


ไวรัสซิกา พบผู้ติดเชื้อในกรุงเทพฯ พ่อแม่ระวัง!!

กระเป๋านักเรียนหนัก รีบแก้ก่อนสายเกินไป แนะนำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
จากข้อมูลของศูนย์วิจัยเพื่อสร้างเสริมความปลอดภัยและป้องกันการบาดเจ็บในเด็ก โรงพยาบาลรามาธิบดี ได้กำหนดมาตรฐานน้ำหนักกระเป๋าที่ปลอดภัยต่อกระดูกที่กำลังเติบโตของเด็กว่า ไม่ควรหนักเกิน 10 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักตัวเด็ก ซึ่งหมายความว่าถ้าเด็กมีน้ำหนัก 30 กิโลกรัม น้ำหนักกระเป๋าที่เด็กสามารถถือได้ต้องไม่เกิน 3 กิโลกรัม เพราะหากปล่อยให้เด็กแบก กระเป๋านักเรียนหนัก อาจจะลงเอยแบบในภาพนี้

กระเป๋านักเรียนหนัก แก้ไขก่อนสาย
เด็กไทยแบกกระเป๋านักเรียนหนักเกินไป เผยไม่ควรแบกเกิน 15% ของน้ำหนักตัว ชี้ทำหลังโค้ง ปวดไหล่ คอ หลัง เสี่ยงเตี้ยในระยะยาว ชงจัดตารางเรียนเหมาะสม ไม่ให้เด็กแบกของมาเรียนมากเกินไป มีล็อกเกอร์แบบต่างประเทศ
นพ.อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเพื่อสร้างเสริมความปลอดภัยและป้องกันการบาดเจ็บในเด็ก โรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวว่า จากการศึกษาพบว่า นักเรียนไทยระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-4 ต้องแบกกระเป๋าหนักเรียนที่หนักมากจนเกินมาตรฐาน ซึ่งทั่วโลกกำหนดเกณฑ์น้ำหนักกระเป๋านักเรียนที่เหมาะสมเอาไว้คือ ไม่เกินร้อยละ 10-20 ของน้ำหนักตัว เช่น เด็กมีน้ำหนักตัว 20 กิโลกรัม (กก.) ควรแบกกระเป๋านักเรียนหนัก ไม่เกิน 2-4 กก.เท่านั้น ส่วนประเทศไทยคิดเป็นค่ากลางๆ คือ ไม่เกินร้อยละ 15 ของน้ำหนักตัว ทั้งนี้ การแบกกระเป๋าที่มีน้ำหนักมากเกินไป จะมีผลกระทบทำให้กระดูกสันหลังโค้ง ปวดหลัง ปวดคอ ปวดไหล่ บางคนเป็นระยะสั้นๆ บางคนเป็นเรื้อรัง ซึ่งในระยะยาวอาจมีผลต่อพัฒนาการด้านความสูงได้ แต่ที่สำคัญคือเมื่อมีปัญหาสุขภาพย่อมส่งผลต่อประสิทธิภาพของการเรียน

ภาพนี้ถูกเผยแพร่ผ่านเพจ XOLXOL โดยระบุว่าเป็นสภาพกระดูกสันหลังของเด็กนักเรียนที่แบก กระเป๋านักเรียนหนัก เกินมาตรฐานเป็นเวลานานติดต่อกันหลายปีจนต้องเข้ารับการผ่าตัดและใส่กระดูกเทียม เพื่อแก้ปัญหากระดูกสันหลังคด
นพ.อดิศักดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้กำลังเตรียมศึกษาเรื่องน้ำหนักกระเป๋านักเรียนเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม จากการหารือร่วมกันของคณะกรรมการกิจการสังคมเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการและด้อยโอกาส สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เห็นควรว่าจะต้องเข้มงวดเรื่องน้ำหนักกระเป๋านักเรียนมากขึ้นโดยขอความร่วมมือจากครู ให้พิจารณาจัดตารางเรียนที่เหมาะสม หากอุปกรณ์เยอะ ควรมีระบบจัดเก็บไว้ที่โรงเรียนเช่นเดียวกับในต่างประเทศ เพราะปัจจุบันโรงเรียนในประเทศไทยแทบจะมีเลย นอกจากนี้ต้องให้ความรู้แก่ผู้ปกครองเรื่องผลกระทบต่อสุขภาพ และช่วยดูแลน้ำหนักกระเป๋าไม่ให้เกินร้อยละ 15 ของน้ำหนักตัว โดยชั้น ป. 1-2 แบกไม่เกิน 3 กก. ชั้น ป.3-4 ไม่เกิน 3.5 กก. และชั้น ป.5-6 ไม่เกิน 4 กก. ขณะเดียวกันก็ต้องจัดกระเป๋าให้ถูกวิธี โดยควรเป็นกระเป๋าสะพายไหล่ทั้ง 2 ข้าง จัดวางสิ่งของให้สมดุล ไม่หนักไปทางด้านใดด้านหนึ่ง ซึ่งเรื่องนี้กระทรวงศึกษาธิการได้รับไปดำเนินการแล้ว แต่ยังไม่พบการเปลี่ยนแปลง
ที่มาจาก : ศูนย์วิจัยเพื่อสร้างเสริมความปลอดภัยและป้องกันการบาดเจ็บในเด็ก โรงพยาบาลรามาธิบดี, http://www.thaihealth.or.th/
บทความที่น่าสนใจอื่นๆ

น้องโปรด วัยเข้าโรงเรียน มาดูกันว่าน่ารักขนาดไหน
น้องโปรด ลูกชายน่ารักของแม่เป้ยและพ่อป็อป ช่วยให้กำลังใจครอบครัวจากกระแสข่าวที่ไม่ค่อยดี ที่รบกวนใจแม่เป้ย ปานวาด บวกกับวัยที่โตขึ้นเรื่อยๆ ก็ยิ่งทวีความน่ารักให้ แม่เป้ยและแฟนคลับได้ชื่นใจ
ภาพน่ารักของ น้องโปรด วัยเข้าโรงเรียน
7 Step เตรียมเจ้าตัวน้อย ก่อนเข้าอนุบาล
- ฝึกให้ลูกช่วยเหลือตัวเองได้
โดยให้เริ่มฝึกในสิ่งที่ง่ายๆก่อนเช่น ฝึกกินข้าวเองให้เก่ง สวมเสื้อผ้าติดกระดุมเองได้ ใส่ถุงเท้าเอง สวมรองเท้าได้เอง เข้าห้องน้ำและทำความสะอาดตัวเองแบบง่ายๆ ได้ เช่น แปรงฟันเอง เก็บจานข้าว กดน้ำดื่มเองโดยคุณพ่อคุณแม่ก็ควรให้คำแนะนำแก่ลูกว่าวิธีการทำแต่ละอย่าง ควรทำอย่างไร ทำแบบไหนจึงจะถูกต้อง
อ่านเรื่อง “น้องโปรด วัยเข้าโรงเรียน มาดูกันว่าน่ารักขนาดไหน” คลิกหน้า 2

แม่ท้องดื่มน้ำมะพร้าว ช่วยให้ลูกผิวดีจริงหรือไม่?

นมข้นหวาน อันตรายใกล้ทารกแรกเกิด – 1 ขวบ

ไขปัญหาผิวแพ้ง่ายของลูกน้อย ที่คุณพ่อคุณแม่ควรรู้
คุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกน้อยผิวแพ้ง่าย มักต้องกลุ้มใจและต้องคอยระวังสิ่งแวดล้อมรอบตัวลูกน้อยตลอดเวลา เพราะถ้าเกิดอาการแพ้ขึ้นมา นอกจากจะเป็นผื่นแดง บวม และมีอาการคันแล้ว ยังทำให้ลูกน้อยไม่สบายตัว มากกว่านั้นยังอาจจะส่งผลไปถึงอารมณ์ การนอนหลับ และพัฒนาการด้านต่างๆ ของเขาได้อีกด้วย เราลองมาดูสาเหตุของอาการผิวแพ้ง่าย พร้อมวิธีดูแลและป้องกันให้ลูกน้อยห่างไกลจากอาการแพ้กันดีกว่าค่ะ
-
อาหารมื้อนี้ อาจจะยังไม่ใช่ของลูกน้อย
อาการแพ้อาหารเป็นอาการผิดปกติที่เกิดขึ้นหลังจากร่างกายได้รับนมหรืออาหาร แล้วเกิดปฏิกิริยาภูมิแพ้ต่อต้านสารอาหารชนิดนั้น สารอาหารที่อาจก่อให้เกิดอาการแพ้ในทารกช่วงขวบปีแรกที่พบบ่อย ได้แก่ นมวัว ไข่ และอาหารทะเล นอกจากนี้ สารปรุงแต่ง สี กลิ่น รส ก็อาจทำให้เกิดการแพ้อาหารได้เช่นกัน โดยจะเกิดอาการผิวหนังอักเสบ เป็นผื่นคันตามตัว หรืออาจเกิดลมพิษแบบเฉียบพลันได้
-
เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ลูกน้อยอาจแพ้ได้
สภาพอากาศที่มีการเปลี่ยนแปลง อย่างเช่น อากาศร้อน ทำให้ลูกน้อยมีเหงื่อมาก เกิดผดผื่นคัน แต่อากาศแห้ง ทำให้ลูกน้อยมีผิวแห้งแตก และระคายเคืองได้ง่าย อีกทั้งในชีวิตประจำวันลูกน้อยอาจต้องเจอกับฝุ่นละออง ไรฝุ่นจากเสื้อผ้า ที่นอน หมอน ผ้าห่ม ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นให้ลูกน้อยที่เป็นภูมิแพ้ทางเดินหายใจอยู่แล้วมีอาการกำเริบ สังเกตได้จากลูกน้อยจะมีอาการจาม คันจมูก น้ำมูกใสไหล บางครั้งอาจเป็นมากถึงกับทำให้ลูกน้อยนอนไม่หลับ
-
ยุง มด แมลง ตัวการทำร้ายผิวลูกน้อย
สำหรับลูกน้อยที่แพ้ยุง เมื่อโดนกัดแล้ว จะเป็นตุ่มนูน จ้ำแดง และจะคันมากกว่าปกติ บางคนอาจมีอาการบวมมาก ดูคล้ายลมพิษ ถ้าเป็นแมลงกัด ลูกน้อยที่มีอาการแพ้อย่างอ่อน ก็จะแค่บวม แดง คัน แต่ถ้ามีอาการแพ้รุนแรง แผลที่ถูกกัดจะมีการอักเสบมากหรือบวมทั้งขาและแขน เพราะแมลงบางชนิดเมื่อกัดแล้วจะปล่อยสารพิษเข้าผิวหนัง และบางชนิดเป็นสารก่อภูมิแพ้นั่นเอง
-
ผิวลูกน้อยไวต่อสารเคมี
ไม่ว่าจะเป็นสารเคมีตกค้างจากผงซักฟอก น้ำยาปรับผ้านุ่ม น้ำยาล้างจาน หรือสารเคมีจากผลิตภัณฑ์อาบน้ำ อย่าง ครีมอาบน้ำ สบู่ ยาสระผม เป็นต้น ก็เป็นสาเหตุให้เกิดการแพ้ในเด็กได้ โดยจะมีอาการเป็นผื่นคันหรือผิวหนังอักเสบ
วิธีดูแลและป้องกันลูกน้อยจากอาการแพ้
การดูแลความสะอาดลูกน้อย
ขอแนะนำการดูแลผิวของลูกน้อยด้วยผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ Evoli ที่เราคัดสรรแล้วว่าปลอดภัยต่อผิวเด็กแรกเกิดที่บอบบาง ซึ่งเป็นแบรนด์สกินแคร์เด็กแรกเกิด ที่ได้รับการรับรองจากทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังระดับเดียวกับประเทศฝรั่งเศส ในเรื่องการผ่านทดสอบการแพ้และการระคายเคือง ให้ความมั่นใจได้ว่าเหมาะต่อผิวบอบบางของลูกน้อย
- ทำความสะอาดร่างกายลูกน้อยด้วยผลิตภัณฑ์สูตรอ่อนโยน อย่าง Evoli Baby All Over Foaming Wash เนื่องจากการทำความสะอาดผิวลูกน้อยเป็นเรื่องที่สำคัญ เราจึงแนะนำผลิตภัณฑ์ดังกล่าว เพื่อให้ผิวของลูกน้อยคงความชุ่มชื่น
- หลังอาบน้ำให้ลูกน้อยทุกครั้ง ควรทาครีมบำรุงผิว เพื่อให้ผิวชุ่มชื่น ไม่แห้งตึง และให้เกราะปกป้องผิวแข็งแรงตามธรรมชาติ จึงขอแนะนำเป็น Evoli Baby Soft Cream มีกลิ่นอ่อนๆ ทำให้รู้สึกถึงความอ่อนโยน และน่าไว้ใจในการเลือกใช้
- หากอยู่นอกบ้าน เพื่อความสะอาด สะดวก และง่ายต่อการทำความสะอาดผิวลูกน้อย แนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์เช็ดทำความสะอาดผิวชนิดแผ่น ที่ดูแลผิวเด็กแรกเกิดได้เหมือนน้ำดื่มบริสุทธิ์อย่าง Evoli Baby Gentle Wipes ที่จะทำให้คุณแม่มั่นใจได้อีกขั้นถึงแม้จะอยู่นอกบ้านก็ตาม
- สวมเสื้อผ้าที่มีเนื้อผ้าบาง ระบายอากาศได้ดี ไม่หนาหรือรัดจนเกินไป
- ตัดเล็บของลูกน้อยให้สั้นอยู่เสมอ เพื่อป้องกันการเกาบริเวณที่แพ้ เพราะอาจทำให้ผิวหนังอักเสบได้
การดูแลจากสิ่งแวดล้อมรอบตัวลูกน้อย
- หลีกเลี่ยงให้ลูกน้อยอยู่ในที่ๆ มีอากาศร้อน อบอ้าว เพราะจะทำให้เหงื่อออกมาก อาจเป็นสาเหตุที่เกิดการระคายเคือง เป็นผื่นแดงและมีอาการคันตามลำดับ
- ทำความสะอาดของใช้ ของเล่นของลูกน้อยอย่างสม่ำเสมอ อย่างเช่น นำหมอนหรือผ้าห่มออกมาตากแดดบ่อยๆ เช็ดล้างของเล่นที่เขาเล่นเป็นประจำ
- หากต้องออกจากบ้านช่วงเย็นหรือกลางคืน ควรสวมเสื้อผ้าที่มิดชิด ป้องกันการโดนยุง มด หรือแมลงกัดต่อย
- หากเกิดอาการแพ้จากการโดนยุง มด หรือแมลงกัดต่อย ควรทายาหรือเจลสารพัดประประโยชน์ ที่ช่วยลดอาการคันและบวมแดงอย่างต่อเนื่อง อย่าง Evoli Baby Instant Soothing Gel โดยทาบริเวณที่ลูกน้อยเกิดอาการแพ้ เพื่อเป็นการป้องกันการอักเสบ
การดูแลเรื่องอาหารของลูกน้อย
- ควรให้ลูกน้อยได้ดื่มนมแม่มากที่สุด โดยเฉพาะช่วง 6 เดือนแรก และควรหลีกเลี่ยงอาหารเสริมในช่วง 4-6 เดือนแรก เช่น ซีเรียล ไข่ ซึ่งควรให้หลังจากลูกน้อยอายุ 6 เดือนไปแล้ว
รู้อย่างนี้แล้วคุณพ่อคุณแม่ก็สามารถดูแลและป้องกันลูกน้อยจากอาการแพ้ได้แล้วนะคะ สำหรับเรื่องผิวเราแนะนำให้เลือกผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งผลิตภัณฑ์ Evoli ได้รับการทดสอบแล้วว่าปลอดภัยต่อผิวที่บอบบางของลูกน้อยค่ะ คุณพ่อคุณแม่สามารถดูรายละเอียดผลิตภัณฑ์สำหรับลูกน้อยที่คุณรักได้เลยที่ www.evolibrand.com หรือเข้าไปเลือกชมได้ที่ Evoli Shop ตึก Eight Thonglor ชั้น LG และห้างสรรพสินค้าชั้นนำ หรือ ร้านแม่และเด็กชั้นนำทั่วไป สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-652-8997 นะคะ 🙂

ไวรัสซิก้า ทำลายสมองทั้งแม่ตั้งครรภ์และลูกในท้อง
ไวรัสซิก้า ไวรัสร้าย ภัยเงียบของคุณแม่ตั้งครรภ์ ซึ่งปัจจุบันมีหลายประเทศรวมถึงไทยประสบปัญหาการระบาดของไวรัสซิกา และมีกลุ่มเสี่ยงที่ต้องระวังให้มากโดยเฉพาะคุณแม่ตั้งครรภ์และทารกในครรภ์ หากติดเชื้อจะมีผลต่อการเจริญเติบโตและสมอง (more…)

น้ำแข็งแห้ง อันตรายใกล้ตัวที่ครอบครัวคาดไม่ถึง

แก้ปัญหาโลกแตก ลูกกินข้าวยาก ลูกกินข้าวน้อย กันดีกว่า!
“ลูกไม่ยอมกินข้าว” “ลูกกินข้าวน้อย” ปัญหาโลกแตก เมื่อหวยมาออกที่ลูกเรา! ทำไมลูกถึงไม่ค่อยยอมกินข้าว แถมดูผอมลงๆ วันๆ เอาแต่เล่น จะทำอย่างไรดี…
วัยกำลังวิ่ง ห่วงเล่น ไม่ห่วงกิน
ปกติแล้ว เด็กบางคนช่วงอายุ 1-4 ขวบ น้ำหนักตัวจะขึ้นช้าลง เป็นเรื่องปกติเพราะช่วงนี้ลูกจะไม่ค่อยสนใจการกิน ห่วงแต่เล่นจนพลังงานหมด หากลูกมีสุขภาพแข็งแรง ไม่เจ็บป่วยบ่อย มีพัฒนาการสมวัย น้ำหนักส่วนสูงเป็นไปตามเกณฑ์ และเป็นเด็กทื่กินแต่อาหารที่มีประโยชน์ ก็ไม่น่าเป็นห่วงค่ะ
แก้ปัญหา ลูกกินข้าวยาก หรือเลือกกิน ต้องอดทน!
คุณพ่อคุณแม่ต้องอดทนต่อเสียงเรียกร้องจะกินแต่ของชอบของลูกให้ได้ ปล่อยให้ลูกหิวจนถึงข้าวมื้อต่อไป จะได้กินข้าวเพิ่มขึ้น แต่อย่าคาดหวังว่าจะเห็นว่ากินได้มากขึ้นใน 2 วัน เพราะอาจใช้เวลาเป็นอาทิตย์หรือเป็นเดือน น้ำหนักอาจจะลดลงบ้างในช่วงแรกก็ไม่ต้องตกใจค่ะ
อ่านต่อ “3 ข้อควรเลี่ยงถ้าลูกไม่กินข้าว” หน้า 2

5 เทคนิครับมือเหตุไม่คาดฝัน! เมื่อพาลูกเตาะแตะเที่ยวนอกบ้าน
เมื่อถึงวันหยุดสุดสัปดาห์ พาลูกไปเที่ยว เป็นกิจกรรมที่พ่อแม่ส่วนใหญ่ทำกันอยู่แล้วโดยปกติ แต่แทบทุกทริปต้องมีเหตุการณ์ไม่คาดคิดให้คุณพ่อคุณแม่ปวดหัวโดยเฉพาะถ้าลูกอยู่ในวัยหัดเดิน! ดร.ปนัดดา ธนเศรษฐกร ผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างวินัยเชิงบวกเพื่อพัฒนาเด็กในทุกด้าน จึงมีเทคนิครับมือกับสถานการณ์เฉพาะหน้าระหว่างท่องเที่ยวมาแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่ค่ะ
พ่อแม่ควรพร้อมรับมือทุกสถานการณ์ไม่คาดฝันระหว่างทริป
การเตรียมความพร้อมก่อนเที่ยว จะช่วยให้ลูกควบคุมพฤติกรรมและอารมณ์ของตัวเองได้ดีขึ้น ตั้งแต่ ร่วมวางแผนเที่ยวกับลูก ทบทวนข้อตกลงกับลูกบ่อยๆ ก่อนเที่ยวจริง รวมไปถึงจัดให้ลูกมีกระเป๋าเงินส่วนตัวให้เขาจัดการเอง! แต่เมื่อลูกเจอสภาพแวดล้อมใหม่ก็มีโอกาสเกิดสถานการณ์ไม่คาดฝันได้ อาจารย์ปนัดดาจึงแนะนำเคล็ดลับรับมือลูกจอมป่วนสำหรับสถานการณ์ชุลมุนที่พบบ่อย 5 แบบมาฝากค่ะ
1. เมื่อต้องเปลี่ยนแผนกะทันหัน
แม้จะวางแผนทริปท่องเที่ยวไว้ดีแค่ไหน แต่ก็มีโอกาสที่ฝนจะตกหรือสถานที่ปิดปรับปรุง ในสถานการณ์เช่นนี้คุณพ่อคุณแม่ลองถามวิธีแก้ปัญหากับลูกน้อยดูสิคะ เพื่อป้องกันอาการใจสลายจนควบคุมไม่อยู่และให้ลูกน้อยยอมเปลี่ยนแผนด้วยตัวเอง แต่หากลูกยืนกรานว่าจะทำตามแผนเดิม คุณพ่อคุณแม่ก็ตั้งคำถามต่อไปเพื่อนำไปสู่การคิดแก้ไขปัญหาได้ค่ะ
“ฝนตกแบบนี้ เราจะทำอย่างไรกันดี” > “หนูจะเล่นตากฝนเหรอ แต่สถานที่ไม่เปิดให้เล่นนะ” > “ถ้าหนูไปรออยู่ที่นั่นแล้วเขาไม่เปิดเลยทั้งวัน เราก็จะเสียเวลารอโดยไม่ได้เล่นอะไรเลยนะ” > “เรารออีก 5 นาที ถ้าฝนยังไม่หยุดตก เราเปลี่ยนไปเล่นที่บ้านกันดีไหมจ๊ะ”
อ่านต่อหน้า 2

รวม 9 ประโยชน์ของ “ แก้วมังกร ” ที่แม่ท้องไม่ควรพลาด!!

ชวนพ่อแม่สังเกตพัฒนาการลูกจาก “ภาพวาด”
ภาพวาดสวยๆ จากการวาดของเด็กเกิดจากช่วงเวลาที่เด็กหยิบจับอุปกรณ์วาดเขียนขึ้นมาสักชิ้น แล้วลงมือวาดภาพสร้างงานศิลปะด้วยตัวเอง หมายความว่าเด็กต้องใช้ทั้งพัฒนาการด้านร่างกาย (กล้ามเนื้อมัดเล็ก) การทำงานประสานกันของสายตากับมือ และใช้พัฒนาการด้านสติปัญญา เพื่อถ่ายทอดความคิดออกมาเป็นงานศิลปะ ภาพวาดของเด็กจึงไม่ใช่แค่ภาพวาด แต่เป็นกิจกรรมหนึ่งที่เด็กได้เสริมสร้างพัฒนาการด้านต่างๆ ได้ผ่อนคลายจิตใจ และยังเป็นกิจกรรมที่บ่งบอกถึงลำดับพัฒนาการตามวัยของเขาได้อีกด้วย
1 ขวบครึ่ง – 3 ขวบ : ขีดเขี่ย
เมื่อลูกน้อยเริ่มอยากจับช้อน หรืออยากหยิบอาหารเข้าปากเอง หมายความว่าเขาเริ่มใช้กล้ามเนื้อมัดเล็กบ้างแล้ว หลังจากนั้นอีกสักระยะประมาณ 8 เดือนหรืออายุประมาณ 1 ขวบครึ่ง เด็กบางคนเริ่มจะจับดินสอ แล้วลงมือขีดเขี่ยเอง ในช่วงอายุนี้เราใช้คำว่า “ขีดเขี่ย” แทนคำว่า “ขีดเขียน” เพราะว่าภาพของเขาเป็นลักษณะเส้นยุ่งๆ ตามอารมณ์สนุกสนานของเขาเท่านั้น ไม่ได้วาดเพื่อถ่ายทอดเรื่องราว เพราะลูกน้อยวัยนี้ยังไม่สามารถถ่ายทอดความคิดออกมาเป็นภาพได้ เพราะฉะนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรให้อิสระเขาในการขีดเขี่ย เพื่อให้เขาได้สนุกและพัฒนากล้ามเนื้อมืออย่างเต็มที่
4 – 6 ปี : เป็นรูปเป็นร่าง
ภาพวาดของลูกน้อยวัยนี้จะเริ่มมีรูปร่างมากขึ้น และเริ่มมีความสัมพันธ์กับความจริง เช่น วาดวงกลมแทนหัวคน ขีดเส้นแทนแขนขา แต่เด็กวัยนี้จะยังใช้สีที่ไม่สัมพันธ์กับความเป็นจริง เช่น เขาอาจระบายสุนัขเป็นสีชมพู ระบายท้องฟ้าเป็นสีม่วง ฯลฯ
7 – 9 ปี : ผสมผสานรูปทรง
จอมซนวัยนี้เป็นวัยที่วาดรูปทรงได้แล้ว และสามารถนำรูปทรงมาผสมผสานในภาพวาดได้ ภาพวาดจึงเริ่มมีรายละเอียดมากขึ้น เช่น บ้านรูปสี่เหลี่ยม หลังคารูปสามเหลี่ยม และเริ่มระบายสีให้ตรงกับความเป็นจริง เช่น กิ่งไม้สีน้ำตาล และใบไม้สีเขียว ลักษณะพิเศษในช่วงวัยนี้ คือ ภาพที่สามารถมองได้ทะลุเหมือนภาพเอ็กซ์เรย์ เช่น เขาวาดบ้านสี่เหลี่ยมเป็นกำแพง แต่ในสี่เหลี่ยมนั้นจะมีรายละเอียดของสิ่งที่อยู่ในตัวบ้าน ราวกับสามารถมองทะลุเข้าไปได้ด้วย
อ่านเรื่อง “ชวนพ่อแม่สังเกตพัฒนาการลูกจาก “ภาพวาด”” คลิกหน้า 2

ทำผู้หญิงท้อง แล้วไม่รับผิดชอบ ควรทำอย่างไร?

คณิตศาสตร์ สอนลูกน้อยอย่างไรให้เรียนเก่ง?

วิธีการเลี้ยงลูกอย่างชาญฉลาด ของ ‘เจ้าชายวิลเลียม’ ดยุกแห่งเคมบริดจ์ (อังกฤษ)

5 เครื่องดื่มบำรุงครรภ์และเครื่องดื่มต้องห้ามสำหรับคนท้อง
สำหรับคุณแม่ท้อง!…ควรพิถีพิถันในการคัดสรรอาหารและเครื่องดื่มที่ดีมีประโยชน์เพื่อบำรุงครรภ์ ซึ่งก็มีคุณแม่บางคนอาจมีอาการคลื่นไส้อาเจียนแพ้ท้องอยู่ตลอดเวลา เคี้ยวทีไรคลื่นไส้ทุกที การเปลี่ยนมาทานอาหารเหลวๆหรือดื่มเครื่องดื่มอื่นๆแทนจึงเป็นทางเรื่องที่ดี
ขณะตั้งครรภ์การได้รับสารอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ในแต่ละวันเป็นเรื่องที่สำคัญต่อสุขภาพของคุณแม่และลูกในท้องเป็นอย่างมาก นอกเหนือจากอาหารที่คุณแม่รับประทานแล้ว เครื่องดื่มที่คุณแม่ดื่มก็ควรเป็นเครื่องดื่มที่ให้คุณค่าต่อร่างกายเช่นเดียวกันเพราะสามารถเลือกดื่มแทนการกินข้าวเมื่อมีอาการแพ้ท้อง
มีเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพอย่างน้ำสมุนไพร น้ำธัญพืช หรือน้ำผลไม้ก็ให้ประโยชน์ต่อร่างกายของคุณแม่ท้องได้เป็นอย่างมาก ซึ่งช่วยบรรเทาอาการบางอย่างให้ดีขึ้น พร้อมเพิ่มความสดชื่นได้เป็นอย่างดี… Amarin Baby & Kids จึงมีเครื่องดื่มที่ดีมีประโยชน์มาแนะนำสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์โดยเฉพาะ ดังนี้ค่ะ
เครื่องดื่มบำรุงครรภ์ที่แม่ท้องไม่ควรพลาด √
น้ำขิง
การดื่มน้ำขิงร้อนๆ จะช่วยลดอาการคลื่นไส้ อาเจียน รวมถึง แก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ และช่วยขับลม นอกจากนี้น้ำขิงยังมีสารอาหารประเภทแคลเซียมที่ช่วยสร้างกระดูกและฟันให้แก่เด็ก ป้องกันโรคกระดูกพรุนในแม่ท้อง และยังมีสารเบต้าแคโรทีน ซึ่งช่วยต้านโรคมะเร็งอีกด้วยค่ะ หากคุณแม่ไม่ชอบดื่มน้ำขิงเปล่าๆ อาจเลือกทานเต้าฮวยน้ำขิง หรือบัวลอยน้ำขิงก็จะได้ประโยชน์จากเต้าหู้หรืองาดำเพิ่มขึ้น
น้ำมะเขือเทศ
น้ำมะเขือเทศคั้นสดอุดมด้วยวิตามินซีที่ช่วยสร้างกระดูกและฟันให้ลูกน้อย ทั้งยังช่วยในการเผาผลาญอาหาร ลดอาการเส้นเลือดขอด ลดไข้ และลดอาการข้อบวมในแม่ท้อง นอกจากนี้ยังลดความเสี่ยงจากการเกิดมะเร็งและทำให้ผิวพรรณดี หรือคุณแม่จะลองดื่มน้ำมะเขือเทศคั้นผสมกับแครอทก็ได้รสชาติดี แถมในแครอทยังมีวิตามินเอที่จำเป็นต่อสายตาและป้องกันการติดเชื้อ เรียกได้ว่าดื่มแก้วเดียว แต่ได้ประโยชน์ยกกำลังสองเลยค่ะ
อ่านต่อ >> “เครื่องดื่มบำรุงครรภ์ที่แม่ท้องไม่ควรพลาด” คลิกหน้า 2
