นมเกลี้ยงเต้า

นมเกลี้ยงเต้า บันไดสู่การให้นมแม่สำเร็จ

คุณแม่ให้นมหลายคนพยายามทำให้ นมเกลี้ยงเต้า แต่ยังไม่แน่ใจว่าถูกต้องหรือเปล่า นมเกลี้ยงเต้าจริงไหม วันนี้เราจะมาคุยกันถึงนมแม่และเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับนมเกลี้ยงเต้ากันค่ะ

มหัศจรรย์ของนมแม่

นมแม่เป็นสิ่งมหัศจรรย์และเป็นของขวัญที่ดีที่สุดที่คุณแม่มอบให้แก่ลูกน้อย ประโยชน์ของนมแม่มีมากมาย เช่น

ประโยชน์ต่อลูกน้อย

  • เด็กที่กินนมแม่มักจะแข็งแรง เพราะในนมแม่มีภูมิต้านทานโรคและสารอื่นๆ ที่ช่วยต่อสู้กับเชื้อโรค
  • ธาตุเหล็กที่อยู่ในนมแม่เป็นชนิดที่ดูดซึมเข้าสู่ลำไส้ง่ายกว่านมชนิดอื่น

ประโยชน์ต่อคุณแม่

  • คุณแม่สามารถลดน้ำหนักหลังคลอดได้เร็ว
  • ปัญหาการตกเลือดหลังคลอดน้อยลง เพราะการให้นมลูกจะช่วยให้มดลูกบีบตัวดีขึ้น
  • ประโยชน์ทางด้านเศรษฐกิจ
  • สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น ค่านมผง ขวดนม รวมถึงค่ารักษาพยาบาลต่างๆ เพราะเด็กที่กินนมแม่ไม่ค่อยป่วยบ่อยค่ะ

ด้วยเหตุที่นมแม่เป็นอาหารที่มีประโยชน์ ทางองค์การอนามัยโลกจึงแนะนำว่า ทารกแรกเกิด-6 เดือน ควรได้กินนมแม่เพียงอย่างเดียว หลังจากนั้นควรกินอาหารเสริมตามวัยและกินนมแม่ควบคู่ไปถึง 2 ขวบค่ะ

อ่านต่อ แบบไหนเรียกว่านมเกลี้ยงเต้า คลิกหน้า 2

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

    วัคซีนเอชพีวี ปี 2560

    วัคซีนเอชพีวี ปี 2560 ฉีดให้เด็กหญิงชั้น ป.5 ทั่วประเทศป้องกันมะเร็งปากมดลูก

    ในเด็กผู้หญิงที่มีความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยเกี่ยวกับโรคภายในของผู้หญิง อย่างโรคมะเร็งปากมดลูกที่พบอัตราการเจ็บป่วยในผู้หญิงมากมาเป็นอันดับ 2 ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่เด็กหญิงควรต้องได้รับการฉีด วัคซีนเอชพีวี ปี 2560 ทีมงาน Amarin Baby & Kids มีรายละเอียดในการรับฉีดวัคซีนเอชพีวี สำหรับเด็ก ป.5 ทั่วประเทศ ให้ผู้ปกครองได้ทราบกันค่ะ

     

    วัคซีนเอชพีวี ปี 2560 ฉีดให้เด็กหญิงชั้น ป.5 ทั่วประเทศป้องกันมะเร็งปากมดลูก

    (21 มิ.ย.) นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ในการฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก หรือ วัคซีนเอชพีวี จะฉีด 2 เข็มห่างกัน 6 เดือน ในเด็กหญิงชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ซึ่งมีอยู่ประมาณ 4 แสนคนทั่วประเทศ โดยจะเริ่มฉีดวัคซีนในเดือนสิงหาคม 2560 นี้ ส่วนข้อกังวลที่ว่าวัคซีนชนิด 4 สายพันธุ์ น่าจะดีกว่าชนิด 2 สายพันธุ์ นั้น ขอให้มั่นใจว่า วัคซีนทั้งสองชนิดให้ผลในการป้องกันมะเร็งปากมดลูกไม่แตกต่างกัน และสามารถใช้ทดแทนกันได้ ตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก ส่วนสายพันธุ์ 6 กับ 11 ที่บรรจุอยู่ในวัคซีนชนิด 4 สายพันธุ์นั้น เป็นการป้องกันโรคหูดที่อวัยวะสืบพันธุ์ ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้ในกลุ่มชายรักชาย ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการป้องกันมะเร็งปากมดลูกแต่อย่างใด

    “วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก หรือ เอชพีวี จะช่วยลดความสูญเสียชีวิตจากมะเร็งปากมดลูกอีกทางหนึ่ง นอกเหนือจากการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกที่มีการตรวจอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน ซึ่งวัคซีนดังกล่าวผ่านการศึกษาความปลอดภัย คุ้มค่า คุ้มทุน มาแล้วอย่างรอบคอบ ทั้งนี้ การดำเนินการบรรจุวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกอยู่ในแผนงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคของประเทศ และเป็นความร่วมมือของหลายหน่วยงานในรูปแบบคณะกรรมการระดับชาติ โดยคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติได้วางแผนดำเนินการมาหลายปีที่ต้องการให้เด็กได้วัคซีน เพื่อหวังผลป้องกันมะเร็งปากมดลูกในอีก 20 – 30 ปีข้างหน้า” อธิบดี คร. กล่าว

    นพ.เจษฎา กล่าวว่า นับตั้งแต่ปี 2551 คณะกรรมการได้เริ่มนำวัคซีนนี้มาพิจารณา แต่ในระยะแรกยังไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะวัคซีนมีราคาแพงเข็มละกว่า 1,000 บาท และมีข้อกังวลเรื่องประสิทธิผลและความคุ้มทุน ทำให้ไม่สามารถจัดหาได้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมาย ทั้งนี้ กรมควบคุมโรค มีคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค ซึ่งประกอบด้วย คณะผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการยอมรับทั้งในระดับประเทศและนานาชาติ ได้กลั่นกรอง ให้คำปรึกษาและข้อเสนอแนะด้านวิชาการเกี่ยวกับวัคซีนและการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค รวมทั้งเสนอทางเลือกด้านนโยบายมาโดยตลอด ต่อมาเมื่อปี 2557 ภายหลังได้มีการศึกษาประสิทธิผลของวัคซีนในประเทศไทย ซึ่งพบว่าให้ผลดี สอดคล้องกับคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก กรมควบคุมโรคจึงได้เดินหน้าเพื่อให้มีการบรรจุวัคซีนนี้เข้าไปในแผนงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคของประเทศไทย โดยให้มีการต่อรองราคาและนำเข้าไปอยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติ เพื่อให้เป็นไปตามระเบียบ ของ สปสช. และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ

    นพ.เจษฎา กล่าวอีกว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้เสนอวัคซีนทั้งสองชนิด เพื่อเข้าเป็นบัญชียาหลักแห่งชาติ คือ (ชนิด 4 สายพันธุ์ และชนิด 2 สายพันธุ์) ซึ่งพิจารณาแล้วให้ผลในการป้องกันมะเร็งปากมดลูกไม่แตกต่างกัน และสามารถใช้ทดแทนกันได้ ตามคำแนะนำของคณะอนุกรรมการ และองค์การอนามัยโลก แต่ต่อมามีการนำเข้าบัญชียาหลักแห่งชาติเพียงชนิด 4 สายพันธุ์เท่านั้นตามระเบียบ สปสช. ที่ต้องเลือกใช้ยาเพียงตัวเดียว (Choose only one) เท่านั้น ซึ่งปัจจุบันบริษัทที่เข้าข่าย Choose only one มีเพียงบริษัทเดียวเท่านั้นทำให้ขาดการแข่งขันตามกลไกทางการตลาด ซึ่งคณะกรรมการต่อรองราคายาระดับชาติ ก็ไม่สามารถต่อรองให้ราคาวัคซีนถูกลงได้ต่ำกว่า 375 บาทต่อโด๊สได้ ดังนั้น เพื่อผลประโยชน์ของทางราชการ ทางคณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ จึงได้ทำการพิจารณาอีกครั้ง แล้วจึงนำวัคซีนเอชพีวีทั้งสองชนิดเข้าบัญชียาหลักแห่งชาติ เนื่องจากเป็นกลุ่มเดียวกัน และได้รับการยืนยันจากองค์การอนามัยโลกแล้วว่า สามารถใช้ทดแทนกันได้ ทั้งนี้ เพื่อให้มีบริษัทเข้าร่วมในการเสนอราคามากกว่าหนึ่งราย เพื่อให้เกิดการแข่งขันโดยเสรี ด้วยเหตุนี้องค์การเภสัชกรรม และ กรมควบคุมโรค จึงทำการจัดซื้อด้วยวิธีประกวดราคา จากราคาที่คณะกรรมการยาหลักแห่งชาติ กำหนดไว้ที่ราคา 375 บาท ทำให้จัดซื้อได้ที่ราคา 279 บาท จึงทำให้ประหยัดงบประมาณของประเทศได้ 36.8 ล้านบาท และได้วัคซีนที่สามารถป้องกันมะเร็งปากมดลูกในหญิงไทยได้ หากประชาชนมีข้อสงสัยสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422 – ที่มาข่าว : m.manager.co.th

     

     

    อ่านต่อ เอชพีวี กับ มะเร็งปากมดลูกเกี่ยวข้องกันอย่างไร คลิกหน้า 2 

     

    เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

      เปิดดูตัวเลข… ค่าเทอมสูงลิบ! 10 ลูกดาราดัง เพื่ออนาคตแสนงดงาม

      แม้ ค่าเทอมโรงเรียนนานาชาติ จะมีตัวเลขที่ดูสูงลิบเกินที่หลายครอบครัวจะเอื้อมถึง แต่เพื่ออนาคตที่ดีของลูกแล้ว ก็มีคุณพ่อคุณแม่ดาราหลายคนที่ยอมส่งลูกเข้าโรงเรียนเหล่านี้

      Continue reading “เปิดดูตัวเลข… ค่าเทอมสูงลิบ! 10 ลูกดาราดัง เพื่ออนาคตแสนงดงาม”

        อาหารปลอมจากจีน

        12 อาหารปลอมจากจีน ระวังก่อนซื้อมารับประทาน

        อาหารปลอมจากจีน เห็นแล้วจึงอยากนำมาเตือนให้ทุกครอบครัวได้ระวังกันค่ะ เพราะสินค้าบริโภคเหล่านี้เป็นการลอกเลียนแบบจากของจริงที่เหมือนจนแยกไม่ออก ทีมงาน Amarin Baby & Kids จะพาไปดูกันค่ะว่าอาหารทั้ง 12 ชนิดนี้เขาเลียนแบบผลิตมาจากอะไรบ้าง เพื่อที่เวลาไปเที่ยวจีน หากจะซื้ออาหารทานหนึ่งใน 12 ชนิดนี้ ต้องระวังกันให้ดีเลยค่ะ

         

        อาหารปลอมจากจีน แบบนี้ก็มีด้วยหรือ!!??

        มาเตือนให้หลายๆ ครอบครัวได้ระวังกันสักนิดกับ  12 อาหารปลอมจากจีน  ที่ทำออกมาได้เหมือนกับของต้นฉบับ แต่พอซื้อมาแล้วกลับทานไม่ได้แถมเสียเงินไปฟรีๆ อีกด้วยค่ะ

        ลักษณะของอาหารปลอม

        1. การแทนบางส่วนด้วยวัตถุอื่น
        2. การคัดแยกวัตถุที่มีคุณค่าออกเสียทั้งหมดหรือบางส่วน
        3. ผลิตขึ้นเทียมและจำหน่ายเป็นอาหารแท้อย่างนั้น
        4. ผสมหรือปรุงแต่งโดยปกปิดความด้อยคุณภาพ หรือมีฉลากลวงผู้ซื้อให้เข้าใจผิดในเรื่องคุณภาพปริมาณประโยชน์ หรือลักษณะพิเศษอย่างอื่น สถานที่และประเทศที่ผลิต
        5. อาหารที่ผลิตขึ้นไม่ถูกต้องตามคุณภาพหรือมาตรฐานที่เป็นผลให้ส่วนประกอบที่เป็นคุณค่าทางอาหาร ขาดหรือเกินร้อยละสามสิบจากเกณฑ์ต่ำสุดหรือสูงสุด หรือแตกต่างจากคุณภาพหรือมาตรฐานที่ระบุไว้จนทำให้เกิดโทษหรืออันตราย[1]

        ซึ่งอาหารปลอมที่ถูกผลิตขึ้นมานั้นอันตรายต่อสุขภาพอย่างมาก หากไม่รู้แล้วทานเข้าไป อาจเสี่ยงอาหารเป็นพิษเฉียบพลัน และเสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้เช่นกันจากการทานส่วนประกอบที่เป็นสารเคมีเข้าไปนั่นเองค่ะ

        อ่านต่อ 12 อาหารปลอมจากเมืองจีน หน้า 2

         

        เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

          กำหนดคลอด

          คลอดไม่ตรง กำหนดคลอด ลูกจะปลอดภัยไหม?

          เมื่อคุณแม่ฝากครรภ์กับคุณหมอเรียบร้อย ก็มักจะทราบวันกำหนดคลอด ซึ่งส่วนใหญ่แล้วคุณแม่จะตั้งครรภ์ประมาณ  280 วัน หรือ 40 สัปดาห์  คุณแม่หลายท่านอาจจะสงสัยว่า กำหนดคลอด คือวันไหน และถ้าลูกน้อยคลอดไม่ตรงตามกำหนดคลอดจะปลอดภัยหรือไม่ ในบทความนี้เราจะมาคุยเรื่องวันกำหนดคลอดกันค่ะ

          จะรู้ได้อย่างไรว่า กำหนดคลอด เมื่อไร

          คุณแม่หลายท่านอาจจะรู้สึกตื่นเต้นและอยากรู้ว่าวันกำหนดคลอดคือวันไหน ทางทีมงานจึงมีวิธีคำนวณวันกำหนดคลอดมาฝากค่ะ

          • วิธีที่ 1 คำนวณจากวันที่มีประจำเดือนครั้งสุดท้าย

          วิธีนี้เหมาะสมเฉพาะกับคุณแม่ที่มีรอบเดือน 28 วัน ค่ะ โดยคุณแม่ต้องทราบวันแรกที่มีประจำเดือนครั้งสุดท้ายก่อนตั้งครรภ์ แล้วจึงนับไปอีก 40 สัปดาห์เพื่อกำหนดวันคลอดค่ะ

          ยกตัวอย่าง เช่น
          
          วันแรกของประจำเดือนครั้งสุดท้าย >>> วันที่ 10 มิถุนายน 2560
          
          นับไปอีก 40 สัปดาห์ >>> วันที่ 17 มีนาคม 2561
          
          ดังนั้น กำหนดคลอด ของคุณแม่ คือ วันที่ 17 มีนาคม 2561 ค่ะ
          • วิธีที่ 2 คำนวณกำหนดคลอดแบบ Naegele

          วิธีคำนวณนี้คิดค้นโดยคุณหมอ Franz Karl Naegele สูตินารีแพทย์ชาวเยอรมันค่ะ ซึ่งเป็นวิธีการคำนวณวันกำหนดคลอดที่เป็นที่นิยมมาก หากคุณแม่อยากทราบ กำหนดคลอด ด้วยวิธีนี้ ให้นำวันแรกของการที่มีประจำเดือนครั้งสุดท้ายก่อนตั้งครรภ์มา แล้วนับถอยหลังไป 3 เดือน จากนั้นให้บวกเพิ่มอีก 7วัน และอีก 1 ปี วันที่คำนวณได้นั้นจะเป็นวันกำหนดคลอดของคุณแม่ ฟังแล้วดูสงสัยใช่ไหม เรามาลองดูตัวอย่างวิธีนับกำหนดคลอดกันค่ะ

          ตัวอย่าง
          
          วันแรกที่คุณแม่มีประจำเดือนครั้งสุดท้าย >>> 8 พฤษภาคม 2560
          
          นับถอยหลังไป 3 เดือน >>> 8 กุมภาพันธ์ 2560
          
          บวกเพิ่มอีก 7 วัน >>> 15 กุมภาพันธ์ 2560
          
          บวกเพิ่มอีก 1 ปี >>> 15 กุมภาพันธ์ 2561
          
          ตามตัวอย่างนี้ วันกำหนดคลอดของคุณแม่จะตรงกับวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2561 ค่ะ

          อ่านต่อ คำนวณกำหนดคลอดด้วยการอัลตราซาวนด์ คลิกหน้า 2

          เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

           

            Terrible Threes วายร้าย 3 ขวบ กับวิธีรับมือ!!

            Terrible Threes วายร้าย 3 ขวบ พฤติกรรมดื้อๆ ของลูกที่ทำเอาพ่อแม่แทบลมจับกันได้ง่ายๆ นั่นเป็นเพราะว่าลูกวัยนี้เริ่มมีพัฒนาการของเด็กเล็กมากขึ้นกว่าในช่วง 1-2 ขวบที่ผ่านมา เขาจะสนใจตัวเอง อยากทำในสิ่งที่ผู้ใหญ่ห้าม ไม่สน ไม่เชื่อฟัง ก็หนูจะเอา จะทำแบบนี้ ใครจะทำไม!! ทีมงาน Amarin Baby & Kids มีข้อมูลในเรื่องนี้มาให้ทุกครอบครัวได้ทราบกันค่ะ

             

             Terrible Threes วายร้าย 3 ขวบ

            มีเพื่อนๆ ของผู้เขียนบ่นให้ฟังว่าลูกๆ กำลังเข้าสู่ช่วง Terrible Threes วายร้าย 3 ขวบ ได้ยินแบบนี้เชื่อว่าพ่อแม่หลายคนอาจ คิดในใจว่าเด็กตัวเล็กๆ แค่เนี่ยจะเป็นวายร้ายประจำบ้านได้เลยเชียวเหรอ ขอบอกเลยว่าร้ายยิ่งกว่าตอนอายุ 2 ขวบอีกค่ะ คือ ถ้าพ่อแม่ที่ยังไม่เจอกับตัวอาจไม่เข้าใจว่าอะไรคือลูกเป็นวายร้าย แล้ว Terrible Threes คืออะไรกันนะ งงจริงๆ…

            Terrible Threes วายร้าย 3 ขวบ
            Credit Photo : Shutterstock

            ครอบครัวไทยอาจไม่ค่อยคุ้นกับคำว่า Terrible Threes แต่ถ้าพ่อแม่คนฝรั่งจะเข้าใจกันเป็นอย่างดีเลยละค่ะ

            • แทริเบิล (Terrible) แปลว่า น่ากลัว แย่ ร้ายแรง
            • ทรี (Threes) คือ ช่วงอายุของเด็กวัยสามขวบ

            เมื่อรวมสองคำนี้เข้ากันจะเรียกว่า แทริเบิล ทรี (Terrible Threes) และคำนิยามที่ได้ คือ การแสดงออกของเด็กที่แผลงฤทธิ์  ต่อต้าน ดื้อสุดๆ ไม่เชื่อฟังพ่อแม่ ซึ่งพฤติกรรมแบบนี้เริ่มมาตั้งแต่ช่วงที่เด็กๆ อายุได้ 2 ขวบแล้วค่ะ ซึ่งถ้าย้อนกลับไปจะ เรียกว่าช่วงวายร้าย 2 ขวบ(Terrible Twos) จริงๆ แล้วพฤติกรรมแบบนี้ในเด็กบางคนอาจเริ่มเป็นตอนอายุ 4-5 ขวบ หรือไม่ก็เป็นต่อเนื่องมาตั้งแต่แรกเลยก็มีค่ะ  และถ้าจะให้ดีพ่อแม่ต้องรู้วิธีจัดการและรับมือกับลูกให้ได้ เพื่อที่พฤติกรรมดื้อสุดๆ เอาแต่ใจแบบสุดขั้วนี้จะได้ไม่ติดตัวลูกไปจนโตค่ะ

            ลูก 3 ขวบแล้ว เขาเข้าใจเรื่องราวต่างๆ ได้ดีมากขึ้น จากเมื่อก่อนที่พ่อแม่บอกห้ามทำนั่นนี่ ห้ามกินขนมแบบนั้น ห้ามไปเล่นตรงโน่น ลูกอาจมีความลังเลใจอยากทำ อยากเล่น อยากกิน ฯลฯ ก็กลัวที่ถูกห้ามปรามไว้ เลยจดๆ จ้องๆ ทำดีไม่ทำดี แต่เมื่อใดก็ตามที่ลูกเข้าสู่ช่วงวัย 3 ขวบ “หนูจะลอง หนูจะทำ ไม่เชื่อ ไม่ฟังที่ถูกห้ามแล้วนะ!!” มีความท้าทายพ่อแม่อยู่ไม่น้อย  ไปดูกันสักนิดค่ะว่า ความไม่ยอมของลูกแบบสุดขั้ว จนทุกคนในบ้านต้องพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า นี่คือวายร้าย 3 ขวบชัดๆ เลยนะเนี่ย มีอะไรกันบ้าง ผู้เขียนขอยกตัวอย่างเล็กๆ น้อยๆ ที่หลายบ้านอาจเจอลูกดื้อ ซน แผลงฤทธิ์หนักกว่านี้อยู่ก็ได้ใช่ไหมคะ…

            อ่านต่อ พฤติกรรมต่อต้านของวายร้าย 3 ขวบ หน้า 2

             

            เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

              ยากันแท้ง-คืออะไร

              หยุดการแท้ง การคลอดก่อนกำหนด ด้วย ยากันแท้ง

              คุณแม่ที่เจอกับความเสี่ยงเรื่องการแท้งลูก อาจจะเคยได้รับยากันแท้งจากคุณหมอ เพื่อประคองให้การตั้งครรภ์ผ่านไปด้วยดี หลายคนอาจจะสงสัยว่า ยากันแท้ง คืออะไร และมีประโยชน์อย่างไรบ้าง ในบทความนี้ เรามาทำความรู้จักกับยากันแท้งกันค่ะ

              ยากันแท้ง คืออะไร

              ยากันแท้งที่คุณหมอสั่งจ่ายให้คุณแม่ เพื่อป้องกันการแท้ง หรือ คลอดก่อนกำหนด คือ ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนค่ะ ฮอร์โมนประเภทนี้มีความสำคัญต่อการตั้งครรภ์มาก เพราะช่วยให้การตั้งครรภ์เป็นปกติ เมื่อเปรียบเทียบกับผู้หญิงทั่วไป คุณแม่ที่ตั้งครรภ์จะมีฮอร์โมนชนิดนี้อยู่ในร่างกายมากกว่า 10 เท่าเลยทีเดียว หากระดับโปรเจสเตอโรนในร่างกายต่ำมาก คุณแม่อาจมีโอกาสตั้งครรภ์น้อย และมีความเสี่ยงที่จะแท้งสูงมาก ด้วยเหตุนี้ ในกรณีที่คุณหมอตรวจพบว่า คุณแม่มีแนวโน้มที่จะแท้งลูกน้อย คุณหมอจะสั่งยากันแท้ง หรือฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน ให้คุณแม่ค่ะ

              ยากันแท้งมีผลต่อการตั้งครรภ์อย่างไร

              เมื่อคุณแม่รับยากันแท้งเข้าสู่ร่างกายแล้ว มดลูกจะลดการบีบตัวรุนแรง ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดีนะคะ เพราะถ้ามดลูกบีบตัวมากเกินไปในช่วงที่คุณแม่ท้องอ่อน คุณแม่อาจจะแท้งได้ค่ะ มีงานวิจัยยืนยันด้วยว่า คุณแม่ที่มีระดับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนต่ำ หากได้รับยา จะช่วยลดการแท้งในช่วงระหว่างสัปดาห์ที่ 5-8 ของการตั้งครรภ์ได้ นอกจากนี้ ยากันแท้งยังช่วยป้องกันการคลอดก่อนกำหนดด้วยค่ะ

              เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

               

              อ่านต่อ ยากันแท้งมีกี่แบบ แบบไหนดีที่สุด คลิกหน้า 2

                รพ. รัฐ รับบริการฝังยาคุมกำเนิด ฟรี! ลดปัญหาแม่วัยใสมีลูกก่อนวัยอันควร

                ฝังยาคุม ฟรี …พ.ร.บ.การป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น พ.ศ.2559 ได้เข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาท้องก่อนวัยอันควร โดยกำหนดให้วัยรุ่นอายุ 10-20 ปี รับบริการ และขอคำปรึกษาได้ฟรีกับโรงพยาบาลทั่วประเทศ

                Continue reading “รพ. รัฐ รับบริการฝังยาคุมกำเนิด ฟรี! ลดปัญหาแม่วัยใสมีลูกก่อนวัยอันควร”

                  พ่อแม่ควรระวัง! 7 ไม้ประดับมีพิษ ในบ้าน ไม่ปลอดภัยกับลูกน้อย

                  ไม้ประดับมีพิษ …อีกหนึ่งสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ต้องระวัง เพราะแม้ต้นไม้ดอกไม้จะช่วยประดับบ้านให้สวยงามหรือมีคุณประโยชน์ไล่แมลงได้ แต่ในทางต้นกันข้าม ต้นไม้หรือไม้ดอกไม้ประดับบางชนิดก็ไม่ปลอดภัยกับลูกน้อยของเรา

                  Continue reading “พ่อแม่ควรระวัง! 7 ไม้ประดับมีพิษ ในบ้าน ไม่ปลอดภัยกับลูกน้อย”

                    ปล่อยลูกนอนคว่ำ จนเสียชีวิต !!

                    ปล่อยลูกนอนคว่ำ จนเสียชีวิต เรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของคุณแม่ท่านหนึ่งที่เพิ่งมีลูกน้อยวัยได้เพียง 3 เดือน แต่ต้องมาเสียไปเพียงเพราะปล่อยให้ลูกนอนคว่ำ ทีมงาน Amarin Baby & Kids มีเรื่องราวของคุณแม่ท่านนี้มาเป็นอุทาหรณ์เตือนใจให้หลายๆ ครอบครัวได้ระมัดระวังลูกน้อยที่บ้านกันค่ะ

                     

                    ปล่อยลูกนอนคว่ำ จนเสียชีวิต !!

                    เป็นอีกหนึ่งเรื่องจริงจากแม่ที่ ปล่อยลูกนอนคว่ำ จนเสียชีวิต เรื่องจริงที่แม่แชร์มานี้เป็นของคุณแม่ ผู้ใช้เฟสบุ๊ค Sataratsamee Soda ที่อยากเตือนแม่ๆ ทุกคนที่อาจจะเผลอให้ลูกนอนคว่ำ คุณแม่ได้แชร์เรื่องไว้ตามนี้ค่ะ…

                    ####เตือนแม่ๆ ทุกคนนะคะ ####

                    #การปล่อยลูกน้อยนอนคว่ำ เราคนนึงค่ะที่ปล่อยน้องนอนคว่ำตั้งแต่สะดือหลุดได้ 12 วัน น้องมีพัฒนาการดีแข็งแรงทุกอย่าง กลับหน้าเองตลอด ตั้งแต่เริ่มนอนคว่ำ จน 3 เดือนค่ะ จนน้องพลิกกลับมาหงายเอง ชูคอเอง เพราะความชะล่าใจของแม่ค่ะ พอน้องอายุได้แค่ 3 เดือนกับ 2 วัน วันนั้นแม่นั่งรีดผ้าอยู่หน้าห้องแม่เทียวดูน้องทุก 30 นาที พอเวลา 1.30 คุณแม่เข้าไปดูน้องครั้งสุดท้ายจับน้องว่าฉี่ไหม น้องก็กลับหน้าขยับตัวอยู่เลยค่ะ

                    และพอเวลา 02.00 แม่เข้าไปอีกครั้งเพื่อจะปลุกน้องขึ้นมากินนม จับน้องที่กำลังนอนคว่ำหน้า แต่น้องกับไม่ขยับตัว คุณแม่เริ่มใจสั่น และรีบดูว่าน้องมีอะไรปิดจะจมูกไหม แต่ไม่ค่ะ พอดูหน้าน้องกับคว่ำลงไปกับที่นอน น้องเริ่มซีด ตาโรย คุณแม่กับคุณพ่อรีบอุ้มน้องขึ้นรถ ทั้งผายปอดทั้งปั๊มหัวใจลูก ไปจนถึงโรงพยาบาล หมอก็พยายามช่วยเต็มที่ค่ะ และแล้วน้องก็ต้องจากคุณพ่อกับคุณแม่ไปค่ะ ด้วยความที่เป็นลูกคนแรกหมอช่วยยื้ออยู่ 3 ชั่วโมง เต็มค่ะ จนหมอบอกกับแม่ว่าให้ปล่อยน้องไปนะคะคุณแม่ เพราะหมอทำทุกวิถีทางแล้ว หัวใจน้องไม่ตอบสนอง เท่านั้นแหละค่ะแม่แทบล้มทั้งยืน ทำอะไรไม่ถูก เลยค่ะ พอเห็นแม่ๆ ลงรูปลูกนอนคว่ำหน้าทีไรรู้สึกกลัวทุกทีค่ะ ####อยากให้แม่ๆ ดูแลน้องอย่างใกล้ชิดอย่าละห่างสายตานะคะ เพราะบางทีเขาไม่มีเสียงร้องอะไรเลย เพื่อเตือนเรา พอจะรู้อีกทีก็สายไปแล้ว####

                    ปล่อยลูกนอนคว่ำ จนเสียชีวิต

                    บทความแนะนำ คลิก >> 8 เทคนิคดี๊..ดี ฝึกลูกน้อยชันคอ เพื่อพัฒนาการที่ดีสมวัย

                    จากเหตุการณ์นี้เป็นเพียงเสี้ยววินาทีที่คุณแม่ปล่อยให้ลูกนอนคว่ำอยู่คนเดียว เพราะเห็นว่าลูกพลิกคว่ำได้แล้วจึงให้นอนเล่นตามลำพัง จนกระทั่งก็เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น ทำให้ต้องสูญเสียลูกไปแบบไม่คาดคิด…

                    อ่านต่อ ให้ลูกนอนคว่ำ หรือนอนหงาย หน้า 2

                     

                    เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                      รีวิวการ คุมกำเนิดแบบฝังเข็ม กระทู้ดีจากพันทิป!

                      คุมกำเนิดแบบฝังเข็ม 1 ในวิธีคุมกำเนิดที่ได้ผลดี ซึ่งจะช่วยลดกระแสดราม่าของคุณแม่วัยใส ท้องก่อนวัยอันควรลงได้ และรวมไปถึงคู่รักที่ยังไม่พร้อมจะมีลูกก็สามารถเลือกวิธีนี้ได้!

                      Continue reading “รีวิวการ คุมกำเนิดแบบฝังเข็ม กระทู้ดีจากพันทิป!”

                        น้ำผึ้งสีเขียว อันตราย

                        น้ำผึ้งสีเขียว อันตราย อย่าให้ลูกกิน

                        น้ำผึ้งสีเขียว อันตราย ที่เพิ่งเป็นข่าวสร้างความแปลกประหลาดใจให้กับหลายๆ คน ที่จู่ๆ ก็พบว่ามีน้ำผึ้งสีเขียวเกิดขึ้นที่ชาวบ้านบุรีรัมย์เป็นคนพบครั้งแรก และมีคสามสงสัยกันว่าสามารถนำมาทานได้ปลอดภัยต่อสุขภาพหรือไม่ ทีมงาน Amarin Baby & Kids มีข้อมูลมาให้ได้ทราบกันค่ะ

                         

                        น้ำผึ้งสีเขียว อันตราย อย่าให้ลูกกิน

                        เห็นสีสวยๆ ของ น้ำผึ้งสีเขียว อันตราย อย่าให้ลูกกิน เด็ดขาดค่ะ เพราะจากข่าวจะเห็นว่าคนเฒ่า คนแก่ เชื่อว่าเป็นยาที่ช่วยรักษาอาการเจ็บป่วยได้ จึงนำมากวาดคอ กวาดลิ้นให้กับเด็กเล็กๆ

                        ผู้เชี่ยวชาญ จากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เผยว่า ที่ผ่านมาได้ตรวจสอบน้ำผึ้งหลากหลายชนิด ไม่เคยพบน้ำผึ้งสีเขียวมาก่อน จากการสังเกตด้านกายภาพเบื้องต้น ตัวอย่างน้ำผึ้งสีเขียวที่ได้รับมาจากชาวบ้าน ไม่ใช่สีเขียวธรรมชาติ แถมมีความใสมากกว่าปกติ รวมถึงหนืดน้อยกว่าน้ำผึ้งทั่วไป

                        ซึ่งทางกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ตรวจสอบล่าสุด ผลตรวจพบว่า น้ำผึ้งสีเขียวมรกต มียีสต์และเชื้อราเกินมาตรฐาน และมีสีสังเคราะห์เจือปน หากนำไปรับประทานจะเกิดอันตรายต่อร่างกาย[1]

                        ของกินที่มาจากธรรมชาติมีอยู่หลากหลายค่ะ ซึ่งน้ำผึ้งก็เป็นหนึ่งในอาหารที่ได้จากธรรมชาติด้วยเช่นกัน แต่บางครั้งอาหารธรรมชาติก็ไม่ได้ปลอดภัยเสมอไป ยิ่งเห็นสีสวยๆ ก็ต้องดูให้ดีก่อนว่ามีอันตรายซ่อนไว้ด้วยหรือเปล่า และทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ไม่ควรนำมาทานกันนะคะ 

                        อ่านต่อ ลูกวัยทารกกินน้ำผึ้งได้ไหม หน้า 2

                         

                         

                        เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                          ผ่าคลอด อันตราย ต่อสุขภาพแม่และเด็ก

                          ผ่าคลอด อันตราย ต่อสุขภาพแม่และเด็ก

                          ผ่าคลอด อันตราย ต่อสุขภาพแม่และเด็ก เรื่องนี้เป็นการเตือนมาจากกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เพื่อกระตุ้นให้แม่ท้องหันมาให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพระหว่างตั้งครรภ์ เพื่อให้พร้อมสำหรับการคลอดลูกตามวิธีธรรมชาติ และลด การคลอดลูกด้วยวิธีการผ่า ทีมงาน Amarin Baby & Kids มีข้อมูลการผ่าคลอดมาให้ได้ทราบกันค่ะ

                           

                          ผ่าคลอด อันตราย ต่อสุขภาพแม่และเด็ก

                          ก่อนที่จะไปเจาะลึกว่า ผ่าคลอด อันตราย ต่อสุขภาพแม่และเด็ก อย่างไรบ้างนั้น อยากจะให้คุณแม่ได้เข้าใจถึงการคลอดลูกด้วยวิธีผ่าคลอดกันก่อนค่ะ

                          การผ่าตัดคลอดลูกทางหน้าท้อง (Caesarean section หรือ Cesarean section หรือ C–section) โดยมากแล้วแพทย์จะเลือกใช้ วิธีนี้ก็ต่อเมื่อแม่ท้องมีปัญหาทางสุขภาพ ที่ไม่สามารถเบ่งคลอดลูกได้เอง อย่างเช่น…

                          • ทารกในครรภ์ มีส่วนนำที่ไม่ใช่ศีรษะ เช่น ท่าก้น เป็นต้น
                          • คุณแม่ตั้งครรภ์แฝด
                          • มีภาวะรกเกาะต่ำ
                          • แพทย์ได้มีการชักนำให้เกิดการคลอดแล้ว แต่ล้มเหลว มารดาคลอดเองไม่ได้
                          • มีประวัติการตั้งครรภ์ที่เคยผ่านการผ่าตัดคลอดมาก่อน
                          • มีเนื้องอกในอุ้งเชิงกรานที่ขัดขวางการคลอดทางช่องคลอด เช่น เนื้องอกมดลูก เนื้องอกรังไข่ เป็นต้น
                          • การติดเชื้อที่ช่องทางคลอดของมารดา เช่น โรคเริมที่อวัยวะเพศ หรือ โรคหูดหงอนไก่ เป็นต้น
                          • ภาวะที่ศีรษะทารกมีขนาดใหญ่กว่าอุ้งเชิงกราน ซึ่งส่วนใหญ่มักจะวินิจฉัยได้ในช่วงที่มีการเจ็บครรภ์คลอดแล้ว[1]
                          บทความแนะนำ คลิก >> อาการหนาวสั่นหลังคลอดลูก เกิดจากอะไร?

                          ซึ่งหากคุณแม่ที่ไม่มีความเสี่ยงต่างๆ ของสุขภาพระหว่างตั้งครรภ์ โดยมากแล้วแพทย์จะแนะนำให้คลอดลูกตามวิธีธรรมชาติมากกว่า เพื่อลดความเสี่ยงทางสุขภาพของทั้งแม่และลูก

                          อ่านต่อ ผ่าคลอดอันตรายกับแม่และลูก หน้า 2 

                           

                          เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                            นักเรียนญี่ปุ่น

                            เลี้ยงลูกแบบญี่ปุ่น กับ 8 ความลำบาก เพื่อให้ลูกเป็นเด็กเก่ง โตไปมีคุณภาพ

                            การ เลี้ยงลูกแบบญี่ปุ่น …เป็นอีกหนึ่งแบบอย่างที่พ่อแม่ไทยให้ความสนใจ เพราะเด็กญี่ปุ่นที่เราเห็นนั้นมักดูเก่งและมีความสามารถ ซึ่งการเลี้ยงดูหรือใช้ชีวิตของเด็กญี่ปุ่นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ที่กว่าจะเก่ง หรือโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่พัฒนาชาติให้เจริญได้ขนาดนี้

                            Continue reading “เลี้ยงลูกแบบญี่ปุ่น กับ 8 ความลำบาก เพื่อให้ลูกเป็นเด็กเก่ง โตไปมีคุณภาพ”

                              สุดสลด! ครูลงโทษใช้เทปปิดปากทากาว ด.ญ.อนุบาล จนขาดอากาศเสียชีวิต เพียงเพราะเหตุนี้…!

                              ครูลงโทษนักเรียน เกินเหตุ …กำลังกลายเป็นประเด็น ดราม่าบนโลกออนไลน์ของประเทศจีนในขณะนี้ ซึ่งเป็นเรื่องราวของเด็กหญิงวัย 6 ขวบ เสียชีวิตจากสาเหตุขาดอากาศหายใจ เนื่องจากถูกสก็อตเทปปิดปากโดยคุณครูที่โรงเรียน

                              Continue reading “สุดสลด! ครูลงโทษใช้เทปปิดปากทากาว ด.ญ.อนุบาล จนขาดอากาศเสียชีวิต เพียงเพราะเหตุนี้…!”

                                เชื่อหรือไม่? ผู้หญิงที่สะโพกใหญ่ ทำให้ลูกฉลาดและสมองดีได้!

                                ผู้หญิงสะโพกใหญ่ ลูกฉลาด ได้จริงหรือ? เรื่องนี้มีคำตอบ เพราะการที่ลูกจะฉลาดมีสมองดีได้นั้น ขึ้นอยู่กับ พันธุกรรม อาหารการกิน และสิ่งแวดล้อม แล้วการที่คุณแม่มีสะโพกหรือบั้นท้ายที่ใหญ่ จะมีส่วนช่วยให้ลูกน้อยฉลาดได้อย่างไร ไปดูกันค่ะ

                                Continue reading “เชื่อหรือไม่? ผู้หญิงที่สะโพกใหญ่ ทำให้ลูกฉลาดและสมองดีได้!”

                                  กระบวนท่ารัก

                                  รวม กระบวนท่ารัก (sex) สำหรับทำลูกสาว-ลูกชาย

                                  กระบวนท่ารัก 12 แบบ สำหรับทำลูกสาวลูกชายกระบวนท่ารัก …ในการร่วมเพศ เป็นอีกหนึ่งความเชื่อที่ทำให้มีลูกและกำหนดเพศได้ แม้บางคนจะไม่เชื่อว่าท่วงท่าก็มีผลต่อ แต่โดยทั่วไปมีความเชื่อว่าท่ามิชชั่นนารี (ผู้หญิงนอนหงายอยู่ด้านล่าง ผู้ชายอยู่ด้านบน) เป็นท่าที่มีลูกง่ายสุด และหากพลิกแพลงอีกหน่อยก็สามารถกำหนดเพศของลูกได้ โดยการเอื้ออำนวยความสะดวกให้กับอสุจิแต่ละเพศนั้นๆ ได้วิ่งไปถึงรังไข่ได้ก่อนตัวอื่น

                                   

                                  กระบวนท่ารัก

                                  อสุจิ ตัวกำหนด (เพศ)

                                  การที่ไม่ได้เพศลูกตามต้องการนั้น อาจจะต้องโทษไปที่ฝ่ายคุณผู้ชายมากกว่า เพราะต้นกำเนิดในการกำหนดเพศของมนุษย์เรานั้นก็คือ ตัวอสุจิของผู้ชายนั่นเอง ซึ่งอสุจิก็จะมีทั้งตัวผู้และตัวเมีย

                                  • ถ้าอสุจิตัวผู้ไปถึงไข่ก่อนแล้วเจาะเข้าไปปฏิสนธิก่อนก็จะได้ลูกชาย
                                  • แต่ถ้าอสุจิตัวเมียเจาะเข้าไปปฏิสนธิก่อนก็จะได้ลูกสาว

                                  ซึ่งรังไข่ของคุณผู้หญิงนั้นไม่ได้มีส่วนในการกำหนดเพศเลย และเมื่อรู้ว่า “อสุจิ” ของคุณผู้ชายนี่เองที่เป็นตัวกำหนดเพศ นักวิทยาศาสตร์จึงได้ลองทำการศึกษาเจ้าอสุจิตัวผู้กับตัวเมียดู โดยจับมาวิ่งแข่งกัน เอามาจับแช่กรดแช่ด่างดูว่าจะทนร้อนทนหนาวกันแค่ไหน ก็พบว่า อสุจิตัวเมียจะตัวใหญ่อวบอั๋นกว่า อึดทนทานกว่า วิ่งช้ากว่า แต่ถ้าอยู่ในภาวะกรดอ่อนๆ จะวิ่งได้ดีกว่า ส่วนอสุจิตัวผู้จะตัวเล็กปราดเปรียวกว่า แต่ก็ใจเสาะ วิ่งไปได้ไม่เท่าไรก็หมดแรงเสียแล้ว แต่จะวิ่งได้เร็วกว่าอสุจิตัวเมีย ถ้าเจอความเป็นด่างอ่อนๆ ก็ยิ่งชอบ

                                  เมื่อรู้ความลับของเจ้าตัวอสุจิแล้ว ก็สามารถเอามาใช้ประโยชน์ได้ สำหรับว่าที่คุณพ่อคุณแม่อยากได้ลูกชายก็ต้องพยายามให้มีเพศสัมพันธ์ในวันที่ไข่ตกพอดี เพราะวันที่ไข่ตกพอดีนั้น ช่องคลอดก็จะมีความเป็นด่างสูง แล้วก็ต้องให้ถึงจุดสุดยอดพร้อมๆ กันอีกด้วย เพราะตอนที่ถึงจุดสุดยอดฝ่ายคุณผู้หญิงจะหลั่งน้ำที่มีภาวะเป็นด่างออกมา เชื้ออสุจิตัวผู้ก็จะวิ่งฉิวเลย

                                  ท่วงท่าต่อการกำหนดเพศลูก

                                  ผู้เชี่ยวชาญบางท่านบอกว่า แรงโน้มถ่วงเป็นปัจจัยที่ควรให้ความสำคัญหากคุณต้องการเลือกท่าร่วมรักเพื่อเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์ และมักจะแนะนำให้ใช้ท่ามิชชันนารี ด้วยเหตุผลเหล่านี้ คือ

                                  1. ช่วยให้สอดใส่ได้ลึก และ
                                  2. ช่วยให้น้ำอสุจิไหลลงไปยังจุดหมายที่ต้องการ คือ ที่ปากทางเข้ามดลูก

                                  ในทางกลับกัน ท่าที่ผู้หญิงอยู่ด้านบน (หรืออยู่ในท่านั่งทั้งคู่ หรือคนใดคนนึงยืนหรือนั่ง) จะไม่เหมาะนัก เพราะปลายปากมดลูกมีลักษณะเหมือนโคน ดังนั้นการร่วมรักจากทางด้านหลัง (ท่าด๊อกกี้) จะช่วยให้ตัวอสุจิเดินทางเข้าปากมดลูกได้ง่ายขึ้น

                                  และถ้าคุณผู้หญิงคุณผู้ชายเห็นด้วยกับทฤษฎีนี้ ก็อาจหาตัวช่วยเพื่อเพิ่มแรงโน้มถ่วงซึ่งจะช่วยให้น้ำเชื้อไหลเข้าสู่ปากมดลูกได้ดีขึ้นให้คุณหาหมอนมารองที่ใตัสะโพกและให้ค้างอยู่ในท่านั้นประมาณ  10-15 นาทีหลังจากมีเพศสัมพันธ์ ท่านี้จะช่วยให้น้ำอสุจิมารวามตัวอยู่ที่ปลายปากมดลูก จึงเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์ได้ สิ่งสำคัญคือคุณจะต้องรู้ว่ามีไข่ตกเมื่อไหร่ (โดยการใช้ชุดทดสอบการตกไข่) และกะช่วงเวลามีเพศสัมพันธ์ให้ถูกจังหวะ

                                  ทั้งนี้ยังเชื่อกันว่าท่ามิชชันนารี (ผู้ชายอยู่ด้านบน) จะดีที่สุด เพราะท่านี้จะสอดใส่ได้ไม่ลึกมากทำให้สเปิร์มต้องเดินทางไกลขึ้นกว่าจะพบไข่ สเปิร์ม X (เพศหญิง) สามารถอยู่รอดได้นานกว่าสเปิร์ม Y  จึงมีความได้เปรียบมากกว่า

                                  ♥ Must read : พัฒนาการของทารกในครรภ์ ตั้งแต่ปฏิสนธิ จนกระทั่งเกิด (มีคลิป)
                                  ♥ Must read : นักวิทยาศาสตร์พบ! ฤดูร้อน เป็นช่วงที่ไม่เหมาะกับการทำลูก

                                  อ่านต่อ >> “รวม 12 กระบวนท่ารัก สำหรับทำลูกสาวลูกชาย โดยเพจ หมอดูตัวดำ” คลิกหน้า 2

                                  เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                                   

                                    คนท้องกินน้ำมะนาวได้ไหม

                                    คนท้องกินน้ำมะนาวได้ไหม? กับ 12 ประโยชน์ของน้ำมะนาวที่แม่ควรรู้!

                                    คนท้องกินน้ำมะนาวได้ไหม …อีกหนึ่งข้อสงสัยที่แม่ท้องอยากทราบ เพราะบางคนคิดว่าน้ำมะนาวมีกรดที่อาจเป็นอันตรายต่อลูกน้อยได้ แต่แท้จริงแล้วน้ำมะนาวมีประโยชน์มากมายนัก ทั้งกับคุณแม่ท้องและคุณแม่หลังคลอดที่กำลังให้นมลูกน้อยอยู่

                                    Continue reading “คนท้องกินน้ำมะนาวได้ไหม? กับ 12 ประโยชน์ของน้ำมะนาวที่แม่ควรรู้!”