Page 195 – AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

กฎของการใช้ชีวิตคู่

5 กฎของการใช้ชีวิตคู่ เมื่อมีความเห็นไม่ตรงกันเรื่องลูก

กฎของการใช้ชีวิตคู่ จะช่วยลดการทะเลาะเบาะแว้งกันในครอบครัวได้ โดยหากพ่อและแม่ทำตามกฎ 5 ข้อนี้ ลูกก็จะถูกอบรมสั่งสอนไปในแนวทางที่พ่อและแม่ต้องการได้

5 กฎของการใช้ชีวิตคู่ เมื่อมีความเห็นไม่ตรงกันเรื่องลูก

เมื่อคน 2 คน ตกลงใจที่จะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน คนทั้ง 2 คนย่อมต้องปรับตัวเข้าหากัน เพื่อให้อยู่ด้วยกันได้ยืนยาว แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่มีปัจจัยอื่น ๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง การปรับตัวเข้าหากันก็จะยากยิ่งขึ้นไปอีก โดยปัจจัยที่เข้ามานี้ก็คือลูกน้อยที่น่ารักของคนทั้งคู่นั่นเอง เพราะทั้งพ่อและแม่ต่างก็ต้องการที่จะเลี้ยงลูกให้ได้ดีที่สุด โดยแน่นอนว่าทั้งพ่อและแม่ ต่างก็มีวิธีการเลี้ยงดูลูกที่แตกต่างกันไป ในความเห็นต่างนี้ ก็อาจเป็นชนวนเหตุให้ทะเลาะกันได้ ดังนั้น การตั้งกฎขึ้นมาเพื่อให้ทั้งคู่ทำตาม ก็จะช่วยให้การเลี้ยงดูลูกเป็นไปในแนวทางเดียวกัน และยังช่วยประคองให้ชีวิตคู่มีความสุขอยู่เสมอ ๆ อีกด้วย

5 กฎของการใช้ชีวิตคู่ เมื่อมีความเห็นไม่ตรงกันเรื่องลูก

  1. อย่าเถียงกันต่อหน้าลูก

เมื่อมีความเห็นไม่ตรงกัน ไม่ควรจะมาเอาชนะคะคานกันตรงนั้น หากไม่ใช่เรื่องด่วนหรือเรื่องที่ร้ายแรงอะไร คุณพ่อคุณแม่ควรที่จะนำประเด็นที่เกิดขึ้นนี้มาปรึกษากันทีหลัง ว่าต้องการจะสอนลูกในแนวทางใด และอาจจะหาทางออกร่วมกันว่าหากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นมาอีก จะต้องพูดและสอนลูกว่าอะไร เพราะหากทะเลาะกันต่อหน้าลูก แน่นอนว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะต้องเริ่มพูดไม่ดีใส่กัน อาจจะพูดกันเสียงดัง เมื่อลูกได้เห็นเหตุการณ์นี้ สิ่งที่ลูกคิด คือ ทำไมพ่อต้องตะคอกใส่แม่ พ่อเป็นคนไม่ดีเลย หรือ ทำไมแม่ต้องตะโกนใส่พ่อ แม่ไม่ดีเลย เป็นต้น แน่นอนว่าคุณพ่อคุณแม่คงไม่อยากดูไม่ดีในสายตาของลูกใช่ไหมล่ะคะ ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงการทะเลาะกันต่อหน้าลูก ในทุกกรณีนะคะ

กฎการใช้ชีวิตคู่
กฎการใช้ชีวิตคู่

2. ถ้าไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร ลองให้อีกฝ่ายเป็นคนจัดการเรื่องนั้น ๆ เอง

คน 2 คนถูกเลี้ยงและเติบโตมาในที่ ๆ ต่างกัน แน่นอนว่าไม่มีทางที่จะมีแนวทางการเลี้ยงลูกที่เหมือนกันไปหมด และเรื่องบางเรื่องก็ไม่ใช่เรื่องที่ใหญ่โตอะไร คุณพ่อคุณแม่ลองปล่อยวางแล้วปล่อยให้อีกฝ่ายเป็นคนสอนลูกไปในแนวทางของเขา โดยอีกฝ่ายต้องไม่เข้าไปแทรกหรือขัดในขณะที่อีกฝ่ายกำลังสอนลูกอยู่ เช่น ในขณะที่คุณแม่กำลังสอนลูกเรื่องการประหยัดอดออม ไม่ควรซื้อของเล่นทุกครั้งที่อยากได้ หากลูกวิ่งไปขอความช่วยเหลือจากคุณพ่อ ให้ซื้อของเล่นให้ คุณพ่อควรจะบอกลูกว่าให้สิทธิ์ในการตัดสินใจเรื่องนี้กับคุณแม่ ดังนั้น ลูกต้องคุยกับคุณแม่เอง เป็นต้น

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

อ่านต่อ 5 กฎของการใช้ชีวิตคู่ เมื่อมีความเห็นไม่ตรงกันเรื่องลูก

    โรงเรียนคาทอลิก

    โรงเรียนคาทอลิก แตกต่างจากโรงเรียนทั่วไปอย่างไร ทำไมพ่อแม่ถึงอยากให้ลูกเข้า!

    โรงเรียนคาทอลิก ส่วนใหญ่เป็นโรงเรียนเก่าแก่ที่ได้รับความนิยมจากผู้ปกครองมาอย่างยาวนาน หากคุณพ่อคุณแม่กำลังสนใจที่จะให้ลูกเข้าโรงเรียนคาทอลิก มาทำความรู้จักแนวทางของโรงเรียนว่าเป็นอย่างไรกันค่ะ

    โรงเรียนคาทอลิก แตกต่างจากโรงเรียนทั่วไปอย่างไร ทำไมพ่อแม่ถึงอยากให้ลูกเข้าเรียน

    st. Michael church
    โรงเรียนคาทอลิกเป็นสถานที่ที่เคร่งครัดวินัย มีกฏระเบียบ

    “โรงเรียนคาทอลิก” เป็นโรงเรียนที่อยู่ภายใต้การกำกับของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน กระทรวงศึกษาธิการ และทบวงมหาวิทยาลัย มีองค์ประกอบหลายอย่างที่มีความเป็นคริสต์ศาสนา ตั้งแต่ชื่อโรงเรียน ไปจนถึงวิธีการเรียกคุณครู แต่ก็เปิดรับนักเรียนที่นับถือศาสนาพุทธด้วย การเรียนการสอนยังคงอิงกับหลักสูตรไทยของกระทรวงศึกษาธิการตามปกติ มีสอนทั้งหลักสูตรปกติ และหลักสูตร English Program จัดว่าเป็นโรงเรียนที่ได้รับความสนใจจากผู้ปกครองจำนวนไม่น้อย ถึงแม้ค่าใช้จ่ายจะค่อนข้างสูงและมีการสอบคัดเลือกตามระบบก็ตาม

    สมณกระทรวงการศึกษาคาทอลิกได้ชี้แนะว่า “นับแต่ชั่วขณะแรกที่นักเรียนคนหนึ่งเหยียบย่างเข้ามาในโรงเรียนคาทอลิก นักเรียนชายหรือหญิงผู้นั้นควรจะรู้สึกประทับใจว่าได้เข้ามาสู่ภาวะแวดล้อมแบบใหม่ เป็นภาวะแวดล้อมที่สว่างไสวด้วยแสงแห่งความเชื่อ และมีลักษณะเฉพาะที่ไม่เหมือนใคร …”(มตส. 25)

    ถึงแม้โรงเรียนคาทอลิกมักจะมีรูปของ “พระแม่มารีย์” ประดิษฐานอยู่ในบริเวณต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม โรงเรียนคาทอลิกต่าง ๆ ก็ไม่ได้เน้นเรื่องการส่งเสริมวัฒนธรรม และในเรื่องการฝึกอบรมเยาวชนไม่น้อยหรือแตกต่างไปกว่าโรงเรียนอื่นๆ

    โรงเรียนคาทอลิก คือ

    ข้อดีและลักษณะพิเศษของโรงเรียนคาทอลิก

    • โรงเรียนคาทอลิกเป็นโรงเรียนที่มีพื้นฐานทางด้านศาสนา หน้าที่ของโรงเรียนต้องกล่อมเกลาค่านิยมของมนุษย์ โดยมี “พระเยซูคริสต์” เป็นพระฉบับแบบแก่นักเรียนของตน
    • โรงเรียนเน้นด้านการมุ่งอบรมระเบียบวินัย มารยาท การวางตัวในสังคม นำหลักความเชื่อทางศาสนามาประยุกต์เข้ากับวัฒนธรรม พัฒนามนุษย์ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ สังคม และความสำเร็จในองค์พระคริสตเจ้า
    • โรงเรียนจะทำหน้าที่อบรมได้ จะต้องสร้างบรรยากาศในโรงเรียนที่อิ่มไปด้วยจิตตารมณ์ เสรีภาพ และความรักแบบในพระวรสาร ที่มุ่งช่วยคนรุ่นหนุ่มสาวให้พัฒนาบุคลิกภาพ
    • โรงเรียนคาทอลิกมีภารกิจในการ “อบรมบ่มนิสัยให้เข้มแข็ง” ของนักเรียน ให้สามารถต่อต้านลัทธิ – ค่านิยม วัตถุนิยม หรือความคิดที่ผิด ๆ กระตุ้นนักเรียนให้ฝึกสติปัญญาของตนให้เข้าใจ และอธิบายว่าประสบการณ์และความจริงที่เขาพบนั้นหมายความว่าอย่างไร โรงเรียนใดละเลยหน้าที่นี้และสอนเด็ก โดยวิธีไม่ให้เด็กคิด แต่ครูบอกเองทั้งหมด ก็เท่ากับขัดขวางมิให้นักเรียนพัฒนาตนเองให้เจริญ
    • การอบรมตามหลักพระคริสตธรรมไม่ใช่เพื่อสอนให้คนมาเข้าศาสนาด้วย แต่เพราะศาสนาเป็นส่วนที่มีประสิทธิภาพช่วยพัฒนาด้านอื่น ๆ ของบุคลิกภาพเท่าที่ต้องการสำหรับการอบรมทั่ว ๆไปได้
    • จุดมุ่งหมายพิเศษของการสอนของโรงเรียนคาทอลิก คือ “การอบรม” ที่ต้องพัฒนามนุษย์จากภายใน ดังนั้นจะบรรลุผลสำเร็จหรือไม่ ก็มิใช่สำคัญที่เรื่องสอนหรือวิธีสอน แต่สำคัญที่คนสอนในโรงเรียนมากกว่า ครูอาจารย์จึงอยู่ในฐานะที่เหมาะสมที่สุดสำหรับแนะนำนักเรียน มีครูที่เอาใจใส่นักเรียนเป็นรายบุคคล ครูผู้สอนส่งเสริมให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการเรียนมากกว่าการสังเกตการณ์ นักเรียนเรียนรู้วิธีคิดสร้างสรรค์ได้อย่างรวดเร็ว และได้รับประสบการณ์ที่มีคุณค่าร่วมกัน และแสดงความคิดเห็นในเวทีสาธารณะ

     

    เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

     

    อ่านต่อ ทำความรู้จักหลักสูตรการสอนของโรงเรียนคาทอลิก คลิกหน้า 2

      ที่พักเชียงใหม่สวยๆ

      7 ที่พักเชียงใหม่สวยๆ บนถนนนิมมาน เดินทางง่าย ใกล้ที่เที่ยว คุณแม่เพลินพ่อสนุกลูกแฮปปี้

      ไม่ว่าจะฤดูไหน ๆ “เชียงใหม่” ก็ยังเป็นจังหวัดยอดนิยมที่ปักหมุดมาเที่ยวกัน เพราะมีทั้งที่เที่ยวบนดอยที่มีอากาศเย็นตลอดทั้งปี ที่เที่ยวธรรมชาติอีกหลากหลายแห่ง ที่เที่ยวสุดชิคในเมือง รวมถึงที่เที่ยวอีกหลายที่สำหรับเจ้าตัวเล็กพร้อมกิจกรรมสนุก ๆ ทีมแม่ ABK เลยมองหา ที่พักเชียงใหม่สวยๆ บนถนนนินมมานเหมินต์ ที่ถือว่าเป็นที่พักในตัวเมืองเชียงใหม่ ใกล้แหล่งที่เที่ยวที่จะพาเจ้าตัวเล็กไปแอ่วกันค่า

      7 ที่พักเชียงใหม่สวยๆ บนถนนนิมมาน เดินทางง่าย ใกล้ที่เที่ยว คุณแม่เพลินพ่อสนุกลูกแฮปปี้

      1.Chiangmai Chaiyo Hotel

      โรงแรมเชียงใหม่ไชโย เหมาะมากสำหรับครอบครัวและนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบงานศิลปะ เป็นที่พักที่ตกแต่งแบบสไตล์ลอฟต์ โมเดิร์น ที่ดัดแปลงมาจากตึกทาวน์เฮ้าส์ สำหรับการตกแต่งภายในโรงแรมนั้นจะเป็นศิลปะแบบผสมผสาน มีกลิ่นอายศิลปะและความเป็นล้านนาของจังหวัดเชียงใหม่ได้อย่างลงตัว รวมถึงเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นของโบราณและของสะสม มีมุมให้ถ่ายรูปเยอะมาก ภายในโรงแรมก็จะมีโซนนั่งเล่น อ่านหนังสือ หรือจะเดินเล่นชมงานศิลปะไปเพลิน ๆ ก็ได้ค่ะ ในส่วนห้องพักมี 3 รูปแบบ 25 ห้อง มีชื่อห้องเรียกแบบไทย ๆ คือ ห้องยินดี ห้องสวัสดี และห้องไชโย ห้องพักสะอาดพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ที่พักตั้งอยู่บนถนนนิมมานเหมินทร์ ซอย 5 ง่าย และสะดวกในการเดินทางมากค่ะ

      Chiangmai Chaiyo Hotel
      เครดิตภาพจาก facebook.com/Chiangmai.Chaiyo.Hotel
      Chiangmai Chaiyo Hotel
      เครดิตภาพจาก facebook.com/Chiangmai.Chaiyo.Hotel

      พิกัด: ถนนนิมมานเหมินทร์ ซอย 5 อ.เมือง จ.เชียงใหม่

      ราคา : ราคารวมบริการอาหารเช้าเป็นข้าวต้มร้อนๆ ขนมปัง นม กาแฟ และอเมริกันเบรคฟาสท์

      สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร. 095 889 5050

      เว็บไซต์ :  www.facebook.com/Chiangmai.Chaiyo.Hotel

      2.Hug Nimman Hotel

      โรงแรมฮักนิมมาน ตั้งอยู่บนถนนนิมมานเหมินทร์ ซอย 13 ตรงข้ามร้านอาหารพื้นเมืองชื่อดัง มีห้องพักไว้บริการ 79 ห้อง ดีไซน์ ออกแบบ และตกแต่งในกลิ่นอายของความเรียบ หรูอย่างลงตัว พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เป็นโรงแรมบนถนนนิมมานที่สามารถพาลูกออกมาเดินเที่ยว กิน ช้อปปิ้ง ง่าย ๆ บริเวณใกล้ที่พักได้อย่างสะดวกสบาย จัดว่าเป็นตัวเลือกที่ลงตัวสำหรับการมาพักในเมืองเชียงใหม่อีกที่เลยค่ะ

      Hug Nimman Hotel
      เครดิตภาพจาก www.hugnimman.com

      Location: 4 ซ.13 ถ.นิมมานเหมินทร์ ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่

      สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร. 093 139 5990

      เว็บไซต์ : www.hugnimman.comwww.facebook.com/Hugnimmanhotel

      3.Nimman Zone Suk

      นิมมานโซนสุข ที่พักบนถนนนิมมานเหมินทร์ ในซอยสุขเกษม ระหว่างนิมมานเหมินทร์ซอย 2 และ ซอย 4 ถึงจะเป็นที่พักที่ให้บริการแบบเซอร์วิส อพาร์ทเม้นท์ แต่ก็ตกแต่งบริเวณที่พักด้วยเฟอร์นิเจอร์และข้าวของเครื่องใช้เก่า ๆ ในแนววินเทจและชิคมาก ๆ ให้ความรู้สึกอบอุ่น เหมือนเป็นบ้านของตัวเอง ที่นี่มีห้องพักหลากหลายรูปแบบตั้งแต่ 2 คนและสำหรับครอบครัว 4-6 คน ทั้งเตียงคิงไซส์ เตียงสองชั้น ภายในห้องพักดูกว้างขวาง สวยสะอาด พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็นภายในห้องแบบครบครัน

      Nimman Zone Suk
      เครดิตภาพจาก www.facebook.com/nimmanzonesuk
      Nimman Zone Suk
      เครดิตภาพจาก www.facebook.com/nimmanzonesuk
      Nimman Zone Suk
      เครดิตภาพจาก www.facebook.com/nimmanzonesuk

      Location: 36 ซ.สุขเกษม ถ.นิมมานเหมินทร์ จ.เชียงใหม่

      ราคา : ราคาห้องพักไม่รวมอาหารเช้า แต่มีบริการ กาแฟ ไมโล มาม่า ทานฟรีตลอด 24 ชม.)

      สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร. 093-2577877 , 094-7275856

      เว็บไซต์ : www.facebook.com/nimmanzonesuk

       

      เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

       

      อ่านต่อ 7 ที่พักสวย ๆ บนถนนนิมมานฯ คลิกหน้า 2

        เมนูอาหารเด็ก

        รวม 60 สูตร+วิธีทำ เมนูอาหารเด็ก ตั้งแต่ 6 เดือน – 1 ขวบ

        แจกสูตรเด็ด เมนูอาหารเด็ก ง่ายๆ กว่า 60 สูตรอร่อยพร้อมวิธีทำ ครบ 5 หมู่ เน้นบำรุงร่างกายและสมอง เพื่อลูกน้อยตั้งแต่วัย 6 เดือน – 1 ขวบ โดยเฉพาะ!

        รวม เมนูอาหารเด็ก ตั้งแต่ 6 เดือน – 1 ขวบ

        “วันนี้จะทำอะไรให้ลูกกินดี” เมื่อลูกน้อยถึงวัยเริ่มกินอาหารเสริมได้แล้ว คุณแม่มือใหม่หลายคนก็มักมีคำถามว่าจะทำ เมนูอาหารเด็ก อะไรให้ลูกกินดีนะ!? เพราะอาหารสำหรับลูกวัย 6 เดือนขึ้นไปจนถึง 1 ขวบ จำเป็นที่คุณแม่จะต้องมีความรู้และมีความพร้อมในการทำอาหารเสริมให้ลูกน้อยได้อย่างถูกต้อง ถูกหลัก และดีที่สุด

        หลักในการป้อนอาหารเสริมให้ลูก

        อย่าเริ่มเร็วหรือช้าเกินไป

        โดยทั่วไปกุมารแพทย์จะแนะนำให้เริ่มป้อนอาหารเสริมให้ลูกน้อยตอนช่วงอายุ 6 เดือน นั่นก็เพราะเป็นวัยที่ลูกมีความพร้อมของร่างกายที่สามารถรับและกลืนอาหารที่มีลักษณะกึ่งแข็ง กึ่งเหลวได้แล้ว รวมไปถึงระบบย่อยอาหารและน้ำย่อยต่างๆ จะเริ่มมีมากขึ้น ทำให้สามารถย่อยอาหารประเภทแป้งข้าวได้ดี

        ทั้งนี้ไม่ควรเริ่มอาหารเสริมเร็วเกินไปก่อนอายุ 6 เดือน เพราะจะทำให้ลูกดูดนมแม่ได้น้อยลง รวมทั้งมีโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นโรคภูมิแพ้ และในบางครั้งถ้าอาหารที่ให้นั้นเตรียมไม่สะอาด ก็จะทำให้ทารกเกิดการติดเชื้อท้องเสียลำไส้อักเสบได้

        และไม่ควรเริ่มอาหารเสริมช้าเกินไป เพราะจะทำให้ลูกได้รับสารอาหารไม่พอเพียงและในบางรายอาจจะไม่ยอมรับอาหารเสริม เพราะคุ้นเคยแต่การดูดนมเท่านั้น ทำให้เด็กมีปัญหาทุพโภชนาการในภายหลัง

        ซึ่งถ้าทารกได้รับแต่นมแม่เพียงอย่างเดียวจนถึงอายุประมาณ 9 เดือน ถึง 1 ปี อาจเริ่มมีปัญหาโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็กร่วมกับการได้รับโปรตีนและแคลอรี่ไม่เพียงพอ ทำให้เด็กมีน้ำหนักตัวอยู่ในเกณฑ์ต่ำและซีดได้ … แต่ถึงจะเริ่มอาหารเสริมแล้ว ก็อย่าลืมให้ลูกกินนมในปริมาณที่เพียงพอด้วย เพราะน้ำนมแม่เป็นอาหารหลักที่สำคัญที่สุดของลูกน้อยขวบปีแรก

        Must read : 7 สัญญาณ ลูกพร้อมกิน อาหารเสริมเด็ก-ทารก

        ควรเริ่มทีละอย่าง 

        การเริ่มอาหารในครั้งแรกหรือชนิดใหม่ ควรเริ่มทีละอย่าง ถ้าภายใน 1-2 สัปดาห์ หลังจากนั้นหากไม่พบว่าลูกมีอาการแพ้ เช่น ผื่นแพ้เห่อ หรือ อาเจียน ท้องอืด ฯลฯ ที่ผิดปกติ จึงค่อยเริ่มอาหารชนิดอื่นต่อไป

        ไม่ควรใส่เครื่องปรุง

        นั่นเพื่อให้ลูกได้คุ้นเคยกับอาหารรสธรรมชาติ ไม่ติดรสหวานหรือ เค็ม เพราะโดยทั่วไปถ้ามีการเติมรสให้อร่อยอย่างของผู้ใหญ่ บางครั้งจะพบว่าทำให้ลูกได้รับเกลือโซเดียมสูงเกินไป เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อโรค ความดันโลหิตสูง ส่วนอาหารที่มีรสหวาน นอกจาก ทำให้เด็กติดรสหวานไม่ยอมทานอาหารรสธรรมดาแล้ว ยังเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคอ้วน ฟันผุ และ ไขมันใน เลือดสูงในอนาคต

        เมนูอาหารเด็ก

        เริ่มไข่แดงก่อน

        การป้อนไข่ ในช่วงแรกให้เริ่มจากไข่แดงต้มสุกก่อน (ต้มไข่ให้สุกทั้งฟอง แล้วแกะเปลือก แกะเอาไข่ขาวออก เหลือไข่แดงที่สุกแข็งแล้ว นำมาบี้ผสมในข้าวตุ๋นให้ลูก) เพื่อลดการกระตุ้นให้เกิดภูมิแพ้ และไม่ควรให้ลูกกินไข่ที่ไม่สุกเต็มที่ หรือ ไข่ลวก เพราะอาจทำให้เกิดภาวะขาดวิตะมินบี 7 เพราะในไข่ขาวดิบจะมีสารยับยั้งการดูดซึมวิตะมินดังกล่าว

        Must read : เตรียมอาหารเสริมให้ลูก ใช้อุปกรณ์อะไรบ้าง?

        เริ่มปลาน้ำจืดก่อนปลาทะเล

        เพราะปลาเป็นเนื้อสัตว์ที่ย่อยง่ายกว่าเนื้อสัตว์ชนิดอื่นๆ แถมยังมีสารอาหารหลายชนิดที่จำเป็นต่อสมองและการเจริญเติบโตของลูก ซึ่งปลาที่เหมาะสำหรับอาหารเสริมที่สุดคือปลาน้ำจืด เช่น ปลานิล ปลาทับทิม ปลาช่อน ปลาดุก หรือปลาสวาย เพราะเป็นปลาที่มีเนื้อนิ่ม ก้างใหญ่ บดให้ละเอียดง่าย ส่วนปลาทะเล เช่น ปลาทู ปลาเก๋า ปลากะพง ปลาแซลมอน ควรให้ลูกเริ่มกินเมื่ออายุ 1 ขวบขึ้นไป เพราะมีความเสี่ยงที่จะแพ้โปรตีนในปลาทะเลง่ายกว่าปลาน้ำจืด

         

        ทั้งนี้เมื่อทราบหลักการป้อนอาหารเสริมให้ลูกน้อยแล้ว แต่ยังไม่รู้ว่าจะทำ เมนูอาหารเด็ก อะไรให้ลูกกินดี ทีมแม่ ABK จึงได้รวบรวม เมนูอาหารเด็ก กว่า 60 สูตรพร้อมวิธีง่ายๆ ที่เน้นสารอาหารบำรุงร่างกายและสมองของลูกน้อยที่อยู่ในวัย 6 เดือน – 1 ขวบ จะมีเมนูอะไรบ้างตามไปดูกันเลย

         

        อ่านต่อ >> “รวมสูตรอาหารลูกน้อยเมนูทารก
        วัย 6
        เดือน – 1 ขวบ กว่า 60 เมนู” คลิกหน้า 2

         

        เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

          พัฒนาการด้านอารมณ์

          เลี้ยงลูกอย่างไร? ให้ลูกมี พัฒนาการด้านอารมณ์ ที่ดี

          พัฒนาการด้านอารมณ์ ของลูกจะค่อย ๆ เติบโตไปตามวัย หากลูกได้รับการอบรมเลี้ยงดูอย่างถูกต้อง ก็จะช่วยให้เด็กพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ได้เร็วขึ้น

          เลี้ยงลูกอย่างไร? ให้ลูกมี พัฒนาการด้านอารมณ์ ที่ดี

          พัฒนาการด้านอารมณ์ คืออะไร?

          พัฒนาการด้านอารมณ์ หมายถึง ขบวนการวิวัฒนาการของจิตที่สามารถรับผิดชอบควบคุม ขัดเกลา และแสดงออก ซึ่งอารมณ์ให้เหมาะสมกับกาลเวลาและสถานที่ เช่น การโต้เตียงโดยไม่รู้สึกโกรธเคือง รับฟังความคิดเห็น ของบุคคลอื่นที่มีความคิดเห็นขัดแย้งกับตนอย่างสบายใจในขณะที่รู้สึกโกรธเคืองไม่แสดงพฤติกรรมใดๆ ออกมาในทางไม่ดี หรือในทางลบ

          การแสดงออกทางอารมณ์ของเด็กเล็กนั้นจะเริ่มรุนแรงขึ้นเมื่อเทียบกับวัยทารก เพราะมีพัฒนาการทางด้านร่างกายที่ช่วยให้แสดงความรู้สึกได้มากขึ้น อีกทั้งพัฒนาการทางด้านสมองเริ่มมีความซับซ้อนขึ้น โดยระดับความรุนแรงทางอารมณ์ของเด็กแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบหลาย ๆ อย่าง เช่น สุขภาพ สิ่งแวดล้อม การอบรมเลี้ยงดู อารมณ์โดยทั่วไปของเด็กเล็ก ได้แก่

          1. อารมณ์โกรธ จะเริ่มเมื่อเด็กอายุได้ 6 เดือน และจะมีอัตราความโกรธสูงขึ้นตามลำดับเด็กมักโกรธเมื่อถูกขัดใจ ถูกรังแก และเรียนรู้ว่าวิธีที่จะเอาชนะได้ง่ายที่สุดคือการแสดงอารมณ์โกรธ เด็กจะแสดงอารมณ์โกรธอย่างเปิดเผย เช่น ร้องไห้ กระทืบเท้า กระแทกร่างกาย ทำตัวอ่อน ไม่พูดไม่จา ฯลฯ
          2. อารมณ์กลัว กลัวในสิ่งที่มักมีเหตุผลมากกว่าวัยทารก สิ่งเร้าที่ทำให้เด็กกลัวมีมากขึ้น เช่น กลัวเสียงดัง คนแปลกหน้า ในเด็กอายุ 3-5 ปี กลัวสัตว์ กลัวถูกทิ้งให้อยู่คนเดียว พฤติกรรมที่เด็กแสดงออกเวลากลัว ร้องไห้ วิ่งหนี หาที่ซ่อน ความกลัวเหล่านี้จะลดลงเมื่ออายุมากขึ้น
          3. อารมณ์อิจฉา อารมณ์อิจฉาเป็นอารมณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเด็กมีความรู้สึกว่าตนเองด้อยกว่าผู้อื่น หรือ กำลังสูญเสียของที่เป็นของตนไป จะเกิดขึ้นในเด็กอายุ 2-5 ปี เด็กจะอิจฉาน้อง เมื่อเด็กเห็นว่าพ่อแม่ให้ความสนใจมากกว่าตน พฤติกรรมที่แสดงออกเช่นเดียวกับอารมณ์โกรธ ดังนั้นควรที่จะให้ความรักความอบอุ่นที่ทัดเทียมกันเพื่อป้องกันมิให้เกิดความเลื่อมล้ำ
          4. อารมณ์อยากรู้อยากเห็น เป็นวัยที่เริ่มรู้จักการใช้เหตุผลมีความเป็นตัวของตัวเองมีความสงสัยในสิ่งที่ไม่เคยเห็น ชอบสำรวจ ชอบซักถาม
          5. อารมณ์สนุกสนาน เมื่อเด็กประสบความสำเร็จในสิ่งต่าง ๆ ที่ได้กระทำ เด็กจะเกิดความสนุกสนาน ซึ่งแสดงออกด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ
          6. อารมณ์รัก แรกเริ่มเด็กจะรักตนเองก่อน ต่อมาจะรู้จักการรักคนอื่น อารมณ์นี้เป็นอารมณ์แห่งความสุข เด็กจะแสดงความรักโดยการกอดจูบลูบคลำ เด็กมักแสดงความรักต่อพ่อแม่ หรือสัตว์เลี้ยงตลอดจนของเล่น
          อารมณ์โกรธ
          อารมณ์โกรธ

          พ่อแม่ทุกคนย่อมอยากเห็นลูกเติบโตเป็นคนดีและมีความสุข ดังนั้นการเลี้ยงดูในวัยเด็ก จะเป็นช่วงที่หล่อหลอมลักษณะพิเศษของแต่ละคน หรือที่เราเรียกว่า “บุคลิกภาพ” ซึ่งเปลี่ยนแปลงได้ยากเมื่อเติบโตขึ้น การที่พ่อแม่ช่วยอบรมสั่งสอน ก็จะช่วยนำพาลูกเข้าสู่เส้นทางที่ถูกที่ควร เพื่อให้ลูกเติบโตเป็นเด็กที่เป็นคนดี มีความสุข และมีความสมดุลในชีวิต ดังนั้น การพัฒนาจึงเริ่มต้นขึ้นที่บ้าน ถ้าพ่อแม่พัฒนาลูกในทุกกิจกรรม ลูกจะมีความสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมที่ถูกต้อง รู้จักกินเป็น ดูเป็น ฟังเป็น บริโภคเป็น มีจิตใจที่ดีงาม มีการแสดงออกทางอารมณ์ที่เหมาะสม พร้อมที่จะออกสู่สังคมนอกบ้านต่อไป ดังนั้น หากเด็กได้รับการเลี้ยงดูแนะนำที่ถูกต้องเหมาะสม จะทำให้เด็กมีพัฒนาการทางอารมณ์และจิตใจดี เด็กจะยอมรับนับถือตนเอง ได้รับการยอมรับจากผู้อื่น และเด็กก็จะมีความสุขตามมา เมื่อเด็กมีความสุข เด็กจะมีกำลังใจ มีแรงจูงใจในการทำงานตามที่มุ่งหวัง และสามารถทนต่อความขัดแย้งได้ดี ทำให้ประสบความสำเร็จ ถ้าเด็กไม่สามารถทำได้ตามขั้นตอนพัฒนาการ เด็กจะรู้สึกเป็นปมด้อย และจะทำงานในขั้นตอนพัฒนาการที่สูงขึ้นได้ยาก

           

          เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

          อ่านต่อ เลี้ยงลูกอย่างไร ให้ลูกมีพัฒนาการด้านอารมณ์ที่ดี?

            สิทธิ์บัตรทอง

            ของขวัญจากสปสช. เพิ่ม สิทธิ์บัตรทอง ให้แม่และเด็ก

            ในปี 2563 ที่จะถึงนี้ สปสช. ได้เพิ่ม สิทธิ์บัตรทอง ให้กับแม่และเด็กทุกคน ในการทำฟัน ตรวจคัดกรอง ฉีดวัคซีน โดยมีรายละเอียดดังนี้

            ของขวัญจากสปสช. เพิ่ม สิทธิ์บัตรทอง ให้แม่และเด็ก

            “วาระดิถีขึ้นปีใหม่ สปสช.ในฐานะหน่วยงานดำเนินงานด้านหลักประกันสุขภาพให้กับประชาชน ขอเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมดูแลสุขภาพ ซึ่งไม่เพียงแต่ด้านการรักษา แต่ สปสช.ได้ให้ความสำคัญต่อการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค เพื่อมอบรอยยิ้มแห่งความสุขให้กับคนไทยทั่วประเทศ มีสุขภาพที่ดี พลานามัยแข็งแรง และเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีในปี 2563 นี้”

            นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า การมีสุขภาพที่ดีเป็นหนึ่งในปัจจัยที่สร้างความสุขให้กับชีวิต เช่นเดียวกับการเข้าถึงการรักษาเมื่อเกิดภาวะเจ็บป่วย โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเป็นอุปสรรค ที่ผ่านมา คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือบอร์ด สปสช.ได้พัฒนาสิทธิประโยชน์ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติอย่างต่อเนื่อง ตามเจตนารมณ์ พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 เพื่อให้ประชาชนทุกคนเข้าถึงการรักษาและบริการสาธารณสุขที่จำเป็นอย่างมีคุณภาพและมาตรฐาน และในปี 2563 นี้ สปสช.ขอมอบของขวัญสิทธิประโยชน์ทั้งด้านการรักษาพยาบาลและส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรค เพื่อเป็นการส่งความสุขให้กับคนไทยทั่วประเทศในช่วงปีใหม่นี้ โดยสิทธิประโยชน์ที่เพิ่มขึ้น สำหรับแม่และเด็ก มีดังนี้

            เด็กเล็กและเด็กโต

            1. เพิ่มการเข้าถึงยาจำเป็นที่มีราคาแพง ซึ่งก็คือ ยาริทูซิแมบ (Rituximab) รักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิด NHL (Non-Hodgkin lymphoma) ในเด็ก ซึ่งเป็นชนิดที่พบบ่อยที่สุดในไทย
            2. เพิ่มเติมสิทธิประโยชน์ด้านการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคหลายรายการ ได้แก่ วัคซีนป้องกันโรคอุจจาระร่วงจากเชื้อไวรัสโรต้า (Rotavirus Vaccine) ในทารกอายุ 2-6 เดือน ซึ่งโรคอุจจาระร่วงเฉียบพลันถือเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญของประเทศไทย โดยเฉพาะในเด็กเล็ก ประมาณครึ่งหนึ่งของเด็กที่เข้านอนโรงพยาบาลด้วยโรคอุจจาระร่วงมีสาเหตุมาจากไวรัสโรต้า
            3. ป้องกันฟันผุด้วยการ เพิ่มรายการเคลือบฟลูออไรด์ในเด็กอายุ 4-12 ปี และรายการเคลือบหลุมร่องฟันในเด็กอายุ 6-12 ปี โดยสิทธิประโยชน์นี้ ทางสปสช. ได้ปรับระบบการเบิกจ่ายโดยเพิ่มเติมรายการเบิกจ่ายตามรายการ (Fee Schedule) เพื่อเพิ่มความสะดวกในการเบิกจ่ายของหน่วยบริการอีกด้วย
            วัคซีนโรต้า
            วัคซีนโรต้า สิทธิ์บัตรทอง

            ผู้หญิงและแม่ท้อง

            1. ผู้หญิงทุกคน สามารถใช้ สิทธิ์บัตรทอง ในการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยวิธีเอชพีวี ดีเอ็นเอ เทสต์ (HPV DNA test) เป็นวิธีใหม่ที่มีประสิทธิภาพและคุ้มค่า สามารถตรวจพบผู้ป่วยในระยะแรกเริ่มเพิ่มขึ้นและเข้าสู่การรักษาได้เร็วก่อนลุกลาม ซึ่งจะช่วยให้อุบัติการณ์และการเสียชีวิตจากมะเร็งปากมดลูกลดลงเมื่อเทียบกับวิธีคัดกรองในปัจจุบัน
            2. ส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคในช่องปากสำหรับหญิงตั้งครรภ์ โดยการให้บริการตรวจและป้องกันสุขภาพช่องปากให้แก่แม่ท้องทุกคน ทั้งยังปรับการเบิกจ่ายการตรวจนี้ให้เป็น 1 ในรายการเบิกจ่ายตามรายการ (Fee Schedule) เพื่อเพิ่มความสะดวกในการเบิกจ่ายของหน่วยบริการ

            นอกจากแม่และเด็กแล้ว ทางสปสช. ยังได้มอบของขวัญปีใหม่ปี 2563 ให้ได้ทั่วถึงทุกกลุ่มคน ทุกเพศ และทุกวัย โดยการเพิ่ม สิทธิ์บัตรทอง ดังต่อไปนี้ (อ่านต่อหน้าที่ 2)

             

            เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

            อ่านต่อ สปสช.มอบของขวัญปีใหม่ 2563 เพิ่ม สิทธิ์บัตรทอง

              ครีมทาท้องคุณแม่

              ครีมทาท้องคุณแม่ ต้องเริ่มทาเมื่อไร ทาแบบไหนกันท้องลายได้ชัวร์

              ครีมทาท้องคุณแม่ เป็นของจำเป็นที่คุณแม่ทุกคนต้องมี เพราะท้องที่ใหญ่ขึ้นทุกวันจะทำให้เกิดรอยแตกบนผิวบริเวณหน้าท้อง และกลายเป็นรอยแผลเป็นน่าเกลียด ที่คุณแม่หลายๆคนกลัวหนักหนา แต่เริ่มทาได้เมื่อไรและต้องทาแบบไหนถึงจะกันท้องลายได้อยู่หมัด

              ผู้หญิงที่กำลังวางแผนว่าจะต้องครรภ์ มักกังวลว่าพอท้องใหญ่แล้วจะแตกลาย แม้จะคลอดลูกแล้วก็เหลือร่องรอยหน้าเกลียดไว้บนหน้าท้อง จึงจำเป็นต้องถนอมผิวหน้าท้องไว้ตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ ครีมทาท้องคุณแม่ ที่รู้จักส่วนใหญ่มักเรียกว่า ครีมทาท้องลาย มีคุณสมบัติเฉพาะเพื่อบำรุงและดูแลลดผิวแตกลายโดยเฉพาะ

              รอยท้องลายจัดเป็นแผลชนิดหนึ่ง มีสีแตกต่างกับผิวส่วนอื่นอย่างชัดเจน เกิดจากการฉีกขาดของหนังแท้ โดยเฉพาะบริเวณผิวหนังที่เกิดการยืดขยายตัวอย่างรวดเร็ว เช่น หน้าท้องของคุณแม่ขณะตั้งครรภ์ รวมถึงบริเวณที่มีไขมันสะสม เช่น หน้าอก เต้านม ต้นขา สะโพกและน่องได้ด้วย

              ครีมทาท้องคุณแม่

              หน้าท้องตากลายมีหลายลักษณะ ตั้งแต่ Striae alba ลานเส้นขยายเป็นสีขาว  Striae rubra ลายเส้นขนานเป็นสีแดง  Striae atrophicans เป็นเส้นขนานและผิวหนังย่น สุดท้ายคือ Striae distensae เส้นขนานที่เกิดการผิวหนังยืดออกอย่างรวดเร็ว  ริ้วรอยที่เกิดขึ้นรอยนี้จะกลายเป็นทางยาวซีดๆ เงาๆ ได้ รอยแตกส่วนใหญ่กว้าง 1-10 มิลลิเมตร และยาวได้หลายเซนติเมตร

              แม้ว่าอาการแตกลาย ไม่ได้มีผลต่อสุขภาพโดยรวม แต่ขืนปล่อยไว้นานขึ้นโดยไม่ได้รักษา รอยแตกลายจะมีสีซีดลงจนเป็นสีขาว ผิวบางและบุ๋มลงเหมือนแผลเป็น คงไม่มีคุณแม่คนไหนอยากให้เกิดรอยเช่นนั้น นอกจากจะไม่สวยงามแล้วยังทำให้ขาดความมั่นใจ

               5 วิธีดูแลหน้าท้องให้เรียบเนียน ไร้ริ้วรอย

              แค่อาบน้ำก็ช่วยได้

              แม้การอาบน้ำอุ่นจะช่วยให้คุณแม่สบายตัวและผ่อนคลาย แต่การอาบน้ำอุ่นบ่อยๆ ทำให้ผิวแห้งเป็นขุย ควรอาบน้ำอุณหภูมิปกติจะดีกว่า

              อย่าเกาเด็ดขาด

              เวลาผิวเริ่มแตกมักมาพร้อมอาการคัน จนอดเกาไม่ได้ แต่แม่รู้ไหมว่าการเกาทำให้ผิวหนังอักเสบและอาจติดเชื้อได้ ถ้าอดใจไม่ไหวควรพบแพทย์เพื่อรับยาบรรเทาอาการคัน และตัดเล็บให้สั้นแล้วใช้นิ้วถูเบาๆ แทนจะดีกว่า

              หมั่นทาครีมบำรุงสม่ำเสมอ

              ช่วงแรกของการตั้งครรภ์การทาครีมบำรุงอาจยังไม่จำเป็น แต่เมื่อท้องเริ่มโตขึ้นช่วง 5-6 เดือน หรือสังเกตเห็นรอยแตกลาย ให้เริ่มทาได้ทันที โดยสามารถทาได้บ่อยครั้งตามต้องการ เลือกใช้ได้ทั้งครีมบำรุงหรือน้ำมันบำรุงผิว ที่สำคัญควรหมั่นทาวันละหลายๆครั้ง และทาให้ทั่วท้อง หากท้องใหญ่มากจนทาไม่ถึง อาจต้องให้คุณพ่อมาเป็นผู้ช่วย

              หาหมอนรองหน้าท้อง

              การนอนตะแคงจะเป็นท่านอนที่สบายที่สุดสำหรับคนท้อง แต่กลับทำให้ผิวหนังดึงรั้งไปด้านด้านหนึ่งมากเกินไป ทางที่ดีควรหาหมอนข้างหรือหมอนกอดมารองรับหน้าท้องไว้ จะช่วยให้ปัญหาท้องลายลดลง

              เสริมวิตามินและเกลือแร่

              วิตามินอีและคอลลาเจนเป็นสารอาหารที่ช่วยบำรุงผิวพรรณให้มีสุขภาพดี หากต้องการซ่อมแซมผิวที่สึกหรอ ระหว่างตั้งครรภ์คุณแม่ต้องหมั่นรับประทานอาหารที่มีวิตามินและเกลือแร่เหล่านี้ด้วย

              ครีมทาท้องคุณแม่

              Amarin Baby & Kids Awards 2019 ยกให้ออยบำรุงผิว Bio Oil ได้รับรางวัล Editor’s Choice Best Stretch Marks Treament

              ไบโอออย (Bio Oil) สูตรออยบำรุงผิว เป็นผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับคุณแม่ตั้งครรภ์ เพราะทำจากสารสกัดจากพืชและวิตามิน มีสารประกอบ PurCellin Oil™ ลิขสิทธิ์เฉพาะของไบโอออย บวกกับออยที่ซึมซาบเข้าผิวได้รวดเร็วกว่าเนื้อครีม จึงช่วยให้ผิวชุ่มชื่นในทันที ออยเป็นสีใส มีกลิ่นอ่อนๆ ไม่ฉุน

              นอกจากนี้  Bio Oil ได้ผ่านการประเมิน ตามระเบียบของสภายุโรปและสภาผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง รายละเอียดทางพิษวิทยาว่าปลอดภัยสำหรับการนำไปใช้ในผู้หญิงมีครรภ์ โดยไม่ก่อให้เกิดอันตรายกับลูกน้อยในครรภ์ ช่วยให้คุณแม่ดูแลผิวพรรณของตัวเองได้อย่างมั่นใจ

              ทาง Amarin Baby & Kids “เครือข่ายแม่ลูกใหญ่ที่สุด” ผู้นำด้านคอนเทนต์คุณภาพ เข้าใจครอบครัวไทย และตอบสนองความต้องการของคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ จึงคัดเลือกให้ ออยบำรุงผิว Bio Oil TRYLAGINA  ได้รับ รางวัล Editor’s Choice Best Stretch Marks Treament จาก “Amarin Baby & Kids Awards 2019” ซึ่งมอบให้กับสินค้าแม่ลูก “สินค้าใช้ดี และมีประโยชน์จริง”

               

              อ่านบทความ Amarin Baby & Kids Awards 2019 

              ประกาศผลรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019 สุดยอดแบรนด์สินค้าแม่และเด็กในดวงใจ

              ชมภาพบรรยากาศ งานมอบรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019

               

              เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

               

                ของเล่นไม้

                พลังที่ซ่อนอยู่ใน ของเล่นไม้ กระตุ้นประสาทสัมผัส สร้างจินตนาการจากธรรมชาติ

                ของเล่นไม้ ถูกมองเป็นของเล่นพื้นๆ ไม่มีกลไกให้ว้าว หรือสีสันสะดุดตา แต่รู้ไหมว่าพลังที่ซ่อนอยู่ในไม้ชิ้นเล็กๆที่มาประกอบเป็นของเล่นในรูปแบบต่างๆ กลับช่วยกระตุ้นพัฒนาของลูกน้อยรอบด้านอย่างเป็นธรรมชาติ และปลอดภัยจากสารอันตรายแอบแฝงด้วย

                พ่อแม่คือของเล่นชิ้นแรกที่ดีที่สุดก็จริง แต่เมื่อลูกโตขึ้นเริ่มใช้มือไขว่คว้า มองตามเสียง ยิ้มหัวเราะกับโทนเสียงแตกต่างกันช่วงวัย 4-5 เดือน นั่นเป็นสัญญาณให้พ่อแม่รู้ว่าสามารถหาของเล่นมาให้ลูกเล่นได้แล้ว เพราะนอกจากได้ความสนุกแล้ว ระหว่างเล่นของเล่นลูกยังได้ฝึกฝนและเรียนรู้รอบด้าน ทั้งประสาทสัมผัสทั้ง 5 ฝึกสมาธิ พัฒนาการด้านอารมณ์ จินตนาการ รวมถึงพัฒนาการด้านสังคม การเลือกซื้อควรให้เหมาะกับลูกน้อยในแต่ละวัยซึ่งมีพัฒนาการแตกต่างกัน สรุปคร่าวๆดังต่อไปนี้

                ลูกวัย 0-6 เดือน : โมบาย รูปภาพสีตัดกันขาว  น้ำเงิน เหลือง แดง กล่องดนตรี ของเล่นบีบหรือเขย่ามีเสียง และหนังสือภาพ

                ลูกวัย 6-12 เดือน : ของเล่นที่มีผิวสัมผัสเรียบ หยาบ ขรุขระ ยางกัด บล็อกไม้ กล่องหยอด หนังสือลอยน้ำ กระจกเงา

                ลูกวัย  1-2 ขวบ : ของเล่นลากจูง ของเล่นทุบตอกตี กล่องหยอดรูปเลขาคณิต แป้งโด

                ลูกวัย 2-3 ขวบ : ม้าโยก จักรยานสามล้อ ร้อยลูกปัด รถไฟเรียงซ้อน ชุดเครื่องครัว

                ลูกวัย 3-4 ขวบ : ม้าโยก จักรยานสามล้อ ชุดแท่งไม้สี ลูกลิงสอนสมดุล บ้านตุ๊กตา ชุดเครนก่อสร้าง

                ลูกวัย 4-6 ขวบ : จักรยานสองล้อ เชือกกระโดด ชุดแท่งไม้สร้างเมือง ชุดเครื่องมือช่าง

                อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องคำนึงการตัดสินใจซื้อของเล่นให้ลูก คือความปลอดภัย เพราะของเล่นทุกชิ้นไม่ได้เหมาะกับเด็กทุกคน รวมถึงวัสดุที่ใช้ผลิตของเล่นอาจอันตรายต่อสุขภาพของลูกด้วย

                ของเล่นไม้

                วิธีเลือกของเล่นอย่างไรให้ปลอดภัย

                1ใช้วัสดุปลอดภัยในการผลิต

                หากของเล่นมีส่วนผสมของเคมี คุณแม่ควรเลือกของเล่นที่ไม่มีสารตะกั่วเจือปน ส่วนใหญ่มักเป็นของเล่นสีสันต่างๆ สามารถสังเกตได้จากเครื่องหมายรับรองมาตรฐานและความปลอดภัย เครื่องหมายมาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.) แสดงอยู่ข้างบรรจุผลิตภัณฑ์

                2 ความแข็งแรงของของเล่น

                ควรเลือกของเล่นที่มีประกอบแน่นหนา แยกเป็นชิ้นเล็กจิ๋วไม่ได้ เพราะลูกอาจเอาเข้าปาก หู หรือจมูก

                3ไม่ควรมีปลายแหลม หรือเหลี่ยมคม

                แม้จะเป็นของเล่น แต่ชิ้นส่วนที่มีปลายแหลม หรือเหลี่ยมคมอาจทำให้ลูกบาดเจ็บได้

                4 ควรซื้อของเล่นคุณภาพสูง

                อย่าคิดว่าซื้อของเล่นราคาถูก ลูกเล่นพังก็ไม่เสียดาย ของเล่นราคา 10 บาท 20 บาทอาจแฝงไปด้วยสารเคมีและอันตรายที่คาดไม่ถึง ฉะนั้นควรลงทุนสักหน่อยไม่จำเป็นต้องซื้อเยอะชิ้น แต่เลือกของเล่นคุณภาพที่สามารถเสริมพัฒนาการ ราคาอาจแพงสักหน่อย แต่เล่นได้ยาวนาน

                สำหรับ ของเล่นไม้ ถือเป็นของเล่นคุณภาพอีกประเภทหนึ่งที่ให้ลูกเล่นสนุกไปกับจินตนการกว้างไกล แถมเนื้อสัมผัสจากไม้แท้ๆยังส่งผลดีต่อพัฒนาการด้านประสาทสัมผัสได้อย่างไม่น่าเชื่อ เพราะไม้แต่ละชิ้นมาจากต้นไม้แตกต่างกัน เนื้อไม้ที่ลูกสัมผัสได้จึงไม่เหมือนกัน เรียบมาก หยาบมาก ขรุขระมาก ลูกจะได้เรียนรู้และรับรู้ถึงความแตกต่างของสิ่งรอบตัวได้ดี

                นอกจากนี้ ของเล่นไม้ ส่วนใหญ่เป็นความรู้ที่ตกทอดจากรุ่นคุณปู่ย่าตายาย ซึ่งไม่มีกลไกซับซ้อน ไม่ต้องใช้ถ่าน หรือเสียบปลั๊ก มีเพียงกฎเกณฑ์ง่ายๆที่เด็กเข้าใจและสนุกได้ทันที แถมไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเท่าไหร่ก็เล่นได้ไมรู้เบื่อ เพราะเมื่อลูกโตขึ้นก็จะมีวิธีเล่นของเล่นชิ้นนั้นๆ เปลี่ยนไปด้วย ที่สำคัญยังทำวัสดุปลอดภัย หมดห่วงเรื่องอันตรายแน่นอน

                 

                ของเล่นไม้

                Amarin Baby & Kids Awards 2019 ยกให้ ของเล่นไม้ แบรนด์แปลนทอยส์ ได้รับรางวัล Editor’s Choice Best Toy For Kid

                สำหรับของเล่นไม้แปลนทอยส์ถูกออกแบบให้เหมาะกับเด็ก  0 – 3 ขวบ ทั้งของเล่นเด็กแบเบาะ ของเล่นในน้ำ ของเล่นประเภทดึง-ผลัก ของเล่นเสริมพัฒนาการ เกมส์Puzzle ดนตรีไม้ และบล็อกต่อต่างๆ ผลิตจากไม้ยางพารา ผ่านกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ใช้สีปราศจากสารตะกั่ว และเข้ากับพัฒนาการของเด็ก ไม้ทุกชิ้นกลิ้งเหลาจนไร้ส่วนแหลมเหลี่ยมที่เป็นอันตราย

                แบรนด์นี้มีของเล่นที่ขายดีหลายอย่าง เช่น บ้านไม้ตุ๊กตา บอลไม้ สัตว์ติดล้อ ลาดจอดรถ กลองไม้ ระนาดไม้ ถ้วยน้ำตก เกมส์ตีกอล์ฟ เป็นต้น ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดไม่ได้ขายเฉพาะในประเทศเท่านั้น แต่ยังส่งออกไปขายในอีกหลายประเทศ จนได้รับรางวัลมากถึง 70 รางวัล ใน  11 ประเทศทั่วโลก

                ทาง Amarin Baby & Kids “เครือข่ายแม่ลูกใหญ่ที่สุด” ผู้นำด้านคอนเทนต์คุณภาพ เข้าใจครอบครัวไทย และตอบสนองความต้องการของคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ จึงคัดเลือกให้ ของเล่นไม้ แปลนทอยส์  ได้รับ รางวัล Editor’s Choice  Best Toy For Kid จาก “Amarin Baby & Kids Awards 2019” ซึ่งมอบให้กับสินค้าแม่ลูก “สินค้าใช้ดี และมีประโยชน์จริง”

                 

                อ่านบทความ Amarin Baby & Kids Awards 2019 

                ประกาศผลรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019 สุดยอดแบรนด์สินค้าแม่และเด็กในดวงใจ

                ชมภาพบรรยากาศ งานมอบรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019

                 

                เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                 

                  เครื่องไล่ยุง

                  เครื่องไล่ยุง สำหรับเด็ก เลือกแบบให้ปลอดภัย หยุดยุงตัวร้าย ไม่แพร่โรคร้ายสู่ลูก

                  เครื่องไล่ยุง เป็นอีกหนึ่ง Gadget ที่ขาดไม่ได้สำหรับพ่อแม่ยุคใหม่ เพื่อป้องกันลูกน้อยจาก “ยุง” ตัวร้ายไซส์จิ๋วที่เป็นพาหะนำโรคร้ายหลายชนิด แทนการจุดยากันยุง หรือฉีดสเปรย์กันยุงที่อาจมีสารตกค้างอันตรายต่อสุขภาพทุกคนในครอบครัว แต่จะเลือกเครื่องไล่ยุงอย่างไรให้มีประสิทธิภาพดี และปลอดภัย เรามีวิธีง่ายๆมาฝากกันค่ะ

                  หนึ่งในวิธีกำจัดยุงสำหรับเด็กที่นิยมมากสุด คือ การใช้สเปรย์กันยุง พ่นลงบนผิวหนังหรือเสื้อผ้าของลูกน้อย สารเคมีชื่อ DEET ในสเปรย์จะปกปิดกลิ่นเหงื่อของลูก ซึ่งเป็นตัวล่อยุงให้เข้ามากัด สเปรย์กันยุงโดยทั่วไปจะมีความเข้มข้นของ DEET อยู่ราว  5-25%  ความเข้มข้นนี้ไม่ใช่ตัวชี้วัดประสิทธิภาพในการไล่ยุง แต่หมายถึงระยะเวลาที่ช่วยปกป้องจากยุงได้นานขึ้น

                  แม้สเปรย์กันยุงจะใช้สะดวกแต่ DEET ยังเป็นสารเคมีซึ่งก่อผลข้างเคียงให้เกิดขึ้นได้ เช่น ลมพิษ ผื่นแดง ปากชา มึนงง คันตามผิวหนัง ปวดหัว และคลื่นไส้ หากมีความเข้มข้นสูงจะส่งผลต่อระบบประสาทอื่น ๆ คุณพ่อคุณแม่ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยากันยุงทุกประเภทกับลูกอ่อนอายุต่ำกว่า 2 เดือน โดยเฉพาะชนิดที่มีสารเคมีสังเคราะห์ หากมีสาร DEET เข้มข้นเกิน 30%  ไม่ควรใช้กับเด็กทุกกรณี ส่วนมากกว่าเด็กอายุ 2 เดือนขึ้นไปควรเลี่ยงยากันยุงที่มีน้ำมันยูคาลิปตัสเข้มข้น  มากกว่า 3 ขวบยังต้องเลี่ยงน้ำมันเลมอนเข้มข้น

                  อย่างไรก็ตาม การใช้ยากันยุงเหมาะใช้เวลาลูกอยู่นอนบ้านมากกว่าในบ้าน ซึ่งต้องพิจารณาด้วยว่าลูกอยู่ข้างนอกนานแค่ไหน หากเพียง 1-2 ชั่วโมง ควรใช้ชนิดที่มีสารกันยุงเข้มข้นน้อยก็พอ ถ้าต้องการปกป้องลูกในบ้าน ควรใช้เครื่องไล่ยุง ซึ่งมีหลักการทำงานคล้ายเครื่องพ่นไอน้ำอะโรม่า ด้วยการใช้น้ำมันหอมระเหยที่มีสารไล่ยุงพ่นออกมาเป็นละอองเล็กจิ๋วภายในห้อง

                  เครื่องไล่ยุง

                   

                  วิธีเลือกซื้อเครื่องไล่ยุง ให้เหมาะกับลูกน้อย

                   1 น้ำยาไล่ยุงต้องเป็นสารธรรมชาติ ไม่มีสารเคมีเจือปน
                  เพราะต้องใช้งานในห้องนอน ห้องนั่งเล่นที่มีลูกน้อยอยู่ด้วย ฉะนั้นต้องเป็นส่วนผสมจากธรรมชาติ ที่ลูกสูดดมแล้วจะไม่ก่ออันตรายต่อระบบทางเดินหายใจ และไม่มีสารตกค้างตามเสื้อผ้า หรือเครื่องนอน

                  2 จำนวนครั้งในการใช้งาน

                  เครื่องไล่ยุงประเภทนี้ใช้น้ำยาไล่ยุงเป็นส่วนผสมหลัก ต้องพิจารณาว่าน้ำยา  1 ขวด ใช้ได้กี่ครั้ง และตัวเครื่องสามารถเปิดต่อเนื่องได้กี่ชั่วโมง เพื่อให้คุ้มค่า

                  3 ขนาดพื้นที่ปกป้องยุงได้

                  ควรเลือกเครื่องไล่ยุงที่สามารถพ่นน้ำยาเป็นละอองเล็กๆ ได้ดี เพื่อให้กระจายออกไปในห้องได้ดี ครอบคลุมพื้นที่ในห้องได้มากขึ้น

                  4 ตัวเครื่องไม่ควรใหญ่เกินไป

                  ควรเลือกเครื่องไล่ยุงที่มีขนาดกะทัดรัด สามารถวางหลบให้พ้นจากมือลูกน้อยได้ เพราะหากเครื่องมีขนาดใหญ่เกินไป ต้องวางกับพื้นอาจเป็นอันตรายกับลูกวัยซนได้

                   

                  เครื่องไล่ยุง

                  Amarin Baby & Kids Awards 2019 ยกให้ เครื่องไล่ยุง Kindee ได้รับรางวัล Editor’s Choice Best Mosquito Repellent for Kids

                  เครื่องไล่ยุงไฟฟ้าแบรนด์คินดี (Kindee) เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ป้องกันยุงที่ออกแบบให้เหมาะกับการใช้งานของทุกคนในครอบครัว เพราะใช้น้ำยาที่สกัดจากธรรมชาติ ปราศจากสาร DEET สารเคมีอันตราย และน้ำหอม ปลอดภัยต่อระบบทางเดินหายใจ เปิดในห้องนอน ห้องนั่งเล่น หรือบริเวณที่ลูกน้อยอยู่ระหว่างวันได้ สามารถใช้ได้กับเด็กตั้งแต่แรกเกิด โดยไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ใดๆ

                  ตัวเครื่องไล่ยุงออกแบบให้มีขนาดเล็กกะทัดรัด ดีไซน์สวยงามมีให้เลือกทั้งลายธรรมชาติ และลายคาแรคเตอร์ยอดฮิต เหมาะกับทั้งเด็กชายและหญิง ใช้ง่ายถอด-ใส่ขวดน้ำยาได้ไม่ยุ่งยาก แค่เสียบปลั๊กและเปิดสวิตซ์ เครื่องจะพ่นน้ำยาไล่ยุงออกมาเป็นละองเล็กๆข้างบน ให้กระจายไปทั่วห้องขนาด 13 – 15 ตารางเมตร  น้ำยา 1 ขวดสามารถใช้งานได้นาน 70 วัน ถือว่าคุ้มค่าทีเดียว

                  ด้วยการใช้งานที่ง่ายๆ แค่เสียบปลั๊ก เปิดสวิตซ์ ให้เครื่องพ่นไอน้ำออกมาก็สามารถปกป้องลูกน้อยจากยุงตัวร้ายได้ ที่สำคัญยังปลอดภัยต่อสุขภาพของวัยแบเบาะแบบนี้  ทาง Amarin Baby & Kids “เครือข่ายแม่ลูกใหญ่ที่สุด” ผู้นำด้านคอนเทนต์คุณภาพ เข้าใจครอบครัวไทย และตอบสนองความต้องการของคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ จึงคัดเลือกให้ เครื่องไล่ยุงไฟฟ้า Kindee  ได้รับ รางวัล Editor’s Choice  Best Mosquito Repellent for Kids จาก “Amarin Baby & Kids Awards 2019” ซึ่งมอบให้กับสินค้าแม่ลูก “สินค้าใช้ดี และมีประโยชน์จริง”

                   

                  อ่านบทความ Amarin Baby & Kids Awards 2019 

                  ประกาศผลรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019 สุดยอดแบรนด์สินค้าแม่และเด็กในดวงใจ

                  ชมภาพบรรยากาศ งานมอบรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019

                   

                  เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                   

                    ความเห็นใจผู้อื่น

                    เดนมาร์กสอนวิชา “ความเห็นใจผู้อื่น” ในชั้นเรียน

                    เมื่อโลกต้องการความเข้าใจ เห็นใจซึ่งกันและกัน โรงเรียนในประเทศเดนมาร์ก ซึ่งเป็นประเทศที่มีความสุขเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก เพราะจัดให้มีการเรียนการสอนวิชา ความเห็นใจผู้อื่น ในชั้นเรียน

                    เดนมาร์กสอนวิชา “ความเห็นใจผู้อื่น” ในชั้นเรียน

                    Empathy มีความหมายว่า “ความสามารถในการเข้าใจความรู้สึกของผู้อื่น ความสามารถในการมองจากมุมของผู้อื่น”

                    ทำไมชาวเดนมาร์ก ซึ่งเป็นประเทศที่องค์การสหประชาชาติ ได้จัดอันดับให้เป็นประเทศที่ประชาชนมีความสุขที่สุด?.…นั่นเป็นเพราะโรงเรียนในประเทศเดนมาร์ก ได้บรรจุวิชาที่สอนเรื่อง “Empathy” หรือวิชาที่สอน “ความเห็นใจผู้อื่น” ให้กับเด็กอายุตั้งแต่ 6-16 ปีนั่นเอง

                    คลาสนี้มีชื่อเรียกว่า Klassens tid เด็ก ๆ จะได้แบ่งปันปัญหาที่พวกเขาเจอ ทั้งจากในโรงเรียนหรือในชีวิตประจำวัน ให้กับเพื่อนร่วมชั้น รวมทั้งคุณครู ได้ฟัง เมื่อได้รับฟังแล้วทั้งหมดก็จะช่วยกันหาหนทางในการแก้ปัญหา ซึ่งในการที่จะแก้ปัญหาได้ ก็ต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของการฟังและการทำความเข้าใจอย่างมาก ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้นักเรียนมีความเอาใจใส่ต่อผู้อื่นมากขึ้น การที่เด็กรู้จักเอาใจใส่และเข้าใจผู้อื่นทำให้พวกเขามีการโฟกัสและมุ่งเน้นที่เป้าหมายมากขึ้น โดยนักเรียนที่เข้าใจเรื่องนี้จะช่วยพวกเขาในการสร้างความสัมพันธ์กับผู้อื่นได้ดีขึ้น ซึ่งจะนำไปความสำเร็จในชีวิตในภายหลัง นอกจากนี้ ยังเป็นการป้องกันเรื่องความรุนแรงอย่างการกลั่นแกล้ง (Bullying) ในโรงเรียนอีกด้วย โดยคลาสนี้จะเป็นคลาสเล็ก ๆ ใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงต่อสัปดาห์เท่านั้น

                    การแกล้งกันในโรงเรียน
                    การแกล้งกันในโรงเรียน

                    นอกจากนี้ การเรียนในเดนมาร์ก จะเน้นการทำงานกันเป็นทีม เพื่อช่วยเหลือซึ่งกันและกันและทำงานร่วมกัน แทนที่จะเป็นการแข่งกันเพื่อเอาชนะกัน โดยโรงเรียนจะจัดให้มีการแข่งกันตามที่จำเป็นเท่านั้น แต่นั่นก็เพื่อที่จะกระตุ้นให้นักเรียนแข่งกับตัวเอง เพื่อจะได้ตั้งใจและพัฒนาทักษะของตนเองให้ดียิ่งขึ้นไป

                    ทำไมทักษะนี้ถึงมีความจำเป็นต่อเด็กจนทำให้ประเทศเดนมาร์ก ถึงกับบรรจุวิชานี้ลงในหลักสูตรการเรียนการสอน? นั่นเป็นเพราะทักษะนี้มีความจำเป็นต่อสังคม เมื่อเด็ก ๆ โตขึ้น หากใช้ทักษะนี้ในการทำงาน ในฐานะผู้ขายที่เข้าใจลูกค้า หัวหน้าที่ลูกน้องนับถือ หรือแม้แต่การใช้ทักษะนี้กับคู่ครอง คนรอบข้าง ความเห็นใจผู้อื่น ก็จะช่วยหลีกเลี่ยงการทะเลาะเบาะแว้ง และการไม่เข้าใจกันได้

                    แม้ว่าประเทศไทย จะยังไม่มีการบรรจุหลักสูตรนี้ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะสอนให้ลูกรู้จัก ความเห็นใจผู้อื่น อ่านต่อ 7 ขั้นตอนการสอนลูกให้เอาใจเขามาใส่ใจเราได้ที่หน้า 2 ค่ะ

                     

                    เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                    อ่านต่อ 7 ขั้นตอนการสอนให้ลูกรู้จักเข้าใจและเห็นใจผู้อื่น

                      เป้อุ้มเด็ก

                      เป้อุ้มเด็ก ไอเท็มยอดฮิตครอบครัวยุคใหม่ เลือกแบบไหนใช้งานง่าย ลูกนั่งสบายและปลอดภัย

                      พ่อแม่สมัยใหม่หันมาใช้ เป้อุ้มเด็ก กันมากขึ้น เพราะไม่ต้องอุ้มลูกจนเมื่อยแขน ปวดหลังแล้ว ลูกน้อยรู้สึกสบายและปลอดภัยที่ได้อยู่ใกล้ชิดพ่อแม่มากกว่าการนั่งรถเข็นในบางสถานการณ์ สามาถเคลื่อนที่ได้คล่องตัว ใช้งานสะดวก เหมาะสถานที่จำกัด คนพลุกพล่าน หรือสภาพพื้นที่ไม่เหมาะกับการใช้รถเข็น เช่น สวนสาธารณะ งานแฟร์

                      เป้อุ้มเด็กในท้องตลาดมีให้เลือกหลายแบบ มีฟังก์ชั่นมากมายที่สามารปรับใช้เหมาะกับการงานของแต่ละบ้าน ซึ่งอาจทำให้พ่อแม่มือใหม่สับสน และตัดสินใจไม่ได้ว่าควรเลือกซื้อ เป้อุ้มเด็ก แบบไหนให้ลูกดีถึงจะคุ้มค่า ปลอดภัยกับลูกน้อย

                      เป้อุ้มเด็ก คุ้มค่าแค่ไหน

                      หลายบ้านตัดสินใจไม่ถูกว่าซื้อรถเข็นเด็กแล้ว เป้อุ้มเด็กจำเป็นไหม ความจริงแล้วฟังก์ชั่นการใช้งานของอุปกรณ์ทั้งสองอย่างนี้แตกต่างกัน มีเงื่อนไขที่ช่วยในการตัดสินใจดังต่อไปนี้

                      พาลูกเที่ยวนอกบ้านนอนแค่ไหน

                      ถ้าวันนั้นพาลูกไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะแถวบ้านสัก 30 นาที เป้อุ้มเด็กจะเหมาะมาก หากคุณต้องเดินช้อปของในห้างหลายชั่วโมงๆ การแบกน้ำหนักลูกไว้กับตัวคงไม่ไหว รถเข็นเด็กจะช่วยให้ทั้งตัวคุณแม่และลูกสบายมากกว่า

                      ขนของใช้ลูกเยอะไหม

                      เป้อุ้มเด็กอาจไม่เหมาะกับการมีสัมภาระจำนวนมาก เพราะคุณแม่ต้องแบกน้ำหนักของลูกและของใช้ไปพร้อมกัน ซึ่งเป้อุ้มเด็กจะกลายเป็นภาระมากกว่าตัวช่วยในการเดินทาง

                      เดินทางด้วยวิธีไหน

                      หากเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนบุคคุล เป้อุ้มเด็กอาจไม่จำเป็นนัก แต่ถ้าต้องเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะ ไม่ว่าจะเป็น รถไฟฟ้า เครื่องบิน การอุ้มลูกแนบตัวช่วยให้เคลื่อนไหวได้สะดวกกว่ามาก

                      เมื่อคุณแม่ตัดสินใจว่าจะใช้ เป้อุ้มเด็ก แล้ว เรื่องต่อไปที่ต้องพิจารณาคือฟังก์ชั่นการใช้ของเป้อุ้มเด็กแต่ละแบบ ซึ่งควรเข้ากับไลฟ์สไตล์ของทั้งคุณพ่อคุณแม่ด้วย จริงๆ แล้วสามารถใช้เป้อุ้มเด็กกับลูกแรกเกิดได้ แตควรเลือกอุ้มแบบนอนราบจะปลอดภัยที่สุด หรือรอให้ลูกชันคอได้อายุราว 3 เดือน ค่อยซื้อเป้อุ้มแบบให้ลูกนั่งได้จะคุ้มค่ากว่า

                      เป้อุ้มเด็ก
                      เป้อุ้มเด็ก แบบสลิง เหมาะกับแม่ลูกอ่อนให้นม

                      เลือกเป้อุ้มเด็กอย่างไรให้ปลอดภัยและคุ้มค่า

                      อย่ามองแค่ใช้ได้นาน คุ้มราคา

                      การซื้อเป้อุ้มที่ใช้ได้จนลูกโต จาก 3 เดือนจนถึง 3 ปี ดูคุ้มค่า แต่เด็กแต่ละคนมีรูปร่างและน้ำหนักไม่เท่ากัน และด้วยท่าอุ้มที่ต้องเปลี่ยนไปตามวัยอาจไม่เหมาะกับสรีระของลูกในเวลานั้น จะดีกว่าหากเลือกซื้อเป้ตามอายุและขนาดร่างกายของลูกเป็นหลัก

                      นอกจากนี้ท่าอุ้มของเด็กแต่ละวัยก็ไม่เหมือนกัน หลักๆ มีด้วยกัน 5 ท่าได้แก่ ท่าอุ้มแบบนอนราบ เหมาะกับเบบี๋แรกเกิดที่คอยังชันไม่ได้ ท่าอุ้มแบบหันหน้าแนบตัว เหมาะกับเด็กวัย3 – 6 เดือน เพื่อให้ลูกรู้สึกปลอดภัย ไม่หวาดกลัว  ท่าอุ้มให้เด็กหันหน้าออกด้านนอก เหมาะกับเด็กวัย 7 เดือนขึ้นไปที่สามารถนั่งได้ และพร้อมเรียนรู้โลกภายนอกแล้ว นอกจากนี้ยังมีท่าทั่วไปอย่างอุ้มเข้าสะโพก หรือสะพายหลังด้วย คุณแม่สามารถเลือกให้เหมาะกับท่าอุ้มลูกที่ตัวเองถนัด เพื่อความปลอดภัย

                      เลือกเป้แบบสะพาย อุ้มได้หลายท่าและคล่องตัว

                      นิยมมากที่สุด เพราะทนทานแข็งแรง อุ้มได้หลายท่า เป้อุ้มเด็กในท้องตลาดจะเปลี่ยนได้ 3-5 ท่า อาจมีสายรองสะโพกของลูกน้อยเพื่อช่วยกระจายน้ำหนักจากบ่าไปยังสะโพก ช่วยลดอาการเมื่อยล้าได้ แต่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ พกพาไม่สะดวก

                      เลือกเป้แบบสลิงสำหรับแม่ให้นม

                      คล้ายผ้าห่อตัวเด็ก ไม่มีฟองน้ำหนาๆคอยพยุงหลัง คุณแม่ต้องใช้มือประคองแทน สะดวกกับการให้นม จึงเหมาะกับแม่ลูกอ่อน ถอดใส่ง่าย พับเก็บเป็นชิ้นเล็กได้ แต่ระมัดระวังเรื่องการใส่เพราะอาจทำให้กระดูกสะโพกลูกเคลื่อน ถ้าแน่นเกินไปลูกหายใจไม่ออก หลวมเกินไปลูกลื่นหล่นได้

                      พ่อช่วยอุ้ม เลือกแบบขนาดได้

                      ถ้าคุณแม่จะคอยอุ้มลูกเป็นหลักเวลาไปนอกบ้าน ควรเลือกเป้อุ้มเด็กที่สามารถปรับขนาดได้มาก เพื่อให้เหมาะกับสรีระของคุณพ่อด้วย อุ้มนานแค่ไหนก็ไม่บาดเจ็บ

                      ระบายอากาศดี ลดการอับชื้น

                      วัสดุเป้อุ้มเด็กส่วนใหญ่เป็นผ้า และฟองน้ำ ถ้าอุ้มเป็นเวลานานอาจเกิดความอับชื้น ระคายเคือง หรือเสียดสีผิวบอบบางของลูก ถ้าเป็นไปได้ควรเลือกเป้ที่ทำจากผ้าฝ้ายจะดีที่สุด

                      ถอดง่ายด้วยตัวเอง

                      จุดเล็กๆที่ไม่ควรมองข้ามคือต้องใส่และถอดได้ง่ายด้วยตัวเอง เพื่อความคล่องตัวในการใช้งาน ดังนั้นจึงควรไปทดลองใส่จริงก่อนตัดสินใจซื้อ

                      เป้อุ้มเด็ก

                      Amarin Baby & Kids Awards 2019 ยกให้เป้อุ้มเด็ก POGNAE ได้รับรางวัล Editor’s Choice Best Baby Carrier

                      Pognae เป็นแบรนด์เป้อุ้มเด็กจากประเทศเกาหลี ที่โดดเด่นเรื่องดีไซน์ให้เข้ากับฟังก์ชั่นอย่างลงตัว โดยเฉพาะรุ่น POGNAE No.5 Plus  เป็นเป้แบบ All in One สามารถอุ้มแบบนอนราบด้วยอุปกรณ์เสริมโดยเฉพาะ  หรือนั่งพยุงได้ และมี Hip seat (ฮิปซีท)ที่ช่วยให้ลูกนั่งได้อย่างอิสระ และได้รับการโหวตจากผู้บริโภคทั่วโลกแล้วว่าเป็น Hip seat มีขนาดที่เหมาะสมกับการอุ้มเด็กที่สุด กระจายน้ำหนักได้ดี จึงไม่กดทับหน้าท้องโดยเฉพาะบริเวณแผลผ่าคลอด

                      เป้อุ้มเด็กแบรนด์นี้ผ่านการออกแบบให้ถูกต้องตามหลักสรีระศาสตร์ จึงช่วยให้การอุ้มเด็กอ่อนกระชับปลอดภัย และพยุงไม่ให้เด็กหลังงอด้วยการพยุงหัวไหล่และตรงเอว ด้วยที่เสริมหลัง 4 ชั้น นอกเหนือจากนี้เด็กทารกสามารถเคลื่อนไหวได้และไม่กดทับบริเวณขาและแขน พร้อมทั้งใช้ง่ายด้วยระบบการเกี่ยวที่ไม่ทำให้เกิดเสียงดังต่อเด็ก ใส่ง่ายหลุดยากปลอดภัยมั่นใจ ปรับช่วงขาได้ 3 ระดับ

                      ใช้ซิปไร้เสียงช่วยให้คุณสวนใส่เป้ตอนที่ลูกหลับได้โดยไม่รบกวน สายสะพายรัดด้านหลัง ช่วยพยุงสะบัก จึงไม่รู้สึกปวดหลัง และกระจายน้ำหนักทั้งสองข้างเท่ากัน  มีช่องระบายอากาศส่วนพยุงหลัง ปิด-เปิดด้วยซิป ทำจากผ้าจึงระบายอากาศได้ดี มีตะขอสำหรับเกี่ยวหมวกอยู่ที่สายสะพาย พร้อมรองรับทุกสถานการณ์

                      ทาง Amarin Baby & Kids “เครือข่ายแม่ลูกใหญ่ที่สุด” ผู้นำด้านคอนเทนต์คุณภาพ เข้าใจครอบครัวไทย และตอบสนองความต้องการของคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ จึงคัดเลือกให้ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า TRYLAGINA  ได้รับ รางวัล Editor’s Choice  Best Facial Skincare จาก “Amarin Baby & Kids Awards 2019” ซึ่งมอบให้กับสินค้าแม่ลูก “สินค้าใช้ดี และมีประโยชน์จริง”

                       

                      อ่านบทความ Amarin Baby & Kids Awards 2019 

                      ประกาศผลรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019 สุดยอดแบรนด์สินค้าแม่และเด็กในดวงใจ

                      ชมภาพบรรยากาศ งานมอบรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019

                       

                      เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                       

                       

                        Tags

                        อาการภูมิแพ้

                        5 วิธีเอาชนะ “อาการภูมิแพ้” ลูกน้อยสุขภาพดีไม่ป่วย

                        อาการภูมิแพ้ ที่ร่างกายเตือนว่ากำลังมีสิ่งแปลกปลอมมากระตุ้นให้เกิดภูมิแพ้ ที่เราพบกันบ่อยๆ ก็คือการ ฮัดเช้ย ฮัดเช้ยออกมา แถมยังทำเอาน้ำหู น้ำตาไหล คันตาจนต้องเอามือมาขยี้ให้หายคัน เด็กๆ และคุณพ่อคุณแม่ กำลังมีอาการภูมิแพ้กันอยู่หรือเปล่าคะ เรามาสังเกตอาการ และปกป้องดูแลสุขภาพให้แข็งแรง หรือไม่ให้ป่วยภูมิแพ้เลยจะดีที่สุดค่ะ

                         

                        อาการภูมิแพ้ เกิดจากอะไร ?

                        สาเหตุของอาการภูมิแพ้ มักเกิดขึ้นจาก 2 ปัจจัยนั่นก็คือ พันธุกรรม ที่มีประวัติคนในครอบครัวป่วยเป็นภูมิแพ้ ยิ่งหาก พ่อหรือแม่ คนใดคนหนึ่ง หรือทั้งสองคนมีประวัติว่าเป็นภูมิแพ้ ลูกก็มีความเสี่ยงที่จะป่วยภูมิแพ้ด้วยเช่นกัน ต่อมาคือมาจาก สิ่งแวดล้อม พ่อแม่แข็งแรงไม่มีประวัติเป็นภูมิแพ้ แต่ลูกสามารถที่จะป่วยเป็นภูมิแพ้กันได้ ซึ่งภูมิแพ้ที่พบได้บ่อยๆ นั่นก็คือ อาการภูมิแพ้ ที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจ ซึ่งมีเด็กๆ รวมถึงผู้ใหญ่ป่วยกันมาก กับ “ภูมิแพ้อากาศ” เนื่องจากร่างกายได้รับการกระตุ้นจากสารก่อภูมิแพ้ เช่น ควันบุหรี่ สภาพอากาศตามฤดูกาลต่างๆ ฝุ่น ไรฝุ่น สัตว์เลี้ยง ขนสัตว์เลี้ยง ละอองเกสรดอกไม้  แมลงสาบ เป็นต้น

                        ดังนั้นสิ่งสำคัญที่จะต่อสู้ และรับมือกับอาการภูมิแพ้ระบบทางเดินหายใจ (ภูมิแพ้อากาศ) คือจะต้องส่งเสริมให้สุขภาพของลูกน้อย รวมถึงคุณพ่อคุณแม่ ทุกคนในครอบครัวแข็งแรงอยู่ตลอดเวลาค่ะ

                        อาการภูมิแพ้

                        5 วิธีเอาชนะ “อาการภูมิแพ้” ให้อยู่หมัด

                        1. ภายในบ้านต้องสะอาด

                        เพื่อปกป้องร่างกายจากภูมิแพ้ แนะนำให้คุณแม่ทำความสะอาด ปัด กวาด เช็ดถูบ้านทุกซอง ทุกมุม ทุกห้องภายในบ้าน ให้ปราศจากสารก่อภูมิแพ้ที่มาจาก ขนสัตว์ เศษผง ฝุ่นละออง ฯลฯ เมื่อบ้านสะอาดเปอร์เซ็นต์ที่จะป่วยภูมิแพ้ก็ลดลงค่ะ

                        2. หลีกเลี่ยงพรมปูพื้น

                        บ้านไหนที่กำลังจะตกแต่งบ้านด้วยพื้นพรม ไม่ว่าในห้องนั่งเล่น ห้องนอน ขอให้หยุดไว้ก่อนค่ะ เพราะพื้นพรมนี่แหละที่เป็นแหล่งสะสมของความสกปรก เต็มไปด้วย ไรฝุ่น เชื้อโรค เวลาที่ลูกๆ ลงไปนั่งเล่นบนพื้นพรม ก็จะทำให้สารก่อภูมิแพ้เข้าสู่ร่างกายผ่านระบบทางเดินหายใจ ซึ่งเด็กที่ป่วยภูมิแพ้อยู่เป็นทุนเดิมก็ยิ่งป่วยมากขึ้น หรือในเด็กที่ปกติก็เสี่ยงที่จะเป็นภูมิแพ้อากาศค่ะ

                        3. ออกกำลังวันละนิดสุขภาพแข็งแรง

                        การสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรงด้วยการออกกำลังกายเป็นประจำจะช่วยลดอัตราการเจ็บป่วยลงได้ค่ะ แนะนำให้คุณพ่อคุณแม่และเด็กๆ พากันไปออกกำลังกายทุกวัน หรือสัปดาห์ละ 3-4 วันก็ได้ค่ะ ออกกำลังที่เหมาะกับทุกเพศ ทุกวัย เช่น การวิ่งเหยาะๆ ว่ายน้ำ เต้นแอโรบิค ปั่นจักรยาน เตะบอล ตีเทนนิส เป็นต้น

                        4. อาหารต้านภูมิแพ้

                        การทานอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่ จะช่วยสร้างภูมิคุ้มภายในร่างกายแข็งแรง เมื่อสุขภาพร่างกายดีแข็งแรง ก็จะสามารถต่อสู้กับเชื้อโรค สารก่อแพ้ต่างๆ ได้ ทำให้เจ็บป่วยเป็นภูมิแพ้ลดลงค่ะ สำหรับแหล่งอาหารที่ช่วยลดอาการอักเสบ ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายให้ต่อสู้กับสิ่งแปลกปลอม ก็เช่น กลุ่มอาหารโอเมก้า 3 ปลาทู ปลาทูน่า ปลาแซลมอน เป็นต้น กลุ่มอาหารโปรตีน เนื้อไก่ เนื้อปลา ไข่ เนื้อหมู นมวัว นมถั่วเหลือง เป็นต้น กลุ่มอาหารวิตามินซี ผลไม้ตระกูลเบอรี่ต่างๆ ฝรั่ง ส้ม แอปเปิ้ล สับปะรด เป็นต้น แนะนำว่าการรับประทานอาหารในแต่ละมื้ออาหารควรกินให้หลากหลายครบทุกหมู่อาหารนะคะ

                        อาการภูมิแพ้

                        5. สเปรย์ปรับอากาศ

                        ในทุกวัน ทุกช่วงเวลาที่ต้องการให้อากาศภายในบ้านโล่ง สดชื่น แนะนำให้ฉีดปรับอากาศค่ะ สเปรย์ปรับอากาศที่เป็นมิตรกับสุขภาพของลูกน้อย และทุกคนในครอบครัว แนะนำเป็นสเปรย์ปรับอากาศ “น้ำมันยูคาลิปตัส” เพราะมีความเป็นธรรมชาติ
                        Polar Spray โพลาร์ สปเรย์ สเปรย์ปรับอากาศกลิ่นยูคาลิปตัสแท้จากธรรมชาติ เป็นสเปรย์ที่หลายๆ ครอบครัวเลือกใช้ในการดูแลสุขภาพของคนในครอบครัว เพราะให้กลิ่นหอมสดชื่น เย็นสบาย โล่งจมูก ความพิเศษของโพลาร์ สเปรย์ คือ มีส่วนผสมของ Activ Polar (แอคทีฟ โพลาร์) เทคโนโลยีนในการเปลี่ยนอากาศ วัตกรรมใหม่เพื่อการกำจัดสารก่อภูมิแพ้ และเชื้อโรคในอากาศ ลิขสิทธิ์เฉพาะจาก Nova Health
                        ทำไมแม่ต้อง Polar Spray ?
                        • เป็นกลิ่นยูคาลิปตัสแท้จากธรรมชาติ
                        • มี Tea Tree Oil และสารสกัดจากธรรมชาติหลากหลายชนิด ช่วยเคลียร์อากาศให้สะอาด ช่วยลดการสะสมของเชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส และสารก่อภูมิแพ้
                        • ทดสอบการจำกัดเชื้อโรค จากสถาบันการแพทย์ ศิริราช และ จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย
                        • มีประสิทธิภาพในการกำจัดไรฝุ่น
                        • กำจัดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ H1N1
                        • กำจัดเชื้อแบคทีเรียก่อโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ
                        • กำจัดเชื้อแบคทีเรียก่อโรคติดเชื้อทางเดินอาหาร
                        • กำจัดเชื้อราก่อโรค
                        • กำจัดเชื้อโรคของกลิ่นไม่พึงประสงค์

                        ถ้าเรารู้เท่าทันโรค รู้ทันอาการภูมิแพ้ แล้วรีบปกป้องดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรงอย่างถูกวิธี ไม่ว่าจะเป็นลูกน้อย หรือคุณพ่อคุณแม่ รับรองว่าไม่ป่วยเพราะเป็น “ภูมิแพ้” อย่างแน่นอนค่ะ

                          ปั๊มนมแม่

                          เคล็ด(ไม่)ลับ ปั๊มนมแม่ ง่ายๆ ได้ทุกที่ทุกเวลา

                          ปั๊มนมแม่ อาจไม่ใช่เรื่องสนุกสำหรับคุณแม่มือใหม่ทุกคน เพราะถ้ายิ่งเป็นแม่ที่ต้องออกไปทำงานนอกบ้านด้วยแล้ว การปั๊มนมที่ทำงาน ดูเหมือนจะทำได้ไม่เต็มที่ เพราะไม่สะดวกสบายเหมือนบ้าน หรือระหว่างการ ปั๊มนมแม่ อาจมีงานด่วนแทรก เข้ามา เป็นต้น ฉะนั้นเพื่อให้คุณแม่ได้ ปั๊มนมนอกบ้าน อย่างไร้ความกังวล เรามีเคล็ดลับมาฝากกันค่ะ

                           

                          “ปั๊มนมแม่” สำหรับแม่ทำงาน

                          มีคุณแม่คนไหนบ้างที่ทำงานแล้วต้องเลี้ยงลูกไปด้วย ลองมาดูคำแนะนำการ “ปั๊มนมแม่” ที่ไม่ว่าจะอยู่บ้าน จะไปทำงาน หรือพาลูกเดินเล่นช้อปปิ้ง ฯลฯ ต่อไปนี้การปั๊มนมนอกบ้านจะไม่ใช่ปัญหาให้ต้องกังวลกันอีกต่อไป ที่สำคัญยังทำให้คุณแม่มีเวลาให้ลูก ให้สามี และก็ให้ตัวเองเพิ่มขึ้นด้วยนะคะ

                          เราพบว่าปัญหาหนึ่งของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ คือ คุณแม่จะไม่มีเวลาให้ตัวเอง หรือแม้แต่กับสามีก็แทบจะหมดความกุ๊กกิ๊กกันไปเลย ที่สำคัญในช่วงเวลาของการเลี้ยงลูกก็ไม่มีความสุขเท่าที่ควรจะเป็น รู้ไหมคะว่าสาเหตุเพราะอะไร !?

                          การปั๊มนม คือหนึ่งในปัญหาของแม่มือใหม่ ที่ยังไม่สามารถจัดการเวลาในการปั๊มนมได้ และไหนจะมีอาการแทรกเข้ามา เช่น ปั๊มนมไม่ออก น้ำนมน้อย  ตึงเจ็บเต้านม หัวนมแตก เต้านมอักเสบ เป็นต้น ซึ่งสาเหตุเหล่านี้ มาจากการไม่รู้จังหวะช่วงเวลาในการปั๊มนม ร่างกายแม่ก็ยิ่งเหนื่อยล้าเพลียอ่อนแรง จึงทำให้ไม่สามารถโฟกัสไปกับการเลี้ยงลูกได้เต็มที่ ดังนั้นคุณแม่มือใหม่ที่มีลูกเล็ก และก็เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ต้องมาทำความเข้าใจในการ “ปั๊มนมให้เป็นเวลา” เพื่อที่จะได้จัดสรรเวลาในการเลี้ยงลูก พักผ่อนนอนหลับ ฯลฯ ได้ดีมากขึ้นค่ะ

                          ในช่วงระหว่าง 3 เดือนแรกของการให้ลูกกินนมแม่ แนะนำให้ลูกดูดจากเต้าแม่เป็นหลักนะคะ จากนั้นพอเข้าเดือนที่ 3 ก่อนที่คุณแม่จะต้องกลับไปทำงาน ให้ใช้เครื่องปั๊มนมแม่มาปั๊มสลับกับให้ลูกดูดจากเต้าค่ะ โดยกะเวลา 3-4 ชั่วโมง แล้วปั๊ม 1 ครั้ง หรือในคุณแม่ที่มีน้ำนมมาก คัดเต้าบ่อย อาจปรับเป็นปั๊มนมแม่ทุก 2 ชั่วโมง

                          ถ้าแม่ต้องออกไปทำงานนอกบ้านก็ให้เซ็ทเวลาในการปั๊มนมให้เป็นเวลาที่แน่นอน เช่น ปั๊มนมที่บ้าน 6 โมงเช้า >> ปั๊มนมที่ทำงานเวลา 10 โมง ให้นับเวลาที่ปั๊มนมแม่ทุก 3-4 ชั่วโมงไปแบบนี้ตลอดทั้งวันค่ะ น้ำนมแม่ที่ปั๊มได้ก็เก็บเป็นสต็อกน้ำนมแม่ให้ลูกกินค่ะ

                           

                          เครื่องปั๊มนม ต้องเลือกที่เหมาะกับการใช้งาน

                          สำหรับเครื่องปั๊มนมแม่ ถือว่าเป็นผู้ช่วยอันดับหนึ่งที่จำเป็นมากๆ แต่อย่างที่บอกค่ะว่าเครื่องปั๊มนมมักถูกออกแบบมาให้คุณแม่ไม่ค่อยตอบโจทย์ในการใช้งานสักเท่าไหร่ โดยเฉพาะกับแม่ที่ทำงานนอกบ้าน ต้องการความสะดวก สบายขณะปั๊มนม

                          เครื่องปั๊มนม Freena Youha Plus  เครื่องปั๊มนมที่มาแรงสุดๆ ณ ขณะนี้ เคล็ดลับในการปั๊มนมแม่ที่อยากบอกต่อ ไม่ว่าแม่จะเลี้ยงลูกอยู่บ้าน หรือแม่ที่ต้องทำงานนอกบ้านต่างก็ต้องยกนิ้วให้กับ เครื่องปั๊มนม Freena Youha Plus ถามว่าทำไมถึงถูกใจแม่ๆ  ก็เพราะการปั๊มนมที่สามารถปั๊มได้ทุกที่ใต้เสื้อผ้า และเสียงเครื่องขณะปั๊มนมเงียบมาก ไม่ว่าแม่จะนั่งปั๊มนมที่ทำงาน หรือขณะเดินช้อปปิ้งก็ไม่เป็นที่สนใจในสายตาของใครๆ แน่นอนว่าคุณแม่จะไม่เขินและมั่นใจในการปั๊มนมนอกบ้านมากขึ้น และด้วยการทำงานของเครื่องปั๊มนมที่เงียบจึงไม่รบกวนลูกน้อย และสามีด้วยนะคะ

                          ปั๊มนมแม่

                           

                          คุณสมบัติเด่นของ เครื่องปั๊มนม  Freena Youha Plus 

                          – ตัวเครื่องเล็ก เบา เงียบ พกพาสะดวก

                          – มี 3 โหมดปั๊มพร้อมหน้าจอเรืองแสง 3 สี คือ โหมดกระตุ้น โหมดดูด โหมดท่อน้ำนมอุดตัน

                          – มีแบตเตอรี่ในตัว แบตเตอรี่ลิเธียมเก็บไฟ 3 ชั่วโมง

                          – ปั๊มได้ทุกที่ ปั๊มใต้เสื้อผ้า  ไม่มีใครรู้ว่ากำลังปั๊มนม

                          – เดินปั๊ม ทำงานได้  ปั๊มนมแบบไม่ต้องจับขวด

                          – นวัตกรรมใหม่ล่าสุด กรวยซิลิโคนฟรีน่า นิ่มแนบเต้า (กว่าแบบพลาสติก)

                          – ผลิตจากซิลิโคนคุณภาพสูงทนทาน ทนความร้อน Food Grade BPA Free

                          – อุปกรณ์ต่อง่ายไม่ซับซ้อน แรงไม่ตก ไม่รั่วไหล ไม่มีขวดยื่น

                          – มีระบบป้องกันการไหลย้อนกลับ

                          – บรรจุน้ำนมได้ 8 oz ต่อถ้วย/ข้าง (รวม 16oz/คู่)

                          คุณแม่จะทำอย่างไรถ้าปั๊มนมจนไม่มีเวลาเลี้ยงลูก ? เรามีคำตอบที่ช่วยคุณแม่ได้มาบอกให้ค่ะ

                            เครื่องปั๊มนม Freena Youha Plus

                            เครื่องปั๊มนม Freena Youha Plus ที่คนเป็นแม่ต้องร้องขอ !!

                            เครื่องปั๊มนม Freena Youha Plus เป็นเครื่องปั๊มนมที่เห็นครั้งแรก แล้วร้อง ว้าว!! จนคนข้างๆ ตกใจ เพราะอะไรรู้ไหมคะ เราคนนึงที่อยู่รายล้อมไปด้วยคนที่เป็นแม่มีลูกกันแล้วทั้งนั้น ไม่ว่าจะเพื่อน ไม่ว่าจะญาติๆ ได้เห็นทุกวิวัฒนาการของคนเป็น แม่ตั้งแต่ตั้งท้อง คลอดลูก ให้นมลูก

                            ซึ่งช่วงเวลาที่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ไม่ใช่แค่ให้ลูกกินนมจากเต้าแล้วจบนะคะ เพราะยังมีเรื่องต้องปั๊มนม เก็บสต็อกน้ำนมแม่ อีก ลองคิดดูซิว่าแม่จะลำบากในการใช้ชีวิตประจำวันแค่ไหน  ลองคิดตามกันว่าถ้าตัวเราเป็นแม่ให้นมลูกที่บ้าน แล้ว ระหว่างวันต้องปั๊มนมไปด้วยเลี้ยงลูกไปด้วย หรือพอกลับไปทำงาน งานรอเคลียร์เต็มโต๊ะ เจ้านายเรียกประชุมแทรกด่วนเข้ามาอีก เต้านมก็คัดเจ็บไปหมด รอให้ปั๊มออก  แต่ด้วยเครื่องปั๊มนมที่ใช้ๆ กันอยู่ อาจยังไม่ตอบโจทย์การใช้งานของแม่สัก เท่าไหร่นัก

                             

                             

                            เครื่องปั๊มนม Freena Youha Plus ใช่เลยที่แม่ต้องการ

                            เรากำลังเตรียมตัวเป็นแม่ค่ะ และจากประสบการณ์ที่ได้เห็นจากคนรอบข้าง การเตรียมตัวตั้งท้อง เราเตรียมตัวเตรียมพร้อมมาเป็นอย่างดี แต่เรื่องปั๊มนม ขอบอกว่าก็หวั่นๆ ใจอยู่เหมือนกัน เห็นแม่ๆ นั่งปั๊มกันนี่น่าสงสารเลย บางทีมีงานด่วนเข้ามา ถึงกับต้องหยุดปั๊มกันเลยค่ะ ดังนั้นด้วยความที่เป็นสาวออฟฟิศต้องทำงาน เลยอยากได้อะไรที่ใช้ง่าย สะดวก สบาย และทำให้คล่องตัว จนได้มาเจอกับ เครื่องปั๊มนมฟรีน่ายูฮาพลัส เห็นถึงรูปแบบการใช้งาน บอกเลยว่าชอบมาก และคนรอบข้างก็ทยอยเปลี่ยนมาใช้เครื่องปั๊มนม Freena Youha Plusกันหมด

                            เครื่องปั๊มนม Freena Youha Plus

                            โดยปกติเครื่องปั๊มนม จะมีแค่ตัวเครื่องปั๊ม ที่มีทั้งแบบปั๊มมือ (ปั๊มนมแม่ทีละข้าง) ปั๊มแบบมอเตอร์ อันนี้ก็จะสะดวกหน่อยไม่เหนื่อยในการปั๊มนมแม่ แต่ด้วยตัวเครื่องปั๊มนมมักจะถูกออกแบบมาให้ใช้งานแบบอยู่กับที่ คือตั้งบนโต๊ะ หรือจะวางที่ตักก็ได้ เสียงมอเตอร์ขณะปั๊มก็จะมีเสียงนิดหน่อย ใครไม่รู้ว่าเป็นแม่กำลังปั๊มนมก็จะมองๆ หน่อยว่า ทำอะไร เสียงดังจริงเชียว

                            เครื่องปั๊มนม Freena Youha Plus

                             

                            แต่สำหรับเครื่องปั๊มนม Freena Youha Plusไม่ว่าจะนั่งปั๊มนมอยู่ที่บ้าน นั่งปั๊มนมที่ทำงาน หรือพาลูกออกไปนอกบ้าน เดินเล่นสวนสาธารณะ ซื้อของที่ซูเปอร์มาร์เก็ต ฯลฯ แม่ก็ปั๊มนมได้ทุกที่ ทุกเวลา ไม่รบกวนการใช้ชีวิตประจำวันเลยแม้แต่น้อย เพราะนี่คือสิ่งที่ เครื่องปั๊มนม Freena Youha Plusให้คนเป็นแม่ได้มีความสุขกับการเลี้ยงลูกไปด้วย ทำงานไปด้วย พร้อมกับการปั๊มนมแม่ค่ะ เครื่องปั๊มนมฟรีน่ายูฮาพลัส เป็นเครื่องปั๊มนมที่ออกแบบให้ปั๊มนมพร้อมกัน 2 ข้าง ผ่านกรวยปั๊มแบบติดเต้า ที่สามารถสอดไว้กับเสื้อชั้นใน เมื่อปั๊มแล้วน้ำนมจะไหลไปเก็บไว้ในถ้วยพลาสติกที่มีความจุมากถึงข้างละ 8 ออนซ์   ตรงนี้การใช้งานง่ายมากๆ สามารถใส่ติดตัวไปกับแม่ได้ทุกที่ โดยไม่ต้องเอาขวดนมไปด้วยตัวเครื่องก็เล็ก กะทัดรัด เบา เสียงเงียบ พกพาสะดวก สามารถหนีบกับเข็มขัดปั๊มนมไว้กับเอวได้ ทำให้ไม่ต้องคอยเอามือถือเครื่องปั๊มนมไปด้วย

                            เครื่องปั๊มนม Freena Youha Plus

                            ตรงจุดนี้ชอบมาก เพราะสามารถปั๊มไปด้วย ล้างจาน ชาม ซักผ้าลูก หรือนั่งประชุม ขับรถ ฯลฯ ก็ยังได้ปั๊มนมแม่ไปด้วยได้ ที่สำคัญราคาไม่แพงค่ะ

                            พูดได้เลยว่าเครื่องปั๊มนม Freena Youha Plus  เขาไม่ได้มาเล่นๆ นะคะ เพราะนอกจากจะเป็นขวัญใจของแม่ที่เลี้ยงลูกด้วย นมแม่แล้ว เครื่องปั๊มนมฟรีน่ายูฮาพลัส ยังมีรางวัลการันตีถึงคุณภาพ การตอบโจทย์การใช้งานของแม่ที่ครอบคลุม ด้วยการได้ รับ“รางวัลยอดเยี่ยม เครื่องปั๊มนมแม่ AMARIN  BABY & KIDS AWARDS 2019” มาด้วยค่ะ แล้วแบบนี้จะไม่ให้ว่าที่คุณ แม่ หรือแม่ที่มีลูก ร้องขออยากจะใช้ เครื่องปั๊มนม Freena Youha Plus  กันได้ยังไงล่ะคะ นี่เราก็ซื้อมาแล้วครบเซ็ท รอคลอดลูก ก็พร้อมใช้งานไปกับ เครื่องปั๊มนมฟรีน่ายูฮาพลัสค่ะ

                            เครื่องปั๊มนมฟรีน่ายูฮาพลัสของแท้ไม่แท้ให้แม่ดูที่จุดสังเกต*เครื่องศูนย์ไทยแท้*หน้ากล่องอักษรต้องเป็นภาษาไทย มีคู่มือไทย 4 สี มีใบรับประกันจากศูนย์ยูฮาไทยแลนด์ บริษัท วีรินทร์ จำกัดนะคะ

                             

                              ครีมบำรุงผิวหน้าคุณแม่ยี่ห้อไหนดี

                              ครีมบำรุงผิวหน้าคุณแม่ยี่ห้อไหนดี 2562 คุณแม่เลือก Smooth-E เป็นแบรนด์ในดวงใจ

                              ครีมบำรุงผิวหน้าคุณแม่ยี่ห้อไหนดี ช่วยบำรุงผิวหน้าคุณแม่หลังคลอด ให้กลับมาสวยใส ไร้ริ้วรอย  คุณแม่ทั่วประเทศเลือกและได้โหวต ให้ Smooth-E เป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอันดับหนึ่งในดวงใจ และรับรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019 สาขา Mommy’s Choice

                               

                              ครีมบำรุงผิวหน้าคุณแม่ยี่ห้อไหนดี แม่ทั่วประเทศเลือกแล้วใช้ยี่ห้อนี้เป็นแบรนด์ในดวงใจ

                              Amarin Baby & Kids “เครือข่ายแม่ลูกใหญ่ที่สุด” ผู้นำด้านคอนเทนต์คุณภาพ เข้าใจครอบครัวไทย และตอบสนองความต้องการของคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ ไทย ทั้งรูปแบบ Online ผ่านเว็บไซต์ www.AmarinBabyAndKids.com และเฟซบุ๊คแฟนเพจที่มีเนื้อหาตรงใจ ทันสถานการณ์ โดยมียอดผู้ติดตามมากกว่า 1,000,000 Followers และรูปแบบ On print ผ่าน Bookazine ราย 2 เดือน รวมถึง รูปแบบ On ground งานแฟร์แม่ลูก Amarin Baby & Kids Fair ที่จัดมาแล้วถึง 15 ครั้ง

                               

                              เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านเครือข่ายแม่ลูกอันดับ 1 ของประเทศที่เข้าใจคุณแม่ไทยมากที่สุด เว็บไซต์ Amarin Baby & Kids จึงได้จัด “Amarin Baby & Kids Awards 2019 ครั้งแรกในเมืองไทย เพื่อเฟ้นหาสุดยอดแบรนด์สินค้าแม่และเด็กในดวงใจ  จากคะแนนโหวตของคุณแม่ทั่วประเทศกว่า 10,000 คน ผ่าน www.AmarinBabyAndKids.com เว็บไซต์สื่อกลางข้อมูลคุณภาพจากแม่สู่แม่ Mom to Mom Sharing เพื่อเป็นประโยชน์แก่คุณแม่มือใหม่ที่กำลังมองหา “สินค้าใช้ดี ที่ได้รับการยืนยันจากคุณแม่ตัวจริงทั่วประเทศ”

                               

                              และเพื่อให้สมกับรางวัลที่มาจากความคิดเห็นของแม่อย่างแท้จริง สำหรับแบรนด์สินค้าในสาขา Mommy’s Choice จึงเปิดโอกาสให้แม่ได้ร่วมโหวต  2  รอบ ได้แก่ รอบเสนอชื่อแบรนด์ที่ชื่นชอบ จากนั้นทีมงานได้ทำการเลือกแบรนด์ที่ถูกเสนอชื่อมากที่สุด มาจัด รอบโหวตแบรนด์ในดวงใจ อีกครั้งหนึ่ง

                               

                              ทำไมแม่โหวตให้ Smooth-E เป็นแบรนด์ครีมบำรุงผิวหน้าในดวงใจ

                              แม่ ABK เลือกให้ Smooth-E เป็นแบรนด์สุดยอดครีมบำรุงผิวหน้าในดวงใจ โดยคุณแม่ให้เหตุผลในการเลือกแตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น

                              ชอบตรงที่เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีสารสกัดจากธรรมชาติ ใช้แล้วไม่แพ้ อ่อนโยนต่อผิว ผ่านการทดสอบทางการแพทย์แล้วว่าปลอดภัย

                              เนื้อครีมมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ตามธรรมชาติ ที่สำคัญคือพอทางลงบนผิวแล้วเนื้อครีมซึมซาบดี บางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะด้วยค่ะ

                              ราคาไม่แพง หาซื้อมาใช้ได้ง่าย ผลิตภัณฑ์คุณภาพดี ช่วยลดริ้วรอยได้ดี ผิวกระจ่างใส จุดด่างดำจางลง

                               

                              Smooth-E ผลิตภัณฑ์เวชสำอาง ที่ผลิตขึ้นมาเพื่อดูแลทุกสภาพผิวให้มีผิวสุขภาพดี สมูทอี เป็นผลิตภัณฑ์ที่อยู่คู่คนไทย มาตั้งแต่ปี 1990 โดยดร.แสงสุขพิทยานุกูล เภสัชกร ที่อยากให้คนไทยได้ใช้ผลิตภัณฑ์คุณภาพดี สำหรับ Smooth-E เป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์ที่คงคอนเซ็ปต์ความปลอดภัยจากธรรม จึงทำให้มีกลุ่มผู้บริโภคใช้ผลิตภัณฑ์ได้หลากหลาย ทั้งวัยรุ่น วัยทำงาน และคุณแม่ และด้วยคุณภาพและความปลอดภัยในผลิตภัณฑ์ จึงทำให้คุณแม่ส่วนใหญ่เลือกใช้ครีมบำรุงผิวของ Smooth-E

                               

                              อ่านบทความ Amarin Baby & Kids Awards 2019 

                              ประกาศผลรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019 สุดยอดแบรนด์สินค้าแม่และเด็กในดวงใจ

                              ชมภาพบรรยากาศ งานมอบรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019

                                เป้อุ้มเด็กยี่ห้อไหนดี

                                เป้อุ้มเด็กยี่ห้อไหนดี 2562 คุณแม่เลือก Camera เป็นแบรนด์ในดวงใจ

                                เป้อุ้มเด็กยี่ห้อไหนดี ใช้สะดวก ปลอดภัย คุณภาพเยี่ยม ถูกใจคุณแม่ คุณแม่ทั่วประเทศเลือกและได้โหวต ให้ Camera เป็นแบรนด์เป้อุ้มเด็กอันดับหนึ่งในดวงใจ และรับรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019 สาขา Mommy’s Choice

                                เป้อุ้มเด็กยี่ห้อไหนดี แม่ทั่วประเทศเลือกแล้วใช้ยี่ห้อนี้เป็นแบรนด์ในดวงใจ

                                Amarin Baby & Kids “เครือข่ายแม่ลูกใหญ่ที่สุด” ผู้นำด้านคอนเทนต์คุณภาพ เข้าใจครอบครัวไทย และตอบสนองความต้องการของคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ ไทย ทั้งรูปแบบ Online ผ่านเว็บไซต์ www.AmarinBabyAndKids.com และเฟซบุ๊คแฟนเพจที่มีเนื้อหาตรงใจ ทันสถานการณ์ โดยมียอดผู้ติดตามมากกว่า 1,000,000 Followers และรูปแบบ On print ผ่าน Bookazine ราย 2 เดือน รวมถึง รูปแบบ On ground งานแฟร์แม่ลูก Amarin Baby & Kids Fair ที่จัดมาแล้วถึง 15 ครั้ง

                                เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านเครือข่ายแม่ลูกอันดับ 1 ของประเทศที่เข้าใจคุณแม่ไทยมากที่สุด เว็บไซต์ Amarin Baby & Kids จึงได้จัด “Amarin Baby & Kids Awards 2019” ครั้งแรกในเมืองไทย เพื่อเฟ้นหาสุดยอดแบรนด์สินค้าแม่และเด็กในดวงใจ  จากคะแนนโหวตของคุณแม่ทั่วประเทศกว่า 10,000 คน ผ่าน www.AmarinBabyAndKids.com เว็บไซต์สื่อกลางข้อมูลคุณภาพจากแม่สู่แม่ Mom to Mom Sharing เพื่อเป็นประโยชน์แก่คุณแม่มือใหม่ที่กำลังมองหา “สินค้าใช้ดี ที่ได้รับการยืนยันจากคุณแม่ตัวจริงทั่วประเทศ”

                                และเพื่อให้สมกับรางวัลที่มาจากความคิดเห็นของแม่อย่างแท้จริง สำหรับแบรนด์สินค้าในสาขา Mommy’s Choice จึงเปิดโอกาสให้แม่ได้ร่วมโหวต  2  รอบ ได้แก่ รอบเสนอชื่อแบรนด์ที่ชื่นชอบ จากนั้นทีมงานได้ทำการเลือกแบรนด์ที่ถูกเสนอชื่อมากที่สุด มาจัด รอบโหวตแบรนด์ในดวงใจ อีกครั้งหนึ่ง

                                ทำไมแม่โหวตให้ Camera เป็นแบรนด์ผ้าอ้อมในดวงใจ

                                แม่ ABK เลือกให้ Camera เป็นแบรนด์สุดยอดเป้อุ้มเด็กในดวงใจ โดยคุณแม่ให้เหตุผลในการเลือกแตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น

                                “สินค้าได้มาตรฐาน มีความแข็งแรง ทนทาน รับน้ำหนักได้ดี ใช้แล้วรู้สึกปลอดภัย ออกแบบได้ดี กระชับและรองรับตัวลูกได้ดี ไม่อึดอัด”

                                “ชอบมากๆ เพราะเวลาสะพายอุ้มลูกแล้วไม่ทำให้ปวดหลังเลยค่ะ”

                                “ใช้งานง่าย ดีไซน์ ลวดลายสวยงามมากค่ะ ที่สำคัญคือราคาจับต้องได้ คุณภาพคุ้มกับราคาที่จ่ายไปค่ะ”

                                Camera เป็นแบรนด์สินค้าแม่และเด็ก ที่มีสินค้าครอบคลุมหลากหลายที่ใช้ได้กับทั้งคุณแม่ และลูกน้อย ไม่ว่าจะเป็น รถเข็น คาร์ซีท กระเป๋าคุณแม่ รถพยุงเดิน เปลเพน ของใช้เด็กต่างๆ รวมถึงเป้อุ้มเด็ก Camera สำหรับเป้อุ้มเด็กเป็นหนึ่งในสินค้าที่คุณแม่ให้ความสนใจและซื้อใช้กันมาก บอกได้เลยว่า Camera เป็นแบรนด์ที่เข้าใจถึงความต้องการของคุณแม่มากที่สุด ทุกผลิตภัณฑ์จาก Camera จึงเป็นที่นิยมกันมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบันนี้

                                 

                                อ่านบทความ Amarin Baby & Kids Awards 2019 

                                ประกาศผลรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019 สุดยอดแบรนด์สินค้าแม่และเด็กในดวงใจ

                                ชมภาพบรรยากาศ งานมอบรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019

                                  ของใช้เด็กอ่อน

                                  6 Items “ของใช้เด็กอ่อน” ที่แม่มือใหม่ต้องมี

                                  ของใช้เด็กอ่อน ที่คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ต้องเตรียม และควรมีพร้อมใช้สำหรับสมาชิกใหม่ตัวน้อย ถ้ายังนึกกันไม่ออกว่าควรต้องซื้ออุปกรณ์ของใช้เด็กอ่อนอะไรกันบ้าง วันนี้มีมาแนะนำเป็นไอเดีย กับ 6 Items นี้เลยค่ะ

                                   

                                  ของใช้เด็กอ่อน 6 อย่าง ที่ต้องมีพร้อมใช้สำหรับลูกน้อย

                                  เชื่อว่าไอเดียเตรียม ของใช้เด็กอ่อน ที่นำมาฝากให้กับทุกครอบครัวที่กำลังมีเจ้าตัวน้อย ต้องถูกใจกันอย่างแน่นอน เพราะแต่ละชิ้นน่าใช้มากๆ ค่ะ เรามาเริ่มกันที่…

                                  ของใช้เด็กอ่อน

                                  1. FICO เครื่องฆ่าเชื้อ สำหรับขวดนม

                                  ตู้อบ UV : ใช้รังสี UV ที่เลียนธรรมชาติ ปลอดภัยต่อสุขภาพลูกน้อย

                                  Sterilize : ฆ่าเชื้อโรคได้ถึง 99.9% ทั้งเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย ฆ่าเชื้อโรคด้วยรังสี UV กว่า 50 องศาเซลเซียส

                                  Dryer : อบแห้งด้วยแสงอินฟาเรดไม่มีสิ่งปนเปื้อน สามารถใส่ขวดนมได้มากถึง 10-12 ขวด

                                  Storage : สามารถเก็บขวดนมที่อบฆ่าเชื้อแล้วให้อยู่ในสภาพปลอดเชื้อ เพื่อพร้อมกับการใช้งานได้ทันที

                                  ของใช้เด็กอ่อน

                                  2. FICO เครื่องนึง 6 in 1

                                  Sterilizer Dryer : นึ่งฆ่าเชื้อโรค + อบแห้งขวดนม

                                  Sterilizer : นึ่งฆ่าเชื้อโรค

                                  Dryer : อบแห้งขวดนม

                                  Keep warm : อุ่นอาหารด้วยความร้อน

                                  Yogurt maker : อุ่นนม

                                  Food Dehydrator : อบแห้งผลไม้

                                  ของใช้เด็กอ่อน

                                  3. คาร์ซีท Fico รุ่น X70

                                  • หมุนได้ 360 องศา
                                  • เหมาะสำหรับเด็ก Group 0+ , 1 , 2 , 3 (เด็กแรกเกิด – 12 ปี)
                                  • คาร์ซีทรุ่นนี้เป็นระบบ ISOFIX ที่ใช้ติดตั้งกับรถยนต์ที่มีระบบ ISOIX
                                  • ใช้สำหรับเด็กทารกที่มีน้ำหนักตัวไม่เกิน 36 กิโลกรัม
                                  • จุดเด่นของคาร์ซีนรุ่นนี้คือ สามารถหมุนได้อย่างอิสระ 360 องศา โดยตัวเบาจะยึดเกาะกับโครงสร้างหลักอย่างแน่นหนาและปลอดภัย
                                  • เป็นผลิตภัณฑ์ ISOFIX ที่เกาะกับระบบ ISOFIX ของรถยนต์ได้อย่างมั่นคงและปลอดภัย
                                  • มีระบบป้องกันการหมุน และยังมีขารับน้ำหนักด้านหน้าสำหรับรับแรงกระแทก
                                  • มีระบบป้องกันแรงกระแทกจากด้านข้าง ที่จะช่วยปกป้องศีรษะและด้านข้างลำตัวของเด็กทั้งหมดจากแรงกระแทก
                                  • ผ้าหุ้มเบาะทำจากผ้าที่ไม่ลามไฟ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสามารถถอดซักได้อย่างง่ายดาย
                                  • มีซัพพอร์ตรองนั่งที่หนาและนุ่ม สามารถถอดซักทำความสะอาดได้
                                  • มีระบบสายรัดกันกระแทก 5 จุด มาพร้อมซัพพอร์ตรองหัวเข็มขัดเพื่อป้องกันการเสียดสีที่จะเกิดกับผิวลูกน้อย
                                  • สามารถปรับเอนเบาะได้ 3 ระดับ พนักพิงศีรษะสามารถปรับให้เหมาะสำหรับการเจริญเติบโตของลูกน้อยได้สูงถึง 7 ระดับ สามารถติดตั้งได้ 2 ทิศทาง
                                  • เด็กแรกเกิด – 4 ปีที่มีน้ำหนักตัวไม่เกิน 18 กิโลกรัม ติดตั้งแบบหันหน้าเข้าหาเบาะ และใช้ระบบสายรัด แบบ 5 จุด
                                  • เด็ก 3 – 12 ปีที่มีน้ำหนักตัวตั้งแต่ 15 – 36 กิโลกรัม ติดตั้งแบบหันหน้าออกจากเบาะ และใช้ระบบสายรัดแบบ 3 จุด
                                  • ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยของยุโรป ECE R44/04
                                  • สินค้ามีน้ำหนัก 15 กิโลกรัม

                                  ของใช้เด็กอ่อน

                                  4. รถเข็นเด็ก Fico B798 คุ้มสุดคุ้ม เพราะซื้อ 1 ได้ถึง 3 กับรถเข็นเด็ก Fico รุ่น B798

                                  • รถเข็นเด็ก
                                  • ตะกร้าแปลนอน
                                  • กระเช้าคาร์ซีท

                                  ของใช้เด็กอ่อน

                                  5. FICO เปลไกวไฟฟ้า

                                  • ระบบไกวอัตโนมัติ ปรับระดับการไกวได้ 8 ระดับ
                                  • ระบบตั้งเวลา 20 นาที , 40 นาที และ 1 ชั่วโมง
                                  • เสียงเพลงบรรเลงมากถึง 12 เพลง
                                  • พิเศษเสียงนก และ เสียงน้ำ
                                  • มีช่องต่อ USB
                                  • ใช้กับ Power Bank , ถ่านก้อนใหญ่ 4 ก้อน หรือใช้กับไฟฟ้าบ้านได้

                                  ของใช้เด็กอ่อน

                                  6. เตียงไม้เด็ก เหมาะกับเด็กแรกเกิดขึ้นไปถึงอายุ 4 ปี

                                  • เตียงไม้เด็ก ยี่ห้อ Fico พร้อมอุปกรณ์ที่นอนครบเซ็ท มุ้งกระโจม เบาะที่นอน หมอน ผ้านวม เตียงนอนเด็ก
                                  • ปรับระดับขึ้นลงได้ 3 ระดับ
                                  • ขอบหัวเตียงเคลือบไม้ ด้วยสี PU ไร้สารตะกั่ว
                                  • ปรับระดับขึ้นลงได้ 4 ระดับ
                                  • สามารถปรับเปิดด้านข้าง และเปิดด้านปลายเตียงเพื่อเปลี่ยนผ้าอ้อม
                                  • ปรับเป็นโซฟาได้
                                  • เตียงใช้ไม้สนนิวซีแลนด์ ผ่านการอบแห้งในกรรมวิธีเท่านั้น
                                  • ขาพับปรับเป็นที่โยกได้ พร้อมขาเปลหุ้มยางพีวีซีกันพื้นเป็นรอย
                                  • น้ำหนัก 24 KG. (รวมกล่อง 25 KG.)
                                  • ขนาดของเตียงไม้ ความกว้าง 64 ซม. ความยาว 120 ซม. ความสูง 110 ซม.
                                  • ขนาดเบาะที่นอน ความกว้าง 64 ซม. ความยาว 120 ซม. ความสูง 5 ซม.
                                  • สินค้ารับประกัน 1 ปี

                                  เป็นอย่างไรบ้างคะกับอุปกรณ์ของใช้เด็กอ่อนที่นำมาฝากกัน หวังว่าจะเป็นไอเดียในการเลือกซื้อเตรียมของใช้ให้ลูกน้อยได้ ใช้กันนะคะ หากสนใจสินค้าจาก Fico สามารถเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.mom2babyshop.com หรือ FB : facebook.com/mom2babyshop และที่ LINE : @mom2babyshop