อย่า…สอนลูกให้โง่? เรื่องที่มนุษย์แม่ต้องรีบอ่าน!

event

สอนลูกให้โง่

♠ ลูกยังเด็กอยู่จะเอาอะไรมากมาย

อีกหนึ่งประโยคยอดฮิตที่พ่อแม่มักชอบพูดแก้ตัวให้ลูก เมื่อลุกน้อยทำผิดเพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์หรือเพราะไม่มีวุฒิภาวะเพียงพอ เช่น เด็กเล็กๆ แซงคิวคนอื่น ก็เป็นเรื่องถูกที่เราไม่ควรโทษเด็กแต่การไม่โทษเด็กก็ไม่ได้หมายความว่าไม่ต้องสอนเด็ก และการแก้ตัวทุกอย่างให้เด็กเมื่อเด็กทำผิดว่า “ไม่เป็นไรหรอกเพราะหนูยังเด็ก” ก็เหมือนสอนว่าเขาเป็นคนที่ไม่มีวันทำอะไรผิดหรือทำผิดมากแค่ไหนก็ไม่ถือว่าผิด แล้วคุณพ่อคุณแม่คิดว่าคนที่คิดว่าตัวเองเป็นคนวิเศษที่ไม่มีวันทำอะไรผิดจะระวังตัวระวังการกระทำไปทำไมกันละ

สิ่งที่ควรทำคือสอนเด็กว่าหนูทำแบบนี้ไม่ได้เพราะอะไร บอกเด็กว่า “หนูแซงคิวคนอื่นครั้งนี้แม่ไม่ว่าไม่ทำโทษอะไรหนูเพราะหนูยังไม่รู้ว่าสิ่งนี้ผิด แต่ตอนนี้หนูรู้แล้วใช่ไหมคะ เพราะฉะนั้นห้ามทำแบบนี้อีกนะลูก”

Must read : สปอยล์ลูก มากไป ระวังลูกนิสัยเสีย!

♠ สอนให้ลูกรู้สึกในสิ่งที่ตรงกันข้ามกับความเป็นจริง

ลูกเอามือไปแตะหม้อร้อนๆ บนเตา แล้วเจ็บมือพองร้องไห้ คุณบอกลูกว่าไม่เจ็บๆ ไม่ร้อนสักหน่อย ซึ่งโดยปกติความจริงแล้ว สิ่งมีชีวิตทุกอย่างมีสัญชาตญาณการเอาตัวรอดอยู่ในตัว ลูกๆ ของคุณก็เช่นกัน สัญชาตญาณจะสอนเรื่องนี้ให้กับเด็กเองโดยอัตโนมัติให้เขาระวังมากขึ้นและกลัวในสิ่งที่ทำให้เขาเจ็บปวด

…แต่การสอนแบบนี้เป็นการสอนที่ตรงกันข้ามกับสัญชาตญาณและยังทำให้เด็กสับสนในจิตใจ และเมื่อเขาเห็นหม้อตั้งอยู่บนเตาอีกครั้งเมื่อเขาอยากลองที่จะแตะมันอีกที แม้สัญชาตญาณจะสอนเขาว่า “อย่านะ เดี๋ยวก็ได้เจ็บอีกหรอก” แต่คำสอนของคุณกลับแทรกเข้าไปในความคิดว่า “แต่แม่บอกว่าไม่ร้อน ไม่เจ็บนี่ เราคิดไปเองหรือเปล่า”

ซึ่งถ้าสัญชาตญาณชนะก็ดีไปแต่ถ้าไม่ผลเป็นอย่างไรก็คงรู้ดี เพราะฉะนั้นเรื่องนี้คำถามคือ คุณพ่อคุณแม่จะสอนในสิ่งที่เป็นการทำลายสัญชาตญาณการเอาตัวรอดของลูกทำไม? เว้นเสียแต่ว่าคุณอยากให้ลูกมีสัญชาตญาณการเอาตัวรอดต่ำกว่าคนปกติ!

สิ่งที่พ่อแม่ควรทำคือ ปลอบเขาโอ๋เขาทายาให้เขาและเมื่อเขาหยุดร้องไห้ค่อยบอกว่า “ถ้าหนูเอามือไปแตะหม้อที่อยู่บนเตา หนูก็จะเจ็บอย่างนี้ละลูก ตอนนี้หนูรู้แล้วจำได้แล้วใช่ไหม ทีหลังหนูก็อย่าทำแบบนี้อีกนะ”

อ่าน 15 นาทีทุกวัน

ดังนั้น เมื่อเห็นลูกเจ็บเพราะความซน ความไม่ระวัง คนเป็นพ่อเป็นแม่ควรทำยังไงปล่อยให้ร้องไห้ เข้าไปโอ๋ หรือตีซ้ำ

จะอย่างไรก็ตาม ขอเพียงแค่ให้คุณพ่อคุณแม่คิดไว้เสมอว่า ในโลกของเด็กเล็กๆ พ่อแม่ไม่ได้เป็นแค่พ่อแม่แต่เป็นทุกสิ่งอย่างสำหรับเขา ผู้ใหญ่เวลาเจอเรื่องแย่ๆ ถ้าเขาไม่อยากบอกพ่อแม่พวกเขายังมีแฟนมีเพื่อนมีญาติแต่เด็กเล็กๆ พวกเขาไม่มีใครอีกเลย การที่ความรู้สึกของลูกถูกปฏิเสธความสำคัญไป ผลที่ได้ไม่ใช่ความเข้มแข็ง แต่เป็นการขาดความมั่นคงทางจิตใจ เมื่อโตมาเด็กมักจะเป็นคนที่เย็นชา จนขาดความเห็นอกเห็นใจหรือไร้ความรู้สึกไปโดยปริยาย

ดังนั้นการปลอบการโอ๋นั้นไม่ได้ทำให้เด็กอ่อนแอแต่อย่างใด แต่เป็นการทำให้เขารู้สึกว่ามีคนรัก มีคนห่วงใยและรู้สึกว่าตัวเขาเองมีความสำคัญ ส่วนการจะทำโทษเด็กซ้ำในสิ่งที่พวกเขา “ไม่ได้ตั้งใจทำ ไม่ได้ต้องการให้มันเกิด และไม่มีใครได้รับผลร้ายจากสิ่งนั้นนอกจากตัวเขาเอง”

อ่านต่อ >> “คำสอนของพ่อแม่” สำคัญต่อลูกอย่างไร คลิกหน้า 4

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up