Page 39 – AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

TF Solar Cell by น้องเตอติส สาวน้อยวัย 3 ขวบ ผู้สนใจในพลังงานสะอาด

TF Solar Cell by น้องเตอติส สาวน้อยวัย 3 ขวบ ผู้สนใจในพลังงานสะอาด

งาน Amarin Baby & Kids Fair ครั้งที่ 23 ที่เพิ่งจัดไปเมื่อวันที่ 1-4 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา ที่ไบเทค บางนา นอกจากจะมีบูธจำหน่ายสินค้าสำหรับแม่และเด็กที่ขนผลิตภัณฑ์คุณภาพดีแบรนด์ดัง มาให้เลือกชม เลือกช็อปปิ้งกันอย่างจุใจ รวมไปถึงกิจกรรมสุดสนุกให้คุณพ่อคุณแม่ และคุณลูกสนุกไปด้วยกันแล้ว ยังมีกิจกรรม “Entrepreneur Kids” ให้เด็ก ๆ ได้ฝึกทักษะการออกร้านขายของ และเริ่มต้นทำธุรกิจด้วยตัวเอง หนึ่งในหนูน้อยคนเก่ง ที่อยากพาทุกคนไปทำความรู้จัก คือ “น้องเตอติส” อายุ 3 ขวบ 8 เดือน กับการร่วมโปรเจกต์ออกบูธครั้งแรกด้วยการโปรโมท TF Solar Cell ธุรกิจของครอบครัว เกี่ยวกับโซล่าร์เซล แหล่งพลังงานสะอาดที่กำลังได้รับความสนใจอย่างมากในขณะนี้ ถึงน้องจะยังอายุน้อยมาก แต่น้องก็มีความตื่นเต้น และรู้สึกสนุกที่ได้ทำกิจกรรมในครั้งนี้ เรามาพูดคุยกับคุณแม่ ให้คุณแม่เล่าถึงที่มาที่ไปของโปรเจกต์ในครั้งนี้กันค่ะ

TF Solar Cell by น้องเตอติส สาวน้อยวัย 3 ขวบ ผู้สนใจในพลังงานสะอาด

TF Solar Cell by น้องเตอติส สาวน้อยวัย 3 ขวบ ผู้สนใจในพลังงานสะอาด

เล่าถึง TF Solar Cell ธุรกิจโซล่าร์เซลล์ของที่บ้านสักหน่อย

คุณแม่ของน้องเตอติสเล่าว่า คุณแม่ให้บริการติดตั้งโซล่าร์เซลล์แบบครบวงจรอยู่แล้ว เริ่มตั้งแต่ขั้งตอนการติดตั้ง สำรวจบ้านลูกค้า ออกแบบโดยวิศวกรมืออาชีพ และมีบริการตรวจสอบระบบ เพียงแค่ลูกค้าแค่แจ้งโลเคชั่นและค่าไฟมา เราก็จะเดินทางไปวัดพื้นที่ให้ทันที โดยสามารถคำนวณให้เห็นอย่างคร่าว ๆ ว่า ถ้าติดโซล่าร์เซลล์แล้ว จะประหยัดไฟไปได้กี่บาท เพื่อให้ลูกค้าสามารถตัดสินใจได้เลย

 

จุดเริ่มต้นที่น้องเตอติสนำธุรกิจของที่บ้านมาประชาสัมพันธ์ในงานนี้

คุณแม่เล่าว่า คุณแม่กับน้องเตอติสชอบทำกิจกรรมที่เกี่ยวกับแม่และเด็กอยู่แล้ว ตั้งแต่การทำเพจเฟซบุ๊กชื่อ “เตอติสสายป่วน” ด้วยกัน ซึ่งเป็นเพจที่บอกเล่าเรื่องราวความน่ารักของน้อง ไลฟ์สไตล์ของคุณแม่และน้อง พาไปเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ การทำกิจกรรมนอกบ้าน ไปจนถึงการรีวิวสินค้าสำหรับแม่และเด็กด้วย ซึ่งคุณแม่กับน้องเตอติวก็ลองถ่ายวิดิโอ ตัดคลิปกันเอง แล้วส่งมาร่วมโปรเจกต์ในครั้งนี้

 

น้องเตอติสมีส่วนร่วมอย่างไรในกิจกรรมครั้งนี้บ้าง

ก่อนที่จะส่งคลิปวิดีโอมาร่วมโปรเจกต์นี้ คุณแม่ก็บอกน้องให้เข้าใจก่อน ว่าเราจะทำคลิปนี้เพื่ออะไร เป็นโปรเจกต์เกี่ยวกับอะไร ซึ่งน้องได้ยินแล้วก็รู้สึกตื่นเต้นและดีใจมาก ๆ รู้สึกอยากทำกิจกรรมนอกบ้านกับคุณแม่ พอถึงวันประกาศผลว่าได้รับเลือก น้องก็รู้สึกดีใจมาก ขั้นตอนต่อมา คุณแม่จึงเริ่มอธิบายให้น้องเข้าใจว่า เราต้องมาจัดบูธ ขายของ โปรโมทโซล่าร์เซลล์ซึ่งเป็นกิจการของที่บ้านนะ น้องก็เข้าใจและรอคอยวันที่จะได้มาออกงาน

 

น้องมาร่วมกิจกรรมแล้วเป็นอย่างไรบ้าง

คุณแม่เล่าว่า น้องเตรียมตัวตื่นแต่เช้าตรู่เลย มีความสุขมาก ๆ ได้เจอเพื่อน ๆ บูธอื่นด้วย น้องอาจจะไม่ได้อยู่ในวัยที่ขายของเป็น แต่สิ่งที่เราทำคือ ทำให้เขาได้ทำกิจกรรมนอกบ้าน การค้าขาย การได้มาพบปะเพื่อน ถือเป็นการเข้าสังคมที่ทำให้ลูกได้เรียนรู้ตั้งแต่เด็ก ๆ

 

คุณแม่มีเทคนิคในการสอนลูกอย่างไรให้อยากมาร่วมกิจกรรมแบบนี้

คุณแม่เล่าว่า ตัวคุณแม่เองก็ทำอาชีพค้าขายมาตลอด น้องก็เหมือนเติบโตมาในสภาพแวดล้อมที่เกี่ยวกับการขายอยู่แล้ว คุณแม่รู้สึกว่า เรื่องแบบนี้ควรจะได้รับการปลูกฝังแต่เด็ก โดยที่ให้ลูกค่อย ๆ เรียนรู้ไปทีละสเตฌป อย่างครั้งนี้ คุณแม่ก็เล่าให้น้องฟังว่า การออกบูธในครั้งนี้ทำให้น้องสามารถหาเงินด้วยตัวเองได้นะ เวลาอยากซื้ออะไรก็ใช้เงินที่ได้มาจากการหาเงินด้วยตัวเองได้เลย โดยคุณแม่จะทำหน้าที่เป็นคนคอยซัพพอร์ตอยู่เสมอ และสอนให้ลูกให้เรียนรู้ถึงประโยชน์ของการร่วมกิจกรรมในครั้งนี้

 

ฝากข้อคิดดี ๆ ในการสอนลูก เพื่อเป็นแนวทางสำหรับคุณแม่คนอื่น ๆ

สำหรับคุณแม่เอง คุณแม่คิดว่าเด็กควรจะโตไปตามวัย ไม่ต้องไปเร่งเร้าเขามาก สิ่งที่เด็ก 2-3 ขวบจะเป็นได้แค่ไหน เราก็มีความสุขที่ตรงนั้น ไม่เปรียบเทียบลูกกับคนอื่น ๆ ไม่ว่าเด็กที่โตกว่าหรือเพื่อนวัยเดียวกัน เราดูพัฒนาการตามวัยของน้อง ไม่ได้คาดหวังจนทำให้ลูกเครียด เท่านี้แม่ก็พอใจแล้ว อย่างเช่นวันนี้ช่วงบ่าย น้องเหนื่อยแล้วก็ต้องให้เขาพัก ไม่อยากฝืนเขา เพราะเขาตื่นแต่เช้า และตอนนี้ก็เป็นเวลานอนกลางวันของเขาแล้วด้วย

 

คิดว่าน้องจะได้อะไรกลับไปจากการร่วมงานในครั้งนี้

อย่างแรก คุณแม่คิดว่าน้องจะได้เรื่องการปฏิสัมพันธ์กับคน การรู้จักหาเงินด้วยตัวเอง ฝึกความรับผิดชอบ รู้หน้าที่ของคนที่จะทำธุรกิจ เป็นความภูมิใจเล็ก ๆ ที่จะติดตัวเขาต่อไปในอนาคต เราพยายามสอนเขาให้ค่อย ๆ เรียนรู้ว่า โตไปจะต้องทำงานนะ ไม่ว่าโตไปแล้วน้องจะเลือกทางเดินแบบไหน คุณแม่คิดว่าสิ่งนี้เป็นพื้นฐานสำคัญที่ทำให้เด็ก ๆ ทั้งน้องเตอติสเอง และคนอื่น ๆ ในงานนี้จะได้เรียนรู้ และได้ประโยชน์ติดตัวกลับไปในส่วนนี้ไม่มากก็น้อย

 

ความคาดหวังในงการออกบูธครั้งนี้

การมาร่วมกิจกรรมครั้งนี้ คุณแม่ไม่ได้คาดหวังว่าจะได้ลูกค้า หรือปิดการขายโซล่าร์เซลล์ได้ แต่คุณแม่อยากให้ลูกได้ประสบการณ์ ได้เริ่มต้นทำงาน แม่มองว่า Project Entrepreneur Kids นี้เปิดโอกาสให้เด็ก ๆ ทุกคนได้มาเรียนรู้ และสัมผัสประสบการณ์จริง ของเล่นเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่วางขาย ถ้าได้กำไรก็จะนำไปให้น้องเตอติสหยอดกระปุก ถือเป็นความภูมิใจของลูก

 

อยากฝากอะไรถึงน้อง ๆ ที่อยากเริ่มต้นทำธุรกิจบ้าง

คุณแม่อยากฝากว่า ถ้าเราเริ่มต้นตั้งแต่ตอนนี้ ถึงแม้ว่าเราจะล้มสักกี่ครั้ง อย่าเพิ่งท้อ ต้องมีสักครั้งที่เราประสบความสำเร็จจริง ๆ มันอาจจะไม่ได้สำเร็จในครั้งที่ 1, 2, 3 แต่อาจจะสำเร็จในครั้งที่ 4, 5, 6 ก็ได้ ถ้าเราไม่หยุดพยายามค่ะ

 

สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่อยากชวนลูกรักมาเปิดธุรกิจด้วยกัน สามารถติดตามข่าวสาร และกิจกรรมที่น่าสนใจจาก Amarin Baby & Kids กันได้เลย

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

เอาใจแม่ขาช้อป! แฉ คำย่อ ขายของออนไลน์

หนูมาลีมีลูกแมวเหมียว ร้านสินค้าแฮนด์เมด ผลงานร้อยลูกปัดของน้องมาลี

Wabi Sabi Bake House ร้านขนมแห่งความสุข ที่เริ่มต้นจากความรัก

Mission Vision ร้านหนังสือมือสองเพื่อช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส

Star OTOP น้องสตาร์ จากธุรกิจแพปลาสู่ลูกชิ้นปลาแสนอร่อย

ฝึกลูก ทำงานบ้าน ให้อะไรมากกว่าที่คิด งานบ้านสร้างลูก!!

    หนูมาลีมีลูกแมวเหมียว ร้านสินค้าแฮนด์เมดของน้องมาลี ผู้เลี้ยงแมวถึง 11 ตัว

    หนูมาลีมีลูกแมวเหมียว ร้านสินค้าแฮนด์เมด ผลงานร้อยลูกปัดของน้องมาลี

    หนูมาลีมีลูกแมวเหมียว แค่ได้ยินชื่อร้าน ก็รู้สึกน่ารักน่าเอ็นดู จนอยากแวะชมสักหน่อย ใครที่มาเที่ยวชมงาน Amarin Baby & Kids ครั้งที่ผ่านมา จะต้องได้แวะมาเยี่ยมชมร้าน “หนูมาลีมีลูกแมวเหมียว” ร้านสุดน่ารักของ “น้องมาลี” อย่างแน่นอน ชื่อร้านนี้มีที่มาจากการที่บ้านของน้องมาลี เลี้ยงแมวมากถึงถึง 11 ตัว จึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นของชื่อร้านแสนน่ารักนี้นี่เอง ในงานนี้ น้องมาลีนำสร้อยลูกปัด สายคล้องแมสที่น้องร้อยเอง โปสการ์ด และขบวนแมวเหมียวถักโครเชต์ฝีมือของคุณยาย พร้อมสารพัดงานแฮนด์เมดมาให้ทุกคนได้ช็อปปิ้งกัน ด้วยอายุเพียง 5 ขวบ น้องก็สามารถทำงานฝีมือที่ถนัด แล้วนำมาออกร้านได้แล้ว เรามาพูดคุยกับน้องกันค่ะ

    หนูมาลีมีลูกแมวเหมียว ร้านสินค้าแฮนด์เมด ผลงานร้อยลูกปัดของน้องมาลี

    หนูมาลีมีลูกแมวเหมียว ร้านสินค้าแฮนด์เมดของน้องมาลี ผู้เลี้ยงแมวถึง 11 ตัว

    ทำไมถึงอยากมาขายของแฮนด์เมดฝีมือตัวเอง

    น้องมาลีเล่าว่า น้องอยากนำเงินที่ได้มาจ่ายค่าเรียนบัลเล่ต์ ซึ่งคุณแม่ของน้องมาลีเล่าว่า น้องชอบเรียนบัลเล่ต์ คุณแม่กับน้องเลยคุยกันว่า อยากเปิดร้านขายของ แล้วนำเงินที่ได้มาจ่ายค่าเรียน ซึ่งตอนนี้น้องก็ได้เริ่มเรียนไปแล้ว

     

    จุดเริ่มต้นของการร้อยสร้อยลูกปัด

    คุณแม่เล่าว่า มีผู้ใหญ่ใจดีส่งของมาให้น้องมาลีลองทำ ช่วงที่น้องติดโควิด แล้วต้องอาศัยอยู่แต่ในห้อง แล้วไม่มีอะไรทำ พอได้ลองทำ น้องก็รู้สึกชอบ คุณแม่จึงเรียนรู้วิธีการทำใน Youtube เพิ่มเติม ก่อนที่จะนำความรู้ที่ได้มาช่วยสอนน้องอีกที 

     

    ชอบอะไรในการร้อยลูกปัดบ้าง

    น้องมาลีเล่าว่า น้องสนุกกับการได้เลือกดาว เลือกดอกไม้มาทำเป็นสร้อย

    หนูมาลีมีลูกแมวเหมียว ร้านสินค้าแฮนด์เมดของน้องมาลี ผู้เลี้ยงแมวถึง 11 ตัว

    ได้มาร่วมโปรเจกต์ครั้งนี้รู้สึกยังไงบ้าง

    น้องมาลีเล่าว่า น้องรู้สึกตื่นเต้น โดยมีคุณแม่ช่วยเสริมว่า ปกติแล้ว น้องจะไม่ค่อยอยากตื่นเช้าไปโรงเรียน แต่ถ้าวันไหนมีกิจกรรมที่น้องชอบ น้องก็จะตื่นขึ้นมาเตรียมตัวเองเลย สำหรับกิจกรรมในครั้งนี้ น้องรู้สึกตื่นเต้นตั้งแต่ตอนที่เริ่มเตรียมของแล้ว โดยมีคุณแม่คอยช่วยให้คำแนะนำว่า ถ้าจะออกร้านขายของต้องเตรียมอะไรบ้าง แล้วน้องก็จะมาช่วยกันเตรียม ช่วยกันจัด แสดงให้เห็นว่า จริง ๆ แล้วน้องมาลีชอบขายของมากเลย

     

    คุณแม่มีเทคนิคในการสอนลูกอย่างไรให้รู้จักการฝึกขายของ

    คุณแม่เล่าว่า ปกติที่บ้าน ขายของอยู่แล้ว เมื่อลูกเห็นคุณแม่ขายของออนไลน์เป็นอาชีพเสริม เห็นคุณแม่ถ่ายรูปสินค้า แพ็คของ ในทุกขั้นตอน คุณแม่ก็จะคอยเล่าให้ลูกฟังว่า เราจะเอาเงินที่ได้มาใช้ทำอะไรบ้าง โดยไม่ได้บังคับว่า ลูกจะต้องมาช่วย แต่ลูกก็ยินดีที่จะมาช่วยเอง เพราะรู้สึกสนุกที่ได้ทำ และอยากมีส่วนร่วมในการห่อของเตรียมจัดส่งให้ลูกค้า

    หนูมาลีมีลูกแมวเหมียว ร้านสินค้าแฮนด์เมดของน้องมาลี ผู้เลี้ยงแมวถึง 11 ตัว

    มีข้อคิดดี ๆ ในการสอนลูกเพื่อเป็นแนวทางให้คุณแม่ท่านอื่นบ้างไหม

    ตอนนี้น้องยังเด็ก อาจจะไม่ค่อยเข้าใจว่า การเก็บเงินคืออะไร แต่คุณแม่ก็พยายามจะสอนน้องอยู่เสมอ ว่าถ้าหนูจะไปโรงเรียน จะเรียนพิเศษ ทุกอย่างต้องใช้เงิน คุณแม่ต้องออกไปทำงานข้างนอก แล้วก็กลับบ้านมาขายของออนไลน์ เพื่อนำเงินตรงนี้มาใช้จ่าย ถึงแม้ว่าน้องจะไปทำงานที่ออฟฟิศแบบคุณแม่ไม่ได้ แต่ตรงนี้จะเป็นสิ่งเล็ก ๆ ที่น้องได้ลองทำ แล้วสามารถช่วยคุณแม่ได้ เมื่อน้องโตขึ้นอีกหน่อย คุณแม่ก็จะสอนให้น้องรู้จักการเก็บออมว่าเป็นอย่างไร ต้องทำอย่างไรบ้าง 

     

    คุณแม่คิดว่าน้องได้รับอะไรจากการร่วมโปรเจกต์ในครั้งนี้บ้าง

    การมาร่วมโปรเจกต์ในครั้งนี้เป็นการฝึกความอดทนของน้อง ตอนที่น้องยังเด็กกว่านี้ น้องเคยตามคุณแม่ไปออกบูธ น้องก็จะนั่งเล่นอยู่หลังบูธ แต่ครั้งนี้เป็นการฝึกความอดทนของน้องที่จะต้องออกบูธเอง คุณแม่ก็จะสอนน้องว่า ต้องอดทนนะ ต้องตื่นเช้านะ ต้องนั่งทั้งวันนะ ซึ่งน้องก็สามารถทำได้จริง ๆ 

    หนูมาลีมีลูกแมวเหมียว ร้านสินค้าแฮนด์เมดของน้องมาลี ผู้เลี้ยงแมวถึง 11 ตัว

    ในอนาคต อยากต่อยอดในด้านไหนอีกบ้าง

    คุณแม่เล่าว่า ช่วงนี้น้องยังมีความสุขกับการร้อยลูกปัดอยู่ แต่เราไม่รู้ว่า พอน้องโตขึ้นอีกหน่อย น้องอาจจะชอบวาดรูป อาจจะอยากทำสติ๊กเกอร์ไลน์ อย่างรูปวาดดอกไม้ของน้อง คุณแม่ก็นำมาทำโปสการ์ดให้ คุณแม่จะดูเป็นสเตปไปว่า ถ้าน้องชอบอะไรก็ไปต่อ พยายามจะบอกน้องว่า ทุกอย่างสามารถนำมาประยุกต์เป็นสินค้าเพื่อขายออนไลน์ได้นะ ซึ่งที่บ้านมีร้านขายของออนไลน์เป้นของตัวเองอยู่แล้ว พอผู้ใหญ่ที่รักน้องรู้ว่า ภายในร้านมีสินค้าของน้องมาลีด้วย ผู้ใหญ่ก็ช่วยสนับสนุนน้องเต็มที่

     

    อยากฝากอะไรถึงเพื่อน ๆ ที่อยากมาขายของแบบน้องมาลีบ้าง

    น้องมาลีบอกว่า อยากให้เพื่อน ๆ มาขายของด้วยกัน มาสนุกด้วยกันค่ะ 

    หนูมาลีมีลูกแมวเหมียว ร้านสินค้าแฮนด์เมดของน้องมาลี ผู้เลี้ยงแมวถึง 11 ตัว

    สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่อยากชวนลูกรักมาเปิดธุรกิจด้วยกัน สามารถติดตามข่าวสาร และกิจกรรมที่น่าสนใจจาก Amarin Baby & Kids กันได้เลย

     

    เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

     

    อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

    เอาใจแม่ขาช้อป! แฉ คำย่อ ขายของออนไลน์

    ขายของออนไลน์ เสื้อผ้ามือสอง งานเสริมคุณแม่ยุคใหม่ โล๊ะตู้ + ได้ตังค์

    Wabi Sabi Bake House ร้านขนมแห่งความสุข ที่เริ่มต้นจากความรัก

    Mission Vision ร้านหนังสือมือสองเพื่อช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส

    Star OTOP น้องสตาร์ จากธุรกิจแพปลาสู่ลูกชิ้นปลาแสนอร่อย

    สอนลูก การใช้เงินอย่างฉลาด สอนอย่างไรโตไปไม่ขัดสน

    เสื้อผ้าของเล่นลูกไม่ใช้อย่าทิ้งมา ทำบุญ ส่งต่อความสุขกัน

      ALLY KID’S DAY

      ALLY KID’S DAY 2023 รวมแหล่งกิจกรรมดีสุดว้าว! ยกกองทัพเครื่องเล่นจัดหนักรับวันเด็กแห่งชาติ

      ปักหมุดเป็นพื้นที่แจกความสุขในทุกเทศกาลสำหรับศูนย์การค้าในเครืออัลไล (ALLY) ที่อยู่ครอบคลุมกรุงเทพในทุกพื้นที่ ออกสตาร์ทส่งความสุขตั้งแต่ต้นปี 2566 ที่ยกขบวนความสนุกมาเสิร์ฟเยาวชนไทยเนื่องในวันเด็กแห่งชาติ โดยศูนย์การค้าในเครืออัลไล (ALLY) ทุ่มจัดกิจกรรมมากมายให้เด็กๆ ที่เต็มไปด้วยเอเนอจี้เหลือล้นได้มาปล่อยพลังไปกับสวนสนุกในจินตนาการ ใน งาน “ ALLY KID’S DAY 2023 รับรองว่าต้องร้องว้าว! กับเครื่องเล่นหลากหลายประเภทที่จัดมาให้แบบจุใจเรียกได้ว่าขนเครื่องเล่นมาแบบเยอะที่สุด เหมาะกับเด็กๆ ในหลายช่วงวัย คอนเฟิร์มเลยว่าทั้ง Fun และ มันส์ พร้อมสร้างรอยยิ้มให้กับทุกครอบครัวได้มีช่วงเวลาคุณภาพและเป็นวันแห่งความประทับใจ

      ALLY KID’S DAY คิดให้แล้ว รวมแหล่งกิจกรรมดีที่ต้องบอกต่อ
      สุดว้าว! ทัพเครื่องเล่นจัดหนักรับวันเด็กแห่งชาติ
      เต็มอิ่มมหกรรมความสนุก จัดเต็มจุใจจากศูนย์การค้าในเครืออัลไล (ALLY)

      กวินทร์ เอี่ยมสกุลรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เค.อี.รีท แมเนจเมนท์ จำกัด กล่าวว่า “ทางศูนย์การค้าในเครืออัลไล (ALLY) ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ให้ครอบครัวได้มาใช้เวลาร่วมกัน พร้อมส่งความสุขในทุกเทศกาลเอาใจทุกเพศ ทุกวัย มีความพร้อมอย่างยิ่งที่จะส่งความสุขให้กับทุกคน ประเดิมกิจกรรมรับต้นปี 2566 เนื่องในโอกาส วันเด็กแห่งชาติ โดยเด็กๆ ถือเป็นอนาคตของชาติที่จะเติบโตต่อไป การได้มอบประสบการณ์และความทรงจำดีๆ ในช่วงวัยเด็กที่ได้ทำร่วมกับครอบครัว นับเป็นสิ่งที่ล้ำค่าและประเมินค่าไม่ได้ ทางศูนย์การค้าในเครืออัลไล (ALLY) จึงได้จัดเต็มขนขบวนเครื่องเล่นหลากหลายประเภทให้เด็กๆ ได้มาสนุกและปล่อยพลังอย่างเต็มที่ไปพร้อมกับเพื่อนใหม่ในวัยเดียวกัน สร้างความทรงจำดีๆ ในอีกปี นอกจากความสนุก ความสุขของเด็กๆ ที่จะได้รับกลับบ้านแล้ว ยังเป็นการได้ใช้เวลาอย่างมีคุณภาพร่วมกับครอบครัว ที่ทางศูนย์การค้าในเครืออัลไล (ALLY)  ภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนในการเติมความสุขในครั้งนี้ โดยสามารถร่วมกิจกรรมได้ในศูนย์การค้าต่างๆ ที่อยู่ครอบคลุมในทุกพื้นที่ เดินทางสะดวกสบาย”

      ALLY KID’S DAY

      เปิดลิสต์ “ ALLY KID’S DAY ” แบบไม่ต้องคิดเยอะ มาที่เดียวมีครบทุกความสนุก ได้ทั้งความสุข รอยยิ้ม และฝึกพัฒนาการผ่านกิจกรรมต่างๆ ไปในตัว ที่สำคัญยังเป็นการเปิดโลกจินตนาการของเด็กๆ ไปพร้อมก๊วนพี่กระต่าย Bunny และผองเพื่อนที่มารอต้อนรับให้ได้สนุกไปด้วยกัน

      แลนด์มาร์กของความสุขในย่านถนนประดิษฐ์มนูธรรม “เดอะคริสตัล เอกมัย-รามอินทรา” จัดเต็มด้วยกิจกรรมมากมาย และเครื่องเล่นที่ชวนให้เด็กๆ ได้ตื่นตา ตื่นใจกับ ม้าหมุน, บ้านลมไพเรท, บ้านลม Candy, ขบวนรถไฟ และ Meltdown Game ที่สนุกได้เต็มที่ ปล่อยพลังได้แบบสุดขีด พร้อมลุ้นรับของรางวัลต่างๆ กลับบ้าน เปิดพื้นที่ส่งความสุขเต็มอิ่ม 2 วันเต็ม! ในวันที่ 14 – 15 มกราคม 2566 สามารถรับบัตรเข้าร่วมกิจกรรมเมื่อช้อปสะสมภายในวันครบ 3,000.- (1 สิทธิ์ / ท่าน / วัน) แลกรับสิทธิ์ได้ที่จุดประชาสัมพันธ์ ชั้น 1หรือ ซื้อบัตรเพื่อร่วมเล่นกิจกรรม (มูลค่ารวม 1,500 บาท) ในราคา 450 บาท พิเศษ! เมื่อสแกนลงทะเบียนลดเหลือ 200 บาท สนุกได้ทั้งวันตั้งแต่เวลา 10.00 – 20.00 น. ณ ลานกิจกรรมหน้าศูนย์การค้า เดอะคริสตัล เอกมัย-รามอินทรา แถมยังได้ฟินไปกับบอลลูนที่มาเติมสีสันในงาน

      ALLY KID’S DAY

      เดอะคริสตัล ราชพฤกษ์ พร้อมจัดหนักความสนุกให้กับเด็กๆ พบเครื่องเล่นที่ตั้งโดดเด่นให้ได้มากระโดดแบบสุดเหวี่ยงทั้งบ้านลม, เรือโจรสลัด, บ้านลมเรือฉลาม, บ้านลมเสือ, เรือสั่น และ ม้าหมุน ที่เรียกได้ว่าเป็นสนามเด็กเล่นสุดพิเศษที่ขนมาส่งความสนุกให้เด็กๆ พร้อมด้วยบอลลูนสุดว้าวให้เด็กๆ ได้ตะลึง ในวันที่ 14 – 15 มกราคม 2566 สามารถรับบัตรเข้าร่วมกิจกรรมเมื่อช้อปสะสมภายในวันครบ 3,000.- (1 สิทธิ์ / ท่าน / วัน) แลกรับสิทธิ์ได้ที่จุดประชาสัมพันธ์ ชั้น 1หรือ ซื้อบัตรเพื่อร่วมเล่นกิจกรรม (มูลค่ารวม 1,500 บาท) ในราคา 450 บาท พิเศษ! เมื่อแสกนลงทะเบียนลดเหลือ 200 บาท สนุกได้ทั้งวันตั้งแต่เวลา 10.00 – 20.00 น. ณ วงเวียนนางฟ้า หน้าร้าน Starbucks เดอะคริสตัล ราชพฤกษ์

      ALLY KID’S DAY

      อีกหนึ่งสถานที่ที่รวมเครื่องเล่นสุดอลังการ ชวนให้ตื่นตา ตื่นใจ สำหรับ “เดอะคริสตัล ชัยพฤกษ์” จัดเต็มคาราเบลด้วยเครื่องเล่นที่ถูกใจเด็กๆ มันส์กันจนลืมเหนื่อย ไม่ว่าจะเป็น Euro Bungy, Rock Mountain, Rodeo Ball, Kids Boat, Dart Game, Ball Toss และ Water Duck โดยสามารถเล่นกิจกรรมฟรี เมื่อสแกนลงทะเบียน หรือรับบัตรเข้าร่วมกิจกรรมเมื่อช้อปสะสมในวันครบ 1,500.- (1 สิทธิ์ / ท่าน/ วัน)

      สามารถแลกรับสิทธิ์ได้ที่จุดประชาสัมพันธ์ ชั้น1 ล็อคคิวมาเจอกัน 2 วันจุกๆ 14 – 15 มกราคม 2566 ตั้งแต่เวลา 10.00 – 20.00 น. พบกัน ณ ลานกิจกรรมหน้าศูนย์การค้า เดอะคริสตัล ชัยพฤกษ์

      ALLY KID’S DAY

      ALLY KID’S DAY

      เพลินไปกับอีกหนึ่งพื้นที่ที่ยกเครื่องเล่นมาให้ได้เหล่าเด็กๆ ได้ปล่อยพลังกันแบบหมดแม็กซ์ อย่าง“เพลินนารี่” อึ้งไปกับเครื่องเล่นที่ท้าพลังและสุดชิลล์ให้ได้เพลินไปกับบรรยากาศภายในงาน ทั้ง ชิงช้าสวรรค์, บ้านลมช้าง, Water Ball และ Go Kart ให้ได้ขับมันส์กันสุดเหวี่ยง โดยสามารถเล่นกิจกรรมฟรี เมื่อสแกนลงทะเบียน หรือรับบัตรเข้าร่วมกิจกรรมเมื่อช้อปสะสมในวันครบ 1,500.- (1 สิทธิ์ / ท่าน/ วัน) สามารถแลกรับสิทธิ์ได้ที่จุดประชาสัมพันธ์ ชั้น1 เพลินเต็มอิ่ม 14 – 15 มกราคม 2566 ตั้งแต่เวลา 10.00 – 20.00 น. ณ ลานกิจกรรมหน้าศูนย์การค้า เพลินนารี่

      ALLY KID’S DAY

      สีสันที่ขาดไม่ได้ในงานวันเด็กโดยทุกศูนย์การค้าจะมีการแต่งแต้มเติมความสดใสให้งานสนุกขึ้นอีกเท่าตัว ด้วยเหล่า Mascot สุด Cute มาให้โอบกอด ถ่ายรูป และเล่นกันอย่างอิ่มใจ พร้อมด้วยโบโซ่ที่แต่งตัวสุดแฟนซี ขนสารพัดของเล่นมาแจกความสุขให้กับเด็กๆ และยังได้ฟินไปกับสายไหมหลากสีของหวานโดนใจเด็กๆ  ที่เป็นพร็อพถ่ายรูปก็เก๋ ทานก็อร่อย จัดเต็มแบบนี้ล็อคคิวมาเจอกันได้ที่ศูนย์การค้าในเครืออัลไล (ALLY) ซึ่งอยู่ครอบคลุมกรุงเทพในทุกพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นย่านรามอินทราอย่าง อมอรินี่ รวมถึงย่านวังทองหลางที่ยกให้ เดอะซีน พร้อมด้วย สัมมากร เพลส ราชพฤกษ์ และ สัมมากร เพลส รามคำแหง ที่ปักหมุดรอเสิร์ฟความสนุกบริเวณลานกิจกรรมชั้น 1 ทุกศูนย์การค้า ส่วนแอมพาร์ค เปิดพื้นที่ความสนุก ณ ลานวงปรี ยกขบวนครอบครัวมาเติมความสุขแบบจุกๆ และให้ปล่อยพลังในวันเด็กแห่งชาติ 14 มกราคม 2566 ตั้งแต่ 10.00 – 18.00 น.

      สะดวกที่ไหน พุ่งตรงไปได้ รับรองว่าวันเด็กแห่งชาตินี้จะได้รอยยิ้มกลับบ้าน เล่นมันส์จนลืมเหนื่อยกับเครื่องเล่นสุดอลังการที่จัดอย่างจุใจเพื่อเป็นของขวัญวันเด็กให้กับเยาวชนคนสำคัญของชาติได้เติมความสุข แต่งแต้มประสบการณ์ชีวิต ซึ่งเชื่อว่าวันเด็กนี้คนที่ยิ้มได้กว้างไปพร้อมกับลูกๆ หลานๆ ก็เป็นคุณพ่อ – คุณแม่ และครอบครัวที่ได้เห็นความสุขของเจ้าตัวน้อยที่ได้ร่วมสนุกกับกิจกรรมจากทางศูนย์การค้าในเครืออัลไล (ALLY)

        หัวเว่ย

        หัวเว่ย จัดโปรแนะนำ 2 แก็ดเจ็ตสุดฮิต โดนใจเซอร์ไพรส์วันเด็ก เสริมพัฒนาการทั้งเรียนและเล่น

        หัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป (ประเทศไทย) แนะนำ 2 แก็ดเจ็ตสุด อัจฉริยะสำหรับใครที่กำลังมองหาของขวัญเซอร์ไพรส์ในวันเด็กที่กำลังจะมาถึงนี้ เริ่มด้วย HUAWEI MatePad SE 10.4” แท็บเล็ตหน้าจอใหญ่ระดับ 2K เสมือนเพื่อนคู่ใจลูกน้อยช่วยเสริมสร้างทักษะการเรียนรู้และจิตนาการได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ผู้ปกครองสามารถวางใจกับโหมดช่วยดูแลการใช้งานแท็บเล็ตอย่างเหมาะสมผ่าน Kids Corner และ HUAWEI WATCH KIDS 4 Pro สมาร์ทวอทช์สำหรับเด็กผู้ช่วยดูแลทั้งความปลอดภัยและสุขภาพของลูกน้อย ติดตั้งกล้องในตัวความละเอียด 5 MP ที่สามารถถ่ายทั้งภาพและวิดีโอคอลได้คมชัดระดับ HD พบกับโปรพิเศษลดสูงสุดกว่า 29% พร้อมของแถมมูลค่าสูงสุดถึง 1,439 บาท และรับคูปองส่วนลดสูงถึง 100 บาท เมื่อสั่งซื้อตั้งแต่ 8 มกราคม 2566 ถึง 11 มกราคม 2566 ที่ HUAWEI Store และร้านค้าอย่างเป็นทางการของหัวเว่ยบน Shopee และ Lazada  กดใส่ตะกร้ารอเลย!

        หัวเว่ย

        HUAWEI MatePad SE 10.4” แท็บแล็ตจอใหญ่ จัดเต็มคอนเทนต์เพื่อการเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ของเจ้าตัวน้อย

        รับชมภาพเต็มตาด้วยหน้าจอ HAUWEI FullView Display ขนาด 10.4 นิ้ว ทำให้ภาพถ่ายและวิดีโอแสดงผลได้ชัดเจนยิ่งขึ้น สีสันสมจริงด้วยความละเอียดสูง 2K   หมดห่วงกับความปลอดภัยต่อดวงตาสำหรับเด็ก เพราะหัวเว่ยได้นำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยปกป้องดวงตาในหลายระดับโดยผ่านการรับรองจาก TÜV Rheinland ในการปรับสีให้เหมาะกับคอนเทนต์ที่เปิดใช้ การช่วยลดแสงสีฟ้าและลดการกะพริบของหน้าจอ  พ่อแม่ผู้ปกครองวางใจได้ว่า เด็กๆ จะใช้เทคโนโลยีอย่างปลอดภัยด้วยโหมด Kids Corner ที่มาพร้อมฟีเจอร์ Parental Control ที่ช่วยให้พ่อแม่สามารถจัดการและดูแลการใช้งานแท็บเล็ตของลูกได้ตั้งแต่ ระยะเวลาการใช้ต่อเนื่อง จะคอยช่วยดูแลและส่งสัญญาณเตือนเด็กๆ เมื่อใช้แท็บเล็ตในท่าทางและสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม เช่น การนอน หรือ การดูจอใกล้เกินไป รวมทั้งเลือกตั้งค่าแอปพลิเคชันที่อนุญาตให้ใช้ และกำหนดคอนเทนต์ต่างๆ ที่เด็กจะสามารถรับชมได้ อีกทั้งยังมีนํ้าหนักเบาพกพาสะดวก ทนทานหยิบจับถนัดมือ ทนต่อการงอและหน้าจอแตก HUAWEI MatePad SE 10.4 (4+64GB WiFi) ราคาเพียง 5,999 บาท จากปกติ 7,490 บาท พร้อมรับฟรีกระเป๋า Canvas Bag มูลค่า 790 บาท (เพียง 30 ออเดอร์แรก) เมื่อสั่งซื้อตั้งแต่ 8 มกราคม 2566 ถึง 11 มกราคม 2566 ที่ HUAWEI Store และร้านค้าอย่างเป็นทางการของหัวเว่ยบน Shopee และ Lazada

        หัวเว่ย

        HUAWEI WATCH KIDS 4 Pro สมาร์ทวอทช์เพื่อนคู่ใจของเด็กๆ ในวัยแห่งการเรียนรู้และเติบโต

        มาในดีไซน์ที่สดใสและสนุกสนานอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีติดตั้งกล้องในตัวความละเอียด 5 MP ที่สามารถถ่ายรูปและวิดีโอคอลได้คมชัดระดับ HD  รองรับการใช้งานนาโนซิมการ์ด 4G รับสายและโทรออกได้โดยตรงผ่านสมาร์ทวอทช์โดยไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน รองรับระบบติดตามตำแหน่ง 9 ระบบ ที่จะทำงานร่วมกับเทคโนโลยี Network Positioning Algorithm ซึ่งพัฒนาโดยหัวเว่ย ทำให้สามารถตรวจจับและระบุตำแหน่งของเด็กๆ ได้อย่างแม่นยำ และจะส่งสัญญาณแจ้งเตือนผ่านแอปพลิเคชัน HUAWEI FamCare หากเด็กๆ กำลังไปในสถานที่ผิดแปลกไปจากเส้นทางเดิม พร้อมโหมดออกกำลังกายกีฬาฮิตและมาตรฐานกันน้ำ 5 ATM ส่งเสริมให้เด็กๆ ทำกิจกรรมกลางแจ้งเพื่อพัฒนาการที่ดีของทั้งสมองและร่างกาย HUAWEI Watch Kids 4 Pro ราคาเพียง 4,799 บาท จากปกติ 6,490 บาท พร้อมรับฟรีตุ้กตา Baby Panda มูลค่า 649 บาท (เพียง 30 ออเดอร์แรก) เมื่อสั่งซื้อตั้งแต่ 8 มกราคม 2566 ถึง 11 มกราคม 2566 ที่ HUAWEI Store และร้านค้าอย่างเป็นทางการของหัวเว่ยบน Shopee และ Lazada

        หัวเว่ยจัดให้ซื้อคู่กันประหยัดกว่า

        ประหยัดสูงสุด 3,382 บาท เมื่อซื้อ HUAWEI MatePad SE 10.4 (4+64GB WiFi) คู่กับ HUAWEI WATCH KIDS 4 Pro ตั้งแต่ 8 มกราคม 2566 ถึง 11 มกราคม 2566 ที่ HUAWEI Store และร้านค้าอย่างเป็นทางการของหัวเว่ยบน Shopee และ Lazada

         

        ***หมายเหตุ: เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรโมชันได้ด้านล่าง

        HUAWEI Store: https://bit.ly/3GgyFE0

        Lazada: https://bit.ly/3X4ZjpY

        Shopee: https://shp.ee/dyk45kq

          ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์

          ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ รีสอร์ท ต้อนรับคณะทัวร์กลุ่มแรกจากไทย พร้อมจุดประกายมนตร์มหัศจรรย์ขึ้นอีกครั้ง 

          พาลูกเที่ยวต่างประเทศ @ ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ ชวนครอบครัวนักท่องเที่ยวชาวไทยบินลัดฟ้าสัมผัสจุดหมายปลายทางสุดพิเศษกับแคมเปญ #WhatsNext โอบกอดกลิ่นอายแห่งเวทมนตร์ที่คิดถึง ด้วยโปรคอมโบสุดลิมิตเต็ด บัตรเข้าสวนสนุก 1 วัน และ “Disney Premier Access” รับหยุดยาวสงกรานต์หน้า

           ข่าวดีหลังมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดในฮ่องกงผ่อนคลายลง นักท่องเที่ยวและแฟนดิสนีย์ตัวยงจากไทยเฮ…เตรียมพร้อมบินตรงสู่ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์รีสอร์ท (รีสอร์ท)  สนุกสุขสันต์ไปกับทริปจุดประกายมนตร์มหัศจรรย์ขึ้นอีกครั้ง พร้อมมันส์เต็มที่ไปกับเครื่องเล่นที่คุ้นเคย ดื่มด่ำความสุขไปกับเหล่าตัวละครดิสนีย์แสนรัก และตื่นเต้นรับเซอร์ไพรส์ครั้งใหม่ ณ สถานที่ที่จะมอบความสุขให้แบบเปี่ยมล้น ในครั้งนี้ ข้อเสนอสุดพิเศษจากโรงแรมและบัตรเข้าสวนสนุกพร้อมเปิดโอกาสให้ทุกคนได้เพลิดเพลินไปกับประสบการณ์แสนสนุก ด้วยโปรโมชั่นคอมโบ “Reignite the Magic จุดประกายมนตร์มหัศจรรย์ขึ้นอีกครั้ง” อย่าง บัตรเข้าสวนสนุก 1 วัน และ “Disney Premier Access” ให้สามารถใช้ทางเข้าพิเศษสำหรับเครื่องเล่นยอดนิยมบางเครื่องของฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ (HKDL) ได้

          ตอนนี้นักท่องเที่ยวที่เพิ่งเดินทางมาถึงไม่จำเป็นต้องกักตัวอีกต่อไป แถมยังสามารถตรงไปยังสถานที่ท่องเที่ยวและร้านอาหารต่างๆ ทั่วฮ่องกงได้ทันที นอกจากนี้ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ยังได้ให้การต้อนรับการกลับมาของกรุ๊ปทัวร์กลุ่มแรกจากประเทศไทยไปเมื่อ 17 ถึง 18 ธันวาคม ที่ผ่านมา ลูกค้าทุกคนต่างตื่นตาตื่นใจกับการเซอร์ไพรส์และการบริการจากใจที่
          รีสอร์ท ก่อนเดินทางต่อเพื่อชมสถานที่ท่องเที่ยวใจกลางเมือง ข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับข้อปฏิบัติการท่องเที่ยวในฮ่องกงสามารถอ่านได้ที่ https://www.chp.gov.hk/en/features/102788.html

           

          เวทมนตร์แห่งดิสนีย์โฉมใหม่กำลังรอคุณอยู่!

          พบกับความอลังการของ Castle of Magical Dreams โฉมใหม่ ที่จะมาเป็นฉากหลังให้กับการแสดงช่วงกลางวันที่ผ่านการร้อยเรียงขึ้นใหม่อย่าง “Follow Your Dreams ตามฝันของคุณ” และการแสดง “Momentous” มหัศจรรย์เเสงสีเเห่งราตรี ที่แปลกใหม่ไม่เหมือนเคย มาร่วมรับชมและตื่นตาตื่นใจไปกับการแสดงที่จะทำให้ค่ำคืนของคุณลุกโชนไปด้วยความสุขไม่รู้ลืม พร้อมปิดฉากวันที่น่าจดจำอย่างน่าประทับใจ!

           

          Castle of Magical Dreamsความโชติช่วงแห่งฮ่องกงดิสนีย์แลนด์

          ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์

          ผลงานชิ้นเอกอย่างปราสาท Castle of Magical Dreams ได้เปิดตัวในปี 2563 เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 15 ปี ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ จุดประกายจากความกล้าที่จะฝันและหยัดยืนในสิ่งที่เชื่อจนเจิดจรัสเป็นสัญญะแห่งความกล้าหาญ ความหวัง และความเป็นไปได้

          ดีไซน์และสถาปัตยกรรมของปราสาทหลังนี้ผสานรวมลักษณะเฉพาะตัวผ่านการตีความในแง่ของสี ไอคอน สัญลักษณ์ ลวดลาย และลักษณะทางวัฒนธรรม โดยได้รับแรงบันดาลใจจากเรื่องราวของเจ้าหญิงและราชินีดิสนีย์รวม 13 เรื่องราว

          ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์

          แน่นอนว่านี่เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของดิสนีย์ที่มีการพลิกโฉมปราสาทอย่างยิ่งใหญ่ขนาดนี้ พร้อมเปิดประตูต้อนรับให้ทุกคนได้เข้าไปสัมผัสกับสถาปัตยกรรมอันแสนโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์นี้ด้วยตนเองแล้ว โดยทุกคนจะได้พบปะทักทายกับเจ้าหญิงและพระราชินีของดิสนีย์ที่พวกเขาชื่นชอบภายใน “The Royal Reception Hall หรือ โถงรับรองหลวง อบอุ่นด้วยการตกแต่งภายในที่มีทั้งความประณีตและหรูหรา เสริมด้วยพรมและรูปปั้นทองสัมฤทธิ์ขนาดเล็กที่เป็นตัวแทนของเหล่าฮีโร่สาวที่เป็นที่ชื่นชอบและเป็นแรงบันดาลใจให้กับการออกแบบปราสาทในครั้งนี้ นอกจากนั้น ทุกคนยังจะได้เข้าเยี่ยมชม “Enchanted Treasures หรือ ห้องพระคลังอันงดงาม” ซึ่งเป็นร้านเครื่องประดับ Chow Tai Fook ภายใน Castle of Magical Dreams แห่งแรกที่ช่างฝีมือจาก Chow Tai Fook นักอัญมณีชื่อดัง ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นนักอัญมณีประจำราชสำนัก ผู้มีหน้าที่รังสรรค์ของที่ระลึกและสมบัติอันล้ำค่าทุกชิ้นของทางราชอาณาจักร

          “Follow Your Dreams ตามฝันของคุณ”…ปาร์ตี้ดนตรีสดกลางแจ้งครั้งแรก

          ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์

          เต็มอิ่มกับการแสดงดนตรีสดกลางแจ้งกว่า 20 นาที ที่จะมาสาดความสุขเคล้าเสียงเพลงและท่วงทำนองอันทรงพลัง เพลงใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวไปมีชื่อว่า “Follow Your Dreams ตามฝันของคุณ” ซึ่งไม่เพียงแต่ผสานรวมจิตวิญญาณอันสูงส่งของเพลงดิสนีย์เท่านั้น แต่ยังย้ำเตือนให้ผู้ชมทุกคนตระหนักถึงการไล่ตามความฝันและการไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค นอกจากนี้ ยังได้มีการรังสรรค์และเรียงร้อยบทเพลงที่เป็นที่รู้จักมากมายขึ้นมาใหม่ เพื่อสร้างประสบการณ์ความไพเราะเสนาะหูในแบบที่ไม่เคยได้สัมผัส ครอบคลุมหลากหลายแนวเพลง ไม่ว่าจะเป็นแบบแดนซ์อิเล็กทรอนิกส์ K-Pop ไปจนถึงเพลงประเภทอื่นๆ อีกนับไม่ถ้วน

           Momentous…การแสดงสุดตราตรึงใจ

          ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์

          การแสดงยามค่ำคืนรูปแบบใหม่ Momentous มหัศจรรย์เเสงสีเเห่งราตรี เปิดตัวไปเมื่อเดือนมิถุนายนปีนี้ และนับเป็นประสบการณ์ยามค่ำคืนที่ยอดเยี่ยมที่สุดในฮ่องกง ด้วยความมหัศจรรย์และแสงสีเสียงที่หลายคนรอคอย พร้อมจุดประกายให้ท้องฟ้ายามค่ำคืนสว่างไสวไปด้วยเสียงเพลงและช่วงเวลาที่น่าจดจำความยาว 20 นาที

           

          ด้วยการเล่าเรื่องที่ทรงพลังและอบอุ่นหัวใจ ทำให้ “Momentous” สร้างความสำราญให้กับคุณในทุกอณูด้วยการใช้เทคนิคมัลติมีเดียที่น่าตื่นตาตื่นใจ รวมไปถึงเทคโนโลยีการฉายภาพขนาดใหญ่ น้ำพุร่ายระบำ การฉายแสงจากผืนน้ำ เลเซอร์ แสงไฟแบบโรงละคร พลุ และเอฟเฟกต์ดอกไม้ไฟ พร้อมด้วยเรื่องราวที่พร้อมให้บอกเล่ากว่า 6 ตอน “Momentous” จึงไม่เพียงแต่จะทำให้ Castle of Magical Dreams อันแสนโดดเด่นนี้มีชีวิตขึ้นเท่านั้น แต่ยังจะนำพาทุกคนไปพบกับการเดินทางแบบไม่รู้ลืมอีกด้วย การแสดงสุดตระการตาเช่นนี้จะช่วยย้ำเตือนเราว่าเวลามีค่าเพียงใดและจงให้คุณค่ากับทุกช่วงเวลาที่เรามีร่วมกับคนที่รัก

          พบปะเพื่อนพ้องดิสนีย์อีกครั้ง

          ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์

          เพื่อนพ้องดิสนีย์จะต้องตื่นเต้นไม่น้อยที่จะได้ต้อนรับการกลับมาของเราทุกคน! ไม่ว่าจะเป็นมิกกี้ เมาส์ ซูเปอร์
          ฮีโร่จากมาร์เวล ไปจนถึงดัฟฟี่และผองเพื่อน พร้อมเพื่อนใหม่ล่าสุด จิ้งจอกสุดน่ารัก LinaBell ได้เตรียมเซอร์ไพรส์ที่เหนือการคาดเดาเพื่อเฉลิมฉลองให้กับโอกาสพิเศษ และจะมาสร้างความทรงจำอันล้ำค่าไปด้วยกัน

          ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์

          ยิ่งไปกว่านั้น คุณยังจะได้พบกับตัวละครอื่นๆ อีกมากมายที่จะปรากฎตัวในการแสดง “Follow Your Dreams” ไม่ว่าจะเป็น มิกกี้ เมาส์ และผองเพื่อน อย่าง มินนี่ เมาส์ โดนัลด์ดั๊ก เดซี่ดั๊ก กู๊ฟฟี่ โพคาฮอนทัส โมอาน่า และเอลซ่า รวมถึง
          มิเกลจาก Coco นิคและจูดี้ จาก Zootopia อย่าลืมเก็บภาพช่วงเวลาอันมหัศจรรย์ไปกับ เพื่อนพ้องดิสนีย์ในชุดการแสดงที่ต้องห้ามพลาด

          ความสนุกไม่รู้จบตลอดปี 2566 ที่ ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์

          ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์

          ปี 2566 จะเป็นปีต้องมนตร์และน่าจดจำ เต็มอิ่มไปกับกิจกรรมอันดื่มด่ำตามฤดูกาลแบบนับไม่ถ้วนไปกับเรา เริ่มตั้งแต่การฉลองครบรอบดิสนีย์ 100 ปี ไปจนถึงการเปิดให้เข้าชมดินแดนน้ำแข็งแห่งแรกของโลกที่ทุกคนรอคอยอย่าง World of Frozen ในช่วงครึ่งหลังของปี 2566 และยิ่งไปกว่านั้น ขอเชิญทุกท่านมาพบกับรูปปั้นวอลต์ ดิสนีย์ และมิกกี้ เมาส์ ที่จะมาตั้งตระหง่านให้ได้ชมกันในปีที่จะถึงนี้!

          ห้ามพลาดโอกาสแห่งความมหัศจรรย์พร้อมข้อเสนอดีๆ จากที่นี่

          เพื่อต้อนรับการกลับมาของนักท่องเที่ยว ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ได้คัดสรรข้อเสนอที่น่าสนใจเพื่อเปิดรั้วต้อนรับชาวไทยทุกคนสู่สถานที่สุดมหัศจรรย์ไว้ดังนี้

          ข้อเสนอรายละเอียดURL การจอง
          ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ “Reignite the Magic จุดประกายมนตร์มหัศจรรย์ขึ้นอีกครั้ง” แพ็กเกจคอมโบประกอบด้วย บัตรเข้าสวนสนุก 1 วัน และ”Disney Premier Access”แพ็กเกจประกอบด้วย:

          ·        บัตรเข้าฮ่องกงดิสนีย์แลนด์แบบทั่วไป 1 วันจำนวน 1 ใบ

          ·        Disney Premier Access สำหรับ 3 เครื่องเล่น จำนวน 1 ใบ

           

          โปรโมชันมีจำนวนจำกัด กฎเกณฑ์และเงื่อนไขเป็นไปตามที่กำหนด

           

          KKDay:
          https://www.kkday.com/th/product/2301-hong-kong-disneyland-ticketKlook:
          https://www.klook.com/th/activity/39-hong-kong-disneyland-resort-hong-kong/

          Traveloka:
          https://www.traveloka.com/th-th/activities/hong-kong/product/hong-kong-disneyland-2001919164724

          Trip.com:
          https://www.trip.com/travel-guide/attraction/hong-kong/hong-kong-disneyland-10558849

           

          พิเศษกว่าเดิมด้วย ด้วยโปรโมชันพิเศษสำหรับพักที่โรงแรม 2 คืน (รับส่วนลดสูงถึง 30% เมื่อชำระล่วงหน้า) และสามารถซื้อตั๋วเข้าสวนสนุกแบบพิเศษ “2-Day Fun – 2 วันแห่งความสนุก” ได้แล้วทางเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ https://www.hongkongdisneyland.com/offers-discounts/  กฎเกณฑ์และเงื่อนไขเป็นไปตามที่กำหนด

           

          ################################################

          ทางรีสอร์ทจะยังคงยึดถือมาตรการด้านสุขภาพและความปลอดภัยมาเป็นอันดับแรก

          ทางรีสอร์ทจะดำเนินการตามมาตรการด้านสุขภาพและความปลอดภัยต่อไป อันได้แก่ การตรวจวัดอุณหภูมิ การสวมหน้ากากอนามัย และการเว้นระยะห่างทางสังคม รวมถึงเพิ่มการทำความสะอาดและการฆ่าเชื้อ โดยอ้างอิงขั้นตอนจากระเบียบที่บังคับใช้ล่าสุด  จะมีการทบทวนคำแนะนำของรัฐบาลและหน่วยงานด้านสุขภาพ การดำเนินงานของสวนสนุกและการจัดการที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง และอาจมีการปรับเปลี่ยนตามความจำเป็น โดยคำนึงถึงระเบียบฉบับล่าสุดของทางรัฐบาลที่จะประกาศให้ทราบ

          ทั้งนี้ ทางฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ขอความกรุณาให้นักท่องเที่ยวทุกท่านทำความเข้าใจและปฏิบัติตามข้อกำหนดล่าสุด ที่ประกาศโดย ข้อมูลสุขภาพและความปลอดภัย ใน https://www.hongkongdisneyland.com/guest-services/health-and-safety/ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปฏิบัติตามข้อกำหนด ต่อไปนี้เมื่อมาเยี่ยมชมสวนสนุกของเรา

          1. ปฏิบัติตามข้อกำหนดว่าด้วยการฉีดวัคซีน “Vaccine Pass” ตามที่กฎหมายบัญญัติ
          2. ซื้อบัตรและจองการเข้าสวนสนุกล่วงหน้าได้สูงสุด 90 วันก่อนการเข้าชม ทางเว็บไซต์ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์
          3. ยืนยันว่าตนไม่มีไข้หรือมีอาการทางระบบทางเดินหายใจ
          4. ให้ความร่วมมือในการคัดกรองอุณหภูมิก่อนเข้าสวนสนุก และ
          5. สวมหน้ากากอนามัยระหว่างการเยี่ยมชม ยกเว้นเมื่อรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มในสถานที่ที่จัดไว้ให้ หรือพื้นที่นอกภายอาคารในสวนสนุก

          เกี่ยวกับฮ่องกงดิสนีย์แลนด์รีสอร์ท

          ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ รีสอร์ท ส่งมอบประสบการณ์แบบฉบับดิสนีย์ที่มีความโดดเด่นทางวัฒนธรรมที่น่าจดจำให้กับผู้เข้าชมทุกเพศทุกวัยจากทั่วโลก สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยเรื่องราวและตัวละครดิสนีย์ที่คุณชื่นชอบ เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้สำรวจดินแดนอันหลากหลายถึงเจ็ดโซน ซึ่งเป็นที่ตั้งของจุดท่องเที่ยวและแหล่งรวมความบันเทิงที่เป็นเอกลักษณ์และได้รับการการันตีด้วยรางวัล นอกจากนั้น คุณยังสามารถเติมเต็มการผจญภัยครั้งนี้ได้ด้วยการเข้าพักที่รีสอร์ทดิสนีย์สุดหรู อย่างไรก็ตาม ความมหัศจรรย์ไม่ได้สิ้นสุดแต่เพียงเท่านั้น ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์รีสอร์ท ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของชุมชนที่อุทิศตนเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของสังคม ได้ถ่ายทอดความมหัศจรรย์ผ่านโครงการเพื่อการบริการในชุมชน โดยให้ความช่วยเหลือแก่ครอบครัวที่ต้องการ ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ในกลุ่มเด็ก ๆ และครอบครัว ไปจนถึงผลักดันให้เกิดการปกป้องสิ่งแวดล้อมและสร้างแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตให้มีสุขภาพที่ดีขึ้น


          แอปพลิเคชันมือถือที่จะให้ข้อมูลอัปเดตล่าสุดและช่วยวางแผนการเยี่ยมชมของคุณ
          แอปพลิเคชันบนมือถือ Hong Kong Disneyland ช่วยเตรียมพร้อมนักท่องเที่ยวสำหรับความสนุกสนานทั้งหมดที่จะเกิดขึ้น ณ ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์รีสอร์ท ตั้งแต่ช่วงเวลาทำการปกติ ไปจนถึงตารางความบันเทิงสุดพิเศษ จองเข้าชมสวนสนุกและรับ Disney Standby Pass เพื่อมาพบกับเพื่อนพ้องดิสนีย์กันได้แล้ววันนี้ นอกจากนี้ คุณยังสามารถใช้แผนที่ในระบบ GPS เพื่อเต็มอิ่มไปกับทุกเส้นทางรอบสวนสนุก หรือทำการจองร้านอาหารและห้องพัก ทำให้ทุกช่วงเวลามีค่าและสมกับการรอคอย สมาชิก Magic Access ยังสามารถเข้าดูวันที่ทางสวนสนุกให้สิทธิพิเศษแก่สมาชิกเพื่อให้ได้สนุกไปกับเครื่องเล่นได้อย่างเต็มที่ ด้วยเป้าหมายที่จะทำให้ทริปของคุณอบอวลไปด้วยมนตร์ขลังสุดอลังการมากยิ่งขึ้น ลงทะเบียน MyDisney เพื่อรับข่าวสาร,ข้อเสนอ และโปรโมชันล่าสุดของ Hong Kong Disneyland
          ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันบนมือถือ Hong Kong Disneyland ได้ฟรี:
          iOS: https://itunes.apple.com/app/id1077550649
          Android: https://goo.gl/ZbHHbP
            ยาคุมกินแล้วไม่อ้วน

            ยาคุมกินแล้วไม่อ้วน แนะวิธีเลือกยา คุมได้ไม่อ้วนไม่บวม

            ยาคุมกินแล้วไม่อ้วน กินแบบไหน ยี่ห้ออะไร มาดูคำแนะนำวิธีเลือกยาคุม ที่คุมกำเนิดได้ แถมไม่บวม ไม่อ้วนให้กังวลใจ เพื่อสาวๆที่ยังไม่พร้อมจะมีลูก

            ยาคุมกินแล้วไม่อ้วน แนะวิธีเลือกยา คุมได้ไม่อ้วนไม่บวม

            การทานยาคุมกำเนิด (Birth control pill) เป็นวิธีคุมกำเนิดที่บรรจุฮอร์โมนเพศหญิง คือ เอสโตรเจน (Estrogen) และโปรเจสเตอโรน (Progesterone) เพื่อออกฤทธิ์ต่อการทำงานของอวัยวะสืบพันธุ์ยับยั้งการตกไข่ ซึ่งเป็นวิธีที่ค่อนข้างได้รับความนิยม เพราะสามารถซื้อได้ง่าย หากรับประทานยาถูกวิธีจะทำให้สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ แต่มีคนไม่น้อยที่มีความเชื่อผิด ๆ หรือรับประทานยาคุมกำเนิดที่ผิดวิธี ซึ่งอาจนำมาถึงปัญหาการตั้งครรภ์ได้

            รอบรู้เรื่อง…ยาคุม

            ประเภทของยาคุมกำเนิด

            ยาคุมกำเนิดมี 3 ชนิด คือ ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเดี่ยว และยาคุมกำเนิดชนิดเม็ดแบบฉุกเฉิน โดยมีรายละเอียดดังนี้

            • ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม (Combined Oral Contraceptive – COC) จะประกอบด้วยฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสโตเจนรวมกันในเม็ดเดียว โดยยาคุมชนิดนี้จะมีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์สูงมาก หากรับประทานอย่างสม่ำเสมอ และยังมีผลดีทำให้ประจำเดือนมาตรงเวลาอย่างสม่ำเสมอ อาจปวดประจำเดือนน้อยลงได้
            • ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเดี่ยว (Progestrogen-only pills – POP) จะมีฮอร์โมนโพรเจสเตอโรนเพียงอย่างเดียว ยาคุมชนิดนี้ในหนึ่งแผงจะมีทั้งหมด 28 เม็ด รับประทานได้ทุกวันโดยไม่ต้องหยุด เมื่อรับประทานหมดแล้วก็สามารถรับประทานแผงใหม่ต่อได้เลย เป็นชนิดที่ผลิตออกมาเพื่อลดอาการข้างเคียงจากฮอร์โมนเอสโตรเจน
            • ยาคุมกำเนิดชนิดเม็ดแบบฉุกเฉิน (Emergency contraception pill) มักใช้เฉพาะในยามฉุกเฉิน เช่น ถุงยางแตก หรือรั่ว เป็นต้น
              ยาคุมกำเนิด ยาคุมกินแล้วไม่อ้วน สำหรับผู้ที่ยังไม่พร้อมมีบุตร
              ยาคุมกำเนิด ยาคุมกินแล้วไม่อ้วน สำหรับผู้ที่ยังไม่พร้อมมีบุตร

               

            วิธีรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิดแบบแผง 21,22 เม็ด

            ให้เริ่มรับประทานยาในวันแรกของรอบเดือน (อาจเริ่มรับประทานยาช้ากว่านี้ได้ แต่ต้องไม่เกินวันที่ 5 ของรอบประจำเดือน) รับประทานยาติดต่อกันทุกวันจนหมดแผง ในเวลาใดก็ได้แต่ควรรับประทานเวลาเดียวกันทุกวัน จากนั้นหยุดยา 7 วัน สำหรับผู้ที่ใช้ยาชนิด 21 เม็ด และ หยุด 6 วัน สำหรับผู้ที่ใช้ยาชนิด 22 เม็ด ในระหว่างนี้ควรมีเลือดประจำเดือนมา และเมื่อหยุดยาครบ 7 วัน หรือ 6 วัน ให้เริ่มรับประทานยาแผงใหม่ได้ ถึงแม้ว่าประจำเดือนจะหมดหรือยังก็ตาม

            วิธีรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิดแบบแผง 28 เม็ด

            ให้เริ่มรับประทานยาในวันแรกของรอบประจำเดือนเช่นกัน โดยรับประทานยาเม็ดแรกในส่วนที่ระบุบนแผงว่าเป็นจุดเริ่มต้นใช้ยา และรับประทานตามวันกำกับตามทิศลูกศรจนหมดแผง และเริ่มรับประทานยาแผงใหม่ต่อได้ทันที ถึงแม้ประจำเดือนจะหมดหรือยังก็ตาม

            ช่วยด้วย!! ลืมกินยาคุม

            เนื่องจากยาเม็ดคุมกำเนิด เป็นยาที่ต้องรับประทานติดต่อกันทุกวัน การลืมรับประทานยาเป็นเรื่องที่พบบ่อยๆ แม้ว่าไม่เป็นอันตรายแต่ก็มีผลเสีย เช่น ทำให้ผู้ใช้มีเลือดออกกระปริบกระปรอย และถ้าลืมบ่อยๆ อาจเกิดการตั้งครรภ์ได้ จึงควรรับประทานยาในเวลาเดียวกันทุกวัน เก็บยาในที่เห็นง่ายๆ เพื่อช่วยเตือนไม่ให้ลืมรับประทานยา

            หากลืมกินยาคุม ให้รีบทำตามดังนี้

            1. หากลืมรับประทานยา 1 เม็ด ให้รับประทานยาทันทีที่นึกได้ และรับประทานเม็ดต่อไปตามปกติ
            2. หากลืมกินยา 2 เม็ด ติดต่อกันในช่วง 2 สัปดาห์แรก ให้รับประทานยาครั้งละ 2 เม็ด ติดต่อ 2 วัน และรับประทานยาต่อไปตามปกติจนหมดแผง ให้ใช้ถุงยางอนามัย ร่วมด้วย หรืองดร่วมเพศ 7 วัน
            3. ลืมกินยา 2 เม็ด ติดต่อกันในช่วงสัปดาห์ที่ 3 หรือลืมมากกว่า 2 เม็ด ในช่วงใดก็ตามให้หยุดยาแผงนั้นจนกว่าจะมีเลือดประจำเดือน จึงเริ่มยาแผงใหม่ ให้ใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยหรืองดร่วมเพศ ตั้งแต่เริ่มหยุดยา จนรับประทานยาแผงใหม่ไปได้ 2 สัปดาห์

            ข้อแนะนำในการรับประทานยาคุม

            • ควรรับประทานยาคุมกำเนิดในเวลาเดิมทุกวัน หากลืมทานยาให้ทำตามคำแนะนำข้างต้น
            • ห้ามรับประทานยาคุมกำเนิดหลังวันหมดอายุที่แจ้งไว้บนแผงยา
            • ควรงดการสูบบุหรี่ เพราะการสูบบุหรี่เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำ เนื่องจากยาคุมกำเนิดมีฮอร์โมนที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคลิ่มเลือดอุดตัน
            • หากมีอาการท้องเสีย ถ่ายเหลว และอาเจียนจะมีผลทำให้การดูดซึมของยาน้อยลง จึงควรใช้วิธีการคุมกำเนิดอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ใช้ถุงยางอนามัย เป็นต้น
            • สำหรับสตรีให้นมบุตร ควรใช้ยาคุมกำเนิดชนิดที่มีฮอร์โมนโปรเจสโตเจนเพียงอย่างเดียว

            ยาคุมกำเนิดอาจเป็นตัวช่วยเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ที่ให้ผลดี แต่ยาคุมกำเนิดไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ และค่อนข้างมีผลข้างเคียงมากกว่าการป้องกันด้วยวิธีอื่น ดังนั้นการรับประทานยาคุมควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์เพื่อความปลอดภัย และป้องกันผลข้างเคียงที่อาจตามมาได้

            ความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับ…ยาคุมกำเนิด

            ความเชื่อเกี่ยวกับยาคุม ยาคุมกินแล้วไม่อ้วน
            ความเชื่อเกี่ยวกับยาคุม ยาคุมกินแล้วไม่อ้วน

            ความเชื่อที่ 1 ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินกินแล้วไม่ท้อง 100%

            เป็นความเชื่อที่ XXX

            ถึงแม้ว่ายาคุมฉุกเฉินเนี้ยจะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้ แต่ว่าเราต้องอย่าลืมว่าไม่มียาคุมตัวไหนที่สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 100% โดยยาคุมกำเนิดแบบฉุกเฉินจะมีโอกาสในการป้องกันน้อยกว่ายาคุมปกติพอสมควร ควรใช้ในยามจำเป็นเท่านั้น เช่น ลืมกินยาคุมแบบปกติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเรารับประทานยาคุมฉุกเฉินได้อย่างไม่ถูกวิธี ประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์เนี้ยก็จะยิ่งลดลงไปอีก เช่น ไม่ได้กินยาคุมฉุกเฉินหลังจากที่มีเพศสัมพันธ์มาแล้วภายใน 72 ชั่วโมง รับประทานยาคุมฉุกเฉินแบบชนิดสองเม็ดแต่ลืมกินเม็ดที่สอง เป็นต้น ตัวอย่างนี้เป็นพฤติกรรมการกินยาคุมฉุกเฉินที่ผิด จะทําให้เรามีโอกาสเสี่ยงในการตั้งครรภ์มากขึ้น

            ความเชื่อที่ 2 กินยาคุมฉุกเฉินทำให้เป็นมะเร็ง

            เป็นความเชื่อที่ XXX

            ยาคุมกำเนิดแบบฉุกเฉินไม่ได้มีผลทำให้เกิดมะเร็งแต่อย่างใด แต่ผู้ที่เป็นโรคมะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก มะเร็งรังไข่ ไม่ควรรับประทานเพราะฮอร์โมนที่รับประทานอาจเพิ่มการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งได้

            ความเชื่อที่ 3 กินยาคุมแล้วทำให้มีลูกยากในอนาคต

            เป็นความเชื่อที่ XXX

            ความเชื่อที่ว่าผู้หญิงที่กินยาคุมกําเนิดมาเป็นระยะเวลานาน แล้วจะทําให้มดลูกเราแห้ง ส่งผลให้เรามีลูกยาก เป็นความเชื่อที่ผิด จริงๆ แล้วการที่เรามีลูกยาก เป็นเพราะว่าฮอร์โมนในร่างกายของเราไม่สมดุล ไม่ได้เป็นเพราะว่ายาคุมกําเนิดแต่อย่างใด หากเราหยุดรับประทานยาคุมกําเนิดแล้ว ร่างกายจะปรับสมดุลให้การเกิดประจําเดือนแล้ว ก็การไข่ตกเป็นปกติภายใน 1-2 เดือน เพียงแต่ประจําเดือนอาจจะมาน้อยลงเท่านั้น เพราะว่าร่างกายของเราเคยชินกับการที่รับประทานยาคุมมาเป็นระยะเวลานาน แต่พอหยุดกินยาคุมไข่ของเราก็จะตกได้ตามปกติ ไม่ส่งผลให้เกิดภาวะมีบุตรยากแต่อย่างใด ดังนั้น หากเราหยุดรับประทานยาคุมกําเนิดแล้ว เราก็จะสามารถตั้งครรภ์ได้ตามปกติ

            อ่านต่อ >>ความเชื่อเกี่ยวกับยาคุมกำเนิด ความเชื่อไหนจริง ความเชื่อไหนเฟค อยากรู้ คลิกหน้า 2

             

            เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

             

              ฝันเห็นพระสงฆ์ ทำนายฝัน

              ฝันเห็นพระสงฆ์ พระอริยสงฆ์บุญพาวาสนาส่ง รับคำทำนายฝัน

              ฝันเห็นพระสงฆ์ ผู้ทรงศีล พระอริยสงฆ์ แบบนี้เป็นฝันดี หรือลางบอกเหตุอันใด เรารวมคำทำนายฝัน ฝันเห็นพระ ฝันเห็นพระพุทธรูป มาไว้ให้คุณที่นี่!!

              ฝันเห็นพระสงฆ์ พระอริยสงฆ์บุญพาวาสนาส่ง รับคำทำนายฝัน!!

              พระอริยสงฆ์ ได้แก่ พระสงฆ์ที่บรรลุมรรคผล เป็นพระอริยบุคคลในพระพุทธศาสนา จัดเป็นคู่ๆ ได้ 4 คู่ คือ พระโสดาบัน 1 คู่ พระสกทาคามี 1 คู่ พระอนาคามี 1 คู่ และพระอรหันต์ 1 คู่ เรียกตามที่ได้บรรลุมรรค 4 ผล 4 เป็นอริยบุคคล 8 ดังนี้

              • คู่ที่ 1 พระโสดาปัตติมรรค พระโสดาปัตติผล
              • คู่ที่ 2 พระสกทาคามิมรรค พระสกทาคามิผล
              • คู่ที่ 3 พระอนาคามิมรรค พระอนาคามิผล
              • คู่ที่ 4 พระอรหัตตมรรค พระอรหัตตผล

              ที่เรียกอริยสงฆ์ก็เพราะท่านเหล่านี้เป็นผู้บริสุทธิ์ เป็นผู้ประเสริฐยิ่งในทางพระพุทธศาสนา

              อริยบุคคล หมายถึง บุคคลผู้ประเสริฐ ทางพุทธศาสนาถือว่าความเป็นพระอริยบุคคลนั้น กำหนดได้ด้วยการละสังโยชน์ (กิเลสที่ผูกมัดสัตว์) ไว้ในภพ ใครละได้น้อยก็เป็นอริยบุคคลชั้นต่ำ เมื่อละได้มากก็เป็นพระอริยบุคคลชั้นสูงขึ้น ใครละได้หมดก็เป็นพระอรหันต์ สังโยชน์มี 10 อย่าง เทียบตามส่วนที่พระอริยบุคคล ละได้เป็นลำดับดังนี้

              ฝันเห็นพระสงฆ์
              ฝันเห็นพระสงฆ์

              1. พระโสดาบัน ละสิ่งดังต่อไปนี้

              1) สักกายทิฏฐิ – ความเห็นว่าร่างกายเป็นของตน
              2) วิจิกิจฉา – ความสงสัยว่าพระรัตนตรัยดีจริงหรือ
              3) ศีลพตปรามาส – การเชื่อพิธีกรรมทางไสยศาสตร์

              เมื่อบรรลุเป็นพระโสดาบัน ยังต้องเวียนว่ายตายเกิดอีกไม่เกิน 7 ชาติ แล้วจะบรรลุนิพพาน คือพระอรหันต์

              2. พระสกทาคามี ละขั้นพระโสดาบัน แต่จิตคลายจากราคะ โทสะ และโมหะมากขึ้น เมื่อบรรลุเป็นพระสกทาคามี จะเกิดอีกครั้งเดียว

              3. พระอนาคามี ละขั้นพระโสดาบัน พระสกทาคามี และรวมอีก 2 คือ

              4) กามราคะ – ความติดใจในกามารมณ์
              5) ปฏิฆะ – ความขัดเคืองใจ

              เมื่อบรรลุเป็นพระอนาคามี จะเลิกครองเรือน ประพฤติพรหมจรรย์ ตายแล้วจะไปเกิดในพรหมโลก

              4. พระอรหันต์ ละขั้นพระโสดาบัน พระสกทาคามี พระอนาคามี และรวมอีก 5 คือพระอริยบุคคล

              6) รูปราคะ – ความติดใจในรูป เช่นชอบของสวยงาม
              7) อรูปราคะ – ติดใจในของไม่มีรูป เช่นความสรรเสริญ
              8) มานะ – ความยึดถือว่าตัวเป็นนั่นเป็นนี่ เช่นติดในสมณศักดิ์
              9) อุทธัจจะ – ความฟุ้งซ่านแห่งจิต ไม่สงบใจ
              10) อวิชชา – ความไม่รู้อริยสัจสี่

              เมื่อบรรลุเป็นพระอรหันต์ หากสิ้นชีวิตแล้วจะไม่เกิดอีก

              ฝันเห็นพระสงฆ์ พระอริยสงฆ์

              เห็นได้ว่า พระสงฆ์ พระอริยสงฆ์ เป็นผู้ปฏิบัติดี ปฎิบัติชอบ เมื่อใดที่คุณฝันเห็นพระสงฆ์แล้วนั้น ย่อมเป็นฝันที่ดี เนื่องจากพระก็คือสิ่งที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจ เป็นสัญลักษณ์ของพระพุทธศาสนา และเป็นตัวแทนอันสูงสุดของพระพุทธเจ้าซึ่งเป็นมงคลสูงสุดของชีวิตชาวพุทธ ดังนั้นไม่ว่าคุณจะฝันถึงพระในรูปแบบไหนผลสุดท้ายก็คือความเป็นมงคล และโชคลาภทั้งสิ้น

              ฝันเห็นพระ ฝันเห็นพระสงฆ์
              ฝันเห็นพระ ฝันเห็นพระสงฆ์

              คำทำนายฝัน…ฝันเห็นพระสงฆ์

              การฝันเป็นพระสงฆ์นั้นจะนับว่าเป็นฝันดี เนื่องจากพระสงฆ์นั้นเป็นสาวกของพระพุทธเจ้าและเป็น 1 ในพระรัตนตรัยอันมีความสำคัญต่อพระพุทธศาสนา การเห็นพระสงฆ์ในความฝันนั้นตีความหมายได้โดยรวมว่าคุณจะได้รับพรอันเป็นมงคล สิ่งที่คิดไว้ในใจจะได้ดั่งปรารถนา หากมีความทุกข์ ปัญหาหรือเคราะห์กรรมต่าง ๆ ในช่วงนี้ก็จะผ่อนคลายหายหมดสิ้น นอกจากนี้พระสงฆ์ยังถือเป็นตัวแทนของสติปัญญาและทางสว่าง สำหรับท่านใดกำลังศึกษาเล่าเรียน หรือกำลังสอบแข่งขันก็จะสมหวังในที่สุด

              เลขเด็ดนำโชค : 82, 88, 72, 882, 228, 27

              นอกจากนี้หากคุณจำ รายละเอียดของความฝันได้ เรามีคำทำนายฝันแม่น ๆ เจาะลึกมาฝากกัน

              ฝันเห็นพระสงฆ์

              ทำนายว่า ครอบครัวจะร่มเย็นเป็นสุข ตัวผู้ฝันจะมีความก้าวหน้าในด้านการงาน ทำมาค้าขายได้กำไร และมีโชคลาภจากการเสี่ยงโชค

              ฝันเห็นพระสงฆ์ 1 รูป

              ทำนายว่า คนป่วยในบ้านจะอาการดีขึ้น ผู้ฝันได้รับข่าวดีเรื่องการงาน มีผู้ใหญ่ยื่นมือเข้าช่วยเหลือเรื่องเงินทอง แต่สำหรับคนมีคู่ให้ระวังปัญหาทะเลาะเบาะแว้งกับคนรัก

              ฝันเห็นพระสงฆ์ 2 รูป

              ทำนายฝันว่า มีเกณฑ์ได้ลาภจากการเสี่ยงโชค การค้าขายได้กำไรดี แต่ให้ระวังเรื่องความสัมพันธ์ อาจมีเรื่องให้ร้อนใจ ส่วนคนโสดมีเกณฑ์ได้พบคนถูกใจ

              ฝันเห็นพระสงฆ์หลายรูป

              ทำนายว่า มีปัญหาหนักใจที่ไม่รู้จะปรึกษาใครดี ชีวิตช่วงนี้จะมีอุปสรรคเข้ามาบ้าง อาจมีเรื่องร้อนใจจากเพศตรงข้าม

              ฝันเห็นพระธุดงค์

              ทำนายฝันว่า เป็นความฝันที่มีความหมายดี หากเป็นผู้หญิงจะได้พบเนื้อคู่ หากเป็นผู้ชายจะมีเรื่องที่เป็นข่าวดีเข้ามาในชีวิต

              ฝันเห็นพระสงฆ์เดินบิณฑบาต

              ทำนายว่า จะได้รับโชคจากการเสี่ยงโชค เป้าหมายที่เคยมุ่งหวังไว้จะประสบความสำเร็จ

              ฝันว่าถวายภัตตาหารแก่พระสงฆ์

              ทำนายว่า ชีวิตจะมีความเปลี่ยนแปลงในด้านต่างๆ ควรใช้ชีวิตอย่างรอบคอบมีสติ ให้ระวังเรื่องคำพูดเพราะอาจขัดใจผู้อื่นจนเกิดปัญหาได้ อาจได้รับความช่วยเหลือจากคนแปลกหน้า

              คำทำนายฝัน… ฝันเห็นพระพุทธรูป

              หากใครฝันเห็นพระพุทธรูป พระปฎิมากร เป็นความฝันอันประเสริฐ ความทุกข์ ความกังวล เคราะห์กรรมที่คุณกำลังเผชิญอยู่จะหมดไป รวมถึงยังมีโอกาสได้รับลาภลอยมาเป็นโชคลาภให้กับคุณด้วย เรื่องดี ๆ ที่ไม่คาดฝันจะบังเกิดกับคุณ การงานจะมั่นคงอย่างต่อเนื่อง ผลบุญที่ทำมาจะก่อให้เกิดความสุขร่มเย็นกับตัวคุณเอง สำหรับผู้ที่ทำมาค้าขายก็จะเจริญรุ่งเรือง ด้านสุขภาพก็จะอยู่เย็นเป็นสุขหมดโรคหมดโรคภัย

              เลขเด็ดนำโชค : 9,92, 94, 99, 199, 992

              ฝันเห็นพระพุทธรูปโบราณ

              การฝันเห็นพระพุทธรูปโบราณ ถือว่ามีบุญที่ได้เห็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หากกำลังวางแผนมีบุตร อาจได้บุตรชาย

              ฝันเห็นพระพุทธรูป 1 องค์

              การฝันเห็นพระพุทธรูป 1 องค์ มีความหมายว่าอาจได้รับข่าวดีเรื่องหน้าที่การงาน โชคลาภที่มีจะเพิ่มพูนเข้ามาเรื่อยๆ ไม่ขาดสาย เหมาะแก่การขยับขยายธุรกิจ

              ฝันเห็นพระพุทธรูป 2 องค์

              การฝันเห็นพระพุทธรูป 2 องค์ อาจหมายถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาดลใจ ให้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ หากเป็นผู้ที่เพิ่งแต่งงาน อาจหมายถึงผู้มีบุญกำลังจะมาเกิด

              ฝันเห็นพระพุทธรูป
              ฝันเห็นพระพุทธรูป

              ฝันเห็นพระพุทธรูปเศียรขาด

              การฝันเห็นพระพุทธรูปเศียรขาด บางคนเชื่อว่าเกิดจากการบนบานไว้แต่ไม่ได้แก้ อาจมีเคราะห์เรื่องครอบครัวทะเลาะเบาะแว้ง หรือเสียเงิน เสียทอง

              ฝันเห็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่สีทอง

              ความเชื่อเรื่องการฝันเห็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ มักมีข่าวดีเรื่องบุตร หากเป็นหญิง คาดว่ากำลังจะมีครรภ์

              อ่านต่อ >> มีบุญใหญ่ บุญนำพาวาสนาส่งแน่นอน หาก ฝันเห็นพระสงฆ์ ดูคำทำนาย คลิกหน้า 2

               

              เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

               

                นิทานไทย

                นิทานไทย นิทานพื้นบ้านไทย พร้อมคติสอนใจ

                นิทาน นิทานกล่อมนอน เล่านิทาน อ่านนิทาน นิทานพื้นบ้าน นิทานไทย กิจกรรมครอบครัว กิจกรรมเสริมสร้างความอบอุ่นในครอบครัว ส่งเสริมพัฒนาการ

                นิทานไทย นิทานพื้นบ้านไทย พร้อมคติสอนใจ

                การอ่านนิทาน ให้ลูกฟังก่อนนอน นอกจากทำให้ลูก ๆ สนุกสนานเพลิดเพลินไปกับเนื้อเรื่องแล้ว ยังเป็นกิจกรรมที่ช่วยส่งเสริมพัฒนาการทางด้านภาษา ความคิด และจินตนาการ ทีมกองบรรณาธิการ ABK จึงขอนำเสนอ นิทานไทย นิทานพื้นบ้าน ที่มีข้อคิดสอนใจดี ๆ มาฝากคุณพ่อคุณแม่ในวันนี้ค่ะ

                นิทานไทย นิทานพื้นบ้านไทย พร้อมคติสอนใจ

                เรื่อง พิกุลทอง

                กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วมีหญิงสาวสวย คนหนึ่งชื่อว่า “พิกุล” …กล่าวกันว่าเธอมีความสวยทั้งหน้าตาและ กิริยามรรยาท มารดาของเธอตายตั้งแต่เธอยังเล็กมาก ดังนั้นเธอจึงได้รับการเลี้ยงดูจากแม่เลี้ยงซึ่งเธอเองก็มีลูกสาวคนหนึ่ง ชื่อว่า “มะลิ” …แต่ก็โชคร้ายที่ว่าทั้งแม่เลี้ยงและลูกสาวของเธอนั้นเป็นคนใจร้าย ทั้งคู่จะบังคับให้พิกุลทำงานหนักทุกวัน

                อยู่มาวันหนึ่ง หลังจากตำข้าวเสร็จแล้ว …พิกุลก็ออกไปตักน้ำที่ลำธารซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านนัก ในขณะเดินทางกลับ …ทันใดนั้นก็มีหญิงชราคนหนึ่งปรากฏอยู่เบื้องหน้าของพิกุลและขอน้ำเธอดื่ม พิกุลดีใจมากที่ได้ช่วยหญิงชราคนนั้น …เธอเอาน้ำให้หญิงชราและบอกให้เธอเอาน้ำไปอีกเพื่อจะได้ล้างหน้า และล้างตัวให้สดชื่น พิกุลบอกหญิงชราว่าไม้ต้องห่วงเพราะถ้าน้ำไม่พอเธอจะไปตักมาอีก …หญิงชรายิ้มและกล่าวว่า “เธอนี่นอกจากจะสวยแล้วยังใจดีอีกถึงแม้ว่าฉันจะดูยากจน และมอมแมมเธอก็ปฏิบัติกับฉันเป็นอย่างดี”

                หลังจากกล่าวชื่นชมพิกุลแล้ว …หญิงชราก็ให้พรวิเศษกับเธอ และด้วยอำนาจของพรวิเศษนี้จะทำให้ดอกพิกุลทองคำร่วงออกมาจากปากของเธอ …เมื่อใดก็ตามที่เธอรู้สึกสงสารใครหรือสิ่งใด …หลังจากหญิงชราให้พรวิเศษแก่พิกุลแล้ว ก็หายวับไปต่อหน้าต่อตาของเธอ …พิกุลก็รู้ทันทีว่าแท้ที่จริงแล้วหญิงผู้นั้นเป็นนางฟ้าจำแลงมาให้พรวิเศษแก่ตน …ทันทีที่กลับถึงบ้านช้า เธอก็ถูกแม่เลี้ยงดุด่าว่าไปเถลไถลเพื่อหนีงาน ดังนั้นพิกุลจึงเล่าเรื่องทั้งหมด ให้ผู้เป็นแม่เลี้ยงฟังพร้อมกับเกิดความรู้สึกสงสารใน …ขณะเล่าจึงทำให้ดอกพิกุลทองคำร่วงออกมาจากปากของเธอด้วย …แม่เลี้ยงจอมละโมบก็เปลี่ยนอารมณ์จากโกรธเป็นละโมบในทันทีพร้อมกับตะครุบดอกพิกุลทองทั้ง หมดไว้ในขณะที่ปากก็สั่งให้พิกุลพูดต่อไปเรื่อย ๆ เพื่อสนองความละโมบของเธอนั่นเอง

                นับจากวันนั้นเป็นต้นมา แม่เลี้ยงของพิกุลก็เก็บรวบรวมดอกพิกุลทองคำไว้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อนำไปขายและได้เงินมามากมาย ชีวิตทุกคนตอนนี้ก็มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น พิกุลเองก็ไม่ต้องทำงานหนักเหมือนแต่ก่อน แต่ก็ถูกบังคับให้พูดทั้งวันเพื่อให้ดอกพิกุลทองคำออกมาจากปากของเธอมากๆ นั่นเอง …พิกุลทองอ่อนล้าไปกับการตอบสนองความละโมบของแม่เลี้ยง ตอนนี้พิกุลเองเกิดเจ็บคอและกลายเป็นคน เสียงแหบเสียงแห้งไปเลย เธอพูดไม่ได้ไประยะหนึ่ง …อาการเช่นนี้ทำให้แม่เลี้ยงโมโหมากขึ้นจนถึงขั้นตบตี พิกุลเพื่อพยายามยังคับให้เธอพูดแต่พิกุลก็พูดไม่ได้แม้แต่คำเดียว

                … เพื่อตอบสนองความละโมบของตน ตัวแม่เลี้ยงเองจึงตัดสินใจส่งลูกสาวของตนนามว่ามะลิไปทำตามอย่างพิกุลบ้าง … มะลิถูกส่งไปยังสถานที่เดียวกับที่พิกุลบอกไว้แต่ว่าแทนที่จะได้พบกับหญิง ชราก็กลับเป็น พบหญิงสาวสวยสวมเสื้อผ้างดงามยืนอยู่ใต้ร่มใหญ่ หญิงสาวผู้นั้นขอน้ำมะลิดื่มแต่ด้วยความริษยามะลิแสดงอาการโกรธและคิดว่า หญิงผู้นั้นไม่ใช่นางฟ้า เธอจึงปฏิเสธและใช้วาจาหยาบคายด่าทอนางฟ้าจำแลง …ดังนั้น นางฟ้าจึงสาปแช่งมะลิว่า เมื่อใดก็ตามที่เธอโกรธและพูดออกมาแล้วไซร้ ก็จะมีหนอนร่วงออกมาจากปากของเธอ เมื่อกลับมาถึงบ้านมะลิก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้ผู้เป็นแม่ฟังและด้วยความโกรธ ในขณะ เล่าเรื่องนั้นก็ทำให้บ้านทั้งหลังเต็มไปด้วยตัวหนอน ผู้เป็นแม่คิดว่าพิกุลอิจฉาลูกสาวของตน ดังนั้นจึงแกล้งบิดเบือนเรื่องที่เล่าจึงเป็นเหตุให้ลูกสาวของตนไม่ได้พบกับ หญิงชราแม่เลี้ยงจึงทุบตีพิกุลและไล่เธอออกจากบ้านไป

                ด้วยความเสียใจอย่างสุดซึ้งพิกุลจึงท่องเที่ยวไปในป่า แต่เพียงลำพัง โชคดีที่ว่าเธอเดินไปในทิศทางที่ เจ้าชายหนุ่มกำลังเพลิดเพลินอยู่กับการขี่ม้าประพาสป่ากับข้าราชบริพารผ่าน มาพอดีเมื่อทอดพระเนตรเห็นสาวนั่งร้องไห้อยู่ทรงถามเรื่องราวความเป็นมาทั้ง หมด ทันทีที่พูดจบที่บริเวณนั้นก็เต็มไปด้วยดอกพิกุลทองคำ …เจ้าชายดีพระทัยยิ่งนัก จึงขอนางอภิเษกสมรสด้วยและหลังจากการอภิเษกสมรสทั้งสองพระองค์ก็ได้ ขึ้นครองราชย์และปกครองเมืองของพระองค์ด้วยความร่มเย็นเป็นสุขตลอดมา

                นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
                1. จากเค้าเรื่องนิทานนี้จึงเป็นต้นกำเนิดของสำนวนไทยเปรียบเปรยคนที่ไม่ค่อยพูดหรือมักพูดอุบอิบอยู่แต่ในปากว่า “กลัวดอกพิกุลจะร่วง”
                2. “การคิดดีทำดี …ย่อมได้รับสิ่งที่ดีตอบสนองเสมอ” …อย่างเช่น พิกุล

                 

                นิทานไทย
                นิทานไทย

                 

                 

                เรื่อง นางแตงอ่อน

                ที่เมืองนครศรี เจ้าเมืองนามว่าพระยาโกศรี มเหสีนามว่า ทองแดง มีโอรสนามว่า มหาวงศ์ ท้าวมหาวงศ์ชอบกีฬาชนไก่ วันหนึ่งไปต่อไก่ในป่ากับขุนสี่คน คือ ขุนเครือ ขุนคาน ขุนเค่ง และขุนทุ่มภู่ ได้ธิดาจระเข้ชื่อนางแตงอ่อน ผู้มีรูปกายเป็นมนุษย์มาเป็นมเหสี นางแตงอ่อนประสูติโอรส เมื่อท้าวมหาวงศ์ไปคล้องช้างในป่า นางจึงถูกหมู่มเหสีทั้งหลายเปลี่ยนโอรสของนางเป็นจรเข้ และโอรสจริงเอาไปลอยน้ำ เทพธิดาจึงนำไปเลี้ยงไว้บนสวรรค์ และตั้งชื่อว่า”สุริยง

                ส่วนนางแตงอ่อนถูกสามีขับไล่ออกจากเมืองเพราะประสูติโอรสเป็นจระเข้ …นางแตงอ่อนกลับไปเมืองนาค …พบกุมภาพี่ชายของตนปกครองเมืองนาคสืบต่อจากบิดา …พี่ชายกุมภารู้ข่าวด้วยความสงสาร ได้มอบเมืองให้กอระกันผู้เป็นน้องชายปกครองต่อ …ส่วนตนกับแตงอ่อน ได้บวชเป็นฤาษี …เพื่อเรียนวิชาไว้แก้แค้นมหาวงศ์ ซึ่งขับไล่น้องสาวตน

                สุริยงได้ศึกษาวิชาการต่างๆ และได้ลงมาพบว่า…มารดาตนถูกยักษ์ลักพาตัวไป…จึงได้ตามมารดาคืน และรบกับยักษ์จนได้ชัยชนะ…สุริยงได้นางปทุมมา นางอินทะวงศ์ นางหยาดคำ และนางคำไหล เป็นภริยา ซึ่งยักษ์นั้นได้ลักพาตัวมาไว้…และสุริยงก็ได้พามารดากลับบ้านเมือง…มหาวงษ์ได้ทราบความจริงว่านางแตงอ่อนถูกใส่ร้ายและสุริยงคือลูกของตน…พ่อแม่ลูกได้พบกันแล้วเข้าใจกัน …ทั้งสามคนจึงได้อยู่ด้วยกันอย่างสุขสันต์ในบั้นปลายชีวิต และครองคู่เมืองนครศรีสืบมา

                 

                 อ่านต่อ…นิทานไทย นิทานพื้นบ้านไทย พร้อมคติสอนใจ คลิกหน้า 2

                 

                เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                  3 ขวบ

                  กุญแจสำคัญ 3 ขวบ ปีแรก เลี้ยงลูกอย่างไรให้ พัฒนาการดี สมองดี มีความสุขไปจนโต

                  3 ขวบ ปีแรก – แน่นอนว่าการเป็นพ่อแม่ถือเป็นหนึ่งในงานที่ยากที่สุดในโลก โดยเฉพาะการเลี้ยงลูกให้เป็นเด็กฉลาด สมองดี พัฒนาการดี ย่อมเป็นงานที่ท้าทายไม่น้อยสำหรับคนเป็นพ่อแม่  แม้ยังไม่มีการศึกษาอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับวิธีเลี้ยงลูกให้ประสบความสำเร็จ แต่ในความเป็นจริง มีหลายวิธีที่พ่อแม่สามารถกระตุ้นสมองของลูกน้อยและใช้กิจกรรมประจำวันเป็นโอกาสในการเรียนรู้ที่ยอดเยี่ยมของเด็กๆ โดย เฉพาะในช่วง 3 ขวบปีแรก

                  กุญแจสำคัญ 3 ขวบ ปีแรก เลี้ยงลูกอย่างไรให้ พัฒนาการดี สมองดี มีความสุขไปจนโต

                  ทารกเป็นหนึ่งในเครื่องมือการเรียนรู้ที่สมบูรณ์แบบที่สุดของธรรมชาติ ด้วยข้อมูลเพียงเล็กน้อยทารกสามารถได้รับการกระตุ้นสมองอย่างง่ายด่ย การเริ่มต้นพัฒนาการของทารกตั้งแต่เนิ่นๆ สามารถสร้างสิ่งมหัศจรรย์สำหรับการเติบโตทางจิตใจในปีต่อๆ ไป และย่อมมีส่วนช่วยให้พวกเขาเริ่มต้นได้ดีกว่าเด็กคนอื่นๆ ในวัยเดียวกัน ซึ่งคุณไม่จำเป็นต้องให้ลูกเข้าชั้นเรียนใดๆ เพื่อหวังที่จะพัฒนาพัฒนาการทางสมองของลูกน้อย เพราะมีวิธีง่ายๆ ที่คุณสามารถทำได้เองในการโต้ตอบกับเด็กและช่วยพวกเขาในการพัฒนาสมอง พัฒนาอารมณ์ และจิตใจเพื่อการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีความสุขในอนาคต สิ่งสำคัญ คือ การเริ่มต้นแนวทางที่เหมาะสมในการเลี้ยงลูกที่ช่วยกระตุ้น พัฒนาการ และสมองของเด็ก ในช่วง 3 ขวบปีแรก

                  เหตุใด 3 ขวบ ปีแรก ถึงเป็นช่วงเวลาที่สำคัญในการพัฒนาสมองของเด็ก

                  ตั้งแต่แรกเกิดจนถึงอายุ 5 ขวบ สมองของเด็กจะพัฒนามากกว่าช่วงเวลาอื่นๆ ในชีวิต และพัฒนาการของสมองในระยะแรกมีผลยาวนานต่อความสามารถของเด็กในการเรียนรู้และประสบความสำเร็จในโรงเรียนและชีวิต คุณภาพของประสบการณ์ของเด็กในช่วง 2-3 ปีแรกของชีวิต  ช่วยกำหนดพัฒนาการของสมอง

                  90% ของการเจริญเติบโตของสมองเกิดขึ้นก่อนเข้าอนุบาล เมื่อแรกเกิด สมองของทารกโดยเฉลี่ยจะมีขนาดประมาณหนึ่งในสี่ของขนาดสมองของผู้ใหญ่โดยเฉลี่ย และเพิ่มขนาดเป็นสองเท่าในปีแรก และสมองยังคงเติบโตเป็นประมาณ 80% ของขนาดตัวเต็มวัยเมื่อเด็กอายุ 3 ขวบ และ 90% หรือเกือบเติบโตเต็มที่เมื่อเด็กอายุ 5 ขวบ

                  สมองเป็นศูนย์บัญชาการของร่างกายมนุษย์ ทารกแรกเกิดมีเซลล์สมอง (เซลล์ประสาท) ทั้งหมดที่พวกเขาจะมีไปตลอดชีวิต แต่การเชื่อมต่อระหว่างเซลล์เหล่านี้ทำให้สมองทำงานได้อย่างแท้จริง การเชื่อมต่อของสมองช่วยให้เราสามารถเคลื่อนไหว คิด สื่อสาร และทำทุกอย่างได้ ช่วงปฐมวัยมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการสร้างความสัมพันธ์เหล่านี้ มีการสร้างการเชื่อมต่อประสาทใหม่ (ซินแนปส์) อย่างน้อยหนึ่งล้านครั้งทุกวินาที ซึ่งมากกว่าช่วงเวลาอื่นๆ ในชีวิต

                  ส่วนต่างๆ ของสมองมีหน้าที่รับผิดชอบความสามารถที่แตกต่างกัน เช่น การเคลื่อนไหว ภาษา และอารมณ์ และมีการพัฒนาในอัตราที่แตกต่างกัน พัฒนาการของสมองสร้างขึ้นจากตัวมันเอง เนื่องจากในที่สุดแล้วการเชื่อมต่อจะเชื่อมโยงซึ่งกันและกันในรูปแบบที่ซับซ้อนมากขึ้น สิ่งนี้ทำให้เด็กสามารถเคลื่อนไหว พูด และคิดด้วยวิธีที่ซับซ้อนมากขึ้น

                  วิธีเลี้ยงลูกให้พัฒนาการดี
                  วิธีเลี้ยงลูกให้พัฒนาการดี

                  ช่วงปีแรก ๆ เป็นโอกาสที่ดีที่สุดสำหรับสมองของเด็กในการพัฒนาการเชื่อมต่อที่จำเป็นเพื่อให้เป็นผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพดี มีความสามารถ และประสบความสำเร็จ ความสัมพันธ์ที่จำเป็นสำหรับความสามารถที่สำคัญในระดับที่สูงขึ้น เช่น แรงจูงใจ การควบคุมตนเอง การแก้ปัญหา และการสื่อสารนั้นเกิดขึ้นในช่วงปีแรก ๆ หรือไม่ได้เกิดขึ้น มันยากกว่ามากที่การเชื่อมต่อของสมองที่สำคัญเหล่านี้จะเกิดขึ้นในภายหลังของชีวิต

                  ไม่ใช่แค่พัฒนาการทางร่างกายของทารกเท่านั้นที่พ่อแม่ต้องทึ่ง วิวัฒนาการทางสติปัญญาของพวกเขาก็น่าทึ่งเช่นกัน วันหนึ่งคุณต้องเผชิญกับมนุษย์ตัวเล็ก ๆ ที่ต้องพึ่งพาคุณเกือบทุกอย่าง หลังจากนั้นไม่นาน เจ้าตัวน้อยคนนี้ก็เริ่มทำสิ่งที่ทำให้คุณประทับใจแทบทุกวัน

                  ไทม์ไลน์การพัฒนาสมองของเด็ก ตั้งแต่ แรกเกิด – 3 ขวบ

                  • แปดสัปดาห์แรก: สร้างการเชื่อมต่อของสมอง

                  สมองของลูกน้อยของคุณเริ่มพัฒนาตั้งแต่อยู่ในครรภ์ ทำให้พวกเขามีทักษะที่จำเป็นสำหรับการอยู่รอดขั้นพื้นฐาน (การนอนหลับ การร้องไห้ การดูดนม) เมื่อถึงเวลาที่พวกเขาเกิด และนั่นเป็นเพียงจุดเริ่มต้น เมื่อลูกน้อยจ้องมองคุณในขณะที่คุณพูดและเริ่มจดจำเสียงของคุณ นั่นเป็นเพียงสัญญาณภายนอกที่บ่งบอกว่าเซลล์ประสาทในสมองของพวกเขาสร้างการเชื่อมต่อกับคุณ เซลล์ประสาทเป็นเซลล์ประสาทพิเศษที่สื่อสารระหว่างกันเพื่อประมวลผลข้อมูล โดยใช้สัญญาณไฟฟ้าและเคมี สัญญาณเหล่านี้เป็นพื้นฐานของการเรียนรู้และความจำ ซึ่งทารกเกิดมาพร้อมกับเซลล์ประสาทเกือบทั้งหมดในสมองที่พวกเขาจะมีไปตลอดชีวิต

                  • เดือนที่สามถึง 12: ทักษะการเคลื่อนไหวและภาษา

                  ในช่วงแปดสัปดาห์แรก การเคลื่อนไหวทั้งหมดของทารกเป็นปฏิกิริยาตอบสนอง พวกเขายังไม่มีสติควบคุมการเคลื่อนไหวของตัวเอง ช่วงเวลาที่น่ารักเมื่อลูกน้อยของคุณจับนิ้วของคุณ นั่นเป็นสัญญาณว่าสมองของพวกเขากำลังพัฒนาทักษะการใช้กล้ามเนื้อที่ดี ดังนั้นควรส่งเสริมด้วยการเล่นกับพวกเขา

                  พัฒนาการของสมองเพิ่มความเร็วตั้งแต่เดือนที่สาม จากนั้นพวกเขาจะเรียนรู้แนวคิดใหม่ๆ เกือบทุกวัน ตัวอย่างเช่น เมื่อพวกเขาทำสิ่งต่าง ๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า วงจรประสาทในสมองของพวกเขาจะแข็งแรงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งในที่สุดพวกเขาก็จะสามารถรับทักษะที่ซับซ้อนมากขึ้นได้ สมองส่วนกลีบขมับรับผิดชอบทักษะการใช้ภาษาและการแสดงออกทางสีหน้า เมื่อการเชื่อมต่อของระบบประสาทของกลีบขมับแข็งแรงขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป ลูกน้อยของคุณจะมีส่วนร่วมกับคนรอบข้างได้มากขึ้น

                  วิธีเลี้ยงลูกให้พัฒนาการดีอย่างไรในช่วงขวบปีแรก : ความจริงแล้วผู้ปกครองไม่จำเป็นต้องทำอะไรมากมายเพื่อกระตุ้นการพัฒนาสมอง ในจุดนี้ สิ่งง่ายๆ เช่น การแขวนโมบายไว้เหนือเปล สอนทารกเกี่ยวกับสีและแนวคิดของการเคลื่อนไหว เมื่อพวกเขาส่งเสียงและคุณตอบกลับ จะช่วยพัฒนาความสามารถในการคิด สร้างความทรงจำ และใช้จินตนาการของพวกเขา กระตุ้นให้พวกเขาเคลื่อนไหวในรูปแบบต่างๆ พัฒนาทักษะการสื่อสารด้วยการพูดคุยและร้องเพลงให้พวกเขาฟัง การท่องเพลงกล่อมเด็กก็ช่วยได้เช่นกัน สิ่งนี้ทำให้เด็กสามารถพัฒนาฟังก์ชันการรับรู้และการเคลื่อนไหวที่ซับซ้อนมากขึ้น และช่วยให้พวกเขาดำเนินการทางจิตใจได้เร็วขึ้น การพัฒนาความจำ สติปัญญา และทักษะทางภาษาขึ้นอยู่กับกระบวนการไมอีลินเนชัน กระบวนการสร้างไมอีลินเนชันส่วนใหญ่จะเสร็จสิ้นสมบูรณ์เมื่อเด็กอายุได้ 2.5 ปี

                  เลี้ยงลูกให้พัฒนาการดี
                  เลี้ยงลูกให้พัฒนาการดี
                  • 1 ขวบถึง3 ขวบ : สมองเด็กเริ่มตัดการเชื่อมต่อส่วนที่ไม่ได้ใช้งาน

                  เป็นเวลานานหลังจากขวบปีแรก สมองของเด็กวัยหัดเดินยังคงยุ่งอยู่กับการสร้างการเชื่อมต่อใหม่ระหว่างเซลล์ประสาท ซึ่งทำให้พวกเขาเลือกทักษะที่ซับซ้อนมากขึ้น การเชื่อมต่อในสมองจะแข็งแกร่งขึ้นด้วยทุกทักษะใหม่ๆ ที่พวกเขาได้เรียนรู้ การพัฒนาการเชื่อมต่อใหม่นี้จะเริ่มช้าลงเมื่ออายุประมาณสองขวบ สมองของพวกเขาจะเริ่มตัดการเชื่อมต่อที่ไม่ได้ใช้งาน และเมื่ออายุสามขวบ พวกเขาจะมีการเชื่อมต่อของสมองประมาณ 1,000 ล้านล้านส่วน ซึ่งในจำนวนนี้ถูกตัดออกมากกว่าครึ่งเมื่อโตขึ้น โดยจะลดลงเหลือประมาณ 500 ล้านล้านเมื่อเข้าสู่วัยรุ่น

                  ในช่วงนี้ ความจำของลูกน้อยจะดีขึ้นอย่างมากภายในขวบปีแรก เนื่องจากกระบวนการสร้างไมอีลินเนชัน เมื่ออายุครบอายุ 1 ขวบ พวกเขาจะสามารถจดจำผู้คนและวัตถุที่คุ้นเคยได้ กระบวนการนี้เกือบจะเสร็จสมบูรณ์เมื่ออายุได้ 2 ขวบ นอกเหนือไปจากบางส่วนของสมองที่รับผิดชอบความคิดที่ซับซ้อนมากขึ้น นอกจากนี้ สมองน้อย (ส่วนหนึ่งของสมองที่รับผิดชอบการประสานงานและความสมดุล) ได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็วในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ช่วยให้เด็กวัยหัดเดินของคุณมีการเคลื่อนไหวที่ซับซ้อน เช่น การขว้างลูกบอล

                  สมองส่วนหน้า ซึ่งเป็นส่วนประกอบของสมองที่กำหนดบุคลิกภาพ การตัดสินใจ และพฤติกรรมทางสังคมทางสังคมก็จะพัฒนาอย่างรวดเร็วเช่นกัน โดยจำนวนการเชื่อมต่อแบบซินแนปติกในเปลือกสมองส่วนหน้าจะถึงจุดสูงสุดในวันเกิดปีที่ 3 ของเด็ก เป็นผลให้พวกเขาเริ่มเข้าใจเหตุและผลได้ดีขึ้น และเรียนรู้ที่จะตีความปัจจุบันตามเหตุการณ์ในอดีตที่จำได้  ส่วนของสมองที่เชื่อมโยงกับภาษาจะมีการเชื่อมต่อแบบซินแนปติกมากขึ้นในช่วงเวลานี้ เนื่องจากลูกของคุณเรียนรู้ที่จะพูดคุยและเข้าใจคำศัพท์ต่างๆ มากขึ้น และยิ่งพวกเขาเรียนรู้คำต่างๆ มากเท่าไหร่ การเชื่อมต่อแบบซินแนปติกเหล่านี้ก็ยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น

                  สิ่งสำคัญที่พ่อแม่ต้องเข้าใจ คือ อารมณ์ฉุนเฉียวของเด็กวัยหัดเดินนั้นเป็นเรื่องปกติในช่วงขวบปีแรกและปีที่สองของชีวิต เนื่องจากลูกของคุณยังไม่ได้เรียนรู้วิธีสื่อสารความรู้สึกของตนเอง แต่สิ่งเหล่านี้จะลดลงเมื่อส่วนต่างๆ ของสมองที่ควบคุมอารมณ์ /แรงกระตุ้นและการควบคุมตนเอง ระบบลิมบิกและเปลือกสมองส่วนหน้าจะค่อยๆ พัฒนาขึ้นตามลำดับ

                  การทำกิจกรรม เช่น การวาดภาพ ด้วยนิ้วช่วยพัฒนากล้ามเนื้อมือและนิ้ว แนะนำคำศัพท์และวลีใหม่ๆ ให้พวกเขาบ่อยๆ เพื่อที่พวกเขาจะขยายคำศัพท์ การมีปฏิสัมพันธ์กับเด็กคนอื่นๆ ช่วยให้พวกเขาพัฒนาทักษะการเข้าสังคมและเรียนรู้เทคนิคที่สำคัญ เช่น การแบ่งปัน นอกจากนี้ควรให้อาหาร ‘อาหารสมอง’ แก่เด็กวัยหัดเดินของคุณ เช่น ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ปลาที่มีไขมัน (โอเมก้า 3)  อะโวคาโด และโยเกิร์ต เป็นต้น

                  อ่านต่อ…กุญแจสำคัญ 3 ขวบ ปีแรก เลี้ยงลูกอย่างไรให้ พัฒนาการดี สมองดี มีความสุขไปจนโต คลิกหน้า 2

                  เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                  แบบฝึกหัด

                  แจกฟรี!! แบบฝึกหัด ใบงาน ข้อสอบ ป.3

                  แบบฝึกหัด ใบงาน ใบงานทบทวนเนื้อหาวิชา แบบฝึกหัดคณิตศาสตร์ แบบฝึกหัดภาษาไทย แบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์ แบบฝึกหัดสังคมศึกษา แบบฝึกหัด ป.3

                  แจกฟรี!! แบบฝึกหัด ใบงาน ข้อสอบ ป.3

                  การทำ แบบฝึกหัด หลังจากเรียนในห้องเรียนนั้น ช่วยให้เด็ก ๆ ได้ทบทวน และจดจำบทเรียนนั้น ๆ ได้ดียิ่งขึ้น ยิ่งทำแบบฝึกหัดมาก ก็จะยิ่งจดจำได้ดี และทำได้คล่องขึ้น ทีมกองบรรณาธิการ ABK จึงขอนำ แบบฝึกหัด ป.3 วิชาคณิตศาสตร์ ภาษาไทย วิทยาศาสตร์ สังคม และพระพุทธศาสนา มาฝากคุณพ่อคุณแม่ เพื่อนำไปให้ลูกได้ฝึกฝน  และทบทวนกันค่ะ

                   

                  แบบฝึกเสริมทักษะการคิดเลขเร็ว ป.3 เล่ม 1-11
                  แบบฝึกเสริมทักษะการคิดเลขเร็ว ป.3 

                   

                  แจกฟรี!! แบบฝึกหัด ใบงาน ข้อสอบ ป.3

                  วิชาคณิตศาสตร์

                  • ทบทวนการบวกจำนวนสองจำนวนที่มีผลบวกไม่เกิน 1,000

                  ชุดที่ 1                                                        ชุดที่ 11

                  ชุดที่ 2                                                        ชุดที่ 12

                  ชุดที่ 3                                                        ชุดที่ 13

                  ชุดที่ 4                                                        ชุดที่ 14

                  ชุดที่ 5                                                        ชุดที่ 15

                  ชุดที่ 6                                                        ชุดที่ 16

                  ชุดที่ 7                                                         ชุดที่ 17

                  ชุดที่ 8                                                         ชุดที่ 18

                  ชุดที่ 9                                                         ชุดที่ 19

                  ชุดที่ 10                                                       ชุดที่ 20

                  แบบบันทึกความก้าวหน้า

                   

                  วรรณคดีลำนำ-บทที่ 1 กระต่ายไม่ตื่นตูม
                  วรรณคดีลำนำ-บทที่ 1 กระต่ายไม่ตื่นตูม

                   

                   

                   

                  วิชาภาษาไทย

                   

                  อ่านต่อ…แจกฟรี!! แบบฝึกหัด ใบงาน ข้อสอบ ป.3 คลิกหน้า 2

                   

                  เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                    แซนวิช เมนูอาหารเช้า อาหารเช้า

                    แจกวิธีทำ แซนวิช ง่ายๆ อิ่มท้องพร้อมให้ลูกลุยตอนเช้า

                    แซนวิช อาหารเช้าแสนง่าย และอร่อย ใคร ๆ ก็ติดใจ เราพร้อมแจกวิธีทำแซนวิชที่แสนธรรมดา ให้อร่อยไม่ธรรมดา เตรียมพร้อมมื้อเช้าของลูก ไม่มี “สาย”

                    แจกวิธีทำ แซนวิช ง่ายๆ อิ่มท้องพร้อมให้ลูกลุยตอนเช้า

                    อาหารเช้า ในวันที่เร่งรีบ จะมีอะไรดีไปกว่า การได้ทำอาหารเช้าง่าย ๆ ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก แถมอร่อย และมีคุณค่าทางอาหารให้แก่ลูกน้อยกันล่ะ แซนวิช นับเป็นเมนูอาหารเช้ายอดฮิต ที่มีคุณสมบัติครบทุกอย่างดั่งที่ได้กล่าวมา แบบนี้คุณแม่บ้านไม่ชื่นชอบแซนวิชคงไม่ได้แล้ว

                    อาหารเช้า มื้อสำคัญของลูกน้อย!!

                    อาหารมื้อเช้าเป็นมื้ออาหารที่สำคัญ  โดยทุกเช้าทุกคนต่างรีบเร่งเพื่อออกไปเรียน  ไปทำงานอาจทำให้หลายคนไม่ทานหรือละเลย  “อาหารเช้า”แต่รู้ไหมว่า  “อาหารเช้า”  เป็นอาหารมื้อสำคัญกว่ามื้ออื่นๆ  เพราะการกินอาหารเช้าจะช่วยเติมท้องที่ว่างมาทั้งคืนของเรา  ที่สำคัญเมื่อตื่นนอนในตอนเช้า  ระดับน้ำตาลในเลือดจะต่ำ  เมื่อลุกขึ้นเคลื่อนไหวทำกิจกรรมต่างๆ  ก็จะรู้สึกหิว  อาหารมื้อเช้าเป็นมื้อที่สำคัญที่สุดสำหรับการให้พลังงาน

                    การงดรับประทานอาหารมื้อเช้า  ทำให้ร่างกายได้รับพลังงานและสารอาหารไม่เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย เนื่องจากกระเพาะอาหารของคนมีขนาดความจุที่จำกัดสำหรับการกินอาหารแต่ละครั้ง  โดยเฉพาะ

                    ตามหลักโภชนาการอาหารทุกมื้อสำคัญควรกินอาหารทุกมื้อในปริมาณที่เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย  ร่างกายจึงจะได้รับพลังงานและสารอาหารเพียงพอ  โดยในเด็กเพื่อให้ร่างกายเจริญเติบโต  แต่ในผู้ใหญ่ใช้ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกายอาหารเช้ามีประโยชน์ต่อร่างกาย ดังนี้

                    ิอาหารเช้า เมนูอาหารเช้า
                    ิอาหารเช้า เมนูอาหารเช้า
                    1. กระตุ้นพลังสมอง ด้วยอาหารเช้า ในเด็กวัยเรียนซึ่งมีขนาดของกระเพาะอาหารเล็กกว่าผู้ใหญ่  ในขณะที่มีความต้องการพลังงานและสารอาหารต่อหน่วยน้ำหนักมากกว่าผู้ใหญ่  เนื่องจากเป็นวัยที่ยังเจริญเติบโตทุกคนจึงจำเป็นต้องกินอาหารอย่างน้อย 3 มื้อ โดยมื้อเช้าเป็นอาหารที่สำคัญมาก เพราะเด็กจะท้องว่างมาทั้งคืน การที่ได้รับสารอาหารจากอาหารเช้า จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนการทำงาน ทำให้ระบบความจำ  ทักษะการเรียนรู้ดีอย่างมาก
                    2. อาหารเช้าช่วยควบคุมน้ำหนักได้ เพราะว่าจากมื้อเย็นจนถึงเช้าวันใหม่  เราอดอาหารมานานเกือบ  12  ชั่วโมง  และหากเรายิ่งไม่กินอาหารเช้า  ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำลง  ร่างกายยังรู้สึกหิวตลอดเวลา  ทำให้บริโภคอาหารมื้อถัดไปมากขึ้น  และต้องการกินอาหารจุบจิบอีก  ซึ่งมักจะเลือกอาหารที่ให้พลังงานสูงเกินความต้องการของร่างกายในมื้อต่อไปเป็นสาเหตุให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นโดยไม่รู้ตัว  โรคอ้วนและโรคไม่ติดต่อเรื้อรังอื่นๆที่ตามมา
                    3. ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเส้นเลือดสมองและโรคหัวใจ ในตอนเช้าเลือดของเรามีความเข้มข้นสูงส่งผลให้เส้นเลือดที่ส่งไปเลี้ยงสมอง หรือหัวใจอุดตันได้ แต่ถ้ากินอาหารเช้าเข้าไปจะช่วยให้ระดับความเข้มข้นในเลือดเจือจางลง
                    4. ช่วยให้ระดับความเข้มข้นในเลือดเจือจางลง โดยคนที่กินอาหารเช้าจะมีภาวะดื้อต่ออินซูลิน อาหารตามธงโภชนาการ อาหารที่ทำให้ลูกน้อยก็ ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคเบาหวานนั้นลดลงถึงร้อยละ เช่นกัน ต้องครบคุณค่า และต้องหลากหลาย
                    5. ลดโอกาสเกิดโรคนิ่วในถุงน้ำดี การไม่กินอาหารนานกว่า  14  ชั่วโมงจะทำให้คอเลสเตอรอลอาหารนานกว่า  14  ชั่วโมงจะทำให้คอเลสเตอรอลไปสิ่งที่จับตัวกันนั้นจะกลายเป็นก้อนนิ่ว แต่หากเรากินอาหารเช้าเข้าไป  จะกระตุ้นให้ตับปล่อยน้ำดีออกมาละลายคอเลสเตอรอลที่จับตัวกันอยู่ได้
                    6. อาหารเช้าส่งผลดีต่อการเรียนรู้ของลูก จากงานวิจัยสรุปว่า การกินอาหารเช้ามีผลต่อพฤติกรรมการเรียนรู้ของลูกในห้องเรียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิชาคำนวณมีรายงานว่าเด็กที่ไม่ได้รับประทานอาหารเช้านั้น จะมีทักษะในการคำนวณลดลง และเด็กที่กินอาหารเช้าที่หลากหลาย มีคุณภาพจะมีพัฒนาการในการเรียนรู้และมีทักษะที่ดีกว่า
                    7. ไม่มีสมาธิในการเรียนรู้ ตลอดช่วงเช้า ไปจนถึงเวลาอาหารเที่ยง เด็กจะรู้สึกหิว ทำให้ประสิทธิภาพในการเรียนรู้ลดลง สมองทำงานได้ไม่เต็มที่ และอาจเกิดปัญหาในการเรียน รวมถึงมีผลต่อเรื่องอารมณ์ในระหว่างวันได้

                    เมื่ออาหารเช้าสำคัญขนาดนี้ ไม่ลงมือเข้าครัว ทำอาหารเช้า เตรียมให้แก่ลูกไม่ได้แล้ว วันนี้เรามีสูตรเมนูอาหารเช้าที่ทำง่าย แสนอร่อย และมากประโยชน์มากฝากกัน ด้วย เมนูอาหาร แซนวิช ที่หลากหลายไม่ใช่เล่น ๆ

                    เมนูอาหารเช้า : แซนวิชหรรษา

                    แซนวิชแฮมชีส

                    แซนวิช แฮมชีส
                    แซนวิช แฮมชีส

                    ส่วนผสม

                    • ขนมปังแผ่น
                    • แฮม
                    • ไอริช เชดดาร์ชีส (Irish Cheddar)
                    • เนยสด
                    • พริกไทย
                    • เกลือป่น

                    วิธีทำง่ายๆ 

                    1. เตรียมขนมปัง 2 แผ่นแล้วทาเนยที่ขนมปัง หากใช้เป็นเนยแท้จะให้ความหอมมากกว่า
                    2. วางแฮมบนขนมปังตามความชอบ โรยพริกไทย และเกลือป่นเล็กน้อย
                    3. ส่วนขนมปังอีกแผ่น นำชีสมาหั่นแล้ววางบนขนมปัง
                    4. จากนั้นประกบขนมปังแล้วจัดการหั่นครึ่ง นำเข้าอบ จัดใส่กล่อง เสริฟพร้อมผักสลัด เพิ่มสารอาหาร
                    ขอขอบคุณภาพและวิธีทำจาก cooking.kapook.com/คุณย่าน้องวิน

                    ฟิงเกอร์แซนด์วิช (Finger Sandwich)

                    ใครว่าแซนวิช เป็นอาหารที่ไม่ค่อยดีต่อสุขภาพ วันนี้เราจะมาทำ ฟิงเกอร์แซนวิช เพื่อสุขภาพที่ทำจากขนมปังโฮลวีต หรือขนมปังธัญพืชต่าง ๆ แถมเพิ่มความเฮลตี้เข้าไปอีกด้วยการไม่ใช้มายองเนส หรือสเปรดทาขนมปัง แต่จะทำครีมทาขนมปังเอง แบบไม่ใส่น้ำมัน เปลี่ยนมาใช้น้ำมันจากถั่วเปลือกแข็งอย่างวอลนัท เท่านั้นยังไม่พอ ขอเพิ่มประโยชน์แบบเต็ม ๆ ด้วยเต้าหู้ และผักแครอตนึ่ง เพิ่มวิตามิน และสารอาหารให้ครบถ้วนใน แซนวิช ชิ้นเล็ก ๆ เท่านิ้วเท่านั้น

                    finger sandwish ฟิงเกอร์ แซนวิช
                    finger sandwish ฟิงเกอร์ แซนวิช

                    คลิกที่นี่เลย >>สูตร และวิธีทำ ฟิงเกอร์แซนวิช 

                    ขอขอบคุณภาพ และไอเดียจาก สูตร : เมกุมิ คิฮาตะ (Megumi Kihata) ภาพ : จิรวัฒน์ มหาทรัพย์ถาวร สไตล์ : จารุนันท์ ศรีทองนาก เพจ https://goodlifeupdate.com

                    แซนวิชหน้าเปิด สไตล์เมดิเตอร์เรเนียน

                    พาทำ แซนด์วิชหน้าเปิด สไตล์เมดิเตอร์เรเนียน (Fresh Goat Cheese Mediterranean Open Sandwich) มื้ออร่อยปลอดเนื้อ ไว้ทานเป็นมื้อเช้า หรือเป็นเมนูปาร์ตี้ก็ได้ วัตถุดิบที่นำปรุงก็ล้วนแล้วแต่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ อาทิ มะเขือม่วง มีสรรพคุณช่วยบำรุงหัวใจ บรรเทาอาการโรคเบาหวาน ลดปริมาณน้ำตาลในเลือด, มะเขือเทศ มีวิตามินเอ วิตามินบี1 วิตามินบี2 วิตามินเค และแร่ธาตุหลายชนิด มะเขือเทศมีวิตามินซีสูง ที่ช่วยป้องกันโรคหวัดได้ดี  และช่วยในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อรา แบคทีเรีย แก้อาการเบื่ออาหารในเด็ก และยังป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน เป็นต้น

                    แซนวิช หน้าเปิด สไตล์เมดิเตอร์เรเนียน
                    แซนวิช หน้าเปิด สไตล์เมดิเตอร์เรเนียน

                    คลิกที่นี่เลย>> สูตร และวิธีทำ แซนวิชหน้าเปิด สไตล์เมดิเตอร์เรเนียน

                    ขอขอบคุณ ภาพ และไอเดียจาก สูตร : Pierre Andre Hauss, Joan Tanya Dot ภาพ : จิรวัฒน์ มหาทรัพย์ถาวร สไตล์ : พิมฝัน ใจสงเคราะห์ เพจ https://goodlifeupdate.com

                     

                    อ่านต่อ>> เมนูอาหารเช้า อิ่มท้อง เติมพลังง่าย ๆ ด้วย แซนวิช คลิกหน้า 2

                     

                    เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                     

                      ฝันว่าคลอดลูกชาย

                      ฝันว่าคลอดลูกชาย เลขเด็ด พร้อมคำทำนาย อุ๊ย!ฝันดีนะเนี่ย

                      ฝันว่าคลอดลูกชาย หมายความว่าอย่างไร ใครเคยฝันแบบนี้เรามีคำทำนายฝันแม่น ๆ มาฝากกัน พร้อมเลขเด็ดเสี่ยงโชค ขอใบ้ว่า ฝันนี้ดีจริง ๆ นะเออ

                      ฝันว่าคลอดลูกชาย เลขเด็ด พร้อมคำทำนาย อุ๊ย!ฝันดีนะเนี่ย

                      หากพูดกันถึงเรื่องโชคชะตา ความโชคดีนั้น หลาย ๆ คนสงสัยกันว่าเป็นเพราะเรื่องบังเอิญ หรือว่ามาจากการกระทำตัวเรากันเองนะ เพราะบ่อยครั้งที่เรามักเห็นคน ๆ หนึ่ง ทำไมชีวิตเขาพบเจอแต่เรื่องดี ๆ โชคดีซ้ำแล้วซ้ำเล่ากันนะ

                      ดร. ริชาร์ต ไวส์แมน นักจิตวิทยาชื่อดังชาวอังกฤษ ได้ศึกษาเกี่ยวกับเรื่อง โชคดี หรือโชคร้าย มีมาตั้งแต่เกิดจริงหรือไม่ เขาได้ข้อสรุปว่า ความโชคดีไม่ใช่ความสามารถพิเศษ หรือความบังเอิญ แต่เป็นผลที่มาจากวิธีคิด และการกระทำของเราเอง และยังได้กล่าวถึง 4 ปัจจัยที่ทำให้คนโชคดีต่างจากคนโชคร้าย พร้อมเผยเคล็ดลับที่จะทำให้คุณโชคดีขึ้น

                      4 เคล็ดลับช่วยให้คุณกลายเป็น “คนโชคดี”

                      1.คว้าโอกาส 

                      คนโชคดี ใช่ว่าเขาจะอยู่เฉย ๆ ให้โชคหล่นทับเท่านั้น หากแต่คนโชคดีมักจะมีแนวคิด หาโอกาสใหม่ ๆ อยู่เสมอ และพยายม มุ่งมั่น เพื่อให้สิ่งนั้นประสบความสำเร็จ ยินดีที่จะก้าวไปข้างหน้า เมื่อเห็นโอกาส

                      2.ทำตามสัญชาตญาณ

                      การคิดวิเคราะห์สิ่งต่าง ๆ ในชีวิตก่อนลงมือทำ แม้เป็นเรื่องที่ดี แต่คนโชคร้ายส่วนใหญ่มักใช้เวลาในการคิดมากเกินไป ซะจนกลายเป็นว่าความคิดที่มีมากเกินไปนั้น ทำให้เสียโอกาสในการลงมือทำ กลับกันกับคนโชคดี ที่กล้าที่จะทำตามสัญชาตญาณ ไม่กลัวที่จะคว้าโอกาสใหม่ ๆ เมื่อเขาประสบผลสำเร็จจึงทำให้ผู้คนมองว่าทำไมถึงได้โชคดีเช่นนี้

                      อยากเป็นคนโชคดีอยู่หรือเปล่า
                      อยากเป็นคนโชคดีอยู่หรือเปล่า

                      3.มองโลกในแง่ดี

                      คนโชคดีมักจะมองโลกด้านบวกเสมอ แม้เขาอาจจะไม่ประสบความสำเร็จทุกครั้ง แต่คนเหล่านี้ก็ยังคงสู้ต่อไป จากทัศนคติในแง่บวกของเขานั่นเอง นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมบุคคลเหล่านี้จึงเป็นคนโชคดี ผิดกับคนโชคร้ายที่มักมองโลกแง่ลบ พวกเขามักจะหลีกหนีสิ่งต่าง ๆ และมัวแต่เศร้าหมองตลอดเวลา

                      4.ไม่ติดอยู่กับความเศร้าหมอง

                      เปลี่ยนเรื่องร้ายให้กลายเป็นเรื่องดี นั่นคือทัศนคติของคนโชคดี แต่พวกที่บอกว่าตัวเอง “โชคร้าย” ปล่อยให้เรื่องไม่ดีเล็ก ๆ น้อย ๆ ทำให้ตัวเองรู้สึกแย่ และปักใจเชื่อว่าอนาคตของพวกเขาจะต้องมืดหม่น และจะพยายามทำอะไรไปก็ไม่มีประโยชน์

                      เคล็ดลับง่าย ๆ เพียง 4 ข้อ หากคุณทำได้ เพียงเท่านี้คุณก็เป็นคนหนึ่งที่ “โชคดี” ได้เช่นกัน!!

                      ทำนายฝัน ฝันแบบนี้แสดงว่า คุณเป็น “คนโชคดี” นี่นา!!

                      เรื่องความฝัน กับคำทำนายทายทัก เป็นเรื่องที่มีมาช้านาน และผู้คนมักให้ความสำคัญกับความฝันกันไม่น้อยเลยทีเดียว บ้างก็เชื่อว่าเป็นลางบอกเหตุ บ้างก็เชื่อว่าความฝันเป็นสัญลักษณ์ที่ต้องมาตีความ แต่ถึงอย่างไรไม่ว่าคุณจะฝันอะไร จะเป็นฝันดี หรือฝันร้าย แต่หากคุณเคย ฝันว่าคลอดลูกชาย ขอบอกว่าคุณก็เป็นอีกคนที่จะได้เป็น “คนโชคดี”

                      ความหมาย เลขเด็ด คำทำนายฝัน

                      ฝันว่าคลอดลูกชาย

                      ฝันว่าคลอดลูกชาย ทำนายทายทักว่า หากคุณกำลังทำงาน หรือมีโปรเจคอะไรอยู่ จะประสบความสำเร็จแน่นอน หากเกี่ยวกับการค้าขาย จะมีการเปลี่ยนแปลง ต้องจัดสรรค่าใช้จ่าย ดังนั้นจึงหมายความว่า จะมีการเจรจา ติดต่อค้าขาย ที่ประสบความสำเร็จ การเงินคล่องตัวมากขึ้น แต่จะเป็นการหมุนเวียนระยะสั้น

                      เลขเด็ด ฝันว่าคลอดลูกชาย : ควรมีเลข 1 3 4

                      2 ตัว : 13 34 41

                      3 ตัว : 134 431 143

                      ฝันว่าคลอดลูกชายแฝด 2 คน

                      หากฝันว่าฝันว่าคลอดลูกแฝดออกมาเป็นลูกชาย ทำนายได้ว่าอาจมีเรื่องดีเกิดขึ้นแบบไม่คาดฝัน แต่พอผ่านจุดนั้นไปแล้วถ้าไม่มีดวงบุญหนุนนำก็จะตกต่ำทันที แต่ถ้ามีดวงบุญมากพอชีวิตก็จะรุ่งพุ่งแรงมาก ทำมาค้าขาย หรือหยิบจับอะไรก็เป็นเงินเป็นทอง สิ่งที่ต้องระวังคือเรื่องของคำพูด พยายามปิดวาจาให้ดี

                      เลขเด็ด ฝันว่าคลอดลูกชายแฝด 2 คน : ควรมีเลข 6 4 9

                      เลขเด็ด 2 ตัว : 70 71 33

                      เลขเด็ด 3 ตัว : 961 177 681

                      ฝันว่าคลอดลูกชาย
                      ฝันว่าคลอดลูกชาย

                      ฝันว่าคลอดลูกชาย 3 คน

                      อะไรก็เกิดขึ้นได้ในฝัน คลอดลูกชายทีเดียวพร้อมกัน 3 คน ทำนายฝันว่า อาจจะมีปัญหากับคนที่อายุมากกว่า โดยเฉพาะญาติ ๆ พยายามระมัดระวังคนที่เข้านอกออกในบ้านของคุณ อาจเป็นคนที่นำภัยมาสู่คุณได้ ช่วงนี้ยังมีแววว่าจะได้เดินทางไกล ท่านว่าเป็นการเดินทางไปสู่สิ่งที่ดี ๆ ต้องอดทนกับความเหนื่อยจากงาน แต่สุดท้ายแล้วทุกอย่างก็จะเป็นไปตามที่หวังแน่นอน

                      เลขเด็ดฝันว่าคลอดลูกชาย 3 คน : ควรมีเลข 8 7 5

                      2 ตัว : 92 60 91

                      3 ตัว : 153 287 794

                      ฝันว่าคลอดลูกชายน่ารัก

                      ในฝันเห็นว่าคลอดลูกชายออกมาน่ารักน่าชัง ให้ระวังสิ่งของที่คนแปลกหน้านำมาให้นี้อาจมีเจตนาอื่นแฝงอยู่ สิ่งที่คุณหวังไว้จะได้สมหวังดังคิด เหมือนเนรมิตได้ดังตาเห็น โชคลาภมีแต่ต้องไขว่คว้าเอง คนโสดมีเกณฑ์จะได้เริ่มต้นความสัมพันธ์กับคนที่มีเสน่ห์ในตัวเองมาก ๆ คุณจะหาเงินได้ก้อนใหญ่จากกิจการที่คุณทำอยู่

                      เลขเด็ดฝันว่าคลอดลูกชายน่ารัก : ควรมีเลข 0 5 9

                      เลขเด็ด 2 ตัว : 50 09 95

                      เลขเด็ด 3 ตัว : 509 950 590

                      ฝันว่าคลอดลูกชายแต่ไม่ได้ท้อง

                      กรณีที่ฝันว่าคลอดลูกชาย ทั้งที่เราไม่ได้ท้อง อาจจะต้องเสียของรัก หรือเงินทองในช่วงนี้ นอกจากนี้ยังมีความเชื่อเกี่ยวกับความฝันว่ามีเด็กมาขออยู่ด้วย ตามความเชื่อแล้วอาจหมายถึงมีกุมารหรือวิญญาณเด็กตามมาขออยู่ด้วย

                      เลขเด็ด ฝันว่าคลอดลูกชายแต่ไม่ได้ท้อง : ควรมีเลข 2 6 9

                      เลข 2 ตัว : 96 92 26

                      เลข 3 ตัว : 269 966 296

                      อ่านต่อ>> ทำนายฝัน ฝันว่าคลอดลูกชาย คำทำนายแม่น ๆ สำหรับ คนโชคดี คลิกหน้า 2

                       

                      เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                       

                        สปอยล์

                        เลี้ยงลูกอย่างไร? แบบไหนเรียกกว่า สปอยล์

                        สปอยล์ –  ทุกวันนี้การตามใจลูกตัวน้อยตลอดเวลาได้กลายเป็นแบบแผนในชีวิตประจำวันของคุณหรือไม่? ยกตัวอย่าง  เช่น  ในทุกๆ วัน ลูกของคุณได้กลายเป็นเหมือนผู้กุมอำนาจในครอบครัวเพียงเพราะคุณกลัวการปล่อยให้ลูกเสียความรู้สึกหรือเกิดอารมณ์ด้านลบ ถ้าลูกต้องการขนม ลูกก็ได้ หากลูกต้องการดูมือถือจนดึกดื่น คุณก็ยอม แม้ว่ามันจะทำให้ลูกหรือคุณเหนื่อยล้าและเจ็บป่วย คุณก็ยังอนุญาตให้ทำเช่นนั้นได้ หากคิดให้ดีแล้วได้คำตอบว่าครอบครัวของคุณกำลังตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ นี่เป็นเวลาที่ดีที่จะทำอะไรบางอย่างแล้วค่ะ  ซึ่งกุญแจสำคัญคือการเริ่มกำหนดขอบเขตและเริ่มควบคุมความสัมพันธ์ของคุณกับลูกให้ดีก่อนที่จะสายเกินแก้ค่ะ

                        เลี้ยงลูกอย่างไร? แบบไหนเรียกกว่า สปอยล์

                        มีเส้นแบ่งระหว่างการเข้มงวดเกินไปกับเอาแต่ใจเกินไป และการหาจุดกึ่งกลางที่มีความสุขเป็นสิ่งที่พ่อแม่ต้องสร้างสมดุลอยู่ตลอดเวลา แม้ว่าคุณจะไม่ได้ตั้งใจจะทำให้ลูกเสียนิสัย แต่ก็มีโอกาสหลายครั้งที่คุณอาจยังทำแบบนั้น กุญแจสำคัญคือการไม่ทำให้ลูกของคุณเสียนิสัยในแบบที่ทำให้คุณไม่สามารถควบคุมพวกเขาได้ มีเหตุผลมากมายที่พ่อแม่อาจทำให้ลูกเสียนิสัยอย่างคาดไม่ถึง เหตุผลส่วนหนึ่งรวมถึงความรู้สึกว่าตัวเองมีภาระเกินไปหรือต้องทำงาน จนทำให้ขาดพลังงานที่จะบังคับใช้กฎอย่างสม่ำเสมอกับลูกๆ ดังนั้น ถึงเวลาแล้วค่ะที่ต้องนึกถึงการปรับพฤติกรรมเชิงลบที่อาจส่งผลเสียต่อบุตรหลานของคุณเมื่อพวกเขาเติบโตขึ้น

                        เด็ก สปอยล์ คืออะไร?

                        เด็กนิสัยเสีย หรือ ถูกเลี้ยงดูแบบสปอยล์ เป็นคำที่ใช้เรียกเด็กที่ทำตัวเอาแต่ใจและไม่ค่อยมีเหตุผล ซึ่งพฤติกรรมนี้เกิดจากวิธีที่พวกเขาถูกเลี้ยงดูมา ซึ่งไม่อาจปฏิเสธได้ว่ามันเป็นความผิดพลาดของผู้ปกครองในการบังคับใช้ข้อจำกัดที่สม่ำเสมอและเหมาะสมกับวัย เด็กที่เอาแต่ใจหลายคนมักเป็นเด็กที่คิดว่าตัวเองอยู่เหนือกฎเกณฑ์ทุกอย่าง

                        ลักษณะของเด็กที่ถูกเลี้ยงดูแบบ สปอยล์

                        แม้ว่าจะมีหลายวิธีในการบอกว่าลูกของคุณนิสัยเสียหรือไม่ แต่สัญญาณที่พบบ่อยที่สุดได้แก่

                        1. เมื่อคุณบอกพวกเขาว่า “ไม่” พวกเขาจะโกรธมาก

                        เด็กทุกคนอาจแสดงความผิดหวังเมื่อคุณบอกพวกเขาว่าพวกเขาทำไม่ได้ เช่น  ไม่ให้กินช็อกโกแลตก่อนอาหารเย็น ไม่ซื้อของเล่นให้เวลาไปเดินห้าง ความจริงแล้วการแสดงออกด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวเมื่อไม่ได้อย่างใจอาจเหมาะสมกับพัฒนาการของเด็กวัยเตาะแตะหรือเด็กเล็กที่ยังไม่สามารถแสดงออกได้อย่างเพียงพอ แต่ถ้าพฤติกรรมนี้เกิดขึ้นตลอดเวลาและไม่ดีขึ้นเมื่อเด็กเริ่มโตขึ้นโดยเฉพาะเข้าสู่วัยเรียน นั่นอาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าพวกเขากำลังเสียนิสัย โดยพวกเขาคาดหวังว่าจะได้รับสิ่งที่พวกเขาต้องการโดยไม่คำนึงถึงเหตุผลใดๆ

                        2. ไม่เคยพอใจในสิ่งที่ตัวเองมี

                        เด็กนิสัยเสียอาจมีของเล่นและเสื้อผ้าทุกอย่างในโลกนี้ แต่พวกเขาจะรู้สึกไม่เคยพอ พวกเขาต้องการมากขึ้น มากขึ้น และมากขึ้นทุกวัน

                        3. คิดว่าโลกหมุนรอบตัวพวกเขา

                        เด็กที่ถูกเลี้ยงดูมาแบบสปอยล์มักจะเอาแต่ใจตัวเอง และคิดถึงตัวเองมากกว่าคนอื่น พวกเขารู้สึกมีสิทธิ์ในสิ่งที่ตัวเองเรียกร้อง และมักจะคาดหวังความช่วยเหลือเป็นพิเศษ

                        4. พวกเขาต้องการสิ่งต่าง ๆ ให้ได้มาโดยเร็วที่สุด

                        พวกเขามักไม่สามารถอดทนรอได้ เมื่อพวกเขาต้องการอะไร พวกเขาจะต้องการทันที ซึ่งโดยปกติแล้วการยอมแพ้ของพ่อแม่จะง่ายกว่าการเพิกเฉยต่อคำร้องขอของพวกเขา

                        5. แพ้ไม่เป็น

                        ไม่มีเด็กคนไหนสนุกกับการแพ้ ไม่ว่าจะเป็นเกมกระดาน หรือการแข่งขันต่างๆ  แต่เด็กนิสัยเสียอาจมีช่วงเวลาที่ยากลำบากกว่าในการจัดการความผิดหวังเมื่อพวกเขาไม่ชนะ ถ้าลูกของคุณเอาแต่โทษคนอื่นสำหรับผลงานที่แย่ คาดหวังว่าจะได้รับการชื่นชมในทุกสิ่งที่พวกเขาทำ ตะคอกใส่คนอื่นที่ไม่ได้ทำในสิ่งที่ตนต้องการ และล้มเหลวในการให้การยอมรับเมื่อเพื่อนร่วมทีมหรือคู่แข่งประสบความสำเร็จ

                        6. ไม่ยอมแพ้จนกว่าจะได้ในสิ่งที่ต้องการ

                        เด็กนิสัยเสียอาจใช้กลวิธีบิดเบือนเพื่อให้ได้มาในข้อเรียกร้องต่างๆ ตามที่ต้องการ ไม่ว่าจะหมายถึงการโกหกหรือทำให้พ่อแม่ทะเลาะกัน

                        7. พวกเขาปฏิเสธที่จะทำงานง่ายๆ ให้เสร็จจนกว่าคุณจะขอร้องหรือติดสินบนพวกเขา

                        เป็นเรื่องปกติที่ผู้ปกครองจะกระตุ้นให้เด็กๆ แปรงฟันหรือเก็บของเล่นให้เรียบร้อยหลังเล่นเสร็จ เป็นต้น แต่เมื่อพ่อแม่ขอให้ทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง พวกเขาควรฟังและปฏิบัติตาม หากลูกของคุณปฏิเสธที่จะทำสิ่งง่ายๆ จนกว่าคุณจะอ้อนวอนหรือจูงใจเขาด้วย ขนม หรือของเล่น คุณอาจกำลังสร้างวินัยที่ผิดๆ ให้กับลูก

                        สปอยล์ลูก
                        สปอยล์ลูก

                        เลี้ยงลูกแบบไหนที่เรียกว่า สปอยล์ อาจทำให้เด็กนิสัยเสีย

                        1. ให้เวลาลูกอยู่กับหน้าจอมากเกินไป

                        การดูโทรทัศน์ มือถือ หรือ แท็บเล็ตมากเกินไปนั้นเชื่อมโยงกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของโรคอ้วน ปัญหาสมาธิสั้น และภาวะซึมเศร้า ทางที่ดีพ่อแม่ควรจำกัดเวลาหน้าจอของบุตรหลาน และบังคับใช้กฎเหล่านี้ในขณะที่กระตุ้นให้บุตรหลานของคุณทำกิจกรรมอื่นๆ เช่น การเล่นนอกบ้าน จากข้อมูลของ American Academy of Pediatrics เด็กอายุ 2 ถึง 5 ปี ควรมีเวลาอยู่หน้าจอเพียง 1 ชั่วโมงต่อวัน โดยเน้นที่การขีดเขียนเพื่อการเรียนรู้

                        2. ให้ลูกกินอาหารขยะมากเกินไป

                        นิสัยที่ดีต้องเริ่มแต่เนิ่นๆ และหากคุณใช้อาหารขยะเป็นรางวัลสำหรับพฤติกรรมที่ดี คุณสามารถแก้ไขได้ตั้งแต่เนิ่นๆ ด้วยอาหารขยะในมือของคุณ ของกินเล่น เช่น ลูกอม คุกกี้ อาหารรสเค็ม และไอศกรีม ควรเป็นของว่างเป็นครั้งคราวแทนการอนุญาตให้ลูกสามารถกินได้ทุกวัน

                        3. ไม่สอนให้ลูกรู้จักการแบ่งปัน

                        การแบ่งปันมีความสำคัญต่อการส่งเสริมปฏิสัมพันธ์ทางสังคมกับเด็กๆ และจะช่วยสอนบทเรียนชีวิตที่กว้างขึ้นเกี่ยวกับความสำคัญของสิ่งของเมื่อเทียบกับมิตรภาพ พ่อแม่ควรสอนลูกให้แบ่งปันกับคุณ พี่น้อง และเพื่อนๆ และหมั่นอธิบายประโยชน์ที่ได้รับจากการให้

                        4. ไม่กำหนดกฎเกณฑ์หรือข้อจำกัด

                        การรับบทบาทผู้ปกครองหรือเจ้านายที่เข้มงวดอาจดูไม่น่ารื่นรมย์สำหรับผู้ปกครอง แต่ถ้าลูกของคุณไม่เห็นว่าคุณเป็นคนที่มีอำนาจในการกำหนดกฎเกณฑ์ต่างๆ คุณจะไม่สามารถเป็นพ่อแม่ได้อย่างเหมาะสมเมื่อจำเป็น โดยเฉพาะเมื่อต้องควบคุมหรือรับมือกับพฤติกรรมที่ไม่ดีของลูก

                        5. คุณไม่เคยพูดว่าไม่กับลูก 

                        คำว่า “ไม่” เป็นวลีสำคัญ เสมอของผู้ปกครอง และมันจะต้องมีความหมายที่เด็ดขาด เมื่อคุณพูดว่า “ไม่” ลูกของคุณจะต้องรู้ว่าสิ่งที่คุณปฏิเสธคือความตั้งใจจริงของคุณ เมื่อคุณตัดสินใจที่จะไม่อนุญาตในการกระทำบางอย่างของลูก คุณจะต้องบังคับใช้ คำว่า ไม่ อย่างสม่ำเสมอ ไม่ก็คือไม่ โดยไม่ใจอ่อน

                        6. คุณไม่เคยใช้เวลาห่างจากลูก

                        การใช้เวลาทุกชั่วโมงที่ตื่นกับลูกของคุณจนถึงจุดที่คุณไม่อนุญาตให้พี่เลี้ยงเด็กหรือสมาชิกในครอบครัวคนอื่นๆ ดูแลลูกของคุณอาจสร้างความผูกพันที่ไม่ดีต่อตัวเด็กได้ วันหนึ่งลูกของคุณจะมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนมากมายจากภูมิหลังที่หลากหลาย เพื่อทักษะการเข้าสังคมที่ดีของลูกสิ่งสำคัญคือต้องมีการแยกจากกันบ้าง แม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ก็ตาม

                        7. คุณทำทุกอย่างเพื่อลูกของคุณ

                        พ่อแม่ต้องส่งเสริมความรู้สึกของความรับผิดชอบในตัวลูก อย่างไรก็ตาม เด็ก ๆ จะไม่สามารถเรียนรู้หน้าที่ความรับผิดชอบของตัวเองได้หากคุณแสดงให้เห็นว่าคุณทำทุกอย่างเพื่อพวกเขา ซึ่งหมายถึงการช่วยทำการบ้านแทนลูก เป็นต้น

                        8. ไม่สอนให้ลูกทำงานบ้าน 

                        เมื่อลูกโตพอที่จะช่วยงานบ้านได้ สิ่งสำคัญคือคุณต้องสอนให้พวกเขาช่วยเหลืองานบ้านตามความเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการช่วยทำความสะอาดโต๊ะหลังอาหารเย็น ล้างจานหรือทิ้งขยะ การสอนความรับผิดชอบให้ลูกของคุณไม่ว่าเรื่องใดๆ นั้นสามารถสร้างจากรากฐานของงานบ้านเป็นพื้นฐานสำคัญ

                        9. ปล่อยให้ลูกขัดจังหวะในการสนทนา

                        พฤติกรรมที่ไม่สุภาพในที่สาธารณะถือเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของเด็กที่เอาแต่ใจ ที่แสดงออกได้ในหลายสถานการณ์ อาทิ ระหว่างที่คุณกำลังพูดคุยกับผู้อื่น แม้ว่าเด็กจะอารมณ์ฉุนเฉียวได้ในบางครั้งที่ต้องรอคอย แต่ถ้าคุณกังวัลที่จะพาลูกไปน้องบ้านเพราะกลัวว่าลูกจะแสดงพฤติกรรมที่ไม่ดีออกมาถือว่าเรื่องนี้เป็นปัญหาที่ต้องแก้ไข บทเรียนสำคัญคือการสอนลูกให้เคารพการสนทนาของคุณเมื่อผู้ใหญ่กำลังพูดคุยกันโดยไม่พูดแทรกหรือขัดจังหวะในการพูดของคุณกับคู่สนทนา

                        10. คุณซื้อของเล่นให้ลูกเพื่อทำให้พวกเขามีความสุข

                        ไม่ได้หมายความว่าคุณไม่ควรซื้อของเล่นหรือขนมให้ลูก แต่ถ้าลูกของคุณมีของเล่นเต็มตู้ เขาหรือเธออาจไม่ต้องการของเล่นอีกชิ้นเพื่อบรรเทาอารมณ์ฉุนเฉียว หลักง่ายๆ คือการคิดว่าทำไมคุณถึงซื้อของเล่นชิ้นนั้น และวิธีที่มันจะช่วยเพิ่มเวลาเล่นของลูก และพิจารณาสิ่งที่คุณอาจเสริมด้วยของเล่นชิ้นนั้นๆ  พ่อแม่ที่ต้องการปลูกฝังให้ลูกเป็นคนที่ได้รับการเลี้ยงดูให้เป็นคนที่รู้จักขอบคุณ มีความอดทน ควบคุมตนเองได้ และเป็นบุคคลที่น่า ชคบหาโดยทั่วไปสามารถใช้มาตรการต่างๆ เพื่อช่วยชี้นำลูกไปในทิศทางที่ถูกต้องได้อย่างแน่นอน

                        อ่านต่อ..เลี้ยงลูกอย่างไร? แบบไหนเรียกกว่า สปอยล์ คลิกหน้า 2

                        เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                        10 ค่าเทอมโรงเรียนประถม 2566  ต่อยอดเรียนรู้ ปูทางอนาคต

                        10 ค่าเทอมโรงเรียนประถม 2566  ต่อยอดเรียนรู้ ปูทางอนาคต

                        ผ่านวัยอนุบาล ก็ถึงเวลาที่คุณพ่อคุณแม่จะต้องเลือกโรงเรียนระดับประถมศึกษาให้ลูกน้อยกันบ้าง ซึ่งช่วงวัยประถมสำคัญมากโดยเฉพาะการเสริมความรู้ทางวิชาการให้ลูกมากขึ้น เพื่อปูทางสู่ระดับมัธยมต่อไป แต่ขณะเดียวกันก็อยากให้คำนึงถึงการเรียนรู้ตามความสนใจของลูกด้วย เพื่อให้เค้าสามารถต่อยอดอนาคตตัวเองได้ชัดเจนขึ้น เราจึงขอแนะนำ และอัปเดต ค่าเทอมโรงเรียนประถม 2566 ที่เปิดการเรียนการสอนระดับประถมศึกษา มาเป็นตัวอย่างให้คุณพ่อคุณแม่ลองพิจารณาเป็นตัวเลือก โดยค่าเทอมที่ระบุ เป็นค่าเทอมโดยประมาณต่อเทอมหรือต่อปี อาจรวมหรือไม่รวมค่าแรกเข้า ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ รวมทั้งหลักสูตรที่แตกต่างกัน   

                        10 ค่าเทอมโรงเรียนประถม 2566  ต่อยอดเรียนรู้ ปูทางอนาคต

                        10 ค่าเทอมโรงเรียนประถม 2566  ต่อยอดเรียนรู้ ปูทางอนาคต

                         

                        1. โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

                        หนึ่งในโรงเรียนที่คุณพ่อคุณแม่อยากให้ลูก ๆ เข้าเรียนตั้งแต่ระดับประถม ด้วยมาตรฐานหลักสูตรจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เด็ก ๆ จึงจะได้เรียนด้านวิชาการในระดับต้น ๆ ของประเทศ

                        ค่าเทอมโดยประมาณ 30,000 บาท ต่อเทอม 

                        10 ค่าเทอมโรงเรียนประถม 2566  ต่อยอดเรียนรู้ ปูทางอนาคต

                        ข้อมูลเพิ่มเติม https://web.facebook.com/SatitChula/

                         

                        1. โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย 

                        โรงเรียนเอกชนชายล้วนชื่อดังย่านสีลม และยังเป็นโรงเรียนโปเตสแตนท์ที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทยด้วย เรื่องการเรียนการสอนมีทั้งภาคปกติ และ English Program ถือว่ามีมาตรฐานสูงระดับต้น ๆ ของประเทศ

                        ค่าเทอมโดยประมาณ 40,000 บาท ต่อเทอม 

                        10 ค่าเทอมโรงเรียนประถม 2566  ต่อยอดเรียนรู้ ปูทางอนาคต

                        ข้อมูลเพิ่มเติม http://www.bcc.ac.th/2019/

                         

                        1. โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ 

                        เป็นโรงเรียนที่ตั้งอยู่ภายในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน ภายในบรรยากาศร่มรื่น การเรียนการสอนมีมาตรฐานสูง เน้นทั้งวิชาการ และกิจกรรมควบคู่กันไปอย่างมีประสิทธภาพ  

                        ค่าเทอมโดยประมาณ 50,000 บาท ต่อเทอม

                        ค่าเทอมโรงเรียนประถม 2566

                        ข้อมูลเพิ่มเติม https://www.kus.ku.ac.th

                         

                        1. โรงเรียนราชวินิต

                        โรงเรียนที่ถือกำเนิดขึ้นมาโดยพระมหากรุณาธิคุณของรัชกาลที่ 9 การเรียนการสอนเน้นกิจกรรมควบคู่วิชาการตามหลักสูตร ซึ่งมีคุณภาพสูงสมเป็นหนึ่งในโรงเรียนชั้นนำ

                        ค่าเทอมโดยประมาณ 20,000 บาท ต่อเทอม

                        ค่าเทอมประถม

                        ข้อมูลเพิ่มเติม https://rachawinit.ac.th/home/

                         

                        1. โรงเรียนราชินี

                        โรงเรียนสตรีเก่าแก่ที่ก่อตั้งมานานนับร้อยปีตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะในด้านคุณภาพทางวิชาการที่อยู่ในระดับสูง บรรยากาศการเรียนกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้ และภาคภูมิใจในสถาบัน

                        ค่าเทอมโดยประมาณ 30,000 บาท ต่อเทอม

                        ค่าเทอมประถม

                        ข้อมูลเพิ่มเติม https://www.rajini.ac.th/

                         

                        อ่านต่อ.. 10 ค่าเทอมโรงเรียนประถม 2566  ต่อยอดเรียนรู้ ปูทางอนาคต ..ได้ที่หน้า 2

                        เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                          ค่าเทอมโรงเรียนอนุบาล 2566 โรงเรียนแรกของลูก เริ่มเรียนรู้ เติบโต สมวัย

                          ค่าเทอมโรงเรียนอนุบาล 2566 โรงเรียนแรกของลูก เริ่มเรียนรู้ เติบโต สมวัย

                          จุดเริ่มต้นที่ดีของการเรียนรู้ นอกจากที่บ้านแล้ว การเลือกโรงเรียนอนุบาลที่มีการเรียนการสอนคุณภาพ ก็จะช่วยเสริมทักษะด้านต่าง ๆ ให้ลูกน้อยให้ดียิ่งขึ้นไปอีก โดยเฉพาะความรู้พื้นฐานวิชาต่าง ๆ ไปจนถึงทักษะการใช้ชีวิตประจำวัน การอยู่ร่วมกันในสังคม ฯลฯ คุณพ่อคุณแม่จึงชั่งใจพอสมควรเวลาจะเลือกโรงเรียนแรกให้กับลูกน้อย ซึ่งทีมแม่อยากแนะนำเสริมว่า นอกจากคุณภาพการเรียนการสอนแล้ว 

                          • ทำเลที่ตั้งก็ไม่ควรห่างไกลที่พักอาศัยมากเกินไป การเดินทางไม่ควรใช้เวลาบนถนนนาน ๆ
                          • บรรยากาศการเรียนที่ไม่ควรเคร่งเครียดเกินวัย 
                          • ค่าใช้จ่ายต่อเทอมพอเหมาะกับงบที่ตั้งไว้ 

                          เราจึงขอเลือก 10 โรงเรียนอนุบาลนี้มาเป็นตัวอย่างให้คุณพ่อคุณแม่ลองพิจารณาเป็นต้นแบบกันค่ะ โดยค่าเทอมที่ระบุ เป็นค่าเทอมโดยประมาณต่อเทอมหรือต่อปี อาจรวมหรือไม่รวมค่าแรกเข้า ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ รวมทั้งหลักสูตรที่แตกต่างกัน  

                          ค่าเทอมโรงเรียนอนุบาล 2566 โรงเรียนแรกของลูก เริ่มเรียนรู้ เติบโต สมวัย

                          ค่าเทอมโรงเรียนอนุบาล 2566 โรงเรียนแรกของลูก เริ่มเรียนรู้ เติบโต สมวัย

                          1. โรงเรียนอนุบาลเด่นหล้า

                          โรงเรียนอนุบาลที่มีชื่อเสียงมายาวนาน มีสองสาขาคือ เพชรเกษม และพระราม 5 มีหลักสูตรให้เลือก เช่น บูรณาการ, English Program ที่สอนโดยครูเจ้าของภาษาแท้ๆ เน้นให้เด็กๆอ่านออกเขียนได้ก่อนเข้า ป. 1 รวมทั้งทักษะต่างๆในการดูแลตัวเองด้วย  

                          ค่าเทอมโดยประมาณ 98,000 บาท 

                          ค่าเทอมโรงเรียนอนุบาล 2566

                          ข้อมูลเพิ่มเติม https://web.facebook.com/denlaschool/

                           

                          1. โรงเรียนรุ่งอรุณ

                          หลักสูตรอนุบาลโดดเด่นตรงที่ช่วยให้เด็กเล็กมีทักษะใช้ชีวิตที่จำเป็นได้ก่อนอ่านออกเขียนได้ ช่วยให้เด็กๆเรียนรู้สมวัย และดูแลตัวเองได้เป็นอย่างดี มีกิจกรรมหลายอย่างที่เน้นการมีส่วนร่วมของคุณพ่อคุณแม่ จึงคัดเด็กๆเข้าโดยมีการสัมภาษณ์เพื่อดูความพร้อมของผู้ปกครองด้วย 

                          ค่าเทอมโดยประมาณ 38,400 บาท

                          ค่าเทอมโรงเรียนอนุบาล 2566

                          ข้อมูลเพิ่มเติม https://www.roong-aroon.ac.th/

                           

                          1. โรงเรียนอนุบาลเลิศหล้า

                          มีสาขาให้เลือกที่ใกล้บ้านคือ ถนนเพชรเกษม ถนนกาญจนาภิเษก และถนนเกษตร-นวมินทร์ เปิดสอนทั้งหลักสูตร English Program และนานาชาติ โดยจะเน้นให้เด็กๆ เป็นศูนย์กลาง เรียนรู้ผ่านการลงมือทำจริงๆ ได้เรียนทั้งกับครูไทยและต่างชาติ

                          ค่าเทอมโดยประมาณ 96,800 บาท

                          ค่าเทอมโรงเรียนอนุบาล 2566

                          ข้อมูลเพิ่มเติม https://www.lertlah.com/th/index.php

                           

                          1. โรงเรียนอนุบาลกุ๊กไก่

                          เป็นโรงเรียนที่มีหลักสูตรตั้งแต่เตรียมอนุบาล เน้นการเรียนแบบบูรณาการที่ให้เด็กๆได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริงทั้งในและนอกห้องเรียน แบบสนุกไปพร้อมกับวิชาการ มีกิจกรรมหลากหลายให้เด็กๆได้สัมผัส รวมทั้งทัศนศึกษาด้วย  

                          ค่าเทอมโดยประมาณ 55,800 บาท

                          ค่าเทอมอนุบาล

                          ข้อมูลเพิ่มเติม https://web.facebook.com/kukaikindergarten/

                           

                          1. โรงเรียนแสงอรุณ

                          โรงเรียนคริสต์ย่านฝั่งธนที่ก่อตั้งมายาวนาน หลักสูตรคุณภาพได้มาตรฐาน โดยชั้นอนุบาลจะเน้นทั้งบูรณาการและวิชาการ มีกิจกรรมเสริมความรู้มากมาย โดยเฉพาะวิชาภาษาอังกฤษที่คุณพ่อคุณแม่หลายคนยอมรับว่าปูพื้นฐานได้เป็นอย่างดี

                          ค่าเทอมโดยประมาณ 35,000 บาท

                          ค่าเทอมอนุบาล

                          ข้อมูลเพิ่มเติม https://web.facebook.com/Sang.Arun.School/

                           

                          อ่านต่อ.. ค่าเทอมโรงเรียนอนุบาล 2566 โรงเรียนแรกของลูก เริ่มเรียนรู้ เติบโต สมวัย ..ได้ที่หน้า 2

                          เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                            ที่เที่ยววันเด็ก 2566

                            รวม ที่เที่ยววันเด็ก 2566 ที่ไหนน่าไป กิจกรรมแน่น เช็กได้ที่นี่

                            ที่เที่ยววันเด็ก 2566 จะไปไหนดี ที่ไหนจัดกิจกรรมอะไรบ้าง เรารวบรวมไว้ให้ที่นี่ เพื่อตัดสินใจพาลูกไปร่วม กิจกรรมวันเด็ก ที่มีเพียงปีละครั้ง!!

                            รวม ที่เที่ยววันเด็ก 2566 ที่ไหนน่าไป กิจกรรมแน่น เช็กได้ที่นี่!!

                            “รู้หน้าที่ มีวินัย ใฝ่ความดี” คำขวัญวันเด็ก ประจำปี 2566 เมื่อได้ยินคำขวัญวันเด็ก นั่นแสดงว่าถึงช่วงเวลาที่เด็ก ๆ รอคอยตลอดทั้งปีกันแล้ว วันเด็กแห่งชาติ วันสำคัญที่เด็ก ๆ ชื่นชอบ ปีนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ 14 มกราคม 2566 วันเสาร์ที่สองของเดือนแรกของปี คือการเริ่มต้นของเทศกาลวันเด็กแห่งชาติ ปีนี้ขอบอกว่าแต่ละที่จัดเต็ม จัดใหญ่ หลังจากที่ห่างหาย เงียบเหงากันไปในช่วงการระบาดของไวรัสโควิด 19 อย่างไรก็ตามไม่ต้องห่วงทุกที่ยังคงมีมาตรการป้องกันการระบาดอย่างเต็มที่ และรัดกุม แม้จะได้รับการผ่อนปรนลงบ้างแล้วก็ตาม เชิญชวนคุณพ่อคุณแม่มาลองเช็กที่นี่ได้เลยว่า งานวันเด็กจะมีที่ไหนบ้าง กิจกรรมอะไรที่น่าสนใจ น่าพาลูกไปร่วม ต้องเช็กให้ดี จะได้ไม่พลาด เพราะหนึ่งปีมีเพียงครั้งเดียว

                            รวม ที่เที่ยววันเด็ก 2566 แจกพิกัดที่เด็ด ที่ห้ามพลาด!!

                            ที่เที่ยววันเด็ก ของทางภาครัฐ

                            1.กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.)

                            ศธ.เตรียมเปิดกระทรวงจัดงานส่งความสุข “วันเด็กแห่งชาติปี 2566 เด็กดี วิถีไทย” วันเสาร์ที่ 14 มกราคมนี้ ตั้งแต่ 7.00 น. จัดเต็มกิจกรรม On Site พร้อมแจกรางวัลกว่าแสนชิ้น ภายใต้การดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มข้นตลอดงาน ไฮไลท์ของงาน ได้แก่

                            • กิจกรรมตามรอย…เสนาบดีแห่งวังจันทรเกษม ซึ่งจะพาน้อง ๆ ไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาจากวังจันทรเกษมสู่กระทรวงศึกษาธิการแห่งนี้ (ถ่ายภาพ/นำชมพิพิธภัณฑ์/ห้องทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ)
                            • กิจกรรมวอล์คแรลลี่ 5 จุดภายในกระกระทรวงศึกษาธิการ แลกรับรางวัล เป็นกิจกรรมที่จะให้น้อง ๆ ได้รู้จักสถานที่สำคัญภายในกระทรวงศึกษาธิการ ทั้ง 5 จุด
                            • การประกวดหนูน้อยแห่งวังจันทรเกษม ตอน “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” เป็นกิจกรรมส่งเสริม สนับสนุน ให้น้อง ๆ อนุรักษ์ความเป็นไทยในแบบของตัวเอง

                            กิจกรรมฉลองวันเด็กแห่งชาติปีนี้ ได้รับความร่วมมือจากภาครัฐและเอกชนมากมายมาร่วมสร้างแรงบันดาลใจให้แก่เด็กและเยาวชน และร่วมมอบความสุขแจกของขวัญ และมีกิจกรรมการแสดงบนเวที อาทิ การแสดงดนตรีของศิลปินชื่อดัง ร่วมเล่นเกมกับดาราศิลปิน การประกวดหนูน้อยแห่งวังจันทรเกษม ตอน ผ้าไทยใส่ให้สนุก เพื่อส่งเสริมสืบสาน อนุรักษ์ศิลป์ผ้าถิ่นไทย ดำรงไว้ในแผ่นดิน

                            2.สำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม

                            งานวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2566 กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมกับสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กำหนดจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 14 มกราคม 2566 ณ บริเวณหน้าตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ภายใต้แนวคิด “เด็กไทยยุคใหม่ ร่วมใจลดโลกร้อน Go Green Go Together” เพื่อให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ผ่านกิจกรรมที่หลากหลายจากหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงฯ ปลูกฝังให้เยาวชนเป็นคนรุ่นใหม่ที่หันมาใส่ใจและรักในสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น

                            นอกจากนี้ ภายในงานเด็ก ๆ ยังจะได้พบกับฝูงไดโนเสาร์ ขบวนพาเหรดจากสวนสัตว์ พร้อมรับของแจก และของที่ระลึกมากมาย โดยผู้ปกครองสามารถพาเด็ก ๆ เข้าร่วมกิจกรรมได้ตลอดทั้งวันตั้งแต่เวลา 08.00 – 15.00 น.

                            ภาพจาก https://www.facebook.com/ThaiMCulture
                            ภาพจาก https://www.facebook.com/ThaiMCulture

                            3. กระทรวงวัฒนธรรม

                            จัดกิจกรรม ให้สาระ ความรู้ ความบันเทิง ด้วยมิติวัฒนธรรม ประกอบด้วย การจัดแสดงนิทรรศการรถพิพิธภัณฑ์เคลื่อนที่ นิทรรศการประวัติศาสตร์ โบราณคดีไทย พร้อมรูปจำลอง โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ รวมทั้งการฉายภาพยนตร์ โรงภาพยนตร์เคลื่อนที่ขนาด 100 ที่นั่ง ณ หออัครศิลปิน สร้างสรรค์งานศิลป์เพื่อเด็กไทย วันเสาร์ที่ ๑๔ มกราคม ๒๕๖๖ เวลา ๐๘.๓๐ น. เป็นต้นไป

                            4.ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพฯ

                            ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพฯ ขอเชิญร่วมงาน สนุกวิทย์วันเด็ก ในวันเด็กแห่งชาติ ในวันเสาร์ที่ 14 มกราคม 2566 กิจกรรมภายในงานมีการแสดงทางท้องฟ้าจำลองมีทั้งหมด 7 รอบ ใช้เวลารอบละ 50 นาที ช่วงแรกเป็นการสอนดูดาว ช่วงหลังเป็นภาพยนตร์การ์ตูนเต็มโดมเรื่อง โคโคมง: ผจญภัยในอวกาศ เด็ก (<18 ปี) เข้าชมฟรี กรุณารับบัตรสำรองที่นั่ง / ผู้ใหญ่ค่าบัตร 30 บาท เริ่ม แจกบัตรสำรองที่นั่ง / จำหน่ายบัตร ตั้งแต่เวลา 8:30 น. เป็นต้นไป

                            นอกจากการดูดาวแล้ว ยังสามารถร่วมสนุกกับกิจกรรมอื่น ๆ ได้ เช่น เกมเรือข้ามฝั่ง /รู้ไหม…ใครนะ / แรลลี่ ไดโนเสาร์ปริศนา / เกมหนูน้อยหมวกแดง / เกมโชว์ชิงรางวัล / เงานี่ของใคร / รหัสลับกับ color light / ไฟฟ้า – สายลม – แสงแดด / เครื่องบินกระดาษทะยานฟ้า / โยนห่วงหรรษา / จรวดพลังลม ฯลฯ วันเด็กปีนี้ หากยังไม่รู้ว่าจะไปสนุกที่ไหน โปรดเก็บศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ เป็นตัวเลือกในการตัดสินใจด้วยนะ

                            สอบถามเพิ่มเติม ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพฯ

                            ที่เที่ยววันเด็ก เที่ยวสนุก ได้ความรู้
                            ที่เที่ยววันเด็ก เที่ยวสนุก ได้ความรู้

                            5.กองทัพบก

                            วันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2566 กองทัพบก…ขอเชิญชวนน้อง ๆ เยาวชน และผู้ปกครอง ร่วมกิจกรรมทางทหาร เนื่องในงาน “วันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2566” ในวันเสารที่ 14 มกราคม 2566 เวลา 08.00 – 16.00 น. ณ กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (สนามเป้า) กิจกรรมน่าสนใจในงาน ได้แก่
                            • นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ
                            • การจัดแสดงยุทโธปกรณ์ของกองทัพบก
                            • นิทรรศการเกี่ยวกับสถาบันการศึกษาทางทหาร
                            • การแสดงดนตรีของวงดุริยางค์กองทัพบกและน้องๆจากโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์
                            • การแสดงหุ่นละครเล็ก
                            • พบปะศิลปินดารา น้องแดนไทย​ พี่คิดตี้​ พี่ต้าห์อู๋-พิทยา แซ่ฉั่ว สมาชิกวง LAZ1 ​วง​ Berry​ Berry​และ​ K.J.​ good​ boy​
                            • ร่วมเล่นเกมส์ชิงรางวัลและรับของรางวัลมากมาย
                            แสดงหลักฐานการตรวจ ATK อย่างน้อย 12 ชั่วโมง ก่อนเข้างานด้วยนะ  ในส่วนภูมิภาค มีการจัดกิจกรรมวันเด็กในพื้นที่ต่างๆ เช่นเดียวกัน อาทิ
                            • จัดที่กองทัพภาคที่ 2 (ค่ายสุรนารี)
                            • กองทัพภาคที่ 3 (ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช)
                            • จัดที่ กองทัพภาคที่ 4 (ค่ายวชิราวุธ)
                            • กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (ค่ายสิรินธร)
                            • หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ, กรมการทหารช่าง (ค่ายบุรฉัตร)
                            ภาพจาก Royal Thai Army
                            ภาพจาก Royal Thai Army

                            6.กองทัพอากาศ

                            งานวันเด็กแห่งชาติกองทัพอากาศปีนี้ ทอ.จัดเต็มกว่าทุกครั้ง​ ยกกำลังทางอากาศมาให้แล้ว​ จัดเต็มการแสดงภาคอากาศ (Air Show) เพื่อเด็กๆ และประชาชน การตั้งแสดงอากาศยานภาคพื้น​ และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย เตรียมตัวพบกับความตื่นเต้นเร้าใจของการแสดงภาคอากาศ​ เพื่อการแสดงการบินอย่างเต็มที่ และความปลอดภัยสูงสุด​ จึงขอย้ายไปจัดที่โรงเรียนการบิน​ กำแพงแสน​ แล้วพบกันวันเสาร์ที่​ ​14 ม.ค.66 นี้ ติดตามตารางการแสดง และตารางรถรับส่งได้ต่อไป

                            ภาพจาก กองทัพอากาศไทย
                            ภาพจาก กองทัพอากาศไทย

                            อ่านต่อ>> ที่เที่ยววันเด็ก 2566 แสนสนุก มีที่ไหนบ้าง คลิกหน้า 2

                             

                            เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                             

                              ดูทีวี เด็กดูทีวี อันตรายหน้าจอ

                              จริงหรือมั่ว? ดูทีวี ก่อน 2 ขวบ ลูกพัฒนาการสะดุด!!

                               

                              ดูทีวี ก่อน 2 ขวบ เสี่ยงลูกมีพัฒนาการช้า สมาธิสั้น จริงหรือมั่ว แค่การดูทีวี หน้าจอของเด็กจะส่งผลกระทบรุนแรงต่อลูกจริงหรือ มาร่วมหาคำตอบกัน

                              จริงหรือมั่ว? ดูทีวี ก่อน 2 ขวบ ลูกพัฒนาการสะดุด!!

                              ในยุคแห่งเทคโนโลยี ที่เต็มไปด้วยของสมาร์ท หน้าจอแสดงผล และความรวดเร็วว่องไวของข้อมูลข่าวสาร จะเป็นไปได้หรือ หากเราต้องกีดกันเด็กออกจากสิ่งเหล่านี้??

                              พ่อแม่หลาย ๆ คนคงเคยได้ยินคำกล่าวเตือน ห้ามไม่ให้เด็กวัยก่อน 2 ขวบ ดูทีวี หรือหน้าจอ จะส่งผลกระทบต่อพัฒนาการของเด็กได้ แต่เราก็มักจะประสบกับปัญหาที่ว่า “แต่ลูกของฉันชอบดู” แล้วเหตุนี้เราจะเชื่อ และทำเช่นไรกันดี??

                              เด็กชอบดูทีวีจริงหรือ!!

                              ทารกอาจจ้องมองที่สีสดใสและการเคลื่อนไหวบนหน้าจอ แต่สมองของพวกเขาไม่สามารถเข้าใจ หรือสื่อความหมายจากภาพที่เคลื่อนไหวรวดเร็วเหล่านั้นได้

                              สิ่งที่ทารกและเด็กวัยเตาะแตะต้องเรียนรู้มากที่สุดคือการมีปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้าง นั่นไม่ได้หมายความว่าพวกเขาไม่ควรสนทนาทางวิดีโอกับปู่ย่าตายายหรือผู้ปกครองที่อยู่ห่างไกล แต่เมื่อพูดถึงการเรียนรู้ในแต่ละวัน พวกเขาจำเป็นต้องสัมผัสสิ่งของ เขย่า โยน และที่สำคัญที่สุดต้อง ได้เห็นหน้าและได้ยินเสียงของคนที่ตนรักที่สุด

                              ดูทีวี กับเด็ก อันตรายแค่ไหนกั
                              ดูทีวี กับเด็ก อันตรายแค่ไหนกั

                              ดูทีวี อันตรายอย่างไร??

                              อย่างที่เราทราบกันดีว่า เด็กทารก และเด็กวัยเตาะแแตะไม่ได้อะไรจากการดูทีวี เพราะเขายังไม่เข้าใจความหมาย เขาเพียงแต่ชอบสีสัน ความเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วไปมา จึงทำให้เราเห็นว่าเด็กชอบดูทีวี แถมยังเป็นตัวช่วยที่ดีในมื้ออาหารเย็น ทำให้พวกเด็ก ๆ นั่งได้นิ่ง ๆ นาน ๆ และคอยป้อนข้าวได้ชามโต ๆ ใช่ การดูทีวีดีกว่าการอดอาหาร แต่ก็แย่กว่าการไม่ดูทีวี หลักฐานที่ดีบ่งชี้ว่าการดูหน้าจอก่อนอายุ 18 เดือนมีผลเสียระยะยาวต่อพัฒนาการทางภาษา ของเด็ก ทักษะการอ่าน และความจำระยะสั้น นอกจากนี้ยังก่อให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับการนอนหลับและความสนใจ

                              หาก“คุณเป็นในสิ่งที่คุณกิน You are what you eat” สมองก็เป็นสิ่งที่คุณสัมผัส และคลิป วิดิโอบันเทิงก็เหมือนกับอาหารขยะทางจิตใจสำหรับทารกและเด็กเล็ก

                              ปัญหาไม่ได้เกิดจากสิ่งที่เด็กดู แต่เกิดจากสิ่งที่เด็กอดทำเมื่อดูทีวีต่างหาก!! เด็ก ๆ ถูกตั้งโปรแกรมให้เรียนรู้จากการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น การเรียนรู้ความหมายของสีหน้า น้ำเสียง ภาษากาย และการใช้ภาษา เด็กวัยหัดเดินเรียนรู้มากขึ้นจากการทุบกระทะบนพื้นในขณะที่คุณทำอาหารเย็นมากกว่าที่เขาเรียนรู้จากการดูหน้าจอในระยะเวลาที่เท่ากัน แต่เมื่อเด็ก หรือพ่อแม่ดูทีวี โอกาสในการปฎิสัมพันธ์กันก็จะหยุดลง หรือน้อยลง โดยปกติพ่อแม่จะพูดประมาณ 940 คำต่อชั่วโมงเมื่ออยู่กับลูก แต่เมื่อเปิดโทรทัศน์ ตัวเลขนั้นลดลง 770 คำ คำพูดที่น้อยลงหมายถึงการเรียนรู้ที่น้อยลงด้วย แค่เปิดทีวีทิ้งไว้โดยที่”ไม่มีใครดู” ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้พัฒนาการทางภาษาล่าช้า

                              วัยเตาะแตะยังเรียนรู้ที่จะมีสมาธิ ให้ความสนใจเป็นระยะเวลานาน และวัยเตาะแตะที่ดูทีวีมากขึ้นมักจะมีปัญหาในการให้ความสนใจเมื่ออายุได้ 7 ขวบ รายการวิดีโอมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา น่าสนใจตลอดเวลา และแทบไม่เคยบังคับให้เด็กต้องรับมือกับสิ่งที่น่าเบื่อ

                              ผลกระทบจากการดูทีวี

                              มีงานวิจัยที่พบว่า เนื้อหาบางประเภทในทีวี โดยเฉพาะเนื้อหาที่มีความรุนแรง อาจส่งผลต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของเด็กเล็กได้ และยิ่งใช้เวลาในการดูทีวีมากเท่าไรก็ยิ่งส่งผลเสียมากขึ้นเท่านั้น โดยผลกระทบที่เด็กอาจได้รับจากการดูทีวีหรือสื่อดิจิทัลต่าง ๆ มีดังนี้

                              • มีพัฒนาการทางภาษาล่าช้า การสื่อสารและการโต้ตอบกับผู้ใหญ่เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ช่วยส่งเสริมพัฒนาการทางภาษาของเด็ก แต่การดูทีวีอาจส่งผลกระทบต่อพัฒนาการในด้านนี้ของเด็กที่มีอายุตั้งแต่ 2 เดือนไปจนถึง 4 ปี เพราะระหว่างที่เปิดทีวี ผู้ใหญ่จะพูดคุยกับเด็กน้อยลง อีกทั้งทีวียังดึงดูดความสนใจของเด็กไปจากการเล่นของเล่นหรือการพูดคุยกับพ่อแม่ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ส่งผลดีต่อพัฒนาการของเด็กมากกว่าการดูทีวี ดังนั้น กุมารแพทย์ส่วนใหญ่จึงไม่แนะนำให้เด็กอายุน้อยกว่า 2 ปีดูทีวี และสนับสนุนให้เด็กใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการพูดคุย การเล่น และการทำกิจกรรมร่วมกับพ่อแม่
                              • ถูกปลูกฝังพฤติกรรมการใช้ความรุนแรง การเห็นภาพความรุนแรงจากทีวี รวมถึงการเล่นเกมหรือแอปพลิเคชั่นที่มีเนื้อหารุนแรง อาจทำให้เด็กได้รับผลกระทบทางอารมณ์ และมีแนวโน้มเกิดพฤติกรรมก้าวร้าวหรือมีมุมมองต่อโลกในแง่ลบได้ นอกจากนี้ อาจทำให้เด็กเกิดความเคยชินจนขาดความเห็นอกเห็นใจต่อเหยื่อที่เผชิญความรุนแรง หรืออาจคิดว่าการใช้ความรุนแรงเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ถูกต้อง
                              • เสี่ยงเกิดโรคอ้วน งานวิจัยชี้ว่าเด็กที่ดูทีวีสัปดาห์ละ 20 ชั่วโมงขึ้นไปเสี่ยงต่อการเกิดโรคอ้วนมากกว่าเด็กที่ดูทีวีน้อยกว่าถึง 2 เท่า และอาจทำให้มีมวลไขมันมากขึ้นด้วย เนื่องจากเป็นกิจกรรมที่ไม่ได้เคลื่อนไหวร่างกายเท่าที่ควร ทั้งยังทำให้เด็กมีแนวโน้มรับประทานอาหารหรือขนมมากขึ้นในขณะที่ดูทีวีด้วย
                              • มีปัญหาในการนอนหลับ การดูทีวีอาจทำให้เด็กมีคุณภาพในการนอนแย่ลงหรือนอนไม่หลับ โดยเฉพาะในทารกและเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 3 ปี
                              • มีผลกระทบต่อการควบคุมตนเอง พฤติกรรมก้าวร้าวหรือการควบคุมตัวเองไม่ได้ในวัยผู้ใหญ่อาจเกี่ยวข้องกับการดูทีวีมากเกินไปในช่วงวัยเด็ก โดยยิ่งเริ่มดูทีวีเร็วเท่าไรก็ยิ่งส่งผลกระทบที่รุนแรงมากขึ้นเท่านั้น
                              • มีสุขภาพและคุณภาพชีวิตโดยรวมที่แย่ลง มีการศึกษาพบว่าการดูทีวีอาจสัมพันธ์กับการเกิดภาวะอ้วน และเนื้อหาบางประเภทที่ถูกฉายหรือผลิตซ้ำอาจส่งผลต่อพฤติกรรมการใช้สารเสพติด การดื่มแอลกอฮอล์ โรคสมาธิสั้น ความล้มเหลวทางการศึกษา ความคิด ความเชื่อ และพฤติกรรมทางเพศที่ไม่เหมาะสม

                                เด็กต่ำกว่า 2 ขวบ ต้องการการพูดคุยกับพ่อแม่จริง ๆ มากกว่า ดูทีวี
                                เด็กต่ำกว่า 2 ขวบ ต้องการการพูดคุยกับพ่อแม่จริง ๆ มากกว่า ดูทีวี

                              การปฎิบัติจริง กับการงดหน้าจอลูก!!

                              อ่านกันมาถึงจุดนี้ พ่อแม่ ผู้ปกครองทั้งหลายคงเห็นด้วยกับวายร้ายหน้าจอก่อน 2 ขวบ ที่เราอาจหยิบยื่นให้แก่ลูกโดยไม่รู้ตัวกันไปแล้ว แต่ในทางปฎิบัติ ตามความเป็นจริงแล้ว เราสามารถให้ลูกห่างจากจอได้มากแค่ไหนกัน พ่อแม่ที่ทำงานนอกบ้าน หรือบางคนทำงานต่างจังหวัด ต้องพึ่งพาให้พี่เลี้ยงเด็ก ปู่ย่าตายาย ช่วยดูแล หรือแม้แต่ว่าเราทำงานกลับมาเหนื่อย ๆ ต้องใช้พลังแค่ไหนกันในการงดหน้าจอลูก งดไม่ให้ลูก ดูทีวี ความท้าทายนี้ ก่อให้เกิดคำถามขึ้นในใจพ่อแม่ว่าจะจัดการอย่างไร แบ่งเวลาอย่างไร แลหากลูกดูทีวี พ่อแม่จะทดแทนเวลาที่ลูกใช้ไปกับหน้าจอได้อย่างไร?

                              นักจิตวิทยาสื่อ (media psychologist) แนะนำว่า พ่อแม่ควรตั้งเป้าใช้เวลาอยู่หน้าจอกับบุตรหลานสักพักเพื่อให้แน่ใจว่าเนื้อหาเหมาะสมกับเด็ก หลังจากนั้นจึงกำหนดขอบเขตเวลาใช้หน้าจอที่ชัดเจน ก่อนถอยออกมาทำธุระของตัวเอง ทั้งนี้ควรหมั่นกลับมาตรวจสอบความเรียบร้อยของบุตรหลานเป็นระยะ

                              ที่มา : https://plus.thairath.co.th

                              โดยธรรมชาติแล้ว เด็กๆ จะเรียนรู้มากขึ้นเมื่อพวกเขาดูทีวีหรือใช้แอพร่วมกับผู้ปกครอง เนื้อหามีความสำคัญมาก เลือกเนื้อหาที่เหมาะสม โปรแกรมที่ให้ความรู้แก่เด็ก ๆ โปรแกรมที่ออกแบบมาเพื่อสอนเด็ก ๆ ในสิ่งที่พวกเขาควรรู้จริง ๆ เช่น ภาษาและคณิตศาสตร์ เป็นต้น

                              ไม่ว่าเนื้อหาจะเป็นเช่นไร ให้จำกัดเวลาดูทีวีเพื่อความบันเทิงของบุตรหลานไว้ที่ 1 ชั่วโมงต่อวันตั้งแต่อายุ 18 เดือนถึงอายุ 5 ขวบ และจำไว้ว่า ทีวีก็ยังเป็นทีวีไม่ว่าคุณจะดูผ่านหน้าจอทีวี หรือบนโทรศัพท์มือถือ หรือคอมพิวเตอร์

                              อ่านต่อ >> เคล็ดลับสำหรับพ่อแม่ ในการจัดการการดูทีวีของลูกน้อย คลิกหน้า 2

                               

                              เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                               

                                Must Have Item ผ้าอ้อมเด็ก Molfix ที่แม่ยุคใหม่เลือกให้ลูกใช้

                                ไม่อยากให้คุณพ่อคุณแม่มือใหม่พลาดผ้าอ้อมเด็กสำเร็จรูปแบรนด์ Molfix กันค่ะ ใช้ดีการันตีรางวัลจาก Amarin Baby & Kids Awards 2022  Best Natural Disposable Diaper For Babies ผ้าอ้อมเนเชอรัลที่ดีที่สุดสำหรับลูกน้อย ใส่แล้วไม่ก่อให้เกิดการแพ้ ระคายเคือง วันนี้ ABK ชวนช้อป ไม่พลาดที่จะมาแนะนำ Molfix ผ้าอ้อมเด็กชนิดเทป รุ่น เนเชอรัล ไอเทมของใช้เด็กให้กับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ค่ะ

                                Molfix (โมลฟิกซ์) ผ้าอ้อมเด็กสำเร็จรูปคุณภาพเยี่ยม ผ้าอ้อมเด็ก Molfix มีวางจำหน่ายมากว่า 100 ประเทศทั่วโลก และปัจจุบันนี้ Molfix ยังเป็นแบรนด์ผ้าอ้อมเด็กสำเร็จรูปที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเป็นอันดับที่ 5 ของโลก ว้าว !!! ปรบมือให้เลยค่ะ

                                ผ้าอ้อมเด็ก Molfix ผ้าอ้อมเด็กชนิดเทป รุ่น เนเชอรัล สวมใส่สบาย ลูกอารมณ์ดี แม่ก็แฮปปี้ 

                                เคล็ดลับการเลี้ยงลูกที่ง่ายที่สุดของแม่สมัยใหม่ อยู่ที่การเลือกใช้ไอเทมของใช้เด็กให้เหมาะกับลูก อย่างผ้าอ้อมเด็ก แนะนำว่าให้เลือกใช้ผ้าอ้อมที่ช่วยส่งเสริมพัฒนาการลูก ทั้งช่วงการนอน ช่วยให้ลูกนอนหลับได้สนิท  และช่วงตื่นนอน ลูกสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องตัว ช่วยทำให้สนุกไปกับทุกกิจกรรมเรียนรู้ได้อย่างอิสระ

                                ABK ชวนช้อป ครั้งนี้จะชวนคุณแม่มาช้อป ผ้าอ้อมเด็ก Molfix ผ้าอ้อมชนิดเทป รุ่น เนเชอรัล ที่มีแผ่นรองรับปัสสาวะทำมาจากผ้าฝ้ายออร์แกนิก ขอบอกว่ารุ่นนี้ขอบเอว ขอบขาของผ้าอ้อมนุ่มมาก ไม่ทำให้ผิวลูกระคายเคืองเลยค่ะ

                                Molfix แบรนด์ผ้าอ้อมระดับโลก ใส่ใจทุกรายละเอียดเพื่อให้ได้ผ้าอ้อมสำหรับลูกน้อยที่ดีที่สุด สำหรับ ผ้าอ้อมเด็ก Molfix ผ้าอ้อมชนิดเทป รุ่น เนเชอรัล มาพร้อม 6 คุณสมบัติ ที่ถูกใจคุณแม่สุด ๆ

                                1. การออกแบบตามกายวิภาคของลูกน้อย 360 องศา : Molfix มีการออกแบบรูปทรงตามสรีระของเด็ก เพื่อให้ เหมาะกับลูกน้อยของคุณในทุกการเคลื่อนไหว
                                2. ชั้นระบายอากาศพิเศษ : ในส่วนชั้นระบายอากาศพิเศษนี้เป็นเทคโนโลยีเฉพาะของ Molfix ที่นำเส้นใยไผ่ธรรมชาติซึ่งซึมซับน้ำได้ดีมาเป็นส่วนประกอบ การดูดซึมจะเร็วและง่ายขึ้นมาก จึงช่วยให้ของเหลวกระจายตัวอย่างสม่ำเสมอแทนที่จะสะสมอยู่ที่จุดเดียว ดังนั้นลูกน้อยของคุณจึงรู้สึกแห้งและสบาย
                                3. ขอบเอวยืดหยุ่น : ขอบเอวและหูยางยืดของผ้าอ้อมสามารถยืดได้มากถึง 2 เท่าของขนาดเดิม
                                4. การซึมซับดีเยี่ยม : ผ้าอ้อม Molfix ชนิดเทป Size NB และ S จะมีชั้นซึมซับพิเศษที่มีรูระบายกว่า 5,000 รู-ฝ้ายออร์แกนิก ด้วยรูระบายกว่า 5,000 รูบนพื้นผิวด้านบนของ Molfix ที่นุ่มเหมือนปุยฝ้าย จะช่วยดูดซับของเหลวอย่างรวดเร็ว เพื่อคงความแห้งสบายบนผิวสัมผัสด้านบนอยู่เสมอ
                                5. ตัววัดความชื้น : ผ้าอ้อม Molfix มีตัววัดความชื้น ที่จะเปลี่ยนสี ช่วยให้คุณพ่อคุณแม่ทราบได้ง่ายว่าเมื่อใดควรต้องเปลี่ยนผ้าอ้อมให้ลูก
                                6. ลูกน้อยแรกเกิดจะมีสายสะดือที่ยังไม่แห้งสนิท Molfix จึงออกแบบผ้าอ้อมให้มีช่องเว้นสายสะดือ เพื่อป้องกันการกดทับแผลตรงบริเวณสะดือให้กับลูกน้อยค่ะ

                                ABK ชวนช้อป คอนเฟิร์ม ผ้าอ้อม Molfix ผ้าอ้อมเด็กชนิดเทป รุ่น เนเชอรัล ใช้ดีจริง คุ้มค่า คุ้มราคา ลูกน้อยสวมใส่สบาย พัฒนาการดีเยี่ยมแน่นอนค่ะ

                                ว่าที่คุณพ่อคุณแม่ที่กำลังเลือกหาผ้าอ้อมเด็กสำเร็จรูปคุณภาพพรีเมี่ยม ผ้าอ้อมเด็ก Molfix คือตัวช่วยที่ดีในการเลี้ยงลูกค่ะ

                                Molfix ผ้าอ้อมเด็กสำเร็จรูปคุณภาพดีที่ตอบโจทย์การเลี้ยงลูกของคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ จดไว้ในลิสต์ของใช้เด็กอ่อนที่ต้องเตรียมซื้อให้ลูกได้เลยค่ะ

                                ผ้าอ้อมสำเร็จรูป Molfix มีวางจำหน่ายที่ห้างสรรพสินค้า และ ซุปเปอร์มาเก็ตชั้นนำทั่วประเทศ นอกจากนี้ยังเพิ่มความสะดวกให้คุณแม่สามารถช้อปผ่านช่องทางออนไลน์ได้ด้วยค่ะ

                                Big C https://bit.ly/3xbJYta

                                Shopee https://shopee.co.th/molfix_official_store

                                Lazada https://s.lazada.co.th/s.6GTFL

                                Central Online https://bit.ly/3DjYzHb

                                ALL Online https://bit.ly/3abHTFB

                                Tops Online https://www.tops.co.th/th/search/molfix

                                Gourmet https://shorturl.asia/aXr6Z

                                #แม่เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูกเสมอ

                                #molfix

                                #ผ้าอ้อมเด็ก