Page 187 – AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

COVID-19

11 ข้อพ่อแม่ควรทำ & ไม่ควรทำ รับมือ COVID-19 โดย พ่อเอก

ในตอนนี้คงไม่มีเรื่องอะไรน่ากังวลไปกว่า COVID-19 แล้ว ในโลกที่เชื่อมต่อกันได้เร็วมากๆ ข้อดีก็คือเราถึงข่าวสารข้อมูลได้เร็ว ข้อเสียคือข้อมูลที่เร็วและมากเกินไปก็ก่อให้เกิดการตื่นตระหนก หรือ ไม่มีการกรองข่าวลือทั้งหลาย โดยเฉพาะเหล่าคุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกยังเล็กและเรียนอยู่จะยิ่งกังวล เพราะลูกต้องไปอยู่ในสถานที่ที่มีคนหมู่มาก

พ่อแม่ควรทำ & ไม่ควรทำ รับมือโรคระบาด COVID-19

การติดตามข่าวสารเป็นสิ่งที่ดี แต่ควรจะ

  • ติดตามข่าวสารจากแหล่งที่เชื่อถือได้ ข้อมูลที่ forward กันทาง line ทาง FB มันเร็วมากแต่ถ้าไม่มีแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือชัดเจน อย่าส่งต่อเลย
  • อย่าติดตามอ่านตลอดเวลา มันจะทำให้เราเสียสุขภาพจิต โดยเฉพาะ line group ของผู้ปกครอง ขอให้รอข่าวสารที่ชัดเจนจากทางโรงเรียน อย่าไปโหมกันเอง

ในช่วงที่ COVID-19 ระบาดนี้ ต้นเหตุที่เราได้เห็นจากข่าวทั้งในไทยและต่างประเทศคือ

  • การไม่ยอมยกเลิกการเดินทางไปในประเทศที่มีความเสี่ยง
  • การไม่ยอมกักตัวเองเพื่อดูอาการ เมื่อกลับมาจากสถานที่มีความเสี่ยง
  • และที่ร้ายสุดคือ เมื่อป่วยแล้วปกปิดว่าไม่ได้เดินทางไปในประเทศที่มีความเสี่ยง

เมื่อรู้เช่นนั้นแล้ว ในครอบครัวที่มีเด็ก ขอวิงวอนให้ยกเลิกการเดินทางไปในประเทศที่มีความเสี่ยง เพราะได้ไม่คุ้มเสีย

คุณพ่อคุณแม่ตั้งคำถามก่อนตัดสินใจไปว่า

  • กลับมาแล้วท่านพร้อมที่จะกักตัวอยู่ในบ้านเพื่อดูอาการหรือไม่ เพราะท่านต้องหยุดงานและลูกต้องหยุดเรียนอย่างน้อย 14 วัน
  • ถ้าไม่พร้อมจะหยุดแต่ดื้อจะออกไปทำงานปกติ แล้วหากท่านมีเชื้อในตัวแต่ยังไม่แสดงอาการ ท่านได้เห็นข่าว super spreader ที่สร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงทั้งที่เกาหลีและที่ไทยแล้ว ท่านอยากจะเป็นอีกครอบครัวหนึ่งที่ถูกจดจำเช่นนั้นหรือ
  • โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากลูกไปโรงเรียนแล้วไปทำให้เพื่อนติดเกิดมีเด็กคนอื่นเสียชีวิตขึ้นมาไม่มีใครรับผิดชอบชีวิตนั้นได้ไหว หรือแม้จะโชคดีไม่มีใครติดไปแต่โรงเรียนก็ต้องหยุดการสอนไปทั้งหมดอย่างน้อย 14 วันจากครอบครัวเดียว

โควิด-19 พ่อแม่ติดเชื้อส่งผลกระทบถึงลูกน้อย

ในระหว่างนี้ เลี่ยงไปที่มีคนแน่นได้ก็ควรเลี่ยง และสิ่งที่ควรจะทำตลอดเวลาทั้งลูกและคุณพ่อคุณแม่คือ

  • สวมหน้ากากกันไว้ตลอด ไม่ต้องเช็คค่า pm 2.5 แล้ว สวมตลอด
  • พกเจลล้างมือไว้ ล้างให้พร่ำเพรื่อดีที่สุด พกกับตัวล้างตลอดเวลา ขึ้นรถ ลงเรือ กดลิฟท์ เข้าห้องน้ำ ซื้อของ ล้างให้หมด
  • เตือนคนรอบข้าง ครอบครัวรอบข้างให้ทำเช่นกัน ในที่ทำงานก็อย่าเกรงใจกัน ช่วยกันเตือน

วิธีทำหน้ากากอนามัย ใช้เองได้ง่ายนิดเดียว

วิธีทำแอลกอฮอล์เจลล้างมือ ฆ่าเชื้อโรค ไว้ใช้เองที่บ้าน

สุดท้ายถ้าเราทำดีที่สุดแล้ว ทั้ง กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ ทำร่างกายให้แข็งแรง เมื่อทำครบแล้ว อย่าลืมทำจิตใจให้สดใสเพราะจิตที่ดีกายจะดี และก็ช่วยกันสวดมนต์หรือขอพรสิ่งศักสิทธิ์ของแต่ละศาสนาที่ท่านนับถือเพราะในยามที่ใจหวั่นไหว การให้ใจมีที่พึ่งเพื่อให้มีสติ เป็นสิ่งที่สำคัญ …. เป็นกำลังใจให้กันนะครับ

บทความน่าสนใจอื่นๆ

สอนลูกให้เป็น พลเมืองแบบ active citizen โดยพ่อเอก

แชร์เทคนิค”สอนลูกให้รู้จักรับผิดชอบ”ตั้งแต่เด็ก โดย พ่อเอก

 


>>แวะไปดู รอยยิ้มหวานฉ่ำ ที่มีแจกฟรีทุกวันได้ที่เฟซบุ๊ค

หมุนรอบลูก – พี่ปูนปั้น กับ น้องปั้นแป้ง นะครับ<<

ปูนปั้น ปั้นแป้ง พ่อเอก
ปูนปั้น ปั้นแป้ง พ่อเอก เพจหมุนรอบลูก

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

    โรงแรมที่มี kid club ภูเก็ต

    7 โรงแรมที่มี kid club ภูเก็ต ดี๊ดี เอาใจลูกทุกวัย ถูกใจยกครอบครัว

    บ้านไหนจัดทริปพาเด็ก ๆ ไปท่องเที่ยวเก็บเกี่ยวประสบการณ์ถึง “ภูเก็ต” ลองมองหา โรงแรมที่มี kid club ภูเก็ต ที่พักที่ตอบโจทย์สำหรับแฟมิลี่ทริปได้เป็นอย่างดี ให้คุ้มค่ากับการเดินทางไกลมาพักผ่อนกันหน่อยค่า เพราะที่ภูเก็ตมีที่พักที่มี “คิดส์คลับ” เอาใจเด็ก ๆ ทุกวัย เพื่อเติมเต็มวันพักผ่อนของคุณหนู ๆ ให้ได้มีความสุขในการท่องเที่ยว แถมยังช่วยให้คุณพ่อคุณแม่เอนจอยกับการพักผ่อนในบรรยากาศดี ๆ ได้อย่างเต็มที่ มีที่ไหนบ้างมาดูกันเลยค่า

    7 โรงแรมที่มี kid club ภูเก็ต ดี๊ดี เอาใจลูกทุกวัย ถูกใจยกครอบครัว

    1.Centara Grand Beach Resort Phuket

    Centara Grand Beach Resort Phuket
    Centara Grand Beach Resort Phuket

    โรงแรม เซ็นทารา แกรนด์ บีช รีสอร์ท ภูเก็ต ทำเลที่ตั้งอยู่บนชายหาดกะรน ด้านหลังเป็นเนินเขาสีเขียวขจี และที่พักล้อมรอบสวนน้ำส่วนตัว ออกแบบเป็นแนวสถาปัตยกรรมชิโนโปรตุกีสคลาสสิกที่เป็นลักษณะเฉพาะของตัวเมืองภูเก็ต  นอกจากสถานที่พักอันได้บรรยากาศสุขสบาย ได้สัมผัสกับธรรมชาติเต็มร้อย และผ่อนคลายสำหรับทุกคน ทางรีสอร์ทยังมีกิจกรรมยามว่างที่สนุกสนาน เพื่อรองรับความสนุกของเด็ก ๆ ทุกวัย ทั้งกีฬาทางน้ำและสวนน้ำ

    Centara Grand Beach Resort Phuket
    Credit Photo : www.centarahotelsresorts.com

    รวมถึงห้องคิดส์คลับ ที่เข้าใจว่าความสนใจของเด็ก ๆ แต่ละคนนั้นแตกต่างกัน จึงมีทางเลือกที่หลากหลาย สำหรับเด็ก ๆ ที่ชอบเล่นเกมส์ ที่นี่มี E-zone ซึ่งมีเกมส์หลากชนิดให้เลือก ทั้งตู้เกมส์ เกมส์หยอดเหรียญ หรือเกมส์เพลย์สเตชั่น เด็ก ๆ ที่รักการอ่านก็มีมุมนิทาน มีมุมของเล่น ตุ๊กตา ในโซน Camp Zafari มีบ่อบอลหลากสีสัน รวมทั้งมีกิจกรรมที่หลากหลายที่ชวนให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้ความเป็นไทยมากขึ้น ทั้งวัฒนธรรมไทย การไหว้ การเรียนภาษาไทย สารพัดงานประดิษฐ์ โดยเฉพาะการเพ้นท์ผ้าบาติกบนผ้าเช็ดหน้าหรือเสื้อยืด การทำเทียนเจล และอื่น ๆ ที่ทำเสร็จแล้วจะได้ผลงานกลับไปเป็นที่ระลึกด้วยนะ

    สำหรับโซนเอ้าท์ดอร์ มีพื้นที่สนามเด็กเล่น แป้นบาสเล็ก ๆ โต๊ะปิงปอง และสระว่ายน้ำที่มีสไลเดอร์หลายขนาดให้เด็ก ๆ ไถลเล่นลงสระกันอย่างสนุกสนานแน่นอน จัดเป็นคิดส์คลับอีกที่ที่ตอบโจทย์สำหรับเด็กทุกวัยจริง ๆ จ้า

    Centara Grand Beach Resort Phuket

    ที่ตั้ง : 683 หาดกะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต 83100
    โทร : 076 201 234
    ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.centarahotelsresorts.com

    2.Dusit Thani Laguna Phuket Hotel

    Dusit Thani Laguna Phuket Hotel
    Dusit Thani Laguna Phuket Hotel
    Dusit Thani Laguna Phuket Hotel
    Credit Photo : www.dusit.com

    โรงแรมดุสิตธานี ลากูน่า ภูเก็ต อยู่ท่ามกลางแมกไม้เขียวขจีที่เต็มไปด้วยสนพื้นเมือง และทิวต้นมะพร้าว อาคารที่พักโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์นีโอ-โคโลเนียลผสมผสานกับสไตล์ไทยประยุกต์ พร้อมด้วยบรรยากาศหาดทราย สายลม ทำให้การมาพักผ่อนของครอบครัวลงตัวสุด นอกจากจะเพลิดเพลินกับสิ่งอำนวยความสะดวกชั้นนำระดับโลกมากมาย ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการและทุกเพศทุกวัย อาทิเช่น สระว่ายน้ำ คอร์ทเทนนิส ลู่วิ่งจ๊อกกิ้ง ศูนย์กีฬาทางน้ำ ฟิตเนสเซ็นเตอร์ สปา และคิดส์คลับ ที่มีเกมส์ ศิลปะ งานฝีมือ และสนามเด็กเล่นให้เด็ก ๆ ได้สนุกในทริปนี้อย่างเต็มที่เลยค่ะ

    Dusit Thani Laguna Phuket Hotel

    ที่ตั้ง : 390 อาคาร หาดบางเทา ถนนศรีสุนทร ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง ภูเก็ต
    โทร : 076362999
    ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.dusit.com

    3.Club Med Phuket

    โรงแรมคลับเมดจัดว่ามีชื่อเสียงด้านโรงแรมสำหรับครอบครัวแห่งหนึ่งของโลก นอกจากที่พักสวยงาม หรูหรา และดูดี คลัดเมด ภูเก็ต ยังจัดเป็นสถานที่พักผ่อนที่มีกิจกรรมครบทุกอย่างให้ทุกคนในครอบครัวได้สนุกตามความชอบทุกวัย ไม่ว่าจะเป็น มวยไทย โยคะ เทนนิส ดำน้ำชมปะการัง บาสเกตบอล ทำอาหาร และกิจกรรมที่สนุกอีกหลากหลาย

    คลัดเมด ภูเก็ต
    Credit Photo : www.facebook.com/ClubMedPhuket
    คลัดเมด ภูเก็ต
    Credit Photo : www.clubmed.co.th

    ในส่วนของเด็ก ๆ ที่นี่มี Kids Club ได้แบ่งออกเป็นกิจกรรมตามวัย ได้แก่ Baby Club Med: สำหรับเด็กอายุ 4-23 เดือน โดยจะมีพี่เลี้ยงส่วนตัวที่ได้รับการฝึกอบรมเพื่อเสริมสร้างพัฒนาการเด็กได้อยู่กับเด็ก ๆ อย่างใกล้ชิด Petit Club Med: สำหรับเด็กอายุ 2-3 ปี ที่มีกิจกรรมทั้งกีฬา งานฝีมือ การแสดงออก และเกม ฯลฯ ภายใต้การดูแลของเจ้าหน้าที่โดยเฉพาะเช่นกัน เพื่อให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้ มีความสนุกสนาน และได้ประสบการณ์ความประทับใจในการมาพักผ่อนครั้งนี้ สร้างความทรงจำที่ดีสำหรับครอบครัว อย่างมีความสุขไม่รู้ลืมกันเลยละคะ

    Club Med Phuket

    ที่ตั้ง : ตำบลกะรน อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต
    โทร : 
    076-330-455

    ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.clubmed.co.th

    4.Jw Marriott Phuket Resort And Spa

    เจดับบลิวแมริออทภูเก็ตรีสอร์ทแอนด์สปา
    เจดับบลิวแมริออทภูเก็ตรีสอร์ทแอนด์สปา

    โรงแรม เจดับบลิวแมริออทภูเก็ตรีสอร์ทแอนด์สปา ตั้งอยู่บนทำเลริมชายหาดไม้ขาวที่ยังคงความเป็นธรรมชาติและมองเห็นทัศนียภาพอันสวยงามของทะเลอันดามัน นอกจากการได้เดินเล่นและให้เจ้าตัวเล็กได้วิ่งเล่นสัมผัสกับหาดทรายขาวสุดลูกหูลูกตา ภายในรีสอร์ทยังมีกิจกรรมที่จะชวนทั้งครอบครัวเพลิดเพลินได้ตลอดทั้งวัน ทั้งสระว่ายน้ำ และ “Kid’s Pavilion” คิดส์คลับที่มีกิจกรรมศิลปะ งานประดิษฐ์ รวมทั้งกิจกรรมกลางแจ้งที่เด็ก ๆ จะได้กระโดดโลดเต้น ยืดเส้นยืดสาย เช่น กิจกรรม Mini Ninja Training มวยไทย วอลเล่ย์บอล โดยมีทีมเจ้าหน้าที่ที่ผ่านการอบรมการดูแลเด็กและมีความถนัดในด้านต่างๆ ทั้งกีฬา ศิลปะ งานประดิษฐ์ คอยให้คำแนะนำดูแลเด็ก ๆ อย่างใกล้ชิด

    เจดับบลิวแมริออทภูเก็ตรีสอร์ทแอนด์สปา
    เจดับบลิวแมริออทภูเก็ตรีสอร์ทแอนด์สปา

    ไม่เพียงแต่กิจกรรมเฉพาะเด็ก ๆ เท่านั้น ยังมีกิจกรรมที่เหมาะสำหรับครอบครัว อาทิเช่น ห้องชมภาพยนตร์ ห้องเล่นเกม โต๊ะพูล คาราโอเกะเครื่องเล่มเกมเพลย์เตชั่น โต๊ะปิงปอง โยคะ ทำขนมไทย ดำน้ำขั้นพื้นฐาน ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรม Kids Turtle Warriors ที่จะพาเด็กๆ ออกไปเรียนรู้ชีวิตเต่าทะเล ซึ่งทำเลของโรงแรม เคยเป็นจุดวางไข่ของเต่าทะเล ทำให้ที่นี่ให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์เต่าทะเล และปํนโอกาสในการเรียนรู้ของเด็ก ๆ ที่หาไม่ได้ง่าย ๆ เด็กๆ จะได้ลองให้อาหารเต่า ทำความสะอาดหลังเต่า ได้เห็นเต่าทะเลอย่างใกล้ชิด เรียกได้ว่ามาพักผ่อนที่นี่ทั้งที่ ได้สัมผัสกับกิจกรรมหลากหลายที่มีให้บริการสำหรับทุกช่วงวัย ทำให้สมาชิกครอบครัวได้ใช้เวลาร่วมกันอย่างมีความสุข และเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในวันพักผ่อนอย่างเพลิดเพลินทุกคนเลยละคะ

    เจดับบลิวแมริออทภูเก็ตรีสอร์ทแอนด์สปา
    Credit Photo : www.marriott.com

    Jw Marriott Phuket Resort And Spa

    ที่ตั้ง : 231 หมู่3 อาคาร หาดไม้ขาว ถนนเทพกระษัตรี ตำบลไม้ขาว อำเภอถลาง ภูเก็ต
    โทร : 0-7633-8000
    ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.marriott.com

    อ่านต่อ 7 ที่พักภูเก็ตดี๊ดี มี Kids Club คลิกหน้า 2

    เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

      OQ (Optimist Quotient)

      8 วิธีเลี้ยงลูก ให้มี OQ (Optimist Quotient) ฉลาดมองโลกในแง่ดี ส่งผลดีต่อชีวิต

      วัยเด็กเป็นช่วงวัยที่สำคัญสำหรับการส่งเสริมพัฒนาการรอบด้าน รวมถึงด้านความคิด สอนให้ลูกได้คิดบวก เป็นเด็กที่มี OQ (Optimist Quotient) ความฉลาดในการมองโลกในแง่ดี ซึ่งก็จะทำให้เป็นมีสุขภาพจิตดี เมื่อเกิดปัญหาก็มีสติตั้งรับที่จะแก้ไข ไม่เครียดจนเกินไป ทำให้สามารถเรียนรู้ที่จะเอาชนะอุปสรรคและเชื่อมั่นในความสามารถของตัวเอง นอกจากการส่งเสริมให้ลูกมี IQ และ EQ ดี ยังมีอีก Q อีกหนึ่งตัวที่จะทำให้ลูกเก่ง ดี และมีความสุข นั่นคือการสร้าง OQ หรือ ความฉลาดด้านการมองโลกแง่ดี

      เด็กที่มี “OQ” นั้นจะทำให้มองเห็นคุณค่าในตัวเองและรู้จักให้คุณค่าต่อผู้อื่นด้วย ซึ่งผลต่อความคิดในทางบวกในระยะยาวก็จะมีผลต่อจิตใจและร่างกาย ทำให้เป็นเด็กที่ร่าเริง แจ่มใส จิตใจดี กล้าที่จะยอมรับผิดเพื่อที่จะแก้ไขให้ดีและถูกต้อง โดยรวมแล้วเป็นการมองทุกสิ่งในแง่ดีมากกว่าแง่ร้ายนั่นเอง และนี่คือเคล็ดลับ วิธีสร้างความฉลาดในการมองโลกในแงดี ที่จะช่วยพัฒนามุมมองที่สดใสและมีทัศนคติที่ดีต่อการใช้ชีวิตในทุก ๆ วันให้กับเจ้าตัวเล็ก

      8 วิธีเลี้ยงลูก ให้มี OQ (Optimist Quotient)
      ฉลาดมองโลกในแง่ดี คิดบวก มีผลดีต่อชีวิต

      1.พ่อแม่เป็นแบบอย่างที่ดีที่สุดในการมองโลกในแง่ดี

      เด็ก ๆ จะมองเห็นทัศนคติและเรียนรู้ที่จะมองโลกในแง่ดี มีความยืดหยุ่นในสถานการณ์ที่เหมาะสมจากคุณพ่อคุณแม่ที่แสดงให้เห็นและสอนลูก ไม่ขี้บ่นหรือโวยวายในสถานการณ์แย่ ๆ ให้ลูกฟัง พยายามรับมือกับสถานการณ์อย่างสงบ ใช้คำพูดที่เป็นกำลังใจมากกว่าในด้านลบ เช่น ถ้าลูกกลับมาด้วยผลสอบที่ต่ำกว่า แทนที่คุณแม่จะโกรธและต่อว่า ก็ให้ใช้วิธีคิดบวกมากขึ้น เพื่อให้มองเห็นเรื่องดี ๆ มากกว่าเรื่องแย่ อาจจะเป็นคำพูดว่า “คราวหน้าพยายามกันใหม่นะ” หากคิดถึงแต่สิ่งแย่ ๆ ก็จะทำให้ไม่พอใจ ซึ่งลูกก็จะเรียนรู้ทัศนคติเหล่านี้ผ่านประสบการณ์จากคุณพ่อคุณแม่นั่นเอง ดังนั้นในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วนี้ การปลูกฝังให้ลูกมี OQ ถือเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างต่อชีวิตลูกได้ในระยะยาว

      OQ Optimist Quotient

      2.สอนลูกให้รู้จักแบ่งปัน มีน้ำใจ

      การได้ช่วยเหลือใครบางคนหรือมีความเอื้อเฟื้อแบ่งปันต่อผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นการบริจาคสิ่งของที่ไม่ใช่แล้ว การพาลูกเป็นจิตอาสา การแบ่งขนม ผลัดกันเล่นของเล่นกับเพื่อน ฯลฯ การได้ทำในสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่จะทำให้เด็ก ๆ เกิดความภาคภูมิใจ มีความสุข ซึ่งเป็นผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นได้จากความคิดบวกนั่นเอง

      3.กระตุ้นให้ลูกได้ลองทำหรือกล้าทำในสิ่งที่แปลกใหม่

      เด็กทุกคนล้วนอยู่ใน comfort zone ของพ่อแม่ แต่ถ้าคุณพ่อคุณแม่ปกป้องโอ๋เจ้าตัวน้อยมากเกินไป ไม่กล้าให้ลูกได้ลองทำกิจกรรมต่าง ๆ เพราะกลัวลูกจะเจ็บ กล้วลูกจะอาย ก่อนที่จะได้ทำ ผลของการให้ลูกอยู่แต่ในโซนที่ปลอดภัยของพ่อแม่ ก็จะส่งผลต่อการใช้ชีวิตในอนาคตที่ทำให้ลูกไม่มีความมั่นใจ เป็นการให้ลูกได้มองโลกในแง่ร้ายมากกว่าแง่ดี ดังนั้น ควรปล่อยให้ลูกได้เล่นอย่างมีอิสระ กระตุ้นให้ลูกได้ลองทำ พิชิตสถานการณ์ที่ยากลำบาก  โดยมีคำพูดเสริมกำลังใจ ในขณะเดียวกันคุณพ่อคุณแม่ก็คอยดูลูกอยู่ในสายตา และเริ่มที่จะให้เด็ก ๆ ได้ลองรับมือกับความเสี่ยงหรือกิจกรรมที่ตื่นเต้นบ้าง เช่น การไปทัศนศึกษา/ การเข้าค่ายพักแรมกับโรงเรียน โดยไม่ตามไปดู ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ไม่จำเป็นต้องกังวลหากลูกอยู่ในความดูแลของหน่วยงานที่รับรองความปลอดภัย หากลูกได้ลองทำอะไรใหม่ ๆ ด้วยตัวเองก็เท่ากับช่วยให้ลูก “ทำได้” สร้างความรู้สึกเชื่อมั่นในความสามารถของตัวเอง

      มองโลกในแง่ดี

      4.สอนให้ลูกรักรู้จักช่วยเหลือตนเองในแต่ละกิจวัตรประจำวันได้

      ลูกในวัยตั้งแต่ 2 ขวบขึ้นไป ต่างก็มีพัฒนาการตามวัยที่พร้อมจะช่วยเหลือตัวเองในชีวิตประจำวันได้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น เริ่มต้นตั้งแต่การแต่งตัวตัว การล้างหน้า แปรงฟัน เก็บที่นอน รู้จักเปิด ปิด ไฟในห้องนอน ช่วยงานบ้านของคุณแม่ Tamar Chansky, Ph.D. นักจิตวิทยาเด็กและนักเขียน กล่าวเกี่ยวกับสิ่งที่ทำให้เด็ก ๆ พ้นจากความคิดในเชิงลบ คือ การได้ทำในบ้านงานที่พ่อแม่มอบหมายให้อย่างเหมาะสมกับวัยของเด็ก เช่น เด็กอายุ 2 ขวบสามารถเก็บของเล่นให้ถูกที่ เด็กอายุ 3 ขวบสามารถถอดเสื้อที่สกปรกของเขาใส่ลงตะกร้าผ้า เด็กอายุ 4ขวบ สามารถนำจานอาหารไปใส่ไว้ที่อ่างล้างจาน เด็กอายุ 5 ขวบสามารถเอาขยะไปทิ้งได้ เด็กอายุ 6 ขวบสามารถแยกประเภทผ้าได้ เมื่อภารกิจทำอย่างเรียบร้อย คุณพ่อคุณแม่ควรชื่นชมทุกครั้ง เพื่อให้ลูกรู้สึกภาคภูมิใจ และสร้างทัศนคติที่ดี โดยปลูกฝังให้คิดว่า “ทำได้” ลูกก็จะมองโลกในแง่ดี และสามารถเอาชนะอุปสรรคผ่านพ้นไปได้

      อ่านต่อ 8 วิธีเลี้ยงลูกให้ฉลาดมองโลกในแง่ดี คลิกหน้า 2

      เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

        พาลูกเที่ยว อยุธยา

        ห้ามพลาด! 7 ที่ พาลูกเที่ยว อยุธยา ลัดเลาะเมืองเก่า กิน เล่น เที่ยวสนุกครบรส

        จังหวัดอยุธยา เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่อยู่ใกล้กรุงเทพ ฯ แต่มีแหล่งท่องเที่ยวและแหล่งเรียนรู้มากมายที่คุณพ่อคุณแม่จะ พาลูกเที่ยว อยุธยา ได้แบบสนุกครบรส เดินทางมาเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับได้สบาย ๆ ทริปนี้ทีมแม่ ABK คัดไฮไลท์ที่เที่ยวเด็ดกรุงศรีฯ มาให้ทุกคนไปเช็กอินกันค่ะ มีที่ไหนบ้างไปดูกันเลย

        ห้ามพลาด! 7 ที่ พาลูกเที่ยว อยุธยา ลัดเลาะเมืองเก่า กิน เล่น เที่ยวสนุกครบรส

        1.พิพิธภัณฑ์ล้านของเล่น เกริก ยุ้นพันธ์

        พิพิธภัณฑ์ล้านของเล่นเกริกยุ้นพันธ์ เกิดขึ้นมาจากแรงบันดาลใจอันยิ่งใหญ่ของ รศ. เกริก ยุ้นพันธ์ อาจารย์เกริกผู้เป็นเจ้าของพิพิธภัณธ์แห่งนี้ได้ใช้เวลาร่วมกว่า 30 ปีสะสมของเล่นต่าง ๆ หลายประเภททั้งของเล่นไทยยุคเก่าสมัยต่าง ๆ และของเล่นจากต่างประเทศ อาทิ ของเล่นแบบสังกะสีสารพัดรูปแบบ ของเล่นจำพวกที่ทำจากดิน ไม้ ผ้า โมเดลการ์ตูนขนาดใหญ่ซูเปอร์ฮีโร่ทั้งหลาย อุลตร้าแมน ซุปเปอร์แมน สไปเดอร์แมน เจ้าหนูอะตอม ยืนเท่ ๆ มาให้เด็ก ๆ ยืนเก๊กถ่ายรูปคู่กับฮีโร่ตัวโปรดกันไปเลย นอกจากนี้ยังมีของใช้ ของเก่า ของสะสมในสมัยก่อน ที่มีให้เพลิดเพลินเดินดูกันถึงสองชั้นกันเลยทีเดียว

        พิพิธภัณฑ์ล้านของเล่นเกริกยุ้นพันธ์
        พิพิธภัณฑ์ล้านของเล่นเกริกยุ้นพันธ์

        พิพิธภัณฑ์ล้านของเล่นฯ จัดแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ส่วน คือส่วนด้านนอกอาคารพิพิธภัณฑ์ ซึ่งจัดเป็นสวนเต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่นานาพันธุ์ ร่มรื่น มีสนามหญ้าให้เด็ก ๆ ได้วิ่งเล่น แถมมีของเล่นเป็นม้าโยกตั้งเรียงรายอยู่ด้านหน้า

        ส่วนที่สองคืออาคารพิพิธภัณฑ์หลังสีขาว ซึ่งเป็นอาคารรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าหลังใหญ่ 2 ชั้น มีประตู หน้าต่าง แบบบ้านสมัยเก่าทาสีฟ้าดูสดใส สะอาดสะอ้าน เมื่อก้าวเข้าไปสู่ตัวพิพิธภัณฑ์ด้านใน เชื่อว่าเด็ก ๆ ต้องร้องว้าวกับบรรดาของเล่นมากมาย ภายในอาคารแบ่งเป็น 2 ชั้น

        • ชั้นแรก จัดแสดงของเล่นไทยยุคเก่าในสมัยสุโขทัย อยุธยา และสมัยรัตนโกสินทร์ มีทั้งของเล่นโบราณที่มีอายุ 50-150 ปี เช่น ของเล่นไม้ ดิน ตะกั่ว สังกะสี เซลลูลอยด์ เหล็ก และพลาสติกที่ผลิตจากประเทศเยอรมนี ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส จีน อเมริกา และไทย และมีพวกข้าวของเครื่องใช้ในสมัยก่อน อาทิ เครื่องเงิน ภาพพิมพ์โบราณ วิทยุโบราณ หนังสือเก่า โปสการ์ด จดหมายในยุคแรกที่เริ่มมี การไปรษณีย์ จัดแสดงใส่ตู้โชว์อย่างเป็นระเบียบสวยงาม
        พิพิธภัณฑ์ล้านของเล่นเกริกยุ้นพันธ์
        ขอบคุณภาพจาก : FB Milllion Toy Museum by Krirk Yoonpun
        • ชั้นที่สอง เดินบันไดขึ้นไปก็จะพบกับโมเดลการ์ตูนขนาดใหญ่ถูกใจคุณหนู ๆ ไม่ว่าจะเป็นอุลตร้าแมน ซุปเปอร์แมน สไปเดอร์แมน เจ้าหนูอะตอม และอีกหลากหลายตัวที่คอยยืนต้อนรับ และของเล่นจำนวนมากชิ้นเล็กชิ้นน้อยถูกจัดแสดงไว้ในตู้กระจกวางอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยและเป็นหมวดหมู อาทิ ตุ๊กตาสารพัดแบบ ของเล่นสังกะสีสารพัดรูปแบบ มีทั้งหุ่นยนต์สังกะสีที่มีกลไก รถยนต์ เรือ รถไฟสังกะสี ของเล่นที่ใช้ถ่าน และอีกล้านของเล่น่ที่หาดูได้ยาก ตั้งแตของเล่นสมัยเก่าไปจนถึงของเล่นสมัยใหม่ และยังมีโซนจัดแสดงนิทรรศการงานสะสมเกี่ยวกับวิถีไทยที่มีอายุหลายร้อยปี ได้แก่ เครื่องกระเบื้อง, เครื่องแก้ว, ข้าวของเครื่องใช้, เงินตรา, เครื่องเงิน, เครื่องถม, เครื่องเขิน, งานลงยา, เครื่องประดับ, งานแกะสลักงาช้าง, งานประดับมุก, เครื่องดนตรีโบราณ ที่จะชวนให้เด็ก ๆ ได้เดินชมกับแบบเพลิดเพลิน และก็ทำให้คุณพ่อคุณแม่ได้ถึงเรื่องราวสมัยวัยเด็กขึ้นมาได้กันเลยทีเดียวเชียว

        สำหรับวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ยังมีกิจกรรมศิลปะที่น่าสนใจสำหรับเด็ก ๆ ด้วย ได้แก่ ชั่วโมงนิทาน กิจกรรมสร้างสรรค์ วาดรูป ภาพพิมพ์ ปั้นดิน และศิลปะประดิษฐ์ เรียกว่าพาลูกมาคุ้ม ได้ความรู้ ความสนุก ในที่เดียวกันเลยค่ะ

        ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 50 บาท/ เด็ก 20 บาท
        เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าชมทุกวันอังคาร-วันอาทิตย์ เวลา 09.00-16.00 น. ยกเว้นวันจันทร์
        โทรศัพท์ : 035-328949-50 , 081-890 5782

        2.ตลาดโก้งโค้ง

        ตลาดโก้งโค้ง เป็นตลาดย้อนยุคโบราณอีกแห่งในจังหวัดอยุธยา จุดเด่นของที่นี่คือชื่อ “โก้งโค้ง” ที่มาจากสมัยก่อนพ่อค้าแม่ค้าจะวางสิ่งของบนพื้นหรือในลำเรือ ผู้คนที่มาซื้อสินค้าจึงต้องโก้งโค้งดูสินค้าบนพื้นนั่นเอง ภายในตลาดก็จัดให้เป็นแบบวิถีชีวิตไทย ๆ คงความเป็นสถาปัตยกรรมไทยโบราณ ที่ในแบบบรรยากาศสมัยกรุงศรีอยุธยา ที่ถูกรื้อฟื้นขึ้นมาเพื่ออนุรักษ์วัฒนธรรมไทย

        เสน่ห์ของที่นี่คือเราจะได้เห็นพ่อค้าแม่ค้าทุกคนใส่ชุดไทยสีม่วงเปลือกมังคุด ภายในตลาดมีทั้งของกิน ของฝาก ของที่ระลึกที่เน้นสินค้าเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่น งานฝีมือ งานศิลปะ และนอกจากนี้เวลาเปิดตลาด สิบโมงเช้าของทุกวัน จะมีการรำกลองยาวถวายพ่อปู่แสงโส และมีการทำบุญตักบาตรเหรียญทุกวันอาทิตย์แรกของเดือน ซึ่งถือว่าเป็นประเพณีประจำของที่นี่ที่ให้ทุกคนสามารถเข้าร่วมได้ บรรยากาศดี มีกิจกรรมที่น่าสนใจ แบบนี้มีแพลนมาเที่ยวอยุธยาลองมานะคะ

        เวลาทำการ : วันพฤหัส-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 9.00-16.00 น.
        โทรศัพท์ : 035 703 700

        3.ตลาดน้ำอโยธยา

        ตลาดน้ำอโยธยา
        ตลาดน้ำอโยธยา

        ตลาดน้ำอโยธยา ตลาดน้ำอีกแห่งในอยุธยามีพื้นที่ประมาณกว่า 80 ไร่ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยที่จะพาเจ้าตัวเล็กได้มาเรียนรู้แบบจำลองวิถีชีวิตเรียบง่ายของคนในสมัยก่อน ในตลาดย้อนยุคแบบโบราณ ที่สะท้อนถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่แบบไทยในสมัยกรุงศรีอยุธยาทั้งด้านการแต่งกายของพ่อแม่ค้า มีการแสดงพื้นบ้าน การละเล่นให้ชม ได้เห็นของกินของใช้ในยุคเก่า ทัศนียภาพความเป็นอยู่แบบไทย ๆ ที่เรียบง่าย ขนบธรรมเนียมประเพณีต่าง ๆ  ที่จะสามารถบ่งบอกถึงเอกลักษณ์ความเป็นเมืองกรุงเก่าของอยุธยาได้เป็นอย่างดี

        ภายในจัดแบ่งเป็นโซน ๆ มีร้านค้าที่ตั้งอยู่เรียงรายภายในเรือนไทยอันงดงามรอบตลาดน้ำมากมาย รวมถึงพ่อค้าแม่ค้าที่พายเรือมาขายรอบตลาดน้ำ มีทั้งของกิน ของฝาก ของที่ระลึก และสินค้าอีกมากมายหลากหลายชนิด บรรยากาศแวดล้อมไปด้วยธรรมชาติแบบไทยพื้นบ้าน มีสะพานเดินข้ามริมแม่น้ำ ที่นั่งกินและพักผ่อนริมน้ำหลายจุดให้เลือกนั่งได้อย่างสะดวกสบาย

        ตลาดน้ำอโยธยา
        ขอบคุณภาพจาก : ayothayafloatingmarket.in.th

        กิจกรรมที่น่าสนใจในตลาดน้ำอโยธยา นอกจากเลือกซื้อของกินอร่อย ๆ ให้อิ่มท้องแล้ว ก็สามารถพากันเดินสำรวจบรรยากาศในตลาดที่เพลิดเพลินไปกับบรรยากาศย้อนยุคแบบไทย ๆ ภายในตลาดน้ำอโยธยามีมุมสวย น่ารัก ให้เลือกมากมายหลายจุดให้แชะถ่ายรูปเก็บภาพกันไป ไฮไลท์คือบริเวณทางเข้าด้านหน้ากับป้ายชื่อ ตลาดน้ำอโยธยา ที่จำลองกำแพงเมืองเก่ามาตั้งไว้ที่นี่ รูปปั้นเด็กไทยโบราณตัวใหญ่ และสะพานไม้ข้ามร่องน้ำ และพลาดไม่ได้คือนั่งเรือชมตลาดที่จะได้เห็นทุกมุมของตลาดน้ำได้อย่างทั่วถึงและได้บรรยากาศไปอีกแบบ หรือกิจกรรมขี่ช้างชมโบราณสถานรอบวัดมเหยงค์ รวมถึงมีโชว์การแสดงพื้นบ้าน การแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย อาทิ โขน รำไทย เพลงฉ่อย เพลงละคร ที่จัดมาให้ชมกันอย่างเพลิดเพลินอีกด้วย

        เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-19.00 น

        อ่านต่อ 7 ที่เที่ยวอยุธยา พาลูกลัดเลาะเมืองเก่า กิน เที่ยว เล่น สนุกครบรส คลิกหน้า 2

        เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

          Tags

          สอนลูกเก่งคณิต

          7 เคล็ดลับง่ายๆ สอนลูกเก่งคณิต นำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้สบาย

          ปฏิเสธไม่ได้ว่าเรื่องตัวเลขหรือ “คณิตศาสตร์” มีความสำคัญและจำเป็นต่อชีวิตในประจำวันขนาดไหน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเรียน และยังมีความจำเป็นสำหรับหลายอาชีพในอนาคตของเจ้าตัวน้อย ถือว่าเป็นทักษะที่สำคัญอย่างหนึ่งเลยก็ว่าได้ เด็กที่มีพื้นฐานความเข้าใจทางคณิตศาสตร์ที่ดีนั้น จะสามารถประสบความสำเร็จในด้านการเรียน และการ วางแผนชีวิตในอนาคตได้ดีด้วยเช่นกัน พ่อแม่ส่วนใหญ่จึงอยากให้ลูกได้มีพื้นฐานความรู้คณิตศาสาตร์ติดตัว เพื่อพัฒนาให้เก่งขึ้นไป มาเริ่มปูพื้นฐาน สอนลูกเก่งคณิต ให้ลูกรู้สึกดีและสนุกกับตัวเลข ด้วยเคล็ดลับง่าย ๆ กันค่ะ

          7 เคล็ดลับง่ายๆ สอนลูกเก่งคณิต นำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้สบาย

          1.เริ่มต้นด้วยการนับ 1

          การสอนคณิตศาสตร์เริ่มต้นจากการที่ให้ลูกได้รู้จักตัวเลข คุณพ่อคุณแม่ช่วยให้เจ้าตัวเล็กได้เริ่มต้นรู้จักกับเลข 1-10 ด้วยการหากิจกรรมหรือนับเลขจำนวนเหล่านี้ทุกวันซ้ำ ๆ เด็กๆ สามารถจดจำตัวเลขได้หากได้ยินใครนับเลขหรือได้ยินเพลงที่มีตัวเลขประกอบ และต่อไปก็จะทำให้ลูกเริ่มสังเกตเห็นตัวเลขในชีวิตประจำวันและเข้าใจประโยชน์การนับเลขมากขึ้น เมื่อลูกจดจำและเริ่มนับได้แล้ว ก็เป็นสัญญานที่พร้อมจะเริ่มต้นหลักคณิตศาสตร์พื้นฐานในขั้นต่อไปแล้วล่ะ

          2.ทำตัวเลขให้อยู่ในชีวิตประจำวันของลูก

          เมื่อลูกพอจะเริ่มต้นนับเลขได้แล้ว กิจกรรมบางอย่างในชีวิตประตำวันก็สามารถให้ลูกได้เริ่มต้นฝึกนับและทำความเข้าใจกับคณิตศาสตร์ได้ ไม่ว่าวัตถุอะไรรอบตัวก็สามารถชวนนับจำนวนได้หมดเลย ซึ่งจะทำให้ลูกได้เห็นถึงความสำคัญและเข้าใจความหมายได้มากขึ้น เช่น จำนวนขั้นบันไดในบ้านที่ก้าวขึ้น นับจำนวนผลไม้ที่กำฃลังกิน หรือระหว่างนั่งรถไปด้วยกัน มีตัวเลขมากมายระหว่างทางให้ได้เห็น ลองชวนเจ้าตัวเล็กมองหาตัวเลขแล้วแข่งกันบอก แม้แต่การพาลูกไปซื้อของด้วยกันก็สามารถให้ลูกได้ลองช่วยคำนวณตัวเลขแบบง่าย ๆ ฯลฯ เท่านี้ก็เป็นการฝึกให้ลูกได้เรียนรู้เรื่องตัวเลขมากกว่า 1-10 ได้เพิ่มขึ้น จะเห็นได้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัว แค่เริ่มนับก็สนุกแล้วละคะ

          บทความแนะนำ : เกมส์ตัวเลขมหาสนุก

          วิธีสอนเลขลูก

          3.เล่นบอร์ดเกมคณิตศาสตร์

          มีบอร์ดเกมหรือเกมกระดานมากมายที่เป็นของเล่นเสริมทักษะและพัฒนาการเกี่ยวกับด้านคณิตศาสตร์ เช่น เกมเศรษฐี ที่นอกจากจะมีความสนุกแล้วยังแฝงไปด้วยการฝึกให้ลูกได้รู้จักบวกลบเลขจากการซื้อขาย เกมอูโน่ เป็นการ์ดเกมเล่นง่าย อายุที่แนะนำคือ 7 ขวบขึ้นไป โดยมีการ์ดตัวเลข การ์ดคำสั่ง ซึ่งนอกจากทำให้เด็กได้รู้ตัวเลขแล้ว ยังรู้จักใช้สี และคำศัพท์ภาษาอังกฤษจากคำสั่งในการ์ดด้วย เกมบันไดงู การทอยลูกเต๋าเพื่อดูแต้มและเดินตัวเบี้ยตามแต้ม เกมบิงโก การหยิบและขานตัวเลข สังเกตตัวเลขในการ์ดของตัวเอง เป็นต้น เท่านี้การเล่มเกมก็เป็นการฝึกฝนตัวเลขให้เด็ก ๆ ได้รู้จักอย่างสนุกสนานเลยค่ะ

          บทความแนะนำ : 8 บอร์ดเกมเด็ก บอร์ดเกมสุดฮิตต้องมีติดบ้านช่วยเพิ่มทักษะรอบด้านให้ลูก

          เทคนิคการสอนเลข

          4.ฝึกเล่นลูกคิด

          ลูกคิด จัดเป็นเครื่องมือสำหรับใช้คำนวณที่จะช่วยฝึกทักษะคณิตศาสตร์ของเด็ก ๆ ได้ ตั้งแต่การบวก การลบ การคูณ และการหาร นอกจากนี้ประโยชน์ของลูกคิดยังช่วยเพิ่มจินตนาการ พัฒนาทักษะการแก้ปัญหา ฝึกให้มีการคิดโดยอัตโนมัติ เพิ่ม/ฝึก สมาธิ ฯลฯ ซึ่งปัจจุบันนี้ ลูกคิด ได้ออกแบบมาเป็นเครื่องมือคิดเลขที่มีขนาดเหมาะสำหรับมือเล็ก ๆ ลองให้ลูกได้สัมผัสดูลูกอาจจะชอบตัวลูกคิดกลม ๆ ที่สามารถเลื่อนขึ้นลงและปัดไปปัดมาตามแกนดูก็ได้นะคะ

          5.เล่นแฟลชการ์ด

          แฟลชการ์ด (Flash Card) หรือบัตรคำ บัตรภาพ บัตรขนาดใหญ่ที่มีคำศัพท์ รูปภาพ ตัวเลข หรือจำนวน เป็นเครื่องมือช่วยจำ และช่วยกระตุ้นสมองซีกขวา แฟลชการ์ดจะช่วยให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว แถมยังเป็นกิจกรรมที่ดีสนุกสนานอีกกิจกรรมหนึ่งอีกด้วย

          บทความแนะนำ : โหลดฟรี! แฟลชการ์ด – บัตรคำ กระตุ้นการเรียนรู้ของลูก

          6. รู้จักคำศัพท์ทางคณิตศาสตร์

          เพื่อปูพื้นฐานคณิตศาสตร์ให้เจ้าตัวเล็ก คุณพ่อคุณแม่ควรช่วยให้ลูกเข้าใจคำศัพท์และสัญลักษณ์ที่ใช้ เช่น บวก ลบ มากกว่า น้อยกว่า เท่ากับ หน้าตาเป็นอย่างไร ความหมายของแต่ละอันคืออะไร โดยเริ่มแรกคุณพ่อคุณแม่อาจใช้อุปกรณ์ช่วยเป็น บัตรคำมาเล่น สอนให้ลูกเข้าใจความจริงพื้นฐาน เช่น การบวกลบเลข คือ 1 + 1 = 2,  2 – 2 = 0 เป็นต้น โดยชูภาพให้ลูกดู และให้ลูกหาคำตอบได่อย่างรวดเร็ว หรือเล่าประกอบนิทาน เพื่อค่อย ๆ อธิบายความหมายและการใช้งานให้ลูกเข้าใจแบบง่าย ๆ ไปพร้อมกับความสนุกที่จะไม่ทำให้ลูกเบื่อหรือไม่ชอบตัวเลขได้ เพราะถ้าหากลูกไม่เข้าใจคำศัพท์คณิตศาสตร์ก็จะไม่สามารถแก้โจทย์ปัญหาได้ในขั้นต่อ ๆ ไปได้

          ฝึกเลข

          7. ฝึกแก้โจทย์ปัญหา

          วิชาคณิตศาสตร์ เป็นวิชาที่ต้องเข้าใจโจทย์ปัญหา อยากให้ลูกเก่งคณิตศาสตร์ ควรให้ลูกได้มีการแก้โจทย์ปัญหาบ่อย ๆ ฝึกให้ลูกทำแบบฝึกหัดนอกเวลามากกว่าการบ้านที่ครูให้ อาจเป็นทักษะที่ใช้ในชีวิตประจำวัน อาจเป็นโจทย์ที่แปลกไปจากการบ้าน เพื่อเพิ่มพูนทักษะที่หลากหลาย โดยเริ่มจากให้ลูกอ่านโจทย์และทำความเข้าใจ แก้โจทย์ตัวเลขง่าย ๆ จนคล่องก่อนแล้วค่อยพัฒนาเพิ่มระดับความยากขึ้นตามระดับความเข้าใจของเด็ก อาจสอนให้ลูกตีความจากโจทย์เป็นภาพเพื่อให้เข้าใจโจทย์มากยิ่งขึ้น หากลูกเข้าใจโจทย์ก็จะสามารถตอบคำถามได้ถูกต้อง เพิ่มความมั่นใจและมีทักษะทางด้านคณิตศาสตร์ให้ลูกยิ่งขึ้นด้วย

          แม้คณิตศาสตร์อาจจะดูเป็นเรื่องยาก และยิ่งโตความยากของเลขจะเพิ่มขึ้นตามลำดับ แต่คณิตศาสตร์ก็เป็นส่วนหนึ่งที่จำเป็นต้องใช้ในชีวิตประจำวัน รวมไปถึงการเรียนและหน้าที่การงานขั้นสูงขึ้นในอนาคตด้วย การสอนให้ลูกได้ซึมซับตั้งแต่เด็ก ๆ ฝึกฝนให้ลูกคิดเป็นประจำ สร้างความเข้าใจให้มากกว่าการท่องจำ ผ่านแบบฝึกหัดบ้าง ผ่านกิจกรรมที่คุณพ่อคุณแม่สามารถฝึกลูกได้ด้วยตัวเอง สอดแทรกความสนุกและไม่กดดันลูก ก็จะทำให้ คณิตศาสตร์เป็นเรื่องที่เข้าถึงได้ง่าย และจะทำให้ลูกชอบตัวเลข ชอบเรียนรู้ และเก่งเลขได้ดีในที่สุด

          ขอบคุณข้อมูลจาก : www.thoughtco.comwww.trueplookpanya.com

          อ่านต่อบทความที่น่าสนใจอื่นๆ

          5 วิธีแก้เมื่อ ลูกไม่ชอบเรียนเลข

          รวมไฟล์โหลดฟรี! แบบฝึกหัดเพื่อพัฒนาทักษะการคิดเลขเร็ว ของระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 – 6

          เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

            รายชื่อหมอสูติ

            10 รายชื่อหมอสูติ หมอฝากครรภ์ฝีมือดี ที่แม่ท้องบอกต่อ

            อีกหนึ่งสิ่งที่คุณแม่ตั้งครรภ์ได้ให้ความสำคัญ นอกจากการดูแลเรื่องอาหารการกิน สุขภาพของตัวคุณแม่เองเพื่อส่งผ่านไปถึงลูกน้อยในท้องแล้ว การมองหาโรงพยาบาลและคุณหมอเพื่อฝากครรภ์ก็สำคัญไม่น้อย สิ่งแรกที่สูติแพทย์และผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่แนะนำก็คือ ควรไปฝากท้องกับคุณหมอทันทีที่รู้ตัวว่าตั้งครรภ์ เพราะนอกจากจะต้องตรวจสอบว่าเป็นภาวะตั้งครรภ์ผิดปกติ เช่น ท้องนอกมดลูก หรือครรภ์ไข่ปลาอุกหรือไม่ คุณหมอจะให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลครรภ์ และสั่งวิตามินและแร่ธาตุเสริมที่จำเป็นให้ด้วย วันนี้ทีมแม่ ABK นำ รายชื่อหมอสูติ จากโรงพยาบาลชั้นนำมาฝากสำหรับแม่ท้องกันค่า

            หมอสูตินารี ที่ไหนดี
            หมอสูตินารี ที่ไหนดี

            10 รายชื่อหมอสูติ หมอฝากครรภ์ชื่อดัง จาก รพ. ชั้นนำ พร้อมตารางเวลาทำงานของคุณหมอ

            1.รศ.นพ.บุญชัย เอื้อไพโรจน์กิจ

            คุณหมอเชี่ยวชาญด้าน สูติศาสตร์ นรีเวชวิทยา, เวชศาสตร์มารดาและทารกในครรภ์ และเริ่มต้นแนะนำให้คุณแม่ได้คลอดแบบธรรมชาติ แม่ ๆ คนไหนตั้งใจคลอดแบบธรรมชาติลองไปฝากครรภ์หรือขอคำแนะนำจากคุณหมอดูนะคะ

            อยู่ที่ :

            • โรงพยาบาลบำรุงราษฏร์

            เวลาออกตรวจ : อังคาร 09:00 – 12:00 น./ พุธ 17.00-20.00 น./ เสาร์ 11.00-16.00 น.

            นัดหมายแพทย์ : www.bumrungrad.com

            • โรงพยาบาล BNH

            เวลาออกตรวจ : เสาร์ 07:00 – 10:30 น.

            นัดหมายแพทย์ : www.bnhhospital.com

            • ศูนย์การแพทย์นวบุตร

            เวลาออกตรวจ : อาทิตย์ 8.00-12.00 น

            นัดหมายแพทย์ : www.nawabutr.com

            2.นาวาอากาศโท นายเเพทย์ ทรงพล สนธิชัย

            คุณหมอมีความเชี่ยวชาญพิเศษด้าน ผ่าตัดผ่านกล้องทางนรีเวช ผ่าตัด ทางนรีเวชที่ซับซ้อน การส่องกล้องที่ปากมดลูก

            อยู่ที่ : โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 9 แอร์พอร์ต

            เวลาออกตรวจ :  วันอังคาร  08:00 – 17:00 น./ วันพุธ 07:00 – 16:00 น./  วันพฤหัสบดี  08:00 – 16:00 น./ วันศุกร์   08:00 – 18:00 น. (งดออกตรวจ ศุกร์ที่ 2 ของเดือน)

            นัดหมายแพทย์ : www.ch9airport.com

            3.ศ.นพ.เยื้อน ตันนิรันดร์

            คุณหมอเชี่ยวชาญด้าน สูติศาสตร์ นรีเวชวิทยา, เวชศาสตร์มารดาและทารกในครรภ์

            อยู่ที่ :

            • โรงพยาบาลบำรุงราษฏร์

            ตารางออกตรวจ : จันทร์. 16:00 – 20:00 น./ อังคาร 16:00 – 20:00 น./ พุธ 14:00 – 20:00 น./ เสาร์ 14:00 – 18:00 น.

            นัดหมายแพทย์ : www.bumrungrad.com

            • โรงพยาบาล BNH

            ตารางออกตรวจ : พฤหัส 15:30 – 19:00 น./ เสาร์ 09:00 – 11:00 น./ อาทิตย์  09:00 – 15:00 น.

            นัดหมายแพทย์ : www.bnhhospital.com

            4.รศ.ดร.นพ.บุญศรี จันทร์รัชชกูล

            คุณหมอเชี่ยวชาญด้านสูติ-นรีเวช มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการรักษา ในกรณีที่แม่ท้องมีความเสี่ยง เช่น อายุ 35 ปีขึ้นไปหรือเคยมีประวัติแท้ง จะแนะนำการ ตรวจคัดกรองทารกในครรภ์เพื่อดูว่ามีความผิดปกติอย่างไรหรือไม่ เพื่อวางแผนในการรักษาและให้คำปรึกษาแนะนำ การดูแลตนเองสำหรับแม่ท้องเพื่อครรภ์คุณภาพ

            อยู่ที่ : โรงพยาบาลสมิติเวช

            เวลาออกตรวจ : ทุกวัน 08:00 – 12:00 น. และ  13:00 – 16:00 น.

            นัดหมายแพทย์www.samitivejhospitals.com

            5.รศ.นพ.ตวงสิทธิ์ วัฒกนารา

            คุณหมอเชี่ยวชาญด้าน เวชศาสตร์มารดาและทารกในครรภ์ การผ่าตัดด้วยกล้อง นอกจากฝากครรภ์แล้วคุณหมอดูแลคัดกรองทารกในครรภ์เพื่อตรวจหาความผิดปกติที่อาจจะเกิดขึ้น สามารถรักษาทารกขณะอยู่ในครรภ์เนื่องจากภาวะตัวบวมได้สำเร็จ และคุณหมอยังมีความชำชาญด้านภาวะประจำเดือนมาไม่ปกติ ภาวะวัยทอง

            อยู่ที่ :

            • โรงพยาบาลบำรุงราษฏร์

            ตารางออกตรวจ : พุธ 16:30 – 20:00  น./ เสาร์ 08:00 – 12:00 น.

            นัดหมายแพทย์ : www.bumrungrad.com

            • โรงพยาบาลกรุงเทพ

            ตารางออกตรวจ : พฤหัสบดี 17:00 – 19:00 น. เสาร์ 13:00 – 17:00 น.

            นัดหมายแพทย์ : www.bhqdoctors.bdms.co.th

            • โรงพยาบาลศิริราช

            ตารางออกตรวจ : พุธ 09.00-12.00 น.

            นัดหมายแพทย์ : www.si.mahidol.ac.th

            6.นพ.ชรินทร์ วิทย์วิบูลย์รัตน์

            คุณหมอเชี่ยวชาญด้านสูติ-นรีเวช เป็นหมอสูตินรีแพทย์ชื่อดังของโรงพยาบาลที่เชี่ยวชาญในเรื่องฝากครรภ์ คลอด

            อยู่ที่ : โรงพยาบาลคามิลเลียน

            เวลาออกตรวจ : จันทร์ 09.00 – 16.00 น./ อังคาร 09.00 – 13.00 น./ พุธ 09.00 – 16.00 น./พฤหัสบดี 09.00 – 16.00 น./ ศุกร์ 09.00 – 16:00  น.

            นัดหมายแพทย์ : www.camillianhospital.org

            อ่านต่อ 10 รายชื่อหมอฝากครรภ์ ที่แม่ท้องบอกต่อ คลิกหน้า 2

            เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

              ชื่อลูกชาย 2 พยางค์

              232 ชื่อลูกชาย 2 พยางค์ เท่ๆ มีครบตั้งแต่ ก-ฮ

              รวม ชื่อลูกชาย 2 พยางค์ ไอเดีย ชื่อเล่นลูกชาย 2 พยางค์ เท่ๆ ทันสมัย ไม่เหมือนใคร หากอยากตั้งชื่อเล่น 2 พยางค์ สุดฮิป สุดคูล ให้ลูกชายยุค 5G จะมีชื่อแบบไหนบ้าง ไปดูกันเลย

              รวม 232 ชื่อลูกชาย 2 พยางค์ สุดเท่ทันสมัย ไม่ซ้ำใคร

              การมีลูกชาย ในสมัยก่อนถือเป็นความหวังของครอบครัว นั่นก็เพื่อเอาไว้สืบสกุล ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ต่างก็หวังว่าลูกชายจะโตขึ้นเป็นสุภาพบุรุษสมชายชาตรี เป็นผู้นำที่ดี ทั้งนี้เด็กผู้ชายจะดูหล่อ เป็นสุภาพบุรุษ มาดแมนสมชายได้นั้น นอกจากนิสัย การกระทำ หรือหน้าตาแล้ว “ชื่อ” ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่จะทำให้ ลูกชายของคุณดูเท่ขึ้นได้ ซึ่งหากคุณแม่อยากได้ลูกชาย หรือกำลังตั้งท้องลูกชายอยู่ แล้วอยากให้ลูกหล่อทั้งชื่อ ทั้งหน้าตาและนิสัย ครบคุณสมบัติของความเท่ … ลองมาดูไอเดีย ตั้งชื่อเล่นลูกชาย 2 พยางค์ ที่แม่ฮันน่าห์ได้รวบรวมมาให้กว่า 232 ชื่อกันค่ะ!

              โดยจะแบ่งชื่อเล่น 2 พยางค์ สุดเท่ ตามหมวด อักษร ก-ฮ คุณพ่อคุณแม่ก็สามารถดูและเลือกไปใช้กันได้ตามใจชอบเลยนะคะ รับรองว่าเก๋ เท่ ไม่เหมือนใครแน่นอน

              ชื่อลูกชาย 2 พยางค์ หมวด ก , ข

              1. กลองทัด
              2. กองทัพ
              3. กองพล
              4. กองพัน
              5. กราฟฟิค
              6. กังฟู
              7. กันกัน
              8. กันภัย
              9. กาแฟ
              10. กำนัล
              11. กุนซือ
              12. เกมบอย
              13. แกรมม่า
              14. แกรมมี่
              15. ขวัญเมือง
              16. ข้าวก่ำ
              17. ข้าวหมาก
              18. ขุนไกร
              19. ขุนเขา
              20. ขันเงิน
              21. เขตแดน

              ชื่อเล่นลูกชาย 2 พยางค์ หมวด ค

              1. เควิน
              2. คอมม่า
              3. คอปเปอร์
              4. แคนนอล
              5. คิวเท
              6. คิมม่อน
              7. คีตั้น
              8. คีย์บอร์ด
              9. คุณหลวง
              10. คุ้มค่า
              11. คูเปอร์
              12. เคนโด้
              13. แคล้วคลาด
              14. โคดี้
              15. โคนัน

              ตั้งชื่อลูกชาย 2 พยางค์ หมวด จ

              1. จอมเทพ
              2. จอมทัพ
              3. จอมพล
              4. จอมยุทธ์
              5. จะเด็ด
              6. เจ้าทัพพ์
              7. เจ้าเพลิง
              8. เจ้าสัว

              ชื่อลูกชาย 2 พยางค์

              ชื่อเล่นลูก 2 พยางค์ หมวด ช ,

              1. ชาเย็น
              2. ชาวี
              3. ชายแดน
              4. ช้อนเงิน
              5. ชัดเจน
              6. ชินโต
              7. ชินยุ
              8. ชิริว
              9. ชิโน่
              10. โชกุน
              11. ชั่วโมง
              12. ซันเป
              13. ซิกเซ้นส์
              14. ซีนาย
              15. ซีเนียร์
              16. แซมเบ้
              17. เซิฟเวอร์
              18. เซนเตอร์

              ตั้งชื่อลูกชาย 2 พยางค์ ฐ , ด

              1. ฐานทัพ
              2. ดนตรี
              3. ดินแดน
              4. ดีเซล
              5. เดลต้า
              6. ไดม่อนด์
              7. ดาวเหนือ
              8. เดนเต้

              ชื่อลูกชาย 2 พยางค์

              1. ต้นชา
              2. ต้นหน
              3. ต้นหนาว
              4. ต๊อบแต๊บ
              5. ต้าชิง
              6. เต็งหนึ่ง
              7. ตรัยคุณ
              8. ตั้งมั่น
              9. ติณติณ
              10. ติวเตอร์
              11. ตุลา
              12. เตเต้
              13. เต็มโชค
              14. โตโต้
              15. ใต้หล้า
              16. ต้นหน
              17. ไต้ฝุ่น

               

              อ่านต่อ >> ชื่อเล่นลูกชายสองพยางค์หมวด ท – ฮ คลิกหน้า 2

               

              เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

               

                วิธีทำหน้ากากอนามัย

                วิธีทำหน้ากากอนามัย ใช้เองได้ง่ายนิดเดียว

                จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาในปัจจุบัน ทำให้ทุกคนในสังคมหันมาปกป้องตัวเองกันมากขึ้น ด้วยการล้างมือบ่อยๆ และสวมใส่หน้ากากอนามัย ส่งผลกระทบให้ทุกคนแห่กันไปซื้อหน้ากากจนขาดตลาด แม่น้องเล็กจึงมี วิธีทำหน้ากากอนามัย เอาไว้ใช้เองมาฝาก

                Continue reading “วิธีทำหน้ากากอนามัย ใช้เองได้ง่ายนิดเดียว”

                  อย่าเลี้ยงลูกเพื่อทำตามความฝันของพ่อแม่

                  คุณกำลังเลี้ยงลูกด้วยความฝันของตัวเองอยู่ หรือเปล่า? อย่าเอา ความฝันของพ่อแม่  “ยัดเยียดหรือโยนให้ลูกรับผิดชอบ” เพราะนั่นอาจไม่ใช่ความฝันของลูกเสมอไป

                  หมอเตือน! อย่ายัดเยียด ความฝันของพ่อแม่ ให้ลูกตั้งแต่ในท้อง

                  อย่าเลี้ยงลูกเพื่อทำตาม ความฝันของพ่อแม่ เพราะ ความฝันของพ่อแม่ อาจไม่ใช่ความฝันของลูกเสมอไป … คนเราเกิดมาต่างก็มีความรัก ความชอบ ความหลงใหลที่แตกต่างกันไป เมื่อค้นพบว่าชอบสิ่งไหนแล้ว ก็จะทำสิ่งนั้นได้อย่างมีความสุข โดยที่ไม่ต้องให้ใครมาบังคับให้ทำ ดังนั้น การนำความฝันของตนเอง (พ่อแม่) มาตั้งเป้าหมายให้ลูก เอามาใช้เลี้ยงลูก เพื่อหวังให้ลูกเป็นอย่างที่ตัวเองฝัน (เพราะตัวเองทำตามความฝันนั้นไม่ได้) จนบางครั้งลืมมองความฝันของลูกว่าอยากเป็นอะไร นั่นคือ การยัดเยียดความฝัน ถือเป็นหนึ่งในวิธีทำลายชีวิตลูกด้วยมือพ่อแม่ โดยไม่รู้ตัว!

                  พญ.ชัญวลี ศรีสุโข สูตินรีแพทย์ ระดับนายแพทย์เชี่ยวชาญ หัวหน้าแผนกสูตินรีเวช โรงพยาบาลพิจิตร ได้เล่าถึง กรณีศึกษาเกี่ยวกับการเลี้ยงลูกเพื่อทำตาม ความฝันของพ่อแม่ ของสามี ภรรยาคู่หนึ่ง >> เมื่อทั้งคู่รู้ว่ากำลังจะมีลูก ก็ตื่นเต้นดีใจ สามีบอกให้ภรรยารีบไปหาคุณหมอ เพื่อให้คุณหมอตรวจอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ ทั้งๆ ที่ยังไม่รู้ว่าลูกที่จะเกิด เป็นผู้หญิง หรือผู้ชาย สามีก็เชื่ออย่างหนักแน่นว่าเป็นผู้ชายอย่างแน่นอน!

                  ความฝันของพ่อแม่

                   

                  ตั้งแต่แต่งงาน.. สามีบอกเสมอว่าอยากได้ลูกชาย เพื่อทำตามความฝันที่เขาทำไม่สำเร็จ นั่นคือการเป็นทูต ถ้ามีลูกชาย ลูกของเขาจะต้องเป็นทูตให้ได้

                  สามีภรรยาคู่นี้ อยู่กินกันมา 1 ปี แต่ก็ยังไม่มีลูก จึงทำทุกวิถีทางเพื่อให้มีเจ้าตัวน้อย เมื่อผลการตรวจออกมา พบว่าตั้งครรภ์แน่นอน ภรรยาก็ดีใจ หัวใจพองโต ภรรยาตรวจอัลตร้าซาวนด์ จึงทราบว่าตั้งครรภ์ได้ 5 สัปดาห์แล้ว จึงโทรไปบอกสามี

                  คุณหมอให้ยาบำรุงครรภ์ และอธิบายวิธีปฏิบัติตัวในขณะตั้งครรภ์อย่างละเอียด เพราะว่าที่คุณแม่อายุมากแล้ว จึงมีความเสี่ยงสูง และนัดตรวจอีกครั้งใน 2 สัปดาห์

                  Must read >> ไขข้อข้องใจ มีลูกตอนแก่ เสี่ยงหรือไม่

                  คุณแม่มีความเสี่ยงสูงที่จะให้กำเนิดเด็กดาวน์ เสี่ยงต่อการแท้ง คลอดก่อนกำหนด เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ครรภ์เป็นพิษ ฯลฯ ความเสี่ยงนั้นไม่ได้เกิดขึ้น 100% แต่มีโอกาสมากกว่าคนอายุน้อย

                  อ่านต่อ “อย่าเลี้ยงลูกเพื่อทำตามความฝันของพ่อแม่” คลิกหน้า 2

                   

                  เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                    ความสามารถพิเศษ

                    ความสามารถพิเศษ กับอาชีพในอนาคตของลูกน้อย

                    คนทุกคนมีศักยภาพในแต่ละด้านไม่เท่ากัน นั่นเป็นส่วนผสมที่ทำให้เด็กๆ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เด็กบางคนมี ความสามารถพิเศษ ตั้งแต่ 2 ด้านขึ้นไป หากพวกเขาได้รับการส่งเสริมที่เหมาะสม ก็จะสามารถพัฒนาความสามารถและความถนัดที่เขามีอยู่ให้แสดงศักยภาพออกมาได้อย่างเต็มที่

                    Continue reading “ความสามารถพิเศษ กับอาชีพในอนาคตของลูกน้อย”

                      ไวรัสโคโรนา

                      8 วิธีป้องกันไวรัสโคโรนา ฉบับประชาชน จากกระทรวงสาธารณสุข

                      จากสถานการณ์โรคติดเชื้อ ไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 คงจะทำให้คุณพ่อ คุณแม่เป็นกังวลอยู่ไม่น้อย เมื่อการระบาดของโรคเริ่มต้นที่ประเทศจีน และกระจายวงกว้างไปทุกที่กว่า 29 ประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทย ทั้งยังพึ่งพบผู้เสียชีวิตในไทยรายแรกอีกด้วย

                      Continue reading “8 วิธีป้องกันไวรัสโคโรนา ฉบับประชาชน จากกระทรวงสาธารณสุข”

                        พัฒนาสมองทารกในครรภ์

                        อยากให้ลูกมีสมองฉลาด ทำไมต้องเริ่มที่ 28 วันแรกของการตั้งครรภ์ ?

                        พัฒนาสมองทารกในครรภ์ ช่วง 28 วันแรกของการตั้งครรภ์ เป็นช่วงเวลาทองที่คุณแม่ควรกระตุ้นส่งเสริม พัฒนาสมองลูกน้อยให้มีศักยภาพ และประสิทธิภาพสูงสุด  วันนี้เรามีคำแนะนำเรื่องนี้มาฝากว่าที่คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ค่ะ

                         

                        พัฒนาสมองทารกในครรภ์  เริ่มที่ 28 วันแรกของการตั้งครรภ์

                        รู้ไหมคะว่า ในช่วง 28 วันแรกของการตั้งครรภ์ เป็นช่วงเวลาทองที่คุณแม่ควรต้องเตรียมความพร้อมในหลาย ๆ เรื่อง เพื่อให้ทารกน้อย มีพัฒนาการการเจริญเติบโตสมบูรณ์พร้อมที่สุดก่อนที่จะคลอดออกมาในสัปดาห์สุดท้ายของการตั้งครรภ์ โดยเฉพาะ พัฒนาการสมองทารกในครรภ์ คุณแม่ควรให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก

                        28 วันแรกของการตั้งครรภ์ เป็นช่วงเวลาที่หลอดประสาทของทารกจะพัฒนาเจริญเติบโตขึ้น และมีการแบ่งเซลล์ กลายเป็น “สมอง” มีการสร้าง แบ่งตัว และมีการเชื่อมต่อเซลล์ประสาทขึ้นอย่างรวดเร็ว ดังนั้นเพื่อเป็นการพัฒนาศักยภาพสมองของลูกน้อยให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด คุณแม่ควรเริ่มดูแลตัวเองให้ได้รับโภชนาการที่มีส่วนช่วย กระตุ้นและบำรุงสมองทารกในครรภ์กันตั้งแต่ช่วงนี้ค่ะ  

                        พัฒนาสมองทารกในครรภ์

                        สารอาหารที่ช่วยบำรุงระบบประสาทและสมองทารกในครรภ์ให้มีความสมบูรณ์แข็งแรง และมีประสิทธิภาพในการทำงาน  จะเป็นสารอาหารกลุ่มไขมันไม่อิ่มตัว ที่ร่างกายเราไม่สามารถสร้างเองได้ ต้องได้รับจากการรับประทานเข้าไปเท่านั้น ได้แก่ GA และ DHA

                        พัฒนาสมองทารกในครรภ์

                        ในหนึ่งวัน คุณแม่อาจได้รับสารอาหารเหล่านี้ไม่ครบถ้วนจากการรับประทานอาหารทั่วไป ทั้งนี้การดื่มนมที่เป็นสูตรเฉพาะสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์และให้นมบุตรอย่างนมแอนมัม (Anmum) จะช่วยให้คุณแม่ได้รับสารอาหารสำคัญมีผลต่อ พัฒนาการของลูกน้อยในครรภ์อย่างเพียงพอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสารอาหารสำหรับพัฒนาการสมองทั้ง GA และ DHA รวมถึงวิตามินและแร่ธาตุอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อลูกในทุกวัน  มาดูกันค่ะว่าดื่มนมแอนมัมแล้วจะได้รับสารอาหารอะไรบ้างที่เป็นประโยชน์ต่อคุณแม่ และลูกน้อยในครรภ์

                        • GA แกงกลิโอไซด์ (Ganglioside) เป็นส่วนประกอบสำคัญของเซลล์สมองบริเวณเส้นใยประสาท มีส่วนช่วยในการเชื่อมต่อระหว่างเซลล์สมอง ช่วยให้สมองเรียนรู้ จดจำสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว
                        • DHA ดีเอชเอ (Docosahexaenoic Acid) เป็นส่วนประกอบสำคัญของเยื่อหุ้มเซลล์สมอง และจอประสาทตา มีส่วนสำคัญในการช่วยส่งเสริมพัฒนาการด้านสมอง และสายตา ให้ทำงานมีศักยภาพ และประสิทธิภาพ
                        • DR10 (ดีอาร์10) เป็นจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ ทำงานร่วมกับใยอาหาร (Fibre) ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและส่งเสริมให้สุขภาพทางเดินอาหารของคุณแม่ทำงานได้ดี มีประสิทธิภาพ ช่วยลดอาการในระบบทางเดินอาหาร เช่น ท้องผูก ท้องเสีย ท้องอืด
                        • Folate (โฟเลท) มีส่วนสำคัญในการสร้างเม็ดเลือดแดง คุณแม่ตั้งครรภ์ในเดือนแรกจำเป็นต้องได้รับโฟเลท เพื่อ ช่วยในการสร้างหลอดประสาท และพัฒนาการสมองทารกในครรภ์ให้มีความสมบูรณ์
                        • Calcium (แคลเซียม) มีส่วนสำคัญช่วยในกระบวนการสร้างกระดูก และฟันที่แข็งแรง ลดความเสี่ยงการเกิดโรคกระดูกพรุน

                        พัฒนาสมองทารกในครรภ์

                        การดื่มนมสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์มีประโยชน์มากมายค่ะ ดื่มนมแล้ว ก็ต้องรับประทานอาหาร ให้ครบ 5 หมู่ด้วยนะคะ ในทุกมื้อควรรับประทานอาหารที่หลากหลาย เพื่อให้ร่างกายของคุณแม่ และทารกน้อยในครรภ์ได้สารอาหารที่ครบถ้วน เช่น

                        • อาหารทะเล ได้แก่ ปลาแซลมอน ปลาแมคเคอเรล ปลาทูน่า ปลาซาร์ดีน เป็นต้น
                        • ไข่ เนื้อสัตว์ (หมู เนื้อ ไก่)
                        • ถั่วต่าง ๆ และธัญพืช ได้แก่ ถั่วเหลือง เมล็ดแฟลกซ์ วอลนัท อัลมอนด์ เมล็ดฟักทอง เป็นต้น
                        • ผลไม้ แนะนำให้ทานผลไม้ที่ไม่หวานมาก เช่น ส้ม ฝรั่ง องุ่น ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ (มีวิตามินซีสูง และมีสารต้านอนุมูลอิสระ) มะเขือเทศ ฯลฯ
                        • ผักหลากสีสัน อุดมไปด้วย วิตามิน แร่ธาตุ ใยอาหาร และโฟเลท เช่น แครอท ผักคะน้า หน่อไม้ฝรั่ง มันฝรั่ง บร็อกโคลี่ ผักกาดขาว พริกหวาน ผักโขม ผักสลัดต่าง ๆ ฯลฯ

                        ทารกน้อยที่อยู่ในครรภ์คุณแม่ช่วง 28 วันแรก จะมีพัฒนาการสมอง และร่างกายที่สมบูรณ์ไปตลอด 40 สัปดาห์หรือไม่นั้น  อยู่ที่คุณแม่เป็นคนกำหนดค่ะ อยากให้ลูกน้อยคลอดออกมาเป็นเด็กฉลาด เรียนรู้เร็ว มีพัฒนาการสมวัย ต้องเริ่มพัฒนาศักยภาพสมองของลูก ตั้งแต่วันที่ 28 ของการตั้งครรภ์นะคะ

                         

                        พัฒนาสมองทารกในครรภ์

                         

                          ฟื้นฟูร่างกายหลังคลอด

                          เคล็ด(ไม่)ลับ ฟื้นฟูร่างกายหลังคลอด อย่างแม่มือโปร

                          คุณแม่หลังคลอดมักเจอกับปัญหาเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย รู้สึกไม่ค่อยสดชื่น ดูโทรม ผิวพรรณไม่สดใส แถมน้ำนมยังมาน้อย กังวลว่าลูกจะกินนมไม่พอ ฯลฯ คุณแม่ทราบไหมคะว่าปัญหาต่างๆ เหล่านี้ มีสาเหตุมาจาก

                          1. เสียเลือดมากขณะคลอดลูก
                          2. มีอาการเจ็บแผลจากการคลอดลูก
                          3. นอนหลับไม่สนิท นอนน้อย เพราะต้องตื่นขึ้นมาให้ลูกกินนมประมาณทุก 2-3 ชั่วโมง
                          4. มีความเครียดจากการเลี้ยงลูก โดยเฉพาะกับแม่มือใหม่ที่ยังไม่เคยมีประสบการณ์การเลี้ยงลูกมาก่อน ก็จะมีความกังวลขึ้นได้
                          5. รับประทานอาหารไม่เพียงพอ หรืออาจจะได้รับโภชนาการที่ไม่เหมาะสม

                          เหตุผลทั้งหมดนี้ยังส่งผลกระทบไปถึงการผลิตน้ำนมแม่ด้วยค่ะ เพราะแม่ยิ่งเครียด ร่างกายก็จะผลิตน้ำนมแม่ได้ไม่ค่อยดี ดังนั้นเพื่อให้คุณแม่ ฟื้นฟูร่างกายหลังคลอดได้ไวขึ้น คุณแม่ควรต้องดูแลตัวเองให้มากเป็นพิเศษ ทั้งเรื่องของโภชนาการสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายช่วงหลังคลอดและให้นมลูก ดูแลสภาพจิตใจให้สดชื่น แจ่มใส ไม่เครียด เป็นต้น

                          ฟังดูเหมือนจะทำได้ง่ายๆ ใช่ไหมคะ แต่กับแม่หลังคลอดที่สละเวลาไปกับการดูแลเลี้ยงลูกวัยทารก ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะจัดการทุกอย่างด้วยตัวเองหมดทุกอย่าง

                          ฟื้นฟูร่างกายหลังคลอด

                          แนะนำว่าคุณแม่ควรมีผู้ช่วย ซึ่งคุณพ่อของลูกน้อยนี่แหละค่ะ ผู้ช่วยที่ดีที่สุดของคุณแม่ ถามว่าคุณพ่อช่วยแบ่งเบา ดูแลคุณแม่ในเรื่องใดได้บ้าง

                          1. ช่วยสลับช่วงเวลาเลี้ยงลูกกับคุณแม่ เช่น ช่วงกลางคืนคุณพ่อตื่นมาเปลี่ยนผ้าอ้อมให้ลูก หรือในวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ คุณพ่อช่วยคุณแม่เลี้ยงลูกด้วยกันทั้งวัน
                          2. ช่วยอาบน้ำให้ลูกน้อย เปลี่ยนผ้าอ้อม เล่นกับลูก
                          3. ช่วยนวดบ่า ไหล่ เพื่อให้คุณแม่รู้สึกผ่อนคลาย
                          4. เพื่อไม่ให้คุณแม่รู้สึกว่าตัวเองโดดเดี่ยวในการเลี้ยงลูก คุณพ่อควรพูดคุย ถามคุณแม่ในทุกเรื่อง คุณแม่จะได้รู้สึกอบอุ่นใจที่มีคุณพ่ออยู่ข้างๆ ค่ะ
                          5. พาออกไปเปิดหู เปิดตานอกบ้าน เพื่อให้คุณแม่สดชื่น ผ่อนคลาย ไม่เครียดกับการเลี้ยงลูกอย่างเดียว ในช่วงที่ลูกเพิ่งอายุ 2-3 เดือน อาจอุ้ม หรือให้ลูกน้อยอยู่ในรถเข็น แล้วพากันเดินเล่นที่สนามหญ้าหน้าบ้าน หรือสวนสาธารณะใกล้บ้านก็ได้นะคะ
                          6. ช่วยเตรียมอาหาร ของว่าง และน้ำดื่มให้คุณแม่

                          สำหรับอาหารการกินในช่วงที่คุณแม่ให้นมลูก คุณแม่มีเวลาน้อย เพราะต้องคอยดูแลลูกน้อย ก็อาจทำให้ได้รับโภชนาการที่ไม่เหมาะสม ได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วน จึงแนะนำว่าช่วงให้นมลูก อาหารที่รับประทานต้องมีประโยชน์ต่อร่างกาย ได้สารอาหารครบ 5 หมู่ เพื่อจะได้บำรุงฟื้นฟูร่างกายหลังคลอดให้กลับมาฟิต เฟิร์ม แข็งแรงเร็ว และช่วยให้ร่างกายผลิตน้ำนมแม่ที่มีทั้งคุณภาพและปริมาณที่เพียงพอสำหรับเลี้ยงลูกค่ะ

                          และอย่างที่บอกไปค่ะว่า คุณแม่ต้องเลี้ยงลูก ทำให้มีเวลาน้อย จนไม่มีเวลาเตรียมอาหารที่รับประทานในทุกๆ วัน ให้มีคุณค่าทางโภชนาการสารอาหารครบถ้วนอย่างที่ต้องการ  คุณแม่อาจต้องมองหาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารมาบำรุงร่างกายหลังคลอดในช่วงให้นมลูกค่ะ

                          ฟื้นฟูร่างกายหลังคลอด

                          อย่างตัวช่วยพิเศษสำหรับคุณแม่หลังคลอดและให้นมลูก “ลิล แมรี่ วิตามินชงดื่ม” ผลิตภัณฑ์บำรุงน้ำนม อุดมด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็น เมล่อน องุ่น ทับทิม บร็อคโคลี่ โกจิเบอร์รี่ เมล็ดองุ่น เปลือกสน และ ฟีนูกรีก เห็นสารสกัดจากธรรมชาติที่เข้มข้นในลิล แมรี่ วิตามินชงดื่มบำรุงร่างกายแล้ว ขอบอกว่ายิ่งดื่มยิ่งได้ประโยชน์ในการช่วยฟื้นฟูร่างกายหลังคลอดได้ดีมากๆ  คุณแม่ที่ปัญหาน้ำนมน้อย ก็จะช่วยบำรุงและเพิ่มน้ำนมหลังคลอดให้มีปริมาณน้ำนมมากเพียงพอได้ปั้มเก็บทำสต็อกนมแม่ด้วยค่ะ ลิล แมรี่ ผลิตภัณฑ์บำรุงน้ำนม ยังปราศจากน้ำตาล คุณแม่ดื่มได้ทุกวันไม่ทำให้ท่อน้ำนมอุดตันค่ะ

                          คุณแม่สามารถดื่มบำรุงร่างกายได้อย่างปลอดภัย เพราะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน GMP และ HCCP รวมถึงขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์ถูกต้องจาก อย. และสำนักคณะกรรมการอิสลามแห่งประเทศไทย

                          ชงลิล แมรี่ ดื่มวันละซอง บำรุงร่างกายหลังคลอด จบทุกปัญหากวนใจคุณแม่ค่ะ

                          หากสนใจคุณแม่สามารถหาซื้อ ลิล แมรี่ได้ตามบูธในโรงพยาบาลต่างๆ หรือสั่งซื้อได้ผ่านช่องทางการติดต่อดังนี้ค่ะ

                          Facebook : https://m.me/lilmombaby

                          Line@ : https://lin.ee/pbSGlLH

                          IG : https://www.instagram.com/lil.mombaby

                          LAZADA : https://s.lazada.co.th/s.ZlbnB

                          SHOPPE : https://shopee.co.th/lilmombaby

                          Lnwshop : https://www.lilmere.com

                           

                          ชวนคุณแม่ร่วมสนุกเพื่อลุ้นรับของสมนาคุณ
                          ลิล แมรี่ วิตามินชงดื่ม ผลิตภัณฑ์บำรุงน้ำนม

                          กติกาง่ายๆ ในการร่วมสนุกสำหรับคุณแม่ค่ะ

                          1. ตอบคำถามใต้โพสต์นี้
                          2. กดแชร์โพสต์นี้ และตั้งค่าเป็นสาธารณะ
                          3. กด like เพจ lilmombaby
                          4. และเพิ่มเพื่อนในแอดไลน์ @LiLmombaby (รบกวนแคปภาพการเพิ่มเพื่อนในไลน์ มาแสดงยืนยันไว้ใต้โพสต์)

                          *** หมายเหตุ คุณแม่ที่ทำตามกติกาทุกข้อ จะสุ่มจับรางวัล ผู้โชคดี จำนวน 10  รางวัล

                          คำถามร่วมสนุกเพียงตอบคำถาม ดังนี้
                          (ส่งคำตอบได้ที่ใต้โพสต์เฟสบุ๊คบทความนี้)

                          1. คุณแม่อยากทานลิล แมรี่ เพราะเหตุใด(เหตุผลคุณแม่)

                          2. ผลิตภัณฑ์ ลิล แมรี่ ช่วยเรื่องอะไรบ้าง(ตอบได้มากกว่า 1 คำตอบ)

                          3. ช่องทางการสั่งซื้อมีที่ไหนบ้าง (ตอบได้มากว่า 1 คำตอบ)

                           

                          ฟื้นฟูร่างกายหลังคลอด

                            อาการของคนท้อง ตั้งแต่สัปดาห์แรกจนคลอด มีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้าง

                            ว่าที่คุณแม่ท้องมือใหม่ต้องรู้!! อาการของคนท้อง ตั้งแต่สัปดาห์แรกจนกระทั่งคลอด ตลอดการตั้งครรภ์ 9 เดือน อาการแม่ท้อง 1 – 9 เดือน มีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้าง

                            ตามติดแม่ท้อง 9 เดือน อาการของคนท้อง
                            สัปดาห์แรกจนคลอด มีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง

                            สัญญาณการตั้งครรภ์ หรือ อาการตั้งครรภ์เริ่มแรก ไม่ได้มีแค่คลื่นไส้อาเจียนเท่านั้น เพราะ อาการของคนท้อง อาจจะไม่เหมือนกันทุนคน อาการคนท้องระยะแรก บางคนแพ้มาก หรือ ว่าที่คุณแม่บางคนตั้งครรภ์โดยไม่มีอาการแพ้ท้องเลยสักนิด ทั้งนี้เมื่อว่าที่คุณแม่เริ่มตั้งครรภ์ตั้งแต่สัปดาห์แรกจะมีการแสดงออกของอาการทางร่างกายที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม นั่นอาจเป็นผลมาจากการแสดงออกของระบบการป้องกันทารกในครรภ์ให้เติบโตขึ้นได้โดยปราศจากอันตราย

                            อย่างไรก็ดี อาการของคนท้อง เบื้องต้นที่สังเกตได้จึงอาจเป็นเรื่องยากที่จะบอกได้อย่างชัดเจนว่าเกิดการตั้งครรภ์หรือไม่ เพราะบางอาการอาจเป็นสัญญาณของโรคบางชนิด เช่น อาการคลื่นไส้อาเจียน เวียนหัว หรือผู้ที่มีรอบเดือนมาไม่สม่ำเสมอก็อาจทำให้เข้าใจผิดคิดว่าเป็นสัญญาณแรกของการตั้งครรภ์ได้ คุณผู้หญิงจึงควรหมั่นสังเกตรอบเดือนของตนเองและดูการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายอยู่เสมอ

                            และเมื่อมั่นใจว่าประจำเดือนขาดและพบสัญญาณอาการตั้งครรภ์เริ่มแรก ก็ควรไปแพทย์เพื่อตรวจให้มั่นใจอีกครั้งและฝากครรภ์แต่เนิ่น ๆ … ทั้งนี้โดยทั่วไป อาการของคนท้อง ในแต่ละคนจะมีความแตกต่างกันออกไป หากแบ่งตามไตรมาส ตั้งแต่ 1-9 เดือน ก็ยังจะพบอาการที่เปลี่ยนไปตามช่วงเวลาของการตั้งครรภ์ ซึ่งสามารถมีอาการเพิ่มเติมจากระยะเริ่มต้น ที่คุณแม่ท้องต้องพบเจอ ดังนี้

                            อาการแม่ท้อง แต่ละเดือนเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง?

                            อาการคนท้อง 1 สัปดาห์ สำหรับ อาการคนท้อง สัปดาห์แรก สังเกตได้จากประจำเดือน โดยปกติแล้วถ้าคุณผู้หญิงมีประจำเดือนมาอย่างสม่ำเสมอและค่อนข้างตรงเวลา ซึ่งหากประจำเดือนขาดไป 12-16 วัน ก็เป็นไปได้ว่า กำลังตั้งครรภ์แล้วแน่ๆ นอกจากนี้ยังมี อาการของคนท้อง เบื้องต้นที่จะทำให้เชื่อได้ว่ากำลังตั้งครรภ์ คือ มีความเปลี่ยนแปลงของเต้านมและหัวนม ซึ่งจะเปราะบาง อ่อนไหว และมีความรู้สึกเสียวแปล๊บได้ง่าย รวมไปถึงการเกิดตกขาวเล็กน้อย ซึ่งเกิดจากฮอร์โมนเอสโตรเจนมีการเปลี่ยนแปลง ทำให้มีเลือดมาคั่งที่ช่องคลอดที่คอมดลูก ต่อมต่างๆ ที่คอมดลูกทำงานมากขึ้น จะมีน้ำไหลออกมาจากช่องคลอดมากขึ้น เมื่อมาเจอกับแบคทีเรียที่มีตามปกติที่ช่องคลอดก็จะย่อยน้ำนี้เป็นตกขาวได้ แต่เป็นอาการคนท้องที่ไม่ได้เป็นอันตรายใดๆ

                            อาการของคนท้อง

                            อาการของคนท้อง 1 เดือน “รู้จักสัญญาณสู่ความเป็นแม่”

                            • เมื่อตั้งครรภ์ได้ 1 เดือน แพ้ท้อง ถือเป็น อาการคนท้องระยะแรก ที่ปกติธรรมดา โดยจะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน เวียนศีรษะ เหม็นอาหารหรือสิ่งของรอบกาย เกิดจากฮอร์โมนที่สร้างขึ้นในขณะตั้งครรภ์ส่งผลต่อร่างกายคุณแม่และระบบทางเดินอาหารทำให้รู้สึกคลื่นไส้ พะอืดพะอม จนบางครั้งอาเจียน
                            • เต้านมคัด จะรู้สึกเจ็บคัดตึงเต้านม และเต้านมจะขยายใหญ่ขึ้น เนื่องจากฮอร์โมนในขณะตั้งครรภ์ที่เพิ่มขึ้นและปริมาณเลือดในร่างกายที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้คุณแม่รู้สึกได้ว่าเต้านมใหญ่ขึ้น แน่นและคัดตึงจนเจ็บ
                            • ปัสสาวะบ่อย เกิดจากมดลูกที่ขยายขนาดใหญ่ขึ้นมาเบียดกระเพาะปัสสาวะ ทำให้รู้สึกปวดปัสสาวะได้ง่ายและบ่อยกว่าปกติ แต่หลังจากอายุครรภ์มากขึ้นในช่วงไตรมาสที่สอง มดลูกโตเข้าสู่ช่องท้อง การกดทับกระเพาะปัสสาวะจะลดลง คุณแม่จะกลับมาปัสสาวะได้ปกติอีกครั้ง
                            • อ่อนเพลีย ในช่วง 1-2 เดือนแรก มักมีอาการอ่อนเพลียง่าย อยากนอนหลับพักผ่อนตลอดเวลา สาเหตุเกิดจากฮอร์โมนในร่างกายขณะตั้งครรภ์ที่สูงขึ้น ทำให้กล้ามเนื้อในร่างกายคลายตัว ร่างกายมีการเปาผลาญและใช้พลังงานมากขึ้น ทำให้คุณแม่ท้องรู้สึกเสียพลังงานไปมากและอ่อนเพลียได้ง่ายนั่นเอง

                            อาการเหล่านี้เป็นอาการคนท้องระยะแรก ช่วง 1 สัปดาห์ ถึง 1 เดือน ที่คุณแม่ก็สามารถสังเกตตัวเองได้ค่ะ  หากพบว่าตัวเองมีอาการก่อนตั้งครรภ์เหล่านี้ ก็เตรียมไปพบแพทย์เพื่อตรวจดูว่าตัวเองกำลังตั้งครรภ์หรือไม่

                            อ่านต่อ >> อาการของคนท้องเมื่อเข้าเดือนที่ 2-6 พร้อมวิธีรับมือ คลิกดูหน้า 2

                            เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                             

                              โครงการ Honda Safety for kids Ambassador

                              โครงการ “Honda Safety for kids Ambassador” ปลูกฝังความปลอดภัยบนท้องถนนให้เด็กไทย

                              โครงการ  Honda Safety for kids Ambassador ปลูกจิตสำนึกความปลอดภัยทางถนนให้กับเยาวชนไทย ไปกับการเรียนรู้แบบบูรณาการ เป็นอีกหนึ่งโครงการดีๆ จากฮอนด้า (Honda) บริษัทผู้นำด้านยานยนต์ชั้นนำ

                               

                              โครงการ  Honda Safety for kids Ambassador
                              ปลูกฝังให้เด็กไทยให้โตขึ้นไปเป็นทูตความปลอดภัย

                              การสร้างความปลอดภัยบนท้องถนนให้กับเด็กๆ ถือเป็นอีกหนึ่งภารกิจสำคัญของเจ้าหน้าที่ตำรวจ อย่างไรก็ตามคุณพ่อเเละคุณเเม่ ในฐานะผู้ปกครองซึ่งใกล้ชิดเเละอยู่กับเด็กตลอดเวลา ก็ถือว่ามีส่วนสำคัญในการปลูกฝังเเละสร้างความปลอดภัยเมื่อลูกๆ ต้องใช้ชีวิตอยู่บนท้องถนนได้เหมือนกัน

                              ปัจจุบัน การคมนาคมที่สะดวกมากขึ้น เด็กผู้เป็นเยาวชนเเละอนาคตของชาติ จึงมีชีวิตประจำวันที่ใกล้ชิดกับการใช้รถใช้ถนนมากขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ความสุ่มเสี่ยงและโอกาสในการตกเป็นผู้ประสบเหตุย่อมเพิ่มขึ้น

                              โครงการ Honda Safety for kids Ambassador

                              สถิติที่ผ่านมายืนยัน เด็กไทยเสียชีวิตจากอุบัติเหตุต่างๆ ที่เกิดขึ้นบนท้องถนนเป็นจำนวนมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เล็งเห็นถึงปัญหาดังกล่าวเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องป้องกันได้ด้วยการให้ความรู้และปลูกฝังจิตสำนึก ตั้งแต่วัยเยาว์ จึงเป็นจุดเริ่มต้นของกิจกรรม ออกให้ความรู้พร้อมปลูกฝังความปลอดภัยบนท้องถนน โดยมุ่งเข้าหากลุ่มเป้าหมายที่เป็นกลุ่มเด็กเล็ก ภายในโรงเรียนในช่วงชั้นประถมปีที่ 1-3

                              โครงการ Honda Safety for kids Ambassador

                              โครงการนี้ จัดขึ้นโดยมีเป้าหมายเพื่อให้ความรู้ในการใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย รวมถึงปลูกฝังวินัยจราจรให้กับเด็กนักเรียนโดยใช้สื่อการเรียนการสอนแบบบูรณาการจากฮอนด้า เช่น แอนิเมชั่น  เเละสนามจราจรจำลอง  พร้อมกับวิธีการสอนที่สนุกสนาน เป็นกันเองและเข้าใจง่ายของพี่ๆ ตำรวจ ซึ่งในหลักสูตรการสอนนั้นจะเน้นไปที่การเดินทาง การข้ามถนน และการโดยสารรถอย่างปลอดภัย ตลอดจนข้อปฏิบัติ เมื่ออยู่ในสถานการณ์จำลองในลักษณะต่างๆ

                              โครงการ Honda Safety for kids Ambassador

                              ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่นำร่องจัดกิจกรรมในครั้งนี้นั้นมาจาก สน.ลาดพร้าว และสน.บางชัน ลงพื้นที่ 10 ครั้ง ให้ความรู้กับน้องๆ เยาวชนกว่า 1,000 คน จาก  28 โรงเรียน ที่อยู่ในเขตพื้นที่ใกล้เคียงทั้ง 2 สน.

                              โครงการ Honda Safety for kids Ambassador

                              โครงการดังกล่าว แม้จะเป็นเพียงช่วงเริ่มต้น แต่ได้รับความสนใจจากโรงเรียนต่างๆ เป็นอย่างมากนอกห้องเรียนสี่เหลี่ยม ที่ทำให้คุณครู พาเด็กๆ ออกมาเรียนรู้ในโลกจริงนอกห้องเรียนอย่างสนุกสนาน ขณะที่ผู้ปกครอง ในฐานะที่ใกล้ชิดเเละใช้ชีวิตกับเด็กๆ มากที่สุด มีส่วนสำคัญอย่างยิ่ง ในการที่จะช่วยเตือน สอน เเละปลูกฝังให้พวกเขาปฏิบัติตามกฎเเละวินัยจราจรอย่างเคร่งครัด

                              โครงการ Honda Safety for kids Ambassador

                              เเม้ไม่อาจหลีกเลี่ยงการใช้ชีวิตบนท้องถนนได้ เเต่หากเราปลูกฝังเยาวชนให้ได้รู้หลัก รู้จักป้องกันตนเอง รวมถึงปลูกฝังวินัยจราจรที่ดีตั้งเเต่บัดนี้  ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีสำคัญ ที่จะช่วยให้เยาวชนไทย ได้มีทักษะในการดำเนินชีวิตประจำวันบนท้องถนนอย่างปลอดภัยตั้งแต่วันนี้ ไปจนถึงอนาคต

                              สำหรับผู้ปกครอง หรือโรงเรียนที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรม
                              สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
                              อีเมล [email protected]

                               

                               

                               

                                ที่ตรวจครรภ์แบบไหนดี

                                แนะ! ว่าที่คุณแม่มือใหม่หัดใช้ ที่ตรวจครรภ์แบบไหนดี ใช้ง่ายสุด

                                รีวิวที่ตรวจครรภ์!! หากอยากรู้ว่าตัวเองกำลังท้องหรือไม่ ว่าที่คุณแม่มือใหม่สามารถใช้ที่ตรวจครรภ์ เช็กดูได้ด้วยตัวเอง แต่จะเลือก ที่ตรวจครรภ์แบบไหนดี ตามไปดูรีวิวแบบชัดๆ กันเลยค่ะ

                                ว่าที่คุณแม่มือใหม่หัดใช้ ที่ตรวจครรภ์
                                จะเลือก
                                ที่ตรวจครรภ์แบบไหนดี

                                การจะรู้ว่าตัวเองกำลังตั้งครรภ์อยู่หรือไม่ ก็สามารถสังเกตอาการเบื้องต้นทางร่างกายได้ แต่อาจไม่แน่นอน ยิ่งอาการในช่วงเริ่มต้น อย่างการแพ้ท้อง คลื่นไส้อาเจียน ก็ไม่ได้เป็นอาการเฉพาะเจาะจงของคนท้องทุกคนเสมอไป เพราะโรคอื่นก็มีสาเหตุที่ทำให้มีอาการอย่างนี้ได้ …ดังนั้นจึงต้องอาศัย การตรวจครรภ์ จึงจะบอกได้แน่ชัดนั้นเอง โดยต้องผ่านการตรวจ ร่างกาย เช่น ตรวจปัสสาวะ ตรวจเลือด หรือ อัลตร้าซาวด์ เพื่อเป็นการยืนยันได้ว่าคุณกำลังตั้งครรภ์จริง

                                ที่ตรวจครรภ์ คืออะไร ใช้ยังไง

                                การตรวจการตั้งครรภ์ที่นิยมและรวดเร็วมากที่สุดก็คือ การตรวจปัสสาวะ ส่วนมากคุณผู้หญิงสามารถหาซื้อชุดตรวจการตั้งครรภ์มาตรวจเอง โดยใช้ปัสสาวะเพียงไม่กี่หยด เพราะเนื่องจากในปัสสาวะของหญิงที่ตั้งครรภ์จะมีฮอร์โมน HCG (Human Chorionic Gonadotropin) ซึ่งฮอร์โมนนี้จะถูกหลั่งออกมาจากรกหลังจากที่มีการปฏิสนธิไปแล้วประมาณ 6-7 วัน ทั้งนี้ที่ตรวจครรภ์จะมีความแม่นยำประมาณ 99% ซึ่งสามารถใช้ที่ตรวจครรภ์ตรวจได้ตั้งแต่ประจำเดือนขาดหายไป 1 วัน แต่ถ้าไม่อยากจะให้คลาดเคลื่อนควรตรวจเมื่ออยู่ในช่วงหลังจากที่มีการปฏิสนธิไปแล้วประมาณ 8-12 สัปดาห์ หรือประจำเดือนขาดตั้งแต่วันที่ 10-14 ขึ้นไป ผลที่ออกมาจะมีความแม่นยำมากที่สุด

                                ที่ตรวจครรภ์ ตรวจตอนไหน

                                สำหรับการเก็บปัสสาวะมาตรวจครรภ์ ช่วงเวลาที่แนะนำคือควรเป็น ปัสสาวะแรกตอนเช้าหลังตื่นนอน จะได้ผลที่แน่นอนยิ่งขึ้น (ให้ปล่อยปัสสาวะส่วนแรกออกมมาก่อนแล้วเก็บปัสสาวะช่วงตอนกลางเป็นต้นไปมาทดสอบ)

                                ทั้งนี้เหตุผลที่ต้องเป็นปัสสาวะแรกช่วงเช้า ก็เพราะว่าในปัสสาวะจะมีความเข้มข้นของฮอร์โมน HCG สูงที่สุด แต่มีข้อแม้ว่าประจำเดือนจะต้องขาดไปแล้วประมาณ 35-40 วัน นับจากครั้งสุดท้ายที่ประจำเดือนมา หรืออีกอย่างก็คือให้ประจำเดือนเลยกำหนดที่จะมาไปก่อนประมาณ 7-10 วันขึ้นไป การตรวจครรภ์โดยใช้ปัสสาวะจึงจะเชื่อถือได้และแม่นยำเกือบ 100%

                                ที่ตรวจครรภ์แบบไหนดี

                                Must read >> ไขข้อข้องใจ ที่ตรวจครรภ์ ตรวจอย่างไร-ตอนไหนดี?

                                ทั้งนี้สำหรับคุณผู้หญิงที่กำลังเตรียมตัวจะเป็นคุณแม่ หรือสงสัยว่าตัวเองกำลังตั้งท้องอยู่รึเปล่า ก็คงอยากตรวจการตั้งครรภ์ด้วยตัวเอง แต่สำหรับคนที่ยังไม่เคยใช้ คงมีคำถามว่าจะเลือกซื้อ ที่ตรวจครรภ์แบบไหนดี ตรวจแล้วจะแม่นยำแค่ไหน >> เพื่อคลายความสงสัยนี้ ทีมแม่ ABK จึงได้รวบรวม ที่ตรวจครรภ์ ซึ่งมีขายอยู่ตามร้านขายยามารีวิวพร้อมข้อมูลวิธีใช้ ข้อดี ข้อเสีย และเทียบตัวอย่าง ที่ตรวจครรภ์ กันชัดๆว่า แบบไหนใช้ดี ใช้ง่าย และที่ตรวจครรภ์แต่ละแบบจะใช้เวลาตรวจนานแค่ไหน ควรเลือก ที่ตรวจครรภ์แบบไหนดี คลิกอ่านหน้า 2 ต่อได้เลยค่ะ

                                 

                                ดูรีวิวที่ตรวจครรภ์ ที่ตรวจครรภ์แบบไหนดี ตรวจแม่นสุด! คลิกหน้า 2

                                ที่ตรวจครรภ์แบบไหนดี

                                 

                                เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                                 

                                  ของเล่นเสริมพัฒนาการ

                                  ของเล่นธรรมชาติ ของเล่นเสริมพัฒนาการ ที่ไม่สำเร็จรูป แต่มหัศจรรย์ต่อลูกน้อย

                                  การเล่นและของเล่นกับเด็กเป็นสิ่งที่คู่กัน “ของเล่น” เปรียบเสมือนเป็น “เพื่อนรัก” ที่เป็นคู่กันมาตั้งแต่วัยเบบี๋ นอกจากเป็นกิจกรรมที่ทำให้ลูกได้ความสนุกสนานเพลิดเพลินจากการได้เล่นแล้ว ยังทำให้เด็กได้เรียนรู้ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรอบตัว ซึ่ง ของเล่นเสริมพัฒนาการ ยังมีหลายประเภทที่เหมาะสมกับช่วงวัย ที่จะช่วยเพิ่มทักษะการเรียนรู้ เพิ่มพูนประสบการณ์ เติมพัฒนาการในด้านต่าง ๆ ให้กับเจ้าตัวน้อยได้ดียิ่งขึ้น โดยจะเห็นได้ว่าของเล่นในปัจจุบันนี้มีมากมายหลายอย่างที่จัดมาให้เด็ก ๆ ได้เล่น

                                  ของเล่นอาจแบ่งได้เป็น 3 ประเภทด้วยกัน คือ

                                  ของเล่นจากธรรมชาติ

                                  #ของเล่นจากธรรมชาติ

                                  คือการได้เล่นหยิบจับวัสดุจากธรรมชาติใกล้ตัว เช่น ดิน น้ำ ทราย การปล่อยให้ลูกได้เล่นกับธรรมชาติจะช่วยพัฒนาการทางร่างกายและสมองให้เติบโตขึ้นได้อย่างรวดเร็ว เช่น การปั้นดิน เล่นทรายจะช่วยพัฒนาทักษะทางด้านมือ นิ้ว จินตนาการ ฯลฯ และส่งเสริมให้ลูกได้เรียนรู้จักแยกแยะความแตกต่างของพื้นผิววัตถุ หยาบ ละเอียด เหนียว สีจากวัตถุธรรมชาติ ฯลฯ ว่าเป็นอย่างไร ซึ่งข้อดีของของเล่นธรรมชาติคือปลอดภัยจากสารปนเปื้อนที่เป็นพิษน้อย ราคาไม่แพง คุณพ่อคุณแม่สามารถหาของเล่นจากธรรมชาติใกล้ตัว เช่น กิ่งไม้ หิน เปลือกหอย หรือใบไม้ มาประดิษฐ์เป็นของเล่นให้กับเจ้าตัวเล็กได้ง่าย ๆ

                                  #ของเล่นที่ทำจากวัตถุสังเคราะห์

                                  เช่น หุ่นยนต์ รถยนต์ ตุ๊กตา ยางกัด ตัวต่อ ฯลฯ ที่สร้างสรรค์ออกมาเพื่อตอบสนองความต้องการของเด็ก ๆ ได้ทุกเพศทุกวัย ข้อดีของของเล่นชนิดนี้คือ สีสันที่สดใสซึ่งจะช่วยกระตุ้นความสนใจ มีเสียงดนตรีกรุ๊งกริ๊ง ให้เจ้าตัวน้อยได้ใช้ประสาทสัมผัสทั้งห้า ทั้งนี้การเลือกของเล่นจากวัตถุสังเคราะห์ คุณพ่อคุณแม่ควรพิจารณาคุณสมบัติ คำอธิบายจากตัวสินค้า โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัย เพราะในขณะที่ผู้ผลิตของเล่นต่างแข่งขันผลิตออกมาขายจำนวนมาก หากของเล่นไม่ได้คุณภาพ มีสารปนเปื้อนที่เป็นอันตรายตกค้างบนผิวของเล่น เมื่อลูกนำมาเล่นก็อาจส่งผลต่อร่างกายและผลต่อพัฒนาการที่จะตามมา ดังนั้นไม่ควรตัดสินใจเลือกซื้อของเล่นให้ลูกเพียงเพราะคิดว่ามันน่าจะดีเท่านั้น

                                  #ของเล่นเสริมทักษะและพัฒนาการ

                                  ของเล่นชนิดนี้จะช่วยเสริมพัฒนาการในหลาย ๆ ด้านทั้งทางร่างกาย สมอง รวมถึงกระตุ้นประสาทสัมผัสทั้งห้า เช่น แฟลชการ์ด เลโก้ ตัวต่อ ของเล่นที่มีเสียง ชุด DIY ชุดอาชีพ แป้งโดว์ ฯลฯ ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ควรเลือกของเล่นให้เหมาะกับวัยของลูกเพื่อเสริมพัฒนาการได้ตามวัย เช่น

                                  • อายุแรกเกิด–  6 เดือน ควรเลือกของเล่นที่มีสีสันสดใส และมีเสียง อย่างเช่น โมบายล์  การแขวนของเล่นที่สดใส แกว่งไกว มีเสียงกรุ๊งกริ๊ง จะช่วยฝึกการมองเห็นและการฟัง พัฒนาระบบประสาทสัมผัสของลูกให้ดียิ่งขึ้น
                                  • อายุ 6 เดือน – 1 ขวบ ของเล่นสำหรับวัยนี้ยังคงเป็นอะไรที่มีสีสันเพื่อหัดแยกแยะสีและรูปร่าง หยิบจับได้พอดีมือเพื่อเสริมพัฒนาการด้านการประสานสัมพันธ์ระหว่างสายตากับมือ และของเล่นที่เคลื่อนที่ได้ช่วยเสริมพัฒนาการร่างกายให้ขยับเคลื่อนไหว
                                  • อายุ 1 ปี – 2 ปี ควรเลือกของเล่นที่ให้ลูกลากจูงไปมาเองได้ หรือลูกบอล ให้ลูกได้เดิน วิ่ง อย่างอิสระ เพื่อเสริมพัฒนาการด้านกล้ามเนื้อ การทรงตัว แขนขา
                                  • อายุ 2- 4 ปี ให้ลูกได้ลองเล่นบัตรภาพ บล็อกไม้ แป้งโดว์ เกมปริศนาง่าย ๆ เพื่อเสริมทักษะความคิด เติมจินตนาการ

                                  บทความแนะนำ : การเลือกของเล่นเพื่อส่งเสริมพัฒนาการเด็ก

                                  จากการสำรวจสถานการณ์เด็กและสตรีในประเทศไทยโดยสำนักงานสถิติพบว่าร้อยละ 75.6 ของเด็ก อายุประมาณ 0-4 ปี จะมีของเล่นที่เล่นในบ้านอย่างน้อย 2 ประเภท จากของเล่น 3 ประเภทที่ในแบบสอบถามได้แบ่งเป็น ของเล่นที่ทำขึ้นเองภายในบ้าน เช่น ตุ๊กตา รถยนต์ ของเล่นจากร้านค้า และของเล่นที่เป็นสิ่งของเครื่องใช้ในครัวเรือน เช่น ชาม จาน ถ้วย หม้อ หรือของเล่นที่เป็นสิ่งของที่พบนอกบ้าน เช่น กิ่งไม้ หิน เปลือกหอย หรือใบไม้ โดยมากกว่าร้อยละ 90 จะเป็นของเล่นที่มาจากร้านค้า ซึ่งความจริงแล้วการเสริมพัฒนาการี่ดีจากการเล่น “ของเล่น” สำหรับลูกนั้นอาจไม่ได้ขึ้นอยู่ที่ราคา เพียงแต่ให้ลูกได้มีของเล่นที่หลากหลาย และได้มีประสบการณ์การเล่นที่ส่งเสริมพัฒนาการรอบด้าน

                                  อ่านต่อ ของเล่นธรรมชาติ ไม่สำเร็จรูป แต่เสริมพัฒนาการได้เยี่ยม คลิกหน้า 2

                                  เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                                    9 โรงเรียนหลักสูตรภาษาจีน มุ่งสอนลูกเก่ง 3 ภาษา ตั้งแต่อนุบาล

                                    ในปัจจุบันคงปฏิเสธไม่ได้ว่า “ภาษาจีน” เริ่มเข้ามามีบทบาทต่อการศึกษาในประเทศไทยมากขึ้น ซึ่งในอนาคตปัจจัยทางเศรษฐกิจและประชากรศาสตร์ส่งผลให้ภาษาจีนสำคัญไม่แพ้ภาษาอังกฤษเลยทีเดียว การเตรียมพร้อมทางด้านภาษาจีนสำหรับเด็กตั้งแต่อนุบาลอาจเป็นตัวเลือกสำหรับการศึกษาในอนาคตให้กับเจ้าตัวเล็กได้ดีไม่น้อย ถ้าคุณพ่อคุณแม่กำลังมองหา โรงเรียนหลักสูตรภาษาจีน ที่เน้นให้ลูกเก่งทักษะทางภาษามากขึ้นอีกหนึ่งภาษา ทีมแม่ ABK รวบรวมมาไว้ที่นี่แล้วค่ะ

                                    9 โรงเรียนหลักสูตรภาษาจีน มุ่งสอนลูกเก่ง 3 ภาษา ตั้งแต่อนุบาล

                                    1.โรงเรียนนานาชาติแองโกลสิงคโปร์ (Anglo Singapore International School :  ASIS)

                                    Anglo Singapore International School
                                    credit photo : www.anglosingapore.ac.th

                                    โรงเรียนนานาชาติแองโกลสิงคโปร์ ปัจจุบันมีทั้งหมด 3 แห่งคือ สุขุมวิท 31, สุขุมวิท 64 และ จังหวัดนครราชสีมา มีการใช้หลักสูตรการเรียนการสอนภาษาจีนจากสิงคโปร์ในการสอนทักษะภาษาจีนตั้งแต่ระดับอนุบาลจนถึงระดับประถมศึกษา 6 สอนโดยเจ้าของภาษาที่มีความรู้และมีวัฒนธรรมจีนสอดแทรกอีกด้วย ประกอบกับเนื้อหาวิชาการจากฝั่งอังกฤษ (Cambridge-IGCSE) สิ่งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการให้การศึกษาที่รอบด้าน และมีความหมายแก่นักเรียนและนำภาษามาใช้ในชีวิต นอกจากนี้ยังช่วยปรับสมดุลการสอนคำศัพท์และไวยากรณ์ด้วยมุมมองที่สนุกสนานมากขึ้น เช่น ประวัติศาสตร์วัฒนธรรมและประเพณี ผ่านการเรียนการสอนผ่านเพลงเรื่องราวและกิจกรรมอื่น ๆ ที่ให้โอกาสในการได้ยินและใช้ภาษาต่าง ๆ เหล่านี้ตลอดทั้งวันที่โรงเรียน เป้าหมายคือเสริมสร้างทักษะการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียนของนักเรียน เพื่อให้เด็ก ๆ สามารถนำความรู้ทางภาษาไปใช้ในชีวิตประจำวันได้

                                    Anglo Singapore International School

                                    Campus31 : 0-2662-3105-6
                                    Campus64 : 087 6941654 / 090 970 9564/ 02 331 1874-5
                                    Campus Nakhon Ratchasima (Korat)  : 044-081-162
                                    เว็บไซต์ : www.anglosingapore.ac.th

                                    2.โรงเรียนนานาชาติคอนคอร์เดี้ยน Concordian International School
                                    (Thailand’s IB English Chinese International School)

                                    Concordian International School
                                    credit photo : www.concordian.ac.th

                                    โรงเรียนนานาชาติคอนคอร์เดี้ยน มีการเรียนการสอนหลักสูตรภาษาอังกฤษ –ภาษาจีน ตั้งแต่ระดับเตรียมอนุบาลถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 และในชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 นักเรียนจะเรียนภาษาอังกฤษและภาษาจีนแยกกัน ภาษาอังกฤษจะเป็นภาษาหลักของการเรียนการสอน และภาษาจีนจะได้รับการสอนเป็นภาษาเพิ่มเติม โดยอาจารย์ผู้สอนที่มีความสามารถ พร้อมด้วยเทคโนโลยีสื่อการสอนที่หลากหลาย ที่จะช่วยปูทางสำหรับนักเรียนในการศึกษาต่อในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายที่มหาวิทยาลัยระดับโลกทั่วโลก ซึ่งโรงเรียน Concordian มีการพัฒนาหลักสูตรภาษาจีนแบบ project-based ทำให้เป็นที่ยอมรับอย่างแพร่หลายว่าสามารถปูพื้นฐานวิชาการให้กับเด็กนักเรียนเพื่อต่อยอดในระดับนานาชาติอย่างมีประสิทธิภาพ

                                    Concordian International School
                                    ที่ตั้ง : 918 หมู่ 8, จ.สมุทรปราการ 10540
                                    โทร. : 02 706-9000
                                    เว็บไซต์ : www.concordian.ac.th

                                    3.โรงเรียนนานาชาติมอนเต๊สซอรี่อคาเดมี่โรงเรียนนานาชาติกรุงเทพ
                                    (Montessori Academy Bangkok International School : MABIS)

                                    Montessori Academy Bangkok International School
                                    credit photo : www.montessoribkk.com

                                    โรงเรียนนานาชาติมอนเต๊สซอรี่อคาเดมี่โรงเรียนนานาชาติกรุงเทพ เป็นโรงเรียนที่จัดตั้งโดยใช้หลักสูตร Montessori มอบความรอบรู้ประสบการณ์การเรียนรู้ที่ลึกซึ้งและสนุกสนานผ่าน 3 ภาษา ได้แก่ ภาษษอังกฤษ ภาษาจีน และภาษาไทย โดยมีการจัดการเรียนการสอนภาษาจีนตั้งแต่แรกเริ่มตั้งแต่ระดับอนุบาล และเมื่อ พ.ศ. 2556 ได้รับการจัดตั้งจากกระทรวงศึกษาธิการให้เป็นโรงเรียนนานาชาติเต็มรูปแบบ ปัจจุบันเปิดรับนักเรียนจนถึงระดับประถมศึกษาปีที่ 6

                                    การศึกษามอนเตสซอรี่ของ MABIS หลักสูตรถูกออกแบบให้มีความเป็นธรรมชาติของเด็ก ๆ ผ่านสหวิทยาการและวิธีการหลากหลาย เด็ก ๆ จะเรียนรู้จากกันและกันเพื่ออยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืนและช่วยเหลือสังคม ห้องเรียนได้รับการออกแบบมาเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ภาษาที่สองหรือสามในลักษณะที่ไร้รอยต่อผ่านการผสมผสานของวัสดุ Montessori โดยครูภาษาจีน/ไทย ผ่านวัฒนธรรมและกิจกรรมที่หลากหลาย

                                    Montessori Academy Bangkok International School

                                    ที่ตั้ง : 1444 ถนนบางนา-ตราด กรุงเทพฯ 10260
                                    โทร: 02 396 0361-2, 087 8282 868
                                    เว็บไซต์ : www.montessoribkk.com

                                    4.โรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์ (SISB: Singapore International School of Bangkok)

                                    Singapore International School of Bangkok
                                    credit photo : www.sisb.ac.th

                                    โรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2544 เป็นสถานศึกษาแห่งแรกที่จัดการเรียนการสอนโดยใช้หลักสูตรการศึกษาของประเทศสิงคโปร์ ปัจจุบันโรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์ในประเทศไทยมีทั้งหมด 5 สาขาโรงเรียนแห่งแรกคือที่เอกมัย และประชาอุทิศ โรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์สาขาสุวรรณภูมิ สาขาในจังหวัดเชียงใหม่ และล่าสุดคือโรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์สาขาธนบุรี เปิดสอนตั้งแต่ระดับเนอร์สเซอรี่ถึงระดับประถมศึกษาปีที่ 6 โดยได้นำหลักสูตรการเรียนการสอนสิงคโปร์และหลักสูตรสหราชอาณาจักรมาใช้เป็นหลักอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของโรงเรียน

                                    SISB มีการจัดการเรียนการสอนแบบผสมผสานคือ ใช้หลักสูตรการเรียนรู้โดยให้เด็กเป็นศูนย์กลางสำหรับวัยเตรียมอนุบาล (Child-centered Curriculum) หลักสูตรการศึกษาที่มีชื่อเสียงของสิงคโปร์ในระดับประถมศึกษา (Singapore Curriculum) และหลักสูตรสหราชอาณาจักรในระดับมัธยมศึกษา (UK Curriculum) โดยเรียนรู้ทักษะการใช้ทั้ง 3 ภาษาคือ วิชาภาษาอังกฤษ วิชาภาษาจีน และวิชาภาษาไทย ในทุกระดับชั้นเรียน หลักสูตรภาษาจีนใช้หลักสูตรและตำราเรียนจากประเทศสิงคโปร์

                                    Singapore International School of Bangkok

                                    Campus Pracha-Utihit : 02-158-9191
                                    Campus Ekamai : 02-714-4099/ 081-620-6113
                                    Campus Suvarnabhumi : 02-710-2211
                                    Campus Thonburi : 02 153 9393/ 081-620-6113
                                    Campus Chiangmai : 053 217 087/ 090-892-3888

                                    เว็บไซต์ : www.sisb.ac.th

                                    อ่านต่อ 9 โรงเรียนหลักสูตรภาษาจีน มุ่งสอนลูกเก่ง 3 ภาษา ตั้งแต่อนุบาล คลิกหน้า 2

                                    เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่