สุดยอดภาพถ่ายพัฒนาการของทารกในครรภ์ “ตั้งแต่ปฏิสนธิจนกระทั่งก่อนคลอด”

การตั้งครรภ์โดยปกติจะมีระยะเวลา 9 เดือน หรือ ประมาณ 42 สัปดาห์ นับจากวันแรกของการมีประจำเดือนครั้งสุดท้ายโดยเฉลี่ยคือ 40 สัปดาห์ ช่วงเวลานี้เป็นระยะที่คุณแม่ตั้งครรภ์และทารกใช้เวลาอยู่ด้วยกันและเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน ซึ่งหลังการปฏิสนธิแล้ว พัฒนาการด้านต่างๆของลูกในครรภ์คุณแม่เป็นไปอย่างไรบ้าง เรามีภาพถ่ายเจาะลึกให้ดูกับแบบชัดๆ ค่ะ

24

และภาพต่อไปนี้คือผลงานของช่างภาพชาวสวิสที่ชื่อว่า Lennart Nilsson ซึ่งเขาใช้เวลามากถึง 10 ปีในการสร้างผลงานภาพถ่ายชิ้นนี้

tn7

โดยการใช้กล้องส่องภายใน และทำการถ่ายรูปการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับทารกในร่างกายของผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ในแต่ละสัปดาห์ เพื่อดูพัฒนาการและความเปลี่ยนแปลงที่น่าอัศจรรย์ของทารก…จะเป็นอย่างไรไปดูกันเลยค่ะ

สเปิร์มวิ่งไปตามท่อนำไข่

1

 

จุดหมายปลายทางคือเซลล์ไข่

2

 

สเปิร์มสองตัวเจาะเซลล์ไข่

3

 

ผู้ชนะคือสเปิร์มที่เจาะเข้าไปในเซลล์ไข่ได้เป็นตัวแรก

4

 

วินาทีแห่งชัยชนะ สำเร็จแล้ว

5

 

อ่านต่อ >> “สุดยอดภาพถ่ายพัฒนาการของทารกในครรภ์ตั้งแต่ปฏิสนธิจนกระทั่งก่อนคลอด” คลิกหน้า 2

    ลูกถูกเพื่อนรังแก

    ลูกถูกเพื่อนรังแก พ่อแม่จะรับมืออย่างไร?

    พ่อแม่หลายคนคงเกิดคำถามค้างคาใจ ว่าจะทำอย่างไรดีเมื่อ ลูกถูกเพื่อนรังแก จะให้สู้หรือหนีย้ายโรงเรียน หลายคนให้ความคิดเห็นว่าคุยหรือสอบถามรายละเอียดที่เกิดขึ้น ห้ามตำหนิหรือโทษลูกที่ถูกรังแก แสดงความเห็นใจลูก คุยกับครูที่โรงเรียนเพื่อแก้ไข ย้ายโรงเรียนหนี และอื่นๆ

    Continue reading “ลูกถูกเพื่อนรังแก พ่อแม่จะรับมืออย่างไร?”

      ติดเชื้อในกระแสเลือดอันตราย

      ลูกติดเชื้อในกระแสเลือดอันตราย แต่ป้องกันได้

      คุณพ่อ คุณแม่คงรู้จักกันดีกับคำว่าติดเชื้อในกระแสเลือด ซึ่งพบได้ในข่าวโรคภัย และประสบการณ์ของคุณแม่หลายคน แม่น้องเล็กเองก็เกิดความวิตกกังวลว่าลูกของเราจะมีโอกาสเป็นด้วยหรือไม่ เรามาอ่านความรู้จากคุณหมอว่า ติดเชื้อในกระแสเลือดอันตราย แค่ไหน?

      Continue reading “ลูกติดเชื้อในกระแสเลือดอันตราย แต่ป้องกันได้”

        “เรียนว่ายน้ำตั้งแต่เล็กแล้วได้อะไร?” มีคำตอบในเกมส์นี้ค่ะ

        เป็นการแข่งขันว่ายน้ำทารกและเด็กเล็ก อย่างเต็มรูปแบบครั้งแรกในประเทศไทย ของ BABY POOL Thailand ศูนย์ฝึกว่ายน้ำทารกและเด็กเล็กอายุตั้งแต่ 4 เดือน – 7 ปี เมื่อวันที่ 2 เม.ย. 2559 ที่ BABY POOL สาขาบางนา น้องๆร่วมกันแสดงศักยภาพที่ไม่น่าเชื่อในการว่ายน้ำของทารกและเด็กเล็ก ให้สังคมไทยได้เห็นนี่ไม่ใช่เพียงเกมส์การแข่งขัน แต่บ่งบอกถึงความมั่นใจของเด็กตัวจิ๋ว และความเอาใจใส่ของคุณพ่อคุณแม่และครอบครัว ถึงศักยภาพทางร่างกายและอารมณ์ของเด็ก Continue reading ““เรียนว่ายน้ำตั้งแต่เล็กแล้วได้อะไร?” มีคำตอบในเกมส์นี้ค่ะ”

          คำพูดพัฒนาสมองลูกรัก

          คำพูดพัฒนาสมองลูกรัก ให้มี 6Q

          พ่อแม่ทราบหรือไม่? การพูดกับลูกสามารถพัฒนาสมองและศักยภาพให้ลูกได้ คำพูดพัฒนาสมองลูกรัก ให้มี 6Q ได้แก่ สติปัญญา (IQ) อารมณ์ (EQ) การริเริ่มสร้างสรรค์ (CQ) ศีลธรรม จริยธรรม (MQ) การเล่น (PQ) และการแก้ไขปัญหา (AQ) สามารถทำได้ด้วยคำพูดเพียงไม่กี่คำ

          Continue reading “คำพูดพัฒนาสมองลูกรัก ให้มี 6Q”

            13 เทคนิคสร้างสมาธิให้ลูก พร้อมเรียนรู้ได้ดี

            สมาธิ เป็นจุดเริ่มต้นของการเรียนรู้ ช่วยให้ลูกรับข้อมูลไปใช้ในการพัฒนาสมองได้ดี สมาธิ คือ การจดจ่อกับสิ่งที่จะทำอย่างแน่วแน่ เพื่อพร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ … เด็กบางคน เก่ง ฉลาด พูดจาฉะฉาน ความจำดี ดูนิ่ง และมีความตั้งใจทำอะไรได้นาน แต่เด็กบางคนมีพฤติกรรมต่างกันสิ้นเชิง นั่นเพราะว่าขาดสมาธิ ซึ่งสมาธิเป็นปัจจัยสำคัญในการเรียนรู้ และจดจำของเด็ก Continue reading “13 เทคนิคสร้างสมาธิให้ลูก พร้อมเรียนรู้ได้ดี”

              ไวรัสลงกระเพาะ โรต้า เด็กท้องเสีย

              รู้ทัน…ไวรัสลงกระเพาะและลำไส้ในเด็ก

              คุณพ่อคุณแม่หลายคนที่มีลูกน้อยเคยเป็นโรค “ไวรัสลงกระเพาะ” อาจสงสัยว่าถ้าเป็นแล้ว ลูกจะมีโอกาสกลับมาเป็นอีกได้หรือไม่ หรือมีวัคซีนที่ช่วยป้องกันโรคไวรัสลงกระเพาะได้หรือไม่? มาดูคำตอบจากคุณหมอกันค่ะ

              Q : ตอนนี้ลูกอายุจะ 1 ขวบแล้วค่ะ ตอนช่วง 7-8 เดือน เขาเคยท้องเสียและอาเจียนด้วย หมอบอกว่าเป็นไวรัสลงกระเพาะ  แต่ช่วงนี้ลูกท้องเสียบ่อยอีก จะกลับมาเป็นโรคเดิมได้หรือไม่ และถ้าจะให้ลูกได้รับวัคซีนไวรัสโรต้าจะช่วยได้หรือไม่คะ

              ในกรณีที่มีอาการอาเจียนหรือถ่ายเหลวรุนแรง ปวดท้องมาก หมอจะตรวจร่างกายอย่างละเอียด เพื่อช่วยในการวินิจฉัยแยกโรคดูว่าอาจเป็นโรคอื่นที่มีอาการคล้ายกันหรือไม่ เช่น โรคไส้ติ่งอักเสบ โรคลำไส้อุดตัน โรคลำไส้กลืนกัน โรคแพ้นมวัว เป็นต้น

              บางครั้งการอาเจียนท้องเสียบ่อยๆ อาจเกิดจากการแพ้อาหารที่ลูกกิน เรียกว่าเป็นการแพ้แบบแอบแฝงหรือว่าแพ้สะสม โดยลูกเคยกินอาหารชนิดนั้นมาก่อน วันดีคืนดี วันร้ายคืนร้ายก็จะสำแดงอาการแพ้ออกมาเป็นอาการอาเจียน ท้องเสีย พอได้รับการรักษาตามอาการ  อาการก็ดีขึ้น พอกลับไปกินอาหารที่แพ้อีกก็แสดงอาการผิดปกติได้อีก  หากงดอาหารที่แพ้ได้ตลอดอาการก็จะหายไปไม่เป็นอีก ส่วนใหญ่อาการแพ้อาหารจะดีขึ้นเมื่อโตขึ้น

              ไวรัสลงกระเพาะ โรต้า เด็กท้องเสีย

              ส่วนโรคไวรัสลงกระเพาะและลำไส้ (viral gastroenteritis) ก็อาจมีโอกาสเป็นอีกได้ ถ้าหากได้รับเชื้อไวรัสคนละสายพันธุ์กับที่เคยเป็น เพราะมีเชื้อไวรัสหลายสายพันธุ์ที่ทำให้เกิดโรคนี้ โดยการติดต่อของเชื้อไวรัส เกิดจากการสัมผัสกับสารคัดหลั่ง เช่น น้ำมูก น้ำลาย อุจจาระ จากการคลุกคลีกับผู้ป่วยโดยตรงหรือการสัมผัสสิ่งของที่มีเชื้ออยู่แล้วเอามือเข้าปาก โดยหลังการสัมผัสเชื้อโรคจนกระทั่งแสดงอาการอาจใช้เวลาสั้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงจนถึง 2 วัน

              อาการของโรค

              เริ่มจากอาการปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน อาจมีไข้ต่ำๆ หรือมีไข้สูงก็ได้ เบื่ออาหาร ถ่ายเหลวเป็นน้ำ อาจมีมูกแต่ไม่มีเลือด กลิ่นไม่เหม็นคาว ส่วนใหญ่มีอาการ 3 – 7 วัน แต่บางรายอาจนานถึง 2 สัปดาห์ ความรุนแรงขึ้นอยู่กับระดับภูมิต้านทาน บางคนรุนแรงน้อย อาเจียนไม่กี่ครั้ง ให้ยากินระงับอาเจียนก็ดีขึ้น แต่บางคนต้องฉีดยาหรือนอนโรงพยาบาลเพื่อให้น้ำเกลือทางเส้นเลือด

              อ่านต่อ “สาเหตุของโรคไวรัสลงกระเพาะและลำไส้ และวิธีดูแลลูก” คลิกหน้า 2

              banner300x250-1

                หวัดเรื้อรัง เป็นหวัดไม่หาย ลูกไม่สบาย

                ลูกเป็นหวัดเรื้อรัง…ดูแลอย่างไรดีนะ?

                อาการไข้หวัดในเด็ก เป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่พบเจอได้บ่อย แต่หากรู้สึกว่าลูกมีอาการหวัดเรื้อรัง มีวิธีดูแลลูกได้อย่างไรบ้าง เรามีคำตอบจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมาฝากค่ะ

                Q : ลูกชายอายุ 6 เดือน แต่เป็นหวัดบ่อยมากค่ะ 3-4 วันมีน้ำมูกและจามบ่อยๆ ไม่หายสักที จะมีน้ำมูกแห้งๆ ติดจมูกเสมอ เรียนถามคุณหมอว่า การที่ลูกเป็นโรคหวัดเรื้อรังจะมีผลต่อสุขภาพของเขาหรือไม่ และจะต้องดูแลอย่างไรดีคะ? 

                อาการเป็นหวัดเรื้อรังในเด็กอายุ 6 เดือนเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น

                1. การเป็นภูมิแพ้

                บางคนไม่เคยทราบว่าเป็นภูมิแพ้มาก่อน แต่พอมีการติดเชื้อไวรัสเข้าร่างกายเป็นการกระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานแบบผิดปกติจึงมีอาการแพ้ตามมาหลังจากหายติดเชื้อแล้ว สิ่งที่แพ้มักเป็นสารก่อภูมิแพ้ ได้แก่ ฝุ่น ไรฝุ่น เกสรพืช เกสรหญ้า ขนสุนัขขนแมว ซึ่งเป็นสารก่อภูมิแพ้ชนิดสูดดม และสารก่อภูมิแพ้ชนิดกิน ได้แก่ นมวัว นมถั่วเหลือง ไข่ แป้งสาลี อาหารทะเล ฯลฯ การระบุว่าแพ้อะไรนั้น ต้องอาศัยการทำทดสอบภูมิแพ้ผิวหนังหรือการเจาะเลือดตรวจ ส่วนการรักษาคือการใช้ยาแก้แพ้และหลีกเลี่ยงสิ่งที่แพ้

                หวัดเรื้อรัง เป็นหวัดไม่หาย ลูกไม่สบาย

                2. การเป็นไซนัสอักเสบ

                เป็นภาวะแทรกซ้อนตามหลังการเป็นหวัดเรื้อรัง โดยมักจะมีภาวะภูมิแพ้ร่วมด้วย การรักษาคือการล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ กินยาปฏิชีวนะต่อเนื่องตามคำแนะนำของแพทย์ และรักษาภาวะภูมิแพ้  ข้อสังเกตที่ใช้แยกความแตกต่างระหว่างโรคหวัด และโรคภูมิแพ้อากาศคือ โรคภูมิแพ้จะเกิดจากการที่ร่างกายตอบสนองต่อสารก่อภูมิแพ้ เมื่อคนที่เป็นโรคภูมิแพ้เจอกับสารก่อภูมิแพ้ เช่น ฝุ่น ไรฝุ่น ละอองเกสรพืช หรืออาหารบางอย่าง จะมีอาการผิดปกติ เช่น จาม คัดจมูก น้ำมูกไหล ไอ แน่นหน้าอก หอบ ผื่น ตาบวม ปากบวม ขณะที่คนไม่เป็นโรคภูมิแพ้จะไม่มีอาการดังกล่าวส่วนการเป็นหวัด เกิดขึ้นได้กับทุกคน สาเหตุเกิดจากการติดเชื้อ อาจเป็นไวรัสหรือแบคทีเรีย

                อ่านต่อ “สาเหตุที่ทำให้ลูกเป็นหวัดเรื้อรัง+วิธีการรักษา คลิกหน้า 2

                banner300x250-1

                  สอนลูกสาว

                  14 เรื่องที่พ่อควรสอนลูกสาวเกี่ยวกับการมีแฟน

                  สอนลูกสาว … เป็นปกติที่พ่อบ้านไหนมีลูกสาวก็ต้องหวงลูกสาวเป็นธรรมดา และที่สำคัญหวงยิ่งกว่าคุณแม่เองเสียอีก และเมื่อมาถึงมาหนึ่งลูกสาวของคุณต้องโตเป็นสาวสวย แต่งงานออกเรือนไปใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวของเขา Continue reading “14 เรื่องที่พ่อควรสอนลูกสาวเกี่ยวกับการมีแฟน”

                    เที่ยวสวนสัตว์อย่างปลอดภัย

                    เที่ยวสวนสัตว์อย่างปลอดภัย เตรียมตัวไว้ปกป้องลูกน้อย

                    จากข่าวที่มีเด็กน้อยวัย 3 ขวบ พลัดตกลงไปในกรงกอริลล่าลึกกว่า 3 เมตร หลังจากที่เด็กน้อยขึ้นไปปีนป่ายอยู่บนกรงกอริลล่า แล้วถูกกอริลล่าลากตัวไปมากว่า 10 นาที ท่ามกลางความตกใจของนักท่องเที่ยว เรามาดูวิธี เที่ยวสวนสัตว์อย่างปลอดภัย ที่พ่อแม่ต้องเตรียมไว้ปกป้องลูกกันค่ะ

                    Continue reading “เที่ยวสวนสัตว์อย่างปลอดภัย เตรียมตัวไว้ปกป้องลูกน้อย”

                      มงคลที่ ๑๒ “สงเคราะห์บุตรให้เข้าถึงธรรม”

                      การเลี้ยงลูกตามหลักพุทธศาสนานั้น ต้องเริ่ม ต้นที่พ่อแม่ คือพ่อแม่ต้องทำตัวเป็นต้นแบบที่ดีให้แก่ลูก เราอยากได้ลูกที่มีคุณธรรมสูง มีความกตัญญูกตเวที พ่อแม่ก็ต้องฝึกฝนตนเองให้มีคุณธรรมเหล่านั้นด้วยและทำให้ลูกดูเป็นตัวอย่าง บุญในตัวของพ่อแม่จะดึงดูดให้ได้ลูกแก้วลูกผู้มีบุญที่เป็นยอดกตัญญู Continue reading “มงคลที่ ๑๒ “สงเคราะห์บุตรให้เข้าถึงธรรม””

                        โรคหน้าฝนในเด็ก

                        โรคหน้าฝนในเด็ก ที่พ่อแม่ควรระวัง

                        จากสภาพอากาศในช่วงฤดูฝนที่มีฝนตก กระจายความเปียกชื้นไปทั่วทุกพื้นที่ของประเทศ ถือเป็นฤดูร่าเริงของเชื้อไวรัส และเชื้อแบคทีเรียต่างๆ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิด โรคหน้าฝนในเด็ก เพราะมีความเสี่ยงสูง เนื่องจากภูมิต้านทานร่างกายยังไม่แข็งแรง อาจติดเชื้อได้ง่าย

                        โรคหน้าฝนในเด็ก ที่พ่อแม่ควรระวัง

                        นพ.พรเทพ สวนดอก กุมารแพทย์สาขาโรคติดเชื้อ ศูนย์การแพทย์โรงพยาบาลกรุงเทพ กล่าวถึงโรคหน้าฝนที่เด็กๆ เสี่ยงมากที่สุดเอาไว้ ดังนี้

                        1.ไข้หวัดใหญ่

                        โรคหน้าฝนในเด็ก

                        โรคหน้าฝนในเด็ก โรคนี้พบบ่อยในทุกเพศทุกวัย เกือบทั้งปี เพราะไทยอยู่ในเขตร้อนชื้น ซึ่งเป็นมากในช่วงหน้าฝน เด็กจะมีอาการตัวร้อน 2 – 3 วัน โดยไม่มีอาการอย่างอื่น แตกต่างจากหวัดธรรมดาตรงที่อาจทำให้เกิดโรคแทรกซ้อน และอันตรายถึงชีวิต

                        ประเทศไทยพบไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่อย่างต่อเนื่อง เช่น ไข้หวัดนก ไข้หวัดใหญ่ 2009 ซึ่งเป็นโรคที่กลายพันธุ์มาจากไข้หวัดใหญ่ธรรมดา ได้รับเชื้อจากสัตว์ เช่น นก หรือหมู ความรุนแรงของโรคไม่ต่างกันมากนัก

                        อาการ มีไข้ ปวดหัว ปวดเมื่อยตามตัวและกล้ามเนื้อ ไอ เจ็บคอ เด็กอายุน้อยวกว่า 5 ขวบ หรือมีความบกพร่องทางภูมิคุ้มกัน มีโอกาสเสี่ยงอาการรุนแรงกว่ากลุ่มอื่น

                        การป้องกัน ฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ ควรฉีด 1-2 เดือน ก่อนฤดูกาลระบาดของโรคทุกๆ ปี สามารถฉีดได้ในเด็กอายุ 6 เดือนขึ้นไป ถ้าเป็นแล้วให้หลีกเลี่ยงไม่ให้เชื้อแพร่กระจาย สวมหน้ากาก ล้างมือ ทานอาหารที่ถูกสุขอนามัย จะช่วยป้องกันไข้หวัดใหญ่ได้

                         

                        2.มือ เท้า ปาก

                        โรคหน้าฝนในเด็ก

                        เกิดจากเชื้อไวรัส พบได้ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะฤดูฝน พบมากในเด็กอายุ 6 เดือน – 3 ปี อาการมักหายไปเอง 3 – 10 วัน ติดต่อทางการไอ จาม น้ำลาย อุจจาระ มีระยะฟักตัว 3-6 วัน พบเชื้อทางน้ำลาย 2 – 3 วัน ก่อนมีอาการจนถึง 1 – 2 สัปดาห์หลังมีอาการ

                        อาการ มีไข้ ผื่น ตุ่มน้ำใสตามฝ่ามือ ฝ่าเท้า แผลในปาก กระพุ้งแก้ม ลิ้น เหงือก บางคนอาจมีผื่นที่ขา เมื่อเป็นแล้วเด็กบางคนจะรับประทานอาหารและน้ำไม่ค่อยได้ เพราะเจ็บปากมาก แม่แต่น้ำลายก็ไม่กลืน ทำให้เกิดภาวะขาดน้ำ อย่าให้มีไข้สูงเกินไป เพราะอาจชักได้ บางคนอาจมีภาวะแทรกซ้อน โดยเฉพาะเด็กต่ำกว่า 5 ขวบ เช่น สมองอักเสบ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ คุณพ่อ คุณแม่ต้องสังเกตอาการ รีบพาไปหาหมอทันที

                        การป้องกัน ดูแลเรื่องอาหาร น้ำดื่ม ไม่ควรให้ลูกอยู่ในสถานที่แออัด ควรมีกระติกน้ำ หรือแก้วส่วนตัวเอาไว้ไปใช้ที่โรงเรียน ฝึกให้ใช้ช้อนกลางทุกครั้ง ทั้งที่บ้าน และที่โรงเรียน

                        3.ไข้เลือดออก

                        โรคหน้าฝนในเด็ก

                        ยุงลาย เป็นพาหะนำโรค มีโอกาสเป็นได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ระบาดได้ทั้งปี โดยเฉพาะหน้าฝน เพราะน้ำขังมาก

                        อาการ ถ้าได้รับเชื้อแล้วไข้จะสูงเกิน 3 วันขึ้นไป กินยาลดไข้เท่าไหร่ก็ไม่ได้ผล รู้สึกอ่อนเพลีย ปวดหัว ปวดกระบอกตา ปวดเมื่อยตามตัว หน้าแดง ตาแดง ปากแดง ส่งผลให้เกิดภาวะตับอักเสบ ทำให้ปวดท้อง โดยเฉพาะชายโครงด้านขวา ซึ่งเป็นตำแหน่งของตับ เพราะตับโต จะมีอาเจียนร่วมด้วย พร้อมทั้งภาวะขาดน้ำ

                        การป้องกัน อย่าให้ยุงกัด จำกัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย อย่ารอให้เกิดอาการรุนแรงแล้วรักษา เช่น ไข้สูงเกินไป ช็อก หรือเลือดออกง่าย ให้รีบพาลูกไปโรงพยาบาลทันที

                        อ่านต่อ “ไข้เลือดออก และอีสุกอีใส” คลิกหน้า 2

                          โรคเด็ก ช่วงเปิดเทอม

                          7 โรคเด็ก ช่วงเปิดเทอม ที่ต้องระวัง

                          ถึงเวลาเปิดเทอมแล้ว คุณพ่อคุณแม่และโดยเฉพาะคุณหนูๆ คงพร้อมไปโรงเรียนกันแล้วสิ่งสำคัญอีกอย่างนอกเหนือจากความพร้อมในการไปโรงเรียนก็คือการดูแลสุขภาพร่างกายของลูกรักให้ห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บกันด้วยนะคะ ได้หาโรคติดต่อที่เด็กๆ วัยอนุบาลเป็นบ่อยที่สุด มาฝากคุณพ่อคุณแม่ เพื่อจะได้ระมัดระวังดูแลลูกรักของคุณ โรคเด็ก ช่วงเปิดเทอม จะมีอาการและวิธีป้องกันอย่างไรบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ

                          7 โรคเด็ก ช่วงเปิดเทอม ที่ต้องระวัง

                          1.โรค มือ เท้า ปาก

                          โรคนี้เกิดจากเชื้อไวรัสในกลุ่ม เอ็นเทอโรไวรัส พบมากกับเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปีหรือเด็กอนุบาล ซึ่งจะมาพร้อมกับหน้าฝนด้วย โดยให้สังเกตอาการดังนี้ มีไข้ต่ำๆ อ่อนเพลีย และหลังจากนั้น 2-3 วัน เด็กจะมีอาการเจ็บปาก กินข้าวไม่ได้ มีตุ่มใสสีแดงขึ้นบริเวณปากก่อนและตามด้วยมือ เท้า และ ลำตัว โรคนี้ไม่รุนแรงมาก

                          รักษาโรคได้ตามอาการ ไม่จำเป็นต้องให้ยารักษาจำเพาะ เพียงแต่ให้การดูแลตามอาการ และเฝ้าติดตามอาการเปลี่ยนแปลงอย่างใกล้ชิด ให้ยาลดไข้ พาราเซตามอล เป็นครั้งคราวเวลา มีไข้สูงห้ามให้ aspirin ให้เด็กดื่มน้ำมากๆ เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ โดยสังเกตดูว่ามีปัสสาวะออกมากและใส จึงนับว่าได้น้ำพอเพียง ในช่วงที่มีอาการเจ็บแผลในปาก ให้เด็กกินอาหารเหลวหรือของน้ำๆ เช่น ข้าวต้ม โจ๊ก แกงจืด นม น้ำเต้าหู้ น้ำหวาน โดยใช้ช้อนป้อนหรือใช้กระบอกฉีดยา ค่อยๆ หยอดเข้าปาก ไม่ควรให้เด็ก (โดยเฉพาะเด็กเล็กๆ) ดูดนมหรือน้ำจากขวด เพื่อบรรเทาอาการเจ็บในปาก อาจใช้วิธีให้เด็กอมน้ำแข็งก้อนเล็กๆ ดื่มน้ำหรือนมเย็นๆ กินไอศกรีมบ้วนปากด้วยน้ำเกลืออุ่นๆ (ผสมเกลือป่นครึ่งช้อนชาในน้ำอุ่น ๑ แก้วต้องมั่นใจว่าเด็กบ้วนคอได) วันละหลายๆ ครั้ง

                          อาการจะหายเป็นปกติภายใน 7-10 วันค่ะ ยกเว้นเด็กที่ติดเชื้อรุนแรงที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งจะทำให้ตุ่มใสๆนี้เป็นหนอง อาการจะรุนแรง จนทำให้ปอดบวม สมองอักเสบ เยื้อสมองอักเสบ ถึงขึ้นเสียชีวิตได้ โรคนี้ติดกันง่ายมาก เพียงแค่สัมผัสสิ่งของต่างๆร่วมกันหรือ ไอใส่กัน ก็สามารถติดกันได้ คุณพ่อคุณแม่ต้องคอยสังเกตหากมีอาการผิดปกติดังกล่าวต้องรีบพาลูกไปหาหมอทันที

                          2.โรคไข้หวัดใหญ่

                          ไข้หวัดใหญ่ เป็นโรคที่เด็กๆจะติดกันได้ง่ายในที่ๆมีคนเยอะๆ แออัดๆ อย่างเช่นบริเวณโรงอาหารของโรงเรียน โดยจะติดกันผ่านลมหายใจ การไอ จาม ละอองน้ำมูก น้ำลาย อาการคือ ไข้สูงเฉียบพลัน หนาวสั่น ปวดหัว เมื่อยตัว อ่อนเพลียมาก คัดจมูก เจ็บคอ

                          รักษาตามอาการ หากมีไข้ให้ใช้ผ้าชุมน้ำเช็ดตัว หากไข้ไม่ลงให้รับประทานยาพาราเซตามอล และยารักษาตามอาการ เช่น ยาแก้ไอ ยาละลายเสมหะ ยาลดน้ำมูก ตามคำแนะนำของแพทย์หรือเภสัชกร ถ้าไม่มีอาการแทรกซ้อนจะหายได้เองภายใน 1-2 สัปดาห์ อาการแทรกซ้อนคือ โรคปอดอักเสบ ต้องรีบไปพบแพทย์ทันที

                          เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                           

                          3.โรคไข้หวัด

                          จะมีอาการไม่รุนแรงเท่าไข้หวัดใหญ่ ซึ่งจะเป็นบ่อยในช่วงหน้าฝน และหน้าหนาว เชื้อไข้หวัดจะมีหลายสายพันธุ์ เวลาเป็นแล้วหายร่างกายจะสร้างภูมิคุ้มกันเชื้อโรคที่เคยเป็น แต่ก็อาจจะกลับมาเป็นได้อีก อาการคือ คัดจมูก มีน้ำมูกใสๆ จาม คอแห้ง เจ็บคอ เป็นไข้ อ่อนเพลีย ปวดหัว ไอ้แห้ง ไอมีเสมหะ โรคแทรกซ้อนที่มากับไข้หวัดคือ ไซนัสอักเสบ หูชั้นกลางอักเสบ หลอดลมอักเสบ ปอดอักเสบ คุณพ่อคุณแม่ควรระวังเด็กอาจชักเพราะไข้ขึ้นสูง การรักษาไข้หวัดอยู่ที่การพักผ่อน ดื่มน้ำเยอะๆ กินอาหารที่มีประโยชน์ (ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานโรค) และให้ยารักษาไปตามอาการเท่านั้น

                          อ่านต่อ >>โรคติดต่อดที่ต้องระวังในเด็กช่วงเปิดเทอม” คลิกหน้า 2

                            คำพูดเชิงบวก

                            คำพูดเชิงบวก ที่ควรใช้พูดกับลูก 64 คำ

                            วันนี้คุณพูดคำว่า “ไม่ได้นะ” กับลูกกี่ครั้งแล้ว พยายามใช้ คำพูดเชิงบวก กับลูกแม้ว่าเขาจะยังไม่เป็นผู้ใหญ่ แต่เวลาแสดงออกกับเขาก็ต้องเมตตาอ่อนโยน เพราะลูกชอบเลียนแบบคำพูดพ่อแม่ คุณอาจเคยได้ยินลูกพูดคำเดียวกับตัวเอง จะเห็นชัดเจนในเด็กหัดพูด

                             

                            • พ่อแม่พูดแง่ลบ ลูกจะคิดแง่ลบ

                            การที่พ่อแม่พูดคัดค้าน หรือเชิงลบ ลูกอาจจะเลียนแบบไปด้วย ทำให้เคยชิน เกิดความคิดแง่ลบ ทุกครั้งที่พูดกับลูก ลองสำรวจตัวเอง ว่าบางครั้งคุณอาจเผลอพูดคำไม่สุภาพเพื่อหยอกล้อ แต่มันอาจส่งผลไม่ดีกับลูกได้

                            • พ่อแม่พูดแง่บวก ลูกจะคิดแง่บวก

                            เด็กมีความอยากรู้อยากเห็น อยากจับ อยากเล่นไปหมด บางครั้งต้องตามเก็บของจนเหนื่อย พ่อแม่หลายคนจึงจะรีบพูดว่า “ห้ามหยิบนะ” หรือเวลาเล่นเครื่องเล่นข้างนอก ก็จะพูดว่า “อันตรายนะ ห้ามเล่น” ทำให้ลูกคิดว่าเครื่องเล่นเป็นสิ่งอันตราย จิตใจที่อยากเรียนรู้ผจญภัยก็มอดไปหมด และอาจเกิดกลัวไปเลย

                            • แม้ว่าลูกจะทำให้โมโห ก็ไม่ควรด่าลูก

                            คำพูดเชิงบวก

                            จำไว้เสมอว่าลูกยังเด็ก เวลาพูดกับลูกต้องมีทัศนคติที่ดี อ่อนโยน แม้ความคิดลูกจะผิด ก็ไม่ควรไปตำหนิ แต่แสดงถึงความเป็นห่วง คำพูดเชิงบวก ลูกจะรู้สึกได้เองว่าตัวเองทำผิด และจะไม่ทำอีก เช่น

                            (ลูกทำน้ำหก)

                            คำพูดที่ผิด: “ว่าแล้วเชียว ลูกไม่เคยระวังเลยนะ ทำไมทำแบบนี้ตลอดฮะ? เทน้ำแค่นี้ยังหก ซุ่มซ่ามจริงๆ”

                            คำพูดที่ถูก: “เป็นอะไรรึเปล่า พ่อแม่ตกใจหมด นึกว่าแก้วบาดมือแล้ว ห้องครัวสกปรกพอดีเลย ถูพื้นกันนะ”

                            เวลาคุยกับลูก ทำให้ลูกรู้ว่าลูกทำได้นะ เห็นความสำเร็จไปส่วนหนึ่งแล้ว ให้ลูกรู้สึกมั่นใจในตัวเองและเป็นแรงผลักดันให้ลูกอยากจะทำต่อไปให้เสร็จ

                            (ลูกทำการบ้าน)

                            คำพูดที่ผิด: “เขียนยังไม่เสร็จสักหน้าเลยเหรอ ตั้งใจหน่อยสิ เขียนให้มันเร็วๆ หน่อย”

                            คำพูดที่ถูก: “ขยันจัง เขียนเกือบเสร็จหน้าหนึ่งแล้วด้วย อีกแป๊บเดียวก็จะเสร็จหมดแล้ว สู้ๆ นะลูก”

                            • ระวังชื่อเล่น หรือคำที่ชอบใช้เรียกลูก

                            บางครั้งพ่อแม่อาจจะชอบเรียกชื่อเล่น หรือใช้คำอื่นเรียกลูก แต่ต้องระวังการเรียก เช่น “เด็กโง่” “คนสวย” เด็กๆ จะซึมซับคำเรียกนั้นเข้าไปอยู่ในจิตใต้สำนึก ว่าเขาเป็นแบบนั้นจริงๆ ควรเรียกชื่อเล่นที่มีความหมายทีดี

                            ถ้าเราอยากให้ลูกมีพฤติกรรมที่ดี เราก็ต้องทำให้เขาดูเป็นตัวอย่าง ไม่ควรเอาความคาดหวังเหล่านั้นมากดดันลูก

                             

                            64 คำพูดเชิงบวก ที่ควรใช้กับลูก

                            1.ลูกเป็นที่รักของพ่อแม่นะจ๊ะ

                            2.ลูกทำให้แม่ยิ้มได้ทุกวันนะ

                            3.แม่คิดถึงลูกนะเมื่อเราต้องแยกจากกัน

                            4.โลกของแม่สดใสเมื่อมีลูกอยู่ด้วยนะ

                            5.แม่จะปกป้องให้ลูกปลอดภัยนะ

                            6.บางครั้งแม่จะต้องปฏิเสธบ้างนะจ๊ะ

                            7.แม่ศรัทธาในตัวลูกนะจ๊ะ

                            8.แม่มั่นใจว่าลูกทำได้

                            คำพูดเชิงบวก
                            พูดเชิงบวกกับลูก

                            9.ลูกมีความคิดสร้างสรรค์นะ

                            10.เชื่อในสัญชาติญาณของลูกเลยนะจ๊ะ

                            11.ความคิดลูกเป็นสิ่งมีค่านะจ๊ะ

                            12.ลูกสามารถทำมันได้นะ

                            13.ลูกสมควรได้รับมันนะ

                            14.ลูกเข้มแข็งมากนะ

                            15.ลูกตอบปฏิเสธได้นะ

                            16.สิ่งที่ลูกทำอยู่มันไม่ดีนะ

                             

                            อ่านต่อ 64 คำพูดเชิงบวกที่ควรใช้กับลูก” คลิกหน้า 2

                             

                            เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                             

                              วิธีช่วยเหลือลูกน้อย

                              วิธีช่วยเหลือลูกน้อย เมื่ออยู่ในสถานการณ์เสี่ยงตาย

                              คุณพ่อ คุณแม่คงปฏิเสธไม่ได้ว่า การมีลูกเล็กๆ อยู่ในครอบครัว หรือลูกน้อยที่กำลังอยู่ในช่วงวัยซน ต้องหนักใจ และเป็นห่วงลูกมากเป็นพิเศษ เพราะความซุกซน ทำให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด เช่น ก้างติดคอ กลืนเหรียญ น้ำร้อนลวก เรามาหา วิธีช่วยเหลือลูกน้อย เมื่อเกิดอันตรายกันค่ะ

                              Continue reading “วิธีช่วยเหลือลูกน้อย เมื่ออยู่ในสถานการณ์เสี่ยงตาย”

                                แฟลชการ์ด

                                โหลดฟรี! แฟลชการ์ด – บัตรคำ กระตุ้นการเรียนรู้ของลูก

                                แฟลชการ์ด (Flash Card) หรือบัตรคำ บัตรภาพ บัตรขนาดใหญ่ที่มีคำศัพท์ รูปภาพ ตัวเลข หรือจำนวน บัตรมีทั้งบัตรคำจริงที่ทำจากกระดาษและบัตรที่ทำผ่านโปรแกรมคอมพิวเตอร์ และดีวีดี เป็นเครื่องมือช่วยจำ ช่วยกระตุ้นสมองซีกขวา แฟลชการ์ดช่วยให้เด็กๆ ได้เรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว ช่วยพัฒนาทักษะการมองเห็น และทักษะการฟัง แถมยังเป็นกิจกรรมที่ดีสนุกสนานอีกกิจกรรมหนึ่งอีกด้วย Continue reading “โหลดฟรี! แฟลชการ์ด – บัตรคำ กระตุ้นการเรียนรู้ของลูก”

                                  ไส้กรอกอันเดียว

                                  ไส้กรอกอันเดียว เกือบทำให้ลูกน้อยเสียชีวิต

                                  เรื่องนี้เป็นประสบการณ์ของคุณแม่ท่านหนึ่ง ที่เล่าให้ฟังถึงเหตุการณ์ ไส้กรอกอันเดียว เกือบทำให้ลูกน้อยเสียชีวิต เรื่องเริ่มขึ้นในเช้าวันหนึ่ง ซึ่งเป็นเวลาของการรับประทานอาหารเช้า กับลูกสาววัย 1 ขวบ คุณแม่อุ้มลูกนั่งไว้บนตัก และยื่นไส้กรอกธรรมดาๆ อันเล็กๆ ให้ลูกน้อย 1 อัน

                                  Continue reading “ไส้กรอกอันเดียว เกือบทำให้ลูกน้อยเสียชีวิต”

                                    แม่ท้องยกของลูกหลุด

                                    อุทาหรณ์!! แม่ตั้งครรภ์(อ่อน) ยกของหนักแล้วลูกหลุด

                                    เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ จ.ชลบุรี เมื่อทีมกู้ภัยมังกรชลบุรี ได้รับแจ้งว่ามีหญิงแท้งบุตรในที่พัก เสียเลือดมาก จึงเร่งส่งอาสาสมัครตรวจสอบ ในบริเวณที่เกิดเหตุอยู่ภายในห้องพัก พบร่างทารกอายุครรภ์ประมาณ 5 เดือนเสียชีวิตอยู่กับพื้นห้อง 11745427_668253576609542_2898783252861838225_n

                                    โดยแม่ของน้องแจ้งว่า ตนเองอายุ 21 ปี (สัญชาติกระเหรี่ยง) ตั้งท้องมาได้ 3 เดือน (เจ้าหน้าที่แจ้งว่าเด็กน่าจะ 5 เดือนแล้ว) ได้ไปยกของหนักเมื่อวานที่ผ่านมา … พอผ่านมาวันรุ่งขึ้น ก็รู้สึกเจ็บท้องแล้วลูกก็หลุดออกมา ทั้งนี้ทีมกู้ภัยฯ จึงห่อร่างทารก พร้อมพาคุณแม่นำส่งไปตรวจรักษาตัวที่ โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยบูรพาต่อไป

                                    ลูกหลุด

                                    ทาง Amarin Baby & Kids จึงขอแสดงความเสียใจกับคุณแม่มา ณ ที่นี้ด้วย

                                    หากคุณแม่ท้องไม่อยากให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับคุณแม่ หากไม่จำเป็นจริงๆ หรือเลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยง ไม่ควรยกของหนักต่างๆนะคะ

                                    >> อ่านต่อ “ข้อห้ามและสิ่งที่แม่ท้องควรระวัง เพื่อป้องกันการแท้งและคลอดก่อนกำหนด” คลิกหน้า 2