ไหว้พระ 9 วัด

แจกทริป ไหว้พระ 9 วัด ไหว้ให้ปัง เสริมดวงเฮง หยุดไม่อยู่

Alternative Textaccount_circle
event
ไหว้พระ 9 วัด
ไหว้พระ 9 วัด

ชวนคุณพ่อคุณแม่พาลูก ไหว้พระ 9 วัด รับปีใหม่ ให้ดวงเฮง สุดปัง แคล้วคลาด ปลอดภัย ไหว้พระอย่างไรให้ได้โชค ทีมแม่ ABK มีไอเดียทริป ไหว้พระให้ครบ สะดวก ไม่พลาดทุกขั้นตอน

แจกทริป!! ไหว้พระ 9 วัด ไหว้ให้ปัง เสริมดวงเฮง หยุดไม่อยู่

ปีใหม่แล้วใครยังไม่ได้ไหว้พระขอพร เสริมดวง เชิญทางนี้ หากอยากให้ดวงเฮงๆ ยิ่งขึ้น ทำอะไรก็ไม่ติดขัด ราบรื่นสมใจ ลองมา ไหว้พระ 9 วัด ขอพรให้ชีวิตสมปรารถนา มุ่งหวังสิ่งใดก็ประสบผลกันค่ะ

การทำบุญไหว้พระ ขอพร ถือศึล มีสมาธิ ย่อมนำมาซึ่งความสงบ ความตื่นรู้ในปัญญาของผู้ที่ปฎิบัติอย่างแน่นอน ดังนั้น หากเราต้องการไหว้พระขอพร เสริมดวงเฮง ย่อมทำให้เราพบเจอ ประสบแต่ความสุข ความเจริญอย่างไม่ใช่เรื่องยาก ดังคำที่ว่า อยากได้แบบไหน เราต้องนำตัวเองเข้าไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมแบบนั้น วันนี้เราจึงขอแจกทริป ไหว้พระ 9 วัด มาฝากกันเผื่อใครสามารถหาเวลาว่างมาร่วมทริปทำบุญ ไหว้พระขอพร ไปด้วยกัน

1.วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร

พระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรวิหาร  เป็นวัดโบราณ มีชื่อว่า “วัดแหลม” หรือ “วัดไทรทอง” ไม่ปรากฏหลักฐานว่าสร้างในสมัยใด ต่อมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานนามวัดใหม่ว่า ‘วัดเบญจมบพิตร’ อันหมายถึง วัดของพระเจ้าแผ่นดินรัชกาลที่ 5 และเพื่อแสดงลำดับรัชกาลในมหาจักรีบรมราชวงศ์ และได้มีสร้อยนามต่อท้ายด้วย “ราชวรวิหาร” ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร  เป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไปในหมู่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในชื่อ “Marble Temple”

จุดไหว้สักการะเสริมมงคล

  • พระพุทธชินราช (จำลอง)
  • พระหริภุญชัยบรมโพธิสัตว์
  • พระฝาง

2.วัดราชาธิวาสราชวรวิหาร

วัดราชาธิวาสราชวรวิหาร อยู่ถนนสามเสน นั่งรถเลยมาอีกนิดจากวัดแแรก วัดนี้เป็นวัดเก่าแก่วัดหนึ่ง เป็นวัดที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนาในประเทศไทย มีชื่อเดิมว่า วัดสมอราย เป็นวัดเก่าแก่มาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 พระองค์พระราชทานนามใหม่ให้แก่วัดแห่งนี้ว่า ‘วัดราชาธิวาส’ ซึ่งมีความหมายว่า วัดอันเป็นที่ประทับของพระราชา เนื่องจากวัดแห่งนี้เคยเป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยและสมเด็จฯ กรมพระราชวังบวรมหาเสนานุรักษ์เมื่อครั้งทรงผนวช

จุดไหว้สักการะเสริมมงคล

  • พระประธานอุโบสถ พระสัมพุทธพรรณี (จำลอง)

    ไหว้พระเสริมดวง ไหว้พระ 9 วัด

3.วัดอินทรวิหาร

ทำบุญวัดที่ 3 ลัดเลาะมาแถวถนนวิสุทธิกษัตริย์ใกล้สี่แยกบางขุนพรหม ฝั่งตรงข้ามธนาคารแห่งประเทศไทย วัดอินทรวิหารมีมาก่อนสมัยรัตนโกสินทร์ เดิมชื่อ วัดบางขุนพรหมนอก

จุดไหว้สักการะเสริมมงคล

  • หลวงพ่ออินทร์
  • หลวงพ่อโต
  • บ่อน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ ของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหมรํสี) สามารถดื่มหรือพรมศีรษะให้ประสบความสำเร็จสมปรารถนา หมดเคราะห์  หมดทุกข์  หมดโศก  หมดโรค  หมดภัย  มีความสุขความเจริญรุ่งเรือง

4.วัดบวรนิเวศวิหาร ราชวรวิหาร

วัดบวรนิเวศ ราชวรวิหาร หรือ วัดบวรนิเวศวิหาร (เดิมชื่อ วัดใหม่) เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรวิหาร สร้างขึ้นโดยสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาศักดิพลเสพ กรมพระราชวังบวรสถานมงคลในรัชกาลที่ 3 พระอารามนี้เคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราชถึง 4 พระองค์ และเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาของสงฆ์แห่งแรกในประเทศ และเป็นวัดประจำรัชกาลที่ 6 และ 9

จุดไหว้สักการะเสริมมงคล

  • พระพุทธชินสีห์ พระประธานในพระอุโบสถ
  • พระพุทธสุวรรณเขต (หลวงพ่อโต)
  • พระไพรีพินาศ ประดิษฐานอยู่ในกำแพงชั้นที่ 2 ของพระเจดีย์สีทองหลังพระอุโบสถ
  • พระศรีศาสดา ประดิษฐาน ณ มุขหน้าวิหารพระศาสดาคู่กับพระพุทธไสยา

    ภาพจาก วัดบวรนิเวศวิหาร
    ภาพจาก วัดบวรนิเวศวิหาร

5.วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร

เขยิบเข้ามาใกล้เสาชิงช้า มาทำบุญกันต่อที่วัดที่ 5 วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร เดิมรัชกาลที่ 1 พระราชทานนามว่า “วัดมหาสุทธาวาส” แต่ทรงสร้างค้างไว้แต่เพียงรากฐานพระวิหาร มาสร้างแล้วเสร็จในสมัยของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ทรงโปรดฯ ให้ทำการบูรณะสร้างพระวิหารจนสำเร็จแล้วทรงโปรดฯ ให้สร้างพระอุโบสถและศาลาการเปรียญ กับโปรดฯให้สร้างสัตตมหาสถานและสร้างกุฏิสำนักสงฆ์ประดิษฐานสังฆาราม พระราชทานนามว่า วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร ถือเป็นวัดประจำรัชกาลของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร รัชกาลที่ 8

จุดไหว้สักการะเสริมมงคล

  • พระศรีศากยมุนี (พระโต)
  • พระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร

6.วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม

บริเวณถนนเฟื่องนคร ย่านบำรุงเมือง จะเป็นจุดหมายของเราวัดที่ 6 ซึ่งเป็นที่ตั้งของวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม พระอารามหลวงชั้นเอก ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเป็นวัดประจำรัชกาลเมื่อ พ.ศ. ๒๔๑๒ มีลักษณะผสมระหว่างสถาปัตยกรรมไทยกับสถาปัตยกรรมตะวันตก

จุดไหว้สักการะเสริมมงคล

  • พระพุทธอังคีรส ประดิษฐานในพระอุโบสถ เป็นพระที่ให้คุณในด้านของความสงบสุข ความรุ่งเรือง และเป็นพระที่นิยมกราบไหว้ขอพรก่อนเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ
  • รูปหล่อรัชกาลที่ 5 อยู่บริเวณด้านหน้าพระอุโบสถ
  • อัฐิอดีตสมเด็จพระสังฆราช

7.วัดพิชยญาติการาม

ที่วัดพิชยญาติการาม เราต้องข้ามมาทางฝั่งธน ซึ่งนับเป็นพระอารามหลวงชั้นโท แต่เดิมเป็นวัดร้าง ต่อมาสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาพิไชยญาติ (ทัต บุนนาค) ปฏิสังขรณ์วัดแห่งนี้ขึ้นใหม่ มีลักษณะสถาปัตยกรรมแบบไทยผสมจีน ได้น้อมเกล้าฯ ถวายรัชกาลที่ 3 พระราชทานนามว่า “วัดพระยาญาติการาม” ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเปลี่ยนชื่อวัดใหม่เป็น “วัดพิชยญาติการาม” หรือที่คนทั่วไปเรียกกันว่า “วัดพิชัยญาติ”

จุดไหว้สักการะเสริมมงคล

  • พระปรางค์วัดพิชยญาติการามวรวิหาร
  • องค์พระประธานเป็นพระพุทธรูปปั้น ปางมารวิชัยประดิษฐานในพระอุโบสถ หรือที่ชาวบ้านทั่วไปจะเรียกท่านว่า “หลวงพ่อสมปรารถนา”

    ภาพจาก https://www.facebook.com/watarunofficial
    ภาพจาก https://www.facebook.com/watarunofficial

8.วัดอรุณราชวราราม

หรือที่นิยมเรียกกันว่า “วัดแจ้ง” สร้างในสมัยอยุธยา เดิมเรียกว่า “วัดมะกอก” นับเป็นวัดคู่บ้านเมืองตั้งแต่ต้นกรุงรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย พระองค์ได้ทรงบูรณปฏิสังขรณ์วัดแจ้ง และพระราชทานนามใหม่ว่า “วัดอรุณราชธาราม” ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 4 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้บูรณะปฏิสังขรณ์เพิ่มเติมอีก แล้วเปลี่ยนชื่อวัดเป็น “ วัดอรุณราชวราราม ” มีชื่อเต็มว่า “ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ”

จุดไหว้สักการะเสริมมงคล

  • พระปรางค์วัดอรุณ
  • พระพุทธธรรมมิศราชโลกธาตุดิลก ประดิษฐานภายในพระอุโบสถ
  • พระพุทธนฤมิตร ซึ่งเป็นพระพุทธรูปฉลองพระองค์ของรัชกาลที่ 2 ประดิษฐานอยู่ด้านบนบุษบกยอกปรางค์หน้าพระอุโบสถ
  • พระพุทธชัมภูนุทมหาบุรุษลักขณาอสึตยานุบพิตร ประดิษฐานด้านในพระวิหารวัดอรุณ
  • พระอรุณหรือพระแจ้ง ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย องค์พระและผ้าทรงครองทำด้วยทองสีต่างกัน รัชกาลที่ 4 โปรดให้อัญเชิญมาไว้ที่พระวิหารวัดอรุณ ด้วยพระราชดำริว่า นามพระพ้องกับชื่อวัด

9.วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร

วัดสุดท้ายที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา วัดระฆังโฆษิตาราม เดิมชื่อ วัดบางว้าใหญ่ (หรือบางหว้าใหญ่) เป็นวัดโบราณสร้างในสมัยอยุธยา มาในสมัยธนบุรี ได้ถูกยกขึ้นเป็นพระอารามหลวง  ต่อมาในสมัยรัตนโกสินทร์ วัดบางว้าใหญ่อยู่ในพระอุปถัมภ์ของเจ้านายวังหลัง คือ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากรมพระเทพสุดาวดี (สา) พระเชษฐภคินีของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ได้ขุดพบระฆังลูกหนึ่ง ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นำไปไว้ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยทรงสร้างระฆังชดเชยให้วัดบางว้าใหญ่ ๕ ลูก จากนั้นได้พระราชทานนามวัดใหม่ว่า “วัดระฆังโฆสิตาราม”

จุดไหว้สักการะเสริมมงคล

  • พระประธานยิ้มรับฟ้า ประดิษฐานในพระอุโบสถ
  • รูปหล่อสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)

 

ข้อมูลอ้างอิงจาก https://www.scb.co.th/https://www.cosmenet.in.th

อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

สีเสื้อตามวันเกิด สีมงคลรับปี 2566 สีไหนใส่แล้วเฮงรีบเลย

ฝันเห็นพระพุทธรูป โบราณว่ามีบุญ เผยวิธีรับบุญให้รวยปัง

สีกระเป๋าสตางค์ ตามวันเกิด 2566 สีไหนเด็ดสีไหนปังรับปีกระต่าย

เปิด ปีชง 2566 ปีไหนชงรับปีกระต่ายพร้อมวิธีแก้เสริมดวงเฮง

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up