ชวนพ่อลูกสวดมนต์

ชวนลูก-สามี สวดมนต์ลดกรรม ทำให้รวยกันเถอะ

สวดมนต์ลดกรรม ได้อานิสงส์แรงจริง มาช่วยกันชวนลูกและสามีสวดมนต์ไปพร้อม ๆ กันเถอะค่ะ

 

 

การสวดมนต์ภาวนาเป็นการสร้างบุญที่ได้อานิสงส์สูง ช่วยทำจิตใจให้สงบตั้งอยู่ได้นาน ทำให้เกิดฌาณ จิตวิญญาณรวมทั้งสิ่งที่มองไม่เห็นจะได้มาร่วมอนุโมทนาบุญ  อีกทั้งยังเป็นการแผ่เมตตาจิตไปยังบุคคลอื่นได้อีกด้วย

หลาย ๆ ท่านอาจจะกำลังคิดว่า ทั้ง ๆ ที่ทำบุญทำทานก็มาก เหล้าก็ไม่กิน บุหรี่ก็ไม่สูบ ไม่เคยผิดลูกผิดเมียคนอื่น แต่ทำไมหนอ ชีวิตถึงไม่ดีขึ้นเสียที มีเงินก็ต้องหมด เก็บไม่ค่อยอยู่

พบกับเรื่องราวอันเกี่ยวกับอานิสงส์ของการสวดมนต์ ที่จะมาช่วยสร้างเสริมบุญของเราให้ดียิ่งขึ้นกันเถอะค่ะ

อ่านต่อเรื่องเล่า ได้ที่หน้าถัดไป >>

    ลูกพูดโกหก

    6 วิธีเข้าใจและสอนลูก เมื่อลูกพูดโกหก!

    ลูกพูดโกหก ทำไม? …แท้จริงแล้วเด็กๆ ชอบพูดโกหกจริงหรือไม่! หรืออาจเป็นเพราะลูกเพียงแค่ต้องการพูดอีกหนึ่งอย่างกับเรา แต่เพราะเขายังเด็กจึงพูดไปตามสิ่งที่เขาคิดได้ตอนนั้น ซึ่งนั่นอาจกลายเป็นคุณพ่อคุณแม่นั่นแหละที่โกหกตัวเอง แล้วโดยความผิดให้ลูก

     

    เชื่อได้เลยว่าพ่อแม่หลายคนมักโยนความผิดให้ลูก ด้วยคำว่า อย่าเอาแต่ใจ! ในขณะที่ลูกร้องไห้งอแง หรือพูดโกหก เบี่ยงเบนความสนใจไปมา จะเอาโน่น จะเอานี่ พฤติกรรมเหล่านี้ อาจไม่ใช่สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่คิดว่าลูกดื้อ เอาแต่ใจเสมอไปนะคะ

    คุณพ่อกอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่ ชี้วิธีเข้าใจและสอนลูก!
    เมื่อ “ลูกพูดโกหก”

    แม้พฤติกรรมโกหกของเด็ก จะเป็นพฤติกรรมที่พ่อแม่รับไม่ได้ แต่ถ้าเจอลูกโกหก ควรพิจารณาก่อนว่า พฤติกรรมนั้นเป็นไปตามพัฒนาการของเด็กหรือเปล่า ถ้าพฤติกรรมนั้นเกิดในเด็กเล็กๆ ที่เพิ่งพูดได้ไม่นาน หรือเด็กอายุ 2-3 ขวบ ซึ่งเด็กอาจจะยังไม่เข้าใจหรือแยกแยะความจริงกับจินตนาการได้อย่างชัดเจน เด็กอาจจะพูดในสิ่งเด็กนึกขึ้นมาโดยไม่ได้ตรวจสอบกับโลกความเป็นจริง ก็ถือเป็นเรื่องปกติตามพัฒนาการ และควรหลีกเลี่ยงการใช้คำว่า “เด็กโกหก”

    เช่นเดียวกับเหตุการณ์นี้ที่คุณพ่อกอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่ ได้โพสต์ภาพน้องชูใจ พร้อมเล่าถึงเหตุการณ์ที่ อยู่ดีๆ น้องชูใจก็งอแงไม่ยอมกินข้าว พร้อมพูดเบี่ยงเบนไปมา จนทำให้ คุณพ่อกอล์ฟดุไป แต่เมื่อได้สติ ก็กลับมาคิดได้ว่าแท้จริงแล้วน้องชูใจไม่ได้พูดโกหก หรือจะเบี่ยงเบนไม่ยอมกินข้าว แต่ความจริงแล้วคือคนเป็นพ่อแม่ต่างหากที่โยนความผิดไปให้ลูก โดยไม่ทันได้คิดถึงเหตุผลว่าเพราะอะไรลูกถึงพูดแบบนั้น!!

    ลูกพูดโกหก

    เรื่องมีอยู่ว่า….

    เช้านี้ชูใจไม่ยอมกินข้าว อาหารของเธอเป็นข้าวราดไก่ผัดเห็ดหอมซึ่งปกติทุกเช้าเธอจะฝึกกินข้าวเอง ดีบ้างเลอะบ้าง แต่ช่วงนี้ก็จะพยายามให้กินเองให้จบมื้อโดยนั่งมองอยู่ใกล้ๆ

    ผมพยายามกล่อมให้เธอกินข้าวให้หมดจาน ด้วยการบอกว่าถ้ากินหมดจะให้กินแอปเปิล เธอพยายามกิน เคี้ยวซักพักก็คายเศษไก่และข้าว

    ผมดุเธอว่าอย่าคายข้าว ลูกหน้าเสีย เธอไปลากเก้าอี้มาบอกจะขอนั่งตัวนี้ ผมเริ่มอารมณ์เสีย บอกเธอว่าอย่านอกเรื่อง มากินข้าวให้หมด

    เธอพูดเศร้าๆว่า หนูปวดฟัน

    ผมให้เธอยิงฟันให้ดู ฟันเธอเป็นปกติ ผมดุเธอว่าอย่าโกหก อย่าเอาแต่ใจ มานั่งกินข้าวเดี๋ยวนี้

    เธอบอกว่าเธอปวดขาจะขอนั่งเก้าอี้อีกตัว ผมแน่ใจว่าเธองอแงเพื่อเบี่ยงประเด็นการกินข้าวแล้วเถียงเธอว่าเก้าอี้ตัวไหนก็เหมือนกัน ก่อนจะลากจานข้าวมา เอาช้อนตัดชิ้นไก่เพื่อที่จะป้อน บังคับให้เธอกินให้จบ

    ลูกพูดโกหก

     

    ลูกพูดโกหก

    เมื่อช้อนพลาสติกตัดบนชิ้นไก่ ผมพบว่าข้อมือผมต้องใช้แรงมากกว่าปกติ จึงตัดสินใจตักไก่ทั้งชิ้นลองเคี้ยวและพบว่านี่มันไก่สักยันต์ชัดๆ เนื้อมันเหนียวมาก

    ชูใจไม่รู้จักคำว่าเมื่อยกรามหรือเนื้อเหนียว เธอรู้จักแค่คำว่าปวดฟัน

    สติผมเริ่มกลับมา ผมลองสังเกตดูเก้าอี้ตัวแรกที่เธอนั่ง มันมีลักษณะเตี้ยและเธอต้องนั่งชันเข่า วันนี้เป็นวันที่ใช้เวลาปล้ำกันกินข้าวนานกว่าปกติ เธอจึงไปลากเก้าอี้ตัวสูงอีกตัวมาเพื่อที่จะนั่งห้อยขา

    ชูใจไม่รู้จักคำว่าเมื่อยขา และเก้าอี้ไม่ได้เหมือนกันทุกตัวอย่างที่ผมเถียงเธอ

    ฉับพลันนั้นผมจึงคิดได้ ในวัยที่ลูกเริ่มพูดรู้เรื่อง เริ่มเจรจาต่อรองเป็น ไม่เพียงพ่อแม่จะต้องสอนด้วยการพูดกับเขาให้มากขึ้น .. แต่บางครั้งสิ่งสำคัญกลับเป็นการนิ่งและตั้งใจฟังเขาให้มากขึ้น

    ผมรีบเอ่ยคำขอโทษลูก ตอนนั้นอยู่ๆภาพก็ย้อนให้คิดถึงตัวเองตอนวัยรุ่น ในวันที่ผมพยายามตะโกนความรู้สึกให้ผู้ใหญ่รับฟังแต่ไม่มีใครได้ยิน มันเป็นเรื่องน่าเจ็บปวดกว่าการถูกปิดปากไม่ให้พูดส่งเสียงมากมายนัก

    ผมกอดเธอ หอมแก้มเบาๆ ก่อนจะบอกให้เธอลากเก้าอี้ตัวสูงมานั่ง เธอนั่งห้อยขา กินข้าวที่ผมตั้งใจตัดและบดไก่จนละเอียดพอดีคำจนหมดจาน

    ระหว่างให้เธอกินแอปเปิลตามสัญญา ผมเห็นเธอยิ้มให้ผม

    รอยยิ้มของลูกไม่มีเสียง

    แต่นั่นกลับเป็นคำสอนคำโตแก่พ่ออย่างผมว่า บางครั้งที่เราคิดถึงแต่ความสบายและเร่งรัดทุกอย่างให้เป็นดังใจตัวเองคิด นั่นคือการเห็นแก่ตัวและเอาแต่ใจของเราเอง

    และเรามักโยนความผิดให้เขาด้วยคำว่า .. อย่าเอาแต่ใจสิลูก!

    ลูกพูดโกหก

    ขอบคุณเรื่องราวดีและภาพจาก : IG @ftodah

    ♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥

    เมื่อเริ่มจับได้ว่า “ลูกพูดโกหก” สอนอย่างไรให้ได้ผล!

    เมื่อลูกพูดโกหก บางคำพูด หรือการดุ สั่งสอนของพ่อแม่ ที่มักใช้พูดคุยกับลูกหลังจับได้ว่าลูกเริ่มโกหก และอาจมีการลงโทษตามมา หลายครั้งคนเป็นพ่อแม่ก็กลับมานั่งถามตัวเองว่า การตอบโต้ที่เข้าใจว่าเป็นการสอนนั้นทำไมไม่ได้ผล ทำไมยิ่งแย่ลง

    “สาเหตุหนึ่งที่สำคัญ คือ ความไม่เข้าใจในสาเหตุ
    และลักษณะพฤติกรรมของเด็ก รวมถึงไม่ทราบวิธีจัดการที่ถูกต้อง”

    พ.ญ.อังคณา อัญญมณี จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น โรงพยาบาลมนารมย์ กล่าวว่า การโกหกของเด็กที่เกิดขึ้นบ่อยๆ อาจแสดงว่าลูกรักกำลังมีปัญหา เช่น ปัญหาทางอารมณ์ เมื่อเติบโตเป็นวัยรุ่นอาจมีพฤติกรรมร่วมกับการโกหกอีกหลายอย่าง ทั้งลักขโมย หลอกลวง ทำลายของสาธารณะ ทำร้ายร่างกายผู้อื่น ถือเป็นเด็กมีปัญหา หรือเด็กเกเร และอาจเติบโตเป็นผู้ก่อปัญหาให้สังคมในที่สุด ซึ่งหากพ่อแม่สังเกต ควรมีสติและหันมาหาความรู้เพื่อช่วยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้เขาดีขึ้น

    สาเหตุที่ลูกพูดโกหก

    จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น ให้ข้อมูลว่า การที่เด็กมีพฤติกรรมโกหกหรือพูดไม่จริงนั้นอาจมีสาเหตุที่ต่างกันขึ้นกับช่วงอายุ แบ่งเป็น 2 ช่วง คือ ในเด็กช่วงอายุ 2-6 ขวบ อาจพูดไม่จริงได้เนื่องจากความคิดยังพัฒนาไม่สมบูรณ์ เด็กยังไม่สามารถแยกแยะว่าอะไรจริง หรืออะไรคือจินตนาการ

    เด็กอาจบอกว่า “หนูเหาะได้” เพราะอยากจะเป็นอย่างนั้น เด็กที่ถูกแกล้งบ่อยๆ จนเกิดความกลัวและอยากเอาชนะความกลัว ก็อาจเล่าให้แม่ฟังว่า “วันนี้เพื่อนมาแกล้งผม ผมเลยชกจนหงายหลัง วิ่งหนีไปเลย”

    ในเด็กบางคนอาจโกหกเพื่อทดสอบว่าพ่อแม่จะรู้หรือไม่ว่าเขาพูดไม่จริง เพราะเด็กมักมองว่าพ่อแม่รู้ทุกอย่างแต่บางครั้งก็ไม่แน่ใจ ดังนั้นหากลูกในวัยนี้พูดสิ่งที่เกินจริงไปบ้าง พ่อแม่ไม่ควรตำหนิหรือกังวลมากเกินไป เพราะเป็นธรรมชาติของเด็กวัยนี้

    สิ่งที่ควรทำคือรับฟังลูกและแก้ไขความเข้าใจที่ถูกต้องให้แก่ลูกต่อไป!

     

    อ่านต่อ >> แนวทางปฏิบัติสำหรับพ่อแม่เมื่อเริ่มจับได้ว่าลูกพูดโกหก” คลิกหน้า 3

    เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

      กินเหล้าต่อหน้าลูก

      หยุด! กินเหล้าต่อหน้าลูก หากรักและห่วงลูกจริง ๆ

      หากคุณคิดว่าการ กินเหล้าต่อหน้าลูก เป็นสิ่งที่ดี ได้โปรดคิดใหม่!

       

       

      คุณพ่อคุณแม่รู้สึกอย่างไรเวลาที่เห็นเด็ก ๆ ดื่มเหล้าคะ? ไม่ชอบใช่ไหมละคะ แต่ทราบหรือไม่คะว่า หนึ่งในสาเหตุที่เด็ก ๆ และเยาวชนของเราทำแบบนั้นเป็นเพราะ มีคนในครอบครัวเป็นต้นแบบนั่นเอง

      สำหรับบางครอบครัวไม่ใช่กินเหล้าต่อหน้าอย่างเดียว เผลอ ๆ ใช้ลูกหลานไปซื้อเหล้าให้เสียด้วยซ้ำ และพฤติกรรมเหล่านี้นี่ละค่ะ ที่ปลูกฝังให้เด็กรู้สึกว่าเป็นเรื่องธรรมดา

      ได้มีผลสำรวจจากกลุ่มนักเรียนระดับประถมศึกษา อายุระหว่าง 9-15 ปี จำนวน 1,951 คน ทั้งหมด 67 โรงเรียน พบว่า เสียงสะท้อนจากเยาวชนส่วนใหญ่ ไม่ต้องการเห็นผู้ปกครองหรือสมาชิกในครอบครัวดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มากถึงร้อยละ 96.8

      โดยผลสำรวจได้ระบุชัดเจนว่า เยาวชนเกินครึ่ง หรือร้อยละ 72 เคยพบเห็นคนในครอบครัวดื่มเหล้า นอกจากนี้สมาชิกในครอบครัวที่ดื่มเหล้ามากที่สุด คือ พ่อ แต่ไม่มีอะไรน่าตกใจมากไปกว่า เยาวชนเกือบครึ่งหนึ่งหรือ เคยถูกใช้ไปซื้อเหล้าให้ผู้ปกครองทั้งที่ผิดกฎหมาย

      กินเหล้าต่อหน้าลูก ผลเสียถึงอนาคต อ่านต่อเนื้อหาเพิ่มเติม คลิก!


      เครดิต: MGR Online

        การเป็นพ่อแม่ที่ดี

        7 วิธี การเป็นพ่อแม่ที่ดี ของลูก ไม่ยากอย่างที่คิด

        การเป็นพ่อแม่ที่ดี ไม่ใช้แค่เลี้ยงลูกให้ข้าวให้น้ำให้เติบโตขึ้นมา แต่ต้องคอยให้ความรักและอบรมลูกเพื่อให้โตเป็นคนดี มีชีวิตอยู่ในอย่างสังคมได้อย่างปกติสุข

        Continue reading “7 วิธี การเป็นพ่อแม่ที่ดี ของลูก ไม่ยากอย่างที่คิด”

          สามีชอบดูวิดีโอโป๊

          ทำอย่างไรเมื่อ สามีชอบดูวิดีโอโป๊ จนไม่ยอมทำการบ้าน

          สามีชอบดูวิดีโอโป๊ จนไม่ยอมทำการบ้าน หนึ่งในปัญหาครอบครัวที่ใคร ๆ หลาย ๆ คนอายเกินกว่าจะบอก

           

           

           

          สมัยนี้แล้ว ใช่ว่าจะต้องไปเจอหน้ากันแล้วมีเซ็กส์ได้เสมอไปที่ไหน เดี๋ยวนี้เค้ามีเซ็กส์กันผ่านออนไลน์ได้แล้วละจ้า เมื่อก่อนกว่าจะได้ดูหนังโป๊ที ก็ต้องแอบหาซื้อแผ่นกันตามร้านทั่วไป หรือไม่ก็ต้องเพื่อนกันเท่านั้นจะถึงปล่อยของให้ ผิดกับสมัยนี้ ขอให้มีอินเตอร์เน็ตเถอะ จะอารมณ์เปลี่ยวที่ไหน ๆ แค่หามุมก็สะดวกสบายกับการปลดปล่อยแล้ว

          หลายคนอาจจะคิดว่า ก็เป็นเรื่องปกติของผู้ชายอยู่แล้ว ที่จะช่วยตัวเอง แล้วมันแปลกตรงไหนกัน … จริงอยู่ค่ะว่ามันไม่ใช่เรื่องแปลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณผู้ชายอยู่ในสถานะโสด แต่ถ้าแต่งงานแล้ว ภรรยารู้เข้า มันทำให้อีกฝ่ายอดคิดไม่ได้เช่นกันว่า เพราะฉันไม่ดีพอหรือ คุณถึงต้องเลือกปลดปล่อยอารมณ์ด้วยวิธีนี้?

          เช่นเดียวกับ เคสที่ ทีมงานจะมาขอยกตัวอย่างขึ้นในวันนี้ เป็นเคสของคุณแม่ท่านหนึ่งที่ได้โพสต์เพื่อระบายความในใจหลังทราบความจริงถึงพฤติกรรมของสามี ที่เลือกจะใช้บริการแม่นางทั้งห้า มากกว่ามีเพศสัมพันธ์กับตน เรื่องมีอยู่ว่า

          อ่านต่อ >> เรื่องราวของคุณแม่ได้ที่หน้าถัดไปค่ะ

            เมนูบำรุงสายตาลูก

            ซุปฟักทอง เมนูอร่อย ทำง่าย! บำรุงสายตาลูกน้อย (มีคลิป)

            เมนูบำรุงสายตาลูกน้อย …หนึ่งในอาหารที่จะช่วยบำรุงสายตา ดวงตาของลูกน้อยให้สดใส พร้อมเรียนรู้สิ่งต่างๆได้อย่างราบรื่น ไม่สะดุด

            Continue reading “ซุปฟักทอง เมนูอร่อย ทำง่าย! บำรุงสายตาลูกน้อย (มีคลิป)”

              ฝากท้อง

              รวมคำถามที่แม่ต้องตอบ! เมื่อไปฝากท้องครั้งแรก

              ไชโย! ในที่สุดเบบี๋ก็จะมาอยู่กับพ่อแม่แล้ว! แล้วว่าที่คุณแม่ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้างเมื่อต้องไปฝากท้อง กับคุณหมอ มาติดตามกันค่ะ

              Continue reading “รวมคำถามที่แม่ต้องตอบ! เมื่อไปฝากท้องครั้งแรก”

                ลูกไม่กินผัก

                ลูกไม่กินผัก เปลี่ยนความคิดง่าย ๆ ด้วย 3 เมนูนี้!

                ลูกไม่กินผัก ปัญหาบ้าน ๆ ที่ทุกครอบครัวต้องเจอ จะเปลี่ยนความคิดลูกได้หรือไม่ ลองทำ 3 เมนูนี้ดู!

                 

                 

                ปวดหมอง ๆ ลูกน้อยไม่ยอมกินผัก จะต้องทำอย่างไรถึงจะเปลี่ยนใจพวกเขาได้ วันนี้ทีมงาน Amarin Baby & Kids ได้เตรียมคำแนะนำ พร้อม 3 เมนูที่ทำง่าย ๆ ชักชวนให้ลูกน้อยมาทานผัก จะมีเมนูอะไรบ้างนั้น รอชมไปพร้อม ๆ กันนะคะ

                แต่ก่อนที่เราจะไปดูวิธีการทำแต่ละเมนูนั้น เรามาดูคำแนะนำที่ทีมงานได้นำมาฝากกันก่อนค่ะ เริ่มจาก

                • สร้างความคุ้นเคยให้กับลูกก่อน ขึ้นชื่อว่าผักเด็กหลาย ๆ คนก็ชอบที่จะเมินหน้าหนี  บางทีมีผสมทานข้าวไป เป็นต้องคายออกมาเสียนี่ ซึ่งวิธีการนี้ แนะนำให้คุณพ่อคุณแม่เริ่มทำตั้งแต่ลูกยังเล็ก ๆ กันก่อนเลยนะคะ อาจจะเริ่มจากการตุ๋นผักให้นิ่ม และสับละเอียดให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ หรือใส่ผสมลงไปในไข่เจียว หมูทอด หรือต้มจืดก็ได้ อันนี้แล้วแต่ความพอใจของคุณแม่เลยค่ะ
                • เลือกผักให้เหมาะสมกับวัย ผักส่วนใหญ่ที่คุณพ่อคุณแม่นิยมนำมาให้ลูกทานนั้้นสามารถแบ่งได้ตามอายุดังนี้ค่ะ
                  • เด็ก 6 เดือนขึ้นไป แนะนำให้ทานผักใบเขียวก่อน นั่นคือ ใบตำลึง ใบผักบุ้ง ผักโขม ซึ่งมีรสกลาง ๆ ไม่ขมหรือเฝื่อนเพราะจะทำให้เด็กขยาดการกินผักตั้งแต่ครั้งแรกนั่นเอง
                  • เด็กอายุ 9 เดือน 1 ปีขึ้นไป สามารถให้ทาน ผักจำพวกกะหล่ำดอก กะหล่ำปลี ได้แล้ว
                  • เด็กที่มีอายุ 3 – 4 ปีขึ้นไป สามารถทานผักกประเภทหัวและราก เช่น หัวไช้เท้า หอมใหญ่ แครอท ถั่วงอก รวมถึงบวบและผักอื่น ๆ

                อ่านต่อ! เมนูกระตุ้นลูกน้อยให้ทานผัก เมนูแรก >>

                  หูหนวกในเด็ก

                  ตรวจการได้ยิน ของลูก ปกติหรือไม่ รู้ไว โอกาสหายมี

                  ตรวจการได้ยิน หูหนวกในเด็ก ภาวะใกล้ตัวที่พ่อแม่ไม่ควรมองข้าม และต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง!

                   

                   

                  ภาวะประสาทหูเสื่อม รู้ไว แก้ไขเร็ว แพทย์ประจำโรงพยาบาลราชวิถีแนะพ่อแม่ ควรคัดกรองลูกแรกเกิด ทั้งนี้จะได้ช่วยลดปัญหาเด็กใบ้ เด็กหูหนวก พร้อมแนะผู้ปกครองควรให้ความสำคัญและเฝ้าสังเกตอาการผิดปกติของลูกให้ดี

                  แพทย์หญิงนภัสถ์ ธนะมัย แพทย์ด้านโสต ศอ นาสิก รพ.ราชวิถี กล่าวว่า จากการศึกษารายงานสถานการณ์ปัญหาความชุกของเด็กแรกเกิดที่ป่วยเป็นประสาทหูเสื่อมประมาณ 1-3 คน ต่อทารกแรกเกิด 1,000 คน ซึ่งตรวจคัดกรองโดยวิธีเดิม คือ เลือกตรวจเฉพาะเด็กที่อยู่กลุ่มเสี่ยงเท่านั้น คือ มารดามีภาวะติดเชื้อในครรภ์หรือนอนพักฟื้นในห้องผู้ป่วยวิกฤตเป็นเวลานานกว่า 48 ชม.หรือบิดา-มารดาเคยป่วยเป็นประสาทหูเสื่อมมาก่อน

                  โดยจากสถานการณ์การตรวจคัดกรองในต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา ตามรูปแบบการคัดกรองเด็กที่มีความเสี่ยงจากปัจจัยดังกล่าว พบว่า มีผลทำให้เด็กเสี่ยงเกิดภาวะประสาทหูเสื่อมร้อยละ 2-5 ซึ่งการตรวจคัดกรองแบบการแยกกลุ่มเสี่ยงนั้นทีมแพทย์ในอเมริกาพบว่า จะทำให้เด็กต้องป่วยด้วยภาวะประสาทหูเสื่อมที่นานราว 8 เดือน ถึง 1 ขวบ ทำให้มีความบกพร่องทางการสื่อสารทั้งสิ้น เช่น การพูดจาช้ากว่าเด็กทั่วไป หรือบางคนก็ไม่พูดเลย ซึ่งหากปล่อยไว้เมื่อเด็กโตขึ้นอาจเป็นใบ้ได้ ขณะเดียวกันแพทย์ยังพบว่า หากเร่งตรวจในเด็กทุกคนตั้งแต่แรกคลอด โอกาสที่แพทย์จะพบความผิดปกติของประสาทหูในเด็กก็จะเร็วขึ้น อีกทั้งสามารถรักษาฟื้นฟูการได้ยินให้เด็กมีพัฒนาการทัดเทียมเด็กปกติได้เร็วขึ้นด้วย

                  อ่านต่อเนื้อหาเพิ่มเติมได้ที่หน้าถัดไปค่ะ >>

                    โรคหัด หัดเยอรมัน

                    โรคหัด หัดเยอรมัน ต่างกันอย่างไร

                    หนาวนี้ระวัง โรคหัด หัดเยอรมัน ระบาดให้ดี! พร้อมวิธีการสังเกต ลูกป่วยเป็นโรคดังกล่าวหรือไม่

                     

                     

                    ทราบหรือไม่คะว่า หนึ่งในโรคที่มักจะระบาดในช่วงหน้าหนาวนั้นก็คือ โรคหัด และหัดเยอรมันนั่นเอง ซึ่งถือว่าเป็นโรคที่พบได้บ่อยในหน้านี้ ที่สำคัญ หากคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ติดโรคดังกล่าว ก็อาจส่งผลให้ทารกในครรภ์นั้นพิการได้

                    ด้วยความเป็นห่วง ทีมงาน Amarin Baby and Kids จะมาขอนำเสนอเรื่องราวของสองโรคนี้ พร้อมกับวิธีการสังเกตอาการของลูกและความแตกต่างระหว่างโรคหัดธรรมดากับโรคหัดเยอรมันด้วยเช่นกัน ถ้าพร้อมแล้ว ไปทำความเข้าใจพร้อม ๆ กันเลยค่ะ

                    โรคหัดคืออะไร?

                    คือโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัส Measles พบได้บ่อยในเด็กวัยก่อนเรียน คืออายุ 1-4 ปี เด็กอายุต่ำกว่าหกเดือนมักจะไม่เป็นเพราะได้รับภูมิคุ้มกันจากแม่ตั้งแต่อยู่ในครรภ์ มีการระบาดในหน้าหนาว ติดต่อได้ง่ายมาก โดยการหายใจเอาละอองเสมหะจากการไอจามของผู้ที่เป็นโรค ซึ่งสามารถแพร่เชื้อได้ ก่อนผื่นขึ้น 5 วันจนถึง 5 วันหลังผื่นขึ้น หลังจากเด็กได้สัมผัสโรคได้ประมาณ 10 วัน ก็จะเริ่มมีไข้ ไอ น้ำมูกไหล และมักมีตาแดงร่วมด้วย

                    อ่านต่อ อาการของโรคหัดได้ที่หน้าถัดไปค่ะ >>

                      ทำหมันแล้วท้อง

                      หมอเผย! ทำหมันแล้วท้อง เรื่องจริงที่เกิดขึ้นได้

                      เป็นไปได้อย่างไร ทำหมันแล้วท้อง เรื่องจริงที่แพทย์เผยแล้วว่า มีความเป็นไปได้!

                       

                       

                      คุณแม่อาจจะเคยได้ยินเรื่องราวที่ว่า ทำหมันแล้วยังท้องได้ ใช่ไหมคะ … คุณแม่มีความคิดเห็นว่าอย่างไรกับเรื่องนี้คะ? รู้สึกว่าเป็นเรื่องตลก หรือว่าโกหกกันหรือเปล่า?

                      ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว แม้แต่แพทย์เองก็ยังออกมายืนยันเลยละค่ะว่า ต่อให้ทำหมันก็ไม่ได้หมายความถึงจะสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 100 เปอร์เซ็นต์! ดังเช่น บทความของคุณหมอพิณ ที่ได้ถ่ายทอดเรื่องราวผ่านประชาชาติธุรกิจออนไลน์เอาไว้ว่า

                      สวัสดีค่ะ วันก่อน เห็นข่าวแว้บ ๆ ในสื่อออนไลน์ เกี่ยวกับ ผู้ป่วยหญิง ทำหมันแล้วต่อมาตั้งครรภ์ เรื่องราวรายละเอียดอย่างไรหมอก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเป็นมาอย่างไร แต่หลาย ๆ คน คงจะคิดว่า ทำหมันแล้ว ก็ต้องไม่ท้องสิ ถ้าท้องขึ้นมา จะต้องเป็นความผิดของใครสักคนแน่ ๆ ซึ่งความเป็นจริงแล้ว “ทำหมัน ไม่สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 100%” นะคะ

                      ทำความรู้จักกับการทำหมันหญิงได้ที่หน้าถัดไป >>

                        ลูกป่วย RSV

                        7 ข้อ รู้ให้เท่าทัน กัน ลูกป่วย โรคRSV บ่อย!

                        หน้าฝนแบบนี้   พ่อแม่ระวังให้ดี ถ้าไม่อยากให้ ลูกป่วย โรคRSV ซ้ำ!

                         

                        อากาศสมัยนี้ เช้าหนาวเย็น บ่าย ๆ ฝนตก ปลายฝนต้นหนาวแถมกำลังเปิดเทอมใหม่ ๆ แบบนี้ด้วยแล้วละก็ ช่างเป็นช่วงเวลาที่ลูกหลานของเราเนื้อหอมกันเสียจริง ๆ นะคะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กเล็ก ๆ ในวัยเตรียมอนุบาลหรืออนุบาลด้วยแล้ว เดี๋ยวเด็กคนนั้นป่วย เดี๋ยวเด็กคนนี้ป่วย และด้วยความที่เด็ก ๆ ไม่ระมัดระวัง อาจนำไปสู่การติดโรคต่างๆ ได้ในที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โรคอาร์เอสวี ที่อย่าว่าแต่คุณพ่อคุณแม่ขยาดเลยค่ะ เชื่อว่าบรรดาคุณครูและพี่เลี้ยงก็หวาดกลัวเช่นกัน

                        เช่นเดียวกับคุณแม่ท่านนี้ ที่สงสัยว่า ทำไมหนอลูกน้อยวัย 3 ขวบถึงเป็นโรคอาร์เอสวีนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีก เรียกได้ว่าปีนึงเป็นที 2 – 3 ครั้งเลยทีเดียว ไปอ่านเรื่องราวของคุณแม่ พร้อมกับคำแนะนำ 7 ข้อ ที่คุณพ่อคุณแม่ต้องอ่าน หากไม่อยากให้ลูกป่วยโรคนี้ซ้ำอีก

                        อ่านต่อ >> เรื่องราวของคุณแม่ได้ที่หน้าถัดไปค่ะ

                          พี่เลี้ยงใจโหด

                          เปิดคลิป! พี่เลี้ยงใจโหด ทำร้ายลูก!

                          พี่เลี้ยงใจโหด ทำร้ายเด็กแบเบาะได้ลงคอ พร้อมคำแนะนำจากหมอ วิธีเลือกพี่เลี้ยงที่ปลอดภัยหายห่วงไร้กังวล!

                           

                           

                          บ่อยครั้งที่เรามักจะได้ยินได้ฟัง หรือได้ชมคลิปพี่เลี้ยงทำร้ายเด็ก ที่ทำเอาคนเป็นพ่อเป็นแม่อย่างเราถึงกับน้ำตาไหลแทน ทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่ลูกของตัวเองก็ตาม แต่มันก็อดที่จะคิดไม่ได้ว่า ทำไมถึงทำร้ายเด็กตาดำ ๆ ที่ไม่มีทางสู้ได้ลงคอ

                          เช่นเดียวกับคลิปที่ทีมงาน Amarin Baby and Kids จะมานำเสนอในวันนี้นั้น เป็นคลิปกล้องวงจรปิดของครอบครัวหนึ่ง ที่คาดว่า ได้ติดตั้งเอาไว้เพื่อเป็นหลักฐานมัดตัว พี่เลี้ยงใจโหด รายนี้! โดยแหล่งที่มาของคลิปนั้น ไม่ได้กล่าวว่า เกิดขึ้นที่ประเทศอะไร แต่เป็นการลงเพื่อเตือนภัยให้กับทุกครอบครัว ให้เฝ้าระวังและสังเกตลูกหลานให้ดี

                          นอกจากนี้ ทีมงาน จะขอนำเสนอเทคนิคการเลือกพี่เลี้ยงและศูนย์รับเลี้ยงดูเด็กมาฝากกันด้วยค่ะ และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราไปชมรายละเอียดพร้อม ๆ กันเลยค่ะ

                          อ่านต่อ วิธีการเลือกพี่เลี้ยงโดยคุณหมอพร้อมชมคลิปได้ที่หน้าถัดไปค่ะ >>

                            โรคไข้เลือดออก

                            โรคไข้เลือดออก โรคระบาดที่มากับหน้าหนาว

                            โรคไข้เลือดออก เกิดขึ้นได้ตลอดทั้งปีเพราะมียุงเป็นพาหะนำโรค ยิ่งโดยเฉพาะช่วงปลายฝนต้นหนาวแบบนี้ อย่าคิดว่าไม่มียุง นะคะ บ้านไหนที่มีลูกเล็กเด็กแดงอย่าลืมติดมุ้งลวดตรงหน้าต่าง ประตูบ้าน ทีมงาน Amarin Baby & Kids มีข้อมูลการระบาดของโรคไข้เลือดออกช่วงหน้าหนาวนี้มาเตือนให้เฝ้าระวังกันค่ะ

                            โรคไข้เลือดออก มาเคาะประตูบ้านพร้อมกับสายลมหนาวอีกแล้ว!!

                            ยุงร้ายกว่าเสือเห็นจะจริง!! เพราะหน้าหนาวนี้ก็ยังตามมาทำให้เด็กๆ ป่วยเป็น โรคไข้เลือดออก กันอีกแล้วค่ะ เมื่อไม่กี่วันมานี้นายแพทย์ชวินทร์ ศิรินาค ผอ.สำนักอนามัย กทม. กล่าวว่า ช่วงนี้ซึ่งเป็นช่วงปลายฝนต้นหนาว ซึ่งมักมีการระบาดของไข้เลือดออก จึงขอเชิญชวนประชาชนป้องกันและเฝ้าระวังโรคไข้เลือดออกที่มียุงลายเป็นพาหะนำโรค ทั้งนี้ สถานการณ์โรคไข้เลือดออก ตั้งแต่ 1 ม.ค.-14 ต.ค. ทั้งประเทศพบผู้ป่วยจำนวน 42,035 ราย เสียชีวิต 56 ราย สำหรับกรุงเทพมหานครพบผู้ป่วยจำนวน 6,111 ราย เสียชีวิต 1 ราย โดยเขตที่พบจำนวนผู้ป่วยสะสมมากที่สุดคือ เขตจตุจักร รองลงมาคือ เขตบางกะปิและเขตดุสิต ตามลำดับ และในช่วงเดือน พ.ย. มักจะพบอัตราป่วยสูงสุดในรอบปี โดยพบมากที่สุดในช่วงอายุระหว่าง 10-14 ปี รองลงมาคือ 15-24 ปี และ 25-34 ปี ตามลำดับ – ที่มาข่าว ไทยรัฐทีวี

                            มาสังเกต อาการไข้เลือดออก กันสักนิด!!

                            ปลายฝนต้นหนาวมาเยือนอีกครั้ง แถมมียุงลายตามมาเยอะซะด้วย บ้านไหนที่ยังไม่ติดมุ้งลวด หรือไม่ทายากันยุงให้ลูก อาจโดนยุงลายกัดเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยด้วย โรคไข้เลือดออก ได้ค่ะ  ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยและลูกน้อยไม่เสี่ยงป่วยเป็นไข้เลือดออก คุณพ่อคุณแม่ควรดูแลบ้านให้ปราศจากยุงตัวร้าย และที่สำคัญควรต้องรู้อาการเบื้องต้นของโรคไข้เลือดออก เพื่อที่หากลูกป่วยขึ้นมาจะได้รักษาได้อย่างทันท่วงทีค่ะ

                            ลักษณะอาการของ โรคไข้เลือดออก

                            • มีระยะฟักตัวของเชื้อก่อนที่จะแสดงอาการ 5-8 วัน
                            • มีไข้สูงลอย 2-7 วัน (38.5-41 องศาเซลเซียส)
                            • ปวดศีรษะ ปวดกระบอกตา ร่วมกับปวดตามกล้ามเนื้อมาก
                            • บางรายมีเลือดออกผิดปกติ เช่น ถ่ายเป็นสีดำ อาเจียนเป็นเลือด เลือดกำเดาไหล เลือดออกตามไรฟัน มีจุดเลือดออกที่ผิวหนัง
                            • อาจพบตับโต คือ กดเจ็บบริเวณใต้ชายโครงขวา

                            ** ในรายที่รุนแรงจะมีภาวะช็อก หากรักษาไม่ทัน ผู้ป่วยอาจเสียชีวิตได้ภายใน 24-48 ชั่วโมงเท่านั้น **

                            บทความแนะนำ คลิก>> ยากันยุงสำหรับทารก

                            สำหรับ โรคไข้เลือดออก ปัจจุบันยังไม่มียาหรือวัคซีนสำหรับป้องกันและต้านเชื้อไวรัสโดยเฉพาะ จึงทำได้เพียงรักษาตามอาการ และประคับประคองอาการเท่านั้น ซึ่งวิธีที่ดีที่สุดเพื่อป้องกันเด็กๆ และคนในครอบครัวป่วยจาก โรคไข้เลือดออก คือ..

                            • หลีกเลี่ยงการถูกยุงกัด โดยนอนในมุ้ง หรือห้องที่มีมุ้งลวด หรือจุดยากันยุง ใช้ยาทากันยุง
                            • ไม่อยู่ในบริเวณอับลมหรือเป็นมุมมืด มีแสงสว่างน้อย เนื่องจากเป็นบริเวณที่ยุงชอบ
                            • หมั่นอาบน้ำให้สะอาด ปราศจากกลิ่นเหงื่อไคล เพราะกลิ่นเหงื่อไคลจะดึงดูดให้ยุงเข้ามากัดเรามากขึ้น
                            • สวมเสื้อผ้ามิดชิดหากจำเป็นต้องออกข้างนอกตอนกลางคืน

                            และที่สำคัญเลยก็คือ บ้านไหนที่มีสระน้ำ หรือบ่อเลี้ยงปลาเล็กๆ อย่างปลาหางนกยูง หรือบริเวณบ้านบางจุดมีน้ำขังจากการรดน้ำต้นไม้ จานรองกระถางต้นไม้ หรือกระทั่งเศษวัสดุไม่ใช้แล้วแต่มีน้ำไปขังอยู่ได้ เป็นต้น ควรดูแลไม่ให้มีน้ำขัง หรือหาทรายอะเบท สำหรับกำจัดลูกน้ำยุงลายมาใส่ด้วยก็จะเป็นการป้องกันไม่ให้ยุงมาวางไข่แพร่พันธุ์ได้ค่ะ

                            อ่านต่อ 10 ต้นไม้ไล่ยุงที่ควรปลูกไว้ที่บ้าน หน้า 3 

                             

                            เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                              วิธีรับมือลูกดื้อ

                              นักจิตวิทยาระดับโลกแนะ 3 วิธีรับมือ “ลูกดื้อ”

                              แม่ไม่ต้องกลุ้มใจ “ลูกดื้อ” ไม่เชื่อฟัง นักจิตวิทยาระดับโลกแนะให้รับมือลูกด้วย 3 วิธีนี้!

                               

                              เมื่อลูกอยู่ในวัยที่เริ่มรู้เรื่อง สิ่งหนึ่งที่ทุกคุณพ่อคุณแม่ทุกคนต้องเผชิญกันก็คือ “ลูกดื้อ” พูดอะไรแล้วไม่เชื่อฟัง และเรื่องนี้นี่แหล่ะที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ คนต้องปวดหัว แต่ทราบหรือไม่คะว่า หากคุณพ่อคุณแม่สามารถจับจุดลูกได้ถูกละก็ รับรองว่า ไม่ว่าลูกจะมาไม้ไหน คุณพ่อคุณแม่ก็รับมือได้หมดแน่นอน

                              มอรีน ฮีลีย์ นักจิตวิทยาเด็กชื่อระดับโลก และเป็นผู้เขียนหนังสือเรื่อง Growing Happy Kids ได้ออกมาแนะนำถึงวิธีที่จะมาช่วยรับมือเวลาที่ลูกรักของเราดื้อมาฝากคุณพ่อคุณแม่ทุกคนค่ะ จะมีอะไรบ้างนั้น อย่ารอช้า รีบไปดูพร้อม ๆ กันเลยค่ะ

                               

                              ลูกดื้อ

                              3 วิธีรับมือ “ลูกดื้อ”

                              เมื่อลูกของเราดื้อนั้น   มักสร้างความเครียดและหงุดหงิดใจให้กับคนเป็นพ่อเป็นแม่  โดย มอรีน ได้กล่าวว่า เด็กสมัยนี้ดื้อ และเป็นเด็กที่ไวต่อความรู้สึกมากจริง ๆ พวกเขาเป็นเด็กที่มีความคิดเป็นของตัวเองมาก แถมยังมีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าเสียด้วย

                              เด็กหลาย ๆ คนดื้อชนิดที่เรียกว่า ดื้อไม่เปลี่ยนแปลง ยิ่งพ่อแม่ห้ามให้พวกเขาเปลี่ยนแปลงตัวเองมากเท่าไร พวกเขาก็จะไม่มีวันเปลี่ยนความคิดของตัวเองมากเท่านั้น อีกทั้งยังกลับแสดงออกด้วยความท้าทายชนิดที่ ฉันอยากทำ ฉันก็จะทำ ไม่จำเป็นต้องไปบอกหรือฟังใครทั้งสิ้น ทำให้คุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ คนเครียดและถอดใจจนต้องเข้ามาขอคำแนะนำจากเธอถึงวิธีรับมือลูก จะมีวิธีอะไรบ้างนั้น  มอรีน ได้นำเสนอเอาไว้ให้ทั้งสิ้น 3 วิธีค่ะ

                              • เป็นโค้ชที่ดี คุณพ่อคุณแม่อาจจะสงสัย อ้าว! นี่ฉันจะมารับมือลูกเวลาที่ืพวกเขาดื้อนะ ไม่ได้จะมาสอนพวกเขาเล่นกีฬา! … ตรงนี้ มอรีน บอกว่า เธอเข้าใจดี แต่สิ่งที่เธอพยายามจะสื่อก็คือ ให้คุณพยายามเข้าไปอยู่ในโลกของลูกให้ได้ว่าทำไมพวกเขาถึงไม่ทำในสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่บอก และเมื่อคุณสามารถเข้าถึงได้ การที่จะเป็นโค้ชทางความคิดให้กับลูกนั้นไม่ยากเลยล่ะค่ะ

                              ยกตัวอย่างเช่น: คุณพ่อคุณแม่บอกให้ลูกไปอาบน้ำและแปรงฟัน แต่ลูกไม่ยอมทำ เพราะเขารู้สึกว่าคุณกำลังออกคำสั่งให้เขาไปทำ ๆ ให้พวกเขาอยากรู้ว่า ถ้าไม่ทำแล้วจะทำไม จะเกิดอะไรขึ้น? หากเป็นตอนแรกที่ยังไม่ได้อ่านบทความนี้ คุณพ่อคุณแม่ก็อาจจะปรี๊ดแตกกันแล้วใช่ไหมละคะ เผลอ ๆ มีลงไม้ลงมือเสียด้วย ดังนั้น สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรทำก็คือ เข้าไปนั่งใกล้ ๆ ลูกเลยค่ะ พร้อมกับพยายามคิดแทนเขาว่า ที่เขาไม่ทำเป็นเพราะอะไร เมื่อเจอแล้วก็ค่อย ๆ คุยกับลูก ว่าที่แม่บอกให้หนูอาบน้ำแปรงฟันนั้น เป็นเพราะแม่เป็นห่วงนะจ๊ะ  รอให้ลูกใจเย็น ผ่อนคลาย แล้วค่อย ๆ ถามเหตุผลที่ทำไมลูกถึงไม่ทำ เมื่อเขาบอกแล้วก็ค่อย ๆ แนะนำพร้อมอธิบายถึงเหตุและผลให้ลูกเข้าใจเท่านั้นเอง

                              ลูกดื้อ
                              ลูกดื้อ
                              • ขายตัวเองให้ผ่าน บางทีที่ลูกพยศหรือดื้อใส่คุณพ่อคุณแม่นั้นเป็นเพราะพวกเขายังไม่ไว้ใจ หรือเชื่อใจ เพราะอาจจะเคยโดนคุณพ่อคุณแม่หลอกมามากจนฝังใจและเกิดความกลัว ดังนั้น สิีงที่คุณพ่อคุณแม่ต้องทำก็คือ การสวมบทบาทเป็นเซลล์ที่ดี ขายความเชื่อใจของตัวเองให้ผ่านก่อนแล้วค่อยนำเสนอสินค้าต่อไป พร้อมกับคุณเจรจาต่อลองกันด้วยคำพูดที่ว่า “แม่เข้าใจความคิดของลูกนะ เอาแบบนี้ไหม เรามาค่อย ๆ ตกลงกันคนละครึ่งทาง” โดยที่ต้องให้ลูกเป็นคนยื่นขอเสนอนั้นก่อนนะคะ (เหมือนกับการค่อย ๆ หลอกถามความต้องการของลูกค้านี่ละค่ะ) พอลูกค่อย ๆ เปิด คุณพ่อคุณแม่ก็อาจจะพูดเสริมว่า แล้วคุณแม่สามารถช่วยอะไรได้บ้างหรือไม่ หนูมีอะไรอยากจะแนะนำแม่ไหมจ้ะ … พูดอย่างไรก็ได้ค่ะ ที่ทำให้ลูกของเราเปิดใจพูดกับเราให้ได้มากที่สุด พอเรารู้ เราก็หาทางว่า เราควรจะทำอย่างไร ที่จะไม่ใช่เป็นการตามใจ เพราะแน่นอนว่า หากลูกรู้ว่าพูดอะไรไปคุณแม่ก็ต้องให้ พวกเขาก็จะใช้ไม้นี้ไปตลอด ดังนั้น หากรู้แล้วก็ค่อย ๆ หาทางปรับความคิดความต้องการของลูก ให้มาอยู่ตรงกลางในระหว่างคำว่า ความเหมาะสมแทน เท่านี้ลูกก็จะรู้สึกแล้วละค่ะว่า ทั้งคุณและเขา เสมอกัน ไม่มีใครแพ้และไม่มีใครชนะ ต่างฝ่ายต่างพอใจถึงผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นด้วยกันทั้งคู่
                              • สร้างแรงบันดาลใจให้กับลูก ลองดูสิคะว่า ลูกของเราชอบอะไร แล้วให้คุณพ่อคุณแม่พยายามไปศึกษาสิ่งนั้นเพิ่ม พร้อมกับอาจจะมีตัวอย่างเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้ลูกได้เห็น ยกตัวอย่างเช่น คนที่ลูกชื่นชอบนั้น ลูกรู้ไหมว่า กว่าที่เขาจะมาถึงจุดนี้ได้นั้น เขาผ่านอะไรมาบ้าง เขาต้องผิดหวัง เริ่มทำทุกอย่างด้วยตัวเอง จากคนที่ไม่มีเคยมีแม้แต่ข้าวจะกิน ทำไมทุกวันนี้เขาถึงกลายเป็นคนที่รวยมีเงินเยอะระดับต้น ๆ นั่นเป็นเพราะพวกเขาไม่ยอมแพ้อย่างไรละจ้ะ ดังนั้น หากลูกอยากเป็นอะไร เพียงแค่ลูกมีความมุ่งมั่นและตั้งใจ ไม่ดื้อ พูดจารู้เรื่อง มีเหตุและผลละก็ ความฝันที่ลูกตั้งใจไว้ ก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแล้วละจ้ะ

                              มอรีน กล่าวต่ออีกว่า เด็กที่ดื้อมาก ๆ นั้นพวกเขาจะมีอารมณ์อ่อนไหวง่าย ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเด็กพวกนี้ จะเป็นเด็กที่มีความสามารถมาก อีกทั้งยังมีศักยภาพ ฉลาด และแฝงไปด้วยพรสวรรค์มากมายเลยละ แน่นอนว่ามันมากับความดื้อ แต่เชื่อไหมว่า พวกเขามักจะทำบางสิ่งบางอย่างที่พวกเขาต้องการนั้น สำเร็จเสมอ

                              เพียงแค่คุณพ่อคุณแม่จับจุดพวกเขาให้เจอ พร้อมกับท้าทายพวกเขา และแฝงไปด้วยคำสอน คำแนะนำที่ควบคู่ไปกับความคิด ความมีวินัย และคุณธรรม และพิสูจน์ตัวเองให้ลูกได้เห็นว่า เวลาที่พวกเขาอยู่กับคุณนั้น คุณคือคนที่อยู่เคียงข้างพวกเขาจริง ๆ ทำให้ลูกรู้สึกสนุกและเชื่อใจ เท่านี้ไม่ว่าคุณจะบอกให้ลูกทำอะไร พวกเขาก็จะเชื่อ และมีอะไรก็จะหันมาขอคำปรึกษาจากคุณพ่อคุณแม่แล้วล่ะค่ะ

                              เครดิต: MomScream


                              อ่านต่อเรื่องอื่นที่น่าสนใจ:

                               

                              เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                               

                                เงินสงเคราะห์บุตรย้อนหลัง

                                เคลียร์ชัด ๆ ให้หายสงสัย เงินสงเคราะห์บุตรย้อนหลัง ได้ไหม?

                                ร่วมหาคำตอบ เงินสงเคราะห์บุุตรย้อนหลัง ได้หรือไม่ ไขข้อข้องใจไปพร้อม ๆ กันได้ที่นี่ค่ะ

                                 

                                 

                                สำหรับคุณแม่ที่ยังไม่ได้ยื่นเรื่องขอรับเงินสงเคราะห์บุตรนั้น อาจจะกำลังสงสัยกันอยู่ว่า หากยังไม่ได้ยื่นเรื่องขอรับเงินดังกล่าวสามารถทำได้หรือไม วันนี้ทีมงาน Amarin Baby and Kids จะขอยกตัวอย่างคำถามของคุณแม่ท่านนึง พร้อมกับคำตอบที่จะมาช่วยไขข้อข้องใจของคุณแม่ทุกคนกันค่ะ

                                แต่ก่อนที่เราจะไปดูคำถามและคำตอบนั้น เรามาทำความรู้จักกับ เงินสงเคราะห์บุตรกันก่อนดีกว่านะคะ

                                ทำความรู้จักกับเงินสงเคราะห์บุตร

                                เงินสงเคราะห์บุตรคือเงินที่รัฐบาลได้จัดเตรียมไว้ให้กับคุณแม่เพื่อเป็นลดเบาภาระค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในแต่ละเดือน ซึ่งคุณสมบัตรของคุณแม่ที่จะสามารถได้รับเงินนั้น จะต้องมีหลักเกณฑ์และเงื่อนไขดังนี้

                                1.ต้องเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 หรือ มาตรา 39
                                2.จ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 12 เดือน ภายในระยะเวลา 36 เดือน ก่อนเดือนที่มีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทน สิทธิที่ท่านจะได้รับเงินสงเคราะห์บุตรเหมาจ่ายเดือนละ 600 บาทต่อบุตรหนึ่งคน
                                3.ต้องเป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย ยกเว้น บุตรบุญธรรมหรือบุตรซึ่งยกให้เป็นบุตรบุญธรรมของบุคคลอื่น
                                4.อายุตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 6 ปีบริบูรณ์ จำนวนคราวละไม่เกิน 3 คน เว้นแต่ผู้ประกันตนเป็นผู้ทุพพลภาพหรือถึงแก่ความตาย ในขณะที่บุตรมีอายุแรกเกิดจนถึง 6 ปีบริบูรณ์ จะมีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนต่อจนอายุ 6 ปีบริบูรณ์
                                การหมดสิทธิรับเงินกรณีสงเคราะห์บุตร
                                –  เมื่อบุตรมีอายุครบ 6 ปีบริบูรณ์
                                –  บุตรเสียชีวิต
                                –  ยกบุตรให้เป็นบุตรบุญธรรมของคนอื่น
                                –  ความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลง

                                หลักฐานการยื่นขอรับเงินสงเคราะห์บุตรจะมีอะไรบ้าง คลิก>>

                                  ค่าใช้จ่ายตอนลูกไม่สบาย

                                  แม่ควรอ่าน! หากไม่อยากกังวลเรื่อง ค่าใช้จ่ายตอนลูกไม่สบาย

                                  ค่าใช้จ่ายตอนลูกไม่สบาย สูงขนาดไหน คุณพ่อคุณแม่ต้องรู้และเตรียมพร้อม จะได้รับมือได้ถูกทาง

                                   

                                   

                                  สำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่หรือกำลังจะเป็นว่าที่คุณพ่อคุณแม่ทุกท่านคะ เคยวางแผนสำรองหรือวางแผนล่วงหน้ากันบ้างหรือไม่คะว่า ถ้าลูกรักของเราไม่สบายขึ้นมา ค่ารักษาพยาบาลที่เกิดขึ้นจะมากน้อยเพียงใด … บอกได้เลยนะคะว่า เยอะมาก ๆ เลยละค่ะ ไม่ว่าจะเป็นค่าหาหมอเอย ค่ายา ค่ารักษาพยาบาลในกรณีที่ต้องนอนโรงพยาบาลอีก หากคุณแม่ไม่วางแผนทางการเงินให้ดีละก็ รับรองว่าค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นนั้นสูงจนน่าตกใจจริง ๆ

                                  แน่นอนว่าคุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ ท่านอาจจะบอกว่า ฉันได้เตรียมประกันสุขภาพไว้ให้ลูกแล้ว/ เดี๋ยวรอให้ลูกโตกว่านี้ก่อนค่อยทำก็ได้/ ลูกฉันมีบัตรทองแล้วไม่เห็นเป็นไร หรือ ฉันใช้สวัสดิการของบริษัทหรือหน่วยงานแล้ว เป็นต้น

                                  โชคดีค่ะ หากคุณพ่อคุณแม่มีตามที่กล่าวไปแล้วด้านบน แต่ถ้าหากไม่มีเลยละค่ะ จะเกิดอะไรขึ้น? หากครอบครัวมีฐานะหน่อยก็ไม่เป็นไร แต่หากพอมีพอใช้ แน่นอนว่าได้มีการเอาเงินเก็บมาใช้เป็นแน่ ทีมงาน Amarin Baby and Kids เล็งเห็นแล้วว่า การวางแผนทางการเงินเวลาที่ลูกไม่สบายนั้นสำคัญมากน้อยเพียงใด ก็ได้ทำสรุปคร่าว ๆ มาฝากคุณพ่อคุณแม่ทุกท่านกันค่ะ

                                  อ่านต่อ การวางแผนทางการเงินยามลูกไม่สบายได้ที่หน้าถัดไป >>

                                    สอนลูกทำทาน

                                    “สอนลูกทำบุญ” อย่างฉลาด! ด้วย 6 วิธีสร้างภูมิคุ้มกันให้ลูก

                                    การ สอนลูกทำบุญ จะทำให้ลูกเป็นเด็กที่มีจิตใจดี พร้อมโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีภูมิคุ้มกันในการใช้ชีวิตในสังคมปัจจุบันนี้ได้ โดยพระอาจารย์ไพศาล วิสาโล ได้มีแนวทางหลักธรรมในการให้พ่อแม่เลี้ยงลูก ด้วยวิธีง่ายๆ ดังนี้…

                                    Continue reading ““สอนลูกทำบุญ” อย่างฉลาด! ด้วย 6 วิธีสร้างภูมิคุ้มกันให้ลูก”