Page 26 – AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

ตารางวัคซีน 2566

อัปเดต! ตารางวัคซีน 2566 เด็กไทยตั้งแต่แรกเกิด 12 ปี ต้องฉีดอะไรบ้าง

เซฟเก็บไว้ดูเลย ตารางวัคซีน 2566 จาก สมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย เด็กไทยทุกคนตั้งแต่แรกเกิด จนถึงอายุ 12 ปี จะต้องฉีด หรือ ได้รับวัคซีนอะไรบ้าง ทีมแม่ABK อัปเดตให้แล้วในปี 2566 มาดูกัน

อัปเดต ตารางวัคซีน 2566 จาก สมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย
ลูกน้อยตั้งแต่แรกเกิด – 12
ปี ต้องฉีดอะไรบ้าง

การฉีดวัคซีน ถือเป็นการสร้างเกราะป้องกันโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ให้กับลูกน้อย เพราะวัคซีนจะทำหน้าที่ช่วยกระตุ้นให้เกิดภูมิต้านทาน และปกป้องลูกน้อยจากการเจ็บป่วยได้ เด็กทุกคนควรได้รับวัคซีนตั้งแต่แรกเกิด โดยคุณแม่สามารถทราบจากคุณหมอว่าลูกควรรับวัคซีนพื้นฐานหรือวัคซีนจำเป็นเมื่อใด ชนิดใดบ้าง และประกอบกับเทคโนโลยีทางการแพทย์ในปัจจุบันที่ก้าวหน้าขึ้น ทำให้มีวัคซีนสำหรับเด็กตั้งแต่แรกเกิดมากขึ้นตามไปด้วย

ในส่วนของวัคซีนขั้นพื้นฐาน ซึ่งเป็นวัคซีนจำเป็นที่เด็กไทยทุกคนควรได้รับ จากคำแนะนำของสมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย ตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขที่กำหนดไว้ เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับเด็กไทยในแต่ละช่วงวัย ได้มีการสรุปปรับเปลี่ยนตารางการให้วัคซีนในเด็กไทย ปี พ.ศ. 2566  โดยความร่วมมือของคณาจารย์ และผู้ทรงคุณวุฒิของสมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย ซึ่งทบทวนข้อมูลวิชาการ และปรับแนวทางการให้วัคซีนในเด็กไทย โดยมีประเด็นต่าง ๆ ที่ปรับเปลี่ยน ดังนี้

1. เพิ่มรายละเอียดการให้วัคซีนโปลิโอแบบ sequential regimen ดังนี้

    • ในกรณีที่ได้รับ IPV 2 ครั้ง ที่อายุ 2 เดือน และ 4 เดือน (sequential regimen) ไม่ต้องให้ OPV ที่ 2 เดือน และ 4 เดือน
    • จากนั้นให้ OPV ที่ 6 เดือน 18 เดือน และ 4 – 6 ปี

2. เพิ่มวัคซีนรวม คอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรน ชนิดทั้งเซลล์-ตับอักเสบบี-โปลิโอชนิดฉีด-ฮิบ (DTwP-HB-IPV-Hib, SHAN6TM) เป็นหนึ่งในวัคซีนทางเลือก โดยสามารถฉีดได้ที่อายุ 2, 4, 6 เดือน

3. เพิ่มรายละเอียดชนิดของวัคซีนเอชพีวี ดังนี้

    • ชนิด 2 สายพันธุ์ (16, 18; CervarixTM, CecolinTM)
    • ชนิด 4 สายพันธุ์ (6, 11, 16, 18; GradasilTM)
    • และชนิด 9 สายพันธุ์ (6, 11, 16, 18, 31, 33, 45, 52, 58; Gradasil 9TM)

4. เพิ่มรายละเอียดชนิดขององค์การอนามัยโลก ปี พ.ศ. 2565 วัคซีนเอชพีวี สามารถฉีด 2 เข็ม ห่างกันอย่างน้อย 6 เดือน ในผู้ที่มีอายุ 9 ปีขึ้นไป และอาจพิจารณาฉีด 1 เข็มเป็นทางเลือกในผู้ที่มีอายุ 9 – 20 ปี ทั้งหญิงและชาย สำหรับผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องควรฉีดอย่างน้อย 2 เข็ม ห่างกันอย่างน้อย 6 เดือน และหากเป็นไปได้ควรฉีด 3 เข็ม

ตารางวัคซีน 2566

5. เพิ่มชนิดของวัคซีนนิวโมคอคคัสชนิดคอนจูเกต ดังนี้

    • วัคซีนนิวโมคอคคัสชนิดคอนจูเกต 13 สายพันธุ์ (WeuphoriaTM) อายุที่รับรองให้ใช้ คือ 6 สัปดาห์ – < 6 ปี
    • และ 15 สายพันธุ์ (PCV15) คือ VaxneuvanceTM โดยอายุที่รับรองให้ใช้ได้ คือ ตั้งแต่ 6 สัปดาห์ขึ้นไป และสามารถใช้ PCV10/13/15 เพื่อฉีดให้ครบตาม ตารางวัคซีน 2566

6. เพิ่มวัคซีนอีวี 71 (inactivated vaccine; EntroVacTM) สามารถป้องกันได้เฉพาะกลุ่มโรคมือเท้าปาก จากเชื้อ EV71 โดยอายุที่รับรองให้ใช้ได้ คือ 6 เดือน – น้อยกว่า 6 ปี โดยฉีดเข้ากล้าม 2 เข็ม ห่างกัน 1 เดือน

7. เพิ่มรายละเอียดชนิดของวัคซีนอีสุกอีใส ดังนี้ วัคซีนอีสุกอีใสมี 2 ชนิด คือ สายพันธุ์ OKA (VarilrixTM, VarivaxTM, SKYvaricellaTM) และ MAV06 (Varicella GCCTM)

8. เพิ่มชนิดของวัคซีนไข้เลือดออก ดังนี้ วัคซีน live-attenuated recombinant dengue2-dengue (QdengaTM) ฉีดได้ในผู้ที่มีอายุ 4 – 60 ปี ฉีด 2 เข็ม ห่างกัน 3 เดือน สามารถฉีดได้ทั้งผู้ที่เคย และไม่เคยเป็นไข้เลือดออกมาก่อน โดยไม่จำเป็นต้องตรวจภูมิคุ้มกันก่อนการฉีดวัคซีน

ตารางวัคซีน 2566

ตารางวัคซีน 2566
ภาพ : ตารางการให้วัคซีนในเด็กไทย แนะนำโดย สมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย 2566

ดาวน์โหลด ตารางวัคซีน 2566 pdf คลิก!

การปฏิบัติตัวสำหรับการรับวัคซีน

  • คุณแม่ควรนำสมุดบันทึกวัคซีนของลูกมาด้วยทุกครั้ง
  • ไม่ควรพาลูกน้อยไปรับวัคซีนขณะที่มีไข้สูง หรือเจ็บป่วยเฉียบพลัน ยกเว้น หากลูกเป็นหวัด ท้องเสียโดยไม่มีไข้สามารถรับวัคซีนตาม ตารางวัคซีน 2566 ได้
  • หลังรับวัคซีน ตาม ตารางวัคซีน 2566 ควรอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อย 30 นาทีเพื่อดูปฏิกิริยาแพ้ยา
  • หากเคยฉีดยาแล้วมีอาการแพ้ยา แพ้อาหาร เช่น มีอาการแพ้ไข่แบบรุนแรง กรุณาแจ้งกุมารแพทย์หรือพยาบาล

อ่านต่อบทความอื่นสนใจ คลิก ⇓


ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.pidst.or.th/A1291.html

    นมผง สูตร 3

    รีวิว นมผง 3 แบรนด์ดัง ที่แม่ผ่าคลอดแนะนำ !

    คุณแม่อาจยังไม่รู้ว่า ในเด็กผ่าคลอดมีความเสี่ยงต่อการมีพัฒนาการระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นที่ช้ากว่าเด็กที่คลอดธรรมชาติ ทำให้มีโอกาสเป็นโรคภูมิแพ้ และเจ็บป่วยได้บ่อยมาก รวมถึงมีความเสี่ยงด้านพัฒนาการทางสมองที่ช้าอีกด้วย

    แนะนำว่าเด็กผ่าคลอดควรได้รับประทานนมแม่ตั้งแต่แรกคลอด ในน้ำนมแม่จะมีสารอาหารที่หลากหลายครบถ้วนมากกว่า 200 ชนิด ที่สำคัญน้ำนมแม่จะมีสารอาหารที่เรียกว่าสฟิงโกไมอีลิน ช่วยเรื่องสมองไว และจุลินทรีย์สุขภาพบีแล็กทิส ช่วยให้มีภูมิคุ้มกันแข็งแรง

    นอกจากน้ำนมแม่ที่มีประโยชน์แล้ว ในเด็กที่ผ่าคลอดวัย 1 ขวบ ยังคงต้องได้ดื่มนมทุกวันต่อเนื่องจากนมแม่ ฉะนั้นแม่ผ่าคลอดต้องมีตัวช่วยเสริมในการเลี้ยงลูก กองบรรณาธิการ Amarin Baby & Kids จะมารีวิวนมผงสำหรับเด็ก สูตรที่ดีสำหรับเด็กผ่าคลอด

    จากที่ไปสำรวจซูเปอร์มาร์เก็ตก็ได้ นม 3 แบรนด์นี้มาค่ะ  S-26 GOLD PRO-C3 , HI-Q Super Gold Plus C และ Enfagrow A+ MIND PRO ทั้งหมดนี้เป็นนมผงสำหรับเด็กสูตร 3 นะคะ สำหรับเด็กอายุ 1 ขวบขึ้นไป

    เช็กสารอาหารสำคัญในกล่องนมผงเด็กสูตร 3

    นมผง สูตร 3

    นมผงสูตร 3 จากทั้ง 3 แบรนด์ ในหนึ่งกล่องอัดแน่นไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อพัฒนาการสมอง และพัฒนาการการเจริญเติบโตของเด็ก ๆ ได้ดีเลยค่ะ

    นมผง

    นมผงสูตร 3 S-26 GOLD PRO C ขนาด 550 กรัม 1 กล่อง ราคา  499  บาท

    นมผงสูตร 3 HI-Q Super Gold Plus C

    นมผงสูตร 3 HI-Q Super Gold Plus C ขนาด 600 กรัม ราคา 398 บาท

    นมผงสูตร 3 Enfagrow A+ MIND PRO

    นมผงสูตร 3 Enfagrow A+ MIND PRO ขนาด 500 กรัม ราคา 282 บาท

    เด็กผ่าคลอดจำเป็นต้องได้รับสารอาหารที่ให้ประโยชน์ต่อร่างกาย สมองและระบบภูมิคุ้มกันอย่างเต็มที่และเร็วที่สุด ซึ่งนมผงสูตร 3 จากทั้ง 3 แบรนด์ก็มีไว้ให้อย่างคุ้มค่า คุ้มราคา คุณพ่อคุณแม่ลองพิจารณาดูสารอาหารกันดูนะคะ และสามารถหาซื้อได้ที่ซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำทั่วประเทศค่ะ

      D-nee Organic Sweet Dream Baby Lotion โลชั่นบำรุงผิวลูกน้อย ให้เนียนนุ่ม ชุ่มชื้น พร้อมกลิ่นหอมผ่อนคลาย การันตีด้วยรางวัล ปี 2023

      ลูกน้อยนอนหลับสบาย นอนหลับนาน แม่ต้องมีตัวช่วยค่ะ ขอแนะนำไอเทมถนอมผิวลูกที่ไม่ใช่แค่บำรุงผิวให้เนียนนุ่ม ชุ่มชื้นมีสุขภาพผิวดีเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ลูกนอนหลับได้ง่าย มีช่วงเวลาการนอนกลางวัน และกลางคืนที่หลับสนิท นอนได้ยาวนานขึ้น และนี่ก็คือเบบี้ โลชั่นบำรุงผิวลูกน้อย ที่ได้รับการันตีด้วยรางวัลการันตีสินค้าแม่ลูก ปี 2023 ให้คุณแม่ได้มีตัวช่วยพาลูกน้อยนอนหลับอย่างมีคุณภาพ จะได้ตื่นขึ้นมาด้วยความสดชื่น มีพัฒนาการการเรียนรู้ที่ไม่สะดุดไปกับทุกกิจกรรมสนุกค่ะ

      การนอนหลับส่งผลต่อพัฒนาการการเรียนรู้ของลูกน้อยอย่างมากค่ะ ช่วงเวลาที่ลูกนอนหลับร่างกายและสมองจะได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ระบบต่าง ๆ ภายในร่างกายจะซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอให้กลับมาสมบูรณ์ ร่างกายจะมีการสร้างภูมิต้านทานโรคให้ร่างกายแข็งแรง และขณะที่นอนหลับสนิทโกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) ซึ่งมีส่วนสำคัญต่อการเจริญเติบโตของเด็ก จะผลิตออกมาจากต่อมใต้สมองได้อย่างเต็มที่ ดังนั้นเมื่อลูกน้อยได้นอนหลับสนิทอย่างเต็มอิ่ม ตื่นขึ้นมาจะรู้สึกสดชื่นแจ่มใส มีอารมณ์ดี คิดอ่านเรียนรู้ได้อย่างหลักแหลม จดจำสิ่งต่าง ๆ ที่เรียนรู้ไปได้อย่างแม่นยำค่ะ

      ผลเสียจากการนอนหลับได้ไม่ดี นอนไม่พอ นอนไม่อิ่ม

      • เซื่องซึม ไม่กระปรี้กระเปร่า เรียนรู้ได้ไม่ค่อยดี
      • พัฒนาการการเจริญเติบโตของร่างกายไม่สมวัย
      • ภูมิต้านทานอ่อนแอ เจ็บป่วยง่าย ไม่สบายบ่อย
      • หงุดหงิดง่าย มีอารมณ์ที่ไม่ค่อยดี ไม่รู้สึกกับสนุกกับทุกกิจกรรม

      การส่งเสริมให้ลูกน้อยได้มีการนอนหลับที่ดี มีคุณภาพทั้งช่วงเวลาวัน และกลางคืน นอกจากจะต้องดูแลให้มีบรรยากาศในการนอนที่ดี ไม่มีอะไรมารบกวน ไม่ร้อน ไม่หนาวจนเกินไปแล้วนั้น ยังมีอีกหนึ่งเคล็ดลับที่อย่างแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่ นั่นก็คือการช่วยทำให้ลูกน้อยสบายผิวก่อนนอนค่ะ ด้วยการอาบน้ำและบำรุงผิวลูกด้วยการเบบี้ โลชั่นทุกครั้งค่ะ

      เบบี้ โลชั่นสำหรับเด็กที่คุณแม่เลือกใช้ ควรมีเนื้อโลชั่นที่เบาสบายไม่เหนียวเหนอะหนะ ทาแล้วซึมซาบเข้าผิวได้อย่างรวดเร็วให้ความรู้สึกสบายผิว ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิวไม่แห้งกร้าน ช่วยให้ผิวเนียนนุ่มสุขภาพดี และมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย ที่สำคัญต้องปราศจากสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อผิวลูกน้อยด้วยนะคะ

      โลชั่นบำรุงผิวลูก

      Amarin Baby & Kids ยกให้ ดีนี่ ออร์แกนิค สวีทดรีม เบบี้ โลชั่นบำรุงผิวลูก เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวสำหรับเด็ก ที่ได้รับรางวัล EDITOR’S CHOICE สาขา BEST NATURAL & ORGANIC SKINCARE จาก Amarin Baby & Kids Awards 2023

      ดีนี่ ออร์แกนิค สวีทดรีม เบบี้ โลชั่น ไอเทมบำรุงผิวใหม่ ที่จะช่วยคุณพ่อคุณแม่จบความว้าวุ่นของการนอนไม่หลับให้กับลูกน้อยได้อย่างอยู่หมัด

      ดีนี่ ออร์แกนิค สวีทดรีม เบบี้ โลชั่นตัวนี้ เป็นผลิตภัณฑ์ โลชั่นบำรุงผิวเด็ก ใน Smile Booster Series ซีรีส์ใหม่ล่าสุดจากดีนี่ ที่มาพร้อม Sweet Dream Tech เทคโนโลยีน้ำหอมเฉพาะจากดีนี่ ที่มีกลิ่นหอมผ่อนคลาย ช่วยให้ลูกน้อยนอนหลับสบายและยาวนานขึ้นค่ะ  พร้อมกับความเก๋ของคอลเลคชั่น Smile Booster คือได้มีการออกแบบให้มีความละมุน ชวนให้น่าหลงใหล ใช้แล้วนอนหลับฝันดี ด้วยการเพิ่มความสนุกให้คุณพ่อคุณแม่ได้สะสม ดีนี่ ออร์แกนิค สวีทดรีม เบบี้ โลชั่น กันถึง 4 ลายสวยของขวดผลิตภัณฑ์ด้วยค่ะ

      ส่วนเรื่องคุณภาพหมดห่วงเลยค่ะ เพราะดีนี่จัดเต็มให้ตั้งแต่ส่วนผสมจากสารสกัดธรรมชาติถึง 7 ชนิด พร้อมดอกลาเวนเดอร์ บำรุงผิวนุ่มชุ่มชื้นอย่างเป็นธรรมชาติ พร้อม ผสาน 3X ทริปเปิล เซราไมด์ มาเป็นเกราะป้องกันผิวจากความแห้งกร้าน ช่วยล็อคผิวให้ชุ่มชื้นได้อย่างยาวนาน ผิวแลดูเนียนนุ่ม ผ่านการทดสอบ Hypoallergenic Tested อ่อนโยนปลอดภัย ไม่ทำให้แพ้และระคายเคือง ปลอดภัย ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพผิวลูกน้อย เพราะปราศจากสารพาราเบน กูลเตน และสีสังเคราะห์

      โลชั่นบำรุงผิวลูก

      5 ความพิเศษสุดว้าวของ ดีนี่ ออร์แกนิค สวีทดรีม เบบี้ โลชั่น Smile Booster Series

      • 100% ออร์แกนิค คาโมมายล์ ออยล์
      • กลิ่นหอมผ่อนคลายด้วย Sweet Dream Tech
      • 3X ทริปเปิล เซราไมด์ ล็อคผิวชุ่มชื้น ยาวนาน
      • ผ่านการทดสอบจากผู้เชี่ยวชาญ อ่อนโยน ไม่แพ้
      • เนื้อโลชั่น ซึมไว ไม่เหนอะหนะ

      ด้วยคุณสมบัติทั้งหมดนี้ของผลิตภัณฑ์จาก ดีนี่ ออร์แกนิค สวีทดรีม เบบี้ โลชั่น ทาง Amarin Baby & Kids “เครือข่ายแม่ลูกใหญ่ที่สุด” ผู้นำด้านคอนเทนต์คุณภาพ เข้าใจครอบครัวไทย และตอบสนองความต้องการของคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ จึงคัดเลือกให้  D-nee Organic Sweet Dream Baby Lotion ได้รับรางวัล Editor’s Choice สาขา BEST NATURAL & ORGANIC SKINCARE จาก “Amarin Baby & Kids Awards 2023”

      หากคุณพ่อคุณแม่สนใจ ดีนี่ ออร์แกนิค สวีทดรีม เบบี้ โลชั่น Smile Booster Series สามารถสอบถามและดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

      D-nee Facebook: www.facebook.com/DneeThailand

      D-nee Line Official Account: @Dneethailand https://bzbs.co/dnee-register

       

      อ่านบทความน่าสนใจอื่นๆ 

      https://www.amarinbabyandkids.com/awards-2023/baby-toiletries-2023/

        บาลานซ์ น้ำนมข้าวออร์แกนิก

        แม่ท้อง ดื่มนมอะไรได้บ้าง นม แบบไหนดื่มแล้วดีต่อสุขภาพ

        ถูกใจคนรักสุขภาพที่สุด เพราะเดี๋ยวนี้มีนมเพื่อสุขภาพออกมาให้เลือกดื่มหลากหลายมากขึ้น แต่ “นม” ที่ดื่มได้ทั้งครอบครัว เด็กดื่มได้ แม่ท้องดื่มดี กองบรรณาธิการ Amarin Baby & Kids แนะนำว่าต้องกล่องนี้ค่ะ >> บาลานซ์ น้ำนมข้าวออร์แกนิก เป็นไอเทมเครื่องดื่มที่ดีต่อสุขภาพ อยากให้ทุกคนได้ดื่มกันทุกวันค่ะ

        กินดี ร่างกายก็แข็งแรง…

        สุขภาพที่ดีต้องแข็งแรงจากภายในสู่ภายนอก การจะทำให้ระบบเซลล์ ระบบเลือด ระบบอวัยวะต่าง ๆ ภายในร่างกายมีสมดุลที่ดี มีความแข็งแรง จนส่งผลออกมาภายนอก ช่วยทำให้ผม ผิวพรรณ หน้าตาสดใส กระดูกไม่พรุน มีสายตาดี เป็นต้น ล้วนมาจากโภชนาการสารอาหารที่รับประทานเข้าไปส่วนหนึ่ง บวกกับการได้นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ

        สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ อาหารที่รับประทานในแต่ละวัน แต่ละมื้อ ควรต้องเป็นอาหารที่ปรุงสุก สดใหม่จากวัตถุดิบที่สะอาด ปลอดภัย และก็ต้องครบคุณค่าสารอาหาร 5 หมู่ด้วยนะคะ

        และนอกจากอาหารมื้อหลักแล้ว คุณแม่ยังสามารถเพิ่มเติมระหว่างวัน หรือระหว่างมื้ออาหาร ด้วยเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ นั่นก็คือ บาลานซ์ น้ำนมข้าวออร์แกนิก จากใจเลยค่ะ เป็นเครื่องดื่มที่ดีกับสุขภาพคุณแม่ท้องมาก ๆ อันนี้คอนเฟิร์ม เพราะตัวเองก็กำลังตั้งครรภ์อยู่เหมือนกันค่ะ แล้วก็ดื่มบาลานซ์ น้ำนมข้าวออร์แกนิกทุกวัน อะไรที่ดีมีประโยชน์ กองบรรณาธิการ Amarin Baby & Kids แนะนำเลยค่ะ

        จากประสบการณ์ของตัวเอง และจากเพื่อน ๆ ที่เป็นคุณแม่ท้อง มีความเห็นว่า คนท้องจะต้องการแคลเซียมมากกว่าคนทั่วไป และมักจะรู้สึกโหยช่วงบ่าย ๆ ถ้าไม่อยากกินอะไรหนักท้องมากเกินไป เพราะเดี๋ยวก็ต้องทานมื้อเย็นกันแล้ว ช่วงบ่ายของแม่ท้อง ดื่มบาลานซ์ น้ำนมข้าวออร์แกนิก สัก 1 กล่อง พร้อมผลไม้ 4-5 ชิ้น อิ่มเบา ๆ ได้แคลเซียมและใยอาหาร ที่สำคัญสบายท้องที่สุดเลยล่ะค่ะ

        บาลานซ์ น้ำนมข้าวออร์แกนิก ประโยชน์ที่ดีกับสุขภาพแม่ท้อง

        ใครที่เคยสอบถามเข้ามาว่าช่วยแนะนำ นมคนท้อง ให้หน่อย ที่ไม่เสี่ยงทำให้ให้ลูกในท้องแพ้ จากการดื่มนมของแม่ตอนท้อง ก็ต้องกล่องนี้เลยค่ะ

        บาลานซ์ น้ำนมข้าวออร์แกนิก มีให้เลือกอร่อยถึง 3 รสชาติ

        บาลานซ์ น้ำนมข้าวออร์แกนิก
        น้ำนมข้าวไรซ์เบอร์รี่ออร์แกนิก

         

        น้ำนมข้าวกล้องออร์แกนิก รสวานิลลา
        น้ำนมข้าวกล้องออร์แกนิก รสวานิลลา

         

        น้ำนมข้าวกล้องออร์แกนิก รสธรรมชาติไม่เติมน้ำตาล
        น้ำนมข้าวกล้องออร์แกนิก รสธรรมชาติไม่เติมน้ำตาล

        ความหอม อร่อยกลมกล่อมของ บาลานซ์ น้ำนมข้ามออร์แกนิก ว่าถูกใจแล้ว พอมาดูข้อมูลผลิตภัณฑ์แล้ว แม่ให้ 10 10 10 เลยค่ะคุ๊ณ!! ดื่มแล้วไม่ทำร้ายสุขภาพแม่ สุขภาพลูกในท้อง ดื่มแล้วสามารถป้องกันการแพ้นมวัวของลูกน้อยอีกด้วย เพราะไม่มีส่วนผสมของนมวัว  ไม่มีแลคโตส  ไม่มีกลูเตน  ไม่มีถั่วเหลือง ที่สำคัญไม่มีสารก่อภูมิแพ้ยอดฮิต 8 ชนิด ได้แก่
        1. ไข่
        2. นมวัว
        3. ข้าวสาลี
        4. ถั่วลิสง
        5. ถั่วเปลือกแข็ง
        6. ปลา
        7. ถั่วเหลือง
        8.สัตว์น้ำที่มีเปลือก เช่น กุ้ง ปู หอย

        คุ้มค่า อร่อยได้ประโยชน์เต็มกล่องแบบนี้ ไม่อยากให้พลาดซื้อมาดื่มกันนะคะ อ่อ!! แล้วก็ไม่ได้ดื่มแค่เฉพาะแม่ท้องเท่านั้นนะคะ เพราะไม่ว่าจะเด็ก ผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุในบ้าน ก็ดื่มน้ำนมข้าวออร์แกนิก บาลานซ์กล่องนี้ได้เหมือนกัน เขาคิดค้นมาเพื่อทุกคน รวมถึงคนท้องดื่มแล้วดีต่อสุขภาพค่ะ

        บาลานซ์ น้ำนมข้าวออร์แกนิก หอมอร่อย ดื่มง่าย แคลอรี่ต่ำ น้ำตาลน้อย มีแคลเซียมสูงจากสาหร่ายธรรมชาติ ทำให้ร่างกายดูดซึมไปใช้ได้ดีกว่าแคลเซียมทั่วไปถึง  2 เท่า ปลอดภัยไร้สารเคมี คัดสรรวัตถุดิบออร์แกนิกแท้ ๆ เจ้าแรกและเจ้าเดียวในไทย ที่ได้รับรองมาตรฐานออร์แกนิก USDA ของสหรัฐอเมริกาและยุโรป ว้าว!! สุดยอดมาก ๆ เลยค่ะ

        ขออธิบายเพิ่มถึงความดีงามของสาหร่ายที่เป็นหนึ่งในส่วนประกอบของบาลานซ์ น้ำนมข้าวออร์แกนิก ไม่ใช่สาหร่ายธรรมดาทั่วไปนะคะ แต่เป็นสาหร่ายที่ขึ้นชื่อว่าเป็นอัญมณีใต้สมุทร สาหร่ายชนิดนี้คือ สาหร่ายลิโธธามเนียน (Lithothamnion) ที่อุดมด้วยแคลเซียมสูง เป็นแคลเซียมธรรมชาติที่ให้ประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยบำรุงเสริมกระดูกให้แข็งแรง และอีกหนึ่งส่วนประกอบก็คือ น้ำนมข้าวกล้อง ที่คัดสรรมาจากข้าวกล้องออร์แกนิก ปลูกและผลิตโดยไม่ใช้สารเคมีใด ๆ ค่ะ ข้าวกล้องประกอบไปด้วยสารอาหารและแร่ธาตุที่สำคัญต่อร่างกายชนิดอื่น ๆ เช่น แมงกานีส ซิลิเนียม แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส กรดโฟเลต ไทอามีน ไนอาซิน วิตามินบี 6 เหล็ก และสังกะสี ข้าวกล้องมีประโยชน์ต่อร่างกายในการช่วยนำพลังงานจากอาหารมาใช้ในร่างกายและช่วยสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง รวมถึงไฟเบอร์ ซึ่งช่วยทำให้อิ่มท้อง กระตุ้นการทำงานของลำไส้ ส่งผลดีต่อระบบขับถ่าย และช่วยแก้ปัญหาท้องผูก

        คนท้องไม่ใช่คนป่วย แต่ถ้ากินไม่ดีตอนท้องก็อาจทำให้เสี่ยงเจ็บป่วยได้ ฉะนั้นอยากให้คุณแม่ท้องใส่ใจอาหารการกิน ที่ต้องแน่ใจได้จริง ๆ ว่า เครื่องดื่ม หรืออาหารที่รับประทานเข้าสู่ร่างกายนั้น จะไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายของแม่และทารกน้อยในครรภ์ !!

        บาลานซ์ น้ำนมข้าวออร์แกนิก

        ชี้เป้าไปช้อป  Balance Organic Rice Drink มาดื่มเพื่อการสุขภาพที่ดีกันทั้งครอบครัว ได้ที่นี่ค่ะ
        Lotus’s / BigC / ใบเมี่ยง ห้างสรรพสินค้าชั้นนำและร้านค้าสุขภาพ

        หรือร้านค้าทางการของแบรนด์ ทาง Shopee/Lazada ค้นหาว่า 4 Care Store

        เว็บไซต์ : https://4care.co.th

        Facebook :  BALANCEby4CARE

        IG : BALANCE_by4CARE

        Tiktok : 4.care.official

          ช้อปปี้

          ช้อปปี้ ตอกย้ำความเป็นผู้นำคอมเมิร์ซอันดับหนึ่งในใจผู้บริโภค การันตีด้วยเหล่ารางวัลอันทรงพลัง พร้อมเดินหน้าเติมเต็มอีโคซิสเต็มอย่างยั่งยืน

          จากที่ ช้อปปี้ ผู้นำแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และไต้หวันเคียงข้างผู้ใช้งานมาตลอดระยะเวลากว่า 7 ปี ผ่านความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์ สนับสนุน และผลักดันให้เกิดความสำเร็จในทุกแง่มุมให้แก่ผู้ใช้งาน ผู้ขาย แบรนด์ และพันธมิตรคนสำคัญมากมาย รวมไปถึงพนักงานขององค์กร เพื่อเดินทางไปสู่จุดหมายซึ่งเป็นพันธกิจของช้อปปี้ในการใช้เทคโนโลยีเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนมาโดยตลอด ทำให้ช้อปปี้ของเราได้รับการกล่าวขานผ่านรางวัลทรงคุณภาพต่างๆมากมาย ในหลากหลายสาขา ทั้งฝั่งแบรนด์ดิ้งและฝั่งทรัพยากรบุคคล

          สุชญา ปาลีวงศ์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด ช้อปปี้ (ประเทศไทย) กล่าวว่า “การมอบประสบการณ์ช้อปปิ้งออนไลน์ที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้งาน ทั้งผู้ซื้อ ผู้ขาย และเหล่าแบรนด์พันธมิตร สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของช้อปปี้ในการเสริมสร้างแบรนด์และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ไม่เพียงเท่านี้ สำหรับช้อปปี้เองก็ยังคงให้ความสำคัญกับทรัพยากรบุคคล เพราะพนักงานเป็นกำลังสำคัญในการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้แก่ช้อปปี้และแวดวงอีคอมเมิร์ซไทย เราขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่เล็งเห็นถึงศักยภาพและความมุ่งมั่นของเราผ่านรางวัลอันทรงเกียรติในแขนงต่างๆ ท้ายนี้ เราจะยังคงเดินหน้าพัฒนาแพลตฟอร์มและส่งเสริมบุคลากรของเราให้เติบโตอย่างยั่งยืนและสามารถช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทยให้เติบโตอย่างดีที่สุด”

           

          ถ่ายทอดความสำเร็จผ่าน 4 รางวัลอันทรงพลัง

           

          รางวัลด้านความเป็นเลิศทางด้านทรัพยากรบุคคล

          ช้อปปี้ ถือเป็นองค์กรที่เหล่าคนทำงานรุ่นใหม่ให้ความสนใจ  จากหลากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นการทำงานที่ท้าทายในวัฒนธรรมที่สนุกสนาน เพื่อนร่วมงานที่เชี่ยวชาญจากหลากหลายประสบการณ์มาทำงานร่วมกัน  และที่สำคัญ ปีนี้ช้อปปี้เน้นเรื่อง Internal Career Opportunity ให้พนักงานได้เติบโตทางการงานในมุมที่หลากหลายยิ่งขึ้น เรียกว่าทุกคนสามารถเติบโตไปพร้อมๆกับองค์กรได้เลย

          • 1 ใน 50 องค์กรที่คนรุ่นใหม่อยากทำงานด้วยมากที่สุด ปี 2566 โดย WorkVenture ในปีนี้ช้อปปี้ยังคงมุ่งมั่นที่จะแสดงให้เห็นว่าเป็นผู้นำตลาดและเป็นพันธมิตรที่น่าเชื่อถือ ซึ่งจะช่วยให้พนักงาน ผู้บริโภคและธุรกิจเติบโตในระบบนิเวศดิจิทัลที่ครอบคลุมและยั่งยืน พร้อมทั้งยังแบ่งปันเรื่องราวการทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์หลายประเภทธุรกิจในการพัฒนานวัตกรรมตาม ภารกิจของเราเพื่อที่จะพัฒนาและสร้างความแตกต่างให้กับผู้ขายและผู้ใช้ทุกท่าน

           

          • ‘QMAC Thailand Most Attractive Companies 2566’ เปิดผลสำรวจพร้อมประกาศรางวัลครั้งยิ่งใหญ่ 55 บริษัทที่คนรุ่นใหม่อยากร่วมงานด้วย โดยช้อปปี้ติดอันดับ 5 ในฐานะที่คนรุ่นใหม่อยากทำงานด้วย อีกทั้งยังเป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซเจ้าแรกและเจ้าเดียวที่ติด 1 ใน 5 สำหรับปีนี้อีกด้วย

           

          สร้างความเชื่อมั่น สรรค์สร้างความครีเอทีฟด้วยรางวัลแบรนด์ดิ้งคุณภาพ 

          หากเราพูดถึง “ความครีเอทีฟ ความคิดสร้างสรรค์” ช้อปปี้ก็คงเป็นแบรนด์อันดับต้นๆ ที่ผู้ใช้งานนึกถึง  ในฐานะแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ เราได้รับฟังความต้องการของผู้บริโภคและเสิร์ฟคอนเท้นต์ดีๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคอย่างไร้ขีดจำกัด ทำให้ ช้อปปี้ได้รับรางวัลความโดดเด่นด้านแบรนด์ดิ้งอย่างเสมอมา และด้วยความพยายามและตั้งใจของช้อปปี้ ทำให้เราได้รับเหล่ารางวัลที่สร้างความภาคภูมิใจให้แก่ทีมงานของช้อปปี้

          • Thailand Social Awards: ช้อปปี้ ยังคงเป็นผู้นำในเรื่องของการทำคอนเท้นต์ ด้วยการสรรค์สร้างผลงานอันโดดเด่นผ่านสื่อโซเชียลมีเดียในทุกแง่มุม ทำให้ช้อปปี้ได้รับรางวัลชนะเลิศ 5 ปีซ้อนในสาขา Best Brand Performance On Social Media จาก Thailand Social Awards งานประกาศรางวัลโซเชียลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ด้วยความมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์และพัฒนาคอนเท้นต์ดีๆให้ตรงใจและถูกใจผู้ใช้งานมากขึ้น พร้อมทั้งจะรับฟังข้อคิดเห็นเพื่อพัฒนาและต่อยอดเพื่อให้ทุกคนได้รับประสบการช้อปปิ้งออนไลน์ที่ดีที่สุดควบคู่กับความบันเทิงจากหลากหลายคอนเท้นต์บนช้อปปี้
          • แบรนด์ที่มีพลังบันดาลใจให้กับคนไทยปี 2566 โดย Wunderman Thompson: ช้อปปี้ถือเป็นหนึ่งในแบรนด์ชั้นนำที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับคนไทยในปี 2566 และรั้งอันดับ 1 ในหมวดอีคอมเมิร์ซจากรายงาน “Inspiring Growth” ของ Wunderman Thompson Thailand แบรนด์ที่มีพลังบันดาลใจ คือแบรนด์ที่ประกอบด้วยกัน 3 ประการ ได้แก่การยกระดับชีวิตและจิตใจ มีพลังดึงดูด และสร้างแรงกระตุ้น ซึ่งถือเป็นพลังบันดาลใจสามารถขับเคลื่อนความเติบโตของแบรนด์ได้เป็นอย่างดี

           

          พร้อมเดินหน้าส่งเสริมและสนับสนุนผู้ซื้อ ผู้ขายให้เติบโตอย่างมีนัยยะ

          ช้อปปี้ตอบโจทย์ผู้ใช้งานชาวไทยอย่างดีที่สุด ทั้งในแง่ของผู้ซื้อและผู้ขาย  พร้อมเสริมความแข็งแกร่งในฐานะผู้นำด้านอีคอมเมิร์ซ เพื่อสร้างความยั่งยืนและความยืดหยุ่นทางดิจิทัล ยกระดับประสบการณ์ช้อปปิ้งออนไลน์ที่ดีที่สุดในทุกแขนง

          • มอบประสบการณ์ช้อปปิ้งที่ดีที่สุดให้นักช้อป: นักช้อปยังคงมุ่งมั่นที่จะส่งมอบประสบการณ์ช้อปปิ้งออนไลน์ที่ดีที่สุดให้กับนักช้อปชาวไทย ผ่านแคมเปญต่างๆ ในทุกเดือนผ่านโปรโมชั่นและดีลมากมาย และครอบคลุมหลากหลายหมวดหมู่สินค้า มามอบให้อย่างจัดเต็ม พร้อมทั้งยังมอบประสบการณ์ทางความบันเทิงผ่านกิจกรรมทางการตลาดต่างๆมากมายตลอดทั้งปี
          • ส่งเสริมและสร้างการเติบโตให้เกิดแก่ผู้ประกอบการ: ในปัจจุบัน มีร้านค้าและแบรนด์ชั้นนำเข้ามาเปิดร้านบนช้อปปี้เป็นจำนวนมาก ช้อปปี้ ในฐานะแพลตฟอร์มที่เป็นผู้สร้างโลกแห่งอีคอมเมิร์ซให้เป็นพื้นที่ของทุกคนและยังเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของการเติบโตด้านการซื้อขายบนอีคอมเมิร์ซในประเทศไทย พร้อมทั้งยังคงเดินหน้าที่จะสนับสนุนแบรนด์พันธมิตรและส่งเสริมผู้ประกอบการรายย่อยสามารถ พัฒนาองค์ความรู้ในด้านการทำธุรกิจบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซให้เติบโตไปพร้อมกันผ่านโครงการและการเทรนนิ่งจากเครื่องมือทางการตลาด อาทิ Shopee University, Certified Shopee Expert Program (CSEP) , Shopee International Platform

           

          ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันช้อปปี้ได้ฟรีจาก App Store, Google Play Store และ App Gallery

           

          ##############################

           

          เกี่ยวกับ Shopee (ช้อปปี้)
          Shopee เป็นผู้นำแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และไต้หวัน ทำหน้าที่ในการเชื่อมต่อระหว่าง ผู้บริโภค แบรนด์ และผู้ขายในทั่วภูมิภาคเอเชียและในตลาดที่มีศักยภาพในการเติบโตอย่างรวดเร็ว เพื่อสนับสนุนให้ทุกคนสามารถซื้อ-ขายได้อย่างสะดวกสบายทุกที่ทุกเวลา
          Shopee ส่งมอบความสะดวกสบาย ปลอดภัย และสร้างประสบการณ์ร่วมกับผู้ใช้งานหลายล้านคนให้มีความเพลิดเพลินกับการเข้าใช้งานบนแพลตฟอร์มของเราในทุกๆวัน ด้วยการนำเสนอสินค้าที่หลากหลาย พร้อมด้วยระบบการชำระเงินและการสนับสนุนด้านโลจิสติกส์ รวมถึงการสร้างความบันเทิงผ่านหลากหลายฟีเจอร์ที่คัดสรรมาเพื่อตอบสนองต่อผู้ใช้งานในแต่ละตลาดโดยเฉพาะ ขณะเดียวกัน Shopee เข้ามามีส่วนร่วมสำคัญในระบบเศรษฐกิจดิจิทัลระดับภูมิภาค ด้วยมีความมุ่งมั่นในการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการและแบรนด์สินค้าต่างๆ สามารถบรรลุเป้าหมายและประสบผลสำเร็จได้ในธุรกิจอีคอมเมิร์ซ
          Shopee อยู่ในกลุ่มของ บริษัท Sea (NYSE:SE) ผู้นำทางด้านเทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตเพื่อผู้ใช้งานในระดับโลก นอกเหนือจาก Shopee แล้ว Sea ยังมีธุรกิจหลักครอบคลุมทั้งในส่วนดิจิทัล เอ็นเตอร์เทนเมนต์ ภายใต้ชื่อ การีนา และ บริการด้านการเงินแบบดิจิทัลภายใต้ชื่อ ซีมันนี่ Sea มีพันธกิจที่จะมุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้บริโภค และผู้ประกอบการรายย่อยให้ดียิ่งขึ้นด้วยเทคโนโลยีอันล้ำหน้า

            แดดแรงขนาดนี้แม่ต้องสู้ มาชวนคุยเรื่องเข้าใจผิดเกี่ยวกับรังสี UV พร้อมสู้แดดไทยพุ่ง 43 องศา แบบตัวมารดา!

              “ประเทศไทยร้อนมาก!” ถือเป็นข้อเท็จจริงที่ไม่ต้องเสียเวลาพิสูจน์ให้เหนื่อย ยิ่งโดยเฉพาะการพาลูกออกไปเล่นกิจกรรมนอกบ้าน แม่จะหยุดสวยไม่ได้

            แต่นอกจากอากาศที่ร้อนและแสงแดด แผดเผาที่เราสัมผัสได้ด้วยตัวเองแล้ว ค่า UV Index ประเทศไทยของเรายังสูงไม่แพ้ใครอีกด้วย ค่า UV Index นั้นคือการแผ่รังสีอัลตราไวโอเลตลงมายังพื้นผิวโลก มีตั้งแต่ระดับ 1 ไปจนถึง 12 โดยปกติแดดเมืองไทยมีค่าเฉลี่ย UV Index สูงอยู่แล้ว แต่ถ้าเข้าสู่ช่วงฤดูร้อนในประเทศไทย ตั้งแต่เดือนมีนาคม-พฤษภาคม จะอยู่ที่ระดับความรุนแรงสูงสุดตามที่องค์การอนามัยโลกระบุ ที่ 11 – 12 เลยทีเดียว เรียกว่าแดดเมืองไทยไม่ได้มาเล่นๆ แต่มาแบบเล่นใหญ่ไม่แพ้ชาติได้ในโลก จนหลายประเทศต้องเตือนนักท่องเที่ยวที่จะมาเที่ยวประเทศไทยให้หาทางป้องกันแดดให้ดีเพื่อลดความเสี่ยงจากโรคมะเร็งผิวหนัง

            ในเมื่อแดดเมืองไทยเขาพีคไม่เกรงใจขนาดนี้ ถ้าต้องการปกป้องผิวจากแสงแดดตัวจี๊ดให้อยู่หมัดก็ต้องปกป้องแบบตัวมัม สู้ด้วยความรู้ความเข้าใจแบบยืนหนึ่ง วันฝุ่นมาพายุฤดูร้อนเข้าแปลว่าไม่มีรังสี UV จริงหรือเปล่า? อยู่ในร่มไม่ต้องใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดก็ได้จริงไหม? สวยแบบผิวแทนสายฝอก็ไม่ต้องใช้กันแดดจริงดิ? วันนี้ MISTINE จะชวนทุกคนมาแก้ความเข้าใจผิดๆ แล้วรีบเข้าใจใหม่เพื่อให้ฤดูร้อนนี้หาทางป้องกันแดดและรังสี UV อย่างถูกวิธีแบบตัวมารดาสุดปังไปพร้อมกัน เริ่มเลอ!

            เรื่องเข้าใจผิดที่ต้องรีบเข้าใจใหม่ในหน้าร้อนนี้ ถ้าคิดจะรับมือกับ UV ตัวจี๊ดในไทย

            วันฝุ่นเยอะ วันมีเมฆ สวยเชิดได้แม้ไม่ใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดจริงหรือ? หลายคนเข้าใจว่าวันที่ท้องฟ้ามีเมฆมากหรือวันที่ PM2.5 บุกจนส่งผลให้อากาศขมุกขมัว แดดส่องลงมาไม่ถึงพื้นดินก็แปลว่าสบายใจได้ ไม่ต้องใช้ผลิตภัณฑ์
            กันแดดแล้ว แต่จริง ๆ แล้วแม้เป็นวันที่ดูไม่มีแสงแดดแผดเผา แต่รังสี UV ยังมีอยู่! โดยเมฆบางชนิดอาจกั้นรังสี UV ไว้ได้บ้าง แต่รังสี UV ก็ยังทำร้ายผิวได้อยู่ นอกจากนี้ ผิวยังอาจเกิดอาการแสบไหม้จากแสงอาทิตย์ได้ง่ายขึ้นเพราะขาดสัญญาณเตือนจากความร้อนที่เกิดจากรังสีอินฟราเรด ซึ่งถูกไอน้ำในเมฆดูดซึมไปเกือบทั้งหมด ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นวันฝุ่นมา ฟ้าหม่น วันฝนตกพายุฤดูร้อนเข้าก็ไม่ควรวางใจ ใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดเพื่อปกป้องผิวในทุกวันชัวร์กว่า

             อยู่แต่ในร่ม แปลว่ารอดเพราะแสงแดดส่องมาไม่ถึง จริงไหม? เพราะฤดูร้อนหมายถึงการไม่อยากออกไป
            ฝ่าแดดที่ไหนทำให้คนส่วนใหญ่เลือกเปิดเครื่องปรับอากาศใช้ชีวิตสบายใจในที่ร่ม จนเผลอคิดว่าที่ก็ร่ม แอร์ก็เย็น ไม่จำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดก็ได้ แม้แสงแดดโดยตรงและรังสี UVB อาจเข้ามาไม่ถึงในที่ร่ม แต่รังสี UVA อาจเล็ดลอดเข้ามาได้! และรังสี UVA นี่เองที่เป็นสาเหตุสำคัญในการทำร้ายผิวหนังของเรา ไม่เพียงเท่านั้น ในอาคารยังมีแสงไฟและแสงจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อีกด้วย เพราะฉะนั้นต่อให้อยู่ในที่ร่มทั้งวัน ก็ควรใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดเพื่อป้องกันดีกว่ามาตามแก้ให้เสียใจทีหลังแน่นอน 

                     อยากสวยแบบสายฝอ ขอมีผิวสีแทนฉ่ำ ผลิตภัณฑ์กันแดดจึงไม่จำเป็น จริงหรือเปล่า? ต้องเข้าใจก่อนว่าการมีผิวเข้มสุขภาพดีตามต้องการนั้น แตกต่างจากการถูกแดดทำร้ายจนผิวไหม้คล้ำเสีย ดังนั้นใครที่เข้าใจว่าอยากมี
            ผิวแทนสวยแบบสายฝอก็ไม่ต้องใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดนั้นผิดถนัด! ยิ่งต้องการผิวเข้มฉ่ำ สุขภาพดีและทำให้อาบแดดได้นานขึ้น การใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดเป็นสิ่งสำคัญและอย่าลืมทาซ้ำทุก 2-3 ชั่วโมง ที่สำคัญถ้าคิดจะอาบแดดฤดูร้อนในประเทศไทยควรอาบก่อนเก้าโมงเช้าและหลังสี่โมงเย็นไปแล้ว ไม่เช่นนั้นรังสี UV อาจนำพาความแห้งกร้านและริ้วรอยก่อนวัยมาเป็นของแถม หรือร้ายแรงถึงขั้นเสี่ยงต่อโรคมะเร็งผิวหนังเลยทีเดียว

            กันแดดหน้าร้อนต้อง #กันแดดหมวกเหลือง MISTINE Aqua Base Ultra Protection Matte & Light Facial Sunscreen Pro SPF50+ PA++++ กันแดดหน้าไม่เทา! เพราะบางเบาไม่เหนอะหนะ

            MISTINE Aqua Base Ultra Protection Matte & Light Facial Sunscreen Pro SPF50+ PA++++ หรือ #กันแดดหมวกเหลือง ถือเป็นโลชั่นกันแดดที่ตอบโจทย์กันแดดหน้าร้อนสำหรับคนไทยได้ครอบคลุม ด้วยเนื้อสัมผัสที่บางเบา
            ไม่เหนอะหนะ ทาแล้วหน้าไม่เทา ด้วยเทคโนโลยีพิเศษ Aquamatte Technology ที่คิดมาเพื่อฤดูร้อนแบบไทยๆ ทำให้ทาแล้วเบาสบายไปกับผิวเหมือนไม่ได้ทาเพราะซึมง่ายกว่าสูตรเดิม ที่สำคัญมาพร้อม UV Protectors ที่ช่วยปกป้องผิวจาก
            ทั้งรังสี UVA และ UVB ปกป้องผิวจากการถูกทำร้ายจากแสงแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพไม่ว่าฤดูร้อนนี้จะอยู่ในที่ร่มหรือกลางแจ้งก็มั่นใจได้แน่นอน ถือเป็นผลิตภัณฑ์กันแดดที่มีคุณภาพแน่นแต่เนื้อบางเบาเหมาะสำหรับทุกวัน ใช้ทุกวันอยู่บ้านก็สบายผิว หรือหน้าร้อนนี้ใครจะออกทริปลงทะเลดำน้ำฉ่ำใจก็ยิ่งไม่ต้องกังวลเพราะ กันแดดหมวกเหลือง ไม่มีส่วนประกอบสารเคมี 4 ชนิด ที่เป็นอันตรายหรือทำร้ายปะการัง รักษาผิวแบบตัวแม่ และแคร์สิ่งแวดล้อมได้พร้อมกัน ยิ่งไปกว่านั้น กันแดดหมวกเหลืองตัวนี้ ยังได้รับการรับรองจากกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง หรือ ทช. ว่าปลอดภัยจริง ๆ ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมทางทะเลแน่นอน

              Tags

              เรื่องนี้แม่ต้องรู้ กับ “New SofTouch” นวัตกรรมจุกนมเจเนอเรชั่นใหม่จาก Pigeon ตัวช่วยการให้นมแม่เป็นเรื่องง่ายและสะดวกมากยิ่งขึ้น

              เพราะน้ำนมแม่มีสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของทารก และเด็กเล็ก ดังนั้น การเลี้ยงลูกด้วยน้ำนมแม่จึงได้มีการส่งเสริม สนับสนุนให้คุณแม่มีความรู้ ความเข้าใจในการให้นมแม่มากขึ้น

              นอกจากนี้การให้น้ำนมแม่ยังมีผลดีต่อสุขภาพและสร้างความผูกพันระหว่างแม่และลูกน้อย บทบาทของแม่ในการเลี้ยงดูลูกจึงมีความสำคัญ และท้าทายมากยิ่งขึ้นในปัจจุบัน เนื่องจากวิถีชีวิตและสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้คุณแม่ยุคใหม่ต้องทำงานและเลี้ยงดูลูกไปพร้อมกัน ซึ่งทำให้แม่ต้องจัดการเวลาให้สมดุลระหว่างการทำงานและการดูแลลูกให้ดีที่สุด เพื่อให้ลูกได้รับการเลี้ยงดูที่เหมาะสม มีสุขภาพดี และสุขอนามัยที่ถูกสุขลักษณะ

              พีเจ้น (Pigeon) แบรนด์อันดับหนึ่งที่ได้รับความนิยมสูงสุดจากกลุ่มผลิตภัณฑ์แม่และเด็กทั่วโลก รวมถึงครองตำแหน่งผู้นำตลาดในประเทศไทยมาอย่างยาวนาน มีปณิธานในการสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ด้วยการคิดค้นและวิจัยผลิตภัณฑ์ที่สามารถสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เป็นแบรนด์แรก และแบรนด์เดียวที่ได้พัฒนานวัตกรรมจุกนมเสมือนนมมารดา จนได้รับการยอมรับจากคุณแม่ทั่วโลก และพีเจ้นยังคงวิจัยและพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบโจทย์การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ให้ดียิ่งขึ้น จึงได้พัฒนาจุกนมนวัตกรรมรุ่นใหม่ “New SofTouch จุกเสมือนนมมารดาที่ดีที่สุดจากพีเจ้น” ที่ออกแบบมาเพื่อให้เสมือนกับการดูดนมของทารกจากอกแม่ ด้วยคุณสมบัติของจุกนมที่ออกแบบให้มีเส้นกำหนดตำแหน่งริมฝีปากที่เหมาะสม มีความนุ่มมากเป็นพิเศษ ยึดหยุ่นได้ดี และมีระบบป้องกันอาการโคลิก จึงช่วยทำให้ลูกน้อยสามารถดูดนมได้อย่างเป็นธรรมชาติ มีความรู้สึกใกล้เคียงกับการดูดนมจากอกแม่มากที่สุด และยังช่วยให้การให้นมสลับกับการให้นมจากอกแม่ได้อย่างราบรื่น ไม่สับสน และมีความสะดวกสบายยิ่งขึ้น

              นางสาวสุวรรณา โชคดีอนันต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มุ่งพัฒนา อินเตอร์แนชชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์แบรนด์ พีเจ้น แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย กล่าวว่า “น้ำนมแม่มีปริมาณและส่วนประกอบที่เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตและพัฒนาการของเด็ก เพราะในน้ำนมแม่ประกอบไปด้วยโปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต และวิตามินต่างๆ ที่ช่วยให้ร่างกายของเด็กได้รับภูมิคุ้มกัน สารอาหารที่สำคัญและเพียงพอต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการ จึงทำให้พีเจ้นให้ความสำคัญ และใส่ใจเป็นอย่างมากต่อการวิจัย และพัฒนาทุกผลิตภัณฑ์ เพื่อสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยน้ำนมแม่มาอย่างต่อเนื่อง ยาวนานกว่า 60 ปี พีเจ้นเข้าใจถึงความสำคัญของการดูแลทารกและเด็กเล็ก พร้อมให้ความช่วยเหลือคุณแม่ในการดูแลลูกในทุกช่วงวัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงแรกของเส้นทางการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เราจึงเปิดตัวผลิตภัณฑ์จุกนมนวัตกรรมรุ่นใหม่ล่าสุด SofTouch ขึ้น โดยคิดค้นวิจัยจากพฤติกรรมการดูดนมของลูกน้อย เพื่อให้ผลิตภัณฑ์จุกนมพีเจ้น ช่วยส่งเสริมและสนับสนุนให้แม่ยุคใหม่สามารถเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้อย่างราบรื่นตลอดระยะเวลาการให้นมแม่ เพราะน้ำนมแม่เป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดสำหรับลูกน้อย ที่เราควรสนับสนุนส่งเสริมให้คุณแม่ได้รับความสะดวกมากขึ้นในการให้นมแม่ในวิถีการใช้ชีวิตยุคปัจจุบัน

               

              นายซาโตชิ โคยามะ นักออกแบบผลิตภัณฑ์อาวุโส สายงานวิจัยและพัฒนา พีเจ้น คอร์ปอเรชั่น เผยผลการวิจัยของ    พีเจ้น ประเทศญี่ปุ่น ที่ระบุว่าทารกที่กินนมแม่จะมีพฤติกรรมตามธรรมชาติที่จะใช้ริมฝีปากครอบบริเวณจุกนมจนถึงลานนม และสามารถดูดนมแม่เข้าไปในปากได้ลึกในตำแหน่งที่เหมาะสม และแนบกับเต้านมของแม่ ป้องกันการรั่วไหลของน้ำนม นอกจากนี้ยังพบว่าหัวนมของแม่สามารถยืดออกได้มากกว่าความยาวปกติในจังหวะการดูดนมของของทารก ดังนั้น พีเจ้น จึงได้ทำการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมจุกเสมือนนมมารดา  SofTouch รุ่นใหม่ เจนเนอเรชันที่ 3 เพื่อเลียนแบบการเคลื่อนไหวการดูดนมตามธรรมชาติของทารก ตั้งแต่การอม รีด และกลืน เมื่อดูดนมจากอกแม่ โดยออกแบบให้มี “Latch-on Line” หรือ เส้นกำหนดตำแหน่งริมฝีปาก เพื่อบ่งบอกระดับความลึกที่ทารกควรดูดนมโดยประมาณ มาพร้อมโครงสร้างของจุกนม ที่ช่วยให้ทารกสามารถดูดน้ำนมได้ง่ายขึ้น ซึ่งจุกนม SofTouch รุ่นใหม่ จะยังคงอยู่ในตำแหน่งเดียวกับการให้นมจากอกแม่ เพื่อเพิ่มการดูดนมที่ดีและมีประสิทธิภาพไม่ว่าทารกจะมีขนาดปากที่แตกต่างกัน

              นอกจากนี้จุกเสมือนนมมารดา SofTouch รุ่นใหม่ยังใช้ซิลิโคนที่นุ่มขึ้น เพื่อช่วยให้ลิ้นของทารกเคลื่อนไหวได้อย่างราบรื่น และนุ่มนวล อีกทั้งจุกนมจะเปลี่ยนรูปตามจังหวะการดูด เพื่อไม่ให้ขัดขวางและช่วยการเคลื่อนไหวของลิ้นตามธรรมชาติของทารก โดยได้รับการออกแบบอย่างตั้งใจให้ใกล้เคียงกับความนุ่มของเต้านมแม่มากที่สุด ช่วยให้การสลับระหว่างการให้นมจากอกแม่และการให้นมผ่านขวดนมของพีเจ้น เป็นไปอย่างราบรื่นมากยิ่งขึ้น และสามารถใช้ร่วมกับกลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับแม่และเด็กอื่นๆ ของพีเจ้น ได้อย่างครบวงจร เช่น อุปกรณ์ปั๊มนม ถุงเก็บน้ำนม และผลิตภัณฑ์สำหรับล้างและทำความสะอาดขวดนม เป็นต้น เพื่อสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดจากพีเจ้น”

              นอกเหนือจากนวัตกรรมจุกนมรุ่นใหม่ พีเจ้น ยังคงเดินหน้าแผนการตลาด และสร้างสรรค์กิจกรรม เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคุณแม่ยุคใหม่ ด้วยการเปิดตัว Howapipi (โฮวาปีปี้) แมสคอตของแบรนด์เป็นครั้งแรกในประเทศไทย ด้วยคาแรคเตอร์ที่อ่อนโยน อบอุ่น แสนน่ารักในโทนสีขาว-เทา ซึ่งจะปรากฏบนผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของพีเจ้น เช่น ขวดนมสีชา วัสดุ PPSU ที่มีคุณภาพสูง ได้รับความนิยม และไว้วางใจสูงสุดในกลุ่มแม่ยุคใหม่ เพื่อเพิ่มความสดใส และความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น โดยจุกเสมือนนมมารดา SofTouch ได้เริ่มวางจำหน่ายแล้วในเดือนมีนาคม และขวดนม PPSU ลาย Howapipi จะเริ่มวางจำหน่ายในช่วงเดือนเมษายนทั่วประเทศ

              นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมุ่งเน้นการพัฒนาความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้าผ่าน Pigeon Little Moments Club ครอบคลุมทุกแพลตฟอร์มการใช้งานทั้งออนไลน์ และออฟไลน์ เพื่อเข้าถึง และเข้าใจคุณแม่ยุคใหม่ พร้อมช่วยตอบสนองความต้องการของคุณแม่ตลอดเส้นทางการดูแลลูกน้อยในทุกวันๆ

              คุณแม่ยุคใหม่ที่สนใจ สามารถสอบถามข้อมูลผลิตภัณฑ์ของพีเจ้น ติดตามความเคลื่อนไหว หรือปรึกษาเพิ่มเติมได้ที่ ผู้เชี่ยวชาญพีเจ้น 02-020-8989 หรือ www.pigeonlittlemomentsclub.com หรือทาง FB/ Line: pigeonlittlemomentsclub และสามารถหาซื้อผลิตภัณฑ์ของพีเจ้นได้แล้ววันนี้ ในซูเปอร์มาร์เก็ต ไฮเปอร์มาร์เก็ต ห้างสรรพสินค้า ร้านขายสินค้าแม่และเด็กชั้นนำทั่วประเทศ หรือสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ที่ Pigeon Official store บนแพลตฟอร์ม Lazada และ Shopee หรือ Line Shopping : Moongshop และ www.Moongshop.com

                รวมเว็บไซต์และแอป อ่านการ์ตูนออนไลน์ อ่านสนุก ถูกลิขสิทธิ์

                รวมเว็บไซต์และแอป อ่านการ์ตูนออนไลน์ อ่านสนุก ถูกลิขสิทธิ์

                อ่านการ์ตูนออนไลน์ เป็นความบันเทิงบนเว็บไซต์และแอปพลิเคชันที่ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะเนื้อเรื่องสนุกน่าอ่านชวนติดตาม ภาพและลายเส้นสวยงามคมชัด สามารถอ่านจากที่ไหนก็ได้ มีทั้งการ์ตูนอ่านฟรีและการ์ตูนที่ต้องเสียเงินซื้อในราคาที่ไม่แพงให้เลือกอ่าน เนื้อเรื่องมีหลากหลายแนวเลือกได้ตามความชื่นชอบ ทดลองอ่านเรื่องที่สนใจได้ กดอ่านและติดตามการ์ตูนได้หลาย ๆ เรื่องในเวลาเดียวกัน รวมถึงเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันเองมีการแจ้ง update กระตุ้นให้คอยติดตามความสนุกอย่างต่อเนื่อง

                รวมเว็บไซต์และแอป อ่านการ์ตูนออนไลน์ อ่านสนุก ถูกลิขสิทธิ์

                รวมเว็บไซต์และแอป อ่านการ์ตูนออนไลน์ อ่านสนุก ถูกลิขสิทธิ์

                ข้อควรรู้ก่อนอ่านการ์ตูนออนไลน์

                การ์ตูนออนไลน์มีเนื้อหาที่หลากหลายแบบ มีความแตกต่างจากการ์ตูนที่เป็นเล่มหนังสือ รวมถึงการ์ตูนออนไลน์ในเว็บไซต์และแอปพลิเคชันที่ได้รับความนิยมในประเทศไทยมักมาจากหลาย ๆ ประเทศ จึงมีข้อควรรู้เล็ก ๆ น้อย ๆ ก่อนติดตามอ่านหรือเข้าไป comment ในกลุ่มนักอ่านการ์ตูน ดังนี้

                • การ์ตูนญี่ปุ่น หรือ มังงะ (Manga) เป็นคำเรียกหนังสือการ์ตูนของญี่ปุ่น ได้รับความนิยมจากผู้อ่านชาวไทยมายาวนาน บนเว็บไซต์และแอปพลิเคชันออนไลน์ ในกลุ่มนักอ่านจะใช้คำว่า “มังงะ” เรียกการ์ตูนที่ตัวเรื่องต้นฉบับมาจากประเทศญี่ปุ่น
                • การ์ตูนเกาหลี หรือ มันฮวา (Manhwa) โดดเด่นด้วยลายเส้นทันสมัย สวยงาม เนื้อเรื่องผูกเค้าโครงซ่อนปมและนำไปสร้างเป็นซีรีส์ด้วย บนเว็บไซต์และแอปพลิเคชันออนไลน์ ในกลุ่มนักอ่านจะใช้คำว่า “มันฮวา” เรียกการ์ตูนที่ตัวเรื่องต้นฉบับมาจากประเทศเกาหลีใต้
                • การ์ตูนจีน หรือ มันฮัว (Manhua) เอกลักษณ์คือมีลายเส้นสวยละมุน ให้ความรู้สึกสวยงามตระการตาแบบจีนโบราณ บนเว็บไซต์และแอปพลิเคชันออนไลน์ ในกลุ่มนักอ่านจะใช้คำว่า “มันฮัว” เรียกการ์ตูนที่ตัวเรื่องต้นฉบับมาจากประเทศจีน
                • การ์ตูนจากประเทศตะวันตก หรือ คอมิกส์ (Comics) เป็นคำเรียกหนังสือการ์ตูนของสหรัฐอเมริกาและยุโรป ลายเส้นเป็นเอกลักษณ์ เนื้อเรื่องดำเนินเร็ว ไม่ซับซ้อน
                • อ่านจากบนลงล่าง (Scroll Down) โดยบนเว็บไซต์และแอปพลิเคชันส่วนใหญ่จะให้อ่านการ์ตูนจากบนลงล่าง มีบ้างที่บางเว็บไซต์ให้อ่านจากขวาไปซ้าย (อ่านตามต้นฉบับการ์ตูนญี่ปุ่น update ใหม่ ๆ) หรือจากซ้ายไปขวาในการ์ตูนเก่า ๆ (ทำตามต้นฉบับเดิมที่แปลไว้ โดยให้เหมาะกับคนไทยที่อ่านหนังสือจากซ้ายไปขวา ซึ่งปัจจุบันสำนักพิมพ์ไม่ทำแล้ว)
                • สปอยล์ (Spoil) นักอ่านการ์ตูนจะเอามาใช้ในความหมายว่า “เอาเรื่องมาเล่าให้ฟัง” เป็นการบอกจุดสำคัญ จุดหักเห ของการ์ตูนเรื่องนั้น ๆ ทำให้คนที่ยังไม่ได้อ่านเรื่องราวล่วงหน้าเมื่อเจอสิ่งที่เล่าไป อาจส่งผลให้ความตื่นเต้นในการอ่านการ์ตูนลดลง ถ้าไม่มีผลกระทบต่อเนื้อเรื่องก็ไม่ถือว่าสปอยล์ โดยส่วนที่สำคัญและพบมากคือ การ comment โดยมีเนื้อหาการพูดคุยที่มีการเปิดเผยส่วนสำคัญของเรื่องนั้น ๆ ดังนั้นจึงต้องมีการแจ้งว่า “สปอยล์ (Spoil)” ก่อนที่จะ comment ใด ๆ ที่เปิดเผยเนื้อหาสำคัญ ถือว่าเป็นมารยาทในการ comment และอ่านการ์ตูน
                • เรท (Rate) การจัดประเภทเนื้อหาตามอายุ จุดประสงค์เพื่อกำหนดความเหมาะสมของการอ่านและรับชมสำหรับเด็กและเยาวชน เช่น

                12+ แปลว่า แอปพลิเคชันในประเภทนี้อาจมีการใช้ภาษาที่ไม่เหมาะสมอยู่บ้างในบางครั้ง อาจมีเนื้อหาที่แสดงถึงความรุนแรงในรูปแบบที่เป็นการ์ตูน แฟนตาซี หรือเรื่องจริงบ่อยครั้ง และอาจมีเนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่ การชี้นำทางเพศ การจำลองสถานการณ์การเล่นพนันอยู่บ้างบางกรณี ซึ่งเนื้อหาดังกล่าวอาจไม่เหมาะสมสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี

                17+ แปลว่า ต้องมีอายุอย่างน้อย 17 ปี จึงจะสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันนี้ได้ โดยแอปในประเภทนี้อาจมีการใช้ภาษาที่แสดงถึงความรุนแรงและหยาบคายบ่อยครั้ง อาจมีเนื้อหาที่แสดงถึงความรุนแรงในรูปแบบที่เป็นการ์ตูน แฟนตาซี หรือเรื่องจริง เนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่ สยองขวัญ และการชี้นำทางเพศบ่อยครั้ง ซึ่งรวมถึงเนื้อหาที่สื่อถึงเรื่องทางเพศ ภาพเปลือย แอลกอฮอล์ บุหรี่ และยาเสพติด ซึ่งเนื้อหาดังกล่าวอาจไม่เหมาะสมสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 17 ปี

                ดังนั้นนักอ่านสามารถเลือกอ่านการ์ตูนที่ชอบ เนื้อเรื่องที่ใช่ อ่านได้ง่าย ๆ จากเว็บไซต์และแอปพลิเคชันที่มีให้เลือกมากมาย ทั้งนี้นักอ่านแต่ละคนต่างมีความคิดเห็น แนวคิด หรือเรื่องที่สนใจไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับความชอบและความพึงพอใจ โดยสิ่งสำคัญที่ได้รับจากการอ่านการ์ตูนคือ อ่านเพื่อความบันเทิง ผ่อนคลาย อ่านแล้วสนุก ได้แรงบันดาลใจที่ดีจากการ์ตูนเรื่องนั้น ๆ

                 

                รวมเว็บไซต์และแอปอ่านการ์ตูนออนไลน์ อ่านสนุก ถูกลิขสิทธิ์

                1. LINE WEBTOON

                แอปพลิเคชันยอดฮิตสำหรับอ่านการ์ตูนออนไลน์และที่สำคัญคือฟรี ควรค่าแก่การติดตั้งไว้ในมือถือเป็นอย่างยิ่ง มีการ์ตูนสนุก ๆ ให้อ่านฟรีมากมาย ลงอัพเดทให้อ่านทุกวันแบบไม่ซ้ำ ซึ่งปกติแล้วการ์ตูนทุกเรื่องบนแอปนี้จะเปิดให้อ่านฟรีและจะมีอัพเดทตอนใหม่ตามตารางประจำวันทุกสัปดาห์ ถ้าหากว่าใจร้อนไม่อยากให้อารมณ์ขาดตอนก็สามารถจ่ายเงินแลกเหรียญเพื่ออ่านก่อนได้โดยไม่ต้องรอ

                ภาษา: ภาษาไทย อ่านจากบนลงล่าง (Scroll down) ทั้งมือถือและ Desktop

                ช่องทางการอ่าน: สามารถดาวน์โหลดและติดตั้งแอปได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายบนมือถือทั้งระบบ iOS และ Android เมื่อติดตั้งเรียบร้อยแล้วเข้าไป Log in โดยใช้บัญชี Email, Facebook, Twitter หรือ Line หรือสามารถอ่านบนเว็บไซต์จาก Desktop ได้

                เรื่องเด่นแนะนำ: อยู่ ๆ ฉันก็กลายเป็นเจ้าหญิง, ชาตินี้ก็ฝากด้วยนะ, การแต่งงานครั้งใหม่ของจักรพรรดินี, เสือดำขย้ำหัวใจ, แด่รักแรกของฉัน, สามีคนนี้แจกฟรีให้เธอ  

                เว็บไซต์อ้างอิง 1: https://www.webtoons.com/th/

                เว็บไซต์อ้างอิง 2: https://www.facebook.com/LINEWEBTOONTH/

                รวมเว็บไซต์และแอป อ่านการ์ตูนออนไลน์ อ่านสนุก ถูกลิขสิทธิ์

                อ้างอิงรูปภาพ: https://apps.apple.com/th/app/webtoon-comics/id894546091?l=th

                 

                1. KAKAO WEBTOON

                แอปพลิเคชันอ่านการ์ตูนมันฮวาหรือการ์ตูนเกาหลี ที่มี original story เป็นของตัวเอง และถูกนำไปสร้างเป็นซีรีส์มากมาย ใช้งานสะดวก ให้บริการแบบ “รออ่านฟรี” รวมถึงมี ”ตั๋วของขวัญ” แจกฟรีในเมนู “กล่องของขวัญ” ทำให้สามารถเข้าไปอ่านได้ทันทีโดยไม่ต้องรอ แต่ละเรื่องจะมีการแจกตั๋วอ่านฟรีจำนวนแตกต่างกัน เช่น บางเรื่องแจก 1 ตั๋ว ทุก ๆ 2 ชั่วโมง บางเรื่องแจก 1 ตั๋ว ทุก ๆ 3 วัน บางเรื่องแจก 2 ตั๋ว ทุก ๆ 7 วัน ตามแต่ที่แอปกำหนด การใช้ตั๋วอ่านฟรีเข้ามาเช่าอ่าน จะมีระยะเวลาจำกัดให้อ่านได้ 3 วัน หลังจากนั้นถ้าอยากอ่านอีกต้องหาตั๋วฟรีมาเช่าอีกครั้ง ส่วนรูปแบบการ์ตูนจะแบ่งออกมาเป็นตอน ๆ  โดยมีลำดับในการปล่อยให้อ่านที่ชัดเจนว่าจะปล่อยออกมาทุกกี่ชั่วโมง กี่วัน จะได้ติดตามอ่านต่อ ถ้าต้องการความสนุกแบบต่อเนื่องอยากรู้เรื่องตอนถัดไป สามารถเติม Cash เพื่อแลกตั๋วเช่าอ่านตอนต่อไปได้ในราคาเบา ๆ โดยการ์ตูนในแอปทุกเรื่องจะอ่านฟรีได้ตามกำหนด ยกเว้น 10 ตอนสุดท้ายที่ต้องเติม Cash เพื่อแลกตั๋วเช่า ถึงจะได้อ่านจนจบ โดยตั๋วเช่าจะมีระยะเวลาให้อ่าน 365 วัน หรือประมาณ 1 ปี อยากอ่านตอนไหน กี่ครั้ง ภายในระยะเวลานี้ สามารถทำได้เลย

                ภาษา: ภาษาไทย อ่านจากบนลงล่าง (Scroll Down) ทั้งมือถือและ Desktop

                ช่องทางการอ่าน: สามารถดาวน์โหลดและติดตั้งแอปได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายบนมือถือทั้งระบบ iOS และ Android เมื่อติดตั้งเรียบร้อยแล้วเข้าไป Log in โดยใช้บัญชี Email, Facebook, Twitter หรือ Line หรือสามารถอ่านบนเว็บไซต์จาก Desktop ได้

                เรื่องเด่นแนะนำ:  Solo Leveling, ท่านพ่อ ลูกไม่อยากแต่งงาน!, รีเทิร์นรัก กับคุณภรรยา, สัตว์ปีกสยองขวัญ, อันธพาลแห่งตระกูลเคานต์, นางร้ายหุ่นเชิด

                เว็บไซต์อ้างอิง 1: https://th.kakaowebtoon.com/

                เว็บไซต์อ้างอิง 2: https://www.facebook.com/kakaowebtoon.th/

                รวมเว็บไซต์และแอป อ่านการ์ตูนออนไลน์ อ่านสนุก ถูกลิขสิทธิ์

                อ้างอิงรูปภาพ: https://apps.apple.com/th/app/kakao-webtoon/id1567193116

                 

                1. Comico

                แอปที่เปิดให้อ่านการ์ตูนชั้นนำจากญี่ปุ่น เกาหลี ไต้หวัน มีการ์ตูนหลากหลายแนว ทั้งแนวต่อสู้ แฟนตาซี แนวโรมานซ์ หลงมิติ คอมเมดี้ แนวดราม่า แนว Boy Love โดยการจะเข้าอ่านการ์ตูนได้ต้องใช้ Pass ในการอ่าน ซึ่งสามารถได้ Pass ง่าย ๆ จากกล่องของขวัญ ถ้าเป็นในแอป ก็สามารถรับของขวัญได้จากการทำกิจกรรม แต่สำหรับใครที่สายเปย์ อ่านแล้วติดใจ อยากอ่านต่อทันที ก็สามารถเช่าหรือซื้อตอนนั้น ๆ โดยเติม Coins ซึ่งต้องซื้อผ่านตัวแอป

                ภาษา: ภาษาไทย อ่านจากบนลงล่าง (Scroll Down) ทั้งมือถือและ Desktop

                ช่องทางการอ่าน: สามารถโหลดและติดตั้งแอปได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายบนมือถือทั้งระบบ iOS และ Android เมื่อติดตั้งเรียบร้อยแล้วเข้าไป Log in โดยใช้บัญชี Email, Facebook, Twitter หรือ Line หรือสามารถอ่านบนเว็บไซต์จาก Desktop ได้

                เรื่องเด่นแนะนำ: Stranger, ข้ามภพสยบแค้น, ADONIS ข้ามลิขิตรักอัศวิน, เอลิเซ่ แพทย์หญิงทะลุมิติ, บัลลังก์แค้นจักรพรรดินี, Sweet Baby

                เว็บไซต์อ้างอิง 1: https://www.comico.in.th/

                เว็บไซต์อ้างอิง 2: https://www.facebook.com/comicoTH/?locale=th_TH

                อ่านการ์ตูน

                อ้างอิงรูปภาพ: https://apps.apple.com/th/app/comico

                 

                1. WeComics TH

                แอปอ่านการ์ตูนแปลไทยลิขสิทธิ์แท้จากจีน เกาหลี ญี่ปุ่น และไทย สไตล์การ์ตูนมีให้เลือกหลากหลายแนวทั้งแนวต่อสู้ โรแมนติก แฟนตาซี โดยแอปจะ update ตอนเรื่อย ๆ และมีประกาศแจ้ง update แต่ละเรื่องว่า up ตอนใหม่ทุกวันอะไร สำหรับการอ่านตอนแรก ๆ จะให้อ่านฟรีเป็นการทดลองอ่านและดูความชอบ ถ้าติดใจก็สามารถซื้ออ่านโดยใช้เหรียญปลดล็อกหรือใช้ดาวปลดล็อกเพื่อจะได้อ่านตอนต่อไปได้โดยไม่ขาดตอน โดยเหรียญพวกนี้สามารถได้จากการเติมเงินซื้อหรือสามารถรับเป็นดาวสะสมได้ที่หน้ากิจกรรมจากการร่วมกิจกรรมตามที่แอปกำหนด แนะนำว่าถ้าไม่ใช่สายเปย์ การเข้าร่วมกิจกรรมรับดาวก็สนุกสนานดีแถมได้ดาวฟรีไว้อ่านการ์ตูนจากแอปโดยไม่ต้องเสียเงินด้วย

                ภาษา: ภาษาไทย อ่านจากบนลงล่าง (Scroll Down) ทั้งมือถือและ Desktop

                ช่องทางการอ่าน: สามารถดาวน์โหลดและติดตั้งแอปได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายบนมือถือทั้งระบบ iOS และ Android เมื่อติดตั้งเรียบร้อยแล้วเข้าไป Log in โดยใช้บัญชี Email, Facebook, Twitter หรือ Line หรือสามารถอ่านบนเว็บไซต์จาก Desktop ได้

                เรื่องเด่นแนะนำ: เหมันต์นิรันดร, พระเอกของฉันเป็นท่านดยุค, เจ้าหญิงสัญญาปีศาจ, ขอโทษที พอดีไม่ใช่นางเอก, อลวนรักจักรพรรดินี, เสียงรำพันแห่งอันธการ

                เว็บไซต์อ้างอิง 1: https://www.wecomics.in.th/

                เว็บไซต์อ้างอิง 2: https://www.facebook.com/WeComicsTH/

                อ่านการ์ตูน

                อ้างอิงรูปภาพ: https://apps.apple.com/th/app/wecomics-th-webtoon/id979856509

                 

                1. Bongkoch – Toon Free

                เว็บไซต์ที่มีการ์ตูนเฉพาะจากสำนักพิมพ์บงกชให้อ่านฟรี การ์ตูนส่วนใหญ่จะมาจากญี่ปุ่นและไทย เป็นการ์ตูนแนวโรแมนติกหรือวัยรักวัยรุ่นที่นักอ่านสาว ๆ ชื่นชอบ มีให้อ่านได้ทั้งแบบฟรีและแบบเสียเงิน โดยแบบฟรีจะแบ่งเป็น แจกฟรี ฟรีจำกัดเวลา และฟรีเฉพาะเล่มแรก ส่วนแบบเสียเงินก็จะมีตัวอย่างให้โหลดมาลองอ่าน ถ้าชอบหรือโดนใจสามารถตามไปซื้อการ์ตูนในรูปแบบอีบุ๊กต่อได้ใน Bongkoch eBook Store ตามที่เว็บไซต์แจ้งไว้ โดยสามารถดาวน์โหลด app “Bongkoch eBook Store” ฟรีผ่าน App store ทั้ง iOS และ Android

                ภาษา: ภาษาไทย เฉพาะการ์ตูนเก่าจะอ่านจากซ้ายไปขวา ส่วนการ์ตูนออกใหม่จะอ่านจากขวาไปซ้ายตามต้นฉบับจากญี่ปุ่น

                ช่องทางการอ่าน: อ่านบนเว็บไซต์จาก Desktop หรือมือถือได้โดยไม่ต้อง Log in

                เรื่องเด่นแนะนำ: เพื่อนร่วมชั้น, BEAUTY บิวตี้, คาเรนอัศวินที่รัก, รักเธอเกินห้ามใจ, สีสันรักฤดูร้อน, จิฮายะ, มัดหัวใจเจ้าชายเย็นชา

                เว็บไซต์อ้างอิง 1: https://www.toonfree.bongkoch.com/

                เว็บไซต์อ้างอิง 2: https://www.facebook.com/Toonfreefanpage/

                อ่านการ์ตูน

                อ้างอิงรูปภาพ: www.facebook.com/photo/?fbid=721722522567548&set=a.721722492567551

                 

                อ่านต่อ.. รวมเว็บไซต์และแอป อ่านการ์ตูนออนไลน์ อ่านสนุก ถูกลิขสิทธิ์ ..ได้ที่หน้า 2

                เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                  ทรงผมเล่นน้ำสงกรานต์ สวยเป๊ะ ไม่กระเซิง

                  ทรงผมเล่นน้ำสงกรานต์ สวยเป๊ะ ไม่กระเซิง

                  สงกรานต์เป็นเทศกาลขึ้นปีใหม่ตามประเพณีของไทย เป็นเทศกาลที่มีชื่อเสียงเรื่องการเล่นน้ำ สาดน้ำ ที่ทั้งคนไทยและต่างชาติมาร่วมสนุกกัน นอกจากนี้ยังเป็นช่วงเวลาของแฟชั่นและการถ่ายรูปที่น่าตื่นเต้น ดังนั้นสำหรับบรรดาสาว ๆ เรื่องหนึ่งที่มองข้ามไปไม่ได้นอกเหนือจากเครื่องสำอางกันน้ำ จึงเป็นเรื่องทรงผม ทรงผมเล่นน้ำสงกรานต์ เวลาเปียกน้ำต้องไม่ดูมะล่อกมะแล่ก หรือกระเซิงไม่เป็นทรง เพื่อจะได้เสริมสร้างบุคลิกภาพให้ดูดี คงความน่าประทับใจ ให้เก็บรูปภาพความทรงจำออกมาสวยและสดใส เพิ่มรอยยิ้มระหว่างงานเทศกาลให้ไม่ขาดไปจากใบหน้า สร้างความมั่นใจแก่ผู้หญิงตลอดงานเทศกาลช่วงวันหยุดยาวนี้

                  ทรงผมเล่นน้ำสงกรานต์ สวยเป๊ะ ไม่กระเซิง

                  ทรงผมเล่นน้ำสงกรานต์ สวยเป๊ะ ไม่กระเซิง

                  ทรงผมที่เหมาะสมกับการเล่นน้ำสงกรานต์

                  สไตส์ทรงผมเพื่อความทะมัดทะแมง ให้การเล่นน้ำไม่สะดุด ไม่กลัวโดนทักว่าเปียกลู่จนหน้าตาดูไม่ได้ ในที่นี้ขอนำเสนอไว้ 2 รูปแบบ คือ

                  • การถักเปีย ต้องใช้หวีเพื่อแยกผมออกเป็นส่วน ๆ มียางรัดผมเพื่อยึดปลายผมเปีย และอาจต้องใช้กิ๊บติดผมเพื่อยึดผมเปียให้เข้าที่ หรือถ้าต้องการความเก๋ไก๋มากขึ้นก็อาจจะถักเปียที่มีความซับซ้อน  
                  • การเกล้าผม ต้องใช้หวี ยางรัดผม ที่หนีบผม หรือกิ๊บติดผม

                   

                  อุปกรณ์การจัดแต่งทรงผมที่ควรมีไว้หรือพกติดตัว

                  • หวี: เครื่องมือสำคัญในการจัดแต่งทรงผม เพราะจะช่วยแยกผมออกเป็นส่วน ๆ ใช้จัดการกับปมหรือผมที่ยุ่งเหยิงให้เรียบสวยสลวยได้ และหวีถือว่าจำเป็นอย่างยิ่งในการถักเปีย ทำให้แบ่งผมออกเป็นช่อ ๆ และถักเปียได้เป็นระเบียบเรียบร้อย
                  • ยางรัดผม: เครื่องมือง่าย ๆ แต่อเนกประสงค์ที่สามารถใช้รัดปลายผมเปีย มัดผมหางม้า หรือทำทรงผมเกล้าแบบอื่น ๆ ในช่วงสงกรานต์ ยางรัดผมสามารถช่วยให้ผมอยู่ทรงและป้องกันไม่ให้ผมกระเซิงระหว่างการเล่นน้ำ
                  • กิ๊บ: ช่วยเก็บลูกผมหรือเส้นผมที่ไม่สามารถเก็บทรงด้วยยางรัดผมให้เข้าที่ และทำให้ผมที่เกล้าแน่นขึ้นได้ เผื่อระหว่างเล่นน้ำและออกท่าทางต่าง ๆ ผมเกล้าที่จัดทรงไว้แล้วเกิดคลายออกหรือรุ่ยร่ายลงมา
                  • ตัวหนีบผม: เพื่อเอาไว้แบ่งทรงผมขณะจัดทรง หรือว่าเอาไว้หนีบเก็บผมหากทรงผมที่ทำไว้คลายตัว กรณีที่มีลวดลายสวยงาม อาจนำมาหนีบกับผมได้ด้วยเพื่อใช้เป็นเครื่องประดับ
                  • สเปรย์: ขวดสเปรย์น้ำ หรือการแบ่งสเปรย์น้ำใส่ขวดเล็ก ๆ พกไว้สามารถนำมาใช้กับผมได้ อาจจะเหมาะสำหรับฉีดหลังเล่นน้ำแล้ว ถ้าต้องไปกินเลี้ยงสังสรรค์ต่อ สามารถนำมาฉีดใส่ผมได้เมื่อผมหมาดขึ้นเพื่อจัดทรงให้อยู่ดี กินเลี้ยงสังสรรค์ปาร์ตี้ได้สุขกายสบายใจว่ารูปถ่ายปังกว่าเพื่อนแน่นอน
                  • ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผม: บางคนอาจจะสะดวกที่จะใช้แว็กซ์ผม หรือเจลจัดแต่งทรงผมเพิ่มเข้าไปเพื่อเซ็ตให้ผมอยู่ทรง โดยเฉพาะถ้าไม่ได้โดนน้ำสาดแบบถังใหญ่ แค่ปืนฉีดน้ำ การแอบจัดทรงแบบมีตัวช่วยนี้ก็เป็นเทคนิคให้สวยเฉิดฉายกว่าคนอื่น
                  • ผ้าขนหนูผืนเล็ก: อาจพกผ้าขนหนูผืนเล็กเท่าผ้าเช็ดหน้าเอาไว้สำหรับเช็ดผมกรณีพักยกการเล่นน้ำ หรือว่าต้องการไปสังสรรค์ต่อที่อื่น นำมาแตะเช็ดผมให้หมาด หากมีพกไว้ทำให้ผมแห้งเร็ว ช่วยลดโอกาสที่จะเป็นหวัด แถมยังเอามาซับน้ำที่เปียกตามตัวได้ด้วย

                  5 สไตส์ผมเปีย เล่นน้ำสวยเช้ง

                  • ผมเปียแบบ Pipe Braid 

                  ผมเปียแบบสมดุลที่จัดทรงให้ผมดูมีน้ำหนัก เก็บผมทั้งหมดไว้เรียบร้อยนำมาไว้ที่กลางศีรษะด้านหลังเป็นเปียเดี่ยว จะมีทรงเหมือนเป็นท่อนผูกยาวลงมา ดูทะมัดทะแมง เหมาะสำหรับสาวผมยาวเกินช่วงไหล่ 

                  ขั้นตอนการทำผม:

                  1. เริ่มต้นด้วยการแปรงผมเพื่อขจัดความยุ่งเหยิงและปมต่าง ๆ 
                  2. จัดผมเป็นช่อตรงกลางคล้ายกับจะผูกหางม้าครึ่งหัว
                  3. นำผมส่วนเล็ก ๆ จากด้านหนึ่งมาอ้อมพันผมที่จัดช่อเหมือนหางม้า พันรอบผมหางม้าสองรอบ
                  4. นำผมส่วนเล็ก ๆ จากอีกด้านมาเป็นส่วนหนึ่งของการทบสลับไปมาเหมือนกับเปียธรรมดา
                  5. สลับไปที่ศีรษะอีกด้าน นำผมอีกปอยมาจากอีกด้านเพื่อมาทบสลับไปมาเหมือนเปียให้เกิดสมดุลจากการใช้ผมทั้งสองข้าง
                  6. ทำซ้ำขั้นตอนที่ 4 และ 5 สลับข้างไปมา เมื่อถักผมด้วยวิธีนี้ไปเรื่อย ๆ จะเห็นว่าผมถูกเก็บมาไว้ที่ตรงกลางของศีรษะด้านหลังยึดกับช่อกลางที่เป็นหางม้า
                  7. ถักเปียต่อจนสุดปลายผม แล้วรัดผมเปียด้วยยางรัดผมหรือยางยืดผม
                  8. สามารถลองเพิ่มส่วนต่อผมที่มีสีหรือแวววาวขณะที่ถักเปีย จะเพิ่มความเก๋ขึ้นได้เมื่อจัดทรงผมเสร็จ
                  9. สามารถจัดทรงด้วยหวีที่ผมส่วนหน้า ดึงให้โป่งขึ้นได้ 

                  ทรงผมเล่นน้ำสงกรานต์ สวยเป๊ะ ไม่กระเซิง

                  Photo & Youtube Link: https://www.youtube.com/watch?v=097u_1HiUMo

                   

                  1. ผมเปียแบบ Dutch Braid 

                  ผมเปียแบบเก็บเข้าข้างศีรษะทั้งสองข้าง เหมาะสำหรับผู้มีผมยาวระดับประบ่า หรือหากผมสั้นก็สามารถทำได้ แต่อาจจะเก็บผมเข้ามาได้ไม่ทั้งหมด ผมทรงนี้ช่วยเปิดเผยวงหน้าให้ชัด และดูน่ารักโดยไม่ต้องไปร้านทำผมจากเปียที่จะเห็นได้ชัดจากทั้งด้านหน้าและด้านข้าง ผมทรง Ductch Braid จะเน้นการเห็นแนวเปียที่ชัดเจน

                  ขั้นตอนการทำผม:

                  1. แบ่งผมเป็นสองฝั่ง นำตัวหนีบผม หนีบผมด้านหนึ่งแยกไว้ก่อน
                  2. ผมด้านที่พร้อมจะจัดทรง ให้จับขึ้นมาเป็นช่อ ดูด้วยสายตาแนวเส้นผมที่จัดช่อจะทำมุมสามเหลี่ยมเมื่อเทียบกับเส้นกลางศีรษะที่แบ่งครึ่งผม กรอบใบหน้าด้านหน้า และหากลองดึงช่อผมปัดไปอีกด้านก็จะเห็นว่าทำมุมสามเหลี่ยมกับเส้นผมฝั่งที่กำลังจัดทรงอยู่
                  3. แบ่งช่อผมที่จับไว้เป็นสามส่วน ส่วนที่อยู่บนสุดให้พันไขว้ไปด้านใต้ปอยผมที่จับไว้และเป็นปอยผมอันกลาง เน้นเลยว่าต้องนำปอยผมที่จับไว้สลับไขว้ไปด้านใต้ปอยผมอีกอันเสมอ
                  4. นำปอยผมที่อยู่ด้านล่างสุด ใกล้กรอบหน้า ไปพันไขว้ด้านใต้ปอยผมที่อยู่ตรงกลาง
                  5. เมื่อจับปอยผมด้านบนจะไขว้พันมาทางด้านใต้ของปอยผมตรงกลางอีกครั้ง ให้จับดึงช่อผมด้านในใกล้แนวเส้นแบ่งกลางศีรษะที่ยังไม่ได้รวมเข้ามาจัดทรงมารวมด้วย
                  6. เมื่อจับปอยผมด้านล่างจะไขว้พันมาทางด้านใต้ของปอยผมตรงกลางอีกครั้ง ให้จับดึงช่อผมที่ทิ้งตัวด้านนอกใกล้กรอบใบหน้าที่ยังไม่ได้รวมเข้ามาจัดทรงมารวมด้วย
                  7. ทำซ้ำขั้นตอนที่ 5 และ 6 สลับไปมาจนสุดความยาวผมหรือได้ระดับความยาวตามต้องการ
                  8. รัดผมเปียด้วยยางรัดผมหรือยางยืดผม จากนั้นทำเหมือนกันกับผมที่แบ่งไว้อีกข้าง

                  ทรงผมเล่นน้ำสงกรานต์ สวยเป๊ะ ไม่กระเซิง

                  Photo & Youtube Link: https://www.youtube.com/watch?v=bVk0G-TQPEE

                   

                  1. ผมเปียพร้อมผมบันดังโงะ (Dutch Braid into Messy Buns)

                  หากไม่ต้องการจัดทรง Dutch Braid แบบธรรมดา ขอนำเสนอให้เพิ่มเสน่ห์ด้วยการทำก้อนผมดังโงะเล็ก ๆ ไว้ด้านบน ด้วยการทำแบบนี้จะทำให้ได้ทรงผมที่อาจจะเป็นเอกลักษณ์ เพื่อน ๆ สังเกตเห็นง่าย แถมถ่ายรูปออกมายังดูเป็นตัวของตัวเอง เปรี้ยว ทันสมัย เหมาะกับคนผมยาวถึงระดับกลางหลังที่ต้องการเก็บผมให้หมด หากเป็นคนทำไฮไลท์สีผมที่ตรงปลาย เมื่อทำทรงนี้ด้วยแล้วจะทำให้ทรงผมยิ่งเสริมคุณให้ดูเด่นขึ้นอีก

                  ขั้นตอนการทำผม:

                  1. แบ่งผมเป็นสองฝั่ง นำตัวหนีบผม หนีบผมด้านหนึ่งแยกไว้ก่อน ก้มศีรษะลง ปล่อยผมทิ้งตัวลงมาทางด้านหน้า โปรดเข้าใจว่าการทำผมทรงนี้จะคล้ายกับ Dutch Braid แต่จะต้องถักจากด้านหลังศีรษะไล่ไปที่ด้านหน้า
                  2. ผมด้านที่พร้อมจะจัดทรง จากทางด้านหลัง ให้จับขึ้นมาเป็นช่อ
                  3. แบ่งช่อผมที่จับไว้เป็นสามส่วน ให้พันไขว้ปอยผมด้านนอกไปด้านใต้ปอยผมอันกลางที่แบ่งจับไว้ เน้นเลยว่าต้องนำปอยผมที่จับไว้สลับไขว้ไปด้านใต้ปอยผมอีกอัน ข้างใต้เสมอ! 
                  4. นำปอยผมที่อยู่ด้านในสุด ใกล้กับเส้นแบ่งผมกลางศีรษะไขว้สลับไปด้านใต้ปอยผมที่อยู่ตรงกลาง
                  5. เมื่อจับปอยผมด้านนอกเพื่อไขว้พันมาทางด้านใต้ของปอยผมตรงกลางอีกครั้ง ให้จับดึงช่อผมด้านนอกที่ยังไม่ได้รวมเข้ามาจัดทรงมารวมด้วย
                  6. เมื่อจับปอยผมด้านในเพื่อไขว้พันมาทางด้านใต้ของปอยผมตรงกลางอีกครั้ง ให้จับดึงช่อผมที่ทิ้งตัวด้านในใกล้กับเส้นกลางศีรษะที่ยังไม่ได้รวมเข้ามาจัดทรงมารวมด้วย
                  7. ทำซ้ำขั้นตอนที่ 5 และ 6 สลับไปมาจนรู้สึกว่ามาถึงที่ระดับด้านบนศีรษะ
                  8. รัดผมเปียด้วยยางรัดผมหรือยางยืดผม จากนั้นทำกับอีกข้าง
                  1. ยืนยืดตัวขึ้น จะพบว่าเมื่อยืนขึ้นปลายผมที่เหลือจะกลายเป็นเหมือนผมแกละที่มีทิศทางเกาะด้านข้างศีรษะ 
                  2. ม้วนปลายผมที่เหลือเป็นผมแกละเป็นกลม ๆ ดังโงะบนศีรษะ และใช้กิ๊บติดผมติดรั้งผมที่ม้วนไว้กับเปียให้แน่น จะได้ดังโกะด้านบนศีรษะ มองจากด้านหลังเห็นเปียที่ชัดเจน 

                  ทรงผมเล่นน้ำ

                  Photo & Youtube Link: https://www.youtube.com/watch?v=QRX7WOhbjN0

                   

                  1. ผมเปียแบบ Pull Through Braid

                  เปียผมแบบสองข้างที่เน้นให้ทรงเปียนูนสูงขึ้นตรงกลาง จะทำให้เห็นกรอบหน้าที่ยาวขึ้นไปด้วย เหมาะสำหรับผมสั้นประบ่าหรือผมยาวกว่านั้น

                  ขั้นตอนการทำผม:

                  1. เริ่มจากผูกจุดที่กลางศีรษะค่อนมาทางด้านบน แล้วหนีบไว้
                  2. ดึงช่อผมจากสองด้านมาผูกหางม้า แล้วให้ทบขึ้นด้านบน ใช้ที่หนีบผมหนีบไว้ด้วยกัน
                  3. ทำขั้นตอนที่ 2 ซ้ำ คอยใช้ที่หนีบผม หนีบแต่ละชั้นทบไว้ ทำไปจนถึงต้นคอ จะได้ช่อผมที่ผูกเป็นหางม้าหลาย ๆ ชั้น
                  4. เมื่อปลดที่หนีบผม แยกจุกแรกในขั้นตอนที่ 1 ออกเป็นสองฝั่ง ดึงช่อผมชั้นถัดมาขึ้นไปทบคั่นอยู่ระหว่างช่อผมของจุกแรกที่แยกออก จากนั้นช่อผมที่แยกออกให้นำลงมา และนำมาผูกด้วยยางมัดผมกับช่อผมที่อยู่ด้านล่างถัดลงไปจากช่อที่เอาขึ้นไปทบ
                  5. ดึงช่อผมที่ถูกแยกสองด้านคั่นด้วยช่อผมเหนือยางรัดผม ให้กระจายออก เป็นการแต่งทรงให้เห็นแนวเปียที่ชัดเจน
                  6. ช่อผมที่คั่นแทรกและทิ้งตัวลงมา ให้นำมาแยกเป็นสองฝั่ง ดึงช่อผมชั้นถัดมาขึ้นไปทบคั่นอยู่ระหว่างช่อผมที่แยกออก จากนั้นช่อผมที่แยกให้นำลงมา นำมาผูกกับช่อผมที่อยู่ด้านล่างถัดไป นี่เป็นขั้นตอนที่ 4 ให้ทำตามด้วยขั้นตอนที่ 5 และทำซ้ำไปเรื่อย ๆ 
                  7. เมื่อสุดความยาวผม หรือที่ระดับต้นคอแล้วจึงหยุด

                  ทรงผมเล่นน้ำ

                  Photo & Youtube Link: https://www.youtube.com/watch?v=D8468v4S5Ko

                   

                  1. ผมเปียแบบ Bubble Braid

                  ทรงนี้เรียกว่าเปีย แต่หลายคนอาจจะไม่คิดว่าเป็นเปียก็ได้ เป็นเทคนิคการมัดช่อผมทีละน้อย เป็นชั้น ไล่ไปตามแนวศีรษะ และใช้การดึงให้ผมพองฟูในแต่ละช่อทำให้ดูเปรี้ยวรับสงกรานต์ เหมาะสำหรับคนผมยาวประบ่า แต่หากผมสั้นก็สามารถประยุกต์เป็นลูกเล่นให้กับผมได้

                  1. แบ่งผมเป็นสองด้าน 
                  2. ด้านหนึ่งที่เริ่มทำ จับช่อผมที่ด้านบนศีรษะแล้วใช้ยางรัดผมมัด 
                  3. จับช่อผมอีกช่อที่ระดับต่ำลงไปในด้านเดียวกัน รวบผมที่ระดับผมเดียวกันทั้งหมดแล้วใช้ยางรัดผมมัด จากนั้นใช้มือดึงให้ผมกระจายพองตัวออกเป็นกระเปาะ 
                  4. ทำซ้ำขั้นตอนที่ 3 ไปเรื่อย ๆ 
                  5. คอยดึงผมให้เป็นทรงกระเปาะ เรียกว่าเป็นการทำให้อยู่ในทรง Bubble คือกลม ๆ พองออก 
                  6. ทำขั้นตอนที่ 2 ถึง 5 กับผมอีกข้างของศีรษะ
                  7. จัดแต่งกระเปาะผมให้พองออกตามต้องการ 

                  ทรงผมเล่นน้ำ

                  Photo & Youtube Link: https://www.youtube.com/watch?v=kHjUdrl-v0w

                  อ่านต่อ.. ทรงผมเล่นน้ำสงกรานต์ สวยเป๊ะ ไม่กระเซิง ..ได้ที่หน้า 2

                  เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                    ไอเดีย แต่งตัววันสงกรานต์ สวยเท่ได้ ไม่กลัวโป๊

                    ไอเดีย แต่งตัววันสงกรานต์ สวยเท่ได้ ไม่กลัวโป๊

                    ใกล้สงกรานต์เข้ามาแล้ว ทุกคนเตรียมสนุกสนานกับเทศกาลไทย ๆ ที่ดังระดับโลก ซึ่งกิจกรรมที่ทุกคนต่างรอคอยก็คือ กิจกรรมการเล่นน้ำสงกรานต์ หรือที่ฝรั่งชอบเรียก “สงครามน้ำ (Water War)” เป็นฤดูร้อนที่มีเทศกาลสงกรานต์ให้ได้เล่นน้ำเย็น ๆ ฉ่ำ ๆ กันหลายวันและเป็นเทศกาลวันหยุดยาว ทุกคนก็จะสดชื่นสดใสสนุกสนานไปตาม ๆ กัน โดยก่อนจะไปเล่นน้ำ สาว ๆ ก็ต้องมาเตรียมตัว เตรียมเสื้อผ้า หน้า ผม ให้พร้อมกับเทศกาลที่จะมาถึง ซึ่งสิ่งที่สำคัญอย่างหนึ่งก็คือ การเลือกเตรียมเสื้อผ้าที่จะใส่หรือ แต่งตัววันสงกรานต์ ตามสไตล์ที่สาว ๆ ชอบ เพื่อไปเล่นน้ำให้สนุก และไม่ต้องกังวลว่าจะโป๊เวลาเปียกน้ำด้วย

                    ไอเดีย แต่งตัววันสงกรานต์ สวยเท่ได้ ไม่กลัวโป๊

                    ไอเดีย แต่งตัววันสงกรานต์ สวยเท่ได้ ไม่กลัวโป๊

                    ข้อควรรู้แต่งตัววันสงกรานต์

                    ตั้งใจไปเล่นน้ำฉ่ำ ๆ อย่างสนุกสนาน สาว ๆ ก็ต้องดูแลตัวเองกันหน่อย เทศกาลสงกรานต์ทั้งทีจะเล่นน้ำให้เต็มที่ สาว ๆ ก็ต้องเซฟตัวเองกันด้วย

                    มีข้อควรรู้สำหรับสาว ๆ ในการแต่งตัววันสงกรานต์ ดังนี้

                    • สถานที่ มีส่วนเป็นอย่างมากในการเลือกเสื้อผ้าใส่เล่นน้ำสงกรานต์ ถ้าไปวัดทำบุญแล้วออกมาเล่นน้ำสงกรานต์ต่อ หรือไปในพื้นที่ที่ต้องสำรวม ไปไหว้ผู้หลักผู้ใหญ่ การใส่เสื้อสายเดี่ยว กางเกงขาสั้นก็ต้องงดใส่ไป แต่ถ้าไปที่ที่จัดให้เล่นสงกรานต์โดยเฉพาะ สาว ๆ จะแฟชั่นนิสต้ากันขนาดไหนก็จัดเต็มกันมาได้เลย
                    • เสื้อ เดิมคือมักนิยมใส่เสื้อสีเข้มซึ่งไม่โป๊แน่ ๆ แต่ร้อน แต่ในปัจจุบันเสื้อสีอ่อนผ้าหนาขึ้นหรือมีซับในใส่แล้วเปียกได้ไม่ต้องกลัวโป๊ แค่ตอนเลือกให้เลือกเนื้อผ้าที่ไม่บางจนเกินไป หรือจะกันโป๊โดยใส่ชั้นในแบบ Sport Bra ก็ช่วยได้ และดูเท่ด้วย
                    • เสื้อชั้นใน ใส่ชั้นในที่กระชับสายไม่หลุดง่าย เปียกแล้วแห้งไว หรือถ้าเป็นแบบเกาะอกคือต้องแน่นพอดีตัวแม้เวลาเปียก สาว ๆ อาจเลือกใส่ซิลิโคนบราหรือตัวแปะจุกเพื่อความมั่นใจ หรือให้มั่นใจมากขึ้นก็จัดเป็น Sport Bra ไปเลยก็ได้
                    • กางเกงชั้นในกันโป๊ เลือกแบบกางเกงชั้นในที่คล้ายกางเกงขาสั้นและช่วยกันโป๊ เวลาเดิน ลุก นั่ง เนื้อผ้ากระชับแนบสนิทไปกับผิว เปียกแล้วแห้งเร็ว และยังช่วยป้องกันกระโปรงหรือกางเกงที่ใส่ไม่ให้เข้าวินได้ดี
                    • รองเท้า เล่นน้ำเปียกแล้วเท้ามักลื่น รวมถึงสาว ๆ ต้องเดินเยอะเกือบตลอดวัน เลือกรองเท้าที่ใส่สบายและที่สำคัญคือ กันลื่น ไม่หลุดง่าย ไม่หนักหรือหนืดเมื่อเปียกน้ำ เปียกแล้วเดินไม่มีเสียงดังเหมือนรองเท้าเด็กหัดเดิน
                    • เสื้อคลุม ถ้ากังวลกลัวโป๊ สาว ๆ ควรมีเสื้อคลุมจะแขนสั้นหรือแขนยาวก็ได้ พกติดตัวไปด้วยอีกชิ้น ซึ่งเสื้อคลุมเดี๋ยวนี้มีขนาดเล็ก ๆ บาง ๆ ให้เลือกใช้หลายยี่ห้อ พับแล้วเหลือชิ้นนิดเดียว พกได้สบาย ๆ แถมเวลาร้อนแดดก็นำมาใส่กันแดดได้ดีด้วย
                    • กระเป๋าใส่ของ ที่สำคัญคือต้องกันน้ำ ไม่ต้องใบใหญ่ ไปเล่นน้ำไม่เน้นพกของเยอะ ไว้ใส่เฉพาะของสำคัญเท่านั้น เช่น กระเป๋าเงิน มือถือ บัตรโดยสาร
                    • แว่นกันแดด ขนาดผิวสาว ๆ ยังต้องทากันแดด อย่าปล่อยให้ดวงตาไม่มีอะไรมาปกป้อง เพิ่มแว่นกันแดดเข้าไปอีกชิ้นช่วยปกป้องดวงตา แถมช่วยเสริมให้การแต่งตัวดูเท่มีสไตล์ขึ้นมาทันทีอีกด้วย
                    • หมวก เลือกหมวกให้เข้ากับชุด เช่น หมวกแก๊ป หมวกปีกกว้าง ทำให้การแต่งตัวดูเก๋ขึ้นแถมหมวกยังช่วยกันแดดให้ใบหน้าได้ด้วย
                    • งดการใส่ของมีค่าที่เสี่ยงสูญหาย เช่น สร้อยคอทองคำ สร้อยข้อมือทองคำ เน้นใส่เครื่องประดับแบบแฟชั่นจะเหมาะกับการเล่นน้ำมากกว่า ส่วนนาฬิกาข้อมือเลือกใส่แบบที่กันน้ำจะได้สบายใจไม่ต้องกังวลว่าจะเสียหายจากการโดนน้ำ

                    รวมไอเดียแต่งตัววันสงกรานต์ สวยเท่ได้ ไม่กลัวโป๊

                    1. เสื้อเชิ้ตฮาวาย + กระโปรงยีนส์สั้น

                    เสื้อเชิ้ตฮาวายลายดอกสีสดใสผูกเอว เป็นไอเทมยอดฮิตทุกสงกรานต์ไม่เคยตกยุค ใส่กับกระโปรงยีนส์สั้นทั้งกระโปรงยีนส์สีเข้มหรือกระโปรงยีนส์สีอ่อน ให้ลุคสดใสน่ารักและดูเท่ไปในตัวด้วยแบบสบาย ๆ

                    ข้อแนะนำ: เสื้อเชิ้ตฮาวายใส่แล้วผูกตรงช่วงเอวโชว์หน้าท้องเล็กน้อยพองาม และสาว ๆ อย่าลืมเลือกความยาวกระโปรงยีนส์ให้เหมาะกับรูปร่างด้วย อย่างสาวไซส์เล็กควรเลือกเป็น Mini Skirt สั้นเหนือเข่า จะช่วงให้ช่วงขาดูเพรียวสวย

                    เว็บไซต์อ้างอิง: https://us.shein.com/Tropical-Print-Button-Front-Blouse

                    ไอเดีย แต่งตัววันสงกรานต์ สวยเท่ได้ ไม่กลัวโป๊

                    อ้างอิงรูปภาพ: https://img.ltwebstatic.com/

                     

                    1. เสื้อครอป + กางเกงขายาวทรงปล่อย

                    กำลังฮิตและดูปั๊วะ เป๊ะ ปังมากกับเสื้อครอปแมทช์กับการเกงขายาวทรงปล่อย ให้ลุคดูเซ็กซี่ปนเท่อย่างมีสไตล์ แถมยังดูเป็นสาวเฮลตี้สุขภาพดีด้วย

                    ข้อแนะนำ: เลือกเสื้อครอปเข้ารูปแบบพอดีตัวสบาย ๆ ไม่รัดจนเกินไป เป็นสีพื้นหรือมีลายน่ารัก ๆ เล็กน้อย ใส่แล้วโชว์เอวพอดี ๆ ส่วนกางเกงเป็นเอวสูงทรงปล่อยสีเรียบ ๆ ยิ่งถ้าใส่คู่กับรองเท้าผ้าใบจะยิ่งคล่องตัวและดูดีมาก ๆ

                    เว็บไซต์อ้างอิง: https://us.shein.com/High-Waist-Heart-Print-Wide-Leg-Jeans

                    ไอเดีย แต่งตัววันสงกรานต์ สวยเท่ได้ ไม่กลัวโป๊

                    อ้างอิงรูปภาพ: https://img.ltwebstatic.com/

                     

                    1. เซตเสื้อสายเดี่ยว + เสื้อคลุม + กางเกงขาสั้น

                    ให้ลุคสวยเก๋โดยเสื้อตัวบนด้านในเป็นเสื้อสายเดี่ยวสีพื้น จับคู่กับเสื้อคลุมและกางเกงขาสั้นที่เป็นลวดลายสดใสสีเดียวกัน ดูสวยเท่แถมเสื้อคลุมยังช่วยป้องกันแสงแดดและทำให้ไม่โป๊ด้วย

                    ข้อแนะนำ: ลุคนี้เสื้อสายเดี่ยวด้านในจะเป็นสีขาวหรือสีดำก็ดูดีทั้งคู่ แต่เสื้อคลุมและกางเกงขาสั้นสำคัญมากคือต้องเป็นสีและลายเดียวกันถึงจะใส่แล้วดูดีดูคูลไม่มีเอ้าท์ ใส่แล้วสนุกได้สุดเหวี่ยงแน่นอน

                    เว็บไซต์อ้างอิง: https://th.shein.com/Paisley-Print-Open-Front-Kimono

                    แต่งตัวสงกรานต์

                    อ้างอิงรูปภาพ: https://img.ltwebstatic.com/

                     

                    1. ชุดเดรสยาวลายดอก

                    ดูหวาน ๆ เหมือนคุณหนูแต่มีสไตล์เท่เก๋ไปในคราวเดียวกันกับชุดเดรสลายดอกสีสดใส เลือกที่ผ้าดูพลิ้ว ช่วงคอวีใส่แล้วดูไม่ตัน ไม่อึดอัด ไม่ร้อน ช่วงล่างเลือกที่ผ่าข้างหรือแหวกขึ้นมาเหนือเข่าจะทำให้ใส่สบาย เคลื่อนไหวได้สะดวก

                    ข้อแนะนำ: ชุดเดรสยาวลายดอกไม้ควรเลือกเป็นสี Earth Tone ลายสดใส สาวตัวสูงใส่เดรสยาวเลยเข่าได้ แต่สาวตัวเล็กต้องเลือกที่สูงกว่าเข่าจะได้ดูขายาว ยิ่งจับคู่ใส่กับหมวกปีกกว้างและรองเท้าสานจะให้ลุคที่เก๋ไก๋ แต่งแล้วดูดีไม่ซ้ำใครเลยจริง ๆ

                    เว็บไซต์อ้างอิง: https://th.shein.com/Floral-Ruffle-Hem-Tie-Side-Wrap-Dress

                    แต่งตัวสงกรานต์

                    อ้างอิงรูปภาพ: https://img.ltwebstatic.com/

                     

                    1. หมวกแก๊ป + เสื้อกล้าม + กางเกงขายาว

                    แต่งแนวบอย ๆ แต่ให้ลุคเท่และเซ็กซี่ ลุคนี้ความสำคัญคือหมวกแก๊ปและเสื้อกล้ามเข้ารูปเอวลอยที่ขอเป็นสีเจ็บจี๊ดสีเดียวกัน ย้ำ! ต้องสีเดียวกันเท่านั้น เพราะจะโดดเด่นสะดุดตาชวนให้อยากสาดน้ำมากด้วยลุคสุดจี๊ด ใส่คู่กับกางเกงขายาวเอวสูงให้ดูทะมัดทะแมงพร้อมเล่นน้ำให้สนุกทั้งวันกันเลยทีเดียว

                    ข้อแนะนำ: ลุคนี้เสื้อกล้ามเข้ารูปต้องพอดีตัว ไม่หลวมหรือรัดจนเกินไป สีต้อง Colorful สดใส เช่น ส้ม ชมพู เหลือง หรือสีนีออนสะท้อนสายตาเลยยิ่งดี ที่สำคัญคือหมวกสีต้องแมทช์กับเสื้อด้วยถึงจะดูคูล เสริมลุคขึ้นอีกด้วยแว่นกันแดดแฟชั่น แค่นี้สาว ๆ ก็ดูสวย เท่ เซ็กซี่แล้ว

                    เว็บไซต์อ้างอิง: https://th.shein.com/Women-Tank-Tops-Camis

                    แต่งตัวสงกรานต์

                    อ้างอิงรูปภาพ: https://img.ltwebstatic.com/

                     

                    อ่านต่อ.. ไอเดีย แต่งตัววันสงกรานต์ สวยเท่ได้ ไม่กลัวโป๊ ..ได้ที่หน้า 2

                    เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                      เปิดรับสมัครแล้ว MOM INFLUENCER CONTEST SEASON 3 การประกวดเพื่อเฟ้นหาคุณแม่นักรีวิวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเมืองไทย

                      MOM INFLUENCER CONTEST SEASON 3 กลับมาอีกครั้ง! กับการประกวดคุณแม่นักรีวิวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเมืองไทย มาเป็นหนึ่งในทีมคุณแม่ Influencer มืออาชีพ กับ Amarin Baby & Kids และชิงเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 300,000 บาท

                      เวทีคุณแม่นักรีวิวต้องลุกเป็นไฟ!!
                      MOM INFLUENCER CONTEST SEASON 3 เริ่มขึ้นแล้ว!!!

                      Amarin Baby & Kids ครั้งนี้ จัดกิจกรรม Mom Influencer Contest Season3 กับการแข่งขันสุดยอดคุณแม่นักรีวิวระดับประเทศ ปีที่ 3 ที่มีความหมายและแรงบัลดาลใจมากกว่าเดิม ใน To Be Momber one Inspiration ซึ่งทาง Amarin Baby & Kids พร้อมเปิดรับคุณแม่ทั้ง 4 ภาคทั่วประเทศไทย คุณแม่ที่ชื่นชอบการรีวิว, ไลฟ์สด, ทำคลิปวิดีโอ ร่วมไปถึงสายเขียนคอนเทนต์ และยังมอบความรู้ Modern Parenting สร้างแรงบัลดาลใจ ทริก ทิป ให้กับ แม่ๆที่เข้ามารับชม ต้องห้ามพลาด!!!

                      เปิดโอกาสให้คุณแม่มาแสดงความสามารถ พัฒนามาเป็น KOM (Key Opinion Moms) คุณแม่ต้นแบบ ที่มอบประสบการณ์ ความรู้ แรงบัลดาลใจ Trick & Tips ที่ส่งมอบ วิธีการเลี้ยงลูกแบบ Modern Parenting นำเสนอคอนเทนต์สุดสร้างสรรค์ และ สร้างแรงบันดาลใจ ตามรอยรุ่นพี่  Mom Influencer Contest ปีที่ 1 และ 2 โดยผู้เข้ารอบจะมีสิทธิ์ได้เซ็นต์สัญญา ร่วมงานกับ Amarin Baby & Kids ตลอดทั้งปี พร้อมเงินรางวัลและของรางวัลอีกมากมาย 

                       

                      📜📌 เปิดรับสมัครวันที่ 12 เมษายน – 31 พฤษภาคม 2566 >> ทางช่องทาง Facebook Amarin Baby & Kid 📜📌

                       

                      ระยะเวลาแคมเปญ
                      12
                      เมษายน – 29 มิถุนายน 2566 แบ่งออกเป็น 5 ช่วง ดังต่อไปนี้

                      ประกาศรับสมัคร

                      • เปิดรับสมัครผู้เข้าร่วมประกวดระหว่างวันที่ 12 เมษายน –31 พฤษภาคม 2566
                      • ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิเข้าประกวด 5 มิถุนายน 2566

                      ประกวดรอบคัดเลือก : Photo Series Review (3 รูป) 

                      • ประกวดรอบคัดเลือก ระหว่างวันที่ 12 – 26 มิถุนายน  2566
                      • ประกาศรายชื่อผู้ผ่านเข้ารอบ 1 วันที่ 7 กรกฎาคม 2566

                      ประกวดรอบที่ 1 : Photo Series Review (5 รูป)

                      • ประกวดรอบ 1 ระหว่างวันที่ 19 กรกฎาคม – 4 สิงหาคม 2566
                      • ประกาศรายชื่อผู้ผ่านเข้ารอบ 2 และสามารถเข้าร่วม Online Workshop วันที่ 19 สิงหาคม2566

                      กิจกรรม Online Workshop หัวข้อ เทคนิคสร้างคอนเท้นต์รีวิวอย่างไรโดนใจลูกเพจ มัดใจลูกค้า ฟรี! (ผู้ผ่านเข้ารอบ 2 ทุกคนจะต้องเข้าร่วม)

                      • กิจกรรม Online Workshop วันที่ 24 สิงหาคม 2566

                      ประกวดรอบที่ 2 : VDO Clip Review 1 นาที

                      • ประกวดรอบ รอบที่ 2 ระหว่างวันที่ 16-22 กันยายน 2566
                      • ประกาศรายชื่อผู้ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ 5 ตุลาคม 2566

                      ประกวดรอบชิงชนะเลิศ ณ งาน Amarin Baby & Kids Fair #26 ไบเทค บางนา

                      • ประกวดรอบชิงชนะเลิศ วันที่ 1 ธันวาคม 2566

                      ***หมายเหตุ วันและเวลาของกำหนดการต่างๆ อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม

                       

                      คุณสมบัติของผู้เข้าประกวด

                      • คุณแม่ทั่วประเทศ อายุระหว่าง 22 – 45 ปี ที่มีลูก 6 เดือน ขึ้นไป
                      • มีใจรักการรีวิวแนะนำสินค้า สนใจในอาชีพ INFLUENCER และมีความพร้อมในการทำกิจกรรมกับแบรนด์สินค้าและบริการต่างๆได้
                      • มีคาแรคเตอร์โดดเด่น น่าสนใจ
                      • มีความสามารถในการเขียนรีวิว ถ่ายภาพนิ่ง และคลิปวิดีโอ  มีความคิดสร้างสรรค์
                      • มีแอคเค้าท์บนโซเชียลมีเดียอย่างน้อย 1 ช่องทางขึ้นไป  [ Facebook ส่วนตัว หรือ Fanpage,  Instagram,Tiktok ] โดยมียอดผู้ติดตามจากโซเชียลมีเดียทุกแพลตฟอร์มรวมกัน 2,500 คน ขึ้นไป

                       

                      วิธีการสมัคร

                      สมัครผ่าน Google Form คลิกที่นี่ >> https://bit.ly/MOMINFLUENCERCONTESTSS3 เพื่อกรอกข้อมูลส่วนตัวให้ครบถ้วน ตั้งแต่วันที่ 12 เมษายน – 31 พฤษภาคม 2566

                      พร้อมติดตามประกาศผลผู้ผ่านเข้ารอบและรายละเอียดการประกวดได้ที่ Facebook : Amarin Baby & Kids

                       

                      เงื่อนไขการสมัครเข้าประกวด MOM INFLUENCER CONTEST SS 3

                      • ผู้สมัครต้องกรอกข้อมูลจนครบถ้วนใน Google Form และได้รับอีเมลตอบกลับ จึงถือว่าการสมัครเสร็จสมบูรณ์
                      • สามารถสมัครเข้าประกวดได้ 1 คนต่อ 1 ครั้งเท่านั้น หากพบว่าผู้สมัครจงใจกรอกข้อมูลเท็จจะถูกตัดสิทธิ์ออกจากระบบทันที
                      • การเปิดรับสมัครไม่จำกัดจำนวน และไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น
                      • ผู้สมัครตกลงให้ความยินยอมแก่ทางบริษัทในการใช้ข้อมูลส่วนตัว ภาพ คลิปรีวิว และข้อมูลอื่นใดของผู้สมัคร เพื่อการประชาสัมพันธ์กิจกรรมต่างๆ และใช้ในการโฆษณาและการค้า ของบริษัทอมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน)  และบริษัทในเครือ, พันธมิตร และคู่ค้ารวมถึงสปอนเซอร์ผู้สนับสนุนกิจกรรมทั้งในปัจจุบัน และในอนาคต  การสมัคร การกรอกข้อมูล การรีวิวในกิจกรรมนี้ ถือว่าผู้สมัครได้รับทราบและตกลงยอมรับกฎกติกาและเงื่อนไข ในกิจกรรมทุกประการ
                      • ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครทั้งหมดจะอยู่ในข้อมูลเครือข่ายคุณแม่อินฟลูเอนเซอร์ ของบริษัทอมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน)  และบริษัทในเครือ, พันธมิตร และคู่ค้ารวมถึงสปอนเซอร์ผู้สนับสนุนกิจกรรมในอนาคต ซึ่งมีโอกาสร่วมงานและสร้างรายได้จากแบรนด์สินค้าแม่ลูก
                      • ผู้เข้าสมัครทุกคนต้องผ่านพิจารณาตามเกณฑ์ในการเข้าประกวดจากบริษัทอมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน)  และบริษัทในเครือ, พันธมิตร และคู่ค้ารวมถึงสปอนเซอร์ผู้สนับสนุนกิจกรรมในอนาคต  โดยจะประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์เข้าประกวดรอบคัดเลือก ในวันที่ 5 มิถุนายน 2566
                      • ผ่านช่องทาง Facebook Amarin Baby & Kids
                      • ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์และเงื่อนไขโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
                      • วันและเวลาของกำหนดการต่างๆ อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม
                      • การดำเนินงาน และการตัดสินอยู่ในดุลยพินิจจากคณะกรรมการ และการตัดสินจากคณะกรรมการถือเป็นที่สิ้นสุด

                      รูปแบบการประกวด

                      การประกวดแบ่งออกเป็น 4 รอบ โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

                      ประกวดคัดเลือก – รายละเอียดการถ่าย Photo Series

                      • ผู้ผ่านเข้ารอบจะได้รับกล่อง “Mommy Box” สำหรับการเขียนรีวิวสินค้าและถ่ายภาพจำนวน 3 ภาพ (จัดส่งถึงบ้านโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย)
                      • โพสต์ลงใน Facebook ส่วนตัว หรือ Fanpage ตั้งเป็น “สาธารณะ” พร้อมใส่  #MomInfluencerContestSS3 #AmarinBabyAndKids และ #แบรนด์สินค้า โดยโพสต์ได้ 1 คน ต่อ 1 ครั้งเท่านั้น ภายในวันที่ 12 – 26 มิถุนายน  2566
                      • ส่ง Link รีวิว มาที่ Google Form https://bit.ly/SubmitMICSS3 แนบลิ้งค์ส่งประกวดคัดเลือกรอบ
                      • ผู้เข้าประกวดสามารถแชร์โพสต์รีวิวสินค้าไปยังแพลตฟอร์มโซเชียลอื่นๆเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ตามความเหมาะสม
                      • ประกาศชื่อผู้ผ่านเข้ารอบวันที่ 7 กรกฎาคม 2566 ผ่านช่องทาง Facebook Amarin Baby & Kids

                      ประกาศรายชื่อ ผู้มีสิทธิ์ผ่านเข้ารอบ การประกวด MOM INFLUENCER CONTEST SEASON 3 รอบคัดเลือก

                      เกณฑ์การตัดสิน ประกวดคัดเลือก

                      พิจารณาคุณภาพของ Content รีวิวตั้งแต่วันที่ 12 – 26 มิถุนายน โดยมีเกณฑ์การให้คะแนน (100 คะแนน) ดังนี้

                      • การเรียบเรียงเนื้อหา  เต็ม 15 คะแนน
                      • ความโดดเด่นของสินค้า (ภาพถ่าย) เต็ม 30 คะแนน
                      • สื่อสาร Key message ครบถ้วนตามโจทย์ที่กำหนด เต็ม  25 คะแนน
                      • สไตล์การเขียนรีวิว และ ความรู้ แรงบัลดาลใจ วิธีการเลี้ยงลูก เต็ม  30 คะแนน

                       

                      ♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦

                      ประกวดคัดเลือก รอบที่ 1 – รายละเอียดการถ่าย Photo Series

                      • ผู้ผ่านเข้ารอบจะได้รับกล่อง “Mommy Box” สำหรับการเขียนรีวิวสินค้าและถ่ายภาพจำนวน 5 ภาพ(จัดส่งถึงบ้านโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย)
                      • โพสต์ลงใน Facebook ส่วนตัว หรือ Fanpage ตั้งเป็น “สาธารณะ” พร้อมใส่ #MomInfluencerContestSS3 #AmarinBabyAndKids และ #แบรนด์สินค้า โดยโพสต์ได้ 1 คน ต่อ 1 ครั้งเท่านั้น ภายในวันที่ 19 กรกฎาคม – 4 สิงหาคม 2566
                      • ส่ง Link รีวิว มาที่ Google Form https://bit.ly/SubmitMICSS3แนบลิ้งค์ส่งประกวดคัดเลือกรอบ ที่ 1
                      • ผู้เข้าประกวดสามารถแชร์โพสต์รีวิวสินค้าไปยังแพลตฟอร์มโซเชียลอื่นๆเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ตามความเหมาะสม
                      • ประกาศชื่อผู้ผ่านเข้ารอบวันที่ 19 สิงหาคม 2566 ผ่านช่องทาง Facebook Amarin Baby & Kids

                      ประกาศรายชื่อ ผู้ผ่านเข้ารอบ รอบที่ 1 MOM INFLUENCER CONTEST SEASON 3

                      เกณฑ์การตัดสิน ประกวดคัดเลือก รอบที่ 1

                      พิจารณาคุณภาพของ Content รีวิวตั้งแต่วันที่ 5 – 11 สิงหาคม 2566 โดยมีเกณฑ์การให้คะแนน (100 คะแนน) ดังนี้

                      • การเรียบเรียงเนื้อหา เต็ม 15 คะแนน
                      • ความโดดเด่นของสินค้า (ภาพถ่าย) เต็ม 30 คะแนน
                      • สื่อสาร Key message ครบถ้วนตามโจทย์ที่กำหนด เต็ม 25 คะแนน
                      • สไตล์การเขียนรีวิว และ ความรู้ แรงบัลดาลใจ วิธีการเลี้ยงลูก เต็ม 30 คะแนน

                       

                      ♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦

                      ประกวดคัดเลือก รอบที่ 2 – รายละเอียดการถ่าย Clip VDO ความยาวไม่เกิน 2 นาที

                      • ถ่ายทำคลิปเป็นแนวตั้ง โดยจัดแสงให้มีความสว่างเพียงพอ สามารถเห็นใบหน้าได้อย่างชัดเจน
                      • ไม่ควรใช้ฉากหลังรก หรือปรับแต่งมากเกิน
                      • ผู้ผ่านเข้ารอบจะได้รับกล่อง “Mommy Box 2” สำหรับการถ่ายคลิป Review สินค้า (จัดส่งถึงบ้านโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย)
                      • จัดทำคลิปรีวิวนำเสนอเป็นภาษาท้องถิ่นของแต่ละภาคหรือจังหวัด ตามความถนัดของตัวเอง ความยาวไม่เกิน 2 นาที
                      • โพสต์ลงใน Facebook ส่วนตัว หรือ Fanpage ตั้งเป็น “สาธารณะ” พร้อมใส่ #MomInfluencerContestSS3 #AmarinBabyAndKids และ #ตามที่แบรนด์สินค้ากำหนด โดยโพสต์ได้ 1 คน ต่อ 1 ครั้งเท่านั้น ภายในวันที่ 16-22 กันยายน 2566
                      • ส่ง Link รีวิว มาที่ Google Form https://bit.ly/SubmitMICSS3 แนบลิงค์ส่งประกวดคัดเลือกรอบที่ 2

                      ————————————————————————————–

                      *SPECIAL SCORE*
                      • รับคะแนนพิเศษ 20 คะแนน โดยที่ผู้ประกวดโพสต์คลิปรีวิวสินค้า [ตัวเดียวกับที่โพสต์ใน FB] ลงในช่องทาง Tiktok เฉพาะวันที่ 20 กันยายน 2566 เวลา 10.00 – 23.00 น. เท่านั้น
                      หมายเหตุ: สามารถทำได้ทั้งอัดคลิปใหม่ หรือตัดต่อคลิปเพื่อลงใน TIKTOK
                      • ตั้งโพสต์เป็นสาธารณะ พร้อมใส่ #MomInfluencerContestSS3 #AmarinBabyAndKids
                      • ผู้เข้าประกวดสามารถแชร์โพสต์รีวิวสินค้าไปยังแพลตฟอร์มโซเชียลอื่นๆเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ตามความเหมาะสม

                      ————————————————————————————-

                      ประกาศชื่อผู้ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ วันที่ 5 ตุลาคม 2566
                      ผ่านช่องทาง Facebook Amarin Baby & Kids

                      เกณฑ์การตัดสิน ประกวด รอบที่ 2

                      พิจารณาคุณภาพของ Content รีวิวตั้งแต่วันที่ 16-22 กันยายน 2566 โดยมีเกณฑ์การให้คะแนน (100 คะแนน) ดังนี้

                      • วิธีการนำเสนอ เต็ม 30 คะแนน
                      • สื่อสาร Key message ครบถ้วนตามโจทย์ที่กำหนด เต็ม 40 คะแนน
                      • ความโดดเด่นของสินค้า ข้อมูลความรู้ แรงบันดาลใจ หรือวิธีการเลี้ยงลูก เต็ม 30 คะแนน
                      • คะแนนพิเศษ เฉพาะผู้สมัครที่โพรสต์รีวิวผ่านช่องทางอีก Tiktok 20 คะแนน

                      ♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦

                      เงื่อนไข การประกวดคัดเลือก

                      • ห้ามคัดลอก ลอกเลียน หรือดัดแปลงงานเขียนรีวิวของผู้อื่นเป็นอันขาด หากพบว่ากระทำการดังกล่าวจะถือว่าตัดสิทธิ์ในการแข่งขัน

                      • ข้อความรีวิว ภาพถ่ายและคลิปถือเป็นลิขสิทธิ์ของ บริษัทอมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน)  และบริษัทในเครือ, พันธมิตร และคู่ค้ารวมถึงสปอนเซอร์ผู้สนับสนุนกิจกรรมในอนาคต สามารถทำการปรับปรุงแก้ไขได้ตามความเหมาะสมกับรูปแบบการใช้งาน นอกจากนี้ สิทธิ์ใดๆ อันเกี่ยวข้อง หรือเกี่ยวเนื่องกับข้อความรีวิว ภาพถ่ายและคลิป

                      MOM INFLUENCER CONTEST SEASON 3

                      ประกวดรอบชิงชนะเลิศ

                      • รอบคะแนนพิเศษ 25 คะแนน ทำคลิป เชิญชวนมางาน Amarin Baby & Kids Fair #26 ผ่านช่องทาง Tiktok  ตั้งเป็น “สาธารณะ” พร้อมใส่  #MomInfluencerContestSS3 #AmarinBabyAndKids
                      • ผู้เข้ารอบชิงชนะเลิศขึ้นเวทีประกวดเพื่อแสดงความสามารถต่อหน้าคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ เพื่อค้นหาผู้ชนะ 5 รางวัล และรางวัล ขวัญใจกรรมการ 1 รางวัล ใน วันที่ 1 ธันวาคม 2566 ณ ไบเทค บางนา

                      *หมายเหตุ วันประกวดรอบชิงชนะเลิศจะแจ้งให้ทราบภายหลัง

                      • ผู้เข้ารอบต้องทำตามกติกาที่ได้รับครบถ้วน  และขึ้นเวทีประกวดเพื่อแสดงความสามารถ หากขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งถือว่าสละสิทธิ์ ผู้เข้ารอบชิงชนะเลิศสามารถชวนแฟนคลับหรือครอบครัวมาร่วมโหวตเป็นกำลังใจหน้างานได้

                      วันและเวลาของกำหนดการต่างๆ อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม ผู้เข้าร่วมประกวดต้องยินยอมปฏิบัติตามกติกาที่บริษัทฯ กำหนดทุกประการ การดำเนินงาน และการตัดสินอยู่ในดุลยพินิจจากคณะกรรมการ และการตัดสินจากคณะกรรมการถือเป็นที่สิ้นสุด

                       

                      เกณฑ์การตัดสินรอบชิงชนะเลิศ

                      คะแนนจากคณะกรรมการ จำนวน 4 ท่าน ท่านละ 100 คะแนน รวม 400 คะแนน

                      • คาแรคเตอร์น่าสนใจ วิธีการพูดนำเสนอลีลาท่าทางน้ำเสียง ความรู้ แรงบัลดาลใจ วิธีการเลี้ยงลูก เต็ม 45 คะแนน
                      • Key message ของสินค้าตรงตามโจทย์ที่กำหนด  เต็ม 35 คะแนน
                      • การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เต็ม 20 คะแนน

                      รางวัลขวัญใจ กองบรรณาธิการ Amarin Baby & Kids

                      • คัดเลือกจากคลิปจากรอบคะแนนพิเศษ ทำคลิป เชิญชวนมางาน Amarin Baby & Kids Fair #26 ผ่านช่องทาง Tiktok แนบลิ้งค์มาที่ Google Form https://bit.ly/SubmitMICSS3 ที่โดนใจกองบรรณาธิการ ABK มากที่สุด

                      รางวัลสำหรับผู้ชนะการประกวด

                      • รางวัลชนะเลิศกรุงเทพมหานคร รับเงินสดจำนวน 50,000 บาท และโล่พร้อมป้ายรางวัลชนะเลิศกรุงเทพมหานคร
                      • รางวัลชนะเลิศภาคเหนือ รับเงินสดจำนวน 50,000 บาท และโล่พร้อมป้ายรางวัลชนะเลิศภาคเหนือ
                      • รางวัลชนะเลิศภาคกลาง รับเงินสดจำนวน 50,000 บาท  และโล่พร้อมป้ายรางวัลชนะเลิศภาคกลาง
                      • รางวัลชนะเลิศภาคอีสาน รับเงินสดจำนวน 50,000 บาท และโล่พร้อมป้ายรางวัลชนะเลิศภาคอีสาน
                      • รางวัลชนะเลิศภาคใต้ รับเงินสดจำนวน 50,000 บาท และโล่พร้อมป้ายรางวัลชนะเลิศภาคใต้
                      • รางวัล ขวัญใจกองบรรณาธิการ Amarin Baby & kids รับเงินรางวัลจำนวน 10,000 บาท และ พร้อมป้ายรางวัล

                      หมายเหตุ : ผู้รับเงินรางวัลต้องชำระภาษี ณ ที่จ่าย ตามที่กฎหมายกำหนด

                      สิทธิประโยชน์ของผู้ชนะการประกวด

                      • ผู้รับรางวัลชนะเลิศของแต่ละภาค จะได้เซ็นต์สัญญาเป็น “INFLUENCER” ของแบรนด์ Amarin Baby & Kids ภายใต้บริษัทอมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) เป็นเวลา 1 ปี เพื่อก้าวสู่เส้นทางการเป็นคุณแม่ INFLUENCER มืออาชีพ และร่วมงานกับ บริษัทอมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ, พันธมิตร และคู่ค้ารวมถึงสปอนเซอร์ผู้สนับสนุนกิจกรรมในอนาคต (เงื่อนไขเป็นไปตามสัญญาที่บริษัทกำหนด)
                      • ผู้เข้ารอบ 25 คนสุดท้าย มีสิทธิ์ร่วมงานกับแบรนด์ Amarin Baby & Kids ภายใต้บริษัทอมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน)  และบริษัทในเครือ, พันธมิตร และคู่ค้ารวมถึงสปอนเซอร์ผู้สนับสนุนกิจกรรมในอนาคต ในฐานะ INFLUENCER มืออาชีพ (เงื่อนไขเป็นไปตามสัญญาที่บริษัทกำหนด)

                        พาลูกเรียนรู้และพักผ่อนไปกับ หาดทราย สายลม และจักรวาล รับหน้าร้อน พร้อมเช็คอินพัทยา

                        ปิดเทอมทั้งที หาเวลาพาลูกไปรับลมทะเลกันมั๊ยคะ ทริปนี้จะพาไปรับไออุ่นจากทะเลพัทยา ใกล้กรุงเทพนิดเดียว ได้สอนอะไรลูกได้เยอะเลยค่ะ เพราะสิ่งรอบตัวเรา คือธรรมชาติ ที่ลูกจะต้องเรียนรู้และเติบโตไปด้วยกัน ทริปนี้ ได้สอนลูกถึงการเปลี่ยนแปลงหลายๆอย่าง ตั้งแต่พื้นโลกยันจักรวาล เป็นยังไง ต้องตามชมกันเลย

                        ทริปนี้เราจองที่พักกันที่ รร. ฮอลิเดย์อินท์ พัทยา ค่ะ ที่นี่บอกได้เลยว่ามาเป็นครั้งแรก เด็กๆว้าวกันมาก ตั้งแต่จุดเช็คอิน ที่เราสามารถฝึกให้ลูก จัดการการเข้าพักได้ด้วยตนเอง ได้สอนให้เค้าอ่านเอกสาร การเข้าพัก และ สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆที่ทางโรงแรมมีบริการ ซึ่งแน่นอนว่า เจ้าสองแสบ จำได้อย่างเดียวคือ มีสระว่ายน้ำ 4 สระ และมี Kids Club ด้วย โดยบริเวณล๊อบบี้ มีความโอ่อ่าอลังการมากๆ ซึ่งออกแบบมาให้พื้นที่ดูโปร่งตา อีกทั้งยังมีในส่วนของบาร์ที่บอกได้เลยว่า ขนมหวาน ไอศครีม และ เบเกอรี่อร่อยมากค่ะ

                        ซึ่งห้องพักที่เราจองมานั้น เป็นแบบ Connecting room ซึ่งจะเป็นโซนห้องเด็กๆ ที่มีเตียงวาฬน้อยมารอต้อนรับ พร้อมตุ๊กตา และ กิ๊ฟท์เซทของที่ระลึกอย่างสมุดระบายสีต่างๆอีกด้วย ( พี่ๆเค้าให้กลับบ้านไปเลยนะคะ ) และที่สำคัญมีเกมเพลย์สเตชั่นให้เล่นในห้องด้วยนะจ๊ะ ความใส่ใจยังไม่หมดเพียงเท่านี้ พื้นในห้องของเด็กๆนั้น ได้รับการปูพรม เพื่อกันหกล้ม และภายในถูกตกแต่งด้วยความปลอดภัยมากๆค่ะ  เป็นอะไรที่เด็กๆปลื้มปริ่มมากๆ และเชื่อมกับห้องของ ผู้ใหญ่อย่างเรา ที่กว้างขวาง วิวทะเลกันเลยทีเดียว มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันมากๆค่ะ

                        มาถึงภายในห้องน้ำกันบ้าง ภายในห้องพัก ในเมื่อมี 2 ห้องนอนแล้ว ยังมี 2 ห้องน้ำ เพื่อความสะดวกในการใช้งานได้อีกด้วยค่ะ ที่เด็กๆชื่นชอบกันนั่นคือ ในส่วนของห้องน้ำที่อ่างอาบน้ำมองเห็นวิวทะเลนี่แหละ เพราะห้อง แฟมมิลี่ซุดนี้ จะอยู่บริเวณหัวมุมของอาคาร ทำให้เห็นวิวทะเลแบบพาโนรามาเลยค่ะ

                        นอกจากนี้ ความใส่ใจภายในห้องพักนั้น ที่ขาดไม่ได้คือการนอนค่ะ ซึ่งทางโรงแรมมีหมอนให้เลือกใช้2 แบบ คือ แบบ Soft และ แบบ Firm ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละบุคคลค่ะ มาพักผ่อนทั้งทีได้หมอนสบายนี่เท่ากับดีตลอดทริป

                        แล้วเราก็มาถึง Facilities  ที่เด็กๆจำได้ตอนเช็คอินคือ สระว่ายน้ำ 4 สระ ใช่ค่ะ อ่านไม่ผิด 4 สระที่สำคัญ สระเด็กมีสไลด์เอร์ และอุโมงยักษ์อีกด้วย อีกทั้ง คิดส์คลับที่สนุกสนาน ให้เด็กๆได้พักผ่อน โดยเราามารถฝากเด็กๆไว้ได้ โดยที่ ผู้ปกครอง สามารถไปฟิตเนส หรือไปชิลที่สปาก็ได้เต็มที่เลยค่ะ ( ขอกระซิบว่า 24 ชั่วโมงนะคะ คุณพ่อห้ามพลาด )

                        และ อีกหนึ่งไฮไลท์สำหรับเด็กๆที่ไม่เหมือนใคร คือ ในส่วนของสปา ที่ไม่ได้แค่มีสปาของผู้ใหญ่เท่านั้น แต่ยังมีสปาของเด็กๆอีกด้วยค่ะ โดยจะมีบริการนวดเท้า และ บริการนวดตัวให้เด็กๆ แบบบำรุงผิว โดยการใช้ coconut oil ที่อ่อนโยนต่อผิว นวดร่างกายในน้องๆ ได้ผ่อนคลายกันอีกด้วย โดยเตียงนั้นทำมาสำหรับเด็กโดยเฉพาะ พร้อมตกแต่งอย่างน่ารัก เด็กๆชื่นชอบมากๆ เพราะเข้าใจถึงความผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี มีการ สครับผิวเบาๆ พร้อมบำรุงอย่างเหมาะสมค่ะ

                        แต่ๆๆๆๆ ไฮไลท์ยังไม่จบเพียงเท่านี้ ซัมเมอร์ริมหาดทั้งที แน่นอนว่า เราออกไปปิกนิกดูพระอาทิตย์ตกกันค่ะ โดยภายในโรงแรม บริเวณคาเฟ่ เราสามารถสั่งชุดปิกนิกไว้ได้ ทางโรงแรมจะมีอุปกรณ์ครบเซทให้เรายืม พร้อมอาหาร จิบยามพระอาทิตย์ตกได้เลยทั้งครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นเสื่อ ดอกไม้ ตะกร้า และ แซนวิชแสนอร่อยพร้อมเครื่องดื่มค่ะ และในเมื่อที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องเบเกอรี่ แน่นอนว่า Afternoon tea เราต้องไม่พลาดค่ะ และกล้าการันตีเลยค่ะว่าอร่อยสมคำร่ำลือ อย่ารอให้ต่างชาติมาชม เราคนไทยชมด้วยกันเองนี่แหละ เพราะอร่อยจริงๆ

                          โรคหายาก ที่พ่อแม่ไม่ค่อยรู้จัก ถึงจะหาได้ยาก แต่โรคนี้นั้นมีอยู่จริง!!!!!

                          “โรคหายาก” เป็นปัญหาด้านสาธารณสุขระดับโลก ที่พ่อแม่ควรสังเกต และไม่ควรนิ่งนอนใจอีกต่อไป ถึงแม้จะหาได้ยาก แต่เมื่อรวมๆดูแล้ว มีผู้ป่วยด้วยกลุ่มโรคเหล่านี้ จำนวนไม่น้อย เลยทีเดียว

                          แล้วทำไมพ่อแม่อย่างเราถึงต้องใส่ใจเป็นพิเศษ แน่นอนว่า ซึ่งในปัจจุบันมีผู้ป่วยโรคหายากประมาณ 400 ล้านคนทั่วโลก1 โดยกว่า 3.5 ล้านคนเป็นผู้ป่วยในประเทศไทย แต่มีเพียง 20,000 คน2 เท่านั้นที่ได้รับการวินิจฉัยและเข้าสู่กระบวนการรักษาอย่างถูกวิธี และ โรคหนึ่งที่น่าสนใจในกลุ่มโรคหายากนั้นคือ โรคโกเช่ร์ (Gaucher Disease) ที่เกิดการความผิดปกติทางพันธุกรรมชนิดหนึ่ง ซึ่งผู้ป่วย จะมีอาการเช่น อยู่ดีๆก็เกล็ดเลือดต่ำ บางคนมาด้วยอวัยวะภายใน เช่น ตับโต ม้ามโต

                          และที่น่ากังวลใจคือ บางคนเป็นตั้งแต่เด็ก แต่ไม่ได้รับการวินิจฉัยตั้งแต่ต้น เพราะกลุ่มโรคเหล่านี้ ต้องใช้เวลาในการตรวจและวินิจฉัย เพราะ เด็กมักป่วยเหมือนโรคทั่วๆไป แต่เป็นซ้ำไม่หายขาด ต้องใช้เครื่องมือที่ล้ำสมัย เพื่อถอดลำดับสารพันธุกรรมได้ทั้งจีโนมในเวลาอันรวดเร็ว ที่เป็นสาเหตุหลักของกลุ่มโรคหายาก และจะสามารถรักษาที่ตรงเหตุอย่างทันท่วงที ทำให้ผู้ป่วยมีโอกาสรอดชีวิตและมีคุณภาพชีวิตดีขึ้นได้

                          วันนี้เราได้มีโอกาสได้พูดคุยกับคุณหมอศ.นพ.วรศักดิ์ โชติเลอศักดิ์ ผู้อำนวยการศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านเวชพันธุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมาทำความรู้จัก โรคโกเช่ร์ (Gaucher Disease) กันค่ะ

                          กลุ่มโรคหายาก โรคโกเช่ร์ (Gaucher Disease) คืออะไร และ รักษาอย่างไร

                          โรคโกเช่ร์ (Gaucher disease) หรือ GD เป็นโรคทางพันธุกรรมหายาก (Rare disease) ที่มีอุบัติการณ์น้อยกว่า 1:100,000 ประชากร โดยโรคนี้สามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรม จากการขาดหรือการทำงานของเอนไซม์กลูโคซีรีโบรซิเดส (Glucocerebrosides) บกพร่อง เป็นการถ่ายทอดแบบยีนด้อย (Autosomal recessive) โดยทั้งบิดาและมารดาของผู้ป่วยเป็นพาหะหรือมีพันธุกรรมที่ผิดปกติของยีน GBA

                          โรคโกเช่ร์แบ่งออกเป็น 3 ชนิด ได้แก่ ชนิดที่ 1 : ไม่มีอาการทางระบบประสาท  ชนิดที่ 2: มีอาการทางระบบประสาทเฉียบพลัน ผู้ป่วยจะเสียชีวิตอย่างรวดเร็วจากผลแทรกซ้อนทางระบบประสาท ชนิดที่ 3:ผู้ป่วยมีอาการทางระบบประสาท โดยจะมีความผิดปกติทางพัฒนาการด้านสติปัญญา หรือมีอาการลมชัก

                           โดยในประเทศไทย พบว่าผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นเด็ก โรคนี้มักพบอาการของโรคได้ตั้งแต่แรกเกิดจนถึงวัยผู้ใหญ่ โดยมีอาการที่สามารถสังเกตได้จากรูปร่างที่เริ่มผิดปกติ  ตับโต ม้ามโต มีอาการทางระบบเลือดต่างๆ เกิดภาวะซีด เกล็ดเลือดต่ำ ทำให้เป็นแผลฟกช้ำและเลือดออกง่ายกว่าปกติ บางรายอาจมีอาการทางกระดูกร่วมด้วย เช่น ปวดกระดูก กระดูกบาง กระดูกหักง่าย และบางรายอาจมีปัญหาเรื่องการเจริญเติบโตช้า บางรายที่มีอาการทางระบบประสาทร่วมด้วยจะส่งผลเรื่องพัฒนาการด้านสติปัญญา และ มีอาการลมชัก เป็นต้น ซึ่งแต่ละรายจะมีอาการไม่เหมือนกัน 

                          ศ.นพ.วรศักดิ์ โชติเลอศักดิ์ ได้เล่าให้เราได้ฟังว่า แต่ละโรคในกลุ่มโรคหายากมีจำนวนผู้ป่วยน้อย แต่เนื่องจากกลุ่มโรคนี้มีกว่า 7,000 โรค โดยรวมแล้วจึงมีผู้ป่วยเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ เดิมเรายังไม่มีเครื่องมือที่เหมาะสม ทำให้การวินิจฉัยโรคหายากยิ่งยากขึ้นไปอีก แต่ในปัจจุบัน มีเครื่องมือที่ล้ำสมัย เรียกว่า “Next Generation Sequencing” หรือ “NGS”  ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการถอดลำดับสารพันธุกรรมได้ทั้งจีโนมในเวลาอันรวดเร็ว ทำให้สามารถตรวจพบความผิดปกติของสารพันธุกรรมอันเป็นสาเหตุหลักของกลุ่มโรคหายาก แพทย์จึงสามารถให้การวินิจฉัยโรคได้อย่างรวดเร็ว นำไปสู่การรักษาที่ตรงเหตุอย่างทันท่วงที ทำให้ผู้ป่วยมีโอกาสรอดชีวิตและมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น บ่อยครั้งที่เปลี่ยนจากการที่ต้องมีผู้ดูแลไปตลอดชีวิต กลายมาเป็นกำลังของสังคมได้” เดิมทีเราไม่ทราบที่มาของโรค แพทย์จำเป้นต้องรักษาตามอาการ และ รักษาตามโรคที่เกิดขึ้นในความดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแต่ละสาขา แต่ที่น่าสังเกตคือ เด็ก หรือผู้ป่วย กลับมาหาแพทย์ด้วยโรคและอาการเดิมๆซ้ำๆ จนเป็นที่น่าสงสัย จึงก่อให้เกิดการวินิจฉัยไปยังกลุ่มโรคหายากในลำดับต่อไป แต่บางราย รู้ช้า หรือวินิจฉัยได้ช้า การรักษาก็เป็นไปได้ยากขึ้น จึงเป็นที่น่ายินดี ที่เทคโนโลยีได้ก่อให้เกิดเครื่องมือที่ทันสมัย ตรวจได้เร็วขึ้น และรักษาได้เร็วขึ้น โดยรักษาด้วยการให้ยาเอนไซม์ทดแทน ซึ่งผู้ป่วยจะต้องมารับยาเอนไซม์ทุกๆ 2 สัปดาห์ (ตลอดชีวิต) หรือวิธีที่สามารถรักษาให้หายขาดได้ คือ การปลูกถ่ายไขกระดูก หรือการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิด (Stem cell)

                          นอกจากนี้เรายังได้พูดคุยกับ คุณบุญพุฒิพงศ์ธนโชติ ประธานมูลนิธิโรคพันธุกรรมแอลเอสดี ซึ่งเป็นคุณพ่อผู้ดูแลลูกที่ป่วยเป็นโรค
                          โกเช่ร์ อีกด้วย

                          คุณบุญ พุฒิพงศ์ธนโชติ เล่าให้เราฟังว่า “น้องฝ้ายเป็นโรคโกเช่ร์มาตั้งแต่เกิด ในตอนนั้น โรคนี้เป็นสิ่งใหม่มากสำหรับพวกเรา จากวันแรก ผมรู้แค่ว่าผมต้องทำทุกอย่างที่สามารถทำได้เพื่อช่วยให้ลูกมีชีวิตรอด ยิ่งไปกว่านั้นกระบวนการรักษามีความซับซ้อนและราคาสูง เป็นความท้าทายครั้งหนึ่งในชีวิต แต่เราก็ผ่านมันมาได้ เลยมองย้อนว่าแล้วผู้ป่วยรายอื่นๆ ที่ต้องเจอความยากลำบากนี้เค้าจะทำอย่างไร เลยเป็นแรงบันดาลใจในการก่อตั้งมูลนิธิโรคพันธุกรรมแอลเอสดีขึ้นในประเทศไทย รวบรวมผู้ป่วยโรคโกเช่ร์และโรคหายากในกลุ่มโรคพันธุกรรมแอลเอสดีอื่นๆ ให้มารวมตัวกัน พร้อมผลักดันให้เกิดสิทธิที่ให้ภาครัฐเข้ามาดูแล สุดท้ายจากความพยายามของพวกเราทุกคน ยารักษาโรคโกเช่ร์ ประเภทที่ 1 ได้ถูกบรรจุอยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติ ช่วยสนับสนุนทางด้านการเงินและการเข้าถึงการรักษาสำหรับผู้ป่วยและผู้ดูแล เราจะเดินหน้าทำงานกับทุกภาคส่วนเพื่อขับเคลื่อนให้การรักษาโรคหายากได้รับการรักษาอย่างเท่าเทียมกันในอนาคต” 

                          รู้หรือไม่ 

                          มีองค์กรที่เข้ามาช่วยส่งเสริมมาตรฐานการดูแลผู้ป่วยโรคหายากในประเทศไทย อย่าง ทาเคดา ประเทศไทย มีการจัดงาน “Embrace the Differences, Unite for Rare Diseases” ที่บอกเล่าเรื่องราวแรงบันดาลใจจากผู้ป่วยโรคโกเช่ร์ หนึ่งในโรคหายาก ผ่านนิทรรศการนิทานเจ้าโกเช่ร์กับพลังวิเศษแห่งความลับ พร้อมรับฟังถึงความก้าวหน้าด้านนวัตกรรมทางการแพทย์ที่จะช่วยยกระดับการดูแลผู้ป่วยและการรักษา เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าของผู้ป่วยและครอบครัว ซึ่งเป็นความหวังของผู้ป่วยโรคหายากที่มีอยู่นับพันโรค  มร. ปีเตอร์ สไตรเบิล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทาเคดา (ประเทศไทย) จำกัด  กล่าวว่า “ทาเคดายึดมั่นพันธกิจในการแสวงหาสุขภาพที่ดีกว่าและอนาคตที่สดใสให้กับผู้คนทั่วโลก ผ่านการพัฒนานวัตกรรมการรักษาที่จะส่งเสริมการมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งโรคหายากเป็นหนึ่งในกลุ่มโรคที่เราให้ความสำคัญ โดยเราทำงานร่วมกับหน่วยงานด้านสาธารณสุข องค์กรทางการแพทย์ รวมทั้งกลุ่มตัวแทนผู้ป่วยเพื่อร่วมกันสนับสนุนให้เกิดการสร้างโอกาสและความเท่าเทียมให้ผู้ป่วยเข้าถึงการรักษาและนำไปสู่อนาคตที่ดีขึ้นของชุมชนโรคหายากต่อไป” 

                           

                           

                            

                            การเลือกซื้อคาร์ซีท สำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่

                            สิ่งแรกที่คุณพ่อคุณแม่ควรคำนึงใน การเลือกซื้อคาร์ซีท คือ การได้รับการทดสอบในด้านของความปลอดภัยในระดับสากล โดยทั่วไปการทดสอบจะเริ่มตั้งแต่การทดสอบการชนและการป้องกันแรงกระแทกที่จะส่งผลต่อร่างกายเด็ก

                             

                            มาตรฐานที่เป็นที่ยอมรับโดยทั่วกันในโลกแบ่งออกเป็นของ 2 กลุ่มหลักๆ คือ ECE R44 /04 และ ECE R129 หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ i – size ของทวีปยุโรป และ FMVSS 213 ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีความแตกต่างกันไปในรายละเอียดของการทดสอบขึ้นอยู่กับกฎข้อบังคับของแต่ละประเทศ ปัจจัยที่สำคัญที่สุดคือการเลือกคาร์ซีทที่ได้รับมาตรฐานและมีสติกเกอร์แสดงถึงมาตรฐานชัดเจน ดังนั้นก่อนซื้อคาร์ซีทไม่ว่าจะรุ่นหรือแบรนด์ไหนๆ คุณพ่อและคุณแม่อย่าลืมที่จะหาข้อมูลหรือสอบถามเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยของคาร์ซีทตัวนั้นๆ ด้วยนะคะ

                            ภาพตัวอย่างสติกเกอร์ที่โชว์มาตรฐานชัดเจน และมักแปะอยู่ที่บริเวณด้านหลัง/ใต้ฐานของคาร์ซีท

                             

                            นอกจากนี้ยังมีอีกหลายปัจจัยที่เป็นส่วนสำคัญในการพิจารณาในเลือกคาร์ซีทให้แก่ลูกรัก

                            • ปัจจัยในเรื่องของการติดตั้ง

                            คาร์ซีทส่วนใหญ่ในท้องตลาดการติดตั้งจะมีด้วยกันทั้งหมด 2 แบบ

                            1. เข็มขัดนิรภัย เป็นการติดตั้งด้วยสายเข็มขัดนิรภัยที่มากับรถยนต์
                            2. Isofix คือการติดตั้งด้วยการเสียบแท่น isofix ของคาร์ซีทเข้ากับเบาะรถยนต์ โดยส่วนมากจะมีในรถยนต์ปี 2014 เป็นต้นไป ช่วยในเรื่องความสะดวก และประหยัดเวลาในการติดตั้ง

                            • ปัจจัยในเรื่องของอายุการใช้งาน

                            ส่วนมากคาร์ซีทจะแบ่งกลุ่มออกตามอายุการใช้งาน โดยเริ่มตั้งแต่ช่วงแรกเกิดถึงช่วงอายุต่าง ๆ ซึ่งขึ้นอยู่ในดุลยพินิจของคุณพ่อคุณแม่ว่าอยากให้ลูกน้อยนั่งคาร์ซีทถึงช่วงอายุเท่าไหร่

                             

                            ** โดยในปัจจุบัน ตามราชกิจจานุเบกษาที่ได้เผยแพร่ประกาศ พ.ร.บ.จราจรทางบกฉบับที่ 13 พ.ศ.2565 เมื่อวันที่ 7 มี.ค. 2565 ให้ผู้โดยสารที่เป็นเด็กอายุไม่เกิน 6 ปี ต้องนั่งคาร์ซีท และผู้โดยสารที่มีความสูงไม่เกิน 135 เซ็นติเมตรต้องคาดเข็มขัดนิรภัยตลอดเวลาที่โดยสาร ทำให้ทุกๆ บ้านที่มีลูกน้อยจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีคาร์ซีทเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย และถ้าพ่อแม่คนไหนฝ่าฝืนไม่ใช้คาร์ซีทสำหรับเด็กทารกแรกเกิด หรือเบาะนั่งนิรภัยสำหรับเด็กเล็ก มีโทษปรับสูงสุด 2,000 บาท

                            • ปัจจัยในเรื่องของงบประมาณ

                            ในส่วนของงบประมาณ ขึ้นอยู่กับคุณพ่อคุณแม่ โดยปัจจุบันในตลาดมีคาร์ซีทหลากหลายให้เลือกจำนวนมาก แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเลือกคาร์ซีทที่ได้รับมาตรฐานความปลอดภัยสากลที่อยู่ภายในงบประมาณของคุณพ่อคุณแม่นะคะ

                             

                            Tips:

                            ควรเลือกคาร์ซีทแบบไหนให้ตรงกับไลฟ์สไตล์ของครอบครัวเรามากที่สุด? 

                             

                            • สำหรับบ้านที่มีลูกน้อยวัยแรกเกิดและมีความจำเป็นต้องเดินทางบ่อย ๆ โดยเฉพาะในช่วงขวบปีแรกที่ต้องพาลูกน้อยไปหาหมอหรือไปฉีดวัคซีน แนะนำ “ตะกร้าคาร์ซีท” ที่ช่วยมอบความคล่องตัวที่เหมาะสำหรับลูกน้อยวัยแรกเกิด ถึง 13 กิโลกรัม เช่น Joie รุ่น Gemm

                            • สำหรับครอบครัวที่อาจเดินทางไม่บ่อย ไม่ค่อยได้ออกจากบ้าน แนะนำเลือกซื้อคาร์ซีทแบบติดตั้งอยู่กับรถ ที่สามารถติดตั้งได้ทั้งหันหน้าเข้า และ หันหน้าออก ไม่ว่าจะติดตั้งด้วยเบลล์ หรือ isofix จะคุ้มค่าและตอบโจทย์มากที่สุด เนื่องจากสามารถเลือกแบบการใช้งานในระยะยาวได้

                            • และสำหรับบ้านที่มีเด็กโตวัย 3 ขวบขึ้นไป คาร์ซีทที่เหมาะสมสำหรับเด็กโต คือ “บูสเตอร์ซีท” ที่ทำหน้าที่เหมือนคาร์ซีท เป็นการเพิ่มความปลอดภัยและความสูงให้กับเด็กๆ ให้มีความสูงที่เพียงพอในการคาดเข็มขัดนิรภัยบนรถยนต์ได้ โดยการเลือก Booster Seat คำนึงถึงปัจจัยในเรื่องของอายุ น้ำหนักและส่วนสูง โดยเริ่มต้นตั้งแต่ 3 – 12 ปี หรือน้ำหนัก 15-36 kg. และ มีความสูง 100-145 cm.

                            เคล็ดลับเพิ่มเติมสำหรับการนั่งคาร์ซีทในแต่ละช่วงวัย

                            • แรกเกิด – 15 เดือน “ต้อง” นั่งหันหน้าเข้าหาเบาะด้านหลังรถ* (Rearward-facing baby seat) เพราะกระดูกคอและหลังยังไม่แข็งแรง หันหน้าเข้าเบาะหลังช่วยลดแรงกระแทก
                            • แรกเกิด – 6 ปี สามารถนั่งแบบ “ผสม” หันได้ทั้งด้านหน้าและด้านหลังรถ (Combination seat)
                            • 9 เดือน  –11 ปี สามารถเริ่มนั่งแบบหันหน้าไปด้านหน้ารถ (Forward-facing child seat)
                            • เด็กโต 3 ปี – 12 ปี นั่งแบบมีพนักพิงด้านหลัง (High-backed Booster Seat) หลังจากนั้น น้องจะเข้าสู่ช่วงโตเต็มวัย และสามารถใช้ Belt ที่มากับรถได้แล้ว

                              10 ช่อง Youtube ฝึกภาษา ปูพื้นฐานความรู้ พร้อมโกอินเตอร์

                              10 ช่อง Youtube ฝึกภาษา ปูพื้นฐานความรู้ พร้อมโกอินเตอร์

                              เดี๋ยวนี้ถ้าอยากเรียนภาษาต่างประเทศ ไม่ว่าจะอังกฤษ จีน เกาหลี ญี่ปุ่น สเปน หรือภาษาอะไรก็ตาม เพียงเข้าแอป Youtube ฝึกภาษา ก็จะมีอาจารย์มาเปิดช่องสอนกันคึกคัก วิธีนำเสนอก็ต่างกันไป จะเลือกดูช่องไหนก็คงต้องแล้วแต่พื้นความรู้ที่สะสมมาต่อยอด ใครสนใจภาษาไหน อยากเรียนระดับไหน ลองเลือกจาก 10 ช่อง Youtube ฝึกภาษา ที่เราคัดสรรมาได้เลย

                              10 ช่อง Youtube ฝึกภาษา ปูพื้นฐานความรู้ พร้อมโกอินเตอร์

                              10 ช่อง Youtube ฝึกภาษา ปูพื้นฐานความรู้ พร้อมโกอินเตอร์

                              1. UNFOX English

                              ช่องสอนภาษาอังกฤษเนื้อหาหลากหลาย ตั้งแต่แกรมม่าพื้นฐาน บทสนทนาพื้นฐาน ฝึกพูดภาษาอังกฤษ ไปจนถึงคำศัพท์ตั้งแต่ง่าย ไปจนถึงศัพท์ในชีวิตประจำวัน ศัพท์สแลงเข้ายุคสมัย ซึ่งจะมีพิธีกรประจำช่องที่ช่วยสอนไปทีละขั้น ที่ละข้อ หรือนำหนัง ซีรีส์ เพลงกำลังเป็นกระแส มาพูดคุย อธิบายความหมาย โดยมีแขกรับเชิญมาร่วมแชร์ความรู้ไปด้วย ส่วนคนที่อยากเรียนรู้จริงจัง ยังสามารถเข้าไปเรียนคอร์สภาษาแบบปูพื้นได้จากในเว็บไซต์ด้วย เรียกว่าปล่อยความรู้ให้แบบไม่กั๊กและไม่มีค่าใช้จ่ายเลย เหมาะสำหรับน้องๆวัยประถมขึ้นไป หรือคนที่อยากปัดฝุ่นความรู้ภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง

                              10 ช่อง Youtube ฝึกภาษา ปูพื้นฐานความรู้ พร้อมโกอินเตอร์

                              ข้อมูลเพิ่มเติม https://www.youtube.com/@unfoxenglish

                                

                              1. KND Studio

                              ย่อมาจาก คำนี้ดี ช่องที่เป็นมากกว่าสอนภาษาอังกฤษ แต่คือพอดแคสต์ที่เสนอคอนเท้นต์เชิงความคิด ประเด็นทันสมัย ผ่านภาษาอังกฤษไปด้วย โดดเด่นด้วยคลังคำศัพท์ที่จะนำมาสอนให้จดจำและเข้าใจสถานการณ์ที่ใช้แบบเป็นหมวดหมู่ เช่นชุดท่องศัพท์จนหลับไป, ทายศัพท์จนหลับไป, Word Quiz, Vocab Quiz, Idiom 100, สะกดเก่ง มีคลิปสอนการออกเสียง ตั้งแต่ระดับคำ ยาวเป็นย่อหน้า ไปจนถึงเทคนิคพรีเซ้นต์ภาษาอังกฤษ แถมเนื้อหาแต่ละตอนกูทำได้น่าติดตาม สลับกับพ็อตแคสต์พูดคุยภาษาอังกฤษตามประเด็นสังคมต่างๆ เรียกว่าช่องนี้ดูได้ตั้งแต่ทักษะระดับเริ่มต้น ถึงแอดวานซ์เลยทีเดียว   

                              10 ช่อง Youtube ฝึกภาษา ปูพื้นฐานความรู้ พร้อมโกอินเตอร์

                              ข้อมูลเพิ่มเติม https://www.youtube.com/@KNDStudio/featured

                               

                              1. ADAM Bradshaw

                              หลายคนคงรู้จักอาจารย์อดัมกันเป็นอย่างดีจากรายการสอนภาษาอังกฤษทางโทรทัศน์ ซึ่งพอมาสอนในยูทูปอาจารย์ก็ยังคงคอนเซ็ปต์การสอนที่เน้นไปทางเกร็ดภาษา แก้ไขความเข้าใจผิดทางภาษาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการออกเสียงที่ถูกต้อง ความต่างของคำความหมายคล้ายกัน คำไทยแปลเป็นคำอังกฤษว่าอะไร การสนทนาภาษาอังกฤษในสถานการณ์ต่างๆ หรือชวนแขกรับเชิญมาคุยภาษาอังกฤษที่ถูกต้อง ซึ่งข้อดีของช่องนี้ก็คือเป็นการสอนอังกฤษโดยเจ้าของภาษาโดยตรง การออกเสียงจึงถูกต้องและชัดเจน  

                              เรียนภาษา

                              ข้อมูลเพิ่มเติม https://www.youtube.com/@AdamBradshaw

                               

                              1. KruDew English

                              เรียนภาษาอังกฤษแบบได้ความรู้คู่ความสนุกกับเทคนิคการสอนที่เพิ่มจริตเฉพาะตัวของครูดิวเข้าไปด้วย ช่วยให้เรื่องวิชาการซอฟท์ลงและเข้าใจง่ายขึ้นเป็นกอง ซึ่งเนื้อหาของครูดิวจะเอาป๊อบคัลเจอร์มาเป็นตัวอย่างในการสอนแกรมมาและคำศัพท์ ไม่ว่าจะเป็นหนังหรือเพลงที่กำลังฮิต ช่วยให้จดจำได้ง่ายขึ้น รวมไปถึงเทคนิคการจดจำแกรมมา ประโยคสนทนาที่ใช้ได้ในชีวิตประจำวัน สถานการณ์ต่างๆ และยังชวนคนดัง ดารา มาร่วมแจมความฮา แต่ได้สอนภาษาอังกฤษไปในตัวด้วย 

                              เรียนภาษา

                              ข้อมูลเพิ่มเติม https://www.youtube.com/@kdenglishofficial

                               

                              1. BBC Learning English

                              ยกระดับการเรียนภาษาอังกฤษด้วยการเรียนจากเจ้าของภาษาโดยตรง ช่องนี้จึงเหมาะกับคนที่มีพื้นฐานมาแล้วพอสมควร โดยเฉพาะทักษะการฟัง แต่ถึงจะยังฟังไม่เก่ง ก็สามารถกดดูซับไตเติ้ลคู่กันไปได้ เนื้อหามีตั้งแต่การสอนแกรมมา คำศัพท์ การออกเสียง การฟัง เรียกว่าครบทุกด้าน แต่สอดแทรกในเรื่องราวที่ไม่น่าเบื่อ อย่างเช่นประเด็นที่เกี่ยวกับชีวิตประจำวัน หรือข่าวสารที่เป็นกระแสสังคม จากนั้นค่อยย่อยออกมาเป็นรูปประโยค คำศัพท์ที่ใช้ในข่าว ช่วยฝึกการฟังจับใจความไปในตัว ใครต้องการฝึกพูดและฟังภาษาอังกฤษได้ต้องไม่ควรพลาดช่องนี้ 

                              เรียนภาษา

                              ข้อมูลเพิ่มเติม https://www.youtube.com/@bbclearningenglish

                               

                              อ่านต่อ.. 10 ช่อง Youtube ฝึกภาษา ปูพื้นฐานความรู้ พร้อมโกอินเตอร์ ..ได้ที่หน้า 2

                              เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                                10 พิกัดพาลูก เที่ยวสงกรานต์ เที่ยวสนุก ฉ่ำ ยกบ้าน

                                10 พิกัดพาลูก เที่ยวสงกรานต์ เที่ยวสนุก ฉ่ำ ยกบ้าน

                                ในหนึ่งปีช่วงเวลาหยุดยาวที่หลายครอบครัวจะได้พร้อมหน้ากันก็คงจะเป็นช่วงสงกรานต์นี่เอง บางบ้านอาจจะเลือกอยู่บ้าน ใช้เวลาสบายๆร่วมกัน แต่หลายบ้านเช่นกันที่เลือกจะออกไปเปลี่ยนบรรยากาศด้วยกันนอกบ้าน จากที่ไม่ค่อยได้ไปไหนด้วยกัน เราจึงจัด 10 พิกัด เที่ยวสงกรานต์ มาให้เลือกกัน สะดวกใกล้ไกลจุดไหนก็ขอให้เดินทางปลอดภัย มีความสุข ชุ่มฉ่ำ รับเทศกาลสงกรานต์กันค่ะ  

                                10 พิกัดพาลูก เที่ยวสงกรานต์ เที่ยวสนุก ฉ่ำ ยกบ้าน

                                10 พิกัดพาลูก เที่ยวสงกรานต์ เที่ยวสนุก ฉ่ำ ยกบ้าน

                                1. สวนนงนุช ชลบุรี

                                มาเที่ยวกันได้ทั้งบ้าน เพลินได้ทั้งวันจริงๆ ที่นี่รวบรวมพรรณไม้หายากเอาไว้มากมาย บรรยากาศร่มรื่น มีการจัดสวนสไตล์ต่างๆ พร้อมมุมถ่ายรูปเพียบ ไม่ว่าจะสวนฝรั่งเศส สวนอังกฤษ สวนหิน สวนตะบองเพชร ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีโซนที่หลายคนชื่นชอบ อย่างเช่น การแสดงช้าง ห้องจัดแสดงของสะสมหายากและราคาแพง เช่นบรรดารถซูเปอร์คาร์ และพลาดไม่ได้กับหุบเขาไดโนเสาร์ สุดอลังการด้วยหุ่นโมเดลเสมือนจริงของไดโนเสาร์มากมายหลากหลายชนิดในอิริยาบถต่างๆ พร้อมเสียงคำราม และบรรยากาศสวนสไตล์ดึกดำบรรพ์ราวกับหลุดไปอยู่ในโลกล้านปี

                                10 พิกัดพาลูก เที่ยวสงกรานต์ เที่ยวสนุก ฉ่ำ ยกบ้าน

                                ข้อมูลเพิ่มเติม https://www.nongnoochpattaya.com/th

                                 

                                1. พิพิธภัณฑ์พระรามเก้า ปทุมธานี

                                เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ได้แรงบันดาลใจจากพระราชกรณียกิจในรัชกาลที่ 9 เต็มไปด้วยองค์ความรู้รอบด้าน ทั้งในเรื่องนิเวศวิทยา ดาราศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ไปจนถึงภูมิศาสตร์ สามารถเดินชมและสนุกไปกับอุปกรณ์สัมผัส และโมเดลเสมือนจริงต่างๆ ตั้งแต่วิวัฒนาการของโลก วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต ตื่นตากับโมเดลไดโนเสาร์ขนาดใหญ่ที่ทั้งขยับและคำรามได้ มนุษย์ตั้งแต่แรกเริ่มถึงปัจจุบัน สัตว์ต่างๆ จากทุกมุมโลก จัดแสดงแบ่งตามสภาพภูมิอากาศ โซนเทิดพระเกียรติรัชกาลที่ 9 รวมไปถึงเวิร์คช็อปวิทยาศาสตร์ และห้ามพลาดน้ำตกในร่มขนาดใหญ่ที่สูงจรดเพดานพร้อมจุดชมวิวมุมสูง เพลิดเพลินเดินชมได้ทั้งวัน  

                                ที่เที่ยวสงกรานต์

                                ข้อมูลเพิ่มเติม https://www.nsm.or.th/nsm/th/museum/rama9-museum

                                 

                                1. สวนน้ำโคลัมเบียพิคเจอร์ส ชลบุรี

                                ชุ่มฉ่ำรับสงกรานต์กับสวนน้ำระดับโลกโดยโคลัมเบีย พิคเจอร์ส ค่ายหนังฮอลิวูดที่มีหนังชื่อดังมากมาย ซึ่งบรรดาเครื่องเล่นในสวนน้ำก็ล้วนนำธีมมาจากหนังดังของค่ายนี้ อย่างโซนโฮเทล ทรานซิลเวเนีย เป็นโครงสร้างเครื่องเล่นรวมสไลด์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สามารถให้เลือกเล่นจาก 9 สไลเดอร์และสนุกกับของเล่นสวนน้ำกว่า 100 จุด, เครื่องเล่นโปรตอนสตรีม จากเรื่อง Ghostbusters จะพาทะยานเข้าในสไลด์ทรงกลมที่ใหญ่ที่สุดในโลก ไปจนถึงสระคลื่นยักษ์ ที่มีคลื่นเสมือนจริง ให้เล่นน้ำเหมือนอยู่ในทะเลด้วย

                                10 พิกัดพาลูก เที่ยวสงกรานต์ เที่ยวสนุก ฉ่ำ ยกบ้าน

                                ข้อมูลเพิ่มเติม http://www.columbiapicturesaquaverse.com/

                                 

                                1. ตลาดโอ๊ะป่อย ราชบุรี

                                ตลาดชุมชนบรรยากาศน่ารักที่ชูเอกลักษณ์ชาติพันธุ์กะเหรี่ยง เป็นตลาดติดลำน้ำภาชี มีที่นั่งทำจากไม้ไผ่ให้นั่งชิลติดริมน้ำ และสามารถซื้ออาหารในตลาดมานั่งกิน เช่น ข้าวยำสมุนไพร ข้าวแดกงา ข้าวห่ออั้งหมี่ถ่อ ขนมจีนน้ำยาหยวกกล้วย ผัดไทย ข้าวเกรียบปากหม้อ ข้าวเหนียวหมูปิ้ง ขนมถ้วย กาแฟดริป ชาสมุนไพร ฯลฯ รวมทั้ง คังด้ง หรือ ใยแมงมุมเครื่องแขวนของชาวกะเหรี่ยง ก็น่าซื้อเป็นของที่ระลึก ห้ามพลาดใส่บาตรพระล่องแพ ที่ชาวกะเหรี่ยงถ่อมาตามลำน้ำพร้อมเป่าเขาสัตว์บอกสัญญาณ ได้ใส่บาตรด้วยอาหารแห้งใส่ชะลอมและดอกไม้ร่วมกัน เป็นช่วงเวลาที่น่าประทับใจมาก

                                ที่เที่ยวสงกรานต์

                                ข้อมูลเพิ่มเติม https://web.facebook.com/ohpoimarket/

                                 

                                1. อุทยานวังตะไคร้ นครนายก 

                                แหล่งพักผ่อนหย่อนใจระดับตำนาน อดีตที่พำนักของกรมหมื่นนครสวรรค์ศักดิ์พินิจ และหม่อมราชวงศ์หญิงพันธุ์ทิพย์ บริพัตร ภายในพื้นที่ 2.4 ตารางกิโลเมตรของอุทยาน เต็มไปด้วยความร่มรื่นของพันธุ์ไม้ทั่วพื้นที่ รวมทั้งสวนพฤกษศาสตร์ สวนกุหลาบ น้ำตกจำลอง และสายน้ำธรรมชาติที่ไหลผ่าน ทั้งคลองตะเคียน และคลองมะเดื่อ ส่วนกิจกรรมก็มีให้ทำมากมาย ได้ทั้งครอบครัว เช่น ล่องแก่ง, ขับ ATV, Paintball, ล่องเรือชมเขื่อนขุนด่านปราการชล, โหนสลิง รวมทั้งกิจกรรมผจญภัยตามฐานต่างๆ นอกจากนี้ยังมีครบทั้งที่พัก ลานกางเต๊นท์ และร้านอาหารด้วย   

                                ที่เที่ยวสงกรานต์

                                ข้อมูลเพิ่มเติม https://web.facebook.com/wangtakrai/

                                 

                                อ่านต่อ.. 10 พิกัดพาลูก เที่ยวสงกรานต์ เที่ยวสนุก ฉ่ำ ยกบ้าน ..ได้ที่หน้า 2

                                เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                                  10 สวนสัตว์และ อควาเรียม ทั่วไทย น่าพาลูกไปเที่ยว

                                  10 สวนสัตว์และ อควาเรียม ทั่วไทย น่าพาลูกไปเที่ยว

                                  พื้นที่เรียนรู้มีอยู่มากมาย และที่ที่ใครๆก็คุ้นเคยคือสวนสัตว์ที่เราจะได้รู้จักสัตว์จากทุกมุมโลก บนบกและในน้ำ อย่างใกล้ชิด สอนความรักสัตว์ และยังได้ความรู้ทางชีววิทยาด้วย ตามมาเที่ยว 10 สวนสัตว์ และ อควาเรียม ทั่วไทยด้วยกันเลยค่ะ

                                  10 สวนสัตว์และ อควาเรียม ทั่วไทย น่าพาลูกไปเที่ยว

                                  10 สวนสัตว์และ อควาเรียม ทั่วไทย น่าพาลูกไปเที่ยว

                                  1. สวนสัตว์เปิดเขาเขียว ชลบุรี

                                  ชวนกันมาชมสัตว์อย่างใกล้ชิดแบบไม่มีกรงกั้น บนเนื้อที่กว่า 5,000 ไร่ ที่นี่มีสัตว์มากมายหลายสายพันธุ์ถึง 300 ชนิด พร้อมกิจกรรมและการแสดงโชว์จากสัตว์แสนรู้ จะเดินชม นั่งรถนำเที่ยว หรือเช่ารถกอล์ฟขับลุยเอง สามารถจอดแวะดูโชว์หรือชมสัตว์ตรงไหนก็ได้ ใครอยากใกล้ชิดน้องๆก็มีโซนที่สามารถเข้าใกล้และป้อนอาหารได้ด้วย ส่วนโชว์ที่ห้ามพลาดก็คือการชมช้างว่ายน้ำจากบ่อกระจกใส และการแสดงพาเหรดเพนกวิน ที่น้องจะเดินเรียงแถวมาอย่างเป็นระเบียบ น่าเอ็นดูมาก ๆ  

                                  10 สวนสัตว์และ อควาเรียม ทั่วไทย น่าพาลูกไปเที่ยว

                                  ข้อมูลเพิ่มเติม https://khaokheow.zoothailand.org/intro.php

                                   

                                  1. SeaLife Bangkok Ocean World

                                  แหล่งเรียนรู้โลกใต้น้ำแบบใจกลางกรุงสุดๆ ภายในศูนย์การค้าสยามพารากอน เดินทางสะดวกสบายสุดๆ ภายในจัดแสดงอย่างอลังการเต็มพื้นที่กว่า 10,000 ตารางเมตร สามารถสัมผัสและชมชีวิตสัตว์น้ำน้อยใหญ่ผ่านห้องกระจกขนาดใหญ่แบบ 360 องศา อย่างเช่น ฉลาม, เต่าทะเล, เพนกวิน, ม้าน้ำ ฯลฯ หรือจะลองสัมผัสโลกใต้ทะเลแบบใกล้ชิดก็มีบริการดำน้ำชมฉลามเสือทราย ฉลามครีบดำ ฉลามเสือดาว กระเบนหลังดำ กระเบนนก พร้อมกับครูฝึกมากประสบการณ์ นอกจากนี้ยังมีโซนป่าดิบชื้น ที่จะได้พบกับปลาอะราไพม่า มังกรเครา กบลูกศรพิษ นากเล็กเล็บสั้น และงูนานาชนิด

                                  10 สวนสัตว์และ อควาเรียม ทั่วไทย น่าพาลูกไปเที่ยว

                                  ข้อมูลเพิ่มเติม https://web.facebook.com/SEALIFEBangkokOceanWorld/

                                   

                                  1. Elephant Haven Thailand กาญจนบุรี

                                  มารู้จักช้างแบบไม่ต้องดูโชว์ ไม่ต้องขี่หลัง เพียงแค่มาใช้เวลาเดิน สูดกลิ่นอายป่าบริสุทธิ์ด้วยกัน ก็จัดว่าเป็นกิจกรรมเชิงอนุรักษ์ที่น่าสนใจไม่น้อย ที่นี่เป็นแหล่งพักพิงช้างที่ปลดระวางจากกิจกรรมท่องเที่ยว รวมไปถึงช้างหลายวัยให้มารู้จักพฤติกรรม กิจกรรมคือการมาใช้ชีวิตร่วมกับช้าง มีทั้งทำอาหารและป้อนอาหารให้ช้าง เดินตามช้างเข้าป่า ชมธรรมชาติ ปล่อยช้างหากิน เล่นโคลน ลงไปเล่นน้ำกับช้างในลำธาร ท่ามกลางบรรยากาศป่าที่สดชื่นรื่นรมย์ เรียกว่าเป็นกิจกรรมที่เน้นให้คนเข้าใจพฤติกรรมช้าง ได้อยู่ใกล้ชิดกันโดยไม่ต้องฝึกเค้ามาเอาใจนักท่องเที่ยว เป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจมาก  

                                  สวนสัตว์

                                  ข้อมูลเพิ่มเติม https://elephanthaventhailand.org/

                                   

                                  1. Underwater World พัทยา

                                  ก้าวสู่โลกใต้ทะเลกับอควาเรียมที่ใหญ่ที่สุดในชลบุรี ภายในมีโซนชมสัตว์น้ำหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ปลาทะเลสีสันสดใส ชมปลาทะเลตัวใหญ่ ทั้งฉลามและกระเบนว่ายไปมาแบบใกล้ชิดภายในอุโมงค์กระจกใส ให้ความรู้สึกราวกับอยู่ในโลกใต้ทะเล และยังมีโชว์ให้อาหารปลาใต้น้ำให้ชมเป็นรอบๆด้วย นอกจากนี้ยังมีการจัดตู้แสดงพันธุ์สัตว์น้ำพร้อมข้อมูลความรู้ ทั้งสัตว์ทะเล ปะการัง ปลาน้ำจืดสายพันธุ์ต่างๆ และยังมีโซนแมงกะพรุนในห้องเรืองแสง โซนสัตว์เลื้อยคลาน ที่บางชนิดสามารถสัมผัสได้โดยมีผู้เชี่ยวชาญดูแล และห้ามพลาดการแสดงของน้องนากแสนรู้ สุดน่ารัก 

                                  สวนสัตว์

                                  ข้อมูลเพิ่มเติม https://web.facebook.com/underwaterworldpattaya.uwp/?locale=th_TH&_rdc=1&_rdr

                                   

                                  1. Chiang Mai Night Safari

                                  สวนสัตว์ไม่ได้มีให้ชมแค่ตอนกลางวันเท่านั้น เพราะยังมีสัตว์หลายชนิดที่ใช้ชีวิตในยามค่ำคืน ซึ่งที่นี่ก็ถือเป็นสวนสัตว์กลางคืนแห่งแรกของประเทศไทย มีสัตว์ให้ชมถึง 1,400 ตัวเลย ไฮไลท์คือ Safari Tram ที่จะมีทั้งกลางวันและกลางคืน โดยเฉพาะกลางคืน จะได้ตื่นตาตื่นใจกับพฤติกรรมของสัตว์ในตอนกลางคืน บางชนิดก็สามารถเดินมาหาถึงข้างรถเลยทีเดียว แบ่งเป็น 2 โซน คือ Savanna Safari สัมผัสกับสัตว์ต่างๆ อย่างใกล้ชิด เช่น ยีราฟ ม้าลาย จิงโจ้แดง กวางผา และโซนที่ 2 Predator Prowl ซึ่งเป็นโซนสัตว์นักล่า เช่น เสือโคร่งขาว สิงโต ไอยีน่าลายจุด และอีกมากมาย  

                                  สวนสัตว์

                                  ข้อมูลเพิ่มเติม https://chiangmainightsafari.com/th/

                                   

                                  อ่านต่อ.. 10 สวนสัตว์และ อควาเรียม ทั่วไทย น่าพาลูกไปเที่ยว ..ได้ที่หน้า 2

                                  เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                                    สฟิงโกไมอีลิน เด็กผ่าคลอด

                                    สร้างสมองไว สร้างภูมิคุ้มกันเร็วให้ เด็กผ่าคลอด ต้องเริ่มอย่างไร ?

                                    คุณแม่ที่ผ่าตัดคลอดจำเป็นต้องรู้เรื่องนี้ เพื่อที่จะได้ดูแลลูกน้อยได้อย่างทันที ใน เด็กผ่าคลอด พบว่ามี การเชื่อมโยงการทำงานของสมองน้อยกว่าเด็กที่คลอดธรรมชาติ ดังนั้นเพื่อช่วยให้คุณแม่สามารถสร้างสมองเรียนรู้ไว และสร้างภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงให้กับลูกน้อยตั้งแต่แรกคลอด กองบรรณาธิการ Amarin Baby & Kids มีคำแนะนำในการดูแล เด็กผ่าคลอด มาฝากค่ะ 

                                    ทำไมต้องสร้างสมองไว และเสริมภูมิคุ้มกันให้.. เด็กผ่าคลอด

                                    เด็กที่คลอดด้วยวิธีการผ่าคลอดมักจะมีปัญหาด้านสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดธรรมชาติค่ะ นั่นก็เพราะว่าเด็กที่คลอดธรรมชาติจะได้รับจุลินทรีย์สุขภาพอย่างบีแล็กทิส (B. lactis) ซึ่งอาศัยอยู่บริเวณช่องคลอดของแม่เข้าสู่ร่างกายของลูกได้ในทันทีขณะผ่านช่องคลอดออกมา ซึ่งจะช่วยให้เด็กคลอดธรรมชาติมีพัฒนาการระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นที่เร็ว ข้อดีคือช่วยให้มีโอกาสเจ็บป่วยที่น้อยลงแต่ในเด็กผ่าคลอด จะเสียโอกาสในการได้รับภูมิคุ้มกันตั้งต้นที่ช้ากว่า ซึ่งผลกระทบที่ตามมาคือมีโอกาสเป็นโรคภูมิแพ้ และเจ็บป่วยบ่อย ที่สำคัญยังพบว่าเด็กผ่าคลอดมีความเสี่ยงด้านพัฒนาการทางสมองอีกด้วยค่ะ

                                    เด็กผ่าคลอด พบว่ามีความเชื่อมโยงของสมองน้อยกว่าเด็กที่คลอดธรรมชาติ จากการศึกษาที่สหรัฐอเมริกา (Deoni 2019) ได้มีการศึกษาพัฒนาการทางสมอง โดยดูการทำงานเชื่อมโยงของเซลล์ประสาทในสมอง (Brain connectivity) จากภาพสแกนสมอง เปรียบเทียบระหว่างเด็กคลอดธรรมชาติ และเด็กผ่าคลอด เมื่ออายุ 2 สัปดาห์ พบว่าสมองของเด็กผ่าคลอดมีการทำงานเชื่อมโยงน้อยกว่าเด็กที่คลอดธรรมชาติ นอกจากนี้พัฒนาการสมองของเด็กที่ผ่าคลอด ส่วนคอร์ปัส คาโลซัม (Corpus Callosum) ซึ่งเป็นส่วนที่เชื่อมโยงการทำงานระหว่างสมองซีกซ้าย และซีกขวา พบว่าเด็กผ่าคลอดมีการสร้างไมอีลินในสมองน้อยกว่าเด็กที่คลอดธรรมชาติอย่างมีนัยสำคัญ ตั้งแต่อายุ 3 เดือนจนถึง 3 ปี1

                                    นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมคุณแม่ที่ผ่าคลอดลูก ต้องรีบกระตุ้นให้ลูกน้อยมีพัฒนาการสมอง และมีระบบภูมิคุ้มกันที่เร็ว ฉะนั้นคุณแม่อย่ารอ !! เพราะอาจจะช้าจนสายเกินแก้ไขได้นะคะ

                                    น้ำนมแม่อาหารที่ดีที่สุดสำหรับ.. เด็กผ่าคลอด ให้ลูกมีพัฒนาการสมองไว และระบบภูมิคุ้มกันดี

                                    สารอาหารดีที่สุด ปลอดภัยที่สุด ขอยกให้น้ำนมแม่เลยค่ะ ในน้ำแม่มีสารอาหารหลากหลายกว่า 200 ชนิดตามที่ร่างกายของลูกน้อยต้องการตั้งแต่แรกคลอด สำหรับเด็กผ่าคลอด แนะนำให้กินนมแม่หลังจากคลอดออกมาแล้วให้เร็วที่สุดค่ะ ในน้ำนมแม่จะมีไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิดที่ชื่อว่า “สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้คิดเร็ว เรียนรู้ไว2

                                    รวมทั้งยังมีจุลินทรีย์สุภาพบีแล็กทิส (Bifidobacterium lactis หรือ B. lactis) ที่สามารถส่งต่อให้ลูกน้อย เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้นได้เร็วอีกด้วย

                                    สฟิงโกไมอีลิน และ บีแล็กทิส สารอาหารและจุลินทรีย์สุขภาพสำคัญที่เด็กผ่าคลอดควรได้รับ

                                    ไม่ต้องสงสัยเลยค่ะว่าคุณแม่ที่ผ่าคลอดจะช่วยให้ลูกน้อยมีพัฒนาการสมองเรียนรู้ไว และมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่แข็งแรงได้อย่างไร ตามที่บอกไปค่ะว่าในน้ำนมแม่จะมีทั้งสารอาหารสฟิงโกไมอีลิน และจุลินทรีย์สุขภาพบีแล็กทิส (B. lactis) เด็กผ่าคลอดถึงแม้จะเสียโอกาสที่ได้รับจากช่องคลอดของแม่ แต่ก็สามารถได้จากการรับประทานนมแม่นะคะ

                                    ความสุดยอดของ “สฟิงโกไมอีลิน” ที่มีอยู่ในนมแม่ก็คือ เป็นสารอาหารสำคัญในการสร้างปลอกไมอีลินของวงจรประสาทในสมอง ซึ่งไมอีลินช่วยให้สมองสามารถส่งสัญญาณประสาทได้อย่างรวดเร็วแบบก้าวกระโดด สมองจึงสามารถประมวลผลได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้เกิดการเรียนรู้ จดจำ คิดวิเคราะห์ และการพัฒนาสมองอย่างรวดเร็วเต็มศักยภาพ ไมอีลินยังมีบทบาทในการเชื่อมโยงการทำงานของเซลล์ประสาท (brain connectivity) เพื่อให้เกิดการเชื่อมต่อกันของสมองที่รวดเร็ว

                                    นักวิจัยพบว่าแขนงประสาทนำออกที่มีปลอกไมอีลินห่อหุ้มจะส่งสัญญาณประสาทได้เร็วกว่าที่ไม่มีถึงกว่า 100 เท่าโดยกระบวนการการสร้างไมอีลินในสมองของลูกจะเริ่มต้นตั้งแต่อยู่ในครรภ์คุณแม่ และยังคงมีการสร้างต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ ควบคู่ไปกับการพัฒนาสมอง เพื่อการเรียนรู้ในแต่ละส่วนตามช่วงวัยของลูก

                                    ส่วนจุลินทรีย์สุขภาพบีแล็กทิสที่อยู่ในนมแม่ก็มีความดีเด่นไม่แพ้กันเลยค่ะ เพราะถือเป็นเกราะคุ้มกันสำคัญที่ส่งผลให้ลูกน้อยมีสุขภาพแข็งแรงได้ตั้งแต่ช่วงแรกของชีวิต จุลินทรีย์สุขภาพบีแล็กทิส (Bifidobacterium lactis or B. lactis)  เป็นจุลินทรีย์สุขภาพที่พบได้มากในนมแม่3 และลำไส้ของเด็กที่คลอดธรรมชาติ4 จุลินทรีย์สุขภาพบีแล็กทิส มีประโยชน์ในการช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และสุขภาพของระบบทางเดินอาหาร5

                                    คุณแม่ผ่าคลอดหากอยากให้ลูกมีพัฒนาการสมองเรียนรู้ไว มีระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงเร็วและช่วยคืนภูมิคุมกันตามธรรมชาติการดูแลลูกน้อยผ่าคลอดให้ได้ทานนมแม่ตั้งแต่ช่วงแรกของชีวิตสำคัญและจำเป็นที่สุดเลยล่ะค่ะ สมองที่ไว ร่างกายที่แข็งแรง ส่งต่อให้ลูกน้อยมีอนาคตที่สำเร็จ เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีทั้งประสิทธิภาพและศักยภาพในชีวิตค่ะ

                                     

                                     

                                     

                                    อ้างอิง
                                    1Deoni S.C., et al. AJNR Am J Neuroradiol. 2019 Jan;40(1): 169–177.
                                    2Chevalier et al. PLos ONE 2015.
                                    3Susuki K. Nature Education. 2010;3(9):59.
                                    4Gueimonde M, et al. Neonatology. 2007;92(1):64-6.
                                    5Yang B, et al. Int J Mol Sci. 2019 Jul 5;20(13):3306.