ปิดเทอม ให้ลูกเรียนอะไรดี

ปิดเทอม ให้ลูกเรียนอะไรดี 7 กิจกรรมปิดเทอม เปิดประสบการณ์ เติมทักษะ ใช้เวลาอย่างสร้างสรรค์

ปิดเทอม ให้ลูกเรียนอะไรดี มองหากิจกรรมให้ลูกได้ทำ ห่างจากหน้าจอ มาเก็บเกี่ยวประสบการณ์นอกห้องเรียน เพิ่มทักษะและพัฒนาการให้ลูกรักกันดีกว่า มีค่ายและกิจกรรมดี ๆ จากหลายสถาบันและหน่วยงานที่จัดขึ้นมาให้เด็ก ๆ ใช้เวลาช่วงปิดเทอมมาเรียนรู้อย่างเป็นประโยชน์  ทีมแม่ ABK ได้รวบรวมกิจกรรมดี ๆ จากหลายที่มาให้คุณพ่อคุณแม่รีบสมัครให้เจ้าตัวเล็กกันเลยค่า

ปิดเทอม ให้ลูกเรียนอะไรดี 7 กิจกรรมปิดเทอมแสนสนุก
เปิดประสบการณ์ ใช้เวลาอย่างสร้างสรรค์

#1 กิจกรรมปิดเทอมเติมประสบการณ์ ที่พิพิธภัณฑ์เด็กกรุงเทพมหานครแห่งที่ 1 “จตุจักร”

พิพิธภัณฑ์เด็กกรุงเทพมหานครแห่งที่ 1 (จตุจักร)
ขอบคุณภาพจาก facebook.com/bkkchildrensmuseum

พิพิธภัณฑ์เด็กกรุงเทพมหานครแห่งที่ 1 “จตุจักร” ขอเชิญชวนน้อง ๆ เข้าร่วมกิจกรรม “ปิดเทอมเติมประสบการณ์”
ระหว่างวันที่ 28 มีนาคม – 17 พฤษภาคม 2563 ณ พิพิธภัณฑ์เด็กกรุงเทพมหานครแห่งที่ 1 (จตุจักร) สามารถสมัครได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป “ฟรี” ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น

เด็ก ๆ จะได้สนุกกับกิจกรรมและทักษะต่าง ๆ ทั้งกิจกรรมสันทนาการ ศิลปะและงานประดิษฐ์ ทำอาหาร การแสดงออก ฯลฯ โดยแบ่งออกเป็น 2 รุ่น รุ่นพี่โต 7-12 ปี และรุ่นน้องเล็ก 4-6 ปี กิจกรรมรุ่นละ 2 วัน ตั้งแต่เวลา 09.30-16.00 น.

*หมายเหตุ สามารถลงเรียนได้คนละ 1 รุ่น เท่านั้น

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม :
Facebook : พิพิธภัณฑ์เด็กกรุงเทพมหานครแห่งที่ 1 (จตุจักร) หรือ
เว็บไซต์ www.cdm-bangkok.com
โทร. 02-272-4500

#2 Mephoom Summer Camp

สถาบันมีภูมิ เชิญชวนเหล่าฮีโร่ตัวน้อยทั้งหลายมาร่วมกันพิทักษ์โลกของเราให้น่าอยู่ขึ้น กับแคมป์ปิดเทอมในธีม “Little heros save the planet” ซึ่งภายในแคมป์นี้น้องๆจะได้สนุกสนานกับการเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ผ่านกิจกรรมการเรียนดนตรี ศิลปะ การแสดง และคลาสเต้น

สิ่งที่น้องๆจะได้รับในกิจกรรมครั้งนี้

  • ได้เรียนรู้พื้นฐานดนตรีเรื่องของตัวโน้ตและจังหวะ ผ่านกิจกรรมดนตรีสร้างสรรค์ ที่จะส่งเสริมและกระตุ้นให้น้อ งๆ นำดนตรีมาสร้างสรรค์ผลงานด้านดนตรีแนวใหม่ได้
  • น้อง ๆ จะได้ระเบิดความคิดสร้างสรรค์ตัวเองออกมาผ่านงานศิลปะ ทั้งการวาดภาพ ระบายสี และงานประดิษฐ์ แบบไร้ขอบเขตและเป็นตัวของตัวเอง
  • น้อง ๆ จะได้เรียนรู้พื้นฐานการแสดงที่จะส่งเสริมความมั่นใจ ความกล้าแสดงออก และปรับบุคลิกภาพ เพื่อให้น้องๆสามารถนำไปปรับใช้ในนำเสนองานในการเรียน และชีวิตประจำวันได้
  • น้อง ๆ จะได้เรียนเรียนพื้นฐานเต้นแนว Street Dance กับครูที่มากประสบการณ์
Mephoom Summer Camp
ขอบคุณภาพจาก www.mephoomschool.com

เปิดรับน้อง ๆ อายุ 5-12 ปี
วันเวลากิจกรรม :
รอบที่ 1 : วันอังคารที่ 3 – วันศุกร์ที่ 6 มีนาคม 2020
รอบที่ 2 : วันอังคารที่ 10 – วันศุกร์ที่ 13 มีนาคม 2020
รอบที่ 3 : วันอังคารที่ 17 – วันศุกร์ที่ 20 มีนาคม 2020
รอบที่ 4 : วันอังคารที่ 24 – วันศุกร์ที่ 27 มีนาคม 2020
รอบที่ 5 : วันอังคารที่ 31 มีนาคม – วันศุกร์ที่ 3 เมษายน 2020
เวลา : 09.30 – 15.30 น.

แต่ละรอบเนื้อหาไม่เหมือนกัน รีบจองกันเข้ามานะคะ รับจำนวนจำกัดค่ะ
สำหรับน้องๆที่ลงเรียน 2 รอบ ลดทั้นที 5% สำหรับน้องๆที่ลงเรียนตั้งแต่ 3 รอบขึ้นไปลดทันที 10%
และแคมป์นี้น้อง ๆ จะได้เรียนดนตรี 1 เครื่องที่น้อง ๆ สนใจโดยมีให้เลือกเรียนทั้งลักษณะเรียนกลุ่มและเรียนเดี่ยว

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม :
Line ID : @mephoom (มี@นำหน้า)
Tel. 095-553-9224
รายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.facebook.com/Mephoomschool/

#3 Stargazing and Birding Camp

ค่าย “กลางคืนดูดาวเช้าดูนก” สำหรับน้อง ๆ ในช่วงปิดเทอม เด็ก ๆ จะได้สัมผัสกับห้องเรียนธรรมชาติอันน่าตื่นเต้น และทำกิจกรรมต่าง ๆ กันอย่างสนุกสนาน แถมได้รู้จักรับผิดชอบหน้าที่ต่าง ๆ ของตัวเอง เช่น ทานอาหารเสร็จแล้วก็แยกเศษขยะและล้างจานกันเองที่ “บ้านซันเสร่” ระหว่างวันที่ 21 – 22 มี.ค. 2563

Stargazing and Birding Camp
ขอบคุณภาพจาก : www.facebook.com/BAAN-Sunsaray

รายละเอียดกิจกรรม
– ที่พักนอนดอร์มแยกชายหญิงภายใต้การดูแลของครู
– กิจกรรมเริ่ม 14.00 น. ของวันเสาร์และเสร็จสิ้น 16.00 น. ของวันอาทิตย์
– เหมาะสำหรับน้องๆ 7 -14 ปี
– ค่ากิจกรรม 4,500 บาท รวมค่า อาหาร 3 มื้อ 2 วัน (เย็นวันเสาร์และเช้า+เที่ยงวันอาทิตย์) รวมของว่าง
– ผู้ปกครองไม่จำเป็นต้องเข้าร่วมด้วย สามารถดรอปน้องได้ในวันเสาร์แล้วมารับกลับในวันอาทิตย์หลังจบกิจกรรม
– ทีมวิทยากร: กลุ่มดูนกและดาวจาก Bird Conservation Society of Thailand (BCST)
– สิ่งที่ต้องเตรียมมา: ยาประจำตัว กระบอกน้ำ หมอน ผ้าห่ม สบู่ แชมพู ของใช้ส่วนตัว

สถานที่ : บ้านซันเสร่ สัตหีบ จ.ชลบุรี
โทร.090 076 2336
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม : คลิก

อ่านต่อ 7 กิจกรรมปิดเทอม เปิดประสบการณ์ คลิกหน้า 2

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

    แอร์ฟอกอากาศ

    แอร์ฟอกอากาศ ช่วยทุกคนในบ้านสุขภาพดีได้อย่างไร ?

    1. หลายๆ ครอบครัวเลือกที่จะใช้เวลาส่วนใหญ่หลังเลิกงาน หรือในวันหยุดสุดสัปดาห์อยู่บ้าน ทำกิจกรรมกับลูกๆ เพราะกลัวว่าถ้าพากันออกไปนอกบ้าน จะต้องไปเจอกับอากาศด้านนอกที่เต็มไปด้วยฝุ่น PM2.5 ควัน มลพิษต่างๆ แต่รู้ไหมคะว่าอยู่บ้านก็ใช่ว่าจะปลอดภัย 100% จากอากาศแย่ๆ ที่เต็มไปด้วยฝุ่น PM2.5 และนี่จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ว่าทำไมเราต้องมีแอร์ฟอกอากาศติดไว้ภายในบ้านค่ะ

    อากาศภายในบ้านที่คุณพ่อคุณแม่คิดว่าสะอาดปลอดภัย ก็อาจมีพวกเชื้อโรค แบคทีเรีย ฝุ่นขนาดเล็ก PM2.5 ละอองเกสร ดอกไม้ปะปนมากับกับอากาศ ฯลฯ ที่สำคัญคือไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตามเปล่าค่ะ ซึ่งเมื่อเราสัมผัสเข้าสู่ร่างกายผ่านระบบทางเดินหายใจสะสมมากๆ เข้า สามารถกระทบต่อสุขภาพของลูกน้อย และทุกคนในครอบครัว ที่เสี่ยงต่อการเจ็บป่วย  ไม่ว่าจะเป็นโรคทางเดินหายใจ โรคหัวใจ และหลอดเลือด  เป็นต้น

     

    แอร์ฟอกอากาศ

    แอร์ฟอกอากาศ ตัวช่วยเพื่อสุขภาพที่ดีของทุกคนในครอบครัว

    ปัจจุบันนี้มีเครื่องปรับอากาศที่ให้ทั้งความเย็น และฟอกอากาศไปในตัว นั่นก็คือ แอร์ฟอกอากาศ พานาโซนิค แอร์นาโนอี  ที่มีเทคโนโลยีล้ำสมัยล่าสุดเรียกว่า เทคโนโลยีนาโนอี ( Technology nanoeTM) )  ซึ่งเทคโนโลยี nanoeTM เป็นระบบฟอกอากาศที่สามารถช่วยลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย และไวรัส ที่สำคัญยังช่วยกำจัดฝ่นละอ องได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในทุกวันที่คุณแม่เปิดใช้แอร์นาโนอี nanoeTM จะทำให้อากาศภายในบ้านเย็นสดชื่น และสะอาดบริสุทธิ์มากยิ่งขึ้นค่ะ

    คุณสมบัติและประสิทธิภาพ 7 ประการของ nanoe™

    1. ช่วยกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ที่พบได้บ่อยภายในบ้าน เช่น กลิ่นเหม็นอับจากเสื้อผ้า กลิ่นอาหาร กลิ่นจากสัตว์ เลี้ยง กลิ่นขยะ กลิ่นจากหนังศีรษะ และกลิ่นบุหรี่ เป็นต้น
    2. ช่วยยับยั้งการทำงานของแบคทีเรีย และไวรัสที่เกาะแน่นอยู่ในอากาศ เช่น ไข้หวัดนก H5N1 / H9N2, ไข้หวัดใหญ่ และโคโรนาไวรัสในแมว
    3. ช่วยยับยั้งการทำงานของเชื้อราในอากาศ และเชื้อราฝังแน่น
    4. ช่วยยับยั้งสารก่อภูมิแพ้ที่มาจากสัตว์เลี้ยง และสารก่อภูมิแพ้ทั่วไป
    5. ช่วยยับยั้งละอองเกสรดอกไม้จากทั่วโลกได้ตลอดทั้งปี
    6. ช่วยยับยั้ง สารอันตรายที่ที่มีอนุภาคเล็กเพียง 5
    7. ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิว และเส้นผมตรงเป็นเงางาม

    แอร์ฟอกอากาศ

    ครอบครัวไหนที่กำลังมองหาเครื่องฟอกอากาศ แนะนำว่าให้ลองเปลี่ยนมาเป็นแอร์ฟอกอากาศเพราะไม่ใช่ได้แค่ความเย็นสบาย แต่ยังให้ในเรื่องอากาศที่บริสุทธิ์ ช่วยให้สุขภาพที่ดีขึ้นด้วยนะคะ

    ดังนั้นเพื่ออากาศภายในบ้านที่ดี และสะอาด ปราศจากฝุ่นละอองที่มีอนุภาคเล็กกว่า 2.5 ไมครอน อย่างฝุ่น PM2.5 ขอบอกว่าต้องเป็นแอร์พานาโซนิค แอร์นาโนอี รุ่น CS-XU13VKT ค่ะ ที่มีคุณสมบัติ

    1. ฟอกอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้ขณะที่ปิดระบบทำความเย็น
    2. มีระบบ Inverter ช่วยควบคุมอุณหภูมิของระบบทำความเย็น และระบบฟอกอากาศได้อย่างแม่นยำ
    3. เย็นเร็ว และเย็นสบายคงที่ตลอดเวลา
    4. ช่วยประหยัดพลังงานด้วยระบบ Inverter
    5. สารทำความเย็นมีอายุการใช้งานที่นานขึ้น และยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

     

    การมีสุขภาพดีเริ่มได้จากที่บ้านของคุณพ่อคุณแม่ ง่ายๆ ด้วยการติดตั้งแอร์ฟอกอากาศ แอร์นาโนอี เพื่อคุณภาพอากาศภายในบ้านที่สะอาดยิ่งขึ้น

    ดูรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติม Panasonic แอร์นาโนอี  , แอร์นาโนอี รุ่น CS-XU13VKT 

     

    แอร์ฟอกอากาศ

    แอร์ฟอกอากาศ

      โควิด-19

      เพจดังเตือน กลับจากประเทศเสี่ยง โควิค-19 อย่าเลี่่ยงตรวจ ปิดบังข้อมูล อันตรายติดทั้งครอบครัว

      โควิค-19 ระบาดในหลายประเทศทั่วโลก และพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขประกาศให้เป็น “โรคติดต่ออันตราย” แนะหยุดเดินทางประเทศกลุ่มเสี่ยง หรือกลับมาจากประเทสดังกล่าวต้อง “แยกตัว 14 วัน” พบอาการ ไข้สูง ไอ จาม  พบแพทย์ทันที ห้ามปกปิด เสี่ยงอันตรายครอบครัว เพิ่มผู้ติดเชื้ออย่างรวดเร็ว

      (เมื่อวันที่ 25 กพ 63) ประเทศไทยพบผู้ป่วยไวรัส โควิค-19 เพิ่มใหม่อีก 2 ราย รวมมีผู้ป่วยสะสม 37 ราย และมีผู้เข้าเกณฑ์เฝ้าระวัง 1,580 ราย แต่ยังไม่มีผู้เสียชีวิตจากโรคดังกล่าว ขณะเดียวกันได้ประกาศขยายเฝ้าระวังครอบคลุมผู้เดินทางมาจาก 7 พื้นที่เสี่ยง ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สิงคโปร์ ฮ่องกง มาเก๊า ไต้หวัน  พร้อมขอความร่วมมือให้ประชาชน “เลี่ยง เลื่อน การเดินทาง” ไปยังพื้นที่ที่มีการระบาดของโรค

      หากเลี่ยงไม่ได้ขอให้ปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข คือ หลีกเลี่ยงการไปในสถานที่มีคนหนาแน่น สวมหน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือ สำหรับทุกคน ทุกวัย ที่เดินทางกลับจากจากประเทศเสี่ยงให้แยกตัวเองออกจากสมาชิกในครอบครัว สังเกตอาการตัวเอง 14 วัน เพื่อป้องกันการกระจายของเชื้อ หากมีไข้ ไอ จาม ให้พบแพทย์ทันที

      อย่างไรก็ตาม เพจดัง Drama-Addict ได้เผยแพร่ประกาศชี้แจงจากโรงพยาบาลบี. แคร์ เมดิคอลเซ็นเตอร์ โดยมีข้อความโดยสรุปว่า หลังมีผู้ป่วยชายตรวจพบว่าเป็นปอดอักเสบ เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แต่จากการซักประวัติกลับ “ปฏิเสธว่าไม่ได้ไปในประเทศกลุ่มเสี่ยง” ซึ่งกลับมายอมรับภายหลังว่า “เดินทางไปจริง” สุดท้ายก็ตรวจพบว่าผู้ป่วยรายนี้ติดเชื้อไวรัส โควิค-19 จึงส่งตัวไปรับการรักษาในโรงพยาบาลรัฐเรียบร้อยแล้ว

      โควิค-19

      โควิค-19

      จากการปกปิดและปฏิเสธประวัติการเดินทาง ส่งผลให้บุคลากรทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลที่ใกล้ชิดผู้ป่วยเสี่ยงต่อการติดเชื้อจำนวน 30 คน โดยทั้งหมดได้ทำตามขั้นตอนของทางสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง (สปคม.)  กรมควบคุมโรคติดต่อต่อไป

      ทั้งนี้ทางโรงพยาบาลได้ออกประกาศขอความร่วมมือผู้รับบริการทุกท่าน แจ้งประวัติที่เป็นจริง เพื่อเข้าสู่กระบวนการคัดกรอง การวินิจฉัย และแยกโรคตามมาตรฐาน ดังนี้

      1. หากท่านมีประวัติการเดินทางไปจต่างประเทศในกลุ่มเส่ยงตามประกาศของกรมควบคุมโรค หรือมีประวัติสัมผัสกับผู้ที่เดินทางไปต่างประเทศในกลุ่มดังกล่าว ร่วมกับมีอาการไข้ ไอ จาม อ่อนเพลียให้ แจ้งที่จุดคัดกรองของโรงพยาบาล ซึ่งได้จัดให้มีทุกประตูเข้าออกของโรงพยาบาล
      2. โรงพยาบาลจะนำท่านไปยังห้องตรวจแยกโรค แรงดันลบ (Negative Pressure) ทันที และติดต่อประสาน สปคม. เพื่อพิจารณาว่าเข้าเกณฑ์กลุ่มเสี่ยง หรือไม่
      3. หากเข้าเกณฑ์ ท่านจะได้รับการตรวจ PCR for COVID-19 และพักรักษาตัวในห้องความดันลบของโรงพยาบาล เพื่อรอผลตรวจ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 6-8 ชั่วโมง
      4. หากผลตรวจพบเชื้อ ทาง สปคม. จะดำเนินการรับตัวท่านไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลภาครัฐต่อไป

      “การปดปิดข้อมูลเป็นผลเสีย มีผลกระทบทำให้เกิดความเสียหายต่อสังคม ต่อผู้อื่น และต่อครอบครัวของท่านเอง”

      ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการสืบสวนโรคไปยังครอบครัว ผู้ใกล้ชิดผู้ป่วยในวงกว้างเพื่อกักกันโรคไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดและเข้าสู่การระบาดระยะที่ 3 อยู่ในขณะนี้ โดยพบว่ามีสมาชิกในบ้านติดเชื้อรวม 4 ราย

      อ่าน รู้ทันอย่างมีสติ ป้องกันลูกน้อยและครอบครัวจากโควิค-19 หน้า 2

       

      เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

       

        ปัญหาการให้นมแม่

        5 ปัญหาการให้นมแม่ ที่แม่ต้องเจอ พร้อมวิธีแก้ปัญหา

        ปัญหาการให้นมแม่ ไม่ว่าจะเป็นท่อน้ำนมอุดตัน เต้านมอักเสบ หัวนมบอด น้ำนมน้อย หัวนมแตก ฯลฯ เหล่านี้ล้วนเป็น ปัญหาที่คุณแม่มักเจอกันอยู่บ่อยๆ ในช่วงที่ต้องให้นมลูก ดังนั้นเพื่อให้คุณแม่ได้เลี้ยงลูกน้อยด้วยน้ำนมแม่อย่างสบายใจ ไร้ปัญหากวนใจ เรามีวิธีแก้ไข้ปัญหาทั้งหมดนี้มาฝากกันค่ะ  

         

        ปัญหาการให้นมแม่ จัดการได้แค่รู้วิธี !

        อยากที่รู้ๆ กันค่ะว่าในช่วงเวลาของการให้นมลูก คุณแม่มักจะต้องเจอกับสารพัด ปัญหาการให้นมแม่ จนทำให้ท้อและเลิก ให้นมลูกไปเลยก็มี ซึ่งนั่นน่าเสียดายมากค่ะ เพราะน้ำนมแม่มีประโยชน์อุดมไปด้วยคุณค่าสารอาหาร วิตามิน แร่ธาตุ  ภูมิคุ้มกัน เป็นต้น ต่างๆ มากมาย ที่ดีต่อพัฒนาการการด้านร่างกาย พัฒนาการสมอง สติปัญญา ฯลฯ  เอาเป็นว่าเพื่อไม่ให้  เสียเวลา เรามาเริ่มแก้ปัญหาการให้นมแม่ กับ 5 ปัญหานี้ ที่พบว่าเกิดขึ้นกับแม่ให้นมลูกกันค่ะ

        1. ท่อน้ำนมอุดตัน

        สาเหตุ : มาได้จากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น ลูกดูดนมแม่ไม่เกลี้ยงเต้า , ปล่อยให้น้ำนมค้างอยู่ในเต้านมนาน(ลูกไม่ได้ดูด  หรือไม่ได้ปั๊มนมออก) , กินอาหารที่มีไขมันมาก , ใส่เสื้อชั้นในคับแน่นเกินไปทำให้น้ำนมไหลเวียนไม่สะดวก ฯลฯ ทำให้ลูกดูดนมแม่ไม่ออก คุณแม่รู้สึกเจ็บ คัดเต้านมมาก

        แก้ไข : ก่อนที่คุณแม่จะให้นมลูกในทุกๆ รอบ แนะนำให้ประคบเต้านมด้วยผ้าชุบน้ำอุ่นจัดประมาณ 5-10 นาที เมื่อเต้านม นิ่มลง ค่อยให้ลูกเข้าเต้าดูดนม ที่สำคัญเพื่อไม่ให้ท่อน้ำนมอุดตัน คุณแม่ควรให้ลูกดูดนมบ่อยๆ อย่างน้อย 8-12 ครั้ง / วัน  และดูดนานอย่างน้อยข้างละ 15-20 นาที

        2. เต้านมอักเสบ

        สาเหตุ : เกิดจากการที่มีน้ำนมเก่าคั่งค้างในเต้านม โดยไม่ได้ระบายน้ำนมออกให้หมด (ลูกดูดนมออกไม่หมดจากเต้า) คุณแม่สังเกตอาการได้คือ เวลาที่คลำตรงเต้านมๆ จะแข็งตึง กดแล้วรู้สึกเจ็บ และปวดไปทั่วบริเวณเต้านม เต้านมร้อน บวมแดง เป็นต้น

        แก้ไข : แนะนำคุณแม่ว่าถึงแม้จะรู้สึกเจ็บเต้านม ก็ยังต้องให้ลูกดูดนมจากเต้าให้ตรงตามช่วงรอบการให้นม เพราะถ้าคุณแม่หยุดให้ลูกดูดนม เต้านมจะยิ่งเกิดปัญหา เช่น หัวนมเป็นไต หรือท่อน้ำนมอุดตัน ฯลฯ  ฉะนั้นอย่าหยุดให้นม และควรให้ลูกดูดจากเต้าที่มีปัญหาก่อน เพื่อช่วยทำให้น้ำนมระบายออกได้มากที่สุด คุณแม่ต้องให้ลูกดูดนมอย่างน้อย 8-12 ครั้ง / วัน และ ดูดนานอย่างน้อยข้างละ 15-20 นาที หลังให้นมลูกเสร็จแล้ว ให้ประคบเย็น เพื่อลดอาการปวด บวมของเต้านม

        3. หัวนมบอด

        สาเหตุ : หัวนมบอด ฟังดูแล้วน่ากลัวใช่ไหมคะ แต่จริงๆ แล้ว หัวนมบอดไม่ใช่โรคหรืออาการอันตรายแต่อย่างใด สาเหตุ เกิดจากความผิดปกติของลักษณะหัวนมที่ไม่มีหัวนมขึ้นมา โดยเกิดได้จากท่อนมสั้นหรือพังผืดรัด ซึ่งลักษณะนมเช่นนี้นั้นไม่มีอันตรายใดๆ เพราะสามารถเกิดขึ้นได้กับผู้หญิงหลายคน โดยส่วนใหญ่นั้นมักจะเป็นกันตั้งแต่แรกเกิดเลยค่ะ   

        แก้ไข : เบื้องต้นคือขอให้คุณหมอหรือคุณพยาบาลช่วยตรวจเช็กดูหลังคลอดลูกได้ค่ะ หากพบว่าหัวนมบอดจะได้รับ คำแนะนำในการให้นมลูกอย่างถูกวิธีตามลักษณะหัวนมที่บอดค่ะ ซึ่งก่อนให้นมลูกคุณแม่สามารถดูแลเต้านมเพื่อให้มีหัวนมขึ้นมา อาจใช้อุปกรณ์ เช่น อุปกรณ์กดลานนมที่เรียกว่า ปทุมแก้ว เพื่อช่วยแก้ปัญหาให้คุณแม่ที่มีหัวนมแบนหรือบุ๋ม  แรงกดของปทุมแก้วจะช่วยนวดผิวหนังบริเวณรอบลานนมให้นุ่มและทำให้หัวนมยื่นออกมาค่ะ  หรือจะใช้เป็นที่ปั๊มนมไฟฟ้า เพื่อช่วยดึงหัวนมให้ยื่นออกมาก่อนจะให้นมลูกก็ได้เช่นกันค่ะ

        4. น้ำนมน้อย

        สาเหตุ : มาได้จากหลายปัจจัยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นความเครียด ความกังวลหลังคลอดลูก หรือการที่ไม่ได้ให้ลูกเข้าเต้าดูดนมบ่อยๆ การดูดนมคือการกระตุ้นให้ร่างกายผลิตน้ำนม ยิ่งดูดยิ่งกระตุ้นน้ำนมให้มีมาก

        แก้ไข : อย่างแรกให้คุณแม่ตัดเรื่องที่กังวลต่างๆ ออกให้หมด รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำสะอาดให้มากเพียงพอในทุกวัน และให้ลูกดูดนมอย่างน้อย 8-12 ครั้ง / วัน และ ดูดนานอย่างน้อยข้างละ 15-20 นาที หรือใช้เป็นเครื่องป๊มนมไฟฟ้า ปั๊มนมแม่สลับกับให้ลูกดูดจากเต้าก็ได้ค่ะ การใช้เครื่องปั๊มนมจะช่วยกระตุ้นนมแม่ได้ด้วยค่ะ

        5. หัวนมแตก

        สาเหตุ : อาจเกิดจากท่าทางในการกินนมและการดูดนมที่ไม่ถูกต้องของลูกน้อย คือขณะที่ลูกดูดนมแม่ แล้วปากของลูกอยู่ตื้น ขอบปากไม่ถึงลานนม ซึ่งนอกจากจะทำให้ลูกดูดนมได้ไม่เต็มที่ ก็ยังทำให้หัวนมแตกได้

        แก้ไข :  หัวนมแตกสามารถแก้ไขเบื้องต้นได้ด้วยการปรับท่าให้นม และวิธีการอมหัวนมและลานนมของลูกให้ถูกต้อง คือปากลูกต้องครอบคลุมเต็มบริเวณลานนม ลิ้นจะอยู่ในลักษณะที่พอดีกับเต้านม ทำให้มีแรงในการดันดูดนมออกมาได้อย่างถนัด และหลังลูกกินนมอิ่ม ให้คุณแม่เอาน้ำนมแม่ทาหัวนมที่แตก หรืออาจใช้เป็นออยเม้นท์ หรือครีมที่คุณหมอแนะนำว่าสามาถใช้ทาที่บริเวณหัวนมได้ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายของลูกน้อย

         

        กระตุ้นน้ำแม่ให้ผลิตน้ำนมได้ปริมาณมากเพียงพอ ทำได้อย่างไรบ้าง ?

        เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ หากอยากจะให้ประสบความสำเร็จ คุณแม่ต้องดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงพร้อมในทุกวัน และที่คือต้องกระตุ้นน้ำนมแม่ ซึ่งวิธีง่ายๆ ก็คือ

        1. ให้ลูกกินนมจากเต้าบ่อยๆ อย่างน้อย 8-12 ครั้ง / วัน และต้องดูดนานอย่างน้อยข้างละ 15-20 นาที
        2. ให้ปั๊มนมแม่ออก ซึ่งน้ำนมที่ปั๊มออกมาคุณแม่สามารถเก็บเป็นสต็อกน้ำนมแม่ไว้ให้ลูกน้อยกินในมื้อถัดไปได้ค่ะ สำหรับการปั๊มนม ยังเป็นการกระตุ้นนมแม่ให้ตรงรอบกินนมของลูกน้อยอีกด้วย ในกรณีที่ลูกหลับยังไม่ตื่น แต่ถึงเวลาที่ต้องเข้าเต้า คุณแม่สามารถใช้เครื่องปั๊มนมไฟฟ้า ปั๊มนมแม่ออกมาได้เลยค่ะ เพราะถ้าปล่อยนมให้แน่นเต้า อาจทำให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมาได้ค่ะ

         

        ทำไมต้องใช้เครื่องปั๊มนม ?

        การปั๊มนมแม่ด้วยเครื่องปั๊มนมไฟฟ้า จะช่วยทุ่นแรงให้คุณแม่สะดวก สบาย ประหยัดเวลา และได้น้ำนมคุณภาพที่ปลอดจากเชื้อโรคขณะปั๊มนมค่ะ

        ปัญหาการให้นมแม่

        เครื่องปั๊มนม Attitude Mom ผู้ช่วยคนสำคัญของคุณแม่ให้นมลูก

        จริงๆ การจะเลือกใช้เครื่องปั๊มนมสักเครื่อง ก็ต้องให้ประโยชน์ครอบคลุมการใช้งานถูกไหมคะ เพราะนอกจากใช้ปั๊มนมแม่ที่บ้านแล้ว เวลาออกนอกบ้านไปทำงานก็ต้องพกพาง่าย หยิบใช้สะดวกค่ะ ซึ่งเครื่องปั๊มนม Attitude Mom ตอบโจทย์คุณแม่มากค่ะ

        เครื่องปั๊มนม Attitude Mom มีทั้งหมด 4 รุ่น คือ…

        Attitude Mom

        รุ่น Galaxy ระบบ 2 มอเตอร์ น้ำหนัก 475 กรัม แรงดูด 900 มิลลิเมตรปรอท (ข้างละ 450 มิลลิเมตรปรอท)

        • Hospital Grad
        • 2 มอเตอร์ แยกการทำงานอย่างอิสระ ทนทาน
        • 4 โหมดการปั๊มนม ดูด/2in1/รีด/กระตุ้น
        • แรงปั๊มแยกซ้าย/ขวา ข้างละ 450 mmHg
        • เกลี้ยงเต้าเร็วมากขึ้น
        • แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน กว่า 250 นาที
        • น้ำหนักเบาเพียง 475 g.
        • เสียงการทำงานตัวเครื่องเบา ไม่รบกวน
        • รองรับการปั๊มนมอย่างหนัก ทุกสถานการณ์

        Attitude Mom

        รุ่น Mirror Light ระบบ 1 มอเตอร์ น้ำหนัก 240.5 กรัม แรงดูด 450 มิลลิเมตรปรอท

        • พกพาสะดวก น้ำหนักเบาเพียง 5 g.
        • 5 โหมดการปั๊มนม Spin/ดูด/2in1/รีด/กระตุ้น
        • มาพร้อมมอเตอร์และแบตเตอรี่ที่แข็งแกร่ง
        • เสียงเครื่องเงียบมากขึ้น
        • หน้าจอมีไฟ LED เพิ่มแสงสว่าง เมื่อปั๊มตอนกลางคืน
        • แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน กว่า 180 นาที
        • แรงดูดสูงสุด 450 mmHg
        • พร้อมกับกรวยซิลิโคน ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ Attitude Mom

        Attitude Mom

        รุ่น Little plus Pro ระบบ 1 มอเตอร์ มีแบตเตอรี่ในตัว แรงดูด 380 มิลลิเมตรปรอท

        • มี 4 โหมดการทำงาน ครบครับต่อการใช้งานในการปั๊ม โหมดดูด/โหมด2in1/โหมดรีด/โหมดกระตุ้น
        • มีฟังก์ชั่น Turbo Mode เพิ่มประสิทธิภาพการดูดให้มากขึ้น
        • เครื่องปั๊มนมสามารถแยกเป็นปั๊มคู่หรือเดี่ยวได้
        • แรงดูดสูงสุด 380 mmHg
        • น้ำหนักเบาเพียง 5 กรัม พกพาสะดวก
        • ภายในกล่อง เป็นชุดกรวยซิลิโคนแท้ 100% ไซซ์ 24 ซ.ม. (หากต้องการไซซ์อื่นๆ สามารถซื้อเพิ่มเติมได้)รับประกัน 1 ปี ทั้งมอเตอร์ และ แบตเตอรี่
        • หน้าจอระบบ Touch Screen มีระบบล็อคหน้าจออัตโมมัติ

         

        ปัญหาการให้นมแม่

        รุ่นปั๊มด้วยมือ รุ่น Compact  สะดวก ปั๊มด้วยมือเดียว ออกแบบมาให้ง่ายต่อการใช้งาน ไม่ต้องใช้แบตเตอรี่ หรือ Power bank สามารถควบคุมแรงดูดได้ด้วยตัวเอง

        • อุปกรณ์ทุกชิ้น ได้จดทะเบียนสถานประกอบการเครื่องมือแพทย์ผ่านมาตรฐานทั้งไทยและสากลได้รับหนังสือรับรองจากสำนักงานอาหารและยากระทรวงสาธารณะสุขของไทย
        • ตัวเกรดของผลิตภัณฑ์ยังเป็นเกรดเดียวกับโรงพยาบาลชั้นนำ และปราศจากสาร BPA ซึ่งเป็นสารที่ก่อให้เกิดมะเร็ง
        • สามารถควบคุมจังหวะการดูด ได้ด้วยตัวเอง โดยลักษณะการดูดของอุปกรณ์ยังคงความนุ่มนวลในการดูด
        • ชุดอุปกรณ์ส่วนของข้อต่อกรวย ถูกออกแบบใหม่ เพื่อรองรับการปั๊มด้วยมือ และยังสามารถทำความสะอาดได้ง่าย
        • ชุดอุปกรณ์ส่วนที่จับสำหรับการปั๊ม ถูกออกแบบมาให้รองรับกับมือ กระชับ และง่ายต่อการบีบกด
        • สามารถวางมือการปั๊มได้หลายลักษณะ เพราะตัวจับไม่ได้ติดอยู่กับชุดอุปกณ์ มีสายปั๊มยาว 50 ซม. ทำให้ไม่เมื่อย มือขณะปั๊ม
        • ขณะปั๊ม ไม่มีเสียงการทำงานของชุดอุปกณ์ดังรบกวน

        ซึ่งทุกรุ่นของเครื่องปั๊มนม Attitude Mom ผ่านการรับรองมาตรฐานเครื่องมือแพทย์ ได้รับการันตีจาก RoHs  มาตรฐานสำหรับสิ่งแวดล้อม  FDA (USA) องค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา  FCC ศูนย์ทดสอบผลิดตภัณฑ์ไฟฟ้าและ อิเล็กทรอนิกส์  ISO 13485 เป็นระบบมาตรฐานการจัดการด้านคุณภาพซึ่งครอบคลุมตั้งแต่การออกแบบ พัฒนา ผลิต และ ขาย เครื่องมือทางการแพทย์ (มาตรฐาน ISO 13485 ระบบบริหารคุณภาพสำหรับอุตสาหกรรมการผลิตเครื่องมือและอุปกรณ์การแพทย์) และ BPA FREE ปราศจากสารที่ก่อให้เกิดมะเร็ง

        ว่าที่คุณแม่มือใหม่ และคุณแม่ที่กำลังให้นมลูก แล้วอยากได้เครื่องปั๊มนมคุณภาพดีอย่าง เครื่องปั๊มนม Attitude Mom ก็สามารถเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่ค่ะ www.attitudemombreastpump.com รับรองไม่ผิดหวัง คุณแม่ต้องชอบแน่นอนค่ะ

        ปัญหาการให้นมแม่

         

         

          ดนตรีพัฒนาสมอง

          ดนตรีพัฒนาสมอง เพิ่มทักษะการเรียนรู้ให้ลูกน้อย

          ดนตรี เป็นความบันเทิงรูปแบบหนึ่งที่ช่วยให้เรารู้สึกผ่อนคลาย เป็นสิ่งที่สามารถรับฟังได้ทุกเพศ ทุกวัย ทุกเชื้อชาติ ถึงแม้ว่าเราจะไม่รู้จักภาษานั้นเลยก็ตาม นั่นคือสิ่งอัศจรรย์อย่างหนึ่ง ทั้งยังส่งผลดีต่อสมอง ช่วยพัฒนาการเรียนรู้ แล้ว ดนตรีพัฒนาสมอง ได้อย่างไร แม่น้องเล็กมีความรู้ดีๆ มาฝาก

          Continue reading “ดนตรีพัฒนาสมอง เพิ่มทักษะการเรียนรู้ให้ลูกน้อย”

            โรงเรียนวัดบวรนิเวศ

            เด็กๆ เฮลั่น! โรงเรียนวัดบวรนิเวศ ประกาศเป็น “โรงเรียนปลอดการบ้าน”

            น่าพาลูกไปเรียนมากแม่!! โรงเรียนวัดบวรนิเวศ ประกาศเป็น “โรงเรียนปลอดการบ้าน” สอนครบจบในห้อง เน้นเพิ่มเวลาเรียนรู้นอกห้องเรียน เริ่มปีการศึกษา 2563 นี้

            โรงเรียนวัดบวรนิเวศ ประกาศเป็น “โรงเรียนปลอดการบ้าน”

            เรียกว่าสร้างความฮือฮาในโลกโซเชียลได้เป็นอย่างมาก เมื่อวันที่ 14 ก.พ. 63 ทางเพจโรงเรียนวัดบวรนิเวศ โรงเรียนวัดบวรนิเวศ (Wat Bowonniwet School) โรงเรียนชายล้วนชื่อดัง แขวงวัดบวรนิเวศ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ได้โพสต์ประกาศข่าวดีสำหรับเด็กนักเรียน คือ ทางโรงเรียนเตรียมออกนโยบาย “โรงเรียนปลอดการบ้าน No Homework School” และเน้นทำแบบฝึก กิจกรรมต่างๆ จบในห้องเรียน โดยระบุข้อความว่า… “เป้าหมายที่เรากำลังจะทำ #โรงเรียนปลอดการบ้าน #บวรนิเวศเกรียงเดชเกริกก้องเกรียงไกร #โรงเรียนชายล้วนหกแผ่นดิน ซึ่งนโยบายดังกล่าวจะทำในปีการศึกษา 2563 และก็มีชาวเน็ตบางส่วนไม่เห็นด้วย แต่บางส่วนกลับเห็นด้วย

            โรงเรียนวัดบวรนิเวศ
            โพสต์ประกาศจากทางเพจ โรงเรียนวัดบวรนิเวศ ประกาศเป็น “โรงเรียนปลอดการบ้าน”
            ทั้งนี้ ผอ.เขษมชาติ อารีมิตร ผู้อำนวยการชำนาญการพิเศษ โรงเรียนวัดบวรนิเวศ ได้กล่าวถึงแนวคิดของ “โรงเรียนปลอดการบ้าน” ว่า กำลังดำเนินการอยู่ในขั้นตอนของการศึกษาแนวทาง รูปแบบของการเรียน แต่จะเกิดขึ้นแน่นอนในปีการศึกษา 2563 นี้
            โดยจะใช้แนวคิดการจัดการเรียนการสอนแบบห้องเรียนกลับด้าน ของอเมริกา (Flipped Classroom) คือ เน้นการเรียนรู้ด้วยตนเองตามทักษะและความสามารถของแต่ละคน และใช้เทคโนโลยีในการเรียนการสอนมากขึ้นแทนการใช้กระดาน ให้นักเรียนเรียนน้อยลง มีเวลาว่างมากขึ้นเพื่อทำกิจกรรม ซึ่ง โรงเรียนบวรนิเวศ พร้อมสนับสนุนกิจกรรมหลากหลายรูปแบบของนักเรียน ไม่ว่าจะเป็นทั้งด้านกีฬา ดนตรี หรือแม้กระทั่งกีฬา E-sport
            สำหรับเรื่องการยกเลิกการบ้านนั้น ผอ.เขษมชาติ กล่าวว่า “การบ้านเยอะมีปัญหากับนักเรียนทุกระดับ ครูหนึ่งวิชาสั่งการบ้านทั้งเทอม นักเรียนต้องทำการบ้านทุกวิชา ยังไม่รวมงานกลุ่ม งานชิ้น ดังนั้นเราควรเคลียร์การบ้านให้เสร็จตั้งแต่ในห้องเรียนและใช้เวลาไปทำกิจกรรมอย่างอื่นที่สนใจ คนเก่งไม่ได้มีแค่เก่งวิชาการ เราควรมองว่าเด็กทุกคนมีความเก่งอยู่ในตัว อยู่ที่ว่าเก่งด้านไหน และจะดันให้เด็กเก่งขึ้นได้อย่างไร ซึ่งทางโรงเรียนต้องการเด็กแบบนี้ ได้ส่งเสริมในสิ่งที่เขาชอบ และ เก่ง ดี มีสุข ที่แท้จริงตาม พระราชบัญญัติการศึกษาไทย”
            ด้านการค้นหาความสามารถของนักเรียน จะมีขึ้นตั้งแต่การสอบเข้า โรงเรียนจะมีแบบทดสอบความถนัดเพื่อทดสอบความสามารถแฝง คุณครูต้องปรับตัวจากการสอนแบบเดิมมาเป็น “โค้ช” เพื่อแนะนำวิธีการศึกษาให้นักเรียนหาข้อมูลด้วยตนเองมากขึ้น และกลับมาทำแบบฝึกหัดไปพร้อมกับการอธิบาย
            วิธีนี้นักเรียนจะไม่มีการบ้านและได้เรียนรู้จากการทำแบบฝึกหัดไปในตัว การดูแลนักเรียนรายบุคคลเป็นเรื่องสำคัญมาก ครูต้องรู้จักชื่อนักเรียน ประวัติ รวมถึงความสามารถพิเศษด้วย
            ด้านการวัดผล จะเป็นการสอบ และวัดผลโดยใช้วิธีประเมินตามสภาพจริง สามารถให้โอกาสนักเรียนสอบใหม่หรือค้นคว้าทำงานที่เกี่ยวข้องมาส่ง เพราะเชื่อว่านักเรียนทุกคนมีความแตกต่าง เขาอาจตอบไม่เก่ง แต่สามารถนำเสนอความรู้ความเข้าใจด้วยวิธีอื่นได้
            ที่มา : ขอขอบคุณบทสัมภาษณ์จากทีมงานเว็บไซต์เด็กดีดอทคอม www.dek-d.com

            อ่านต่อ >> “ข้อดีและข้อเสียของการเป็นโรงเรียนปลอดการบ้าน” คลิกหน้า 2

             

            เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

             

              วินัยเชิงบวก

              [สร้างวินัยเชิงบวก] ชวนพ่อแม่สำรวจ เรา “สั่ง” หรือ “สอน” ลูกอยู่นะ

              สั่งแบบนี้ ไม่ดีแน่ >> สอนแบบนี้สิ ใช่เลย! มาสร้าง วินัยเชิงบวก ให้ลูกด้วย “การสอน” กันดีกว่าค่ะ เพราะบางครั้งการออกคำสั่งก็ไม่ได้ช่วยให้ลูกเชื่อฟัง แต่อาจทำให้ต่อต้านกว่าเดิมด้วย

              การสร้าง “วินัยเชิงบวก” ถือเป็นเรื่องที่คุรพ่อคุณแม่ยุคใหม่ต้องรู้จัก เพราะหลายคนอาจไม่คุ้นเคยว่าการสร้าง วินัยเชิงบวก คืออะไร ทั้งนี้ การสร้างวินัยเชิงบวก คือการสอนและการฝึกฝนเด็กให้มีพฤติกรรมตามที่เราคาดหวัง ด้วยการใช้การสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพตรงกับธรรมชาติการรับรู้และการเรียนรู้ของเด็ก กล่าวคือ

              1. เด็กจะรับรู้สิ่งที่เราสื่อสารได้ดีเมื่อเราตอบสนองความต้องการพื้นฐานทางร่างกายและจิตใจของเด็กก่อน แล้วสมองของเด็กจึงจะเปิดรับสิ่งที่เราต้องการสื่อสาร
              2. เด็กจะเรียนรู้สิ่งที่เราสื่อสารได้ดีเมื่อเราสร้างและรักษาสัมพันธภาพที่ดีกับเด็กก่อน แล้วสมองของเด็กจะพร้อมทำความเข้าใจ

              ดังนั้นเทคนิคการสร้าง วินัยเชิงบวก จึงเป็นการสื่อสารที่ช่วยให้เด็กฟังและเข้าใจสิ่งที่เราสอนได้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังช่วยจูงใจให้เด็กอยากทำตามในสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่สอนด้วยตัวเขาเอง

              เทคนิคการสร้างวินัยเชิงบวก
              เทคนิคการสร้างวินัยเชิงบวก

              ส่วนที่ว่าเป็นเรื่องใกล้ตัว เพราะคุณพ่อคุณแม่และผู้ใหญ่ที่อยู่ใกล้ชิดจะมีการสื่อสารกับลูกหลานของเราอยู่ตลอดเวลา และอาจเคยใช้เทคนิคการสร้างวินัยเชิงบวกไปบ้างโดยไม่รู้ตัว แต่ส่วนใหญ่มักจะใช้สลับกันไปมากับการสร้างวินัยเชิงลบทำให้การสื่อสารไม่ค่อยได้ผลจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมบางวันลูกเรามีพฤติกรรมดี น่ารักมาก แต่บางวันกลับงอแงและดื้อรั้น (โดยเฉพาะเด็ก Gen ใหม่ที่รู้จักใช้เทคโนโลยี)

              ทีมแม่ ABK จึงชวนมาคุณพ่อคุณแม่ตรวจสอบตนเองว่าในแต่ละวันที่เราดูแลลูกนั้น เรา “สั่ง” หรือ “สอน” มากกว่ากัน หากใช้การสั่งมากกว่าการสอนแสดงว่าใช้การสร้างวินัยเชิงลบมากกว่า แต่หากใช้การสอนมากกว่าการสั่งก็หมายความว่า คุณพ่อคุณแม่ใช้การสร้าง วินัยเชิงบวก มากกว่านั่นเองค่ะ

               

              ติดตามอ่าน สร้างวินัยเชิงบวก
              ชวนพ่อแม่สำรวจ เรา “สั่ง” หรือ “สอน” ลูกอยู่นะ ต่อที่หน้า 2

               

              เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

               

                Tags

                วิธีสร้างเวลาคุณภาพ

                วิธีสร้างเวลาคุณภาพ ให้ลูกฉลาดไม่สิ้นสุด

                ศักยภาพในการเรียนรู้ และพัฒนาของเด็กแต่ละคนนั้นมีไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายด้าน เช่น กรรมพันธุ์ ความตั้งใจ ความขยัน และอีกหลายอย่างประกอบกัน ซึ่งทุกๆ สิ่งที่เกิดขึ้น “เวลา” เป็นตัวกำหนด แม่น้องเล็กจึงมีเคล็ดลับ วิธีสร้างเวลาคุณภาพ เพื่อให้ลูกน้อยเรียนเก่งขึ้น

                Continue reading “วิธีสร้างเวลาคุณภาพ ให้ลูกฉลาดไม่สิ้นสุด”

                  ค่าเทอมลูกดารา

                  ส่อง ค่าเทอมลูกดารา เรียนที่ไหนกัน แม่ต้องจ่ายเท่าไหร่บ้าง?

                  แอบส่อง ค่าเทอมลูกดารา กัน เมื่อซุปตาร์ตัวน้อยเริ่มโตถึงวัยเรียน คุณพ่อคุณแม่ดาราพาลูกไปเรียนที่ไหน และต้องจ่ายค่าเทอมปีละเท่าไหร่กันบ้าง ตามไปดูกันเลยค่า

                  ลูกดาราเรียนที่ไหน
                  ส่อง  ค่าเทอมลูกดารา พ่อแม่จ่ายเท่าไหร่กันบ้าง

                  เพราะการศึกษาของลูก ถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก บรรดาคุณพ่อคุณแม่ที่มีความพร้อมด้านทุนทรัพย์และอยากให้ลูกได้รับสภาพแวดล้อมที่ดี มีพื้นฐานทางด้านภาษาที่แน่น จึงมักจะวางแผนให้ลูกเข้าเรียนตั้งแต่ระดับอนุบาลในโรงเรียนหลักสูตรนานาชาติ หรือโรงเรียนที่เน้นสอนมากกว่า 2 ภาษา

                  ว่าแต่ถ้าเป็นครอบครัวดาราที่เหล่าทายาทตัวน้อย เริ่มโตขึ้นและต้องเข้าโรงเรียนกันแล้ว ส่วนใหญ่คุณพ่อคุณแม่ จะเลือกส่งเด็ก ๆ ลูกดาราเรียนที่ไหน เข้าเรียนที่โรงเรียนอะไร และมีค่าเทอมแต่ละปีเท่าไหร่กันบ้าง ตามไปส่องโรงเรียนของ 8 ลูกดาราไทย พร้อมค่าเทอมสุดอลังการกันค่ะ ทีมแม่ ABK ไปแอบเช็กมาให้แล้ว ขอบอกว่าทะลุหลักหมื่น หลักแสนกันทั้งนั้นเลยจ้า

                   

                  น้องชูใจ : โรงเรียนสาธิตพัฒนา

                  ค่าเทอมลูกดารา
                  ส่ขอบคุณภาพจาก IG @belleinsmile

                  มากันที่คนแรก ด.ญ.ณอร ศรีหมอก หรือ น้องชูใจ ลูกสาวสุดที่รักของพ่อกอล์ฟ ฟักกลิ้ง ฮีโร่ และแม่เบลล์ ยุภาพร สำหรับแฟนคลับที่อยากรู้ น้องชูใจ เรียนที่ไหน ซึ่งทั้งครอบครัวนี้ก็ไม่ได้พาน้องไปเรียนที่เชียงรายใหม่บ้านเกิดของคุณพ่อ แต่ส่งน้องชูใจเข้าเรียนระดับชั้นอนุบาลที่ โรงเรียนสาธิตพัฒนา โรงเรียนเดียวกับ น้องข้าวหอม ทายาทหมื่นล้าน ลูกชายสุดหล่อของแม่ตั๊ก บงกช

                  ค่าเทอมลูกดารา
                  ขอบคุณภาพจาก IG @belleinsmile

                  โดย โรงเรียนสาธิตพัฒนา เป็นโรงเรียนแนวบูรณาการ : ความหวังให้ลูกมีความสุข ไม่เร่งรัดเรื่องเรียนมากเกินไป เน้นการเรียนรู้ผ่านการลงมือปฏิบัติและกิจกรรม มีอัตราค่าเล่าเรียนอยู่ที่เทอมละ 53,500 บาท (ชั้นเตรียมอนุบาล-อนุบาลปีที่ 3) และอัตราค่าธรรมเนียมอื่น ๆ ประมาณ 20,000 บาท ซึ่งน้องชูใจเองก็ดูมีความสุขกับชีวิตวัยเรียนเป็นอย่างดี เห็นได้จากวีรกรรมที่สาวน้อยมักจะหยิบมาเล่าให้แฟนคลับฟังบ่อย ๆ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมของโรงเรียนสาธิตพัฒนา คลิกที่นี่ >> www.satitpattana.ac.th

                   

                  น้องปีใหม่ : โรงเรียนทอสี

                  ค่าเทอมลูกดารา
                  ขอบคุณภาพจาก IG @aff_taksaorn

                  สำหรับ ค่าเทอมลูกดารา คนที่ 2 คือ ที่ทีมแม่ ABK ไปแอบส่งมาคือ ด.ญ. เอวาริณ เตชะณรงค์ ลูกสาวสุดหวงของแม่แอฟ ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ ซึ่งก่อนหน้านี้คุณแม่แอฟและคุณพ่อสงกรานต์ เตชะณรงค์  ได้ปูพื้นฐานให้กับน้องปีใหม่ ซึ่งอายุได้หนึ่งขวบครึ่ง โดยให้เข้าเรียนชั้นเตรียมอนุบาลที่ Ivy Bound International School  แต่เมื่อแม่แอฟกลายเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว จึงตัดสินใจให้น้องปีใหม่ เข้าเรียนระดับชั้นอนุบาลที่ โรงเรียนทอสี ซึ่งมีค่าเล่าเรียนอยู่ที่ประมาณ 120,000 บาทต่อปี นับเป็น ค่าเทอมลูกดารา อีกคนที่ค่าใช้จ่ายไม่ใช่เล่น ๆ แต่จัดว่าเหมาะกับน้องปีใหม่มากจริง ๆ เพราะโรงเรียนนี้ขึ้นชื่อเรื่องวิชาการ มารยาท และหลักการสอนวิถีพุทธนั่นเอง ดูรายละเอียดเพิ่มเติมของโรงเรียนทอสี คลิกที่นี่ >> thawsischool.com

                  ค่าเทอมลูกดารา
                  ขอบคุณภาพจาก IG @aff_taksaorn

                   

                  น้องบีลีฟ : โรงเรียนนานาชาติบรอมส์โกรฟ

                  ค่าเทอมลูกดารา
                  ขอบคุณภาพจาก IG @elsiedreamer

                  ถัดมา คือ ด.ญ. บีลีฟ จันทร์เรือง หรือน้องบีลีฟ ลูกสาวสุดที่รักของ พ่อตั๊ก บริบูรณ์ และแม่เอลซี่ ก็ได้ส่งน้องเข้าเรียนชั้นอนุบาลที่ Bromsgrove International School Thailand โรงเรียนนานาชาติบรอมส์โกรฟ ซึ่งอิงระบบการเรียนการสอนของประเทศอังกฤษ ขณะเดียวกันก็มีความยืดหยุ่นและพร้อมปรับปรุงให้สอดคล้องกับยุคสมัยและโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งก็ดูเหมือนว่าโรงเรียนนี้จะรับมือกับการดูแลน้องบีลีฟที่พูดได้หลายภาษาได้เป็นอย่างดี โดยมีค่าเทอมระดับอนุบาล ปีละ 322,560 ค่าสมัคร 5,000 บาท ค่าลงทะเบียนแรกเข้า 20,000 – 50,000 บาท (แล้วแต่ระดับชั้น) ดูรายละเอียดเพิ่มเติมของโรงเรียนนานาชาติบรอมส์โกรฟ คลิกที่นี่ >> www.bromsgrove.ac.th

                  ค่าเทอมลูกดารา
                  ขอบคุณภาพจาก IG @elsiedreamer

                   

                   

                  อ่านต่อ  >> “ค่าเทอมลูกดารา น้องเป่าเปา,
                  น้องพลอยเจ, น้องเรซซิ่ง พ่อแม่จ่ายเท่าไหร่กันบ้าง” คลิกหน้า 2

                   

                  เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                   

                    นิสัยกินน้อย กินยาก

                    นิสัยกินน้อย กินยาก ทำเด็กวัย 1-3 ปีมีโอกาสขาดสารอาหารมากกว่าวัยอื่น

                    เด็กเล็กในช่วงวัย 1-3 ปีมีโอกาสขาดสารอาหารจำเป็นต่อการเจริญเติบโตของร่างกายและสมองมากกว่าช่วงวัยอื่นๆ  ลองสังเกตดูสักนิดว่าลูกรักที่อยู่ในวัยเด็กเล็กกำลังมีพฤติกรรมกินยาก เลือกกิน และชอบปฏิเสธอาหารที่คุณแม่จัดให้กินบ่อยๆ หรือเปล่า

                    นิสัยกินน้อย กินยาก

                    แพทย์หญิงกิติมา ยุทธวงศ์ ผู้อำนวยการบริหารสมาคมผู้ผลิตอาหารทารกและเด็กเล็ก  ให้คำตอบว่า ส่วนใหญ่มาจากพฤติกรรมการกินของเด็กในวัยนี้ที่เริ่มไม่เป็นไปตามที่คุณแม่คาดหวัง จากเดิมที่ในช่วงก่อนขวบ ไม่ว่าคุณแม่จะจัดอาหารตามวัยแบบไหนให้ ลูกมักจะไม่ปฏิเสธเพราะว่ายังกินเองไม่ค่อยได้ คุณแม่ยังต้องคอยป้อน คอยกระตุ้นให้กินอาหารดีมีโภชนาการ กินผักกินผลไม้ แต่พอช่วงหนึ่งขวบไปแล้วไปจนครบสองขวบ เป็นช่วงวัยที่ลูกเริ่มมีความเป็นตัวเอง รู้จักเลือก รู้จักปฏิเสธ อะไรชอบจะกิน อะไรไม่ชอบก็ส่ายหน้า เลือกกินแต่เมนูที่ชอบซ้ำๆ แม้แต่ผักที่เคยกินกลับไม่กิน และไม่ค่อยยอมลิ้มลองรสชาติอาหารใหม่ๆ

                    ด้วยวัยที่สามารถกินอาหารได้คล้ายผู้ใหญ่เกือบทุกอย่าง อาหารที่เด็กวัย 1-3 ปีกินได้จึงมีมาก ทั้งที่มีประโยชน์และไม่มีประโยชน์ ถ้าหากคุณแม่ยึดหลักการจัดอาหารมื้อหลัก 3 มื้อที่มีคุณค่าโภชนาการครบห้าหมู่ ให้กินนมรสจืดเป็นประจำ และหลีกเลี่ยงอาหารรสหวาน ขนมกรุบกรอบ  น้ำอัดลม ฯลฯ ก็วางใจได้ว่าจะไม่ประสบปัญหาการขาดสารอาหารในช่วงวัยนี้ คุณแม่จึงต้องใส่ใจเรื่องกินของลูกวัยเด็กเล็ก 1-3 ปีให้มาก ควรฝึกนิสัยการกินที่ดี สร้างวินัยเรื่องกินหากเริ่มสังเกตพบว่าลูกกำลังมีพฤติกรรมกินยาก ปฏิเสธอาหารมีคุณค่าที่คุณแม่จัดให้

                    นิสัยกินน้อย กินยาก

                    “การขาดสารอาหารในที่นี้หมายถึงปริมาณสารอาหารที่ช่วงวัยของลูกควรได้รับนั้น เขาได้รับไม่พอในแต่ละวัน โดยเฉพาะสารอาหารกลุ่มรอง (Micronutrient) จำพวกวิตามินแร่ธาตุต่างๆ ซึ่งพบในเด็กที่มีภาวะโภชนาการขาด เช่น ผอมมาก เตี้ยมาก และเด็กที่มีภาวะโภชนาการเกินคือ เริ่มมีน้ำหนักมากและเด็กอ้วน” แพทย์หญิงกิติมากล่าว

                    สอดรับกับข้อมูลสำรวจพฤติกรรมการกินและภาวะโภชนาการเด็กไทยจากแหล่งอ้างอิง เช่น SEANUTS โดยสถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล และ Thailand MICS 20152016 โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติร่วมกับสปสช.และองค์การยูนิเซฟ ที่ให้ข้อสรุปถึงปัญหาโภชนาการเด็กไทยอายุต่ำกว่า 5 ปีพบว่าขาดสารอาหารในกลุ่มไมโครนูเทรียนต์ซึ่งเป็นสารอาหารกลุ่มรองจำพวกวิตามินและแร่ธาตุ โดยสารอาหารที่พบว่าเด็กเล็กประสบภาวะขาดหรือพร่องไปมาก ได้แก่ แคลเซียม เหล็ก วิตามินเอ  วิตามินซี และสังกะสี ในผลสำรวจ SEANUTS ยังพบว่าเด็กไทยขาดวิตามินดีอีกด้วย

                     

                    สารอาหารกลุ่มรอง..ต้องการไม่มากแต่ขาดไม่ได้

                    นางสาวเพชรนภา องค์ตระกูลกิจ นักกำหนดอาหาร สมาคมนักกำหนดอาหารแห่งประเทศไทย ให้ข้อมูลเกี่ยวกับสารอาหารกลุ่มรองซึ่งจำเป็นสำหรับวัยเด็กเล็ก 1-3 ปีว่า เป็นสารอาหารที่มีความสำคัญต่อการส่งเสริมการเจริญเติบโตในช่วงวัยที่ร่างกายและสมองกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็วที่สุดช่วงหนึ่งของชีวิต สารอาหารกลุ่มวิตามินแร่ธาตุเป็นโภชนาการที่ร่างกายเด็กเล็กต้องการในแต่ละวันไม่มากนักแต่ก็จะขาดไม่ได้ หากไม่ได้รับสารอาหารกลุ่มนี้บ่อยๆ เป็นเวลานาน จะมีผลต่อการพัฒนาทั้งด้านร่างกายและสมอง

                    นิสัยกินน้อย กินยาก

                    สารอาหารไมโครนูเทรียนต์หลายชนิดจะทำงานร่วมกัน เช่น แคลเซียมทำงานร่วมกับฟอสฟอรัสและวิตามินดี ร่างกายจึงจะสามารถดูดซึมแคลเซียมได้ดี กระดูกและฟันจะเติบโตแข็งแรง เช็คความสูงของลูกเมื่ออายุครบสองขวบคูณด้วยสอง ก็จะบอกได้ว่าหากลูกโตเต็มศักยภาพ เขาจะมีความสูงเท่าใด การเติบโตได้เต็มศักยภาพนั้นคุณแม่ต้องดูแลเรื่องโภชนาการที่ดีและการออกกำลังกายสม่ำเสมอควบคู่ไปด้วยตลอดระยะเวลาช่วงวัยเด็กเล็กไปจนถึงวัยรุ่น

                    ธาตุเหล็กทำงานร่วมกับแมงกานีสและสังกะสี เป็นสารอาหารกลุ่มรองที่ช่วยส่งเสริมพัฒนาสมอง ระบบความคิด  ความจำ และสติปัญญา

                    “โดยทั่วไปหากเด็กได้รับอาหารมื้อหลักครบคุณค่าห้าหมู่ ก็จะได้รับสารอาหารไมโครนูเทรียนต์ร่วมด้วยอยู่แล้ว แต่ปัญหาที่คุณแม่มักจะมาปรึกษาก็คือ ลูกกินผักผลไม้น้อยมากหรือแทบจะไม่กินเลย จึงทำให้กังวล สิ่งที่จะแนะนำได้ก็คือ พยายามใช้วัตถุดิบอาหารที่มีความหลากหลายมาปรุงอาหารให้ลูก ไม่ควรทำเมนูซ้ำๆ หรือให้ลูกกินอะไรเหมือนเดิมทุกมื้อเพียงเพราะลูกชอบ

                    นิสัยกินน้อย กินยาก

                    ตรงนี้เป็นภารกิจคุณแม่ที่ต้องใช้ความพยายามและอดทนที่จะปรับเปลี่ยนอาหารและฝึกนิสัยการกินที่ดีให้ลูก เพราะหากลูกกินอย่างมีโภชนาการ รู้จักเลือกอาหารมีคุณค่า มีวินัยการกิน เขาจะไม่มีปัญหาสุขภาพและโภชนาการเมื่อเติบโตเป็นวัยรุ่น”   นักกำหนดอาหาร กล่าวและเสริมว่า การให้ลูกกินนมเสริมสารอาหารที่มีการเติมสารอาหารกลุ่มไมโครนูเทรียนต์เพิ่มเติม เช่น ธาตุเหล็ก ไอโอดีน วิตามินต่างๆ ก็ถือเป็นตัวช่วยคุณแม่ให้คลายกังวล ให้ลูกกินนมรสจืดวันละ 2-3 แก้วเพื่อให้ลูกได้รับสารอาหารจำเป็นต่อการเจริญเติบโตครบถ้วนและสมดุล

                    นิสัยกินน้อย กินยาก

                      โควิด-19

                      โควิด-19 พ่อแม่ติดเชื้อส่งผลกระทบถึงลูกน้อย

                      โควิด-19 คือชื่อเรียกใหม่ของไวรัสโคโรนาที่คุณพ่อ คุณแม่อาจจะเริ่มคุ้นเคยกันบ้างแล้ว จากสถานการณ์ปัจจุบันยังคงมีการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง และขยายวงกว้างไปทั่วเอเชีย สิ่งที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือผลกระทบที่สำคัญต่อเด็กน้อย ตั้งแต่ทารกแรกเกิดไปจนถึงเด็กเล็กที่ต้องระวัง

                      Continue reading “โควิด-19 พ่อแม่ติดเชื้อส่งผลกระทบถึงลูกน้อย”

                        ประชาธิปไตย

                        ปลูกฝังประชาธิปไตยให้ลูก เริ่มต้นได้ที่บ้าน

                        ประชาธิปไตย คือคำที่ถูกเรียกระบอบการปกครองสุดท้ายที่ใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วโลก หมายถึง สิทธิ และหน้าที่ที่มนุษย์ทุกคนต้องปฏิบัติตามเสียงข้างมาก เพื่อความเสมอภาคของทุกคนในสังคม การปลูกฝังเรื่องประชาธิปไตยให้ลูกตั้งแต่ยังเด็กจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม

                        Continue reading “ปลูกฝังประชาธิปไตยให้ลูก เริ่มต้นได้ที่บ้าน”

                          สนามเด็กเล่น

                          5 ภัยอันตรายใน สนามเด็กเล่น ต้องสอนลูกให้ระวัง!

                          อุทาหรณ์! เด็กชายถูกม้ากระดกใน สนามเด็กเล่น กระแทกอกเสียชีวิต หมอบอกไม่เป็นอะไรมาก กลับมานอนรักษาอาการอยู่บ้านได้ 3 วัน สุดท้ายเสียชีวิตคาอ้อมกอดแม่

                          สุดเศร้า! เด็กชายวัย 12 ถูกม้ากระดกใน สนามเด็กเล่น
                          กระแทกอกเสียชีวิต

                          เรียกได้ว่าเป็นอุทาหรณ์สุดเศร้าอีกหนึ่งเรื่อง กับเหตุการณ์เสียชีวิตที่เกิดจาก ภัยอันตรายใน สนามเด็กเล่น ของเด็กชายอายุ 12 ปี ที่ไปเล่นม้ากระดก ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ขณะเล่นกับเพื่อน และถูกยกกระดกไปอยู่ด้านบนสูงจากพื้นประมาณ 1 เมตรเศษ แต่เพื่อนที่เล่นด้วยกันได้ลุกออกจากที่นั่งอย่างกะทันหัน ทำให้ม้ากระดกตกกระแทกพื้นอย่างแรง และราวเหล็กคล้ายตัว T ที่ทำไว้สำหรับเป็นที่จับกระแทกเข้าหน้าอกอย่างแรง

                          สนามเด็กเล่น

                          เมื่อพาไปโรงพยาบาล หมอบอกไม่เป็นอะไรมาก จึงกลับมานอนรักษาอาการปวดท้องอยู่บ้าน สุดท้ายเสียชีวิตคาอ้อมกอดแม่ และต้องรีบจัดการเผาศพเพราะเอาไว้นานไม่ได้ เพราะไม่มีเงินค่าใช้จ่าย อีกทั้งประกันชีวิตหมู่ที่ทางโรงเรียนทำให้บอกว่าจะช่วยค่าทำศพเพียง 10,000 บาท เพราะแพทย์ระบุในใบมรณะบัตรว่า เสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด

                          ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดนี้คุณแม่ของเด็กชายผู้เสียชีวิตได้เล่าให้กับนักข่าวอมรินทร์ทีวีว่า..

                          เธอและลูกชายได้ไปชมและเชียร์กีฬาของหมู่บ้านที่สนามกีฬาของ อบต. โดยลูกชายก็ได้ไปเล่นที่สนามเด็กเล่นห่างออกไปประมาณ 100 เมตร ต่อมาเวลาประมาณ 15.00 น. ลูกชายเดินเอามือกุมท้องเข้ามาหา พอถึงก็นอนหงายลงกับพื้นสนามหญ้า แม่จึงสอบถามได้ความว่าถูกที่จับม้ากระดกกระแทกเข้าที่ท้อง ตนจึงได้เอายาหม่องทาให้
                          จนรุ่งเช้าของวันใหม่ ลูกชายก็ยังบ่นว่าปวดท้องอยู่และมีอาการอาเจียนร่วมด้วยหลายครั้ง จึงได้ไปลาครูให้แล้วตัดสินใจพาไปหาหมอที่คลินิกแห่งหนึ่ง หมอก็สอบถามอาการและตรวจเบื้องต้น พร้อมได้ฉีดยาให้ 1 เข็มและให้ยามากิน โดยบอกว่าเป็นอาการของโรคกระเพาะอักเสบ ให้กลับไปรักษาตัวต่อที่บ้าน
                          จนกระทั่งในเช้าอีกวันตนได้ต้มโจ๊กจะเอาไปป้อนลูกซึ่งนอนอยู่ในห้อง แต่พอไปถึงกลับก็พบว่าลูกมีอาการเบิกตาโพรงและหายในรวยริน จึงรีบเข้าไปอุ้มลูกเอาไว้ในอ้อมกอดแล้วลูกก็เสียชีวิต
                          เบื้องต้น ครอบครัวเชื่อว่าน้องน่าจะเสียชีวิตจากแรงกระแทก ซึ่งอาจทำให้อวัยวะภายในได้รับความกระทบกระเทือน ถึงขั้นแตกหัก ซึ่งทางคุณแม่เองก็ไม่ได้ผ่าชันสูตรศพเนื่องจากไม่อยากให้น้องเจ็บไปกว่านี้ และฐานะยากจนไม่มีเงินพอสำหรับค่าใช้จ่ายต่างๆ ทั้งนี้คุณแม่จึงได้ฝากเตือนเป็นอุทาหรณ์สำหรับการเล่นเครื่องเล่นต่างๆ ใน สนามเด็กเล่น ให้พ่อแม่คอยดูและระวังลูกให้ดีเพราะอาจจะได้รับอันตรายได้

                          ขอบคุณข้อมูลและคลิปข่าวจาก AMARIN TVHD

                           

                          จากข่าวการเสียชีวิตของเด็กชายวัย 12 ที่ถูกเครื่องเล่นม้ากระดกใน สนามเด็กเล่น กระแทกหน้าอกจนเสียชีวิต ก็ถือเป็นอุทาหรณ์ที่คุณพ่อคุณแม่จำเป็นที่จะต้องคอยสอดส่องดูแลและระมัดระวังลูกน้อยทุกครั้งที่ปล่อยให้ไปเล่นเครื่องเล่นต่างๆ ในสนามเด็กเล่น ซึ่งถ้าเป็นเด็กเล็กสำคัญมากว่าไม่ควรปล่อยให้ลูกเล่นตามลำพัง และต้องตรวจสอบอุปกรณ์ต่างๆ ในสนามเด็กเล่นก่อนทุกครั้งว่าจะปลอดภัยกับลูกรึเปล่า ไม่ว่าจะเป็น พื้นสนาม เครื่องเล่นอยู่ในสภาพแข็งแรงมั่นคงไม่ และแต่ละอย่างตั้งไว้ห่างกันหรือดีหรือเปล่า นอกจากนี้ เสื้อผ้าของ ลูกก็เป็นปัญหาที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นขณะเล่นได้

                          ทั้งนี้อย่าลืมสำรวจบริเวณโดยรอบว่าปลอดภัยรึเปล่า เช่น มีเศษแก้วเหล็กแหลม ขวด กระป๋อง หรือไม่ สถานที่เล่นใกล้ถนนหรือไม่ มีรั้วกั้นหรือไม่ และสถานที่ควรจะอยู่ในร่มเพื่อป้องกันลูกผิวไหม้จากแดดด้วย

                          อ่านต่อ >> “ภัยอันตรายในสนามเด็กเล่นที่พ่อแม่ต้องสอนลูกให้ระวัง”
                          คลิกหน้า
                          2

                           

                          เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                           

                            นาฬิกาโทรศัพท์

                            เตือนภัยแม่ซื้อ นาฬิกาโทรศัพท์ สมาร์ทวอทช์เด็ก ให้ลูกยังไม่ทันใช้ ชาร์จเสร็จไฟลุก (มีคลิป)

                            เตือนภัย! แม่โพสต์คลิป นาฬิกาโทรศัพท์ สมาร์ทวอทช์เด็ก ไฟลุก!! หลังซื้อมาให้ลูกยังไม่ทันใช้ คาด..ได้ของปลอมเพราะราคาถูก นักวิทย์ชี้เกิดจากแบตลัดวงจร!

                            แม่โพสต์เตือนซื้อ นาฬิกาโทรศัพท์ ราคาถูกให้ลูก
                            ยังไม่ทันได้ใช้ ไฟลุก เครื่องระเบิด!

                            บ้านไหนที่ลูกกำลังร้องอยากได้ นาฬิกาโทรศัพท์ (kid smart watch) ต้องอ่านเรื่องนี้ด่วน! เลยค่ะ เพราะทีมแม่ ABK ไปเจออุทาหรณ์ซึ่งคุณแม่ท่านหนึ่งได้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อ “Pimnarakul Pimmy” เตือนให้คุณพ่อคุณแม่ผู้ปกครองระวัง หลังที่ตัวเองได้สั่งซื้อ นาฬิกาโทรศัพท์ หรือ  สมาร์ทวอทช์เด็ก ราคาถูกมาจากเพจหนึ่ง ซึ่งเป็นสินค้าที่ผลิตไม่ได้มาตรฐาน ทำให้เกิดความร้อนสูง หลังชาร์จไฟเสร็จและกำลังจะใส่ซิม ก็มีควันและเกิดประกายไฟ เสี่ยงระเบิด แต่โชคดีที่ยังไม่ได้ให้ลูกเอาไปใส่ก่อน โดยมีเนื้อหาโพสต์ว่า..

                            “ช่วงนี้เห็นคนถามหากันเยอะ เด็กๆ หลายคนอยากได้ ลูกเราก็เป็นหนึ่งในนั้น เราสืบหาข้อมูลดูก็พบว่ามันมีข้อดีพอสมควร สามารถเช็กโลเกชันลูกได้ โทร.เข้าออกได้ ก็เลยซื้อให้ตามใจลูก โดยการสั่งซื้อผ่านทางเพจเพจหนึ่ง (ขอไม่เปิดเผยชื่อเพจ) หลังจากได้สินค้ามา ก็ชาร์จแบตให้ลูกเรียบร้อยและไปหาซื้อซิมมาใส่ แต่จังหวะนี้แหละค่ะ ที่จู่ๆ สมาร์ทวอตช์มันก็เกิดประกายไฟขึ้นที่ด้านในตัวเครื่อง มีไฟลุกเล็กน้อย ตอนนั้นเราจึงรีบเอาผ้ามาห่อแล้วโยนออกไปนอกบ้าน รอจนทุกอย่างสงบดีแล้ว ก็พบว่าตัวเครื่องมีการหลอมละลายออกจากทางด้านใน สายซิลิโคนทั้งสองข้างหลุดออกตามภาพ จึงได้ติดต่อทางเพจที่ซื้อสินค้าไป ซึ่งเขาก็รับผิดชอบโดยการคืนเงินเราเต็มจำนวน เราลองสืบค้นดูก็พบว่าสมาร์ทวอตช์รูปร่างนี้ ทรงนี้มีขายในหลายๆ เพจ รวมไปถึงพวกแอปชอปปิ้งออนไลน์ก็มี โดยเป็นสินค้าที่นำเข้ามาจากจีน จากสาเหตุของการระเบิดก็ยังไม่ทราบเช่นกันค่ะ แต่คิดว่าน่าจะเกิดจากการผลิตไม่ได้มาตรฐาน ถ้าใครอยากได้ ก็ลองหายี่ห้อดีๆ ที่มีคุณภาพนะคะ จะได้ไม่ต้องเจอแบบเรา”

                            นาฬิกาโทรศัพท์

                             

                            โดยคุณแม่ยังได้ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวอมรินทร์ทีวีว่า ลูกชายอยากได้นาฬิกาสมาร์ตวอตช์ เพราะเห็นเพื่อนใส่ ตนจึงสั่งซื้อทางเพจเฟซบุ๊ก โดยไม่รู้ว่าเป็นของลอกเลียนแบบยี่ห้ออื่นหรือไม่ คนขายบอกว่าราคาเต็ม 2,000 บาท ลดราคาให้ 50% รวมค่าส่งแล้ว เหลือประมาณ 1,000 บาท ตนจึงสั่งซื้อ

                             

                            นาฬิกาโทรศัพท์

                            นาฬิกาโทรศัพท์

                            หลังจากได้นาฬิกาแล้ว ตนก็ถ่ายวิดีโอตอนลูกแกะกล่อง ซึ่งลูกชายดีใจมาก จากนั้น ตนจึงเอานาฬิกามาชาร์จแบต และไปซื้อซิมมาใส่ ขณะใส่ซิมเกิดเสียงดัง “เปรี๊ยะ” จนไฟลุกควันโขมง ตนจึงรีบเอาผ้าห่อไว้ก่อนจะโยนไปนอกบ้าน เพราะกลัวว่าจะระเบิด โชคดีลูกไม่ได้ใส่ไว้ที่ข้อมือจึงไม่บาดเจ็บ ก่อนจะไปดูซากและเห็นว่าสายโทรศัพท์ละลายด้วยจากความร้อนของไฟ

                             

                            ชมคลิป >> วินาที นาฬิกาโทรได้ สมาร์ทวอทช์ไฟลุก เครื่องระเบิด
                            พร้อมสาเหตุจากนักวิทย์ผู้เชี่ยวชาย คลิกหน้า 2

                             

                            เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                             

                              ตารางวัคซีน 2563

                              เซฟไว้ดูเลย! ตารางวัคซีน 2563 อัปเดตจากสมาคมโรคติดเชื้อฯ

                              มาแล้ว! ตารางวัคซีน 2563 จาก สมาคมโรคติดเชื้อแห่งประเทศไทย การให้วัคซีนในเด็กไทย 2020 ตั้งแต่แรกเกิด ถึง 12 ปี ลูกต้องได้รับวัคซีนอะไร ตอนอายุเท่าไหร่บ้าง พ่อแม่เช็กเลย!

                              ตารางวัคซีน 2563
                              จากสมาคมโรคติดเชื้อแห่งประเทศไทย

                              ประโยชน์ของวัคซีน

                              จาก ตารางวัคซีน 2563 อาจมีหลายคนสงสัยว่า จำเป็นหรือไม่ และ ทำไมเด็กต้องฉีดวัคซีน??  นั่นก็เพราะ การฉีดวัคซีน เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันโรค ซึ่งก่อนที่จะมีวัคซีนใช้ คนส่วนใหญ่จะเสียชีวิตจากโรคติดเชื้อ และโรคระบาด แต่ปัจจุบันโรคติดเชื้อร้ายแรงที่เคยคร่าชีวิตเด็กๆ ไม่ได้เป็นปัญหาแล้ว เพราะมีวัคซีนป้องกันที่มีประสิทธิภาพสูง และมีวัคซีนป้องกันเชื้อใหม่ๆ พัฒนาขึ้นใหม่ทุกวัน

                              Must read >> วัคซีนภูมิแพ้ คืออะไร? ราคาเท่าไหร่? ฉีดแล้วหายขาดไหม?

                              Must read >> 6 วิธีเพิ่มภูมิคุ้มกันให้ลูก ร่างกายแข็งแรง ไม่ป่วยบ่อย

                              … แต่ก็มีคุณพ่อคุณแม่มือใหม่หลายคนสงสัยว่า แล้วลูกของเราต้องได้รับวัคซีนอะไรบ้าง? วัคซีนของลูกน้อยตัวไหนควรฉีดก่อน! ตัวไหนฉีดหลัง! ลูกวัยนี้…ถึงเวลาต้องฉีดตัวนี้แล้วรึยัง? หรือ ตัวนี้ต้องฉีดห่างจากเข็มแรกนานแค่ไหน กับคำถามที่เกิดขึ้นร้อยแปดพันข้อที่เกี่ยวกับเรื่อง การฉีดวัคซีนของทารก

                              ทั้งนี้การให้วัคซีนแก่เด็ก จะมีกำหนดออกมาจากกระทรวงสาธารณสุข เป็นวัคซีนพื้นฐานที่ได้จัดหาให้ฟรี ซึ่งเด็กไทยทุกคนสามารถรับวัคซีนเหล่านี้ได้จากสถานพยาบาลของรัฐ หรือสถานีอนามัยทุกแห่ง ดังนั้นสำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ที่กำลังจะพาลูกไปรับวัคซีน ก็ควรจะรู้ว่าวัคซีนที่ควรต้องได้รับมีอะไรบ้าง?

                              ทีมแม่ ABK จึงมี ตารางวัคซีน 2563 จาก สมาคมโรคติดเชื้อแห่งประเทศไทย มาแนะนำ ซึ่งได้ข้อมูลมาจาก เพจ Infectious ง่ายนิดเดียว เพื่อเป็นแนวทางให้กับคุณพ่อคุณแม่ได้ใช้ดูและเช็ก ก่อนพาลูกน้อยวัยแรกเกิด – 12 ปี ไปรับวัคซีน vaccine 2020 ดูได้จาก ตารางการให้วัคซีนในเด็กไทย ด้านล่างนี้ได้เลย

                              ตารางวัคซีน 2563
                              ขอบคุณภาพ ตารางวัคซีน 2563 จาก เพจ Infectious ง่ายนิดเดียว

                              ตารางวัคซีน 2563

                              ตารางวัคซีน 2563 สำหรับเด็กไทย

                              แนะนำโดย สมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย

                              ดาวน์โหลดไฟล์แนบแบบภาพใหญ่ชัดๆ ได้ที่นี่!

                              ประเด็นสำคัญ vaccine 2020

                              (1) บรรจุวัคซีนโรต้าในวัคซีนหลักฟรี (EPI)
                              – หยอดที่อายุ 2,4,6 เดือน
                              – ครั้งแรกอายุ 6-15 สัปดาห์ ครั้งสุดท้ายไม่เกิน 8 เดือน
                              – แต่ละครั้งต้องห่างมากกว่า 4 สัปดาห์
                              – อาจให้อายุมากกว่าที่กำหนด แต่อายุไม่เกิน 2 ปี (องค์การอนามัยโลกให้คำแนะนำ)

                              Must read >> กทม.ชวนแม่ รับ วัคซีนไวรัสโรต้า ฟรี ที่ศูนย์บริการสาธารณสุข

                              (2) MMR

                              • เข็ม 1 อายุ 9 – 12 เดือน
                              • เข็ม 2 อายุ 18 เดือน – 5 ปี

                              (3) Tdap ที่ให้อายุ 11 ปี สามารถให้ทุก 10 ปี หรืออายุที่ลงท้ายด้วย เลข 0 ได้

                              (4) สุกใส

                              • เข็ม 1 (หรือ MMRV1) อายุ 12 – 18 เดือน
                              • เข็ม 2 อายุ 2 – 4 ปี

                              (5) JE

                              • เข็ม 1 อายุ 9 – 12 เดือน
                              • เข็ม 2 อายุ 2 – 5 ปี

                               

                              ทั้งนี้หากคุณพ่อคุณแม่ดูตารางแล้วยังไม่เข้าใจ สามารถอ่านดูสรุปคำอธิบายประเด็น ตารางฉีดวัคซีน 2020 ซึ่งอัปเดตจากงานประชุมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทยจากคุณหมอ เพจ Infectious ง่ายนิดเดียว ได้ที่หน้าถัดไปกันเลยค่ะ

                               

                              ดูสรุปประเด็น ตารางการให้วัคซีน 2563 คลิกหน้า 2

                               

                              เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                               

                                คาเฟ่เด็ก

                                10 คาเฟ่เด็ก แบ่งโซนให้เลือกร้านดีลูกสนุกพ่อแม่ฟิน!

                                รวม คาเฟ่เด็ก Kid Cafe คาเฟ่ครอบครัว บรรยากาศน่ารัก เหมาะสำหรับใช้เวลากินอาหารปาร์ตี้สังสรรค์ร่วมกัน พ่อแม่นั่งสบาย ลูก ๆ ไม่เบื่อแบ่งมาให้แล้วตามโซนกันเลย

                                10 คาเฟ่เด็ก แบ่งโซนให้เลือกร้านดีลูกสนุกพ่อแม่ฟิน!

                                ปัจจุบัน คาเฟ่ ร้านอาหารสไตล์ธรรมชาติ หรือร้านที่มีกิจกรรมให้ร่วมสนุกร่วมด้วยนั้น กำลังเป็นที่นิยม ในยุคที่การท่องเที่ยวไม่จำกัดแค่การเดินห้างสรรพสินค้า หรือ การไปชมบรรยากาศธรรมชาติในสถานที่ไกล ๆ กันอีกแล้ว อีกทั้งยังสามารถตอบโจทย์กับปัญหาหนักอกของคุณพ่อคุณแม่ที่ว่า “ตั้งแต่มีลูก ก็ไม่เคยได้กินข้าวสบายๆ เลย”  คาเฟ่เด็ก คาเฟ่สำหรับครอบครัว เป็นอีกสถานที่ที่น่าจะตอบโจทย์เรื่องนี้ได้ เพราะหนึ่งในปัญหาของคุณพ่อคุณแม่ที่ลูกเล็ก เมื่อต้องออกไปกินข้าวนอกบ้าน นอกจากจะต้องคอยมองหาร้านอาหารที่เหมาะสม มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกให้ลูกน้อยร่วมโต๊ะกับคุณพ่อคุณแม่ได้อย่างไม่เป็นภาระของคนรอบข้างแล้ว หากเจอปัญหาลูกน้อยทำเลอะเทอะ ร้องไห้งอแง หรือแผลงฤทธิ์ขณะอยู่ในร้านอาหารขึ้นมา คุณพ่อคุณแม่ก็คงจะกินอาหารไม่อร่อย เพราะเกรงใจทั้งพนักงานและคนอื่นๆ ในร้าน

                                แต่ร้านอาหาร คาเฟ่เด็ก จะเป็นร้านที่ทำมาเพื่อรองรับเด็ก ๆ ไม่ว่าจะเป็น อาหาร ของตกแต่ง กิจกรรมต่าง ๆ รวมไปถึงเครื่องเล่นที่มีพร้อม จึงทำให้คุณพ่อคุณแม่สามารถพักผ่อนกินอาหารได้อย่างสบายใจ ดังนั้น ทีมแม่ ABK จึงได้รวบรวม คาเฟ่เด็ก คาเฟ่สำหรับครอบครัว มาฝาก หากบ้านไหนมีแพลนอยากพาเจ้าตัวน้อยไปเที่ยวกินเที่ยวเล่น หากิจกรรมทำนอกบ้าน เพื่อสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัวที่ดี ต้องห้ามพลาด คาเฟ่สำหรับเด็ก หรือ Kid Cafe ที่เราหามาให้ ว่าแต่จะมีที่ไหนบ้าง โดยได้แบ่งโซนตำแหน่งที่ตั้งร้านมาไว้ให้คุณพ่อคุณแม่ได้เลือกกันได้อย่างสะดวก มาดูกันเลย

                                โซนกรุงเทพฯ ใจกลางเมือง

                                Monkey & MeMonkey & Me ตั้งอยู่ที่ The UP พระราม 3 ชั้น 3 ตึก A, 54 แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา เบอร์ติดต่อ 084-929-2999 เปิดวันจันทร์ – ศุกร์ (10.00 – 19.00 น.) ส่วนวันเสาร์ – อาทิตย์ (09.00 – 20.00 น.)

                                อีกหนึ่ง Kid Cafe ที่ห้ามพลาด เพราะเจ้าของบอกเองว่า เป็นคาเฟ่สำหรับเด็กแห่งแรกในประเทศไทย เหมาะที่คุณพ่อคุณแม่จะพาลูกน้อยมาเที่ยวกินและเล่นได้สนุกสนาน หรือจัดงานปาร์ตี้ของเด็ก ๆ โดยเฉพาะ ซึ่งภายในร้าน แบ่งออกเป็นสองส่วน ส่วนแรกเป็นพื้นที่สนามเด็กเล่นในร่มที่มี แทรมโพลีนขนาดใหญ่ และโซนเครื่องเล่นเหมาะสำหรับเด็ก 1 – 9 ปี ส่วนที่สอง เป็นพื้นที่สำหรับครอบครัว ซึ่งมีทั้งอาหาร เครื่องดื่ม กาแฟสด และ ของหวานสำหรับเด็ก ๆ และผู้ปกครอง ราคาอาหารเฉลี่ยเริ่มต้นประมาณ 90 บาท

                                ขอบคุณภาพจากเพจ Monkey & Me
                                ขอบคุณภาพจากเพจ Monkey & Me

                                นอกจากนี้ยังมีลานกิจกรรม เช่น เกมส์แต่งหน้าสำหรับเด็ก ลูกโป่ง มายากล ฯลฯ  อีกด้วย หากคุณพ่อคุณแม่กำลังมองหาสถานที่เพื่อให้ลูก ๆ เเสดงความสามารถหรือเสริมทักษะต่าง ๆ ต้องห้ามพลาดที่ Monkey & Me เลย

                                ค่าเข้า : เด็ก เเละผู้ใหญ่อีก 1 คน  ราคา 200 บาท แต่ถ้ามีผู้ใหญ่มากกว่า 1 ต้องเพิ่มอีกคนละ 50 บาท

                                Mari go round

                                Mari go round อยู่ในตึก RQ Residence ชั้น 1 (ด้านใน Racquet Club) ซอยสุขุมวิท 49/9 เขตวัฒนา เปิดทุกวัน เวลา 10.00 -19.00 น. เบอร์ติดต่อโทร 088-778-9899 (ควรสอบถามก่อนไปเพราะบางครั้งปิดเพื่อจัดปาร์ตี้ส่วนตัว)

                                ที่นี่ก็เป็น คาเฟ่เด็ก สไตล์ญี่ปุ่น ซึ่งภายในมีสนามเด็กเล่นในร่มขนาดกะทัดรัด แถมทุกตารางนิ้วก็สามารถปล่อยให้ลูกน้อยวิ่งเล่นได้แบบไม่มีเบื่อกันเลย เหมาะสำหรับเด็กอายุ 0-6 ปี โดยบรรยากาศภายในร้านมีหลายโซน แต่ละโซนก็จะมีของเล่นเสริมทักษะให้เด็ก เช่น โซนสำหรับเด็กอ่อน โซนบ่อทราย โซนสไลเดอร์ โซนบ้านตุ๊กตา และโซนห้องครัวจำลองเป็นต้น บอกได้เลยว่าแต่ละโซนถูกใจน้องๆ หนูๆ อย่างแน่นอน นอกจากนี้ระว่างที่ผู้ปกครองรอลูกน้อยเล่นสนุกสนานก็สามารถสั่งอาหารและเครื่องดื่มทานได้ ราคาเมนูเริ่มต้นที่ 60 บาทขึ้นไป

                                ขอบคุณภาพจากเพจ Mari go round
                                ขอบคุณภาพจากเพจ Mari go round

                                ค่าเข้า : ค่าบริการสำหรับเด็ก อายุ 1-6 ขวบ ราคา 300 บาท / 3 ชั่วโมง ชั่วโมงต่อไปชั่วโมงละ 40 บาท และ เด็กอายุ 0-1 ขวบ ราคา 100 บาท / วัน ส่วนผู้ใหญ่ ราคา 80 บาท / วัน (มีเสียค่าจอดรถชั่วโมงละ 40 บาท แสตมป์บัตรจอดรถที่คาเฟ่ได้ฟรี 2 ชั่วโมง)

                                Kiddies’ House Playground & Café

                                Kiddies’ House ตั้งอยู่ที่ 199/88 อาคาร B หมู่ 8 ซอยโรงเรียนราชวินิตบางแก้ว เปิดให้บริการวันอังคาร​-อาทิตย์ เวลา​8:00 -18:00 น. (ปิดทุกวันจันทร์) เบอร์ติดต่อ 091-885-8138

                                คาเฟ่เด็ก สวนสนุกในร่ม สุดกว้างขวาง​ โปร่งสบาย ภายในแบ่งเป็นโซนกินอาหาร และโซนเล่นที่ชัดเจน​ โดยโซนที่เล่นจะแบ่งเป็น​ 3 ส่วน​ คือ​ โซนบ่อบอล​สไลเดอร์​ โซนห้องครัว และซุปเปอร์มาร์เก็ท​ และโซนชั้นลอยก็จะมีของเล่นรองรับมากมายเพื่อสร้างความเพลิดเพลิน เสริมพัฒนาการ ให้กับเด็กๆ

                                ขอบคุณภาพจากเพจ Kiddies’ House
                                ขอบคุณภาพจากเพจ Kiddies’ House

                                นอกจากนี้ยังมีพื้นที่เหมาะสำหรับจัดงานวันเกิด จัดงานเลี้ยงสังสรรค์สำหรับน้องๆ หนูๆ ทุกคน ซึ่งคุณพ่อคุณแม่สามารถพาลูกน้อยมาใช้เวลากับครอบครัวได้อย่างสนุกสนาน

                                ค่าเข้า : Kiddies’ House จะเสียค่าเข้า สำหรับเด็กต่ำ 1 ขวบ 100 บาท อายุ 1-6 ปี ราคา 300 บาท ส่วนผู้ใหญ่ราคา 50 บาท

                                Bambini Villa

                                ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 26 ใกล้กับ Funarium และบิ๊กซีพระราม 4  เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00 -22.00 น. เบอร์ติดต่อโทร 090-969-9559 ทั้งนี้คุณพ่อคุณแม่สามารถติดตามได้ที่นี่ www.bambinivilla.com หรือ Facebook: Bambini Villa และ Line: @bambinivilla

                                คอมมูนิตี้มอลล์ ธีมอาร์ท สำหรับเด็กและครอบครัว เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตในแบบ City Family Lifestyle ของคนยุคใหม่ เพื่อตอบโจทย์ทุกคนในครอบครัว ครบทุกมิติ ทุกไลฟ์สไตล์ของคนเมืองอย่างแท้จริง

                                พร้อมด้วยพื้นที่สร้างสรรค์กิจกรรมและสิ่งอำนวยความสะดวกที่เน้นให้เป็นแหล่งเรียนรู้ให้เด็กๆ มาใช้เวลาเพื่อสร้างสรรค์กิจกรรมส่งเสริมพัฒนาการรอบด้าน มีทั้งสนามเด็กเล่นที่เด็กๆ สามารถเข้าไปเล่นได้แบบฟรีๆ แปลงผักสาธิต รวมไปถึง play corner ต่างๆ ทั่วโครงการ อีกทั้งยังเต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านคาเฟ่น่ารักๆสำหรับเด็กๆ และครอบครัว และร้านขนมสุดเก๋ในกรุงเทพฯ เรียกได้ว่าเป็นการเติมเต็มการเรียนรู้และการใช้ชีวิตในวันพักผ่อนที่เหมาะกับสมาชิกทุกวัยในครอบครัว

                                นอกจากนี้หากคุณพ่อคุณแม่กำลังมองหาสถาบันเสริมสร้างการเรียนรู้ แบมบีนี่ วิลล่า ก็ยังเป็นแหล่งรวมสถาบันชื่อดัง อาทิ สถาบันสอนดนตรี PlaySound สถาบันสอนภาษา Sky Rocket สถาบันพัฒนาเด็กเล็ก Julia Gabriel Centr

                                ขอบคุณภาพจากเพจ Bambini Villa
                                ขอบคุณภาพจากเพจ Bambini Villa

                                นอกจากนี้ยังมีวันเสาร์ อาทิตย์ ยังมีลานกิจกรรม สำหรับกิจกรรมเวิร์คช้อป สัมมนา งานออกร้าน และกิจกรรมเพื่อสังคมต่างๆ ผลัดเปลี่ยนมาสร้างความเพลิดเพลินอยู่ตลอด

                                คาเฟ่เด็ก kid cafe โซนนนทบุรี

                                Organika Cafe and Play

                                ตั้งอยู่ที่ โครงการม้าไม้การ์เด้น ถ.รัตนาธิเบศร์ ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ นนทบุรี เปิดทุกวัน เวลา 10.00 – 20.00 น. เบอร์โทร. 096-905-6662

                                อีกหนึ่ง คาเฟ่เด็กสไตล์ญี่ปุ่น ซึ่งชื่อ “ออกานิก้า” นั้นก็มาจากความตั้งใจของทางร้าน ที่เลือกใช้แต่ผักและวัตถุดิบต่างๆที่ปลอดสารเคมี หรือออร์แกนิคนั่นเอง เมนูหลักๆของทางร้านมักจะมีผักเป็นส่วนประกอบ ที่สดใหม่ ดีต่อสุขภาพ พร้อมกินได้ตลอดเวลา

                                คาเฟ่เด็ก ขอบคุณภาพจากเพจ Organika Cafe and Play
                                คาเฟ่เด็ก ขอบคุณภาพจากเพจ Organika Cafe and Play

                                Organika มีการตกแต่งและบรรยากาศโปร่งๆ เน้นความสะอาดของพื้นที่ อุปกรณ์ และการได้ทำกิจกรรมร่วมกันของครอบครัว ผ่านการเรียนรู้จากการเล่นด้วยของเล่นเสริมพัฒนาการ มีกิจกรรมให้ทำร่วมกันอย่าง การปลูกผัก โยคะแม่และเด็ก การเรียนดนตรี หรือการกินอาหารพร้อมหน้ากัน โดยแก่นหลักของกิจกรรม จะใช้อุปกรณ์ และ กิจกรรม ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สอดแทรกความรู้ต่างๆ เพื่อที่จะปลูกฝังให้เด็กๆ มีความรู้ ความเข้าใจ รัก และใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่ยังเล็กไปด้วย นับว่าเป็นร้านอาหารและคาเฟ่สำหรับครอบครัว ที่มีทั้งอาหารอร่อยๆ ดีต่อสุขภาพ และกิจกรรมดีๆ ส่งเสริมการเรียนรู้ สามารถมาใช้เวลาร่วมกันได้อย่างคุ้มค่าจริง ๆ

                                ค่าเข้า : อัตราค่าบริการในส่วนของ Play Zone คือ เด็กอายุน้อยกว่า 1 ปี 100 บาท / 3 ชั่วโมง ส่วนเด็กอายุ 1 ปีขึ้นไป 250 บาท / 3 ชั่วโมง และหลัง 17.00 น. ค่าเข้าเล่นเหลือ 100 บาท สำหรับผู้ปกครองให้เข้าฟรี

                                Little Barn Kids Café

                                Little Barn Kids Cafe ตั้งอยู่ในโครงการเลอ จา แดง (Le Jadin) ถนนประชาชื่น ย่านคลองประปา อ.ปากเกร็ด นนทบุรี Search google map: little barn (เลือกที่อยู่ปากเกร็ด) เบอร์ติดต่อโทร 080-555-9222 เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11:00 – 19:00 น. (หยุดวันพุธ)

                                เด็กมาเล่น ผู้ใหญ่มาชิล ฟาร์มคาเฟ่สุด เป็น คาเฟ่เด็ก คาเฟ่สำหรับครอบครัว เหมาะสำหรับให้คุณพ่อคุณแม่พาลูกๆ มาแฮงค์เอาท์นอกบ้าน (เหมาะกับเด็กวัย 3 ขวบขึ้นไป) ซึ่งที่นี่มีโซนเล่นของเด็กๆ ทั้ง Indoor ที่จะมีของเล่นเสริมพัฒนาการมากมาย เช่น ตัวต่อ ของเล่นไม้ หนังสือภาพ มีสะพานไม้หุ้มเบาะให้เด็กๆ ได้ปีนป่ายตามจินตนาการ พร้อมห้องกิจกรรมพิเศษให้เด็กๆ ในวันเสาร์ – อาทิตย์ นอกจากนี้ยังมีห้องส่วนตัวสำหรับครอบครัวใหญ่ มาเป็นแก๊งค์ หรือจัดงานปาร์ตี้สนุกๆและ โซน Outdoor กับสนามหญ้า ลานทราย และเครื่องเล่นอย่างชิงช้า สไลเดอร์สีเหลือง และบ้านไม้ ให้เด็กๆ ได้ปล่อยพลังงานอย่างเต็มที่ เล่นสนุกแล้วยังได้เจอเพื่อนใหม่ ฝึกการเข้าสังคมไปในตัว นอกจากนี้เมนูอาหารก็มีให้เลือกทั้งขนมหวาน เครื่องดื่ม และเมนูอาหารสำหรับเด็กๆ อีกด้วย

                                ขอบคุณภาพจากเพจ Little Barn Kids Cafe
                                ขอบคุณภาพจากเพจ Little Barn Kids Cafe

                                ค่าเข้า : ทางร้านไม่เก็บค่าเข้า เพียงแค่สั่งอาหารหรือเครื่องดื่มขั้นต่ำคนละ 150 บาทก็สามารถเข้าเล่นได้เลย

                                โซนปทุมธานี..ใกล้แค่เนี้ยะ!!

                                Pumpkin Art Town

                                ที่ตั้ง 11 หมู่ 1 ซอยกระแชง 5 ตำบลกระแชง อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี 12160 โทร. 065 536 6691 เปิดวันพุธ-อาทิตย์ 9:00-20:00 น. [หยุดจันทร์-อังคาร]

                                ขอบคุณภาพจาก Pumpkin Art Town
                                ขอบคุณภาพจาก Pumpkin Art Town

                                Pumpkin Art Town เมืองศิลปะเล็กๆที่อยู่ติดริมน้ำ อำเภอสามโคก ปทุมธานี ภายในบริเวณจะมีโซนร้านอาหาร โซนคาเฟ่ริมน้ำ และ โซนร้านขายของ และสนามเด็กเล่น คุณพ่อคุณแม่สามารถพาลูก ๆ ไปสร้างสรรค์จินตนาการไปกับงานศิลปะ ที่ทางร้านมีจัด workshop มากมายหลากหลาย สามารถเช็คกิจกรรมในแต่ละสัปดาห์ได้จากทางเพจ www.pumpkin-art-town.com  จากนั้นยังสามารถรับประทานเค้ก ดื่มกาแฟ จิบเครื่องดื่มเย็น ๆ ให้ชื่นใจ กับวิวแม่น้ำเจ้าพระยาแบบเรียบง่าย…..ฟินเว่อร์ ส่วนที่น่าสนใจ คือ โซนบ้านต้นไม้สร้างขนาดใหญ่ให้เด็ก ๆ ที่ชอบได้ปีนป่ายไปมา สถานที่ค่อนข้างกว้างทีเดียว

                                ค่าเข้า : ไม่คิดค่าเข้าบริการ แต่หากสนใจในงานศิลปะ (งานปั้น งานปัก งานทอ) จะมีค่าอุปกรณ์

                                บ้าน ๑,000 ไม้ cafe’& farm

                                ที่ตั้ง 48/8 หมู่ 6 ต.บางเตย อ.สามโคก จ.ปทุมธานี 12160 โทร. 091 998 2466 เปิดบริการเฉพาะวันเสาร์ -วันอาทิตย์ เวลา 10.00 – 17.00 น.

                                เป็นคาเฟ่สไตล์แนวการเรียนรู้ ร้านสวย ๆ ต้นไม้ร่มรื่น เป็นร้านที่มีกิจกรรมเน้นกิจกรรมกลางแจ้ง ภายในร้านจัดสรรพื้นที่ได้อย่างลงตัว โดยมีหลังคาที่ใช้ต้นไม้เป็นที่ให้ความร่มรื่นแก่ผู้มาเยือน บรรยากาศสุดฟิน ไม่ร้อน ลมพันเย็นสบาย ๆ กิจกรรมมีให้เลือกสนุกมากมาย ทั้งกิจกรรมดำนาปลูกข้าว กิจกรรมทำไข่เค็ม ปลูกผักปลอดสารพิษ รดน้ำดูแล เป็นต้น หรือกิจกรรมสำหรับผู้รักแนวผจญภัย ก็มี กิจกรรมพายเรือคายัค และมุมศิลปะให้ได้ทดสอบฝีมือกัน ไม่ว่าจะเป็นการระบายสี แต่งหน้าคัพเค้ก แต่งหน้าไอศกรีม แต่งเครื่องประดับ และอีกมากมายไม่ซ้ำ

                                ขอบคุณภาพจาก บ้าน 1000ไม้ cafe'&farm
                                ขอบคุณภาพจาก บ้าน 1000ไม้ cafe’&farm

                                ค่าเข้า : ไม่คิดค่าเข้าบริการ มีบริการนั่งเรือไปเที่ยวตลาดอิงน้ำวัดสามโคก โดยให้บริการเป็นรอบ คิดราคาคนละ 50 บาท

                                โซนต่างจังหวัด…ก็มีนะ!!

                                Little Splash Kids Café

                                Little Splash Kids Café ไม่ไกลจากกรุงเทพฯเท่าไหร่ ตั้งอยู่ บ้านเลขที่ 39/14, 39/15 หมู่ 6 ต.วังตะกู อ.เมือง จ.นครปฐม เปิดให้เข้าวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 11.00 – 20.00 น. ปิดทุกวันอังคาร (ยกเว้น วันหยุดนักขัตฤกษ์) ส่วนวันเสาร์-วันอาทิตย์ เวลา 10.00 – 20.00 น. เบอร์โทรติดต่อ 096-326-2951

                                คาเฟ่เด็ก คาเฟ่สวนน้ำ ตั้งอยู่ที่จังหวัดนครปฐม คอมมูนิตี้แห่งความสนุกสำหรับเด็กๆ ตั้งแต่อายุ 0-9 ขวบ ถือเป็นสถานที่ที่คุณพ่อคุณแม่จะได้ดื่มกาแฟชิลๆ พร้อมให้เจ้าตัวเล็กได้มาปล่อยพลังอย่างเต็มที่ ซึ่งที่นี่จะมีสวนน้ำน่ารักๆ ขนาดกะทัดรัดสร้างขึ้นในรั้วบ้าน ให้บรรยากาศอบอุ่นเป็นกันเองแบบครอบครัว สามารถเล่นได้น้ำได้ทั้งกลางแจ้งในโซน Water Playground เป็นระบบน้ำเกลือ หรือจะเล่นสนุกในร่มในโซน Play space indoor ที่มีทั้งห้องบ่อบอล ของเล่นเด็กต่างๆอีกมากมาย ให้น้องๆได้สนุกสนามเต็มที พร้อมอิ่มท้องกับอาหารเพื่อเด็กๆ โดยเฉพาะ

                                ขอบคุณภาพจากเพจ  Little Splash Kids Cafe
                                ขอบคุณภาพจากเพจ  Little Splash Kids Cafe

                                Baby Calm Café

                                สถานที่ตั้งอยู่ จ.นครราชสีมา ใน ซอยมุขมนตรี 23 (ตรงกับมิตรภาพ 21) เบอร์ติดต่อโทร 082-871-8211 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ >> https://babycalmcafe.site123.me/ เปิดทุกบริการวัน ตั้งแต่เวลา 09.30 – 19.30 น.

                                คาเฟ่แม่และเด็ก สไตล์ญี่ปุ่น แห่งแรกในไทย เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งร้านที่เกิดมาเพื่อคุณพ่อคุณแม่โดยเฉพาะ เพราะหลายครั้งที่อยากพาลูกไปกินข้าวนอกบ้าน แต่ก็กลัวว่าลูกจะร้อง ส่งเสียงดังรบกวนคนอื่น แต่สำหรับ Baby Calm Cafe เป็นคาเฟ่ที่คุณพ่อคุณแม่สามารถนั่งกินข้าวได้ โดยที่ดูแลลูกอยู่ใกล้ ๆ และยังเม้าท์มอยกับเพื่อน ๆ พ่อแม่ได้เต็มที่

                                ขอบคุณภาพจากเพจ Baby Calm Cafe - คาเฟ่เด็ก สไตล์ญี่ปุ่น แห่งแรกในไทย
                                ขอบคุณภาพจากเพจ Baby Calm Cafe – คาเฟ่เด็ก สไตล์ญี่ปุ่น แห่งแรกในไทย

                                Baby Calm Café มีทั้งโซนเด็กเล็กที่มีของเล่น เครื่องเล่นที่ผ่านการทำความสะอาด ฆ่าเชื้อทุกวัน ด้านนอกก็มีโซนสนามเด็กเล่น ให้วิ่งเล่นกันได้ แต่ที่เด็ดคือ ที่นี่มีกิจกรรมแสนสนุก ให้เด็กๆได้แสดงฝีมือหนูเอง อีกทั้งยังมีเมนูอาหาร สำหรับเด็กเล็กด้วย ซึ่งเป็นอาหารบดที่ไม่เคยเห็นร้านไหนทำมาก่อน เรียกได้ว่าโดนใจทั้งแม่และลูกแน่นอน

                                ค่าเข้า : ไม่เก็บค่าเข้าเพิ่ม สามารถเข้าได้ฟรี

                                ขอบคุณข้อมูลจาก : www.gedgoodlife.com , www.ryoiireview.com

                                อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

                                เอาใจคนมีลูก 5 โรงแรมที่มี kids club ใน 5 จังหวัดท่องเที่ยว

                                เช็กอิน 5 ที่เที่ยวธรรมชาติใกล้กรุงเทพ ปลูกฝังให้ลูกรักสัตว์ รักธรรมชาติตั้งแต่เล็ก

                                Tokyo Highway บอร์ดเกมครอบครัว ชวนลูกสร้างทางด่วน โดยพ่อเอก

                                เปิดแล้ว ! ฮาร์เบอร์แลนด์ เดอะมอลล์งามวงศ์วาน ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Lost World”

                                เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                                  บอร์ดเกมเด็ก

                                  8 บอร์ดเกมเด็ก ต้องมีติดบ้าน ช่วยเพิ่มทักษะรอบด้านให้ลูก

                                  รวม Board Game บอร์ดเกมเด็ก บอร์ดเกมส์สำหรับครอบครัว บอร์ดเกมฝึกสมอง เกมกระดาน เสริมปัญญา เพิ่มพูนทักษะชีวิตรอบด้านให้ลูก เล่นสนุกได้ทั้งบ้าน จะมีอะไรบ้างไปดูกัน

                                  8 บอร์ดเกมเด็ก บอร์ดเกมสุดฮิตต้องมีติดบ้าน
                                  ช่วยเพิ่มทักษะรอบด้านให้ลูก

                                  เกมเศรษฐี, เกมบันไดงู ถือเป็น 2 ใน บอร์ดเกม สุดฮิต!! ที่เชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่หลายคนต้องเคยเล่นกันมาก่อน ซึ่ง บอร์ดเกม หรือในภาษาไทยเรียกกันว่า เกมกระดาน เป็นเกมรูปแบบหนึ่ง ที่มีความซับซ้อนในการเล่น มีหลากหลายรูปแบบให้เลือก ซึ่งระบบการเล่นของบอร์ดเกมยุคใหม่นี้ก็ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การทอยลูกเต๋า และเอาตัวหมากของเราเดิมตามช่องอีกแล้ว แต่มีการออกแบบตัวเกมให้ต้องใช้ความคิดมากขึ้น และมักจะให้ทรัพยากรเริ่มต้นเรามาจำนวนหนึ่ง โดยให้เอาทรัพยากรที่มีอย่างจำกัดนั้นไปเปลี่ยนเป็นคะแนน จึงจำเป็นที่ผู้เล่นต้องวางแผนให้รอบคอบ … และปัจจุบันก็มีการนำบอร์ดเกมไปใช้ในทางการศึกษา เสริมสร้างการเรียนรู้ให้กับเด็กๆ ในโรงเรียน เพื่อใช้ฝึกภาษา การคำนวณ และประโยชน์ด้านอื่นๆ อีกมากมาย

                                  ทั้งนี้จุดเด่นของ บอร์ดเกม ที่แตกต่างจากการเล่นเกมบนคอมพิวเตอร์ทั้งออฟไลน์และออนไลน์ นอกจากความสนุกเพลิดเพลินแล้ว ก็คือการที่ได้มีปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้เล่น ได้เรียนรู้นิสัยใจคอ เป็นการละลายพฤติกรรมอย่างหนึ่งที่ดีเลยทีเดียว จึงถือว่า บอร์ดเกมเด็ก บอร์ดเกมฝึกสมอง เป็นกิจกรรม ที่ช่วยเสริมทั้งพัฒนาการด้านสมอง ร่างกาย เเถมยังช่วยสร้างความสัมพันธ์ได้อีกด้วย ซึ่งหากคุณพ่อคุณแม่อยากให้ลูกไกลห่างจอมือถือ หรือห่างไกลจากเกมคอมพิวเตอร์ การชวนหันเล่นบอร์ดเกม ก็สามารถช่วยให้ลูกสนุกจนลืมเทคโนโลยีเหล่านั้นไปได้

                                  และเพื่อเป็นแนวทางให้กับคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังมองหา บอร์ดเกมเด็ก ไว้สำหรับเล่นกันในครอบครัวไม่ว่าจะเป็นยามว่าง หรือตอนออกไปเที่ยวค้างคืนนอกบ้าน ก็สามารถพกไปเล่นกันได้ ทีมแม่ ABK จึง มี 8 บอร์ดเกมเด็ก แสนสนุกมาแนะนำ ซึ่งเป็น บอร์ดเกมฝึกสมอง ประลองปัญญา ชิงไหวชิงพริบ บอร์ดเกมส์สำหรับครอบครัว Board Game สุดฮิตที่ต้องมีติดบ้าน เล่นง่ายๆ แถมช่วยเพิ่มทักษะรอบด้านให้ลูกได้เป็นอย่างดี เหมาะกับวัยเด็กเล็กตั้งแต่ 3 ขวบขึ้นไป ก็เล่นได้…ว่าแต่จะมี บอร์ดเกมเด็ก อะไรบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ

                                   

                                  Spot It!

                                  บอร์ดเกมเด็ก

                                  บอร์ดเกมเด็ก หรือการ์ดเกมแบบแรกที่แนะนำนี้เรียกได้ว่าเหมาะสำหรับเด็กจริงๆ โดยอายุที่เหมาะสมเพียงแค่ 3 ขวบก็สามารถเล่นได้ และจะมีเปลี่ยนไปตามธีมจนถึงอายุ 10 ขวบทีเดียว ซึ่งผู้ใหญ่เองก็สนุกกับเกมส์นี้ได้ เพราะมีธีมให้เลือกเยอะมาก ทั้งธีมแบบ Classic ธีมตั้งแคมป์ Gone Camping ที่เน้นรูปภาพเกี่ยวกับการตั้งแคมป์ หรือ ธีม Numbers & Shapes สำหรับเด็กเล็กก่อนวัยเรียน เป็นต้น

                                  Spot It สามารถเล่นได้ตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เกมส์นี้สามารถให้เด็กๆ เล่นได้เลย โดยไม่ต้องปรับกฏใดๆ ทั้งสิ้น เพียงแต่ต้องรู้จักรูปภาพและคำที่อยู่ในการ์ดชุดนั้นๆ เช่น รูปภาพสิ่งของ สัตว์ สี ตัวเลข รูปทรง คำศัพท์ภาษาอังกฤษ ฯลฯ และวิธีการเล่นก็ง่ายมาก คือ หารูปที่เหมือนกันในการ์ดแต่ละใบ และเก็บสะสมการ์ดไปเรื่อยๆ โดยสามารถจัดเรียงกองการ์ดได้ 3 แบบ

                                  • แบบแรก เอากองการ์ดไว้ตรงกลาง และแข่งกันหารูปเหมือนกับการ์ดใบของตัวเอง พอได้มาให้ทับไว้บนสุดของกองตัวเองและหารูปเหมือนจากใบที่เพิ่งได้มา เกมส์จบเมื่อกองกลางหมด ใครมีการ์ดเยอะที่สุดเป็นผู้ชนะ
                                  • แบบที่ 2 แบ่งการ์ดออกให้ทุกคน คนละเท่ากันๆ และวางใบเปิดไว้ตรงกลาง แข่งกันหารูปเหมือนและวางการ์ดของตัวเองทับกองกลางไปเรื่อยๆ ใครการ์ดหมดก่อนเป็นผู้ชนะ
                                  • และแบบที่ 3 เอากองการ์ดไว้ตรงกลาง และแข่งกันหารูปเหมือนกับการ์ดใบของคนข้างๆ พอได้มาให้ทับไว้บนสุดของกองคนข้างๆ และหารูปเหมือนจากใบที่เพิ่งได้มา เกมส์จบเมื่อกองกลางหมด ใครมีการ์ดน้อยที่สุดเป็นผู้ชนะ

                                  บอร์ดเกมเด็ก

                                  บอร์ดเกมเด็ก นี้ช่วยพัฒนาทักษะที่สำคัญหลายๆ ด้าน ทั้งเรื่องการให้รู้จักตัวเลข สี และรูปทรง จับคู่ภาพเหมือน มีความช่างสังเกต เพิ่มสมาธิ และการเคารพกฏ กติกา นอกจากนี้แล้ว ยังช่วยพัฒนะทักษะเล็กๆน้อยๆ เช่นการจัดการอารมณ์ของตัวเองเมื่อหารูปภาพได้ช้ากว่าคนอื่น หรือเมื่อเล่นแพ้คนอื่นนั่นเอง

                                   

                                  Halli Galli

                                  บอร์ดเกมเด็ก

                                  หรือ “เกมกระดิ่งการ์ดผลไม้” บอร์ดเกมเด็ก สำหรับวัย 5 ขวบขึ้นไป ที่เรียกเสียงหัวเราะในกลุ่มผู้เล่นได้เป็นอย่างดี กติกาการเล่นง่ายๆ แค่สลับกันเปิดการ์ดผลไม้ โดยหากผู้เล่นคนไหนมีการ์ดเหมือนกันให้รีบ “กดกระดิ่ง” ให้เร็วที่สุด การ์ดเป็นภาพผลไม้ 4 ประเภท แต่ละใบจะมีจำนวนแตกต่างกัน (1 – 5 ผลต่อใบ) แจกการ์ดให้ผู้เล่นทุกคนจำนวนเท่ากัน เริ่มโดยการเปิดการ์ดและวางหน้ากองของตัวเอง ผู้เล่นสลับกันเปิดการ์ดทีละคน หากเห็นว่าผลไม้นับจำนวนได้ครบ 5 ผล และกดกริ่งที่อยู่ตรงกลางก่อนจะได้การ์ดทั้งหมดที่เปิดไป ใครได้การ์ดทั้งหมดเป็นผู้ชนะ

                                  วิธีเล่น คือ คนที่กดกริ่งก่อนจะได้กองการ์ดไป กติกาในการกดกริ่งต่อเมื่อ

                                  1. การ์ดผลไม้มีจำนวนเท่ากัน
                                  2. เมื่อไม่เห็นช้าง และสตอเบอรรี่
                                  3. เมื่อไม่มีลิงและมะนาว
                                  4. เมื่อเปิดเจอการ์ดหมู

                                  ประโยชน์ที่จะได้รับจาก Halli Galli – ปาร์ตี้ผลไม้ประลองความไว อันดับแรกเลยคือ ฝึกเรื่องความเร็ว การเคลื่อนไหวของร่างกาย เสริมสมาธิ ฝึกความอดทน และเรียนรู้มารยาทสังคม พัฒนา EQ (รอคอยจนถึงคิวตัวเอง แบ่งปัน ทำตามกฎกติกา รู้แพ้รู้ชนะ ยินดีเมื่อคนอื่นชนะ ยอมรับกับความผิดหวัง)

                                   

                                  Ghost Blitz Junior

                                  บอร์ดเกมเด็ก
                                  Cr : www.tottybook.com

                                  เกมจับผีฉบับเด็กน้อย เป็น บอร์ดเกมเด็ก สำหรับฝึกไหวพริบแข่งขันช่วงชิงไอเท็ม ลูกน้อยวัย 4 ขวบขึ้นไปก็สามารถเล่นได้ ซึ่งถือเป็นเกมยอดฮิตในดวงใจเด็กๆ เพราะด้วยกฏกติกาที่ง่าย กล่องเกมก็เล็กพกพาสะดวก แถมมีตุ๊กตาให้แข่งกันคว้าเป็นที่สนุกสนาน เล่นได้ตั้งแต่ 2-6 คน

                                  วิธีเล่น Ghost Blitz Junior ในนำ token หรือ ตุ๊กตา ทั้ง 4 ตัวมาวางกลางโต๊ะในระยะที่ทุกคนจะเอื้อมคว้าได้ง่าย สลับการ์ดให้เรียบร้อยแล้ววางกองคว่ำไว้ข้างๆ ควรมีผู้ใหญ่คนหนึ่งเป็นคนคอยให้จังหวะที่เด็กๆ ทุกคนพร้อม และเปิดการ์ดกลางวงที่ทุกคนจะเห็นได้ชัด

                                  เมื่อเปิดการ์ดขึ้นมา ให้มองหาตัวที่มีสีตรงกันกับ token (ผีสีขาว หมูสีชมพู ไก่สีเหลือง และกบสีเขียว) ซึ่งอาจมีได้มากกว่า 1 ตัวในการ์ด 1 ใบ พยายามคว้าให้ได้มากที่สุด คนที่คว้า token ได้ถูกต้อง จะได้รับการ์ด 1 ใบแทน 1 คะแนน โดยจะได้การ์ดที่หงายอยู่ หรือถ้าได้มากกว่า 1 ให้หยิบการ์ดใบบนจากกองจั่วให้ไป โดยไม่ต้องหงายการ์ดใบนั้นมาเล่นก่อน สะสมการ์ดคะแนนที่ได้กองไว้ข้างๆ ตัว

                                  ถ้าหยิบ token ผิด จะไม่ได้การ์ดคะแนน และไม่ถูกหักคะแนนที่มีอยู่ กรณีที่หยิบ token ทั้งถูกและผิด ก็ไม่ได้คะแนนสำหรับตัวที่ถูกเช่นกัน ดังนั้นเด็กๆ ต้องคิดดีๆ ก่อนจะหยิบ จะสุ่มคว้ามาไม่ได้เพราะจะไม่ได้คะแนน

                                  ถ้าไม่มีใครคว้าถูกเลย ให้สลับการ์ดใบนั้นกลับเข้ากอง (คนเปิดการ์ดจึงควรเป็นผู้ใหญ่ เพราะจะได้ดูแลเด็กๆ ให้ไม่แย่งกัน และคอยสลับกองการ์ดด้วย) เกมจบเมื่อกองการ์ดหมดลง คนที่ได้การ์ดคะแนนมากที่สุดเป็นผู้ชนะ ถ้าได้เท่ากันก็ชนะทั้งคู่แต่ถ้าตาสุดท้ายมีการ์ดให้คะแนนไม่พอ เช่น มีตัวที่สีถูก 2 หรือ 3 ตัว สามารถใช้ token แทนคะแนนได้

                                   

                                  Aquarius

                                  บอร์ดเกมเด็ก
                                  Cr : www.thegameaisle.com

                                  บอร์ดเกมเด็ก อันนี้เป็นเกมคล้ายๆ Domino ที่ทุกคนคุ้นเคยกันมานาน เหมาะสำหรับเด็กอายุ 5 ปีขึ้นไป เล่นได้ 2 – 5 คน
                                  เวลาที่ใช้ในการเล่น 20 นาที

                                  Aquarius เป็นบอร์ดเกมการ์ดสีสันสวยงาม แต่ต่างจาก Domino แบบเก่าคือมีการใส่กติกาอย่าง การ์ด Goal เป้าหมายลับซึ่งต้องแอบต่อไม่ให้คนอื่นจับได้ หรือการ์ดที่สามารถทำลายการ์ดที่เพื่อนลงไป

                                  วิธีการเล่น คือ ผู้เล่นทุกคนจะได้การ์ดเป้าหมายคนละ 1 ใบ โดยที่ให้เก็บไว้เป็นความลับรู้เฉพาะตัวเองเท่านั้นและจะได้การ์ดจากกองกลางเริ่มต้นคนละ 3 ใบ เริ่มเกมสุ่มการ์ด 1 ใบ เปิดไว้ที่กลางกระดาน ในแต่ละเทิร์นผู้เล่นจะต้องจั่วการ์ด 1 ใบจากกอง จากนั้นลงเล่นการ์ดบนมือต่อภาพที่กระดาน 1 ใบหรือใช้การ์ด Action 1 ใบ โดยที่ภาพต้องเหมือนกับภาพบนกระดานและวางในแนวเดียวกัน และสามารถข้ามการเล่นการ์ดได้ เป้าหมายของเกม คือ ใครต่อการ์ดรูปภาพได้ตามการ์ดเป้าหมายของตัวเองครบ 7 ใบ จะเป็นผู้ชนะ

                                  ความน่าสนใจของ Aquarius นอกจากจะเป็นเกมที่ใช้กติกาเรียบง่ายที่เราคุ้นเคยแล้ว กลไกของเกมที่ใช้การต่อลำดับนั้น ยังสร้างการเรียนรู้ในการวางแผน และคิดอย่างเป็นลำดับขั้นตอน รวมถึงการกำหนดเป้าหมายใส่ไว้ในการ์ด Goal พร้อมกับการสลับสับเปลี่ยนผ่านการ์ดแกล้งต่าง ๆ ก็ทำให้ผู้เล่นต้องฝึกรับมือกับสถานการณ์ตรงหน้าที่เปลี่ยนไป พร้อมทั้งเรียนรู้ที่จะสังเกตผู้เล่นคนอื่น และประเมินความเป็นไปได้ระหว่างที่เล่นเพื่อหาหนทางไปสู่การชนะอีกด้วย

                                   

                                  Sleeping Queen

                                  บอร์ดเกมเด็ก
                                  Cr : shopee.co.th

                                  เป็นหนึ่งใน บอร์ดเกมเด็ก ที่ใช้ฝึกบวกเลขได้เป็นอย่างดี มีกฎการชนะง่ายๆ เพียงเราเก็บรวบรวมการ์ดราชา เพื่อปลุกการ์ดราชินีที่หลับอยู่ขึ้นมาให้ครบตามจำนวนที่กำหนด หรือได้แต้มตามที่ต้องการ ก็ถือว่าจบเกม ตัวเกมประกอบไปด้วยการ์ดหลากหลายแบบ โดยแต่ละแบบจะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน โดยเป้าหมายของการ์ดเหล่านี้ส่วนใหญ่ก็คือการ์ดที่ขัดขวางผู้เล่นคนอื่นๆ ไม่ให้สามารถปลุกราชินีได้ครบตามที่กำหนด หรือเป็นตัวช่วยสำหรับเรา ในการเก็บรวบรวมการ์ดราชีนีได้เร็วยิ่งขึ้น ใช้เวลาเล่นไม่นาน ประมาณ 20 นาที เล่นได้ 2-5 คน อายุที่แนะนำคือ 8 ขวบขึ้นไป เป็นเกมที่ใช้เล่นคั่นเวลา พกพาไปเที่ยวได้ง่าย

                                  วิธีเล่น คือ ให้ผู้เล่นดูการ์ดในมือตัวเอง เลือกทิ้งการ์ดอย่างน้อย 1 ใบลงในกองการ์ดใช้แล้ว และจั่วการ์ดจากกองกลางมาเพิ่มให้ครบ 5 ใบ วนเล่นแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนจบเกมส์ เป้าหมายของเกมส์ สำหรับผู้เล่น 2-3 คน คือต้องปลุกราชินีให้ครบ 5 คน หรือสะสมแต้มจากการ์ดราชินีให้ครบ 50 แต้ม สำหรับผู้เล่น 4-5 คน ให้ปลุกราชินีให้ครบ 4 คน หรือสะสมแต้มจากการ์ดราชินีให้ครบ 40 แต้ม หรือ มีแต้มสะสมเยอะที่สุด ในกรณีที่ราชินีตื่นหมดแล้ว แต่ยังไม่มีใครสะสมราชินีได้ครบ บอร์ดเกมเด็ก นี้เป็นเกมส์ง่ายๆ ที่ช่วยสอนให้เด็กเข้าใจการบวกเลข ในรูปแบบตัวเลข และสมการ ซึ่งจะยากกว่าการเพิ่มจำนวนชื้นสิ่งของของเกมส์อื่นๆ เหมาะกับเด็กที่รู้จักและเข้าใจตัวเลข 1-10 และการเพิ่มจำนวนสิ่งของแล้ว และต้องการต่อยอดไปสู่การเรียนเลขแบบที่มีแต่ตัวเลข

                                   

                                  UNO

                                  บอร์ดเกมเด็ก
                                  UNO เป็นหนึ่งใน 8 บอร์ดเกมเด็ก บอร์ดเกมสุดฮิตต้องมีติดบ้าน
                                  ช่วยเพิ่มทักษะรอบด้านให้ลูก

                                  เกมอูโน่ ถือเป็น บอร์ดเกมเด็ก บอร์ดเกมพื้นฐาน เป็นการ์ดเกมเล่นง่าย อายุที่แนะนำคือ 7 ขวบขึ้นไป เล่นได้ 2-10 คน ใช้เวลาการเล่นประมาณ 1 ชั่วโมง ใช้สำรับไพ่เพียง 1 กองก็สามารถเล่นได้ โดยตัวเกมมีกฎการเล่น เพียงทิ้งไพ่เรียงต่อกันไปเรื่อยๆ จนไม่เหลือไพ่บนมือเท่านั้น แต่เมื่อใดที่ผู้เล่นไม่มีไพ่ที่จะทิ้งต่อได้ ผู้เล่นคนนั้นจะต้องจั่วไพ่ต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะมีไพ่ในมือที่ทิ้งได้ อีกทั้งยังมีไพ่พิเศษ ที่แกล้งผู้เล่นคนนั้นๆ เช่น ถูกสั่งให้ข้ามตา จั่วเพิ่มสองใบ หรือถูกสลับให้เล่นหมุนวนไปอีกทางเป็นต้น และสุดท้ายใครมีไพ่ในมือเหลือจนสามารถทิ้งจนจบได้ ต้องพูดคำว่าอูโน่ออกมา และเมื่อไม่มีไพ่ในมือแล้ว จะเป็นผู้ชนะทันที

                                  Battle Sheep

                                  บอร์ดเกมเด็ก
                                  Cr : FB Excellent Stores

                                  บอร์ดเกมการวางแผนหักเหลี่ยมชิงไหวพริบ ที่มาในคราบของแกะน้อยน่ารักที่เล่นได้ตั้งแต่ 2-4 คน เหมาะสำหรับเด็กอายุตั้งแต่ 7 ขวบขึ้นไป บอร์ดเกมเด็ก Battle Sheep นี้ เป็นเรื่องราวการต่อสู้ชิงพื้นที่ทุ่งหญ้าของบรรดาแกะแต่ละสี โดยทุ่งหญ้านั้นมีความพิเศษตรงที่เด็กๆ สามารถประกอบเป็นหน้าตาแบบใดก็ได้ ช่วยเรื่องความคิดสร้างสรรค์ได้เป็นอย่างดี

                                  วิธีเล่นคือ ผู้เล่นแต่ละคนจะต้องเลือกฝูงแกะของตัวเองหนึ่งแถวใหญ่ และเคลื่อนไหวไปบนทุ่งหญ้าเพื่อยึดครองพื้นที่ให้ได้มากที่สุด จนเมื่อเจ้าแกะตัวสุดท้ายไม่สามารถขยับไปไหนได้แล้ว เกมก็จะจบลง และแกะฝูงใดที่ยึดพื้นที่ทุ่งหญ้าได้มากที่สุด ก็จะกลายเป็นผู้ชนะในเกมนี้

                                  กติกาของ บอร์ดเกมเด็กนี้ถือว่าไม่ซับซ้อน ใช้เวลาไม่มากนักต่อหนึ่งรอบ แต่มีเสน่ห์ดึงดูดที่ทำให้อยากเล่นซ้ำเพื่อแก้มืออยู่เสมอ เหมาะสำหรับคนที่ชอบการแข่งขัน การวางแผน แถมยังเปิดโอกาสให้แกล้งกันนิดหน่อย ถือเป็นเกมที่ช่วยสร้างสีสันในครอบครัว และเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างกันได้เป็นอย่างดี

                                   

                                  Patchwork 

                                  บอร์ดเกมเด็ก
                                  Cr : www.kotaku.com.au

                                  เป็น บอร์ดเกมเด็ก ธีมเย็บผ้า ที่ออกแบบชื้นส่วนได้สวยงามสดใสจนครองใจเด็กผู้หญิงแทบทุกคน โดยผู้เล่นจะต้องซื้อเศษผ้าแล้วค่อยๆ เย็บติดกันให้กลายเป็นผ้าผืนสวย เล่นเพลินๆ และต้องใช้หัวคิดพอประมาณ เล่นได้ 2 คน ใช้เวลาประมาณ 15-30 นาที อายุที่แนะนำคือ 8 ขวบขึ้นไป  กฎของเกมนี้คือ ผู้เล่นจะใช้กระดุมแทนหน่วยเงินในการซื้อชื้นเศษผ้ามาเย็บประกอบเข้าด้วยกันทีละชิ้นๆ ในแผ่นกระดานของตัวเอง เศษผ้าบางชิ้นจะให้กระดุมกลับคืนเมื่อเดินผ่านช่องที่กำหนด ผู้เล่นสามารถใช้กระดุมที่ได้มาไปซื้อเศษผ้าชิ้นต่อไปมาวางให้เต็มพื้นที่มากที่สุด

                                  วิธี บอร์ดเกมเด็ก Patchwork นี้การเล่นคือจะมีแผ่นผ้าเปล่าสองอันให้ผู้เล่นแต่ละคนเก็บไว้กันคนละชิ้น ส่วนตรงกลางเป็นตารางผ้าไว้เดินหมาก จะมีกระดุมแทนเงินไว้ซื้อผ้าไปเย็บในแผ่นเปล่าที่มีอยู่ แล้วผ้าที่ต้องซื้อก็คือกองผ้าที่เป็นเหมือนบล็อกเกมเททริสที่วางรอบๆ ซึ่งจะมีหมากอีกตัววางไว้ตรงกองผ้า ถ้าหมากตรงกองผ้าอยู่ตรงไหนในตาใคร ก็เลือกซื้อผ้าได้ 3 อันด้านหน้าหมาก หากมีกระดุมพอก็ซื้อไปและต้องดูนาฬิกาทรายตรงกองผ้าด้วย จากนั้นต้องเดินหมากในกระดานตาม เมื่อจบเกม กระดุมจะถูกหักออกตามจำนวนช่องว่างที่เหลืออยู่ หลังจากนั้น ใครมีกระดุมเหลือเยอะที่สุดคือผู้ชนะ ซึ่งในการเล่น บอร์ดเกมเด็ก Patchwork นี้ จะผสมผสานระหว่างการวางแผนการเล่น และการบริหารจัดการทรัพยากร (กระดุม) สำหรับเด็กที่เริ่มเล่นแรกๆ อาจจะต้องมีผู้ใหญ่ช่วยแนะนำด้วยนะคะ

                                   

                                  อย่างไรก็ดีจาก 8 บอร์ดเกมเด็ก ข้างต้นที่ทีมแม่ ABK ได้แนะนำไปนั้น หากคุณพ่อคุณแม่หาซื้อไม่ได้ หรือยังไม่อยากซื้อ ก็สามารถพาลูกน้อยไปลองเล่นที่ร้านบอร์ดเกมได้ เพราะสมัยนี้ คาเฟ่บอร์ดเกม อยู่หลายที่ โดยสร้างมาเพื่อให้ผู้ที่สนใจเล่นบอร์ดเกม การ์ดเกม สามารถเข้าไปเล่นได้ทุกคน ซึ่งที่ร้านเหล่านี้จะมีพนักงานผู้เชี่ยวชาญซึ่งมีชื่อตำแหน่งคือ Game Master (GM) เป็นคนมาบริการเราตั้งแต่การเลือกเกมที่เหมาะกับความชอบ หรือ เล่นได้ดี ไปจนถึง สอน อธิบายกติกา และ นำเราเล่นในรอบแรกเพื่อให้เราเข้าใจอย่างถ่องแท้ แถมยังให้คำแนะนำต่าง ๆ ตลอดช่วงเวลาที่เราใช้บริการอยู่ในร้าน ซึ่งในร้านก็มักจะมีะบอร์ดเกมขายไปด้วยในตัว หากคุณพ่อคุณแม่คิดจะซื้อเกมอะไรแล้ว แต่ไม่แน่ใจว่าจะชอบไหม บอร์ดเกมคาเฟ่จัดเป็นสถานที่ในการทดลองเล่นเกมใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ ให้ลองพาลูกน้อยไปเล่นดูก่อนด้วยเพียงแค่การจ่ายค่าชั่วโมงเพียงแค่ไม่กี่สิบบาทเท่านั้น

                                  ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก : www.sansanook.com , boardgamesbymint.wordpress.com , www.tmbbank.com

                                    แชร์ประสบการณ์แม่น้องอิงฟ้า หนูน้อย BLW ฝึกลูกกินเอง ตั้งแต่ 6 เดือน!

                                    ฝึกลูกกินเอง ตั้งแต่มื้อแรกตอน 6 เดือน จะทำได้อย่างไร  หรือ อยากให้ลูกกินเองได้ แต่ไม่รู้จะเริ่มตรงไหน ทำเมนูอะไรดี มาฟังคุณแม่สาย BLW ตัวจริงมาบอกเล่าประสบการณ์อย่างละเอียด ตั้งแต่วันแรกที่เริ่มให้กิน พร้อมเทคนิคครีเอทเมนูอร่อยไมซ้ำใคร

                                    พอเข้าสู่วัย 6 เดือน ลูกน้อยเบบี๋ก็พร้อมจะแปลงร่างเป็นนักสำรวจคนเก่ง อยากไปเรียนรู้และสัมผัสโลกรอบตัวให้มากขึ้น จุดเริ่มต้นมาจาก “การกิน” สังเกตได้จากพฤติกรรมของเด็กวัยนี้ที่หยิบจับของอะไรก็เอาเข้าปาก เวลาใครเคี้ยวอะไรก็ทำปากจ็อบแจ๊บอยากกินบ้าง

                                    แชร์ประสบการณ์ แม่น้องอิงฟ้า ฝึกลูกกินเอง ทำอย่างไรให้ลูกกินได้ อร่อยทุกมื้อ

                                    นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ จิตแพทย์ชื่อดัง ได้อธิบายถึงพฤติกรรมดังกล่าวไว้ส่วนหนึ่งว่า “เด็กยุคนี้พบเจอกับข้อมูลที่หลากหลาย รวดเร็ว มีทั้งด้านที่ถูกและผิด สมองของพวกเขาจึงไม่ใช่แค่รับข้อมูล และท่องจำเท่านั้น แต่ต้องมีทักษะสมองเพื่อให้ชีวิตสำเร็จ ซึ่งต้องเริ่มต้นจากเรื่องพื้นฐานอย่างการ ควบคุมตัวเอง (Salf Control) ทั้งความคิด อารมณ์ และการกระทำเพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย

                                    การกินเป็นปฐมบทของการสำรวจโลกและพัฒนาด้านอื่นๆ หากเด็กควบคุมกล้ามเนื้อมัดเล็กให้ประสานกับ ตา กับปากได้อย่างการกินอาหารด้วยตัวเอง เด็กจะค้นพบว่าเขาทำอะไรได้สารพัด ฉะนั้นหากเด็กคุมการกินได้ ก็จะคุมอย่างอื่นได้งายขึ้นตามลำดับ

                                     

                                    ฝึกลูกกินเอง

                                    สำหรับการฝึกลูกกินเองแบบ BLW เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการกินอาหารของเด็ก ที่เปิดโอกาสให้ลูกได้สำรวจรสชาติ รูปลักษณ์อาหาร ลูกได้เลือก ตัดสินใจเองว่าชอบกินอะไร ไม่ชอบกินอะไร และเรียนรู้วิธีการบดเคี้ยว กลืนอาหารไปพร้อมกัน ถือว่าเป็นองค์ความรู้ใหม่สำหรับแม่คนไทย ซึ่งอาจทำให้เกิดข้อสงสัยว่าจะทำให้สำเร็จได้อย่างไร อาหารแบบไหนที่ลูกจะกินได้  Amarin Baby & Kids จึงได้สัมภาษณ์คุณแม่อีฟ จอมใจ ไตรพร เจ้าของเพจ กินพาเพลิน อาหารเด็ก 6 เดือน+ และคุณแม่ของน้องอิงฟ้า ลูกสาววัย 8 เดือน ที่อัพเดทเมนูน่าหม่ำของหนูน้อย BLW  สุดสร้างสรรค์ให้เห็นกันหลากหลาย

                                    ความผิดพลาด ทำให้แม่กล้าลอง

                                    แม่อีฟเล่าถึงเหตุผลที่ตัดสินใจ ฝึกลูกกินเอง ว่า “เริ่มหาข้อมูลเกี่ยวกับอาหารตอนน้องอิงฟ้าใกล้ 6 เดือน แล้วไปเจอเพจเกี่ยวกับ BLW แล้วได้ดูคลิปของแม่คนหนึ่ง ลูกเขานั่งกินอาหารเองได้ กินดูน่าอร่อย ดูมีความสุขที่กินโดยไม่ต้องบังคับ เลยอยากให้อิงฟ้ากินแบบนี้บ้าง บางครั้งไปเห็นเด็กแถวบ้าน โตสัก 7- 8 ขวบแล้ว แม่ยังต้องตามป้อนข้าวอยู่เลย เราไม่อยากให้ลูกเป็นแบบนั้น

                                    แต่มื้อแรกๆก็ยังไม่ได้ให้กินแบบ  BLW นะคะ เริ่มจากข้าวบด ซื้อเครื่องบดข้าวมาแล้วทำแช่เย็นเหมือนแม่คนอื่นๆ แต่ในใจก็รู้สึกว่า เราเลี้ยงลูกเอง มีเวลาพอ แล้วจะให้ลูกกินข้าวแช่แข็งทำไม

                                    หลังจากป้อนข้าวบดแล้ว น้องอิงฟ้าอึเหนียวมาก ลูกร้องเบ่ง ตอนนั้นแม่ยังไม่รู้ว่าลูกกินแค่ไหนอิ่ม ข้าวตักไว้เท่าไร ก็ป้อนจนหมด พอเห็นลูกถ่ายไม่ออก ตัดสินใจเปลี่ยนมากิน BLW เลย ยอมทิ้งข้าวบดที่แช่แข็งไว้ทั้งหมดเลย”

                                    อ่านต่อฝึกลูกกิน BLW ต้องเริ่มอย่างไร หน้า 2

                                     

                                    เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่