ครีมทาท้องยี่ห้อไหนดี

ครีมทาท้องยี่ห้อไหนดี คุณแม่เลือก Palmer’s เป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในดวงใจ

ครีมทาท้องยี่ห้อไหนดี ใช้แล้วท้องไม่ลาย คุณภาพเยี่ยม ถูกใจคุณแม่ คุณแม่ทั่วประเทศเลือกและได้โหวต ให้ Palmer’s เป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์ครีมทาท้องอันดับหนึ่งในดวงใจ และรับรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019 สาขา Mommy’s Choice

ครีมทาท้องยี่ห้อไหนดี แม่ทั่วประเทศเลือกแล้วใช้ยี่ห้อนี้เป็นแบรนด์ในดวงใจ

Amarin Baby & Kids “เครือข่ายแม่ลูกใหญ่ที่สุด” ผู้นำด้านคอนเทนต์คุณภาพ เข้าใจครอบครัวไทย และตอบสนองความต้องการของคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ ไทย ทั้งรูปแบบ Online ผ่านเว็บไซต์ www.AmarinBabyAndKids.com และเฟซบุ๊คแฟนเพจที่มีเนื้อหาตรงใจ ทันสถานการณ์ โดยมียอดผู้ติดตามมากกว่า 1,000,000 Followers และรูปแบบ On print ผ่าน Bookazine ราย 2 เดือน รวมถึง รูปแบบ On ground งานแฟร์แม่ลูก Amarin Baby & Kids Fair ที่จัดมาแล้วถึง 15 ครั้ง

เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านเครือข่ายแม่ลูกอันดับ 1 ของประเทศที่เข้าใจคุณแม่ไทยมากที่สุด เว็บไซต์ Amarin Baby & Kids จึงได้จัด “Amarin Baby & Kids Awards 2019” ครั้งแรกในเมืองไทย เพื่อเฟ้นหาสุดยอดแบรนด์สินค้าแม่และเด็กในดวงใจ  จากคะแนนโหวตของคุณแม่ทั่วประเทศกว่า 10,000 คน ผ่าน www.AmarinBabyAndKids.com เว็บไซต์สื่อกลาง ข้อมูลคุณภาพจากแม่สู่แม่ Mom to Mom Sharing เพื่อเป็นประโยชน์แก่คุณแม่มือใหม่ที่กำลังมองหา “สินค้าใช้ดี ที่ได้รับ การยืนยันจากคุณแม่ตัวจริงทั่วประเทศ”

และเพื่อให้สมกับรางวัลที่มาจากความคิดเห็นของแม่อย่างแท้จริง สำหรับแบรนด์สินค้าในสาขา Mommy’s Choice จึงเปิด  โอกาสให้แม่ได้ร่วมโหวต  2  รอบ ได้แก่ รอบเสนอชื่อแบรนด์ที่ชื่นชอบ จากนั้นทีมงานได้ทำการเลือกแบรนด์ที่ถูกเสนอ ชื่อมากที่สุด มาจัด รอบโหวตแบรนด์ในดวงใจ อีกครั้งหนึ่ง

ทำไมแม่โหวตให้ Palmer’s เป็นแบรนด์ครีมทาท้องบำรุงผิวในดวงใจ 

แม่ ABK เลือกให้ Palmer’s เป็นแบรนด์สุดยอดครีมบำรุงผิวหน้าท้องในดวงใจ โดยคุณแม่ให้เหตุผลในการเลือกแตกต่างกัน  ตัวอย่างเช่น

“เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีคุณภาพดีมากๆ ค่ะ ชอบตรงที่ช่วยป้องกันการเกิดรอยแตกบริเวณหน้าท้องได้เป็นอย่างดี ใช้แล้วเห็นผล”

“ตอนทาครีมลงที่ผิวคือชอบมาก เนื้อครีมมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ และสัมผัสของเนื้อครีมเข้มข้น แต่ซึมซับดี ไม่เหนียวเหนอะหนะเลยค่ะ”

“ปาล์มเมอร์ (Palmer’s) เป็นครีมทาท้องที่คุณภาพดี แต่ราคาไม่แพงเลยค่ะ แล้วก็หาซื้อใช้ได้ง่ายค่ะ”

Palmer’s ก่อตั้งขึ้นเมื่อกว่า 175 ปีก่อนในฐานะหนึ่งใน บริษัท ดูแลผิวแห่งแรกของอเมริกา ผลิตภัณฑ์ปาล์มเมอร์เป็น ผลิตภัณฑ์บำรุงและดูแลผิวสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ เพื่อป้องกันผิวแตกลาย เป็นสูตรโกโก้บัตเตอร์ จากธรรมชาติ ที่ช่วยให้ผิวพรรณของคนท้องสวยสดใส ที่สำคัญมีความปลอดภัยไม่เป็นอันตรายต่อลูกน้อยในครรภ์

 

อ่านบทความ Amarin Baby & Kids Awards 2019 

ประกาศผลรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019 สุดยอดแบรนด์สินค้าแม่และเด็กในดวงใจ

ชมภาพบรรยากาศ งานมอบรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

    ครีมทาป้องกันผดผื่นยี่ห้อไหนดี

    ครีมทาป้องกันผดผื่นยี่ห้อไหนดี 2019 คุณแม่เลือก Bepanthen เป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในดวงใจ

    ครีมทาป้องกันผดผื่นยี่ห้อไหนดี ใช้แล้วลูกสบาย คุณภาพเยี่ยม ถูกใจคุณแม่ คุณแม่ทั่วประเทศเลือกและได้โหวต ให้ Bepanthen เป็นแบรนด์ครีมทาป้องกันผดผื่นอันดับหนึ่งในดวงใจ และรับรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019 สาขา Mommy’s Choice

    ครีมทาป้องกันผดผื่นยี่ห้อไหนดี แม่ทั่วประเทศเลือกแล้วใช้ยี่ห้อนี้เป็นแบรนด์ในดวงใจ

    Amarin Baby & Kids “เครือข่ายแม่ลูกใหญ่ที่สุด” ผู้นำด้านคอนเทนต์คุณภาพ เข้าใจครอบครัวไทย และตอบสนองความต้องการของคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ ไทย ทั้งรูปแบบ Online ผ่านเว็บไซต์ www.AmarinBabyAndKids.com และเฟซบุ๊คแฟนเพจที่มีเนื้อหาตรงใจ ทันสถานการณ์ โดยมียอดผู้ติดตามมากกว่า 1,000,000 Followers และรูปแบบ On print ผ่าน Bookazine ราย 2 เดือน รวมถึง รูปแบบ On ground งานแฟร์แม่ลูก Amarin Baby & Kids Fair ที่จัดมาแล้วถึง 15 ครั้ง

    เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านเครือข่ายแม่ลูกอันดับ 1 ของประเทศที่เข้าใจคุณแม่ไทยมากที่สุด เว็บไซต์ Amarin Baby & Kids จึงได้จัด “Amarin Baby & Kids Awards 2019” ครั้งแรกในเมืองไทย เพื่อเฟ้นหาสุดยอดแบรนด์สินค้าแม่และเด็กในดวงใจ  จากคะแนนโหวตของคุณแม่ทั่วประเทศกว่า 10,000 คน ผ่าน www.AmarinBabyAndKids.com เว็บไซต์สื่อกลางข้อมูลคุณภาพจากแม่สู่แม่ Mom to Mom Sharing เพื่อเป็นประโยชน์แก่คุณแม่มือใหม่ที่กำลังมองหา “สินค้าใช้ดี ที่ได้รับการยืนยันจากคุณแม่ตัวจริงทั่วประเทศ”

    และเพื่อให้สมกับรางวัลที่มาจากความคิดเห็นของแม่อย่างแท้จริง สำหรับแบรนด์สินค้าในสาขา Mommy’s Choice จึงเปิด โอกาสให้แม่ได้ร่วมโหวต  2  รอบ ได้แก่ รอบเสนอชื่อแบรนด์ที่ชื่นชอบ จากนั้นทีมงานได้ทำการเลือกแบรนด์ที่ถูกเสนอ ชื่อมากที่สุด มาจัด รอบโหวตแบรนด์ในดวงใจ อีกครั้งหนึ่ง

    ทำไมแม่โหวตให้ Bepanthen เป็นแบรนด์ครีมทาป้องกันผดผื่นในดวงใจ

    แม่ ABK เลือกให้ Bepanthen เป็นแบรนด์สุดยอดครีมทาป้องกันผื่นผ้าอ้อมในดวงใจ โดยคุณแม่ให้เหตุผลในการเลือกแตกต่างกัน  ตัวอย่างเช่น

    “แก้ผดผื่น ผื่นแพ้ผ้าอ้อม ผื่นแดงคัน ได้เป็นอย่างดี คุณภาพดีมากๆ ค่ะ”

    “ลูกใช้แล้วไม่เกิดอาการแพ้ ไม่ระคายเคืองต่อผิวเด็ก อ่อนโยนต่อผิวลูก”

    “เนื้อครีมดี ใช้ง่าย ซึมไว ไม่เหนียว กลิ่นไม่แรง ที่สำคัญราคาไม่แพงมากด้วยค่ะ”

    Bepanthen บีแพนเธน ออยเมนท์ เป็นแบรนด์ครีมทาปกป้องและดูแลผิวลูกน้อย ที่ได้รับการพัฒนาและเปิดตัวในปี ค.ศ. 1944 และได้มาอยู่ในความดูแลของไบเออร์ ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2005 ด้วยการเริ่มต้นจากเพียง 3 สูตร รวมถึง บีแพนเธน ออยเมนท์ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์หลัก ในปัจจุบันนี้บีแพนเธนได้รับการพัฒนา และถือว่าเป็นผู้บุกเบิกผลิตภัณฑ์ด้านการดูแลผิวอย่างกว้างขวาง คุณพ่อคุณแม่สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาใกล้บ้านค่ะ

     

    อ่านบทความ Amarin Baby & Kids Awards 2019 

    ประกาศผลรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019 สุดยอดแบรนด์สินค้าแม่และเด็กในดวงใจ

    ชมภาพบรรยากาศ งานมอบรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019

     

    เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

     

      ขวดนม จุกนมยี่ห้อไหนดี

      ขวดนมจุกนมยี่ห้อไหนดี คุณแม่เลือก Pigeon เป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในดวงใจ

      ขวดนมจุกนมยี่ห้อไหนดี เหมาะกับลูกทุกวัย มีหลายขนาดให้เลือก คุณภาพเยี่ยม ถูกใจคุณแม่ คุณแม่ทั่วประเทศเลือกและได้โหวต ให้ พีเจ้น (Pigeon) เป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์ขวดนม จุกนมสำหรับเด็กอันดับหนึ่งในดวงใจ และรับรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019 สาขา Mommy’s Choice

      ขวดนม จุกนมยี่ห้อไหนดี แม่ทั่วประเทศเลือกแล้วใช้ยี่ห้อนี้เป็นแบรนด์ในดวงใจ

      Amarin Baby & Kids “เครือข่ายแม่ลูกใหญ่ที่สุด” ผู้นำด้านคอนเทนต์คุณภาพ เข้าใจครอบครัวไทย และตอบสนองความต้องการของคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ ไทย ทั้งรูปแบบ Online ผ่านเว็บไซต์ www.AmarinBabyAndKids.com และเฟซบุ๊คแฟนเพจที่มีเนื้อหาตรงใจ ทันสถานการณ์ โดยมียอดผู้ติดตามมากกว่า 1,000,000 Followers และรูปแบบ On print ผ่าน Bookazine ราย 2 เดือน รวมถึง รูปแบบ On ground งานแฟร์แม่ลูก Amarin Baby & Kids Fair ที่จัดมาแล้วถึง 15 ครั้ง

      เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านเครือข่ายแม่ลูกอันดับ 1 ของประเทศที่เข้าใจคุณแม่ไทยมากที่สุด เว็บไซต์ Amarin Baby & Kids จึงได้จัด “Amarin Baby & Kids Awards 2019” ครั้งแรกในเมืองไทย เพื่อเฟ้นหาสุดยอดแบรนด์สินค้าแม่และเด็กในดวงใจ  จากคะแนนโหวตของคุณแม่ทั่วประเทศกว่า 10,000 คน ผ่าน www.AmarinBabyAndKids.com เว็บไซต์สื่อกลาง ข้อมูลคุณภาพจากแม่สู่แม่ Mom to Mom Sharing เพื่อเป็นประโยชน์แก่คุณแม่มือใหม่ที่กำลังมองหา “สินค้าใช้ดี ที่ได้รับ การยืนยันจากคุณแม่ตัวจริงทั่วประเทศ”

      และเพื่อให้สมกับรางวัลที่มาจากความคิดเห็นของแม่อย่างแท้จริง สำหรับแบรนด์สินค้าในสาขา Mommy’s Choice จึงเปิด  โอกาสให้แม่ได้ร่วมโหวต  2  รอบ ได้แก่ “รอบเสนอชื่อแบรนด์ที่ชื่นชอบ” จากนั้นทีมงานได้ทำการเลือกแบรนด์ที่ถูกเสนอ ชื่อมากที่สุด มาจัด “รอบโหวตแบรนด์ในดวงใจ” อีกครั้งหนึ่ง

      ทำไมแม่โหวตให้ Pigeon เป็นแบรนด์ขวดนม จุกนมเด็กในดวงใจ  

      แม่ ABK เลือกให้ Pigeon เป็นแบรนด์สุดยอดขวดนม จุกนมเด็กในดวงใจ โดยคุณแม่ให้เหตุผลในการเลือกแตกต่างกัน  ตัวอย่างเช่น

      “ชอบใช้ขวดนมพีเจ้น ตรงที่มีระบบควบคุมการไหลเวียนของอากาศ ช่วยปรับสมดุลความดันอากาศภายในขวด ทำให้ลูกรู้สึกสบายท้องขณะดูด”

      “ขวดนมพีเจ้น แข็งแรงทนความร้อนได้ดี ใช้งานง่าย มีจุกให้เลือกเยอะด้วยค่ะ จุกนมพี่เจ้นชอบตรงที่เข้าใจธรรมชาติเด็กในการดูดนม จุกนิ่มเหมาะกับเด็ก วัสดุไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพลูก แล้วก็หาซื้อง่าย มีสินค้าทดลองก่อนตัดสินใจซื้อด้วยค่ะ”

      “เชื่อมั่นใน PIGEON (พีเจ้น) เพราะเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับแม่และเด็กคุณภาพสูงจากญี่ปุ่น มั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นจากพีเจ้นปลอยภัยต่อทารกและเด็กอ่อน”

      Pigeon พีเจ้น เป็นผลิตภัณฑ์ของใช้สำหรับเด็ก ที่มีแรงบันดาลใจมาจากความรักของแม่ และเป็นแบรนด์ที่อยู่คู่ครอบครัวพ่อแม่คนไทยมากว่า 30 ปี จากจุดเริ่มต้นของแบรนด์พีเจ้นมาจนถึงปัจจุบันนี้ มีความต้องการให้ทุกครอบครัวที่มีลูกได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ และปลอดภัยต่อสุขภาพของลูกน้อย

       

      อ่านบทความ Amarin Baby & Kids Awards 2019 

      ประกาศผลรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019 สุดยอดแบรนด์สินค้าแม่และเด็กในดวงใจ

      ชมภาพบรรยากาศ งานมอบรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019

       

      เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

       

        ครีมทาหน้าคุณแม่

        ครีมทาหน้าหลังคลอด เลือกแบบไหน ให้แม่ลูกอ่อนกลับมาสวยเป๊ะปัง

        ครีมทาหน้าหลังคลอด หนึ่งไอเท็มสำคัญที่คุณแม่ต้องมี เพราะแม่หลังคลอดมักเจอสารพัดปัญหาผิวหน้า ที่เกิดจากฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง พักผ่อนน้อย เพราะทั้งให้นมและดูแลลูกจนไม่มีเวลาดูแลตัวเอง แต่การเลือกใช้สกินแคร์ต้องเอาใจใส่เป็นพิเศษ เพื่อให้ผิวหน้ากลับมาสวยเนียน เป๊ะปัง และปลอดภัยกับลูกน้อย

        คุณแม่หลายคนอาจรู้สึกกังวลว่าพอคลอดลูกแล้ว ผิวหน้าที่เคยเนียนนุ่ม สวยปังจะ “พัง” ไม่กลับมาเหมือนเดิม ทั้งผิวหมองคล้ำ ไม่สดใส รอยเหี่ยวย่น หรือสิวที่เกิดจากฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงไป จริงๆ แม่หลังคลอดสามารถใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าได้เป็นปกติ แต่ควรเลือก ครีมทาหน้าหลังคลอด ที่ช่วยฟื้นฟูผิว แก้ไขปัญหาตรงจุด และที่สำคัญคือต้องไม่เป็นอันตรายกับลูกน้อยระหว่างให้นม

        ครีมทาหน้าหลังคลอด

        เลือกครีมทาหน้าหลังคลอดอย่างไรให้ผิวแม่สวยเด้ง ไม่อันตรายกับลูก

        1. หลีกเลี่ยงครีมที่มีส่วนผสมของยารักษาสิว เพราะ ครีมประเภทนี้มักผสมกรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid) และ เบนโซอิล เปอร์ออกไซด์ (Benzoyl Peroxide) ซึ่งเป็นอันตราบกับทารกในครรภ์ แม้จะเป็นคุณแม่หลังคลอดก็ต้องระวัง เพราะตัวยาเหล่านี้มักอยู่ในกลุ่มสเตียรอยด์ ที่ยังเป็นอันตรายกับลูกอ่อนด้วย
        2. ควรเลือกครีมที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะไม่มีสารเคมีอันตรายกับลูกน้อย
        3. ควรเลือกครีมที่มีความชุ่มชื้นสูง เพราะผิวหน้าของแม่หลังคลอดส่วนใหญ่ มักแห้งกร้าน ขาดความชุ่มชื้น เนื่องจากพักผ่อนไม่เพียงพอ
        4. เนื้อครีมบางเบา ซึมซาบผิวได้ดี ช่วยบำรุงผิวให้ดูสุขภาพดี เผยหน้าสดได้อย่างมั่นใจ เหมาะกับคุณแม่ที่ไม่ค่อยได้แต่งหน้า

        ทั้งนี้ก่อนตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์ คุณแม่ควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อน เพื่อให้มั่นใจว่าปลอดภัยกับผิวตัวเองและลูกน้อยด้วย เพราะคุณแม่ต้องอยู่ใกล้ชิดลูกแทบ 24 ชั่วโมง

        ครีมทาหน้าหลังคลอด

        Amarin Baby & Kids Awards 2019 ยกให้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า TRYLAGINA เป็น ครีมทาหน้าหลังคลอด ที่ได้รับรางวัล Editor’s Choice Best Facial Skincare

        TRYLAGINA (ไตรลาจีน่า) คือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าสำหรับคุณแม่ตัวจริง เน้นการฟื้นฟูริ้วรอย และทำให้ผิวเรียบเนียน จาก “คอลลาเจน” จากใต้ท้องทะเลน้ำลึกจากประเทศฝรั่งเศส มีลักษณะเป็นแคปซูลที่บรรจุด้วยสารเปปไทด์โมเลกุล เมื่อทาครีมลงบนผิวหน้า ตัวครีมจะสร้างแผ่นฟิล์มบางๆ ขึ้นบนผิวหนัง ให้ความรู้สึกว่าผิวกระชับขึ้นทันที ช่วยกักเก็บชุ่มชื้นในชั้นผิวเอาไว้ ผิวหน้าจึงดูเรียบเนียนขึ้น ลดเลือนริ้วรอยต่างๆ ได้ทั้งบริเวณหางตา หว่างคิ้ว และร่องแก้ม

        สำหรับคุณแม่หลังคลอดที่ต้องดูแลลูกน้อยเกือบ 24 ชั่วโมง จนแทบไม่มีเวลาดูแลตัวเอง จะให้ใช้วิธีบำรุงผิวหลายๆ ขั้นตอนแทบเป็นไปไม่ได้ แต่ครีมบำรุงผิวหน้า  TRYLAGINA สามารถแก้ปัญหาผิวหน้าทั้งหมดได้ง่ายๆในกระปุกเดียว เพียงทาหลังล้างหน้าทั้งตอนเช้าและก่อนนอน ก็ทำให้ผิวคุณแม่กลับมาเรียบเนียน ดูกระจ่างใส และสวยเป๊ะปังกว่าที่เคย

        ทาง Amarin Baby & Kids “เครือข่ายแม่ลูกใหญ่ที่สุด” ผู้นำด้านคอนเทนต์คุณภาพ เข้าใจครอบครัวไทย และตอบสนองความต้องการของคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ จึงคัดเลือกให้ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า TRYLAGINA  ได้รับ รางวัล Editor’s Choice  Best Facial Skincare จาก “Amarin Baby & Kids Awards 2019” ซึ่งมอบให้กับสินค้าแม่ลูก สินค้าใช้ดี และมีประโยชน์จริง”

         

        คุณแม่สามารถศึกษาข้อมูลผลิตภ้ณฑ์เพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/trylagina

         

        อ่านบทความ Amarin Baby & Kids Awards 2019 

        ประกาศผลรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019 สุดยอดแบรนด์สินค้าแม่และเด็กในดวงใจ

        ชมภาพบรรยากาศ งานมอบรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019\

         

        เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

         

         

          ครีมทาผื่นผ้าอ้อม

          ครีมทาผื่นผ้าอ้อม เลือกแบบไหน ปกป้องผิวบอบบางลูกน้อยได้อยู่หมัด

          ผื่นผ้าอ้อม ที่มักเกิดขึ้นบ่อยๆเมื่อลูกน้อยใส่ผ้าอ้อมสำเร็จรูป ทำให้ผิวบอบบางของลูกน้อยอักเสบเป็นผื่นแดง และรุกรามกลายเป็นแผลเรื้อรังได้ ครีมทาผื่นผ้าอ้อม เป็นตัวช่วยที่คุณแม่ลูกอ่อนขาดไม่ได้ และใช้ทาก่อนใส่ผ้าอ้อมทุกครั้ง แต่จะเลือกอย่างไรให้ได้ครีมคุณภาพดี ปกป้องผิวบอบบางของลูกน้อยได้จริง และปลอดภัยไม่มีสารตกค้าง ทีมแม่ ABK มีคำตอบมาให้ค่ะ

          ความจริงเกี่ยวกับผื่นผ้าอ้อมเรื่องหนึ่งที่แม่อาจไม่เคยรู้ คือผื่นผ้าอ้อมไม่ได้เกิดจากตัวผ้าอ้อมเอง แต่การใส่ผ้าอ้อมสำเร็จรูปที่ทำให้ผิวหนังบริเวณดังกล่าว ไม่ระบายอากาศ เปียกชื้นจากเหงื่อและของเสียจากการขับถ่าย ทำให้ผิวบอบบางของลูกน้อย เกิดการระคายเคือง กลายเป็นผื่นแดง ส่วนใหญ่เกิดบริเวณขาด้านใน ข้อพับ ขาหนับ อวัยวะเพศ และร่องก้น

          หากคุณแม่ดูแลทำความสะอาดบริเวณใส่ผ้าอ้อมไม่ดีพอ ผื่นเหล่านั้นจะกลายเป็นแผลเปื่อยและติดเชื้อรากลายเป็นปื้นแดงๆ เห็นขอบผื่นชัดเจน หรืออาจลอกออกเป็นแผ่น โดยมีโอกาสลุกลามไปยังผิวหนังตามส่วนต่างๆของร่างกาย เช่น ขา มือ ลำตัว และยังติดต่อไปยังบุคคลอื่นที่สัมผัสผื่นผ้าอ้อมด้วย

          ครีมทาผื่นผ้าอ้อม

          วิธีดูแลผิวลูกน้อยห่างไกลผื่นผ้าอ้อม

          หนทางที่ช่วยดูแลผิวลูกน้อยได้ดีที่สุด ต้องเริ่มจากการป้องกันให้ห่างจากสิ่งสกปรกเพื่อไม่ให้เกิดการติดเชื้อ ดังนั้นคุณแม่ควรเริ่มจากการเลือกผ้าอ้อมสำเร็จรูปที่ระบายอากาศได้ดี หมั่นเปลี่ยนทุก 2-3 ชั่วโมง อย่าคิดว่ารอให้เต็มก่อนเพราะนั่นหมายความว่ามีเชื้อโรคหมักหมมอยู่มากมาย หลังถอดผ้าอ้อมทำความสะอาดมทุกครั้ง ควรปล่อยให้ผิวสัมผัสอากาศบ้าง 2-3 นาที

          สำคัญที่สุดคุณแม่ต้องไม่ลืมทา ครีมทาผื่นผ้าอ้อม บางๆ บริเวณผิวหนังใต้ผ้าอ้อม เพื่อเพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิว และช่วยป้องกันความอับชื้นได้ การทาครีมสามารถทาไว้ก่อนโดยไม่ต้องรอให้มีผื่นก่อนได้

          เลือก ครีมทาผื่นผ้าอ้อม อย่างไรให้ปลอดภัยกับลูก

          1.มีสารให้ความชุ่มชื่นกับผิว

          2.อาจมีตัวยาที่ช่วยบรรเทาอาการระคายเคืองผิว คุณแม่ควรเลือกให้เหมาะกับระดับความรุนแรงของผื่นผ้าอ้อม

          3.อ่อนโยนกับผิว ไม่มีสารเคมีอันตรายกับทารก

           

          ครีมทาผื่นผ้าอ้อม

          Amarin Baby & Kids Awards 2019 ยกให้อีเซอร์ร่า (Ezerra) เป็น ครีมทาผื่นผ้าอ้อม ที่ได้รับรางวัล Editor’s Choice Best  Diaper Rash Cream

          Ezerra เป็นผลิตภัณฑ์ครีมสำหรับทาผิวแห้งเล็กน้อย ถึงปานกลาง (กล่องสีม่วง) ซึ่งเป็นต้นเหตุของผื่นและอาคารคัน โดยไม่มีส่วนผสมสารเคมีอันตรายต่างๆ ทั้งสารสเตียรอยด์ พาราเบนสารกันเสีย ไร้สี ไร้กลิ่น สามารถใช้ได้กับลูกน้อยตั้งแต่ทารกแรกเกิด และสามารถใชได้เป็นประจำ

          เนื้อ ครีมทาผื่นผ้าอ้อมเป็นสีขาวบริสุทธิ์ ไม่เหลวหรือเหนียวเนอะเกินไป ทาแล้วซึมเข้าผิวลูกได้ดี โดยมีส่วนของเชียบัตเตอร์ อาร์แกนออยล์ และสเปนเกรนแว๊กซ์ ซึ่งเป็นสารสกัดกธรรมชาติ รวมถึงแซคคาไรด์ ไอโซเมอเรทจากกลูโคสของพืช ที่มีโครงสร้างเดียวกับสารกักเก็บความชุ่มชื่นใต้ผิวของเรา จึงมีประสิทธิภาพในการกักเก็บและรักษาสมดุลความชุ่มชื่นในทุกสภาพอากาศ

          คุณแม่สามารถหาซื้อครีม Ezerra ได้สะดวกตามร้านขายยาชั้นนำทั่วไป และแอพพลิเคชั่นช้อปปิ้งต่างๆ โดยมีขนาดให้เลือกตามความเหมาะสมในการใช้งาน

          ทาง Amarin Baby & Kids “เครือข่ายแม่ลูกใหญ่ที่สุด” ผู้นำด้านคอนเทนต์คุณภาพ เข้าใจครอบครัวไทย และตอบสนองความต้องการของคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ จึงคัดเลือกให้lสเปรย์ปรับอากาศ Polar Spray ได้รับ รางวัล Editor’s Choice  Best Air Freshner จาก “Amarin Baby & Kids Awards 2019” ซึ่งมอบให้กับสินค้าแม่ลูก สินค้าใช้ดี และมีประโยชน์จริง”

          สามารถศึกษาผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้ที่ https://ezerrathailand.com/

           

          อ่านบทความ Amarin Baby & Kids Awards 2019 

          ประกาศผลรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019 สุดยอดแบรนด์สินค้าแม่และเด็กในดวงใจ

          วิธีดูแลลูกน้อย ให้ห่างไกลจากผื่นผ้าอ้อม

           

          เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

           

            อ่านวันละ 15 นาที

            มหัศจรรย์แห่งการอ่านวันละ 15 นาที สร้างสิ่งดีๆ เพื่อลูกน้อย

            อ่านวันละ 15 นาที

            สิ่งดีที่เกิดขึ้นนั้นมีอะไรบ้าง เราไปฟังจากปากพี่จี๊ด คุณสุธาทิพย์ ธัชยพงษ์ ผู้อำนวยการ ดรุณบรรณาลัย ห้องสมุดเด็กปฐมวัย กันดีกว่าค่ะ ทั้งนี้ก่อนหน้าที่พี่จี๊ดจะเป็นผู้อำนวยการดรุณบรรณาลัย พี่จี๊ดอยู่กับมูลนิธิหนังสือเพื่อเด็ก ซึ่งจัดโดยสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทยมาก่อน ซึ่งมูลนิธินี้ก่อตั้งมา 15-16 ปีแล้ว และได้มีการริเริ่มเอาโครงการ Book start หนังสือเล่มแรกมาใช้ นั่นคือให้พ่อแม่ใช้หนังสือภาพอ่านให้ลูกฟังตั้งแต่อายุ 6 เดือนโดยเป็นการอ่านอย่างต่อเนื่อง สำหรับโครงการนี้เริ่มจากประเทศอังกฤษก่อน แล้วค่อยขยายไปที่ญี่ปุ่น และอีกหลายๆประเทศ ซึ่งการที่ประเทศนั้นๆ จะทำ Book start ได้ต้องประกอบไปด้วย 3 สิ่งนี้ คือ
            1. หน่วยงานที่จัดหนังสือเพื่อแจก ส่วนใหญ่มักเป็นสถานอนามัยหรือโรงพยาบาล เพราะว่าการแจกถุงนั้นทำได้ตอนที่คุณพ่อคุณแม่พาลูกไปฉีดวัคซีน
            2. เกณฑ์อายุก็แล้วแต่ว่าประเทศนั้นให้ที่อายุเท่าไหร่ เช่น ประเทศอังกฤษ 7 เดือน ประเทศญี่ปุ่น 4 เดือน ส่วนประเทศไทย 6 เดือน (เลี้ยงลูกด้วยนมแม่จบก็ต่อด้วย Book start เลย)
            3. ห้องสมุดเด็ก เมื่อมีการให้หนังสือ Book start ครั้งแรกแล้ว เขาสามารถไปต่อยอดสามารถยืมต่อจากห้องสมุดได้ แต่เมืองไทยขณะนั้นยังไม่มี

            จนปี 2558 ได้มีการริเริ่มห้องสมุดเด็กขึ้นมา โดยเป็นการจัดสร้างเพื่อเฉลิมฉลองสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารที่พระชนมพรรษาครบ 60 พรรษา ซึ่งได้รับคำแนะนำจากคุณหมอพรรณพิมล วิปุลากร ผู้อำนวยการสถาบันราชานุกูล ว่าที่กรมสุขภาพจิตตรงวัดม่วงแค ซอยเจริญกรุง 34 มีบ้านโบราณสมัยรัชกาลที่ 6 ของตระกูลศรียาภัยอยู่ ทางมูลนิธิจึงสนใจและรีโนเวทขึ้นมาใหม่โดย บริษัท แปลนอาคิเทค ให้กลายเป็น ดรุณบรรณาลัย ห้องสมุดปฐมวัยสำหรับเด็ก วัย 0-7 ขวบ เป็นแห่งแรก ซึ่งมีหนังสือที่เหมาะสำหรับเด็กทุกประเภท

            อ่านวันละ 15 นาที

            พี่จี๊ดเล่าให้เราฟังต่ออีกถึง วิธีการอ่านหนังสือให้ลูกฟัง “ เราจะพยายามบอกคุณพ่อคุณแม่เสมอว่า ให้อ่านหนังสือกับลูกครั้งละ 5-15 นาทีก็พอใน 1 วัน จะเป็นช่วงไหนยังไงก็ได้ เพื่อให้ต่อเนื่อง ซึ่งวิธีการอ่านเราเน้นย้ำให้คุณพ่อคุณแม่อ่านชี้ไปตามตัวอักษร เพื่อให้เด็กได้ยิน แล้วมองภาพตาม เหมือนเป็นการบันทึกทั้งภาพทั้งคำศัพท์ ทั้งนี้เราก็ได้มีการทำวิจัยกลุ่มเป้าหมาย 106 ครอบครัว ทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด แล้วก็พบว่าแค่อ่านต่อเนื่อง 1 สัปดาห์แรก เมื่อเด็ก 6 เดือน เห็นหนังสือก็คลานเข้าไปหาเลย ซึ่งเหล่านี้ถือเป็นความสุขร่วมกันพ่อแม่ลูกโดยใช้หนังสือเป็นสื่อกลาง และทั้งนี้การที่เด็กชอบหนังสือก็เปลี่ยนพฤติกรรมพ่อแม่ได้ด้วย ยกตัวอย่างเช่น ครอบครัวหนึ่งในซอยเสือใหญ่อุทิศ คุณพ่อทำอาชีพเป็นมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ปกติกว่าจะกลับบ้านก็มืดค่ำเพราะไปกินเหล้ากับเพื่อน พอเริ่มโครงการ Book Start ได้อ่านหนังสือให้ลูกก็ติดใจ แทนที่จะไปกินเหล้าเหมือนเดิมก็ต้องรีบกลับมาอ่านหนังสือให้ลูกฟัง คือเรามีถุงหนังสือแจกให้เขา อ่านเสร็จก็แขวนไว้ที่เดิม เพื่อฝึกความเป็นระเบียบวินัยไปด้วยในตัว แล้วเวลาลูกเห็นเขาก็จะคลานไปหาถุงหนังสือเพื่อให้พ่อก็อ่านให้เขาฟัง

            อ่านวันละ 15 นาที

            นอกจากกรณีนี้แล้ว คุณ ตุ๊บปอง  นักแต่งนิทานชื่อดัง ซึ่งอยู่ในทีมที่ทำ Book start เหมือนกัน ก็เล่าให้ฟังว่ามีครอบครัวหนึ่ง แม่เป็นชาวเขาพ่อเป็นคนไทย พ่อต้องอ่านหนังสือให้ลูกฟังทุกวัน ทีนี้แม่กลัวว่าลูกจะรักพ่อมากกว่าก็เลยไปเรียนภาษาไทยด้วย เพื่อที่จะอ่านให้ลูกฟัง  จากคนที่ภาษาไม่ดีก็ได้พัฒนาภาษาไปในตัว เห็นไหมว่า การอ่านเพียงแค่วันละ 15 นาทีช่วยให้ชีวิตของเราเปลี่ยนไปในทางที่ดีได้จริง ๆ”

            อ่านวันละ 15 นาที

             ชวนเด็กอ่านกันแค่วันละ 15 นาที กับโครงการส่งความรู้สร้างความสุขปี 2 !

            ตอนนี้มีโครงการส่งความรู้ สร้างความสุข ปี 2 ที่ช่วยกระจายหนังสือไปสู่เด็กๆ ในโรงเรียนทั่วประเทศกว่า 57 โรงเรียน  ได้มีโอกาสอ่านหนังสือดีๆ และยังได้ฝึกเขียนบันทึกรักการอ่านอีกด้วย  จึงอยากฝากคุณพ่อคุณแม่ลองดูสิว่า โรงเรียนของลูกเรามีโครงการนี้หรือไม่  หากมีอย่าลืมแนะนำลูกเข้าชมรมรักการอ่าน และชวนลูกอ่านหนังสือแค่วันละ 15 นาที หรือจะอ่านหนังสือให้ลูกฟังก็ได้ เท่านี้ลูกรักก็จะมีพัฒนาการและการเรียนรู้ที่ดีมากขึ้นแน่นอน

             

            ติดตามช่าวความเคลื่อนไหวและร่วมสนับสนุนโครงการฯ ได้ทาง FB Fanpage : thehappyread และ www.thehappyread.com  ร่วมส่งต่อความรู้โดย (โลโก้) ส่งต่อความรู้มอบหนังสือให้เด็กๆกับโครงการ ส่งความรู้สร้างความสุข ปี 2

            อ่านวันละ 15 นาที

              นิทาน 2 ภาษา

              2 นิทาน 2 ภาษา จากโครงการส่งความรู้ สร้างความสุข ปี 2

              จากโครงการส่งความรู้ สร้างความสุขปีที่ 1 ขับเคลื่อนโครงการต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 เพื่อส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนทั่วประเทศ ตระหนักถึงความสำคัญของการอ่านหนังสือ โดยในปีที่ 2 มีโรงเรียนที่เข้าร่วมกิจกรรม 57 โรงเรียน รวม 2 ปี 109 โรงเรียน อีกทั้งยังมีการนำชั้นหนังสือมอบให้กับทุกโรงเรียนที่เข้าร่วมกิจกรรม และชุดหนังสือนิทานปกอ่อนของคุณตุลย์ชุดนี้ เป็นหนึ่งในหนังสือดี ที่มีรางวัลการันตี ทั้ง 2 เล่ม มาดูกันว่านิทาน 2 เล่ม 2 ภาษามีเรื่องอะไรที่น่าสนใจบ้าง

              นิทาน 2 ภาษา

              หนังสือนิทานชุดนี้เป็นหนึ่งในชุดหนังสือที่มอบให้กับ 50 โรงเรียนที่ร่วมโครงการส่งความรู้ สร้างความสุขปี 2 โดยในนิทานชุดนี้เป็นหนังสือนิทานสองภาษา ในเล่มจะมีทั้งการเขียนเล่าเป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เพื่อจะช่วยเสริมสร้างการฟังและการอ่านให้เด็กๆ ในด้านภาษาไทยและภาษาอังกฤษไปพร้อมๆ กัน

              นิทาน 2 ภาษา

              เล่มที่ 1 ทายซิ ทายซิ นั่นตัวอะไร (Thai-Eng)

              ผู้เขียน : ตุลย์ สุวรรณกิจ   สำนักพิมพ์ : แพรวเพื่อนเด็ก

              หนังสือเล่มนี้จะทำให้เด็กๆ ที่มักกลัวความมืดอย่างไร้เหตุผลหันมาทำความรู้จักกับความมืดในมุมมองที่สนุกสนานมากขึ้น ทั้งจากการทายและการเผชิญหน้ากับเพื่อนใหม่ที่ไม่คุ้นเคยกันมาก่อน จนในที่สุดยามค่ำคืนอันมืดมิดอาจไม่น่ากลัวอย่างที่เด็กๆ คิดก็เป็นได้

              “ทายซิ ทายซิ นั่นตัวอะไร” ผลงานเล่มล่าสุดของ ตุลย์ สุวรรณกิจ เจ้าของรางวัลดีเด่นประเภทกลุ่มหนังสือเด็กเล็ก 3-5 ขวบ จากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ประจำปี พ.ศ. 2551 เรื่อง “ทายซิ ทายซิ ฉันคือใคร”

              นิทาน 2 ภาษา

              เล่มที่ 2 ทายซิ ทายซิ ฉันคือใคร (Thai-Eng)

              ผู้เขียน : ตุลย์ สุวรรณกิจ   สำนักพิมพ์ : แพรวเพื่อนเด็ก

              ในหนังสือเล่มนี้นอกจากความสนุกสนานแล้ว เพื่อนๆ ยังจะได้ทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ที่มีลักษณะพิเศษกว่าเพื่อนคนไหนๆ เป็นเกร็ดความรู้ใหม่ๆ แถมให้อีกด้วย

                              ทายซิ ทายซิ ฉันคือใคร” ได้รับรางวัลดีเด่นประเภทกลุ่มหนังสือเด็กเล็ก 3-5 ขวบ จากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ) งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติประจำปี พ.ศ.2550 ได้รับคัดเลือกจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ) สำหรับเด็กปฐมวัยตามนโยบายเรียนฟรี 15 ปี อย่างมีคุณภาพประจำปี 2552 ได้รับคัดเลือกเป็นหนึ่งใน 108 หนังสือดี เป็นหน้าต่างแห่งโอกาสในการพัฒนาเด็กปฐมวัย โดยแผนงานส่งเสริมวัฒนธรรมการอ่าน และเป็นหนังสือที่ได้รับเลือกให้เป็นหนังสือดีสำหรับเด็กในโครงการหนังสือเล่มแรก Bookstart ปี พ.ศ 2552

              อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

              ติดตามช่าวความเคลื่อนไหวและร่วมสนับสนุนโครงการฯ ได้ทาง FB Fanpage : thehappyread และ www.thehappyread.com ร่วมส่งต่อความรู้โดย (โลโก้) ส่งต่อความรู้มอบหนังสือให้เด็กๆกับโครงการ ส่งความรู้สร้างความสุข ปี 2

              นิทาน 2 ภาษา
              นิทาน 2 ภาษา
                หนังสือชุด วิทยาศาสตร์ฉลาดรู้

                เปิดโลกความรู้สุดสนุก กับ หนังสือชุด “วิทยาศาสตร์ฉลาดรู้“ ในโครงการส่งความรู้สร้างความสุข ปี 2

                หนังสือชุด “วิทยาศาสตร์ฉลาดรู้“ ที่เราเลือกมานำมาเสนอนี้ เต็มไปด้วยความลับที่น่าพาไปค้นหากับปริศนาที่ถูกค้นพบให้กระจ่างชนิดฮาน้ำตาเล็ด ประกอบไปด้วย เรื่องปริศนาน่าฉงน, เมนูพิสดาร, พิษและแก๊สพิษ, การทดลองสุดพิลึก, ไขปริศนาสยองขวัญ และการพิสูจน์หลักฐาน โดยหนังสือชุดนี้จะพาเด็กๆ เข้าไปเรียนรู้หลักการ ข้อเท็จจริง และความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ที่สามารถพบเห็นได้ในชีวิตประจำวัน ทั้งนี้กฎข้อแรกของวิทยาศาสตร์ คือการตั้งคำถามหรือปัญหา ดังนั้นหากเราต้องการศึกษาวิทยาศาสตร์ คุณสมบัติที่จะขาดไปไม่ได้เลยก็คือความอยากรู้อยากเห็น ความกระหายใคร่รู้ในคำตอบของธรรมชาติ ความกระตือรือร้นที่จะสังเกตสิ่งต่างๆ รอบตัว ซึ่งในหนังสือชุดนี้เล่าผ่านตัวละครลายเส้นการ์ตูนที่เปี่ยมไปด้วยสีสัน ตัวช่วยสำคัญคอยกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของเด็กๆ ให้เกิดความสงสัย โดยในตอนท้ายจะมีการไขปัญหาและตอบคำถามน่าฉงนได้อย่างมีสาระ ขณะเดียวกันก็เปี่ยมไปด้วยอารมณ์ขันที่สามารถเรียกเสียงหัวเราะได้ไม่น้อยเลยค่ะ

                หนังสือชุด วิทยาศาสตร์ฉลาดรู้

                หนังสือชุด วิทยาศาสตร์ฉลาดรู้

                โดยเราจะขอเลือกมารีวิว 3 เล่มก่อน ได้แก่ ปริศนาน่าฉงน, เมนูพิสดาร และเรื่องพิษและแก๊สพิษ

                วิทยาศาสตร์ฉลาดรู้ เรื่องปริศนาน่าฉงน
                ผู้เขียน : ชอนพันเคียว / ชาฮยอนจิน
                สำนักพิมพ์ : อมรินทร์คอมมิกส์
                ราคา 199 บาท
                ในเล่มนี้เต็มไปด้วยคำถามที่เต็มไปด้วยความสงสัยมากมาย ซึ่งมาพร้อมคำตอบที่มีอยู่ภายในเล่ม ไม่ว่าจะเป็น
                – เมืองโบราณใต้ดินเกิดขึ้นได้อย่างไร?
                – มนุษย์ล่องหนมีจริงหรือ?
                – สัตว์ประหลาดที่กินมนุษย์มีจริงหรือ?
                – UFO มีจริงหรือไม่?

                วิทยาศาสตร์ฉลาดรู้ เรื่องเมนูพิสดาร
                ผู้เขียน : อันกวางฮยอน
                สำนักพิมพ์ : อมรินทร์คอมมิกส์
                ราคา  199 บาท
                ในเล่มนี้เต็มไปด้วยคำถามที่เต็มไปด้วยความสงสัยมากมาย ซึ่งมาพร้อมคำตอบที่มีอยู่ภายในเล่ม ไม่ว่าจะเป็น
                – อาหารที่กลิ่นเหม็นที่สุดในโลกคืออะไร?
                – ทำไมหม้อถึงมีแต่ทรงกลม?
                – แมลงเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางสารอาหารสูงจริงหรือ?
                – ฟาสต์ฟู้ดชนิดแรกของโลกคืออะไร?
                – ทำไมดื่มน้ำอัดลมแล้วถึงเรอออกมา?

                วิทยาศาสตร์ฉลาดรู้ เรื่องพิษและแก๊สพิษ
                ผู้เขียน : ชินเฮยอง
                สำนักพิมพ์ : อมรินทร์คอมมิกส์
                ราคา 199 บาท
                ในเล่มนี้เต็มไปด้วยคำถามที่เต็มไปด้วยความสงสัยมากมาย ซึ่งมาพร้อมคำตอบที่มีอยู่ภายในเล่ม ไม่ว่าจะเป็น
                – พิษอะไรที่ร้ายแรงที่สุดในโลก?
                – ที่สนามเด็กเล่นมีพิษด้วยจริงหรือไม่?
                – จะทำอย่างไร หากเราได้รับพิษจากก๊าซ?
                – ตดกลายเป็นระเบิดได้จริงหรือเปล่า?
                – มีก๊าซที่ทำให้หัวเราะด้วยหรือ?

                 

                หนังสือชุด วิทยาศาสตร์ฉลาดรู้

                 รู้หรือไม่? หนังสือชุดนี้ เป็นหนึ่งหนังสือดีที่โครงการส่งความรู้ สร้างความสุขปี 2 ที่ บริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) บมจ.อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง นำไปจัดเป็นชั้นหนังสือให้เด็กๆ กว่า 50 โรงเรียนทั่วประเทศในโครงการได้แบ่งกันอ่าน ในชมรมรักการอ่านอีกด้วย  คุณพ่อคุณแม่บ้านไหนสนใจ โครงการ และเด็กๆ ชื่นชอบการอ่านหนังสือการ์ตูนความรู้กันแบบนี้ ติดตามได้ที่โครงการส่งความรู้ สร้างความสุขปี 2 กันได้เลย หรือสนใจจะบริจาคหนังสือดีๆ นี้ให้กับโรงเรียนที่ขาดแคลน สามารถติดต่อได้ที่โครงการส่งความรู้ สร้างความสุขปี 2 ตามข้อมูลด้านล่างนี้ค่ะ

                 

                ติดตามช่าวความเคลื่อนไหวและร่วมสนับสนุนโครงการฯ ได้ทาง FB Fanpage : thehappyread และ www.thehappyread.com ร่วมส่งต่อความรู้โดย (โลโก้) ส่งต่อความรู้มอบหนังสือให้เด็กๆ กับโครงการ ส่งความรู้สร้างความสุข ปี 2

                หนังสือชุด วิทยาศาสตร์ฉลาดรู้

                  เรียนเต้นดียังไง

                  เรียนเต้นดียังไง 6 เหตุผลที่ลูกเรียนเต้นแล้วได้ครบทั้งร่างกาย อารมณ์ สมอง

                  เรียนเต้นดียังไง เห็นเจ้าตัวเล็กออกสเต็ป ใช่ย่อยซะที่ไหนกันเล่า โดยเฉพาะการเต้นคัฟเวอร์แดนซ์ทั้งเพลงไทยหรือเกาหลีที่เราจะเห็นลูกรักกล้าแสดงออกเวลาได้ยินเสียงเพลง ถ้าน้ำกับเด็ก ๆ เป็นของคู่กัน เราจะเห็นความสนุก ความสุขของลูกทุกครั้งที่ได้เล่น การเต้นเข้าจังหวะกับเสียงเพลงก็คงเป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่สร้างความสุข ได้เห็นรอยยิ้มของลูกได้เต็ม ๆ โดยเฉพาะเพลงเต้นมัน ๆ ที่ชวนให้ลูกรักออกสเต็ปการเต้นตั้งแต่วัยอนุบาล จนถึงการ “คัฟเวอร์แดนซ์” (cover dance) ที่เห็นลูกเต้นตามศิลปินที่ชื่นชอบ

                  ล่าสุดทีมแม่ ABK ได้เห็น “น้องมะลิ” มาเต้นโชว์สเต็ปเต้น cover dance ในเพลง “Kill This Love” ของวงเกิร์ลกรุ๊ปสุดฮอต BLACKPINK ในโครงการ Dance Project 2019 ผ่านอินสตาแกรมของแม่โบว์ Vanda29 เห็นแล้วก็อดชื่นชมในความพยายามตั้งใจฝึกฝนจนได้ผลงานที่น่าชื่นชมออกมาไม่ได้ เรามาดูกันดีกว่าว่าการเต้นยังมีประโยชน์สำหรับเด็ก ๆ ยังไง ที่พ่อแม่ควรส่งเสริมกิจกรรมนี้กันค่ะ

                  มะลิเต้น ล่าสุด
                  ขอบคุณภาพจาก www.facebook.com/bovanda29

                  เรียนเต้นดียังไง 6 เหตุผลดีที่เรียนเต้นแล้วได้ครบทั้งร่างกาย อารมณ์ สมอง

                  1.ช่วยฝึกความอดทน

                  การเต้นคัฟเวอร์ แดนซ์ คือการเต้นเข้ากับเพลงต้นฉบับจากศิลปินที่ชื่นชอบโดยที่เด็ก ๆ ไม่ต้องคิดท่าเต้นขึ้นมาใหม่ แต่เป็นการพยายามที่จะแกะท่าเต้นของศิลปินต้นฉบับว่าเต้นท่าไหน อย่างไร เรียนรู้เทคนิคการเต้นจากการฝึกฝนและฝึกซ้อมเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้สามารถเต้นให้ได้เหมือนต้นฉบับ และสามารถเรียนเต้นได้หลากหลายรูปแบบมากขึ้น ถือว่าเป็นการช่วยฝึกความอดทนและความพยายามของลูกเพื่อให้เกิดความสำเร็จจากสิ่งที่ตัวเองชอบได้ดีเชียวล่ะ

                  2.ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง

                  การเต้น ถือว่าเป็นกิจกรรมที่ช่วยเสริมพัฒนาการเคลื่อนไหวของลูกได้ดี ซึ่งส่วนใหญ่เพลงมีท่าเต้นมักจะเป็นเพลงเร็ว ดังนั้นจังหวะในการเต้นก็จะเร็ว ซึ่งจะทำให้ร่างกายขยับได้ขยับทั้งแขน ขา ไปพร้อม ๆ กันอย่างเป็นจังหวะ ส่งผลให้กล้ามเนื้อแข็งแรง ทำให้หัวใจสูบฉีดและเลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น รวมไปถึงช่วยบริหารทางเดินหายใจ ปอด และกล้ามเนื้อหัวใจแข็งแรงขึ้นอีกด้วย ถือเป็นการออกกำลังกายไปพร้อมกับความสนุกที่ทำให้ร่างกายแข็งแรง คล่องแคล่ว และไม่น่าเบื่อด้วย

                  3.ช่วยให้อารมณ์ดี

                  ความสนุกสนานจากการเต้นเพลงจังหวะสนุก ๆ จะทำให้ร่างกายหลั่งสารเอ็นโดรฟินออก จึงทำให้เกิดความสุข ไม่มีภาวะความเครียด ส่งผลดีต่อสุขภาพจิต และส่งผลทำให้ลูกเป็นเด็กอารมณ์ดี สดชื่น แจ่มใส

                  4.ช่วยทำให้ความจำดีขึ้น

                  การเต้นจะทำให้ได้ฝึกสมาธิ เพราะได้จดจ่ออยู่กับการเคลื่อนไหวที่กำลังทำอยู่ตลอดเวลา รวมถึงการฟังเสียงเพลงเพื่อจับจังหวะ สอดประสานไปกับการเต้น ซึ่งเป็นการเสริมสร้างการทำงานของสมอง ที่ต้องใช้พลังสมองอย่างมหาศาลในการจดจำ ซึ่งอาจส่งผลช่วยทำให้ความจำดีขึ้น และช่วยป้องกันไม่ให้เป็นโรคสมองเสื่อมเมื่ออายุมากขึ้นได้

                  5.ช่วยเสริมการทรงตัวดีขึ้น

                  การเต้น คือการใช้ร่างกายเคลื่อนไหวเป็นหลัก ถือว่าเป็นการจัดระเบียบร่างกาย ทำให้สามารถควบคุมร่างกายได้ดีขึ้น ร่างกายมีความคล่องแคล่ว ยืดหยุ่น การเต้นเป็นประจำจะช่วยให้ร่างกายมีเสถียรภาพ ช่วยเสริมการทรงตัวต่อการเดิน วิ่ง ของลูกได้

                  6.เสริมพัฒนาการด้านสังคม

                  การเรียนเต้นแบบเป็นกลุ่มจะช่วยเพิ่มทักษะการเข้าสังคมให้กับลูก ในการเต้นร่วมกับคนอื่น ช่วยให้ได้เพื่อนใหม่ รู้จักการเป็นผู้นำ ผู้ตาม เพิ่มความกล้าแสดงออกอย่างสร้างสรรค์ และช่วยพัฒนาความมั่นใจในตนเองให้เพิ่มขึ้น

                  น้องมะลิเต้นเพลงเกาหลี
                  ขอบคุณภาพจาก www.facebook.com/bovanda29

                  ชวนลูกเต้นหรือเต้นตามลูกด้วยทริคการเต้นคัฟเวอร์แดนซ์แบบง่าย ๆ

                  • คัฟเวอร์แดนซ์ส่วนใหญ่จะเต้นตามศิลปินกลุ่ม เพราะฉะนั้นต้องระบุให้ชัดเจนว่าจะเต้นแบบใคร เพื่อ Blocking ในการยืน หรือถ้าฝึกเต้นคนเดียวก็สามารถทำได้เช่นกันค่ะ
                  • ฟังเพลงที่เลือกเต้นซ้ำ ๆ เพื่อให้สามารถจำแต่ละท่อนได้และทำความเข้าใจว่าเพลงสื่ออะไร เพื่อที่จะสามารถสื่ออารมณ์ผ่านการเต้น Cover จะทำให้การเต้นออกมาดูมีเสน่ห์ต่อตัวผู้เต้นด้วย
                  • จับจังหวะเสียงดนตรีในเพลงให้เข้ากับท่าเต้น ถ้าจับจังหวะได้การเริ่มและแกะท่าเต้นนั้นจะยิ่งง่ายขึ้น
                  • เมื่อจับจังหวะเพลงกับท่าเต้นได้แล้ว ก็มาเริ่มแกะท่าเต้น โดยแนะนำให้แกะท่าเต้นและฝึกเต้นตามทีละท่อนเพลง สำหรับ cover dance มือใหม่

                  สิ่งที่ทำให้เด็ก ๆ สนุกกับการเต้น Cover Dance เป็นเพราะว่าไม่ต้องมีพื้นฐานก็สามารถเต้นตามได้ง่าย ๆ นั่นเอง การเต้นแนวนี้จึงกลายมาเป็นกระแสแรงและเด็ก ๆ ได้ให้ความสนใจ ถือเป็นศาสตร์อีกแขนงหนึ่งของการเต้นลอกเลียนแบบตามศิลปินต่าง ๆ ที่ชอบในดวงใจ จนทำให้รู้สึกอยากเต้นตาม ซึ่งในปัจจุบันศิลปินผู้ซึ่งเป็นเจ้าของผลงาน หรือผู้จัดงานต่าง ๆ ก็มีการจัดประกวดเต้นคัฟเวอร์ให้เลียนแบบศิลปิน ทำให้หลาย ๆ คนหันมาใช้เวลาว่างในการเต้นคัฟเวอร์กันเยอะมากขึ้น และถือว่ามีเวทีสำหรับการเปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชนออกมาแสดงศักยภาพเกี่ยวกับการเต้นเพิ่มขึ้น การเต้น จึงเป็นกิจกรรมสร้างสรรค์แล้วยังได้ใช้เวลาให้เป็นประโยชน์อีกด้วย และได้พัฒนาการดี ๆ ที่เกิดขึ้นต่อตัวเด็กได้เป็นอย่างดีอีกกิจกรรมหนึ่ง ถ้าคุณพ่อคุณแม่มองเห็นความสามารถหรือความชอบของลูกด้านนี้ ลองสนับสนุนให้ลูกได้ไปต่อดูนะคะ.

                  มาดูคลิปน่ารัก ๆ ที่น้องมะลิโชว์สเต็ปการเต้นกันค่ะ

                  https://www.instagram.com/p/B2YLFJTnpif/

                  ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก : eclipsestudiobkk.comwww.historicaldance.comwww.afterklass.com

                  อ่านต่อบทความอื่นน่าสนใจ คลิก!

                  รวม 9 เพลงเด็ก แบบภาษาอังกฤษ สำหรับเต้นสนุก ฝึกทักษะ เสริมพัฒนาการ

                  คลิปสุดน่ารัก ^_^ พ่อเต้นโคฟเวอร์เพลงเกาหลีกับลูกสาว เป๊ะเว่อร์!

                  เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                   

                    เชื้อโรคที่มือ

                    ครูสอนเด็กเรื่อง “เชื้อโรคที่มือ” ผ่าน “ขนมปัง”

                    เมื่อเด็กชอบเอามือเอาของเล่นเข้าปาก ทำให้ป่วยบ่อย ๆ ครูหัวใสจึงใช้ “ขนมปัง” สอนเด็กรู้ว่า เชื้อโรคที่มือ มีมากมายแค่ไหน ทำไมต้องล้างมือบ่อย ๆ

                    ครูสอนเด็กเรื่อง “เชื้อโรคที่มือ” ผ่าน “ขนมปัง”

                    การล้างมือเป็นประจำ ทุก ๆ ครั้งหลังเข้าห้องน้ำ และทุก ๆ ครั้งก่อนทานอาหารหรือขนม เป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ และคุณครูคอยสอนเด็ก ๆ มาตลอด เพราะการล้างมือจะช่วยป้องกันไม่ให้ลูกติดเชื้อโรคต่าง ๆ ได้ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นโรคที่รุนแรงหรือโรคหวัดทั่วไป ก็สามารถป้องกันได้ด้วยการล้างมือ แต่อย่างที่แม่ ๆ รู้กันดีว่าเป็นไปได้ยากมาก ๆ ที่ลูกจะล้างมือทุกครั้งก่อนเอามือเข้าปาก เอาของเล่นเข้าปาก

                    ทีมแม่ ABK จึงขอนำไอเดียของ Jaralee Metcalf และ Dayna Robertson คุณครูจากโรงเรียนประถมแห่งหนึ่งที่ทำให้เด็ก ๆ เห็นว่ามี เชื้อโรคที่มือ มีมากแค่ไหน ผ่านการทดลองผ่านการใช้ขนมปัง เพื่อให้เด็ก ๆ รักษาความสะอาด และไม่อยากให้มือของตัวเองสกปรกอีกต่อไป

                    ” พวกเราต้องการให้เด็ก ๆ เข้าใจด้วยตัวเองและเห็นภาพว่าทำไมคุณพ่อคุณแม่และคุณครูถึงต้องคอยย้ำเด็ก ๆ อยู่เสมอว่าให้ล้างมือเป็นประจำ ” คุณครูทั้ง 2 กล่าว โดยการทดลองใช้เพียงอุปกรณ์ต่อไปนี้

                    1. แผ่นขนมปัง 5 แผ่น
                    2. ถุงซิปล็อค ขนาดที่พอเหมาะสำหรับใส่ขนมปัง

                    วิธีทำการทดลอง

                    นำขนมปังทั้งหมด 5 แผ่น โดยแต่ละแผ่นจะถูกปฏิบัติดังนี้

                    • แผ่นที่ 1: เป็นแผ่นที่นำไปถูกับ Chromebook เลย
                    • แผ่นที่ 2: เป็นแผ่นที่ไม่ถูกสัมผัสจากมือเลย
                    • ขนมปังแผ่นที่ 3 เป็นแผ่นที่ถูกสัมผัสจากมือที่สกปรก
                    • แผ่นที่ 4: เป็นแผ่นที่ถูกสัมผัสจากมือที่ผ่านการล้างด้วยสบู่มาแล้ว
                    • แผ่นที่ 5: เป็นแผ่นที่ถูกสัมผัสจากมือที่ผ่านการใช้เจลล้างมือ
                    มือมีเชื้อโรค
                    มือมีเชื้อโรคมากแค่ไหน

                    หลังจากเก็บใส่ถุงเรียบร้อยแล้ว คุณครูใช้เวลา 3-4 สัปดาห์ในการรอผล เมื่อถึงเวลาอันสมควรแล้ว เธอจึงพานักเรียนของเธอมาดูผลการทดลอง ดังภาพด้านล่างนี้

                     

                    เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                    อ่านต่อ ครูสอนเด็กเรื่อง “เชื้อโรคที่มือ” ผ่าน “ขนมปัง”

                      การตรวจคัดกรองภาวะดาวน์ซินโดรม

                      ลบความเชื่อผิดๆ เรื่องการตรวจคัดกรองภาวะดาวน์ซินโดรม

                      คุณแม่หลายท่านอาจไม่ทราบว่า ภาวะดาวน์ซินโดรมในทารกสามารถเกิดขึ้นได้กับคุณแม่ตั้งครรภ์ทุกวัย ไม่ใช่คุณแม่อายุ 35 ปีขึ้นไปเท่านั้น  เราจึงอยากชวนคุณแม่ลบความเชื่อผิดๆ ที่คิดว่าอายุน้อยไม่เสี่ยง โดย นพ.วรชัย ชื่นชมพูนุท สูตินรีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ จะมาให้ความรู้ที่ถูกต้อง พร้อมข้อมูล การตรวจคัดกรองภาวะดาวน์ซินโดรม แบบ NIPT ด้วยเทคนิค DANSR  ที่รวดเร็ว ปลอดภัย ให้ผลที่เชื่อถือได้ ลดการเจาะน้ำคร่ำ มาฝากคุณแม่ท้องและครอบครัวให้สบายใจกับการตรวจคัดกรองได้มากยิ่งขึ้น

                       

                      รู้หรือไม่?…

                      ทารกเป็นดาวน์ซินโดรมกว่า 80% เกิดกับคุณแม่อายุน้อยกว่า 35 ปี

                      มีข้อมูลพบว่า ทารกประมาณ 1 ใน 700 คน ป่วยเป็นโรคดาวน์ซินโดรม และมากกว่า 80% มักเกิดกับคุณแม่ตั้งครรภ์ที่อายุน้อยกว่า 35 ปี โดยไม่ทราบสาเหตุ  ซึ่งคุณแม่ที่มีอายุน้อยมักชะล่าใจ คิดว่ามีความเสี่ยงน้อย ทั้งที่ยังมีความเสี่ยงอยู่จึงไม่ได้เข้ารับการตรวจคัดกรองดาวน์ซินโดรมในระหว่างตั้งครรภ์  ดังนั้นการตรวจคัดกรองดาวน์ซินโดรมจึงมีความสำคัญสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ทุกคน เพื่อให้รู้เร็ว จะได้ทำการปรึกษาหารือกัน กับแพทย์ผู้ดูแล และสมาชิกในครอบครัวเพื่อเตรียมพร้อมหาทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับครอบครัวต่อไปได้

                      การตรวจคัดกรองภาวะดาวน์ซินโดรม

                      การตรวจคัดกรองภาวะดาวน์​ซินโดรมมีวิธีไหนบ้าง ?

                      • การเจาะน้ำคร่ำ มักทำในคุณแม่ตั้งครรภ์อายุ35 ปีขึ้นไปและต้องมีอายุครรภ์ตั้งแต่ 5 เดือน แต่วิธีนีมีความเสี่ยงแท้งบุตรอยู่ที่ประมาณ 0.5%
                      • การเจาะเลือดคุณแม่เพื่อหาปริมาณสารเคมี ตรวจฮอร์โมน ร่วมกับการทำอัลตร้าซาวนด์ ซึ่งมีความไวประมาณ 85-90%
                      • วิธี NIPT(Non-invasive prenatal test)คือการเจาะเลือดคุณแม่เพื่อตรวจเซลล์ของลูกที่แฝงอยู่โดยสามารถเริ่มทำได้ตั้งแต่อายุครรภ์เพียง10 สัปดาห์ซึ่งนอกจากจะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ และปลอดภัยมากขึ้นแล้วยังลดความเสี่ยงต่อการแท้งบุตรจากวิธีการเจาะน้ำคร่ำอีกด้วย

                       

                      การตรวจคัดกรองแบบ NIPT ให้ผลที่เชื่อถือได้ 99% จริงหรือ ?

                      การตรวจ NIPT ด้วยเทคนิค DANSR หรือหลักการ SNP (สนิปส์) จะทำการเลือกตรวจหาความผิดปกติจากเฉพาะ DNA ของทารกในครรภ์เท่านั้น จึงลดโอกาสผลบวกลวงน้อยกว่า 0.1% ในขณะเดียวกันหากผลออกมาเป็นบวก โอกาสที่ทารกจะมีภาวะดาวน์ซินโดรมก็สูงมาก และยังสามารถตรวจโครโมโซมที่ผิดปกติอื่นๆ ของทารกได้ด้วย เช่น โรคเอ็ดเวิรด์ซินโดรม พาทัวซินโดรม ความผิดปกติของโครโมโซมเพศ

                      การตรวจคัดกรองภาวะดาวน์ซินโดรม

                      เลือกตรวจ  NIPT แบบไหนให้ได้คุณภาพ

                      เนื่องจากการตรวจคัดกรองภาวะดาวน์ซินโดรมด้วยวิธี NIPTมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง คุณแม่ควรปรึกษาแพทย์และครอบครัวในการเลือกแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ เช่น

                      • มีผลงานวิจัยทางการแพทย์ที่รองรับเป็นจำนวนมาก และมีความน่าเชื่อถือในการให้ผลที่แม่นยำ
                      • มีเทคนิคในการตรวจเลือดหรือเลือกเซลล์จากรกของเด็กที่มีความแม่นยำ เช่น เทคนิค DANSR ที่ใช้วิธีแยกเซลล์ของทารกออกจากของคุณแม่แล้วนำมาวิเคราะห์หรือนับข้างนอก ทำให้ได้ผลที่แม่นยำสูงกว่าเทคนิคที่ใช้การนับเซลล์ทั้งหมดทีเดียว  ซึ่งอาจจะมีเซลล์ของคุณแม่ปะปนมาด้วย ทำให้ได้ผลคลาดเคลื่อนและผิดพลาดสูงมาก
                      • เป็นสถาบันที่มีประวัติการผิดพลาดน้อย เจาะเลือดซ้ำน้อย และมีเปอร์เซ็นต์ของการออกผลที่แม่นยำ
                      • มีเอกสารรับรองผลิตภัณฑ์จากสถาบันที่สากลรับรองและเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับอนุญาตนำเข้าจากสำนักคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุขอย่างถูกต้อง ได้แก่ อเมริกา (CAP/CLIA) และ ยุโรป (CE-IVD)

                       

                      รู้หรือไม่ การตรวจคัดกรองภาวะดาวน์ซินโดรมด้วยวิธี NIPT โดยใช้เทคนิค DANSR ต่างจากการตรวจ NIPT ทั่วไปอย่างไร

                      – แยก DNA ของลูกออกมาจากเลือดของแม่เพื่อทำการวิเคราะห์ได้ ซึ่งช่วยลดผลบวกปลอม และลดโอกาสการเจาะเลือดซ้ำ

                      – สามารถตรวจคัดกรองโรคพันธุกรรมหลักได้ทั้งในครรภ์เดี่ยว ครรภ์แฝดแบบธรรมชาติรวมถึงการตั้งครรภ์จากเด็กหลอดแก้ว (IVF) และการบริจาคไข่ หรือคุณแม่อุ้มบุญ(surrogate)

                      – ตรวจได้ตั้งแต่อายุครรภ์เพียง 10 สัปดาห์ สามารถรู้ผลได้ภายในการตรวจเพียงครั้งเดียวว่าทารกมีความเสี่ยงหรือไม่

                      – บอกเพศของทารกในครรภ์ได้ตั้งแต่อายุครรภ์เพียง 10 สัปดาห์

                      – ผลการตรวจได้มาตรฐานระดับสากล

                      _________________________________________________________________________

                      การตรวจคัดกรองภาวะดาวน์ซินโดรม

                        สเปรย์ปรับอากาศ ยูคาลิปตัส เปลี่ยนบ้านให้สะอาด สดชื่น ปลอดภัยกับลูกน้อย

                        สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงฉับพลัน ฝุ่นละออง และคนในบ้านป่วยล้วนส่งผลต่อสุขภาพของลูกน้อย การทำให้อากาศภาทยในบ้านสะอาด จึงเป็นสิ่งที่คุณแม่ใส่ใจ สเปรย์ปรับอากาศ ยูคาลิปตัสเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่จะเปลี่ยนอากาศภายในบ้านให้กลับมาสะอาด สดชื่น แต่ละเลือกอย่างไรให้ปลอดภัยกับลูกน้อย ตามมาอ่านข้อมูลดีๆกันเลยค่ะ

                        เพราะสุขภาพทุกคนในบ้านเป็นเรื่องสำคัญ หากคนใดคนหนึ่งในบ้านป่วยมักจะติดกันวนเวียนกันไปมาไม่หายง่ายๆ โดยเฉพาะลูกน้อยที่ภูมิคุ้มกันยังพัฒนาไม่เต็มที่ จึงรับเชื้อโรคได้ง่ายและมีโอกาสจะป่วยหนักกว่าผู้ใหญ่ เพียงแค่ไอจามรดกัน ลูกก็เสี่ยงจะติดโรคได้แล้ว

                        สเปรย์ปรับอากาศ

                        แม่ยุคใหม่จึงเลือกใช้ สเปรย์ปรับอากาศ ยูคาลิปตัสมาสร้างอากาศในบ้านในสะอาดปราศจากเชื้อโรคและสารก่อภูมิแพ้ สเปรย์ปรับอากาศชนิดนี้ต่างจากสเปรย์ปรับอากาศทั่วไปตรงที่ กลิ่นหอมจากธรรมชาติของต้นยูคาลิปตัส จึงไม่ระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจของลูกน้อย (ทั้งนี้ไม่ควรพ่นมากเกินไป) ในท้องตลาดมีสเปรย์ยูคาลิปตัสหลากหลายยี่ห้ออาจทำให้แม่ตัดสินใจยาก เรามีวิธีเลือกแบบง่ายๆ มาฝากกัน ดังนี้

                        วิธีเลือก สเปรย์ปรับอากาศ ยูคาลิปตัสเพื่อสุขภาพลูกน้อย

                        • มีส่วนผสมของยูคาลิปตัส หรือสารสกัดธรรมชาติเพื่อความปลอดภัยต่อลูกน้อย อ่านได้จากส่วนผสมข้างขวด
                        • เลือกสเปรย์ที่เหมาะกับใข้งานได้หลายที่ เช่น ห้องนอน ห้องนั่งเล่น รถยนต์ โดยเฉพาะห้องนอนของลูกเบบี๋ เพื่อความคุ้มค่า
                        • ผ่านการทดสอบจากสถาบันทางการแพทย์แล้วว่าปลอดภัยต่อสุขภาพ
                        • ถ้าต้องการมากกว่าแค่ปรับอากาศให้หอมสดชื่อ ควรเลือก สเปรย์ปรับอากาศที่มีคุณสมบัติฆ่าเชื้อโรค
                        • หัวสเปรย์เล็ก ฉีดแล้วกระจายได้ทั่วห้อง ไม่ต้องฉีดเยอะ

                         

                        สเปรย์ปรับอากาศ

                        Amarin Baby & Kids Awards 2019 ยกให้ Polar Spray (โพลาร์ สเปรย์) เป็น สเปรย์ปรับอากาศ ที่ได้รับรางวัล Editor’s Choice Best AIR FRESHNER

                        โพลาร์ สเปรย์ เป็นสเปรย์ปรับอากาศ ยูคลาลิปตัสที่เป็นมากกว่าแค่สเปรย์ปรับอากาศ ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยี Activ Polar (แอคทีฟ โพลาร์) ซึ่งคิดค้นโดยแพทย์และเภสัชกรผู้เชี่ยวชาญให้มีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียและไวรัสให้อากาศสะอาดขึ้น ช่วยลดโอกาสการติดเชื้อทางเดินหายใจให้น้อยลง

                        ตัวสเปรย์ผลิตจากสารสกัดธรรมชาติ เช่น เนเชอรัล ยูคาลิปตัส ออยล์ (Natural Eucalyptus Oil) เป็นส่วนผสมสำคัญที่ช่วยบรรเทาอาการคัดจมูก โล่งจมูก หอมสดชื่น เย็นสบาย และขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ และยังมีเนเชอรัล ที ทรี ออยล์ (Natural Tea Tree Oil) และสารสกัดจากธรรมชาติอื่นๆ พร้อมทั้งผ่านการทดสอบจากสถาบันชั้นนำทางการแพทย์    คุณแม่จึงมั่นใจได้ว่าละอองเล็กๆจากสเปรย์จะปลอดภัยกับลูกน้อยแน่นอน

                        ถ้าต้องการฆ่าเชื้อในอากาศ แนะนำให้คุณแม่ฉีดโพลา สเปรย์ที่มุมห้องทั้ง 4 ด้าน (ภายในรถยนต์ก็เช่นกัน) แล้วทิ้งไว้ราว 10 -15 นาที แล้วลองเข้าไปในห้องจะรู้สึกทันทีว่าอากาศสะอาดขึ้น ถ้าลูกคัดจมูกบ่อยๆตอนกลางคืนที่อากาศเย็น ลองพ่นทิ้งไว้ก่อนเข้านอน จะช่วยให้หายใจโล่ง นอนหลับสนิทขึ้น  หรือจะใช้พ่นในห้องนังเล่นก็ช่วยปรับอากาศให้สดชื่นขึ้น แถมเวลามีคนในบ้านป่วย ยังเป็นเกราะป้องกันระดับหนึ่งไม่ให้ป่วยติดกันด้วย

                        โพลา สเปรย์มีให้เลือกทั้งขวดใหญ่ เหมาะใช้ภายในบ้าน และขวดเล็กสำหรับพกพาไปใช้พ่นในรถยนต์ หรือห้องน้ำสาธารณะก็สะดวก หาซื้อสะดวกได้ตามซูเปอร์มาร์เก็ต และห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป

                        ทาง Amarin Baby & Kids “เครือข่ายแม่ลูกใหญ่ที่สุด” ผู้นำด้านคอนเทนต์คุณภาพ เข้าใจครอบครัวไทย และตอบสนองความต้องการของคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ จึงคัดเลือกให้lสเปรย์ปรับอากาศ Polar Spray ได้รับ รางวัล Editor’s Choice  Best Air Freshner จาก “Amarin Baby & Kids Awards 2019” ซึ่งมอบให้กับสินค้าแม่ลูก “สินค้าใช้ดี และมีประโยชน์จริง”

                        คุณแม่สามารถศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้ที่ http://polarspray.com/th/product/PolarSpray

                         

                        อ่านบทความ Amarin Baby & Kids Awards 2019 

                        ประกาศผลรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019 สุดยอดแบรนด์สินค้าแม่และเด็กในดวงใจ

                         

                        เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                         

                          ทอนซิลอักเสบในเด็ก

                          ให้ลูกกินไอติม! ลดการอักเสบ “ทอนซิลอักเสบในเด็ก”

                          เมื่อลูกเจ็บคอและพบว่าเป็น ทอนซิลอักเสบในเด็ก ควรให้ลูกกินไอติมเยอะ ๆ เพราะจะช่วยลดอาการอักเสบและทำให้ลูกเจริญอาหารขึ้น จริงหรือ?

                          ให้ลูกกินไอติม! ลดการอักเสบ “ทอนซิลอักเสบในเด็ก”

                          ทอนซิลอักเสบ คืออะไร?

                          ทอนซิลอักเสบ (Tonsillitis) เกิดจากการติดเชื้อบริเวณต่อมทอนซิลซึ่งเป็นต่อม 2 ต่อมที่อยู่บริเวณด้านหลังของลำคอ ทำหน้าที่ปกป้องร่างกายจากเชื้อโรคที่ผ่านเข้าลำคอหรือทางการหายใจ แต่บางทีต่อมทอนซิลนี้ก็ติดเชื้อเสียเอง โดยอาจทำให้มีอาการหลักคือ ต่อมทอนซิลบวมแดง เจ็บคอ กลืนลำบาก มีไข้ เสียงเปลี่ยน และมีกลิ่นปาก

                          สังเกตอย่างไรว่าลูกเป็น ทอนซิลอักเสบในเด็ก?

                          เด็กเล็กที่มีอาการของทอนซิลอักเสบอาจไม่สามารถอธิบายได้ว่ามีอาการอย่างไร คุณพ่อคุณแม่สามารถสังเกตจากสัญญาณบ่งบอกต่อไปนี้

                          • น้ำลายไหล มีสาเหตุจากการกลืนได้ลำบากหรือกลืนแล้วรู้สึกเจ็บ
                          • ไม่ยอมรับประทานอาหาร
                          • งอแงผิดปกติ เนื่องจากเจ็บคอ และอาจ ปวดศีรษะ ปวดที่หู
                          • เมื่อส่องดูที่คอ จะพบว่าต่อมทอนซิลบวมและแดง มีชั้นบาง ๆ หรือจุดสีขาวหรือสีเหลืองปกคลุมบนต่อมทอนซิล (อ่านต่อ วิธีส่องดูคอลูก เมื่อ “เป็นหวัดเจ็บคอ”)
                          • เสียงแหบหรือเสียงเปลี่ยน
                          • มีกลิ่นปาก
                          • มีไข้
                          • ปวดท้อง โดยเฉพาะในเด็กเล็ก
                          ทอนซิลอักเสบ
                          ทอนซิลอักเสบ

                          ทอนซิลอักเสบในเด็ก มีสาเหตุมาจากอะไร?

                          ทั้งไวรัสและแบคทีเรีย สามารถทำให้เกิดการติดเชื้อที่ต่อมทอนซิลได้ โดยต่อมทอนซิลจะช่วยป้องกันการติดเชื้อด้วยการผลิตเซลล์เม็ดเลือดขาวออกมาต่อสู้กับเชื้อโรค และเนื่องจากเป็นภูมิคุ้มกันด่านแรก ต่อมทอนซิลจึงเป็นอวัยวะที่เสี่ยงต่อการอักเสบและติดเชื้อได้เช่นกัน

                          ทั้งนี้สาเหตุส่วนใหญ่ของทอนซิลอักเสบมักเกิดจากการติดเชื้อไวรัสมากกว่าแบคทีเรีย โดยไวรัสทั้งหลายที่ก่อให้เกิดการอักเสบของต่อมทอนซิลยังอาจเป็นสาเหตุของการเกิดโรคอื่นด้วย เช่น ไรโนไวรัส ไวรัสอินฟลูเอนซา (ทำให้เกิดโรคไข้หวัดใหญ่) ไวรัสพาราอินฟลูเอนซา (ทำให้เกิดโรคกล่องเสียงอักเสบและกลุ่มอาการครู้ป) ไวรัสเอนเทอร์โร (ทำให้เกิดโรคมือเท้าปาก) ไวรัสรูบิโอลา (ทำให้เกิดโรคหัด) ไวรัสอะดีโน (ไวรัสที่มักเป็นสาเหตุของอาการท้องเสีย) ไวรัสเอ็บสไตน์บาร์ (ไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคโมโนนิวคลีโอซิส) เป็นต้น

                          โรคต่อมทอนซิลอักเสบพบได้บ่อยในช่วงเด็กเล็กตั้งแต่อายุ 2 ปีขึ้นไปจนถึงช่วงวัยรุ่นตอนกลาง โดยทอนซิลอักเสบที่เกิดจากแบคทีเรียพบได้บ่อยในช่วงอายุ 5-15 ปี ขณะที่ทอนซิลอักเสบที่เกิดจากไวรัสจะพบในเด็กเล็กมากกว่า ส่วนวัยผู้ใหญ่มีโอกาสเกิดได้น้อย ทั้งนี้เพราะเด็กวัยเรียนมักมีการสัมผัสอยู่ใกล้ชิดกับเพื่อนและชอบเล่นสนุกสนาน จึงทำให้ต้องเผชิญกับเชื้อโรคมากมายและเสี่ยงต่อการติดเชื้อทอนซิลอักเสบมากกว่า

                           

                          เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                          อ่านต่อ ลูกเป็นทอนซิลอักเสบ ให้กินไอติมได้จริงหรือ?

                            วัคซีนภูมิแพ้

                            วัคซีนภูมิแพ้ คืออะไร? ราคาเท่าไหร่? ฉีดแล้วหายขาดไหม?

                            วัคซีนภูมิแพ้ อีกทางเลือกหนึ่งของเด็กป่วยโรคภูมิแพ้ ที่ทำให้อาการภูมิแพ้ดีขึ้น และมีแนวโน้มที่จะหายขาดได้ โรคภูมิแพ้ชนิดไหนที่ฉีดได้บ้าง? ราคาเท่าไหร่? อ่านได้ที่นี่

                            วัคซีนภูมิแพ้ คืออะไร? ราคาเท่าไหร่? ฉีดแล้วหายขาดไหม?

                            วัคซีนภูมิแพ้คืออะไร?

                            การรักษาด้วยวัคซีนภูมิแพ้ คือ การให้สารก่อภูมิแพ้ที่ผู้ป่วยแพ้เข้าไปในร่างกาย เริ่มจากปริมาณน้อยและปรับเพิ่มปริมาณขึ้นจนถึงขนาดที่ใช้ในการรักษา โดยให้ซ้ำ ๆ อย่างสม่ำเสมอ ส่งผลให้การตอบสนองทางภูมิคุ้มกันของร่างกายต่อสารก่อภูมิแพ้ลดลงและร่างกายทนต่อสารก่อภูมิแพ้ได้ดีขึ้น ดังนั้นผู้ป่วยจะมีอาการหรือปฏิกิริยาภูมิแพ้ลดลงเมื่อสัมผัสสารก่อภูมิแพ้ชนิดนั้น

                            การรักษาด้วยวัคซีนภูมิแพ้เหมาะสำหรับใคร?

                            1. ผู้ป่วยโรคเยื่อบุจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ (Allergic Rhinitis)
                            2. โรคเยื่อบุตาอักเสบจากภูมิแพ้ (Allergic Conjunctivitis)
                            3. โรคหืดจากภูมิแพ้ (Allergic Asthma) ที่คุมอาการดีแล้ว
                            4. ผู้ป่วยโรคผิวหนังอักเสบจากภูมิแพ้ (Atopic Dermatitis)
                            5. ผู้ป่วยที่ไม่สามารถควบคุมอาการแพ้ได้ด้วยยา หรือได้รับผลข้างเคียงจากการใช้ยา
                            6. ผู้ที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ได้
                            7. ผู้ที่แพ้แมลงอย่างรุนแรง

                            โดยถึงแม้ว่าจะเป็นโรคภูมิแพ้ที่ระบุมาข้างต้น แต่ก็จะยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่อาจจะเหมาะและไม่เหมาะกับการรักษาโรคภูมิแพ้ด้วยการฉีด วัคซีนภูมิแพ้ โดยแพทย์เฉพาะทางจะเป็นผู้ประเมินว่าผู้ป่วยสมควรเข้ารับการฉีดวัคซีนภูมิแพ้หรือไม่

                            ขั้นตอนในการรักษาด้วย วัคซีนภูมิแพ้

                            ก่อนเริ่มทำการรักษาด้วย วัคซีนภูมิแพ้ แพทย์จะหาสาเหตุของการแพ้ โดยวิธีการสะกิดผิวหนัง (Skin Prick Test) หรือการตรวจเลือด แล้วนำข้อมูลส่วนนั้นมาผสมทำวัคซีนก่อน โดยแพทย์จะประเมินผู้ป่วยเป็นราย ๆ ว่าจะเลือกฉีดตัวไหนบ้าง (อาจฉีดมากกว่า 1 ชนิด) ขึ้นกับประวัติและผลทดสอบภูมิแพ้ ชั้นตอนการฉีด วัคซีนภูมิแพ้ แบ่งเป็น 2 ระยะ ดังนี้

                            1. ระยะเริ่มต้น เป็นระยะที่เริ่มต้นให้วัคซีนภูมิแพ้ โดยเริ่มจากให้วัคซีนภูมิแพ้ขนาดความเข้มข้นต่ำอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง และปรับเพิ่มขนาดความเข้มข้นขึ้นจนถึงขนาดที่ใช้ในการรักษา ระยะเวลาและอัตราเร็วในการปรับเพิ่มความเข้มข้นขึ้นกับปัจจัยต่อไปนี้ ได้แก่ ความไวของผู้ป่วยต่อวัคซีนภูมิแพ้ ประวัติการเกิดอาการแพ้หลังได้รับวัคซีนครั้งก่อน และความเข้มข้นของวัคซีนที่ผู้ป่วยได้รับ เป็นต้น
                            2. ระยะคงที่เป็นระยะที่ผู้ป่วยได้รับวัคซีนภูมิแพ้ในขนาดที่เหมาะสมและก่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการรักษาโรค โดยผู้ป่วยจะได้รับวัคซีนภูมิแพ้ทุก 2-4 สัปดาห์เป็นระยะเวลานาน 3-5 ปี และติดตามประเมินอาการเป็นระยะ โดยทั่วไปผู้ป่วยจะมีอาการดีขึ้นภายใน 3-12 เดือนหลังได้รับวัคซีนในระยะคงที่ และสำหรับรายที่ฉีดแล้วไม่ได้ผลแพทย์อาจพิจารณาหยุดฉีด

                            การให้ วัคซีนภูมิแพ้ ในเด็ก สามารถเริ่มให้วัคซีนได้ในเด็กอายุน้อยกว่า 5 ปีที่มีข้อบ่งชี้ แต่ไม่แนะนำให้วัคซีนภูมิแพ้ในเด็กทารกและเด็กเล็กที่มีอายุน้อยกว่า 3 ปี เนื่องจากสังเกตอาการแพ้วัคซีนได้ยาก รวมทั้งการฉีดวัคซีนอาจส่งผลกระทบต่อจิตใจในเด็กเล็กได้

                            โรคภูมิแพ้
                            โรคภูมิแพ้

                            ข้อดีของการฉีด วัคซีนภูมิแพ้

                            1. เป็นการรักษาที่ตรงจุดคือ แก้ไขที่ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายที่มีความผิดปกติในผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้โดยตรง
                            2. เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการมาก หรือรักษาด้วยยา หรือ วิธีการอื่นแล้วไม่ได้ผลดี หรือผู้ที่ใช้ยาแล้วมีผลข้างเคียงของยามาก หรือผู้ป่วยแพ้สารก่อภูมิแพ้ชนิดที่ไม่สามารถจะหลีกเลี่ยงได้
                            3. ผู้ที่มีอาการของโรคหืดร่วมกับโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ การฉีดวัคซีนจะช่วยให้อาการของโรคหืดทุเลาลงด้วย
                            4. สำหรับผู้ที่มารับการฉีดวัคซีนอย่างสม่ำเสมอ อาการจะดีขึ้นประมาณร้อยละ 70 – 90 ขึ้นอยู่กับชนิดของสารก่อภูมิแพ้ และขึ้นกับผู้ป่วยแต่ละราย
                            5. ลดการกินยาเป็นระยะเวลานาน และลดค่าใช้จ่ายจากการใช้ยา
                            6. และอาจป้องกันการแพ้สารใหม่เพิ่มเติมในอนาคต (new sensitization)

                            ข้อด้อยของการฉีด วัคซีนภูมิแพ้

                            1. อาจทำให้เกิดอาการแพ้ทั่วร่างกายได้ เช่นเดียวกับการแพ้ยาฉีดชนิดอื่น หรือการทดสอบภูมิแพ้ทางผิวหนัง อาจเกิดอาการของโรคภูมิแพ้ที่ผู้ป่วยเป็นอยู่แล้วมากขึ้น เช่น คัน จาม คัดจมูก น้ำมูกไหล คันตา คันคอ ไอ หรือหอบหืด ลมพิษ ปวดท้อง อาเจียน ท้องเดิน กล่องเสียงบวมเกิดการอุดตันของทางเดิน หายใจ และอาจถึงช็อคได้
                            2. อาจต้องใช้เวลา 3 – 6 เดือน กว่าจะเห็นผล และต้องฉีดต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน

                             

                            เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                            อ่านต่อ ข้อแนะนำก่อน-หลัง ฉีดวัคซีนภูมิแพ้ และ วัคซีนภูมิแพ้มีราคาเท่าไหร่?

                              คุณแม่บล็อกเกอร์ เพจไหนดี

                              คุณแม่บล็อกเกอร์ เพจไหนดี คุณแม่โหวตให้ PREAW เป็นเพจอันดับหนึ่งในดวงใจ

                              คุณแม่บล็อกเกอร์ เพจไหนดี ที่ตั้งขึ้นจากคุณแม่ตัวจริง คอยเป็นกระบอกเสียง นำเสนอข้อมูลดีๆ ไขข้อสงสัย และเป็นเพื่อนคุยให้กับแม่ๆในโลกออนไลน์ และคุณแม่ทั่วประเทศโหวตให้ แม่แพรว ( PREAW) เป็นเพจคุณแม่บล็อกเกอร์อันดับหนึ่งในดวงใจ และรับรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019 สาขา Mommy’s Choice

                              คุณแม่บล็อกเกอร์ เพจไหนดี แม่ทั่วประเทศโหวตให้เป็นเพจในดวงใจ

                              Amarin Baby & Kids “เครือข่ายแม่ลูกใหญ่ที่สุด” ผู้นำด้านคอนเทนต์คุณภาพ เข้าใจครอบครัวไทย และตอบสนองความต้องการของคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ ไทย ทั้งรูปแบบ Online ผ่านเว็บไซต์ www.AmarinBabyAndKids.com และเฟซบุ๊คแฟนเพจที่มีเนื้อหาตรงใจ ทันสถานการณ์ โดยมียอดผู้ติดตามมากกว่า 1,000,000 Followers และรูปแบบ On print ผ่าน Bookazine ราย 2 เดือน รวมถึง รูปแบบ On ground งานแฟร์แม่ลูก Amarin Baby & Kids Fair ที่จัดมาแล้วถึง 15 ครั้ง

                              เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านเครือข่ายแม่ลูกอันดับ 1 ของประเทศที่เข้าใจคุณแม่ไทยมากที่สุด เว็บไซต์ Amarin Baby & Kids จึงได้จัด “Amarin Baby & Kids Awards 2019” ครั้งแรกในเมืองไทย เพื่อเฟ้นหาสุดยอดแบรนด์สินค้าแม่และเด็กในดวงใจ  จากคะแนนโหวตของคุณแม่ทั่วประเทศกว่า 10,000 คน ผ่าน www.AmarinBabyAndKids.com เว็บไซต์สื่อกลางข้อมูลคุณภาพจากแม่สู่แม่ Mom to Mom Sharing เพื่อเป็นประโยชน์แก่คุณแม่มือใหม่ที่กำลังมองหา “สินค้าใช้ดี ที่ได้รับการยืนยันจากคุณแม่ตัวจริงทั่วประเทศ”

                              และเพื่อให้สมกับรางวัลที่มาจากความคิดเห็นของแม่อย่างแท้จริง สำหรับแบรนด์สินค้าในสาขา Mommy’s Choice จึงเปิดโอกาสให้แม่ได้ร่วมโหวต  2  รอบ ได้แก่ “รอบเสนอชื่อแบรนด์ที่ชื่นชอบ” จากนั้นทีมงานได้ทำการเลือกแบรนด์ที่ถูกเสนอชื่อมากที่สุด มาจัด“รอบโหวตแบรนด์ในดวงใจ” อีกครั้งหนึ่ง

                               

                              ทำไมแม่ทั่วประเทศโหวตให้แม่แพรวเป็นเพจคุณแม่บล็อกเกอร์ในดวงใจ

                              ชอบที่คุณแพรวอธิบายเรื่องต่างๆได้ชัดเจน น้ำเสียงนุ่มนวลน่าฟัง เข้าใจง่าย และมักมีข้อแนะนำดีที่เหมาะกับแม่มือใหม่”

                              “มีลูกวัยเดียวกับลูกคุณแพรวพอดีค่ะ ได้รับแนวคิดและวิธีเลี้ยงลูกดีๆ จากเพจเยอะมากเลยค่ะ”

                              “ชอบดูคลิปที่แม่แพรวทำไว้ค่ะ เข้าใจง่าย นำมาปรับใช้กับลูกตัวเองได้ดีจริง ช่วยให้แม่มือใหม่อย่างเรามีความรู้และทักษะเลี้ยงลูกได้ดีขึ้น”

                               

                              เพจ PREW เป็นจุดเริ่มต้นของคุณแม่แพรว เพชรแพรว อัครเตชวาทิน ที่ต้องการแชร์ประสบการณ์และคำแนะนำดีๆ จากคุณหมอประจำของครอบครัว เพราะรู้สึกว่าข้อมูลเหล่านี้มีประโยชน์และอยากให้คนอื่นๆได้รู้บ้าง ด้วยความเชื่อที่ว่า แม่ไม่ได้เลี้ยงลูกให้ดีได้ด้วยสัญชาตญาณเพียงอย่างเดียว แต่ต้องมีความรู้และเทคนิคต่างๆ เพื่อให้ลูกของเราเติบโตเป็นบุคลากรที่มีคุณภาพของสังคม ขณะที่ตัวคุณแม่เองก็มีความสุขกับการเลี้ยงเจ้าตัวน้อยไปด้วยกัน

                              ติดตามเรื่องราวดีๆจากเพจ PREAW ได้ที่ https://www.facebook.com/sherlynsmomme/

                               

                              อ่านบทความ Amarin Baby & Kids Awards 2019 

                              ประกาศผลรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019 สุดยอดแบรนด์สินค้าแม่และเด็กในดวงใจ

                              ชมภาพบรรยากาศ งานมอบรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019

                               

                              เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                               

                                หนังสือนิทาน สำนักพิมพ์ไหนดี

                                หนังสือนิทาน สำนักพิมพ์ไหนดี คุณแม่เลือก แพรวเพื่อนเด็ก เป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในดวงใจ

                                หนังสือนิทาน สำนักพิมพ์ไหนดี ชวนลูกอ่านสนุก เสริมพัฒนาการรอบด้าน สร้างสายใยผูกพันธ์ในครอบครัว ที่คุณแม่สามารถเลือกให้เหมาะกับเด็กทุกวัยเริ่มได้ตั้งแต่ 0 – 8 ขวบ ทั้งหนังสือภาพ หนังสือฝึกทักษะเสริมความรู้ รวมทั้งหนังสือคู่มือพ่อแม่และครู เพื่อเสริมสร้างจินตนาการ พัฒนาการเรียนรู้และศักยภาพรอบด้านของเด็ก

                                คุณแม่ทั่วประเทศโหวตให้ แพรวเพื่อนเด็ก เป็นแบรนด์สำนักพิมพ์หนังสือเด็กอันดับหนึ่งในดวงใจ และรับรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019 สาขา Mommy’s Choice

                                หนังสือนิทาน สำนักพิมพ์ไหนดี แม่ทั่วประเทศเลือกแล้วให้แบรนด์นี้เป็นอันดับหนึ่งในดวงใจ

                                Amarin Baby & Kids “เครือข่ายแม่ลูกใหญ่ที่สุด” ผู้นำด้านคอนเทนต์คุณภาพ เข้าใจครอบครัวไทย และตอบสนองความต้องการของคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ ไทย ทั้งรูปแบบ Online ผ่านเว็บไซต์ www.AmarinBabyAndKids.com และเฟซบุ๊คแฟนเพจที่มีเนื้อหาตรงใจ ทันสถานการณ์ โดยมียอดผู้ติดตามมากกว่า 1,000,000 Followers และรูปแบบ On print ผ่าน Bookazine ราย 2 เดือน รวมถึง รูปแบบ On ground งานแฟร์แม่ลูก Amarin Baby & Kids Fair ที่จัดมาแล้วถึง 15 ครั้ง

                                เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านเครือข่ายแม่ลูกอันดับ 1 ของประเทศที่เข้าใจคุณแม่ไทยมากที่สุด เว็บไซต์ Amarin Baby & Kids จึงได้จัด “Amarin Baby & Kids Awards 2019” ครั้งแรกในเมืองไทย เพื่อเฟ้นหาสุดยอดแบรนด์สินค้าแม่และเด็กในดวงใจ  จากคะแนนโหวตของคุณแม่ทั่วประเทศกว่า 10,000 คน ผ่าน www.AmarinBabyAndKids.com เว็บไซต์สื่อกลางข้อมูลคุณภาพจากแม่สู่แม่ Mom to Mom Sharing เพื่อเป็นประโยชน์แก่คุณแม่มือใหม่ที่กำลังมองหา “สินค้าใช้ดี ที่ได้รับการยืนยันจากคุณแม่ตัวจริงทั่วประเทศ”

                                และเพื่อให้สมกับรางวัลที่มาจากความคิดเห็นของแม่อย่างแท้จริง สำหรับแบรนด์สินค้าในสาขา Mommy’s Choice จึงเปิดโอกาสให้แม่ได้ร่วมโหวต  2  รอบ ได้แก่ “รอบเสนอชื่อแบรนด์ที่ชื่นชอบ” จากนั้นทีมงานได้ทำการเลือกแบรนด์ที่ถูกเสนอชื่อมากที่สุด มาจัด“รอบโหวตแบรนด์ในดวงใจ” อีกครั้งหนึ่ง

                                ทำไมแม่โหวตให้แพรวเพื่อนเด็กเป็นแบรนด์สำนักพิมพ์เด็กในดวงใจ

                                “มีหนังสือครบทุกวัยให้เลือกเลยค่ะ เริ่มซื้อให้ลูกสาวอ่านตั้งแต่ยังเล็ก ตอนนี้อยู่อนุบาลสามแล้วก็ยังชอบอ่าน มีเนื้อหลากหลาย เปลี่ยนเรื่องไปเรื่อยๆ ไม่เบื่อเลย”

                                “อ่านนิทานแล้ว ช่วยให้ลูกรักการอ่านมากขึ้นค่ะ ยิ่งเขาได้อ่านนิทานสนุก ที่มีภาพประกอบสวยๆ ก็ติดใจมาก ไปร้านนายอินทร์ทีไร ต้องติดมือกลับมา 1-2 เล่นทุกครั้งค่ะ”

                                “นิทานมีทั้งความรู้ และหนังสือเสริมทักษะสนุกเยอะมาก ส่วนใหญ่จะชวนกันไปซื้อที่บูธในงานสัปดาห์หนังสือค่ะ เพราะลดราคาเยอะ ขนกันมาเต็มตะกร้า”

                                สำนักพิมพ์แพรวเพื่อนเด็ก ผู้ช่วยพ่อแม่ในการเลี้ยงดูลูกด้วยหนังสือ ผลิตหนังสือสำหรับเด็กวัย 0-8 ปี ทั้งหนังสือภาพ หนังสือฝึกทักษะเสริมความรู้ รวมทั้งหนังสือคู่มือพ่อแม่และครู ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ.2537 ในยุคที่หนังสือภาพสำหรับเด็กยังเป็นเรื่องที่นักอ่านไม่คุ้นเคยนัก โดยเฉพาะการซื้อลิขสิทธิ์หนังสือภาพจากต่างประเทศมาแปลเป็นภาษาไทย นับมาจนถึงปัจจุบัน กว่า 25 ปีแล้วที่แพรวเพื่อนเด็กยังยืนหยัดผลิตหนังสือภาพดีๆ ออกมาอย่างต่อเนื่องทั้งสิ้นกว่า 800 เล่ม  เช่น

                                ชุดบ้านร้อยชั้น ข้าวลับของอลัน ต่อทางรถไฟ กุริกับกุระ ทายซิ ทายซิ หนูรักพ่อมากแค่ไหน  อิเล้งเค้งโค้ง หนอนจอมหิว ปลาสายรุ้ง ต่อทางรถไฟ ลูกฉลาดเริ่มต้นที่แม่ รอให้ถึงอนุบาลก็สายเสียแล้ว

                                คุณแม่สามารถชมหนังสือนิทานจากสำนักพิมพ์แพรวเพื่อนเด็ก เพิ่มเติมได้ที่ https://www.amarinbooks.com/brand/แพรวเพื่อนเด็ก/

                                 

                                อ่านบทความ Amarin Baby & Kids Awards 2019 

                                ประกาศผลรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019 สุดยอดแบรนด์สินค้าแม่และเด็กในดวงใจ

                                ชมภาพบรรยากาศ งานมอบรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019

                                 

                                เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                                 

                                  ของเล่นเด็ก ยี่ห้อไหนดี

                                  ของเล่นเด็ก ยี่ห้อไหนดี คุณแม่เลือก เลโก้ เป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในดวงใจ

                                  ของเล่นเด็ก ยี่ห้อไหนดี ช่วยเสริมพัฒนาการและจินตนาการให้ลูกน้อยทุกวัย ที่สำคัญต้องปลอดภัยจากสารเคมีอันตราย เพราะเด็กวัยนี้มักหยิบของเข้าปาก คุณภาพดี คุ้มค่า และทนทาน เล่นได้นาน สามารถส่งต่อให้ลูกคนต่อไปได้  คุณแม่ทั่วประเทศให้ เลโก้ เป็นแบรนด์ของเล่นเด็กอันดับหนึ่งในดวงใจ และรับรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019 สาขา Mommy’s Choice

                                  ของเล่นเด็ก ยี่ห้อไหนดี แม่ทั่วประเทศเลือกแล้ว ใช้ยี่ห้อนี้เป็นแบรนด์ในดวงใจ

                                  Amarin Baby & Kids “เครือข่ายแม่ลูกใหญ่ที่สุด” ผู้นำด้านคอนเทนต์คุณภาพ เข้าใจครอบครัวไทย และตอบสนองความต้องการของคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ ไทย ทั้งรูปแบบ Online ผ่านเว็บไซต์ www.AmarinBabyAndKids.com และเฟซบุ๊คแฟนเพจที่มีเนื้อหาตรงใจ ทันสถานการณ์ โดยมียอดผู้ติดตามมากกว่า 1,000,000 Followers และรูปแบบ On print ผ่าน Bookazine ราย 2 เดือน รวมถึง รูปแบบ On ground งานแฟร์แม่ลูก Amarin Baby & Kids Fair ที่จัดมาแล้วถึง 15 ครั้ง

                                  เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านเครือข่ายแม่ลูกอันดับ 1 ของประเทศที่เข้าใจคุณแม่ไทยมากที่สุด เว็บไซต์ Amarin Baby & Kids จึงได้จัด “Amarin Baby & Kids Awards 2019” ครั้งแรกในเมืองไทย เพื่อเฟ้นหาสุดยอดแบรนด์สินค้าแม่และเด็กในดวงใจ  จากคะแนนโหวตของคุณแม่ทั่วประเทศกว่า 10,000 คน ผ่าน www.AmarinBabyAndKids.com เว็บไซต์สื่อกลางข้อมูลคุณภาพจากแม่สู่แม่ Mom to Mom Sharing เพื่อเป็นประโยชน์แก่คุณแม่มือใหม่ที่กำลังมองหา “สินค้าใช้ดี ที่ได้รับการยืนยันจากคุณแม่ตัวจริงทั่วประเทศ”

                                  และเพื่อให้สมกับรางวัลที่มาจากความคิดเห็นของแม่อย่างแท้จริง สำหรับแบรนด์สินค้าในสาขา Mommy’s Choice จึงเปิดโอกาสให้แม่ได้ร่วมโหวต  2  รอบ ได้แก่ “รอบเสนอชื่อแบรนด์ที่ชื่นชอบ” จากนั้นทีมงานได้ทำการเลือกแบรนด์ที่ถูกเสนอชื่อมากที่สุด มาจัด“รอบโหวตแบรนด์ในดวงใจ” อีกครั้งหนึ่ง

                                  ทำไมแม่โหวตให้เลโก้เป็นแบรนด์ของเล่นในดวงใจ

                                  “เป็นของเล่นคุณภาพดี ได้มาตรฐานทุกชิ้น ปลอดภัย แข็งแรงทนทาน เล่นได้นานเลยค่ะ ซื้อไว้ตั้งแต่ลูกคนแรกมาจากน้องคนที่สองก็ยังเล่นได้ ไม่มีเบื่อเลย”

                                  “ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการที่ดีให้ลูก พัฒนาระบบความคิด จินตนาการ ที่สำคัญช่วยให้ลูกมีสมาธิมากขึ้น เขาไม่เคยสนใจอยากดูหน้าจอเลยค่ะ”

                                  “ลูกชอบเล่นตัวต่อมากๆ เริ่มซื้อจากบล็อกใหญ่แล้วเล็กลงเรื่อยๆ ตอนนี้กำลังต่อชุดที่เป็นเรื่องราว อย่าง สตาร์วอร์ แล้วค่ะ ชอบตรงมีให้เลือกหลายแบบ ตามช่วยอายุของเด็กด้วย”

                                  เลโก้ (Lego) เป็นของเล่นในรูปแบบตัวต่อพลาสติก เริ่มผลิตครั้งแรกที่เมืองบิลลุนด์ ประเทศเดนมาร์ก เลโก้มีลักษณะเป็นชิ้นพลาสติก หลายสีและลักษณะเหมือนก้อนอิฐมีขนาดต่าง ๆ กันที่มีปุ่มและร่องเพื่อการประกอบ โดยไม่ต้องใช้กาว เพื่อให้ผู้เล่นนำไปสร้างสรรค์ต่อเป็นรูปร่างต่าง ๆ ปัจจุบันมีมากกว่า 6,000 ชุด

                                   

                                  อ่านบทความ Amarin Baby & Kids Awards 2019 

                                  ประกาศผลรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019 สุดยอดแบรนด์สินค้าแม่และเด็กในดวงใจ

                                  ชมภาพบรรยากาศ งานมอบรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019

                                   

                                  เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                                   

                                    นมมอลต์ ยี่ห้อไหนดี

                                    นมมอลต์ ยี่ห้อไหนดี ลูกอร่อยได้ประโยชน์ คุณแม่เลือก นมตราหมี เป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในดวงใจ

                                    นมมอลต์ ยี่ห้อไหนดี ที่คุณแม่เลือกให้ลูกดื่ม เพื่อเสริมคุณค่าทางโภชนาการจากมอลต์ หรือข้าวบาร์เลย์ ที่มีรสหอมหวาน กลมกล่อมคล้ายคาราเมล และอุดมด้วยสารอาหารสำคัญหลายชนิด เช่น ธาตุเหล็ก วิตามินบี โปรตีน กรดอะมิโนแอซิด และใยอาหาร ซึ่งดีต่อการย่อยอาหารและขับถ่าย

                                    คุณแม่ทั่วประเทศ ให้นมมอลต์ นมตราหมี เป็นแบรนด์เครื่องดื่มนมผสมมอลต์ อันดับหนึ่งในดวงใจ และรับรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019 สาขา Mommy’s Choice

                                    นมมอลต์ ยี่ห้อไหนดี แม่ทั่วประเทศเลือกแล้ว ใช้ยี่ห้อนี้เป็นแบรนด์ในดวงใจ

                                    Amarin Baby & Kids “เครือข่ายแม่ลูกใหญ่ที่สุด” ผู้นำด้านคอนเทนต์คุณภาพ เข้าใจครอบครัวไทย และตอบสนองความต้องการของคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ ไทย ทั้งรูปแบบ Online ผ่านเว็บไซต์ www.AmarinBabyAndKids.com และเฟซบุ๊คแฟนเพจที่มีเนื้อหาตรงใจ ทันสถานการณ์ โดยมียอดผู้ติดตามมากกว่า 1,000,000 Followers และรูปแบบ On print ผ่าน Bookazine ราย 2 เดือน รวมถึง รูปแบบ On ground งานแฟร์แม่ลูก Amarin Baby & Kids Fair ที่จัดมาแล้วถึง 15 ครั้ง

                                    เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านเครือข่ายแม่ลูกอันดับ 1 ของประเทศที่เข้าใจคุณแม่ไทยมากที่สุด เว็บไซต์ Amarin Baby & Kids จึงได้จัด “Amarin Baby & Kids Awards 2019” ครั้งแรกในเมืองไทย เพื่อเฟ้นหาสุดยอดแบรนด์สินค้าแม่และเด็กในดวงใจ  จากคะแนนโหวตของคุณแม่ทั่วประเทศกว่า 10,000 คน ผ่าน www.AmarinBabyAndKids.com เว็บไซต์สื่อกลางข้อมูลคุณภาพจากแม่สู่แม่ Mom to Mom Sharing เพื่อเป็นประโยชน์แก่คุณแม่มือใหม่ที่กำลังมองหา “สินค้าใช้ดี ที่ได้รับการยืนยันจากคุณแม่ตัวจริงทั่วประเทศ”

                                    และเพื่อให้สมกับรางวัลที่มาจากความคิดเห็นของแม่อย่างแท้จริง สำหรับแบรนด์สินค้าในสาขา Mommy’s Choice จึงเปิดโอกาสให้แม่ได้ร่วมโหวต  2  รอบ ได้แก่ “รอบเสนอชื่อแบรนด์ที่ชื่นชอบ” จากนั้นทีมงานได้ทำการเลือกแบรนด์ที่ถูกเสนอชื่อมากที่สุด มาจัด“รอบโหวตแบรนด์ในดวงใจ” อีกครั้งหนึ่ง

                                    ทำไมแม่โหวตให้ ไทยเดนมาร์ก เป็นแบรนด์นม UHT ในดวงใจ

                                    “ให้ลูกดื่มนมจืดมาตลอด จนเขาบ่นว่าเบื่อแต่ก็ไม่อยากให้กินนมรสหวาน เพราะกลัวฟันผุ เลยให้ลูกลองกินนมมอลต์ ปรากฎว่าเขาชอบมากค่ะ กลิ่นหอม รสชาติกลมกล่อมและไม่หวานด้วย”

                                    “เป็นนมจืดที่ได้ประโยชน์จากสารอาหารอื่นๆ ด้วย อย่างพวกเกลือแร่ต่างๆ ซึ่งลูกอาจได้รับไม่มากพอจากอาหารที่กินปกติ ดื่มนมมอลต์ก็ช่วยเสริมให้อีกทางหนึ่งค่ะ”

                                    “ที่บ้านดื่มนมตราหมีกันมานา ชอบที่เป็นกล่องสะดวกพกพาค่ะ ดื่มได้ทั้งครอบครัวเลย หาซื้อง่าย ราคาไม่แพง”

                                    “นมตราหมี เอ็นริช มอลต์” เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ “นมตราหมี” ที่คนไทยรู้จักกันนานยาวนาน และประทับใจในรสชาตินมวัวแท้ๆที่เข้มข้น หอมมัน นมผสมมอลต์สกัดเข้มข้น มอลต์สกัดจากข้าวบาร์เลย์ธรรมชาติถึง 9% ได้ความหวานมอลต์แท้ๆ และเติมน้ำตาลแค่ 1% เท่านั้น จึงดื่มได้ทั้งครอบครัว

                                     

                                    อ่านบทความ Amarin Baby & Kids Awards 2019 

                                    ประกาศผลรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019 สุดยอดแบรนด์สินค้าแม่และเด็กในดวงใจ

                                    ชมภาพบรรยากาศ งานมอบรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019

                                     

                                    เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่