Page 197 – AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

เชื้อโรคที่มือ

ครูสอนเด็กเรื่อง “เชื้อโรคที่มือ” ผ่าน “ขนมปัง”

เมื่อเด็กชอบเอามือเอาของเล่นเข้าปาก ทำให้ป่วยบ่อย ๆ ครูหัวใสจึงใช้ “ขนมปัง” สอนเด็กรู้ว่า เชื้อโรคที่มือ มีมากมายแค่ไหน ทำไมต้องล้างมือบ่อย ๆ

ครูสอนเด็กเรื่อง “เชื้อโรคที่มือ” ผ่าน “ขนมปัง”

การล้างมือเป็นประจำ ทุก ๆ ครั้งหลังเข้าห้องน้ำ และทุก ๆ ครั้งก่อนทานอาหารหรือขนม เป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ และคุณครูคอยสอนเด็ก ๆ มาตลอด เพราะการล้างมือจะช่วยป้องกันไม่ให้ลูกติดเชื้อโรคต่าง ๆ ได้ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นโรคที่รุนแรงหรือโรคหวัดทั่วไป ก็สามารถป้องกันได้ด้วยการล้างมือ แต่อย่างที่แม่ ๆ รู้กันดีว่าเป็นไปได้ยากมาก ๆ ที่ลูกจะล้างมือทุกครั้งก่อนเอามือเข้าปาก เอาของเล่นเข้าปาก

ทีมแม่ ABK จึงขอนำไอเดียของ Jaralee Metcalf และ Dayna Robertson คุณครูจากโรงเรียนประถมแห่งหนึ่งที่ทำให้เด็ก ๆ เห็นว่ามี เชื้อโรคที่มือ มีมากแค่ไหน ผ่านการทดลองผ่านการใช้ขนมปัง เพื่อให้เด็ก ๆ รักษาความสะอาด และไม่อยากให้มือของตัวเองสกปรกอีกต่อไป

” พวกเราต้องการให้เด็ก ๆ เข้าใจด้วยตัวเองและเห็นภาพว่าทำไมคุณพ่อคุณแม่และคุณครูถึงต้องคอยย้ำเด็ก ๆ อยู่เสมอว่าให้ล้างมือเป็นประจำ ” คุณครูทั้ง 2 กล่าว โดยการทดลองใช้เพียงอุปกรณ์ต่อไปนี้

  1. แผ่นขนมปัง 5 แผ่น
  2. ถุงซิปล็อค ขนาดที่พอเหมาะสำหรับใส่ขนมปัง

วิธีทำการทดลอง

นำขนมปังทั้งหมด 5 แผ่น โดยแต่ละแผ่นจะถูกปฏิบัติดังนี้

  • แผ่นที่ 1: เป็นแผ่นที่นำไปถูกับ Chromebook เลย
  • แผ่นที่ 2: เป็นแผ่นที่ไม่ถูกสัมผัสจากมือเลย
  • ขนมปังแผ่นที่ 3 เป็นแผ่นที่ถูกสัมผัสจากมือที่สกปรก
  • แผ่นที่ 4: เป็นแผ่นที่ถูกสัมผัสจากมือที่ผ่านการล้างด้วยสบู่มาแล้ว
  • แผ่นที่ 5: เป็นแผ่นที่ถูกสัมผัสจากมือที่ผ่านการใช้เจลล้างมือ
มือมีเชื้อโรค
มือมีเชื้อโรคมากแค่ไหน

หลังจากเก็บใส่ถุงเรียบร้อยแล้ว คุณครูใช้เวลา 3-4 สัปดาห์ในการรอผล เมื่อถึงเวลาอันสมควรแล้ว เธอจึงพานักเรียนของเธอมาดูผลการทดลอง ดังภาพด้านล่างนี้

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

อ่านต่อ ครูสอนเด็กเรื่อง “เชื้อโรคที่มือ” ผ่าน “ขนมปัง”

    การตรวจคัดกรองภาวะดาวน์ซินโดรม

    ลบความเชื่อผิดๆ เรื่องการตรวจคัดกรองภาวะดาวน์ซินโดรม

    คุณแม่หลายท่านอาจไม่ทราบว่า ภาวะดาวน์ซินโดรมในทารกสามารถเกิดขึ้นได้กับคุณแม่ตั้งครรภ์ทุกวัย ไม่ใช่คุณแม่อายุ 35 ปีขึ้นไปเท่านั้น  เราจึงอยากชวนคุณแม่ลบความเชื่อผิดๆ ที่คิดว่าอายุน้อยไม่เสี่ยง โดย นพ.วรชัย ชื่นชมพูนุท สูตินรีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ จะมาให้ความรู้ที่ถูกต้อง พร้อมข้อมูล การตรวจคัดกรองภาวะดาวน์ซินโดรม แบบ NIPT ด้วยเทคนิค DANSR  ที่รวดเร็ว ปลอดภัย ให้ผลที่เชื่อถือได้ ลดการเจาะน้ำคร่ำ มาฝากคุณแม่ท้องและครอบครัวให้สบายใจกับการตรวจคัดกรองได้มากยิ่งขึ้น

     

    รู้หรือไม่?…

    ทารกเป็นดาวน์ซินโดรมกว่า 80% เกิดกับคุณแม่อายุน้อยกว่า 35 ปี

    มีข้อมูลพบว่า ทารกประมาณ 1 ใน 700 คน ป่วยเป็นโรคดาวน์ซินโดรม และมากกว่า 80% มักเกิดกับคุณแม่ตั้งครรภ์ที่อายุน้อยกว่า 35 ปี โดยไม่ทราบสาเหตุ  ซึ่งคุณแม่ที่มีอายุน้อยมักชะล่าใจ คิดว่ามีความเสี่ยงน้อย ทั้งที่ยังมีความเสี่ยงอยู่จึงไม่ได้เข้ารับการตรวจคัดกรองดาวน์ซินโดรมในระหว่างตั้งครรภ์  ดังนั้นการตรวจคัดกรองดาวน์ซินโดรมจึงมีความสำคัญสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ทุกคน เพื่อให้รู้เร็ว จะได้ทำการปรึกษาหารือกัน กับแพทย์ผู้ดูแล และสมาชิกในครอบครัวเพื่อเตรียมพร้อมหาทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับครอบครัวต่อไปได้

    การตรวจคัดกรองภาวะดาวน์ซินโดรม

    การตรวจคัดกรองภาวะดาวน์​ซินโดรมมีวิธีไหนบ้าง ?

    • การเจาะน้ำคร่ำ มักทำในคุณแม่ตั้งครรภ์อายุ35 ปีขึ้นไปและต้องมีอายุครรภ์ตั้งแต่ 5 เดือน แต่วิธีนีมีความเสี่ยงแท้งบุตรอยู่ที่ประมาณ 0.5%
    • การเจาะเลือดคุณแม่เพื่อหาปริมาณสารเคมี ตรวจฮอร์โมน ร่วมกับการทำอัลตร้าซาวนด์ ซึ่งมีความไวประมาณ 85-90%
    • วิธี NIPT(Non-invasive prenatal test)คือการเจาะเลือดคุณแม่เพื่อตรวจเซลล์ของลูกที่แฝงอยู่โดยสามารถเริ่มทำได้ตั้งแต่อายุครรภ์เพียง10 สัปดาห์ซึ่งนอกจากจะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ และปลอดภัยมากขึ้นแล้วยังลดความเสี่ยงต่อการแท้งบุตรจากวิธีการเจาะน้ำคร่ำอีกด้วย

     

    การตรวจคัดกรองแบบ NIPT ให้ผลที่เชื่อถือได้ 99% จริงหรือ ?

    การตรวจ NIPT ด้วยเทคนิค DANSR หรือหลักการ SNP (สนิปส์) จะทำการเลือกตรวจหาความผิดปกติจากเฉพาะ DNA ของทารกในครรภ์เท่านั้น จึงลดโอกาสผลบวกลวงน้อยกว่า 0.1% ในขณะเดียวกันหากผลออกมาเป็นบวก โอกาสที่ทารกจะมีภาวะดาวน์ซินโดรมก็สูงมาก และยังสามารถตรวจโครโมโซมที่ผิดปกติอื่นๆ ของทารกได้ด้วย เช่น โรคเอ็ดเวิรด์ซินโดรม พาทัวซินโดรม ความผิดปกติของโครโมโซมเพศ

    การตรวจคัดกรองภาวะดาวน์ซินโดรม

    เลือกตรวจ  NIPT แบบไหนให้ได้คุณภาพ

    เนื่องจากการตรวจคัดกรองภาวะดาวน์ซินโดรมด้วยวิธี NIPTมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง คุณแม่ควรปรึกษาแพทย์และครอบครัวในการเลือกแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ เช่น

    • มีผลงานวิจัยทางการแพทย์ที่รองรับเป็นจำนวนมาก และมีความน่าเชื่อถือในการให้ผลที่แม่นยำ
    • มีเทคนิคในการตรวจเลือดหรือเลือกเซลล์จากรกของเด็กที่มีความแม่นยำ เช่น เทคนิค DANSR ที่ใช้วิธีแยกเซลล์ของทารกออกจากของคุณแม่แล้วนำมาวิเคราะห์หรือนับข้างนอก ทำให้ได้ผลที่แม่นยำสูงกว่าเทคนิคที่ใช้การนับเซลล์ทั้งหมดทีเดียว  ซึ่งอาจจะมีเซลล์ของคุณแม่ปะปนมาด้วย ทำให้ได้ผลคลาดเคลื่อนและผิดพลาดสูงมาก
    • เป็นสถาบันที่มีประวัติการผิดพลาดน้อย เจาะเลือดซ้ำน้อย และมีเปอร์เซ็นต์ของการออกผลที่แม่นยำ
    • มีเอกสารรับรองผลิตภัณฑ์จากสถาบันที่สากลรับรองและเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับอนุญาตนำเข้าจากสำนักคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุขอย่างถูกต้อง ได้แก่ อเมริกา (CAP/CLIA) และ ยุโรป (CE-IVD)

     

    รู้หรือไม่ การตรวจคัดกรองภาวะดาวน์ซินโดรมด้วยวิธี NIPT โดยใช้เทคนิค DANSR ต่างจากการตรวจ NIPT ทั่วไปอย่างไร

    – แยก DNA ของลูกออกมาจากเลือดของแม่เพื่อทำการวิเคราะห์ได้ ซึ่งช่วยลดผลบวกปลอม และลดโอกาสการเจาะเลือดซ้ำ

    – สามารถตรวจคัดกรองโรคพันธุกรรมหลักได้ทั้งในครรภ์เดี่ยว ครรภ์แฝดแบบธรรมชาติรวมถึงการตั้งครรภ์จากเด็กหลอดแก้ว (IVF) และการบริจาคไข่ หรือคุณแม่อุ้มบุญ(surrogate)

    – ตรวจได้ตั้งแต่อายุครรภ์เพียง 10 สัปดาห์ สามารถรู้ผลได้ภายในการตรวจเพียงครั้งเดียวว่าทารกมีความเสี่ยงหรือไม่

    – บอกเพศของทารกในครรภ์ได้ตั้งแต่อายุครรภ์เพียง 10 สัปดาห์

    – ผลการตรวจได้มาตรฐานระดับสากล

    _________________________________________________________________________

    การตรวจคัดกรองภาวะดาวน์ซินโดรม

      สเปรย์ปรับอากาศ ยูคาลิปตัส เปลี่ยนบ้านให้สะอาด สดชื่น ปลอดภัยกับลูกน้อย

      สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงฉับพลัน ฝุ่นละออง และคนในบ้านป่วยล้วนส่งผลต่อสุขภาพของลูกน้อย การทำให้อากาศภาทยในบ้านสะอาด จึงเป็นสิ่งที่คุณแม่ใส่ใจ สเปรย์ปรับอากาศ ยูคาลิปตัสเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่จะเปลี่ยนอากาศภายในบ้านให้กลับมาสะอาด สดชื่น แต่ละเลือกอย่างไรให้ปลอดภัยกับลูกน้อย ตามมาอ่านข้อมูลดีๆกันเลยค่ะ

      เพราะสุขภาพทุกคนในบ้านเป็นเรื่องสำคัญ หากคนใดคนหนึ่งในบ้านป่วยมักจะติดกันวนเวียนกันไปมาไม่หายง่ายๆ โดยเฉพาะลูกน้อยที่ภูมิคุ้มกันยังพัฒนาไม่เต็มที่ จึงรับเชื้อโรคได้ง่ายและมีโอกาสจะป่วยหนักกว่าผู้ใหญ่ เพียงแค่ไอจามรดกัน ลูกก็เสี่ยงจะติดโรคได้แล้ว

      สเปรย์ปรับอากาศ

      แม่ยุคใหม่จึงเลือกใช้ สเปรย์ปรับอากาศ ยูคาลิปตัสมาสร้างอากาศในบ้านในสะอาดปราศจากเชื้อโรคและสารก่อภูมิแพ้ สเปรย์ปรับอากาศชนิดนี้ต่างจากสเปรย์ปรับอากาศทั่วไปตรงที่ กลิ่นหอมจากธรรมชาติของต้นยูคาลิปตัส จึงไม่ระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจของลูกน้อย (ทั้งนี้ไม่ควรพ่นมากเกินไป) ในท้องตลาดมีสเปรย์ยูคาลิปตัสหลากหลายยี่ห้ออาจทำให้แม่ตัดสินใจยาก เรามีวิธีเลือกแบบง่ายๆ มาฝากกัน ดังนี้

      วิธีเลือก สเปรย์ปรับอากาศ ยูคาลิปตัสเพื่อสุขภาพลูกน้อย

      • มีส่วนผสมของยูคาลิปตัส หรือสารสกัดธรรมชาติเพื่อความปลอดภัยต่อลูกน้อย อ่านได้จากส่วนผสมข้างขวด
      • เลือกสเปรย์ที่เหมาะกับใข้งานได้หลายที่ เช่น ห้องนอน ห้องนั่งเล่น รถยนต์ โดยเฉพาะห้องนอนของลูกเบบี๋ เพื่อความคุ้มค่า
      • ผ่านการทดสอบจากสถาบันทางการแพทย์แล้วว่าปลอดภัยต่อสุขภาพ
      • ถ้าต้องการมากกว่าแค่ปรับอากาศให้หอมสดชื่อ ควรเลือก สเปรย์ปรับอากาศที่มีคุณสมบัติฆ่าเชื้อโรค
      • หัวสเปรย์เล็ก ฉีดแล้วกระจายได้ทั่วห้อง ไม่ต้องฉีดเยอะ

       

      สเปรย์ปรับอากาศ

      Amarin Baby & Kids Awards 2019 ยกให้ Polar Spray (โพลาร์ สเปรย์) เป็น สเปรย์ปรับอากาศ ที่ได้รับรางวัล Editor’s Choice Best AIR FRESHNER

      โพลาร์ สเปรย์ เป็นสเปรย์ปรับอากาศ ยูคลาลิปตัสที่เป็นมากกว่าแค่สเปรย์ปรับอากาศ ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยี Activ Polar (แอคทีฟ โพลาร์) ซึ่งคิดค้นโดยแพทย์และเภสัชกรผู้เชี่ยวชาญให้มีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียและไวรัสให้อากาศสะอาดขึ้น ช่วยลดโอกาสการติดเชื้อทางเดินหายใจให้น้อยลง

      ตัวสเปรย์ผลิตจากสารสกัดธรรมชาติ เช่น เนเชอรัล ยูคาลิปตัส ออยล์ (Natural Eucalyptus Oil) เป็นส่วนผสมสำคัญที่ช่วยบรรเทาอาการคัดจมูก โล่งจมูก หอมสดชื่น เย็นสบาย และขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ และยังมีเนเชอรัล ที ทรี ออยล์ (Natural Tea Tree Oil) และสารสกัดจากธรรมชาติอื่นๆ พร้อมทั้งผ่านการทดสอบจากสถาบันชั้นนำทางการแพทย์    คุณแม่จึงมั่นใจได้ว่าละอองเล็กๆจากสเปรย์จะปลอดภัยกับลูกน้อยแน่นอน

      ถ้าต้องการฆ่าเชื้อในอากาศ แนะนำให้คุณแม่ฉีดโพลา สเปรย์ที่มุมห้องทั้ง 4 ด้าน (ภายในรถยนต์ก็เช่นกัน) แล้วทิ้งไว้ราว 10 -15 นาที แล้วลองเข้าไปในห้องจะรู้สึกทันทีว่าอากาศสะอาดขึ้น ถ้าลูกคัดจมูกบ่อยๆตอนกลางคืนที่อากาศเย็น ลองพ่นทิ้งไว้ก่อนเข้านอน จะช่วยให้หายใจโล่ง นอนหลับสนิทขึ้น  หรือจะใช้พ่นในห้องนังเล่นก็ช่วยปรับอากาศให้สดชื่นขึ้น แถมเวลามีคนในบ้านป่วย ยังเป็นเกราะป้องกันระดับหนึ่งไม่ให้ป่วยติดกันด้วย

      โพลา สเปรย์มีให้เลือกทั้งขวดใหญ่ เหมาะใช้ภายในบ้าน และขวดเล็กสำหรับพกพาไปใช้พ่นในรถยนต์ หรือห้องน้ำสาธารณะก็สะดวก หาซื้อสะดวกได้ตามซูเปอร์มาร์เก็ต และห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป

      ทาง Amarin Baby & Kids “เครือข่ายแม่ลูกใหญ่ที่สุด” ผู้นำด้านคอนเทนต์คุณภาพ เข้าใจครอบครัวไทย และตอบสนองความต้องการของคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ จึงคัดเลือกให้lสเปรย์ปรับอากาศ Polar Spray ได้รับ รางวัล Editor’s Choice  Best Air Freshner จาก “Amarin Baby & Kids Awards 2019” ซึ่งมอบให้กับสินค้าแม่ลูก “สินค้าใช้ดี และมีประโยชน์จริง”

      คุณแม่สามารถศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้ที่ http://polarspray.com/th/product/PolarSpray

       

      อ่านบทความ Amarin Baby & Kids Awards 2019 

      ประกาศผลรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019 สุดยอดแบรนด์สินค้าแม่และเด็กในดวงใจ

       

      เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

       

        ทอนซิลอักเสบในเด็ก

        ให้ลูกกินไอติม! ลดการอักเสบ “ทอนซิลอักเสบในเด็ก”

        เมื่อลูกเจ็บคอและพบว่าเป็น ทอนซิลอักเสบในเด็ก ควรให้ลูกกินไอติมเยอะ ๆ เพราะจะช่วยลดอาการอักเสบและทำให้ลูกเจริญอาหารขึ้น จริงหรือ?

        ให้ลูกกินไอติม! ลดการอักเสบ “ทอนซิลอักเสบในเด็ก”

        ทอนซิลอักเสบ คืออะไร?

        ทอนซิลอักเสบ (Tonsillitis) เกิดจากการติดเชื้อบริเวณต่อมทอนซิลซึ่งเป็นต่อม 2 ต่อมที่อยู่บริเวณด้านหลังของลำคอ ทำหน้าที่ปกป้องร่างกายจากเชื้อโรคที่ผ่านเข้าลำคอหรือทางการหายใจ แต่บางทีต่อมทอนซิลนี้ก็ติดเชื้อเสียเอง โดยอาจทำให้มีอาการหลักคือ ต่อมทอนซิลบวมแดง เจ็บคอ กลืนลำบาก มีไข้ เสียงเปลี่ยน และมีกลิ่นปาก

        สังเกตอย่างไรว่าลูกเป็น ทอนซิลอักเสบในเด็ก?

        เด็กเล็กที่มีอาการของทอนซิลอักเสบอาจไม่สามารถอธิบายได้ว่ามีอาการอย่างไร คุณพ่อคุณแม่สามารถสังเกตจากสัญญาณบ่งบอกต่อไปนี้

        • น้ำลายไหล มีสาเหตุจากการกลืนได้ลำบากหรือกลืนแล้วรู้สึกเจ็บ
        • ไม่ยอมรับประทานอาหาร
        • งอแงผิดปกติ เนื่องจากเจ็บคอ และอาจ ปวดศีรษะ ปวดที่หู
        • เมื่อส่องดูที่คอ จะพบว่าต่อมทอนซิลบวมและแดง มีชั้นบาง ๆ หรือจุดสีขาวหรือสีเหลืองปกคลุมบนต่อมทอนซิล (อ่านต่อ วิธีส่องดูคอลูก เมื่อ “เป็นหวัดเจ็บคอ”)
        • เสียงแหบหรือเสียงเปลี่ยน
        • มีกลิ่นปาก
        • มีไข้
        • ปวดท้อง โดยเฉพาะในเด็กเล็ก
        ทอนซิลอักเสบ
        ทอนซิลอักเสบ

        ทอนซิลอักเสบในเด็ก มีสาเหตุมาจากอะไร?

        ทั้งไวรัสและแบคทีเรีย สามารถทำให้เกิดการติดเชื้อที่ต่อมทอนซิลได้ โดยต่อมทอนซิลจะช่วยป้องกันการติดเชื้อด้วยการผลิตเซลล์เม็ดเลือดขาวออกมาต่อสู้กับเชื้อโรค และเนื่องจากเป็นภูมิคุ้มกันด่านแรก ต่อมทอนซิลจึงเป็นอวัยวะที่เสี่ยงต่อการอักเสบและติดเชื้อได้เช่นกัน

        ทั้งนี้สาเหตุส่วนใหญ่ของทอนซิลอักเสบมักเกิดจากการติดเชื้อไวรัสมากกว่าแบคทีเรีย โดยไวรัสทั้งหลายที่ก่อให้เกิดการอักเสบของต่อมทอนซิลยังอาจเป็นสาเหตุของการเกิดโรคอื่นด้วย เช่น ไรโนไวรัส ไวรัสอินฟลูเอนซา (ทำให้เกิดโรคไข้หวัดใหญ่) ไวรัสพาราอินฟลูเอนซา (ทำให้เกิดโรคกล่องเสียงอักเสบและกลุ่มอาการครู้ป) ไวรัสเอนเทอร์โร (ทำให้เกิดโรคมือเท้าปาก) ไวรัสรูบิโอลา (ทำให้เกิดโรคหัด) ไวรัสอะดีโน (ไวรัสที่มักเป็นสาเหตุของอาการท้องเสีย) ไวรัสเอ็บสไตน์บาร์ (ไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคโมโนนิวคลีโอซิส) เป็นต้น

        โรคต่อมทอนซิลอักเสบพบได้บ่อยในช่วงเด็กเล็กตั้งแต่อายุ 2 ปีขึ้นไปจนถึงช่วงวัยรุ่นตอนกลาง โดยทอนซิลอักเสบที่เกิดจากแบคทีเรียพบได้บ่อยในช่วงอายุ 5-15 ปี ขณะที่ทอนซิลอักเสบที่เกิดจากไวรัสจะพบในเด็กเล็กมากกว่า ส่วนวัยผู้ใหญ่มีโอกาสเกิดได้น้อย ทั้งนี้เพราะเด็กวัยเรียนมักมีการสัมผัสอยู่ใกล้ชิดกับเพื่อนและชอบเล่นสนุกสนาน จึงทำให้ต้องเผชิญกับเชื้อโรคมากมายและเสี่ยงต่อการติดเชื้อทอนซิลอักเสบมากกว่า

         

        เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

        อ่านต่อ ลูกเป็นทอนซิลอักเสบ ให้กินไอติมได้จริงหรือ?

          วัคซีนภูมิแพ้

          วัคซีนภูมิแพ้ คืออะไร? ราคาเท่าไหร่? ฉีดแล้วหายขาดไหม?

          วัคซีนภูมิแพ้ อีกทางเลือกหนึ่งของเด็กป่วยโรคภูมิแพ้ ที่ทำให้อาการภูมิแพ้ดีขึ้น และมีแนวโน้มที่จะหายขาดได้ โรคภูมิแพ้ชนิดไหนที่ฉีดได้บ้าง? ราคาเท่าไหร่? อ่านได้ที่นี่

          วัคซีนภูมิแพ้ คืออะไร? ราคาเท่าไหร่? ฉีดแล้วหายขาดไหม?

          วัคซีนภูมิแพ้คืออะไร?

          การรักษาด้วยวัคซีนภูมิแพ้ คือ การให้สารก่อภูมิแพ้ที่ผู้ป่วยแพ้เข้าไปในร่างกาย เริ่มจากปริมาณน้อยและปรับเพิ่มปริมาณขึ้นจนถึงขนาดที่ใช้ในการรักษา โดยให้ซ้ำ ๆ อย่างสม่ำเสมอ ส่งผลให้การตอบสนองทางภูมิคุ้มกันของร่างกายต่อสารก่อภูมิแพ้ลดลงและร่างกายทนต่อสารก่อภูมิแพ้ได้ดีขึ้น ดังนั้นผู้ป่วยจะมีอาการหรือปฏิกิริยาภูมิแพ้ลดลงเมื่อสัมผัสสารก่อภูมิแพ้ชนิดนั้น

          การรักษาด้วยวัคซีนภูมิแพ้เหมาะสำหรับใคร?

          1. ผู้ป่วยโรคเยื่อบุจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ (Allergic Rhinitis)
          2. โรคเยื่อบุตาอักเสบจากภูมิแพ้ (Allergic Conjunctivitis)
          3. โรคหืดจากภูมิแพ้ (Allergic Asthma) ที่คุมอาการดีแล้ว
          4. ผู้ป่วยโรคผิวหนังอักเสบจากภูมิแพ้ (Atopic Dermatitis)
          5. ผู้ป่วยที่ไม่สามารถควบคุมอาการแพ้ได้ด้วยยา หรือได้รับผลข้างเคียงจากการใช้ยา
          6. ผู้ที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ได้
          7. ผู้ที่แพ้แมลงอย่างรุนแรง

          โดยถึงแม้ว่าจะเป็นโรคภูมิแพ้ที่ระบุมาข้างต้น แต่ก็จะยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่อาจจะเหมาะและไม่เหมาะกับการรักษาโรคภูมิแพ้ด้วยการฉีด วัคซีนภูมิแพ้ โดยแพทย์เฉพาะทางจะเป็นผู้ประเมินว่าผู้ป่วยสมควรเข้ารับการฉีดวัคซีนภูมิแพ้หรือไม่

          ขั้นตอนในการรักษาด้วย วัคซีนภูมิแพ้

          ก่อนเริ่มทำการรักษาด้วย วัคซีนภูมิแพ้ แพทย์จะหาสาเหตุของการแพ้ โดยวิธีการสะกิดผิวหนัง (Skin Prick Test) หรือการตรวจเลือด แล้วนำข้อมูลส่วนนั้นมาผสมทำวัคซีนก่อน โดยแพทย์จะประเมินผู้ป่วยเป็นราย ๆ ว่าจะเลือกฉีดตัวไหนบ้าง (อาจฉีดมากกว่า 1 ชนิด) ขึ้นกับประวัติและผลทดสอบภูมิแพ้ ชั้นตอนการฉีด วัคซีนภูมิแพ้ แบ่งเป็น 2 ระยะ ดังนี้

          1. ระยะเริ่มต้น เป็นระยะที่เริ่มต้นให้วัคซีนภูมิแพ้ โดยเริ่มจากให้วัคซีนภูมิแพ้ขนาดความเข้มข้นต่ำอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง และปรับเพิ่มขนาดความเข้มข้นขึ้นจนถึงขนาดที่ใช้ในการรักษา ระยะเวลาและอัตราเร็วในการปรับเพิ่มความเข้มข้นขึ้นกับปัจจัยต่อไปนี้ ได้แก่ ความไวของผู้ป่วยต่อวัคซีนภูมิแพ้ ประวัติการเกิดอาการแพ้หลังได้รับวัคซีนครั้งก่อน และความเข้มข้นของวัคซีนที่ผู้ป่วยได้รับ เป็นต้น
          2. ระยะคงที่เป็นระยะที่ผู้ป่วยได้รับวัคซีนภูมิแพ้ในขนาดที่เหมาะสมและก่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการรักษาโรค โดยผู้ป่วยจะได้รับวัคซีนภูมิแพ้ทุก 2-4 สัปดาห์เป็นระยะเวลานาน 3-5 ปี และติดตามประเมินอาการเป็นระยะ โดยทั่วไปผู้ป่วยจะมีอาการดีขึ้นภายใน 3-12 เดือนหลังได้รับวัคซีนในระยะคงที่ และสำหรับรายที่ฉีดแล้วไม่ได้ผลแพทย์อาจพิจารณาหยุดฉีด

          การให้ วัคซีนภูมิแพ้ ในเด็ก สามารถเริ่มให้วัคซีนได้ในเด็กอายุน้อยกว่า 5 ปีที่มีข้อบ่งชี้ แต่ไม่แนะนำให้วัคซีนภูมิแพ้ในเด็กทารกและเด็กเล็กที่มีอายุน้อยกว่า 3 ปี เนื่องจากสังเกตอาการแพ้วัคซีนได้ยาก รวมทั้งการฉีดวัคซีนอาจส่งผลกระทบต่อจิตใจในเด็กเล็กได้

          โรคภูมิแพ้
          โรคภูมิแพ้

          ข้อดีของการฉีด วัคซีนภูมิแพ้

          1. เป็นการรักษาที่ตรงจุดคือ แก้ไขที่ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายที่มีความผิดปกติในผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้โดยตรง
          2. เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการมาก หรือรักษาด้วยยา หรือ วิธีการอื่นแล้วไม่ได้ผลดี หรือผู้ที่ใช้ยาแล้วมีผลข้างเคียงของยามาก หรือผู้ป่วยแพ้สารก่อภูมิแพ้ชนิดที่ไม่สามารถจะหลีกเลี่ยงได้
          3. ผู้ที่มีอาการของโรคหืดร่วมกับโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ การฉีดวัคซีนจะช่วยให้อาการของโรคหืดทุเลาลงด้วย
          4. สำหรับผู้ที่มารับการฉีดวัคซีนอย่างสม่ำเสมอ อาการจะดีขึ้นประมาณร้อยละ 70 – 90 ขึ้นอยู่กับชนิดของสารก่อภูมิแพ้ และขึ้นกับผู้ป่วยแต่ละราย
          5. ลดการกินยาเป็นระยะเวลานาน และลดค่าใช้จ่ายจากการใช้ยา
          6. และอาจป้องกันการแพ้สารใหม่เพิ่มเติมในอนาคต (new sensitization)

          ข้อด้อยของการฉีด วัคซีนภูมิแพ้

          1. อาจทำให้เกิดอาการแพ้ทั่วร่างกายได้ เช่นเดียวกับการแพ้ยาฉีดชนิดอื่น หรือการทดสอบภูมิแพ้ทางผิวหนัง อาจเกิดอาการของโรคภูมิแพ้ที่ผู้ป่วยเป็นอยู่แล้วมากขึ้น เช่น คัน จาม คัดจมูก น้ำมูกไหล คันตา คันคอ ไอ หรือหอบหืด ลมพิษ ปวดท้อง อาเจียน ท้องเดิน กล่องเสียงบวมเกิดการอุดตันของทางเดิน หายใจ และอาจถึงช็อคได้
          2. อาจต้องใช้เวลา 3 – 6 เดือน กว่าจะเห็นผล และต้องฉีดต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน

           

          เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

          อ่านต่อ ข้อแนะนำก่อน-หลัง ฉีดวัคซีนภูมิแพ้ และ วัคซีนภูมิแพ้มีราคาเท่าไหร่?

            คุณแม่บล็อกเกอร์ เพจไหนดี

            คุณแม่บล็อกเกอร์ เพจไหนดี คุณแม่โหวตให้ PREAW เป็นเพจอันดับหนึ่งในดวงใจ

            คุณแม่บล็อกเกอร์ เพจไหนดี ที่ตั้งขึ้นจากคุณแม่ตัวจริง คอยเป็นกระบอกเสียง นำเสนอข้อมูลดีๆ ไขข้อสงสัย และเป็นเพื่อนคุยให้กับแม่ๆในโลกออนไลน์ และคุณแม่ทั่วประเทศโหวตให้ แม่แพรว ( PREAW) เป็นเพจคุณแม่บล็อกเกอร์อันดับหนึ่งในดวงใจ และรับรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019 สาขา Mommy’s Choice

            คุณแม่บล็อกเกอร์ เพจไหนดี แม่ทั่วประเทศโหวตให้เป็นเพจในดวงใจ

            Amarin Baby & Kids “เครือข่ายแม่ลูกใหญ่ที่สุด” ผู้นำด้านคอนเทนต์คุณภาพ เข้าใจครอบครัวไทย และตอบสนองความต้องการของคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ ไทย ทั้งรูปแบบ Online ผ่านเว็บไซต์ www.AmarinBabyAndKids.com และเฟซบุ๊คแฟนเพจที่มีเนื้อหาตรงใจ ทันสถานการณ์ โดยมียอดผู้ติดตามมากกว่า 1,000,000 Followers และรูปแบบ On print ผ่าน Bookazine ราย 2 เดือน รวมถึง รูปแบบ On ground งานแฟร์แม่ลูก Amarin Baby & Kids Fair ที่จัดมาแล้วถึง 15 ครั้ง

            เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านเครือข่ายแม่ลูกอันดับ 1 ของประเทศที่เข้าใจคุณแม่ไทยมากที่สุด เว็บไซต์ Amarin Baby & Kids จึงได้จัด “Amarin Baby & Kids Awards 2019” ครั้งแรกในเมืองไทย เพื่อเฟ้นหาสุดยอดแบรนด์สินค้าแม่และเด็กในดวงใจ  จากคะแนนโหวตของคุณแม่ทั่วประเทศกว่า 10,000 คน ผ่าน www.AmarinBabyAndKids.com เว็บไซต์สื่อกลางข้อมูลคุณภาพจากแม่สู่แม่ Mom to Mom Sharing เพื่อเป็นประโยชน์แก่คุณแม่มือใหม่ที่กำลังมองหา “สินค้าใช้ดี ที่ได้รับการยืนยันจากคุณแม่ตัวจริงทั่วประเทศ”

            และเพื่อให้สมกับรางวัลที่มาจากความคิดเห็นของแม่อย่างแท้จริง สำหรับแบรนด์สินค้าในสาขา Mommy’s Choice จึงเปิดโอกาสให้แม่ได้ร่วมโหวต  2  รอบ ได้แก่ “รอบเสนอชื่อแบรนด์ที่ชื่นชอบ” จากนั้นทีมงานได้ทำการเลือกแบรนด์ที่ถูกเสนอชื่อมากที่สุด มาจัด“รอบโหวตแบรนด์ในดวงใจ” อีกครั้งหนึ่ง

             

            ทำไมแม่ทั่วประเทศโหวตให้แม่แพรวเป็นเพจคุณแม่บล็อกเกอร์ในดวงใจ

            ชอบที่คุณแพรวอธิบายเรื่องต่างๆได้ชัดเจน น้ำเสียงนุ่มนวลน่าฟัง เข้าใจง่าย และมักมีข้อแนะนำดีที่เหมาะกับแม่มือใหม่”

            “มีลูกวัยเดียวกับลูกคุณแพรวพอดีค่ะ ได้รับแนวคิดและวิธีเลี้ยงลูกดีๆ จากเพจเยอะมากเลยค่ะ”

            “ชอบดูคลิปที่แม่แพรวทำไว้ค่ะ เข้าใจง่าย นำมาปรับใช้กับลูกตัวเองได้ดีจริง ช่วยให้แม่มือใหม่อย่างเรามีความรู้และทักษะเลี้ยงลูกได้ดีขึ้น”

             

            เพจ PREW เป็นจุดเริ่มต้นของคุณแม่แพรว เพชรแพรว อัครเตชวาทิน ที่ต้องการแชร์ประสบการณ์และคำแนะนำดีๆ จากคุณหมอประจำของครอบครัว เพราะรู้สึกว่าข้อมูลเหล่านี้มีประโยชน์และอยากให้คนอื่นๆได้รู้บ้าง ด้วยความเชื่อที่ว่า แม่ไม่ได้เลี้ยงลูกให้ดีได้ด้วยสัญชาตญาณเพียงอย่างเดียว แต่ต้องมีความรู้และเทคนิคต่างๆ เพื่อให้ลูกของเราเติบโตเป็นบุคลากรที่มีคุณภาพของสังคม ขณะที่ตัวคุณแม่เองก็มีความสุขกับการเลี้ยงเจ้าตัวน้อยไปด้วยกัน

            ติดตามเรื่องราวดีๆจากเพจ PREAW ได้ที่ https://www.facebook.com/sherlynsmomme/

             

            อ่านบทความ Amarin Baby & Kids Awards 2019 

            ประกาศผลรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019 สุดยอดแบรนด์สินค้าแม่และเด็กในดวงใจ

            ชมภาพบรรยากาศ งานมอบรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019

             

            เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

             

              หนังสือนิทาน สำนักพิมพ์ไหนดี

              หนังสือนิทาน สำนักพิมพ์ไหนดี คุณแม่เลือก แพรวเพื่อนเด็ก เป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในดวงใจ

              หนังสือนิทาน สำนักพิมพ์ไหนดี ชวนลูกอ่านสนุก เสริมพัฒนาการรอบด้าน สร้างสายใยผูกพันธ์ในครอบครัว ที่คุณแม่สามารถเลือกให้เหมาะกับเด็กทุกวัยเริ่มได้ตั้งแต่ 0 – 8 ขวบ ทั้งหนังสือภาพ หนังสือฝึกทักษะเสริมความรู้ รวมทั้งหนังสือคู่มือพ่อแม่และครู เพื่อเสริมสร้างจินตนาการ พัฒนาการเรียนรู้และศักยภาพรอบด้านของเด็ก

              คุณแม่ทั่วประเทศโหวตให้ แพรวเพื่อนเด็ก เป็นแบรนด์สำนักพิมพ์หนังสือเด็กอันดับหนึ่งในดวงใจ และรับรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019 สาขา Mommy’s Choice

              หนังสือนิทาน สำนักพิมพ์ไหนดี แม่ทั่วประเทศเลือกแล้วให้แบรนด์นี้เป็นอันดับหนึ่งในดวงใจ

              Amarin Baby & Kids “เครือข่ายแม่ลูกใหญ่ที่สุด” ผู้นำด้านคอนเทนต์คุณภาพ เข้าใจครอบครัวไทย และตอบสนองความต้องการของคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ ไทย ทั้งรูปแบบ Online ผ่านเว็บไซต์ www.AmarinBabyAndKids.com และเฟซบุ๊คแฟนเพจที่มีเนื้อหาตรงใจ ทันสถานการณ์ โดยมียอดผู้ติดตามมากกว่า 1,000,000 Followers และรูปแบบ On print ผ่าน Bookazine ราย 2 เดือน รวมถึง รูปแบบ On ground งานแฟร์แม่ลูก Amarin Baby & Kids Fair ที่จัดมาแล้วถึง 15 ครั้ง

              เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านเครือข่ายแม่ลูกอันดับ 1 ของประเทศที่เข้าใจคุณแม่ไทยมากที่สุด เว็บไซต์ Amarin Baby & Kids จึงได้จัด “Amarin Baby & Kids Awards 2019” ครั้งแรกในเมืองไทย เพื่อเฟ้นหาสุดยอดแบรนด์สินค้าแม่และเด็กในดวงใจ  จากคะแนนโหวตของคุณแม่ทั่วประเทศกว่า 10,000 คน ผ่าน www.AmarinBabyAndKids.com เว็บไซต์สื่อกลางข้อมูลคุณภาพจากแม่สู่แม่ Mom to Mom Sharing เพื่อเป็นประโยชน์แก่คุณแม่มือใหม่ที่กำลังมองหา “สินค้าใช้ดี ที่ได้รับการยืนยันจากคุณแม่ตัวจริงทั่วประเทศ”

              และเพื่อให้สมกับรางวัลที่มาจากความคิดเห็นของแม่อย่างแท้จริง สำหรับแบรนด์สินค้าในสาขา Mommy’s Choice จึงเปิดโอกาสให้แม่ได้ร่วมโหวต  2  รอบ ได้แก่ “รอบเสนอชื่อแบรนด์ที่ชื่นชอบ” จากนั้นทีมงานได้ทำการเลือกแบรนด์ที่ถูกเสนอชื่อมากที่สุด มาจัด“รอบโหวตแบรนด์ในดวงใจ” อีกครั้งหนึ่ง

              ทำไมแม่โหวตให้แพรวเพื่อนเด็กเป็นแบรนด์สำนักพิมพ์เด็กในดวงใจ

              “มีหนังสือครบทุกวัยให้เลือกเลยค่ะ เริ่มซื้อให้ลูกสาวอ่านตั้งแต่ยังเล็ก ตอนนี้อยู่อนุบาลสามแล้วก็ยังชอบอ่าน มีเนื้อหลากหลาย เปลี่ยนเรื่องไปเรื่อยๆ ไม่เบื่อเลย”

              “อ่านนิทานแล้ว ช่วยให้ลูกรักการอ่านมากขึ้นค่ะ ยิ่งเขาได้อ่านนิทานสนุก ที่มีภาพประกอบสวยๆ ก็ติดใจมาก ไปร้านนายอินทร์ทีไร ต้องติดมือกลับมา 1-2 เล่นทุกครั้งค่ะ”

              “นิทานมีทั้งความรู้ และหนังสือเสริมทักษะสนุกเยอะมาก ส่วนใหญ่จะชวนกันไปซื้อที่บูธในงานสัปดาห์หนังสือค่ะ เพราะลดราคาเยอะ ขนกันมาเต็มตะกร้า”

              สำนักพิมพ์แพรวเพื่อนเด็ก ผู้ช่วยพ่อแม่ในการเลี้ยงดูลูกด้วยหนังสือ ผลิตหนังสือสำหรับเด็กวัย 0-8 ปี ทั้งหนังสือภาพ หนังสือฝึกทักษะเสริมความรู้ รวมทั้งหนังสือคู่มือพ่อแม่และครู ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ.2537 ในยุคที่หนังสือภาพสำหรับเด็กยังเป็นเรื่องที่นักอ่านไม่คุ้นเคยนัก โดยเฉพาะการซื้อลิขสิทธิ์หนังสือภาพจากต่างประเทศมาแปลเป็นภาษาไทย นับมาจนถึงปัจจุบัน กว่า 25 ปีแล้วที่แพรวเพื่อนเด็กยังยืนหยัดผลิตหนังสือภาพดีๆ ออกมาอย่างต่อเนื่องทั้งสิ้นกว่า 800 เล่ม  เช่น

              ชุดบ้านร้อยชั้น ข้าวลับของอลัน ต่อทางรถไฟ กุริกับกุระ ทายซิ ทายซิ หนูรักพ่อมากแค่ไหน  อิเล้งเค้งโค้ง หนอนจอมหิว ปลาสายรุ้ง ต่อทางรถไฟ ลูกฉลาดเริ่มต้นที่แม่ รอให้ถึงอนุบาลก็สายเสียแล้ว

              คุณแม่สามารถชมหนังสือนิทานจากสำนักพิมพ์แพรวเพื่อนเด็ก เพิ่มเติมได้ที่ https://www.amarinbooks.com/brand/แพรวเพื่อนเด็ก/

               

              อ่านบทความ Amarin Baby & Kids Awards 2019 

              ประกาศผลรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019 สุดยอดแบรนด์สินค้าแม่และเด็กในดวงใจ

              ชมภาพบรรยากาศ งานมอบรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019

               

              เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

               

                ของเล่นเด็ก ยี่ห้อไหนดี

                ของเล่นเด็ก ยี่ห้อไหนดี คุณแม่เลือก เลโก้ เป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในดวงใจ

                ของเล่นเด็ก ยี่ห้อไหนดี ช่วยเสริมพัฒนาการและจินตนาการให้ลูกน้อยทุกวัย ที่สำคัญต้องปลอดภัยจากสารเคมีอันตราย เพราะเด็กวัยนี้มักหยิบของเข้าปาก คุณภาพดี คุ้มค่า และทนทาน เล่นได้นาน สามารถส่งต่อให้ลูกคนต่อไปได้  คุณแม่ทั่วประเทศให้ เลโก้ เป็นแบรนด์ของเล่นเด็กอันดับหนึ่งในดวงใจ และรับรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019 สาขา Mommy’s Choice

                ของเล่นเด็ก ยี่ห้อไหนดี แม่ทั่วประเทศเลือกแล้ว ใช้ยี่ห้อนี้เป็นแบรนด์ในดวงใจ

                Amarin Baby & Kids “เครือข่ายแม่ลูกใหญ่ที่สุด” ผู้นำด้านคอนเทนต์คุณภาพ เข้าใจครอบครัวไทย และตอบสนองความต้องการของคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ ไทย ทั้งรูปแบบ Online ผ่านเว็บไซต์ www.AmarinBabyAndKids.com และเฟซบุ๊คแฟนเพจที่มีเนื้อหาตรงใจ ทันสถานการณ์ โดยมียอดผู้ติดตามมากกว่า 1,000,000 Followers และรูปแบบ On print ผ่าน Bookazine ราย 2 เดือน รวมถึง รูปแบบ On ground งานแฟร์แม่ลูก Amarin Baby & Kids Fair ที่จัดมาแล้วถึง 15 ครั้ง

                เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านเครือข่ายแม่ลูกอันดับ 1 ของประเทศที่เข้าใจคุณแม่ไทยมากที่สุด เว็บไซต์ Amarin Baby & Kids จึงได้จัด “Amarin Baby & Kids Awards 2019” ครั้งแรกในเมืองไทย เพื่อเฟ้นหาสุดยอดแบรนด์สินค้าแม่และเด็กในดวงใจ  จากคะแนนโหวตของคุณแม่ทั่วประเทศกว่า 10,000 คน ผ่าน www.AmarinBabyAndKids.com เว็บไซต์สื่อกลางข้อมูลคุณภาพจากแม่สู่แม่ Mom to Mom Sharing เพื่อเป็นประโยชน์แก่คุณแม่มือใหม่ที่กำลังมองหา “สินค้าใช้ดี ที่ได้รับการยืนยันจากคุณแม่ตัวจริงทั่วประเทศ”

                และเพื่อให้สมกับรางวัลที่มาจากความคิดเห็นของแม่อย่างแท้จริง สำหรับแบรนด์สินค้าในสาขา Mommy’s Choice จึงเปิดโอกาสให้แม่ได้ร่วมโหวต  2  รอบ ได้แก่ “รอบเสนอชื่อแบรนด์ที่ชื่นชอบ” จากนั้นทีมงานได้ทำการเลือกแบรนด์ที่ถูกเสนอชื่อมากที่สุด มาจัด“รอบโหวตแบรนด์ในดวงใจ” อีกครั้งหนึ่ง

                ทำไมแม่โหวตให้เลโก้เป็นแบรนด์ของเล่นในดวงใจ

                “เป็นของเล่นคุณภาพดี ได้มาตรฐานทุกชิ้น ปลอดภัย แข็งแรงทนทาน เล่นได้นานเลยค่ะ ซื้อไว้ตั้งแต่ลูกคนแรกมาจากน้องคนที่สองก็ยังเล่นได้ ไม่มีเบื่อเลย”

                “ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการที่ดีให้ลูก พัฒนาระบบความคิด จินตนาการ ที่สำคัญช่วยให้ลูกมีสมาธิมากขึ้น เขาไม่เคยสนใจอยากดูหน้าจอเลยค่ะ”

                “ลูกชอบเล่นตัวต่อมากๆ เริ่มซื้อจากบล็อกใหญ่แล้วเล็กลงเรื่อยๆ ตอนนี้กำลังต่อชุดที่เป็นเรื่องราว อย่าง สตาร์วอร์ แล้วค่ะ ชอบตรงมีให้เลือกหลายแบบ ตามช่วยอายุของเด็กด้วย”

                เลโก้ (Lego) เป็นของเล่นในรูปแบบตัวต่อพลาสติก เริ่มผลิตครั้งแรกที่เมืองบิลลุนด์ ประเทศเดนมาร์ก เลโก้มีลักษณะเป็นชิ้นพลาสติก หลายสีและลักษณะเหมือนก้อนอิฐมีขนาดต่าง ๆ กันที่มีปุ่มและร่องเพื่อการประกอบ โดยไม่ต้องใช้กาว เพื่อให้ผู้เล่นนำไปสร้างสรรค์ต่อเป็นรูปร่างต่าง ๆ ปัจจุบันมีมากกว่า 6,000 ชุด

                 

                อ่านบทความ Amarin Baby & Kids Awards 2019 

                ประกาศผลรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019 สุดยอดแบรนด์สินค้าแม่และเด็กในดวงใจ

                ชมภาพบรรยากาศ งานมอบรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019

                 

                เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                 

                  นมมอลต์ ยี่ห้อไหนดี

                  นมมอลต์ ยี่ห้อไหนดี ลูกอร่อยได้ประโยชน์ คุณแม่เลือก นมตราหมี เป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในดวงใจ

                  นมมอลต์ ยี่ห้อไหนดี ที่คุณแม่เลือกให้ลูกดื่ม เพื่อเสริมคุณค่าทางโภชนาการจากมอลต์ หรือข้าวบาร์เลย์ ที่มีรสหอมหวาน กลมกล่อมคล้ายคาราเมล และอุดมด้วยสารอาหารสำคัญหลายชนิด เช่น ธาตุเหล็ก วิตามินบี โปรตีน กรดอะมิโนแอซิด และใยอาหาร ซึ่งดีต่อการย่อยอาหารและขับถ่าย

                  คุณแม่ทั่วประเทศ ให้นมมอลต์ นมตราหมี เป็นแบรนด์เครื่องดื่มนมผสมมอลต์ อันดับหนึ่งในดวงใจ และรับรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019 สาขา Mommy’s Choice

                  นมมอลต์ ยี่ห้อไหนดี แม่ทั่วประเทศเลือกแล้ว ใช้ยี่ห้อนี้เป็นแบรนด์ในดวงใจ

                  Amarin Baby & Kids “เครือข่ายแม่ลูกใหญ่ที่สุด” ผู้นำด้านคอนเทนต์คุณภาพ เข้าใจครอบครัวไทย และตอบสนองความต้องการของคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ ไทย ทั้งรูปแบบ Online ผ่านเว็บไซต์ www.AmarinBabyAndKids.com และเฟซบุ๊คแฟนเพจที่มีเนื้อหาตรงใจ ทันสถานการณ์ โดยมียอดผู้ติดตามมากกว่า 1,000,000 Followers และรูปแบบ On print ผ่าน Bookazine ราย 2 เดือน รวมถึง รูปแบบ On ground งานแฟร์แม่ลูก Amarin Baby & Kids Fair ที่จัดมาแล้วถึง 15 ครั้ง

                  เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านเครือข่ายแม่ลูกอันดับ 1 ของประเทศที่เข้าใจคุณแม่ไทยมากที่สุด เว็บไซต์ Amarin Baby & Kids จึงได้จัด “Amarin Baby & Kids Awards 2019” ครั้งแรกในเมืองไทย เพื่อเฟ้นหาสุดยอดแบรนด์สินค้าแม่และเด็กในดวงใจ  จากคะแนนโหวตของคุณแม่ทั่วประเทศกว่า 10,000 คน ผ่าน www.AmarinBabyAndKids.com เว็บไซต์สื่อกลางข้อมูลคุณภาพจากแม่สู่แม่ Mom to Mom Sharing เพื่อเป็นประโยชน์แก่คุณแม่มือใหม่ที่กำลังมองหา “สินค้าใช้ดี ที่ได้รับการยืนยันจากคุณแม่ตัวจริงทั่วประเทศ”

                  และเพื่อให้สมกับรางวัลที่มาจากความคิดเห็นของแม่อย่างแท้จริง สำหรับแบรนด์สินค้าในสาขา Mommy’s Choice จึงเปิดโอกาสให้แม่ได้ร่วมโหวต  2  รอบ ได้แก่ “รอบเสนอชื่อแบรนด์ที่ชื่นชอบ” จากนั้นทีมงานได้ทำการเลือกแบรนด์ที่ถูกเสนอชื่อมากที่สุด มาจัด“รอบโหวตแบรนด์ในดวงใจ” อีกครั้งหนึ่ง

                  ทำไมแม่โหวตให้ ไทยเดนมาร์ก เป็นแบรนด์นม UHT ในดวงใจ

                  “ให้ลูกดื่มนมจืดมาตลอด จนเขาบ่นว่าเบื่อแต่ก็ไม่อยากให้กินนมรสหวาน เพราะกลัวฟันผุ เลยให้ลูกลองกินนมมอลต์ ปรากฎว่าเขาชอบมากค่ะ กลิ่นหอม รสชาติกลมกล่อมและไม่หวานด้วย”

                  “เป็นนมจืดที่ได้ประโยชน์จากสารอาหารอื่นๆ ด้วย อย่างพวกเกลือแร่ต่างๆ ซึ่งลูกอาจได้รับไม่มากพอจากอาหารที่กินปกติ ดื่มนมมอลต์ก็ช่วยเสริมให้อีกทางหนึ่งค่ะ”

                  “ที่บ้านดื่มนมตราหมีกันมานา ชอบที่เป็นกล่องสะดวกพกพาค่ะ ดื่มได้ทั้งครอบครัวเลย หาซื้อง่าย ราคาไม่แพง”

                  “นมตราหมี เอ็นริช มอลต์” เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ “นมตราหมี” ที่คนไทยรู้จักกันนานยาวนาน และประทับใจในรสชาตินมวัวแท้ๆที่เข้มข้น หอมมัน นมผสมมอลต์สกัดเข้มข้น มอลต์สกัดจากข้าวบาร์เลย์ธรรมชาติถึง 9% ได้ความหวานมอลต์แท้ๆ และเติมน้ำตาลแค่ 1% เท่านั้น จึงดื่มได้ทั้งครอบครัว

                   

                  อ่านบทความ Amarin Baby & Kids Awards 2019 

                  ประกาศผลรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019 สุดยอดแบรนด์สินค้าแม่และเด็กในดวงใจ

                  ชมภาพบรรยากาศ งานมอบรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019

                   

                  เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                   

                    มูลนิธิศุภนิมิต

                    เติมสุขรับปีใหม่ เติมชีวิตด้วยการให้ ‘ของขวัญ’ เพื่อเปลี่ยนแปลงชีวิตเด็กยากไร้

                    มูลนิธิศุภนิมิต ชวนให้ของขวัญเพื่อเปลี่ยนแปลงชีวิตเด็กยากไร้ เพียงเลือกของขวัญผ่านเว็บไซต์ง่ายๆ จากรายการของขวัญที่ผ่านการสำรวจโดย มูลนิธิศุภนิมิตแล้ว ว่าเป็นที่ต้องการและจำเป็นสำหรับชุนชน ทั้งด้านอาหาร การศึกษา สุขภาพ อนามัย

                    🎁 มีของขวัญให้เลือกหลากหลายประเภท และหมวดหมู่ ไม่ว่าจะเป็น

                    • ชุดหนังสือนิทานภาพเสริมสร้างจินตนาการ
                    • จักรยานสำหรับปั่นไปโรงเรียน
                    • ไก่พันธุ์ไข่ หรือไก่พันธุ์เนื้อ กินหรือขายได้คุ้มทุน
                    • ชุดผักข้างรั้ว สวนครัวในโรงเรียน
                    • และของขวัญอื่นๆอีกมากมาย

                    🎁 มอบของขวัญได้ที่  http://worldvision.or.th/5550.html

                    #GIFTbyWorldVision

                    หรือสำหรับท่านที่สนใจสนันสนุนน้องๆ ในด้านโภชนาการ มูลนิธิศุภนิมิตยังมีโครงการ “มื้อเช้าเพื่อน้องท้องอิ่ม” ให้คุณได้มอบความหวัง โอกาส อนาคตและความรัก ให้น้องๆได้ ผ่านการบริจาคเริ่มต้นเพียงมื้อละ 20 บาท

                    “เพราะอาหารเช้า ไม่ใช่แค่มื้ออาหาร”

                    คือ ความหวัง ของวันใหม่

                    คือ โอกาส ที่จะเรียนรู้

                    คือ อนาคต ที่จะได้เติบโต

                    คือ ความรัก ที่สัมผัสได้

                    ร่วมบริจาคได้ที่
                    • ผ่านบัตรเครดิต : https://www.worldvision.or.th/5551.html

                    • ผ่าน Mobile App โดยสแกนผ่าน QR code ด้านล่าง

                    มูลนิธิศุภนิมิต

                    หลังจากท่านร่วมแบ่งปันในทั้ง 2 โครงการแล้ว ยังสามารถส่งสลิปเพื่อขอรายละเอียดการลดหย่อนภาษีได้ที่ Line @worldvision-thai

                     

                     

                      นมกล่อง ยี่ห้อไหนดี

                      นมกล่อง ยี่ห้อไหนดี คุณแม่เลือก ไทย-เดนมาร์ค เป็นแบรนด์ นม UHT อันดับหนึ่งในดวงใจ

                      นมกล่อง ยี่ห้อไหนดี สำหรับลูกวัย 3 ขวบปีไว้กินเป็นอาหารเสริมในช่วงไปโรงเรียนหรือทำกิจกรรมนอกบ้าน นม UHT บรรจุกล่องเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกง่ายๆ พกพาได้สะดวก และที่สำคัญคือยังให้สารอาหารจำเป็นที่ร่างกายต้องการ คุณแม่ทั่วประเทศ ให้นมกล่อง ไทย-เดนมาร์ค เป็นแบรนด์นม UHT อันดับหนึ่งในดวงใจ และรับรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019 สาขา Mommy’s Choice

                      นมกล่อง ยี่ห้อไหนดี แม่ทั่วประเทศเลือกแล้ว ใช้ยี่ห้อนี้เป็นแบรนด์ในดวงใจ

                      Amarin Baby & Kids “เครือข่ายแม่ลูกใหญ่ที่สุด” ผู้นำด้านคอนเทนต์คุณภาพ เข้าใจครอบครัวไทย และตอบสนองความต้องการของคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ ไทย ทั้งรูปแบบ Online ผ่านเว็บไซต์ www.AmarinBabyAndKids.com และเฟซบุ๊คแฟนเพจที่มีเนื้อหาตรงใจ ทันสถานการณ์ โดยมียอดผู้ติดตามมากกว่า 1,000,000 Followers และรูปแบบ On print ผ่าน Bookazine ราย 2 เดือน รวมถึง รูปแบบ On ground งานแฟร์แม่ลูก Amarin Baby & Kids Fair ที่จัดมาแล้วถึง 15 ครั้ง

                      เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านเครือข่ายแม่ลูกอันดับ 1 ของประเทศที่เข้าใจคุณแม่ไทยมากที่สุด เว็บไซต์ Amarin Baby & Kids จึงได้จัด “Amarin Baby & Kids Awards 2019” ครั้งแรกในเมืองไทย เพื่อเฟ้นหาสุดยอดแบรนด์สินค้าแม่และเด็กในดวงใจ  จากคะแนนโหวตของคุณแม่ทั่วประเทศกว่า 10,000 คน ผ่าน www.AmarinBabyAndKids.com เว็บไซต์สื่อกลางข้อมูลคุณภาพจากแม่สู่แม่ Mom to Mom Sharing เพื่อเป็นประโยชน์แก่คุณแม่มือใหม่ที่กำลังมองหา “สินค้าใช้ดี ที่ได้รับการยืนยันจากคุณแม่ตัวจริงทั่วประเทศ”

                      และเพื่อให้สมกับรางวัลที่มาจากความคิดเห็นของแม่อย่างแท้จริง สำหรับแบรนด์สินค้าในสาขา Mommy’s Choice จึงเปิดโอกาสให้แม่ได้ร่วมโหวต  2  รอบ ได้แก่ “รอบเสนอชื่อแบรนด์ที่ชื่นชอบ” จากนั้นทีมงานได้ทำการเลือกแบรนด์ที่ถูกเสนอชื่อมากที่สุด มาจัด“รอบโหวตแบรนด์ในดวงใจ” อีกครั้งหนึ่ง

                      ทำไมแม่โหวตให้ ไทยเดนมาร์ก เป็นแบรนด์นม UHT ในดวงใจ

                      “ให้ลูกดื่มแล้วชอบมาก แถมไม่มีอาการแพ้ใดๆ ไม่ต้องกลัวท้องเสีย เป็นนมที่ต้องซื้อไว้ติดบ้านเลยค่ะ”

                      “เป็นนมวัวแท้ 100 % ไม่มีนมผงผสมเลย คุณภาพดี โปรตีนสูง แต่ราคาไม่แพงและหาซื้อสะดวกดีค่ะ”

                      “มั่นใจในแบรนด์ที่มีมานาน และเป็นผลิตภัณฑ์ของคนไทย กินได้ทั้งครอบครัวเลยค่ะ”

                      นม UHT ไทย-เดนมาร์ค เป็นผลิตภัณฑ์ขององค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระเจ้าเฟรดเดอริคที่ 9 แห่งประเทศเดนมาร์ค ได้ทรงประกอบพิธีเปิดฟาร์มโคนมและศูนย์ฝึกอบรมการเลี้ยงโคนมไทย-เดนมาร์คเมื่อปีพ.ศ. 2505 และหลังจากโอนย้ายมาอยู่ภายใต้สังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงจัดตั้งเป็นว่า “องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.)”  ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ไทย-เดนมาร์ค 4 กลุ่ม ได้แก่ นมโคสด UHT และพาสเจอร์ไรซ์  โยเกิร์ต นมเปรี้ยว ไอศกรีม นมโรงเรียน และน้ำดื่ม

                       

                      อ่านบทความ Amarin Baby & Kids Awards 2019 

                      ประกาศผลรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019 สุดยอดแบรนด์สินค้าแม่และเด็กในดวงใจ

                      ชมภาพบรรยากาศ งานมอบรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019

                       

                      เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                       

                        เตรียมอาหารเสริมให้ลูก

                        เตรียมอาหารเสริมให้ลูก ใช้อุปกรณ์อะไรบ้าง?

                        เมื่อลูกใกล้ถึงวัยเริ่มทานอาหารเสริมทารก สิ่งแรกที่แม่ ๆ จะต้องทำคือการเตรียมอุปกรณ์ในการ เตรียมอาหารเสริมให้ลูก เพื่อให้ลูกน้อยทานอาหารได้อย่างปลอดภัย อร่อย และไม่สำลัก

                        เตรียมอาหารเสริมให้ลูก ใช้อุปกรณ์อะไรบ้าง?

                        7 อุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการ เตรียมอาหารเสริมให้ลูก

                        1. อุปกรณ์ที่ใช้ในการนึ่ง ต้ม หรือตุ๋น

                        หลังจากล้าง ผัก ข้าว และเนื้อสัตว์ต่าง ๆ แล้ว (สำหรับขั้นตอนในการเลือกวัตถุดิบ และการปรุงอาหาร อ่านได้ที่นี่ค่ะ อาหารเสริมทารก เริ่มด้วยอาหารแบบไหน? ทานอย่างไร?) ให้นำข้าว ผัก และเนื้อสัตว์มาทำให้สุก โดยวิธีที่นิยมใช้คือการนึ่ง ต้ม หรือตุ๋น เนื่องจากกระบวนการเหล่านี้จะทำให้อาหารนิ่ม ง่ายต่อการบดและเคี้ยว นอกจากนี้ การนึ่งยังช่วยสงวนคุณค่าสารอาหารได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

                        • อุปกรณ์สำหรับนึ่ง มีให้เลือกซื้อได้ตั้งแต่ หม้อนึ่งที่ใช้ประกอบอาหารทั่วไป หม้อนึ่งไฟฟ้า และเครื่องนึ่งและปั่นอาหารสำหรับเด็กทารกในเครื่องเดียว ดังนี้
                        หม้อนึ่งอาหาร
                        หม้อนึ่งอาหาร
                        หม้อนึ่งไฟฟ้า
                        หม้อนึ่งไฟฟ้า
                        เครื่องนึ่งและปั่นอาหารเสริมเด็ก
                        เครื่องนึ่งและปั่นอาหารเสริมเด็ก
                        • หม้อต้ม และตุ๋น การปรุงอาหาร 2 แบบนี้ มีข้อดีในด้านการทำให้อาหารเปื่อย เคี้ยวได้ง่ายเป็นอย่างดี แต่ข้อเสียคือ ในขณะที่อาหารแช่อยู่ในน้ำ สารอาหารบางชนิด เช่น วิตามินซีจะละลายออกมาทำให้ สูญเสียคุณค่าสารอาหารได้
                        หม้อต้ม หรือตุ๋น
                        หม้อต้ม หรือตุ๋น

                        2. เครื่องปั่น หรือ ที่บดอาหาร

                        อุปกรณ์ที่จำเป็นอีกหนึ่งอย่างในการ เตรียมอาหารเสริมให้ลูก คือ อุปกรณ์ที่ใช้ในการทำให้อาหารมีเนื้อที่ละเอียดขึ้น เหมาะแก่การกลืนอาหารของทารกในแต่ละช่วงวัย โดยการบดอาหารนั้น คุณแม่จะต้องมั่นใจได้ว่าอาหารที่บดนั้นจะต้องละเอียดมากพอ และไม่ควรมีชิ้นส่วนที่ใหญ่เกินไปหลงเหลืออยู่ การใช้กระชอนในการบดอาหาร จึงเป็นที่นิยมกันมาก และเพื่อความสะดวกยิ่งขึ้น คุณแม่สามารถใช้เครื่องปั่นอาหาร เพื่อลดเวลาในการปรุงอาหารเสริมสำหรับเด็กได้อีกด้วย

                        กระชอนบดอาหาร
                        กระชอนบดอาหาร
                        เครื่องปั่นอาหาร
                        เครื่องปั่นอาหาร

                        3. ชุดจานเด็ก

                        แม่ ๆ สามารถใช้อุปกรณ์ทานอาหารทั่วไปในการป้อนอาหารเสริมให้ลูกได้ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ควรคำนึงถึงคือ อุปกรณ์เหล่านี้ต้องสะอาดเพียงพอ เพื่อป้องกันไม่ให้มีเชื้อโรคปนเปื้อนในอาหาร นอกจากนี้ ช้อน เป็นอุปกรณ์ที่คุณแม่ต้องเลือกให้ดี เพราะช้อนที่ใช้ป้อนอาหารจะต้องมีความนิ่มและมีขนาดที่พอดีกับปากของลูกน้อย ทั้งนี้ก็เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกเจ็บเหงือกจากการงับช้อนได้

                        การซื้อชุดจานสำหรับเด็กโดยเฉพาะ จะมีข้อดีคือขนาดของจาน ชาม ช้อน ส้อม ต่าง ๆ จะมีขนาดที่พอดีสำหรับลูกน้อย ในบางรุ่น จานที่ใส่อาหารจะมีที่สำหรับบดอาหารไปในตัว พร้อมแบ่งช่องสำหรับใส่น้ำเพื่อป้อนไปพร้อม ๆ กับอาหาร และในบางรุ่นจะสามารถนำชุดจานเด็กเข้าเครื่องนึ่งขวดนมได้อีกด้วย

                        ชุดจานเด็ก
                        ชุดจานเด็ก

                         

                        เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                        อ่านต่อ เตรียมอาหารเสริมให้ลูกใช้อุปกรณ์อะไรบ้าง?

                          เข้าอนุบาลกี่ขวบ

                          แม่อยากรู้ เข้าอนุบาลกี่ขวบ ส่งลูกเข้าเรียนต้องอายุ 3 หรือ 4 ขวบกันแน่?

                          คำถามที่แม่มือใหม่สงสัย ควรส่งลูก เข้าเรียนอนุบาลกี่ขวบ บางอนุบาลก็รับตอน 3 ขวบ บางโรงเรียนก็ว่าต้องมีเกณฑ์เข้าตอน 4 ขวบ ตกลงลูกต้องเข้าเรียนตอนกี่ขวบกันแน่?

                           “รมว.ศึกษาธิการสั่งเซ็ตซีโร่รับเด็กอนุบาลปี 2562 โดยย้ำเด็กอนุบาล 3 ขวบต้องให้ท้องถิ่นหรือโรงเรียนเอกชนดูแล ส่วนอนุบาลในสังกัดสพฐ. รับเด็กอนุบาล 4 ขวบ” ยกเว้นในพื้นที่นั้นไม่มีสถานศึกษาของสองหน่วยงานดังกล่าว โรงเรียนสังกัด สพฐ.สามารถดำเนินการรับเด็กอายุ 3 ขวบได้

                          นพ.ธีระเกียรติ รมว.ศึกษาธิการ ได้กล่าวถึงภาพรวมของเด็กอนุบาล 3 ขวบทั่วประเทศพบว่า ส่วนใหญ่ 3 ใน 4 ไปเรียนกับสถานศึกษาสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และ 1 ใน 4 ได้เข้าเรียนกับโรงเรียนเอกชน  ทั้งนี้ ขณะนี้มีข้อสรุปชัดเจนโดยให้เริ่มกระบวนการรับเด็กอนุบาลใหม่ทั้งหมด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการแย่งรับนักเรียน ซึ่งพ่อแม่ผู้ปกครองมีสิทธิจะเลือกในกรณีที่โรงเรียนสังกัด สพฐ.รับเพราะพื้นที่ไม่มีบริการอะไรเลยทุกคนเห็นด้วย ขณะเดียวกัน นพ.ธีระเกียรติ ได้สั่งการให้ สพฐ.ไปเปลี่ยนการเรียกชั้นอนุบาล เพราะสพฐ. รับอนุบาล 4 ขวบ ก็ควรจะเปลี่ยนเป็นอนุบาล 2 อนุบาล 3 

                          (ข้อมูลอัพเดทเมื่อวันที่ 1 มี.ค 2562 จาก นสพ. แนวหน้า )

                          ซึ่งหมายความว่า เด็กที่อยู่ในวัย 3 ขวบทุกคน ก็ยังสามารถเริ่มต้นเข้าเรียนอนุบาล 1 ได้เหมือนเดิม เพียงแต่จะให้เข้าเรียนในโรงเรียนในสังกัดขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) และสถานศึกษาเอกชน (สช.) เพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนในการรับนักเรียน และเมื่ออายุครบ 4 และ 5 ขวบแล้ว ก็สามารถสมัครเข้าเรียนในโรงเรียนสังกัด สพฐ. (หรือโรงเรียนรัฐบาล) ในชั้นอนุบาล 2 และ 3 ได้นั่นเองค่ะ

                          เข้าอนุบาลกี่ขวบ อายุเท่าไหร่จึงเหมาะสมที่จะให้ลูกเข้าเรียนอนุบาลมากที่สุด

                          เข้าอนุบาลกี่ขวบกันแน่

                          จะเห็นได้ว่า โดยทั่วไปแล้วอายุที่เหมาะสมในการเริ่มต้นเข้าโรงเรียนของเด็ก ไม่ว่าจะอยู่ที่ท้องถิ่นหรือโรงเรียนเอกชน รวมทั้งโรงเรียนสังกัด สพฐ. จะเริ่มต้นที่ประมาณ 3-4 ขวบ เนื่องจากในช่วงวัยนี้เจ้าตัวน้อยเริ่มมีความคิดของตัวเองได้ดีขึ้น และมีความพร้อมสำหรับพัฒนาการด้านต่าง ๆ เพิ่มขึ้น อาทิเช่น ทางด้านร่างกาย ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อมือมัดเล็กใหญ่ที่พร้อมจะหยิบจับขยับเคลื่อนไหว ประสาทสัมผัสต่างๆ การใช้สายตาในการมองแยกแยะ พัฒนาการด้านภาษาและสติปัญญาที่สามารถการสื่อสารโต้ตอบบอกและแสดงความต้องการ ช่วยเหลือตัวเองได้บ้าง และการเริ่มเข้าสังคมกับเพื่อนใหม่

                          บทความแนะนำ : สิ่งที่พ่อแม่อยากรู้ พัฒนาการ เด็ก 3 ขวบ ลูกควรทำอะไรเองได้บ้าง

                          เช็กลิสต์ ลูกพร้อมเข้าโรงเรียนอนุบาลแล้วหรือยัง?

                          • ร่างกายมีความพร้อมก่อนเข้าโรงเรียน ในช่วงแรก ๆ ของการไปโรงเรียน เด็กจะมีโอกาสป่วยหลายครั้งหลังเข้าโรงเรียน แม้จะเป็นเด็กที่ร่างกายแข็งแรง ไม่ค่อยได้เจ็บป่วยก็ตาม ถือเป็นเรื่องปกติของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายเด็กเล็ก หลังผ่านเวลาระยะหนึ่งร่างกายก็จะสร้างภูมิคุ้มกันและจะทำให้ป่วยน้อยลง แต่ถ้าเด็กที่ไม่สบายเจ็บป่วยบ่อย ๆ ก็ควรรอให้ถึงอายุ 3 ขวบที่ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายพัฒนาอย่างสมบูรณ์ ไม่ควรส่งลูกเข้าอนุบาลก่อน 3 ขวบ เพื่อที่จะช่วยลดอาการรุนแรงจากการป่วยน้อยลง

                          เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                           

                          อ่านต่อ เช็กลิสต์ ลูกพร้อมเข้าโรงเรียนอนุบาลแล้วหรือยัง คลิกหน้า 2

                            พาลูกเที่ยว ระยอง

                            พาลูกเที่ยว ระยอง เจาะ 9 แหล่งเรียนรู้ น่าลองพาลูกไปสักครั้ง

                            ถ้าพูดถึง “ทะเล” จังหวัดระยองก็คงเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่คุณพ่อคุณแม่จะนึกถึงในวันหยุดสุดสัปดาห์ที่  พาลูกเที่ยว ระยอง ขับรถชิล ๆ แค่ 3 ชั่วโมง นอกจากได้ไปเล่นน้ำทะเลแล้ว ระยองถือเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีของดีเต็มไปด้วยที่สถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ทริปนี้ทีมแม่ ABK จะพาไปเจาะแหล่งท่องเที่ยวและแหล่งเรียนรู้ของเจ้าตัวเล็กที่ไม่ใช่มีแค่ทะเลมาฝากกันค่า

                            พาลูกเที่ยว ระยอง เจาะ 9 แหล่งเรียนรู้น่าพาลูกไปสักครั้ง

                            1.Rayong Aquarium

                            พาเจ้าตัวเล็กมาสำรวจโลกใต้ทะเล ที่ Rayong Aquariumสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำระยองกันค่ะ แหล่งเรียนรู้ที่รวบรวมพันธุ์สัตว์ทะเลมีชีวิต ทั้งปลาทะเลสวยงาม ปลาหน้าตาแปลกและสัตว์ทะเลหายาก ที่มีให้ชมอย่างมากมายหลากหลายชนิด โดยแบ่งการจัดแสดงออกเป็น 3 ส่วน

                            ส่วนแรก จัดแสดงพันธุ์สัตว์น้ำมีชีวิต โดยรวบรวมและจัดแสดงพันธุ์ปลาสวยงาม เช่น ปลาการ์ตูน ปลาผีเสื้อ ปลานกแก้ว ปลานกขุนทอง  ม้าน้ำ และกุ้งมังกร เป็นต้น ปลาเศรษฐกิจ เช่น ปลากะรังดอกดำ กั้งกระดาน เป็นต้น สัตว์ทะเลมีพิษหรือสัตว์ทะเลที่เป็นอันตราย เช่น เม่นทะเล ปลาสิงโต ปลากะรังหัวโขน ปลากะเบนจุดฟ้า ฯลฯ ไฮไลท์ของโซนนี้คือ ทางเดินลอดอุโมงค์แก้วความยาว 10 เมตร ให้เด็ก ๆ สัมผัสชีวิตใต้ทะเลอย่างใกล้ชิด จนรู้สึกเสมือนอยู่ในโลกใต้ทะเลที่มีปลาขนาดเล็กใหญ่มากมายลอยอยู่เหนือศีรษะ อาทิ ปลากะเบนนก ปลากะรังหลากหลายชนิด ปลาโมงตาโต ปลาหูช้าง ปลากะพงแดง ปลาพยาบาล เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีบ่อขนาดใหญ่ที่จัดแสดงระบบนิเวศใต้ท้องทะเล มีปลาทะเลขนาดใหญ่ อาทิ ปลาหมอทะเล ปลากระเบน ปลาโฉมงาม ปลาฉลามหูดำ ปลากะพง และปะกะรังชนิดต่างๆ สัตว์น้ำที่หายาก รวมถึงบ่อเต่าทะเล สำหรับจัดแสดงพันธุ์เต่าทะเล ได้แก่ เต่ากระ และเต่าตนุ พันธุ์ปลาทะเลขนาดเล็ก ได้แก่ ปลากระบอก ปลาสลิดหิน ปลากะพงเหลืองขมิ้น และปลาสลิดทะเล เป็นต้น

                            ส่วนที่สอง จัดแสดงนิทรรศการ โดยแสดงโครงการฟื้นฟูทรัพยากรชายฝั่งทะเล ชีวประวัติสัตว์ทะเลที่เลี้ยงลูกด้วยนม นิทรรศการจัดแสดงวิวัฒนาการของเรือประมง อาชีพการทำประมง และเครื่องมือประมง จำลองนิเวศน์ป่าชายเลน

                            ส่วนที่สาม จัดแสดงพิพิธภัณฑ์เปลือกหอย ซึ่งจำแนกเปลือกหอยชนิดต่าง ๆ อย่างถูกต้อง จำนวน 150 ชนิด เช่น ปะการัง หอยทะเล เป็นต้น

                            ถือว่าเป็นอีกแหล่งเรียนรู้ที่น่าสนใจที่จะพาเด็ก ๆ มาดูเพื่อเปิดโลกทัศน์ใหม่ ๆ ให้กับลูกได้อีกที่กันเลยค่ะ

                            2.สตรอเบอรี่ ทาวน์

                            สตรอเบอรี่ ทาวน์ 
                            สตรอเบอรี่ ทาวน์ Credit photo www.brookside.co.th

                            สตรอเบอรี่ ทาวน์ (Strawberry Town) ดินแดนแห่งสีสันสวย ๆ ที่จำลองสถาปัตยกรรมเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นสไตล์ตะวันตก เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ดึงดูดใจด้วยสตรอว์เบอร์รีสีแดงขนาดใหญ่ยักษ์ หรือ Prince of Strawberry ที่เป็นไฮไลท์ตั้งโดดเด่นอยู่ริมสระน้ำ และกังหันลม อีกหนึ่งสัญลักษณ์ที่บ่งบอกความเป็นเมือง จำลองที่สร้างขึ้นมาในคอนเซ็ปต์ของประเทศเนเธอร์แลนด์ ตัวอาคารที่มีสีสันโดดเด่นสวยงาม มีสวนดอกไม้สวย ๆ และมุมถ่ายรูปสวย ๆ ให้แชะเก็บภาพประทับใจได้เพียบ นอกจากนี้ภายใน สตรอว์เบอร์รี ทาวน์ ยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย เช่น โซน Adventure Land สนุกกับเครื่องเล่นมันส์ ๆ (ปีน ป่าย ไต่ โหน), ให้อาหารน้องแกะในโซน อังเคิลแซมฟาร์ และมีร้านอาหาร, ร้านสเต็ก, ร้านกาแฟ ร้านขายของที่ระลึก เรียกมาพากันมาที่นี่ได้ความสุขจบครบในที่เดียวเลยค่า

                            3.ทุ่งโปรงทอง 

                            ทุ่งโปรงทอง
                            ทุ่งโปรงทอง Credit photo www.thailandtourismdirectory.go.th

                            ทุ่งโปรงทอง คือบริเวณป่าชายเลนริมปากแม่น้ำประแส บริเวณพื้นที่กว่า 6,000 ไร่นี้เต็มไปด้วยต้นโปรงสีเขียวปนเหลืองทองอร่าม ที่ขึ้นเรียงรายกันนับพันนับหมื่นต้นมองไปได้ไกลสุดลูกหูลูกตา สวยงามมาก ๆ ที่นี่เป็นพื้นที่ป่าชายเลนผืนที่ใหญ่และเต็มไปด้วยความสมบูรณ์ที่สุดของ จ.ระยอง และพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และศึกษาเรียนรู้ โดยสร้างสะพานเดินศึกษาธรรมชาติเป็นระยะทางประมาณ 2.6 กิโลเมตร ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ให้ความรู้ สร้างความเข้าใจในเรื่องระบบนิเวศน์ของป่าชายเลน ตลอดสองข้างทางเต็มไปด้วยพืชพันธุ์หลากหลายชนิดทั้งต้นแสม ตะบูนดำ ลำพูน โกงกาง โปรงแดง โปรงทอง ที่ทำให้ได้สัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิด เป็นที่อยู่อาศัย แหล่งหลบภัย และเป็นแหล่งอนุบาลของสัตว์น้ำที่ชอบอาศัยอยู่ในบริเวณป่าชายเลน เช่น กุ้ง หอย ปูแสม ปูก้ามดาบ ปลาตีน เป็นต้น

                            ไฮไลท์เด็ดคือตรงจุดชมวิวกลางทุ่งต้นโปรงที่สามารถชมวิวของทุ่งโปรงทองในมุมสูงได้แบบพาโนราม่า 360 องศา เห็นวิวความสวยได้รอบทิศทางเสมือนถูกโอบด้วยทุ่งสีเหลืองทองอยู่โดยรอบ เป็นภาพที่สร้างความตื่นตาและประทับใจมาก ๆ กับความที่ธรรมชาติสร้างขึ้นเอง ช่วงเวลาที่เหมาะจะพาเจ้าตัวเล็กมาเดินชม คือ ช่วงเช้าและช่วงบ่ายแก่ ๆ ที่นอกจากบรรยากาศไม่ร้อนมาก และเป็นช่วงเวลาที่แสงแดดมาส่องกระทบใบโปรงทองเป็น สีเหลืองอร่าม จะได้ไม่พลาดชมความงามของธรรมชาติเมื่อได้มาเที่ยวกันนะคะ

                            Note: บริเวณเส้นทางศึกษาธรรมชาติทุ่งโปรงทองไม่อนุญาตให้นำอาหารและเครื่องดื่มเข้าไป เพราะฉะนั้นควรเตรียมตัวเด็ก ๆ ให้เรียบร้อยก่อนที่จะเดินเข้าไปเที่ยวชมนะคะ

                            4.พิพิธภัณฑ์บ้านครูกัง

                            พิพิธภัณฑ์บ้านครูกัง  ถือเป็นแหล่งเรียนรู้ที่ได้รวบรวมของสะสม ของเล่น ข้าวของเครื่องใช้โบราณไว้มากมาย “ครูกัง” ผู้เป็นเจ้าของพิพิธภัณฑ์ซึ่งใช้เวลาสะสมของเก่านานกว่า 40 ปีได้เปิดบ้านบนเนื้อที่เกือบ 2 ไร่ สร้างเป็นพิพิธภัณฑ์เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปศึกษา เรียนรู้ข้อมูลต่างร่วมไปกับการอนุรักษ์ของเก่าที่หาชมได้ยากในปัจจุบัน ด้วยเหตุผลที่ว่า “ครูไม่อยากเก็บไว้ดูคนเดียว”

                            ภายในพิพิธภัณฑ์มีถึง 2 ชั้นด้วยกัน ได้แบ่งโซนตามคอนเซปต์ที่แตกต่างกันไป ตกแต่งได้อย่างเป็นสัดส่วน เช่น ร้านตัดผม ร้านตัดเสื้อ ร้านทอง โรงภาพยนตร์ ร้านถ่ายภาพ ร้านกาแฟ มีโซนจัดแสดงรถเก่าแบบคลาสสิกหาดูยากทั้งขนาดเล็ก-ใหญ่ นอกจากนี้ยังมีเครื่องดนตรีโบราณ ของเล่นหายาก ธนบัตรรุ่นเก่า หนังสือ เครื่องใช้ไม้สอยอายุหลายสิบปี และอื่น ๆ อีกมากมาย เรียกว่ามาที่นี่เหมือนพากันมาเจาะเวลาหาอดีตที่ชวนตื่นตาตื่นใจ ได้สนุกสนานไปกับการถ่ายรูปมุมต่าง ๆ ได้ชมของสะสมที่บางอย่างก็อาจจะไม่เคยเห็น เพลิดเพลินทั้งครอบครัวกันเลยค่า

                             

                            เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                             

                            อ่านต่อ 9 แหล่งเรียนรู้ในระยองน่าลองพาลูกไปสักครั้ง คลิกหน้า 2

                              แชมพูเด็ก

                              แชมพูเด็ก ยี่ห้อไหนดี คุณแม่เลือก เบบี้มายด์ เป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในดวงใจ

                              แชมพูเด็ก ยี่ห้อไหนดี ใช้แล้วผมลูกหอม พลิ้วสลวย ไม่ติดเป็นก้อน ที่สำคัญต้องไม่ระคายเคือง คุณแม่ทั่วประเทศ ให้ เบบี้มายด์ (Babi Mild) เป็นแบรนด์สบู่เหลวอันดับหนึ่งในดวงใจ และรับรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019 สาขา Mommy’s Choice

                              แชมพูเด็ก ยี่ห้อไหนดี แม่ทั่วประเทศเลือกแล้ว ใช้ยี่ห้อนี้เป็นแบรนด์ในดวงใจ

                              Amarin Baby & Kids “เครือข่ายแม่ลูกใหญ่ที่สุด” ผู้นำด้านคอนเทนต์คุณภาพ เข้าใจครอบครัวไทย และตอบสนองความต้องการของคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ ไทย ทั้งรูปแบบ Online ผ่านเว็บไซต์ www.AmarinBabyAndKids.com และเฟซบุ๊คแฟนเพจที่มีเนื้อหาตรงใจ ทันสถานการณ์ โดยมียอดผู้ติดตามมากกว่า 1,000,000 Followers และรูปแบบ On print ผ่าน Bookazine ราย 2 เดือน รวมถึง รูปแบบ On ground งานแฟร์แม่ลูก Amarin Baby & Kids Fair ที่จัดมาแล้วถึง 15 ครั้ง

                              เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านเครือข่ายแม่ลูกอันดับ 1 ของประเทศที่เข้าใจคุณแม่ไทยมากที่สุด เว็บไซต์ Amarin Baby & Kids จึงได้จัด “Amarin Baby & Kids Awards 2019” ครั้งแรกในเมืองไทย เพื่อเฟ้นหาสุดยอดแบรนด์สินค้าแม่และเด็กในดวงใจ  จากคะแนนโหวตของคุณแม่ทั่วประเทศกว่า 10,000 คน ผ่าน www.AmarinBabyAndKids.com เว็บไซต์สื่อกลางข้อมูลคุณภาพจากแม่สู่แม่ Mom to Mom Sharing เพื่อเป็นประโยชน์แก่คุณแม่มือใหม่ที่กำลังมองหา “สินค้าใช้ดี ที่ได้รับการยืนยันจากคุณแม่ตัวจริงทั่วประเทศ”

                              และเพื่อให้สมกับรางวัลที่มาจากความคิดเห็นของแม่อย่างแท้จริง สำหรับแบรนด์สินค้าในสาขา Mommy’s Choice จึงเปิดโอกาสให้แม่ได้ร่วมโหวต  2  รอบ ได้แก่ “รอบเสนอชื่อแบรนด์ที่ชื่นชอบ” จากนั้นทีมงานได้ทำการเลือกแบรนด์ที่ถูกเสนอชื่อมากที่สุด มาจัด“รอบโหวตแบรนด์ในดวงใจ” อีกครั้งหนึ่ง

                              ทำไมแม่โหวตให้ เบบี้มายด์ เป็นแบรนด์แชมพูเด็กในดวงใจ

                              “ชอบตรงกลิ่นหอมอ่อนๆ สระแล้วผมลูกสะอาดมากค่ะ ผมยาวแค่ไหนก็ไม่กันค่ะ”

                              “ปกติจะให้ลูกสระผมพร้อมอาบน้ำเลย สังเกตว่าล้างออกง่าย และไม่มีฟองลื่นติดตัว”

                              “สูตรอ่อนโยนเหมาะกับทารกด้วยค่ะ ใช้แล้วไม่แพ้เลย สบายใจมากค่ะ”

                              ผลิตภัณฑ์แบรนด์ เบบี้มายด์เป็นหนึ่งในแบรนด์สินค้าดูแลผิวสำหรับเด็กในหลายกลุ่มได้แก่ สบู่เหลว แชมพู โลชั่น  แป้งเด็ก น้ำยาซักผ้าและปรับผ้านุ่มเด็ก และน้ำยาล้างขวดนม เป็นต้น โดยเน้นส่วนผสมที่บริสุทธิ์และอ่อนโยนจากธรรมชาติซึ่งผ่านมาตรฐานทดสอบว่าไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองผิว จนเป็นที่ไว้วางใจของคุณแม่คนไทยมายาวนานกว่า 21 ปี

                              อ่านบทความ Amarin Baby & Kids Awards 2019 

                              ประกาศผลรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019 สุดยอดแบรนด์สินค้าแม่และเด็กในดวงใจ

                              ชมภาพบรรยากาศ งานมอบรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019

                              สบู่เหลวเด็ก ยี่ห้อไหนดี คุณแม่เลือก เบบี้มายด์ เป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในดวงใจ

                               

                              เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                               

                                Tags

                                ละมุน เบบี้ ก้าวสู่ปีที่ 10

                                ละมุน เบบี้ ก้าวสู่ปีที่ 10 ผู้นำตลาดผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคสำหรับแม่และเด็ก

                                ละมุน เบบี้ ก้าวสู่ปีที่ 10 …เชื่อว่าถ้าพูดถึงละมุน เบบี้ คุณแม่ลูกเล็กต้องรู้จักกันเป็นอย่างดีแน่นอน และด้วยคุณภาพที่ดีเยี่ยม และมีประเภทผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ครอบคลุมตอบโจทย์การใช้ได้ทั้งคุณแม่ ลูกน้อย จึงทำให้ผลิตภัณฑ์สำหรับแม่และเด็ก ละมุน เบบี้ เป็นสินค้าออร์แกนิคในดวงใจยอดนิยมของคุณแม่ที่มีการแนะนำบอกต่อจากคุณแม่ผู้ใช้ละมุน เบบี้จริง สู่คุณแม่ท่านอื่นๆ มาจนถึงปัจจุบันนี้

                                ละมุน เบบี้ ก้าวสู่ปีที่ 10

                                ละมุน เบบี้ รักษาตำแหน่งผู้นำตลาดผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคสำหรับแม่และเด็ก โตถึง 34% จาก 3 สินค้าขายดี โฟมอาบน้ำ น้ำยาซักผ้า น้ำยาล้างขวดนม ปรับกลยุทธ์รุกตลาด Modern Trade  เพิ่ม Distribution ให้เข้าถึงคุณแม่ยุคใหม่มากขึ้น ปฎิวัติวงการเปิดตัวถุงเก็บน้ำนมลดกลิ่นหืนเอาใจแม่สายปั้ม ผลตอบรับดีมาก โกยส่วนแบ่งการตลาด สวนกระแสภาวะเศรษฐกิจ

                                ละมุน เบบี้ ก้าวสู่ปีที่ 10 อย่างมั่นคง ทุบสถิติมูลค่าการตลาด 130 ล้านบาทในปีนี้ตามคาด จากการเพิ่มช่องทางจัดจำหน่ายในซุปเปอร์มาร์เก็ต ลุยต่อเนื่องก้าวกระโดดมั่นใจรายได้ ถึง200 ล้านบาท ในปี 2020 จากการที่มี R&D และ Supply Chain ที่มีความพร้อมสูง  เตรียมนำเสนอสินค้าใหม่อีก 2 รายการในปี 2020 คือ Spray กันยุงและยาสีฟันสูตร Non Fluoride สำหรับเด็กโต มั่นใจพ่อแม่ยุคใหม่หาข้อมูลตามเทรนด์โลก

                                ละมุน เบบี้ ก้าวสู่ปีที่ 10

                                คุณเนตรนพิศ  รุ่งธนเกียรติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ละมุนเบบี้ จำกัด กล่าวถึงกระแสผลิตภัณฑ์ออร์แกนิค ว่าละมุนมั่นใจด้วยความเป็น Brand แรกๆ ของไทยที่เข้ามาเปิดตลาด Organic อย่างจริงจังตั้งแต่ยังไม่เป็นกระแส พร้อมยืนยันจุดแข็งที่ใช้เฉพาะส่วนผสมจากสารสกัดจากธรรมชาติ 100% เท่านั้น ไม่กลัวแบรนด์ใหญ่หรือแบรนด์ใหม่ๆกระโดดลงมาเล่นตลาดนี้  เพราะเชื่อว่าเป็นเราคือ Number one จากการวางมาตรฐานความเป็นออร์แกนิคของละมุน ไว้ว่าผลิตภัณฑ์ต้องมีแหล่งต้นกำเนิดจากธรรมชาติในทุกส่วนผสม รวมถึงวัตถุดิบที่ใช้ต้องมีใบรับรองและผ่านการทดสอบคุณภาพว่าไม่ก่อให้เกิดอาการระคายเคือง  ไม่มีน้ำหอม และสารเคมี  กว่า 10 ปีที่บุกเบิกเข้ามาในตลาดนี้ จับกลุ่มแม่ในเมืองที่มีลูกน้อยลงแต่กำลังการจ่ายสูงจนละมุน ไม่กลัวคู่แข็งเพราะคิดว่าเป็นการส่งเสริมตลาดให้ผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้นและยิ่งสร้างกระแสสินค้าOrganic ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง และทำให้เราต้องยิ่งรักษาคุณภาพเร่งพัฒนาสินค้าไกลจากแบรนด์อื่นๆ  ส่งผลให้ละมุนเติบโตต่อเนื่อง โดย 2-3  ปีให้หลังมานี่  หากเทียบกับตลาดรวมสินค้าเด็กที่มีมูลค่ากว่า 5,800 ล้านบาท ติดลบที่  -1.1% แบรนด์ “ละมุน ” สามารถเติบโตมากกว่าตลาดรวม อยู่ที่ 34 %

                                คุณเนตรนพิศ กล่าวต่ออีกว่า “ปัจจุบันสินค้าของละมุน เบบี้ Focus เป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆ ได้แก่

                                ละมุน เบบี้ ก้าวสู่ปีที่ 10

                                1. สินค้าหลักขายดีตลอดกาล All-time Best Sellerไม่ใช่แค่Must Try แต่ละมุนมั่นใจว่าเป็น Must Have Item ที่แม่ทุกคนต้องใช้ คือ โฟมอาบน้ำสระผม น้ำยาล้างขวดนม น้ำยาซักผ้า เป็นสินค้าที่ขายดีสูงสุดตลอดการเป็นสินค้าที่ทำให้แม่ละมุนรู้จักเรามากที่สุดด้วยคุณภาพสินค้าที่แตกต่างอย่างชัดเจนกับผลิตภัณฑ์อื่นที่มีอยู่ในท้องตลาด ทำให้เมื่อได้ลองใช้แล้วเกิดความประทับใจ กลับมาซื้อซ้ำ รวมถึงเกิดการบอกต่อในวงกว้าง หรือเอาไปรีวิวต่อทำให้ยอดขายสินค้ากลุ่มนี้โตขึ้น100% นอกจานี้เรามีการนำสินค้าขายดีมาทำ Welcome Baby Set ออกมาสำหรับคุณแม่มือใหม่โดยเฉพาะ นอกจากกลุ่มคุณแม่ที่ซื้อไปใช้เองแล้ว ก็ยังรวมถึงลูกค้าอีกกลุ่มที่ไม่ได้มีลูกแต่นิยมซื้อไปเยี่ยมแม่ลูกอ่อนตามโรงพยาบาล ทั้งหมดนี้เมื่อคุณแม่มือใหม่ท้องแรกได้ลองซื้อ Set นี้ก็ต้องกลับมาซื้อซ้ำ หรือพอคลอดลูกไปแล้วเจอปัญหาผดผื่นซึ่งเป็นปัญหาที่เกือบทุกบ้านเจอ เพราะเด็กแพ้สารเคมีลองเปลี่ยนมาใช้ละมุนเป็นทางเลือกก่อนต้องพาไปหาหมอ เพราะบางครั้งอาจแพ้อาหารหรือปัจจัยอื่นๆอันนั้นต้องให้คุณหมอดูแลแต่ถ้าเปลี่ยนน้ำยาซักผ้า หรือโฟมอาบน้ำแล้วจบแม่ก็สบายใจลูกก็Happy

                                ละมุน เบบี้ ก้าวสู่ปีที่ 10

                                2. Strong Growth สินค้าที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง อาทิ สเปรย์ทำความสะอาดของใช้เด็ก ยาสีฟันที่ไม่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ใช้ได้ตั้งแต่อายุ 6 เดือน  แป้งเด็กที่ไม่มีส่วนผสมของ Talcum  น้ำยาล้างผักและผลไม้ ที่ตอบรับNature and Hygienic trend ของโลกตอนนี้  หรือแผ่นแปะกันยุงที่เราเพิ่งได้รางวัล Mom Choice’s Award มาเมื่อเดือนที่ผ่านมาจากการโหวตของคุณแม่ สินค้ากลุ่มนี้แม้จะไม่ได้มีสัดส่วนการขายที่สูงมากแต่มีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง สูงมากเป็นสินค้าที่มีอนาคตในการเพิ่ม Basket Size ของครอบครัวและคนรักสุขภาพ

                                ละมุน เบบี้ ก้าวสู่ปีที่ 10

                                3. Rising Star สินค้าดาวรุ่ง มาแรงผลิตภัณฑ์สำหรับคุณแม่ให้นม ของMum ต้องมี โดยมีดาวเด่นได้แก่ถุงเก็บน้ำนมที่มีจุดขายโดดเด่น ตอบโจทย์ทุกความต้องการของแม่ให้นม แตกต่างจากสินค้าที่มีอยู่ตามท้องตลาดอย่างชัดเจน ซึ่งละมุนได้จับเทรนด์ “การเลี้ยงลูกให้นมแม่” มานานแล้ว เป็น Global Trend สินค้าขาดตลาดตั้งแต่เดือนแรก หลังจากเปิดตัวได้เพียง 15 วัน โดยตัวถุงเก็บน้ำนมนี้ต่อยอดมาจากที่ประคบหน้าอก บาล์มทาหัวนมและริมฝีปาก ผ้าคลุมให้นมลูก และกระเป๋าเก็บอุณหภูมิ ละมุนเก็บเกี่ยวประสบการณ์ความเป็นแม่ ตอบโจทย์แม่ยุคใหม่ เพราะนมแม่คือ Organic Love บริสุทธิ์ที่สุด สร้างภูมิคุ้มกัน เป็นอาหารที่มีคุณค่าทางกายและเสริมสายใยความรักแม่ลูกได้อย่างเปี่ยมล้น การที่เราจับเทรนด์นี้และผลิตออกมา แรกก็เกิดสินค้าขาดตลาดเกือบเดือน สร้างปรากฎการณ์ Happy Crisis Management จนต้องทำขนาด 5 ออนซ์ และแบบ 3 in 1 เพื่อเอาใจคุณแม่กลุ่มนี้โดยเฉพาะ ซ้ำยังสร้างความฮือฮาด้วยการออกถุงเก็บน้ำนมLimited Edition เป็น Festive Holiday Design เพื่อเป็นกำลังใจให้คุณแม่มีความสุขกับการปั้มนมในทุกๆวัน

                                นอกจากนี้จะสังเกตได้จากเวลาออกงานอย่างงาน Baby Fair ต่างๆ ทุกครั้งยอดขายเพิ่มขึ้นทุกครั้งลูกค้าใหม่เค้ามาเฉลี่ยครั้งละ 3,000-5,000 คน ยอดขายเฉลี่ยต่อบิลล์อยู่ที่ 2,000 บาท โดยลูกค้าประจำหรือแม่ใหม่ซื้อยกเซ็ท มักซื้อบิลล์ใหญ่ครั้งละไม่ต่ำว่าหมื่นบาท  หลายคนมาเพราะเพื่อนที่มีลูกมากก่อนแนะนำมว่าต้องละมุนเท่านั้น รวมถึงลูกค้าต่างชาติ ที่อยู่เมืองไทยหาข้อมูลพูดคุยตลอดเวลาว่าต้อง ละมุน เบบี้ เท่านั้น  เราเริ่มต้นจากการทำธุรกิจจากแม่ที่ต้องการแก้ปัญหาผดผื่นคัน จนลองมาทำขายแล้วเกิดกระแสบอกต่อ ดาราเซเลปและลูกค้ารีวิวให้เองเพราะความเชื่อมั่นในแบรนด์ที่มีมาอย่างยาวนานและคุณภาพของสินค้าที่แตกต่าง ตอกย้ำความสำเร็จด้วยรางวัลมหาชนจาก ETDA* และ Sticker กันยุงที่ คุณแม่ Vote มาทาง Amarin Baby & Kids  ละมุนเบบี้มีจำหน่ายในแผนกเด็กที่ห้างสรรสินค้าเซ็นทรัล โรบินสัน เดอะมอลล์  แต่ช่องทางที่นิยมสั่งสินค้ามากที่สุดก็คือออนไลน์เพราะต้องการความสะดวกและรวดเร็วทั้งจาก  www.lamoonbaby.com  Facebookและ Line@ Lamoonbaby  Lazada Shopee  แต่ละมุนก็ขยายDistribution ให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่มากยิ่งขึ้นผ่านSupermarket ชั้นนำ อาทิ Tops Gourmet Big C Villa รวมถึงร้านขายยาBoots ที่และ Kingpower  ที่ตอบโจทย์ลูกค้าต่างชาติหรือชาวจีนที่นิยมสินค้าเด็กจากไทยและญี่ปุ่น ปีนี้มีสัดส่วนการขายในModern trade และตัวแทน 50% และอีก 50% ผ่านช่องทางออนไลน์และงานFair ต่างๆ

                                ละมุน เบบี้ ก้าวสู่ปีที่ 10

                                คุณเนตรนพิศ  รุ่งธนเกียรติ ยังกล่าวถึงการทำตลาดในต่างประเทศ ปัจจุบันได้ส่งออกผลิตภัณฑ์ผ่านตัวแทนจำหน่ายไปประมาณ 8 ประเทศ ได้แก่ เวียดนาม ลาว กัมพูชา สิงค์โปร มาเลเซีย จีน  ตอนนี้ต่างประเทศตอนนี้มีส่วนแบ่งอยู่ที่ 20% เทียบกับในประเทศ แต่เนื่องจากปีหน้าเราจะเข้าจีนแบบเต็มตัวซึ่งถือเป็นตลาดใหญ่และมีศักยภาพค่อนข้างสูง คาดว่าจะช่วยผลักดันรายได้จากการส่งออกในปีหน้าเพิ่มขึ้น 300 % และแผนที่จะเข้าไปเล่นตลาดจีน อินโดนีเซีย ฟิลิปินส์ รวมถึงกลุ่มอาหรับและตะวันออกกลางอย่างเต็มตัว  สำหรับปี 2020 ทำให้บริษัทตั้งเป้ารายได้การเติบโตไว้ประมาณ 54 % และตั้งเป้าผลักดันรายได้รวมเพิ่มเป็นปีละ 200 ล้านบาทโดยหัวใจหลักจะมาจากการพัฒนาสินค้านวัตกรรมใหม่ให้ครอบคลุมทุกกลุ่มสินค้ามากขึ้นและการทำการตลาดที่เข้าถึงคุณแม่ตั้งแต่เตรียมพร้อมการตั้งครรภ์ และขยายอายุให้ใช้ต่อเนื่องนานขึ้นจนลูกโต ทั้งนี้เรายังเป็นแบรนด์ที่ใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมทั้งการออกผลิตภัณฑ์ในรูปแบบ refill เพื่อลดปริมาณขยะและพัฒนาแพคเกจจิ้งให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อการเติบโตของลูกและเพื่อความยั่งยืนของโลก

                                หมายเหตุ

                                *สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.); Electronic Transactions Development Agency หรือ ETDA

                                  เจลแต้มสิว

                                  รีวิว เจลแต้มสิว หน้าใสไร้สิวด้วยธรรมชาติ แม่ให้นมบุตรใช้ได้ปลอดภัย

                                  เจลแต้มสิว มีให้เลือกใช้มากมาย คำถามคือแล้วแบบไหนละที่ปลอดภัยไร้สารอันตรายต่อแม่ตั้งครรภ์และให้นมบุตร มีคุณแม่ๆ ถามมามากว่าอยากให้ช่วยแนะนำผลิตภัณฑ์ดูแลรักษาสิวที่ผิวหน้าให้หน่อย คือถ้าพูดกันตามจริงเราก็กังวลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์รักษาสิวอยู่มากพอสมควร ยิ่งถ้าแนะนำให้แม่ท้องหรือแม่ที่ให้นมบุตรนี้ยิ่งต้องเลือกให้ปลอดภัยมากที่สุด

                                  หลังจากตามหามานานและแล้วเราก็ได้ไปเจอเข้ากับผลิตภัณฑ์เจลแต้มสิวที่ปลอดภัยไร้สารอันตราย ที่สำคัญใช้ได้ทั้งคุณแม่ตั้งครรภ์และคุณแม่ที่ให้นมบุตรด้วย ขอบอกว่าคุณภาพคับหลอดจริงๆ เพราะสารสกัดมาจากสมุนไพร 100% ทีมงาน Amarin Baby & Kids จะพาไปรู้จักกับ เฮอร์บิสต้าร์ แอคเน่ (Herbistha Acne) เจลรักษาสิวที่ถ้าคุณแม่ได้ใช้แล้วต้องกดเลิฟให้ค่ะ

                                   

                                  เจลแต้มสิว ตัวช่วยเมื่อสิวบุกหน้าตอนท้อง!!

                                  ก่อนที่เราจะไปรู้จักกับ เจลแต้มสิว เฮอร์บิสต้าร์ แอคเน่ ขอไขข้อสงสัยที่ถามกันมาด้วยว่าทำไม๊ ทำไม ตอนท้องสิวถึงขึ้นเต็มหน้า ทั้งที่ก่อนท้องก็หน้าใสไร้สิว

                                  สำหรับสิวที่ขึ้นขณะตั้งครรภ์ อาจจะไม่ได้เป็นกับคนท้องทุกคนค่ะ บางคนสิวขึ้น บางคนสิวไม่ขึ้น ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับฮอร์โมนการตั้งครรภ์ที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิว คนท้องจะมีฮอร์โมนต่างๆ ภายในร่างกายเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะฮอร์โมนสองตัวนี้ คือ Human Chorionic Gonadotropin หรือ ฮอร์โมน hCG กับฮอร์โมนเอสโตรเจน ( Estrogen ) ที่เป็นฮอร์โมนการตั้งครรภ์ เมื่อฮอร์โมนต่างๆ ภายในร่างกายไม่สมดุลกัน ก็เป็นเหตุให้คุณแม่มีอาการระหว่างตั้งครรภ์เกิดขึ้นได้ เช่น อาการแพ้ท้อง เวียนศีรษะ เหม็นอาหาร หน้ามันหมองคล้ำ เป็นสิวนั่นเองค่ะ ต้องบอกว่าอาการเหล่านี้เป็นเรื่องปกติที่จะเกิดขึ้นกับคนท้องค่ะ และพอหลังจากคลอดลูกแล้วอาการต่างๆ รวมถึงสิวบุกหน้าก็จะค่อยๆ หายไปค่ะ

                                   

                                  เปลี่ยนหน้าสิว มาเป็นหน้าใสไร้สิวด้วยธรรมชาติ

                                  อย่างที่บอกไปค่ะว่าสิวขึ้นเต็มหน้าในช่วงตั้งครรภ์ หรือในแม่ที่ให้นมลูกบางคนก็ยังมีสิวขึ้นอยู่ให้หงุดหงิด หมดความมั่นใจ แล้วก็คิดไม่ออกว่าจะใช้ผลิตภัณฑ์อะไรมารักษาสิวดี เพราะกลัวว่าถ้าใช้สุ่มสี่สุ่มห้าหน้ายิ่งพัง แถมสารเคมีต่างๆ ในผลิตภัณฑ์รักษาสิวจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพตัวเองแล้วก็ต่อลูกน้อยด้วย

                                  อยากจะบอกว่านี่เราก็หาตัวช่วยรักษาสิวไม่ต่างจากแม่ๆ คนอื่นเลย จนได้มาเจอเข้ากับเจลแต้มสิว เฮอร์บิสต้าร์ แอคเน่ (Herbistha Acne) ขอใช้คำนี้ได้ไหมคะ สูงสุดสูงสามัญ เพราะอะไรนะหรือ ก็เพราะเจลแต้มสิวตัวนี้เขาสกัดมาจากสมุนไพรธรรมชาติ ที่ได้จาก เหงือกปลาหมอ ขมิ้นชัน เบญกานี ทั้งสามอย่างนี่คือสมุนไพรนะคะ หลายคนอาจไม่เคยได้ยินชื่อสมุนไพรนี้มาก่อน คือต้องบอกสมุนไพรไทยนี่ดีสุดๆ แล้วค่ะ

                                  พูดว่าสกัดมาจากสมุนไพร หลายคนอาจยังกังวลที่จะใช้ว่า เอ๊ะ!! ปลอดภัยจริงเหรอ ใช่ค่ะเราก็เคยคิดแบบเดียวกับคุณๆ นั่น แหละ แต่ก่อนที่จะใช้ผลิตภัณฑ์อะไรก็ตามในช่วงที่ท้อง กับช่วงที่ให้นมลูก สิ่งแรกที่จะเลือกคือ ขอเป็นมาจากธรรมชาติ โดยเฉพาะทั้งของกินบำรุงร่างกาย แล้วก็ของที่ใช้กับผิวหน้า ผิวกาย แล้วถ้ามีสถาบันวิจัยยืนยันมาด้วยก็ยิ่งดี เพิ่มความ ไว้วางใจได้มากหน่อย

                                  เจลแต้มสิว

                                  ก่อนทา และ หลังจากทาเจลแต้มสิว 3 วัน

                                  อย่างเจลแต้มสิวเฮอร์บิสต้าร์ แอคเน่ก่อนจะใช้นี่ก็หาข้อมูลหนักเอาเรื่องเลยค่ะ เพราะถ้าไม่ปลอดภัยจริงเราไม่แนะนำให้ใช้ อย่างแน่นอน ที่ผ่านอย่างแรกคือเป็นสารสกัดธรรมชาติที่อุดมไปด้วยคุณค่าของสารสกัดจากสมุนไพร ซึ่งทั้ง เหงือกปลาหมอ ขมิ้นชัน และ เบญกานี ก็มีฤทธิ์ทางยาในการใช้รักษาสิวได้ด้วย

                                  เฮอร์บิสต้าร์ แอคเน่ เป็นเจลแต้มสิวที่ปลอดภัย ไร้สารอันตราย ผ่านการทดสอบทางคลินิคแล้วว่าไม่ก่อให้เกิดการระคาย เคืองต่อผิว ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม ไม่แต่งสีหรือกลิ่น ไม่มีส่วนผสมของสเตอรอยด์ , Paraben และ Retinoids ที่เป็นอันตรายต่อหญิงตั้งครรภ์และแม่ให้นมบุตร

                                  ซึ่งกว่าจะมาเป็นผลิตภัณฑ์ดูแลสิวเฮอร์บิสต้าร์ แอคแน่ เขามีการวิจัยและพัฒนาโดย ทีมนักวิจัย คณะการแพทย์แผนไทย  มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ที่ได้รับการสนับสนุนโดย สวทช. , กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และที่สำคัญเจลแต้มสิวสูตรนี้ ได้รับการจดทะเบียนอนุสิทธิบัตรจากกรมทรัพย์สินทางปัญญาเรียบร้อยแล้วด้วย
                                  ไม่เพียงเท่านี้ เจลแต้มสิวสายเลือดไทยแบรนด์นี้ ยังได้รับคัดเลือกจากกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ เป็นตัวแทนของประเทศ ไปประกวดแข่งขันบนเวทีนวัตกรรมระดับโลกมาแล้ว และสามารถคว้ารางวัลเหรียญทอง  จากงานแข่งขันนวตกรรม ITEX 2017 ณ ประเทศมาเลเซีย ได้เป็นผลสำเร็จ จากผู้เข้าประกวดทั้งสิ้น 1000 กว่าผลงาน จาก 33 ประเทศทั่วโลก

                                  ขอปรับมือให้ฝีมือคนไทย ผลิตภัณฑ์คนไทยค่ะ

                                  เจลแต้มสิว

                                  แล้วถามว่าผลิตภัณฑ์ตัวนี้ใช้ได้แต่คนท้องกับให้นมลูกอย่างเดียวเลยหรือเปล่า  จริงๆ สาวๆ ที่เป็นสิวทั่วไปก็ใช้ได้ค่ะ ถ้าชอบอะไรที่เป็นสมุนไพรแล้วก็ปลอดภัย แต่เจลสิวตัวนี้เขาเอาใจแม่ท้องกับแม่ให้นมลูกมากหน่อย เพราะแม่ๆ เวลาเป็นสิวแล้วจะไม่กล้าใช้ยารักษาสิวทั่วไป เพราะกลัวในเรื่องสารเคมีต่างๆ เป็นแม่ก็ต้องคิดหนัก ศึกษาข้อมูลมากหน่อย เพื่อความปลอดภัยไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพลูกค่ะ

                                  เจลแต้มสิว

                                  เจลแต้มสิวเฮอร์บิสต้าร์ แอคแน่ ที่ลองใช้กับตัวเอง คือ แต้มทิ้งไว้ก่อนนอน พอตื่นเช้ามาหัวสิวยุบลงค่ะ แล้วที่เห็นสีเหลืองๆ ไม่ต้องตกใจว่าจะล้างไม่ออกกันนะคะ เพราะเป็นสีของสมุนไพรล้างออกง่าย ส่วนกลิ่นก็หอมสมุนไพรอ่อนๆ เป็นแบบอโรมาเธอราพี ทาแล้วนอนหลับสบาย สบายใจตื่นมาสิวยุบค่ะ

                                  เอาเป็นว่าคุณแม่ท้อง คุณแม่ให้นมบุตร หรือจะเป็นสาวๆ ที่รักษาสวยรักงาม แต่มีปัญหาสิวผด สิวอักเสบ หรือสิวฮอร์โมน ลองหาเจลแต้มสิวเฮอร์บิสต้าร์ แอคเน่ (Herbistha Acne) มาใช้กันดูนะคะ  คือที่พูดมาทั้งหมดอย่าเพิ่งเชื่อ ถ้าคุณยังไม่ได้ลองใช้ด้วยตัวเองกันนะคะ

                                  ส่วนใครที่อยากได้ข้อมูลเพิ่มเติม ให้เข้าไปที่นี่เลยค่ะ http://www.herbistha.com/  หรือที่

                                  https://www.facebook.com/HERBISTHA/

                                    สมุนไพรเพิ่มน้ำนม

                                    น้ำนมไหลดี ลูกกินอิ่มสต๊อกแน่น สมุนไพรเพิ่มน้ำนม เห็นผลทันใจ

                                    ปลดล็อกความกังวลของคุณแม่หลังคลอดที่มีปัญหาน้ำนมน้อยด้วย สมุนไพรเพิ่มน้ำนม ของดีจากธรรมชาติที่มีสรรพคุณช่วยกระตุ้นการผลิตน้ำนมให้ไหลดี ลูกกินอิ่ม ปั๊มเก็บเป็นสต๊อกได้สบายๆ  แถมยังดีต่อสุขภาพของคุณแม่ให้กลับมาเหมือนเดิมได้โดยไว จะมีวิธีเลือกกันอย่างไรตามมาดูกันเลยค่ะ

                                    เพราะแม่รู้ดีว่าน้ำนมแม่มีประโยชน์มากแค่ไหน แต่อุปสรรคหลายอย่างทำให้ความตั้งใจที่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ไปไม่ถึงฝัน โดยเฉพาะเรื่องปริมาณที่แม่หลายคนรู้สึกว่าน้อยเกินกว่าจะทำให้ลูกกินอิ่ม ซึ่งมาจากหลายสาเหตุ เช่น

                                    สมุนไพรเพิ่มน้ำนม

                                    1. ภาวะซึมเศร้าหลังคลอด ความเครียดและเหนื่อยล้าของแม่ที่ต้องดูแลลูกอ่อน มีผลต่อการทำงานของ “ไฮโพทาลามัส” ในสมอง จึงหลั่งน้ำนมออกมาน้อยลง
                                    2. นมคัด หัวนมอุดตันทำให้ลูกดูดไม่ออก และพาลไม่ดูดในครั้งต่อไป
                                    3. ฮอร์โมนของแม่ไม่สมดุล น้ำนมจึงผลิตน้อย
                                    4. ท่าดูดนมของลูกไม่ถูกต้อง ทำให้ดูดนมได้น้อย ไม่เกลี้ยงเต้า จึงผลิตน้ำนมใหม่น้อยลง
                                    5. ช่วงเวลาให้นมไม่สัมพันธ์กับความอยากนมของลูก เช่น ให้นมถี่เกินไป พอลูกร้องก็ให้นมทันที เมื่อลูกดูดไม่หมด นมก็ผลิตน้อยลงเช่นกัน และนี่เป็นสาเหตุใหญ่ที่สุดของปริมาณน้ำนมน้อย ไม่ใช่ขนาดของหน้าอก หรือน้ำหนักของแม่อย่างที่เข้าใจกัน

                                    หากคุณแม่หาสาเหตุให้เจอและแก้ไขได้ตรงจุด จะช่วยน้ำนมมีปริมาณมากขึ้นได้ อีกทั้งคุณแม่ควรได้รับสารอาหารที่เพียงพอในแต่ละวันโดยเพิ่มจากช่วงก่อนตั้งครรภ์ราว 500 กิโลแคลอรี กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ และดื่มน้ำวันละ 1 – 2 ลิตร ซึ่งในช่วงหลังคลอด ควรดื่มน้ำอุ่นเพื่อช่วยกระตุ้นให้ร่างกายผลิตน้ำนมได้ดีขึ้น

                                    สมุนไพรเพิ่มน้ำนม

                                    หากน้ำนมยังน้อยอยู่ อาจต้องใช้วิธีลัดด้วยการใช้ สมุนไพรเพิ่มน้ำนม มาช่วยบำรุงน้ำนมแม่ให้ผลิตออกมาเพียงพอสำหรับให้ลูกได้กิน สมุนไพรเหล่านี้มีหลายประเภท ทั้งที่เป็น “ของสด” “ของแห้ง” และ “แปรรูป” ซึ่งการกินสมุนไพรแทบไม่ส่งผลข้างเคียงต่อสุขภาพ แต่ยังระมัดระวังอยู่บ้าง สิ่งที่คุณแม่ควรพิจารณาก่อนซื้อ สมุนไพรเพิ่มน้ำนม ง่ายๆ ดังนี้

                                    • สมุนไพรต้องมีตรารับรองจากอย. หรือมีเลขทะเบียนยา
                                    • สมุนไพรสกัดต้องระบุส่วนผสมที่ชัดเจน
                                    • ระบุขนาดยาควรบริโภคอย่างชัดเจน พร้อมกับคำเตือนบนฉลากผลิตภัณฑ์

                                    สมุนไพรเพิ่มน้ำนม

                                    Amarin Baby & Kids Awards 2019 ยกให้ ยาพริมแคปซูล (Prim) เป็น สมุนไพรเพิ่มน้ำนม ที่ได้รับรางวัล Editor’s Choice Best Breastfeeding Supplement

                                    พริม  (Prim) สมุนไพรในรูปแบบแคปซูล ซึ่งช่วยในการฟื้นฟูร่างกาย และมีสรรพคุณช่วยบำรุงน้ำนม ซึ่งเหมาะกับคุณแม่หลังคลอด ที่ต้องการให้ร่างกายผลิตน้ำนมอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เพียงพอกับความต้องการของลูกน้อย “น้ำนมราชสีห์ช่วยบำรุงน้ำนม ฟื้นกำลังและกระชับมดลูก

                                    นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมธรรรมชาติ 100 % เอี้ยะบ่อเช่า รากสามสิบ เจตมูลเพลิงแดง โกฐเชียงโกฐหัวบัว ดอกคำฝอย พริกไทยดำ และสมุนไพรอื่นอีก กว่า 30 ชนิด ที่ช่วยในการดูแลสุขภาพของคุณแม่หลังคลอดอย่างครบถ้วน สามารถใช้แทนการอยู่ได้ทั้งขับน้ำคาวปลา หน้าท้องยุบไว ลดอาการปวดหลัง ปวดเอว ปวดหนาวหลังคลอด เหมาะกับคุณแม่ยุคใหม่ที่ต้องการฟื้นฟูร่างกายให้กลับมาสวยเปล่งปลั่งโดยเร็วและง่ายขึ้น

                                    ที่สำคัญ prim เป็นสมุนไพรแผนโบราณ ที่ช่วยบำรุงน้ำนม และใช้แทนการอยู่ไฟ บำรุงร่ายกายหลังคลอด ที่ไม่มีอาหารกลุ่มเสี่ยงแพ้ นมวัว  ถั่วและพืชตระกูลถั่ว ไข่ แป้งสาลี อาหารทะเล (Top 8 Free) จึงหมดห่วงว่าจะปะปนในน้ำนม และทำให้ลูกแพ้อาหาร เมื่อน้ำนมไหลดีแล้ว คุณแม่จะรู้สึกผ่อนคลายและมีความสุข ส่งผลดีต่อพัฒนาการของลูกเช่นกัน

                                    ทาง Amarin Baby & Kids “เครือข่ายแม่ลูกใหญ่ที่สุด” ผู้นำด้านคอนเทนต์คุณภาพ เข้าใจครอบครัวไทย และตอบสนองความต้องการของคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ จึงคัดเลือกให้ผลิตภัณฑ์ดูแลคุณแม่หลังคลอด Prim ได้รับ รางวัล Editor’s Choice  Best Breastfeeding Supplement จาก “Amarin Baby & Kids Awards 2019” ซึ่งมอบให้กับสินค้าแม่ลูก “สินค้าใช้ดี และมีประโยชน์จริง”

                                    คุณแม่สามารถศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้ที่  https://www.mkh.co.th/

                                     

                                    อ่านบทความ Amarin Baby & Kids Awards 2019 

                                    ประกาศผลรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019 สุดยอดแบรนด์สินค้าแม่และเด็กในดวงใจ

                                     

                                    เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่