Page 207 – AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

พฤติกรรม การนอนของเด็ก ที่ส่งสัญญาณอันตราย!!

บางพฤติกรรมที่เด็กทำขณะนอนหลับนั้นหมายถึงสัญญาณที่ร่างกายกำลังมีปัญหา คุณพ่อคุณแม่ควรคอยสังเกต การนอนของเด็ก และหากพบพฤติกรรมเหล่านี้ ควรรีบปรึกษาแพทย์

พฤติกรรม การนอนของเด็ก ที่ส่งสัญญาณอันตราย!!

การนอนเป็นอาหารสมอง เพราะการนอนจะช่วยทำให้ร่างกายได้พักผ่อน สร้างภูมิต้านทานโรค สดชื่นแจ่มใสอารมณ์ดี คิดอ่านอะไรได้หลักแหลม จดจำสิ่งต่าง ๆ ที่เรียนรู้ไปได้อย่างแม่นยำ การนอนของเด็ก ที่เพียงพอจะทำให้ฮอร์โมนการเจริญเติบโต (Growth Hormone) หลั่งมาก ถ้านอนหลับไม่เพียงพอก็จะส่งผลให้การหลั่งของฮอร์โมนการเจริญเติบโตไม่เต็มที่ได้

สาเหตุที่ทำให้เด็กนอนหลับได้ไม่สนิท ไม่เพียงพอ หรือ ไม่เต็มที่นั้นมีหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็น การนอนดึกตื่นเช้า การป่วยไข้ การสร้างสุขนิสัยการนอนที่ไม่ถูกต้องให้เด็ก สิ่งแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมในการนอน ซึ่งสาเหตุเหล่านี้ คุณพ่อคุณแม่สามารถปรับแก้ให้ถูกต้องได้ แต่ในบางสาเหตุ ก็ไม่ใช่สาเหตุทั่วไปที่ทำให้ลูกนอนหลับได้ไม่สนิท แต่กลับเป็นสัญญาณอันตรายว่าร่างกายของลูกกำลังมีปัญหาได้ โดยพฤติกรรม การนอนของเด็ก ที่ส่งสัญญาณอันตราย มีดังนี้

พฤติกรรม การนอนของเด็ก ที่ส่งสัญญาณอันตราย!!

  1. นอนกรนเสียงดังมากกว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์ เสียงกรนบ่งบอกถึงทางเดินหายใจส่วนบนได้แก่บริเวณลำคอนั้นแคบกว่าปกติ เสียงกรนจึงเกิดจากการพยายามออกแรงหายใจเข้าผ่านทางเดินหายใจที่แคบนั่นเอง การนอนกรนอาจเป็นสัญญาณอันตรายได้ โดยเฉพาะเด็กที่กรนเสียงดังมากกว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์
  2. การนอนหลับในท่าทางที่ผิดปกติ เช่น นอนแหงนคอ หรือนอนคว่ำ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าลูกกำลังหายใจได้ลำบาก จึงพยายามหาท่าท่างให้ตัวเองนอนแล้วหายใจได้สะดวกขึ้น
  3. สังเกตเห็นว่าหยุดหายใจขณะหลับในระยะเวลาสั้น ๆ ตามด้วยเสียงกรนหายใจหอบ หรือตื่นระหว่างกลางคืน
  4. มีอาการที่แสดงให้เห็นว่าพักผ่อนไม่เพียงพอ เช่น มีปัญหาในการเรียนและพฤติกรรม ปลุกตื่นยาก หลังตื่นนอนอยากนอนหลับต่อ อารมณ์หงุดหงิดง่าย โมโหง่าย หลับขณะเรียนหนังสือ
  5. มีอาการนอนหลับไม่สนิทระหว่างคืน เช่น นอนกระสับกระส่าย ปัสสาวะรดที่นอน
  6. ปวดศีรษะในระหว่างวันหรือปวดศีรษะหลังตื่นนอน
  7. สมาธิสั้นและซนกว่าปกติ
การนอนของทารก
การนอนของทารก

อาการเหล่านี้ เป็นอาการที่อาจเกิดจาก ภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น (Obstructive Sleep Apnea: OSA) ซึ่งภาวะนี้เป็นภาวะที่มีความผิดปกติของการหายใจที่เกิดขึ้นระหว่างนอนหลับ เกิดจากกล้ามเนื้อบริเวณลำคอเกิดการคลายตัวเป็นช่วง ๆ ทำให้ทางเดินหายใจแคบลงหรือถูกปิดกั้นในขณะนอนหลับ ทำให้กรนเสียงดังและหายใจลำบากในขณะนอนหลับ เมื่อระดับออกซิเจนในเลือดต่ำลง จะเป็นอันตรายและอาจทำให้เกิดความผิดปกติอื่นตามมาจนถึงเสียชีวิตได้

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

อ่านต่อ ภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้นคืออะไร? พร้อมสาเหตุและวิธีป้องกัน

    Breeze Outdoor learning

    บรีส OUTDOOR LEARNING ปี 2 ตอน 60 นาที เล่นเลอะ รอบรู้ ชวนคุณพ่อคุณแม่มาเปลี่ยนเวลา 60 นาทีนอกบ้านกับลูก ในการสร้างทักษะการเรียนรู้รอบด้านให้ลูกน้อยเติบโตขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพและศักยภาพเต็มที่ 
    https://facebook.com/AmarinBabyAndKids/videos/529233351174691/

      THE POWER OF UNITY Presents ROAD TO TOKYO 2020

       “THE POWER OF UNITY Presents ROAD TO TOKYO 2020” ร่วมสร้างปรากฏการณ์รวมพลังคนไทยที่ ตูน อาทิวราห์ จะนำวิ่งแสดงพลังเพื่อนักกีฬาไทยมุ่งสู่โตเกียว 2020 พร้อมนักกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิกที่มาร่วมงานอย่างคับคั่ง

      พบกับมินิคอนเสิร์ตจาก BNK48 และการร่วมร้องเพลงเชียร์เพื่อชาติไทย THE POWER OF UNITY ได้แก่ ตูน อาทิวราห์, BNK48, แสตมป์ อภิวัชร์, ป๊อด โมเดิร์นด็อก, โจอี้ บอย และใบเตย อาร์สยาม

      รายได้จากการสมัครโดยไม่หักค่าใช้จ่ายจะมอบให้นักกีฬา เพื่อเป็นกำลังใจและสนับสนุนทีมนักกีฬาไทย ไปโอลิมปิกและพาราลิมปิก ที่โตเกียว 2020

      • Mini Marathon 10 KM ราคา 700 บาท
      • Fun Run 5 KM ราคา 500 บาท
      • Fun Run (Guide Runner) 5 KM ราคา 500 บาท
        ร่วมวิ่งกับนักกีฬาพาราลิมปิกและผู้พิการทางสายตา

      คลิกสมัครได้ที่ https://www.runlah.com/events/rtt2020
      วันนี้ – 27 ตุลาคม 2562

      ติดตามและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ The Power of Unity Presents Road to Tokyo 2020

        เลี้ยงลูกให้มีความสุข

        เลี้ยงลูกให้มีความสุข รอยยิ้มลูก คือกระจกส่องเรา โดย พ่อเอก

        เรารู้สึกชื่นใจไม่น้อย เวลาได้ยินคนชมว่า เจ้าตัวป่วนทั้ง 2 ยิ้มเก่ง เพราะทั้งคู่ ยิ้มบ่อยในระดับที่เรียกว่า ‘ยิ้มเรี่ยราดเลยทีเดียว’ ซึ่งผมเชื่อว่า เมื่อเรา เลี้ยงลูกให้มีความสุข คุณพ่อคุณทุกท่านก็คงรู้สึกชื่นใจ เวลาเห็นลูกตัวเองยิ้ม แต่ไม่ใช่หมายความว่า เด็กยิ้มไม่เก่ง ไม่น่ารักนะฮะ ผมพูดเสมอว่า อย่าเปรียบเทียบลูกเรากับใคร เด็กทุกคนมีความพิเศษในตัวเอง (ผู้ใหญ่ทุกคนก็มีแสงสว่างในตัวเองเช่นกัน)

        กลับมาที่เรื่องยิ้มเก่ง ผมเชื่อว่าที่เจ้าตัวป่วนทั้ง 2 ยิ้มเก่งน่าจะมาจาก 3-4 ปัจจัยครับ

        เลี้ยงลูกให้มีความสุข รอยยิ้มลูก คือกระจกส่องเรา

        1. เลี้ยงลูกให้มีความสุข ตั้งแต่ในท้อง

        ทั้งปูนปั้นและปั้นแป้งได้ฟัง ปะป๊าหม่ามี้ร้องเพลงและเล่านิทานทุกคืนตั้งแต่อายุครรภ์ได้สัก 2-3 เดือน ซึ่งจริงๆ แล้วในช่วงแรก เขาอาจจะยังไม่ได้ยิน หรือ ไม่รับรู้อะไรด้วยซ้ำไป แต่พอถึงวันที่เขาเริ่มได้ยินเสียงปะป๊า หม่ามี้ทะลุพุงไปถึงเขาไม่ว่าเราจะคิดไปเอง หรือ มันเป็นจริงก็ตาม เรารู้สึกได้ว่าเขามีปฏิกิริยาตอบสนองเรา ผมเคยเขียนเรื่องความมหัศจรรย์นี้ไว้ และได้เอาไปเล่าในแทบทุกที่ๆ ได้รับเชิญไปพูด

        ‘วันแรกที่กลับบ้านหลังจากที่ลืมตาออกมาดูโลก พ่อแม่มือใหม่ 2 คนกำลังหน้าจ๋อยเพราะไม่รู้จะกล่อมลูกที่เอาแต่แว้ๆ ไม่ยอมนอนได้อย่างไร จนกระทั่งป๊าร้องเพลงที่ร้องให้เขาฟังทุกคืนในพุงหม่ามี้ขึ้นมา เขาก็เงียบลงซะดื้อๆ แล้วป๊ากับมี้ก็มองหน้ากัน น้ำตาไหลพราก และพูดขึ้นมาว่า เขาฟังเราร้องเพลงจริงๆ ด้วย’ และเมื่อเขามีความสุข เขาจะ … ยิ้ม

        2. เลี้ยงลูกให้มีความสุข ต้องเลี้ยงเขาด้วยความสนุก

        อันนี้ต้องรบกวนคุณพ่อคุณแม่ตั้งคำถามกับตัวเองว่า เลี้ยงลูกตามหน้าที่รับผิดชอบหรือเลี้ยงด้วยความสนุก แบบแรกไม่ได้ผิดตรงไหน คุณพ่อคุณแม่ที่ดี ควรมีความรับผิดชอบในการเลี้ยงลูกให้เติบโตมาดีที่สุดเท่าที่ทำได้อยู่แล้ว แต่ครอบครัวเราเลี้ยงลูกด้วยความสนุก เมื่อคุณเลี้ยงลูกด้วยความสนุก กิจกรรมของเราและลูกจะไม่ถูกแยกออกจากกัน ดังนั้นเราจะไม่รู้สึกว่าช่วงเวลากิจกรรมของลูก เป็นภาระหน้าที่ของพ่อแม่ แต่เราจะสนุกไปด้วยกัน เวลาลูกเล่นเราเราก็เล่นกับลูก เวลาเราทำงานบ้าน ทำอาหาร เราให้ลูกมาช่วยป่วน … แล้วเราสนุกไปกับการเรียนรู้ของเขา

        แต่ถ้าเราไม่สนุกกับการเลี้ยงลูก เราจะแยกกิจกรรมจากกัน และเมื่อถึงกิจกรรมของพ่อแม่ เราอาจจะหงุดหงิดเมื่อลูกมาวุ่นวายในช่วงเวลานั้น ลองปรับมุมมอง ดูครับ เพราะนอกจากจะสนุกแล้ว ลูกจะรู้สึกผูกพัน เขาจะเชื่อมั่นในตัวเอง เห็นคุณค่าตัวเอง เพราะเขาสามารถช่วยคุณพ่อคุณแม่ได้ทำทุกอย่างด้วยกันได้ และเมื่อคุณและลูกสนุก คุณและลูกจะ … ยิ้ม

        3. หน้าตาเราเวลาคุยกับลูก

        ผมและภรรยาเป็นคนยิ้มเก่งทั้งคู่ ภรรยาจะหนักกว่า สมัยเป็นแฟนกัน ยืนเฉยๆ เธอก็ยิ้ม .. ผมเคยแซวว่า เพี้ยนป่าวเนี่ย หรือบางทีผมก็บอกเธอว่า หลอนนะเว้ย อยู่ดีๆ ก็ยิ้มกับสิ่งที่มองไม่เห็น ภรรยาผมเคยเล่าให้ฟังว่า ตอนเธอยังเป็นเด็ก คุณครูเคยมาบอกว่า ‘หนูน่ารักจัง หนูมีความสุขใช่มั้ย ยิ้มตลอด’

        พอเราสองคนมีลูก เราคุยกันตั้งแต่ปูนปั้นยังอยู่ในท้องว่า ‘เมื่อปูนปั้นลืมตามาดูโลก ทุกครั้งที่เราจะคุยกับลูก …. หน้าเราต้องยิ้ม’ บอกได้เลยว่าเราทำได้ดีมาก ระดับ A+ ผมเชื่อว่าหน้าของลูก คือ กระจกเงาของใบหน้าคุณพ่อคุณแม่ เมื่อคุณยิ้มให้ลูกตลอด ลูกก็จะ … ยิ้มตอบ

        สิ่งที่ผมเล่ามาทั้งหมดไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์รองรับ อาจจะไม่มีงานวิจัยจาก John Hopkins หรือ MIT มารองรับ มีแต่ตัวป่วน 2 ตัวเป็นหลักฐานครับ จะเลือกไปลองใช้ หรืออ่านผ่านไปเพลินๆ เชิญตามสะดวกครับ


        >>แวะไปดู รอยยิ้มหวานฉ่ำ ที่มีแจกฟรีทุกวันได้ที่เฟซบุ๊ค

        หมุนรอบลูก – พี่ปูนปั้น กับ น้องปั้นแป้ง นะครับ<<

        ปูนปั้น ปั้นแป้ง พ่อเอก
        ปูนปั้น ปั้นแป้ง พ่อเอก เพจหมุนรอบลูก

        บทความน่าสนใจอื่นๆ

        แชร์เทคนิค”สอนลูกให้รู้จักรับผิดชอบ”ตั้งแต่เด็ก

        “ลูกทำผิด” เทคนิคสอนลูก แบบไม่ต้อง “ทำโทษ”

        แนะนำ 4 “บอร์ดเกม” ฝึกลูกสมองไว ไหวพริบดี

         

        เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

          คนท้องนวดหลังได้ไหม

          คนท้องนวดหลังได้ไหม? นวดเท้าได้ไหม? เมื่อปวดเมื่อยทำอย่างไร?

          คนท้องนวดหลังได้ไหม? นวดเท้าได้ไหม? คนท้องที่มีอาการปวดเนื้อเมื่อยตัวมักจะถามกันเข้ามา มาหาคำตอบและวิธีการแก้อาการปวดเมื่อยขณะตั้งครรภ์กันค่ะ

          คนท้องนวดหลังได้ไหม? นวดเท้าได้ไหม? เมื่อปวดเมื่อยทำอย่างไร?

          แม่ท้องส่วนใหญ่มักจะมีอาการปวดหลัง ปวดขา ปวดน่อง หรือปวดเมื่อยตามตัว นั่นเป็นเพราะร่างกายที่เปลี่ยนแปลงไประหว่างการตั้งครรภ์ มดลูกที่ขยายตัวมีขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อรองรับลูกในท้อง ทำให้แม่ท้อง ท้องโตขึ้น และเพื่อให้ทรงตัวอยู่ได้ แม่ท้องจึงต้องถ่ายเทน้ำหนักโดยการยืนแอ่นหลัง จึงทำให้เกิดอาการปวดกล้ามเนื้อบริเวณหลัง นอกจากนี้ น้ำหนักตัวที่เพิ่มมากขึ้นก็ทำให้ขา ข้อเข่า และข้อเท้าต้องรับน้ำหนักมากขึ้น จึงมักมีอาการปวดขา ปวดน่องได้

          คนท้องห้ามนวดจริงหรือ? คนท้องนวดหลังได้ไหม?

          แม่ท้องหลาย ๆ คนคิดถึงการนวดตัวเพื่อผ่อนคลาย แต่ก็มักจะได้ยินมาว่า “คนท้องห้ามนวด” ทำให้ไม่กล้าที่จะนวดเพื่อให้ร่ายกายหายปวดเมื่อย ซึ่งในเรื่องนี้ ผศ.นพ.ฐิติ จันทร์เมฆา หน่วยศัลยกรรมหัวใจหลอดเลือดและทรวงอก ศูนย์หัวใจสิริกิติ์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โรงพยาบาลศรีนครินทร์, ภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้กล่าวถึงความเสี่ยงของการนวดขณะตั้งครรภ์ว่า

          “ทุกท่านอาจได้ยินข่าวที่คนท้องหรือบาดเจ็บที่ขาแล้วไปนวด แล้วหัวใจหยุดเต้นขณะนวด สาเหตุที่อาจเป็นไปได้อย่างหนึ่งคือ ลิ่มเลือดอุดกั้นในหลอดเลือดปอดอย่างเฉียบพลัน!!!( Acute Pulmonary Embolism) ซึ่งโรคลิ่มเลือดอุดกั้นในหลอดเลือดปอดเฉียบพลัน นับเป็นภาวะฉุกเฉินทางระบบหัวใจและหลอดเลือดที่พบบ่อยเป็นลำดับที่สามรองจากโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด และโรคหลอดเลือดสมองซึ่งส่งผลให้เกิดอัตราการเสียชีวิตที่ค่อนข้างสูง สาเหตุส่วนใหญ่ของโรคเกิดจากการหลุดลอยของลิ่มเลือดจากหลอดเลือดดำที่ขา การอุดกั้นในหลอดเลือดปอดอย่างเฉียบพลันจะทำให้แรงต้านทานของหัวใจห้องล่างขวาสูงขึ้น ส่งผลให้หัวใจห้องล่างขวาทำงานผิดปกติ กระทบต่อระบบไหลเวียนโลหิตและการแลกเปลี่ยนก๊าซซึ่งทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้ในเวลาอันสั้น” การตั้งครรภ์มีความเกี่ยวข้องกับโรคนี้ เนื่องจากน้ำหนักของทารกในครรภ์อาจไปกดทับเส้นเลือดดำบริเวณกระดูกเชิงกราน ทำให้เลือดไหวเวียนได้ช้าลงจนเสี่ยงต่อการเกิดลิ่มเลือดได้

          คนท้องนวดได้ไหม
          คนท้องนวดได้ไหม

          ซึ่งที่ได้กล่าวไว้ข้างต้นนั้นเป็นความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นหากนวดขณะตั้งครรภ์ ซึ่งก็อาจจะไม่ได้เกิดกับแม่ท้องทุกคน เนื่องจากแม่ท้องแต่ละคนมีร่างกายและปัจจัยต่าง ๆ ที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้น หากจะถามว่าคนท้องนวดหลังได้ไหม? นวดเท้าได้ไหม? ร.ศ.น.พ. สมชาย ธนวัฒนาเจริญ จากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ได้ตอบไว้ว่า สามารถนวดได้ แต่ควรได้รับการนวดจากผู้ที่มีความรู้และเชี่ยวชาญด้านการนวด สำหหรับหญิงตั้งครรภ์เป็นพิเศษ ทั้งนี้ ควรปรึกษาสูติแพทย์ก่อนไปนวดทุกครั้ง ว่ามีข้อห้ามหรือไม่ เลี่ยงนวดลงน้ำหนักที่น่อง ขา เสี่ยงลิ่มเลือดหลุดไปอุดตันได้ คนแพ้ท้องมาก เสี่ยงแท้ง เจ็บครรภ์ คลอดก่อนกำหนด ความดันสูง ห้ามนวด

          มีการศึกษาอยู่จำนวนหนึ่งที่พบว่า การนวดขณะตั้งครรภ์ ช่วยลดความปวดเมื่อย ลดอาการบวม ตะคริว ปวดศีรษะ คลายความเครียด ทำให้หลับสบายขึ้น และอารมณ์ดีขึ้นได้ แต่ก็มีคำแนะนำในการนวดในคนท้องดังนี้

           

          เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

          อ่านต่อ คนท้องนวดหลังได้ไหม? นวดเท้าได้ไหม? เมื่อปวดเมื่อยทำอย่างไร?

            เช็คสิทธิ์เงินอุดหนุนบุตร

            แนะวิธี เช็คสิทธิ์เงินอุดหนุนบุตร สาเหตุที่ไม่ได้เพราะอะไร?

            แม่ๆ จ๋า มา เช็คสิทธิ์เงินอุดหนุนบุตร กันค่ะ สาเหตุที่ไม่ได้เพราะอะไร? และต้องทำยังไง หากแม่ยังไม่ได้รับ “เงินอุดหนุนบุตร 2562 มาดูวิธีแก้กันค่ะ

            แนะวิธี เช็คสิทธิ์เงินอุดหนุนบุตร
            ที่ไม่ได้เพราะอะไร! และมีแนวทางแก้อย่างไร?

            นายบุญยอด สุขถิ่นไทย คณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการกพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้กล่าวว่า การจ่ายเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดเข้าบัญชีธนาคารของผู้มีสิทธิตามที่ได้ยื่นลงทะเบียนไว้ ในวันที่ 10 ตุลาคม นี้ เป็นการจ่ายเงินย้อนหลังให้กับผู้มีสิทธิเป็นรายกรณี จนถึงเดือนตุลาคม 2562

            แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อ เช็คสิทธิ์เงินอุดหนุนบุตร แล้ว การจ่ายเงินในรอบเดือนตุลาคมนี้ ก็ยังมีผู้ไม่ได้รับเงินจำนวนหนึ่ง เนื่องจากต้องเข้ามาให้ข้อมูลสถานะของครัวเรือนเพิ่มเติม เพราะต้องปรับปรุงแก้ไขข้อมูลในระบบฐานข้อมูลฯ เช่น วันเดือนปีเกิดไม่ถูกต้อง เลขบัตรประชาชนไม่ถูกต้อง บัญชีธนาคารปิด บัญชีธนาคารผิดประเภท เป็นต้น

            Must read : เงินอุดหนุนบุตร เข้าวันไหน? หลัง 15 ต.ค.นี้ ได้เงินแน่ เดือนละ 600 บาท

            โดยวิธี เช็คสิทธิ์เงินอุดหนุนบุตร คุณแม่ผู้ลงทะเบียนต้องไปให้ข้อมูลเพิ่มเติม และแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้องก่อน ณ สถานที่ที่ลงทะเบียนไว้ ซึ่งกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จะเร่งรัดการปรับปรุงแก้ไขข้อมูล และ การเบิกจ่ายให้กับผู้มีสิทธิในรอบเดือนถัดไป

            สำหรับคนกลุ่มหนึ่งที่ไม่ได้รับเงินในคราวนี้ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ระบุวิธี เช็คสิทธิ์เงินอุดหนุนบุตร ว่า…

            1. อาจเกิดจากคุณแม่ยังไม่ได้มาให้ข้อมูลสถานะครัวเรือนเพิ่มเติม ที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) หรือ ให้ข้อมูลหลัง 30 กันยายน 2561 ซึ่งได้ถูกระงับสิทธิชั่วคราว – อยู่ระหว่างเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.)

            2. ข้อมูลไม่ถูกต้อง ซึ่งต้องดำเนินการแก้ไขข้อมูลในระบบฐานข้อมูล เช่น ว/ด/ป เกิดผิด เลขบัตรประจำตัวประชาชนผิด บัญชีธนาคารปิด บัญชีธนาคารผิดประเภท (ต้องเป็นออมทรัพย์) บัญชีธนาคารไม่ผูกพร้อมเพย์ (พร้อมเพย์ต้องผูกกับเลข13 หลักเท่านั้น) พม.จะเร่งรัดปรับแก้ไข และนำเข้าข้อมูลต่อไป

            วิธี เช็คสิทธิ์เงินอุดหนุนบุตร

             

            เช็คสิทธิ์เงินอุดหนุนบุตร

            อ่านต่อ >> หลักเกณฑ์การได้รับเงินอุดหนุนบุตร 2562
            และข่าวการเปิด ลงทะเบียนเงินอุดหนุนบุตรปี 63”
            คลิกหน้า 2

             

            เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

             

              วันหยุด 2563

              วันหยุด 2563 ปฏิทินวันหยุดยาว ประจำปี 2020 มีวันไหนบ้าง?

              เช็กเลย วันหยุด 2563 บ้านไหนชอบพาลูกเที่ยว หรือเตรียมวางแผน ลาพักร้อน ต้องเช็กปฏิทิน วันหยุดยาว วันหยุดราชการ 2020 เดือนไหนจะมีวันหยุดบ้างมาดูกัน

              วันหยุด 2563 ปฏิทินวันหยุดยาว วันหยุดราชการ ประจำปี 2020

              รวบรวมข้อมูลปฏิทิน วันหยุด 2563 / 2020 ซึ่งเป็นปีที่ตรงกับ นักษัตร ชวด หรือ หนู หากครอบครัวไหนชอบท่องเที่ยว หรือต้องการลูกน้อยไปเปิดประสบการณ์ต่างๆ นอกห้องเรียน เรียนรู้โลกกว้าง ตามสถานที่ต่างๆ คุณพ่อคุณแม่บ้านไหนที่เป็น working parent ต้องห้ามพลาด ข้อมูลปฏิทินวันหยุดยาว

              ไม่ว่าจะเป็น วันหยุดประจำปี 2563 วันหยุดราชการ วันพระ และวันสำคัญต่าง ๆ ประจำปี 2563 ในปฏิทิน ทางทีมงาน Amarin Baby & Kids ได้หาข้อมูล วันหยุดปี 2563 มาให้ทั้งหมดแล้ว แต่ละเดือนจะมีวันหยุดประจําปี 2563 วันไหนบ้าง มาดูกันเลย

              วันหยุด 2563 เดือน มกราคม

              วันพุธ          1          วันขึ้นปีใหม่

              >> วันขึ้นปีใหม่ ส่งท้ายปีเก่า วันแห่งการเฉลิมฉลองศักราชใหม่ ถือเป็นวันหยุดยาวของคนไทย ที่มีการจัดงานฉลองส่งท้ายปี

              วันหยุด 2563 เดือน กุมภาพันธ์

              วันเสาร์          8          วันมาฆบูชา

              >> วันมาฆบูชา 2563 เป็นวันสำคัญทางพุทธศาสนา ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3

              วันจันทร์           10          ชดเชยวันมาฆบูชา

               

              ปฏิทินวันหยุดปี 2563 เดือน มีนาคม ไม่มีวันหยุดราชการ

               

              วันหยุด 2563 เดือน เมษายน

              วันจันทร์          6          วันพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช
              และ วันที่ระลึกมหาจักรีบรมราชวงศ์

              >> วันจักรี 2563 เป็นวันครบรอบหารก่อตั้งราชวงจักรี ซึ่งครองราชย์อยู่ในปัจจุบัน ราชวงจักรีได้ก่อตั้งโดย พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก หรือ พระรามาธิบดีที่ 1

              วันจันทร์          13          วันสงกรานต์ (วันผู้สูงอายุ 2563)

              >> วันสงกรานต์ 2563 เป็นวันที่พระอาทิตย์ ผ่านหรือเคลื่อนย้าย จากราศีมีน เข้าสู่ ราศีเมษ ในเดือนเมษายน รวมไปถึงยังเป็นวันผู้สูงอายุแห่งชาติ เพื่อให้ตระหนักถึงความสำคัญของผู้สูงอายุ และปัญหาต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น

              วันอังคาร          14          วันสงกรานต์ (วันครอบครัว 2563)

              >> วันครอบครัว เพื่อเป็นการส่งเสริมให้เกิดความรักความอบอุ่น และความสุขในครอบครัวมากที่สุด

              วันพุธ          15          วันสงกรานต์

               

              วันหยุด 2563

               

              วันหยุด 2563 เดือน พฤษภาคม

              วันศุกร์           1          วันแรงงานแห่งชาติ

              >> วันแรงงาน เป็นวันหยุดเฉพาะเอกชน เพื่อเป็นการยกย่อง และชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของแรงงาน เพื่อให้เกิดการพัฒนาทั้งในคุณภาพ ความเป็นอยู่

              วันจันทร์          4          วันฉัตรมงคล

              >> วันฉัตรมงคล 2563 เป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่งของปวงชนชาวไทย ที่อยู่ใต้ร่มพระบรมโพธิสมภาร ของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 เป็นวันที่รำลึกถึงพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เป็นพระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ 10 แห่งราชวงศ์จักรี และราชอาณาจักรไทย ของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว

              หลังจากเสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติ ต่อจากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2559 และดำรงพระอิสริยยศเป็น “พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว”

              วันพุธ          6          วันวิสาขบูชา

              >> วันวิสาขบูชา 2563 เป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6

              วันจันทร์          11          วันพืชมงคล

              >> วันพืชมงคล 2563 คือ วันที่กำหนดให้มีพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ (วันหยุดเฉพาะราชการ)

               

              วันหยุด 2563 เดือน มิถุนายน

              วันพุธ          3        วันเฉลิมพระชนมพรรษา
              สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี

               

              ดูต่อ “ปฏิทินวันหยุด ประจำปี 2563 /2020
              อีก 6 เดือนหลัง” >> คลิกหน้า 2

               

              เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

               

                เรียนดนตรีดียังไง

                เรียนดนตรีดียังไง หลายเหตุผลที่บอกว่า เลี้ยงลูกด้วยดนตรี มีโอกาสประสบความสำเร็จในชีวิต

                พ่อแม่ทุกคนล้วนอยากเห็นลูกเติบโตเป็นเด็กฉลาดและประสบความสำเร็จในอนาคต มีหลายปัจจัยที่เป็นเครื่องมือสามารถก้าวไปสู่ความสำเร็จ การเล่นดนตรีเป็นอีกทางที่ส่งเสริมพัฒนาการด้านนี้ได้ เรียนดนตรีดียังไง ทำไมพ่อแม่หลายบ้านถึงส่งให้ลูกไปเรียนดนตรีตั้งแต่เล็ก

                รศ.ดร.ณรุทธ์ สุทธจิตต์ อาจารย์ภาควิชาดนตรีศึกษา คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้เคยพูดถึงความสำคัญของดนตรีกับเด็กเล็กไว้อย่างน่าสนใจว่า “การฟังดนตรีเป็นเรื่องสำคัญ เพราะทำให้เด็กเรียนรู้เกี่ยวกับการพัฒนากระบวนการฟัง เมื่อเด็กได้ฟังก็จะเกิดความสนใจ สิ่งที่ตามมาคือได้เรียนรู้ถึงความไพเราะของบทเพลงนั้นๆ และเมื่อตั้งใจฟังก็แปลว่าเด็กเกิดสมาธิ ซึ่งมีส่วนช่วยให้เรียนวิชาอื่น ๆ หรือทำงาน หรือทำกิจกรรมอื่น ๆได้ดี ในทางกลับกันหากเป็นเด็กที่มีสมาธิดีอยู่แล้ว เมื่อมาฟังเพลง ก็จะเรียนรู้เรื่องดนตรีได้ดี หากให้เรียนดนตรีก็จะเก่งไปเลย…” (ขอบคุณบทความจาก : รศ ดร. ณรุทธ์ สุทธจิตต์ ภาควิชาดนตรีศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย)

                พัฒนาการและความสามารถของลูกน้อยเป็นสิ่งที่พ่อแม่หลายคนต่างให้ความสำคัญ ซึ่งเด็กจะมีพัฒนาการด้านอารมณ์ สังคม และร่างกายไปตามลำดับ การส่งเสริมให้ลูกเติบโตและเรียนรู้อย่างสมวัยในแต่ละช่วงอายุ จึงมีผลต่อพัฒนาการและความสามารถของเด็กและส่งผลมาจนถึงวัยผู้ใหญ่ได้

                เรียนดนตรีดียังไง
                เรียนดนตรีดียังไง

                เรียนดนตรีดียังไง ? หลายเหตุผลที่บอกว่า เลี้ยงลูกด้วยดนตรีตั้งแต่เด็ก ส่งผลต่อพัฒการดีถึงตอนโต

                ปัจจุบันการเลี้ยงลูกด้วยดนตรี นับเป็นวิธีหนึ่งที่ได้รับความสนใจจากพ่อแม่ ในการส่งเสริมให้ลูกได้เรียนดนตรีตั้งแต่เล็ก มีงานวิจัย ผลทดลอง และผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากศึกษาถึงประโยชน์ของดนตรีต่อพัฒนาการด้านต่าง ๆ ของเด็ก ซึ่งส่วนใหญ่พบว่าการให้ทำกิจกรรมทางดนตรี อย่างการร้องเพลงหรือเล่นเครื่องดนตรีตั้งแต่ยังเล็ก มีส่วนช่วยเสริมพัฒนาการและทักษะความสามารถด้านต่าง ๆ ของเด็กได้มาก

                #ช่วยพัฒนาความสามารถทางด้านสติปัญญา

                • มีผลการวิจัยจากหลายสถาบันได้แสดงให้เห็นว่าบุคคลที่ประสบความสำเร็จจากหลากหลายอาชีพมีวัยเด็กที่ผ่านการเรียนดนตรีมาแทบทั้งสิ้น ผลการศึกษาพบว่า การเรียนดนตรีให้ผลโดยตรงต่อสมอง ระหว่างการเล่นดนตรีทำให้เกิดกระบวนการคิดสร้างสรรค์ เมื่อเด็กๆ ได้ฟังเพลง เนื้อร้องก็จะเกิดการจินตนาการเป็นภาพตามบทเพลง ครีเอทสิ่งใหม่ ๆ ขึ้นได้ดี
                • การได้เรียนดนตรีช่วยเพิ่มทักษะไอคิวได้ ซึ่งมีผลมาจากการฝึกสมองผ่านการเรียนรู้โน๊ตดนตรี แยกประสาท เช่น การเล่นเปียโนที่ต้องใช้มือซ้าย-ขวา การตีกลองที่ต้องใช้ประสาทสัมผัสตา มือ แขน ขา ที่เชื่อมโยงทุกส่วนกัน ทั้งนี้ยังมีผลการทดลอง (มหาวิทยาลัยโทรอนโตแห่งแคนาดา) พบว่า การเล่นเครื่องดนตรีประกอบจังหวะอย่างคีย์บอร์ดจะสร้างพัฒนาการทางสติปัญญาได้ดีกว่ามาก เมื่อเทียบกับการเล่นเปียโน หรือการร้องเพลง
                เรียนดนตรีดียังไง
                เรียนดนตรีดียังไง

                #ช่วยพัฒนาความสามารถทางอารมณ์

                • เสียงดนตรีจะทำให้มีความรู้สึกเพลิดเพลิน สนุกสนาน มีงานวิจัยนำเสนอออกมามากมายว่า ดนตรี โดยเฉพาะอย่างยิ่งดนตรีคลาสสิกมีส่วนช่วยพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ของเด็กวัยเจริญเติบโต การเรียนดนตรีนั้นจึงเป็นการเปิดโอกาสให้เด็ก ๆ ได้มีโอกาสใช้ดนตรีพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์โดยตรง
                • เสียงดนตรีจังหวะช้า จะช่วยกล่อมเกลาให้เด็กรู้สึกสงบ ลดอาการฉุนเฉียว ขี้โมโห และทำให้ลูกเป็นเด็กเข้าใจง่าย สอนง่าย ส่วนเสียงดนจรีที่มีจังหวะเร็วก็มีส่งผลต่ออารมณ์ให้เด็กรู้สึกตื่นตัว ร่าเริง แจ่มใส

                 

                เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                 

                อ่านต่อ เรียนดนตรีแต่เด็กส่งผลต่อพัฒนาการดียังไง  คลิกหน้า 2

                  ผื่นผ้าอ้อม diaper rash

                  เคล็ด(ไม่)ลับ ดูแลก้นลูกน้อยสุขภาพดี ไม่มี “ผื่นผ้าอ้อม”

                  ผื่นผ้าอ้อม diaper rash ผดผื่นคัน มักมาพร้อมกับการใส่ผ้าอ้อมให้ลูกน้อย ซึ่งทำให้คุณพ่อคุณแม่มือใหม่มีความกังวลใจไม่น้อยเลยค่ะ ดังนั้นเพื่อให้ก้นลูกน้อยมีสุขภาพดี หมดปัญหาการเกิดผื่นผ้าอ้อม เรามีคำแนะนำในเรื่องนี้มาฝากกันค่ะ

                  ผื่นผ้าอ้อม diaper rash

                  ผื่นผ้าอ้อม diaper rash เกิดจากสาเหตุ ?

                  ปัญหาหนึ่งที่พ่อแม่มือใหม่มักต้องเจอนั่นก็คือ ผื่นผ้าอ้อม diaper rash ที่ทำให้ลูกน้อยไม่สบายตัว ซึ่งสาเหตุของผื่นผ้าอ้อมมีหลายปัจจัยค่ะ

                  • การถูกเสียดสีผิวก้น

                  ในเด็กวัยทารกที่ต้องสวมใส่ผ้าอ้อมเกือบตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งผ้าอ้อมมักจะเสียดสีกับผิวก้นลูกน้อย จากการขยับเคลื่อนไหวร่างกาย หรือผ้าอ้อมมีผิวสัมผัสที่ไม่อ่อนโยนกับผิวก้นลูก ก็เหตุที่ทำให้ผิวก้นลูกเกิดผดผื่น แดง คันขึ้นได้

                  • การระคายจากความเปียกชื้น

                  ความเปียกชื้นที่มาจากปัสสาวะ อุจจาระที่ลูกขับถ่ายใส่ผ้าอ้อมก็เป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดผดผื่นผ้าอ้อมได้ง่าย

                  • การแพ้จากสิ่งที่มาสัมผัสกับผิว

                  เสื้อผ้า สบู่ โลชั่น ทิชชู่ หรือผ้าเปียก ฯลฯ อาจมีผิวสัมผัสที่ไม่อ่อนโยน หรือมีสารเคมีบางอย่างที่ก่อให้เกิดการแพ้ระคายเคืองขึ้นกับผิวลูกน้อย

                  • การติดเชื้อรา

                  มีเชื้อราอยู่ตัวหนึ่งที่ชื่อว่าแคนดิดา อัลบิแคนส์ (Candida Albicans) เกิดจากความเปียกชื้นในผ้าอ้อม ซึ่งการใส่ผ้าอ้อมสำเร็จรูปให้ลูกหมักหมม ให้ก้นลูกแช่อยู่กับฉี่ในผ้าอ้อมเป็นเวลานาน ก็จะทำให้เกิด การระคายเคืองขึ้นที่ผิวก้น ผิวบริเวณก้นจะมีผดผื่นแดงคัน ซึ่งหากปล่อยไว้เสี่ยงต่อการอักเสบรุนแรง ได้ค่ะ

                  ผื่นผ้าอ้อม diaper rash

                  ดูผิวก้นลูกน้อยให้สุขภาพดี ไม่มีปัญหาผื่นผ้าอ้อม 

                  สำหรับครอบครัวที่มีลูกวัยทารก หรือลูกเล็กที่ยังต้องใส่ผ้าอ้อม เพื่อไม่ให้ผิวก้นลูกน้อยผดผื่น หรือเกิดผื่น  ผ้าอ้อม เรามาปกป้องดูแลผิวบริเวณก้นของลูกให้แข็งแรง สุขภาพดีกันค่ะ

                  1. เมื่อลูกน้อยปัสสาวะเกิด 2-3 ครั้ง หรืออุจจาระออกมา ให้เปลี่ยนผ้าอ้อมผื่นใหม่ใส่ให้ลูก และก่อนใส่ ผ้าอ้อม ควรทำความสะอาดผิวก้นลูกน้อยให้สะอาด เช็ดผิวก้นให้แห้งก่อนใส่ผ้าอ้อม
                  2. ให้พักผิวก้นลูกจากการใส่ผ้าอ้อมสำเร็จรูปในระหว่างวันบ้าง เช่น หลังอาบน้ำให้ลูก ควรให้ผิวก้นพัก จากการถูกห่อหุ้มด้วยผ้าอ้อมสัก 1-2 ชั่วโมง
                  3. ลูกวัยทารกหลังอาบน้ำ หรือทำความสะอาดผิวก้นแล้ว ควรครีมทาสำหรับผิวก้นเด็ก เช่น ครีมที่เป็นออยเม้นท์สำหรับทาดูแลผิวก้นเด็กโดยเฉพาะ จะช่วยบำรุงผิวให้แข็งแรง และลดการเกิดผดผื่นคันที่ผิว
                  4. เลือกผ้าอ้อมสำเร็จรูปที่มีผิวสัมผัสอ่อนโยน ระบายอากาศได้ดี และไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองกับผิวก้นลูกน้อย

                  ผื่นผ้าอ้อม diaper rash

                  ผ้าอ้อมสำเร็จรูปแบบไหน ที่เหมาะกับผิวก้นลูกน้อย   

                  แน่นอนว่าการใช้ผ้าอ้อมสำเร็จรูปเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกครอบครัวที่มีลูกอย่างปฏิเสธไม่ได้เลย ซึ่งสิ่งสำคัญก่อนที่จะใช้  ผ้าอ้อมกับลูกน้อย คุณพ่อคุณแม่ต้องเลือกผ้าอ้อมที่เหมาะกับลูกน้อยมากที่สุด เพื่อให้ผิวก้นลูกน้อยไม่ต้องเจอกับผื่นผ้าอ้อมกันค่ะ

                  ผ้าอ้อมเมอร์รี่ส์

                  อย่างผ้าอ้อมเมอร์รี่ส์ ผ้าอ้อมสำเร็จรูปคุณภาพพรีเมี่ยมจากญี่ปุ่น มีทั้งแบบ TAPE และแบบ PANTS ถือเป็นหนึ่งในผ้าอ้อม สำหรับเด็กที่พ่อแม่มือใหม่ส่วนใหญ่เลือกให้ลูกน้อยใช้กัน  อยากรู้ไหมคะว่า ผ้าอ้อมสำเร็จรูปสำหรับเด็ก ทำไมต้องผ้าอ้อมเมอร์รี่ส์ เราไปดู 3 คุณสมบัติพิเศษของผ้าอ้อมเมอร์รี่ส์

                  1. ผิวหน้านุ๊ม..นุ่ม  

                  นุ่มสบาย ไม่ระคายเคืองต่อผิวที่บอบบางของลูกน้อย

                  2. ระบายอากาศดีเยี่ยม

                  มีช่องระบายอากาศที่เอวและเป้า ระบายอากาศได้ทั่วทั้งแผ่น ผิวลูกแห้งสบาย…ไม่อับชื้น

                  3. ซึมซับเร็วและมาก

                  ซึมซับและกักเก็บปัสสาวะได้ทันที ช่วยป้องกันปัญหาความอับชื้น ลดการเกิดผดผื่น

                  อยากให้ผิวก้นลูกน้อยสุขภาพดี ไม่มีผื่นผ้าอ้อมมาก่อกวน คุณแม่อย่าลืมปกป้องดูแลบำรุงผิวก้นลูกน้อย และใช้ผ้าอ้อมสำเร็จรูปที่เหมาะกับผิวก้นลูกน้อยด้วยนะคะ

                  ลูกน้อยผิวก้นสบายผิว ยิ้มได้..ไม่แพ้ ต้องผ้าอ้อมเมอร์รี่ส์ คลิก http://bit.ly/2lE14yi 

                  ผ้าอ้อมเมอร์รี่ส์

                   

                  แสดงแบบ :  คุณแม่เมลดา ลือบัณฑิตกุล และ น้องเฌอลินน์ สุขสถาวรพันธุ์ 

                    วงจรไฟฟ้าอย่างง่าย

                    สนุกกับ วงจรไฟฟ้าอย่างง่าย พร้อมคำศัพท์ภาษาอังกฤษน่ารู้

                    ชวนเด็กๆ มาเรียนรู้ วงจรไฟฟ้าอย่างง่าย ที่คุณพ่อคุณแม่สามารถ ทำการทดลองสนุกๆ กับลูกน้อยวัยอนุบาล กันได้ที่บ้าน พร้อมสอดแทรกคำศัพท์ภาษาอังกฤษน่ารู้ เกี่ยวกับไฟฟ้า

                    เด็กๆ รู้ไหมว่า อุปกรณ์ที่จะใช้ในการต่อวงจรไฟฟ้าประกอบด้วย 3 อย่างหลักๆ ได้แก่ 1. แบตเตอรี่ หรือถ่าน 2. สายไฟ 3. หลอดไฟ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ

                    แต่ถ้าเราไม่มีสายไฟล่ะ…เราจะสามารถทำให้หลอดไฟติดได้ไหม?

                    วันนี้รายการ Kids Talk ช่วง Daddy Talks โดย Amarin Baby & Kids จะพาเด็กๆ มาสนุกกับ วงจรไฟฟ้าอย่างง่าย ผ่านการทดลองใช้ดินสอดำ และดินเบา ในการ “นำไฟฟ้า” แทน “สายไฟ” พร้อมเรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษอย่างเพลิดเพลินไปกับน้องวิน น้องวิล อ.คริส และครูเจน แห่ง Scientia

                    มาดูกันว่าน้องวินจะต่อวงจรไฟฟ้าสำเร็จหรือไม่ ไปติดตามกันเลยค่ะ

                    ทบทวนคำศัพท์น่ารู้

                    thunder ฟ้าร้อง

                    bolt สายฟ้า

                    lightning ฟ้าผ่า, ฟ้าแลบ

                    wire สายไฟ

                    light bulb หลอดไฟ

                    electric shock ไฟดูด

                    short circuit ไฟฟ้าลัดวงจร

                    คุณพ่อคุณแม่สามารถดูเนื้อหาอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่ รายการ Kids Talk ทาง Facebook  Amarin Baby & Kids  หรือทาง Youtube  Amarin Baby & Kids นะคะ

                      ผ้าอ้อมเบบี้เลิฟ

                      แม่มั่นใจในความ “ไม่แพ้” จะลูกคนไหนก็เลือกใช้ BabyLove

                      ตามไอจีทุกวันเลยจ้า ใครได้เข้าไปดูคลิปพัฒนาการของน้องสายฟ้าและพายุ ในอินสตาแกรมส่วนตัวของแม่ชม(@chomismaterialgirl) จะเห็นได้ว่าหนูน้อยทั้งสอง มีความสดชื่น สดใส และเริ่มมีบุคลิกของตัวเองที่ชัดเจนออกมาให้เห็นแล้ว และคุณแม่คงจะได้เห็นโฆษณาที่แม่ชมพูดถึง ผ้าอ้อมทุกรุ่นของเบบี้เลิฟ ใช้แล้วผิวลูกไม่แพ้ เพราะ BabyLove ได้รับการรับรอง Hypoallergenic ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ น่าสนใจมาก วันนี้เราจึงมาติดตามดูผู้ใช้จริง เป็นคุณแม่ลูกสอง ที่ต้องบอกว่าใช้เบบี้เลิฟมาตั้งแต่ลูกคนแรกกันเลยทีเดียวมาดูกันค่ะ

                      พอนึกถึงเรื่องผ้าอ้อมสำเร็จรูปแล้ว สิ่งที่คุณแม่ทุกคนกังวลเหมือนกันก็คืออาการแพ้ หรือผื่นผ้าอ้อม ตามขอบกางเกง และผิวด้านในผ้าอ้อม ซึ่งก็ไม่มีใครอยากจะพาลูกไปหาคุณหมอบ่อย ๆ และต้องคอยทายาให้เสมอ ดังนั้นจะดีกว่าไหมถ้าเลือกผ้าอ้อมทั้งที  เลือกผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการวิจัยการันตี Hypoallergenic ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ ไม่รอช้ามาดูกันเลยว่าหลังจากใส่ไปแล้วเป็นยังไงกันบ้าง?

                      ผ้าอ้อมเบบี้เลิฟ

                      เบบี้เลิฟ เดย์ไนท์แพ้นส์ พลัส

                      #สายชิล

                      น้อง Daisy วัย 1 ขวบ 9 เดือน

                      โพสต์นี้ขอเสียงทีม #ลูกสอง กันหน่อยจ้า ใครที่มีลูกน้อยต่างวัยกดหัวใจไว้ได้เลย วันนี้ AMARIN Baby & Kids พามาตีแผ่ชีวิตแม่ลูกอ่อน ที่ผลัดกันแย่งซีนน่ารัก ๆ  ระหว่างน้อง Daisy & Daniel กับเรื่องราวการเลือกผ้าอ้อมของคุณแม่ที่ต้องจัดการวันสบายสไตล์ #สายชิล #สายคึก และ #สายเป๊ะ แบบแม่ชม กับผ้าอ้อมในกระแส

                      ที่การันตีว่า #เบบี้เลิฟทุกรุ่นไม่แพ้

                      มาดูสไตล์ #สายชิล ในวันสบาย ๆ ของน้อง Daisy กันค่ะ

                      ผ้าอ้อมเบบี้เลิฟ

                      Model : น้อง Daisy วัย 1 ขวบ 9 เดือน และคุณแม่

                      ผ้าอ้อมเบบี้เลิฟ

                      เบบี้เลิฟ เดย์ไนท์แพ้นส์ พลัส เท่านั้นที่รองรับการซึมซับระหว่างทำกิจกรรม นิ่มสบาย ไม่รู้สึกติดขัดตอนใส่เสื้อผ้าเลย

                      Daisy เล่นคนเดียวก็เก่ง มี Moment ลูกสาวแสนละมุน เพื่อนจินตนาการของเธอเยอะมาก แต่เล่นได้แปบเดียว เดี๋ยวหนูก็หลับแล้ว จะกลางวันหรือกลางคืน เบบี้เลิฟ เดย์ไนท์แพ้นส์ พลัส รองรับปัสสาวะได้ถึงประมาณ 3 แก้ว น้อง Daisy สบายตัวได้ตลอดเลยค่ะ ยิ่งช่วงอากาศร้อน คุณแม่ก็กลัวว่าก้นน้องจะชื้น จึงต้องคอยเปิดดูอยู่ตลอด แต่ เบบี้เลิฟ เดย์ไนท์แพ้นส์ พลัส มี Air Flow Technology ระบายอากาศดี และยังผ่านการทดสอบ Hypo-allergenic ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ ลูกสาวใครเป็นพี่สาว #สายชิล แบบ Daisy ก็ทำให้แม่วางใจในความอ่อนโยน ว่าต้องช่วยคุณแม่ดูแลน้องตอนโตขึ้นตามพัฒนาการได้แน่ๆ

                       

                      เบบี้เลิฟ เพลย์แพ้นส์ อัลตร้า ดราย

                      #สายคึก

                      ผ้าอ้อมเบบี้เลิฟ

                      เคยได้ยินไหมว่า เด็กผู้หญิงมีพัฒนาการเร็วกว่าเด็กผู้ชายในบางเรื่อง เพราะฉะนั้นจึงต้องฝึกทักษะรอบด้าน ให้รู้จักธรรมชาติมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงสู่โลกกว้าง ทำให้ Daisy กลายเป็น #สายคึก เมื่อรู้ว่าแม่จะพาไปเล่นสนุก ผ้าอ้อมก็มีส่วนสำคัญ ให้เด็กวัยเตาะแตะได้ทำกิจกรรมระหว่างวันได้ยาวนานขึ้น ไม่ว่าจะคึกระดับไหน ก็เล่นสนุกได้สบาย ตามวัยหมดกังวัลเรื่องการซึมเปื้อน เบบี้เลิฟ เพลย์แพ้นส์ อัลตร้า ดราย นอกจากผิวหน้านุ่มสบาย ยังมีเทคโนโลยี Active Dry Sheet กระจายตัวของเหลว Lock and Dry Layer: แผ่นซึมซับ ประสิทธิภาพสูง รวมถึง Flexi-Soft ทำให้ #สายคึก อย่าง Daisy สนุกทุกการเคลื่อนไหว และต้องฝึกให้ทำอะไรด้วยตัวเอง ที่สำคัญผ่านการทดสอบ Hypo-allergenic ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ เมื่อ Daisy สบายตัว ก็จะอารมณ์ดี และพร้อมเรียนรู้กิจกรรมใหม่ ๆ ตลอดทั้งวัน มีพัฒนาการที่ดีตามวัย เพราะบุคลิกของวัยก่อนเข้าโรงเรียนจะเริ่มเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น

                       

                      เบบี้เลิฟ พรีเมี่ยม โกลด์ เพอร์เฟค โพรเทคชั่น

                      #สายเป๊ะ

                      เมื่อมีสมาชิกตัวเล็ก ก็ต้องเสริมลุคให้เบบี๋เป็น #สายเป๊ะ โดยเบบี้เลิฟ พรีเมี่ยม โกลด์ เพอร์เฟค โพรเทคชั่น ผิวหน้านุ่มมาก ซึมซับเยี่ยม เหมาะกับผิวบอบบางของเจ้าตัวเล็ก พร้อมขอบขากันน้ำ มั่นใจได้ว่าไม่ซึมเปื้อน และที่สำคัญไม่ก่อให้เกิดการแพ้ เพราะผ่านการทดสอบ Hypo-allergenic จึงไม่ขัดขวางการเล่นเสริมพัฒนาการ แม้ว่าจะเพิ่งหัดพลิกหงาย พลิกคว่ำก็ตาม เปลี่ยนง่าย สะดวกทั้งกลางวันและกลางคืน ทำให้ลูกหลับยาว เบบี้เลิฟ พรีเมี่ยม โกลด์ เพอร์เฟค โพรเทคชั่น มี เจลซึมซับสองชั้น รองรับการซึมซับได้ยาวนานตลอดทั้งคืน ทำให้ลูกน้อยหลับสบาย ไม่งอแง เมื่อตื่นมาก็พร้อมที่จะเล่นและเรียนรู้ ทำให้ Daniel เป็นเด็กอารมณ์ดี สไตล์ #สายเป๊ะ ของเขาล่ะ

                       

                      ผ้าอ้อมเบบี้เลิฟ

                      ไม่ว่าคุณจะเป็นแม่สายไหน เบบี้เลิฟก็ช่วยให้ผิวของลูกน้อยไม่แพ้ #ลูกผู้ไม่แพ้ #เบบี้เลิฟทุกรุ่นไม่แพ้ #hypoallergenic #แม่ลูกเลิฟเบบี้เลิฟ #MyBabyMyWay

                      www.babylove.co.th  , www.facebook.com/babyloveclub , IG: babylovethailand

                        กินยากับนม

                        กินยากับนม ได้หรือไม่? ยากับนมและเครื่องดื่มที่ห้ามกินคู่กัน

                        เรามักจะเห็นข้อความกำกับบนฉลากยาบางประเภทว่าไม่ควรรับประทานคู่กับเครื่องดื่มตามที่ฉลากระบุ ยาชนิดไหนบ้างที่ไม่ควรทานคู่กับนมหรือเครื่องดื่มต่าง ๆ กินยากับนม ทำให้มีผลอย่างไร?

                        กินยากับนม ได้หรือไม่? ยากับนมและเครื่องดื่มที่ห้ามกินคู่กัน

                        ทำไมถึงห้าม “กินยากับนม และเครื่องดื่มอื่นๆ”?

                        เครื่องดื่มต่าง ๆ ที่ไม่ใช่น้ำเปล่า ย่อมมีสารต่าง ๆ ที่ทำปฎิกิริยาต่อร่างกายไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง อย่างเช่น ชา กาแฟ ที่มีคาเฟอีนที่มีฤทธิ์กระตุ้นประสาท ดังนั้นการทานยาที่ไปเสริมการกระตุ้นประสาทก็อาจเป็นอันตรายต่อร่างกายได้ หรือน้ำอัดลมที่นอกจากจะมีคาเฟอีนแล้วยังมีแก๊สอีกต่างหาก การที่ทานน้ำอัดลมเข้าไป แก๊สอาจจะไปกัดกระเพาะอาหารและขัดขวางการดูดซึมของตัวยาได้

                        สำหรับนม เครื่องดื่มที่มีประโยชน์ เป็นทั้งอาหารหลักสำหรับทารก และอาหารเสริมสำหรับเด็กเล็กนั้น การทานยาไปพร้อมกับนม ก็อาจทำให้เกิดข้อเสียได้

                        ยาอะไรห้ามกินกับนม
                        ยาอะไรห้ามกินกับนม

                        นมแม่ นมจากสัตว์ นมจากพืช เกิดปฏิกิริยากับยาได้เหมือนกัน นมในที่นี้ไม่ได้หมายถึงเพียงนมวัวเท่านั้น นมแม่ รวมไปถึงนมที่ได้จากสัตว์และพืช เช่น นมแกะ นมแพะ นมควาย นมถั่วเหลือง นมข้าวโพด นมอัลมอนด์ เป็นต้น ทั้งในรูปของผลิตภัณฑ์นมผง UHT, sterilized หรือ pasteurized และยังรวมไปถึงผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนมในรูปแบบอื่น ๆ เช่น โยเกิร์ต นมเปรี้ยว เนย ชีส อาหารเสริม วิตามิน และยาลดกรดบางชนิด ล้วนแต่มีแคลเซียมและอาจเกิดปฏิกิริยากับยาได้ จึงควรหลีกเลี่ยงเช่นเดียวกัน เป็นเพราะผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของนมทั้งหมดจะมีแคลเซียมเป็นส่วนประกอบ เมื่อรับประทานพร้อม หรือทานหลังจากทานยาไปไม่นาน แคลเซียมจากเครื่องดื่มเหล่านั้นจะไปจับกับยาที่เรากินเข้าไป ส่งผลให้ปริมาณของยาที่จะดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดเพื่อการรักษาลดน้อยลง จนไม่เพียงพอต่อการรักษาอาการ หรือโรคต่างๆ ที่เราต้องการได้ อาการ หรือโรคที่เราเป็นอยู่ก็จะไม่หาย รวมไปถึงร่างกายอาจไม่ได้รับประโยชน์อะไรจากการทานยานั้น ๆ เลย

                        มาดูกันว่ายาชนิดไหนบ้างที่ไม่ควรทานคู่กับนม และยาชนิดไหนบ้างที่ไม่ควรทานคู่กับเครื่องดื่มอื่น ๆ เพื่อให้แม่ ๆ ได้ระวังในการป้อนยาลูกหากได้รับยาเหล่านี้มาค่ะ อ่านต่อได้ที่หน้า 2 ค่ะ

                         

                        เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                        อ่านต่อ กินยากับนม ได้หรือไม่? ยากับนมและเครื่องดื่มที่ห้ามกินคู่กัน

                          พาลูกเที่ยว ฟาร์มแกะ

                          พาลูกเที่ยว ฟาร์มแกะ ค่าเข้าไม่เกิน 100 พาเจ้าตัวเล็กไปเป็นเด็กเลี้ยงแกะกัน!

                          หากพูดถึงที่เที่ยวที่เหมาะสำหรับพาเจ้าตัวเล็กไปทำกิจกรรมนอกบ้านสัมผัสกับธรรมชาติแบบสบาย ๆ พาลูกเที่ยว ฟาร์มแกะ น่าจะเป็นอีกตัวเลือกที่เหมาะสำหรับตัวเล็กวัยกระเตาะจนถึงวัยโตที่สามารถไปสัมผัสกับน้องแกะได้อย่างใกล้ชิด

                          วันนี้ Amarin Baby&Kids มีฟาร์มแกะน่ารัก ๆ ทั้งบรรยากาศและบรรดาน้องแกะที่มาคอยต้อนรับ ชวนให้คุณพ่อคุณแม่พาเจ้าเล็กไปเป็นเด็กเลี้ยงแกะกันค่ะ จะมีที่ไหนโดนใจครอบครัวรักแกะกันบ้างมาดูกันเลย

                          พาลูกเที่ยว ฟาร์มแกะ 5 ที่น่าแวะ พาเจ้าตัวเล็กไปเป็นเด็กเลี้ยงแกะกัน!

                          #1 พาลูกเที่ยว ฟาร์มแกะดำหัวหิน (Black Sheep Hua Hin Fun Farm)

                          ฟาร์มแกะดำหัวหิน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตรด้วยการเลี้ยงแกะบนเนื้อที่กว่า 15 ไร่ และเป็นฟาร์มแกะในร่มที่แรกและที่เดียวในเมืองไทย ด้วยคอนเซ็ปต์ “ฟาร์มแกะในร่ม ไม่ร้อนทั้งคนทั้งแกะ” ในบรรยากาศร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่ภายในสวนต้นมะม่วง สนามหญ้าสีเขียวให้เด็ก ๆ วิ่งเล่นและป้อนอาหารน้องแกะและสัตว์อื่น ๆ เช่น แพะ กวาง กระต่าย และไก่งวงในฟาร์มเล็ก ๆ กันอย่างเพลิดเพลิน อ่อ.. บอกไว้ก่อนนะคะ ถึงจะมีชื่อว่าฟาร์มแกะดำ แต่ภายในฟาร์มนั้นไม่ได้มีเฉพาะแกะดำเพียงอย่างเดียวนะ นอกจากนี้ยังกิจกรรมอื่น ๆ อาทิ สไลเดอร์, แทรมโพลีน สะพานเชือกให้เด็ก ๆ ได้เล่นปล่อยพลังกันอีกด้วย และขับรถบักกี้ (มีไว้บริการทุกวันหยุดเสาร์-อาทิตย์เท่านั้น) เรียกว่ามาที่เดียวได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติและมีกิจกรรมสำหรับเจ้าตัวน้อยให้ได้เรียนรู้เต็มที่เลยค่ะ

                          พาลูกเที่ยว ฟาร์มแกะ ดำหัวหิน
                          ขอบคุณรูปภาพจากเพจ ฟาร์มแกะหัวหิน

                          ฟาร์มแกะดำหัวหิน (Black Sheep Hua Hin Fun Farm)

                          พิกัด : ใช้เส้นทางที่จะไปวัดห้วยมงคล เมื่อถึงวัดห้วยมงคลแล้วตรงไปประมาณ 2 กิโลเมตร ฟาร์มแกะดำ อยู่ด้านซ้ายมือ บริเวณหมู่บ้านหนองหญ้าปล้อง
                          โทรศัพท์ 088 760 2804
                          ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 40 บาท, เด็ก 20 บาท (ความสูง 75 – 130 ซม.) + หญ้าเลี้ยงแกะคนละ 1 กำ
                          เปิดบริการ : ทุกวัน จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00-17.00 น. เสาร์ – อาทิตย์ เวลา 09.00-17.30 น.
                          ข้อมูลเพิ่มเติม : ฟาร์มแกะหัวหิน

                          #2 พาลูกเที่ยว ฟาร์มแกะ ทหารช่าง (Engineer Sheep Farm) จ.นครสวรรค์

                          เดี๋ยวนี้แต่ละจังหวัดก็มีฟาร์มแกะเป็นของตัวเอง แล้วนครสวรรค์จะพลาดได้ยังไง ฟาร์มแกะทหารช่าง อยู่ในความดูแลของกองพันทหารช่างที่ 4 กองพลทหารราบที่ 4 ค่ายจิรประวัติ ซึ่งแต่เดิมเป็นพื้นที่ทำการเกษตร ทำนา เลี้ยงสัตว์ ของกำลังพลทหารช่าง และทำศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงตามรอยในหลวง รัชกาลที่ 9 แล้วจึงต่อยอดพัฒนาให้มาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงฟาร์มและธรรมชาติ บนพื้นที่กว่า 30 ไร่ โดยปรับปรุงภายในให้มีฟาร์มเลี้ยงแกะ และฟาร์มเลี้ยงสัตว์ขนาดย่อมอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น แพะ หมูป่า ม้า ไก่ กวาง กระต่าย ปลา เป็ด ห่าน นกกระทา แพะ และกบ เป็นต้น บางจุดสามารถให้เด็ก ๆ ป้อนอาหารได้ด้วยการหยอดค่าอาหารใส่ในกระปุกเพียงแค่ 10 บาทและหญ้ากำละ 5 บาทเท่านั้น หรือจะใส่ชุดคาวบอยถ่ายรูปคู่กับน้องม้าหรือใส่ขี่ม้าได้ด้วย มีค่าบริการเพียง 50 บาท ถือว่าที่เป็นฟาร์มแกะที่มีมากกว่าแกะ จุดเช็คอินสุดเก๋แห่งนครสวรรค์ ห่างจากกรุงเทพนิดหน่อยก็ได้ พาลูกเที่ยว ฟาร์มแกะ เจอธรรมชาติฟิน ๆ เหมาะสำหรับมาเที่ยวได้ทั้งครอบครัว แถมค่าเข้าฟรีด้วยจ้า ต้องไม่พลาดแล้วล่ะ

                          พาลูกเที่ยว ฟาร์มแกะ ทหารช่าง
                          ขอบคุณรูปภาพจากเพจ ฟาร์มแกะ ทหารช่าง นครสวรรค์

                          ฟาร์มแกะทหารช่าง (Engineer Sheep Farm)

                          พิกัด : ถนน ปราการบริรักษ์ เทศบาลนครนครสวรรคิ์ เลี้ยวเข้ามาทางสี่แยกค่ายจิรประวัติ แล้วมุ่งหน้ามาทางสนามกอล์ฟค่ายจิรประวัติจะเจอสามแยกให้เลี้ยวขวาไปทางวัดถือน้ำ ขับตรงไปประมาณ 200 เมตร ฟาร์มแกะจะอยู่ขวามือ
                          โทรศัพท์ 087 558 5656
                          ค่าเข้าชม : ฟรี!
                          เปิดบริการ : ทุกวัน 08.00 – 18.00 น.
                          ข้อมูลเพิ่มเติม : ฟาร์มแกะทหารช่างนครสวรค์

                          #3 พาลูกเที่ยว ฟาร์มแกะ ณ Khonyok Sheep Farm

                          เปิดวาร์ปฟาร์มแกะใกล้กรุงเทพ แค่ขับรถมาชั่วโมงกว่า ๆ ก็มาถึง KhonYok Sheep Farm กันแล้วจ้า มาเป็นเด็กเลี้ยงแกะพร้อมด้วยกิจกรรมเยอะแยะ เช่น ให้อาหารน้องแกะที่มีมากถึง 70-80 ตัวในฟาร์ม ให้นมปลาคราฟ ถ่ายรูปคู่กับน้องแกะและบรรดาสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมต่าง ๆ ไว้เป็นที่ระลึกในบรรยากาศฟาร์มแบบสวิสเซอร์แลนด์ ภายในฟาร์มมีมุมถ่ายภาพสวยๆ หลายจุด และยังมีรูปปั้นตัวการ์ตูนต่าง ๆ เช่น รูปแกะ ฟักทอง ไดโนเสาร์ให้เด็ก ๆ ได้ร้องว้าว พร้อมทิวทัศน์บรรยากาศทุ่งหญ้าด้านหลังเป็นวิวเขาสวยงามมากจ้า

                          พาลูกเที่ยว ฟาร์มแกะ ณ Khonyok Sheep Farm
                          ขอบคุณรูปภาพจากเพจ ณ Khonyok Sheep Farm

                          ณ Khonyok Sheep Farm

                          พิกัด : ตั้งอยู่ริมถนนทางหลวง  3049 ติดกับตลาดอาเชี่ยนอินโดจีน  ก่อนถึงวัดหลวงพ่อปากแดง
                          โทรศัพท์ 095-5152559
                          ค่าเข้าชม : คนละ  50 บาท
                          เปิดบริการ : ทุกวัน 7:30–18:30 น.
                          ข้อมูลเพิ่มเติม : travelnakornayok

                           

                          เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                          อ่านต่อ 5 ที่เทียวฟาร์มแกะ ค่าเข้าไม่เกิน 100! คลิกหน้า 2

                            ลูก 4 ขวบ เอาแต่ใจ ดราม่าเจ้าน้ำตา แม่ต้องตามใจจริงเหรอ?

                            ช่วงวัย 4 ขวบที่ลูกเริ่มเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น แต่ยังไม่สามารถแยกความผิดถูกได้ เวลาบอกลูกให้ทำก็ไม่ยอมทำ เวลาบอกห้ามก็อาละวาดใส่ ลูก 4 ขวบ เอาแต่ใจ ต้องการคนสนใจ มีการแสดงอารมณ์ที่หลากหลาย เวลาอยากได้อะไรต้องได้ รับมือยังไงดี วัยนี้เป็นวัยที่แม่ต้องตามใจจริงเหรอ

                            สาเหตุ ลูก 4 ขวบ เอาแต่ใจ ร้องไห้หนักมากเวลาไม่ได้ดั่งใจ

                            • อาวุธที่ติดตัวมาแต่เกิดของเด็กเล็ก คือการร้องไห้โวยวาย เมื่อเกิดความคับข้องใจเพราะไม่รู้จะพูดออกมาตามใจคิดยังไงดี เด็กในวัยนี้เริ่มที่จะเรียนรู้การลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง แบบไม่มีเหตุผลในการกระทำหรือแก้ปัญหา เรามักจะเห็นลูกทำโดยไม่ต้องถาม หรือพ่อแม่พูดแต่ไม่ทำตาม เป็นวัยที่กล้าลองว่าถ้าอยากได้อะไรแล้วร้องไห้เข้าไว้แล้วจะได้ ทำแบบนี้แล้วพ่อแม่จะยอม จากนั้นก็พัฒนากลายเป็นนิสัย
                            ลูก 4 ขวบ เอาแต่ใจ
                            ลูก 4 ขวบ เอาแต่ใจ
                            • การถูกพ่อแม่เอาใจ โอ๋ตามใจ ประคบประหงมตั้งแต่เล็ก ๆ มาโดยตลอด เมื่อถึงเวลาที่ถูกขัดใจ ก็จะร้องเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการและมีพฤติกรรมที่รุนแรงมากยิ่งขึ้นจนกว่าจะได้ เช่น ลงไปนอนร้องไห้ ลงไปดิ้นที่พื้น โวยวายเสียงดัง เมื่ออยู่ในที่สาธารณะพ่อแม่ก็ต้องรับมือลูกด้วยการใจอ่อนยอมทำตาม ซึ่งการตามใจลูกมากเกินไปจะทำให้เด็กไม่รู้ว่าอะไรถูกอะไรผิด เด็กจะเรียนรู้เองตามธรรมชาติว่าถ้าทำแบบนี้แล้วได้ผล ก็จะทำซ้ำ ๆ และจะทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ จนพ่อแม่ใจอ่อนยอมทำตามสิ่งที่ลูกต้องการ
                            • เด็กในช่วงอายุ 2-5 ปี เป็นช่วงที่เริ่มมีพัฒนาการทางอารมณ์และสังคม เริ่มมีความเป็นตัวของตัวเอง ชอบเจ้ากี้เจ้าการเล็กน้อย และยึดความคิดตัวเองเป็นหลัก ชอบท้าทาย ยังไม่สามารถแยกว่าอะไรถูกอะไรผิด เมื่อรู้สึกเครียด เกิดความขับข้องใจ จึงจัดการอารมณ์ตัวเองด้วยการร้องไห้ อาละวาด ก้าวร้าว ซึ่งนอกจากพฤติกรรมนี้จะเกิดขึ้นได้ตามช่วงวัยแล้ว อาจมีปัจจัยอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น การเลี้ยงดู สภาพแวดล้อมในครอบครัว ปัญหาทางสุขภาพจิต โรคสมาธิสั้น โรคออทิสติก เป็นต้น

                            การ “ตามใจ” หรือยอมลูกตลอดจึงไม่ใช่วิธีบรรเทาอาการ “เอาแต่ใจ” ที่ถูกต้องนัก ถ้าหากคุณพ่อคุณแม่ช่วยลูกควบคุมอารณ์ร้องไห้เอาแต่ใจเป็น สอนให้ลูกรู้จักความผิดหวัง อดทนต่อความคับข้องใจ ลูกก็จะปรับตัวได้ง่าย ยอมตัดใจเร็ว ไม่ร้องไห้นาน

                            รับมือ ลูก 4 ขวบ เอาแต่ใจ

                            #1 พ่อแม่ต้องเข้าใจอารมณ์ของลูก

                            เนื่องจากลูกวัยนี้ยังไม่รู้วิธีจัดการกับอารมณ์ของตัวเอง จึงแสดงพฤติกรรมโมโห ร้องไห้ เหวี่ยง วีน ก้าวร้าวออกมาให้เห็น เมื่อลูกมีพฤติกรรมแบบนี้ สิ่งที่แรกคุณพ่อคุณแม่ควรทำคือ สงบ หนักแน่น เข้าไปกอดลูก และปลอบลูกด้วยความใจเย็น รับฟังความรู้สึกลูก ไม่ดุด่าว่ากล่าว อธิบายเหตุผลด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน พร้อมเสนอทางเลือกที่ดีกว่า เช่น ชวนลูกเล่นหรือทำกิจกรรมอื่นเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจสิ่งที่ลูกเรียกร้อง ถ้าพ่อแม่ทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ลูกจะซึมซับถึงการใช้เหตุผล ไม่ใช้อารมณ์โต้ตอบพ่อแม่ ไม่ติดนิสัยเอาแต่ใจไปจนโต

                            #2 สอนลูกให้รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา

                            รู้จักสิทธิของตนเองและเคารพสิทธิของผู้อื่น ไม่อยากได้หรือต้องการของเพื่อนมาเป็นของตัวเอง ด้วยการแสดงพฤติกรรมก้าวร้าว ข่มขู่ สอนลูกว่าเมื่อทำพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมก็จะทำให้คนอื่นเสียใจ เป็นเด็กที่ไม่น่ารัก และสอนลูกให้รู้จักแบ่งปัน เสียสละ ความมีน้ำใจกับเพื่อน ในขณะเดียวกันก็สามารถสอนลูกให้รู้จักปกป้องสิ่งของของตัวเอง รู้จักกล่าวปฏิเสธที่จะไม่ให้อย่างสุภาพได้เช่นกัน

                            ลูก 4 ขวบ เอาแต่ใจ
                            ลูก 4 ขวบ เอาแต่ใจ

                            #3 สอนลูกให้รู้จักควบคุมอารมณ์

                            ชะลอความโกรธหรือระบายอารมณ์ด้วยการนับ 1-10 และเสริมแรงบวกเพื่อปรับพฤติกรรม เช่น คำชมเชย การกอด หอมแก้ม เมื่อลูกทำได้ตามที่ตกลงไว้

                            เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                            อ่านต่อ วิธีรับมือลูกเอาแต่ใจไม่ดราม่าเจ้าน้ำตา  คลิกหน้า 2

                              เรียนเปียโนที่ไหนดี

                              ให้ลูก เรียนเปียโนที่ไหนดี 9 โรงเรียนสอนเปียโนน่าเรียน มาตรฐานดี

                              คุณพ่อคุณแม่ที่ให้ของขวัญลูกรักด้วยการเรียนด้านดนตรี ที่จะมีโอกาสเสริมพัฒนาการหลาย ๆ ด้านให้ดีขึ้นในชีวิต “เปียโน” นับเป็นเครื่องดนตรีอีกชิ้นที่พ่อแม่ให้ความสนใจอยากปูพื้นฐานดนตรีให้ลูก เรียนเปียโนที่ไหนดี 9 สถาบันที่เปิดคอร์สสอนเปียโน Amarin Baby&Kids คัดมาให้แม่ ๆ พิจารณาไว้เป็นตัวเลือกแล้วจ้า

                              เรียนเปียโนที่ไหนดี 9 สถาบันสอนเปียโนน่าเรียน

                              #1 Agape Music Studio

                              Agape Music Studio มีหลักสูตรสอนเปียโน ตั้งแต่เรียนรู้การวางท่าทางพื้นฐานที่ถูกต้อง เรียนรู้การอ่านโน้ต และทฤษฎีต่าง ๆ ที่ใช้สำหรับนักเปียโน เรียนรู้บทเพลงและเทคนิคเบื้องต้น ตั้งแต่หลักสูตรของ Alfred’s Basic Piano จนถึงระดับชั้นกลาง จากนั้นจะเป็นการเรียนบทเพลงจากคีตกวีที่มีชื่อเสียงเช่น Bach Beethoven Chopin โดยใช้หลักสูตร Trinity, Royal และ ANZCA ซึ่งเป็นที่ยอมรับแล้วทั่วโลก ด้วยด้วยบรรยากาศการสอนที่อบอุ่นเป็นกันเองจากความเป็นมืออาชีพของครูผู้สอน ทำให้เด็ก ๆ ทุกคนมีประสบการณ์การเรียนดนตรีที่แสนวิเศษที่อากาเป้ มิวสิคสตูดิโอ ใขณะเดียวกันก็จะปลูกฝังความรักในดนตรีให้กับเด็ก ๆ ที่เรียนอีกด้วย นอกจากนี้นักเรียนจะได้แสดงความสามารถต่อหน้าสาธารณชนซึ่งจะเป็นการพัฒนาผู้เรียน นอกจากความสามารถทางเปียโนสูงขึ้น เพื่อศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา ยังเป็นการพัฒนา EQ ของผู้เรียนในด้านต่าง ๆ อีกด้วยค่ะ

                              เรียนเปียโนที่ไหนดี agape music studio
                              เครดิตภาพ : เฟซบุ๊ก agape music studio

                              เรียนเปียโนที่ไหนดี >> Agape Music Studio

                              ที่ตั้ง : Fortune Condo Town 1, อาคาร 5, ชั้น 4 เลขที่ 315/510 ซ.สาธุประดิษฐ์ 19 (นราธิวาส 24)
                              ช่องนนทรี ยานนาวา กทม. 10120
                              เวลาทำการ : จันทร์-ศุกร์ 3:30 pm-8:00 pm เสาร์ 8:00 am-8:00 pm (หยุดวันอาทิตย์)
                              Tel : 02-674-1377
                              สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : agapestudio

                              #2 โรงเรียนดนตรีจุไรรัตน์

                              หลักสูตรวิชาเปียโนที่ โรงเรียนดนตรีจุไรรัตน์ ให้ผู้เรียนได้เรียนรู้เรื่อง Scales and Arpeggios และฝึกฝนเรื่องการฟัง การร้อง การเข้าจังหวะ (Aural training) ตลอดจนเรียนการบรรเลงเปียโนโดยการอ่านโน้ตอย่างฉับพลัน (Sight-reading) ได้และบรรเลงบทเพลง (Pieces) ที่หลากหลายครบทุกยุคทุกสมัย มีการสอนทฤษฎีดนตรี (Music Theory) ควบคู่กับการเรียนเปียโน นักเรียนจะมีความรู้ครบถ้วน สามารถอ่านโน้ต เขียนโน้ตได้ ตลอดจนเข้าใจคำสั่งและสัญลักษณ์ทางดนตรีได้เป็นอย่างดี จัดการเรียนการสอนและระดับอายุ แบ่งเป็นเรียนเดี่ยว ครู 1 คน ต่อนักเรียน 1 คน ด้วยบรรยากาศการเรียนที่สนุกสนานไปกับการเรียนรู้ พร้อมกับมีการวัดผลการเรียนการสอน โดยสถาบันสอบเกรดดนตรี ABRSM (The Associated Board of the Royal Schools of Music) หรือสถาบัน Royal ประเทศอังกฤษ นอกจากนี้ทางโรงเรียนมีการจัดแสดงผลงานของนักเรียนอย่างสม่ำเสมอ (Concert, Recital, Show) มีเวทีการแข่งขันเปียโนระดับประเทศ Churairat Piano Competition ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีด้วย

                              เรียนเปียโนที่ไหนดี โรงเรียนดนตรีจุไรรัตน์
                              เรียนเปียโนที่ไหนดี โรงเรียนดนตรีจุไรรัตน์

                              เรียนเปียโนที่ไหนดี >> โรงเรียนดนตรีจุไรรัตน์

                              ที่ตั้ง : สาขานวมินทร์ 100/59-62 ถ.นวมินทร์ (ปากชอย 89) เขตบึงทุ่ม กรุงเทพฯ 10240
                              Tel: 02 379 0891-3,02 733 6881, 081 721 5904-6
                              สาขาแฟชั่นไอส์แลนด์ ED 37-38 โซน Island Academy ชั้นใต้ดิน ศูนย์การค้าแฟชั่นไอส์แลนด์ ถ.รามอินทรา กรุงเทพฯ 10230
                              Tel:02 947 6131,02 947 6132
                              อัตราค่าเรียน : สาขานวมินทร์ Prep – Grade 2 – 2,900 บาท  Grade 3 – Grade 5 – 3,600 บาท Grade 6 – Grade 8 – 2,600 บาท
                              แฟชั่นไอส์แลนด์ Prep – Grade 2 – 2,700 บาท  Grade 3 – Grade 5 – 2,900 บาท Grade 6 – Grade 8 – 3,700 บาท
                              หมายเหตุ : ค่าลงทะเบียน 300 บาท (ยังไม่รวมค่าหนังสือ) ค่าเรียนชำระล่วงหน้า ครั้งละ 1 เดือน เรียนสัปดาห์ละ 1 ครั้งๆ ละ 1 ชั่วโมง (เดือนละ 4 ครั้ง) รับอายุ 5 ปี ขึ้นไป
                              สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : churairatmusic

                              #3 Grammy Vocal Studio

                              หลักสูตรวิชาเปียโนของ Grammy Vocal Studio เริ่มจากการปูพื้นฐานการเล่นและระบบการวางนิ้วที่ถูกต้อง การวางมือที่เหมาะสม ท่านั่ง และการอ่านโน้ต โดยทางสถาบันมีหลักสูตรเฉพาะสำหรับเด็กเริ่มตั้งแต่ 4 ขวบขึ้นไป จนถึงผู้ใหญ่ทักษะตั้งแต่ขั้นพื้นฐานไปจนถึงขั้นสูงในทุกแนวเพลง สอนโดยทีมอาจารย์ภาควิชาเปียโนทุกท่านจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยชื่อดังทั้งในและต่างประเทศ เปิดสอนทั้ง Classical Piano, Pop, Jazz และ Piano Accompaniment

                              เรียนเปียโนที่ไหนดี Grammy Vocal Studio
                              เครดิตภาพ : Grammy Vocal Studio

                              เรียนเปียโนที่ไหนดี >> Grammy Vocal Studio

                              ที่ตั้ง : ชั้น 4 เลขที่ 50 อาคารจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ เพลส ซอยสุขุมวิท 21คลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กทม. 10110
                              Tel : 02 669-9988, 02 669-8827, 02 669-9784
                              สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : grammyvocalstudio

                               

                              เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                              อ่านต่อ หาที่เรียนเปียโนให้ลูก 9 โรงเรียนสอนเปียโนที่น่าสนใจ  คลิกหน้า 2

                                เรียนดนตรีที่ไหนดี

                                เรียนดนตรีที่ไหนดี รวมที่เรียนดนตรีในกรุงเทพสำหรับเจ้าตัวเล็ก

                                ปัจจุบันนี้มีกิจกรรมหลากหลายที่คุณพ่อคุณแม่เลือกสนับสนุนให้ลูกรักได้ทำตามความถนัดและพร้อมที่จะส่งเสริมลูกอย่างเต็มที่ เช่นเดียวกับการเล่นดนตรี ที่ถือเป็นกิจกรรมสร้างเสริมพัฒนาการเด็ก ๆ ได้เป็นอย่างดี โรงเรียนสอนดนตรีก็มีหลายที่ เรียนดนตรีที่ไหนดี Amarin Baby & Kids รวบรวมมาให้คุณพ่อคุณแม่ได้เลือกและศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมไว้ที่นี้แล้วค่า

                                เรียนดนตรีที่ไหนดี 9 ที่เรียนดนตรีในกรุงเทพสำหรับเจ้าตัวเล็ก

                                #1 Kids Music

                                เรียนดนตรีที่ไหนดี Kids Music
                                เครดิตภาพ : Kids Music

                                Kids Music โรงเรียนสอนดนตรีและพัฒนาการสำหรับเด็กเล็กตั้งแต่แรกเกิด – 6 ปี มุ่งเน้นสร้างเสริมการเรียนรู้ให้เด็ก ๆ ผ่านเสียงเพลง เครื่องดนตรีและกิจกรรมเข้าจังหวะเป็นภาษาอังกฤษและเสริมการเรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษ ด้วยหลักสูตร Music and Movement Program จากสถาบัน Kindermusik ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยได้ผ่านการวิจัยและพัฒนามาสำหรับเด็กเล็กโดยเฉพาะ (Research-based music program) เมื่อเรียนจบคอร์สก็จะมีการประเมินผลด้านพัฒนาการต่าง ๆ ของลูกตามช่วงอายุ เด็กๆ จะสนุกและได้รับประโยชน์จากกิจกรรมของที่นี้แน่นอน

                                เรียนดนตรีที่ไหนดี >> Kids Music
                                ที่ตั้ง : ชั้น 11 Major Tower Thonglor ซอยทองหล่อ 10 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร
                                วันทำการ : พุธ – เสาร์ เวลา 9.30 – 17.00 น. / อาทิตย์ เวลา 9.00 – 17.00 น.
                                โทร : 062-685-4146 , 062-5936246
                                สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : www.kidsmusic.co.th
                                www.facebook.com/kidsmusic.bangkok.thailand

                                #2 Melody Plus School of Dance and Music

                                เรียนดนตรีที่ไหนดี โรงเรียนดนตรีและสถาบันดนตรีเมโลดี้พลัส
                                เครดิตภาพ : โรงเรียนดนตรีและสถาบันดนตรีเมโลดี้พลัส

                                โรงเรียนดนตรีและสถาบันดนตรีเมโลดี้พลัส จะเน้นเป็นพิเศษโดยเฉพาะการสอนแบบ private สร้างการสอนแบบตัวต่อตัวเพื่อให้ผู้เรียนได้เข้าใจในเนื้อหาวิชาดนตรีต่าง ๆ ได้อย่างละเอียดครบถ้วน และมีความสนุกสนาน เพลิดเพลินควบคู่กันไป รวมถึงการสอนเป็นกลุ่มทั้งเด็กและผู้ใหญ่ โดยนำหลักสูตร Alfred จากประเทศ สหรัฐอเมริกามาใช้ มีความทันสมัยในรูปแบบการเรียนการสอน ตลอดจนความเข้มข้นของเนื้อหาหลักสูตร และมีการวัดผล ประเมินผลของผู้เรียนอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้คุณพ่อคุณแม่ทราบถึงความก้าวหน้าและการพัฒนาทางด้านดนตรีของลูก เช่น มีการแสดงโชว์ผลงาน งานแสดงมินิคอนเสริต์ การประเมินจากครูผู้สอน มีการสอบวัดผลโดยใช้เกณฑ์  Trinity / Rock School / ABRSM / RAD ซึ่งเป็นที่ยอมรับระดับสากลในการวัดผล

                                เรียนดนตรีที่ไหนดี >> โรงเรียนดนตรีและสถาบันดนตรีเมโลดี้พลัส
                                ที่ตั้ง : สาขาเทสโก้โลตัสพระราม 3 ชั้น 3 (ฝั่ง Food Court ) 172 ถ.นราธิวาสราชนครินทร์ แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กทม. 10120
                                โทร : 02-2948173, 089-1407559

                                สาขาโลตัสแคราย 245 อาคารเทสโก้โลตัสรัตนาธิเบศร์ ถ.ติวานนท์ ต.บางกระสอ อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี 11000
                                โทร : 02-9508966, 086-6600616

                                สาขาตลาดโลตัสวัชรพล 5 ซอยวัชรพล ถนนรามอินทรา แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม.
                                โทร : 02-9455660, 086-5302555

                                สาขาเซ็นทรัลปิ่นเกล้า 7/129 ห้อง 2202 ชั้น 22 อาคารสำนักงานเซ็นทรัลปิ่นเกล้า ถนนบรมราชชนนนี แขวงอรุณอัมรินทร์ บางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร 10700 (ชั้น 22,16)
                                โทร :02-8847717-8

                                สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : www.melodyplusmusic.com
                                 https://www.facebook.com/Melodyplusmusicschool/

                                #3 โรงเรียนดนตรี ศิลปะการแสดงมีภูมิ

                                เรียนดนตรีที่ไหนดี โรงเรียนดนตรี ศิลปะการแสดงมีภูมิ
                                เครดิตภาพ : โรงเรียนดนตรี ศิลปะการแสดงมีภูมิ

                                โรงเรียนมีภูมิ เป็นโรงเรียนสอนดนตรี เรียนเปียโน สอนศิลปะ และศิลปะการแสดง เปิดสอนเด็กตั้งแต่อายุ 2 ขวบครึ่งไปจนถึงนักเรียน นักศึกษาที่กำลังจะเข้ามหาวิทยาลัย เรียนต่อทางด้านดนตรี และด้านศิลปะ ตลอดจนวัยผู้ใหญ่และวัยผู้สูงอายุ เน้นบรรยากาศการเรียนที่สนุกสนาน อบอุ่น พร้อมเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ การแสดงออกที่เหมาะสม เพื่อให้ผู้เรียนสามารถสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัว และสามารถนำไปต่อยอดให้เกิดประโยชน์ได้ในชีวิตประจำวัน ภายใต้การสอนโดยคุณครูจากมหาวิทยาลัยชั้นนำและมีประสบการณ์ในการสอนอย่างยาวนาน และมีเวิร์คช็อปและแสดงผลงานกับผู้มีชื่อเสียงและศิลปินในวงการบันเทิง มีการจัดสอบวัดผลผู้เรียนโดย TRINITY ซึ่งเป็นสถาบันจัดสอบดนตรีมาตรฐานสากลจากประเทศอังกฤษ คุณพ่อคุณแม่สนใจสถาบันใกล้บ้านลองแวะเข้าไปดูบรรยากาศการเรียนการสอนดูนะคะ

                                เรียนดนตรีที่ไหนดี >> โรงเรียนดนตรี ศิลปะการแสดงมีภูมิ
                                ที่ตั้ง : 265 ถนนบรมราชชนนี แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ 10170
                                วันทำการ : วันจันทร์ – วันศุกร์ 10:00 – 19:00 น. วันเสาร์ – วันอาทิตย์ 09:00 น. – 19:00 น.
                                โทร : 095-553-9224
                                สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : www.mephoomschool.com
                                 www.facebook.com/mephoomschool

                                 

                                เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                                อ่านต่อ 9 โรงเรียนสอนดนตรีในกรุงเทพ คลิกหน้า 2

                                  ลูกเป็นภูมิแพ้

                                  ลูกเป็นภูมิแพ้ ไม่ใช่แค่พ่อแม่ที่ทำให้ลูกป่วย แต่สภาพแวดล้อมก็มีส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดภูมิแพ้กับลูก

                                  ลูกเป็นภูมิแพ้ จะเป็นไปได้ยังไงในเมื่อพ่อกับแม่ก็ไม่ได้เป็นภูมิแพ้ !! เป็นคำถามที่หลายๆ ครอบครัวถามกันเข้ามาอยู่บ่อยๆ  กับเรื่องของภูมิแพ้ในเด็ก ว่าจริงๆ แล้วเกิดขึ้นจากสาเหตุใด เอาเป็นว่าเราจะไปหาคำตอบพร้อมกันค่ะ

                                  ลูกเป็นภูมิแพ้ มีสาเหตุจาก

                                  ภูมิแพ้ในเด็ก มักเกิดจาก 2 สาเหตุหลักนั่นก็คือ

                                  1. การถ่ายทอดทางพันธุกรรม

                                  ภูมิแพ้ในเด็ก สาเหตุหนึ่งมาจากถ่ายทอดทางพันธุกรรม อาจมาจากพ่อกับแม่ที่ป่วยเป็นภูมิแพ้ซึ่งลูกจะมีโอกาสสูงถึง 40-80%  หากทั้งพ่อและแม่เป็นโรคภูมิแพ้ และมีโอกาส 20-40%  ถ้าคนใดคนหนึ่งเป็นโรคภูมิแพ้ และถึงแม้ว่าจะไม่มีใครเป็นภูมิแพ้เลยในครอบครัว แต่ลูกก็ยังมีโอกาสเป็นภูมิแพ้ได้สูงถึง 15% และนั่นจะส่งผลอย่างยิ่งต่อพัฒนาการของลูกน้อยในทางลบ ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

                                  2. สภาพแวดล้อม

                                  อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เด็กๆ ป่วยเป็นโรคภูมิแพ้ นั่นก็คือสภาพแวดล้อมที่อยู่รอบตัวลูก ไม่ว่าจะเป็น  ฝุ่น สัตว์เลี้ยง ควันบุหรี่ รวมถึงอาหารบางอย่างก็สามารถก่อให้เกิดอาการแพ้ขึ้นได้ อย่างอาหารทะเล แป้งสาลี ถั่วลิสง หรือกระทั่งการแพ้โปรตีนจากไข่และนม ซึ่งโดยมากเด็กที่แพ้จากการดื่มนม เป็นเพราะโปรตีนในนมทั่วไปจะมีขนาดใหญ่ ซึ่งนั่นเป็นโปรตีนขนาดใหญ่ที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ ซึ่งเมื่อลูกน้อยได้รับในปริมาณมากแล้ว อาจกระตุ้นให้เกิดอาการแพ้ในจำนวนมาก

                                  ข้อมูลจากคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล2  ยังระบุอีกว่า คนเป็นโรคภูมิแพ้สามารถพบได้บ่อยมากขึ้นและสูงขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก อีกทั้งยังมีแนวโน้มที่จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แม้จะยังไม่แน่ชัดว่าทำไมเด็กสมัยนี้จึงเป็นโรคภูมิแพ้กันมากขึ้น แต่ปัจจัยหนึ่งที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจนก็คือ สภาพแวดล้อม หรือมลภาวะที่มากขึ้น เห็นได้ชัดเลยก็คือปริมาณของฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM2.5 ที่มีมากจนเกินค่ามาตรฐาน จนทำให้คุณแม่ต้องรู้จักที่จะป้องกันมากขึ้นนั่นเอง

                                   

                                  อาการเป็นภูมิแพ้ที่เกิดขึ้นจะรู้ได้อย่างไร

                                  ลูกเป็นภูมิแพ้ จะมีอาการแสดงให้คุณพ่อคุณแม่ได้สังเกตอยู่ 3 ระบบ คือ…

                                  • ระบบผิวหนัง

                                  – มีผื่นคัน ผิวหนังแห้ง โดยเฉพาะบริเวณใบหน้าและแก้ม ข้อศอก ข้อพับ เข่า ซอกคอ และตามลำตัว

                                  – มีผื่นลมพิษเป็นๆ หายๆ โดยสามารถเป็นได้ทั้งตัว

                                  • ระบบทางเดินหายใจ

                                  – เป็นหวัดบ่อย หรือมีอาการเป็นบางเวลา เช่น จามน้ำมูกไหลในตอนเช้า

                                  – เป็นหวัดเรื้อรัง หรือเป็นไซนัสอักเสบ

                                  • ระบบทางเดินอาหาร

                                  – ริมฝีปากบวม มีผื่นคันรอบปาก

                                  – คลื่นไส้ อาเจียน แหวะนมบ่อยในเด็กทารก

                                  – ท้องอืด ถ่ายเหลว มีมูกเลือดปนในอุจจาระ

                                   

                                  จะป้องกันลูกน้อยจากภูมิแพ้ได้อย่างไร ?

                                  เชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่คงไม่อยากให้ลูกน้อยเจ็บป่วยด้วยโรคภูมิแพ้กันอย่างแน่นอน ถึงแม้อาจจะเลี่ยงไม่ได้ที่ส่วนหนึ่งเกิดขึ้นจากทางพันธุกรรม แต่เราสามารถดูแลสภาพแวดล้อม และป้องกันเบื้องต้นได้ง่ายๆ คือการหลีกเลี่ยงสารกระตุ้นต่างๆ หรือบริเวณที่มีฝุ่นควันต่างๆ และการทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของลูกน้อยแข็งแรง โดยเฉพาะกับเด็กเล็กๆ ที่มีระบบภูมิคุ้มกันร่างกายยังพัฒนาไม่เต็มที่ การเลือกอาหารที่ลดการกระตุ้นการเกิดการแพ้ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่ง  นมที่มีเวย์โปรตีนที่ผ่านการย่อยบางส่วน มีโปรตีนขนาดเล็กลงถึง 10 เท่าจากโปรตีนในนมทั่วไป จึงอ่อนโยนต่อระบบภูมิคุ้มกันของลูกน้อยและลดโอกาสการเกิดการแพ้

                                  ลูกเป็นภูมิแพ้

                                  โปรตีนที่ผ่านการย่อยบางส่วน ลดโอกาสการแพ้โปรตีนนมวัว เนื่องจากได้ย่อยโปรตีนที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ที่เรียกว่าเบต้า-แลคโตโกลบูลินออกไป  แล้วยิ่งไปกว่านั้น เวย์โปรตีนที่ผ่านการย่อยบางส่วน หรือผ่านกระบวนการไฮโดรไลซ์ ยังได้รับการแนะนำใน *แนวทางการปฏิบัติในการป้องกันโรคภูมิแพ้ของประเทศไทย ให้เป็นอีกทางเลือกในการลดความเสี่ยงของการเกิดการแพ้ของลูกน้อยได้ ยิ่งไปกว่านั้นโมเลกุล ขนาดเล็กยังย่อยง่าย ช่วยให้ลำไส้ดูดซึมสารอาหารไปใช้ได้ดีขึ้น อ่อนโยนต่อระบบย่อยอาหารของเด็กๆ ด้วยค่ะ

                                  ดังนั้นหากคุณพ่อคุณแม่อยากให้ลูกน้อยเติบโตสมวัย มีพัฒนาการที่ดี ไม่เจ็บป่วยด้วยภูมิแพ้ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อเลือกเวย์โปรตีนที่ผ่านการย่อยบางส่วน ตามคำแนะนำของแนวทางการปฏิบัติฯ เพื่อเพิ่มการปกป้องลูกน้อยจากภูมิแพ้ต่างๆ ใส่ใจเลือกโปรตีนที่มีคุณภาพมาดูแลให้สุขภาพร่างกายลูกน้อยสมบูรณ์แข็งแรงกันนะคะ เพื่อพัฒนาการที่ดีของลูกน้อยตั้งแต่วันนี้ค่ะ

                                  #เพื่อทุกก้าวที่เติบโตของลูก #เวย์โปรตีนที่ย่อยบางส่วน

                                   

                                  ข้อมูล :
                                  1. ภูมิแพ้.www.doctor.or.th

                                  2. https://www.bbc.com/thai/features-46482406

                                  3. รู้จักภูมิแพ้ในเด็ก.โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์

                                   

                                    ลูก 4 ขวบ ท้องผูก

                                    รู้สัญญาณ ลูก 4 ขวบ ท้องผูก เบ่งนาน อึยาก แก้ได้ไม่ยาก

                                    เมื่อลูกบ่นปวดท้อง เบ่งแล้วถ่ายไม่ยอมออก บางรายรุนแรงถึงขนาดร้องไห้ อึดอัด ลูกทรมานกาย แม่ก็ทรมานใจ ลูก 4 ขวบ ท้องผูก ก่อนจะบานปลาย มาเช็กสัญญาณและหาวิธีแก้กันค่ะ

                                    ภาวะท้องผูกในเด็ก เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในเด็ก 4-5 ขวบ อาจเป็นเพราะในช่วงวัยอนุบาล เด็กบางคนยังไม่กล้าบอกครูว่าปวดฉี่ปวดอึ ยังถอดกางเกงไม่เป็น จึงมักอั้นเอาไว้ไม่ยอมเข้าห้องน้ำ หรือเป็นเด็กที่เข้าห้องปกติพอทำธุระเองได้ แต่ยังไม่สะอาดดี บางครั้งก็อาจมีอุจจาระเปื้อนปนติดมากับกางเกงโดยไม่รู้ตัว ทำให้ถูกพ่อแม่ดุ ถูกตีเมื่อเลอะเทอะ จึงอั้นอุจจาระไม่กล้าถ่าย ทำให้อุจจาระแข็ง ถ่ายเจ็บ ก็เป็นต้นเหตุที่ทำให้เจ้าตัวเล็กท้องผูก ได้

                                    รู้สัญญาณ ลูก 4 ขวบ ท้องผูก ถ้ามีอาการเหล่านี้

                                    ลูก 4 ขวบ ท้องผูก
                                    อาการลูกท้องผูก
                                    • ไม่ถ่ายนานกว่า 2 หรือ 3 วัน หรือถ่ายอุจจาระน้อยกว่า 2 ครั้ง/สัปดาห์ เป็นเวลามากกว่า 2 สัปดาห์ขึ้นไป
                                    • ลูกแสดงอาการอั้นอุจจาระ เช่น มองเห็นท่าทางลูกบิดขาหรือบิดร่างกายเพื่ออั้น
                                    • เด็กที่ท้องผูกนาน อาจมีคราบและรอยอุจจาระขนาดเล็กเล็ดออกมาภายนอก ทำให้เปื้อนติดกางเกงและมีกลิ่นเหม็น
                                    • ถ่ายอุจจาระลำบาก มีอุจจาระแข็งและแห้ง ต้องเบ่งนาน ถ่ายไม่ออก
                                    • ลักษณะอุจจาระแข็งเป็นก้อนเล็กก้อนน้อยเหมือนขี้แพะ
                                    • มีอาการปวดท้อง ปวดบริเวณทวารหนัก การเบ่งแรงอาจทําให้มีบาดแผลที่ทวารหนัก บางครั้งมีเลือดปนออกมา เมื่อเวลาลูกถ่ายกลัวเจ็บ จึงไม่กล้าอึและทำให้กลั้นอุจจาระมากขึ้น ซึ่งถ้ากลั้นอุจจาระจนเป็นนิสัย อุจจาระอยู่ในร่างกายนานๆ ก็จะแข็งขึ้น ก้อนใหญ่ขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดอาการท้องผูก และนําไปสู่ภาวะแทรกซ้อนอื่นได้

                                     

                                    เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                                    อ่านต่อ สาเหตุที่ทำให้ลูกท้องผูกและแนวทางแก้ท้องผูก คลิกหน้า 2