ตารางวัคซีน 2563

เซฟไว้ดูเลย! ตารางวัคซีน 2563 อัปเดตจากสมาคมโรคติดเชื้อฯ

event
ตารางวัคซีน 2563
ตารางวัคซีน 2563

สำหรับภาพ ตารางวัคซีน ปี 2563 จากหน้าแรก คุณหมอแอดมินเพจ Infectious ง่ายนิดเดียว ได้เขียนสรุปประเด็นซึ่งอัปเดตจากงานประชุมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย (วันที่ 19-21 ก.พ. 2563) มาให้ดังนี้

รายละเอียดแต่ละวัคซีน จาก ตารางวัคซีน 2563

(1) วัคซีนไข้หวัดใหญ่
– เริ่มฉีดให้เด็กได้ตั้งแต่อายุ 6 เดือน โดยเฉพาะ ต่ำกว่า 2 ปี
– อายุต่ำกว่า 9 ปี ฉีดปีแรกต้อง 2 เข็มห่าง 1 เดือน … แต่ถ้าปีแรกได้แค่ 1 เข็ม ปีถัดมาต้องฉีด 2 เข็ม และถัดมาจึงค่อยปีละเข็ม
และกลุ่มเสี่ยงที่ควรได้รับ วัคซีนไข้หวัดใหญ่  คือ

  • แม่ท้อง (อายุครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป)
  • เด็กอายุต่ำกว่า 2ปี
  • ผู้สูงอายุมากกว่า 65ปี
  • คนอ้วน ที่มีค่า BMI >35
  • ผู้มีโรคประจำตัว (HIV DM Thalassemia COPD Asthma ปอดเรื้อรัง Heart disease) ภูมิคุ้มกันบกพร่อง
  • 3 หรือ 4 สายพันธุ์ ทดแทนกันได้

Must read >> ไขข้อสงสัย ลูกฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ แล้วทำไมยังต้องฉีดซ้ำ!!

(2) วัคซีนมะเร็งปากมดลูก (เริ่มอายุ 9 – 45 ปี)
– ฉีดทั้งชาย-หญิง เริ่มตั้งแต่ 9 – 26 ปี เน้น 11 – 12 ปี จำนวน 3 เข็ม (ระยะห่าง 0, 1 – 2, 6 เดือน) อาจจะ 2 หรือ 4 สายพันธุ์ก็ได้
– และอายุต่ำกว่า 15 ปี ทั้งชายและหญิงสามารถฉีดได้ 2 เข็ม (ระยะห่าง0, 6 เดือน)
– แผนจากกระทรวง คือ ฉีดเด็กป.5 จำนวน 2 เข็ม ห่าง 6-12 เดือน
เด็กชายฉีดเพราะป้องกันหูดหงอนไก่

Must read >> ไขข้อสงสัย? ทำไมคุณพ่อคุณแม่ต้องพาลูกวัยรุ่นไปฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งจากไวรัส HPV

(3) บีซีจี (เด็กแรกเกิด)
– ฉีด 0.1 ซีซี ที่หัวไหล่ซ้าย
– ไม่ควรฉีดสะโพก, ส้นเท้า ถ้าเคยฉีดแล้วไม่มีแผล ไม่ต้องฉีดซ้ำ
– ป้องกันวัณโรค 50%, สมอง 64%, แพร่กระจาย 71%
– ถ้าฉีดแล้วมีหนอง ห้าม I and D รักษาโดย aspirate พิจารณา INH+- Rifam 1 – 3 เดือน

(4) ตับอักเสบบี
– ทุกคนต้องได้อย่างน้อย 3 เข็ม และเข็มสุดท้ายอายุมากกว่าเท่ากับ 6 เดือน
– เด็กที่แม่เป็น HBsAg-positive (โดยเฉพาะแม่ HBeAg+) ให้ HBIG ภายใน 12 ชม. และไม่เกิน 7 วัน และต้องตรวจเลือดลูกอายุ 9 – 12 เดือน (HBsAg และ Anti-HBs) ถ้า neg ต้องฉีด 1 เข็มแล้วอีก 2 เดือนตรวจซ้ำ
– ถ้าเป็นพาหะตับบี viral load >200,000 ต้องให้ TDF ตั้งแต่ GA 26 week ขึ้นไปถึงหลังคลอด 4 week

Must read >> คุณพ่อเสียชีวิต จากตับอักเสบบี เพราะใช้หลอดดูดร่วมกับคนอื่น

(4) คอตีบ ไอกรน บาดทะยัก โปลิโอ (เริ่มอายุ 2 เดือน)
– DTP มีภูมิดังนี้ D=100%, T 95%, P 80-85%
– DTaP แทน DTwP ได้ทุกเข็ม
– 3 เข็มแรก ควรเป็นชนิดเดียวกัน ถ้าหาไม่ได้ต่างชนิดก็ได้
– อายุ 4 – 6 ปี อาจใช้ Tdap แทนได้
– อายุ 10 – 15 ปี ควรได้ Td หรือ Tdap (boostrix, Adacel) หรือ TdaP (Boostagen) ไม่ว่าจะเคยได้ Tdap ตอน 4 – 6 ปี มาก่อนหรือไม่
– หญิงตั้งครรภ์ควรได้ Tdap, หรือ dT ที่อายุ 27 – 36 สัปดาห์ทุกการตั้งครรภ์ เพื่อลด pertussive ไอกรนในเด็กแรกเกิด -6 เดือน
– dT ฉีดทุก10 ปี เริ่มอายุ > 20,30,40,50,60.. โดย – พฤษภาคม 2562 จัดตั้งคลินิกวัคซีนผู้ใหญ่
-aP Pertagen อายุ 11 ปีขึ้นไป

(5) โปลิโอ
– หยอด 2 สายพันธุ์ (type 1,3) 5 ครั้ง+ IPV (มี1,2,3สายพันธุ์) 1 ครั้ง อายุ 4 เดือน
– IPV สามารถแทน OPV ได้ทุกโด๊ส (ยังพบเคสในประเทศอาฟกานิสถาน,ปากีสถาน,ไนจีเรีย)
– ชนิดฉีดแทนกินได้ทุกครั้ง กรณีฉีดอย่างเดียว ให้แค่ 4 ครั้งได้ (ยกเว้นโด๊ส 18 เดือน)

(6) หัด หัดเยอรมัน คางทูม
เข็มแรก อายุ 9 – 12 เดือน (ฉีด 9 เดือน; มี failure 20%, ฉีด 12 เดือน; มี failure 5%)
ครั้งที่สอง อายุ 2-2 1/2 ปี

– กรณีระบาดและสัมผัสฉีดเข็มแรกอายุ 6 – 9 เดือน ให้ฉีดเข็มสองที่อายุ 12 เดือน และเข็มสามอายุ 2 – 4 ปี
– ถ้าเริ่ม 9 – 12 เดือน ให้เข็ม 2 ห่างเข็ม 1 อย่างน้อย 3 เดือน (ถือว่าให้ครบ 2 เข็ม)
– ถ้าฉีดเข็มแรกหลังอายุ 12 เดือน ฉีดเข็มสองห่างเข็มแรก 1 เดือน
– กรณีระบาด บุคลากรการแพทย์ที่อายุต่ำกว่า 40 ปี ควรให้วัคซีน MR กระตุ้น

(7) ไข้สมองอักเสบ JE

  • เชื้อมีชีวิต เข็มแรก 9 – 12 เดือน เข็ม 2 ดังนี้
    1) IMOJEVหรือ THAI JEV เข็มสองห่าง 12 – 24 เดือน
    7.2) CD-JEVAX ห่าง 3 – 12 เดือน

แต่กระทรวงสาธารณสุข แนะนำให้ เข็ม 2 ห่าง 12 – 18 เดือน

  • เชื้อไม่มีชีวิต kill vaccine
    JEVAC เริ่มได้อายุ 6 เดือน ฉีด 3 เข็ม 0,1-4 สัปดาห์เดือน เข็ม 3; 1 ปี

กรณีได้แบบมีชีวิตมาก่อน 1 เข็ม สามารถให้ JEVAC 1 เข็มห่างเข็มแรก 1ปี

(8) ตับอักเสบเอ

  • เป็นเชื้อตาย เช่น Vaqta, Avaxim จำนวน 2 เข็มห่าง 6 เดือน ชนิดใหม่ชื่อ
  • MEVAC เป็นเชื้อเป็น อายุน้อยสุดคือ 18 เดือน ให้เพียง 1 เข็ม
  • เด็กที่ไปดินแดนระบาด ให้ชนิดไม่มีชีวิตตั้งแต่อายุ 6 เดือน แต่ไม่นับ ถ้าฉีดก่อนอายุ 1 ปี

(9) สุกใส
– อายุน้อยสุด 1 ปี แนะนำ 12 – 18 เดือน
– เข็ม 2 แนะนำใหม่ให้เมื่ออายุ 2 – 4ปี
– อาจฉีดเข็ม 2 ก่อนอายุ 4 ปี กรณีมีการระบาด อายุ 1 – 12 ปี ฉีด 2 เข็ม ห่าง 3 – 12 เดือน
– อายุมากกว่า 13 ปีขึ้นไปจนถึงผู้ใหญ่ ถ้าไม่เคยเป็นฉีด 2 เข็มห่าง 1 เดือน

(10) ไอพีดี

มี 10 กับ 13 สายพันธุ์

  • ครึ่งปีแรกให้ 3+1
  • 1/2 ปีหลัง ให้ 2+1
  • เมื่อเข้าปีที่ 1-2 ให้ 1+1
  • ปีที่ 2 – 5 ให้ 1 (PCV10ให้ 1+1)
  • เด็กเสี่ยงอายุ 2 – 6 ปี PCV13ให้ 1+1 +PS 23 : 1 dose
  • ถ้าอายุมากกว่า 6 – 18 ปี ให้ PCV13 สูตร 1+PS23 ;1dose

(11) ป้องกันท้องเสียโรต้า

– Mono valent มี 2 ชนิด (1)Rotarix กิน 2 ครั้ง 2,4 เดือน และ (2)Rotavac กิน 3 ครั้ง 2,4,6 เดือน
– Pentavalent 3 ครั้ง 2,4,6 เดือน ยี่ห้อ Rotateq

ทั้ง 2 ชนิดเริ่มให้ 6 – 15สัปดาห์ ครั้งสุดท้ายไม่เกิน 8 เดือน และต้องห่างระหว่างเข็มมากกว่า 4 สัปดาห์ … ถ้าให้อายุมากกว่าที่กำหนด ได้แต่ต้องน้อยกว่า 2 ปี (องค์การอนามัยโลก)

(12) ไข้เลือดออก 
– อายุ 9 – 45 ปี จำนวน 3 เข็ม 0,6,12 เดือน ในผู้ที่เคยติดเชื้อมาก่อน
– ผู้ที่ไม่เคยเป็นไข้เลือดออก ควรตรวจเลือดก่อนการฉีด (อ่านเพิ่มคำแนะนำในเว็บไซต์สมาคมโรคติดเชื้อในเด็ก)

(13) วัคซีน Hib
-ใน EPI เริ่ม มิถุนายน 2562 ให้ 3 ครั้ง; 2, 4, 6 เดือน
– เข็ม 4 ไม่จำเป็นต้องฉีดถ้าแข็งแรงดี แต่ถ้าเป็นผู้มีความเสี่ยง เช่น ภูมิคุ้มกันต่ำ ไม่มีม้าม ควรให้เข็ม 4 ที่อายุ 18 เดือน
– ไม่จำเป็นต้องให้วัคซีนฮิปในเด็กปกติอายุมากกว่า 2 ปี

Must read >> อนุมัติแล้ว! เด็กไทยฉีดวัคซีน HIB ฟรี!! ป้องกันได้ 5 โรค

 

อย่างไรก็ดี จาก ตารางวัคซีน 2563 วัคซีนทุกชนิดสามารถทำให้เกิดผลข้างเคียงได้ เช่นไข้ งองแง ซึ่งมักไม่รุนแรง พ่อแม่ควรสังเกตอาการอย่างใกล้ชิดช่วง 2-3 วันหลังฉีดวัคซีน อาจให้ยาลดไข้แก้ปวดได้ ถ้ามีอาการไข้หรือเจ็บปวดที่ไม่รุนแรง แต่หากมีอาการผิดปกติใดๆ ที่รุนแรงควรรีบไปหาหมอโดยด่วน

Must read >> เตือนแม่! ดูแลลูกหลังฉีดวัคซีนผิดวิธี เสี่ยงติดเชื้อรุนแรง

และอย่าลืมพาลูกน้อยไปรับวัคซีนให้ครบ เพราะภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้นจากวัคซีน ถือเป็นของขวัญที่ดีซึ่งมันจะอยู่กับลูกตลอดชีวิต และอย่าลืมเก็บสมุดบันทึกวัคซีนไว้ให้ลูกจนกระทั่งโตเป็นผู้ใหญ่ด้วย เพราะข้อมูลเหล่านี้จะมีประโยชน์ในภายหลังทั้งนี้ถ้าถึงเวลาต้องไปรับวัคซีน แต่พ่อแม่ไม่ว่างขอให้รีบพาไปรับทันทีหลังจากนั้น เพราะการรับวัคซีนล่าช้าไปบ้างมักไม่ค่อยเป็นปัญหาและดีกว่าไม่ได้รับ แต่ไม่ควรทิ้งช่วงให้ล่าช้ามากเกิน

 

อ่านต่อบทความอื่นน่าสนใจ คลิก : 


ขอบคุณข้อมูล ตารางวัคซีน 2563 จาก https://pidst.or.th/A826.html

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up