ไวรัสโนโร โนโรไวรัส

ไวรัสโนโร ระบาดวงกว้างแถมทนต่อแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ หมอแนะปฎิบัติตัว

Alternative Textaccount_circle
event
ไวรัสโนโร โนโรไวรัส
ไวรัสโนโร โนโรไวรัส

ไวรัสโนโร ระบาดเป็นวงกว้างพบผู้ป่วยหลายร้อยคน หวั่นแพร่กระจาย คนเข้าใจผิดคิดว่าอาหารเป็นพิษ แนะเชื้อไม่ตายด้วยแอลกอฮอล์ ต้องปฎิบัติตัวอย่างไร

ไวรัสโนโร ระบาดวงกว้างแถมทนต่อแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ หมอแนะปฎิบัติตัว!!

โนโรไวรัส จัดอยู่ใน family Caliciviridae เป็นไวรัสที่มีสายพันธุกรรมแบบ RNA สายเดี่ยว เดิมรู้จักกันในชื่อ Norwalk like viruses (ตั้งชื่อตามเมือง Norwalk รัฐ Ohio สหรัฐอเมริกา ที่พบการระบาดครั้งแรก)
ปัจจุบันเรียกกลุ่มไวรัสนี้ว่า Noroviruses แบ่งเป็น 5 genogroups คือ GI ถึง GV โดย GI, GII และ GIV ก่อให้เกิดโรคในคน

ไวรัสโนโร ระบาดง่าย และรวดเร็ว!!

โนโรไวรัสสามารถแพร่ระบาดได้ง่าย และรวดเร็ว ซึ่งโนโรไวรัสปริมาณเพียงเล็กน้อย (<100 ตัว) ก็สามารถก่อให้เกิดโรคได้ โนโรไวรัสมีความทนทานต่อสภาวะแวดล้อม โดยทนความร้อนได้ถึง 60 องศาเซลเซียส มีชีวิตอยู่รอดบนพื้นผิว หรือบนสิ่งของได้นานหลายวัน มีความทนทานต่อนํ้ายาฆ่าเชื้อต่าง ๆ อีกด้วย

พบผู้ป่วย ไวรัสโนโร พร้อมกันกว่า 300 ราย ในไทย!!

ภาพจาก komchadluek
ภาพจาก komchadluek

23 ก.พ.2566 นายแพทย์วชิระ บถพิบูลย์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ เปิดเผยถึงกรณีผู้ป่วยจาก 4 โรงเรียนเกิดอาการป่วยพร้อมกัน รวมทั้งสิ้น 315 ราย เป็นนักเรียน 283 ครู 32 คน อาการส่วนใหญ่ไม่รุนแรง มีคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง และถ่ายเหลวร่วมด้วย บางรายต้องพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ซึ่งล่าสุดยังรักษาตัวอยู่ 12 ราย ที่ รพ.ชัยภูมิ และยังมีผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาอีก 10- 20 ราย

จากการตรวจทางห้องปฏิบัติการพบว่าผู้ป่วยติดเชื้อโนโรไวรัส ซึ่งเป็นไวรัสที่ทนต่อความร้อน มีระยะฟักตัว 12 – 48 ชม. จะทำให้เกิดอาการทั้งคลื่นไส้ อาเจียน ถ่ายเหลว มีการอยู่ในสำไส้ใหญ่ได้ถึง 2อาทิตย์ ทำให้มีโอกาสในการแพร่กระจายไปสู่บุคคลอื่นในครอบครัว และชุมชนได้นอกจากนี้ ในผู้ป่วยบางรายยังตรวจพบอีโคไล คาดว่าเชื้อทั้ง 2 ตัวปนเปื้อนมากับอาหาร และน้ำดื่ม โดยธรรมชาติของเชื้อโนโรไวรัส จะพบได้ทั้งน้ำแข็งและอาหารทะเล ขณะนี้ได้ส่งทีมลงไปตรวจสอบแหล่งผลิตอาหาร โรงน้ำแข็ง ตรวจสอบแหล่งผลิต แหล่งวัตถุดิบที่นำน้ำมาผลิต เก็บตัวอย่างของน้ำแข็งมาตรวจที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ นครราชสีมา ซึ่งคาดว่าจะทราบผลการตรวจสอบในวันพรุ่งนี้

นอกจากนี้ยังได้เก็บตัวอย่างของอาหารชนิดอื่นอีกด้วย ส่วนในโรงเรียน ได้ส่งทีมควบคุมโรคเข้าไปพูดคุยกับผู้บริหาร และมีการให้ข้อมูลข่าวสารและแจ้งการปรับปรุงสุขาภิบาลอาหารในโรงเรียน ทั้งนี้ต้องเร่งในการควบคุมโรคให้เร็วที่สุด เพราะนอกจากส่งผลกระทบด้านสุขภาพของเด็กนักเรียนแล้ว ยังอาจมีผลกระทบด้านธุรกิจอีกด้วยเนื่องจากประชาชนมีความวิตกกังวลไม่กล้ารับประทานอาหารบางชนิด ทำให้ร้านค้าได้รับผลกระทบ จึงจำเป็นต้องพิสูจน์ทราบสาเหตุให้เร็วที่สุด ในส่วนของการเฝ้าระวัง พบว่ามีสถานการณ์อุจจาระร่วงยังเป็นไปตามปกติไม่มีการระบาดเป็นคลัสเตอร์

ที่มา : https://www.komchadluek.net

หมอยง ชี้ โนโรไวรัส ทนต่อแอลกอฮอล์ และน้ำยาฆ่าเชื้อ!!

ไวรัสโนโร เป็นเชื้อที่มีความทนทาน สามารถทนต่อน้ำยาฆ่าเชื้อ รวมทั้งแอลกอฮอล์ด้วย สารเคมีที่ใช้ในการฆ่าเชื้อโนโรไวรัสได้ เป็นจำพวก ฟอร์มาลีน กลูตารอบดีไฮด์ หรือสารประกอบจำพวก คลอรีน เช่น โซเดียมไฮโปรคลอไรด์ (2%)

หมอยง โพสต์ระบุถึง “โนโรไวรัส” ว่า ไวรัสนี้ทำให้เกิด ท้องเสีย อาเจียน และ ปวดท้อง บางรายอาจจะมีไข้ เป็นอยู่ 1 ถึง 3 วัน อาการจะคล้ายกับ อาหารเป็นพิษ มาก ทำให้เข้าใจว่า อาหารเป็นพิษ พบได้ในทุกวัย และติดต่อกันได้ง่าย บางครั้งป่วยพร้อมกันทั้งครอบครัว หรือระบาดในโรงเรียน สถานเลี้ยงเด็ก

“ทางศูนย์ของเราได้ตัวอย่างส่งตรวจมาจาก กรมควบคุมโรค เพื่อตรวจหาเชื้อ โนโรไวรัส ได้ถอดรหัสพันธุกรรม พบว่า เป็นเชื้อ โนโรไวรัส สายพันธุ์ GII.3[P25] ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่ไม่ค่อยมีการรายงาน ในครั้งนี้เราพบการระบาดเป็นวงกว้าง การวิเคราะห์ทางพันธุกรรม มีความใกล้เคียงกับ GII.3[P25] ที่พบในเมือง Huzhou (หูโจว) ประเทศจีน เมื่อเดือนมีนาคมในปี 2021 และ ทางศูนย์เราได้เคยตรวจพบ recombinant strain ดังกล่าว (MK590956) เมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2018 จากผู้ป่วยท้องเสียในเขตกรุงเทพมหานคร”

นอกจากนี้ หมอยง ยังระบุถึง “โนโรไวรัส” อีกว่า โรคนี้พบได้บ่อยในฤดูหนาว ในบางปีจะมีการระบาดเป็นวงกว้าง การระบาดครั้งนี้มีผู้ป่วยจำนวนมาก และมักจะเข้าใจผิดว่า อาหารเป็นพิษ ไวรัสนี้ไม่มีเปลือกหุ้มจึงมีความคงทนในสิ่งแวดล้อมมากและทนต่อน้ำยาฆ่าเชื้อ เช่น แอลกอฮอล์ สารที่จะใช้ทำลายเชื้อได้ดี คือ น้ำยาที่มีส่วนประกอบของคลอรีน เช่น คลอรอกซ์ (น้ำยาล้างห้องน้ำ)

รักษาความสะอาด อาหารปรุงสุก ป้องกัน ไวรัสโนโร
รักษาความสะอาด อาหารปรุงสุก ป้องกัน ไวรัสโนโร

การแพร่กระจายเชื้อโนโรไวรัส

ผู้ป่วยสามารถแพร่กระจายเชื้อไวรัสโนโร ได้เป็นพันล้านตัวผ่านทางอุจจาระ และการอาเจียน อีกทั้งผู้ป่ วยที่ติดเชื้อ แต่ไม่แสดงอาการก็สามารถแพร่เชื้อได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังตรวจพบโนโรไวรัสในอุจจาระของผู้ป่วยหลังจากหายป่วยไปแล้ว 2 สัปดาห์ ดังนั้นจึงแนะนําว่าผู้ป่วยที่ อาการหายแล้วควรป้องกันการแพร่เชื้อไวรัสให้ผู้อื่น เช่น งดเว้นการปรุงอาหารให้ผู้อื่นรับประทานเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 2 วัน

แนะพ่อแม่ที่มีลูกเล็ก ในกำจัดเชื้อก่อนทิ้งผ้าอ้อมเด็ก!!

คุณหมอยง ยังได้กล่าวแนะนำคุณพ่อคุณแม่ในการฆ่าเชื้อ ไวรัสโนโร หยุดวงจรการระบาดง่าย ๆ เริ่มที่ตัวเรา ไม่ว่าจะเป็นการรักษาความสะอาด หรือการใส่ใจในการปรุงอาหาร และอาหารที่รับประทาน อีกทั้งยังเรื่องของการกำจัดเชื้อก่อนทิ้งขยะ เช่น ผ้าอ้อมเด็กที่ใช้แล้วทิ้ง ที่ปนเปื้อนอุจจาระเด็กท้องเสีย ก่อนทิ้งให้หยดน้ำยาล้างห้องน้ำลงไปทำลายเชื้อเสียก่อน แล้วค่อยม้วนทิ้งเพื่อไม่ให้เชื้อแพร่กระจายออกไป เป็นต้น

 

อ่านต่อ>> อาการเมื่อติดเชื้อ ไวรัสโนโร การรักษา และวิธีการป้องกันตนเองและลูกน้อย คลิกหน้า 2

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up