Page 206 – AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

โรงเรียนอนุบาล ที่ไหนดี

โรงเรียนอนุบาล ที่ไหนดี 7 ข้อที่พ่อแม่ควรรู้ก่อนเลือกโรงเรียนแรกให้ลูก

โรงเรียนอนุบาล ที่ไหนดี การเลือกโรงเรียนให้กับลูกรัก เป็นการตัดสินใจที่สำคัญมากสำหรับคนเป็นพ่อแม่ที่ต้องมองหาโรงเรียนอนุบาลเพื่อตอบโจทย์และสร้างสภาพแวดล้อมเชิงบวกให้กับลูกในวัยเริ่มต้นการเรียน การเลือกโรงเรียนแรกให้ลูกจึงเป็นขั้นตอนสำคัญที่ต้องพิจารณาถึงหลายสิ่งก่อนตัดสินใจส่งลูกเข้าเรียน

โรงเรียนอนุบาล ที่ไหนดี 7 ข้อที่พ่อแม่ควรรู้ก่อนเลือกโรงเรียนแรกให้ลูก

โรงเรียนอนุบาล ที่ไหนดี
โรงเรียนอนุบาล ที่ไหนดี

#1 พิจารณาโรงเรียน ค้นหาข้อมูลและลงสำรวจพื้นที่

โรงเรียนอนุบาลเปรียบเสมือน “บ้าน” หลังที่สองของลูก การเลือกโรงเรียนที่เหมาะสมสำหรับเจ้าตัวน้อย จึงต้องตอบโจทย์ของคุณพ่อคุณแม่หลายอย่างด้วย อาทิเช่น ค่าเทอม สถานที่ ชั่วโมงเดินทางรับส่ง ฯลฯ เมื่อตัวเลือกแคบลงตรงกับความต้องการจนเหลือโรงเรียนอนุบาลสองสามแห่งเป็นตัวเลือก ลองกำหนดวันเพื่อนัดหมายขอเยี่ยมชมโรงเรียน โดยครั้งแรกนั้นอาจจะยังไม่พาเจ้าตัวน้อยไปด้วยเพื่อคุณพ่อคุณแม่จะได้มีเวลาสังเกตและพูดคุยสอบถามกับอาจารย์ ซึ่งถือว่าเป็นขั้นตอนสำคัญที่ควรทำก่อนตัดสินใจเลยนะคะ

#2 พิจารณาถึงครูผู้สอน

การเลือกโรงเรียนให้ลูก ครูอนุบาลที่ใจดีรักเด็กที่ถือว่าเป็นหัวใจสำคัญ เพราะส่งผลทำให้เด็ก ๆ มีชีวิตชีวา ครูต้องแสดงถึงความใส่ใจและความสนใจต่อเด็ก ๆ อย่างแท้จริง คุณพ่อคุณแม่สามารถสังเกตได้ในขณะที่มีโอกาสได้เดินชมการเรียนการสอนในวันที่เข้าเยี่ยมชมโรงเรียน สังเกตเห็นรอยยิ้มของเด็ก ๆ และได้ยินเสียงหัวเราะในห้องเรียน ระหว่างครูกับนักเรียนมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีโต้ตอบกัน ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ที่ดีสำหรับการตัดสินใจเลือกโรงเรียนให้ลูกได้

โรงเรียนอนุบาล ที่ไหนดี

#3 พิจารณาหลักสูตรการเรียนการสอน

หลักสูตรก่อนวัยเรียนควรมุ่งเน้นไปที่เด็กรอบรู้ การเรียนรู้ของเด็กอนุบาลคือเกิดขึ้นได้โดยผ่าน “การเล่น” สิ่งนี้สำคัญมาก ๆ ดังนั้นโปรแกรมการเรียนการสอนจึงควรสอดแทรกไปกับความสนุก เมื่อเด็กรู้สึกถึงความสุข การเรียนรู้ทุกอย่างก็จะเกิดขึ้นตามธรรมชาติ ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่สามารถสอบถามหลักสูตรการเรียนการสอนของแต่ละโรงเรียนว่าตรงกับความต้องการ และเหมาะสมกับเจ้าตัวน้อยหรือไม่ ตารางเรียนของเด็กวัยนี้ควรเป็นกิจกรรมที่สมดุลกัน ครูสามารถปรับหลักสูตรให้ตรงกับความต้องการของนักเรียนและความเหมาะสมในแต่ละวันได้ ทั้งในห้องเรียนสำหรับการเรียนรู้ทางวิชาการ ดนตรี ศิลปะ การทดลองวิทยาศาสตร์ และการทำงานร่วมกันกลุ่ม ฯลฯ การเรียนรู้นอกห้องเรียนผ่านการเล่น ออกกำลังกาย เพื่อส่งเสริมพัฒนาการในทุก ๆ ด้านของเด็กวัยนี้ ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการเรียนรู้อย่างเต็มที่ และเป็นการเตรียมความพร้อมในการศึกษาระดับต่อไปได้

#4 พิจารณาความปลอดภัย ความสะอาด ภายในห้องเรียน

โรงเรียนควรมีมีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดีในการป้องกันเด็ก แผนฉุกเฉินกรณีเกิดเหตุไม่คาดคิด มาตรการทำความสะอาดห้องเรียนอุปกรณ์ข้าวของเครื่องใช้และของเล่นเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรค การดูแลกรณีเด็กที่ป่วยมีห้องพยาบาลพร้อมแยกห้องออกจากเด็กปกติก่อนที่จะโทรตามผู้ปกครองมารับ รวมถึงความปลอดภัยและความสะอาดภายในโรงอาหาร ห้องน้ำ สนามเด็กเล่น เป็นต้น

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

อ่านต่อ 7 ข้อก่อนเลือกโรงเรียนแรกให้ลูก คลิกหน้า 2

    ยิ่งลูกกินยาก แม่ยิ่งต้องเลือก

    • ลูกกินยาก เป็นหนึ่งในปัญหาหนักใจของหลายๆ ครอบครัวเลยก็ว่าได้ เพราะเมื่อถึงวัยที่ต้องเริ่มรับประทานอาหาร อาจไม่ใช่กับเด็กทุกคนที่จะเจริญอาหาร ยิ่งโดยเฉพาะลูกที่อยู่ในวัยกำลังเจริญเติบโต ดังนั้นเพื่อให้คุณพ่อคุณแม่มีแนวทางในการแก้ไขปรับพฤติกรรม “ลูกกินยาก” ไม่ให้ขาดสารอาหาร และเติบโตได้สมวัย เรามีคำแนะนำจากกุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการเด็ก มาฝากกันค่ะ

     

    ลูกกินยาก ทำไงดี ?

    เพราะเรื่องอาหารการกินของลูกน้อยเป็นส่วนสำคัญ ที่ส่งผลต่อการเจริญเติบโต และพัฒนาการด้านต่าง ๆ ทั้งด้านร่างกายและสติปัญญาของลูกน้อย ยิ่งเด็กกินยาก เหล่าคุณแม่ยุคใหม่จึงต้องใส่ใจเป็นพิเศษ ต้องเติมสารอาหารให้เขาได้ประโยชน์ และถูกใจลูกน้อยมากเท่าไร ก็ยิ่งทำให้คุณแม่แฮปปี้!!

    เด็กกินยาก

    “ช่วง 5 ปีทองของสมองลูก อาหารมีบทบาทสำคัญมาก ทั้งในแง่เสริมสร้างการเจริญเติบโตของเซลล์ประสาท การพัฒนาเส้นใยประสาท ส่งผลต่อการเจริญเติบโตทั้งทางกาย พัฒนาการ การเรียนรู้ และสติปัญญา ส่วนสำคัญของการเรียนรู้ คือ เปิดโอกาสให้เด็กวัยนี้ ได้เรียนรู้จากสิ่งต่างๆนอกบ้าน ต้องเตรียมความพร้อมให้เขาตลอดเวลา ดังนั้น เด็กควรได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์ จากอาหารหลัก 3 มื้อ และเสริมนมวัวรสจืด 2 กล่องต่อวัน หากลูกมีปัญหาพฤติกรรมการกิน เช่น กินอาหารได้ไม่หลากหลาย อาจทำให้ลูกได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ โดยเฉพาะกรดไขมันจำเป็น เช่น ดีเอชเอ โอเมก้า 3 และ 6 ซึ่งมีผลต่อการพัฒนาสมองและการมองเห็น ดังนั้น นมที่เสริมสารอาหาร เป็นทางเลือกหนึ่งเพื่อช่วยให้ลูกได้สารอาหารที่สำคัญเพิ่มอย่างเพียงพอ”.พญ. สุชาอร แสงนิพันธ์กูล ​กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการเด็ก กล่าว

    ไวเอท นิวทริชั่น (Wyeth Nutrition) ผู้ค้นคว้าและวิจัยในเรื่องสารอาหารที่เหมาะสมสำหรับเด็กแต่ละช่วงวัย มากว่า 100 ปี ครั้งแรกของไวเอท นิวทริชั่น กับการพัฒนาผลิตภัณฑ์นม S-26 Gold Progress UHT นมยูเอชทีเสริมสารอาหาร (Fortified UHT Milk) ในประเทศไทย ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยี Fully Automation ที่ทันสมัย จึงมั่นใจในคุณภาพทุกกล่อง เพื่อต่อยอดจากผลิตภัณฑ์นมผงที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ตอบโจทย์ความต้องการของพ่อแม่ Gen Y ที่ใส่ใจเลือกโภชนาการสารอาหารที่เหมาะสมสำหรับเด็กวัยเรียนรู้ ในรูปแบบนมยูเอชทีพร้อมดื่ม เพื่อการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องได้ทุกที่ ทุกเวลา

    ถูกใจพ่อแม่ Gen Y เพราะ S26 Gold Progress UHT สูตรที่พัฒนาจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์เพื่อเด็กวัยนี้โดยเฉพาะ โดดเด่นด้วย โภชนาการสารอาหารที่เหมาะสมสำหรับเด็กวัยเรียนรู้ ทั้ง ดีเอชเอ, โอเมก้า 3, 6, 9, โคลีน และลูทีน และยังมี แคลเซียมสูง รวมทั้งมี ใยอาหารจากธรรมชาติ อีกด้วย

    ถูกใจลูก ทั้งรสชาติและดีไซน์..แม้จะเป็นนมรสจืด แต่กลับถูกพัฒนาให้ มีรสชาติ ที่หอม อร่อย ดื่มง่าย มาพร้อมกับดีไซน์กล่องที่โดดเด่นด้วยคาแรคเตอร์พี่สิงโตลีอองทั้ง 8 แบบไม่ซ้ำกัน เพื่อลูกวัยช่างเลือกดื่มได้บ่อย ทุกๆ วัน โดยไม่เบื่อ

    ผลิตภัณฑ์นม S26 Gold Progress UHT มีให้เลือก 2 สูตร ที่เหมาะกับเด็กแต่ละช่วงวัย ได้แก่ เอส-26 โกลด์ โปรเกรส 3 (S-26 Gold Progress 3) สำหรับเด็กอายุ 1 ปีขึ้นไปและทุกคนในครอบครัว และ เอส-26 โกลด์ โปรเกรส 4 (S-26 Gold Progress 4) สำหรับเด็กและทุกคนในครอบครัว ขนาดบรรจุ 180 มล.ต่อกล่อง ราคาปกติ 69 บาท/แพค (4 กล่อง) ราคาพิเศษ! เฉพาะช่วงแนะนำเท่านั้น เพียง 59 บาท/แพ็ค (4 กล่อง) ตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน 2562 – 31 ธันวาคม 2562 มีวางจำหน่ายแล้ววันนี้ ที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำทั่วประเทศ และช่องทางออนไลน์ (Lazada และ Shopee)

     

    #S26GoldUHT #เอส26โกลด์โปรเกรสยูเอชที #เอส26โกล์ดยูเอชที #ประโยชน์ได้อร่อยด้วย #ปลุกความเป็นสิงโตในตัวลูก #พรสวรรค์สร้างได้ #นมเสริมสารอาหาร

    ลูกกินยาก

     

      แป้งเด็ก อันตราย

      แป้งเด็ก อันตราย จริงหรือ? อย. ยืนยัน! ยังไม่พบการปนเปื้อนแร่ใยหิน

      แป้งเด็ก อันตราย จริงหรือ? ล่าสุดทางอย. ได้ออกมาแจ้งผลการตรวจและเฝ้าระวังการปนเปื้อนแร่ใยหินในแป้งเด็กว่า ยังไม่พบการปนเปื้อนในแป้งเด็กไทย

      แป้งเด็ก อันตราย จริงหรือ? อย. ยืนยัน! ยังไม่พบการปนเปื้อนแร่ใยหิน

      อย.แจงแป้งฝุ่นโรยตัวเด็กในไทย ปราศจากการปนเปื้อนแร่ใยหิน ย้ำมีการเฝ้าระวัง และเก็บตัวอย่างส่งตรวจวิเคราะห์อย่างสม่ำเสมอ พร้อมเฝ้าระวังทั้งการผลิตและนำเข้า ขอให้ผู้บริโภควางใจ

      ภญ.สุภัทรา บุญเสริม รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่า เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2562 ที่ผ่านมา องค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (US FDA) ได้ประกาศเตือนผู้บริโภคในประเทศสหรัฐอเมริกาให้หยุดใช้ผลิตภัณฑ์ Johnson’s Baby Powder Lot # 22318RB เนื่องจากตรวจพบแร่ใยหิน (asbestos) ชนิด chrysotile ปนเปื้อน 0.00002% ในตัวอย่างที่มีการขายทาง online จำนวน 1 ขวด พร้อมทั้งบริษัทฯได้สมัครใจเรียกคืนผลิตภัณฑ์รุ่นที่เป็นปัญหาออกจากท้องตลาด สำหรับในประเทศไทย ขอเรียนว่าสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบที่ บริษัท จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (ประเทศไทย) จำกัด พบว่าผลิตภัณฑ์รุ่นที่เป็นปัญหามีจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น และได้เก็บตัวอย่างแป้งเด็กที่ผลิตในประเทศไทย ส่งตรวจวิเคราะห์หาแร่ใยหิน

      ทั้งนี้ แป้งฝุ่นโรยตัวเป็นเครื่องสำอางที่มีส่วนประกอบหลัก คือ ทัลคัม (talcum) ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่พบได้ตามธรรมชาติ ช่วยดูดซับความชื้น ให้ความรู้สึกสบาย นุ่มลื่นผิว มีการใช้มาเป็นเวลานาน ทัลคัมที่นำมาใช้ในเครื่องสำอางต้องมีความบริสุทธิ์สูง ไม่มีการปนเปื้อนของแร่ใยหิน เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัย ปัจจุบันทัลคัมยังคงเป็นสารที่ปลอดภัย สามารถนำมาใช้เป็นส่วนผสมในเรื่องสำอางได้ โดยมีข้อควรระวังว่า ขณะใช้อย่าให้แป้งเข้าจมูกและปากของเด็ก

      แป้งฝุ่น
      แป้งฝุ่น แป้งเด็ก อันตราย

      รองเลขาธิการ อย. กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม อย.ได้มีการติดตามเฝ้าระวังความปลอดภัยของเครื่องสำอางที่อาจมีการปนเปื้อนของแร่ใยหินมาโดยตลอด ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2552 จนถึงปัจจุบัน ได้เก็บตัวอย่างผลิตภัณฑ์แป้งฝุ่นโรยตัวที่มีส่วนผสมของทัลคัม จำนวน 113 ตัวอย่าง ส่งตรวจวิเคราะห์ ไม่พบแร่ใยหิน รวมทั้งมีการเฝ้าระวังทั้งการผลิตและนำเข้า โดยด้านอาหารและยา สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ได้เฝ้าระวังการนำเข้าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะรุ่นการผลิตแป้งเด็กที่มีปัญหาไม่ให้เล็ดรอดเข้ามาในประเทศไทยเด็ดขาด ขอให้ผู้บริโภคไม่ต้องวิตกกังวลการปนเปื้อนแร่ใยหินจากผลิตภัณฑ์แป้งเด็กดังกล่าว

      ขอบคุณข่าวจาก : www.hfocus.org

      จากข่าวนี้ ทางอย. ได้ชี้แจงว่า ในแป้งฝุ่นโรยตัวมีส่วนผสมหลักคือ ทัลค์ (Talc) หรือ ทัลคัม (Talcum) อยู่แล้ว ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยดูดซับความชื้น ลดการเสียดสีของผิวหนัง และป้องกันผดผื่น ผงทัลคัมทำมาจากแร่หินทัลค์ (Talc) ซึ่งประกอบด้วยธาตุแมกนีเซียม ออกซิเจน ซิลิกอน และบางส่วนอาจมีเส้นใยแร่ธาตุที่พบได้ตามธรรมชาติอย่างแร่หิน ซึ่งถือเป็นสารก่อมะเร็งปะปนอยู่ ปัจจุบัน แป้งฝุ่นมี 2 เกรด คือ

      1. เกรดที่ใช้ในอุตสาหกรรม ซึ่งไม่จำเป็นต้องปราศจากการปนเปื้อนของแร่ใยหิน หรือ เเอสเบสตอส (asbestos) ซึ่งเป็นแร่อนินทรีย์ที่เกิดตามธรรมชาติที่อยู่ในใยหิน มีคุณสมบัติที่สามารถฟุ้งกระจายได้ในอากาศ การหายใจที่มีฝุ่นละอองของแร่ใยหินปนเปื้อนสู่ร่างกายเป็นเวลานาน ๆ อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง ทำให้เกิดความผิดปกติของระบบทางเดินหายใจ เกิดโรคปอดอักเสบ ปอดบวม นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า แร่ใยหินเป็นสาเหตุของมะเร็ง และมะเร็งเยื่อหุ้มปอดอีกด้วย
      2. เกรดที่ใช้ในการผลิตยา อาหาร และ เครื่องสำอาง รวมถึงใช้ในการผลิต แป้งเด็ก ด้วย จากประกาศกระทรวงสาธารณสุขกำหนดให้แร่ใยหินเป็นวัตถุที่ห้ามใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องสำอาง เพื่อความปลอดภัย ผลิตภัณฑ์ดังกล่าว ต้องไม่มีแร่ใยหิน (Asbestos) ปนเปื้อนเด็ดขาด ซึ่งทางอย. ได้มีการเฝ้าระวังการปนเปื้อนของ แร่ใยหินในผลิตภัณฑ์มาโดยตลอด และจนถึงปัจจุบันนี้ ก็ยังไม่พบการปนเปื้อนแร่ใยหินในแป้งเด็กเลย

       

      เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

      อ่านต่อ แป้งเด็ก อันตราย แค่ไหน? ก่อให้เกิดมะเร็งได้หรือไม่? อันตรายต่อลูกน้อยอย่างไร?

        เปิดกระเป๋าแม่ลูกอ่อน

        เปิดกระเป๋าแม่ลูกอ่อน…กับผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ขาดไม่ได้

        สำหรับ Mom Shopping ฉบับนี้ เราได้มีโอกาสเปิดกระเป๋าคุณแม่มือใหม่ คุณแม่มุก – เบญจวรรณ วิบูลย์มาลีรัตน์ คุณแม่น้องรินเน่ วัย 4 เดือนครึ่งมาดูกันซิว่า คุณแม่มุกพาน้องรินเน่ไปเที่ยวนอกบ้านหรือไปเที่ยวต่างจังหวัดควรพกอะไรไปบ้าง เผื่อเป็นไอเดียให้กับคุณแม่มือใหม่เวลาจัดเตรียมข้าวของเครื่องใช้ให้ลูกน้อยเวลาออกจากบ้าน

        ครอบครัวเราเป็นครอบครัวนักท่องเที่ยวค่ะ เดินทางกันบ่อยมากจนเพื่อนหลายคนแอบแซวว่ามีลูกเล็กๆ แล้วคงเว้นวรรคการเที่ยวแน่ ๆ แต่เปล่าเลย มุกพาน้องรินเน่เที่ยวตั้งแต่เด็กเริ่มจากไปห้างสรรพสินค้าละแวกบ้านก่อน หลายคนชอบคิดว่าถ้ามีลูกเล็กๆ แล้วไม่ควรออกจากบ้านไปไหน เดี๋ยวลูกน้อยจะติดเชื้อโรค แต่สำหรับมุกเองไม่ค่อยห่วง เพราะเราจะพาเขาไปในที่ที่คนไม่แออัดมากนัก อย่างไปห้างสรรพสินค้าก็เลือกไปกันวันธรรมดาช่วงกลางวันที่คนไม่เยอะ บ่ายๆ ก็กลับ ส่วนต่างจังหวัดมุกจะพาไปเดือนละครั้ง ซึ่งรินเน่ได้ไปต่างจังหวัดครั้งแรกตอนอายุได้ 3 เดือนครึ่ง โดยเลือกไปหัวหินเป็นที่แรก พาเขาไปเล่น น้ำทะเล ไปเล่นทราย

        เปิดกระเป๋าแม่ลูกอ่อน

        ซึ่งการพารินเน่ไปเที่ยว สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือ ทิชชูเปียกสำลีแผ่น สำลีก้าน อาจจะด้วยความที่เรามีลูกสาว การทำความสะอาดต่างๆ โดยเฉพาะตรงบริเวณจุ๋มจิ๋มของเขา ต้องใส่ใจในรายละเอียดและพิถีพิถันมาก มุกจึงเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำจากธรรมชาติที่อ่อนโยนต่อผิวของลูกน้อย โดยเฉพาะทิชชูเปียกต้องไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ น้ำหอม และสี ที่ทำให้ผิวน้องเกิดการระคายเคือง และไม่ทำลายความชุ่มชื้นของผิวลูก ส่วนสำลีแผ่นและสำลีก้านควรทำจากฝ้ายบริสุทธิ์ 100 เปอร์เซ็นต์ ซึมซับน้ำได้ดี และอ่อนนุ่มอย่างเป็นธรรมชาติ เมื่อเช็ดแล้วไม่เป็นขุย มุกเคยใช้สำลียี่ห้อหนึ่งเช็ดทำความสะอาดให้รินเน่แล้วเป็นขุยติดอยู่ในซอกหลืบของน้อง มุกเครียดมาก นอกจากจะเนื้อหยาบแล้วยังเป็นขุยอีก ต้องเช็ดทำความสะอาดกันอยู่นานเลยกว่าจะเอาออกหมด ซึ่งผลิตภัณฑ์ตรารถพยาบาล มุกเองก็ใช้มานานตั้งแต่มุกยังเด็กๆ พอเขาทำขนาดพกพาออกมาเลยไม่พลาดที่จะลองใช้

        เปิดกระเป๋าแม่ลูกอ่อน

        “แนะนำเลยนะคะ สำหรับคุณแม่ที่ต้องการพาลูกน้อยไปเที่ยว พกแค่ไซส์เล็กก็พอ นอกจากจะหยิบใช้สะดวกแล้ว ยังไม่ต้องแบกให้หนักกระเป๋าอีกด้วย เพราะอย่าลืมว่าระหว่างเดินทาง หากลูกน้อยเกิดอึออกมา การทำความสะอาดจะยุ่งยากไปอีกเมื่อต้องแวะปั๊มน้ำมันเพื่อจัดการ สำหรับเด็กผู้ชายอาจจะไม่ยากเท่าไหร่ แค่เช็ดก้นให้สะอาดเช็ดช้างน้อยอีกหน่อยก็เรียบร้อยแล้ว แต่สำหรับเด็กผู้หญิงที่ต้องทำความสะอาดโดยละเอียดนั้น ทุกอย่างต้องเช็ดอย่างรอบคอบและหมดจด สะอาดตั้งแต่ก้นไปจนถึงจุ๋มจิ๋มของลูกน้อย ซึ่งบางทีอาจต้องเช็ดมากถึง 3 รอบด้วยซ้ำไป เพราะเด็กไม่ใช่ตุ๊กตาที่จะอยู่นิ่งๆ ให้เราเช็ดได้ตามสะดวก หากเราเลือกใช้ของที่ไม่ดี หรือเลือกขนาดที่ไม่เหมาะสมไม่สะดวกในการใช้ อาจทำให้ทุกอย่างขลุกขลักหรือทำให้สิ่งสกปรกเล็ดลอดสายตาเราไปได้ ทีนี้เมื่อลูกน้อยไม่สบายตัวเพราะการเช็ดไม่ละเอียด อาจทำให้ทริปนี้ของคุณหมดสนุกเอาง่ายๆ เห็นไหมคะว่าการเลือกผลิตภัณฑ์ที่ใช้ก็เป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม

         

        เปิดกระเป๋าแม่ลูกอ่อน

         

        เปิดกระเป๋าแม่ลูกอ่อน

        “ นอกจากทิชชูเปียก สำลีแผ่น และสำลีก้านที่เราต้องพกไปแล้ว ก็มีผ้าอ้อมผ้าไว้เช็ดน้ำลาย แพมเพิร์สห่อใหญ่หนึ่งห่อ (แค่ห่อใหญ่ห่อเดียวก็พอค่ะ) และที่ขาดไม่ได้คือของเล่นของลูก ส่วนอุปกรณ์ชงนมหรือปั๊มนมนั้น มุกไม่มีค่ะ เพราะมุกเอาน้องรินเน่เข้าเต้าอย่างเดียวเลย ซึ่งข้อดีคือ ไม่ต้องพกอุปกรณ์มากมายแถมประหยัดเนื้อที่ในกระเป๋าไปได้เยอะ หากคุณแม่คนไหนเอาลูกเข้าเต้าอยู่แล้ว แนะนำให้ใช้วิธีเดียวกับมุกเลยค่ะ ง่าย ประหยัด และเป็นการกระตุ้นน้ำนมได้ดีด้วย ”

         

         

         

         

         

         

          ผ้าอ้อมยี่ห้อไหนดี

          ผ้าอ้อมยี่ห้อไหนดี 2562 คุณแม่เลือก MamyPoko เป็นแบรนด์ในดวงใจ

          ผ้าอ้อมยี่ห้อไหนดี ใช้แล้วลูกสบาย คุณภาพเยี่ยม ถูกใจคุณแม่ คุณแม่ทั่วประเทศเลือกและได้โหวต ให้ MamyPoko เป็นแบรนด์ผ้าอ้อมสำเร็จรูปอันดับหนึ่งในดวงใจ และรับรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019 สาขา Mommy’s Choice

          ผ้าอ้อมยี่ห้อไหนดี แม่ทั่วประเทศเลือกแล้วใช้ยี่ห้อนี้เป็นแบรนด์ในดวงใจ 

          Amarin Baby & Kids “เครือข่ายแม่ลูกใหญ่ที่สุด” ผู้นำด้านคอนเทนต์คุณภาพ เข้าใจครอบครัวไทย และตอบสนองความต้องการของคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ ไทย ทั้งรูปแบบ Online ผ่านเว็บไซต์ www.AmarinBabyAndKids.com และเฟซบุ๊คแฟนเพจที่มีเนื้อหาตรงใจ ทันสถานการณ์ โดยมียอดผู้ติดตามมากกว่า 1,000,000 Followers และรูปแบบ On print ผ่าน Bookazine ราย 2 เดือน รวมถึง รูปแบบ On ground งานแฟร์แม่ลูก Amarin Baby & Kids Fair ที่จัดมาแล้วถึง 15 ครั้ง

          เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านเครือข่ายแม่ลูกอันดับ 1 ของประเทศที่เข้าใจคุณแม่ไทยมากที่สุด เว็บไซต์ Amarin Baby & Kids จึงได้จัด “Amarin Baby & Kids Awards 2019” ครั้งแรกในเมืองไทย เพื่อเฟ้นหาสุดยอดแบรนด์สินค้าแม่และเด็กในดวงใจ  จากคะแนนโหวตของคุณแม่ทั่วประเทศกว่า 10,000 คน ผ่าน www.AmarinBabyAndKids.com เว็บไซต์สื่อกลางข้อมูลคุณภาพจากแม่สู่แม่ Mom to Mom Sharing เพื่อเป็นประโยชน์แก่คุณแม่มือใหม่ที่กำลังมองหา “สินค้าใช้ดี ที่ได้รับการยืนยันจากคุณแม่ตัวจริงทั่วประเทศ”

          และเพื่อให้สมกับรางวัลที่มาจากความคิดเห็นของแม่อย่างแท้จริง สำหรับแบรนด์สินค้าในสาขา Mommy’s Choice จึงเปิดโอกาสให้แม่ได้ร่วมโหวต  2  รอบ ได้แก่ “รอบเสนอชื่อแบรนด์ที่ชื่นชอบ” จากนั้นทีมงานได้ทำการเลือกแบรนด์ที่ถูกเสนอชื่อมากที่สุด มาจัด“รอบโหวตแบรนด์ในดวงใจ” อีกครั้งหนึ่ง

          ทำไมแม่โหวตให้ Mamypoko เป็นแบรนด์ผ้าอ้อมในดวงใจ

          แม่ ABK เลือกให้ MamyPoko เป็นแบรนด์สุดยอดผ้าอ้อมสำเร็จรูปในดวงใจ โดยคุณแม่ให้เหตุผลในการเลือกแตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น

          “ใช้แล้วซึมซับได้ดีมาก ถึงลูกจะฉี่เยอะแต่ก็ยังแห้งสบาย ไม่อับชื้นเลยไม่ต้องกังวลเรื่องผื่นผ้าอ้อม ใช้มาตั้งแต่วันแรกที่เกิดเลย”

          “ชอบที่มีแบบออร์แกนิคให้เลือกด้วย เพราะลูกชายมีผิวแพ้ง่าย ใช้แล้วอ่อนโยนกับผิว ลูกสบายตัว แม่ก็สบายใจขึ้นมากเลย”

          “สินค้ามีหลายแบบ ทั้งผ้าอ้อมสำหรับกลางวันและกลางคืน แถมหลายขนาดเหมาะกับลูกทุกช่วงวัย ลวดลายก็น่ารักทั้งของผู้ชาย ผู้หญิง แม่ใช้มานาน คุณภาพสมราคาจริงๆ ค่ะ

          MamyPoko เป็นแบรนด์ผ้าอ้อมสำเร็จรูปสัญชาติญี่ปุ่นที่คนไทยรู้จักมายาวนานถึง 14 ปี และมีผลิตภัณฑ์หลายรุ่น เหมาะกับความต้องการของเด็กในทุกช่วงวัย ตั้งแต่แรกเกิดจนถึงเด็กวัยซน ครอบคลุมทั้งชายและหญิง โดยล่าสุดมีผลิตภัณฑ์ผ้าอ้อมระดับซูเปอร์พรีเมี่ยม 7 ดาว ในรุ่น “MamyPoko Super Premium Organic” ที่มีส่วนผสมของออร์แกนิคคอตตอน ที่มีความอ่อนโยนเป็นพิเศษต่อผิวลูกน้อยและยังช่วยลดสาเหตุการระคายเคือง

           

          อ่านบทความ Amarin Baby & Kids Awards 2019 

          ประกาศผลรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019 สุดยอดแบรนด์สินค้าแม่และเด็กในดวงใจ

           

          เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

           

            ชื่อภาษาอังกฤษเท่ๆ

            234 ชื่อภาษาอังกฤษเท่ๆ ชื่อสุดฮิต สำหรับลูกชายโดยเฉพาะ!

            รวมชื่อเล่นสุดฮิต ชื่อภาษาอังกฤษเท่ๆ สำหรับไว้ตั้งชื่อลูกชาย โดยเฉพาะ พร้อมคำอ่าน และเป็น ชื่อกลุ่มภาษาอังกฤษ ความหมายดีๆ จะมีชื่อใดบ้าง ไปดูกัน

            234 ชื่อภาษาอังกฤษเท่ๆ ชื่อเล่นสุดฮิต สำหรับลูกชายโดยเฉพาะ!

            หากคุณพ่อคุณแม่กำลังมองหา ชื่อภาษาอังกฤษเท่ๆ สำหรับตั้งชื่อลูกครึ่งผู้ชาย ชื่อภาษาอังกฤษ ผู้ชายเท่ๆ cool cool ทีมงาน Amarin Baby & Kids ได้รวบรวม ชื่อกลุ่มภาษาอังกฤษ ความหมายดีๆ มาฝาก

             

            Must read : สัญญาณบอก อาการแบบนี้ ท้องลูกชาย ชัวร์!

            Must read : 10 เรื่องที่ พ่อแม่ต้องเจอ เมื่อมีลูกชาย

            รวมไปถึงหากคุณพ่อ Gamer ที่อยากได้ชื่อไปตั้งในเกม ชื่อภาษาอังกฤษเท่ๆ rov ก็สามารถดูกันได้ตรงนี้เลย ขอบอกว่ามีทั้งชื่อเล่นภาษาอังกฤษ และ ชื่อจริง ซึ่งเป็น ชื่อภาษาอังกฤษเท่ๆ ชื่อฮิต แบบอินเตอร์ มาให้เอาไปเลือกตั้งได้ทันที เพื่อให้ลูกชายตัวน้อยของคุณมีชื่อเท่ๆ ไว้ให้ใครๆ เรียก รับรองเป็น ชื่ออังกฤษเท่ๆ ไม่แพ้ดารา Hollywood เลยทีเดียว ว่าแต่จะมี ชื่อภาษาอังกฤษเท่ๆ สำหรับไว้ตั้งให้ลูกชาย ชื่อใดบ้าง ตามมาดูกันเลย

            Must read : ไอเดีย ตั้งชื่อเล่นลูกชาย แบบไทยๆ แต่เท่ เก๋ ไม่ตกยุค

             

            ชื่อภาษาอังกฤษเท่ๆ อ่านไทยก็ได้ พร้อมความหมาย

            1. Addison (แอดดิสัน) บุตรแห่งอดัม
            2. Barron (บาร์รอน) นักรบ
            3. Brayden (เบรย์เดน) กว้างขวาง
            4. Brighton (ไบรตัน) ที่รักของคน
            5. Brooke (บรูค) บุคคลผู้อยู่ใกล้สายน้ำ
            6. Calvyn (คาลวิน) กล้าหาญ
            7. Dereck, Derek (ดิเรก, เดอเรก) ผู้ปกครองที่มีปัญญา
            8. Edward (เอ็ดเวิร์ด) ผู้พิทักษ์ความรุ่งโรจน์
            9. Felix (เฟลิกซ์) ความยินดี
            10. Gavin, Gavyn (กวินทร์) เหยี่ยวขาว
            11. Harper (ฮาร์เปอร์) นักเล่นพิณ
            12. Ink (อิงค์) ชื่อของกษัตริย์
            13. John (จอห์น) ความสง่างามของพระผู้เป็นเจ้า
            14. Kristin (กฤติน) ผู้นับถือ ผู้ติดตามของศาสนาคริสต์
            15. Lincoln (ลินคอล์น) ทะเลสาบ
            16. Mark (มรรค, มาร์ก) สุภาพ ส่องสว่าง, ดาวอังคาร
            17. Neville, Nevill, Nevil (เนวินม เนวิล) เมืองใหม่
            18. Oscar (ออสการ์) ทหารของพระเจ้า
            19. Pierre (ปีแอร์) ก้อนหิน
            20. Peet (พีท) ก้อนหิน
            21. Patrick (แพทริค) ขุนนาง
            22. Ryan (ไรอัน) พระมหากษัตริย์
            23. Rio (ริโอ) แม่น้ำ
            24. Ralph (ลาภ) แข็งแรง
            25. Rich (ฤทธิ์, ริท) ผู้ปกครองที่มีอำนาจ, ร่ำรวย
            26. Sean, Shaun (ชอน) ของขวัญจากพระเจ้า
            27. Shane (เชน) ของขวัญจากพระเจ้า
            28. Seiko (ไซโก้) กองทัพ
            29. Simon (ไซมอน) ผู้ที่พระเจ้าได้ยิน / ฟัง
            30. Shawn (ณอน) มีความสง่า
            31. Wayde (เวทย์) เป็นชื่อในเทพนิยายของสแกนดิเนเวียน
            32. Wynn (วิณณ์) มีความสุข, ยุติธรรม, เพื่อน

            ชื่อภาษาอังกฤษเท่ๆ พร้อมคำแปล

            ชื่อภาษาอังกฤษเท่ๆความหมาย
            Aaronขุนเขาที่สูงใหญ่
            Ethanแข็งแรง
            Ezraผู้ช่วยเหลือ,ผู้ที่แข็งแรง
            Gavinเหยี่ยวสีขาว
            Keithป่า
            Maverickอิสรภาพ
            Newlin/Newlynทะเลสาบใหม่
            Nikoมาจากชื่อนิโคลัส
            Oziมาจากชื่อ Osborn
            Sethลูกชายคนที่สามของอดัม
            Toddสุนัขจิ้งจอก
            Tylerผู้ผลิตกระเบื้อง
            Vinciมาจากชื่อวินเซ็นท์

             

            ชื่อภาษาอังกฤษเท่ๆ

             

            ชื่อเล่นยอดฮิต หมวดภาษาไทย

             

            ชื่อภาษาอังกฤษเท่ๆ ชื่อกลุ่ม พร้อมความหมายดีๆ

            ชื่อภาษาอังกฤษเท่ๆคำอ่านความหมาย
            Andrewแอนดรูผู้ชาย นักรบ กล้าหาญ
            Ansonแอนสันไม่แน่นอน ทะเลที่มีชีวิต
            Arthurอาร์เธอร์แข็งแรงดังหินแกร่ง
            Benjaminเบนจามินมือขวาของพระเจ้า
            Braydenเบรย์เดนกว้างขวาง
            Casparแคสปาร์ผู้รักษาสมบัติ
            Christopherคริสโตเฟอร์บุตรของพระคริสต์
            Conradคอนราดผู้ชี้แนะ แนะนำ
            Damianเดเมียนผู้อ่อนน้อม เชื่อฟัง
            Danielแดเนียลพระเจ้าอยู่ในจิตใจ
            Danteดันเต้เป็นอมตะ ดื้อรั้น
            Dominicโดมินิคลอร์ด
            Evanอีวานเมตตา สุภาพ สง่างาม
            Ivanอีวานเมตตา สุภาพ สง่างาม
            Jacobจาคอบเติมเต็มให้สมบูรณ์
            Josephโจเซฟขยายออกให้กว้างขวาง
            Joshuaโจชัวพระเจ้าคุ้มครอง
            Lincolnลินคอล์นทะเลสาป
            Maglorixแมคโลริคหัวหน้า ประมุข
            Matthewแมทธิวของขวัญจากพระเจ้า
            Maxแม็คมีค่ามากที่สุด
            Michaelไมเคิลดุจดั่งพระเจ้า
            Morganมอร์แกนไม่แน่นอน ทะเลที่มีชีวิต
            Nicholasนิโคลัสชัยชนะ
            Oscarออสการ์ทหารของพระเจ้า
            Rohanโรฮานเพิ่มมากขึ้นไปเรื่อยๆ
            Serafimเซราฟิมร้อนแรง ลุกเป็นไฟ
            Williamวิลเลียมความตั้งใจ, ผู้ปกครอง

             

            ดูต่อ >> “ชื่ออังกฤษเท่ๆ สำหรับตั้งชื่อลูกชาย” คลิกหน้า 2

             

            เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

             

              สวนน้ำ ที่ไหนดี

              สวนน้ำ ที่ไหนดี ? 7 สวนน้ำเครื่องเล่นเยอะ ไปแล้วอยากไปอีก!

              ไม่ว่าจะฤดูไหน ในช่วงวันหยุดอากาศร้อน ๆ ก็อยากพาเด็ก ๆ ไปกระโดดน้ำเล่นกันให้สบายตัว พ่วงความสนุกแบบฟิน ๆ กับเครื่องเล่นนานาชนิด สวนน้ำ ที่ไหนดี เหมาะสำหรับเด็ก ค่าเข้าไม่แพง  Amarin Baby & Kids คัด 7 สวนน้ำมาเอาใจคุณหนู ๆ ในกรุงเทพและต่างจังหวัด สะดวกที่ไหน แพลนไปเล่นน้ำกันเถอะ

              สวนน้ำ ที่ไหนดี ? 7 สวนน้ำเครื่องเล่นเยอะ ไปแล้วอยากไปอีก!

              #1 สวนน้ำ เขาใหญ่ แฟนตาซี รีสอร์ท (Fantasy Water Park) จังหวัดนครราชสีมา

              เลือกพาลูกไป สวนน้ำ ที่ไหนดี มาถึงเขาใหญ่ ต้องลองมาเที่ยวที่ Fantasy Water Park กันดูค่า ที่นี้เป็นสวนน้ำตกแต่งมาในธีมไดโนเสาร์แฟนตาซี ที่ให้สีสันผสมผสานความสดสดใส ให้บริการครบครัน ไปกับเครื่องเล่นสไลด์เดอร์คู่ยักษ์ ความสูง 2 ระดับ สระน้ำวนรูปเลขแปดขนาดใหญ่ และน้ำพุดอกเห็ดสำหรับเจ้าตัวเล็ก ในบรรยากาศสวนน้ำกลางหุบเขา สดชื่น ร่มรื่น เย็นสบาย คลายร้อนได้ดั่งใจกันเลย

              ขอบคุณภาพจาก : www.khaoyaifantasy.com

              สวนน้ำ ที่ไหนดี >> Fantasy Water Park

              พิกัด : บริษัทเขาไหญ่แฟนตาซีรีสอร์ทจำกัด 421 หมู่ 1 ถ.ธนะรัชต์ ต.หนองน้ำแดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา 30130

              เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 9.00-18.00น.

              ค่าเข้า :

              • 200 บาทต่อคน
              • เด็กสูงไม่ถึง 110 ซม. เข้าฟรี
              • ผู้ใหญ่อายุเกิน 60 ปี ขึ้นไป เข้าฟรี

              ราคาโปรโมชั่นและรายละเอียดเพิ่มเติม : KhaoyaiFantasy

              #2 สวนน้ำโคราช ทะเลอีสาน (Korat Zoo Lagoon) จังหวัดนครราชสีมา

              Korat Zoo Lagoon ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นสวนน้ำที่ใหญ่ที่สุดในภาคอีสานที่ตั้งอยู่ภายในสวนสัตว์นครราชสีมา แถมค่าเข้าแสนถูกสำหรับเจ้าตัวเล็กแค่ 5 บาทเท่านั้น!! เด็ก ๆ ก็จะได้สนุกสนานกับเครื่องเล่นนานาชนิด อาทิ สระน้ำสำหรับเด็กที่มีสไลด์เดอร์ตัวการ์ตูนสุดน่ารักให้เด็ก ๆ ได้เล่นอย่างสนุกสนาน สไลเดอร์คิงคองยักษ์ สไลเดอร์ปลาหมึกยักษ์สีสันสดใส สระน้ำวนใสสะอาดที่ปล่อยตัวให้ลอยละล่องไปตามสายน้ำ เป็นต้น โดยมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลด้านความปลอดภัยอย่างใกล้ชิดและผ่านการฝึกอบรมมาเป็นอย่างดี เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับวันพักผ่อนที่ชวนกันมาคลายร้อนกันได้ทั้งครอบครัว เอาใจเด็ก ๆ ไปได้เลยค่ะ

              สวนน้ำ ทีไ่หนดี >> Korat Zoo Lagoon

              พิกัด : เลขที่ 111 หมู่ 1 ถนนราชสีมา-ปักธงชัย ต.ไชยมงคล อ.เมือง จังหวัดนครราชสีมา 30000

              เวลาเปิด-ปิด : 09:30 – 17:30

              ค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 20 บาท / เด็ก 5 บาท

              รายละเอียดเพิ่มเติม : สวนน้ำโคราช-ทะเลอีสาน

              #3 สวนน้ำสายไหม (Sai Mai Water Park) กรุงเทพฯ

              สุดสัปดาห์นี้พาลูกหนีร้อนไปเล่นน้ำที่ สวนน้ำสายไหม กันจ้า ที่นี่สวนน้ำเป่าลมแห่งแรกและใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ เต็มไปด้วยเครื่องเล่นหลากหลายให้คุณพ่อคุณแม่ พาลูกเที่ยว สวนน้ำ ได้เล่นสนุกกับแบบสุด ๆ มีให้เลือกเล่นทั้งโซนทั้งเด็กและผู้ใหญ่ อาทิ ปาร์ตี้โฟมให้คุณหนู ๆ ได้เล่น ด่านเป่าลมแอดเวนเจอร์กลางน้ำ ส่วนใครอยากวัดใจท้าทายความเสียวต้องลองมาพิสูจน์กับเครื่องเล่นสไลเดอร์สุดมันส์ ฯลฯ เรียกว่าเป็นที่เที่ยวเล่นน้ำคลายร้อนแบบสนุกกันได้ครอบครัวกันเลยค่า แถมมีชูชีพให้บริการฟรี มีเจ้าหน้าที่ดูแลกันทุกจุด เรื่องของความปลอดภัยนั้นหายห่วง

              สวนน้ำ ที่ไหนดี สายไหม
              ขอบคุณภาพประกอบจากเพจ สวนน้ำสายไหม

              สวนน้ำ ที่ไหนดี >> Sai Mai Water Park

              พิกัด : หน้าปากซอยถนนเพิ่มสิน 58 แขวงสายไหม เขตสายไหม กรุงเทพฯ

              เวลาเปิด-ปิด :  วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 11.00-19.00 น. และ วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 10.00-20.00 น.

              ค่าเข้า :

              • ผู้ใหญ่​ (สูงเกิน140​cm)​ 180​ บาท
              • ​เด็ก​ ​(สูงไม่เกิน140 cm) ​140​ บาท
              • เด็กต่ำกว่า 90 ซม.และผู้สูงอายุ 65 ปี เข้าฟรี

              *(ซื้อบัตรแล้วเล่นฟรีทุกอย่าง-ไม่ต้องใส่ชุดว่ายน้ำ)

              ราคาโปรโมชั่นและรายละเอียดเพิ่มเติม : saimaiwaterpark

               

              เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

              อ่านต่อ 7 สวนน้ำเครื่องเล่นเยอะ ไปแล้วอยากไปอีก!! คลิกหน้า 2

                S-26 Gold Progress UHT

                S-26 เข้าใจ ‘ยิ่งลูกกินยาก แม่ยิ่งต้องเลือก’

                S-26 เข้าใจ ยิ่งลูกกินยาก แม่ยิ่งต้องเลือกปล่อย S-26 Gold Progress UHT ตัวช่วยของคุณแม่ เพราะเรื่องอาหารการกินของลูกน้อยเป็นส่วนสำคัญ ที่ส่งผลต่อการเจริญเติบโต และพัฒนาการด้านต่าง ๆ ทั้งด้านร่างกายและสติปัญญาของลูกน้อย ยิ่งเด็กกินยาก เหล่าคุณแม่ยุคใหม่จึงต้องใส่ใจเป็นพิเศษ ต้องเติมสารอาหารให้เขาได้ประโยชน์ และถูกใจลูกน้อยมากเท่าไร ก็ยิ่งทำให้คุณแม่แฮปปี้!!

                “ช่วง 5 ปีทองของสมองลูก อาหารมีบทบาทสำคัญมาก ทั้งในแง่เสริมสร้างการเจริญเติบโตของเซลล์ประสาท การพัฒนาเส้นใยประสาท ส่งผลต่อการเจริญเติบโตทั้งทางกาย พัฒนาการ การเรียนรู้ และสติปัญญา ส่วนสำคัญของการเรียนรู้ คือ เปิดโอกาสให้เด็กวัยนี้ ได้เรียนรู้จากสิ่งต่างๆนอกบ้าน ต้องเตรียมความพร้อมให้เขาตลอดเวลา ดังนั้น เด็กควรได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์ จากอาหารหลัก 3 มื้อ และเสริมนมวัวรสจืด 2 กล่องต่อวัน หากลูกมีปัญหาพฤติกรรมการกิน เช่น กินอาหารได้ไม่หลากหลาย อาจทำให้ลูกได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ โดยเฉพาะกรดไขมันจำเป็น เช่น ดีเอชเอ โอเมก้า 3 และ 6 ซึ่งมีผลต่อการพัฒนาสมองและการมองเห็น ดังนั้น นมที่เสริมสารอาหาร เป็นทางเลือกหนึ่งเพื่อช่วยให้ลูกได้สารอาหารที่สำคัญเพิ่มอย่างเพียงพอ”.พญ. สุชาอร แสงนิพันธ์กูล ​กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการเด็ก กล่าว

                 

                ไวเอท นิวทริชั่น (Wyeth Nutrition) ผู้ค้นคว้าและวิจัยในเรื่องสารอาหารที่เหมาะสมสำหรับเด็กแต่ละช่วงวัย มากว่า 100 ปี ครั้งแรกของไวเอท นิวทริชั่น กับการพัฒนาผลิตภัณฑ์นม S-26 Gold Progress UHT นมยูเอชทีเสริมสารอาหาร (Fortified UHT Milk) ในประเทศไทย ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยี Fully Automation ที่ทันสมัย จึงมั่นใจในคุณภาพทุกกล่อง เพื่อต่อยอดจากผลิตภัณฑ์นมผงที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ตอบโจทย์ความต้องการของพ่อแม่ Gen Y ที่ใส่ใจเลือกโภชนาการสารอาหารที่เหมาะสมสำหรับเด็กวัยเรียนรู้ ในรูปแบบนมยูเอชทีพร้อมดื่ม เพื่อการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องได้ทุกที่ ทุกเวลา

                 

                ถูกใจพ่อแม่ Gen Y เพราะ S26 Gold Progress UHT สูตรที่พัฒนาจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์เพื่อเด็กวัยนี้โดยเฉพาะ โดดเด่นด้วย โภชนาการสาอาหารที่เหมาะสมสำหรับเด็กวัยเรียนรู้ ทั้ง ดีเอชเอ, โอเมก้า 3, 6, 9, โคลีน และลูทีน และยังมี แคลเซียมสูง รวมทั้งมี ใยอาหารจากธรรมชาติ อีกด้วย

                ถูกใจลูก ทั้งรสชาติและดีไซน.. แม้จะเป็นนมรสจืด แต่กลับถูกพัฒนาให้ มีรสชาติ ที่หอม อร่อย ดื่มง่าย มาพร้อมกับดีไซน์กล่องที่โดดเด่นด้วยคาแรคเตอร์พี่สิงโตลีอองทั้ง 8 แบบไม่ซ้ำกัน เพื่อลูกวัยช่างเลือกดื่มได้บ่อย ทุกๆ วัน โดยไม่เบื่อ

                 

                ผลิตภัณฑ์นม S26 Gold Progress UHT มีให้เลือก 2 สูตร ที่เหมาะกับเด็กแต่ละช่วงวัย ได้แก่ เอส-26 โกลด์ โปรเกรส 3 (S-26 Gold Progress 3) สำหรับเด็กอายุ 1 ปีขึ้นไปและทุกคนในครอบครัว และ เอส-26 โกลด์ โปรเกรส 4 (S-26 Gold Progress 4) สำหรับเด็กและทุกคนในครอบครัว ขนาดบรรจุ 180 มล.ต่อกล่อง ราคาปกติ 69 บาท/แพค (4 กล่อง) ราคาพิเศษ! เฉพาะช่วงแนะนำเท่านั้น เพียง 59 บาท/แพ็ค (4 กล่อง) ตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน 2562 – 31 ธันวาคม 2562 มีวางจำหน่ายแล้ววันนี้ ที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำทั่วประเทศ และช่องทางออนไลน์ (Lazada และ Shopee)

                 

                #เอส26โกลด์โปรเกรสยูเอชที #เอส26โกล์ดยูเอชที #ประโยชน์ได้อร่อยด้วย #ปลุกความเป็นสิงโตในตัวลูก #พรสวรรค์สร้างได้ #นมเสริมสารอาหาร

                 

                  นับวันไข่ตก

                  นับวันไข่ตก ช่วยเรื่องอะไร? ต้องนับยังไง! เพื่อช่วยเพิ่มโอกาสท้อง

                  การนับวันตกไข่ ที่ถูกต้อง ก็มีส่วนช่วยให้ท้องได้ง่าย อีกหนึ่งวิธีในการทำลูกแบบธรรมชาติ แล้วต้อง นับวันไข่ตก ยังไงให้เป๊ะ เพื่อช่วยเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์  ตามมาดู วิธีนับวันไข่ตก ที่ถูกต้องกันค่ะ

                  นับวันไข่ตก ช่วยเรื่องอะไร?

                  การตกไข่ (Ovulation) คือ การที่รังไข่มีการตกไข่ ออกมา ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่จะเกิดการตั้งครรภ์ได้ ถ้ามีอสุจิมาเจอกันที่ท่อนำไข่ ในช่วงที่มีการตกไข่ (Fertilization)

                  ดังนั้นการ นับวันไข่ตก จึงเหมาะสำหรับคุณผู้หญิงที่วางแผนจะมีลูกแบบธรรมชาติ โดยสามารถ นับวันไข่ตก หรือ คำนวณวันที่จะมีไข่ตกได้จากการสังเกตความเปลี่ยนแปลงในร่างกายตนเอง และการวัดอุณหภูมิร่างกาย ก็จะช่วยให้คุณผู้หญิงเลือกช่วงเวลาของการมีเพศสัมพันธ์ได้อย่างเหมาะสม และช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ได้

                  โดยรอบเดือนของคนปกติแบ่งออกเป็น 2 ช่วง

                  • ช่วงแรกของรอบเดือน จะนับตั้งแต่ประจำเดือนมาวันแรกจนถึงวันที่ไข่ตก เรียกระยะนี้ว่า Folliculara phase :ซึ่งระยะนี้มีเวลาไม่แน่นอนผันผวนตั้งแต่ 7 วันถึง 40 วัน
                  • ส่วนระยะที่ 2 เรียก Leuteal phase ระยะนี้มีเวลาที่ค่อนข้างแน่นอน คือมีระยะเวลา 12-16 วันนับตั้งแต่วันที่ตกไข่

                  ดังนั้นในระยะเวลามีรอบเดือนขึ้นกับระยะ Follicular phase ซึ่งมีปัจจัยที่จะทำให้ช่วงนี้ยืดยาวออกไป เช่น ความเครียด การเจ็บป่วย

                  Must read : วันตกไข่ 3 วิธีนับยังไงช่วยแก้ไขมีลูกยาก

                  วิธีนับวันไข่ตก นับวันไข่ตกยังไง

                  ทั้งนี้ การตกไข่ หรือการที่ไข่จะตกในแต่ละรอบเดือน ส่วนมากจะประมาณกลางรอบเดือน แต่เนื่องจากบางครั้งรอบเดือนก็อาจมีการแปรปรวนได้ เนื่องจากการมีรอบเดือนแต่ละรอบ และการตกไข่ในแต่ละรอบ จะสัมพันธ์กับการควบคุมของระบบฮอร์โมนค่ะ ดังนั้นถ้ารอบเดือนมาสม่ำเสมอในทุก 28-30 วัน อาจ นับวันไข่ตก ได้ง่าย คือหลังจากวันแรกของรอบเดือนก่อน มา 14 วัน

                  แต่ถ้ารอบเดือนปกติที่คลาดเคลื่อนได้ ในช่วง 24-38 วัน ดังนั้น ช่วงตกไข่ จึงอาจตกได้ตั้งแต่ 9-16 วัน นับตั้งแต่วันรกของรอบเดือนก่อน ส่วนรายที่ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ การใช้วิธีการนับวันไข่ตกอาจทำได้ยาก

                   

                  อ่านต่อ >> “สัญญาณที่บ่งว่าไข่พร้อมที่จะปฏิสนธิ” คลิกหน้า 2

                   

                  เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                   

                    เล่น “จ๊ะเอ๋” กับลูกบ่อยๆ ได้ประโยชน์มหาศาล

                    เชื่อว่าพ่อแม่ทุกคนเคยเล่น “จ๊ะเอ๋” กับลูกมาแล้ว โดยเฉพาะลูกที่อยู่ในวัยทารก รู้หรือไม่ว่านอกจากจะทำให้ลูกสนุกแล้ว การเล่นจ๊ะเอ๋ยังมีประโยชน์ต่อพัฒนาการของเด็กอีกด้วย

                    ประโยชน์ของการเล่น “จ๊ะเอ๋” ที่พ่อแม่คาดไม่ถึง

                    น.ต.นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิตได้กล่าวไว้ว่า “พ่อแม่ควรหันมาใส่ใจเรื่องการเล่นของเด็กมากขึ้น ไม่ว่าจะเล่นคนเดียว หรือเล่นกับเพื่อน เด็กจะทุ่มเทใจและจริงจังกับการเล่นมาก เพราะการเล่นคือการทำงานของเด็ก เด็กจะคิด พลิกแพลงการเล่นตลอดเวลา ยิ่งเล่นมาก จะเกิดความชำนาญจากการค้นหา เปลี่ยน ปรับ แก้ปัญหา สร้างสรรค์สิ่งใหม่ สะสมเป็นความรู้ความเข้าใจและประสบการณ์ที่เด็กได้ลงมือทำด้วยตนเอง ผลงานวิจัยทั้งในและต่างประเทศยืนยันตรงกันว่า ยิ่งเด็กมีโอกาสเล่นมากเท่าไหร่ ไม่ว่าจะเป็นการวิ่ง กระโดด คืบคลาน เล่นดิน เล่นทราย หยิบจับสิ่งของ เล่นของเล่น เล่นตุ๊กตา เล่นตั้งเต เล่นบล็อก เล่นตัวต่อ ฯลฯ ก็จะยิ่งได้รับการพัฒนาเซลล์ประสาทในสมองที่มีนับแสนล้านเซลล์เชื่อมต่อกันเป็นร่างแห เด็กจะมีความสามารถในการคิด เรียนรู้ โดยเฉพาะการเล่นที่มีการใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 ร่วมกันจะทำให้การเชื่อมโยงเซลล์ประสาทเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 20-25 นอกจากนี้การเล่นของเด็กจะเป็นพื้นฐานของการพัฒนาความฉลาดทางปัญญา อารมณ์และสังคมไปพร้อม ๆ กันด้วย” การเล่นจ๊ะเอ๋ ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยส่งเสริมพัฒนาการและการเรียนรู้ของลูกน้อยในหลาย ๆ ด้าน โดยเฉพาะพัฒนาการทางด้านสังคม

                    เล่น “จ๊ะเอ๋” อย่างไรให้ลูกชอบ?

                    การเล่นจ๊ะเอ๋ สามารถเล่นได้หลากหลายวิธี เริ่มตั้งแต่วิธีง่าย ๆ คือการเอามือปิดหน้าสักพักแล้วเอามือเปิดหน้าออกมาให้ลูกเห็นพร้อมทั้งพูด “จ๊ะเอ๋” การเริ่มเล่นแบบง่าย ๆ ไม่ซับซ้อนนี้ สามารถเล่นได้ตั้งแต่ลูกมีอายุ 3-6 เดือน แต่เมื่อลูกโตขึ้นมาหน่อย คุณพ่อคุณแม่อาจปรับเปลี่ยนการเล่นให้มีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น โดยอาจจะใช้ผ้ามาคลุมหน้าแล้วค่อยโผล่ออกมาให้ลูกเห็น และเมื่อลูกโตขึ้นไปอีกนิด คุณพ่อคุณแม่อาจจะใช้วิธีเดินออกไปให้พ้นจากสายตาลูกเพียงเล็กน้อย และค่อยโผล่มาจ๊ะเอ๋ให้ลูกตื่นเต้น ในกรณีที่คุณพ่อคุณแม่ใช้วิธีเดินออกไปให้พ้นสายตาลูกเพื่อเล่นจ๊ะเอ๋ สิ่งสำคัญ คือ จะต้องคอยส่งเสียงให้ลูกรู้อยู่ตลอดเวลาว่า เช่น อยู่ที่ไหนเอ่ย? แม่อยู่ไหน? เพื่อย้ำให้ลูกมั่นใจว่าคุณพ่อคุณแม่อยู่ไม่ไกลเขานัก

                    เคล็ดลับในการเล่น จ๊ะเอ๋ ให้สนุกคือ คุณพ่อคุณแม่ควร เปลี่ยนช่วงเวลาซ่อนสั้น – ยาวสลับกันไป และใช้โทนเสียงหลาย ๆ แบบ (สูง ดัง ตื่นเต้น) เพื่อกระตุ้นให้เกิดอารมณ์สนุกให้ลูกได้ และควรเลี่ยงเสียงต่ำหรือเสียงเรียบ / โทนเดียว

                    และเมื่อลูกเริ่มเบื่อที่จะเป็นคนถูกจ๊ะเอ๋แล้ว คุณพ่อคุณแม่ลองเปลี่ยนให้ลูกเป็นคนเล่นจ๊ะเอ๋แทน โดยการเอาผ้ามาปิดหน้าลูก แล้วพูดว่า ลูกอยู่ไหนน้า? เพื่อให้ลูกใช้มือเปิดผ้าออกมาให้คุณพ่อคุณแม่ได้เห็นหน้า (อย่าลืมแกล้งทำเป็นประหลาดใจเมื่อได้เห็นหน้าลูกนะคะ)

                    เล่นจ๊ะเอ๋
                    เล่นจ๊ะเอ๋

                    เกมนี้สามารถเรียกเสียงหัวเราะสดใสบอกอารมณ์พอใจสุด ๆ ของเด็ก ๆ ได้เป็นอย่างมาก คุณพ่อคุณแม่จะสัมผัสได้ว่าลูกชอบมาก เพราะนอกจากเกมนี้จะสนุกแล้ว การที่ได้เล่นกับคุณพ่อคุณแม่ การที่ได้จ้องหน้ามองตาคุณพ่อคุณแม่ เป็นสิ่งที่วิเศษที่สุดสำหรับลูกเลยล่ะค่ะ

                     

                    เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                    อ่านต่อ การเล่นจ๊ะเอ๋ ส่งเสริมพัฒนาการเด็กได้อย่างไร?

                      Amarin Baby & Kids Awards 2019 winners

                      ประกาศผลรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019 สุดยอดแบรนด์สินค้าแม่และเด็กในดวงใจ

                      รางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019 จัดขึ้นโดย Amarin Baby & Kids “เครือข่ายแม่ลูกใหญ่ที่สุด” ที่เป็นผู้นำด้านคอนเทนต์คุณภาพ เข้าใจครอบครัวไทย และตอบสนองความต้องการของคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ได้อย่างครบครันรอบด้านที่สุด

                      ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมากว่า 14 ปี Amarin Baby & Kids เข้าถึงคุณแม่ทั่วประเทศไทย ด้วยการเป็น OMNI Media ทั้งรูปแบบ Online ผ่านเว็บไซต์ www.AmarinBabyAndKids.com และเฟซบุ๊คแฟนเพจที่มีเนื้อหาตรงใจ ทันสถานการณ์ โดยมียอดผู้ติดตามมากกว่า 1,000,000 Followers และรูปแบบ On print ผ่าน Bookazine ราย 2 เดือน รวมถึง รูปแบบ On ground งานแฟร์แม่ลูก Amarin Baby & Kids Fair ที่จัดมาแล้วถึง 15 ครั้ง

                      และเพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านเครือข่ายแม่ลูกอันดับ 1 ของประเทศที่เข้าใจคุณแม่ไทยมากที่สุด เว็บไซต์ Amarin Baby & Kids จึงได้จัด Amarin Baby & Kids Awards 2019” เพื่อเฟ้นหาสุดยอดแบรนด์สินค้าแม่และเด็กในดวงใจ จากคะแนนโหวตของคุณแม่ทั่วประเทศกว่า 10,000 คน ผ่าน www.AmarinBabyAndKids.com ด้วยหวังเป็นสื่อกลางข้อมูลคุณภาพจากแม่สู่แม่ Mom to Mom Sharing ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อคุณแม่มือใหม่ที่กำลังมองหา “สินค้าใช้ดี ที่ได้รับการยืนยันจากคุณแม่ตัวจริงทั่วประเทศ”

                      ประกาศผลรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019 สุดยอดแบรนด์สินค้าแม่และเด็กในดวงใจ

                      รางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2019 มอบให้กับแบรนด์สินค้าแม่และเด็กในดวงใจ แบ่งเป็น 2 ประเภทรางวัล ได้แก่

                      รางวัล Mommy’s Choice มอบให้กับแบรนด์สินค้า ที่ได้รับคะแนนโหวตสูงสุดจากการลงคะแนนของคุณแม่ทั่วประเทศ ที่มีประสบการณ์ใช้สินค้าจริงด้วยตัวเอง ทั้งหมด 23 รางวัล

                      รางวัล Editor’s Choice ซึ่งมอบให้กับ “สินค้าใช้ดี และมีจุดเด่นน่าสนใจ” คัดเลือกโดย กองบรรณาธิการเว็บไซต์ Amarin Baby & Kids ทั้งหมด 17 รางวัล

                      ประกาศผลรางวัล Mommy’s Choice

                      ผ้าอ้อมสำเร็จรูป
                      (BEST DISPOSABLE DIAPER)
                      MamyPoko
                      ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวสำหรับเด็ก
                      (BEST SKINCARE FOR KIDS)
                      D-nee
                      ครีมกันแดดเด็ก
                      (BEST BABY SUNSCREEN)
                      Eucerin
                      ผลิตภัณฑ์ปกป้องผิวใต้ผ้าอ้อม
                      (BEST DIAPER RASH PROTECTION)
                      Bepanthen
                      สบู่เหลวเด็ก
                      (BEST BABY WASH)
                      Babi Mild
                      แชมพูเด็ก
                      (BEST BABY SHAMPOO)
                      Babi Mild
                      น้ำยาซักผ้าเด็ก
                      (BEST BABY LAUNDRY DETERGENT)
                      D-nee
                      น้ำยาล้างขวดนม
                      (BEST BABY BOTTLE CLEANSER)
                      KODOMO
                      ขวดนมและจุกนม
                      (BEST TEAT & BOTTLE FEEDING PRODUCT)
                      Pigeon
                      รถเข็นและคาร์ซีท
                      (BEST STROLLER AND CAR SEAT)
                      Combi
                      เป้อุ้มเด็ก
                      (BEST BABY CARRIER)
                      camera
                      นม UHT
                      (UHT MILK AWARDS)
                      Thai-Denmark
                      เครื่องดื่มนมผสมมอลต์
                      (UHT MALTED MILK AWARDS)
                      BEAR BRAND
                      ผลิตภัณฑ์เพื่อโภชนาการเด็ก
                      (KIDS DIETARY PRODUCT AWARD)
                      SEVEN SEAS
                      ผลิตภัณฑ์กันยุง
                      (BEST MOSQUITO REPELLENT FOR KIDS)
                      Lamoon Baby
                      สเปรย์ปรับอากาศ
                      (BEST AIR FRESHENER)
                      KANGAROO BRAND
                      ของเล่นเด็ก
                      (BEST TOY FOR KIDS)
                      LEGO
                      สำนักพิมพ์หนังสือเด็ก
                      (BEST CHILDREN’S BOOK PUBLISHER)
                      Praewpeundek
                      ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าคุณแม่
                      (BEST FACIAL SKINCARE)
                      Smooth E
                      ครีมทาท้องคุณแม่ (BEST STRETCH MARKS CREAM)PALMER’S
                      เครื่องปั๊มนม (BEST BREAST PUMP)NATUR
                      ผลิตภัณฑ์เพิ่มน้ำนมสำหรับคุณแม่
                      (BEST BREASTFEEDING SUPPLEMENT)
                      FENUCAPS
                      เพจคุณแม่บล็อกเกอร์
                      (POPULAR ONLINE MOM INFLUENCER)
                      PREAW

                      ผ้าอ้อมสำเร็จรูปในดวงใจคุณแม่

                      ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวสำหรับเด็ก ในดวงใจคุณแม่

                      ครีมกันแดดเด็กในดวงใจคุณแม่

                      ผลิตภัณฑ์ปกป้องผิวใต้ผ้าอ้อม ในดวงใจคุณแม่

                      สบู่เหลวเด็ก ในดวงใจคุณแม่

                      แชมพูเด็ก ในดวงใจคณแม่

                      น้ำยาซักผ้าเด็ก ในดวงใจคุณแม่

                      น้ำยาล้างขวดนม ในดวงใจคุณแม่

                      ขวดนมและจุกนม ในดวงใจคุณแม่

                      รถเข็นและคาร์ซีท ในดวงใจคุณแม่

                      เป้อุ้มเด็ก ในดวงใจคุณแม่

                      นม UHT ในดวงใจคุณแม่

                      เครื่องดื่มนมผสมมอลต์ ในดวงใจคุณแม่

                      ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเด็ก ในดวงใจคุณแม่

                      ผลิตภัณฑ์กันยุง ในดวงใจคุณแม่

                      สเปรย์ปรับอากาศ ในดวงใจคุณแม่

                      ของเล่นเด็ก ในดวงใจคุณแม่

                      สำนักพิมพ์หนังสือเด็ก ในดวงใจคุณแม่

                      ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า ในดวงใจคุณแม่

                      ครีมทาท้องคุณแม่ ในดวงใจ

                      เครื่องปั๊มนม ในดวงใจคุณแม่

                      ผลิตภัณฑ์เพิ่มน้ำนม ในดวงใจคุณแม่

                      เพจคุณแม่บล็อกเกอร์ ในดวงใจ

                      ประกาศผลรางวัล Editor’s Choice คลิกหน้า 2

                        อาหารต้านมะเร็ง

                        8 วิธีทาน “อาหารต้านมะเร็ง” กินอย่างไรให้ห่างไกลโรค?

                        การทานอาหารอย่างถูกวิธี ช่วยให้ร่างกายมีสุขภาพดี ป้องกันโรคได้หลายโรค รวมถึงโรคมะเร็งอีกด้วย เคล็ดลับในการทาน อาหารต้านมะเร็ง นั้นทำได้ไม่ยาก ดังนี้

                        8 วิธีทาน “อาหารต้านมะเร็ง” กินอย่างไรให้ห่างไกลโรค?

                        มะเร็ง คือ ภาวะสุขภาพที่เซลล์ของอวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งในร่างกายเจริญเติบโตขึ้นอย่างผิดปกติ เรียกอีกอย่างว่าเนื้อร้าย โดยเนื้อร้ายหรือเซลล์มะเร็งสามารถลุกลาม ทำลายเนื้อเยื่อและอวัยวะที่เกิดเซลล์มะเร็ง ลุกลามไปยังบริเวณใกล้เคียง รวมทั้งเกิดการแพร่กระจายไปยังอวัยวะส่วนอื่นได้ โดยมะเร็งมีหลายชนิด เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งผิวหนัง มะเร็งปอด มะเร็งลำไส้ หรือมะเร็งต่อมลูกหมาก ซึ่งจะปรากฏอาการของโรคแตกต่างกันไป

                        อาหารก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่กระตุ้นการเกิดเซลล์มะเร็งได้ การทานอาหารอย่างถูกวิธี และการทาน อาหารต้านมะเร็ง ช่วยให้ร่างกายมีสุขภาพดี และ อาจมีหลักฐานที่ช่วยในการป้องกันมะเร็งบางชนิดได้ ซึ่งวิธีการทานอาหารที่ถูกต้องนี้ สามารถปฏิบัติได้ทุกคน แม้คนที่ไม่เป็นโรคก็ควรทำ เพราะจะช่วยทำให้ร่างกายแข็งแรง ป้องกันโรคอื่น ๆ ได้เช่นกัน

                        8 วิธีทาน “อาหารต้านมะเร็ง” กินอย่างไรให้ห่างไกลโรค?

                        1. รับประทานอาหารที่สะอาดและถูกสุขลักษณะ หลีกเลี่ยงอาหารบางชนิด เช่น
                          • ปลาร้าดิบที่ไม่สะอาด หรืออาหารสุก ๆ ดิบ ๆ อาจทำให้เกิดการติดเชื้อพยาธิใบไม้ตับและเกิดอาการอักเสบเรื้อรังส่งผลให้เป็นมะเร็งได้ ดังนั้นจึงควรปรุงอาหารเหล่านี้ให้สุกก่อนการรับประทานเพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดโรค และควรเลือกทานอาหารที่ผ่านกรรมวิธีผลิตที่ถูกสุขอนามัย
                          • ถั่ว ข้าวโพด พริกแห้ง หอม กระเทียม ที่เก็บไม่ดี เพราะอาจมีเชื้อราที่สร้างสารก่อมะเร็ง เชื้อราที่ปนเปื้อนอยู่ในอาหารชนิดที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพมากที่สุดคือ เชื้อราที่ผลิตสารอะฟลาท็อกซิน (Aflatoxin) ซึ่งเจริญเติบโตได้ดีในอาหารที่เป็นผลผลิตทางการเกษตรที่ถูกเก็บไว้นานจนเกินไป โดยเฉพาะในที่ที่อากาศร้อนและมีความชื้นสูง หากรับประทานเข้าไปจะก่อให้เกิดการสะสมของสารอะฟลาท็อกซินที่ตับ และอาจพัฒนาเป็นมะเร็งตับในที่สุด อาหารที่เก็บไม่ดี ยังรวมถึง อาหารจำพวกนมและขนมปัง ดังนั้น ก่อนทานอาหารประเภทนี้ ควรตรวจดูให้ดีก่อนว่ามีการเก็บรักษาที่ดีพอหรือไม่ หากเก็บไว้นานจนเกินไป ก็ไม่ควรทาน

                        2. เน้นรับประทานผักและผลไม้ให้เพียงพอ

                        การทานผักและผลไม้ ไม่จำเป็นต้องทานให้ได้เยอะที่สุด หรือทานแทนหมู่อาหารประเภทอื่น ๆ แต่ควรทานให้มีปริมาณที่สมดุลกับอาหารหมู่อื่น ๆ ด้วย ตามที่สำนักงานกองทุนสนับสนุกการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส. ได้แนะนำสัดส่วนผักและผลไม้ที่ควรทานต่อ 1 มื้อ ว่า ในอาหาร 1 จาน ควรแบ่งออกเป็น 4 ส่วน โดยควรทานผักและผลไม้ 2 ส่วน (หรือ 50% ของอาหารจานนั้น ๆ) คาร์โบไฮเดรต เช่น ข้าว ขนมปัง 1 ส่วน (หรือ 25% ของอาหารจานนั้น ๆ) และ โปรตีน ซึ่งได้แก่อาหารประเภทเนื้อสัตว์ต่าง ๆ อีก 1 ส่วน (หรือ 25% ของอาหารจานนั้น ๆ)

                        อาหารป้องกันมะเร็ง
                        อาหารต้านมะเร็ง ขอบคุณภาพจาก : www.thaihealth.or.th

                        3.รับประทานอาหารแต่พอดี ไม่มากเกินไปจนอ้วน

                        ไม่ควรทานอาหารให้มากเกินไป แต่เราจะรู้ได้อย่างว่าอาหารที่ทานไปนั้นพอดีกับที่ร่างกายต้องการนำไปใช้แล้ว เพราะคำว่า “พอดี” ของแต่ละคนนั้นไม่เท่ากัน การตัดสินว่าทานให้พออิ่มไม่น่าจะสามารถนำมาวัดได้ว่าทานมากเกินไปหรือเปล่า ดังนั้นจึงมีปริมาณพลังงานที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันกำหนดไว้ ดังนี้

                        • พลังงาน 1600 กิโลแคลอรี – สำหรับเด็กอายุ 6-13 ปี หญิงวัยทำงาน และผู้สูงอายุ
                        • พลังงาน 2000 กิโลแคลอรี – สำหรับวัยรุ่น ชายวัยทำงาน
                        • และพลังงาน 2400 กิโลแคลอรี – สำหรับผู้ที่ใช้พลังงานมาก เช่น นักกีฬา เกษตรกร กรรมกร

                        เราควรทานอาหารในปริมาณที่เหมาะสม โดยคำนวณจากพลังงานที่ได้รับในแต่ละมื้อว่าไม่ควรเกินจำนวนกิโลแคลอรีที่ควรได้รับในแต่ละวัน เพียงเท่านี้ ก็จะมั่นใจได้ว่าเราได้ทานอาหารที่พอดีกับที่ร่างกายต้องใช้แล้ว

                         

                        เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                        อ่านต่อ 8 วิธีทาน “อาหารต้านมะเร็ง” กินอย่างไรให้ห่างไกลโรค?

                          การดูแลผิวหน้าหนาว

                          เคล็ด(ไม่)ลับ รับมือ ผดผื่น ผิวแห้งคัน ช่วงหน้าหนาว

                          ลมหนาวมาแล้ว อากาศแห้งและเย็นแบบนี้ ปัญหาหนักใจที่คุณแม่มักต้องเจอในช่วงหน้าหนาวก็คือ ลูกมีผิวแห้ง ลอกเป็นขุย โดยเฉพาะช่วงแก้ม แขน ขา หรือบางครั้งก็จะมีขึ้นผื่นแดงๆ ทั่วผิวกายด้วย ดังนั้นเพื่อให้ลูกน้อยมีผิวพรรณสุขภาพดี นุ่ม ชุ่มชื้น เรามารับมือพร้อมกับการดูแลผิวหน้าหนาวให้ลูกน้อยกันค่ะ

                           

                          การดูแลผิวหน้าหนาว ให้ลูกน้อย กับปัญหาผิวที่ต้องเจอ

                          พอเข้าช่วงหน้าหนาว คุณแม่ที่มีลูกเล็กมักต้องเจอกับปัญหาผิวต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับลูกน้อย ไม่ว่าจะเป็น…

                          • ผดผื่น อาการคือจะเป็นปื้นแดงๆ หรือเป็นตุ่มน้ำใสเล็กๆ ขึ้นทั่วผิวหน้า ผิวกาย
                          • ผิวแห้งคัน อาการคือผิวจะลอกเป็นขุยขาวๆ

                          ไม่ว่าจะผดผื่น หรือ ผิวแห้งคัน สำหรับทารก และเด็กเล็กๆ สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา แต่ในหน้าหนาวอาจมีอาการผิวแห้งได้มากกว่าปกติ อากาศที่แห้งและเย็นในช่วงหน้าหนาว ส่งผลทำให้ลูกน้อยผิวแห้งกร้าน เนื่องจากอากาศจะปรับสมดุลความชื้นทางอากาศ โดยการดูดความชื้นจากชั้นผิวหนัง เพื่อนำไปทดแทนความชื้นในอากาศ เมื่อผิวขาดความชุ่มชื้น ก็จะยิ่งแห้ง คัน และลอกเป็นขุยได้ตลอดเวลา ดังนั้นเพื่อปกป้องไม่ให้ลูกน้อยผิวแห้ง จากปัญหาผิวแห้งต่างๆ ลองมาดูเคล็ดลับในการดูแลผิวหน้าหนาวให้ลูกน้อย นุ่ม ชุ่มชื้นตลอดวันกันค่ะ

                           

                          วิธีดูแลผิวทารก ผิวเด็กเล็ก ให้นุ่ม ชุ่มชื้น ไม่แห้งกร้านในช่วงหน้าหนาว

                          การดูแลผิวหน้าหนาว

                          • ช่วงเวลาอาบน้ำ

                          ในช่วงหน้าหนาวคุณแม่อาจจะอาบน้ำให้ลูกน้อยวันละ 1 ครั้งก็พอค่ะ แนะนำว่าอาบน้ำลูกน้อยช่วงสายๆ ของวัน และช่วงเย็นก่อนเข้านอนให้เช็ดตัวแทนการอาบน้ำ เพื่อปกป้องผิวไม่ให้สูญเสียความชุ่มชื้น สำหรับน้ำที่ผสมอาบน้ำให้ลูกน้อย คุณแม่สามารถหยดเบบี้ออยล์ลงไปในน้ำอาบสุดท้ายประมาณ 2-3 หยด จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวลูกน้อยได้ดีมาก หรือหลังอาบน้ำขณะที่ผิวลูกยังเปียกหมาดๆ ก็สามารถนวดเบบี้ออยล์ลงบนผิวลูก เพื่อบำรุงให้ผิวนุ่ม ชุ่มชื้น ไม่แห้งกร้าน

                          การดูแลผิวหน้าหนาว

                          ดีนี่ ออร์แกนิค ฟอร์ นิวบอร์น เบบี้ออยล์

                          ออยล์ใส สูตรอ่อนโยนพิเศษสำหรับทารก ซึมซาบไว ไม่เหนียวเหนอะหนะ ช่วยถนอมผิวที่บอบบางอ่อนโยนของลูกน้อย มีส่วนผสมสารสกัดจากธรรมชาติ ทั้งดอกคาโมมายล์ น้ำมันดอกทานตะวัน อโลเวล่า ซึ่งจะช่วยเติมเต็มและกักเก็บความชุ่มชื้นให้กับผิวลูกน้อยได้อย่างดีเยี่ยม ปราศจากสารเคมีอันตราย อย่างเช่น พาราเบน กลูเตน สีสังเคราะห์ และ แอลกอฮอล์

                           

                          การดูแลผิวหน้าหนาว

                          การดูแลผิวหน้าหนาว

                           

                          • ช่วงเวลาถนอมผิว

                          การดูแลถนอมผิวพรรณให้ลูกน้อยทุกวันหลังอาบน้ำ หรือระหว่างวัน ด้วยออยล์หรือโลชั่นบำรุงผิวสำหรับเด็ก จะช่วยให้ผิวลูกน้อยไม่แห้งกร้าน และลดการเกิดผดผื่นจากอากาศแห้ง เย็นได้ดีมากๆ ค่ะ เมื่อผิวของลูกชุ่มชื้น ผิวแข็งแรง ก็จะช่วยป้องกันการระคายเคืองของผิว ที่เกิดจากเสื้อผ้า หรือ ผ้าอ้อม ได้เป็นอย่างมากในช่วงหน้าหนาวแบบนี้

                          ดีนี่ ออร์แกนิค ฟอร์ นิวบอร์น

                           

                          ดีนี่ ออร์แกนิค ฟอร์ นิวบอร์น เบบี้โลชั่น  

                          โลชั่นบำรุงผิว สูตรอ่อนโยนจากธรรมชาติ สำหรับทารก เพื่อถนอมผิวบอบบางอย่างอ่อนโยน เนื้อโลชั่นที่บางเบา ทำให้ซึม  ซาบไว ไม่เหนียวเหนอะหนะ สบายผิว มี กลิ่นหอมอ่อนๆ ช่วยให้ลูกน้อยสบายตัวตลอดวัน ดีนี่ ออร์แกนิค ฟอร์ นิวบอร์น  เบบี้โลชั่น มีมอยซ์เจอร์ไรเซอร์จากสารสกัดธรรมชาติ 7 ชนิด ช่วยลดการระคายเคือง ปกป้องผิวให้นุ่ม ชุ่มชื้น ที่สำคัญ  ปราศจากสารระคายเคืองผิว อย่างสารพาราเบน กลูเตน สีสังเคราะห์ และแอลกอฮอล์

                          การดูแลผิวหน้าหนาว

                          การทาบำรุงผิวด้วยเบบี้โลชั่น เบบี้ออยล์ เป็นหนึ่งวิธีในการบำรุงผิวจากภายนอก แต่หากจะให้ลูกน้อยมีผิวพรรณสุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอก แนะนำคุณแม่ว่าควรดูแลลูกน้อยให้ได้รับโภชนาการสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายและผิว ที่ สำคัญในเด็กเล็ก(อายุหลัง 6 เดือนขึ้นไป) ควรให้ได้ดื่มน้ำระหว่างวันอย่างเพียงพอ การดื่มน้ำจะช่วยทำให้ผิวชุ่มชื้น ผิวไม่แห้งกร้าน เพียงเท่านี้ลูกน้อยก็จะมีสุขภาพผิวดีจากภายในสู่ภายนอกแล้วค่ะ

                          หวังว่าเคล็ดลับการดูแลผิวหน้าหนาวของลูกน้อยที่นำมาฝากจะถูกใจคุณแม่มือใหม่ทุกคน ..แล้วอย่าลืมถนอม บำรุง เติมความชุ่มชื้นให้กับผิวลูกน้อยทุกวัน เพื่อลดการเกิดปัญหาผิวแห้งคัน ลอกเป็นขุย มีผดผื่น ฯลฯ ด้วยการทาเบบี้โลชั่นนะคะ

                          การดูแลผิวหน้าหนาว

                            เริมในเด็ก

                            แม่แชร์! ลูกเป็นโรค “เริมในเด็ก” เพราะการกอด-หอมจากคนอื่น

                            โรค “เริมในเด็ก” ติดต่อกันได้จากการสัมผัส จูบ กอด หอม ในผู้ใหญ่อาจมีเชื้อได้โดยไม่ทำอันตรายกับร่างกาย แต่สำหรับเด็กทารกที่ยังไม่มีภูมิคุ้มกัน เป็นอันตรายอย่างมาก โดยเฉพาะ 6 สัปดาห์แรกของชีวิตยิ่งอันตรายที่สุด

                            แม่แชร์! ลูกเป็นโรค “เริมในเด็ก” เพราะการกอด-หอมจากคนอื่น

                            สิ่งที่กังวลที่สุดสำหรับพ่อแม่ที่มีลูกเล็ก ๆ คืออาการป่วยไข้ของลูก เพราะลูกยังเล็กมาก ไม่มีภูมิคุ้มกันที่จะไปต่อกรกับโรคร้ายแรงต่าง ๆ ได้เหมือนผู้ใหญ่ ดังนั้นการดูแลรักษาความสะอาดและการป้องกันไม่ให้ลูกติดโรคจึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด และโรคต่าง ๆ ในสมัยนี้สามารถติดต่อกันได้ง่ายมาก ไม่ว่าจะเป็น RSV ไข้หวัดใหญ่ เริม เชื้อแบคทีเรียต่าง ๆ ซึ่ง เพียงแค่สัมผัส กอด หอม จูบ ก็สามารถติดกันได้แล้ว ลองคิดดูว่าหากโรคร้ายแรงเหล่านี้ติดต่อในเด็กทารกที่เล็ก ๆ ล่ะ เด็กที่ยังไม่มีภูมิคุ้มกันมากเพียงพอ สำหรับผู้ใหญ่หรือแม้แต่เด็กโต ที่ผ่านการติดโรคมาหลายครั้งแล้ว ย่อมมีภูมิคุ้มกันต่อโรคได้หลายโรค เมื่อติดโรคใด ๆ มาแล้ว ร่างกายอาจจะไม่มีอาการป่วยไข้ใด ๆ อาจจะมีแค่น้ำมูก หรือรู้สึกเจ็บคอ ทำให้คิดว่าโรคที่ตนเองเป็นอยู่นั้นอาจจะเป็นเพียงแค่หวัดธรรมดา ไม่ได้ร้ายแรงอะไร การสัมผัส กอด หอม จูบ ลูกคนอื่นที่น่ารัก ๆ ก็ไม่ทำให้เด็กติดโรคหรือถ้าติดก็เป็นเพียงแค่หวัดทั่วไป แม่ ๆ ไม่เห็นจะต้องหวงลูกเลย แค่กอด หอมนิดเดียงเอง ถ้าเช่นนั้น เรามาดูเรื่องราวที่เกิดกับคุณแม่ท่านนี้กันค่ะ

                            ลูกติดเชื้อเริม
                            ลูกติดเชื้อเริม

                            คุณแม่ Charlotte Louise Jones ได้โพสต์ลงเฟสบุ๊คส่วนตัว เล่าถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับลูกของตนเอง ที่ได้ติดเชื้อเริมจากการกอด หอมจากคนแปลกหน้า ดังนี้

                            ไวรัสเริมชนิด 1 เป็นสิ่งที่ทำให้ Ellis ลูกของเธอต้องนอนโรงพยาบาล ในตอนแรกที่คุณหมอคิดว่าเป็นต่อมทอนซิลอักเสบ แต่หลังจากนั้น Ellis ก็เริ่มมีแผลที่มีหนองที่ และมีผื่น จนสุดท้ายก็ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นไวรัสเริม

                            ผู้คนทั่วไปอาจไม่รู้ว่า การจูบหรือการสัมผัสจากคนที่มีอาการป่วยไข้เหมือนไข้หวัดธรรมดา สามารถคุกคามชีวิตเด็กตัวเล็ก ๆ ได้

                            ด้วยไข้ที่สูงถึง 40 องศา ต้องสอดท่อเพื่อให้ยาและให้เลือด รอบปากยังเกิดแผลพุพองอย่างหนัก และขั้นตอนการรักษาที่มากมายในโรงพยาบาล ทำให้ลูกไม่สามารถทานอาหารได้เป็นสัปดาห์ ทานได้แต่อาหารที่ทำเป็นของเหลวผ่านขวด

                            เราโชคดีมากที่ร่างกายของ Ellis สามารถฟื้นฟูได้เร็ว แต่สำหรับเด็กที่มีระบบภูมิคุ้มกันต่ำผลลัพธ์อาจแตกต่างกันมาก

                            กรุณาอย่าจูบ หอม กอด เด็กทารกหรือเด็กวัยหัดเดินหากคุณมีอาการใด ๆ ที่มีอาการป่วยไข้หรือเป็นหวัด ให้ล้างมือให้สะอาดก่อนสัมผัสเด็ก!

                             

                            เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                            อ่านต่อ เริมในเด็ก คืออะไร? สาเหตุ อาการและการป้องกันโรค เริมในเด็ก

                              กิจกรรมช่วงปิดเทอม

                              ชวนลูกทำ! 3 กิจกรรมช่วงปิดเทอม สุดว้าว! แถมสร้างสรรค์!

                              หากคุณพ่อคุณแม่กำลังมองหา กิจกรรมช่วงปิดเทอม ให้ลูกอยู่ ต้องห้ามพลาด!! Super Nanny มีกิจกรรมดีๆ มาแนะนำ รับรองว่าช่วงเวลาตลอดการปิดเทอมของเด็กๆ จะไม่ศูนย์เปล่าไปอย่างน่าเสียดาย

                              Super Nanny แนะ 3 กิจกรรมช่วงปิดเทอม สุดว้าว! แถมสร้างสรรค์!

                              ปิดเทอมทีไร เด็กๆ จะตื่นเต้น ที่ไม่ต้องรีบตื่นเช้าไปโรงเรียนอยู่พักนึง  แต่พอผ่านไปได้ยังไม่ทันจะครึ่งเดือน ก็เริ่มบ่นเบื่อกันแล้ว
                              อยากเจอเพื่อนๆ คิดถึงบรรยากาศสนุกๆ ที่โรงเรียน ดังนั้นเพื่อให้ช่วงเวลาตลอดปิดเทอมของเด็กๆ ไม่ศูนย์เปล่าไปอย่างน่าเสียดาย บอมเบย์จึงมี กิจกรรมปิดเทอม สนุกๆ ที่ช่วยส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ กระตุ้นพัฒนาการการเรียนรู้อย่างไม่รู้จบ ที่สำคัญยังจะต่อยอดการเรียนรู้ในห้องเรียนได้ด้วย มาแนะนำ

                              Must read : 5 จุดหมาย พาลูกเที่ยว ใกล้กรุงเทพ กิจกรรมเพียบ ถูกใจเด็กๆ

                              ซึ่งความพิเศษของ กิจกรรมช่วงปิดเทอม ที่แสนสนุกนี้ บอมเบย์มีผู้ช่วยเป็น HP DeskJet Ink Advantage เครื่องปริ๊นท์เตอร์ไร้สาย ที่สามารถพิมพ์ สแกน ถ่ายเอกสาร ก็สามารถทำได้ง่ายๆ สะดวกมากๆ ว่าแต่จะมีกิจกรรมอะไรบ้างตามไปดูกันเลย!!😘

                               


                              ติดตามคลิปวีดีโอดีๆ กับ Super Nanny จาก Youtube channel : Amarin Baby & Kids

                               

                              สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ HP DeskJet Ink Advantage เครื่องปริ๊นท์เตอร์ไร้สาย ได้ที่นี่ >> https://www8.hp.com/th/th/printers/ink-advantage.html

                               

                              อ่านต่อบทความน่าสนใจของ Super Nanny :

                               

                              เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                                4U2 Look at Me

                                6 เคล็ดลับแต่งตาแม่ให้สวยเด้ง กับ 4U2 Look At Me Eyeshadow

                                วันที่ 5 ตุลาคม 2562 ที่ผ่านมา  4U2 เปิดตัวเครื่องสำอางใหม่ 4U2 Look at Me Eyeshadow พร้อมพรีเซนเตอร์คู่จิ้นสุดแนว สาย Y มีน-พีรวิชญ์ อรรถชิตสถาพร และ แปลน-รัฐวิทย์ กิจวรลักษณ์ กับลุคเน้นดวงตาสไตล์เกาหลีกันอย่างจัดเต็ม โดยเป็นอายแชโดว์ 5 เฉดสีในตลับเดียว มีให้เลือก 6 สี เหมือนเป็นตัวแทนผ่านทางสายตาของ 3 อารมณ์ 3 ความรู้สึกของความสัมพันธ์

                                4U2 Look at Me สี Nude Drama I / Nude Drama II

                                เน้นโทนสีนู้ด…เมื่อ 2 สายตาประสานกันเป็นครั้งแรก อาจแสดงออกเพียงการมองแบบผิวเผินอย่างคนไม่คุ้นเคย แต่ภายในดวงใจของทั้งสองอาจบอกว่า ‘เขามีอะไรบางอย่างที่เหมือนเราอยู่นะ’ ต่างคนต่างคิดว่าเขาเป็นคนน่าสนใจ น่าค้นหา และอยากทำความรู้จักกันให้มากขึ้น แต่ก็ยังไม่กล้าเปิดเผยความรู้สึกมากมายนัก

                                4U2 Look at Me สี Mad Brick I / Mad brick II

                                เน้นโทนสีส้ม...เมื่อความสัมพันธ์เติบโตกลายเป็นความสนิทสนม จากคนรู้จักก็กลายเป็นเพื่อนสนิท (ที่รู้ใจ) ในดวงตาของทั้งสองแอบแฝงอารมณ์คุกรุ่น ร้อนแรง เร่าร้อน สนุกสนานและซ่อนความเซ็กซี่ แบบคนเคมีเข้ากันสุดๆเอาไว้

                                4U2 Look at Me สี Brown Addict I / Brown Addict II

                                เน้นโทนน้ำตาล…ตัวแทนของความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง ลุ่มลึก หลงใหลกันและกันมากอย่างบ้าคลั่ง เป็นความรักที่ดูดดื่มเท่าที่คนสองคนจะพึงมีให้แก่กันได้ ราวกับดวงใจสองดวงที่ประสานกัน เพียงประสานตากันก็เข้าใจในความรู้สึกของอีกฝ่าย

                                4U2 Look at Me

                                (อายแชโดว์ 4U2 ราคา 399 บาท โปรโมชั่นลดเหลือ 299 บาท
                                มีจำหน่ายที่ WATSONS, EVEANDBOY, BEAUTRIUM และ www.4U2thailand.com)

                                 

                                6 เคล็ดลับสูตรเด็ด แต่งตาแม่ให้สวยเด้ง
                                ด้วย 4U2 Look At Me Eyeshadow

                                ไม่ว่าคุณจะมีอายแชโดว์ซักกี่สี ทำไมแต่งออกมาก็ดูไม่เด่น ไม่เด้งเหมือนกันไปหมด คุณอาจแต่งผิดวิธีก็ได้ มาทำตามเคล็ดลับง่ายๆของ 4U2 แล้วรับรองว่าคุณจะมีดวงตาคมเฉี่ยวสวยอย่างแน่นอนค่ะ

                                1. เตรียมดวงตา หากคุณมีผิวมันก็เป็นไปได้ว่าอายแชโดว์ที่คุณปัดจะไปกระจุกอยู่ที่ชั้นพับเปลือกตาอย่างง่ายดายมาก เพื่อเลี่ยงปัญหาดังกล่าว หลังทารองพื้นให้ปัดเบาๆด้วยแป้งฝุ่นคุมมัน แล้วจะทาอายแชโดว์ทับลงไป

                                2. เติมสีให้ชัด วิธีหนึ่งที่ 4U2 ขอแนะนำเพื่อปรับสีอายแชโดว์ให้ดูโดดเด่นขึ้นอีกระดับคือ การปัดเบ้าตาด้วยอายแชโดว์สีอ่อนๆอย่างสีนู้ดเนื้อแมทลงบนเปลือกตาให้ทั่วก่อน แล้วค่อยปัดสีเข้มจัด หรือสีสดที่มีประกายชิมเมอร์ทับลงไป วิธีนี้จะช่วยให้สีสดลอยขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด อย่าง อายแชโดว์ 4U2 Nude Drama No.01 / 02 ที่มีสีน้ำตาลอ่อนออกนู้ด ที่ใช้ทาวันสบายๆก็ได้ หรือทาเป็นรองพื้นก่อนทาอายแชโดว์สีเข้ม หรือสีสดทับอีกรอบก็ได้

                                4U2 Look at Me

                                3. หล่นเหรอ…อย่าได้แคร์ บ่อยครั้งที่เราอยากจัดเต็มให้ดวงตาด้วยการทาสโมกกี้สีสด หรือสีเข้มๆไปเลย แต่พอแต่งไปก็จะชอบร่วงมาติดตรงโหนกแก้มประจำ วิธีแก้ก็ง่ายมาก นอกจากการแตะแปรงอายแชโดว์ลงเบาๆที่หลังมือเพื่อเกลี่ยเนื้ออายแชโดว์ที่เกาะเป็นก้อนที่ปลายแปรงแล้ว คุณก็อาจเริ่มการแต่งหน้าด้วยการปัดอายแชโดว์ก่อนเลยเป็นอย่างแรก หากตกลงบนโหนกแก้มก็ค่อยเก็บรายละเอียดด้วยการปัดแป้ง และปัดบลัชออนทับอีกครั้ง

                                4. รู้จักดวงตาของคุณ บ่อยครั้งที่เห็นเพื่อนแต่งตาได้สวย แต่เมื่อลองให้เพื่อนแต่งให้แบบเดียวกัน กลับดูไม่สวยกับดวงตาของคุณ นี่เป็นเพราะรูปดวงตาของแต่ละคนไม่เหมือนกัน หากคุณมีดวงตาเล็กก็ควรเน้นปัดให้เหนือเปลือกตาขึ้นไปถึงโหนกคิ้วเลย เพื่อเปิดดวงตาให้สวยขึ้

                                5. อย่ากลัวมิกซ์สี ไม่ต้องกลัวที่จะลองแมชสี ลองปัดด้วยสีที่คุณใช้ประจำจากนั้นลองผสมสีแปลกใหม่ที่พึ่งซื้อมาอย่างสีส้มทับลงไป จากนั้นทับด้วยชิมเมอร์อีกสี ดวงตาของคุณอาจดูมีมิติคมโตหน้ามองขึ้นก็ได้

                                6.อย่าลืมขอบตาล่าง การเติมอายแชโดว์สีน้ำตาลอ่อน หรือแม้กระทั่งน้ำตาลเข้มที่ขอบด้านล่างของดวงตาจะช่วยขยายดวงตาให้ดูคมขึ้น โดยใช้แปรงอันเล็กๆเพื่อเกลี่ยสีอายแชโดว์ให้ฟุ้ง อาจเติมอายไลเนอร์สีขาวเพื่อเติมดวงตาให้ดูใหญ่ขึ้นด้วย

                                อ่านต่อบทความอื่นน่าสนใจ คลิก :

                                 

                                เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                                 

                                  เรียนว่ายน้ำดียังไง

                                  เรียนว่ายน้ำดียังไง 7 ข้อดีที่ควรฝึกลูกว่ายน้ำตั้งแต่เล็ก

                                  คุณพ่อคุณแม่ทราบไหมคะ เจ้าตัวน้อยสามารถว่ายน้ำได้ตั้งแต่เบบี๋ เรียนว่ายน้ำดียังไง ทำไมควรให้ลูกได้ฝึกทักษะว่ายน้ำตังแต่เล็ก มาดูประโยชน์ของการสอนให้ลูกว่ายน้ำกันค่ะ

                                  เด็กกับน้ำเป็นของคู่กันมาโดยตลอด สังเกตไหมคะ เด็ก ๆ จะสนุกทุกครั้งที่ได้สัมผัสกับน้ำ ไม่ว่าจะเป็นเล่นในอ่างเล็ก ๆ หรือพาลงไปในสระว่ายน้ำ ซึ่งทารกนั้นสามารถฝึกว่ายน้ำตั้งแต่อายุ 3 เดือนขึ้นไป เนื่องจากความคุ้นชินของเด็กตั้งแต่อยู่ในถุงน้ำคร่ำในท้องแม่ จึงทำให้เด็กสามารถเรียนรู้การลอยตัวในน้ำได้ตั้งแต่เบบี๋  ประโยชน์ของการว่ายน้ำจึงดีต่อพัฒนาการเด็กหลายด้าน ทั้งทางร่างกาย ทางอารมณ์ สังคม และยังกระตุ้นให้สมองเกิดการพัฒนาที่ดีอีกด้วย หากให้ลูกได้เรียนว่ายน้ำอย่างถูกต้องก็จะได้ประโยชน์มากขึ้น

                                  เรียนว่ายน้ำดียังไง 7 ข้อดีที่ควรฝึกลูกว่ายน้ำตั้งแต่เล็ก

                                  เรียนว่ายน้ำดียังไง
                                  เรียนว่ายน้ำดียังไง

                                  #1 ช่วยฝึกทักษะการเคลื่อนไหว การทรงตัว เสริมสร้างพัฒนาการของร่างกาย

                                  การว่ายน้ำจะช่วยพัฒนากล้ามเนื้อมัดใหญ่และมัดเล็กแข็งแรง โดยเฉพาะกล้ามเนื้อแขน ขา ลำตัว ซึ่งเป็นพื้นฐานการเคลื่อนไหวร่างกายได้อย่างคล่องแคล่ว และยังได้บริหารกล้ามเนื้อทุกส่วนของร่างกาย ให้อวัยวะได้ทำหน้าที่ประสานงานและความสมดุลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้สมองทำงานประสานกับการรับรู้ของร่างกายได้ดี ซึ่งจะช่วยพัฒนาทักษะการควบคุมการทรงตัว ส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการการเดิน คลาน ยืน นั่ง ได้ดี รวมถึงยังช่วยเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ ช่วยเสริมสร้างการทำงานของหัวใจและปอดให้แข็งแรงด้วย

                                  #2 ช่วยส่งเสริมพัฒนาการด้านสติปัญญาและเสริมสร้างสมาธิ

                                  การตั้งใจฟังและปฏิบัติตามคำสั่งจากครูผู้สอนจะทำให้เด็ก ๆ มีสมาธิ เนื่องจากสมองถูกกระตุ้นอยู่ตลอดเวลาและมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดการจดจำได้เป็นอย่างดี และเป็นพื้นฐานที่ดีต่อพัฒนาการด้านสติปัญญาในการเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ได้เพิ่มขึ้น มีผลการวิจัยทางการศึกษาโครงการว่ายน้ำสำหรับเด็กและว่ายน้ำออสเตรเลียโดยสถาบัน Griffith ได้ทดสอบเด็ก 3-5 ขวบที่ได้เรียนว่ายน้ำต่อเนื่องเป็นเวลาสามปี พบว่า เด็ก ๆ มีทักษะการมองเห็นได้ดีขึ้นอย่างมาก สามารถทำคะแนนทางคณิตศาสตร์ นอกจากนี้ทักษะการใช้ภาษา และความรู้ด้านการอ่านก็ดีขึ้น นอกจากนี้การเคลื่อนไหวในน้ำอย่างอิสระจะช่วยกระตุ้นจินตนาการช่วยให้สมองเกิดการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย

                                  #3 ช่วยให้เกิดความอยากอาหาร

                                  การว่ายน้ำออกกำลังกายจะช่วยทำให้ลูกหิว สามารถกินนมหรือกินอาหารได้เพิ่มขึ้นหลังว่ายน้ำเสร็จ ส่งผลต่อพัฒนาการเจริญเติบโตที่ดีของร่างกาย

                                  #4 ช่วยทำให้หลับสบาย

                                  การได้ว่ายน้ำออกกำลังกายจะช่วยปรับให้อุณหภูมิในร่างกายเย็นลง เด็กจะรู้สึกผ่อนคลาย สบายอารมณ์ และส่งผลให้ลูกนอนหลับสนิทตลอดคืน ซึ่งเมื่อร่างกายได้รับการพักผ่อนในตอนกลางคืนอย่างเต็มที่ก็จะทำให้เกิด Growth Hormone ที่ดีทำให้ร่างกายเจริญเติบโตสมวัย และตื่นขึ้นมารับวันใหม่ด้วยอารมณ์ดีพร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้น

                                  #5 ช่วยสร้างความมั่นใจ

                                  มีผลการศึกษาโดย Ruth Brenner เผยว่าการได้เรียนว่ายน้ำสามารถลดความเสี่ยงของการจมน้ำ 88% ในเด็กอายุ 1-4 ปี เนื่องจากการว่ายน้ำจะสร้างความมั่นใจในตนเอง สร้าง Self Esteem และสร้างรากฐานที่มั่นคงด้านความปลอดภัยในกิจกรรมทางน้ำตั้งแต่เนิ่น ๆ มีทักษะการเอาตัวรอด การลอยตัว ไม่กลัวน้ำ ทำให้ไม่ตื่นตระหนก มีสติ และสามารถแก้ปัญหาให้เอาตัวรอดจากการจมน้ำได้

                                  เรียนว่ายน้ำดียังไง
                                  เรียนว่ายน้ำดียังไง

                                  #6 ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการทางอารมณ์

                                  การที่พ่อหรือแม่มีส่วนร่วมในการฝึกว่ายน้ำไปกับเจ้าตัวน้อยถือเป็นเวลาคุณภาพที่จะทำให้เกิดความผูกพันทางอารมณ์ระหว่างกัน ซึ่งเกิดจากการสัมผัสตัว โอบกอด สร้างความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัวในการใช้เวลาร่วมกัน ได้พูดคุย เกิดความไว้วางใจ โดยเฉพาะในเด็กทารกจะช่วยทำให้ลูกรู้สึกถึงความรัก ส่งผลให้ลูกอารมณ์ดี มีความสุขได้

                                  #7 ช่วยเสริมสร้างทักษะทางสังคม

                                  การเรียนว่ายน้ำทำให้เด็ก ๆ ได้เจอทั้งครูผู้สอน เพื่อนใหม่ที่มาเรียน ทำให้เด็กเกิดการปรับตัวได้ เรียนรู้ที่จะเข้ากับผู้อื่นและการเข้าสังคมได้อย่างเหมาะสม

                                  การเรียนน้ำเป็นกีฬาและกิจกรรมที่ส่งผลดีต่อตัวลูกตั้งแต่เล็ก ๆ ทั้งสุขภาพร่างกายรวมถึงพัฒนาการดี ๆ รอบด้าน แต่สิ่งที่ควรคำนึงถึงเมื่อให้ลูกเล็กลงสระคือการเลือกสระว่ายน้ำที่เหมาะสมในแต่ละช่วงวัยเพื่อที่จะไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายและผิวหนัง น้ำในสระควรมีอุณหภูมิระหว่าง 30-33 องศา และเด็กเล็กควรว่ายในสระร่ม ใช้เวลาประมาณ 30-45 นาที เท่านี้ลูกน้อยก็จะเรียนรู้และปลอดภัยได้ประโยชน์จากการฝึกเรียนว่ายน้ำเต็มที่ค่ะ

                                  ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก : www.everydayfamily.com , www.swimming.org

                                  อ่านต่อบทความอื่นน่าสนใจ :

                                  เรียนว่ายน้ำตอนไหนเหมาะที่สุด

                                  เทคนิคสอนลูกว่ายน้ำ วิธีเอาตัวรอด เพื่อป้องกันลูกจมน้ำ หรือตกน้ำ

                                   

                                  เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                                    เตรียมอนุบาล

                                    ส่งลูกเข้า เตรียมอนุบาล จำเป็นมั้ย? ควรให้ลูกเข้าเรียนตอนกี่ขวบดี?

                                    คุณพ่อคุณแม่หลายบ้านยังคงต้องทำงานเป็นหลัก บางบ้านอาจจะไม่มีญาติผู้ใหญ่มาคอยดูแลบุตรหลาน เงินก็คงต้องปั๊มเพื่อมาเลี้ยงลูก บางบ้านก็กลัวว่าลูกมีพัฒนาการไม่ทันเด็กคนอื่น แต่ก็ยังกังวลว่าส่งลูกเข้า เตรียมอนุบาล ตั้งแต่เบบี๋เลยจะดีมั้ย ควรให้ลูกเข้าเรียนตอนกี่ขวบดี ? การพาลูกไปฝากเลี้ยงที่เนิร์สเซอรี่ก่อนที่จะถึงวัยเข้าอนุบาลเมื่อลูกอายุ 3 หรือ 4 ขวบของพ่อแม่นั้นอาจจะเกิดขึ้นได้จากสาเหตุที่แตกต่างกันไป

                                    ส่งลูกเข้า เตรียมอนุบาล จำเป็นมั้ย?

                                    แพทย์หญิง สุธีรา เอื้อไพโรจน์กิจ ได้แสดงความคิดเห็น ไว้ว่า “ถ้าพ่อแม่ดูแลลูกเอง ไม่จำเป็นต้องส่งเข้าโรงเรียนเร็วเลยค่ะ พ่อแม่ดูแลเองดีที่สุด การส่งลูกเข้าเรียนเร็วกว่าวัยอนุบาล ไม่ได้ทำให้เด็กเรียนเก่งหรือพัฒนาการดีกว่าแต่อย่างใด”

                                    แต่ถ้าเป็นที่พ่อแม่ต้องทำงานทั้งคู่ หลายบ้านจึงจำเป็นต้องหาสถานที่รับเลี้ยงเด็กในช่วงเวลาที่พ่อแม่ทำงาน ซึ่งในปัจจุบันมีโรงเรียนที่เปิดชั้นเตรียมอนุบาล ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ สถาบันพัฒนาสำหรับเด็กเล็กวัยก่อนเรียน ที่เรียกว่า “เนิร์สเซอรี่” มาให้คุณพ่อคุณแม่พิจารณาฝากลูกไว้

                                    ควรให้ลูกเข้าเรียนเตรียมอนุบาลตอนกี่ขวบดี?

                                    เตรียมอนุบาล
                                    น้องขันเงิน

                                    การเริ่มเข้าเรียนในวัยอนุบาลของลูกปกติจะเริ่มต้นเมื่อเด็กอายุ 3 ขวบ แต่เมื่อมีความจำเป็นที่ต้องพาลูกเข้าโรงเรียน เตรียมอนุบาล หรือเนิร์สเซอรี่ ซึ่งสถานที่รับเลี้ยงเด็กมีทั้งรับเด็กตั้งแต่ 3 เดือน หรือ 1 ขวบเป็นต้นไปขึ้นอยู่กับแต่ละที่ คุณพ่อคุณแม่ควรต้องเตรียมระวังเรื่องการเจ็บป่วย เนื่องจากเด็กเล็กที่ยังมีภูมิต้านทานน้อย การได้อยู่ร่วมกันในเด็กหลาย ๆ คนโอกาสติดเชื้อโรคจะมีมากกว่าเด็กโต และในช่วงเด็กอายุประมาณ 1 ขวบครึ่ง ถึง 2 ขวบ ลูกจะรู้สึกวิตกกังวลในการแยกจากพ่อแม่ ซึ่งถือว่าเป็นพัฒนาการปกติของเด็กวัยนี้ และความรู้สึกนี้จะลดลงเมื่อเด็กอายุ 3 ปี ซึ่งตรงกับช่วงเวลาเข้าโรงเรียนอนุบาลพอดี

                                    เตรียมพร้อมให้ลูกเข้าเรียนเตรียมอนุบาลอย่างไรดี?

                                    การเตรียมตัวเข้าเตรียมอนุบาล สำหรับเด็กเล็กมีความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากเป็นส่วนของพัฒนาการของเด็กที่จะต้องแยกจากพ่อแม่ไป ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่เจ้าตัวน้อยจะต้องเรียนรู้การอยู่ร่วมกับเด็กคนอื่น ๆ เรียนรู้การปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมและสังคมใหม่ที่โรงเรียน ดังนั้นเมื่อพ่อแม่ตั้งใจจะส่งลูกไปเตรียมอนุบาล หรือสถานรับเลี้ยงเด็ก สิ่งที่ควรพิจารณาเป็นพิเศษในการตัดสินใจเลือกและนำมาเปรียบเทียบก่อนจะให้ลูกเข้าเนิรส์เซอรี่ คือ

                                    • ค่าใช้จ่ายที่เหมาะสม ซึ่งแต่ละที่ก็จะแตกต่างกันอาจขึ้นอยู่กับสภาพสถานที่ ครูผู้สอน พี่เลี้ยงเป็นต้น
                                    • สถานที่ใกล้บ้านหรือที่ทำงาน เหมาะแก่การรับส่งลูก ใช้เวลาเดินทางสะดวก ซึ่งคุณพ่อคุณแม่อาจไปดูสถานที่จริงและดูหลาย ๆ ที่เปรียบเทียบกันไว้ก่อน
                                    • คุณภาพของสถานที่ ความปลอดภัย ความสะอาด เช่น มีประตูกั้นเพื่อไม่ให้เด็กเล็กเดินออกเอง ห้องมีระบบถ่ายเทอากาศดี มีการทำความสะอาดห้องเรียนอุปกรณ์ข้าวของเครื่องใช้และของเล่นเป็นประจำด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรค มีระบบการแยกข้าวของเครื่องใช้เด็กแต่ละคนไม่ให้ปะปนกัน มีกล้องวงจรปิดเพื่อสามารถตรวจสอบดูได้ในกรณีเกิดปัญหาขึ้นกับลูก มีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดีในการป้องกันเด็กจากคนอื่น และสถานที่ควรรองรับเด็กไม่แออัดจนเกินไป เป็นต้น

                                    เตรียมอนุบาล

                                    • ดูภาพรวมในการเลี้ยงดูเด็ก ๆ ของคุณครูหรือพี่เลี้ยง เช่น มีใจรักเด็ก ใจเย็น มีความใส่ใจและเข้าใจในธรรมชาติของเด็กเล็ก ควรมีความรู้ความชำนาญในการดูแลเด็ก มีทักษะการสอนเด็กก่อนวัยเรียนด้วยกิจกรรมที่สมวัยเพื่อกระตุ้นพัฒนาการรู้ มีสุขภาพที่แข็งแรง ไม่มีโรคติดต่อ ไม่มีประวัติอาชญากรรม เป็นต้น
                                    • พิจารณาถึงจำนวนเด็กภายในสถานที่รับเลี้ยงเด็ก ว่าเหมาะสมพอกับจำนวนบุคลากรที่สามารถดูแลเด็กได้ทั่วถึง และควรมีผู้บุคลากรที่ผ่านการอบรมหลักสูตรการช่วยชีวิตหรือการปฐมพยาบาลเบื้องต้นอยู่ในโรงเรียน ที่พร้อมจะดูแลในกรณีมีเด็กป่วยพร้อมแยกห้องออกจากเด็กปกติก่อนที่จะโทรตามผู้ปกครองมารับ

                                    เตรียมอนุบาล

                                    • ควรมีของเล่นที่เพียงพอแก่จำนวนเด็ก และมีหลากหลายเหมาะกับแต่ละวัยเพื่อช่วยเสริมพัฒนาการ จัดตารางโปรแกรมฝึกพัฒนาการที่แน่นอนสำหรับเด็กแต่ละช่วงอายุ
                                    • มีนโยบายที่ตรงกับใจพ่อแม่ โดยอาจจะสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม เช่น เน้นการดูแลสุขภาพอนามัย ความสะอาดต่อตัวเด็ก เวลารับ-ส่งลูก ตารางกิจกรรม อาหารและของว่างตามหลักโภชนาการที่เหมาะสมกับวัย ฯลฯ

                                    เตรียมอนุบาล

                                    หากคุณพ่อคุณแม่ได้พิจารณาสถานที่รับเลี้ยงเด็กเพื่อฝากลูกไว้ในช่วงทำงานอย่างถูกใจก็จะช่วยทำให้เบาได้ และควรเตรียมความพร้อมของร่างกายลูกก่อนพาเจ้าตัวน้อยไปฝากเลี้ยง ด้วยการรับวัคซีนบังคับตามช่วงวัยอย่างครบถ้วนเพื่อระวังและป้องกันอาการเจ็บป่วยที่มักเกิดขึ้นในแหล่งที่มีเด็ก ๆ อยู่รวมกันได้นะคะ

                                    ไม่ให้ลูกเข้า เตรียมอนุบาล ลูกจะพัฒนาการช้ามั้ย?

                                    เชื่อว่าถ้าเป็นไปได้พ่อแม่หลายคนคงไม่อยากส่งลูกเข้าเนิร์สเซอรี่หรือให้ไปโรงเรียนก่อน 3 ขวบ นอกจากความจำเป็น สำหรับบ้านไหนที่มีโอกาสได้เลี้ยงลูกเอง การรอให้ลูกเข้าเรียนอนุบาลตอนอายุประมาณ 3 ขวบก็จะช่วยลดโอกาสการป่วยหรือติดเชื้อโรคได้น้อยกว่าเด็กในวัยเล็ก ส่วนเรื่องพัฒนาการนั้นมีงานวิจัยหลายแห่งยืนยันว่า “เด็กที่อยู่กับพ่อแม่ช่วงก่อนวัยเรียนและไปโรงเรียนหลังจากที่พร้อมแล้ว ในอนาคตมักจะเป็นหัวหน้าชั้นหรือหัวหน้าในสังคมและเป็นเด็กที่เข้ากับสังคมได้ดี”* ในเด็กวัยเดียวกันแต่ละคนอาจจะมีความพร้อมไม่เท่ากันได้ การเลี้ยงดูลูกอยู่บ้านให้ได้เล่นหรือพาลูกออกนอกบ้านทำกิจกรรมพิเศษ มีกิจกรรมเพื่อเสริมพัฒนาการตามวัย มีเวลาคุณภาพ เลี้ยงลูกอย่างมีความสุขในช่วงเบบี๋ก็ไม่ต้องห่วงเรื่องพัฒนาการหรือวิชาการที่จะไม่ทันเด็กคนอื่นนะคะ.

                                    ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก : *www.doctor.or.thเพจคุณหมอสุธีรา เอื้อไพโรจน์กิจ

                                    อ่านต่อบทความอื่นน่าสนใจ :

                                    เช็กเลย! รายชื่อ โรงเรียนสังกัด สพฐ. ที่งดรับเด็ก 3 ขวบเข้าเรียน

                                    9 สิ่ง ที่พ่อแม่ควรฝึกลูกน้อยเพื่อ เตรียมเข้าอนุบาล

                                    ลูกเราเรียนรู้อะไร จากเนิร์สเซอรี่

                                    เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่