กินผลไม้ตอนท้องว่าง

กินผลไม้ ตอนไหนดี กับร่างกายมากที่สุด

Alternative Textaccount_circle
event
กินผลไม้ตอนท้องว่าง
กินผลไม้ตอนท้องว่าง

กินผลไม้ ตอนไหนดี หลังมื้ออาหารทุกคนมักจะตบท้ายด้วยผลไม้  เพราะเชื่อกันว่าการกินผลไม้หลังมื้ออาหารจะยิ่งช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบ 5 หมู่  ว่าแต่กินผลไม้หลังมื้ออาหารจะได้ประโยชน์จริงหรือ !?  ทีมงาน Amarin Baby & Kids มีคำตอบที่จะช่วยให้ทุกคนได้กินผลไม้แล้วเกิดประโยชน์สูงสุดกับร่างกายมาให้ทราบกันค่ะ

 

กินผลไม้ ตอนไหนดี

การเลือกบริโภคผลไม้ตามฤดูกาล จะช่วยให้เราได้ทานผลไม้ในราคาถูก มีความสด และหาซื้อทานได้ง่าย เพราะไม่ว่าจะในห้างสรรพสินค้า หรือตามตลาดสดทั่วไปก็มี  แต่ปัจจุบันนี้ไม่จำเป็นต้องรอซื้อทานผลไม้ตามฤดูกาลก็มีให้กินตลอดทั้งปี แต่ผลไม้บางชนิดอาจราคาแพงขึ้นเล็กน้อย

ผลไม้ ทุกชนิดจะมีทั้งวิตามินและแร่ธาตุหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น วิตามินซี วิตามินบี วิตสมินเอ วิตามินอี คลอลาเจน แคลเซียม เบต้าแคโรทีน สารต้านอนุมูลอิสระ โพแทสเซียม  แมกนีเซียม  ฟอสฟอรัส โฟเลต มีกรดอะมิโนจำเป็นตามธรรมชาติ  มีน้ำตาลกลูโคส และน้ำน้ำตาลซูโคส ฯลฯ การกินผลไม้ก็เหมือนการได้กินวิตามินธรรมชาติ ที่ช่วยให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง สดชื่น กระปรี้กระเปร่า  เห็นไหมคะว่าการกินผลไม้มีแต่จะได้ประโยชน์กับสุขภาพร่างกาย แต่ก็แนะนำว่าให้กินผลไม้ตามความเหมาะสม ไม่ทานมากเกินไป เพราะผลไม้บางชนิดมีน้ำตาลสูง เช่น ลำไยกะโหลกเขียว กล้วยหอม กล้วยน้ำว้า กล้วยไข่ ทุเรียน ละมุด เงาะ ขนุน มะม่วงน้ำดอกไม้สุก  ลองกอง ลางสาด เงาะ เป็นต้น หากทานมากไปอาจส่งผลให้น้ำตาลในเลือดสูงได้ค่ะ แต่ไม่เหมาะกับคนที่เป็นโรคเบาหวานที่จะทานผลไม้ที่มีน้ำตาลมากๆ นะคะ  เอาเป็นว่าผลไม้หากรู้จักทานให้เหมาะสมก็จะช่วยส่งเสริมให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง ฉะนั้นอย่ากังวลมากไปว่าทานผลไม้แล้วจะทำให้อ้วน!

อ่านต่อ >> “กินผลไม้ ตอนไหนดี” อ่านต่อหน้า 2 

 

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

เลี้ยงลูกอย่างไรไม่ผิดเพศ

เลี้ยงลูกไม่ให้ผิดเพศ ได้อย่างไร?

Alternative Textaccount_circle
event
เลี้ยงลูกอย่างไรไม่ผิดเพศ
เลี้ยงลูกอย่างไรไม่ผิดเพศ

เลี้ยงลูกไม่ให้ผิดเพศ เชื่อว่าพ่อแม่ทุกคนอยากให้ลูกเติบโตขึ้นมาเป็นเด็กที่สมบูรณ์ทั้งร่างกาย และจิตใจ แต่บางครั้งก็ต้องยอมรับว่าลูกอาจเติบโตขึ้นอย่างไม่เต็มชาย เต็มหญิง อาจมีเบี่ยงเบนกันบ้าง ทีมงาน Amarin Baby & Kids มีคำแนะนำจากกรมสุขภาพจิต ให้พ่อแม่ได้ เลี้ยงลูกไม่ให้ผิดเพศ มาแนะนำให้ได้เข้าใจกันมากขึ้นค่ะ

 

เลี้ยงลูกไม่ให้ผิดเพศ พ่อแม่ควรเข้าใจลูกก่อน !

การเลี้ยงลูกอยู่ที่ความรัก ความเข้าใจ การดูแลให้ความอบอุ่นลูกอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ลูกไม่รู้สึกว่าเขาขาดความรักจากพ่อแม่ และคนในครอบครัวคนอื่นๆ ด้วย พ่อและแม่ จะต้องไม่สอนให้ลูกเข้าใจว่า แม่ดีกว่าพ่อ หรือพ่อดีกว่าแม่เพื่อให้ลูกเกิดความสับสน และเข้าใจความรักที่พ่อแม่มีให้แบบผิดๆ ไป เพราะการเลี้ยงลูกจากครอบครัว คือผลที่จะส่งต่อไปยังอนาคตข้างหน้าของลูก

การเลี้ยงลูกที่ดี พ่อแม่ต้องเข้าใจลูกอย่างเข้าใจถ่องแท้ ในพัฒนาการทุกด้าน  ความคิด หรือแม้แต่การแสดงออกของลูก ที่ เพื่อที่จะได้เลี้ยงลูกให้ถูกทาง การที่เด็กเล็กๆ ไม่ได้ถูกสร้าง หรือถูกกดดันให้มีปมใดๆ ในใจมาตั้งแต่ตอนเด็ก จะช่วยให้เขาเติบโตขึ้นอย่างถูกทิศทาง

แต่ในปัจจุบันนี้คงต้องยอมรับว่ามีเด็กที่เติบโตขึ้นจำนวนหนึ่ง ที่เมื่อถึงวัยที่เข้าใจเรื่องเพศมากขึ้น เขาอาจรู้ว่าเขาต้องการความรักจากหญิง หรือชาย ซึ่งหากพ่อแม่ไม่เข้าใจลูกตรงจุดนี้ ก็อาจทำให้เกิดปัญหาเพราะยากที่จะทำใจยอมรับในสิ่งที่ลูกเป็นได้  การที่ลูกมีความเบี่ยงเบนทางเพศ อาจเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย และพ่อแม่ควรทำความเข้าใจในเรื่องนี้ให้ดี

 

Good to know… “รู้หรือไม่ว่า การอบรมเลี้ยงดูลูกจากพ่อแม่ สามารถเป็นปัจจัยที่กำหนดเพศ (sex designation) ของลูกได้”

 

อ่านต่อ >> “การสังเกตความเป็นเพศหญิง เพศชาย” หน้า 2

 

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

พาลูกเที่ยวแบบไหน เสริมพัฒนาการ สร้างทักษะชีวิต!

event

พาลูกเที่ยว แบบไหน ดี? …ในวันหยุดยาวสิ้นปีแบบนี้ หลายบ้านวางแผนพาลูกเที่ยวกันไว้หลายที่ แต่เที่ยวทั้งที่จะสนุกอย่างเดียวก็ไม่ได้แล้ว ยุคนี้พ่อแม่ต้องหาที่เที่ยว ที่สามารถช่วยเสริมทักษะ และสร้างพัฒนาการต่างๆ ของลูกไปในตัวด้วย เพื่อให้ลูกรักของเรา เรียกได้ว่าไปเที่ยว แบบไม่เสียเที่ยว เลยก็ว่าได้

การพาลูกน้อยไปเรียนรู้ออกไปเรียนรู้โลกกว้างนั้น ถือเป็นการสร้างพัฒนาการที่ดีให้ลูกน้อยอีกทางหนึ่ง ยิ่งหากลูกน้อยของคุณอยู่ในวัยกำลังเรียนรู้แล้วล่ะก็…ขอบอกว่าโลกกว้างนี่ล่ะค่ะ ที่จะทำให้ลูกน้อยของคุณได้เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ สิ่งใหม่ ๆ รวมถึงการเปิดมุมมองใหม่ ๆ ให้ลูกน้อยของคุณได้มากกว่าที่เคยผ่านมา

ปีใหม่นี้! พาลูกเที่ยว แบบไหน เสริมพัฒนาการที่ดีให้ลูก

พาลูกเที่ยว แบบไหน

นอกจากนี้การมีทักษะภายในบ้านที่ดีแล้ว ควรจะมีทักษะภายนอกบ้านที่ดีด้วยอย่างเช่น เมื่อเด็กที่เติบโตจนถึงช่วงหนึ่งที่ต้อง เข้าโรงเรียนอนุบาล เด็กก็จะได้เรียนรู้จากสิ่งภายนอกบ้านได้มากขึ้น ได้เรียนรู้การอยู่รวมกันกับคนอื่นที่เราไม่รู้จัก และคุณพ่อและคุณแม่ สามารถที่จะพาเด็กไปเที่ยวเล่นตามสถานที่ต่างๆก็ได้ อย่างเช่นสวนสัตว์ จนกระทั้งเด็กมีอายุที่มากขึ้น สามารถปกป้องตัวเองได้แล้ว ก็ควรจะสอนการเดินทางให้เค้าสามารถเดินทางไปไหนต่อไหนได้ด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องพึ่งพาอาศัยคนอื่น

แต่การจะพาลูกๆ ออกมาสู่โลกกว้างนั้นก็อาจมีทั้งเรื่องดีและไม่ดีให้พบเจอ Amarin Baby & Kids จึงขอนำความจริง 7 ประการเกี่ยวกับการพาลูกเล็กออกเที่ยว มาฝากกัน และพ่อแม่อาจต้องชั่งน้ำหนักดูว่าจะดีพอสำหรับเป็นประสบการณ์ให้ลูกและตัวเองหรือไม่ ดังนี้

1. การวางแผนการเดินทางอย่างเข้มงวดจนเกินไปอาจทำให้ทริปไม่สนุก

เพราะคุณไม่สามารถกำหนดเด็กๆ ให้เป็นไปตามแผนที่คุณต้องการได้ เขาอาจจะร้องโยเยตอนคุณพ่อคุณแม่เจอร้านอาหารสุดโปรด ไม่ยอมหม่ำดีๆ จะร้องกินแต่นม ขว้างปาข้าวของสุดฤทธิ์ จนคุณต้องเดินออกจากร้านทั้งๆ ที่ยังไม่ได้รับประทานแม้แต่คำเดียว ดังนั้น หากต้องการเดินทางพร้อมลูกเล็ก ควรวางแผนเอาไว้หลวมๆ หรือควรเป็นแผนที่ยืดหยุ่นได้จะดีกว่า

2. สิ่งอำนวยความสะดวกอาจไม่พร้อมเหมือนอยู่บ้าน

แม้ปัจจุบันจะมีพ่อแม่พาลูกเล็กออกเดินทางไปไหนต่อไหนมากขึ้น แต่ก็อย่าลืมว่าบรรดาเจ้าของกิจการส่วนใหญ่ยังไม่พร้อมจะรองรับลูกค้ากลุ่มครอบครัวกันนัก ดังนั้น หากต้องการพาลูกเดินทางไปด้วยจริงๆ คุณพ่อคุณแม่อย่าลืมทำใจยอมรับความจริงข้อนี้กันให้มากๆ เพราะการบริการบางอย่างก็ยังไม่พร้อม หรือยังไม่ถูกเตรียมเอาไว้ให้บริการ เช่น เก้าอี้นั่งสำหรับเด็ก เป็นต้น

3. รับมือกับความคาดหวังของคนที่พบเจอ

คนที่ไม่มีลูก หรือไม่เคยเลี้ยงเด็ก ส่วนใหญ่จะผ่านตาภาพของแม่และเด็กจากโฆษณาทั้งหลาย ที่พ่อแม่ลูกรักกัน ยิ้ม หอมแก้มกัน มีแต่เสียงหัวเราะ และความสุข แต่ความจริงก็คือ ภาพเหล่านั้นมันไม่ได้เกิดเสมอไปหรอกค่ะ มันต้องมีช่วงโหดมันฮากันบ้าง ร้องไห้กันบ้าง งอแงกันบ้าง ซึ่งคุณแม่อาจกลายเป็นแม่ใจร้ายในสายตาของคนอื่น หรือถูกมองอย่างตำหนิที่ไม่สามารถจัดการกับลูกได้ ซึ่งก็ขอเป็นกำลังใจให้ให้คุณแม่ที่ต้องพยายามอดทนกับการแสดงออกของคนรอบข้างที่ไม่เข้าใจด้วยค่ะ

อ่านต่อ >> “ข้อแนะนำการเตรียมตัวพาลูกเล็กออกเที่ยวต่างจังหวัด” คลิกหน้า 2

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

ยกนิ้วให้! น้องสาว ปกป้องพี่สาว ให้รอดจากการถูกแม่ดุ (มีคลิป)

event

น้องสาว ปกป้องพี่สาว …กับคลิปสุดน่ารัก เมื่อคุณแม่แกล้งดุว่าลูกสาวคนโต เจอคุณลูกสาวคนเล็กชี้นิ้วออกคำสั่งเสียงแข็ง ว่า No No “หยุดนะแม่ อย่าทำแบบนี้” ท่าทางจะรักพี่สาวเอามาก ๆ

 

คุณแม่ Jessica Elzy ได้พาลูกสาว 2 คนไปทานอาหารเย็นที่ร้านพิซซ่าในรัฐเทกซัส สหรัฐฯ จากนั้นก็ได้เตี๊ยมกับลูกสาวคนโตว่าจะทำเป็นดุเธอให้เธอแกล้งร้องไห้ เพื่อดูปฏิกิริยาของน้องสาวคนเล็ก

น้องสาว ปกป้องพี่สาว จากการถูกแม่ดุ

น้องสาว ปกป้องพี่สาว

แต่ยังไม่ทันที่คุณแม่ Jessica Elzy จะได้ต่อว่าอะไรมาก หนูน้อย ลูกสาวคนเล็กก็เข้าปกป้องพี่สาวสุดพลัง ชี้นิ้วออกคำสั่งเสียงแข็งใส่คุณแม่ “อย่าทำแบบนี้กับเอมม่า (พี่สาว) นะ หยุดนะแม่ หยุดเดี๋ยวนี้นะแม่”พร้อมกับโผเข้ากอดปลอบพี่สาวด้วยความห่วงใย

น้องสาว ปกป้องพี่สาว

และเมื่อคุณแม่ยังไม่ยอมหยุดว่าพี่สาว หนูน้อยก็เลยลงโทษด้วยการเอื้อมไปหยิกแขนคุณแม่ซะเลย พร้อมกับลั่นคำเดิมว่า “หยุดเดี๋ยวนี้นะแม่” พร้อมกับแสดงสีหน้าท่าทางไม่พอใจคุณแม่เป็นที่สุด

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

น้องสาว ปกป้องพี่สาว

น้องสาว ปกป้องพี่สาว ว่าแต่สาวน้อยที่ออกโรงปกป้องพี่สาวของตัวเองจะน่ารักขนาดไหน ไปชมคลิปกันเลยค่ะ

ชมคลิป “น้องสาวสุดน่ารักปกป้องพี่สาวจากการถูกแม่ดุ” คลิกหน้า 2

ผลสอบ PISA “เด็กไทย” น่าเป็นห่วง คะแนนร่วงวิชา

Alternative Textaccount_circle
event

สิงคโปร์ครองอันดับหนึ่งทุกวิชา ในการประเมินผลทักษะการเรียนรู้นักเรียนนานาชาติ หรือ ผลสอบ PISA ครั้งล่าสุด ขณะที่เด็กไทยน่าเป็นห่วง ทำคะแนนได้ลดลงทุกวิชา (more…)

9 เรื่องควรสอนลูก เพื่ออนาคตที่ดี

9 เรื่องควรสอนลูก เพื่อมีอนาคตที่ดี

Alternative Textaccount_circle
event
9 เรื่องควรสอนลูก เพื่ออนาคตที่ดี
9 เรื่องควรสอนลูก เพื่ออนาคตที่ดี

เรื่องควรสอนลูก เพื่อมีอนาคตที่ดี เด็กก็คือผ้าขาวบริสุทธิ์ผืนหนึ่ง ที่พ่อแม่สามารถแต่งแต้มสีสันให้สวยงามตามต้องการ แต่ก่อนที่พ่อแม่จะหยิบยื่นส่งเสริมรากฐานให้ลูก ควรศึกษาหาข้อมูลให้ดีก่อนนำมาพัฒนาลูกให้เติบโตขึ้นอย่างคนที่มีคุณค่าและมีประสิทธิภาพ  ทีมงาน Amarin Baby & Kids มี 9 เรื่องที่พ่อแม่ควรสอนลูก เพื่อให้มีอนาคตที่ดี มาให้ได้ทราบกันค่ะ

 

เรื่องควรสอนลูก เพื่อมีอนาคตที่ดี และพ่อแม่ต้องรู้ !

เขาว่ากันว่าดูช้างให้ดูหาง ดูนางให้ดูแม่  ลูกหลานจะเป็นอย่างไรก็อยู่ที่พ่อแม่ ผู้ใหญ่คนตักเตือน อบรมสั่งสอน แต่หากต้นแบบที่นำลูกอย่างพ่อแม่ไม่ได้เป็น หรือกระทำแบบอย่างที่ดีให้ลูกได้เห็น ได้เรียนรู้ ซึมซับนำไปใช้ได้ หรือสอนสั่งลูกในเรื่องที่ไม่ถูกต้อง แน่นอนว่าผลที่จะตามมาคือลูกอาจกลายเป็นเด็กเหลือขอ  ทำอะไรก็เหลาะแหละ ไม่จริงจัง ไม่ประสบความสำเร็จสักอย่าง

 

เหมือนอย่างที่ท่านอาจารย์  ท่านอาจารย์ชุติปัญโญ กล่าวไว้ว่า “การปฏิบัติให้เห็นเป็นตัวอย่าง จึงชื่อว่า เป็นการชักนำผู้ที่เห็นให้เกิดความประทับใจในเบื้องต้น และเป็นการเชื่อมโยงทั้งความคิดและการกระทำไปสู่สิ่งที่ดีงามในวันข้างหน้าได้อย่างลงตัว เปรียบเช่นกับการรู้จักหาพันธุ์ไม้ที่มีความเข้มแข็งมาเป็นต้นกล้า เพื่อที่จะให้เป็นต้นกล้าแห่งความหวังที่จะเติบโตด้วยความมั่นคงในโอกาสต่อไป1

อ่านต่อ >> “9 เรื่องควนสอนลูก เพื่อมีอนาคตที่ดี” อ่านต่อหน้า 2

 

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

ฝึกลูกนอนยาว

รวม 25 วิธีเด็ด ช่วยให้ลูกน้อยนอนหลับง่าย สบาย และนานขึ้น

event
ฝึกลูกนอนยาว
ฝึกลูกนอนยาว

ฝึกลูกนอนยาว …เมื่อพูดถึงการนอนของลูก เชื่อว่าพ่อแม่หลาย ๆ คนคงมีคำถามเกี่ยวกับการนอนของลูกกันอยู่ไม่น้อย เช่น เด็กควรนอนวันละกี่ชั่วโมง ควรปลุกให้ดื่มนมตามเวลาหรือไม่ เด็กจะนอนได้ทั้งคืนโดยไม่ตื่นมากินนมตอนอายุเท่าไร แล้วทำไมเด็กเล็ก ๆ บางคนตื่นบ่อยและโยเยตอนกลางคืน หรือไม่ยอมนอน ต้องอุ้มกล่อมหรือป้อนนมทุกครั้ง

 

ส่วนระยะเวลาการนอนหลับจะแตกต่างกันในแต่ละอายุ ทารกแรกเกิดนอน 16-17 ชั่วโมงต่อวัน เด็กอายุ 4-6 เดือน สามารถนอนติดต่อกันได้ถึง 5 ชั่วโมง และเด็กควรจะหลับได้ด้วยตัวเอง อายุ 1 ปี เด็กจะนอนวันละประมาณ 14 ชั่วโมง อายุ 2 ปี จะนอนวันละ 13 ชั่วโมง และส่วนใหญ่มักไม่นอนตอนเช้า พออายุ 3-5 ปี ส่วนใหญ่จะนอนตอนบ่าย 1 ครั้ง และร้อยละ 75 ของเด็กอายุ 5 ปี ไม่ต้องการนอนกลางวัน

ฝึกลูกนอนยาว

เพราะการนอนหลับอย่างมีคุณภาพจะส่งผลดีต่อการเรียนรู้ สมาธิ ความจำ และการตัดสินใจ มีผลต่อพัฒนาการทางอารมณ์ ส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันให้สมบูรณ์ ดังนั้นเด็ก ๆ ควรได้นอนหลับ 12-18 ชั่วโมง ต่อวัน แต่บางครั้งการที่จะทำให้ลูกน้อยนอนหลับได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลย เด็กบางคนไม่ยอมนอนหรือนอนได้ไม่นานก็ร้องตื่น ดังนั้นเราจึงมีวิธีช่วยให้ลูกของคุณนอนหลับได้ง่าย สบาย และนานขึ้นกว่าเดิมดังนี้ค่ะ

รวม 25 วิธีเด็ด ฝึกลูกนอนยาว นอนง่าย
หลับสบาย และนานขึ้น

1.พาลูกเข้าห้องนอนก่อนลูกจะหลับ ไม่ควรเผลอปล่อยให้ลูกนอนหลับขณะที่กำลังอุ้มลูกอยู่ จะทำให้เด็กติดเป็นพฤติกรรม หมายความว่า เมื่อเราเอาลูกไปวางบนที่นอนหลังจากที่หลับคาอกเราแล้ว เมื่อตื่นขึ้นมา ลูกจะร้องและไม่สามารถหลับต่อได้เอง เนื่องจากว่าสภาวะก่อนที่เขาจะหลับได้เปลี่ยนไป

2.บอกลูกทุกครั้งว่าถึงเวลาเข้านอนแล้ว แม้ว่าลูกจะยังเป็นทารก หรือเด็กที่เริ่มโตแล้วก็ตาม เด็กจะสามารถเรียนรู้ได้ค่ะ หากคุณแม่พาไปยังที่นอนแล้ว ควรที่จะใช้คำพูดเดิมๆ ซ้ำๆ ทุกครั้งในการบอกว่า ได้เวลานอนแล้ว น้ำเสียงควรจะเป็นโทนต่ำ ราบเรียบ เพื่อเป็นการฝึกให้เด็กได้เรียนรู้ว่า เมื่อพ่อแม่พูดคำนี้ น้ำเสียงแบบนี้บนที่นอน นี่คือสัญญาณว่าได้เวลานอนแล้ว

Must read : 20 วิธีสานสายใยความผูกพันกับลูกน้อยก่อนเข้านอน

3.ให้ลูกหลับด้วยวิธีเดียวกันเสมอๆ ไม่ว่าจะเป็นการนอนตอนกลางวัน กลางคืน คุณควรที่จะฝึกให้เขาเรียนรู้ว่า เมื่อคุณปฏิบัติตามเคล็ดลับที่ 1 และ 2 แล้ว นั้นคือเวลาเข้านอนของเขาแล้ว แรกๆ เด็กอาจจะปรับตัวไม่ได้ แต่ว่าเมื่อเวลาผ่านไป เด็กๆ จะสามารถเรียนรู้ได้เอง ต้องอดทนและให้เวลากับลูกให้มาก

อ่านต่อ >> “วิธีเด็ด ฝึกลูกนอนยาว 5-11” คลิกหน้า 2

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

ยาที่กินแล้วน้ำนมไม่หด

ยาแก้หวัด แก้ไข้ ที่แม่ให้นมกินแล้ว นมไม่หด ไม่ส่งถึงลูก

Alternative Textaccount_circle
event
ยาที่กินแล้วน้ำนมไม่หด
ยาที่กินแล้วน้ำนมไม่หด

แม้ว่ายาจำนวนไม่น้อยสามารถละลายน้ำแล้วขับออกทางน้ำนม ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อทารกที่ดื่มนมแม่อยู่ได้ แต่ไม่ใช่ยาทุกตัวที่จะส่งผลต่อลูกน้อย ดังนั้น คุณแม่จึงควรทราบว่า เมื่อคุณแม่ไม่สบาย เป็นหวัด หรือเป็นไข้ ยาที่แม่ให้นมกินได้มีอะไรบ้าง ยาที่ไม่มีผลต่อน้ำนม ยาที่กินแล้วน้ำนมไม่หด ไม่ส่งถึงลูก และยาอะไรบ้างที่ควรหลีกเลี่ยง (more…)

“กองทราย” ของเล่นยอดฮิตของเด็กน้อย ราคาถูก หาง่าย ประโยชน์มหาศาล

Alternative Textaccount_circle
event

เล่นกระบะทราย พัฒนาสมองลูก เด็กที่อยู่ในช่วงวัย 2-3 ขวบขึ้นไป หากพ่อแม่มีการส่งเสริมให้ลูกได้เล่นในรูปแบบที่ช่วยกระตุ้นทักษะต่างๆ ของร่างกายได้มีการทำงานสอดประสานไปพร้อมกัน จะยิ่งช่วยให้สมองเกิดการพัฒนาต่อยอดทางความคิดมากขึ้น ทีมงาน Amarin Baby & Kids มีของเล่นสนุกๆ จากธรรมชาติ อย่างการเล่นกระบะทราย ที่สามารถช่วยพัฒนาสมองของเด็กๆ ได้อย่างดีเยี่ยม มาแนะนำให้ทราบกันค่ะ

 

เล่นกระบะทราย  พัฒนาสมองลูก :  ทำไมต้องเล่นทราย ?

คุณพ่อคุณแม่ยิ่งถ้าเป็นคนในเมืองมักจะไม่ค่อยชอบให้ลูกได้ออกไปเล่นนอกบ้านให้เสื้อผ้า เนื้อตัวเลอะเปรอะเปื้อนเท่าไหร่ อาจเพราะกลัวลูกได้รับเชื้อโรค แบคทีเรีย แล้วจะทำให้เจ็บป่วย  แต่รู้ไหมคะว่า ถ้าเป็นเด็กๆ ที่อยู่ต่างจังหวัดส่วนมากแล้วจะเป็น ย่า ยาย พี่ ป้า น้า อา เป็นคนช่วยเลี้ยงด้วยอีกแรง ซึ่งเด็กต่างจังหวัดส่วนมากมักจะได้รับการส่งเสริมให้ได้เล่นอยู่กับธรรมชาติสายลม แสงแดด  มือได้จับทราย เท้าได้เดินสัมผัสดิน ซึ่งการเล่นอยู่กับธรรมชาติ จะช่วยให้เด็กได้รับภูมิคุ้มกันจากธรรมชาติ ซึ่งการเล่นกับธรรมชาติจะช่วยให้ทุกทักษะพัฒนาการของเด็กได้รับการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา

 

การเล่นกับธรรมชาติ ที่ได้ประโยชน์มากๆ คือ การให้ลูกเล่นดิน เล่นทราย ซึ่งผิวสัมผัสของดิน ทรายจะเป็นเนื้อหยาบๆ เวลาที่ลูกหยิบ จับ ขยำเล่น จะช่วยกระตุ้นประสาทสัมผัสของกล้ามเนื้อมัดเล็กได้ใช้นิ้ว และฝ่ามือทั้งสองข้างได้ดีมากขึ้น  ยิ่งโดยเฉพาะการเล่นทราย ที่แนะนำว่าพ่อแม่ควรหากระบะทราย ที่มีขนาดใหญ่พอให้ลูกสามารถลงไปนั่งเล่นได้ทั้งตัว แต่หากกังวลถึงความสะอาดของทราย สามารถหาซื้อทรายธรรมชาติที่เป็นทรายเนื้อละเอียดเล็กสะอาดๆ ได้ตามร้านขายอุปกรณ์ปลูกสร้าง หรือจะเลือกเป็นทรายวิทยาศาสตร์ที่มีขายตามร้านของเล่นเด็กในห้างสรรพสินค้าทั่วไปก็ได้เช่นกันค่ะ สำหรับดินเหนียวหากไม่มีดินเหนียวธรรมชาติ ก็ให้ซื้อเป็นแป้งโดว์ให้ลูกเล่นก็ได้ประโยชน์มากเหมือนกันค่ะ

 

Good to know… “กล้ามเนื้อมัดเล็ก หมายถึง การใช้มือ การหยิบจับ ซึ่งเป็นพื้นฐานของการที่เด็กจะพัฒนาการ การเขียน การทำงานในชีวิตประจำวัน และการช่วยเหลือตัวเอง1

อ่านต่อ >> “ลูกเรียนรู้ด้วยการเล่นอย่างไร?” คลิกหน้า 2

 

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

7 สารอาหารต้องรู้ “ดูแลสมอง สร้างไอคิว” ให้ลูกรัก

event

อาหารบำรุงสมองสมองดีเป็นสิ่งที่ใครๆ ก็ต้องการ ทำอย่างไรจึงจะป้องกันไม่ให้สมองเสื่อมก่อนวัย และทำอย่างไรจึงจะทำให้สมองยังคงดีอยู่กับเราตลอดชีวิต การเลือกรับประทานอาหารที่ดีเป็นส่วนหนึ่งของการช่วยดูแลสมอง เริ่มต้นดูแลสมองของคุณด้วยอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อสมองและความจำจะได้อยู่กับเราไปนานๆ

อาหารบำรุงสมอง” ปัจจัยหลักเพื่อการพัฒนาสมอง

ปัจจัยหลักที่ส่งผลทั้งในด้านส่งเสริมและควบคุมพัฒนาการของสมองสามารถแบ่งออกได้ 3 ปัจจัยใหญ่ๆ คือ พันธุกรรม สิ่งแวดล้อมและอาหาร โดย 2 ปัจจัยแรกนั้นเป็นปัจจัยที่เราไม่สามารถควบคุมได้อย่างเต็มที่ ในขณะที่อาหารเป็นปัจจัยเดียวที่เราสามารถควบคุมได้มากที่สุด ด้วยความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ ทำให้ความรู้ทางโภชนาการของเรากว้างขวางขึ้น ทำให้ทราบว่าสำหรับเจ้าตัวเล็กแล้วอาหารมีบทบาท ในการกระตุ้นพัฒนาการของสมองและยังมีอิทธิพลต่อพฤติกรรม สติปัญญา และความเฉลียวฉลาดของเด็กเป็นอย่างมาก เราลองมาดูกันค่ะว่า ถ้าเราต้องการให้สมองของเจ้าตัวเล็กพัฒนาได้อย่างมีประสิทธิภาพเจ้าตัวเล็กต้องได้รับสารอาหารอะไรบ้าง

อาหารบำรุงสมอง

♣ หลักในการเลือกรับประทานอาหารเพื่อการดูแลสมอง

  • รับประทานอาหารประเภทต้านอนุมูลอิสระ เพื่อลดปัญหาอนุมูลอิสระทำลายสมอง
  • รับประทานอาหารที่ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดเข้าสู่สมอง
  • รับประทานอาหารที่ไม่ปนเปื้อนสารโลหะหนักหรือสารเคมีต่างๆ
Must read13 สารอาหารสำคัญ เพื่อลูกรักฉลาด ตั้งแต่อยู่ในครรภ์
Must readเทคนิคกระตุ้นสมองลูกให้ฉลาดอย่างถูกวิธี
Must read : เลี้ยงลูกแบบเทวดา ทำให้ลูกไอคิวต่ำ

ทั้งนี้ยังมีทฤษฎี 7 กลุ่มอาหาร ที่จะช่วยสร้างพลังสมอง และสร้างไอคิวสูงให้กับลูกน้อย ได้ เหมาะสำหรับยุคสมัย ซึ่งมั่นใจว่าได้สารอาหารครบถ้วนช่วยเสริมสร้างพัฒนาการสมอง สติปัญญา และร่างกายเหมาะสำหรับยุคสมัย มั่นใจว่าได้สารอาหารครบถ้วนช่วยเสริมสร้างพัฒนาการสมอง สติปัญญา และร่างกายเพื่อลูกน้อยเติบโตแข็งแรงสมวัยอย่างเต็มศักยภาพ

ทั้งนี้ความแตกต่างของระดับสติปัญญาของคนเราขึ้นอยู่กับสมองของใครมีเยื่อไมอีลิน หรือเปลือกหุ้มเส้นใยประสาทที่เติบโตเต็มที่มากกว่ากัน เพราะเยื่อไมอีลินเป็นปัจจัยสำคัญที่เพิ่มการสื่อสารระหว่างเซลล์สมอง ที่ส่งผลต่อความฉลาดและสติปัญญา ช่วยในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและแม่นยำขึ้น ฉะนั้น การกระตุ้นให้เยื่อไมอีลินเติบโตอย่างเต็มที่จึงมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อการ สร้างเสริมพลังสมองในเด็ก โดยคุณพ่อคุณแม่สามารถสร้างเยื่อไมอีลินของลูกให้เพิ่มขึ้นได้จากอาหารที่ดี มีคุณภาพ และการสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ใหม่ๆ โดยทฤษฎี 7 กลุ่มอาหารที่จะแนะนำ เป็นหลักการที่ช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่จำเป็นต่อการพัฒนาสมองและร่างกายทั้งหมด มีบทบาทสำคัญในการสร้างความฉลาดให้สมองได้เป็นอย่างดี …โดยตามหลักการของทฤษฎี 7 กลุ่มอาหาร ที่ร่างกายต้องการชนิดอาหารในแต่ละวัน ดังนี้

อ่านต่อ >> ทฤษฎี 7 กลุ่มอาหาร ที่จะช่วยสร้างพลังสมองให้ลูกน้อย” คลิกหน้า 2

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

12 เรื่องจริง! เกี่ยวกับ “ทารกและการตั้งครรภ์” ที่คุณแม่ท้องเองก็อาจไม่เคยรู้มาก่อน!!

event

ทารกอยู่ในท้องทำอะไรบ้าง หากคุณได้ทราบ เรื่องของทารกในครรภ์ ทั้ง 12 ข้อที่จะกล่าวต่อไปนี้ ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องที่แปลกแต่ก็เป็นเรื่องจริง ที่มันเกิดขึ้นกับลูกของเราในครรภ์ได้

 

คุณเคยรู้อะไรบ้างเกี่ยวกับเรื่องของการตั้งครรภ์ ซึ่งก็แน่นอนว่าคนส่วนใหญ่ต่างก็รู้วิธีการทำให้ตั้งครรภ์ว่าต้องทำอย่างไร..ทั้งนี้ การตั้งครรภ์ นับเป็นเรื่องมหัศจรรย์ที่สุดในชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่งที่มีโอกาสได้สัมผัส เพราะคงไม่มีประสบการณ์ใดจะเทียบได้กับการมีอีกหนึ่งชีวิตน้อยๆ ค่อยๆ เจริญเติบโตในครรภ์ของเราเอง แต่ก็ยังมีความจริงสุดแปลกเกี่ยวกับเรื่องราวของทารกในครรภ์ ที่แม้แต่คนเป็นแม่คนก็อาจจะไม่เคยรู้มาก่อนเลย จะมีอะไรบ้างไปดูกันค่ะ

รวม 12 เรื่องของทารกในครรภ์ แปลกแต่จริง!
ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน!!

#1. ทารกสามารถร้องไห้ได้ตั้งแต่อยู่ในครรภ์

เรื่องของทารกในครรภ์

◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊

#2. ทารก 1 ใน 2,000 คนจะเกิดมาพร้อมกับฟัน

รื่องของทารกในครรภ์

Must readดูแลฟันลูกน้อย ตั้งแต่ซี่แรก และวิธีทำความสะอาดฟัน

◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊

#3. ในการตั้งครรภ์มดลูกจะขยายขนาด จากขนาดเท่าลูกพีชไปจนมีขนาดเท่าผลแตงโม

รื่องของทารกในครรภ์

Must readขนาดของทารกในครรภ์แต่ละสัปดาห์

◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊

#4. ทารกในครรภ์สามารถรับรู้ความรู้สึกในการสัมผัส การมองเห็นและการได้ยิน ดังนั้นแม่ทุกคนจึงควรลูบท้องและพูดคุยกับลูกที่อยู่ในครรภ์บ่อยๆ

รื่องของทารกในครรภ์

>> Must readเคล็ดลับดี๊ดีกับวิธีทำให้ลูกในท้องดิ้น

>> Must readสร้างอัจฉริยะให้ลูก ด้วยการคุยกับลูกในครรภ์

>> Must readวิธีสร้างลูกฉลาด เด็กอัจฉริยะสร้างได้ตั้งแต่ในท้อง

อ่านต่อ >> “รวมเรื่องแปลกแต่จริง! กับ “ทารกและการตั้งครรภ์”
ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน” คลิกหน้า
2

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

ไม่บังคับลูกแปรงฟัน

พ่อแม่ไม่บังคับลูกแปรงฟัน สุดท้ายต้องถอนฟัน

Alternative Textaccount_circle
event
ไม่บังคับลูกแปรงฟัน
ไม่บังคับลูกแปรงฟัน

คุณพ่อ คุณแม่หลายคนเชื่อว่า การ บังคับลูกแปรงฟัน จะทำให้ลูกน้อยเกลียด และกลัวการแปรงฟัน ทำอย่างไรถึงจะแก้ไขทัศนคตินี้ออกไปได้ เวลาที่มีภาพ หรือคลิปวิดีโอที่คุณพ่อ หรือคุณแม่แปรงฟันให้ลูกเล็กๆ วัย 1 – 2 ขวบ โดยลูกนอนบนตัก และถูกขาหนีบเอาไว้  หลายคนรู้สึกไม่ดี

(more…)

สูตรน้ำฟักทอง

สูตรน้ำฟักทอง บำรุงร่างกาย “เรียกน้ำนมแม่” !!

Alternative Textaccount_circle
event
สูตรน้ำฟักทอง
สูตรน้ำฟักทอง

สูตรน้ำฟักทอง บำรุงร่างกาย  เรียกน้ำนมแม่  ช่วงเวลาที่ดีที่สุดของคนเป็นแม่ คือการได้ทำหน้าที่แม่ในการเลี้ยงลูกด้วยน้ำนมตนเอง “น้ำนมแม่” เป็นสุดยอดอาหารที่วิเศษสำหรับร่างกายลูกน้อยตั้งแต่แรกเกิด  ทีมงาน Amarin Baby & Kids ขอแนะนำ สูตรน้ำฟักทอง ที่จะช่วยบำรุงร่างกาย และช่วยเรียกน้ำนมแม่ ให้มีปริมาณเพียงพอสำหรับใช้เลี้ยงลูกน้อยกันค่ะ

 

สูตรน้ำฟักทอง บำรุงร่างกาย  เรียกน้ำนมแม่ 

การที่จะช่วยส่งเสริมร่างกายของแม่ให้มีการผลิตน้ำนมคุณภาพออกมามีปริมาณเพียงพอ เพื่อให้ลูกกินได้นานที่สุด ปัจจัยสำคัญต้องมาจากอาหารที่ดีและมีประโยชน์ ที่แม่ต้องรู้จักนำเอาผัก ผลไม้ พืชสมุนไพร มาทำเป็นเมนูอาหารบำรุงร่างกาย ซึ่งอาหารและสมุนไพร กระตุ้นน้ำนมแม่ ที่มีสรรพคุณเป็นยาสมุนไพรบำรุงสุขภาพร่างกาย และดีต่อแม่ที่ให้นมลูก ก็เช่น  ใบกะเพรา กุยช่าย กานพลู ขิง ใบแมงลัก พริกไทย หัวปลี มะลกอ มะรุม ตำลึง เมล็ดขนุน พุทรา มะขาม  อิทผาลัม ฟักทอง เป็นต้น

 

การจะมีน้ำนมแม่ออกมาอย่างสม่ำเสมอ และมีปริมาณมากเพียงพอสำหรับให้ลูกได้กินนั้น ต้องอาศัยการกระตุ้นเต้านมเป็นสำคัญ ซึ่งการกระตุ้นเต้านมเพื่อให้กระบวนการผลิตน้ำนมแม่ทำงานอย่างต่อเนื่อง ก็คือการให้ลูกดูดกระตุ้นนมแม่ตั้งแต่ชั่วโมงแรกหลังคลอด และดูดกระตุ้นทุก 2-3 ชั่วโมง ซึ่งกลไกการผลิตน้ำนมแม่จะเป็นไปตามธรรมชาติที่น้ำนมแม่หลังจากถูกดูดออกไปแล้ว ก็จะผลิตน้ำนมชุดใหม่ออกมาอย่างต่อเนื่องทุก 1-2 ชั่วโมง ที่ช่วงแรกๆ หากลูกกินไม่ทัน แม่จะรู้สึกคัดตึงเต้านม ซึ่งคุณแม่สามารถปั้มน้ำนมออกมาเก็บไว้ให้ลูกกินได้ค่ะ

 

สูตรน้ำฟักทอง เรียกน้ำนมแม่

ส่วนใหญ่เวลาแม่หลังคลอดลูก เรามักจะถูกแนะนำจากญาตผู้ใหญ่ให้หาหัวปลีมาทานกันใช่ไหมคะ และอย่างที่บอกไปข้างต้นว่า จริงๆ แล้วยังมีอาหาร พืชผักสมุนไพรอีกหลากหลายชนิด ที่มีสรรพคุณเป็นยาสมุนไพรช่วยเรียกกระตุ้นน้ำนมแม่ได้อย่างดีเยี่ยม อย่าง “ฟักทอง” ที่ก็ถือว่าเป็นอาหารสมุนไพรที่ช่วยกระตุ้นขับน้ำนมแม่ได้ดีมาก

สำหรับ ฟักทอง นั้นเป็นผักพันธุ์หัวสีเหลือง ที่นอกจากจะช่วยขับน้ำนมแม่แล้ว ก็ยังช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวพรรณสดใส ฟักทองสามารถนำมาทำเป็นเมนูอาหารอร่อยๆ ได้หลากหลายเมนู ทั้งอาหารคาวและหวาน ไม่ว่าจะเป็น ต้ม ผัด นึ่ง หรือจะทำเป็นขนมหวานอย่างบวชฟักทอง พุดดิ้งฟักทอง ฟักทองสังขยา ฯลฯ แต่สำหรับครั้งนี้ เราจะมาทำ “น้ำฟักทอง” ที่ดีทั้งบำรุงสุขภาพร่างกาย และช่วยเรียกน้ำนมแม่ด้วยค่ะ

Must Read >> อุ้มลูกดูดนม ด้วย 6 เคล็ดลับ ท่าอุ้มกระตุ้นน้ำนม

Good to know… “คุณแม่ที่ให้นมลูกควรกินอาหารหรือสมุนไพรที่มีรสร้อน เพื่อช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ทำให้อวัยวะต่างๆ ทำงานได้ดีขึ้น รวมถึงการหลั่งของน้ำนมเพิ่มขึ้น และยังช่วยให้ผู้หญิงที่คลอดลูกมาใหม่ๆ ที่ร่างกายจะมีภาวะเย็นนั้นเกิดภาวะสมดุลตามทฤษฎีการแพทย์ตะวันออก การใส่สมุนไพรที่มีรสร้อนลงไปในเมนูอาหารสำหรับคุณแม่หลังคลอดช่วงให้นมลูก ยังจะช่วยให้ร่างกายของแม่ย่อยและดูดซึมอาหารได้มากขึ้น และส่งผลต่อการเพิ่มของปริมาณน้ำนมแม่ได้”

 

อ่านต่อ >> “คุณค่าสารอาหารที่ได้จากฟักทอง” คลิกหน้า 2 

 

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

29 ประเทศไม่ต้องขอวีซ่า

29 ประเทศไม่ต้องขอวีซ่า ทุกครอบครัวไปเที่ยวได้ แบบสบายใจ

Alternative Textaccount_circle
event
29 ประเทศไม่ต้องขอวีซ่า
29 ประเทศไม่ต้องขอวีซ่า

29 ประเทศไม่ต้องขอวีซ่า ทุกครอบครัวไปเที่ยวได้  ช่วงเทศกาลงานหยุดยาวมีมาให้เตรียมแพ็คกระเป๋าไปเที่ยวพักผ่อนเติมพลังกาย พลังใจกันอีกแล้วค่ะ ทั้งช่วงหยุดวันปีใหม่  และช่วงหยุดวันสงกรานต์  ที่ทุกคนในครอบครัวสามารถไปท่องเที่ยวด้วยกันได้แบบพร้อมหน้าพร้อมตาเลยละค่ะ ทีมงาน Amarin Baby & Kids มีข้อมูล  29 ประเทศไม่ต้องขอวีซ่า ที่ทุกครอบครัวสามารถไปท่องเที่ยวได้แบบสบายใจ มาให้ทราบกันค่ะ

 

29 ประเทศไม่ต้องขอวีซ่า ทุกครอบครัวไปเที่ยวได้ แบบสบายใจ

กรมการกงสุลได้อัพเดทรายชื่อ 29 ประเทศที่ผู้ถือหนังสือเดินทางไทย สามารถเข้าไปท่องเที่ยวได้โดยไม่ต้องใช้วีซ่า แต่ละประเทศอนุญาตให้อยู่ได้จำนวนวันแตกต่างกัน ซึ่งรายชื่อได้อัพเดทล่าสุดจากกรมการกงสุล กระทรวงต่างประเทศ เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2559 ที่ผู้ถือหนังสือเดินทางไทย (พาสปอร์ตไทย) สามารถเดินทางไปประเทศนั้น ๆ ได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า ทั้งนี้โดยทั่วไปแล้วการจะเดินทางไปประเทศไหน หาก 2 ประเทศไม่ได้ทำข้อตกลงในการยกเว้นร่วมกัน ประชาชนของประเทศทั้ง 2 จะต้องยื่นขอ “วีซ่า” ก่อนที่จะเข้าไปยังประเทศนั้นๆ ได้อย่างถูกกฎหมาย

 

และถึงแม้ว่าจะไม่ต้องขอวีซ่า คุณพ่อคุณแม่ก็ต้องเตรียมหนังสือเดินทาง(Passport) ให้พร้อมทั้งของตัวเอง และของทุกคนในครอบครัวด้วยนะคะ ไปดูกันดีกว่าค่ะว่า 29 ประเทศไม่ต้องขอวีซ่า นั้นมีประเทศอะไรบ้าง

อ่านต่อ >> “29 ประเทศไม่ต้องขอวีซ่า ทุกครอบครัวไปเที่ยวได้” คลิกหน้า 2 

 

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

เทคนิคเลี้ยงลูก ให้สุขภาพจิตแข็งแรง

Alternative Textaccount_circle
event

เทคนิคเลี้ยงลูก ให้สุขภาพจิตแข็งแรง เด็กจะเติบโตขึ้นอย่างแข็งแรงทั้งร่างกาย และจิตใจ ต้องมาจากครอบครัวที่มีความรัก ความอบอุ่นเป็นรากฐานที่มั่นคง ทีมงาน Amarin Baby & Kids เทคนิคเลี้ยงลูก ให้สุขภาพจิตแข็งแรง จาก พญ.วิมลรัตน์ วันเพ็ญ รองผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ กรมสุขภาพจิต มาฝากคุณพ่อคุณแม่ให้ได้นำไปปรับใช้ในการเลี้ยงลูกๆ ที่บ้านกันค่ะ

 

เทคนิคเลี้ยงลูก ให้สุขภาพจิตแข็งแรง คืออะไร ?

การจะเลี้ยงเด็กคนหนึ่งให้ดีได้ใช้เทคนิค 2 ข้อเท่านั้น  คือ  สร้างความสัมพันธ์ในบ้านที่ดีและสร้างกฎระเบียบที่ดี  ฟังดูจะว่าง่ายก็ง่าย  เพราะมีอยู่แค่ 2 ข้อเท่านั้น  แต่จะมองว่ายากก็ยากอยู่  เพราะทุกวันนี้ยังทะเลาะกับลูกทุกวันอยู่เลยใช่ไหมคะ  แล้วแบบนี้จะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีได้อย่างไร  แล้วกฎระเบียบก็มีให้ลูกอยู่แล้ว  แต่ลูกก็ไม่เคยทำตามเสียที  ก่อนจะกลุ้มใจไปมากกว่านี้  ขอให้คุณพ่อคุณแม่ลองอ่านรายละเอียดแล้วลองนำไปปรับใช้ดูนะคะ  หมอรับรองว่าหากคุณพ่อคุณแม่ทำได้  จะช่วยให้ลูกสุขภาพจิตแข็งแรงมากขึ้นแน่นอน

อ่านต่อ >> “2 เทคนิคเลี้ยงลูก ให้สุขภาพจิตแข็งแรง” คลิกหน้า 2 

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

เลือกหนังสือให้ลูก

เทคนิค เลือกหนังสือให้ลูก อย่างฉลาด เหมาะกับวัย

event
เลือกหนังสือให้ลูก
เลือกหนังสือให้ลูก

เลือกหนังสือให้ลูก …เพราะการอ่านถือเป็นพื้นฐานของการพูด และการเขียน มีคนตั้งหลายคนเคยประสบความสำเร็จในชีวิตได้ด้วยการอ่านหนังสือ  ยิ่งอ่านมากยิ่งได้เปิดโลกทัศน์มาก และยิ่งอ่านมากเราจะยิ่งมีคลังคำศัพท์มากขึ้นเท่านั้น อย่างไรก็ตาม เด็กที่ได้ปลูกฝังนิสัยรักการอ่านตั้งแต่เด็ก  เขาจะโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่รักการอ่านด้วย (more…)

ภาวะซีดในทารก

รู้ทัน ภาวะซีดในทารก ก่อนลูกขาดธาตุเหล็กรุนแรง

Alternative Textaccount_circle
event
ภาวะซีดในทารก
ภาวะซีดในทารก

ภาวะซีดในทารก อายุ 6 เดือนขึ้นไป เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ การให้ลูกกินยาเสริมธาตุเหล็กเพียงอย่างเดียว อาจจะไม่หายขาดและมีโอกาสกลับมาซีดใหม่ได้อีก ดังนั้นจึงต้องแก้ที่สาเหตุ และควบคู่ไปกับการมีความรู้เรื่องอาหารเสริมที่ถูกต้องสำหรับลูกน้อยค่ะ (more…)

สร้าง Self Esteem ให้ลูก ด้วยการเรียนว่ายน้ำ

event

กระแสการพาเบบี๋และเด็กเล็กๆไป เรียนว่ายน้ำ นั้นมาแรงที่สุดในยุคนี้ก็ว่าได้  จนหลายคนคิดไปเองว่าเป็นแฟชั่น  ที่อันที่จริงแล้ว เราพาลูกไปเรียนว่ายน้ำเพื่ออะไร?  และเพื่อใคร?  คำตอบอยู่ในตัวของมันเองอยู่แล้ว  เราทุกคนต่างทราบดีว่าการว่ายน้ำเป็นการออกกำลังกายที่ดีที่สุด  ไม่ใช่สำหรับผู้ใหญ่เท่านั้น  แต่สำหรับเด็กก็เช่นกัน  ว่ายน้ำเป็นหนึ่งในกีฬาเพียงไม่กี่ชนิดที่จะช่วยให้ลูกของเราเอาชีวิตรอดได้  หรือที่เรียกว่า Survival Skill

เรียนว่ายน้ำ

ในต่างประเทศเช่น ออสเตรเลีย ยุโรป และอเมริกานั้น การเริ่มเรียนว่ายน้ำของทารก แทบจะเป็นสิ่งจำเป็นของทุกครอบครัว  และมีการรณรงค์อย่างต่อเนื่องมาหลายทศวรรษแล้ว  เพราะการจมน้ำเป็นสาเหตุอันดับที่ 2 ของการเสียชีวิต รองจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ในออสเตรเลีย  การจมน้ำในอีกหลายกรณียังทิ้งความเสียหายทางสมองไว้อีกด้วย  สำหรับประเทศไทยนั้น ในกลุ่มเด็กไทยอายุต่ำกว่า 15 ปี การจมน้ำเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับหนึ่งในทุกสาเหตุทั้งโรคติดเชื้อและไม่ติดเชื้อ (ข้อมูลจากสำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค เรื่อง “สถานการณ์การจมน้ำของเด็กไทย ปีพศ.2557”)

เรียนว่ายน้ำ เรียนว่ายน้ำ

แน่นอนที่สุด คำตอบคือ เราพาลูกไปเรียนว่ายน้ำเพื่อเป็นทักษะการเอาชีวิตรอดแก่ตัวลูกเอง  เป็นของขวัญที่เราสามารถให้ติดตัวกับลูกเช่นเดียวการพาลูกไปเรียนหนังสือเพื่อเสริมสร้างทักษะทางปัญญา  แต่สิ่งที่ได้มานั้นกลับทวีค่ามากมาย เพราะการว่ายน้ำยังเสริมสร้างความแข็งแรงทางร่างกาย  การประสานกันของการเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อแขนขา  พัฒนาการด้านอารมณ์  และเสริมสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัว   และสร้าง Self Esteem ขึ้นในตัวเด็กว่า เค้าก็สามารถทำได้  “I am a Hero” ผ่านการเรียนอย่างสม่ำเสมอต่อเนื่องอย่างสนุกสนานไปตามวัยของเด็กๆ

เรียนว่ายน้ำ เรียนว่ายน้ำ

ถึงเวลาแล้วที่จะสร้าง “จุดเปลี่ยน” ทัศนคติของพ่อแม่ให้เปิดรับการว่ายน้ำของทารกและเด็กเล็กมากขึ้น ว่าไม่เป็นอันตราย เพียงแต่ต้องอยู่ในการฝึกสอนจากโรงเรียนสอนว่ายน้ำที่ได้มาตรฐานและน่าเชื่อถือ  โดยมีครูที่มีความชำนาญและมีความรู้และประกาศนียบัตรเฉพาะทางด้านการสอนทารกและเด็กเล็กโดยเฉพาะ  และควรเป็นสระน้ำอุ่น โดยอุณหภูมิที่เหมาะกับการว่ายน้ำของทารกมากที่สุดคือ 30-330C  รวมทั้งมีมารฐานการดูแลรักษาคุณภาพน้ำที่ดีเยี่ยมเพื่อความสะอาดและปลอดภัยของสระน้ำและบริเวณโดยรอบ

คุณพ่อคุณแม่ที่สนใจลองแวะมาดูที่ BABY POOL ได้ทั้ง 8 สาขา คือ สาขาสุขุมวิท 38  เลียบทางด่วนเอกมัยรามอินทรา  บางนา  รังสิต  ราชพฤกษ์ และต่างจังหวัดที่สาขาศรีราชา  เชียงใหม่  และล่าสุดคือสาขาปัญญาอินทรา

www.babypoolthailand.com

www.facebook.com/babypoolthailand

Call Center: 081-933-7030

เรียนว่ายน้ำ

keyboard_arrow_up