สอนลูกแบบ homeschool

สอนลูกแบบ homeschool เรียนแนวใหม่ออกแบบเองไม่มีเบื่อ

Alternative Textaccount_circle
event
สอนลูกแบบ homeschool
สอนลูกแบบ homeschool

homeschool การสอนแนวใหม่ ออกแบบหลักสูตรได้เอง ทุกที่คือโรงเรียน แนวคิดที่พ่อแม่นำมาปรับใช้กับลูกได้ แม้ไม่ได้เรียนระบบ โฮมสคูล ก็ตาม

สอนลูกแบบ homeschool เรียนแนวใหม่ออกแบบเองไม่มีเบื่อ!!

การเรียนในปัจจุบัน เปิดกว้าง มีหลากหลายรูปแบบ อีกหนึ่งแนวคิดการเรียนการสอนรูปแบบหนึ่งที่มีคนให้ความสนใจอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ที่มีการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ที่เด็ก ๆ และผู้คนต้องระมัดระวังการรวมกลุ่ม ซึ่งนั่นหมายถึงว่า โรงเรียนในระบบที่ต้องเข้าเรียนกันเป็นกลุ่มใหญ่ จึงได้รับผลกระทบไปด้วย การเรียนการสอนเองที่บ้าน หรือ homeschool จึงเริ่มเข้ามาเป็นตัวเลือกของพ่อแม่มากขึ้น แต่จะกล่าวไปแล้ว ระบบการเรียนการสอนแบบ homeschool ไม่ใช่เพิ่งเริ่มเกิดขึ้น แต่มีคนกลุ่มหนึ่งที่สนใจ และเริ่มรูปแบบ แนวทางการเรียนการสอนมาเป็นรูปเป็นร่างกันนานแล้ว และเด็กที่ได้เรียนในระบบดังกล่าวต่างก็ประสบความสำเร็จไม่แพ้กันกับระบบการเรียนการศึกษาแบบหลัก

โฮมสคูล คืออะไร และข้อดีของการเรียนการสอนแบบ homeschool มีอะไรบ้าง ที่พ่อแม่สามารถนำแนวคิดดี ๆ วิธีการสอนลูกแบบ homeschool มาศึกษาและปรับใช้กับการสอนลูก เรามาทำความรู้จักกัน

ความหมายของโฮมสคูล

Homeschooling คือ ระบบการศึกษาแนวใหม่ที่เรียนจากที่บ้าน และเป็นตัวผลักดันให้เด็กๆ ได้โชว์ศักยภาพ แสดงความคิดสร้างสรรค์อย่างไม่มีข้อจำกัด ด้วยการออกแบบหรือเลือกซื้อหลักสูตรให้ตรงกับความต้องการของเด็กๆ ช่วยเปิดโอกาสให้ได้เรียนรู้อย่างเต็มที่

homeschool เพราะทุกที่คือห้องเรียน
homeschool เพราะทุกที่คือห้องเรียน

Homeschool มีข้อดีอะไรบ้าง??

  1. หลักสูตรที่เน้นความถนัดของลูก เป็นการสอนที่ครอบครัวสามารถเลือกหลักสูตรการศึกษาได้ด้วยตนเอง โดยเลือกตามความต้องการและตามความถนัดของลูกได้อย่างอิสระ โดยไม่ต้องใช้เวลาไปกับการเรียนในหลักสูตรกลาง
  2. ได้มีเวลาศึกษาตัวตนของลูก และแนะแนวทางให้กับเขา เป็นทางเลือกหนึ่งที่พ่อแม่จะได้มีเวลาอยู่กับลูกให้ได้มากที่สุด และได้ดูพัฒนาการของลูกอย่างเต็มความสามารถ
  3. เป็นทางออกหากครอบครัวไหนที่ไม่สะดวกเดินทาง หรือสำหรับเด็กที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมในโรงเรียน เช่น ถูกเพื่อนแกล้ง หรือสิ่งที่กดดันจากโรงเรียนมากมาย
  4. สามารถหลีกเลี่ยงการอยู่รวมกลุ่ม ลดการติดโรคติดต่อหรือโรคระบาดจากที่โรงเรียนได้เป็นอย่างดี
  5. พ่อแม่สามารถจัดสรรงบประมาณการศึกษาได้ตามโครงสร้างของครอบครัวที่มี ไม่ต้องเครียดค่าเทอมอีกต่อไป
  6. พ่อแม่สามารถอบรมและเลี้ยงดูคู่กับการให้การศึกษาได้อย่างเต็มที่ เพราะพ่อแม่จะได้อยู่กับลูกแบบใกล้ชิด ได้สอนลูก ได้บอกลูก เรียกได้ว่าอยู่ด้วยกันตลอดเวลานั่นเอง
  7. เด็กๆ ได้ค้นพบตัวเองโดยไม่มีข้อแม้ และไม่ต้องกังวลกับเรื่องเวลาอีกเลย พ่อแม่จะเป็นคนคอยสังเกต ส่งเสริม และให้คำปรึกษาแก่ลูกว่าเขาชอบอะไร ถนัดอะไร เพราะบางครั้งเด็กยังไม่เข้าใจตนเอง
  8. ดีต่อเด็กเล็ก การเข้าเรียนตั้งแต่อนุบาล ซึ่งเป็นวัยที่ยังต้องการพ่อแม่อยู่อาจทำให้พัฒนาการลูกเกิดการสะดุดได้ และไม่เสี่ยงต่อการถูกพี่เลี้ยงใจร้ายคอยทุบตี ตามข่าวน่ากลัวที่เคยได้ยิน เพราะเราไม่รู้ว่าสถานเลี้ยงเด็กๆ แต่ละทีมีพี่เลี้ยงแย่ๆ แบบนี้อยู่หรือเปล่า

รูปแบบของโฮมสคูลในไทย!!

หากอ่านมาถึงตรงนี้ แล้วคุณพ่อคุณแม่เริ่มสนใจในรูปแบบการเรียนการสอนแบบโฮมสคูลแล้วละก็ ลองมาศึกษาดูถึงรูปแบบที่ปัจจุบันในไทยมีอยู่ โดยรูปแบบของ Home School นั้น สามารถแบ่งหลัก ๆ ออกมาได้ดังนี้

  1. โฮมสคูลเต็มร้อย homeschool แบบที่ ผู้ปกครองวางหลักสูตรการสอนเอง และจัดการสอนด้วยตนเองที่บ้าน รูปแบบนี้ พ่อแม่ สามารถวางแผนการเรียนที่ออกแบบมาเฉพาะตามความสนใจของลูกเราได้เลย
  2. โรงเรียนที่มีการเรียนหลักสูตรแบบ Home School โดยที่พ่อแม่ให้ลูกไปเรียนในศูนย์การเรียน ศูนย์การเรียนก็จะเป็นเหมือน โรงเรียนขนาดย่อม ๆ มีนักเรียนไม่มาก และ มีหลักสูตรการสอนที่ค่อนข้างเฉพาะ แตกต่างกันไปตามแต่ละศูนย์การเรียน ตัวอย่างเช่น  ศูนย์การเรียนรุ่งอรุณ ศูนย์การเรียน นวัตกรรมเพื่อความสุข เป็นต้น
  3. Home School ในรูปแบบที่ ผู้ปกครองให้ลูก ๆ เรียนตามหลักสูตรของ Online School ของต่างประเทศ การเรียน Online School ในรูปแบบนี้ มักจะใช้หลักสูตรการสอนคล้ายกับ โรงเรียนนานาชาติ เช่น British Curriculum หรือ American Curriculum ซึ่งได้รับ Accreditation เช่นเดียวกับโรงเรียนนานาชาติ
  4.  Distance Learning โฮมสคูลในรูปแบบของการเรียนทางไกล ซึ่งการเรียนในรูปแบบนี้ เด็ก ๆ ก็จะเรียนตามตำราของโรงเรียนทางไกลที่เราสมัคร และทำการประเมินตามเกณฑ์ของโรงเรียนนั้นๆ ซึ่ง Distance Learning นั้น มีทั้งของในประเทศและต่างประเทศ

วิถี New Normal ปรับใช้โฮมสคูลกับการเรียนในระบบอย่างไร??

เมื่อโรคระบาดยังคงอยู่ แต่ชีวิตต้องดำเนินต่อไป การที่เรายังคงต้องเรียนในระบบการศึกษาแบบรวมกลุ่ม แต่ยังมีความกังวล หรือการที่ต้องแยกกักตัวเมื่อมีอาการ ทำให้การเรียนอาจหยุดชะงัก การที่เรานำการเรียนที่บ้านมาปรับใช้เพื่อให้การเรียนของลูกไม่สะดุดก็จะช่วยให้เกิดความลงตัว ซึ่งมีข้อแนะนำดังต่อไปนี้

ช่วงโควิด-19 การเรียนแบบโฮมสคูลเริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้น
ช่วงโควิด-19 การเรียนแบบโฮมสคูลเริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้น

1. ค้นหาว่าอะไรเป็นสิ่งที่โรงเรียนของลูกๆสามารถให้การสนับสนุนได้

ตรวจสอบสิ่งที่โรงเรียนของลูกๆคุณจัดเตรียมไว้ให้เพื่อช่วยในการเรียนแบบโฮมสคูล (Homeschool) พวกเขาอาจออกแบบหลักสูตรที่ง่ายสำหรับผู้ปกครองหรือมีการเรียนการสอนผ่านทางกูเกิ้ลคลาสรูม (Google Classroom) หรือการใช้โปรแกรมประชุมทางไกลด้วย โปรแกรมซูม (Zoom) เพราะปัจจุบันเทคโนโลยีสมัยใหม่สามารถเข้ามาช่วยให้เราเรียนรู้ได้ทุกที่ ซึ่งสามารถเติมเต็มปัญหาของการต้องหยุดพักอยู่บ้านเมื่อป่วยได้

2. สร้างประสบการณ์ใหม่ในห้องเรียน

ทำบ้านให้เป็นโรงเรียน การเรียนของลูกไม่จำเป็นจะต้องฝากไว้ที่แค่ในโรงเรียน หรือคุณครู คุณพ่อคุณแม่สามารถให้ลูกได้เรียนรู้ได้จากทุกที่ ทุกเวลา เหมือนดั่งการเรียนการสอนแบบโฮมสคูล พาเขาไปเรียนรู้นอกห้องเรียน ในสิ่งที่เขาสนใจ ซึ่งคุณพ่อคุณแม่อาจตกใจว่า เป็นการเรียนรู้ที่ลูกจะให้ความสนใจมากเลยทีเดียว เนื่องจากว่าเขาได้เลือกสิ่งที่สนใจ เลือกเอง หรืออาจให้ลูก ๆ ได้มีส่วนร่วมกับการเรียนภายในบ้าน ลองหาอุปกรณ์ที่ช่วยในการเรียนรู้ ตัวอย่างเช่น โปสเตอร์ตัวอักษรและตัวเลขสำหรับเด็กเล็ก  มีการทำตารางเวลาเรียนเพื่อให้มีความหลากหลาย และนำตารางเวลาเรียนมาใช้ในแต่ละวัน

3. ใช้ประโยชน์จากแหล่งข้อมูลออนไลน์

ค้นหาเครื่องมือและเนื้อหาในการศึกษาที่มีบริการทางออนไลน์สำหรับหลาย ๆ วิชาและช่วงอายุที่แตกต่างกัน สตรีมหนังสือนิทานที่มีภาพเคลื่อนไหวและแผนการสอนที่มีเนื้อหาหลากหลายแบบที่ไม่มีโฆษณาจากอเมซอน (Amazon) เด็กที่มีอายุระหว่าง 3 ถึง 18 ปี ยังสามารถติดตามการเรียนทางออนไลน์แบบสด ๆ ได้ทางยูทูป (YouTube)

4. ให้ความสำคัญกับเวลาพัก

การมีเวลาว่างก็มีความสำคัญพอ ๆ กับการเรียน ให้เวลาลูกได้พักผ่อน ได้มีเวลาส่วนตัว เวลาว่างของเขาบ้าง เพราะบางครั้งการเรียนรู้ตัวตน ก็มาจากการได้คุยกับตัวเองบ้าง ทำอะไรที่มันผ่อนคลาย ไร้สาระได้เช่นกัน การเรียนสามารถเป็นเรื่องที่มาจากความบันเทิงได้ ให้เด็ก ๆ ฟังหนังสือเสียงหรือพอดแคสต์ (Podcasts) ได้เรียนรู้โลกที่แตกต่าง โลกใหม่ ๆ บ้าง

homeschool กับ การเรียนในระบบ
homeschool กับ การเรียนในระบบ

5. ต้องติดต่อสื่อสารกัน

ติดต่อกับผู้ปกครองคนอื่น ๆ เพื่อแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับความคิดเห็นและวิธีการต่าง ๆ แอปพลิเคชันในการรับส่งข้อความอย่าง WhatsApp นั้นยอดเยี่ยมในการแชร์ข้อมูลหรือคำแนะนำต่างๆได้ดี และส่งเสริมให้ลูกๆของคุณใช้กูเกิ้ล แฮงค์เอาท์ (Google Hangouts) เพื่อพูดคุยเรื่องการบ้านกับเพื่อนนักเรียนคนอื่นๆ พูดคุยกับลูกๆของคุณเช่นกัน ถามพวกเขาว่าโฮมสคูล (Homeschool) ในแบบที่พวกเขาต้องการเป็นอย่างไรและรับฟังความคิดเห็นของพวกเขา สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การส่งเสริม สนับสนุนและยินดีไปกับความก้าวหน้าของพวกเขา

 

อ่านต่อ>> เรียนโฮมสคูลอย่างไรให้ได้วุฒิการศึกษาไทย พร้อมข้อคิดจากเด็กโฮมสคูล คลิกหน้า 2

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

ชื่อเล่นลูกสาวไทยๆ

ชื่อเล่นลูกสาวไทยๆ เพราะๆ เก๋

Alternative Textaccount_circle
event
ชื่อเล่นลูกสาวไทยๆ
ชื่อเล่นลูกสาวไทยๆ

ชื่อลูกสาว ชื่อเล่นลูกสาว ชื่อเล่นลูกสาวไทยๆ ชื่อเล่นลูกสาวเพราะๆ ชื่อเล่นลูกสาวเก๋ๆ ชื่อเล่นลูกสาวน่ารักๆ ความหมายดี

ชื่อเล่นลูกสาวไทยๆ เพราะๆ เก๋

หลังจากกระแสออเจ้าฟีเวอร์ หน่วยงานต่างๆ และคนไทยทั่วไป ก็ตอบรับการส่งเสริมความเป็นไทยกันอย่างแพร่หลาย วันนี้ทีมกองบรรณาธิการ ABK ขอเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเผยแพร่วัฒนธรรมไทย โดยสนับสนุนให้คนหันมาใช้ชื่อไทยกันมากขึ้น จึงได้รวบรวม ชื่อเล่นลูกสาวไทยๆ เพราะๆ เก๋ๆ มาฝากคุณพ่อคุณแม่ ที่กำลังมองหาชื่อให้ลูกสาวตัวน้อยๆ ที่กำลังจะเกิดมา มาดูกันเลยค่ะ

ชื่อเล่นลูกสาวไทยๆ เพราะๆ เก๋

ชื่อ ความหมาย
กันตา สาวสวย เป็นสุข
แก้วตา สิ่งที่รักยิ่ง
กานต์แก้ว ดวงแก้วอันเป็นที่รัก
กัญ ชื่อราศีกันย์ใน 12 ราศี
กิ่งดาว สืบทอดจากดวงดาว
กล้วยไม้ ชื่อพรรณไม้
กะทิ น้ำที่คั้นออกจากเยื่อมะพร้าว
ข้าวทิพย์ ชื่อขนมอย่างหนึ่ง ปรุงด้วยเครื่องกวน
ของขวัญ สิ่งที่ให้แก่กัน เพื่อแสดงความยินดี
ขวัญเนตร เรียกหญิงที่รัก
ขอบฟ้า แนวที่เห็นเสมือนฟ้าจดกับแผ่นดินหรือทะเล
ข้าวขวัญ ข้าวบายศรี
ข้าวตู ชื่อขนมไทยอย่างหนึ่ง
คุณ ประโยชน์ ความดี
คะขา คำขานรับของผู้หญิง
คะน้า ชื่อไม้ล้มลุกที่นำเข้ามาปลูกเพื่อเป็นอาหาร
คะนิ้ง น้ำที่กลายเป็นเกร็ดน้ำแข็งเนื่องจากความเย็นจัดของอุณหภูมิยอดหญ้า
คนโปรด ผู้เป็นที่รักใคร่เอ็นดูมากเป็นพิเศษ
คำขวัญ ถ้อยคําที่แต่งขึ้นเพื่อเตือนใจหรือเพื่อให้เป็นสิริมงคล
จริงใจ บริสุทธิ์ ซื่อสัตย์
จันทร์เจ้า พระจันทร์
จินต นึกคิด
จงกล บัว
จอมขวัญ เป็นคำเรียกหญิงที่รัก หรือคนที่รักมาก ๆ
จอมทอง ชื่อต้นไม้ชนิดหนึ่ง
จอมยุ่ง หมายถึงสาวน้อยที่ชอบยุ่ง แต่น่ารัก
งาม ลักษณะที่เห็นแล้วชวนยินดีชวนพึงใจ
ชูใจ น่ายินดี ทำให้มีกำลังใจ
ชัญญา ผู้ประเสริฐ ผู้รู้
ชะเอม ชื่อไม้เถาชนิดหนึ่งมีรสหวาน
ชฎา เครื่องสวมศีรษะ
ชบา ต้นไม้ดอก มีชนิดดอกแดงและดอกขาว
ชมกลิ่น กลิ่นที่มีความหอมน่าชวนชม
ซองพลู หอยทะเลกาบคู่ชนิดหนึ่ง สีเหลืองระเรื่อ
ซออู้ ซอสองสาย ตัวกะโหลกทำด้วยกะลามะพร้าว ใช้หนังลูกวัวขึงขึ้นหน้า

 

ชื่อเล่นลูกสาวไทยๆ
ชื่อเล่นลูกสาวไทยๆ

 

ชื่อ ความหมาย
เฌอ ไม้ , ต้นไม้
เฌอปราง ต้นมะปราง
ญาณิน ผู้มีความรู้
ญาณี ผู้มีความรู้ , ผู้มีปัญญา
ญาดา ผู้รู้ , นักปราชญ์
ญานะ ปรีชาหยั่งรู้หรือกําหนดรู้ที่เกิดจากอํานาจสมาธิ
ฐิตา ผู้ดำรงมั่น
ณดา ผู้มีความรู้ยิ่ง
ณิชา สะอาด บริสุทธิ์
ณัช เกิดมาเพื่อความรู้ ผู้ให้เกิดความรู้
ณัชชา เกิดเพื่อความรู้
ณมน ที่ใจ อยู่ที่ใจ
ดวงใจ คําเปรียบเทียบเรียกหญิงที่รักหรือลูกที่รัก
ดวงดี ความโชคดี
ดวงเดือน พระจันทร์
ดอกแก้ว เป็นไม้พุ่มมีดอกสีขาว กลิ่นหอม ปลุกเพื่อความสวยงาม และเป็นมงคลแก่บ้าน
ดอกเข็ม เป็นไม้ดอกพุ่มเตี้ยดอกเรียวเล็กเหมือนเข็มมีหลายสี
ดอกบัว ดอกบัว
ดอกฝ้าย ดอกของต้นฝ้าย
ดารา ดาว , ดวงดาว
ดาว แสงระยิบระยับบนท้องฟ้ามืด มีชื่อเรียกตามตำแหน่ง
ต้องตา ถูกตา ชวนมอง
ต้นหยง ดอกพิกุลหรือต้นไม้ขนาดเล็ก
เเตงกวา ชื่อไม้เถาล้มลุก
เเตงไทย ชื่อไม้เถาล้มลุก
เเตน ชื่อแมลงจำพวกผึ้ง ต่อ
ต้นแก้ว ต้นดอกไม้สีขาว มีกลิ่นหอม
ต้นตาล ไม้ยืนต้นใบคล้ายพัด
ต๋อมแต๋ม เสียงอย่างของหนักขนาดเล็กตกลงไปในน้ำ
ตะไคร้ ชื่อไม้ล้มลุก ขึ้นเป็นกอ
ถมทอง เครื่องถมที่ทำด้วยทองคำ
ถ้วยฟู ชื่อขนมชนิดหนึ่ง ทำด้วยแป้งข้าวเจ้า
ถั่วพู ชื่อถั่วชนิดฝักมีครีบตามยาว ๔ คู่
ถุงข้าว ชื่อเฉพาะ
ถุงแป้ง ถุงที่บรรจุแป้งอยู่ภายใน

อ่านต่อ…ชื่อเล่นลูกสาวไทยๆ เพราะๆ เก๋ คลิกหน้า 2

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

กางเกงผ้าอ้อม โมลฟิกซ์ เนเชอรัล แพนส์

Hot Item กางเกงผ้าอ้อม โมลฟิกซ์ เนเชอรัล แพนส์ ใช้ดีจนต้องบอกต่อ

Alternative Textaccount_circle
event
กางเกงผ้าอ้อม โมลฟิกซ์ เนเชอรัล แพนส์
กางเกงผ้าอ้อม โมลฟิกซ์ เนเชอรัล แพนส์

พูดเลยว่าปลื้ม แม่ชอบมาก กับ กางเกงผ้าอ้อม โมลฟิกซ์ เนเชอรัล แพนส์ ตอนแรกไม่เคยใช้ผ้าอ้อมสำเร็จรูปสำหรับเด็กแบรนด์นี้ เพิ่งมารู้จักก็ตอนที่จะหาเปลี่ยนผ้าอ้อมให้ลูกจากรุ่นเด็กเบบี๋ มาเป็นรุ่นที่เหมาะกับช่วงพัฒนาการคืบ คลาน จนได้รับคำแนะนำมาจากเพื่อน ๆ ว่าให้ลองผ้าอ้อมของแบรนด์ Molfix (โมลฟิกซ์)

คหสตของแม่นะคะ หลังจากที่ให้ลูกใช้มาแล้วหลายสิบห่อ ดีนะ ดีเลย ลูกใส่แล้วเคลื่อนไหวมูฟร่างกายสบายมาก ๆ วันนี้ก็เลยขอทีมว่า ขอเถอะแม่อยากแชร์ กางเกงผ้าอ้อม ที่ให้ลูกใช้อยู่ ใช้จริง ดีจริง ก็อยากบอกต่อให้กับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ได้เป็นหนึ่งในไอเดียการเลือกซื้อหาผ้าอ้อมสำเร็จรูปให้ลูกน้อยได้ใช้กัน

ในฐานะทีมกองบรรณาธิการ Amarin Baby & Kids วันนี้ขออนุญาตใช้ความรู้สึกของคนเป็นแม่ที่ได้ใช้ผ้าอ้อมจากแบรนด์ Molfix มาแชร์ประสบการณ์ ครอบครัวไหนที่ใช้ กางเกงผ้าอ้อม โมฟิกซ์ เนเชอรัล แพนส์ อยู่แล้ว ใช้ดี ประทับใจยังไง มาบอกเล่ากันได้นะคะ

เด็กที่กำลังมีพัฒนาการคืบ คลาน พลิกคว่ำ พลิกหงาย ค่อย ๆ เกาะเดิน วิ่ง จะต้องไม่มีอะไรมาเป็นอุปสรรคในการขวางกั้นพัฒนาการนะคะ ฉะนั้นนอกจากสองมือคุณพ่อคุณแม่ที่คอยประคับประคองให้ลูกได้มีพัฒนาการสมบูรณ์พร้อมกับส่งเสริมให้ลูกได้มีอุปกรณ์ของเล่นที่เหมาะสมตามวัยแล้ว ไอเทมสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยคือผ้าอ้อมสำเร็จรูปค่ะ

ผ้าอ้อมเด็กมีให้เลือกใช้อยู่ 2 แบบ อย่างที่รู้กันคือ ผ้าอ้อมแบบ Tape และผ้าอ้อมแบบ Pants คุณพ่อคุณแม่สามารถเลือกใช้ให้เหมาะกับวัย หรือน้ำหนักขนาดตัวลูกได้เลยค่ะ ส่วนลูกบ้านไหนที่กำลังมีพัฒนาการพลิกตัว คืบ คลาน สะดวกสุด ๆ ก็ต้องเป็น กางเกงผ้าอ้อม

กางเกงผ้าอ้อม โมลฟิกซ์ เนเชอรัล แพนส์

อย่างตอนที่เพื่อนแนะนำให้ใช้ผ้าอ้อมโมลฟิกซ์ แม่ก็หาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนไปซื้อมาให้ลูกได้ใช้นะคะ ซึ่งเขามีเว็บไซต์ molfix.co.th ที่ให้ข้อมูลผลิตภัณฑ์ไว้อย่างละเอียดมาก ๆ ค่ะ มีผ้าอ้อมสำเร็จรูปสำหรับเด็กหลายรุ่น และความโด่งดังของแบรนด์ก็เอาเรื่องอยู่นะคะ โมลฟิกซ์เป็นแบรนด์ผ้าอ้อมดังจากประตรุกี เขาจำหน่ายไปกว่า 100 ประเทศทั่วโลกมาเป็นระยะเวลาถึง 23 ปี แล้วที่ว้าวมากคือ เป็นแบรนด์ผ้าอ้อมที่ใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก เชื่อถือในคุณภาพผลิตภัณฑ์เลยค่ะ พอรู้ข้อมูลแบบนี้ แต่จริง ๆ ก็เข้าไปดูข้อรีวิวเพิ่มเติมที่คุณแม่ ๆ เขาใช้กันนะคะ ส่วนใหญ่ก็ชอบกันมาก แถมมีพรีเซ็นเตอร์เป็นคุณแม่ดาราคนสวยอย่างคุณริต้า กับลูกชาย ยิ่งน่าใช้เข้าไปอีกค่ะ

Molfix Natural Pants

กางเกงผ้าอ้อม ที่แม่เลือกใช้ของโมลฟิกซ์ เป็นรุ่นเนเชอรัลค่ะ Molfix Natural Pants โมลฟิกซ์ เนเชอรัล แพนส์ ซึ่งเขามีให้เลือกใช้หลายขนาดค่ะ ตั้งแต่ไซน์ S (เด็ก 4-8 กิโลกรัม) , M (เด็ก 6-11 กิโลกรัม) , L (เด็ก 9-13 กิโลกรัม) , XL (เด็ก 12-17 กิโลกรัม) , XXL (เด็ก 15-25 กิโลกรัม) , XXXL (เด็ก 20-35 กิโลกรัม)

ทริคง่าย ๆ ที่เวลาเลือกใช้กางเกงผ้าอ้อม คือ ต้องมีขอบเอว ขอบขา ที่นุ่ม กระชับ เพื่อเวลาผ้าอ้อมอยู่กับก้นลูก จะได้ไม่ระคายเคืองคัน ผ้าอ้อมต้องช่วยซัพพอร์ตเวลาที่ลูกเคลื่อนไหวร่างกาย จะคลาน จะเกาะเดิน หรือจะวิ่ง ทำกิจกรรมสนุกอะไรก็ต้องไม่หลุดจากก้นลูกนะคะ

กางเกงผ้าอ้อม โมลฟิกซ์ เนเชอรัล แพนส์ จากที่ลูกใช้มา แม่คอนเฟิร์มว่านุ่มมาก ไม่ว่าจะขอบเอว ขอบขา หรือตรงแผ่นรองรับฉี่ ก้นลูกไม่มีระคายเคือง เกิดผื่นแดงเลย

ด้วยความที่เป็นผ้าอ้อมแบรนด์พรีเมี่ยมแต่ราคาจับต้องได้ ไม่ต้องคิดหนักเวลาซื้อผ้าอ้อมให้ลูก ขอบอกคุ้มค่ามาก เขาใส่ใจในทุกรายละเอียดเลยนะคะ อย่างห่อบรรจุภัณฑ์แล้วก็ผ้าอ้อมทุกชิ้นก่อนออกจำหน่าย จะมีการฆ่าเชื้อด้วยแสงอัลตราไวโอเลตก่อนบรรจุ และป้องกันการปนเปื้อนจากแบคทีเรียด้วยบรรจุภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน

แล้วอย่างล่าสุดผลิตภัณฑ์ผ้าอ้อมเด็กสำเร็จรูปแบรนด์ Molfix (โมลฟิกซ์) เขาได้รางวัล EDITOR’s CHOICE สาขา BEST NATURAL DISPOSABLE DIAPER FOR BABIES จาก Amarin Baby & Kids Awards 2022 มาด้วยนะคะ

เอาจริง ๆ นะคะ พูดไปอาจยังไม่เชื่อกันว่ากางเกงผ้าอ้อมโมลฟิกซ์ เนเชอรัล แพนส์ ดียังไง จนกว่าจะได้ซื้อมาให้ลูกได้ใช้กัน ฉะนั้นอย่าคิดเยอะค่ะ ผ้าอ้อมดีมีคุณภาพเยี่ยมขนาดนี้ มีมาให้คุณพ่อคุณแม่คนไทยที่มีลูกได้ใช้แล้ว ไปซื้อมาใช้กันค่ะ แบรนด์โมลฟิกซ์เขาออกแบบผ้าอ้อมมาให้เลือกใช้หลายรุ่นนะคะ คุณพ่อคุณแม่ลองดูรุ่นมาใช้ให้เหมาะกับวัยเจ้าตัวน้อยได้เลยค่ะ

อ่ะแม่ชี้เป้าให้ไปช้อปมาใช้กัน ตามนี้เลยจ้า คลิกmolfix.co.th

🛒 Big C https://bit.ly/3xbJYta

🛒 Shopee https://shopee.co.th/molfix_official_store

🛒 Lazada https://s.lazada.co.th/s.6GTFL

🛒 Central Online https://bit.ly/3DjYzHb

🛒 ALL Online https://bit.ly/3abHTFB

🛒 Tops Online https://www.tops.co.th/th/search/molfix

🛒 Gourmet https://shorturl.asia/aXr6Z

 

 

 

ฝันเห็นตุ๊กแก ทำนายฝัน

ฝันเห็นตุ๊กแก เลขเด็ดและวิธีหยิบโชคให้ติดหนึบได้ไม่ยาก

Alternative Textaccount_circle
event
ฝันเห็นตุ๊กแก ทำนายฝัน
ฝันเห็นตุ๊กแก ทำนายฝัน

ตัวเลขกับความฝัน ฝันเห็นตุ๊กแก ฝันเห็นสิ่งต่าง ๆ สามารถนำมาทำนายล่วงรู้สิ่งที่จะเกิดในอนาคตได้ แต่จะมีวิธีหยิบทรัพย์นั้นอย่างไร เรามีบอก

ฝันเห็นตุ๊กแก เลขเด็ดและวิธีหยิบโชคให้ติดหนึบได้ไม่ยาก!!

เมื่อความฝันกับตัวเลขถูกนำมาเข้าคู่กันตั้งแต่โบราณนานมา แม้การเสี่ยงโชค หวย สลากกินแบ่งจะเป็นเรื่องราวของคนปัจจุบัน แต่ในอดีตกาล การตีความหมายตัวเลขเพื่อใช้ในการดูฤกษ์ ดูยาม การหาตัวเลขสิริมงคล ก็เป็นเรื่องที่สำคัญต่อดวงชะตาของมนุษย์ไม่น้อยเลยทีเดียว โบราณจึงว่าไว้ความฝัน คือนิมิตร ทำนายทายทักให้เจ้าของความฝันล่วงรู้ และหากมีวิธีที่ถูกต้องก็สามารถหยิบโชคได้ไม่ยาก

เตรียมรับโชคใหญ่ หากคุณฝันเห็นสิ่งเหล่านี้ !!

ความฝันมีทั้งที่ดี และร้าย แต่หากตื่นเช้ามาคุณมีโอกาสฝันเห็นสิ่งต่าง ๆ ต่อไปนี้แล้วละก็ รับรองได้เตรียมตัวรับทรัพย์ รับโชคใหญ่กันเลย

ความฝัน กับคำทำนายฝัน
ความฝัน กับคำทำนายฝัน
  • ฝันเห็นพระราชา พระราชินี ประมุข คนสูงอายุ บิดามารดา พระพุทธรูปบูชา พระประธานในโบสถ์ ถือเป็นมงคลชีวิต เลขเด็ดเลขมงคล มักจะเป็นเลข 9 (เฉพาะองค์พระราชินีนั้น ถ้าในฝันมีองค์พระราชายืนประทับเคียงข้าง ทำนายฝันว่า ถือเป็น 8 และองค์กษัตริย์เป็น 9 ฉะนั้น เลขนี้จะต้องเป็นเลข 2 ตัว คือ 98 หรืออาจจะเป็น 29 ก็ได้)
  • ฝันเห็นไก่ หนู เลขเด็ด เลขมงคล มักจะเป็นเลข 1  (ถือเอาว่า ก. ไก่ เป็นพยัญชนะตัวแรก และหนูเป็นปีแรกของปี 12 นักษัตร)
  • หากฝันเห็น กระแสน้ำ น้ำ เลขเด็ด เลขมงคล มักเป็นเลข 2  (ถือเอาลำดับจากธาตุทั้ง 4 คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ เพราะฉะนั้น ถ้าฝันเห็นดิน ก็มักตรงกับเลข 1 หรือฝันเห็น ไฟ ก็มักตรงกับเลข 4)
  • หากฝันเห็น นก เลขเด็ด เลขมงคล มักจะเป็นเลข 6
  • เมื่อฝันเห็นเรือ เลขเด็ด เลขมงคล มักจะเป็นเลข 5
  • ฝันเห็นผู้หญิงในวัยสาว ถึงวัยกลางคน ทำนายเลขเด็ด เลขมงคล มักจะเป็นเลข 5 แต่ถ้าฝันเห็นหญิงคนท้องมักเป็นเลข 6 หญิงแก่ชรา หรือมารดา มักเป็นเลข 9
  • ฝันเห็น แหวน กำไลมือ หลุ่มบ่อ หรือวัตถุที่มีลักษณะเป็นวงกลม หรือกลอง เลขเด็ด เลขมงคล มักจะเป็นเลข 0
  • ฝันถึงจิ้งจก ตุ๊กแก จรวด เจว็ดศาล จอบ เลขเด็ด เลขมงคล มักจะเป็นเลข 7
  • ฝันถึง วัว ควาย สุนัข เรือ หรือสัตว์ 4 เท้า เลขเด็ด เลขมงคล มักจะเป็นเลข 4 แต่ให้สังเกตว่า ถ้าเป็นสัตว์ที่อยู่ใน 12 นักษัตรของปีเกิด คือปีชวด-ปีกุน ให้ถือ ชวด (หนู) 1, ฉลู(วัว)2, ขาล(เสือ)3, เถาะ(กระต่าย) 4, มะโรง (งูใหญ่) 5, มะเส็ง(งูเล็ก) 6, มะเมีย(ม้า)7, มะแม(แพะ) 8, และวอก(ลิง)9, ส่วนระกา (ไก่) เป็น 1 หรือ 10, จอ(สุนัข) เป็น 11 หรือ 4, กุน(หมู) เป็น 12 หรือ 4
  • ฝันเห็น แก้วน้ำ แก้ว เพชรพลอยมีค่า เลขเด็ด เลขมงคล มักจะเป็นเลข 9
  • ฝันเห็นเบ็ดตกปลา ไม้เท้าถือหัวโค้งงอ คันร่ม หรือสะพานโค้ง เลขเด็ด เลขมงคล มักจะเป็นเลข 6
  • ฝันถึงกางเกง เสื้อ ตะเกียบ รางรถไฟ รองเท้า เลขเด็ด เลขมงคล มักจะเป็นเลข 2 (ถือเอาว่าสิ่งเหล่านี้มีเลขเป็น คู่คือ 2 เช่น กางเกงมี 2 ขา หรือรองเท้าต้องมีคู่หรือ 2 ข้าง)
  • หากฝันถึงงูใหญ่ หรือพญานาค เลขเด็ด เลขมงคล มักจะเป็นเลข 5  ถือเอาลำดับในปีเกิด 12 นักษัตร ถ้าฝันเห็นงู ุเล็กๆ หรืองูธรรมดาทั่วไป มักเป็นเลข 6 (ถือปี 12 นักษัตรเช่นเดียวกัน)
  • ฝันเห็นว่าวจุฬา ทำนายฝันว่า เลขเด็ด เลขมงคล มักเป็นเลข 5 เพราะมีปลายทั้ง 5 คล้ายดาว แต่ถ้าเป็นว่าวปักเป้า ว่าวอีรุ้ม มักเป็นเลข 4 เพราะ เป็น 4 มุม
  • ฝันเห็น ภูเขาสูงใหญ่ ทำนายฝันเลขเด็ด เลขมงคล มักเป็นเลข 9
  • ฝันเห็นอุจจาระ ทำนายฝันว่า มักเป็นเลขคี่ แต่ต้องสังเกตว่า จำนวนของตัวเลขนั้นมากหรือน้อย แล้วตีความหมาย (ขึ้นอยู่กับว่าคุณฝันเห็นมากน้อยแค่ไหน) เช่น เห็นน้อยก็อยู่ในราวเลข 1, หรือ 3 แต่ถ้ามากก็ตีความหมายเป็น 5 หรือ 7 ได้ อย่างให้ถึง 9)
  • ฝันเห็น หมวก มงกุฎ ชฎา ธงปักปลายยอด ทำนายฝันว่า มักเป็นเลข 9 (คือ ถือว่าเป็นของอยู่สูง)
ฝันเห็นตุ๊กแก กับ รวมความเชื่อโบราณเกี่ยวกับตุ๊กแก
ฝันเห็นตุ๊กแก กับ รวมความเชื่อโบราณเกี่ยวกับตุ๊กแก

ความเชื่อโบราณ เกี่ยวกับ “ตุ๊กแก”

หลายคนคงเคยได้ยินความเชื่อเกี่ยวกับ “จิ้งจกร้องทัก” ผู้ใหญ่สมัยก่อนท่านว่าเป็น “ลางบอกเหตุ” ที่เชื่อว่ามีทั้งดีและร้าย วันนี้เรามาอ่านตำนานความเชื่อเกี่ยวกับ “ตุ๊กแก” ที่คนโบราณเล่าสืบต่อกันมาว่า “ตุ๊กแก” เป็นที่สิงสถิตของดวงวิญญาณบรรพบุรุษ ปู่ย่า ตายาย ที่ล่วงลับไปแล้ว ท่านมักมาเตือนด้วยการส่งเสียงร้อง ซึ่งมีความหมายในรูปแบบต่างๆ ตีความไว้ดังนี้

ตุ๊กแกร้องกลางวัน = มีเหตุร้าย !!

ตามปกติแล้วตุ๊กแกที่อาศัยอยู่ในบ้านจะร้องในเวลากลางคืน แต่ถ้าวันดีคืนดีเกิดร้องขึ้นมาในตอนกลางวัน ไม่ว่าจะร้องกี่ครั้งก็ตามถือเป็นลางบอกเหตุว่ากำลังจะเกิดเหตุร้ายกับคนในครอบครัวหรือภายในบ้าน ซึ่งปกติแล้วตุ๊กแกจะไม่ร้องในเวลากลางวัน และกับความเชื่อเรื่องจำนวนการร้องของตุ๊กแก มีดังนี้

เสียงร้อง แก..แก จะมีความหมายในทางที่ไม่ดี ชั่วช้า ให้รีบไล่ไปทันทีเพื่อแก้เคล็ด

ร้องต่ำกว่า 5 ครั้ง ไม่มีความหมายสักเท่าใดนัก อยู่ในเกณฑ์ร้ายเล็กน้อย จะไล่หรือไม่ไล่ก็ได้

หากร้อง 5 ครั้ง หมายถึง เสนียดจัญไร โรคภัยต่างๆ นาๆ ให้รีบไล่ไปให้พ้นจากบ้าน

ร้อง 6 ครั้ง หมายถึง เจ้าของบ้านจะเดือดร้อนอึดอัด คับแค้นใจ ควรไล่ออกจากบ้าน

ร้อง 7 ครั้ง ความหมายไม่ดี จะมีการเสียทรัพย์ ดวงการเงินย่ำแย่ ควรรีบไล่ออกไป

ตุ๊กแกร้อง 8 ครั้ง ความหมายดี เกิดโชคลาภมากมาย ควรเลี้ยงไว้ในบ้าน

ตุ๊กแกร้อง 9 ครั้ง ความหมายดี จะทำให้รุ่งเรือง ควรอย่างยิ่งที่จะเลี้ยงไว้

หากตุ๊กแกร้อง 10 ครั้ง ดีมาก ทำให้ร่ำรวยเงินทองไหลมาเทมา ควรเลี้ยงไว้อย่างยิ่ง

ร้อง 11 ครั้ง ดีมากๆ ทำให้ร่ำรวยเงินทองแล้วจะได้พบเจอเนื้อคู่ที่ถูกใจ ให้เลี้ยงไว้จะมีแต่สิ่งดีๆ

ฝันเห็นตุ๊กแก กับงูเขียว
ฝันเห็นตุ๊กแก กับงูเขียว

เมื่อตุ๊กแกกัด จะไม่ปล่อยจนกว่าจะได้ยินเสียงฟ้าผ่า !!

กับอีกหนึ่งความเชื่อที่คนโบราณเล่าสืบต่อกันมาอีกว่า ถ้าโดนตุ๊กแกกระโดด หรือตกมาอยู่ที่ตัวมักจะแกะไม่ออกเพราะตีนตุ๊กแกเหนียวมากยิ่งกว่าติดกาวเสียอีก“ถ้าโดนตุ๊กแกกัดมันจะไม่ปล่อยจนกว่าจะได้ยินเสียงฟ้าผ่า” ข้อเท็จจริงก็คือ ตุ๊กแกหากได้กัดใครแล้ว ส่วนกรามของมันจะล็อกยิ่งเราไปจับตัวมัน มันก็จะกัดแน่นขึ้นเรื่อย ๆ หรือหากไปงัดหรือง้างปาก ก็จะยิ่งกัดให้แน่นลงไปอีก วิธีที่จะทำให้มันหลุดได้คนโบราณพูดต่อๆ กันมาว่า “ให้ผู้ที่ถูกตุ๊กแกเกาะรีบกินน้ำ 3 โอ่ง กินข้าว 3 จาน และกินอุจจาระ 3 กอง ตุ๊กแกก็จะหลุดไปได้” ซึ่งน่าจะเป็นกุศโลบายให้เด็กๆ อยู่ห่างจากตุ๊กแก เพราะตุ๊กแกตัวใหญ่และมีฟันแหลมคม และหากจับโดยไม่ระวังอาจได้รับบาดเจ็บเป็นอันตรายได้

วิธีที่ถูกต้องคือ เมื่อถูกกัด อย่าพยายามแตะตัวตุ๊กแกเดี๋ยวมันจะปล่อยเอง หรือหาอะไรฉุนๆ มาวางไว้ใกล้จมูกตุ๊กแก เช่น ยาเส้น สักพักมันก็จะปล่อยเอง

ตำนาน งูเขียวกินตับตุ๊กแก!!

ตามตำนานมีผู้เฒ่าผู้แก่เล่าว่า เท่าที่เห็นมาในอดีต งูเขียวกับแก้ จะกินแต่ตับตุ๊กแก ถ้าตุ๊กแกตัวไหนไม่ให้งูกินตับ มันจะร้องไม่ออกหรือไม่มีเสียงออกมา(ซึ่งเป็นตำนานที่ผู้เฒ่าผู้แก่เล่าต่อๆกันมา) เมื่อตุ๊กแกร้องเรียกมันจะอ้าปากกว้างรอ ให้งูเขียวเลื้อยเอาหัวเข้าไปในปากตุ๊กแก เป็นเวลานานเพื่อล้วงกินตับตุ๊กแกมากิน พร้อมสักพักหนึ่งมันจะถอยออกมาพร้อมกับเลือดเต็มปาก และตุ๊กแกก็จะหมดแรงห้อยตัวอยู่กับที่เป็นเวลานาน ถึงจะคลานไปได้ ต่อมาตุ๊กแกถึงจะร้องมีเสียงออกมา (ตุ๊กแกๆๆๆ) จนกว่าจะตายไป แต่ถ้าตัวตุ๊กแกตัวไหนไม่ให้งูกินตับ มันก็จะร้องไม่ออกทั้งชีวิต

อ่านต่อ >>รวมคำทำนายฝัน เมื่อ ฝันเห็นตุ๊กแก พร้อมคาถารับโชค คลิกหน้า 2

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

วิธีดูแลฟันแท้ ให้แข็งแรง ไม่มีฟันผุ

วิธีดูแลฟันแท้ ให้แข็งแรง ไม่มีฟันผุ

Alternative Textaccount_circle
event
วิธีดูแลฟันแท้ ให้แข็งแรง ไม่มีฟันผุ
วิธีดูแลฟันแท้ ให้แข็งแรง ไม่มีฟันผุ

เหงือกจ๋า ฟันลาก่อน !! ถ้าเป็นฟันชุดแรกฟันน้ำนม อาจจะยังเฉย ๆ ใช่ไหมคะ แต่นี่ฟันชุดที่สองซึ่งเป็นฟันแท้ของลูก คุณพ่อคุณแม่คงไม่อยากให้ฟันแท้ลูกหัก หลุดหายไปก่อนเวลาอันควรใช่ไหมคะ กองบรรณาธิการ Amarin Baby & Kids มี วิธีดูแลฟันแท้ ของเด็ก ๆ ให้แข็งแรงแบบไม่มีฟันผุ หลุด บ๊าย บายเหงือกจ๋า มาฝากค่ะ

ฟันแท้ของลูกจะขึ้นเมื่อไหร่ ?

คุณพ่อคุณแม่มือใหม่มาทำความเข้าใจเรื่องฟันลูกแบบเข้าใจง่าย ๆ เพื่อจะได้ดูแลสุขภาพฟันและช่องปากให้กับลูกน้อยได้อย่างถูกต้อง เพื่อจะได้มีฟันสวย ยิ้มสวย หมดกังวลกับปัญหาฟันผุ ฟันหลุดลาเหงือกจ๋าไปก่อนได้ใช้งานค่ะ

ฟันชุดแรก เรียกว่า ฟันน้ำนม จะค่อย ๆ ทยอยขึ้นครบจำนวนทั้ง 20 ซี่ เมื่อลูกอายุได้ประมาณ 2.5 – 3 ปี พอลูกอายุประมาณ 6-7 ปี ฟันน้ำนมก็จะเริ่มทยอยหลุด

ฟันชุดที่สอง เรียกว่า ฟันแท้ จะเริ่มขึ้นมาแทนที่ฟันน้ำนมที่หลุดไป ฟันแท้จะทยอยขึ้นจนครบ 32 ซี่ ตอนที่ลูกอายุประมาณ 17-21 ปี

สำหรับ “ฟันแท้” คือฟันที่จะมีอายุการใช้งานที่ยาวนานไปจนเด็ก ๆ เติบโตเป็นผู้ใหญ่วัยกลางคนเลยค่ะ แต่ฟันแท้ของแต่ละคนจะมีความแข็งแรงอยู่ได้ครบ 32 ซี่ได้แค่ไหนนั้น ความสำคัญอยู่ที่การดูแลมาตั้งแต่เริ่มต้นชีวิตค่ะ

การทำความสะอาดฟันที่เหมาะสม ตามช่วงวัย

  • เด็กทารก ให้ดูแลทำความสะอาดเหงือก และลิ้น ด้วยการใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำต้มสุกเช็ดภายในช่องปาก
  • เด็กเริ่มมีฟัน สามารถใช้ยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์ แปรงฟันวันละ 2 ครั้ง (เช้า และก่อนนอน)
  • เด็กอายุต่ำกว่า 2 ขวบ ใช้ยาสีฟันปริมาณ เท่าเม็ดข้าว 1 จุดเล็ก ๆ
  • เด็กอายุ 3 – 6 ขวบ ใช้ยาสีฟันปริมาณเท่ากับเมล็ดถั่วลันเตา
  • เด็กอายุ 6 ปี ขึ้นไป ใช้ยาสีฟันปริมาณ 1 นิ้ว

และที่ต้องทำควบคู่ไปกับการฝึกลูกแปรงฟัน ก็คือการพาลูกไปหาหมอฟันทุก 6 เดือน เพื่อตรวจสุขภาพเหงือก ฟันและช่องปาก รวมถึงฝึกลูกให้เป็นเด็กไม่ติดหวาน ขนมหวาน นมรสหวาน ลูกอม ช็อกโกแลต น้ำอัดลม เป็นต้น ถ้าเลี่ยงได้ไม่ควรให้ลูกกินค่ะ เพราะเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดฟันผุ !! นอกจากนี้ต้องฝึกให้ลูกรักการแปรงฟันจนติดเป็นนิสัยเลยค่ะ เริ่มจากคุณพ่อคุณแม่ช่วยสอนลูกแปรงฟัน และทำให้ลูกเห็นเป็นตัวอย่างว่าพ่อกับแม่ดูแลรักษาสุขภาพฟันและช่องปากอย่างไร สอนเขาว่าทำไมต้องให้ความสำคัญกับการแปรงฟันตอนเช้า และก่อนนอน การไม่แปรงฟันมีผลเสียอย่างไร หรือหาเป็นหนังสือนิทานที่สอนเกี่ยวกับแปรงฟันมีตัวละครสนุก ๆ อ่านไปพร้อมกับลูกก็ได้นะคะ 

วิธีดูแลฟันแท้ ของวัยคิดส์ 6 ขวบขึ้นไป ฟันแท้เริ่มขึ้น ควรดูแลช่องปากให้ครบวงจร

อย่างที่บอกไปค่ะว่า ฟันแท้ คือชุดฟันที่จะมีอายุการใช้งานยาวนาน ฉะนั้นต้องทำให้ฟันแท้ของลูกแข็งแรงที่สุด กองบรรณาธิการ Amarin Baby & Kids ขอแนะนำ วิธีดูแลฟันแท้ ด้วย “ผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากเด็กโคโดโม” ขอบอกว่านี่คือเคล็ดลับช่วยให้ฟันแท้ของลูกแข็งแรง ไม่มีปัญหาฟันผุมาให้คุณแม่กังวลใจแล้วค่ะ อีกทั้ง ยังช่วยให้เด็กๆ ชื่นชอบในการดูแลช่องปากด้วย ลวดลายการ์ตูน ดาบพิฆาตอสูร (Demon Slayer) อีกด้วยนะคะ มาเริ่มกันที่

ยาสีฟัน โคโดโม ซูเปอร์การ์ด ผสมแอคทีฟ ฟลูออไรด์ 1000 ppm

1. ยาสีฟัน โคโดโม ซูเปอร์การ์ด ผสมแอคทีฟ ฟลูออไรด์ 1000 ppm (ปริมาณฟลูออไรด์ที่ทันตแพทยสมาคมแนะนำในยาสีฟันเด็ก) และ Micro Calcium เพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันฟันผุ ทำให้ฟันแข็งแรง แค่เห็นกล่องยาสีฟัน เด็ก ๆ ที่บ้านนี่ก็ชอบแล้วค่ะ อันนี้แม่คอนเฟิร์ม เพราะเด็ก ๆ ตื่นเต้นอยากจะใช้ยาสีฟันในการแปรงฟัน ยาสีฟัน โคโดโม ซูเปอร์การ์ด ผสมแอคทีฟ ฟลูออไรด์ 1000 ppm มีคุณสมบัติที่ดีมากเลยค่ะ

  • IPMP + GK2 (เทคโนโลยี ลิขสิทธิ์ Lion Japan) ช่วยดูแลเหงือก ลดคราบพลัคและกลิ่นปาก
  • Cool Menthol เพื่อปากสะอาด ลมหายใจหอมสดชื่น
  • ปราศจากส่วนผสมของน้ำตาล (Sugar Free) ตัวการที่ทำให้ฟันผุ โดยใช้ไซลิทอล (สารให้ความหวานตามธรรมชาติ) ทดแทน
  • มี 2 กลิ่น คือ กลิ่น Fruity Cool Mint และกลิ่น Strawberry Fresh Mint

แปรงสีฟันโคโดโมอัลตร้าสไมล์

2. มียาสีฟัน ก็ต้องมีแปรงสีฟันที่เข้าเซ็ตกันค่ะ แม่จัดมาพร้อมกันเลยกับ แปรงสีฟันโคโดโมอัลตร้าสไมล์สำหรับเด็กอายุ 5-9 ขวบ ที่มีสาร Zinc ที่ช่วยลดการสะสมของไวรัสบริเวณยางของด้ามแปรง* และลดการสะสมแบคทีเรียบนด้ามแปรงได้ยาวนาน 3 เดือน** พร้อมขนแปรงผลิตจากวัสดุพิเศษให้เรียวเล็กและนุ่มเป็นพิเศษ ไม่ทำร้ายเหงือก ซอกซอนได้ลึกถึงร่องเหงือก
พร้อมคุณสมบัติเด่น 4 ประการดังนี้

  • Power Tip – นวัตกรรมการปักขนแปรงจากโคโดโม เพิ่มพลังทำความสะอาดฟันกรามได้อย่างนุ่มนวล
  • ขนแปรงผลิตจากวัสดุ พีบีที ปลายเรียวเล็ก ชนิดนุ่มพิเศษ ไม่ทำร้ายเหงือก ซอกซอนได้ลึกถึงร่องเหงือก
  • หัวแปรงเรียวยาว ซอกซอนลึกและมีขนาดพอดีกับช่องปากเด็ก คอแปรงออกแบบตามหลักสรีระศาสตร์ ขนาดกำลังดี โค้งสอดรับกับฟันเด็ก
  • ด้ามแปรงทำจากวัสดุพีพีและยางสังเคราะห์ โดยออกแบบตามสรีระเด็กพร้อมปุ่มกระชับมือที่กว้างขึ้น สัมผัสนุ่ม จับง่าย ไม่ลื่นมือขณะแปรง

* ทดสอบในห้องปฎิบัติการ AGENOL ประเทศสเปน

**เมื่อเทียบกับแปรงสีฟันโคโดโมรุ่นปัจจุบัน และทดสอบในห้องปฎิบัติการบริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด

น้ำยาบ้วนปากเด็กโคโดโม สูตรอ่อนโยน

3. ขั้นตอนการดูแลสุขภาพปากและฟันไม่ได้หมดแค่การแปรงฟันค่ะ เพราะหลังแปรงฟัน ยังเพิ่มเติมให้สุขภาพฟันแท้มีความสะอาดแข็งแรงมากขึ้นด้วยการใช้น้ำยาป้วนปาก และนี่ค่ะ น้ำยาบ้วนปากเด็กโคโดโม สูตรอ่อนโยนปราศจากแอลกอฮอล์ แอคทีฟ ฟลูออไรด์ 100 ppm ช่วยเคลือบฟันและซอกซอนเข้าไปในส่วนที่แปรงเข้าไปไม่ถึง

  • ปราศจากส่วนผสมของน้ำตาล (Sugar Free) ตัวการที่ทำให้ฟันผุ โดยใช้ไซลิทอล (สารให้ความหวานตามธรรมชาติ) ทดแทน
  • IPMP สารธรรมชาติ จากประเทศญี่ปุ่น ช่วยลดการสะสมของแบคทีเรีย ซึ่งเป็นต้นเหตุของปัญหากลิ่นปาก เพื่อลมหายใจที่หอมสดชื่น
  • มี 3 รสชาติ คือ กลิ่นสตรอเบอร์รี่ กลิ่นส้ม และกลิ่นฟรุตตี้ คูล มินต์  ​

วิธีดูแลฟันแท้ สำหรับเด็กวัย 6 ขวบขึ้นไป ให้มีช่องปากสะอาด มีสุขภาพเหงือกและฟันแข็งแรง หมดกังวลกับปัญหาฟันผุ ต้อง KODOMO ORAL CARE FOR KIDS เซ็ตนี้นะคะ

กองบรรณาธิการ Amarin Baby & Kids ชี้เป้าให้ตามไปช้อปมาใช้กันที่นี่ค่ะ คลิก !!

🛒 LionShop

ตั้งชื่อลูกก่อนคลอด

ตั้งชื่อลูกก่อนคลอด เลยดีไหม ความเชื่อลางร้ายกับสิ่งที่ควรรู้

Alternative Textaccount_circle
event
ตั้งชื่อลูกก่อนคลอด
ตั้งชื่อลูกก่อนคลอด

ตั้งชื่อลูกก่อนคลอด กับความเชื่อโบราณที่ว่าเป็นลางร้าย ทำให้พ่อแม่ยุคก่อนคงไม่มีใครกล้าเสี่ยง แล้วลางร้ายนั้นจะยังใช้ได้กับปัจจุบันไหมนะ

ตั้งชื่อลูกก่อนคลอด เลยดีไหม ความเชื่อลางร้ายกับสิ่งที่ควรรู้!!

ชื่อของลูก เป็นสิ่งที่พ่อแม่ให้ความสำคัญ เพราะชื่อนั้นสำคัญมากกว่าแค่ความหมายดี การตั้งชื่อที่ดีนั้นไม่ง่ายอย่างที่คิด บางคนเข้าใจว่า ตั้งชื่อโดยดูที่ความหมายดี ความหมายมงคล ก็จัดว่าเป็นชื่อที่ดีแล้ว แต่ชื่อนั้น ๆ ควรต้องเป็นชื่อที่เข้ากันได้กับเจ้าของชื่ออีกด้วย เรียกได้ว่าถูกโฉลกกันนั่นเอง จึงนับว่าเป็นชื่อที่มงคลสำหรับเจ้าของ

คำว่า “ถูกโฉลก” หลาย ๆ ท่านคงเคยได้สัมผัสกับอาการดังกล่าว เช่น เราเห็นคน ๆ นี้แล้วรู้สึกถูกโฉลก ถูกใจเสียจริง ๆ หรือทำไมทำงานกับคนนี้แล้วดวงดี มีโชคตลอดเลยนะ เป็นต้น หากคุณเคยได้สัมผัสกับอาการเหล่านี้คงพอจะเข้าใจคำว่า ถูกโฉลกขึ้นมาบ้างแล้ว ชื่อก็เช่นกัน การตั้งชื่อที่ดีนั้น โดยหลักการแล้วควรตั้งชื่อให้เข้ากันกับดวงเกิดของเจ้าของชื่อ ซึ่งก็ต้องขึ้นอยู่กับ วัน เดือน ปี เกิดของแต่ละคนนั่นเอง ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เกิดความเชื่อในเรื่องของการ ตั้งชื่อลูกก่อนคลอด นั้น เป็นลางไม่ดี !!

ห้าม ตั้งชื่อลูกก่อนคลอด จะเป็นลางร้าย จริงหรือ??

ความเชื่อโบราณที่ห้ามตั้งชื่อลูกก่อนคลอด เพราะจะทำให้เกิดเรื่องไม่ดี อาจแท้ง เกิดปัญหาระหว่างคลอด หรือทำให้ดวงของลูกไม่ดีได้ นั่นเนื่องมาจากว่า ตามหลักโหราศาสตร์แห่งการตั้งชื่อนั้น จะตั้งตามวันเดือนปีเกิด และเวลาตกฟากของเด็ก เมื่อเรายังไม่ทราบวันและเวลาที่ลูกจะเกิด การตั้งชื่อไว้ล่วงหน้า โดยที่ยังไม่รู้ว่าเด็กจะเกิดเวลาไหน อยู่ในลัคนาหรือราศีอะไร หากตั้งชื่อไปก่อนแล้ว อาจมีตัวอักษรที่เป็นกาลกิณีได้กับดวงเกิดของเด็กได้ ซึ่งอักษรกาลกิณีในดวงเกิดนั้น สามารถให้โทษต่อเจ้าของชื่อได้ จะทำให้ชีวิตของเด็กนั้นอาจแย่ตั้งแต่เกิด เลี้ยงยาก ร้องไห้เก่ง มีปัญหาเรื่องสุขภาพ และทำให้ไม่สามารถตั้งชื่อที่มีดวงเสริมบุญ บารมีของพ่อแม่ และตัวเด็กเองได้อีกด้วย

แต่ในปัจจุบัน คุณพ่อคุณแม่สามารถรู้ได้ล่วงหน้าแล้วว่าลูกเป็นเพศอะไร สามารถกำหนดฤกษ์ผ่าคลอดได้ หากแพทย์พิจารณาเห็นสมควร ดังนั้น จึงทำให้คุณพ่อคุณแม่มีแนวทางในการตั้งชื่อลูกก่อนคลอดได้มากขึ้นนั่นเอง

ตั้งชื่อลูกก่อนคลอด ได้ไหม
ตั้งชื่อลูกก่อนคลอด ได้ไหม

หลักเบื้องต้นใน การตั้งชื่อลูก

เพศของลูก

นับเป็นเรื่องแรก ๆ ของเกณฑ์ในการตั้งชื่อลูก โดยชื่อกับเพศเป็นสิ่งที่ต้องไปในทิศทางเดียวกัน แต่ละชื่อจะมีความหมายดี ๆ อยู่แล้วในตัว แต่จะดีขึ้นไปอีก หากชื่อนั้นจะอยู่กับเพศของลูกที่ถูกต้องและเหมาะสม ลองคิดไปยาว ๆ ถึงเวลาที่ลูกโตรู้ความ การตั้งชื่อลูกไม่เหมาะสมกับเพศของเขา จะทำให้ลูกมีปมด้อย ถูกเพื่อนล้อ และสับสนได้

วัน เดือน ปีเกิด

การรู้วันเดือนปีเกิด เวลาตกฟากของลูกก่อนการตั้งชื่อลูกนั้น เป็นเรื่องสำคัญหากคุณต้องการให้ลูกมีชื่อที่ถูกต้องตามตำราโหราศาสตร์ไทย เพราะตามตำราเชื่อว่าดวงคนนั้นขึ้นอยู่กับเวลาเกิด ดังนั้น การ ตั้งชื่อลูกก่อนคลอด นั้นจึงเป็นสิ่งที่ค่อนข้างยากในการจะทำ แต่ในปัจจุบันที่เทคโนโลยีทางการแพทย์นั้นล้ำสมัยไปมาก การกำหนดวันคลอดจึงไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป การผ่าคลอด การกำหนดฤกษ์ยามในการให้ลูกลืมตาดูโลกได้อย่างปลอดภัยจึงสามารถทำได้ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น คุณพ่อคุณแม่สามารถปรึกษาวัน เวลาเกิดของลูกจากแพทย์ผู้ดูแลว่า ครบกำหนดคลอด เหมาะสมที่จะทำการคลอดแล้วหรือยัง เมื่อได้ช่วงเวลาคร่าว ๆ ถึงจะนำมาหาฤกษ์ยาม ผูกดวงกับชื่อ ดูตัวอักษรที่เป็นมงคล และเลี่ยงอักษรที่เป็นกาลกิณีต่อดวงของเด็กได้ แต่ถึงอย่างไรก็ควรเลือกชื่อสำรองเผื่อไว้ด้วย ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด

วงศ์ตระกูล (นามสกุล)

ในศาสตร์แห่งการตั้งชื่อ มีหลายตำราที่ยึดถือหลักในการตั้งชื่อแตกต่างกันไป บ้างก็เป็นตามโหราศาสตร์ ดวงดาว ลักขณาเกิด บ้างก็เป็นเลขศาสตร์ การนับตัวเลขตามชื่อ และนามสกุลว่าตกในตัวเลขมงคลต่อเจ้าของชื่อหรือไม่ หรืออีกหลาย ๆ ศาสตร์ที่มีหลักการความเชื่อแตกต่างกันไป ดังนั้น การเลือกชื่อบางครั้งก็ยึดโยงกับนามสกุลของตัวเจ้าของชื่อด้วยเช่นกัน จึงต้องคำนึงถึงนามสกุลของเราในการตั้งชื่อลูกอีกด้วย ยิ่งในปัจจุบันสามารถเลือกได้เลยว่าจะใช้นามสกุลของฝั่งคุณพ่อหรือฝั่งคุณแม่ (กรณีที่คุณแม่แต่งงานแล้วแต่ยังใช้นามสกุลตัวเองอยู่)

ตามหลักศาสนา

หากหลักการในการตั้งชื่อลูกของคุณพ่อคุณแม่มีเรื่องของ “ศาสนา” เข้ามาร่วมด้วยก็จะเป็นสิ่งที่ดี และเป็นสิริมงคลต่อลูกน้อยมากทีเดียว แม้ว่าแต่ละศาสนาจะมีวิธีการปฏิบัติที่ต่างกัน แต่ก็มีจุดมุ่งหมายเดียวกันนั่นก็คือ “การให้คนทุกคนเป็นคนดี” หากลูกของเราเป็นคนดีมีศีลธรรม คุณพ่อคุณแม่ก็จะอิ่มอกอิ่มใจไปด้วย การมีชื่อที่ยึดโยง หรือความหมายตามคำสอนของศาสนาที่พ่อแม่นับถือ ก็จะช่วยเป็นเครื่องเตือนใจให้กับลูกได้ดี

เลขศาสตร์ – หลักการตั้งชื่อ

การตั้งชื่อตามหลักเลขศาสตร์ อายตนะ 6 นับเป็นศาสตร์หนึ่งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก มักนิยมใช้ในการทำนายทะเบียนรถ หมายเลขโทรศัพท์ บ้านเลขที่ และตัวเลขอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องในชีวิตประจำวัน ซึ่งสำหรับการใช้ทำนายชื่อนั้นจะนับแต่ละตัวอักขระจาก “ชื่อ และ นามสกุล” ซึ่งแต่ละอักขระจะมีเลขศาสตร์ระบุไว้ ดังนี้

                                                                        เลขศาสตร์ หลักการตั้งชื่อ
ก , ด , ถ , ท , ภ , -า , อำ , ฤ , ฤา , -่ (ไม้เอก), -ุ (สระอุ) เลข 1
ข , ช , ง , บ , ป , เ- , แ- , -้ (ไม้โท), -ู (สระอู) เลข 2
ฆ , ต , ฑ , ฒ , -๋ (จัตวา) เลข 3
ค , ธ , ญ , ร , ษ , -ะ (สระอะ), โ- (ไม้โท) , -ั (ไม้หันอากาศ) , -ิ (สระอิ) เลข 4
ฉ , ฌ , ณ , น , ม , ห , ฎ , ฮ , ฬ , -ึ (สระอึ) เลข 5
จ , ล , ว , อ , ใ- (สระใอ) เลข 6
ซ , ศ , ส , -ี (สระอี) , -ื (สระอือ) , -๊ (ไม้ตรี) เลข 7
ผ , ฝ , พ , ฟ , ย , -็ (ไม้ไต่คู้) เลข 8
ฏ , ฐ , ไ- , -์ (การันต์) เลข 9

ให้นำเอาเลขที่ได้มารวมกัน โดยปกติแล้วผลรวมของชื่อและนามสกุลจะมีค่าระหว่าง 1 – 100 แต่ถ้าหากผลรวมทั้งหมดได้ออกมาเป็น 101 – 109 ให้ตัดเลข 0 ตรงกลางออก เช่น 106 ก็จะได้ 16 เป็นต้น แต่ถ้าหากผลรวมออกมาได้ 110 ขึ้นไป ให้เอาแค่เฉพาะ 2 ตัวท้าย เช่น 118 ก็จะได้ 18 เป็นต้น

  • เลขศาสตร์ ที่ให้คุณระดับดีมาก: 2 , 4 , 5 , 6 , 9 , 14 , 15 , 19 , 23 , 24 , 36 , 41 , 42 , 45 , 46 , 50 , 51 , 53 , 55 , 56 , 59 , 63 , 64 , 65
  • ตัวเลขศาสตร์ ที่ให้คุณระดับดี: 20 , 32 , 40 , 44 , 69 , 79
  • เลขศาสตร์ ที่ให้โทษ: 27 , 29 , 30
ตั้งชื่อลูกก่อนคลอด กับความเชื่อโบราณ
ตั้งชื่อลูกก่อนคลอด กับความเชื่อโบราณ

โดยทั่วไปเลขศาสตร์จะวิเคราะห์ทำนาย เฉพาะชื่อ หรือ ชื่อ + นามสกุล + ผลรวม ก็ได้ และในการตั้งชื่อ หากนามสกุลเลขศาสตร์มีคำทำนายไม่ดี ให้ตั้งชื่อ เลือกชื่อ ที่มีผลรวมของชื่อและนามสกุลที่ดี ทั้งนี้เด็กผู้ชายมักจะเลือกให้ดีทั้งชื่อและนามสกุล ถ้าเป็นเด็กผู้หญิง ส่วนใหญ่จะเน้นแต่ให้ชื่อดีก็พอ เพราะอนาคตต้องมีครอบครัวก็ต้องเปลี่ยนไปใช้นามสกุลของผู้ชาย แต่…แต่ แต่…สมัยนี้ผู้หญิงที่แต่งงานแล้วจะเลือกใช้นามสกุลเดิมก็ได้

 

อ่านต่อ >>ตัวอักษรมงคล กาลกิณี และหลักการตั้งชื่อถูกหลักกฏหมาย เรื่องควรรู้ก่อนตั้งชื่อ คลิกหน้า 2

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

เด็กทารกจามบ่อย อันตรายไหม เกิดจากอะไร พร้อมวิธีรับมือ

เด็กทารกจามบ่อย อันตรายไหม เกิดจากอะไร พร้อมวิธีรับมือ

Alternative Textaccount_circle
event
เด็กทารกจามบ่อย อันตรายไหม เกิดจากอะไร พร้อมวิธีรับมือ
เด็กทารกจามบ่อย อันตรายไหม เกิดจากอะไร พร้อมวิธีรับมือ
ตรวจทานความถูกต้องโดย ศ.พญ.จรุงจิตร์ งามไพบูลย์

คุณพ่อคุณแม่มือใหม่อาจเป็นกังวล ที่เห็นลูกน้อยจามบ่อย จามถี่ เดี๋ยวก็ฮัดเช้ย เดี๋ยวก็ฮัดชิ้ว คิดสงสัยไปต่างๆ นานา ว่า เป็นเพราะอากาศเปลี่ยนเลยทำให้เป็นหวัดหรือเปล่า จามเพราะฝุ่นในบ้านเยอะ หรือลูกเสี่ยงเป็นภูมิแพ้กันแน่ ถึงทำให้ลูกจามบ่อยแบบนี้ ? ไปหาคำตอบกันดีกว่าค่ะว่า ทารกจามบ่อยผิดปกติไหม เกิดจากสาเหตุอะไร และจะป้องกันอย่างไร

ทารกจามบ่อย ผิดปกติไหม?

เด็กทารกจามบ่อยเป็นปฏิกิริยาตอบสนองอย่างหนึ่งของร่างกาย เช่นเดียวกับผู้ใหญ่เวลาที่จมูกระคายเคืองจากฝุ่นละออง เศษผง หรือน้ำมูก จึงไม่ได้เป็นเรื่องผิดปกติอะไร อีกทั้งเมื่อทารกจามยังแสดงว่าระบบประสาทของลูกน้อยกำลังทำงานได้ดีในการตอบสนองต่อสิ่งแปลกปลอมบริเวณทางเดินหายใจ จึงพยายามที่จะกำจัดสิ่งแปลกปลอมนั้นออกจากร่างกาย เพื่อให้หายใจได้สะดวกขึ้น

เด็กทารกจามบ่อยเกิดจากอะไรได้บ้าง?

อาการลูกจามบ่อย เกิดได้จากหลายสาเหตุค่ะ

  • โพรงจมูกของทารกยังเล็ก ทำให้ลูกจามบ่อย เพราะทารกนั้นตัวเล็กนิดเดียว โพรงจมูกของเขาจึงเล็กมาก
    เมื่อมีสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในจมูก เขาจึงต้องจามออกมานั่นเอง
  • อยู่ในช่วงปรับตัวหลังคลอด ลูกน้อยวัยแรกเกิดกำลังอยู่ในช่วงปรับตัวเนื่องจากช่วงที่อยู่ในครรภ์นั้นหายใจและได้รับออกซิเจนผ่านทางรกของแม่มาตลอด จึงยังไม่ชินกับการหายใจทางจมูก ซึ่งอาจทำให้จามได้
  • เพื่อเปิดรูจมูกให้โล่ง เพราะโพรงจมูกเล็ก จึงอุดตันได้ง่าย ทารกจามเพื่อเป็นการเปิดรูจมูกให้โล่ง หายใจสะดวกเป็นปกติ

เด็กทารกจามบ่อยแค่ไหนต้องคอยระวังเป็นพิเศษไหม

นอกจากสาเหตุที่กล่าวมาแล้ว ทารกจามบ่อย ยังอาจเกิดได้จากสาเหตุอื่น ๆ ที่คุณพ่อคุณแม่ต้องสังเกตและคอยระวังเป็นพิเศษ ดังนี้ค่ะ

  • ทารกจามเพราะอากาศแห้ง ในช่วงหน้าหนาวหรือเมื่ออยู่ในห้องที่เปิดแอร์ ลูกอาจจามบ่อยขึ้นได้ เพราะอากาศแห้ง ทำให้โพรงจมูกแห้ง บางครั้งการใช้น้ำเกลือหยดในช่องจมูกอาจทำให้อาการดีขึ้นได้
  • ทารกจามเพราะฝุ่น น้ำมูก หรือสำลักนมแม่ สังเกตให้ดีว่าลูกจามเพราะไม่สบาย เป็นหวัด มีน้ำมูก หรือจามเพราะฝุ่นในบ้าน ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของโรคภูมิแพ้ หรืออาจสำลักนมแม่ ทำให้น้ำนมไหลเข้าไปในโพรงจมูก ซึ่งอาจเป็นอันตรายได้
  • ลูกจามบ่อยเพราะควันบุหรี่ หากทารกได้รับควันบุหรี่เป็นประจำ ถึงแม้จะไม่ได้สูดดมโดยตรง แต่กลิ่นที่ติดมากับเสื้อผ้าของสมาชิกในครอบครัวที่สูบบุหรี่ ก็เป็นสาเหตุให้ทารกจามบ่อย ทั้งยังเป็นภัยใกล้ตัวที่มีผลต่อทางเดินหายใจของเด็กหากสะสมในระยาวอีกด้วย

เด็กทารกจามบ่อย อันตรายไหม แบบไหนต้องคอยระวังเป็นพิเศษ

เด็กจามบ่อย สัญญาณโรคภูมิแพ้จมูก

หากเด็กจามบ่อยโดยมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น คัดจมูก น้ำมูกไหล คันจมูก คันตา ขยี้ตาบ่อย อาการเหล่านี้อาจไม่ใช่แค่เพราะลูกเป็นหวัด แต่อาจเป็นสัญญาณของโรคภูมิแพ้จมูก ซึ่งอาการเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดปี หรือเพียงบางฤดูกาล โดยเฉพาะในหน้าฝนหรือหน้าหนาว หรืออาจเกิดเพียงบางเวลา เช่น ตอนเช้าหรือตอนกลางคืนก็ได้ ในเด็กวัยใกล้ 2 ปี

เด็กจามบ่อย สัญญาณโรคภูมิแพ้จมูก

เด็กจามบ่อย หายใจฟืดฟัด รู้ให้ชัด ลูกเป็นภูมิแพ้หรือแค่หวัด?

โรคหวัดและโรคภูมิแพ้มีอาการที่คล้ายกัน เช่น การจามบ่อย การหายใจฟืดฟัดหรือมีน้ำมูกแต่การแยกแยะว่าอาการเหล่านี้เกิดจากโรคใดสามารถทำได้โดยการสังเกตอาการต่าง ๆ ที่มีลักษณะเฉพาะของแต่ละโรค

อาการเด่นของโรคภูมิแพ้จมูก

โรคภูมิแพ้จมูกหรือโรคแพ้ภูมิตัวเองในจมูกเกิดจากการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันที่ผิดปกติเมื่อสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ เช่น
ฝุ่นละออง, เกสรดอกไม้, ขนสัตว์ หรือสารเคมีต่าง ๆ โดยอาการที่พบบ่อยของโรคภูมิแพ้จมูก มีดังนี้

  • มีอาการเรื้อรังเป็น ๆ หาย ๆ
  • มีน้ำมูกใส
  • จามบ่อย
  • คัดจมูก คันจมูก
  • คันตา ขยี้ตาบ่อย
  • ไม่มีไข้
  • ไอเรื้อรัง เนื่องจากเสมหะไหลลงคอ

อาการเด่นของโรคหวัด

โรคหวัด (Common Cold)เกิดจากการติดเชื้อไวรัสในระบบทางเดินหายใจส่วนบนและมีอาการที่มักจะปรากฏออกมาจากอาการหลาย ๆ อย่าง ที่สามารถสังเกตได้ง่าย โดยอาการที่พบได้บ่อยของโรคหวัด มีดังนี้

ทารกจามบ่อย ภูมิแพ้ในเด็กที่คุณแม่รับมือได้

ทำอย่างไรให้ลูกห่างไกลจากโรคภูมิแพ้จมูก

เด็กที่เป็นโรคภูมิแพ้จมูก อาจมีภาวะต่อมทอนซิลโต หรือต่อมอะดีนอยด์โตร่วมด้วย ซึ่งจะไปอุดกั้นทางเดินหายใจ ทำให้ลูกนอนกรน ออกซิเจนต่ำ มีผลต่อสมอง พฤติกรรมและการเรียนรู้ของเด็กต่อไป ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่จึงควรรู้วิธีป้องกันเบื้องต้นและการรับมือกับโรคภูมิแพ้จมูกในเด็กอย่างถูกต้องค่ะ

1. เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมแม่ ช่วยลดความเสี่ยงภูมิแพ้

คุณแม่ควร เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เพียงอย่างเดียวอย่างน้อย 6 เดือนหรือนานที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ เพราะนมแม่เป็นนมที่มีคุณสมบัติ Hypo-Allergenic (H.A.) ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิด ภูมิแพ้ในเด็ก ได้เพราะนอกจากนมแม่จะมีสารอาหารมากกว่า 200 ชนิดแล้ว โปรตีนในนมแม่บางส่วนยังถูกย่อยจากเอนไซม์ตามธรรมชาติในนมแม่ทำให้มีขนาดเล็กลง เป็นโปรตีนที่ผ่านการย่อยบางส่วน (Partially hydrolyzedprotein- PHP) รวมทั้งมีโพรไบโอติกหลายชนิด เช่น Bifidus BL

ซึ่งเป็นหนึ่งในสายพันธุ์ที่มีส่วนช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและลดความเสี่ยงของการเกิดภูมิแพ้ โดยสังเกตได้จากทารกที่ได้รับนมแมจะมีการเกิดภูมิแพ้น้อยกว่าและมีภูมิคุ้มกันที่ดีกว่า

2. ดูแลสิ่งแวดล้อมรอบตัวลูกให้สะอาด ป้องกันสาเหตุของโรคภูมิแพ้

  • ทำความสะอาดที่นอน หมอน ผ้าห่มเป็นประจำ โดยการซักด้วยน้ำร้อน60 องศา นาน 15-20 นาที เพื่อฆ่าตัวไรฝุ่น
  • ไม่ควรมีสิ่งของที่ดักจับฝุ่นในห้องนอน เช่น ตุ๊กตา ของเล่นที่มีขน พรมหมอนหรือที่นอนที่ทำจากนุ่นในห้องนอน
    และควรหมั่นทำความสะอาดเครื่องนอน ผ้าม่าน ดูดฝุ่นเช็ดพื้นให้สะอาดอยู่เสมอ
  • ทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศเป็นประจำโดยควรทำความสะอาดทุกๆ 4-6 เดือน หากอากาศแห้ง โพรงจมูกแห้งการใช้น้ำเกลือหยดในช่องจมูกอาจทำให้อาการดีขึ้นได้
  • หลีกเลี่ยงการสิ่งที่ทำให้เกิดภูมิแพ้ เช่น ใช้แป้งฝุ่น น้ำหอมสเปรย์ปรับอากาศ ยาจุดกันยุง ท่อไอเสียรถยนต์สิ่งเหล่านี้จะกระตุ้นให้เกิดการระคายเคือง และการเกิดภูมิแพ้ได้ง่าย
  • งดการสูบบุหรี่ ทั้งในบ้านและนอกบ้านเพื่อสุขภาพที่ดีของลูกน้อยและสมาชิกครอบครัวในระยะยาวข้อนี้สำคัญมาก
  • ไม่ควรเลี้ยงสัตว์ที่มีขนในบ้าน เช่น สุนัข และแมวสัตว์เลี้ยงในบ้านก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ทารกจามบ่อยเสี่ยงภูมิแพ้ได้เช่นกัน

เมื่อเด็กทารกจามบ่อยหรือมีอาการเสี่ยงที่จะเป็นโรคภูมิแพ้จมูกให้คุณพ่อคุณแม่ลองปรับพฤติกรรมรวมถึงสภาพแวดล้อมรอบตัวลูกตามคำแนะนำข้างต้นหากมีความกังวลใจว่าลูกเสี่ยงเป็นภูมิแพ้หรือไม่ คุณพ่อคุณแม่มือใหม่สามารถติดตามอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับปัญหาภูมิแพ้ในเด็กผ่านบทความของ  S-mom Club  ซึ่งเป็นศูนย์รวมความรู้เรื่องภูมิแพ้ในเด็กจากผู้เชี่ยวชาญก่อนไปพบแพทยเฉพาะทางเพื่อรับการรักษาอย่างเหมาะสมต่อไป หากเริ่มต้นดีไม่มีคำว่าแพ้ รวมความรู้ทุกเรื่องของอาการแพ้ในเด็ก

แหล่งอ้างอิง
http://www.vejthani.com/
http://www.vejthani.com/th/2014/01/ลูก-จาม/
http://www.phyathai.com/article_detail/1990/th/ภูมิแพ้ในเด็กที่พ่อแม่_ต้องรู้ 
Dallas DC, et al. J Mammary Gland Biol Neoplasia. 2015 Dec;20(3-4):133-47.
Dallas DC, et al. J Nutr. 2014 Jun;144(6):815-20
Grönlund  MM, et al. Clin Exp Allergy. 2007 Dec;37(12):1764-72.
แคลเซียมเพิ่มความสูง เลือกอย่างไรให้เหมาะสำหรับเด็ก

แคลเซียมเพิ่มความสูง เลือกอย่างไรให้เหมาะสำหรับเด็ก

Alternative Textaccount_circle
event
แคลเซียมเพิ่มความสูง เลือกอย่างไรให้เหมาะสำหรับเด็ก
แคลเซียมเพิ่มความสูง เลือกอย่างไรให้เหมาะสำหรับเด็ก

แคลเซียมเป็นแร่ธาตุที่พบมากที่สุดในร่างกาย แต่ร่างกายไม่สามารถสร้างแคลเซียมเองได้ ส่วนใหญ่แคลเซียมจะอยู่ในกระดูกและฟันมากถึง 99% และมีความสำคัญมากต่อมวลกระดูกและการขยายตัวของกระดูก ส่วนอีก 1% จะอยู่ในเลือด มีหน้าที่สำคัญต่อการทำงานของกล้ามเนื้อ ระบบประสาท หัวใจและหลอดเลือด การรับประทาน แคลเซียมเพิ่มความสูง จึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่คุณพ่อคุณแม่ให้ความสนใจ

โดยเฉพาะในเด็กที่กำลังเจริญเติบโตหากร่างกายได้รับแคลเซียมไม่เพียงพอ หรือขาดแคลเซียมจะทำให้เป็นตะคริวง่าย กล้ามเนื้อกระตุก กระดูกไม่แข็งแรงแตกหักง่าย หัวใจเต้นผิดปกติ ถ้ามีการขาดแคลเซียมรุนแรงอาจส่งผลให้เกิดโรคกระดูกอ่อนซึ่งจะทำให้ตัวเตี้ยและขาโก่งได้ เนื่องจากร่างกายไม่สามารถสร้างแคลเซียมได้เอง ต้องรับแคลเซียมจากอาหารที่ผ่านการย่อยและดูดซึม ซึ่งร่างกายสามารถดูดซึมแคลเซียมได้เพียง 20-25% เท่านั้น ดังนั้นการเลือกรับประทานอาหารที่มีแคลเซียมอย่างพอเหมาะ จะช่วยในเรื่องการเจริญเติบโตและช่วยเพิ่มความสูงสำหรับเด็ก เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับพัฒนาการต่าง ๆ ในอนาคต

แคลเซียมเพิ่มความสูง เลือกอย่างไรให้เหมาะสำหรับเด็ก

แคลเซียมเพิ่มความสูง เลือกอย่างไรให้เหมาะสำหรับเด็ก

ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้ร่างกายขาดแคลเซียม

  • รับประทานแคลเซียมไม่เพียงพอ
  • ขาดวิตามิน D
  • ความเครียด
  • ร่างกายได้รับวิตามิน C มากเกินไป
  • ชอบรับประทานเค็ม
  • รับประทานอาหารที่มีเส้นใยมาก
  • ไม่ออกกำลังกาย
  • ดื่มน้ำอัดลมและรับประทานขนมขบเคี้ยวมากเกินไป
  • มีโครงร่างเล็ก
  • มีประวัติในครอบครัวเป็นโรคกระดูกพรุน
  • เคยกระดูกหัก
  • ปัญหาสุขภาพหรือมีโรคประจำตัว

ร่างกายไม่สามารถสร้างแคลเซียมได้ แล้วจะหาแคลเซียมจากที่ไหน?

สามารถหาแคลเซียมได้จาก 2 แหล่ง ดังนี้

  1. แคลเซียมจากอาหาร เช่น นมและผลิตภัณฑ์จากนม ปลาเล็กปลาน้อย กุ้งแห้ง ผักใบเขียว งาดำ

ถั่วเหลืองและผลิตภัณฑ์ถั่วเหลือง กล้วย ส้ม กีวี่ มะละกอ

  1. แคลเซียมจากผลิตภัณฑ์เสริมแคลเซียม ที่พบได้บ่อย แบ่งตามความสามารถในการดูดซึม ได้แก่
  • แคลเซียมคาร์บอเนต (Calcium Carbonate) ดูดซึมได้ 10-15% และต้องใช้วิตามิน D

ควบคู่กันเพื่อช่วยในการดูดซึม ต้องรับประทานพร้อมอาหาร (ทำงานได้ต่อเมื่อมีกรดในกระเพาะเท่านั้น) ผลข้างเคียงคือ ท้องอืด แน่นท้อง ไม่สบายท้อง ท้องผูก

  • แคลเซียมซิเทรต (Calcium Citrate) ดูดซึมได้ 15-50% ละลายน้ำได้ดี ควรรับประทานพร้อมอาหาร (ทำงานได้ดีเมื่อมีกรดในกระเพาะ)
  • แคลเซียม อะมิโน แอซิด คีเลต (Calcium​ Amino Acid Chelate)​ ละลายน้ำได้ดี ดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ 80-90% ขึ้นไป ไม่ต้องอาศัยวิตามิน D เพื่อดูดซึม ไม่ตกค้างในร่างกาย คนเป็นโรคไตรับประทานได้
  • แคลเซียม แอล-ทรีโอเนต (Calcium L-threonate) สกัดมาจากข้าวโพด ดูดซึมได้ 90-95% กินตอนท้องว่างได้ ไม่จำเป็นต้องใช้วิตามิน D ช่วยในการดูดซึม

ข้อควรระวังในการรับประทานแคลเซียม

  • รับประทานแคลเซียมชนิดดูดซึมไม่ดี ทำให้มีอาการท้องอืด หรือท้องผูก
  • รับประทานแคลเซียมมากเกินความจำเป็น ทำให้เกิดการสะสมของหินปูนในไตและหลอดเลือด หลอดเลือดตีบตัน นิ่วในไต ทำให้การดูดซึมเหล็ก สังกะสี แมกนีเซียม และฟอสฟอรัสในร่างกายลดลงหรือบกพร่อง

แนะนำ 10 แคลเซียมเพิ่มความสูง เปี่ยมประโยชน์

  1. Vita Beans by Mommy Booster

โดดเด่นด้วยแคลเซียม แอล-ทรีโอเนต ที่มาในรูปแบบของกัมมี่ ทำออกมาได้น่ารักน่ารับประทานมากสำหรับเด็ก ๆ โดยการรับประทานกัมมี่ 2 ชิ้น เทียบเท่ากับการดื่มนม 1 แก้ว เสริมภูมิคุ้มกัน เพิ่มความสูง มีวิตามิน C ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน วิตามิน D ช่วยดูดซึมแคลเซียมได้ดียิ่งขึ้น และมี Zinc ที่ช่วยเสริมกระบวนการการทำงานในร่างกาย รสชาติอร่อยหอมหวานจากธรรมชาติ รับประทานง่ายเหมือนขนม เหมาะสำหรับเด็กอายุ 2 ปีขึ้นไป และที่สำคัญ เด็กแพ้นมวัวก็สามารถรับประทานได้ ดูดซึมได้ดี ท้องไม่ผูก ข้อควรระวังคือ ผลิตภัณฑ์มีสารสกัดจากข้าวโพด เด็กที่แพ้ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากข้าวโพดไม่สามารถรับประทานได้

เว็บไซต์อ้างอิง: https://www.facebook.com/VitaBeans

แคลเซียมเพิ่มความสูง เลือกอย่างไรให้เหมาะสำหรับเด็ก

อ้างอิงรูปภาพ: https://www.facebook.com/VitaBeans/photos/3480995232182092

 

  1. Blackmores Calcium

เป็นผลิตภัณฑ์ชนิดแคลเซียมคาร์บอเนตในรูปแบบเม็ด ที่ประกอบไปด้วยแคลเซียมและวิตามิน D ซึ่งแคลเซียมช่วยในกระบวนการสร้างกระดูกและฟันที่แข็งแรง และวิตามิน D ช่วยในการดูดซึมแคลเซียมและฟอสฟอรัส สะดวกรับประทานได้พร้อมอาหารวันละ 1 เม็ด เหมาะสำหรับเด็กที่ทานยาเม็ดได้ เป็นที่นิยม หาซื้อง่ายตามร้านขายยาทั่วไป

เว็บไซต์อ้างอิง: https://www.blackmores.co.th/ผลิตภัณฑ์/ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร/2097-blackmores-calcium

แคลเซียมเพิ่มความสูง เลือกอย่างไรให้เหมาะสำหรับเด็ก

อ้างอิงรูปภาพ: www.blackmores.co.th/ผลิตภัณฑ์/ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร/2097-blackmores-calcium

 

  1. NBL Calcium + Vit D

เป็นแคลเซียมคาร์บอเนตเหลวสำหรับเด็ก บรรจุมาในแคปซูลเจลนิ่มรูปปลาน่ารัก กลิ่นวานิลลา กลืนง่าย ดูดซึมง่าย พร้อมด้วยวิตามิน D3 ช่วยในการดูดซึมแคลเซียม เด่นเรื่องช่วยเพิ่มความสูง เสริมสร้างมวลกระดูกและช่วยบำรุงกระดูกและข้อต่อให้แข็งแรง บำรุงฟัน ทานพร้อมอาหารวันละ 1 แคปซูลทุกวัน เด็กไม่ชอบดื่มนมหรือเด็กแพ้นมวัวสามารถรับประทานได้ ไม่ทำให้ท้องผูก

เว็บไซต์อ้างอิง: https://www.nblhealth.com.au/product/172368/nbl-calcium-vit-d-30-แคปซูล

แคลเซียมเพิ่มความสูง เลือกอย่างไรให้เหมาะสำหรับเด็ก

อ้างอิงรูปภาพ: https://www.nblhealth.com.au/product/172368/nbl-calcium-vit-d-30-แคปซูล

 

  1. แคล ดี ช็อกโก ชิวส์ (CAL D CHOCO CHEWZ) ของ MEGA

เป็นลูกอมเคี้ยวหนึบ รสช็อกโกแลต ทานง่าย อร่อย ประกอบด้วยแคลเซียมคาร์บอเนตและวิตามิน D เด็กชอบกินด้วยความที่คล้ายขนม มีส่วนประกอบของน้ำตาล นมผง และโกโก้ร่วมด้วย ถ้าคุณพ่อคุณแม่จำกัดการรับประทานขนมหรือน้ำตาลอาจต้องพิจารณาปริมาณที่ให้รับประทานตามความเหมาะสม ขนาดรับประทานอยู่ที่วันละ 1-2 ชิ้น ข้อควรระวังคือ ผลิตภัณฑ์มีส่วนผสมของนม เด็กที่แพ้ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนมไม่สามารถรับประทานได้

เว็บไซต์อ้างอิง: http://testweb.megawecare.com/product/detail/69/แคล-ดี-ช็อกโก-ชิวส์.html

แคลเซียม

อ้างอิงรูปภาพ: http://testweb.megawecare.com/product/detail/69/แคล-ดี-ช็อกโก-ชิวส์.html

 

  1. Nikocal Calcium

เด่นเรื่องแคลเซียมแอลทรีโอเนต เข้มข้น ดูดซึมไว ไม่ตกค้าง เป็นแคปซูลเจลนิ่ม ทานตอนท้องว่างได้ เหมาะสำหรับเด็กอายุ 6 ขวบขึ้นไป หรือผู้ที่อยากเพิ่มส่วนสูง ร่างกายขาดแคลเซียม ไม่มีเวลาออกกำลังกาย

ช่วยเพิ่มความสูงแบบปลอดภัย ตับ ไตไม่พัง แก้ปัญหาส่วนสูงไม่เป็นไปตามเกณฑ์ ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ

มีส่วนช่วยให้กระดูกและฟันแข็งแรง เด็กไม่ชอบดื่มนมหรือเด็กแพ้นมวัวสามารถทานได้ ไม่ทำให้ท้องผูก ข้อควรระวังคือ ผลิตภัณฑ์มีส่วนผสมของข้าวโพดและถั่วเหลือง เด็กที่แพ้ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากข้าวโพดและถั่วเหลืองไม่สามารถรับประทานได้

เว็บไซต์อ้างอิง: https://www.nikocal.com/

แคลเซียม

อ้างอิงรูปภาพ : https://www.nikocal.com/

 

อ่านต่อ.. แคลเซียมเพิ่มความสูง เลือกอย่างไรให้เหมาะสำหรับเด็ก ..ได้ที่หน้า 2

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

คอกกั้นเด็ก ที่ดีที่สุด

สุดยอดหลุมรัก ที่สุดของความปลอดภัย นุ่มสบาย ยกให้เป็น คอกกั้นเด็ก ที่ดีที่สุด แห่งปี 2022 !!

event
คอกกั้นเด็ก ที่ดีที่สุด
คอกกั้นเด็ก ที่ดีที่สุด

คุณพ่อคุณแม่มีลูกเล็ก คอกกั้นเด็ก จำเป็นมาก ! เพราะคอกกั้นเปรียบเสมือนพื้นที่ปลอดภัยเพื่อใช้สำหรับเลี้ยงดูลูกน้อย และในขณะเดียวกันยังเป็นพื้นที่ช่วยกระตุ้นพัฒนาการให้กับลูกน้อยได้อีกด้วย กองบรรณาธิการ Amarin Baby & Kids ขอแนะนำคอกกั้นเด็กที่คุณแม่เลิฟที่สุด กับ คอกกั้น HOYO สุดยอดคอกกั้นเด็กคุณภาพเยี่ยม การันตีด้วยรางวัล BEST BABY SOFT PLAYPEN ไอเทมของใช้เด็กอ่อน ที่ต้องอยู่ในลิสต์ซื้อของใช้ลูกกันนะคะ

ทำไมต้องให้ลูกอยู่ใน … คอกกั้นเด็ก ?

ลูกวัยแรกคลอดจนถึงขวบปีแรก จะมีการเปลี่ยนแปลงทางพัฒนาการอยู่เสมอ ซึ่งคุณพ่อคุณแม่สามารถสังเกตได้แบบเดือนต่อเดือน ยิ่งช่วง 3 เดือนแรก ลูกจะมีพัฒนาการร่างกายที่พัฒนาขึ้นเร็วมาก จากเบบี๋ตัวน้อย ๆ ก็กลายเป็นเด็กทารกน้อยอุ้มได้แบบเต็มไม้เต็มมือ หลังจากนั้นก็จะค่อย ๆ มีพัฒนาการต่างๆ ได้แก่ ชันคอ ตั้งไข่ พลิกคว่ำพลิกหงาย คืบ คลาน ไขว่คว้า เอื้อมจับ นั่ง เกาะยืน เดิน วิ่ง เป็นต้น ทั้งหมดนี้ของพัฒนาการลูกน้อย ล้วนต้องใช้ทักษะในการทรงตัว มีการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็ก กล้ามเนื้อมัดใหญ่ และเป็นปกติของเด็กเล็กที่ยังไม่มีความแข็งแรงในการทรงตัว ช่วงแรกจึงมักจบลงที่การล้ม ซึ่งเชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่คงไม่อยากให้ลูกล้มแล้วเจ็บ หมดสนุกกับการเรียนรู้ในการสร้างพัฒนาการของลูกกันนะคะ

ดังนั้นอุปกรณ์ที่จะช่วยให้ทุกพัฒนาการในทุกช่วงวัยของลูกราบรื่นและสมบูรณ์มากขึ้น แนะนำว่าต้องมี “คอกกั้นเด็ก” เป็นผู้ช่วยค่ะ

คอกกั้น HOYO ถือเป็นหลุมรักสุดปลอดภัย ที่ผลิตมาอย่างเข้าใจคุณพ่อคุณแม่คนไทยที่สุด เพราะมีการออกแบบและเลือกใช้วัสดุที่ซัพพอร์ตเวลาลูกล้ม จะไม่เจ็บ เพราะตัวเบาะมีความนุ่มสบาย และเน้นให้มีโครงสร้างที่แข็งแรงปลอดภัย HOYO คอกกั้นเด็ก แบรนด์คุณภาพที่ได้รับความไว้วางใจจากคุณพ่อคุณแม่มือใหม่หลายวงการ ทั้งดารา เซเลป

Amarin Baby & Kids ยกให้ คอกกั้นเด็ก ที่ดีที่สุด HOYO
เป็นผลิตภัณฑ์คอกกั้นเด็ก ชนิดแบบกันกระแทก
ที่ได้รับรางวัล EDITOR’S CHOICE สาขา BEST BABY SOFT PLAYPEN
จาก Amarin Baby & Kids Awards 2022

คอกกั้นเด็ก เป็นหนึ่งในไอเทม อุปกรณ์ดูแลเด็ก ที่แม่ ๆ เลือกมาใช้ปกป้องลูกน้อยให้อุ่นใจและเป็นพื้นที่ปลอดภัยให้ลูกตั้งแต่แรกเกิด คอกกั้นจากแบรนด์ HOYO หลุมรักที่ปลอดภัยกับลูกน้อย ออกแบบด้วยวัสดุที่ดีที่สุด หนัง PU ผลิตพิเศษจากประเทศเกาหลี เป็นคอกกั้นสัญชาติไทยแบรนด์เดียวที่ปราศจากสาร VOCs พร้อมผ่านการตรวจสอบมาตรฐาน ASTM F963 ของประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมี certifications รับรองด้วยมาตรฐานสากล

สุดยอดความว้าวที่ หลุมรัก คอกกั้น HOYO ไม่เหมือนใคร

เพราะคอกเด็กเปรียบเสมือนบ้านหลังแรกที่ลูกรักใช้เวลาอยู่มากที่สุด แบรนด์ HOYO ให้ความใส่ใจในการพัฒนานวัตกรรมที่ดีที่สุด! เพื่อให้ HOYO เป็นหลุมรักแทนใจพ่อแม่ ที่เหนือกว่าคอกกั้นเด็กไหน ๆ การันตีคุณภาพ ความปลอดภัย และใช้วัสดุสุดพรีเมี่ยม ด้วยรางวัล จาก Amarin Baby & Kids Awards 3 ปีซ้อนทั้งในสาขา Editor’s Choice และ Mommy’s Choice และมีความว้าวที่ไม่เหมือนใคร ด้วยตัวโฟมเอกสิทธิ์เฉพาะของ HOYO เป็นหนึ่งเดียวในท้องตลาดที่นุ่ม…จนไข่ตกไม่แตก!!

ในส่วนของเนื้อผ้า เป็นหนังแบบใหม่ รุ่น Premium  ซึ่งถือเป็นเจ้าเดียวในไทยที่ใช้นวัตกรรมหนังฆ่าเชื้อโรค ได้ถึง 99.9% โดยเฉพาะแบคทีเรีย Escherichia coli และ Staphylococcus aureus ที่เป็นต้นเหตุทำให้เด็กป่วยมากที่สุด โดยการนำเส้นใยไปชุบสารฆ่าเชื้อโรคแล้วทอขึ้นมาเป็นผ้าหนัง ปังอย่าบอกใคร!!

ที่สำคัญคือ ผลิตพิเศษจากประเทศเกาหลี และเป็นคอกกั้นสัญชาติไทยแบรนด์เดียวที่ปราศจากสาร VOCs พร้อมผ่านการตรวจสอบมาตรฐาน ASTM F963 ของประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมี certifications รับรองด้วยมาตรฐานสากล

นอกจากนี้คอกกั้น HOYO ยังมีความสูงที่พอดี ลูกน้อยสามารถเกาะยืนได้ตั้งแต่วัย 5 เดือน ช่วยเสริมพัฒนาการเรื่องการหัดเดินได้เร็ว พร้อมปรับเปลี่ยนได้กว่า 10 รูปแบบ! และยังพับเก็บเป็นขนาดเล็ก พกพาใส่รถไปกับเจ้าตัวน้อยได้ทุกที่

รับประกันความแข็งแรงทั้งคอกกั้นและวัสดุเชื่อมต่อ ด้วยซิป Nylon ถัก ที่พิสูจน์แล้วว่าเฉพาะซิปรับน้ำหนักได้กว่า 90 กิโลกรัม/คู่ แข็งแรงกว่าซิปพลาสติกทั่วไปถึง 3 เท่า! ที่สำคัญมีการออกแบบที่สวยงาม เหมือนเป็นของแต่งบ้านชิ้นโปรดที่วางมุมไหนก็ดูดี

เห็นถึงความใส่ใจในการออกแบบคอกกั้นจากแบรนด์ HOYO รู้สึกอบอุ่นหัวใจมากค่ะ ว่าที่คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ มาสร้าง Safezone ให้ลูกน้อย สร้างพื้นที่ที่ปลอดภัย ให้ลูกน้อยมีพัฒนาการที่ดีกับผู้ช่วย คอกกั้นเด็ก HOYO กันนะคะ

Website : http://www.hoyosoftandsafe.com

Facebook : https://www.facebook.com/hoyosoftandsafe

Showroom HOYO Location : พระรามสาม 38

เว็บไซต์ Amarin Baby & Kids “เครือข่ายแม่ลูกใหญ่ที่สุด” ผู้นำด้านคอนเทนต์คุณภาพ เข้าใจครอบครัวไทย และตอบสนองความต้องการของคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ จึงคัดเลือกให้ HOYO คอกกั้นเด็ก ได้รับรางวัล EDITOR’s CHOICE สาขา BEST BABY SOFT PLAYPEN จาก “Amarin Baby & Kids Awards 2022” ซึ่งมอบให้กับสินค้าแม่ลูก “สินค้าคุณภาพยอดเยี่ยม ใช้ดี และมีประโยชน์จริง”

ท้องร่วง ไวรัส โรต้า

ระวังลูก ท้องร่วง จาก โรต้าไวรัส ระบาดหนักอย่าประมาท

Alternative Textaccount_circle
event
ท้องร่วง ไวรัส โรต้า
ท้องร่วง ไวรัส โรต้า

ท้องร่วง หนัก ระวังอันตรายจากเชื้อ โรต้าไวรัส อาการธรรมดาที่พ่อแม่ห้ามประมาท เพราะคร่าชีวิตเด็กน้อยมามาก ป้องกันไม่ยากแค่ล้างมือ ฉีดวัคซีน

ระวังลูก ท้องร่วง จาก โรต้าไวรัส ระบาดหนักอย่าประมาท!!

ไวรัสโรต้า (Rotavirus) เป็นเชื้อไวรัสชนิดหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคท้องร่วงในเด็กเล็ก โดยมักจะเกิดกับเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปี โดยเชื้ออาจติดมากับมือ ของเล่นที่เปื้อน  หรืออุจจาระของผู้ที่ติดเชื้อ เมื่อเด็กสัมผัสและเอามือเข้าปาก เชื้อโรคก็จะเข้าสู่ร่างกายโดยตรง ทำให้มีไข้ ปวดท้อง อาเจียน และท้องเสีย ท้องร่วงได้

4 สัญญาณเตือนภัยร้ายจาก “ไวรัสโรต้า” 

พ่อแม่ห้ามประมาทแม้อาการ ท้องร่วงจะเป็นอาการธรรมดาที่อาจเกิดขึ้นได้ และคิดว่าไม่นานก็หาย แต่หากสังเกตเห็นว่าลูกมีอาการที่เป็นสัญญาณอันตรายเหล่านี้ 4 สัญญาณเตือน ควรรีบพาลูกน้อยมาพบแพทย์ เพราะอาจส่งผลถึงชีวิต

1. มีอาการซึม ไม่มีแรง มือเท้าเย็น

2. มีอาการอาเจียนมาก หรือถ่ายมากผิดปกติ

3. มีปัสสาวะสีเข้ม ปัสสาวะน้อย หรือไม่ปัสสาวะเลยเกิน 6 ชั่วโมง

4. มีอาการตาโหล ร้องไห้ไม่มีน้ำตา หรือเด็กเล็กๆ จะมีกระหม่อมบุ๋ม

สัญญาณเตือน อาการอันตรายจาก ท้องร่วง โรต้าไวรัส
สัญญาณเตือน อาการอันตรายจาก ท้องร่วง โรต้าไวรัส

ท้องร่วงจาก ไวรัสโรต้า อาการแตกต่างอย่างไร??

หลาย ๆ คนอาจไม่สามารถแยกแยะได้ว่า อาการท้องร่วง แบบไหนที่น่าเป็นห่วง หรือเป็นเพียงแค่อาการท้องเสียธรรมดา หากเป็นการ ท้องร่วงที่เกิดจากเชื้อไวรัสโรต้า หลังรับไวรัสโรต้าเข้าไปในร่างกาย จะมีอาการป่วยได้ภายใน 2 วัน โดยมีความรุนแรงแตกต่างกันไป หากเป็นการติดเชื้อครั้งแรกจะมีอาการรุนแรงได้ ส่วนใหญ่มักมีอาการอาเจียนนำมาก่อน ต่อมามีถ่ายอุจจาระเหลวเป็นน้ำ อาการเป็นได้นาน 3-7 วัน ประมาณหนึ่งในสามของผู้ป่วยจะมีไข้สูง และอาจมีอาการชักได้ ในเด็กเล็ก ผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องอาจมีอาการรุนแรง สูญเสียน้ำและเกลือแร่ ทำให้เกิดภาวะขาดน้ำ ความดันโลหิตลดลง เกิดภาวะช็อก และเสียชีวิตได้ สำหรับผู้ใหญ่ที่ติดเชื้อไวรัสโรต้า ส่วนใหญ่ไม่มีอาการหรือมีอุจจาระร่วงเล็กน้อย อย่างไรก็ตามสามารถก่อให้เกิดโรครุนแรงได้เช่นกัน

รู้ได้อย่างไรว่าลูกติดเชื้อไวรัสโรต้า

อาการและลักษณะอุจจาระของโรคอุจจาระร่วงจากไวรัสโรต้าไม่ได้มีลักษณะจำเพาะ จึงไม่สามารถแยกจากการติดเชื้ออื่น ๆ ที่เป็นสาเหตุของอุจจาระร่วงได้ ต้องอาศัยการตรวจอุจจาระทางห้องปฏิบัติการเพื่อหาเชื้อไวรัสโรต้า

กลุ่มเสี่ยงสําคัญ

กลุ่มเสี่ยง คือ กลุ่มที่หากได้รับเชื้อไวรัสโรต้าเข้าไปแล้ว อาจก่อให้เกิดอาการรุนแรงขึ้นได้ ได้แก่ เด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กอายุ 6 เดือน ถึง 2 ขวบ เป็นช่วงอายุที่พบบ่อยที่สุด เด็กที่อยู่รวมกันในสถานเลี้ยงเด็กและเด็กที่ใกล้ชิดกับเด็กที่ท้องเสียจากเชื้อนี้ ส่วนผู้ใหญ่มักจะมีภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสโรต้าแล้วจึงไม่น่ากังวล

สุขอนามัยที่ดี ลดความเสี่ยงได้!!

เนื่องจากไวรัสโรต้าติดต่อกันทางสัมผัสเชื้อโดยตรงหรือทางอ้อมผ่านมือ สิ่งของ และอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อเข้าปาก เชื้อติดต่อจากคนสู่คน โดยการรับประทานเชื้อเข้าไป การป้องกันอาจจะทําได้โดยการรักษาสุขอนามัยส่วนบุคคลให้ดีทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ควรหมั่นล้างมือบ่อยๆ โดยเฉพาะก่อนเตรียมหรือก่อนรับประทานอาหารหรือนม หรือหลังจากเข้าห้องน้ำ หลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์ในการรับประทานอาหารร่วมกัน หลีกเลี่ยงการพาเด็กไปในสถานที่แออัดที่มีการเล่นร่วมกันในช่วงที่มีการระบาดของโรค อาจช่วยลดการแพร่กระจายเชื้อได้ นอกจากนี้การกินนมแม่ อาจช่วยลดความรุนแรงของโรคอุจจาระร่วงจากไวรัสโรต้าได้  หลีกเลี่ยงสัมผัสกับผู้ที่มีอาการท้องเสีย อีกวิธีหนึ่งในการป้องกัน คือ การรับวัคซีนโรต้า 

วัคซีนโรต้า ป้องกัน ท้องร่วง
วัคซีนโรต้า ป้องกัน ท้องร่วง

วัคซีนโรต้า !!

อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะมีสุขอนามัยที่ดี แต่ก็ยังสามารถติดเชื้อไวรัสโรต้าได้ เนื่องจากปริมาณเชื้อเพียงเล็กน้อยก็สามารถก่อโรคได้ อีกทั้งเชื้อมีความคงทนอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้ยาวนาน จึงเป็นการยากที่จะป้องกัน ดังนั้นวิธีการที่ดีที่สุดคือ การเตรียมบุตรหลานให้มีภูมิคุ้มกันด้วยการรับวัคซีนป้องกันไวรัสโรต้าตั้งแต่วัยทารก
วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโรต้า
วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโรต้าผลิตจากเชื้อไวรัสโรต้าที่ทำให้อ่อนฤทธิ์จนก่อโรคไม่ได้  เป็นวัคซีนชนิดรับประทาน ปัจจุบันมี 2 บริษัทผู้ผลิต คือ RotarixTM หยอด 2 ครั้ง เมื่ออายุ 2 และ 4 เดือน และ RotateqTM หยอด 3 ครั้ง เมื่ออายุ 2, 4, 6 เดือน วัคซีนทั้งสองชนิดมีประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูงไม่แตกต่างกัน โดยมีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโรต้าที่รุนแรงได้ดีใกล้เคียงกันประมาณร้อยละ 85-98 วัคซีนมีความปลอดภัยสูง พบผลข้างเคียงได้น้อย เช่น ถ่ายอุจจาระเหลว อาเจียน ซึ่งอาการจะไม่รุนแรง แม้ว่าจะมีรายงานการเกิดลำไส้กลืนกันหลังจากหยอดวัคซีน แต่พบได้ในอัตราที่น้อยมากประมาณ 1-5 คนใน 100,000 ราย ซึ่งเป็นโรคที่รักษาได้ เมื่อคำนึงถึงประโยชน์จากวัคซีนในการป้องกันโรคแล้ว ถือว่าสูงกว่าเมื่อเทียบกับผลข้างเคียงที่พบได้น้อยมาก องค์การอนามัยโลกจึงแนะนำว่า เด็กเล็กทุกคนควรได้รับการหยอดวัคซีนนื้ตั้งแต่อายุ 2 เดือน โดยให้พร้อมกับวัคซีนอื่นๆ ตามวัย เด็กที่ได้รับวัคซีนป้องกันไวรัสโรต้าครบแล้ว อาจยังเกิดโรคอุจจาระร่วงจากการติดเชื้อไวรัสโรต้าได้ แต่อาการมักไม่ค่อยรุนแรง
ท้องร่วง อาการที่พ่อแม่ต้องระวัง
ท้องร่วง อาการที่พ่อแม่ต้องระวัง

ข้อมูลวัคซีนโรต้า

เป็นวัคซีนชนิดหยอด ในขณะนี้มี 2 ชนิดในประเทศไทย เริ่มหยอดครั้งแรกอายุไม่ต่ำกว่า 6 สัปดาห์ ครั้งต่อไปให้ห่างจากครั้งแรกอย่างน้อย 4 สัปดาห์ หยอดทั้งหมด 2 หรือ 3 ครั้ง ขึ้นอยู่กับชนิดวัคซีน ดังนี้

ชนิดแรก หยอดทั้งสิ้น 2 ครั้ง  ครั้งสุดท้ายควรให้เสร็จก่อนอายุ 6 เดือน

ชนิดที่สอง หยอดทั้งสิ้น 3 ครั้ง ครั้งสุดท้ายควรให้เสร็จก่อนอายุ 8 เดือน

ประสิทธิภาพของวัคซีน

วัคซีนลดอาการท้องเสียอย่างรุนแรงจากเชื้อโรต้าไวรัสได้ 80-90% ลดการรับผู้ป่วยไว้ในโรงพยาบาลเนื่องจากท้องเสียได้ประมาณ 80-95% โดยรวมป้องกันท้องเสียจากเชื้อโรต้าได้ถึง 70%

ผลข้างเคียงของวัคซีน

วัคซีนมีความปลอดภัยสูง มีอาการข้างเคียงได้บ้าง เช่น ไข้ ถ่ายเหลว อาเจียน ซึ่งไม่รุนแรง มีรายงานการเกิดภาวะลําไส้กลืนกันหลังรับวัคซีนได้บ้างหลังรับวัคซีนยังมีโอกาสเกิดโรคได้อยู่บ้าง แต่เมื่อติดเชื้อไวรัสโรต้าและเกิดโรคอุจจาระร่วง อาการมักจะไม่รุนแรง

อ่านต่อ >> รวมราคา แพคเกจ วัคซีนโรต้า ราคาเท่าไหร่ ที่ไหน คลิกหน้า 2

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

10 วิตามินสำหรับเด็ก เสริมภูมิคุ้มกันให้ลูกรัก

10 วิตามินสำหรับเด็ก เสริมภูมิคุ้มกันให้ลูกรัก

Alternative Textaccount_circle
event
10 วิตามินสำหรับเด็ก เสริมภูมิคุ้มกันให้ลูกรัก
10 วิตามินสำหรับเด็ก เสริมภูมิคุ้มกันให้ลูกรัก

วิตามินสำหรับเด็ก เป็นตัวช่วยให้เด็กได้รับสารอาหารที่จำเป็นอย่างครบถ้วนตามวัย ส่งเสริมพัฒนาการและการเจริญเติบโต ช่วยการทำงานของสมองและระบบประสาท รวมถึงช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน ทำให้มีร่างกายที่เจริญเติบโตแข็งแรง สามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้สมวัย โดยวิตามินที่จำเป็นต่าง ๆ จะมีอยู่ในอาหารที่เด็กต้องรับประทานในแต่ละวันตามมื้ออาหารปกติและได้รับในปริมาณที่พอเหมาะ

10 วิตามินสำหรับเด็ก เสริมภูมิคุ้มกันให้ลูกรัก

10 วิตามินสำหรับเด็ก เสริมภูมิคุ้มกันให้ลูกรัก

ทำไมเด็กถึงต้องรับประทานวิตามิน

วิตามิน จัดเป็นสารอาหารที่จำเป็นกับร่างกาย หากเด็ก ๆ รับประทานอาหารได้ดี ครบ 3 มื้อ ถูกหลักโภชนาการ 5 หมู่ น้ำหนักอยู่ในเกณฑ์ปกติ ก็ไม่มีความจำเป็นต้องรับประทานวิตามินสำหรับเด็ก แต่ในปัจจุบันด้วยปัจจัยหลาย ๆ อย่าง ทำให้เด็กขาดวิตามินที่สำคัญและจำเป็น หรือ ได้รับวิตามินไม่เพียงพอตามที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน

โดยอาจมีสาเหตุมาจากพฤติกรรมของเด็ก การเลี้ยงดูของพ่อแม่ รับประทานน้อย เบื่ออาหาร ขาดสารอาหาร โรคบางชนิด ภาวะการเจ็บป่วย การแพ้อาหาร การเลือกรับประทาน รับประทานมังสวิรัติ ดังนั้นจึงต้องเสริมวิตามินเป็นประจำ เพื่อให้ได้รับวิตามินที่เพียงพอกับความต้องการของร่างกายในแต่ละวัน

 

ประเภทของวิตามินและความสำคัญ

วิตามินแบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่ม คือ

  • วิตามินที่ละลายได้ในไขมัน ได้แก่ วิตามินเอ วิตามินดี วิตามินอี และวิตามินเค ซึ่งมีส่วนช่วยในการสร้างโปรตีนและการแบ่งเซลล์ หากรับประทานวิตามินเหล่านี้มากเกินไปก็จะสะสมในร่างกาย ทำให้มีผลกระทบต่อตับและสมองได้
  • วิตามินที่ละลายได้ในน้ำ เช่น วิตามินบี 1 บี 2 บี 6 บี 12 และวิตามินซี มีส่วนช่วยในการการทำงานของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ ช่วยในการสร้างเส้นผม เล็บ และผิวหนัง รวมถึงทำให้หลอดเลือดแข็งแรง ร่างกายสามารถขับวิตามินกลุ่มนี้ออกไปได้เองโดยการขับถ่ายหากมีปริมาณมากเกินความจำเป็น

ทั้งนี้เด็กที่ขาดวิตามินมักจะมีอาการเบื่ออาหาร อ่อนเพลีย น้ำหนักลด นอนไม่ค่อยหลับ และกระสับกระส่าย 

ส่วนปริมาณวิตามินที่เด็กแต่ละคนต้องการนั้นจะแตกต่างกันไปตามอายุของเด็กและชนิดของวิตามิ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยต่าง ๆ ที่อาจทำให้ร่างกายของเด็กต้องการวิตามินเพิ่มขึ้น เช่น เด็กอยู่ในวัยกำลังเจริญเติบโต

การเล่นและการออกกำลังกาย การเจ็บป่วยต่าง ๆ อย่างมีไข้ เป็นโรคติดเชื้อ มีความผิดปกติของการย่อยและการดูดซึมสารอาหาร เป็นต้น

 

หลักในการเลือกวิตามินเด็ก

  • ปรึกษาและรับคำแนะนำจากกุมารแพทย์: โดยคุณพ่อคุณแม่ควรปรึกษากุมารแพทย์ก่อนให้เด็กรับประทานวิตามินเด็กเสมอ และต้องดูแลให้เด็กรับประทานตามฉลากหรือตามคำแนะนำของกุมารแพทย์อย่างเคร่งครัด
  • ตรวจสอบฉลากทั้งหมดและส่วนผสม: ต้องมั่นใจว่าวิตามินแต่ละชนิดที่เด็กได้รับมีปริมาณไม่เกินที่ร่างกายควรได้รับในแต่ละวัน ตรวจสอบฉลากสำหรับคำแนะนำอายุและปริมาณที่ต้องรับประทานต่อวัน และวันหมดอายุเสมอ
  • ความเหมาะสม: ร่างกายของเด็กต้องการวิตามินที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโต การขาดวิตามินตัวใดตัวหนึ่งไปอาจส่งผลกระทบต่อพัฒนาการของเด็กได้ ควรเลือกวิตามินเด็กให้เหมาะสมกับเด็กและช่วงวัย ผลิตมาเพื่อเด็กโดยเฉพาะ
  • รสชาติและปริมาณน้ำตาล: ถ้าต้องเลือกวิตามินเด็ก โดยเฉพาะสูตรน้ำที่ปรุงแต่งรสชาติให้เด็กชอบควรเลือกแบบที่เป็นสูตรปราศจากน้ำตาล เพื่อป้องกันเด็กฟันผุ หรือได้รับน้ำตาลมากเกินไป กรณีถ้ามีน้ำตาลควรน้อยกว่า 3 กรัมต่อหนึ่งหน่วยบริโภค
  • ปราศจากสารก่อภูมิแพ้: โดยปกติวิตามินส่วนใหญ่พบมากในนม ผลิตภัณฑ์จากนม ข้าวโพด ข้าวโอ๊ต ข้าวสาลี อาหารทะเล สัตว์ปีก เนื้อสัตว์ ถั่ว ซึ่งในเด็กที่แพ้อาหารหรือแพ้ส่วนประกอบของอาหารเหล่านี้ การเลือกวิตามินทดแทนต้องพิจารณารายละเอียดของสารก่อภูมิแพ้ที่อาจพบเป็นส่วนประกอบของวิตามิน รวมถึงสารเติมแต่ง สีสังเคราะห์ กลิ่น รส หรือสารกันบูด แนะนำให้เลือกวิตามินจากบริษัทที่เชื่อถือและสามารถสอบถามรายละเอียดต่าง ๆ ที่สงสัยได้

ข้อควรระวังในการให้วิตามินเด็ก

  • อาจมีส่วนผสมของน้ำตาล หรือสีผสมอาหารมากเกินไป ไม่ดีต่อสุขภาพ ทำให้ฟันผุ
  • รับประทานง่ายเกินไป ทำให้บริโภคเกินขนาด ต้องจำกัดการรับประทานให้เป็นไปตามปริมาณที่ระบุไว้ในฉลากบนกล่อง
  • รับประทานวิตามินแทนอาหารไม่ได้ ใช้เพื่อเสริมในกรณีที่เด็กอาจจะได้รับวิตามินจากอาหารไม่เพียงพอเท่านั้น
  • อย่าหลอกเด็กว่าวิตามินเด็กเป็นขนม เนื่องจากวิตามินเด็กมีสีสันสดใส รสชาติรับประทานง่าย ถ้าเด็กเข้าใจว่าเป็นขนมอาจแอบรับประทานจนวิตามินเกินขนาด เป็นอันตรายกับเด็กได้
  • ไม่รับประทานวิตามินพร้อมนม เพราะนมจะขัดขวางการดูดซึมของวิตามิน

แนะนำ 10 วิตามินเด็กรับประทานง่าย ได้ประโยชน์

  1. นูโทรเพล็กซ์ โอลิโกพลัส

เป็นวิตามินรวมผสมธาตุเหล็ก ไลซีน และใยอาหารสำหรับเด็กชนิดน้ำ รสส้มเปรี้ยวอมหวานรับประทานง่าย เป็นสูตรไม่มีน้ำตาล ไม่ทำให้เกิดอาการฟันผุ เหมาะสำหรับเด็กที่มีปัญหาด้านน้ำหนัก หรือเด็กที่เป็นโรคเบาหวาน วิตามินบรรจุในขวดสีชาและมีช้อนยามาให้ ที่กล่องมีข้อมูลโภชนาการ สารอาหารในวิตามิน ข้อมูลวิธีรับประทานอย่างครบถ้วน ควรให้เด็กรับประทานโดยตรง ไม่ต้องผสมกับเครื่องดื่มหรืออาหาร ส่วนผสมของวิตามินมีส่วนประกอบที่มีผลิตภัณฑ์จากนม เพราะฉะนั้นเด็กที่แพ้นมควรหลีกเลี่ยง และเนื่องจากมีส่วนประกอบของธาตุเหล็ก อาจทำให้อุจจาระมีสีคล้ำขึ้นได้

เว็บไซต์อ้างอิง: https://www.facebook.com/nutroplexclub/

10 วิตามินสำหรับเด็ก เสริมภูมิคุ้มกันให้ลูกรัก

อ้างอิงรูปภาพ: https://www.facebook.com/nutroplexclub/

 

  1. แบลคมอร์ส โคอาล่า มัลติวิตามิน + มิเนอรัล (Blackmores Koala Multivitamin + Mineral)

เป็นวิตามินแบบเม็ดกลมแบนใช้อมหรือเคี้ยว กลิ่นหอมสตรอว์เบอร์รีและวนิลลา ปราศจากน้ำตาลเพราะใช้สารสกัดจากใบหญ้าหวานและไซลิทอลให้ความหวานแทนน้ำตาล มีวิตามินสำคัญเพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน ทั้งวิตามิน A, B6, B12, C, ไอโอดีนและแร่ธาตุอื่น ๆ ซึ่งช่วยในการเจริญเติบโตของร่างกาย มีส่วนช่วยในการทำงานตามปกติของระบบประสาทและสมอง รวมถึงช่วยในการทำหน้าที่ตามปกติของระบบภูมิคุ้มกัน เด็กรับประทานง่ายวันละ 1 เม็ดพร้อมอาหาร

เว็บไซต์อ้างอิง: https://www.facebook.com/BlackmoresThailand

10 วิตามินสำหรับเด็ก เสริมภูมิคุ้มกันให้ลูกรัก

อ้างอิงรูปภาพ: https://www.facebook.com/BlackmoresThailand/

 

  1. เซเว่นซีส์ วิตามินรวมผสมไลซีน (Seven Seas Multivitamin Syrup with Lysine)

เป็นวิตามินรวมชนิดน้ำเชื่อมผสมไลซีน โดยใน 1 ช้อนชาจะมีส่วนผสมของไลซีนอยู่ประมาณ 375 มิลลิกรัม รสผลไม้ออกหวาน ๆ ไม่เปรี้ยว ตัวน้ำวิตามินจะมีสีเหลืองใส วิตามินรวมตัวนี้มีจุดเด่นที่ไลซีน เพราะเป็นกรดอะมิโนจำเป็นที่ร่างกายสร้างเองไม่ได้ ต้องได้รับจากการรับประทานสารอาหารอื่น ๆ โดยกรดอะมิโนตัวนี้มีความสำคัญอย่างมากในการช่วยสร้างโปรตีนที่สำคัญต่อร่างกาย ช่วยในการเจริญเติบโต เสริมสร้างภูมิต้านทาน ฮอร์โมน เอนไซม์ต่าง ๆ รวมไปถึงการซ่อมแซมเนื้อเยื่อด้วย และจุดเด่นอีกอย่างคือ ไลซีนจะช่วยทำให้เจริญอาหาร ทำให้เด็กอยากและรับประทานอาหารได้ ข้อควรระวังคือ วิตามินอาจเกิดการสะสมในร่างกายจนทำให้เกิดอันตรายได้ จึงไม่ควรใช้เกินขนาดที่กำหนดไว้ ไม่ควรใช้ติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน นอกจากแพทย์สั่ง

เว็บไซต์อ้างอิง: https://www.facebook.com/sevenseasthailand/

10 วิตามินสำหรับเด็ก เสริมภูมิคุ้มกันให้ลูกรัก

อ้างอิงรูปภาพ: https://www.facebook.com/sevenseasthailand/

 

  1. เบน ไซรัป (Bain Syrup)

เป็นวิตามินรวมชนิดน้ำข้น ๆ หนืด ๆ สีออกส้ม หอมกลิ่นผลไม้มีกลิ่นน้ำมันปลานิด ๆ ไม่คาว รสผลไม้รวมเป็นรสชาติหวาน ๆ ไม่เปรี้ยว วิตามินรวมตัวนี้มีจุดเด่นที่น้ำมันปลาทูน่า (Tuna Fish Oil) ที่มี DHA 70% ซึ่งช่วยเสริมสร้างและพัฒนาการเรียนรู้และความจำ มีส่วนช่วยพัฒนาการมองเห็น นอกจากนี้ยังประกอบไปด้วยวิตามิน A, Bรวม, E และ D ทำให้ร่างกายแข็งแรง เพิ่มภูมิคุ้มกัน ช่วยให้เจริญอาหาร แต่มีข้อควรระวัง คือตัววิตามินมีส่วนผสมของ DHA เด็กที่แพ้ปลาทะเลหรือน้ำมันปลาจะรับประทานไม่ได้ และส่วนประกอบมีผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง ดังนั้นเด็กแพ้ถั่วเหลืองก็รับประทานไม่ได้เช่นกัน

เว็บไซต์อ้างอิง: https://www.bainsyrup.com/nutrimaster-bain-syrup/

อาหารเสริมเด็ก

อ้างอิงรูปภาพ: https://www.bainsyrup.com/nutrimaster-bain-syrup/

 

  1. Mamarine Omega-3 plus L-Lysine

เป็นวิตามินรวมชนิดน้ำใสสีเหลือง รสส้ม หวาน ๆ ไม่เปรี้ยวมาก มีกลิ่นน้ำมันปลานิด ๆ ไม่มีส่วนผสมของน้ำตาล แลคโตส และกลูเตน รับประทานง่าย มีจุดเด่นที่ไลซีน และ โอเมก้า 3 มีส่วนช่วยให้เจริญอาหาร ทำให้ได้รับสารอาหารได้ครบถ้วนมากขึ้น บำรุงสมอง พัฒนาความจำ แต่ข้อควรระวังคือ เนื่องจากมีส่วนผสมของน้ำมันปลา เด็กที่แพ้ปลาทะเลหรือน้ำมันปลาจะรับประทานไม่ได้

เว็บไซต์อ้างอิง: https://www.facebook.com/mamarinethailand

อาหารเสริมเด็ก

อ้างอิงรูปภาพ : https://www.facebook.com/mamarinethailand/

 

อ่านต่อ.. 10 วิตามินสำหรับเด็ก เสริมภูมิคุ้มกันให้ลูกรัก ..ได้ที่หน้า 2

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

คัดลายมือ

ฟรี!! แบบฝึกหัด คัดลายมือ ฝึกสมาธิ อ่านง่าย ลายมือสวย

Alternative Textaccount_circle
event
คัดลายมือ
คัดลายมือ

แบบฝึกหัด ใบงาน คัดลายมือ ฝึกคัดลายมือ คัดลายมือภาษาไทย คัดลายมือภาษาอังกฤษ ตัวเลขอารบิก ตัวเลขไทย  แบบฝึกหัดคัดลายมือหัวกลม

ฟรี!! แบบฝึกหัด คัดลายมือ ฝึกสมาธิ อ่านง่าย ลายมือสวย

ใบงาน แบบฝึกหัดคัดลายมือ ช่วยให้ลูกน้อยมีทักษะในการเขียนตัวอักษรทั้งภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ตัวเลขอารบิก และตัวเลขไทย ได้อย่างถูกต้อง ทีมกองบรรณาธิการ ABK จึงได้นำแบบฝึกหัดต่างๆ มาให้เด็ก ๆ ได้ฝึกคัดลายมือ บ่อย ๆ ยิ่งฝึกทุกวันก็จะยิ่งดี เพื่อเด็ก ๆ จะได้มีพื้นฐานลายมือที่สวย อ่านง่าย และเป็นระเบียบ

ฟรี!! แบบฝึกหัด คัดลายมือ ฝึกสมาธิ อ่านง่าย ลายมือสวย

แบบฝึกหัดคัดลายมือนอกจากจะเป็นกิจกรรมที่ช่วยให้เด็กๆ ได้ฝึกการเขียนตัวพยัญชนะ สระ และตัวเลข ได้อย่างถูกต้อง และสวยงามแล้ว ยังมีประโยชน์อีก 4 อย่าง ที่เด็ก ๆ ได้รับจากการฝึกคัดลายมือ ดังนี้

1.ช่วยพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็ก

การจับดินสอ หรือสี เพื่อขีดเขียน วาดรูป หรือคัดลายมือ ช่วยทำให้เด็ก ๆ ได้มีการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อมัดเล็ก ส่งเสริมความสามารถในการควบคุมการทำงาน การเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อมัดเล็ก ซึ่งจะเป็นการช่วยให้เด็กทำกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการใช้มือได้เป็นอย่างดีในอนาคต เช่น การอาบน้ำเอง การผูกเชือกรองเท้า การเล่นดนตรี การทำงานศิลปะ เป็นต้น

2.ช่วยพัฒนาทางด้านสมอง

จากการวิจัยของมหาวิทยาลัยวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ผลการวิจัยว่า เด็ก ๆ ที่มีลายมือสวย จะมีประสาทที่ฉับไวมากกว่าเด็ก ๆ ที่ลายมือไม่สวย ถึงแม้จะไม่ทราบถึงสาเหตุที่ชัดเจน หรือปัจจัยที่มีผล ทำให้เด็กที่เขียนสวยเป็นเด็กฉลาด หรือมีสมองที่ดีกว่า แต่อย่างไรก็ตาม การฝึกให้เด็กคัดลายมือ เพื่อให้เขียนได้สวยงามตั้งแต่ยังเล็ก ก็เป็นผลดีต่อตัวเด็กเองอย่างแน่นอน

3.ช่วยส่งเสริมด้านการอ่าน

นักจิตวิทยาที่มีชื่อว่า มาเรีย คอนนิโควา ได้เขียนบทความลงหนังสือพิมพ์ New York Times โดยกล่าวว่า การเริ่มต้นให้เด็กๆ เขียนด้วยลายมือ เป็นวิธีการที่จะช่วยให้เด็กได้เรียนรู้การอ่านได้เร็วยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้เกิดการคิด และการเก็บข้อมูลได้ดีอีกด้วย เนื่องจากการเขียน ทำให้เด็กสามารถจดจำรายละเอียดได้เป็นอย่างดี

4.ช่วยป้องกันการบกพร่องในด้านการอ่าน

มีผลการวิจัยระบุว่า การเขียนตัวอักษร อาจช่วยป้องกันความบกพร่องในการเรียนรู้ได้ เด็กหลายคนมีปัญหาในการเขียนตัวอักษรให้ถูกต้อง ซึ่งการฝึกเขียนอาจช่วยป้องกัน และบรรเทาความสับสนได้ เช่น ตัวอักษร ด และ ค ทั้งนี้ความบกพร่องในการเขียน และความบกพร่องในการอ่านนั้นแตกต่างกัน แต่อาการทั้งสองชนิดนั้นมักจะอยู่คู่กันเสมอ ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าอาการอย่างหนึ่งจะไปหนุนให้เกิดอาการอีกอย่างหนึ่งด้วย

คัดลายมือ อักษร ก - ฮ
คัดลายมือ อักษร ก – ฮ

พยัญชนะ ก – ฮ

อักษร ก                           อักษร ฌ                           อักษร ท                           อักษร ย

อักษร ข                           อักษร ญ                           อักษร ธ                            อักษร ร

อักษร ฃ                           อักษร ฎ                            อักษร น                           อักษร ล

อักษร ค                           อักษร ฏ                            อักษร บ                           อักษร ว

อักษร ฅ                           อักษร ฐ                            อักษร ป                            อักษร ศ

อักษร ฆ                          อักษร ฑ                            อักษร ผ                            อักษร ษ

อักษร ง                           อักษร ฒ                            อักษร ฝ                            อักษร ส

อักษร จ                           อักษร ณ                            อักษร พ                            อักษร ห

อักษร ฉ                           อักษร ด                             อักษร ฟ                            อักษร ฬ

อักษร ช                           อักษร ต                             อักษร ภ                             อักษร อ

อักษร ซ                           อักษร ถ                             อักษร ม                             อักษร ฮ

 

อ่านต่อ…ฟรี!! แบบฝึกหัด คัดลายมือ ฝึกสมาธิ อ่านง่าย ลายมือสวย คลิกหน้า 2

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

10 อันดับ ยาสีฟันสำหรับเด็ก แปรงสนุก ฟันสะอาด

10 อันดับ ยาสีฟันสำหรับเด็ก แปรงสนุก ฟันสะอาด

Alternative Textaccount_circle
event
10 อันดับ ยาสีฟันสำหรับเด็ก แปรงสนุก ฟันสะอาด
10 อันดับ ยาสีฟันสำหรับเด็ก แปรงสนุก ฟันสะอาด

เริ่มกันที่ฟันของเด็ก ๆ เป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่หรือผู้ปกครองควรให้ความสำคัญอย่างมาก เพราะแม้จะเป็นแค่ฟันน้ำนม แต่ก็เป็นรากฐานของฟันแท้ในอนาคต และการที่จะดูแลฟันให้ดีได้นั้น สิ่งสำคัญอันดับต้น ๆ เลยก็คือ การแปรงฟันด้วยยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์ ดังนั้นการเลือกยาสีฟันสำหรับเด็ก จึงเป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจและพิจารณาให้ดี ทีมแม่ ABK จึงนำข้อควรรู้เกี่ยวกับ ยาสีฟันเด็ก พร้อมทั้งยังรวบรวมหลากหลายแบรนด์ยาสีฟันสำหรับเด็กมาให้คุณพ่อคุณแม่หรือผู้ปกครองไว้เป็นตัวเลือกสำหรับการดูแลฟันและช่องปากให้กับลูกน้อย

10 อันดับ ยาสีฟันสำหรับเด็ก แปรงสนุก ฟันสะอาด

10 อันดับ ยาสีฟันสำหรับเด็ก แปรงสนุก ฟันสะอาด

คุณพ่อคุณแม่หลายคนอาจไม่แน่ใจว่าเราควรเริ่มต้น แปรงฟันให้ลูกเมื่อไหร่ดี ที่จริงแล้วเราสามารถแปรงฟันให้น้อง ๆ ได้ตั้งแต่ที่ฟันซี่แรกเริ่มขึ้นเลยนะคะ นั่นคือช่วงอายุประมาณ 6 เดือนขึ้นไป โดยแต่ละวัยก็มีวิธีแปรงและปริมาณของยาสีฟันเด็ก ที่แตกต่างกันไป ดังนี้

  • อายุ 6 เดือน – 1 ปี ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำ หรือใช้ผ้าเช็ดฟันสำหรับเด็กโดยเฉพาะในการเช็ดฟันแต่ละซี่ ๆ ก็เพียงพอ บางคนอาจเลือกเป็นยาสีฟันแบบแผ่นฟิล์มก็ได้เช่นกัน
  • อายุ 1 – 3 ปี บีบยาสีฟันเด็กแค่เพียงบาง ๆ หรือขนาดเท่าเมล็ดข้าว โดยให้เด็กนอนราบแล้วคุณพ่อคุณแม่แปรงให้ และต้องใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำเปล่าเช็ดฟันในตำแหน่งที่แปรงเสร็จทันที
  • อายุ 3 – 6 ปี บีบยาสีฟันปริมาณเท่าเมล็ดข้าวโพด คุณพ่อคุณแม่แปรงให้โดยให้เด็กนอนราบ และต้องใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำเปล่าเช็ดฟันในตำแหน่งที่แปรงเสร็จทันที
  • อายุ 6 ปี ขึ้นไป น้อง ๆ สามารถแปรงฟันด้วยตัวเองได้แล้ว โดยบีบยาสีฟันเด็กโตให้ยาวเท่ากับความยาวขนแปรง และบ้วนปากให้สะอาดหลังแปรงเสร็จ โดยคุณพ่อคุณแม่ควรช่วยดูแลความสะอาดอีกครั้ง

วิธีเลือกยาสีฟันสำหรับเด็ก

  • เป็นยาสีฟันเด็กที่ได้รับการรับรองจาก อย.
  • เลือกชนิดของ ยาสีฟันเด็ก ให้เหมาะสมกับช่วงอายุของเด็ก ๆ เช่น เด็ก ๆ ที่ฟันเพิ่งเริ่มขึ้นอาจใช้ผ้าเช็ดฟันไปก่อนหรือช่วงอายุ 1-3 ปี เหมาะกับยาสีฟันแบบเจล และเด็ก ๆ ที่อายุ 3 ปีขึ้นไป สามารถใช้ยาสีฟันแบบเนื้อครีมได้
  • ดูส่วนประกอบว่าไม่มีสารเคมีที่เป็นอันตรายสำหรับเด็ก หรือแม้แต่ฟลูออไรด์ที่มากเกินไปก็ไม่ดีนัก โดยยาสีฟันที่มีปริมาณฟลูออไรด์ที่ปลอดภัยสำหรับเด็กคือไม่ควรเกิน 1,000 ppm หรือไม่ควรเกิน 1,000 ส่วนในล้านส่วน
  • เลือกรสชาติยาสีฟันเด็กที่เด็กชอบ เพื่อให้เด็ก ๆ รู้สึกดีกับการแปรงฟันและยอมแปรงฟันง่ายขึ้น โดยเด็กๆ ส่วนมากมักชอบรสผลไม้ และไม่ชอบรสมินต์เท่าใดนัก เพราะมักจะมีความเผ็ดและซ่าเกินไป
  • การเลือกใช้ ยาสีฟันเด็กออแกนิค หรือ ยาสีฟันเด็กกลืนได้ เนื่องจากเด็ก ๆ อาจยังบ้วนปากไม่สะอาด การเลือกยาสีฟันประเภทนี้ก็จะปลอดภัยต่อลูกมากขึ้น

 

เมื่อทราบรายละเอียดคร่าว ๆ ของการเลือกยาสีฟันสำหรับเด็กแล้ว ทีมแม่ ABK จึงอยากแนะนำยาสีฟันสำหรับเด็ก 10 แบรนด์ มาให้คุณพ่อคุณแม่ลองพิจารณาในการเลือกซื้อสำหรับการแปรงฟันให้ลูกน้อยค่ะ

  1. KODOMO organic

เริ่มกันที่ ยาสีฟันเด็ก ออร์แกนิค สูตรฟลูออไรด์ มีส่วนผสมของ Organic Aloe Vela Extract ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานจาก ECOCERT ปราศจากสารเติมแต่ง 5 ชนิด : Sugar, Paraben, SLS, SLES, Artificial Color ฟลูออไรด์ 1000 ppm ปริมาณตามที่ทันตแพทยสมาคมฯ แนะนำ ปราศจากสารให้ความหวาน (No Sweetener) Natural Flavor Strawberry Banana สูตร Mild Cleansing ทำความสะอาดได้อย่างอ่อนโยนพร้อมสารสกัดว่านหางจระเข้ออร์แกนิค ช่วยบำรุงเหงือกและฟันให้มีสุขภาพดีอย่างอ่อนโยน

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม https://www.lion.co.th/index.php/th/home

10 อันดับ ยาสีฟันสำหรับเด็ก แปรงสนุก ฟันสะอาด

ขอบคุณรูปภาพ  https://www.lion.co.th/index.php/th/home

 

  1. Pigeon

มาต่อกันที่ ยาสีฟันชนิดเจล ผสมฟลูออไรด์ 1000 PPM และไซลิทอลรสธรรมชาติสำหรับเด็ก รสธรรมชาติ เหมาะสำหรับเด็ก 1 ปี สูตรเฉพาะที่พัฒนาผลิตภัณฑ์ ร่วมกับทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะเด็ก แห่งมหาวิทยาลัยสิงคโปร์ คิดค้นเพื่อประสิทธิภาพ ถึง 2 ขั้นตอน ขั้นแรกเสริมสร้างโครงสร้างของฟันให้แข็งแรง ขั้นสองช่วยทำให้เคลือบฟันมีความแข็งแรงขึ้น มีส่วนช่วยในการเสริมความแข็งแรงของการเคลือบฟัน,ลดอาการฟันผุ ส่วนผสมทั้งหมดเป็น Food grade ซึ่งปลอดภัยสำหรับเด็กเล็ก ไม่มีพาราเบน ( Free Paraban) ปราศจาก SLS สารทำความสะอาดที่อาจก่อให้เกิดอาการระคายเคืองได้ ( free SLS ) ฟองน้อย (Low Foaming) ไม่แต่งสี

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม https://www.moongpattana.com/th/home

10 อันดับ ยาสีฟันสำหรับเด็ก แปรงสนุก ฟันสะอาด

ขอบคุณรูปภาพ https://www.moongpattana.com/th/home

 

  1. My kids by Babi Mild

ยาสีฟันเด็กออร์แกนิค สูตร เจนเทิล โปรเทคชั่น เรด เบอร์รี่ ปกป้องฟันและเหงือกอย่างอ่อนโยนด้วยสารสำคัญออร์แกนิค รสชาติใหม่ให้เด็ก ๆ ได้สนุกขณะแปรงฟัน ส่วนผสม Food grade ผสานสารสกัดอโลเวร่า ออร์แกนิค มาตรฐาน ECOCERT ช่วยบำรุงเหงือก และฟันให้แข็งแรง มีฟลูออไรด์ 1,000 ppm และ Calcium Lactate ช่วยป้องกันฟันผุ ปราศจากสาร Paraben, SLS และ SLES ที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองหรือแพ้ ปราศจากน้ำตาล

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม https://www.babimild.com/th/

10 อันดับ ยาสีฟันสำหรับเด็ก แปรงสนุก ฟันสะอาด

ขอบคุณรูปภาพ https://www.babimild.com/th/

 

 

  1. Colgate

คอลเกต คิดส์ มิกซ์ เคส สตรอเบอร์รี่ สำหรับเด็ก มาพร้อมหลอดลายไดโนเสาร์และยูนิคอร์น รสสตรอเบอร์รี่ ทำให้การแปรงฟันเป็นเรื่องสนุก มีส่วนผสมของฟลูออไรด์เพื่อป้องกันฟันผุเหมาะสำหรับเด็กอายุ 2-5 ปี ป้องกันฟันผุและเคลือบฟัน ให้ความสนุกขณะแปรงฟัน ช่วยทำความสะอาดอย่างอ่อนโยน เพื่อการดูแลฟันลูกน้อย มีเจลประกายสดใส

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม https://www.colgate.com/th-th

ยาสีฟันเด็ก

ขอบคุณรูปภาพ https://www.colgate.com/th-th/products/toothpaste/colgate-kids-mix

 

  1. Fluocaril

ฟลูโอคารีล ยาสีฟันฟลูโอคิดส์ รสโคลา ลายอเวนเจอร์ชีลด์พาวเวอร์ เหมาะสำหรับเด็กอายุ 2-6 ปี ช่วงฟันน้ำนม

เพื่อป้องกันฟันผุ ผิวฟันแข็งแรง ปกป้องผิวฟันจากกรด แบคทีเรีย และน้ำตาล ปราศจากสารกันบูด พาราเบน น้ำตาล และแซคคารีน รสชาติหอมถูกใจเด็ก

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม https://th-th.facebook.com/FluocarilThailand/

ยาสีฟันเด็ก

ขอบคุณรูปภาพ https://www.babiesrus.co.th/en-th/

 

อ่านต่อ.. 10 อันดับ ยาสีฟันสำหรับเด็ก แปรงสนุก ฟันสะอาด ..ได้ที่หน้า 2

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

ชุดเครื่องนอนเด็ก ซื้อยี่ห้อไหนดี? นุ่มสบายผิว เหมาะกับสรีระลูก

ชุดเครื่องนอนเด็ก ซื้อยี่ห้อไหนดี? นุ่มสบายผิว เหมาะกับสรีระลูก

Alternative Textaccount_circle
event
ชุดเครื่องนอนเด็ก ซื้อยี่ห้อไหนดี? นุ่มสบายผิว เหมาะกับสรีระลูก
ชุดเครื่องนอนเด็ก ซื้อยี่ห้อไหนดี? นุ่มสบายผิว เหมาะกับสรีระลูก

การที่เราเลือกใช้ชุดเครื่องนอนคุณภาพสำหรับลูกน้อย จะทำให้การนอนหลับของลูกน้อยดีขึ้นไปด้วย เพราะความนุ่มของชุดเครื่องนอนจะคอยซัพพอร์ตร่างกายของลูกน้อยให้รู้สึกสบายในยามหลับ อีกทั้งยังปรับอุณหภูมิให้เหมาะสม ทำให้ไม่รู้สึกหนาวหรือร้อนจนเกินไป หากเนื้อผ้าของชุดเครื่องนอนมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็น คอตตอน หรือ เส้นใยต่าง ๆ ที่มีคุณภาพ ก็จะช่วยปกป้องผิวของลูกน้อยได้ และที่สำคัญคือจะไม่เกิดการระคายเคืองผิวด้วย เนื่องจากผ้าบางตัวมีคุณสมบัติในการป้องกันไรฝุ่น (แต่การซักทำความสะอาดหรือใช้เครื่องดูดไรฝุ่นก็ยังคงสำคัญอยู่)

ชุดเครื่องนอนเด็ก ซื้อยี่ห้อไหนดี? นุ่มสบายผิว เหมาะกับสรีระลูก

ชุดเครื่องนอนเด็ก ซื้อยี่ห้อไหนดี? นุ่มสบายผิว เหมาะกับสรีระลูก

วิธีการเลือกชุดเครื่องนอน

คุณพ่อคุณแม่สามารถเลือกจากวัสดุที่ใช้ในการทอผ้าปูที่นอน ดังนี้

  • เส้นใยธรรมชาติ 100% เช่น เส้นใยฝ้ายและเส้นใยของใยไผ่ โดยผ้าปูชนิดนี้จะสามารถถ่ายเทอากาศได้ดี ห่มแล้วไม่ทำให้ร้อน ดูแลรักษาง่ายกว่าผ้าชนิดอื่น
  • เส้นใยสังเคราะห์ เช่น เส้นใย Polyester, เส้นใย Micro Fiber ข้อดีคือมีราคาถูกมากและหาซื้อได้ง่าย มีความนุ่มแต่ระบายอากาศได้ไม่ดีเท่าผ้าจากใยธรรมชาติ
  • ผ้าซาติน (Satin) ผ้าชนิดนี้จะมีราคาแพงเช่นกัน หากเลือกเกรดดีมาก แต่มีข้อดีคือ ผ้านุ่มลื่นมาก ๆ พลิ้วนอนแล้วเย็นสบายผิว แต่ข้อเสียคือขาดได้ง่าย หากซื้อผ้าชนิดนี้อาจจะต้องเปลี่ยนบ่อย

สำหรับคำแนะนำและวิธีเลือกที่ทางทีมแม่ ABK ได้แนะนำไปนั้นอาจจะเป็นวิธีหนึ่งที่ใช้เลือกซื้อชุดเครื่องนอนให้ลูกๆ ทางเราหวังว่าทุกคุณพ่อคุณแม่จะนำเกร็ดความรู้ที่เรามอบให้ไปเลือกซื้อชุดเครื่องนอนที่เหมาะสมสำหรับลูกน้อย เพื่อการนอนหลับที่สบายและเต็มตื่น พร้อมตื่นขึ้นมาสำหรับเริ่มต้นกิจกรรมในใหม่ๆ ในทุกๆ วันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

  1. Grace Kids

Grace Kids ชุดที่นอนฟองน้ำ Size M ผ้าปูที่นอนผลิตจากผ้าฝ้ายผสม คุณภาพดี เนื้อนิ่ม ไม่ระคายเคืองต่อผิวเด็ก ให้ความอ่อนนุ่ม ระบายอากาศได้ดี มีซิปสามารถถอดซักได้ ตัวที่นอนเป็นฟองน้ำมีความยืดหยุ่นสูงทำให้ใช้งานได้นาน ใช้ฟองน้ำที่มีคุณภาพดี หนานุ่ม ไม่ยวบเร็ว ปลอกสามารถถอดซักได้ ทำความสะอาดง่าย สีสันลวดลายสดใส ช่วยเพิ่มพัฒนาการให้เด็กในการมองเห็น ผ่านการทดสอบไม่มีสารเคมีตกค้างที่เป็นอันตราย ผ่านการตรวจหาสิ่งแปลกปลอมหรือสิ่งปลอมปนประเภทโลหะในสินค้าและวัตถุดิบ (Metal Free) ขนาด 24 x 40 x 2.5 นิ้ว

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม https://www.mygracekids.com/

ชุดเครื่องนอนเด็ก

ขอบคุณรูปภาพ  https://www.mygracekids.com/

 

  1. Mummily X Disney

ที่นอนฟองน้ำ All about mickey Size XL (Mummily Disney All about mickey picnic mattress Size XL) ด้านในบรรจุไส้ขนห่านเทีนมอย่างดี นุ่ม เด้ง ปลอกหมอนผลิตจากผ้าซาติน เนื้อนุ่ม ลื่น บรรจุด้วยถึง PVC อย่างดี  พกพาสะดวก จัดเก็บง่ายเหมาะแก่การนำมาเป็นของขวัญในเทศกาลต่าง ๆ ที่นอนผลิตจากผ้าฝ้ายผสม ผิวของผ้า ให้ความเรียบเนียน นุ่มนวล ระบายอากาศได้ดี

สามารถถอดซักได้ ด้านในเป็นใยสังเคราะห์ ยืดหยุ่นสูง ใช้งานได้ยาวนาน ทนทาน หมอนหลุมใยสังเคราะห์ รองรับสรีระต้นคอและศีรษะของลูกน้อย ผ่านการตรวจโลหะตกค้าง ทำให้มั่นใจว่าปลอดภัยต่อลูกรักแน่นอน ขนาด : 27 x 40 x 3 นิ้ว

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม https://www.mummily.com/

ชุดเครื่องนอนเด็ก

ขอบคุณรูปภาพ https://www.mummily.com/

 

  1. Bebe Cheri

Bebe Cheri เซตที่นอนยางพารา เหมาะสําหรับเด็กแรกเกิด ผลิตที่นอนจากยางพารา ยืดหยุ่นสูง ทนต่อแรงกดทับ ไม่มีอันตรายจากสารเคมีตกค้าง เนื่องจากผลิตจากน้ำยางพาราธรรรมชาติสามารถช่วยในการระบายอากาศได้ดี ไม่กักเก็บฝุ่น ไม่สะสมความชื้น ไม่เกิดกลิ่นเหม็นอับ พร้อมปลอกหุ้มมีซิปถอดซักได้ง่าย มีคุณสมบัติต่อต้านการเจริญเติบโตของเชื้อราและแบคทีเรีย ปลอดไรฝุ่น และแบคทีเรีย กระจายแรงกดทับ ช่วยในการไหลเวียนของโลหิต อายุการใช้งานยาวนานเกือบ 10 ปีปลอดภัยจากสารเคมีตกค้างและสารพิษอันตราย มีความนุ่มและความยืดหยุ่นสูง การคืนตัวดีเยี่ยมยางพาราเป็นโครงสร้างรูระบายอากาศขนาดเล็ก ช่วยระบายอากาศได้ดี ไม่กักเก็บความร้อนและความอับชื้นปลอกหมอนสามารถถอดปลอกหมอนซักได้ ใน 1 set ประกอบด้วย ที่นอนยางพารา Baby Size พร้อมปลอกที่นอน ขนาด 75 x 100 x 5 cm. จำนวน 1 อัน หมอนหลุมยางพารา Delilah จำนวน 1 ใบ หมอนจัดท่ายางพารา Double Side Pillow 1 ใบ มีลายผ้าปูที่นอนให้เลือกมากมายถึง 4 ลาย

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม https://www.bebecherishop.com/?lang=th

ชุดเครื่องนอนเด็ก

ขอบคุณรูปภาพ https://www.bebecherishop.com/?lang=th

 

  1. Total Kids

ชุดเครื่องนอนเด็กที่นอนสี่เหลี่ยมครบชุดทั้งหมด 4 ชิ้น ฟูกที่นอนผลิตจาก Polyester หนาสองนิ้ว หุ้มผ้าคอตตอนซิลค์สีขาว พร้อมปลอกคอตตอน 100% ถอดซักได้ ขนาด 60 x 90 cm (ใช้กับเตียงไม้ 60 x 100 ร่วมกับกันกระแทกรอบเตียงได้พอดี) หมอนไมโครเจลเด็กแรกเกิด 12 x 20 นิ้ว หมอนข้างและผ้าห่มดอทขนาด 75 x 100 cm มาพร้อมลวดลายน่ารักให้เลือกอีกมากมาย

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม https://www.ttkidszone.com/

เครื่องนอน

ขอบคุณรูปภาพ https://www.ttkidszone.com/

 

  1. Little seeds Nap

เซ็ทที่นอนพกพา สำหรับน้องวัย 1-7 ขวบ (ที่นอน + หมอน + ผ้าห่ม) ผลิตจากประเทศเกาหลี ขนาด (ความยาวที่นอนรวมหมอน) 70 x 120 cm. น้ำหนักเบา พกพาสะดวก ผลิตจากเนื้อผ้าคอตตอนเกาหลี 100% สัมผัสนุ่มสบาย ระบายความร้อนได้ดี ไม่ระคายผิว ทำความสะอาดง่าย เพียงแค่ใส่ถุงถนอมผ้า แล้วลงซักเครื่องได้ทุกชิ้น​

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม https://www.punnita.com/

เครื่องนอน

ขอบคุณรูปภาพ https://www.punnita.com/

อ่านต่อ.. ชุดเครื่องนอนเด็ก ซื้อยี่ห้อไหนดี? นุ่มสบายผิว เหมาะกับสรีระลูก ..ได้ที่หน้า 2

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

ชื่อเล่นลูกชายไทยๆ

ชื่อเล่นลูกชายไทยๆ เพราะๆ เท่

Alternative Textaccount_circle
event
ชื่อเล่นลูกชายไทยๆ
ชื่อเล่นลูกชายไทยๆ

ตั้งชื่อเล่น ชื่อเล่นลูกชายไทยๆ ตั้งชื่อเล่น ตั้งชื่อลูกชาย ชื่อเล่น ชื่อมงคล ตั้งชื่อลูกชายเพราะๆ ตั้งชื่อเล่นลูกชายเพราะๆ ความหมายดี

ชื่อเล่นลูกชายไทยๆ เพราะๆ เท่

การตั้งชื่อลูกชายและลูกสาวก็จะแตกต่างกันไป ชื่อลูกสาวอาจฟังดูหวานๆ อ่อนโยน ส่วนชื่อลูกชายก็จะฟังดูเข้มแข็ง ทะมัดทะแมง วันนี้ทีมกองบรรณาธิการ ABK ได้รวบรวม ชื่อเล่นลูกชายไทยๆ เพื่อเป็นไอเดียในการตั้งชื่อให้กับคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังมองหาชื่อให้ลูกชายกันอยู่นะคะ ไปดูกันเลยค่ะ

 

ชื่อเล่นลูกชายไทยๆ เพราะๆ เท่

ชื่อ ความหมาย
กรรณ ใบหู กลอน
กร มือ
กลด ร่มสำหรับพระ วงกลมที่ส่องแสงรัศมี
กฤต กระทำแล้ว
กาจ เก่งกาจ
กานต์ ผู้เป็นที่รัก
กังหัน เครื่องปั่นลมให้พลังงาน
กล้า กล้าหาญ ไม่กลัวใคร
กันต์ธี นักปราชญ์ผู้น่ารัก
กันต์ ชอบใจ ยินดี พอใจ
กัมพู ทอง
กิจจา เรื่องราว ข้อความ
กิต คำสรรเสริญ
กวิน ความดีงาม
ก้าว ก้าวเดิน
กำปั้น กำมือ หมัด
กูน ลูก
แกงส้ม ชื่อแกงพวกหนึ่ง มีลักษณะคล้ายแกงเผ็ด
เก้า ตัวเลข ชื่อเดือนที่ 9 ตามจันทรคติ ตกในราวเดือนสิงหาคม
กวิน ดีงาม
โก๋ ขนมชนิดหนึ่ง ห้าวๆ ดูไม่กลัวใคร
ขั้วฟ้า จุดปลายสุดของแกนท้องฟ้า
ขุนเขา เทือกเขา แนวเขา
ขุนพล หัวหน้าทหาร ผู้นำ
ขุนไม้ พญาไม้ ชื่อต้นไม้ใหญ่ชนิดหนึ่ง
ขุนศึก แม่ทัพ
ขันเงิน ขันที่ทำจากเงิน
ขนมต้ม ชื่อขนมไทยชนิดหนึ่ง ทำด้วยแป้งยัดไส้มะพร้าวผัดหวาน
ข้าว พืชชนิดหนึ่ง เป็นอาหารหลักของคนไทย
ข้าวฟ่าง ข้าวพันธุ์หนึ่งออกผลเป็นรวง
เขต เขตแดน อาณาเขต
เขม ความสบายใจ เกษมสำราญ
เข้ม กล้า แกร่ง เข้มแข็ง
เข็มทิศ อุปกรณ์นำทาง เพื่อให้ได้รู้ตอนนนี้อยู่ทิศไหน
ขั้นเทพ เก่งเสมือนเทพ
เข็มทิศ เครื่องมือบอกทิศทาง
เขียนฝัน วาดฝัน
คราม สีน้ำเงิน สีคราม สีฟ้าเข้ม
คณิณ ครู อาจารย์
คีตะ เสียงดนตรี การขับร้อง
คุณ ความดีที่ให้ประโยชน์ต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
คูณ การเพิ่มจำนวนแบบทวีคูณ
คับฟ้า ยิ่งใหญ่ ใหญ่คับฟ้า
คัมภีร์ หนังสือตำราที่สำคัญทางศาสนาหรือโหราศาสตร์
คิน ญาติพี่น้อง
คิมหันต์ ฤดูร้อน

 

ชื่อเล่นลูกชายไทยๆ
ชื่อเล่นลูกชายไทยๆ

 

ชื่อ ความหมาย
คุณชาย คำที่ใช้เรียกหม่อมราชวงศ์ที่เป็นชาย
ค้ำคูณ เพิ่มพูน, งอกงาม
คำนึง ความคิดคำนึง
ค้ำฟ้า มั่นคง, เนิ่นนาน
จอม ผู้เป็นใหญ่
จอมทัพ ผู้ครองตำแหน่งสูงสุดของกองทัพ
จ้าว ความเป็นเจ้าคนนายคน
จิน ความคิด
จิณณ์ ผู้ประพฤติดีแล้ว
จินต กวีผู้มีความสามารถและจิตนาการ
จุน จุนเจือ ค้ำจุน
เจต สิ่งที่ใจคิด
เจษ ผู้เจริญที่สุด ผู้เป็นใหญ่ที่สุด
เจ๋ง ยอดเยี่ยม ดีเลิศ
เจ้านาย เจ้าหรือผู้มีเชื้อสกุลเป็นกษัตริย์
เจนจบ รู้จบ ชำนาญทั่ว รอบรู้
จัดเจน สันทัด ชำนาญ มีประสบการณ์มาก
ฉัตร ชื่อเครื่องสูงชนิดหนึ่ง
โชคดี สิ่งที่นําผลดีมาให้โดยคาดหมายได้ยาก
ชานนท์ เพลิดเพลินยินดีในความรู้
ชวิศ เจ้าแห่งเชาวน์ปัญญา
เชาว์ เร็ว
เชาวน์ ปัญญาหรือความคิดฉับไว
โชค สิ่งที่นำผลมาให้โดยคาดหมายได้ยาก
ชนะ มีชัยชนะ
ชัดเจน กระจ่าง แจ่มชัด
ญานัฐ เกิดมาเพื่อเป็นปราชญ์
ณดล อิสระ บันดาลให้มีความมั่นคง
ณกร มีความรู้ความสามารถ
ณพิชญ์ นักปราชญ์
ณภัทร ดีงามด้วยความรู้
ดุลย์ ความเท่ากัน
ดนย์ ลูกชาย
ดินสอ อุปกรณ์การขีดเขียน
ต้นน้ำ แหล่งกำเนิดของน้ำ
ต้นหนาว ช่วงต้นฤดูหนาว
ต้นไม้ พืชยืนต้น สื่อถึงความสมบูรณ์ แข็งแรง
ตัวโน้ต โน้ตเพลง
ตุ๊ต๊ะ อ้วนท้วน สื่อถึงความอุดมสมบูรณ์
ตำนาน เรื่องเล่าขานที่ยิ่งใหญ่
เติมเต็ม พรั่งพร้อม
ตฤณ หญ้า
ต้นข้าว ต้นของข้าว พืชที่สำคัญของประเทศ
ต้นน้ำ แหล่งกำเนิดของน้ำ
ตะวัน ดวงอาทิตย์
ต๊ะ เป็นชื่อเฉพาะ

อ่านต่อ…ชื่อเล่นลูกชายไทยๆ เพราะๆ เท่ คลิกหน้า 2

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

วิธีล้างขวดนมให้สะอาด

ไอเทมใหม่ !! ผลิตภัณฑ์ล้างขวดนม โคโดโม โอกานิคุ ขวดนมลูกสะอาด ไม่มีสารตกค้าง

Alternative Textaccount_circle
event
วิธีล้างขวดนมให้สะอาด
วิธีล้างขวดนมให้สะอาด

ล้างขวดนมลูกเป็นอะไรที่ละเอียดอ่อนมากค่ะ จะล้างแค่ผ่าน ๆน้ำให้สะอาดไปที ไม่ได้เด็ดขาด!! ขวดนมที่ล้างไม่สะอาด จะมีทั้งคราบนม และสารเคมีตกค้างจากผลิตภัณฑ์ที่ใช้ทำความสะอาด ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพลูกน้อยได้ค่ะ กองบรรณาธิการ Amarin Baby & Kids มี วิธีล้างขวดนมให้สะอาด พร้อมกับไอเทมใหม่ ผลิตภัณฑ์ล้างขวดนม โคโดโม โอกานิคุ ที่เขาคิคค้นมาเพื่อขวดนมของเด็กโดยเฉพาะ รับรองว่าแม่ ๆ จะต้องชอบกันค่ะ

ก่อนที่เราจะไปล้างขวดนมลูกให้สะอาดหมดจดไม่เหลือคราบสกปรก แบคทีเรีย และสารเคมีตกค้าง แนะนำสำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ที่กำลังเตรียมหาซื้อขวดนมมาใช้ ควรเลือกขวดนมที่ผลิตจากพลาสติกปลอดสาร BPA ให้สังเกตที่ข้างบรรจุภัณฑ์ จะมีสัญลักษณ์หรือเขียนว่า BPA FREE  ก็สามารถมั่นใจได้ว่าลูกจะไม่ได้รับสารพิษจากขวดนมค่ะ

วิธีล้างขวดนมให้สะอาด

5 ขั้นตอน วิธีล้างขวดนมให้สะอาด ไม่มีคราบนมหลงเหลือ

1. ให้ถอดชิ้นส่วนขวดนมออกจากกัน (ฝาขวดนม จุดยาง ขวดนม) แล้วนำทั้งหมดวางในภาชนะที่ใช้ล้าง จากนั้นเทน้ำร้อนจนท่วม เพื่อให้คราบนมที่ติดอยู่ใต้ขวดนม หรือตามซอกต่าง ๆ หลุดออก (น้ำร้อนจะทำให้คราบนมหลุดออกง่าย) จากนั้นให้เทน้ำทิ้ง

2. ผสมน้ำอุณหภูมิปกติกับน้ำร้อนให้เป็นน้ำอุ่น จากนั้นใส่น้ำยาล้างขวดนม ลงในน้ำอุ่น ใช้ฟองน้ำล้างขวดนม ชิ้นส่วนทั้งหมดให้สะอาดทั้งข้างใน และข้างนอก

3. ล้างขวดนม ฝาขวดนม จุกยางในน้ำสะอาดประมาณ 2-3 รอบ

4. หลังจากล้างขวดนมแล้วต้องการฆ่าเชื้อ สามารถใช้เป็นเครื่องนึ่งขวดนมอัตโนมัติ หรือจะต้มในน้ำเดือดก็ได้ (ยกเว้นจุกยาง)

5. จากนั้นคว่ำผึ่งขวดนม ฝาขวดนม จุกยางบนตะแกรงวางภาชนะ ผึ่งลมให้แห้งก่อนนำมาใช้

ขวดนม

น้ำยาล้างขวดนม เลือกใช้แบบไหน ล้างขวดนมสะอาด ไร้สารเคมีตกค้าง

หลายคนยังเข้าใจว่าขวดนม แก้วหัดดื่ม หรือชุดอุปกรณ์กินข้าวสำหรับเด็ก ใช้ผลิตภัณฑ์ล้างทำความสะอาดทั่วไปก็ได้ จริง ๆ แล้วไม่แนะนำค่ะ เพราะอาจมีในเรื่องสารทำความสะอาดที่เป็นสารเคมี ซึ่งสามารถตกค้างและเป็นอันตายต่อสุขภาพลูกน้อย แนะนำให้คุณแม่เลือกผลิตภัณฑ์ล้างทำความสะอาดที่อ่อนโยน ปราศจากสารเคมี จะดีกับสุขภาพลูกน้อยมากกว่าค่ะ

  1. เลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดขวดนมที่มีส่วนผสมจากสารสกัดจากธรรมชาติ
  2. เลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดขวดนมที่ผ่านการทดสอบว่าปลอดภัย ไม่มีสารตกค้าง

ผลิตภัณฑ์ล้างขวดนม โคโดโม โอกานิคุ

ผลิตภัณฑ์ล้างขวดนม โคโดโม โอกานิคุ สะอาดมากกว่าที่ตาเห็น ทำความสะอาดหมดจดได้ลึกทุกซอกมุมขวด พร้อมสารสกัดออร์แกนิคธรรมชาติ คุณภาพมาตรฐานแบรนด์จากญี่ปุ่น

ก่อนอื่นขอบอกว่าเราทีมบรรณาธิการ Amarin Baby & Kids เป็นแฟนของโคโดโมกันอยู่แล้ว และด้วยความที่มีลูกเล็ก ๆ กันค่ะ ผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากธรรมชาติ จะถูกรวมอยู่ในลิสต์ของใช้ลูก ที่แม่ ๆ จะต้องซื้อใช้เป็นอันดับแรก ๆ สำหรับผลิตภัณฑ์ล้างขวดนม โคโดโม โอกานิคุ เราได้ลองใช้กันแล้ว จึงอยากแนะนำให้ ว่าที่คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ ได้มีไว้ใช้ล้างขวดนม แก้วหัดดื่ม และอุปกรณ์ของลูกกันค่ะ

ทารก เด็กเล็ก เป็นวัยที่ยังต้องการความอ่อนโยน ฉะนั้นอุปกรณ์ของใช้ต่าง ๆ ต้องมั่นใจว่าปลอดภัยต่อสุขภาพของลูก ยิ่งถ้าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้สำหรับล้างทำความสะอาดอุปกรณ์ของใช้ที่ลูกต้องเอาเข้าปากอย่างขวดนม จะต้องเป็นผลิตภัณฑ์ปราศจากสารเคมี มีความเป็นธรรมชาติ ออร์แกนิคเท่านั้นค่ะ

ผลิตภัณฑ์ล้างขวดนม โคโดโม โอกานิคุ สูตรใหม่

ผลิตภัณฑ์ล้างขวดนม โคโดโม โอกานิคุ เป็นสูตรใหม่ ที่เราให้เต็ม 10 ไม่หักเลยค่ะ ใช้แล้วชอบมาก มั่นใจว่าเป็นมิตรกับสุขภาพลูกอย่างที่สุดค่ะ เพราะอะไรรู้ไหมคะ…

1. ผลิตภัณฑ์ล้างขวดนม โคโดโม โอกานิคุ ใช้เทคโนโลยี Double Nature Clean ที่ผสานพลังเอนไซม์ และสารทำความสะอาดจากวัตถุดิบธรรมชาติ 100% ตรงเข้าขจัดคราบมัน คราบโปรตีน คราบเหนียวจากแป้ง และกลิ่นคาวจากนม ที่ติดกับขวดนม จุกนมและอุปกรณ์อื่น ๆ ให้สลายออกได้ง่าย

2. มีสารสกัด Organic Cranberry & Aloe Vera Extracts มีคุณสมบัติคงความชุ่มชื้นให้กับผิว

3. กลิ่นหอมฟรุ๊ตตี้เบอร์รี่อ่อน ๆ Fruity Berry Flavor ที่ใช้เป็นมาตรฐาน Food Grade มั่นใจไม่มีสารตกค้าง

4. กลัวแพ้กันใช่ไหมคะ ไม่ต้องกลัวค่ะ เพราะโคโดโม โอกานิคุ ผลิตภัณฑ์ล้างขวดนม มีผลการทดสอบ การระคายเคือง Dermatology Tested ว่าไม่ระคายเคืองต่อผิวบอบบาง และผิวแพ้ง่าย

5. ปิดท้ายความดีงาม ให้แม่ ๆ ได้มั่นใจในผลิตภัณฑ์ล้างขวดนม โคโดโม โอกานิคุ คือเขาออกแบบมาให้ปราศจาก 5 สารเติมแต่ง สารแต่งสี พาราเบน ซิลิโคน มิเนรัลออยล์ และแอลกอฮอล์ ถูกใจไหมคะ แม่ ๆบ้านนี้ถูกใจ เลิฟกันมากนะจะบอกให้

ผลิตภัณฑ์ล้างขวดนม โคโดโม โอกานิคุ สูตรออร์แกนิคแครนเบอร์รี่ และอโลเวร่า สะอาดลึกทุกซอกมุมขวด พร้อมสารสกัดออร์แกนิคธรรมชาติ มีให้ใช้กันถึง 2 ขนาด ขวดปั๊ม Size 650 ml (Bottle) ราคา 105 บาท และ ถุงเติม Size 600 ml (Refill) ราคา 79 บาท ที่สุดของตัวตึงดีไม่มีที่ติแบบนี้ไม่ใช้ไม่ได้แล้วไหมคะ 

กองบรรณาธิการ Amarin Baby & Kids ชี้เป้าให้ตามไปช้อปมาใช้กันที่นี่ค่ะ คลิก !!

🛒 LAZADA
🛒 LionShop

วิธีลดไข้ทารกแรกเกิด

วิธีลดไข้ทารกแรกเกิด ทารกเป็นไข้ ควรดูแลอย่างไร?

Alternative Textaccount_circle
event
วิธีลดไข้ทารกแรกเกิด
วิธีลดไข้ทารกแรกเกิด

วิธีลดไข้ทารกแรกเกิด – เมื่อทารกน้อยของคุณตัวร้อน คุณอาจรู้สึกราวกับว่าเวลาช่างเดินช้าเหลือเกินในขณะที่คุณกำลังรอให้เทอร์โมมิเตอร์ที่กำลังวัดไข้ลูกของคุณส่งเสียงเตือน คุณจะทำอย่างไรเพื่อให้ลูกน้อยของคุณรู้สึกดีขึ้น? โชคดีที่อาการไข้ของทารกสามารถจัดการได้อย่างไม่เหนือบ่ากว่าแรงนักด้วยตัวคุณเองที่บ้าน ในฐานะพ่อแม่คงไม่มีอะไรล้ำค่าและสำคัญไปกว่าลูก หากลูกของคุณแสดงอาการคล้ายมีไข้ ปฏิกิริยาตามธรรมชาติของคุณอาจรู้สึกตื่นตระหนก อย่างไรก็ตามคุณไม่ต้องกังวลมากเกินไป เนื่องจากเราสามารถประเมินอาการไข้ของลูกได้เองที่บ้าน โดยมีวิธีการที่จะช่วยลดอุณหภูมิของทารกได้ มันเป็นเรื่องปกติที่อุณหภูมิของลูกน้อยจะผันผวนด้วยเหตุผลต่างๆ นานา ซึ่งไม่จำเป็นต้องแย่เสมอไป

วิธีลดไข้ทารกแรกเกิด ทารกเป็นไข้ ควรดูแลอย่างไร?

หากลูกน้อยของคุณตื่นขึ้นมากลางดึก เริ่มร้องไห้และดูเหมือนว่าหน้าแดง คุณต้องวัดไข้ลูกเพื่อดูว่าพวกเขามีไข้หรือไม่ โดยทั่วไปแล้วมีสาเหตุหลายประการที่ทำให้ลูกน้อยของคุณเป็นไข้ แม้ว่าการเป็นไข้มักไม่เป็นอันตรายร้ายแรง แต่เด็กเล็กมีแนวโน้มที่จะมีไข้ซึ่งต้องได้รับการรักษามากกว่าเด็กโต อาทิ ทารกแรกเกิด – อายุ 3 เดือนหรือน้อยกว่า ควรไปพบแพทย์ทันทีหากมีไข้  อย่างไรก็ตาม ทารกอายุ 3 เดือนขึ้นไปที่มีไข้ต่ำๆ สามารถรักษาที่บ้านด้วยการดูแลที่เหมาะสม หากไม่มีอาการอื่นที่เกี่ยวข้องเกิดขึ้น ทารกที่มีไข้สูงหรือควรได้รับการประเมินโดยแพทย์

ทำไมทารกถึงมีไข้?

ในกรณีส่วนใหญ่ เด็กทารกที่มีไข้ มักเกิดเกิดจากการติดเชื้อ อย่างไรก็ตาม ขึ้นอยู่กับประเภทของการติดเชื้อหรือปัญหาอื่นๆ ซึ่งจะเป็นตัวกำหนดแนวทางการรักษา ซึ่ง สาเหตุที่พบบ่อยที่สุดที่ทำให้ทารกมีไข้ ได้แก่

การติดเชื้อไวรัส –  เช่น การติดเชื้อไวรัสในลำไส้ หวัด หรือไข้หวัดใหญ่ โรคซาง หรืออีสุกอีใส อาจทำให้ลูกน้อยของคุณมีไข้ได้ ซึ่งเป็นการตอบสนองตามธรรมชาติในการต่อสู้กับการติดเชื้อ เนื่องจากไวรัสไม่ใช่แบคทีเรียในธรรมชาติ
การติดเชื้อแบคทีเรีย – แม้ว่าจะพบได้น้อยกว่าไข้จากการติดเชื้อไวรัส แต่ไข้จากเชื้อแบคทีเรียอาจเป็นการติดเชื้อที่รุนแรงกว่ามาก เช่น การติดเชื้อที่หูและคอ การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ โรคปอดบวมจากแบคทีเรีย หรือเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากแบคทีเรีย ซึ่งทั้งหมดจำเป็นต้องใช้ยาปฏิชีวนะเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง
การสวมเสื้อผ้าที่แน่นหนาเกินไป – เนื่องจากทารกไม่สามารถควบคุมร่างกายตัวเองได้เหมือนเด็กโต ทารกโดยเฉพาะเด็กแรกเกิดอาจเป็นไข้ได้หากอยู่ในสภาพแวดล้อมที่อบอุ่นเกินไป พ่อแม่ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าลูกน้อยของคุณไม่ได้ห่อผ้าห่มหรือเสื้อผ้ามากเกินไปเพราะอาจทำให้อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้น นอกจากนี้ควรตรวจสอบดูว่าภายในห้องไม่ร้อนหรือเย็นเกินไป
การสร้างภูมิคุ้มกัน – หากลูกของคุณได้รับการฉีดวัคซีนภายใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา พวกเขาอาจมีไข้ต่ำๆ ได้ ซึ่งคุณไม่ควรกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้มากเกินไป ปริมาณที่เหมาะสมของ acetaminophen หรือ ibuprofen ของทารกหรือเด็กสามารถใช้เพื่อบรรเทาอาการไข้ได้ แต่ถ้าไข้ยังคงอยู่เกิน 48 ชั่วโมง แนะนำให้โทรหาแพทย์หรือไปโรงพยาบาลอย่างเร็วที่สุด

อาการที่บ่งบอกว่าทารกมีไข้

อุณหภูมิร่างกายปกติของทารกจะอยู่ที่ประมาณ  37°C  อุณหภูมินี้อาจแตกต่างกันเล็กน้อยตั้งแต่ช่วงเช้าถึงเย็น นอกจากนี้อุณหภูมิร่างกายโดยทั่วไปอาจลดต่ำลงเมื่อทารกตื่นนอนและสูงขึ้นในช่วงบ่ายและเย็น ทารกอายุต่ำกว่า 3 เดือนที่มีไข้จำเป็นต้องไปพบแพทย์ทันทีเพื่อวินิจฉัยสาเหตุที่แท้จริงและทำการรักษาหากจำเป็น โดยทั่วไปจะถือว่าทารกมีไข้ ด้วยเหตุผลต่อไปนี้

  • อุณหภูมิ 38°C หรือสูงกว่าเมื่อวัดไข้ทางทวารหนัก
  • อุณหภูมิ 37.2°C หรือสูงกว่าเมื่อใช้วิธีอื่นๆ
ทารกมีไข้
ทารกมีไข้

อย่างไรก็ตาม สำหรับทารกที่มีอายุมากกว่า 3 เดือน หากทารกมีไข้ระดับต่ำอาจไม่จำเป็นต้องไปพบแพทย์เสมอไป นอกจากนี้ มีหลายสิ่งที่คุณไม่ควรทำหากลูกของคุณมีไข้ ได้แก่

  • อย่ามัวรอช้าในการไปพบแพทย์สำหรับทารกแรกเกิดที่มีไข้หรือมีอาการป่วยหนัก
  • ห้ามให้ยาใดๆ แก่ทารกโดยไม่ตรวจวัดอุณหภูมิและปรึกษาแพทย์ก่อน
  • ห้ามให้ยาสำหรับผู้ใหญ่แก่ทารกเด็ดขาด
  • อย่าแต่งตัวให้ทารกแน่นหนาจนเกินไป
  • ไม่ควรใช้น้ำแข็งหรือแอลกอฮอล์ล้างแผลเพื่อลดอุณหภูมิของทารก

อ่านต่อ…วิธีลดไข้ทารกแรกเกิด ทารกเป็นไข้ ควรดูแลอย่างไร? คลิกหน้า 2

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

ฝันเห็นหนอน ทำนายฝัน

ฝันเห็นหนอน ฝันเห็นหนอนสีขาว หรือโชคจะมาพร้อมความอี๋

Alternative Textaccount_circle
event
ฝันเห็นหนอน ทำนายฝัน
ฝันเห็นหนอน ทำนายฝัน

ฝันเห็นหนอน ฝันเห็นหนอนไต่ตัว ฝันเห็นหนอนสีขาว ทำนายฝัน จะเป็นเช่นไร หรือบางทีโชคดี ก็มักจะมาพร้อมความอี๋กันนะ จะรับโชคดีหรือไม่อยู่ที่คุณ

ฝันเห็นหนอน ฝันเห็นหนอนสีขาว หรือโชคจะมาพร้อมความอี๋!!

หนอน เจ้าสัตว์ตัวอ้วน ที่บางคนก็ขยะแขยง อี๋เมื่อได้แตะต้อง กับบางคนก็เห็นเป็นสัตว์ตัวอ้วนกลมน่ารักน่าชัง แม้หนอนจะเป็นสัตว์ที่ไม่มีพิษมีภัย แต่ก็ไม่วายที่สัตว์ตัวนี้จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับความเชื่อโบราณของไทย ความเชื่อเกี่ยวกับสัตว์ที่เข้าบ้านคนนั้น เป็นสัญญาณเตือนอะไรเราบ้าง และมีสัตว์อะไรบ้างนั้น ไปดูกันเลย เชื่อไว้เตือนสติก็ไม่เสียหายนี่นา

เมื่อมีสัตว์เหล่านี้เข้าบ้าน ความเชื่อหมายความว่าอย่างไร??

1.กบ

กบถือเป็นสัตว์ยอดฮิตที่แทบทุกบ้านต้องเคยเจอ บางตัวอาจมาบ่อยถึงขั้นที่เจ้าของบ้านต้องเลี้ยงไว้ก็มี เหตุผลที่กบเข้าบ้านเป็นประจำก็เพราะพื้นที่บ้านของคุณอยู่ติดคลองหรือแหล่งน้ำธรรมชาติ ซึ่งเอื้อต่อการแพร่พันธุ์ของกบ เชื่อไหมว่ากบ 1 ตัวมีอายุได้มากที่สุด 10 – 12 ปี ดังนั้นโบราณจึงมีความเชื่อว่าหากกบเข้าบ้าน อาจจะได้รับข่าวดีเรื่องการงานจากผู้บังคับบัญชาก็เป็นได้

2. คางคก

แม้ว่าคางคกจะเป็นสัตว์ตระกูลเดียวกับกบ แต่ผิวหนังของคางคกมีอันตรายห้ามจับด้วยมือเปล่า เพราะอาจโดนพ่นสารพิษใส่ตัวได้ โดยตามหลักความเชื่อหากคางคกเข้าบ้านหรือคางคกกระโดดขึ้นบันได จะช่วยให้ค้าขายรุ่งเรือง ทำมาค้าขึ้น มีเงินทองบริบูรณ์ หากคุณทำธุรกิจส่วนตัวและมีคางคกเข้าบ้านถือว่าเป็นลางบอกเหตุที่ดีเลยทีเดียว ไม่จำเป็นต้องตีหรือไล่คางคกออกจากบ้าน แต่ควรปล่อยให้คางคกออกจากบ้านเอง

แมวขึ้นบ้าน แมวเข้าบ้าน เชื่อกันว่า...
แมวขึ้นบ้าน แมวเข้าบ้าน เชื่อกันว่า…

3. ค้างคาว

หากพบเห็นค้างคาวบินเข้าบ้าน หมายถึงว่าละแวกบ้านของเรานั้นมีสภาพแวดล้อมที่สมบูรณ์น่าอยู่แน่นอน แต่หากเจอค้างคาวบินมาเกาะนิ่ง ๆ ในบ้าน ตามความเชื่อของคนโบราณถือว่าเจ้าของบ้านจะได้โชคได้ลาภในเร็ววันอย่างไม่ทันตั้งตัว แต่หากเจอค้างคาวเข้าบ้านมากินอาหารในบ้าน อาจเกิดเรื่องไม่ดี หรือเหตุการณ์บางอย่างกับผู้อาศัยได้

4. หนอน

โบราณว่าไว้ หากเจอหนอนเข้าบ้าน เจอหนอนบนที่นอน ให้ต้องระมัดระวังตัวเป็นพิเศษ ใช้ชีวิตอย่างมีสติรอบคอบ เพราะมีเกณฑ์เกิดอุบัติเหตุเล็กๆ น้อยๆ

5. ตัวเงินตัวทอง

หากพบตัวเงินตัวทองบริเวณใต้ถุนบ้าน ตามหลักความเชื่อควรขานชื่อเรียก “ตัวเงินตัวทอง” และห้ามไล่ออกจากบ้าน โดยปล่อยให้ตัวเงินตัวทองออกไปเอง จะช่วยเรียกทรัพย์ เรียกเงิน เรียกทองเข้าบ้าน และยังช่วยให้หมดทุกข์หมดโศก อย่างไรก็ตามหากเจอตัวใหญ่มาก ๆ เข้ามาแล้วไม่ยอมออกจากบ้านเองตามธรรมชาติ ก็ควรเรียกเทศกิจ หรือกู้ภัยมาช่วยจับออกไป

6. แมว

ตามหลักความเชื่อเกี่ยวกับแมวเข้าบ้านนั้นมีความหมายหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นแมววิ่งไล่กันเข้าบ้าน แปลว่าคนในบ้านอาจได้รับข่าวดี แมวตัวผู้มาติดแมวตัวเมียในบ้าน จะช่วยให้คนในบ้านประสบความสุขและสมหวัง หรือหากแมวมาอาศัยอยู่ในบ้าน หมายถึงคนในบ้านจะมีโชคลาภ หากใครบังเอิญเจอแมวเดินเข้าบ้าน อยากจะรับเลี้ยงไว้ก็ไม่เสียหาย แถมยังเพิ่มสิริมงคลให้กับบ้านได้อีกด้วย

7. สุนัข

ถึงแม้ว่าสุนัขจะเป็นสัตว์ที่หลายบ้านเลี้ยงไว้อยู่แล้ว หรือพบเห็นได้ตามละแวกบ้านอยู่บ่อย ๆ แต่หากมีสุนัขเข้าบ้านก็มีความหมายหลาย ๆ แบบตามหลักความเชื่อเช่นกัน โดยหากเจอสุนัขจรจัดหลงเข้ามาในบ้าน หมายความว่าจะมีคนนำเรื่องทุกข์ร้อนมาให้ หรือควรระมัดระวังคนพาล แต่หากเป็นสุนัขที่มีเจ้าของแล้วหนีเข้ามาอยู่ในบ้านเรา แปลว่าลูกน้องหรือบริวารจะเป็นผู้นำเรื่องราวเดือดร้อนมาให้

8. นก

โบราณว่าหากนกบินเข้าบ้านหมายถึงความเจริญรุ่งเรือง โดยเฉพาะนกกระจอกหากมาทำรังในบ้านแปลว่าครอบครัวจะรักใคร่ ปรองดอง แต่ถ้าหากนกบินเข้าบ้านหรือนกกระจอกบินไล่กันเข้ามาในบ้าน ควรระมัดระวังเรื่องความเข้าใจผิดระหว่างเพื่อน หรืออาจสูญเสียมิตรได้ และหากเป็นนกแสกบินมาเกาะรั้วบ้าน ก็ควรระวังอันตรายที่จะมาสู่ตัวสมาชิกในบ้านได้

9. มดดำ

หากอยู่อาศัยในบ้านมานาน แล้วมีคนย้ายเข้ามาอยู่ใหม่ พร้อมกับเจอเส้นทางมดดำเดินอยู่ในบ้านเป็นทางไม่หยุด หรือเดินลอดรั้วบ้านเข้ามาเป็นแถว โบราณท่านว่าให้ระวังผู้ที่ย้ายเข้ามาอยู่ใหม่ แต่หากเจอมดดำเยอะมาก อาจจะเป็นเพราะว่ามีรังแมลงอยู่ในดิน ไม่ว่าจะเป็นรังปลวก หรือรังแมลงอื่นอยู่ใกล้เคียง ทำให้มดดดำต้องทิ้งรังนั่นเอง

หรืออีกนัยหนึ่ง สัตว์เข้าบ้านแสดงว่าบ้านอุดมสมบูรณ์
หรืออีกนัยหนึ่ง สัตว์เข้าบ้านแสดงว่าบ้านอุดมสมบูรณ์

10. ตั๊กแตน

โบราณท่านว่าเจอตั๊กแตนอยู่ในบ้าน จะมีคนนอกมายุแยงให้แตกคอกัน แต่ตามความเป็นจริงแล้วตั๊กแตนเป็นสัตว์สะอาด จะเติบโตได้ก็ต่อเมื่อวางไข่ในน้ำสะอาดมาก ๆ หากพื้นที่ละแวกบ้านมีตั๊กแตน แสดงว่าสภาพอากาศรอบ ๆ บ้านยังสดชื่น เป็นธรรมชาติอยู่มาก

ความฝัน กับ คำทำนายฝัน

การทำนายความฝัน เป็นสิ่งที่โบราณมีความเชื่อว่า ความฝันมีความเกี่ยวโยงกับการล่วงรู้บางสิ่งบางอย่างล่วงหน้าในอนาคต เป็นดั่งนิมิตรที่มาเตือนผู้ฝันในเรื่องทั้งดี และร้าย หากใครจำความฝันได้ และต้องการล่วงรู้ถึงคำทำนายฝันของเราว่าจะดีหรือร้าย จะเป็นนิมิตรหรือไม่ ก่อนอื่นลองสังเกตสิ่งต่อไปนี้

ทำนายฝัน ตามหลักของท่านผู้หญิงเดอซีเร

ท่านผู้นี้ได้วางหลักว่า จะต้องระวัง ที่จะไม่ให้เอาความฝันอันเกิดจากร่างกายไม่ปกติ หรือหัวใจที่พัวพันอยู่ในสิ่งใดสิ่งหนึ่งนั้น มาเป็นความฝันที่เป็นบุรพนิมิต คือบอกเหตุการณ์ล่วงหน้า และความฝันที่อาจเป็นบุรพนิมิตได้นั้น คือความฝันที่มีขึ้น ตั้งแต่เที่ยงคืนถึงย่ำรุ่งเท่านั้น แถมยังได้อธิบายต่อไปว่า อานุภาพของพระจันทร์เป็นเครื่องทำความฝันให้เป็นจริงหรือไม่จริงได้ สุดแต่ว่า ความฝันวันไหน ตามทางโคจรของพระจันทร์ ซึ่งมีความหมายต่างๆ กันดังนี้

..ขึ้น 1 ค่ำ – ตามธรรมดาเป็นความฝันที่ดีเสมอ กล่าวคือ ถ้าหากฝันดี ก็จะได้ผลดีตามฝัน ถ้าฝันร้ายผลร้ายก็จะบรรเทา ไม่ร้ายเท่าที่ฝันในวันอื่นๆ

ขึ้น 2 ค่ำ – เป็นความฝันที่เชื่อไม่ได้ ฝันดีหรือฝันร้ายก็จะไม่เป็นตามฝัน

ฝันวัน ขึ้น 3 ค่ำ – เป็นความฝันที่เชื่อไม่ได้เหมือนกัน

ขึ้น 4 ค่ำ – ความฝันจะเป็นจริงตามคำทำนาย

ฝันใน ขึ้น 5 ค่ำ – เป็นความฝันที่เชื่อไม่ได้และไม่ควรเอาใจใส่

ขึ้น 6 ค่ำ – ตัวความฝันเองไม่แปลว่าดี หรือร้ายประการใด และอยู่ในจำพวกความฝันที่เชื่อไม่ได้ แต่ความฝันที่เกิดขึ้นในวันนี้ ผู้ฝันจะต้องปกปิด เป็นความฝันที่ร้ายที่สุด ถ้าเอาไปเล่าให้ใครฟังจะเคราะห์ร้าย (โดยที่เจ้าตำราเป็นผู้หญิงจึงมีการถือโชคลางชนิดนี้ด้วย)

…ขึ้น 7 ค่ำ – ฝันดีหรือร้าย จะเป็นจริงตามคำทำนายทั้งหมด

ฝันช่วงเวลาใด เป็นจริง
ฝันช่วงเวลาใด เป็นจริง

วันขึ้น 8 ค่ำ – ความฝันมีลักษณะเหมือนขึ้น 7 ค่ำ

ฝันเมื่อ ขึ้น 9 ค่ำ – มีลักษณะเหมือนขึ้น 7 ค่ำ และจะเป็นจริงเร็วขึ้นด้วย

ขึ้น 10 ค่ำ – มีลักษณะเหมือนขึ้น 7 ค่ำ

ขึ้น 11 ค่ำ – ความฝันจะเป็นจริงตามคำทำนายแต่ต้องรอไปอีกหลายๆวันภายหลัง

หากฝันช่วงขึ้น 12 ค่ำ – ความฝันจะตรงกันข้ามหมด คือฝันดีจะกลายเป็นร้าย ฝันร้ายจะกลายเป็นดี

ขึ้น 13 ค่ำ – ความฝันจะเป็นจริงเฉพาะเรื่องเดียวคือเรื่องแต่งงาน ความฝันอย่างอื่นนอกจากนั้น เชื่อไม่ได้

วันขึ้น 14 ค่ำ – ความฝันจะเป็นจริงตามคำทำนาย แต่จะต้องคอยไปอีกนาน

ขึ้น 15 ค่ำ – ความฝันจะเป็นจริง ใน 10 วันข้างหน้านับจากวันที่ฝัน

ที่มา : https://www.thailandhoro.com

อ่านต่อ >>เมื่อ ฝันเห็นหนอน ฝันเห็นหนอนยั้วเยี้ย ใช่นิมิตร แล้วคำทำนายว่าอย่างไร คลิกหน้า 2

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

keyboard_arrow_up