ปัญหาฝ้ากระ จุดด่างดำหลังคลอด

แสงแดด นับว่าเป็นตัวอันตรายสำหรับคนเป็นฝ้าและกระอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ บางคนไม่เคยเป็นมาก่อน พอถูกแสงแดดกระตุ้นมากๆเข้า  ฝ้าและกระก็อาจมาเยือนได้ ส่วนคนที่เป็นอยู่แล้ว  หลังถูกแสงแดดจัด  ฝ้า กระ จุดด่างดำก็ยิ่งเข้มขึ้นจนเห็นได้ชัด

ฝ้า มักจะเห็นเป็นรอยคล้ำหรือเป็นปื้นสีน้ำตาลชัดเจนบนใบหน้า มีทั้งฝ้าตื้นและฝ้าลึก  โดยฝ้าตื้นจะเป็นสีน้ำตาลมองเห็นขอบได้ชัดเจน ในขณะที่ฝ้าลึกจะเป็นสีเทาเข้ม ขอบจางๆมองไม่ค่อยชัดเพราะอยู่ลึกในผิวชั้นหนังแท้ ส่วนกระ มักเกิดในคนผิวขาว มีทั้งกระตื้นและกระลึก โดยกระตื้นจะเกิดจากแสงแดดเป็นตัวกระตุ้น ส่วนกระลึกเกิดจากกรรมพันธุ์ และจะพบกระเฉพาะบริเวณที่ถูกแสงแดด เช่น ใบหน้า คอ แขน และกระจะมีสีเข้มขึ้นเมื่อถูกแดดจัด ส่วนรอยดำ มักเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น แผลสิว แผลอักเสบ ส่วนใหญ่จะอยู่ในผิวหนังชั้นลึก

ฝ้า กระ รอยดำคนที่ยังไม่เป็น หรือเป็นแล้ว  ก็ควรป้องกันไม่ให้เป็นมากขึ้นด้วยการหลีกเลี่ยงแสงแดดจัด ทาครีมกันแดดทุกครั้งก่อนออกจากบ้านและเลือกครีมกันแดดควรจะเลือกที่มี SPF และก็ PA อยู่ในหลอดเดียวกันด้วย  และเวลาทาถ้าเราอยู่กลางแดดจริงๆ เราควรที่จะทาบ่อยๆและหนาๆ เช่นเราไปตากแดด นั่งชายหาดเราต้องทาทุกๆ 2 ชั่วโมง ไม่ต้องกลัวเหนอะหนะหรือเป็นสิว  เพราะหลังจากออกแดดกลับถึงบ้าน  ก็เพียงล้างหน้าให้สะอาดเพื่อป้องกันการเกิดสิว จากนั้นตามด้วยครีมที่มีส่วนผสม Whitening มาทา  แค่นี้ก็หายห่วงได้แล้ว

มาถึงวิธีการรักษาถ้าฝ้ากระไม่ได้เห็นเด่นชัดหรือหากเป็นตื้นๆ ก็ใช้เลเซอร์ในกลุ่ม Brightening และ Whitening ก็พอจะใช้ได้เพื่อทำให้รอยดำ ฝ้ากระจางลง ซึ่งก็ต้องใช้เวลาพอสมควร ต่อมาเป็นการใช้เครื่องมือผลักวิตามินหรือผลักสารบางอย่างที่ช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสี  เครื่องมือจะช่วยให้ตัวยาเหล่านั้นซึมลงสู่ผิวในชั้นลึกได้ เป็นการรักษาที่ไม่เจ็บ ส่วนการรักษาจะค่อยๆเห็นผล หรือหากฝ้าหรือ กระอยู่ในชั้นลึก หมอจะพิจารณาใช้เลเซอร์ช่วย  ซึ่งก็จะมีอยู่หลายประเภท  เช่น เลเซอร์อ่อนๆ ทำหน้าที่ในการค่อยๆหยุดเม็ดสีทีละน้อยๆ หลังทำก็ไม่ตกสะเก็ด แต่จะต้องทำอย่างต่อเนื่องทั้งฝ้า กระ และรอยดำถึงจะค่อยๆจางลง  หรือเลเซอร์ที่เหมาะสำหรับคนที่เป็นกระลึก คือเลซอร์ที่ทำหน้าที่ในการช่วยเก็บเม็ดสี  แต่หลังยิงเลเซอร์จะมีสะเก็ดเล็กน้อย หรืออาจทำให้กระสีเข้มขึ้นและจะค่อยๆจางหายไปในที่สุด แต่ก็ต้องใช้ระยะเวลาในการรักษานานและหลายครั้ง

ในยุคนี้ได้มีการพัฒนาเทคโนโลยี่เพื่อแก้ปัญหาฝ้า กระ รอยดำ อย่างอ่อนโยนแต่มีประสิทธิภาพสูงคือรักษาฝ้ากระ ได้อย่างเห็นผล ซึ่งเป็นการรักษาแบบบูรณาการทั้งจากภายในและภายนอก มีทั้งการใช้เลเซอร์ผสานกับการใช้เซลล์ธรรมชาติเพื่อปรับสมดุลฮอร์โมน พร้อมดีท็อกซ์ของเสียในร่างกาย ทำให้ผิวพรรณกระจ่างใส ไม่หมองคล้ำ โดยการใช้ Cell Enhancer เป็น Stem cell stimulating factor ซึ่งจะช่วยกระตุ้น Stem cell ในร่างกายที่อยู่ในภาวะพักให้กลับมากระตุ้นเหมือนกับเปิดสวิทซ์ให้ Stem cell เริ่มกระบวนการทำงาน ในการซ่อมแซมร่างกาย และยังกระตุ้นการผลิต Stem cell ได้เพิ่มมากขึ้นกว่าปกติถึง 8 เท่า ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายผลัดเซลล์เก่าที่เสื่อมสภาพแล้วออกไป เช่น  ฝ้า กระ ที่ถูกทำลายโดยเลเซอร์แล้วสร้างเซลล์ใหม่ขึ้นมาแทนที่ อันจะมีผลต่อเนื่องไปยังการทำงานต่างๆของร่างกาย ทั้งนี้ยังช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนที่เป็นสาเหตุของการเกิดฝ้า กระ จุดด่างดำพร้อมกระตุ้นให้ร่างกายสร้างฮอร์โมนได้เอง ให้มีระดับฮอร์โมนใกล้เคียงกับในวัยหนุ่มสาว การใช้ Derma Crystal Q Laser เป็นแสงเลเซอร์ที่มีความยาวคลื่น 1064 นาโนเมตร ที่สามารถตรงเข้ารักษาฝ้า กระที่อยู่ในระดับลึก และความผิดปกติของเม็ดสี (Pigment) ในชั้นหนังแท้ ได้เป็นอย่างดี สามารถล็อคเป้าหมายเฉพาะบริเวณเม็ดสี แล้วตรงเข้าทำลายเมลานินให้แตกตัว สลายไปตามธรรมชาติ จนทำให้รอยหมองคล้ำ กระลึก ฝ้า ปาน ค่อยๆ จางลง อย่างไม่ทำร้ายผิว จนสีผิวกลับมาเรียบเนียนสม่ำเสมอ ร่วมด้วย DY Laser เลเซอร์สีเขียวความยาวคลื่น 511 นาโนเมตรซึ่งจะมีผลช่วยให้เม็ดสีของผิวหนังด้านบนฝ้า กระตื้น เพราะช่วยทำลายเส้นเลือดที่ไปหล่อเลี้ยงเม็ดสีที่ทำงานผิดปกติ ทำให้เม็ดสีนั้นไม่มีอาหารหล่อเลี้ยง เม็ดสีจึงค่อยๆจางลง ปิดท้ายด้วยการทำ Liver Detox เป็นการช่วยขจัดสารพิษต่างๆ ที่สะสมอยู่ในตับ เพราะสารพิษเหล่านั้นมีผลให้ใบหน้าดูดำและหมองคล้ำให้กลับมาผ่องใสเปล่งปลังมีน้ำมีนวลเห็นได้อย่างชัดเจน สิ่งสำคัญที่ต้องทำความเข้าใจคือในยุคนี้การกำจัดฝ้า กระ จุดด่างดำนั้นทำได้จริง แต่ต้องใช้ความพยายามมีความอดทนเพราะต้องใช้ระยะเวลาในการรักษา  โดยเฉพาะเมื่อต้องโดนแดดจัดมันก็จะกลับขึ้นมาใหม่อีก จึงควรหลีกเลี่ยงแสงแดด และทาครีมกันแดดเป็นประจำ

 

บทความโดย  : www.dermaster-thailand.com Call Center 02 71 444 71
ภาพ : ShutterStock