ยาแก้ไอเด็ก

ระวัง! อันตรายของ ยาแก้ไอเด็ก ควรใช้อย่างไรให้ปลอดภัยกับลูก

Alternative Textaccount_circle
event
ยาแก้ไอเด็ก
ยาแก้ไอเด็ก

ยาแก้ไอเด็ก – ผู้ปกครองที่มีลูกเล็ก ๆ อาจรู้สึกว่าลูกป่วยบ่อย โดยทั่วไปเด็กเล็ก สามารถเป็นหวัดได้มากถึง 6-8 ครั้งต่อปี และเด็กส่วนใหญ่จะเป็นหวัด 8-10 ครั้งก่อนจะอายุครบ 2 ขวบ อาการหวัดอาจรวมถึงน้ำมูกไหล จาม มีไข้ต่ำๆ และไอ แม้ว่าอาการไอที่เกิดจากหวัดอาจทำให้ทั้งเด็กและผู้ปกครองกังวลใจได้ แต่การรักษาอาการไอนั้นไม่ได้ง่ายเหมือนการให้ยาเสมอไป แม้ว่าจะมียาแก้ไอสำหรับเด็กจำหน่ายในท้องตลาด แต่ผู้เชี่ยวชาญบางคนไม่แนะนำให้ใช้

ระวัง! อันตรายของ ยาแก้ไอเด็ก ควรใช้อย่างไรให้ปลอดภัยกับลูก

สำนักงานคณะกรรมการยาแห่งชาติ (FDA) ในสหรัฐอเมริกา ไม่แนะนำให้ใช้ยาแก้ไอและยาแก้หวัดที่จำหน่ายหน้าเคาน์เตอร์สำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 2 ขวบ โดยให้เหตุผลว่าอาจทำให้เกิด “ผลข้างเคียงที่ร้ายแรงและอาจถึงแก่ชีวิตได้” ยาแก้ไอสำหรับเด็กที่จำหน่ายหน้าเคาน์เตอร์มีไว้เพื่อช่วยบรรเทาอาการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน เช่น ไอ คัดจมูก และมีเสมหะ ซึ่งองค์การอาหารและยาไม่แนะนำให้ใช้ยาแก้ไอและยาแก้หวัดสำหรับเด็ก เนื่องจากยาแก้ไอที่จำหน่ายหน้าเคาน์เตอร์ไม่ปลอดภัยสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี ตามที่ American Academy of Pediatrics (AAP) ไม่ควรกำหนด แนะนำ หรือใช้ยาแก้หวัดและไอสำหรับโรคหวัดในเด็กเล็ก

นอกจากนี้ โรงพยาบาลเด็กส่วนใหญ่ยังแนะนำว่าไม่ควรให้ยาแก้หวัดและไอแก่เด็กอายุต่ำกว่า 4 ปี  ซึ่งคุณควรถามแพทย์ของคุณก่อนที่จะให้ยาแก่เด็กอายุระหว่าง 4 ถึง 6 ปี และเด็กอายุมากกว่า 7 ปีสามารถรับยาแก้ไอสำหรับเด็กได้ตราบเท่าที่พวกเขาได้รับในปริมาณที่ถูกต้อง

โดยทั่วไป คำสัญญาของผู้ผลิตยาแก้ไอสำหรับเด็กจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการตลาดมากกว่ายา นพ ผู้ปกครองไม่ควรให้ยาแก้ไ แม้ว่ายาแก้ไอในเด็กอาจบรรเทาอาการหวัดได้ แต่ยาแก้ไอไม่ได้ช่วยรักษาให้หายขาด สิ่งสำคัญที่สุดคือคุณควรพูดคุยกับกุมารแพทย์หรือแพทย์ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมก่อนให้ยาแก้ไอแก่เด็ก ไม่ว่าลูกของคุณจะมีอายุเท่าใด

ประเภทของ ยาแก้ไอเด็ก ที่พบในท้องตลาด

ยาแก้ไอสำหรับเด็กอาจประกอบด้วยส่วนผสมที่ออกฤทธิ์ตั้งแต่หนึ่งชนิดขึ้นไป ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยบรรเทาอาการของโรคหวัดที่ทำให้เกิดอาการไอ 

1. ยาลดอาการคัดจมูก (Decongestants) 

ยาลดอาการคัดจมูก มีไว้เพื่อบรรเทาอาการคัดจมูก ยาแก้คัดจมูกส่วนใหญ่มีการบรรยายสรรพคุณว่าช่วยให้ร่างกายสร้างเสมหะน้อยลง ซึ่งควรทำให้ไอน้อยลง เมื่อเด็กเป็นหวัดหลอดเลือดและเนื้อเยื่อในจมูกจะบวม ทำให้เกิดอาการคัดแน่นจมูก ยาลดอาการคัดจมูกทำงานเพื่อทำให้หลอดเลือดในจมูกแคบลงเพื่อให้รู้สึกคัดจมูกน้อยลง อย่างไรก็ตาม American Academy of Family Physicians ไม่แนะนำให้เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปีใช้ยาลดน้ำมูก เนื่องจากยาหลายชนิดมีส่วนผสมของ ฟีนิลเอฟรีนหรือซูโดอีเฟดรีน ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อเด็ฏได้ เนื่องจากผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น พ่อแม่มักจะต้องสอบถามเภสัชกรเพื่อซื้อยาลดอาการคัดจมูกที่มีซูโดอีเฟดรีนทุกครั้ง นอกจากนี้ ไม่แนะนำให้ใช้ ซูโดอีเฟดรีน ในเด็กที่อาจเป็นโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง โรคไทรอยด์ เบาหวาน หรือปัสสาวะลำบาก เพราะอาจทำให้ความดันโลหิตเพิ่มสูงขึ้นได้

2. ยากดอาการไอ (Antitussive/Cough suppressant)

เป็นตัวยาที่ออกฤทธิ์ระงับอาการไอ ทำงานโดยการปิดกั้นการสะท้อนการไอของร่างกาย บางครั้งยาระงับจะใช้ร่วมกับยาขับเสมหะเพื่อรักษาทั้งอาการไอและอาการต่างๆ เช่น มีเสมหะ  บางครั้งยาระงับความรู้สึกจะมีโคเดอีนอยู่ในตัว อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2018 ยาระงับโคเดอีนได้กลายเป็นยาที่ต้องสั่งโดยแพทย์เท่านั้น Dextromethorphan เป็นส่วนประกอบทั่วไปที่มีให้โดยไม่ต้องมีใบสั่งยา แต่อาจมีผลเสียหากบริโภคมากเกินไป เป็นเหตุผลหนึ่งที่ควรหลีกเลี่ยงการให้เด็กเล็ก รายงานปี 2014 ที่ดูยาแก้ไอ OTC สำหรับเด็กและผู้ใหญ่ ไม่พบหลักฐานว่ายาเหล่านี้ใช้ได้ผลจริงกับอาการไอเฉียบพลัน งานวิจัย 19 ชิ้นพบผลข้างเคียงเชิงลบจากยาเหล่านี้ รวมถึงอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ และง่วงนอน
ลูกไอมีเสมหะ
ลูกไอมีเสมหะ

3. ยาขับเสมหะ (Expectorants) 

ยาประเภทนี้มีสรรพคุณที่ทำให้เสมหะบางและมีไว้เพื่อขับเสมหะออกจากทางเดินหายใจ ของผู้ที่ป่วยด้วยโรคหวัด ซึ่ง สารออกฤทธิ์ที่สำคัญ คือ Guaifenesin  ซึ่งโดยทั่วไปมักพบในยาที่ขายตามเคาน์เตอร์ เช่นยา Robitussin และ Mucinex เป็นต้น แม้ตัวยา Guaifenesin จะได้ผลในลดอาการไอในผู้ป่วยหวัดให้ลดน้อยลงได้จริง อย่างไรก็ตามก็ไม่แนะนำให้ใช้สำหรับรักษาอาการไอในเด็กเล็กโดยไม่มีการปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร

อ่านต่อ…ระวัง! อันตรายของ ยาแก้ไอเด็ก ควรใช้อย่างไรให้ปลอดภัยกับลูก คลิกหน้า 2

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up