กู้น้ำนมแม่

กู้น้ำนมแม่ ในวันที่น้ำนมหดหาย ทำได้จริงถ้าใจแม่สู้!!

การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่มีประโยชน์ทั้งต่อตัวแม่เองและทารก โดยเฉพาะช่วง 6 เดือนแรกของชีวิต ที่ลูกน้อยจำเป็นต้องได้รับสารอาหารที่ดี ซึ่งมีอยู่มากมายในนมแม่ น้ำนมของแม่ยังมีสารอาหารสำคัญ ช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน เสริมภูมิต้านทาน ให้ร่างกายของลูกแข็งแรง มีพัฒนาการทางร่างกายและพัฒนาการทางสมองที่เหมาะสมกับวัย ระหว่างให้ลูกกินนมแม่ ฮอร์โมนแห่งความรักความผูกพันจะหลั่งออกมา สร้างสายสัมพันธ์สองแม่ลูกให้ยิ่งแนบแน่นอีกด้วย เมื่อน้ำนมของแม่หดหายระหว่างการให้นม ปฏิบัติการ กู้น้ำนมแม่ จึงต้องรีบทำให้เร็วที่สุด

เตรียมร่างกายแม่ให้พร้อมเพื่อน้ำนมคุณภาพ

6 เดือนแรกที่ทารกกินนมแม่เป็นอาหารหลัก การสร้างน้ำนมจำเป็นต้องถูกกระตุ้นจากการดูดของลูก ถ้าน้ำนมไม่ถูกดูดหรือปั๊มจนเกลี้ยงเต้าอย่างสม่ำเสมอ จะทำให้น้ำนมลดลง แต่ถ้าน้ำนมเกลี้ยงเต้าอย่างสม่ำเสมอร่างกายก็จะผลิตน้ำนม วิธีที่จะช่วยปกป้องน้ำนมให้มีปริมาณที่เหมาะสมอยู่เสมอ ต้องอาศัยหลัก 3 ดูด ช่วยกระตุ้นน้ำนม

  • ดูดเร็ว
  • ดูดบ่อย
  • ดูดให้ถูกวิธี

โดยเฉพาะ 3 วันแรกหลังคลอด เมื่อทารกน้อยเกิดขึ้นมา คุณแม่ควรดื่มน้ำเปล่ามาก ๆ เพื่อเพิ่มปริมาณน้ำนม น้ำเปล่ายังช่วยลดความอ่อนเพลียของร่างกาย ฟื้นฟูสุขภาพ แม่ควรพักผ่อนให้เพียงพอ นำถุงร้อนหรือผ้าประคบร้อน คลึงบริเวณเต้านมก่อนให้นมลูก ช่วยเพิ่มปริมาณน้ำนม ทำให้คุณแม่ผ่อนคลายได้ และต้องเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ เน้นการทานให้บ่อย ลดคาร์โบไฮเดรตและไขมัน

แม่ซาร่าเครียดจน “น้ำนมหด” วอนขอคำแนะนำ กู้น้ำนม

คุณแม่ทุกคนย่อมเตรียมตัวเป็นแม่ ดูแลร่างกายอย่างดีที่สุด เช่นเดียวกับคุณแม่ซาร่าที่มุ่งมั่นตั้งใจในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ แต่ถึงแม้จะเตรียมพร้อมมากแค่ไหน ด้วยปัญหามากมายที่ยังคาราคาซัง ทำให้คุณแม่ ซาร่า คาซิงกินี ถึงกับน้ำนมหด จึงขอคำแนะนำ กู้น้ำนมแม่ เพื่อให้ลูกสาวคนเล็ก น้องเอมมิลี ได้กินนมแม่เช่นเดียวกับ น้องแม็กซ์เวลล์

เฟซบุ๊ก Sarah Casinghini ได้โพสต์ขอคำแนะนำการกู้น้ำนม ว่า สิ่งที่เครียดและเสียใจมากที่สุดตอนนี้คือ “น้ำนมหด” พยายามหลอกสมองและจิตใจตัวเองว่า “ไม่เป็นไร เราสบายดี เราโอเค” “ยิ้มสิ หัวเราะสิ ร่าเริงสิ” แต่ร่างกายแสดงออกมาให้เห็นอย่างชัด มีใครสามารถให้คำแนะนำ การกู้น้ำนมให้หน่อยได้ไหมคะ? สงสารลูกสาว อยากให้กินนมแม่เหมือนตอนลูกชาย

คุณแม่ซาร่า ยังขอความกรุณาอย่าต่อว่าในพื้นที่ของซาร่า ไปต่อว่าตามเพจอื่นแทนเถอะค่ะ คือยังไงมันก็ผ่านตาได้อ่านอยู่ดี ในพื้นที่ของเรา ขอพื้นที่ให้ได้ใช้ชีวิตปกติ ได้เป็นแม่ ได้ทำหน้าที่แม่ ซาร่าชอบเป็นแม่ รักการเป็นแม่ ซาร่าอยากเลี้ยงลูกด้วยสุขภาพจิตใจที่ดี ขอร้องจริงๆ เห็นแก่ลูกของซาร่าด้วย

กู้น้ำนมแม่
แม่ซาร่าขอคำแนะนำ กู้น้ำนมแม่

เพราะความเครียดเป็นตัวการสำคัญ ทำให้คุณแม่หลายท่านประสบปัญหาน้ำนมหด น้ำนมลดลง การจัดการความเครียดจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับคุณแม่ให้นม

ความเครียดส่งผล น้ำนมหด ลดจนต้องกู้!

หนึ่งในสาเหตุสำคัญของน้ำนมแม่ที่หดหายคือความเครียด และความวิตกกังวล เพราะความเครียดมีผลต่อฮอร์โมนออกซิโตซิน (Oxytocin) ที่สร้างจากต่อมใต้สมอง เป็นฮอร์โมนสำคัญของคนเป็นแม่ ที่จำเป็นต่อการคลอดลูก รวมถึงการให้นมลูก

ความเครียดจึงส่งผลต่อร่างกายของคุณแม่ แน่นอนว่ามีผลต่อการไหลของน้ำนมด้วย วิธีคลายเครียดง่าย ๆ ก่อนที่จะให้นม ลองปฏิบัติตัวเพื่อลดความตึงเครียด เช่น ฟังเพลงเบา ๆ อ่านหนังสือ จิบน้ำ ออกไปเดินเล่นสูดอากาศบริสุทธิ์ แล้วสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ผ่อนลมหายใจออกช้า ๆ เพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อ หากรู้สึกเครียดลองอุ้มลูก กอดลูกบ่อย ๆ ก็จะช่วยลดความเครียดลงได้เช่นกัน

ปัญหาน้ำนมน้อย น้ำนมไม่มี เพิ่มน้ำนมด้วยอาหาร

ตัวอย่างพืชผักในเมืองไทยที่หากินได้ง่าย มีประโยชน์ต่อการเพิ่มน้ำนมแม่ มีดังนี้

  • หัวปลี
  • ใบกระเพรา
  • ใบโหระพา
  • เมล็ดขนุนต้ม
  • พริกไทย
  • ขิง
  • ฟักทอง
  • มะรุม
  • ใบแมงลัก
  • กุยช่าย
  • ตำลึง
  • มะละกอ
  • พุทรา
น้ำนมหด คำแนะนำ กู้น้ำนมแม่
น้ำนมหด คำแนะนำ กู้น้ำนมแม่

ทำไมต้องกู้น้ำนมแม่?

กู้น้ำนมแม่ เพราะอะไรทำไมต้องกู้! มีแม่ๆ ถามกันเข้ามาว่า ให้ลูกกินนมแม่มาตลอดตั้งแต่แรกเกิด ให้ทานจากเต้าเองด้วย และแม่ก็ปั๊มนมเก็บไว้ด้วย แต่ด้วยปัญหาทางสุขภาพทำให้ต้องหยุดปั๊มนมลูกไปเกือบหนึ่งเดือน แล้วพอจะกลับมาให้ลูกกินนมแม่น้ำนมก็ไม่ค่อยมีออกมา แบบนี้จะกู้นมแม่กลับมาได้หรือเปล่า? ทีมงาน Amarin Baby & Kids มีคำตอบมาให้ค่ะ

กู้น้ำนมแม่ คืออะไร?

ยังมีคุณแม่ลูกอ่อนหลายๆ คนสงสัยว่าการ กู้น้ำนมแม่ คืออะไร ทำไมต้องกู้น้ำนมแม่ด้วย ฉะนั้นเพื่อให้คุณแม่ทุกคนที่กำลังเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ แล้วเกิดมีปัญหาในขณะให้นมลูก จนต้องหยุดให้นมลูก หรือหยุดปั๊มนมแม่ไป ไม่ว่าจะเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมง ไม่กี่วัน จะหลายสัปดาห์ หรือเกือบเป็นเดือน เป็นต้น เราก็จะมาเรียกคืนน้ำนมแม่ให้มีการผลิตน้ำนมแม่เต็มเต้านมกันอีกครั้งค่ะ

สิ่งสำคัญของการกู้นมแม่คือ ตัวคุณแม่เองจะต้องมีวินัยในการกระตุ้นเต้ามนม จะด้วยให้ลูกดูดจากเต้า หรือจะเป็นการใช้เครื่องปั๊มนม ก็สามารถช่วยให้เต้านมมีการผลิตน้ำนมได้อีกครั้ง ซึ่งเราจะเรียกว่า การเรียกน้ำนมแม่กลับคืน รีแลคเทชั่น (relactation) คือการพยายามกระตุ้นการสร้างน้ำนมจากแม่ที่เคยให้นมมาก่อน ไม่ว่าจะหยุดให้นมไปนานแค่ไหนก็ตาม[1]

บทความแนะนำ คลิก >> กู้นมแม่ กู้โลก!!!

ผู้เขียนมีโอกาสได้คุยกับรุ่นพี่ที่เป็นคุณแม่ ซึ่งเป็นแม่ที่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่มาตลอดไม่เคยให้ลูกได้ทานนมผงเลย แต่ด้วยเหตุจำเป็นบางอย่างทำให้การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่หยุดชะงักไปเล็กน้อย จนทำให้น้ำนมแม่ไม่มี แต่ด้วยพลังรักลูกที่อยากให้ลูกได้กินนมแม่ รุ่นพี่จึงเริ่มปฎิบัติการกู้นมแม่แบบที่เรียกว่าฮาร์ดคอร์กันเลยค่ะ คือ…

  • กู้แบบว่าทุกชั่วโมง วิธีการคือจะปั๊มนมทุกๆ ชั่วโมง ครั้งละ 20-25 นาที
  • ในช่วงแรกที่กู้นมแม่ จะปั๊มทุกชั่วโมง
  • พอผ่านไปหนึ่งสัปดาห์ก็เปลี่ยนมาปั๊มเป็นสองชั่วโมงครั้ง
  • พอลูกเริ่มวัยอาหารเสริมก็เปลี่ยนมาปั๊มห่างเป็นทุกสองชั่วโมงครึ่ง/ครั้ง

นี่คือวิธีการกู้นมแม่จากรุ่นพี่ของผู้เขียน ที่ขอกระซิบบอกว่าได้ผลดีจริงๆ ค่ะ เพราะน้ำนมแม่กลับมามีปริมาณมากจนสามารถปั๊มเก็บไว้เป็นสต็อกให้ลูกกินต่อจนโตเลยค่ะ คุณแม่ลูกอ่อนคนไหนที่หลุดการให้ลูกกินนมแม่ไปช่วงใดช่วงหนึ่งแล้วน้ำนมแม่หดหาย ลองทำตามกันได้นะคะ ที่สำคัญคือให้เน้นการกระตุ้นอย่างสม่ำเสมอในแต่ละวัน ดื่มน้ำให้มาก ทานอาหารที่มีประโยชน์ ไม่เครียด ไม่กังวล แล้วน้ำนมแม่จะกลับมาไม่ยากเลยค่ะ

อ่านต่อ เตรียมตัวกู้น้ำนม ต้องทำอย่างไร หน้า 2

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

    โรคภูมิแพ้

    หมอชี้ 4 อาการร้าย! ที่บอกว่าลูกคุณเป็น ” โรคภูมิแพ้ “

    ” โรคภูมิแพ้ “ มีกี่ประเภท แล้วอาการแบบไหนที่เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าลูกของคุณกำลังเป็นอยู่!

     

     

    นายแพทย์ ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้เปิดเผยว่า จากสถิติของสมาคมโรคภูมิแพ้และอิมมูโนวิทยาแห่งประเทศไทยพบว่า เด็กไทยเป็นโรคภูมิแพ้สูงมากถึงร้อยละ 38 และพบในผู้ใหญ่ประมาณร้อยละ 20 และในปัจจุบันมีผู้ป่วยเป็นโรคภูมิแพ้มากขึ้นถึง 3 – 4 เท่าเมื่อเทียบกับ 10 ปีที่ผ่านมา
    โรคภูมิแพ้ถูกจัดให้อยู่ในโรคที่พบบ่อยมากที่สุด ในประเทศไทย เรียกได้ว่าประชากรเกือบครึ่งหนึ่งของประเทศจะมีปัญหาเกี่ยวกับโรคนี้
    สาเหตุหลัก ๆ นั้นได้แก่
    • กรรมพันธุ์
    • การเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมจากสังคมชนบทเป็นสังคมเมือง
    • คนขาดการออกกำลังกาย ทำให้ร่างกายอ่อนแอ จึงติดเชื้อได้ง่ายขึ้น
    • เด็กดื่มนมแม่ลดน้อยลง
    • การสูบบุหรี่
    • สัตว์เลี้ยง
    • การตกแต่งบ้านด้วยการปูพรม เป็นต้น

    โรคภูมิแพ้ คืออะไร?

    คือโรคที่เกิดจากภูมิคุ้มกันของร่างกาย ไวต่อโปรตีน หรือสารก่อภูมิแพ้จากสิ่งแวดล้อม ซึ่งปกติแล้ว สารเหล่านี้จะไม่มีผลอันตราย ต่อผู้ที่มีภูมิคุ้มกันปกติ ผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้จะไวต่อ ฝุ่น เชื้อราในอากาศ ขนสัตว์ เกสรดอกไม้ หรือแม้แต่อาหารที่ทานเป็นประจำ

    โรคภูมิแพ้มีกี่ประเภท คลิก!


    เครดิต: สสส.

      ภรรยาใกล้คลอด

      เทคนิคเด็ด! ฝึกหายใจขณะคลอดลูก ช่วยคุณแม่คลอดง่าย

      คุณแม่ใกล้คลอดอาจจะรู้สึกหวาดกลัวกับความเจ็บปวดระหว่างคลอด แต่คุณแม่ไม่ต้องกังวลไปนะคะ ทางทีมงานมีเทคนิค ฝึกหายใจขณะคลอดลูก ซึ่งจะทำให้คุณแม่คลอดง่ายขึ้นมาฝากกันค่ะ

      การหายใจช่วยให้คลอดง่ายขึ้นอย่างไร

      ฝึกหายใจขณะคลอดลูก อย่างถูกวิธีจะช่วยเพิ่มปริมาณออกซิเจนในร่างกายให้กับคุณแม่และลูกน้อย และช่วยให้คุณแม่รับมือกับความเจ็บปวดจากการบีบตัวของมดลูก คุณแม่จะรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นค่ะ นอกจากนี้ การใช้เทคนิคหายใจขณะคลอด ยังช่วยลดความเสี่ยงที่จะต้องใช้เครื่องมือการแพทย์ช่วยในการคลอด เช่น การใช้คีมหรือเครื่องดูดสูญญากาศ ด้วยค่ะ

      ขณะคลอดควรหายใจแบบไหน

      เพื่อบรรเทาความเจ็บปวดระหว่างคลอด คุณแม่ควรจะหลับตาและจอจ่ออยู่ที่ลมหายใจ พยายามสังเกตจังหวะการหายใจด้วย เริ่มแรก คุณแม่หายใจเข้า แล้วจึงค่อยๆ หายใจออก เสร็จแล้วหยุดพักสักเล็กน้อย แล้วจึงค่อยเริ่มหายใจใหม่อีกครั้งค่ะ

      สิ่งสำคัญในการฝึกหายใจขณะคลอดลูก คือคุณแม่ต้องจดจ่อกับลมหายใจและสังเกตจังหวะเข้าออกค่ะ จังหวะการหายใจเข้าควรสั้นกว่าจังหวะการหายใจออกนะคะ

      ขณะที่มดลูกเริ่มบีบตัวแรงขึ้นเรื่อยๆ คุณแม่อาจจะหายใจตื้นขึ้น คุณแม่ไม่ต้องตกใจนะคะ ยังไม่มีอะไรต้องกังวลถ้าคุณแม่ไม่ได้หายใจเร็วจนเกินไป จนกลายเป็นการหายใจอย่างตกใจ (panic-breathing) ซึ่งทำให้คุณแม่ได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอและรู้สึกเหนื่อยล้าได้

      อ่านต่อ เทคนิคพิเศษ การหายใจขณะคลอดลูก คลิกหน้า 2

      เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

       

        พ่อแม่ทะเลาะกัน

        จิตแพทย์ตอบ “ พ่อแม่ทะเลาะกัน ” ลูกฝังใจหรือไม่?

        จิตแพทย์ดังตอบคำถาม! ลูกจะฝังใจหรือไม่ ถ้าหาก “พ่อแม่ทะเลาะกัน” ต่อหน้าลูก!!

         

        การที่สามีภรรยาจะมีปากมีเสียงกันนั้น ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่มันคงไม่ดีแน่ ๆ หากการเถียงกันนั้น เป็นการถกเถียงกันต่อหน้าลูก!! เพราะคุณไม่มีทางรู้เลยว่า ลูกกำลังเห็นอะไรอยู่ และสิ่งที่เขาเห็นนั้น หากเห็นเป็นประจำทุกวันไม่ว่าจะมีการใช้กำลังลงไม้ลงมือ เขวี้ยงปาข้าวของ หรือการใช้คำพูดอันหยาบคายหรือไม่ก็ตาม ลูก … ก็ได้ซึมซับพฤติกรรมเหล่านั้นไปเรียบร้อยแล้ว
        เช่นเดียวกับวันนี้ที่จิตแพทย์ชื่อดังอย่าง นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ จะมาตอบคำถามให้พวกเราได้เข้าใจว่า การที่ พ่อแม่ทะเลาะกัน ต่อหน้าลูกนั้น ส่งผลกับเด็กมากน้อยเพียงใด
        โดยคุณหมอ ได้ยกคำถามขึ้นมาคำถามหนึ่งว่า
        “วันนั้นได้ทะเลาะกับสามี มีการเถียงกันค่อนข้างรุนแรง และได้ขว้างปาข้าวของใส่กัน แต่ก็ไม่ได้รุนแรงถึงขั้นเลือดตกยางออก แล้วลูกก็มาเห็นเข้าพอดี ลูกดูตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นมาก ตั้งแต่วันนั้นเราทั้งสองคนรู้สึกผิดเป็นอย่างมาก ไม่รู้ว่าจะแก้ไขอย่างไรดี อยากรู้ว่า ลูกจะฝังใจจนมีปัญหาอะไรหรือไม่คะ”

         

        คำตอบของคุณหมอก็คือ: มีแน่นอน ไม่มากก็น้อย ก็ไปก็ไม่ควรทำอีก ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่า ลูกนั้นอายุเท่าไหร่ ยกตัวอย่างเช่น
        • หากลูกเป็นเด็กเล็กที่มีอายุยังไม่เกิน 3 ปี การที่เห็นภาพพ่อแม่ทะเลาะกันต่อหน้าดังกล่าวนั้น ก็จะส่งผลกระทบต่อพัฒนาการของลูกให้เริ่มช้าลงชั่วคราว หรือถดถอยกลับไป เช่น จากที่ไม่เคยฉี่รดที่นอนก็ฉี่รดที่นอน จากที่ไม่เคยพูดโกหกก็จะเริ่มพูดโกหก เป็นต้น อีกทั้งยังส่งผลต่อความสามารถในการไว้วางใจโลกและผู้คนรอบข้างได้อีกด้วย
        • หากลูกอยู่ในช่วงอายุระหว่าง 4 – 5 ปี ก็จะเกิดผลกระทบกับพัฒนาการทางเพศ โดยลูกอาจจะเกิดความสับสนในตัวเองว่า อยากเป็นเพศอะไร เพราะเท่าที่เห็นนั้น ทั้งพ่อและแม่ต่างดุร้ายกันจัง
        • หากลูกมีอายุระหว่าง 6 – 10 ปี เขาจะเริ่มโทษตัวเองว่าเขาเป็นต้นเหตุให้เกิดเรื่องทะเลาะดังกล่าวขึ้น จับเรื่องหนึ่งไปผูกเข้ากับเรื่องที่พ่อแม่ทะเลาะกัน จนทำให้เขารู้สึกผิด และมีพฤติกรมที่ระงับความรู้ผิดเกิดขึ้น เช่น ขโมยของ หนีโรงเรียน ลองยาเสพติด และถ้าหากพฤติกรรมเหล่านี้ไม่ได้ผลไม่สามารถยังยั้งความรู้สึกดังกล่าวได้ ลูกก็จะเข้าสู่อารมณ์เศร้าเต็มรูปแบบ และแสดงออกอย่างชัดเจนว่าเศร้า มีพฤติกรรมเกเรมากกว่าเดิม หรือสุดท้ายแล้ว พวกเขาจะเริ่มโศกเศร้าถึงขีดสุด และหาทางออกด้วยการจบชีวิตของตัวเองลง
        คุณหมอยังได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า หากคุณพ่อคุณแม่เผลอไปครั้งเดียวก็ไม่ได้หมายความว่าเรื่องที่กล่าวไปแล้วนั้นจะเกิดขึ้น ดังนั้นไม่ต้องกังวลไป แต่สิ่งที่คุณหมอจะพยายามอธิบายก็คือ อย่าทำซ้ำให้ลูกเห็นอีก 

        อ่านเนื้อหาเพิ่มเติมได้ที่หน้าถัดไปค่ะ


        เครดิต: นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์

          โซเชียลมีเดีย

          เข้าโซเชียลมีเดีย เด็กเสียอะไร

          ไม่เพียงเด็กๆ ต้องบริหารเวลาขณะที่อยู่ใน โซเชียลมีเดีย เด็กยังต้องบริหารเวลาเมื่ออยู่นอกโซเชียลมีเดียด้วย นอกโซเชียลมีเดียเด็กมีพัฒนาการทางร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคมที่ยังดำเนินไป มีน้ำต้องอาบ มีข้าวต้องกิน มีงานบ้านที่ควรทำ และที่สำคัญคือ มีการละเล่นกลางแจ้ง

          Continue reading “เข้าโซเชียลมีเดีย เด็กเสียอะไร”

            ลูกหกล้ม

            แม่แชร์! ลูกหกล้ม ที่โรงเรียนสุดท้ายเป็นแบบนี้?!!

            คุณแม่ถึงกับควันออกหู! หลังจากที่ ลูกหกล้ม แต่ครูกลับบอก “ไม่เป็นไร เดี๋ยวก็หาย” สุดท้ายลูกต้องเข้าโรงพยาบาลเพื่อรับการรักษา

             

             

            คุณแม่เล่าว่า เรื่องเกิดขึ้นที่โรงเรียนเมื่อวานนี้ช่วงเวลาประมาณบ่ายสองโมง ตอนแรกคุณแม่ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูกชาย เพราะลูกชายวัย 10 ปีของคุณแม่กลับบ้านโดยอาศัยรถโรงเรียนมาส่ง ต่างฝ่ายต่างทักทายกันตามปกติ และในขณะที่คุณแม่กำลังเตรียมอาหารเย็นอยู่ ก็ได้ยินเสียงคุณยายตะโกนขึ้นมาว่า “แม่! เห็นข้อมือลูกมั้ย?” คุณแม่จึงรีบวางทุกอย่างรีบออกมาดูลูก จนพบว่าข้อมือข้างซ้ายของลูกชายบวม เขียวผิดปกติ!
            คุณยายเล่าว่า ตอนแรกก็ไม่ได้เอะใจอะไร แต่สงสัยว่าทำไมถึงไม่ยกมือไหว้เลยถาม ปรากฎว่าหลานชายไม่สามารถยกแขนข้างดังกล่าวขึ้นได้เลยขอดู จึงพบว่าแขนของหลานชายนั้นบวม
            ด้วยความเป็นห่วง คุณแม่จึงถามลูกชายว่า เกิดอะไรขึ้น ไปทะเลาะอะไรกับใครหรือเปล่า แต่ลูกชายปฏิเสธว่า ไม่ได้ทะเลาะอะไรกับใคร เพียงแต่เล่นกันตามปกติในห้องประชุมในวิชาพลศึกษา แต่ด้วยความที่คุณครูผู้สอนวิชาพลศึกษานั้นติดภารกิจของทางโรงเรียนจึงไม่สามารถมาสอนได้ เลยมอบหมายให้คุณครูวิชาคณิตศาสตร์มาสอนแทน และคุณครูก็ปล่อยให้เล่นกันไป จนลูกชายพลาดเกิดอุบัติเหตุลื่นล้ม โดยเอาแขนข้างซ้ายนั้นรองรับน้ำหนักตัวของตัวเอง
            หลังเกิดเหตุไม่นาน ลูกชายก็เริ่มรู้สึกเจ็บ จึงไปบอกคุณครูท่านดังกล่าว กลับกลายเป็นคุณครูบอกว่า ไม่เป็นไร เดี๋ยวก็หาย แต่ก็ไม่ได้ขอดูข้อมือหรือพูดอะไร ลูกชายก็เลยนั่งทนเจ็บไป จนเพื่อนร่วมชั้นที่เป็นหัวหน้าห้องมาสังเกตเห็น จึงเข้ามาถาม และพาไปพบคุณครูท่านเดิมอีกครั้งนึง เพื่อแจ้งให้ทราบว่า ลูกชายปวดแขนมาก แต่ก็เช่นเคย คุณครูก็ไม่ได้แสดงท่าทีหรือพาลูกไปพบคุณครูพยาบาลแต่อย่างใด จนกระทั่งกลับมาถึงบ้าน
            อ่านต่อเรื่องราวของคุณแม่แชร์ประสบการณ์ได้ที่นี่!
              สเปรย์ปรับอากาศ

              รีวิว สเปรย์ปรับอากาศ สำหรับครอบครัว อากาศสะอาด หอม สดชื่น ลดเสี่ยงภูมิแพ้

              สเปรย์ปรับอากาศ ปัจจุบันนี้มีให้เลือกใช้กันหลายยี่ห้อ มีทั้งแบบที่ช่วยขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่างๆ ภายในบ้านและแบบที่ช่วยให้โล่งจมูก แต่ที่เราจะมาแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่ในครั้งนี้ คือสเปรย์ฉีดปรับอากาศที่ช่วยให้อากาศหอมสดชื่น เหมาะที่จะใช้กับห้องนอนของลูก รวมถึงทุกคนในบ้าน ได้หายใจเอาอากาศบริสุทธิ์เข้าปอด ที่สำคัญช่วยลดเสี่ยงจากการเกิดภูมิแพ้ได้ด้วยค่ะ

               

              สเปรย์ปรับอากาศ สำหรับครอบครัว อากาศสะอาด หอม สดชื่น ลดเสี่ยงภูมิแพ้

              อย่างที่เรารู้ๆ กันอยู่แล้วว่า สเปรย์ปรับอากาศ ที่มีขายอยู่ในปัจจุบันนี้มีให้เลือกหลากหลายยี่ห้อ หลากหลายกลิ่น และคุณสมบัติเด่นก็แตกต่างกันออกไป แต่สำหรับครอบครัวที่มีลูกเล็กๆ และต้องการให้อากาศภายในบ้านสะอาด ก็มักจะเลือกเป็นสเปรย์ปรับอากาศเพื่อสุขภาพ

              สำหรับสเปรย์ปรับอากาศ เพื่อสุขภาพนี้ โดยส่วนใหญ่มักจะผสมน้ำมันหอมระเหยจากธรรมชาติ ซึ่งหนีไม่พ้นน้ำมันยูคาลิปตัส นอกจากนั้นอาจเป็นน้ำมันจากผิวเปลือกส้ม ฯลฯ

              ดังนั้นเพื่อให้ทุกครอบครัวได้เลือกใช้สเปรย์ปรับอากาศกันอย่างถูกใจ ทีมงาน Amarin Baby & Kids มีสเปรย์ฉีดปรับอากาศสดชื่น สำหรับบ้านที่มีเด็กเล็ก และทุกคนในครอบครัว ว่าแต่ละยี่ห้อมีความแตกต่างกันอย่างไร เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่ได้เลือกพิจารณาซื้อหามาใช้กันค่ะ

              สเปรย์ฉีดปรับอากาศ ภายในบ้านที่มีเด็กเล็ก และสำหรับครอบครัว

              สเปรย์ น้ำมันยูคาลิปตัสที่ทุกครอบครัวไว้วางใจ
              สุขภาพของเด็กๆ และรวมถึงทุกคนในครอบครัวเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องใส่ใจให้มากๆ ค่ะ เพราะหากเจ็บป่วยต้องเสียทั้งเงินและเวลาในการรักษาตัวค่ะ ซ้ำร้ายเรามักจะป่วยวนเวียน ติดกันไปมาอยู่ภายในบ้าน คุณพ่อติดลูก คุณลูกติดแม่ เพียงแค่ไอจามใส่กัน ซึ่งการดูแลสุขภาพของทุกคนในบ้านแบบง่ายๆ เพียงแค่ทำให้อากาศสะอาดปราศจากเชื้อโรคและสารก่อภูมิแพ้ แค่นี้ก็ช่วยลดความเสี่ยงต่ออาการเจ็บป่วยได้แล้วค่ะ

              สเปรย์ฉีดปรับอากาศ Polar Spray (โพลาร์ สเปรย์) ที่ดีต่อสุขภาพของทั้งเด็กและผู้ใหญ่ คือปกติเราจะเห็นแต่สเปรย์ปรับอากาศที่แค่แต่งกลิ่นเพื่อกลบกลิ่นหรือทำให้รู้สึกหอมสดชื่นกันใช่ไหมคะ แต่ Polar Spray (โพลาร์ สเปรย์) ถือเป็นครั้งแรกของสเปรย์ที่เปลี่ยนอากาศรอบตัวได้ ออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียและไวรัสในอากาศ และยังช่วยป้องกันภูมิแพ้ในหนึ่งเดียว  

              Polar Spray  (โพลาร์ สเปรย์) สเปรย์ปรับอากาศกลิ่นยูคาลิปตัสผสมแอคทีฟ โพลาร์ (Activ Polar)

              น้ำมันยูคาลิปตัสแท้ธรรมชาติ : บรรเทาอาการคัดจมูก ช่วยให้โล่งจมูก ช่วยปรับอากาศให้หอมสดชื่น เย็นสบาย และช่วยขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์

              แอคทีฟ โพลาร์ : เทคโนโลยีการกำจัดเชื้อโรคและสารก่อภูมิแพ้ในอากาศลิขสิทธิ์เฉพาะจากบริษัท Nova Health ด้วยส่วนผสมสำคัญของ Tea Tree Oil และสารสกัดจากธรรมชาติหลากหลายชนิด ที่พิสูจน์แล้วว่าช่วยเคลียร์อากาศให้สะอาด ลดการสะสมของเชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส และสารก่อภูมิแพ้ได้อย่างมั่นใจ

              ดังนั้นเวลาที่ฉีดพ่น Polar Spray (โพลาร์ สเปรย์) ไปใน ห้องต่างๆ จึงไม่ใช่แค่ได้กลิ่นหอมเหมือนสเปรย์ทั่วไป แต่ยังช่วยลดปัญหาเชื้อก่อโรคร้ายและสารก่อภูมิแพ้ต่างๆ ในอากาศได้อีกด้วย

              สำหรับทุกครอบครัวที่สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมของสเปรย์ปรับอากาศ Polar Spray (โพลาร์ สเปรย์) ได้ที่ https://www.facebook.com/polarspray    

              ส่วนสถานที่จัดจำหน่ายค้า สามารถซื้อได้ที่ ร้านขายยาในเครือ LAB pharmacy , P&F , Save drug, Health up , fascino , siam drug และร้านขายยาชั้นนำทั่วประเทศ และในงานอมรินทร์ baby&kids fair ครั้งที่10(ไบเทค) บูธที่ E53 นะคะ

              สเปรย์ปรับอากาศอาจเป็นเพียงหนึ่งในตัวเลือกที่จะช่วยให้บ้านมีอากาศที่สะอาด หอมสดชื่น ปลอดภัยจากเชื้อโรค แต่จะดีเพิ่มมากขึ้นหากมีการทำความสะอาด ปัด กวาดเช็ดถูบ้านทุกวัน เพราะต่อให้ฉีดสเปรย์ปรับอากาศแค่ไหน แค่ถ้าบ้านมีแต่ฝุ่นก็ไม่ช่วยให้อากาศสะอาด สดชื่น ปลอดภัยค่ะ  

              สำหรับสเปรย์ฉีดปรับอากาศทั้ง 4 ยี่ห้อนี้ รักชอบตัวไหนสามารถหาซื้อมาใช้ได้ตามร้านขายยา และห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไปได้เลยค่ะ

                ทำอาหารเช้ายังไงให้ลูกทันไปโรงเรียน

                มื้อเช้าเป็น มื้อสำคัญ ในการ เตรียมความพร้อมร่างกายและสมองให้กับลูก  ความพร้อมของสมองช่วยให้ลูกมีสมาธิในการเรียน และทำกิจกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพตลอดทั้งวัน  อาหารเช้าจึงสำคัญมาก  และในเวลาเร่งรีบในมือเช้า  หากคุณแม่ไม่มีเวลาในการเตรียมหาอาหาร  การทานซีเรียลโกโก้ครั้นช์กับนม ก็ทำให้คุณแม่ได้อุ่นใจว่าลูกจะได้รับคุณค่าสารอาหาร พร้อมเรียนรู้ในวันใหม่ได้อย่างเต็มที่ มีพลัง  และยังเป็นเมนูที่เด็ก ทานง่าย และไม่ยุ่งยากในการเตรียม

                แม่ๆ รู้ไหมว่าแค่มีโกโก้ครั้นช์กับนมและผลไม้  ก็พร้อมจะเป็นมื้อเช้าของลูกแล้วค่ะ!!
                อย่างที่บอกไปค่ะว่า ในเช้าบางวันของคุณแม่ อาจเป็นชั่วโมงเร่งด่วนขึ้นมา เพราะต้องรีบออกไปประชุม ลูกตื่นสาย หรือลูกมีกิจกรรมแต่เช้าเข้าค่ายลูกเสือ  เนตรนารีที่โรงเรียน หรือและคุณครูก็นัดเด็กให้เข้าโรงเรียนเร็วกว่าเวลาปกติ ฯลฯ จนทำให้ไม่มีเวลามากพอที่จะเตรียมอาหารเช้าให้ลูกได้ทันเหมือนเช่นทุกวัน แต่ปัญหานี้จะหมดไปถ้ามีโกโก้ครั้นช์ติดบ้านไว้เป็นอาหารเช้าให้ลูก

                โกโก้ครั้นช์มีโฮลเกรนเป็นส่วนผสมหลัก ซึ่งเป็นธัญพืชเต็มเมล็ดที่ไม่ผ่านการขัดสี หรือผ่านการขัดสีน้อยมาก ประกอบด้วย 3สามส่วนคือ เยื่อหุ้มเมล็ด เนื้อข้าวเมล็ด และจมูกข้าวโฮลเกรนมีประโยชน์ต่อสุขภาพ เพราะทุกส่วนของธัญพืชเมล็ดข้าวยังอยู่ครบ ทำให้คุณประโยชน์ที่อยู่ในจมูกข้าว และเยื่อหุ้มเมล็ดยังคงอยู่ ไม่ถูกขัดสีออกไปต่างๆ เช่น ข้าวโอ๊ต ข้าวสาลี ข้าวไรย์ ข้าวโพด และข้าวจ้าว ประกอบไปด้วยสารอาหารมากมาย ไม่ว่าจะเป็น คาร์โบไฮเดรต โปรตีน ใยอาหาร แร่ธาตุต่างๆ วิตามินบีต่างๆ ฯลฯ ที่จำเป็นต่อสุขภาพร่างกายของลูก

                การเตรียมโกโก้ครั้นช์เป็นอาหารเช้าที่ทั้งอร่อยและมีประโยชน์เพื่อสุขภาพของสำหรับเด็กๆ ง่ายมากๆ เพียงแค่คุณแม่เติมนมสดจืด เพิ่มผลไม้สดที่ลูกชอบเข้าไปด้วย แค่นี้ก็ได้อาหารเช้าที่มีคุณค่าทางโภชนาการ เต็มไปด้วยคุณประโยชน์ที่ดีต่อร่างกายลูก ที่สำคัญคือดีต่ออาหารเช้าที่ดีจะช่วยให้ร่างกาย และสมองของลูกในการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

                ในเช้าวันที่รีบเร่งของคุณแม่ คงไม่เหมาะแน่หากจะต้องตื่นขึ้นมาเพื่อเตรียมวัตถุดิบประกอบอาหารเช้าให้ลูก และทุกคนในครอบครัวที่แสนยุ่งยาก ดังนั้นแค่ลองเปลี่ยนจากความยุ่งยาก มาเป็นความง่ายแต่ได้คุณค่าสารอาหารที่มีประโยชน์ด้วยโกโก้ครั้นช์ที่เด็กๆ ทานง่าย และคุณแม่ไม่ต้องยุ่งยากใช้เวลามากในการเตรียม เพียงแต่มีโกโก้ครั้นช์ที่ทำมาจากโฮลเกรน ธัญพืชเต็มเมล็ด มีนมสด มีผลไม้ที่ลูกชอบ แค่นี้ก็ได้ 1 เมนูอาหารเช้าที่ดีมีประโยชน์ รสชาติอร่อย ภายในเวลาไม่กี่นาทีต่อสุขภาพร่างกาย และสมองของลูก ที่สำคัญลูกทานเสร็จทันขึ้นรถโรงเรียน หรือทันให้คุณพ่อ คุณแม่ไปส่งที่โรงเรียนลูกทันเข้าแถวเคารพธงชาติด้วยค่ะ

                  รักลูกไม่เท่ากัน

                  อุทาหรณ์! เด็กสาวผูกคอตัวเองเสียชีวิต ชนวนเหตุน้อยใจคิดว่า… “แม่รักลูกไม่เท่ากัน”

                  รักลูกไม่เท่ากัน …อีกหนึ่งปัญหาที่พ่อแม่หลายคนกลัวว่าลูกๆ จะคิดแบบนั้น เพราะถ้าลูกคนใดคนนึงเกิดคิดว่าพ่อแม่รักลูกไม่เท่ากัน ก็อาจทำให้ลูกน้อยใจ จนบานปลายถึงขั้นคิดสั้นได้

                  Continue reading “อุทาหรณ์! เด็กสาวผูกคอตัวเองเสียชีวิต ชนวนเหตุน้อยใจคิดว่า… “แม่รักลูกไม่เท่ากัน””

                    นุ้ย เชิญยิ้ม

                    นุ้ย เชิญยิ้ม ทำใจ “รับได้” หากลูกไม่แมน!

                    น้องภู เปิดอกคุยแบบแมน ๆ กับพ่อ นุ้ย เชิญยิ้ม เผยรับได้ไหมกับสิ่งเป็น?

                     

                     

                    หลังจากกระแสข่าวดราม่ามานาน กับพฤติกรรมอันน่าสงสัยของ “น้องภู” ลูกชายของ “นุ้ย เชิญยิ้ม” และ “ตั๊ก ศิริพร” ที่สื่อและคนทั้งในและนอกวงการต่างพากันจับตามอง ว่าแท้จริงแล้ว เป็นชายแท้หรือชายเทียม วันนี้น้องภูถึงกับตัดสินใจอย่างกล้าหาญ เลือกที่ทำสิ่งนี้กับพ่อ!
                    กลายเป็นเรื่องรบกวนจิตใจของ น้องภู เมื่อพี่น้องชาวตลกต่างพากันล้อเลียนถึงความไม่แมนของตัวเอง  ทำให้ลูกชายของ นุ้ยและตั๊ก ถึงกับเกิดอาการเครียด ถึงขั้นตัดสินใจขอมาปรึกษาเรื่องนี้กับพ่อลำพัง!
                    ล่าสุด นุ้ย เชิญยิ้ม ได้ออกมาเปิดเผยผ่านสื่อโดยระบุว่า “เขามาคุยตัวต่อตัวกับผมแล้วแบบลูกผู้ชาย ว่าถ้าเป็นอย่างนั้นอย่างนี้พ่อจะว่ามั้ย ซึ่งตอนแรกผมเองก็ตกใจ แต่ถึงอย่างไรก็แล้วแต่ ขอให้ลูกเป็นคนดีและเรียนเก่ง มีอนาคตและงานทำที่ดี หนูจะเป็นอะไรก็เรื่องของหนูนะ”
                    พร้อมทั้งเปิดเผยเกี่ยวกับเรื่องการแต่งตัวของลูกชายในอนาคต ที่แน่นอนว่า อนาคต อาจจะแต่งตัวมากไปกว่าทุกวันนี้ แต่คงจะต้องคอยเตือนลูกว่าสิ่งไหนเยอะเกินไป เพราะบางเรื่องอาจยังไม่ถึงวัย ซึ่งความจริงก็คือความจริงอยู่วันยังค่ำ แต่เรารับความจริงที่เกิดขึ้นได้ แต่อย่าให้มากไปก็จะบอกลูกไว้
                    ส่วนสาเหตุที่ภรรยาคนสวยอย่าง “ตั๊ก ศิริพร” ได้ประกาศลาวงการอีก 2 ปีนั้น อาจเป็นเพราะภรรยาเหนื่อยจากการทำงานและมีงานทุกวัน เพราะไปไหนไม่ได้ แต่งานในวงการเขาชอบ แม้อายุมาก แต่งานยังดีอยู่ จึงแนะนำว่าควรให้เลือกรับเป็นงาน ๆไป

                    หมอแนะ! ทำอย่างไรเมื่อลูกกลายเป็นเพศที่ 3 คลิก!


                    เครดิต: ข่าวสด และ ไนน์เอ็นเตอร์เทน

                      ลูกแพ้นมวัว

                      แม่เตือน! “ลูกแพ้นมวัว” เป็นภูมิแพ้หลบในถึงขั้นหูอักเสบ

                      บอกเล่าประสบการณ์จากเรื่องจริง! เมื่อ “ลูกแพ้นมวัว” จนถึงขั้นเป็นหูอักเสบ พูดอะไรไปก็ไม่ได้ยิน!!

                       

                       

                      เพราะคุณแม่ตระหนักดีว่า คุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ คนอาจจะกำลังประสบปัญหาเดียวกันกับตัวเองอยู่ จึงได้โพสต์แชร์ประสบการณ์ที่เกิดขึ้นเพื่อจะได้เป็นประโยชน์กับครอบครัวอื่นผ่าน Pantip ว่า
                      ลูกสาวเจ้าของกระทู้ อายุ 4.4 ปีค่ะ น้องเป็นเด็กแพ้นมวัวตั้งแต่เกิด ทั้ง ๆ ที่ทานนมแม่ ทำให้จขกทต้องงดผลิตภัณฑ์นมวัวทุกอย่าง หนึ่งปีเต็มตลอดการให้นมลูก อาการแพ้นมวัวช่วงแรกคือน้องมีผื่นแดงที่แก้ม เหมือนผิวแตกแห้งเพราะอากาศหนาว (ตอนนั้นคิดว่าเค้าผิวบาง เหมือนเด็กประเทศเมืองหนาว) ท้องอืด อึเขียวบ้างบางครั้ง แต่สีเขียวของอึเป็นสีเขียวสด ดูแล้วผิดปกติชัดเลยค่ะเมื่อหยุดนมวัว ลูกสาวก็หายแพ้ แข็งแรงดีค่ะ
                      ครบหนึ่งขวบ เจ้าของกระทู้ทดลองให้นมวัวอีกครั้ง ปรากฏว่าไม่มีอาการแพ้แล้ว เลยให้กินต่อเนื่อง คราวนี้น้องมาในอาการหายใจเสียงดัง ป่วยบ่อย ท้องอืด เลยหยุดนมวัว หันมากินไอโซมิลแทน พอเข้าเรียนก็เริ่มใหม่ ลองนมวัวสลับกับนมถั่วเหลือง คราวนี้แข็งแรงดี ไม่มีปัญหา มีผื่นบ้างเวลาอากาศร้อนตามข้อพับ แต่โดยรวมคิดว่าหายแพ้แล้วแน่นอน เพราะไม่มีอาการใด ๆ ป่วยน้อยกว่าเพื่อนคนอื่น ๆ
                      เจ้าของกระทู้ไม่กังวลเรื่องนมวัวแล้ว เลยไม่จำกัดอาหารที่ทำจากนมวัวเลย น้องทานเบเกอรี่ ทานนม ทานไอศกรีม แต่มื้อนม เจ้าของกระทู้ให้ดื่มไวตามิลค์บ้าง so good บ้างสลับ ๆ กันไป
                      จนกระทั่งสามเดือนที่แล้วน้อง มีอาการไอแห้ง ๆ ตอนเช้านิดหน่อย หลายวันเข้าไม่หาย ไปหาคุณหมอ คุณหมอบอกว่าแพ้อากาศเฉย ๆ น้ำมูกอาจจะไหลลงคอ ทำให้ระคายเคือง เกิดการไอได้โดยเฉพาะช่วงเช้า เลยได้ยาแก้แพ้มาทานทุกวัน น้องไปโรงเรียนก็เริ่มติดหวัด มีน้ำมูก มากเข้าก็ทานยาปฏิชีวนะ ยาหมด น้ำมูกไม่หมด ผ่านไปสองสามวันทานยาปฏิชีวนะอีกรอบ เพราะน้ำมูกเยอะขึ้น คอแดง ผ่านไป 6 -7สัปดาห์ น้องทานยาไปเยอะมาก ทั้งยาปฏิชีวนะ ยาแก้แพ้ คัดจมูก แก้ไอ ขับเสมหะ แต่อาการไม่หายขาด หยุดยาอาการก็เยอะขึ้น จนกระทั่งเจ้าของกระทู้คิดว่าช่างมัน ไม่อยากให้ทานยาเยอะ ๆ ใช้วิธีล้างจมูกบ่อยขึ้น หยุดเรียนว่ายน้ำ กลั้วคอด้วยน้ำเกลือ
                      สุดท้ายน้องตัวร้อน มีไข้ประมาณ 38 องศา เจ็บหู ต้องทานยาปฏิชีวนะอีกสองสัปดาห์ เนื่องจากหูอักเสบ พอน้องไม่เจ็บหู ไข้หาย คุณหมอบอกว่าอาการน่าจะเหลือแต่แพ้อากาศเพราะน้ำมูกไม่หายสนิท ให้ทายยาแก้แพ้บวกกับล้างจมูกช่วย 2 สัปดาห์ผ่านไปน้ำมูกก็ยังมี ลมหายใจมีกลิ่น น้องบอกมีเสียงแปลก ๆ ในหูด้วยบางครั้ง นอนกรน แต่ร่าเริงเป็นปกติ จนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เจ้าของกระทู้เริ่มสังเกตว่าน้องไม่ค่อยได้ยินที่เราพูด ชอบถามว่าอะไรนะ หรือบอกให้พูดเสียงดัง ๆ ทั้ง ๆ ที่เมื่อก่อนหูน้องไวมาก เราตกใจเลยทดสอบน้องด้วยการพูดเสียงเบา ๆ น้องไม่ได้ยิน หรือบางครั้งก็บอกว่าฟังไม่รู้เรื่อง

                      คลิกอ่านประสบการณ์ของคุณแม่เพิ่มเติมได้ที่นี่!

                        ดู๋ สัญญา

                        แนวสอนดี! ดู๋ สัญญา ให้ลูกชายฝึกงานช่วงปิดเทอม เรียนรู้ความลำบากกว่าจะหาเงินได้

                        ถือเป็นอีกหนึ่งแนวคิดในการเลี้ยงลูกที่ดี ของคุณพ่อ ดู๋ สัญญา คุณากร กับการสอนลูกชายสุดหล่อ “น้องเอม” ที่ตอนนี้อายุ 17 ปี และใกล้จะเรียกจบชั้นมัธยมศึกษาแล้ว ให้ฝึกทำงานในช่วงปิดเทอม

                        Continue reading “แนวสอนดี! ดู๋ สัญญา ให้ลูกชายฝึกงานช่วงปิดเทอม เรียนรู้ความลำบากกว่าจะหาเงินได้”

                          สูตรลดน้ำหนัก

                          “แช่น้ำอุ่น สูตรลดน้ำหนัก” ตามสไตล์ของคุณแม่ชาวญี่ปุ่น!

                          อยากสวยแต่ไม่มีเวลา ต้องลองสูตรนี้เลย ” สูตรลดน้ำหนัก ” สไตล์เร่งด่วนตามแบบฉบับของคุณแม่ชาวญี่ปุ่น!

                           

                           

                          ปัญหาหลัก ๆ ที่คุณแม่ส่วนใหญ่มักจะลดน้ำหนักกันไม่สำเร็จก็คือ “มีเวลาส่วนตัวไม่มากพอ” เพราะไหนจะต้องทำงาน กลับบ้านมายังต้องมาทำหน้าที่แม่และภรรยาอีก จะให้มานั่งลดน้ำหนักนับแคลอรี่ก็ใช่เรื่อง แค่เวลาทานข้าวยังหาไม่ได้ จะแกว่งแขนซิทอัพละก็ยิ่งแล้วใหญ่ แล้วแบบนี้จะให้คุณแม่อย่างพวกฉันไปหาเวลาทำสวยตอนไหนกัน
                          ชีวิตของคนเป็นแม่ ถ้าไม่นับเรื่องงาน เวลาทั้งหลายก็มักจะหมดไปกับเรื่องของลูกแล้วก็ลูก กับสามียังไม่มีเวลาให้เลยบางที แต่วันนี้เรามีตัวช่วยลดน้ำหนักแบบคุณแม่ชาวญี่ปุ่นมาฝาก รับรองเลยค่ะว่า แค่ไม่กี่นาที ก็สามารถสวยและฟินได้! 
                          แต่ก่อนที่จะไปดู เรามาดูถึงสาเหตุที่ทำให้อดีตผู้หญิงหุ่นสวยไซส์ S อย่างเรา กลายเป็นผู้ใหญ่อวบอ้วนไซส์ L กันได้อย่างไร
                          สาเหตุที่ทำให้คุณแม่อย่างเราอ้วน ได้แก่
                          1. การชอบรับประทานอาหารที่มีรสหวานรสมัน
                          2. รู้สึกเสียดายอาหารที่อยู่ตรงหน้าโดยเฉพาะอย่างยิ่งของลูก
                          3. ยิ่งเหนื่อย ยิ่งเครียด ก็ยิ่งรับประทาน
                          4. น้ำหนักตัวหลังคลอด
                          5. รับประทานอาหารดึก

                          แช่น้ำอุ่น ลดน้ำหนักได้จริง ๆ หรือ อ่านต่อได้ที่นี่!

                           

                            เปลี่ยน ” จากติดสินบนลูก ” เป็น ” ทำข้อตกลง ” กันเถอะ

                            ติดสินบนลูก เป็นเหมือนการให้กำลังใจลูกด้วยรางวัลหลอกล่อทางอ้อม เพื่อให้ลูกทำกิจกรรม หรือสนใจในสิ่งที่พ่อแม่อยากให้ลูกทำ ฯลฯ  แต่รู้ไหมว่าผลเสียที่เกิดขึ้นกับลูกนั้นได้มาไม่คุ้มเสียค่ะ ทีมงาน Amarin Baby & Kids มีคำแนะนำในการช่วยให้พ่อแม่ไม่ต้องติดสินบนลูก เวลาที่อยากจะส่งเสริมให้เด็กๆ ทำอะไรที่เป็นผลดีต่อตัวพวกเขากันค่ะ

                             

                            ติดสินบนลูก เป็นวิธีที่ดีจริงหรือ?

                            เชื่อว่ายังมีพ่อแม่หลายๆ ครอบครัวที่ใช้วิธี ติดสินบนลูก เวลาที่ลูกมีข้อต่อรองว่าจะทำนั่น ทำนี่ก็ได้ แต่พ่อแม่ต้องให้ของ เล่น ต้องพาไปเที่ยว ฯลฯ คือมีข้อแม้ของแลกเปลี่ยนตลอดกว่าจะยอมทำ หรือยอมไปโรงเรียน ซึ่งพ่อแม่ก็ใจอ่อนเพราะไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรแล้วเพื่อให้ลูกเป็นเด็กที่ว่านอนสอนง่าย เชื่อและทำตามในเรื่องที่พ่อแม่วางแนวทางไว้ให้ลูก

                            แต่การที่พ่อแม่มีของมาแลกเปลี่ยนติดสินบนลูกทุกครั้ง หรือเกือบจะทุกเรื่อง นั่นไม่ใช่วิธีที่ดีต่อตัวเด็กทั้งในระยะสั้น และระยะยาวเลยค่ะ  เพราะเด็กจะมีข้อต่อรองกับพ่อแม่ทุกครั้ง

                            ตัวอย่างที่พบเห็นได้บ่อยที่สุดก็เช่น

                            แม่ : น้องเกมครับ ช่วยถือขนมกล่องนี้เดินไปให้บ้านคุณยายที

                            ลูก : ถือขนมไปส่งบ้านยายได้ครับ แต่แม่ต้องให้ค่าเดิน 20 บาท

                            แม่ : เกมครับช่วยแม่ล้างจานหน่อยลูก

                            ลูก : แม่ต้องให้ 20 บาทก่อน แล้วถึงจะล้างจานครับ

                            นี่คือตัวอย่างที่เกิดขึ้นจริงๆ กับที่บ้านที่เป็นลูกพี่ลูกน้องของผู้เขียนเอง จนแซวขำๆ กันว่า “ไอลูก 20 บาท” คือไม่ว่าจะให้ทำอะไรจะต้องขอเงิน 20 บาทไว้เป็นประกันว่าถ้าทำให้แล้วจะต้องได้เงินนะ!

                            จนมานั่งคิดแก้ปัญหานี้ร่วมกันทั้งบ้านว่าจะทำยังไงให้น้องเกม เป็นเด็กที่อยากทำอะไรให้โดยที่ไม่ขอสิ่งแลกเปลี่ยน จนมาถึงบางอ้อว่า น้องเกมอายุยังน้อยเพิ่งจะ 5 ขวบเอง เราน่าจะสร้างความภูมิใจให้เขาได้ ไม่ใช่แค่พ่อแม่หรือคนในครอบครัวตัดปัญหาความรำคาญลูกแล้วให้ในสิ่งที่ลูกขอเป็นการแลกเปลี่ยนกัน  นี่คือหนึ่งในสิ่งที่ครอบครัวของน้องเกมใช้เพื่อปรับนิสัย และพฤติกรรม ซึ่งก็ได้ผลดีมากด้วยค่ะ นั่นก็คือ…

                            ดาวเด็กดี

                            เราเปลี่ยนจากการให้เงินน้องเกม มาเป็นการสะสมดาวเด็กดีแทนค่ะ โชคดีที่พ่อแม่ของน้องเกมเป็นคุณครูสอนศิลปะ  เด็ก เลยทำกิจกรรมนี้ออกมาได้ดึงดูดลูกมาก โดยทำทุกอย่างเหมือนปกติเพียงแต่เปลี่ยนจากการให้เงินมาเป็นการให้ลูก  สะสม ดาวแทน ซึ่งดาวเด็กดีเราให้น้องเกมสะสมเป็นเดือน แล้วก็เอามาดูกันว่าเดือนนี้กับเดือนที่แล้วเขาได้ดาวของการ  ทำความดี ไปกี่ดวง จากนั่นก็เป็นหน้าที่พ่อแม่ที่จะพูดให้เขารู้สึกภาคภูมิใจในเรื่องที่เขาทำมาตลอดทั้งเดือน จำได้ว่าใน  ช่วงแรกๆ ไม่ ง่ายที่จะเปลี่ยนพฤติกรรม นิสัยของน้องเกม แต่การมุ่งมั่น และความตั้งใจจริงของพ่อแม่และคนใน  ครอบครัว เป็นสิ่ง สำคัญมากจนุดท้ายก็สามารถเปลี่ยนลูกได้

                            ทุกวันนี้น้องเกมไม่เคยร้องขอสิ่งตอบแทนที่เป็นเงิน หรือของเล่นอะไรเลย แต่เราก็ไม่ได้ใจร้ายกับเขาซะทีเดียวนะคะ   เพราะทุกปิดเทอมก็จะพาเขาไปเที่ยวเปิดหูเปิดตาให้ประสบการณ์ชีวิตการเรียนรู้ที่แปลกใหม่กับเขาตลอดค่ะ

                             

                            บทความแนะนำ คลิก >> กดดันเรื่องการเรียน ได้ผลเสียมากกว่าผลดี

                            ให้คำชมลูก คือรางวัลใหญ่

                            ลองเปลี่ยนจากการให้สินบนลูกตามสิ่งที่ลูกเรียกร้อง หรือตามที่พ่อแม่ชอบเป็นฝ่ายหยิบยื่นข้อแลกเปลี่ยนที่เป็นรางวัลจับ ต้องได้ให้ลูกเองก่อน มาเป็นการให้คำชมลูกทุกครั้งที่

                            • ลูกทำการบ้านได้ด้วยตัวเอง
                            • ลูกช่วยแม่ล้างจานเองโดยที่ไม่ได้ขอความช่วยเหลือ
                            • ลูกทานข้าวหมดจานทุกมื้อ
                            • ลูกใส่ถุงเท้ารองเท้าเองได้ ฯลฯ

                            การชมลูกก็คือการให้กำลังใจ ซึ่งถือว่าดีต่อตัวเด็กมากๆ ทุกครั้งที่ชมลูก ให้เพิ่มด้วยการกอด จับมือ จับไหล่ เฉยคางลูกเข้าไปด้วย การสัมผัสลูกช่วยเพิ่มความรู้สึกอบอุ่นปลอดภัยให้กับตัวลูกได้ดีอีกด้วยค่ะ

                            อ่านต่อ เปลี่ยนการติดสินบนมาเป็นข้อตกลงให้ลูก หน้า 2 

                             

                            เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                              มะเร็งเต้านม มหันตภัยร้ายใต้ทรวงอก

                              7 เรื่อง มะเร็งเต้านม มหันตภัยร้ายใต้ทรวงอก ที่คุณยังไม่รู้

                              มะเร็งเต้านม มหันตภัยร้ายใต้ทรวงอก อย่างที่รู้กันว่าเป็นหนึ่งในสาเหตุการเสียชีวิตของผู้หญิงอันดับต้นๆ มาพบ 7 เรื่องที่ควรรู้หากคุณยังรู้จักโรคนี้ไม่ดีพอ

                              7 เรื่อง มะเร็งเต้านม มหันตภัยร้ายใต้ทรวงอก ที่คุณยังไม่รู้!!

                              อย่างที่ทราบกันดีว่า มะเร็งเต้านม มหัตภัยร้ายใต้ทรวงอก สามารถเกิดขึ้นได้กับผู้หญิงทุกคน ที่ไม่ใช่แค่ว่าจะมีเปอร์เซ็นต์เกิดขึ้นกับคนในครอบครัวที่มีประวัติว่าเคยเจ็บป่วยด้วยโรคเร็งเต้านมมาก่อนเท่านั้น เพราะปัจจุบันนี้ก็มีหลายปัจจัยที่ก่อให้เกิดมะเร็งขึ้นได้

                               

                              บทความแนะนำ คลิก >> ใส่ชุดชั้นในนอน เสี่ยงเป็นมะเร็ง จริงหรือ?
                              มะเร็งเต้านม มหัตภัยร้ายใต้ทรวงอก
                              มะเร็งเต้านม มหัตภัยร้ายใต้ทรวงอก

                              ปัจจัยเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับมะเร็งเต้านม[1]

                              • ผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 50 ปีจะมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น
                              • มีประวัติการเป็นมะเร็งเต้านม โดยผู้ป่วยที่เกิดมะเร็งเต้านมขึ้นที่ข้างหนึ่งมีความเสี่ยง 3-4 เท่าในการที่จะเกิดก้อนมะเร็งขึ้นที่เต้านมอีกข้าง
                              • มีประวัติการเป็นมะเร็งรังไข่ เนื่องจากการเป็นมะเร็งรังไข่เกี่ยวข้องกับการสัมผัสฮอร์โมน จึงเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งเต้านม
                              • มีประวัติคนในครอบครัวเป็นมะเร็งเต้านม จะเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งเต้านมเพิ่มขึ้น
                              • การกลายพันธุ์ของยีน BRCA1 หรือ BRCA2 มีความสัมพันธ์กับการเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งเต้านม และการมีประวัติมะเร็งเต้านม มะเร็งรังไข่ ในครอบครัวตั้งแต่อายุน้อย
                              • การสัมผัสกับฮอร์โมนเอสโตรเจน ซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศหญิงที่ควบคุมการเปลี่ยนแปลงของลักษณะทางเพศ โดยพบว่าการสัมผัสกับเอสโตรเจนเป็นเวลานานจะเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งเต้านม
                              • ลักษณะของการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น ความอ้วน ขาดการออกกำลังกาย ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การได้รับรังสีในปริมาณสูง[1]

                              เห็นหรือไม่ว่า การเกิดมะเร็งเต้านมในผู้หญิงนั้นมาได้ได้จากหลายปัจจัย ซึ่งต่อให้เราดูแลสุขภาพร่างกายดีมากแค่ไหน ในบางคนก็ยังสามารถเจ็บป่วยด้วยมะเร็งเต้านมได้  ซึ่งนอกจากการดูแลเรื่องอาหาร สุขภาพ การออกกำลังกาย รวมถึงการพักผ่อนนอนหลับที่มีประสิทธิภาพแล้ว สิ่งหนึ่งที่จะขาดไม่ได้เลยทั้งผู้หญิงที่เป็นแม่ หรือในผู้หญิงทั่วไป เพื่อเป็นการป้องกันและรู้ทันมะเร็งเต้านม จำเป็นอย่างมากที่ควรต้องได้รับการตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี และที่พลาดไม่ได้คือการตรวจหามะเร็งเต้านม ที่ต้องบอกว่าสามารถตรวจได้ด้วยตัวเอง หรือจะให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญตรวจให้ก็ได้เพื่อความแม่นยำกันอีกครั้ง

                              8 ข้อเท็จจริงของมะเร็งเต้านมที่ผู้หญิงทุกคนควรรู้!!

                              ในผู้หญิงทุกคนการตรวจร่างกายเป็นเรื่องสำคัญมากจริงๆ ซึ่งทางกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ได้มีการแนะนำให้กับผู้หญิงได้ตระหนักถึงสุขภาพกันให้มาก โดยเฉพาะเรื่องของมะเร็งเต้านม ว่าการป้องกันที่ดีที่สุดก็คือการค้นหาก้อนมะเร็งให้เร็วที่สุด นั่นก็เพราะหากมีการตรวจพบเร็ว ก็จะมีโอกาสในการรักษาให้หายขาด และลดอัตราเสี่ยงจากการเสียชีวิตมากขึ้นด้วย  ปัจจุบันทาง สปสช. ได้เปิดให้ลงทะเบียนตรวจคัดกรอง มะเร็งปากมดลูก และมะเร็งเต้านม ในแอปฯ เป๋าตังฟรี สิทธิประโยชน์ดี ๆ แบบนี้ อีกทั้งยังได้ดูแลสุขภาพของผู้หญิงอย่างเรา ๆ ไม่ไปตรวจไม่ได้เสียแล้ว

                              บทความแนะนำ คลิก >> มะเร็งจอตา โรคฮิตอันดับ 3 ในเด็ก!! เช็กง่ายๆ ด้วยสมาร์ทโฟน

                              การตรวจหา มะเร็งเต้านม
                              การตรวจหา มะเร็งเต้านม
                              1. ในผู้หญิงที่อายุ 20 ปีขึ้นไป ควรเรียนรู้การตรวจเต้านมด้วยตนเอง และตรวจเป็นประจำทุกเดือนตลอดชีวิต
                              2. ในผู้หญิงที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป นอกเหนือจากการตรวจเต้านมด้วยตัวเองแล้ว ควรเพิ่มการตรวจเต้านมกับแพทย์ อย่างน้อยทุก 3 ปี และเพิ่มเป็นทุกๆ ปี เมื่ออายุ 40 ปีขึ้นไป ควบคู่กับการตรวจเอกซเรย์เต้านม
                              3. ในผู้หญิงที่เข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ ทุกช่วงอายุจะมีความเสี่ยงที่จะเกิดมะเร็งเต้านมได้ทุกคน แต่ในผู้หญิงที่อายุ 40 ปีขึ้นไปจะมีความเสี่ยงในการเกิดมากขึ้น
                              4. ในผู้หญิงช่วงอายุระหว่าง 50-55 ปี พบว่ามีโอกาสป่วยเป็นมะเร็งเต้านมสูงสุด
                              5. ปัจจัยที่เสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งเต้านม คือ อายุ พฤติกรรมการทานอาหาร ภาวะอ้วน ไม่ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ชอบดื่มแอลกอฮอล์ และปัจจัยทางพันธุกรรม
                              6. ผู้หญิงควรมีการตรวจเต้านมตนเอง หลังจากประจำเดือนหมดไป 3-7 วัน และให้ตรวจในวันที่เดียวกันเป็นประจำทุกเดือน
                              7. หากมีการตรวจพบก้อนเล็กๆ หรือสิ่งผิดปกติอื่นๆ ให้รีบไปพบคุณหมอทันที
                              8. มะเร็งเต้านมหากพบว่าเป็นในระยะเริ่มต้น มีโอกาสในการรักษาให้หายขาดได้[2]

                              พอจะทราบกันแล้วว่า มะเร็งเต้านมไม่ใช่เรื่องไกลตัวเลย เพราะสามารถเกิดขึ้นได้กับผู้หญิงทุกคน นอกจากการหมั่นตรวจร่างกายประจำปี แล้วสาว ๆ ยังสามารถตรวจสอบร่างกายของตัวเองได้ในทุกๆ เดือน ด้วยการตรวจเต้านมด้วยตัวเอง เพียงแค่ใช้ 3 นิ้วในการสัมผัสตรวจหาความผิดปกติของเต้านม โดยมีวิธีการอย่างไรนั้น อ่านต่อกันได้เลยไม่ยากอย่างที่คิด

                              ข้อมูลอ้างอิงจากhttps://praew.com/www.pobpad.com/www.phukethospital.com

                              อ่านต่อ>> สาว ๆ ควรรู้วิธีตรวจมะเร็งเต้านมเบื้องต้นด้วยตัวเอง และ 7 เรื่องที่คุณอาจยังไม่รู้ คลิกหน้า 2

                               

                              เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                               

                                ความปลอดภัยจากภัยอันตราย

                                รับมือดูแลเมื่อเกิดภัยกับลูกทุกสถานการณ์

                                คุณแม่ทั้งมือใหม่ และมือเก่าทุกคน ย่อมมีความกังวลสารพัดเรื่อง ทั้งเรื่องของความสะอาด เรื่องโรคภัย และเรื่อง ความปลอดภัยจากภัยอันตราย ต่างๆ รอบตัวลูกน้อย แม้ตอนนี้ทั้งครอบครัว จะระมัดระวังกันแทบทุกฝีก้าว แต่ลูกน้อยก็มีความซน และอยากเรียนรู้จึงอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุ

                                Continue reading “รับมือดูแลเมื่อเกิดภัยกับลูกทุกสถานการณ์”

                                  สาเหตุการเสียชีวิต

                                  15 สาเหตุการเสียชีวิตในเด็กอายุ 0-14 ปีทั่วโลก

                                  จากข้อมูลการศึกษาที่ได้รวบรวมไว้เป็นระยะเวลา 50 ปีพบว่า การเสียชีวิตจากโรคติดเชื้อนั้น ลดลงอย่างมากในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา แต่ สาเหตุการเสียชีวิต จากโรคติดเชื้อที่พบได้น้อยลงนี้ ไม่ได้หมายความว่า คุณพ่อ คุณแม่ ไม่ต้องพาลูกน้อยไปรับวัคซีนป้องกันโรคแต่อย่างใด

                                  Continue reading “15 สาเหตุการเสียชีวิตในเด็กอายุ 0-14 ปีทั่วโลก”

                                    ดูแลผิวผื่นภูมิแพ้ของลูกน้อย โดยปราศจากสเตียรอยด์

                                    เด็กวัยทารกและเด็กเล็กมีโครงสร้างผิวที่ยังไม่แข็งแรง ทำให้เกิดการระคายเคือง แพ้ได้ง่ายมาก ซึ่งการมีผื่นภูมิแพ้ ผิวแห้ง แดง คัน เป็นผื่นของลูกน้อยอาจเกิดขึ้นได้ซ้ำๆ และทางเลือกในการลดอาการผื่น คัน ของลูกน้อย ก็หนีไม่พ้นการใช้ สเตียรอยด์ เพราะสามารถลดอาการผื่นคันได้อย่างรวดเร็ว แต่อย่างที่คุณแม่รู้กันว่าการใช้สเตียรอยด์ ในเด็กก็มีข้อเสียหลายอย่าง แต่จะทำอย่างไรเพื่อลดอาการ  แพ้ และไม่ทำให้อาการกลับมาเป็นซ้ำอีก

                                    เรามีคำแนะนำมาฝากไปดูพร้อมกันค่ะ

                                    สาเหตุและปัจจัยที่ทำให้ผิวลูกน้อยเกิดการแพ้ระคายเคือง
                                    อย่างที่รู้กันดีว่าโครงสร้างผิวของทารกนั้นยังไม่สมบูรณ์แข็งแรง จึงอาจทำให้ในชั้นผิวยังขาดน้ำมันหล่อเลี้ยงผิวที่จำเป็นต่อ การเสริมสร้างเกราะปกป้องผิว เช่น โอเมก้า-6 แฟตตี้ แอซิด ทำให้ผิวแห้ง เสียความชุ่มชื้นง่าย ผิวบาง ไวต่อปัจจัยกระตุ้น ต่างๆจากภายนอก นอกจากนี้ก็ยังมีอีกหลายสาเหตุที่กระตุ้นให้ผิวลูกแพ้ นั่นคือ
                                    – พันธุกรรม พ่อแม่เป็นผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง โอกาสที่ลูกจะเป็น ด้วยมีมากถึง 60-80%
                                    – อากาศเปลี่ยนแปลงและมลภาวะ  ก็จะทำให้ผื่นกำเริบขึ้นได้
                                    – แม่ทานอาหารที่กระตุ้นให้เกิดการแพ้ เช่น ไข่ นมวัว ถั่ว ฯลฯ มากเกินไปในขณะตั้งครรภ์
                                    – การใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลเสื้อผ้าเด็กที่ไม่เหมาะสม มีสารเคมีที่อาจทำให้ผิวบอบบางระคายเคือง
                                    – ผิวบางจากการใช้สเตียรอยด์ทาผิว สำหรับการใช้ยาประเภทสเตียรอยด์ควรอยู่ในการดูแลควบคุมจากแพทย์ผิวหนังเท่านั้น เพราะการใช้ยาชนิดนี้ติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน สามารถเกิดผลกระทบข้างเคียงที่จะทำให้ผิวของลูกบาง  สภาพยิ่งผิวแย่ลงได้ค่ะ

                                    การดูแลผิวลูกเมื่อเกิดผื่นภูมิแพ้
                                    คุณพ่อคุณแม่อาจเกิดคำถามว่าแล้วควรใช้ผลิตภัณฑ์อะไรกับผิวลูกที่จะช่วยลดอาการแห้ง แดง และผื่นได้โดยไม่ใช้สเตียรอยด์ ? จากผลการสำรวจของแพทย์ผิวหนังในประเทศไทย พบว่า 71% ของแพทย์ผิวหนังกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 150 คน แนะนำมอยส์เจอร์ไรเซอร์ในกลุ่มยูเซอริน โอเมก้า ให้คนไข้ เป็นอันดับแรก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กในที่มีผื่นภูมิแพ้ โดยยูเซอริน โอเมก้า สามารถใช้เพื่อรักษาอาการผื่นระยะรุนแรงน้อยถึงปานกลางเผื่อให้ผื่นสงบ โดยมีประสิทธิภาพเทียบเคียงกับสเตียรอยด์ และไม่มีผลข้างเคียง เนื่องจากประกอบด้วยสารธรรมชาติอย่าง ลิโคชาลโคน เอ และโอเมก้า-6 แฟตตี้ แอซิด คำแนะนำสำหรับคุณพ่อคุณแม่คือ ให้ทาหลังทำความสะอาดผิวลูกเป็นประจำ เช้า-เย็น โดยสามารถใช้บำรุงผิว ร่วมกับการรักษาของแพทย์ได้อย่างปลอดภัย ปราศจากน้ำหอม สี และสารกันเสีย พาราเบน ปลอดภัยต่อผิวเด็กทารกมากค่ะ

                                    ซึ่งปัจจุบันนี้คุณพ่อคุณแม่สามารถซื้อผลิตภัณฑ์ยูเซอริน โอเมก้า ซูทติ้ง ครีม ได้ในร้านขายยาทั่วไป และโรงพยาบาล

                                    การป้องกันผิวลูกน้อยไม่ให้ระคายเคือง เกิดผื่นภูมิแพ้ซ้ำ
                                    การหลีกเลี่ยงจากปัจจัยแวดล้อมที่ส่งผลให้ผิวลูกเกิดการแพ้ระคายเคืองนั้นเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก โดยเริ่มกันตั้งแต่ช่วงที่ คุณแม่ตั้งครรภ์ ที่ต้องทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ทานอาหารให้หลากหลายอย่างสมดุลกัน และควรลดการทานอาหารกลุ่ม เสี่ยงที่จะส่งผลให้ผิวลูกเกิดการแพ้หลังคลอดมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็น ไข่ ถั่วต่างๆ ขนมปัง ขนมเค้ก คุกกี้ นมวัว รวมทั้ง ผลิตภัณฑ์จากนมวัวต่างๆ เป็นต้น คือทานได้แต่ขอให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสมที่ไม่มาก ไม่น้อยเกินไป 

                                    นอกจากนั้น แนะนำคุณแม่ดูแลเตรียมผิวลูกให้มีสุขภาพแข็งแรง ด้วยการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์อาบน้ำที่ปราศจากน้ำหอม แอลกอฮอล์ พาราเบน สี และให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวได้ดี ซึ่งอาจมีส่วนประกอบอย่าง เชีย บัทเทอร์ และ เด็กซแพนทีนอล  เพราะจะช่วยเสริมเกราะปกป้องผิวบอบบางของลูกน้อยให้แข็งแรงขึ้น ลดการเกิดผื่นแพ้คัน และหลังทำความสะอาดผิวของลูกน้อยแล้ว ควรบำรุงผิวด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์ในกลุ่มยูเซอริน โอเมก้าอย่างต่อเนื่องแม้ผื่นสงบแล้ว เพื่อเสริมเกราะปกป้องผิวของลูกน้อย และลดโอกาสการกลับมาเป็นซ้ำ

                                    ผิวลูกจะแข็งแรงมีสุขภาพดีได้ ต้องอยู่ที่การเตรียมผิว และปกป้องป้องผิวลูกอย่างถูกวิธี ซึ่งวิธีที่ง่ายสุด คือ การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีความชุ่มชื้นต่อผิวเด็กที่ปลอดภัย ปราศจากสารเคมีด้วยนะคะ

                                    คลิกเพื่ออ่านข้อมูลผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมที่นี่ : http://bit.ly/2sKZmsq

                                      Tags