มลงไปอย่างเห็นได้ชัดเวลาหายใจเนื่องจากต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการหายใจแต่ละครั้ง
  • ได้ยินเสียงปอดผิดปกติ
  • ตัวลายเขียว เนื่องจากขาดออกซิเจน
  • รับประทานน้อยลง เบื่ออาหาร
  • อ่อนเพลียผิดปกติ (เซื่องซึม)
  • หงุดหงิดง่าย กระสับกระส่าย
  • ผิวซีดเซียว

เมื่อใดควรไปพบแพทย์?

การวินิจฉัยการติดเชื้อ RSV สามารถดูได้จากอาการของผู้ป่วย เช่น มีภาวะไอ หอบ หายใจ เสียงดังวีด และหากลูกของคุณอยู่ในกลุ่มเสี่ยง เช่น มีอายุน้อยกว่า 3 เดือน คลอดก่อนกำหนด มีโรคเกี่ยวกับปอด หรือหัวใจ มีระบบภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอ หรือมีอาการชนิดรุนแรงแม้เพียงอาการเดียวก็ควรรีบพาลูกไปพบแพทย์ แพทย์จะทำการทดสอบโดยการนำน้ำมูกหรือเสมหะไปตรวจเชื้อโดยตรง โดยทดสอบหาเชื้อไวรัส RSV (rapid RSV test) ซึ่งจะทราบผลได้ภายในเวลาประมาณ 10 นาที

การรักษา

เชื้อ RSV ยังไม่มียารักษาที่เฉพาะ จะเป็นการรักษาแบบประคับประคอง ได้แก่ พ่นยาเสมหะ ให้ออกซิเจน และให้สารน้ำในเลือด ซึ่งโดยทั่วไปจะหายเป็นปกติได้ภายใน 2 สัปดาห์ในกรณีที่ติดเชื้อไม่รุนแรง แต่หากติดเชื้อไวรัส RSV อย่างรุนแรง แพทย์จะให้ใช้เครื่องช่วยหายใจ ให้น้ำเกลือ และดูดเสมหะให้เป็นระยะ

ฉีด วัคซีน ป้องกันไม่ให้ติดเชื้อรุนแรง
ฉีด วัคซีน ป้องกันไม่ให้ติดเชื้อรุนแรง

การป้องกัน

การป้องกันการแพร่กระจายหรือติดเชื้อ คือ การรักษาความสะอาด หากมีอาการป่วยควรใส่หน้ากากอนามัย เพื่อช่วยป้องกันการแพร่กระจาย ควรมีการทำความสะอาดของเล่นเด็ก ข้าวของเครื่องใช้ และล้างมือบ่อย ๆ หลีกเลี่ยงการไปในที่ชุมชน หมั่นดูแลสุขภาพให้แข็งแรง

 วัคซีน

ข้อมูลจากรพ.จุฬารัตน์9แอร์พอร์ตยังระบุอีกว่า เนื่องจากเชื้อ RSV มีหลายชนิด จึงไม่มีผลิตวัคซีนเฉพาะ แต่สามารถฉีดวัคซีน IPD เพื่อช่วยลดการติดเชื้อได้

เช่นเดียวกับเพจ Infectious ง่ายนิดเดียว ได้แนะนำ 1 ในวิธีป้องการติดเชื้อไวรัส RSV เนื่องจากอาจพบภาวะติดเชื้อร่วมกับเชื้ออื่นได้
-แนะนำฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่หรือ
-วัคซีนป้องกันโรคไอพีดี (เชื้อแบคทีเรีย Streptococcus pneumoniae)
โดยเฉพาะคนไข้กลุ่มเสี่ยงได้แก่ อายุน้อยกว่า 2 ปี มีโรคประจำตัว อ้วน ภูมิคุ้มกันร่างกายต่ำ มีโรคปอด หอบหืด คลอดก่อนกำหนด โรคหัวใจ

วัคซีนป้องกัน IPD คืออะไร

วัคซีนไอพีดี (IPD) เป็นวัคซีนสำหรับการป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรียที่ชื่อ Streptococcus pneumoniae ชนิดลุกลาม เชื้อแบคทีเรียชนิดนี้พบได้ในช่องจมูก ช่องปากในคนทั่วไปได้ถึง 35% โดยเฉพาะในเด็กอายุ 2-3 ปี ก่อโรคได้ หากไม่รุนแรงก็มีอาการเหมือนหวัดคออักเสบทั่วไป แต่หากมันลุกลามมักลุกลามไปยัง 3 ที่หลัก ๆ ก็คือ
1. ปอด ทำให้ปอดอักเสบ
2. ติดเชื้อในกระแสเลือด
3. เยื่อหุ้มสมอง ทำให้เยื่อหุ้มสมองอักเสบ

ซึ่งเราจะเรียกโรคเหล่านั้นว่า ไอพีดี (invasive pneumococcal disease)

เนื่องจากในประเทศไทย วัคซีนชนิดนี้ยังค่อนข้างใหม่อยู่ จึงยังไม่ได้มีการศึกษา การตอบสนองของวัคซีนนี้ในเด็กไทย ในประเทศอเมริกามีการใช้วัคซีนนี้ ตั้งแต่ปี ค.ศ.1998 โดยเด็กทุกคนจะได้รับวัคซีนป้องกัน IPD ตอนอายุ 2,4,6 และ 12-15 เดือน มีการเก็บข้อมูลผลของการให้วัคซีน ตั้งแต่ปี ค.ศ.1998-2003 พบว่าอัตราการติดเชื้อแบบลุกลามลดลงเรื่อยๆ อัตราการเกิดปอดอักเสบและหูชั้นกลางอักเสบก็ลดลงด้วย นอกจากนั้น ยังพบว่าการเป็นพาหะก็ลดลงด้วย การแพร่เชื้อในชุมชนลดลง ผู้ใหญ่กลุ่มอายุมากกว่า 65 ปี มีอัตราการติดเชื้อลดลงด้วย

วัคซีน ป้องกันและลดอาการป่วยได้
วัคซีน ป้องกันและลดอาการป่วยได้

สรุปผลของวัคซีน คือ

  1. ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคติดเชื้อไอพีดี เช่น ปอดอักเสบ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ
  2. ช่วยลดอัตราการดื้อยาปฏิชีวนะของเชื้อนิวโมคอคคัส
  3. เชื้อทางอ้อมสู่คนกลุ่มอื่น โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อนี้ เช่นเดียวกันช่วยลดจำนวนเชื้อพาหะในโพรงจมูก และลำคอของเด็ก ทำให้การแพร่กระจายเชื้อลดลง จึงเป็นการป้องกันการติด

มาทำความรู้จักกับวัคซีนกัน ปัจจุบันมีวัคซีนป้องกันโรค IPD อยู่ 2 ชนิด คือ

  1. วัคซีนชนิดโพลีแซคคาไรด์ 23 สายพันธุ์ (เรียกย่อๆ PS 23) [Polysaccharide Vaccine 23 serotype ; PS23]
    วัคซีนนี้ครอบคลุมเชื้อก่อโรคแบบลุกลาม (IPD) ในเด็กได้ครอบคลุม 80% ของสายพันธุ์ที่ก่อโรค แต่พบว่าวัคซีนนี้ไม่สามารถป้องกันเชื้อโรคนี้ที่ไม่ได้มาทางกระแสเลือด เช่น ถ้ามีการติดเชื้อปอดอักเสบจากการสำลักเชื้อเข้าไป วัคซีนจะไม่สามารถป้องกันโรคได้ นอกจากนั้นวัคซีนนี้ต้องให้ในเด็กอายุมากกว่า 2 ปีขึ้นไป จึงจะสามารถสร้างภูมิคุ้มกันได้ไม่สามารถให้ในเด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อแบบลุกลาม
  2. นิวโมคอคคัส คอนจูเกต วัคซีนชนิด 7 สายพันธุ์ (เรียกย่อๆ ว่า PCV 7) [Pneumococcus conjugate Vaccine 7 serotypes ; PCV 7]
    วัคซีนนี้ครอบคลุมเชื้อก่อโรคได้ 7 สายพันธุ์ คือ 4, 6B,9V,14,18C,19F และ 23F พบว่าครอบคลุมสายพันธุ์ที่เป็นสาเหตุของโรคในเด็กไทยได้ประมาณ 70% (จากข้อมูลการเก็บตัวอย่างเชื้อจาก 4 โรงพยาบาล) วัคซีนนี้ แนะนำให้ฉีดในเด็กอายุ2,4,6 และ 12-15 เดือน (4 ครั้ง ตามการฉีดของต่างประเทศ) สำหรับเด็กที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อสูง เช่น เด็กที่ไม่มีม้าม แนะนำให้ฉีดตามด้วยวัคซีน PS23 หลังอายุ 2 ปีด้วย

 

ลูกน้อยติดเชื้อ rsv ลงปอด ทรมาน
ลูกน้อยติดเชื้อ rsv ลงปอด ทรมาน

ผลข้างเคียงของวัคซีนที่พบ คือ อาจมีบวมแดงบริเวณที่ฉีด มีไข้ 2-3 วัน ในอนาคตอาจมีวัคซีนที่สามารครอบคลุมสายพันธุ์ก่อโรคได้มากขึ้นซึ่งกำลังอยู่ในขั้นตอนการวิจัย

อย่างไรก็ดี วัคซีนเป็นเพียงการป้องกันการติดเชื้อ โดยในแต่ละเชื้อไวรัสมีสายพันธุ์มากมายหลายสายพันธุ์ วัคซีนไม่ได้ครอบคลุมทุกสายพันธุ์ จึงไม่ได้เป็นการคุ้มครองทั้ง 100% แต่การได้รับวัคซีนมาก่อนแล้ว แม้เกิดโรคขึ้น วัคซีนก็ยังช่วยบรรเทาอาการให้น้อยลงได้ ดังนั้นจึงแนะนำในการพาลูกไปรับวัคซีนป้องกัน IPD เพราะนอกจากจะได้รับการป้องกันเชื้อ IPD แล้วลูกยังลดโอกาสเสี่ยงในการติดเชื้อ RSV อีกด้วย

ขอขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก  hd.co.th/saintlouis.or.th/รพ.จุฬารัตน์9แอร์พอร์ต/

อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

RSV ไวรัส ในหน้าฝนทำร้ายสุขภาพลูก

วัคซีนสำหรับเด็ก มีวัคซีนพื้นฐานอะไรบ้างที่ต้องฉีด ?

อาการข้างเคียงจากการฉีดวัคซีน

วัคซีน IPD ควรฉีดเมื่อไหร่ พร้อมตารางวัคซีน

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

    ประกาศรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2020 หมวด รางวัลพิเศษ

    ประกาศรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2020  รางวัลพิเศษ

    สำหรับสาขารางวัลนี้ประกอบด้วย

    • เพจคุณหมอในดวงใจ
    • เพจคุณแม่บล็อกเกอร์ในดวงใจ
    • Star Family
    • Kid Youtuber

    มาดูกันเลยค่ะว่า ผู้ได้รับ รางวัลพิเศษ จาก AMARIN BABY & KIDS  มีใครบ้าง

     

     

     

    เพจเลี้ยงลูกนอกบ้าน ที่คุณหมอโอ๋ จัดทำขึ้นเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับการเลี้ยงลูกให้กับพ่อแม่ทั่วไป ตามแนวคิดที่ว่า “เพราะสมองของเด็กพัฒนาด้วยประสบการณ์นอกบ้านและการเลี้ยงดูเชิงบวก”

     

    เพจเลี้ยงลูกตามใจหมอ ที่คุณหมอวินจัดทำขึ้นเพื่อเผยแพร่ความรู้ด้านสุขภาพกายและใจของเด็กๆให้กับประชาชนทั่วไป ตามแนวคิดที่ว่าการเลี้ยงลูกแบบสายกลาง ที่ “ถูกต้อง” และ “จริง” ที่สุดตามข้อมูลทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ในปัจจุบัน

     

     

    “แม่ฟ่อน” จากเพจโตไปด้วยกัน Family Journey และช่องยูทูปในชื่อเดียวกัน เป็นคุณแม่บล็อกเกอร์ที่แม่ๆ AMARIN BABY AND KIDS โหวตให้ได้รับรางวัล จากความน่ารักสดใสของพ่อสโตน แม่ฟ่อน และน้องสตรอง คลิปแนะนำวิธีการเลี้ยงลูกในแง่มุมต่างๆ ดูสนุก เข้าใจง่าย จึงทำให้มีผู้ติดตามจำนวนมาก

     

    รางวัลพิเศษที่ทางกองบรรณาธิการ AMARIN BABY & KIDS มอบให้ครอบครัวต้นแบบในการดูแลลูกสไตล์ครอบครัวยุคใหม่ที่มีแนวทางเลี้ยงลูกเชิงบวก ผ่านการเปิดโอกาสให้ลูกทั้งสองคน (น้องเดมีและดีแลน) ได้เรียนรู้สิ่งอย่างอิสระ ไปพร้อมกับการใช้ชีวิตคู่อย่างมีความสุขในแบบฉบับของตัวเอง

     

    ด.ญ.พริมา พงษ์ศิริปรีดา หรือน้องพริมเด็กหญิงวัยย่างเข้าสิบขวบ ที่เริ่มทำช่องยูทูปตั้งแต่วัยก่อนอนุบาล จากไอเดียของคุณพ่อคุณแม่เพื่อถ่ายช่วงเวลาแสนสนุกระหว่างท่องเที่ยวด้วยกัน ในชื่อ Dek Jew Chill Out

    ติดตามผลประกาศรางวัลในหมวดอื่นๆ คลิกอ่านได้ที่นี่

     

    เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

     

      Tags

      ประกาศรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2020 หมวด ผลิตภัณฑ์สำหรับคุณแม่

      ประกาศรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2020 หมวด ผลิตภัณฑ์สำหรับคุณแม่

      สำหรับสาขารางวัลนี้ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์

      • ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าคุณแม่
      • ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าท้องคุณแม่
      • เครื่องปั๊มนม
      • ถุงเก็บน้ำนม
      • ผลิตภัณฑ์เพิ่มน้ำนม

      มาดูกันเลยค่ะว่า ผู้ได้รับรางวัลในหมวด ผลิตภัณฑ์สำหรับคุณแม่  มีแบรนด์ใดบ้าง

      MOMMY’S CHOICE: BEST FACIAL SKINCARE FOR MOM

      ครีมทาหน้าในดวงใจคุณแม่ด้วยคุณสมบัติในการดูแลผิว แก้ไขปัญหาริ้วรอยและความหมองคล้ำได้ดี กระตุ้นการผลิตเซลล์ผิวตามธรรมชาติ ทำให้ผิวยังขาวกระจ่างใสไม่เปลี่ยน

       

      EDITOR’S CHOICE:   BEST FACIAL SKINCARE FOR MOM

      แบรนด์นี้เน้นการดูแลผิวของคุณแม่อย่างตรงจุด ไม่ว่าจะเป็นแม่ตั้งครรภ์หรือหลังคลอด มีคอลลาเจนจากจากใต้ท้องทะเลลึกช่วยให้ผิวเนียนเรียบ แลดูกระจ่างใส ฟื้นบำรุงริ้วรอยให้ดูลดเลือนอย่างเป็นธรรมชาติ

       

      MOMMY’S CHOICE: BEST PREGNANCY STRETCH MARK CREAM

      อีกหนึ่งแบรนด์ในใจแม่ในการดูแลผิวหน้าท้อง ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ เพราะเมื่อท้องโตขึ้นมักจะเกิดรอยแตก และผิวแห้งได้ง่ายๆ ออยล์ตัวนี้ใช้สะดวก เพียงทาหลังอาบน้ำให้ทั่วหน้าท้อง เพิ่มความชุ่มชื้นได้ดี มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ซึมเข้าสู่ผิวดี ไม่เหนียวเหนอะหนะ

       

      EDITOR’S CHOICE:   BEST PREGNANCY STRETCH MARK CREAM

      ครีมทาท้องลายคุณภาพของคุณลิเดีย ดีนที่ตั้งใจสร้างสรรค์อย่างเข้าใจ “แม่ตัวจริง” มีความอ่อนโยนต่อผิวมากๆ ไม่ต้องกังวลว่าจะกระทบต่อลูกน้อยในครรภ์ เพราะส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ปราศจากสารอันตรายต่างๆ

       

      MOMMY’S CHOICE: BEST BREAST PUMP

      เครื่องปั๊มนมคุณภาพชื่อดัง มีโหมดกระตุ้นน้ำนมทำจี๊ดและปั๊มรีดน้ำนมอุดตัน มีแบตเตอรี่ในตัว มาพร้อมชุดกรวยปั๊มให้เลือกไซส์ได้ตามไซส์ของเต้าคุณแม่

      EDITOR’S CHOICE:   BEST BREAST PUMP

      แบรนด์เครื่องปั๊มนมของคนไทย คุณภาพเยี่ยมไม่แพ้แบรนด์นอก เครื่องเล็ก พกพาสะดวก หน้าจอดิจิตอลสวยงาม ใช้ได้ทั้งหัวปั๊มคู่และหัวเดี่ยว ฟังก์ชั่นหลากหลาย โดยเฉพาะโหมด spin mode เพื่อช่วยกระตุ้นทำจี๊ดน้ำนมด้วย จะปั๊มที่ไหนสะดวกตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คุณแม่ยุคใหม่

       

      MOMMY’S CHOICE: BEST BREASTMILK STORAGE BAG

      ถุงเก็บน้ำนมราคามิตรภาพ ทำจากพลาสติกคุณภาพดี พร้อมซิปล็อกสามชั้น จุน้ำนมได้เยอะ มีลวดลายน่ารัก ไร้สารพิษที่เป็นอันตรายต่อลูกน้อย ที่สำคัญราคาประหยัด จ่ายเท่าไรก็ยังสบายกระเป๋า

       

      EDITOR’S CHOICE:   BEST BREASTFEEDING SUPPLEMENT

      ถุงเก็บน้ำนมคุณภาพที่โดดเด่นเรื่องความสะอาดและปลอดภัยอย่างแท้จริง ด้วยกระบวนการฆ่าเชื้อด้วยแกมม่า ซึ่งทำให้ถุงมีสีและกลิ่นเฉพาะ และเป็นแบรนด์แรกของไทยที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน จากสถาบัน TUV, Germany

       

      MOMMY’S CHOICE: BEST BREASTFEEDING SUPPLEMENT

      ผลิตภัณฑ์ที่คุณแม่หลังคลอดต้องมี เครื่องดื่มน้ำหัวปลีสกัดเข้มข้น ที่ช่วยกระตุ้นการผลิตน้ำนม  มีหลายสูตรให้เลือกดื่ม รสชาติดี ผลิตจากวัตถุดิบธรรมชาติ 100 % ไม่ใส่วัตถุกันเสีย เก็บได้นานไม่ต้องแช่เย็น

       

      EDITOR’S CHOICE:   BEST BREASTFEEDING SUPPLEMENT

      แบรนด์นี้โดดเด่นที่สูตรน้ำหัวปลีตามสูตรโบราณสำหรับคุณแม่หลังคลอด โดยใช้สมุนไพรไทยมีหลายสูตรทั้งสูตร ขิง งาดำ มะเขือเปราะกับใบกะเพรา โป๊ยกั๊ก เป็นต้น ไม่ใส่น้ำตาล ไม่ใส่สารกันบูด มาในดีไซน์สวยงาม

       

      ติดตามผลประกาศรางวัลในหมวดอื่นๆ คลิกอ่านได้ที่นี่

       

      เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

       

        Tags

        ประกาศรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2020 หมวด เครื่องใช้ไฟฟ้าสำหรับครอบครัว

        ประกาศรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2020 หมวด เครื่องใช้ไฟฟ้าสำหรับครอบครัว

        สำหรับสาขารางวัลนี้ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์

        • เครื่องฟอกอากาศ
        • เครื่องฆ่าเชื้อขวดนม

        มาดูกันเลยค่ะว่า ผู้ได้รับรางวัลในหมวด เครื่องใช้ไฟฟ้าสำหรับครอบครัว  มีแบรนด์ใดบ้าง

        MOMMY’S CHOICE: BEST AIR PURIFIER

        อีกหนึ่งอุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้เพื่อปกป้องลูกน้อยให้ปลอดภัยจากมลพิษรอบตัว และฝุ่น pm2.5 ที่มาพร้อมกับดีไซน์ทันสมัย ควบคุมการทำงานผ่านบลูทูธ ใช้งานได้สะดวก  สามารถกรองฝุ่น อนุภาคเล็ก PM0.3 ได้มากถึง 99.9%

         

        EDITOR’S CHOICE: BEST AIR PURIFIER

        นวัตกรรมเครื่องฟอกอากาศแบบพกพา ผลิตไอออนลบมากกว่า 1.2 ล้านประจุ บริเวณใบหน้า เพื่อจับมลภาวะในอากาศ ให้ตกสู่พื้นก่อนการหายใจ น้ำหนักเบา กรองอากาศให้คุณได้ทุกที่ โดยเฉพาะเด็กๆ ที่มีปัญหาเรื่องภูมิแพ้

         

        MOMMY’S CHOICE: BEST ELECTRIC  STERILIZER

        ไอเท็มสำหรับคุณแม่ยุคใหม่ในการทำความสะอาดขวดนมด้วยรังสียูวี ซึ่งสามารถกำจัดเชื้อไวรัสและแบคทีเรียได้ 99.9% นอกจากขวดนมแล้วยังใช้ทำความสะอาดของเล่นและเครื่องใช้อื่นๆ ของลูกได้ด้วย

        EDITOR’S CHOICE: BEST ELECTRIC  STERILIZER

        เครื่องฆ่าเชื้อสามารถฆ่าเชื้อและจัดเก็บขวดนมและของใช้เด็กอ่อนและอบแห้ง โดยใช้หลอดไฟยูวีจะทำงานอัตโนมัติเพื่อฆ่าเชื้อทุก 2 นาที และใช้เวลาในการเปลี่ยนถ่ายอากาศ 20 วินาที

         

        ติดตามผลประกาศรางวัลในหมวดอื่นๆ คลิกอ่านได้ที่นี่

         

        เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

         

         

         

          ประกาศรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2020 หมวด เสริมพัฒนาการเด็ก

          ประกาศรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2020 หมวด เสริมพัฒนาการเด็ก

          สำหรับสาขารางวัลนี้ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์

          • แหล่งเรียนรู้ (นอกบ้าน)
          • สำนักพิมพ์หนังสือเด็ก

          มาดูกันเลยค่ะว่า ผู้ได้รับรางวัลในหมวด เสริมพัฒนาการเด็ก  มีแบรนด์ใดบ้าง

           

          MOMMY’S CHOICE: BEST OUTDOOR-LEARNING FOR KIDS

          สนามเด็กเล่นในร่มที่เปิดโอกาสให้เด็กๆ ได้เล่นสนุกกันอย่างเต็มที่ ผ่านเครื่องเล่นหลากเครื่องเล่นส่วนใหญ่จะเชื่อมกัน ให้เด็กๆ ปีนป่ายได้อย่างเต็มที่ การเล่นของเด็กช่วยเสริมพัฒนาการทั้งกล้ามเนื้อ สติปัญญา อารมณ์ และการเข้าสังคมไปพร้อมกัน

           

          EDITOR’S CHOICE: BEST OUTDOOR-LEARNING FOR KIDS

          แหล่งเรียนรู้ใหม่ด้านวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กๆ เน้นการนำเสนอสาระผ่านนิทรรศการที่ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม พร้อมทั้งถ่ายทอดแนวคิด วิธีการทรงงานของในหลวงรัชกาลที่ 9 เหมาะเป็นแหล่งเรียนรู้สำหรับทุกคนในครอบครัว

          MOMMY’S CHOICE:  BEST CHILDREN’S BOOK PUBLISHER

          ผู้ผลิตหนังสือสำหรับเด็กๆ ในทุกช่วงวัย ทั้งหนังสือภาพสำหรับเด็กเล็ก นิทานจากนักเขียนไทยและนิทานดีจากทั่วโลก รวมถึงหนังสือเลี้ยงลูกจากผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ ให้คุณพ่อคุณแม่ได้มีช่วงเวลาคุณภาพกับลูกน้อย

          เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

           

            Tags

            ประกาศรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2020 หมวด ผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มสำหรับเด็ก

            ประกาศรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2020 หมวด ผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มสำหรับเด็ก

            สำหรับสาขารางวัลนี้ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์

            • นมยูเอชที
            • เครื่องดื่มสุขภาพสำหรับเด็ก
            • ผลิตภัณฑ์เพื่อโภชนาการเด็ก
            • อาหารบดสำหรับเด็ก

            มาดูกันเลยค่ะว่า ผู้ได้รับรางวัลในหมวด ผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพเด็ก มีแบรนด์ใดบ้าง

            MOMMY’S CHOICE:  UHT MILK AWARD

            นมกล่องในดวงใจคุณแม่ที่อุดมด้วยสารอาหารมีประโยชน์ต่อการเติบโตของลูกน้อย ทั้ง DHA และ ARA เป็นส่วนประกอบสำคัญในการสร้างเซลล์สมองในปริมาณที่เหมาะสม ขนาดกล่องจับถนัดมือ สะดวกให้ลูกพกไปไหนมาไหนได้

             

            EDITOR’S CHOICE:  UHT MILK AWARD

            Dutchmill GENi Vi-Q+ แตกต่างจากนม UHT อื่นๆ ที่เพิ่มลูทีนธรรมชาติจากผงกีวี่สกัด มีส่วนช่วยในการมองเห็น และโอเมก้า ซึ่งประโยชน์ต่อการทำงานสมอง จำเป็นอย่างยิ่งต่อลูกน้อยวัยเรียน

             

            MOMMY’S CHOICE: HEALTHY DRINK FOR KIDS AWARD

            เป็นซุปไก่สกัดที่เด็กๆ ดื่มง่าย ด้วยรสชาติของช็อกโกลตเข้มข้น ที่มี 2 แบบให้เลือกทั้งแบบเข้มข้นในขวดแก้ว และแบบผสมนม ดื่มง่าย อิ่มท้อง มีส่วนผสมของน้ำมันปลา และวิตามินหลากชนิด ล้วนมีประโยชน์ต่อร่างกาย

             

            MOMMY’S CHOICE:  KIDS DIETARY SUPPLEMENT AWARD

            ผลิตภัณฑ์เสริมโภชนาการสำหรับเด็ก ที่รสชาติดี กินง่าย ช่วยกระตุ้นความอยากอาหารของลูกน้อยได้ดี

             

            MOMMY’S CHOICE:  BABY FOOD AWARD

            อีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับอาหารเสริมสำหรับทารก ที่แม่ๆ ชื่นชอบ ด้วยรสชาติอร่อยถูกปาก วิธีเตรียมง่ายๆ ใช้เวลาไม่นาน และยังมีสารอาหารจำเป็นสำหรับวัย 6 เดือนขึ้นไป ไม่ว่าจะเป็นธาตุเหล็ก DHA หรือวิตามินต่าง ๆ

            ติดตามผลประกาศรางวัลในหมวดอื่นๆ คลิกอ่านได้ที่นี่

             

             

            เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

             

             

              Tags

              ประกาศรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2020 หมวด อุปกรณ์ดูแลเด็ก

              ประกาศรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2020 หมวด อุปกรณ์ดูแลเด็ก

              สำหรับสาขารางวัลนี้ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์

              • ขวดนมและจุกนม
              • สำลีและคอนตอนบัด
              • รถเข็นเด็ก
              • คาร์ซีท
              • เป้อุ้มเด็ก
              • คอกเด็ก

              มาดูกันเลยค่ะว่า ผู้ได้รับรางวัลในหมวด อุปกรณ์ดูแลเด็ก มีแบรนด์ใดบ้าง

               

              MOMMY’S CHOICE:  BEST BABY BOTTLE & NIPPLE PRODUCT

              แบรนด์นี้เน้นการออกแบบขวดนมให้ลูกน้อยสามารถกินนมได้แบบไม่ติดขวด เมื่ออยู่กับคุณแม่ก็ยังสามารถกลับไปกินเต้าได้เป็นปกติ ด้วยจุกนมที่ออกแบบให้ความรู้สึกดูดเต้าจริง พร้อมวาล์วป้องกันอาการโคลิก

               

              EDITOR’S CHOICE: BEST BABY BOTTLE & NIPPLE PRODUCT

              แบรนด์นี้โดดเด่นที่จุกนมแบบ Calma ที่ออกแบบเสมือนการดูดนมแม่ ถ้าลูกไม่ออกแรงดูดนมจะไม่ไหลออกมาเหมือนขวดนมทั่วไป

               

              MOMMY’S CHOICE:  BEST COTTON PADS & COTTON BUDS

              แบรนด์นี้แม่ๆ รู้จักกันดี มีผลิตภัณฑ์หลายแบบให้เลือกใช้ ตอบโจทย์การดูแลลูกน้อยได้ดี ทำจากฝ้าย 100% สะอาด บริสุทธิ์ หมดห่วงเรื่องระคายเคือง

              EDITOR’S CHOICE: BEST COTTON PADS & COTTON BUDS

              เนื้อสำลีแบรนด์นี้โดดเด่นด้วยกรรมวิธีการผลิตเฉพาะที่ทอฝ้ายจนได้เนื้อแน่นไม่เป็นขุย เช็ดสิ่งสกปรกบนผิวลูกน้อยออกง่ายๆ

               

              MOMMY’S CHOICE:  BEST BABY STROLLER

              รถเข็นแบรนด์นี้เน้นการเดินทางที่สะดวกสบายของทั้งครอบครัว ด้วยฟังก์ชั่นที่ผสานเข้ากับคาร์ซีทไปในตัว เคลื่อนย้ายอย่างอ่อนโยนแม้ยามลูกหลับ ปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นง่ายๆ เพียงแค่กดปุ่ม พร้อมที่เก็บข้องจุกจิกของคุณแม่อีกเพียบ

               

              EDITOR’S CHOICE: BEST BABY STROLLER

              เพื่อตอบโจทย์คุณแม่ยุคใหม่ การมีรถเข็นดีๆ น้ำหนักเบา พับเก็บหรือกางออกได้สะดวกด้วยมือเพียงข้างเดียว มีระบบที่ช่วยลดแรงกระแทก ลูกน้อยจึงนั่งอยู่บนรถเข็นสบายๆได้นาน ไม่มีเบื่อ

               

              MOMMY’S CHOICE:   BEST CAR SEAT

              ไอเท็มที่คุณแม่ต้องมีเพื่อความปลอดภัยของลูกน้อยระหว่างเดินทาง แบรนด์นี้โดดเด่นด้วยฟังก์ชั่นที่หลากหลาย ทั้งการปรับระดับที่นั่งไดด้วยมือเดียว ติดตั้ง-ถอดออกง่าย ที่สำคัญสามารถใช้งานได้นานตั้งแต่แรกเกิดจนลูกโต

               

              EDITOR’S CHOICE: BEST CAR SEAT

              คาร์ซีทแบรนด์นี้เน้นฟังก์ชั่นเรื่องความปลอดภัย ด้วยฐานเสริมคาร์ซีทที่ช่วยเพิ่มความแข็งแรงยามเดินทาง ตัวเบาะปรับระดับง่าย  มีเบาะนุ่มๆ โอบรับสรีระลูกได้ดี จึงใช้งานได้ตั้งแต่ทารกแรกเกิด

               

              MOMMY’S CHOICE:  BEST BABY CARRIER

              หนึ่งในแบรนด์เป้อุ้มเด็กที่มีฟังก์ชั่นครับ ทั้งตัวเป้ที่โอบรัดสรีระของลูกน้อยได้ดี และสายคาดเอวที่ช่วยป้องกันอาการบาดเจ็บของแม่ ทำจากผ้าจึงไม่ระคายผิว และมีฟังก์ชั่นให้ติดกับฮิปซีทง่ายๆ จึงใช้งานได้ยาว

               

              EDITOR’S CHOICE:  BEST BABY CARRIER

              เป้อุ้มเด็ก i-angel

              ส่วนแบรนด์นี้โดดเด่นด้วย  back support ที่สามารถกระจายน้ำหนักขณะอุ้มลูก ลดแรงกดทับได้มากกว่า 50 % ไม่ทำให้แม่ปวดหลัง หรือหลังงอ สายรัดโอบกระชับตัวจึงอุ้มลูกได้อย่างมั่นใจ ปรับสายรัดง่ายๆด้วยมือเดียว ใช้งานได้อย่างคล่องตัว

              MOMMY’S CHOICE: BEST BABY PLAYPEN

              พื้นที่เล่นสนุกและปลอดภัยสำหรับลูกน้อย โดดเด่นด้วยโครงสร้างที่ปรับเปลี่ยนได้หลายขนาด วัสดุทำจากโฟมพิเศษรองรับการกระแทก จึงไม่ต้องกังวลเรื่องหัวกระแทก และหนัง PU ที่นุ่มละเอียด ไร้กลิ่น และปราศจากสารอันตรายต่อเด็ก

               

              EDITOR’S CHOICE:  BEST BABY PLAYPEN

              ด้วยคุณสมบัติที่ค่อนข้างครบ สามารถใช้งานได้ยาวนาน ปลอดภัย แบรนด์นึ้จึงเหมาะเป็นตัวเลือกสำหรับแม่ๆ ที่กำลังมองหาคอกเด็กคุณภาพดีให้ลูกน้อย

               

              ติดตามผลประกาศรางวัลในหมวดอื่นๆ คลิ๊กอ่านได้ที่นี่

              เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

               

                ประกาศรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2020 หมวด ผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพเด็ก

                ประกาศรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2020 หมวด ผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพเด็ก

                สำหรับสาขารางวัลนี้ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์

                • ผลิตภัณฑ์สมุนไพรดูแลสุขภาพท้องสำหรับทารก
                • ทิชชู่เปียก
                • แผ่นเจลลดไข้
                • ผลิตภัณฑ์กันยุงสำหรับเด็ก
                • สเปรย์ปรับอากาศ

                มาดูกันเลยค่ะว่า ผู้ได้รับรางวัลในหมวด ผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพเด็ก มีแบรนด์ใดบ้าง

                 

                MOMMY’S CHOICE:  BABY HERBAL PRODUCT

                สมุนไพรมหาหิงส์ของแบรนด์นี้ใช้สะดวกขึ้น ด้วยหัวลูกกลิ้งช่วยให้คุณแม่ใช้งานได้สะดวกขึ้น ไม่ต้องกังวลว่าเปื้อนเสื้อผ้า

                 

                EDITOR’S CHOICE: BEST BABY HERBAL PRODUCT

                เจลเปปเปอร์มิ้นจากสารสกัดธรรมชาติ 4 ชนิด เหมาะใช้ทาบางๆ บนท้องลูกน้อย ช่วยให้รู้สึกสดชื่น สบายท้อง นอนหลับดี ไม่ต้องกังวลเรื่องเลอะเทอะเสื้อผ้า

                 

                MOMMY’S CHOICE:   BEST BABY WIPES

                ด้วยเนื้อผ้าที่ยืดหยุ่นดีและมีน้ำเป็นส่วนผสมเยอะ ทำให้ทิชชู่เปียกแบรนด์นี้เป็นหนึ่งในใจคุณแม่ อ่อนโยนในทุกสัมผัสของผิวลูกน้อย

                 

                EDITOR’S CHOICE: BEST BABY WIPES

                 

                ความพิเศษของแบรนด์นี้อยู่ที่น้ำเกลือที่ช่วยทำความสะอาดบนผิวหน้า และผิวบอบบางของลูกน้อยได้ดี ไม่ทำให้เกิดการระคายเคือง pH Balanced สมดุลจึงไม่แสบผิวและยังกักเก็บความชื้นไว้ ไม่ทำลาย

                 

                MOMMY’S CHOICE:  BEST COOLING GEL PATCH

                แผ่นเจลแปะลดไข้ ตัวช่วยยามลูกป่วย เนื้อเจลบาง ติดแน่น ใช้ง่าย อ่อนโยนต่อผิว ช่วยควบคุมอุณหภูมิสม่ำเสมอได้นานถึง 8 ชั่วโมง สินค้าเหมาะกับเด็กอายุ 15 เดือนขึ้นไป

                 

                MOMMY’S CHOICE:   BEST MOSQUITO REPELLENT FOR KIDS

                โลชั่นกันยุงเนื้อบางเบา ทาแล้วซึมเข้าผิว ไม่ฉุน ไม่เหนียวเหนอะ สามารถป้องกันลูกน้อยจากยุงร้ายได้นานสูงสูดถึง 3 ชั่วโมง

                 

                EDITOR’S CHOICE: BEST MOSQUITO REPELLENT FOR KIDS

                ตัวนี้เป็นยากันยุงสูตรน้ำ ที่ปกป้องลูกน้อยตั้งแต่ 3 เดือน เป็นน้ำใส ซึมซาบผิวได้ดี มีส่วนผสมจากธรรมชาติในสูตรต่างๆ นอกจากจะช่วยป้องกันยุงแล้ว ยังปลอดภัยจากสารเคมีด้วย

                 

                MOMMY’S CHOICE: BEST SPRAY AIR FRESHENER

                สเปรย์ปรับอากาศที่ช่วยปรับอากาศในห้องให้สดชื่น ไปพร้อมกับฆ่าเชื้อโรค ทำให้จมูกโล่งสบาย เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาเรื่องภูมิแพ้

                EDITOR’S CHOICE: BEST SPRAY AIR FRESHENER

                แบรนด์นี้ช่วยปรับอากาศให้สดชื่น หอมสบาย ยับยั้งและลดการสะสมของเชื้อโรคไปพร้อมๆ กับกำจัดกลิ่นไปพึงประสงค์

                 

                ติดตามผลประกาศรางวัลในหมวดอื่นๆ คลิ๊กอ่านได้ที่นี่

                 

                 

                เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                 

                  ประกาศรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2020 หมวด ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด

                  ประกาศรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2020 หมวด ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด

                  สำหรับสาขารางวัลนี้ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์

                  • น้ำยาซักผ้าเด็ก
                  • น้ำยาปรับผ้านุ่มเด็ก
                  • น้ำยาล้างขวดนม

                  มาดูกันเลยค่ะว่า ผู้ได้รับรางวัลในหมวด ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด มีแบรนด์ใดบ้าง

                  MOMMY’S CHOICE: BEST BABY LAUNDRY DETERGENT

                  ส่วนผสมออร์แกนิค อโลเวร่าเป็นจุดเด่นของตัวนี้ที่ช่วยถนอมใยผ้า และป้องกันคราบไหลย้อนกลับ สะอาดหมดจด ที่สำคัญไม่มีสารเคมีมาทำร้ายผิวของลูกน้อย มาพร้อมกลิ่นหอมอ่อนโยน

                   

                  EDITOR’S CHOICE:  BEST BABY LAUNDRY DETERGENT

                  ผลิตภัณฑ์ซักผ้าแบบ 2 in 1 ที่รวมเอาน้ำยาซักผ้ากับน้ำยาปรับผ้านุ่มไว้ด้วยกัน ช่วยประหยัดเวลาและเพิ่มความสะดวกสบายให้คุณแม่ไปอีกขั้น ที่สำคัญสูตรนี้ใช้สารสกัดธรรมชาติมาทำให้เนื้อนุ่ม น่าสัมผัสแทนสารเคมีทั่วไป

                   

                  MOMMY’S CHOICE:  BEST BABY FABRIC SOFTENER

                  น้ำยาปรับผ้านุ่มตัวนี้เป็นสูตรสำหรับทารกแรกเกิดโดยเฉพาะ มีความอ่อนโยนเป็นพิเศษจากเทคโนโลยีในการปรับใยผ้าให้โปร่ง ระบายอากาศได้ดี ปลดล็อกปัญหาเรื่องอับชื้นให้ลูกสบายตัวตลอดวัน

                   

                  EDITOR’S CHOICE:  BEST BABY FABRIC SOFTENER

                  ตัวนี้จัดเป็นสูตรออร์แกนิค 100 % โดยใช้น้ำหมักสับปะรดเป็นส่วนผสมหลักในการขจัดสิ่งสกปรกออกจากเสื้อผ้าของลูกน้อย โดยไม่หลงเหลือสารเคมีแปลกปลอมให้ระคายเคืองผิว แถมยังย่อยสลายได้ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วย

                   

                  MOMMY’S CHOICE:  BEST BABY BOTTLE CLEANSER

                  น้ำยาล้างขวดนมที่สามารถล้างคราบน้ำนมออกได้สะดวก โดยเฉพาะน้ำนมแม่ ทำจากเอนไซม์ผลไม้ จึงล้างออกง่าย และไม่เหลือสารตกค้าง แถมยังลดการเชื้อแบคทีเรียที่อาจสะสมอยู่ในขวดนมไปพร้อมกัน

                   

                  EDITOR’S CHOICE:  BEST BABY BOTTLE CLEANSER

                  คุณแม่มั่นใจในความสะอาดของขวดนม ด้วยผลิตภัณฑ์สูตรนี้ที่สามารถขจัดทั้งไขมันจากน้ำนมแม่ และนมวัว แถมยังไม่ต้องกลัวสารตกค้าง เพราะมีสารสกัดธรรมชาติจาก ออร์แกนิค อโลเวร่า ผ่านการทดสอบทางการแพทย์ และย่อยสลายเองตามธรรมชาติ

                   

                  ติดตามผลประกาศรางวัลในหมวดอื่นๆ คลิกที่นี่เลย

                   

                  เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                   

                   

                    ชุดฮาโลวีน

                    รวม 16 ซุปตาร์ลูกดาราแต่ง ชุดฮาโลวีน + ชุดไทย ลอยกระทง น่ารักคูณ2

                    วันฮาโลวีน 2020 ปีนี้ เหล่าบรรดาคุณพ่อคุณแม่ดารา จะจับลูกๆ แต่งตัวใส่ ชุดฮาโลวีน เป็นแบบไหน ตามมาส่องดูความน่ารักที่มีมากกว่าความน่ากลัวของเหล่า 16 ซุปตาร์ตัวน้อยกันค่า

                    รวมมิตร 16 ซุปตาร์ลูกดาราแต่ง ชุดฮาโลวีน + ชุดไทย ลอยกระทง

                    “Trick or Treat !” คำฮิตติดหูประจำเทศกาลฮาโลวีน ซึ่งตรงกับวันที่ 31 ตุลาคม ของทุกปี และ ปีนี้แอบพิเศษตรงที่ ตรงกับ ลอยกระทง ของไทยเราด้วย ซึ่งสำหรับ วันฮาโลวีน หลายคนรู้ว่าสัญลักษณ์ประจำฮาโลวีนต้องมีปาร์ตี้แต่งกายชุดภูตผีปีศาจ และอาจจะนึกถึงความน่ากลัว แต่ใครจะรู้ว่าเทศกาลนี้ก็ยังมีมุมน่ารัก ๆ อีกด้วย

                    เพราะเมื่อเป็นเหล่าซุปตาร์ตัวน้อย และคุณแม่กคุณพ่อดาราต่างได้มีโอกาสแต่งชุดธีมผี หรือชุดแฟนซีต่าง ๆ  ไปงานที่โรงเรียนลูกกันอย่างสนุกสนาน เรียกได้ว่าผีแต่ละบ้าน ๆ บอกเลยไม่มีคำว่าน่ากลัว เพราะแต่ละคนก็ขนเสื้อผ้ามาแต่งแฟชั่นวันฮาโลวีนได้ออกมาน่ารักน่าเอ็นดูสุด ๆ แถมบางบ้านบางโรงเรียนก็จัดสองงานพร้อมกัน คือ ให้ใส่ชุดไทย เข้ากับวันลอยกระทงด้วย เรียกได้ว่าเป็นสีสันอีกวันของบรรดา พ่อแม่ และผู้ปกครองในวงการบันเทิงจริงๆ … ว่าแต่บ้านไหนจะจับลูกแต่ง ชุดฮาโลวีน อะไร หรือใส่ชุดไทย วันลอยกระทง สวยน่ารักแค่ไหน ตามไปส่องกันเลยค่า

                    1. เริ่มที่คนแรก “น้องโพธิ์” ลูกชายของคุณพ่อ “ชาคริต แย้มนาม” กับคุณแม่ “แอน ภัททิรา”

                    ชุดฮาโลวีน
                    ชุดฮาโลวีน ของน้องโพธิ์ // ขอบคุณภาพจาก : IG@shahkrit
                    ชุดฮาโลวีน
                    น้องโพธิ์ในชุดไทย ลอยกระทง กับคุณพ่อคุณแม่

                    2. คนที่สองเป็น สาวน้อย “น้องมะลิ” ลูกสาวของคุณพ่อ “ปอ ทฤษฎี สหวงษ์” กับคุณแม่ “โบว์ แวนดา สหวงษ์”

                    ชุดฮาโลวีน
                    พี่มะลิจะหน้าโหดไปไหนนนน // ขอบคุณภาพจาก : IG@vanda29

                    3. ถัดมาเป็น “น้องเป่าเปา” ลูกสาวคนโต คุณแม่ “กุ๊บกิ๊บ สุมณทิพย์ ชี” กับ คุณพ่อ “บี้ ธรรศภาคย์ ชี”

                    ชุดฮาโลวีน
                    เจ๊เปา บางพลีใน ชุดฮาโลวีน
                    ชุดฮาโลวีน
                    และ พี่เป่าเปา สุดสวย ในชุดไทยลอยกระทง ช่างต่างจาก ข้างบนลิบลับ ขอบคุณภาพจาก : IG@gggubgib36

                    4. ตามมาติด ๆ กับ “น้องภู-น้องเภา” ลูกชายของคุณพ่อ “ป๋อ ณัฐวุฒิ สกิดใจ” กับคุณแม่ “เอ๋ พรทิพย์ สกิดใจ”

                    ชุดฮาโลวีน
                    ชุดฮาโลวีน สุดหลอนของ “น้องภู-น้องเภา”
                    ชุดฮาโลวีน
                    หรือจะใส่ ชุดไทย ก็ดูดีแบบแพคคู่ // ขอบคุณภาพจาก : IG@ey_pornthip

                    5. ต่อด้วย “น้องโปรด-น้องปาลิน” ลูกชาย-ลูกสาว ของคุณแม่ “เป้ย ปานวาด เหมมณี” กับคุณพ่อ “ป๊อป นิธิ บุญยรัตกลิน”

                    ชุดฮาโลวีน
                    ชุดฮาโลวีน โครงกระดูก แฝดสาม แม่เป้ย พี่โปรด และน้องปาลิน
                    ชุดฮาโลวีน
                    พี่โปรด ในชุดไทยลายผ้าขาวม้า // ขอบคุณภาพจาก : IG@ppanward

                    6. และอีกบ้านที่พลาดไม่ได้ แก๊ง 3 ยอดกุมาร “น้องคิริน ไนร่า และ เอเดน” ลูกชาย-ลูกสาว ของคุณพ่อ “กาย รัชชานนท์ สุประกอบ” กับคุณแม่ “ฮารุ สุประกอบ”

                    ชุดฮาโลวีน
                    แม้ สามผีน้องจะแต่ ชุดฮาโลวีน ไม่หลอน แต่บอกเลย ทำหน้าตาแบบนี้ ใครเห็นมีวิ่งแน่นอน
                    ชุดฮาโลวีน
                    สองจิ๋ว ไนร่า และ เอเดน ในชุดไทย // ขอบคุณภาพจาก : IG@harusuprakob

                    7. ต่อด้วย “น้องมายู” ลูกสาวของคุณพ่อ “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” กับคุณแม่ “เมย์ ปทิดา กำเนิดพลอย”

                    ชุดฮาโลวีน
                    น้องมายูสุดสวย กับ ชุดฮาโลวีน แม่มดสุด Cute
                    ชุดฮาโลวีน
                    หรือจะมาในชุดไทย ที่แอบผมยุ่งนิดๆ แต่ก็ยังน่ารัก // ขอบคุณภาพจาก : IG@mayfuang

                    8. ถัดมา คือ “น้องรีนา”ลูกสาวคนสวยของ “ออย ธนา สุทธิกมล” ทั้งหน้า ผม ชุด อุปกรณ์ ฮาโลวีนมากทีเดียวแม่จัดให้ โตไวมาก สดใสที่สุด

                    ชุดฮาโลวีน
                    ชุดฮาโลวีน แม่มดน้อยรีนา // ขอบคุณภาพจาก : IG@lazyter

                    9. สุดพีค! เช่นเดียวกับปีที่แล้ว กับ “น้องบีลีฟ” ลูกสาวคุณพ่อ “บริบูรณ์ จันทร์เรือง” กับคุณแม่ “เอลซี่ ตัน ไอเชีย”

                    ชุดฮาโลวีน
                    ปีที่แล้วลงยันต์ทั้งตัว ปีนี้ น้องบีลีฟ ก็จัดเต็มในชุดโจ๊กเกอร์ // ขอบคุณภาพจาก : IG@tuck_boriboon1979

                    10. ตามมาติดๆ กับ “น้องณดา-ณดล”  ลูกสาว-ลูกชาย คุณแม่ “กบ สุวนันท์ ปุณณกันต์” กับคุณพ่อ “บรู๊ค ดนุพร ปุณณกันต์”

                    ชุดฮาโลวีน
                    สองพี่น้องบ้านนี้ ก็จัดเต็มทุกปีเหมือนกันค่า
                    ชุดฮาโลวีน
                    หรือจะเป็นชุดก็สวยหล่อ ไม่แพ้กัน // ขอบคุณภาพจาก : IG@kob_nada_nadol

                    11. ต่อด้วย สองแฝดสุดหล่อ “น้องสายฟ้า-พายุ” ลูกชายฝาแฝดของคุณแม่ซุปตาร์ “ชมพู่ อารยาเอ ฮาร์เก็ต” กับคุณพ่อ “น็อต วิศรุต รังษีสิงห์พิพัฒน์”

                    ชุดฮาโลวีน
                    ลูกดาราแต่งชุดฮาโลวีน ในด้านพี่สายสุดคึกคัก แต่พี่ยุนั้น Is it halloween yet ? // ขอบคุณภาพจาก : IG@chomismaterialgirl

                    12. และ “น้องแพททริก และ น้องริต้า” ลูกชาย-ลูกสาวของคุณพ่อ “แบงค์ พชร ปัญญายงค์” กับคุณแม่ “นิหน่า สุฐิตา ปัญญายงค์”

                    ชุดฮาโลวีน

                    ชุดฮาโลวีน
                    ขอบคุณภาพจาก : IG@ninanaka

                    13. ถัดมาเป็น “น้องวิน” ลูกชายของคุณแม่ “หนูเล็ก ภัทรวดี ปิ่นทอง” กับคุณพ่อ “เอกเอกวุฒิ จันทพันธ์”

                    ชุดฮาโลวีน
                    น้องวินในชุดฟักทองสุดน่ารัก ขอบคุณภาพจาก : IG@nulek_gaga

                    14. ตามมาติดๆ กับ “น้องเรซซิ่ง” ลูกชายของคุณแม่ “แพท ณปภา” กับคุณพ่อ “เบนซ์ อัครกิตติ์”

                    ชุดไทย ลอยกระทง
                    น้องเรซซิ่ง กับชุดไทย ลอยกระทง ขอบคุณภาพจาก : IG@

                    15. ถัดมา คือ “น้องชูใจ” ลูกสาวสุดที่รัก ของ คุณพ่อ “กอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่” กับ คุณแม่ “เบลล์ ยุภาพร”

                    ชุดไทย ลอยกระทง
                    แม่หญิงชูใจ ในชุดไทย ลอยกระทง

                    16. สุดท้ายกับ น้องจินตะ ลูกชายสุดหล่อ ของ คุณแม่เกรซ เกรซ มหาดำรงค์กุล และคุณพ่อโน้ต จงเจต วัชรานันท์

                    ชุดฮาโลวีน
                    น้องจาติม รักพี่เสียดายน้อง แต่งทั้งชุดไทยและชุดฮาโลวีน // ขอบคุณภาพจาก : IG@jongjet_note

                    เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                     

                    สีกระเป๋าสตางค์ เรียกทรัพย์!! เลือกสีให้เข้ากับธาตุ มีโชคลาภตลอดปี 2564

                    ชื่อเล่นลูก 500+ ชื่อเล่นลูกสาว ชื่อเล่นลูกชาย ความหมายดี มีให้เลือกหลายภาษา

                    คำคมความรัก 2020 รวมแคปชั่นโดน ๆ คำคมเด็ด ๆ

                    444 ชื่อภาษาอังกฤษ สไตล์อินเตอร์ แบ่งลูกสาว ลูกชาย มีครบทุกตัวอักษร A–Z

                      สีกระเป๋าสตางค์ สีนำโชคตลอดปี 2564

                      สีกระเป๋าสตางค์ เรียกทรัพย์!! เลือกสีให้เข้ากับธาตุ มีโชคลาภตลอดปี 2564

                      สีกำหนดโชคชะตาเป็นคำจากศาสตร์ฮวงจุ้ยจีน ยิ่งสีที่มีผลต่อเรื่องเงินๆทองๆอย่าง สีกระเป๋าสตางค์ จะเป็นอย่างไร มารีบรู้รีบใช้เพื่อให้ปีใหม่นี้รับทรัพย์แน่นอน

                      สีกระเป๋าสตางค์ เรียกทรัพย์!!
                      เลือกสีให้เข้ากับธาตุ มีโชคลาภตลอดปี 2564

                      เหตุการณ์และสิ่งต่าง ๆ ในชีวิตส่งผลกระทบต่อโชคลาภของเรา และความเป็นไปได้มีเพียงสองด้านคือด้านดีหรือด้านร้าย คนทุกคนอยากประสบพบเจอแต่สิ่งดี ๆ ดังนั้นจึงมักเลือกสิ่งต่าง ๆ ในชีวิตให้สามารถส่งเสริมต่อโชคลาภของตนเองได้ ไม่เว้นแม้แต่ข้าวของเครื่องใช้รอบตัว กระเป๋าสตางค์ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ทุกคนให้ความสำคัญ เพราะเป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ดังนั้นหลักการในการเลือกกระเป๋าสตางค์ให้เป็นคุณ มอบโชคลาภให้แก่ผู้เป็นเจ้าของก็นับว่าเป็นสิ่งสำคัญทีเดียว นอกจากรูปร่างลักษณะของกระเป๋าสตางค์ที่ควรคำนึงถึงแล้ว สีก็ยังคงมีอิทธิพลต่อเรื่องดังกล่าว เพราะสียังมีกลิ่นอายของธาตุทั้ง 5 ที่จะเกื้อหนุน หรือให้โทษต่อโชคในชีวิตของคนเราอีกด้วย

                      องค์ประกอบของสีทั้งห้า : สีแดง คือไฟ สีเหลือง คือดิน และสีขาว คือโลหะ สีดำหรือสีน้ำเงินเป็นของน้ำ สีฟ้าหรือสีเขียวเป็นของไม้ ซึ่งเป็นสีของธาตุทั้งห้า ดังนั้นการเลือกสีให้เข้ากับธาตุของตัวเองจึงเป็นเรื่องสำคัญ เพราะสีเป็นตัวกำหนดโชคชะตา

                      สีเป็นผลภาพต่อแสงที่เกิดจากดวงตา สมอง และประสบการณ์ชีวิตของเรา สีสามารถแบ่งออกเป็นสองประเภท: ไม่มีสีและมีสีสัน ไม่มีสีหมายถึงสีดำสีขาวและสีเทาระหว่างสองสี ชุดสีหมายถึงสีต่าง ๆ นอกเหนือจากชุดสีดำและสีขาว ดวงตาของมนุษย์สามารถแยกแยะสีได้ประมาณ 10 ล้านสี แต่เป็นเพียงการประมาณเท่านั้นเนื่องจากโครงสร้างของดวงตาแต่ละคนแตกต่างกัน และสีที่แต่ละคนมองเห็นก็แตกต่างกันเล็กน้อย เมื่อสีผิดปกติมันอาจทำลายเหตุการณ์สำคัญของคุณได้!

                      การรับรู้สีของมนุษย์
                      การรับรู้สีของมนุษย์

                      1. สีไหนดี?

                      สีที่เรียกว่าผิดหมายถึงผลกระทบของโทนสีจากสิ่งนั้น ๆ ต่อตัวคุณ เช่น เสื้อผ้าที่คุณสวมใส่ สีของกระเป๋าสตางค์ สีของสภาพแวดล้อมในสำนักงาน สีของสภาพแวดล้อมในบ้าน และแม้กระทั่งในขณะที่คุณกำลังขับรถจากที่สว่างไปยังที่มืด เช่นอุโมงค์ ความแตกต่างของสีในขณะที่เรามองสิ่งเหล่านี้จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อสุขภาพ โชคลาภ และอารมณ์ ความนึกคิดของเรา

                      2. จะเลือกสีที่เหมาะกับคุณได้อย่างไร?

                      เมื่อคนเราเกิดมา โชคชะตาจะเป็นตัวกำหนดสถานะของคุณจากองค์ประกอบทั้งห้า เช่นเดียวกับอิทธิพลของราศีที่เราคุ้นเคยดี ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ สิ่งสำคัญคือสถานะของธาตุทั้งห้านั้นมีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับสี ตัวอย่างเช่น เมื่อในดวงชะตาคุณขาดบางสิ่งบางอย่างเช่นทองหมายความว่าคุณต้องชอบสีขาวมากกว่า หากคุณมีดินมากเกินไปหมายความว่าคุณต้องห้ามสีเหลือง ดังนั้นหากต้องการทราบว่าคุณเหมาะกับสีใดและสีใดเป็นสีต้องห้ามก่อนอื่นคุณต้องรู้ว่าองค์ประกอบทั้งห้าของคุณคืออะไร โดยดูจากธาตุประจำตัว

                      ธาตุประจำตัวกับสี

                      ธาตุทอง : ชุดสีขาว

                      ธาตุไม้ : ชุดสีเขียว

                      ธาตุน้ำ : ชุดสีดำ

                      ธาตุไฟ : ชุดสีแดง

                      ธาตุดิน : ชุดสีเหลือง

                      สี กับการตีความของมนุษย์
                      สี กับการตีความของมนุษย์

                      สีกับความรู้สึกที่มนุษย์ตีความ

                      1. สีขาว หมายถึง ความยุติธรรม ความบริสุทธิ์ ศักดิ์ศรี ความซื่อสัตย์ และเยาวชน
                      2. สีดำ หมายถึง ความสะอาด ความมีเกียรติ ความจริงจัง ความกล้าหาญ ความสงบ และความโดดเดี่ยว
                      3. สีแดง หมายถึง ความยิ่งใหญ่ ความกระตือรือร้น ความภักดี ความสุข ความกลัวอันตราย และความหลงใหล
                      4. สีเขียว หมายถึง ความไม่ประมาท ดื้อรั้น ขี้อ้อน ขี้อิจฉา และอ่อนเยาว์
                      5. สีชมพู หมายถึง ความฉลาด มีชีวิตชีวา น่ารัก หนุ่มโรแมนติก
                      6. สีน้ำเงิน หมายถึง ความเยาว์วัย ความกระตือรือร้น ความเข้มแข็ง ความเหมาะสม ความภักดี ความรวดเร็ว ความเหงา ความเงียบสงบ ความอดทน และความอ่อนโยน
                      7. สีม่วง หมายถึง ความเข้มงวด ความอดทน ความมุ่งมั่น ความสง่างาม และความลึกลับ
                      8. สีเทา หมายถึง ความไม่แน่นอน ความคลุมเครือ ความเยือกเย็น และความสงบ
                      9. สีเขียวอันเขียวชอุ่ม บ่งบอกถึงภูมิปัญญา ความเงียบสงบ

                      สีเป็นตัวกำหนดโชคชะตาของคุณ โดยต้องอ้างอิงถึงธาตุ และดวงชะตาราศีของตัวคุณด้วยว่าเข้ากันกับสีนั้น ๆ ได้หรือไม่ กล่าวคือ เราต้องเข้าใจหลักการของการสร้างร่วมกันของห้าองค์ประกอบ เช่น ทองคำผลิตน้ำ น้ำผลิตไม้ ไม้ก่อเกิดไฟ ไฟก่อเกิดดิน ดินก่อเกิดทองคำ เมื่อเข้าใจดังนี้แล้วจึงจะสามารถบอกได้ว่าธาตุของตัวคุณต้องการสีใดเพื่อมาเสริมดวงชะตาของคุณให้เกิดโชคลาภ เพราะแม้ต้นกำเนิดดวงชะตาคุณแก้ไม่ได้ ติดตัวมาแต่กำเนิด แต่เราสามารถปรับสิ่งของรอบตัว ที่จะเข้ามากระทบกับตัวเราให้สามารถเข้ากับดวงชะตาของเราได้นั่นเอง และนี่คือศาสตร์แห่งฮวงจุ้ยที่อยู่รอบตัวเรา

                      กระเป๋าสตางค์สีอะไรให้โชคลาภ

                      กระเป๋าสตางค์เป็นของใช้ที่สำคัญที่สุดในชีวิตประจำวันของเรา สำหรับผู้หญิงกระเป๋าสตางค์ที่สวยงาม และทันสมัยสามารถเพิ่มเสน่ห์ได้ สำหรับผู้ชายกระเป๋าสตางค์เป็นสัญลักษณ์ของรสนิยม สถานะของกระเป๋าเงินจึงมีความสำคัญมาก มาดูวิธีการเลือกกระเป๋าสตางค์ และกระเป๋าสตางค์สีอะไรที่เหมาะกับคุณ

                      สีกระเป๋าสตางค์ เพิ่มโชคลาภ
                      สีกระเป๋าสตางค์ เพิ่มโชคลาภ

                      ในความเป็นจริงในการเลือกกระเป๋าสตางค์สิ่งที่สำคัญที่สุด คือการเลือกกระเป๋าสตางค์ที่เหมาะกับตัวตนของคุณและสะท้อนถึงบุคลิกของคุณ อย่างไรก็ตามทุกคนรู้ดีว่ามีกระเป๋าสตางค์มากมาย และราคาที่มากน้อยแตกต่างกันไป แต่สิ่งที่อยากจะแนะนำให้คุณทุกคน  คือควรเลือกกระเป๋าสตางค์ที่เหมาะสมกับเราเองก่อนอันดับแรก เช่น ความจำเป็นในการเข้าสังคม สังคมที่คุณอยู่ หรืออาชีพที่คุณเป็นควรใช้กระเป๋าสตางค์ราคาเท่าใด มีเพียงคุณเท่านั้นที่จะสามารถตัดสินใจ และบอกตัวเองได้ แต่ขอเตือนสักนิดว่า ควรเลือกให้เหมาะกับสภาพคล่องทางการเงินของคุณด้วย เพราะหากคุณใช้จ่ายเกินตัว ต่อให้มีกระเป๋าสตางค์เรียกทรัพย์ แต่วินัยทางการเงินของคุณไม่ดี ก็คงไม่เป็นผลดีต่อฐานะทางการเงินของคุณเป็นแน่

                      คุณจะเลือกกระเป๋าสตางค์ที่ทั้งดูดีและร่ำรวยได้อย่างไร?

                      ประการแรกทฤษฎีสีกระเป๋าสตางค์อย่างง่าย

                      กระเป๋าสตางค์แต่ละใบจะมีลักษณะ และสีที่แตกต่างกัน อย่างไรก็ตามก็ยังมีหลักความเชื่อคร่าว ๆ ในการเลือกสีที่เป็นมงคลต่อเจ้าของแบบมุมมองกว้าง ๆ มิได้เจาะลึกไปยังดวงชะตารายบุคคล เรียกได้ว่าเป็นทฤษฎีสีของกระเป๋าสตางค์อย่างง่าย ๆ เช่น กระเป๋าสีแดง ซึ่งเป็นสีของไฟ โดยปกติสีแดงจะเป็นสีที่ดึงดูดแต่เมื่อมาอยู่ในกระเป๋าสตางค์แล้ว กลับเป็นเรื่องที่ตรงกันข้าม เพราะกระเป๋าสตางค์เอาไว้ใส่ธนบัตรที่เป็นกระดาษ ย่อมไม่ดีแน่หากที่เก็บของเงินนั้นเป็นไฟ ที่พร้อมหมอดไหม้กระดาษ ผลก็คือในความเป็นจริงจะมีสถานการณ์ที่มีรายจ่ายมากเกินไปนั่นเอง

                      สีของกระเป๋าสตางค์แต่ละสีบ่งบอกอะไร

                      • สีแดง หมายถึงความหมายของคำว่า “ขาดดุล” ซึ่งหมายความว่าง่ายต่อการใช้จ่ายเงินทั้งหมดโดยไม่เก็บออม หรือพูดว่ามีแต่เรื่องทำให้เสียเงิน
                      • สีน้ำเงิน หมายถึง น้ำซึ่งหมายความว่าเงินจะไหลออกไปเหมือนดั่งสายน้ำ จึงเป็นสีที่ไม่เหมาะกับกระเป๋าสตางค์
                      • สีดำ แสดงถึงความใจเย็นถือเงินได้ และไม่เสียเงินง่าย ๆ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่ชอบลงทุนน้อย
                      • สีน้ำตาล  มีความหมายเหมือนกับกระเป๋าสตางค์สีดำ แต่พลังไม่แรงเท่ากระเป๋าสตางค์สีดำ
                      • สีเหลือง สีเหลืองเหมือนกับทอง และเงิน สีเหลือง และสีทองแสดงถึงความมั่งคั่ง และเป็นสีกระเป๋าสตางค์ที่ดีที่สุด สำหรับผู้ที่ต้องการพิจารณาโครงการลงทุนขนาดใหญ่กระเป๋าเงินสีทองสามารถช่วยคุณได้
                      • สีขาว เป็นสีที่สะอาด หมดจด ถ้าเปรียบถึงหน้าตา ความสะอาดเกลี้ยงเกลาจะเป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้ามาอยู่ในสีของกระเป๋าสตางค์แล้ว ความสะอาด หมดจด เกลี้ยงเกลา คงไม่ใช่คำที่ดีแน่สำหรับกระเป๋าที่ใช้ใส่เงิน

                      จะเห็นได้ว่ากระเป๋าสตางค์ส่วนใหญ่หลีกเลี่ยงสีแดงรองลงมาคือสีเหลืองเข้มสองสีนี้กระจายความมั่งคั่ง สำหรับผู้หญิงสีชมพูดีที่สุดมีเงินมาก (ที่มาคือเพศตรงข้าม) ตามด้วยสีเหลืองอ่อนสีเบจและสีขาวและสีดำมีความคงตัว

                      สีกระเป๋าสตางค์ ดีเก็บเงินอยู่ รับทรัพย์
                      สีกระเป๋าสตางค์ ดีเก็บเงินอยู่ รับทรัพย์

                      2. ทฤษฎีสีกระเป๋าสตางค์ในเชิงลึก

                      หากต้องการเจาะลึกลงไปเป็นรายบุคคลว่า สีกระเป๋าสตางค์แบบไหนที่เข้ากับเรามากที่สุด อย่างที่กล่าวไปแต่แรกเริ่มว่า คนเราแต่ละคนมีความแตกต่างกัน ในเรื่องของดวงชะตาก็เช่นกัน สิ่งที่กำหนดมาตั้งแต่แรกเกิด คือ วันเวลาเกิดที่แตกต่างกัน ซึ่งทำให้ธาตุประจำตัวของแต่ละคนก็แตกต่างกันไปด้วย การวิเคราะห์เจาะลึกทฤษฎีศาสตร์แห่งสีของฮวยจุ้ยแต่ละบุคคลจึงจำเป็นที่จะต้องรู้ธาตุชะตาในดวงเกิดของคุณก่อน ว่าแต่ละธาตุมีธาตุใดเสริมดวงให้ธาตุเจ้าชะตายิ่งเฮง รับทรัพย์ มากไปด้วยโชคลาภกันบ้าง ในขั้นนี้อาจต้องให้ผู้เชี่ยวชาญในเรื่องดังกล่าวเป็นผู้วิเคราะห์จะตรง และแม่นมากที่สุด แต่หากจะขอให้กล่าวถึงหลักโดยกว้าง ๆ แล้วนั้น จะขอกล่าวถึงสีที่เหมาะกับแต่ละธาตุเจ้าชะตา ดังนี้

                      ธาตุไฟ

                      สีที่ควรใช้ ก็คือ สีแดง หรือ สีเขียว ซึ่งจะช่วยเสริมให้คุณมีอำนาจบารมีมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยเสริมโชคลาภ ความเจริญรุ่งเรืองอีกด้วย

                      สีที่ไม่ควรใช้ ก็คือ สีน้ำเงิน ซึ่งจะลดทอนพลังของคุณโดยสิ้นเชิง

                      ธาตุดิน

                      สีที่ควรใช้ สีที่ช่วยเสริมความมั่นคง และเรื่องของบารมี ก็คือ สีเหลือง, สีขาว, สีเทา, สีแดง หรือสีที่มีความแวววาว

                      สีที่ไม่ควรใช้ ส่วนสีที่จะทำลายคุณ ก็คือ สีเขียว ที่จะทำให้คุณมีปัญหาในเรื่องสุขภาพ

                      ธาตุทอง

                      สีที่ควรใช้ สีที่จะเสริมพลัง และโชคลาภให้คนคนธาตุทอง ก็คือ สีขาวสีเหลือง หรือ สีน้ำเงิน รวมทั้งสีเมทัลลิคที่มีลักษณะแวววาว ซึ่งจะช่วยดึงดูดทรัพย์สิน และความเจริญรุ่งเรืองมาให้คุณ

                      สีที่ไม่ควรใช้ สีที่คนธาตุทองต้องหลีกเลี่ยงเลยก็คือ สีแดง ของธาตุไฟที่จะหลอมละลายจนพลังคุณไม่เหลือเลย

                      ธาตุน้ำ

                      สีที่ควรใช้ สีที่จะช่วยเพิ่มโชค เสริมบารมีของคนธาตุน้ำก็คือ สีน้ำเงินสีขาว, สีเทา, สีที่มีความแวววาว และ สีเขียว ซึ่งจะทำให้คนธาตุน้ำมีอำนาจ มีพลัง

                      สีที่ไม่ควรใช้ สีที่จะทำลายคุณก็คือ สีดำ หรือ สีเหลือง ซึ่งสีนี้จะทำให้คุณมีปัญหาในเรื่องครอบครัว และบริวาร ทำให้คุณมีแต่ความอึดอัด ทำอะไรได้ไม่เต็มที่

                      ธาตุไม้

                      สีที่ควรใช้ สีของคนธาตุไม้ ก็คือ สีเขียว หรือ สีน้ำเงิน ซึ่งจะช่วยให้คนธาตุไม้มีความเจริญรุ่งเรือง

                      สีที่ไม่ควรใช้ ส่วนสีที่จะทำลายคนธาตุไม้นั้นก็คือ สีขาว, สีเทา หรือ สีที่แวววาว ซึ่งจะทำให้คุณย่ำอยู่กับที่ ไม่พัฒนา ไม่ก้าวหน้านั่นเอง

                      อย่างไรก็ตามอย่าลืมว่าต้องคำนึงถึงสีที่เหมาะกับกระเป๋าสตางค์ด้วยในการตัดสินใจเลือก เพราะถึงแม้ว่าจะเป็นสีที่เหมาะกับธาตุของคุณ แต่ไม่เข้ากับหลักของสีกระเป๋าสตางค์ก็คงไม่ใช่สีที่เหมาะกับกระเป๋าสตางค์ใบใหม่ของคุณสักเท่าไหร่

                      เริ่มต้นปีใหม่ 2564 เลือกกระเป๋าสตางค์รับทรัพย์ตลอดปี
                      เริ่มต้นปีใหม่ 2564 เลือกกระเป๋าสตางค์รับทรัพย์ตลอดปี

                      3. อย่าสับสนประเภทของกระเป๋าสตางค์

                      ผู้ชายบางคนใช้กระเป๋าสตางค์ผู้หญิง และผู้หญิงบางคนก็ใช้กระเป๋าสตางค์ผู้ชายนี่ไม่ใช่วิธีการเลือกใช้กระเป๋าสตางค์ที่ดี เพราะอาจนำไปสู่ความเสียหายต่อทรัพย์สินเงินทองได้ง่าย ๆ หากคุณใช้ร่วมกับผู้อื่นหรือเปลี่ยนกระเป๋าสตางค์บ่อย ๆ ก็จะส่งผลเสียต่อความมั่งคั่งของคุณเช่นกัน

                      สุดท้ายนี้ต้องขอแอบบอกความลับเล็ก ๆ น้อย ๆ กับเพื่อนผู้ชายสักนิด : จำไว้! วิธีที่ดีที่สุดในการเก็บเงินในกระเป๋าสตางค์ที่เพิ่งซื้อมาใหม่ คือการใส่รูปแฟนของคุณ (ถ้าคุณแต่งงานแล้วให้ใส่รูปภรรยาของคุณ) มันจะช่วยให้คุณเก็บเงินได้อย่างมั่นคง และจะมีเงินเก็บในกระเป๋าสตางค์มากจนเหลือเชื่อทีเดียวเชียว ^^

                      ขอขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก gotwogether.com / lnka.tw

                      อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

                      ช่วยพ่อแม่เลือก สีรถถูกโฉลก ขับแล้วเฮง เสริมสิริมงคล

                      ฤกษ์มงคล ตัดผมวันไหนดี มีโชคลาภ เช็กได้ที่นี่!

                      ไขข้อสงสัย! ความเชื่อโบราณ ให้ลูกกำข้าวสาร ใบ้หวยได้จริงหรือ?

                      เช็กนิสัย แม่ 12 ราศี แม่นหรือไม่ ต้องดู!

                      เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                        วิธีรับมือลูกเล่นซนนอกบ้าน สอนลูกรู้จักบรรทัดฐานสังคม

                        วิธีรับมือลูกเล่นซนนอกบ้าน สอนลูกรู้จักบรรทัดฐานสังคม พ่อแม่ต้องเป็นต้นแบบ

                        วิธีรับมือลูกเล่นซนนอกบ้าน สอนลูกเรื่องบรรทัดฐานของตัวเอง และบรรทัดฐานของสังคม หากลูกซนมากจนเกินไปจะกลายเป็นว่ารบกวนผู้อื่น พ่อแม่ต้องรับมือให้ดี

                        เตือนใจพ่อแม่มีลูกวัยซน! วิธีรับมือลูกเล่นซนนอกบ้าน

                        คลิปบันทึกภาพของเหตุการณ์นี้ถูกเผยแพร่ผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์คลิปภาพผู้หญิงยืนตะโกนตำหนิ พนักงานขายของภายในห้างสรรพสินค้า โดยเจ้าของเฟซบุ๊กโพสต์แคปชั่นว่า “แค่พนักงานห้ามเด็กไม่ให้ซนในร้านขายของ ด่าน้องพนักงานเขาขนาดนี้เลย”

                        ภายในคลิปเผยให้เห็นภาพผู้หญิงคนหนึ่งที่คาดว่าเป็นแม่ของเด็ก กำลังตะโกนต่อว่าพนักงานที่ยืนอยู่ในเคาน์เตอร์คิดเงินภายในร้าน ใช้คำพูดที่ว่า พนักงานมีสิทธิ์อะไรมาขู่ลูก พร้อมกับบอกให้ขอโทษลูก แม้พนักงานจะชี้แจงว่าไม่ได้ข่มขู่หรือด่าทอแต่แม่เด็กก็ไม่ยอมฟัง ทั้งยังทำลายข้าวของหน้าร้านอีกด้วย จากนั้นมีชายคนหนึ่งคาดว่าน่าจะเป็นสามี เดินเข้ามาห้ามก่อนที่จะเดินออกไปจากหน้าร้านในที่สุด

                        เหตุการณ์นี้มีผู้พบเห็นจำนวนมาก และมีคนในบริเวณนั้นถ่ายคลิปเอาไว้ เมื่อนำมาโพสต์ลงสื่อโซเชียลจึงมีกระแสคนคอมเมนท์และวิพากษ์วิจารณ์ จนกลายเป็นกระแสโซเชียล

                        ด้านพนักงานขาย ได้ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวช่อง 3 เล่าถึงเหตุการณ์วันนั้นว่า ผู้หญิงคนนั้นได้พาลูก 2-3 คน มาซื้อของในร้าน ในตอนแรกเด็กดูของตามปกติ สักพักเริ่มจับแรงขึ้นคล้ายจะฉีก จึงเข้าไปห้ามว่า อย่ารื้อเดี๋ยวมันแตกและจะมีของตกลงมา แต่เด็กก็ยังคงวิ่งเล่นซนอยู่ จนเด็กเล็กคนหนึ่งวิ่งเข้ามาใกล้เลยบอกว่า “ยังอีก ยังดื้ออีก เดี๋ยวจะเอาตำรวจมาจับ” คิดว่า เด็กคนโตคงไปบอกแม่ เกิดเป็นภาพตามคลิป อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าไม่ได้ทำรุนแรงกับเด็กและล่าสุดได้ไปลงบันทึกประจำวันเอาไว้แล้ว ส่วนคนที่เป็นสามีได้ฟังคำอธิบายจากทางร้าน พร้อมบอกว่าขอกลับไปคุยกับภรรยา

                        บรรทัดฐานของตัวเอง Vs บรรทัดฐานของสังคม

                        วิธีรับมือลูกเล่นซนนอกบ้าน สอนลูกรู้จักบรรทัดฐานสังคม
                        วิธีรับมือลูกเล่นซนนอกบ้าน

                        จากเหตุการณ์ดังกล่าว รศ.นพ.พงษ์ศักดิ์ น้อยพยัคฆ์ กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการและพฤติกรรม รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช ได้อธิบายไว้ว่า การตอบสนองต่อสิ่งแวดล้อมรอบตัวอย่างเหมาะสมนั้น ขึ้นกับมุมมองของแต่ละคน เพราะแต่ละคนมีพื้นฐานที่แตกต่างกัน แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ

                        1. พื้นฐานที่เป็น บรรทัดฐานของตัวเอง ภายในครอบครัวของเรา สิ่งที่ทำในบ้านได้ ก็ถือเป็นสิ่งที่เหมาะสมสำหรับบ้านเรา เป็นบรรทัดฐานของครอบครัวเรา
                        2. พื้นฐานที่เป็น บรรทัดฐานของสังคม สิ่งที่ทำในบ้านได้ แต่ในสังคมคนคิดอีกแบบหนึ่ง เมื่อออกไปสู่สังคม ก็ต้องใช้บรรทัดฐานเดียวกับคนอื่น นี่เป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ต้องตระหนัก
                        วิธีรับมือลูกเล่นซนนอกบ้าน สอนลูกรู้จักบรรทัดฐานสังคม
                        วิธีรับมือลูกเล่นซนนอกบ้าน

                        วิธีรับมือลูกชอบเล่นซนนอกบ้าน

                        สำหรับคำแนะนำในการรับมือเมื่อลูกเล่นซน คุณหมอแนะนำว่า หากลูกซน พ่อแม่ต้องรับมือ อย่าให้ซนจนไปรบกวนคนอื่น หากถูกตำหนิ ให้ทบทวนก่อนว่า สิ่งที่เขาพูดมันจริงไหม? อย่ามองแค่ว่า เหมาะกับในบ้านเราหรือไม่? แต่ให้มองว่า เมื่อออกไปในสังคม สังคมเค้ายอมรับกับบรรทัดฐานของเราหรือเปล่า? เราก็ต้องใช้ชีวิตให้เหมือนกับที่สังคมยอมรับ

                        ถ้าสังคมไม่ยอมรับ และลูกเราทำผิดจริง สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ทำได้ คือ ไปขอโทษกับคนที่ลูกเราทำความเดือดร้อน “ขอโทษนะคะ ลูกซนไปหน่อย” และพาลูกไปขอโทษเพื่อให้ลูกเรียนรู้ว่า ทำผิดควรทำยังไง ปฏิบัติให้ลูกเห็นเป็นตัวอย่าง แล้วลูกจะยึดถือติดตัวไปปฏิบัติเป็นแนวทางของตัวเองต่อไป จากนั้นชวนลูกไปที่อื่น บอกลูกว่า ตรงนี้ไม่ใช่ที่วิ่งเล่น ลูกจะได้เรียนรู้ว่า บริเวณนี้ไม่ใช่ที่วิ่งเล่น อาจชนข้าวของแตกก็ได้

                        สิ่งสำคัญต่อพัฒนาการและพฤติกรรมของเด็กอย่างหนึ่งก็คือ เด็กจะเรียนรู้จากแบบอย่างรอบตัว การด่าว่า ใช้ความรุนแรง หรือทะเลาะกันจะทำให้เกิดการโต้กลับ และเกิดเป็นเรื่องราวใหญ่โต ถ้าเด็กเห็นว่า ทำผิดแล้วผู้ใหญ่ปกป้อง เวลาใครทำอะไรให้ไม่พอใจ เราต้องส่งเสียงดัง ๆ ใช้คำพูดไม่สุภาพ ให้คนกลัว เด็กจะเรียนรู้พฤติกรรมผิดๆ เหล่านี้ และเอาไปใช้บ้าง
                        หากทบทวนแล้วว่า ลูกเราไม่ได้ทำผิด เค้าอาจไม่ชอบเรา หรือไม่ชอบลูกเราด้วยอะไรก็ไม่รู้ คุณพ่อคุณแม่อาจชวนลูกไปจากตรงนั้น “เราไปตรงอื่นกันดีกว่า ตรงนี้เราทำแบบนี้ไม่ได้นะ” การเบี่ยงเบนและตอบสนองต่อพฤติกรรมของลูกอย่างเหมาะสม จะเป็นการฝึกพฤติกรรม กระบวนการเรียนรู้ของเด็ก เพื่อจะเป็นพื้นฐานของการใช้ชีวิตต่อไปในอนาคต

                        วิธีรับมือลูกเล่นซนนอกบ้าน สอนลูกรู้จักบรรทัดฐานสังคม
                        วิธีรับมือลูกเล่นซนนอกบ้าน

                        สุดท้ายนี้ ทีมแม่ ABK ขอฝากไว้ว่า การรับมือกับลูกวัยซนอาจจะเป็นเรื่องเหน็ดเหนื่อยสำหรับคนเป็นพ่อเป็นแม่ แต่สิ่งสำคัญคือการสอนให้เด็กได้รู้ว่า สิ่งไหนทำได้ สิ่งไหนไม่ควรทำ พร้อมกับฝึกให้ลูกขอโทษเมื่อทำผิดหรือไม่ถูกต้องตามบรรทัดฐานของสังคม รวมถึงการทำตัวเป็นตัวอย่างที่ดีของลูก เพราะเด็กมองพ่อแม่อยู่เสมอ

                        อ้างอิงข้อมูล : amarintv และ ch3thailandnews.bectero.com

                         

                        เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                         

                        อ่านบทความอื่นเพิ่มเติม

                        วิธีเลี้ยงลูก ให้มีอนาคตดี แม้ “เรียนไม่เก่ง”

                        10 วิธีเลี้ยงลูกให้ฉลาด สอนลูกฉลาดรู้ ฝึกลูกฉลาดทำ

                        3 บทบาทของพ่อแม่ สิ่งสำคัญในการเลี้ยงลูกยุคนี้โดย พ่อเอก

                        วิธีเลี้ยงลูกคนโต เมื่อมีน้อง การเตรียมพี่ให้พร้อม ก่อนมีน้องอีกคน

                        บอกละเอียด! ค่าใช้จ่ายเลี้ยงลูก 1 คน ตั้งแต่คลอด-เรียนจบ ต้องเตรียมเงินเท่าไหร่?

                          ประกาศรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2020

                          ถึงเวลาที่จะประกาศผลโหวตแล้ว สำหรับ Amarin Baby & Kids Awards 2020 ที่เปิดโอกาสให้คุณแม่ตัวจริง ที่ได้ใช้สินค้าจริงมาเป็นผู้โหวตสินค้าแม่ลูกที่ชื่นชอบผ่านทาง www.amarinbabyandkids.com ตั้งแต่รอบการเสนอชื่อแบรนด์สินค้า ที่เปิดกว้างให้คุณแม่เข้ามาเสนอชื่อ และรอบโหวตให้คุณแม่ได้ตัดสินใจอีกครั้งเพื่อมอบรางวัลให้กับแบรนด์สินค้าในแต่ละหมวด

                          โดย Amarin Baby & Kids Awards 2020 แบ่งเป็น 2 ประเภทรางวัลคือ รางวัล MOMMY’ S CHOICE  สุดยอดแบรนด์สินค้าในดวงใจที่มาจากเสียงโหวตของแม่ผู้ใช้จริง และรางวัล EDITOR’S CHOICE มอบให้กับ “สินค้าใช้ดี และมีประโยชน์จริง” ที่ได้รับการคัดเลือกจากกองบรรณาธิการ Amarin Baby & Kids

                          นี่คือสุดยอดสินค้าแม่ลูกที่ได้รับรางวัลใน 9 หมวด ในปีนี้ สามารถคลิกอ่านผลรางวัลในแต่ละประเภทได้เลยค่ะ

                          ผลิตภัณฑ์อาบน้ำแต่งตัว

                          ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด

                          ผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพเด็ก

                           

                          อุปกรณ์ดูแลเด็ก

                          ผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มสำหรับเด็ก

                          เสริมพัฒนาการเด็ก

                          เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในครอบครัว

                          ผลิตภัณฑ์สำหรับคุณแม่

                          รางวัลพิเศษ

                           

                          เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                           

                            ประกาศรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2020 หมวด ผลิตภัณฑ์อาบน้ำแต่งตัว 

                            ประกาศรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2020 ในหมวด ผลิตภัณฑ์อาบน้ำแต่งตัว 

                            สำหรับสาขารางวัลนี้ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์

                            • ผ้าอ้อมสำเร็จรูปแบบเทปกาว
                            • ผ้าอ้อมสำเร็จรูปแบบกางเกง
                            • ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวสำหรับเด็ก
                            • ครีมกันแดดเด็ก
                            • ครีมปกป้องผิวใต้ผ้าอ้อม
                            • เจลปิโตรเลียมปกป้องผิวใต้ผ้าอ้อม
                            • สบู่เหลวเด็ก
                            • ผลิตภัณฑ์เฮดทูโท
                            • แชมพูเด็ก
                            • สบู่สำหรับอาบน้ำและสระผม
                            • ยาสีฟัน
                            • แป้งเด็ก

                            มาดูกันเลยค่ะว่า ผู้ได้รับรางวัลในหมวด ผลิตภัณฑ์อาบน้ำและแต่งตัว มีแบรนด์ใดบ้าง

                             

                            MOMMY’S CHOICE: BEST DISPOSABLE TAPE DIAPER

                            ผ้าอ้อมสำเร็จรูปแบบเทปกาวของแบรนด์ Merries ที่มีความอ่อนโยน นุ่มเป็นพิเศษพร้อมกับซึมซับความชื้นได้ดี เพื่อผิวแสนบอบบางของทารกแรกเกิดโดยเฉพาะ

                             

                            EDITOR’S CHOICE : BEST DISPOSABLE TAPE DIAPER

                            ผ้าอ้อมสำเร็จรูปของฮักกี้ส์โดดเด่นด้วยความนุ่มสบาย ลดการเสียดสี ไม่เกิดอาการระคายเคือง ทำให้ลูกรู้สึกสบายตัว และมาพร้อมกับเทคโนโลยี  Complex Core ที่ทำให้ผืนผ้าอ้อมบางแต่ยังซึมซับได้ดี ไม่รั่วซึม จึงเหมาะใช้กับลูกน้อยตั้งแต่แรกเกิด

                             

                            MOMMY’S CHOICE: BEST DISPOSABLE PANTS DIAPER

                            ผ้าอ้อมสำเร็จรูปแบบกางเกง สำหรับลูกน้อยวัยซนที่ขยับแข้งขยับขามากกว่าเคย แบรนด์ BabyLove เน้นประสิทธิภาพการซึมซับ และเนื้อผ้านิ่ม กระชับ ช่วยให้เคลื่อนไหวได้สะดวก

                             

                            EDITOR’S CHOICE: BEST DISPOSABLE PANTS DIAPER

                            แบรนด์นี้ถูกใจคุณแม่แน่นอน ผ้าอ้อมแบรนด์ Sunny Baby นอกจากจะมีรูปทรง 3 มิติ ให้โอบรับสรีระของลูกน้อยได้ดีแล้ว ขอบยางยังอ่อนนุ่ม ใส่สบาย แถมผิวของผ้าอ้อมยังดูดซับความชื้นได้รวดเร็ว จะไม่รู้สึกอับชื้นหรือเหนียวเหนอะหนะเลย

                             

                            MOMMY’S CHOICE: BEST SKINCARE FOR KIDS

                            โลชั่นเด็กของเบบี้มายด์เด่นเรื่องความชุ่มชื้นที่ได้จากโปรตีนน้ำนมและนมถั่วเหลือง ซึ่งช่วยให้ผิวเนียนนุ่มชุ่มชื้น พร้อมปกป้องผิวจากรังสียูวี UV ไปพร้อมกัน พาลูกน้อยออกนอกบ้านได้อย่างมั่นใจ

                             

                            EDITOR’S CHOICE: BEST SKINCARE FOR KIDS

                            ใครชอบโลชั่นที่ชุ่มชื้นได้นาน ต้องแบรนด์จอห์นสันที่ทำมาจากสารสกัดน้ำมันมะพร้าวธรรมชาติ จึงอ่อนโยน ไร้สารระคายเคืองผิว ล็อกความชุ่มชื่นไว้ได้นานถึง 24 ชม.

                             

                            MOMMY’S CHOICE: BEST BABY SUNSCREEN

                            ครีมกันแดดในรูปแบบสเปรย์ ที่สามารถฉีดทั่วร่างกายและลูบเบาๆ ให้ติดผิวก่อนออกแดด สูตรนี้ปกป้องได้ทั้ง UVA/B และปราศจากน้ำหอม สี และสารพาราเบน ที่ทำให้ผิวลูกน้อยระคายเคือง

                             

                            EDITOR’S CHOICE: BEST BABY SUNSCREEN

                            ตัวนี้เป็นครีมกันแดดสูตรน้ำนม นำเข้าจากญี่ปุ่นแต่หาซื้อไม่ยาก ปกป้องผิวจาก SPF 50 ได้สบายๆ แถมยังไม่มีน้ำหอม สี หรือแอลกอฮอล์มาทำร้ายผิว ออกแดดแรงแค่ไหนก็ไม่หวั่นเลย

                             

                            MOMMY’S CHOICE:  BEST DIAPER RASH CREAM

                            เนื้อครีมสกัดจากสารธรรมชาติ จึงเหมาะกับการดูแลและปกป้องดูแลผิวใต้ผ้าอ้อม กักเก็บความชุ่มชื้นได้นาน ไม่มีสารรุนแรงใดๆ จึงปลอดภัยกับทั้งทารกและลูกโต

                             

                            EDITOR’S CHOICE: BEST DIAPER RASH CREAM

                            เนื้อครีมบางเบาเกลี่ยให้ทั่วผิวลูกได้ง่าย มีโปรวิตามิน B5 ที่ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นตามธรรมชาติไว้ได้นาน ไร้สารอันตราย ทาบางๆ บนผิวทุกครั้งก่อนใส่ผ้าอ้อม เป็นตัวช่วยดูแลผิวได้อย่างดี

                             

                            MOMMY’S CHOICE:   BEST DIAPER RASH PETROLEUM JELLY

                            หนึ่งในไอเท็มที่แม่ทั่วประเทศชื่นชอบ ด้วยเนื้อเจลใส เมื่อทาบนผิวแล้วกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดี ที่สำคัญยังช่วยลดการเสียดสีของผิวขณะใส่ผ้าอ้อมด้วย

                             

                            EDITOR’S CHOICE: BEST DIAPER RASH PETROLEUM JELLY

                            แบรนด์นี้เป็นเนื้อเจลใส ไร้น้ำหอม และสารกันเสีย ศัตรูตัวร้ายของผิวลูกน้อย เกลี่ยลงบนผิวได้ดี ผิวชุ่มชื้น ช่วยลดการปกป้องผิวจากการเสียดสีได้ตลอดวัน

                             

                            MOMMY’S CHOICE: BEST BABY WASH

                            สบู่เหลวสูตรนี้ของดีนี่โดดเด่นเรื่องส่วนผสมคัดสรรพิเศษจากมิลค์โปรตีน เนื้อสบู่อ่อนโยน ค่า pH เป็นกลาง ล้างออกง่าย และมีกลิ่นหอมอ่อนๆเหมือนทาแป้ง

                             

                            EDITOR’S CHOICE:  BEST BABY WASH

                            สบู่เหลวเนื้อใสของเพียวรีน มีวิตามินบี5 และวิตามินอีช่วยบำรุงผิว ขณะเดียวกันก็สามารถทำความผิวของลูกน้อยให้สะอาด หอม น่ากอด พร้อมเพิ่มความมั่นใจด้วยมาตรฐานทดสอบทางการแพทย์ว่าไม่ทำให้เกิดการแพ้ ระคายเคือง

                             

                            MOMMY’S CHOICE: BEST HEAD TO TOE WASH

                            ตัวนี้เป็นสูตรอ่อนโยนที่สุดของแบรนด์เด่นด้วยคุณค่าของสารสกัดธรรมชาติถึง 2 เท่า มีวิตามินอีช่วยบำรุงผิวนุ่ม ปราศจากสารเคมีอันตราย เพิ่มความมั่นใจในทุกช่วงเวลาอาบน้ำ

                             

                            EDITOR’S CHOICE:  BEST HEAD TO TOE WASH

                            สูตร No Tear ของโคโดโมตัวนี้ไม่ทำให้ลูกน้อยระคายเคืองตาขณะอาบหรือสระผม และยังมีสารสกัด Organic Olive Oil ซึ่งอุดมด้วยวิตามินบีและอี จึงให้ความชุ่มชื้นกับผิวและผมของลูกน้อยได้เต็มที่

                             

                            MOMMY’S CHOICE: BEST BABY SHAMPOO

                            แชมพูสำหรับเด็กวัยซน 3 ขวบขึ้นไป เอาใจหนูๆ ด้วยลายเจ้าหญิงน่ารัก ออกแบบเป็นพิเศษให้อ่อนโยนกว่าแชมพูของผู้ใหญ่ ผมเงางาม หวีง่าย ไม่พันกัน

                             

                            EDITOR’S CHOICE:  BEST HAIR & BODY BABY BATH

                            ตัวนี้แม่ๆ รู้จักกันดี โดดเด่นด้วยสารสกัดธรรมชาติและวิตามินหลายชนิด เช่น ออร์แกนิคโรสฮิป วิตามินเอ และกรดไขมันจำเป็นโอเมก้า-6 เหมาะกับลูกตั้งแต่วัยก่อนขวบ ไม่ระคายเคืองหนังศีรษะและผิว ใช้แล้วเส้นผมนุ่มลื่น ผิวหอมนุ่มน่ากอด

                             

                            MOMMY’S CHOICE: BEST TOOTHPASTE FOR KIDS

                            จัดเป็นตัวยอดนิยมของคุณแม่มานาน สูตรนี้ผสมอัลตร้า แอคทีฟ ฟลูออไรด์ในปริมาณที่เหมาะสำหรับเด็ก ไม่มีน้ำตาลแต่ยังมีรสหวานจากไซลิทอล ส่วนเนื้อเจลเป็นสีสดใส มีกลิ่นผลไม้ทำให้เด็กๆ สนุกกับการแปรงฟันด้วย

                             

                            EDITOR’S CHOICE:  BEST TOOTHPASTE FOR KIDS

                            ยาสีฟัน Babee Organics ไม่มีสารฟลูออไรด์ จึงอ่อนโยนต่อช่องปาก แต่ยังสามารถสลายคราบน้ำนมได้ดี และยังมีส่วนผสมออร์แกนิคจากธรรมชาติมาช่วยเสริมทัพดูแลฟันซี่แรกของลูกด้วย มีทั้งสูตรสำหรับลูกน้อยวัย 6 เดือน และ 12 เดือนขึ้นไป

                             

                            MOMMY’S CHOICE: BEST BABY POWDER

                            แป้งเด็กที่แม่ๆ คุ้นเคยกันดี ด้วยคุณสมบัติป้องกันและลดผดผื่นจากความเปียกชื้นได้มี มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ไม่ฉุน

                             

                            EDITOR’S CHOICE:  BEST BABY POWDER

                            สูตรนี้โดดเด่นด้วยคุณสมบัติลดการฟุ้งกระจาย เนื้อแป้งละเอียด เพิ่มความอ่อนโยนด้วยสารสกัดออร์แกนิคจากธรรมชาติ และยังมีอลันทินที่ช่วยทำให้ผิวแห้งสบายตลอดวัน

                            ติดตามผลประกาศรางวัลหมวดอื่นๆ ตามลิงค์นี้เลย

                             

                            เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                             

                              Tags

                              อาหารโฟเลตสูง

                              20 แหล่ง อาหารโฟเลตสูง ครบทั้งผักผลไม้ เนื้อสัตว์ ดีต่อแม่และลูกในท้อง

                              ชี้เป้า!! 20 อาหารโฟเลตสูง ครบทั้งผัก ผลไม้ และเนื้อสัตว์ แหล่งอาหารชั้นเริ่ด ที่แม่ท้องควรกิน เพื่อช่วยเพิ่มเซลล์สมองให้ลูกฉลาด สมบูรณ์ ตั้งแต่ในครรภ์

                              รวม 20 แหล่ง อาหารโฟเลตสูง บำรุงแม่ท้องและลูกน้อย

                              กรดโฟลิก (Folic Acid) หรือ เรียกอีกอย่างว่า โฟเลต คือ วิตามินชนิดหนึ่งที่พบได้ในอาหารตามธรรมชาติ และเป็นสุดยอดอาหารสำหรับผู้หญิงที่วางแผนจะตั้งครรภ์ รวมถึงตัวคุณแม่ที่ตั้งครรภ์แล้ว เพราะกรดโฟลิก นั้นมีส่วนช่วยในการสร้างตัวอ่อน ช่วยป้องกันและลดความผิดปกติของระบบประสาท ทั้งภาวะไม่มีเนื้อสมอง ภาวะไขสันหลังไม่ปิดจากการขาดโฟลิก นอกจากนี้ยังช่วยซ่อมแซมพันธุกรรม ควบคุมการสร้างกรดอะมิโนที่จำเป็นในการแบ่งเซลล์ ไปจนถึงการสร้างเม็ดเลือดแดงและเม็ดเลือดขาวในไขกระดูกของลูกน้อยในครรภ์ได้อีกด้วย

                              อาหารโฟเลตสูง

                              โดย สารโฟเลต คือ วิตามินบี 9 เป็นสารที่มีอยู่ในธรรมชาติ อาหารโฟเลตสูง อาทิ ผักสด ผลไม้สด คนทั่วไปควรได้รับวันละ 400 ไมโครกรัม ส่วนแม่ท้องควรได้รับวันละ 5 มิลลิกรัม อย่างไรก็ตามมีงานวิจัยจากสหรัฐอเมริกา พบว่า…คนทั่วไปได้รับโฟเลตไม่เพียงพอจากการรับประทานอาหารเพียงอย่างเดียว จึงมีการทำเป็นยาเม็ดโฟลิกเพื่อรับประทานเสริมเข้าไป โดยเฉพาะหญิงตั้งครรภ์

                              คำแนะนำจากราชวิทยาลัยสูตินรีเวช ระบุว่า แม่ท้องจำเป็นต้องได้รับโฟลิกอย่างเพียงพอ เพราะมีผลต่อทารกในครรภ์ คือ กินอาหารโฟเลตสูง ก่อนตั้งครรภ์อย่างน้อย 1-2 เดือน และกินต่อเนื่องระหว่างตั้งครรภ์อีก 3 เดือน เพราะสารโฟเลตจะเข้าไปช่วยในการสร้างเซลล์ของร่างกาย โดยเฉพาะเซลล์สมองให้สมบูรณ์ ป้องกันทารกพิการแต่กำเนิด ทั้งนี้ไม่ต้องกังวลว่าจะได้รับ โฟเลตมากเกินไปจนกระทบกับทารกในครรภ์ เพราะสารดังกล่าวจะละลายในน้ำ หากได้รับมากก็จะถูกขับออกทางปัสสาวะ

                              ซึ่งหากคุณแม่ท้องกำลังมองหา อาหารโฟเลตสูง เพื่อกินบำรุงตัวเองและลูกน้อยในครรภ์ ทีมแม่ ABK ได้รวบรวมแหล่งอาหารที่มี โฟเลตสูง มาแนะนำกว่า 20 ชนิด ครบทั้งผัก ผลไม้ และเนื้อสัตว์ โดยระบุปริมาณโฟเลตไว้ด้วย จะมีอะไรบ้างตามมาดูกันเลย

                              อาหารโฟเลตสูง “กลุ่มผัก”

                              • แขนงกะหล่ำ ปริมาณโฟเลต 97.00 ไมโครกรัม / 100 กรัม
                              • กุยช่าย ปริมาณโฟเลต 97.30 ไมโครกรัม / 100 กรัม

                              อาหารโฟเลตสูง

                              • ผักกาดหางหงส์ ปริมาณโฟเลต 93.80 ไมโครกรัม / 100 กรัม
                              • ผักคะน้า ปริมาณโฟเลต 80.10 ไมโครกรัม / 100 กรัม

                              อาหารโฟเลตสูง

                              • ผักโขมจีน ปริมาณโฟเลต 160.10 ไมโครกรัม / 100 กรัม
                              • ยี่หร่า ปริมาณโฟเลต 92.30 ไมโครกรัม / 100 กรัม

                              อาหารโฟเลตสูง

                              • โหระพา ปริมาณโฟเลต 106.30 ไมโครกรัม / 100 กรัม

                              อาหารโฟเลตสูง “กลุ่มผลไม้”

                              • กล้วยไข่ ปริมาณโฟเลต 35.41 ไมโครกรัม / 100 กรัม

                              อาหารโฟเลตสูง

                              • กล้วยน้ำว้า ปริมาณโฟเลต 37.16 ไมโครกรัม / 100 กรัม

                              อาหารโฟเลตสูง

                              • ทุเรียนหมอนทอง ปริมาณโฟเลต 155.75 ไมโครกรัม / 100 กรัม
                              • ฝรั่งกิมจู ปริมาณโฟเลต 38.89 ไมโครกรัม / 100 กรัม

                              อาหารโฟเลตสูง

                              • มะม่วงเขียวเสวยสุก ปริมาณโฟเลต 67.47 ไมโครกรัม / 100 กรัม
                              • สตรอว์เบอร์รี่ปริมาณโฟเลต 98.69 ไมโครกรัม / 100 กรัม

                              อาหารโฟเลตสูง “กลุ่มถั่วเมล็ดแห้ง”

                              อาหารโฟเลตสูง

                              • ถั่วดํา ปริมาณโฟเลต 230.11 ไมโครกรัม / 100 กรัม
                              • ถั่วลิสง ปริมาณโฟเลต 126.66 ไมโครกรัม / 100 กรัม

                              อาหารโฟเลตสูง “กลุ่มเนื้อสัตว์”

                              • เนื้อไก่ตะโพก ปริมาณโฟเลต 86 ไมโครกรัม / 100 กรัม

                              อาหารโฟเลตสูง

                              • ตับหมู ปริมาณโฟเลต 112 ไมโครกรัม / 100 กรัม
                              • เนื้อวัวสะโพก ปริมาณโฟเลต 8 ไมโครกรัม / 100 กรัม
                              • เนื้อวัวสันใน ปริมาณโฟเลต 09 ไมโครกรัม / 100 กรัม

                              อาหารโฟเลตสูง

                              • ปลาดุก ปริมาณโฟเลต 5 ไมโครกรัม / 100 กรัม
                              • เนื้อหมูสันใน ปริมาณโฟเลต 40 ไมโครกรัม / 100 กรัม

                              อาหารโฟเลตสูง “กลุ่มข้าว”

                              • ข้าวมันปู ปริมาณโฟเลต 13.69 ไมโครกรัม / 100 กรัม
                              • ข้าวไรซ์เบอรี่ ปริมาณโฟเลต 25.05 ไมโครกรัม / 100 กรัม
                              • ข้าวหอมนิล ปริมาณโฟเลต 13.38 ไมโครกรัม / 100 กรัม

                              นอกจากนี้คุณแม่ท้องที่รับประทาน อาหารโฟเลตสูง หรืออาหารอื่นๆ ได้ครบถ้วนแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องได้รับวิตามินบำรุงครรภ์เพิ่ม แต่โดยส่วนใหญ่แล้วมักจะได้รับไม่เพียงพอจากอาหาร จึงควรได้รับเสริมจากวิตามินบำรุงซึ่งควรจะประกอบด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่มักได้รับไม่เพียงพอจาการรับประทานอาหารเพียงอย่างเดียว เช่น ธาตุเหล็ก 27 mg , แคลเซียมอย่างน้อย 250 mg , โฟลิค อย่างน้อย 0.4 mg (o.6 mg ในช่วงไตรมาสที่ 2 และ 3) , ไอโอดีน 150 mcg และ วิตามิน D 200-600 IU ที่สำคัญควรหลีกเลี่ยงของหวานและไขมันประเภท Trans fatty acids เนื่องจากสามรถผ่านรกได้และรบกวนการเผาผลาญของไขมันประเภท Essential fatty acid ซึ่งเป็นไขมันที่มีบทบาทในการช่วยเรื่องการเจริญเติบโตและพัฒนาการของทารก นอกจากนี้ Trans fatty acids ยังส่งผลเสียต่อระบบหัวใจและหลอดเลือดอีกด้วย


                              ขอบคุณข้อมูลจาก : nutrition.anamai.moph.go.thwww.phyathai.comw1.med.cmu.ac.th

                               

                              เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                              อ่านต่อบทความอื่นน่าสนใจ คลิกที่ภาพด้านล่าง ⇓

                              รีบไปรับ! แจกฟรี “นม-ไข่” อาหารบํารุงครรภ์ ที่แม่ต้องได้กิน (มีรายละเอียด)

                              6 อาหาร ช่วยแม่ท้อง เร่งคลอดแบบธรรมชาติ

                              สารอาหารเพื่อสุขภาพแม่ท้อง ดีต่อทารกและคุณแม่ตลอดการตั้งครรภ์

                              เตือนจากแม่ถึงแม่!! ลูกแพ้อาหาร เพราะแม่ท้องโด๊ปอาหารกลุ่มเสี่ยงมากเกินไป

                              อาหารแม่ท้องและให้นมลูก กินอย่างไร? ไม่ให้ลูกแพ้อาหาร

                                ผลเสียของการให้ลูกเล่นโทรศัพท์

                                ผลเสียของการให้ลูกเล่นโทรศัพท์ ทารกดูมือถือนานกระทบต่อความฉลาด!

                                ผลเสียของการให้ลูกเล่นโทรศัพท์ ยิ่งนานยิ่งสุขภาพเสีย ทั้งมีปัญหาร่างกาย มีผลกระทบต่อสมอง

                                ผลเสียของการให้ลูกเล่นโทรศัพท์

                                หลาย ๆ ครอบครัวมักเลี้ยงลูกด้วยมือถือ หรือเล่นมือถือเป็นประจำทำให้เด็กเห็นจนเป็นนิสัย แต่พ่อแม่ผู้ปกครองอาจคิดว่าไม่เป็นอะไร จนมารู้อีกที ลูกก็มีปัญหาสุขภาพมากมาย หนึ่งในปัญหาสำคัญที่ทั่วโลกกำลังให้ความสนใจคือ ผลกระทบต่อสมองที่เกิดจากการปล่อยปละละเลยให้เด็กเล่นมือถือ แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ หรือจับจอสีฟ้านานเกินไป

                                เด็กเล่นมือถือ แท็บเล็ต วิดีโอเกม เกิน 7 ชั่วโมงเปลือกสมองบางลง

                                ผลงานวิจัยโดยสถาบันสุขภาพแห่งชาติของสหรัฐฯ ทำการศึกษาถึงระยะเวลาที่เด็กควรใช้อยู่กับหน้าจอ รวมตั้งแต่หน้าจอมือถือ หน้าจอแท็บเล็ต และจอเล่นวิดีโอเกม เพื่อหาคำตอบว่า การเล่นนาน ๆ จะส่งผลต่ออารมณ์ สุขภาพจิต และทำให้เด็กเกิดการเสพติดหรือไม่ โดยทีมวิจัยได้ศึกษากลุ่มเด็ก 9-10 ขวบนับหมื่นรายในช่วงเวลา 10 ปี แล้วเอ็กซเรย์สมองเด็ก 4,500 คน พบว่า เด็กที่จับจ้องจอสีฟ้าเพื่อเล่นเกมหรือเล่นแอปต่าง ๆ 7 ชั่วโมงขึ้นไป พบภาวะเปลือกสมองบางหรือเซรีบรัล คอร์เท็กซ์ บางตัวลง

                                แน่นอนว่า ภาวะเปลือกสมองบาง ย่อมส่งผลต่อความฉลาดและไอคิวของลูก เนื่องจากเปลือกสมองมีความสำคัญต่อความคิด ระบบความทรงจำ การตระหนักรู้ รวมถึงภาษาและการรับรู้ความรู้สึก ยิ่งเปลือกสมองบางเร็วเท่าไหร่ก็เท่ากับการเทียบเท่าของอายุร่างกาย เพราะปกติแล้วสมองส่วนนี้จะบางเมื่อถึงวัยชรา นอกจากนี้ ผลการทบสอบอื่น ๆ สำหรับเด็กที่ติดจอเกินวันละ 2 ชั่วโมง พบว่า ทำคะแนนทดสอบด้านภาษาและการใช้เหตุผลได้ต่ำ เมื่อเทียบกับเด็กที่ไม่ได้ใช้มือถือ จึงเชื่อมโยงได้ว่า การเล่นจอสีฟ้านาน ๆ ย่อมส่งผลต่อระดับสติปัญญา

                                ผลเสียของการให้ลูกเล่นโทรศัพท์
                                เครดิตภาพ : mthai.com

                                คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าของมือถือรบกวนเปลือกสมอง

                                ด้านงานวิจัยของอิตาลี ยังตอกย้ำเรื่องผลกระทบต่อสมองสำหรับคนที่ใช้โทรศัพท์มือถือ ซึ่งพบว่า คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าของโทรศัพท์มือถือไปรบกวนเปลือกสมองบริเวณตำแหน่งที่ติดอยู่กับเครื่อง โดยวารสารทางวิชาการประสาทวิทยา ได้ศึกษาโดยให้หนุ่มสาวอาสาสมัคร 15 คน พูดคุยผ่านโทรศัพท์นาน 45 นาที และได้ตรวจปฏิกิริยาของคลื่นสมองดูด้วย พบว่าเปลือกสมองที่มีหน้าที่สั่งงานตำแหน่งตรงที่แนบอยู่กับโทรศัพท์มือถือ พบว่าถูกรบกวนระหว่างที่พูดโทรศัพท์ แต่ยังดีที่สามารถกลับสู่สภาพปกติได้ในเวลา 1 ชั่วโมง ซึ่งส่วนที่ถูกรบกวนคือเปลือกสมองซึ่งเป็นส่วนนอกของมันสมอง คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้านั้นทำให้กล้ามเนื้อกระตุกได้ เด็ก ๆ ที่ใช้โทรศัพท์เป็นประจำจะยิ่งเกิดอันตรายได้มากกว่าผู้ใหญ่ โดยเฉพาะในเด็กที่อายุต่ำกว่า 5 ปี จะได้รับผลกระทบจากคลื่นมือถือทำลายเนื้อเยื่อสมองได้มากกว่าผู้ใหญ่ถึง 5 เท่า เพราะสมองของเด็กจะดูดซึมรังสีมากกว่าผู้ใหญ่

                                เรื่องนี้ยังย้ำถึงข่าวคราวที่ห้ามนำมือถือวางไว้ใกล้ตัวหรือใต้หมอน เพราะคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากโทรศัพท์มือถือจะส่งผลต่อระบบประสาท และแม้จะไม่ได้ใช้งาน มือถือก็ยังต้องส่งคลื่นสัญญาณไปยังเสาหรือสถานีอยู่ดี ทำให้ร่างกายค่อย ๆ ดูดซับคลื่นตลอดเวลา ยิ่งถ้ามีโทรศัพท์เข้าสัญญาณก็จะยิ่งแรงขึ้น ผลกระทบง่าย ๆ ในวัยผู้ใหญ่ อาจทำให้นอนหลับยากและอาจร้ายแรงถึงความจำเสื่อมได้

                                สำหรับเด็ก ๆ การใช้โทรศัพท์มือถือหรือแม้แต่วางไว้ใกล้ตัวตอนนอน ก็อาจส่งผลต่อการเรียนรู้ เพราะคลื่นสัญญาณส่งผลกระทบต่อระบบประสาทและสมอง โดยเฉพาะในวัยทารกที่นอนหลับได้ยาก ควรนำหน้าจอสีฟ้าทั้งมือถือหรือแท็บเล็ตออกไปนอกห้อง จะช่วยให้ทารกนอนหลับได้ง่ายยิ่งขึ้น

                                ผลเสียของการให้ลูกเล่นโทรศัพท์
                                ผลเสียของการให้ลูกเล่นโทรศัพท์

                                เด็กเล่นมือถือกระทบสุขภาพ

                                การวิจัยของแพทย์พบว่า เด็กเล่นโทรศัพท์มือถือนาน ๆ จะมีผลต่อพัฒนาการของสมอง ทำให้สมาธิสั้น เรียนรู้ช้า และยังส่งผลกระทบต่อร่างกายในอีกหลากหลายด้าน หากพ่อแม่ให้มือถือเลี้ยงลูกจะส่งผลต่อพัฒนาการ ขัดขวางจินตนาการ เด็กจะไม่มีปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้าง การได้รับรังสีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าดังที่กล่าวมาแล้ว ยังส่งผลต่อระบบการทำงานของสมองบางส่วนเสียหาย

                                หากปล่อยทารกหรือเด็กเล็ก ๆ อยู่กับจอจะส่งผลต่อร่างกายและสมอง ตัวอย่างเช่น

                                1. ขาดพัฒนาการด้านการสื่อสาร แท็บเล็ตและทีวี เป็นการสื่อสารทางเดียว ทำให้เด็กขาดพัฒนาการด้านการสื่อสาร ความคิดสร้างสรรค์ รวมถึงส่งผลให้เด็กพูดช้าและพูดไม่ชัด
                                2. เด็กจ้องมองจอภาพเป็นเวลานานมีส่วนทำลายสมอง ทำให้ประสิทธิภาพเรื่องความจำถดถอยลง เด็กจะไอคิวต่ำไม่ได้มาตรฐาน
                                3. ความสามารถในการสื่อสารจะลดลง หรือพัฒนาการทางสมองช้า เด็กที่ไม่เล่นแท็บเล็ต ไม่ดูทีวี เด็กเหล่านี้จะชอบสังเกตสิ่งรอบข้างและทำกิจกรรมกับครอบครัวดังนั้นจึงมีไอคิวสูงมากกว่าเด็กที่ชอบอยู่กับหน้าจอ
                                4. ร่างกายไม่แข็งแรง เด็กจะเคลื่อนไหวไม่คล่องแคล่ว เหนื่อยง่าย เพราะนั่งนิ่ง ๆ เป็นเวลานาน ขาดการเคลื่อนไหวออกกำลังกายตามที่ควรจะเป็น หรืออีกแบบคือจะกลายเป็นเด็กขี้เกียจ
                                5. ควบคุมอารมณ์ไม่ได้ เพราะเด็กแยกแยะโลกของอินเตอร์เน็ต กับความจริงไม่ได้ เด็กมักจะหงุดหงิดง่าย ใจร้อน รอคอยไม่เป็น
                                6. ขาดทักษะการสื่อสารและเข้าสังคม เหมือนที่ใคร ๆ พูดว่าสังคมก้มหน้า แต่ในเด็กจะเป็นมากกว่าเพราะเด็กไม่รู้ว่าอะไรเหมาะสม พ่อกับแม่ต้องคอยควบคุม หากปล่อยให้อยู่หน้าจอจนเคยชินแบบนี้ เด็กจะไม่มีสังคมไม่คุยกับใครเลย
                                7. ขาดสมาธิ เด็กจะไม่มีใจจดจ่อกับกิจกรรมอะไรที่ต้องใช้สมาธิ หรือสมองในการแก้ปัญหา เพราะเคยเจอแต่หน้าจอที่แสดงสีสันสดใส เคลื่อนไหวได้รวดเร็วทันใจ อาจจะกลายเป็นเด็กสมาธิสั้นไปเลยก็ได้
                                8. ด้านพฤติกรรม จะก้าวร้าว ซน สมาธิสั้น มีพฤติกรรมออทิสติก คือดื้อ ต่อต้าน โลกส่วนตัวสูง สื่อสารกับคนอื่นน้อย แม้ดูเหมือนขณะใช้สื่อ เด็กจะนิ่ง แต่เมื่อขออุปกรณ์คืน เด็กจะไม่ยอม เกิดการ ดื้อรั้น ทั้งนี้พบว่าถ้าลดการใช้สื่อผ่านหน้าจอของเด็กลง พฤติกรรมเด็กก็จะกลับมาปกติได้
                                9. สายตาล้าหรืออักเสบจากการเพ่งดูจอสมาร์ทโฟนต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน

                                เด็กในวัยต่ำกว่า 2 ขวบ ที่ไม่ควรจับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เพราะทารกตั้งแต่แรกเกิดจวบจน 3 ปีแรกของชีวิต เป็นช่วงวัยที่สำคัญที่สุดในการเรียนรู้ สมองของเด็กจะพัฒนาสูงสุด โดยมีสิ่งแวดล้อมเป็นตัวกระตุ้นส่งเสริมพัฒนาการทางด้านสมอง สำหรับแนวทางการใช้สื่อกับเด็กควรแบ่งตามช่วงวัย ดังนี้

                                • เด็กอายุแรกเกิด – 2 ปี ควรหลีกเลี่ยงการอยู่หน้าจอทุกชนิดอย่างจริงจัง การเสพสื่อผ่านจอของเด็กวัยนี้ นอกจากจะไม่มีผลต่อพัฒนาการทางสติปัญญาของลูก ไม่ควรแม้แต่การเปิดทิ้งไว้เฉย ๆ
                                • เด็กอายุ 2-5 ปี ใช้หน้าจอได้ไม่เกิน 1 ชั่วโมงต่อวัน โดยพ่อแม่ควรใช้สื่อให้เป็น เลือกโปรแกรมที่ดี และควรดูร่วมกับลูก พูดคุยเกี่ยวกับเนื้อหาที่ดู ตั้งคำถาม และมีกติกาที่เหมาะสม ไม่ควรปล่อยให้ลูกรับสื่อผ่านจอตามลำพัง
                                • ปิดหน้าจอแล้วใช้เวลาคุณภาพ ทำกิจกรรมร่วมกัน พูดคุยกับลูก เล่นกับลูก อ่านหนังสือร่วมกัน กิจกรรมเหล่านี้เป็นวิธีกระตุ้นพัฒนาการลูกน้อยได้ดีที่สุด

                                สุขภาพร่างกายและสมองของลูกในช่วง 5 ปีแรกถือเป็นรากฐานสำคัญของชีวิต อย่าปล่อยให้มือถือเลี้ยงลูก พ่อแม่ควรทำหน้าที่ดูแลและใช้เวลาร่วมกันทั้งครอบครัว พาลูกไปทำกิจกรรมนอกบ้าน หมั่นเล่นกับลูกเสริมสร้างความสัมพันธ์ภายในบ้าน จะช่วยให้ทารกเติบโตอย่างแข็งแรงและมีพัฒนาการที่สมวัย

                                อ้างอิงข้อมูล : news.mthai.com, thairath, bbc และ anamai.moph.go.th

                                 

                                เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                                 

                                อ่านบทความอื่นเพิ่มเติม

                                เหตุผลที่เด็กพูดเก่งประสบความสำเร็จมากกว่า แม่จ๋าอย่าเพิ่งเบื่อหนูพูดเลย!

                                สร้าง Mind map ช่วยฝึกให้ลูกส่งงานครบมีความรับผิดชอบ

                                11 เกมฝึกสมอง สอนลูกแก้ปัญหาไม่ละความพยายามง่ายๆ

                                  ปัญหาการ นอนหลับ ของทารก

                                  อันตรายไหม?ลูก นอนหลับ แล้วทำไมตาปิดไม่สนิทกรอกไปมา

                                  แม่ว่าลูก นอนหลับ แล้วแต่เอ๊ะ!ทำไมตายังไม่ปิดกันนะ แถมลูกตากรอกกลิ้งไปมา ลักษณะแบบนี้ปกติ หรือเป็นอันตราย แล้วแบบไหนที่ควรระวัง มาร่วมฟังคำตอบให้หายกลุ้มกัน

                                  อันตรายไหม!ลูก นอนหลับ แล้วทำไมตาปิดไม่สนิทกรอกไปมา

                                  สำหรับคุณแม่มือใหม่ หรือแม้แต่แม่ลูกสอง ลูกสามแล้วก็ตาม การเลี้ยงเด็กทารกแรกเกิดคงไม่ใช่งานง่ายเลยใช่ไหม เพราะความบอบบางของลูกน้อย ทำให้แม่กลัวว่าจะทำให้เขาได้รับบาดเจ็บอะไรไหม แถมเด็กทารกแรกเกิดยังมีอาการต่าง ๆ ที่ชวนให้คุณแม่หวั่นวิตกไปต่าง ๆ นานา หนึ่งในอาการยอดฮิตที่ทำให้คุณแม่หลาย ๆ คนกินไม่ได้นอนไม่หลับ นั่นคือ อาการเกี่ยวกับการนอนของเบบี้ที่ควรจะเป็นช่วงเวลาแสนสุขของแม่ ที่จะได้ใช้เวลาพักผ่อนส่วนตัวในยามที่ลูกหลับ ได้หายใจหายคอกันบ้าง แต่เมื่อสังเกตุเห็นอาการเวลาที่ลูกนอนแล้วพลันทำให้เกิดความเป็นห่วงจนไม่สามารถไปไหนได้ ต้องนั่งเฝ้าดูลูกหลับพร้อมความกังวลใจ วันนี้ ทีมแม่ABK จึงขอรวบรวมอาการนอนของเด็กทารก มาดูกันว่าแบบไหนน่าห่วง แบบไหนที่ไม่ต้องกังวล จะได้วางใจกันได้เสียที

                                  ลูกน้อยนอนผวา ร้องไห้
                                  ลูกน้อยนอนผวา ร้องไห้

                                  เบบี้ของแม่…นอนแบบไหนกันนะ

                                  นอนผวา

                                  การนอนผวาของลูกเกิดจากระบบประสาทอัตโนมัติ ที่เรียกว่า Moro reflex หากมีอะไรมากระตุ้นลูกเพียงเล็กน้อย เช่น เสียงดัง แสงจ้า ลูกก็จะผวาขึ้นมาได้ทันที เด็กบางคนนอนผวาแล้วหลับต่อเองได้ แต่เด็กบางคนก็มีการนอนผวาบ่อยมากจนตื่นร้องไห้ ซึ่งในทางการแพทย์เห็นว่า การที่ ลูกนอนผวานี้ไม่ได้เป็นอันตรายใด ๆ ต่อร่างกายหรือสมองของลูก

                                  วิธีลดอาการนอนผวา

                                  • ลดสิ่งเร้าหรือสิ่งกระตุ้น ที่เป็นตัวการที่จะทำให้ลูกนอนผวา เช่น ปิดม่าน หรี่ไฟในห้อง  เปิดเพลงเบา ๆ คลอไประหว่างนอนไม่จำเป็นต้องเงียบกริบ

                                  อ่านต่อ 20 เพลงกล่อมนอนเพราะ ๆ เปิดฟังยาว ๆ ลูกหลับง่ายตื่นแล้วไม่งอแง

                                  • จับลูกนอนคว่ำ จะทำให้ลูกนอนได้นานขึ้น ลดอาการผวาของลูกได้ดี แต่วิธีนี้คุณแม่ต้องมีเวลาเฝ้าลูกตลอด เพื่อป้องกันเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันได้ เช่น เวลาลูกพลิกหน้าคว่ำแล้วไม่สามารถพลิกข้างจะทำให้หายใจไม่ออกได้ ที่นอนต้องไม่นิ่มมาก และต้องไม่มีอะไรมาอุดกั้นทางเดินหายใจ

                                  อ่านต่อ ปล่อยลูกนอนคว่ำจนเสียชีวิต!!

                                  • ห่มผ้าให้ลูก หรือพับผ้าหนาเล็กน้อย วางไว้บนหน้าอกลูก ห่อตัวลูกก็ช่วยลดอาการผวาของลูกได้
                                  • ให้ลูกนอนเปลอู่ เปลแบบผ้าขาวม้า จะทำให้ลูกรู้สึกอบอุ่น ปลอดภัย เหมือนมีอะไรมาห่อตัวเค้าอยู่ ช่วยทำให้ลูกหลับได้นาน ช่วยลดการนอนผวาของลูกได้
                                  • อย่าเล่นกับลูก หรือกระตุ้นลูกมากเกินไปในช่วงก่อนเข้านอน  เช่น การโยนลูกขึ้นบนอากาศ หรือเล่นท่าเครื่องบิน เด็กในวัย 6 เดือนเค้าเริ่มฝันเป็นแล้วเพียงแต่ยังบอกเราไม่ได้ ลูกอาจเก็บไปฝัน และเกิดอาการผวาได้
                                  ผ้าวางทับตัวลูก ไม่ให้นอนผวา
                                  ผ้าวางทับตัวลูก ไม่ให้นอนผวา

                                  นอนหายใจเสียงดัง

                                  ส่วนใหญ่เกิดเพราะขณะนอนหลับมีความผิดปกติของการหายใจ (sleep-disordered breathing) เนื่องจากมีการอุดกั้นเป็นช่วง ๆ ของทางเดินหายใจส่วนบนบริเวณจมูกและคอ (obstructive-sleep apnea) สามารถพบได้ในเด็กทุกอายุ อาจทำให้ขณะหลับมีระดับก๊าซออกซิเจนในเลือดต่ำลง และหลับอย่างไม่มีประสิทธิภาพ ส่งผลทำให้นอนหลับไม่เต็มที่ พฤติกรรมรุนแรง ซนมาก สมาธิไม่ดี ผลการเรียนตก อาจทำให้หัวใจโต ความดันโลหิตสูงขึ้น มีอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ หากเกิดความกังวลใจควรพาลูกไปปรึกษาแพทย์จะดีที่สุด เพราะอาการนอนหายใจเสียงดังนี้ อาจจะสงสัยได้ว่าเป็นอาการของโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ ภาวะต่อมทอนซิลที่อยู่ข้างโคนลิ้นและต่อมอะดีนอยด์ที่หลังโพรงจมูกโต ความผิดปกติของโครงสร้างใบหน้า โรคระบบประสาทและกล้ามเนื้อ โรคประจำตัวบางอย่าง เช่น โรคกลุ่มอาการดาวน์ (Down’s syndrome) เป็นต้น

                                  นอนตาปิดไม่สนิท หรือตาค้าง

                                  นอนหลับ ตาปิดไม่สนิท
                                  นอนหลับ ตาปิดไม่สนิท

                                  อาการที่ลูกน้อยนอนแล้วตายังคงลืมอยู่ หรือตาปิดไม่สนิทนั้น หรือปรากฏการณ์ที่เรียกกันว่า “Lagophthalmus” นั้น ทางด้านนักวิทยาศาสตร์อธิบายปรากฏการณ์นี้ว่า อาการนี้ไม่เป็นอันตรายหรือเป็นโทษภัยใด ๆ ต่อลูกน้อยเลย ผู้เชี่ยวชาญยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้อย่างชัดเจนว่าอาการนอนลืมตานี้เกิดขึ้นเพราะอะไร ด้วยเหตุที่มีการพบว่าทารกจำนวนมากนอนลืมตาในช่วงหลับลึก ทำให้ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าการนอนลืมตาเกิดขึ้นเนื่องจากประสาทของทารกมีความตื่นตัวสูงจึงไม่แปลกที่จะลืมตาทั้ง ๆ ที่ยังหลับ

                                  สาเหตุ

                                  • กรรมพันธุ์  หากคุณพ่อคุณแม่พบว่า ลูกนอนหลับแล้วลืมตาอย่างที่กล่าวไปนั้น ลองมาย้อนดูกันว่าครอบครัวของคุณพ่อคุณแม่นั้น มีใครหรือไม่ในครอบครัวที่มีอาการดังกล่าว การนอนลืมตาขณะหลับนั้นถ้ามีก็อาจแสดงว่า ที่ลูกเป็นนั้นมาจากกรรมพันธุ์ของสมาชิกในครอบครัวนั่นเอง
                                  • เฝ้าระวังอาจเป็นโรคร้ายบางอย่าง  ถึงแม้ว่าสาเหตุนี้จะยังไม่พบได้บ่อยนัก แต่ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ ลูกนอนลืมตา หรือปิดตาไม่สนิทขณะหลับ  สำหรับทางการแพทย์นั้นกล่าวว่า สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นเกิดจาก ความผิดปกติของกล้ามเนื้อลูก รวมถึงเส้นประสาทบนใบหน้า หรือไทรอยด์ เป็นต้น หากว่าเป็นเช่นนั้นละก็ แนะนำให้คุณพ่อคุณแม่รีบพาลูกน้อยไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจอย่างละเอียดทันที

                                  แบบไหนที่ผิดปกติ

                                  ในกรณีที่ลูกน้อยโตขึ้นแล้วแต่อาการหลับตาไม่สนิทนั้นยังคงอยู่ เราลองมาดูข้อมูลคร่าว ๆ กันว่าอาการตาปิดไม่สนิทขณะหลับแบบไหนที่แม้จะไม่หายขาดเมื่อโตแต่ก็มิได้เกิดอันตรายต่อร่างกายแต่อย่างใด และแบบไหนที่ควรได้รับการรักษา

                                  เมื่อมีการหลับตาจะมีการเคลื่อนไหวในตาเกิดร่วมขึ้นอีกอย่างคือ ตัวลูกตาจะกลิ้งขึ้นไปข้างบน ฉะนั้นในคนปกติบางคนที่หลับตาไม่สนิท เราจะมองไม่เห็นตาดำของเขา เพราะมันได้เคลื่อนไปอยู่ข้างบนแล้ว จึงเห็นแต่ตาขาว ผู้ที่มีลักษณะแบบนี้ไม่ถือว่าผิดปกติแต่อย่างไร กล้ามเนื้อปิดตานี้ถูกควบคุมโดยเส้นประสาทเส้นที่ 7 ที่มาจากสมอง เส้นประสาทเส้นนี้มีเส้นทางผ่านมาในบริเวณหู และนอกจากจะควบคุมกล้ามเนื้อปิดตาแล้วยังควบคุมกล้ามเนื้อที่อยู่บริเวณครึ่งซีกหน้าทั้งหมดด้วย (อีกซีกหนึ่งก็ถูกควบคุมโดยประสาทเส้นเดียวกันที่ออกจากสมองอีกด้าน) การที่คนเราหลับตาไม่ลงเพราะกล้ามเนื้อปิดตานี้ไม่ทำงาน ส่วนใหญ่แล้วที่มันไม่ทำงานไม่ใช่เพราะตัวกล้ามเนื้อเองเสียไป แต่เป็นเพราะประสาทที่มาเลี้ยงเสียไป สาเหตุที่ทำให้ประสาทเส้นนี้มีการทำงานเสียไปเป็นไปได้หลายอย่าง ที่พบบ่อยคือหูนํ้าหนวกเรื้อรัง โรคภายในสมอง หรือบางทีเราก็ไม่ทราบสาเหตุ

                                  ตาปิดไม่สนิทขณะหลับ โตแล้วยังไม่หายต้องระวัง
                                  ตาปิดไม่สนิทขณะหลับ โตแล้วยังไม่หายต้องระวัง

                                  แต่หากมีอาการที่นอกจากการตาหลับไม่ลงแล้ว ยังมีปากเบี้ยว พูดไม่ชัด (เพราะประสาทนี้เลี้ยงกล้ามเนื้อบริเวณริมฝีปากด้วย) แสบตา นํ้าตาไหลร่วมด้วย อาจต้องรีบไปพบแพทย์ เพราะอาการดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าการที่เปลือกตาปิดไม่สนิทนั้นส่งผลต่อบางส่วนของตา โดยเฉพาะตาดำ เพราะต้องถูกลม แดด และฝุ่นอยู่ตลอดเวลา การที่น้ำตาไหล แสบตา เพราะเมื่อตาหลับไม่ลง รูท่อน้ำตาจะเผยออก นํ้าตาเข้ารูไม่ได้ก็ท่วมไหลออกนอกตา หากมีแผลเชื้อโรคก็จะเข้าไปได้ง่าย เกิดการอักเสบรุนแรง ตามองมัวลง ตาทะลุ และสูญเสียตาไปในที่สุด

                                  กลไกอีกอย่างที่ทำให้หลับตาไม่ลง คือลูกตาถูกดันออกมาข้างหน้า อาจจากเนื้อร้าย เลือดออก หรือโรคคอหอยพอกเป็นพิษจะมีผลเสียหายเช่นเดียวกัน ความผิดปกติที่พบบ่อยคือ คนมีต่อมคอหอยเป็นพิษ

                                  แต่อย่างไรก็ตามคุณแม่อย่าพึ่งวิตกเกินไปเพราะได้กล่าวไปตอนต้นแล้วว่าความร้ายแรงของการที่ตาปิดไม่สนิทนั้นมีโอกาสเกิดเป็นโรคร้ายแรงนั้นน้อยมาก และมักแสดงอาการมากขึ้นในตอนโตแล้ว แต่หากเกิดความไม่สบายใจจริง ๆ การไปปรึกษาแพทย์จึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด

                                  ทารกตาปิดไม่สนิทขณะหลับ ควรทำอย่างไร?

                                  สำหรับวิธีการแก้ไขในเบื้องต้นก็คือ ให้คุณแม่นำมือลูบปิดตาของลูกเบา ๆ หลังจากที่ลูกหลับแล้ว และวิธีนี้นอกจากจะสามารถปิดตาของลูกให้หลับสนิทได้แล้ว ยังไม่เป็นการรบกวนการนอนของลูกน้อยอีกด้วย และจะช่วยให้อาการดีขึ้นหลังจากที่พวกเขาโตขึ้นอีกด้วย นอกจากนั้นการช่วยลูกปิดตาลงก็ยังเป็นการรักษาดวงตาไม่ให้โดนฝุ่น หรือลมเป็นการรักษาความชุ่มชื้นของดวงตา แต่ถ้าหากลูกน้อยอายุเกิน 18 เดือนแล้วยังไม่ดีขึ้น ก็ควรพาลูกไปปรึกษากุมารแพทย์

                                  ลูกนอนฝันร้าย นอนหลับ ไม่ดี
                                  ลูกนอนฝันร้าย นอนหลับ ไม่ดี

                                  นอนร้องคราง

                                  คุณพ่อคุณแม่หลายคนเคยเกิดความกังวลอยู่ทุกครั้งที่เห็นลูกน้อยที่อายุไม่ถึงขวบมีอาการฝันร้ายหรือร้องครางยามค่ำจนทำเอาอดห่วงไม่ได้ว่าเขาจะเป็นอะไรไปหรือเปล่า หากเราเช็กจนแน่ใจแล้วว่าอาการดังกล่าวไม่ได้เกิดจากการที่ลูกน้อยไม่สบายตัว ปวดท้อง ปวดหัว เป็นไข้ต่าง ๆ เหล่านี้แล้ว การที่ลูกนอนร้องครางสาเหตุหนึ่งอาจมาจากการฝัน การฝันเห็นสิ่งไม่ดีซึ่งอาการดังกล่าวเรียกว่าช่วง REM (Rapid Eye Movement) หรือที่เรียกว่าการหลับระยะต้นที่ยังหลับไม่สนิทและอาการเหล่านี้เกิดขึ้นมาเองอย่างช่วยไม่ได้ในยามค่ำคืน ช่วง REM นั้นไม่ใช่เรื่องผิดปกติ เพราะเหล่าลูกน้อยจะต้องพบเจอกับอาการนี้ควบคู่มาอยู่แล้วกับการเจริญเติบโตในช่วงแรกเกิดของเขาแต่เมื่อโตขึ้นช่วง REM ของลูกจะสั้นลง ทำให้เขาหลับลึกและหลับสนิทมากขึ้น 
                                  วิธีช่วยลดอาการนอนร้องคราง
                                  1. เช็คดูผ้าอ้อม และเสื้อผ้าว่าระบายอากาศดีหรือเปล่า ให้ลูกสบายตัวขณะนอนให้มากที่สุด
                                  2. ใช้ผ้าห่อลูกให้เขารู้สึกปลอดภัย เป็นการจำลองการอยู่ในท้องแม่ที่มีมดลูกแม่ห่อหุ้มจึงทำให้เขารู้สึกอบอุ่น ปลอดภัย
                                  3. อุ้มกล่อมให้หลับต่อ เมื่อลูกร้องครางขึ้นแต่ตายังหลับอยู่ แม่สามารถอุ้มขึ้นมากอด กล่อมให้เขาหลับต่อไปได้
                                  4. ไม่ปลุกหรือเขย่าตัวให้ตื่น เพราะจะทำให้ลูกร้องหนักกว่าเดิม
                                  อุ้มลูกมากล่อมให้ นอนหลับ ต่อ
                                  อุ้มลูกมากล่อมให้ นอนหลับ ต่อ

                                  การเลี้ยงเด็กไม่ใช่เรื่องง่าย ยิ่งการเลี้ยงเด็กทารกด้วยแล้ว ยิ่งเพิ่มความกังวลให้แก่คุณแม่มากยิ่งขึ้นไปอีก แต่อย่าพึ่งหมดหวังกันนะแม่จ๋า! จงเชื่อในสัญชาตญาณความเป็นแม่ในตัวของคุณเถอะ โปรดเชื่อใจเถอะว่าถึงอย่างไรความรัก ความเอาใจใส่ของแม่จะนำพาให้ทั้งคุณและลูกผ่านพ้นช่วงเวลาเหล่านี้ไปได้ ค่อย ๆ เรียนรู้กันไป ทั้งแม่ที่ต้องเรียนรู้ลูก และลูกที่จะมอบความไว้ใจให้แม่เช่นคุณ การอ่านประสบการณ์ของแม่ท่านอื่น ๆ ก็มีส่วนช่วยให้แม่มือใหม่อย่างเราพอมีแนวทางในการรับมือกับความกังวลต่าง ๆ ไปได้บ้าง และถึงอย่างไรที่ตรงนี้ก็มีกำลังใจให้แก่แม่ทุกท่านได้มีพลังใจในการเลี้ยงลูกให้เติบใหญ่ต่อไป

                                  ขอขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก maerakluke.com/sanook.com/healthcarethai.com/parentsone.com

                                  อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

                                  ทำยังไงเมื่อลูกตรวจการได้ยินไม่ผ่าน เครื่องช่วยฟัง ช่วยได้

                                  วิจัยใหม่จากต่างประเทศพบ!! ไมโครพลาสติก รั่วจากขวดนม เพราะต้มก่อนใช้

                                  RSV คืออะไร? ตรวจหา RSV ทำอย่างไร? ราคาเท่าไหร่?

                                  รวม 20 อาการต้องสงสัย ลูกไม่สบาย แบบนี้..! กำลังป่วยเป็นโรคอะไร?

                                  เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                                    Breast Cancer Campaign 2020 Guide Script

                                    เดือนตุลาคมของทุกปีถือเป็นเดือนแห่งการรณรงค์กระตุ้นเตือนภัยให้ผู้คนตระหนักถึงโรคมะเร็งเต้านมและกว่า 24 ปีที่บริษัท เอลก้า (ประเทศไทย) จำกัด ยึดมั่นกับพันธสัญญาของบริษัทในการสนับสนุนการวิจัย, การศึกษาและการบริการต่างๆทางการแพทย์ให้มากขึ้น เพื่อลดอัตราการสูญเสียและช่วยเหลือผู้หญิงและผู้ชายที่ต้องต่อสู้กับโรคมะเร็งเต้านม ซึ่งการรณรงค์ของบริษัทฯ ในปีนี้มุ่งเน้นคอนเซปต์ #TimeToEndBreastCancer

                                    โดยทางบริษัท เอลก้า (ประเทศไทย) จำกัด ยังคงสนับสนุนให้ผู้หญิงทุกวัยรวมถึงผู้ชายได้ตระหนักถึงภัยของมะเร็งเต้านม
                                    และมีการรณรงค์ให้ตรวจเช็คเต้านมด้วยตัวเอง ทุกๆ 1 หรือ 2 เดือนซึ่งสามารถทำได้ง่ายๆจากที่บ้าน หากตรวจเช็คเป็นประจำจะสามารถสังเกตได้เมื่อมีลักษณะผิดปกติเกิดขึ้นและพบแพทย์ได้ทันท่วงที หากสนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแคมเปญการรณรงค์กระตุ้นเตือนภัยมะเร็งเต้านมของบริษัท เอลก้า (ประเทศไทย) สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : Pink Ribbon ELCA