ลูกโดนรังแก

ลูกโดนรังแก บ่อยควรสอนให้สู้ไม่ถอย หรือหนีเอาตัวรอดเป็น

Alternative Textaccount_circle
event
ลูกโดนรังแก
ลูกโดนรังแก

ลูกโดนรังแก โดนเพื่อนแกล้งดูเหมือนเป็นเรื่องธรรมดาที่เด็กทุกวัยต้องเจอ แต่จริงๆแล้วมันคือปัญหาใหญ่ที่สร้างแผลในใจให้กับลูกน้อยไม่มากก็น้อย ยิ่งถ้าการกลั่นแกล้งนั้นกระทบต่อการใช้ชีวิต การเรียนของลูกด้วยแล้ว เท่ากับสร้างความเจ็บปวดให้กับพ่อแม่ไม่ต่างกัน

 ลูกโดนรังแก แบบนี้พ่อแม่ควรทำอย่างไรดี

แต่พ่อแม่อย่างเราควรสอนให้ลูกแก้เกมอย่างไรถึงจะเหมาะสม? ถ้าสอนให้ลูกเดินหนี กลายเป็นคนอ่อนแอและขี้กลัวหรือเปล่า? แต่ถ้าให้ลูกสวนกลับจะกลายเป็นว่าสอนให้ลูกใช้ความรุนแรงหรือไม่ สถานการณ์แบบนี้ควรตัดสินใจอย่างไรดี Amarin Baby & Kids รวมรวมคำตอบมาคลายข้อสงสัย เข้าใจง่าย ตามสไตล์ นพ.ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ จิตแพทย์และนักเขียน ผู้เชี่ยวชาญเรื่องพฤติกรรมเด็กมาแนะนำกันค่ะ

ลูกโดนรังแก

เช็กก่อนลูกโตพอรับมือเองหรือยัง

สำหรับเด็กเล็กอายุไม่ถึง 5 ขวบ จะปล่อยให้ตัดสินใจเองว่าจะสู้หรือถอยคงไม่ได้ เพราะลูกน้อยยังปกป้องตัวเองไม่ได้ ต้องการคนดูแล ฉะนั้นพ่อแม่ควรยื่นมาเข้าไปช่วยอย่างเต็มในทุกกรณี ถึงจะเป็นเด็กผู้ชาย ซึ่งดูเหมือนว่าจะอดทนได้มากกว่าผู้หญิง แต่จิตใจของเด็กนั้นบอบบางเท่ากัน จึงไม่ใช่เวลามาฝึกฝนความเข้มแข็ง หากลูกโดนเพื่อนรังแก ไม่ว่าจะเป็นทางร่างกาย หรือคำล้อเลียนให้เสียใจ พ่อแม่ควรจับสัญญาณนั้นให้ไวและเข้าไปช่วยลูกทันที กรณีที่เกิดเหตุในโรงเรียน ควรขอความช่วยเหลือจากคุณครูประจำชั้นให้เป็นหูเป็นตาให้

MUST READ:  5 วิธีสังเกต ลูกโดนแกล้งที่โรงเรียน หรือไม่

MUST READ:  ลูกโดนแกล้ง พ่อแม่ช่วยได้ ป้องกันก่อนสายใช้กำลัง- ฆ่าตัวตาย

จะเลือกเดินหนี หรือสู้กลับดี

เวลา ลูกโดนรังแก ที่โรงเรียน คุณครูอาจปกป้องเด็กๆ ทุกคนได้ไม่ทัน ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรสอนลูก วัย 2-5 ขวบรู้จักวิธีบอกคุณครูเมื่อถูกเพื่อนแกล้งไม่ว่าจะหนักหรือเบา ให้ลูกคิดไว้เสมอว่า “ไม่ว่าใครก็ไม่มีสิทธิ์รังแกคนอื่น” และ “ลูกต้องปกป้องตัวเองจากเรื่องนี้” เมื่อไหร่ก็ตามที่โดนเพื่อนแกล้ง ต้องบอกให้คนช่วยทันที ไม่จำเป็นต้องนิ่งเฉย สอนให้ลูกกล้าเดินไปบอกครูว่า “เพื่อนคนไหนแกล้ง โดนแกล้งอย่างไร” ขณะเดียวกันคุณพ่อคุณแม่ควรแจ้งครูไว้ด้วยว่าได้สอนลูกเรื่องนี้ไว้ และอยากฝากให้คุณครูช่วยดูแลต่อด้วย

ลูกโดนรังแก

กรณีที่เกิดเหตุการณ์เฉพาะหน้า เช่น โดนท้าต่อย หรือแกล้งจนเจ็บตัวแล้ว พ่อแม่ควรเปิดไฟเขียวให้ลูกโต้กลับ เพื่อป้องกันตัวเอง เพราะเด็กที่แกล้งคนอื่นมักชอบรังแกคนอ่อนแอกว่า ตัวเล็กน้อย หรือเป็นรุ่นน้อง แต่ถ้าลูกแสดงท่าทีว่า ไม่กลัว และพร้อมจะตอบโต้เหมือนกัน เด็กเหล่านี้ก็จะเลิกแกล้งไปเอง พ่อแม่ควรเปิดโอกาสให้ลูกเลือกว่า สถานการณ์เฉพาะหน้าจะ “เดินหนี” หรือ “สู้กลับ” ด้วยตัวเอง เพราะไม่ว่าแบบไหนก็ไม่มีถูก ไม่มีผิด แต่ถ้าลูกทำไปแล้วควรตั้งเงื่อนไขว่าต้องกลับมาเล่าให้พ่อแม่ฟังทุกครั้ง เพื่อจะช่วยคิดต่อไป

คุณแม่สามารถยกหน้าที่นี้ให้คุณพ่อเป็นคนดูแล สอนศิลปะการป้องกันง่ายๆไว้เป็นวิชาติดตัว ที่สำคัญต้องย้ำว่าห้ามทำไปทำร้ายคนอื่นเด็กขาด หากลูกไม่รังแกใคร พ่อแม่จะอยู่ข้างลูกเสมอ แต่ถ้าทำกลับกัน ถ้าครูลงโทษพ่อแม่จะไม่ช่วยเด็ดขาด

ลูกโดนรังแก

ตั้งใจฟังทุกปัญหาของลูก

นี่คือสิ่งที่พ่อแม่ไม่ควรมองข้าม การตั้งใจฟังเรื่องราวและสิ่งที่ลูกตัดสินใจทำไป ช่วยให้ลูกรู้สึกว่าพ่อแม่อยู่เคียงข้างเสมอ ไม่ว่าตัวจะไม่อยู่ด้วยก็ตาม เมื่อรับฟังแล้วให้ถามลูกกลับว่า “สิ่งที่ทำลงไปลูกชอบ หรือไม่ชอบ” ถ้าไม่ชอบจะแก้ไขอย่างไร ถ้าเพื่อนยังแกล้งไม่หยุด ลูกต้องเปลี่ยนวิธีรับมือใหม่หรือเปล่า  ควรใช้คำถามว่า “ชอบหรือไม่ชอบ” เด็กเล็กจะเข้าใจได้ง่ายกว่า “ดีหรือไม่ดี”

จากนั้นค่อยๆพัฒนาทักษะชีวิตเกี่ยวกับการเอาตัวรอดในสถานการณ์คับขันให้กับลูก ไม่ว่าจะเลือกสู้ต่อหรือถอยหนี ก็ไม่ต้องห่วงว่าการตัดสินใจนั้นจะทำให้ลูกกลายเป็นเด็กขี้ขลาด หรือก้าวร้าวเมื่อโตขึ้น  เพราะสุดท้ายแล้ว ลูกแค่ไม่ชอบที่ตัวเองโดนรังแกเท่านั้นเอง

ลูกชอบรังแกเพื่อนต้องรีบแก้

ถ้าลูกชอบแกล้งเพื่อน คนที่สามารถปรับพฤติกรรมได้ดีที่สุดคือ พ่อกับแม่ โดยสอนเพียงสั้นๆและชัดเจนว่า “พ่อแม่ไม่ชอบที่ลูกทำคนอื่นเจ็บ ทำคนอื่นร้องไห้” ไม่จำเป็นต้องยกตัวอย่างเหตุการณ์ หรือให้เหตุผลยืดยาว หากลูกไม่ยอมเชื่อฟัง นั่นหมายความว่า คุณพ่อคุณแม่ต้องกลับมาพิจารณาตัวเองว่ามีเวลาเอาใจใส่ดูแลลูกมากพอหรือยัง ถ้ายังต้องรีบเติมเต็มส่วนนี้ทันที เพื่อให้ลูกรู้สึกว่าพ่อแม่มีตัวตนอยู่จริงและเกิดสายสัมพันธ์แน่นแฟ้น ท้ายที่สุดลูกจะยอมทำตามด้วยความเต็มใจ

รู้ได้อย่างไรว่า ลูกโดนรังแก

*ลูกมีท่าทีเปลี่ยนไป เช่น กลับมาจากโรงเรียนแล้ว เก็บตัวเงียบซีม ไม่พูดไม่จา เงียบ  นี่เป็นสัญญาณที่บอกให้คุณพ่อคุณแม่ทราบแล้วละว่า ลูกของเรามีปัญหาที่โรงเรียน

*มีรอยแผลตามเนื้อตัว ลองสังเกตดูว่าบาดแผลบนร่างกายลูกหรือ อย่าเพิ่งดุ หรือซักไซ้ด้วยความโมโหนะคะ แต่ให้ถามลูกดี ๆ ว่า “เจ็บไหม ไปโดนอะไรมาลูก ไหนเล่าให้คุณพ่อคุณแม่ฟังสิจ้ะ”

*ลูกไม่มีเพื่อนด้วย ปกติเด็กจะมีเพื่อนที่โรงเรียน ถึงจะไม่มีเพื่อนเยอะแต่ก็น่าจะมีเพื่อนสนิทสัก 1-2 คน แต่ถ้าถามดูแล้วลูกไม่มีเพื่อน ให้ลองหาคำตอบว่าทำไมลูกถึงไม่มีเพื่อน เพราะอาจมีความลับซุกซ่อนอยู่

*ลูกไม่อยากไปโรงเรียน เป็นพฤติกรรมที่แสดงชัดเจนว่าลูกกำลังมีปัญหาที่โรงเรียน ไม่ว่ากับคุณครู เพื่อน หรือรุ่นพี่ คุณพ่อคุณแม่ต้องพยายามค้นหาคำตอบที่แท้จริงให้เจอ

*ครูหรือเพื่อนของมาเล่าให้ฟัง เวลาอยู่โรงเรียนครูกับเพื่อนเป็นคนที่ใกล้ชิด และเห็นพฤติกรรมของลูกได้ดีที่สุด ฉะนั้นคุณพ่อคุณแม่อาจฝากฝังให้พวกเขาช่วยคอยดูแลลูก ถ้ามีอะไรให้มาบอกทันที

 


ที่มาข้อมูล   เพจนายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์

บทความน่าสนใจอื่นๆ

6 วิธีคุยกับลูก ขี้หงุดหงิด อารมณ์แปรปรวน (เริ่ม 6 ขวบ+)

5 วิธีสังเกต ลูกโดนแกล้งที่โรงเรียน หรือไม่

 

7 วิธีสร้างเกราะป้องกัน ลูกถูกบูลลี่ และไม่ให้ลูกบูลลี่คนอื่น

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

 

โรงแรมที่มี Kid club

รวม โรงแรมที่มี Kid club ทั่วไทย ตอบโจทย์โดนใจครอบครัวที่มีเด็กๆ

Alternative Textaccount_circle
event
โรงแรมที่มี Kid club
โรงแรมที่มี Kid club

จะดีแค่ไหนที่โรงแรมที่ไปพักผ่อน มีสโมสรสำหรับเจ้าตัวเล็ก มีสระว่ายน้ำ ที่มีเครื่องเล่นเหมาะกับเด็ก ๆโดยเฉพาะ ให้ได้ฟิน ได้สนุกกับตลอดทั้งวัน ทีมแม่ ABK ได้รวบรวม โรงแรมที่มี Kid club ทั่วไทย มาให้คุณพ่อคุณแม่ได้เลือกพาเจ้าตัวเล็กไปพักผ่อนอย่างสนุกสนานในวันหยุดสุดหรรษานี่กัน มีที่ไหนบ้างมาดูกันเลย

รวม โรงแรมที่มี Kid club ทั่วไทย ตอบโจทย์โดนใจครอบครัวที่มีเด็ก ๆ

1.โรงแรมอมารี หัวหิน : Amari Hua Hin

Amari Hua Hin
credit photo : www.amari.com/huahin

อมารี หัวหิน โรงแรมที่ออกแบบตกแต่งสวยงามสไตล์รีสอร์ทร่วมสมัย มีบรรยากาศที่เงียบสงบและผ่อนคลายท่ามกลางธรรมชาติ มีห้องพักในหลากหลายรปแบบรวมถึงห้องแฟมิลี่ สวีท (Family Suites) ที่จะพาครอบครัวมาใช้เวลาร่วมกันและพักผ่อนในวันหยุดสบาย ๆ สะดวกสบายด้วยเครื่องอำนวยความสะดวกที่ครบครันทุกห้องพัก รวมถึงกิจกรรมต่างๆ มากมาย เช่น สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ที่มีความยาว 40 เมตร และคิดส์คลับสำหรับคุณหนู ๆ ที่มีทั้งกิจกรรมศิลปะ, งานฝีมือ ที่จะช่วยเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ และเกมส์หลากหลายแบบว้บริการ ถ้าคุณพ่อคุณแม่กำลังมองหาที่พักที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนกับครอบครัว ที่นี่เป็นอีกที่ที่ตอบโจทย์เลยค่ะ

Amari Hua Hin
โทร. 032 616 600
ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.amari.com/huahin

2.โรแรมอมารี พัทยา : Amari PATTAYA

Amari PATTAYA
Credit Photo : www.th.amari.com/pattaya/

โรงแรมอมารี พัทยา โรงแรมสุดหรูที่ติดชายหาด นอกจากได้พักชมวิวบรรยากาศที่สวยงามแล้ว ยังเป็นโรงแรมแฟมิลี่ ที่มี Kids Club “ทรีเฮ้าส์ คิดส์ คลับ” ที่ออกแบบมาเพื่อสร้างความประทับใจที่น่าจดจำสำหรับนักเดินทางตัวน้อยที่เข้าพัก โดยอัดแน่นไปด้วยกิจกรรมสำหรับคุณหนูมากมาย อาทิเช่น วาดรูป ระบายสี กิจกรรมล่าสมบัติ เล่านิทานร้องเพลง เต้นรำ ดูหนัง หรือเล่นเกมส์ พร้อมทั้งมุมหนังสือเด็กและเครื่องเล่น ของเล่นมากมาย ทั้งเก้าอี้โยกของเล่นตุ๊กตานุ่มๆ เต็นท์ ชุดรถไฟ ฯลฯ โดยใน Kids Club จะมีพี่เลี้ยงค่อยดูแลน้อง ๆ อย่างใกล้ชิด ให้เด็ก ๆ สนุกสนานได้เต็มที่ คุณพ่อคุณแม่สบายใจไม่ต้องห่วง พักผ่อนชาร์ตแบตกันได้อย่างเต็มที่เลยละคะ

Amari PATTAYA
โทร. 038 418 418
ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.th.amari.com/pattaya

3.อนันตรา หัวหิน รีสอร์ท :  Anantara Resort Hua Hin

Anantara Resort Hua Hin
Credit Photo : www.anantara.com

อนันตรา หัวหิน รีสอร์ท ที่พักติดทะเลการมาพักแบบครอบครัวแบบสุด ๆ เพราะนอกจากจะได้นอนพักชิลกับวิวทะเลสวย ๆ แล้ว ภายในรีสอร์ทยังมุมถ่ายรูปสวย ๆ มากมาย รวมทั้งยังมีสระว่ายน้ำและ Kids club บ้านปลาน้อย ให้เจ้าตัวเล็กเล่นเพลินไปกับกิจกรรมสนุก ๆ และของเล่นมากมาย มีตั้งแต่งานศิลปะ งานฝีมือ ไปจนถึงกีฬา การสอนทำอาหาร ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีสระว่ายน้ำท่ามกลางสวนสวยเขียวขจีให้ได้เวลาร่วมกันกับครอบครัวได้ฟินในวันหยุดที่มาพักผ่อนกันเลยค่า

Anantara Resort Hua Hin
โทร. 032 520 250
ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.anantara.com

4.โรงแรมอวานี พลัส ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ : Avani+ riverside Bangkok Hotel

Avani+ riverside Bangkok Hotel
Credit photo : www.facebook.com/avanibangkok

พาตัวเองและครอบครัวไปพักผ่อนดื่มด่ำกับวิวพาโนรามายามค่ำคืนของตัวเมืองกรุงเทพฯ และริมแม่น้ำที่ โรงแรมอวานี พลัส ริเวอร์ไซด์ ตื่นขึ้นมาในห้องพักท่ามกลางวิวสวยงามน่าประทับใจ โดยห้องพักแต่ละห้องสามารถมองทอดออกไปยังแม่น้ำและเส้นขอบฟ้าของตัวเมือง และถูกออกแบบสไตล์สดใส ทันสมัย ในบรรยากาศสบาย ๆ ชวนผ่อนคลายและสดชื่น

และแน่นอนเมื่อมีเจ้าตัวเล็กมาด้วย การทำให้เด็ก ๆ รู้สึกสนุกอยู่ตลอดเวลาไม่ใช่เรื่องง่าย “อวานีคิดส์” จึงเป็นตัวช่วยที่เด็ก ๆ จะต้องชอบมาก ๆ ในการมาพักครั้งนี้ คุณหนู ๆ ทั้งหลายจะได้รับความเพลิดเพลินสูงสุด ตั้งแต่เช้าไปจนถึงเข้านอน ทั้งของเล่น อาหารสำหรับเด็ก และเซอร์ไพรส์ภายในห้องพักที่รอมอบให้แก่เด็ก ๆ ตลอดช่วงเวลาการพักที่มีเฉพาะที่อวานี และทำให้การเข้าพักของครอบครัวเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำได้แน่นอนค่ะ

Avani+ riverside Bangkok Hotel
โทร. 02431 9100
ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.avanihotels.com

5.โรงแรม เซ็นทาราแกรนด์มิราจบีชรีสอร์ท พัทยา : Centara Grand Mirage Beach Resort

โรงแรม เซ็นทาราแกรนด์มิราจบีชรีสอร์ท พัทยา
Credit Photo : www.centarahotelsresorts.com

โรงแรม เซ็นทาราแกรนด์มิราจบีชรีสอร์ท พัทยา เป็นรีสอร์ทระดับห้าดาว ที่มีคอนเซ็ปต์ความสนุกสนานทั้งครอบครัว คู่รัก และคู่ฮันนีมูน ที่จะทำให้ทุกคนได้รับความประทับใจในการมาพักผ่อนครั้งนี้ นอกจากห้องพักหลายรูปแบบทั้งห้องสวีทและแฟมิลี่เรสซิเดนซ์ที่หันหน้าสู่ทะเล ยังมีกิจกรรมที่รองรับสำหรับการมาพักผ่อนครั้งนี้อีกมากมายทั้งกีฬาทางน้ำและสวนน้ำ ที่กว้างใหญ่ซึ่งเป็นไฮไลท์ของที่นี่หรือจะเรียกว่าเป็นสวนน้ำย่อม ๆ เลยก็ได้ค่ะ เพราะมีมีเครื่องเล่นสีสันสดใส Colorful อุโมงค์น้ำหลากสี น้ำพุ เห็ดพ่นน้ำ สไลด์เดอร์ใหญ่ สไลด์เดอร์เด็ก สระน้ำวนที่นั่งลอยไปกับโดนัทขนาดใหญ่ หาดทรายจำลอง ฯลฯ และที่ขาดไม่ได้คือ Kids Club สำหรับเจ้าตัวน้อยที่มีบ้านบอลขนาดยักษ์ เครื่องเล่นเด็กเล็ก สไลเดอร์ เครื่องเล่นเกมส์ ของเล่น การ์ตูน ให้คุณหนูเล่นกันแบบเพลิน ๆ เรียกว่าเป็นที่พักและแหล่งรวมความสนุกไว้ที่เดียวครบสมคอนเซ็นต์เลยค่ะ

โรงแรม เซ็นทาราแกรนด์มิราจบีชรีสอร์ท พัทยา
โทร. 038 301 234
ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.centarahotelsresorts.com

6.โรงแรมโฟร์พอยท์ส บาย เชอราตัน กรุงเทพฯ สุขุมวิท 15 : Four Points by Sheraton Bangkok Sukhumvit 15

Four Points by Sheraton Bangkok Sukhumvit 15
Credit Photo : Four Points by Sheraton Bangkok Sukhumvit 15

โฟร์พอยท์สบายเชอราตันกรุงเทพฯสุขุมวิท 15 โรงแรมใจกลางเมือง ที่การเดินทางสะดวก ใกล้กับร้านค้าและสถานบันเทิงมากมาย ตอบโจทย์ได้สุด ๆ เอาใจคนที่ต้องการพักผ่อนและท่องเที่ยวในกรุงเทพฯสำหรับครอบครัวโดยเฉพาะ กับห้อง Family Room ซึ่งถูกตกแต่งแบบเรียบง่ายแต่มีสไตล์ และมีจุดเด่นที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ Four comfort bed เตียง Signature ของโรงแรมโฟรพอยท์ส ที่ไม่ว่าจะนอนมุมไหน ก็ทำให้ทุกคนได้นอนหลับสบาย และความพิเศษของห้อง Family Room ที่เตรียมมาเพื่อเอาใจครอบครัวที่ต้องการจะผ่อนคลายในวันหยุดก็คือ วิดีโอเกมส์ Nintendo Switch และ Play Area สำหรับเด็ก ๆ ที่สามารถเลือกได้ว่าต้องการเป็นเต็นท์ของเล่น หรือที่นั่ง Bean bag หลากสี เพื่อการพักผ่อนที่อบอุ่น และให้คุณพ่อคุณแม่ได้ใช้เวลาร่วมกับคุณหนู ๆ ได้อย่างเต็มที่ นอกจากนั้นห้องของเรายังสามารถเชื่อมต่อเป็น Connecting Room กับห้อง Deluxe ได้อีกด้วย สำหรับครอบครัวที่มากันหลายคน และต้องการความเป็นส่วนตัว เรียกว่าเป็นห้องพักที่คิดส์คลับส่วนตัวให้สำหรับคุณหนู ๆ ได้อย่างดีที่เดียวเลยละค่ะ

Four Points by Sheraton Bangkok Sukhumvit 15
Tel. 02 309 3000
ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.marriott.com

7.โรงแรมฟูราม่า เอ็กคลูซีฟ แซนดารา หัวหิน : FuramaXclusive Sandara Hua Hin

FuramaXclusive Sandara Hua Hin
Credit Photo : www.furama.com

โรงแรมฟูรามา เอ็กคลูชีฟ แชนดารา เป็นรีสอร์ทตกแต่งสไตล์โมเดิร์น ตั้งอยู่บนชายหาดที่สวยงามของชะอำ อยู่ห่างจากกรุงเทพฯเพียง 300 กิโลเมตร เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเลือกมาเป็นที่พัก ใช้เวลาร่วมกับครอบครัวในวันหยุดที่ต้องการมาเที่ยวทะเลอีกที่หนึ่งเลยค่ะ นอกจากที่พักหลากหลายรูปแบบแล้ว ยังมีสระว่ายน้ำแสนสนุก มีเครื่องเล่นสไลเดอร์สำหรับเด็ก ๆ หาดทรายจำลอง และห้อง Kid Room ที่ภายในมีของเล่นเด็กมากมาย มีบ่อบอล รับรองว่าถูกใจคุณหนู ๆ แน่นอนค่ะ

FuramaXclusive Sandara Hua Hin
โทร. 032470777
ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.furama.com

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

8.โรงแรม เลอ เมอริเดียน สุวรรณภูมิ : Le Méridien Suvarnabhumi, Bangkok Golf Resort & Spa

Le Méridien Suvarnabhumi
Credit Photo : Le Méridien Suvarnabhumi

โรงแรม เลอ เมอริเดียน สุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ กอล์ฟ รีสอร์ท แอนด์ สปา เป็นโรงแรมที่พร้อมต้อนรับการท่องเที่ยวแบบครอบครัว ในสไตล์รีสอร์ตร่วมสมัยระดับห้าดาว  ตั้งอยู่ในสนามกอล์ฟ ซัมมิท วินด์มิลล์ (ถ.บางนาตราด ก.ม.10.5) ล้อมรอบด้วยสวนอันรื่นรมย์และสนามกอล์ฟ 18 หลุม รับวิวสนามกอล์ฟสีเขียวขจีสุดสายตา พร้อมด้วยกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมายที่จะทำให้ทั้งครอบครัวได้รับความสุขไปเต็ม ๆ ตลอดการเข้าพัก ไม่ว่าจะเป็นออกกำลังกายที่ฟิตเนสเซ็นเตอร์ที่ให้บริการทั้งวัน สระว่ายน้ำแบบอินฟินิตี้ พูล รับวิวสนามกอล์ฟ และเลอ เมอริเดียนแฟมิลี่ คิดส์ คลับ สำหรับคุณหนูและครอบครัว โดยจะมีพนักงานที่คอยดูแลเด็ก ๆ อย่างใกช้ชิด ทาง เลอ เมอริเดียน ได้ทำการสร้างสนามเด็กเล่น ‘อิมเมจิเนชั่น เพลย์กราวด์’ ขึ้นมา ภายในมีกิจกรรมและเครื่องเล่น เกมสนุก ๆ เสริมปัญญา สร้างสรรค์งานศิลปะ เล่นดนตรี ฯลฯ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจ และไว้เป็นพื้นที่สร้างสรรค์จินตนาการให้กับเด็ก ๆ ได้เป็นอย่างดีทีเดียว

Le Méridien Suvarnabhumi, Bangkok Golf Resort & Spa
โทร. 02 232 8888
ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.marriott.com

9.มาราเกซหัวหิน รีสอร์ท แอนด์ สปา : Marrakesh Hua Hin Resort&Spa

Marrakesh Hua Hin Resort&Spa
Credit Photo : www.marrakeshresortandspa.com

มาราเกช หัวหิน รีสอร์ท แอนด์ สปา รีสอร์ทสุดชิคสไตล์โมร็อกโกแห่งเดียวในหัวหิน อยู่ติดชายหาดยาวกว่า 90 เมตร ได้บรรยากาศสวนตัวและเงียบสงบเหมาะกับวันพักผ่อนของครอบครัว พร้อมวิวสวย ๆ ภายในรีสอร์ท อาทิ ทะเลสาบขนาดใหญ่ที่มีความยาวถึง 240 เมตร พร้อมด้วยสวนน้ำและสวนสไตล์โมร็อกโกที่สวยงามและอลังการ และแน่นอนที่นี่มี Kid Club รวมทั้งส่วนของสนามเด็กเล่นให้คุณหนู ๆ ได้มาเล่นอย่างแฮปปี้ เพลิดเพลินไปกับการ์ตูน เกม ของเล่น หนังสือ และกิจกรรม DIY ต่าง ๆ ที่ร่วมกันทำได้ทั้งครอบครัว เช่น การทำผ้าบาติก การทำเทียนเจล การวาดรูปตุ๊กตา และการทำหน้ากาก รับรองว่าที่นี่ต้องเป็นที่พักที่ถูกใจทั้งคุณพ่อคุณแม่และคุณลูก ๆ แน่นอนค่ะ

Marrakesh Hua Hin Resort&Spa
โทร. 032 616 777
ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.marrakeshresortandspa.com

10.โรงแรมโนโวเทล หัวหิน : Novotel Hua Hin

Novotel Hua Hin
Credit Photo : www.novotelhuahin.com

โรงแรมโนโวเทล หัวหิน จัดเป็นอีกหนึ่งที่พักสวย ๆ ติดทะเลสำหรับครอบครัวที่จะพาเจ้าตัวเล็กมาเที่ยว เล่น พักผ่อนได้แบบจบในทีเดียวจริง ๆ การันตีจากรางวัลชนะเลิศรีสอร์ทสำหรับครอบครัว พร้อมด้วยห้องพักแบบทันสมัย ทุกห้องพักมีระเบียงส่วนตัวมองเห็นวิวทะเล แถมในห้องพักแบบครอบครัวยังมียังมีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับเด็ก ของเล่น และของทานเล่นไว้รอบริการคุณหนู ๆ อีก ส่วนภายในโรงแรมยังมีห้องคิดส์เวิลด์ ที่ให้เด็ก ๆ ได้เพลิดเพลินและสนุกสนานในขณะเข้าพักที่โรงแรม เครื่องเล่นมากมาย อาทิเช่น ปราสาทลม แทรมโพลีน สไลด์เดอร์ บ้านบอลหลากสี โรงภาพยนตร์ขนาดย่อม คอนโซลเกม เครื่องเล่นของเล่นนานาชนิดที่มีไว้บริการเอาใจเด็ก ๆ เพียบ รวมทั้งกิจกรรม work shop ที่ให้หนู ๆ ได้สนุกเพียบ อาทิเช่น วาดรูประบายสี ระบายสีผ้าบาติก เพ้นหมอน ทำเทียนเจล เพ้นท์เล็บ ฯลฯ นอกจากนี้ยังสนุกไปกับกิจกรรมสำหรับครอบครัวกับการเล่นน้ำที่สระว่ายน้ำขนาดใหญ่พร้อมสไลเดอร์ บาร์ริมสระว่ายน้ำ ปาร์ตี้โฟม อควาบอล เดินบนน้ำ วอลเล่บอลน้ำ ปั่นจักรยาน และอีกมากมายที่ชวนให้พ่อแม่ลูกสนุกไปด้วยกัน โดยมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคอยดูแล สมกับเป็นที่พักให้ฟินกันทั้งครอบครัวจริง ๆ ค่า

Novotel Hua Hin
โทร. 0 3270 8300
ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.novotelhuahin.com

11.โรงแรมภูเก็ต แมริออท รีสอร์ท แอนด์ สปา, ในยางบีช | Phuket Marriott Resort and Spa Nai Yang Beach

Phuket Marriott Resort and Spa Nai Yang Beach
Credit Photo : Phuket Marriott Resort and Spa Nai Yang Beach

โรงแรม ภูเก็ต แมริออท รีสอร์ท แอนด์ สปา, ในยางบีช ตั้งอยู่หาดในยาง จังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นสถานที่พักผ่อนที่เหมาะสำหรับคู่รักและครอบครัว พร้อมทิวทัศน์อันงดงามของทะเลอันดามัน เพลิดเพลินไปกับการพักผ่อนในพื้นที่ที่จะทำให้ทุกคนได้รู้สึกผ่อนคลายท่ามกลางธรรมชาติ และสนุกไปกับกิจกรรมต่าง ๆ ภายในรีสอร์ท  อาทิเช่น โยคะ, ปั่นจักรยาน, คลาสต่อยมวย หรือกิจกรรมทางน้ำ เป็นต้น รวมถึง คิดส์คลับ ที่เชิญชวนให้ครอบครัวมาร่วมทำกิจกรรมที่หลากหลายด้วยกันกันพร้อมหน้า อาทิเช่น เกมการล่าหาสมบัติที่ท้าทาย ระบายสีกระเป๋า, ระบายสีผ้าบาติก หรือการทำหน้ากาก รำไทย ฯลฯ ซึ่งไม่เพียงแค่สนุกสนาน แต่ยังสามารถกระตุ้นพัฒนาการในเชิงบวกทั้งทางร่างกาย สติปัญญา และอารมณ์ของเด็ก ๆ ได้อีกด้วย โดยความสนุกแบบพิเศษของคิดส์ คลับที่นี่คือการได้รับ สมุดเล่มเล็ก M Passport เมื่อเด็ก ๆ ได้ทำกิจกรรมสนุก ๆ และความท้าทายต่าง ๆ เสร็จสิ้นก็จะได้รับตราประทับความสำเร็จแต่ละดวง และเมื่อสะสมครบตามที่กำหนดสามารถมารับรางวัลจากโรงแรมได้ เรียกว่าได้รับความสุขกับกิจกรรมและการพักผ่อนสำหรับครอบครัวที่ทางโรงแรมได้จัดเตรียมไว้บริการอย่างเต็มอิ่มกันเลยทีเดียว

Phuket Marriott Resort and Spa Nai Yang Beach
โทร. 076 625 555
ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.marriott.com

12.โรงแรมภูเล เบย์ อะริชคาร์ลตัน รีเซิร์ฟ : Phulay Bay, a Ritz-Carlton Reserve

Phulay Bay, a Ritz-Carlton Reserve
Credit Photo : Phulay Bay, a Ritz-Carlton Reserve

สัมผัสกับบรรยากาศวิวทะเลที่ผ่อนคลายที่ Phulay Bay, a Ritz-Carlton Reserve รีสอร์ทที่สวยงามในจังหวัดกระบี่ ทั้งห้องพักพร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัว สิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย และห้องคิดส์ คลับ ที่มาพร้อมกับกิจกรรมให้กับเจ้าตัวเล็กมากมาย อาทิ ระบายสีกระเป๋าผ้า ระบายสีปูนปลาสเตอร์ ระบายสีร่ม ระบายสีผ้าบาติก กิจกรรมสานใบมะพร้าว โยคะ มวยไทยสำหรับเด็ก และกิจกรรมเชฟตัวจิ๋ว เป็นต้น ในบรรยากาศรอบด้านที่เต็มไปด้วยสภาพแวดล้อมที่สวยงาม เพื่อมาเติมเต็มวันพักผ่อนและได้รับความประทับใจดี ๆ กลับบ้าน

Phulay Bay, a Ritz-Carlton Reserve
โทร. 075 628 111
ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.ritzcarlton.com

13.เชอราตัน สมุย รีสอร์ท : Sheraton Samui Resort

Sheraton Samui Resort
Credit Photo : Sheraton Samui Resort

Sheraton Samui Resort ที่พักทันสมัยพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับครอบครัวบนหาดเฉวง ชายหาดที่สวยงามแห่งหนึ่งของประเทศไทย นอกจากมาพาครอบครัวมาพักผ่อนใกล้ชิดกับธรรมชาติแล้ว ที่นี่ยังมีคิดส์คลับที่มีของเล่น สนามเล่นสำหรับน้อง ๆ หนู ๆ และกิจกรรมมากมายสำหรับเด็ก ๆ รวมถึงกิจกรรมที่สามารถเล่นร่วมกันได้ทั้งครอบครัว อาทิ สนามเทนนิส สระว่ายน้ำ พร้อมทั้งฟิตเนสแบบเต็มรูปแบบ รวมทั้งสปาสำหรับการผ่อนคลายของคุณพ่อคุณแม่

Sheraton Samui Resort
โทร. 077 422 020
ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.marriott.com

14.โรงแรมโซ โซฟิเทล หัวหิน : SO Sofitel Hua Hin

SO Sofitel Hua Hin
Credit Photo : www.so-sofitel-huahin.com

โรงแรมโซ โซฟิเทล หัวหิน  รีสอร์ทระดับ 5 ดาวในสไตล์ Modern Loft ที่ผสมผสานความหรูหราและการพักผ่อนให้เข้ากันอย่างลงตัว ที่พักติดทะเลที่มีห้องพักให้เลือกหลากหลายรูปแบบโดดเด่นด้วย 2 สไตล์ ทั้งแนวธรรมชาติเรียบง่าย และผสมผสานศิลปะในอดีตกับศิลปะสมัยใหม่อย่างลงตัว เหมาะกับการมาพักผ่อนแบบชิล ๆ และตอบโจทย์ให้กับครอบครัวที่มีเด็ก ๆ เพราะที่นี่มีกิจกรรมหลากหลาย อาทิเช่น ห้อง Kid Tent ที่ออกแบบตกแต่งสไตล์ซาฟารี ให้เด็ก ๆ ได้เพลิดเพลินไปกับของเล่นนานาชนิดพร้อมทั้งกิจกรรมที่มาให้ได้ร่วมสนุกตลอดทั้งวัน เช่น บ่อลูกบอลหลากสี ตุ๊กตา หนังสือนิทาน เครื่องเกมส์เพลย์สเตชั่น กิจกรรม DIY อย่าง วาดภาพ ระบายสี เพ็นท์กระเป๋าผ้า ฯลฯ โดยมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลตลอดทั้งวัน โซน SO Wonderland Adventure Golf ที่ให้เด็ก ๆ ได้ทดลองและสนุกสนามกับการเล่นกอล์ฟในสนามที่ออกแบบและตกแต่งในคอนเซ็ปต์ป่าเวทมนตร์ มีของตกแต่งน่ารัก ๆ มากมายเหมือนในเทพนิยาย จัดเต็มมาซะขนาดนี้ เรียกว่าเป็นรีสอร์ทที่มีลูกเล่นซ่อนอยู่ทุกมุม เพื่อสร้างความรู้สึกสนุกสนานให้กับทุกคนที่เข้าพัก ถูกใจทั้งคุณพ่อคุณแม่และเจ้าตัวเล็กอย่างแท้ทรูเลยค่ะ

SO Sofitel Hua Hin
โทร. 032 709 555
ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.so-sofitel-huahin.com

บางครั้งสำหรับครอบครัวที่มีเจ้าตัวเล็กการเข้าพักใรงแรมหรือรีสอร์ตที่มีห้องคิดส์คลับสำหรับเด็ก ๆ ก็อาจจะเป็นช่วงเวลาอันแสนสุขของทุก ๆ คน ที่ได้มีกิจกรรมพักผ่อนเต็มที่กันในวันหยุด เอาใจลูกและครอบครัวให้สนุกครบได้ทั้งที่พัก ที่เล่น ที่ชาร์ตแบตจบในทีเดียวเลย ว่ามั้ยละคะแม่ ๆ

อ่านต่อบทความที่น่าสนใจอื่นๆ

8 โรงแรมที่มี kid club พัทยา เอาใจลูก ถูกใจแม่ เหมาะสำหรับแฟมิลี่ที่แท้ทรู

เอาใจคนมีลูก 5 โรงแรมที่มี kids club ใน 5 จังหวัดท่องเที่ยว

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

ลานกิจกรรมในบ้าน

“ลานกิจกรรมในบ้าน” กับชีวิต New Normal ที่ทุกครอบครัวก็สามารถทำได้

Alternative Textaccount_circle
event
ลานกิจกรรมในบ้าน
ลานกิจกรรมในบ้าน

Milo

ในช่วงปิดเทอมนี้ เด็กๆ ได้มีเวลาอยู่บ้านกันมากขึ้น เป็นโอกาสที่ดีที่ลูกๆ จะได้ทำกิจกรรมใหม่ๆ ได้ใช้เวลาที่ดีกับครอบครัว ซึ่งคุณแม่ก็อาจจะต้องหาภารกิจที่จะได้ใช้พัฒนาการทั้งสมองและร่างกาย
มาให้ลูกๆ ได้ร่วมสนุกในสถานการณ์ปัจจุบันนี้

New ใหม่ + Normal ความปกติ ธรรมดา = New Normal ชีวิตปกติแบบใหม่ หรือ ชีวิตวิถีใหม่ ที่กำลังเป็นกระแสให้ทุกคนได้ตื่นตัวในการดำเนินชีวิตกันอยู่ตอนนี้ ถามว่าแล้วอะไรคือ New Normal ของวิถีชีวิตครอบครัว ?

  1. ทุกคนใช้เวลาที่บ้านกันมากขึ้น มีความระมัดระวังในการออกไปในที่สาธารณะต่างๆ
  2. คุณแม่ใช้เวลาในซุปเปอร์มาร์เก็ตน้อยลง และมีการใช้บริการออนไลน์บ่อยขึ้น
  3. ทุกคนต้องมี Social distancing ให้กันและกัน (การเว้นระยะทางกายภาพกับบุคคลอื่นๆ ในสังคม) โรงเรียนปิดเทอมนานขึ้น ช่วงนี้เด็กๆ บางบ้านอาจต้องมีการเรียนออนไลน์กันที่บ้าน

จะเห็นได้ว่า New Normal ที่เกิดขึ้นกับครอบครัวคือ การใช้เวลาที่บ้านมากขึ้น ซึ่งเด็กถือเป็นกลุ่มวัยที่ได้ใช้เวลาที่บ้านมากกว่าปกติ เพราะด้วยอยู่ในช่วงปิดเทอม และบวกกับมีการยืดขยายช่วงเวลาการเปิดภาคเรียนใหม่ให้นานออกไปอีก 1-2 เดือน นั่นจึงทำให้เด็กๆ ต้องอยู่กับที่บ้านนานและมากขึ้น ซึ่งทุกๆ กิจกรรมจะเกิดขึ้นที่บ้านทั้งหมดค่ะ

 

แล้วคุณพ่อ คุณแม่ ผู้ปกครอง จะมีส่วนช่วยให้ลูกใช้เวลาที่บ้านให้เกิดประโยชน์ได้อย่างไร ?   

ภารกิจสำคัญอย่างแรกที่คุณแม่ต้องเตรียมพร้อมไปกับลูกก็คือ การเรียนการสอนแบบออนไลน์ ที่คุณแม่อาจจะต้องนั่งเรียนไปกับลูกด้วย เพื่อให้การเรียนในรูปแบบใหม่นี้เกิดประโยชน์ต่อตัวลูกมากที่สุด และสามารถนำไปต่อยอดกับการเรียนในห้องเรียนตอนเปิดเทอมใหม่

ต่อมาคือการหากิจกรรมสนุกๆ ให้ลูกทำ อย่าลืมว่าเด็กที่อยู่ในช่วงวัยเรียน เป็นช่วงวัยที่มีพลังงานเหลือล้น คุณแม่ควรต้องมีกิจกรรมเล่นกับลูกที่ช่วยให้พวกเขาได้ใช้ทั้งร่างกาย และสมองในการคิดไปด้วยพร้อมกัน แนะนำว่าควรเป็นกิจกรรมการเล่นที่ส่งเสริมให้เด็กๆ ได้ออกกำลังกายไปในตัวค่ะ

ลานกิจกรรมในบ้าน ช่วยให้เด็กๆ Stay Active ได้อย่างไร ?

โจทย์ของคุณแม่คือการหากิจกรรมให้ลูกเล่น และเล่นกับลูกที่บ้าน และต้องเป็นกิจกรรมที่เหมาะกับลูกวัยเรียนที่อยู่ในช่วงวัย 7-12 ปี ฉะนั้นควรต้องเป็นการเล่นกิจกรรมที่ต้องใช้การเคลื่อนไหวทั้งหมดของร่างกาย (Stay Active) ลูกได้ใช้พลังงานอย่างสร้างสรรค์ ฉะนั้นคุณแม่ควรหามุม หรือบริเวณหนึ่งของบ้าน เพื่อทำ “ลานกิจกรรมในบ้าน” ให้ลูกเล่น ซึ่งการให้เล่นกีฬา หรือทำกิจกรรมที่ต้องใช้การเคลื่อนไหวทั้งหมดของร่างกาย จะช่วยให้ลูก Stay Active ที่บ้านได้เกิดประโยชน์ที่สุดค่ะ การ Stay Active จะส่งผลดีต่อ

  • ร่างกาย : การได้ออกกำลัง การได้เล่นที่ต้องเคลื่อนไหวร่างกายทุกส่วน จะช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันร่างกายให้แข็งแรงอยู่ตลอดเวลา ไม่เจ็บป่วยได้ง่าย เมื่อลูกแข็งแรงจะช่วยให้มีพัฒนาการการเรียนรู้ดีสมวัย
  • จิตใจ และ อารมณ์ : การได้เล่น ได้ทำกิจกรรมสนุกๆ ตลอดเวลาที่บ้าน จะช่วยทำให้เด็กๆ เพลิดเพลิน ลดความตึงเครียด ช่วยให้ใจสบาย ผ่อนคลาย ไม่หงุดหงิดง่าย อารมณ์ก็จะดีอยู่ตลอดเวลา

ลานกิจกรรมในบ้าน

แอคทีฟที่บ้านกับไมโล (MILO Home Ground)

ไมโล ชวนคุณแม่ ผู้ปกครอง มาทำพื้นที่ภายในบ้านให้เป็น ลานกิจกรรมในบ้าน (Home Ground) พื้นที่บ้านสุดแอคทีฟ เพื่อให้ลูกได้ทำกิจกรรมดีๆ เล่นสนุกที่บ้านแบบง่ายๆ แต่ได้ประโยชน์ ช่วยให้เกิดการเรียนรู้  และมีพัฒนาการทางร่างกาย พร้อมทำกิจกรรมต่างๆ ในแต่ละวันได้อย่างเต็มที่ กิจกรรมแอคทีฟที่บ้านกับ ไมโล (MILO Home Ground) เหมาะกับทุกครอบครัวที่มีลูกอยู่ในช่วงวัย 7-12 ปี

 

ลานกิจกรรมในบ้าน (Home Ground) ทำได้ง่ายนิดเดียว

การจะมี ลานกิจกรรมในบ้าน ไว้เล่นกับลูกที่บ้าน คุณแม่ไม่ต้องกังวลว่าจะต้องเตรียมอุปกรณ์ หรือมีพื้นที่ อะไรใหญ่โต เพราะเราจะใช้อุปกรณ์ที่มีอยู่รอบตัวที่บ้าน คุณแม่ก็สามารถนำมาดัดแปลงทำเป็นของเล่นไว้เล่นกับลูกได้ง่ายๆ แล้วค่ะ

อย่างคุณแม่แอร์ จากเพจ TheLovelyAir.com ก็ได้ใช้เวลาที่บ้านในช่วงปิดเทอมนี้ ในการหากิจกรรมเล่นสนุกกับลูก ที่ไม่ใช่แค่สนุกเท่านั้น แต่ยังเกิดประโยชน์ต่อร่างกายของลูกด้วย เพราะได้ขยับเคลื่อนไหวร่างกายทุกส่วน เป็นการออกกำลังไปด้วยในตัวค่ะ  กิจกรรมที่คุณแม่แอร์เล่นกับลูกสาว คือ “ชู๊ตให้แม่นแม้ไม่มีแป้น” จากแคมเปญ “แอคทีฟที่บ้านกับไมโล”

แอคทีฟที่บ้านกับไมโล (MILO Home Ground)

อุปกรณ์ที่คุณแม่แอร์หาได้จากในบ้าน ก็มีแค่ ตะกร้าผ้า(แทนแป้นบาส) และเสื้อผ้านำมาพับเป็นกลมๆ  (แทนลูกบาส) กิจกรรมนี้จะเล่นในบ้าน หรือนอกบ้านก็ได้ แล้วแต่พื้นที่บริเวณบ้านที่มีค่ะ

เห็นคุณแม่แอร์กับน้องดีดี้ เปิดตัวเล่นภารกิจชิงรางวัลดูแล้วน่าสนุกแบบนี้ ครอบครัวไหนที่อยากจะ หาไอเดียทำกับลูกที่บ้าน สามารถเข้าไปดูไอเดียกิจกรรมต่างๆ เพื่อที่คุณแม่จะได้นำไปใช้ Stay Active พร้อมได้ทำภารกิจชิงรางวัลกับไมโล ในทุกๆ 2 สัปดาห์ ตลอดเดือนพฤษภาคม – มิถุนายนนี้  โดยสามารถเข้าไปติดตาม “กิจกรรมแอคทีฟที่บ้าน กับไมโล” ได้ที่หน้าเพจ FB MILO Thailand ค่ะ

ลานกิจกรรมในบ้าน ช่วยให้เด็กๆ Stay Active ได้อย่างไร ?

 

ฝันว่ามีลูก

ฝันว่ามีลูก ฝันว่ามีลูกผู้ชาย จริงหรือเปล่าที่จะได้ลูก?

Alternative Textaccount_circle
event
ฝันว่ามีลูก
ฝันว่ามีลูก

ฝันว่ามีลูก ฝันว่ามีลูกผู้ชาย ฝันว่าได้ลูกชาย ฝันว่าได้ลูกสาว แปลว่าจะได้ลูกจริงหรือไม่? ฝันจะเป็นจริงหรือไม่? มาเปิดตำราการ ทำนายฝันกัน

ฝันว่ามีลูก ฝันว่ามีลูกผู้ชาย จริงหรือเปล่าที่จะได้ลูก?

การเกิดขึ้นของความฝันนั้นอาจเป็นไปได้หลายสาเหตุ ไม่ระบุช่วงเวลาอาจเป็นได้ทั้งกลางวันหรือกลางคืน แน่นอนว่าทุกคนต้องเคยฝัน และมักจะอยากรู้ว่าที่ตนเองฝันนั้นส่งในทางที่ดีหรือทางร้ายกับชีวิตในอนาคต แต่สำหรับคนที่อยากมีลูก การฝันแบบนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่มีความสุขไม่ใช่น้อย แต่ตามความเชื่อโบราณ ฝันว่ามีลูก ไม่ว่าจะเป็นลูกชายหรือลูกสาวก็ตาม กลับไม่ได้ทำนายว่าจะได้ลูกอย่างในฝัน แต่กลับทำนายว่าผู้ฝันจะมีทั้งโชคดีและเรื่องร้าย ตามคำทำนายต่อไปนี้

ฝันว่ามีลูก

ทำนายว่า .. จะมีคนมาขอความช่วยเหลือคุณในเร็ว ๆ นี้อาจจะมีทั้งโชคดี และไม่ดีในการช่วยเหลือคน ๆ นี้ให้ลองไตร่ตรองใช้สติคิดว่าสมควรที่จะช่วยหรือไม่ อย่างไร ช่วงนี้อาจจะโดนคนแปลกหน้านินทาหรือใส่ร้ายอีกด้วยแต่ขอให้ใจเย็น ๆ ไม่ต้องไปใส่ใจให้มากนักจะเป็นผลดีกับตัวคุณเอง

เรื่องความรัก ใครที่มีคู่แล้วระวังเรื่องการพูดจากับคู่รักของคุณให้ดี ๆ อาจจะทะเลาะกันได้ง่ายแล้วจะจบไม่สวยนักให้ใจเย็น ๆ เข้าไว้

เรื่องการงาน-การเงิน จะมีปัญหาเรื่องเงิน เนื่องจากจะมีคนมาหยิบยืมเงินทองของคุณได้ คนที่ทำธุรกิจอาจจะต้องลงทุนเยอะในช่วงนี้ แต่จะมีกำไรก้อนโตในภายภาคหน้า

ทำนายฝันเลขเด็ด 6 , 9

ฝันว่ามีลูกผู้ชาย

ทำนายว่า .. คุณจะถูกคนชั้นสูงรังแก จงระวังอุบัติเหตุ ทำอะไรก็อย่าประมาท ไม่ว่าคุณจะทำอะไรดูเหมือนว่าจะมีอุปสรรคไปหมด

เรื่องความรัก ท่านที่ยังโสดยังม่ายจะตกอยู่ในความสนใจของเพศตรงข้ามอย่างน้อยก็ 2 คน ขอให้วางตัวให้ดี ๆ ความรักของคุณสดใสเป็นสีชมพูเลยนะ แต่ก็อย่าให้เกิดปัญหารถไฟหลาย ๆ ขบวนมาชนกันล่ะ เดี๋ยวจะงานเข้าไม่รู้ตัว คุณมีโอกาสที่จะได้คู่รักเป็นคนต่างชาติ คน ๆ นี้ดูดีเลยทีเดียว

เรื่องการงาน-การเงิน เงินพิเศษจะมีเข้ามาเรื่อย ๆ จากงานเดิม ๆ เพราะด้วยความสามารถและผลงานของคุณที่ได้รับการยอมรับ คนทำงานเป็นลูกจ้างเขาจะถูกสั่งหยุดกะทันหัน หรือเลวร้ายจนกระทั่งเลิกจ้างคุณ งานจะมีภาระเร่งด่วน กดดัน และต้องใช้ความรับผิดชอบสูงมาก

ทำนายฝันเลขเด็ด 0 , 1 , 3 , 5

ฝันว่าได้ลูกสาว

ทำนายว่า .. จะได้พบกับมิตรหน้าใหม่มากหน้าหลายตาเพิ่มขึ้น ชีวิตราบเรียบ จะมีแต่ความสุขอย่างต่อเนื่อง ความใจร้อนใจเร็วของคุณจะพาคุณตกเหวได้ทุกเมื่อ ถ้าคุณคิดช้าอีกนิดทบทวนอีกหน่อยจะทำให้ถึงที่หมายสำเร็จได้

เรื่องความรัก คนโสดได้แต่รอแล้วรอเล่า ยังไม่เจอคนที่โดนใจ คงต้องใจเย็นอย่างที่โบราณท่านว่าไว้ “ช้า ๆ ได้พร้าเล่มงาม” คุณจะได้รับการแนะนำให้รู้จักกับคนนิสัยดี จิตใจดี ชอบทำบุญ ชอบช่วยเหลือผู้อื่น คุณจะมีโชคจากคนรัก อาจจะเป็นของฝากหรือของขวัญ

เรื่องการงาน-การเงิน จะต้องระวังเรื่องคำพูดเป็นพิเศษ มีโอกาสที่จะเกิดเรื่องขัดแย้งจนถึงเป็นปากเสียงกันได้ คนทำงานประจำจะมีปัญหากับ เพื่อนร่วมงานใหม่ ๆ โดยเฉพาะอายุน้อยกว่า การงานตกที่นั่งลำบาก ต้องคอยรับผิดชอบเรื่องที่ไม่ได้เป็นคนก่อ

ทำนายฝันเลขเด็ด 0 , 2 , 4 , 5 , 7

ฝันว่ามีลูกผู้ชาย
ฝันว่ามีลูกผู้ชาย

ฝันเห็นลูกคนอื่น

ทำนายว่า ..จะมีโชคอยู่ทางทิศใต้ มาจากคนผิวสองสี จะมีเรื่องร้อนใจหรือไม่สบายใจที่มาจากพี่น้องของคุณเอง มีโอกาสพบผู้ช่วยเหลือแบบฟลุค ๆ

เรื่องความรัก คุณเป็นคนที่โชคดีมาก เพราะได้รับการเอาใจใส่ดูแลจากคนรักเป็นอย่างดี รู้สึกอบอุ่นใจ คุณอาจจะพบคนที่ถูกใจแล้ว แต่มันยังไม่ใช่จังหวะที่จะเจอเนื้อคู่ ถ้าไม่ระวังตัว ระวังใจของตัวคุณเองให้ดี ๆ จิตใจของคุณเองนั่นแหละที่จะทำให้คุณคิดเลยเถิดไปไกล

เรื่องการเงิน-การงาน จะมีโอกาสเดินทางไปทำงานในต่างถิ่นหรือไปต่างประเทศและจะประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี มีแต่เรื่องเสียเงิน แต่เป็นการเสียเงินให้คนอื่น แต่คุณก็จะได้ความสุขใจกลับมาในความช่วยเหลือ ภาระรับผิดชอบในหน้าที่การงานทำให้จำต้องสละแผนการพักผ่อนกระทันหัน

ทำนายฝันเลขเด็ด 0 , 2 , 9

ฝันว่ามีลูกในท้อง

ทำนายว่า .. สิ่งที่ตั้งใจไว้มากอาจจะยังไม่สำเร็จทันทีทันใดแต่สิ่งที่ไม่ได้คาดฝันอาจจะได้มาแบบฟลุค ๆ เพศตรงข้ามจะนำพาโชคทางการเงินมาให้คุณ ช่วงนี้โชคของคุณยังไม่ดีเท่าไรนัก

เรื่องความรัก คนโสดหน้าบาน ช่วงนี้เสน่ห์แรงเกินห้ามใจ มีคนมารุมล้อมเอาใจอย่างไม่ขาดสาย คนที่มีคู่แล้วให้ระวังเรื่องความสัมพันธ์ที่จะเกิดขึ้นระหว่างคู่ของคุณกับเพื่อนสนิทของคุณ จับตาดูไว้ให้ดี ๆ ความรักจะมีอุปสรรคทำให้คุณต้องคิดมากเอาแต่ร้องไห้เสียใจ

เรื่องการเงิน-การงาน หากมีโอกาสลงทุนทำธุรกิจของตนเองจะประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ระวังจะใช้เงินเกินตัวหรือต้องเสียเงินเพราะคนรอบข้าง ช่วงนี้เงินทองหามาด้วยความยากลำบากจึงไม่ควรใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายในสิ่งที่ไม่จำเป็น

ทำนายฝันเลขเด็ด 0 , 1 , 3

อ่านต่อ ฝันว่าคลอดลูก ฝันเห็นคนคลอดลูก เป็นลางดีหรือลางร้าย?

ฝันว่าได้อุ้มลูก

ทำนายว่า .. การพบปะคนจำนวนมากมักเจอเหตุการณ์หรือคำพูดที่ไม่ค่อยน่าพอใจนัก ระวังเรื่องอารมณ์ของคุณให้ดี เพราะมันจะนำมาซึ่งความเลวร้าย คุณจะเจอเรื่องเครียด และแรงกดดัน ต้องรับภาระหลายอย่าง

เรื่องความรัก คนไม่โสดอย่าคิดแม้แต่จะมีกิ๊ก เพราะจะมีแต่ความยุ่งยาก วุ่นวายตามาอย่างไม่คาดฝัน คนที่มีคู่รักแล้วระวังจะมีคนต่างเพศเข้ามาทำท่าทีเป็นมิตร แล้วเข้ามาแทรกกลางระหว่างความรักของคุณ ความรักของคุณค่อนข้างคลุมเครือ ไม่รู้ว่าคุณจะถูกจัดให้อยู่ในตำแหน่งแฟนหรือกิ๊กกันแน่

เรื่องการเงิน-การงาน การเงินเข้ามือขวาออกมือซ้าย เก็บเงินไม่ได้ เริ่มเป็นหนี้เป็นสิน กระทบกับชีวิตประจำวัน ระวังให้ดี จะมีคนเอ่ยปากอยากชวนทำธุรกิจ หรือลงทุนร่วมกัน เป็นเพศหญิง รูปร่างสูง ผอม ซึ่งร่วมธุรกิจกันแล้วจะเจริญก้าวหน้าดี อย่าเพิ่งลงทุนร่วมหุ้นกับใครหากยังไม่รู้ใจกันดีพอ ต้องศึกษาประวัติกันให้ดีก่อน ป้องกันปัญหาที่จะตามมา

ทำนายฝันเลขเด็ด 8

อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

จริงหรือ? ฝันเห็นงู แปลว่าจะมีลูก! แท้จริงหมายถึงอะไร

6 เรื่องจริงของความฝัน ฝันว่าตั้งท้อง หมายความว่าอย่างไร?

เปิดชะตา! ดวงแม่ 12 ราศี พร้อมวิธีเลี้ยงลูกให้เหมาะกับราศีแม่

สีเสื้อมงคล 2563 เสริมดวง 12 ราศี ใส่แล้วงานดี เงินเริ่ดตลอดปี

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : horoscope.mthai.com

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

นมยาน

7 ท่าโยคะ “กู้เต้าเหี่ยว นมยาน” หลังลูกหย่านม ให้กลับมาเต่งตึง!

event
นมยาน
นมยาน

หลังลูกหย่านม แม่หลายคนอาจเกิดปัญหา ทั้งหน้าอกหย่อน นมยาน เต้าเหี่ยว เรื่องนี้สามารถแก้ไขได้! ด้วย 7 ท่าโยคะขั้นเทพ กู้เต้านมแม่ให้กลับมาเต่งตึงอีกครั้ง

โยคะ ช่วยกู้เต้าเหี่ยว นมยาน ได้จริงหรือ?

สำหรับคุณผู้หญิงเรา ตั้งแต่รู้ตัวว่าจะเป็นแม่คน จากที่รักสวยรักงามกลัวหุ่นเสีย ผิวแตกลาย ก็กลายเป็นคนที่ยอมเสียสละเพื่อลูก ส่วนเรื่องสวย หยุดไว้ก่อนรอได้ .. ขอแค่ลูกแข็งแรงสมบูรณ์ก็พอใจแล้ว และยิ่งเมื่อลูกคลอดออกมา ก็มีหลายเสียงบอกว่าถ้าให้ลูกดูดนมจากเต้าแม่นานๆ ระวังเต้าเหี่ยว นมยาน !!

ซึ่งหลังจากที่ลูกกินนมแม่มาได้ 6 เดือน – 1 ขวบ (หรือมากกว่านี้ยิ่งดี) ก็เริ่มมีคุณแม่หลายคนที่เข้าสู่ช่วงเวลาให้ลูกหย่านมแม่ เพื่อเตรียมลูกให้พร้อมในทักษะด้านอื่นๆ ที่สำคัญกับช่วงวัยของลูกต่อไป และในระหว่างที่ลูกเริ่มถอยห่างจะเต้านมแม่ได้แล้ว ก็เป็นช่วงเวลาที่คุณแม่จะสามารถกลับมาฟิตสร้างสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงมากยิ่งขึ้น เพื่อที่จะได้มีแรงพลังในการดูแลลูกในทุกๆ วัน

Must Read >> หย่านมแม่ เมื่อไหร่? ยังไงดี?

Must Read >> เผยเทคนิคดี! “กินตามกรุ๊ปเลือด” ช่วยลดน้ำหนักได้ชัวร์

7 ท่าโยคะกู้เต้าเหี่ยว นมยาน หลังลูกหย่านม ให้กลับมาเต่งตึงอีกครั้ง

จากหุ่นที่ยังอวบอั๋น พุงที่หน้าท้องก็ยังไม่กระชับ ส่วนหน้าอกเต้านมทั้งสองข้างก็ยังเหี่ยว หย่อนๆ ยานๆ ไม่กระชับเต่งตึง ใส่เสื้อผ้าก็ดูไม่สวยเหมือนคนอื่น >> เอาล่ะค่ะ ได้เวลาที่หลังหย่านมลูก คุณแม่จะเรียกคืนหุ่นสวยฟิตแอนด์เฟิร์มอีกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งตรงหน้าอกหน้าใจ กับ เต้าเหี่ยว นมยาน ที่ต้องเรียกความมั่นใจ ให้สามีได้ตะลึง อย่ารอช้า เพราะโยคะเฉพาะท่าเหล่านี้สามารถช่วยคุณแม่ได้

ประโยชน์ของโยคะ คือ ช่วยให้เลือดลมภายในร่างกายไหลเวียนไปเลี้ยงอวัยวะส่วนต่างๆ ของร่างกายได้ดีมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับข้อพับ ข้อต่อ ข้อเอ็นของร่างกายให้แข็งแรงมากขึ้น ทำให้ผิวหนัง รูปร่าง อวัยวะภายนอกอย่างสะโพก ต้นขา และเต้านมกระชับเข้ารูปมากขึ้น ที่สำคัญโยคะช่วยให้มีสมาธิ ผ่อนคลายจากความเครียดด้วยค่ะ

ดังนั้นถ้าลูกหย่านมแม่แล้ว ก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไรที่คุณแม่จะกลับมาดูแล นมยานๆ หน้าอกเหี่ยว ๆ ให้กลับมาเด้งเต่งตึง ได้อกสวยกระชับเข้ารูป ไม่เหี่ยว ไม่หย่อนยาน … ทีมแม่ ABK จึงมีท่าโยคะกู้เต้าเหี่ยว นมยาน หลังลูกหย่านม มาฝากค่ะ เพื่อช่วยให้ต้านมของคุณแม่กลับมาเต่งตึง ใส่ชุดสวยได้อีกครั้ง

ทั้งนี้ขอบอกก่อนว่าอกเหี่ยว จะกลับมาสวยได้ คุณแม่ต้องหมั่นฟิต เล่นโยคะทุกวัน ห้ามขี้เกียจ หรือหมดกำลังใจกันไปเสียก่อนนะคะ และถ้าพร้อมแล้วไปเปลี่ยนชุดให้เหมาะกับการเล่นท่าโยคะกันได้เลยค่ะ

นมยาน

1. โยคะกู้เต้าเหี่ยว นมยาน >> ท่านักรบ (Warrior Pose)

  • ให้คุณแม่ยืนขาทั้งสองข้างเเยกจากกัน ให้ระนาบหรือขนานกัน
  • จากนั้นคุณแม่บิดเท้าซ้ายมาข้างหน้า โดยให้ได้มุม 90 องศา เเล้วบิดเท้าขวาเข้ามาข้างใน หายใจออกพร้อมกับงอเข่า
  • ต่อเนื่องด้วยการให้ขาขวาเหยียดตรง แล้วกางเเขนออกจนขนานกับขาเเนวเดียวกับหัวไหล่ คุณแม่หันศีรษะไป ด้านซ้าย เเละมองไปที่ข้อมือของตัวเอง
  • ให้ทำท่านักรบซ้ำข้างเดียวกันอีกประมาณ 7-10 ครั้ง แล้วค่อยเปลี่ยนสลับข้างทำอีกประมาณ 7-10 ครั้งเช่นกัน

นมยาน

2. โยคะกู้เต้าเหี่ยว นมยาน >> ท่าตรีโกณหมุนกลับ (Triangle Pose)

  • ให้คุณแม่ยืนกางขาให้ถนัดในการทรงตัวให้มั่นคง แล้วหมุนขาข้างหนึ่งออกให้ได้ 90 องศา ส่วนขาอีกข้างให้ทำมุม 15 องศา
  • จากนั้นใช้มือซ้ายแตะข้อเท้าซ้าย แล้วกางเเขนขวาขึ้นข้างบน ซึ่งเเขนทั้งสองข้างต้องให้เป็นเเนวเส้นตรง
  • ต้องให้ขาทั้งสองข้างเหยียดตรง
  • คุณแม่หันหน้ามองขึ้นไปด้านบน โดยจุดโฟกัสคือนิ้วมือของตัวเอง
  • ทำด้านซ้ายเสร็จแล้ว ก็ให้เปลี่ยนสลับมาทำด้านขวา

นมยาน

3. โยคะกู้เต้าเหี่ยว นมหย่อนยาน >> ท่างู (Cobra Pose)

  • ให้คุณแม่นอนคว่ำลงบนเสื่อโยคะ จากนั้นให้หายใจเข้าลึก
  • คุณแม่ค่อยๆ เลื่อนตัวลงไปนอนนาบตัวติดกับพื้นเสื่อโยคะ
  • ให้คุณแม่รักษาสมดุลน้ำหนักระหว่างเเขนกับขา
  • จากค่อยๆ เลื่อนศีรษะขึ้นมา เเล้วมองขึ้นไปข้างบน หายใจ-ออกช้าๆ แล้วค่อยๆ กลับมายังท่าเเรก (นอนนาบตัวกับพื้น)
  • คุณแม่ลองเพิ่มเวลาการทำท่างูให้นานมากขึ้น

นมยาน

4. โยคะกู้เต้าเหี่ยว นมหย่อนยาน >> ท่าคันธนู (Bow Pose)

  • ให้คุณแม่นอนคว่ำ หายใจออกช้า ค่อยๆ งอขาทั้งสองข้างขึ้น ใช้มือจับข้อเท้าขาทั้งสองข้าง
  • จากนั้นคุณแม่หายใจออกช้าๆ เเล้วดึงขาให้ยืดเหยียดขึ้นให้มากเท่าที่ทำได้ (หากไม่ได้อย่าฝืน ให้ยืดได้เท่าที่ร่างกายไหว)
  • การทำโยคะท่าคันธนู สะโพก หน้าอกคุณแม่จะต้องไม่เเตะพื้น โดยที่ต้องรักษาสมดุลของร่างกายให้ได้
  • ลองพยายามทำท่าคันธนูค้างไว้ให้ได้ 30 วินาที

นมยาน

5. โยคะกู้เต้าเหี่ยว นมหย่อนยาน >> ท่าวงล้อ (Wheel Pose)

  • ให้คุณแม่นอนหงาย กางขาสองข้างออกให้กว้าง แล้ววางฝ่ามือทั้งสองไว้บนพื้นเหนือศีรษะ
  • คุณแม่หายใจออกช้าๆ แล้วค่อยๆ ยกหน้าอกกับสะโพกให้สูง ยกได้แค่ไหนแค่นั้นอย่าฝืน (เมื่อชำนาญท่าโยคะนี้แล้วค่อยเพิ่มความสูงทีหลัง)
  • คุณแม่ต้องยืดเเขนสองข้างให้ตึง แล้วค้างท่าวงล้อนี้ให้ได้ 30 วินาที

นมยาน

6. โยคะกู้เต้าเหี่ยว นมหย่อนยาน >>ท่ากลับศีรษะ (Supported Headstand)

  • ท่านี้ค่อนข้างยาก คุณแม่อาจต้องให้ครูฝึกช่วยด้วย และต้องอาศัยความชำนาญของคุณแม่ เพื่อให้มีความปลอดภัยมากขึ้น
  • ให้คุณแม่คุกเข่า วางข้อศอกลงบนพื้น แล้วมือสองข้างประสานกันไว้ที่ท้ายทอย ก่อนยกขาขึ้นคุณแม่ต้องแน่ใจว่ามือและศีรษะอยู่ในท่าเตรียมพร้อมที่มั่นคงแล้ว
  • จากนั้นต้องงอเข่า หายใจออกช้าๆ เเล้วค่อยๆ ยกตัวขึ้นช้าๆ โดยที่ต้องรักษาสมดุลของปลายเท้าเพื่อให้ชี้ขึ้นข้างบน
  • ทำโยคะท่ากลับศีรษะค้างไว้ 30 วินาที ถึง 2 นาที ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับความสามารถบวกความชำนาญของแต่ละคนด้วยนะคะ

นมยาน

7. โยคะกู้เต้าเหี่ยว นมหย่อนยาน >> ท่าอูฐ (Camel Pose)

  • ให้คุณแม่คุกเข่า เเล้วค่อยๆ ยกตัวขึ้น
  • จากนั้นก็เอื้อมมือทั้งสองข้างไปจับส้นเท้าข้างหลัง ซึ่งจะทำให้ตัวเเอ่นไปข้างหน้า
  • คุณแม่ลองค่อยๆ เเอ่นตัวไปข้างหลังให้ได้มากที่สุด เพื่อช่วยยืดกระดูกซี่โครง
  • ให้ทำท่าอูฐค้างไว้ประมาณ 30 วินาที

ครบแล้วสำหรับ ท่าโยคะช่วยบริหารเฉพาะหน้าอกหน้าใจของคุณแม่ให้กระชับมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ทีมแม่ ABK ก็ให้คุณแม่ทำท่าโยคะทั้ง 7 ท่านี้ทุกวัน รับรองว่าจะสามารถช่วยให้เต้านมที่เหี่ยว หย่อนยาน ค่อยๆ กลับมากระชับเด่งเต่งตึงเป็นหน้าอกสาวๆ ได้อีกครั้งค่ะ

ขอขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก : brightside.me 

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

11 งานบ้านทำเพลินแถม เบิร์นไขมัน เผาผลาญแบบไม่ต้องไปฟิตเนส

5 วิธีกำจัด อ้วนลงพุง ด้วยตัวเอง

รวม 10 ท่า ออกกำลังกายลดพุง สำหรับคุณแม่หลังคลอด

6 ท่า ออกกำลังกายลดต้นขา กับ 4 เคล็ดลับเพิ่มความสวย

 

คําสอนของแม่

รวม 20 คําสอนของแม่ ที่ควรสอนลูกสาว!

event
คําสอนของแม่
คําสอนของแม่

บ้านไหนมีลูกสาวต้องอ่าน! นี่คือ 20 คําสอนของแม่ ที่ควรสอนลูกสาว เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันชีวิต ให้ลูกคิดเป็น แม้เป็นผู้หญิงก็สามารถได้ดี มีความรู้ และเอาตัวรอดได้

20 เรื่อง ที่แม่ควรสอนลูกสาว

สำหรับคุณพ่อคุณแม่บ้านไหนที่มี “ลูกสาว” อาจมีความกังวลเนื่องจากปัจจุบันมักมีข่าวที่ผู้หญิงตกเป็นเหยื่อ ซึ่งการจะเลี้ยงลูกสาว ให้เติบโตขึ้นในสังคมแบบนี้ ที่แม้จะมีสิ่งดีอยู่บ้าง แต่ก็ยังมีสิ่งที่เลวร้ายมากมาย หากไม่มีการเตรียมพร้อม สอนลูกสาว เอาไว้บ้าง … ก็อาจจะทำให้ลูกสาวของคุณดำเนินชีวิตอย่างยากลำบากได้ในอนาคต

ซึ่งสิ่งที่จะช่วยเตรียมพร้อมสำหรับการเลี้ยงดูลูกสาวได้อย่างดีที่สุดก็คือ คําสอนของแม่ รวมไปถึง แนวทาง ทัศนคติ และการปฏิบัติตนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันชีวิต ให้ลูกคิดเป็น แม้เป็นผู้หญิงก็สามารถได้ดี มีความรู้ และเอาตัวรอดได้ ดังนั้น ทีมแม่ ABK จึงมี 20 เรื่องที่ควรสอนลูกสาว จากป้าหมอ สุธีรา เอื้อไพโรจน์กิจ มาฝาก … ตามไปดูกันค่ะว่า สิ่งที่ควรสอนลูกสาว ตั้งแต่เล็กๆ เพื่อเตรียมพร้อมให้ลูกในการออกไปเผชิญกับโลกภายนอกนั้น จะมีอะไรบ้าง

คําสอนของแม่ ที่ควรสอนลูกสาว ข้อที่ 1
ครอบครัวจะเป็นครอบครัวตลอดไป แม่จะรักพ่อเสมอ เราจะอยู่เป็นครอบครัวเพื่อให้ลูกมีที่พึ่งพิง เพื่อเป็นตัวอย่างครอบครัวที่ดีให้ลูกเห็น เพราะเราปรารถนาให้ลูกได้มีครอบครัวที่สมบูรณ์เช่นกัน

คําสอนของแม่ที่ควรสอนลูกสาว ข้อที่ 2
ลูกดูดีเสมอในสายตาของแม่ ความงามเกิดขึ้นได้จากภายใน ไม่ใช่แค่รูปลักษณ์ภายนอก และแม่รักลูกในสิ่งที่ลูกเป็น

คําสอนของแม่ที่ควรสอนลูกสาว ข้อที่ 3
ลูกมีศักยภาพเพียงพอในการทำสิ่งที่ลูกอยากทำ ขอเพียงอย่ากลัวที่จะล้มเหลว

คําสอนของแม่ที่ควรสอนลูกสาว ข้อที่ 4
สอนลูกให้ปฏิเสธเป็น หากถูกชักจูงให้ทำสิ่งที่ไม่ดีหรือลูกไม่อยากทำ

คําสอนของแม่ที่ควรสอนลูกสาว ข้อที่ 5
ลูกควรมีระเบียบวินัยและเรียนรู้ถูกผิดตั้งแต่ในบ้าน เป็นคนที่รู้จักเห็นอกเห็นใจผู้อื่น เมื่อออกนอกบ้านจะได้ไม่เป็นที่ระอาต่อผู้อื่น

คําสอนของแม่ที่ควรสอนลูกสาว ข้อที่ 6
จงทะนงในศักดิ์ศรี พึ่งพาตัวเองได้ และเป็นคนมีอารมณ์ขัน พร้อมปฏิบัติตนต่อทุกคนที่พบด้วยความสุภาพ ไม่ว่าจะเป็นคุณครู ภารโรง หรือ พนักงานขาย เพราะทุกคนมีเกียรติและศักดิ์ศรีเช่นเดียวกัน

เรื่องที่แม่ควรสอนลูกสาว ข้อที่ 7
สอนลูกให้กินเป็น เลือกอาหารที่ดีต่อสุขภาพ แต่ไม่หมกมุ่นกับการกินให้ผอม และอย่าลืมที่จะออกกำลังกายรักษาสุขภาพที่ดีให้แข็งแรงอย่างถูกวิธี

คําสอนของแม่ ที่ควรสอนลูกสาว ข้อที่ 8
อย่าเลือกใครก็ได้มาเป็นคนรัก  สุภาพบุรุษพึงปฏิบัติต่อลูกอย่างสุภาพและให้เกียรติ เลือกคนที่ดีต่อลูกและทำให้ลูกมีความสุข อย่ายอมรับสิ่งที่น้อยกว่านั้น เพื่อที่ลูกจะได้ไม่เสียใจภายหลัง

คําสอนของแม่ ที่ควรสอนลูกสาว ข้อที่ 9
จงแต่งกายให้เหมาะสม ถูกต้องตามกาลเทศะ อย่าดึงดูดสายตาผู้คนด้วยการแต่งกาย (ล่อแหล่มหรือไม่สุภาพ) เพราะมันไม่ใช่ของจริงแท้สำหรับคนที่จะมาสนใจลูก

เรื่องที่แม่ควรสอนลูกสาว ข้อที่ 10
จงสร้างสัมพันธภาพที่ดีกับผู้คนที่ดี เพราะเขาเหล่านั้นจะช่วยเติมเต็มและทำให้ชีวิตลูกมีความสุข

เรื่องที่แม่ควรสอนลูกสาวข้อที่ 11
อย่ายุ่งกับสารเสพติด และ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือของมึนเมาต่างๆ มากเกินไป เพราะสิ่งเหล่านั้นจะทำให้เกิดอันตราย ยิ่งถ้าเป็นเด็กหรือวัยรุ่นยิ่งอันตราย

เรื่องที่แม่ควรสอนลูกสาว ข้อที่ 12
ขอให้ลูกจำไว้ว่า พ่อจะเป็นฮีโร่และคอยปกป้องลูกเสมอ หากมีใครมาทำร้ายลูก

เรื่องที่แม่ควรสอนลูกสาว ข้อที่ 13
ต้องเรียนรู้วิธีใช้จ่ายเงินอย่างชาญฉลาด ประหยัดและอดออม มีอาชีพที่สามารถหาเลี้ยงตัวเองได้โดยไม่ต้องพึ่งพาใคร

เรื่องที่แม่ควรสอนลูกสาว ข้อที่ 14
จงมีความซื่อสัตย์ต่อตนเองและผู้อื่นเสมอ และสอนให้รู้ว่าผู้หญิงมีสิทธิเท่าเทียมกับผู้ชาย สามารถเลือกทำงานที่ชอบได้ แต่ในขณะเดียวกัน ก็ต้องให้เกียรติผู้ชายด้วย

คําสอนของแม่

คําสอนของแม่ ที่ควรสอนลูกสาว ข้อที่ 15
อดทน อดกลั้น รอคอย อย่ามีเพศสัมพันธ์ก่อนเวลาอันควร จนกว่าจะพบคนที่เหมาะสม ในเวลาที่เหมาะสม

เรื่องที่แม่ควรสอนลูกสาว ข้อที่ 16
อย่าทำชีวิตให้ซับซ้อน ความเรียบง่าย คือ สิ่งที่ลึกซึ้งและคงทน และช่วยให้ลูกไม่เหนื่อยเกินความจำเป็น

เรื่องที่แม่ควรสอนลูกสาว ข้อที่ 17
ยึดมั่นในความดี เชื่อมั่นในศาสนา

เรื่องที่แม่ควรสอนลูกสาว ข้อที่ 18
ให้ลูกรู้สึกขอบคุณทุกสิ่งที่ทำให้ลูกเป็นลูก จะทำให้ลูกเป็นคนอ่อนน้อม และกตัญญูกับทุกคนที่มีบุญคุณกับลูก

เรื่องที่แม่ควรสอนลูกสาว ข้อที่ 19
จงเป็นคนมุ่งมั่น ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคง่ายๆ และหมั่นหาความรู้ใส่ตัวเสมอ

คําสอนของแม่ ที่ควรสอนลูกสาว ข้อที่ 20
และข้อสุดท้าย ขอให้ลูกจงจำไว้ว่า พ่อและแม่รักลูกเสมอ และ รักตลอดไป ลูกสามารถปรึกษา และขอความช่วยเหลือจากคุณพ่อคุณแม่ได้เสมอ

ทั้งนี้การเลี้ยงดูอบรบสั่งสอนลูกสาว ให้เติบโตขึ้นมาอย่างสง่างาม แข็งแกร่ง และพึ่งพาตนเองได้ อาจไม่ใช่เรื่องง่ายนัก สิ่งสำคัญก็คือ คุณพ่อคุณแม่ต้องคอยสอน และเป็นแบบอย่างให้แก่ลูกตั้งแต่ยังเล็กๆ เพื่อที่ลูกสาวของคุณจะได้เติบโตขึ้นมาอย่างงดงามทั้งจิตใจและความคิด มีความเชื่อมั่นในตัวเอง อ่อนโยนแต่ไม่อ่อนแอ และสามารถดูแลตัวเองให้คุณพ่อคุณแม่สบายใจได้

ขอบคุณข้อมูลจาก : www.breastfeedingthai.com

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

ลูกสาว ลูกชาย แตกต่าง และมีข้อดีอะไรบ้าง?

ผิดไหม? ลูกชายชอบเล่นตุ๊กตา ลูกสาวเล่นรถ พ่อแม่ควรทำไงดี!

สูตร (ไม่) ลับ ทำอย่างไร แบบไหน ถึงจะได้ลูกชาย หรือลูกสาว

จริงหรือการ มีลูกสาว ทำให้คนเป็นพ่อเปลี่ยนไป

 

ท้องก่อนวัย

แม้ “ท้องก่อนวัย” แต่แม่ก็รักลูกหมดใจ! เรื่องจริงของแม่วัยใส..ที่หมอสูติอยากแบ่งปัน

event
ท้องก่อนวัย
ท้องก่อนวัย

เรื่องเล่าจากหมอสูติ ปัญหา “ท้องก่อนวัยอันควร” เรื่องจริงของแม่…ที่หมออยากแบ่งปัน ถึงจะเป็น “แม่วัยใส” ท้องก่อนวัย แค่อายุ “15” แต่แม่ก็รักลูกหมดใจ!

“แม้ ท้องก่อนวัย แต่แม่ก็รักลูกหมดใจ”
เรื่องจริงของแม่ที่หมออยากแบ่งปัน!

ปัญหา ท้องก่อนวัย อันควร!! ในสังคมไทย เป็นประเด็นที่ถูกนำเสนออย่างแพร่หลายผ่านสื่อโทรทัศน์และสังคมออนไลน์ ซึ่งกระแสคุณแม่วัยใส ท้องก่อนวัย นั้น เป็นเหมือนดาบ 2 คม … เพราะแม้จะช่วยกระตุ้นให้คนในสังคมตื่นตัวและหันมาให้ความสนใจกับปัญหานี้!! แต่วัยรุ่นที่ไม่มีวุฒิภาวะเพียงพออาจเข้าใจผิด คิดว่าการตั้งครรภ์ในช่วงอายุนี้เป็นเรื่องปกติ

ทั้งที่จริงแล้วการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร หรือ ท้องก่อนวัย อาจส่งผลเสียทั้งทางด้านสุขภาพกายใจ และอาจตามมาด้วยผลกระทบในระยะยาว >> ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่วัยรุ่นวัยเรียนทั้งหลายควรเรียนรู้แนวทางการป้องกันปัญหานี้ หรือในกรณีที่พลาดพลั้งตั้งครรภ์ไปแล้วควรตั้งสติและเรียนรู้วิธีรับมือที่ถูกต้อง

ดังนั้นการพลาดพลั้งซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ ตั้งครรภ์ในวัยรุ่น หรือ ท้องไม่พร้อม สิ่งสำคัญคือ การรับมือกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นไปแล้ว พร้อมความเข้าใจของคนเป็นแม่ … ทีมแม่ ABK จึงมีเรื่องราวของคุณแม่วัยใส ท้องก่อนวัย จากคุณหมอชัญวลี มาฝาก ให้อ่านเป็นข้อคิดเตือนใจ ซึ่งแม้จะเป็นแม่แค่อายุ 15 แต่ก็รักลูกหมดใจ เรื่องราวจะเป็นเช่นไร ทำไมคุณหมอถึงอยากแบ่งปัน ตามมาอ่านกันเลยค่า…

เรื่องเล่าจากหมอสูติ ตอน ถึงเป็น “แม่” ท้องก่อนวัย แค่อายุ 15 แต่หนูก็รักลูกหมดใจ

เสียงคนพลุกพล่านตั้งแต่ตี 3 ตี 4 เสียงยกเปิดประตูเหล็กหน้าบ้านดังกร่างเกร่ง เสียงหัวเราะหยอกล้อคุยกัน เสียงผู้คนเดินผ่านน้ำเฉอะแฉะ เสียงรถเข็นเข็นของอย่างรีบเร่ง นี่เป็นบรรยากาศทุกวันของหน้าบ้านฉันซึ่งอยู่ในตลาดสดเทศบาล

ฉันชื่อดาวเรือง (ชื่อสมมุติ) ลูกแม่ค้าขายผลไม้อยู่ในตลาด แม่ชื่อแม่ผลเป็นคนใจดี แม่มีลูกสองคนคือฉันอายุ 15 ปี กับน้องสาวอายุ 12 ปี ใครๆก็บอกว่าฉันเป็นคนหน้าตาน่ารัก เสียแต่ที่อ้วนไปหน่อย ฉันสูง 160 เซนติเมตร แต่น้ำหนักถึง 80 กิโลกรัม ฉันเรียนหนังสือถึง ม.3 ก็เลิกเรียนเพราะสมองไม่ดีนัก เรียนคาบลูกคาบดอก แต่เรื่องที่สำคัญก็คือฉันได้เสียกับรุ่นพี่จนท้อง ตอนบอกแม่นั้นฉันท้องได้ 3 เดือนเศษแล้ว แม่ไม่ว่าอะไรฉันสักคำ แม้รุ่นพี่ที่เป็นพ่อเด็กจะไม่รับแม่ก็บอกว่า “ช่างมันลูก…และหนูอย่า…อย่าแม้แต่จะคิดที่จะทำแท้ง เราเป็นชาวพุทธ แม่เชื่อเรื่องบาปกรรม ช่างมันเหอะหลานคนเดียวแม่เลี้ยงได้” แล้วแม่ก็พาฉันไปฝากท้องกับหมอที่เคยทำคลอดฉันกับน้องให้แม่ทั้งสองท้อง

วันแรกที่ฝากท้อง หมอทำอัลตร้าซาวนด์ ตรวจเลือด ตรวจน้ำปัสสาวะ และบอกว่า “ท้องได้ 16 สัปดาห์ เด็กดูแข็งแรงดี แต่สงสัยแม่จะเป็นเบาหวาน”

แม่ผลอุทานอย่างตกใจว่า “เป็นเบาหวานหรือหมอ ดาวเรืองอายุแค่ 15 ปีนะ”

หมอตรวจเลือดของฉันอย่างละเอียดสรุปว่าเป็นเบาหวาน โดยหมอคาดว่า ฉันเป็นเบาหวานมาตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์ หมอเลยให้นอนโรงพยาบาล 2 วัน เพื่อตรวจร่างกายโดยละเอียด ตรวจเลือด และคำนวณจำนวนยาฉีดรักษาเบาหวาน สรุปว่าฉันต้องฉีดยาฮอร์โมนเก็บน้ำตาลวันละ 2 ครั้ง หมอถามแม่ผลว่า “แล้วแม่จะให้ใครฉีดยาให้ดาวเรือง ปกติคนท้องคนอื่นๆเขาก็ฉีดตัวเอง แต่ดาวเรืองอายุยังน้อยจะฉีดได้หรือเปล่า” ฉันรู้สึกลูกดิ้นตอนที่ฉันบอกหมอว่า “คุณหมอ หนูฉีดตัวเองได้ค่ะ” “ฉีดได้แน่หรือ” หมอถามอย่างไม่แน่ใจ เมื่อฉันยืนยันว่าฉีดได้ หมอก็ให้พยาบาลสอนวิธีฉีดยาเก็บน้ำตาลที่หน้าขาของฉัน ฉีดเช้าเย็นก่อนอาหาร

อันที่จริงฉันเป็นคนกลัวเข็ม แต่หมอบอกฉันกับแม่ว่า ลูกในท้องของฉันจะปลอดภัยหากฉันคุมน้ำตาลในเลือดไม่ให้สูงเกินไป การฉีดยาเข็มแรกด้วยตัวเอง ฉันกลัวเข็มจนน้ำตาไหล ฉันจดเข็มเข้าเนื้อตัวเองด้วยมือสั่นเทา แต่ในที่สุดฉันก็ทำได้

เมื่อท้องได้ 6 เดือน ฉันมีไข้หนาวสั่น เมื่อไปหาหมอ หมอบอกว่าฉันเป็นกรวยไตอักเสบ เหตุผลเพราะฉันติดเชื้อทางเดินปัสสาวะซึ่งพบมากในคนเป็นเบาหวาน หมอรับฉันไว้ในโรงพยาบาล ฉีดยาฆ่าเชื้อนาน 5 วัน อาการก็เริ่มทุเลาลง ตั้งแต่วันนั้นแม่บอกฉันว่า ไม่ต้องมาช่วยขายผลไม้แล้ว ให้กินกับนอนจนกว่าจะคลอดลูก แม่กลัวหลานในท้องฉันจะเป็นอะไรไป แม้แต่งานบ้านแม่ก็ไม่ให้ทำ แม่ทำเอง แม่เตรียมข้าวเตรียมน้ำให้ฉันก่อนไปขายผลไม้ เมื่อท้องได้ 7 เดือนฉันมีอาการครรภ์เป็นพิษ มีอาการบวมที่แขนขา ความดันโลหิตสูง หมอรับฉันไว้ในโรงพยาบาล ให้ยาเร่งปอดเด็กในท้อง

เมื่อเข้า 8 เดือน (34 สัปดาห์) หมอผ่าคลอดให้ฉันเพราะความดันโลหิตสูงมากจนอาจเกิดอาการชัก ตอนแรกหมอบอกว่าลูกอาจจะไม่รอด ลูกน้อยที่คลอดออกมาเป็นเพศหญิงหนักแค่ 1,600 กรัม ปอดไม่แข็งแรง น้ำตาลในเลือดต่ำ ต้องอยู่ในตู้อบ ให้น้ำเกลือ และให้ยาแก้เรื่องน้ำตาลต่ำตลอดเวลา

เพราะพี่พยาบาลบอกฉันว่า… ลูกเกิดก่อนกำหนดหากได้นมแม่ลูกจะแข็งแรงเร็ว ฉันจึงดื่มน้ำมากๆ แม่เอาไพลมาประคบเต้านม แกงเลียงหัวปลีให้ฉันกินวันละหม้อ น้ำนมของฉันจึงไหลออกมาก ฉันบีบนมตามที่พี่พยาบาลสอน ไปให้ลูกน้อยที่อยู่ในตู้อบทุกวัน เมื่อลูกแข็งแรงพอจะดูดนมได้ ฉันก็ไปให้นมลูก หลายคนแปลกใจว่าเด็กอายุ 15 ปีอย่างฉัน ทำไมให้นมลูกเก่งจัง ครบเดือนลูกก็มีน้ำหนัก 2 กิโลกรัม ได้ออกจากตู้อบและกลับบ้าน

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

แม้ฉันเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว เลี้ยงลูกคนเดียวไม่มีพ่อช่วยเลี้ยง แต่แม่ผลบอกฉันว่า “เราเลี้ยงเขาให้ดีๆ เขาก็จะเป็นคนดี เพราะมันไม่ได้อยู่ที่ว่ามีพ่อแม่ครบถ้วนลูกถึงจะเป็นคนดี” ฉันลืมบอกไปว่า แม่ผลของฉันก็เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว เพราะพ่อฉันได้รับอุบัติเหตุเสียชีวิตตั้งแต่น้องสาวของฉันอยู่ในท้องแม่ อย่างไรก็ตาม ฉันตั้งใจว่าจะเลี้ยงลูกให้ดี ยังไม่มีแฟนใหม่ ในอนาคตหากมีแฟนใหม่ฉันก็คงไม่มีลูกแล้ว เพราะเบาหวานที่เป็นจะทำอันตรายต่อลูก

บันทึกจากหมอ

ตอนนี้ลูกสาวของดาวเรืองอายุ 5 ขวบแล้ว แม้ตัวเล็กกว่าเด็กทั่วไป แต่ก็เป็นเด็กฉลาดหน้าตาน่ารัก ลูกสาวของดาวเรืองไม่ได้เป็นที่รักของแม่และยายผลเท่านั้น แต่เป็นที่รักของคนทั้งตลาด ดาวเรืองเป็นตัวอย่างของเด็กวัยรุ่นที่ตั้งครรภ์และเป็นเบาหวาน เกิดภาวะแทรกซ้อนหลายอย่างจนทำให้ลูกในท้องเกือบเสียชีวิต แต่ในที่สุดลูกก็รอดชีวิต เคสของดาวเรืองนั้น ไม่อาจจะสรุปอะไรได้ดีไปกว่าถ้อยคำที่ว่า “คุณแม่คนดีที่หนึ่งเลย” ซึ่งคุณแม่นั้นไม่ได้หมายถึงเฉพาะดาวเรืองที่ดูแลตนเองเป็นอย่างดีในขณะตั้งครรภ์ กล้าที่จะฉีดยาตนเองทุกวันวันละ 2 เข็ม ตั้งแต่ตั้งท้องจนคลอด แต่ยังหมายถึงแม่ผล แม่ค้าขายผลไม้ ซึ่งมักจะพูดกับหมอเสมอว่า “อะไรดีต่อดาวเรือง หมอก็แนะนำเถอะ ฉันจะทำตามหมอทุกอย่าง เพราะฉันมีความรู้น้อย” นั่นเอง

ขอบคุณบทความจาก พญ.ชัญวลี ศรีสุโข สูตินรีแพทย์ ระดับนายแพทย์เชี่ยวชาญ
หัวหน้าแผนกสูตินรีเวช โรงพยาบาลพิจิตร

รีวิวการ คุมกำเนิดแบบฝังเข็ม กระทู้ดีจากพันทิป!

 

เป็นเบาหวานแล้วตั้งครรภ์ อันตรายแค่ไหน?

ตั้งครรภ์ หลัง 30 ปี เสี่ยงมะเร็งทั้งแม่-ลูกจริงหรือ?

โอกาสท้องของผู้หญิง ในแต่ละวัย มีลูกอายุเท่าไหร่ดีที่สุด?

โอเมก้า 3

รวม 15 ปลาไทย โอเมก้า 3 สูง กินแล้วฉลาด ความจำดี

Alternative Textaccount_circle
event
โอเมก้า 3
โอเมก้า 3

โอเมก้า 3 เป็นกรดไขมันจำเป็นที่ช่วยในเรื่องการทำงานของระบบประสาท ช่วยเพิ่มความจำ ทำให้ฉลาด และไอคิวดี พบมากในปลาทะเลน้ำลึก อย่างปลาแซลมอน ปลาทูน่าปลาซาร์ดีน ปลาซาบะ ปลาแมคคาเรล ซึ่งต้องมีการนำเข้าจากต่างประเทศทำให้มีราคาค่อนข้างสูง แต่คุณแม่ทราบไหมว่า ปลาไทยในบ้านเรา ไม่ว่าจะเป็นปลาทะเลไทย หรือปลาน้ำจืด ก็มีโอเมก้า 3 สูงไม่แพ้ปลาชื่อดังจากต่างประเทศเลย ที่สำคัญ เรายังสามารถซื้อหามารับประทานได้ง่ายๆ ในราคาสบายกระเป๋าอีกด้วยค่ะ

ประโยชน์ของ โอเมก้า 3

มาดูกันก่อนว่า โอเมก้า 3 มีประโยชน์ยังไง? โอเมก้า 3 เป็นกรดไขมันจำเป็นต่อระบบต่างๆ ในร่างกาย เช่น ระบบหลอดเลือดหัวใจ (ช่วยลดความดันโลหิต ช่วยลดไขมันคอเลสเตอรอล ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจขาดเลือดฉับพลัน และ โรคอัมพาต) ระบบประสาท (ช่วยเพิ่มความจำ) สายตา(ช่วยในการมองเห็น) ระบบภูมิคุ้มกัน(ลดอาการภูมิแพ้) ระบบไหลเวียนโลหิต ระบบสืบพันธุ์ ระบบข้อกระดูก

โอเมก้า 3 ช่วยให้ระบบเหล่านี้ทำงานเป็นปกติ แต่ทว่าร่างกายของเราไม่สามารถสร้างโอเมก้า 3 ขึ้นมาเองได้ เราจึงจำเป็นต้องรับกรดไขมันโอเมก้า 3 ผ่านทางอาหารเท่านั้น

ประโยชน์ของโอเมก้า 3 สำหรับคุณแม่ท้อง

กรดไขมันโอเมก้า-3 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง DHA มีความสำคัญในการพัฒนาและการทำหน้าที่ของระบบประสาท ระบบสายตา และระบบสมองของทารกโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 3 เดือนสุดท้ายก่อนคลอด และในช่วง 6 เดือนแรกหลังจากคลอดแล้ว ดังนั้น การได้รับกรดไขมันโอเมก้า 3 ระหว่างตั้งครรภ์เป็นทางเดียวที่จะทำให้ ทารกในครรภ์ได้รับกรดไขมันจำเป็นไปด้วย

ทั้งนี้คุณแม่ตั้งครรภ์ควรกินเนื้อปลาวันละ 2 ช้อนกินข้าวทุกวัน หรือกินเนื้อปลาวันละ 4 ช้อนกินข้าววันเว้นวัน กินร่วมเนื้อหมู เนื้อไก่ ตับ ไข่ ปลาเล็กปลาน้อย ถั่วเมล็ดแห้ง เต้าหู้ ให้ได้เนื้อสัตว์รวมวันละ 12 ช้อนกินข้าวต่อวันอย่างสม่ำเสมอ

ประโยชน์ของโอเมก้า 3 สำหรับเด็ก

โอเมก้า 3 มีประโยชน์อย่างมากต่อการเจริญเติบโตของเด็ก เช่น ช่วยพัฒนาการทำงานของสมองและจิตใจ เพิ่มสมาธิ ความจำระยะสั้น และทักษะในการอ่าน นอกจากนี้ โอเมก้า 3 ยังมีคุณสมบัติต้านการอักเสบ ช่วยปกป้องกระดูก ข้อ และกล้ามเนื้อ ดังนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่เด็กๆ ควรจะได้รับปริมาณโอเมก้า 3 อย่างสมดุล

จริงไหมที่ว่า กินปลาแล้วจะฉลาด?

มีงานวิจัยจากคณะพยาบาลศาสตร์และสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยเพนซิลวาเนีย สหรัฐอเมริกา ตีพิมพ์ในวารสาร Scientific Reports กลางเดือนธันวาคม 2017 โดยตรวจสอบการกินปลาของเด็กวัย 9-11 ปีในประเทศจีนจำนวน 541 คน พบข้อสรุปที่น่าสนใจว่า

  • เด็กที่กินปลาเป็นประจำทุกสัปดาห์มีระดับไอคิวสูงกว่าเด็กที่ไม่กินปลาหรือแทบไม่กินปลาในระดับ 4.8 จุด
  • เด็กที่กินปลาบ้างมีคะแนนไอคิวสูงกว่าเด็กที่ไม่กินปลา 3.3 จุด
  • เด็กยิ่งกินปลามาก การนอนหลับยิ่งมีคุณภาพดี หลับสนิท ตื่นกลางดึกน้อยกว่าเด็กที่ไม่กินปลาหรือกินปลาน้อย

ดังนั้นคำถามที่ว่ากินปลาแล้วฉลาดขึ้นหรือไม่ คำตอบคือ กรดไขมันโอเมก้า 3 เข้าไปสะสมในสมองช่วยให้เด็กมีสภาพการนอนหลับที่สมบูรณ์ขึ้น ผลที่ตามมาคือพฤติกรรมด้านการเรียนรู้ดีขึ้น ก้าวร้าวน้อยลง ใช้เวลากับการเรียนได้มากขึ้น ความฉลาดจึงเป็นผลพวงที่ตามมาจากสภาพการนอนหลับที่ดีขึ้นนั่นเอง

ขอบคุณข้อมูลจาก ดร.วินัย ดะห์ลัน

ประโยชน์ของโอเมก้า 3 สำหรับทุกคน

นอกจากนี้แล้วกรดไขมัน โอเมก้า 3 ยังมีคุณสมบัติ ในเรื่องของความสวยความงาม ผิวสวยหน้าใส สมองสดใส หัวใจแข็งแรง และสุขภาพดีขึ้น โดยเป็นส่วนหนึ่งในการใช้สร้างเยื่อหุ้มเซลล์ช่วยคงความชุ่มชื้นและแข็งแรง ช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและเส้นใยอีลาสติน จึงส่งผลให้ผิวดูอ่อนเยาว์และสดใสรวมไปถึงเส้นผมที่แห้งแตกปลาย

โอเมก้า 3 มีประโยชน์มากมายขนาดนี้  เรามาดูรายชื่อปลาไทยโอเมก้า 3 สูง กันเลยค่ะ ว่าจะมีปลาอะไรบ้าง จะได้รีบซื้อหามารับประทานกัน

รวม 15 ปลาไทย โอเมก้า 3 สูง กินแล้วฉลาด ความจำดี

หมวดปลาทะเล

  1. ปลาจะละเม็ดขาว

ปลาจะละเม็ดขาว
ปลาจะละเม็ดขาว

ปลาจะละเม็ดขาวมีไขมันทั้งหมด 6.8 กรัม มีปริมาณโอเมก้า 6 ที่ 0.03 กรัม และ โอเมก้า 3 ที่ 0.84 กรัม นิยมนำไปทำเมนูนึ่ง เช่น นึ่งบ๊วย นึ่งซีอิ๊ว หรือทอด เช่น ทอดน้ำปลา ทอดขมิ้น ทอดเกลือ หรือผัดเม็ดมะม่วง เป็นต้น

  1. ปลาสำลี

ปลาสำลี
ปลาสำลี

ปลาสำลีมีไขมันทั้งหมด 9.2 กรัม ไม่มีโอเมก้า 6 มีโอเมก้า 3 อยู่ที่ 0.47 กรัม นิยมนำไปทอด ทำปลาสามรส นึ่งสำลี หรือเผาแล้วทานกับน้ำจิ้มซีฟู้ด

  1. ปลากะพงขาว

ปลากะพงขาว
ปลากะพงขาว

ปลากะพงขาวมีไขมัน 3.2 กรัม ไม่มีโอเมก้า 6 มีโอเมก้า 3 อยู่ที่ 0.40 นิยมนำไปทำอาหารได้หลากหลาย ต้ม ผัด แกง ทอด นึ่ง

  1. ปลาอินทรี

ปลาอินทรี
ปลาอินทรี

ปลาอินทรีมีไขมันทั้งหมด 3.2 กรัม ไม่มีโอเมก้า 6 มีโอเมก้า 3 ที่ 0.33 กรัม นิยมนำไปทำอาหารหลากหลาย เช่น ทอด ผัด แกงส้ม นึ่งซีอิ๊ว ทำทอดมัน ยำปลาอินทรีเค็ม เป็นต้น

  1. ปลาทู

ปลาทู
ปลาทู

ปลาทูมีไขมันทั้งหมด 3.8 กรัม มีโอเมก้า 6 อยู่ที่ 0.06 กรัม มีโอเมก้า 3 อยู่ที่ 0.22 กรัม แต่ถ้าปลาทูนึ่งมีไขมันทั้งหมด 3.0 กรัม มีโอเมก้า 6 อยู่ที่ 0.03 กรัม มีโอเมก้า 3 อยู่ที่ 0.18 กรัม ทำอาหารได้ทั้งนึ่ง ทอด ต้มยำ หรือทำน้ำพริกปลาทู โดยใช้เนื้อปลาทูโขลกผสมรวมกับกะปิ และบ้านเรามีขายทั้งปลาทูนึ่งใส่เข่ง และปลาทูสด

  1. ปลาจาละเม็ดดำ

ปลาจะละเม็ดดำ
ปลาจะละเม็ดดำ

ปลาจาระเม็ดดำมีไขมันทั้งหมด 3.6 กรัม มีแต่โอเมก้า 6 อยู่ที่ 0.16 กรัม นิยมนำมาทำเมนูทอด เช่น ทอดน้ำปลา ทอดกระเทียม ราดพริก และเมนูนึ่ง เช่น นึ่งมะนาว นึ่งซีอิ๊ว นึ่งบ๊วย

  1. ปลากะพงแดง

ปลากะพงแดง
ปลากะพงแดง

ปลากะพงแดงมีไขมัน 0.5 กรัม มีโอเมก้า 3 อยู่ที่ 0.10 กรัม สามารถนำไปทำเมนู ข้าวต้ม เมนูนึ่ง ต้มยำ และทอด

  1. ปลาเก๋า

ปลาเก๋า
ปลาเก๋า

ปลาเก๋ามีไขมันทั้งหมด 0.6 กรัม มีโอเมก้า 3 อยู่ที่ 0.08 กรัม สามารถนำมาทำเมนูได้หลากหลาย ทั้งสามรส นึ่งซีอิ๊ว ผัดฉ่า ราดพริก และลวกจิ้ม

หมวดปลาน้ำจืด

  1. ปลาดุก

ปลาดุก
ปลาดุก

ปลาดุกมีกรดไขมันทั้งหมด 14.7 กรัม เป็นปริมาณกรดไขมันไม่อิ่มตัว ชนิดโอเมก้า 6 อยู่ที่ 1.94 กรัม และโอเมก้า 3 อยู่ที่ 0.46 กรัม นิยมนำไปทอดกรอบ ผัดฉ่า เมนูที่มีรสชาติร้อนแรงเพื่อกลบความคาว ที่นิยมกันมากก็น่าจะเป็น ยำปลาดุกฟู นั่นเอง

  1. ปลาสวาย

ปลาสวาย
ปลาสวาย

ปลาสวายมีไขมันทั้งหมด 8.9 กรัม เป็นโอเมก้า 6 อยู่ที่ 0.60 กรัม เป็นโอเมก้า 3 ที่ 0.45 กรัม ปลาสวายอาจจะคาวได้ ดังนั้นวิธีที่นิยมนำมาปรุงอาหารจึงเป็นการทอดกระเทียม หรือนำไปทอดแล้วค่อยราดน้ำยำมะม่วงสับ

  1. ปลาช่อน

ปลาช่อน
ปลาช่อน

ปลาช่อนมีไขมันทั้งหมด 8.5 กรัม มีโอเมก้า 3 ที่ 0.44 กรัม และเป็นโอเมก้า 6 อยู่ที่ 0.77 กรัม นิยมนำไปใส่ในแกงส้ม ปลาช่อนลุยสวน หรือต้มยำ

  1. ปลานิล

ปลานิล
ปลานิล

ปลานิลมีไขมันทั้งหมด 1.8 กรัม มีโอเมก้า 6 อยู่ที่ 0.10 กรัม และโอเมก้า 3 อยู่ที่ 0.12 กรัม ทำอาหารได้หลายอย่างทั้งทอด สามรส ราดพริก นึ่งซีอิ๊ว หรือนึ่งมะนาว

  1. ปลาสลิด

ปลาสลิด
ปลาสลิด

ปลาสลิด ไขมันทั้งหมด 5.9 กรัม เป็นโอเมก้า 6 ที่ 0.19 กรัม มีโอเมก้า 3 อยู่ที่ 0.36 กรัม นิยมนำไปแปรรูปเป็นปลาแห้งหรีอปลาเค็ม

  1. ปลาตะเพียน

ปลาตะเพียน
ปลาตะเพียน

ปลาตะเพียนมีไขมันทั้งหมด 7.4 กรัม เป็นโอเมก้า 6 อยู่ที่ 1.11 กรัม และโอเมก้า 3 อยู่ที่ 0.24 กรัม สามารถนำไปทำเมนู ปลาส้ม ต้มส้ม ต้มเค็ม หรือจะทอดกรอบ ทอดกระเทียม ทอดน้ำปลาก็อร่อย

  1. ปลากราย

ปลากราย
ปลากราย

ปลากรายมีไขมันทั้งหมด 1.2 กรัม เป็นโอเมก้า 6 อยู่ที่ 0.04 กรัม และโอเมก้า 3 ที่ 0.14 กรัม เมนูปลากรายที่เราได้ยินบ่อยๆ คงจะเป็นลูกชิ้นปลากราย ทอดมันปลากราย หรือผัดเผ็ดปลากราย

ตารางสรุปปริมาณกรดไขมันโอเมก้า 3 ในปลาไทย

ปลาไทยโอเมก้า 3 สูง
ปลาไทยโอเมก้า 3 สูง

อย่างไรก็ดี หากต้องการรับประโยชน์จากโอเมก้า 3 ให้มากที่สุด ต้อง “เลือกวิธีปรุงที่ถูกต้อง”ด้วยเพราะโอเมก้า 3 จะสลายไปได้ง่ายเมื่อโดนความร้อนสูง ดังนั้น ควรเลือกนำไปปรุงอาหารด้วยวิธี ต้ม แกง นึ่ง จะได้คุณค่ามากกว่า การนำไปผัด หรือทอด

และที่สำคัญ ควรรับประทานให้ถูกหลักโภชนาการ คือกินอาหารให้หลากหลาย ครบห้าหมู่ สำหรับคนที่ไม่ชอบรับประทานปลา สามารถเปลี่ยนไปรับประทานอย่างอื่นทดแทนที่ได้โอเมก้า 3  อย่าง ไข่แดง และถั่ว ในปริมาณที่พอเหมาะเช่นกัน

อ่านต่อบทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

5 เทคนิคฝึก ลูกกินข้าวเอง ก่อน 2 ขวบ ไม่ต้องตามป้่อนไปจนโต

เคล็ดลับ! บำรุงสมอง ลูกน้อย ด้วยการกินที่ถูกต้อง ตั้งแต่แรกเกิด-3 ขวบ

ขอบคุณข้อมูลจาก กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข, www.matichon.co.th , www.happycare2015.com , health.sanook.com

กลั้นจาม

หมอเตือนอย่าเผลอ กลั้นจาม บ่อย ทำลมเข้าสมอง เสี่ยงหน้าเบี้ยว ปอดทะลุ

account_circle
event
กลั้นจาม
กลั้นจาม

กลั้นจาม ใครๆ ก็ทำกัน ยิ่งช่วงโควิด-19 ระยะ จะจามแบบเต็มที่ เสียงดังให้สะใจก็กลัวคนรอบข้างรังเกียจ ทั้งเอามือปิดปากปิดจมูก บางคนเอามือบีบจมูกแน่นกลัวมีเสียง มีลมออกมา แต่แม่รู้ไหมมีผลเสียมากกว่าดี ทำบ่อยๆ เสี่ยงปอดทะลุ หูดับ ปากเบียว พูดไม่ชัด ลูกบ้านไหนทำแบบนี้ให้รีบหยุดทันที

กลั้นจาม บ่อยไม่ดี ลมอั้นเข้าสมอง เสี่ยงหน้าเบี่้ยว ปอดทะลุ 

ใครจะนึกว่าพฤติกรรมเล็กน้อยในชีวิตประจำวันจะส่งผลร้ายต่อสุขภาพขนาดนี้ นายแพทย์มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์ด้านระบบหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธได้โพต์เตือนผลเสียจากการ กลั้นจาม ให้ประชาชนทั่วไปต้องระวัง

“หลังพบผู้ป่วยหญิงวัยกว่า 80 ปีมาเข้ารับการตรวจรักษาจากอาการ “พูดไม่ชัด นึกคำพูดไม่ออกอยู่ 3 วัน” พร้อมกับมีโรคประจำตัวเป็นเบาหวานและไขมันในเลือดสูงเมื่อปี 2559 หลังตรวจ MRI สมองพบว่ามี “ลมอยู่เนื้อสมองข้างซ้าย (Air pocket)ขนาด  7 x 4 x 3.2 เซนติเมตร จึงให้การรักษาจนหายเป็นปกติ

จนเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2563 คนไข้รายเดิมกลับมาหาหมออีกครั้ง ด้วยอากรผิดปกติเช่นเดิม หลังจากจามแล้วเอามือปิดปากปิดจมูกเพราะไม่อยากให้มีเสียงดัง หลังทำมีอาการพูดไม่ชัด หน้าข้างขวาเบี้ยว หูข้างซ้ายอื้อ มีเสียงดัง ทำคอมพิวเตอร์สมองพบลม (air pocket) ในเนื้อสมองข้างซ้ายขนาด 5.1 × 4.1 × 2.8 เซนติเมตร ตำแหน่งเดิมเหมือนเมื่อ 3 ปี 5 เดือนก่อน แต่ปริมาตรของลมในเนื้อสมองครั้งนี้น้อยกว่า ผู้ป่วยนอนในโรงพยาบาล 4 วัน อาการดีขึ้นช้าๆ กลับบ้านได้

สาเหตุของลมเข้าสมองทั้ง 2 ครั้งของผู้ป่วยรายนี้ คือจามแล้วเอามือปิดจมูกปิดปากพร้อมๆกัน ปกติความแรงของการจามทำให้ลมพุ่งออกจากจมูกและปากด้วยความเร็วสูงถึง 110 กม/ชม เนื่องจากผู้ป่วยรายนี้ปิดจมูกปิดปากขณะจาม แรงดันในช่องปากคงสูงมาก ลมผ่านจากท่อในปากเข้าหูชั้นกลางด้านซ้าย แล้วดันทะลุผ่านกระโหลกใต้สมองเข้าเนื้อสมองด้านซ้าย

นอกจากลมจะรั่วเข้าสมองจากการบังคับไม่ให้จามออกทางปากและจมูกแล้ว ยังมีรายงานแรงดันสูงทำให้ปอดรั่ว แก้วหูทะลุ ผนังช่องคอทะลุ เส้นเลือดในสมองแตกได้อีกด้วย

เพราะฉะนั้นอย่าทำร้ายตัวเองด้วยการเอามือมาปิดจมูกและปากขณะจามเด็ดขาด จามขณะใส่หน้ากากอนามัยไม่เป็นอันตราย เพราะลมสามารถผ่านหน้ากากได้

คำถามชวนสงสัยคือ “ลมไปอยู่ในสมองได้อย่างไร” …

 

กลั้นจาม

จากข้อมูลจากวารสาร BMJ Case Reports ของวันที่ 15 มค 2561 ได้ชี้ให้เห็นถึงอันตรายจากการเอา “มือบีบจมูก” หรือ “เม้มปากขณะจาม” เพื่อให้ลมออก หลังจากซักประวัติคนไข้ก่อนป่วย พบว่า หลายคนเคยใช้มือบีบจมูกขณะจาม หรือเอานิ้วอุดหูข้างขวาและเม้มปากไปพร้อมกัน ทำให้ลมจากการจามออกทางจมูกหรือปากไม่ได้ จึงผ่านไปยังท่อในช่องปากเข้าสู่หูชั้นกลาง แล้วทะลุผ่านกะโหลกเข้าปยังสมองด้านซ้าย

ด้วยเร็วของลมจากการจามที่เร็วถึง 110 กิโลเมตร/ชั่วโมง (ลองนึกถึงลมปะทะตอนขับรถด้วยความเร็วระดับเดียวกัน)  สามารถทำให้อวัยวะในระบบหายใจหายเสียได้ทั้งแต่ ปอดรั่ว แก้วหูทะลุ ผนังช่องคอทะลุ และอาจทำให้เส้นเลือดในสมองแตก หรือลมเข้าไปอยู่ในเนื้อสมองด้วย ฉะนั้นจึงไม่ควรกลั้นจาม หรือปิดช่องทางระบายของลมโดยเด็ดขาด

คอหอยฉีกอาจเกิดจาก“กลั้นจาม”

ภัยของการกลั้นจามยังไม่หมดเพียงเท่านั้น ยังมีผู้ป่วยชาวอังกฤษที่กลั้นจาม  ทำให้เกิดอาการ “คอหอยบวม” ต่อมาก็พูดไม่มีเสียงโดยที่หาสาเหตุไม่ได้  จนเมื่อสแกน MRT ก็พบว่ามีช่องบริเวณด้านหลังคอหอย และมีลมค้างอยู่ใกล้ ๆ กับหลอดลม

ปกติแล้ว ภาวะเนื้อเยื่อคอหอยจฉีกขาดหรือมีรูรั่วฉับพลัยพบได้ไม่บ่อยนัก ส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นกับผู้ป่วยที่มีอาเจียนหรือขย้อนอาหารรุนแรง ไอถี่มาก หรืออาการบาดเจ็บสาหัสบางอย่าง แต่คนที่มีพฤติกรรมกลั้นจาม ทำให้ลมที่อุดตันอยู่พยายามหาทางระบายออกจากร่างกายโดยกระจายตัวผ่านเนื้อเยื่อและกล้ามเนื้อหน้าอก ด้วยความแรงขอลมนี้เอง ส่งผลให้เกิดเสียงดังจากลำคอไปถึงซี่โครง เป็นต้นเหตุของอาการปวดร้าวหน้าอก และภาวะติดเชื้อในลำคอ

กลั้นจาม

การปล่อยให้อากาศแทรกผ่านเนื้อเผื่อของอวัยวะสำคัญยังเกิดขึ้นกับช่องอก ลำคอ รวมถึงสมองผ่านท่อยูสเตเชี่ยน (Eustachain) ซึ่งเชื่อมระหว่างช่องจมูก หูชั้นกลางและเยื่อแก้วหู จึงทำให้แก้วหูแตก หรืออาจจะเป็นสาเหตุเล็ก ๆ ของอาการเส้นเลือดในตาเปราะขาดหรือแตก และความผิดปกติต่อกระบังลมด้วย เมื่อลมผ่านกะโหลกเข้าสู่สมองแล้ว จะทำให้เกิดความผิดปกติมากมาย เช่น  เบลอ พูดไม่ชัด พูดไม่ออก หูดับ หูหนวกถาวรด้วย

จามแบบไหนปลอดภัยที่สุด

การจามเป็นปฏิกิริยาตอบสนองอัตโนมัติของร่างกายเพื่อป้องกันสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจ ดังนั้นจึงไม่ควรปิดกั้นช่องทางระบายลม วิธีที่ถูกต้องเพื่อไม่ให้การจามแพร่เชื้อโรคไปยังผู้อื่น  หากรู้ตัวว่าป่วย มีน้ำจูก คัดจมูก ควรใส่หน้ากากอนามัยป้องกันไว้ เมื่อใช้เสร็จแล้วควรทิ้งอย่างถูกต้อง หรือถ้าไม่ใช่ผู้ป่วย การใส่หน้ากากผ้าก็ช่วยป้องกันละอองได้จากการจามได้ระดับหนึ่ง

ถ้าไม่ได้ใส่หน้ากากอนามัยป้องกันไว้ สามารถจามใส่กระดาษชำระ หรือถ้าเผลอจามแบบไม่ทันตั้งใจ ใช้แค่ต้นแขนป้องจมูกเบาๆ ไม่ต้องบีบจมูก หรือปิดจนมิด เพื่อให้ลมระบายออกมาได้ ที่สำคัญอย่าลืมล้างมือด้วยสบู่และน้ำสะอาดบ่อยๆเพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคระบาดที่เรากำลังตั้งการ์ดสู้กันอยู่ด้วยนะคะ

บทความน่าสนใจอื่นๆ 

5 อันดับยอดฮิต…โรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจในเด็กเล็ก

รวมผลิตภัณฑ์ ยาพ่น และ น้ำเกลือล้างจมูก เลือกแบบไหนดี!

ยาแก้ไอ สําหรับทารก เลือกแบบไหน อย่างไรให้ลูกดี?

 


แหล่งข้อมูลและภาพ  www.facebook.com/หมอมนูญ-ลีเชวงวงศ์-FC  Kapook.com

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

ฝันว่าคลอดลูก

แม่ท้อง ฝันว่าคลอดลูก เป็นลางดีหรือร้ายแล้วคนไม่ท้องล่ะ

Alternative Textaccount_circle
event
ฝันว่าคลอดลูก
ฝันว่าคลอดลูก

ฝันว่าคลอดลูก ฝันว่าคลอดลูกได้ผู้ชาย สำหรับคนท้องฝันจะหมายความยังไงนะ ดีหรือร้ายกันแน่ ถ้าคนไม่ได้ท้องแล้วฝันแบบนี้จะเป็นไปได้ไง รวมคำทำนายมาไว้ที่นี่แล้ว

แม่ท้อง ฝันว่าคลอดลูก เป็นลางดีหรือร้าย แล้วคนไม่ท้องล่ะ?

หลายคนอาจเคยพยายามที่จะจดจำความฝันและสงสัยว่าความฝันเหล่านั้นมีความหมายแฝงอะไรหรือไม่ แต่ความทรงจำเกี่ยวกับความฝันมักเป็นเรื่องราวที่ไม่ชัดเจน และถูกลืมได้ง่าย สาเหตุที่คนจำความฝันได้อาจเกิดจากการที่ร่างกายตื่นในระหว่างที่ฝันจึงสามารถจดจำความฝันที่เพิ่งฝันไปได้ ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าในแต่ละคืนมนุษย์เราเข้าสู่ภาวะฝันประมาณ 6-8 ครั้งต่อคืน แต่ไม่สามารถจดจำความฝันเหล่านั้นได้ ผู้เชี่ยวชาญบางคนเชื่อว่าจริง ๆ แล้วมนุษย์ไม่ได้ลืมเหตุการณ์ที่ตนเองฝัน เพียงแต่ถูกเก็บไว้ในความทรงจำส่วนลึก และไม่สามารถระลึกถึงได้ แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ใกล้เคียงก็อาจทำให้จำความฝันนั้นได้

คนท้องกับความ ฝันว่าคลอดลูก
คนท้องกับความ ฝันว่าคลอดลูก

สาวท้องกับความฝันว่าคลอดลูก

บ่อยครั้งที่เราฝันพร้อมตื่นขึ้นมาและยังคงจำความฝันเหล่านั้นได้ดี ไม่ว่าจะเป็นฝันร้าย หรือดีก็ตาม จึงไม่แปลกอะไรที่คนที่กำลังตั้งท้องจะฝันว่าคลอดลูก เนื่องจากความฝันก็เป็นส่วนหนึ่งในการระบายความวิตกกังวลของมนุษย์ เมื่อเรากำลังอยู่ในภาวะที่ไม่แน่นอน ไม่แน่ใจ กังวลต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ก็เป็นการกระตุ้นให้สมองรับรู้ และเมื่อเกิดภาวะความเครียดมาก ๆ สมองจึงสั่งการให้ปกป้องตนเองด้วยการปลดปล่อยทางความฝัน

นักวิทยาศาสตร์ไม่สามารถอธิบายวิธีการหรือเหตุผลที่เราฝัน ซึ่งผู้ที่เริ่มสนใจเรื่องนี้คือ ซิกมอนด์ฟรอยด์ มีความเชื่อว่า ความฝันเป็นวาล์วนิรภัยของจิตใจในระดับจิตไร้สำนึก โดยทั่วไปแล้ว ช่วงหลับฝันจะเริ่มขึ้นเมื่อเกิดการส่งสัญญาณจากส่วนก้านสมองไปยังสมองส่วนธาลามัส เพื่อถ่ายทอดสัญญาณดังกล่าวไปยังชั้นสมองส่วนนอกที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการเรียนรู้ กระบวนการคิด และการจัดการข้อมูล ขณะที่เซลล์สมองส่งสัญญาณนั้น ร่างกายจะหยุดการทำงานของเซลล์ประสาทตรงไขสันหลัง ส่งผลให้กล้ามเนื้อแขนขาขยับไม่ได้ชั่วขณะ หากบางสิ่งเข้ามากระทบกระบวนการนี้ ร่างกายจะเกิดปฏิกิริยาตอบโต้ออกมานอกฝัน เช่น ผู้ที่ฝันว่าเล่นกีฬาอยู่อาจวิ่งไปที่เก้าอี้หรือตีคนที่นอนอยู่ข้าง ๆ หากในฝันกำลังแข่งขันกับคู่ต่อสู้ อย่างไรก็ดี อาการตอบโต้มักเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก

ดังนั้นคนท้องที่ฝันว่าคลอดลูกนั้น ส่วนหนึ่งจึงอาจตีความได้ว่าเกิดจากความกังวลใจไม่ว่าจะเป็นเรื่องสรีระ อยู่ในภาวะใกล้คลอด ไตรมาสสุดท้าย หรือเป็นท้องแรกจึงทำให้เกิดความกังวลในช่วงเวลาคลอด กลัวความเจ็บปวด เป็นต้น สมองจึงสร้างภาพบรรยากาศการคลอดขึ้นมาจากความกังวลใจนั่นเอง

สาวโสด แต่ทำไมถึงฝันว่าคลอดลูกได้ล่ะ!!

คนตั้งท้อง แล้วฝันเกี่ยวกับเรื่องการคลอดลูก คงไม่ใช่เรื่องแปลก พอหาเหตุผลมาสรุปความได้ไม่ยาก แต่แล้วทำไมสาว ๆ บางคนถึงได้ฝันว่าคลอดลูกได้กันนะ สาเหตุในบางทีอาจเกิดจากความเครียด กังวลลึก ๆ ในจิตใจของเราเองที่กังวลเกี่ยวกับเรื่องคู่ครอง ความต้องการที่จะมีบุตร ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้หญิงส่วนใหญ่ตั้งเป้าหมายในชีวิต ก็อาจเป็นต้นเหตุให้เกิดความฝันแปลก ๆ เช่นนี้ได้เช่นกัน

สาวโสดกับความ ฝันว่าคลอดลูก ได้ไหม
สาวโสดกับความ ฝันว่าคลอดลูก ได้ไหม

แต่ถึงกระนั้นก็มีนักวิทยาศาสตร์บางคนเชื่อว่า ความฝันเป็นความพยายามของสมองในการค้นหาความหมายในสัญญาณสุ่มที่ได้รับระหว่างการนอนหลับ REM(rapid eye movement) ทฤษฎีหนึ่งแสดงให้เห็นว่า สมองมีความพยายามในการจัดระเบียบ และตีความสัญญาณ “เรื่องราว” ออกมาจากการทำงานของสมองที่แยกส่วน จึงทำให้หลาย ๆ คนเกิดความเชื่อ และต้องการตีความหมายของความฝันนั้น ๆ ออกมา โดยอาจออกมาในรูปแบบความเชื่อ ความศรัทธาของแต่ละท้องถิ่น แต่ละวัฒนธรรม

สำหรับคนที่ฝันว่าตนเองคลอดลูก หรือฝันเห็นคนคลอดลูก หรือฝันเห็นเกี่ยวกับการคลอดบุตร ไม่ว่าจะเป็นคนที่แต่งงานมีครอบครัวแล้วหรือไม่ก็ตาม ทีมแม่ ABK ขอรวมคำทำนายฝันเกี่ยวกับการคลอดลูกมาไว้ที่นี่

ฝันว่าคลอดลูก

ผลคำทำนาย การมีบุตร หมายถึง การเปลี่ยนแปลง และต้องจัดสรรค่าใช้จ่าย ดังนั้นคนโบราณส่วนหนึ่งจึงตีความหมายว่า กำลังจะมีการเจรจา ติดต่อการค้า ที่ประสบความสำเร็จ มีการเงินที่คล่องตัวมากขึ้น แต่เป็นการหมุนเวียนเงินระยะสั้น ควรมีสติ ไม่ประมาท การเสี่ยงโชค ทิศเหนือเป็นทิศมงคลสำหรับคุณ สิ่งที่คุณหวังไว้จะได้สมหวังดังคิด เหมือนเนรมิตได้ดังตาเห็น อาจเกิดเหตุขัดข้องเกิดขึ้นเล็กน้อย ทำให้กิจวัตรประจำวันไม่ราบรื่น

ความรัก ช่วงนี้ควรระวังเนื้อระวังตัวให้มาก อย่าปล่อยเนื้อปล่อยตัวเกินไป จะต้องระวังเรื่องคนรักมีเกณฑ์นอกลู่นอกทาง คุณต้องเอาใจใส่คนรักให้ดีนะ ระวังจะมีเรื่องที่ต้องขัดแย้งและทะเลาะเบาะแว้งกับคนรักอย่างรุนแรง

ดวงการเงิน การงาน จะพบกับปัญหาที่ยังไม่มีทางออก หรือยังแก้ไขไม่ได้ในระยะนี้ ต้องมีความอดทนสูงมาก จะหาเงินได้ก้อนใหญ่จากกิจการที่คุณทำอยู่ และอาจมีผู้มาร่วมลงทุนกับคุณ เพิ่มมากขึ้นแต่ให้ระวังเรื่องการแบ่งปันผลประโยชน์ที่ไม่ลงตัว หากเรียกร้องเก็บหนี้สินจากใครต้องใช้เวลานาน และต้องอดทนพอสมควรถึงจะสามารถเก็บได้หมด

เลขมงคล เด่นนำโชค 2 4 9

เลขมงคล เด่นรอง 08 14 71 86 31 97

ฝันว่าคลอดลูกได้ผู้ชาย ฝันว่าคลอดลูก
ฝันว่าคลอดลูกได้ผู้ชาย ฝันว่าคลอดลูก

ฝันเห็นคนคลอดลูก

ผลคำทำนาย ดวงคุณกำลังไปได้สวยมีคนมาช่วยอยู่ไม่ขาดสาย จะมีโอกาสพบปะสังสรรค์กับเพื่อนเก่าหรือมีงานสังคมอยู่บ่อยครั้ง คุณจะเจอเรื่องเครียด และแรงกดดัน ต้องรับภาระหลายอย่าง

ความรัก คนไม่โสดอย่าคิดแม้แต่จะมีกิ๊ก เพราะจะมีแต่ความยุ่งยาก วุ่นวายตามาอย่างไม่คาดฝัน ช่วงนี้ดวงความรักของคุณกำลังเด่น ระวังแฟนเก่าของคุณจะกลับมาขอคืนดี มีดวงว่าคนรักของคุณจะมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับคนที่คุณสงสัยนั่นแหละ

ดวงการเงิน การงาน การงานของคุณไม่สู้จะดีนัก โดยเฉพาะการประสานงานติดต่ออาจจะมีความขัดแย้งและไม่เห็นด้วยเกิดขึ้น เงินทองที่ใช้จ่ายไม่ต้องเป็นห่วง ใช้ไปเท่าไหร่ก็จะได้กลับมาเท่านั้น แต่ก็ประหยัดไว้บ้างก็ดี ใครที่คิดจะซื้อจะหาอะไรให้ ดูกำลังทรัพย์ของตัวเองด้วยไม่งั้นจะทุกข์มากกว่าสุข

เลขมงคล เด่นนำโชค 1 4

เลขมงคล เด่นรอง 00 99 43 844 287 161

ฝันว่าคลอดลูกได้ผู้ชาย

ผลคำทำนาย ระยะนี้ท่านจะติดต่อกับคนต่างชาติหรือมิตรสหายที่เป็นคนต่างถิ่นต่างภาค พวกเขาเหล่านี้จะนำลาภมาให้ ให้ระวังการปวดข้อกระดูก ปวดหลัง จะมีเรื่องให้ต้องครุ่นคิดอย่างลึกซึ้งมากมาย จะมีความกังวลมากกว่าปกติ

ความรัก คนที่มีกิ๊กจงระวังไว้ เพราะอีกไม่นานงานจะเข้าคุณ งานนี้อาจถึงเลิกลากันไปเลยก็ได้ ใครที่ชอบมีความรักแบบปิดบังซ่อนเร้น ช่วงนี้จะรู้สึกร้อนรุ่ม เพราะกลัวความลับถูกเปิดเผย เรื่องรักของคุณไม่ถือว่าราบรื่น มีงอน มีหึงหวง มีทะเลาะเบาะแว้งบ้าง เรียกว่าคู่ทรหดก็คงได้

ดวงการเงิน การงาน เป็นช่วงที่รับงานหนักให้อดทนไปก่อน แล้วผลที่ตามมาก็จะดีเอง จะได้รับความเห็นใจจากเจ้านาย คุณจะใช้จ่ายมากไปสักนิดในสิ่งที่ไร้ประโยชน์ ควรเก็บ ๆ ไว้บ้าง คนทำธุรกิจอิสระจะมีโอกาสเจริญก้าวหน้าเป็นอย่างดี

เลขมงคล เด่นนำโชค 5

เลขมงคล เด่นรอง 13 26 47 71 37 208

ฝันเห็นคนคลอดลูก
ฝันเห็นคนคลอดลูก

ฝันว่าคลอดลูกได้ผู้หญิง

ผลคำทำนาย การเสี่ยงโชค ทิศเหนือเป็นทิศมงคลสำหรับคุณ ระวังจะมีปัญหาความขัดแย้งกับคนใกล้ชิด ระวังต้องทุกข์ยากลำบากใจด้วยเหตุซึ่งเกิดจากบุคคลซึ่งมีวัยอ่อนกว่า!

ความรัก คนที่คุณรักดูเหมือนจะเป็นที่ต้องตาต้องใจของคนอื่น ๆ ด้วย คู่รักที่คบกันมานาน ถึงเวลาแล้วที่จะได้ประกาศฤกษ์ดีเสียที อย่าอยู่ใกล้เพศตรงข้าม เพราะมีโอกาสหวั่นไหวต่อกันสูง

ดวงการเงิน การงาน งานที่ใช้การเจรจาจะสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี หรือถ้าติดขัดก็จะสามารถนำพาให้ผ่านพ้นไปได้ เงินพิเศษจะมาจากการบริการที่ถูกใจคนอื่น สินค้าที่เกิดจากไอเดียใหม่ ๆ กิจการทั้งปวงซึ่งต้องสัมพันธ์หรือต้องติดต่อกับต่างประเทศอาจมีอุปสรรค เพราะการสื่อสารที่ไม่เข้าใจกัน

เลขมงคล เด่นนำโชค 3

เลขมงคล เด่นรอง 596 566 078 150

ฝันว่าคลอดลูกแฝด

ผลคำทำนาย ดวงคุณกำลังไปได้สวยมีคนมาช่วยอยู่ไม่ขาดสาย ระวังคำพูด จะนำไปสู่การทะเลาะเบาะแว้ง เพื่อนหรือผู้ที่คุณคุ้นเคยเป็นอย่างดีจะทำตัวห่างเหิน

ความรัก คนโสดอาจจะมีเรื่องรักซ้อนเข้ามาสอดแทรกให้ยุ่งยากใจได้ ผู้ที่มีคนรักแล้วจะได้ของขวัญที่ถูกใจจากคนรัก คนรักก็เอาใจเก่ง พูดจาหวานหู ดูแล้วน่าอิจฉาจัง คุณมีโอกาสที่จะพบกับปัญหาความไม่เข้าใจกัน และเกิดอาการบันดาลโทสะได้ง่าย ๆ

ดวงการเงิน การงาน มีเรื่องใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของตนเอง หรือกับบริวาร คนรอบข้าง ระวังจะเสียเงินก้อนหนึ่งไปกับเหตุการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก หรือเสียเพราะคนอื่น หยิบจับทำอะไรก็งอกเงยเป็นดอกผล

เลขมงคล เด่นนำโชค 2 3 9

เลขมงคล เด่นรอง 18 29 66 133

คนท้อง ฝันว่าคลอดลูก อาจเพราะความกังวลช่วงใกล้คลอด
คนท้อง ฝันว่าคลอดลูก อาจเพราะความกังวลช่วงใกล้คลอด

คำทำนายไม่ว่าจะดีหรือร้าย ก็ขอให้สาว ๆ ทั้งหลายมองเห็นเป็นเรื่องสนุก ๆ ขำ ๆ เพราะแม้แต่เหตุผลทางด้านวิทยาศาสตร์ก็ไม่สามารถให้คำตอบฟันธงกับเราได้ว่า ความฝันเกิดจากอะไร ดังนั้นคำทำนายความฝัน ก็คงไม่สามารถกำหนดชะตาชีวิตของเราได้ดีไปกว่าตัวเราเองเป็นแน่ ยิ่งโดยเฉพาะคนที่กำลังจะเป็นแม่คนด้วยแล้ว หากคุณกำลังตั้งท้องและฝันว่าคลอดลูก ก็อยากให้หากิจกรรมอื่น ๆ มาผ่อนคลายความกังวลใจของตนเองลงบ้าง เช่น ดูหนัง ฟังเพลง อ่านหนังสือ หรือนั่งสมาธิ ก็จะช่วยลดความกังวล ที่อาจเป็นสาเหตุทำให้เราฝันแปลก ๆ ก็เป็นได้ เพราะจิตใจที่เบิกบานก็ย่อมส่งผลดีต่อลูกในท้องด้วยเช่นกัน

ข้อมูลอ้างอิงจาก www.pobpad.com/ กรมสุขภาพจิต /www.thairath.co.thhoroscope.mthai.com

อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

ทำนายฝันแม่ ๆ ฝันแบบนี้ได้ลูกชายหรือลูกสาว?

ฝันว่าตัวเองท้อง ลางดีหรือลางร้าย? ฝันแบบไหนถึงได้ลูก?

ทรงผม สีผมตามวันเกิด เสริมดวง เสริมราศี หนุนนำทรัพย์!

50 แนวทาง เป็นพ่อแม่ที่ดี วิธีเป็นสุดยอดพ่อแม่มีแค่นี้!

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

ตั้งชื่อลูกมงคล

ตั้งชื่อลูกมงคล 333 ชื่อที่แปลว่าทรัพย์สมบัติ ตั้งแล้วลูกร่ำรวยเงินทอง เรียกโชคให้พ่อแม่

event
ตั้งชื่อลูกมงคล
ตั้งชื่อลูกมงคล

รวมไอเดีย ตั้งชื่อลูกมงคล ใครอยากรวย ลูกเกิดมาให้โชคให้ลาภ มีเงินเหลือใช้ มีทรัพย์สมบัติมากมาย ลองตั้งชื่อมงคล ชื่อที่แปลว่าทรัพย์สมบัติ ชื่อความหมายร่ำรวย เหล่านี้ดูเลย!

ตั้งชื่อลูกมงคล 333 ชื่อที่แปลว่าทรัพย์สมบัติ
ตั้งแล้ว ลูกร่ำรวย เรียกโชคให้พ่อแม่

สำหรับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์และมองหาไอเดีย ตั้งชื่อลูกมงคล ชื่อดี มีความหมายที่แปลว่าร่ำรวย โตมาพร้อมทรัพย์สมบัติ พาพ่อแม่รุ่งเรื่อง มีแต่เจริญๆ ชื่อใช้แล้วรวย จะมีอะไรบ้าง ทีมแม่ ABK ได้คัดเลือกชื่อจริงลูกชาย ชื่อจริงลูกสาว พร้อมคำอ่าน และคำแปล ชื่อที่แปลว่าทรัพย์สมบัติ ชื่อความหมายร่ำรวย กว่า 300 ชื่อ มาฝาก ตามมาดูกันเลยค่า…

ตั้งชื่อลูกมงคล ชื่อลูกชาย ชื่อที่แปลว่าทรัพย์สมบัติ
ลูกใช้แล้วร่ำรวย เรียกโชคให้พ่อแม่

ตั้งชื่อลูกมงคล คำอ่าน ความหมาย
กนกพล กะ – หนก – พน มีพลังคือทอง
กฤตภัค กริด – ตะ – พัก ได้โชค,มีโชค
ชนธน ชะ – นะ – ทน คนผู้มั่งคั่ง
ธนกร ทะ – นะ – กอน สร้างทรัพยสมบัติ
ธนิสร ทะ – นิ – สอน เจ้าแห่งทรัพย์
ธนกฤต ทะ – นะ – กริด สร้างทรัพย์, ทำเงิน
ธนชนม์ ทะ – นะ – ชน เกิดมามีทรัพย์สิน
ธนญภพ ทะ – นน – พบ มีความร่ำรวยทั่วแผ่นดิน
ธนดล ทะ – นะ – ดน บันดาลทรัพย์
ธนทัต ทะ – นะ – ทัด ให้ทรัพย์สมบัติ
ธนพนต์ ทะ – นะ – พน มีทรัพย์สมบัติ
ธนพล ทะ – นะ – พน มีทรัพย์เป็นกำลัง
ธนพัต ทะ – นะ – พัด มีทรัพย์
ธนภณ ทะ – นะ – พน พูดดีมีทรัพย์
ธนรรฆ ทะ – นัก สิ่งมีค่าคือทรัพย์
ธนวัจน์ ทะ – นะ – วัด ทรัพย์สินเงินทอง
ธนวัฒน์ ทะ – นะ – วัด เจริญด้วยทรัพย์
ธนัญชัย ทะ – นัน – ไช มีชัยชนะเรื่องทรัพย์
ธนันปภัค ทะ – นัน – ปะ – พัก ร่ำรวยและมีโชคดี
กนกพล กะ – หนก – พน มีพลังคือทอง
ปรัชญ์ธนัช ป – รัด – ทะ – นัด ปราชญ์ผู้ร่ำรวย
พฤทธ์ธนัย พรึด – ทะ – ไน ปราชญ์ผู้มีทรัพย์
พัศธนญ พัด – ทะ – นน มีทรัพย์และความกล้าหาญ
ภคนท พะ – คะ – นด มีโชคกว้างดั่งแม่น้ำ
มหัทธน์กร มะ – หัด – ทะ – กอน ผู้สร้างทรัพย์สมบัติ

 

ตั้งชื่อลูกมงคล ชื่อลูกชาย ชื่อที่แปลว่าทรัพย์สมบัติ
ลูกใช้แล้วร่ำรวย เรียกโชคให้พ่อแม่

ตั้งชื่อลูกมงคล คำอ่าน ความหมาย
วรลภย์ วอ – ระ – ลบ มีลาภอันประเสริฐ
ศตรรฆ สะ – ตัก มีราคาหนึ่งร้อย
สรธัญ สอ – ระ – ทัน มีโชคอย่างวิเศษ
อนันต์ธวัช อะ – นัน – ทะ – วัด มีทรัพย์มากล้น
ธนพนธ์ ทะ – นะ – พน รวบรวมทรัพย์สิน
ธนลภย์ ทะ – นะ – ลบ ได้ทรัพย์
วรธน วอ – ระ – ทน มีทรัพย์อันประเสริฐ
ธนชิต ทะ – นะ – ชิด ชนะด้วยทรัพย์
ธนโชติ ทะ – นะ – โชด รุ่งเรืองด้วยทรัพย์, มีทรัพย์ม
ธนดล ทะ – นะ – ดน บันดาลทรัพย์
ธนดุล ทะ – นะ – ดุน มีทรัพย์นับไม่ได้, มีทรัพย์มาก
ธนทัต ทะ – นะ – ทัด มีทรัพย์
ธนธรณ์ ทะ – นะ – ทอน ทรงไว้ซึ่งทรัพย์, มั่งมี
ธนนันท์ ทะ – นะ – นัน ยินดีในทรัพย์
ธนบูรณ์ ทะ – นะ – บูน เต็มไปด้วยทรัพย์, มีทรัพย์มาก
ธนพนธ์ ทะ – นะ – พน รวบรวมทรัพย์
ธนวัตน์ ทะ – นะ – วัด เจริญด้วยทรัพย์
ธนวันต์ ทะ – นะ – วัน มีทรัพย์
ธนวิชญ์ ทะ – นะ – วิด มีความรู้เรื่องทรัพย์
ธนวินท์ ทะ – นะ – วิน ได้ทรัพย์สิน, มีทรัพย์
ธนัช ทะ – นัด เกิดจากทรัพย์, คนร่ำรวย
ธนัฐ ทะ – นัด ดำรงอย่างมีทรัพย์
ธนัท ทะ – นัด ผู้ให้ทรัพย์, ผู้ร่ำรวย
ธนาดุล ทะ – นา – ดุน มีทรัพย์นับไม่ได้
ธนาธิป ทะ – นา – ทิบ ยิ่งใหญ่ด้านทรัพย์

 

ตั้งชื่อลูกมงคล ชื่อลูกชาย ชื่อที่แปลว่าทรัพย์สมบัติ
ลูกใช้แล้วร่ำรวย เรียกโชคให้พ่อแม่

ตั้งชื่อลูกมงคล คำอ่าน ความหมาย
ธเนษฐ ทะ – เนด ร่ำรวยสุด
ธัญทัต ทัน – ยะ – ทัด ให้โชค
ธานิน ทา – นิน มีทรัพย์
ธีร์ธนัฐ ที – ทะ – นัด ปราชญ์ผู้มีทรัพย์มั่นคง
ธีร์ธเนส ที – ทะ – เนด มีความรู้ดีและเป็นเจ้าแห่งทรัพย์
ธีวสุ ที – วะ – สุ ทั้งฉลาดทั้งมีทรัพย์
เปรมธนัน เปรม – ทะ – นัน มีทรัพย์และความเจริญก้าวหน้าที่สูงส่ง
พสุธันย์ พะ – สุ – ทัน มีทั้งทรัพย์และโชคลาภ
พิตตินันท์ พิด – ติ – นัน เพลิดเพลินในทรัพย์สมบัติ
ภูธนัญ พู – ทะ – นัน มีทรัพย์มากล้นสูงส่ง
ศุภธเนสร์ สุ – พะ – ทะ – เนด ดีงามและเป็นเจ้าแห่งทรัพย์
เศรษฐปสิทธิ์ เสด – ปะ – สิด ผู้สำเร็จและเป็นเศรษฐี
สุราทัส สุ – รา – ทัด มั่งคั่ง
หิรัณย์ หิ – รัน ทองคำ
หิรัณยวัต หิ – รัน – ยะ – วัด ประกอบด้วยทอง
จิรสิน จิ – ระ – สิน มีทรัพย์ตลอดกาลนาน
ทัดธน ทัด – ทน ผู้ให้ทรัพย์ ผู้มีทรัพย์ที่คนอื่นให้
ธเนศพล ทะ – เนด – พน กำลังของผู้ยิ่งใหญ่ด้วยทรัพย์
บัณฑัต บัน – นะ – ทัด ผู้ให้ทรัพย์สิน
ประลภย์ ประ – ลบ ได้รับ ได้กำไร
พชร พด – ชะ – ระ เพชร
พสิษฐ์ พะ – สิด ดีที่สุด ร่ำรวยที่สุด
พหุธน พะ – หุ – ทน มีทรัพย์มาก
พิตรพิบูล พิด – พิ – บูน มีทรัพย์สมบัติมากมาย
วรธน วอ – ระ – ทน มีทรัพย์อันประเสริฐ

 

ตั้งชื่อลูกมงคล ชื่อลูกชาย ชื่อที่แปลว่าทรัพย์สมบัติ
ลูกใช้แล้วร่ำรวย เรียกโชคให้พ่อแม่

ตั้งชื่อลูกมงคล คำอ่าน ความหมาย
พิพิธธน พิ – พิด – ทน มีทรัพย์มากมาย มีทรัพย์ต่าง ๆ
รชต ระ – ชด เงิน
ลภน ละ – พน การได้ ลาภ
ลาภิน ลา – พิน ผู้มีลาภ
ลาภิศ ลา – พิด เจ้าแห่งลาภ มีลาภได้มาก
วรธน วอ – ระ – ทน มีทรัพย์อันประเสริฐ
วิภพ วิ – พบ ทรัพย์สมบัติ ความเจริญ
ศุภสิน สุ – พะ – สิน สินทรัพย์ที่ดีงาม
กันต์ธนวุฒิ กัน – ทะ – นะ – วุด มีทรัพย์เจริญและเป็นที่รัก
กานต์นิธิ กาน – นิ – ทิ ทรัพย์น่าปราถนา
ณัฏฐ์ธนัญ นัด – ทะ – นัน ปราชญ์ผู้มีทรัพย์และอื่นๆ
ถิรธนา ถิ – ระ – ทะ – นา มั่นคงในทรัพย์
ธนชิต ทะ – นะ – ชิด ชนะด้วยทรัพย์
ธนัชญ์ ทะ – นัด รู้เรื่องทรัพย์สมบัติ
ธนิก ทะ – นิก มีทรัพย์ หรือผู้ร่ำรวย
นัทธ์ธัญธนิน นัด – ทัน – ทะ – นิน ผูกพันกับความโชคดีและร่ำรวย
นิธิ นิ – ทิ ขุมทรัพย์
รัชชานนท์ รัด – ชา – นน ยินดีในสมบัติ
รัตนโกศ รัด – ตะ – นะ – โกด คลังเพชรพลอย
วีรวัต วี – ระ – วัด มั่งมี
เวทัส เว – ทัด ทรัพย์สมบัติ
สินมหัต สิน – มะ – หัด มีทรัพย์สินมาก
อนณ อะ – นน ผู้ไม่มีหนี้
อัฑฒ์ อัด ชายผู้ร่ำรวย
โอบนิธิ โอบ – นิ – ทิ กอบเอาขุมทรัพย์ ร่ำรวย

 

ตั้งชื่อลูกมงคล ชื่อลูกชาย ชื่อที่แปลว่าทรัพย์สมบัติ
ลูกใช้แล้วร่ำรวย เรียกโชคให้พ่อแม่

ตั้งชื่อลูกมงคล คำอ่าน ความหมาย
ชาครีย์วสุ ชา – คะ – รี – วะ – สุ ทรัพย์สินของผู้ตื่นอยู่เสมอ
บุลวัชร บุน – ละ – วัน มีเพชรมาก
บุลากร บุ – ลา – กอน บ่อเกิดอันไพศาล, ขุมทรัพย์มหาศาล
บูรณ์พิภพ บูน – พิ – พบ มีสมบัติมาก, เต็มไปด้วยสมบัติ
ปณรรฆ ปะ – นัก มีค่า
ปริพรรห์ ปะ – ริ – พัน ทรัพย์สมบัติ
ปริพรรห์ ปะ – ริ – พัน ทรัพย์สมบัติ
พฎาศรัย พะ – ดา – ไส ชื่อท้าวกุเวร เจ้าแห่งทรัพย์
พสิษฐ์ พะ – สิด ดีที่สุด, ร่ำรวยที่สุด
พหุสุวรรณ พะ – หุ – สุ – วัน มีทองมาก
พัสวี พัด – สะ – วี มีทรัพย์
ไพรำ ไพ – รำ ทอง แก้วมีค่า เพชร
ลภัสกร ละ – พัด – สะ – กอน สร้างทรัพย์, มีทรัพย์
วสุพล วะ – สุ – พน มีกำลังทรัพย์, เศรษฐี
ศรวัส สอ – ระ – วัด ชื่อเสียง, ทรัพย์สมบัติ
ศฤงคาร สะ – หริง – คาน สมบัติ ความรัก
อรรฆย์พสุ อัก – คะ – พะ -สุ มีทรัพย์สินอันมีค่ายิ่ง
อริญชัย อะ – ริน – ไช ผู้ชนะศัตรู
ปาณชัย ปาน – นะ – ไช ชนะสิ่งมีชีวิตทั้งปวง ชนะทุกคน
กาญจน์ธนัศ กาน – ทะ – นัด เป็นเจ้าแห่งทรัพย์และมีค่าดั่งทองคำ
กิตติ์ธนัญนภ กิด – ทะ – นัน – นบ มีเกียรติร่ำรวยดั่งฟ้ากว้าง
กิตติ์ธนา กิด – ทะ – นา มีทรัพย์และชื่อเสียง
ทัตธน ทัด – ทน ให้ทรัพย์สมบัติ
ธนัญสิชณ์ ทะ – นัน – สิด ความสำเร็จในการสร้างทรัพย์
ธมธเนศ ทม – มะ – เนด ยิ่งใหญ่และเป็นเจ้าแห่งทรัพย์

 

ตั้งชื่อลูกมงคล ชื่อลูกชาย ชื่อที่แปลว่าทรัพย์สมบัติ
ลูกใช้แล้วร่ำรวย เรียกโชคให้พ่อแม่

ตั้งชื่อลูกมงคล คำอ่าน ความหมาย
พสิษฐ์ พะ – สิด ดีที่สุด, ร่ำรวยที่สุด
พสุมนต์ พะ – สุ – มน มีทรัพย์, ร่ำรวย
พิเชฐธนัท พิ – เชด – ทะ – นัด ร่ำรวยอย่างประเสริฐสุด
ภาณุเมศธนัน พา – นุ – เมด – ทะ – นัน ร่ำรวยยิ่งใหญ่ดุจพระอาทิตย์
โภคิน โพ – คิน ผู้มีทรัพย์สมบัติ
มหัทธนะกิตติ์ มะ – หัด – ทะ – นะ – กิด มีชื่อเสียงและร่ำรวยยิ่ง
ศุภ์กฤศธเนส สุ – กริด – ทะ – เนด มีการกระทำที่ดีและร่ำรวย
สหัต สะ – หัด มั่งคั่ง
สัจธน สัด – จะ – ทน มีความจริงเป็นทรัพย์
กัญจน์ กัน ทอง
กนกรัชต์ กะ-หนก-รัด มีทั้งทองและเงิน
กมลเทพ กะ – มน – เทพ เทพแห่งทรัพย์, เทพผู้มีจิตใจสูง
กลวัชร กน – ละ – วัด ดุจดังเพชร
ไกรธนวิชญ์ ไกร – ทะ – นะ – วิด มีความร่ำรวยเกรียงไกร
มหัทธนะกิตติ์ มะ – หัด – ทะ – นะ – กิด มีเกียรติและร่ำรวยยิ่ง
วิธวินท์ วิด – ทะ – วิน ได้สิ่งแปลก ๆ มีลาภเสมอ
อนนต์ อะ – นน ไม่มีที่สุด,มากมาย
อนรรฆ อะ – นัก หาค่ามิได้,มีค่ามากมาย
อรรถกฤต อัด – ถะ – กริด ที่ให้ทรัพย์และผลประโยชน์
อรรถชาติ อัด – ถะ – ชาด ผู้เกิดในกองทรัพย์, กองเงินกองทอง
อรรถมาตร อัด – ถะ – มาด ทรัพย์สมบัติเงินทอง
อรรถวัติ อัด – ถะ – วัด มั่งคั่ง
อรรลาภ อัด – ถะ – ลาบ การได้มาซึ่งทรัพย์
อัฑฒ์ อัด ชายผู้ร่ำรวย
อาณันย์ อา – นัน ความไม่มีหนี้

ตั้งชื่อลูกมงคล ชื่อเล่นลูกชาย ที่แปลว่ารวย

  1. มีตังต์
  2. กะตังค์
  3. ออมสิน
  4. ทัพพ์
  5. ปูรณ์
  6. อัฑฒ์
  7. สตางค์
  8. นับตังค์
  9. ริช
  10. เติมเต็ม
  11. กองคลัง
  12. กองทุน
  13. ปันผล

 

ดูต่ออีก 150 ชื่อลูกมงคล ชื่อลูกสาว ชื่อที่แปลว่าทรัพย์สมบัติ
ลูกใช้แล้วร่ำรวย เรียกโชคให้พ่อแม่ คลิกหน้า 2

ท่าไหนได้ลูกชาย กับสูตรทำลูกชาย ซึ่งว่าที่คุณพ่อคุณแม่ต้องลอง!!

ผิดไหม? ลูกชายชอบเล่นตุ๊กตา ลูกสาวเล่นรถ พ่อแม่ควรทำไงดี!

ไอเดีย ตั้งชื่อเล่นลูกชาย แบบไทยๆ แต่เท่ เก๋ ไม่ตกยุค

ตั้งชื่อลูกชาย ชื่อมงคล เสริมเรื่องอำนาจ บารมี

225 ชื่อลูกชาย 2 พยางค์ เท่ๆ มีครบตั้งแต่ ก-ฮ

 

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

ก้าวร้าว

10 เคล็ดลับปรับพฤติกรรมลูก ก้าวร้าว พ่อแม่ยุคใหม่ต้องเข้าใจและพร้อมรับมือ

Alternative Textaccount_circle
event
ก้าวร้าว
ก้าวร้าว

เด็กในวัยเรียนหรือในช่วงอายุ 6-12 ปี เป็นช่วงที่เด็กใช้เวลาอยู่ในโรงเรียนเป็นส่วนใหญ่ ต้องมีการปรับตัวทั้งด้านการเรียน กฎระเบียบและปรับตัวให้เข้ากับครูและเพื่อน ช่วงนี้เด็กพร้อมที่จะเรียนรู้ทุกด้านและพัฒนาการความสามารถได้อย่างรวดเร็วทั้งร่างกาย จิตใจ ความคิด การใช้ ภาษาและการแก้ปัญหา หากลูกได้รับการปลูกฝังทางพื้นฐานที่ดีและมีพื้นอารมณ์มั่นคงจะสามารถนำความรู้ที่ได้มาปรับใช้จนมีความมั่นใจในตนเอง และดำเนินชีวิตประจำวันทั้งที่บ้านและที่โรงเรียนได้อย่างมีความสุขและสบายใจ แต่ถ้าลูกมีพฤติกรรมที่เป็นปัญหา ก้าวร้าว รังแกเพื่อน หากไม่ได้รับการช่วยเหลือก็จะทำให้พัฒนาการในวัยนี้หยุดชะงักก็จะส่งผลต่อการเข้าระยะวัยรุ่นและกลายเป็นปัญหาสะสมเรื้อรังต่อไปในอนาคต

ปัญหาพฤติกรรมลูก ก้าวร้าว พ่อแม่ยุคใหม่ต้องเข้าใจและพร้อมรับมือ

พฤติกรรมก้าวร้าวนั้นเกิดได้กับเด็กตั้งแต่ในวัยก่อนเข้าเรียนซึ่งถือเป็นเรื่องปกติและเป็นส่วนหนึ่งของพัฒนาการ และพฤติกรรมนี้มักจะลดลงเมื่อเด็กมีทักษะทางสังคมและภาษามากขึ้น เพราะลูกจะเรียนรู้การแก้ปัญหาด้วยวิธีอื่น ๆ มากกว่าการใช้กำลังและสามารถยับยั้งอารมณ์ตัวเองได้ดีขึ้น รวมถึงการที่พ่อแม่ได้สอนให้รู้ว่าพฤติกรรมก้าวร้าวนั้นไม่ใช่สิ่งที่ดี แต่ถ้าเข้าสู่วัยเรียนปัญหานี้ยังไม่หายไป ความก้าวร้าวในเด็กอาจมีสาเหตุมาจากปัจจัยอื่น ๆ ด้วย เช่น

  • กรณีที่ไม่มีผู้ปกครองหรือครอบครัวสอนเรื่องการจัดการอารมณ์ของตนเองให้กับเด็ก ทำให้เด็กไม่เคยมีประสบการณ์เรื่องการรู้จักอดทนและรอคอย
  • เกิดจากการเลียนแบบพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรงจากคนในครอบครัว เพื่อน หรือสังคมรอบข้าง รวมทั้งการดูสื่อต่าง ๆ ที่ไม่เหมาะสม มีความรุนแรง และการใช้สารเสพติด เป็นต้น
  • การใช้พฤติกรรมก้าวร้าวเพื่อเรียกร้องความสนใจ ซึ่งเกิดการตามใจหรือให้ความสนใจของพ่อแม่ ครู ที่มากเกินไป
  • ปัญหาภายในครอบครัว เช่น พ่อแม่หย่าร้างหรือพ่อแม่ใช้วิธีแก้ปัญหาโดยใช้อารมณ์ในการพูด การกระทำที่รุนแรง อาจเป็นปัจจัยที่ทำให้เด็กได้รับผลกระทบทางจิตใจจนรู้สึกโกรธหรือเลียนแบบพฤติกรรมอารมณ์ที่รุนแรงไม่เหมาะสมออกมาเมื่อเกิดความเครียด

ลูกก้าวร้าว

  • ปัญหาด้านการจัดการอารมณ์ ซึ่งเด็กอาจไม่รู้วิธีรับมือกับความโกรธที่เกิดขึ้น และเลือกที่จะแสดงออกด้วยพฤติกรรมก้าวร้าว ซึ่งอาจพบได้กับเด็กที่มีความบกพร่องทางด้านสติปัญญาที่มีข้อจำกัดในการคิด การจัดการปัญหา หรือไม่สามารถจัดการอารมณ์ได้อย่างเหมาะสมตามวัย
  • ปัญหาที่เกิดจากความกลัว หวาดระแวง จึงแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวออกมา ซึ่งพบบ่อยในเด็กที่เป็นโรคทางจิตเวช เช่น โรควิตกกังวล โรคสมาธิสั้น ภาวะซึมเศร้า เป็นต้น
  • เด็กที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง หรือโรคอุบัติเหตุทางสมอง เช่น ลมชัก สมองอักเสบ เนื้องอกในสมอง เคยมีเลือดออกในสมอง ต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ เป็นต้น ทำให้สมองทำหน้าที่ได้ไม่สมบูรณ์ เกิดลักษณะอารมณ์แปรปรวนหรือมีการรับรู้ทางระบบประสาทที่ผิดปกติ

เมื่อลูกมีพฤติกรรมก้าวร้าว พ่อแม่ควรรับมือและช่วยเหลืออย่างไร?

พฤติกรรมก้าวร้าวของลูก

1.ไม่เพิกเฉยเมื่อลูกแสดงพฤติกรรมก้าวร้าว คุณพ่อคุณแม่ต้องสังเกตว่ามีเหตุการณ์หรือสิ่งเร้าใดที่ส่งผลทำให้ลูกก้าวร้าว ควรหยุดลูกทันทีเมื่อแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสม เช่น ถ้าเห็นลูกรังแกเพื่อนควรพาลูกออกห่าง เพื่อให้ลูกเรียนรู้ว่าการกระทำดังกล่าวไม่เหมาะสมและจะอดเล่น จากนั้นสอบถามปัญหาถึงสาเหตุที่แสดงอารมณ์ก้าวร้าวพร้อมอธิบายถึงความถูกต้องเพื่อให้ลูกเข้าใจ

2.พ่อแม่ต้องเป็นตัวอย่างในการจัดการกับอารมณ์อย่างถูกต้อง การเป็นตัวอย่างที่ดี คือ หัวใจสำคัญของการเลี้ยงดูลูก คุณพ่อคุณแม่ต้องพยายามควบคุมจัดการอารมณ์ตนเองให้ได้ก่อน ไม่ใช้คำพูดหรืออารมณ์ที่รุนแรงต่อหน้าลูกในการจัดการปัญหา การที่พ่อแม่มีอารมณ์ที่สงบและนิ่งได้จะเป็นตัวอย่างให้ลูกได้เห็นว่าเมื่อมีสถานการณ์ที่เครียดไม่เป็นไปดังใจพ่อแม่ก็สามารถนิ่งและมีสติในการจัดการอารมณ์ให้ลูกเห็นได้

3.รับฟังในสิ่งที่ลูกต้องการสื่อสารเสมอ เช่น สนใจในเรื่องที่ลูกเล่า เปิดโอกาสให้ลูกพูดปัญหาที่เกิดขึ้น หรือเรื่องที่ไม่สบายใจ ฯลฯ เพื่อแนะนำหรือเสนอแนะแนวทางแก้ไขแก้ปัญหาที่เหมาะสมเพื่อให้ลูกสบายใจ ควรสอนลูกเมื่อโกรธหรือไม่พอใจและใช้กำลังไม่ใช่ทางออกที่ถูกต้อง ควรขอความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่แทนที่จะแก้ปัญหาด้วยความรุนแรง

พฤติกรรมก้าวร้าว

4.ไม่ควรใช้ถ้อยคำรุนแรงตอบโต้ เมื่อลูกโมโห หงุดหงิด แสดงพฤติกรรมก้าวร้าว ไม่สามารถควบคุมตนเองได้ การขึ้นเสียงใส่เพื่อตอบโต้เมื่อลูกตะโกน หรือใช้ถ้อยคำรุนแรงไม่ได้ช่วยให้ลูกเรียนรู้ที่จะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม แต่กลับทำให้ลูกเข้าใจว่าการใช้กำลังหรืออารมณ์เมื่อเกิดความไม่พอใจเป็นสิ่งที่ถูกต้อง และยังอาจทำให้เด็กติดนิสัยก้าวร้าวเมื่อต้องการเรียกร้องความสนใจอีกด้วย ดังนั้น พ่อแม่จึงควรรับมือด้วยความใจเย็นและพยายามควบคุมตนเองให้ได้ ช่วยให้ลูกสงบด้วยคำพูดที่อ่อนโยน ใช้วิธีโอบกอด เพื่อให้ลูกสามารถควบคุมอารมณ์ได้ ให้เวลากับลูกได้สงบสติและอยู่ในบรรยากาศที่สงบ เมื่อลูกใจเย็นลงจากนั้นค่อยสอบถามความรู้สึก แสดงถึงความเข้าอกเข้าใจ เพื่อช่วยหาวิธีแก้ปัญหา

5.คุณพ่อคุณแม่ควรแบ่งเวลาในการทำกิจกรรมกับลูก สร้างบรรยากาศที่ดีในครอบครัว เช่น ชวนลูกออกกำลังกาย ออกไปเที่ยวเพื่อเติมประสบการณ์และเสริมทักษะการเข้าสังคมให้กับลูก

6.ให้กำลังใจ เมื่อเห็นความพยายามในการจัดการอารมณ์ได้อย่างที่ควรจะเป็น ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญพอ ๆ กับการตักเตือนเมื่อเด็กแสดงความก้าวร้าว

7.ชื่นชมเมื่อเด็กประพฤติตัวดี การกล่าวชมเมื่อเด็กรู้จักจัดการกับอารมณ์ของตนเองและปรับตัวได้ดี เช่น เมื่อลูกรู้จักแบ่งปันของเล่นโดยไม่แย่งของจากมือคนอื่น หรือเมื่อเด็กแสดงอารมณ์ด้วยการสื่อสารออกมาเป็นคำพูดแทนการใช้กำลัง เป็นต้น

8.สร้างกติกาข้อตกลงและบทลงโทษร่วมกัน ตั้งข้อตกลงว่าเมื่อมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น สามารถพูดคุยและเปิดเผยกันได้ โดยไม่มีการตำหนิหรือใช้อารมณ์ โดยสอนให้ลูกรู้ว่าการก้าวร้าวไม่ใช่พฤติกรรมที่เหมาะสม และเลือกใช้วิธีการลงโทษที่ไม่รุนแรงเมื่อลูกแสดงพฤติกรรมก้าวร้าว เช่น การตัดรางวัลจากการสะสมดาวความดี การจำกัดเวลาเล่นกับเพื่อน ๆ เป็นต้น จนกระทั่งลูกรับรู้ว่าไม่ควรทำและเกิดความเคยชินจนทำอีก

9.สอนให้ลูกรู้จักยอมรับผิด และเรียนรู้ที่จะขอโทษอย่างจริงใจแทนที่จะแสดงออกด้วยอารมณ์ก้าวร้าว เพื่อให้ลูกว่าพฤติกรรมไม่ดีนั้นจะส่งผลต่อความรู้สึกของอื่น เช่น เพื่อนจะกลัวและไม่อยากเล่นด้วยเมื่อโดนรังแก รวมทั้งสอนให้เด็กมีความรับผิดชอบต่อสิ่งที่ทำ เช่น หากทำลายของเล่นเพื่อนที่กำลังเล่นก็ให้ช่วยต่อใหม่ หากขว้างปาของเล่นก็ต้องไปเก็บขึ้นมาเอง เป็นต้น ทั้งนี้ไม่ควรคาดหวังหรือบังคับมากเกินไป ควรให้เด็กเรียนรู้เพื่อปรับพฤติกรรมอย่างค่อยเป็นค่อยไป

10.จำกัดเวลาในการใช้หน้าจอ สมาร์โฟน แท็ปเล็ต ทีวี ถือเป็นสื่อที่มีบทบาทกับเด็กในยุคปัจจุบันที่อาจมีภาพและเสียงความรุนแรงสอดแทรกให้เด็กสามารถเลียนแบบได้ นอกจากนี้มีงานวิจัยบางส่วนชี้ว่าเด็กที่ดูทีวีหรือวิดีโอในโทรศัพท์มาก ๆ จะมีนิสัยก้าวร้าวกว่าเด็กที่ใช้เวลาส่วนนี้น้อยกว่า ดังนั้นในขณะที่ให้เวลาลูกอยู่กับหน้าจอคุณพ่อคุณแม่ควรจำกัดเวลาในการดูและเลือกรายการหรือวิดีโอที่มีเนื้อหาเหมาะสมสำหรับวัยของลูก หรือควรนั่งอยู่ข้าง ๆ เพื่อดูและสอนไปด้วย

พฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรง

ลูกแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรงแค่ไหนถึงควรไปปรึกษาแพทย์ ?

ความก้าวร้าวอย่างรุนแรงอาจเป็นสัญญาณของโรคความบกพร่องทางการเรียนรู้หรือความผิดปกติทางอารมณ์ โดยสังเกตลักษณะพฤติกรรมดังต่อไปนี้

  • พฤติกรรมก้าวร้าวไม่ค่อยดีขึ้นแม้พยายามใช้วิธีต่าง ๆ แล้ว มีพฤติกรรมก้าวร้าวอย่างต่อเนื่องนานกว่า 2-3 สัปดาห์ หรือยิ่งโตก็ยิ่งแสดงความก้าวร้าวมากขึ้น
  • แสดงพฤติกรรมรุนแรงที่ทำให้คนอื่นเจ็บตัว และหวาดกลัวหรือไม่อยากเข้าใกล้
  • เมื่อหงุดหงิด อารมณ์เสีย ใช้กำลังทำร้ายตนเองหรือคนรอบข้าง มองตัวเองในแง่ลบ

ในเด็กที่มีพฤติกรรมก้าวร้าวนั้น มักไม่สามารถควบคุมอารมณ์โกรธได้ และจะระบายออกมาด้วยการใช้อารมณ์และความรุนแรง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อตัวเด็กเมื่อไปโรงเรียนหรือเข้าสังคมร่วมกับเด็กคนอื่น ดังนั้นหากคุณพ่อคุณแม่ช่วยสอนลูกฝึกให้ลูกรู้จักควบคุมตนเองและแสดงความรู้สึกหรืออารมณ์อย่างเหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญ หากทว่าเมื่อคุณพ่อคุณแม่หมดหนทางที่จะรับมือไม่สามารถแก้ไขเองได้ หรือตัวเด็กมีปัญหาสุขภาพบางประการ กุมารแพทย์อาจขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญทางสุขภาพจิตและใช้แบบประเมินสุขภาพจิตกับเด็ก โดยอาจเฝ้าดูพฤติกรรมของเด็กที่บ้าน ที่โรงเรียน หรือเมื่อเล่นกับเด็กคนอื่น ๆ จากนั้นจึงวางแนวทางการรักษาที่ถูกต้องต่อไป ซึ่งการแก้ไขมักให้ผลลัพธ์ที่ดีหากคุณพ่อคุณแม่รู้ทัน รับมือ และพาลูกตรวจพบปัญหาตั้งแต่ในระยะแรกเริ่มนะคะ.

ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก : www.phyathai.comwww.pobpad.com

อ่านต่อบทความที่น่าสนใจอื่นๆ :

สร้างลูกให้มี SQ (Social Quotient) ไม่ก้าวร้าว ไม่เอาเปรียบ ส่งผลต่อความสำเร็จในชีวิตอย่างมีความสุข

เลี้ยงลูกอารมณ์ดี มีความสุข ไม่ก้าวร้าว

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

DBS ชูจุดแข็งหลักสูตรอินเตอร์ต้นตำรับอังกฤษเสริมสร้างความรู้ในแบบ well rounded ทั้งวิชาการและทักษะรอบด้าน

Alternative Textaccount_circle
event

DBS ชูจุดแข็งหลักสูตรอินเตอร์ต้นตำรับอังกฤษเสริมสร้างความรู้ในแบบ well rounded ทั้งวิชาการและทักษะรอบด้าน พร้อมปล่อยโปรโมชั่นพิเศษช่วง Covid-19 เพิ่มโอกาสให้นักเรียนได้สัมผัสประสบการณ์การเรียนหลักสูตรที่ดีที่สุดในโลก

DBS Denla British School ชูจุดเด่นหลักสูตร Enhanced British Curriculum เน้นการเรียนการสอนตามแบบโรงเรียนเอกชนอังกฤษที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นหลักสูตรที่ดีที่สุดในโลก มุ่งเน้นการศึกษาแบบครบวงจรเพื่อพัฒนาความสามารถของนักเรียนอย่างรอบด้าน (Well-rounded) ทั้งด้านวิชาการและทักษะชีวิต ปูทางสู่การเป็นผู้นำที่ดีและมีคุณภาพของสังคม

นายมาร์ค แม็คเวย์ ครูใหญ่โรงเรียน DBS กล่าวว่า “โรงเรียนได้กำหนดการเปิดภาคเรียนปีการศึกษา 2020-2021 อย่างเป็นทางการ ในปลายเดือนสิงหาคมนี้ โดยได้เตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่เพื่อรองรับการเปิดเทอมในรูปแบบความปกติใหม่ (New Normal) หลังจากได้ปรับการเรียนการสอนแบบออนไลน์ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งที่ผ่านมามีการเน้นมาตรการเรื่องความปลอดภัย และ สุขอนามัยของทุกคนภายในโรงเรียน และ การเตรียมความพร้อมด้านหลักสูตรตามมาตรฐานโรงเรียนเอกชนในประเทศอังกฤษ

“ในด้านวิชาการ เราคำนึงถึงนักเรียนของเราเป็นหลัก เรามีกระบวนการการคัดเลือกครูต่างชาติซึ่งเป็นเจ้าของภาษาที่แท้จริงอย่างเข้มงวด ใช้เวลาประมาณเกือบหนึ่งปีในการคัดเลือกและคัดกรองบุคคลากรที่มีคุณภาพเหมาะสมแก่โรงเรียนของเรา ครูทุกคนของเราล้วนมีวุฒิการศึกษาและประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับวิชาที่สอนโดยเฉพาะ”

ด้วยวิชาเรียนและคลับพิเศษต่าง ๆ ทั้งในและนอกห้องเรียนของ DBS ผลักดันให้นักเรียนเรียนรู้ทักษะต่าง ๆ และการทดลองสิ่งใหม่อยู่สม่ำเสมอ ผ่านกิจกรรมส่งเสริมหลักสูตรในระบบที่เรียกว่า Extended Day ซึ่งเป็นการเรียนรู้ผ่านการเรียนพิเศษนอกเวลาเรียน เพื่อให้นักเรียนได้ใช้เวลากับการเรียนและกิจกรรมต่างๆมากยิ่งขึ้น  ทำให้พวกเขาค้นพบศักยภาพของตนเอง  ซึ่งตามข้อมูลคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO) ชี้ว่าเด็กควรต้องออกมาเล่นและมีกิจกรรมให้ได้อย่างน้อย 60 นาทีต่อวัน เพื่อพัฒนาการทั้งทางด้านร่างกายและการเรียนรู้

“ยิ่งไปกว่านั้น DBS ปลูกฝังทักษะให้นักเรียนมีวิสัยทัศน์การเป็นผู้นำและผู้ประกอบการ เพื่อนำไปใช้ในอนาคต ได้แก่ ทักษะการแก้ปัญหา การตัดสินใจ การคิดเชิงวิเคราะห์ และการมีความคิดสร้างสรรค์ บนพื้นฐานการพัฒนาสู่การเป็นผู้นำระดับโลกเช่นกัน” นายมาร์ค กล่าว

ทั้งนี้ โรงเรียนนานาชาติ DBS เปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจในดีบีเอส เข้าสมัครเรียนในปีการศึกษา 2020/2021 ด้วยโปรโมชั่นสุดคุ้มพิเศษสุดๆ แบบ 3 ต่อ 1) ส่วนลด 10% สำหรับการสมัครเรียนแบบกลุ่ม  2) สอบประเมินวัดผลฟรีโดยไม่ต้องจ่ายค่าสมัครสอบ 5,000 บาท และ 3) ส่วนลด 10% สำหรับโรงเรียนภาคฤดูร้อน Summer School สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถสอบถามรายละเอียดการรับสมัครเข้าเรียน หรือขอรับข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.dbsbangkok.ac.th หรือ โทร 02-666-1933

กินเงาะ

อุทาหรณ์ กินเงาะ เผลอกัดเปลือก แค่ลูกเดียวเข้าโรงพยาบาล

account_circle
event
กินเงาะ
กินเงาะ

กินเงาะ หน้านี้อร่อยที่สุด รสหวานฉ่ำ สดกรอบ ราคาไม่แพง แถมเป็นหนึ่งในผลไม้ถูกใจเด็กๆ แม่ต้องระวัง เผลอให้ลูกหยิบเงาะไปกัดเปลือก หรือกินแบบยังไม่ล้างให้สะอาด อาจช็อกจนต้องเข้าโรงพยาบาลเหมือนหนูน้อยคนนี้

เผลอแป๊บเดียว ลูก กินเงาะ ไม่ล้าง กัดเปลือกครั้งเดียว เกือบช็อกหมดสติ

เหตุการณ์นี้เกิดกับคุณแม่เจตน์ ที่แชร์ประสบการณ์ไม่น่าจดจำนี้ไว้ในเฟสบุ๊ก หลังซื้อเงาะกลับมาจากตลาด แต่ยังไม่ทันได้ล้างให้สะอาด ลูกสาวตัวน้อยอยาก กินเงาะ จึงคว้าเข้าปากกัดทั้งเปลือก เวลาผ่านไปไม่ถึงชั่วโมง หนูน้อยเริ่มอาเจียนออกมาและเป็นต่อเนื่องเกิน 10 ครั้ง คุณแม่จึงรีบพาส่งโรงพยาบาลทันที เมื่อแพทย์เข้าตรวจอาหารพบว่า น้องมีภาวะขาดน้ำอย่างรุนแรง ตัวซีดเหลือง ชีพจรเต้นเร็ว เสี่ยงช็อกหมดสติและต้องแอดมิททันที ซึ่งน่าจะเกิดจากสารเคมีตกค้างในผักหรือผลไม้

กินเงาะ

ใครจะนึกว่าจากเงาะกิโลกรัมละไม่กี่บาทในช่วงฤดูกาลกลับกลายเป็นต้องเสียค่ารักษาพยาบาลสูงถึง 7,000 บาทต่อเตือน หลังรักษาด้วยยาแก้อาเจียนและยาฆ่าเชื้อ ลูกสาวมีอาการดีขึ้น เริ่มกินอาหารอ่อนๆและกลับมาร่าเริงได้เหมือนเดิม

เงาะชุบฟอร์มาลีน ต้นเหตุลูกล้มป่วย จริงหรือ?

นอกจากกรณีของลูกสาวแม่เจตน์แล้ว พบว่ามีคนชอบกินเงาะ เจอกับเหตุการณ์แบบนี้เช่นกันแต่อาการอาจไม่หนักเท่า ก่อนหน้านี้มีการแชร์ข้อมูลกันในโลกโซเชียลว่า “ช่วงนี้ควรงด กินเงาะ เพราะชุบด้วยสารฟอราลินถึงขั้นทำให้ปวดท้อง อาเจียน หมดสติ เข้าโรงพยาบาล ต่อให้ล้างสะอาดแล้วก็ยังตกค้าง”

จากข้อมูลของรายการ“ชัวร์ก่อนแชร์” ของสำนักข่าวไทย ในหัวข้อ เตือน! ระวังเงาะชุบฟอร์มาลิน จริงหรือ?  ดร.อารยา อาจเจริญ เทียนหอม ภาควิชาพืชสวน คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า “เงาเป็นผลไม้ที่อ่อนแอ ถ้าโดยสารเคมีจะเน่าเร็วมาก จึงไม่จำเป็นต้องชุบฟอร์มาลีนเพราะแค่พรมน้ำเปล่าให้พอ เงาะก็คงความสดไว้ได้แล้ว เว้ยเสียแต่จะเป็นการเก็บรักษาเงาะเพื่อส่งออก ซึ่งใช้วิธีเคลือบแว๊กซ์เพื่อคงความสดไว้ให้นานขึ้นเท่านั้น

 

อย่างไรก็ตาม เกษตรจะมีการฉีดยาสารเคมี ซึ่งหากฉีดตามกำหนดเวลาที่กำหนด สารเคมีเหล่านั้นจะสลายไปเองก่อนถึงมือผู้บริโภค แต่มีเกษตรที่ไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำดังกล่าว จึงทำให้มีสารพิษตกค้างบนผลผลิตได้ ดังนั้นจึงควรล้างเงาะให้สะอาดก่อนรับประทาน ไม่ควรใช้ปากกัดเปลือกเงาะโดยตรง แต่ใช้มีดปอกเปลือกแทน เพื่อป้องกันไม่ให้สารเคมีเข้าสู่ร่างกายได้ทันที

ดังนั้นเมื่อมีผู้ได้รับอันตรายจากสารเคมี ควรรีบไปพบแพทย์และโรงพยาบาลทันที แต่ในระหว่างการเตรียมตัวและเดินทางไปพบแพทย์นั้น ควรได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นเสียก่อน เพื่อช่วยลดความเจ็บป่วย ลดโอกาสพิการและเสียชีวิตได้ดังนี้

ลูกโดนพิษในอาหารช่วยเหลืออย่างไรดี

ยาฆ่าแมลงที่คนชอบกินเงาะต้องระวังมีอยู่ 4 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่ม ออร์กาโนคลอรีน, ออร์กาโนฟอสเฟต, ไพรีทรอยด์ และคาร์บาเมต ล้วนเป็นสารที่มีอันตราย ออกฤทธิ์ทั้งแบบเฉียบพลัน และแบบสะสม อาการเริ่มต้นคือ เวียนศีรษะ อาเจียน ท้องเสีย หากรุนแรงอาจชักและหมดสติได้

หากลูกมีอาการข้างต้นจากสารพิษในอาหาร คุณพ่อคุณแม่สามารถปฐมพยาบาลเบื้องต้นเพื่อให้อาการทุเลาลงก่อนพาไปโรงพยาบาลได้ด้วยวิธีดังต่อไปนี้

  1. ให้ผู้ป่วยรีบดื่มนม หรือไข่ดิบ หรือดื่มน้ำเปล่าทันที แต่ในกรณีที่ผู้ได้รับสารเคมีกำลังชักหรือสลบ อย่าให้ดื่มอะไรทั้งสิ้น
  2. ทำให้อาเจียน โดยใช้นิ้วแหย่แถวเพดานคอ หรือให้ดื่มน้ำเกลืออุ่นจัดๆ (ผสมเกลือ 1 ช้อนโต๊ะในน้ำ 1 แก้ว) หรือทั้งดื่มและล้วงคอ ถ้าผู้ได้รับสารเคมี มีอาการชักหรือสลบ ห้ามทำให้เศษอาหารทะลักเข้าไปในหลอดลม
  3. กรณีที่ดื่มกรด ด่าง หรือน้ำยาฟีนอล (ยาดับกลิ่น) ถ้าดื่มกรดให้ดื่มน้ำปูนใสแล้วให้ดื่มนมเพื่อลดการระคายเคืองก่อน แล้วจึงทำให้อาเจียน ถ้าดื่มด่างให้ดื่มน้ำผลไม้ เช่น น้ำส้ม หรือน้ำผสมน้ำส้มสายชูเล็กน้อย แล้วดื่มนมหรือไข่ตีก่อนทำให้อาเจียน
  4. ให้ยาถ่าย เพื่อช่วยขับสารเป็นพิษออกจากลำไส้ ยาถ่ายที่เหมาะสมที่สุดได้แก่ โซเดียมซัลเฟต ดีเกลือ น้ำมันละหุ่ง เป็นต้น ทั้งนี้หากไม่แน่ใจควรรีบพาลูกไปพบแพทย์ทันที

3 วิธีล้างเงาะให้สะอาดปลอดสารพิษ

แช่น้ำ ก่อนนำมาปรุงอาหารให้คุณแม่เริ่มต้นด้วยการเงาะรอบแรกให้สะอาดเสียก่อน แล้วนำมาแช่ในอ่างน้ำที่เตรียมไว้ประมาณ 15 นาที โดยวิธีนี้จะช่วยลดสารพิษจากฆ่ายาแมลงได้ประมาณ 7-33 เปอร์เซนต์

ล้างผักโดยให้ปล่อยให้น้ำไหลผ่าน เริ่มต้นโดยการใส่เงาในตะกร้าหรือตะแกรงโปร่ง หลังจากนั้นให้คุณแม่เปิดน้ำให้แรงพอประมาณ ระหว่างล้างให้ใช้มือถูกเบาๆที่ผิวเงาะประมาณ 2 นาที วิธีนี้จะช่วยลดสารพิษจากยาฆ่าแมลงได้ประมาณ 25 – 63 เปอร์เซนต์ แต่อาจต้อใช้เวลานานในการล้างและต้องใช้น้ำสะอาดปริมาณมาก

ปอกเปลือกออก เมื่อล้างสะอาดแล้ว คุณแม่อาจปอกเปลือกเงาะออก เตรียมไว้ในปริมาณพอดีที่ลูกกิน หากกลัวเงาะเฉา สีไม่สวย หากไม่รับประทานทันที สามารถแช่เย็นไว้ก่อนได้ นอกจากรักษาความสดใหม่แล้ว ยังอร่อยกว่าด้วย ทั้งนี้เงาเป็นบอบบาง แค่วางไว้ที่อุณหภูมิห้อง 1-2 วันเปลือกจะเปลี่ยนสี และขนจะเป็นสีดำ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า เนื้อเงาะข้างในจะเสียแล้ว หากซื้อเงาะมาเยอะแล้วกลัวกินไม่ทัน สามารถนำไปทำเป็นเงาะลอยแก้ว หรือไอศกรีมเงาะเย็นๆ เป็นของหวานหน้าร้อนแสนอร่อยได้ลูกได้เช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ผักผลไม้ที่ปลูกเพื่อการค้าเสี่ยงที่จะมีสารพิษตกค้างได้แทบทุกชนิด ซึ่งไม่สามารถตรวจสอบได้ด้วยตาเปล่า ฉะนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรฝึกให้ลูกรู้ว่า กินเงา หรือผลไม้อื่นๆควรล้างทำความสะอาดให้ดีก่อนทุกครั้ง ห้ามหยิบกินโดยไม่ล้างเด็ดขาด ส่วนผลไม้ที่ต้องปอกเปลือกก่อนกิน ไม่ควรใช้ฟันกัดเป็นอันขาด เพราะแม้คิดว่าล้างสะอาดแล้ว ก็อาจมีสารพิษหลงเหลืออยู่เช่นกัน  ที่สำคัญคุณพ่อคุณแม่ต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูกด้วย เพื่อให้เขาทำสิ่งนี้จนติดเป็นนิสัยไปจนโต เมื่อนั้นเราก็จะแน่ใจได้ว่า

บทความน่าสนใจอื่นๆ 

แม่เช็กก่อนซื้อ! นี่คือ 6 ผักผลไม้ที่มีสารเคมีตกค้างมากที่สุด

วิธีล้างผักให้ปลอดภัย ไร้สารพิษตกค้าง

อาหารเพิ่มภูมิคุ้มกัน ด้วยพลัง”ผัก ผลไม้ 5 สี”

 


แหล่งข้อมูล ชัวร์ก่อนแชร์ สำนักข่าวไทย  www.thairath.co.th

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

บำรุงสมอง

เคล็ดลับ! บำรุงสมอง ลูกน้อย ด้วยการกินที่ถูกต้อง ตั้งแต่แรกเกิด-3 ขวบ

event
บำรุงสมอง
บำรุงสมอง

อาหาร ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่จะช่วย บำรุงสมอง และเสริมสร้างพัฒนาการทางร่างกายของลูกน้อยให้เติบโตแข็งแรงสมวัยพร้อมมีสติปัญญาที่ดี ทีมแม่ ABK จึงมีเคล็ดลับในการบำรุงสมองลูกน้อย ด้วยอาหาร มาฝาก ซึ่งคุณพ่อคุณแม่สามารถฝึกให้กินได้ตั้งแต่แรกเกิด – 3 ขวบ ได้ เพื่อจะได้ลองนำไปปรับใช้กับการเตรียมอาหารให้ลูกๆ ที่บ้านกันค่ะ

เคล็ดลับ! บำรุงสมอง ลูกน้อย
ด้วย “
อาหาร” ตั้งแต่แรกเกิด-3 ขวบ

ในสามขวบปีแรกนับเป็นเวลาทองของชีวิตลูกที่พ่อแม่ควรให้ความใส่ใจเป็นพิเศษ ซึ่งการบำรุงสมองลูกน้อย ด้วยการให้ได้รับอาหารและสารอาหารที่ครบถ้วนเหมาะสมตามช่วงวัยล้วนมีส่วนช่วยให้สมองและร่างกายของลูกได้รับการพัฒนาอย่างเต็มที่ เราลองมาดูกันว่ามีอาหารอะไรบ้างที่จะช่วยสร้างสมองดีให้กับลูกตั้งแต่แรกเกิดจนถึงสามขวบ

1. บำรุงสมอง ให้ลูกน้อย วัยแรกเกิด – 6 เดือน

นมแม่ ถือเป็นอาหาร บำรุงสมอง ที่เหมาะกับลูกน้อยมากที่สุดในช่วงแรกเกิดถึง 6 เดือน เพราะสารอาหารต่างๆ ที่ร่างกายคุณแม่มีได้ถ่ายทอดผ่านน้ำนมเพื่อเป็นอาหารของลูก โดยในน้ำนมแม่มีปริมาณคาร์โบไฮเดรต โปรตีนไขมัน วิตามิน และเกลือแร่ในปริมาณที่เหมาะสม ร่างกายของลูกสามารถดูดซึมได้โดยไม่ต้องผ่านการย่อย เพราะฉะนั้นจึงผ่านได้โดยสะดวกและดูดซึมได้ดี

และเมื่อลูกอายุ 6 เดือนขึ้นไปถือเป็นช่วงเวลาที่พร้อมจะให้อาหารเสริมได้แล้ว สามารถนับแทนเป็น 1 มื้อได้ แต่นมก็ยังเป็นสิ่งที่ลูกต้องการอยู่ หากคุณแม่ไม่สามารถเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้ ควรเลือกนมผสมที่มีคุณสมบัติเหมาะกับทารกและเด็กในแต่ละวัย

บำรุงสมอง

2 บำรุงสมอง ลูกน้อย ช่วงอายุ 6 – 8 เดือน

สำหรับลูกน้อยในช่วงอายุ 6-8 เดือนนี้ จะกินนมเป็นอาหารหลัก และมีอาหารเสริมเพียง 1 มื้อ  ในแต่ละมื้อควรได้รับข้าวอย่างน้อย 2 – 3 ช้อนโต๊ะและเนื้อสัตว์ 1 ช้อนโต๊ะ (จะเป็นเนื้อหมู ไก่ หรือปลาก็ได้ ถ้าเป็นเนื้อปลา คุณแม่ต้องสังเกตด้วยว่าลูกมีอาการแพ้หรือไม่ อาจจะเริ่มด้วยปลาน้ำจืดอย่างปลาช่อน หรือถ้าคุณแม่มั่นใจว่าลูกไม่แพ้ก็สามารถเริ่มด้วยปลาทะเลได้เลย) นอกจากนี้ควรให้กินผักสี ผักใบที่เนื้อนิ่ม ไม่มีกากหรือเสี้ยน รวมทั้งเริ่มเสริมผลไม้ เน้นเป็นผลไม้ชิ้นไม่ใช่น้ำผลไม้ และสามารถเริ่มให้ไข่แดงต้มสุกได้ตอน 7 เดือน

3. บำรุงสมอง ลูกน้อยช่วงอายุ 8 – 10 เดือน

อาหารที่เคยบอกว่าเป็นเพียง 1 มื้อก็สามารถปรับเป็น 2 มื้อได้ หลังจากอายุ 10 เดือนขึ้นไป สามารถปรับเป็น 3 มื้อได้เลย แต่ทั้งหมดตรงนี้ไม่ใช่ว่าตั้งแต่ 6 เดือนเราจะลดนมนะคะ คุณแม่ยังคงต้องให้ลูกกินนมอย่างต่อเนื่อง(ไม่ว่าจะเป็นนมแม่หรือนมผสม)เพราะนมเป็นแหล่งโปรตีนที่ดีมีแคลเซียม วิตามิน และแร่ธาตุที่เหมาะสม คุณแม่ต้องมีวิธีในการให้อาหารลูกคือ ไม่ใช่ว่าในหนึ่งมื้อให้ทั้งนม 1 แก้วและอาหาร 1 จาน แบบนี้เด็กจะรับไม่ไหว การเสริมนม อาจเป็นช่วงสิบโมงบ่ายสองโมง หรือหลังอาหารเย็น มีการแบ่งเวลาแต่ละมื้อให้แก่ลูก

บำรุงสมอง

4. บำรุงสมองลูกน้อย วัย 1-2 ขวบ

จากหนึ่งปีขึ้นไปสามารถให้ลูกกินอาหารเหมือนผู้ใหญ่ได้ เพียงแต่เป็นอาหารอ่อนนุ่ม รสไม่จัด ไม่ปรุงแต่งเครื่องเทศ ควรให้กินอาหารรสธรรมชาติ ที่สำคัญอย่าให้กินขนมหวานหรือขนมขบเคี้ยวที่เต็มไปด้วยแป้ง น้ำตาล และไขมัน เพราะจะทำให้ไม่กินอาหารมื้อหลักและไม่ดื่มนมเสริม คุณแม่อย่าลืมปรับช่วงอาหารเสริมให้มีสารอาหารครบถ้วน อาจเป็นขนมปังกับนมหรือแซนด์วิชง่ายๆ เพื่อเป็นการรองท้องก่อนกินอาหารมื้อหลัก

ส่วนเนื้อสัตว์ ควรให้กิน 2 – 3 ช้อนโต๊ะต่อมื้อ อาหารแนะนำในกลุ่มเนื้อสัตว์ควรให้ลูกกินหลากหลาย เช่น หมู ไก่ ปลาทะเล หรือปลาน้ำจืด เพราะแต่ละชนิดมีจุดเด่นที่ต่างกันเนื้อหมูจะเด่นเรื่องวิตามินบี 12 ปลาน้ำจืดอย่างปลาช่อน ปลาทะเลอย่างปลาแซลมอน หรือปลาทู จะมีกรดไขมันที่จำเป็นอย่างโอเมก้า-3 มีไอโอดีนสร้างสมอง และมีสังกะสีช่วยเรื่องภูมิคุ้มกัน ถ้าไม่สะดวกอาจเลือกใช้ปลาทูน่าชนิดน้ำแร่มาใช้ทำอาหารให้ลูกก็ได้

คุณแม่ควรหุงข้าวที่มีส่วนผสมของข้าวกล้องและข้าวซ้อมมือช่วยบำรุงระบบประสาท นอกจากนั้นควรให้ลูกกินผักผลไม้ที่หลากหลายเหมือนกับช่วงก่อน 1 ขวบ แต่เพิ่มปริมาณให้มากขึ้นตามวัย

5. บำรุงสมองลูกน้อย วัย 2-3 ขวบ

ช่วงนี้ยังคงเน้นการกินอาหารให้ครบถ้วนเหมือนเดิม เพียงแต่เพิ่มปริมาณให้มากขึ้น เพราะเด็กวัยนี้มีกิจกรรมและต้องใช้พลังงานมากขึ้นคุณแม่ควรระวังเรื่องการกินขนมและของหวานของลูก ควรจัดอาหารว่างที่มีประโยชน์ เช่นถั่วเมล็ดแห้ง เมล็ดทานตะวัน ปลาตัวเล็กตัวน้อย ข้าวตัง ขนมปังโฮลวีท หรือแครกเกอร์โฮลวีทเป็นต้น นมยังคงเป็นอาหารเสริมที่เป็นประโยชน์สำหรับเด็กวัยนี้ คุณแม่อาจเลือกสลับให้ได้ระหว่างนมวัวและนมถั่วเหลือง เลือกใช้วิธีกินให้หลากหลายและสมดุล

ควรกินเนื้อสัตว์มื้อละ 3 ช้อนโต๊ะขึ้นไป ไข่วันละ 1 ฟอง การปรุงเนื้อปลาควรหลีกเลี่ยงการทอด ให้ใช้วิธีนึ่งอบ ต้ม ลวกแทน เพราะน้ำมันในปลาจะไม่หายไป แต่ถ้าเอาไปทอด น้ำมันปลาที่บอกว่ามีโอเมก้า-3 ก็จะหายปนไปกับน้ำมัน

ความฉลาดของเด็กแต่ละคน นอกจากจะกำหนดด้วยปัจจัยทางพันธุกรรมแล้ว อาหาร สิ่งแวดล้อม และการเลี้ยงดูก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน

เด็กที่ได้กินอาหารครบและหลากหลายจะได้สารอาหารครบถ้วนเพื่อ บำรุงสมองลูก แถมห่างไกลจากสารพิษตัวเดิมๆ ที่เกิดจากการกินอาหารซ้ำๆ หากรวมกับการได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และมีการเลี้ยงดูที่เหมาะสม รับรองว่าจะเป็นเด็กแข็งแรง ฉลาดและสมองดีอย่างแน่นอน …ด้วยความใส่ใจและห่วงใยค่ะ

บทความเรื่องอื่นที่น่าสนใจ

10 ปลาไทย โอเมก้า 3 สูง! บำรุงสมองสดใส หัวใจแข็งแรง

10 สุดยอด “อาหารบำรุงสมอง” ลูกน้อย

เคล็ดลับพัฒนาสมอง ด้วยการกอด กิน เล่น อ่าน

13 สารอาหารสำคัญ กินเพื่อลูกรักฉลาด ตั้งแต่อยู่ในครรภ์

เด็กเบื่อ

ปล่อยให้ “เด็กเบื่อ” มีประโยชน์กว่าที่คิด!!

Alternative Textaccount_circle
event
เด็กเบื่อ
เด็กเบื่อ

รู้หรือไม่? ว่าการปล่อยให้ลูกได้เล่นกับตัวเอง ปล่อยให้ เด็กเบื่อ ซะบ้าง ทำให้ลูกได้ ฝึกฝน สร้างสรรค์ และมีพัฒนาการที่ดีได้!!

ปล่อยให้ “เด็กเบื่อ” มีประโยชน์กว่าที่คิด!!

ในช่วงปิดเทอม ลูกต้องอยู่บ้านทั้งวัน คุณพ่อคุณแม่มักจะกังวลว่าลูกจะเบื่อ ไม่มีอะไรทำ จึงพยายามหากิจกรรมให้ลูก ไม่ว่าจะเป็น การให้ลูกลงเรียนกวดวิชาต่าง ๆ หรือจะเรียนเสริมในสิ่งที่ลูกดูเหมือนจะชอบ หรือ พ่อแม่บางคนอาจจะพยายามหากิจกรรมเพื่อเล่นกับลูกตลอดเวลา แต่อย่างที่รู้ ๆ กันอยู่ว่ามันเป็นไปไม่ได้เลยที่คุณพ่อคุณแม่จะสรรหากิจกรรมมาเล่นกับลูกได้ทั้งวัน ไหนจะติดงาน ไหนจะงานบ้าน และในบางครั้งคุณพ่อคุณแม่เองก็ต้องการเวลาส่วนตัวและเวลาพักบ้างเหมือน ๆ กัน เมื่อลูกบ่นว่าเบื่อ คุณพ่อคุณแม่ก็มักจะแอบคิดว่าทำไมลูกเราถึงเล่นเองไม่เป็นเลย ทีมแม่ ABK อยากให้คุณพ่อคุณแม่ลองถอยออกมาดูภาพรวมกันสักนิดค่ะว่าทำไมลูกเราถึงเล่นเองไม่เป็น ทำไมจะต้องให้คุณพ่อคุณแม่เล่นด้วยตลอดเวลา? นั่นเป็นเพราะคุณพ่อคุณแม่ไม่เคยปล่อยให้ลูกเบื่อ หรือลองเล่นกับตัวเองดูบ้างนั่นเองค่ะ ไม่ได้หมายความว่าการเล่นกับลูกเป็นสิ่งที่ผิดนะคะ ยังสนับสนุนให้คุณพ่อคุณแม่เล่นกับลูกค่ะ เพียงแต่ไม่จำเป็นต้องเล่นด้วยทั้งวัน คุณพ่อคุณแม่ควรปล่อยให้ เด็กเบื่อ ดูบ้าง เพื่อให้เค้าได้มีเวลาในการค้นหาตัวเอง ดังนั้น มาดูประโยชน์ของการปล่อยให้ เด็กเบื่อ ดูบ้างดีกว่าค่ะ

ลูกเบื่อ
ลูกเบื่อ

ทำไมเด็กถึงเบื่อ?

เพราะเทคโนโลยีในปัจจุบัน และกิจกรรมเสริมที่ใส่ให้เด็กมากเกินไป (เพื่อที่เด็กจะได้ไม่เบื่อ) ทำให้เด็ก ๆ ถูกสร้างให้เป็นอยู่ตามสังคมมากกว่าที่จะมีเวลาในการค้นหาในสิ่งที่ตัวเอง “เป็น”

ประโยชน์ของการปล่อยให้เด็ก “เบื่อ”

  1. ความเบื่อส่งเสริมให้ลูกมีจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์

เมื่อลูกเบื่อที่ต้องอยู่กับตัวเอง จะทำอย่างไรได้บ้างล่ะ? เพื่อที่จะได้สร้างความสนุกให้ตัวเอง ในช่วงเวลานี้เป็นการสร้างโอกาสให้ลูก ๆ ได้ลองทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยความตั้งใจ สร้างความสนุกในการค้นพบส่งต่าง ๆ รอบตัว และความอยากรู้อยากเห็นเหล่านี้จะช่วยให้ลูกรู้จักสำรวจสิ่งรอบตัวที่จะทำให้พวกเขามีความสุข

2. ความเบื่อสอนให้ลูกรู้จักความวิริยะ

เด็กมักจะแพ้ไม่เป็น โดยเฉพาะสมัยนี้ที่มีความเร่งรีบอยู่ตลอดเวลา ทำให้เด็กไม่มีเวลามากพอที่จะประสบความล้มเหลว การปล่อยให้ลูกเบื่อจะเป็นการทำให้ลูกได้มีเวลามากพอที่จะลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง และลงมือทำซ้ำ ๆ จนสามารถค้นพบและไปถึงเป้าหมายได้ สิ่งเหล่านี้จะค่อย ๆ สร้างความวิริยะ ความอดทน และความเพียรพยายามในการมุ่งมั่นที่จะทำในสิ่งที่รักให้สำเร็จได้นั่นเอง

3. ความเบื่อช่วยพัฒนาทักษะในการแก้ปัญหา

ปล่อยให้ลูกมองความเบื่อเป็นปัญหา โดยที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องแก้ปัญหาให้ลูก แล้วลูกจะรู้จักแก้ปัญหาได้ด้วยตัวเอง โดยการหาอะไรเล่นได้เอง แม้สิ่งเหล่านี้จะเป็นสิ่งเล็ก ๆ แต่ถ้าคุณพ่อคุณแม่ลองค่อย ๆ ปล่อยให้ลูกลองแก้ปัญหาด้วยตัวเองโดยเริ่มจากสิ่งเล็ก ๆ เหล่านี้ ก็จะช่วยปลูกฝังให้ลูกรู้จักลองแก้ปัญหาด้วยตัวเองก่อนที่จะให้คุณพ่อคุณแม่ช่วยในเรื่องใหญ่ ๆ ถัดไปได้

4. ความเบื่อช่วยพัฒนาทักษะทางสังคม

เมื่อเด็กมีเวลามากพอที่จะได้เล่นด้วยกัน แทนที่จะเอาเวลาไปดูทีวี เล่นเกม ดูมือถือ ก็จะช่วยให้เด็กเรียนรู้ที่จะร่วมมือกันเล่น พูดคุย ต่อรอง สื่อสาร และยังได้รู้จักการใช้การสื่อสารผ่านสายตา ผ่านภาษากาย ได้ดีกว่าการดูทีวีหรือเรียนรู้ในห้องเรียนอีกด้วย

5. ความเบื่อช่วยสร้างความมั่นใจในตัวเอง

เมื่อเด็กมีโอกาสที่จะได้เรียนรู้ด้วยตัวเอง (แทนการบอกกล่าวหรือสอนจากผู้ใหญ่) ได้ทดสอบขีดจำกัดและความเสี่ยงต่าง ๆ ด้วยตัวเอง และได้จัดการปัญหาต่าง ๆ ด้วยตัวเอง สิ่งเหล่านี้จะสร้างให้ลูกมีความนับถือในตัวเอง (Self-Esteem)

6. ความเบื่อหน่ายช่วยให้สุขภาพจิตดีขึ้น

การที่เรายุ่งจนไม่มีเวลาเป็นของตัวเองจะทำให้สุขภาพจิตแย่ลง เพราะเราจะไม่ได้มีเวลาปล่อยความคิดให้ว่างได้เลย เด็กก็เช่นกันค่ะ ดังนั้น การปล่อยให้ลูกได้มีโอกาสปล่อยความคิดให้ว่างบ้าง ก็จะช่วยให้ลูกมีสุขภาพจิตที่ดีขึ้นได้ค่ะ

7. ความเบื่อหน่ายจะช่วยให้เด็กเห็นคุณค่าของสิ่งรอบตัว

การที่ลูกยุ่งกับกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งวัน ทำให้ลูกมองข้ามสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่รอบตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น บ้าน ต้นไม้ในบ้าน ของเล่น และแม้แต่คนรอบตัวลูก ๆ เองก็ตาม แต่การให้ลูกได้มีโอกาสที่จะมีส่วนร่วมกับสิ่งรอบตัวเหล่านี้ จะทำให้ลูกรู้สึกผูกพัน รัก และเห็นคุณค่าของสิ่งที่ตนเองพบเจอ

8. ความเบื่อหน่ายช่วยให้ชีวิตในวัยเด็กมีความสุขขึ้น

ความเบื่อหน่ายดูเหมือนจะตรงข้ามกับสิ่งที่ทำให้มีความสุขเลยใช่ไหมล่ะคะ แต่ให้ลองคิดถึงสมัยที่คุณพ่อคุณแม่ยังเป็นเด็กดูค่ะ เมื่อเราเบื่อ เราก็จะหาอะไรสนุก ๆ ทำ และอะไรที่สนุก ๆ นี้ กลับสร้างความทรงจำที่ดีให้เราได้ย้อนกลับไปนึกถึงตอนที่เราเป็นผู้ใหญ่แล้ว ลองมาสร้างความทรงจำดี ๆ เหล่านี้ให้ลูกของเราเมื่อโตขึ้นกันค่ะ

อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

แนะ!12 กิจกรรมให้ลูกทํา สุดเจ๋ง เมื่อต้องอยู่บ้านหนีโควิด19+ปิดเทอมยาว

จับ หนีบ เล่น 20+ กิจกรรมพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็ก เล่นกับลูกในบ้านง่ายๆ

เล่นกับลูกทารกไม่เป็น ทำยังไงดี

เทคนิคเลี้ยงลูกให้น่ารักและเป็นที่รักของผู้อื่น

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : TheSchoolRun.com

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

ลูกเรียนออนไลน์

ลูกเรียนออนไลน์ วิชาอะไรบ้าง ถ้าไม่เรียนได้หรือไม่

account_circle
event
ลูกเรียนออนไลน์
ลูกเรียนออนไลน์

ลูกเรียนออนไลน์ จำเป็นไหม ใครต้องเรียน แล้วเรียนอะไรบ้าง เป็นส่วนหนึ่งของคำถามที่ยังคาใจคุณพ่อคุณแม่ หลังกระทรวงศึกษาธิการประกาศให้เด็กๆ เริ่มเรียนผ่านช่องการศึกษาทางไกลพร้อมกันทั้งประเทศ Amarin Baby & Kids พาไปหาคำตอบพร้อมกัน

ลูกเรียนออนไลน์ ช่องทีวีทางไกล เรียนอะไรบ้าง  ไปหาคำตอบกัน

ท่ามกลางความสับสนของคำว่า “เรียนออนไลน์” ทำให้ผู้ปกครองหลายบ้านเป็นกังวลทั้งการจัดหาอุปกรณ์ คอมพิวเตอร์ หรือแท๊ปเล็ต อินเตอร์เน็ต แถมหลายบ้านยังไม่รู้ว่าถ้าพ่อแม่ต้องออกไปทำงานจะให้ลูกเรียนออนไลน์ได้อย่างไร ลูกจะเรียนทันเพื่อนไหม ต้องเก็บคะแนนหรือเปล่า

ทำไมต้องให้ ลูกเรียนออนไลน์

ปัจจุบันสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19ในบ้านดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีการผ่อนปรนในหลายจุดเพื่อให้ผู้คนกลับมาใช้ชีวิตามปกติ (อย่างระมัดระวัง) ทำให้คุณพ่อคุณแม่รู้สึกว่ารอให้ลูกกลับไปเรียนตอนเปิดเทอมในอีก 2 เดือนข้างหน้า (1 กรกฎาคม 2563) ก็ไม่น่าจะช้าเกินไป แต่จำนวนผู้ติดเชื้อที่ลดลงไม่ได้การันตีได้ว่า “เชื้อโรคจะหมดไปและไม่กลับมาระบาดอีก”  หากเป็นเช่นนั้นเด็กๆ ก็ยังไม่สามารถไปโรงเรียนได้อยู่ดีและกระทบต่อการเรียนรู้ การเลื่อนชั้น และการสอบเข้าในระดับต่อไปอย่างแน่นอน

นี่จึงเป็นเหตุผลให้กระทรวงศึกษาธิการกำหนดนโยบายการศึกษาแบบใหม่เพื่อเตรียมความพร้อม หากสถานการณ์ระบาดของโรคร้ายแรงจนไม่สามารถกลับไปเรียนที่โรงเรียนได้ตามปกติ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “เพิ่มเวลาพัก ลดการประเมิน และงดกิจกรรมไม่จำเป็น” โดยแบ่งออกเป็น 3 รูปแบบ ได้แก่

ลูกเรียนออนไลน์

ระบบ On Air เป็นการเรียนผ่านทีวีทางไกล DLTV ทั้ง 17 ช่อง   ระบบ Online 2 รูปแบบ คือ  DEEP แพลตฟอร์มออนไลน์โปรแกมที่มีคลิปของ ครูเก่งจากโรงเรียนดังให้เด็กเลือกเรียนเพิ่มเติมตามความสนใจ และ Interactive platform อย่าง zoom, Microsoft suit ที่คุณครูและนักเรียนสามารถโต้ตอบกันได้เหมือนเป็นห้องเรียนเสมือนจริง ทั้งนี้แต่ละโรงเรียนสามารถนำรูปแบบการสอนข้างต้นนี้ไปปรับใช้ตามความเหมาะสม และทดสอบระบบจริงเพื่อสำรวจความพร้อม ปัญหาอุปสรรคและหาวิธีแก้ไขให้พร้อมสำหรับการเปิดเทอมใหม่

ใครต้องเรียนออนไลน์บ้าง

กระทรวงได้วางแผนพ่อแม่สามารถให้ ลูกเรียนออนไลน์ ได้ทุกระดับชั้นเข้าถึงการเรียนออนไลน์แต่ให้มีวิธีเรียนออนไลน์ต่างกันไปตามวัย ดังต่อไปนี้

อนุบาล 1 –3 : เรียนผ่านทีวีทางไกล DLTV

ประถม 1 –มัธยม 6: เรียนผ่านทีวีทางไกล DLTV และระบบ DEEP

มัธยม 4 – 6 : เรียนผ่านทีวีทางไกล DLTV ระบบ DEEP และ Interactive platform

กศน. และนักเรียนอาชีวะ :  เรียนผ่านทีวีทางไกล DLTV

ช่องดังกล่าวสามารถรับผ่านกล่องทีวีดิจิตอล และจานดาวเทียม สำหรับบบ้านไหนที่ไม่มีกล่องรับสัญญาณดังกล่าว ทางกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้เตรียมกล่องรับสัญญาณเพื่อนำมาแจกฟรีจำนวน2 ล้านกล่อง ส่วนครอบครัวใดที่ไม่มีโทรทัศน์เลย จะดำเนินการประชุมหาทางช่วยเหลือต่อไป ส่วนในพื้นทีห่างไกล เช่นโรงเรียนบนดอยหรือตะเข็บชายแดนอาจพิจารณาให้เปิดเรียนได้ แต่ก็ยังไม่มีนโยบายชัดเจนในเรื่องนี้

ลูกเรียนออนไลน์

เปิดทีวี DLTV ลูกได้เรียนอะไรบ้าง

การเรียนผ่านทีวีทางไกล ซึ่งเริ่มต้นให้เด็กๆได้เรียนกันแล้ว เป็นเนื้อหาที่จัดทำโดยมูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียมในพระบรมราชูปถัมภ์ ออกอากาศในระบบฟรีทีวีจำนวน 17 ช่อง โดยกำหนดให้ 1 ช่องมีรายการสอนเฉพาะสำหรับ 1 ระดับชั้น  ในระดับอนุบาลจนถึงประถมศึกษา จะมีเนื้อหาครอบคลุม 5 วิชาหลักได้แก่ วิทยาศาสตร์  คณิตศาสตร์ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ประวัติศาสตร์ ศิลปะ สังคมศึกษา และสุขศึกษาและพลศีกษา

ตารางเรียนจะมีตั้งแต่วันจันทร์ – ศุกร์ ตลอด 24 ชั่วโมง โดยจะมีการสอนในวิชาหลักใน 3 วิชา คือ 8.30-11.00 น. แล้วรีรันให้ชมอีก 2 ช่วงเวลาคือ 12.30 – 16.30 น. และ 20.30 -23.30 น. คุณพ่อคุณแม่จัดตารางให้ลูกเรียนในตอนเช้า แล้วหาเวลานั่งศึกษาเนื้อหาด้วยตนเองในช่วงเวลาอื่น เพื่อนำไปทบทวนบทเรียนให้ลูกๆเพิ่มเติมได้ หรือสำหรับบ้านที่มีลูกหลายคนสามารถแบ่งเวลาดูรายการคนละช่วงเวลาได้สะดวกขึ้น

นอกจากนี้ระหว่างวันจะมีรายการเพื่อเด็กและเยาวชน สารคดีสำหรับเด็กให้ดูฟรีตลอดวัน ซึ่งน่าจะเป็นช่องทางหนึ่งที่ช่วยให้การเรียนรู้ของเด็กไม่สะดุดระหว่างที่ต้องหยุดปิดเทอมยาวๆเช่นนี้

เช็กตารางเรียนผ่านทีวีทางไกล DLTV

ตารางเรียนชั้นอ.1

ตารางเรียนชั้นอ.2

ตารางเรียนชั้นอ.3

ตารางเรียนชั้นป.1

ตารางเรียนชั้นป.2

ตารางเรียนชั้นป.3

ตารางเรียนชั้นป.4

ตารางเรียนชั้นป.5

ตารางเรียนชั้นป.6

สำหรับช่องทีวีสำหรับชั้นมัธยมศึกษา กศน. และอาชีวศึกษาสามารถเช็กตารางเรียนเพิ่มเติมที่ www.dltv.ac.th

ลูกเรียนออนไลน์

ต้องให้ลูกเรียนออนไลน์ ดูทีวีทางไกลทุกบ้านหรือไม่

สำหรับข้อสงสัยว่า กรณีที่โรงเรียนของลูกได้วางแผนการสอนในช่วงรอเปิดเทอมไว้แล้ว จำเป็นต้องให้ลูกดูทีวีทางไกลหรือไม่ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ องคมนตรี ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียมในพระบรมราชูปถัมภ์ ระบุว่า

MUST READ :  ให้ลูกเรียนออนไลน์ อย่างไร? ถ้าแม่ต้องไปทำงาน?

MUST READ :อีกหนึ่งเสียง..จากใจแม่! 5 เหตุผลที่ไม่ควรให้ลูกเรียนออนไลน์

“การเรียนออนไลน์หรือรูปแบบใดก็ตามต้องทำให้ผู้ปกครองได้รับความเดือดร้อนน้อยที่สุด และแยกเด็กตามกลุ่มสภาพแวดล้อม เพราะเรารู้ว้าการเรียนผ่านโทรทัศน์มีประสิทธิภาพไม่เท่าการสอนจากครูจริง แต่แนวทางนี้เป็นเพียงการรับมือสถานการณ์ที่จำเป็นต้องทำเท่านั้น”

สำหรับโรงเรียนที่มีความพร้อม เช่น โรงเรียนขนาดใหญ่ โรงเรียนประจำจังหวัด โรงเรียนเอกชนในเมือง ซึ่งสามารถจัดการสอนทางออนไลน์ได้ คุณพ่อคุณแม่สามารถให้ ลูกเรียนออนไลน์ ตามแผนงานของโรงเรียนได้โดยไม่ต้องพะวงว่า จะต้องเรียนผ่านทีวีทางไกลด้วย เพราะนี่เป็นนโยบายเพื่อช่วยเด็กในกลุ่มที่เข้าถึงการศึกษาได้ยากในช่วงวิกฤติโควิด-19 มากกว่า

บทความน่าสนใจอื่นๆ 

เรียนออนไลน์ เตรียมตัวอย่างไรได้ผลดี ลูกแฮปปี้ ไม่เครียดเกินไป

ปรับนโยบายการศึกษา ช่วงโควิด 19


www.dltv.ac.th  www.pptvhd36.com  workpointnews.com

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

เรียนรู้ผ่านการเล่น

เรียนรู้ผ่านการเล่น ดีกว่า อัดวิชาการเข้าหัวเด็ก โดยพ่อเอก

Alternative Textaccount_circle
event
เรียนรู้ผ่านการเล่น
เรียนรู้ผ่านการเล่น

‘เด็ก เรียนรู้ผ่านการเล่น’ เป็นประโยคที่ผ่านหูผ่านตากันมาบ่อยๆ แต่ผมเชื่อว่ามีคุณพ่อคุณแม่ไม่น้อยคิดแย้งในใจว่าลูกเขาก็ไม่เห็นมีปัญหาอะไรเวลาเรียนกับคุณครู ขนาดส่งติวพิเศษ ก็ไม่เห็นลูกจะมีปัญหาอะไร ทั้งคณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ เชาวน์ ไปจนถึงศิลปะ ซึ่งนั่นก็จริงอยู่ ถ้าวัดกันตามที่ตามองเห็น

งั้นผมขอเติมประโยคแรกให้ยาวขึ้นอีกนิดเป็น

‘เด็กเรียนรู้ได้ดีกว่าผ่านการเล่น’

เด็กโตๆ การเรียนในห้องเรียนคงเป็นเรื่องปกติ แต่เด็กระดับอนุบาลระดับประถมต้น การปล่อยเขาได้ เรียนรู้ผ่านการเล่น เขาจะมีความสุขกับการเรียนรู้ เขาจะรักการเรียนรู้ในระยะยาว การอัดวิชาการเข้าหัวเด็กเล็กๆ ผ่านการติวในห้อง ระยะสั้นคุณพ่อคุณแม่อาจจะดีใจ แต่ในระยะยาวคุณตามแก้ปัญหายากกว่า (เด็กล้า เด็กเครียด) ผมจึงแปลกใจที่เห็นคุณพ่อคุณแม่แข่งกันโชว์ผลการเรียนระดับอนุบาลระดับประถมกัน ซึ่งผมเกรงว่ามันจะไปกดดันครอบครัวที่ลูกได้เกรดน้อยกว่า แล้วพาลพาลูกไปติวกันใหญ่ ผมอยากจะบอกว่า เกรดเด็กเล็กระดับนั้น มันไม่สามารถวัดอะไรได้เลยว่า เด็กเกรด 4.00 ฉลาดกว่า เด็กที่ได้เกรดน้อยกว่านั้น

ผมอยากเล่าเรื่องการปั่นจักรยานกับลูกให้ฟัง (ช่วงโควิด-19 ผมกลับถึงบ้านเร็วขึ้นจึงได้ปั่นจักรยานกับลูกเกือบทุกวัน)

พาลูกปั่นจักรยาน เรียนรู้ผ่านการเล่น ได้อย่างไร?

มีวันหนึ่งปูนปั้นถามขึ้นว่า “ป๊าครับ ทำไมปั่นในทรายแล้วมันไม่ค่อยไป เหมือนปั่นบนถนน”

ผมบอกให้เขาสังเกตดูเวลาล้อหมุนบนพื้นคอนกรีต – แล้วสอนเขาเรื่องแรงเสียดทานจากพื้นคอนกรีตที่ทำให้ล้อหมุนไปข้างหน้าได้ จากนั้นให้เขาไปสังเกตดูเวลาล้อหมุนบนทรายที่เม็ดทรายเคลื่อนที่ไปด้วยมันจึงปั่นยากกว่า

เขาได้เรียนรู้เรื่องแรงเสียดทาน

จากนั้นปูนปั้นก็คิดต่อไปถึง “อ๋อแบบเดียวกับที่รถตกโคลน (เขาคงเห็นจากไหนสักที่)”

ผมบอกว่า “ใช่” แล้วผมก็บอกว่า เราเรียกว่า “รถตกหล่ม”

แล้วถามปูนปั้นต่อว่า “คิดว่าจะช่วยรถตกหล่มอย่างไร”

เขาก็ตอบมาทั้ง ใช้เชือกดึง หารถยก และอื่นๆ

ผมตั้งโจทย์เพิ่มว่า “ถ้าไม่มีใครช่วย จะทำยังไงดี”

แล้วก็ใบ้ให้เพิ่มว่า “ในเมื่อเราเห็นว่าล้อวิ่งในโคลนไม่ได้ ทำไงให้ล้อวิ่งได้ ควรมีอะไรให้ล้อไต่แบบล้อจักรยานมั้ย”

ก็จะเริ่มมีคำตอบอย่าง “เอาหินโยนลงไป”

ผมก็อธิบายว่านั่นเป็นวิธีนึง หากหินก้อนใหญ่ให้ล้อปีนได้ หรือ ลองแผ่นอะไรแข็งๆมารองให้ล้อรถไต่อย่างเช่นแผ่นเหล็ก แผ่นไม้ ก็เป็นอีกวิธีนึง เราก็ตั้งคำถามว่าทำไมมันจึงช่วยให้รถขึ้นจากหล่มได้

ปูนปั้นก็ตอบมาว่า “เพราะแผ่นเหล็ก มันเป็นเหมือนพื้น”

 

อีกตัวอย่างการ เรียนรู้ผ่านการเล่น ของเด็ก ระหว่างขี่จักรยาน

“ปะป๊าครับ ทำไมปูนปั้นไม่ได้ปั่นแล้วจักรยานมันยังไปต่อ”

มันคือแรงเฉื่อยลูก มันพยายามรักษาการเคลื่อนที่เดิม”

ถ้าคุณคิดว่าลูกจะงง ใช่ครั้งแรกอาจจะงง เราก็ให้เขาทดลองทำอีก 2-3 ครั้ง เขาก็จะเริ่มเข้าใจ

วันต่อๆ มา ระหว่างทางขี่จักรยานมันก็จะมีการพูดคุยเรียนรู้กันเรื่อยๆ มีคำถามมา เราก็ให้ทดลองจริงให้เขาดู

“แล้วเบรกทำงานยังไง” … แรงเสียดทานก็กลับมาอีกครั้ง

เราให้เขาก้มมองดูที่ตัวหนีบล้อ ขณะที่ล้อหมุนแล้วกดเบรก พอตัวหนีบล้อทำงาน เขารู้จักแรงเสียดทานมากขึ้นอีกนิด

เราท้าทายเขาต่อว่า “ปูนปั้นลองปั่นสุดแรงขึ้นสะพานนะ แล้วพอใกล้ถึงบนสะพานให้หยุดปั่น”

แล้วเขาก็ลุ้นและตื่นเต้นที่มันพาเขาขึ้นถึงบนสะพานได้ แล้วเขาก็ฟังเราอธิบายว่า “แรงเฉื่อยมันพาขึ้นไปต่อ”

เราท้าทายเขาว่าถ้าขึ้นสะพานไปนิดเดียวหยุดปั่นหละ … แรงเฉื่อยจะพาขึ้นไปถึงมั้ย

เขาก็ลอง ปรากฏว่า จักรยานไหลลง

“ทำไมครับ ปะป๊า” … คำถามมาอีกครั้ง

เพราะแรงเฉื่อยมันแพ้แรงดึงดูดที่ดึงลง … ส่วนเมื่อกี๊ที่ได้เพราะมันเกือบถึงแล้ว แรงเฉื่อยมันมากพอจะส่งไปถึง

 

บทเรียนเหล่านี้ อย่าคิดว่าเด็กไม่เข้าใจ และเขาสนุก

ตอนนี้ทุกวัน ก่อนจะออกจากบ้านมาปั่น เขาจะบอกผมเลยว่า วันนี้อยากคุยเรื่องแรงเฉื่อยอีก

(ผมคุยกับเขาด้วยการใช้ภาษาอังกฤษด้วยนะครับ มีผู้ใหญ่เดินผ่านได้ยินเราคุยกันเรื่อง inertia ถึงกับเหลียวมามองว่า หืมมมม เจ้าตัวกะเปี๊ยกคุยเรื่อง inertia เนี่ยนะ)

ไม่ต้องเรียนรู้วิชาการขนาดนี้ก็ได้ การปั่นจักรยาน เรียนรู้เรื่อง ท้องฟ้า ต้นไม้ อากาศ ความเร็ว อาชีพคนที่เราผ่าน โอ้ย มีอะไรมากมายให้เรียนรู้

ลองดูนะครับ แล้วคุณจะเห็นตาโตๆ ของลูกน้อย กับรอยยิ้มจากการเรียนรู้

 


>>แวะไปดู รอยยิ้มหวานฉ่ำ ที่มีแจกฟรีทุกวันได้ที่เฟซบุ๊ค

หมุนรอบลูก – พี่ปูนปั้น กับ น้องปั้นแป้ง นะครับ<<

ปูนปั้น ปั้นแป้ง พ่อเอก
ปูนปั้น ปั้นแป้ง พ่อเอก เพจหมุนรอบลูก

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

keyboard_arrow_up