Page 204 – AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

เกม เด็ก 4 ขวบ

เกม เด็ก 4 ขวบ พ่อแม่ชวนเล่น “เกมอะไรดี” ให้ลูกห่างจอ

ในยุค 4.0 ที่เด็กจับต้องมือถือได้ง่ายเหลือเกิน ปัญหาของการ “ติดมือถือ” จึงเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่พ่อแม่ควรดูแลและช่วยกันแก้ไข โดยเฉพาะในเด็กวัยเล็ก ลองมองหากิจกรรมช่วยเจ้าตัวน้อยให้เล็กให้ออกห่างจากหน้าจอกันค่ะ ทีมแม่ ABK ได้รวบรวมลิสต์ เกม เด็ก 4 ขวบ ที่พ่อแม่สามารถชวนลูกวัยนี้เล่นได้ มีอะไรบ้างนะ มาดูกันค่า

เด็กอายุ 4 ขวบกระตือรือร้นและมีพลังงานมาก การปล่อยให้ลูกอยู่แต่หน้าจอเล็ก ๆ มากเกินไปก็จะส่งผลเสียในหลายด้านทั้งสุขภาพ จิตใจ ความคิด และพฤติกรรม นี่คือเหตุผลที่ว่าคุณพ่อคุณแม่ควรมองหากิจกรรมและให้เวลาเจ้าตัวน้อย เพื่อช่วยเสริมสร้างพัฒนาการให้กับลูกได้มากขึ้น ซึ่งเด็กในช่วงวัยนี้สามารถทำกิจกรรมได้นานถึง 15 นาทีแล้วนะ มาชวนลูกเล่นอะไรดี

เกม เด็ก 4 ขวบ พ่อแม่ชวนเล่นเกมอะไรดีให้ลูกห่างจอ

#1 เกมเล่นซ่อนหา

เกม เด็ก 4 ขวบ

ตอนเป็นเด็กเบบี๋ก็ชอบเล่นจ๊ะเอ๋ มองวัตถุที่หายไปตรงหน้าและกลับมาเห็นชัด ชวนให้หัวเราะขบขันส่งยิ้มกันให้พ่อแม่ดีใจ เกม เด็ก 4 ขวบ อย่างการเล่นซ่อนแอบก็เป็นการเล่นที่ทำให้ลูกรู้สึกแบบเดียวกัน เพียงแต่ลูกโตพอที่จะหาวิธีซ่อนแอบ หรือเดินหากับคุณพ่อคุณแม่ได้แล้ว เกมนี้ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการในการมอง การใช้สมาธิ การเคลื่อนไหว และเป็นการเสริมความสัมพันธ์ที่ดีของครอบครัวด้วยแน่นอนค่ะ

#2 เกมซูโม่นิ้วโป้ง

เกมนี้เล่นไม่ยากค่ะ เพียงแค่จับมือกันแล้วยื่นนิ้วโป้งขึ้นมาจากนั้นใคสามารถกดนิ้วโป้งลงได้ก่อนก็ชนะไปเลย เกมนี้ช่วยฝึกไหวพริบให้กับเจ้าตัวเล็กและใช้พลังนิ้วอย่างเดียว มองเห็นคนชนะใส ๆ ว่าใครชนะอยู่แล้ว แต่เกมนี้คุณพ่อคุณแม่สามารถผลัดยอมแพ้เพื่อให้ลูกได้เรียนรู้จากการแพ้ชนะในเกม ถือได้ว่าเป็นเกมที่สร้างความสนุกให้ลูกวัยนี้ได้เป็นอย่างดีทีเดียวค่ะ

#3 บอร์ดเกม

เกม เด็ก 4 ขวบ

บอร์ดเกมสำหรับเด็ก 4-6 ขวบ สามารถเล่นได้ อย่างเช่น เกมเศรษฐี เกมบันไดงู บิงโก ฯลฯ เกมเหล่านี้นอกจากจะทำให้เด็ก ๆ ได้รับความสนุกสนานแล้ว การเล่นบอร์ดเกมส์ยังได้ใช้ความคิด มีการวิเคราะห์ ได้สมาธิ แนะนำว่าควรมีบอร์ดเกมส์ติดบ้านไว้ซักเกมส์สองเกมส์ไว้ชวนลูกเล่นกันนะคะ

#4 เกมปิดตาวาดภาพ

วิธีเล่มเกมนี้คือให้เด็ก ๆ มองรูปจากต้นฉบับโดยจับเวลาในการมองไม่เกิน 3 นาที จากนั้นก็ให้ปิดตาแล้วก็วาดภาพลงในแผ่นกระดาษที่เตรียมไว้โดยให้ออกมาคล้ายกับต้นฉบับที่มองไว้มากที่สุด เกมนี้จะช่วยฝึกทักษะในการวาดภาพและการจดจำ ได้มีการใช้จินตนาการ เรียกว่าสนุกและได้พัฒนาการไปพร้อม ๆ กันเลยค่ะ

#5 เกมโยนลูกบอลให้ลงตะกร้า

อุปกรณ์ภายในบ้านอย่างตะกร้าใส่เสื้อผ้ากับลูกบอลสี ๆ ของเจ้าตัวเล็กก็นำมาใช้เล่นกันได้ง่าย ๆ เลยค่ะ วิธีเล่นเกมนี้ก็แค่คุณพ่อคุณแม่บอกสีลูกบอลให้ลูกเลือกหยิบให้ถูก จากนั้นก็โยนเข้าตะกร้าโดยมีจุดโยนลูกบอลให้ห่างตัวลูกเล็กน้อย เพิ่มความสนุกและตื่นเต้นเข้าไปอีก เกมนี้เด็ก ๆ จะได้เรียนรู้คำศัพท์ชุดสีจากลูกบอล แถมยังได้ฝึกทักษะด้านการเคลื่อนไหวอีกด้วยนะ

#6 เกมจ้องตาห้ามกะพริบ

เกมที่จะช่วยฝึกความอดทน ด้วยการแข่งกันจ้องตาห้ามกะพริบ ใครกะพริบทีหลังก็ถือว่าเป็นอันชนะไปเลยค่ะ ในระหว่างเกมก็สามารถทำหน้าตลก ๆ ยียวนแบบไม่กะพริบตาเพื่อให้อีกฝ่ายตลกขบขันจนแพ้ไปในที่สุดได้ ถือว่าเป็นการสร้างสัมพันธ์ที่ดีระหว่างครอบครัวและช่วยยังสร้างความสนุกสนาเพิ่มอารมณ์ดีให้กับลูกอีกด้วยค่ะ

#7 เกมโดมิโน่

เกม เด็ก 4 ขวบ

เกมนี้ช่วยสอนให้เด็ก ๆ รู้จักจำนวนตัวเลขไม่เกิน 6 หน่วย และมองสีที่เหมือนหรือแตกต่างกัน เป็นเกมที่เล่นง่าย ๆ ได้ความสนุก นอกจากนี้คุณพ่อคุณแม่สามารถนำตัวโดมิโน่มาประยุกต์เป็นเกมแบบอื่นได้อีก เช่น เกมล้มโดมิโน่ ฝึกความอดทนในการเรียงโดมิโน่ให้เป็นแถว จากนั้นก็ดีดโดมิโน่ตัวแรกให้ล้มลงเรียงกันไปจนสุดแถว ถ้าสามารถล้มแถวได้ทั้งหมดก็ถือว่าประสบความสำเร็จ หรือจะฝึกทักษะความคิด วิเคราะห์ และแยกแยะ ด้วยการนำโดมิโนมาบวกให้ได้ผลลัพธ์ตามจำนวนที่คุณพ่อคุณแม่เขียนไว้ เท่านี้เกมสนุก ๆ ก็ช่วยให้ลูกได้สมาธิกับทักษะการคำนวณตัวเลขอีกด้วย

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

อ่านต่อ 12 เกมพ่อแม่ชวนเล่นให้ลูกห่างจอ คลิกหน้า 2 

    พาลููกเที่ยว พัทยา

    พาลููกเที่ยว พัทยา 6 ที่เที่ยวมีกิจกรรมให้ทำเพียบ ถูกใจลูกแน่!

    พาลููกเที่ยว พัทยา ทริปตอบโจทย์การเดินทางในวันหยุดสุดสัปดาห์ของครอบครัวได้เวิร์กสุด เพราะจุดหมายปลายทางห่างจากกรุงเทพแค่ไม่เกินสองชั่วโมง ก็มีที่เที่ยวแบบมีกิจกรรม เสริมประสบการณ์ให้เจ้าตัวเล็กเพียบ!! แต่ที่ไหนจะถูกใจวัยซน ที่พร้อมจะปล่อยพลัง เป็นที่เที่ยวและแหล่งเรียนรู้ให้กับหนู ๆ ได้จบในที่เดียว มีที่ไหนกันบ้าง ทีมแม่ ABK คัดมาให้แล้ว มาดูกันเลยค่า

    พาลูกเที่ยว พัทยา 6 ที่เที่ยวที่มีกิจกรรมให้ทำเพียบ!!

    #1 Frost Magical Ice of Siam

    พาเด็ก ๆ มาท้าทายความเย็นสุดขั้วที่ Frost Magical Ice of Siam กันค่า เมืองพัทยาไม่ได้มีดีแค่ทะเลให้นอนชิลรับลมทะเล แต่ยังมีอาณาจักรน้ำแข็งในอุณหภูมิ -10 ให้เข้ามาเดินชมกับประติมากรรมน้ำแข็งแกะสลักที่สะท้อนความเป็นไทยผ่านการแกะสลักน้ำแข็งได้อย่างสวยงามตระการตา เป็นการเปิดประสบการณ์ความหนาวและความแปลกที่ทำให้เจ้าตัวเล็กไม่เคยเห็นและสัมผัสได้ที่ไหนมาก่อนในเมืองพัทยา ภายในจะแบ่งเป็น

    • โซนหิมพานต์ ที่จัดแสดงประติมากรรมทรายขาว ที่บอกเล่าเรื่องราวของป่าหิมพานต์ ชมความมหัศจรรย์ของการแกะสลักน้ำแข็งที่เป็นรูปร่างต่าง ๆ สวยงาม
    • โซน Siam Heaven ประติมากรรมน้ำแข็งแกะสลักและโดมน้ำแข็งที่งดงามและใหญ่ที่สุดในอาเซียน แสดงเรื่องราวเกี่ยวกับเมืองไทย วรรณคดีไทย สถานที่สำคัญ และวิถีชีวิตของไทยและไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้เลยเมื่อมีโอกาสเข้ามา คือ การท้าทายความหนาวด้วยการดื่มเครื่องดื่มในแก้วน้ำแข็งที่บาร์น้ำแข็ง เจ้าตัวเล็กคนไหนที่ร้องบอกให้พ่อแม่พาไปเมืองนอก ลองพามาทดสอบความหนาวที่นี้กันก่อนดีกว่า ไม่ต้องไปเที่ยวไกลถึงเมืองนอกกันแล้ว
    พาลููกเที่ยว Frost Magical Ice of Siam
    พาลููกเที่ยว พัทยา ที่ Frost Magical Ice of Siam

    พาลูกเที่ยว Frost Magical Ice of Siam
    ที่ตั้ง : 75/6 หมู่ 3 ถนนกระทิงลาย – พัทยา (ตรงข้ามโรงเรียนนานาชาติรีเจ้นท์)
    เบอร์โทรศัพท์ :  063-669-4559
    เปิดบริการ : ทุกวัน เวลา 09.00-20.30 น.
    ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 350 บาท / เด็ก 250 บาท
    ขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊ก : frostpattaya

    #2 เลเจนด์สยาม

    อีกหนี่งแลนด์มาร์คใหม่ของพัทยาที่เที่ยวสำหรับครอบครัวและทุกคน เปิดประสบการณ์แปลกใหม่และใส่ชุดไทยไปเดินเล่นที่ เลเจนด์สยาม กันค่ะ ธีมพาร์คเชิงวัฒนธรรมไทย ที่นำเสนอตำนาน วิถีชีวิตและอารยธรรมอันภาคภูมิใจของสยามประเทศในยุคสมัยต่าง ๆ เต็มรูปแบบแห่งแรกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย บนพื้นที่กว่า 164 ไร่ หรือ กว่า 100,000 ตารางเมตร แบ่งเป็นทั้งหมด 3 โซนคือ

    • โซนความศิวิไลซ์แห่งอารยะธรรมสยาม ชมประติมากรรมและสถาปัตยกรรมที่จำลองไว้ได้อย่างสวยงามตระการตา
    • โซนไทยอารยะ เดินชมภูมิปัญญาท้องถิ่นทั้งศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี ความเชื่อ วิถีชีวิต สินค้า อาหารคาวหวาน การละเล่น การร้องรำ อันเป็นรากเหง้าแห่งเอกลักษณ์ความเป็นชาติของไทยจาก 77 จังหวัดทั่วประเทศ ในบรรยากาศตลาดบกและตลาดน้ำ งานวัด เรือนริมน้ำ ที่จะเพลินเพลินได้ตลอดทั้งวัน
    • และโซนภูมิแผ่นดิน ชวนเด็ก ๆ มาเรียนรู้วิถีชีวิตชาวนาด้วยการทดลอง เรียนรู้ ลงมือเป็นชาวนาด้วยตัวเอง ผ่านการดำนา เกี่ยวข้าว ฝัดข้าว ตำข้าว การหุงข้าวในสมัยก่อน ผ่านทุ่งนาเขียวขจี และเรื่องราวสานต่องานที่พ่อสร้างกับเกษตรวิถีไทย ชมท้องน้ำเลข ๙ ป่าไม้จำลอง ยกให้ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงาม มีกิจกรรมเกี่ยวกับความเป็นไทยให้เด็ก ๆ ได้ลองทำและเรียนรู้ น่าปักหมุด ไว้ทุกครั้งเวลา พาลูกเที่ยว พัทยา คราวหน้ากันเลย

    พาลูกเที่ยว พัทยา เลเจนด์สยาม
    ที่ตั้ง : อ.นาจอมเทียน ริมถนนสุขุมวิท ห่างจากพัทยาใต้ 20 กิโลเมตร
    เบอร์โทรศัพท์ :  033 073 333
    เปิดบริการ : ทุกวัน เวลา 10.00-20.00 น.
    ค่าเข้าชม : 350 บาท ราคาโปรโมชั่น คลิก!
    เฟซบุ๊ก :  legendsiampattaya

    #3 Monsters Aquarium Pattaya

    มาต่อกันอีกที่กับ Monsters Aquarium Pattaya เป็นสถานที่ท่องเที่ยวและแหล่งเรียนรู้ของเจ้าตัวเล็กที่ดูน่าสนใจไม่น้อยทีเดียว ภายในอควาเรียมมีเนื้อที่กว่า 5 ไร่ ที่เต็มไปด้วยสัตว์น้ำหลากหลายสายพันธุ์ สัตว์แปลก สัตว์เผือก สัตว์หายากทั้งไทยและต่างประเทศที่แต่ละพันธุ์จัดว่าหาดูยากมาให้ชม ไฮไลท์ของที่นี่คืออุโมงค์ปลาน้ำจืดขนาดใหญ่ทอดเป็นแนวยาวตลอดทั้งสองข้างทาง ที่ชวนให้เด็ก ๆ เปิดจินตนาการไปกับโลกใต้ทะเล นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมให้เด็ก ๆ ร่วมสนุกกับสัตว์ได้อย่างใกล้ชิด เช่น ถ่ายรูปกับสัตว์ ให้อาหารปลา ให้อาหารกระต่าย ขี่ม้าแคระ เป็นต้น จัดว่าเป็นสวนสัตว์ในร่มที่เหมาะให้เด็ก ๆ ได้เดินชมและได้รับความเพลิดเพลินอีกที่ในพัทยาเลยค่ะ

    พาลููกเที่ยว Monsters Aquarium Pattaya
    Monsters Aquarium Pattaya

    พาลูกเที่ยว Monsters Aquarium Pattaya
    ที่ตั้ง : 125/1 หมู่ 8 ตำบลหนองปลาไหล อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี เบอร์โทรศัพท์ : 085 152 3715
    เปิดบริการ : ทุกวัน เวลา 09.00-18.00 น.
    ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 120 บาท/ เด็ก 60 บาท/ เด็กที่มีส่วนสูงไม่เกิน 100 ซม.เข้าชมฟรี
    ขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊ก MonstersaquariumPattaya

     

    เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

     

    อ่านต่อ 6 ที่เที่ยวพัทยา ฟินกันวันหยุด มีกิจกรรมให้ทำเพียบ!! คลิกหน้า 2

      อาหารเพิ่มน้ำหนักทารกในครรภ์

      อาหารเพิ่มน้ำหนักทารกในครรภ์ เพื่อแม่ท้องไตรมาสที่ 2

      ในการตั้งครรภ์ไตรมาสนี้ แม่ท้องหลาย ๆ ท่านมักจะหายจากอาการแพ้ท้องแล้ว ทำให้ทานได้มากขึ้น แต่จะทานอย่างไรให้ลงลูกไม่ลงแม่? อ่าน อาหารเพิ่มน้ำหนักทารกในครรภ์ ได้ที่นี่

      อาหารเพิ่มน้ำหนักทารกในครรภ์ เพื่อแม่ท้องไตรมาสที่ 2

      เกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของแม่ท้องไตรมาสที่ 2?

      ในการตั้งครรภ์ไตรมาสนี้ เป็นช่วงเวลาทองของแม่ท้อง เพราะอาการแพ้ท้องจะค่อย ๆ ทุเลาหรือหายไป ความเสี่ยงต่อการแท้งก็น้อยลง ในไตรมาสนี้ ลูกในท้องก็ยังคงเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว เนื่องจากในช่วงนี้มดลูกจะเริ่มขยายใหญ่ขึ้นจนไปเบียดกระเพาะอาหาร แม่ท้องบางท่านอาจเป็นกรดไหลย้อน มีอาการท้องอืด ท้องผูก และเพราะน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมถึงฮอร์โมนคนท้องที่มีการเปลี่ยนแปลง แม่ ๆ อาจเกิดอาการตะคริวได้

      สารอาหารที่แม่ท้องในไตรมาสที่ 2 ต้องการ

      • โปรตีน สร้างเนื้อเยื่อลูก กินโปรตีนดีจากเนื้อสัตว์ไขมันน้อย เช่น ปลา ถั่ว และ นม ฯลฯ
      • แคลเซียม แม่ท้องต้องการแคลเซียมต่อวันสูงถึง 1,200 มิลลิกรัม โดยแคลเซียมนั้นมีมากในนม โยเกิร์ต ชีส และผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนมวัว นอกจากนี้ยังมีมากในผักใบเขียวอีกด้วย อ่านต่อ แนะ 8 ผักแคลเซียมสูง อีกหนึ่งวิธีเพิ่มความสูงให้ลูกได้
      • ธาตุเหล็ก  แม่ท้องต้องการธาตุเหล็ก 27 มิลลิกรัมต่อวัน เพื่อสร้างเลือดเพิ่มสำหรับใช้ในการส่งอาหารและออกซิเจนให้ลูก ซึ่งสามารถหาธาตุเหล็กได้ในเนื้อสัตว์ ตับ ไข่แดง อาหารทะเล ถั่วต่าง ๆ อ่านต่อ คนท้องเลือดจาง ควรกินอะไร และมีวิธีป้องกันอย่างไร
      • ไอโอดีน ดูแลสมองและสติปัญญา มีมากในอาหารทะเล
      • ใยอาหาร ลดปัญหาท้องผูก มีมากใน ข้าวซ้อมมือ ขนมปังโฮลวีท และผักผลไม้ ฯลฯ
      • กรดไขมันโอเมก้า 3 พบได้ในเนื้อปลา เมล็ดเจีย เป็นต้น เพราะในช่วงนี้ระบบประสาทและสมองของทารกในครรภ์กำลังพัฒนา แม่ท้องจึงควรได้รับสารอาหารชนิดนี้อย่างเพียงพอ (อ่านต่อ คนท้องกินเมล็ดเจียได้ไหม? พร้อมเมนูสุดอร่อยจากเมล็ดเจีย)
      • กรดโฟลิค ในไตรมาสนี้แม่ท้องยังต้องการกรดโฟลิคอยู่ ผู้หญิงทั่วไปต้องการกรดโฟลิค 400 มิลลิกรัมต่อวัน แต่สำหรับแม่ท้อง ควรได้รับกรดโฟลิคสูงถึง 600-800 มิลลิกรัมต่อวัน อ่านต่อ 15 อาหารที่มีโฟเลตสูง ที่แม่ท้องและลูกในท้องควรทาน
      • แมกนีเซียม พบได้ในธัญพืชไม่ขัดสี ถั่ว อัลมอนด์ กล้วย ผักใบเขียว นม และเนื้อสัตว์
      • วิตามินดี ช่วยดูดซึมแคลเซียม จากแสงแดดอ่อน ๆ
      อาหารเพิ่มน้ำหนักลูกในครรภ์
      อาหารเพิ่มน้ำหนักทารกในครรภ์

      ข่าวดีสำหรับแม่ท้องไตรมาสที่ 2 คือ สามารถทานได้มากขึ้น เย้! ในช่วงนี้แม่ท้องสามารถเพิ่มแคลอรี่เข้าร่างกายได้อีก 340 แคลอรี่ต่อวัน แต่ไม่ต้องกินเผื่อลูกในท้องนะคะ! เพราะจะได้ไขมันมาสะสมที่แม่แทนที่จะลงลูกค่ะ (อ่านต่อ น้ำหนักตัวของแม่ท้อง ต้องแบบนี้!) แต่ก็ไม่ต้องถึงขนาดนับปริมาณแคลอรี่ที่ทานเข้าไป แนะนำว่าให้เน้นหมู่อาหารที่เหมาะสำหรับร่างกายของแม่ท้องในไตรมาสนี้จะดีกว่าค่ะ ในไตรมาสนี้ สารอาหารที่สำคัญที่สุดคือ กรดไขมันโอเมก้า 3 แมกนีเซียม และวิตามินดี

       

      เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

      อ่านต่อ ส่วนผสมและวิธีทำ อาหารเพิ่มน้ำหนักทารกในครรภ์ เพื่อแม่ท้องไตรมาสที่ 2

        ผิวบอบบางแพ้ง่าย

        ถ้าลูก ผิวบอบบางแพ้ง่าย แม่เลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวแบบไหนดี

        ผิวบอบบางแพ้ง่าย ของลูกน้อยจำเป็นต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษตั้งแต่แรกเกิด คุณแม่จึงต้องพิถีพิถันกับการเลือกผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ดีที่สุด ต้องมั่นใจว่าปลอดภัย และไม่ระคายเคืองผิวอ่อนโยน ดังนั้นเพื่อเป็นการดูแลทนุถนอม ผิวบอบบางแพ้ง่าย ฃของลูกน้อย คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ควรต้องเลือกผลิตภัณฑ์บำรุงผิวดูแลผิวแบบไหนดี เรามีคำแนะนำมาให้ค่ะ

        ผิวทารกวัย 0 -5 ขวบเป็นผิวที่ไวต่ออาการแพ้และระคายเคืองง่ายกว่าผู้ใหญ่ เพราะโครงสร้างผิวยังไม่สมบูรณ์ และระบบต่างๆ ใต้ผิวหนังยังพัฒนาไม่เต็มที่ การให้ลูกสัมผัสกับอากาศที่ร้อน หรือเย็นจัดเกินไป ส่งผลทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้น เกิดอาการคันและระคายเคือง แม้จะไม่มีอาการรุนแรง แต่ก็ทำให้ลูกน้อยไม่สบายตัว นอนหลับไม่สนิท ร้องกวน หงุดหงิดง่าย ซึ่งล้วนส่งผลต่อพัฒนาการของลูกน้อยในระยะยาวได้ค่ะ

        ผิวบอบบางแพ้ง่าย

        โดยเฉพาะลูกน้อยที่มี ผิวบอบบางแพ้ง่าย หากไม่ได้รับการบำรุงที่ดีพอ มักจะมีปัญหาเรื่องผิวแห้งแตก สารก่อภูมิแพ้และมลพิษในอากาศจะสามารถแทรกตัวเข้าไปชั้นผิวได้ง่ายซึ่งเป็นต้นเหตุของปัญหาผิวหลายประการ เช่น ผื่นแดง ผื่นคัน และอาจทำให้เป็นโรคผิวอักเสบ คุณแม่จึงต้องรู้จักวิธีดูแลผิวบอบบางตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อให้ลูกน้อยมีผิวสดใส สุขภาพดี นุ่มเนียนน่าสัมผัส

        เลือกผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอย่างไร ให้เหมาะกับผิวบอบบางแพ้ง่ายของลูกน้อย

        • มีมอยส์เจอไรเซอร์สูง เพื่อเพิ่มความชุ่นชื้นเป็นพิเศษ ช่วยปกป้องผิวบอบบางแพ้ง่ายได้ดี
        • ไม่เหนียวเหอะหนะ ซึบซาบเร็ว ช่วยให้ลูกสบายตัว
        • ไม่มีมีส่วนผสมของสารกันเสีย สี น้ำหอม หรือสารเคมีรุนแรง
        • ผ่านการทดสอบจากสถาบันด้านผิวหนังว่ามีความอ่อนโยนไม่ก่อให้เกิดการแพ้
        • ข้อสำคัญที่สุดสำหรับลูกน้อย ผิวบอบบางแพ้ง่าย คุณแม่ต้องเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมหลักจากสารสกัดธรรมชาติ หรือเป็นออร์แกนิค เพราะมั่นใจได้ว่าจะไม่มีสารใดมาทำร้ายผิวลูก

        Amarin Baby & Kids Awards 2019 ยกให้ “ORGANIK BY BABI MILD” มัลติเพอร์เพิส เบบี้ บาล์ม เป็นผลิตภัณฑ์บำรุง ผิวบอบบางแพ้ง่าย ที่ได้รับรางวัล Editor’s Choice Best Skincare for Kids

        “ORGANIK BY BABI MILD” มัลติเพอร์เพิส เบบี้ บาล์ม คือผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ออร์แกนิคแบรนด์แรกของเมืองไทยที่ได้รับตรา COSMOS โดยต้องผ่านการตรวจสอบมาตรฐานละเอียดยิบ ทั้งส่วนผสมที่ใช้ 95% ของผลิตภัณฑ์ต้องมาจากฟาร์มออร์แกนิคที่รับรองจากสถาบัน ปราศจากสารเคมีในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การผลิต จัดเก็บ และขนส่ง นอกจากนี้บรรจุภัณฑ์ยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและรีไซเคิลได้ทั้งหมด เป็นผลิตภัณฑ์ออร์แกนิค ที่ทำให้คุณแม่มั่นใจได้ว่าจะปลอดภัยต่อผิวลูกอย่างแท้จริง

        แม่ ๆ สงสัยไหมคะว่า “COSMOS” ที่ปรากฎบนฉลากผลิตภัณฑ์ คืออะไร เกี่ยวอะไรกับผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก  จริง ๆ นี่คือ 1 ในเครื่องหมายรับรองมาตรฐานที่ได้รับความน่าเชื่อถือมากที่สุดในโลก กำหนดขึ้นโดยองค์กรไม่แสวงหากำไรจากสมาคมระดับนานาชาติในยุโรปถึง 4 แห่ง เพื่อมอบให้สินค้าเกษตรเป็นหลัก ขณะที่สินค้าออร์แกนิคเองต้องใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติ จึงนำตรานี้มาควบคุมมาตรฐานของผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคในทุกขั้นตอนเช่นกัน

        ถ้าพูดถึงคำว่า “บาล์ม” แม่ๆ มักจะใช้ผลิตภัณฑ์ทาเฉพาะจุด เช่น รอยยุงกัด หรือทากันผื่นแดงใต้ผ้าอ้อม แต่ ออร์แกนิค บาย เบบี้ มายด์ มัลติเพอร์เพิส เบบี้ บาล์ม ตัวนี้สามารถใช้กับผิวของลูกน้อยได้ทั่วร่างกาย ทั้งริมฝาก มือ เล็บ ข้อศอก หัวเข่า เท้าเล็กๆ   เนื้อบาล์มเนียนนุ่ม ปราศจากน้ำหอม สี และสารเคมีอันตราย เช่น Paraben, Silicone, Alcohol จึงไม่มีกลิ่นหอมแตะจมูกเหมือนผลิตภัณฑ์บำรุงผิวทั่วไป แต่จะได้กลิ่นอ่อนๆจากส่วนผสมจากธรรมชาติ ซึ่งช่วยให้คุณแม่มั่นใจได้ว่า ORGANIK BY BABI MILD ปลอดภัยต่อ ผิวบอบบางแพ้ง่าย ของลูกน้อยอย่างแน่นอน

        เมื่อทาบาล์มบางๆลงบนตัวลูก ซึมซาบสู่ผิวทันที ไม่รู้สึกเหนียวเหนอะหนะ ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ด้วย ผิวลูกจึงนุ่มลื่นน่าสัมผัส ที่สำคัญไม่ต้องทาครั้งละเยอะๆ ก็เพียงพอจะสามารถปกป้องผิวบอบบางของลูกน้อยแล้ว

        ผิวบอบบางแพ้ง่าย

         

        ถ้าคุณแม่อยากรู้ว่า ออร์แกนิค มัลติเพอร์เพิส เบบี้ บาล์มตัวนี้ ใช้ส่วนผสมอะไรบ้าง สามารถอ่านรายละเอียดได้จากฉลากข้างกล่องที่ระบุไว้อย่างชัดเจน เกี่ยวกับคุณค่าจากสมุนไพรออร์แกนิค 5 ชนิด (5 Organic Herbal Oil Blend) ไม่ว่าจะเป็น Argan Oil, Coconut Oil, Sesame Oil, Olive oil, Shea Butter พร้อมวิตามิน A, B และ E ผ่านการทดสอบไฮโปอัลเลอร์เจนิค (Hypoallergenic tested) สามารถใช้ได้ทั้งกับลูกน้อยอายุ 0 ขวบขึ้นไปและลูกน้อยที่มี ผิวบอบบางแพ้ง่าย

        ทาง Amarin Baby & Kids “เครือข่ายแม่ลูกใหญ่ที่สุด” ผู้นำด้านคอนเทนต์คุณภาพ เข้าใจครอบครัวไทย และตอบสนองความต้องการของคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ จึงคัดเลือกให้ “ORGANIK BY BABI MILD” ออร์แกนิค มัลติเพอร์เพิส เบบี้ บาล์ม ได้รับ รางวัล Editor’s Choice  Best Skincare for Kids จาก “Amarin Baby & Kids Awards 2019” ซึ่งมอบให้กับสินค้าแม่ลูก “สินค้าใช้ดี และมีประโยชน์จริง”

        ถ้าคุณแม่สามารถศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์ “ORGANIK BY BABI MILD” ออร์แกนิค มัลติเพอร์เพิส เบบี้ บาล์ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.babimild.com/th/organik.html  และ www.facebook.com/BabiMildTH/ และวางจำหน่ายแล้วที่  Central หรือ ช่องทาง online ที่ Central online, Lazada

        อ่านบทความ Amarin Baby & Kids Awards 2019 

        ประกาศผลรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019 สุดยอดแบรนด์สินค้าแม่และเด็กในดวงใจ

        ชมภาพบรรยากาศ งานมอบรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019

         

        เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

         

          การทำความสะอาดช้างน้อย

          การทำความสะอาดช้างน้อย (จุ๊ดจู๋ลูกชาย) ทำยังไง? ไม่ให้ติดเชื้อ

          เตือนภัยสำหรับคนที่เป็นพ่อแม่ การทำความสะอาดช้างน้อย ของลูก เป็นเรื่องสำคัญ หากทำความสะอาดไม่ดี อาจทำให้มีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นที่อวัยวะเพศของลูกชายได้!!

          การทำความสะอาดช้างน้อย ของลูกที่ถูกต้อง ต้องทำยังไง?

          บ้านไหนมีลูกชายต้องอ่าน…เรื่องราวต่อไปนี้เป็นการเตือนภัยสำหรับคนที่เป็นพ่อแม่ กับ การทำความสะอาดช้างน้อย ของลูก ซึ่งคุณแม่ท่านหนึ่งได้ออกมาเล่าถึงประสบการณ์ผ่านเฟซบุ๊กชื่อ Kalika Intachai ถึงเรื่องการอาบน้ำให้ลูกชาย และคิดว่าทำความสะอาดดีแล้ว แต่กลับพบว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นที่อวัยวะเพศของลูก

          การทำความสะอาดช้างน้อย
          แนะ 6 ขั้นตอน การทำความสะอาดช้างน้อย ของลูก ในชีวิตประจำวันที่ถูกต้อง ป้องกันการติดเชื้อ

          เพราะการทำความสะอาดอวัยวะเพศชายของลูก ถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพื่อให้จุ๊ดจู๋ลูกชายมีสุขภาพอนามัยที่ดี ไม่มีกลิ่นอับชื้น คุณพ่อคุณแม่ควรทำความสะอาดดูแลให้ดีตั้งแต่แรกเกิด เพราะหากปล่อยทิ้งไว้ ทำความสะอาดไม่ดี ล้างถูไม่หมด ก็อาจทำให้มีหยดปัสสาวะ เศษอุจจาระตกค้างอยู่ข้างใน หรือบางครั้งอาจมีไขสีขาวติดอยู่ภายใต้หนังหุ้มปลาย ที่เรียกว่า ขี้เปียก ซึ่งสิ่งเหล่านั้นหากสะสมไว้นานๆ ก็อาจทำให้จุ๊ดจู๋ของลูกน้อยสกปรกเกิดการอักเสบและติดเชื้อตามมาได้ เช่นเดียวกับน้องคนนี้โดยคุณแม่ได้เล่าว่า…

          ฝากเตือนพ่อแม่ ที่มีลูกชาย 👶

          คือไม่กี่เดือนที่แล้ว แฟนได้ทักว่าทำไมอวัยวะเพศของลูกมันบวม (ที่กระบอกฉี่) เวลาแม่อาบน้ำให้ลูกก็คืออาบปกติ ทำความสะอาดให้อวัยวะเพศลูกปกติ แต่ไม่เคยรูดล้าง ความคิดตอนนั้นคือล้างปกติก็ได้แล้ว คงจะสะอาดแล้ว จนกระทั่งที่แฟนทักว่า อวัยวะเพศของลูกบวม เหมือนไขมัน เราก็ดู เออวะจริงด้วย เราก็ไม่รู้นะ นึกว่าปกติ เพราะถ้าไม่สั่งเกต ก็ดูไม่ออกจริงๆ ต้องให้ลูกปวดฉี่หรืออวัยวะตั้งชู ถึงเห็นได้ชัด

          >>>> เราก็คิดไปสารพัด จนอีกวันไปหาหมอโรงพยาบาลค่าย แต่ทางโรงพยาบาลค่ายแนะให้ไปโรงพยาบาลจังหวัดเพราะมันมีหมอศัลยกรรมเด็กโดยเฉพาะทาง เราก็พาลูกไป ถึงเวลาเข้าตรวจ

          คุณหมอได้ดู แล้วสรุปให้ว่า เป็น ขี้เปียก ที่สะสมมานาน คุณแม่ไม่ได้รูดเปลือกของลูกเท่าที่ทำได้ มันก็สะสม อีกอย่างลูกชายเปลือกเยอะมาก และไม่ได้ตัดปลายตั้งแต่แรก มันจึงสะสมตั้งแต่นั้น จนลูกชายอายุ 2 ขวบกว่า หมอจึงให้ยามาทา แล้วสอนให้แม่และพ่อ รูดและทำความสะอาด จนกระทั่งหมอนัดอีกครั้ง

          การทำความสะอาดช้างน้อย

          คุณหมอได้ดูอาการ และพูดว่า โอเคนี่รูดใกล้จะหมดละ ถ้าถึงตำแหน่งที่ขี้เปียกสะสม มันจะออกมาเป็นสีขาวๆมันๆ พยายามรูดจนหมดน่ะ เดือนหน้านัดต่อ ตอนนั้นน่าจะออกหมด

          #หลังจากนั้นสองวัน ที่หาหมอก็กลับมาทายาตัวเดิม ล้างทำความสะอาด จนวันนี้รูดจนถึง แล้วมันก็หลุดมาจริงๆ เยอะมากๆ เหมือนที่คุณหมอได้พูดไว้เลย

          >>> ปล. ฝากถึงคุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกชายด้วยนะคะ ต้องทำความสะอาด อย่ากลัวว่าลูกจะเจ็บ ไม่งั้นอาจจะอักเสบได้ถ้าทำความสะอาดไม่ดี

          ทั้งนี้คุณแม่ยังบอกอีกว่าอาการของน้องคือ ไม่เจ็บ ไม่แสบ ไม่ปวด ไม่แดง สามารถปัสสาวะได้ปกติ แต่ตรงบริเวณจุ๊ดจู๋นั้นจะเห็นเป็นก้อนเนื้อไขมัน ทำให้บวมเป่ง ซึ่ง #หากคุณพ่อคุณแม่ท่านไหนสงสัยว่าบวมยังไง เป็นแบบไหน คุณแม่เขาก็อนุญาตให้ทักแชทไปปรึกษาได้

           

          อ่านต่อ >> “ข้อควรระวังและวิธีทำความสะอาดอวัยวะเพศชายที่ถูกต้อง” คลิกหน้า 2

           

          เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

           

            อาหารเพิ่มน้ำหนักลูกในครรภ์ แพ้ท้องไตรมาสแรก กินอะไรดี?

            แม่ท้องไตรมาสแรกมักจะมีอาการแพ้ท้อง ทานอะไรไม่ค่อยจะลง แต่เพราะลูกในท้องต้องการสารอาหารเพื่อการเจริญเติบโต มาดูกันว่า อาหารเพิ่มน้ำหนักลูกในครรภ์ สำหรับแม่ท้องไตรมาสแรกมีอะไรบ้าง?

            อาหารเพิ่มน้ำหนักลูกในครรภ์ แพ้ท้องไตรมาสแรก กินอะไรดี?

            มีอะไรเปลี่ยนแปลงในร่างกายของแม่ท้องไตรมาสแรกบ้าง?

            อาการแพ้ท้อง ปวดเต้านม ความอ่อนเพลีย ที่เกิดขึ้นในช่วงตั้งครรภ์ไตรมาสแรก โดยอาการเหล่านี้เกิดขึ้นก่อนแม่ ๆ จะรู้ตัวว่าท้องด้วยซ้ำ นั่นเป็นเพราะฮอร์โมนของความเป็นแม่ที่เปลี่ยนแปลงไปเมื่อเริ่มตั้งครรภ์ โดยเฉพาะฮอร์โมนเอสโตรเจนและฮอร์โมนโปรเจนเตอโรนที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุให้ความเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อในร่างกายช้าลง เป็นสาเหตุให้แม่ท้องบางคนมีอาการท้องผูก และแม่ท้องบางคนอาจมีเลือดล้างหน้าเด็ก ออกมาเล็กน้อย และมีอาการปวดเต้านมได้

            สารอาหารที่แม่ท้องในไตรมาสแรกขาดไม่ได้

            อาหารคนท้อง
            อาหารเพิ่มน้ำหนักลูกในครรภ์
            • ธาตุเหล็ก  แม่ท้องต้องการธาตุเหล็ก 27 มิลลิกรัมต่อวัน ซึ่งสามารถหาธาตุเหล็กได้ในเนื้อสัตว์ อาหารทะเล ถั่วต่าง ๆ อ่านต่อ คนท้องเลือดจาง ควรกินอะไร และมีวิธีป้องกันอย่างไร
            • โคลีน พบได้ในเนื้อแดง ไข่ จมูกข้าวสาลี เป็นสารสื่อประสาทและความจำ มีประโยชน์ในด้านการพัฒนาสมองของลูกในท้องอีกด้วย
            • วิตามินบี 12 พบได้ในเนื้อสัตว์ สัตว์ปีก อาหารทะเล ธัญพืชต่าง ๆ
            • กรดไขมันโอเมก้า 3 พบได้ในเนื้อปลา เมล็ดเจีย เป็นต้น เพราะในช่วงนี้ระบบประสาทและสมองของทารกในครรภ์กำลังพัฒนา แม่ท้องจึงควรได้รับสารอาหารชนิดนี้อย่างเพียงพอ (อ่านต่อ คนท้องกินเมล็ดเจียได้ไหม? พร้อมเมนูสุดอร่อยจากเมล็ดเจีย)
            • คาร์โบไฮเดรตย่อยง่าย อุดมคุณค่าทางอาหารเพิ่มพลังงาน เช่น ข้าวกล้อง มัน และลูกเดือย ฯลฯ
            • วิตามินซี สร้างภูมิต้านทาน ช่วยดูดซึมธาตุเหล็ก และเสริมความแข็งแรงให้รก มีใน ผักสีเขียว ฝรั่ง มะขามป้อม ส้ม ฯลฯ
            • วิตามินดี ช่วยดูดซึมแคลเซียม จากแสงแดดอ่อน ๆ

            แต่เนื่องจากในไตรมาสแรก อาการแพ้ท้องทำให้แม่ท้องไม่สามารถทานอะไรได้มาก ดังนั้น แนะนำว่าให้ผสมส่วนผสมเหล่านี้ลงไปในอาหารเพื่อให้ทานได้ง่ายขึ้น

            • ขิง
            • มิ้นท์ หรือ สาระแหน่
            • มะนาว
            • อาหารจืด หรืออาหารอ่อน ๆ
            • ในกรณีที่แม่ท้องไม่สามารถทานผักหรือผลไม้สด ๆ ได้ การน้ำสิ่งเหล่านี้ไปปั่นเป็นสมูทตี้หรือนำไปแช่แข็ง ก็จะทำให้ทานได้ง่ายขึ้น

             

            เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

            อ่านต่อ เมนู อาหารเพิ่มน้ำหนักลูกในครรภ์ สำหรับแม่ท้องไตรมาสแรก

              การศึกษาไทย

              การศึกษาไทย ในระบบ “แพ้คัดออก” ขโมยเวลาลูก

              หมอเด็กเตือนสติพ่อแม่ ที่คาดหวังกับลูกมากเกินไป สร้างความกดดันให้ลูกจนลูกไม่มีความสุข พร้อมผลักดัน การศึกษาไทย ให้ยกเลิกระบบ “แพ้คัดออก”

              การศึกษาไทย ในระบบ “แพ้คัดออก” ขโมยเวลาลูก

              ทีมงาน Amarin Baby & Kids ขอนำบทความจาก “หมอเดว” รศ.นพ. สุริยะเดว ทรีปาตี กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเด็กและวัยรุ่น อดีตผู้อำนวยการสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล ที่ได้ออกมาโพสต์ถึงเรื่องราวของครอบครัวหนึ่ง ที่ลูกถูกขโมยเวลาที่จะได้ใช้กับพ่อแม่ไปกับการเรียนและการเรียนพิเศษในระบบ การศึกษาไทย ในปัจจุบัน ดังนี้

              #เมื่อลูกร้องขอเวลาจากแม่
              #เมื่อระบบการศึกษาขโมยเวลาแม่ลูก

              งานนี้ไม่ต้องโทษพ่อแม่ แต่ #ต้องโทษความเป็นจริงระบบการศึกษาแพ้คัดออก ที่เกิดขึ้นในเด็กเล็ก #เด็กผู้หญิงที่น่ารักมาก กำลังเรียนอยู่ชั้นประถมปีที่ 4 โรงเรียนแห่งหนึ่ง ครูแนะนำให้มาพบเพื่อให้ยาสมาธิสั้น ขาดความรับผิดชอบ แต่เมื่อหมอฟังเรื่องราวจากลูก สงสารลูกจับใจมาก แม่รักลูกมากๆ แต่ด้วยความเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว จึงต้องทำงานหนักมาก กลับบ้านดึกมากลูกหลับ บ้านนี้มีตายาย ที่คอยช่วยรับส่งหลาน แต่เช้า ลูกตื่นตีห้า ล้อหมุน 6 โมงเช้า #กินข้าวเช้าบนรถ ไปถึงที่โรงเรียน 7 โมงเช้า เด็กต้องรีบวิ่งขึ้นไปรับการบ้านจากครู ก่อนเข้าเรียน #ย้ำว่าการบ้านเช้า

              ทำการบ้านเช้าเสร็จอย่างเร่งรีบเสร็จ เข้าแถว เข้าห้องเรียน เรียนหนัก เพราะเด็กเรียนของชั้นที่โตกว่า โรงเรียนนี้ เด็กป.1 เรียนหลักสูตรป.2 ป.2 เรียนของป.3 และตอนนี้เธอเรียนป.4 แต่หลักสูตรข้ามชั้น ป.5
              เลิกเรียน บ่ายสามครึ่ง ต่อด้วยกวดวิชา เลิกเกือบ 5 โมง #กินข้าวเย็นบนรถ มาถึงที่บ้านรีบปั่นงาน อีกกองพะเนิน แต่คุณตาเข้มมาก คาดหวังว่าลูกต้องสอบติดโรงเรียน… จึงให้หลานท่องอาขยาน ศัพท์ ภาษาอังกฤษ ทุกวัน สะสมไปเรื่อย ๆ ทุก ๆ วัน กว่าจะได้นอนประมาณสาม-สี่ทุ่ม เพื่อตื่นตีห้าให้ทัน เป็นอย่างนี้ จันทร์ถึงศุกร์ พอวันเสาร ก็ไปกวดวิชา 2-3 ที่ กลับมาเย็น ๆ ก็รีบทำการบ้านที่ครูสั่ง แบบเยอะ ๆ เข้ามาวันอาทิตย์ก็กวดวิชาสั้น ๆ และเหลือเวลาทำการบ้าน บวกกับอย่าลืม คุณตาขอแทรกด้วยการท่องจำตลอด

              ตกลงเวลาพักมีแบบแว๊บๆๆ เด็กวาดรูปสวยและเก่งมาก ชอบงานศิลปะ และดนตรี เกลียดวิชาคณิต ครูก็ดุ การบ้านก็เยอะแถมมีทุกวัน
              ส่วนแม่มีเวลาเสาร์อาทิตย์ แต่เสาร์อาทิตยลูกติดติววิชาเต็มไปหมด ลูกแทบไม่ได้อยู่กับแม่ทั้งๆที่แม่มีเวลา #ใครขโมยเวลา
              #ใครมาโทษว่าขาดความรับผิดชอบ
              #ใครเป็นคนกดดันเด็ก

              เด็กคนนี้เล่าให้ฟังว่า ตอนนี้เกรดเขาแย่ลง เขารู้สึกล้ามาก ๆ เหนื่อย ป.1-3 เรียนได้ 3.9-4.00 มาตลอด ตอนอนุบาลแม่ให้ติวเข้มมากเพื่อสอบเข้าโรงเรียนดีๆ
              #ท่านทราบไหมว่าเด็กติวหนักขนาดไหน

              เด็กเล่าว่าตอนก่อนเข้าป.1 เรียนพิเศษ เสาร์อาทิตย์ วันละ 7-8 ที่ ย้ำว่าวันละ 7-8 ที่ เด็กปฐมวัย
              #อนิจจาทัศนคติผู้ใหญ่ที่เศร้าใจ รวมทั้งครูก็ป่วยทางทัศนคติ ไม่พอ คุณตาเกิดอะไรขึ้นที่คลั่งไคล้มาลงความรักแบบลุ่มหลงและคาดหวังสูงที่หลานเช่นนี้

              ระบบการศึกษาไทย
              ระบบ การศึกษาไทย

              นอกจากเรียนหนัก ติวหนัก การบ้านเยอะ กดดันหนัก ทุกวัน ทุกเทอม ทุกปี

              หมอมองแววตาลูก แล้ว สงสารจับใจ จับมือเขา #ให้พลังใจ ถามลูกว่า ลูกจ๋า หากขอได้อยากได้อะไรครับ
              ลูกบอกว่า #อยากได้เวลาจากแม่ #อยากเล่นกับแม่

              หมอฟังไปแทบอยากร้องไห้ กอดเขาไว้แล้วบอกว่าหมอจะทำอย่างที่ลูกบอก
              #จะส่งสัญญาณนี้ไปให้ผู้ใหญ่ทุกคน

              ถึงยามนี้ หมออยากให้ยา ใครดีครับ ที่แน่ๆ ลูกจ๋า ลูกน่ารักมาก ลูกวาดรูปเก่ง ลูกมีหัวใจศิลปิน

              นาทีนี้ผมถามผู้ใหญ่ครับ
              ท่านทำอะไรกันครับเนี่ย
              ท่านจะเอาความรัก มาแปรเปลี่ยนเป็นความคาดหวัง กดดันทำไมครับ

              ขอตะโกนบอกผู้ใหญ่ทุกคนว่า #อย่าขโมยเวลา
              #อย่าขโมยธรรมชาติของเด็ก เพียงเพราะอ้างว่ารักและหวังดี
              เลิกอ้างได้หรือยังครับ
              #เจ้ากระทรวงครับท่านลงไปดูลูกๆหน่อยเถอะอย่ามัวแต่ฟังในกระทรวงกรมกอง
              เพราะท่านจะไม่เห็นภาพความจริง

              โรงเรียนต่าง ๆ เหล่านี้ ล้วนดังมีชื่อ เสียง
              #คุณครูครับ ช่วยกระตุกต่อมจิตสำนึกและดึงจิตวิญญาณ ความเป็นครูกลับมาทีเถอะ ดูแลลูกหลานด้วยความรัก และหัวใจ

              ถ้าหมอมีมนต์ อยากจะเป่าให้ การศึกษาไทย ในระบบแพ้คัดออก โดยเฉพาะในเด็กเล็กๆ หมดไปจากโลก
              #ขอสัพเพสัตตาให้ระบบแพ้คัดออกไปสู่สุขติภพ อย่าได้มาผุดเกิดอีกเลย

              #อนิจจาสงสารลูกจับใจ
              แม่ๆ พ่อๆ ทุกท่าน ดึงหัวใจลูกด้วยพลังบวกนะครับ

              #บันทึกหมอเดว
              24 สค.2562

              ปล. #โชคดีที่แม่ได้หัวใจลูกกลับคืน ไม่เป็นหุ่นยนต์แล้ว แม่เข้าใจให้ความร่วมมือ แต่ยากมากสำหรับครู และระบบ การศึกษาไทย เกิดอะไรขึ้นที่เข้าใจยากจัง

              จริงอยู่ว่าผลการสอบของลูกเป็นตัวชี้วัดว่าลูกเข้าใจในบทเรียนไปมากน้อยแค่ไหน สิ่งนี้ใช้ได้กับเด็กที่โตแล้วค่ะ แต่ผลการสอบของเด็กเล็กและเด็กปฐมวัยมีปัจจัยที่แตกต่างออกไป อ่านต่อ ปัจจัยที่ทำให้ลูกมีผลการเรียนแย่ได้ที่หน้า 2 ค่ะ

               

              เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

              อ่านต่อ ลูกผลการเรียนแย่ แก้ที่ใคร? การศึกษาไทย ในระบบ “แพ้คัดออก” ขโมยเวลาลูก

                SuperPark

                ใหม่! SuperPark สวนสนุกในร่ม ส่งตรงจากฟินแลนด์เตรียมพาลูกไปฟิน

                SuperPark สวนสนุกในร่ม ขนาดยักษ์สุดฮิตจากฟินแลนด์ พร้อมเปิดตัวที่ไอคอนสยาม เตรียมพาลูกไปเปิดประสบการณ์ความสนุกสนานเร้าใจกันได้ สิ้นเดือน พฤศจิกายน นี้

                ใหม่! SuperPark สวนสนุกในร่ม ส่งตรงจากฟินแลนด์

                ทีมแม่ ABK ขอบอกเลยว่า..นี่เป็นอีกหนึ่ง สวนสนุกในห้าง สวนสนุก Indoor ที่เด็กๆ ต้องห้ามพลาด! กับ ซุปเปอร์พาร์ค สวนสนุกในร่ม ขนาดยักษ์แห่งใหม่ ซึ่งเตรียมมาเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ที่ไทยในปลายเดือนพฤศจิกายน 2562 นี้ ที่ “ไอคอนสยาม (ICONSIAM)” ชั้น 6 ซึ่งได้รวบรวมนำเสนอกิจกรรมที่ปลอดภัยภายใต้การควบคุมโดยผู้เชี่ยวชาญบนมาตรฐานระดับโลกและครบครันมากที่สุดมาจากประเทศฟินแลนด์โดยตรง

                SuperPark Thailand นี้ ครอบคลุมพื้นที่กว่า 4,000 ตารางฟุต พร้อมนำเสนอการละเล่นที่สนุกสนาน สร้างมิตรภาพ และพลานามัยที่ดี ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นฐานความสนุกสนานของการละเล่นและการเคลื่อนไหวร่างกาย ที่ปราศจากเครื่องเล่นที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์แบบสวนสนุกทั่วไป สอดคล้องกับระบบการศึกษาของฟินแลนด์ ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในระบบการศึกษาที่ดีที่สุดของโลก จากการใช้ปรัชญาการเรียนรูปแบบต่าง ๆ อาทิ “การเรียนรู้นอกห้องเรียน” ที่ส่งเสริมให้เด็ก ๆ ได้พัฒนาสมรรถภาพร่างกายผ่านการเล่นกีฬาและกิจกรรมต่าง ๆ ซึ่งช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นและแรงบันดาลใจได้เป็นอย่างดี

                Must read : สอนลูกเก่งรอบด้าน ตัวอย่างจากประเทศฟินแลนด์

                ซึ่งผลวิจัยทางวิทยาศาสตร์ก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า สมรรถภาพและความแข็งแรงของร่างกายส่งผลดีต่อสุขภาพจิตและปฏิสัมพันธ์ทางสังคม ช่วยให้ผู้คนมีสุขภาวะทั้งทางร่างกายและจิตใจ และนำไปสู่การมีชีวิตที่สมบูรณ์พูนสุข

                ด้าน มร.ยูฮา แทนสกาเน็น ประธานกรรมการบริหารซุปเปอร์พาร์คสากล ยังได้กล่าวว่า “เป้าหมายของเราคือการนำเสนอการละเล่นที่สนุกสนานเพื่อส่งเสริมให้ผู้คนทุกเพศทุกวัยและทุกระดับความฟิตมีชีวิตชีวาและความกระฉับกระเฉง ด้วยเหตุนี้ เราจึงสร้างสรรค์สวนสนุกในร่มที่ปลอดภัยที่สุดในโลก เพื่อเป็นสถานที่แห่งการสร้างเสริมสุขภาพและความสุข ที่ซึ่งทุกคนสามารถมาสนุกสนานร่วมกันฉันมิตรสหาย ซึ่งเราเชื่อมั่นว่าผู้บริโภคในเมืองไทยจะชื่นชอบ ‘ไล์ฟ์สไตล์แบบซุปเปอร์พาร์ค’ ที่เปี่ยมด้วยความสนุกสนาน มิตรภาพ และสุขภาพพลานามัย อย่างแน่นอน”

                โดย SuperPark Thailand มีกิจกรรมและฐานเครื่องเล่นที่ทั้งสนุกสนานและปลอดภัยสำหรับผู้คนทุกเพศทุกวัยมากกว่า 20 ชนิด ภายในพื้นที่กิจกรรมหลัก 3 โซน เพื่อสร้างสรรค์ช่วงเวลาคุณภาพของครอบครัว เช่นเดียวกับซุปเปอร์พาร์คที่ฟินแลนด์ อันได้แก่

                • ดินแดนนักผจญภัย (Adventure Area): นำเสนอกิจกรรมการเล่นที่สนุกสนานตื่นเต้นสำหรับเด็ก ๆ และเยาวชน รวมถึงพ่อแม่ผู้ปกครอง ซึ่งมีทั้ง ไอ ทีชเชอร์ ลู – ห้องเรียนอัจฉริยะ (iTeacher·Lü), ด่านโหนสลิงดังจิ้งจอกแห่งสายลม (Flying Fox), เครื่องเล่นสไลด์เรือยาง (Tube Slide), เมืองนักผจญภัยตัวน้อย (Kid’s Adventure City), ด่านเครื่องกีดขวาง – หนทางสู่ยอดนินจา (Super Ninja), สนามสิงห์นักถีบ (Pedal Car Track) และอื่น ๆ อีกมากมาย

                SuperPark

                SuperPark

                SuperPark

                • เกมอารีน่า – สังเวียนเจ้าแห่งเกม (Game Arena): ผู้เล่นสามารถเสิร์ฟและแข่งขันกันอย่างดุเดือดในเกม SuperTennis (เกมรูปแบบใหม่และมีเฉพาะที่ ซุปเปอร์พาร์ค ประเทศไทย แห่งเดียว), โชว์วงสวิงในเกม Baseball 2.0 สุดมันส์ (นำเสนอเวอร์ชั่นอัพเกรดที่ซุปเปอร์พาร์ค ประเทศไทย), ท้าทายกันใน โรโบคีปเปอร์ – ชิงประตูโกลจักรกล (Robo Keeper – AI goalie), แข่งกระโดดชู้ตลูกในสตรีทบาสเกตบอล (Street Basketball) โดยทุกฐานเครื่องเล่นมีเรดาร์และระบบดิจิทัลคอยวัดคะแนน ดังนั้น ผู้เล่นจึงท้าดวลแข่งขันเพื่อน ๆ (หรือคุณพ่อคุณแม่) ได้อย่างสนุกสนาน

                SuperPark

                • ฟรีสไตล์ฮอลล์ (Freestyle Hall): ช่วยให้วัยรุ่นได้วางสมาร์ทโฟนและลงแข่งขันใน ซุปเปอร์บิ๊กดร็อป (SuperBigDrop) เกมรูปแบบใหม่ความสูงกว่า 7 เมตร และมีเฉพาะที่ ซุปเปอร์พาร์ค ประเทศไทย แห่งเดียว, ซุปเปอร์ไคลม์ – ฝ่าอุปสรรคหน้าผาจำลอง สูงกว่า 8 เมตร (SuperClimb) (นำเสนอเวอร์ชั่นอัพเกรดที่ซุปเปอร์พาร์ค ประเทศไทย), สเก็ต แอนด์ สกู๊ต เวิร์ลด์ – โลกติดล้อ (Skate and Scoot World) หรือกระเด้งลอยตัวกลางอากาศบน แทรมโพลีน แพล็ตฟอร์ม – เวทีฟรีจัมพ์ปิ้ง (Trampoline Platform), ท้าทายกันใน ซุปเปอร์บ็อกเซอร์ – AI มวยอัจฉริยะ (SuperBoxer – AI boxing) หรือสัมผัสกีฬาเมืองหนาวกับ ซุปเปอร์สกี ซีมูเลเตอร์  (SuperSki Simulator) และ ซุปเปอร์ไอซ์สเก็ตติ้ง (Super Ice Skating)

                SuperPark

                SuperPark

                SuperPark

                SuperPark

                และพิเศษเฉพาะที่ SuperPark Thailand พบกับ เม้าท์ (Mound) สะพานที่จะพาคุณไปตื่นเต้นกับกิจกรรมที่ สนามสิงห์นักถีบ (Pedal Car Track) และ สเก็ต แอนด์ สกู๊ต เวิร์ลด์ – โลกติดล้อ (Skate and Scoot World)

                SuperPark

                นอกจากนี้ยังมีการบริการห้องจัดงานเลี้ยง 6 ห้อง เหมาะสำหรับการจัดกิจกรรมขององค์กร, งานเลี้ยงวันเกิด, งานพบปะสังสรรค์ในหมู่มิตรสหาย หรืองานฉลองในครอบครัว

                สำหรับค่าใช้จ่ายในการเข้ารับบริการ SuperPark Thailand ได้เสนอบัตรราคาพิเศษสำหรับวันธรรมดา จันทร์ – ศุกร์ ช่วงเย็น ราคา 220 บาท
                ส่วนบัตรใช้บริการทั้งวัน (All Day pass) จะมีบัตรราคา 450 บาท สำหรับวันธรรมดา จันทร์ – ศุกร์ และ 650 บาท สำหรับซุปเปอร์เดย์ ระหว่างวันเสาร์-อาทิตย์ วันหยุดนักขัตฤกษ์ และวันปิดภาคเรียน
                และบัตรซุปเปอร์เดย์ สำหรับวันเสาร์-อาทิตย์ วันหยุดนักขัตฤกษ์ และวันปิดภาคเรียน ช่วงเช้า ราคา 450 บาท รอบกลางวันราคา 500 บาท และรอบเย็นราคา 380 บาท

                ทั้งนี้ยังมีบริการให้ยืมอุปกรณ์ที่จำเป็นครบครันทั้งรองเท้าสเก็ตน้ำแข็ง หมวกกันน็อก สเก็ตบอร์ด สกูตเตอร์ แผ่นรองเพื่อความปลอดภัย ไม้เบสบอลและลูกบอล ฯลฯ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ที่สำคัญกิจกรรมทั้งหมดนี้จะอยู่ภายใต้การควบคุมโดยทีมงานมากประสบการณ์ ซึ่งหลายคนเป็นผู้ฝึกสอนระดับสูง ภายใต้สภาวะแวดล้อมที่ปลอดภัยจากคลื่นความร้อน ฝน มลภาวะ รังสีอัลต้าไวโอเลต รวมถึงแมลงและยุง

                และที่กล่าวมาทั้งหมด หากครอบครัวไหนใครสนใจจะพาลูกไปเล่นที่ SuperPark Thailand ในวันเสาร์ที่ 30 พฤศจิกายน นี้แล้ว ก็เตรียมไปสนุกสนานกันได้ ทั้งนี้คุณพ่อคุณแม่สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมของ SuperPark Thailand ได้ที่ เว็บไซต์ www.superpark.co.th หรือ เฟซบุ๊ก www.facebook.com/superparkth

                 

                อ่านต่อบทความน่าสนใจ คลิก : 

                 

                เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                 

                  โลชั่นทาผิวเด็ก ยี่ห้อไหนดี

                  โลชั่นทาผิวเด็ก ยี่ห้อไหนดี คุณแม่โหวต D-nee เป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในดวงใจ

                  โลชั่นทาผิวเด็ก ยี่ห้อไหนดี ใช้แล้วผิวนุ่มชุ่มชื้น ไม่ระคายเคืองผิวลูก คุณแม่ทั่วประเทศโหวต ให้ D-nee เป็นแบรนด์ “ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวสำหรับเด็ก” อันดับหนึ่งในดวงใจ และรับรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019 สาขา Mommy’s Choice

                  โลชั่นทาผิวเด็ก ยี่ห้อไหนดี แม่ทั่วประเทศเลือกแล้วยี่ห้อนี้เป็นแบรนด์ในดวงใจ 

                  Amarin Baby & Kids “เครือข่ายแม่ลูกใหญ่ที่สุด” ผู้นำด้านคอนเทนต์คุณภาพ เข้าใจครอบครัวไทย และตอบสนองความต้องการของคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ ไทย ทั้งรูปแบบ Online ผ่านเว็บไซต์ www.AmarinBabyAndKids.com และเฟซบุ๊คแฟนเพจที่มีเนื้อหาตรงใจ ทันสถานการณ์ โดยมียอดผู้ติดตามมากกว่า 1,000,000 Followers และรูปแบบ On print ผ่าน Bookazine ราย 2 เดือน รวมถึง รูปแบบ On ground งานแฟร์แม่ลูก Amarin Baby & Kids Fair ที่จัดมาแล้วถึง 15 ครั้ง

                  เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านเครือข่ายแม่ลูกอันดับ 1 ของประเทศที่เข้าใจคุณแม่ไทยมากที่สุด เว็บไซต์ Amarin Baby & Kids จึงได้จัด “Amarin Baby & Kids Awards 2019” ครั้งแรกในเมืองไทย เพื่อเฟ้นหาสุดยอดแบรนด์สินค้าแม่และเด็กในดวงใจ  จากคะแนนโหวตของคุณแม่ทั่วประเทศกว่า 10,000 คน ผ่าน www.AmarinBabyAndKids.com เว็บไซต์สื่อกลางข้อมูลคุณภาพจากแม่สู่แม่ Mom to Mom Sharing เพื่อเป็นประโยชน์แก่คุณแม่มือใหม่ที่กำลังมองหา “สินค้าใช้ดี ที่ได้รับการยืนยันจากคุณแม่ตัวจริงทั่วประเทศ”

                  และเพื่อให้สมกับรางวัลที่มาจากความคิดเห็นของแม่อย่างแท้จริง สำหรับแบรนด์สินค้าในสาขา Mommy’s Choice จึงเปิดโอกาสให้แม่ได้ร่วมโหวต  2  รอบ ได้แก่ “รอบเสนอชื่อแบรนด์ที่ชื่นชอบ” จากนั้นทีมงานได้ทำการเลือกแบรนด์ที่ถูกเสนอชื่อมากที่สุด มาจัดรอบโหวตแบรนด์ในดวงใจ” อีกครั้งหนึ่ง

                  ทำไมแม่โหวตให้ D-nee เป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวสำหรับเด็กในดวงใจ

                  แม่ ABK เลือกให้ D-nee เป็นแบรนด์สุดยอดผลิตภัณฑ์บำรุงผิวสำหรับเด็กในดวงใจ โดยคุณแม่ให้เหตุผลในการเลือก อาทิ

                  “เป็นผลิตภัณฑ์ organic จากธรรมชาติ ไม่มีสารพาราเบน ทำให้มั่นใจได้ว่าจะปลอดภัยต่อผิวลูกแน่นอน”

                  “ชอบที่ทาแล้วมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ติดผิวลูก ให้ความรู้สึกอ่อนโยน ไม่เหนียวเหนอะหนะ ใช้แล้วลูกสบายผิว”

                  “ใช้แล้วผิวลูกนุ่มลื่น ชุ่มชื้น ไม่แพ้ ไม่ระคายเคือง ราคาก็ไม่แพง หาซื้อได้ทั่วไป”

                  ดีนี่ ออร์แกนิค เบบี้โลชั่น เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวสำหรับเด็กที่อ่อนโยน ปราศจากสารเคมีอันตราย อย่างเช่น พาราเบน กลูเตน สีสังเคราะห์ และ แอลกอฮอล์ ทั้งยังมีมอยซ์เจอไรเซอร์จากสารธรรมชาติ 7 ชนิด ช่วยให้ผิวลูกน้อยเนียนนุ่ม ชุ่มชื้น ปกป้องผิวจากอาการระคายเคือง เหมาะสำหรับผิวบอบบางของทารก

                   

                  อ่านบทความ Amarin Baby & Kids Awards 2019 

                  ประกาศผลรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019 สุดยอดแบรนด์สินค้าแม่และเด็กในดวงใจ

                  ชมภาพบรรยากาศ งานมอบรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019

                   

                  เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                   

                    แป้งเด็กเนื้อโลชั่น

                    “แป้งเด็ก” ใช้แบบไหนลูกน้อยไม่เสี่ยง “ภูมิแพ้”

                    ในปัจจุบัน สิ่งแวดล้อมเปลี่ยนแปลงไป มลพิษเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมหลายสิบเท่า ด้วยเหตุนี้อุบัติการณ์การเกิด “โรคภูมิแพ้” จึงเพิ่มขึ้นกว่าในอดีตมาก และกลายเป็นโรคหนึ่งที่พบได้มากในเด็ก ซึ่งสาเหตุของโรคภูมิแพ้ในเด็กเกิดได้จากหลายสาเหตุ ได้แก่ (1)  การถ่ายทอดทางพันธุกรรม เช่น ถ้าพ่อแม่เป็นโรคภูมิแพ้ ลูกก็จะมีโอกาสเป็นโรคภูมิแพ้ได้มากกว่าคนอื่นหลายเท่า (2) สิ่งแวดล้อม เช่น สัตว์เลี้ยง ไรฝุ่น  ฝุ่นที่เกิดจากข้าวของเครื่องใช้ของลูกน้อย ซึ่งแป้งฝุ่นก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่อาจก่อให้เกิดโรคภูมิแพ้ในเด็กอีกด้วยค่ะหากใช้ไม่ถูกวิธี

                     

                    แป้งเด็กเนื้อโลชั่น VS แป้ง(ฝุ่น)เด็ก

                    เด็กทารกแรกเกิด 0-3 เดือน กับแป้ง(ฝุ่น)เด็ก

                    • ไม่ควรทาแป้งฝุ่นลงบนผิวโดยตรง โดยเฉพาะการเทแป้งเด็กลงบนบริเวณอก หรือผิวหน้าโดยตรง เพราะฝุ่นผงแป้งที่ฟุ้งกระจาย อาจเสี่ยงต่อการเข้าไปอุดตันในระบบทางเดินหายใจ ปอด ทำให้มีปัญหาในเรื่องการหายใจ เป็นภูมิแพ้ หรือปอดอักเสบได้ค่ะ
                    • ไม่แนะนำให้ทาแป้งตรงบริเวณขาหนีบ หรือข้อพับต่างๆ เพราะหากเหงื่อออก ผิวบริเวณนั้นจะเกิดการอับชื้น และก่อเกิดการระคายเคือง อักเสบขึ้นได้

                    การใช้แป้งเด็กที่เป็นแป้งฝุ่นไม่ว่าจะกับลูกวัยทารก หรือเด็กเล็ก แนะนำว่าควรเทผงแป้งลงบนฝ่ามือคุณพ่อคุณแม่ก่อน(ไม่ควรเทแป้งใกล้หน้าลูก หรือเทแรงจนฝุ่นแป้งฟุ้งกระจาย) เพื่อให้เนื้อแป้งเกลี่ยเนียนลงบนผ่ามือก่อน จากนั้นค่อยทาลงบนผิวลูกนะคะ

                     

                    แป้งเด็กเนื้อโลชั่น ดีต่อสุขภาพลูกน้อยอย่างไร ?

                    จริงๆ แป้งเด็กส่วนใหญ่จะผลิตออกมาให้มีความอ่อนโยน และปลอดภัยกับเด็กๆ อยู่แล้วค่ะ แต่ในเด็กวัยทารก หรือเด็กที่เล็กมากๆ การใช้แป้งเด็กต้องดูที่ส่วนผสมว่าเหมาะสมต่อการนำมาใช้กับเด็กหรือเปล่า รวมถึงวิธีการทาแป้งก็ต้องระมัดระวังมากเป็นพิเศษเท่านั้นเองค่ะ แต่สำหรับแป้งเด็กเนื้อโลชั่น ข้อดีคือสามารถใช้ได้กับเด็กตั้งแต่แรกคลอดเลย คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องกังวลว่าฝุ่นแป้งจะไปรบกวนทางเดินหายใจของลูกน้อย เพราะแป้งเด็กเนื้อโลชั่น เนื้อแป้งจะไม่ฟุ้งกระจาย ทาที่ผิวลูกน้อยจะช่วยให้สบายตัวด้วยค่ะ

                     

                    ทำไมต้อง Kodomo Lotion Powder ?

                    ครอบครัวไหนที่กำลังจะมีสมาชิกใหม่ตัวน้อยของบ้าน น่าจะถูกใจกับผลิตภัณฑ์เด็กโคโดโม เพราะถือเป็นผลิตภัณฑ์เด็กที่อยู่คู่ครอบครัวไทยมายาวนาน สินค้าเด็กมีให้เลือกใช้หลากหลายและครอบคลุม ที่สำคัญมีคุณภาพมากๆ เนื่องจากมีมาตรฐานความปลอดภัยขั้นสูงจากประเทศญี่ปุ่นด้วยค่ะ

                    และด้วยความเข้าใจต่อความต้องการ และความกังวลของพ่อแม่มือใหม่ที่อยากจะใช้แป้งเด็กกับลูก แต่ก็กลัวว่าลูกจะเป็นภูมิแพ้ หรือมีปัญหาเรื่องทางเดินหายใจ จากการฟุ้งกระจายของฝุ่นแป้งเด็ก Kodomo จึงเป็นแบรนด์แรกที่ได้คิดค้นนวัตกรรมใหม่ ผลิตภัณฑ์ถนอมผิว ที่ได้ทั้งเรื่องของปกป้องและบำรุงผิวไปพร้อมกัน กับ Kodomo Lotion Powder โคโดโม แป้งเด็กเนื้อโลชั่น ที่มีให้ใช้กันถึง 2 สูตรเลยค่ะ

                    แป้งเด็กเนื้อโลชั่น

                    แป้งเด็กเนื้อโลชั่นสูตร Newborn Sensitive  

                    • เนื้อแป้งโลชั่น ไร้ฝุ่น ไม่ฟุ้งกระจาย ทำให้ไม่รบกวนทางเดินหายใจของลูกน้อย ที่เป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดภูมิแพ้
                    • กลิ่นหอม อ่อนโยน เหมาะกับเด็ก
                    • ลดการเสียดสีจากผ้าอ้อม และตามข้อพับต่างๆ
                    • มีสารธรรมชาติ Allantoin ป้องกันผดผื่นจากความเปียกชื้น
                    • มี Moisturizer บำรุงผิวให้เนียนนุ่มชุ่มชื้น
                    • ผ่านการรับรองว่าอ่อนโยน ไม่ระคายเคืองต่อผิวบอบบางของลูกน้อย

                    แป้งเด็กเนื้อโลชั่น

                    แป้งเด็กเนื้อโลชั่นสูตร Pink Hanabaki 

                    • เนื้อแป้งโลชั่น ไร้ฝุ่น ไม่ฟุ้งกระจาย ทำให้ไม่รบกวนทางเดินหายใจของลูกน้อย ที่เป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดภูมิแพ้
                    • กลิ่นหอมอ่อนๆ หวานละมุนของดอกซึบากิ จากประเทศญี่ปุ่น
                    • ลดการเสียดสีจากผ้าอ้อม และตามข้อพับต่างๆ
                    • มีสารธรรมชาติ Allantoin ป้องกันผดผื่นจากความเปียกชื้น
                    • ผสานพลังธรรมชาติจากน้ำมันดอกซึบากิและวิตามินอี ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวของลูกน้อย
                    • มั่นใจว่าอ่อนโยน ใช้แล้วไม่แพ้ ไม่ระคายเคืองด้วยผ่านการทดสอบ ไฮโป-อัลเลอร์เจนิก

                    บ้านไหนที่อยากทาแป้งให้ลูกน้อย ลองเปลี่ยนจากแป้ง(ฝุ่น)เด็ก มาใช้เป็น แป้งเด็กเนื้อโลชั่น ก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีต่อสุขภาพเด็กอ่อน ลูกเล็กมากกว่านะคะ อย่างโคโดโม แป้งเด็กเนื้องโลชั่นทั้ง 2 สูตร ที่ช่วยปกป้องดูแลถนอมผิวลูกได้อย่างปลอดภัย เนื้อแป้งไม่ฟุ้งกระจาย ไม่รบกวนทางเดินหายใจของลูกน้อย ก็ไม่ต้องกังวลว่าลูกจะป่วยเป็น “ภูมิแพ้” ด้วยค่ะ

                     

                     

                      ของเล่น เด็ก 6 ขวบ

                      ของเล่น เด็ก 6 ขวบ ที่ควรมีติดบ้าน ตัวช่วยเสริมพัฒนาการทั้ง IQ และ EQ

                      การเลือกของเล่นให้เหมาะสมกับลูกในแต่ละวัยเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อพัฒนาการของเด็ก ของเล่น เด็ก 6 ขวบ ในวัยที่ลูกเข้าโรงเรียน จึงเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยเสริมพัฒนาการ กระตุ้นให้เด็กเรียนรู้ สร้างจินตนาการ ผ่านการเล่นต่าง ๆ ได้

                      การเล่น” ถือว่าเป็นส่วนสำคัญสำหรับชีวิตวัยเด็กเลยก็ว่าได้ เพราะลูกมีวัยเด็กครั้งเดียว การเล่นจึงมาคู่กับ “ของเล่น” ที่เป็นสื่อการเรียนรู้ ช่วยสร้างประสบการณ์ที่สนุกและท้าทาย ควบคู่ไปกับการใช้ความคิด ใช้อารมณ์ ใช้พละกำลัง และช่วยกระตุ้นพัฒนาการให้ลูกผ่านการเล่น

                      ของเล่น เด็ก 6 ขวบ ตัวช่วยเสริมพัฒนาการทั้ง IQ และ EQ ที่ควรมีติดบ้าน

                      ของเล่น เด็ก 6 ขวบ

                      ลูกวัย 6 ขวบ เป็นวัยที่เติบโต มีความรู้ ความเข้าใจได้มากขึ้นกว่าวัยก่อนหน้านี้ ของเล่นที่ช่วยเสริมพัฒนาการมีรูปแบบที่หลากหลาย โดยเด็กวันนี้เริ่มแยกเล่นเป็นกลุ่มแบ่งเพศหญิง เพศชาย ชอบงานประดิษฐ์สิ่งของต่างๆ ชอบเล่นในสิ่งที่สนใจเป็นพิเศษ เช่น เกม การทำอาหาร งานศิลปะ ฯลฯ คุณพ่อคุณแม่สามารถเลือกของเล่นเพื่อเสริม IQ และ EQ ให้ลูกได้อย่างเหมาะสม

                      ของเล่น เด็ก 6 ขวบ ฝึกสมอง เสริม IQ (สมองซีกซ้าย)

                      IQ หมายถึง ความฉลาดทางเชาวน์ปัญญาในการใช้ทักษะความคิด ความจำ วิเคราะห์ คำนวณ การหาเหตุผล และเชื่อมโยง ของเล่นเสริมความคิดและสติปัญญา อาทิเช่น

                      • ชุดสร้างบ้าน สร้างเมือง ส่งเสริมให้เด็กได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ออกแบบโครงการ ได้เรียนรู้รูปทรง และการเชื่อมโยงจัดวางรูปแบบรูปทรงแต่ละชิ้นให้เป็นเมือง เป็นรูปร่าง สร้างทักษะคณิตศาสตร์เรื่องความสมดุล

                      ของเล่น เด็ก 6 ขวบ

                      • จิ๊กซอว์ บล็อก เลโก้ ของเล่นตัวท็อปที่ช่วยเสริมพัฒนาการได้ทุกวัย ช่วยให้เด็กมีการพัฒนาเรื่องการมองเห็น สี และความสัมพันธ์ระหว่างมือกับสายตา โดยสำหรับเด็ก 6 ขวบ สามารถเลือกจำนวนชิ้นที่เยอะขึ้น ประกอบได้หลายรูปแบบมากขึ้น ที่จะช่วยกระตุ้นให้เกิดจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ รู้จักแก้ไขปัญหา และมีสมาธิ
                      • บอร์ดเกมส์ อาทิเช่น เกมเศรษฐี บิงโก เป็นเกมที่ช่วยให้เด็ก ๆ วัยนี้ได้พัฒนาทักษะความคิด การคำนวณ การวางแผน เสริมทักษะด้านคณิตศาสตร์

                      ของเล่นเสริมจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ เสริม EQ (สมองซีกขวา)

                      EQ หมายถึง ความฉลาดทางอารมณ์ สามารถรับรู้และเข้าใจอารมณ์ตนเองและผู้อื่น ของเล่นที่จะช่วยเสริมสร้างพัฒนาการด้านอารมณ์ ช่วยปรับหรือควบคุมอารมณ์ให้พัฒนาดีขึ้นได้ เสริมจินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์ ของเด็กวัยนี้ เช่น

                      • ตุ๊กตา/หุ่นยนต์ ของเล่นที่ช่วยเสริมสร้างจิตนาการของลูกได้เป็นอย่างดี คุณพ่อคุณแม่สามารถฟังเรื่องราวจากการเล่นตุ๊กตาหรือหุ่นยนต์ของลูกที่สะท้อนออกมาผ่านของเล่นเหล่านี้ได้ เพื่อประเมินและรับรู้ความรู้สึกของลูก
                      • วาดภาพระบายสี ช่วยเสริมสร้างจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ ทำให้เด็กมีสมาธิ มีความมั่นคงทางอารมณ์
                      • หนังสือนิทาน ความสนุกที่สอดแทรกไปด้วยความรู้ต่าง ๆ มากมาย ทั้งคำศัพท์ ตัวเลข เสริมทักษะการฟัง อ่าน และจินตนาการจากเรื่องที่พ่อแม่เล่า รวมถึงการทอดแทรกคำสอน ศีลธรรม จริยธรรม ให้เด็ก ๆ ได้ซึมซับด้วย

                      สีเทียนปลอดสารพิษ

                      • แป้งโดว์หรือดินน้ำมัน ช่วยสร้างพัฒนาการกล้ามเนื้อมัดเล็กให้เกิดความแข็งแรง และเสริมสร้างจิตนาการในการปั้นรูปทรงต่าง ๆ ได้อย่างไม่รู้จบ
                      • ชุดเครื่องดนตรี เสียงเพลงจะทำให้เด็ก ๆ สนุกสนานเพลิดเพลิน อารมณ์ดี ปลูกฝังทักษะการเล่นดนตรี และต่อยอดความชอบในอนาคตด้วย
                      • ชุดบทบาทสมมติ ช่วยทำให้เด็ก ๆ ได้รู้จักบทบาทหน้าที่ของตัวเองและผู้อื่น ช่วยพัฒนาสมอง และกระตุ้นพัฒนาการทำให้เด็กมีไหวพริบที่ดีมากขึ้น รวมทั้งส่งสร้างพัฒนาการด้านสังคมในการเล่นร่วมกับเพื่อน ให้ลูกได้กล้าแสดงออกอีกด้วย

                      ของเล่น เด็ก 6 ขวบ

                      ของเล่นเสริมพัฒนาการร่างกาย

                      นอกจากของเล่นที่ช่วยเสริมพัฒนาการด้าน IQ และ EQ แล้วของเล่นที่ช่วยเสริมพัฒนาการร่างกาย กล้ามเนื้อมัดเล็กใหญ่ ก็สำคัญต่อการเจริญเติบโตของลูกวัยนี้ไม่น้อย ของเล่นที่จะช่วยสร้างความแข็งแรงให้กับร่างกาย เช่น

                      ของเล่น เด็ก 6 ขวบ

                      • รถจักรยาน ที่ช่วยสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อ ฝึกการทรงตัว
                      • ลูกบอลขนาดต่าง ๆ ที่เป็นอุปกรณ์ในการทำกิจกรรมต่าง ๆ เช่น เตะฟุตบอล โยนบอลเข้าตะกร้า ช่วยฝึกทักษะการเคลื่อนไหว วิ่ง เดิน การเสริมสร้างกล้ามเนื้อและการประสานงานของอวัยวะส่วนต่าง ๆ

                      นอกจากการได้เล่นของเล่นจะช่วยพัฒนาการหลายด้านให้กับเจ้าตัวน้อยแล้ว การเล่นร่วมกับผู้อื่นจะทำให้ได้พัฒนาการด้านสังคมด้วย เพราะการเล่นจะทำให้เด็กมีโอกาสปฏิสัมพันธ์ร่วมกับเพื่อน ฝึกการเข้าสังคมร่วมกับเด็กคนอื่น เรียนรู้ที่จะแบ่งปันของเล่นให้เพื่อน การแก้ไขสถานการณ์ต่าง ๆ รู้จักเป็นผู้นำและผู้ตามที่ดี เรียนรู้และเข้าใจในสิ่งแวดล้อมต่างๆรอบตัวอย่างเต็มที่ เป็นการเตรียมความพร้อมในปรับตัวเมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในอนาคตได้เป็นอย่างดี

                      หากไม่เปิดโอกาสให้ลูกได้เล่นหรือทำกิจกรรมอย่างสมวัยก็จะเป็นการลดโอกาสการเรียนรู้และทำให้การพัฒนาในแต่ละด้านช้ากว่าที่ควร ดังนั้นเรื่องเล่น ๆ ของลูกเป็นสิ่งสำคัญที่พ่อแม่ไม่ควรมองข้ามนะคะ ยิ่งคุณพ่อคุณแม่มีเวลาได้เล่นร่วมกันกับเจ้าตัวเล็กด้วยก็จะช่วยเสริมสร้างความสุขและพัฒนาการดี ๆ ให้กับลูกได้ดีที่สุดด้วย.

                      ข้อมูลอ้างอิงจาก : momandbaby.net

                      อ่านต่อบทความที่น่าสนใจอื่นๆ :

                      ลูกไม่ได้เป็นเบบี๋อีกต่อไป พัฒนาการ เด็ก 6 ขวบ ที่พ่อแม่ต้องรู้

                      เลี้ยงลูกวัย 6 ขวบ อย่างไร ? ให้ฉลาดเรียนรู้ เล่นสนุก อารมณ์ดี

                      เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                        ยาคุมกำเนิด

                        “ยาคุมกำเนิด” แม่หลังคลอดกินอย่างไรให้ปลอดภัย? ไม่กระทบน้ำนม

                        ยาคุมกำเนิด 1 ในวิธีการคุมกำเนิดที่นิยมใช้กันในผู้หญิง แต่สำหรับคุณแม่หลังคลอดที่กำลังให้นมบุตรอยู่ การทานยาชนิดใดก็ตาม จะต้องดูว่ามีผลกระทบต่อน้ำนมหรือไม่

                        “ยาคุมกำเนิด” แม่หลังคลอดกินอย่างไรให้ปลอดภัย?

                        ปกติแล้วแม่ที่ให้นมบุตรจะมีการหลั่งฮอร์โมนโปรแลคตินจากต่อมใต้สมองซึ่งมีฤทธิ์ยับยั้งการตกไข่ ดังนั้น การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่จึงเป็นการคุมกำเนิดหลังคลอดวิธีหนึ่ง แต่การคุมกำเนิดวิธีนี้จะมีประสิทธิภาพดีเฉพาะ ในช่วง 6 หลังคลอด โดยมารดาต้องสามารถให้นมบุตรได้อย่างสม่ำเสมอตลอด 24 ชั่วโมง มีช่วงห่างของการให้นมแต่ละมื้อในช่วงกลางวันไม่เกิน 4 ชั่วโมง ช่วงกลางคืนไม่เกิน 6 ชั่วโมง และในช่วง 6 เดือนหลังคลอดนั้นแม่หลังคลอดจะต้องไม่มีประจำเดือน (อ่านต่อ ให้นมลูก ท้องได้ไหม? ไขข้อข้องใจกับเซ็กส์ในช่วงให้นมแม่)

                        ดูจากการคุมกำเนิดด้วยวิธีนี้ ไม่เหมาะกับแม่ที่เลี้ยงลูกด้วยนมผง หรือแม่ที่ไม่แน่ใจว่าได้ให้ลูกทานนมแม่ได้สม่ำเสมอพอที่จะทำให้ร่างกายยับยั้งการตกไข่ได้รือไม่ แม่ ๆ จึงนิยมคุมกำเนิดด้วยวิธีอื่น ๆ ควบคู่กันไปด้วย และ 1 ในวิธีคุมกำเนิดที่นิยมใช้กันคือการทาน “ยาคุมกำเนิด” เพราะสะดวกในการคุมกำเนิดที่สุด เพียงแค่ทาน ยาคุมกำเนิด วันละ 1 เม็ดเท่านั้น แต่การทานยาทุกชนิดในช่วงให้นมลูกนั้น เป็นสิ่งที่ต้องระวัง เพราะยาหรือสิ่งต่าง ๆ ที่ทานเข้าไป อาจจะมีผลกับการให้นมแม่ หรือยาอาจจะออกมากับน้ำนมแม่ได้ ดังนั้น ทีมงาน Amarin Baby & Kids จึงมีวิธีการทาน ยาคุมกำเนิด ให้ปลอดภัยมาฝากกันค่ะ

                        ยาคุมกำเนิด ควรเริ่มทานหลังจากคลอดเมื่อไหร่?

                        ในช่วงหลังคลอดประมาณ 3-5 สัปดาห์ คุณแม่ก็สามารถมีไข่ตกได้ตามปกติแล้ว และหลังจากนั้นอีกประมาณ 2 สัปดาห์ก็สามารถตั้งครรภ์ใหม่ได้ในทันที การรอให้ประจำเดือนครั้งแรกมาก่อนแล้วค่อยคุมกำเนิดจึงเป็นการตัดสินใจที่ผิดและช้าเกินไป แต่โดยทั่วไปแล้วแม่หลังคลอดมักได้รับคำแนะนำให้หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ไปจนกว่าจะครบ 4-6 สัปดาห์ หรือจนกว่าจะเข้ารับการตรวจหลังคลอดโดยแพทย์ เพื่อให้มดลูกเข้าอู่ ช่องคลอดกระชับเข้าที่ น้ำคาวปลาหมดไป และแผลที่ช่องคลอดหรือแผลผ่าคลอดหายดี แม่ ๆ จึงนิยมเริ่มทานยาคุมกำเนิดในช่วงหลังคลอด 6 สัปดาห์ไปแล้ว แต่หากมีโอกาสที่จะมีเพศสัมพันธ์ก่อนหน้านั้น ก็ยังสามารถทานยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเดี่ยวได้ก่อนตรวจหลังคลอดได้เช่นกัน

                        คุมกำเนิดหลังคลอด
                        คุมกำเนิดหลังคลอด

                        วิธีทาน ยาคุมกำเนิด แผงแรกหลังคลอด

                        • น้อยกว่า 6 สัปดาห์หลังคลอด หากจำเป็น สามารถเริ่มใช้ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเดี่ยวได้ หากเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว และให้ลูกดูดนมจากเต้าสม่ำเสมอ ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีคุมกำเนิดอื่นร่วมด้วยเมื่อเริ่มทานยาคุมกำเนิด
                        • ตั้งแต่ 6 สัปดาห์หลังคลอดขึ้นไป 
                          • ยังไม่มีประจำเดือน เริ่มทานยาคุมกำเนิดวันใดก็ได้
                            • ในกรณีที่ทานยาคุมกำเนิดเมื่อคลอดแล้ว 6 เดือน และเลี้ยงลูกด้วย
                            • อย่างเดียวและให้ลูกดูดนมจากเต้าสม่ำเสมอ ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีคุมกำเนิดอื่นเพิ่ม
                            • แต่หากไม่ได้ให้นมแม่อย่างเดียวหรือสม่ำเสมอ หรือคลอดเกิน 6 เดือนแล้ว เมื่อเริ่มทานยาคุมกำเนิด ภายใน 2 วันหลังจากเริ่มทานยาคุมกำเนิด ต้องคุมกำเนิดด้วยวิธีอื่นร่วมด้วย
                          • มีประจำเดือนแล้ว
                            • หากเริ่มใช้ภายใน 5 วันแรกที่มีประจำเดือน สามารถคุมกำเนิดได้เลย
                            • หากเริ่มใช้หลังจากนั้น ภายใน 2 วันหลังเริ่มทานยาคุมกำเนิด ต้องใช้วิธีคุมกำเนิดอื่นร่วมด้วย

                         

                        เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                        อ่านต่อ ยาคุมกำเนิดมีกี่แบบ? แม่หลังคลอดที่ให้นมบุตร ควรทานยาคุมกำเนิดแบบไหน?

                          งานมอบรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019

                          ชมภาพบรรยากาศ งานมอบรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019

                          หลังจากใช้เวลาในการเฟ้นหา สุดยอดแบรนด์สินค้าแม่ลูก กว่า 150 แบรนด์ ในที่สุด Amarin Baby & Kids เครือข่ายแม่-ลูก อันดับหนึ่งของประเทศ ผู้นำด้านคอนเทนต์คุณภาพและสื่อที่ครอบคลุมและครบวงจร ก็ได้เปิดตัว 40 รางวัลแบรนด์สินค้าในดวงใจเหล่าคุณแม่ โดยได้จัด งานมอบรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019 ให้กับสุดยอดแบรนด์แม่ลูกที่ผ่านการโหวตจากคุณแม่ 10,000 คนทั่วประแทศ และผ่านการคัดเลือกจากทีมกองบรรณาธิการผู้เชี่ยวชาญ จนได้แบรนด์ที่ตรงใจ ตอบโจทย์ คุณแม่มากที่สุด เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 7 พฤศจิกายน 2562 ณ งาน Amarin Baby & Kids Fair ครั้งที่ 15 @ไบเทค บางนา

                          ซึ่งงานนี้จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในเมืองไทย โดยมี ชาคริต แย้มนาม จูงมือศรีภรรยา แอน ภัททิรา และลูกชายหัวแก้วหัวแหวน น้องโพธิ์ มาร่วมงานอย่างอบอุ่น ร่วมด้วย คุณเปิ้น ธันยาธนัส วงษ์สวัสดิ์ปภา และเหล่าบล็อกเกอร์คุณแม่จากเพจดัง ได้แก่ คุณแม่แพรว-เพชรแพรว อัครเตชวาทิน จากเพจ Praew, คุณแม่อาย-ชฎาภรณ์ ฐานะศิริพงศ์ จากเพจ Rocky Journey, คุณแม่ปาล์ม-เลอค่า ทองสิมา ณ นครพนม จากเพจ คุณแม่เลอค่า และ คุณแม่แอร์-จริยาภรณ์ วงศ์สวัสดิ์ จากเพจ TheLovelyAir.com มาร่วมเป็นเกียรติในงาน

                          ทั้งนี้ในงาน คุณระริน อุทกะพันธุ์ ปัญจรุ่งโรจน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) ได้เผยว่า “ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมากว่า 14 ปี Amarin Baby & Kids เป็นเสมือนคู่มือประจำตัวของเหล่าคุณแม่ที่ได้รับการยอมรับ เราได้รวบรวมข้อมูลต่างๆ ครบครันรอบด้านที่สุด ซึ่งการจัด งานมอบรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019 ในครั้งนี้ ถือเป็นการตอกย้ำการเป็นผู้นำด้านคอนเทนต์ที่มีคุณภาพ เพื่อตอบสนองความต้องการของคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ได้เป็นอย่างดี โดยทั้ง 40 แบรนด์สินค้าแม่ลูก ที่ผ่านการคัดเลือกจากการโหวตของคุณแม่ทั่วประเทศและกรรมการผู้เชี่ยวชาญ ล้วนเป็นแบรนด์สินค้าหนึ่งในดวงใจที่เหล่าคุณแม่ประทับใจมากที่สุด เพื่อเป็นแนวทางในการนำผลิตภัณฑ์ไปดูแลลูกน้อยและตนเองได้อย่างมั่นใจ” 

                          สำหรับรางวัลในครั้งนี้แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ รางวัล Editor’s Choice เฟ้นหาสินค้าใช้ดี และมีจุดเด่นน่าสนใจมากที่สุดเป็นเวลา 2 เดือน จากจำนวนสินค้าที่เข้าร่วมคัดเลือกมากกว่า 150 แบรนด์จากทั่วประเทศ โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญจากทีมบรรณาธิการ Amarin Baby & Kids และ รางวัล Mommy’s Choice มาจากผลโหวตของเหล่าคุณแม่ที่มีประสบการณ์การใช้สินค้าจริง แล้วชื่นชอบและประทับใจอย่างแท้จริง กว่า 10,000 คน ทั่วประเทศ ผ่านทางเว็บไซต์ AmarinBabyAndKids.com

                          โดยรางวัลมีทั้งหมด 23 ประเภท แบ่งผลิตภัณฑ์เป็น 6 หมวด ได้แก่

                          ผลิตภัณฑ์อาบน้ำแต่งตัว แบรนด์ที่ได้รางวัล คือ

                          Mamy Poko, D-nee, Eucerin, Bepanthen, Babi Mild, Cherry Baby, Ezerra, KODOMO

                          ผลิตภัณฑ์อาบน้ำแต่งตัว รางวัล Mommy's Choice

                          ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด แบรนด์ที่ได้รางวัล คือ

                          D-nee, KODOMO, Babi Mild

                           

                           

                          ผลิตภัณฑ์อุปกรณ์การดูแลเด็ก แบรนด์ที่ได้รางวัล คือ

                          Pigeon, Combi, Camera, Philips Avent, Fico, POGNAE

                          อุปกรณ์การดูแลเด็ก รางวัล Mommy's Choice
                          อุปกรณ์การดูแลเด็ก รางวัล Editor's Choice

                          ผลิตภัณฑ์นมและผลิตภัณฑ์เพื่อโภชนาการเด็ก  แบรนด์ที่ได้รางวัล คือ

                          Thai-Denmark, BEAR BRAND, SEVEN SEAS

                          ผลิตภัณฑ์เพื่อโภชนาการเด็ก รางวัล Mommy's Choice

                          ผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพ/เสริมพัฒนาการเด็ก แบรนด์ที่ได้รางวัล คือ

                          Lamoon, KANGAROO BRAND, LEGO, แพรวเพื่อนเด็ก, Kindee, POLAR SPRAY , PLANTOYS

                          ผลิตภัณฑ์เสริมสุขภาพ / พัฒนาการเด็ก รางวัล Mommy's Choice
                          ผลิตภัณฑ์เสริมสุขภาพ / พัฒนาการเด็ก รางวัล Editor's Choice

                           

                          ผลิตภัณฑ์สำหรับคุณแม่ แบรนด์ที่ได้รางวัล คือ

                          Smooth E, PALMER’S, NATUR, FENUCAPS, Tyragina, Bio Oil, Freena Youha Plus, Prim
                          และ เพจคุณแม่บล็อกเกอร์ คือเพจ PREAW

                          ผลิตภัณฑ์สำหรับคุณแม่ รางวัล Mommy's Choice
                          ผลิตภัณฑ์สำหรับคุณแม่ รางวัล Editor's Choice

                           

                          งานนี้ คุณพ่อระดับพระเอก ชาคริต แย้มนาม ที่ตอนนี้ทุ่มเทเวลาให้กับครอบครัวมากที่สุด แชร์ถึงการเลี้ยง “น้องโพธิ์” ลูกชายสุดขี้เล่น เล่าว่า “ในวัยขวบหกเดือน เป็นช่วงวัยกำลังซน เริ่มพูดได้หลายคำ ชอบวิ่ง ปีนป่าย และเรียนรู้ไวมาก เราจึงพยายามพาเขาออกไปข้างนอกบ่อยๆ ไปเจอครอบครัว เจอคนเยอะๆ เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้เขาคุ้นเคยกับคนหมู่มากได้ และผมพยายามจะอยู่กับเขาให้บ่อยที่สุด จะคอยสรรหาของเล่นที่พัฒนาด้านความคิดและการสัมผัสที่ดีมาให้เขาเล่น อย่างพวกของเล่นที่แกะได้ ต่อเล่นได้ หรือเลโก้ชิ้นใหญ่ๆ ไปเลย อีกเรื่องที่ผมจะดูแลเขาเป็นพิเศษ คือเรื่องโภชนาการอาหาร ต้องคอยสังเกตว่าเขาแพ้อาหารอะไรบ้าง น้องโพธิ์ เป็นเด็กทานง่าย เขาชอบทานมะเขือเทศ ชอบสปาเก็ตตี้ใส่ซอสมะเขือเทศ ซึ่งเป็นสิ่งที่ดี ได้ประโยชน์จากไลโคปีนจากผิวมะเขือเทศ นอกนั้นคุณแอนเขาจะเป็นคนจัดซื้อจัดหามา

                          ชาคริต แย้มนาม
                          คุณชาคริต แย้มนาม และครอบครัว

                          ทางด้านคุณแม่ที่ได้รับรางวัล POPULAR ONLINE MOM INFLUENCER จาก งานมอบรางวัล Amarin Baby & Kids Awards คุณแม่แพรวเผยว่า “รู้สึกดีใจที่ได้รับรางวัล แต่ก็ไม่คาดคิดมาก่อนเพราะว่าใจจริงคือสร้างเพจมาก็เพื่อจะแชร์ประสบการณ์ ให้ความรู้ คำแนะนำจากคุณหมอ แต่ว่าการได้รับรางวัลนี้คือเป็นเกียรติมาก ดีใจที่แม่ๆ ชื่นชอบ ซึ่งการที่มี Amarin Baby & Kids Awards จัดขึ้นมาในครั้งนี้ ก็ช่วยการันตีสินค้านี้ว่าอยู่ในดวงใจคุณแม่ๆ จริงๆ ทำให้รู้สึกว่าสินค้าตัวนี้มีคนชื่นชอบเยอะ เป็นแนวทางในการเลือกซื้อและสรรหาของให้กับลูก โดยเฉพาะคุณแม่มือใหม่ที่ยังไม่มีประสบการณ์  Amarin Baby & Kids Awards นี้ก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการเลือกซื้อสินค้าได้ดีมากๆ เช่น หากจะซื้อเป้อุ้มเด็กที่มีถึงร้อยกว่าแบบ แต่สำหรับคุณแม่มือใหม่ที่ยังไม่เคยใช้ ไม่มีประสบการณ์ การซื้อของให้ลูกคนแรกก็สำคัญมาก ซึ่งการที่สินค้านี้มีคุณภาพมีรางวัลการันตี ก็ช่วยเป็นแนวทางให้คุณแม่เลือกซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้น”

                          แม่แพรว
                          คุณแม่แพรว จากเพจ PRAEW

                          คุณแม่อายชฎาภรณ์ ฐานะศิริพงศ์ คุณแม่ลูก 2  จากเพจ Rocky Journey เผยความรู้สึกที่ได้มาร่วมงานครั้งนี้ “รู้สึกตื่นเต้นมากๆ เลยค่ะ เพราะจะได้มาดูว่าสินค้าอะไรประเภทไหนของแม่และเด็ก ได้รางวัลอะไรกันบ้าง ที่สำคัญเลยคืองานนี้เป็นครั้งแรกในการจัดอันดับสินค้าแม่และเด็ก โดยผ่านการโหวตของคุณแม่ๆ หลายคนช่วยให้คุณแม่ทั้งมือใหม่หรือคุณแม่ลูกสองแล้วก็ตาม เป็นประโยชน์ในการเลือกซื้อของให้ลูก โดยเฉพาะคุณแม่มือใหม่ที่เค้าไม่รู้ว่าจะต้องซื้ออะไรแบบไหน ก็จะสามารถเอาข้อมูลตรงนี้ ไปเป็นแนวทางเลือกเป็นประโยชน์ได้เลย เช่น ครีมอาบน้ำ หรือผ้าอ้อมต่างๆ อันไหนที่ดี ก็ช่วยให้มีตัวเลือกได้มากขึ้น”

                          คุณแม่อาย
                          คุณแม่อาย เพจ Rocky Journey

                          คุณแม่ปาล์ม-เลอค่า ทองสิมา ณ นครพนม จากเพจ คุณแม่เลอค่า “การจัดงาน Amarin Baby & Kids Awards ในส่วนของโซน Exhibition ที่มีการจัดแสดงสินค้าให้ชม คือ จัดหมวดหมู่ประเภทของสินค้าไว้ชัดเจนดีมาก และทั้งหมดก็เป็นสินค้าที่ได้รับรางวัล ก็ยิ่งเป็นสิ่งที่ช่วยสร้างความมั่นใจให้คุณพ่อคุณแม่มากขึ้นในการที่จะเลือกซื้อแบรนด์ต่างๆ ที่จะใช้ เช่น สบู่หรือแชมพูที่ได้รับรางวัล เมื่อคุณแม่เห็นก็ซื้อตามได้ เลือกซื้อได้ง่ายขึ้น เพราะได้รับรางวัลจึงดูแล้วว่ามีความน่าเชื่อถือและเชื่อมั่นได้ในแบรนด์นั้นๆ”

                          คุณแม่ปาล์ม
                          คุณแม่ปาล์ม จากเพจคุณแม่เลอค่า

                          คุณแม่แอร์-จริยาภรณ์ วงศ์สวัสดิ์ จากเพจ TheLovelyAir.com “ดีใจที่ได้มาร่วมแสดงความยินดีใน  Amarin Baby & Kids Awards และการจัดงานในครั้งนี้ก็มีโซน Exhibition ซึ่งแสดงสินค้าที่ได้รับรางวัลเป็นสินค้าที่ถูกคัดสรรมาแล้ว มีคุณภาพดีแน่นอน เป็นตัวช่วยให้กับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ในการเลือกซื้อสินค้าโดยไม่ต้องคิดอะไรมาก แค่เดินเข้าไปดูตัวอย่างสินค้าที่ดีมีคุณภาพได้ที่บูธ ก็มั่นใจได้เลยว่าสินค้าทั้งหมดนี้ใช้ดีจริงๆ”

                          LovelyAir
                          คุณแม่แอร์ จากเพจ TheLovelyAir.com

                          ภายในงานนอกจากการมอบรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019 แล้ว ยังเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศการจัด นิทรรศการสุดน่ารักของผลิตภัณฑ์ที่ได้รับรางวัลต่างๆ มากมาย ให้คุณแม่ได้เข้าชม เพื่อเป็นไอเดียในการเลือกซื้อสินค้าให้ลูกน้อยได้อย่างมั่นใจ ไม่ผิดหวังแน่นอน คุณแม่สามารถเข้ามาชมกันได้ ภายในงาน Amarin Baby & Kids Fair ครั้งที่ 15  ณ ไบเทค บางนา 7-10 พ.ย.นี้

                          นิทรรศการ Amarin Baby & Kids Awards
                          นิทรรศการ Amarin Baby & Kids Awards

                          คุณแม่สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมของผลิตภัณฑ์ทั้ง 40 รางวัลในดวงใจคุณแม่ ที่ได้รับรางวัลกันได้ทางเว็บไซต์ AmarinBabyAndKids.com และ Facebook : Amarin Baby & Kids จัดเต็มข้อมูล และประโยชน์ของแต่ละผลิตภัณฑ์เอาไว้ให้คุณแม่กลับไปเลือกช้อปสินค้าคุณภาพเพื่อครอบครัวได้อย่างแน่นอน

                          บทความแนะนำ 

                          ประกาศผลรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019 สุดยอดแบรนด์สินค้าแม่และเด็กในดวงใจ

                           

                          เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                           

                            ป้องกันลูกแพ้อาหาร

                            จะรู้ได้อย่างไร ลูกแพ้อาหาร พบ 8 วิธี! ป้องกันลูกแพ้อาหาร

                            การแพ้อาหารในเด็กน่ากลัวมาก ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรรู้ถึง วิธีรับมือ และ ป้องกันลูกแพ้อาหาร เพื่อไม่ให้อาการแพ้ของลูกเป็นหนักจนยากเกินแก้ไข

                            พ่อแม่จะ ป้องกันลูกแพ้อาหาร ได้อย่างไร?

                            โรคภูมิแพ้อาหารในเด็ก สามารถเกิดขึ้นได้ตั้งแต่แรกเกิด โดยเด็กทุกคนมีโอกาสที่จะแพ้อาหารได้ทุกชนิด แต่ขึ้นอยู่กับว่าได้รับเมื่อไหร่ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นหลังจากที่ได้กินอาหารเสริมตามวัยแล้ว นั้นคือประมาณ 6 เดือนขึ้นไป หรือเด็กบางคนอาจจะแพ้อาหารผ่านน้ำนมแม่ก็ได้

                            Must read : วิธีรับมือสำหรับแม่ให้นม เมื่อลูกกลายเป็น เด็กแพ้อาหาร

                            ซึ่งก็เช่นเดียวกับ “น้องดิสนีย์” ลูกสาวสุดน่ารักของแม่อุ้ม ลักขณา ที่จู่ๆ ก็แพ้อาหารเสริมเด็กสำเร็จรูป ที่คุณแม่อุ้มได้ป้อนให้น้องดิสนีย์กิน แต่น้องก็ดันแพ้อาหารนั้นอย่างหนักถึงขั้นต้องนำส่งโรงพยาบาลด่วนกันเลยทีเดียว เรียกได้ว่าทำเอาหัวอกคนเป็นใจแทบขาด

                            โดยคุณแม่อุ้ม ได้เล่าประสบการณ์สุดระทึกนี้ผ่าน Instagram @lukkanaaum หลังยกครอบครัวไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่น และเกิดเหตุไม่คาดคิดกับน้องดิสนีย์ ลูกสาววัย 7 เดือน ว่า… 

                            “วันที่ 2 พ.ย.ที่ญี่ปุ่น แม่กำลังป้อนอาหารเสริมแบบสำเร็จรูปที่ซื้อที่ญี่ปุ่นซึ่งดูจากรูปส่วนผสมข้างขวดมีแครอท ไก่ ฟักทอง ปกติดิสนีย์กินได้ไม่แพ้ก็เลยป้อนน้องปกติ หลังจากกินได้สัก 5-6 คำเริ่มเห็นผื่นขึ้นรอบปากแม่ก็หยุดป้อน และน้องเริ่มเกาตรงคอสักพักคอแดงเป็นลมพิษเห่อขึ้นมาแม่รีบทายาให้ทันที ก็ยังไม่หายน้องเริ่มร้องมากขึ้น ลมพิษเริ่มลามที่หน้า หู มือ เท้า ขา ตัว ทั่วไปหมดจนน้องตัวแดงและร้อน แม่จึงป้อนยาแก้แพ้ที่พกไปด้วย น้องร้องหนักมากจนเหนื่อยและเริ่มหลับไป สักพักน้องไม่เกาและลมพิษเริ่มจางลงแต่หน้าและทุกอย่างยังแดง

                            แต่ที่ผิดสังเกตคือปากเริ่มม่วงแม่จึงรีบให้ทางรร.โทรติดต่อรพ.ที่เป็นInternationalเพราะต้องสื่อสารภาษาอังกฤษ และ รพ.ที่ใกล้รร. ที่สุดก็ดันปิด รพ.ที่ญี่ปุ่นเค้ามีหยุด ส.-อ.ด้วย ทางรร.รีบโทรติดต่อรพ.และแจ้งว่าเป็นฉุกเฉินและเรียกTaxiให้ จากชินจูกุไปที่รพ.ประมาน 40 นาที(นี่ขนาดใกล้แล้ว) พอไปถึงได้พบคุณหมอก็ตรวจดูพบว่าในอาหารนั้นมีส่วนผสมของนมวัวและแป้งสาลี ซึ่งไม่ได้มีรูปอยู่ในฉลากและข้างขวดเป็นภาษาญี่ปุ่นทั้งหมด

                            คุณหมอจึงบอกน้องอาจจะแพ้ตัวใดตัวนึงในนี้ โชคดีที่น้องไม่ได้เป็นทางระบบหายใจเป็นทางผิวหนัง คุณหมอจึงสั่งยาแก้แพ้ให้กิน ยาของญี่ปุ่นเป็นผงๆผสมกับน้ำแล้วกิน คือ ขมมากๆๆๆๆ(พี่บอลลองชิม) ขมชนิดที่ผู้ใหญ่ยังไม่ไหว แต่ดิสนีย์ต้องโดนป้อน กินไปก็ร้องไปจะอ้วกไป แม่นี่ร้องไห้อยู่ในหัวใจสงสารลูกแทบขาดใจ แต่ต้องมีสติมากๆ ทุกๆวินาที เพื่อดูแลลูก

                            ป้องกันลูกแพ้อาหาร

                            พอกินยาปุ๊ปดีขึ้นทันที ดิสนีย์คนเดิมก็กลับมายิ้มได้อีกครั้ง เป็นประสบการณ์ที่แม่ไม่ลืมเลย เวลาลูกไม่สบายน่าสงสารที่สุดเลย กลับมาแม่คงต้องเทสว่าลูกแพ้อะไร และคอยระวังให้มากกว่านี้ ค่ารักษาพยาบาล15,000 บ.เลยกะยา 2 ซอง ดีที่ทำประกันการเดินทางและสุขภาพของดิสเอาไว้ ด้วย คุณแม่ที่มีแพลนจะพาลูกไปเที่ยวตปท.เตรียมการณ์ไว้ให้ดีด้วยนะคะ ด้วยรักและห่วงใยจ๊ะ”

                            View this post on Instagram

                            วันที่2พย.ที่ญี่ปุ่น แม่กำลังป้อนอาหารเสริมแบบสำเร็จรูปที่ซื้อที่ญี่ปุ่นซึ่งดูจากรูปส่วนผสมข้างขวดมีแครอท ไก่ ฟักทอง ปกติดิสนีย์กินได้ไม่แพ้ก้เลยป้อนน้องปกติ หลังจากกินได้สัก5-6คำเริ่มเห็นผื่นขึ้นรอบปากแม่ก็หยุดป้อน และน้องเริ่มเกาตรงคอสักพักคอแดงเป็นลมพิษเห่อขึ้นมาแม่รีบทายาให้ทันที ก็ยังไม่หายน้องเริ่มร้องมากขึ้น ลมพิษเริ่มลามที่หน้า หู มือ เท้า ขา ตัว ทั่วไปหมดจนน้องตัวแดงและร้อน แม่จึงป้อนยาแก้แพ้ที่พกไปด้วย น้องร้องหนักมากจนเหนื่อยและเริ่มหลับไป สักพักน้องไม่เกาและลมพิษเริ่มจางลงแต่หน้าและทุกอย่างยังแดง แต่ที่ผิดสังเกตุคือปากเริ่มม่วงแม่จึงรีบให้ทางรร.โทรติกต่อรพ.ที่เป็นInternationalเพราะต้องสื่อสารภาษาอังกฤษ และ รพ.ที่ใกล้รร ที่สุดก้ดันปิด รพ.ที่ญี่ปุ่นเค้ามีหยุด ส อ.ด้วย ทางรร.รีบโทรติดต่อรพ.และแจ้งว่าเป็นฉุกเฉินและเรียกTaxiให้ จากชินจูกุไปที่รพ.ประมาน40นาที(นี่ขนาดใกล้แล้ว) พอไปถึงได้พบคุณหมอก้ตรวจดูพบว่าในอาหารนั้นมีส่วนผสมของนมวัวและแป้งสาลี ซึ่งไม่ได้มีรูปอยู่ในฉลากและข้างขวดเป็นภาษาญี่ปุ่นทั้งหมด คุณหมอจึงบอกน้องอาจจะแพ้ตัวใดตัวนึงในนี้ โชคดีที่น้องไม่ได้เป็นทางระบบหายใจเป็นทางผิวหนัง คุณหมอจึงสั่งยาแก้แพ้ให้กิน ยาของญี่ปุ่นเป็นผงๆผสมกับน้ำแล้วกิน คือ ขมมากๆๆๆๆ(พี่บอลลองชิม) ขมชนิดที่ผู้ใหญ่ยังไม่ไหว แต่ดิสนีย์ต้องโดนป้อน กินไปก็ร้องไปจะอ้วกไป แม่นี่ร้องไห้อยู่ในหัวใจสงสารลูกแทบขาดใจ แต่ต้องมีสติมากๆทุกๆวินาที เพื่อดูแลลูก พอกินยาปุ๊ปดีขึ้นทันที ดิสนีย์คนเดิมก็กลับมายิ้มได้อีกครั้ง เป็นประสบการณ์ที่แม่ไม่ลืมเลย เวลาลูกไม่สบายน่าสงสารที่สุดเลย กลับมาแม่คงต้องเทสว่าลูกแพ้อะไร และคอยระวังให้มากกว่านี้ ค่ารักษาพยาบาล15,000บ.เลยกะยา2ซอง ดีที่ทำประกันการเดินทางและสุขภาพของดิสเอาไว้ ด้วย คุณแม่ที่มีแพลนจะพาลูกไปเที่ยวตปท.เตรียมการณ์ไว้ให้ดีด้วยนะคะ ด้วยรักและห่วงใยจ๊ะ

                            A post shared by Aum Lukkana. (@lukkanaaum) on

                            อาหารที่พบว่าทำให้ เด็กมีการแพ้

                            ทั้งนี้การจะ ป้องกันลูกแพ้อาหาร คุณพ่อคุณแม่ต้องรู้ก่อนว่าอาหารชนิดบ้างที่ทำให้ลูกเกิดอาการแพ้ได้ ซึ่งอาหารที่พบมีรายงานว่าทำให้เกิดอาการแพ้ได้บ่อย คือ ไข่ นม ถั่วลิสง ถั่ว (Tree nuts) ถั่วเหลือง ข้าวสาลี ส่วนอาหารอื่นๆได้แก่ งา เมล็ดพืช อาหารทะเล เนื้อสัตว์ และผลไม้

                             

                            อ่านต่อ >> “วิธีรับมือและการปกป้องลูกจากการแพ้อาหาร” คลิกหน้า 2

                             

                            เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                             

                              ฟันสบกัน

                              5 พฤติกรรมผิดๆ ของเด็ก ที่ทำให้ “ฟันสบกัน” ผิดปกติ

                              ฟันสบกัน เป็นปัญหาในช่องปากที่ไม่ร้ายแรงในเด็ก แต่หากคุณพ่อคุณแม่ปล่อยไว้ไม่รักษา อาจทำให้มีผลต่อรูปหน้า และการเคี้ยวบดอาหารของลูกในอนาคตได้

                              5 พฤติกรรมผิดๆ ของเด็ก ที่ทำให้ “ฟันสบกัน” ผิดปกติ

                              การสบฟันคืออะไร?

                              การสบฟันแบ่งออกเป็น 2 ชนิด ได้แก่

                              • การสบฟันที่เป็นปกติ ฟันที่สบกันปกติ ฟันสวยที่ไม่จำเป็นต้องจัด ลักษณะคือ ฟันจะเรียงตัวกันชิดเป็นระเบียบ เมื่อกัดฟัน ฟันบนจะคร่อมฟันล่างโดยรอบ ฟันหน้าบนจะยื่นออกจากฟันหน้าล่างประมาณ 1 มิลลิเมตร และปลายฟันหน้าบน จะครอบปลายฟันหน้าล่างลึกประมาณ 1-2 มิลลิเมตร
                              • การสบฟันผิดปกติ หมายถึง ลักษณะของฟันแท้ที่มีการจัดเรียงผิดปกติอาจเกิดการซ้อนทับกัน ฟันยื่นไปข้างหน้า ฟันยื่นเข้าลึก ฟันห่างกัน เป็นต้น ทำให้เกิดลักษณะการจัดเรียงตัวของฟันไม่สวยงาม ซึ่งจะเกิดขึ้นในระยะฟันน้ำนม และระยะฟันผสมระยะแรก (ระยะที่เกิดฟันกรามแท้ซี่ที่ 1 จนถึงฟันระยะที่ฟันหน้าแท้ล่าง และบนขึ้นครบ ซึ่งจะอยู่ประมาณอายุ 7-9 ปี) ซึ่งหากลูก ฟันสบกัน ในลักษณะที่ผิดปกตินี้ ควรเข้ารับการรักษาโดยทันตแพทย์ เพราะหากปล่อยไว้ไม่รักษา อาจส่งผลต่อรูปหน้า หรือ ก่อให้เกิดปัญหาการบดเคี้ยวอาหารในอนาคตได้
                              ฟันสบกันในเด็ก
                              ฟันสบกันในเด็ก

                              สาเหตุที่ทำให้ ฟันสบกัน

                              1. ดูแลฟันน้ำนมไม่ถูกต้อง

                              เพราะฟันน้ำนมนอกจากจะมีไว้บดเคี้ยวตามธรรมชาติ ยังช่วยในการออกเสียงแล้วยังเป็นผู้ดูแลช่องว่างเตรียมไว้ให้ฟันแท้ที่จะขึ้นมาทดแทนด้วย การสูญเสียฟันน้ำนมก่อนกำหนดจะมีผลต่อการพูด และการทำงานของของกล้ามเนื้อโครงฟัน ซึ่งจะมีผลโดยตรงต่อแนวการขึ้นของฟันแท้จนเกิดลักษณะของฟันที่ผิดรูปไป

                              2. กรรมพันธุ์

                              กรรมพันธุ์ ไม่เพียงแต่มีผลเฉพาะกับฟัน เช่น ลักษณะรูปร่างของฟัน ขนาดฟัน จำนวนฟัน เท่านั้น ยังส่งผลต่อลักษณะของโครงหน้าอีกด้วย เช่น หน้ากลม หน้ารูปไข่ หน้าเหลี่ยม คางสั้น คางยื่น เป็นต้น

                              3. พฤติกรรมของเด็ก

                              พฤติกรรมของเด็กในระยะฟันน้ำนม และฟันผสมระยะแรก รวมถึงการเกิดอุบัติเหตุกับฟัน ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้มีผลต่อความผิดปกติของกระดูกขากรรไกรล่าง และบน การสูญเสียฟันน้ำนมก่อนกำหนด และการจัดรูปของฟันแท้ที่ขึ้นใหม่ โดยหากคุณพ่อคุณแม่พบว่าลูกทำพฤติกรรมเหล่านี้บ่อย ๆ ควรหาวิธีให้ลูกเลิกทำนะคะ

                               

                              เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                              อ่านต่อ 5 พฤติกรรมผิดๆ ของเด็ก ที่ทำให้ “ฟันสบกัน” และฟันสบกันมีกี่ประเภท?

                                ลูกไม่ยอมไปโรงเรียน

                                เข้าใจหัวอกแม่ ลูกไม่ยอมไปโรงเรียน ทำยังไงดี?

                                เมื่อถึงเวลาที่จะไปโรงเรียน คุณพ่อคุณแม่บางบ้านอาจจะต้องประสบปัญหากับภาวะ ลูกไม่ยอมไปโรงเรียน ร้องไห้งอแง ต้องหลอกล่อเกลี้ยกล่อมสารพัด เล่นเอาแม่เหนื่อย เข้าใจหัวอกคนเป็นพ่อแม่ก็งานนี้

                                สาเหตุ ลูกไม่ยอมไปโรงเรียน

                                การที่เจ้าตัวเล็กงอแงไม่อยากไปโรงเรียน อาจเกิดผลกระทบทั้งด้านการศึกษาและความสัมพันธ์กับเพื่อน ๆ ในห้องเรียน ซึ่งมีสาเหตุได้หลายอย่าง เช่น

                                ลูกไม่ยอมไปโรงเรียน

                                • ในเด็กเล็กมักมีความวิตกกังวลที่จะห่างจากพ่อแม่คนที่คุ้นเคย ยิ่งตอนช่วงเปิดเทอมใหม่หรือเข้าเรียนอนุบาลวันแรกก็จะมีภาวะไม่ยอมไปโรงเรียนเกิดขึ้นได้เป็นเรื่องปกติ
                                • เด็กบางคนได้รับการดูแลแบบประคบประหงมมากเกินไป เหมือนไข่ในหิน จนไม่สามารถทำอะไรด้วยตัวเองได้เหมือนเพื่อน ไม่กล้าที่จะทำอะไรด้วยตัวเอง จนเกิดความกลัว วิตกกังวลง่าย ขาดความมั่นใจ เลยเกิดความรู้สึกไม่อยากไปโรงเรียนก็ได้เช่นกัน
                                • เมื่อถึงเวลาไปโรงเรียน เด็กต้องมีการปรับตัวที่ไม่คุ้นชิน เช่น จากที่นอนตื่นสายได้ก็ต้องตื่นเช้า จึงทำให้เกิดการงอแงไม่อยากไปโรงเรียนได้
                                • เด็กอาจจะมีปัญหาที่โรงเรียน เช่น เข้ากับเพื่อนไม่ได้ โดนเพื่อนรังแก หรือถูกครูทำโทษรุนแรง ก็ทำให้เกิดอาการไม่อยากไปโรงเรียน
                                • ปัจจัยจากการเลี้ยงดู ขาดความดูแลเอาใจใส่เรื่องการศึกษาของลูกซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญสำหรับพัฒนาการและชีวิตในภายหน้า

                                สังเกตอาการเมื่อเจ้าตัวเล็กไม่อยากไปโรงเรียน

                                • ร้องไห้หรืออาละวาด
                                • ไม่ยอมตื่นลุกจากเตียงและซ่อนตัวเองอยู่ใต้ผ้าห่ม
                                • อ้อนวอนหรือขอร้องเพื่อที่จะไม่ไปโรงเรียน
                                • แสดงอาการป่วยหรือเจ็บปวด เพื่อที่จะขออยู่บ้าน ไม่ไปโรงเรียน
                                • มีความวิตกกังวลสูงเมื่อรู้ว่าต้องไปโรงเรียน

                                ลูกไม่ยอมไปโรงเรียนหาวิธีแก้ยังไงดี?

                                ลูกไม่ยอมไปโรงเรียน

                                เด็กเล็กที่อยู่ในช่วงวัยอนุบาลหรือประถมต้น เมื่อพ่อแม่เจอกับปัญหาที่ลูกไม่อยากไปโรงเรียน ควรจะต้องหาวิธีแก้ไขและดูแลเอาใจใส่อย่างเร็วที่สุด เพราะถ้าปล่อยทิ้งไว้หรือตามใจที่จะไม่พาไปโรงเรียนก็จะส่งผลกระทบในหลายด้าน อาทิเช่น ด้านการศึกษา การขาดเรียนจะทำให้เรียนตามเพื่อนไม่ทัน เก็บคะแนนในห้องเรียนไม่ทัน มีผลกระทบต่อการเรียน ด้านสังคม เมื่อเด็กขาดเรียนหลายวันก็จะทำให้ปรับตัวเข้ากับเพื่อนในโรงเรียนยากขึ้น

                                วิธีแก้ปัญหาเมื่อลูกไม่ยอมไปโรงเรียน

                                • คุณพ่อคุณแม่ควรหนักแน่นในการพาลูกไปโรงเรียน หาทางร่วมมือกับคุณครูในการดูแลเด็กอย่างใกล้ชิดในช่วงวันแรก ๆ และให้เด็กมีความรู้สึกอยากเรียนในที่สุด
                                • ในช่วงระยะแรกคุณพ่อคุณแม่ควรไปส่งลูกด้วยตัวเอง ให้กำลังใจและสร้างความมั่นใจให้กับเจ้าตัวเล็กได้คลายกังวล พูดให้เห็นประโยชน์ของการไปโรงเรียนและความสนุกเมื่อลูกได้มาโรงเรียน
                                • เมื่อส่งลูกถึงมือคุณครู ควรใช้เวลาบอกลาสั้น ๆ เพื่อไม่ให้ลูกงอแง
                                • ควรไปรับลูกให้ตรงเวลา ไม่ควรไปช้าหรือปล่อยให้ลูกรอนาน เพราะจะทำให้ลูกรู้สึกเป็นกังวล แสดงให้ลูกเข้าใจว่า เมื่อแยกจากกันแล้วก็จะได้พบกันใหม่ เป็นรูปแบบที่เกิดขึ้นซ้ำๆ ให้ลูกได้เรียนรู้ว่าเป็นตามปกติในทุกวัน
                                • ตั้งคำถามหรือชวนลูกคุยเกี่ยวกับเรื่องที่โรงเรียน เพื่อรับรู้ข้อมูลในสิ่งที่ลูกเจอมาในแต่ละวัน
                                • หัดให้ลูกรู้จักช่วยเหลือและดูแลตัวเองให้เป็น เพราะเมื่อลูกอยู่ที่โรงเรียนต้องทำอะไรด้วยตัวเองมากขึ้น และจะได้ไม่รู้สึกแปลกแยกหรือด้อยกว่าเพื่อนคนอื่น
                                • พูดคุยกับครูเกี่ยวกับการเรียนหรือสังคมของลูกในห้องเรียนว่าเกิดปัญหาขึ้นหรือไม่ พร้อมช่วยกันหาทางแก้ไข

                                ลูกไม่ยอมไปโรงเรียน

                                • พ่อแม่ควรเข้าใจธรรมชาติของเด็กเล็ก ที่การแยกจากยังเป็นเรื่องไม่คุ้นชิน และให้เวลาลูกในการปรับตัว ควรใช้คำพูดอย่างนุ่มนวล ไม่ขู่หรือบังคับเพื่อให้ลูกเกิดความกลัวมากขึ้น
                                • คุณพ่อคุณไม่ควรกังวลเมื่อเห็นอาการ ลูกไม่ยอมไปโรงเรียน ร้องงอแง เพราะถ้าพ่อแม่กังวลลูกก็จะยิ่งกลัวไปมากขึ้น สำหรับเด็กเล็กไม่กี่วันอาการไม่อยากไปโรงเรียนก็จะลดลง เกิดความมั่นคงทางอารมณ์มาก

                                ปัญหาลูกไม่ยอมไปโรงเรียน อาจจำเป็นต้องให้เวลากับลูกน้อย และคุณพ่อคุณแม่ก็ต้องค่อย ๆ สอนลูกอย่างใจเย็น หากแก้ไขแล้วไม่ได้ผลหรือมีปัญหาที่รุนแรงขึ้น จัดเป็นภาวะฉุกเฉินทางจิตเวชเด็กภาวะหนึ่ง ซึ่งควรจะพาลูกไปพบจิตแพทย์เพื่อหาสาเหตุและแก้ไขได้อย่างตรงจุด หากปล่อยไว้นานวัน ภาวะไม่อยากไปโรงเรียนของลูกก็จะยิ่งปรับตัวยากขึ้น ก่อให้เกิดผลกระทบต่อตัวเด็กและครอบครัวตามมาได้นะคะ.

                                ขอบคุณบทความอ้างอิงจาก : www.paolohospital.commed.mahidol.ac.th

                                อ่านต่อบทความอื่นน่าสนใจ :

                                โรงเรียนอนุบาล ที่ไหนดี 7 ข้อที่พ่อแม่ควรรู้ก่อนเลือกโรงเรียนแรกให้ลูก

                                หาโรงเรียนให้ลูก ต้องเลือกที่ “ใช่” และ “ตรงใจ” ลูก

                                 

                                เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                                  Lazada 11.11 นี้มีโปรน่าช้อป ยกลังเพียง 799 ด้วยนะแม่!

                                  แนะนำของใหม่! MamyPoko Pants Lovely Day&Night รุ่นลิมิเต็ด
                                  ลวดลายพี่โพโคจังและน้องลาซ จาก Lazada น่าเลิฟ

                                  Lazada 11.11 นี้มีโปรน่าช้อป ยกลังเพียง 799 ด้วยนะแม่! คลิกเลย http://bit.ly/2oV62sm

                                  กลัวของหมดเพิ่มใส่รถเข็นไว้ก่อนเลย เริ่มช้อปพร้อมกัน 11 พ.ย. 62 วันเดียวเท่านั้นนะ

                                    พาลูกเรียนว่ายน้ำที่ไหนดี

                                    พาลูกเรียนว่ายน้ำที่ไหนดี 10 โรงเรียนสอนว่ายน้ำเด็ก ฝึกทักษะเอาตัวรอด ป้องกันลูกจมน้ำ

                                    กิจกรรมว่ายน้ำเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่พ่อแม่ในยุค 4.0 สนับสนุนให้ลูกได้เรียน นอกจากเป็นการออกกำลังกายแล้ว ประโยชน์ของการให้ลูกว่ายน้ำตั้งแต่เด็กคือการได้พัฒนาการต่อตัวเด็กมากมาย ปัจจุบันมีโรงเรียนสอนว่ายน้ำทารกและเด็กเล็กอยู่หลายแห่งเพื่อเป็นทางเลือกให้กับคุณพ่อคุณแม่ อยากให้ลูกน้อยฝึกเรียนว่ายน้ำเพื่อออกกำลังกายเสริมพัฒนาการตั้งแต่เบบี๋ และช่วยฝึกทักษะการเอาตัวรอด ป้องกันลูกจมน้ำ พาลูกเรียนว่ายน้ำที่ไหนดี มีโรงเรียนสอนว่ายน้ำทารกและเด็กที่ไหนบ้าง มาดูกันค่า

                                    พาลูกเรียนว่ายน้ำที่ไหนดี 10 โรงเรียนสอนว่ายน้ำเด็ก เรียนได้ตั้งแต่เบบี๋

                                    #1 Aqua Babies Thailand

                                    Aqua Babies Thailand สถาบันสอนว่ายน้ำเด็กแรกเกิด – 6 ปี และศูนย์รวมกิจกรรมทางน้ำ (Aquatic Center) มาตราฐานสากลจากประเทศอังกฤษ โดยเป็นสถาบันสอนว่ายน้ำที่มีสาขาเยอะที่สุดกระจายออกไปทั่วโลก คิดค้นหลักสูตรโดย Julie-Ann James ครูผู้สอนและนักวารีบำบัดชื่อดัง มีรูปแบบการเรียนการสอนที่หลากหลายทั้งทารกและเด็ก โดยเน้นการนำพัฒนาการของเด็กแต่ละวัยมาผสมผสานก่อให้เกิดหลักสูตรที่มีประสิทธิภาพเข้ากับธรรมชาติของเด็ก ๆ และร่วมกับพ่อแม่ในการใช้เวลาร่วมกันในน้ำ คุณพ่อคุณแม่จะได้เรียนรู้ถึงเรื่องความปลอดภัยต่าง ๆ เมื่ออยู่ในน้ำมีการสอดแทรกเทคนิค และวิธีการช่วยเหลือตัวเองเบื้องต้นในน้ำ (Basic Survival Skills) โดยครูผู้สอนจะดูความพร้อมของเด็ก ๆ แต่ละคนและปรับการสอนให้เหมาะสมเข้ากับเด็กแต่ละคน

                                    พาลูกเรียนว่ายน้ำที่ไหนดี Aqua Babies Thailand

                                    พาลูกเรียนว่ายน้ำที่ไหนดี Aqua Babies Thailand
                                    ขอบคุณรูปภาพจากเพจ www.facebook.com/aquababiesthailand

                                    ที่ตั้ง : 71/102 ซอยวิภาวดีรังสิต64 แยก5 หลักสี่ กรุงเทพมหานคร 10210 โทร. 092-318-3181

                                    ข้อมูลเพิ่มเติม : aquababiesthailand.com

                                    #2 Baby Pool

                                    Baby Pool เป็นศูนย์ว่ายน้ำสำหรับทารกและเด็ก อายุตั้งแต่ 4 เดือน – 12 ปี เด็ก ๆ จะได้สนุกสนานกับประสบการณ์ว่ายน้ำร่วมกับคุณพ่อคุณแม่ ในสระน้ำอุ่นระบบเกลือในร่มที่สะอาด ทันสมัย และสะดวกสบายที่สุด ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรต่อเด็กมากที่สุด หลักสูตรของที่นี่เน้นการเรียนแบบ Child Centered โดยเสริมสร้างทักษะการว่ายน้ำให้เหมาะกับวัยและพัฒนาการของเด็ก ผ่านกิจกรรมสนุกสนาน กับกลุ่มเพื่อนในวัยเดียวเรียนรู้กัน และสำหรับเด็กวัยตั้งแต่ 4 ปีขึ้นไปจะได้เรียนรู้ทักษะการว่ายน้ำ (Stroke Development) ด้วยหลักสูตรสากลจนถึงการว่ายน้ำขั้นสูง โดยทีมโค้ชประสบการณ์ระดับโลก ที่ได้รับใบประกาศนียบัตรสอนว่ายน้ำทารกและเด็ก และการว่ายน้ำขั้นสูงเพื่อการแข่งขัน จากสถาบันชื่อดังระดับโลกในประเทศออสเตรเลียและยุโรป

                                    พาลูกเรียนว่ายน้ำที่ไหนดี Baby Pool

                                    พาลูกเรียนว่ายน้ำที่ไหนดี Baby Pool
                                    ขอบคุณภาพจากเพจ Baby Pool Thailand

                                    ที่ตั้ง :

                                    • สาขาเลียบทางด่วนเอกมัยรามอินทรา โทร. 081-933-7030
                                    • สาขาราชพฤกษ์ โทร. 097-442-5252
                                    • สาขาบางนา โทร. 092-474-7370
                                    • สาขาปัญญาอินทรา โทร. 063-426-1555
                                    • สาขารังสิต โทร. 093-970-6550
                                    • สาขาศรีราชา โทร. 092-828-0988
                                    • สาขาเชียงใหม่ โทร. 095-461-1212
                                    • สาขาสุขุมวิท71 โทร. 061-672-6000

                                    ราคาคอร์สเรียน คลิก!

                                    ข้อมูลเพิ่มเติม : babypoolthailand

                                     

                                    เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                                    อ่านต่อ 10 โรงเรียนสอนว่ายน้ำเด็ก ฝึกทักษะเอาตัวรอดจากการจมน้ำได้ตั้งแต่เบบี๋ คลิกหน้า 2