พ่อแม่ช่วยดึงพรสวรรค์ของลูกได้อย่างไร

มีหนังสือดีๆ ติดบ้าน  ไอเดียส่วนใหญ่มักอยู่ในหนังสือดีๆ  โดยเฉพาะหนังสือภาพ เด็กจะชอบและเห็นตัวอย่างแปลกใหม่อยู่เสมอ  หาหนังสือดีๆ ที่ทันสมัยมาเปิดอ่านบ้าง

ให้ความรู้มากกว่าหลักสูตรตามระดับชั้น  อาจจะไม่ถึงขั้นว่าพาลูกไปเรียนพิเศษข้ามเกรด  คุณพ่อคุณแม่สามารถหาหนังสือหรือแบบฝึกหัดตามความถนัดที่เกินอายุของลูกสัก 1 – 2 ปี  มาสอนให้กับลูก และดูว่าเขามีพัฒนาการต่อยอดเพิ่มขึ้นได้แค่ไหน

ย้ายโรงเรียน   มีบางโรงเรียนที่เน้นสอนหลักสูตรเฉพาะ  ซึ่งจะมีอาจารย์ที่สอนด้วยเทคนิคที่ไม่เหมือนกัน  และมีอุปกรณ์ครบกว่า  คุณพ่อคุณแม่จำเป็นต้องหาข้อมูลเพิ่มขึ้นว่าที่โรงเรียนนั้นๆ สอนแบบไหน และหากย้ายโรงเรียนใหม่ๆ  แล้วเพิ่มทักษะด้านั้นให้กับลูกได้มากน้อยแค่ไหน?

Check list  เรากำลัง “กดดัน” หรือไม่?

• ลูกยังสนุกกับสิ่งที่ได้เรียนรู้ใหม่ๆ หรือไม่?
• ลูกอยากทำสิ่งที่แตกต่างกว่านี้หรือไม่?
• ลูกอยากจะเรียนรู้ต่อไปหรืออยากจะเปลี่ยนกิจกรรมที่ทำอยู่?
• ลูกอยากเรียนรู้เพิ่มเติมหรือไม่?
• ลูกชอบเพื่อนๆ ในกลุ่มที่ทำกิจกรรมร่วมกันอยู่หรือไม่?
• ลูกเล่าเรื่องต่างๆ ด้วยความสนุกหรือเป็นกังวล?

 

สัญญาณบ่งบอกว่า “สิ่งนี้คือพรสวรรค์ของลูก”

• คิดได้ไม่เหมือนใคร
• จดจำได้อย่างไม่น่าเชื่อ
• พูดถึงมันซ้ำๆ
• หาข้อมูลเพิ่มเติมได้เอง
• สร้างคำอธิบายเกี่ยวกับสิ่งนั้นได้อย่างเข้าใจ โดยไม่เคยเรียนรู้จากใครมาก่อน
• เป็นผู้นำกลุ่มให้ทำในสิ่งที่เขาต้องการได้
• มั่นใจว่าทำได้สำเร็จ
• รู้ว่าจะหาสิ่งเหล่านั้นได้จากที่ไหน
• รู้ว่าใครที่เขาสามารถพูดเรื่องเดียวกันนี้ได้
• ทำกิจกรรมนั้นร่วมกับเด็กที่อายุมากกว่าเขาได้
• แยกแยะได้ว่าเรื่องไหนเป็นเรื่องจริง หรือจินตนาการ

ทดสอบ “พรสวรรค์” ของลูก

• ถ้าลูกสนุกและรู้สึกดี ชื่นชอบและตื่นเต้นกับมันอยู่ตลอดเวลา
• ทดสอบว่าเขาทำได้ดีกว่าเด็กคนอื่นในวัยเดียวกัน
• ถ้ามองเห็นศักยภาพของลูกว่าก้าวกระโดดกว่าเด็กคนอื่นๆ อาจจะพาลูกไปปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับคำปรึกษาสำหรับปฏิบัติกับเด็กที่มีพรสวรรค์ประเภทนี้ได้อย่างไร
• พาลูกไปทดสอบ IQ กับสถาบันที่น่าเชื่อถือได้

 

เรื่องโดย : กองบรรณาธิการ
ภาพ : ShutterStock