คลอดลูก

หมอสูติฯตอบ! คลอดลูก “แบบผ่ากับคลอดเอง” อะไรดีกว่ากัน?

คลอดลูกคลอดเองกับผ่าคลอด” อย่างไหนดีกว่ากัน? ตามมาฟังเรื่องเล่าจากหมอสูติฯ เมื่อหมอที่กำลังตั้งท้อง ต้องทำคลอดคนไข้ และตัวเองก็ถึงกำหนดคลอด คุณหมอจะเลือกคลอดลูกของตัวเองแบบไหน?

คลอดลูก “แบบธรรมชาติ หรือ ผ่าคลอด” อย่างไหนดีกว่ากัน?
[เรื่องจริงจากหมอสูติฯ]

คำถามยอดฮิตที่คนไข้ท้องถามหมอสูติ หนีไม่พ้นคำถามที่ว่า “คลอดเองตามธรรมชาติหรือผ่าตัดคลอด อย่างไหนจะดีกว่ากัน” >> คำตอบทางวิชาการ คงเป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่า คลอดตามธรรมชาติดีกว่าหลายอย่าง แผลหายเร็วกว่า มดลูกเข้าอู่เร็ว แม่ให้นมลูกได้ ไม่มีแผลผ่าตัดหน้าท้อง ไม่มีพังผืดในท้อง มีลูกได้หลายคน ลูกแข็งแรงกว่า แต่คลอดเอง ก็อาจเจ็บปวด ใช้เวลานาน กำหนดเวลาไม่ได้ มีแผลที่ช่องคลอด หากมีข้อบ่งชี้ เช่น เชิงกรานแคบ ทารกผิดท่า ตกเลือด ทารกหัวใจเต้นช้า ฯลฯ ต้องผ่าท้องคลอดลูกจึงจะปลอดภัย

นอกจากเหตุผลทางวิชาการแล้ว ก็เป็นเหตุผลจากประสบการณ์การคลอดของหมอสูติเอง

คลอดลูก คลอดธรรมชาติ ผ่าคลอด หมอสูติ

หมอสุมิตรา (ชื่อสมมุติ) เป็นหมอที่ตั้งครรภ์ ขณะที่เป็นแพทย์ประจำบ้าน ซึ่งต้องทำงานหนัก เพื่อสอบเอาวุฒิบัตรสูติ-นรีเวช

เธอได้รับเลือกเข้ามาเป็นแพทย์ประจำบ้านแผนกสูติ-นรีเวช ของสถาบันที่มีชื่อเสียงแห่งนี้ ซึ่งมีอัตราการแข่งขันสูงมาก ที่ได้รับเลือกเพราะเธอเป็นลูกศิษย์ของสถาบันแห่งนี้ จบแพทยศาสตร์บัณฑิตเกียรตินิยมอันดับ 1

อ่านต่อ “ความเหนื่อยยากเมื่อต้องตั้งครรภ์ในช่วงงานหนัก” หน้า 2

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

    อาหารบำรุงสมองลูกในท้อง

    11 อาหารบำรุงสมองลูกในท้อง มีอะไรบ้างที่แม่ควรกิน

    อาหารบำรุงสมองลูกในท้อง ที่ทีมแม่ABK ขอแนะนำให้ว่าที่คุณแม่ท้อง คนท้องทุกคนได้กินกัน เพื่อที่จะได้ช่วยบำรุง เสริมสร้างพัฒนาการสมองของลูกน้อยให้สมบูรณ์ และฉลาดตั้งแต่อยู่ในครรภ์

     

    อาหารบำรุงสมองลูกในท้อง ที่แม่กินแล้ว “ลูกสมองฉลาด”

    คุณพ่อคุณแม่รู้ไหมว่า…สมองที่สมบูรณ์ ฉลาดของลูกน้อย ต้องมีการปูพื้นฐานกันมาตั้งแต่ที่อยู่ในท้องของแม่ ซึ่งมาจากหลายปัจจัย นั่นคือ

    1. ก่อน และระหว่างตั้งครรภ์ ควรพักผ่อนนอนหลับให้เพียงพอ
    2. หลีกเลี่ยงเรื่องที่สร้างให้เกิดความเครียดสะสม
    3. ตรวจร่างกาย และฉีดวัคซีนตามที่คุณหมอแนะนำ (หากร่างกายไม่มีภูมิคุ้มกัน เช่น โรคไข้หวัดใหญ่ หัดเยอรมัน ไวรัสตับอักเสบ บาดทะยัก ฯลฯ ) ก่อนมีการตั้งครรภ์
    4. ออกกำลังกายเตรียมความแข็งแรงร่างกายก่อนท้อง และออกกำลังกายเบาๆ ที่เหมาะกับคนท้อง เช่น ว่ายน้ำ โยคะ ฯลฯ (หากไม่มีภาวะแทรกซ่อนขณะตั้งครรภ์ และคุณหมออนุญาตให้ออกกำลังกายได้)
    5. งดการสูบบุหรี่ และดื่มแอลกอฮอล์ ทั้งก่อน – หลังตั้งครรภ์
    6. 3 เดือนก่อนท้อง ควรกินวิตามินโฟลิค และอาหารที่มีโฟลิค (โฟลิค เป็นสารอาหารสำคัญมีส่วนช่วยในการเตรียมระบบประสาทของทารกให้สมบูรณ์)
    7. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่ ในปริมาณสัดส่วนที่สมดุลกัน และเน้นเพิ่มเติมในส่วนของอาหารที่มี สำคัญในการช่วยบำรุง เสริมสร้างพัฒนาการสมองลูกในแข็งแรง สมบูรณ์ ฉลาด

    “สมอง” เป็นหนึ่งในอวัยวะที่สำคัญของร่างกาย ซึ่งเซลล์สมองจะเริ่มสร้างขึ้นตั้งแต่วันแรกที่ลูกน้อยมีการปฏิสนธิขึ้นใน ครรภ์ของแม่ จากเซลล์สมองขนาดเล็กมาก จะค่อยๆ แตกแขนงเพิ่มจำนวน และขนาด เกิดเป็นเนื้อสมอง และเส้นใย ประสาท เชื่อมโยงเป็นเครือข่ายใยเส้นประสาทมากมาย พัฒนาการสมอง การเรียนรู้ ความฉลาดของสมอง จะพัฒนาขึ้นได้ ไม่เต็มที่สมบูรณ์ หากในขณะที่ลูกน้อยอยู่ในท้องของแม่ แล้วแม่ไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์กับลูก ด้วยการกระตุ้น เช่น ไม่คุย ไม่ เล่น ไม่สัมผัสลูกผ่านทางหน้าท้องแม่ ไม่กินอาหารที่มีประโยชน์ ปัจจัยเหล่านี้ล้วนทำให้ลูกเกิดมาสมองไม่ฉลาดได้ค่ะ

    ฉะนั้น หากอยากให้ลูกน้อยสมองฉลาด เรียนรู้เก่งและไว ให้เริ่มตั้งต้นมาจากอาหารบำรุงสมอง ที่คุณแม่ควรต้องกินเตรียมมา ตั้งแต่ก่อนท้อง และกินเรื่อยไปตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์จนครบ 40 สัปดาห์ ทำควบคู่ไปกับการกระตุ้นพัฒนาการสมองลูกในท้อง ตามที่ทีมแม่ABK ได้แนะนำไปข้างต้นค่ะ

     

    อ่านต่อ 11 อาหารบำรุงสมองลูกในท้อง ให้สมองฉลาด คลิกหน้า 2

    เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

      ฝันเห็นงู

      จริงหรือ? ฝันเห็นงู แปลว่าจะมีลูก! แท้จริงหมายถึงอะไร

      ฝันเห็นงู จะได้เจอเนื้อคู่จริงหรือ! แปลว่าจะได้ลูกจริงมั๊ย? แท้จริงแล้ว ฝันเห็นงู ฝันเห็นงูตัวใหญ่ ฝันว่างูเลื้อยเข้าบ้าน จะแปลว่าอะไร ตามมาดู คำทำนายความฝันเหล่านี้กันค่ะ

      ทำนายฝัน ฝันเห็นงู หมายถึงอะไร!?

      หลายคนคงเคยได้ยินความเชื่อที่ว่าถ้า ฝันเห็นงู คือสัญญาณที่จะได้พบเนื้อคู่ แต่นอกจากโชคด้านความรักยังมีการตีความหมายไปในทางอื่นๆ อีก ทั้งลางดีและไม่ดี ซึ่งทีมแม่ ABK จึงได้รววบรวม ความหมาย คำทำนายฝัน เกี่ยวกับฝันเห็นงู ทั้งหมดมาฝาก จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ

      ฝันเห็นงู ตามตำราโบราณซึ่งมักจะเป็นตำราที่มีเรื่องของตัวเลขนำโชคพวงมาด้วย จะมีการทำนายฝันไว้หลายแบบ (คำนายดังต่อไปนี้มาจากเว็บ www.myhora.com/ )

      หากฝันเห็นงู หรือ ฝันว่าถูกงูกัด หรือตีงูจนตายแล้วงูกลับมามีชีวิตอีกครั้ง

      ทำนายว่า คนโสดจะได้แต่งงาน ถ้าเป็นชายที่มีครอบครัวแล้วอาจคิดนอกลู่นอกทาง ถ้าเป็นหญิงที่มีครอบครัวแล้วจะได้ลูก

      Must read : 3 วิธีสร้างบุญ บารมี ให้ลูกก่อนเกิด!

      ฝันว่างูกัด

      จะทำนายว่า ศัตรูเพศตรงข้ามจะคิดร้าย หรือได้รับเคราะห์จากเพื่อนบ้าน ถ้างูกัดต่ำ ก็เป็นเคราะห์เล็กน้อย ถ้ากัดสูง จะได้รับเคราะห์หนัก หรือมิฉะนั้นจะป่วยเจ็บเพราะอุบัติเหตุในการเดินทาง

       

      ฝันเห็นงูพิษ หรืองูเห่ารัดแขนขา

      ทำนายว่า จะมีโชคด้านความรัก พบคู่และได้แต่งงานสมใจ

       

      ฝันว่างูรัด หรือเลื้อยมาพันร่างกาย

      ทำนายว่า ถ้าเป็นคนโสดจะได้พบเนื้อคู่ในกะทันหัน ให้สังเกตความฝันว่า ถ้างูกัดส่วนสูงของร่างกาย เช่น รัดคอ รัดบั้นเอวจะได้เนื้อคู่ฐานะดี หรือมีศักดิ์ ถ้ารัดต่ำลงมาถึงขา ทำนายว่า จะได้เนื้อคู่ต่ำศักดิ์กว่า ถ้าเป็นคนมีครอบครัวแล้ว ในฝันนั้นถ้าได้ใช้มือจับลำตัวงูแล้วจะได้ลาภเป็นบุตร หรือโชคลาภจร ลาภลอย จากการเสี่ยงโชคใหญ่ เลขนำโชค : 56 , 66 , 55 , 559 , 566 , 568

      ฝันเห็นงู

      ฝันเห็นงูจงอาง

      ทำนายว่า ให้ระมัดระวังเรื่องการมีปากเสียงกับผู้หลักผู้ใหญ่ มีโอกาสที่จะถูกตำหนิ หรือได้รับความไม่พอใจ แนะนำว่าอย่าเอาตัวเองเข้าไปยุ่งเกี่ยว หรือช่วยแก้ไขปัญหาให้กับใคร ปัญหารุนแรงเหล่านั้นอาจย้อนกลับมาที่ตัวเองทั้งที่ไม่ส่วนเกี่ยวข้อง อีกทั้งยังอาจถูกเอาเปรียบอย่างรุนแรงได้

       

      ฝันเห็นงูเขียว

      ทำนายว่า จะได้คู่ที่ถูกใจมาก

       

      ฝันเห็นงูเหลือม

      ทำนายว่า ให้ระวังเรื่องเงินๆ ทองๆ สุขภาพจะมีปัญหา

       

      ฝันเห็นงูหลายตัว

      ทำนายว่าจะได้รับข่าวดีจากเพื่อนเก่าที่ไม่ได้ติดต่อกันมานาน แต่ถ้าในความฝันเห็นงูหลายตัวเข้ามาอยู่ใกล้ๆ ให้ระวังเรื่องความเครียด ไม่ว่าจะเรื่องครอบครัว การงาน หรือแม้แต่คนรัก ซึ่งอาจเป็นเพียงเรื่องใดเรื่องหนึ่ง อย่าเพิ่งนิ่งนอนใจ เพราะหากเป็นปัญหาที่ไม่หนักหนามากนัก ก็อาจสะสมพอกพูนจะกลายเป็นความเครียดที่ส่งผลต่อสุขภาพได้

      อ่านต่อคำทำนายฝัน “ฝันเห็นงูใหญ่ ฝันว่างูเลื้อยเข้าบ้าน” คลิกหน้า 2

       

      เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

       

        TQ (Thinking Quotient)

        เลี้ยงลูกอย่างไรให้มี TQ (Thinking Quotient) ฉลาดคิดเป็น เก่งประสบความสำเร็จไม่ยาก

        TQ (Thinking Quotient) ฉลาดคิดเป็น ทักษะที่ควรเตรียมพร้อมให้ลูก ช่วยลูกเก่ง ประสบความสำเร็จได้ไม่ยากในอนาคต ต้องเลี้ยงลูกอย่างไร

        เลี้ยงลูกอย่างไรให้มี TQ (Thinking Quotient) ฉลาดคิดเป็น เก่งประสบความสำเร็จไม่ยาก

        นักวิจัยยืนยันว่า IQ มีส่วนเกี่ยวข้องกับความสำเร็จในชีวิต เช่น ในด้านการทำงาน การเรียน เพียงแค่ 20% เท่านั้น แต่คนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตและมีความสุข ล้วนมีความฉลาดในด้านอารมณ์และสังคม รวมถึง Q ในด้านอื่น ๆ ที่เชื่อมโยงกันด้วย ดังนั้นเราที่เป็นพ่อแม่จึงไม่ควรมุ่งหวังให้ลูกเป็นแค่เด็กเก่งที่คิดเลขเป็นหรือพูดได้หลายภาษา ลองมาดู TQ(Thinking Quotient) ความฉลาดอีกหนึ่งด้านที่จะทำให้ลูกดำรงชีวิตอยู่ร่วมในสังคมได้อย่างมีความสุขกัน

        TQ คืออะไร?

        TQ: Thinking Quotient แปลออกมาได้ตรงตัวก็คือ ความสามารถในการคิด คือการคิดที่เป็นประโยชน์ก่อคุณค่าด้วย ซึ่งในแง่ของการคิดมีผู้รู้ได้แบ่งการคิดออกเป็นหลายลักษณะที่สามารถก่อให้เกิดคุณค่าและนำไปใช้ได้เป็นประโยชน์ต่อตัวเองและงานต่าง ๆ เช่น การคิดเชิงสร้างสรรค์ ความสามารถในการคิดวิเคราะห์แล้วนำมาคิดสังเคราะห์ คิดอย่างมีวิจารณญาณ คิดประยุกต์ การคิดเชิงบวก ฯลฯ ได้อย่างเหมาะสม และผสมผสานความคิดต่าง ๆ ออกมาได้ดี ซึ่งคนที่มี TQ  หรือฉลาดคิดเป็น จะเป็นคนที่แก้ปัญหาต่างๆ ในทุกสถานการณ์ได้ สามารถคิดไตร่ตรองสิ่งถูกผิด และคิดเลือกทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่น

        ความฉลาดคิดเป็น TQ (Thinking Quotient)
        ความฉลาดคิดเป็น TQ (Thinking Quotient)

        เลี้ยงลูกอย่างไรให้มี TQ (Thinking Quotient)!!

        1.ส่งเสริมทักษะทางการคิด

        การคิด (Thinking skill) เป็นกิจกรรมที่ใช้ในการประมวลผลข้อมูล แก้ปัญหาตัดสินใจ และสร้างแนวคิดใหม่ ๆ สำหรับเด็กเล็กแล้ว คุณพ่อคุณแม่สามารถส่งเสริมทักษะทางการคิดได้ของลูกได้ เช่น จากการเล่นและกิจกรรม มีของเล่นเสริมทักษะและจินตนาการมากมายที่จะช่วยให้เจ้าตัวเล็กได้ใช้ความคิดอย่างสร้างสรรรค์ เกิดจินตนาการในรูปแบบใหม่ ที่เรียกกว่า “การคิดนอกกรอบ” การพาลูกออกไปท่องเที่ยวเพื่อเสริมสร้างประสบการณ์ เกิดการเชื่อมต่อคำถามจากความคิดสงสัย ทำให้คิดวางแผนหรือตัดสินใจว่าจะทำอะไร การสนับสนุนลูก ๆ ให้ได้ลองใช้ความคิด จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีต่อการส่งเสริม TQ ของลูก

        (อ้างอิงจาก : www.sasimasuk.com)

        Must Read!! ที่เที่ยวสำหรับเด็ก ปิดเทอมนี้ ทั้งสนุก ได้เรียนรู้ ใกล้กรุง!!

        Must Read!! 10 พิพิธภัณฑ์ในกรุงเทพ และใกล้กรุงเทพ เที่ยวสนุก ความรู้จัดเต็ม เด็กเข้าชมฟรี!!

        สอนลูกให้ฉลาดคิดเป็น สอนอย่างไร
        สอนลูกให้ฉลาดคิดเป็น สอนอย่างไร

        2.สอนลูกให้คิดถึงปัญหาและสร้างวิธีแก้ปัญหา

        อย่าเพิ่งรีบเข้าไปช่วยแก้ปัญหาสำหรับพวกเขา พยายามส่งเสริมหรือแนะนำให้ลูกหาวิธีที่จะบรรลุหรือแก้ไขผ่านการคิดอย่างสร้างสรรค์ เช่น วัยที่ควรสามารถช่วยเหลือตัวเองได้แล้ว ก็ควรปล่อยให้ลูกได้ลองทำด้วยตัวเอง การทำงานบ้าน การเล่นเกมที่ต้องหาทางออก เป็นต้น การปล่อยให้ลูกได้ลองแก้ปัญหาด้วยตัวเอง จะช่วยกระตุ้นสมอง และสอนให้รู้ว่าพวกเขาสามารถทำงานผ่านอุปสรรคได้ด้วยตนเอง

        Must Read !! ฝึกลูกทำงานบ้านให้อะไรมากกว่าที่คิด งานบ้านสร้างลูก!!

        3.ตั้งคำถาม และพูดคุย 

        การพูดคุยหรือตั้งคำถามกับลูก ไม่ได้เป็นเพียงแค่การสื่อสาร หรือการได้ใช้เวลาอยู่ร่วมกันเท่านั้น แต่การที่พ่อแม่ได้พูดคุยหรือตั้งคำถามต่อสิ่งต่าง ๆ กับลูกในแต่ละวันนั้น ถือเป็นการกระตุ้นพัฒนาการการเรียนรู้ กระตุ้นให้เกิดความคิด เป็นเด็กช่างคิด ช่างสังเกต คุณพ่อคุณแม่สามารถตั้งคำถามกับลูกง่าย ๆ ด้วยคำถามใกล้ตัว “อะไร ทำไม ยังไง” เพื่อให้ลูกได้ลองคิดหาคำตอบและวิธีแก้ปัญหา หรือตั้งคำถามสร้างจินตนาการ ถามคำถามที่ดูเหมือนอยู่ในเทพนิยาย เป็นเรื่องสมมุติ เพราะการใช้จินตนาการก็เหมือนการบริหารสมองอย่างหนึ่ง ที่ช่วยกระตุ้นให้เกิดความคิดได้ คำถามสร้างสรรค์ที่พ่อแม่ใช้กับลูกจะช่วยให้เด็กได้พัฒนาความคิดและความรู้สึกของตัวเอง และยังช่วยให้คุณพ่อคุณแม่รู้จักตัวตนของลูกดีขั้นผ่านความคิดเห็นเหล่านั้น แม้กระทั่งการพูดคุยกับลูกตั้งแต่ในวัยเบบี๋ก็เป็นกุญแจสำคัญไปสู่การส่งเสริม TQ แม้ว่าลูกจะยังเด็กเกินไปที่จะเข้าใจสิ่งที่พ่อแม่กำลังพูด หรือยังไม่เข้าใจความหมายของคำ แต่การพูดซ้ำ ๆ ในที่สุดลูกก็จะใช้คำศัพท์ เกิดทักษะการฟัง ทักษะการพูด ซึ่งต่อยอดไปสู่ทักษะการเขียนและการอ่านได้ด้วย ซึ่งจะช่วยกระตุ้นพัฒนาการของลูกได้อย่างมีประสิทธิภาพ

        อ่านต่อ >>สอนลูกอย่างไรให้ฉลาดคิดเป็นTQ(Thinking Quotient)คลิกหน้า 2

        เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

          ฏิทินเงินอุดหนุนบุตรปี 2563

          ปฏิทินเงินอุดหนุนบุตร 2563 เงินเข้าวันไหน? พร้อมวิธีเช็คสิทธิ์

          โครงการเงินอุดหนุนเด็กแรกเกิด เป็นโครงการช่วยเหลือคุณพ่อ คุณแม่ ที่ไม่มีรายได้ แต่เมื่อวันที่ 7 ก.พ. ที่ผ่านมา ยังไม่สามารถจ่ายได้ ทำให้คุณพ่อ คุณแม่หลายคนเกิดความกังวล ว่าเหตุใดเงินจึงไม่เข้า เรามาเช็คข้อมูลและอัพเดต ปฏิทินเงินอุดหนุนบุตรปี 2563 เพื่อทำความเข้าใจกันค่ะ

          Continue reading “ปฏิทินเงินอุดหนุนบุตร 2563 เงินเข้าวันไหน? พร้อมวิธีเช็คสิทธิ์”

            ฝุ่น PM2.5

            เตือนแม่ท้อง สูดฝุ่น PM2.5 เสี่ยงทำลายสมองลูก

            ช่วงนี้ปัญหาสิ่งแวดล้อมทางอากาศอย่าง ฝุ่น PM2.5 อาจส่งผลต่อสุขภาพของคุณพ่อ คุณแม่ และลูกน้อย ทำให้มีอาการไอ เจ็บคอ เป็นหวัด คัดจมูก แสบจมูก แสบตา อยู่บ่อยๆ คุณพ่อ คุณแม่ รู้หรือไม่คะ ว่านอกจากจะทำลายสุขภาพแล้ว ฝุ่นเหล่านี้ยังทำลายการทำงานในสมองอีกด้วย

            Continue reading “เตือนแม่ท้อง สูดฝุ่น PM2.5 เสี่ยงทำลายสมองลูก”

              สถานที่ทางประวัติศาสตร์

              พาลูกเที่ยว 5 สถานที่ทางประวัติศาสตร์ ย้อนรอยอดีต เดินดูสนุก ได้ความรู้

              กิจกรรม “ท่องเที่ยว” ไม่ใช่แค่การเที่ยวสำหรับเด็กเท่านั้น แต่เป็นการสร้างประโยชน์ให้ลูกได้ไม่น้อย พาลูกเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ก็ถือว่าเป็นการเที่ยวแบบ “เอ็ดดูเทนเม้นท์” (Edutainment) ที่ได้ทั้งความสนุกและความรู้ไปพร้อม ๆ กัน ถ้าคุณพ่อคุณแม่ยังคิดไม่ออกว่าจะพากันไปเที่ยวที่ไหนดี ทีมแม่ ABK มี 5 สถานที่ทางประวัติศาสตร์ มาแนะนำค่ะ

              พาลูกเที่ยว 5 สถานที่ทางประวัติศาสตร์ ย้อนรอยเรียนรู้อดีต เดินดูสนุก

              1.เมืองโบราณ จ.สมุทรปราการ

              เมืองโบราณ
              เมืองโบราณ

              เมืองโบราณ เป็นพิพิธภัณฑ์เอกชนกลางแจ้งที่รวบรวมสถาปัตยกรรมและศิลปกรรมอันเกี่ยวเนื่องกับประวัติศาสตร์ในประเทศไทยจัดแสดงไว้อย่างมีชีวิตชีวาบนพื้นที่กว่า 800 ไร่ เป็นอีกหนึ่งแหล่งการเรียนรู้ผ่านการท่องเที่ยวที่เหมาะกับทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย เที่ยวได้กันทั้งครอบครัวเลยค่ะ

              เมืองโบราณ
              เมืองโบราณ

              ภายในเมืองโบราณ มีการจำลองงานสถาปัตยกรรมอันสวยงามและทรงคุณค่าของไทยไว้มากมาย ซึ่งมีทั้งสถาปัตยกรรมที่รื้อถอนจากของจริงมาปลูกสร้างและจำลองจากขนาดจริงหรือเล็กกว่ามาสร้าง และใช้องค์ความรู้มาสร้างสรรค์ขึ้นใหม่ ซึ่งมีมากกว่า 100 รูปแบบ

              เมืองโบราณ
              เมืองโบราณ

              โดยแบ่งจัดวางสถานที่สำคัญ ออกเป็น 4 ภาค ทั้งภาคเหนือ อีสาน กลาง ใต้ และสุวรรณภูมิ อาทิเช่น พระที่นั่งสรรเพชญปราสาทจำลอง, ศาลาพระอรหันต์, เขาพระสุเมรุ, วิหารวัดภูมินทร์ น่าน, เรือนทับขวัญ, คุ้มขุนแผน, สวนรามเกียรติ์, วัดจองคำ ลำปาง, วิหารสุโขทัย, พระมหาธาตุเจดีย์ สุโขทัย,  พระธาติจอมกิตติ จังหวัดเชียงราย, ปราสาทหินพนมรุ้ง, ปราสาทหินพิมาย, ศาลาโถงวัดนิมิตร ตราด, เรือสำเภาไทย ฯลฯ

              นอกจากนี้ยังมีตลาดน้ำ ร้านอาหารไว้บริการ ซึ่งเราสามารถชมโดยใช้วิธีนั่งรถราง หรือปั่นจักรยาน เที่ยวได้ตลอดทั้งวัน ในบรรยากาศที่ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ระหว่างทาง มีศาลานั่งพัก เรียกได้ว่าพากันมาเที่ยวที่เมืองโบราณเดียว ก็เหมือนได้เที่ยวไปทั่วประเทศไทยเลยละค่ะ

              เมืองโบราณ
              ขอบคุณภาพจาก www.MuangboranMuseum.com

              เมืองโบราณ

              พิกัด : 296/1 หมู่ 7 ถนนสุขุมวิท ตำบลบางปูใหม่ อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ 10280
              โทรศัพท์ : 02-323 4094 -9
              วันและเวลาทำการ : ทุกวัน เวลา 09.00 -19.00 น.
              ค่าเข้าชม : บัตรคุ้มสยาม ผู้ใหญ่ ท่านละ 400 บาท/ เด็ก (6-14 ปี) ท่านละ 200 บาท (ราคานี้รวมรถราง จักรยาน และนั่งเรือ)

              เว็บไซต์ : www.MuangboranMuseum.com
              ข้อมูลอ้างอิงจาก www.kapook.com

              2.อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง จ.บุรีรัมย์

              อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง จ.บุรีรัมย์
              อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง จ.บุรีรัมย์

              ปราสาทหินพนมรุ้งหรือปราสาทพนมรุ้ง เป็นโบราณสถานในศิลปะเขมรที่มีความงดงาม เป็นปราสาทหินทรายสีชมพู ที่สร้างขึ้นในราวพุทธศตวรรษที่ 15-18 ตั้งอยู่บนยอดเขาพนมรุ้ง (บนยอดภูเขาไฟที่ดับสนิท) อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดบุรีรัมย์ ศาสนสถานแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อถวายแด่พระศิวะ หนึ่งในสามเทพเจ้าสูงสุดในศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู (ตรีมูรติ) เพื่อใช้เป็นเทวสถานในศาสนาฮินดู ลัทธิไศวนิกาย ดังนั้นเขาพนมรุ้งจึงเปรียบเสมือนเขาไกรลาสที่ประทับของเทพพระศิวะ

              นอกจากมีภูมิทัศน์สวยงาม ที่ปราสาทพนมรุ้งนี้มีปรากฏการณ์ทางธรรมชาติอันน่ามหัศจรรย์ก็คือ ปรากฏการณ์พระอาทิตย์สาดส่องลอด 15 ช่องประตู โดยในช่วงเวลาพระอาทิตย์ขึ้นและตก แสงอาทิตย์จะสาดส่องทะลุ 15 ช่องประตูของปราสาทพนมรุ้ง ทุก ๆ ปีจะมีปรากฏการณ์ดังกล่าว 4 ครั้งที่เราสามารถเห็นได้ คือช่วงเวลาที่พระอาทิตย์ขึ้นเดือนเมษายนและเดือนกันยายน และพระอาทิตย์ตกเดือนมีนาคมและเดือนตุลาคม

              อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง จ.บุรีรัมย์
              อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง จ.บุรีรัมย์

              ภายในปราสาทมีสิ่งก่อสร้างที่สำคัญ อาทิ ปราสาทประธาน เป็นสถาปัตยกรรมหลักที่สำคัญที่สุด ตั้งอยู่ตรงศูนย์กลางของลานปราสาทชั้นใน ปราสาทอิฐ 2 หลัง  ซึ่งนักประวัติศาสตร์ศิลปะได้ศึกษาพบว่า น่าจะมีอายุในราวพุทธศตวรรษที่ 15 นับเป็นสถาปัตยกรรมที่มีอายุเก่าที่สุดที่เหลืออยู่ สะพานนาคราช มีความหมายเปรียบเสมือนสะพานเชื่อมระหว่างโลกมนุษย์กับโลกของเทพเจ้า บันไดหินทราย ที่ทอดยาวขึ้นไปยังลานบนยอดเขา สูง 10 เมตร มี 5 ชั้น จำนวน 52 ขั้น และทับหลังนารายณ์บรรทมสินธุ์เป็นโบราณวัตถุที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของไทย เป็นต้น

              อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง จ.บุรีรัมย์
              อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง จ.บุรีรัมย์

              ปัจจุบันปราสาทหินพนมรุ้ง ซึ่งเป็นหนึ่งในปราสาทหินขอมของไทยที่มีชื่อเสียงมากที่สุด กำลังอยู่ในเกณฑ์กำลังพิจารณาเป็นมรดกโลก และจัดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นอีกโบราณสถานที่น่าสนใจสำหรับการพาเจ้าตัวเล็กมาดูความสวยงามและความมหัศจรรย์แบบ unseen Thailand อีกที่นะคะ

              อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง จ.บุรีรัมย์
              ขอบคุณภาพจาก www.museumthailand.com

              อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง

              พิกัด : เขาพนมรุ้ง อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดบุรีรัมย์ 31110
              โทรศัพท์ : 044-666 251
              วันเวลาเปิด -ปิด : เปิดให้เข้าชมทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 06.00-18.00 น.
              ค่าเข้าชม : คนละ 20 บาท
              ข้อมูลอ้างอิงจาก www.museumthailand.com

               

              อ่านต่อ พาลูกเที่ยว 5 แลนด์มาร์กเชิงประวัติศาสตร์ คลิกหน้า 2

              เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

               

                ให้ลูกเรียนภาษาจีนที่ไหนดี

                ให้ลูกเรียนภาษาจีนที่ไหนดี 6 สถาบันสอนภาษาจีนสำหรับเด็ก ปูทางให้ลูกเก่ง 3 ภาษา

                ภาษาจีนเป็นอีกหนึ่งภาษาที่พ่อแม่ยุคนี้อยากให้ลูกได้เรียนเพิ่มเติม เพื่อปูทางไปสู่การเรียนและอาชีพการงานในอนาคต ให้ลูกเรียนภาษาจีนที่ไหนดี มาดูกันค่ะ

                ให้ลูกเรียนภาษาจีนที่ไหนดี 6 สถาบันสอนภาษาจีนสำหรับเด็ก

                1.โรงเรียนสอนภาษานานมี

                โรงเรียนสอนภาษานานมี
                Credit Photo : www.nanmeeschool.com

                โรงเรียนสอนภาษานานมี เน้นการเรียนการสอนภาษาอย่างเป็นธรรมชาติด้านฟัง พูด อ่าน เเละเขียน สอนโดยครูชำนาญการเเละผู้มีประสบการณ์ด้านการสอนภาษาจีนโดยตรงทั้งชาวไทยและชาวจีน มีบรรยากาศการเรียนการสอนที่เป็นกันเอง ด้วยเทคนิคการสอนที่ทำให้ผู้เรียนสนุก การออกเสียงชัดเจน และจดจำคำศัพท์ได้แม่นยำ มุ่งเน้นการเรียนการสอนแบบบูรณาการ ให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้อย่างมั่นใจ สามารถนำไปใช้ได้จริง รวมถึงนำไปสอบวัดระดับความรู้ภาษาจีนสำหรับเยาวชน (Youth Chinese Test: YCT) และการสอบวัดระดับความรู้ภาษาจีน (Hanyu Shuiping Kaoshi: HSK) เพื่อการศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาหรือศึกษาต่อต่างประเทศได้

                สำหรับหลักสูตรสอนภาษาจีนเด็กเปิดสอนตั้งแต่ อายุ 3-5 ปี (Chinese for Kids) ระดับ KD.1-3 เน้นการเรียนรู้เพื่อเพิ่มคลังคำศัพท์โดยผ่านสื่อและกิจกรรมการเรียนการสอน เรียนรู้จากคำศัพท์ที่ใช้บ่อย ตัวเลข  คุ้นเคยกับประโยคสนทนาสั้นๆที่ใช้ในห้องเรียน สีสัน ผลไม้ กีฬา

                หลักสูตรภาษาจีนมาตรฐานสำหรับเด็กอายุ 6-12 ปี (Chinese for Children) เริ่มสอนตั้งแต่เด็กที่ไม่มีพื้นฐานให้เข้าใจในระบบการออกเสียงหรือพินอินของภาษาจีนกลาง เนื้อหาเกี่ยวกับกิจกรรมในสถานการณ์ที่แตกต่างกันไป โดยเน้นหนักด้านการทบทวนและเน้นย้ำตัวอักษรจีน คำศัพท์ ประโยค เเละความสามารถในการเรียนรู้  สังเกต  การอ่านและการพูด เนื้อหาจะค่อย ๆ เพิ่มระดับความเข้มข้นมากขึ้นไปทีละขั้น ทำให้เกิดความสนุกสนานเพลิดเพลิน ในการเรียนภาษาจีนจากสภาพเหตุการณ์จริงของชีวิตประจำวัน

                โรงเรียนสอนภาษาจีนนานมี
                ที่อยู่ : อาคารบริษัท นานมี จำกัด เลขที่ 146 ถนนสาทรเหนือ แขวงสีลม เขตบางรัก จังหวัดกรุงเทพฯ 10500
                โทรศัพท์ : 02-648-8000
                Website : www.nanmeeschool.com

                2.OKLS โรงเรียนภาษาและภูมิปัญญาตะวันออก  

                OKLS โรงเรียนภาษาและภูมิปัญญาตะวันออก
                Credit Photo : www.okls.net

                OKLS เป็นสถาบันที่เปิดสอนภาษาจีนมายาวนาน เป็นโรงเรียนสอนภาษาจีนแห่งแรกที่เปิดทำการเรียนการสอนบนห้างสรรพสินค้า  ซึ่งมีส่วนช่วยปลุกกระแสการเรียนภาษาจีนในประเทศไทยให้เป็นที่นิยมมาจนถึงปัจจุบันที่มีสาขามากถึง 13 สาขา โดยเปิดสอนหลักสูตรภาษาจีนสำหรับเด็ก OKLS แบ่งเป็น 2 หลักสูตร คือ หลักสูตรเด็กเล็กเรียนจีน (OREINTAL KIDS) และหลักสูตรเด็กเด็กเรียนจีน

                หลักสูตรเด็กเล็กเรียนจีน (OREINTAL KIDS) เป็นหลักสูตรเตรียมความพร้อมสำหรับเด็กเล็ก อายุระหว่าง 5 – 7 ปี โดย เรียนรู้ผ่านกิจกรรมสร้างสรรค์ เช่น ร้องเพลง  แสดงท่าทางประกอบเพลงหรือนิทาน เกมส์ กิจกรรมกลุ่ม งานประดิษฐ์ เป็นต้น ช่วยให้เด็ก ๆ ได้ซึมซับภาษาจีน เน้นทักษะการฟังและพูด คำศัพท์ ประโยคตามกับวัย และให้ผู้ปกครองมีส่วนร่วมในการเรียนของเด็ก ๆ ด้วย ในห้องเรียนจะสอนนักเรียนต่อห้อง 4-6 คนโดยคุณครูผู้สอนมีประสบการณ์ผ่านการฝึกอบรมด้านการสอนภาษาจีนสำหรับเด็กเล็กโดยเฉพาะ ทำให้เข้าใจพัฒนาการของเด็กและสามารถสื่อสารกับเด็กๆ ได้เป็นอย่างดี

                หลักสูตรเด็กเด็กเรียนจีน เป็นหลักสูตรภาษาจีนสำหรับเด็กที่พัฒนาขึ้นเพื่อการเรียนรู้ของเด็กวัย 7 – 12 ปี โดยเฉพาะ เนื้อหาครอบคลุมทั้งการฟัง การพูด การอ่านและการเขียนใช้ตำราเรียน “เด็กเด็กเรียนจีน” ที่ OKLS สร้างสรรค์ขึ้นด้วยเนื้อหาที่เข้าใจง่ายและใช้ในชีวิตประจำวัน เสริมด้วยแบบฝึกหัดและกิจกรรมสร้างสรรค์ต่างๆ เช่น ร้องเพลง เล่นเกมส์ ฟังนิทาน เป็นต้น ในบรรยากาศการเรียนที่ผ่อนคลายและสนุกสนาน เอื้อต่อการเรียนรู้ ของเด็กในวัยกำลังเติบโต ทำให้เด็กๆ เกิดความรักและความสนใจในการเรียนภาษาจีน หลังจากเรียนแล้วจะมีการทดสอบความรู้ ความเข้าใจและทักษะภาษาจีนของนักเรียน และรายงานผลการเรียนให้ผู้ปกครองทราบ

                OKLS โรงเรียนภาษาและภูมิปัญญาตะวันออก
                โทรศัพท์ : 02-939-8944 และ 02-939-8945 (สำนักงานใหญ่)

                Website : www.okls.net

                3.โรงเรียนสอนภาษาจีนตันติ

                โรงเรียนสอนภาษาจีนตันติ
                Credit Photo : www.tantichinese.com

                โรงเรียนสอนภาษาจีนตันติ เน้นการเรียนการสอนด้วยบรรยากาศภายในห้องเรียนแบบสนุกสนาน เฮฮา และเป็นกันเอง เพื่อให้ให้ผู้เรียนรู้สึกไม่เบื่อและเรียนภาษาจีนได้อย่างมีความสุข เน้นการเรียนแบบห้องเล็ก เพื่อให้นักเรียนได้เรียนตัวต่อตัวกับอาจารย์ผู้สอนโดยตรง เริ่มตั้งแต่การปูพื้นฐานและพัฒนาทักษะทางด้านภาษาจีนไปพร้อม ๆ กับการผึกทักษะและเสริมสร้างความกล้าแสดงออกของเด็ก ทำให้เด็ก ๆ สามารถพัฒนาศักยภาพทางด้านสติปัญญา (I.Q.) และศักยภาพทางด้านอารมณ์ (E.Q.) ไปพร้อมๆกัน

                ที่นี่มีคอร์สเรียนหลายหลักสูตร สำหรับหลักสูตรภาษาจีนเด็กแบ่งเป็นช่วงอาทิ ได้แก่ หลักสูตรภาษาจีนสำหรับนักเรียน 2-4 ปี​ เน้นการฟัง พูด กับเจ้าของภาษา ให้น้อง ๆ ได้คุ้นเคยกับภาษาจีนตั้งแต่เล็ก และได้พัฒนาการทักษะต่าง ๆ เช่น การร้องเพลง เล่นเกม การทักทาย สี ผลไม้ การนับจำนวน ชื่อสัตว์ อาหารเป็นต้น​

                หลักสูตรสำหรับนักเรียนอายุ 3 ปีขึ้นไป เน้นการอ่านออกเสียง การเขียน เรียนรู้พินอิน (การสะกดเสียงภาษาจีน) เรียนรู้ปี่ฮว่า (เส้นขีดประกอบตัวอักษรจีน) ผ่านสื่อต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น เพลงจีน เกมภาษาจีน การตัดกระดาษของจีนเรียนรู้การเขียนพู่กันจีน นิทานและบทกลอน เป็นต้น

                หลักสูตรภาษาจีนสำหรับเด็กอายุ 5 -11 ปี จะใช้หนังสือของทางสถาบันชื่อ “ภาษาจีนหรรษา” ซึ่งเป็นหนังสือที่มีเนื้อหาแบบเรียนที่สอดคล้องกับชีวิตความเป็นอยู่ของนักเรียนไทยระดับชั้นประถมศึกษา มีชีวิตชีวา มุ่งเน้นปลูกฝังความสนุกสนานของการเรียนภาษาจีนกลาง ในสภาพเหตุการณ์จริงและสามารถใช้ภาษาจีนในการสื่อสาร ประกอบกับแบบฝึกหัดที่สนุกสนาน นอกจากจะช่วยฝึกฝนความสามารถทางด้านภาษาแล้ว ยังช่วยพัฒนาสมอง และความคิดของเยาวชนได้เป็นอย่างดี เมื่อเรียนจบแต่ละเล่มแล้วจะสามารถเรียนรู้และเข้าใจการออกเสียง การสะกดสระและพยัญชนะภาษาจีน เรียนรู้เข้าใจและใช้งานคำศัพท์ภาษาจีนได้ และเรียนรู้คำศัพท์ภาษาจีนเพิ่มเติมขึ้นอย่างต่อเนื่อง

                โรงเรียนสอนภาษาจีนตันติ
                สาขาเซ็นทรัลพลาซา แกรนด์ พระราม 9 โทร. 093-410-4499

                สาขาเซ็นทรัลพลาซา แจ้งวัฒนะ โทร. 085-254-8666
                Website : www.tantichinese.com

                4.โรงเรียนสอนภาษาจีนเพียรอักษร (หงหล่าวซือ)

                หงหล่าวซือ
                Credit Photo : www.honglaoshi.com

                หงหล่าวซือ สอนภาษาจีนกลาง (Mandarin) ที่ใช้สื่อสารกันทั่วโลกให้กับผู้ที่สนใจอยากเป็นภาษาจีน เริ่มต้นจากที่ไม่เป็นอะไรเลย จนทำให้เป็นอีกหนึ่งภาษาที่ใช้งานได้จริง! นักเรียนจะได้ฝึก 5 ทักษะ พูด ฟัง อ่าน เขียน แปล จากภาษาไทยเป็นภาษาจีน และภาษาจีนเป็นภาษาไทยแบบมีประสิทธิภาพ ด้วยเทคนิคการสอนที่ไม่เหมือนใคร ด้วยการเรียนการสอนที่ฝึกจนทุกอย่างเป็นไปแบบธรรมชาติและฉับไวแม่นยำ

                สำหรับคอร์สภาษาจีนมาตรฐานสำหรับเด็ก จะได้ฝึกออกเสียงภาษาจีนกลางอย่างมีหลักการและได้มาตรฐานตามระบบ pinyin ของปักกิ่ง เรียนรู้ศัพท์พื้นฐานในชีวิตประจำวัน ฝึกสร้างประโยคจากเรียบง่าย ค่อย ๆ พัฒนาไปสู่ประโยคที่สลับซับซ้อนยิ่งขึ้น เรียนรู้ขีดต่าง ๆ ที่ประกอบเป็นอักษรภาษาจีน ฝึกการเขียนอย่างถูกต้องตามหลักการ ค่อยๆเรียนรู้ไวยากรณ์จีนอย่างธรรมชาติ โดยผ่านการใช้ภาษาจีนแบบตอกย้ำ โดยผ่านทางการเรียนและกิจกรรมหลากหลายในแนวสร้างสรรค์ เช่น แทรกบทเพลง บทกวี เพื่อเพิ่มพูนความรู้และสีสันในการเรียน พร้อมกับสื่อการสอนต่าง ๆ ท่ามกลางบรรยากาศเป็นบวกที่สนุกสนาน

                โรงเรียนสอนภาษาจีนเพียรอักษร (หงหล่าวซือ)
                โทร. 086-306-9072, 089-2012-333, 02-934-9494
                Website : www.honglaoshi.com

                อ่านต่อ 6 สถาบันสอนภาษาจีนสำหรับเด็ก ปูทางให้ลูกเก่ง 3 ภาษา คลิกหน้า 2

                เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                  ทิชชู่เปียก

                  รีวิวจัดหนัก 16 แบรนด์ ทิชชู่เปียก เลือกยี่ห้อไหน คุ้มค่า ปลอดภัยกับลูกน้อย

                  ทิชชู่เปียก ไอเท็มขาดไม่ได้สำหรับคุณแม่ของลูกทุกวัย ทั้งวัยเบบี๋ที่ต้องทำความสะอาดบ่อยๆและรวดเร็ว ไปจนถึงลูกวัยซน สนุกจนเปรอะเปื้อนตลอดเวลา แถมยังใช้เช็ดทำความสะอาดอื่นๆได้สะดวกสบาย พกพาง่าย ใช้ได้ตลอดเวลา แต่แม่รู้ไหม ทิชชู่เปียก ชุ่มๆที่ดูสะอาดเหมือนกัน กลับมีคุณภาพแตกต่างกัน และอาจไม่ใช่ทุกแบรนด์ที่เหมาะกับลูกตัวน้อย

                  คุณแม่จะเลือกซื้อ ทิชชู่เปียก อย่างไรให้มั่นใจได้ว่าปลอดภัย ไม่เป็นอันตรายกับผิวของลูกน้อย สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้คือ “ต้องทำความสะอาดได้ดีเยี่ยม “ เช็ดครั้งเดียวอยู่!! คุณภาพดี คุ้มราคา  Amarin Baby & Kids จัดหนักคว้า 16 แบรนด์ดัง 17 รุ่นทิชชู่เปียก มารีวิวกันแบบชัดๆ ที่นี่เลย

                  ทิชชู่เปียก เลือกยังไงให้ปลอดภัย ใช้ได้กับลูกเบบี๋

                  ลูกเบบี๋เป็นวัยที่ใช้ทิชชู่เปียกมากที่สุด คุณแม่ส่วนใหญ่เริ่มใช้ทันทีหลังคลอด เพราะหนูน้อยจะเปรอะเปื้อนได้ง่าย ทั้งจากการขับถ่ายอุจจาระ ปัสสาวะ รวมกันราว 3 – 4 ครั้งวัน เมื่อต้องเปลี่ยนผ้าอ้อม หรือผ้าอ้อมสำเร็จรูป ต้องเช็ดทำความสะอาดให้หมดจด เพราะมิเช่นนั้นสิ่งสกปรกหมักหมม เป็นที่สะสมของเชื้อโรค และทำให้ลูกเจ็บป่วยได้ แต่การใช้น้ำล้าง หรือผ้าชุบน้ำอาจไม่สะดวก โดยเฉพาะคุณแม่มือใหม่ที่ยังต้องปรับตัวกับการเลี้ยงลูก

                  การใช้ทิชชู่เปียกจึงช่วยให้เรื่องทำความสะอาด  และเปลี่ยนผ้าอ้อมง่ายขึ้น โดยใช้ผ้าเปียกที่มีคุณสมบัติอุ้มน้ำ เช็ดเบาๆในบริเวณที่ต้องการ ก็กลับมาสะอาดในเวลาไม่นาน แถมยังประหยัดขึ้นเพราะทิชชู่ 1 แผ่น ก็เช็ดได้นาน กรณีที่ไม่ได้เช็ดสิ่งปฏิกูล คุณแม่ยังใช้เช็กคราบนม คราบน้ำลายบนใบหน้าและส่วนต่างๆ ของร่างกายได้ทั่วถึง บรรจุอยู่ในหีบห่อขนาดเล็ก น้ำหนักเบา จึงพกติดตัวไปใช้ได้ทุกที่ บางบ้านยังมีทิชชู่เปียกไว้ใช้ทั้งครอบครัว

                  ภายใต้คุณสมบัติน่าปลื้มของทิชชู่เปียก กลับแฝงไปด้วยส่วนประกอบหลายอย่างที่อาจเป็นอันตรายต่อลูกน้อย โดยเฉพาะวัยทารก ซึ่งมีผิวบอบบาง แพ้ง่าย  เพราะในท้องตลาดมีสินค้าทั้งจากแบรนด์สินค้าแม่และลูกที่คุ้นเคย แบรนด์กระดาษชำระทั่วไป และแบรนด์หน้าใหม่ต่างๆ คุณแม่จำเป็นศึกษาข้อมูลและพิจารณาให้ดีก่อนซื้อมาใช้

                  แม่ต้องรู้ ทิชชู่เปียก ไม่ใช่กระดาษ

                  แม้ชื่อทิชชู่เปียกจะเรียกเหมือนกับกระดาษชำระ จริงๆแล้วไม่ได้ทำมาจากกระดาษ และเครื่องสำอางควบคุม เนื้อผ้า Spunlace non-woven  ทำจากวัตถุดิบแตกต่างในแต่ละแบรนด์ บ้างทำจากเยื่อกระดาษ  ใยไผ่ธรรมชาติ หรือใยพลาสติกที่ผ่านกระบวนการทางเคมี โดยสังเกตได้ง่ายๆจาก “เนื้อผ้า” ถ้าทิชชู่เปียกเนื้อแข็ง ไม่อุ้มน้ำ หรืออุ้มน้ำน้อยแสดงว่าทำมาจากเส้นใยพลาสติก แต่ถ้ามีส่วนผสมเยื่อกระดาษมาก เนื้อผ้าจะแข็งกระด้าง ซึ่งทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวลูกน้อยได้

                  น้ำเป็นส่วนผสมหลักแต่ไม่ใช่ทั้งหมด

                  เวลาเช็ดทิชชู่จะมีน้ำเปียกหมาดๆติดบนผิว ให้ความรู้สึกเหมือนเช็ดด้วยผ้าชุบน้ำ แต่แม่รู้ไหม น้ำเป็นส่วนประกอบสำคัญของทิชชู่เปียกที่มีทั้ง น้ำบริสุทธิ์ น้ำเกลือ และน้ำกลั่น DI ซึ่งมักใช้ในการผลิตเครื่องสำอาง แต่น้ำไม่ใช้ส่วนผสมเพียงอย่างเดียว แม้จะมองไม่เห็น ใน ทิชชู่เปียก ยังใช้สารเคมีอื่นๆ ได้แก่ กลุ่มสารลดความตึงผิว Polysorbate, Cpcamidopropyl betaine กลุ่มสารกันเสีย เช่น, Chlorhexidine Degluconate, Benzoil acid และ Methylparaben เป็นต้น รวมถึงการกลิ่นหอม และสารบำรุงผิวอีกด้วย

                  อ่านต่อ วิธีเลือกทิชชู่เปียกให้เหมาะกับลูกน้อย หน้า 2

                    ตัวต่อแม่เหล็ก

                    อุทาหรณ์..หมอผ่าตัดเจอ! ตัวต่อแม่เหล็ก ในท้องเด็ก ยาวกว่า 15 ซม.

                    อุทาหรณ์!! หมอผ่าตัดเจอ ตัวต่อแม่เหล็ก ในท้องเด็ก! ยาวกว่า 15 ซม. ของเล่นที่พ่อแม่หวังซื้อมาเพื่อเสริมทักษะ พัฒนาสมองลูก หากปล่อยให้เล่นโดยไม่ระวังอาจเป็นภัยร้ายได้!!

                    อุทาหรณ์..หมอผ่าตัดเจอ! ตัวต่อแม่เหล็ก ในท้องเด็ก

                    ตัวต่อแม่เหล็ก หรือ ชุดต่อแม่เหล็กฝึกพัฒนาการ ของเล่นที่คุณพ่อคุณแม่ซื้อมาให้ลูกเล่น เพื่อช่วยฝึกพัฒนาสมอง พัฒนาทักษะ ฝึกสามธิ พัฒนาไอคิว เสริมการเรียนรู้ ซึ่ง ตัวต่อแม่เหล็กเสริมทักษะ นี้สามารถต่อเป็นรูปทรงเรขาคณิตได้หลากหลาย สร้างสรรค์จินตนาการให้กับเด็กได้เป็นอย่างดี … แต่คุณพ่อคุณแม่รู้หรือไม่? ว่าของเล่นชนิดนี้ไม่ปลอดภัย!!!

                    ตัวต่อแม่เหล็ก

                    Must read : ของเล่น เสี่ยงอันตราย 9 ประเภท ที่ไม่เหมาะให้ลูกเล่น

                    เพราะล่าสุดมีข่าวเด็กชายวัย 6 ขวบ เกิดปวดท้องอย่างหนัก เมื่อพาไปโรงพยาบาล คุณหมอเอกซเรย์จึงพบของเล่นตัวต่อเหล็กดูด 6 ชิ้น ยาวต่อกันกว่า 15 เซนติเมตร ในลำไส้ ซึ่งมีแม่เหล็ก 3 ชิ้น ที่เหล็กเปลี่ยนสีไปแล้ว

                    ตัวต่อแม่เหล็ก
                    ขอบคุณภาพจากเว็บไซต์ www.amarintv.com

                     

                    โดย นพ.ธีระวัฒน์ ศรีนัครินทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารโรงพยาบาลราชพฤกษ์ จ.ขอนแก่น พร้อมด้วย นพ.สมบัติ อาษารัฐ ศัลยแพทย์ ได้ออกมาเปิดภาพเอกซเรย์ (X-rays) ของเด็กชายวัย 6 ขวบ ที่มาหาหมอด้วยอาการปวดท้องช่วงกลางดึก ก่อนจะเอกซเรย์พบภายในลำไส้เล็ก เป็นแท่งเหล็กกลม กว้างประมาณ 3 เซนติเมตร ยาว 15 เซนติเมตร

                     

                    ซึ่งคุณพ่อของเด็กได้เล่าอาการว่า ลูกชายปวดท้องในบางท่วงท่า เช่น เวลานอนคว่ำจะปวดท้องมาก แต่เมื่อลุกขึ้นนั่งก็จะหายปวด และเมื่อคุณหมอตรวจอาการเบื้องต้น ก็ไม่พบความผิดปกติใดๆ จึงนำเด็ก เข้าห้องเอกซเรย์ ก่อนจะพบว่ามีแท่งเหล็กยาว 15 เซนติเมตร

                    ตัวต่อแม่เหล็ก
                    ภาพเอกซเรย์ ตัวต่อแม่เหล็ก ในท้องเด็ก ยาวกว่า 15 ซม.

                    แต่คุณหมอเองก็ยังไม่ทราบว่าเป็นแท่งเหล็กหรือวัตถุใด จึงได้เรียกพ่อของเด็กมาดู ทันทีที่พ่อเด็กได้เห็นแท่งเหล็ก ก็ทราบว่าเป็น ตัวต่อแม่เหล็ก ของเล่นที่ซื้อมาให้ลูกเล่นก่อนหน้านี้แน่นอน เพราะมีลักษณะคล้ายกับตัวต่อแม่เหล็กดูด เสริมพัฒนาการของเด็ก ซึ่งเหล็กตัวต่อนี้ เข้าไปอยู่ในอวัยวะที่ลึก ไม่สามารถที่จะนำออกมาได้ด้วยการส่องกล้อง ทีมคุณหมอจึงต้องทำการผ่าตัด

                    Must read : วิธีเลือกของเล่นให้ลูก อย่างไรให้ปลอดภัย

                    ทั้งนี้คุณหมอยังระบุอีกว่า… เด็กชายรายนี้น่าจะทยอยกลืนแท่งเหล็กนี้เข้าไปก่อน 3 ชิ้น คาดว่าน่าจะนานถึง 1 เดือน เพราะเหล็กเริ่มเปลี่ยนจากสีปกติเป็นสีดำ หลังจากนั้น เดือนมกราคมที่ผ่านมา ก็กลืนลงไปอีก 3 ชิ้น ทำให้เหล็กตัวต่อทั้งหมดไปเรียงกันในช่องท้องและลงไปอยู่ในลำไส้เล็ก เพราะของเล่นเสริมพัฒนาการตัวนี้เป็นเหล็กดูดที่ดูดกันค่อนข้างแรง (แม่เหล็กแรงสูง)

                    โดยขณะที่ทำการผ่าตัดนั้น เหล็กดูดตัวนี้ก็ได้ดูดติดเครื่องมือแพทย์ออกมาอย่างง่าย ทำให้การผ่าตัดผ่านไปด้วยดี ซึ่งขณะนี้เด็กชาย 6 ขวบ รายนี้อาการปลอดภัยแล้ว

                    และภายหลังจากที่เด็กชายเข้ารับการรักษา พี่สาวของเด็กคนนี้ ก็ได้ออกมาสารภาพกับพ่อว่า น้องเคยกลืนแท่งเหล็กนี้ให้ดูต่อหน้าถึง 2 ชิ้น แต่พี่สาวไม่กล้าบอกพ่อเพราะกลัวโดนดุ ก่อนจะมาสารภาพหลังจากที่น้องชายปวดท้องกระทั่งได้รับการผ่าตัด นำของเล่นชิ้นนี้ออกจากช่องท้อง

                    คลิปแถลงข่าว! หมอผ่าตัด ตัวต่อแม่เหล็ก ในท้องเด็ก ยาวกว่า 15 ซม.
                    โรงพยาบาลราชพฤกษ์ จ.ขอนแก่น

                    ขอบคุณคลิปจาก : Yotsawin

                    Must read : วิธีช่วยชีวิตลูก สิ่งแปลกปลอมติดคอ สำลักอาหาร (มีคลิป)

                    อย่างไรก็ดีเรื่องเด็กๆกลืนกินสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในร่างกายจะพบบ่อยๆมาก เช่น เหรียญบาท ลูกปัด ยางลบ กระดุม วัตถุเล็กๆที่เด็กกลืนกินได้ พลาสติกเล็กๆ ทางโรงพยาบาลจึงขอแถลงข่าวเพื่อให้ความรู้กับประชาชนที่เป็นพ่อแม่เด็ก โดยเฉพาะคนที่มีลูกหลาน อายุ 1- 8 ขวบ ให้ระมัดระวังในการเลือกซื้อของเล่น ซึ่งของเล่นชิ้นเล็กอาจจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ จึงควรให้อยู่ในสายตาตลอดเวลาในขณะเล่น เพราะด้วยนิสัยของเด็กนั้นชอบกลืนสิ่งของที่มีขนาดเล็ก ซึ่งที่ผ่านมาก็มีข่าวมากมายและพบเด็กเข้ามารับการรักษาด้วยการมีสิ่งแปลกปลอมในช่องท้องอยู่เป็นประจำ … ซึ่งเรื่องแบบนี้สามารถป้องกันได้โดยการเฝ้าระวัง และบอกเด็กก่อนเริ่มเล่น เพื่อลดความสูญเสียกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นมาจนเป็นอันตรายกับเด็ก และถึงชีวิตได้

                     

                    อ่านต่อบทความอื่นน่าสนใจ คลิก :


                    ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก : www.springnews.co.th

                     

                    เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                      ลดน้ำหนักเด็กอ้วน ด้วย 10 เมนูอาหารจานเด็ด

                      คุณพ่อ คุณแม่หลายคนอาจเข้าใจว่าเด็กอ้วนเป็นเด็กน่ารัก ดูแล้วจ้ำม่ำ น่าฟัด แต่ความจริงแล้วลูกน้อยของคุณพ่อ คุณแม่ อาจกำลังป่วยเป็นโรคอ้วนอยู่ ซึ่งมักจะพบกับปัญหาสุขภาพที่ตามมากับความอ้วนนั้นด้วย แม่น้องเล็กจึงมีเมนูตัวช่วย ลดน้ำหนักเด็กอ้วน ง่ายๆ ที่จะช่วยลูกน้อยได้

                      Continue reading “ลดน้ำหนักเด็กอ้วน ด้วย 10 เมนูอาหารจานเด็ด”

                        ฝันว่าได้อุ้มทารกแรกเกิด

                        ฝันว่าได้อุ้มทารกแรกเกิด ใครฝันแบบนี้รู้ไว้กำลังมีโชค!

                        ทำนายฝัน ฝันว่าได้อุ้มทารกแรกเกิด อุ้มเด็ก ฝันว่าได้อุ้มทารกผู้หญิง ใครฝันเกี่ยวกับเด็กเตรียมตัวให้ดี คุณกำลังจะเป็นเศรษฐี มีโชคใหญ่ อาจถูกรางวัลที่หนึ่งได้

                        ฝันว่าได้อุ้มทารกแรกเกิด ใครฝันแบบนี้รู้ไว้กำลังมีโชค!

                        สังคมไทยในสมัยนี้ยังมีความเชื่อเกี่ยวกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่ ซึ่งความเชื่อนั้นก็มีหลากหลายรูปแบบแตกต่างกันไป การนอนหลับแล้วฝัน ก็เป็นอีกหนึ่งความเชื่อโดยเป็นเหตุการณ์เสมือนจริง ซึ่งบางครั้งเหตุการณ์นั้นก็บ่งบอกถึงอนาคตได้ ดังนั้นความฝันจึงเป็นอีกหนึ่งความเชื่อสำคัญของคนไทย โดยความฝันนี้ก็มีคำทำนายจากคนโบราณต่าง ๆ นานา บ้างก็เป็นเรื่องดีบ้างก็เป็นเรื่องร้าย

                        สำหรับความฝันใครที่ฝันว่าได้อุ้มเด็กทารกแรกเกิด ฝันว่าได้อุ้มทารกผู้หญิง  หรือ ฝันเห็นเด็ก หลายคนอาจสงสัยว่าหมายถึงตัวเองกำลังจะท้องมีลูกหรือเปล่า? แต่แท้จริงความหมายของการฝันถึงเด็ก ฝันเห็นทารก ฝันว่าได้อุ้มเด็กเลี้ยงเด็ก ไม่ได้แปลว่าจะได้ลูกตรงๆ เหมือนความฝัน ซึ่งการฝันแบบนี้รู้หรือไม่? คุณอาจกำลังเป็นเศรษฐีในอนาคตแบบไม่รู้ตัว!!

                        ฝันว่าได้อุ้มทารกแรกเกิด จะมีโชคใหญ่
                        ฝันว่าได้อุ้มทารกแรกเกิด จะมีโชคใหญ่

                        ตำรวจประจำห้องวิทยุ สน.บางโพงพาง ถูกรางวัลที่ 1 รับ 30 ล้านบาท เป็นเศรษฐีในชั่วพริบตาครั้งนี้ เปิดเผยเมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 16 ต.ค.ที่ สน.บางโพงพาง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มี ร.ต.ต.ชาญณรงค์ องอาจ อายุ 53 ปี รอง สวป. สน.บางโพงพาง อยู่บ้านเลขที่ 139/104 ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม. ถูกรางวัลที่ 1 สลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 16 ตุลาคม 2558 จำนวน 5 ใบ มูลค่า 30 ล้านบาท จึงได้เดินทางไปตรวจสอบความจริง

                        ที่ห้องวิทยุ สน.บางโพงพาง ผู้สื่อข่าวพบกับ ร.ต.ต.ชาญณรงค์ องอาจ รอง สวป.สน.บางโพงพาง ปฏิบัติหน้าที่ประจำห้องวิทยุ กำลังปฏิบัติงานอยู่ ได้เปิดเผยถึงเรื่องที่ตัวเองกลายเป็นผู้โชคดีถูกลอตเตอรี่ รางวัลที่ 1 ได้รับเงินรางวัล 30 ล้านบาท ว่า ที่ผ่านมาเคยซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลมาแล้วหลายครั้ง ถูกรางวัลบ้าง ไม่ถูกรางวัลบ้าง ไม่ได้ซื้อเยอะงวดละใบ สองใบ ก่อนไปซื้อลอตเตอรี่ในช่วงเช้าวันนี้ เป็นเพราะเมื่อคืนฝันว่าได้อุ้มเด็กผู้ชาย และทาแป้งให้เด็กทั้งตัว ก่อนจะตื่นมาปรึกษาภรรยา พร้อมกับคิดว่าเป็นฝันที่ดี จึงไปซื้อลอตเตอรี่ภายในสวนลุมพินี หน้าตึกอื้อจื่อเหลียง พอดีเหลือบไปเห็นพ่อค้าขายลอตเตอรี่ที่แขนขวาพิการ เลยซื้อเลขท้าย 30 จำนวน 5 ใบ กลับได้เบอร์ 968630 มาทั้งหมด ในราคา 400 บาท ทั้งนี้ไม่ได้คาดหวังอะไร คิดเพียงแค่จะถูกเลขท้าย 2 ตัวก็พอแล้ว

                        ข้อมูลอ้างอิงจาก ไทยรัฐออนไลน์: รตต.ดวงเฮงถูกหวย 30ล. ข่าววันที่ 17/10/2558

                        คำทำนายฝัน หากคุณฝันเกี่ยวกับเด็ก

                        ขึ้นชื่อว่าเด็กแล้วละก็ ใครพบเจอ หรือสัมผัสย่อมพบแต่ความสุข ด้วยความน่ารักของเด็กน้อย ไม่เว้นแม้แต่ความฝัน หากคุณกำลังฝันถึงเด็กทารก แน้วโน้มส่วนใหญ่มักออกมาในทิศทางที่ดีน้อย ดีมาก ไปจนถึงอาจเป็นเศรษฐีเลยทีเดียว

                        ฝันเห็นเด็กทารก

                        หาก ฝันเห็นเด็กทารก ทำนายว่า หากคิดอะไรก็จะเป็นไปตามที่คิด แต่ในช่วงนี้ให้ระวังเนื้อระวังตัว เพราะอาจจะมีคนที่คิดร้ายหรือทำให้คุณต้องเหนื่อยใจกังวลใจ โดยเฉพาะเพศตรงข้าม และขอเตือนว่าจะมีคนเข้ามาขอความช่วยเหลือจากคุณ แต่ควรคิดให้ดีก่อนเพราะเขาอาจนำความเดือดร้อนมาถึงตัวคุณได้

                        ความรัก : คนมีคู่อาจมีเรื่องผิดใจกันด้วยการเอาความคิดของตัวเองเป็นใหญ่ ควรลดทิฐิซักหน่อยเพื่อจะได้กลับมาหวานชื่นเหมือนเดิม

                        การงาน : ไม่ค่อยราบรื่นเท่าไหร่ เพราะจะมีผู้ที่ไม่หวังดีคอยขัดขาเป็นอุปสรรค ต้องคอยระวัง

                        การเงิน : ต้องใช้อย่างมีสติ เพราะจะมีเรื่องทำให้ต้องเสียเงินจากคนใกล้ตัว เงินเข้ามาก็จะมีบ้างจากงานที่ทำอยู่

                        ฝันว่าได้อุ้มทารกแรกเกิด ฝันว่าได้อุ้มทารกผู้หญิง
                        ฝันว่าได้อุ้มทารกแรกเกิด ฝันว่าได้อุ้มทารกผู้หญิง

                        ฝันว่าได้อุ้มเด็กทารกแรกเกิด

                        ฝันว่าได้อุ้มเด็ก ฝันว่าอุ้มทารกแรกเกิด ฝันว่าได้อุ้มทารกผู้หญิง ฝันว่าได้อุ้มทารกผู้ชาย ฝันทั้งหลายเหล่านี้แปลว่าคุณกำลังจะได้รับโชคลาภจากหลากหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นจากคนที่เรารักหรือการเสี่ยงดวง ควรหาจากคนที่เพิ่งเจอกันไม่รู้จักกันและส่วนมากดวงจะมาจากทางทิศตะวันออก นอกจากนี้ยังมีเกณฑ์ที่จะได้ออกเดินทางอีกด้วย

                        ความรัก : คนที่ยังโสดอยู่ระยะนี้จะได้เจอคนที่ใช่ ให้เริ่มเป็นเพื่อนก่อนพัฒนาเป็นขั้นต่อไป ส่วนใครที่มีคู่แล้วให้ระวังการใช้คำพูด เพราะการพูดโดยใช้อารมณ์นั้นอาจทำให้อีกฝ่ายเสียใจ ดังนั้นควรคิดก่อนพูดเสมอ

                        การงาน : ช่วงนี้จะสมหวังในหน้าที่การงานโดยเฉพาะงานที่กับการพูดคุย ถ้ามีอุปสรรคก็ไม่ต้องห่วงเพราะคุณจะผ่านมันไปได้ บางทีอาจจะได้ทำงานที่ใหม่ๆ

                        การเงิน : ไม่ต้องห่วงเพราะจะมีเงินเข้ามาในกระเป๋าคุณมากเงินที่คุณต้องจ่ายแต่ก็ต้องประหยัดด้วย

                        Must read : ฝันว่าตัวเองท้อง ลางดีหรือลางร้าย? ฝันแบบไหนถึงได้ลูก?

                        Must read : ฝันว่าท้อง แปลว่า กำลังจะมีลูก เรื่องจริงหรือคิดไปเอง?

                        ฝันว่าได้อุ้มเด็กทารกแรกเกิด ฝันดีมีโชค!!
                        ฝันว่าได้อุ้มเด็กทารกแรกเกิด ฝันดีมีโชค!!

                        ฝันว่าได้เลี้ยงเด็กทารก

                        หาก ฝันว่าได้เลี้ยงทารก ทำนายว่าจะเจอเรื่องที่ทำให้ปวดหัว อารมณ์เสียได้ ส่วนมากจะมาจากคนที่เป็นเพศตรงข้าม และระวังการใช้ชีวิตด้วย เพราะช่วงนี้คุณอาจขี้หลงขี้ลืมทำของหายบ่อย ๆ จะพูดจาอะไรก็ควรคิดก่อนพูดเสมอ เพราะมีคนที่คิดไม่เหมือนกับคุณ

                        ความรัก : คนโสดยังคงต้องรอไปก่อน ทำอะไรแก้เหงา ออกไปเที่ยวหากิจกรรมสนุกๆทำ ส่วนคนมีคู่ต้องระวังเพราะแฟนคุณอาจนอกใจ และใครที่แอบซ่อนกิ๊กก็ระวังเพราะอาจถูกจับได้

                        การเงิน : ช่วงนี้จะใช้จ่ายอะไรก็คิดให้ดีๆ ก่อนเพราะคุณจะมีรายจ่ายเยอะ โดยมีทั้งคนมาขอยืมเงินและระวังจะโดนโกงไม่จ่ายเงินคืน เรื่องเสียเงินจะมาจากความใจดีที่มีต่อเพศตรงข้าม ควรจะเก็บเงินสำรองไว้บ้าง คิดหน้าคิดหลังให้ดีก่อนจะได้เป็นผลดีกับตัวคุณ

                        ฝันเห็นเด็ก

                        ทำนายว่าช่วงนี้กำลังมีดวงที่ดี อาจจะได้รับทรัพย์อีกไม่นาน แต่จะมีคนเข้ามาขอความช่วยเหลือ เข้ามาบอกเรื่องความลำบากหรือสิ่งที่ทำให้ไม่สบายใจจนคุณได้ฟังแล้วต้องยอมที่จะช่วยเหลือเขา ควรระวังเรื่องการพูด คิดก่อนพูดเสมอไม่งั้นตอาจจะเดือนร้อนเพราะมีคนที่คิดร้ายคอยเล่นงานคุณอยู่

                        ความรัก : คนที่ยังโสดอยู่ในเวลานี้ หากมีคนที่แอบชอบแอบรักอยู่ ก็ให้รีบบอกความในใจไปตรงๆ เลย เพราะเวลานี้เหมาะที่สุดแล้ว ส่วนคนที่มีคู่ต้องระวังคู่ตัวเองให้มาก เพราะคู่รักกับเพื่อนของคุณอาจจะมีอะไรที่ลึกซึ้งกันอยู่ก็ได้

                        การงาน : ช่วงนี้อาจจะมีงานที่รัดตัว ส่วนใครที่กำลังเบื่อที่ทำงานเดิม มีโอกาสเปลี่ยนแปลงได้ที่ทำงานใหม่ ๆ ทำให้ได้แสดงฝีมือที่คุณมีอย่างเต็มที่

                        การเงิน : จะมีรายจ่ายเข้ามาเรื่อยๆ ต้องประหยัดกันหน่อย

                        ฝันเห็นเด็กผู้ชาย ดีหรือร้ายกันนะ
                        ฝันเห็นเด็กผู้ชาย ดีหรือร้ายกันนะ

                        ฝันเห็นเด็กผู้ชาย

                        ฝันเห็นเด็ก เป็นเด็กผู้ชาย แปลว่าจะมีเรื่องดีๆ เกิดขึ้น จะได้รับโชคลาภจากคนรัก ควรระวังเรื่องสุขภาพของคนในบ้านให้ดีอาจจะมีเรื่องเจ็บป่วยเกิดขึ้นแต่ก็ไม่หนักมากเท่าไหร่

                        ความรัก : มีหลากหลายความเชื่อ บ้างก็ว่าคนโสดอยู่คงต้องรอต่อไป แต่ไม่นานเกินรอ บ้างก็ว่าใครที่ยังไม่มีคู่กำลังตามหารักอยู่ช่วงนั้นจะมีคนมาตีสนิทเป็นรุ่นน้องจะคุยกันในฐานะเพื่อน ก่อนจะเปลี่ยนความสัมพันธ์เป็นแฟน บ้างก็ว่าคนที่มีคู่แล้วสถานะตอนนี้ไม่แน่นอนว่าเป็นแฟนหรือเป็นอะไรกันแน่

                        การเงิน : อีกไม่นานจะได้รับเงินก้อนใหญ่จากงานที่ทำอยู่ แต่ต้องระวังการใช้เงินให้มากๆ ของที่ต้องการจะชื้อก็ควรที่จะคิดถึงเงินในกระเป๋าให้มากๆ ก่อนด้วย

                        ฝันเห็นเด็กผู้หญิง ฝันว่าได้อุ้มผู้หญิง จะตั้งท้องไหมนะ?
                        ฝันเห็นเด็กผู้หญิง ฝันว่าได้อุ้มผู้หญิง จะตั้งท้องไหมนะ?

                        ฝันเห็นเด็กผู้หญิง

                        แต่ถ้า ฝันเห็นเด็ก เป็นเด็กผู้หญิง ทำนายว่าในช่วงนี้ถือว่าดวงไม่แย่เท่าไหร่ เพราะเวลาคุณมีปัญหาจะมีคนที่เข้ามาช่วยเรื่อยๆ ชีวิตของคุณจะมีความสุขมากกว่าทุกครั้งที่เคยเป็น มีสีสัน คนอื่นเห็นแล้วต้องอิจฉาไปตามๆกัน แต่ต้องอย่าลืมดูแลตัวเองด้วยเพราะอาจมีปัญหาสุขภาพเข้ามาได้

                        ความรัก : คนโสดถ้ากำลังหาคนรู้ใจ แนะนำให้ขอความช่วยเหลือจากเพื่อนให้เป็นพ่อสื่อแม่สื่อให้รับรองว่าสมหวังแน่นอน แต่ถ้าจะให้ดีคนที่คบควรมีอายุใกล้เคียงกัน ใครที่มีคู่แล้วอาจจะมีปัญหาเกิดปากเสียงกัน ดังนั้นการเข้าใจอีกฝ่ายจึงเป็นเรื่องที่สำคัญหลีกเลี่ยงการทะเลาะ ควบคุมอารมณ์ของตังเองให้ได้ ถ้าทำได้รักของคุณก็จะดีตลอดไป

                        การงาน : ช่วงนี้ต้องอดทนต่อไปอีกนิดงานที่ทำอยู่จึงจะลุล่วงไปด้วยดี

                        การเงิน : มีเกณฑ์จะได้รับทรัพย์ก้อนโตจากงานธุรกิจของคุณ ธุรกิจนั้นอาจจะมีคนมาร่วมทำธุรกิจ ดังนั้นจึงต้องระมัดระวังผลประโยชน์ของทั้งสองฝ่าย

                         

                        ฝันเห็นเด็กมาขออยู่ด้วย

                        หากคุณฝันเห็นเด็กมาขออยู่ด้วย ทำนายว่าช่วงนี้จะดวงดีเลยและดีขึ้นเรื่อยๆ ใครที่มีลูกหนี้ก็จะได้เงินคืนในเวลาไม่นาน แต่อาจมีเรื่องที่ทำให้คุณเดือดร้อน กังวลใจเข้ามาแบบไม่ทันตั้งตัว ส่วนมากเรื่องจะเกิดจากคนในครอบครัวพี่

                        ความรัก : คนโสดยังคงต้องอยู่คนเดียวไปก่อน อีกไม่นานอาจได้เจอคนที่ใช้ แต่ก็มีอีกความเชื่อว่า จะได้เจอกับคนที่คุณถูกใจ อาจเกิดขึ้นได้กับทั้งคนที่มีคู่แล้วหรือยังไม่มี

                        การงาน : ในตอนนี้กำลังดีเลย ความคิดเห็นของคุณจะเป็นสิ่งที่ทุกคนยอมรับและเห็นด้วย ให้ใช้ความสามารถที่มีอยู่อย่างเต็มประสิทธิภาพ มีสติในการทำงานอยู่เสมอ และหากมีปัญหาก็จะมีเพื่อนๆคอยช่วยอยู่เสมอ งานที่เกี่ยวกับการค้าขายต้องเปลี่ยนรูปแบบการค้าขายแบบใหม่เพื่อวามเจริญรุ่งเรืองของธุรกิจ

                        ฝันว่าได้อุ้มทารกแรกเกิด สัญญาณแห่งความร่ำรวย
                        ฝันว่าได้อุ้มทารกแรกเกิด สัญญาณแห่งความร่ำรวย

                        ฝันเห็นเด็กมาขอเกิดเป็นลูก

                        หากฝันเห็นเด็กมาขอเกิดเป็นลูก ทำนายว่าระยะนี้พอจะมีโชคอยู่บ้างแต่ก็ไม่มากเท่าไหร่ แต่ที่มาเยอะๆเลยน่าจะเป็นดวงไม่ดีมากกว่า อาจจะเจอเรื่องที่ทำให้ต้องเดือดเนื้อร้อนใจจากคนในครอบครัวส่วนมากจะเป็นที่อายุน้อยกว่าคุณ อย่าใช้อารมณ์ควรมีสติทุกครั้ง หาเวลาว่างทำบุญเข้าวัดบ้าง

                        ความรัก : ใครที่ยังอยู่คนเดียวหรือโสดอยู่จะได้เจอกับคนที่ถูกใจ อาจเกิดขึ้นได้กับทั้งคนที่โสดหรือมีคู่แล้ว แต่ระวังอย่าคิดคบซ้อน ส่วนคนที่มีคู่รักอยู่แล้วหมั่นเพิ่มความหวานให้กันและกันให้มากๆ เพราะชีวิตคู่จะดีหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับคุณ

                        การงาน : บอกได้เลยว่าช่วงนี้หน้าที่การงานรุ่งมาก เพื่อนร่วมงานจะให้ความช่วยเหลือและยอมรับในผลงานของคุณ

                        การเงิน : มีเกณฑ์ว่าลูกหนี้ที่หายหน้าหายตาไปนานจะกลับมาคืนเงิน

                        อย่างไรก็ดีทุกคนต่างก็สามารถนอนหลับฝันได้ ซึ่งไม่ว่าความฝันนั้นจะเป็น ฝันเห็นเด็กทารก หรือ ฝันว่าอุ้มเด็กทารกแรกเกิด ก็ตาม คำทำนายฝันบางครั้งก็มีความหมายเพียงเพื่อสร้างความหวังหรือเป็นกำลังใจให้คนที่กำลังสิ้นหวังอยู่ ให้ชีวิตกลับมามีความสดใสอีกครั้ง ซึ่งทั้งหมดนี้ก็ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องของความเชื่อของแต่ละคน แต่ถ้าอยากให้ฝันเป็นจริงนอกจากการสร้างกำลังใจจากคำทำนายฝันแล้ว เราก็คงต้องลงมือทำด้วย สิ่งที่วาดฝันไว้ถึงจะสำเร็จได้ จริงไหม?

                        ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก : horoscope.trueid.net , mumeaw.com/horoscope

                        อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

                        6 เรื่องจริงของความฝัน ฝันว่าตั้งท้อง หมายความว่าอย่างไร?

                        อยากมีลูกต้องทำไง ? ลอง 9 วิธีแบบธรรมชาติและวิทยาศาสตร์ ลูกมาแน่

                        รวม กระบวนท่ารัก (sex) สำหรับทำลูกสาว-ลูกชาย

                        ฝันเห็นแม่ที่เสียไปแล้ว ฝันดีหรือร้าย ทำนายฝันเลขเด็ด!!

                        เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                          โรงแรมที่มี kids club

                          เอาใจคนมีลูก 5 โรงแรมที่มี kids club ใน 5 จังหวัดท่องเที่ยว

                          ใกล้ถึงวันหยุด นอกจากจะมองหาที่เที่ยวกันแล้ว วันนี้ทีมแม่ ABK ขอเสนอที่พักเอาใจเด็ก ๆ โรงแรมที่มี kids club ที่มีของเล่น เกม สนุก ๆ รอบริการเจ้าตัวเล็กเพียบ และกิจกรรมอื่น ๆ ที่สามารถทำกันได้ทั้งครอบครัว อีกทั้งที่พักก็ฟิน อิ่มไปกับบรรยากาศวิวสวย สะดวกสบายไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก เรียกว่าจะทำให้ทริปเที่ยวครั้งนี้เป็นความทรงจำของลูกได้แน่ ๆ มีที่ไหนน่าสนใจบ้างเปิดวาร์ปไปดูกันเลยค่า

                          เอาใจคนมีลูก 5 โรงแรมที่มี kids club ใน 5 จังหวัดท่องเที่ยว

                          1. Kalima Resort & Villas Khaolak จ.พังงา

                          Kalima Khao Lak
                          Kalima Khao Lak

                          Kalima Khao Lak เป็นโรงแรมหรูระดับ 5 ดาวแห่งใหม่ ในเขาหลัก จ.พังงา ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่เงียบสงบติดทะเล และล้อมรอบด้วยป่าชายเลน สวนยางพาราและปากแม่น้ำ ที่พักถูกออกแบบและตกแต่งโดยได้แรงบันดาลใจมาจาก วิถีชีวิตของคนงานเหมืองแร่ ในสมัยโบราณผสมผสานกับสถาปัตยกรรมสไตล์ชิโนโปรตุกีส จึงทำให้ที่นี้ดูโดดเด่นไม่ซ้ำใคร

                          Kalima Khao Lak
                          Kalima Khao Lak
                          Kalima Khao Lak
                          Kalima Khao Lak

                          ส่วนกิจกรรมและสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ก็จัดเต็มมาให้แขกที่เข้าพักได้ใช้ชีวิตในวันหยุดสมกับการเลือกมาพักผ่อนที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นกีฬาทางน้ำ พายเรือคายัค สระว่ายน้ำกลางแจ้ง แพดเดิ้ลบอร์ด จักรยานที่ให้บริการฟรี ฟิตเนส สปา ฯลฯ และที่ขาดไม่ได้คือห้อง kids club สำหรับหนู ๆ อายุ 4-12 ปี ที่ภายในมีพื้นที่และกิจกรรมสำหรับเด็ก ๆ ทั้งบ่อบอล สไลเดอร์ ม้าโยก เต็มไปด้วยอุปกรณ์ของเล่นเสริมพัฒนาการต่าง ๆ ที่จะช่วยให้เด็ก ๆ มีเวลาว่างได้นานหลายชั่วโมง ซึ่งภายในห้องออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อความปลอดภัยโดยมีพนักงานคอยดูแลอยู่อย่างใกล้ชิด และที่นี่ยังมีบริการพี่เลี้ยงเด็กสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 4 ปีตั้งแต่เวลา 8:00 น. – 18:00 น.เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่ได้มีเวลาพักผ่อนเป็นส่วนตัวสองต่อสองกันด้วยนะ (มีค่าธรรมเนียมสำหรับบริการนี้และต้องจองล่วงหน้า)

                          Kalima Khao Lak
                          Credit Photo : www.khaolak.kalimaresort.com

                          Kalima Khao Lak

                          พิกัด :3/88 หมู่ 2, ถนนเพชรเกษม,เขาหลัก, จ.พังงา

                          โทรศัพท์: 076 427 999 ,  076 427 988

                          ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.khaolak.kalimaresort.com

                          2. KC Grande Resort & Spa จ.ตราด

                          เคซี แกรนด์ รีสอร์ท แอนด์ สปา ตั้งอยู่ในมุมที่เงียบสงบของหาดทรายขาวบนเกาะช้าง จ.ตราด ที่ที่จะพาครอบครัวและเจ้าตัวเล็กมาผ่อนคลายสูดอากาศบริสุทธิ์ของสายลมเย็นสดชื่นได้อย่างเต็มที่ เดินเล่นบนหาดทรายที่ทอดยาว พร้อมกับชมวิวธรรมชาติที่สวยงาม ท้องฟ้าสีคราม มหาสมุทรสีครามระยิบระยับ และภูมิทัศน์ภูเขาเขียวขจีที่ล้อมรอบ

                          KC Grande Resort
                          Credit Photo : www.facebook.com/kckohchang

                          นอกจากชายหาดแล้วทางที่พักยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายที่จะทำให้ทุกคนในครอบครัวประทับใจ อาทิเช่น สระว่ายน้ำให้บริการมากถึง 4 สระ ซึ่งแต่ละสระก็จะมีความพิเศษแตกต่างกันไป หนึ่งในนั้นก็มีสระว่ายน้ำพร้อมสไลเดอร์ที่จะให้คุณหนู ๆ ได้สนุกกับการเล่นน้ำเย็น ๆ กันอย่างสนุกสนาน หรือจะเปลี่ยนบรรยากาศกับการลงเล่นน้ำทะเลได้ตลอดทั้งวัน และนอกจากนี้ยังมี Kids Club ที่รอต้อนรับเจ้าตัเล็ก ซึ่งมีกิจกรรมสุดสร้างสรรค์ให้ทำเพียบ ทั้งหมดนี้ที่จะทำให้การเข้าพักของทุกคนในครอบครัวเป็นที่น่าจดจำและประทับใจได้อย่างดีเลยละคะ

                           

                          เคซี แกรนด์ รีสอร์ท แอนด์ สปา
                          Credit photo : www.kckohchang.com

                          KC Grande Resort & Spa

                          พิกัด : บ้านหาดทรายขาว ตำบลเกาะช้าง อำเภอเกาะช้าง จังหวัดตราด

                          โทรศัพท์ : 0 3955 2111

                          ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.kckohchang.com

                          3. Rachawadee Resort Koh Larn จ.ชลบุรี

                          ราชาวดีรีสอร์ท เกาะล้าน
                          ราชาวดีรีสอร์ท เกาะล้าน

                          ถึงแม้ว่าที่นี้จะไม่มีห้อง Kids Club  แต่ภายในที่พักของ ราชาวดีรีสอร์ท เกาะล้าน ก็โดดเด่นไปด้วยบรรยากาศที่พักสไตล์ครอบครัวที่เด็ก ๆ เห็นแล้วต้องร้องอยากพักกันเลยละคะ เพราะที่นี่มีห้องพักสีสันสดใสเหมือนการ์ตูน มีบ้านสิบล้อในนอนพักทั้งแบบติดทะเลและไม่ได้อยู่ติดทะเล มีดาดฟ้าให้เด็ก ๆ ได้นั่งปิ้งย่างนอนดูดาว แถมด้วยโซนกิจกรรมที่มีให้ทำหลากหลายในแบบเอ้าท์ดอร์ สร้างประการณ์ในการมาเที่ยว อาทิเช่น นั่งเรือสปีดโบ๊ทดำน้ำชมปะการัง เล่นน้ำทะเล เล่นบานาน่าโบ๊ท ที่สำคัญเป็นการปักหมุดที่เดินทางไม่ไกลจากกรุงเทพ ฯ ก็ได้มาสนุกฟิน ๆ กันทั้งครอบครัวแล้วค่า

                          ราชาวดีรีสอร์ท เกาะล้าน
                          Credit Photo : www.rachawadee.com

                          Rachawadee Resort Koh Larn

                          พิกัด : เกาะล้านพัทยา

                          โทรศัพท์ : 063-542-9691, 098-664-4624, 081-177-6690 

                          ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :www.rachawadee.com

                          4. ShaSa Resort & Residences จ.สุราษฎร์ธานี

                          ShaSa Resort & Residences เป็นหนึ่งในโรงแรมหรูระดับ 5 ดาวมีชื่อเสียงที่สุดในเกาะสมุย ที่ชวนให้ฟินไปกับบรรยากาศดีที่ผสมผสานความโรแมนติกกับความงามของธรรมชาติ สวนภูมิทัศน์ที่สวยงาม วิวติดทะเล และมองเห็นเนินเขาที่สวยงามทอดยาวลาดลงไปจนถึงแหลม เป็นสถานที่พักผ่อนที่เหมาะสำหรับเพื่อนและครอบครัว มาใช้เวลาในวันหยุดและหยุดเวลาดี ๆ เอาไว้ตรงนี้ ที่พักสุดหรูของที่นี้มีบริการห้องพักหลายรูปแบบ ทั้งวิลล่าริมชายหาดส่วนตัว และห้องสวีท 32 ห้อง พร้อมระเบียงมองเห็นวิวทะเลที่กว้างขวางแบบพาโนราม่า

                          ShaSa Resort & Residences
                          ShaSa Resort & Residences

                          นอกจากที่พักสุดหรูที่จะให้คุณพ่อคุณแม่ได้มาพักผ่อนแบบฟิน ๆ แล้ว ยังมีกิจกรรมสำหรับคุณหนูทั้งเด็กเล็กเด็กโนกันด้วย อาทิเช่น สระว่ายน้ำกว้างใหญ่อลังการพร้อมวิวทะเลให้เด็ก ๆ ว่ายน้ำเล่นอย่างเพลิดเพลิน กิจกรรมดำน้ำตื้นและดำน้ำลึก เรือคายัค และกีฬาทางน้ำ ห้อง Kids Club ที่เปิดบริการให้เด็ก ๆ ได้เข้าเล่นทำกิจกรรม สนุกไปกับของเล่นเสริมพัฒนาการ เพลิดเพลินไปกับวิดีโอเกมส์ล่าสุด มีคลาส DIY ศิลปะที่จะสอนให้เด็ก ๆ วาดภาพบาติกและงานฝีมืออื่น ๆ มีหนังสือนิทาน ชุดการ์ตูนมากมาย สำหรับเด็กทุกวัย ปล่อยให้เด็ก ๆ สร้างจินตนาการได้ด้วยชุดต่อเลโก้ และอีกมากมาย โดยมีพนักงานคอยให้บริการดูแลเด็ก ๆ ที่คุณพ่อคุณแม่จะได้ใช้เวลานี้พักผ่อนกันได้อย่างเต็มที่กันเลยค่ะ

                          ShaSa Resort & Residences
                          Credit photo : www.shasahotels.com

                          ShaSa Resort & Residences

                          พิกัด : 116/1 หมู่2 ถนนทางสายรอบเกาะสมุย ตำบลมะเร็ต อำเภอเกาะสมุย สุราษฎร์ธานี

                          โทรศัพท์ 077 913 888

                          ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :www.shasahotels.com

                          5. U Khao yai จ.นครราชสีมา

                          โรงแรม ยู เขาใหญ่ ตั้งอยู่ที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ห่างจากกรุงเทพฯ เพียง 2 ชั่วโมงครึ่ง ก็จะได้พบรีสอร์ทแนวบูติก  รีสอร์ทหรูระดับสี่ดาวที่ออกแบบภูมิทัศน์และตกแต่งในสไตล์หมู่บ้านชนบทของฝรั่งเศสสวยงาม ท่ามกลางธรรมชาติอันงดงามด้วยต้นไม้เขียวขจี สวนหย่อม ทะเลสาบขนาดใหญ่ และลำธาร โอบล้อมด้วยแนวเขาและป่าไม้ของเทือกเขาสันกำแพง ใกล้กับอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ มาพักที่นี้จึงเสมือนกับมานอนบ้านพักตากอาศในอากาศ ในบรรยากาศที่สงบ ดื่มด่ำกับธรรมชาติ ให้ความรู้สึกผ่อนคลายเหมือนพากันปิดสวิตช์แล้วมาชาร์ตแบตที่นี้

                          โรงแรม ยู เขาใหญ่
                          Credit Photo : www.9aoodytravel.com

                          นอกจากความสวยงามของที่พักแล้ว โรงแรมยู เขาใหญ่ ยังพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกทันสมัยมากมาย อาทิ สระว่ายน้ำกลางแจ้งขนาดใหญ่ ห้องออกกำลังกาย และแน่นอนห้อง Kids Club & Game Room ห้องสันทนาการสำหรับคุณหนูและทุกคนในครอบครัว มีเพลย์สเตชัน ของเล่นเด็ก กิจกรรมที่จะช่วยสร้างความดึงดูดใจจากเจ้าตัวเล็ก ตลอดการเข้าพักที่นี่เลยละคะ

                          โรงแรม ยู เขาใหญ่

                          พิกัด : 99/22 หมู่ 1 ต.หมูสี อ.ปากช่อง นครราชสีมา 30130 ประเทศไทย

                          โทรศัพท์: 0 44 079 999

                          ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.uhotelsresorts.com

                          เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับโรงแรมที่มี Kids Club จัดมาเอาใจเด็ก ๆ กันโดยเฉพาะ ซึ่งก็จะทำให้คุณพ่อคุณแม่ได้มีเวลาพักผ่อนกันอย่างเต็มที่ด้วย สำหรับที่ไหนที่ถูกใจ ก่อนเดินทางไปก็ลองโทรเข้าไปสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือเช็กห้องพัก จองล่วงหน้า แล้วเก็บกระเป๋าพาเจ้าตัวเล็กเตรียมตัวไปฟินกันเลยค่า.

                          อ่านต่อบทความที่น่าสนใจอื่นๆ

                          9 โรงแรมที่มี Kids Club หัวหิน ชวนกันมาเช็กอินวันหยุด สุข สนุกทั้งครอบครัว

                          แนะนำ 6 โรงแรมที่มี kids club สำหรับครอบครัวที่มีลูกน้อยโดยเฉพาะ!

                          เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                           

                            ที่พักโฮมสเตย์

                            แนะนำ 5 ที่พักโฮมสเตย์ พาลูกไปนอน เล่น รู้ ลงพื้นที่ สัมผัสวิถีชุมชน

                            เวลาพาลูกไปเที่ยวต่างจังหวัดก็เหมือนกับการเปลี่ยนที่นอน แต่การได้นอนที่พักแบบโฮมสเตย์นั้นจะทำให้เด็ก ๆ ได้สัมผัสประสบการณ์อีกแบบที่แตกต่างจากชีวิตในเมือง มีเครื่องอำนวยความสะดวกน้อยชิ้น บางที่ไม่มีแอร์ แต่ได้สัมผัสความเย็นของธรรมชาติ กินอาหารพื้นเมือง เล่นของเล่นธรรมชาติ ทีมแม่ ABK มีโฮมสเตย์เชิงอนุรักษ์ เที่ยวสุดสัปดาห์นี้มองหา ที่พักโฮมสเตย์ ให้ลูกได้เข้าไปใกล้ชิดสัมผัสกับวิถีชุมชนกันมากขึ้นอีกนิดดีไหมคะ ไปให้ชาวบ้านมาเป็นครูสอนวิชาประสบการณ์ชีวิตให้กับเด็ก ๆ กัน

                            5 ที่พักโฮมสเตย์ พาลูกไปนอน เล่น รู้ ลงพื้นที่ สัมผัสวิถีชุมชน

                            1.โฮมกระเตงชาวเล จ.สมุทรสงคราม

                            โฮมกะเตงชาวเล
                            โฮมกะเตงชาวเล

                            พาเด็กๆ เที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่ โฮมกระเตง แล้วพักที่ “กระเตง” กันค่ะ เป็นบ้านพักลักษณะ โฮมสเตย์ที่ปลูกกลางทะเล ท่ามกลางฟาร์มหอย สร้างในทำเลที่บังคลื่นและลมแรง จึงมีความมั่นคง ปลอดภัย และได้มาสัมผัสกับวิถีชีวิตของชาวประมงพื้นบ้านอย่างใกล้ชิด นั่งล้อมวงกินข้าวไปกับอาหารทะเลสด ๆ เต็มอิ่มทุกมื้อบนกระเตง (กระท่อมของชาวประมง) อย่างเพลิดเพลินกับวิวทะเลชิล ๆ ลมเย็น ๆ พัดสบาย

                            กิจกรรมที่น่าสนใจ :  กิจกรรมท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ปลูกจิตอาสาให้กับเด็ก ๆ ด้วยการปลูกป่าชายเลน ปลูกต้นโกงกาง นั่งเรือชมวิถีชีวิตชาวประมง เรียนรู้วิธีทำฟาร์มเลี้ยงหอยแครง หอยแมลงภู่ และการทำเคย-กะปิอันเลื่องชื่อของที่นี่ ตลอดจนสนุกกับกิจกรรม นั่งเรือลุยเลน ถีบกระดานเลน พายเรือคายัค ให้อาหารลิงแสม

                            โฮมกะเตงชาวเล
                            ขอบคุณภาพจาก www.homekrateng888.com

                            โฮมกะเตงชาวเล

                            ที่อยู่ : 124/2 หมู่ 7 บ้านคลองหลวง ต.คลองโคน อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม 75000 

                            เบอร์ติดต่อ : 087-828-5420/ 081-941-9152

                            อัตราค่าบริการ : ราคาท่านละ : 1,300 บาท  เด็กต่่ากว่า 7 ขวบคิด 50 %
                            รวมอาหาร 3 มื้อ กิจกรรมเชิงอนุรักษ์ และกิจกรรมแอดเวนเจอร์แสนสนุก เรือโดนัท, พายเรือคายัค

                            ติดต่อขอรายละเอียดเพิ่มเติม : www.homekrateng888.comwww.facebook.com/homekratengchaolay

                            2.โฮมสเตย์ ชุมชนบ้านจ่าโบ่ จ.แม่ฮ่องสอน

                            “บ้านจ่าโบ่” ชื่อของชุมชนและหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่แทรกตัวอยู่ท่ามกลางหุบเขาและโอบล้อมไปด้วยธรรมชาติอันสวยงามทั้งกลางวันและกลางคืน ในอำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน ชาวบ้านส่วนใหญ่เป็นชาวลาหู่ ที่ยังคงวิถีชีวิต ธรรมเนียมและวัฒนธรรมชุมชนที่สืบสานกันมานาน

                            สำหรับสำหรับปัจจุบัน โฮมสเตย์ที่บ้านจ่าโบ่นั้น​มีที่พักเยอะ เช่น บ้านผู้ใหญ่ โฮมสเตย์ บ้านจ่าโบ่ ลานกางเต็นท์จ่าทอ & โฮมสเตย์บ้านจ่าโบ่เซเว่นกลางวิวโฮมสเตย์ชายขอบส่วนสนนราคาที่พักนั้นอยู่แค่คนละหลักร้อย ที่อาจจะมีแค่เพียงที่นอน หมอน มุ้ง แต่แลกกับวิวธรรมชาติหลักล้านที่ให้เราได้นอนชมทะเลหมอก ทะเลดาว อากาศเย็นสบาย ถือว่าคุ้มสุด ๆ ที่ได้พักกันทีเดียว เหมาะกับสำหรับครอบครัวที่อยากพาลูกมาใกล้ชิดธรรมชาติและได้เรียนรู้วิถีชาวเผ่าของที่นี่ด้วย

                            กิจกรรมที่น่าสนใจ : เรียนรู้วิถีชาวเผ่าลาหู่ ชมท่องเที่ยวเชิงเกษตร เช่น ปลูกไร่ข้าว ไร่ข้าวโพด ปลูกถั่วแดง และเลี้ยงหมูดำ ชมโรงทอผ้า การเย็บผ้า จักรสาน เดินป่าเที่ยวถ้ำศึกษาแหล่งทางธรรมชาติที่น่าสนใจ เช่น ป่าชุมชน ถ้ำตอก๊อ ถ้ำบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ และถ้ำผีแมน ร่วมกิจกรรมตามประเพณีและวัฒนธรรมชุมชม ใส่ชุดแต่งกายประจำเผ่า แวะกินก๋วยเตี๋ยวห้อยขา

                            ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งทริปที่ชวนให้ทุกคนในครอบครัวได้มาเปิดประสบการท่องเที่ยวจากการนอนรีสอร์ททั่วไป กับการมานอนโฮมสเตย์ที่อยู่ติดกับธรรมชาติ ไม่มีเครื่องอำนวยความสะดวกสบายให้ครบครัน แต่ก็ได้ฟินไปกับบรรยากาศดี ๆ ที่นี่แน่นอน แล้วอย่าลืมสอนเจ้าตัวเล็กพูดคำว่า “อะบูดาย่า” แปลว่า “สวัสดี” แบบฉบับชาวลาหู่กันก่อนมาด้วยนะคะ

                            บ้านจ่าโบ่
                            ขอบคุณภาพจาก เพจ บ้านผู้ใหญ่ โฮมสเตย์ บ้านจ่าโบ่ แม่ฮ่องสอน

                            โฮมสเตย์ ชุมชนบ้านจ่าโบ่ จ.แม่ฮ่องสอน

                            ที่อยู่ : ต.ปางมะผ้า อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน

                            เบอร์ติดต่อ : ​ผู้ใหญ่​บ้านจ่าโบ่​ 0998946196 คุณอุทัย​ บันดันทอง

                            ติดต่อขอรายละเอียดเพิ่มเติม : การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์โดยชุมชนบ้านจ่าโบ่บ้านผู้ใหญ่ โฮมสเตย์ บ้านจ่าโบ่ แม่ฮ่องสอน

                            อ่านต่อ 5 ที่พักแบบโฮมสเตย์ พาลูกไปนอน เล่น รู้ ลงพื้นที่ สัมผัสวิถีชุมชน คลิกหน้า 2

                            เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                             

                              โรงเรียนรัฐบาล

                              3 ข้อดี โรงเรียนรัฐบาล vs โรงเรียนเอกชน ต่างกันอย่างไร?

                              ปฏิเสธไม่ได้ว่า โรงเรียนรัฐบาล นั้นเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่พ่อแม่หลายคนเลือกให้ลูกได้เรียน เพราะเป็นทางออกที่ช่วยให้พ่อแม่สบายใจต่อกระเป๋าเงินที่สุดในยุคที่เศรษฐกิจค่าครองชีพก็เริ่มเพิ่มขึ้น

                              ความแตกต่างของ โรงเรียนรัฐบาล vs โรงเรียนเอกชน

                              สำหรับประเทศไทยนั้นมีการแบ่งโรงเรียนออกเป็น 2 รูปแบบ คือ โรงเรียนรัฐและโรงเรียนเอกชน โดยโรงเรียนรัฐนั้นจะบริหารจัดการโดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานหรือหน่วยงานอื่น ๆ ที่ไม่ได้สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ เช่น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นต้น ส่วนโรงเรียนเอกชนจะบริหารจัดการโดยกลุ่มบุคคลหรือมูลนิธิต่าง ๆ ที่มีใบอนุญาตจัดตั้ง (อ้างอิง th.wikipedia.org)

                              ข้อแตกต่างโรงเรียนเอกชนกับโรงเรียนรัฐบาล

                              โรงเรียนรัฐบาล นั้นนอกจากจัดเป็นโรงเรียนกระแสหลักที่ช่วยคุณพ่อคุณแม่ประหยัดค่าใช้จ่ายในแต่ละเทอมได้ค่อนข้างย่อมเยากว่าเมื่อเทียบกับโรงเรียนตัวเลือกอื่น ๆ ซึ่งอาจถูกมองว่าเป็นตัวเลือกธรรมดา แต่ปัจจุบันโรงเรียนรัฐฯ ก็มีการเรียนการสอนที่เข้มข้นไม่แพ้กับโรงเรียนในหลักสูตรอื่น ๆ โดยใช้หลักสูตรการเรียนการสอนแบบบูรณาการ เน้นที่เด็กเป็นศูนย์กลางการเรียน นำการสอนแบบต่าง ๆ มาประยุกต์ใช้เพื่อสนองต่อความต้องการของผู้เรียน เน้นให้นักเรียนดูแลและพึ่งพาตนเอง และอ่านเขียนได้ เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่วัยประถมศึกษา มีความชัดเจนในเรื่องของจำนวนนักเรียนต่อห้อง และเป็นโรงเรียนที่เปิดโอกาสให้มีการจัดการเรียนรวมสำหรับเด็กพิเศษได้สามารถมาเรียนร่วมในชั้นเรียนปกติได้

                              นอกจากนี้ยังมีโรงเรียนรัฐบาลหลายแห่งเปิดสอนหลักสูตรโปรแกรมภาษาอังกฤษ (English Program) และอาจมีให้นักเรียนต่างชาติเข้าเรียนได้ ซึ่งก็จะมีค่าธรรมเนียมที่แตกต่างจากโปรแกรมปกติ แต่ก็ยังมีค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่าโรงเรียนนานาชาติมาก

                              สำหรับครูผู้สอนที่จะเข้ามาสอนในโรงเรียนรัฐบาลได้นั้นก็ต้องผ่านการสอบเข้าบรรจุเป็นครู ซึ่งจะต้องใช้เวลา 5-6 ปี ดังนั้นครูที่สอนในโรงเรียนรัฐฯ จะมีประสบการณ์ ในส่วนของกฎระเบียบก็จะค่อนข้างเข้มงวด ตั้งแต่ทรงผมจนถึงเครื่องแบบ การแต่งกาย และกระเป๋า

                              3 ข้อดีที่พ่อแม่เลือกส่งลูกเรียนโรงเรียนรัฐบาลส่วนใหญ่ คือ

                              • เลือกโรงเรียนเพราะค่าเทอมที่ไม่แพง
                              • ความมีชื่อเสียงของโรงเรียนที่เปิดมานาน ศิษย์เก่าที่จบออกไปมีชื่อเสียง
                              • ถ้ามีโรงเรียนรัฐเปิดใกล้บ้านก็จะสะดวกต่อการเดินทาง สามารถช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ลงได้ดีทีเดียวเชียว

                              โรงเรียนรัฐบาลจึงถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ครองใจผู้ปกครองมาโดยตลอด ทั้งนี้อาจมีแม่ ๆ สงสัยว่าจะให้ลูกเข้าโรงเรียนรัฐ เริ่มต้นตอนกี่ขวบดี ในเรื่องนี้ นพ.ธีระเกียรติ รมว.ศึกษาธิการ ได้สั่งเซ็ตซีโร่รับเด็กอนุบาลปี 2562 โดยย้ำเด็กอนุบาล 3 ขวบต้องให้ท้องถิ่นหรือโรงเรียนเอกชนดูแล ส่วนอนุบาลในสังกัดสพฐ. รับเด็กอนุบาล 4 ขวบ และได้สั่งการให้ สพฐ.ไปเปลี่ยนการเรียกชั้นอนุบาล เพราะสพฐ. รับอนุบาล 4 ขวบ ก็ควรจะเปลี่ยนเป็นอนุบาล 2 อนุบาล 3 

                              ดังนั้นเด็กที่อยู่ในวัย 3 ขวบทุกคน ก็ยังสามารถเริ่มต้นเข้าเรียนอนุบาล 1 ได้เหมือนเดิม เพียงแต่จะให้เข้าเรียนในโรงเรียนในสังกัดขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) และสถานศึกษาเอกชน (สช.) เพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนในการรับนักเรียน และเมื่ออายุครบ 4 และ 5 ขวบแล้ว ก็สามารถสมัครเข้าเรียนในโรงเรียนสังกัด สพฐ. (หรือโรงเรียนรัฐบาล) ในชั้นอนุบาล 2 และ 3 ได้นั่นเอง

                              ส่วนการนับอายุเด็กเพื่อเข้ารับการศึกษาระดับก่อนประถมศึกษา ตามประกาศ สพฐ.หลักเกณฑ์การนับอายุฯ ให้นับตั้งแต่วันที่เด็กเกิดไปจนถึง วันแรกของการเปิดภาคเรียนที่ 1 คือวันที่ 16 พฤษภาคม ตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยปีการศึกษา การเปิดและปิด สถานศึกษา พ.ศ. 2549 เด็กบางคนที่เกิดหลังเดือนพฤษภาคมก็อาจจะต้องรอเข้าโรงเรียนในภาคเรียนต่อไป

                              เอกชนกับรัฐบาล ต่างกันยังไง

                              โรงเรียนเอกชน หมายถึง สถานศึกษาเอกชนที่จัดการศึกษาไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนในระบบหรือโรงเรียนนอกระบบ ที่มิใช่เป็นสถาบันอุดมศึกษาของเอกชนตามกฎหมายว่าด้วยสถาบันอุดมศึกษาเอกชน (อ้างอิง sites.google.com)

                              สำหรับโรงเรียนเอกชนในประเทศไทยนั้น ถือได้ว่ามีบทบาทและความสำคัญต่อการพัฒนาการศึกษาไม่น้อยไปกว่าโรงเรียนของภาครัฐ ซึ่งโรงเรียนเอกชนที่อยู่ในระบบจะจัดการสอนตามหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการ แต่จะมีสภาพแวดล้อม อุปกรณ์การเรียนการสอนหรือสื่อที่ใช้แตกต่างจากโรงเรียนรัฐบาล บางโรงเรียนมีการนำรูปแบบการสอน English Program (EP) เข้ามาในหลักสูตร และโรงเรียนนานาชาติก็รวมอยู่ในประเภทโรงเรียนเอกชนด้วยเช่นกัน

                              แม้ว่าโรงเรียนเอกชนส่วนใหญ่จะมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูงกว่าโรงเรียนรัฐฯ แต่ก็เป็นตัวเลือกที่ยอมรับและได้รับความนิยมจากคุณพ่อคุณแม่ เนื่องจากการเรียนการสอนที่ได้มาตรฐาน มีการดูแลและให้ความสำคัญกับเด็กอย่างทั่วถึง คุณพ่อคุณแม่สามารถเข้าถึงครูและคุยสอบถามเกี่ยวกับตัวลูกได้ง่าย และสภาพแวดล้อมในโรงเรียนที่มีสื่อการเรียนการสอนและอุปกรณ์ที่ทันสมัย จึงทำให้ภาพลักษณ์ของโรงเรียนเป็นโรงเรียนในฝันของเด็ก ๆ

                              โรงเรียนเอกชน

                              ด้านครูผู้สอนโรงเรียนเอกชนจะคัดเลือกและทำการสอบอาจารย์ที่จบหลักสูตรการเรียนการสอนมาตรงกับวิชาที่เข้าสอน ส่วนวิชาภาษาอังกฤษหรือหลักสูตร English Program จะมีครูชาวต่างชาติเป็นผู้สอน

                              3 ข้อดีที่พ่อแม่เลือกส่งลูกเรียนโรงเรียนเอกชน

                              • มีหลักสูตรต่างประเทศได้เรียนทั้งไทยและอังกฤษ
                              • การดูแลเอาใจใส่เด็กอย่างทั่วถึง
                              • สภาพแวดล้อมในโรงเรียนและสื่ออุปกรณ์ที่ทันสมัย

                              ความต่างเหล่านี้เป็นเพียงพื้นฐานส่วนหนึ่งที่ถูกนำมาเป็นข้อมูลเพื่อให้คุณพ่อคุณแม่ได้เข้าใจเพิ่มเติมขึ้นเท่านั้น ปัจจุบันนี้ในประเทศไทยมีโรงเรียนมากมายทั้งแบบรัฐบาลและเอกชนที่มีชื่อเสียง และมีการเรียนการสอนที่ให้ความรู้อันเป็นสิ่งสำคัญต่อบุตรหลานในการศึกษา และประกอบอาชีพในอนาคต ดังนั้นการเลือกโรงเรียนให้เหมาะกับลูกนอกจากเป็นสิ่งสำคัญอันดันต้นแล้ว ยังต้องคำนึงถึงเรื่องอื่น ๆ เพิ่มเติมด้วย ทั้งนี้โรงเรียนรัฐบาลและเอกชน ต่างก็เป็นสถานศึกษาที่จะมอบความรู้ให้นักเรียนได้เท่าเทียมกันอย่างแน่นอนค่ะ

                              อ่านต่อบทความอื่นน่าสนใจ :

                              ข้อดี vs ข้อเสีย ส่งลูกเข้า โรงเรียนเตรียมอนุบาล

                              อัพเดทล่าสุด! ค่าเทอมโรงเรียนอนุบาล 2563 ในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล

                              เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                               

                                MQ (Moral Quotient)

                                6 เทคนิคดี ๆ สร้าง MQ (Moral Quotient) ให้รู้ผิดชอบชั่วดี โตมาให้เป็นเด็กดีในสังคม

                                คงไม่ดีแน่ถ้าเราเอาแต่ส่งเสริมให้ลูกเก่ง ฉลาด แต่ขาดศีลธรรม ซึ่งเรื่องนี้เป็นสิ่งสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่สามารถสร้าง MQ (Moral Quotient) ฝึกให้ติดตัวลูกน้อยได้ตั้งแต่ยังเล็ก

                                MQ (Moral Oral Quotient) หมายถึง ความฉลาดทางจริยธรรมหรือศีลธรรม คือ เป็นคนที่รู้จักเห็นอกเห็นใจผู้อื่น ไม่เห็นแก่ตัว คิดดี ทำดี พูดดี ความเมตตาปรานี และรู้จักให้อภัย คนที่มี MQ จะสามารถคิดยับยั้งชั่งใจรู้จักเลือกทางที่ถูกต้อง ไม่เบียดเบียนผู้อื่น รู้ผิดชอบชั่วดี ซึ่ง MQ นั้นไม่ได้เกิดขึ้นในระยะเวลาสั้น ๆ แต่จำเป็นต้องได้รับการปลูกฝังกันมาตั้งแต่เด็ก

                                โดยเฉพาะในวัยเด็ก หากลูกได้รับการปลูกฝังด้านศีลธรรมและจริยธรรมอย่างต่อเนื่องก็จะเป็นพื้นฐานสำคัญในการปลูกฝังความดีลงไปในจิตสำนึก ซึ่งจะทำให้ตัวเด็กสามารถพัฒนา MQ ได้ในระดับที่สูงขึ้นต่อไปในอนาคต ดังนั้นตัวของคุณพ่อคุณแม่มีส่วนสำคัญในการปลูกฝัง MQ ให้กับลูกได้ ทีมแม่ ABK มีเทคนิคปลูกฝังความดีให้ลูกแต่เนิ่น ๆ มาฝากค่ะ

                                6 เทคนิคดี ๆ สร้าง MQ (Moral Quotient) ให้ลูกรัก

                                การ พัฒนา mq moral quotient

                                1. ต้นแบบที่ดีได้จากพ่อแม่

                                แน่นอนว่าคุณพ่อคุณแม่คือต้นแบบสำหรับลูกที่เป็นผ้าขาวจะซึมซับได้ง่าย อยู่ที่เราจะแต้มสีอะไรลงไป โดยเฉพาะเด็กในช่วงวัย 2-10 ปี มีพัฒนาการทางด้านจริยธรรมอยู่ในระดับก่อนกฎเกณฑ์สังคม (Pre-Conventional Level) ซึ่งเป็นวัยแห่งการเรียนรู้ เลียนแบบ ช่างสังเกตและจดจำ สิ่งแวดล้อมที่ใกล้ตัวที่สุดก็คือคนในครอบครัว ลูกจะเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ รวมไปถึงพฤติกรรมที่ “ดี” และ “ไม่ดี” จากพ่อและแม่ ดังนั้นเพื่อต้องการปลูกฝัง MQ ให้กับเจ้าตัวน้อยเริ่มต้นง่าย ๆ คือการ “ทำดี” เป็นตัวอย่างให้ลูกได้เห็น สร้างจิตสำนึกที่ดีให้แก่ลูก เช่น ความกตัญญูรู้คุณ การซื่อสัตย์ ความยุติธรรม ความมีเมตตา ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ความมีศีลธรรม ฯลฯ สิ่งเหล่านี้คุณพ่อคุณแม่สามารถทำเป็นตัวอย่างให้เห็นได้จากชีวิตประจำวัน เพื่อที่ลูกจะได้ซึมซับจดจำต้นแบบที่ดีเหล่านี้ไปประพฤติปฏิบัติจนติดเป็นนิสัย

                                 2. แนะนำสั่งสอนให้รู้จักถูกผิด

                                เพราะเด็กกำลังเริ่มต้นสั่งสมประสบการณ์ เมื่อลูกทำผิดโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ คุณพ่อคุณแม่ก็ควรสั่งสอนและชี้แนะแนวทางที่ถูกต้องโดยไม่ปล่อย ไม่เข้าข้าง ไม่ปกป้อง ว่ากันตามเหตุผลที่ถูกต้อง เพื่อให้ลูกได้เรียนรู้ผลเสียของการทำผิด แต่ก็ควรพูดด้วยอารมณ์ที่ใจเย็น ไม่ใช้คำพูดที่รุนแรง หรืออารมณ์ที่โมโหในการลงโทษลูก และเมื่อลูกทำความดี ทำในสิ่งที่ถูกต้อง เช่น ลูกกลับมาเล่าว่าวันนี้แบ่งปันขนมให้เพื่อนที่โรงเรียน เก็บเงินได้แล้วนำไปให้คุณครู ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ฯลฯ ก็สามารถชื่นชมลูกได้ด้วยคำพูดที่ดี เพื่อเป็นกำลังใจ และให้ลูกได้รู้ว่าสิ่งที่ทำนั้นเป็นเรื่องที่ดี เป็นสิ่งที่ถูกต้อง เหล่านี้ลูกก็จะสามารถเข้าใจและแยกแยะในเรื่องที่ผิดถูกได้

                                3.ให้ลูกได้ใกล้ชิดกับศาสนาประจำครอบครัว

                                ในทุกศาสนานั้นสอนให้ทุกคนประพฤติดี คุณพ่อคุณแม่สามารถพาลูกไปยังศาสนสถานที่ครอบครัวนับถือเพื่อให้ได้ซึมซับกับคำสอนตามหลักศาสนาและนำมาสอนลูกเพิ่มเติมด้วยคำอธิบายง่าย ๆ  เช่น ศาสนาพุทธก็พากันเข้าวัดฟังเทศน์ ตื่นเช้าตักบาตร สวดมนต์ไหว้พระ ศาสนาคริสตร์ก็พากันไปโบสถ์ในทุกวันอาทิตย์ หรือศาสนาอิสลามก็พากันไปมัสยิด เป็นต้น การให้ลูกมีได้โอกาสเรียนรู้หลักคำสอนตามศาสนาตามที่พ่อแม่นับถือตั้งแต่ยังเล็ก ถือเป็นการปลูกฝังคุณธรรมสร้างรากฐาน MQ ได้เป็นอย่างดี

                                กิจกรรม ส่งเสริม mq
                                กิจกรรม ส่งเสริม mq

                                4. เรียนรู้คุณธรรมจริยธรรมผ่านกิจกรรม

                                หนังสือนิทานคุณธรรม การร้องเพลงที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับความดี ความกตัญญู ความซื่อสัตย์ การช่วยเหลือ การแบ่งปัน และความรักต่อเพื่อนมนุษย์และสัตว์ เป็นสื่อที่สามารถสอนเรื่องคุณธรรมและจริยธรรมให้เด็ก ๆ เรียนรู้และซึมซับด้วยความสนุก การอ่านนิทานหรือเนื้อเพลงประเภทนี้จะช่วยเสริมสร้างพื้นฐานนิสัยที่ดี อันจะนำไปสู่การพัฒนา MQ ทั้งทางด้านความคิด จิตใจ และปลูกฝังพฤติกรรมที่ดีของลูกตั้งแต่ยังเล็กได้ เมื่อทำกิจกรรมจบ คุณพ่อคุณแม่สามารถลองตั้งคำถามในเนื้อเรื่องเพื่อสำรวจความสนใจของลูก พร้อมสอดแทรกคำสอนเพื่อปลูกฝังสิ่งดี ๆ พูดกระตุ้นให้ลูกคิดตาม ตลอดจนเปิดโอกาสให้ลูกได้ถามในสิ่งที่สงสัยเพื่อเด็ก ๆ จะได้รู้จักความหมายของคุณธรรมได้มากยิ่งขึ้นด้วย

                                บทความแนะนำ : โหลดฟรี! 12 นิทานคุณธรรมสำหรับเด็ก บ่มเพาะ “ความดี” ในใจลูก

                                5. สอนให้ลูกมี 2 ข.

                                โดยคุณพ่อคุณแม่ฝึกให้ลูกรู้จักพูด “ขอบคุณและขอโทษ” ให้ติดเป็นนิสัย เช่น ให้ลูกกล่าว “ขอบคุณ” ทุกครั้งเมื่อมีคนช่วยเหลือหรือทำอะไรให้ รู้จักขอบคุณกับสิ่งรอบตัวในแม้กระทั่งเรื่องเล็ก ๆ การฝึกให้รู้จักขอบคุณจะทำให้เด็กได้รู้จักคุณค่าของตนเองและผู้อื่น รวมถึงการกล่าวคำ “ขอโทษ” ทันทีเมื่อรู้ตัวว่าทำผิด ซึ่งจะทำให้เด็กรู้จักผิดชอบชั่วดี มีความอ่อนน้อมถ่อมตน เป็นการปลูกฝังคุณธรรมอย่างหนึ่งให้กับลูกน้อย และเป็นลักษณะที่พึงประสงค์ของสังคมด้วย

                                การ พัฒนา mq

                                6. พาลูกเป็นจิตอาสา สอนลูกให้รู้จักการให้ แบ่งปัน

                                นอกจากการแนะนำบอกลูกรู้จักให้แบ่งปันขนม ของเล่น กับพี่น้องหรือเพื่อน ๆ ช่วยงานครูเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่โรงเรียน การพาลูกลองไปทำกิจกรรมอาสาก็จัดว่าเป็นประสบการณ์ที่ทำให้ลูกได้เรียนรู้จักกับการให้สิ่งดี ๆ เป็นการช่วยบำเพ็ญประโยชน์ต่อชุมชน และทำความดีต่อผู้อื่นและสังคมได้ โดยแพทย์หญิงถิรพร ตั้งจิตติพร จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรมการแพทย์ ได้แนะนำว่า การทำงานจิตอาสาเป็นสิ่งที่ช่วยปลูกฝังให้เด็กมีทักษะชีวิตที่สำคัญ ได้แก่ การเสียสละ การมีน้ำใจ ความขยัน อดทน ความรับผิดชอบ การเข้าสังคม อ่อนน้อมถ่อมตน ลดความเห็นแก่ตัว มีเมตตาต่อกันทำให้สังคมน่าอยู่ยิ่งขึ้น ที่สำคัญคือการเห็นอกเห็นใจและเข้าใจผู้อื่น 

                                สำหรับเด็ก ๆ ก็สามารถทำกิจกรรมอาสาให้เหมาะสมกับวัยได้ เช่น วัยอนุบาล: งานอาสาควรเป็นกิจกรรมที่ทำง่าย ๆ ไม่ต้องใช้ทักษะมากโดยทำร่วมกับพ่อแม่ เช่น แบ่งของเล่นหรือเสื้อผ้าให้ผู้อื่น ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้านก็เป็นจิตอาสารูปแบบหนึ่ง วัยประถม : ที่มีกล้ามเนื้อมัดเล็กมัดใหญ่แข็งแรงและมีพัฒนาครบทุกด้าน สามารถช่วยทำอะไรได้หลายอย่าง เช่น อาสาเก็บขยะ อาสาอ่านหนังสือให้ผู้พิการทางสายตา บริจาคสิ่งของที่ไม่จำเป็นต้องใช้ให้แก่ผู้ที่จำเป็น เป็นต้น กิจกรรมอาสาเหล่านี้ก็ถือเป็นรากฐานที่ดีต่อการสร้าง MQ ให้กับลูกได้

                                ขอบคุณข้อมูลจาก : www.happyschoolbreak.com

                                จะเห็นได้ว่า การเสริมสร้าง MQ ให้ลูกตั้งแต่เนิ่น ๆ ถือเป็น Q ด้านหนึ่งที่เชื่อมโยงจาก Q ต่าง ๆ เช่น IQ EQ เมื่อมีความฉลาดทางคุณธรรมติดตัวก็เสมือนเป็นเกราะคุ้มกันให้ลูกได้เติบโตเป็นคนดีในสังคมได้ในชีวิต.

                                ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก :www.trueplookpanya.com

                                อ่านต่อบทความที่น่าสนใจอื่นๆ :

                                8 กิจกรรมเพิ่ม EQ (Emotional Quotient) ให้ลูกเป็นเด็กดี มีความสุข และมีความฉลาดทางอารมณ์

                                7 เทคนิคสร้าง IQ (Intelligence Quotient) ความฉลาดของลูกที่เพิ่มพูนได้

                                เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                                 

                                  เลเซอร์เข้าตา

                                  เลเซอร์เข้าตา ลูกน้อยเสี่ยงตาบอดจริงหรือ?

                                  เมื่อไม่นานมานี้ มีการแชร์โพสต์เตือนภัยจากคุณหมอท่านหนึ่ง ผ่านทางสื่อโซเชียลมีเดีย เกี่ยวกับอันตรายของเลเซอร์พอยเตอร์ ที่นำมาใช้ในการชี้สไลด์ ว่าให้ระมัดระวังการใช้งานให้ดี ห้ามนำมาส่องดวงตาเด็ดขาด หาก เลเซอร์เข้าตา หรือจ้องจุดไปตรงๆ จะทำให้เกิดผลต่อจอประสาทตาได้

                                  Continue reading “เลเซอร์เข้าตา ลูกน้อยเสี่ยงตาบอดจริงหรือ?”

                                    อันตรายจากของเล่นเด็ก

                                    8 วิธีป้องกันลูก! ไม่ให้ได้รับอันตรายจากของเล่นเด็ก

                                    พ่อแม่ระวังให้ดี ให้ลูกเล่นของเล่นที่มีลักษณะไม่ปลอดภัย ลูกอาจได้รับ อันตรายจากของเล่นเด็ก หากห้ามลูกเล่นไม่ได้ จะมีวิธีดูแลป้องกัน อันตรายจากของเล่น อย่างไร ตามมาดูกัน!

                                    อุทาหรณ์ อันตรายจากของเล่นเด็ก เกิดขึ้นได้เสมอ!

                                    เพราะอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ โดยเฉพาะกับลูกน้อย!! และของใกล้ตัวอย่างของเล่นก็เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ลูกน้อยบาดเจ็บได้ ซึ่งคุณพ่อคุณแม่อาจคาดไม่ถึงว่าลูกน้อยสามารถได้รับบาดเจ็บจากการเล่นของเล่น ที่บางอันดูเหมือนจะไม่อันตราย แต่พอเผลอคาดสายตา ลูกน้อยก็เกิดเลือดตกยางออกขึ้นมาได้

                                    ซึ่งที่ผ่านมาก็มักจะมีข่าวออกมาให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง ถึง อันตรายจากของเล่นเด็ก เช่นเดียวกับเหตุการณ์นี้…ที่คุณเปิ้ล นาคร คุณพ่อของลูกๆทั้ง 4 ออ ได้ออกมาโพสต์อุทาหรณ์เตือนพ่อแม่ถึง อันตรายจากของเล่นเด็ก ที่ทำให้ “น้องออกู๊ด” ลูกชายคนที่ 3 ต้องถูกส่งตัวเข้าผ่าตัดมือที่โรงพยาบาล หลังได้รับบาดเจ็บจากการโดนเส้นลวดจากของเล่น แทงเข้าไปในเนื้อที่มือ ขณะเล่นเรือบังคับวิทยุ

                                    อันตรายจากของเล่นเด็ก

                                    โดยคุณเปิ้ลได้โพสต์คลิปพร้อมแคปชั่นว่า…

                                    เป็นอุทาหรณ์นะคับสำหรับทุกครอบครัว “ของเล่นบางอย่างมีสิ่งที่คาดไม่ถึงว่ามันจะเป็นอันตรายกับเด็กได้…….แล้วมันก็เกิดขึ้นกับลูกเราได้จริงๆ…….#ผ่าตัดออก#เดี๋ยวก็หายคับจู๊ด”

                                    ขอบคุณคลิป จาก IG @ple_nakorn

                                     

                                    อันตรายจากของเล่นเด็ก
                                    ขอบคุณข้อมูลคลิปและภาพ จาก IG @june_kasama

                                     

                                    และเนื่องจากเรือบังคับนั้นมีเสารับสัญญาณเป็นลวดยาวออกมา ตรงปลายถูกขมวดไว้ให้เป็นวงกลม ซึ่งคาดว่าน้องออกู๊ดน่าจะไปคลี่วงกลมนั้นออก จนกลายเป็นรูปตะขอเหมือนเบ็ดตกปลา

                                    จากนั้นก็ใช้มือจับไปที่ลวดรับสัญญาณแล้วเหวี่ยงเรือของเล่นไปมา จนกระทั่งปลายตะขอมาเกี่ยวที่มืออย่างรุนแรง และด้วยแรงเหวี่ยง ทำให้เนื้อย่นเข้าติดกัน คล้ายๆ กับลวดเย็บเนื้อเอาไว้ ทำให้พ่อเปิ้ล นาคร และแม่จูน กษมา ต้องรีบพาส่งโรงพยาบาล คุณหมอต้องให้ยาสลบ เพื่อทำการผ่าตัดด่วน

                                    Must read : รวม การปฐมพยาบาลเบื้องต้น ให้ลูกน้อยที่ถูกต้องที่พ่อแม่ควรรู้!

                                    Must read : ห้ามเลือดให้ลูก เมื่อถูกของมีคมบาด

                                    https://www.instagram.com/p/B8IQLVehdXL/

                                    ทั้งนี้ถือว่าโชคดีมาก ที่ลวดไม่ได้แทงไปโดนเส้นเอ็นที่มือ ไม่อย่างนั้นต้องเป็นเรื่องใหญ่อย่างแน่นอน ซึ่งตอนนี้น้องออกู๊ดก็ปลอดภัยดีแล้ว

                                    อันตรายจากของเล่นเด็กขอบคุณภาพ จาก IG @ple_nakorn

                                    อ่านต่อ >> “วิธีป้องกันอันตรายจากของเล่นเด็กชนิดต่างๆ” คลิกหน้า 2

                                     

                                    เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่