พฤติกรรมพ่อแม่ ทำร้ายจิตใจลูก

10 การกระทำพ่อแม่ ทำร้ายจิตใจลูก แบบไม่รู้ตัว!!!

Alternative Textaccount_circle
event
พฤติกรรมพ่อแม่ ทำร้ายจิตใจลูก
พฤติกรรมพ่อแม่ ทำร้ายจิตใจลูก

6. อารมณ์เสียหงุดหงิดใส่ลูกซ้ำๆ

ภาวะอารมณ์ที่ควบคุมไม่ได้ ไม่ว่าจะมาจากพ่อหรือแม่ก็ตาม ที่บางครั้งอาจไปหงุดหงิดมาจากเรื่องงานนอกบ้าน มีความเครียดสะสมเก็บกลับมาบ้าน เชื่อไหมว่าปัจจัยเหล่านี้ สามารถทำให้พ่อหรือแม่ขาดสติ แล้วมาตะวาด ตะคอก ระเบิดอารมณ์ใส่ลูก เด็กที่เจอพ่อแม่อารมณ์เสียใส่ด้วยบ่อยๆ จะกลายเป็นเด็กที่ไม่กล้าเข้าใกล้พ่อแม่ ไม่ชอบพูดคุยหรือผูกพันกับพ่อแม่ แต่เด็กจะไปสนิทกับคนเลี้ยง เช่น ย่า ยาย หรือพี่เลี้ยงมากกว่า

 

7. เป็นที่ปรึกษาที่ดี และเก็บความลับของลูกได้

พ่อแม่ก็คือเพื่อนสนิทอีกคนของลูก ในเด็กที่ให้ความไว้วางใจกับพ่อแม่มากๆ เขาจะเล่า หรือมาปรึกษาทุกเรื่องกับพ่อและแม่ ซึ่งหน้าที่ของพ่อแม่คือเป็นที่ปรึกษา ต้องคอยให้คำแนะนำที่ดีที่ถูกต้องกับลูก และไม่ควรเล่าความลับของลูกให้ใครฟัง เพราะบางครั้งลูกอาจมีบางเรื่องที่อยากจะบอกให้พ่อ หรือแม่เท่านั้นที่รู้ได้เพียงคนเดียว

ดังนั้นพ่อกับแม่ก็ต้องไตร่ตรองให้ดีว่าควรจะเล่าต่อให้ใครฟังหรือเปล่า ตามคำแนะนำที่ผู้เขียนเคยสอบถามจากคุณหมอ ซึ่งได้รับคำแนะนำว่า หากบางเรื่องที่ลูกมาปรึกษา และเลือกที่จะบอกหรือถามแค่คนเดียว คือ ไม่บอกแม่ ก็บอกพ่อ และขอให้เก็บเรื่องนี้รู้กันแค่เขากับแม่ หรือเขากับพ่อ เมื่อเราในฐานะพ่อแม่พิจจารณาดูแล้วว่าเรื่องที่ลูกมาบอกมาขอคำปรึกษาไม่ใช่เรื่องใหญ่ร้ายแรงอะไร ก็ควรจบแค่เรากับลูก โดยที่ไม่นำเรื่องที่ลูกมาถามไปบอกคนอื่นๆ ในครอบครัว เพราะบางทีญาติพี่น้องก็อาจเอาไปแซวลูกจนเกิดความเขินอาย  สุดท้ายลูกก็จะไม่กล้ามาบอกหรือถามพ่อกับแม่ เพราะรู้แล้วว่าพ่อกับแม่ไม่ทำตามสัญญา และต่อไปเขาก็จะไม่ไว้ใจและไม่กล้ามาขอคำปรึกษากับพ่อแม่อีก

8. ชอบเอาความผิดพลาดที่ผ่านไปแล้วมาพูดตอกย้ำลูกบ่อยๆ

บางครั้งเด็กก็มีความดื้อ ความซนไปตามประสา ตามวัยของเขา จนบางครั้งเล่นเกินเลยมากไป ก็อาจทำให้เกิดความผิดพลาดขึ้นได้ และแน่นอนว่าความผิดพลาดนั้นอาจไม่ได้มาจากความตั้งใจที่จะให้เกิดขึ้นของเด็ก ซึ่งไม่แม่ก็พ่อ ก็มักจะดุว่าลูก ยิ่งถ้าพ่อกับแม่โมโหมากๆ กับเรื่องที่ลูกทำขึ้น ก็จะไปหยิบเอาความผิดจากครั้งก่อนๆ มาพูดกระทบใจลูกซ้ำอีกครั้ง ซึ่งความผิดพลาดที่จบไปแล้วและได้รับคำตักเตือนไปก่อนหน้านี้แล้ว ไม่ควรนำมาพูดให้กระทบกับใจเด็ก ยกตัวอย่างเช่น “ไหนบอกแม่ว่าจะไม่ปีนเก้าอี้ขึ้นไปหยิบขนนในตู้อีก สัญญากับแม่แล้วนะ เห็นไหมเนี่ยทำอีกแล้ว นิสัยไม่ดี เป็นเด็กโกโหก แล้วแบบนี้ใครจะรักเราห๊!! ครั้งหน้าทำอีก จะให้ไปอยู่นอกบ้านเลย”

คำพูดของแม่เวลาโมโหบางครั้งอาจหลุดคำที่ดูเหมือนไม่แรง แต่จี้ให้เกิดความเสียได้มาก เช่น เด็กโกโหก เด็กเหลือขอ ทำแบบนี้ใครจะรัก เด็กขยะ ฯลฯ  บางทีการที่ลูกไปหยิบขนมมากิน เพราะอาจมาจากความหิว หรือถ้าขอแม่ดีๆ แม่อาจไม่ให้ก็ได้ บางทีความเข้มงวดของพ่อแม่ที่มีให้ลูกมากเกินไป อาจทำให้ลูกอึดอัด และท้าทายด้วยการทำผิดแบบเดิมซ้ำๆ

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

9. ไม่กอด ไม่หอม ไม่บอกรักลูก

การแสดงความรักที่ดีมากๆ กับลูกตั้งแต่เล็กๆ เลยคือ การที่พ่อแม่ให้ความรักด้วยการกอด การหอมลูกอยู่เป็นประจำ จะทำให้เด็กเกิดความอบอุ่นในหัวใจ และรู้ว่าพ่อแม่รักเขา และตัวเขาเองก็รักพ่อแม่มากด้วยเช่นกัน

น้องแป้งเวลาที่พ่อหรือแม่ไปส่ง-ไปรับที่โรงเรียน พ่อกับแม่จะกอด และบอกรักลูกทุกครั้ง

แต่

น้องอร เพื่อนน้องแป้ง พ่อกับแม่ไม่เคยกอด ไม่เคยบอกรักเลย หรือแม้แต่จะหอมลูก พอมาส่งลูกที่โรงเรียนเสร็จก็รีบๆ กลับไปทำงาน น้องอรเห็นพ่อแม่เพื่อนที่แสดงความรักกับลูกทุกวัน จึงเกิดปมและคำถามขึ้นในใจว่าทำไม พ่อกับแม่ไม่ทำแบบนี้กับเขาบ้าง

การแสดงความรักระหว่างคนในครอบครัว โดยเฉพาะกับตัวของพ่อแม่ลูก ถือเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะการกอด การหอม การบอกรัก เป็นการสร้างสายใยรักความผูกพันให้สถาบันครอบครัวที่ดีมาก เด็กที่อยู่ในครอบครัวที่เต็มไปด้วยความรัก จะเติบโตขึ้นอย่างคนที่มีประสิทธิภาพ และมีความรักติดตัวไปจนโต และความรักที่ติดตัวเด็กไปนั้น เขายังจะส่งมอบให้กับคนรอบข้าง และสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่างไม่ลำบากด้วยค่ะ

 

10. ตามใจลูกแบบไม่ลืมหูลืมตา

เคยได้ยินคำว่า “พ่อแม่รังแกฉัน” กันมาบ้างใช่ไหมคะ บางครอบครัวเลี้ยงลูกเหมือนเทวดา ตามใจทุกอย่าง และบางครั้งกลายเป็นว่าแทนที่พ่อแม่จะควบคุมลูกให้อยู่ในกฎระเบียบได้ กลับกลายเป็นลูกควบคุมพ่อแม่เสียเอง เวลาไปโรงเรียนก็ไปแกล้งเพื่อน แกล้งครู แถมว่าเวลาลูกทำผิดก็ยังเข้าข้างลูก ให้ท้ายลูก

การตามใจลูกทุกเรื่องแบบไม่ลืมหูลืมตาของพ่อแม่ ลูกผิดก็ว่าลูกถูก  อาจทำให้ลูกเติบโตขึ้นอย่างเด็กนิสัยเสีย จนทำให้ ไม่มีใครอยากคบค้าสมาคมด้วย  การกระทำของพ่อแม่ในแบบนี้ ถือเป็นการทำร้ายลูกทางอ้อมอย่างมากค่ะ

ผู้เขียนเชื่อว่าทุกครอบครัวจะมีระเบียบแบบแผน มีแนวทางในการอบรมเลี้ยงดูลูกในแบบฉบับของตัวเองกันอยู่แล้ว แต่การเลี้ยงลูกถ้าจะให้ได้ผลดี ควรอยู่ในทางสายกลาง คือพ่อแม่ต้องไม่เข้มงวด หรืออ่อนกับลูกมากเกินไป รวมทั้งต้องระมัดระวังไม่แสดงพฤติกรรมทั้งคำพูด การกระทำที่ไม่ดีใส่ลูก เพราะอย่าลืมว่าลูกจะเติบโตขึ้นมาเป็นต้นกล้าที่แข็งแรง และมีคุณภาพได้นั้น ต้องมาจากรากฐานที่ดีที่ได้รับมาจากพ่อแม่ …ด้วยความใส่ใจและห่วงใยค่ะ

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

อ่านต่อบทความเรื่องอื่นที่น่าสนใจคลิก

เลี้ยงลูกให้เป็น “คนปกติ” ตามวัย
12ข้อคิด กับวิธีเลี้ยงลูกให้เป็นผู้มีปัญญา
เลี้ยงลูกไม่ให้ผิดเพศ ได้อย่างไร?


ขอขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก
www.dek-d.com

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up