ฝึกสมองลูก

7 เคล็ดลับ ลูกความจำดี เรียนเก่ง

Alternative Textaccount_circle
event
ฝึกสมองลูก
ฝึกสมองลูก

ลูกความจำดี เรียนเก่ง ในช่วง 1-3 ปีเป็นช่วงวัยทองของสมอง ที่จะสามารถจดจำ และเรียนรู้ได้อย่างมากมาย หากคุณพ่อคุณแม่อยากให้ลูกเรียนเก่ง มีความจำดีต้องเริ่มปูรากฐานความรู้ให้แข็งแรงตั้งแต่ช่วงวัยนี้  ทีมงาน Amarin Baby & Kids มี 7 เคล็ดลับสร้าง ลูกความจำดี เรียนเก่ง มาฝากทุกครอบครัวให้ได้ทราบกันค่ะ

 

ลูกความจำดี เรียนเก่ง : สมอง มีหน้าที่อะไร ?

สมองมีหน้าที่ควบคุมและสั่งการการเคลื่อนไหว  พฤติกรรม และภาวะธำรงดุล (homeostasis) เช่น การเต้นของหัวใจ  ความดันโลหิต  สมดุลของเหลวในร่างกาย และอุณหภูมิ เป็นต้น หน้าที่ของสมองยังเกี่ยวข้องกับการรู้ (cognition) อารมณ์ ความจำ การเรียนรู้การเคลื่อนไหว (motor learning) และความสามารถอื่นๆ ที่เกี่ยวกับการเรียนรู้1

 

สมองคืออวัยวะที่สำคัญของร่างกายมนุษย์  สมองเป็นศูนย์รวมของความคิด ความทรงจำ จินตนาการ การวางแผน และการแก้ปัญหาต่างๆ  สมองจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมาก หากได้รับการกระตุ้นอย่างเหมาะสมและถูกวิธี

 

Good to know… “สมองเด็กแรกเกิดจะมีน้ำหนักประมาณ 30-40% ของผู้ใหญ่ และเพิ่ม เป็น 60% เมื่ออายุ 4 ขวบ ช่วง 6 ปีแรกของชีวิตเป็นช่วงที่สมองมีพัฒนาการอย่างรวดเร็วที่สุด และวัย 1-3 ปี เป็นวัยทองแห่งการเรียนรู้ ความเฉลียวฉลาด และความคิดริเริ่มสร้างสรรค์2”  

ลูกความจำดี เรียนเก่ง ด้วย 7 เคล็ดลับ

สมองของลูกจะมีพัฒนาการการเติบโตอย่างเต็มศักยภาพ ส่วนสำคัญต้องได้รับการสนับสนุนจากคุณพ่อคุณแม่เป็นสำคัญ เพื่อให้ลูกได้มีการเรียนรู้ มีความจำดี ซึ่งจะส่งผลต่อการเรียนรู้ของลูกในอนาคต  การจะสร้างให้สมองของลูกทำงานประสานกันได้ดี ไม่ใช่เรื่องยาก  เรามีเคล็ดลับฝึกสมองให้กับลูกน้อย จากคำแนะนำของ ดร.แพง ชินพงศ์3  ดังนี้…

1. เขียนสมุดบันทึก

คุณพ่อคุณแม่ควรฝึกให้ลูกจดบันทึกเรื่องราวต่างๆ ลงในสมุดบันทึกเป็นประจำทุกวัน วิธีนี้นอกจากจะช่วยฝึกทักษะเรื่องของภาษาในการเขียนและการลำดับเรื่องราวอย่างเป็นขั้นเป็นตอนแล้ว ยังช่วยฝึกให้ลูกรู้จักการรวบรวมความคิดและฝึกการจดจำเรื่องราวต่างๆ ที่พบเจอในแต่ละวันที่ผ่านมาได้

2. เล่นเกมพัฒนาความจำ

คุณพ่อคุณแม่ควรหากิจกรรมเกมที่ช่วยฝึกความจำให้แก่ลูก เช่น เกมครอสเวิร์ด เกมปริศนาอักษรไขว้ เกมหาคำศัพท์ เกมบิงโก เกมต่อจิ๊กซอว์ เกมเหล่านี้นอกจากจะช่วยเพิ่มความสามารถในการจดจำของสมองเป็นอย่างดีแล้ว ยังช่วยให้มีสมาธิและฝึกความอดทนในการที่จะต้องพยายามแก้ปัญหาให้สำเร็จ

3. ดนตรีช่วยเพิ่มความจำ

ดนตรีเป็นสื่อที่นอกจากจะช่วยคลายเครียด พัฒนาความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการให้แก่เด็กแล้ว ยังช่วยเพิ่มทักษะในด้านความจำของเด็กที่ได้ผลดีเป็นอย่างมากอีกด้วย เพราะการที่เด็กได้ฟังเพลง ร้องเพลงและเล่นเครื่องดนตรี เด็กๆ จะต้องใช้ความจำในเรื่องของการจดจำทำนอง เนื้อร้องและจังหวะของแต่ละบทเพลง นอกจากนี้การเล่นเครื่องดนตรี เด็กๆ ต้องฝึกอ่านโน้ตดนตรี ซึ่งเป็นการฝึกในเรื่องของความจำโดยตรง

4. ฝึกสมาธิ

การฝึกสมาธิเป็นวิธีการที่ดีมากอย่างหนึ่งในการช่วยเพิ่มพลังความจำอย่างได้ผล การทำสมาธิสำหรับเด็กเล็กๆ ไม่จำเป็นต้องให้เด็กฝึกจิตให้สงบด้วยการนั่งสมาธิเอามือประสานกันวางไว้ที่ตัก เพราะบางครั้งวิธีนี้อาจใช้ไม่ได้สำหรับเด็กบางคนเนื่องจากเขาอาจรู้สึกอึดอัด แต่การทำสมาธิสำหรับเด็กง่ายๆ คือหมายถึงการที่เขาได้พักสงบกับตนเอง เช่น การที่เด็กได้นอนหนุนตักคุณพ่อคุณแม่ใต้ต้นไม้อย่างเงียบสงบในเวลาประมาณ 15 นาที ก็เป็นการฝึกสมาธิได้แล้ว การฝึกสมาธิจะช่วยผ่อนคลายความเครียดและช่วยเตรียมให้สมองได้เปิดรับการเรียนรู้ในสิ่งใหม่ๆ และจดจำบทเรียนต่างๆ ได้เป็นอย่างดี

อ่านต่อ >> “ลูกความจำดี เรียนเก่ง ด้วย 7 เคล็ดลับ” หน้า 3

 

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

แชร์จากเรื่องจริง! ลูกติดเชื้อในลำไส้ เพราะคายเสมหะไม่เป็น

event

เด็ก ติดเชื้อในลำไส้ … อาจมีหลายสาเหตุ ซึ่งการ ติดเชื้อในลำไส้ หรือลำไส้อักเสบ คือ โรคที่เกิดจากเนื้อเยื่อที่บุภายในลำไส้ (เนื้อเยื่อบุผิว) เกิดมีการอักเสบ ส่วนใหญ่มักเป็นการอักเสบจากติดเชื้อโรค

 

เช่นเดียวกับกรณีของเด็กชายคนนี้ ซึ่งคุณหมอได้วินิจฉัยว่า น้องเป็นลำไส้ติดเชื้อ เนื่องจากเพราะน้องป่วยเป็นไข้หวัด มีน้ำมูก และไอมีเสมหะ แต่น้องคายเสมหะออกไม่ได้ จึงกลืนลงไป ทำให้ลำไส้ติดเชื้อ โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ ไอ่’ ลูก น้ำ ได้โพสว่า

เด็ก ติดเชื้อในลำไส้ เพราะคายเสมหะไม่เป็น

เด็ก ติดเชื้อในลำไส้

จากเหตุการณ์นี้ การที่ลูกเป็นหวัด จนทำให้มีน้ำมูกและเสมหะ หากพ่อแม่ไม่รู้จักกำจัดน้ำมูกหรือเสมหะให้ลูกน้อย ก็อาจเกิดเรื่องราวเช่นเดียวกับเด็กน้อยคนนี้ได้

Must readสีของน้ำมูก สามารถบอกสุขภาพของลูกได้

สำหรับพ่อแม่มือใหม่อาจมีความกลัวและความไม่มั่นใจเกิดขึ้นได้ เมื่อต้องดูดเสมหะให้ลูกครั้งแรก  แต่คุณต้องไม่เกิดความรู้สึกว่ากำลังทำร้ายลูกเพราะที่จริงแล้วเรากำลังช่วยเหลือลูก เมื่อคุณได้เรียนรู้และเข้าใจวิธีดูดเสมหะ ตลอดจนฝึกฝนจนเกิดความชำนาญแล้ว คุณจะมีความมั่นใจและรู้สึกว่าการดูดเสมหะเป็นเรื่องง่ายมาก และไม่อยากให้ใครดูดเสมหะให้ลูกนอกจากตัวคุณเอง

ทำไม!  จึงต้องมีเสมหะ

ธรรมชาติได้สร้างเสมหะเพื่อดักจับสิ่งแปลกปลอมที่ผ่านเข้ามาในทางเดินหายใจ และขับเสมหะหรือสิ่งแปลกปลอมออกโดยการไอ  ในภาวะที่มีความผิดปกติของระบบหายใจ เช่น  มีการติดเชื้อหรือมีการระคายเคืองจากการได้รับสิ่งกระตุ้นต่าง ๆ จะทำให้มีการสร้างเสมหะมากกว่าปกติ

อ่านต่อ >> การดูดเสมหะให้ลูก เพื่อป้องกันลูกกลืนเสมหะ” คลิกหน้า 2

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

สำลักนม

สำลักนมคร่าชีวิตลูกน้อย อันตรายที่คาดไม่ถึง

Alternative Textaccount_circle
event
สำลักนม
สำลักนม

คุณพ่อ คุณแม่ อาจจะคิดว่าการ สำลักนม ของเด็กๆ เป็นเพียงเรื่องเล็กๆ และไม่ใช่เรื่องใหญ่ที่คุณพ่อ คุณแม่ต้องเป็นกังวลอะไร เพียงแต่อุบัติเหตุนี้ไม่สามารถบอกเราได้ว่า เสี่ยงต่อความตายได้มากน้อยแค่ไหน เมื่อมีกรณีตัวอย่างที่จะเล่าให้อ่านต่อไปนี้ เพื่อเป็นอุทาหรณ์เตือนใจพ่อแม่

(more…)

อุปนิสัยเด็กเกิดปีระกา 2560

ต้อนรับปีใหม่ กับ อุปนิสัยเด็กเกิดปีระกา 2560

Alternative Textaccount_circle
event
อุปนิสัยเด็กเกิดปีระกา 2560
อุปนิสัยเด็กเกิดปีระกา 2560

อุปนิสัยเด็กเกิดปีระกา 2560 อีกไม่กี่สัปดาห์ก็จะสิ้นปีเก่า ต้อนรับปีพุทธศักราชใหม่ ที่ตรงกับปีนักษัตรระกา หรือปีไก่  คุณพ่อคุณแม่ที่ได้ฤกษ์คลอดลูกในปีไก่ปีหน้านี้  ทีมงาน Amarin Baby & Kids มีพื้นฐานดวงและอุปนิสัยที่จะบอกถึงลักษณะของ เด็กเกิดปีระกา ไก่สวย หล่อ รวย ดี 2560 มาฝากกันค่ะ

 

อุปนิสัยเด็กเกิดปีระกา 2560พื้นฐานเป็นคนแบบไหน ?

อุปนิสัยของคนเกิดปีระกา ตามหลักทางโหราศาสตร์ ว่ากันว่าคนเกิดปีระกา (ไก่) เป็นดั่ง ไก่กล้าหาญ  เป็นคนชอบช่วยเหลือผู้คน เป็นคนเปิดเผย และ…

  • เป็นคนที่รักสวยรักงาม
  • เป็นคนพูดตรงไปตรงมา
  • ทำอะไรก็ตั้งใจทำ ทุ่มเท
  • มีความเป็นนักปราชญ์
  • มีความเฉลียวฉลาด
  • เห็นอกเห็นใจผู้อื่น
  • เป็นคนที่มีโลกส่วนตัว
  • เป็นคนขี้หงุดหงิด
  • แต่ก็เป็นคนโรแมนติก และมีเสน่ห์

 

Good to know… “วันที่เป็นสิริมงคลและโชคชัยของคนเกิดปีระกา เพื่อจะเลือกใช้ในงานพิธีสำคัญของตน งานมงคล และงานตั้งต้นใหญ่ๆ ที่เกี่ยวกับสวัสดิภาพ และความเจริญรุ่งโรจน์ของชีวิต ได้แก่ วันอังคาร และ วันศุกร์2

อ่านต่อ >> “อุปนิสัยเด็กเกิดปีระกา ดวงชะตาตามปีเกิด 2560” หน้า 2

 

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

บูสเตอร์ซีท

บูสเตอร์ซีท สำคัญกับชีวิตลูกกว่าที่คิด

Alternative Textaccount_circle
event
บูสเตอร์ซีท
บูสเตอร์ซีท

ใครคิดว่าคาร์ซีทใช้สำหรับเด็กเล็กเท่านั้น เรื่องราวของหนูน้อยวัย 6 ขวบคนนี้ ที่เกือบเสียชีวิตเพราะไม่ได้นั่ง บูสเตอร์ซีท (คาร์ซีทของเด็กโต) แต่คาดเข็มขัดนิรภัยของผู้ใหญ่ที่ติดมากับรถยนต์แทน อาจทำให้คุณเปลี่ยนใจ (more…)

โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ

ลูกป่วยเป็นโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบเพราะว่ายน้ำ

Alternative Textaccount_circle
event
โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ
โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ

จากประสบการณ์ของคุณแม่ที่โพสต์เอาไว้ในกระทู้พันทิปเมื่อหลายเดือนก่อน Amarin Baby & Kids ขออนุญาตหยิบยกมาเป็นอุทาหรณ์ให้กับคุณพ่อ คุณแม่ที่มักจะพาลูกน้อยไปว่ายน้ำตามที่ต่างๆ อาจเกิดความเสี่ยงทำให้เป็น โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ

 

โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ

คุณแม่ฝากเตือนเกี่ยวกับโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ว่าส่วนใหญ่เกิดจากการเล่นน้ำที่มีเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัส แล้วเกิดสำลักน้ำเข้าไปทางจมูก ทำให้เชื้อโรคแพร่เข้าสู่สมอง จึงควรให้ลูกน้อยเล่นน้ำในสระน้ำที่มีระบบบำบัดเท่านั้น จุดเริ่มต้นของเรื่องทั้งหมด คือบ่อเลี้ยงปลาคาร์ฟที่บ้าน ซึ่งมีขนาดใหญ่พอสมควร เมื่อทำสระเสร็จก็เตรียมพักน้ำเอาไว้ในบ่อ เพื่อที่จะรอปล่อยปลา ด้วยความที่ลูกชายวัย 8 ขวบของคุณแม่ชอบเล่นน้ำอยู่แล้ว เมื่อเห็นบ่อปลาใส่น้ำเอาไว้ ก็เลยขอลงเล่น คุณแม่คิดว่าไม่น่าจะเป็นอะไร จึงให้ลูกน้อยเล่นตอนแดดไม่ร้อน ลูกชายของคุณแม่เล่นน้ำ 3 วันติดต่อกัน ดำผุดดำว่าย สำลักน้ำตามประสาเด็ก 3 วันต่อมา ลูกชายเริ่มมีอาการปวดศีรษะ จึงรีบพาไปหาคุณหมอ

โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบวันเสาร์ที่ 19 มีนาคม 2559

คุณหมอตรวจอาการแล้วบอกว่าให้นอนโรงพยาบาลดีกว่า เพราะอยากจะขอตรวจให้ละเอียดทุกอย่าง เพราะลูกน้อยไข้สูง ปวดศีรษะมาก และมีอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย จึงต้องตรวจน้ำมูกหาไข้หวัดใหญ่ ตรวจเลือดหาไข้เลือดออก เย็นวันนั้นผลออกมาเป็นปกติ คุณหมอแจ้งว่าเหลือตรวจสมองเพียงที่เดียว คุณหมอสงสัย เพราะลูกน้อยมีอาการคอแข็ง ก้มหน้าไม่ลง และปวดเมื่อยตั้งแต่คอลงไปถึงหลัง ซึ่งเป็นอาการของโรคไข้สมองอักเสบ หรือเยื่อหุ้มสมองอักเสบ คุณหมอจึงตรวจโดยการเจาะไขสันหลัง เพื่อนำน้ำในไขสันหลังมาตรวจหาเชื้อโรค ตอนนี้ลูกยังรู้สึกตัวดีอยู่ พูดคุยกับคุณแม่ได้ปกติ และให้ความร่วมมือคุณหมอเป็นอย่างดี จึงไม่ต้องดมยาสลบ ผลการตรวจออกมาตอนประมาณ 22.00 น. ของวันนั้น คุณหมอก็สั่งให้ใช้ยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียทันทีทางสายน้ำเกลือเมื่อรู้ผล คืนนั้นลูกชายไข้ขึ้นต้องเช็ดตัว และบ่นปวดศีรษะตลอดทั้งคืน

วันอาทิตย์ที่ 20 มีนาคม 2559

อาการไข้ลดลงเล็กน้อย จาก 39 องศา เป็น 37.9 องศา แต่ยังมีอาการ พูดคุยได้ปกติ แต่รับประทานอาหารได้น้อยลง ซึ่งปกติลูกน้อยจะเป็นคนกินเก่ง คุณหมอสรุปอาการว่าเป็นโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ จากเชื้อแบคทีเรีย และจะต้องได้รับยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียเป็นเวลา 14 วัน และมีการส่งน้ำในไขสันหลังเพื่อตรวจหาเชื้อไวรัสด้วย ซึ่งต้องรอประมาณ 2 – 3 วัน

วันจันทร์/อังคารที่ 21-22 มีนาคม 2559

อาการไข้ขึ้นห่างกว่าเดิม แต่ยังมีอยู่บ้าง และบางช่วงลดลงเหลือ 36.6 องศา อาการปวดศีรษะเริ่มน้อยลง แต่จะนอนหลับมากกว่าเดิม แทบไม่รับประทานข้าวเลย รับประทานแต่ผลไม้ และไอศกรีม บางครั้งมีอาการเพ้อตอนไข้ขึ้น

วันพุธที่ 23 มีนาคม 2559

แทบไม่มีอาการไข้เลย อาการปวดศีรษะน้อยลง นอนหลับมากขึ้น ไม่รับประทานอาหาร พูดคุยได้น้อยมาก ถามคำตอบคำ พูดอยู่ก็หลับไปเฉยๆ ช่วงเย็นทราบผลตรวจ พบว่ามีเชื้อไวรัสรวมอยู่ด้วย เป็นตัวแพลน เอนเทอโรไวรัส เป็นไวรัสที่ไม่มียารักษา ต้องให้ภูมิคุ้มกันในร่างกายกำจัดออกไปเอง ถึงตอนนี้ทุกอย่างดูมือมนไปหมด คิดว่าตอนแรกจะมีแค่เชื้อแบคทีเรียให้ยาฆ่าเชื้อจนครบก็น่าจะไม่มีปัญหา คุณแม่จึงปรึกษาคุณหมอ และหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ต แล้วพบเคสตัวอย่างซึ่งเป็นโรคเดียวกับลูกชาย โดยการใช้ยา ivig ในการรักษา โดยยาจะช่วยในการสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย แต่ต้องให้ยาในห้อง ICU เนื่องจากบางคนอาจแพ้ยานี้ คืนนั้นจึงย้ายลูกน้อยไปห้อง ICU

โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบวันพฤหัสที่ 24 มีนาคม 2559

คืนนั้นลูกน้อยไม่มีไข้ การให้ยาเป็นไปด้วยดี แต่วันนี้ทั้งวันลูกไม่ตอบสนองต่อสิ่งที่คุณแม่พูดด้วย ไม่พูดคุย นอนหลับตลอด และร้องครางบางครั้ง อาจเป็นเพราะรำคาญสายต่างๆ ที่ระโยงรยางค์รอบตัว ทั้งสายน้ำเกลือ สายยา สายวัดชีพจร เครื่องวัดความดันที่ต้องใส่คาเอาไว้ที่แขน คุณแม่นั่งมองดูลูกแล้วสงสารจับใจ ได้แต่นั่งร้องไห้กัน 2 คนทั้งพ่อแม่

วันศุกร์/เสาร์ที่ 25-26 มีนาคม 2559

อาการทรงตัว เริ่มกลับมามีไข้ต่ำๆ 37.8 องศา ลูกนอนหลับตลอดทั้งวัน สามารถขยับร่างกายได้เอง แต่ไม่ลืมตา ไม่ตอบสนอง คุณพ่อ คุณแม่ลูบศีรษะ จับมือ และพูดคุยด้วย แต่ไม่ตอบสนอง เย็นวันเสาร์คุณหมอเริ่มให้อาหารทางสาย เพราะลูกไม่สามารถรับประทานได้เอง สงสารลูกน้อยที่สุด เพราะจะโดนใส่สายอาหาร คุณแม่ร้องไห้ คุณหมอรอดูอีก 2 – 3 วันว่ายาจะได้ผลหรือไม่ ทำแล้วจะทำให้ลูกน้อยตื่นลืมตาได้มากขึ้นหรือไม่

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

อ่านต่อ “ลูกป่วยเป็นโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบเพราะว่ายน้ำ” คลิกหน้า 2

กลากน้ำนม

กลากน้ำนม อาการ สาเหตุ และการรักษา

Alternative Textaccount_circle
event
กลากน้ำนม
กลากน้ำนม

กลากน้ำนม เชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่น่าจะคุ้นชื่อกับโรคกลากน้ำนมกันอยู่บ้าง แต่อาจยังไม่ทราบสาเหตุว่าแท้จริงแล้วกลากน้ำนมนั้นมีสาเหตุจากอะไร แล้วจะมีวิธีรักษาให้หายขาดได้ไหม หากเด็กๆ เป็นโรคนี้ ทีมงาน Amarin Baby & Kids มีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ของกลากน้ำนม มาให้ได้ทราบกันค่ะ

 

กลากน้ำนม คืออะไร ?

กลากน้ำนม หรือ เกลื้อนน้ำนม(Pityriasis alba) ซึ่งชื่อตามทางการแพทย์จะเรียกว่า โรคด่างแดด โรคนี้มาจากเซลล์สร้างเม็ดสีที่ชั้นหนังกำพร้าไม่สามารถสร้างเม็ดสีได้ตามปกติ ทำให้ผิวหนังจางลงจนกลายเป็นวงด่างขาว

กลากน้ำนมเป็นโรคผิวหนังที่พบได้บ่อย ส่วนใหญ่มักพบในเด็กวัยตั้งแต่อายุประมาณ 3-16 ปี และประมาณ 90% ของผู้ป่วยด้วยโรคด่างแดดจะมีอายุน้อยกว่า 12 ปี

 

Good to know… “กลากน้ำนม (เกลื้อนน้ำนม)  เป็นโรคที่หายได้เอง และไม่ทิ้งร่องรอยด่างหรือแผลเป็นไว้  แต่ก็สามารถกลับมาเป็นได้อีกครั้งหากผิวตรงบริเวณที่เคยเกิดโรคได้รับการกระตุ้น เช่น ถูกแสงแดดจัด  การเล่นกีฬาว่ายน้ำกลางแจ้ง ฯลฯ กลากน้ำนม จะหายได้เองภายในเวลาเป็นเดือน หรือ หนึ่งปี”

อ่านต่อ >> “เกลื้อนน้ำนม มีอาการอย่างไร?” หน้า 2

 

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

แก้ปัญหา ลูกวัยเตาะแตะ หลับยาก

10 เคล็ดลับ แก้ปัญหา ลูกวัยเตาะแตะ หลับยาก

Alternative Textaccount_circle
event
แก้ปัญหา ลูกวัยเตาะแตะ หลับยาก
แก้ปัญหา ลูกวัยเตาะแตะ หลับยาก

แก้ปัญหา ลูกวัยเตาะแตะ หลับยาก บางครั้ง แม้แต่เด็กสุขภาพดีก็ยังมีปัญหาการนอนได้ เพราะเด็กวัยเตาะแตะกำลังก้าวผ่านช่วงต่างๆ ของการเติบโตและพัฒนาการในหลายด้าน ทีมงาน Amarin Baby & Kids มีเคล็ดลับ แก้ปัญหา ลูกวัยเตาะแตะ หลับยาก มาฝากกันค่ะ

 

แก้ปัญหา ลูกวัยเตาะแตะ หลับยาก

การที่ลูกของคุณพ่อคุณแม่มักร้องไห้โยเยตอนกลางคืนจนทำเอาแทบไม่ได้นอน อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น ปวดเหงือกเพราะฟันกำลังขึ้น ปวดหูเพราะหูอักเสบ หรือไม่ลูกก็อาจกลัวความมืด กลัวการอยู่คนเดียว เป็นต้น แต่ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุอะไร ปัญหาลูกนอนไม่หลับนั้นไม่เป็นผลดีต่อทั้งตัวลูก ตัวคุณพ่อคุณแม่ และทุกคนในครอบครัวเลย!

 

เด็กหลับยากเป็นปัญหาที่พบกันบ่อย คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรกังวลจนเกินไป แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ควรปล่อยปละละเลยไปเฉยๆ เพราะการนอนเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับเด็กวัยหัดเดิน ลูกควรนอนหลับให้ได้วันละ 12 ชั่วโมง ถ้านอนไม่พออาจส่งผลให้เป็นโรคเรื้อรังอื่นๆ ได้ง่ายในภายหลัง มาดูปัญหาการนอนแบบต่าง ๆ ของเด็กวัยเตาะแตะ พร้อมวิธีแก้ไขกันเลยค่ะ

อ่านต่อ >> “7 ปัญหาลูกหลับยาก พร้อมวิธีแก้ไข” หน้า 2

 

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

การเก็บรักษาสต๊อกนมแม่

CDC แนะนำการเก็บรักษาสต๊อกนมแม่แบบใหม่

Alternative Textaccount_circle
event
การเก็บรักษาสต๊อกนมแม่
การเก็บรักษาสต๊อกนมแม่

ข้อมูลจากเพจคุณหมอสุธีรา เอื้อไพโรจน์กิจ มีคำแนะนำล่าสุดจากหน่วยงานควบคุม และป้องกันโรค CDC เกี่ยวกับ การเก็บรักษาสต๊อกนมแม่ แบบใหม่ที่พึ่งตีพิมพ์เมื่อวันที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยขอให้ยกเลิกการปฏิบัติตามคำแนะนำเดิม และใช้คำแนะนำแบบใหม่นี้เท่านั้น

(more…)

รอยแผลนูน

8 วิธีดูแลรักษาแผลนูนแดง หลังผ่าคลอด ให้สวยเรียบ

event
รอยแผลนูน
รอยแผลนูน

 

รักษาแผลนูนแดง เพราะคุณแม่หลังคอดก็อยากกลับมาสวยเหมือนก่อนท้อง แต่สำหรับคุณแม่ที่ผ่าคลอดก็อาจมีรอยแผล หลงเหลืออยู่แลดูหน้าท้องไม่สวยเหมือนเดิม ทั้งริ้วรอยและรอยแผล ที่ปรากฏอยู่ก็คงต้องลำบากใจในการที่จะปกปิดรอยแผลเป็นนั้นให้พ้นจากสายตาของคนรอบข้าง อาจทำให้ขาดความมั่นใจในการแต่งตัว ไม่สามารถแต่งตามแฟชั่นสมัยนิยมได้อย่างคนอื่น ๆ เนื่องจากแผลเป็นที่น่าเกลียด และแผลเป็นยังก่อให้เกิดอาการคัน ซึ่งก่อความรำคาญและอาจขยายวงกว้างขึ้นได้อีกด้วย

ดูแลแผลเป็น หลังผ่าคลอด ให้เนียนสวย ไม่นูนแดง

แผลนูน

√ การเกิดรอยแผลเป็นนั้นมีหลายปัจจัย

  • อย่างแรก คือ เรื่องอายุ ในคนที่อายุน้อยๆ จะมีโอกาสการสร้างพังผืดเยอะกว่า ในคนที่มีอายุมากหรือสูงอายุ
  • ลักษณะของผิวหนังก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่ง คือ ในคนที่มีผิวสี เช่น คนเอเชีย หรือคนแอฟริกา มีโอกาสการเกิดเป็นแผลเป็นนูนมากกว่าคนที่มีผิวขาว
  • ตำแหน่งการเป็นของแผล ก็เป็นปัจจัยหนึ่ง ถ้าตำแหน่งที่เกิดในบริเวณหน้าอกทั้งด้านหน้าด้านหลัง ไหล่ หู หรือในส่วนบริเวณผิวหนังที่มีการเคลื่อนไหวได้บ่อยๆ ก็มีโอกาสสูงที่จะเกิดแผลเป็นที่มีปัญหา และดูไม่ดีได้

♣ รอยแผลเป็นมีได้หลากหลายลักษณะ เรามาดูกันว่ามีอย่างไรบ้าง

1.แผลเป็นที่มีสีผิดปกติ คือ มีสีที่เข้มกว่าหรืออ่อนกว่าสีผิวปกติที่อยู่รอบ ๆ แผลมองเห็นได้ชัดเจน

2.แผลเป็นที่อาจมีการดึงรั้งของผิวหนัง ทำให้ลักษณะร่างกายบิดเบี้ยวไปตามแรงดึงรั้งของแผลจนไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ เช่น แผลเป็นตามฝ่ามือ ฝ่าเท้า หรือที่ใบหน้าซึ่งอาจจะเกิดจากอุบัติเหตุ

3.แผลเป็นที่มีรูปร่างผิดไปจากผิวหนังเดิม เช่น “แผลเป็นนูน” หรือแผลเป็นที่มี่รอยบุ๋มลงไปซึ่งแบ่งเป็น 2 ชนิด คือ

3.1 แผลนูนชนิดธรรมดา จะนูนหลังการผ่าตัดหรือการเย็บแผลใหม่ ๆ แผลจะมีลักษณะนูนอย่างเดียว ไม่ขยายขอบออกจากแผลเก่า ซึ่งแผลอาจมีขนาดเล็กลงได้เองโดยไม่ต้องทำอะไร หรือคุณอาจจะนวดเบาๆ ทุกวัน แผลนูนชนิดนี้จะยุบลงได้

3.2 แผลนูนชนิดคีลอยด์ เป็นแผลเป็นที่มีลักษณะนูนแข็งเห็นชัดจากผิวหนังปกติ และลามออกไปยังผิวหนังบริเวณข้างเคียงด้วย มักจะมีอาการคันเล็กน้อย พบได้จากแผลที่ถูกมีดบาดหรือแผลหลังการผ่าตัด เช่น ผ่าตัดไส้ติ่ง คลอดลูก หลังการปลูกฝี หรือแผลถูกไฟไหม้น้ำร้อนลวก เป็นต้น แผลแบบนี้นะคะ ดูไปแล้วก็เหมือนตัวปลิงหรือตะขาบมาเกาะอยู่ มันน่า…แค่ไหน คุณว่าไงคะ เห็นด้วยกับหมอหรือเปล่า

สำหรับคุณแม่ที่กังวลในแผลเป็นที่เกิดขึ้นหลังผ่าตัดคลอด จะทำอย่างไรดีให้แผลเป็นนั้นยุบหายลงไปได้บ้าง มีวิธีการรักษาอย่างไรไม่ให้เจ็บตัว เพื่อให้ผิวหน้าท้อง จะได้กลับมาแลดูเนียนสวย ไม่มีรอยแผลเป็นนูนแดง ไปดูกันค่ะ

อ่านต่อ >> วิธีดูแลแผลเป็น หลังผ่าคลอด ให้เนียนสวย ไม่นูนแดง” คลิกหน้า 2

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

ภาวะเกล็ดเลือดต่ำ

ภาวะเกล็ดเลือดต่ำ อันตรายกับลูกน้อยกว่าที่คิด

Alternative Textaccount_circle
event
ภาวะเกล็ดเลือดต่ำ
ภาวะเกล็ดเลือดต่ำ

เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม ที่ผ่านมามีการแชร์เรื่องราวของเด็กหญิงซึ่งป่วยเป็น ภาวะเกล็ดเลือดต่ำ คุณแม่ของหนูน้อยสงสารลูกมา เพราะลูกน้อยมีอาการเลือดกำเดาไหล และอาเจียนเป็นเลือด จึงขอความช่วยเหลือขอรับบริจาคเลือดกรุ๊ป A คนเป็นแม่เห็นลูกน้อยทรมาน หัวใจแม่แทบขาด

(more…)

เตือนจากแม่ถึงแม่!! ลูกแพ้อาหาร เพราะแม่ท้องโด๊ปอาหารกลุ่มเสี่ยงมากเกินไป

event

ลูกแพ้อาหาร เพราะแม่ …การบำรุงครรภ์และดูแลครรภ์เป็นเรื่องที่ดี และคุณแม่ท้องทุกคนควรทำ นั่นก็เพื่อให้ลูกน้อยของเราออกมาแข็งแรงสมบูรณ์ แต่อย่างไรก็ดี หากคุณแม่ท้องบำรุง หรือรับประทานอาหารในกลุ่มเสี่ยงมากเกินไป ก็อาจทำให้ลุกน้อยที่เกิดออกมา แพ้อาหารเหล่านั้นได้

ระวัง!! ลูกแพ้อาหาร เพราะแม่

ลูกแพ้อาหาร เพราะแม่

เช่นเดียวกับคุณแม่ท่านหนึ่ง ซึ่งได้ออกมาแชร์ประสบการณ์ตรงของตัวเอง เพื่อเตอนใจและให้ความรู้กับคุณแม่ๆ ท่านอื่น โดยเฉพาะคุณแม่ท้องที่กำลังหาอาหารทานเพื่อบำรุงลูกน้อยในครรภ์ แต่หารู้ไม่ว่า สิ่งที่เรากินเข้าไป หรือที่ใครๆ ต่างก็พูดแนะว่าว่า ให้กินนมมากๆ กินไข่มากๆ หรืออะไรก็แล้วแต่ที่ช่วยในการบำรุง นั่นอาจเป็นดาบสองคมที่ย้อนกลับมาทำร้ายลูกของเราได้ โดยคุณแม่ได้เล่าผ่านเฟสบุ๊คชื่อ Sunartpich Fontang ในเฟสบุ๊คกรุ๊ป กลุ่มหนึ่ง ว่า

>> เราดีใจกับแม่ๆที่เห็นโพสนี้และได้อ่าน และเราเสียใจด้วยกับแม่ๆหลายๆท่านที่กำลังจะข้ามโพสนี้ไป 😊กราบเบญจางคประดิษฐ์3ครั้ง รบกวนอ่านหน่อยค่ะ #ต้องการแนะนำแม่ตั้งครรภ์ค่ะ #และแม่ที่คิดว่ากำลังบำรุงลูกในครรภ์ และไม่อยากให้การพิมของเรามันสูญเปล่า อ่านค่ะ รบกวนสนใจกันสักนิด ที่เรามาโพสเพราะต้องการแชร์ประสบการณ์ โพสนี้ เราได้ขออนุญาตจากแอดมินแล้ว เพราะต้องการเตือนและให้ความรู้”ที่ถูกต้อง” เราเห็นคุณแม่หลายท่านที่สรรหาของมาบำรุงครรภ์ นมวัว นมจืด นมเปรี้ยว นมหวาน “น้ำเต้าหู้ นมถั่วเหลือง” หรือแม้กระทั่งไข่ต้ม ที่เชื่อกันว่าจะทำให้ลูกผิวดี ลูกตัวใหญ่ ฮัลโหล แม่ๆคะ สมัยนี้เด็กแพ้นมวัวค่ะ เด็กแพ้ถั่วเหลือง เด็กแพ้ไข่ขาว เด็กแพ้ไข่แดง เด็กแพ้แป้งสาลี เด็กแพ้อาหารทะเลเยอะมากค่ะ แพ้ยังไงคะ ???? แพ้สะสมจากแม่ค่ะ แม่ทั้งนั้นที่ทำให้ลูกแพ้ แล้วแพ้ได้ยังไง??? จากการโด๊ฟอาหารกลุ่มเสี่ยง (อ่านต่อ >> อาหารก่อภูมิแพ้ 8 ชนิดที่พ่อแม่ควรระวังพวกนี้ตั้งแต่ในครรภ์ค่ะ กินนมทุกวันวันละ2กล่องหรือ #กินน้ำเต้าหู้ นมถั่วเหลืองทุกวัน วันละ2ถุง หรือโด๊ฟไข่ต้มวันละ 2 ฟองทุกวัน ลูกออกมาแพ้แน่นอนค่ะ100% เด็กบางคนโชคร้าย แพ้ทั้งนมวัว ถั่ว ไข่ ซึ่งนั่นคือลูกเราค่ะ อาการแพ้เป็นยังไง น้องจะหายใจครืดคราด อาเจียน งอแง ปวดท้อง มีผื่นขึ้นหนักๆ และหนักสุดถ่ายเป็นมูก ถ่ายเหลว ถ่ายบ่อย กลิ่นเหม็น หนักกว่านั้นคือถ่ายเป็นเลือด เราแค่อยากมาเตือนคุณแม่ที่กำลังกินนมทุกวัน (นมวัว นมถั่วเหลือง) กินไข่ทุกวัน อาหารคนท้องขอแค่กินให้ครบ5หมู่เท่านั้นค่ะ นมไม่จำเป็น และไม่ได้สำคัญที่สุด แคลเซียมหมอจ่ายมาให้ไหมคะ กินเข้าไปค่ะ ดูดซึมได้ดีกว่ากินนมอีกค่ะ ธาตุเหล็ก กินโฟลิคเข้าไปค่ะ เสริมสร้างสมองลูก มีคำถามว่าทำไมคนสมัยก่อนถึงโด๊ฟนมโด๊ฟนั่นนี่ไม่เห็นเปนอะไร ตอบค่ะ เป็นค่ะ แต่เขาไม่รู้ว่าอาการเป็นยังไง ซึ่งแม่ๆในนี้ยังไม่ทราบเลยค่ะว่าลูกแพ้ มีแม่ๆหลายท่านบอกว่าตอนท้องก็กินนมเยอะ กินไข่เยอะ ตอนนี้น้อง2ขวบละ ยังไม่แพ้เลย เดี๋ยวรู้ค่ะ 555555 คุณไม่ได้โชคดีเลยค่ะ โคตรโชคร้ายที่ลูกออกอาการช้า 555 และสมัยก่อนความรู้ทางวิทยาศาสตร์ไม่ได้เข้าถึงง่ายเหมือนสมัยนี้นะคะ และที่มาถึงรุ่นลูกรุ่นเรา เราคือผลพวงจากพวกท่าน อาการแพ้ต่างๆ คือกรรมพันธุ์ด้วยค่ะ

อ่านต่อ >> ประสบการณ์ตรงจากแม่ฝากถึงแม่ บำรุงครรภ์มากไป จนลูกแพ้อาหาร” คลิกหน้า 2

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

Babyshop ศูนย์รวมสินค้าแฟชั่น เครื่องประดับ และของใช้สำหรับคุณหนู

event

Babyshop (เบบี้ช้อป)  ศูนย์รวมสินค้าแฟชั่น เครื่องประดับ และของใช้สำหรับคุณหนูตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 8 ปี มีวางจำหน่ายมาแล้วกว่า 200 สาขาใน 16 ประเทศทั่วโลก นำเข้าและจัดจำหน่ายโดยห้างสรรพสินค้าโรบินสัน จัดบริการพิเศษ “Shopper Assist”  ให้คำปรึกษาและคำแนะนำเกี่ยวกับการเลือกผลิตภัณฑ์สำหรับแม่และเด็ก โดยผู้เชี่ยวชาญจาสถานพยาบาลชั้นนำ มั่นใจได้ว่าปลอดภัย และเหมาะสมในแต่ละช่วงวัย

สนใจติดต่อขอรับบริการได้ในวันที่ 17-18,24-25 ธันวาคม ศกนี้
ระหว่างเวลา 13.00 -17.00 น. ที่ร้านเบบี้ช้อป แผนกสินค้าเด็ก ชั้น 4 ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน พระราม 9

เนื้องอกมดลูก

เนื้องอกมดลูก พบบ่อย ผู้หญิง 1 ใน 4 ต้องเป็น!

Alternative Textaccount_circle
event
เนื้องอกมดลูก
เนื้องอกมดลูก

เนื้องอกมดลูก อาจฟังดูน่ากลัว และทำให้รู้สึกกังวลว่ามันจะกลายเป็นมะเร็งหรือเปล่า? แต่ความจริงแล้ว เนื้องอกมดลูก โดยส่วนใหญ่มักเป็นเนื้องอกชนิดธรรมดา ซึ่งมีโอกาสเปลี่ยนแปลงเป็นเนื้อร้ายน้อยมาก น้อยกว่า 1 ต่อ 10,000 เสียอีก อย่างไรก็ตามความรุนแรงของเนื้องอก อยู่ที่ว่ามันเกิดตรงส่วนไหนของมดลูกมากกว่า (more…)

เงินอุดหนุนเด็กแรกเกิด

ประสบการณ์ตรง เรื่องเงินอุดหนุนเด็กแรกเกิด

Alternative Textaccount_circle
event
เงินอุดหนุนเด็กแรกเกิด
เงินอุดหนุนเด็กแรกเกิด

มีคุณแม่คนหนึ่ง ทำงานอยู่ที่ อบต. ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบเรื่อง เงินช่วยเหลือเด็กแรกเกิด โดยตรง โดยคุณแม่เล่าว่า การขึ้นทะเบียนนั้น คุณแม่ตั้งครรภ์สามารถทำได้ ถ้ามีกำหนดคลอดไม่เกิน 30 กันยายน 2560 ซึ่งจะได้รับเงินเดือนละ 600 บาท ตลอดระยะเวลา 3 ปี และขึ้นทะเบียนก่อนได้

(more…)

ทารก ขาโก่ง

คลิปป้าหมอสอน “ทารก ขาโก่ง” ดูอย่างไร? ต้องดัดขาไหม?

event
ทารก ขาโก่ง
ทารก ขาโก่ง

ทารก ขาโก่ง …สามารถพบได้ในเด็กแรกเกิดทุกคน ซึ่งภาวะนี้ทำให้คุณพ่อคุณแม่กังวลใจไม่น้อยว่า ลูกจะขาโก่งเมื่อโตขึ้น บางคนก็จะได้รับคำแนะนำจากผู้ใหญ่ให้ดัดขา ทีมงานมีคำแนะนำจากป้าหมอ สุธีรา เอื้อไพโรจน์กิจ มาฝากค่ะ

คลิปป้าหมอสอน “ทารก ขาโก่ง” ดูอย่างไร? ต้องดัดขาไหม?

ทำไม “ทารก ขาโก่ง” ?

ภาวะโก่งแบบปกติ พบในเด็กแรกเกิดทุกคนเกิดจากการที่เขาอยู่ในท้องแม่ซึ่งเป็นที่แคบ ๆ จึงต้องงอแขนงอขาให้มากที่สุด ทำให้กล้ามเนื้อบางมัด เส้นเอ็นบางเส้น ตึงมากกว่าอีกด้านหนึ่ง ลักษณะของกระดูกจึงไม่ตรง แต่เมื่อคลอดออกมาแล้ว แขนขาจะเหยียดออกมากขึ้น กระดูกจะดูตรงมากขึ้นเองเมื่ออายุ 2 ขวบ หากบางคนยังอาจดูโค้งเหมือนโก่งนิด ๆ จนโต อาจพบได้ในครอบครัวเดียวกัน เป็นลักษณะกรรมพันธุ์ ไม่ต้องรักษา เนื่องจากไม่ส่งผลทำให้การเดิน การวิ่งผิดปกติ

ลูกขาโก่ง
ลักษณะขาของทารก

ในเด็กอายุต่ำกว่า 2 ขวบที่พบลักษณะขาโก่ง ส่วนใหญ่เป็นภาวะปกติ ไม่ต้องการการรักษา มีเพียงร้อยละ 1 เท่านั้นที่ผิดปกติเนื่องจากเป็นโรคกระดูก เช่น ขาดวิตามินซี วิตามินดี หรือเป็นโรคพันธุกรรมที่พบได้ยาก ซึ่งหากเป็นความผิดปกติจริง เด็กต้องมีอาการผิดปกติของแขนหรือกระดูกส่วนอื่นๆ ของร่างกายด้วย หรือเป็นการโก่งที่มีการบิดของปลายเท้าชี้เข้าด้านใน (In Toeing) หรือพบขาโก่งร่วมกับตัวเตี้ยผิดปกติ ความผิดปกติเหล่านี้ต้องรักษาโดยวิธีผ่าตัดแก้ไขรูปทรง หรือการตัดรองเท้าพิเศษโดยศัลยแพทย์โรคกระดูกเฉพาะทางสำหรับเด็ก

ภาวะขาโก่งในเด็ก มีหลายรูปแบบ ทั้งโก่งออกด้านนอก โก่งเข้าด้านใน โก่งมาด้านหน้า หรือด้านหลัง แต่โดยส่วนใหญ่วัยหัดเดิน หรือมากกว่า 95% จะเป็นขาโก่งออกด้านนอก คือโก่งแบบเดินขาถ่าง ๆ เข่าห่างจากกัน เท้าอาจจะบิดหมุนเข้าด้านใน แต่ถ้าไม่ใช่ขาโก่งแบบออกด้านนอกถือว่าผิดธรรมชาติ

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

อ่านต่อ ทารก ขาโก่ง หรือไม่โก่งดูอย่างไร (มีคลิป)

ลูกเตี้ย เพราะขาดโกรทฮอร์โมน จากการนอนดึก จริงหรือ ?

Alternative Textaccount_circle
event

ลูกเตี้ย เพราะขาดโกรทฮอร์โมน จากการนอนดึก สำหรับเด็กแล้ว “การนอน” ถือเป็นการพักผ่อนที่ดีที่จะช่วยเสริมสร้างพัฒนาการทั้งทางร่างกายและจิตใจไปพร้อมๆ กัน ที่สำคัญหากเด็กได้รับการนอนที่เพียงพอ และมีคุณภาพควบคู่กันไปด้วยแล้ว โกรทฮอร์โมนในร่างกายจะทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งจะส่งผลต่อการเจริญเติบโต และความสูงที่สมวัยอีกด้วย ทีมงาน Amarin Baby & Kids มีผลเสียจากนอนดึกของเด็กๆ มาให้ได้ทราบกันค่ะ

 

ลูกเตี้ย เพราะขาดโกรทฮอร์โมน จากการนอนดึก : โกรทฮอร์โมนคือ ?

โกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) หรือฮอร์โมนแห่งการเจริญเติบโต  เป็นฮอร์โมนที่ร่างกายผลิตขึ้นได้เอง โดยหลั่งมาจากต่อมไร้ท่อที่สร้างจากต่อมพิทูอิทารีภายใต้สมอง ช่วยเรื่องการเจริญเติบโตของร่างกาย กระตุ้นให้เกิดการสร้าง และซ่อมแซมเนื้อเยื่อต่างๆ โกรทฮอร์โมนจึงสำคัญมากสำหรับเด็กที่จะทำให้สูงสมวัย และไม่แคระแกร็น ทั้งยังเสริมสร้างภูมิต้านทานไม่ให้เจ็บป่วยง่าย ช่วยเรื่องความจำ และพัฒนาการด้านสมอง ซึ่งจะสังเกตได้ว่า หากเด็กคนไหนนอนหลับแต่หัวค่ำและเพียงพอที่ร่างกายต้องการ เด็กจะตื่นมาด้วยอารมณ์แจ่มใส ร่าเริง มีความกระตือรือร้น มีสมาธิในการเรียนรู้สิ่งใหม่ และมีการจดจำที่ดีอีกด้วย

อ่านต่อ >> “โกรทฮอร์โมนหลั่งตอนไหน เด็กนอนวันละกี่ชั่วโมง” หน้า 2

 

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

หูอักเสบ

หูอักเสบ เพราะหวัดขึ้นหู เชื้อไวรัสที่ไม่ใช่เล็กๆ

Alternative Textaccount_circle
event
หูอักเสบ
หูอักเสบ

จากประสบการณ์ของคุณแม่ 2 ท่าน ที่มีการพูดคุยกันผ่านทางไลน์ คุณแม่คนแรกลูกน้อยเป็น หูอักเสบ มีตุ่มน้ำที่แก้วหู เป็นตุ่มหนอง คุณหมอบอกว่าเกิดจากเชื้อไวรัสที่มักเกิดขึ้นก่อน หรือหลังจากที่เป็นหวัด เพราะสามารถเชื่อมต่อกันได้ และเด็กเป็นกันเยอะ เป็นอาการจากหวัดขึ้นหู

(more…)

keyboard_arrow_up