โลหิตจาง จากการขาดธาตุเหล็ก ในแม่ตั้งครรภ์

โลหิตจาง จากการขาดธาตุเหล็ก ในแม่ตั้งครรภ์

Alternative Textaccount_circle
event
โลหิตจาง จากการขาดธาตุเหล็ก ในแม่ตั้งครรภ์
โลหิตจาง จากการขาดธาตุเหล็ก ในแม่ตั้งครรภ์

โลหิตจาง จากการ ขาดธาตุเหล็ก ในแม่ตั้งครรภ์

โลหิตจาง จากการขาดธาตุเหล็ก ในแม่ตั้งครรภ์

วิธีรักษาและผลข้างเคียง

การรักษาโรคโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็กนอกจากแนะนำให้รับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็กมาก ได้แก่ ผักใบเขียว ผลไม้แห้ง ถั่ว เนื้อสัตว์ เลือด ตับสัตว์ ไข่แดง นม เนย ขนมปัง (ที่เสริมธาตุเหล็ก) แล้ว วิธีง่ายที่สุด ราคาไม่แพง ไม่มีโทษใดๆ คือการเสริมธาตุเหล็กโดยการกินวันละ 150-200 มิลลิกรัมของธาตุเหล็กที่สามารถดูดซึมได้ (elemental iron)

โดยธาตุเหล็กมี 3 รูปแบบที่นิยมใช้ ได้แก่

  1. เฟอร์รัสฟูมมาเรท (Ferrous fumarate) จะมีธาตุเหล็กที่สามารถดูดซึมได้ 106 มิลลิกรัม ต่อธาตุเหล็ก 1 เม็ด
  2. เฟอร์รัส กลูโคเนต (Ferrous gluconate) มีธาตุเหล็กที่สามารถดูดซึมได้ 28-36 มิลลิกรัม ต่อธาตุเหล็ก 1 เม็ด
  3. เฟอร์รัสซัลเฟต (Ferrous sulfate) มีธาตุเหล็กที่สามารถดูดซึมได้ 65 มิลลิกรัม ต่อธาตุเหล็ก 1 เม็ด เป็นธาตุเหล็กที่มีราคาถูกที่สุด

ปัญหาของการเสริมธาตุเหล็กคือ ร้อยละ 10-20 อาจมีผลข้างเคียงคือคลื่นไส้อาเจียน ท้องผูก จุกแน่นท้อง โดยธาตุเหล็กที่สามารถดูดซึมได้มาก ก็มักจะคลื่นไส้มาก ในกรณีที่ไม่สามารถกินแบบเม็ด อาจหลักเลี่ยงมากินชนิดน้ำ (Elixer) ส่วนหากกินชนิดไหนไม่ได้เลยอาจเปลี่ยนมาเป็นฉีด สำหรับคุณแม่ที่มีโลหิตจางมากและใกล้คลอด ซึ่งเสริมธาตุเหล็กไม่ทันการณ์ อาจต้องให้เลือดแทนค่ะ

ทำอย่างไรจึงจะไม่เป็นโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก

  1. ควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ไม่ควรหลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์ ตับ ไข่แดง ฯลฯ เพราะเป็นแหล่งธาตุเหล็กชั้นดี ในกรณีที่ไม่กินเนื้อสัตว์ ควรเสริมธาตุเหล็กกินในรูปแบบเม็ด
  2. ในกรณีที่มีประจำเดือนมามาก ควรเสริมธาตุเหล็กชนิดกิน
  3. ก่อนตั้งครรภ์ ควรตรวจเลือดดูความเข้มข้นของเลือด หากมีภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก ควรรักษาก่อนปล่อยให้ตั้งครรภ์
  4. ขณะตั้งครรภ์แม้ไม่มีภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก ก็ต้องเสริมธาตุเหล็ก เพราะไม่สามารถรับประทานธาตุเหล็กจากอาหารได้พอเพียง
  5. วิตามินซีช่วยในการดูดซึมของธาตุเหล็ก ดังนั้นควรรับประทานอาหารที่เป็นแหล่งของวิตามินซีเป็นประจำ ได้แก่ ผักผลไม้ต่างๆ เช่น ใบยอ มะเขือเทศ กล้วย ส้ม ฝรั่ง องุ่น มังคุด แอปเปิ้ล สตรอเบอร์รี่ มะละกอสุก เป็นต้น

 

อ่านบทความอื่นที่น่าสนใจ

9 ผัก ผลไม้สีแดง สารต้านอนุมูลอิสระสูง ดีต่อสุขภาพคุณแม่

สุขภาพของลูกน้อย ดีได้ด้วยลำไส้ที่แข็งแรง พรีไบโอติกช่วยได้

อันตราย!! 8 โรค ที่แถมมาจากโรงพยาบาล ต้องระวังโรคอะไรบ้าง?

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up