น้ำมะพร้าว

น้ำมันมะพร้าว ประโยชน์ 20 อย่าง ดีต่อสุขภาพเด็กทารก

น้ำมันมะพร้าว ประโยชน์ เพราะลูกวัยทารกยังบอบบางอยู่ ทำให้คุณพ่อคุณแม่ต้องคำนึงถึงเรื่องสุขภาพลูกมาเป็นอันดับหนึ่ง ผลิตภัณฑ์ ข้าวของเครื่องใช้หากปราศจากสารเคมี และมาจากธรรมชาติ 100% จะดีกับเด็กทารกที่สุด ทีมงาน Amarin Baby & Kids มีประโยชน์อันน่ามหัศจรรย์จากน้ำมันมะพร้าว ที่ดีต่อสุขภาพลูกวัยทารก มาฝากค่ะ

 

น้ำมันมะพร้าว ประโยชน์ : น้ำมันมะพร้าว ประเภทต่างๆ

ปัจจุบัน น้ำมันมะพร้าวที่วางขายในท้องตลาดมีมากมายหลายประเภท ได้แก่

  • น้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ (pure coconut oil) : รีดสกัดจากเนื้อมะพร้าวแห้ง ไม่เติมสารใดๆ
  • น้ำมันมะพร้าวผ่านกรรมวิธี (refined coconut oil) : ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น เนื่องจากผ่านกระบวนการทางเคมีต่างๆ เช่น ทำให้บริสุทธิ์ ฟอกสี และแต่งกลิ่น
  • น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น (virgin coconut oil) : สกัดจากเนื้อมะพร้าวสดและไม่ใช้ความร้อนใดๆ ในกระบวนการสกัด จึงคงรักษาสารต้านอนุมูลอิสระ กลิ่นหอม และรสชาติดั้งเดิมไว้ครบถ้วน
  • น้ำมันมะพร้าวอินทรีย์ (organic coconut oil) : ผลิตจากมะพร้าวที่บำรุงด้วยปุ๋ยธรรมชาติ ไม่ใส่สารเคมีใดๆ ทั้งในขั้นตอนการปลูกและการสกัดน้ำมัน
  • น้ำมันมะพร้าวอินทรีย์สกัดเย็น (organic virgin coconut oil) : สกัดจากมะพร้าวอินทรีย์แบบไม่ผ่านความร้อนและไม่เติมสารเคมีใดๆ ในกระบวนการผลิต

อ่านต่อ >> “น้ำมันมะพร้าว ประโยชน์ที่น่ามหัศจรรย์ สำหรับลูก” หน้า 2

 

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

    ซาบซึ้ง…เมื่อเหล่าคุณแม่คนดัง ชวนกันแชร์ความรู้สึกในวันที่ได้เป็นแม่เพื่อส่ง #พลังใจให้แม่ผ่าคลอด …คนใหม่

    เป็นเรื่องน่าดีใจและเต็มไปด้วยความสุขมากมายจริงๆ เมื่อได้เป็น “แม่”

    แต่ในช่วงเวลาที่คนเป็นแม่ได้ให้กำเนิดลูกน้อย…โดยเฉพาะคุณแม่ผ่าคลอด พวกเธอไม่ได้มีแค่ความดีใจ เธอยังมีอีกหลายความรู้สึกที่แอบกังวล แอบกลัวอยู่ลึกๆ จะเลี้ยงลูกยังไง ลูกจะแข็งแรงไหม?

     

    คงเพราะความเข้าใจแม่ด้วยกันนี้เอง ทำให้บรรดาแม่ๆคนดัง ที่ผ่านช่วงเวลานั้น ทั้งคุณเบนซ์ คุณกระแต คุณแอน คุณลีเดีย และอีกหลายๆ คน พร้อมใจที่จะส่งต่อความรู้สึกถึงแม่ผ่าคลอดคนใหม่ ผ่านการใส่แฮชแท็ก #ถึงผ่าคลอดก็มีทางออกเสมอ #พลังใจให้แม่ผ่าคลอด

    เราได้คัดบางข้อความมาให้อ่านกัน เพื่อส่งพลังใจถึงแม่ผ่าคลอดคนใหม่ไปด้วย อ่านแล้วรู้เลยว่าคนเป็นแม่ทำได้ทุกอย่างเพื่อลูกจริงๆ

    15870828_1207958762645704_2128300727_nคุณแม่เบนซ์ พรชิตา เล่าถึงตอนที่ตัวเองรู้ว่าต้องผ่าคลอด น้องปริม
    … “เมื่อรู้ว่าต้องผ่าคลอด ตอนนั้นถ้าถามเบนซ์ สิ่งนึงที่เบนซ์กังวลที่สุดคือกลัวจะไม่มีนมให้ลูก กังวลมาก ยิ่งวันคลอดใจก็คิดว่าจะมีนมให้ลูกเราไหมนะ หาข้อมูล ปรึกษาทั้งสามีเเละคุณหมอตลอด แต่โชคดีมากกที่นมมาวันแรกเลยใจชื้นขึ้นมานิดนึง เเต่บอกเลยว่าเจ็บมาก เพิ่งเข้าใจจริงๆ ว่าการเป็นแม่ต้องอดทนและเสียสละขนาดไหน… เห็นเค้าโตขึ้นทุกวันด้วยน้ำนมจากเต้าของเราเอง เราเจ็บแค่ไหนก็มีความสุขที่สุด #ถึงผ่าคลอดก็มีทางออกเสมอ #พลังใจให้แม่ผ่าคลอด เบนซ์เชื่อว่า ตอนนั้นคนเป็นแม่จะมีเรื่องกังวลเยอะ แต่อาจไม่บอกใคร… เป็นพลังใจถึงคุณแม่คนใหม่กันนะคะ”

     

     

    15820039_1207958712645709_59581082_n

    คุณแม่กระแต ศุภักษร กับการผ่าคลอดลูกสาวคนแรก น้องเจ้าขา

    … “ตื่นเต้นตั้งแต่ก่อนคลอด จนหลังคลอด ตอนนั้นห่วงมากว่าลูกจะแข็งแรงไหม น้ำคร่ำน้อยไปมั้ย แต่พอจะคลอดจริงๆได้เห็นหน้าเขา ก็ยิ่งตื่นเต้น ได้สัมผัสได้ยินเสียงร้องเขาทำให้ความรู้สึกที่เคยกังวลหายไปหมด กลายเป็นความดีใจ น้ำตาก็ไหลด้วยความสุข อีกอย่างกระแตโชคดีมากที่วันแรกนมก็มาเลย และมาเยอะมากๆ ด้วย เพราะตอนแรกก็กังวลเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน ตอนนี้พอจะนอนลูกหันมาเข้าเต้าตลอด มันคือความสุขของคนเป็นแม่จริงๆ ค่ะ

    ถึงตอนนี้กระแตเลี้ยงเขาเอง อุ้มเขาได้ตลอด อุ้มจนไม่อยากวางเลย #ถึงผ่าคลอดก็มีทางออกเสมอ #พลังใจให้แม่ผ่าคลอด คนเป็นแม่เท่านั้นถึงเข้าใจความรู้สึก เป็นพลังใจให้คุณแม่คนใหม่เอาชนะทุกความกังวลนะคะ”

     

    15841703_1207958709312376_1431238164_nคุณแม่แพมแพม ดาราธิป กับวันแรกที่ได้เจอกับ น้องมัมมี๊
    … “แอบกังวลมาก จากตอนแรกที่คิดจะคลอดเองตามธรรมชาติ แต่สุดท้ายต้องผ่าเพราะคุณแม่ตัวเล็กและน้ำคร่ำน้อยลงเร็วมากๆ… กลัวว่าจะอันตรายไม่มีที่ให้ลูกอยู่…

    ความรู้สึกครั้งแรกตอนที่ได้ยินเสียงได้เห็นหน้า คนที่เรารักและดูแลเค้าตั้งแต่ยังไม่ทันได้เจอ… มันเป็นความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้จริงๆคะ…

    แพมโชคดีที่มีน้ำนมให้ลูกตั้งแต่วันแรก ตั้งใจเลยว่าหลังคลอดแล้วอยากให้นมจากอกเราให้เร็วที่สุดจะได้มีภูมิต้านทานดีๆ… เข้าใจเลยวันนี้ว่าแค่นมแม่อย่างเดียวสามารถทำให้ลูกโตได้ขนาดนี้ แถมยังให้เราได้มีช่วงเวลาดีๆ ได้ให้ความรัก ความอบอุ่น ความผูกพันซึ่งกันและกันกับลูก
    วันนี้แพมเลยอยากมาเป็นกำลังใจคนที่กำลังจะเป็นคุณแม่มือใหม่ สู้ๆ นะคะคุณแม่ทุกคน #ถึงผ่าคลอดก็มีทางออกเสมอ #พลังใจให้แม่ผ่าคลอด

     

    15841210_1207958665979047_1476051716_nคุณแม่เพชร นาระ กับลูกชายคนแรก น้องชาร์วี
    … “คงจะเหมือนกับคุณแม่หลายหลายคนคือการกลัวเข็มบล็อกหลังและกลัวการผ่าตัด อะไรจะเกิดขึ้นบ้าง ยาชาจะได้ผลไหม แล้วเราจะเจ็บมากไหมหลังคลอด…
    กำหนดผ่าคลอดวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ตื่นเต้นมากกับการผ่าตัด ตื่นเต้นกับการที่จะได้เจอหน้าลูกตัวน้อยของเราแล้ว…เมื่อเวลามาถึงสิ่งที่เรากลัวทั้งหมด จริงๆแล้วมันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด เราแค่คิดมากไปเองอยากจะแชร์ให้คุณแม่แม่ที่ต้องผ่าคลอดมีกำลังใจนะคะ…

    อีกอย่างคือเพชรมีน้ำนมให้ลูกทานตั้งแต่วันแรกค่ะ อันนี้แม่ต้องไม่เครียดนะคะ… ทำใจให้สบายๆค่ะ ทานน้ำอุ่นๆเยอะๆ เด๋วน้ำนมก็มาค่ะ #ถึงผ่าคลอดก็มีทางออกเสมอ #พลังใจให้แม่ผ่าคลอด

     

    นอกจากนี้ คุณแม่แอน อลิชา ที่ผ่าคลอด น้องริชาแบบไม่ทันตั้งตัว และ คุณแม่ลีเดีย ที่ผ่าคลอด น้องดีแลนเพราะน้องไม่กลับตัวตามที่ตั้งใจว่าจะคลอดเอง ก็ยังได้บันทึกเสียงความในใจถึงแม่ผ่าคลอดกันด้วย ลองคลิกไปฟังจะยิ่งอินกับความรู้สึกของคนเป็นแม่ตาม link นี้ได้เลย

    https://www.instagram.com/p/BN8boPch8gU/

    https://www.instagram.com/p/BOEvcSrjk7l/

    คุณแม่ที่อ่านแล้ว อยากร่วมแชร์ความรู้สึกก็สามารถเล่าเรื่องของตัวเองพร้อมใส่แฮชแท็ก #ถึงผ่าคลอดก็มีทางออกเสมอ #พลังใจให้แม่ผ่าคลอด เพื่อร่วมส่งไปถึงคุณแม่คนใหม่ด้วยกัน

      อาหารทำลายสุขภาพ

      7 อันดับ อาหารทำลายสุขภาพ ลูกน้อย

      อาหารทำลายสุขภาพ  การทานอาหารบางประเภทบางครั้งก็ให้โทษกับร่างกายได้เช่นกัน ยิ่งกับเด็กๆ หากคุณแม่จัดให้ทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ หรือให้ทานอาหารเมนูเดิมๆ ก็จะทำให้ลูกได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วน ที่สำคัญยังจะส่งเสริมให้สุขภาพลูกแย่เกิดการเจ็บป่วยได้ ทีมงาน Amarin Baby & Kids มี อาหารทำลายสุขภาพ ที่ไม่เหมาะที่จะให้เด็กทานกันบ่อยๆ มาฝากค่ะ

       

      อาหารทำลายสุขภาพ – กินไม่ดีก็ป่วยได้ง่าย !

      การเจ็บป่วยที่เกิดจากการกินอาหารไม่ถูกต้องเรียกว่า กลุ่มโรค NCDs (Non-Communicable diseases) หรือกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ที่เกิดจากการทานอาหารหวาน มัน  เค็มจัด ซึ่งโรคในกลุ่ม โรค NCDs มีอัตราผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตสูงสุด 6 โรค ได้แก่

      • โรคเบาหวาน (Diabetes Mellitus)
      • โรคหลอดเลือดสมองและหัวใจ (Cardiovascular & Cerebrovascular Diseases )
      • โรคถุงลมโป่งพอง (Emphysema)
      • โรคมะเร็ง (Cancer)
      • โรคความดันโลหิตสูง (Hypertension)
      • โรคอ้วนลงพุง (Obesity)1

       

      การกินอาหารที่ไม่เหมาะสมหากร่างกายสะสมมากๆ ก็จะทำให้เกิดโรคได้ง่าย อย่างในเด็กเล็กๆ ที่พ่อแม่มักจัดอาหารให้ลูกไม่ถูกต้อง บางครั้งตามใจให้ลูกกินอาหารเดิมๆ ซ้ำๆ ไม่ทานอาหารที่หลากหลาย ก็จะทำให้ร่างกายลูกได้สารอาหารเดิมๆ โดยที่ไม่ได้รับสารอาหารที่สำคัญต่อร่างกายชนิดอื่นๆ บ้าง  รับรองในอนาคตโรคถามหาแน่นอน เอาเป็นว่าเราไปดูกันสักนิดค่ะว่าอาหารอะไรบ้างที่ไม่ควรให้ลูกทานบ่อยๆ หรือหากเลี่ยงได้ควรงดไม่ให้ทานไปได้ยิ่งดีค่ะ

      อ่านต่อ >> “อาหารทำลายสุขภาพ ลูกน้อย ที่ควรเลี่ยง!” หน้า 2

       

       

      เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

        12 หัวใจสื่อสารกับวัยซนคำสั่งแม่ก็ศักดิ์สิทธิ์ได้

        ออกคำสั่งกับลูก เมื่อพูดถึง “คำสั่ง” ฟังดูแล้วไม่ค่อยมีใครปลื้มกับคำคำนี้เท่าไรนัก เช่นเดียวกับเด็กๆ ที่มักจะชักสีหน้าเวลาถูกสั่ง หรือถูกห้ามไม่ให้ทำโน่นทำนี่ และหากไม่ยอมทำตาม พ่อแม่หลายๆ ท่านมักปลดปล่อยอารมณ์ด้วยท่าที หรือคำพูดที่สะเทือนใจ เผลอๆ อาจมีลงไม้ลงมือด้วย

        คุณแม่มีคำถาม : คุณแม่ข้องใจว่าการเป็นผู้หญิง – ผู้ชายมีผลต่อการออกคำสั่งลูกหรือเปล่าคะ มีลูกชาย 2 คน อายุ 6 กับ 5 ขวบค่ะ สังเกตว่าคำสั่งเดียวกัน วิธีพูดเหมือน ๆ กัน ให้เก็บของเล่น ไปอาบน้ำ ไม่กินขนมก่อนอาหาร ฯลฯ ถ้าเป็นคุณพ่อสั่ง 90 เปอร์เซ็นต์ลูกจะฟังและทำตามทันที แต่ถ้าเป็นคุณแม่สั่ง ต้อง 3 – 4 รอบเป็นอย่างต่ำถึงจะทำตามกัน บางครั้งก็ต้องลงมือลงไม้กันทีเดียวค่ะ

        ตอบ : สำหรับพ่อออกคำสั่งแล้วศักดิ์สิทธิ์กว่าแม่ อาจเพราะความเป็นชายเป็นหญิงใช่หรือไม่ ก็มีคำอธิบายที่สนับสนุนอยู่

        ออกคำสั่งกับลูก

        ตั้งแต่เด็กวัยอนุบาล – ประถมต้น รู้จักลักษณะและความแตกต่างของหญิง – ชายแล้ว เช่น ผู้หญิงมักจะใจอ่อนและให้อภัยได้ง่ายกว่าผู้ชายซึ่งมักเอาจริง เข้มแข็ง เฉียบขาด และชัดเจนกว่าหรือแม้แต่เหตุผลที่ว่าผู้ชายรูปร่างใหญ่โตกว่า ดูมีอำนาจมากกว่าด้วยเหตุเหล่านี้คำสั่งของพ่อจึงมักมีผลกับลูก ๆ ในทันที

        นอกจากนี้ยังมีผลงานวิจัยล่าสุดที่พบว่า เด็กผู้ชายมักจะตอบสนองต่อน้ำเสียงแหลมของผู้หญิงน้อยกว่าน้ำเสียงต่ำของผู้ชายจึงเป็นไปได้ว่าลูกชายของคุณถึงกระตือรือร้นกับคำสั่งพ่อ แต่กลับเฉื่อยชาบ้างเวลาแม่สั่ง

        ถึงจะมีคำอธิบายอย่างนี้ แต่เชื่อแน่ว่าคุณแม่ย่อมรู้ดีว่าลูกจะฟังคำสั่งพ่อแม่หรือไม่นั้น เป็นมากกว่าเรื่องของความเป็นชายเป็นหญิงอยู่แล้ว ทว่าประเด็นของเรื่องนี้อาจอยู่ที่ว่า แม่ ๆ จะสื่อสารอย่างไร

        เพื่อให้เข้าถึงลูกได้ Amarin Baby & Kids มีข้อสังเกตในการสื่อสารกับเด็ก ๆ วัยซนอนุบาล – ประถมต้นมาฝากกัน เพื่อให้การออกคำสั่งกับลูก ๆ มีประสิทธิภาพมากขึ้นค่ะ

        12 เทคนิค ออกคำสั่งกับลูก ให้ศักดิ์สิทธิ์

        1. สอนลูกให้ฟังเป็น

        เด็ก ๆ พอพูดเป็นก็จะถนัดแต่เป็นฝ่ายพูดให้คนอื่นรับฟัง เขาเป็น ส่วนใหญ่ แต่การรับฟัง จำเป็น ต้องได้รับการฝึกฝน วิธีฝึกให้ลูกเป็นผู้ฟังที่ดีคือคุยกัน เช่น ผลัดกันเล่าเรื่อง คุณถามลูกถึงเรื่องที่โรงเรียนเพื่อให้เขาเล่า แล้วคุณก็เล่าเรื่องที่บ้านหรือที่ทำงานของคุณบ้าง ตั้งคำถามชวนให้เขาสงสัยพออยากรู้เรื่องอะไร เดก็ ๆก็มักจะขอร้องให้เราเล่าต่อ เป็นต้น

        2. คำสั่งชัดเจน เห็นภาพเป็นสำคัญ

        สำหรับเด็กวัยจินตนาการสูงนี้จะให้เขาทำอะไร ถ้าบอกให้นึกภาพออก การสื่อสารจะราบรื่นขึ้นอีกมาก สิ่งที่จะช่วยให้เด็กน้อยนึกภาพได้คือ บอกเป็นการกระทำ เช่น วันนี้ลูกบอกว่าเขาเหนื่อยมาก แต่ยังกระโดดโครม ๆ อยู่บนเก้าอี้ วิ่งเล่นเตะบอลไม่หยุดคุณอยากสั่งให้เขาเลิกเล่นเพื่อจะได้ทำกิจวัตรอย่างอื่นให้เสร็จและจะได้เข้านอนเร็วขึ้น ก็ควรบอกลูกว่า “หยุดกระโดดหรือหมดเวลาเล่นแล้ว วันนี้เหนื่อยมากแล้ว ไปอาบน้ำ เสร็จแล้วจะได้กินมื้อเย็นและเข้านอนกน” โดยไม่ลืมน้ำเสียง สีหน้า และท่าทีเอาจริงค่ะ

        3. ชื่นชมและทำโทษ

        เพราะการฟังคำสั่งพ่อแม่เป็นเหตุการณ์ในชีวิตประจำวันที่เป็นโอกาสดีให้เด็ก ๆ ได้ฝึกการเคารพและให้เกียรติผู้ใหญ่ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อตัวเด็ก ๆ อีกมากมายในอนาคต โดยเริ่มจากคนสำคัญในชีวิตของพวกเขาหากอยากให้ลูกเห็นคำสั่งแม่ศักดิ์สิทธิ์ไม่แพ้คำสั่งพ่อก็เหมือนพฤติกรรมที่พึงประสงค์อื่น ๆ ค่ะ ถ้าคุณอยากให้เขาทำจนติดเป็นนิสัย การบังคับย่อมได้ผลไม่เท่ากับการชื่นชมและลงโทษทันทีเมื่อคุณเอาจริงกับคำสั่งที่สมเหตุสมผล ถ้าลูกลงมือทำตามคำสั่งการให้คำชมทันทีจะเป็นแรงเสริมให้เขาคงการกระทำต่อไป และหากเขาอิดออดหรือไม่ทำ ก็อย่าได้ลังเลที่จะทำโทษอย่างเหมาะสม

        อ่านต่อ >> “เทคนิคการออกคำสั่งกับลูกให้ศักดิ์สิทธิ์” คลิกหน้า 2

        เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

         

          7 วันอันตรายช่วงปีใหม่ที่ทุกครอบครัวต้องระวัง

          ทุกๆ ช่วงเทศกาลไม่ว่าจะเป็นช่วงสิ้นปี หรือช่วงสงกรานต์ หลายๆ ครอบครัวก็เตรียมตัวเดินทาง เพื่อไปเฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี แต่ทุกๆ ครั้งที่มีการเฉลิมฉลอง ก็มักจะมีข่าวการเกิดอุบัติเหตุ และเสียชีวิต จึงเป็นสิ่งที่ทุกครอบครัวต้องระมัดระวัง ช่วง 7 วันอันตราย ที่จะถึงนี้ค่ะ

          Continue reading “7 วันอันตรายช่วงปีใหม่ที่ทุกครอบครัวต้องระวัง”

            ชื่อเล่นลูกสาว น่ารักๆ

            100 ชื่อเล่นลูกสาว น่ารักๆ หลายภาษา อินเตอร์สุดๆ

            หากคุณพ่อคุณแม่กำลังมองหา ชื่อเล่นลูกสาว น่ารักๆ ความหมายดีๆ เรามีตัวอย่าง ชื่อเล่นลูกสาว เพราะๆ หลายภาษา พร้อมความหมายมาให้คุณเลือกถึง 100 ชื่อ เพื่อเป็นไอเดียตั้งชื่อลูกสาว สวย หวาน เก๋ ไม่ซ้ำใคร แถมยังอินเตอร์สุดๆ อีกด้วย Continue reading “100 ชื่อเล่นลูกสาว น่ารักๆ หลายภาษา อินเตอร์สุดๆ”

              โรคเด็กยอดฮิต

              5 โรคเด็กยอดฮิต ที่เป็นกันมากในปี 2016

              เมื่อลูกน้อยถึงวัยเข้าโรงเรียน หรือต้องเข้าสถานรับเลี้ยงเด็ก คุณพ่อคุณแม่ก็อดห่วงไม่ได้ เพราะการอยู่ร่วมกันเสี่ยงต่อการรับเชื้อโรค ซึ่งเชื้อโรคใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นกับลูกหลานของเราในปัจจุบันนั้นวนเวียนกันมาตลอดทั้งปี ทั้งหน้าร้อน ฝน และหนาว ไม่เคยขาด และในปี 2559 ที่กำลังจะผ่านไปนั้น มีโรคอะไรบ้างที่เด็กๆ เป็นกันมาก Amarin Baby & Kids ได้รวบรวม โรคเด็กยอดฮิต พร้อมวิธีป้องกันมาฝากคุณพ่อคุณแม่ค่ะ Continue reading “5 โรคเด็กยอดฮิต ที่เป็นกันมากในปี 2016”

                กลไกการหลั่งน้ำนมที่แม่มือใหม่ควรรู้!

                นมแม่ …เป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารก องค์การอนามัยโลก องค์การยูนิเซฟ และสมาคมกุมารแพทย์ทั่วโลก แนะนำให้แม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว เป็นเวลาอย่างน้อย 6 เดือน หลังจากนั้นให้อาหารเสริมตามวัย ร่วมกับนมแม่ต่อไปอีกจนเด็กครบอายุ 1 ปี และต่อจากนั้นก็สามารถให้นมแม่ได้อีกตามความต้องการของแม่

                ทำไมต้อง “ นมแม่ ”

                คนส่วนใหญ่พอจะทราบอยู่แล้วว่านมแม่มีประโยชน์กับลูก แต่ พญ.ปวินทรา หะริณสุต สมนึก กุมารเวชศาสตร์ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จะมาบอกเล่ามากขึ้นในแง่ของทางการแพทย์ว่า นมแม่สำคัญอย่างไร ทำไมถึงต้องมีการรณรงค์ให้นมแม่กันมากมายทั่วโลกขนาดนี้

                ♥ ประโยชน์ของนมแม่มีมากกว่าที่คิด

                น้ำนมแม่จะมีลักษณะใสกว่านมอื่นๆ คนสมัยก่อนเลยคิดว่านมแม่ไม่ค่อยมีสารอาหารมากนัก แต่ความจริงแล้ว นมแม่มีสารอาหารมากถึง 200 กว่าชนิด ในขณะที่นมประเภทอื่นมีสารอาหารไม่ถึงครึ่งของนมแม่เลย แค่สารอาหารหลักๆ ก็ยังมีได้ไม่เท่า ได้แก่

                • กลุ่มคาร์โบไฮเดรต ในนมแม่จะมีน้ำตาลแลคโตส ซึ่งเป็นน้ำตาลที่ช่วยพัฒนาสมองของลูก แม้ว่าในน้ำนมของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทุกชนิดจะมีน้ำตาลชนิดนี้ด้วยก็ตาม แต่ในน้ำนมของมนุษย์มีสูงที่สุด
                • น้ำนมแม่มีกรดไขมันไม่อิ่มตัว มีดีเอชเอและเอเอ ซึ่งก็คือโอเมก้า 3 และ 6 มีส่วนช่วยในการเจริญเติบโตของเซลล์ประสาทของสมอง เป็นสารอาหารจากธรรมชาติที่มีในน้ำนมแม่ ไม่สามารถสกัดออกมาใส่เสริมในนมอื่นได้
                • โปรตีนในนมแม่ มีส่วนประกอบของเวย์ 80 เปอร์เซ็นต์ และเคซีน 20 เปอร์เซ็นต์ เวย์ในนมแม่ยังเป็นแอลฟ่าแลคตาบูมิน ช่วยลดภาวะเสี่ยงของการเป็นภูมิแพ้ต่างๆ ในขณะที่นมอื่นนั้นเป็นเบต้าแลคตาบูมิน ตัวเบต้านี้จะกระตุ้นให้เกิดภูมิแพ้ต่างๆ ส่วนเคซีนในนมแม่เป็นเบต้าแคลซีน ซึ่งย่อยง่าย ดูดซึมง่าย ช่วยดูดซึมธาตุเหล็ก สังกะสี และแคลเซียมได้ดี ทั้งสองตัวนี้ไม่สามารถเติมหรือผลิตได้จากโรงงาน นอกจากนี้ยังมีแร่ธาตุและวิตามินต่างๆ ที่ในนมอื่นไม่มี จึงเรียกได้ว่า นมแม่มีสารอาหารที่ครบถ้วนอย่างแท้จริง
                • ในน้ำนมแม่อุดมไปด้วยภูมิคุ้มกันสำคัญที่ไม่สามารถหาได้จากนมอื่นๆ เช่น secretary IgA (เป็นหน้าด่านช่วยป้องกันการติดเชื้อต่างๆ), เม็ดเลือดขาว, ไลโซไซม์ (เอนไซม์ที่ช่วยให้เชื้อแบคทีเรียตายได้), แลคโตเฟอริน (โปรตีนช่วยต่อต้านเชื้อโรค), bifidus growth factor (สารที่กระตุ้นการเจริญเติบโตของแล็กโตบาซิลัส ช่วยให้แบคทีเรียไม่สามารถอาศัยอยู่ในลำไส้ได้) เป็นต้น เพราะนมแม่มีสารต่างๆ ซับซ้อนมากมายที่จะช่วยให้ลูกเรามีร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์

                การสร้างน้ำนมแม่

                ssuibu2

                เต้านมแต่ละข้างจะมีต่อมผลิตน้ำนมประมาณ 15 – 20 หน่วย ซึ่งอยู่ด้านหลังของลานรอบหัวนม โดยมีท่อน้ำนมต่อไปเปิดที่หัวนมระหว่างตั้งครรภ์ รกและรังไข่จะทำหน้าที่ผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรน ในระดับที่สูงมาก ซึ่งมีผลไปกระตุ้นให้ต่อมน้ำนมสร้างท่อน้ำนมที่มีคุณประโยชน์มาก เรียกว่า โคลอสตรัม อันอุดมไปด้วยโปรตีน, แร่ธาตุ, วิตามิน, น้ำ, น้ำตาล และภูมิคุ้มกันโรคต่างๆ ที่จะช่วยป้องกัน ทารกจากการติดเชื้อในช่วงแรกๆ หลังคลอด โคลอสตรัมจะมีอยู่ในช่วง 3 – 5 วันหลังคลอดเท่านั้น จากนั้นจึงจะเป็น นมแม่ตามปกติ

                ทุกครั้งที่ลูกดูดนม จะไปกระตุ้นปลายประสาทที่หัวนม  ส่งสัญญาณไปยังต่อมไฮโปทาลามัสที่สมองส่วนบน ซึ่งจะส่งสัญญาณต่อไปยังต่อมใต้  สมองให้สร้างฮอร์โมนโปรแลกติน และออกซีโตซิน จะกระตุ้นให้กล้ามเนื้อรอบต่อมน้ำนมหดตัวเพื่อบีบขับ น้ำนมให้ไหลออกมา เสียงร้องของลูกและการได้สัมผัส ใกล้ชิดลูกจะช่วยกระตุ้นการหลั่งของฮอร์โมนออกซีโตซินได้ด้วย

                อ่านต่อ >> “กลไกการหลั่งน้ำนมที่แม่ควรรู้และการเข้าเต้าให้ได้ผล” คลิกหน้า 2

                เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                 

                  ภาษาทารก

                  ถอดรหัส เสริมพัฒนาการ 11 กระบวนท่าของทารกที่พ่อแม่มือใหม่ควรรู้!

                  ภาษาทารก …ทุกครั้งที่เห็นลูกยิ้ม หัวเราะ ร้องไห้ หรือทำท่าทางต่างๆ ซึ่งสามารถบ่งบอกได้ว่า ลูกมีพัฒนาการก้าวล้ำมาอีกขั้น พ่อแม่ต่างก็ปลาบปลื้มใจ แต่สิ่งที่ตามมาคือ ความสงสัยปนแปลกใจว่าสิ่งที่ลูกแสดงออกมาเมื่อตอนนั้น มันหมายความว่าอะไร แล้ว ลูกน้อยกำลังคิดอะไรอยู่ หรือต้องการอะไรกันแน่

                  แม้จะยังพูดไม่ได้ แต่ทารกก็เกิดมาพร้อม   กับความสามารถในการสื่อสาร ทั้งสีหน้าและท่าทาง “จากการศึกษาพบว่า กว่า 90 เปอร์เซ็นต์ของการสื่อสาร  ระหว่างเบบี๋กับผู้ใหญ่ล้วนเป็นภาษาท่าทางทั้งสิ้น   ถ้าคุณพ่อคุณแม่สามารถอ่านออกว่าเบบี๋ต้องการบอกอะไรและตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว ข้อดีก็คือ เจ้าตัวเล็กรู้สึกปลอดภัยและเกิดความผูกพันกับพ่อแม่มากขึ้น”

                  ซึ่งการอ่านสีหน้า ต้องหมั่นสังเกตทั้งหน้าตา ท่าทาง และเสียงร้องไห้ของลูกให้ดีๆ เพราะนั้นอาจเป็นการส่งสัญญาณ ขอความช่วยเหลือ  ไม่เรื่องใดก็เรื่องหนึ่ง จึงไม่ยากเกินกว่าพ่อแม่จะอ่านออกแน่นอน

                  ศ.ดร.ลินดา อเคร-โดโล อาจารย์ด้านจิตวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เดวิส และผู้เขียนหนังสือ BabySigns อธิบายความอีกความน่าทึ่งของเด็กทารกไว้ รวม 11 สัญญาณ แบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ คือ สีหน้าและท่าทาง ขอเพียงเวลาให้พ่อแม่เรียนรู้การอ่านท่าทางลูกน้อยก็ไม่ยากเกินมือคุณแม่แน่นอนค่ะ แล้วสีหน้า ท่าทาง หรือเสียงร้องของลูกจะบ่งบอกถึงอะไร คุณพ่อคุณแม่ควรทำอย่างไรตอบกลับไปหาลูกจากภาษาทางกายนั้นๆ ตามไปถอดรหัสกันค่ะ

                  ภาษาทารก

                  ถอดรหัสสีหน้าทารก

                  1. หันหน้าหนีไม่ยอมสบตา

                  เป็นรหัสที่ลูกน้อยกำลังส่งสัญญาณว่า “คุณอาจยังเอาใจใส่เขาไม่เพียงพอ” ดร.อเครโดโลอธิบาย “ลักษณะนี้จะชัดขึ้น เมื่อลูกอายุได้ราว 2 เดือน ที่เขาไม่ยอมมองหน้าหรือสบตาคุณนั่นก็เป็นเพราะว่าไม่ได้รับการกระตุ้น พ่อแม่อาจเข้าไปสัมผัส กอด อุ้มเล่นหรือพูดคุยกับลูกน้อยเกินไปจนทำให้ลูกสนใจเล่นนิ้วเท้าหรือนิ้วมือของตัวเองมากกว่ามองหน้าหรือสบตาพ่อแม่”

                  ตอบกลับแสนง่าย : เพิ่มปฏิสัมพันธ์กับเบบี๋ให้มากขึ้น แต่ไม่บังคับ คือ ถ้าลูกเบือนหน้าหนีอย่าเพิ่งพยายามเอาหน้าตัวเองเข้าไปใกล้ๆ หรือจับลูกให้หันมาสบตาคุณให้ได้ สิ่งที่คุณควรทำคือ ค่อยๆ เพิ่มกิจกรรมกับลูกให้มากขึ้น และอดทนรอคอยให้ลูกหันกลับมาสนใจเอง เช่น อุ้ม กอด และชวนพูดคุยบ่อยๆ ตอบรับเสียงอ้อแอ้ของลูก อุ้มสัมผัสลูกในขณะที่เจ้าตัวเล็กยังตื่นอยู่ เล่นของเล่นด้วยกันอย่างนุ่มนวล เป็นต้น

                  ภาษาทารก

                  2. ยิ้มหวาน

                  “ยิ้มช่วงแรกของทารกยังเป็นปฏิกิริยาตอบกลับอัตโนมัติ ต่อมาเมื่อเริ่มโตขึ้นรอยยิ้มก็จะมีความหมายมากขึ้น และมีอารมณ์ต่างๆเข้าไปเกี่ยวข้องเมื่อตอนเขาอายุได้ราว 6 -8 สัปดาห์ “การยิ้มของทารกเป็นการบอกความพึงพอใจ ความรู้สึกสบายตัว อย่างลูกของฉันยิ้มแรกของเขาเกิดขึ้นตอนได้ซุกตัวอยู่ในผ้าขนหนูอุ่นๆหลังจากอาบน้ำเสร็จ

                  แม้พอใจลูกก็อยากให้ตอบกลับ : เมื่อได้ เห็นยิ้มแรกของลูก คุณควรยิ้มกลับทันที จะพูดสั้นๆด้วยก็ได้ เช่น “เก่งมากเลยลูก” หรือชวนคุยสัพเพเหระ ลูกยังไม่เข้าใจสิ่งที่คุณ พูดหรอก แต่กระตุ้นพัฒนาการได้ดีเชียวล่ะ

                  3. นั่นแน่! … ทำหน้าเลียนแบบแม่ด้วย

                  “เพราะพ่อแม่คือต้นแบบของลูก” ช่วง อายุ3-6 เดือน ทารกส่วนมากจะเรียนรู้ที่จะเลียนแบบการแสดงออกทางสีหน้าจากผู้ใหญ่ และเมื่ออายุประมาณ 9 เดือนเขาจะเริ่มแสดง ออกทางสีหน้าที่ได้เรียนรู้มาแบบมีอารมณ์ ต่างๆเข้ามาด้วย เช่น เวลาที่พบคนแปลกหน้า เบบี๋ส่วนใหญ่จะหันไปมองหน้าแม่ของ ตัวเอง และถ้าเห็นว่าแม่ทำหน้าเศร้าหรือไม่มี ความสุข ความวิตกกังวลของเจ้าตัวเล็ก  ก็จะเพิ่มมากขึ้นๆ จนบางคนก็ร้องไห้แงๆได้

                  อยากให้ลูกเลียนแบบอารมณ์ดี : เคล็ดลับ คือ เราสุขลูกสุขกว่า เราเครียดลูกเครียดกว่า ดังนั้นถ้าคุณกังวล เครียด หรืออารมณ์ไม่ดี หาวิธีผ่อนคลายอารมณ์ตัวเองก่อน อย่างการ หายใจเข้าออกลึกๆหรือทำสมาธิ แม้แต่ มองกระจกแล้วยิ้มให้ตัวเองก็ช่วยให้อารมณ์ เย็นลงได้เหมือนกัน เมื่อคุณรู้สึกดีขึ้น ค่อยกลับมาหาลูก แล้วกอดหรือสัมผัส ลูบหลังเบา ๆ เพื่อทำให้ลูกรู้สึกผ่อนคลาย ทางที่ดีควรส่งลูกให้คนอื่นช่วยดูแลก่อน แต่ถ้าคุณอยู่กันสองคน แค่วางลูกลงในเปลหรือสถานที่ที่ปลอดภัย แล้วไปสงบ สติอารมณ์ตัวเองก่อนนะคะ

                  อ่านต่อ >> ถอดรหัสกระบวนท่าภาษากายของลูกน้อย” คลิกหน้า 2

                  เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                   

                    พื้นที่ส่วนตัว

                    สอนลูกให้รู้จัก “พื้นที่ส่วนตัว” ป้องกันถูกละเมิดทางเพศ

                    พื้นที่ส่วนตัว หรือ พื้นที่ต้องห้าม ของลูก เรื่องสำคัญที่พ่อแม่ต้องสอนให้ลูกเข้าใจตั้งแต่ยังเล็ก อย่าคิดว่าเรื่องเพศเป็นเรื่องน่าอาย หรือคิดว่าเรื่องแบบนี้เดี๋ยวโตขึ้นลูกก็รู้เอง เพราะลูกของคุณอาจพลาด ตกเป็นเหยื่อการล่วงละเมิดทางเพศโดยไม่รู้ตัว อย่างกรณีของผู้หญิงคนนี้ Continue reading “สอนลูกให้รู้จัก “พื้นที่ส่วนตัว” ป้องกันถูกละเมิดทางเพศ”

                      วิธีไล่แมลงแบบธรรมชาติ

                      วิธีไล่แมลงแบบธรรมชาติ ภูมิปัญญาชาวบ้านไม่ง้อสารเคมี

                      วิธีไล่แมลงแบบธรรมชาติ  มด ยุง แมลงสาบ ฯลฯ บ้านไหนที่มีลูกเล็กๆ ยิ่งไม่อยากให้ในบ้านมีเจ้าแมลงพวกนี้เลย เพราะหากในบ้านเต็มไปด้วย มด ยุง แมลงสาบ หรือแมลงอื่นๆ ก็อาจทำให้ลูกน้อยป่วยได้ แล้วก็รวมถึงทุกคนในบ้านด้วยเช่นกัน ทีมงาน Amarin Baby & Kids มี วิธีไล่แมลงแบบธรรมชาติ ที่ปลอดจากสารเคมี มาฝากคุณแม่บ้านกันค่ะ

                       

                      วิธีไล่แมลงแบบธรรมชาติ แบบง่ายๆ แต่ได้ดี 100 %

                      จากคำที่ว่า แม่นั้นก็คือผู้ที่ให้กำเนิดลูกมาและเป็นผู้ที่คอยดูแลเอาใจใส่ทุกอย่าง ไม่ให้ใครมาทำร้ายลูกได้เปรียบเหมือนกับสุภาสิตที่ว่า “ริ้นไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอม” และจากสุภาษิตที่ว่านี้ เราจึงมีเคล็ดลับการจัดการกับพวกแมลงเหล่านี้ที่ชอบเข้ามาวุ่นวายในบ้านจนอาจทำร้ายลูกน้อยของคุณได้ ด้วยวิธีที่ธรรมชาติปราศจากสารเคมีที่รุนแรงแต่ได้ผลดีเกินคาด จะมีวิธีเด็ดอะไรบ้างไปดูกันเลยค่ะ

                       

                      อ่านต่อ >> “ไล่แมลงแบบธรรมชาติ ปลอดภัยต่อลูกน้อย” หน้า 2 

                       

                       

                      เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                        ป้อนกล้วยลูก ถูกต้องตามวัย ได้ประโยชน์เต็มที่

                        ป้อนกล้วยลูก …กล้วย เป็นอาหารที่มีคุณประโยชน์ อุดมด้วยวิตามินมากมาย แต่คุณพ่อคุณแม่ควรรู้ไว้ว่า ห้ามป้อนกล้วยให้กับลูกน้อยที่อายุต่ำกว่า 6 เดือน เพราะอาจเป็นอันตรายมากๆ ถึงขั้นเสียชีวิตได้

                         

                        การป้อนกล้วยเป็นอีกหนึ่งเรื่องความเชื่อตั้งแต่สมัยโบราณ ที่เมื่อเด็กอายุได้ประมาณหนึ่งก็เริ่มจะให้กินอาหารที่อ่อนๆนิ่มๆ กัน ซึ่งกล้วยก็เป็นตัวเลือกยอดฮิต เพราะหาง่าย นิ่ม กินแล้วหนักท้อง แต่ตามหลักการแพทย์แผนปัจจุบันแล้ว องค์การอนามัยโลก ยูนิเซฟ ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ทารกที่อายุต่ำกว่า 6 เดือนไม่ควรกินอะไรนอกจากนม โดยเฉพาะถ้าเป็นนมแม่ยิ่งดีที่สุด

                        ส่วนเหตุผลที่ว่า ต้องการให้ลูกอายุยังไม่ถึง 6 เดือน กินกล้วยเข้าไปเพื่อให้อยู่ท้อง จะได้หลับนานๆ จะได้ไม่ต้องตื่นขึ้นมาดูดนมแม่บ่อยๆ นั้น ไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง เพราะเคยมีกรณีที่ป้อนกล้วยให้กับเด็กอายุยังไม่ถึงเดือนด้วยเหตุผลนี้ ผลที่เกิดขึ้น คือ กล้วยไปทำให้ลำไส้อุดตัน กระเพาะอาหารแตก และเสียชีวิต

                        …ดังนั้นถ้ามีปัญหาลูกตื่นบ่อย ให้หาทางแก้ปัญหาโดยวิธีอื่น ไม่ใช่แก้ปัญหาโดยการป้อนกล้วย เช่น ตื่นบ่อยเพราะไม่ชอบถูกวางให้นอนเพียงลำพัง ก็ให้เอามาอุ้มบ่อยๆ ไกวเปลให้มีการเคลื่อนไหวเหมือนอยู่ในท้องแม่ ลูกก็จะหลับได้ดีขึ้น แต่ถ้ามีนมแม่ไม่พอจริงๆ ควรไปคลินิกนมแม่เพื่อหาสาเหตุ และ หาทางเพิ่มน้ำนม และในระหว่างที่น้ำนมยังไม่มาเต็มที่ ก็ให้เสริมนมผงที่ลูกไม่แพ้ไปก่อน แต่ไม่ใช่ให้กล้วย

                        Must read : ไขคำตอบ สารอาหารในนมแม่ชนิดใดที่ทำให้ลูกฉลาด?
                        Must read : แนะนำพ่อแม่มือใหม่! ขั้นตอนการเตรียมนมและวิธีชงนมที่ถูกต้องเพื่อไม่ไห้เกิดฟอง (มีคลิป)

                        ป้อนกล้วยลูก

                        เหตุผลที่ไม่ควรป้อนกล้วย ทารกอายุต่ำกว่า 6 เดือน

                        1. เด็กทารกสำลักอาหารได้ง่าย

                        เพราะระบบการกลืนอาหารของทารกยังไม่พร้อมที่อายุ 3-4 เดือน และในช่วงอายุน้อยกว่า 6 เดือน การกินอาหารของเด็กจะเป็นระบบอัตโนมัติ (reflex) เหมาะสำหรับการดูดกลืนของเหลว เช่น นม หากเป็นกล้วย จะมีความหนืด และแข็งมากกว่าโอกาสสำลักก็มีมากขึ้น นอกจากนี้การตั้งคอของเด็กในช่วงก่อน 6 เดือนก็ยังไม่ดี ซึ่งหากเกิดการสำลัก เด็กก็จะไม่สามารถช่วยตัวเองได้ค่ะ

                        2. ทำให้การย่อยในลำไส้มีปัญหา

                        ในช่วงก่อนอายุ 6 เดือน ในลำไส้ของทารกยังมีการสร้างเอนไซม์เพื่อใช้ในการย่อยแป้ง ไขมันได้ไม่สมบูรณ์ และยังมีปริมาณแบคทีเรียที่ช่วยย่อยในทางเดินอาหาร (Probiotic) ไม่เพียงพอ การเริ่มอาหารแข็งเร็วเกินไปจะทำให้ระบบย่อยอาหารมีปัญหา เกิดลำไส้อุดตันในเด็กทารก เกิดกระเพาะอาหารแตกได้ ซึ่งอันตรายมาก เสียชีวิตได้เลยนะคะ มีเคสเกิดขึ้นมาแล้ว

                        อ่านต่อ >> เหตุผลที่ไม่ควรป้อนกล้วย ทารกอายุต่ำกว่า 6 เดือน”
                        คลิกหน้า
                        2

                        เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                         

                          เผยความลับสมองดี ลูกฉลาด หรือไม่ ดูที่พ่อแม่จริงหรือ!?

                           

                          ลูกฉลาด คงปฎิเสธไม่ได้ว่าพ่อแม่ส่วนใหญ่ต่างก็ต้องการให้ลูกๆ ของตนเองเป็นเก่ง เด็กฉลาด แต่จะทำอย่างไรลูกถึงเป็นเด็กฉลาดได้ ซึ่งนอกจากการเลี้ยงลูก ความฉลาดสามารถส่งต่อมาจากพ่อแม่ ทีมงาน Amarin Baby & Kids มีข้อเท็จจริงที่ว่า ลูกฉลาด นั้นถ่ายทอดมาจากพ่อแม่มากน้อยแค่ไหน?

                           

                          ลูกฉลาด ต้องเป็นแบบไหน?

                          เดิมเราเข้าใจกันว่า คนเราเกิดมาแล้วมีชีวิตไปตามพรหมลิขิต คือเกิดมาแล้วไม่ต้องทำอะไร โตไปตามที่เบื้องบนกำหนดมาเอง โอ้! ง่ายจริง ชีวิตเด็กน้อย จบข่าว

                          ไม่ใช่แล้วคุณพ่อคุณแม่ เอาใหม่ๆ ปรับกันใหม่ เพราะวิทยาศาสตร์ทำให้เรารู้แน่ๆ ว่าความเข้าใจเดิมนั้นไม่ใช่เลย

                          มีงานศึกษาออกมาชัดเจนว่า เซลล์ประสาทหรือเซลล์สมองของคนที่ฉลาด ซึ่งหมายถึงมีพฤติกรรมการเรียนรู้ที่ดี สามารถเชื่อมโยงข้อมูลต่างๆ ได้ดี คือเซลล์ประสาทที่มีการเชื่อมต่อกันเป็นวงจรมากๆ และก็มีการศึกษากันได้ผลชัดๆ อีกว่า เซลล์ประสาทที่เชื่อมต่อกันเป็นวงจรมากๆ ได้นั้น เกิดจาก 2 ปัจจัยหลักๆ ได้แก่

                          1. การที่เด็กได้รับการเลี้ยงดูให้ดี ซึ่งหมายถึง ได้รับอาหารดีครบถ้วน ได้รับความรัก และ
                          2. การได้รับประสบการณ์การเลี้ยงดูอย่างดี ซึ่งหมายถึง ได้รับการกระตุ้นพัฒนาการอย่างดี ถูกทางและเหมาะสม

                          อ่านต่อ >> “ความลับของสมองดี” หน้า 2 

                           

                          เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                            เลือดปนในน้ำนมแม่

                            เลือดปนในน้ำนมแม่ ปลอดภัยสำหรับลูกน้อยหรือไม่ ?

                            เลือดปนในน้ำนมแม่ การมีเลือดปนในน้ำนมแม่อาจดูน่ากังวลเมื่อเห็นครั้งแรก แต่นี่เป็นเรื่องปกติโดยเฉพาะสำหรับคุณแม่มือใหม่  ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ได้เป็นการบ่งชี้ถึงโรคร้ายอะไร ทีมงาน Amarin Baby & Kids ได้ไขข้องสงสัยที่ว่าทำไมน้ำนมแม่จึงมีเลือดปน มาให้ได้ทราบกันค่ะ

                            Continue reading “เลือดปนในน้ำนมแม่ ปลอดภัยสำหรับลูกน้อยหรือไม่ ?”

                              7 ที่เที่ยวเสริมพัฒนาการ ไม่เกิน 100 บาท! เพื่อลูกน้อย

                              พาลูกเที่ยว …ช่วงวันหยุดคุณพ่อคุณแม่สามารถสร้างเสริม และพัฒนาการเรียนรู้ของลูก จากนอกห้องเรียนได้ด้วยการเที่ยว ซึ่งการ พาลูกเที่ยว ไม่จำเป็นต้องไปในที่แพงๆ แต่ควรพาไปในที่ๆลูกจะได้ประโยชน์เพิ่มทักษะ เสริมพัฒนาการต่างๆได้ด้วยเช่นกัน

                              มีคุณพ่อคุณแม่ อยู่หลายครอบครัว คิดว่าการพาลูกเที่ยวนั้น คือเรื่องสิ้นเปลือง นั้นก็เพราะว่าในสมัยนี้การมีลูกน้อยนั้นย่อมมีค่าใช้จ่ายจำเป็นที่สำคัญมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ค่าเล่าเรียน ค่าหมอ ค่ากิน ค่าของใช้ แต่ค่าพาลูกเที่ยว ก็เป็นเรื่องสำคัญเพราะการพาลูกเที่ยวช่วยพัฒนาการพัฒนาการหลายๆด้าน (ที่โรงเรียนไม่มีสอน) ทั้ง ความรู้รอบตัว ความอดทนความพยายาม การเรียนรู้ที่จะเข้าสังคมภายนอกที่กว้างใหญ่ และทักษะต่างๆ อีกมากมาย

                              ขอให้คุณพ่อคุณแม่อย่ามองว่าการพาลูกเที่ยวคือการต้องไปญี่ปุ่น หรือไปต่างจังหวัดเพียงอย่างเดียว แค่เราพาลูกไปสวนสาธารณะ พาออกจากบ้านไปสวนสัตว์ก็ได้ประโยชน์ทั้งสิ้น และที่สำคัญคือเวลาพาลูกเที่ยว ต้องอย่าให้ลูกติดจอ รวมถึงตัวคุณพ่อคุณแม่เอง ต้องลดการใช้มือถือ และ ใส่ใจลูกให้มากขึ้นด้วย เพราะหากปล่อยลูกอยู่บ้านๆมาก นอกจากจะไม่ได้พัฒนาทักษะข้างต้นแล้วนั้น เราก็จะให้ลูก เล่นมือถือ ดูทีวี จนลูกติดจอ

                              Must readพาลูกเที่ยวแบบไหน เสริมพัฒนาการ สร้างทักษะชีวิต!

                              ดังนั้นและ Amarin Baby & Kids จึงขอเสนอ 7 ที่เที่ยวเสริมการเรียนรู้ เพิ่มทักษะ และสร้างพัฒนาการที่ดีให้กับเด็กๆ ด้วยราคาค่าเข้าที่ไม่เกิน 100 บาท สำหรับลูกน้อยของคุณ จะมีที่ไหนบ้าง มาดูกันได้เลยค่ะ

                              พาลูกเที่ยว เสริมพัฒนาการ ในราคาไม่เกิน 100 บาท

                              1. ท้องฟ้าจำลอง

                              1-1

                              ท้องฟ้าจำลอง หรือศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา แหล่งเรียนรู้เรื่องราวเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ ดาราศาสตร์ และภูมิศาสตร์  เด็กๆ จะได้เรียนรู้เอกภาพ ระบบสุริยะ เรียนรู้ดวงดาว ท่องไปในอวกาศไปกับท้องฟ้าจำลอง ที่ใช้เครื่องฉายดาวระบบดิจิตอล ความละเอียดสูงคมชัดกว่าที่เคย พร้อมให้ความรู้เชิงลึก ตอบสนองความต้องการของเด็กๆ ที่ใฝ่รู้ ภายใต้แนวคิด “สนุกวิทย์ Kids Learn เพลินดวงดาว” อาคารท้องฟ้าจำลอง ประกอบด้วย 2 ส่วนสำคัญ คือ “ห้องฉายดาว” และ “ส่วนแสดงนิทรรศการรอบห้องฉายดาว” ซึ่งภายในท้องฟ้าจำลองแบ่งเป็นโซนนิทรรศการและโซนท้องฟ้าจำลอง ให้ความรู้เกี่ยวกับ วิทยาศาสตร์ ดาราศาสตร์ และภูมิศาสตร์

                              1-2

                              การแสดงท้องฟ้าจำลอง ให้เด็กๆ ได้รู้จักเกี่ยวกับดาวเคราะห์ใกล้เคียงดวงอื่น ความเป็นไปได้ที่คนจะไปอาศัยอยู่ มีการจัดแสดงให้ดูแสงออโรราผ่านระบบฉายแบบ 4 k และการผจญภัยผ่านสิ่งที่อันตรายในห้วงอวกาศ

                              1-4

                              ตารางแสดงค่าเข้าชมการแสดงท้องฟ้าจำลอง

                              * เปิดให้บริการ วันอังคาร – วันอาทิตย์ เวลา 9.00 น. – 16.30 น. ปิดบริการ วันจันทร์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์

                              * รอบบรรยายภาษาไทย อัตราค่าเข้าชม เด็กคนละ 20 บาท / ผู้ใหญ่คนละ 30 บาท

                              * รอบบรรยายภาษาอังกฤษ อัตราค่าเข้าชม เด็กคนละ 30 บาท / ผู้ใหญ่คนละ 50 บาท

                              * รอบ 10.00 น. ของทุกวันอังคารเป็นรอบบรรยายภาษาอังกฤษและเป็นรอบจองสถาบันการศึกษา

                              * รอบ 10.00 น. และ 13.00 น. เป็นรอบจองของสถาบันการศึกษา

                              สำหรับสถาบันการศึกษา ค่าใช้จ่ายให้ติดต่อฝ่ายการตลาดของศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา (0-2391-0544 และ 0-2392-1773) ส่วนประชาชนทั่วไปนั้น ยังไม่มีระบบการจองล่วงหน้า แต่สามารถซื้อบัตรรอบเวลาใดก็ได้ในวันนั้นๆ ครับ และซื้อบัตรได้ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ เท่านั้น

                              นอกจากนี้ท้องฟ้าจำลองยังเป็นแหล่งเรียนรู้วิทยาศาสตร์สำหรับเด็กๆ ผ่านสื่อและกิจกรรมหลากรูปแบบอย่างมีความสุข สนุกสนาน ในอาคารต่างๆ ประกอบด้วย อาคาร 2 พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีด้านต่างๆ , อาคาร 3 โลกใต้น้ำ จัดแสดงนิทรรศการ “มหัศจรรย์ชีวิตในสายน้ำ” , อาคาร 4 ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตที่อยู่รอบตัวเรา และอาคาร 5, 6  วิทยาศาสตร์สุขภาพ รวมเอาสถานที่ออกกำลังกาย เช่น สระว่ายน้ำ สนามฟุตซอล ไว้ให้บริการ

                              1-3

                              ที่ตั้ง ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา 928 ถนนสุขุมวิท เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110 การเดินทาง: มีที่จอดรถกลางแจ้งให้ครับ ถ้ามา BTS ลงสถานีเอกมัย Exit 2 รถประจำทาง 2 25 38 40 48 511

                              ดูรายละเอียดเพิ่มเติม http://www.sciplanet.org/sce/ , ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ – Bangkok Planetarium

                              Must readลูกมีแววเป็นนักตรรกศาสตร์ : คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ รึเปล่า

                              อ่านต่อ สถานที่ พาลูกเที่ยว เสริมพัฒนาการ ราคาไม่เกิน 100 บาท” คลิกหน้า 2

                                ตรวจสุขภาพฟรี ประกันสังคม

                                พ่อแม่ผู้ประกันตนเฮได้! รวม 14 สิทธิ์ ตรวจสุขภาพฟรี ประกันสังคม

                                ข่าวดี!! รีบไป ตรวจสุขภาพฟรี ประกันสังคม มอบ 14 สิทธิ์ดีๆ ที่ผู้ประกันตนทุกคนไม่ควรพลาด โดยสามารถตรวจได้ที่รพ.ตามสิทธิ และตรวจได้เฉพาะรายการที่จำเป็นตามความเหมาะสมของอายุ

                                ตรวจสุขภาพฟรี ประกันสังคม มอบสิทธิ
                                เพื่อคุณพ่อคุณแม่ผู้ประกันตน โดยเฉพาะ!!

                                นพ.สุรเดช วลีอิทธิกุล เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) เล็งเห็นความสำคัญของการตรวจสุขภาพของคุณพ่อคุณแม่ผู้ประกันตน เนื่องจากเป็นสิทธิที่ควรได้รับ และจากมาตรา 63(2) เรื่องการตรวจสุขภาพของผู้ประกันตน ของ พ.ร.บ. ประกันสังคมฉบับแก้ไขนั้น จึงได้จัดทำข้อกำหนดในการตรวจสุขภาพของผู้ประกันตนกว่า 12 ล้านคนแล้วเสร็จ ทางทางคณะกรรมการแพทย์ได้ลงนามแล้ว โดยอยู่ระหว่างประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งกำหนดไว้ว่ามีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2560

                                สำหรับสิทธิประโยชน์ ตรวจสุขภาพฟรี ประกันสังคม เป็นการให้บริการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค ซึ่งได้กำหนดให้ผู้ประกันตนทุกคนสามารถเข้ารับบริการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค โดยการตรวจสุขภาพนี้ฟรี!! ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย แต่ต้องรับบริการในโรงพยาบาลตามสิทธิที่ผู้ประกันตนได้เลือกไว้

                                ตรวจสุขภาพฟรี

                                ทั้งนี้การให้บริการ ตรวจสุขภาพฟรี ประกันสังคม จะเป็นแพคเกจที่มีการกำหนดไว้แล้วตามช่วงอายุของผู้ประกันตนแต่ละคน โดยทางโรงพยาบาลจะเบิกค่าบริการกับทาง สปส.เองคิดตามแพคเกจ ไม่ได้คิดแบบเหมาจ่าย

                                ซึ่งผู้ประกันตนที่เข้ารับบริการ ตรวจสุขภาพฟรี จาก ประกันสังคม นั้น จะสามารถตรวจสุขภาพพื้นฐานได้ อาทิ ตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะ ตรวจการทำงานของไต เพื่อค้นหาปัจจัยเสี่ยง ภาวะผิดปกติ หรือโรค ซึ่งนำไปสู่การป้องกันการส่งเสริมสุขภาพของผู้ประกันตน หรือหากพบความผิดปกติจะได้รับการบำบัดรักษาตั้งแต่ระยะแรกตามรายการ และหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการแพทย์กำหนด ซึ่งจะดูตามอายุ และความจำเป็น

                                 

                                อ่านต่อ >> “รายละเอียดการตรวจร่างกาย” คลิกหน้า 2

                                เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                                 

                                  กิจกรรม Amarin Baby & Kids Fair ที่อุดรฯ

                                  คุณพ่อ คุณแม่ชาวอีสานฟังทางนี้… พลาดไม่ได้กับกิจกรรมดีๆ ในงาน Amarin Baby & Kids Fair ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล อุดรธานี ในวันที่ 13 – 15 มกราคม 2560 ที่จะถึงนี้ นอกจากจะได้ สินค้าเด็ก กลับบ้านแล้ว ยังได้ความรู้ที่เป็นประโยชน์ และกิจกรรมพิเศษมากมาย สำหรับลูกน้อยด้วย

                                  Continue reading “กิจกรรม Amarin Baby & Kids Fair ที่อุดรฯ”

                                    ท่านอน บอกนิสัย

                                    8 ท่านอน บอกนิสัย สื่อสัมพันธ์รักเป็นแบบใด?

                                    ท่านอน บอกนิสัย การใช้ชีวิตคู่มีบททดสอบความรักมากมายหลายทฤษฎี ว่าคู่ชีวิตของเรายังสบายดีอยู่หรือเปล่า จริงๆ แล้วถ้าเลือกได้เชื่อว่าคู่รักทุกครอบครัวคงไม่มีใครอยากให้ชีวิตครอบครัวแตกสลายกันอย่างแน่นอน ทีมงาน Amarin Baby & Kids มีเรื่องชวนอมยิ้มกับ ท่านอน บอกนิสัย ว่าคู่รักแฟนของเรา หรือเรานั้นคิดอะไรอยู่ มาดูกันว่าจะตรงแค่ไหน ?

                                     

                                    ท่านอน บอกนิสัย : นอนยังไงให้ผ่อนคลาย สบายใจ

                                    การนอนให้ผ่อนคลายสบายใจ ไม่ใช่แค่เตียงนอนคุณภาพดีเท่านั้นที่จะทำให้นอนหลับสบาย แต่บรรยากาศในห้องนอนก็ต้องดูแล้วน่านอนด้วยเหมือนกันนะคะ ถ้าจะพูดง่ายๆ ก็คือ ห้องนอนจะต้องเป็นห้องที่ให้ความรู้สึกสงบ อบอุ่น ปลอดภัย และให้ความเป็นส่วนตัวแก่ผู้นอน

                                     

                                    แล้วรู้หรือไม่ว่าท่านอนของเรานั้นสามารถบอกได้ถึงนิสัยด้วยนะ! อย่างท่านอนของสามี ภรรยา ในทางหลักจิตวิทยาก็สามารถบอกได้ว่าความสัมพันธ์ของคู่รักนั้นสื่อถึงอะไรอยู่ เพื่อให้ไม่เป็นการเสียเวลา ไปเช็กกันค่ะว่า ท่านอนของคุณ และท่านอนของคนรักเรา ที่นอนอยู่ด้วยกันทุกคืนนั้น มีท่านอนแบบไหน  ใครอ่านแล้วตรงกันบ้างมาแชร์ความคิดเห็นสนุกๆ กันด้วยนะคะ

                                     

                                    อ่านต่อ >> “8 ท่านอน บอกนิสัย” หน้า 2

                                     

                                     

                                    เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่