เทคนิคเพิ่มน้ำนมแม่

เทคนิคเพิ่มน้ำนมแม่ ให้ลูกมีกินได้นานเป็นปี

Alternative Textaccount_circle
event
เทคนิคเพิ่มน้ำนมแม่
เทคนิคเพิ่มน้ำนมแม่

คุณแม่ที่ให้นมลูกต่างก็ต้องการที่จะมีน้ำนมมากพอให้ลูกกินอย่างน้อย 6 เดือน หรือสามารถทำสต็อกน้ำนมแม่ เพื่อเก็บไว้ให้ลูกกินต่อไปได้นานเป็นปี คุณแม่บางคนมีน้ำนมมาก โดยไม่ต้องพยายามอะไรมากมาย ในขณะที่คุณแม่จำนวนไม่น้อยเป็นกังวลว่า จะมีน้ำนมเพียงพอให้ลูกกินหรือไม่ จึงพยายามสรรหาสารพัด เทคนิคเพิ่มน้ำนมแม่ อย่างไรก็ตาม ปริมาณน้ำนมมาก-น้อย ไม่เกี่ยวกับขนาดของเต้านม แต่เกี่ยวกับการดูดนมของลูก และความถี่ในการให้ลูกดูดนมหรือปั๊มนมเป็นหลักค่ะ

บทความแนะนำ กลไกการหลั่งน้ำนมที่แม่มือใหม่ควรรู้!

เทคนิคเพิ่มน้ำนมแม่

ให้ลูกกินนมแม่ ยิ่งนานยิ่งดี เราจึงมี วิธีเพิ่มน้ำนมแม่ ที่จะช่วยทั้งคุณแม่และเจ้าตัวน้อยมีความสุขและมีสุขภาพดีจากการกินนมแม่มาฝาก ดังนี้

  1. ลูกดูดบ่อย

ให้นมลูกบ่อยเท่าที่ลูกรู้สึกหิว โดยคุณแม่มือใหม่ต้องหัดสังเกตสัญญาณต่างๆ เมื่อลูกหิวจะกำมือและเริ่มอมกำปั้น ดูดมือตัวเอง เวลานี้เองที่คุณแม่ควรนำลูกเข้าเต้า เขาจะไซ้หาเต้า อ้าปากงับนม และดูดนมจนเกลี้ยง ไม่ควรรอจนลูกร้องไห้นะคะ เพราะการร้องไห้เป็นสัญญาณว่าลูกหิวมากแล้ว แต่ไม่ได้รับการตอบสนอง และการให้ลูกดูดนมขณะร้องไห้ อาจทำให้เข้าเต้าไม่ถนัด และได้รับน้ำนมไม่เต็มที่ จำไว้เสมอว่า ยิ่งให้ลูกดูดมากเท่าไหร่ ยิ่งมีน้ำนมเพิ่มขึ้นมากเท่านั้นค่ะ

เพิ่มน้ำนม

  1. ลูกดูดถูกวิธี

ไม่ใช่ดูดแค่หัวนม แต่คุณแม่ต้องแน่ใจว่าลูกอ้าปากกว้างพอที่จะดูดลึกถึงลานนม จึงจะถูกวิธี หากลูกดูดแค่หัวนม เหงือกของลูกจะไปกดที่หัวนม และลิ้นของลูกก็จะถูไปมาที่บริเวณหัวนม ทำให้หัวนมแตกได้ ถ้าเมื่อไรที่คุณแม่รู้สึกเจ็บหัวนมเวลาให้ลูกดูด แสดงว่าวิธีเอาลูกเข้าเต้าไม่ถูกต้อง ทำให้น้ำนมไหลเข้าปากลูกได้น้อย แต่หากลูกดูดนมถูกวิธี นอกจากจะช่วยให้แม่ไม่เจ็บหัวนมแล้ว ยังทำให้ลูกดูดนมแม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย

  1. เลี่ยงการใช้ จุกหลอก ที่ครอบหัวนม และขวดนม ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ

ยิ่งลูกเข้าเต้าน้อย หัวนมก็ยิ่งถูกกระตุ้นน้อย ทำให้ผลิตน้ำนมได้น้อย คุณแม่จึงควรปรึกษาคลินิกนมแม่ก่อนตัดสินใจใช้ปทุมแก้วสำหรับครอบหัวนม เพราะการที่คุณแม่เจ็บหัวนม อาจเกิดจากการดูดผิดวิธี จึงควรแก้ไขที่ต้นเหตุก่อนค่ะ

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

อ่านต่อ “เทคนิคเพิ่มน้ำนมแม่ ให้ลูกมีกินได้นานเป็นปี” คลิกหน้า 2

แพ็คเกจวัคซีนไข้เลือดออก

แพ็คเกจวัคซีนไข้เลือดออก โรงพยาบาลในกทม.

Alternative Textaccount_circle
event
แพ็คเกจวัคซีนไข้เลือดออก
แพ็คเกจวัคซีนไข้เลือดออก

โรคไข้เลือดออก เป็นโรคติดเชื้อที่เกิดขึ้นในประเทศเขตร้อน คนที่ได้รับเชื้อจะมีอาการไข้ ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดข้อ และมีผื่นคล้ายโรคหัด บางคนมีอาการรุนแรงจนกลายเป็นอันตรายถึงชีวิต เรามาดู แพ็คเกจวัคซีนไข้เลือดออก 2560 เพื่อป้องกันโรคนี้ ไม่ให้เกิดความรุนแรงกันค่ะ

(more…)

วิธีทำให้ลูกหยุดร้องไห้

10 วิธีทำให้ลูกหยุดร้องไห้

Alternative Textaccount_circle
event
วิธีทำให้ลูกหยุดร้องไห้
วิธีทำให้ลูกหยุดร้องไห้

วิธีทำให้ลูกหยุดร้องไห้ เจ้าตัวเล็กมักจะชอบร้องไห้แบบไม่มีเหตุผล ที่บางครั้งก็ไม่ได้ร้องไห้เพราะหิว เพราะง่วง เพราะไม่สบาย ฯลฯ แต่อย่างใด ทำให้พ่อแม่มือใหม่ไม่รู้จะจัดการกับการร้องไห้ของลูกได้อย่างไร ทีมงาน Amarin Baby & Kids มี 10 วิธีทำให้ลูกหยุดร้องไห้  ที่ไม่ว่าลูกจะร้องไห้ด้วยเหตุผลใด คุณพ่อคุณแม่ก็สามารถนำมาปรับใช้เพื่อช่วยลูกให้หยุดร้องไห้อย่างได้ผลค่ะ

 

วิธีทำให้ลูกหยุดร้องไห้ – เด็กเล็กร้องไห้จากสาเหตุใดบ้าง?

พ่อแม่มือใหม่สามารถสังเกตการร้องไห้ของลูกได้  เพราะการที่เรารู้ว่าลูกร้องไห้งอแงเพราะอะไร จะทำให้ง่ายต่อการปลอบประโลมให้ลูกหยุดร้องไห้  ฉะนั้นไปดูกันสักนิดค่ะว่าปัจจัยแวดล้อมใดบ้างที่ทำให้ลูกร้องไห้

1. ร้องเพราะหิว

ลูกวัยทารกเวลาหิวจะร้องเสียงดัง  ต้องการให้แม่อุ้มเพื่อจะได้กินนม คุณพ่อคุณแม่ต้องรู้ว่าในเด็กทารกนั้นจะตื่นขึ้นมากินนมบ่อยๆ ประมาณ 1-2 ชั่วโมงนอนหลับไปหลับ แล้วก็จะร้องไห้ตื่นขึ้นมาเพื่อจะกินนมแม่ และเมื่อแม่เอาเข้าเต้าให้เขาก็จะหยุดร้องทันที พอกินนมอิ่มก็จะหลับไปอีกครั้ง

2. ร้องเพราะความเปียกชื้น

เด็กวัยทารกขณะนอนหลับ มักจะตื่นขึ้นมากลางคันด้วยความเปียกชื้นจากผ้าอ้อมที่เต็มไปด้วยปัสสาวะ อุจจาระ ลูกจะร้องเสียงหยุดหงิด และบิดตัวไปมา เพื่อที่ต้องการให้แม่เปลี่ยนผ้าอ้อมผืนใหม่ที่แห้งสบายกว่าให้

3. ร้องเพราะไม่สบาย

เวลาที่ลูกไม่สบายจะมีอาการร้องงอแงอยู่ตลอดเวลา นั่นอาจเพราะความไม่สบายตัวจากพิษไข้ ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ต้องสังเกตอาการลูกให้ดี หากปล่อยให้ไข้ขึ้นสูง อาจมีการชักจากไข้ได้  การบรรเทาอาการตัวร้อนเบื้องต้นคือการเช็ดตัวลดไข้ให้ลูกค่ะ

4. ร้องเพราะต้องการให้อุ้ม

บางทีลูกก็ร้องเพื่อต้องการความสนใจจากพ่อแม่ ร้องแบบทีเล่นทีจริง พ่อแม่อุ้มขึ้นมาแนบอกก็จะเงียบลง การอุ้มลูกจะช่วยให้เขาคลายจากความกังวล และรู้สึกอบอุ่น ปลอดภัย ฉะนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรอุ้ม กอดลูกบ่อยๆ นะคะ

 

การร้องไห้ของเด็กนั้นมาได้จากหลายๆ สาเหตุ ซึ่งการที่พ่อแม่ หรือผู้เลี้ยงดูช่วยปลอบประโลมให้ลูกเงียบเสียงร้องลงได้ ถือเป็นการช่วยให้สมองของลูกคลายจากความตึงเครียด ความกังวลกับเรื่องที่ทำให้ร้องไห้ลงได้  เมื่อสมองไม่เครียด พัฒนาการต่างๆ ก็จะดีตามไปด้วยค่ะ
วิธีทำให้ลูกหยุดร้องไห้
Credit Photo : shutterstock

 10 วิธีทำให้ลูกหยุดร้องไห้

เห็นลูกๆ ร้องไห้แล้วใจไม่ดีเพราะกังวลว่าเขาจะเป็นอะไรไป และบางครั้งก็ทำพ่อแม่อย่างเราๆ หงุดหงิดกับการร้องไห้ไม่รู้เรื่องของลูกก็มีค่ะ แต่สุดท้ายแล้ววิธีที่ดีที่สุดคือการปลอบประโลมลูก แต่ไม่ใช่การดุ การตีลูกซ้ำลงไปนะคะ เพราะเด็กเล็กๆ เขายังไม่รู้เรื่อง เขาไม่สามารถบอกเราได้ว่าเขาต้องการอะไร ที่ทำได้คือการร้องไห้สื่อสารออกมาก็เท่านั้นเองค่ะ ดังนั้นเรามาช่วยทำให้ลูกสงบลงจากการร้องไห้ดีกว่าค่ะ  ผู้เขียนได้ไปเจอข้อแนะนำในการทำให้ลูกหยุดร้องไห้ ซึ่งดีมากๆ จึงอยากนำมาแชร์ให้ทุกครอบครัวได้ทราบกันค่ะ

1. ห่อตัวลูกด้วยผ้า

การห่อตัวลูกเป็นหนึ่งในวิธีที่จะช่วยให้ลูกสงบลงจากการร้องไห้ได้ดีมาก เพราะการห่อตัวจะทำให้ลูกรู้สึกเหมือนได้อยู่ในที่แคบๆ เหมือนตอนที่อยู่ในมดลูกของคุณแม่ตอนท้อง การห่อตัวให้ลูกให้ห่อเแบบลูกพลิกขยับตัวแล้วแขน ขาไม่หลุดออกมา

2. ลองเปลี่ยนท่าอุ้ม

ถ้าอุ้มนอนหงายไม่ค่อยจะดีนัก ให้คุณแม่ลองเปลี่ยนให้ลูกนอนท่านอนคว่ำ การเปลี่ยนท่าอุ้มจะช่วยให้ลูกรู้สึกสบายขึ้น

3. เสียงหึ่งๆ (white noise)

เลียนแบบเสียงหึ่งๆ ที่ลูกได้ ยินตอนอยู่ในท้อง เช่น เสียงพัดลม เสียงเครื่องดูดฝุ่น เสียงจากวิทยุที่หมุนไม่ตรงคลื่นฯลฯ จะช่วยหยุดความสนใจลูกจากการร้องไห้ลงได้

4. ใช้จุกหลอก

เด็กแรกเกิด 3 เดือนแรก มีความสุขกับการได้ดูด ได้ขยับปากตลอดเวลา บางทีที่ลูกร้องไห้แบบไม่มีสาเหตุ คุณแม่ลองหาจุกหลอกให้ลูกได้ดูดดูค่ะ  ลูกจะหยุดจากเสียงร้องเมื่อมีอะไรให้ดูดอยู่ในปาก

 

อ่านต่อ >> “วิธีทำให้ลูกหยุดร้องไห้แบบได้ผล” หน้า 2

 

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

วิธีเลือกอะโวคาโด

ประโยชน์ของอะโวคาโด และ วิธีเลือกอะโวคาโด ให้สุกพอดีกิน เพื่อลูกน้อยโดยเฉพาะ!

event
วิธีเลือกอะโวคาโด
วิธีเลือกอะโวคาโด

คุณแม่รู้หรือไม่ ประโยชน์ของอะโวคาโด ที่มีต่อลูกน้อยนั้นมีมากมาย แต่ก็ไม่ใช่ทุกลูกที่จะกินได้ แล้วจะมี วิธีเลือกอะโวคาโด และวิธีการปอกเปลือก พร้อมเก็บอะโวคาโด ไว้ให้ลูกทานเพื่อให้ได้ประโยชน์เต็มๆอย่างไรบ้างไปดูกันเลยค่ะ?

 

อะโวคาโด เป็นผลไม้พื้นเมืองของเม็กซิโก เป็นผลไม้ที่สุกหลังเก็บเกี่ยว ผลอะโวคาโดมีรูปกลมรีคล้ายลูกแพร์ ลักษณะของผิวเปลือกมีความขรุขระ มีทั้งแบบเปลือกบางและหนาโดย เนื้อของอะโวคาโดนั้นจะมีลักณะเป็นครีมอ่อนนุ่ม เนื้อละเอียด มีรสชาติมันคล้ายเนย เลยมีคนเรียกอะโวคาโดว่าลูกเนย

เมื่อนำมาวิเคราะห์คุณค่าทางอาหารเมื่อเทียบกับผลไม้อื่นพบว่า อะโวคาโดมีคุณค่าทางอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่าผลไม้ชนิดอื่น จึงถือว่าเป็น “ผลไม้เพื่อสุขภาพ” เพราะอุดมไปด้วยแร่ธาตุ และสารอาหารที่จำเป็นสำหรับร่างกาย ไปดูกันเลยว่าสารอาหารและประโยชน์ในอะโวคาโดนั้นมีอะไรบ้าง

ประโยชน์ของอะโวคาโด
และ วิธีเลือกอะโวคาโด เพื่อลูกน้อย

วิธีเลือกอะโวคาโด

  1. สรรพคุณของอะโวคาโด ในผลอะโวคาโดมีวิตามินซีซึ่งช่วยป้องกันหวัดได้
  2. อะโวคาโดเป็นแหล่งของกรดไขมันชนิดดี (HDL) ซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างมาก เพราะมีคุณสมบัติในการช่วยลดไขมันเลวในหลอดเลือดได้ จึงช่วยป้องกันการสะสมของไขมันในเส้นเลือด ช่วยลดโอกาสเสี่ยงของโรคเส้นเลือดหัวใจตีบและโรคหัวใจวาย
  3. ช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งได้
  4. อะโวคาโดมีสรรพคุณช่วยป้องกันการเกิดโรคเลือดออกตามไรฟัน
  5. สรรพคุณอะโวคาโด ช่วยป้องกันการเกิดโรคปากนกกระจอก
  6. มีโปรตีนสูงกว่าผลไม้ชนิดอื่น เป็นโปรตีนที่ย่อยง่าย มีเส้นใยอาหารสูง จึงช่วยในการขับถ่ายได้เป็นอย่างดี
  7. ไขมันในอะโวคาโดสามารถช่วยดูดซึมสารแคโรทีนอยด์ (Carotenoids) ซึ่งเป็นตัวช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระอันทรงพลังได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นไลโคปีน เบตาแคโรทีน หรือลูทีนในผักผลไม้ต่าง ๆ
  8. หากรับประทานอะโวคาโดเป็นประจำจะช่วยป้องกันและลดความถี่ของการเกิดโรคเหน็บชาได้
  9. อะโวคาโดมีประโยชน์อย่างมาก ซึ่งเหมาะให้ลูกน้อยรับประทานเป็นอาหารเสริม แม้ว่าจะมีแคลอรีสูงแต่ก็อุดมไปด้วย DHA และไขมันดี (HDL) ในปริมาณที่สูงเช่นกัน
  10. อะโวคาโดมีโฟเลตสูง ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่มีความสำคัญสำหรับหญิงตั้งครรภ์อย่างมาก เพราะจำเป็นสำหรับทารกในครรภ์
  11. น้ำมันอะโวคาโดเป็นน้ำมันที่ดูดซึมเข้าสู่ผิวหนังได้ดีที่สุดหากเทียบกับน้ำมันอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันข้าวโพด อัลมอนด์ หรือแม้กระทั่งน้ำมันมะกอก
  12. น้ำมันอะโวคาโดสามารถนำมาใช้นวดศีรษะเพื่อช่วยเร่งการงอกของเส้นผมของลูกน้อยได้
  13. อะโวคาโด ประโยชน์นิยมรับประทานเป็นผลไม้สด หรือรับประทานร่วมกับไอศกรีม นมข้นหวาน น้ำตาล เค้ก สลัด ฯลฯ และเนื้อของอะโวคาโดสามารถนำมาปรุงอาหารแทนเนยได้

วิธีเลือกอะโวคาโด

♥ Must readกินผลไม้ ตอนไหนดี กับร่างกายมากที่สุด

 

สีผิวภายนอกของอะโวคาโดแต่ละพันธุ์มีสีที่แตกต่างกันไป อาจจะเป็นสีเขียวหรือเข้มคล้ำจนถึงสีน้ำตาล ลักษณะผิวขรุขระ ภายในมีเนื้อผลไม้สีเขียวอ่อน และมีเมล็ดใหญ่ตรงกลาง มีผิวเปลือกสีเข้ม ซึ่งยากแก่การคาดเดาได้ว่าอะโวคาโดที่จะซื้อนั้นสุกหรือยัง  วันนี้เราเลยมีเคล็ดลับง่ายๆ ในการเลือกอะโวคามาฝากค่ะ  ใครที่ชอบทานอะโวคาโด หรือ กำลังอยากลองทานกันอยู่  มาดูเคล็ดลับง่ายๆ นี้กันเลยค่ะ

อ่านต่อ >> “คลิปวิธีเลือกอะโวคาโดสุก และการปอกเปลือกอะโวคาโดให้ลูกได้ประโยชน์สูงสุด” คลิกหน้า 2

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

สูตรกำจัดรอยแตกลายบนผิวด้วยวิธีธรรมชาติ เห็นผลภายใน 1 เดือน

event

วิธีแก้ท้องลายหลังตั้งครรภ์ …อาการหน้าท้องแตกลาย หลังจากการตั้งครรภ์ จะเห็นเด่นชัดขึ้นหลังการคลอดลูกไปแล้ว โดยลักษณะการแตกลาย จะเป็นทางยาวสีชมพู หรือแดง  บางรายจะมีอาการคันร่วมด้วย

 

ซึ่งโดยปกติแล้ว หน้าท้องของคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ใหม่ๆ จะเริ่มเห็นรอยแตกลายที่หน้าท้องซักประมาณ 3-4 เดือนไปแล้ว หลังจากการตั้งครรภ์ เนื่องจาก หน้าท้องมีการยืดขยายตัวออก นั่นเอง

รอยแตกลายลายเกิดจาก?

วิธีแก้ท้องลายหลังตั้งครรภ์

หน้าท้องลาย เกิดขึ้นจากการที่ผิวหนังที่ถูกดึงเกิดการแยกตัวอย่างรวดเร็ว ทำให้การแบ่งเซลล์ตามธรรมชาติไม่สามารถเกิดขึ้นทัน ความรวดเร็วดังกล่าว ทำให้เกิดการทำลายโครงสร้างคอลลาเจนในชั้นหนังแท้ พบได้บ่อยที่สุดในคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ มักเป็นบริเวณท้อง หรือหน้าอก นอกจากนี้ยังพบได้ในคนที่อ้วนอย่างรวดเร็ว หรือในวัยรุ่นที่กำลังสูงอย่างรวดเร็วโดยพบผิวแตกลายได้ที่ต้นขาด้านนอก หลังด้านล่าง หรือสะโพก

ปัญหาหน้าท้องลายกว่าครึ่ง พบในผู้หญิงตั้งครรภ์ โดยมีลักษณะเป็นเส้นบางๆ ฉีกเป็นแนวยาวที่มีขนาดแตกต่างกันออกไป และมีหลายสี ไม่ว่าจะเป็นสีน้ำตาล สีแดง หรือสีม่วง พบมากบริเวณหน้าท้อง เริ่มต้นจากสะโพก ต้นขา หรือบริเวณเต้านม แต่ส่วนใหญ่มักจะเกิดขึ้นที่บริเวณหน้าท้องเป็นหลัก สาเหตุหลักเชื่อกันว่าเป็นผลที่เกิดขึ้นจากเตียรอยด์จากต่อมหมวกไต ที่เพิ่มขึ้นหลังจากการตั้งครรภ์ ซึ่งสัมพันธ์กับการขยายตัวของผิวหน้าท้องในขณะที่ทารกมีการเจริญเติบโต หลังจากหลังคลอดเส้นขีดเหล่านี้ไม่ได้หายไปไหน เพียงแค่สีจางลง จนดูเหมือนกับเป็นแผลเป็นบริเวณหน้าท้องนั่นเอง

วิธีแก้ท้องลายหลังตั้งครรภ์ แบบธรรมชาติ
เห็นผลภายใน 1 เดือน

ซึ่งบรรดาคุณแม่ทั้งหลาย มักจะกังวลเกี่ยวกับ ปัญหาหน้าท้องลาย ซึ่งแม้เวลาจะผ่านไปหลายเดือน แต่ก็ไม่อาจทำให้อาการหน้าท้องลายจากการตั้งครรภ์จางลงได้ ส่วนคุณแม่ที่เพิ่งจะคลอดก็เริ่มมีความกังวลเรื่อง หน้าท้องลายอยู่ไม่น้อย ด้วยเกรงว่า หากกลับไปผอมหุ่นดีแล้ว อาจจะใส่เอวลอยไม่ได้ เพราะทั้งพุงและปัญหาหน้าท้องลาย ที่จะทำให้คุณแม่หมดความมั่นใจไปเลยก็มี

ดังนั้นหากใครที่กำลังประสบปัญหาเหล่านี้ อย่าเพิ่งท้อหมดกำลังใจไป มาดูวิธีป้องกันและวิธีรักษา หน้าท้องลาย ให้กลับมาเนียนเรียบดังเดิมดีกว่า

√ ดูแลตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ ป้องกันหน้าท้องลาย

เป็นการดูแลเรื่องหน้าท้องลาย ที่จะไม่ให้เกิดขึ้นกับคุณแม่หลังคลอด ซึ่งเป็นการดูแลที่ต้นเหตุ ด้วยการเริ่มทาครีมบำรุงผิว บริเวณท้องของคุณแม่ ที่จะมีการขยายขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งช่วงที่หน้าท้องขยาย จะเริ่มทำให้ผิวหนังช่วงท้องเริ่มแตก

การหมั่นทาครีมบำรุงผิวบ่อยๆ จะไปช่วยทำให้ผิวท้องที่ลาย มีความอ่อนนุ่ม ชุ่มชื้น กระชับ เพราะหากไม่ป้องกันตั้งแต่เริ่มต้น จะทำให้คุณมี หน้าท้องลาย เกิดขึ้น

Must readการดูแลผิวพรรณหลังคลอด ให้กลับมาสวยมีน้ำมีนวล

อ่านต่อ >> “สูตรกำจัดรอยแตกลายบนผิวด้วยวิธีธรรมชาติ เห็นผลภายใน 1 เดือน” คลิกหน้า 2

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

5 ท่าเซ็กส์ปลอดภัย ขณะตั้งครรภ์

Alternative Textaccount_circle
event

ท่าเซ็กส์ปลอดภัย ขณะตั้งครรภ์  ความสุขอย่างหนึ่งที่สามีจะมอบให้ภรรยากำลังอุ้มท้องได้เหมือนปกติทั่วไป ก็คือการมอบเซ็กส์ที่สุขสมให้กับภรรยา และไม่ต้องกังวลว่าจะเป็นอันตรายต่อลูกน้อยในครรภ์  ทีมงาน Amarin Baby & Kids ขอแนะนำให้ว่าที่คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ที่กำลังมีลูกน้อยอยู่ในท้อง ได้ทำความเข้าใจกับ ท่าเซ็กส์ขณะตั้งครรภ์ กันค่ะ

 

ท่าเซ็กส์ปลอดภัย ขณะตั้งครรภ์ – อันตรายไหมหากจะมีเพศสัมพันธ์กันระหว่างตั้งครรภ์?

คำถามยอดฮิตที่คนท้องส่วนใหญ่ไม่กล้าถามหมอ   แต่จะมานึกมากังวลและถามกันเองกับคำถามที่ว่า  “ตอนท้องมีอะไรกับสามีได้ไหม? มีแล้วจะแท้งลูกไหม?” อยากบอกว่าคำถามนี้คุณหมอทุกท่านยินดีตอบให้คุณแม่ท้องทุกคนนะคะ  จริงๆ ถามคุณหมอได้ไม่ต้องเขินอาย  เพราะถามแล้วคุณแม่จะได้รับคำตอบที่ชัดเจน และจะช่วยเพิ่มความมั่นใจในการมีเซ็กส์ขณะตั้งครรภ์ด้วยค่ะ

 

คุณหมอปิยะรัตน์ สัมฤทธิ์ประดิษฐ์ สูตินรีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ได้ให้ข้อมูลของการมีเซ็กส์ขณะตั้งครรภ์ไว้ว่า “หากคุณแม่ตั้งครรภ์ปกติ ไม่มีภาวะแทรกซ้อน สามารถมีเพศสัมพันธ์ในระหว่างการตั้งครรภ์ได้จนถึงใกล้คลอด1  แต่ทั้งนี้หากคุณแม่ท้องมีภาวะแทรกซ้อนทางสุขภาพระหว่างตั้งครรภ์ เช่น มีประวัติการคลอดก่อนกำหนด มีเลือดออกระหว่างตั้งครรภ์  มีภาวะรกเกาะต่ำ ฯลฯ คุณหมอแนะนำให้คุณแม่งดการมีเพศสัมพันธ์ เพื่อความปลอดภัยกับคุณแม่และทารกน้อยในครรภ์ค่ะ

♥ บทความแนะนำน่าอ่าน : วิธีเร่งคลอด ด้วยวิธีธรรมชาติ ป้องกันคุณแม่ท้องเกินกำหนด

การมอบความสุขทางกายให้แก่กันระหว่างตั้งครรภ์ ถึงแม้ว่าจะปลอดภัยต่อแม่ท้อง แต่ก็ใช่ว่าจะสามารถทำกันได้ในทุกท่วงท่าลีลานะจ๊ะ เพราะข้อจำกัดของขนาดครรภ์ที่ทำให้ต้องเลือกท่าเซ็กส์ที่เหมาะสม และปลอดภัยต่อเจ้าตัวเล็กในท้องคุณแม่ด้วย  ซึ่งในช่วงระยะ 3-4 เดือนแรกท่วงท่าที่ใช้ในการมีเพศสัมพธ์จะยังคงเป็นท่าเซ็กส์ที่ใช้เหมือนกับช่วงก่อนยังไม่ตั้งครรภ์  แต่หลังจากผ่านช่วงการตั้งครรภ์ไตรมาสแรกไปแล้ว และเข้าสู่ช่วงกลางของไตรมาสที่สองเป็นต้นไป รูปร่างและขนาดครรภ์ของคนท้องจะเปลี่ยนแปลงขยายขนาดมากขึ้น  จึงไม่เหมาะหากจะมีเซ็กส์ในท่วงท่าที่จะไปกระทบให้แม่ท้องรู้สึกอัดจากการถูกกดทับ

♥ บทความแนะนำน่าอ่าน : แม่ท้องมีเซ็กส์อย่างไรให้ปลอดภัย?
♥ บทความแนะนำน่าอ่าน : เซ็กส์หลังคลอด เริ่มเมื่อไหร่?

อ่านต่อ >> “5 ท่วงท่าเซ็กส์ปลอดภัยขณะตั้งครรภ์” หน้า 2

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

ลูกไม่ได้เกิดมาโดยบังเอิญ และมีพรสวรรค์พิเศษ

Alternative Textaccount_circle
event

มีบทความน่าสนใจของหมอภา ทพญ.จีรภา ประพาศพงษ์ ที่เขียนเอาไว้เกี่ยวกับเคล็ดลับในการประสบ ความสำเร็จ ในชีวิตของลูกน้อย ว่าลูกไม่ได้เกิดมาโดยบังเอิญ แต่เกิดมาจากการสร้างสรรค์ประติมากรรมชิ้นเอกของพ่อแม่ ประกอบด้วยการเลี้ยงดูที่ส่งผลให้ลูกมีชีวิตที่สมบูรณ์

(more…)

ประโยชน์ของการดื่มน้ำอุ่น

ประโยชน์ของการดื่มน้ำอุ่น ที่ดีต่อสุขภาพคุณแม่

Alternative Textaccount_circle
event
ประโยชน์ของการดื่มน้ำอุ่น
ประโยชน์ของการดื่มน้ำอุ่น

ประโยชน์ของการดื่มน้ำอุ่น การดูแลสุขภาพที่คุณแม่สามารถทำได้ในทุกวัน คือการดื่มน้ำอุณหภูมิปกติ หรือดื่มเป็นน้ำอุ่นยิ่งดีต่อสุขภาพ เพราะน้ำจะไปช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดให้ไปหล่อเลี้ยงอวัยวะและเซลล์ต่างๆ ภายในร่างกายให้แข็งแรง  ทีมงาน Amarin Baby & Kids มี ประโยชน์ของการดื่มน้ำอุ่น ที่อยากให้คุณแม่ และทุกคนได้หันมาดูแลสุขภาพกันให้มากขึ้นค่ะ

 

ประโยชน์ของการดื่มน้ำอุ่น  – ทำไมน้ำถึงจำเป็นกับสุขภาพร่างกาย

ตามปกติแล้วเราทุกคนควรดื่มน้ำเปล่าให้ได้อย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว ในร่างกายของเรานั้นมีน้ำเป็นส่วนประกอบประมาณร้อยละ 70 ในเลือดของเราก็มีน้ำเป็นมากถึงร้อยละ 92 ส่วนสมองก็มีน้ำอยู่ถึงร้อยละ 85 ด้วยเช่นกัน เห็นไหมคะว่าน้ำสะอาดที่เราดื่มกันทุกวันนั้นมีความสำคัญมากแค่ไหนกับร่างกาย

 

ทุกครั้งหลังดื่มน้ำจะช่วยทำให้ร่างกายสดชื่นขึ้น สมองโล่ง ปลอดโปร่ง นอกจากนี้หน้าที่สำคัญของ “น้ำ” คือมีหน้าที่ในการช่วยขนส่งอาหาร และออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงอวัยวะ  เซลล์ต่างๆ ให้กับร่างกาย  และหากกระบวนการไหลเวียนของเลือดในร่างกาย ระบบการขับถ่ายของเสียในร่างกายจะไม่สามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์หากสารน้ำในร่างกายไม่มีความสมดุล  ซึ่งทุกคนจะสามารถสังเกตได้ว่าหากเช้าไหนหลังตื่นนอนที่ไม่ได้ดื่มน้ำเปล่า เรามักจะไม่เข้าห้องน้ำเพื่อขับบ่ายของเสียออกจากร่างกาย นั่นเพราะน้ำจะช่วยให้ลำไส้ขยับบีบตัวแล้วพลักดันอุจจาระที่อยู่ในลำไส้ให้สามารถขับถ่ายออกมาได้อย่างเป็นปกติทุกวัน ยิ่งถ้าได้ขับถ่ายเอาของเสียออกจากร่างกายช่วงเช้าทุกวันจะดีมาก เพราะจะช่วยให้ร่างกายของเรานั้นไม่มีของเสียตกค้างอยู่ในลำไส้  ซึ่งก็จะส่งผลให้มีสุขภาพที่ดี

 

เห็นไหมคะว่าน้ำที่ดื่มกันทุกวันนั้นมีความสำคัญกับสุขภาพร่างกายของทุกคนมากแค่ไหน  ยิ่งโดยเฉพาะกับร่างกายของคุณแม่ที่ต้องสูญเสียเลือดจากการมีประจำเดือนในทุกเดือน รวมทั้งการคลอดลูกก็ทำให้ต้องสูญเสียเลือดมากด้วยเหมือนกัน ร่างกายที่สูญเสียสมดุลไปจากการตั้งครรภ์ จากการคลอดลูก อาจต้องใช้เวลาหลังคลอดสักพักเพื่อฟื้นฟูสมดุลต่างๆ ภายในร่างกายให้กลับมาเป็นปกติ

อ่านต่อ >> “10 ประโยชน์ของการดื่มน้ำอุ่น ที่ดีต่อสุขภาพคุณแม่” หน้า 2

 

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

อุ้มลูกบ่อย

ไขข้อสงสัย! อุ้มลูกบ่อยๆ ทำให้ติดมือ และขวางพัฒนาการลูกน้อย จริงหรือ?

event
อุ้มลูกบ่อย
อุ้มลูกบ่อย

ลูกติดมือ วางไม่ได้เลย …คุณแม่ๆ หลายคนอาจเคยได้ยินคำที่ผู้ใหญ่เตือน ว่าอย่าอุ้มลูกมากเดี๋ยวติดมือ  เด็กจะติดเป็นนิสัย และร้องไม่ยอมหยุดถ้าไม่มีใครอุ้ม พาลจะทำให้แม่ไม่ได้หลับไม่ได้นอน  ไปทำอะไรก็ไม่ได้ ลูกจะอ้อนให้อุ้มตลอดเวลา

อุ้มลูกบ่อยๆ ทำให้ ลูกติดมือ วางไม่ได้เลย ดีหรือไม่?

ลูกติดมือ วางไม่ได้เลย

จริงๆ แล้วในช่วงวัยทารกจนถึงวัยเดินเตาะแตะเป็นวัยที่ต้องการการสัมผัสจากคุณพ่อและคุณแม่มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการอุ้ม กอด ยิ้ม พูดคุย หยอกล้อ  เพราะลูกน้อยจะรู้สึกว่า ตัวเค้ามีความสำคัญกับคุณพ่อคุณแม่ และสำหรับลูกน้อยนั้นการอุ้ม การสัมผัสลูก เป็นสิ่งสำคัญกับจิตใจเป็นอย่างมาก 

Must readแค่ “กอด” สุขภาพใจ+กาย ก็แข็งแรง
Must readท่าซุปเปอร์แมน ท่าเซิ้งกระติ๊บ ทำให้ลูกหยุดร้องไห้

โดยมีผลงานการวิจัยออกมาอย่างแพร่หลายถึงเด็ก 2 กลุ่ม ที่ได้รับการเลี้ยงดูและเอาใจใส่ต่างกัน กลุ่มหนึ่งได้รับการอุ้มชู กอดรัดฟัดเหวี่ยง กับเด็กอีกกลุ่มหนึ่ง ที่คุณพ่อคุณแม่ให้นอนเล่นเองและเติบโตมาในเพลย์เพนหรือพื้นที่ส่วนตัวภายในบ้าน เด็กทั้ง 2 กลุ่มนี้มีความแตกต่างกันทางอารมณ์เป็นอย่างมาก

  • เด็กๆ ที่คุณพ่อและคุณแม่เฝ้ากอดหอมอุ้มชูรักใคร่ จะเป็นหนูน้อยที่มีความมั่นคงทางจิตใจสูง ไม่ร้องโยเยและมีสมาธิดีมาก
  • แต่สำหรับหนูน้อยที่คุณพ่อและคุณแม่ไม่ค่อยได้เล่นด้วยหรือกอดอุ้มลูกเท่าไหร่ กลับมีภาวะแปลกแยก ไม่เข้าสังคม และหงุดหงิดง่าย ร้องไห้โยเยอยู่นานเหมือนต้องการให้คนอื่นสนใจตลอดเวลา

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็อาจจะมีเด็กบางกลุ่มที่ไม่ยอมให้วางบนที่นอนเลยจนคุณแม่เองก็ไม่เป็นอันได้พักผ่อน  วางทีไรเป็นต้องร้องไห้  ทำให้ส่งผลต่อทั้งสุขภาพจิตใจและร่างกาย  จึงเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่คุณพ่อคุณแม่ต้องพิจารณาถึงสาเหตุและแก้ปัญหาในตรงจุด

Must readสาเหตุที่ทำให้ลูก ทารกร้องไห้ และวิธีรับมือ
Must readโคลิค หรือ แม่ซื้อ สาเหตุลูกร้องไห้ไม่ยอมหยุด
Must read : 10 วิธี ทำ ให้ ทารก หยุดร้องไห้
อุ้มลูกบ่อย
อุ้มลูกบ่อย

หนังสือพิมพ์อาซาฮีฉบับวันที่ 5 มีนาคม ค.ศ.1071 ซึ่งได้ลงรายงานผลการทดลองเกี่ยวกับเรื่อง การอุ้มทารกว่าเป็นเรื่องดี ซึ่งใช้ลิง ดร.แฮรี่ ฮาร์โลว์ (Dr. Harry Harlowe) หัวหน้าของศูนย์วิจัยเกี่ยวกับมนุษย์และลิง (Primates Fessarch Centre) ของมหาวิทยาลัยวิสคอนซินได้ทำการทดลองโดยแยกลูกลิงออกจากแม่ลิงทันทีที่เกิดออกมา และใช้ตุ๊กตาต่างๆ แทนแม่ เพื่อศึกษาดูว่าลูกลิงจะเลือกแม่แบบไหน

ซึ่งตุ๊กตาที่ใช้เป็นตุ๊กตาทรงกระบอกทำด้วยลวด และอีกตัวหนึ่งทำด้วยผ้า ตุ๊กตาทั้งสองตัวมีความอบอุ่น มีขวดให้นม และสามารถแกว่งตัวไปมาอย่างช้าๆ ผลการทดลองปรากฏว่าลูกลิงชอบความอบอุ่น สัมผัสอ่อนนุ่ม นม และชอบให้แกว่ง

โดย ดร.อาร์โลว์ ผู้ทำการทดลองจึงสรุปว่า ลูกคนก็คงชอบความอบอุ่นสัมผัสอันอ่อนนุ่ม นม และชอบให้แกว่งไกวเบาๆ เช่นเดียวกัน เขาเน้นว่า การที่แม่อุ้มลุกน้อยอย่างนุ่มนวลจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับสุขภาพจิตของทารก

อ่านต่อ >> “อุ้มลูกจนติดมือ เสี่ยงขวางพัฒนาการลูก จริงหรือ” คลิกหน้า 2

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

9 สิ่งอันตราย รอบตัวแม่ท้อง “ทำลายสมองและพัฒนาการลูกในครรภ์”

event

สิ่งรอบตัว ทำร้ายลูกในครรภ์ …หลายครั้งที่ความเคยชินกับการใช้ชีวิตประจำวันทำให้คุณแม่ท้องไม่ทันระวังว่ามีอีกหนึ่งชีวิตนั้นอยู่กับตัวเองด้วย  ซึ่งยังมีสิ่งแวดล้อมหรือสิ่งรอบตัวของคุณแม่ตั้งครรภ์หลายอย่างทีเดียว ที่อาจเป็นภัยเงียบที่ส่งผลร้ายต่อลูกน้อยในท้องได้

นอกจากแม่ท้องจะต้องรู้วิธีกระตุ้นพัฒนาการทารกในครรภ์แล้ว ยังจะต้องรู้ถึงสิ่งต่อไปนี้ที่จะขัดขวางและทำลายพัฒนาการทารกในครรภ์…   ซึ่งภัยอันตรายรอบข้างที่คุณแม่ตั้งครรภ์ต้องระวังให้ทารกในครรภ์เป็นพิเศษมีอยู่มากมายโดยคุณแม่อาจไม่คาดคิดหรือไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ เพราะสิ่งเหล่านั้นสามารถทำลายสมองและพัฒนาการทารกในครรภ์ได้ จะมีอะไรบ้างที่คุณแม่ท้องต้องระวังหรือควรหลีกให้ไกล ไปดูกันค่ะ

สิ่งรอบตัว ทำร้ายลูกในครรภ์ โดยไม่คาดคิด!

สิ่งรอบตัว ทำร้ายลูกในครรภ์

♦ สภาพแวดล้อมในบ้าน ♦

1. อุปกรณ์ไอที

เชื่อหรือไม่ว่าเทคโนโลยีต่างๆ ที่คุณแม่ใช้อยู่ทุกวันนี้ ก็ส่งผลต่อพัฒนาการทารกในครรภ์ เช่น คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต หากคุณแม่ตั้งครรภ์มีความจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์เหล่านี้ก็ยังสามารถใช้ได้ แต่ควรใช้ในเวลาที่น้อยที่สุดเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อพัฒนาการทารกในครรภ์ เนื่องจากการใช้คอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน 6-8 ชั่วโมงต่อวัน จะมีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าและรังสีที่แผ่ออกมาจะส่งผลต่อลูกในท้อง ส่วนการใช้โทรศัพท์มือถือหรือแท็บเล็ตเป็นเวลานานก็ไม่ดีเช่นกันค่ะ เพราะโทรศัพท์มือถือจะมีรังสีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า สามารถทำลายเซลล์ประสาทและเซลล์ตัวอ่อนของทารกในครรภ์ อาจกระตุ้นให้ทารกเป็นโรคต้อกระจก ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ สมาธิสั้น พัฒนาการล่าช้าได้ในอนาคต

Must readใช้เทคโนโลยีอย่างไรให้ปลอดภัยกับแม่และลูกในท้อง

2. สัตว์เลี้ยง

โดยเฉพาะแมว เป็นพาหะนำเชื้อทอกโซพลาสม่า หากคุณแม่ท้องติดเชื้อจะส่งผลให้ทารกในครรภ์พิการ ตาบอด หรือสมองถูกทำลาย ฉะนั้นหญิงท้องควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสแมวหรือสัตว์เลี้ยงอื่น ๆ

Must readอยากท้อง แต่เลี้ยงน้องสุนัขได้ไหม?

3. สารเคมีหรือยาฆ่าแมลง

อย่างสารปรอท ที่ปนเปื้อนอยู่ในอากาศ  น้ำ  และดิน  จากการเผาไหม้ของเชื้อเพลิง การเผาขยะ ในผลิตภัณฑ์ที่ใช้ตามบ้านเรือน ปนเปื้อนในเครื่องสำอางและอาหาร โดยเฉพาะในอาหารทะเลจะพบมากในสัตว์ทะเลที่มีขนาดใหญ่ ไม่เข้าใกล้สถานที่ที่มีการเผาไหม้ของขยะหรือเชื้อเพลิงต่าง ๆ ควรเลือกใช้เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมที่มาจากธรรมชาติ  แทนการใช้เครื่องสำอางที่ผลิตจากสารเคมี

Must read9 เรื่อง การเสริมสวยที่แม่ท้องควรรู้

ควรระมัดระวังในการใช้ อ่านฉลากอย่างละเอียด ถ้าไม่จำเป็นควรหลีกเลี่ยงเพราะสารเคมีเหล่านี้อาจสะสมไว้ในร่างกาย อาจทำให้ทารกที่คลอดออกมาพิการแต่กำเนิด

อ่านต่อ >> “สิ่งรอบตัวสภาพแวดล้อมในบ้าน ที่เป็นอันตรายทำร้ายลูกในครรภ์”
คลิกหน้า 2

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

สื่อออนไลน์

สื่อออนไลน์ กับ 3 อันตรายที่พ่อแม่ต้องป้องกัน

Alternative Textaccount_circle
event
สื่อออนไลน์
สื่อออนไลน์

เป็นเรื่องน่าตกใจที่อาชญากรรมส่วนใหญ่บนโลกออนไลน์ คนที่ตกเป็นเหยื่อคือเด็กๆ เพราะเกิดจากการใช้อินเทอร์เน็ตที่ไม่ถูกต้อง และสิ่งที่น่าตกใจมากกว่าคือการโพสต์แบบไม่ระมัดระวังของพ่อแม่ที่นำมาซึ่งอันตรายจากสื่อออนไลน์ เรามาเรียนรู้วิธีการใช้ สื่อออนไลน์ ให้ปลอดภัยกันค่ะ

(more…)

วิธีช่วยชีวิตลูก สิ่งแปลกปลอมติดคอ สำลักอาหาร (มีคลิป)

Alternative Textaccount_circle
event

อันตรายจากการสำลักอาหาร สิ่งแปลกปลอมติดคอ เป็นสาเหตุของการเสียชีวิตที่พบบ่อยในเด็กเล็ก คุณแม่จึงควรเรียนรู้ วิธีช่วยชีวิตลูกในสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อช่วยลูกได้อย่างทันท่วงที (more…)

เซ็กส์ตอนท้อง ช่วงไหนปลอดภัย

เซ็กส์ตอนท้อง ช่วงไหนปลอดภัย

Alternative Textaccount_circle
event
เซ็กส์ตอนท้อง ช่วงไหนปลอดภัย
เซ็กส์ตอนท้อง ช่วงไหนปลอดภัย

เซ็กส์ตอนท้อง ช่วงไหนปลอดภัย  คนท้องไม่ใช่คนป่วย ฉะนั้นคนท้องสามารถที่จะทำอะไรได้เหมือนกับคนทั่วไป แต่เน้นว่ากิจกรรมนั้นๆ ต้องไม่อันตราย และไม่กระทบกับทารกในครรภ์อย่างเด็ดขาด เพราะถ้าพลาดอาจเสี่ยงแท้งได้นะ!!  ทีมงาน Amarin Baby & Kids มีคำตอบของคำถามที่ว่า “เซ็กส์ตอนท้อง ช่วงไหนปลอดภัย” มาฝากให้แม่ท้องทุกคนค่ะ

 

เซ็กส์ตอนท้อง ช่วงไหนปลอดภัย –  ตอนท้องมีเซ็กส์ได้ไหม?

เป็นคำถามที่แม่ท้องไม่กล้าถามหมอ และก็ไม่กล้าถามคนในครอบครัว เพราะเขินอาย และกลัวว่าจะถูกกล่าวหาว่า “ท้องแล้วจะยังคิดเรื่องเซ็กส์!!” จริงๆ คนท้องคิดเรื่องเซ็กส์ได้ไม่ใช่เรื่องผิด และก็ไม่ใช่เรื่องน่าอายอะไรเลย การมีเซ็กส์คือการมอบความสุขให้กับตัวเอง และก็ให้กับสามี  ที่สำคัญการมีเซ็กส์สามารถทำได้ตลอดไตรมาสของการตั้งครรภ์ แต่ต้องแน่ใจว่าคุณแม่ไม่ได้มีอาการแทรกซ้อนทางสุขภาพขณะตั้งครรภ์ เช่น เลือดออกทางช่องคลอด เพราะการมีเซ็กส์หากไม่ถูกช่วงเวลา และมีในท่าที่ไม่เหมาะสมอาจไปกระตุ้นให้มดลูกบีบตัว เสี่ยงแท้ง เสี่ยงคลอดก่อนกำหนดได้ค่ะ

 

Good to know… “รู้ไหมว่าการถึงจุดสุดยอดของคนท้องไม่ได้ส่งผลให้ลูกในท้องได้รับอันตราย การถึงจุดสุดยอดเมื่อมีเซ็กส์ จะทำให้มีการเกร็งกล้ามเนื้อ และมดลูกอาจหดรัดตัวได้ ซึ่งทางการแพทย์ไม่พบว่ามีอันตรายต่อทารกในครรภ์1

 

อ่านต่อ >> “เหตุใดมีเซ็กส์ตอนท้องถึงรู้สึกมีความสุขมาก” หน้า 2

 

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

อุทาหรณ์! ลูกติดจอรุนแรงระงับอารมณ์ไม่ได้

Alternative Textaccount_circle
event

มีเรื่องราวน่าสนใจของเพื่อนคุณแม่ท่านหนึ่ง ที่มาเล่าประสบการณ์เพื่อเป็นอุทาหรณ์ในการเลี้ยงลูกด้วยโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน จนทำให้ลูกน้อยกลายเป็นเด็กที่มีอารมณ์รุนแรง ควบคุมอารมณ์ของตัวเองไม่ได้ และทำร้ายคนอื่น ลองอ่านแล้วคิดสักนิด ก่อน ลูกติดจอรุนแรง

(more…)

ลูบท้องให้ลูกฉลาด

ลูบท้องให้ลูกฉลาด กระตุ้นพัฒนาการสมองทารกในครรภ์ด้วย 5 วิธี

event
ลูบท้องให้ลูกฉลาด
ลูบท้องให้ลูกฉลาด

ลูบท้องให้ลูกฉลาด กระตุ้นพัฒนาการสมองทารกในครรภ์ …หากอยากให้พัฒนาการทารกในครรภ์ดีเยี่ยม ทั้งคุณพ่อคุณแม่ทำได้เองง่ายๆ ตลอดเวลา ด้วยการลูบหน้าท้องเบาๆ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นพัฒนาการของทารกในครรภ์ได้อย่างไม่น่าเชื่อ

พัฒนาการของทารกในครรภ์ที่คุณแม่สามารถทำได้ด้วยวิธีง่ายๆ ทำได้ทุกวันและทำได้ตลอดเวลา อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นสมองของทารกในครรภ์ได้อย่างดี นั่นคือ การลูบท้องเบาๆ แล้วทำไมการลูบหน้าท้องถึงช่วยให้พัฒนาการทารกในครรภ์ให้ดีได้  และควร ลูบท้องให้ลูกฉลาด ด้วยวิธีใด  มาหาคำตอบไปพร้อมๆ กันค่ะ

เป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่าทารกนั้นเริ่มมีชีวิตและมีพัฒนาการตั้งแต่อยู่ในครรภ์ การตอบสนองต่อสิ่งต่างๆ ก็เช่นเดียวกัน แม้ว่าจะมองไม่เห็นแต่จะทำให้สัมผัสได้ด้วยความรู้สึก ซึ่งเป็นสายใยระหว่างแม่กับลูกน้อยในครรภ์ตามธรรมชาติ หลายคนอาจคิดว่าทารกที่อยู่ในครรภ์น่าจะเน้นในเรื่องการพัฒนาการทางด้านอวัยวะและร่างกายเป็นหลัก แต่ในความเป็นจริงนั้นควรต้องให้น้ำหนักถึงการดูแลเพื่อการพัฒนาการทางด้านสมองด้วยเช่นกัน

ลูบท้อง กระตุ้นพัฒนาการ

การพัฒนาและการช่วยกระตุ้นสมองทารกนั้นเริ่มทำได้ตั้งแต่อยู่ในครรภ์เลยโดยจะมีหลายวิธี เช่น

  • การปรับอารมณ์ของคุณแม่ให้ดีอยู่เสมอ
  • การฟังเพลงเบาๆ เหมือนการเปิดเพลงฟังกับลูกด้วย โดยเฉพาะทารกในครรภ์ประมาณ 5 เดือน
  • พูดคุยกับลูกในท้อง เป็นการพัฒนาระบบประสาททางด้านการได้ยินของทารก
  • ในช่วงครรภ์อายุ 7 เดือนส่องไฟฉายไปที่หน้าท้องเพื่อให้ทารกนั้นตอบสนองทางด้านสายตา
  • รวมถึงการออกกำลังกายเบาๆ ง่ายที่สุดคือถ้าคุณแม่ขยับก็เหมือนว่าทารกนั้นได้ขยับตาม
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์และปรุงสดใหม่เพื่อให้ทารกในครรภ์ได้รับสารอาหารดีๆ ที่คุณแม่รับประทานเข้าไป
Must read : อาหาร+อารมณ์แม่ท้อง พัฒนาสมองลูกน้อยช่วงไตรมาสแรก

ลูบท้องให้ลูกฉลาด กระตุ้นพัฒนาการทารกในครรภ์

การลูบหน้าท้องของคุณแม่ตั้งครรภ์ เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยกระตุ้นสมองของลูกน้อย ลูบหน้าท้องให้ลูกฉลาด เป็นการสัมผัสโดยตรงจากแม่สู่ทารกในครรภ์ เมื่อคุณแม่เริ่มสัมผัสบริเวณหน้าท้องเบาๆ จะสังเกตได้ว่าทารกในครรภ์จะมีปฏิกิริยาโต้ตอบ หรือมีการเคลื่อนไหวอย่างเห็นได้ชัด เช่น จะรู้สึกว่าลูกขยับตัวไปตามบริเวณที่มือพ่อแม่ลูบไป หรือมีอาการเตะเพื่อตอบโต้เหมือนกำลังเล่นกับพ่อแม่ เพราะการลูบหน้าท้องลักษณะนี้ เป็นการส่งความรู้สึกและพลังผ่านหน้าท้องสู่ทารกในครรภ์โดยตรง จึงทำให้ลูกสามารถรับถึงความรู้สึกและการสัมผัสแบบนี้ได้ เมื่อทารกในครรภ์มีการรับรู้ การกระตุ้นจึงเกิดขึ้น พัฒนาการด้านสมองของทารกในครรภ์จึงเกิด มีผลให้ทารกในครรภ์มีพัฒนาการสมองและพัฒนาการด้านร่างกายที่ดีอีกด้วย

Mom Should Know : 

การกระตุ้นประสาทสัมผัสทั้ง 5 ของลูกในท้องอย่างต่อเนื่อง จะช่วยถ่ายทอดความรักความผูกพัน ไปสู่ทารกในครรภ์ ซึ่งคุณแม่ท้องและคุณพ่อสามารถทำได้ทุกวันนะคะ แอบกระซิบบอกนิดนึงค่ะว่า คุณแม่ท้องและคุณพ่อจะต้องทำด้วยความรัก ความผูกพัน และปราศจากความเครียด เพราะความเครียดของคุณแม่ คือ ตัวการสำคัญที่ทำร้ายสมอง เพราะจะไปบล๊อกความสามารถในการจำของลูก

อ่านต่อ >> “การลูบท้อง เพื่อกระตุ้นพัฒนาการลูกอย่างถูกวิธี” คลิกหน้า 2

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

สปสช. จัดสิทธิประโยชน์ “บัตรทอง” ดูแลสุขภาพและพัฒนาการของเด็กไทย!

event

บัตรทอง ของเด็ก …สปสช. จัดสิทธิประโยชน์ “บัตรทอง” ดูแลสุขภาพเด็กไทย ตั้งแต่ในครรภ์จน 5 ปี เน้นฝากครรภ์ ให้วัคซีน ตรวจพัฒนาการ กลุ่มเด็กโตอายุ 6 – 24 ปี เน้นงานอนามัยในโรงเรียน

(more…)

ป้อนยาเกินขนาด

แม่แชร์! ลูกสมองติดเชื้อ ตับ-ม้ามโต เพราะป้อนยาเกินขนาด

Alternative Textaccount_circle
event
ป้อนยาเกินขนาด
ป้อนยาเกินขนาด

คุณแม่ท่านหนึ่ง ได้แชร์ประสบการณ์ที่เกิดขึ้นกับลูกน้อยของเธอ เพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้กับคุณแม่ท่านอื่นๆ ระวังอย่า! ป้อนยาเกินขนาด อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตลูก โดยคุณแม่เล่าว่า ลูกน้อยวัย 4 เดือนของเธอมีไข้ เธอจึงป้อนยาลดไข้สำหรับเด็กครั้งละ 1-1.5 ซีซี วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น ติดกันประมาณ 4-5 วัน เพื่อให้ไข้ลด แต่หลังจากนั้น กลับเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น ดังนี้ (more…)

ล้างไม่สะอาด ระวังพยาธิเข้าอวัยวะเพศลูกน้อย

Alternative Textaccount_circle
event

มีคุณแม่ท่านหนึ่ง โพสต์เล่าเรื่องราวของลูกสาววัย 3 ขวบ 10 เดือน เมื่อลูกน้อยปวดปัสสาวะจะเข้าห้องน้ำ และบ่นว่าเจ็บอวัยวะเพศ คุณแม่บอกลูกว่า เข้าห้องน้ำทุกครั้งต้องล้างทำความสะอาดด้วย จึงพาลูกน้อยกลับไปล้างทำความสะอาด แล้วกลับมานอน แต่กลับพบว่ามี พยาธิ ที่อวัยวะเพศลูก

(more…)

keyboard_arrow_up