ประจําเดือนขาดกี่วันถึงท้อง สัญญาณบ่งชี้ว่ากำลังตั้งครรภ์!!

Alternative Textaccount_circle
event

ประจําเดือนขาดกี่วันถึงท้อง ประจำเดือนของผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ส่วนใหญ่จะมาทุก ๆ 21 – 35 วัน หรืออาจมาคลาดเคลื่อนไม่เกิน 7 วัน หากเกิน 7 วันหมายถึง ท้อง?

ประจําเดือนขาดกี่วันถึงท้อง สัญญาณบ่งชี้ว่ากำลังตั้งครรภ์!!

การที่ประจำเดือนขาดหรือมาช้า อาจมีสาเหตุมาจาก ความเครียด ความวิตกกังวล การลดน้ำหนัก ไม่สบาย เป็นต้น แล้วจะทราบได้อย่างไรว่า  สาเหตุมาจากอะไร ท้องหรือไม่ท้อง ทีมกองบรรณาธิการ ABK ได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ ประจําเดือนขาดกี่วันถึงท้อง มาให้คุณผู้หญิงได้พิจารณาว่า อาการที่เกิดขึ้นในตอนนี้คืออะไร มาดูรายละเอียดกันเลยค่ะ

ประจําเดือนขาดกี่วันถึงท้อง
ประจําเดือนขาดกี่วันถึงท้อง

ประจําเดือนขาดกี่วันถึงท้อง สัญญาณบ่งชี้ว่ากำลังตั้งครรภ์!!

ประจำเดือนไม่มากี่วันถึงท้อง มักเกิดคำถามนี้ขึ้นเป็นประจำสำหรับผู้มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน หรือเกิดความผิดพลาดในการคุมกำเนิด เช่น ถุงยางอนามัยขาด ลืมกินยาคุม โดยปกติหากมีเพศสัมพันธ์แล้วประจำเดือนมาช้ากว่ากำหนดประมาณ 1 – 2 สัปดาห์ อาจเป็นไปได้ว่ากำลังตั้งครรภ์ ซึ่งวิธีนี้อาจใช้ได้สำหรับผู้หญิงที่ประจำเดือนมาตรงกำหนดทุกเดือน  แต่สำหรับผู้หญิงที่ประจำเดือนมาไม่ปกติ อาจต้องสังเกตสัญญาณการตั้งครรภ์อื่น ๆ และใช้ชุดตรวจครรภ์ร่วมด้วยเพื่อยืนยันผล อย่างไรก็ตาม ประจำเดือนไม่มา อาจเกิดจากสาเหตุอื่น ๆ ได้ เช่น การลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว ความเครียด วัยหมดประจำเดือน ภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ

ประจำเดือนไม่มากี่วันถึงท้อง

ผู้หญิงที่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์และมีเพศสัมพันธ์ โดยไม่ป้องกันหรือการป้องกันเกิดความผิดพลาด เมื่อเวลาผ่านไปกว่า 1 – 2 สัปดาห์ โดยนับจากวันที่คาดว่าจะมีประจำเดือน แต่ประจำเดือนไม่มาตามกำหนด เป็นไปได้ว่ากำลังตั้งครรภ์ ทั้งนี้ อาจตรวจเช็คสัญญาณการตั้งครรภ์อื่น ๆ ที่เกิดขึ้นกับร่างกาย เช่น คลื่นไส้ อาเจียน คัดหน้าอก และซื้อชุดตรวจการตั้งครรภ์มาตรวจเพื่อยืนยัน หากตรวจแล้วไม่พบการตั้งครรภ์ให้เว้นไปอีก 1 สัปดาห์ และหากประจำเดือนยังไม่มาให้ตรวจอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม หากตรวจทั้ง 2 ครั้งแล้วยังไม่พบการตั้งครรภ์และประจำเดือนยังไม่มา อาจเป็นไปได้ว่าฮอร์โมน HCG ที่พบในหญิงตั้งครรภ์ยังไม่มากพอ จึงควรเข้ารับการตรวจครรภ์ที่โรงพยาบาลอีกครั้ง นอกจากนี้ ประจำเดือนไม่มาอาจเกิดจากสาเหตุอื่น ๆ เช่น การลดน้ำหนักมากเกินไป การเพิ่มน้ำหนักอย่างรวดเร็ว ใช้ยาคุมกำเนิด ความเครียด กลุ่มอาการรังไข่มีถุงน้ำหลายใบ

สัญญาณเตือน ที่บ่งบอกว่าคุณกำลังตั้งครรภ์

  • ประจำเดือนขาด ประจำเดือนมาช้า เนื่องจากร่างกายเกิดการปฏิสนธิ ถ้าหากประจำเดือนขาดหายไป หรือ คลาดเคลื่อนไปหลายวัน เป็นอาการบ่งบอกว่าคุณอาจกำลังตั้งครรภ์ 
  • เหนื่อยล้า อ่อนเพลีย เป็นผลมาจากฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนในร่างกาย เนื่องจากอวัยวะหลายส่วนของร่างกาย เช่น หัวใจ ปอด และไต จะต้องทำงานหนักมากขึ้นเพื่อบำรุงตัวอ่อนทารกที่อยู่ในครรภ์
  • คลื่นไส้ อาเจียน อาการคลื่นไส้และอาเจียนมักเกิดขึ้นภายใน 1 เดือน หลังจากเริ่มมีการตั้งครรภ์ เป็นหนึ่งในอาการแพ้ท้องที่พบบ่อยร้อยละ 50 แต่ในบางรายก็อาจไม่มีอาการดังกล่าว หรือมีอาการในช่วง เดือนที่ 3 – 4 ได้
  • เบื่ออาหาร ลักษณะการกินเปลี่ยนแปลงไป บางคนอาจจะอยากรับประทานอาหารแปลๆ ที่ไม่เคยกิน หรือเบื่ออาหารที่เคยชอบ หรืออาจอยากรับประทานอาหารเปรี้ยว ๆ เป็นต้น
  • เวียนศีรษะ หน้ามืด เนื่องจากฮอร์โมนในร่างกายและความดันเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง อาจส่งผลให้รู้สึกวิงเวียนศีรษะ หน้ามืด ตาลายบ่อยๆ
  • อารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่ายแบบไม่มีสาเหตุ เนื่องจากระดับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนที่มีการเปลี่ยนแปลง
  • อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้น จะมีอาการรู้สึกตัวร้อนรุมๆ คล้ายจะเป็นไข้ เนื่องจากร่างกายจะมีการสร้างฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนเพิ่มขึ้น
  • ปัสสาวะบ่อยกว่าปกติ เนื่องจากมดลูกที่โตขึ้นไปกดกระเพาะปัสสาวะ จึงทำให้แม่ตั้งครรภ์ปวดปัสสาวะบ่อย อาการปัสสาวะบ่อย จะเริ่มดีขึ้นเมื่อมดลูกขยายเข้าในท้อง
  • ท้องผูก ฮอร์โมนในร่างกายที่เปลี่ยนแปลงจะมีผลกระทบต่อระบบขับถ่าย ทำให้ทำงานได้ช้าลง และเป็นที่มาของอาการท้องผูก
  • มีเลือดออกจากช่องคลอด เลือดออกกะปริบกะปรอย คล้ายกับเวลาใกล้หมดประจำเดือน ซึ่งอาจเกิดจากตัวอ่อนที่ไปฝังตัวอยู่บนผนังมดลูก
  • ตกขาวมากกว่าปกติ เกิดจากฮอร์โมนเอสโตรเจนมีการเปลี่ยนแปลง ทำให้มีน้ำไหลออกมาจากช่องคลอดมากขึ้น และหลุดออกมาเป็นตกขาว
  • ปวดศีรษะ ผู้หญิงตั้งครรภ์ส่วนใหญ่มักมีอาการวิงเวียน ปวดศีรษะเล็กน้อย หรืออาจเป็นลมหน้ามืดได้ เกิดจากการที่เมื่อมีการกดทับของหลอดเลือดใหญ่ที่นำเลือดจากร่างกายไปสู่หัวใจได้ไม่ดี ทำให้มีอาการปวดหัว หน้ามืด เป็นลม พบบ่อยในช่วง 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์
  • ตึงคัดเต้านม เต้านมและหัวนมมีการเปลี่ยนแปลง อาจรู้สึกคัดตึงคล้ายๆ ช่วงก่อนที่จะมีประจำเดือนหรือเสียวจี๊ด ๆ ซึ่งอาการนี้จะเกิดขึ้นได้หลังจากที่ประจำเดือนเริ่มขาดไปประมาณ 1 สัปดาห์
  • ปวดหลัง พบได้บ่อยตั้งแต่เดือนแรก จนใกล้คลอด สาเหตุก็เกิดจากมดลูกเช่นกัน เมื่อตั้งครรภ์ มดลูกมีขนาดใหญ่ และมีน้ำหนักมากขึ้น ทำให้หลังต้องแบกน้ำหนักเพิ่มจนทำให้ปวดหลังขณะตั้งครรภ์ได้
  • จมูกไว คนที่กำลังตั้งครรภ์จะสามารถรับรู้ได้ไวกว่าคนทั่วไป ซึ่งเป็นผลมาจากฮอร์โมนเอนโตรเจนที่เพิ่มขึ้น
ซื้อชุดตรวจการตั้งครรภ์มาตรวจเพื่อยืนยัน
ซื้อชุดตรวจการตั้งครรภ์มาตรวจเพื่อยืนยัน

อย่างไรก็ตาม ในผู้ที่ตั้งครรภ์ช่วงระยะ 1 – 2 สัปดาห์แรก จะไม่ค่อยแสดงอาการมากเท่าไร ซึ่งอาการคนท้อง แต่ละคนอาจจะเหมือนหรือแตกต่างกันไป แม่ตั้งครรภ์บางคน อาจไม่มีอาการแพ้ท้องเลย บางคนอาจมีอาการน้อยมาก หากต้องการทราบว่าตั้งครรภ์จริงหรือไม่  ควรตรวจการตั้งครรภ์ โดยเบื้องต้นอาจจะตรวจการตั้งครรภ์ด้วยชุดตรวจการตั้งครรภ์ ที่หาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป  

หรือไปตรวจกับคุณหมอเพื่อตรวจการตั้งครรภ์ จะได้ทราบผลที่แน่ชัด และหากตั้งครรภ์ จะได้รีบฝากครรภ์ตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อสุขภาพของแม่ตั้งครรภ์ และทารกในครรภ์

การตรวจการตั้งครรภ์ด้วยชุดตรวจทั่วไป อาจจะยังไม่บ่งบอกว่าคุณกำลังตั้งครรภ์ เพราะชุดตรวจการตั้งครรภ์จะตรวจพบการตั้งครรภ์ระดับฮอร์โมน HCG ในปัสสาวะมีมากพอ ซึ่งอาจกินเวลาอีกหลายวันหลังจากประจำเดือนขาดไป

สาเหตุอื่น ๆ ที่อาจทำให้ประจำเดือนไม่มา

นอกจากการตั้งครรภ์ อาจมีหลายสาเหตุที่ส่งผลทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติ หรือประจำเดือนไม่มาได้ สาเหตุที่อาจพบได้บ่อยมีดังนี้

  • ความเครียด อาจส่งผลให้ประจำเดือนมานานขึ้นหรือสั้นลง และอาจทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติ หรือขาดหายไป เนื่องจากความเครียดส่งผลต่อการสั่งการของสมองที่ทำหน้าที่กระตุ้นรังไข่ให้ผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรน ที่กระตุ้นการมีประจำเดือน
  • การออกกำลังกายมากเกินไป อาจทำให้ร่างกายอ่อนล้าและเกิดความเครียด ซึ่งอาจส่งผลต่อการผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนที่ผิดปกติทำให้หยุดการตกไข่ และส่งผลต่อการมีประจำเดือน
  • การลดหรือการเพิ่มน้ำหนักอย่างรวดเร็ว การลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว เช่น การอดอาหาร การรับประทานยาลดน้ำหนัก อาจยับยั้งการผลิตฮอร์โมนที่จำเป็นสำหรับการตกไข่ และน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นมากเกินไป อาจส่งผลให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนในปริมาณที่มากเกินไป ส่งผลให้ประจำเดือนมาไม่ปกติหรือประจำเดือนขาดได้
  • การรับประทานยาคุมกำเนิดบางชนิด อาจส่งผลให้ประจำเดือนหยุด เช่น ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเดียว ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม การฉีดยาคุมกำเนิด ห่วงคุมกำเนิด อย่างไรก็ตาม หากหยุดรับประทานยาคุมกำเนิด ประจำเดือนก็จะกลับมาเป็นปกติ
  • กลุ่มอาการรังไข่มีถุงน้ำหลายใบ เป็นความผิดปกติของต่อมไร้ท่อ หรือระบบฮอร์โมนมีลักษณะถุงน้ำหลายใบภายในรังไข่ อาจเกิดจากการถ่ายทอดทางพันธุกรรม ส่งผลให้ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง ทำให้ไม่สามารถปล่อยไข่ได้ ส่งผลให้ผู้ที่เป็นโรคนี้ประจำเดือนมาไม่ปกติหรือประจำเดือนขาด
  • วัยหมดประจำเดือน ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในผู้หญิงที่มีอายุ 40 – 55 ปี เนื่องจากระดับของฮอร์โมนเอสโตรเจนที่ลดลง ส่งผลให้การตกไข่น้อยลง และหยุดลงในที่สุด  ทำให้ไม่มีประจำเดือน

เมื่อไหร่ควรพบคุณหมอ

หากประจำเดือนมาไม่ปกติ หรือประจำเดือนขาดร่วมกับปัจจัยเหล่านี้ควรเข้าพบคุณหมอ

  • ประจำเดือนมานานถึง 7 วัน หรือมากกว่านั้น
  • ประจำเดือนมาบ่อยในทุก ๆ 21 วัน หรือมาน้อยในทุก ๆ 35 วัน นับจากประจำเดือนวันสุดท้าย
  • บางเดือนประจำเดือนมาน้อยมาก หรือบางเดือนประจำเดือนมามากกว่าปกติ สลับกันไป
  • ประจำเดือนมาไม่ปกติและทำให้ตั้งครรภ์ได้ยาก
  • ประจำเดือนมาไม่ปกติ ในขณะที่คุณผู้หญิงอายุ 45 ปี

ข้อมูล ประจําเดือนขาดกี่วันถึงท้อง ที่ทีมกองบรรณาธิการ ABK นำมาฝากนี้ คงทำให้คุณผู้หญิงได้ทราบรายละเอียด และสามารถประเมินได้ในเบื้องต้นว่า ตั้งครรภ์หรือไม่ แต่หากจะให้แน่นอนควรได้รับการตรวจโดยแพทย์นะคะ

อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

คุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่วางแผนได้ มีลูกเมื่อพร้อม เทคโนโลยีตอบโจทย์ เพิ่มโอกาสการมีลูกให้สำเร็จได้ ครอบคลุมทุกขั้นตอนการรักษา พร้อมออกแบบแผนการรักษาเฉพาะแต่ละครอบครัว ที่ “Superior A.R.T.”

ที่ตรวจครรภ์ มีกี่แบบ? พร้อมวิธีใช้และวิธีอ่านผล

เช็กให้ชัวร์! หลั่งในไม่ท้อง หลังคุมกำเนิดกิน ฉีด ฝังไปแล้วกี่วัน

10 อาการเตือนคนเริ่มท้อง และเรื่องน่ารู้สำหรับคุณแม่

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : https://hellokhunmor.com, https://www.sikarin.com

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up