สีกระเป๋าสตางค์ตามวันเกิด

สีกระเป๋าสตางค์ตามวันเกิด เรียกทรัพย์ปี 2561

คุณแม่เคยสังเกตไหมคะว่า ในปีที่ผ่านมา ทำไมการเงินติดขัด? เงินไม่เข้ากระเป๋าเลย? …เพราะคุณแม่ใช้กระเป๋าสตางค์ไม่ถูกโฉลกกับวันเกิดหรือเปล่า? มาเปลี่ยนกระเป๋าสตางค์ใบใหม่ให้ถูกโฉลก เรียกทรัพย์รับปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงกันดีกว่า Amarin Baby & Kids มีวิธีเลือก สีกระเป๋าสตางค์ตามวันเกิด ใช้แล้วรวย! พร้อมสีกระเป๋าสตางค์ต้องห้าม ที่คุณแม่ควรหลีกเลี่ยง มาฝากค่ะ Continue reading “สีกระเป๋าสตางค์ตามวันเกิด เรียกทรัพย์ปี 2561”

    เทียบสารอาหาร “นมสำหรับเด็กแพ้นมวัว” (นมถั่วเหลือง-นมอัลมอนด์-นมข้าว-นมลูกเดือย)

    นมสำหรับเด็กแพ้นมวัว …นมอีกหนึ่งทางเลือกที่คุณแม่สามารถเลือกให้ลูกกินแทนนมวัว สาเหตุสำคัญที่ลูกมีอาการแพ้นมวัว มักเกิดจาก มีประวัติภูมิแพ้ในครอบครัว หรือ การที่คุณแม่กินนมวัว เพื่อบำรุงครรภ

    Continue reading “เทียบสารอาหาร “นมสำหรับเด็กแพ้นมวัว” (นมถั่วเหลือง-นมอัลมอนด์-นมข้าว-นมลูกเดือย)”

      โรค IPD

      IPD โรคติดเชื้อ สาเหตุการตายอันดับ 1 ในเด็ก

      โรค IPD เป็นโรคติดเชื้อที่รุนแรงในเด็กเล็ก และเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 ของโรคที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีนในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี โดยในแต่ละปีมีเด็กเสียชีวิตจากโรค IPD มากถึง 476,000 คนทั่วโลก ซึ่งการป้องกันด้วยการฉีดวัคซีนจะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันโรค และลดการเสียชีวิตได้ 2 – 3 ล้านคนต่อปี

      Continue reading “IPD โรคติดเชื้อ สาเหตุการตายอันดับ 1 ในเด็ก”

        วิธีเก็บเงิน

        วิธีเก็บเงิน แบบคนรวย เคล็ดลับ 15 ข้อที่ควรสอนลูก

        สอนลูกรู้ วิธีเก็บเงิน แบบคนรวย เพื่อเตรียมพร้อมสร้างอนาคตให้ลูก หากพ่อแม่จะเตรียมวางรากฐานไว้ตั้งแต่ที่ลูกยังเป็นเด็ก ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร อย่างการสอนเรื่องเงิน ทอง ให้ลูกรู้จักใช้ รู้จักคุณค่าของเงิน ก็จะยิ่งส่งผลดีต่ออนาคตของลูก ทีมงาน Amarin Baby & Kids มีวิธีเก็บเงิน แบบคนรวย เคล็ดลับ 15 ข้อที่ควรสอนลูก มาให้ได้ทราบกันค่ะ

        วิธีเก็บเงิน แบบคนรวย เคล็ดลับ 15 ข้อที่ควรสอนลูก 

        ทำไมต้องสอนให้ลูกรู้คุณค่าของเงิน?

        การเลี้ยงลูกแบบตามใจ อยากได้อะไรพ่อแม่ก็หามาประเคนให้ แบบนี้ไม่ดีแน่ เพราะสิ่งเหล่านี้สามารถไปทำร้ายลูกทางอ้อมได้ทำให้ลูกเป็นเด็กมีนิสัย และพฤติกรรมเอาแต่ใจตัวเอง ทำอะไรเองไม่เป็น เพราะติดสบาย ติดว่ามีพ่อแม่คอยทำ คอยหาให้ตลอด และหากลูกเติบใหญ่ขึ้นอาจกลายเป็นคน เหยียบขี้ไก่ไม่ฟ่อ ไม่อดทนต่อความลำบาก หนักไม่เอาเบาไม่สู้ !

        พ่อแม่ที่ดีไม่ว่าจะฐานะรวย จน อยู่ชนชั้นไหนก็ตาม ต้องรู้จักสอนสั่งลูกไปในทางที่ถูกที่ควร สอนให้รู้จักคุณค่าของสิ่งของว่ากว่าจะได้มานั้นยากลำบากแค่ไหน อย่าไปสอนลูกว่าแค่มีเงินก็ซื้อ ก็หามาได้แล้ว  แต่ควรสอนให้ลูกรู้ว่าหากอยากจะได้ของเล่นสักชิ้น พ่อแม่ต้องทำงานหนักแค่ไหน  และเมื่อพ่อกับแม่ซื้อให้ของเล่นให้ลูกแล้ว ลูกก็ต้องรู้จักเล่นและเก็บรักษาของเล่นชิ้นนั้นให้ดี

        มีพ่อแม่ส่วนหนึ่งที่เกิดคำถามว่า ถ้าจะสอนเรื่องการใช้เงินให้ลูก ควรจะสอนตอนไหนถึงจะได้ผลที่สุด คำตอบคือก็สอนตอนที่ลูกยังเป็นเด็กนี่แหละดีที่สุด แต่ทั้งนี้พ่อแม่ต้องเป็นตัวอย่างการใช้เงินที่ดีให้ลูกได้เห็นคุณค่าของเงินจริงๆ ด้วยนะคะ  เพราะหากพ่อแม่ไม่ได้เป็นตัวอย่างที่ดีให้ลูกเห็น ต่อให้สอนยังไงลูกก็ไม่ซึมซับเก็บเป็นความรู้ไปอย่างแน่นอน

        เพื่อการวางรากฐานเรื่องเงินทอง ให้ลูกอย่างประสบความสำเสร็จ ที่จะส่งผลไปถึงอนาคตเมื่อลูกเติบโตขึ้น ผู้เขียนได้มีข้อคิดในการสอนลูกเรื่อง วิธีเก็บเงิน จาก อาจารย์มาศ ซินแสฮวงจุ้ยระดับโลก เจ้าของเพจ MasterMas FengShui ที่ได้มีเคล็ดลับ 15 ข้อ สอนลูกให้รู้จักวิธีบริหารเงินแบบคนรวย ซึ่งเป็นวิธีการสอนที่ดี เข้าใจง่าย และพ่อแม่สามารถนำไปปรับใช้ในการสอนลูกให้รู้จัก วิธีเก็บเงิน ได้ไม่ยาก ดังนี้

         

        อ่านต่อ >> “เคล็ดลับ สอนลูกรู้วิธีบริหารเงิน แบบคนรวย” หน้า 2

         

        เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

          โรคคอเอียง แต่กำเนิด

          โรคคอเอียง แต่กำเนิด มีสาเหตุจากอะไร ?

           

          โรคคอเอียง แต่กำเนิด ความผิดปกติทางสุขภาพของเด็กที่แสดงออกมา อาจเป็นทางร่างกายภายนอก หรือการเจ็บป่วยจากโรคภัยต่างๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่พ่อแม่ไม่อยากที่จะให้เกิดขึ้นกับลูกๆ ที่บ้านอย่างแน่นอน  ทีมงาน Amarin Baby & Kids มีความรู้เกี่ยวกับ โรคคอเอียง แต่กำเนิด มาให้คุณพ่อคุณแม่ได้ทราบกันค่ะ

           

          โรคคอเอียง แต่กำเนิด คืออะไร?

          โรคคอเอียง(Congenital Muscular Torticollis) ที่อาจเกิดขึ้นกับเด็ก โดยจะสังเกตถึงความผิดปกติได้ คือ เด็กจะมีลักษณะคอเอียง ที่ศีรษะเอียงจากแนวกึ่งกลางไปด้านใดด้านหนึ่ง ซึ่งเป็นเพราะกล้ามเนื้อด้านข้างคอหดสั้นลง และอาจมาจากความผิดปกติที่ระบบสมอง ตา กระดูกคอ และการอักเสบบริเวณคอ

           

          Good to know… “คอเอียงแต่กำเนิด อาจเกิดจากในขณะตั้งครรภ์ลูกอยู่ในท่าผิดปกติ  หรือมาจากภาวะน้ำคร่ำน้อย รวมทั้งสาเหตุอื่นๆ เช่น เกิดจากเนื้องอกที่กล้ามเนื้อบริเวณคอไปกระตุ้นให้คอเอียง ปัญหากระดูกคอติดเชื้อ และต่อมน้ำเหลืองโต”

           

          อ่านต่อ >> “โรคคอเอียง แต่กำเนิด มีสาเหตุจากอะไรบ้าง?” หน้า 2

           

           

          เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

            กองทัพ 15 เบบี๋สุดน่ารัก ทายาทดาราที่เกิดในปี 2016

            ลูกดารา เกิดในปี 2016  …เรียกว่าปี 2016 นี้คงเป็นปีทองของวงการบันเทิงไทยกันเลยก็ว่าได้ เพราะได้เกิดมีเหล่าทายาทตัวน้อยมาสานต่อรอยเท้าในวงการกันหลายคนทีเดียว ซึ่งปีนี้คงจะเรียกว่าเป็นเหตุบังเอิญจริงๆ ที่มีเหล่าคุณพ่อคุณแม่ดาราหลายคู่ที่ท้อง และมีกำหนดคลอดใกล้ๆ กันอีกด้วย

            ทาง Amarin Baby & Kids ก็ได้รวบรวมเหล่า หนูน้อย ของคุณพ่อคุณแม่ดารา ประจำปี 2016 นี้ (เรียงตามวันและเดือนที่เกิด) มาฝากกันค่ะ ซึ่งงานนี้บอกได้เลยว่า เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่สุด ของเหล่าบรรดาคุณพ่อคุณแม่แห่งวงการบันเทิงไทย จะมีลูกเต้าเหล่าใครกันบ้าง ดูกันเลยค่ะ

            >> Click here!! ร่วมโหวตหนูน้อยทายาทคนดังเพื่อมอบรางวัล "หนูน้อยขวัญใจมหาชน"
            ประกาศผลและมอบรางวัลในงาน Amarin Baby & Kids Fair ครั้งที่ 9
            วันที่ 23 - 26 กุมภาพันธ์ 2560 ณ ฮอลล์ 98-99 ไบเทค บางนา

            รวม 15 ลูกดารา เกิดในปี 2016

            น้องเร ‘ω’ คุณแม่ทาทา ยัง  คุณพ่อหมอ ฉัตรอดุลย์

            ลูกดารา เกิดในปี 2016

            มาที่คนแรก เปิดศักราชใหม่ เมื่อต้นปี ในเดือนมกราคม กับคุณแม่ทาทา โดยมีฤกษ์ดีได้ให้กำเนิด ลูกชายสุดหล่อ น้องเร ซึ่งเกิดในวันที่ 12 มกราคม 2559 น้ำหนัก 2.945 กิโลกรัม สูง 50 ซม. มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง สำหรับชื่อ เร มีความหมายถึง แสงสว่าง ซึ่งมีความหมายตรงกับชื่อของทาทา อมิตา แปลว่า แสงที่ไม่มีวันสิ้นอีกด้วย

            ลูกดารา เกิดในปี 2016

            ลูกดารา เกิดในปี 2016

            ขอบคุณภาพจาก IG @tataamitayoung

            ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ 

            น้องไนร่า ‘ω’ คุณแม่ฮารุ ยามากูชิ  คุณพ่อกาย รัชชานนท์

            ลูกดารา เกิดในปี 2016

            ลำดับที่ 2 คลอดถัดมาอีกวันต่อจากแม่ทา ทา นั้นก็คือ น้องไนร่า ลูกสาว คนที่2 ของคุณแม่ฮารุ โดยคลอดที่โรงพยาบาลวิชัยยุทธ เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2559 มีน้ำหนักแรกเกิด 2,374 กรัม และขณะนี้ก็กำลังตั้งท้องแก่ใกล้คลอดลูกคนที่ 3 แล้วด้วย ซึ่งก็สมความตั้งใจของคุณพ่อกายที่อยากจะมีลูก 3 คน และสำหรับคนนี้เพศอะไรก็ได้ เพราะมีทั้งลูกชายและลูกสาวแล้ว อีกทั้งยังตั้งใจว่าหากคลอดแล้วก็จะทำหมันปิดอู่ที่ลูกคนนี้แน่นอน

            ลูกดารา เกิดในปี 2016 ลูกดารา เกิดในปี 2016

            ขอบคุณภาพจาก IG @haruyamaguchi

            ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ 

            น้องธัชช ‘ω’ คุณแม่แนน-ชลิตา  คุณพ่อเม่น-ธนวัตน์

            ลูกดารา เกิดในปี 2016

            ลำดับที่ 3 น้องธัชช (อ่านว่า ทัด-ชะ) ลูกชายคนแรกของ คุณแม่แนน-ชลิตา เฟื่องอารมย์” ลูกสาวของนักแสดงรุ่นใหญ่ “ชลิต เฟื่องอารมย์” ซึ่งคลอดเมื่อวันที่ 24 มกราคม 2559 ณ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ มีน้ำหนักแรกเกิด 2,380 กรัม สุขภาพดีทั้งคุณแม่และคุณลูก

            ลูกดารา เกิดในปี 2016 ลูกดารา เกิดในปี 2016

            ขอบคุณภาพจาก IG @nan_chalita

            อ่านต่อ >> รวมลูกดาราที่เกิดในปี 2016 คลิกหน้า 2

            เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

             

              พฤติกรรมพ่อแม่

              4 พฤติกรรมพ่อแม่ ที่เข้าข่าย “รักลูกจนเป็นพิษ”

              พ่อแม่เป็นบุคคลที่มีความสำคัญมากที่สุดต่อพัฒนาการทุกๆ ด้านของลูก การเลี้ยงดูที่เหมาะสม การจัดสภาพแวดล้อมที่ดีให้กับลูก จะทำให้ลูกเติบโตอย่างแข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจ แต่หากคุณพ่อคุณแม่แสดงความรักที่ไม่เหมาะสม พฤติกรรมพ่อแม่ 4 แบบนี้ อาจกลายเป็น “พิษ” ทำร้ายลูกโดยไม่รู้ตัว  Continue reading “4 พฤติกรรมพ่อแม่ ที่เข้าข่าย “รักลูกจนเป็นพิษ””

                “ฝรั่ง” ผลไม้มีประโยชน์…แต่คนท้องไม่ควรกินมาก!

                แม่ท้องกินฝรั่งได้ไหม เพราะ ฝรั่ง เป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด โดยจัดเป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงที่สุดในบรรดาผลไม้ทุกชนิด จึงทำให้เป็นผลไม้โปรดของใครหลายคน

                 

                ผลไม้จัดว่าเป็นอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย และจำเป็นต่อสุขภาพคุณแม่ตั้งครรภ์อย่างมาก นับว่าเป็น 1 ในอาหาร  5 หมู่ที่ร่างกายต้องการได้รับในแต่ละวัน เพราะมีวิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ มากมาย อีกทั้งยังมีใยอาหารที่ช่วยในเรื่องของระบบขับถ่ายให้ดีขึ้นอีกด้วย

                ฝรั่ง เป็นผลไม้เพื่อสุขภาพที่เหมาะมากสำหรับผู้ที่ต้องการลดความอ้วน ลดน้ำหนัก หรือผู้ที่กำลังควบคุมน้ำหนัก เนื่องจากฝรั่งอุดมไปด้วยกากใยอาหาร เมื่อรับประทานแล้วจะทำให้อิ่มนาน ช่วยกำจัดท้องร้องอาการหิวที่คอยมากวนใจ เพราะกากใยจะช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ ช่วยปรับระดับการใช้อินซูลินของร่างกายให้เหมาะสม และกากใยยังช่วยล้างพิษโดยรวบได้อีกด้วย จึงส่งผลทำให้ผิวพรรณดูเปล่งปลั่งสดใส

                แม่ท้องกินฝรั่งได้ไหม?

                ฝรั่ง นับว่าเป็นผลไม้ที่อุดมด้วยวิตามินซี ในฝรั่งน้ำหนัก 165 กรัม จะให้วิตามินสูงถึง 377 มิลลิกรัม ซึ่งมีวิตามินซีสูงกว่าส้มถึง 5 เท่า ! และมีวิตามินเอ ช่วยให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันต่อโรคหวัด และยังช่วยบำรุงเหงือกและฟันให้แข็งแรง
                ทั้งนี้ฝรั่งก็ดูเป็นผลไม้ที่เหมาะสมที่จะรับประทาน คนท้องควรกิน ในช่วงตั้งครรภ์ นอกจากนี้ยังมีรสชาติอร่อย มีกลิ่นหอมสดชื่น ช่วยในเรื่องอาการแพ้ท้องได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม ไม่ควรรับประทานมากเกินไป…

                Must read : วิจัยชี้! เหงือกอักเสบ เสี่ยงตั้งท้องยาก

                แม่ท้องกินฝรั่งได้ไหม?

                เพราะ เนื่องจากฝรั่งดิบมีเนื้อที่มีปริมาณคาร์โบไฮเดรตสูง (แต่ไม่ต้องกังวลว่าทานแล้วจะมีปัญหาเรื่องน้ำหนักเพราะคาร์โบไฮเดรตเปลี่ยนเป็นน้ำตาลทำให้มีปัญหาเรื่องน้ำหนัก หรือน้ำตาลในเลือดสูง) เพราะมันเป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนและมีปริมาณกากใยสูงมาก ดังนั้นจึงไม่มีปัญหาเรื่องการดูดซึมคาร์โบไฮเดรตที่ส่งผลต่อน้ำหนักหรือน้ำตาลในร่างกาย แต่…

                สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือมันค่อนข้างจะย่อยยาก เพราะฉะนั้นหากรับประทานในปริมาณมากๆ จะทำให้เกิดอาการท้องอืดขึ้นได้ ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่า คนท้องท้องอืด ได้ง่าย

                เนื่องจากขนาดของครรภ์ที่ใหญ่เบียดการทำงานของกระเพาะและลำไส้ทำให้การย่อยอาหารยากกว่าปกติ รวมถึงความแปรปรวนของฮอร์โมนในร่างกาย และการพักผ่อนไม่เพียงพอรวมถึงเรื่องอื่นๆ ที่ส่งผลต่อระบบการย่อย ดังนั้นหากว่าทานผลไม้ที่ย่อยยากเข้าไปอีกแน่นอนว่าอาการท้องอืดกำเริบขึ้นมาเป็นปัญหาแน่นอน

                อ่านต่อ >> ทำไมแม่ท้องจึงกินฝรั่งมากไม่ได้? คลิกหน้า 2

                เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                 

                  อาหารมงคล

                  15 อาหารมงคล กินแล้วโชคดี มีเงินทองต้อนรับปีใหม่!

                  อาหารมงคล เป็นอาหารที่เชื่อกันว่าเมื่อทานแล้วจะนำพาสิ่งที่เป็นสิริมงคลให้กับผู้ทาน ในช่วงปีใหม่ เราจึงนิยมทานอาหารที่มีความหมายดี ๆ เพื่อเสริมความรุ่งเรืองแก่ชีวิต

                  15 อาหารมงคล กินแล้วโชคดี มีเงินทองต้อนรับปีใหม่!

                  หลายคนเชื่อว่าในวันปีใหม่ เป็นวันที่เราจะได้เริ่มทำสิ่งใหม่ ๆ เริ่มต้นสิ่งดี ๆ เราจึงนิยมไปทำบุญ ไหว้พระเพื่อขอพรให้พบแต่สิ่งดี ๆ หลังจากอิ่มบุญกันแล้ว ก็มักจะเลี้ยงฉลองกันในครอบครัว การทาน อาหารมงคล ในวันปีใหม่ ก็เป็นอีก 1 ความเชื่อว่าเมื่อทานแล้วจะได้พบกับ ความสุข สดชื่น สมหวัง สุขภาพดี การงานดี ลูกดี ชีวิตรักดี ร่ำรวย มีเงินทองใช้คล่องมือ

                  ความหมายของอาหารมงคลในวันปีใหม่

                  อาหารมงคล เป็นอาหารที่ทำขึ้นเพื่อใช้ในงานพิธีต่าง ๆ เช่น งานแต่งงาน ขึ้นบ้านใหม่ งานบวช วันขึ้นปีใหม่ไทยอย่างวันสงกรานต์  เป็นต้น เชื่อกันว่าอาหารมงคลที่ทำขึ้นมาเฉพาะนั้น หากรับประทานเข้าไปแล้วจะช่วยเสริมสิริมงคล ช่วยเรื่องสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง เสริมความรุ่งเรืองแก่ชีวิต มาดูกันว่าอาหารที่คนไทยนิยมกินในวันขึ้นปีใหม่ หรือวันที่เป็นมงคล มีอะไรกันบ้าง

                  6 อาหารมงคลของไทย กินแล้วดีมีเงินทองใช้ตลอดปี

                  1. ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง

                  ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง
                  ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง

                  คนไทยมักจะนิยมเอาขนมที่มีชื่อ “ทอง” อย่าง ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ที่ทำขึ้นมาทานกันในเทศกาลสำคัญต่างๆ  ขนมมงคลเหล่านี้เชื่อกันว่าหากได้ทานในช่วงวันปีใหม่ จะช่วยเสริมชีวิตให้มีโชคลาภ รุ่งเรือง มีความมั่นคง และมั่งคั่งไปตลอดทั้งปีใหม่

                  2. ปลา

                  เมนูปลา
                  เมนูปลา

                  เนื่องจากคำว่า “ปลา” ในภาษาจีน “鱼” (yú-อวี๋) นั้น มีคำพ้องเสียงกับคำว่า “余” (yú-อวี๋) ที่แปลว่า เหลือกินเหลือใช้มากมายเหลือเฟือนั้นเองค่ะ คุณจึงควรนำวัตถุดิบอย่างปลามาทอด นึ่ง หรือจะต้มก็ได้ แล้วรับประทานกันในครอบครัว  เชื่อว่าจะมีเงินเก็บเหลือกินเหลือใช้ การทานปลาทั้งตัวจะยิ่งทำให้ชีวิตสมบูรณ์ แต่หากจะมองถึงคุณค่าทางอาหาร เนื้อปลานั้นก็มีประโยชน์มากมายหลากหลายค่ะ สามารถรับประทานได้ทุกวัน

                  บทความที่เกี่ยวข้อง : 10 เมนูปลา สูตรอร่อยเน้นบำรุงสมองสำหรับลูกน้อยโดยเฉพาะ

                  3. ขนมจีน

                  ขนมจีน
                  ขนมจีน

                  อาหารจานเดียวที่รับประทานง่าย เนื่องด้วยความหมายที่มีความเป็นศิริมงคล เราจึงมักพบเห็นเมนูนี้เป็นหนึ่งในอาหารที่ทำเลี้ยงพระ เพราะมีความเชื่อในเรื่องของการมีอายุยืนยาว เพราะความยาวของเส้นขนมจีน จึงเป็นที่มาของความเชื่อเรื่องจะมีอายุยืนยาวตามไปด้วย

                  4. ลาบ

                  อาหารมงคล
                  ลาบ อาหารมงคล

                  เพียงแค่เอ่ยชื่อออกมาก็คงแทบไม่ต้องอธิบายอะไรมากมายแล้ว เพราะเมนูแสนอร่อยอย่างเช่น “ลาบ” นี้ มีคำพ้องเสียงไปตรงกับคำว่า “ลาภ” ที่มีความหมายเป็นศิริมงคลของคนไทย เมนูลาบจึงเป็นที่นิยมในเทศกาลงานบุญ และทำเลี้ยงกัน เพื่อให้เป็นที่มาของลาภยศสรรเสริญต่าง ๆ นั้นเอง

                  5. ผัด/ซุปถั่วงอก

                  อาหารมงคล
                  ซุปถั่วงอก อาหารมงคล

                  ถั่วงอก เป็นพืชผักที่มีบทบาทในอาหารประจำวันของคนไทยมาเป็นเวลาช้านาน จึงพบเห็นถั่วงอกมีขายในตลาดสดเคียงคู่กับผักชนิดอื่นตลอดเวลา และถั่วงอกใช้ปรุงอาหารได้หลากหลายชนิด แต่ด้วยชื่อของผักชนิดนี้ที่เป็นศิริมงคล ให้ความหมายในเรื่องของความเจริญงอกงาม ความก้าวหน้า ในหน้าที่การงาน และด้านการค้าขาย จึงมักนิยมทำรับประทานเป็นอีกหนึ่งเมนูมงคลที่ทำได้ง่าย ๆ ราคาไม่แพงอีกด้วย

                  6. ขนมเม็ดขนุน

                  เม็ดขนุน
                  เม็ดขนุน

                  ขนมไทยที่มีมาตั้งแต่โบราณของไทยอย่างเม็ดขนุนก็เป็นอีกหนึ่งขนมไทยที่นิยมใช้ในงานมงคลต่างๆ มากมายอีกทั้งชื่อของขนมไทยชนิดนี้ ยังมีความหมายที่ดีมากๆอีกด้วยนะคะ เม็ดขนุน นั้นแปลว่า คิดจะทำการสิ่งใดก็จะมีคนคอยสนับสนุนค้ำจุน ช่วยเหลือ และไม่มีวันตกต่ำ ในการดำเนินชีวิต และในหน้าที่การงานหรือกิจการต่างๆ ที่ได้กระทำอยู่ค่ะ

                  และอาหารมงคล ไม่ได้มีแค่เฉพาะประเทศ คนไทยเท่านั้น เพราะในประเทศต่าง ๆ เขาก็มี อาหารมงคล ที่ยังนิยมทานกันในช่วงวันขึ้นปีใหม่สากลของทุก ๆ ปี  ซึ่งเชื่อกันว่าอาหารมงคลของแต่ละชาตินั้น หากได้ทานแล้วจะนำความโชคดี ความรุ่งเรื่องมาสู่ชีวิต ช่วยให้การดำเนินชีวิตในปีใหม่เป็นไปอย่างราบรื่น มาดูกันว่าประเทศอื่น ๆ เค้านิยมทานอะไรกันบ้างในวันปีใหม่กันค่ะ

                  9 อาหารมงคลนานาชาติ ตามความเชื่อของประเทศต่าง ๆ

                  1. โซบะ – ประเทศญี่ปุ่น

                  โซบะ
                  โซบะ

                  คนญี่ปุ่นนิยมรับประทานบะหมี่ไม่ตัดเส้นชื่อว่า “โทชิโคชิโซบะ” ในวันสุดท้ายของปี คือ 31 ธันวาคม เพราะมีความเชื่อกันว่าจะคนที่ได้ทานโซบะก่อนเริ่มวันใหม่จะทำให้อายุยืนยาว และคืนวันเดียวกันจะไม่อาบน้ำ แต่จะอาบน้ำกันในวันที่ 1 มกราคม(วันเริ่มต้นปีใหม่) พร้อมกับทานอาหารมงคลที่ทำขึ้นเฉพาะเทศกาลปีใหม่เท่านั้น

                  2. กะหล่ำปลี – ประเทศเยอรมัน

                  กะหล่ำปลี
                  กะหล่ำปลี

                  กะหล่ำปลี อาจดูเป็นผักธรรมดาของใครหลายคน แต่หากเป็นคนเยอรมัน มีความเชื่อว่ากะหล่ำปลีเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ ชาวเยอรมันจะนำเอากะหล่ำปลีมาปรุงเป็นอาหารมื้อแรกของปี เพราะเชื่อว่าเมื่อรับประทานแล้ว ชีวิตตลอดปีใหม่จะมีความมั่งคั่ง และอุดมสมบูรณ์

                  3. โดนัท – ประเทศเนเธอร์แลนด์

                  โดนัท
                  โดนัท

                  เอกลักษณ์ของขนมในแต่ละประเทศไม่เหมือนกัน อย่างคนดัตช์ ที่นิยมทานขนมโดนัท ที่มีลักษณะกลมแบบวงแหวนในช่วงปีใหม่ เพราะมีความเชื่อกันว่าหากทานโดนัท จะทำให้ชีวิตมีความสมบูรณ์ และมีแต่ความโชคดีเข้ามาในชีวิตตลอดทั้งปี

                  4. ทับทิม – ประเทศตุรกี

                  ทับทิม
                  ทับทิม

                  ทับทิมผลไม้สีสวยที่อุดมไปด้วยคุณค่าสารอาหารและวิตามินที่หลากหลาย ที่ชาวตุรกี จัดให้ทับทิมเป็นผลไม้มงคล ที่นิยมนำมาทานกันในช่วงปีใหม่ เพราะทิบทัมเป็นสัญลักษณ์แห่งความอุดมสมบูรณ์ หากทานแล้วจะช่วยเสริมสิริมงคลแก่ชีวิต ช่วยปกป้องสิ่งชั่วร้ายที่จะเข้ามาในชีวิตตลอดทั้งปี และเชื่อว่าจะทำให้เจอแต่ความโชคดีในชีวิต

                  5. ถั่วเลนทิล – ประเทศอิตาลี

                  ถั่วเลนทิล
                  ถั่วเลนทิล

                  สำหรับชาวอิตาลี เชื่อว่า ถั่วเลนทิล เป็นสัญลักษณ์แห่งความร่ำรวย เพราะถั่วเลนทิลจะมีรูปร่างคล้ายกับเหรียญเงิน หากรับประทานถั่วเลนทิลในวันปีใหม่ เชื่อว่าชีวิตจะมีแต่ความสุข ทำอะไรก็ประสบความสำเร็จ มีแต่ความร่ำรวย ความมั่งคั่ง โชคดี

                  6. องุ่น – ประเทศสเปน

                  องุ่น
                  องุ่น

                  องุ่นเป็นสัญลักษณ์แห่งความโชคดีของชาวสเปน ความพิเศษในการทานองุ่น คือ มักนิยมทานกัน 12 ลูก ซึ่ง 1 ลูก จะแทนระยะเวลา 1 เดือน หากรับประทานองุ่น 12 ลูก หมดทันเวลา 0.01 น. ก่อนขึ้นวันปีใหม่ เชื่อว่าจะทำให้ชีวิตตลอดทั้งปีใหม่มีแต่เรื่องโชคดี

                  7. ต็อกกุก – ประเทศเกาหลี

                  อาหารมงคล
                  ต๊อกกุก

                  ชาวเกาหลีใต้จะรับประทาน “ต็อกกุก”  เพื่อเป็นสิริมงคลในวันปีใหม่ ต็อกกุก เป็นซุปเค้กข้าวที่ชาวเกาหลีใต้เชื่อว่าหากได้รับประทานแล้วจะเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต และจะทำให้อายุยืนขึ้นอีก 1 ปี

                  8. ถั่วตาดำ – ประเทศอเมริกา

                  ถั่วตาดำ
                  ถั่วตาดำ

                  คนอเมริกันนิยมทานถั่วตาดำ (Black-eyed pea) ในช่วงวันปีใหม่ เพราะเชื่อกันว่าเป็นอาหารนำความโชคดีมาให้ชีวิต สำหรับถั่วตาดำเมื่อนำไปรุงจนสุกแล้วจะมีสีสันและลักษณะเหมือนเหรียญเงิน ที่แสดงถึงความมั่งคั่ง ร่ำรวย

                  9. Basil’s Cake – กรีซ

                  อาหารมงคล
                  Basil’s Cake อาหารมงคล

                  ขนม St.Basil’s cake ของชาวกรีซ เป็นขนมเค้กมงคลทำจากแป้ง ไข่ นม อัลมอนด์ งา ฟักทองหวาน ฯลฯ ที่จะถูกสอดไส้เหรียญเงินไว้ข้างใน และเชื่อกันว่าหากสมาชิกคนในครอบครัวพบเหรียญเงินในเค้ก ชีวิตก็จะโชคดีไปตลอดทั้งปี

                  ปีหน้าฟ้าใหม่ขอให้ทุกคน และทุกครอบครัว มีความสุข สมหวัง คิดหวังสิ่งใดก็ขอให้ได้ ขอให้ประสบความสำเร็จ  และที่สำคัญขอให้ทุกคนดำรงชีวิตอยู่ในความพอเพียง เพื่อความสุขที่ยั่งยืน แล้วอย่าลืมหา อาหารมงคล 15 อย่างนี้มาทานกันในช่วงปีใหม่ เพื่อจะได้โชคดีตลอดปีและตลอดไป  …ด้วยความห่วงใยค่ะ

                  อ่านบทความดี ๆ น่าสนใจ คลิก!

                  ทรงผม สีผมตามวันเกิด เสริมดวง เสริมราศี หนุนนำทรัพย์!

                  ชี้เป้ารวย! สีกระเป๋าสตางค์ตามวันเกิด 2564 เลือกสีไหนให้ถูกโฉลก?

                  แก้ปีชงด้วย “สีเสื้อมงคลปี 2564” ใส่แล้วงานปัง รับทรัพย์รัวๆ

                  ตั้งชื่อลูกมงคล 300 ชื่อที่แปลว่าทรัพย์สมบัติ ตั้งแล้วลูกร่ำรวยเงินทอง เรียกโชคให้พ่อแม่

                   

                  ขอบคุณข้อมูลจาก : food.mthai.com, airasiagotravelreview.com, manager.co.th, www.hongthongrice.com

                  ขอบคุณรูปจาก : commons.wikimedia.org, dannwoellertthefoodetymologist.wordpress.com

                   

                  เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                    อุทาหรณ์ คุณตาจอดรถซื้อของลืมปลดเกียร์ว่าง

                    จากเพจหนึ่งที่มีการเผยแพร่ภาพคลิปวิดีโอ ที่บันทึกเหตุการณ์ที่จังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อเป็นอุทาหรณ์ เมื่อคุณตากับหลานชาย 2 คน กำลังจอดรถซื้อของกันอยู่ ขณะที่ซื้อของกันอยู่ คุณตา ลืมปลดเกียร์ว่าง มารู้ตัวอีกที รถก็วิ่งข้ามถนนออกไปเองโดยไม่มีคนขับ โชคยังดีที่ช่วงเวลานั้น ไม่มีรถวิ่งผ่านมามากนัก

                    Continue reading “อุทาหรณ์ คุณตาจอดรถซื้อของลืมปลดเกียร์ว่าง”

                      ภาษาที่สาม 10 ภาษา ที่พ่อแม่ควรให้ลูกเรียนเพื่ออนาคตที่แสนสดใส

                      ภาษาที่สาม …อีกหนึ่งภาษาที่พ่อแม่ควรรู้ เพราะในการเรียนภาษาที่สอง หรือภาษาอังกฤษ ที่เป็นภาษาหลักนั้น หลายๆ คนก็คงจะพอรู้ถึงความสำคัญกันมาบ้างแล้ว แต่ถ้าลูกของคุณได้ภาษาที่ 3 ก็จะทำให้ดูมีโปรไฟล์ที่ดีขึ้นมาทันตาเลยทีเดียว

                      ไม่มีใครปฏิเสธว่าในยุคนี้ “ภาษา” มีอิทธิพลต่อมนุษย์มากขนาดไหน ยิ่งรู้ภาษาจำนวนมากยิ่งได้เปรียบมาก การรู้เพียงภาษาไทย และภาษาอังกฤษคงไม่เพียงพอเสียแล้ว ต้องรู้ภาษาที่สามด้วย สิ่งที่คนรุ่นใหม่ทุกคนควรจะมีและถือเป็นข้อได้เปรียบที่นอกจาก ภาษาไทย และภาษาอังกฤษ แล้ว เราต้องพัฒนาทักษะทางด้านภาษาของตัวเองให้โดดเด่นขึ้นไม่ให้น้อยหน้าใคร ภาษาที่สามจึงเปรียบเสมือนความสามารถพิเศษ ยิ่งถ้าพูดได้มากกว่าสามภาษาขึ้นไปก็จะยิ่งทำให้ทุกองค์กร และทุกสถาบันการศึกษาต้องรีบคว้าตัวไว้อย่างแน่นอนกับ 10 สุดยอดภาษาที่จำเป็นอย่างยิ่งในอนาคตของลูกๆ จะมีภาษาอะไรที่น่าสนใจและควรค่าแก่การเรียนเพิ่มเติมบ้างไปชมกันเลย…

                      10 ภาษาที่สาม ที่พ่อแม่ควรให้ลูกเรียน

                      1. ภาษาจีนกลาง (Mandarin / 普通话) “สวัสดี” ในภาษาจีนกลางพูดว่า “Ni hao” (หนี-ห่าว)

                      ภาษาที่สาม

                      ประเทศจีนเป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คนใช้ภาษาจีนมีกว่าพันล้านคนซึ่งเป็นภาษาที่ใช้พูดมากที่สุดในโลก และประเทศจีนเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมใหญ่เป็นอันดับที่สองของโลก ซึ่งเร็วๆนี้คาดว่าน่าจะขึ้นมาเป็นอันดับ1 จึงจำเป็นมากในอนาคตในการติดต่อธุรกิจและการท่องเที่ยวที่เห็นได้ชัดว่ามีนักท่องเที่ยวชาวจีนมาเที่ยวในบ้านเราเพิ่มมากขึ้นทุกวันและแน่นอนว่ามีผลต่อโอกาสในอาชีพ การงานในอนาคตข้างหน้าและเป็นข้อได้เปรียบอย่างยิ่ง

                      การเรียนรู้ภาษาจีนกลางจึงจำเป็นและสำคัญมากในอนาคต รวมไปถึงผลการสำรวจภาษาที่มีการใช้มากที่สุดในอินเตอร์เน็ตภาษาจีนติดอยู่ในอันดับที่ 2 ของโลก รองจากภาษาอังกฤษ แม้จะเป็นภาษาที่ถือได้ว่ายากต่อการเรียนรู้ภาษาหนึ่ง แต่หากคุณสามารถสื่อสารทั้งเขียนและพูดภาษาจีนกลางได้เป็นอย่างดีแล้วหละก็ รับรองว่ามีผลต่ออาชีพหน้าที่การงานในอนาคตอย่างแน่นอน

                      2. ภาษาสเปน (Spanish / Español) “สวัสดี” ในภาษาสเปนพูดว่า “Hola” (โอ-ลา)

                      ภาษาที่สาม

                      ภาษาสเปนเป็นภาษาที่ใช้ในสามทวีป ได้แก่ อเมริกาใต้ ยุโรป และแอฟริกา คนพูดภาษาสเปนได้กว่า 400 ล้านคน และยังเป็นภาษาที่สองในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีแนวโน้มว่าภาษาสเปนจะเติบโตขึ้นไปเรื่อยๆอย่างรวดเร็ว มีความสำคัญทางด้านเศรษฐกิจธุรกิจระหว่างประเทศ และเป็นภาษาที่นิยมมากในการศึกษาต่อในระดับมหาลัยของประเทศสหรัฐอเมริกา ถือว่าภาษาสเปนเป็นภาษาที่กำลังมาแรง เด็ก ๆ ควรศึกษาไว้เพื่อความได้เปรียบของเราในอนาคต

                      เป็นภาษาที่มีความสำคัญในด้านของเศรษฐกิจและธุรกิจระหว่างประเทศ จำเป็นต่อการประกอบอาชีพของประชากร ภาษาสเปนจึงเป็นที่นิยมมากในการศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยของประเทศสหรัฐอเมริกา ทำให้มีการคาดการณ์ไว้ว่า คนที่มีสามารถพูดและสื่อสารภาษาสเปนได้ดีจะทำให้มีอัตราค่าจ้างเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 1.7 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ภาษาสเปนยังเป็นภาษาที่ใช้ในอินเตอร์เน็ตมากที่สุดอยู่ในอันดับที่ 3 รองจากภาษาจีน และภาษาอังกฤษ นั่นเอง

                      3. ภาษาญี่ปุ่น ( Japanese/ 日本語 ) “สวัสดี” ในภาษาญี่ปุ่นพูดว่า “Hajimemashite” (ฮะ-จิ-เมะ-มะ-ชิ-เตะ)

                      ภาษาที่สาม

                      ปัจจุบันมีบริษัทญี่ปุ่นเข้ามาลงทุนในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก เช่น ผลิตสินค้าอุตสาหกรรม ยานยนต์ ไฟฟ้า เครื่องจักร อาหารและอุตสาหกรรมอื่นๆ ซึ่งถ้าเรารู้และศึกษาภาษาญี่ปุ่น โอกาสที่จะได้งานทำก็จะมีมากกว่าคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อซื้อขาย ด้านธุรกิจ การค้า หรือการทำงานร่วมกับองค์กรญี่ปุ่นก็จะได้รับความไว้วางใจมากกว่าคนที่สื่อสารภาษาญี่ปุ่นไม่ได้เลย นี่ก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการที่เราสามารถสื่อสารภาษาญี่ปุ่นได้

                      ในหลายองค์กรจึงต้องการบุคลากรที่มีความรู้ด้านภาษาญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก เนื่องจากคนในประเทศญี่ปุ่นยังพูดภาษาอังกฤษได้น้อย จึงต้องการคนที่สื่อสารภาษาญี่ปุ่นได้ดี จึงทำให้มีค่าตอบแทนที่ค่อนข้าง

                      อ่านต่อ >> “10 ภาษาที่สาม ที่พ่อแม่ควรให้ลูกเรียน” คลิกหน้า 2

                      เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                       

                        ฝึกสมองลูก

                        7 เคล็ดลับ ลูกความจำดี เรียนเก่ง

                        ลูกความจำดี เรียนเก่ง ในช่วง 1-3 ปีเป็นช่วงวัยทองของสมอง ที่จะสามารถจดจำ และเรียนรู้ได้อย่างมากมาย หากคุณพ่อคุณแม่อยากให้ลูกเรียนเก่ง มีความจำดีต้องเริ่มปูรากฐานความรู้ให้แข็งแรงตั้งแต่ช่วงวัยนี้  ทีมงาน Amarin Baby & Kids มี 7 เคล็ดลับสร้าง ลูกความจำดี เรียนเก่ง มาฝากทุกครอบครัวให้ได้ทราบกันค่ะ

                         

                        ลูกความจำดี เรียนเก่ง : สมอง มีหน้าที่อะไร ?

                        สมองมีหน้าที่ควบคุมและสั่งการการเคลื่อนไหว  พฤติกรรม และภาวะธำรงดุล (homeostasis) เช่น การเต้นของหัวใจ  ความดันโลหิต  สมดุลของเหลวในร่างกาย และอุณหภูมิ เป็นต้น หน้าที่ของสมองยังเกี่ยวข้องกับการรู้ (cognition) อารมณ์ ความจำ การเรียนรู้การเคลื่อนไหว (motor learning) และความสามารถอื่นๆ ที่เกี่ยวกับการเรียนรู้1

                         

                        สมองคืออวัยวะที่สำคัญของร่างกายมนุษย์  สมองเป็นศูนย์รวมของความคิด ความทรงจำ จินตนาการ การวางแผน และการแก้ปัญหาต่างๆ  สมองจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมาก หากได้รับการกระตุ้นอย่างเหมาะสมและถูกวิธี

                         

                        Good to know… “สมองเด็กแรกเกิดจะมีน้ำหนักประมาณ 30-40% ของผู้ใหญ่ และเพิ่ม เป็น 60% เมื่ออายุ 4 ขวบ ช่วง 6 ปีแรกของชีวิตเป็นช่วงที่สมองมีพัฒนาการอย่างรวดเร็วที่สุด และวัย 1-3 ปี เป็นวัยทองแห่งการเรียนรู้ ความเฉลียวฉลาด และความคิดริเริ่มสร้างสรรค์2”  

                        ลูกความจำดี เรียนเก่ง ด้วย 7 เคล็ดลับ

                        สมองของลูกจะมีพัฒนาการการเติบโตอย่างเต็มศักยภาพ ส่วนสำคัญต้องได้รับการสนับสนุนจากคุณพ่อคุณแม่เป็นสำคัญ เพื่อให้ลูกได้มีการเรียนรู้ มีความจำดี ซึ่งจะส่งผลต่อการเรียนรู้ของลูกในอนาคต  การจะสร้างให้สมองของลูกทำงานประสานกันได้ดี ไม่ใช่เรื่องยาก  เรามีเคล็ดลับฝึกสมองให้กับลูกน้อย จากคำแนะนำของ ดร.แพง ชินพงศ์3  ดังนี้…

                        1. เขียนสมุดบันทึก

                        คุณพ่อคุณแม่ควรฝึกให้ลูกจดบันทึกเรื่องราวต่างๆ ลงในสมุดบันทึกเป็นประจำทุกวัน วิธีนี้นอกจากจะช่วยฝึกทักษะเรื่องของภาษาในการเขียนและการลำดับเรื่องราวอย่างเป็นขั้นเป็นตอนแล้ว ยังช่วยฝึกให้ลูกรู้จักการรวบรวมความคิดและฝึกการจดจำเรื่องราวต่างๆ ที่พบเจอในแต่ละวันที่ผ่านมาได้

                        2. เล่นเกมพัฒนาความจำ

                        คุณพ่อคุณแม่ควรหากิจกรรมเกมที่ช่วยฝึกความจำให้แก่ลูก เช่น เกมครอสเวิร์ด เกมปริศนาอักษรไขว้ เกมหาคำศัพท์ เกมบิงโก เกมต่อจิ๊กซอว์ เกมเหล่านี้นอกจากจะช่วยเพิ่มความสามารถในการจดจำของสมองเป็นอย่างดีแล้ว ยังช่วยให้มีสมาธิและฝึกความอดทนในการที่จะต้องพยายามแก้ปัญหาให้สำเร็จ

                        3. ดนตรีช่วยเพิ่มความจำ

                        ดนตรีเป็นสื่อที่นอกจากจะช่วยคลายเครียด พัฒนาความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการให้แก่เด็กแล้ว ยังช่วยเพิ่มทักษะในด้านความจำของเด็กที่ได้ผลดีเป็นอย่างมากอีกด้วย เพราะการที่เด็กได้ฟังเพลง ร้องเพลงและเล่นเครื่องดนตรี เด็กๆ จะต้องใช้ความจำในเรื่องของการจดจำทำนอง เนื้อร้องและจังหวะของแต่ละบทเพลง นอกจากนี้การเล่นเครื่องดนตรี เด็กๆ ต้องฝึกอ่านโน้ตดนตรี ซึ่งเป็นการฝึกในเรื่องของความจำโดยตรง

                        4. ฝึกสมาธิ

                        การฝึกสมาธิเป็นวิธีการที่ดีมากอย่างหนึ่งในการช่วยเพิ่มพลังความจำอย่างได้ผล การทำสมาธิสำหรับเด็กเล็กๆ ไม่จำเป็นต้องให้เด็กฝึกจิตให้สงบด้วยการนั่งสมาธิเอามือประสานกันวางไว้ที่ตัก เพราะบางครั้งวิธีนี้อาจใช้ไม่ได้สำหรับเด็กบางคนเนื่องจากเขาอาจรู้สึกอึดอัด แต่การทำสมาธิสำหรับเด็กง่ายๆ คือหมายถึงการที่เขาได้พักสงบกับตนเอง เช่น การที่เด็กได้นอนหนุนตักคุณพ่อคุณแม่ใต้ต้นไม้อย่างเงียบสงบในเวลาประมาณ 15 นาที ก็เป็นการฝึกสมาธิได้แล้ว การฝึกสมาธิจะช่วยผ่อนคลายความเครียดและช่วยเตรียมให้สมองได้เปิดรับการเรียนรู้ในสิ่งใหม่ๆ และจดจำบทเรียนต่างๆ ได้เป็นอย่างดี

                        อ่านต่อ >> “ลูกความจำดี เรียนเก่ง ด้วย 7 เคล็ดลับ” หน้า 3

                         

                         

                        เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                          แชร์จากเรื่องจริง! ลูกติดเชื้อในลำไส้ เพราะคายเสมหะไม่เป็น

                          เด็ก ติดเชื้อในลำไส้ … อาจมีหลายสาเหตุ ซึ่งการ ติดเชื้อในลำไส้ หรือลำไส้อักเสบ คือ โรคที่เกิดจากเนื้อเยื่อที่บุภายในลำไส้ (เนื้อเยื่อบุผิว) เกิดมีการอักเสบ ส่วนใหญ่มักเป็นการอักเสบจากติดเชื้อโรค

                           

                          เช่นเดียวกับกรณีของเด็กชายคนนี้ ซึ่งคุณหมอได้วินิจฉัยว่า น้องเป็นลำไส้ติดเชื้อ เนื่องจากเพราะน้องป่วยเป็นไข้หวัด มีน้ำมูก และไอมีเสมหะ แต่น้องคายเสมหะออกไม่ได้ จึงกลืนลงไป ทำให้ลำไส้ติดเชื้อ โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ ไอ่’ ลูก น้ำ ได้โพสว่า

                          เด็ก ติดเชื้อในลำไส้ เพราะคายเสมหะไม่เป็น

                          เด็ก ติดเชื้อในลำไส้

                          จากเหตุการณ์นี้ การที่ลูกเป็นหวัด จนทำให้มีน้ำมูกและเสมหะ หากพ่อแม่ไม่รู้จักกำจัดน้ำมูกหรือเสมหะให้ลูกน้อย ก็อาจเกิดเรื่องราวเช่นเดียวกับเด็กน้อยคนนี้ได้

                          Must readสีของน้ำมูก สามารถบอกสุขภาพของลูกได้

                          สำหรับพ่อแม่มือใหม่อาจมีความกลัวและความไม่มั่นใจเกิดขึ้นได้ เมื่อต้องดูดเสมหะให้ลูกครั้งแรก  แต่คุณต้องไม่เกิดความรู้สึกว่ากำลังทำร้ายลูกเพราะที่จริงแล้วเรากำลังช่วยเหลือลูก เมื่อคุณได้เรียนรู้และเข้าใจวิธีดูดเสมหะ ตลอดจนฝึกฝนจนเกิดความชำนาญแล้ว คุณจะมีความมั่นใจและรู้สึกว่าการดูดเสมหะเป็นเรื่องง่ายมาก และไม่อยากให้ใครดูดเสมหะให้ลูกนอกจากตัวคุณเอง

                          ทำไม!  จึงต้องมีเสมหะ

                          ธรรมชาติได้สร้างเสมหะเพื่อดักจับสิ่งแปลกปลอมที่ผ่านเข้ามาในทางเดินหายใจ และขับเสมหะหรือสิ่งแปลกปลอมออกโดยการไอ  ในภาวะที่มีความผิดปกติของระบบหายใจ เช่น  มีการติดเชื้อหรือมีการระคายเคืองจากการได้รับสิ่งกระตุ้นต่าง ๆ จะทำให้มีการสร้างเสมหะมากกว่าปกติ

                          อ่านต่อ >> การดูดเสมหะให้ลูก เพื่อป้องกันลูกกลืนเสมหะ” คลิกหน้า 2

                          เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                           

                            สำลักนม

                            สำลักนมคร่าชีวิตลูกน้อย อันตรายที่คาดไม่ถึง

                            คุณพ่อ คุณแม่ อาจจะคิดว่าการ สำลักนม ของเด็กๆ เป็นเพียงเรื่องเล็กๆ และไม่ใช่เรื่องใหญ่ที่คุณพ่อ คุณแม่ต้องเป็นกังวลอะไร เพียงแต่อุบัติเหตุนี้ไม่สามารถบอกเราได้ว่า เสี่ยงต่อความตายได้มากน้อยแค่ไหน เมื่อมีกรณีตัวอย่างที่จะเล่าให้อ่านต่อไปนี้ เพื่อเป็นอุทาหรณ์เตือนใจพ่อแม่

                            Continue reading “สำลักนมคร่าชีวิตลูกน้อย อันตรายที่คาดไม่ถึง”

                              อุปนิสัยเด็กเกิดปีระกา 2560

                              ต้อนรับปีใหม่ กับ อุปนิสัยเด็กเกิดปีระกา 2560

                              อุปนิสัยเด็กเกิดปีระกา 2560 อีกไม่กี่สัปดาห์ก็จะสิ้นปีเก่า ต้อนรับปีพุทธศักราชใหม่ ที่ตรงกับปีนักษัตรระกา หรือปีไก่  คุณพ่อคุณแม่ที่ได้ฤกษ์คลอดลูกในปีไก่ปีหน้านี้  ทีมงาน Amarin Baby & Kids มีพื้นฐานดวงและอุปนิสัยที่จะบอกถึงลักษณะของ เด็กเกิดปีระกา ไก่สวย หล่อ รวย ดี 2560 มาฝากกันค่ะ

                               

                              อุปนิสัยเด็กเกิดปีระกา 2560พื้นฐานเป็นคนแบบไหน ?

                              อุปนิสัยของคนเกิดปีระกา ตามหลักทางโหราศาสตร์ ว่ากันว่าคนเกิดปีระกา (ไก่) เป็นดั่ง ไก่กล้าหาญ  เป็นคนชอบช่วยเหลือผู้คน เป็นคนเปิดเผย และ…

                              • เป็นคนที่รักสวยรักงาม
                              • เป็นคนพูดตรงไปตรงมา
                              • ทำอะไรก็ตั้งใจทำ ทุ่มเท
                              • มีความเป็นนักปราชญ์
                              • มีความเฉลียวฉลาด
                              • เห็นอกเห็นใจผู้อื่น
                              • เป็นคนที่มีโลกส่วนตัว
                              • เป็นคนขี้หงุดหงิด
                              • แต่ก็เป็นคนโรแมนติก และมีเสน่ห์

                               

                              Good to know… “วันที่เป็นสิริมงคลและโชคชัยของคนเกิดปีระกา เพื่อจะเลือกใช้ในงานพิธีสำคัญของตน งานมงคล และงานตั้งต้นใหญ่ๆ ที่เกี่ยวกับสวัสดิภาพ และความเจริญรุ่งโรจน์ของชีวิต ได้แก่ วันอังคาร และ วันศุกร์2

                              อ่านต่อ >> “อุปนิสัยเด็กเกิดปีระกา ดวงชะตาตามปีเกิด 2560” หน้า 2

                               

                               

                              เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                                บูสเตอร์ซีท

                                บูสเตอร์ซีท สำคัญกับชีวิตลูกกว่าที่คิด

                                ใครคิดว่าคาร์ซีทใช้สำหรับเด็กเล็กเท่านั้น เรื่องราวของหนูน้อยวัย 6 ขวบคนนี้ ที่เกือบเสียชีวิตเพราะไม่ได้นั่ง บูสเตอร์ซีท (คาร์ซีทของเด็กโต) แต่คาดเข็มขัดนิรภัยของผู้ใหญ่ที่ติดมากับรถยนต์แทน อาจทำให้คุณเปลี่ยนใจ Continue reading “บูสเตอร์ซีท สำคัญกับชีวิตลูกกว่าที่คิด”

                                  โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ

                                  ลูกป่วยเป็นโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบเพราะว่ายน้ำ

                                  จากประสบการณ์ของคุณแม่ที่โพสต์เอาไว้ในกระทู้พันทิปเมื่อหลายเดือนก่อน Amarin Baby & Kids ขออนุญาตหยิบยกมาเป็นอุทาหรณ์ให้กับคุณพ่อ คุณแม่ที่มักจะพาลูกน้อยไปว่ายน้ำตามที่ต่างๆ อาจเกิดความเสี่ยงทำให้เป็น โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ

                                   

                                  โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ

                                  คุณแม่ฝากเตือนเกี่ยวกับโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ว่าส่วนใหญ่เกิดจากการเล่นน้ำที่มีเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัส แล้วเกิดสำลักน้ำเข้าไปทางจมูก ทำให้เชื้อโรคแพร่เข้าสู่สมอง จึงควรให้ลูกน้อยเล่นน้ำในสระน้ำที่มีระบบบำบัดเท่านั้น จุดเริ่มต้นของเรื่องทั้งหมด คือบ่อเลี้ยงปลาคาร์ฟที่บ้าน ซึ่งมีขนาดใหญ่พอสมควร เมื่อทำสระเสร็จก็เตรียมพักน้ำเอาไว้ในบ่อ เพื่อที่จะรอปล่อยปลา ด้วยความที่ลูกชายวัย 8 ขวบของคุณแม่ชอบเล่นน้ำอยู่แล้ว เมื่อเห็นบ่อปลาใส่น้ำเอาไว้ ก็เลยขอลงเล่น คุณแม่คิดว่าไม่น่าจะเป็นอะไร จึงให้ลูกน้อยเล่นตอนแดดไม่ร้อน ลูกชายของคุณแม่เล่นน้ำ 3 วันติดต่อกัน ดำผุดดำว่าย สำลักน้ำตามประสาเด็ก 3 วันต่อมา ลูกชายเริ่มมีอาการปวดศีรษะ จึงรีบพาไปหาคุณหมอ

                                  โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบวันเสาร์ที่ 19 มีนาคม 2559

                                  คุณหมอตรวจอาการแล้วบอกว่าให้นอนโรงพยาบาลดีกว่า เพราะอยากจะขอตรวจให้ละเอียดทุกอย่าง เพราะลูกน้อยไข้สูง ปวดศีรษะมาก และมีอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย จึงต้องตรวจน้ำมูกหาไข้หวัดใหญ่ ตรวจเลือดหาไข้เลือดออก เย็นวันนั้นผลออกมาเป็นปกติ คุณหมอแจ้งว่าเหลือตรวจสมองเพียงที่เดียว คุณหมอสงสัย เพราะลูกน้อยมีอาการคอแข็ง ก้มหน้าไม่ลง และปวดเมื่อยตั้งแต่คอลงไปถึงหลัง ซึ่งเป็นอาการของโรคไข้สมองอักเสบ หรือเยื่อหุ้มสมองอักเสบ คุณหมอจึงตรวจโดยการเจาะไขสันหลัง เพื่อนำน้ำในไขสันหลังมาตรวจหาเชื้อโรค ตอนนี้ลูกยังรู้สึกตัวดีอยู่ พูดคุยกับคุณแม่ได้ปกติ และให้ความร่วมมือคุณหมอเป็นอย่างดี จึงไม่ต้องดมยาสลบ ผลการตรวจออกมาตอนประมาณ 22.00 น. ของวันนั้น คุณหมอก็สั่งให้ใช้ยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียทันทีทางสายน้ำเกลือเมื่อรู้ผล คืนนั้นลูกชายไข้ขึ้นต้องเช็ดตัว และบ่นปวดศีรษะตลอดทั้งคืน

                                  วันอาทิตย์ที่ 20 มีนาคม 2559

                                  อาการไข้ลดลงเล็กน้อย จาก 39 องศา เป็น 37.9 องศา แต่ยังมีอาการ พูดคุยได้ปกติ แต่รับประทานอาหารได้น้อยลง ซึ่งปกติลูกน้อยจะเป็นคนกินเก่ง คุณหมอสรุปอาการว่าเป็นโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ จากเชื้อแบคทีเรีย และจะต้องได้รับยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียเป็นเวลา 14 วัน และมีการส่งน้ำในไขสันหลังเพื่อตรวจหาเชื้อไวรัสด้วย ซึ่งต้องรอประมาณ 2 – 3 วัน

                                  วันจันทร์/อังคารที่ 21-22 มีนาคม 2559

                                  อาการไข้ขึ้นห่างกว่าเดิม แต่ยังมีอยู่บ้าง และบางช่วงลดลงเหลือ 36.6 องศา อาการปวดศีรษะเริ่มน้อยลง แต่จะนอนหลับมากกว่าเดิม แทบไม่รับประทานข้าวเลย รับประทานแต่ผลไม้ และไอศกรีม บางครั้งมีอาการเพ้อตอนไข้ขึ้น

                                  วันพุธที่ 23 มีนาคม 2559

                                  แทบไม่มีอาการไข้เลย อาการปวดศีรษะน้อยลง นอนหลับมากขึ้น ไม่รับประทานอาหาร พูดคุยได้น้อยมาก ถามคำตอบคำ พูดอยู่ก็หลับไปเฉยๆ ช่วงเย็นทราบผลตรวจ พบว่ามีเชื้อไวรัสรวมอยู่ด้วย เป็นตัวแพลน เอนเทอโรไวรัส เป็นไวรัสที่ไม่มียารักษา ต้องให้ภูมิคุ้มกันในร่างกายกำจัดออกไปเอง ถึงตอนนี้ทุกอย่างดูมือมนไปหมด คิดว่าตอนแรกจะมีแค่เชื้อแบคทีเรียให้ยาฆ่าเชื้อจนครบก็น่าจะไม่มีปัญหา คุณแม่จึงปรึกษาคุณหมอ และหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ต แล้วพบเคสตัวอย่างซึ่งเป็นโรคเดียวกับลูกชาย โดยการใช้ยา ivig ในการรักษา โดยยาจะช่วยในการสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย แต่ต้องให้ยาในห้อง ICU เนื่องจากบางคนอาจแพ้ยานี้ คืนนั้นจึงย้ายลูกน้อยไปห้อง ICU

                                  โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบวันพฤหัสที่ 24 มีนาคม 2559

                                  คืนนั้นลูกน้อยไม่มีไข้ การให้ยาเป็นไปด้วยดี แต่วันนี้ทั้งวันลูกไม่ตอบสนองต่อสิ่งที่คุณแม่พูดด้วย ไม่พูดคุย นอนหลับตลอด และร้องครางบางครั้ง อาจเป็นเพราะรำคาญสายต่างๆ ที่ระโยงรยางค์รอบตัว ทั้งสายน้ำเกลือ สายยา สายวัดชีพจร เครื่องวัดความดันที่ต้องใส่คาเอาไว้ที่แขน คุณแม่นั่งมองดูลูกแล้วสงสารจับใจ ได้แต่นั่งร้องไห้กัน 2 คนทั้งพ่อแม่

                                  วันศุกร์/เสาร์ที่ 25-26 มีนาคม 2559

                                  อาการทรงตัว เริ่มกลับมามีไข้ต่ำๆ 37.8 องศา ลูกนอนหลับตลอดทั้งวัน สามารถขยับร่างกายได้เอง แต่ไม่ลืมตา ไม่ตอบสนอง คุณพ่อ คุณแม่ลูบศีรษะ จับมือ และพูดคุยด้วย แต่ไม่ตอบสนอง เย็นวันเสาร์คุณหมอเริ่มให้อาหารทางสาย เพราะลูกไม่สามารถรับประทานได้เอง สงสารลูกน้อยที่สุด เพราะจะโดนใส่สายอาหาร คุณแม่ร้องไห้ คุณหมอรอดูอีก 2 – 3 วันว่ายาจะได้ผลหรือไม่ ทำแล้วจะทำให้ลูกน้อยตื่นลืมตาได้มากขึ้นหรือไม่

                                  เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                                  อ่านต่อ “ลูกป่วยเป็นโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบเพราะว่ายน้ำ” คลิกหน้า 2

                                    กลากน้ำนม

                                    กลากน้ำนม อาการ สาเหตุ และการรักษา

                                    กลากน้ำนม เชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่น่าจะคุ้นชื่อกับโรคกลากน้ำนมกันอยู่บ้าง แต่อาจยังไม่ทราบสาเหตุว่าแท้จริงแล้วกลากน้ำนมนั้นมีสาเหตุจากอะไร แล้วจะมีวิธีรักษาให้หายขาดได้ไหม หากเด็กๆ เป็นโรคนี้ ทีมงาน Amarin Baby & Kids มีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ของกลากน้ำนม มาให้ได้ทราบกันค่ะ

                                     

                                    กลากน้ำนม คืออะไร ?

                                    กลากน้ำนม หรือ เกลื้อนน้ำนม(Pityriasis alba) ซึ่งชื่อตามทางการแพทย์จะเรียกว่า โรคด่างแดด โรคนี้มาจากเซลล์สร้างเม็ดสีที่ชั้นหนังกำพร้าไม่สามารถสร้างเม็ดสีได้ตามปกติ ทำให้ผิวหนังจางลงจนกลายเป็นวงด่างขาว

                                    กลากน้ำนมเป็นโรคผิวหนังที่พบได้บ่อย ส่วนใหญ่มักพบในเด็กวัยตั้งแต่อายุประมาณ 3-16 ปี และประมาณ 90% ของผู้ป่วยด้วยโรคด่างแดดจะมีอายุน้อยกว่า 12 ปี

                                     

                                    Good to know… “กลากน้ำนม (เกลื้อนน้ำนม)  เป็นโรคที่หายได้เอง และไม่ทิ้งร่องรอยด่างหรือแผลเป็นไว้  แต่ก็สามารถกลับมาเป็นได้อีกครั้งหากผิวตรงบริเวณที่เคยเกิดโรคได้รับการกระตุ้น เช่น ถูกแสงแดดจัด  การเล่นกีฬาว่ายน้ำกลางแจ้ง ฯลฯ กลากน้ำนม จะหายได้เองภายในเวลาเป็นเดือน หรือ หนึ่งปี”

                                    อ่านต่อ >> “เกลื้อนน้ำนม มีอาการอย่างไร?” หน้า 2

                                     

                                     

                                    เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่