Page 196 – AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

ลูกหัวเล็ก

เตือน! อย่าให้ยุงกัดตอนท้อง ระวังไวรัสทำ “ลูกหัวเล็ก”

หมอแล็ปแพนด้าเตือน แม่ท้องต้องระวัง ตั้งครรภ์อยู่พยายามอย่าให้ยุงกัด เพราะอาจทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสที่ทำให้ ลูกหัวเล็ก ได้

เตือน! อย่าให้ยุงกัดตอนท้อง ระวังไวรัสทำ “ลูกหัวเล็ก”

ใครที่กำลังตั้งครรภ์อยู่ระวังอย่าให้ยุงกัดนะครับ เพราะเราอาจจะติดเชื้อไวรัสซิกาที่มียุงลายเป็นพาหะนำโรคได้ ไม่ใช่แค่ยุงลายที่นำโรคนะ การให้เลือด หรือการแพร่เชื้อจากแม่ไปยังลูกในท้องก็แพร่เชื้อได้เหมือนกัน
.
ถ้าใครเป็น อาการจะไม่หนักอะไร ส่วนใหญ่จะมีไข้ มีผื่นแดง เยื่อบุตาอักเสบ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดข้อ อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ เป็นอยู่ประมาณ 2-7 วัน
.
แต่ถ้าตั้งครรภ์อยู่แล้วโดนยุงที่มีเชื้อกัด อาจจะทำให้ลูกที่คลอดมาพิการหัวเล็ก สมองเล็ก (microcephaly) หรือมีภาวะแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์ได้
.
เพราะฉะนั้นการป้องกันอย่าให้ยุงกัดคือหัวใจที่สำคัญที่สุดใช้ยาทาป้องกันยุงกัด นอนในมุ้ง ใช้มุ้งลวดติดป้องกันยุงเข้าบ้าน กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายกันด้วยนะคร้าบ

นี่เป็นข้อความจากโพสของ นักเทคนิคการแพทย์ ภาคภูมิ เดชหัสดิน หรือเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นเจ้าของเพจ หมอแล็บแพนด้า ที่ได้เตือนคุณแม่กำลังตั้งครรภ์ต้องระวังอย่าให้ยุงกัด เพราะจะเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสซิกา ซึ่งมียุงลายเป็นพาหะนำโรค อาจทำให้ลูกที่คลอดมาพิการหัวเล็ก สมองเล็กได้

ไวรัสซิกา
ไวรัสซิกา

ภาวะ ลูกหัวเล็ก คืออะไร?

Microcephaly (ไมโครเซบฟาลี) หรือภาวะศีรษะเล็ก เป็นความผิดปกติทางระบบประสาทที่ทำให้ศีรษะของเด็กมีขนาดเล็กกว่าปกติเมื่อเทียบกับค่ามาตรฐานของเด็กในวัยและเพศเดียวกัน ซึ่งเป็นผลมาจากสมองหยุดพัฒนาหรือหยุดเจริญเติบโต อาจเกิดกับทารกในครรภ์หรือเกิดหลังเด็กคลอดช่วงแรก ๆ อาจมีสาเหตุจากกรรมพันธุ์ ปัจจัยทางสิ่งแวดล้อม หรือปัจจัยอื่น ๆ เช่น เชื้อไวรัสซีเอ็มวี (CMV) พยาธิในแมว ซิฟิลิส และไวรัสซิก้า เป็นต้น และโดยทั่วไป Microcephaly ไม่สามารถรักษาให้หายได้ แต่หากได้รับการดูแลช่วยเหลือตั้งแต่เริ่มต้น อาจช่วยเสริมพัฒนาการและช่วยให้เด็กมีคุณภาพชีวิตที่ดีได้

สำหรับสาเหตุของภาวะศีรษะเล็กที่เกิดจากไวรัสซิกานั้น หากแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ติดเชื้อไวรัสนี้เข้าไป เชื้อไวรัสจะเข้าไปจู่โจมที่สมองของทารกในครรภ์ โดยเฉพาะช่วงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์ ซึ่งเป็นช่วงที่เซลล์สมองกำลังแบ่งตัวและพัฒนา หากติดเชื้อช่วงนี้ สมองจะถูกเชื้อจู่โจมได้ง่าย อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะได้รับเชื้อในช่วงใดของการตั้งครรภ์ก็ก่อปัญหาทั้งสิ้น

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

อ่านต่อ จะรู้ได้อย่างไรว่าลูกหัวเล็ก? และวิธีป้องกันภาวะลูกหัวเล็กในแม่ท้อง

    เอ๋ มณีรัตน์

    เอ๋ มณีรัตน์ เผยเคล็ดลับหัดอ่านหนังสือวันละ 15 นาที

    “หัดอ่านหนังสือวันละ 15 นาที แค่นั้นก็พอแล้ว” คำพูดของทูตรักการอ่านอย่าง คุณเอ๋ มณีรัตน์ คำอ้วน ที่คราวนี้ได้ลงใต้ไปทำกิจกรรม School Roadshow อ่านนิทานกับน้องๆ ชวนเข้าชมรมรักการอ่านและเขียนบันทึกการอ่าน พร้อมกับเยี่ยมเยียนและสร้างแรงบันดาลใจการอ่านให้กับน้องๆ ถึงโรงเรียนอนุบาลกระบี่ จังหวัดกระบี่

    เอ๋ มณีรัตน์

    โดยกิจกรรม School Roadshow นี้ เป็นหนึ่งในกิจกรรมของ โครงการส่งความรู้ สร้างความสุข ปีที่ 2 ที่ได้รับการสนับสนุนจากบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และบริษัทอมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) มอบหนังสือคุณภาพสำหรับนักเรียนกว่า 1,000 เล่ม ต่อโรงเรียนพร้อมชั้นวางหนังสือให้แก่  57 โรงเรียนทั่วประเทศ  โดยมีจุดประสงค์เพื่อปลูกฝังให้เด็กไทยมีนิสัยรักการอ่าน เพราะเชื่อว่าการอ่านคือรากฐานสำคัญที่จะช่วยให้เด็กมีพัฒนาการที่ดีในทุกๆ ด้าน ทั้งด้านการศึกษา การคิดวิเคราะห์ รวมถึงการแก้ปัญหาต่างๆ ในการทำงานและการใช้ชีวิตในอนาคต  ซึ่งกิจกรรมที่โรงเรียนอนุบาลกระบี่ ก็มี คุณเอ๋-มณีรัตน์ คำอ้วนมาเป็นทูตนักอ่าน มาร่วมสนุกสนานและชวนน้องๆ มาเป็นนักอ่านตัวน้อย พร้อมเผยเคล้ดลับการอ่านให้แก่เด็กๆ ดังนี้

    *เลือกหนังสือที่ตนเองชอบ จุดเริ่มต้นของการรักการอ่าน *

    พี่เอ๋เลือกหนังสือจากหนังสือที่ตนเองชอบ แล้วก็อ่านไปทีละนิด หลังจากนั้นก็เราอ่านหนังสือได้  จากสถิติ เขาบอกว่า การอ่านหนังสือเป็นเล่ม ทำให้เราฉลาดมากกว่า เพราะว่าถ้าเราอ่านหนังสือ อ่านบทความบนแท็บเล็ต จะทำให้เราแค่ผ่านข้อความเท่านั้น จะทำให้เราไม่จดจำอะไรได้มากขึ้น แต่ถ้าเราอ่านหนังสือเป็นเล่ม ทำให้เราสามารถเข้าใจความรวม เวลารู้อะไรเราจะรู้จริง และเวลาที่เราอ่านหนังสือเป็นเล่ม ทำให้เราสามารถขีดหรือเขียนลงไปได้ด้วย เป็นที่มาของคำว่า “จดและจำ” เพราะฉะนั้นจะทำให้เราจำได้มากขึ้น

    เอ๋ มณีรัตน์

    * เทคนิคการจำ จากการอ่าน *

    อยากให้น้องๆ จำเรื่องไปเลยว่า อันนี้เหตุการณ์เป็นอย่างไร เราอ่านบทไปก็จะมีจินตนาการ เวลาเราอ่านหนังสือ อย่างหนังสือการ์ตูนหรือนิทาน จินตนาการของเราจะไม่เหมือนกันทุกคน การแสดงก็เหมือนกัน อ่านบทก็เหมือนกัน แต่ละบทบางทีเราอ่านแบบนี้ คนอื่นมาอ่านบทเราก็จะเป็นอีกแบบหนึ่ง เพราะฉะนั้นเราอ่านแล้วเราเข้าใจไปทีละนิดๆ แล้วจะทำให้จินตนาการเราเกิดขึ้น จะทำให้จำง่ายขึ้น

     

    * นิสัยรักการอ่านที่ทำได้ง่ายๆ ด้วยตนเอง

    เมื่อก่อนพี่เอ๋ไม่ได้ชอบอ่านตั้งแต่แรก แล้วพี่เอ๋ก็ไม่ชอบอ่านหนังสือด้วย การอ่านหนังสือสำหรับพี่เอ๋เป็นอะไรที่ง่วงนอนมาก แล้วเรารู้สึกว่าพอมาวันหนึ่ง เมื่อเราทำงานเราจะรู้ว่า ถ้าเราไม่อ่านหนังสือ เราจะเป็นคนที่โลกแคบมาก เราจะไม่ทันคนอื่นเวลาที่เราทำงาน และพอเมื่อเราโตขึ้น เราก็จะมีความรับผิดชอบที่มากขึ้น เพราะฉะนั้นการอ่านหนังสือเป็นตัวช่วยเราได้ ในการที่เราจะเลือกว่าเราจะทำอะไร เราจะมีวิธีการแก้ไขปัญหาอย่างไร มีวิธีคิดอย่างไรดี ในหนังสือบอกหมดเลย การอ่านจึงช่วยให้เรามีความรู้พร้อมจินตนาการที่ดีด้วย”

    ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวและร่วมสนับสนุนโครงการฯ ได้ทาง FB Fanpage : thehappyread และ www.thehappyread.com ร่วมส่งต่อความรู้โดย (โลโก้) ส่งต่อความรู้มอบหนังสือให้เด็กๆกับโครงการ ส่งความรู้สร้างความสุข ปี 2

    เอ๋ มณีรัตน์

     

      คุณทองแดง ฉบับการ์ตูน

      คุณทองแดง ฉบับการ์ตูน หนังสือทรงคุณค่าของในหลวง รัชกาลที่ 9 จาก โครงการส่งความรู้ สร้างความสุข ปีที่ 2

      หนังสือที่เราเลือกมารีวิวในครั้งนี้ เป็นหนึ่งในหนังสือของโครงการส่งความรู้ สร้างความสุข ที่ได้รับการสนับสนุนจากบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด(มหาชน) และบริษัทอมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด(มหาชน) ซึ่งจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 2   เชื่อว่าเป็นหนังสือที่คนไทยคุ้นเคยมาก่อน เพราะเคยถูกตีพิมพ์และวางแผงขายมาแล้ว ต้นฉบับจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับคุณทองแดงในรูปแบบของหนังสือ ส่วนในฉบับนี้ก็ยังคงรวมเรื่องราวของคุณทองแดง สุนัขทรงเลี้ยงในสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 แต่เป็นในรูปแบบของการ์ตูนที่อ่านและเข้าใจง่าย   หนังสือเรื่องทองแดงทั้งฉบับเดิมและฉบับการ์ตูนนี้จะช่วยให้เด็กๆ และบุคคลทั่วไปเห็นคุณค่าของการเลี้ยงสุนัข และตระหนักว่าหากเราเลี้ยงเขาด้วยความรักความเอาใจใส่ เราจะได้รับความรักตอบแทนจากเขาเช่นเดียวกัน

      คุณทองแดง ฉบับการ์ตูน

      เรื่อง ทองแดง ฉบับการ์ตูน (พิมพ์ใหม่) ปกอ่อน

      ผู้เขียน : พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

      สำนักพิมพ์ : วังสวนจิตรลดา

      195.00 บาท

       

      เรื่องราวในฉบับการ์ตูนของ คุณทองแดง สุนัขธรรมดาที่ไม่ธรรมดา ซึ่งเป็นที่ประทับใจของประชาชนชาวไทยทั่วประเทศ จากหนังสือทองแดงที่โด่งดังไปทั่วโลก ซึ่งฉบับการ์ตูนเล่มนี้เกิดขึ้นด้วยพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9  ในการส่งเสริมให้เยาวชนไทยได้อ่านหนังสือ และปลูกฝังนิสัยรักการอ่านให้กับประชาชนชาวไทย เนื้อเรื่องในหนังสือนั้น เป็นเรื่องราวตั้งแต่ประวัติความเป็นมาของ แม่แดง ซึ่งเป็นแม่ของคุณทองแดง พี่น้องของคุณทองแดง เหตุการณ์วันที่คุณทองแดงได้เข้าเฝ้าฯ ถวายตัว ลักษณะพิเศษของคุณทองแดง อุปนิสัยใจคอและความฉลาดของคุณทองแดง ซึ่งยากที่จะมีสุนัขตัวใดเสมอเหมือน

      นอกจากเรื่องราวของคุณทองแดง ยังมีเรื่องราวของสุนัขตัวอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับคุณทองแดงอีกด้วย เช่น แม่มะลิ ทองดำ ทองแท้ และทองหลาง เป็นต้น โดยแก่นของเรื่องยังทรงเน้นในเรื่องของความจงรักภักดี ความกตัญญูรู้คุณ ความมีมารยาทที่ดี และการสั่งสอนลูกผ่านทางตัวละครเอกอย่าง คุณทองแดง ซึ่งมีเรื่องราวและเนื้อหาเป็นประโยชน์ต่อการใช้ชีวิต ความคิด และการอยู่ร่วมกันในสังคม

      คุณทองแดง ฉบับการ์ตูน


      เมื่อ พ.ศ. ๒๕๔๕ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงพระราชนิพนธ์หนังสือเรื่องทองแดง เป็นเรื่องสุนัขทรงเลี้ยงที่เฉลียวฉลาดจงรักภักดี พระราชนิพนธ์เรื่องนี้แฝงข้อคิดคติธรรมที่มีคุณค่า ทั้งยังมีความสนุกสนานเป็นที่ซาบซึ้งตรึงใจบรรดาสมาชิกผู้รักสุนัขทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ เนื่องจากทรงพระราชนิพนธ์ภาษาไทยและภาษาอังกฤษพิมพ์ลงในเล่มเดียวกัน

      คุณทองแดง ฉบับการ์ตูน


      ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวและร่วมสนับสนุนโครงการฯ ได้ทาง FB Fanpage : thehappyread และ www.thehappyread.com ร่วมส่งต่อความรู้โดย (โลโก้) ส่งต่อความรู้มอบหนังสือให้เด็กๆ กับโครงการ ส่งความรู้สร้างความสุข ปี 2

      คุณทองแดง ฉบับการ์ตูน

        นุ่น ศิรพันธ์ ปลุกไฟรักการอ่าน

        นุ่น ศิรพันธ์ ปลุกไฟรักการอ่านให้น้องๆ โรงเรียนอนุบาลบ้านเหนือเขมราฐ อุดรธานี ผ่านโครงการส่งความรู้ สร้างความสุข ปี 2

        สำหรับโครงการ “ส่งความรู้ สร้างความสุข ปี 2” เป็นความร่วมมือระหว่างบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และบริษัท อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์ พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) ที่ได้คัดเลือกหนังสือคุณภาพกว่า 500 ปก  จำนวน1,000 เล่ม มอบให้ในโครงการมากถึง 57 โรงเรียน พร้อมสมุดบันทึกรักการอ่าน เพื่อส่งเสริมและสร้างโอกาสการอ่านให้แก่เยาวชน โดยคณะกรรมการของโครงการฯจะทำการคัดเลือก 10 บันทึกการอ่านที่น่าสนใจของโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการ และนักเรียนที่มีผลการเรียนดี เข้าร่วมงานหรือเข้ารับรางวัลในพิธีเปิด (เปิดโครงการ) พร้อมแสดงนิทรรศการ “อ่าน 15 นาที ทุกวัน สร้างมหัศจรรย์แห่งชีวิต” เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์การอ่านและสร้างแรงบันดาลใจในการอ่านให้ กับเด็ก ๆ ทั่วไปอีกด้วย

        นุ่น ศิรพันธ์ ปลุกไฟรักการอ่าน

        สำหรับกิจกรรม SCHOOL ROADSHOW ที่อยู่ภายใต้โครงการส่งความรู้ สร้างความสุข ปี 2 มีพี่ๆ ดารานักแสดงมาเป็นทูตการอ่าน ร่วมทำกิจกรรมและสร้างพลังการอ่านให้เด็กๆ อีกเช่นเคย  โดยเมื่อได้ไปเยือนภาคอีสาน ก็มีนักแสดงชื่อดังอย่าง คุณนุ่น-ศิรพันธ์ วัฒนจินดา เดินทางมาร่วมกิจกรรม “แบ่งกันเล่า” โดยเล่านิทานสอดแทรกความรู้ กิจกรรม “แบ่งกันเล่น” ผ่านการร่วมกิจกรรมตอบคำถามระหว่างเด็ก ๆ นักแสดงและพิธีกร เพื่อชิงของรางวัล และปิดท้ายด้วยกิจกรรม “Book Talk” ผ่านการแบ่งปันประสบการณ์และสร้างแรงบันดาลใจในการอ่านให้แก่น้อง ๆ โรงเรียนอนุบาลบ้านเหนือเขมราฐ จ.อุดรธานี ด้วยบรรยากาศสนุกสนานและเป็นกันเอง

        นุ่น ศิรพันธ์ ปลุกไฟรักการอ่าน

        คุณนุ่น – ศิรพันธ์ กล่าวกับน้อง ๆ ด้วยรอยยิ้มว่า

        “การที่เราเริ่มต้นอ่านหนังสือ จะทำให้เราได้ความรู้มากขึ้น เพราะความรู้ทุกอย่างล้วนสำคัญ และความรู้เริ่มต้นจากการอ่านหนังสือ ความรู้อยู่รอบตัว ไม่จำเป็นต้องเป็นวิชาเรียนอย่างเดียว ยังมีความรู้อีกหลายสิ่งในโลกที่เราควรรู้ หนังสือเรียนก็จำเป็น แต่หนังสืออื่นก็สามารถนำไปต่อยอดได้ การอ่านหนังสือการ์ตูนไม่ใช่เรื่องผิดหรือเลวร้าย โดยเฉพาะเด็ก ๆ อย่างเราอ่านการ์ตูนจะดี เพราะช่วยเสริมสร้างจินตนาการ อยากให้น้อง ๆ เห็นหนังสือเป็นเพื่อน ไม่ใช่เห็นแล้ววิ่งหนี เชื่อว่าวันหนึ่งน้อง ๆ จะได้ความรู้ที่ดีจากการอ่านกลับไป ซึ่งหนังสือแต่ละเล่มที่ทางบริษัทไทยเบฟฯ และอมรินทร์ฯ จัดหามานั้นล้วนอ่านง่าย สนุก โดยเฉพาะหนังสือภาพ จะทำให้น้อง ๆ สนุก ไม่น่าเบื่ออย่างแน่นอน”

        นุ่น ศิรพันธ์ ปลุกไฟรักการอ่าน

         

        นุ่น ศิรพันธ์ ปลุกไฟรักการอ่าน

        นอกจากนี้กิจกรรม SCHOOL ROADSHOW โครงการส่งความรู้ สร้างความสุข ยังถูกจัดอย่างต่อเนื่องจนครบ57 โรงเรียน เพื่อสร้างแรงบันดาลให้เด็ก ๆ ได้เห็นความสำคัญของการอ่านอย่างเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น  พร้อมกันนี้อยากเชิญชวนน้องๆ คนเก่งที่ชอบอ่านหนังสือเข้ามาร่วมแบ่งปันเรื่องราวหนังสือเล่มโปรด และติดตามกิจกรรมข่าวสารของโครงการที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ thehappyread หรือ www.thehappyread.com

        นุ่น ศิรพันธ์ ปลุกไฟรักการอ่าน

          งานแสดงสินค้าของเล่นและเกม

          เตรียมพบกับ งานแสดงสินค้า “ของเล่นเด็กและเกม” ที่ใหญ่ที่สุดของเอเชีย!

          กลับมาอีกครั้ง! กับ งานแสดงสินค้าของเล่นเด็กและเกม ที่ใหญ่ที่สุดของเอเชีย Hong Kong Toys & Games Fair ครั้งที่ 46 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 6-9 มกราคม 2563 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมฮ่องกง (Hong Kong Convention and Exhibition Center)

          ในปีนี้คาดการณ์จำนวนผู้แสดงสินค้ากว่า 2,000 บริษัท ที่จะนำเสนอของเล่นและเกมที่หลากหลาย ตั้งแต่ของเล่นแบบดั้งเดิม ของเล่นสุดไฮเทค ไปจนถึงแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักกันดีในตลาดของเล่นและเกม

          Hong Kong Toys and Games Fair
          Hong Kong Toys and Games Fair

          พบกับไฮไลท์ใน งานแสดงสินค้าของเล่นเด็กและเกม (Hong Kong Toys & Games Fair) ผ่านโซนที่น่าสนใจ อาทิ

          • โซน Smart Tech  นำเสนอของเล่นอัจฉริยะที่มาพร้อมเทคโนโลยี รวมถึงการเล่นผ่านแอพพลิเคชั่นบนมือถือ เป็นการรวบรวมเทคโนโลยีมาไว้ในของเล่น เหมาะสำหรับพ่อแม่และผู้ปกครองที่คำนึงถึงการพัฒนาของเด็กผ่านของเล่นเพื่อการเรียนรู้
          • โซน Brand Name Gallery ของเล่นแบรนด์เนม ที่มาพร้อมของเล่นที่ออกแบบพิเศษพร้อมความมั่นใจในคุณภาพ กว่า 250 แบรนด์
          • ซน Kidult World ที่เหมาะกับผู้ที่มีจิตใจยังเป็นเด็ก กับของเล่นอดิเรก ของเล่นมายากล โมเดล รูปจำลอง ของเล่นแกะสลัก อุปกรณ์ของเล่น สงครามจำลอง และอีกมากมาย
          • โซน Fireworks  จัดแสดงดอกไม้ไฟ ประทัด พลุ เพื่อใช้ในงานต่างๆ
          Hong Kong Toys and Games Fair
          Hong Kong Toys and Games Fair

           

          งาน Hong Kong Toys and Games Fair ยังได้รวบรวมพาวิลเลียนจากทั่วทุกมุมโลก รวมถึง จีน เกาหลี สเปน ไต้หวัน สหราชอาณาจักร และพาวิลเลียน World of Toys จากยุโรป

          โดยงาน Hong Kong Toys and Games Fair จะจัดขึ้นพร้อมกับ Hong Kong Baby Products, Hong Kong International Stationery Fair และ Hong Kong International Licensing Show ซึ่งให้โอกาสทางธุรกิจที่สำคัญกับผู้ชมงานจากหลากหลายอุตสาหกรรม

          สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.hktdc.com/

          มาตรการด้านความปลอดภัยสำหรับผู้เข้าชมงาน

          สำหรับผู้สนใจเข้าร่วมงาน แต่กังวลเรื่องความปลอดภัยในฮ่องกง ทาง Hong Kong Trade Development Council มีการเตรียมมาตรการเพื่อมอบประสบการณ์ในการชมงานอย่างปลอดภัยและไร้ข้อกังวล

          • เคาน์เตอร์บริการของ HKTDC ตั้งแต่ในฮอลล์สนามบินนานาชาติฮ่องกง
          • ฟรี รถรับ-ส่ง ระหว่าง สถานที่จัดงาน สนามบิน และโรงแรมที่กำหนด
          • ความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ของ HKTDC
          • บริการจับคู่ธุรกิจโดยเจ้าหน้าที่ที่คอยให้ความช่วยเหลือ

          *ผู้ที่สนใจเข้าชมงานสามารถรับการสนับสนุนที่พักหรือค่าเดินทาง*

          สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ องค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง (Hong Kong Trade Development Council)

          โทร 02 3439017 หรืออีเมล์ [email protected]

          Hong Kong Toys and Games Fair
          งานแสดงสินค้าของเล่นเด็กและเกม ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย

           

            ผ้าอ้อมสำเร็จรูป Cherry Baby

            ผ้าอ้อมสำเร็จรูป Cherry Baby เข้าใจทุกช่วงวัยพัฒนาการลูกน้อย

            รู้ไหมคะว่าผ้าอ้อมเด็กที่ดีต้องซัพพอร์ตลูกน้อยได้ในทุกช่วงวัยพัฒนาการ อย่างผ้าอ้อมสำเร็จรูป Cherry Baby ที่คุณพ่อคุณ  แม่มือใหม่เลือกให้ลูกน้อยได้ใช้กันตั้งแต่แรกเกิด อยากรู้ไหมคะว่า ทำไมต้อง ผ้าอ้อมเด็ก Cherry Baby  เรามีคำตอบมาให้ค่ะ

             

            ผ้าอ้อมสำเร็จรูป Cherry Baby ดีกับพัฒนาการของลูกน้อย  

            เชื่อว่าหลายๆ ครอบครัวคงรู้จัก ผ้าอ้อมสำเร็จรูป Cherry Baby กันอยู่บ้างแล้ว แต่อาจจะไม่ทั้งหมด ฉะนั้นวันนี้เราจะมาทำ ความรู้จักกับ Cherry Baby ผ้าอ้อมเด็ก ที่เพิ่งได้รับการการันตีด้วยรางวัล Editor’s Choice Best Disposable จาก “Amarin Baby & Kid Awards 2019” แค่เริ่มต้นก็สัมผัสได้แล้วว่าเป็นผ้าอ้อมเด็ก ที่มีคุณภาพยอดเยี่ยมมากๆ ค่ะ

            • เด็กทารกแรกเกิด

            กิจวัตรประจำวันจะมีอยู่แค่ตื่นขึ้นมากินนม นอนหลับ >> ตื่น กินนม นอนหลับ…ซึ่งช่วงเวลานอนหลับจะอยู่ที่ประมาณ  16-18 ชั่วโมงต่อวัน ดังนั้นเพื่อเป็นการส่งเสริมลูกน้อยให้นอนหลับได้อย่างมีคุณภาพ นอกจากสภาพแวดล้อมที่ช่วยให้ลูกน้อยนอนหลับได้ดีแล้วนั้น สิ่งสำคัญคือการเลือกใส่ผ้าอ้อมที่ช่วยซัพพอร์ตต่อการนอนหลับของลูกน้อย การที่ได้นอนหลับ สนิท จะช่วยให้พัฒนาการร่างกายเจริญเติบโตได้ดี พัฒนาการสมองสมบูรณ์แข็งแรงมากขึ้น

            • เด็กวัยเตาะแตะ

            ในช่วงขวบปีแรกขึ้นไป ลูกน้อยจะไม่ได้ใช้เวลาทั้งหมดในทุกวันที่มีแค่ ตื่นนอน กินนม นอนหลับอีกต่อไปแล้ว เพราะช่วง วัยนี้เป็นช่วงวัยที่อยากเล่นสนุก อยากเรียนรู้ ชอบค้นหาอะไรแปลกใหม่ๆ และยังเป็นช่วงวัยที่ลูกน้อยเริ่มจะหัดคลาน เดิน ยืน วิ่ง ฉะนั้นเพื่อไม่ให้พัฒนาการลูกสะดุด ผ้าอ้อมเด็กมีส่วนสำคัญมากค่ะ ผ้าอ้อมสำเร็จรูปที่ดีต้องช่วยส่งเสริมในทุกๆ กิจกรรมที่ลูกทำได้ตลอดวันค่ะ

            ผ้าอ้อมเด็กสำเร็จรูป Cherry Baby SPEED DRY 4G แห้งซึมซับเร็ว รุ่น New Born เหมาะสำหรับเด็กแรกเกิด

            คุณสมบัติเด่น ของผ้าอ้อมเด็ก Cherry Baby แบบเทป

            • เทคโนโลยีจากญี่ปุ่นเย็บตะเข็บออกด้านนอก ป้องกันการเสียดสี ขอบขานุ่ม
            • มีเม็ดเจล SAP ทำให้ผิวสัมผัสแห้งสนิท ไม่ทำให้เกิดการระคายเคืองกับผิวบอบบางของลูกน้อย
            • ขอบขาป้องกันการรั่วไหล มีแถบยางสองเส้น ทำให้ขอบขาป้องกันการรั่วซึมจากด้านขาของทารก ช่วยลดแรงเสียดทาน ทำให้ลูกน้อยรู้สึกสบายมากขึ้นขณะกำลังใส่ผ้าอ้อม
            • รอบเอวยึดหยุ่น ขยายแถบเอวยางยืดกว้าง ทำให้ผ้าอ้อมสามารถยืดได้มากขึ้น และดึงง่ายขึ้น ขณะส่วมใส่ผ้าอ้อมลูกน้อยจะไม่รู้สึกอึดอัดเลย
            • มีแทบติดเป็นรปตัว S (ไร้มุม) ผ้าอ้อมเด็ก Cherry Baby ให้ความใส่ใจในส่วนนี้มาก เพื่อป้องกันการเสียดสีของขอบผ้าอ้อมกับผิวลูก จึงได้นำเอามุมของเทปเวลโครออกไปค่ะ
            • มีความอ่อนนุ่ม และไร้รอยต่อของผ้าอ้อม
            • ช่วยระบายความอับชื้นของปัสสาวะ จึงทำให้ลดความเสี่ยงที่จะเกิดผดผื่นกับผิวลูกน้อย

             

            ผ้าอ้อมสำเร็จรูป Cherry Baby SPEED DRY 4G แห้งซึมซับเร็ว รุ่นกางเกง PANTS เหมาะสำหรับเด็กวัยเตาะแตะขึ้นไป

            คุณสมบัติเด่น ของผ้าอ้อมเด็ก Cherry Baby แบบกางเกง PANTS

            • เทคโนโลยีจากญี่ปุ่นเย็บตะเข็บออกด้านนอก ป้องกันการเสียดสี ขอบขานุ่ม
            • มีเม็ดเจล SAP ทำให้ผิวสัมผัสแห้งสนิท ไม่ทำให้เกิดการระคายเคืองกับผิวบอบบางของลูกน้อย
            • ช่วยให้ลูกน้อยเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล้ว สบายตัวขณะส่วมใส่ผ้าอ้อม
            • เอวยางยืด สามารถยืดได้ 360 องศา ช่วงขอบเอวยางยืดเป็นการเย็บแบบจัดเรียงที่เหมาะ ทำให้กระชับกับสรีระของลูก ทำให้ลูกรู้สึกเป็นอิสระเหมือนไม่ได้ใส่ผ้าอ้อม
            • ทรงของกางเกงออกแบบเย็บแบบตัว U ข้อดีของการเย็บแบบตัว U คือจะใช้ริบบิ้นที่มียืดหยุ่น เมื่อผ้าอ้อมดูดซับของเหลวในปริมาณมาก ก็จะไม่ทำให้ผ้าอ้อมหย่อนลง จึงไม่กระทบกับการเคลื่อนไหวร่างกายของลูกน้อย
            • รูปร่างพิเศษของแกนภายใน มีการเพิ่มพื้นที่สำหรับการดูดซับของเหลวภายในแกน ทำให้ดูดซึมซับได้แห้งเร็วขึ้น
            • ผิวสัมผัสของผ้าอ้อม เป็นแผ่นบางทำให้ระบายอากาศได้ดี แผ่นไม่ทอ (ทำให้รู้สึกนุ่ม และแผ่นผ้าอ้อมไม่เป็นขุยหลังจากซึมซับปัสสาวะ)
            • ผิวสัมผัสผ้าอ้อมแผ่นหลัง มีช่องระบายอากาศหลายช่อง ช่วยระบายความอับชื้นของปัสสาวะ จึงทำให้ลดความเสี่ยงที่จะเกิดผดผื่นกับผิวลูกน้อย

            และด้วยคุณภาพของผ้าอ้อมสำเร็จรูป Cherry Baby จึงทำให้คุณพ่อนักแสดงมากความสามารถ ก็เลือกที่จะให้ลูกน้อยได้ใช้ผ้าอ้อมเด็ก Cherry Baby มาตั้งแต่แรกเกิดด้วยเช่นกัน จนให้สโลแกน “ผมชาคริต คิดให้แล้ว” ถ้าจะมีผ้าอ้อมเด็กคุณภาพดีให้ได้ใช้กันแบบนี้ ว่าที่คุณพ่อคุณแม่อย่าได้ลังเลที่จะเลือกผ้าอ้อมเด็กสำเร็จรูป Cherry Baby สำหรับลูกน้อยกันนะคะ

            สินค้าดีใช้ดี  และมีประโยชน์จริง กับผ้าอ้อมเด็ก Cherry Baby สามารถหาซื้อได้ที่ตามร้านสะดวกซื้อ และซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำทั่วไป Big C , Robinson  Online , Tops Market , Central Food Hall , Siam Paragon , The Mall , 24Catalog.com , Catalog Friday , Lazada , Shopee , Shop 24 , We Mall , JD Central

             

              วิธีฟื้นฟูร่างกายหลังคลอด

              5 วิธีฟื้นฟูร่างกายหลังคลอด ให้กลับมาแข็งแรง สุขภาพดี

              หลังจบจากภารกิจคลอดลูก การฟื้นฟูร่างกายหลังคลอดเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญมาเป็นอันดับแรก เพราะหลังจากนี้ คุณแม่จะต้องให้นมลูก ดังนั้นเพื่อให้คุณแม่หลังคลอดมีสุขภาพดี เรามี วิธีฟื้นฟูร่างกายหลังคลอด ที่ปลอดภัยมาแนะนำกันค่ะ

               

              วิธีฟื้นฟูร่างกายหลังคลอด

              ช่วงเวลาหลังคลอดคือจุดเริ่มต้นการได้ทำหน้าที่แม่อย่างแท้จริง ดังนั้นแม่หลังคลอดจะต้องพร้อมทั้งกาย และใจเพื่อจะได้ ดูแลเลี้ยงลูกน้อยให้เติบโตขึ้นมามีพัฒนาการที่ดี ซึ่งความเปลี่ยนแปลงหลังคลอดลูกที่แม่จะต้องรีบฟื้นฟูให้แข็งแรงพร้อม นั่นก็คือร่างกาย

              • แผลฝีเย็บ

              แม่หลังคลอดจะมีการสูญเสียเลือดมากจากการคลอด ไม่ว่าจะผ่าคลอด หรือคลอดธรรมชาติ ฉะนั้นการดูแลแผลฝีเย็บให้ แผลหายสนิท ไม่มีการติดเชื้อ หรืออาการแทรกซ้อนต่างๆ จะดีที่สุดต่อสุขภาพของคุณแม่ค่ะ

              • น้ำนมแม่

              หลังคลอดภายในไม่กี่ชั่วโมง ร่างกายของคุณแม่จะเริ่มมีการผลิตน้ำนม สุดยอดอาหารสำหรับลูกน้อย จึงจำเป็นอย่างมากที่ควรจะให้ลูกเข้าเต้าดูดกระตุ้นน้ำนมแม่ การดูดกระตุ้นจะช่วยให้กระบวนการผลิตน้ำนมแม่เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นควรให้ลูกได้เข้าเต้ากินนมแม่ทุกๆ 1-2 ชั่วโมงในทุกวันนะคะ

              การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นหลังคลอด เป็นเรื่องปกติที่คุณแม่ทุกคนต้องเจอกันค่ะ ฉะนั้นเพื่อให้คุณแม่พร้อมรับมือกับการเลี้ยงลูกน้อยในทุกๆ วัน ลองมาดู  5 วิธีฟื้นฟูร่างกายหลังคลอด ที่จะช่วยให้คุณแม่แข็งแรง สุขภาพดี สวย สดใสจากภายในสู่ภายนอกกันค่ะ

              1. เติมอาหารโปรตีน และธาตุเหล็กให้ร่างกาย

              อาหารประเภทโปรตีนจำเป็นมากๆ กับคณแม่หลังคลอด เพราะนอกจากการเสียเลือดจำนวนมากในระหว่างคลอดลูก ร่างกายคุณแม่ยังต้องผลิตน้ำนมสำหรับเป็นอาหารของลูกน้อย จึงทำให้คุณแม่อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย เพื่อเป็นการบำรุงเลือด และฟื้นฟูซ่อมแซมเซลล์ที่สึกหรอให้กลับมาสมบูรณ์ ปรับฮอร์โมนในร่างกายให้สมดุล คุณแม่ควรรับประทานอาหารกลุ่มโปรตีนเพื่อให้พลังงานงานแก่ร่างกาย เช่น เนื้อปลา เนื้อไก่ ไข่ เมล็ดถั่วต่างๆ นมวัน นมถั่วเหลือง นมอัลมอนด์ ข้าวกล้อง ข้าวสาลี เป็นต้น ส่วนธาตุเหล็กจะช่วยสร้างเม็ดเลือดแดง ลดความเสี่ยงการเกิดโลหิตจาง ช่วยป้องกันอาการอ่อนเพลียอาหารที่มีธาตุเหล็ก เช่น ตับหมู ตับไก่ ถั่วแดง บร็อกโคลี หอยนางรม ไข่แดง มันฝรั่ง มะเขือเทศ พริกหวาน เป็นต้น

              2. นอนหลับพักผ่อนให้พอ

              การนอนหลับเป็นหนึ่งในวิธีฟื้นฟูร่างกายหลังคลอดที่ดีมากๆ แต่คุณแม่อาจบอกว่าทำได้ยากมาก เพราะต้องเลี้ยงลูก ให้นมลูกเกือบตลอด 24 ชั่วโมง แนะนำว่าช่วงเวลาที่ลูกหลับให้คุณแม่หลับไปพร้อมกับลูก ในช่วง 1-3 เดือนแรกหลังคลอดลูกให้จัดตารางการนอนให้เหมือนกับลูกวัยทารกนอนเลยค่ะ การได้นอนหลับจะช่วยให้ร่างกายให้ซ่อมแซม ฟื้นฟูกลับมาสมบูรณ์ได้เร็วค่ะ

              วิธีฟื้นฟูร่างกายหลังคลอด

              3. ผ่อนคลายเพื่อลดความเครียด

              ช่วง 3 เดือนหลังคลอดคุณแม่แทบจะต้องอยู่กับลูกน้อยตลอด 24 ชั่วโมง จะมีเวลาเป็นส่วนตัวก็แค่ช่วงอาบน้ำ กินข้าว ซึ่งตรงช่วงเวลาตรงนี้แหละค่ะ ให้คุณแม่หาคนมาเปลี่ยนมือในการเลี้ยงลูก อาจจะเป็นคุณสามี หรือญาติ พี่น้อง หรือ พี่เลี้ยงเด็ก แล้วคุณแม่ก็ให้เวลากับตัวเองในการผ่อนคลายขณะอาบน้ำที่ไม่ต้องเร่งรีบมากจนเกินไป เปิดเพลงจังหวะสบายๆ ขณะอาบน้ำ หรือนอนแช่น้ำอุ่น(หยดกลิ่นอโรม่าลงในน้ำอาบน้ำ) เพื่อเป็นการบำบัดจิตใจให้ผ่อนคลาย ลดความตึงเครียด ของสมอง หรือช่วงเวลามื้ออาหารควรกินอย่างสบายใจ ไม่ควรรีบกินรีบอิ่มเพื่อไปดูลูก การให้เวลากับตัวเองจะช่วยให้คุณแม่มีความสุขกับชีวิตมากขึ้น ลดการเกิดภาวะที่เรียกว่า Baby Blue ซึมเศร้าหลังคลอดด้วยค่ะ

              วิธีฟื้นฟูร่างกายหลังคลอด

              4. สมุนไพรหลังคลอด

              คุณแม่หลังคลอดส่วนใหญ่มักจะอยู่ไฟหลังคลอด เพื่อเป็นการฟื้นฟูระบบภายในร่างกายให้กลับมาแข็งแรง ซึ่งการอยู่ไฟ  เป็นวิธีการฟื้นฟูร่างกายหลังคลอดที่ดีกับร่างกายของคุณแม่ แต่ในปัจจุบันมีวิธีการฟื้นฟูร่างกายหลังคลอดที่ง่ายมากขึ้น แต่ได้ผลลัพธ์ที่ดีไม่แพ้การอยู่ไฟ สะดวก สบายกับชีวิตแม่หลังคลอดมากๆ นั่นก็คือ การรับประทานสมุนไพรแทนการอยู่ไฟ

              Prim สมุนไพรหลังคลอดที่สามารถใช้แทนการอยู่ไฟ เป็นสมุนไพรสำหรับคุณแม่ปรับสมดุลร่างกายหลังคลอด   

              • ช่วยบำรุงน้ำนมใช้แทนการอยู่ไฟได้ 100%
              • ช่วยขับน้ำคาวปลา ท้องยุบไว
              • ช่วยลดอาการปวดหลังปวดเอว
              • ช่วยลดอาการหนาวใน PMS หรือลมพิษ หลังคลอด
              • ช่วยให้ผิวพรรรสดใส เปร่งปรั่ง มีน้ำมีนวล

              ที่สำคัญ Prim ยังเป็นสมุนไพรหลังคลอดที่ไม่มีอาหารกลุ่มเสี่ยงแพ้ เช่น นม ถั่วทุกชนิด แป้งสาลี อาหารทะเล คุณแม่รับประทานได้อย่างปลอดภัยค่ะ

              วิธีฟื้นฟูร่างกายหลังคลอด

              5. ออกกายบริหารเบาๆ

              การออกกำลังกายหลังคลอดจะช่วยให้ฮอร์โมนความสุข เอ็นโดรฟิน (Endorphin) เป็นฮอร์โมนที่หลังออกมาจากใต้สมอง จะช่วยให้คุณแม่รู้สึกผ่อนคลาย ลดความตึงเครียดของสมอง ช่วยทำให้จิตใจสงบ ช่วยเพิ่มสมาธิ การออกกายบริหารที่อยากแนะนำให้กับคุณแม่หลังคลอด เช่น ว่ายน้ำ , เดินกึ่งจอกกิ้ง , ปั่นจักรยานออกกำลังกาย(เครื่องออกกายบริหาร) , โยคะ เป็นต้น ข้อควรระวังในการออกกำลังกาย ในแม่หลังคลอดที่ผ่าคลอด คลอดธรรมชาติจะมีแผลฝีเย็บ ควรรอให้แผลหายสนิทก่อนนะคะ

              หลังคลอดลูกอย่าปล่อยให้ร่างกายทรุดโทรม ควรรีบฟื้นฟูสุขภาพร่างกายหลังคลอดให้กลับมาแข็งแรง สมบูรณ์กันอย่างรวดเร็ว ซึ่งคุณแม่สามารถนำทั้ง 5 วิธีฟื้นฟูร่างกายหลังคลอดที่นำมาฝากกันไปลองทำกันดูได้นะคะ รับรองว่าจะช่วยให้คุณแม่กลับมาฟิตแอนด์เฟิร์ม หุ่นเปะปัง ผิวพรรณสวยสดใส มีพลังกำลังที่แข็งแรงขึ้นอย่างแน่นอนค่ะ

               

               

               

                7 วันอันตรายปีใหม่

                4 เรื่องพ่อแม่ต้องระวัง 7 วันอันตรายปีใหม่ ลูกต้องปลอดภัย

                7 วันอันตรายปีใหม่ ปี 2563 นี้ มาช่วยกันดูแลชีวิตลูกน้อยให้ปลอดภัยกับ 4 เรื่องที่พ่อแม่ไม่ควรละเลย จะมีเรื่องใดบ้างที่เสี่ยงอันตรายถึงแก่ชีวิตของลูกน้อยในช่วง 7 วันอันตรายนี้ไปดูกัน

                4 เรื่องพ่อแม่ต้องระวัง 7 วันอันตรายปีใหม่
                ลูกต้องปลอดภัย!!

                รศ.นพ.อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์ ผู้อำนวยการสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล ได้กล่าวว่า ช่วง 7 วันอันตรายปีใหม่ ปี 2562 ที่ผ่านมา (ตั้งแต่วันที่ 28 ธ.ค. – 3 ม.ค.) ภัยทางถนน ทำให้เด็กอายุ 1 – 17 ปี ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตสูงมากที่สุด รองมาคือเรื่องความรุนแรง และการจมน้ำ

                7 วันอันตรายปีใหม่

                สำหรับภัยทางถนน นอกจากอุบัติเหตุจากการดื่มแล้วขับ หรือขับรถเร็วเกินกำหนดแล้ว ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดก็คือ รถจักรยานยนตร์ และรองลงมาคือ รถกระบะ ซึ่งปัญหาจากรถจักรยานยนตร์ ที่เกิดขึ้นได้กับเด็ก (อายุไม่ถึง 18 ปี) ที่พบได้ในช่วง 7 วันอันตรายปีใหม่ ล้วนแล้วแต่เป็นความรับผิดชอบที่ครอบครัว ชุมชนและหน่วยงานความปลอดภัย มักร่วมกันละเลย ได้แก่

                • เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ขับขี่ก่อนวัย

                >> ปัญหาการขับขี่ก่อนวัย คือขับขี่ก่อนอายุ 15 ปี ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย แต่ทุกหน่วยงานต่างก็ยอมรับว่าไม่สามารถควบคุมได้ เพราะพ่อแม่และครอบครัวมีความจำเป็นให้เด็กต้องใช้ (โดยเฉพาะเด็กที่อยู่กับปู่ย่าตายายที่ต่างจังหวัด เนื่องจากต้องหัดขี่ให้เป็นตั้งแต่เด็กเพื่อที่จะได้ช่วยไปซื้อของหรือทำธุระให้)

                7 วันอันตรายปีใหม่

                • ขับรถจักรยานยนตร์เร็ว / ไม่สวมหมวกนิรภัย

                >> ในเรื่องของการขับขี่เร็วมาจากการได้ขับขี่ก่อนวัยและไปซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากินจนเมาทำให้เกิดความคึกคะนอง ซึ่งก็ไม่ได้ใส่หมวกนิรภัย หรือการเดินทางในระยะใกล้ในชุมชนซึ่งพ่อแม่มักเอาลูกน้อยนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ไปด้วยโดยไม่ได้ใส่หมวกนิรภัยให้

                โดยเส้นทางสายรองในชุมชนมักเกิดอุบัติเหตุบ่อยที่สุด รวมไปถึงมักเกิดเหตุบริเวณที่มีงานรื่นเริงและมีการเมาแล้วขับ ซึ่งแม้ว่าในปี 62 สถิติเมาแล้วขับจะลดลง แต่ปัจจุบันกลับพบกลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีที่มีการเตรวจพบแอลกอฮอล์มากขึ้น

                 

                อ่านต่อ >> “ภัยอันตรายที่มักเกิดขึ้นกับลูกน้อยช่วงปีใหม่
                (พ่อแม่มักละเลย)” >> คลิกหน้า 

                 

                เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                 

                  กันยุงเด็กยี่ห้อไหนดี

                  กันยุงเด็กยี่ห้อไหนดี คุณแม่เลือก Lamoon เป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในดวงใจ

                  กันยุงเด็กยี่ห้อไหนดี ช่วยปกป้องลูกน้อยจากยุงร้ายได้ดี ราคาไม่แพง คุณภาพเยี่ยม ถูกใจคุณแม่ คุณแม่ทั่วประเทศเลือกและได้โหวต ให้ Lamoon เป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์กันยุงออร์แกนิคสำหรับเด็กอันดับหนึ่งในดวงใจ และรับรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019 สาขา Mommy’s Choice

                  กันยุงเด็กยี่ห้อไหนดี แม่ทั่วประเทศเลือกแล้วใช้ยี่ห้อนี้เป็นแบรนด์ในดวงใจ

                  Amarin Baby & Kids “เครือข่ายแม่ลูกใหญ่ที่สุด” ผู้นำด้านคอนเทนต์คุณภาพ เข้าใจครอบครัวไทย และตอบสนองความต้องการของคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ ไทย ทั้งรูปแบบ Online ผ่านเว็บไซต์ www.AmarinBabyAndKids.com และเฟซบุ๊คแฟนเพจที่มีเนื้อหาตรงใจ ทันสถานการณ์ โดยมียอดผู้ติดตามมากกว่า 1,000,000 Followers และรูปแบบ On print ผ่าน Bookazine ราย 2 เดือน รวมถึง รูปแบบ On ground งานแฟร์แม่ลูก Amarin Baby & Kids Fair ที่จัดมาแล้วถึง 15 ครั้ง

                  เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านเครือข่ายแม่ลูกอันดับ 1 ของประเทศที่เข้าใจคุณแม่ไทยมากที่สุด เว็บไซต์ Amarin Baby &  Kids จึงได้จัด “Amarin Baby & Kids Awards 2019 ครั้งแรกในเมืองไทย เพื่อเฟ้นหาสุดยอดแบรนด์สินค้าแม่และเด็กในดวงใจ  จากคะแนนโหวตของคุณแม่ทั่วประเทศกว่า 10,000 คน ผ่าน www.AmarinBabyAndKids.com เว็บไซต์สื่อกลาง  ข้อมูลคุณภาพจากแม่สู่แม่ Mom to Mom Sharing เพื่อเป็นประโยชน์แก่คุณแม่มือใหม่ที่กำลังมองหา “สินค้าใช้ดี ที่ได้รับ การยืนยันจากคุณแม่ตัวจริงทั่วประเทศ”

                  และเพื่อให้สมกับรางวัลที่มาจากความคิดเห็นของแม่อย่างแท้จริง สำหรับแบรนด์สินค้าในสาขา Mommy’s Choice จึงเปิด  โอกาสให้แม่ได้ร่วมโหวต  2  รอบ ได้แก่ รอบเสนอชื่อแบรนด์ที่ชื่นชอบ จากนั้นทีมงานได้ทำการเลือกแบรนด์ที่ถูกเสนอ ชื่อมากที่สุด มาจัด รอบโหวตแบรนด์ในดวงใจ อีกครั้งหนึ่ง

                   

                  ทำไมแม่โหวตให้ Lamoon เป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์ป้องกันยุงในดวงใจ 

                  แม่ ABK เลือกให้ Lamoon เป็นแบรนด์สุดยอดผลิตภัณฑ์แผ่นแปะกันยุงออร์แกนิคสำหรับเด็กในดวงใจ โดยคุณแม่ให้เหตุผลในการเลือกแตกต่างกัน  ตัวอย่างเช่น

                  “เป็นผลิตภัณฑ์ organic ใช้สารสกัดจากธรรมชาติ 100% ไม่มีสารเคมี ปลอดภัย ไม่ระคายเคือง ไม่เป็นอันตรายกับลูก”

                  “ชอบตรงการออกแบบดีไซน์ให้ใช้งานง่าย คือเป็นแบบสติ๊กเกอร์ชอบมากๆ เพราะไม่ต้องสัมผัสกับผิวลูกโดยตรง”

                  “ละมุน แผ่นแปะกันยุง เป็นกันยุงที่เป็นออร์แกนิค คือปลอดภัยมากๆ กับลูก ที่สำคัญกลิ่นไม่ฉุน และก็ช่วยป้องกันยุงได้ดีมากๆ ค่ะ”

                  Lamoon Baby เป็นแบรนด์สินค้าสำหรับแม่และเด็ก ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ในปี 2015 ละมุนได้ จัดกิจกรรมต่างๆ รวมถึงให้ความสำคัญในความต้องการของผู้บริโภคอย่างจริงจัง เพื่อได้เข้าถึงครอบครัวละมุนมากขึ้น และได้รับข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์มากมาย ทำให้ทราบถึงความต้องการที่แท้จริง ของคุณพ่อคุณแม่ จึงเป็นจุดเริ่มต้นในการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ที่ยังคงความเป็นออร์แกนิค ที่อ่อนโยนและปลอดภัย ต่อลูกน้อย

                   

                  อ่านบทความ Amarin Baby & Kids Awards 2019 

                  ประกาศผลรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019 สุดยอดแบรนด์สินค้าแม่และเด็กในดวงใจ

                  ชมภาพบรรยากาศ งานมอบรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019

                   

                  เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                   

                    ครีมทาท้องยี่ห้อไหนดี

                    ครีมทาท้องยี่ห้อไหนดี คุณแม่เลือก Palmer’s เป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในดวงใจ

                    ครีมทาท้องยี่ห้อไหนดี ใช้แล้วท้องไม่ลาย คุณภาพเยี่ยม ถูกใจคุณแม่ คุณแม่ทั่วประเทศเลือกและได้โหวต ให้ Palmer’s เป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์ครีมทาท้องอันดับหนึ่งในดวงใจ และรับรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019 สาขา Mommy’s Choice

                    ครีมทาท้องยี่ห้อไหนดี แม่ทั่วประเทศเลือกแล้วใช้ยี่ห้อนี้เป็นแบรนด์ในดวงใจ

                    Amarin Baby & Kids “เครือข่ายแม่ลูกใหญ่ที่สุด” ผู้นำด้านคอนเทนต์คุณภาพ เข้าใจครอบครัวไทย และตอบสนองความต้องการของคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ ไทย ทั้งรูปแบบ Online ผ่านเว็บไซต์ www.AmarinBabyAndKids.com และเฟซบุ๊คแฟนเพจที่มีเนื้อหาตรงใจ ทันสถานการณ์ โดยมียอดผู้ติดตามมากกว่า 1,000,000 Followers และรูปแบบ On print ผ่าน Bookazine ราย 2 เดือน รวมถึง รูปแบบ On ground งานแฟร์แม่ลูก Amarin Baby & Kids Fair ที่จัดมาแล้วถึง 15 ครั้ง

                    เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านเครือข่ายแม่ลูกอันดับ 1 ของประเทศที่เข้าใจคุณแม่ไทยมากที่สุด เว็บไซต์ Amarin Baby & Kids จึงได้จัด “Amarin Baby & Kids Awards 2019” ครั้งแรกในเมืองไทย เพื่อเฟ้นหาสุดยอดแบรนด์สินค้าแม่และเด็กในดวงใจ  จากคะแนนโหวตของคุณแม่ทั่วประเทศกว่า 10,000 คน ผ่าน www.AmarinBabyAndKids.com เว็บไซต์สื่อกลาง ข้อมูลคุณภาพจากแม่สู่แม่ Mom to Mom Sharing เพื่อเป็นประโยชน์แก่คุณแม่มือใหม่ที่กำลังมองหา “สินค้าใช้ดี ที่ได้รับ การยืนยันจากคุณแม่ตัวจริงทั่วประเทศ”

                    และเพื่อให้สมกับรางวัลที่มาจากความคิดเห็นของแม่อย่างแท้จริง สำหรับแบรนด์สินค้าในสาขา Mommy’s Choice จึงเปิด  โอกาสให้แม่ได้ร่วมโหวต  2  รอบ ได้แก่ รอบเสนอชื่อแบรนด์ที่ชื่นชอบ จากนั้นทีมงานได้ทำการเลือกแบรนด์ที่ถูกเสนอ ชื่อมากที่สุด มาจัด รอบโหวตแบรนด์ในดวงใจ อีกครั้งหนึ่ง

                    ทำไมแม่โหวตให้ Palmer’s เป็นแบรนด์ครีมทาท้องบำรุงผิวในดวงใจ 

                    แม่ ABK เลือกให้ Palmer’s เป็นแบรนด์สุดยอดครีมบำรุงผิวหน้าท้องในดวงใจ โดยคุณแม่ให้เหตุผลในการเลือกแตกต่างกัน  ตัวอย่างเช่น

                    “เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีคุณภาพดีมากๆ ค่ะ ชอบตรงที่ช่วยป้องกันการเกิดรอยแตกบริเวณหน้าท้องได้เป็นอย่างดี ใช้แล้วเห็นผล”

                    “ตอนทาครีมลงที่ผิวคือชอบมาก เนื้อครีมมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ และสัมผัสของเนื้อครีมเข้มข้น แต่ซึมซับดี ไม่เหนียวเหนอะหนะเลยค่ะ”

                    “ปาล์มเมอร์ (Palmer’s) เป็นครีมทาท้องที่คุณภาพดี แต่ราคาไม่แพงเลยค่ะ แล้วก็หาซื้อใช้ได้ง่ายค่ะ”

                    Palmer’s ก่อตั้งขึ้นเมื่อกว่า 175 ปีก่อนในฐานะหนึ่งใน บริษัท ดูแลผิวแห่งแรกของอเมริกา ผลิตภัณฑ์ปาล์มเมอร์เป็น ผลิตภัณฑ์บำรุงและดูแลผิวสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ เพื่อป้องกันผิวแตกลาย เป็นสูตรโกโก้บัตเตอร์ จากธรรมชาติ ที่ช่วยให้ผิวพรรณของคนท้องสวยสดใส ที่สำคัญมีความปลอดภัยไม่เป็นอันตรายต่อลูกน้อยในครรภ์

                     

                    อ่านบทความ Amarin Baby & Kids Awards 2019 

                    ประกาศผลรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019 สุดยอดแบรนด์สินค้าแม่และเด็กในดวงใจ

                    ชมภาพบรรยากาศ งานมอบรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019

                     

                    เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                     

                      ครีมทาป้องกันผดผื่นยี่ห้อไหนดี

                      ครีมทาป้องกันผดผื่นยี่ห้อไหนดี 2019 คุณแม่เลือก Bepanthen เป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในดวงใจ

                      ครีมทาป้องกันผดผื่นยี่ห้อไหนดี ใช้แล้วลูกสบาย คุณภาพเยี่ยม ถูกใจคุณแม่ คุณแม่ทั่วประเทศเลือกและได้โหวต ให้ Bepanthen เป็นแบรนด์ครีมทาป้องกันผดผื่นอันดับหนึ่งในดวงใจ และรับรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019 สาขา Mommy’s Choice

                      ครีมทาป้องกันผดผื่นยี่ห้อไหนดี แม่ทั่วประเทศเลือกแล้วใช้ยี่ห้อนี้เป็นแบรนด์ในดวงใจ

                      Amarin Baby & Kids “เครือข่ายแม่ลูกใหญ่ที่สุด” ผู้นำด้านคอนเทนต์คุณภาพ เข้าใจครอบครัวไทย และตอบสนองความต้องการของคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ ไทย ทั้งรูปแบบ Online ผ่านเว็บไซต์ www.AmarinBabyAndKids.com และเฟซบุ๊คแฟนเพจที่มีเนื้อหาตรงใจ ทันสถานการณ์ โดยมียอดผู้ติดตามมากกว่า 1,000,000 Followers และรูปแบบ On print ผ่าน Bookazine ราย 2 เดือน รวมถึง รูปแบบ On ground งานแฟร์แม่ลูก Amarin Baby & Kids Fair ที่จัดมาแล้วถึง 15 ครั้ง

                      เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านเครือข่ายแม่ลูกอันดับ 1 ของประเทศที่เข้าใจคุณแม่ไทยมากที่สุด เว็บไซต์ Amarin Baby & Kids จึงได้จัด “Amarin Baby & Kids Awards 2019” ครั้งแรกในเมืองไทย เพื่อเฟ้นหาสุดยอดแบรนด์สินค้าแม่และเด็กในดวงใจ  จากคะแนนโหวตของคุณแม่ทั่วประเทศกว่า 10,000 คน ผ่าน www.AmarinBabyAndKids.com เว็บไซต์สื่อกลางข้อมูลคุณภาพจากแม่สู่แม่ Mom to Mom Sharing เพื่อเป็นประโยชน์แก่คุณแม่มือใหม่ที่กำลังมองหา “สินค้าใช้ดี ที่ได้รับการยืนยันจากคุณแม่ตัวจริงทั่วประเทศ”

                      และเพื่อให้สมกับรางวัลที่มาจากความคิดเห็นของแม่อย่างแท้จริง สำหรับแบรนด์สินค้าในสาขา Mommy’s Choice จึงเปิด โอกาสให้แม่ได้ร่วมโหวต  2  รอบ ได้แก่ รอบเสนอชื่อแบรนด์ที่ชื่นชอบ จากนั้นทีมงานได้ทำการเลือกแบรนด์ที่ถูกเสนอ ชื่อมากที่สุด มาจัด รอบโหวตแบรนด์ในดวงใจ อีกครั้งหนึ่ง

                      ทำไมแม่โหวตให้ Bepanthen เป็นแบรนด์ครีมทาป้องกันผดผื่นในดวงใจ

                      แม่ ABK เลือกให้ Bepanthen เป็นแบรนด์สุดยอดครีมทาป้องกันผื่นผ้าอ้อมในดวงใจ โดยคุณแม่ให้เหตุผลในการเลือกแตกต่างกัน  ตัวอย่างเช่น

                      “แก้ผดผื่น ผื่นแพ้ผ้าอ้อม ผื่นแดงคัน ได้เป็นอย่างดี คุณภาพดีมากๆ ค่ะ”

                      “ลูกใช้แล้วไม่เกิดอาการแพ้ ไม่ระคายเคืองต่อผิวเด็ก อ่อนโยนต่อผิวลูก”

                      “เนื้อครีมดี ใช้ง่าย ซึมไว ไม่เหนียว กลิ่นไม่แรง ที่สำคัญราคาไม่แพงมากด้วยค่ะ”

                      Bepanthen บีแพนเธน ออยเมนท์ เป็นแบรนด์ครีมทาปกป้องและดูแลผิวลูกน้อย ที่ได้รับการพัฒนาและเปิดตัวในปี ค.ศ. 1944 และได้มาอยู่ในความดูแลของไบเออร์ ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2005 ด้วยการเริ่มต้นจากเพียง 3 สูตร รวมถึง บีแพนเธน ออยเมนท์ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์หลัก ในปัจจุบันนี้บีแพนเธนได้รับการพัฒนา และถือว่าเป็นผู้บุกเบิกผลิตภัณฑ์ด้านการดูแลผิวอย่างกว้างขวาง คุณพ่อคุณแม่สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาใกล้บ้านค่ะ

                       

                      อ่านบทความ Amarin Baby & Kids Awards 2019 

                      ประกาศผลรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019 สุดยอดแบรนด์สินค้าแม่และเด็กในดวงใจ

                      ชมภาพบรรยากาศ งานมอบรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019

                       

                      เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                       

                        ขวดนม จุกนมยี่ห้อไหนดี

                        ขวดนมจุกนมยี่ห้อไหนดี คุณแม่เลือก Pigeon เป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในดวงใจ

                        ขวดนมจุกนมยี่ห้อไหนดี เหมาะกับลูกทุกวัย มีหลายขนาดให้เลือก คุณภาพเยี่ยม ถูกใจคุณแม่ คุณแม่ทั่วประเทศเลือกและได้โหวต ให้ พีเจ้น (Pigeon) เป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์ขวดนม จุกนมสำหรับเด็กอันดับหนึ่งในดวงใจ และรับรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019 สาขา Mommy’s Choice

                        ขวดนม จุกนมยี่ห้อไหนดี แม่ทั่วประเทศเลือกแล้วใช้ยี่ห้อนี้เป็นแบรนด์ในดวงใจ

                        Amarin Baby & Kids “เครือข่ายแม่ลูกใหญ่ที่สุด” ผู้นำด้านคอนเทนต์คุณภาพ เข้าใจครอบครัวไทย และตอบสนองความต้องการของคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ ไทย ทั้งรูปแบบ Online ผ่านเว็บไซต์ www.AmarinBabyAndKids.com และเฟซบุ๊คแฟนเพจที่มีเนื้อหาตรงใจ ทันสถานการณ์ โดยมียอดผู้ติดตามมากกว่า 1,000,000 Followers และรูปแบบ On print ผ่าน Bookazine ราย 2 เดือน รวมถึง รูปแบบ On ground งานแฟร์แม่ลูก Amarin Baby & Kids Fair ที่จัดมาแล้วถึง 15 ครั้ง

                        เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านเครือข่ายแม่ลูกอันดับ 1 ของประเทศที่เข้าใจคุณแม่ไทยมากที่สุด เว็บไซต์ Amarin Baby & Kids จึงได้จัด “Amarin Baby & Kids Awards 2019” ครั้งแรกในเมืองไทย เพื่อเฟ้นหาสุดยอดแบรนด์สินค้าแม่และเด็กในดวงใจ  จากคะแนนโหวตของคุณแม่ทั่วประเทศกว่า 10,000 คน ผ่าน www.AmarinBabyAndKids.com เว็บไซต์สื่อกลาง ข้อมูลคุณภาพจากแม่สู่แม่ Mom to Mom Sharing เพื่อเป็นประโยชน์แก่คุณแม่มือใหม่ที่กำลังมองหา “สินค้าใช้ดี ที่ได้รับ การยืนยันจากคุณแม่ตัวจริงทั่วประเทศ”

                        และเพื่อให้สมกับรางวัลที่มาจากความคิดเห็นของแม่อย่างแท้จริง สำหรับแบรนด์สินค้าในสาขา Mommy’s Choice จึงเปิด  โอกาสให้แม่ได้ร่วมโหวต  2  รอบ ได้แก่ “รอบเสนอชื่อแบรนด์ที่ชื่นชอบ” จากนั้นทีมงานได้ทำการเลือกแบรนด์ที่ถูกเสนอ ชื่อมากที่สุด มาจัด “รอบโหวตแบรนด์ในดวงใจ” อีกครั้งหนึ่ง

                        ทำไมแม่โหวตให้ Pigeon เป็นแบรนด์ขวดนม จุกนมเด็กในดวงใจ  

                        แม่ ABK เลือกให้ Pigeon เป็นแบรนด์สุดยอดขวดนม จุกนมเด็กในดวงใจ โดยคุณแม่ให้เหตุผลในการเลือกแตกต่างกัน  ตัวอย่างเช่น

                        “ชอบใช้ขวดนมพีเจ้น ตรงที่มีระบบควบคุมการไหลเวียนของอากาศ ช่วยปรับสมดุลความดันอากาศภายในขวด ทำให้ลูกรู้สึกสบายท้องขณะดูด”

                        “ขวดนมพีเจ้น แข็งแรงทนความร้อนได้ดี ใช้งานง่าย มีจุกให้เลือกเยอะด้วยค่ะ จุกนมพี่เจ้นชอบตรงที่เข้าใจธรรมชาติเด็กในการดูดนม จุกนิ่มเหมาะกับเด็ก วัสดุไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพลูก แล้วก็หาซื้อง่าย มีสินค้าทดลองก่อนตัดสินใจซื้อด้วยค่ะ”

                        “เชื่อมั่นใน PIGEON (พีเจ้น) เพราะเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับแม่และเด็กคุณภาพสูงจากญี่ปุ่น มั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นจากพีเจ้นปลอยภัยต่อทารกและเด็กอ่อน”

                        Pigeon พีเจ้น เป็นผลิตภัณฑ์ของใช้สำหรับเด็ก ที่มีแรงบันดาลใจมาจากความรักของแม่ และเป็นแบรนด์ที่อยู่คู่ครอบครัวพ่อแม่คนไทยมากว่า 30 ปี จากจุดเริ่มต้นของแบรนด์พีเจ้นมาจนถึงปัจจุบันนี้ มีความต้องการให้ทุกครอบครัวที่มีลูกได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ และปลอดภัยต่อสุขภาพของลูกน้อย

                         

                        อ่านบทความ Amarin Baby & Kids Awards 2019 

                        ประกาศผลรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019 สุดยอดแบรนด์สินค้าแม่และเด็กในดวงใจ

                        ชมภาพบรรยากาศ งานมอบรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019

                         

                        เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                         

                          ครีมทาหน้าคุณแม่

                          ครีมทาหน้าหลังคลอด เลือกแบบไหน ให้แม่ลูกอ่อนกลับมาสวยเป๊ะปัง

                          ครีมทาหน้าหลังคลอด หนึ่งไอเท็มสำคัญที่คุณแม่ต้องมี เพราะแม่หลังคลอดมักเจอสารพัดปัญหาผิวหน้า ที่เกิดจากฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง พักผ่อนน้อย เพราะทั้งให้นมและดูแลลูกจนไม่มีเวลาดูแลตัวเอง แต่การเลือกใช้สกินแคร์ต้องเอาใจใส่เป็นพิเศษ เพื่อให้ผิวหน้ากลับมาสวยเนียน เป๊ะปัง และปลอดภัยกับลูกน้อย

                          คุณแม่หลายคนอาจรู้สึกกังวลว่าพอคลอดลูกแล้ว ผิวหน้าที่เคยเนียนนุ่ม สวยปังจะ “พัง” ไม่กลับมาเหมือนเดิม ทั้งผิวหมองคล้ำ ไม่สดใส รอยเหี่ยวย่น หรือสิวที่เกิดจากฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงไป จริงๆ แม่หลังคลอดสามารถใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าได้เป็นปกติ แต่ควรเลือก ครีมทาหน้าหลังคลอด ที่ช่วยฟื้นฟูผิว แก้ไขปัญหาตรงจุด และที่สำคัญคือต้องไม่เป็นอันตรายกับลูกน้อยระหว่างให้นม

                          ครีมทาหน้าหลังคลอด

                          เลือกครีมทาหน้าหลังคลอดอย่างไรให้ผิวแม่สวยเด้ง ไม่อันตรายกับลูก

                          1. หลีกเลี่ยงครีมที่มีส่วนผสมของยารักษาสิว เพราะ ครีมประเภทนี้มักผสมกรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid) และ เบนโซอิล เปอร์ออกไซด์ (Benzoyl Peroxide) ซึ่งเป็นอันตราบกับทารกในครรภ์ แม้จะเป็นคุณแม่หลังคลอดก็ต้องระวัง เพราะตัวยาเหล่านี้มักอยู่ในกลุ่มสเตียรอยด์ ที่ยังเป็นอันตรายกับลูกอ่อนด้วย
                          2. ควรเลือกครีมที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะไม่มีสารเคมีอันตรายกับลูกน้อย
                          3. ควรเลือกครีมที่มีความชุ่มชื้นสูง เพราะผิวหน้าของแม่หลังคลอดส่วนใหญ่ มักแห้งกร้าน ขาดความชุ่มชื้น เนื่องจากพักผ่อนไม่เพียงพอ
                          4. เนื้อครีมบางเบา ซึมซาบผิวได้ดี ช่วยบำรุงผิวให้ดูสุขภาพดี เผยหน้าสดได้อย่างมั่นใจ เหมาะกับคุณแม่ที่ไม่ค่อยได้แต่งหน้า

                          ทั้งนี้ก่อนตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์ คุณแม่ควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อน เพื่อให้มั่นใจว่าปลอดภัยกับผิวตัวเองและลูกน้อยด้วย เพราะคุณแม่ต้องอยู่ใกล้ชิดลูกแทบ 24 ชั่วโมง

                          ครีมทาหน้าหลังคลอด

                          Amarin Baby & Kids Awards 2019 ยกให้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า TRYLAGINA เป็น ครีมทาหน้าหลังคลอด ที่ได้รับรางวัล Editor’s Choice Best Facial Skincare

                          TRYLAGINA (ไตรลาจีน่า) คือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าสำหรับคุณแม่ตัวจริง เน้นการฟื้นฟูริ้วรอย และทำให้ผิวเรียบเนียน จาก “คอลลาเจน” จากใต้ท้องทะเลน้ำลึกจากประเทศฝรั่งเศส มีลักษณะเป็นแคปซูลที่บรรจุด้วยสารเปปไทด์โมเลกุล เมื่อทาครีมลงบนผิวหน้า ตัวครีมจะสร้างแผ่นฟิล์มบางๆ ขึ้นบนผิวหนัง ให้ความรู้สึกว่าผิวกระชับขึ้นทันที ช่วยกักเก็บชุ่มชื้นในชั้นผิวเอาไว้ ผิวหน้าจึงดูเรียบเนียนขึ้น ลดเลือนริ้วรอยต่างๆ ได้ทั้งบริเวณหางตา หว่างคิ้ว และร่องแก้ม

                          สำหรับคุณแม่หลังคลอดที่ต้องดูแลลูกน้อยเกือบ 24 ชั่วโมง จนแทบไม่มีเวลาดูแลตัวเอง จะให้ใช้วิธีบำรุงผิวหลายๆ ขั้นตอนแทบเป็นไปไม่ได้ แต่ครีมบำรุงผิวหน้า  TRYLAGINA สามารถแก้ปัญหาผิวหน้าทั้งหมดได้ง่ายๆในกระปุกเดียว เพียงทาหลังล้างหน้าทั้งตอนเช้าและก่อนนอน ก็ทำให้ผิวคุณแม่กลับมาเรียบเนียน ดูกระจ่างใส และสวยเป๊ะปังกว่าที่เคย

                          ทาง Amarin Baby & Kids “เครือข่ายแม่ลูกใหญ่ที่สุด” ผู้นำด้านคอนเทนต์คุณภาพ เข้าใจครอบครัวไทย และตอบสนองความต้องการของคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ จึงคัดเลือกให้ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า TRYLAGINA  ได้รับ รางวัล Editor’s Choice  Best Facial Skincare จาก “Amarin Baby & Kids Awards 2019” ซึ่งมอบให้กับสินค้าแม่ลูก สินค้าใช้ดี และมีประโยชน์จริง”

                           

                          คุณแม่สามารถศึกษาข้อมูลผลิตภ้ณฑ์เพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/trylagina

                           

                          อ่านบทความ Amarin Baby & Kids Awards 2019 

                          ประกาศผลรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019 สุดยอดแบรนด์สินค้าแม่และเด็กในดวงใจ

                          ชมภาพบรรยากาศ งานมอบรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019\

                           

                          เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                           

                           

                            ครีมทาผื่นผ้าอ้อม

                            ครีมทาผื่นผ้าอ้อม เลือกแบบไหน ปกป้องผิวบอบบางลูกน้อยได้อยู่หมัด

                            ผื่นผ้าอ้อม ที่มักเกิดขึ้นบ่อยๆเมื่อลูกน้อยใส่ผ้าอ้อมสำเร็จรูป ทำให้ผิวบอบบางของลูกน้อยอักเสบเป็นผื่นแดง และรุกรามกลายเป็นแผลเรื้อรังได้ ครีมทาผื่นผ้าอ้อม เป็นตัวช่วยที่คุณแม่ลูกอ่อนขาดไม่ได้ และใช้ทาก่อนใส่ผ้าอ้อมทุกครั้ง แต่จะเลือกอย่างไรให้ได้ครีมคุณภาพดี ปกป้องผิวบอบบางของลูกน้อยได้จริง และปลอดภัยไม่มีสารตกค้าง ทีมแม่ ABK มีคำตอบมาให้ค่ะ

                            ความจริงเกี่ยวกับผื่นผ้าอ้อมเรื่องหนึ่งที่แม่อาจไม่เคยรู้ คือผื่นผ้าอ้อมไม่ได้เกิดจากตัวผ้าอ้อมเอง แต่การใส่ผ้าอ้อมสำเร็จรูปที่ทำให้ผิวหนังบริเวณดังกล่าว ไม่ระบายอากาศ เปียกชื้นจากเหงื่อและของเสียจากการขับถ่าย ทำให้ผิวบอบบางของลูกน้อย เกิดการระคายเคือง กลายเป็นผื่นแดง ส่วนใหญ่เกิดบริเวณขาด้านใน ข้อพับ ขาหนับ อวัยวะเพศ และร่องก้น

                            หากคุณแม่ดูแลทำความสะอาดบริเวณใส่ผ้าอ้อมไม่ดีพอ ผื่นเหล่านั้นจะกลายเป็นแผลเปื่อยและติดเชื้อรากลายเป็นปื้นแดงๆ เห็นขอบผื่นชัดเจน หรืออาจลอกออกเป็นแผ่น โดยมีโอกาสลุกลามไปยังผิวหนังตามส่วนต่างๆของร่างกาย เช่น ขา มือ ลำตัว และยังติดต่อไปยังบุคคลอื่นที่สัมผัสผื่นผ้าอ้อมด้วย

                            ครีมทาผื่นผ้าอ้อม

                            วิธีดูแลผิวลูกน้อยห่างไกลผื่นผ้าอ้อม

                            หนทางที่ช่วยดูแลผิวลูกน้อยได้ดีที่สุด ต้องเริ่มจากการป้องกันให้ห่างจากสิ่งสกปรกเพื่อไม่ให้เกิดการติดเชื้อ ดังนั้นคุณแม่ควรเริ่มจากการเลือกผ้าอ้อมสำเร็จรูปที่ระบายอากาศได้ดี หมั่นเปลี่ยนทุก 2-3 ชั่วโมง อย่าคิดว่ารอให้เต็มก่อนเพราะนั่นหมายความว่ามีเชื้อโรคหมักหมมอยู่มากมาย หลังถอดผ้าอ้อมทำความสะอาดมทุกครั้ง ควรปล่อยให้ผิวสัมผัสอากาศบ้าง 2-3 นาที

                            สำคัญที่สุดคุณแม่ต้องไม่ลืมทา ครีมทาผื่นผ้าอ้อม บางๆ บริเวณผิวหนังใต้ผ้าอ้อม เพื่อเพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิว และช่วยป้องกันความอับชื้นได้ การทาครีมสามารถทาไว้ก่อนโดยไม่ต้องรอให้มีผื่นก่อนได้

                            เลือก ครีมทาผื่นผ้าอ้อม อย่างไรให้ปลอดภัยกับลูก

                            1.มีสารให้ความชุ่มชื่นกับผิว

                            2.อาจมีตัวยาที่ช่วยบรรเทาอาการระคายเคืองผิว คุณแม่ควรเลือกให้เหมาะกับระดับความรุนแรงของผื่นผ้าอ้อม

                            3.อ่อนโยนกับผิว ไม่มีสารเคมีอันตรายกับทารก

                             

                            ครีมทาผื่นผ้าอ้อม

                            Amarin Baby & Kids Awards 2019 ยกให้อีเซอร์ร่า (Ezerra) เป็น ครีมทาผื่นผ้าอ้อม ที่ได้รับรางวัล Editor’s Choice Best  Diaper Rash Cream

                            Ezerra เป็นผลิตภัณฑ์ครีมสำหรับทาผิวแห้งเล็กน้อย ถึงปานกลาง (กล่องสีม่วง) ซึ่งเป็นต้นเหตุของผื่นและอาคารคัน โดยไม่มีส่วนผสมสารเคมีอันตรายต่างๆ ทั้งสารสเตียรอยด์ พาราเบนสารกันเสีย ไร้สี ไร้กลิ่น สามารถใช้ได้กับลูกน้อยตั้งแต่ทารกแรกเกิด และสามารถใชได้เป็นประจำ

                            เนื้อ ครีมทาผื่นผ้าอ้อมเป็นสีขาวบริสุทธิ์ ไม่เหลวหรือเหนียวเนอะเกินไป ทาแล้วซึมเข้าผิวลูกได้ดี โดยมีส่วนของเชียบัตเตอร์ อาร์แกนออยล์ และสเปนเกรนแว๊กซ์ ซึ่งเป็นสารสกัดกธรรมชาติ รวมถึงแซคคาไรด์ ไอโซเมอเรทจากกลูโคสของพืช ที่มีโครงสร้างเดียวกับสารกักเก็บความชุ่มชื่นใต้ผิวของเรา จึงมีประสิทธิภาพในการกักเก็บและรักษาสมดุลความชุ่มชื่นในทุกสภาพอากาศ

                            คุณแม่สามารถหาซื้อครีม Ezerra ได้สะดวกตามร้านขายยาชั้นนำทั่วไป และแอพพลิเคชั่นช้อปปิ้งต่างๆ โดยมีขนาดให้เลือกตามความเหมาะสมในการใช้งาน

                            ทาง Amarin Baby & Kids “เครือข่ายแม่ลูกใหญ่ที่สุด” ผู้นำด้านคอนเทนต์คุณภาพ เข้าใจครอบครัวไทย และตอบสนองความต้องการของคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ จึงคัดเลือกให้lสเปรย์ปรับอากาศ Polar Spray ได้รับ รางวัล Editor’s Choice  Best Air Freshner จาก “Amarin Baby & Kids Awards 2019” ซึ่งมอบให้กับสินค้าแม่ลูก สินค้าใช้ดี และมีประโยชน์จริง”

                            สามารถศึกษาผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้ที่ https://ezerrathailand.com/

                             

                            อ่านบทความ Amarin Baby & Kids Awards 2019 

                            ประกาศผลรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019 สุดยอดแบรนด์สินค้าแม่และเด็กในดวงใจ

                            วิธีดูแลลูกน้อย ให้ห่างไกลจากผื่นผ้าอ้อม

                             

                            เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                             

                              อ่านวันละ 15 นาที

                              มหัศจรรย์แห่งการอ่านวันละ 15 นาที สร้างสิ่งดีๆ เพื่อลูกน้อย

                              อ่านวันละ 15 นาที

                              สิ่งดีที่เกิดขึ้นนั้นมีอะไรบ้าง เราไปฟังจากปากพี่จี๊ด คุณสุธาทิพย์ ธัชยพงษ์ ผู้อำนวยการ ดรุณบรรณาลัย ห้องสมุดเด็กปฐมวัย กันดีกว่าค่ะ ทั้งนี้ก่อนหน้าที่พี่จี๊ดจะเป็นผู้อำนวยการดรุณบรรณาลัย พี่จี๊ดอยู่กับมูลนิธิหนังสือเพื่อเด็ก ซึ่งจัดโดยสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทยมาก่อน ซึ่งมูลนิธินี้ก่อตั้งมา 15-16 ปีแล้ว และได้มีการริเริ่มเอาโครงการ Book start หนังสือเล่มแรกมาใช้ นั่นคือให้พ่อแม่ใช้หนังสือภาพอ่านให้ลูกฟังตั้งแต่อายุ 6 เดือนโดยเป็นการอ่านอย่างต่อเนื่อง สำหรับโครงการนี้เริ่มจากประเทศอังกฤษก่อน แล้วค่อยขยายไปที่ญี่ปุ่น และอีกหลายๆประเทศ ซึ่งการที่ประเทศนั้นๆ จะทำ Book start ได้ต้องประกอบไปด้วย 3 สิ่งนี้ คือ
                              1. หน่วยงานที่จัดหนังสือเพื่อแจก ส่วนใหญ่มักเป็นสถานอนามัยหรือโรงพยาบาล เพราะว่าการแจกถุงนั้นทำได้ตอนที่คุณพ่อคุณแม่พาลูกไปฉีดวัคซีน
                              2. เกณฑ์อายุก็แล้วแต่ว่าประเทศนั้นให้ที่อายุเท่าไหร่ เช่น ประเทศอังกฤษ 7 เดือน ประเทศญี่ปุ่น 4 เดือน ส่วนประเทศไทย 6 เดือน (เลี้ยงลูกด้วยนมแม่จบก็ต่อด้วย Book start เลย)
                              3. ห้องสมุดเด็ก เมื่อมีการให้หนังสือ Book start ครั้งแรกแล้ว เขาสามารถไปต่อยอดสามารถยืมต่อจากห้องสมุดได้ แต่เมืองไทยขณะนั้นยังไม่มี

                              จนปี 2558 ได้มีการริเริ่มห้องสมุดเด็กขึ้นมา โดยเป็นการจัดสร้างเพื่อเฉลิมฉลองสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารที่พระชนมพรรษาครบ 60 พรรษา ซึ่งได้รับคำแนะนำจากคุณหมอพรรณพิมล วิปุลากร ผู้อำนวยการสถาบันราชานุกูล ว่าที่กรมสุขภาพจิตตรงวัดม่วงแค ซอยเจริญกรุง 34 มีบ้านโบราณสมัยรัชกาลที่ 6 ของตระกูลศรียาภัยอยู่ ทางมูลนิธิจึงสนใจและรีโนเวทขึ้นมาใหม่โดย บริษัท แปลนอาคิเทค ให้กลายเป็น ดรุณบรรณาลัย ห้องสมุดปฐมวัยสำหรับเด็ก วัย 0-7 ขวบ เป็นแห่งแรก ซึ่งมีหนังสือที่เหมาะสำหรับเด็กทุกประเภท

                              อ่านวันละ 15 นาที

                              พี่จี๊ดเล่าให้เราฟังต่ออีกถึง วิธีการอ่านหนังสือให้ลูกฟัง “ เราจะพยายามบอกคุณพ่อคุณแม่เสมอว่า ให้อ่านหนังสือกับลูกครั้งละ 5-15 นาทีก็พอใน 1 วัน จะเป็นช่วงไหนยังไงก็ได้ เพื่อให้ต่อเนื่อง ซึ่งวิธีการอ่านเราเน้นย้ำให้คุณพ่อคุณแม่อ่านชี้ไปตามตัวอักษร เพื่อให้เด็กได้ยิน แล้วมองภาพตาม เหมือนเป็นการบันทึกทั้งภาพทั้งคำศัพท์ ทั้งนี้เราก็ได้มีการทำวิจัยกลุ่มเป้าหมาย 106 ครอบครัว ทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด แล้วก็พบว่าแค่อ่านต่อเนื่อง 1 สัปดาห์แรก เมื่อเด็ก 6 เดือน เห็นหนังสือก็คลานเข้าไปหาเลย ซึ่งเหล่านี้ถือเป็นความสุขร่วมกันพ่อแม่ลูกโดยใช้หนังสือเป็นสื่อกลาง และทั้งนี้การที่เด็กชอบหนังสือก็เปลี่ยนพฤติกรรมพ่อแม่ได้ด้วย ยกตัวอย่างเช่น ครอบครัวหนึ่งในซอยเสือใหญ่อุทิศ คุณพ่อทำอาชีพเป็นมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ปกติกว่าจะกลับบ้านก็มืดค่ำเพราะไปกินเหล้ากับเพื่อน พอเริ่มโครงการ Book Start ได้อ่านหนังสือให้ลูกก็ติดใจ แทนที่จะไปกินเหล้าเหมือนเดิมก็ต้องรีบกลับมาอ่านหนังสือให้ลูกฟัง คือเรามีถุงหนังสือแจกให้เขา อ่านเสร็จก็แขวนไว้ที่เดิม เพื่อฝึกความเป็นระเบียบวินัยไปด้วยในตัว แล้วเวลาลูกเห็นเขาก็จะคลานไปหาถุงหนังสือเพื่อให้พ่อก็อ่านให้เขาฟัง

                              อ่านวันละ 15 นาที

                              นอกจากกรณีนี้แล้ว คุณ ตุ๊บปอง  นักแต่งนิทานชื่อดัง ซึ่งอยู่ในทีมที่ทำ Book start เหมือนกัน ก็เล่าให้ฟังว่ามีครอบครัวหนึ่ง แม่เป็นชาวเขาพ่อเป็นคนไทย พ่อต้องอ่านหนังสือให้ลูกฟังทุกวัน ทีนี้แม่กลัวว่าลูกจะรักพ่อมากกว่าก็เลยไปเรียนภาษาไทยด้วย เพื่อที่จะอ่านให้ลูกฟัง  จากคนที่ภาษาไม่ดีก็ได้พัฒนาภาษาไปในตัว เห็นไหมว่า การอ่านเพียงแค่วันละ 15 นาทีช่วยให้ชีวิตของเราเปลี่ยนไปในทางที่ดีได้จริง ๆ”

                              อ่านวันละ 15 นาที

                               ชวนเด็กอ่านกันแค่วันละ 15 นาที กับโครงการส่งความรู้สร้างความสุขปี 2 !

                              ตอนนี้มีโครงการส่งความรู้ สร้างความสุข ปี 2 ที่ช่วยกระจายหนังสือไปสู่เด็กๆ ในโรงเรียนทั่วประเทศกว่า 57 โรงเรียน  ได้มีโอกาสอ่านหนังสือดีๆ และยังได้ฝึกเขียนบันทึกรักการอ่านอีกด้วย  จึงอยากฝากคุณพ่อคุณแม่ลองดูสิว่า โรงเรียนของลูกเรามีโครงการนี้หรือไม่  หากมีอย่าลืมแนะนำลูกเข้าชมรมรักการอ่าน และชวนลูกอ่านหนังสือแค่วันละ 15 นาที หรือจะอ่านหนังสือให้ลูกฟังก็ได้ เท่านี้ลูกรักก็จะมีพัฒนาการและการเรียนรู้ที่ดีมากขึ้นแน่นอน

                               

                              ติดตามช่าวความเคลื่อนไหวและร่วมสนับสนุนโครงการฯ ได้ทาง FB Fanpage : thehappyread และ www.thehappyread.com  ร่วมส่งต่อความรู้โดย (โลโก้) ส่งต่อความรู้มอบหนังสือให้เด็กๆกับโครงการ ส่งความรู้สร้างความสุข ปี 2

                              อ่านวันละ 15 นาที

                                นิทาน 2 ภาษา

                                2 นิทาน 2 ภาษา จากโครงการส่งความรู้ สร้างความสุข ปี 2

                                จากโครงการส่งความรู้ สร้างความสุขปีที่ 1 ขับเคลื่อนโครงการต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 เพื่อส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนทั่วประเทศ ตระหนักถึงความสำคัญของการอ่านหนังสือ โดยในปีที่ 2 มีโรงเรียนที่เข้าร่วมกิจกรรม 57 โรงเรียน รวม 2 ปี 109 โรงเรียน อีกทั้งยังมีการนำชั้นหนังสือมอบให้กับทุกโรงเรียนที่เข้าร่วมกิจกรรม และชุดหนังสือนิทานปกอ่อนของคุณตุลย์ชุดนี้ เป็นหนึ่งในหนังสือดี ที่มีรางวัลการันตี ทั้ง 2 เล่ม มาดูกันว่านิทาน 2 เล่ม 2 ภาษามีเรื่องอะไรที่น่าสนใจบ้าง

                                นิทาน 2 ภาษา

                                หนังสือนิทานชุดนี้เป็นหนึ่งในชุดหนังสือที่มอบให้กับ 50 โรงเรียนที่ร่วมโครงการส่งความรู้ สร้างความสุขปี 2 โดยในนิทานชุดนี้เป็นหนังสือนิทานสองภาษา ในเล่มจะมีทั้งการเขียนเล่าเป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เพื่อจะช่วยเสริมสร้างการฟังและการอ่านให้เด็กๆ ในด้านภาษาไทยและภาษาอังกฤษไปพร้อมๆ กัน

                                นิทาน 2 ภาษา

                                เล่มที่ 1 ทายซิ ทายซิ นั่นตัวอะไร (Thai-Eng)

                                ผู้เขียน : ตุลย์ สุวรรณกิจ   สำนักพิมพ์ : แพรวเพื่อนเด็ก

                                หนังสือเล่มนี้จะทำให้เด็กๆ ที่มักกลัวความมืดอย่างไร้เหตุผลหันมาทำความรู้จักกับความมืดในมุมมองที่สนุกสนานมากขึ้น ทั้งจากการทายและการเผชิญหน้ากับเพื่อนใหม่ที่ไม่คุ้นเคยกันมาก่อน จนในที่สุดยามค่ำคืนอันมืดมิดอาจไม่น่ากลัวอย่างที่เด็กๆ คิดก็เป็นได้

                                “ทายซิ ทายซิ นั่นตัวอะไร” ผลงานเล่มล่าสุดของ ตุลย์ สุวรรณกิจ เจ้าของรางวัลดีเด่นประเภทกลุ่มหนังสือเด็กเล็ก 3-5 ขวบ จากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ประจำปี พ.ศ. 2551 เรื่อง “ทายซิ ทายซิ ฉันคือใคร”

                                นิทาน 2 ภาษา

                                เล่มที่ 2 ทายซิ ทายซิ ฉันคือใคร (Thai-Eng)

                                ผู้เขียน : ตุลย์ สุวรรณกิจ   สำนักพิมพ์ : แพรวเพื่อนเด็ก

                                ในหนังสือเล่มนี้นอกจากความสนุกสนานแล้ว เพื่อนๆ ยังจะได้ทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ที่มีลักษณะพิเศษกว่าเพื่อนคนไหนๆ เป็นเกร็ดความรู้ใหม่ๆ แถมให้อีกด้วย

                                                ทายซิ ทายซิ ฉันคือใคร” ได้รับรางวัลดีเด่นประเภทกลุ่มหนังสือเด็กเล็ก 3-5 ขวบ จากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ) งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติประจำปี พ.ศ.2550 ได้รับคัดเลือกจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ) สำหรับเด็กปฐมวัยตามนโยบายเรียนฟรี 15 ปี อย่างมีคุณภาพประจำปี 2552 ได้รับคัดเลือกเป็นหนึ่งใน 108 หนังสือดี เป็นหน้าต่างแห่งโอกาสในการพัฒนาเด็กปฐมวัย โดยแผนงานส่งเสริมวัฒนธรรมการอ่าน และเป็นหนังสือที่ได้รับเลือกให้เป็นหนังสือดีสำหรับเด็กในโครงการหนังสือเล่มแรก Bookstart ปี พ.ศ 2552

                                อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

                                ติดตามช่าวความเคลื่อนไหวและร่วมสนับสนุนโครงการฯ ได้ทาง FB Fanpage : thehappyread และ www.thehappyread.com ร่วมส่งต่อความรู้โดย (โลโก้) ส่งต่อความรู้มอบหนังสือให้เด็กๆกับโครงการ ส่งความรู้สร้างความสุข ปี 2

                                นิทาน 2 ภาษา
                                นิทาน 2 ภาษา
                                  หนังสือชุด วิทยาศาสตร์ฉลาดรู้

                                  เปิดโลกความรู้สุดสนุก กับ หนังสือชุด “วิทยาศาสตร์ฉลาดรู้“ ในโครงการส่งความรู้สร้างความสุข ปี 2

                                  หนังสือชุด “วิทยาศาสตร์ฉลาดรู้“ ที่เราเลือกมานำมาเสนอนี้ เต็มไปด้วยความลับที่น่าพาไปค้นหากับปริศนาที่ถูกค้นพบให้กระจ่างชนิดฮาน้ำตาเล็ด ประกอบไปด้วย เรื่องปริศนาน่าฉงน, เมนูพิสดาร, พิษและแก๊สพิษ, การทดลองสุดพิลึก, ไขปริศนาสยองขวัญ และการพิสูจน์หลักฐาน โดยหนังสือชุดนี้จะพาเด็กๆ เข้าไปเรียนรู้หลักการ ข้อเท็จจริง และความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ที่สามารถพบเห็นได้ในชีวิตประจำวัน ทั้งนี้กฎข้อแรกของวิทยาศาสตร์ คือการตั้งคำถามหรือปัญหา ดังนั้นหากเราต้องการศึกษาวิทยาศาสตร์ คุณสมบัติที่จะขาดไปไม่ได้เลยก็คือความอยากรู้อยากเห็น ความกระหายใคร่รู้ในคำตอบของธรรมชาติ ความกระตือรือร้นที่จะสังเกตสิ่งต่างๆ รอบตัว ซึ่งในหนังสือชุดนี้เล่าผ่านตัวละครลายเส้นการ์ตูนที่เปี่ยมไปด้วยสีสัน ตัวช่วยสำคัญคอยกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของเด็กๆ ให้เกิดความสงสัย โดยในตอนท้ายจะมีการไขปัญหาและตอบคำถามน่าฉงนได้อย่างมีสาระ ขณะเดียวกันก็เปี่ยมไปด้วยอารมณ์ขันที่สามารถเรียกเสียงหัวเราะได้ไม่น้อยเลยค่ะ

                                  หนังสือชุด วิทยาศาสตร์ฉลาดรู้

                                  หนังสือชุด วิทยาศาสตร์ฉลาดรู้

                                  โดยเราจะขอเลือกมารีวิว 3 เล่มก่อน ได้แก่ ปริศนาน่าฉงน, เมนูพิสดาร และเรื่องพิษและแก๊สพิษ

                                  วิทยาศาสตร์ฉลาดรู้ เรื่องปริศนาน่าฉงน
                                  ผู้เขียน : ชอนพันเคียว / ชาฮยอนจิน
                                  สำนักพิมพ์ : อมรินทร์คอมมิกส์
                                  ราคา 199 บาท
                                  ในเล่มนี้เต็มไปด้วยคำถามที่เต็มไปด้วยความสงสัยมากมาย ซึ่งมาพร้อมคำตอบที่มีอยู่ภายในเล่ม ไม่ว่าจะเป็น
                                  – เมืองโบราณใต้ดินเกิดขึ้นได้อย่างไร?
                                  – มนุษย์ล่องหนมีจริงหรือ?
                                  – สัตว์ประหลาดที่กินมนุษย์มีจริงหรือ?
                                  – UFO มีจริงหรือไม่?

                                  วิทยาศาสตร์ฉลาดรู้ เรื่องเมนูพิสดาร
                                  ผู้เขียน : อันกวางฮยอน
                                  สำนักพิมพ์ : อมรินทร์คอมมิกส์
                                  ราคา  199 บาท
                                  ในเล่มนี้เต็มไปด้วยคำถามที่เต็มไปด้วยความสงสัยมากมาย ซึ่งมาพร้อมคำตอบที่มีอยู่ภายในเล่ม ไม่ว่าจะเป็น
                                  – อาหารที่กลิ่นเหม็นที่สุดในโลกคืออะไร?
                                  – ทำไมหม้อถึงมีแต่ทรงกลม?
                                  – แมลงเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางสารอาหารสูงจริงหรือ?
                                  – ฟาสต์ฟู้ดชนิดแรกของโลกคืออะไร?
                                  – ทำไมดื่มน้ำอัดลมแล้วถึงเรอออกมา?

                                  วิทยาศาสตร์ฉลาดรู้ เรื่องพิษและแก๊สพิษ
                                  ผู้เขียน : ชินเฮยอง
                                  สำนักพิมพ์ : อมรินทร์คอมมิกส์
                                  ราคา 199 บาท
                                  ในเล่มนี้เต็มไปด้วยคำถามที่เต็มไปด้วยความสงสัยมากมาย ซึ่งมาพร้อมคำตอบที่มีอยู่ภายในเล่ม ไม่ว่าจะเป็น
                                  – พิษอะไรที่ร้ายแรงที่สุดในโลก?
                                  – ที่สนามเด็กเล่นมีพิษด้วยจริงหรือไม่?
                                  – จะทำอย่างไร หากเราได้รับพิษจากก๊าซ?
                                  – ตดกลายเป็นระเบิดได้จริงหรือเปล่า?
                                  – มีก๊าซที่ทำให้หัวเราะด้วยหรือ?

                                   

                                  หนังสือชุด วิทยาศาสตร์ฉลาดรู้

                                   รู้หรือไม่? หนังสือชุดนี้ เป็นหนึ่งหนังสือดีที่โครงการส่งความรู้ สร้างความสุขปี 2 ที่ บริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) บมจ.อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง นำไปจัดเป็นชั้นหนังสือให้เด็กๆ กว่า 50 โรงเรียนทั่วประเทศในโครงการได้แบ่งกันอ่าน ในชมรมรักการอ่านอีกด้วย  คุณพ่อคุณแม่บ้านไหนสนใจ โครงการ และเด็กๆ ชื่นชอบการอ่านหนังสือการ์ตูนความรู้กันแบบนี้ ติดตามได้ที่โครงการส่งความรู้ สร้างความสุขปี 2 กันได้เลย หรือสนใจจะบริจาคหนังสือดีๆ นี้ให้กับโรงเรียนที่ขาดแคลน สามารถติดต่อได้ที่โครงการส่งความรู้ สร้างความสุขปี 2 ตามข้อมูลด้านล่างนี้ค่ะ

                                   

                                  ติดตามช่าวความเคลื่อนไหวและร่วมสนับสนุนโครงการฯ ได้ทาง FB Fanpage : thehappyread และ www.thehappyread.com ร่วมส่งต่อความรู้โดย (โลโก้) ส่งต่อความรู้มอบหนังสือให้เด็กๆ กับโครงการ ส่งความรู้สร้างความสุข ปี 2

                                  หนังสือชุด วิทยาศาสตร์ฉลาดรู้

                                    เรียนเต้นดียังไง

                                    เรียนเต้นดียังไง 6 เหตุผลที่ลูกเรียนเต้นแล้วได้ครบทั้งร่างกาย อารมณ์ สมอง

                                    เรียนเต้นดียังไง เห็นเจ้าตัวเล็กออกสเต็ป ใช่ย่อยซะที่ไหนกันเล่า โดยเฉพาะการเต้นคัฟเวอร์แดนซ์ทั้งเพลงไทยหรือเกาหลีที่เราจะเห็นลูกรักกล้าแสดงออกเวลาได้ยินเสียงเพลง ถ้าน้ำกับเด็ก ๆ เป็นของคู่กัน เราจะเห็นความสนุก ความสุขของลูกทุกครั้งที่ได้เล่น การเต้นเข้าจังหวะกับเสียงเพลงก็คงเป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่สร้างความสุข ได้เห็นรอยยิ้มของลูกได้เต็ม ๆ โดยเฉพาะเพลงเต้นมัน ๆ ที่ชวนให้ลูกรักออกสเต็ปการเต้นตั้งแต่วัยอนุบาล จนถึงการ “คัฟเวอร์แดนซ์” (cover dance) ที่เห็นลูกเต้นตามศิลปินที่ชื่นชอบ

                                    ล่าสุดทีมแม่ ABK ได้เห็น “น้องมะลิ” มาเต้นโชว์สเต็ปเต้น cover dance ในเพลง “Kill This Love” ของวงเกิร์ลกรุ๊ปสุดฮอต BLACKPINK ในโครงการ Dance Project 2019 ผ่านอินสตาแกรมของแม่โบว์ Vanda29 เห็นแล้วก็อดชื่นชมในความพยายามตั้งใจฝึกฝนจนได้ผลงานที่น่าชื่นชมออกมาไม่ได้ เรามาดูกันดีกว่าว่าการเต้นยังมีประโยชน์สำหรับเด็ก ๆ ยังไง ที่พ่อแม่ควรส่งเสริมกิจกรรมนี้กันค่ะ

                                    มะลิเต้น ล่าสุด
                                    ขอบคุณภาพจาก www.facebook.com/bovanda29

                                    เรียนเต้นดียังไง 6 เหตุผลดีที่เรียนเต้นแล้วได้ครบทั้งร่างกาย อารมณ์ สมอง

                                    1.ช่วยฝึกความอดทน

                                    การเต้นคัฟเวอร์ แดนซ์ คือการเต้นเข้ากับเพลงต้นฉบับจากศิลปินที่ชื่นชอบโดยที่เด็ก ๆ ไม่ต้องคิดท่าเต้นขึ้นมาใหม่ แต่เป็นการพยายามที่จะแกะท่าเต้นของศิลปินต้นฉบับว่าเต้นท่าไหน อย่างไร เรียนรู้เทคนิคการเต้นจากการฝึกฝนและฝึกซ้อมเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้สามารถเต้นให้ได้เหมือนต้นฉบับ และสามารถเรียนเต้นได้หลากหลายรูปแบบมากขึ้น ถือว่าเป็นการช่วยฝึกความอดทนและความพยายามของลูกเพื่อให้เกิดความสำเร็จจากสิ่งที่ตัวเองชอบได้ดีเชียวล่ะ

                                    2.ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง

                                    การเต้น ถือว่าเป็นกิจกรรมที่ช่วยเสริมพัฒนาการเคลื่อนไหวของลูกได้ดี ซึ่งส่วนใหญ่เพลงมีท่าเต้นมักจะเป็นเพลงเร็ว ดังนั้นจังหวะในการเต้นก็จะเร็ว ซึ่งจะทำให้ร่างกายขยับได้ขยับทั้งแขน ขา ไปพร้อม ๆ กันอย่างเป็นจังหวะ ส่งผลให้กล้ามเนื้อแข็งแรง ทำให้หัวใจสูบฉีดและเลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น รวมไปถึงช่วยบริหารทางเดินหายใจ ปอด และกล้ามเนื้อหัวใจแข็งแรงขึ้นอีกด้วย ถือเป็นการออกกำลังกายไปพร้อมกับความสนุกที่ทำให้ร่างกายแข็งแรง คล่องแคล่ว และไม่น่าเบื่อด้วย

                                    3.ช่วยให้อารมณ์ดี

                                    ความสนุกสนานจากการเต้นเพลงจังหวะสนุก ๆ จะทำให้ร่างกายหลั่งสารเอ็นโดรฟินออก จึงทำให้เกิดความสุข ไม่มีภาวะความเครียด ส่งผลดีต่อสุขภาพจิต และส่งผลทำให้ลูกเป็นเด็กอารมณ์ดี สดชื่น แจ่มใส

                                    4.ช่วยทำให้ความจำดีขึ้น

                                    การเต้นจะทำให้ได้ฝึกสมาธิ เพราะได้จดจ่ออยู่กับการเคลื่อนไหวที่กำลังทำอยู่ตลอดเวลา รวมถึงการฟังเสียงเพลงเพื่อจับจังหวะ สอดประสานไปกับการเต้น ซึ่งเป็นการเสริมสร้างการทำงานของสมอง ที่ต้องใช้พลังสมองอย่างมหาศาลในการจดจำ ซึ่งอาจส่งผลช่วยทำให้ความจำดีขึ้น และช่วยป้องกันไม่ให้เป็นโรคสมองเสื่อมเมื่ออายุมากขึ้นได้

                                    5.ช่วยเสริมการทรงตัวดีขึ้น

                                    การเต้น คือการใช้ร่างกายเคลื่อนไหวเป็นหลัก ถือว่าเป็นการจัดระเบียบร่างกาย ทำให้สามารถควบคุมร่างกายได้ดีขึ้น ร่างกายมีความคล่องแคล่ว ยืดหยุ่น การเต้นเป็นประจำจะช่วยให้ร่างกายมีเสถียรภาพ ช่วยเสริมการทรงตัวต่อการเดิน วิ่ง ของลูกได้

                                    6.เสริมพัฒนาการด้านสังคม

                                    การเรียนเต้นแบบเป็นกลุ่มจะช่วยเพิ่มทักษะการเข้าสังคมให้กับลูก ในการเต้นร่วมกับคนอื่น ช่วยให้ได้เพื่อนใหม่ รู้จักการเป็นผู้นำ ผู้ตาม เพิ่มความกล้าแสดงออกอย่างสร้างสรรค์ และช่วยพัฒนาความมั่นใจในตนเองให้เพิ่มขึ้น

                                    น้องมะลิเต้นเพลงเกาหลี
                                    ขอบคุณภาพจาก www.facebook.com/bovanda29

                                    ชวนลูกเต้นหรือเต้นตามลูกด้วยทริคการเต้นคัฟเวอร์แดนซ์แบบง่าย ๆ

                                    • คัฟเวอร์แดนซ์ส่วนใหญ่จะเต้นตามศิลปินกลุ่ม เพราะฉะนั้นต้องระบุให้ชัดเจนว่าจะเต้นแบบใคร เพื่อ Blocking ในการยืน หรือถ้าฝึกเต้นคนเดียวก็สามารถทำได้เช่นกันค่ะ
                                    • ฟังเพลงที่เลือกเต้นซ้ำ ๆ เพื่อให้สามารถจำแต่ละท่อนได้และทำความเข้าใจว่าเพลงสื่ออะไร เพื่อที่จะสามารถสื่ออารมณ์ผ่านการเต้น Cover จะทำให้การเต้นออกมาดูมีเสน่ห์ต่อตัวผู้เต้นด้วย
                                    • จับจังหวะเสียงดนตรีในเพลงให้เข้ากับท่าเต้น ถ้าจับจังหวะได้การเริ่มและแกะท่าเต้นนั้นจะยิ่งง่ายขึ้น
                                    • เมื่อจับจังหวะเพลงกับท่าเต้นได้แล้ว ก็มาเริ่มแกะท่าเต้น โดยแนะนำให้แกะท่าเต้นและฝึกเต้นตามทีละท่อนเพลง สำหรับ cover dance มือใหม่

                                    สิ่งที่ทำให้เด็ก ๆ สนุกกับการเต้น Cover Dance เป็นเพราะว่าไม่ต้องมีพื้นฐานก็สามารถเต้นตามได้ง่าย ๆ นั่นเอง การเต้นแนวนี้จึงกลายมาเป็นกระแสแรงและเด็ก ๆ ได้ให้ความสนใจ ถือเป็นศาสตร์อีกแขนงหนึ่งของการเต้นลอกเลียนแบบตามศิลปินต่าง ๆ ที่ชอบในดวงใจ จนทำให้รู้สึกอยากเต้นตาม ซึ่งในปัจจุบันศิลปินผู้ซึ่งเป็นเจ้าของผลงาน หรือผู้จัดงานต่าง ๆ ก็มีการจัดประกวดเต้นคัฟเวอร์ให้เลียนแบบศิลปิน ทำให้หลาย ๆ คนหันมาใช้เวลาว่างในการเต้นคัฟเวอร์กันเยอะมากขึ้น และถือว่ามีเวทีสำหรับการเปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชนออกมาแสดงศักยภาพเกี่ยวกับการเต้นเพิ่มขึ้น การเต้น จึงเป็นกิจกรรมสร้างสรรค์แล้วยังได้ใช้เวลาให้เป็นประโยชน์อีกด้วย และได้พัฒนาการดี ๆ ที่เกิดขึ้นต่อตัวเด็กได้เป็นอย่างดีอีกกิจกรรมหนึ่ง ถ้าคุณพ่อคุณแม่มองเห็นความสามารถหรือความชอบของลูกด้านนี้ ลองสนับสนุนให้ลูกได้ไปต่อดูนะคะ.

                                    มาดูคลิปน่ารัก ๆ ที่น้องมะลิโชว์สเต็ปการเต้นกันค่ะ

                                    https://www.instagram.com/p/B2YLFJTnpif/

                                    ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก : eclipsestudiobkk.comwww.historicaldance.comwww.afterklass.com

                                    อ่านต่อบทความอื่นน่าสนใจ คลิก!

                                    รวม 9 เพลงเด็ก แบบภาษาอังกฤษ สำหรับเต้นสนุก ฝึกทักษะ เสริมพัฒนาการ

                                    คลิปสุดน่ารัก ^_^ พ่อเต้นโคฟเวอร์เพลงเกาหลีกับลูกสาว เป๊ะเว่อร์!

                                    เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่