ฝันเห็นผี ผีหลอก

ฝันเห็นผี ผีหลอก ยิ่งน่ากลัวยิ่งดีนะเออ!!

Alternative Textaccount_circle
event
ฝันเห็นผี ผีหลอก
ฝันเห็นผี ผีหลอก

ฝันเห็นผี ผีหลอก ผีมาขอส่วนบุญ ฝันแบบนี้น่ากลัวพาให้จิตตก แต่รู้ไหมยิ่งน่ากลัวยิ่งเป็นเรื่องดีนะเออ ทำไมจึงเป็นเช่นนั้นมาฟัง ทำนายฝัน ผีๆ กัน

ฝันเห็นผี ผีหลอก ยิ่งน่ากลัวยิ่งดีนะเออ!!

ผีหลอก ในฝัน ผีมาหา มาขอส่วนบุญ หรือว่ามาให้โชคเรากันแน่นะ เมื่อฝันว่าโดนผีหลอก คงทำให้ใครหลาย ๆ คนกลุ้มใจ คิดว่าเป็นเรื่องไม่ดี ฝันร้าย ดวงตกแน่ ๆ แต่รู้กันไหมว่า ฝันเห็นผี ผีมาหลอกนั้น ยิ่งฝันน่ากลัว ยิ่งให้โชคนะเออ!!

ทำนายฝันผี ๆ สไตล์จิตวิทยา!!

ความฝันแม้ว่าจะเป็นเรื่องราวที่มักถูกอธิบายทางด้านไสยศาสตร์ หรือโหราศาสตร์ ศาสตร์แห่งการพยากรณ์ แต่ยังมีอีกศาสตร์หนึ่งที่ให้ความสนใจ และมักจะนำ ความฝันมาทำนายถึงสภาวะอารมณ์ของคนที่ฝัน ทำความเข้าใจในจิตใต้สำนึกของมนุษย์ที่มักจะเก็บกดอารมณ์ด้านลบ ปมในใจไว้ในส่วนลึกของจิตใจ จนตัวเองต้องทำการปลดปล่อยออกมาในรูปแบบของความฝัน ที่แม้เจ้าตัวเองยังไม่รู้ถึงสภาวะอารมณ์นั้น ๆ

ฝันเห็นผี ฝันดีหรือฝันร้าย
ฝันเห็นผี ฝันดีหรือฝันร้าย

ฝันว่าผีหลอก

เมื่อเราฝันว่าโดนผีหลอก หรือถูกผีอำ มักจะเป็นสัญญาณถึงความเก็บกดอารมณ์บางอย่าง หรืออาจกำลังมีปมในใจที่แก้ไขไม่ได้ หาทางออกไม่เจอ มีเรื่องที่ยังเป็นปริศนาที่คุณกำลังตามหาความจริงอยู่ เลยเก็บมาฝันถึงผีหรือสิ่งลี้ลับ ซึ่งจัดเป็นสิ่งที่ไม่มีความชัดเจนในตัวเอง ไม่รู้ว่ามีอยู่จริงไหม และไม่รู้ความต้องการว่ามาเข้าฝันเราทำไม

ฝันเห็นผีทำร้าย

หากฝันเห็นผีน่ากลัวมาก เหมือนจะมาเอาชีวิตเราไป มักจะหมายถึงคุณอยากหายไปเพื่อกลายเป็นคุณคนใหม่ อยากลืมเรื่องบางอย่างที่คอยทำร้ายไม่จบไม่สิ้น จิตใจจึงหาทางออกด้วยการทำให้รู้สึกเหมือนตัวเองได้หายไป ตายไป

ฝันว่าฆ่าผี

อันนี้ออกแนวโหด เมื่อเป็นคุณเสียเองที่ทำร้ายผี หมายถึงว่า สิ่งที่คุณกำลังเครียดอยู่ในใจอาจเป็นปัญหาภายในครอบครัว หรือกำลังเผชิญปัญหาที่วันยังค่ำคุณก็ตกเป็นรอง ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้แน่ ๆ เลยต้องมาระเบิดเอาในฝัน

ฝันว่าผีหลอกแต่ไม่กลัว

ถ้าฝันว่าเห็นผี แต่ในฝันคุณไม่กลัวผีเลย นั่นเป็นสัญญาณที่ดีที่บอกได้ว่า คุณมีความมั่นคงทางอารมณ์พอตัว คุณไม่ได้มีความเครียด ไม่ได้มีสิ่งที่รู้สึกเป็นกังวล แถมยังกำลังเป็นสุขกับชีวิต จนต่อให้เจอผีร้ายก็ไม่ทำให้รู้สึกสั่นคลอนไปได้ อาจมีเรื่องดี ๆ ในชีวิตจนไม่เก็บความดีใจไว้ไม่อยู่ ทำให้ไม่ว่าเรื่องน่ากลัวใด ๆ ก็ไม่อาจทำให้คุณกลัวไปได้

ฝันว่าผีหลอก ตกใจมาก

คุณเป็นกลุ่มคนที่มีนิสัยเพอร์เฟกชั่นนิสต์ หรือคนที่มีสิ่งที่คาดหวังอย่างเต็มเปี่ยมอยู่ในตัวเองอยู่แล้วใช่ไหม? ซึ่งต่อให้จะแสดงออกว่ามั่นใจแค่ไหน ไม่หวั่นไหวเพียงใด แต่ลึก ๆ แล้วในใจคุณกำลังกังวลถึงคนบางคนหรือเรื่องบางเรื่องอยู่อย่างที่สุดต่างหาก เลยเก็บเอาความรู้สึกในทางลบมาระบายออกในฝัน เพื่อให้ชีวิตจริงยังสามารถคงความนิ่งไว้ได้

ฝันเห็นผีอยู่ไกล ๆ

คุณเป็นคนที่ขี้กังวล ชอบวิตกกับอนาคต เป็นความฝันที่บ่งบอกถึงสิ่งที่กังวลอยู่ในใจ และเป็นความกังวลถึงอนาคตที่ยังไม่เกิดขึ้น กังวลกับสิ่งที่ไม่คุ้นเคย ไม่มีความแน่นอน

ฝันเห็นผีหลาย ๆ ตน

แสดงว่าคุณกำลังสับสน วุ่นวาย มีหลายสิ่งหลายอย่างที่อยากทำในช่วงเวลานี้ แต่ยังไม่ได้เริ่มลงมือทำอะไรเลยสักอย่าง ในทางจิตวิทยาการฝันเกี่ยวกับผีมาหลอกแบบนี้ เป็นการแสดงความกังวลลึก ๆ ในใจ

อย่าเพิ่งตกใจกลัว เมื่อ ฝันเห็นผี
อย่าเพิ่งตกใจกลัว เมื่อ ฝันเห็นผี

ฝันว่าตายไปเป็นผี

ถ้าฝันว่าตัวเองกลายเป็นผีซะเอง ในทางจิตวิทยาจะบ่งชี้ได้ถึงความรู้สึกในทางลบที่คุณรู้สึกกับตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นความอับอาย ความละอายใจ ความกลัว ความรู้สึกผิด ที่อัดแน่นอยู่ในใจ เป็นการระบาย ปลดปล่อยความรู้สึกเหล่านั้นผ่านความฝัน

ฝันว่าเพื่อนกลายเป็นผี

ถ้าฝันว่าเพื่อนคนไหนเป็นผีแล้วมาเข้าฝันเรา แปลว่าคุณกำลังใช้ชีวิตอยู่กับความสัมพันธ์ที่ไม่น่าพอใจเท่าไรอยู่หรือเปล่า และในใจลึก ๆ ก็กำลังคิดว่าควรไปต่อหรือพอแค่นี้ดี ซึ่งหากฝันแนวนี้ซ้ำบ่อย ๆ คงต้องตัดสินใจสักทีแล้วล่ะ

ฝันว่าคนที่ยังมีชีวิตอยู่กลายเป็นผี

เป็นความฝันถึงคนที่ห่าง ๆ กับเจ้าของความฝัน หรืออาจเป็นคนไม่รู้จักกันด้วยซ้ำไป แต่เกิดอาการไม่ชอบขี้หน้าตั้งแต่แรกเจอ ไม่ถูกชะตา เป็นคนที่ต้องระวัง เพราะเมื่อเข้าใกล้คน ๆ นี้แล้วเสี่ยงเจอเรื่องไม่ดีมากกว่าเรื่องดี

ฝันเห็นคนที่ตายไปแล้ว

ถ้าฝันแบบนี้บ่อยจนรู้สึกสงสัยอยู่ในใจ ลองทบทวนดี ๆ ว่าคุณรู้สึกกับคนในฝันแบบไหน มีอะไรที่รู้สึกติดค้าง มีสิ่งที่ทำผิดพลาดกับเขา หรือมีอะไรที่ยังไม่ได้ทำให้เขาไหม เพราะความฝันแบบนี้มักจะแสดงถึงความรู้สึกผิด ความรู้สึกที่ยังค้างคา ซึ่งทางที่ดีคุณควรปลดปล่อยตัวเองจากความรู้สึกดังกล่าวได้แล้ว เพราะถึงยังไงเขาก็ไม่ได้มีชีวิตอยู่ให้เราได้แก้ไขหรือทำอะไรให้อีกต่อไป

ฝันเห็นผีไม่มีหน้า

คุณกำลังรู้สึกเหนื่อย แต่อีกใจหนึ่งก็เฝ้าบอกให้ตัวเองสู้ ๆ ผีไม่มีหน้าตนนั้น นั่นหมายถึงตัวคุณเอง

ฝันเห็นผี ยิ่งน่ากลัว ยิ่งดีนะเออ
ฝันเห็นผี ยิ่งน่ากลัว ยิ่งดีนะเออ

ฝันว่าผีพยายามจะคุยด้วย

คุณอาจมีปัญหาขัดแย้งกับใครสักคนที่เป็นคู่ปรับ เป็นคู่แข่งที่อยากเอาชนะให้ได้ จึงพยายามจะเสาะหาวิถีทางต่าง ๆ แม้กระทั่งในฝัน อาจบ่งชี้ถึงภาวะเครียดหรือการหนักใจกับปัญหาและอุปสรรคที่กำลังพบเจอ

ฝันว่ามีอะไรกับผี

คุณเคยสูญเสียคนรัก หรือเขาอาจมาให้กำลังใจ มาสื่อให้คุณใช้ชีวิตต่อไป โดยมีความทรงจำดี ๆ ไว้เติมเต็มหัวใจในวันที่รู้สึกไม่ไหวก็พอ ทว่าหากไม่เคยสูญเสียคนรักแต่ฝันว่ามีซีนโรแมนติกกับผี อาจหมายถึงการรอคอยอะไรบางอย่าง และอาจเป็นไปได้ว่าคุณกำลังโหยหาความรู้สึกรัก ๆ ใคร่ ๆ จากใครสักคนอยู่ก็ได้
         
ความฝันในทางจิตวิทยา ไม่ใช่เป็นเรื่องไร้สาระ แต่หากเป็นกลไกป้องกันตัวเองของมนุษย์อย่างหนึ่ง ที่เอาไว้ใช้ระบายความเครียด ปมในใจ ปัญหาที่คิดไม่ตก แล้วมาระบายออกเป็นความฝัน ทำให้จิตใจได้ผ่อนคลายลง ดังนั้นหากมองความฝันในทางจิตวิทยาแล้ว สิ่งที่เราฝันก็คือตัวเราเองนั่นแหละ ไม่ใช่สิ่งเร้นลับแต่อย่างใด

อ่านต่อ >>คำทำนายฝันทางโหราศาสตร์ เมื่อคุณ ฝันเห็นผี ทำนายดีหรือร้ายมาลุ้นกัน!! คลิกหน้า 2

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Resilience

เทคนิคสร้าง Resilience สำหรับเด็กเล็ก เพื่อเพิ่มทักษะ “ล้มแล้วลุกให้ไว”

Alternative Textaccount_circle
event
Resilience
Resilience

Resilience – ในช่วงชีวิตของเด็ก การเรียนรู้ที่จะเติบโตไปพร้อมกับเหตุและผลในการใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข คือ สิ่งสำคัญที่พ่อแม่ต้องปลูกฝัง การต้องพบเจอกับเรื่องผิดหวัง และความล้มเหลวในโลกของเด็กนั้นมีมากมายหลายอย่าง ซึ่งสิ่งสำคัญคือ การได้รับการปลูกฝัง ความยืดหยุ่น หรือ ทักษะการ ‘ล้มแล้วลุกให้ไว’ หลังจากความท้าทายและช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับเด็กๆ ตั้งแต่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ เช่น การต่อบล็อกของเล่นไม่สำเร็จดังใจ หรือแม้แต่ เรื่องใหญ่ๆ เช่นการไปโรงเรียนอนุบาลวันแรก การย้ายบ้าน หรือการต้อนรับสมาชิกใหม่ในครอบครัว นอกจากนี้ยังอาจรวมถึงประสบการณ์ที่ร้ายแรง เช่น การถูกรังแก ครอบครัวแตกแยก ความเจ็บป่วยในครอบครัว หรือการเสียชีวิต พ่อแม่สามารถช่วยให้เด็กๆ ได้เรียนรู้ทักษะและพัฒนาทักษะความยืดหยุ่นนี้ได้โดยการสร้างความสัมพันธ์อันอบอุ่นในครอบครัวและพร้อมเสมอที่จะสนับสนุนพวกเขาด้วยแนวทางที่เหมาะสม

เทคนิคสร้าง Resilience สำหรับเด็กเล็ก เพื่อเพิ่มทักษะ “ล้มแล้วลุกให้ไว”

แม้ว่าวัยผู้ใหญ่จะเต็มไปด้วยความรับผิดชอบในโลกแห่งความจริง แต่สำหรับเด็ก โลกของพวกเขาก็ไม่ได้ปราศจากความเครียดเสมอไป เด็กๆ อาจจะต้องรียนรู้เรื่องใหม่ๆ ในชีวิตที่ไม่คุ้นเคย การต้องย้ายโรงเรียน เปลี่ยนเพื่อนบ้าน ความเจ็บป่วย การเผชิญหน้ากับคนพาล การคบเพื่อนใหม่ และบางครั้งอาจโดนเพื่อน แกล้ง แน่นอนว่าพวกเขาต้องเผชิญกับความชอกช้ำในโลกแห่งความเป็นจริงที่พ่อแม่ไม่สามารถเข้าไปช่วยได้ในทุกสถานการณ์ การสอนให้พวกเขารับมือกับเรื่องราวต่างๆ จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่จะช่วยให้เขาใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขตามความเป็นจริง

เมื่อเด็กๆ ปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ที่ท้าทายได้ พวกเขา จะเกิดความรู้สึกว่าพวกเขาสามารถหาทางออกให้ตัวเองได้ รู้ว่าต้องทำอะไร อย่างไร และจะสามารถจัดการกับสิ่งที่ถาโถมใส่พวกเขาด้วยความรู้สึกมั่นใจ อย่างไรก็ตามไม่ได้หมายความว่าเด็กๆ จะต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเอง แต่พวกเขาจะรู้จักวิธีขอความช่วยเหลือได้อย่างเหมาะสมเพื่อที่จะสามารถแก้ไขปัญหาในขั้นตอนต่อไปได้ในแบบของตัวเอง

ความยืดหยุ่นไม่ใช่ทักษะที่มีติดตัวมาแต่กำเนิดแต่เป็นสิ่งที่สามารถสอนและเรียนรู้ได้ วัฒนธรรมที่พยายามทำให้ลูกๆ ของเราสบายใจในทุกๆ เรื่อง คือสิ่งที่พบเห็นได้ทั่วไป ในฐานะผู้ปกครองเราพยายามที่จะเอาชนะทุกสิ่งที่ลูกๆ ของเรากำลังเผชิญ แต่ในเมื่อปัญหาของเด็กเกิดขึ้น ชีวิตจริงอาจไม่ง่ายแบบนั้น ซึ่งต่อไปนี้ คือ คำแนะนำและเทคนิคที่จะช่วยให้คุณปลูกฝังทักษะ ล้มแล้วลุกให้ไว ให้แก่ลูกๆ ของคุณได้ค่ะ

1. สร้าง Resilience ต้องไม่ตอบสนองทุกความต้องการของลูก

เมื่อใดก็ตามที่เราพยายามให้ความมั่นใจและความสบายใจแก่เด็กๆ มากเกินไป นั่นหมายความว่าเรากำลังขัดขวางหนทางที่เด็กๆ จะสามารถพัฒนาการแก้ปัญหาและสร้างความเชี่ยวชาญด้วยตัวเอง การตอบสนองทุกความต้องการของลูกอาจทำให้เด็กเกิดความวิตกกังวล ตัวอย่าง เช่น สมมุติว่าลูกลืมทำการบ้านที่ต้องส่งคุณครูในวันรุ่งขึ้น ลูกต้องการที่จะเล่นของเล่นมากกว่า แล้วบอกให้พ่อแม่จัดการรีบทำให้ลูกในตอนกลางคืน เป็นต้น ด้วยการแก้ปัญหาวิธีนี้ อาจส่งผลให้พวกเขาไม่สามารถรับมือกับปัญหาที่ถาโถมเข้ามาได้ด้วยตัวเองในอนาคตไม่มากก็น้อย เพราะฉะนั้นอย่ามองว่าการช่วยเหลือลูกในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ จะไม่ส่งผลเสียต่ออนาคตของลูก เพราะทุกๆ การกระทำในปัจจุบันย่อมส่งผลต่ออนาคต

2. สร้าง Resilience ต้องหลีกเลี่ยงการขจัดความเสี่ยงทั้งหมด

โดยธรรมชาติแล้ว ผู้ปกครองต้องการให้บุตรหลานของตนเองปลอดภัย สบายใจ แต่การขจัดความเสี่ยงทั้งหมดที่อาจทำให้ลูกพบกับความยากลำบาก อาจปิดโอกาสเด็กๆ จากการเรียนรู้ที่จะสร้างความยืดหยุ่นให้แก่ตัวเองได้อย่างที่เราคาดไม่ถึง เช่น เด็กที่ไม่ได้รับอนุญาตให้เล่นในสนามเด็กเล่นเนื่องจากผู้ปกครองต้องการปกป้องเด็กจากการบาดเจ็บ  แน่นอนว่าเด็ฏจะได้รับการขัดขวางไม่ให้เรียนรู้เกี่ยวกับการรับความเสี่ยงในสนามเด็กเล่น เป็นต้น ดังนั้นกุญแจสำคัญคือการยอมให้มีความเสี่ยงที่เหมาะสมและสอนทักษะที่จำเป็นแก่ลูก ๆ ของคุณ การให้อิสระที่เหมาะสมกับวัยแก่เด็กจะช่วยให้พวกเขาเรียนรู้ขีดจำกัดของพวกเขาและรับมือกับเรื่องต่างๆ ได้ด้วยตัวเอง

3. สร้าง Resilience ต้องสอนให้ลูกรู้จักแก้ปัญหา

สมมติว่าบุตรหลานของคุณต้องการเข้าค่ายพักแรมกับโรงเรียน แต่กังวลว่าจะต้องอยู่ไกลบ้าน พ่อแม่ที่กังวลใจอาจบอกลูกว่าถ้าอย่างนั้นลูกก็ไม่ต้องไปหรอก แต่แนวทางที่มีสติและเหมาะสม คือ การทำให้ความกังวลใจของบุตรหลานของคุณเป็นปกติ และช่วยให้พวกเขาคิดหาวิธีรับมือได้เมื่อรู้สึกคิดถึงบ้าน ดังนั้นคุณอาจถามลูกของคุณว่าพวกเขาจะฝึกทำความคุ้นเคยกับการต้องอยู่ไกลบ้านได้อย่างไร?  หรือเมื่อการสอบปลายภาคทำให้เด็กๆ กังวล คุณควรคิดหากลยุทธ์ต่างๆ รวมกับเด็กๆ เพื่อหาวิธีที่พวกเขาจะสามารถจัดการเวลาและตารางเรียนเพื่อเตรียมสอบได้ กล่าวคือ การให้ลูกๆ ของคุณมีส่วนร่วมกับการค้นหา ได้คิดว่าพวกเขาจะจัดการกับความท้าทายต่างๆ ในชีวิตได้อย่างไร ตลอดจนการให้โอกาสพวกเขาครั้งแล้วครั้งเล่า เพื่อค้นหาว่าสิ่งใดใช้ได้ผลและไม่ได้ผลจ ะช่วยสร้างทักษะความยืดหยุ่นที่สำคัญกับชีวิตของพวกเขาได้

วิธีสร้าง Resilience ให้ลูก
วิธีสร้าง Resilience ให้ลูก

4. ต้องสอนทักษะที่เป็นรูปธรรม

ดังคำเปรียบเปรยที่ว่า “เราไม่ควรให้ปลาแก่เขา แต่ควรจะให้เบ็ดตกปลา และสอนให้รู้จักวิธีตกปลาจะดีกว่า” ด้วยแนวทางนี้จะช่วยสอนทักษะเฉพาะที่เด็กๆ จะต้องเรียนรู้ที่จะจัดการกับสถานการณ์บางอย่างด้วยตนเอง การเปิดโอกาสให้พวกเขารู้ว่าต้องใช้ทักษะอะไรถึงจะไปถึงจุดหมายนั้นๆ ได้จึงสำคัญเสมอ

อ่านต่อ…เทคนิคสร้าง Resilience สำหรับเด็กเล็ก เพื่อเพิ่มทักษะ “ล้มแล้วลุกให้ไว” คลิกหน้า2

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

ไบโพลาร์

ทำความเข้าใจ ไบโพลาร์ โรคอารมณ์สองขั้วหลังคลอด ควรรับมืออย่างไร?

Alternative Textaccount_circle
event
ไบโพลาร์
ไบโพลาร์

ไบโพลาร์ – ช่วงหลังคลอดเป็นช่วงเวลาที่ผู้หญิงมีความเสี่ยงที่จะเกิดความท้าทายด้านสุขภาพจิตมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณหรือสมาชิกในครอบครัวเคยมีประวัติเป็นโรคทางจิต รวมถึงโรคไบโพลาร์ นอกจากนี้สำหรับการตั้งครรภ์ท้องแรก คุณแม่หลายๆ คนอาจเกิดความวิตกกังวลได้ต่างๆ นาๆ จนอาจพัฒนากลายเป็นโรคทางจิตใจได้ ที่สำคัญผู้ที่ป่วยเป็นโรคไบโพลาร์อยู่แล้วก่อนตั้งครรภ์ อาการต่างๆ อาจทรุดลงได้ทั้งระหว่างและหลังการตั้งครรภ์ซึ่งเมื่อเกิดขึ้นแล้วจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องได้รับการดูแลรักษาอย่างเหมาะสม

ทำความเข้าใจ ไบโพลาร์ โรคอารมณ์สองขั้วหลังคลอด ควรรับมืออย่างไร?

หากพูดถึงอารมณ์ที่แปรปรวนช่วงหลังคลอดคงเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้กับคนท้องทุกคน และเป็นเรื่องปกติมากหากคุณประสบกับความสุข ความเศร้า ความเหนื่อยล้า และความกังวลในช่วงของสัปดาห์หลังคลอด แต่ถ้าคุณมีความรู้สุกคุ้มดีคุ้มร้ายแที่ต่างกับแบบสุดขั้ว คุณอาจกำลังประสบกับโรคอารมณ์สองขั้ว ผู้หญิงมากถึงครึ่งหนึ่งที่มีอาการซึมเศร้าหลังคลอด ในจำนวนนี้อาจตรวจพบโรคอารมณ์สองขั้วหลังคลอดด้วยเช่นกัน

การต้อนรับทารกแรกเกิดสู่โลกเป็นเรื่องปกติที่คุณจะได้สัมผัสกับอารมณ์ที่หลากหลาย แต่ถ้าดูเหมือนว่าอารมณ์ของคุณมีลักษณะแตกต่างเป็นสองขั้วอย่างรุนแรงคงไม่ใช่เรื่องปกติ

แน่นอนว่าโรคอารมณ์สองขั้วมาพร้อมกับความท้าทายเฉพาะตัว ซึ่งรวมถึงอารมณ์แปรปรวนอันเป็นผลมาจากความผันผวนของฮอร์โมนในระหว่างตั้งครรภ์การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนอาจส่งผลต่ออารมณ์ของคุณ บางวันคุณอาจรู้สึกมีความสุข แต่อีกวันคุณอาจรู้สึกหงุดหงิดและหดหู่ ที่สำคัญ อาการไบโพลาร์อาจเด่นชัดขึ้นในระหว่างตั้งครรภ์ ผู้หญิงอาจพบว่าการตั้งครรภ์สามารถเปลี่ยนแปลงอารมณ์ได้

ผู้ที่ต้องเผชิญกับโรคที่สภาวะทางอารมณ์แบ่งเป็นสองขั้ว จะมีการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ที่สำคัญซึ่งสลับกันไปมา ระหว่างอารมณ์ดีมากแบบผิดปกติและอารมณ์ซึมเศร้าอย่างหนักหน่วง เมื่อเข้าสู่ช่วงหลังคลอด มีโอกาสเป็นไปได้ที่คุณอาจต้องเผชิญกับภาวะอารมณ์สองขั้ว ซึ่งเป็นภาวะสุขภาพจิตที่อาจเริ่มต้นขึ้นไม่นานหลังคลอด ได้แก่ อารมณ์ดีผิดปกติและภาวะซึมเศร้า  ในบางกรณี สัญญาณแรกของโรคอารมณ์สองขั้วหลังคลอดอาจคล้ายกับโรคจิตหลังคลอด เป็นความเจ็บป่วยทางจิตที่พบได้น้อยแต่ร้ายแรง ซึ่งมักเกี่ยวข้องกับอารมณ์แปรปรวนอย่างรวดเร็วจนสามารถเห็นภาพหลอน หรือมีความเชื่อแบบหลงผิดได้ งานวิจัยจากแหล่งที่เชื่อถือได้ในปี พ.ศ. 2561 ชี้ให้เห็นว่าผู้หญิงที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคอารมณ์สองขั้วหลังคลอดอาจมีความเสี่ยงสูงต่อการต้องเผชิญกับภาวะซึมเศร้าหลังคลอด (PPD) หรือโรคจิตหลังคลอด ในช่วงหลังคลอด

ไบโพลาร์ หลังคลอดสาเหตุเกิดจากอะไร?

ภาวะสุขภาพจิตหลังคลอดอาจเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนหลังคลอด ในผู้หญิงบางคนอาจมีอาการมากอาการน้อยแตกต่างกันได้ สำหรับโรคไบโพลาร์เคมีในสมองส่วนบุคคล ตลอดจนการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพของสมองและองค์ประกอบทางพันธุกรรมอาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดโรค

หากคุณมีประวัติภาวะซึมเศร้าหลังคลอดหรือโรคจิตเภทหลังคลอด ตลอดจนมีประวัติส่วนตัวหรือประวัติครอบครัวเป็นโรคไบโพลาร์ คุณอาจมีความเสี่ยงที่จะพัฒนาอาการของโรคไบโพลาร์ในช่วงหลังคลอดได้มากขึ้น ซึ่งทั้งปัจจัยทางพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อมนั้นมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาโรคสองขั้วหลังคลอด

ปัจจัยที่ใหญ่ที่สุดที่อาจส่งผลต่อการพัฒนาของไบโพลาร์หลังคลอด ได้แก่

  • มีสมาชิกในครอบครัวที่เป็นโรคอารมณ์สองขั้ว
  • ประวัติเคยเป็นโรคไบโพลาร์
  • ประวัติภาวะซึมเศร้าหลังคลอด
  • ประวัติโรคจิตหลังคลอด

ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมที่อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคอารมณ์สองขั้วหลังคลอด ได้แก่

  • การไม่ได้รับการสนับสนุนที่ดี
  • การว่างงานหรือความยากจน
  • การมีลูกเมื่อยังไม่พร้อม

ความผิดปกติอื่นๆ หลังคลอดที่มีผลต่อการเกิดโรคอารมณ์สองขั้ว อาจรวมถึง

  • การอดนอน
  • การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนที่สำคัญ (เช่น ระหว่างตั้งครรภ์หรือคลอดบุตร)
  • ประสบการณ์การคลอดที่เจ็บปวด
โรคอารมณ์สองขั้ว
โรคอารมณ์สองขั้ว

สัญญาณและอาการของโรค ไบโพลาร์ หลังคลอด

เช่นเดียวกับโรคไบโพลาร์ โรคไบโพลาร์หลังคลอดมีลักษณะเฉพาะด้วยความผันผวนของอารมณ์ที่เรียกได้ว่าคุ้มดีคุ้มร้ายแบบสุดขั้ว ความแตกต่างหลักคือการเริ่มมีอาการในวันหรือสัปดาห์หลังการคลอดบุตร โดยอาการจะเริ่มเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วภายในศูนย์ถึงสองเดือน ซึ่งหากเปรียบเทียบกับภาวะซึมเศร้าหลังคลอดโดยทั่วไปจะมีระยะเวลาที่เริ่มมีอาการนานกว่าตั้งแต่ศูนย์ถึงห้าเดือนหลังคลอด

อารมณ์สุดขั้วที่เกิดขึ้นหลังคลอดสามารถแสดงออกเป็นความคุ้มคลั่งหรือภาวะ Hypomania ความคุ้มคลั่งเป็นอาการที่รุนแรงมากที่ทำให้เกิดความบกพร่องในการใช้ชีวิต คุณอาจต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน หรือสำหรับอารมณ์ที่ยกระดับขึ้นเพื่อพิจารณาความคุ้มคลั่งนั้นจะต้องคงอยู่อย่างน้อยเจ็ดวันติดต่อกันและมีอยู่เกือบทั้งวัน

สำหรับผู้ป่วยไบโพลาร์หลังคลอด จะมีช่วงที่รู้สึกซึมเศร้า (depressive episode) สลับกับช่วงที่อารณ์ดี หรือคึกคักมากกว่าปกติ โรคไบโพลาร์หลังคลอดอาจเริ่มต้นด้วยภาวะซึมเศร้าหรือความคลุ้มคลั่งที่เรียกว่าภาวะ Hypomania ซึ่ง Mania และ Hypomania เป็นอารมณ์ “คุ้มร้าย” ของโรคอารมณ์สองขั้ว ซึ่งอาการ Mania มีอาการรุนแรงกว่า ซึ่งส่งผลให้มีความบกพร่องอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งอาจทำให้เกิด อาการทางจิต เช่น ภาพหลอนและอาการหลงผิด สามารถเกิดขึ้นได้ในภาวะคลุ้มคลั่งและภาวะซึมเศร้าอย่างรุนแรง

อาการของ Mania หรือ Hypomania อาจรวมถึง:

  • คุ้มคลั่ง
  • ความรู้สึกว่าตัวเองยิ่งใหญ่
  • มีความคิดที่อยากจะแข่งขัน
  • ฟุ้งซ่านง่าย/ขาดสมาธิ
  • พูดมาก พูดในแง่ลบ
  • ความต้องการนอนลดลง
  • อารมณ์หุนหันพลันแล่น
  • หงุดหงิดง่าย

การวิจัยจาก Trusted Source ชี้ให้เห็นว่าโรคไบโพลาร์ส่วนใหญ่ระหว่างตั้งครรภ์และหลังคลอดนั้นมีลักษณะที่คล้ายคลึงกับอาการของโรคซึมเศร้า

โดยอาการซึมเศร้าในโรคไบโพลาร์หลังคลอด ได้แก่

  • อารมณ์หดหู่ ไม่ยินดียินร้าย
  • เหนื่อยล้าไม่ค่อยมีแรง
  • วิตกกังวล
  • รู้สึกว่างเปล่าหรือสิ้นหวัง
  • รู้สึกตัดขาดจากทารก
  • รู้สึกไม่สามารถดูแลลูกได้อย่างเหมาะสม
  • รู้สึกผิดกับการเป็น “พ่อแม่ที่ไม่ดี”
  • โกรธหรือหงุดหงิดง่าย
  • ร้องไห้หนัก
  • นอนไม่หลับ
  • ความอยากอาหารเปลี่ยนไป
  • สูญเสียความสนใจในงานอดิเรกหรือกิจกรรมต่างๆ
  • รู้สึกกลัวการพลัดพรากจากคนที่รัก
  • การเกิดอาการแพนิค
  • กังวลว่าตัวเองจะทำร้ายลูก
  • ความรู้สึกหนักที่แขนและขา

อ่านต่อ…ทำความเข้าใจ ไบโพลาร์ โรคอารมณ์สองขั้วหลังคลอด อาการกำเริบควรรับมืออย่างไร? คลิกหน้า 2

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Cookpad (คุ๊กแพด)

Cookpad (คุ๊กแพด) แพลตฟอร์มแบ่งปันสูตรอาหารระดับโลก

Alternative Textaccount_circle
event
Cookpad (คุ๊กแพด)
Cookpad (คุ๊กแพด)

Cookpad (คุ๊กแพด) แพลตฟอร์มแบ่งปันสูตรอาหารระดับโลก เปิดสถิติความเสมอภาคในการทำอาหารของผู้ชายไทยและผู้หญิงไทยจากรายงาน Cookpad-Gallup ทั่วโลก 

ผู้ชายไทยทำอาหารมากกว่าผู้ชายทั่วโลก 34% มี ‘ช่องว่างระหว่างเพศ’ ที่น้อยมาก คุ๊กแพด เผย 5 อันดับเมนูที่ผู้ชายไทยและผู้หญิงไทยนิยมทำเองที่บ้าน และความถี่ในการทำอาหารของ Gen Z ไทยเพิ่มขึ้นเร็วกว่ากลุ่มอายุอื่นๆ

กรุงเทพฯ 17 ตุลาคม 2565 : การทำอาหารเองที่บ้านเนื่องจากช่วยประหยัด ดีต่อสุขภาพ และให้โภชนาการที่ยั่งยืนทำให้คนไทยทำอาหารมากกว่าปี 2020 ถึง 3% เมื่อเทียบกับการลดลงถีง 6% ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิก ดัชนีการทำอาหารโลกประจำปีครั้งที่สี่โดย Cookpad ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มแบ่งปันสูตรอาหารระดับโลก และ Gallup (การนำเสนอการวิเคราะห์และคำแนะนำเพื่อช่วยผู้นำและองค์กรระดับโลก) พบว่าโดยเฉลี่ยแล้ว คนไทยปรุงอาหารในมื้อกลางวันและมื้อเย็น 6.6 มื้อโดยปรุงสดใหม่ที่บ้านในแต่ละสัปดาห์ จากทั้งหมด 14 มื้อ

ผู้หญิงทั่วโลกทำอาหารมากกว่าผู้ชายเฉลี่ยสัปดาห์ละ 4 มื้อจากการสำรวจ ใน 122 ประเทศ ในขณะเดียวกัน ช่องว่างระหว่างเพศในการทำอาหารของประเทศไทยแทบไม่มีเลยเนื่องจากผู้หญิงไทยทำอาหาร 6.8 มื้อต่อสัปดาห์และผู้ชาย 6.3 มื้อ มากกว่าผู้ชายเพียง 0.5 มื้อเท่านั้น  ในขณะที่ประเทศอื่นๆ เช่น สิงคโปร์ ผู้หญิงทำอาหารมากกว่าผู้ชาย 2.7 มื้อ กัมพูชา 7.4 มื้อ และเมียนมาร์ 5.9 มื้อ

ผู้ชายไทยทำอาหารมากกว่าสามเท่า (+34%) เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยทั่วโลกสำหรับผู้ชายที่ทำอาหารเอง (4.7 มื้อต่อสัปดาห์) ผู้ชายไทยที่แต่งงานแล้วคือผู้ที่ทำอาหารมากที่สุด (7 มื้อต่อสัปดาห์) ในกลุ่มนี้ เทียบกับปี 2020 (6.5 มื้อ) คิดเป็นการเติบโต 8% ซึ่งสูงกว่าความถี่ในการทำอาหารของผู้ชายที่แต่งงานแล้วในมาเลเซีย (6 มื้อ) และสิงคโปร์ (3.2 มื้อ)

Cookpad (คุ๊กแพด) แพลตฟอร์มแบ่งปันสูตรอาหารระดับโลก

“สิ่งที่สะท้อนให้เห็นจากดัชนีการทำอาหารโลกนั้น ตรงกับเทรนด์ที่เราเห็นภายในกลุ่มคนรักการทำอาหารเองในประเทศไทยของเรา มีผู้ใช้ในไทยที่เป็นผู้ชายร่วมเผยแพร่สูตรอาหารบนแพลตฟอร์ม Cookpad มากขึ้น และยังมีผู้ร่วมงานที่เป็นผู้ชายมาเข้าร่วมกิจกรรมทำอาหารของเราเกือบครึ่งหนึ่งจากผู้ร่วมงานทั้งหมด โดย 5 อันดับเมนูที่ผู้ชายไทยนิยมทำที่บ้านและโพสต์บนแอปพลิเคชันและเว็บไซต์ของเราจะเป็นเมนูที่เน้นเนื้อสัตว์เป็นส่วนใหญ่ ในขณะที่ผู้หญิงจะนิยมทำทั้งของหวานและอาหารคลีน ทีมงานคุ๊กแพดมีความยินดีอย่างมากที่คนไทยเลือกทำอาหารเองมากขึ้น ทั้งยังร่วมแบ่งปันวิธีทำและเทคนิคต่างๆ ผ่านแพลตฟอร์มของเรา ทุกคนได้มีส่วนช่วยให้ผู้อื่นฝึกทำอาหาร เรียนรู้ และมีความสุขกับอาหาร ซึ่งเป็นสิ่งที่เชื่อมโยงพวกเราทุกคนไว้ด้วยกัน

สุทธิกานต์ ศรีสวิตติยากร ผู้จัดการประจำภูมิภาคประเทศไทย แพลตฟอร์มแบ่งปันสูตรอาหาร คุ๊กแพด กล่าว

5 อันดับเมนูที่ผู้ชายนิยมทำเองที่บ้าน โดยแพลตฟอร์มคุ๊กแพด ประเทศไทย::

  1. ข้าวผัด อาหารจานเดียวจากวัตถุดิบในบ้าน เช่น ข้าวผัดหมูยอใส่ไข่ โดย ต่อต่อ
  2. ไข่เจียว เมนูง่ายๆ ที่มีเคล็ดลับในการทำ เช่น ไข่เจียวอ้วนฟูผิวกรอบ โดย ครัวหมีอวดเมีย
  3. พะโล้ เมนูสไตล์จีนที่เป็นที่นิยมอย่าง พะโล้ขาหมู โดย Kasama #RunawayHubbyKitchen
  4. ผัดกะเพรา เมนูรสเผ็ดชื่อดังของไทยอย่าง กะเพราหมูหมัก(สูตรร้อนแรง) โดย ครัวตัวดำคนบ้านนอก
  5. เนื้อย่าง เหมาะสำหรับการทานอาหารแบบคีโตหรือโลว์คาร์บ เช่น เนื้อย่างเสือร้องไห้ โดย สุทธิพงศ์

5 อันดับเมนูที่ผู้หญิงนิยมทำเองที่บ้าน โดยแพลตฟอร์มคุ๊กแพด ประเทศไทย:

  1. ขนมไทย ของหวานยอดนิยมต่างๆ เช่น บ้าบิ่นเผือก/ใบเตยหอม โดย Ae NakKeaw
  2. ยำ เมนูรสจัดจ้านที่มีความหลากหลาย เช่น ยำปลาทูน่ากระป๋อง โดย Sukanda S.
  3. อาหารคลีน เช่นเมนูโปรตีนสูงที่ใช้การย่างแทนการทอด ทอดมันอกไก่ปลาดอลลี่ (คลีน) โดย Mattyhun
  4. เค้ก ตัวเลือกของหวานที่หลายคนชื่นชอบอย่างแครอทเค้กครีมชีสเลมอน ออสเตรเลี่ยนสไตล์ จากหนึ่งในนักโพสต์สูตรชาวไทยในต่างแดน โดย Ta Nattalia Lean
  5. แกงเขียวหวาน เมนูคู่ครัวไทย เช่น แกงเขียวหวานไก่ใส่ฟัก ทานกับขนมจีน โดย ก้อย ก้อย

การทำอาหารของคนหนุ่มสาว : กลุ่ม Gen Z ในประเทศไทยทำอาหารเฉลี่ยอยู่ที่ 6.4 มื้อต่อสัปดาห์ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของหนุ่มสาวในกลุ่มอายุเดียวกันทั่วโลก ในประเทศไทย กลุ่มอายุ 15-24 ปี ทำอาหารมากกว่ากลุ่มอายุ 25-34 ปี (6.2 มื้อ) โดยกลุ่ม Gen Z ทำอาหารเพิ่มขึ้น 15% ในช่วงสี่ปีที่ผ่านมา ขณะที่ความถี่ในการทำอาหารของ กลุ่ม Millennial ลดลงเล็กน้อย 3% ตั้งแต่ปี 2018 (6.5 มื้อ) กลุ่ม Gen Z ในประเทศไทยจึงถือเป็นกลุ่มอายุที่เติบโตเร็วที่สุดในการทำอาหารที่บ้าน

Cookpad

รายงานฉบับเต็ม “A Global Analysis of Cooking Around the World” เป็นภาษาอังกฤษ

วิธีการสำรวจ :

Gallup และ Cookpad วัดความถี่ของการทำอาหารโดยขอให้ผู้ตอบแบบสอบถามนับจำนวนอาหารที่พวกเขาทำเองที่บ้านในช่วง 7 วันที่ผ่านมา รวมถึงอาหารกลางวันและอาหารเย็น ผู้ตอบแบบสอบถามได้รับคำจำกัดความดังต่อไปนี้: “’ทำอาหารที่บ้าน’; หมายถึงอาหารที่ปรุงที่บ้านจากส่วนผสม เช่น ผัก เนื้อสัตว์ ธัญพืช หรือส่วนผสมอื่นๆ ไม่รวมอาหารปรุงสำเร็จหรือของเหลือที่นำมาอุ่นใหม่”

แบบสำรวจนี้อยู่ในแบบสำรวจของ Gallup World Poll ในปี 2564 นับตั้งแต่ปี 2548 เป็นต้นมา World Poll ได้สำรวจผู้คนในกว่า 160 ประเทศเป็นประจำทั้งทางโทรศัพท์และการสัมภาษณ์แบบเห็นหน้ากัน โดยปกติ ผลการสำรวจแสดงผลมากกว่า 95% ของประชากรโลกที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป โดยใช้กลุ่มตัวอย่างที่สุ่มและเลือกจากตัวแทนในแต่ละประเทศ

เกี่ยวกับ Cookpad :

Cookpad เป็นแพลตฟอร์มแบ่งปันสูตรอาหารสำหรับคนทำอาหารเองที่บ้าน ที่มีจุดมุ่งหมายคือทำให้การทำอาหารทุกวันเป็นเรื่องสนุก Cookpad ก่อตั้งขึ้นในประเทศญี่ปุ่นในปี 1997 ปัจจุบันเปิดให้ใช้งานผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือและเว็บไซต์ในกว่า 70 ประเทศ และ 30 ภาษา  มีผู้ใช้งาน Cookpad 100 ล้านคนต่อเดือน เพื่อหาไอเดียและสูตรอาหารในแต่ละวัน รวมถึงมีส่วนรวมในการสร้างแรงบันดาลใจและสีสันให้กับกลุ่มคนทำอาหารที่บ้าน  เราเชื่อว่าการทำอาหารเป็นกุญแจสู่ชีวิตที่มีความสุขและมีสุขภาพที่ดียิ่งขึ้นสำหรับผู้คน ชุมชน และโลกใบนี้

เกี่ยวกับ Gallup :

Gallup นำเสนอการวิเคราะห์และคำแนะนำเพื่อช่วยผู้นำและองค์กรในการแก้ปัญหาเร่งด่วนที่สุด ด้วยประสบการณ์มากกว่า 80 ปีในการเข้าถึงทั่วโลก Gallup รู้เกี่ยวกับทัศนคติและพฤติกรรมของพนักงาน ลูกค้า นักเรียน และพลเมืองมากกว่าองค์กรอื่นในโลก

Amarin Baby & Kids Awards 2022

Amarin Baby & Kids Awards 2022 มอบรางวัลสุดยอดแบรนด์ในดวงใจแม่ ตอกย้ำความเป็นผู้นำคอมมูนิตี้ที่รู้ใจแม่ลูกอันดับ 1 ของเมืองไทย

event
Amarin Baby & Kids Awards 2022
Amarin Baby & Kids Awards 2022

Amarin Baby & Kids สุดยอดคอมมูนิตี้สำหรับแม่ลูกที่มีผู้ติดตามกว่า 1 ล้านคน ในเครืออมรินทร์ กรุ๊ป ตอกย้ำความเป็นผู้นำคอมมูนิตี้แม่ลูกอันดับหนึ่งของประเทศที่รู้ใจคุณแม่มากที่สุด

จัดงานประกาศรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2022 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 เพื่อมอบรางวัลให้กับสุดยอด แบรนด์สินค้าในดวงใจ เพื่อการเลี้ยงดูลูกรักอย่างมีคุณภาพและสร้างสรรค์ ที่คุณแม่ตัวจริงจาก ทั่วประเทศกว่า 30,000 คน ร่วมเทคะแนนโหวตให้สูงสุด เพื่อให้ได้สินค้าแม่และเด็ก ที่ใช้ดีมีคุณภาพอย่างแท้จริง โดยในปีนี้มีการมอบรางวัลให้แก่แบรนด์ต่างๆ ในสาขา Mommy’s Choice และสุดยอดแบรนด์สินค้าใช้ดี และมีประโยชน์จริง ที่ได้รับการคัดเลือกจากทีมบรรณาธิการ ในสาขา Editor’s Choice และ  รางวัล Rising Star สุดยอดผลิตภัณฑ์ดาวรุ่ง คุณภาพดีเหมาะกับลูกน้อย จากงาน Amarin Baby And Kids Fair ในปี 2021 ผ่านการคัดสรรจากทีมบรรณาธิการ ให้เป็นสินค้าน่าช้อป น่าใช้สำหรับคุณแม่ตัวจริง  รวมทั้งหมด 93 รางวัล ซึ่งภายในงานมีคุณแม่ศิลปินชื่อดัง โอปอล์ปาณิสรา อารยะสกุล และ พลอยชิดจันทร์ ห่ง ร่วมรับรางวัลฯ ในครั้งนี้ ณ Siloo’et House บางใหญ่

Amarin Baby & Kids Awards 2022

ดร. สรัญ ฐิตะวสันต์ Deputy Managing Director บริษัท อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) เผยว่า “Amarin Baby & Kids แบรนด์มีเดียในเครืออมรินทร์ กรุ๊ป ตอกย้ำความเป็นที่หนึ่งเครือข่ายแม่ลูกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ด้วยการเป็นสื่อกลางความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องแก่ครอบครัว ยุคใหม่ โดยเป็นแบรนด์แม่ลูกที่มีคอนเทนต์ครบถ้วนสมบูรณ์ที่สุดในประเทศไทย ทั้งเว็บไซต์ที่รวบรวมบทความต่างๆ มากมาย ตั้งแต่การเตรียมตัวเป็นคุณแม่ เทคนิคการดูแลลูกน้อย โรคที่ต้องระวังสำหรับเด็กๆ ตลอดจนโภชนาการ และความสัมพันธ์ในครอบครัว

Amarin Baby & Kids Awards 2022
Amarin Baby & Kids Awards 2022

ไม่เพียงเท่านี้ด้านโซเชียลมีเดีย ไม่ว่าจะเป็น Facebook หรือ Line Official ที่นำเสนอคอนเทนต์เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ง่าย รวมทั้งยังเป็นช่องทางการประชาสัมพันธ์การจัดงาน Amarin Baby & Kids Fair งานแฟร์สุดยิ่งใหญ่ระดับประเทศ ที่รวบรวมสินค้าแม่ลูกจากแบรนด์ต่างๆ มากมาย ที่จัดมาอย่างต่อเนื่อง และกำลังจะจัดครั้งที่ 23 ระหว่างวันที่ 1- 4 ธันวาคมนี้ และงานมอบรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2022 ที่ปีนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 4 เพื่อมอบให้แก่แบรนด์สินค้าแม่ลูกในดวงใจ

Amarin Baby & Kids Awards 2022

Amarin Baby & Kids Awards 2022

โดยมีแบรนด์สินค้าเข้ารับรางวัลทั้งหมด 52 ประเภท จำนวน 93 รางวัล แบ่งเป็นสาขาต่างๆ ได้แก่ รางวัล Mommy’s Choice ที่ได้รับคะแนนโหวตสูงสุดจากคุณแม่ที่ใช้สินค้าจริงทั่วประเทศ จำนวน 40 รางวัล, รางวัล Editor’s Choice ได้รับการคัดเลือกจากกองบรรณาธิการเว็บไซต์ Amarin Baby & Kids ว่าเป็นสินค้าใช้ดี มีประโยชน์จริง จำนวน 32 รางวัล อาทิ ผลิตภัณฑ์อาบน้ำ-แต่งตัว, อุปกรณ์การดูแลเด็ก, ผลิตภัณฑ์และบริการสำหรับครอบครัว และสื่อสำหรับครอบครัว รวมถึงรางวัลสุดพิเศษรางวัล Rising Star มอบให้กับผลิตภัณฑ์ดาวเด่นจาก แบรนด์ SME ที่ร่วมออกบูธในงาน Amarin Baby & Kids Fair ที่ผ่านมา จำนวน 21 รางวัล ตลอดจนรางวัลพิเศษอื่นๆ ที่เพิ่มประสบการณ์การเลี้ยงดูลูกในช่วงวัยที่โตขึ้น และการสร้างความสัมพันธ์ให้ครอบครัวแข็งแรง มอบให้กับคุณแม่ศิลปินที่มีชื่อเสียง และอินฟลูเอนเซอร์ด้านแม่และเด็กชื่อดังของเมืองไทย ได้แก่ รางวัลเพจคุณหมอในดวงใจ, รางวัลเพจคุณแม่ดาราในดวงใจ, รางวัลครอบครัวในดวงใจ และ รางวัลยูทูปเบอร์เด็กในดวงใจ รวมจำนวน 4 รางวัล

Amarin Baby & Kids Awards 2022

เพื่อตอกย้ำถึงศักยภาพของการเป็นผู้นำด้านสื่อและโฆษณาของเครืออมรินทร์ กรุ๊ป ถึงการเป็น
แบรนด์ที่รวมถึงสื่อและแพลตฟอร์มอื่นๆ ที่มีครอบคลุมครบทุกช่วงวัย  ที่ยังไม่หยุดนิ่งและยังเดินหน้าพัฒนาบริการและแพลตฟอร์มเพื่อก้าวสู่บทใหม่ของการเป็นธุรกิจสื่อและโฆษณาด้วยฐานข้อมูล (Data) เพื่อตอบสนองคนทุกกลุ่มวัย ด้วยการทำงาน Data – Driven Creativity โดยการเตรียมพร้อมจับมือกับพันธมิตรอย่าง CJ Worx ที่จะมาช่วยการทำงานด้านครีเอทีฟด้วยฐานข้อมูล เสริมกำลังด้านสื่อและโฆษณาให้ดียิ่งขึ้น”

 

สามารถติดตามภาพบรรยากาศการมอบรางวัลในหมวดต่างๆ และบทความดีๆ ได้ทาง www.amarinbabyandkids.com
หรือ Facebook และ Line Official : Amarin Baby & Kids

รายชื่อผู้ที่ได้รับรางวัล งานประกาศผลรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2022

หมวด อุปกรณ์ดูแลเด็ก

1. ประเภทรถเข็นเด็ก

  • รางวัล Mommy’s Choice ได้แก่ JOIE
  • รางวัล Editor’s Choice ได้แก่ Baby Style ( Eggs 2 )

2. ประเภทคาร์ซีท

  • รางวัล Mommy’s Choice ได้แก่ Apramo (RockingKids)
  • รางวัล Editor’s Choice ได้แก่ Chicco

3. ประเภทเป้อุ้มเด็ก

  • รางวัล Mommy’s Choice ได้แก่ POGNAE
  • รางวัล Editor’s Choice ได้แก่ Haenim 9 Plus

4. ประเภทชุดเครื่องนอนสำหรับทารก

  • รางวัล Mommy’s Choice ได้แก่ elava
  • รางวัล Editor’s Choice ได้แก่ OXY Baby

5. ประเภทคอกกั้นเด็กชนิดกันกระแทก (Soft Folding Playpen)

  • รางวัล Mommy’s Choice ได้แก่ HOYO
  • รางวัล Editor’s Choice ได้แก่ HOYO

6. ประเภทคอกกั้นเด็กชนิดรั้วพลาสติก (Plastic Baby Playpen)

  • รางวัล Mommy’s Choice ได้แก่ Bebeplay
  • รางวัล Editor’s Choice ได้แก่ Bebeplay

7. ประเภทเครื่องฆ่าเชื้อขวดนม

  • รางวัล Mommy’s Choice ได้แก่ Philips Avent
  • รางวัล Editor’s Choice ได้แก่ Saker

8. ประเภทภาชนะใส่อาหารและเครื่องดื่มสำหรับเด็ก

  • รางวัล Mommy’s Choice ได้แก่ Tasty Mate
  • รางวัล Editor’s Choice ได้แก่ Dodolove

Amarin Baby & Kids Awards 2022

หมวดผลิตภัณฑ์อาบน้ำแต่งตัว

  1. ผ้าอ้อมสำเร็จรูป
  • รางวัล Mommy’s Choice ได้แก่ Mamy Poko
  • รางวัล Editor’s Choice ได้แก่ Molfix
  1. ผลิตภัณฑ์โลชั่นสูตรทั่วไป
  • รางวัล Mommy’s Choice ได้แก่ Enfant
  • รางวัล Editor’s Choice ได้แก่ Oilatum
  1. ผลิตภัณฑ์โลชั่นสูตรส่วนผสมธรรมชาติและออร์แกนิค
  • รางวัล Mommy’s Choice ได้แก่ D-nee
  • รางวัล Editor’s Choice ได้แก่ D-nee
  1. ผลิตภัณฑ์โลชั่นสูตรสำหรับผิวบอบบางและแพ้ง่าย
  • รางวัล Mommy’s Choice ได้แก่ Ezerra
  • รางวัล Editor’s Choice ได้แก่ Eucerin
  1. ผลิตภัณฑ์แชมพูสำหรับเด็ก
  • รางวัล Mommy’s Choice ได้แก่ Kodomo
  • รางวัล Editor’s Choice ได้แก่ Kodomo
  1. ผลิตภัณฑ์เฮดทูโทสูตรส่วนผสมธรรมชาติและออร์แกนิค
  • รางวัล Mommy’s Choice ได้แก่ Babimild
  • รางวัล Editor’s Choice ได้แก่ D-nee
  1. ผลิตภัณฑ์เฮดทูโทสูตรสำหรับผิวบอบบางและแพ้ง่าย
  • รางวัล Mommy’s Choice ได้แก่ Eucerin
  • รางวัล Editor’s Choice ได้แก่ Kodomo
  1. ผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากสำหรับเด็ก(แปรงสีฟัน)
  • รางวัล Mommy’s Choice ได้แก่ Ray
  • รางวัล Editor’s Choice ได้แก่ JORDAN

หมวดผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพและความสะอาด

  1. ผลิตภัณฑ์กันยุงสำหรับเด็ก
  • รางวัล Mommy’s Choice ได้แก่ Little Bear
  • รางวัล Editor’s Choice ได้แก่ Kindee
  1. ทิชชู่เปียก
  • รางวัล Mommy’s Choice ได้แก่ PIGEON
  • รางวัล Editor’s Choice ได้แก่ PUREEN
  1. น้ำยาซักผ้าเด็กสูตรส่วนผสมธรรมชาติและออร์แกนิค
  • รางวัล Mommy’s Choice ได้แก่ D-nee
  • รางวัล Editor’s Choice ได้แก่ Breeze Baby
  1. น้ำยาล้างขวดนม
  • รางวัล Mommy’s Choice ได้แก่ Nanny
  • รางวัล Editor’s Choice ได้แก่ Enfant

หมวดผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มเด็ก

  1. นมผงสำหรับเด็ก (สูตร 3)
  • รางวัล Mommy’s Choice ได้แก่ Enfa
  • รางวัล Editor’s Choice ได้แก่ S-26
  1. นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก
  • รางวัล Mommy’s Choice ได้แก่ HiQ
  • รางวัล Editor’s Choice ได้แก่ Foremost
  1. ผลิตเสริมโภชนาการเด็กชนิดน้ำ
  • รางวัล Mommy’s Choice ได้แก่ Mamarine Kids
  1. ผลิตภัณฑ์เสริมโภชนาการเด็กชนิดแคปซูล
  • รางวัล Mommy’s Choice ได้แก่ NBL
  • รางวัล Editor’s Choice ได้แก่ NBL
  1. อาหารเสริมพัฒนาการแบบบดเหลว
  • รางวัล Mommy’s Choice ได้แก่ Cerelac
  • รางวัล Editor’s Choice ได้แก่ Peachy

หมวดผลิตภัณฑ์และบริการสำหรับคุณแม่

  1. ผลิตภัณฑ์เสริมโภชนาการคุณแม่ตั้งครรภ์
  • รางวัล Mommy’s Choice ได้แก่ Anmum
  • รางวัล Editor’s Choice ได้แก่ BLACKMORES
  1. ผลิตภัณฑ์เพิ่มน้ำนมชนิดเม็ด
  • รางวัล Mommy’s Choice ได้แก่ JESSIE MUM
  • รางวัล Editor’s Choice ได้แก่ JESSIE MUM
  1. ผลิตภัณฑ์เพิ่มน้ำนมพร้อมดื่ม
  • รางวัล Mommy’s Choice ได้แก่ Mommy Booster
  • รางวัล Editor’s Choice ได้แก่ MOMMY LICIOUS JUICE
  1. ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าคุณแม่
  • รางวัล Mommy’s Choice ได้แก่ SMOOTHE
  • รางวัล Editor’s Choice ได้แก่ VIV SKIN
  1. ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าท้องคุณแม่
  • รางวัล Mommy’s Choice ได้แก่ Palmer’s
  • รางวัล Editor’s Choice ได้แก่ COCORO TOKYO
  1. เครื่องปั๊มนมทั่วไป
  • รางวัล Mommy’s Choice ได้แก่ NATUR
  • รางวัล Editor’s Choice ได้แก่ Malish
  1. เครื่องปั๊มนมมัลติฟังก์ชัน
  • รางวัล Mommy’s Choice ได้แก่ Attitude Mom
  • รางวัล Editor’s Choice ได้แก่ Attitude Mom
  1. ถุงเก็บน้ำนม
  • รางวัล Mommy’s Choice ได้แก่ LAMOON
  • รางวัล Editor’s Choice ได้แก่ MISTER FOX
  1. โรงพยาบาลสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์
  • รางวัล Mommy’s Choice ได้แก่ โรงพยาบาลพญาไท2

Amarin Baby & Kids Awards 2022

หมวดผลิตภัณฑ์บริการสำหรับครอบครัว

  1. แหล่งเรียนรู้นอกบ้าน
  • รางวัล Mommy’s Choice ได้แก่ TK Park
  1. ของเล่นเสริมพัฒนาการ
  • รางวัล Mommy’s Choice ได้แก่ LEGO
  1. สถาบันเสริมพัฒนาการเด็ก
  • รางวัล Mommy’s Choice ได้แก่ Gymboree Play & Music

หมวด สื่อสำหรับครอบครัว

  • ยูทูปเบอร์เด็กในดวงใจ POPULAR KID YOUTUBER ได้แก่ LITTLE MONSTER FAMILY
  • เพจคุณหมอในดวงใจ POPULAR CHILDREN’s EXPERT FANPAGE ได้แก่ นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์
  • แม่ดาราในดวงใจ POPULAR CELEBRITY MOM ได้แก่ คุณโอปอล์ ปาณิสรา อารยะสกุล
  • ครอบครัวในดวงใจ POPULAR FAMILY INFLUENCER ได้แก่ ครอบครัวคุณพลอย ชิดจันทร์ ห่ง คุณแม่คนเก่ง เจ้าของช่อง Momme Chidjun

 

รางวัล Rising Star

  1. RISING STAR: BEST DISPOSABLE DIAPERS (ผ้าอ้อมสำเร็จรูป)

ได้แก่ KUMO และ Offspring

  1. RISING STAR: BEST DISINFECTANT CLEANER FOR FAMILY (ผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อสำหรับครอบครัว)

ได้แก่ ALMIND และ ROYS

  1. RISING STAR: BEST ELECTRIC BREAST PUMP (เครื่องปั๊มนม)

ได้แก่  Melody Chubby และ imani

  1. RISING STAR: BEST BABY BEDDING PRODUCTS (ชุดเครื่องนอนสำหรับทารก)

ได้แก่  VEVA.KIDS และ Bebe Cheri

  1. RISING STAR: BEST MULTIPURPOSE SAUCE (ซอสปรุงรสอาหาร)

ได้แก่ Jinny sauce ซอสปรุงรสสำหรับเด็ก

  1. RISING STAR: BEST BABY FINGER FOOD (ขนมเสริมพัฒนาการ)

ได้แก่ BEBEKIM และ Nobi Nobi

  1. RISING STAR: BEST PREGNANCY STRETCH MARKS PRODUCTS (ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าท้องคุณแม่)

ได้แก่ My Dear Mom และ PregSkin

  1. RISING STAR: BEST PROTECTIVE SUNSCREEN LOTION FOR KIDS (ครีมกันแดดเด็ก)

ได้แก่ Little Bear Organic และ Godmami

  1. RISING STAR: BEST DIETARY SUPPLEMENT FOR MOM (วิตามินรวมคุณแม่)

ได้แก่ UGENTALAB POWDER C+

  1. RISING STAR: BEST ORAL CARE PRODUCT FOR KIDS (ยาสีฟันสำหรับเด็ก)

ได้แก่ Dr.Wise และ Gentles Tots

  1. RISING STAR: BEST ESSENTIAL OIL PRODUCT FOR KIDS (น้ำมันหอม)

ได้แก่ Oz-P และ Umbili

ฝันว่าได้สร้อยทอง ฝันว่าได้ทอง

ฝันว่าได้สร้อยทอง ได้จับทองเผยเคล็ดลับให้ฝันกลายเป็นจริง

Alternative Textaccount_circle
event
ฝันว่าได้สร้อยทอง ฝันว่าได้ทอง
ฝันว่าได้สร้อยทอง ฝันว่าได้ทอง

ฝันว่าได้สร้อยทอง ฝันดีมีดวงเศรษฐีหรือเปล่า แล้วจะทำอย่างไรให้ฝันกลายเป็นจริง ทำนายฝัน บอกโชคล่วงหน้า เลขเด็ด เคล็ดลับใด ๆ รวมไว้พร้อมให้คุณแล้ว

ฝันว่าได้สร้อยทอง ได้จับทอง เผยเคล็ดลับให้ฝันกลายเป็นจริง!

ใครจะเป็นเศรษฐี?? ฉันที่ฝันว่าได้ทอง นะสิ นะสิ!! เมื่อ ความฝัน เกี่ยวกับเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ทำให้คุณตื่นมาพร้อมรอยยิ้ม ทำนายฝัน จะดีดั่งความรู้สึกดีนั้นหรือไม่ เรามาดูคำทำนายความฝัน ฝันว่าได้ทอง ฝันว่าได้สร้อยทอง ฝันว่าได้ใส่ทอง ฝันว่าได้สร้อยข้อมือทอง หรือฝันเห็นทอง ได้จับทอง และอีกนานา ความฝันเกี่ยวกับทอง ว่าจะทำนายไว้ว่าเช่นไร

รวมคำทำนาย ความฝัน เกี่ยวกับ ทอง!!

  • เมื่อคุณฝันว่าได้ทอง 1 เส้น!!

เปิดคำทำนาย

เป็นความฝันที่ดี ช่วงนี้มีเกณฑ์ได้รับโชคลาภจากผู้ใหญ่ ไม่ว่าจะทำอะไรก็มีคนให้การสนับสนุน จะประสบความสำเร็จในเรื่องที่หวังไว้ มีโอกาสได้เลื่อนตำแหน่ง ขยายกิจการ การงานและการเงินรุ่งเรือง

เลขนำโชค : 1, 9, 8

  • หากฝันว่าได้ทอง 2 เส้น,  3 เส้น

เปิดคำทำนาย!!

แสดงว่าดวงกำลังขึ้นสุดๆ ไม่ว่าจะทำอะไรก็ราบรื่น ไร้อุปสรรค แต่ทั้งนี้ ก็ควรใช้ชีวิตอย่างมีสติ ไม่ประมาท

เลขนำโชค : 1, 5, 7

ฝันว่าได้สร้อยทอง ดวงเป็นเศรษฐี ช้อปปิ้งให้เข็ด
ฝันว่าได้สร้อยทอง ดวงเป็นเศรษฐี ช้อปปิ้งให้เข็ด
  • ฝันว่าได้สร้อยทอง

เปิดคำทำนาย

จะได้รับโชคลาภจากการเสี่ยงโชค สิ่งที่มุ่งหวังไว้จะประสบความสำเร็จ ผู้ใหญ่เกื้อหนุน มีเรื่องดีๆ เข้ามา

เลขนำโชค : 0, 4, 6

  • ฝันว่าได้ใส่สร้อยทอง

เปิดคำทำนาย

จะได้รับโชคลาภเป็นเงินทอง หรือสิ่งของ

เลขนำโชค : 4, 8, 2, 5

  • ฝันว่ามีคนเอาทองมาให้

เปิดคำทำนาย

ระวังคนรักจะนอกใจ หากมีเรื่องไม่เข้าใจกันอย่าปล่อยทิ้งไว้นาน

เลขนำโชค : 8, 6, 0, 9

  • ฝันว่าได้ทองคำแท่ง (1 บาท, 3 บาท, 5 บาท) 

เปิดคำทำนาย

หากเป็นหญิงตั้งครรภ์ทายว่จะได้บุตรสาวน่ารักน่าเอ็นดู ส่วนเรื่องการงานและการเงินจะก้าวหน้า ไม่มีปัญหาให้ลำบากใจอะไร มีผู้ใหญ่คอยอุปถัมภ์อยู่เสมอ

 เลขนำโชค : 6, 9, 8, 5

  • ฝันว่าได้ต่างหูทอง

เปิดคำทำนาย

ทำนายว่า จะหมดเคราะห์ หมดโศก ที่เจ็บป่วยก็จะหายคลายกังวล

เลขนำโชค : 1, 6

ฝันว่าได้สร้อยทอง กำไลทอง
ฝันว่าได้สร้อยทอง กำไลทอง
  • ฝันว่าได้จี้ทอง

เปิดคำทำนาย

ทำนายว่าจะได้โชคลาภจากญาติผู้ใหญ่ หรือได้รับข่าวดีจากเพื่อนฝูง จะหายจากโรคภัยไข้เจ็บที่เป็นอยู่ หมดเคราะห์ และจะมีโชคตามมาในภายหลัง

เลขนำโชค : 2, 4, 9

  • ฝันว่าได้เหรียญทอง

เปิดคำทำนาย

ทำนายว่าจะหมดเคราะห์ และการงานจะได้รับการโยกย้ายตำแหน่งหน้าที่

เลขนำโชค : 9, 0, 1, 3

  • ฝันว่าได้กำไลทอง

เปิดคำทำนาย

ทำนายว่า จะหมดเคราะห์ หมดโศก และการงานจะได้รับการโยกย้าย หรือเปลี่ยนตำแหน่งหน้าที่

เลขนำโชค : 9, 0, 1, 3

  • ฝันว่าได้แหวนทอง

เปิดคำทำนาย

จะถูกเพ่งเล็งในทางที่ไม่ดี ดังนั้น ในช่วงนี้จะทำอะไรก็ควรระวังตัวให้มาก ๆ

เลขนำโชค : 7, 2, 5

  • ฝันว่าได้พระพุทธรูปทองคำ

เปิดคำทำนาย

ทำนายว่า หากจะทำอะไรให้รีบลงมือทำทันที อย่ามัวรีรอ หรือละทิ้งกลางคัน ความสำเร็จกำลังรอคุณอยูา

 เลขนำโชค : 4, 9, 5, 7

  • ฝันว่าได้ทองปลอม

เปิดคำทำนาย

ทำนายว่า ให้ระมัดระวังอุบัติเหตุเรื่องฟืนไฟภายในบ้าน หรืออุบัติเหตุนอกบ้าน

เลขนำโชค : 6, 0

  • ฝันว่าได้ใส่ทอง

เปิดคำทำนาย

ทำนายว่า จะมีคนนำโชคลาภหรือสิ่งของมาให้

เลขนำโชค : 4, 8, 2, 5

  • ฝันว่าได้ฟันทอง

เปิดคำทำนาย

ทำนายว่า จะมีเคราะห์ หรือเจ็บป่วย แต่ถ้าผ่านไปได้แล้วจะมีโชคลาภ

เลขนำโชค : 1, 4

  • ฝันว่าได้พระเลี่ยมทอง

เปิดคำทำนาย

ทำนายว่า จะอยู่เย็นเป็นสุข คิดสิ่งใดก็จะสมหวังทุกประการ

เลขนำโชค : 1, 0, 7

  • ฝันว่ามีคนเอาทองมาให้

เปิดคำทำนาย

ทำนายว่าคนรักมีแววจะนอกใจ

 เลขนำโชค : 8, 6, 0, 9

  • ฝันว่าเก็บทองได้

เปิดคำทำนาย

ทำนายว่า จะมีโชคลาภจากการเสี่ยงโชคเล็ก ๆ น้อย ๆ

เลขนำโชค : 6, 8, 5, 3

เลขเด็ด เมื่อคุณฝันว่าได้ทอง!!

คนไทยจำนวนไม่น้อยมักเชื่อมโยงการฝันว่าได้ทอง และเรื่องการเสี่ยงโชคเข้าด้วยกัน เรียกได้ว่าไหน ๆ ความฝันดวงได้เป็นเศรษฐีแล้ว มาทำให้ความฝันกลายเป็นจริงกันจะดีกว่า นับเป็นความคิดเห็นส่วนบุคคล เรื่องแบบนี้ไม่สามารถตัดสินกันได้ว่าใครผิดใครถูก หากความเชื่อนี้ไม่ไปทำร้ายใคร และหากสามารถทำให้คุณได้กลายเป็นเศรษฐีจริง ๆ ก็คงจะดีไม่น้อย มาดูเลขเด็ดเกี่ยวกับความฝันว่าได้ทองรูปแบบต่างๆ จะมีเลขที่เกี่ยวข้องกับความฝัน ได้แก่ 12, 24, 36, 124, 164 และ 362 เป็นเลขเด่นที่หากคุณฝันว่าได้ทอง เลขเหล่านี้มาแน่

อ่านต่อ >>ทำความฝันดีให้กลายเป็นจริงได้ง่าย ๆ ด้วยเคล็ดลับเหล่านี้ คลิกหน้า 2

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

ที่พักเชียงใหม่

ที่พักเชียงใหม่ น่าพาลูกเที่ยว แอ่วเหนือ สัมผัสลมหนาว

Alternative Textaccount_circle
event
ที่พักเชียงใหม่
ที่พักเชียงใหม่

เชียงใหม่ จังหวัดที่ขึ้นชื่อเรื่องการท่องเที่ยว พักผ่อน เพราะมีแหล่งท่องเที่ยวหลายได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเชิงวัฒนธรรม ธรรมชาติ ภูเขา วิวหมอก และสถานบันเทิง เรียกได้ว่ามาเที่ยวเชียงใหม่ครบจบในจังหวัดเดียวเลยค่ะ แต่จะไปเที่ยวเชียงใหม่ทั้งทีเรื่องที่พักก็ต้องจัดเต็ม ถ้าใครที่กำลังมีแพลนไปเที่ยวเชียงใหม่ และมองหา ที่พักเชียงใหม่ กันอยู่ล่ะก็ วันนี้ทางเราได้รวบรวม 10 ที่พักเชียงใหม่ ที่ทั้งสวยงามท่ามกลางธรรมชาติน่าไปพักผ่อน มีให้เลือกหลายแบบหลายสไตล์ ไม่ว่าเป็นโซนในเมือง ที่พักวิวหมอกภูเขา หรือแบบล้านนา เรารวบรวมมาให้แล้ว มีที่ไหนโดนใจกันบ้างตามมาดูกันเลยค่ะ

ที่พักเชียงใหม่ น่าพาลูกเที่ยว แอ่วเหนือ สัมผัสลมหนาว

ที่พักเชียงใหม่

  1. Cross Chiang Mai Riverside

โรงแรมครอส เชียงใหม่ ริเวอร์ไซด์ ตั้งอยู่ที่ 369/1 ถนนเจริญราษฎร์ วัดเกต เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ โรงแรมบูติกหรู ระดับ 5 ดาว อีกหนึ่งที่พักริมแม่น้ำปิงในตัวเมืองเชียงใหม่ที่เราอยากแนะนำให้ไปพักกันค่ะ ที่นี่โดดเด่นด้านการออกแบบการตกแต่งผสมผสานความทันสมัยและสไตล์ล้านนาดั้งเดิมได้อย่างลงตัว โดยมีการจำลองกำแพงเมืองเชียงใหม่ ในการออกแบบตัวอาคารโดดเด่นด้วยสีส้มอมน้ำตาลจากกำแพงอิฐถือเป็นไฮไลท์ของที่นี่เลย และยังมีบ่อน้ำโบราณ พร้อมกับต้นมะขามอายุ 120 ปีที่ทำให้ที่นี่ดูมีเรื่องราวและเสน่ห์มากมายเลยล่ะค่ะ ในส่วนของห้องพักมีให้เลือก 4 รูปแบบภายในห้องพักตกแต่งอย่างดีมาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ครบครัน มีทั้งห้องอาหาร ฟิตเนส สปา มีสระว่ายน้ำ OZONE ซึ่งตั้งอยู่บนดาดฟ้า จะมานั่งดูดาวริมสระน้ำตอนกลางคืนก็ได้เช่นกัน ที่นี่เป็นที่พักที่เดียวในเชียงใหม่ที่มีระบบไฟเบอร์ออปติกในสระว่ายน้ำ ส่องแสงสว่างระยิบระยับคล้ายดวงดาวในตอนกลางคืน ใครมาเที่ยวเชียงใหม่ต้องรีบจองเเล้วนะคะรับรองจะประทับใจจนไม่อยากกลับเลยค่ะ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม https://www.crosshotelsandresorts.com/crosschiangmai

ที่พักเชียงใหม่

ขอขอบคุณภาพ https://www.facebook.com/cross.chiangmai/

 

  1. Flora Creek

ฟลอร่า ครีค ตั้งอยู่ที่เลขที่ 90 หมู่ 4 ต.บ้านโป่ง อ.หางดง จ.เชียงใหม่ ที่พักเชียงใหม่ สวยหรูหรา มาในคอนเซ็ปต์ Coloured by Seasons ซึ่งพื้นที่แห่งนี้เคยเป็นพื้นที่สวนดอกไม้ของกฤษดาดอย บรรยากาศจึงแวดล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติ ขุนเขา และลำธาร ออกแบบและตกแต่งในสไตล์ Modern-Localised Boutique Resort เน้นใช้วัสดุอย่างอิฐ ไม้ ปูน หิน เพื่อให้กลมกลืนกับธรรมชาติ ที่พักให้บริการห้องพักทั้งหมด 4 รูปแบบให้คุณได้เลือกพัก ภายในห้องพักตกแต่งอย่างสวยงามทันสมัย โทนสีสีขาวตัดกับเฟอร์นิเจอสีไม้ มาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆครบครัน นอกจากนี้ยังมี ฟิตเนส สปา สระว่ายน้ำ หนาวนี้มาเที่ยวพักผ่อนที่เชียงใหม่ต้องจองมาพักที่นี่แล้วคุณจะประทับใจอย่างแน่นอนค่ะ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม https://www.floracreekchiangmai.com/th

ที่พักเชียงใหม่

ขอขอบคุณภาพจาก https://th-th.facebook.com/FloraCreekChiangMai/

 

  1. Raya Heritage

รายา เฮอริเทจ ตั้งอยู่ที่ 157 ม.6 ต.ดอนแก้ว อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ เป็นที่พักที่เรียบหรูท่ามกลางธรรมชาติอันเงียบสงบริมฝั่งแม่น้ำปิง ด้วยบรรยากาศความเป็นส่วนตัวท่ามกลางธรรมชาติจึงเหมาะกับการพักผ่อนอย่างแท้จริง การออกแบบของที่นี่จะเป็นแนวร่วมสมัยในสไตล์ไทยดั้งเดิมที่ผสมผสานศิลปะและหัตถศิลป์ที่เป็นเอกลักษณ์และวัฒนธรรมล้านนา ที่พักให้บริการห้องพักทั้งหมด 38 ห้อง ให้คุณได้เลือกพัก ภายในห้องตกแต่งอย่างดี เน้นใช้เอิร์ธโทน สบายตา มาพร้อมความสะดวกสบาย มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มีห้องอาหาร ฟิตเนส มีสระว่ายน้ำ หนาววนี้ใครมีแพลนมาเที่ยวพักผ่อนที่เชียงใหม่แนะนำ มาเช็คอินที่นี่ได้เลยค่ะ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม https://www.rayaheritage.com/en/index.php

ที่พักเชียงใหม่

ขอขอบคุณภาพจาก https://th-th.facebook.com/RayaHeritage/

 

  1. U Chiang Mai

ยู เชียงใหม่ ตั้งอยู่ที่ 70 ถนน ราชดำเนิน ต.ศรีภูมิ อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ เป็นโรงแรมหรูสไตล์บูติก ตั้งอยุ่ในทำเลดี ใจกลางเมือง ริมถนนท่าแพ หน้าโรงแรมเป็นถนนคนเดิน และใกล้สถานที่ท่องเที่ยวและวัดและร้านอาหารดังต่างๆ โรงแรมที่มีการออกแบบที่ผสมผสานระหว่างมรดกท้องถิ่นล้านนากับความเป็นไทยสมัยใหม่เข้าด้วยกันอย่างลงตัวให้บริการห้องพักทั้งหมด 41 ห้อง ภายในห้องพักตกแต่งไว้อย่างดี น่าพักผ่อน พร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกทันสมัย นอกจากนี้ ยังมีฟิตเนส สปา และสระว่ายน้ำแก่ผู้เข้าพัก พลาดไม่ได้สำหรับใครที่อยากทานอาหารเหนือกับห้องอาหาร eat & drink พร้อมให้บริการอาหารเหนือพื้นเมือง รสชาติต้นตำรับ กับหลากหลายเมนูอร่อยให้คุณเลือกรับประทาน ใครมองหาที่พักสวย บริการดี แนะนำเลยค่ะโรงแรมในเครือยูไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม https://www.uhotelsresorts.com/th/uchiangmai

เที่ยวเชียงใหม่ โรงแรมเชียงใหม่ รีสอร์ทเชียงใหม่

ขอขอบคุณภาพจาก https://th-th.facebook.com/UChiangmai/

 

  1. Away Chiang Mai Thapae Resort – A Vegan Retreat

อะเวย์เชียงใหม่ท่าแพรีสอร์ต – อะวีแกนรีทรีต ตั้งอยู่ที่ 9 ซ.1 ต.ช้างคลาน อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ ที่นี่เป็นอีกที่พักในเครือครอส ตั้งอยู่ใจกลาง จ.เชียงใหม่ ใกล้ประตูท่าแพ รีสอร์ตสไตล์โคโลเนียลสีขาวสวยสะดุดตาไม่ว่ามุมไหนก็ถ่ายรูปออกมาสวย ที่นี่ให้บริการที่พักหลากหลายแบบพร้อมระเบียงส่วนตัวทุกห้อง ให้คุณได้เพลิดเพลินไปกับวิวสระว่ายน้ำและบรรยากาศอันเงียบสงบของตัวเมืองเก่าเชียงใหม่ เหมาะสำหรับพักผ่อนเติมเต็มความสุขในช่วงวันหยุด ที่พักมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มีสระว่ายน้ำกลางแจ้ง สปา ฟิตเนส อาหารเพื่อสุขภาพ และ บริการด้านความงามต่างๆ มีจักรยานให้ยืมปั่นเล่นชมเมืองอีกด้วย นอกจากนี้ที่พักใกล้สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ มากมาย อาทิ ถนนคนเดินวัวลาย ถนนช้างม่อยแหล่งรวมสินค้าหัตถกรรมงานหวาย วัดพระสิงห์ ตลาดของฝากวโรรส เป็นต้น

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม https://www.crosshotelsandresorts.com/awaychiangmai

เที่ยวเชียงใหม่ โรงแรมเชียงใหม่ รีสอร์ทเชียงใหม่

ขอขอบคุณภาพจาก https://www.facebook.com/awaychiangmai/

 

อ่านต่อ.. ที่พักเชียงใหม่ น่าพาลูกเที่ยว แอ่วเหนือ สัมผัสลมหนาว ..ได้ที่หน้า 2

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

คนท้อง

เป็น คนท้อง มันไม่ง่าย! มีหลายอย่างที่อยากบอกให้โลกรู้ และเข้าใจ!

Alternative Textaccount_circle
event
คนท้อง
คนท้อง

คนท้อง – สำหรับใครที่เคยผ่านมาแล้วคงรู้ดีว่าการตั้งครรภ์นั้นคือช่วงเวลาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกที่หลากหลายทั้งดีและร้ายปะปนกันไป  เชื่อว่าคุณแม่หลายๆ คนอาจต้องการให้คนรอบๆ กายได้รับรู้และเข้าใจ กับข้อจำกัดทั้งทางกายและทางใจของคนท้องที่ย่อมไม่เหมือนคนปกติทั่วไป ในแต่ละวันคุณอาจต้องพบเจอเรื่องแย่ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อทั้งสุขภาพกายและใจที่อาจทำให้เสียน้ำตาได้ไม่มากก็น้อย ซึ่งถึงตรงนี้เชื่อว่ามีคุณแม่บางคนอยากบอกบางสิ่งที่อยู่ในใจให้คนรอบกายได้รับรู้ และรับรองได้ว่าไม่ได้มีแค่คุณคนเดียวแน่นอนค่ะ

เป็น คนท้อง มันไม่ง่าย! มีหลายอย่างที่อยากบอกให้โลกรู้ และเข้าใจ!

ช่วงเวลาของการตั้งครรภ์ แน่นอนว่ามันเป็นเวลาแห่งความสุขของคุณแม่ทุกคน การได้เฝ้ารอการมาถึงของทารกน้อยสมาชิกใหม่ของครอบครัวในแต่ละวันเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นและน่ายินดีเสมอ อย่างไรก็ตาม สำหรับคนท้องแล้ว เป็นธรรมดาที่อารมณ์แห่งความสุขมักไม่ได้เกิดขึ้นตลอดเวลา มันมีเรื่องราวมากมายให้ น่ากังวลใจ น่าเหนื่อยใจ น่าหงุดหงิด น่าน้อยใจ น่าอะไรต่อมิอะไรอีกมากมายที่เกิดขึ้นได้ในช่วงเวลาของการตั้งครรภ์ ตลอดระยะเวลา 9 เดือนที่ต้องอุ้มท้องเจ้าตัวเล็ก

อารมณ์ความรู้สึกของคนท้องนั้นถูกขับเคลื่อนด้วยระดับของฮอร์โมนในร่างกายที่แปรปรวนซึ่งทำให้อารมณ์ของคุณเปลี่ยนไปแบบขึ้นๆ ลงๆ ได้ คุณอาจเหวี่ยงวีนใครบางคนโดยไม่ได้ตั้งใจ คุณอาจหวั่นไหวกับคำพูดของใครบางคนได้แบบไม่น่าเชื่อ  คุณอาจร้องไห้ออกมาเองโดยไม่รู้ตัว และคงอยากบอกให้คนรอบๆ ข้างพูดกับคุณด้วยคำพูดที่มันน่าฟังไม่เป็นพิษต่อจิตใจ

แม้ว่าคุณจะเป็นคนที่มีอารมณ์อ่อนไหวโดยธรรมชาติอยู่แล้ว แต่คุณอาจสังเกตเห็นว่าตัวเองร้องไห้มากขึ้นในระหว่างตั้งครรภ์ หรือ ถ้าปกติแล้วคุณเป็นคนที่ไม่ค่อยหลั่งน้ำตาง่ายๆ น้ำตาที่หลั่งไหลออกมาอย่างควบคุมไม่ได้ อาจทำให้คุณรู้สึกประหลาดใจ เพราะอะไรคนท้องถึงหวั่นไหวหรือร้องไห้ได้ง่ายกว่าปกติ เรามาทำความเข้าใจคร่าวๆ ในประเด็นนี้กันก่อนค่ะ

ไตรมาสแรก : ผู้หญิงทุกคนอาจมีประสบการณ์ที่แตกต่างกันดังนั้นผู้หญิงบางคนอาจมีอารมณ์ที่อ่อนไหวหรือร้องไห้ได้บ่อยๆ ตลอดการตั้งครรภ์ ในขณะที่คนอื่นๆ อาจเป็นแค่ในช่วงไตรมาสแรกเท่านั้น อารมณ์ที่อ่อนไหว ร้องไห้ง่ายในช่วงไตรมาสแรกไม่ใช่เรื่องผิดปกติ เนื่องจากเป็นช่วงที่ฮอร์โมนในร่างกายของคนท้องนั้นหลั่งออกมาผิดปกติ ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนและฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนที่สูงขึ้นในช่วงไตรมาสแรกดูเหมือนจะเป็นสาเหตุของอารมณ์แปรปรวน ซึ่งสังเกตได้จากความหงุดหงิดและความเศร้าหมอง นอกจากนี้ การตั้งครรภ์นั้นถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิต และด้วยเหตุนี้ เมื่อรวมกับฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การร้องไห้ในช่วงไตรมาสแรกอาจเกิดจากอะไรก็ตาม ตั้งแต่ความสุขสุดขีดไปจนถึงความวิตกกังวลหรือความกลัวว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับทารก หรือแม้แต่คำพูดที่ไม่เข้าหูจากคนรอบข้าง เป็นต้น

ไตรมาสที่สองและสาม :  การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนสามารถดำเนินต่อไปได้ในช่วงไตรมาสที่ 2 และ 3  ดังนั้นช่วงเวลานี้ คนท้องจึงอาจมีอารมณ์อ่อนไหวได้เช่นกัน ร่างกายของคุณเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งสามารถเพิ่มระดับความวิตกกังวลได้ เป็นผลให้ผู้หญิงบางคนอาจรู้สึกถึงอารมณ์ที่ท่วมท้นได้มากขึ้นในไตรมาสที่สอง ถ้าเป็นเช่นนั้น ความเครียดและความผิดหวังตามปกติในชีวิตประจำวันก็อาจทำให้คุณร้องไห้ได้เช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อคุณใกล้ถึงกำหนดคลอด คุณก็อาจจะมีอะไรมากมายอยู่ในความคิดของคุณ คุณต้องเตรียมเลี้ยงลูกทารก เตรียมเรื่องการเงิน ที่สำคัญเมื่อนึกถึงการคลอดลูกอาจทำให้คุณรู้สึกตื่นตระหนก คุณกำลังจะมีความรับผิดชอบเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นท้องรแกหรือท้องสองหรือสามก็ตาม นี่อาจเป็นช่วงเวลาที่ค่อนข้างดราม่า และหากอารมณ์พุ่งสูงขึ้นน้ำตาก็อาจไหลออกมาได้ไม่รู้ตัว

ความจริงที่คนท้องต้องเจอ
ความจริงที่คนท้องต้องเจอ

สำหรับใครที่ไม่ได้ท้อง แล้วได้เข้ามาอ่านบทความนี้ ต่อไปเรามาดูอาการต่างๆ มากมาย ที่คนท้องต้องเผชิญระหว่างการอุ้มท้องค่ะ

หลากหลายอาการที่คนท้องต้องเผชิญตลอดการตั้งครรภ์

1. คนท้อง ต้องทรมานกับการแพ้ท้อง

อาการแพ้ท้อง คืออาการคลื่นไส้หรืออาเจียนระหว่างตั้งครรภ์ โดยส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นในช่วงไตรมาสแรก แม้ชื่อในภาษาอังกฤษจะบอกว่าเป็น” Morning Sickness” แต่อาการแพ้ท้องสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาทั้งกลางวันและกลางคืน แม้ว่าสตรีมีครรภ์ส่วนใหญ่จะมีอาการแพ้ท้องแค่ช่วงไตรมาสแรก แต่สำหรับผู้หญิงหลายๆ คนก็อาจจะมีอาการแพ้ท้องได้จนถึงช่วงไตรมาสที่ 2

2. คนท้อง ต้องทนทุกข์กับการปวดหลัง

ในระหว่างตั้งครรภ์ การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนทำให้เส้นเอ็นในร่างกายเกิดการคลายและยืดตัว เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการคลอด ซึ่งอาจส่งผลให้ข้อต่อของหลังส่วนล่าง และกระดูกเชิงกรานของคนท้องตึงมากผิดปกติ ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการปวดหลังได้ นอกจากนี้น้ำหนักของทารกที่กำลังเติบโตในท้องยังทำให้ส่วนโค้งของหลังส่วนล่างของคนท้องต้องรับน้ำหนักมากเป็นพิเศษ

3. คนท้อง มีปัญหาการขับถ่าย

ในระหว่างตั้งครรภ์ ผู้หญิงจำนวนมากประสบกับภาวะที่ไม่พึงประสงค์บางอย่าง เช่น มีอาการท้องผูกอย่างหนัก หรือต้องปัสสาวะบ่อยขึ้น กลั้นปัสสาวะไม่อยู่ และสิ่งที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นก็คือ ริดสีดวงทวาร

อ่านต่อ… เป็น คนท้อง มันไม่ง่าย! มีหลายอย่างที่อยากบอกให้โลกรู้ และเข้าใจ! คลิกหน้า 2

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

AgiAgi ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก

AgiAgi เปิดตัวผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก ผสานความใส่ใจจากคุณแม่ คัดสรรส่วนผสมที่อ่อนโยนที่สุดเพื่อลูกน้อย

Alternative Textaccount_circle
event
AgiAgi ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก
AgiAgi ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก

AgiAgi (อากิ อากิ) แบรนด์ที่เกิดจากความตั้งใจและพิถีพิถันของคุณแม่สองคน เอมมี่ – มรกต แสงทวีป และ บี – นนท์ทิพย์ ชลสายพันธ์ ที่ต้องการเลือกสรรผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกน้อย เพราะเข้าใจถึงความรู้สึกของคุณแม่มือใหม่ที่เต็มไปด้วยความกังวล ไม่ยอมเสี่ยงใช้ผลิตภัณฑ์อะไรก็ได้ และมองหาผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กที่มีความเป็นธรรมชาติ (Organic) จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ทั้งสองอยากส่งมอบสิ่งที่มั่นใจว่าดีสำหรับลูกน้อยให้คุณแม่ทุกคนได้อุ่นใจไปกับผลิตภัณฑ์ของอากิ อากิ

สำหรับคำว่า “Agi” มาจากภาษาเกาหลีที่แปลว่า เด็กทารก เมื่อออกเสียงซ้ำ ๆ แบบที่เด็ก ๆ ชอบพูดกัน จึงเป็นที่มาของชื่อ AgiAgi ตัวแทนของช่วงเวลาพิเศษของคุณแม่กับลูกน้อยที่อบอวลไปด้วยความรักและความผูกพัน

จากจุดเริ่มต้นจนกลายมาเป็นไอเดียในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กที่อ่อนโยนจากธรรมชาติ ผ่านขั้นตอนในการเลือกส่วนผสมที่ลงตัวที่สุด เพื่อใช้ดูแลความสะอาดให้กับลูกน้อย ปลอดภัยสำหรับทุกผิวสัมผัส เพราะผิวเด็กบอบบางกว่าผู้ใหญ่ถึง 5 เท่า และมาพร้อมกลิ่นหอมสดชื่นอ่อนโยนอย่างเป็นธรรมชาติ ตัวช่วยสำหรับคุณแม่มือใหม่ทุกคนในการดูแลลูกน้อยให้เติบโตอย่างมีความสุข

กว่าจะมาเป็นผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกที่ดีที่สุดเพื่อลูก ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แบรนด์ได้วิจัยและพัฒนาเพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและมาตรฐาน ผลิตภัณฑ์ทุกตัวผลิตจากโรงงานมาตรฐานระดับโลกที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กมานานกว่า 40 ปี

ผลิตภัณฑ์ของ AgiAgi มีสารสกัดที่โดดเด่นอย่าง Mango Extract เป็นสารสกัดจากกรดอินทรีย์ธรรมชาติ หรือ organic acid นิยมใช้เป็นสารทำความสะอาด (cleaning agent) ที่ทั้งอ่อนโยนแต่มีประสิทธิภาพในการกำจัดคราบต่าง ๆ บนเสื้อผ้าได้เป็นอย่างดี รวมถึงปราศจาก SLS, SLES, พาราเบน และสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อลูกน้อย จึงได้รับการรับรองจาก COSMOS (certificated in France) ซึ่งเป็น 1 ใน 2 มาตรฐานออร์แกนิกที่ได้รับความน่าเชื่อถือมากที่สุดของโลก

สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ AgiAgi จากสารสกัดธรรมชาติ มีสินค้า 5 ประเภท ประกอบด้วย

AgiAgi น้ำยาซักผ้า

1. น้ำยาซักผ้า (Baby Fabric Wash) Blossom my world ขนาด 750 ราคา 285 บาท ผลิตภัณฑ์น้ำยาซักผ้าเด็กที่อ่อนโยนต่อผิวลูกน้อย พร้อมทำความสะอาดและขจัดคราบล้ำลึกด้วยสารสกัดกรดอินทรีย์ธรรมชาติ จาก Mango Extract ล้างออกง่าย ลดการสะสมของแบคทีเรียที่เป็นต้นเหตุของผ้าเหม็นอับ

น้ำยาปรับผ้านุ่ม

2. น้ำยาปรับผ้านุ่ม (Baby fabric softener) Twinkle, Giggle, Cuddle star ขนาด 750 ราคา 285 บาท ผลิตภัณฑ์น้ำยาปรับผ้านุ่ม กลิ่นหอมผ่อนคลายจากธรรมชาติด้วยเทคโนโลยี VivaScentz ล็อคความหอมสดชื่นไว้ที่ใยผ้า โดยไม่ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวลูกน้อย พร้อมช่วยลดกลิ่นอับและกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ ด้วยส่วนผสมจาก Mango Extract อ่อนโยนต่อผิวสัมผัสของลูกน้อย

 Multi-Surface cleaner spray

3. สเปรย์ทำความสะอาดอเนกประสงค์ (Multi-Surface cleaner spray) A whole clean world ขนาด 500 ราคา 250 บาท สเปรย์ทำความสะอาดอเนกประสงค์ สำหรับทำความสะอาดทุกพื้นผิวสัมผัสได้ทันทีแบบไม่ต้องล้างออก มี pH balance อ่อนโยนและปลอดภัยในทุกการสัมผัส และสารสกัดกรดอินทรีย์ธรรมชาติจาก Mango Extract ที่ช่วยขจัดสิ่งสกปรกได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อากิ อากิ

4. น้ำยาล้างขวดนมและจุกนม (Baby bottle & Nipple liquid cleanser) Grow young together ขนาด 500 ราคา 275 บาท ผลิตภัณฑ์น้ำยาล้างขวดนมและจุกนม อ่อนโยนอย่างมีประสิทธิภาพ ล้างคราบโปรตีนและไขมันได้หมดจด ด้วย Mango Extract ที่มีประสิทธิภาพในการขจัดสิ่งสกปรก และอ่อนโยนต่อผิวสัมผัส ไม่ระคายเคืองขณะใช้งานไม่ทิ้งกลิ่นหลังล้าง ไม่มีสารตกค้าง

อากิ อากิ น้ำยาล้างผักผลไม้

5. น้ำยาล้างผักผลไม้ (Vegetable & Fruit & wash) Fruity. Wash. ขนาด 400 ml. ราคา 250 บาท น้ำยาสำหรับล้างผักผลไม้ให้สะอาดปลอดภัย ด้วยสารทำความสะอาด food grade ปลอดภัย ได้รับการรับรองจาก US FDA ไม่ทำให้ผักผลไม้เสียรสชาติ ยืดอายุให้เก็บได้นาน ไม่มีสารตกค้าง กำจัดจุลินทรีย์เชื้อรา สิ่งสกปรกและแว็กซ์เคลือบผลไม้

สุดท้ายนี้สำหรับคุณแม่ทั้งมือใหม่ มือเก่า ผลิตภัณฑ์ของ AgiAgi จะคอยอยู่เคียงข้างเพื่อช่วยดูแลทุกโมเมนต์พิเศษของครอบครัว เพราะเราสร้างสรรค์ AgiAgi ขึ้นมาเพื่อให้ทุกวินาทีเป็นช่วงเวลาคุณภาพของครอบครัวอย่างแท้จริง

ผลิตภัณฑ์ AgiAgi มีจำหน่ายทางช่องทางออนไลน์แล้วที่ Line Official: @agiagi.baby,
Official Store บนLazada: https://www.lazada.co.th/shop/agi-agi-baby และLine Shopping: https://shop.line.me/@agiagi.baby ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ http://www.agiagi.baby/# และ Facebook/ Instagram : agiagi.baby 

 

Gen y Alpha Gen

ความท้าทายของพ่อแม่ Gen y ในการเลี้ยงดูลูก Alpha Gen

Alternative Textaccount_circle
event
Gen y Alpha Gen
Gen y Alpha Gen

Gen y กับการเป็นพ่อแม่ที่มีลูกใน Alpha Gen จะเป็นอย่างไร เมื่อความแตกต่างระหว่างวัยมีมาก มาฟังคำแนะนำแนวทางการเลี้ยงเด็กยุคนี้จากคุณหมอกัน

ความท้าทายของพ่อแม่ Gen y ในการเลี้ยงดูลูก Alpha Gen!!

การแบ่งกลุ่มประชากรตามแนวคิดนักเศรษฐศาสตร์ แบ่งประชากรออกเป็น 4 กลุ่ม โดยใช้อายุเป็นเครื่องมือในการแบ่งกลุ่ม ได้แก่

  1. Baby Boomer หรืออีกนัยหนึ่งคือ กลุ่มผู้สูงวัย ซึ่งได้แก่ กลุ่มคนที่มีอายุระหว่าง 54-72 ปี
  2. Gen X ซึ่งได้แก่ กลุ่มคนที่มีอายุระหว่าง 38-53 ปี
  3. Generation Y อายุระหว่าง 21-37 ปี
  4. Gen Z อายุระหว่าง 8-20 ปี

โดยแต่ละกลุ่ม ในแนวคิดทางเศรษฐศาสตร์ว่าด้วยเรื่องผู้ซื้อผู้ขาย มีพฤติกรรมการแตกต่างกัน การทำความเข้าใจแต่ละกลุ่มจะทำให้สามารถลดช่องว่างในการสื่อสาร ขณะเดียวกันโลกยุคนี้เป็นยุคที่ประกอบไปด้วยกลุ่ม เจน y ซึ่งถือเป็นประชากรกลุ่มใหญ่ที่ทั่วโลกต่างให้ความสำคัญ

Gen y กับการเป็นพ่อแม่
Gen y กับการเป็นพ่อแม่

ทำความรู้จัก คนGen y!!

เนื่องจากว่า gen y เป็นกลุ่มประชากรที่อยู่ในวัยสำคัญต่อการพัฒนาประเทศ ดังนั้น สำนักงานคณะกรรมการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สศช. จึงได้ร่วมกับบริษัทศูนย์วิจัยเพื่อการพัฒนาสังคมและธุรกิจ (SAB) ศึกษาทัศนคติและปัจจัยด้านเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทย ปี พ.ศ. 2561 ที่ผ่านมา โดยข้อสรุปตอนหนึ่งคือ กลุ่มประชากรเจนเนอเรชั่นวาย คือผู้ที่เกิดในช่วงปี พ.ศ. 2523–2543 หรือมีอายุ ระหว่าง 18 ถึง 38 ปี (ณ ปี พ.ศ. 2561) โดยสำรวจเชิงปริมาณ จำนวน 3,734 ตัวอย่าง ในช่วงระหว่างวันที่ 24 มิถุนายน ถึง 31 สิงหาคม 2561 ในพื้นที่ 12 จังหวัด17 และสัมภาษณ์เชิงลึก พบว่า

“ทัศนคติ ปัจจัยและเงื่อนไข การสร้างครอบครัว และแนวทางการดำเนินชีวิตนั้นแตกต่างจากคนรุ่นก่อนอย่างชัดเจน คือ มีความทะเยอทะยาน ความมุ่งมั่นต่อความสำเร็จ และความก้าวหน้าในอาชีพ ต้องการรูปแบบชีวิตที่มีความยืดหยุ่น ต้องการการดำเนินชีวิตที่ท้าทายแสวงหาโอกาสในการทำงาน หรือเดินทางท่องเที่ยวในต่างประเทศ รวมถึงมีความเป็นปัจเจกบุคคลสูง ขณะเดียวกันมีแนวคิดที่ยอมรับการเป็นคู่รักเพศเดียวกันเพิ่มมากขึ้น ซึ่งอาจมีผลต่อการสร้างครอบครัวและการมีบุตร”

ขณะเดียวกัน ข้อมูลพื้นฐานครอบครัว และแนวทางการสร้างครอบครัวของคน เจนวาย พบว่า ประมาณร้อยละ 29.4 เติบโตมาแบบไม่พร้อมหน้าพ่อ แม่ บุตร และกลุ่มที่มีครอบครัวแล้ว พบว่า ร้อยละ 69.9 ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันก่อนตัดสินใจแต่งงานเฉลี่ย 2 ปี ขณะที่แนวทางการสร้างครอบครัว พบว่า ลดความสำคัญของข้อผูกมัดทางกฎหมายและพิธีการ โดยร้อยละ 42.9 ไม่ให้ความสำคัญกับการจดทะเบียน ร้อยละ 27.0 ไม่ให้ความสำคัญกับการแต่งงาน

Alpha Gen!! เจนนี้มีเทรนด์แบบไหน??

ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับ Alpha Generation หรือเรียกกันสั้นๆ ว่า Alpha Gen กันก่อน เด็ก Alpha Gen ก็คือเด็กที่เกิดในปี ค.ศ. 2010 – 2024 หรือก็คือพ.ศ. 2553 – 2567 ลักษณะเด่นคือ ชีวิตค่อนข้างสบาย เพราะพ่อแม่ คือ คนเจน y มีความรู้ มีงาน มีเงิน เรียกได้ว่าเกิดมาคู่กับความพร้อมในหลาย ๆ ด้านนั่นเอง เด็ก ๆ รุ่นนี้มีข้อได้เปรียบกว่าคนรุ่นก่อน ๆ ตรงที่ชีวิตไม่ต้องดิ้นรนมาก มีพร้อมอยู่แล้วทั้งเงิน เทคโนโลยี การแพทย์ที่พัฒนา การศึกษาที่ทันสมัยจุดเด่นอีกอย่างของคนเจนนี้ คือ ความสามารถในการปรับตัวได้เร็ว เพราะโลกในปัจจุบันของคนเจนนี้เปลี่ยนเร็วมาก แต่ข้อเสียก็คือ มีแนวโน้มเป็นคนวัตถุนิยม เบื่อง่ายและความอดทนต่ำ นิยมความรวดเร็วทันใจ จึงมักมองหาสูตรความสำเร็จที่จะทำให้ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อยแต่แนวโน้มทางด้านสุขภาพของเด็กยุคนี้

ด้วยความที่เป็นโลกแห่งความรวดเร็ว หากการดูแล เลี้ยงดูของเด็กไม่ได้รับความใส่ใจมากพอ ปล่อยไปกับสภาพแวดล้อมรอบตัวมากเกินไป มักจะพบว่า เด็กรุ่น Alpha Gen มีแนวโน้มเสี่ยงต่อการเป็นโรคสมาธิสั้น Attention-deficit/hyperactivity disorder (ADHD)โรคออทิสติกเทียม และโรคต่อต้านสังคม (Antisocial) รู้แบบนี้แล้ว พ่อแม่โดยเฉพาะพ่อแม่คนเจน y ที่ให้ความสำคัญกับแนวทางใหม่ ๆ ในการเลี้ยงดูลูก คงเริ่มเกิดคำถามขึ้นในใจแล้วว่า แบบนี้เราควรเลี้ยงดูลูก Alpha Gen อย่างไรให้ห่างไกลความเสี่ยงเหล่านี้ ในขณะที่ชีวิตรายล้อมไปด้วยเทคโนโลยีที่เป็นต้นเหตุให้เกิดโรค

สิ่งที่พ่อแม่ควรรู้ เมื่อมีลูก Alpha Gen!!

1. เป็นเจนเนอเรชั่นที่ทุกคนมีการศึกษาเป็นพื้นฐาน

แม้ว่าในตอนนี้พวกเขาส่วนใหญ่จะยังอยู่ในวัยเด็ก แต่เมื่อถึงวัย Generation Alpha พวกเขาจะเป็น Generation ที่มีการศึกษามากที่สุด พวกเขาจะเติบโตขึ้นและเรียนรู้โลกมากขึ้นเรื่อยๆ มากกว่ารุ่นก่อนๆ ทั้งหมด สิ่งนี้ยังเปลี่ยนธรรมชาติของการศึกษาระดับอุดมศึกษาเนื่องจากทำให้ความคาดหวังของสถาบันแตกต่างไปอย่างมาก

2. พวกเขาเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี

พ่อแม่ของพวกเขาอาจเป็นคนแรกที่เกิดมาในโลกดิจิทัล แต่ Gen Alpha จะเป็นคนที่ปรับให้เทคโนโลยี และความล้ำสมัยเหล่านั้นมาใช้ได้จริง และกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของพวกเขา อันที่จริง Alpha Gen และเทคโนโลยีเชื่อมโยงกันมากจนประมาณว่าเมื่ออายุได้ 8 ขวบ พวกเขาจะแซงหน้าพ่อแม่ของพวกเขาในด้านทักษะด้านเทคโนโลยี พวกเขาจะไม่มีวันรู้จักโลกที่ปราศจากอินเทอร์เน็ต เทคโนโลยีอันชาญฉลาด และโลกเสมือน

สิ่งที่พ่อแม่ต้องรู้ เมื่อมีลูก Alpha Gen
สิ่งที่พ่อแม่ต้องรู้ เมื่อมีลูก Alpha Gen

3. AI คือความจริงของพวกเขา

เป็นไปไม่ได้ที่คนรุ่นก่อนจะจินตนาการถึงผลกระทบของ Siri, Alexa และ Google Assistant ในชีวิตและที่บ้านของพวกเขา สำหรับ Gen Alpha แล้ว  Ai จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตของพวกเขาโดยธรรมชาติ นอกจากนี้ข้อมูลอันมหาศาล (Big Data)จะเข้ามามีส่วนในการตัดสินใจของพวกเขาในทุกการตัดสินใจ

4. การเรียนรู้ของพวกเขามีความเฉพาะตัวสูง

Gen Alphas คุ้นเคยกับการเข้าถึงข้อมูลในทันที ซึ่งทำให้การเรียนรู้แบบเก่าพวกเขาจะรู้สึกว่าล้าสมัย และช้าไม่ทันใจ เด็กยุคนี้สามารถเรียนรู้ได้ในทุกที่ การเรียนรู้ออนไลน์ และสื่อต่าง ๆ ช่วยอำนวยความสะดวกในแนวทางการศึกษาของพวกเขา

5. การปฎิสัมพันธ์ระหว่างกัน มักอยู่ในโซเซียลมีเดีย

Gen Alphas จะโต้ตอบกับเพื่อน ๆ และคนรอบข้างส่วนใหญ่ผ่านโซเชียลมีเดียและเชื่อมต่อกันตลอดทั้งวัน ทำให้เป็นสิ่งที่พ่อแม่กังวลว่าจะเกิดการบุลลี่ กลั่นแกล้งกันทางออนไลน์ พวกเขาจะให้ความสำคัญกับการกดไลค์ในโซเซียลมีเดียค่อนข้างมาก แต่แม้ว่าสิ่งเหล่านี้จะเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตเด็กยุคนี้มากแค่ไหน แต่พวกเขาจำเป็นต้องได้รับการสอนถึงความสำคัญของการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคล เพื่อลดการบุลลี่กันลงได้

6. พวกเขาไม่ชอบแบ่งปัน หรือใช้ของร่วมกัน

เจเนอเรชั่นอัลฟ่าไม่ชอบแบ่งปันมากเกินไป ต่างจากเจเนอเรชั่นก่อนๆ การใช้ข้าวของเครื่องใช้ของเด็กยุคนี้จะเป็นคนใครของมัน ไม่ได้ใช้ร่วมกัน อาจเป็นเพราะต้องมีการลงทะเบียน ยืนยันตัวตนกับข้าวของเครื่องใช้ในปัจจุบัน เช่น สมาร์ทโฟน สมาร์ททีวี เป็นต้น

สิ่งควรรู้เมื่อคุณมีลูก Alpha Gen!!

7.ไม่เล่นตามกฎ

หมดเวลาเล่นเกมกระดานและระบายสีระหว่างบรรทัดแล้ว Gen Alphas ไม่สามารถถูกจำกัดด้วยกฎเหมือนรุ่นก่อน พลังงานของพวกเขานั้นยากที่จะควบคุมได้ เนื่องจากโลกดิจิทัลของพวกเขาทำให้พวกเขาได้สัมผัสกับมุมมองมากมายที่ไม่รู้จบ พวกเขาจึงมองว่าเป็นเรื่องปกติในการหาวิธีลัดที่จะเอาชนะ

8. ศาสนาไม่ใช่เครื่องยึดเหนี่ยว

Gen Alpha จำนวนมากโดยธรรมชาติมักจะต่อต้าน เป็นการยากที่จะชักชวนให้พวกเขาเข้าสู่ศาสนาหรือระบบความเชื่อ เนื่องจากพวกเขามีแนวโน้มที่จะหลุดพ้นจากโครงสร้างที่มีอยู่ แม้ว่าคุณจะประสบความสำเร็จในการทำให้พวกเขายอมรับระบบความเชื่อตั้งแต่อายุยังน้อย ในไม่ช้าพวกเขาจะเติบโตและเริ่มมีแนวทางของตัวเอง

อัลฟ่าเจน โตมากับเทคโนโลยี
อัลฟ่าเจน โตมากับเทคโนโลยี

9. พวกเขาเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

ต่างจากรุ่นที่คาดการณ์ได้ก่อนหน้านี้ นักการตลาดมีปัญหาหนักใจเมื่อกำหนดเป้าหมายไปที่ Gen Alpha เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา พวกเขามีแนวโน้มที่จะเป็นปัจเจกมากกว่าและด้วยเหตุนี้จึงไม่ตกอยู่ในกลุ่มคนที่มีอำนาจเหนือกว่า ดังนั้น เมื่อคุณคิดหาข้อสรุปทำนายพฤติกรรมของพวกเขา พวกเขาก็เปลี่ยนไปอีกเสียแล้ว

10. วัยเด็กของพวกเขาแตกต่างกันมาก

Gen Alpha ต่างจากพ่อแม่รุ่นมิลเลนเนียลที่ชอบเล่นกลางแจ้งและใช้เวลาเพื่อความสนุกอย่างไม่รีบร้อน แต่พวกเขาอาศัยอยู่ในโลกแห่งการแข่งขัน ด้วยความที่โลกแคบลงจากเทคโนโลยี ทำให้เป้าหมาย และความสำเร็จของคนรอบตัวมีแตกต่างกันมาก เพิ่มแรงกดดันในพวกเขาต้องกระตุ้นตัวเองให้พัฒนาขึ้นตลอดเวลา ต้องใช้เวลาในการทำกิจกรรมนอกหลักสูตรเพื่อความเป็นเลิศ แม้ว่าวิธีนี้จะได้ผลสำหรับบางคน แต่หลายคนอาจรู้สึกเครียดและวิตกกังวล

11. อาหารของพวกเขา

คาร์โบไฮเดรต ไขมัน และไดอารี่ออร์แกนิกจะเป็นส่วนใหญ่ของสิ่งที่พวกเขาชอบที่จะดื่มด่ำเพราะพวกเขาต้องการพลังงานทั้งหมดที่พวกเขาจะได้รับ Gen Alphas ส่วนใหญ่มักติดพาสต้า มักกะโรนีและชีส และซีเรียล อาหารที่มาพร้อมกับไขมันอิ่มตัว แม้ว่าจะถือว่าไม่ดีต่อสุขภาพ แต่ Generation ของพวกเขาก็ยังคงมีอายุขัยเฉลี่ยมากกว่ารุ่นก่อน ๆ

การเลี้ยงดูเด็ก Alpha Gen!!

ต่อข้อคำถาม และความกังวลใจทั้งหลายว่าควรเลี้ยงดูลูก Alpha Gen อย่างไรให้ห่างไกลความเสี่ยงจากโรคทางใจ ให้มีสุขภาพจิตที่ดี มาร่วมหาคำตอบจากข้อแนะนำในการเลี้ยงเด็ก Alpha Gen ของ รศ. นพ.สุริยเดว ทรีปาตี จากสถาบันแห่งชาติ เพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล ที่ได้ให้แนวทางในการเลี้ยงดูไว้เป็นขอบเขต ซึ่งมีทั้งหมด 5 แนวทางด้วยกัน ดังนี้

1. เป็นนักคิดสร้างสรรค์เพื่อเพิ่มศักยภาพใหม่ๆ ให้กับลูก

ฝึกให้เด็กคิดและวิเคราะห์โดยเริ่มจากการชวนกันตั้งคำถาม ข้อสังเกต ให้เด็กรู้จักวิธีแก้ปัญหา ได้ฝึกคิดอย่างมีวิจารณญาณไตร่ตรอง ฝึกให้ลูกคิดว่าเรื่องที่ได้ฟัง ได้เห็น ได้รู้นั้นเป็นข้อเท็จจริงหรือไม่ สมควรเชื่อถือหรือไม่

2. เพิ่มเติมความรู้ในโลกความเป็นจริงแทนความเพ้อฝัน

สนับสนุนให้ลูกคิดในสิ่งที่เป็นไปได้ ทำได้โดยพ่อแม่ต้องสื่อสารกับลูกด้วยเหตุผล ฝึกลูกให้คิดเป็น เพื่อให้เขาสามารถใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุขและปลอดภัย รู้จักคิด ตัดสินใจ วางแผน และแก้ไขปัญหาได้อย่างถูกต้อง รู้เท่าทันคน

ความท้าทายของพ่อแม่ Gen y
ความท้าทายของพ่อแม่ Gen y

3. ส่งเสริมสภาพอารมณ์ สังคม จิตสำนึก คุณธรรม จริยธรรม

สิ่งสำคัญพ่อแม่ต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้ลูกเห็น ใช้วิธีการสอนด้วยความรักและสัมพันธภาพที่ดี จะทำให้เด็กค่อยๆ ซึมซับเอาแบบอย่างที่ดีนั้นมาปฏิบัติตามจนเกิดเป็นนิสัย

4. พ่อแม่ต้องเป็นผู้ฟังที่ดีด้วยการเปิดใจรับฟังลูก

โดยพ่อแม่สามารถสังเกตทัศนคติ มุมมอง ความคิดของลูกได้ และใช้วิธีการพูดคุย แลกเปลี่ยน สั่งสอน ปลูกฝังสิ่งที่ดีต่างๆ เพื่อเขาจะได้เกิดวิธีคิดที่ดีและถูกต้อง

5. การเลือกรับสื่อให้เด็กอย่างสร้างสรรค์

พ่อแม่ควรใช้สื่อให้สร้างสรรค์ คิดให้เท่าทันสื่อ ให้คำแนะนำในเชิงสร้างสรรค์ เพื่อพัฒนาศักยภาพของเด็ก และร่วมกันหาทางรับมือกับสิ่งใหม่ๆ ที่เข้ามา

ข้อมูลอ้างอิงจาก https://parenting.firstcry.com/https://www.istrong.co/https://dmh.go.th

อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

นิทานสอนใจ สอนทักษะชีวิตให้ลูกผ่านตัวหนังสือ

รักวัวให้ผูกรักลูกให้ตี เป็นภัยต่อพัฒนาการลูกลงโทษแบบไหนถึงดี

GEN ME!!Genที่ หลงตัวเอง คุณกำลังเลี้ยงลูกให้เป็นอยู่หรือเปล่า

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

อัลตร้าซาวด์ 4 มิติ

อัลตร้าซาวด์ 4 มิติ คืออะไร ทำที่ไหน ราคาเท่าไหร่

Alternative Textaccount_circle
event
อัลตร้าซาวด์ 4 มิติ
อัลตร้าซาวด์ 4 มิติ

คุณพ่อคุณแม่ทุกท่านคงอยากทราบว่าลูกในครรภ์จะสมบูรณ์ดีไหม มีพัฒนาการอย่างไร แค่คิดว่าจะได้เห็นรอยยิ้มของลูกเป็นครั้งแรกก็รู้สึกตื่นเต้น ตื้นตันแล้ว ซึ่งการตรวจอัลตร้าซาวด์ 4 มิติ จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่เห็นภาพเหล่านี้ได้ ก่อนที่ลูกน้อยจะออกมาลืมตาดูโลกภายนอก แต่ก่อนที่จะไปทำการตรวจอัลตราซาวด์แบบ 4 มิติ เรามาทำความรู้จักกับการตรวจอัลตร้าซาวด์ 4 มิติ ว่าสามารถบอกอะไรได้บ้าง ทำให้เราทราบรายละเอียดอะไรเกี่ยวกับลูกได้บ้าง ควรทำช่วงไหน ปลอดภัยหรือเปล่า หรือช่วงเวลาไหนที่เราสามารถอัลตร้าซาวด์ 4 มิติได้ วันนี้ทีมกองบรรณาธิการได้นำข้อมูล อัลตร้าซาวด์ 4 มิติ มาฝากคุณพ่อคุณแม่ให้ได้ศึกษาเตรียมพร้อมล่วงหน้ากัน

อัลตร้าซาวด์ 4 มิติ คืออะไร ทำที่ไหน ราคาเท่าไหร่

อัลตร้าซาวด์ 4 มิติ คืออะไร 

อัลตร้าซาวด์ 4 มิติ คือ การตรวจอัลตร้าซาวด์ชนิดหนึ่งที่จะทำให้เห็นสิ่งต่าง ๆ ภายในช่องท้องได้คล้ายจริงมากที่สุด โดยเมื่อเราทำการอัลตร้าซาวด์เราจะเห็นเป็นภาพเรียงต่อ ๆ กันเป็นภาพเคลื่อนไหว และสิ่งที่เราเห็นอยู่ในขณะนั้นจะเป็นภาพที่เกิดขึ้นจริง ณ ขณะนั้นหรือที่มักเรียกกันว่า Real time นั่นเอง

การทำงานของเครื่องอัลตร้าซาวด์ 4 มิติส่วนใหญ่คือการส่งคลื่นเสียงไปบริเวณท้องของคุณแม่ เมื่อไหร่ที่เราส่งคลื่นเสียงตัวนี้เข้าไปบริเวณท้อง คลื่นเสียงตัวนี้ก็จะส่งไปยังบริเวณมดลูกต่อ ทำให้ลูกของเรามีการเคลื่อนไหว หรือมีการตอบสนองต่อคลื่นเสียงชนิดนี้ และการตอบสนองหรือพฤติกรรมต่าง ๆ ของลูกเราก็จะสะท้อนกลับมายังเครื่องตรวจตัวนี้ พร้อมกับแสดงให้เราเห็นเป็นภาพเสมือนจริงมากที่สุด และสิ่งนี้ก็จะทำให้คุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ คนเห็นการเคลื่อนไหวของลูกมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นรอยยิ้ม การหาว หรือพฤติกรรมต่าง ๆ ของลูกในครรภ์

 

ควรทำอัลตร้าซาวด์ 4 มิติ ในช่วงไหนดีที่สุด

ในช่วงของการตั้งท้อง ก่อนที่เราจะทำการอัลตร้าซาวด์ เราอาจจะต้องศึกษารายละเอียด ให้ดีก่อนว่าอายุครรภ์ช่วงไหน เหมาะแก่การอัลตร้าซาวด์ 4 มิติมากที่สุด เพราะถ้ารู้ว่าตัวเองตั้งท้อง แต่อายุครรภ์เรายังไม่ได้มาก สิ่งนี้ก็อาจจะทำให้มองเห็นพัฒนาการของเขาได้ยาก ส่วนใครที่อยากจะรู้ว่าลูกของเราเป็นเพศหญิงหรือเพศชาย เราก็อาจจะทำการอัลตร้าซาวด์ได้ตั้งแต่ช่วงอายุครรภ์ประมาณ 19 – 24 สัปดาห์ หรือหากใครที่อยากจะทำการอัลตราซาวด์ 4 มิติ ก็อาจจะต้องรอให้อายุครรภ์ประมาณ 27 – 32 สัปดาห์ก่อนดีที่สุด หรือบางคนก็อาจจะตรวจอัลตร้าซาวด์ในช่วงอายุครรภ์ประมาณ 26 – 30 สัปดาห์ได้ ซึ่งกรณีต่างๆ เหล่านี้เราอาจจะต้องปรึกษาคุณหมอ และควรศึกษาให้ละเอียดรอบคอบก่อน

 

การทำอัลตร้าซาวด์ 4 มิติ บอกอะไรได้บ้าง

  1. บอกเพศของลูก

แน่นอนว่าการอัลตร้าซาวด์สามารถมองเห็นอวัยวะภายนอกร่างกายลูก ทำให้เราสามารถเห็นอวัยวะเพศของลูกได้อีกด้วย ทำให้มราบเพศของลูกน้อย

  1. พัฒนาการของลูก

เป็นอีกหนึ่งข้อที่ทำเอาคุณพ่อคุณแม่หลายคนต้องแอบกังวลใจอยู่บ่อย ๆ เพราะทุกครั้งของการอัลตร้าซาวด์เราจะได้เห็นพัฒนาการของลูกว่า ลูกมีการเจริญเติบโตที่ดีไหม หรือมีความผิดปกติอะไรหรือเปล่า

  1. โครงสร้างกะโหลกศรีษะและสมองของลูก

การอัลตร้าซาวด์ 4 มิติ สิ่งนี้ก็จะทำให้เราเห็นได้ว่าโครงสร้างบริเวณกะโหลกหรือสมองของลูกเราปกติดีไหม หรือมีอวัยวะส่วนไหนที่ผิดปกติไปหรือไม่

  1. ตำแหน่งของลูก

อีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่เราจะได้เห็นตอนอัลตร้าซาวด์ นั่นคือตำแหน่งของลูก เราจะได้เห็นว่าช่วงที่เราตั้งท้องในช่วงอายุครรภ์แต่ละสัปดาห์ ตำแหน่งของลูกเราอยู่ตรงส่วนไหนของบริเวณท้อง และนอกจากตำแหน่งแล้ว สิ่งนี้ยังจะทำให้เราเห็นสายสะดือและปริมาณน้ำคร่ำในท้องอีกด้วย

  1. อวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย

ทุกครั้งของการอัลตร้าซาวด์เราจะสามารถเห็นได้ว่าอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายของลูกเรานั้นเป็นอย่างไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็นแขน ขา มือ เท้า นิ้ว และบริเวณใบหน้า คุณพ่อคุณแม่ก็สามารถมองเห็นสิ่งเหล่านี้ได้

  1. ระบบหัวใจและการไหลเวียนเลือด

นอกจากสิ่งต่าง ๆ ที่เราได้เห็นเกี่ยวกับลูกแล้ว การอัลตร้าซาวด์ 4 มิติ ก็ยังสามารถทำให้เราเห็นระบบหัวใจและการไหลเวียนเลือดของลูกได้ด้วย ซึ่งสิ่งนี้ถือเป็นเรื่องที่ดีมาก ๆ เพราะถ้าเมื่อไหร่ที่ระบบต่างๆ เหล่านี้มีการทำงานที่ผิดปกติไป หมอก็จะได้ทำการรักษา หรือมีวิธีการรับมือลูกของเราได้ทันเวลา

  1. อัตราการเจริญเติบโตของลูก

อีกหนึ่งอย่างที่จะทำให้คุณพ่อคุณแม่ได้ทราบกันนั่นคืออัตราการเจริญเติบโตของลูก รวมถึงขนาดรอบศรีษะ ความยาวและน้ำหนักตัวของลูกตามไปด้วย และสิ่งนี้ก็อาจจะบอกเราได้ว่า ลูกของเราเจริญเติบโตตามเกณฑ์หรือไม่

 

การทำอัลตร้าซาวด์ 4 มิติ ปลอดภัยหรือไม่

ผลจากการวิจัยยังไม่พบว่าการที่คุณแม่ทำการอัลตร้าซาวด์ 4 มิติ จะส่งผลอันตรายต่อลูก หากเราอยู่ในความดูแลของคุณหมอ และตรวจในช่วงอายุครรภ์ที่เหมาะสม และที่สำคัญเราอาจจะเว้นการตรวจอัลตร้าซาวด์ไว้สักระยะ ไม่ควรที่จะตรวจติดต่อกันบ่อยจนเกินไป เพราะถ้าเราตรวจบ่อยมาก ๆ สิ่งนี้ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อลูกในท้องได้เช่นกัน ดังนั้นทุกครั้งของการตรวจเราอาจจะต้องสอบถามและขอคำแนะนำจากคุณหมอก่อน เพื่อความปลอดภัยของลูกเราด้วย

เมื่อทราบถึงข้อดีของการอัลตร้าซาวด์ 4 มิติกันแล้ว ทีมกองบรรณาธิการก็รวบรวมข้อมูลสถานที่รับตรวจอัลตร้าซาวด์ 4 มิติ ไว้ให้คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ได้นำไปศึกษาเตียมพร้อมก่อนการตัดสินใจว่าจะเลือกไปตรวจที่ใดหรือมีที่ใกล้บ้านหรือไม่ เพื่อเป็นตัวเลือกให้ได้ลองเลือกใช้บริการค่ะ

 

  1. โรงพยาบาลนนทเวช

การตรวจอัลตร้าซาวด์ 4 มิติ ช่วงอายุครรภ์ที่จะให้ภาพได้ดีที่สุดจะอยู่ในช่วงอายุครรภ์ 24-28 สัปดาห์ ตรวจโดยแพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์มารดาและทารกในครรภ์ ราคาตรวจอัลตร้าซาวด์ 4 มิติ 3,500 บาท พร้อมรับรูปและแผ่น CD สนใจติดต่อสอบถามโทร 0-2596-7901 ศูนย์สุขภาพสตรีชั้น 4

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม https://www.nonthavej.co.th/

อัลตร้าซาวด์ 4 มิติ

ขอบคุณภาพจาก https://www.nonthavej.co.th/

 

  1. โรงพยาบาลเปาโล พระประแดง

โปรแกรมตรวจอัลตร้าซาวด์ 4 มิติ พร้อมอัลตร้าซาวด์ 2 มิติ  (4D 1 ครั้ง / 2D 2 ครั้ง) ราคา 4,900 บาท โปรแกรมตรวจสุขภาพรวมค่าแพทย์และค่าบริการแล้ว คิดอัตราค่าบริการตามจริงสามารถเข้ารับบริการได้ภายในวันนี้ – 31 ธันวาคม 2566 สนใจติดต่อสอบถามโทร 0-2818-9000 แผนกสูตินรีเวช

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม https://www.paolohospital.com/th-TH/center

ultrasound 4D

ขอบคุณภาพจาก https://www.paolohospital.com/th-TH/center

 

  1. โรงพยาบาลธนบุรี 2

แพ็กเกจตรวจอัลตร้าซาวด์ 4 มิติ ราคา 3,900 บาท (จากปกติราคา 5,290 บาท) พิเศษเฉพาะคุณแม่ที่ฝากครรภ์กับโรงพยาบาลธนบุรี2 รับ Gift Voucher ส่วนลด มูลค่า 500 บาท เมื่อซื้อแพ็กเกจตรวจอัลตร้าซาวด์ 4D (จากปกติ 3,900 บาท) สามารถเข้ารับการตรวจได้ตั้งแต่วันนี้จนถึง วันที่ 30 ธันวาคม 2565 พร้อมรับ CD และภาพถ่ายจากการทำอัลตร้าซาวด์ 4 มิติ สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ คลินิกสูติ-นรีเวช โทร. 02 487 2100 ต่อ 5247, 5248

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม https://www.thonburi2hospital.com/

อัลตร้าซาวด์ 4 มิติ

ขอบคุณภาพจาก https://www.thonburi2hospital.com/

 

  1. โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท

แพ็กเกจตรวจอัลตร้าซาวด์ 4 มิติ ราคา 3,000 บาท ยังไม่รวมค่าบริการทางการแพทย์ประมาณ 1,000-3,000 บาท (ขึ้นอยู่กับแพทย์) และค่าบริการจากโรงพยาบาล 300 บาท มีรูปภาพจากการอัลตร้าซาวด์ใส่ CD และภาพถ่ายจากการทำอัลตร้าซาวด์ 4 มิติ สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ศุนย์สุขภาพสตรี โทร 0-2022-2555-6

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม https://www.samitivejhospitals.com/th

ultrasound 4D

ขอบคุณภาพจาก https://www.samitivejhospitals.com/th

 

  1. โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์

แพ็กเกจตรวจอัลตร้าซาวด์ 4 มิติ ราคา 5,000 บาท ไม่รวมค่าบริการทางการแพทย์เริ่มต้น 500 บาท(ขึ้นอยู่กับแพทย์) และค่าบริการจากโรงพยาบาล 270 บาท/ครั้ง มีรูปภาพจากการอัลตร้าซาวด์ใส่ CD สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ศูนย์สูติ-นรีเวช โทร 0-2066-8888 และ 063-189-3406

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม https://www.bumrungrad.com/th

ultrasound 4D

ขอบคุณภาพจาก https://www.bumrungrad.com/th

 

อ่านต่อ.. อัลตร้าซาวด์ 4 มิติ คืออะไร ทำที่ไหน ราคาเท่าไหร่ ..ได้ที่หน้า 2

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

ยาสีฟัน ยาสีฟันสำหรับเด็ก

ช้าก่อนแม่!บีบ ยาสีฟัน ให้ลูกเท่าเม็ดถั่ว เช็กให้ดีถั่วไหนแน่

Alternative Textaccount_circle
event
ยาสีฟัน ยาสีฟันสำหรับเด็ก
ยาสีฟัน ยาสีฟันสำหรับเด็ก

ยาสีฟัน สำหรับเด็กสำคัญนะแม่จ๋า! ลูกจะมีสุขภาพฟันที่ดี พ่อแม่ควรใส่ใจ เลือกยาสีฟันให้เหมาะ ปริมาณยาสีฟันเท่าเม็ดถั่วที่แนะนำนั้นขนาดไหนแน่นะ

ช้าก่อนแม่!บีบ ยาสีฟัน ให้ลูกเท่าเม็ดถั่ว เช็กให้ดีถั่วไหนแน่

สุขภาพช่องปากของลูกน้อยเป็นสิ่งสำคัญ พ่อแม่ควรให้ความใส่ใจและดูแลฟันของลูกให้ดี เพราะจุดเริ่มต้นของสุขภาพกายที่ดี เริ่มที่ช่องปาก หากลูกฟันผุ หรือมีปัญหาสุขภาพฟัน จะทำให้เขามีปัญหาด้านการกิน การรับประทานอาหารได้ ซึ่งนั่นย่อมส่งผลต่อปัญหาสุขภาพตามมาเช่นกัน การมีฟันน้ำนมผุ เด็กจะปวดฟัน เคี้ยวอาหารไม่ได้ ร่างกายจะได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วน ส่งผลต่อการเจริญเติบโต อีกทั้งอาการปวดฟันยังส่งผลต่อการนอนหลับและการเรียนรู้ สิ่งเหล่านี้ล้วนกระทบต่อคุณภาพชีวิตของเด็กตัวเล็กๆ สามารถขัดขวางพัฒนาการทางร่างกาย อารมณ์และสติปัญญาได้

จากการสำรวจสถานการณ์ฟันผุในเด็กไทยพบว่าเด็กเริ่มมีฟันผุตั้งแต่อายุ 9 เดือน และพบว่าเด็กอายุ 3 ปีมีฟันผุเฉลี่ย 3 ซี่ต่อคน สาเหตุหลักของฟันผุในเด็กเล็กมาจากพฤติกรรมการเลี้ยงดูที่ไม่เหมาะสม เช่น การให้เด็กทานขนมหรือนมที่มีรสหวานเป็นประจำ การปล่อยให้เด็กหลับคาขวดนมหลังจากฟันขึ้นแล้ว หรือผู้ปกครองละเลยเรื่องการดูแลสุขภาพช่องปาก โดยไม่ได้เริ่มแปรงฟันตั้งแต่น้ำนมซี่แรกขึ้น

นอกจากนี้เด็กที่มีฟันน้ำนมผุก็มักจะพบว่าฟันแท้ผุไปด้วย เนื่องจากเด็กที่มีฟันผุจะมีเชื้อก่อโรคฟันผุในช่องปากมากกว่าปกติซึ่งจะส่งผลให้ฟันแท้ที่กำลังจะขึ้นใหม่นั้นเกิดฟันผุได้เช่นเดียวกัน

ยาสีฟัน สำหรับเด็ก จำเป็นไหม
ยาสีฟัน สำหรับเด็ก จำเป็นไหม

การสังเกตอาการฟันผุในเด็ก

เราสามารถสังเกตฟันผุในระยะเริ่มแรกของเด็กได้จาก

  • รอยสีขาวขุ่นบริเวณคอฟัน
  • มีจุดสีดำหรือสีน้ำตาลเล็กๆ บนผิวฟัน

และเมื่อเมื่อพบรูผุที่มีขนาดใหญ่มากขึ้นเด็กจะมีอาการปวดฟัน หรือเสียวฟันเมื่อดื่มน้ำเย็น น้ำร้อน หรือของหวาน ควรได้รับการรักษาโดยการอุดฟัน ซึ่งเมื่อฟันผุลุกลามจนเกิดการติดเชื้อของเนื้อเยื่อโพรงประสาทฟัน เด็กจะปวดฟันมากจนนอนไม่หลับ ต่อมาจะเกิดหนอง ถึงขั้นนี้ก็คงจะต้องทำการรักษารากฟันหรือถอนฟัน

โรคฟันผุป้องกัน และรักษาได้!!

การเกิดฟันผุในเด็กนั้น เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ง่าย เพราะธรรมชาติของเด็ก มักนิยมของหวาน ซึ่งมีน้ำตาลเป็นส่วนประกอบต้นเหตุของฟันผุ แต่คุณพ่อคุณแม่รู้หรือไม่ว่า ฟันผุสามารถป้องกันได้ หรือลดความเสี่ยงที่ทำให้ฟันผุได้ด้วยวิธีหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการเลือกแปรงสีฟันที่เหมาะสมกับเด็ก การเลือกยาสีฟัน การปลูกฝังให้เด็กแปรงฟันอย่างถูกวิธี และไปพบทันตแพทย์หรือทันตบุคลการเพื่อตรวจฟันเป็นประจำอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง เมื่อตรวจพบรอยผุขนาดเล็ก ก็จะทำการรักษาได้ไม่ยุ่งยาก หากรอจนฟันผุลุกลามหรือเด็กมีอาการปวดฟันแล้วจึงค่อยไปพบทันตแพทย์ ก็อาจสายเกินไปที่จะรักษาฟันซี่นั้นไว้ได้

การเลือกแปรงสีฟัน ให้ลูก!!

แปรงสีฟันเด็กแรกเกิด (ช่วง 0-6 เดือน)

พ่อแม่บางคนอาจเข้าใจว่า การดูแลสุขภาพฟันของลูกเริ่มตั้งแต่การที่ลูกเริ่มมีฟันงอกขึ้น แต่ความจริงแล้วเราสามารถเริ่มดูแลได้ตั้งแต่ตอนแรกเกิด ด้วยการทำความสะอาด ‘เหงือก’ อยู่เสมอ เพราะถึงแม้ในช่วงแรกเกิดเจ้าตัวเล็กจะยังฟันไม่ขึ้น แต่ก็ต้องใช้ปากในการทดสอบสิ่งต่าง ๆ รอบตัว ไม่ว่าจะเป็นการดูดนม หรือจับนั่นนี่เข้าปากอยู่บ่อย ๆ อาจทำให้เกิดแบคทีเรียสะสมในช่องปาก

แปรงนี้สิ!! เหมาะกับหนู

  • ผ้าสะอาดชุบน้ำต้มสุกที่เย็นแล้ว วิธีดูแลสุขภาพเหงือกของเจ้าตัวเล็กจึงเป็นการนำผ้าสะอาดชุบน้ำต้มสุกที่เย็นแล้ว มาใช้เช็ดทำความสะอาดที่เหงือกและลิ้นหลังจากดูดนมเสร็จ เพื่อกำจัดคราบนม และยังเป็นการป้องกันเชื้อโรคจากอาหาร สิ่งสกปรกต่างๆ สะสมในช่องปาก รวมถึงป้องกันฝ้าขาวที่ลิ้นหรือภายในปาก ซึ่งเป็นแหล่งสะสมของเชื้อแบคทีเรียได้อีกด้วย
  • แปรงซิลิโคน เป็นแปรงแบบสวมนิ้วก็สามารถนำมาใช้ทำความสะอาดเหงือกให้เจ้าตัวเล็กได้ แต่อาจจะต้องระวังเรื่องความปลอดภัยของวัสดุของแปรงให้ดีว่า จะไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ และอ่อนโยนต่อลูก ๆ ของคุณ

แปรงสีฟันสำหรับเด็ก (ช่วง 6เดือน – 5 ปี)

เจ้าตัวเล็กจะเริ่มมีฟันน้ำนมซี่แรก โดยฟันจะค่อยๆ โผล่ออกมาจากเหงือก อาจทำ ให้รู้สึกระคายเคืองและรำคาญจนร้องไห้งอแงอยู่บ่อยครั้ง นับเป็นช่วงเวลาสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่จะต้องเริ่มรักษาสุขภาพปากและฟันน้ำนมของลูกรักอย่างจริงจังด้วยแปรงสีฟันเด็กที่เหมาะสม

เด็กควรได้รับการฝึก แปรงฟันด้วยตัวเองในวัยที่เหมาะสม
เด็กควรได้รับการฝึก แปรงฟันด้วยตัวเองในวัยที่เหมาะสม

แปรงสีฟันนี้สิ!! เหมาะกับหนู

  • แปรงกระจุก แปรงขนาดเล้กที่ใช้ทำความสะอาดในจุด หรือบริเวณเฉพาะที่ต้องการ ในขณะที่แปรงสีฟันทั่วไปไม่สามารถเข้าถึงได้ เพราะการดูแลทำความสะอาดฟันซี่น้อยของลูกที่เพิ่งโผล่พ้นเหงือกอาจเป็นเรื่องยาก แปรงสีฟันที่ใช้จึงควรเป็นแปรงเฉพาะ แปรงพิเศษ
  • แปรงสีฟันที่มีขนแปรงนุ่ม ปลายขนแปรงกลมมน หน้าตัดตรง หัวแปรงขนาดเล็ก และมีความยาวขนแปรงสั้นกว่าขนแปรงของผู้ใหญ่ วัสดุปลอดภัยและไม่เป็นอันตรายกับการใช้งาน ทั้งปราศจากสารเคมีประเภท BPA ซึ่งเป็นสารเคมีหลักที่พบได้ในขวดนม หรือขวดน้ำพลาสติก ส่วนด้ามจับควรจะทำจากซิลิโคนเพื่อป้องกันอุบัติเหตุหรือการกระแทกได้ในขณะใช้งาน พ่อแม่จะเลือกใช้แปรงสีฟันแบบนี้เมื่อฟันน้ำนมของลูกทยอยขึ้นมาเรื่อยๆ ในช่วงนี้เป็นช่วงวัยที่ลูกน้อยกำลังซน และต้องการหยิบจับหรือเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ คุณพ่อคุณแม่สามารถซื้อแปรงสีฟันเด็กที่ลูกๆ สามารถถือใช้เองได้ ภายใต้การดูแลของคุณพ่อคุณแม่ เพื่อแนะนำวิธีการแปรงฟันที่ถูกต้องเพิ่มเติมให้กับลูกๆ

แปรงสีฟันเด็กโต (6 ปี – 12 ปี)

เป็นช่วงวัยที่เด็ก ๆ เริ่มมีฟันแท้เข้ามาแทนที่ และจะเป็นชุดฟันที่จะอยู่กับลูกๆ ไปตลอดทั้งชีวิต ในเมื่อเป็นชุดฟันอันแสนสำคัญก็ต้องเพิ่มระดับการทำความสะอาดให้มากขึ้น ด้วยการปรับลักษณะแปรงสีฟันเด็กให้เหมาะกับชุดฟันที่ขึ้นมาใหม่ ซึ่งคุณพ่อคุณแม่จะต้องเลือกแปรงที่สามารถดูแลได้ทั้งในช่วงฟันหลุด เหงือกบวม เหงือกปิดฟันไปบางส่วนทำให้แปรงฟันได้ลำบาก ตลอดจนฟันแท้โผล่ออกมาเต็มที่พร้อมใช้งาน

แปรงสีฟันนี้สิ!! เหมาะกับหนู

  • แปรงสีฟันเด็กที่มีขนแปรงปลายมน หน้าตัดตรง ขนแปรงนุ่ม และแน่น เทียบเท่ากับแปรงสีฟันของผู้ใหญ่ แต่ลดขนาดมาให้เหมาะกับช่องปากของเด็ก ๆ ด้วยหัวแปรงขนาดกะทัดรัด ช่วยให้ทำความสะอาดบริเวณช่องปากเล็ก ๆ ของลูกรักที่อยู่ในวัยเปลี่ยนผ่านจากฟันน้ำนมไปเป็นชุดฟันแท้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อ่านต่อ>> บีบยาสีฟันให้ลูกเท่าเม็ดถั่ว ชนิดไหนกันดีละ คลิกหน้า 2

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

มะเร็ง เยื่อบุโพรงมดลูก

3ข้อรู้ไว้ห่างไกลมะเร็ง เยื่อบุโพรงมดลูก โรคร้ายอันดับ3 ของผู้หญิง

Alternative Textaccount_circle
event
มะเร็ง เยื่อบุโพรงมดลูก
มะเร็ง เยื่อบุโพรงมดลูก

เยื่อบุโพรงมดลูก ของคุณยังดีอยู่ไหม มาดู 3 ข้อที่ผู้หญิงควรรู้ไว้ เพื่อห่างไกล มะเร็งโพรงมดลูก โรคร้ายอันดับ 3 ที่คร่าชีวิตผู้หญิง

3 ข้อรู้ไว้ห่างไกลมะเร็ง เยื่อบุโพรงมดลูก โรคร้ายอันดับ3 ของผู้หญิง!!

ร่างกายของผู้หญิง มีลักษณะเฉพาะหลายอย่างที่ทำให้ต้องดูแลเป็นพิเศษ มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาตามช่วงวัย การเฝ้าสังเกตความผิดปกติของร่างกายจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่จะทำให้เราได้รู้ก่อนโรค เพราะในปัจจุบันมีโรคมากมายที่น่ากลัว และคร่าชีวิตผู้หญิงไม่น้อย

มะเร็ง เป็นอีกโรคหนึ่งที่นับว่าเป็นโรคร้ายที่มีความอันตรายถึงแก่ชีวิต ดังนั้น เราได้รวบรวม  มะเร็งร้ายที่ผู้หญิงป่วยมากที่สุดมาไว้ให้ เพื่อให้คุณผู้หญิงได้รู้เท่าทัน และคอยระแวดระวัง เมื่อเกิดความผิดปกติของร่างกายที่ทำให้สงสัยว่าเป็นโรคมะเร็งหรือไม่ เรียกได้ว่ารู้ก่อน รักษาก่อน ปลอดภัยกว่า

กราฟ 10 อันดับมะเร็งในเพศหญิงของประเทศไทย ASR per 100,000 (2010-1012)

ที่มา : หนังสือสถิติโรคมะเร็งในประเทศไทย Cancer In Thailand 2010-2011 Vol.8

1. มะเร็งเต้านม 

มะเร็งเต้านมเกิดจากความผิดปกติของเซลล์ที่อยู่ภายในท่อน้ำนมหรือต่อมน้ำนม เซลล์เหล่านี้มีการแบ่งตัวผิดปกติไม่สามารถควบคุมได้อาจมีการแพร่กระจายไปตามทางเดินน้ำเหลือง ไปสู่ต่อมน้ำเหลือง หรือแพร่กระจายไปสู่อวัยวะที่อยู่ห่างไกลเช่น กระดูก ปอด ตับ เป็นต้น การตรวจพบมะเร็งในระยะแรกจะช่วยให้การรักษามีโอกาสประสบความสำเร็จได้สูง

ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดมะเร็งเต้านม

  • เพศหญิงมีฮอร์โมนเพศ เอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรน ซึ่งสามารถกระตุ้นการเจริญของเซลล์มะเร็งเต้านมได้
  • อายุ ในผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 40 ปี จะมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น
  • มีประวัติการเป็นมะเร็งเต้านม
  • พันธุกรรม คนในครอบครัวมีประวัติเป็นมะเร็งเต้านม
  • การใช้ชีวิตที่ทำลายสุขภาพ น้ำหนักเกิน ขาดการออกกำลังกาย หรือ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

    มะเร็งเต้านม มะเร็งในผู้หญิง
    มะเร็งเต้านม มะเร็งในผู้หญิง

2.มะเร็งปากมดลูก

อาการป่วยในระยะเริ่มแรกหรือระยะก่อนเป็นมะเร็งนั้นผู้ป่วยจะไม่มีอาการใดๆ เลย ดังนั้น หากพบว่ามีเลือดออกผิดปกติจากช่องคลอด ประจำเดือนมานานผิดปกติ มีเลือดออกทั้งที่อยู่ในวัยหมดประจำเดือนแล้ว บางรายมีอาการตกขาวมากและมีกลิ่นผิดปกติ ควรรีบไปพบแพทย์ เพราะเมื่อตรวจแล้วพบว่าเป็นมะเร็งปากมดลูกก็แสดงว่าโรคได้ลุกลามแล้ว

ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูก

  • ผู้หญิงทุกคนที่ผ่านการมีเพศสัมพันธ์
  • อายุระหว่าง 40-50 ปี
  • มีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อย
  • เปลี่ยนคู่นอนบ่อยๆ
  • มีบุตรหลายคน
  • มีปัญหาระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่น เป็นโรคแพ้ภูมิตัวเอง (SLE) เป็นผู้ติดเชื้อเอชไอวี

ดังนั้น ผู้หญิงควรเข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกทุกปีเพื่อลดความเสี่ยง

3.มะเร็งตับและถุงน้ำดี

มะเร็งถุงน้ำดี (Gallbladder Cancer) คือ การเกิดเนื้องอกชนิดร้าย หรือมะเร็งภายในเนื้อเยื่อถุงน้ำดี ที่อยู่ใต้ตับ บริเวณชายโครงด้านขวา จะสังเกตได้ว่าผู้ป่วยโรคมะเร็งถุงน้ำดี มักจะมีอาการเจ็บท้องด้านขวา และโรคนี้มักจะไม่ออกอาการในระยะแรกๆ  การวินิจฉัยจึงทำได้ยาก และหากตรวจพบว่าเป็นมะเร็งถุงน้ำดีมีการลุกลามไปยังส่วนอื่นๆ ประสิทธิภาพในการรักษาก็จะต่ำลง จึงทำให้อัตราการรอดชีวิตของผู้ป่วยโรคมะเร็งถุงน้ำดีต่ำมากเช่นกัน

ปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดโรคมะเร็งถุงน้ำดี

  • ความผิดปกติในถุงน้ำดี เช่น มีติ่งเนื้อขนาดใหญ่บริเวณถุงน้ำดี หรือการมีแคลเซียมเกาะที่ผนังถุงน้ำดี
  • ผู้ป่วยโรคนิ่วในถุงน้ำดีจะมีความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งถุงน้ำดีกว่าบุคคลปกติ 38 เท่า
  • ผู้หญิงอายุ 50 ปี ขึ้นไป ที่ป่วยเป็นโรคถุงน้ำดีอักเสบเรื้อรัง
  • ผู้หญิงที่ประจำเดือนครั้งแรกมาเร็ว และวัยหมดประจำเดือนช้ากว่าปกติ
  • ผู้หญิงที่มีตั้งครรภ์ และคลอดบุตรหลายครั้ง
  • ผู้ที่น้ำหนักตัวเยอะ
  • ผู้ที่มีประวัติบุคคลในครอบครัวเป็นมะเร็งถุงน้ำดี
  • การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่เป็นประจำ
  • การบริโภคอาหารประเภทหมักดอง รสจัด รวมทั้งอาหารจากการทอดที่มีไขมันสูง

    อันดับมะเร็งที่พบบ่อยในผู้หญิง
    อันดับมะเร็งที่พบบ่อยในผู้หญิง

4.มะเร็งลำไส้ใหญ่ และไส้ตรง

อาการของมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนักในระยะต้นๆ มักไม่มีความผิดปกติใดๆ จนกระทั่งโรคพัฒนาขึ้น ผู้ป่วยจะมีอาการท้องเสีย ท้องผูก รู้สึกถ่ายไม่หมด ปวดมวนท้องไม่ทราบสาเหตุ อุจจาระมีเลือดปน ลักษณะอุจจาระเล็กเรียวยาวกว่าปกติ รู้สึกคลื่นไส้ อาเจียน อ่อนเพลีย น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ

ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก

  • ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป
  • มีประวัติคนในครอบครัวเคยเป็นโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่
  • เคยถูกตรวจพบว่ามีติ่งเนื้อในลำไส้ใหญ่มาก่อน
  • มีประวัติเป็นโรคลำไส้ใหญ่อักเสบเรื้อรัง
  • สูบบุหรี่
  • ดื่มแอลกอฮอล์
  • ขาดการออกกำลังกาย
  • น้ำหนักเกิน
  • ชอบทานอาหารไขมันสูงและไม่ค่อยรับประทานผัก ผลไม้

ดังนั้น ผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงควรตรวจคัดกรองเร็วขึ้นคือเริ่มที่อายุ 40 ปี

5.มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก

มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกเป็นโรคที่พบได้มากขึ้นในปัจจุบัน ประเทศไทยพบบ่อยเป็นอันดับ 3 ของมะเร็งในเพศหญิงรองจากมะเร็งเต้านมและมะเร็งปากมดลูก โดยผู้ป่วยส่วนใหญ่มักได้รับการวินิจฉัยเมื่ออายุ 40 ถึง 70 ปีซึ่งมักจะอยู่ในวัยหมดประจำเดือนแล้ว ในปัจจุบันมีข้อมูลพบว่าผู้หญิงวัยใกล้หมดประจำเดือนมีโอกาสเป็นมะเร็งชนิดนี้ได้สูงขึ้น

สาเหตุการเกิดมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก

สาเหตุของมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกยังไม่ทราบชัดเจน แต่พบว่าการมีระดับฮอร์โมนที่ไม่สมดุลโดยเฉพาะเมื่อร่างกายมีฮอร์โมนเอสโตรเจนในเลือดสูงต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน เป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญต่อการเกิดมะเร็งชนิดนี้ นอกจากนั้นยังพบปัจจัยเสี่ยงอื่นที่ส่งผลต่อการเกิดโรคนี้อีกหลายประการ

เยื่อบุโพรงมดลูก ผิดปกติ
เยื่อบุโพรงมดลูก ผิดปกติ

ปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก

  •  อายุ มะเร็งชนิดนี้พบได้มากในผู้ป่วยอายุ 40 ถึง 70 ปี โดยพบว่าส่วนมากเป็นผู้หญิงที่หมดประจำเดือนแล้ว แต่ในปัจจุบันพบโรคนี้มากขี้นในผู้หญิงวัยก่อนหมดประจำเดือนได้
  • ฮอร์โมนเอสโตรเจนสูงผิดปกติ โดยเฉพาะเมื่อเกิดความไม่สมดุลกันระหว่างฮอร์โมนชนิดนี้ และฮอร์โมนเพศหญิงอีกชนิดคือโปรเจสเตอโรน ส่งผลให้เยื่อบุโพรงมดลูกไม่สามารถลอกตัวออกมาเป็นประจำเดือนได้จนเกิดการหนาตัวผิดปกติและกลายเป็นมะเร็งในที่สุด
  • การได้รับฮอร์โมนเสริมจากภายนอก เช่นการรับฮอร์โมนเอสโตรเจนทดแทนในผู้หญิงบางรายที่มีอาการอันเนื่องมาจากภาววะวัยทอง
  • ภาวะอ้วนหรือน้ำหนักเกิน เนื่องจากมีการผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนเพิ่มขึ้นจากเนื้อเยื่อไขมันบางส่วนจนกลายเป็นสาเหตุของมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก
  • ยาบางชนิด เช่น ยารักษาเสริมสำหรับมะเร็งเต้านมชื่อ tamoxifen เมื่อได้รับต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลาหนึ่งอาจมีผลกระตุ้นการทำงานของเยื่อบุโพรงมดลูกจนกลายเป็นมะเร็งขึ้นในที่สุด
  • ภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ (Polycystic ovarian syndrome, PCOS) ซึ่งมักมีอาการขาดประจำเดือนติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน ร่วมกับอาการแสดงอื่นๆ ได้แก่ สิว ผิวหน้ามัน ขนดกแบบผู้ชาย ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษาอาจนำไปสู่การหนาตัวผิดปกติของเยื่อบุโพรงมดลูกได้
  • พันธุกรรม (Hereditary non-polyposis colorectal cancer, HNPCC) ในปัจจุบันมีข้อมูลมากขึ้นเกี่ยวกับความผิดปกติทางพันธุกรรมชนิดหนึ่งซึ่งเป็นยีนที่ใช้ในการซ่อมแซมความผิดปกติ และเป็นสาเหตุทำให้เกิดมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกร่วมกันกับมะเร็งลำไส้ในผู้ป่วยรายเดียวกันได้

อ่านต่อ >>3 ข้อรู้ไว้ห่างไกล มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก คลิกหน้า 2

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

กระดาษทิชชู่นุดา

บริษัท ครีเดนซ์ จัดใหญ่ ซื้อลิขสิทธิ์ลายการ์ตูน Peppa Pig เปิดตัว กระดาษทิชชู่นุดา

Alternative Textaccount_circle
event
กระดาษทิชชู่นุดา
กระดาษทิชชู่นุดา

ใหม่! กระดาษทิชชู่นุดา คอลเล็คชั่นใหม่ล่าสุด เอาใจคุณหนูๆ มาใน Package ลายการ์ตูน Peppa Pig สดใส ฉลาด แสนซน โดนใจคุณลูก ถูกใจคุณแม่

กระดาษทิชชู่นุดา ใส่ใจทุกรายละเอียด สัมผัสอ่อนโยน เพราะผลิตจากเยื่อกระดาษบริสุทธิ์ 100% ไม่ระคายเคืองต่อผิว ผลิตด้วยนวัตกรรมที่ทันสมัยได้มาตรฐาน ISO ไม่ใส่น้ำหอม ปราศจากสารเคมี และไม่มีสารเรืองแสง ปลอดภัยต่อการใช้งานกับลูกน้อย

 กระดาษทิชชู่นุดา

ครีเดนซ์ ปรับแผนกลยุทธ์ หันมาจับกลุ่มตลาดแม่และเด็ก จึงผลิต กระดาษทิชชู่นุดา ที่ตอบโจทย์การใช้งานของคุณแม่และลูกน้อย ในหลายรูปแบบที่เหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกัน

  • กระดาษเช็ดหน้าแบบกล่อง เหมาะกับวางใช้ที่บ้าน บรรจุ 130 แผ่นคู่ แพ็กบรรจุ 4 กล่อง (3 แถม1) ราคา 115 บาท
  • กระดาษเช็ดหน้าซอฟท์แพ็ก สะดวกในการพกพา ใช้บนรถ บรรจุ 120 แผ่นคู่ แพ็ก 4 ห่อ (3 แถม1) ราคา 105 บาท
  • กระดาษเช็ดหน้าซอฟท์แพ็กแบบห่อใหญ่ จุใจ ใช้งานได้ยาวนานกว่า บรรจุ 230 แผ่นคู่ แพ็ก 4 ห่อ ราคา 142 บาท
  • กระดาษเช็ดหน้าแบบพกพา พกติดกระเป๋า สะดวกใช้งานได้ทุกที่ บรรจุ 50 แผ่นคู่ แพ็ก 3 ห่อ ราคา 52 บาท
  • กระดาษเช็ดปาก ใช้สะดวกในทุกมื้ออาหารของลูกน้อย บรรจุ 86 แผ่นคู่ แพ็ก 6 ห่อราคา 62 บาท
  • กระดาษเช็ดหน้าแบบพกพาห่อจิ๋ว น่ารัก พกติดกระเป๋า บรรจุ 10 แผ่นคู่ แพ็ก 6 ห่อ ในราคา 35 บาท

กระดาษทิชชู่นุดา อ่อนโยนต่อผิว ปลอดภัยต่อการใช้งาน โดนใจคุณลูก ถูกใจคุณแม่ ใส่ใจทุกขั้นตอนการผลิต เพื่อให้ได้ทิชชู่ที่ดีเหมาะกับคุณ

หาซื้อกระดาษทิชชู่นุดา  ได้ที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ Big C, Lotus, Makro, Foodland, Home Fresh Mart, Gourmet Market, UFM, Mega Home, LAZADA, SHOPEE และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ  

 

และสามารถติดตามนุดาได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/nudatissue/

Instagram : https://instagram.com/nuda_tissue?igshid=jddf0959pqlb

Line : https://lin.ee/1yGSjr42

10 แพ็กเกจตรวจสุขภาพก่อนตั้งครรภ์ เตรียมพร้อมไว้ก่อน

10 แพ็กเกจตรวจสุขภาพก่อนตั้งครรภ์ เตรียมพร้อมก่อนมีลูก

Alternative Textaccount_circle
event
10 แพ็กเกจตรวจสุขภาพก่อนตั้งครรภ์ เตรียมพร้อมไว้ก่อน
10 แพ็กเกจตรวจสุขภาพก่อนตั้งครรภ์ เตรียมพร้อมไว้ก่อน

การตรวจสุขภาพก่อนตั้งครรภ์ เป็นเรื่องสำคัญอันดับแรก ๆ ของการดูแลสุขภาพเพื่อการตั้งครรภ์ที่สมบูรณ์และปลอดภัยต่อคุณแม่และทารก การตรวจสุขภาพก่อนตั้งครรภ์ช่วยให้แพทย์สามารถระบุภาวะที่อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพของคุณแม่หรือสุขภาพของทารกที่อยู่ในครรภ์ เช่น โรคติดต่อทางพันธุกรรม นอกจากนี้ถ้าตรวจเจอภาวะหรือโรคต่าง ๆ ในขณะตรวจสุขภาพก่อนตั้งครรภ์ ก็จะสามารถทำการรักษาหรือป้องกันก่อน รวมถึงสามารถลดความเสี่ยงต่อโรคและภาวะต่าง ๆ ซึ่งถ้าหากได้รับการตรวจพบเร็วก็จะรักษาได้อย่างทันท่วงที การมองหา แพ็กเกจตรวจสุขภาพก่อนตั้งครรภ์ เตรียมพร้อมไว้ก่อน จึงเป้นขั้นตอนการวางแผนมีบุตรที่ว่าที่คุณพ่อคุณแม่ควรหาข้อมูล และเตรียมตัวล่วงหน้า

10 แพ็กเกจตรวจสุขภาพก่อนตั้งครรภ์ เตรียมพร้อมไว้ก่อน

10 แพ็กเกจตรวจสุขภาพก่อนตั้งครรภ์ เตรียมพร้อมไว้ก่อน

ทำไมถึงต้องตรวจสุขภาพก่อนตั้งครรภ์

  • เพื่อตรวจและเตรียมความพร้อมของร่างกายว่าที่คุณพ่อคุณแม่ ว่าอสุจิแข็งแรงเป็นปกติหรือไม่ ประจำเดือนมาปกติหรือไม่ มีภาวะมีบุตรยากหรือเปล่า
  • เพื่อตรวจหาความเสี่ยงของโรคหรือภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นระหว่างตั้งครรภ์ โดยเฉพาะกรณีที่คุณแม่อายุเกิน 35 ปี การตั้งครรภ์ในช่วงอายุที่มากขึ้นส่งผลให้เกิดความเสี่ยงจากโรคต่าง ๆ รวมไปถึงภาวะแทรกซ้อน เช่น ครรภ์เป็นพิษ รกเกาะต่ำ โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง บุตรมีโอกาสพบความผิดปกติทางด้านพันธุกรรมและพัฒนาการ ทั้งออทิสติก โรคสมาธิสั้น ดาวน์ซินโดรม
  • เพื่อตรวจหาโรคทางพันธุกรรมที่อาจส่งต่อไปสู่ลูก เช่น โรคโลหิตจางธาลัสซีเมีย โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง โรคซิสติกไฟโบรซิส กลุ่มอาการโครโมโซมเอกซ์เปราะ
  • ช่วยให้ว่าที่คุณพ่อคุณแม่มือใหม่เข้าใจตัวเองมากขึ้น สามารถวางแผนการดูแลตนเองก่อนตัดสินใจมีบุตรได้ดี รวมถึงได้รับคำแนะนำ ในการเตรียมความพร้อมทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิต โดยแพทย์ผู้ชำนาญ

การตรวจสุขภาพก่อนตั้งครรภ์ควรตรวจอะไรบ้าง

  • ซักประวัติ และตรวจร่างกายทั่วไป ได้แก่ การชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง วัดความดันโลหิต คำนวณดัชนีมวลกาย
  • ตรวจทางนรีเวช ได้แก่ การตรวจภายใน ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ตรวจอุ้งเชิงกราน
  • การตรวจกลุ่มเลือด ว่ากรุ๊ปเลือดของคุณพ่อกับคุณแม่เข้ากันหรือไม่ ซึ่งกรุ๊ปเลือดที่พบบ่อยมากในคนไทยคือ A, B และ O และ Rh+ แต่บางคนก็อาจมีกลุ่มเลือด Rh- ซึ่งพบได้ยาก แต่ถ้าหากตรวจพบว่ามีเลือดเป็น Rh- การตั้งครรภ์ท้องสองจะมีความเสี่ยงอาจเกิดการแท้งได้ รวมถึงต้องตรวจเช็กความเข้มของเลือดคุณแม่ร่วมด้วย เพราะในช่วงตั้งครรภ์คุณแม่จะมีภาวะซีดสูงกว่าปกติ
  • การตรวจภูมิคุ้มกันต่อโรคหัดเยอรมัน ตับอักเสบบี หากไม่มีภูมิต้องฉีดวัคซีนก่อนตั้งครรภ์ ทั้งนี้ไม่แนะนำให้ฉีดวัคซีนหลายชนิดในระหว่างตั้งครรภ์เพื่อความปลอดภัยของมารดาและทารกในครรภ์
  • ตรวจหาซิฟิลิส โรคซิฟิลิสเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ซึ่งมักไม่มีอาการ ผู้หญิงจำนวนมากที่เป็นพาหะของโรคจะไม่มีอาการใด ๆ และไม่รู้ว่าตนเองติดเชื้อ ซิฟิลิสอาจมีผลเสียร้ายแรงในระหว่างตั้งครรภ์กระทบไปถึงสุขภาพของคุณแม่และทารกในครรภ์ ถ้าตรวจพบก่อนสามารถรักษาได้ง่ายด้วยยาปฏิชีวนะ
  • ตรวจหาเชื้อไวรัสตับอักเสบบี ตับอักเสบซี และเอชไอวี เนื่องจากเป็นโรคที่ติดต่อได้จากการมีเพศสัมพันธ์และจากเลือด สามารถป้องกันการติดเชื้อไปสู่ทารกในครรภ์ได้
  • ตรวจสุขภาพฟัน การมีฟันผุและเหงือกติดเชื้อสามารถก่อให้เกิดอันตรายต่อบุตรในครรภ์ได้ สามารถส่งต่อภาวะติดเชื้อให้แก่ลูกน้อยในครรภ์ ว่าที่คุณแม่ที่วางแผนตั้งครรภ์ควรรับการตรวจสุขภาพช่องปากและฟันก่อนหน้าประมาณ 3 – 5 เดือน เพื่อเป็นการเผื่อเวลาในการรักษาฟันที่มีปัญหา

เพื่อป้องกันและส่งเสริมสุขภาพของคุณแม่และทารกในครรภ์ระหว่างตั้งครรภ์ การตรวจสุขภาพก่อนตั้งครรภ์ จึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากในการวางแผนก่อนมีบุตร เพื่อเป็นการปรับโภชนาการ เตรียมความพร้อม รักษาหรือให้วัคซีนป้องกันโรคได้ทันก่อนการตั้งครรภ์ รวมถึงขอรับคำแนะนำจากแพทย์ได้อย่างเหมาะสม

 

แนะนำ 10 แพ็กเกจตรวจสุขภาพก่อนตั้งครรภ์

  1. โรงพยาบาลพญาไท 2 : โปรแกรมตรวจสุขภาพก่อนมีบุตร/เตรียมความพร้อมก่อนตั้งครรภ์ โรงพยาบาลพญาไท 2
  • โปรแกรมตรวจสุขภาพก่อนมีบุตร/เตรียมความพร้อมก่อนตั้งครรภ์ สำหรับผู้ชาย ราคา 3,900 บาท
  • โปรแกรมตรวจสุขภาพก่อนมีบุตร/เตรียมความพร้อมก่อนตั้งครรภ์ สำหรับผู้หญิง ราคา 5,500 บาท

ครบถ้วนกับโปรแกรมการตรวจสุขภาพก่อนตั้งครรภ์ทั้งชายและหญิง รพ. ตั้งอยู่กลางใจเมือง เดินทางสะดวก ผลการตรวจรายงานผ่าน Application Health Up มีมือถือเครื่องเดียวสามารถรับบริการได้แสนสะดวก ไม่มีเอกสารมากมายให้ยุ่งยาก สถานที่ตรวจโปร่งสบายไม่อึดอัด เจ้าหน้าที่ให้บริการดี พร้อมด้วยทีมแพทย์ที่เชี่ยวชาญในการตรวจและให้คำปรึกษาในราคาที่สบายกระเป๋า สามารถพบแพทย์เฉพาะทางเพิ่มเติมเพื่อปรึกษาเรื่องทางทันตกรรมหรือรักษาเรื่องภาวะการมีบุตรยากได้สะดวกด้วย

เว็บไซต์อ้างอิง: https://www.phyathai.com/

แพ็กเกจตรวจสุขภาพก่อนตั้งครรภ์

อ้างอิงรูปภาพ: https://www.phyathai.com/

 

  1. โรงพยาบาลศิครินทร์ กรุงเทพฯ: โปรแกรมตรวจสุขภาพเตรียมพร้อมก่อนมีบุตร โรงพยาบาลศิครินทร์ กรุงเทพฯ
  • โปรแกรมตรวจสุขภาพก่อนมีบุตรสำหรับผู้ชาย ราคา 2,500 บาท
  • โปรแกรมตรวจสุขภาพก่อนมีบุตรสำหรับผู้หญิง ราคา 5,200 บาท
  • โปรแกรมตรวจสุขภาพก่อนมีบุตร (ตรวจเป็นคู่) ราคา 7,300 บาท

เป็นโปรแกรมการตรวจที่ครบถ้วน ราคาไม่แพง ถ้าจับคู่กันไปตรวจจะได้ราคาลดลงจากราคาปกติช่วยประหยัดมากขึ้น รพ.ตั้งอยู่บนถนนลาซาล มีที่จอดรถสะดวกสบาย ให้บริการด้านการตรวจที่มีคุณภาพผ่านการรับรองด้านมาตรฐานบริการสุขภาพระดับสากล ว่าที่คุณพ่อคุณแม่ทุกรายจะได้รับการดูแลและติดตามผลการตรวจจากแพทย์อย่างใกล้ชิด แพทย์และเจ้าหน้าที่พร้อมให้บริการตอบข้อซักถามและให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์กับว่าที่คุณพ่อคุณแม่มากๆ

เว็บไซต์อ้างอิง: https://www.sikarin.com/product/checkup-pre-marriage

แพ็กเกจตรวจสุขภาพก่อนตั้งครรภ์

อ้างอิงรูปภาพ: https://www.sikarin.com/product/checkup-pre-marriage

 

  1. โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์: แพ็กเกจตรวจสุขภาพก่อนมีบุตร
  • แพ็กเกจตรวจสุขภาพก่อนมีบุตร (บุรุษ) ราคา 7,600 บาท
  • แพ็กเกจตรวจสุขภาพก่อนมีบุตร (สตรี) ราคา 8,200 บาท

เป็นแพ็กเกจที่เหมือนจะราคาแพงกว่าที่อื่นแต่โดยรวมแล้วคุ้มค่า เพราะเพิ่มการตรวจที่จำเป็นเข้ามาอีก คนเข้ารับการตรวจจะได้ตรวจคัดกรองภาวะเสี่ยงที่อาจมีผลต่อการตั้งครรภ์ เช่น ตรวจระดับน้ำตาลในเลือด ตรวจการทำงานของไต ตรวจการทำงานของต่อมไทรอยด์ มีมาตรฐานการตรวจและการให้บริการดีระดับโลก เครื่องมือใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่และทีมแพทย์มีความเชี่ยวชาญสูง ตรวจและให้คำแนะนำอย่างเป็นระบบและทันสมัย ข้อมูลละเอียด ใบรายงานผลอ่านเข้าใจง่าย

เว็บไซต์อ้างอิง: https://www.bumrungrad.com/

ตรวจสุขภาพก่อนตั้งครรภ์

ตรวจสุขภาพก่อนตั้งครรภ์

อ้างอิงรูปภาพ 1: https://www.bumrungrad.com/th/packages/preconception-check-up-package-male

อ้างอิงรูปภาพ 2: https://www.bumrungrad.com/th/packages/preconception-check-up-package-female

 

  1. โรงพยาบาลเจ้าพระยา: โปรแกรมตรวจก่อนแต่ง/ก่อนตั้งครรภ์
  • โปรแกรมตรวจก่อนแต่ง/ก่อนตั้งครรภ์ สำหรับผู้ชาย ราคา 3,500 บาท
  • โปรแกรมตรวจก่อนแต่ง/ก่อนตั้งครรภ์ สำหรับผู้หญิง ราคา 4,000 บาท

เป็นโปรแกรมการตรวจพื้นฐานก่อนตั้งครรภ์ที่ครบถ้วน ที่มีเพิ่มเติมแตกต่างจากที่อื่น คือ มีการตรวจคัดกรองความเสี่ยงเรื่องโรคเบาหวานโดยตรวจหาค่าน้ำตาลที่เกาะในเม็ดเลือดแดง (HbA1/C) รวมถึงให้ส่วนลดพิเศษถ้าตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก (Pap Test) หรือตรวจมดลูกและรังไข่ด้วยการอัลตราซาวนด์ (Ultrasound) เพิ่มเติม ซึ่งในวันนัดรับผลตรวจ แพทย์จะให้คำแนะนำต่างๆ เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพร่างกาย และความพร้อมของการมีบุตร รวมถึงอธิบายผลการตรวจและตอบข้อซักถามอย่างละเอียดด้วย

เว็บไซต์อ้างอิง: https://www.chaophya.com/

ตรวจสุขภาพก่อนตั้งครรภ์

อ้างอิงรูปภาพ: https://www.chaophya.com/

 

  1. โรงพยาบาลวิชัยยุทธ: แพ็กเกจตรวจก่อนแต่งงานและเตรียมมีบุตร
  • แพ็กเกจตรวจก่อนแต่งงานและเตรียมมีบุตร สำหรับผู้ชาย ราคา 3,200 บาท
  • แพ็กเกจตรวจก่อนแต่งงานและเตรียมมีบุตร สำหรับผู้หญิง ราคา 3,200 บาท

เป็นโปรแกรมการตรวจพื้นฐานที่ครบถ้วน เส้นทางไป รพ. เดินทางได้สะดวก ที่ตั้งอยู่บนถนนพระราม 6 ที่จอดรถสะดวกสบาย ให้บริการด้านการตรวจที่มีคุณภาพในระดับสากล ว่าที่คุณพ่อคุณแม่ทุกรายจะได้รับการดูแลและติดตามผลการตรวจจากแพทย์อย่างใกล้ชิด โดยในแพ็กเกจการตรวจที่นี่ มีที่แตกต่างจากที่อื่นสำหรับผู้ชาย คือ มีการตรวจวิเคราะห์ความสมบูรณ์ของอสุจิ (Semen Analysis) เพราะความสมบูรณ์ของอสุจิ จะมีผลต่อความสำเร็จของการตั้งครรภ์ด้วย นอกจากนี้ ถ้าผลการตรวจต้องปรึกษาแพทย์เฉพาะทางต่อ ทาง รพ. มีบริการตรวจคัดกรองภาวะผู้มีบุตรยากและแพทย์เฉพาะทางให้การดูแลต่อด้วย

เว็บไซต์อ้างอิง: https://www.vichaiyut.com/th/product/premarital/

ตรวจสุขภาพก่อนตั้งครรภ์

อ้างอิงรูปภาพ: https://www.vichaiyut.com/th/product/premarital/

 

อ่านต่อ.. 10 แพ็กเกจตรวจสุขภาพก่อนตั้งครรภ์ เตรียมพร้อมไว้ก่อน ..ได้ที่หน้า 2

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

ประกาศรางวัล  Amarin Baby & Kids Awards 2022 

ประกาศรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2022

Alternative Textaccount_circle
event
ประกาศรางวัล  Amarin Baby & Kids Awards 2022 
ประกาศรางวัล  Amarin Baby & Kids Awards 2022 

ว้าว สุดปัง !! ประกาศรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2022  เพื่อเฟ้นหาแบรนด์สินค้าแม่ลูกในดวงใจ จากคุณแม่ตัวจริงทั่วประเทศกว่า 30,000 คน ผ่านการโหวตทาง www.amarinbabyandkids.com และการคัดเลือกสินค้าคุณภาพดี ใช้ได้จริงสำหรับคุณแม่ จากกองบรรณาธิการ Amarin Baby & Kids โดยแบ่งออกเป็น 3 ประเภทรางวัล ได้แก่

รางวัล Mommy’s Choice

สุดยอดแบรนด์สินค้าในดวงใจที่มาจากเสียงโหวตของแม่ผู้ใช้จริงทั่วประเทศ คัดเน้น ๆ เพื่อให้ได้สินค้าแม่และเด็ก ที่ใช้ดีมีคุณภาพ 

รางวัล Editor’s Choice

สุดยอดแบรนด์สินค้าใช้ดี และมีประโยชน์จริง ที่ได้รับการคัดเลือกจากทีมบรรณาธิการ Amarin Baby & Kids

แบรนด์ผลิตภัณฑ์แม่ลูกที่ได้รับรางวัล Mommy’s Choice และ รางวัล Editor’s Choice ทั้งหมด  7  หมวด ในปีนี้ สามารถคลิกอ่านผลในแต่ละประเภทได้เลยค่ะ

อุปกรณ์ดูแลเด็ก » 

ผลิตภัณฑ์อาบน้ำแต่งตัว » 

ผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพและความสะอาด » 

ผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มเด็ก » 

ผลิตภัณฑ์และบริการสำหรับคุณแม่ » 

ผลิตภัณฑ์บริการสำหรับครอบครัว » 

สื่อสำหรับครอบครัว » 

รางวัล Rising Star

สุดยอดผลิตภัณฑ์ดาวรุ่ง คุณภาพดีเหมาะกับลูกน้อย จากงาน Amarin Baby And Kids Fair ในปี 2022 ผ่านการคัดสรรจากทีมบรรณาธิการ ให้เป็นสินค้าน่าช้อป น่าใช้สำหรับคุณแม่ตัวจริง คลิกอ่านประกาศรางวัลที่นี่รางวัล Rising Star  »

 

♥ทีมงาน Amarin Baby & Kids ขอแสดงความยินดีกับทุกแบรนด์สินค้าที่ได้รับรางวัลในปีนี้นะคะ♥

 

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

ประกาศรางวัล  Amarin Baby & Kids Awards 2022 

ประกาศรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2022 หมวด ผลิตภัณฑ์และบริการสำหรับครอบครัว 

Alternative Textaccount_circle
event
ประกาศรางวัล  Amarin Baby & Kids Awards 2022 
ประกาศรางวัล  Amarin Baby & Kids Awards 2022 

ประกาศรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2022 หมวด ผลิตภัณฑ์และบริการสำหรับครอบครัว 

สำหรับประกาศรางวัลในหมวด ผลิตภัณฑ์และบริการสำหรับครอบครัว  ประกอบด้วย 3 สาขา ได้แก่

♥แหล่งเรียนรู้นอกบ้าน

♥ของเล่นเสริมพัฒนาการ

♥สถาบันเสริมพัฒนาการเด็ก

 

MOMMY’s CHOICE : BEST KIDS OUTDOOR-LEARNING CENTER

ทีเคพาร์ค TK Park

“ทีเคพาร์ค” TK Park สถาบันอุทยานการเรียนรู้ ห้องสมุดมีชีวิต เปิดให้บริการกับทุกครอบครัวอยู่ที่ชั้น 8 อาคารศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เป็นสถานที่ส่งเสริมการอ่านและการเรียนรู้ที่ทันสมัย ผ่านสื่อการเรียนรู้หลากหลายรูปแบบ เช่น หนังสือ ดนตรี มัลติมีเดีย รวมถึงร่วมมือกับองค์กรภายนอกทั้งภาครัฐและเอกชน ในการจัดกิจกรรมส่งเสริมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้สำหรับเด็กและเยาวชน

MOMMY’s CHOICE : BEST BABY & TODDLER TOY

LEGO เลโก้

เด็กกับของเล่นเป็นของคู่กัน การเลือกของเล่นที่มีประโยชน์จะช่วยให้การเล่นของเด็ก ๆ เกิดประสิทธิภาพต่อสมองการเรียนรู้ จินตนาการ ของเล่นตัวต่อ LEGO เลโก้ ของเล่นแบรนด์โปรดของเด็กทั่วโลก เป็นของเล่นที่ช่วยส่งเสริมเสริมพัฒนาการ และทักษะสำหรับเด็ก

MOMMY’s CHOICE : BEST CHILDHOOD DEVEOPMENT SCHOOL

Gymboree Play & Music

Gymboree Play & Music จิมโบรีเป็นผู้นำของโลกในเรื่องการออกแบบกิจกรรมการเล่นที่สนุกสนาน หลากหลาย และมีประสิทธิภาพ เพราะเราเน้นการพัฒนาการแบบองค์รวมที่ตรงกับความสนใจของเด็กในแต่ละช่วงวัย เพื่อทำให้เด็ก ๆ ได้พัฒนาความสามารถของตนเองอย่างรอบด้าน

 ♥ขอแสดงความยินดีกับทุกแบรนด์สินค้าที่ได้รับรางวัลในปีนี้ค่ะ♥

 

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

ประกาศรางวัล  Amarin Baby & Kids Awards 2022 

ประกาศรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2022 หมวด สื่อสำหรับครอบครัว

Alternative Textaccount_circle
event
ประกาศรางวัล  Amarin Baby & Kids Awards 2022 
ประกาศรางวัล  Amarin Baby & Kids Awards 2022 

ประกาศรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2022 หมวด สื่อสำหรับครอบครัว

สำหรับประกาศรางวัลในหมวด สื่อสำหรับครอบครัว ประกอบด้วย 4 สาขา ได้แก่

ยูทูปเบอร์เด็กในดวงใจ POPULAR KID YOUTUBER

LITTLE MONSTER FAMILY

ขวัญใจครอบครัวที่มีลูกเล็ก ๆ มาก กับ LITTLE MONSTER FAMILY ที่มีแฟน ๆ ติดตามถึง 974 subscribers ช่อง Little Monster Family นำเสนอชีวิต และ life style ของครอบครัว ที่สอดแทรกทั้งสาระความรู้ภาษาอังกฤษ ความสนุก ความ real

เพจคุณหมอในดวงใจ POPULAR CHILDREN’s EXPERT FANPAGE

นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์

นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ จิตแพทย์และหัวหน้ากลุ่มงานจิตแพทย์ประจำโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ในอีกด้านหนึ่งท่านเป็นนักเขียนด้านจิตวิทยา จิตวิทยาเด็กและวัยรุ่น  โดยเฉพาะความรู้เรื่อง “EF” เผยแพร่ทั้งในนิตยสาร พ็อคเก็ตบุ๊ค เว็บไซต์ต่าง ๆ และเฟสบุ๊คส่วนตัว ซึ่งมีผู้ติดตามเป็นจำนวนมาก

แม่ดาราในดวงใจ POPULAR CELEBRITY MOM

คุณโอปอล์ ปาณิสรา อารยะสกุล

คุณโอปอล์ ปาณิสรา อารยะสกุล คุณแม่คนเก่งของน้องอลิน น้องอลัน ที่มีสไตล์การเลี้ยงลูกให้มีความสุขในแบบฉบับของตัวเอง คุณโอปอล์ ส่งต่อแรงบันดาลในการใช้ชีวิตของคุณแม่ยุคใหม่ ทั้งไลฟ์สไตล์ การดูแลตัวเอง การเลี้ยงลูกที่เปิดโอกาสให้เด็กๆ ได้ทำกิจกรรมอย่างเต็มที่

ครอบครัวในดวงใจ POPULAR FAMILY INFLUENCER

คุณพลอย ชิดจันทร์ ห่ง

คุณพลอย ชิดจันทร์ ห่ง คุณแม่คนเก่ง เจ้าของช่อง Momme Chidjun ที่มีคนติดตามมากถึง 1.87 M subscribers นำเสนอคอนเทนต์ได้ถูกใจครอบครัวยุคใหม่ ทั้งไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตครอบครัว การเลี้ยงลูก ฯลฯ จนได้รับโหวตให้ได้รับรางวัลในปีนี้

 

♥ขอแสดงความยินดีกับทุกแบรนด์สินค้าที่ได้รับรางวัลในปีนี้ค่ะ♥

 

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

keyboard_arrow_up